00:00:01 → 00:00:04 7 เทคนิคไล่เบาหวานลดน้ำตาลลดอินซูลิน
00:00:04 → 00:00:07 อ่ะเรื่องนี้คนสนใจเยอะมากๆทำให้หมอเฟิน
00:00:07 → 00:00:11 ต้องมาไลฟ์บอกว่าทำยังไงถึงจะช่วยลดน้ำ
00:00:11 → 00:00:15 ตาลลดอินซูลินแล้วผลตามมาก็คือจะช่วยให้
00:00:15 → 00:00:18 คุณควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้นพูดง่ายๆคือ
00:00:18 → 00:00:22 ช่วยลดน้ำหนักได้นั่นเองเพราะหลายคนบ่นมา
00:00:22 → 00:00:25 เยอะมากว่าทำยังไงน้ำหนักก็ไม่ลดน้ำตาลก็
00:00:25 → 00:00:28 ไม่ลดเปลี่ยนอาหารก็แล้วออกกำลังกายก็
00:00:28 → 00:00:31 แล้วกินเท่าไหร่ก็ก็ไม่อิ่มหิวตลอดเวลา
00:00:31 → 00:00:32 คุณเป็นคนอย่างงั้นมั้ยใครเป็นคนอย่าง
00:00:32 → 00:00:36 งั้นพิมพ์ 1 มาอ่าสำรวจก่อนเลยเรื่อง
00:00:36 → 00:00:39 นี้อย่างไลฟ์ที่แล้วหมอเฟิร์นบอกว่าถ้า
00:00:39 → 00:00:42 อยากรู้ว่าทำยังไงถึงช่วยให้ฮอร์โมน
00:00:42 → 00:00:46 อินซูลินเนี่ยลดลงได้มันก็จะทำให้น้ำตาล
00:00:46 → 00:00:48 ลดน้ำหนักลงได้วันนี้หมอเฟิร์นก็เลยจะมา
00:00:48 → 00:00:52 บอก 7 เทคนิคง่ายๆทำง่ายมากๆหมอเฟิร์นไม่
00:00:52 → 00:00:55 เคยเอาอะไรยากมาให้คุณทำเนาะเพราะว่าคัด
00:00:55 → 00:00:58 มาแล้วว่าคนทั่วไปไม่ต้องมีความรู้เยอะก็
00:00:58 → 00:01:01 ทำได้เรื่องแค่นี้เองเนาะเมื่อไหร่ก็ตาม
00:01:01 → 00:01:06 ที่คุณสามารถลดอินซูลินในเลือดได้ก็เท่า
00:01:06 → 00:01:10 กับว่าลดน้ำหนักได้เช่นกันข้อนี้มันคือ
00:01:10 → 00:01:14 คีย์หลายคนอยากลดน้ำหนักแต่ไปค้นหาไป
00:01:14 → 00:01:17 เสิร์ชดูว่าทำยังไงวิธีการลดน้ำหนักเนาะ
00:01:17 → 00:01:20 จริงๆเทคนิคมันก็ง่ายแค่นี้ถ้าคุณรู้ว่า
00:01:20 → 00:01:23 อินซูลินมันมีผลต่อเรื่องหุ่นเรื่องน้ำ
00:01:24 → 00:01:27 หนักเรื่องโรคของคุณก็แค่เปลี่ยนจาก
00:01:27 → 00:01:29 เสิร์ชว่ารถน้ำหนักไงเป็นลดอินซูลินยังไง
00:01:29 → 00:01:32 คุณก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าด้วยซ้ำอ่า
00:01:32 → 00:01:35 สวัสดีค่ะคุณณัฐนิชาใครเข้ามาใหม่ก็ฝาก
00:01:35 → 00:01:37 แชร์ไปให้เพื่อนของคุณรู้เยอะๆเนาะใครที่
00:01:37 → 00:01:39 มีคนรอบตัวเป็นเบาหวานหรือว่าคุมน้ำตาล
00:01:39 → 00:01:43 ไม่ได้แชร์ออกไปเลยเพราะว่ายิ่งแชร์พอเขา
00:01:43 → 00:01:46 รู้แล้วเปลี่ยนตัวเองคนที่ได้บุญคือคุณนะ
00:01:46 → 00:01:48 ไม่ใช่หมอเฟิร์นเพราะคุณเป็นคนที่แบ่งปัน
00:01:48 → 00:01:51 ให้เขาอีกทีนึงไงอ่าน่ารักมาก
00:01:51 → 00:01:56 เนาะแล้วจะบอกว่าอินซูลินเนี่ยสำคัญตรง
00:01:56 → 00:01:58 ไหนเพราะว่าคนที่เป็นเบาหวานชนิดชนิดที่ 2
00:01:58 → 00:02:02 เนี่ยพบว่ามีภาวะดื้อต่ออินซูลินนั่นเอง
00:02:02 → 00:02:06 ถ้าเราจัดการอินซูลินได้เบาหวานชนิดที่ 2
00:02:06 → 00:02:13 ถ้าทำได้ดีนะอาจจะหยุดยาเลิกลดยาแล้วไปจน
00:02:13 → 00:02:15 ถึงหยุดยาได้เลยเนาะอินซูลินคืออะไรเผื่อ
00:02:15 → 00:02:18 ใครยังไม่เคยรู้เนาะเอาแบบสั้นๆอินซูลิน
00:02:18 → 00:02:21 คือฮอร์โมนตัวนึงที่ตับอ่อนผลิตขึ้นมา
00:02:21 → 00:02:26 เพื่อเป็นตัวนึงที่ไปช่วยนำน้ำตาลกลูโคส
00:02:26 → 00:02:28 เข้าสู่เซลล์ถ้าไม่มีอินซูลิน
00:02:28 → 00:02:32 อาหารที่เรากินเข้าไปกลูโคสต่างๆสารอาหาร
00:02:32 → 00:02:36 ต่างๆก็จะไม่ถูกนำส่งเข้าไปในเซลล์ทำให้
00:02:36 → 00:02:40 เราไม่มีพลังงานอ่าเพราะว่าปัญหาเรื่องเ
00:02:40 → 00:02:42 ใหญ่มากถ้ามีปัญหาเกับเป็นอินซูลินนะ
00:02:42 → 00:02:46 เซลล์ไม่ได้พลังงานมันก็ไปบอกร่างกายว่า
00:02:46 → 00:02:48 ยังหิวอยู่เลยกินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มเห็น
00:02:48 → 00:02:51 มั้ยยังหิวเลยเพราะว่ากินเข้าไปแล้วดัน
00:02:51 → 00:02:53 ไม่ได้เท่าดันไม่ได้เพราะว่าอินซูลินมัน
00:02:54 → 00:02:59 มีปัญหานั่นแหละแต่ถ้าในคนปกติติกินอาหาร
00:02:59 → 00:03:03 เข้าไปอินซูลินทำงานได้ดีไม่มีภาวะดื้อ
00:03:03 → 00:03:06 ต่ออินซูลินก็ทำงานปกติเลยก็นำอินซูลินก็
00:03:06 → 00:03:09 นำส่งพลังงานนำส่งน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ต่าง
00:03:09 → 00:03:14 ๆทำให้คุณมีพลังไปทำงานที่คุณรักไปเที่ยว
00:03:14 → 00:03:17 สถานที่ที่คุณชอบไปออกกำลังกายให้สุขภาพ
00:03:17 → 00:03:20 ดีเนาะอันนี้สั้นๆง่ายๆเกี่ยวกับอินซูลิน
