00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับสุขสันต์วันวาเลนไทน์นะครับทุก
00:00:02 → 00:00:06 คนเราก็ได้คุยกันถึงเรื่องของชาไทยและชา
00:00:06 → 00:00:09 เขียวมัจฉะไป 2 วันติดกันเลยนะครับวันนี้
00:00:09 → 00:00:12 ครับเนื่องในโอกาสวันวาเลนไทน์ผมอยากจะ
00:00:12 → 00:00:16 เอาเรื่องของโกโก้คาคาและช็อกโกแลตมาเล่า
00:00:16 → 00:00:18 ให้เราฟังนะครับว่าไอ้ 3 อย่างนี้มันคือ
00:00:18 → 00:00:21 อะไรกันแน่มีประโยชน์ยังไงบ้างแล้วต้อง
00:00:21 → 00:00:24 กินไปนานแค่ไหนกินเท่าไหร่กินเมื่อไหร่
00:00:24 → 00:00:27 ถึงจะได้ประโยชน์เต็มที่และที่สำคัญมันมี
00:00:27 → 00:00:29 ข้อเสียอะไรไนะครับเดี๋ยววันนี้จะเล่าให้
00:00:29 → 00:00:32 ฟังนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธานี
00:00:32 → 00:00:33 ธนียวันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศ
00:00:34 → 00:00:36 สหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่าย
00:00:36 → 00:00:39 ปอดและวิกฤตบำบัดนะครับจะบอกว่าทั้ง 3
00:00:39 → 00:00:42 อย่างนะครับไม่ว่าจะเป็นโกโก้คาคา
00:00:42 → 00:00:44 ช็อกโกแลตมันมีต้นกำเนิดมาจากที่เดียวกัน
00:00:44 → 00:00:47 ครับแล้ว 3 อย่างนี้เนี่ยมันแตกต่างกัน
00:00:47 → 00:00:51 แค่กระบวนการทำเท่านั้นเองนะครับยิ่งมี
00:00:51 → 00:00:53 กระบวนการผลิตเยอะนะครับมันก็ยิ่งเปลี่ยน
00:00:53 → 00:00:56 รูปไปเยอะนะครับตอนแรกมันจะเป็นคาคาก่อน
00:00:56 → 00:00:59 นะครับถ้าเราไปทำอะไรกับมันเยอะๆนะครับ
00:00:59 → 00:01:01 มันก็จะกลายเป็นเป็นโกโก้และสุดท้ายกลาย
00:01:02 → 00:01:03 เป็นช็อกโกแลตนะครับเดี๋ยวผมจะเล่าว่ามัน
00:01:03 → 00:01:06 ทำมายังไงของพวกนี้นะครับแต่ต้นกำเนิดนะ
00:01:06 → 00:01:09 ครับมันคือเกิดมาจากต้นไม้ชนิดหนึ่งเรียก
00:01:09 → 00:01:15 ว่ามคาคานะครับ่าเนี่ยแปลว่าอาหารแห่งพระ
00:01:15 → 00:01:18 เจ้าครับีอหรือีอนี่คือพระเจ้าโรม่านี่
00:01:18 → 00:01:21 คืออาหารนี่มันเป็นอาหารขั้นสุดยอดนะครับ
00:01:21 → 00:01:24 คนสมัยก่อนเช่นชนเผ่ามายาเนี่ยเขาคก็จะ
00:01:24 → 00:01:27 เอามากินกันนี่แหละเพราะว่ากินแล้วมันรู้
00:01:27 → 00:01:30 สึกดีสุขภาพแข็งแรงแล้วก็ช่วยทางด้านของ
00:01:30 → 00:01:33 จิตประสาทเยอะแยะเลยนะครับกลายเครียดนะฮะ
00:01:33 → 00:01:36 อารมณ์ดีมีความสุขนี่นะครับนั่นก็คือเป็น
00:01:36 → 00:01:40 อาหารที่มันสุดยอดมากๆนะครับต้น Tea คาา
00:01:40 → 00:01:43 เนี่ยมันมีทั้งหมด 3 พันธุ์หลักๆที่เรา
00:01:43 → 00:01:46 เอามาใช้กันนะครับพันธุ์แรกนะครับครีโอล
00:01:46 → 00:01:49 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มันหายากที่สุดนะฮะแล้ว
00:01:49 → 00:01:52 ก็ราคาแพงเป็นพันธุ์ที่ชนเผ่ามายาสมัย
00:01:52 → 00:01:54 ก่อนเนี่ยเค้าเอาไปใช้นะฮะมีอยู่ประมาณ
00:01:54 → 00:01:57 สัก 10% ของปริมาณช็อกโกแลตที่ผลิตออกมา
00:01:57 → 00:02:02 ทั้งหมดมันแพงเพราะว่ามันไม่ค่อยทนแดดทน
00:02:02 → 00:02:05 ฝนไม่ทนแมลงทนโรคนะครับมันตายง่ายผลผลิต
00:02:05 → 00:02:08 มันก็ไม่ค่อยได้ดีดังนั้นเนี่ยการดูแลมัน
00:02:08 → 00:02:10 จึงลำบากนะครับก็เลยเป็นที่มาของพันธุ์
00:02:10 → 00:02:14 ที่ 2 นะครับพันธุ์ที่ 2 คือ Forest มัน
00:02:14 → 00:02:17 จะไม่ได้อร่อยเท่ากับพันธุแรกนะครับรส
00:02:17 → 00:02:19 ชาติไม่ได้ดีเท่าแต่ว่ามันเปลือกแข็งมาก
00:02:19 → 00:02:22 แล้วมันก็ทนแมลงทนโรคเยอะมากนะครับดัง
00:02:22 → 00:02:26 นั้นมันก็เลยเป็นที่นิยมนะครับช็อกโกแลต
00:02:26 → 00:02:30 80% ของโลกเราเนี่ยน่าจะมาจากตัวนี้นี่
00:02:30 → 00:02:33 แหละครับนะฮะสุดท้ายก็คือ trin อันนี้
