00:00:00 → 00:00:02 มีสาเหตุความอ้วนที่คนเจ้าสิบเก้า
00:00:02 → 00:00:06 เปอร์เซ็นต์ไม่รู้สวัสดีครับวันนี้คุณ
00:00:06 → 00:00:09 อยู่กับผมหมอแบงค์ Food Doctor นะครับจะ
00:00:09 → 00:00:11 คลิปก่อนที่เราได้คุยกันเนี่ยว่ามนุษย์
00:00:11 → 00:00:14 เราไม่ได้กินเพื่ออยู่อย่างเดียวครับเรา
00:00:14 → 00:00:17 ยังคงต้องกินเพราะอารมณ์จริงไหมครับแล้ว
00:00:17 → 00:00:20 เราก็คนพบว่าเราถูกโลกข้างนอกเนี่ยแฮก
00:00:20 → 00:00:24 สมองเราครับทำให้เรากินเยอะขึ้นครับแล้ว
00:00:24 → 00:00:27 ทำให้กลไกความผอมของเราเสียไปครับในคลิป
00:00:27 → 00:00:30 นี้แบงค์จะมาเปิดเผยคำว่าโลกข้างนอกเนี่ย
00:00:30 → 00:00:34 เขาแฮกสมองเรายังไงครับแล้วเราจะหาทางแก้
00:00:34 → 00:00:38 ไขนี้ยังไงในคลิปนี้เรามาดูกันครับก่อน
00:00:38 → 00:00:40 อื่นเลยหากใครไม่อยากพลาดคลิปดีๆนะครับ
00:00:40 → 00:00:43 อย่าลืม Add LINE at Food Doctor
00:00:43 → 00:00:46 หนึ่งเอาไว้นะครับเพิ่มเพื่อนเอาไว้เวลา
00:00:46 → 00:00:49 ที่เหมาะแบงค์มีคลิปดีๆเนี่ยจะส่งคลิปตรง
00:00:49 → 00:00:51 ไปยังมือถือของคุณเลยครับและคุณสามารถติด
00:00:51 → 00:00:53 ตามบ่แบงค์ได้ทางช่องทางต่างๆดังนี้ครับ
00:00:53 → 00:00:57 ไม่ว่าจะเป็น Facebook IG YouTube หรือ
00:00:57 → 00:01:00 ว่าติดต่อครับอย่าลืมกดติดตามกันไว้นะแต่
00:01:00 → 00:01:04 สิ่งที่แฮกสมองของเรานะครับนั่นก็คือความ
00:01:04 → 00:01:08 หลากหลายของอาหารนั่นเองครับมา Bank มัน
00:01:08 → 00:01:11 เป็นยังไงความหลากหลายของอาหารเรามาดูงาน
00:01:11 → 00:01:13 วิจัยนี้กันครับงานวิจัยนี้เนี่ยเขาแบ่ง
00:01:13 → 00:01:16 คนออกเป็นสองกลุ่มครับแล้วให้กินโยเกิร์ต
00:01:16 → 00:01:19 ต่างแบบกันครับกลุ่มแรกเนี่ยเขาให้กิน
00:01:19 → 00:01:22 โยเกิร์ตทั้ง 3 แบบครับก็คือมี 3 รสชาติ
00:01:22 → 00:01:26 มีฮาเซลนัทแบล็คเคอเรนท์แล้วก็ลดส้มครับ
00:01:26 → 00:01:28 คือกินได้ทั้ง 3 ชนิดเลยส่วนที่กลุ่มนะ
00:01:28 → 00:01:31 ครับเขาให้เลือกรสชาติที่ชอบที่สุดมา 1
00:01:31 → 00:01:34 อย่างเท่านั้นครับแล้วมาดูว่ากลุ่มไหนจะ
00:01:34 → 00:01:38 กินเยอะกว่ากันครับผลปรากฏว่านะครับกลุ่ม
00:01:38 → 00:01:41 ที่กินแบบหลักหลายเนี่ยหรือสามรสชาติครับ
00:01:41 → 00:01:44 จากกินเยอะกว่าอีกกลุ่มหนึ่งอย่างมีนัยยะ