00:03:20 → 00:03:23 แต่ปัญหามันก็คืออะไรปัญหาก็คือถ้าเมื่อ
00:03:23 → 00:03:29 ไหร่ที่เรามีพฤติกรรมที่ไปทำร้ายตับอ่อน
00:03:29 → 00:03:35 ให้ไปฟ้อเค้าเหมือนไปกดดันให้เขาผลิต
00:03:35 → 00:03:38 อินซูลินมาเยอะๆเยะๆเยอะๆเนี่ยมันเลยทำ
00:03:38 → 00:03:40 ให้เกิดภาวะ
00:03:40 → 00:03:43 ไฮเปอร์ินซูลินเนียอ่านั่นแหละช่างมัน
00:03:43 → 00:03:45 ภาษาอังกฤษช่างมันเนาะมันเลยทำให้เกิด
00:03:45 → 00:03:48 ภาวะอินซูลินในร่างกายในเลือดเยอะจนเกิน
00:03:48 → 00:03:51 ไปอินซูลินเยอะเพราะ
00:03:51 → 00:03:55 ว่ามันมาจากพฤติกรรมที่เราไปบริโภคหรือไป
00:03:55 → 00:04:00 กินอาหารที่คาร์โบไฮเดรตสูงๆอย่างพวกข้าว
00:04:00 → 00:04:05 ขาวข้าวขัดสีแป้งต่างๆจากขนมปังเบเกอรี่
00:04:05 → 00:04:08 ฟาสฟู้ดน้ำหวานน้ำตาลอาหารแปรรูปอะไรก็
00:04:09 → 00:04:13 ตามที่มันไปทำให้น้ำตาลในเลือดสูงๆเนี่ย
00:04:13 → 00:04:16 แล้วหรือบางทีกินมีพฤติกรรมการกินช่วง
00:04:16 → 00:04:20 กลางคืนกลางดึกเนาะแทนที่ช่วงนอนร่างกาย
00:04:20 → 00:04:23 จะได้ทำการเอาไขมันที่สะสมออกมาใช้เป็น
00:04:23 → 00:04:25 พลังงานช่วงที่คุณไม่ได้กินอะไรเลยกลับ
00:04:25 → 00:04:28 กลายเป็นว่าต้องมาย่อยอาหารที่คุณกินใน
00:04:28 → 00:04:31 ตอนกลางคืนเนี่ยนี่แหละอันตรายมากๆใครที่
00:04:31 → 00:04:35 มีพฤติกรรมเหล่านี้อยู่แน่นอนว่าส่งผลต่อ
00:04:35 → 00:04:40 ตับอ่อนต่ออินซูลินทั้งสิ้นดังนั้นถ้าคุณ
00:04:40 → 00:04:43 เข้าใจในเรื่องนี้อันดับแรกเลยนะก่อนที่
00:04:43 → 00:04:47 คุณจะไปรู้ 7 เทคนิคหมอเฟิร์นอยากให้คุณ
00:04:47 → 00:04:50 สำรวจพฤติกรรมที่หมอเฟิร์นพูดไปทั้งหมด
00:04:50 → 00:04:53 นี้ก่อนว่าคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้มยที่ที่
00:04:53 → 00:04:58 กินตอนกลางคืนคืนบริโภคอาหารที่แป้งสูงๆ
00:04:58 → 00:05:02 น้ำตาลสูงๆโดยที่อาจจะรู้ตัวบ้างไม่รู้
00:05:02 → 00:05:06 ตัวบ้างอันดับแรกก็คือให้คุณยอมรับตัวเอง
00:05:06 → 00:05:10 ก่อนถ้าใครยอมรับตัวเองแล้วให้พิมพ์ว่า
00:05:10 → 00:05:14 รู้ตัวมาอันดับแรกมันง่าย simple มากๆก็
00:05:14 → 00:05:17 คือคุณต้องรู้ตัวเองก่อนเพราะถ้าเมื่อ
00:05:17 → 00:05:20 ไหร่คุณไม่รู้ตัวก็เท่ากับว่าคุณไม่รู้
00:05:20 → 00:05:22 อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ฉันเป็นอย่างี้อะไร
00:05:22 → 00:05:25 คือสาเหตุที่ทำให้อินซูลินฉันสูงควบคุม
00:05:25 → 00:05:29 น้ำตาลไม่ได้อะไรที่ทำให้ฉันอ้วนอะไรที่
00:05:29 → 00:05:32 ทำให้ฉันรู้สึกอ่อนเพลียไม่มีแรงกินบ่อย
00:05:32 → 00:05:34 จุกจิตกินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มเนี่ยพอคุณไม่
00:05:34 → 00:05:37 รู้ตัวแล้วมันจะแก้ได้ยังไงเพราะว่าคุณ
00:05:37 → 00:05:40 ยังคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำหรือว่าทำน้อย
00:05:40 → 00:05:43 หรือเปล่าอย่างเงี้ยถ้าคุณยังไม่ยอมรับใน
00:05:43 → 00:05:45 สิ่งที่คุณ
00:05:45 → 00:05:48 ทำตัวเองยังไม่รู้ตัวเลยแล้วใครจะมาแก้
00:05:48 → 00:05:51 ให้คุณได้ดังนั้นข้อแรกก่อนที่คุณจะไปรู้
00:05:51 → 00:05:53 เทคนิคไปรู้ว่ากินอาหารตัวไหนดีเนี่ยคุณ
00:05:53 → 00:05:57 ต้องรู้ตัวเองให้ได้ก่อนมันถึงจะแก้ถูก
00:05:57 → 00:05:59 อ่ะใครเข้าใจพิมพ์รู้ตัว
00:05:59 → 00:06:05 มอเพินไม่เคยดุนะพิมพ์รู้ตัวมาข้อ 1 อ่าน
00:06:05 → 00:06:08 รู้ตัวโอเคดีเยี่ยมมากเลยค่ะคนที่พิมพ์มา
00:06:08 → 00:06:13 น่ารักมากเนาะข้อ 1 เลยละกันวิธีแก้ง่าย
00:06:13 → 00:06:18 มากกินอาหารที่ให้คาร์โบไฮเดรตต่ำหรือถ้า
00:06:18 → 00:06:20 ให้หมอเฟิร์นพูดง่ายๆก็คือให้คุณกินแบบ
00:06:20 → 00:06:24 คีโตไปเลยกินแบบคีโตคืออะไรก็คือการจำกัด
00:06:24 → 00:06:28 การบริโภคคาร์โบไฮเดรตลงวันนึงเนี่ยไม่
00:06:28 → 00:06:33 ควรเกิน 30 กรัมหรือ 30 กรัมมันประมาณไหน
00:06:33 → 00:06:36 ประมาณโดนัทไม่ถึง 1 ชิ้นน่ะหรือว่า
00:06:36 → 00:06:39 ประมาณอย่างคนไทยเนาะข้าว 1 ทับทีต่อวัน
00:06:39 → 00:06:44 ไม่เกินนั้นถ้าคุณอยากกินข้าวใน 2 มื้อ
00:06:44 → 00:06:46 ต่อวันคุณก็กินมื้อละครึ่งทับทีอย่างนี้
00:06:46 → 00:06:49 ก็ได้อันนี้ก็ถือว่าได้ทำคีโตแล้วเนาะ
00:06:49 → 00:06:52 หรือถ้าใครเป็นมือใหม่ยังไม่เคยทำอาจจะ