00:02:33 → 00:02:35 เนี่ยก็มีคนใช้เหมือนกันแต่ว่ามันก็ไม่
00:02:35 → 00:02:38 ได้อืป๊อบเหมือนกับ 2,000 แรกนะครับที่
00:02:38 → 00:02:42 เราเอามาใช้กันในปัจจุบันนะครับทีนี้ใน
00:02:42 → 00:02:45 ขั้นตอนการผลิตเนี่ยนะฮะตอนแรกนะครับไอ้
00:02:45 → 00:02:48 ผลละไม้ที่เป็นโกโก้ตนตัวแรกเนี่ยลักษณะ
00:02:48 → 00:02:51 ของมันจะเหมือนลูกอเมริกันฟุตบอลหรือบาง
00:02:51 → 00:02:53 คนอาจจะบอกเหมือนลูกหนามเลี้ยนะครับหัว
00:02:53 → 00:02:55 หัวแหลมปลายแหลมสีออกเหลืองๆหน่อยนะครับ
00:02:55 → 00:02:59 ถ้าผ่ามาข้างในเนี่ยมันจะมีเม็ดเยอะเลยนะ
00:02:59 → 00:03:02 ครับเม็ดเนี่ยมีประมาณ 30-50 เม็ดหรืออาจ
00:03:02 → 00:03:05 จะบวกลบนะครับเม็ดพวกนี้นี่แหละมันที่เรา
00:03:06 → 00:03:09 จะเอามาทำเป็นโกโก้มาทำเป็นช็อกโกแลตนะ
00:03:09 → 00:03:12 ครับตัวเมล็ดที่อยู่ข้างในเนี่ยมันจะมี
00:03:12 → 00:03:14 เยื่อขาวๆหุ้มอยู่พอเราจะเอามาเนี่ยเรา
00:03:14 → 00:03:18 เอาออกมานะครับแล้วทิ้งมันหมักไว้ประมาณ
00:03:18 → 00:03:20 สักอาทิตย์นึงนะครับรสชาติมันก็จะกลม
00:03:20 → 00:03:23 กล่อมมากขึ้นหลังจากนั้นเนี่ยเราจะเอามา
00:03:23 → 00:03:26 ตากแห้งนะครับเพื่อที่จะให้มันไม่มีเชื้อ
00:03:26 → 00:03:30 รานะฮพอตากแห้งเสร็จอันเนี้ยเราแกะออกมา
00:03:30 → 00:03:32 นะครับแกะไอ้เปลือกแกะเมล็ดทุกอย่างออกมา
00:03:32 → 00:03:36 เราจะได้เป็นคาคานิสนิสเนี่ยคือเป็นเม็ด
00:03:36 → 00:03:40 นะฮะนี่คือคาคานิสแปลว่าถ้าเราทำออกมาโดย
00:03:40 → 00:03:42 ที่ไม่ผ่านกระบวนการอะไรสักอย่างนอกจาก
00:03:42 → 00:03:44 ทิ้งหมักไว้เฉยๆกับตากแห้งเนี่ยกลายเป็น
00:03:44 → 00:03:48 คาคาซึ่งจะมีสารอาหารและคุณประโยชน์สูง
00:03:48 → 00:03:52 ที่สุดในบรรดาทั้งหมดเลยนะฮะแต่ถ้าเราเอา
00:03:52 → 00:03:58 มันไปคั่วนะครับก็มีตั้งแต่คั่วน้อยคั่วไ
00:03:58 → 00:04:01 นะครับไ rose medium roose แล้วก็ Dark
00:04:01 → 00:04:03 Rose ไปเลยคือขั้วขั่วนิดหน่อยขั้วกลาง
00:04:03 → 00:04:06 แล้วก็ขั่เยอะๆเลยนะครับไอ้การขั่เนี่ย
00:04:07 → 00:04:09 มันจะให้รสชาติที่แตกต่างกันยิ่งขั้วนาน
00:04:09 → 00:04:12 ก็คือกลายเป็น Dark Rose พวกเนี้ยรสชาติ
00:04:12 → 00:04:15 มันจะค่อนข้างเข้มข้นมากกว่าแต่ว่าคุณ
00:04:15 → 00:04:18 ประโยชน์มันก็จะลดลงตามไปด้วยนะครับยิ่ง
00:04:18 → 00:04:21 ขั้วสารอาหารต่างๆที่เป็นประโยชน์มันจะลด
00:04:21 → 00:04:24 ลงนะครับแล้วพอขั้วเสร็จไอ้นี่นี่แหละที่
00:04:24 → 00:04:27 มันจะเป็นโกโก้เราจะเรียกว่าโกโก้นะครับ
00:04:27 → 00:04:30 หลังจากที่เราทำทำมันออกมาเป็นอย่างงั้น
00:04:30 → 00:04:33 เสร็จปุ๊บเนี่ยเราก็จะเอามันไปบดนะครับบด
00:04:33 → 00:04:37 ๆๆๆให้มันกลายไปเป็นเหมือนกับอ่าเหนียวๆ
00:04:37 → 00:04:40 ออกมานึงอันเนี้ยจะเรียกว่ามันเป็นน้ำละ
00:04:40 → 00:04:43 นะครับไอ้น้ำตัวนี้นี่แหละมันจะมีส่วน
00:04:43 → 00:04:46 ประกอบอยู่ 2 ส่วนนะครับส่วนแรกนะฮก็คือ
00:04:46 → 00:04:49 เป็นตัวที่มันมาจากเมล็ดตรงๆอีกส่วนนึง
00:04:49 → 00:04:51 มันจะเป็นออกเป็นเนยๆเราจะเรียกว่าเป็น
00:04:51 → 00:04:55 Butter นะครับก็เป็นโกก้ที่เป็น solid
00:04:55 → 00:04:59 เป็นเม็ดนะครับเป็นของแข็งนะฮะเป็นชิ้นนะ
00:04:59 → 00:05:02 ฮะแล้วก็โก Butter คือเป็นของที่มันเป็น
00:05:02 → 00:05:04 พวกอ่าไขมันที่อยู่ในนั้นนะครับก็จะออกมา
00:05:04 → 00:05:06 เป็นแบบนี้และไอนี่แหละครับที่เอาไปทำ
00:05:06 → 00:05:09 เป็นช็อกโกแลตนะครับทีนี้เวลาเค้าเอาไปทำ
00:05:09 → 00:05:12 เป็นช็อกโกแลตเนี่ยแน่นอนว่าก็จะมีการ
00:05:12 → 00:05:15 เติมน้ำตาลเติมอะไรอย่างอื่นเข้าไปแต่ง
00:05:15 → 00:05:19 กลิ่นแต่งรสชาตินะครับทำให้เวลาทำให้เป็น