00:01:44 → 00:01:47 สำคัญครับแม้ว่ากลุ่มที่กินรสชาติเดียวใน
00:01:47 → 00:01:50 จะเลือกรสชาติที่ชอบที่สุดแล้วก็ตามนะ
00:01:50 → 00:01:52 ครับนี่แหละครับถึงเรียกว่าความหลากหลาย
00:01:52 → 00:01:55 ของอาหารทำให้คุณกินเยอะขึ้นครับแล้วลอง
00:01:55 → 00:01:58 สังเกตในชีวิตประจำวันนะครับสมมติคุณเดิน
00:01:58 → 00:02:01 ไปเจอร้านไอติมครับเต็มที่เป็นไอติมแบบ
00:02:01 → 00:02:04 ใส่โคนเนาะแล้วเป็นเครื่องทำไอติมจะมี 2
00:02:04 → 00:02:07 รสชาติด้วยกันครับก็คือวนิลาแล้วก็
00:02:07 → 00:02:09 ช็อกโกแลตครับแล้วตรงกลางเนี่ยก็จะเป็น
00:02:09 → 00:02:13 แบบทูโทนนะแบบมิกซ์กันให้คุณเลือกได้คน
00:02:13 → 00:02:15 เดียวครับได้เลือกไอติมได้ชนิดเดียวครับ
00:02:15 → 00:02:18 คุณจะเลือกรสชาติไหนครับระหว่างวันนี้ลา
00:02:18 → 00:02:23 ช็อกโกแลตหรือว่าแบบทูโทนครับหมอเชื่อเลย
00:02:23 → 00:02:25 เขาว่าคนส่วนใหญ่เนี่ยถ้าเลือกได้อย่าง
00:02:25 → 00:02:28 เดียวนะครับก็อยากจะได้ทั้ง 2 อันจริงไหม
00:02:28 → 00:02:31 ก็จะเลือกแบบทูโทนครับอันนี้คือกลไกของ
00:02:31 → 00:02:34 สมองครับที่เขาชอบความหลากหลายครับและจะ
00:02:34 → 00:02:37 ทำให้คุณกินมากขึ้นครับนักวิจัยเนี่ยเขา
00:02:37 → 00:02:40 ก็ได้ศึกษาลึกลงไปอีกคำว่าสมองเนี่ยเขา
00:02:40 → 00:02:43 ตอบสนองต่ออาหารยังไงนะแล้วก็ค้นพบว่า
00:02:43 → 00:02:46 เวลาที่เราอยู่กับอาหารชนิดนึงนานๆเนี่ย
00:02:46 → 00:02:50 ประมาณ 2 นาทีครับเขาจะปรับให้ความพึงพอ
00:02:50 → 00:02:54 ใจของเราลดน้อยลงนั่นเองครับคุณจะอร่อย
00:02:54 → 00:02:57 แค่คำแรกกับอาหารทุกชนิดครับหลังจากฟัง
00:02:57 → 00:03:00 คลิปนี้นะครับให้คุณลองสังเกตในแม่จำวัน
00:03:00 → 00:03:03 ของคุณนะเวลาที่คุณกินอาหารปกติก็ตามหรือ
00:03:03 → 00:03:07 ว่ากินของหวานก็ตามครับคุณจะรู้สึกได้เลย
00:03:07 → 00:03:10 คำว่าคำแรกเนี่ยฟินที่สุดครับส่วนคำไทยๆ
00:03:10 → 00:03:14 ทำที่ 3 คำที่ 5 เนี่ยจะรู้สึกว่าเฮ้ยไม่
00:03:14 → 00:03:16 อร่อยเหมือนคำแรกเห็นไหมครับแต่เวลามี
00:03:16 → 00:03:19 อาหารชนิดอื่นเข้ามาเนี่ยคุณจะรู้สึกว่า
00:03:19 → 00:03:22 เฮ้ยมันน่ากินก็เลยมีคนชอบพูดว่าอาหารของ
00:03:22 → 00:03:25 เพื่อนเนี่ยมักดูอร่อยมากกว่าอาหารของเรา
00:03:25 → 00:03:28 เสมอเวลาที่เราไปตามสั่งกับเพื่อนนะครับ