00:06:53 → 00:06:57 หยวนๆหน่อยอ่ะให้กินวันละ 100 กรัมต่อวัน
00:06:57 → 00:07:01 ข้าวสัก 2 ทัพพีอย่างี้ก็ได้อ่าถ้าเริ่ม
00:07:01 → 00:07:04 ต้นเนาะแต่ว่าถ้าให้ดีเลยก็ให้ทำแบบคีโต
00:07:04 → 00:07:07 ไปเลยกินแค่ข้าวไปละ 1 ทัพพีต่อวันแต่ว่า
00:07:07 → 00:07:10 ไม่มีแป้งอื่นๆไม่มีเส้นอื่นๆแล้วนะอัน
00:07:10 → 00:07:13 นี้แค่เปรียบเทียบเฉยๆว่าคาร์โบไฮเดรต 30
00:07:13 → 00:07:16 กรัมคือแบบไหนอ่าถ้าคุณไปกินขนมปังอะไร
00:07:16 → 00:07:20 เงี้ยจบละข้าวไม่ต้องกินละนั่นแหละให้
00:07:20 → 00:07:23 จำกัดคาร์โบไฮเดรตเพราะว่ามีงานวิจัย
00:07:23 → 00:07:27 เนี่ยพบว่าการทำแบบเนี้ยช่วยลดภาวะดื้อ
00:07:27 → 00:07:30 ต่ออินซูลินช่วยลดน้ำตาลลงได้ลดอินซูลิน
00:07:30 → 00:07:33 ลงได้แล้วผลที่ตามมาก็คือน้ำหนักของคุณก็
00:07:33 → 00:07:36 จะลดลงเองโดยปริยายเนาะซึ่งงานวิจัยถ้า
00:07:36 → 00:07:38 ใครอยากอ่านเพิ่มเดี๋หมอเฟิร์นทิ้งไว้ให้
00:07:38 → 00:07:41 ที่ใต้คลิปวีดีโอแล้วกันจะยังไม่โชว์ตอน
00:07:41 → 00:07:43 นี้เดี๋ยวเดี๋ยวเอาลิงก์ให้หมดเลยถ้าใคร
00:07:43 → 00:07:46 อยากไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมมีเยอะแยะมาก
00:07:46 → 00:07:50 มายเลยข้อนี้ง่ายมากๆใครเข้าใจพิมพ์คีโต
00:07:50 → 00:07:54 มาอ่าคีอีโตน่ารัก
00:07:54 → 00:07:59 มากให้จำไว้เลยว่าคาร์โบไฮเดรตเท่ากับน้ำ
00:07:59 → 00:08:03 ตาลอ่าเพราะว่าถ้าคุณยังบางคนบอกว่าเพราะ
00:08:03 → 00:08:07 ว่าบางคนมีคนหลายคนบอกว่าไม่ได้กินน้ำตาล
00:08:07 → 00:08:10 เลยก๋วยเตี๋ยวกับข้าวก็ไม่ปรุงไม่ได้ใส่
00:08:10 → 00:08:14 น้ำตาลทำกับข้าวก็ไม่ใส่น้ำตาลเพิ่มแต่
00:08:14 → 00:08:16 คุณกินพวกคาร์โบไฮเดรตชนิดอื่นๆไงเพราะ
00:08:16 → 00:08:20 คาร์โบไฮเดรตกินเข้าไปก็พอร่างกายย่อยก็
00:08:20 → 00:08:22 เปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลนั่นแหละคาร์โบไฮเดรต
00:08:22 → 00:08:26 ก็เท่ากับน้ำตาลนั่นแหละบางคนที่บอกไม่
00:08:26 → 00:08:29 ว่าไม่กินน้ำตาลใช่มั้ยมันเค้าก็ไปกินขนม
00:08:29 → 00:08:32 ปังไปกินเส้นก๋วยเตี๋ยวไปกินคุกกี้ไปกิน
00:08:32 → 00:08:36 แป้งพิซซ่าไปกินอะไรต่างๆข้าวขาวหลายๆจาน
00:08:36 → 00:08:39 ข้าวเหมียวอะไรอย่างเงี้ยเห็นมยว่ามันก็
00:08:39 → 00:08:42 คือคาร์โบไฮเดรตทั้งนั้นให้สำรวจตัวเองดี
00:08:42 → 00:08:46 ๆเช็คดีๆเนาะเนี่ยถ้าคุณดูรูปเนี้ยไอ้
00:08:46 → 00:08:48 สิ่งที่เห็นว่าเป็นน้ำตาลก็คือน้ำตาล
00:08:48 → 00:08:52 เป็นผงที่เราเห็นเนาะกับพวกขนมหวานลูกอม
00:08:52 → 00:08:55 น้ำหวานอันนี้เห็นชัดเจนแต่ว่าไอ้ที่อยู่
00:08:55 → 00:08:58 ใต้น้ำเนี่ยสิที่มันเป็นน้ำตาลแฝงมากับ
00:08:58 → 00:09:02 คาร์โบไฮเดรตพวกน้ำผึ้งพวกข้าวพวกขนมปัง
00:09:02 → 00:09:06 มันฝรั่งทั้งหลายแหละเส้นต่างๆเห็นมยว่า
00:09:06 → 00:09:09 มันเนี่ยอย่าตกม้าตายตรงนี้นะไม่ใช่แค่
00:09:09 → 00:09:11 น้ำตาลไม่ได้มีแค่ข้างบนนะมีข้างล่างเต็ม
00:09:11 → 00:09:14 ไปหมดเลยอ่าคุณย่าโมเมบอกขี้โตค่ะหมอ
00:09:14 → 00:09:16 ขอบคุณมาก
00:09:16 → 00:09:20 ค่ะข้อที่ 2 เทคนิคข้อที่ 2 ก็คือ
00:09:20 → 00:09:23 กันกิน
00:09:23 → 00:09:26 Apple ตัวนี้ทำไมต้องเป็นตัวนี้เพราะว่า
00:09:26 → 00:09:29 ตัวเนี้ยมีงานวิจัยซัพพอร์ตเยอะมากๆเลย
00:09:29 → 00:09:32 ต้องเอาตัวนี้มาพูดเนาะเค้าบอกว่ากินแค่
00:09:32 → 00:09:35 หวัละประมาณอันนี้เค้ารวมมาจากหลายงาน
00:09:35 → 00:09:38 วิจัยเนาะขนาดปริมาณมันเลยเป็นขนาดที่
00:09:38 → 00:09:40 กว้างก็คือ 2-6 ช้อนชาต่อวันถ้าอย่างหมอ
00:09:40 → 00:09:43 เฟิร์นกินก็วันละ 1 ช้อนโต๊ะต่อวันง่ายดี
00:09:43 → 00:09:48 แล้วแต่ที่คุณสะดวกแล้วก็ชอบเลยมันก็แล้ว
00:09:48 → 00:09:51 แต่คนถ้าคุณเป็นคนตัวเล็กหน่อยก็อาจจะกิน
00:09:51 → 00:09:55 แค่ 2 ช้อนชาก็ได้แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ไซส์
00:09:55 → 00:09:58 ตัวเองใหญ่ก็อาจจะกิน 4 ช้อนชาถึง 6 ช้อน
00:09:58 → 00:10:01 ชาแบบนี้หรือจะกินเหมือนหมอเฟิร์นก็คือ 1
00:10:01 → 00:10:03 ช้อนโต๊ะต่อวันผสมน้ำมะนาวอย่างงี้ก็ได้
00:10:03 → 00:10:06 การกินแอปเปิ้ลไซเดอร์กหรือว่าภาษาไทยก็
00:10:06 → 00:10:09 คือน้ำส้มใสชูหมักแอปเปิ้ลช่วยลดอินซูลิน