00:05:19 → 00:05:22 ช็อกโกแลตแล้วเนี่ยถ้ามมีผสมของอย่างอื่น
00:05:22 → 00:05:27 เข้าไปเยอะๆนะฮะมันก็จะลดคุณค่าของต้น
00:05:27 → 00:05:31 thoma ลงนะครับยิ่งมีกระบวนการทำอะไรกับ
00:05:31 → 00:05:34 มันซะอย่างมากๆเนี่ยคุณค่าทางอาสารอาหาร
00:05:34 → 00:05:39 มันจะลดลงและรู้จักนี่มั้ยครับช็อกโกแลต
00:05:39 → 00:05:43 นม Milk ช็อกโกแลตกับไทช็อกโกแลตมันคือ
00:05:43 → 00:05:46 อะไร Milk ช็อกโกแลตก็คือไอ้ช็อกโกแลตที่
00:05:46 → 00:05:47 เราทำมาทั้งหมดนี่แหละครับแล้วผสมนมเข้า
00:05:47 → 00:05:51 ไปมันจะมีรสแบบนัวๆมันๆนะครับหอมหวานคนก็
00:05:51 → 00:05:54 ชอบแต่แน่นอนครับผลประโยชน์มันก็จะลดลง
00:05:54 → 00:05:58 ตามสัดส่วนของคาคาหรือโกโก้ที่เราใส่เข้า
00:05:58 → 00:06:01 ไปน้อยลงนะครับส่วนไวท์ช็อกโกแลตเนี่ยบอก
00:06:01 → 00:06:04 เลยครับว่าประโยชน์น้อยที่สุดนะครับมีแต่
00:06:04 → 00:06:08 ความหวานนะฮะเหตุเพราะว่าเวลาที่เราสกัด
00:06:08 → 00:06:12 นะครับคาคานิสที่เราออกมาเราไปคั่วนะคั่ว
00:06:12 → 00:06:15 เสร็จปุ๊บเราไปบดบดแล้วเราแยกออกมาเป็น 2
00:06:15 → 00:06:17 อย่างอย่างแรกคือเป็นส่วนที่มันเป็นของ
00:06:17 → 00:06:19 แข็งเราไม่เอาเพราะว่าไอ้ตรงเนี้ยมันคือ
00:06:19 → 00:06:22 ทำให้มีรสชาติช็อกโกแลตสีน้ำตาลหอมหวานนะ
00:06:22 → 00:06:26 ครับเอาออกไปเหลือแต่ที่เป็นเป็นบัตร์
00:06:26 → 00:06:29 บัตร์นี่คือตัวเนยของมันนี่แหละแล้วเอา
00:06:29 → 00:06:31 เนี่ยมาทำมันก็เลยกลายเป็นช็อกโกแลตสีขาว
00:06:31 → 00:06:33 หรือไทท์ช็อกโกแลตซึ่งบอกเลยครับคุณค่า
00:06:33 → 00:06:36 ทางสารอาหารน้อยที่สุดในบรรดาทั้งหมดนะ
00:06:37 → 00:06:40 ครับถ้าไล่คุณค่าทางสารอาหารนะครับคาคา
00:06:40 → 00:06:42 นิสสูงที่สุดเนื่องจากว่ามันไม่ได้
00:06:42 → 00:06:44 เปลี่ยนแปลงอะไรเลยเราเอามันมาล้วนๆเลย
00:06:44 → 00:06:46 ยังไม่คั่วมันด้วยนะครับถ้าขั้วแล้วมันจะ
00:06:46 → 00:06:50 กลายเป็นโกโก้ซึ่งสารอาหารก็จะลดลงมานะ
00:06:50 → 00:06:53 ครับขั้วน้อย Light Rose คือสารอาหารก็
00:06:53 → 00:06:56 ยังคงไว้เยอะหน่อยขั้วเข้มนะครับ Dark
00:06:56 → 00:06:59 Rose สารอาหารก็น้อยที่สุดแต่มันจะหอม
00:06:59 → 00:07:01 และอร่อยที่สุดในบรรดาทั้งหมดเลยนะฮะถ้า
00:07:01 → 00:07:04 คาเคามันอาจจะขมมันอาจจะไม่อร่อยก็ได้นะ
00:07:04 → 00:07:07 ครับบางคนไม่ชอบด้วยนะครับแต่บางคนก็รู้
00:07:07 → 00:07:10 สึกว่าเฮ้ยแค่แค่คั่อย่างเดียวไม่พอไม่
00:07:10 → 00:07:13 สาใใจเอาไปเติมนมเติมน้ำตาลเติมอะไรพวก
00:07:13 → 00:07:15 เนี้ยเยอะๆเข้าไปก็กลายเป็นช็อกโกแลตนะ
00:07:16 → 00:07:18 ครับเปอร์เซ็นต์ของช็อกโกแลตก็ขึ้นอยู่
00:07:18 → 00:07:20 กับว่าเรามีเปอร์เซ็นต์ของโกโก้อยู่ใน
00:07:20 → 00:07:22 นั้นแค่ไหนถ้ายิ่งเปอร์เซ็นต์สูงโอเคแปล
00:07:23 → 00:07:26 ว่าเรามีสารอาหารต้นทางที่เยอะและสูงพอสม
00:07:26 → 00:07:30 ควรอ่ะทีนี้มาถึงเรื่องเรื่องของอะไรที่
00:07:30 → 00:07:35 อยู่ในคาคาและโกโก้และช็อกโกแลตนะครับข้อ
00:07:35 → 00:07:40 แรกนะครับชื่อต้นไม้มัน Tea มันมีสารชื่อ
00:07:40 → 00:07:44 รมนครับตัวนี้แหละครับเป็นตัวชูโรงของ
00:07:44 → 00:07:47 ช็อกโกแลตเลยนะครับทั้ง 3 อย่างมันมีสาร
00:07:47 → 00:07:51 โบรมีนที่ไม่เท่ากันแน่นอนคาคานิปมีเยอะ
00:07:51 → 00:07:54 ที่สุดนะครับโกโก้ลองลงมาแล้วช็อกโกแลต
00:07:54 → 00:07:58 เนี่ยก็น้อยที่สุดนะครับไอ้ตัวนี้นี่แหละ
00:07:58 → 00:08:00 นะ
00:08:00 → 00:08:04 มันมีทีโอโบรมีนทีโอโบรมีนเนี่ยมันเป็น
00:08:04 → 00:08:07 สารที่มีประโยชน์หลายอย่างนะครับอย่างแรก
00:08:07 → 00:08:10 นะครับคือมันช่วยเรื่องของระบบไหลเวียน