00:03:28 → 00:03:31 แล้วเราสั่งเมนูนึงเพื่อนสั่งเมนูนึงแล้ว
00:03:31 → 00:03:33 เราก็มาจะมองอาหารของเพื่อนครับแล้วก็จะ
00:03:33 → 00:03:35 รู้สึกว่าเฮ้ยของเพื่อนเนี่ยน่ากินเพราะ
00:03:35 → 00:03:38 คนไก่สมองอันนี้นั่นเองครับหรือว่าเป็น
00:03:38 → 00:03:40 สถานการณ์นี้ครับคุณเคยไปกินข้าวกับ
00:03:40 → 00:03:43 ครอบครัวเป็นของคาวเนี่ยจนอิ่มแล้วนะครับ
00:03:43 → 00:03:46 แล้วคุณก็บอกว่าโอ๋กินไม่ไหวแล้วท้องจะ
00:03:46 → 00:03:49 แตกแล้วแต่เผอิญครับมีของหวานมาเสิร์ฟ
00:03:49 → 00:03:52 ถ้วยนึงครับเป็นไอศครีมมะพร้าวอ่อนครับ
00:03:52 → 00:03:56 คุณก็สามารถกินได้เพิ่มขึ้นไหมบางคนเนี่ย
00:03:56 → 00:04:00 ก็จะบอกหมอเลยนะคะว่าอุ้ยเราคะมีกระเพาะ
00:04:00 → 00:04:04 สำหรับขนมหวานเสมอเธอเคยได้ยินคนพูดแบบ
00:04:04 → 00:04:06 นี้ไหมสุดท้ายคุณอิ่มมากๆแล้วนะครับก็ยัง
00:04:06 → 00:04:09 มีพื้นที่สำหรับกินขนมหวานได้เสมอนั่น
00:04:09 → 00:04:12 เป็นเพราะว่าความหลากหลายของอาหารมากขึ้น
00:04:12 → 00:04:16 ครับเขาจะไปแฮกสมองเราให้คุณกินเกินความ
00:04:16 → 00:04:19 จำเป็นครับเองงานวิจัยน่าสนใจมากเลยครับ
00:04:19 → 00:04:21 เขาแบ่งคนออกเป็นสองกลุ่มเหมือนเดิมครับ
00:04:21 → 00:04:24 กลุ่มแรกเนี่ยให้บีบมะนาวที่ชื่อว่า Lemon
00:04:24 → 00:04:27 เนี่ยใส่ปากครับแล้วดูว่าการตอบสนองต่อ
00:04:27 → 00:04:29 ต่อมน้ำลายเนี่ยเป็นยังไงให้คุณลองนึกภาพ
00:04:29 → 00:04:32 คุณบีบมะนาวใส่ปากคุณรู้สึกยังไงครับรู้
00:04:32 → 00:04:34 สึกเปรี้ยวแล้วแบบตรงนี้มันบีบเลยใช่ไหม
00:04:34 → 00:04:38 ครับแบบหูน้ำลายสอออกมาเลยนะแต่พอครั้ง
00:04:38 → 00:04:40 หลังๆครับพอบีบไปครั้งที่ 5 ครั้งที่ 6
00:04:40 → 00:04:43 คุณรู้สึกนะครับรู้สึกสบายๆจริงไหมไม่ได้
00:04:43 → 00:04:47 กระตุ้นต่อมน้ำลายมากแบบครั้งแรกแล้วงาน
00:04:47 → 00:04:49 วิจัยนี้ก็แบบเดียวกันครับเวลาเราบีบ
00:04:49 → 00:04:51 ครั้งถัดมาเนี่ยต่อมน้ำลายจะถูกกระตุ้น
00:04:52 → 00:04:55 น้อยลงครับแต่เมื่อครับเปลี่ยนชนิดของ
00:04:55 → 00:04:59 มะนาวครับกลายเป็นชนิดลามครับผมปรากฏว่า
00:04:59 → 00:05:02 กลับมาจัดพี่ต๋อมน้ำลายได้มากกว่าเดิม
00:05:02 → 00:05:04 ครับนี่แหละครับเรียกว่าความหลากหลายของ