00:10:10 → 00:10:14 ได้พออินซูลินลดน้ำตาลคุณก็ลดน้ำหนักคุณ
00:10:14 → 00:10:17 ก็ลดเห็นมั้ยมันมาเป็นเอฟเฟคแบบนี้และ
00:10:17 → 00:10:19 เค้ายังบอกว่าช่วยไม่ใช่แค่ช่วยลดลดน้ำ
00:10:19 → 00:10:21 ตาลที่เวลาคุณไปเจาะเลือดแค่อดอาหารวัน
00:10:21 → 00:10:24 เดียวลดนะยังช่วยลดน้ำตาล
00:10:24 → 00:10:28 สะสมค่าเนี้ยสำคัญที่ชี้ชี้เป็นชี้ตายว่า
00:10:28 → 00:10:30 คุณเป็นเบาหวานหรือไม่เบาหวานเลยนะช่วยลด
00:10:30 → 00:10:34 น้ำตาลสะสมได้อย่างมีนัยยะสำคัญดังนั้นคน
00:10:34 → 00:10:39 เป็นเบาหวานข่าวดีโชคดีมากถ้าคุณเป็นเบา
00:10:39 → 00:10:41 หวานอยู่แล้วกินจะช่วยควบคุมน้ำตาลได้
00:10:41 → 00:10:44 เป็นอย่างดีเลยแล้วก็ช่วยลดไขมันในร่าง
00:10:44 → 00:10:48 กายโดยเฉพาะที่ตักได้เป็นอย่างดีเลยแล้ว
00:10:48 → 00:10:50 ยิ่งดีได้ประโยชน์ดับเบิ้ลถ้าคุณกิน
00:10:50 → 00:10:53 แอปเปิ้ลไซเดอร์คู่กับน้ำมะนาวก็จะได้
00:10:53 → 00:10:55 ประโยชน์เพิ่มขึ้นแล้วยังอร่อยขึ้นด้วย
00:10:55 → 00:10:57 เพราะบเฟิร์นก็กินอยู่ตอนเช้าเนาะเพราะ
00:10:57 → 00:11:01 มันช่วยทั้งดีท็อกซ์ตับช่วยลดไขมันในร่าง
00:11:01 → 00:11:04 กายในเลือดไขมันเร็วในเลือดที่มีด้วยถ้า
00:11:04 → 00:11:07 ใครอยากรู้รายละเอียดว่ากิน
00:11:07 → 00:11:10 แอปเปิลไซเดอร์เวนก้ากับน้ำมะนาวเป็นยัง
00:11:10 → 00:11:13 ไงประโยชน์แค่ไหนหมอเฟิร์นพูดไปหมดแล้วใน
00:11:13 → 00:11:15 ไลฟ์ที่ผ่านมาเดี๋ยวหมอเฟิร์นถ้าไลฟ์
00:11:15 → 00:11:17 เสร็จเดี๋ยวทิ้งลิงก์วีดีโอให้ในท้ายคลิป
00:11:17 → 00:11:20 เนาะเนาะใครสนใจก็พิมพ์ว่าสนใจเยอะๆอ่า
00:11:20 → 00:11:23 เผื่อหมอเฟิร์นลืมแล้วเดี๋ยวกลับมาอ่านจะ
00:11:23 → 00:11:24 ได้เอาลิงก์มาให้
00:11:24 → 00:11:26 ด้วยข้อ
00:11:26 → 00:11:33 3 ข้อที่ 3 ก็คืองดไม่อยากใช้คำว่าลดละ
00:11:33 → 00:11:36 เลิกแต่อยากให้ใช้คำว่างดไปเลยถ้าคุณเป็น
00:11:36 → 00:11:39 คนนึงที่อยากจะเปลี่ยนในเรื่องนี้จริงๆ
00:11:39 → 00:11:41 คุณอยากจะลดน้ำหนักคุณอยากจะลดน้ำตาลคุณ
00:11:41 → 00:11:44 เบื่อแล้วที่ต้องมากินยาตลอดชีวิตแล้ว
00:11:44 → 00:11:47 เป็นเบาหวานอย่างเงี้ยให้คุณงดไปเลยหรือ
00:11:47 → 00:11:50 บางคนกำลังมีภาวะน้ำตาลสูงงดไปเลยน้ำตาล
00:11:50 → 00:11:54 ทุกรูปแบบไม่ต้องมาถามว่าน้ำผึ้งได้
00:11:54 → 00:11:57 มั้ยน้ำเชื่อมอันนั้นอันนี้ได้มั้ยหรือ
00:11:58 → 00:12:02 ว่าสารให้ความหวานแทนน้ำตาลได้มั้ยไม่พูด
00:12:02 → 00:12:06 กันลดงดก็คืองดทุกตัวเพราะอะไรเพราะมันจะ
00:12:06 → 00:12:09 ช่วยปรับลิ้นของคุณด้วยให้เป็นคนที่กิน
00:12:09 → 00:12:14 จืดขึ้นเพราะว่าถ้าคุณยังไปกินสารทดแทน
00:12:14 → 00:12:18 น้ำตาลอะไรพวกเนี้ยคุณก็ยังติดหวานอยู่ดี
00:12:18 → 00:12:21 ไปกินอาหารอย่างอื่นคุณก็ยังติดรสชาติ
00:12:21 → 00:12:24 นั้นอยู่ดีให้งดไปเลยถ้าคุณอยากจะเปลี่ยน
00:12:24 → 00:12:27 จริงๆแบบรวดเร็วนะงดน้ำตาลทุกรูปแบบไปเลย
00:12:27 → 00:12:31 เพราะว่าบางทีมันแฝงแล้วก็อย่าลืมว่า
00:12:31 → 00:12:33 อย่างที่บอกว่าหลายคนชอบบ่นว่าไม่ได้กิน
00:12:33 → 00:12:36 แต่ทำไมถึงเป็นอย่างี้มันแฝงมากับอาหาร
00:12:36 → 00:12:40 หลายชนิดมากๆเช่นอะไรที่เจอบ่อยๆแยมผลไม้
00:12:40 → 00:12:44 มีน้ำตาลสูงมากน้ำผลไม้บางคนบอกมี
00:12:44 → 00:12:46 ประโยชน์กินน้ำส้มสิโอโหน้ำตาลตาสูงปี๊ด
00:12:46 → 00:12:50 เลยน้ำส้มนะวิตามินซีน้อยมากๆสิ่งที่ได้
00:12:50 → 00:12:53 มีแต่น้ำตาลนมเปรี้ยวอย่างเงี้ยน้ำผึ้ง
00:12:53 → 00:12:56 น้ำหวานคอนไซลับอะไรอย่างเงี้ยที่มันมา
00:12:57 → 00:13:00 กับพวกเครื่องดื่มต่างๆเขามักจะใส่โดย
00:13:00 → 00:13:02 เฉพาะเครื่องดื่มชูกำลังซอสมะเขือเทศ
00:13:02 → 00:13:06 อย่างเงี้ยเออบางคนตกม้าตายในเรื่องนี้ก็
00:13:06 → 00:13:09 คือกินซอสกินน้ำสลัดอุตส่าห์กินผักมีน้ำ
00:13:09 → 00:13:13 สลัดที่มีน้ำตาลสูงมากๆกินโยเกิร์ตก็มี
00:13:13 → 00:13:16 น้ำตาลสูงดังนั้นที่สำคัญคือคุณต้องอ่าน
00:13:16 → 00:13:19 ฉลาดก่อนที่จะบริโภคสิ่งใดๆถ้าคุณกำลัง
00:13:19 → 00:13:22 กังวลเรื่องน้ำตาลเรื่องอินซูลินอยู่นะ
00:13:22 → 00:13:26 ต้องอ่านฉลากอย่าแล้วก็อ่านแล้วอย่าเชื่อ
00:13:26 → 00:13:29 ฉลากทุกอันด้วยอ่านแล้วต้องมีความรู้ด้วย
00:13:29 → 00:13:31 ว่าที่เขาค้าบอกอ่ะจริงมั้ยเพราะบางฉลาก