00:08:10 → 00:08:14 หลอดเลือดสามารถลดความดันโลหิตเราได้นะฮะ
00:08:14 → 00:08:18 ช่วยเรื่องกลุ่มเมตาบอลิกลดน้ำตาลในเลือด
00:08:18 → 00:08:20 ได้ช่วยเรื่องของสมองทำให้มีการหลั่ง
00:08:20 → 00:08:23 เซโรโทนินกับโดปามีนเพิ่มมากขึ้นก็จะ
00:08:23 → 00:08:28 อารมณ์ดีได้นะครับมีส่วนช่วยในเรื่องของ
00:08:28 → 00:08:33 ตัวกัดไมโครไบโอมซึ่งก็คือเชื้อประจำถิ่น
00:08:33 → 00:08:36 ที่อยู่ในลำไส้ของเราทำให้มันมีความหลาก
00:08:36 → 00:08:38 หลายและความแข็งแรงที่ดีขึ้นนะครับก็ช่วย
00:08:39 → 00:08:42 เรื่องของระบบลำไส้ต่างๆนะครับพวกเนี้ย
00:08:42 → 00:08:47 มันเป็นผลจากทีโอโรมนทั้งนั้นเลยนะฮะที่
00:08:47 → 00:08:51 สำคัญมันสามารถที่จะช่วยทำให้เรามีกำลัง
00:08:51 → 00:08:53 ในการออกกำลังกายได้ดี
00:08:53 → 00:08:56 ด้วยแต่แน่นอนครับทั้งหมดนี้เนี่ยเดี๋ยว
00:08:56 → 00:08:58 เราต้องมาคุยกันว่าแล้วมันต้องกินเท่า
00:08:58 → 00:09:01 ไหร่กินไปนานแค่ไหนนะครับเพราะว่ามันไม่
00:09:01 → 00:09:03 ใช่ว่าอยู่ๆเรากินวันนี้แล้วพรุ่งนี้เรา
00:09:03 → 00:09:05 แข็งแกร่งทันทีเลยสามารถลดน้ำตาลได้เลย
00:09:05 → 00:09:07 อะไรอย่างเงี้ยนะครับมันไม่เป็นแบบนั้นนะ
00:09:07 → 00:09:11 ฮะอันนี้คือสารตัวแรกนะที่เป็นตัวชูโรง
00:09:11 → 00:09:15 ของกลุ่มนี้ทั้งหมดตัวที่ 2 มีคาเฟอีน
00:09:15 → 00:09:20 ครับคาเฟอีนมันก็จะสูงในอาหารต้นทางมาก
00:09:20 → 00:09:24 ที่สุดนะครับคาคานิปคาเฟอีนสูงสุดถ้ามัน
00:09:24 → 00:09:26 กลายไปเป็นช็อกโกแลตคาเฟอินก็จะต่ำสุดแบบ
00:09:26 → 00:09:27 นี้นะ
00:09:27 → 00:09:32 ฮะตัวที่ 3 สารกลุ่มโพลีฟีนอลนะครับ
00:09:32 → 00:09:34 ฟลาโวนอยด์พวกนี้มันเป็นสารที่มันต้าน
00:09:34 → 00:09:37 อนุมูลอิสระได้ค่อนข้างที่จะดีในร่างกาย
00:09:37 → 00:09:39 แน่นอนสูงที่สุดในคาคานิสต่ำที่สุดใน
00:09:39 → 00:09:43 ช็อกโกแลตนะครับยิ่งไม่ค่อยมีกระบวนการทำ
00:09:43 → 00:09:45 อะไรกับเมล็ดตั้งแต่แรกอ่ะกระบวนการน้อย
00:09:46 → 00:09:47 เท่าไหร่เนี่ยสารอาหารยิ่งเยอะนะครับจำ
00:09:47 → 00:09:50 อย่างนี้เลยนะฮะแล้วก็มันมีแร่ธาตุเป็น
00:09:50 → 00:09:52 แมกนีเซียมค่อนข้างที่จะสูงดังนั้นใน
00:09:52 → 00:09:54 กลุ่มพวกเนี้ยแมกนีเซียมจะยังดีอยู่
00:09:54 → 00:09:57 แมกนีเซียมเนี่ยมันไม่ค่อยมีปัญหากับ
00:09:57 → 00:09:58 เรื่องความร้อนนะครับดังนั้นกลายไปเป็น
00:09:58 → 00:10:00 ช็อกโกแลตแล้วเนี่ยมันก็ยังมีอยู่นั่น
00:10:00 → 00:10:01 แหละนะ
00:10:01 → 00:10:07 ฮะทีนี้พวกเนี้ยคือประโยชน์ทั้งหมดนะครับ
00:10:07 → 00:10:10 ถามว่าแล้วมันมีอะไรที่มันเป็นโทษอยู่ใน
00:10:11 → 00:10:14 นั้นมั้ย oxalate ครับของพวกเนี้ย
00:10:14 → 00:10:17 ออกซาเลตเนี่ยมันเป็นโทษถ้ากินเข้าไปเยอะ
00:10:17 → 00:10:23 ๆเกิดนิ่วได้ครับที่สำคัญถ้าเราไม่ได้
00:10:23 → 00:10:26 ผ่านกระบวนการเยอะๆสารพวกนี้จะยังอยู่
00:10:26 → 00:10:28 เยอะใช่มั้ยครับออกซาเลตก็เป็นหนึ่งใน
00:10:28 → 00:10:31 นั้นดังนั้นคานิสเนี่ยจะเป็นตัวที่มี
00:10:31 → 00:10:35 ออกซาเลตสูงที่สุดในบรรดาทั้งหมดเลยนะ
00:10:35 → 00:10:39 ครับนั้นคาสมีอะไรเยอะมีโบรมีนสูงที่สุด
00:10:39 → 00:10:42 โพลีฟีนอลลาวนอยสารต้านอมูอิสระสูงที่สุด
00:10:42 → 00:10:46 คาเฟอีนสูงที่สุดและออกซาเลตก็สูงที่สุด
00:10:46 → 00:10:49 ด้วยดังนั้นถ้าเราจะกินเข้าไปเยอะๆก็
00:10:49 → 00:10:53 ระวังเรื่องของนิ้วด้วยนะครับทีนี้เรามา
00:10:53 → 00:10:55 ต่อกันที่ประเด็นว่าแล้วเราต้องกินไปนาน
00:10:55 → 00:10:58 เท่าไหร่เออต้องกินไปนานเท่าไหร่แล้วมัน
00:10:58 → 00:11:02 มีผลเสียอะไรอย่างอื่นมนะครับนอกจากนิ่ว