00:05:04 → 00:05:07 อาหารเนี่ยกระตุ้นความอยากกินของคุณมาก
00:05:07 → 00:05:10 ขึ้นครับคราวนี้นักวิสัชก็อยากจะรู้แล้ว
00:05:10 → 00:05:13 ครับว่าการที่อาหารมีความหลากหลายเนี่ยจะ
00:05:13 → 00:05:16 ทำให้คุณกินเยอะแค่ไหนงานวิจัยนี้นะครับ
00:05:16 → 00:05:19 แบ่งคนออกเป็นสองกลุ่มเหมือนเคยครับแล้ว
00:05:19 → 00:05:22 คราวนี้ให้กินอาหาร 4 เมนูครับกลุ่มแรก
00:05:22 → 00:05:25 เนี่ยให้กินอาหารเมนูเดิม 4 ครั้งเลยนะ
00:05:25 → 00:05:28 ครับแล้วดูปริมาณอาหารที่เขากินครับอีก
00:05:28 → 00:05:31 กลุ่มนึงเนี่ยเขาให้กินอาหารที่แตกต่าง
00:05:31 → 00:05:34 กันครับ 4 เมนูเนี่ยต่างกันแล้วดูปริมาณ
00:05:34 → 00:05:37 อาหารที่เค้ากินครับผลการทดลองออกมาว่า
00:05:37 → 00:05:41 กลุ่มคนที่กินอาหารที่หลากหลายนะครับ 4
00:05:41 → 00:05:44 เมนูนะครับที่แตกต่างกันจะกินอาหารมาก
00:05:44 → 00:05:48 กว่าอีกกลุ่มนึงเนี่ย 44% ครับและได้รับ
00:05:48 → 00:05:52 พลังงานมากกว่าที่กลุ่มนึงเนี่ยถึง 60
00:05:52 → 00:05:54 เปอร์เซ็นต์ด้วยกันครับนี่แหละครับความ
00:05:54 → 00:05:57 หลากหลายของอาหารเนี่ยน่ากลัวมากจริงๆใน
00:05:57 → 00:05:59 โลกยุคปัจจุบันนวิสัตว์ก็สงสัยเพิ่มขึ้น
00:05:59 → 00:06:02 คำว่าคะแล้วถ้าเป็นเมนูเดิมเลยเนี่ยรส
00:06:02 → 00:06:05 ชาติแบบเดิมเลยแต่แค่เปลี่ยนรูปทรงบาง
00:06:05 → 00:06:09 อย่างจะกระตุ้นเราให้กินมากขึ้นไหมงาน
00:06:09 → 00:06:11 วิจัยนี้เขาทำการทดลองมาให้คุณเรียบร้อย
00:06:11 → 00:06:14 ครับเขาให้เด็กเนี่ยกินมักกะโรนีแอนด์ชีส
00:06:14 → 00:06:18 ครับ 2 แบบด้วยกันครับแบบนึงเนี่ยะให้กิน
00:06:18 → 00:06:20 5 วันแต่เป็นเมนูเดิมลักษณะเดิมเลยนะ
00:06:20 → 00:06:23 ครับผลปรากฏว่าเหมือนเดิมครับเด็กเนี่ย
00:06:24 → 00:06:28 ความพึงพอใจลดลงแล้วก็จะกินน้อยลงครับจาก
00:06:28 → 00:06:31 วันที่ 1 มาวันที่ 5 จะกินลดลงครับแต่
00:06:31 → 00:06:33 เด็กอีกกลุ่มนึงครับเปลี่ยนมักกะโรนีอ่ะ
00:06:33 → 00:06:36 จากรูปแท่งครับให้เป็นรูปเกลียวเท่านั้น
00:06:36 → 00:06:38 ครับแต่ทุกอย่างเหมือนเดิมหมดเลยนะทั้งรส
00:06:38 → 00:06:42 ชาติสีสันผลกกฏว่าอะไรรู้ไหมครับเด็ก
00:06:42 → 00:06:44 กลุ่มที่ถูกเปลี่ยนรูปร่างมักกะโรนีเนี่ย
00:06:44 → 00:06:47 กินมากกว่าอีกกลุ่มหนึ่งอย่างมีนัยยะ