00:13:31 → 00:13:34 ก็เขียนว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพแต่ว่ามี
00:13:34 → 00:13:39 มีน้ำตาลอย่างเงี้ยแฝงอยู่มีเนยเทียมแฝง
00:13:39 → 00:13:42 อยู่อย่างงี้คุณต้องคิดวิเคราะห์ต่อด้วย
00:13:42 → 00:13:45 เนาะนี่เลยเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่คนที่บอก
00:13:45 → 00:13:48 ว่าไม่ได้กินน้ำตาลแต่ทำไมสุขภาพยัง
00:13:48 → 00:13:51 เหมือนเดิมยังน้ำหนักเท่าเดิมยังเป็นโรค
00:13:51 → 00:13:54 แบบเดิมมีอาการแบบเดิมถ้าคุณอยากจะ
00:13:54 → 00:13:57 เปลี่ยนแปลงคุณต้องทำสิ่งใหม่เท่านั้นไม่
00:13:57 → 00:14:00 ใช่เป็นการที่ไปกินสิ่งเดิมๆเพราะคุณกิน
00:14:00 → 00:14:04 แบบเนี้ยมาเป็นปีแล้วอ่ะมันถึงเริ่มแสดง
00:14:04 → 00:14:09 อาการของโรคเบาหวานมันถึงเริ่มมีภาวะอ้วน
00:14:09 → 00:14:13 ลงพุมแบบเนี้ยคุณทำมาเป็นปีอ่ะดังนั้น
00:14:13 → 00:14:18 สิ่งที่ง่ายมากๆแล้วธรรมดาิมากๆก็คือทำ
00:14:18 → 00:14:20 สิ่ง
00:14:20 → 00:14:24 ใหม่ถ้าคุณเข้าใจข้อนี้พิมพ์ทำสิ่งใหม่มา
00:14:24 → 00:14:26 ให้หมอเฟิร์นชื่นใจหน่อยแค่ทำสิ่งใหม่
00:14:26 → 00:14:31 อะไรที่เคยกินก็ลองเปลี่ยนให้มันดีขึ้น
00:14:31 → 00:14:35 จากอาจจะเริ่มต้นสมมุติคุณกินขนมปังขาว
00:14:35 → 00:14:38 ทุกวันเปลี่ยนเป็นขนมปังโฮวีทกินข้าวขาว
00:14:38 → 00:14:40 ทุกวันเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องข้าวไร
00:14:40 → 00:14:42 เปอร์รี่อย่างี้มย
00:14:42 → 00:14:46 หรือจากที่กินข้าววันละ 3 ทัพพีเปลี่ยน
00:14:46 → 00:14:50 เป็น 1 ทัพพีมยอย่างเงี้ยอย่าทำเหมือน
00:14:50 → 00:14:52 เดิมถ้าอยากได้ผลลัพธ์ใหม่เพราะว่าไอสไตน
00:14:52 → 00:14:54 ยังบอกเลยว่ามีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละที่ทำ
00:14:54 → 00:14:57 แบบเดิมๆแล้วหวังคาดหวังอนาคตหรือผลลัพธ์
00:14:57 → 00:15:01 ใหม่ดังนั้นมีวิธีเดียวทำสิ่งใหม่ถ้า
00:15:01 → 00:15:03 สังเกตแล้วว่าวันนี้ยังทำเหมือนเมื่อวาน
00:15:03 → 00:15:06 เลยอ่ะไม่มีอะไรเปลี่ยนอย่างน้อยเปลี่ยน
00:15:07 → 00:15:09 วันละนิดวันละหน่อยก็โอเคละขอแค่เปลี่ยน
00:15:09 → 00:15:14 เนาะข้อนี้ง่ายมากข้อถัดไปข้อที่
00:15:14 → 00:15:19 4 ให้การ
00:15:19 → 00:15:24 ออกใจง่ายๆนะการออกกำลังกายเป็น first
00:15:24 → 00:15:25 priority ก็
00:15:25 → 00:15:33 คือให้คุณให้ความ
00:15:33 → 00:15:35 สำคัญสักครู่นะ
00:15:36 → 00:15:39 คะให้คุณให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย
00:15:39 → 00:15:44 ไม่ใช่แค่แบบหลายคนรู้แหละว่าออกกำลังกาย
00:15:44 → 00:15:48 มันดียังไงแต่จัดลำดับความสำคัญไว้ท้าย
00:15:48 → 00:15:51 เลยสิ่งที่มาก่อนคืออะไรคือทั้งหลายแหละ
00:15:52 → 00:15:54 คือเราไม่ว่าใครว่าใครจะให้ความสำคัญกับ
00:15:54 → 00:15:57 อะไรก่อนเนาะแต่อยากให้การออกกำลังกาย
00:15:57 → 00:16:00 เป็นเหมือนกิจวัตร 1 อย่างอย่างคุณตื่นมา
00:16:00 → 00:16:02 คุณก็ต้องแปรงฟันให้คิดแบบนี้ไม่ใช่คิด
00:16:03 → 00:16:05 ว่ามันเป็นกิจกรรมที่ต้องที่ต้องมาเพิ่ม
00:16:05 → 00:16:08 ใหม่หรืออะไรให้มันเป็นกิจวัตรว่าโอเคออก
00:16:08 → 00:16:12 กำลังกายคุณรู้ไหมว่าเค้ามีการวิจัยหรือ
00:16:12 → 00:16:16 ทดสอบว่าว่าถ้าในคนที่อ้วนเนาะหรือคนที่
00:16:16 → 00:16:20 มีปัญหาเกี่ยวกับเป็นภาวะเมาบอลิคนหรือ
00:16:20 → 00:16:23 อ้วนลงพุงนั่นแหละแค่ออกกำลังกาย 1 ครั้ง
00:16:23 → 00:16:27 ก็ทำให้ค่าอินซูลินในเลือดดีขึ้นแล้วนะ
00:16:27 → 00:16:30 อันนี้คือว้าวมากแล้วคุณทำอะไรอยู่ถ้าคุณ
00:16:30 → 00:16:32 อยากให้ค่าอินซูลินดีขึ้นอยากให้เบาหวาน
00:16:32 → 00:16:37 ดีขึ้นออกกำลังกายคือทางเลือกที่ดีมากๆ
00:16:37 → 00:16:41 และยิ่งไปกว่านั้นใครก็ตามที่ชอบนั่งนานๆ
00:16:41 → 00:16:44 โดยเฉพาะเพราะนั่งหน้าคอมอันนี้เค้าทดสอบ
00:16:44 → 00:16:46 นะไม่ใช่หมอเฟิร์นบอกนั่งนานๆไม่พอนั่ง
00:16:46 → 00:16:49 หน้าคอมนานๆไม่ว่าคุณจะทำงานหรือทำอะไรก็
00:16:49 → 00:16:53 ตามแต่อันตรายมากเพราะวิจัยนี้เป็นวิจัย
00:16:53 → 00:16:57 ขนาดใหญ่แล้วเค้าพบว่ามันมีความสัมพันธ์
00:16:57 → 00:17:01 กันอย่างมีนัยยะสำคัญที่ทำให้คุณเป็นภาวะ
00:17:01 → 00:17:04 metabบic syndrome หรือภาวะอ้วนลงพุงเป็น