00:11:02 → 00:11:05 เพิ่มเติมให้อีก 2 อย่างแล้วกันอย่างแรก
00:11:05 → 00:11:09 นะครับช็อกโกแลตคาคานิสโกโก้ทั้งหมดที่มี
00:11:09 → 00:11:12 สารโอโมนเนี่ยมันจะทำให้คนที่เป็นกรดไหล
00:11:12 → 00:11:15 ย้อนเป็นมากขึ้นได้ดังนั้นถ้าเกิดว่าใคร
00:11:15 → 00:11:17 ที่เป็นกรดไหลย้อนอยู่แล้วแล้วยังมีอาการ
00:11:17 → 00:11:20 เยอะอยู่เนี่ยนะครับหรือเคยเป็นแล้วมัน
00:11:20 → 00:11:22 เพิ่งจะหายเนี่ยไม่แนะนำให้กินของพวกนี้
00:11:22 → 00:11:25 เลยนะครับไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลตโกโก้คาา
00:11:25 → 00:11:29 นิสเนี่ยอย่ากินมิฉะนั้นเดี๋ยวจะหาว่าไม่
00:11:29 → 00:11:31 ไม่ตื่นว่ากรดไหลย้อนมันเป็นหนักขึ้นนะ
00:11:31 → 00:11:35 ครับอันที่ 2 บางคนเนี่ยมีความไวต่อสาร
00:11:35 → 00:11:38 โอมินมากกินช็อกโกแลตทีไรกินคาคานิปทีไร
00:11:39 → 00:11:40 เนี่ยปวด
00:11:40 → 00:11:44 หัวปวดหัวนะครับคือแทนที่จะมีความสุขไม่
00:11:44 → 00:11:46 มีแล้วคราวนี้ปวดหัวเยอะเลยนะก็กินไม่ได้
00:11:46 → 00:11:49 กินช็อกโกแลตไม่ได้กินคาคานิยิ่งแล้วใหญ่
00:11:49 → 00:11:53 เพราะว่าคาคานิสมีโอมีนสูงที่สุดนะครับ
00:11:53 → 00:11:55 งั้นบางคนเนี่ยคือไม่ทราบมาก่อนว่า
00:11:55 → 00:11:57 ช็อกโกแลตกับคาคานี้มันเกี่ยวอะไรกันแล้ว
00:11:57 → 00:12:00 ไปฟังมาจาก influ บางคนที่บอกว่าอุ้ยกาคา
00:12:00 → 00:12:03 นิสดีสามารถรักษาโรคทุกอย่างได้เลยแล้วก็
00:12:03 → 00:12:05 เลยอยากจะไปกินแต่ลืมไปว่าตัวเองเนี่ยกิน
00:12:05 → 00:12:07 ช็อกโกแลตไม่ไหวกินแล้วปวดโหทุกทีไปกิน
00:12:07 → 00:12:09 นี่ปุ๊บโอโหปวดหนักกว่าเดิมเลยนะครับดัง
00:12:09 → 00:12:13 นั้นก็ทราบไว้ด้วยนะครับว่ามันมีปัญหาแบบ
00:12:13 → 00:12:17 นี้อ่ะทีนี้มาถึงเรื่องของเราจะต้องกินไป
00:12:17 → 00:12:21 นานเท่าไหร่กินแค่ไหนแล้วก็กินตอนไหนถึง
00:12:21 → 00:12:25 จะได้ประโยชน์จากสารที่โอมินสูงที่สุดนะ
00:12:25 → 00:12:27 โอเคตอนนี้เรารู้แล้วนะว่าถ้าเราต้องการ
00:12:27 → 00:12:30 ประโยชน์สูงที่สุดให้เราเลือกเลือคาานปส
00:12:30 → 00:12:34 นะครับแต่ในขณะเดียวกันในคาคานิสมันก็มี
00:12:34 → 00:12:35 สารที่เป็นประโยชน์แต่บังเอิญมันอาจจะ
00:12:35 → 00:12:38 เป็นโทษสำหรับบางคนที่มีผลข้างเคียงได้
00:12:38 → 00:12:42 แล้วโมนี่คือสุนัขกินไม่ได้นะตายนะครับ
00:12:42 → 00:12:46 ตายนะมันเ่ามีปัญหาได้ดังนั้นช็อกโกแลต
00:12:46 → 00:12:49 โกโก้คาคาเนี่ยห้ามให้สุนัขกินเด็ดขาดนะ
00:12:49 → 00:12:51 ครับไม่ฉะนั้นอาจจะเป็นอันตรายต่อเขาได้
00:12:52 → 00:12:55 นะครับกินไปนานเท่าไหร่นะครับสิ่งที่กิน
00:12:56 → 00:12:58 เข้าไปปุ๊บแล้วได้ผลทันทีเลยนะข้อแรกเลย
00:12:58 → 00:13:02 ครับครับเรื่องของสารโดปามีนและซีโรโทนิน
00:13:02 → 00:13:04 มันจะเพิ่มขึ้นในสมองเดี๋ยวนั้นเลยนะครับ
00:13:04 → 00:13:07 ในประมาณสักครึ่งชั่วโมงกินเข้าไปแล้วเรา
00:13:07 → 00:13:10 จะรู้สึกดีมีความสุขทันทีอันเนี้ยให้ผล
00:13:10 → 00:13:13 ทันทีนะครับอีกอย่างที่ให้ผลทันทีก็คือ
00:13:13 → 00:13:16 เรื่องของการออกกำลังกายครับงั้นบางคนถ้า
00:13:16 → 00:13:18 เกิดว่าเราจะไปออกกำลังกายเรากินไอ้นี่
00:13:18 → 00:13:20 เข้าไปสักนิดนึงเนี่ยนะครับเช่นถ้าเรากิน
00:13:21 → 00:13:23 dar ช็อกโกแลตนะครับ Dark ช็อกโกแลตสัก
00:13:23 → 00:13:25 ครึ่งแท่งก็ประมาณ 30 กรัมถึง 60 กรัมแถว
00:13:25 → 00:13:29 ๆเนี้ยนะฮะก็จะช่วยทำให้เรามีสมัสภาพทาง
00:13:29 → 00:13:32 การออกกำลังกายที่สูงขึ้นได้เพราะไอ้สาร
00:13:32 → 00:13:35 พวกนี้นี่แหละทั้งคาเฟอีนทั้งตัวทีโอโรมน
00:13:35 → 00:13:39 นะครับมันจะช่วยเราแลพวกนี้ออกผลทันทีดัง