00:06:47 → 00:06:50 สำคัญครับแล้วยิ่งถ้าเปลี่ยนรสชาติไปเลย
00:06:50 → 00:06:53 ให้แตกต่างนะครับคุณจะกินมากยิ่งขึ้นครับ
00:06:53 → 00:06:56 เพราะเรารู้กลไกของสมองแบบนี้แล้วนะครับ
00:06:56 → 00:07:00 บริษัทขนมบริษัทอาหารเนี่ยรอช้าไหมครับก็
00:07:00 → 00:07:03 เขาไม่รอช้าครับอันนี้เป็นขนมช็อคโกแลต
00:07:03 → 00:07:06 เคลือบสียี่ห้อนึงนะครับที่เขามีหลากหลาย
00:07:06 → 00:07:09 สีมากเลยเขารู้คนกลายนี้ครับเขาบอกเลยคำ
00:07:09 → 00:07:13 ว่าการที่เขาเนี่ยเปลี่ยนจากมีแค่ 7 สีนะ
00:07:13 → 00:07:16 ครับให้กลายเป็นสิบสี่เนี่ยทำให้ผู้
00:07:16 → 00:07:21 บริโภคเนี่ยกินมากขึ้น 77% ครับนี้นะครับ
00:07:21 → 00:07:24 นี่คือความลับของโลกใบนี้เลยเวลาที่คุณ
00:07:24 → 00:07:27 ขายอาหารหรือขายขนมนะครับแล้วคุณอยากจะ
00:07:27 → 00:07:30 ขายดีสมมติขายบัวลอยถ้าคุณผลิตบัวลอยมา
00:07:30 → 00:07:34 แค่ 2 สีเนี่ยคุณจะสู้ร้านที่เขาผลิตบัว
00:07:34 → 00:07:37 ลอย 14 ไม่ได้ครับ 14 เนี่ยจะกระตุ้นให้
00:07:37 → 00:07:40 ผู้ที่พวกกินมากกว่า 2 สีครับอันนี้คือ
00:07:40 → 00:07:43 วิทยาศาสตร์เลยนะครับอ้าวแล้วในมุมผู้
00:07:43 → 00:07:46 บริโภคหลานมุมคนอยากลดความอ้วนเนี่ยจะแก้
00:07:46 → 00:07:49 ไขตรงนี้ยังไงนะครับเราเนี่ยเกิดมาในโลก
00:07:49 → 00:07:52 ที่มันมีอาหารเยอะมากๆเลยเนาะใน
00:07:52 → 00:07:54 ซุปเปอร์มาร์เก็ตเวลาคุณเข้าไปนะครับหู
00:07:54 → 00:07:57 เป็นพันๆหมื่นรายการในซุปเปอร์มาร์เก็ต
00:07:57 → 00:08:01 เลยจริงนะหรือว่าตามร้านสะดวกนะครับเปิด
00:08:01 → 00:08:04 24 ชั่วโมงคุณเข้าไปเนี่ยโหมีอาหารเป็น
00:08:04 → 00:08:07 ร้อยเป็นพันๆอย่างและเราจะแก้ไขปัญหานี้
00:08:07 → 00:08:09 กันยังไงเราจะเอาชนะโรคข้างนอกหรือยังไง
00:08:09 → 00:08:12 ให้คุณนะครับพิมพ์คอมเม้นมาข้างล่างนะ
00:08:12 → 00:08:16 ครับว่าเอาชนะความหลากหลายครับแล้วเดี๋ยว
00:08:16 → 00:08:20 หมอจะมาบอกวิธีในคลิปถัดไปครับว่าเราจะ
00:08:20 → 00:08:22 สู้กับข้างนอกยังไงเพื่อให้เราลดน้ำหนัก
00:08:22 → 00:08:25 ได้อย่างมีความสุขครับเพราะหมอแบงค์ไม่
00:08:25 → 00:08:27 ได้ต้องการให้คุณผอมอย่างเดียวครับแต่
00:08:27 → 00:08:31 ต้องให้คุณผอมยังยืนแล้วก็สุขภาพดีด้วย
00:08:31 → 00:08:37 ครับอยู่กับผมหมอแบงค์ Food Doctor
00:08:37 → 00:08:45 [เพลง]