00:17:04 → 00:17:08 ยังไงคนที่มีภาวะเนี่ยให้สังเกตง่ายๆเลย
00:17:08 → 00:17:11 เวลาไปตรวจเลือดตรวจร่างกาย
00:17:11 → 00:17:15 จะพบสัญญาณเหล่านี้ก็คือมีไขมัน SDL หรือ
00:17:15 → 00:17:19 ไขมัน D เนี่ยที่ต่ำแต่มี LDL
00:17:19 → 00:17:22 ไตรกีเซอร์ไรดสูงใช่อ่ามันจะเป็นอย่างี้
00:17:22 → 00:17:25 แล้วก็พอไปตรวจน้ำตาลก็พบว่ามีค่าน้ำตาล
00:17:25 → 00:17:31 ในเลือดสูงพอไปวัดความดันความดันก็สูงอีก
00:17:31 → 00:17:34 พอไปวัดรอบเอวรอบเอวก็ใหญ่อีกอย่างเงี้ย
00:17:34 → 00:17:39 มีพุงพุ้ยเลยอย่างเนี่ยแหละคือสัญญาณของ
00:17:39 → 00:17:44 คนที่มีภาวะmetabบsyrมไทยเขาก็ใช้คำแง่
00:17:44 → 00:17:48 ว่าภาวะอ้วนลงภูมิดังนั้นถ้าคุณเป็นคน
00:17:48 → 00:17:51 หนึ่งที่มีภาวะนี้อยู่แล้วรู้สึกว่าต่อ
00:17:51 → 00:17:53 วันเนี้ยนั่งนานเกินไปไม่ค่อยได้ขยับแล้ว
00:17:53 → 00:17:56 ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายให้เปลี่ยนด่วนค่อย
00:17:56 → 00:17:58 ๆเปลี่ยนวันละนิดวันละหน่อยใน 1 ช่โมง
00:17:58 → 00:18:01 เนี่ยก็ควรจะลุกไปเข้าห้องน้ำลุกกระฉับ
00:18:01 → 00:18:04 กระเฉ็นหรือขยับร่างกายบ้างเนาะก็จะลด
00:18:04 → 00:18:07 ความเสี่ยงที่จะเป็นภาวะนี้ได้แล้วแค่ออก
00:18:07 → 00:18:10 กำลังกายพูดง่ายแต่ทำยากยากใช่มั้ยแต่ถ้า
00:18:10 → 00:18:13 คุณตัดสินใจจะเปลี่ยนไม่มีอะไรยากมีแค่
00:18:13 → 00:18:18 เนี้ยเพราะว่าคนเราอ่ะนิสัยอ่ะมันทำมา
00:18:18 → 00:18:24 เป็นปีวินัยก็วินัยมันไม่ได้มีแค่วินัยใน
00:18:24 → 00:18:27 เรื่องดีมีทั้งวินัยในเรื่องไม่ดีเหมือน
00:18:27 → 00:18:31 กันคุณแค่มีวินัยในด้านไหนแค่นั้นคน
00:18:31 → 00:18:34 สุขภาพดีก็แค่มีวินัยในการกินอาหารดีนอน
00:18:34 → 00:18:38 ดีออกกำลังกาย
00:18:38 → 00:18:41 ดีความคิดที่เป็นบวกมีความสุขแฮปปี้
00:18:41 → 00:18:44 หัวเราะบ่อยๆยิ้มบ่อยๆคนที่สุขภาพไม่ดีก็
00:18:44 → 00:18:48 แค่มีวินัยในการกินอาหารอ้วนๆไม่ออกกำลัง
00:18:48 → 00:18:53 กายมีวินัยในการเลือกพฤติกรรมที่ทำร้าย
00:18:53 → 00:18:56 สุขภาพสูบบุหรี่ดื่ม
00:18:56 → 00:18:59 แอลกอฮอล์นั่งนานๆมันก็ต่างกันแค่นี้เส้น
00:18:59 → 00:19:02 กั้นบางๆแค่นี้เองแค่คุณมีวินัยไหนในด้าน
00:19:02 → 00:19:05 ไหนแค่นี้ไม่มีอะไรยากเลยเนาะเรื่อง
00:19:05 → 00:19:09 สุขภาพเนี่ยมันสามารถไม่ต้องเฟิร์นหมอดู
00:19:09 → 00:19:13 ก็สามารถพยากรณ์คนๆนั้นได้เลยว่าในอนาคต
00:19:13 → 00:19:17 จะแข็งแรงหรือจะป่วยหมอเฟิร์นแบบเห็นมา
00:19:17 → 00:19:23 เยอะมากๆดังนั้นก็เลยอยากจะมาเป็นสุเลยจะ
00:19:23 → 00:19:25 เป็นส่วนหนึ่งไม่อยากอ่ะเป็นแล้วเลยจะ
00:19:25 → 00:19:29 เป็นส่วนหนึ่งที่มาตัดไฟคุณตั้งแต่ต้นลม
00:19:29 → 00:19:31 เราไม่ต้องการที่จะต้อง
00:19:31 → 00:19:35 ไปช่วยคุณในปลายเหตุที่คุณแบบมาขอยามาขอ
00:19:36 → 00:19:38 วิตามินอาหารเสริมหรือว่าทำยังไงให้มัน
00:19:38 → 00:19:40 หายจากโรคนี้เพราะสิ่งที่มันป้องกันการ
00:19:41 → 00:19:43 เกิดโรคได้ดีที่สุดคือการป้องกันก่อนที่
00:19:43 → 00:19:46 มันจะเกิดในพาร์ทนี้ที่หมอเฟิร์นทำอยู่
00:19:46 → 00:19:49 ว่าคุณต้องทำตัวเองยังไงก่อนที่คุณจะป่วย
00:19:49 → 00:19:52 คุณต้องมีพฤติกรรมแบบไหนบ้างคุณต้องกิน
00:19:52 → 00:19:55 อะไรบ้างเพื่อไม่ให้เกิดโรคนั้นเพราะว่า
00:19:55 → 00:19:58 ถ้าพอมันเกิดไปแล้วเนี่ยโอกาสกลับมามัน
00:19:58 → 00:20:01 น้อยมากแล้วโอกาสที่จะหายเลยอ่ะมันน้อย
00:20:01 → 00:20:05 ยิ่งกว่าดังนั้นเลยมาอยู่ตรงนี้ไงเลยมา
00:20:05 → 00:20:08 บอกคุณตรงนี้ก่อนที่คุณจะป่วยอันนี้คือ
00:20:08 → 00:20:11 การป้องกันที่เวิร์คที่สุดแล้วในการรักษา
00:20:11 → 00:20:14 คุณเนี่ยแหละเลยทำให้หมอเฟิร์นมาเป็นหมอ
00:20:14 → 00:20:17 ออนไลน์ไม่ไปทำงานอยู่ในคลินิกโรงพยาบาล
00:20:17 → 00:20:20 เหมือนคนอื่นๆเนาะนี่ก็เป็นอีกเหตุผลนึง
00:20:20 → 00:20:23 อยู่ๆมาเข้าเรื่องนี้ได้ไงก็ไม่รู้มาข้อ 5
00:20:23 → 00:20:25 ข้อ 5 ก็
00:20:25 → 00:20:30 คืออ่าข้อ 5 ก็คือให้คุณทำ IF บ้าง IF
00:20:30 → 00:20:33 คืออะไรบางคนยังไม่รู้จักก็คือการอดอาหาร
00:20:33 → 00:20:36 ในช่วงเวลาใดเวลานึงถ้าเริ่มต้นคุณก็อาจ
00:20:36 → 00:20:40 จะเริ่มจากอดอาหาร 16 ชม.แล้วมีช่วงเวลา