00:13:39 → 00:13:41 นั้นถ้าเกิดว่าใครที่อยากจะให้ตัวเอง
00:13:41 → 00:13:45 เนี่ยเออรู้สึกตื่นตัวตอนเช้าแล้วก็สมอง
00:13:45 → 00:13:48 สดใสกินตอนเช้าครับถ้าใครอยากจะได้ผลด้าน
00:13:49 → 00:13:51 การออกกำลังกายกินก่อนออกกำลังกายสัก
00:13:51 → 00:13:53 ครึ่งชั่วโมงครับมันจะออกผลดีที่สุดใน
00:13:53 → 00:13:55 ช่วงนั้นนะฮะ
00:13:56 → 00:13:59 แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นเช่นสมมุติเมื่อกี้
00:13:59 → 00:14:01 เราบอกว่าเฮ้ยกินแล้วรู้สึกดีมันจะไว้
00:14:01 → 00:14:04 รักษาโรคซึมเศร้าได้ไหมมบอกเลยครับไม่ได้
00:14:04 → 00:14:07 ไม่ได้ถ้าเราไปฟัง influencer หรือบางคน
00:14:07 → 00:14:11 ที่เขาขายโกโก้นิสหรือคาคานิสเนี่ยเขาจะ
00:14:11 → 00:14:14 บอกว่ามันสามารถเอาไปรักษาโรคซึมเศร้าได้
00:14:14 → 00:14:17 รักษาด้วยทุกโรคความดันเบาหวานไขมันเอ่อ
00:14:17 → 00:14:21 โรคหัวใจบอกเลยครับว่าอย่าเชื่อมันใช้
00:14:21 → 00:14:24 รักษาไม่ได้เพียงแต่ว่ามันช่วยบ้างนะครับ
00:14:25 → 00:14:28 มันช่วยบ้างไม่ได้ทำให้เราหายไม่งั้น
00:14:28 → 00:14:30 เนี่ยหลายคนที่กินยาอยู่ก็บอกอุ๊ยไม่อยาก
00:14:30 → 00:14:32 จะกินยาแล้วเอายาไปโยนทิ้งและกินพวกนี้
00:14:32 → 00:14:35 แทนไม่ได้นะครับอันตรายมากแล้วก็มันมีคน
00:14:35 → 00:14:38 แย่มาแล้วจากการทำแบบนี้นี่แหละดังนั้น
00:14:38 → 00:14:40 อย่าทำให้เราใช้เป็นสิ่งที่เราเสริมเข้า
00:14:40 → 00:14:45 ไปในร่างกายเพื่อทำให้ภาวะต่างๆดีขึ้นนะ
00:14:45 → 00:14:48 ครับดังนั้นรักษาโรคซึมเศร้าไม่ได้นะแต่
00:14:48 → 00:14:51 มันทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้นะอันที่ 2
00:14:51 → 00:14:54 ที่มันช่วยเรื่องของความดันโลหิตนะครับ
00:14:54 → 00:14:56 มันสามารถช่วยลดความดาโลหิตได้แต่ลดได้
00:14:56 → 00:14:59 ไม่มากแล้วถ้าเราจะเห็นผลของการการลดความ
00:14:59 → 00:15:02 ดันโลหิตนะครับเราจะต้องกินไปอย่างน้อยก็
00:15:02 → 00:15:06 ประมาณสักเดือนนึงนะเดือนถึงเดือนกว่าผล
00:15:06 → 00:15:10 ที่มันจะช่วยเรื่องของการลดน้ำตาลหรือ
00:15:10 → 00:15:12 ช่วยเรื่องของไขมันในร่างกายได้เนี่ยจะ
00:15:12 → 00:15:15 ต้องกินไป 2-3 เดือนถึงจะเห็นผลนี่กินทุก
00:15:15 → 00:15:18 วันด้วยนะไม่ใช่กินกหยุดๆนะครับ 2-3
00:15:18 → 00:15:21 เดือนถึงจะเห็นผลผลการเปลี่ยนแปลงกัด
00:15:21 → 00:15:24 ไมโครไบโอมหรือเชื้อเฉพาะถิ่นที่มันเป็น
00:15:24 → 00:15:26 เชื้อจุลินทรีย์ตัวดีต่อร่างกายเนี่ยใช้
00:15:26 → 00:15:30 เวลาประมาณ 3 เดือนเราถึงจะเห็นผลนะครับ
00:15:30 → 00:15:33 ดังนั้นพวกนี้ทั้งหมดเนี่ยมันจะใช้เวลานะ
00:15:33 → 00:15:36 แล้วถามว่ากินเท่าไหร่นะครับโดยทั่วไป
00:15:36 → 00:15:38 เนี่ยถ้าเราได้สารทีโอโบรมีนประมาณ
00:15:38 → 00:15:42 200-400 มกรต่อวันเนี่ยเป็นอะไรที่ดีที่
00:15:42 → 00:15:46 สุดแล้วถามว่าเออแล้วถ้ามันตีเป็นคาคานิส
00:15:46 → 00:15:48 กับตีเป็นไอ้ dar ช็อกโกแลตมันต้องกินแค่
00:15:48 → 00:15:51 ไหนกันแน่นะครับถึงจะได้สารทีโมนขนาดนี้
00:15:51 → 00:15:55 นะครับก็ต้องบอกว่าถ้าเป็นตัวคาคานิให้
00:15:55 → 00:15:57 เรากินประมาณ 10-20 กรัมนะครับก็ประมาณ
00:15:57 → 00:16:00 1-2 ช้อนโต๊ะเนี่ยแหละนะประมาณนั้นเลย
00:16:00 → 00:16:02 ต่อวันไอ้คาคาวนิ่มมันจะมีบางคนเข้าไปทำ
00:16:02 → 00:16:06 เป็นผงนะครับก็กินอย่างงั้นแะประมาณ 1-2
00:16:06 → 00:16:09 ช้อนก็จะไปใส่ไปกับอ่าโยเกิร์ตใส่สมูทตี้
00:16:09 → 00:16:11 หรือไปชงกับอะไรก็ได้แล้วแต่นะครับถ้าชง
00:16:11 → 00:16:14 มันเปล่าๆเนี่ยโดยไม่ผสมอะไรเลยมันอาจจะ
00:16:14 → 00:16:18 ไม่อร่อยนะครับมันขมแล้วบางคนก็กินไม่ได้