00:20:40 → 00:20:43 กิน 8 ชม.แบบนี้ก็ได้ก็พูดง่ายๆคุณหลัง
00:20:43 → 00:20:46 18:00 น.ไม่กินอะไรละแล้วกินอีกทีก็อาจ
00:20:46 → 00:20:48 จะเป็น 11:00 น.หรือเที่น.เลยอย่างี้ก็
00:20:48 → 00:20:51 ประมาณ 16 ชม.เนาะคุณก็ไปศึกษาเอาคุณไป
00:20:51 → 00:20:54 เสิร์ชเอาก็ได้ว่าการอดอาหารมีเทคนิคแบบ
00:20:54 → 00:20:56 ไหนบ้างถ้าหมอเฟิร์นเล่าในวันเนี้ยไม่จบ
00:20:56 → 00:20:59 เพราะว่าวันนี้เรามาเป็นเทคนิคลดน้ำตาลลด
00:20:59 → 00:21:02 อินซูลินเนาะแล้วการอดอดอาหารก็เป็นอีก
00:21:02 → 00:21:06 หนึ่งอย่างที่ทำแล้วมันช่วยให้อินซูลิน
00:21:06 → 00:21:09 ของคุณดีขึ้นและถ้าใครที่เป็นมือใหม่ไม่
00:21:09 → 00:21:13 เคยอดอาหารเลยให้เริ่มจากการทำคีโตอย่าง
00:21:13 → 00:21:15 อย่างคือหรือภาษาไทยก็คือ
00:21:15 → 00:21:19 การจำกัดแคลอรี่หรือจำกัดคาร์โบไฮเดรต
00:21:19 → 00:21:22 ก่อนเนาะก็คือถ้าคุณทำคีโตได้สักระยะนึงะ
00:21:22 → 00:21:25 ร่างกายเริ่มชินละก็มาทำ IF ควบคู่กันแบบ
00:21:25 → 00:21:29 เนี้ยจะเวิร์คมากๆแล้วให้ผลเร็วมากๆอ่าก็
00:21:29 → 00:21:32 มีแค่นี้แหละแล้วก็แล้วอาหารมีอะไรบ้างมา
00:21:32 → 00:21:34 5 ข้อยังไม่มีอาหารสักข้อเลยอาหารแถมมา
00:21:34 → 00:21:40 ให้ 2 ข้อคือชาเขียวเอาที่มีงานวิจัยมาไง
00:21:40 → 00:21:44 ก็มีชาเขียวเพราะว่าในชาเขียวมีสาร EGCG
00:21:44 → 00:21:47 ที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกายเ้าพบว่าคน
00:21:47 → 00:21:50 ที่มีภาวะอ้วนลงพุงพุงหรือเป็นโรคอ้วน
00:21:50 → 00:21:53 ร่างกายจะอักเสบบ่อยๆคนที่เป็นเบาหวานก็
00:21:53 → 00:21:55 ร่างกายอักเสบบ่อยๆกินชาเขียวเลยมีส่วน
00:21:55 → 00:21:58 ช่วยได้แล้วชาเขียวยังช่วยลดภาวะดื้อ
00:21:58 → 00:22:01 อินซูลินด้วยขอย้ำชา
00:22:01 → 00:22:05 เขียวกรุณาอย่าใส่สิ่งใดในชาเขียวถ้าจะ
00:22:05 → 00:22:10 กินเพื่อสุขภาพก็คือชาเขียวที่ใส่แค่น้ำ
00:22:10 → 00:22:15 ร้อนน้ำอุ่นไม่มีน้ำตาลน้ำหวานน้ำผึ้งนม
00:22:15 → 00:22:18 อะไรต่างๆไม่เอาเพราะว่าเรามาพูดพูดถึง
00:22:19 → 00:22:21 การลดน้ำตาลลดอินซูลินเนาะชาเขียวที่หมอ
00:22:21 → 00:22:25 เฟิร์นหมายถึงก็คือชาเขียวใสจริงๆอ่าคุณ
00:22:25 → 00:22:28 ถึงจะได้ประโยชน์สูงสุดส่วนวิจัยหมอ
00:22:28 → 00:22:31 เฟิร์นก็จะทิ้งให้ใต้วีดีโอตอนไลฟ์เสร็จ
00:22:32 → 00:22:35 เนาะข้อ 5 สวัสดีค่ะคนที่เข้ามาใหม่ก็
00:22:35 → 00:22:39 แชร์ได้เนาะข้อ 5 ก็คือกินปลาทำไมต้องกิน
00:22:39 → 00:22:42 ปลาเหมือนเดิมปลามีโอเมก้า 3 มันมีไขมัน
00:22:42 → 00:22:45 ดีเยอะๆแล้วปลาชนิดไหนที่มีไขมันดีเยอะๆ
00:22:45 → 00:22:48 โอเมก้า 3 เยอะๆก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือ
00:22:48 → 00:22:51 ปลาทะเลที่อยู่น้ำลึกมันหนาวมันมีไขมัน
00:22:51 → 00:22:54 เยอะเนาะก็จะมีโอเมก้า 3 เยอะเช่นปลาอะไร
00:22:54 → 00:22:58 ปลาแซลมอนปลาซาดีนปลาทูน่าแมเคอเลแชวี่
00:22:58 → 00:23:01 ได้หมดเลยกินปลากระป๋องได้มั้ยปลากระป๋อง
00:23:01 → 00:23:05 ก็มีแต่ว่าให้ระวังในเรื่องของโลหะหนัก
00:23:05 → 00:23:08 อะไรเงี้ยถ้าเค้าเขียนบอกว่าเค้าควบคุมมา
00:23:08 → 00:23:12 อย่างดีก็โอเคแต่ถ้าไม่มั่นใจไม่รู้จริงๆ
00:23:12 → 00:23:15 ให้เลือกแหล่งที่มาว่าเป็นปลาจับตาม
00:23:15 → 00:23:21 ธรรมชาตินะไม่เป็นปลาที่อย่างอาหารเสริม
00:23:21 → 00:23:23 เขาก็จะเลือกมาแล้วว่าเป็นปลาจากธรรมชาติ
00:23:23 → 00:23:27 แล้วก็ไม่มีสารโลหะหนักเกินมาตรฐานที่มัน
00:23:27 → 00:23:30 อันตรายต่อร่างกายนะเพราะแทนที่จะได้
00:23:30 → 00:23:32 ประโยชน์กับได้โทษอย่างเงี้ยถ้าคุณไม่
00:23:32 → 00:23:34 มั่นใจคุณก็อาจจะเสริมด้วยน้ำมันปลาที่
00:23:34 → 00:23:36 เขา้าขายตามท้องตลาดก็
00:23:36 → 00:23:39 ได้หรือว่ากินน้ำมันแฟลกอย่างเฟิร์นกิน
00:23:39 → 00:23:41 จากพืชเนาะที่มีโอเมก้า 3 เยอะก็คือเมล็ด
00:23:41 → 00:23:46 แฟกคุณจะกินเป็นเม็ดที่มันเป็นเมล็ดแฟก
00:23:46 → 00:23:48 จริงๆเลยก็ได้แต่ว่าต้องบดหมดก่อนเพราะ
00:23:48 → 00:23:50 ว่าไม่งั้นเดี๋ยวไม่ได้สารอาหารเต็มที่
00:23:50 → 00:23:52 แต่ถ้าในเรื่องของโอเมก้า 3 ก็เป็นน้ำมัน
00:23:52 → 00:23:54 เมล็ดแฟกสกัดเย็นก็ได้อย่างตัวอย่างที่
00:23:54 → 00:23:56 หมอเฟิร์นกินก็เป็นยี่ห้อนี้ใครอยากดู