00:16:18 → 00:16:20 ด้วยนะครับคือถ้าให้อยากจะให้รสชาติมัน
00:16:20 → 00:16:22 กินง่ายขึ้นก็ต้องไปผสมกับอะไรสักอย่าง
00:16:22 → 00:16:24 นั่นแหละแล้วแต่เราชอบไม่ว่าจะเป็น
00:16:24 → 00:16:27 โยเกิร์ตอ่าผลไม้หรือน้ำอะไรก็ได้นะครับ
00:16:27 → 00:16:30 หรือบางคนอยากจะกินกินคู่กับไอติมเพราะ
00:16:30 → 00:16:32 ว่าเอ้ยเออไหนๆจะกินของที่มันไม่มี
00:16:32 → 00:16:34 ประโยชน์มันมีน้ำตาลเยอะแล้วเอานิสัยเข้า
00:16:34 → 00:16:36 ไปสักนิดนึงอ่าก็ได้นะครับแล้วแต่เรา
00:16:36 → 00:16:39 เลือกเลยนะครับแต่ถ้าเป็นช็อกโกแลตเนี่ย
00:16:39 → 00:16:42 แนะนำว่าเลือก Dark ช็อกโกแลต Dark
00:16:42 → 00:16:45 ช็อกโกแลตที่แนะนำก็คือมีเปอร์เซ็นต์ 70%
00:16:45 → 00:16:48 ขึ้นไปยิ่งเข้มมากเออยิ่งดีนะครับเพราะ
00:16:48 → 00:16:51 ว่ามันยิ่งคงความเป็นคุณประโยชน์ของต้น
00:16:51 → 00:16:54 ทางเยอะที่สุดนะครับถ้าเป็น Dark
00:16:54 → 00:16:57 ช็อกโกแลตสมมุติว่าถ้าเราเลือกซัก 80%
00:16:57 → 00:17:00 ขึ้นไปเนี่ยก็กินประมาณ 30-60 กรัมก็คือ
00:17:00 → 00:17:05 ประมาณครึ่งแท่งถึงแท่งนึงทุกวันทุกวันนะ
00:17:05 → 00:17:07 เ้อถามว่าทำไมเราต้องให้เลือก Dark
00:17:07 → 00:17:10 ช็อกโกแลตด้วยนอกเหนือจากการที่มันมีสาร
00:17:10 → 00:17:13 ที่เป็นผลประโยชน์ต้นทางเยอะที่สุดก็
00:17:13 → 00:17:17 เพราะว่ามันมีการผสมน้ำตาลน้อยที่สุดมี
00:17:17 → 00:17:20 การผสมนมน้อยที่สุดนะครับเพราะไอ้ของพวก
00:17:20 → 00:17:22 นั้นเป็นของที่เราไม่ต้องการเข้าไปแล้ว
00:17:22 → 00:17:25 บางคนกินช็อกโกแลตเอ้ยทำไมถึงเป็นสิวมัน
00:17:25 → 00:17:27 มีนมเยอะอยู่ในนั้นครับนมกับน้ำตาลเนี่ย
00:17:27 → 00:17:30 มันเกี่ยวข้องกับสิวได้ดังนั้นถ้าคุณกิน
00:17:30 → 00:17:33 ช็อกโกแลตทั่วๆไปเนี่ยบางคนมันเป็นสิวพอ
00:17:33 → 00:17:35 อย่างงั้นนแหละนะครับแต่ถ้าเกิดคุณกิน
00:17:35 → 00:17:37 Dark ช็อกโกแลตไม่มีปัญหาอะไรยิ่งเข้ม
00:17:37 → 00:17:40 ยิ่งดีนะครับแต่ยิ่งเข้มมันก็จะยิ่งกิน
00:17:40 → 00:17:42 ยากหน่อยนะครับมันจะมีความขมความเป็นแป้ง
00:17:43 → 00:17:45 ๆหน่อยถ้าเกิดคุณเอาช็อกโกแลตแบบ 100%
00:17:45 → 00:17:48 เต็มอย่างเงี้ยมันจะแป้งมากกินเข้าไปแล้ว
00:17:48 → 00:17:50 ก็รู้สึกว่ามันแห้งในปากมากเพราะฉะนั้น
00:17:50 → 00:17:52 พวกนี้บางทีอาจจะต้องไปผสมกับอย่างอื่น
00:17:52 → 00:17:54 หรือว่าถ้าจะกินก็กินละลายในกาแฟอย่างงี้
00:17:55 → 00:17:58 ก็อาจจะช่วยทำให้เรากินง่ายมากขึ้นได้นะ
00:17:58 → 00:18:01 ครับดังนั้นนี่คือปริมาณที่ต้องกินต่อวัน
00:18:01 → 00:18:03 แล้วก็ระยะเวลาก็อย่างที่เมื่อตะกี้บอกไป
00:18:03 → 00:18:07 ว่าต้องกินนานแค่ไหนส่วนจะกินตอนไหนนะ
00:18:07 → 00:18:09 เมื่อกี้เล่าไปคร่าวๆนิดนึงและถ้าเรา
00:18:09 → 00:18:12 ต้องการให้สมองตื่นตัวนะครับมีความสุขกิน
00:18:12 → 00:18:15 ตอนเช้าตอนตื่นขึ้นมาถ้าเราต้องการผล
00:18:15 → 00:18:17 เพื่อการออกกำลังกายกินก่อนออกกำลังกาย
00:18:17 → 00:18:20 สักครึ่งชั่วโมงนะครับแต่ถ้าเกิดว่าใคร
00:18:20 → 00:18:22 อยากจะเอาผลเรื่องของน้ำตาลอ่ะแน่นอนอาจ
00:18:22 → 00:18:25 จะต้องไปกินหลังอาหารนะครับเพราะช่วงนั้น
00:18:25 → 00:18:27 โอเคน้ำตาลมันเยอะที่สุดนะฮะมันมีอาหาร
00:18:28 → 00:18:30 ออกมาในร่างกายของเราเยอะที่สุดน้ำตาลก็
00:18:30 → 00:18:32 จะสูงก็จะไปกินช่วงนั้นแต่มันไม่ได้กิน
00:18:32 → 00:18:34 ปุ๊บได้ผลปั๊บนะครับอย่างที่บอกถ้าเรื่อง
00:18:34 → 00:18:36 ของเมตาบอลิกหรือน้ำตาลต่างๆนี้อาจะต้อง
00:18:36 → 00:18:40 กินไปเป็นเดือนถึงจะได้ผลนะครับ
00:18:40 → 00:18:43 และอย่าลืมนะครับมันมีคาเฟอีนอยู่ในนั้น
00:18:43 → 00:18:46 ด้วยนะฮะดังนั้นถ้าเกิดคนไหนที่มีปัญหา
00:18:46 → 00:18:48 เรื่องนอนไม่หลับเนี่ยอย่าเพิ่งไปกิน
00:18:48 → 00:18:52 ช็อกโกแลตในเวลากลางคืนหรือเวลาก่อนนอนนะ
00:18:52 → 00:18:56 ฮะเราอาจจะงงเอ๊ะถ้าเราไปที่ต่างประเทศ
00:18:56 → 00:18:58 เนี่ยทำไมเวางช็อกโกแลตไว้ที่หมอนนะครับ
00:18:59 → 00:19:01 หรือบางคนบอกให้ดื่มช็อกโกแลตร้อนก่อนนอน
00:19:01 → 00:19:04 แล้วมันจะทำให้หลับสบายครับระวังให้ดี
00:19:04 → 00:19:07 สำหรับคนทั่วไปเนี่ยไม่มีปัญหาแล้วมัน
00:19:07 → 00:19:11 หลับสบายจริงๆแต่คนที่มีปัญหาแล้วไวต่อ
00:19:11 → 00:19:14 คาเฟอีนหรือมีกรดไหลย้อนแล้วกินเข้าไป
00:19:14 → 00:19:18 ก่อนนอนเสร็จแน่ครับคาเฟอินเพียงเล็กน้อย
00:19:18 → 00:19:21 ก็ทำให้ท่านนอนไม่หลับแล้วครับบางคนเนี่ย
00:19:21 → 00:19:26 ไวต่อทีโมนมีกรดไหลย้อนกินปุ๊บนอนปั๊บ
00:19:26 → 00:19:29 เกิดอะไรขึ้นกรดไหลย้อนมาทันทีเลยนะครับ
00:19:29 → 00:19:31 ดังนั้นก็ต้องมีความระมัดระวังในเรื่อง
00:19:31 → 00:19:35 นี้มากๆด้วยนะครับมฉะนั้นท่านอาจจะแย่ได้
00:19:35 → 00:19:40 คำเตือนสุดท้ายเรื่องของออกซาเลตนะครับ
00:19:40 → 00:19:44 ออกซาเลตเนี่ยมันทำให้เราเป็นนิ่วได้ดัง
00:19:44 → 00:19:47 นั้นบางคนเนี่ยที่มีประวัติเป็นนิ่วในทาง
00:19:47 → 00:19:49 เดินปัสสาวะอยู่เรื่อยๆนะครับเป็นแล้วมัน
00:19:49 → 00:19:52 ยังไม่หายนะครับฉี่แล้วมันขัดๆแสบๆแล้วไป
00:19:52 → 00:19:55 หาหมอแล้วหมอบอกว่าเป็นนิ่วเนี่ยอย่า
00:19:55 → 00:19:58 เพิ่งกินไอ้ของพวกนี้อย่าเพิ่งกินนะครับ
00:19:58 → 00:20:02 ไม่งั้นบางคนเนี่ยเท่าที่ผมรู้นะเขาจะไป
00:20:02 → 00:20:06 เห็นการโฆษณาโอ้คาคานิสสามารถรักษาได้ทุก
00:20:06 → 00:20:09 อย่างซึ่งมันทำไม่ได้มีผลดีต่อร่างกายไม่
00:20:09 → 00:20:12 ต้องทำให้เราไปกินยาของหมอซึ่งเป็นเคมี
00:20:12 → 00:20:16 ไม่ต้องกินไปตลอดชีวิตแต่ถ้าลืมไปแล้วนะ
00:20:16 → 00:20:18 ว่าท่านต้องกินคาคานิไปนานพอสมควรถึงจะ
00:20:18 → 00:20:22 ได้ผลและถ้าหยุดกินผลพวกนี้ก็หมดครับแปล
00:20:22 → 00:20:24 ว่าอะไรท่านต้องกินไปตลอดชีวิตเหมือนกัน
00:20:24 → 00:20:26 นั่นแหละถ้านต้องการผลอย่างที่ influencer
00:20:26 → 00:20:30 คนนั้นบอกที่สำคัญมันรักษาโรคไม่ได้แต่
00:20:30 → 00:20:34 มันแค่ช่วยบรรเทาโรคเหล่านั้นเท่านั้นไม่
00:20:34 → 00:20:37 ได้ทำให้โรคหายไปอาจจะช่วยทำให้เราคุมโรค
00:20:37 → 00:20:40 ได้ง่ายขึ้นใช้ยาน้อยลงแต่ไม่ได้แปลว่า
00:20:40 → 00:20:43 ไม่ต้องใช้ยาที่สำคัญถ้าฟังทุกอย่างมา
00:20:43 → 00:20:47 แล้วแล้วท่านเป็นนิ่้วแล้วไปกินอาจจะมี
00:20:47 → 00:20:50 ปัญหาได้บางคนเฮ้ยไม่ได้กินช็อกโกแลตไป
00:20:50 → 00:20:51 กินคาา
00:20:51 → 00:20:55 นิสออกซิเดเยอะที่สุดในบรรดาทั้งหมดเลยนะ
00:20:55 → 00:20:58 ครับก็ต้องมีความระมัดระวังในส่วนนี้ด้วย
00:20:58 → 00:21:01 เช่นเกันนะฮะดังนั้นเนี่ยนะครับหวังว่า
00:21:01 → 00:21:02 วัน
00:21:02 → 00:21:07 นี้ทุกคนจะเข้าใจในเรื่องของคาคานิสโกโก้
00:21:07 → 00:21:10 แล้วก็ช็อกโกแลตเพิ่มมากขึ้นนะครับยิ่งมี
00:21:10 → 00:21:13 อะไรที่เป็น process หรือกระบวนการต่างๆ
00:21:13 → 00:21:16 ที่ไปทำกับเมล็ดมันมากๆเนี่ยมันก็ยิ่งผล
00:21:16 → 00:21:20 ประโยชน์น้อยลงแต่มันจะอร่อยเพิ่มมากขึ้น
00:21:20 → 00:21:23 มันเลยทำให้วันเนี้ยิ่งยิ่งเราเจอของ
00:21:23 → 00:21:26 อร่อยเท่าไหร่มันยิ่งผลประโยชน์น้อยเท่า
00:21:26 → 00:21:29 นั้นนะครับอ่ะวันนี้ก็ฝากไว้เท่านี้นะ
00:21:29 → 00:21:31 ครับก็สุขสันวันวาเลนไทน์ทุกๆคนนะครับ
00:21:31 → 00:21:34 แล้วหวังว่าเราจะมีสุขภาพแข็งแรงไปทุกคน
00:21:34 → 00:21:39 นะครับวันนี้เท่านี้สวัสดีครับ