00:23:56 → 00:24:00 ฉลาดก็ได้ก็พิมพ์ว่าเมล็ดแฟกได้เหมือนกัน
00:24:00 → 00:24:02 หรือไปซื้อยี่ห้อไหนก็ได้อันนี้ยกตัว
00:24:02 → 00:24:04 อย่างที่หมอเฟิร์นกินประจำเนาะที่เสริม
00:24:04 → 00:24:07 โอเมก้า 3 ให้กับตัวเองเพราะปลาหมอเฟิร์น
00:24:07 → 00:24:10 ก็ชอบกินอยู่แล้วล่ะพวกแซลมอนทูน่าส่วน
00:24:10 → 00:24:16 พืชอ่ะพืชก็กินจากอันนี้ถ้าหมอเฟิร์นนะ
00:24:16 → 00:24:18 แต่ถ้าคุณกินจากอาหารได้ก็ดีเลยไม่ต้อง
00:24:18 → 00:24:22 เสริมแต่ถ้ารู้ตัวว่ามันเลือกยากไม่รู้
00:24:22 → 00:24:25 ต้องมาเสี่ยงกับโลหะหนักมั้ยแล้วแล้วหา
00:24:25 → 00:24:28 กินได้ก็ซื้อเป็นน้ำมันปลาหรือน้ำมัน
00:24:28 → 00:24:32 เมล็ดแฟลกมากินเสริมแบบนี้ก็ได้เค้าพบว่า
00:24:32 → 00:24:36 โอเมก้า 3 เนี่ยช่วยลดน้ำตาลแล้วลดการ
00:24:36 → 00:24:38 เกิดภาวะดื้ออินซูลินแล้วแถมยังลดใครมัน
00:24:38 → 00:24:41 เร็วออกไปได้ด้วยดังนั้นจริงๆโอเมก้า 3
00:24:41 → 00:24:43 เนี่ย
00:24:43 → 00:24:48 เป็นสารอาหารจำเป็นของร่างกายไม่ใช่อาหาร
00:24:48 → 00:24:53 ที่เสริมเข้ามาร่างกายเซลล์ทุกเซลล์ผนัง
00:24:53 → 00:24:57 เซลล์ต้องใช้ไขมันดีอย่างโอเมก้า 3 ในการ
00:24:57 → 00:24:59 สร้างเซลล์ใหม่อย่างบางคนบอกผิวแห้งผิว
00:24:59 → 00:25:03 ไม่ชุ่มชื้นมีการอักเสบภายในบ่อยๆเซลล์
00:25:03 → 00:25:05 สร้างผิดปกติอะไรอย่างเงี้ยเหมือนบ้านคุณ
00:25:05 → 00:25:09 ไม่แข็งแรงอ่ะถ้าคุณขาดโอเมก้า 3 ไปจริงๆ
00:25:09 → 00:25:12 มันเป็นสารอาหารที่จำเป็นดังนั้นก็ควรจะ
00:25:12 → 00:25:16 กินประจำกินปลาสัปดาห์ละ 3-4 ครั้งก็ถือ
00:25:16 → 00:25:18 ว่าโอเคแล้วแต่ถ้ากินน้อยกว่านั้นก็ให้
00:25:18 → 00:25:21 กินน้ำมันปลาเสริมหรือกินน้ำมันเมล็ดแฟก
00:25:21 → 00:25:23 เสริมแบบนี้ก็ได้มันก็จะช่วยทำให้สุขภาพ
00:25:23 → 00:25:26 โดยรวมของคุณเนี่ยดีลดความเสี่ยงที่จะ
00:25:26 → 00:25:29 เกิดโรคร้ายหลายชนิดที่เกิดเพราะว่ามัน
00:25:29 → 00:25:33 ขาดสารอาหารส่วนใหญ่นะแล้วก็กินของไม่ดี
00:25:33 → 00:25:37 เกินมีสาเหตุอยู่หลักๆอยู่แค่นี้แหละอ่า
00:25:37 → 00:25:39 ต่อ
00:25:39 → 00:25:42 ไปทั้งหมดนี้ 7 ข้อมีอะไรบ้างเดี๋หมอ
00:25:42 → 00:25:45 เฟิร์นสรุปให้สำหรับคนที่เพิ่งมาฟังไลฟ์
00:25:46 → 00:25:49 ในตอนนี้เนาะสรุปแบบสั้นๆ 7 เทคนิคไล่เบา
00:25:49 → 00:25:53 หวานลดน้ำตาลลดอินซูลินข้อ 1 ก็คือให้กิน
00:25:53 → 00:25:56 อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำหรือใช้เทคนิค
00:25:56 → 00:25:59 การกินอาหารแบบคีโตคือจำกัดคาร์โบไฮเดรต
00:25:59 → 00:26:02 ให้น้อยกว่า 30 กรัมต่อวันหรือเทียบเท่า
00:26:03 → 00:26:05 ก็คือข้าว 1 ทัพพีเนี่ยไม่เคินไม่ควรกิน
00:26:05 → 00:26:08 เกินต่อวันเนาะข้อ 2 ก็คือกินแอปเปิ้ล
00:26:08 → 00:26:11 ไซเดอร์เวนิ้าเสริมหรือน้ำส้มสายชูหมัก
00:26:11 → 00:26:14 หรือถ้าให้ผลลัพธ์ดีเลยก็คือกินควบคู่กับ
00:26:14 → 00:26:18 น้ำมะนาวผสมสมกันกินตอนท้องว่างก็ได้กิน
00:26:18 → 00:26:21 ตอนไหนก็ได้ที่คุณสบายใจแต่มันเป็นกรดคุณ
00:26:21 → 00:26:23 ต้องเจือจางกับน้ำเปล่าด้วยแล้วก็กิน
00:26:23 → 00:26:26 เสร็จก็ดื่มน้ำตามหรือว่าไปบ่นปากด้วยถึง
00:26:26 → 00:26:28 จะโอเคเนาะไม่งั้นอาจจะแสบร้อนระคายเคือง
00:26:28 → 00:26:32 กระเพาะอาหารได้ข้อ 3 ให้งดน้ำตาลทุกรูป
00:26:32 → 00:26:35 แบบไม่ต้องถามนะว่ากินน้ำผึ้งกินน้ำหวาน
00:26:35 → 00:26:37 กินน้ำเชื่อมตัวนั้นได้มั้ยกินสารให้ความ
00:26:37 → 00:26:42 หวานแทนน้ำตาลได้มั้ยคีย์มันก็คือคุณต้อง
00:26:42 → 00:26:46 ลดการติ๊กหวานให้ได้แล้วคุณจะอยากหว่าน
00:26:46 → 00:26:49 น้อยลงแล้วสุขภาพข้างในคุณจะเปลี่ยนไม่
00:26:49 → 00:26:53 เชื่อคุณลองงดน้ำตาล 14 วันดูแล้วมาดูผล
00:26:53 → 00:26:56 ลัพธ์กัน
00:26:56 → 00:26:59 คอกออกกำลังกายเนี่ยเป็น first priority
00:26:59 → 00:27:01 หรือให้การให้ความสำคัญของการออกกำลังกาย
00:27:01 → 00:27:04 ให้เหมือนทำกิจวัตร 1 อย่างเหมือนกันแปลง
00:27:04 → 00:27:06 ฟันเลยเพราะแค่ออกกำลังกาย 1 ครั้ง
00:27:06 → 00:27:09 อินซูลินในร่างกายก็ดีขึ้นแล้วอ่ะจากงาน
00:27:09 → 00:27:12 วิจัยอ่ะแล้วถ้าออกทุกวันน่ะมันจะไม่ดี
00:27:12 → 00:27:16 ได้ยังไงแค่นั้นเองแล้วจะนั่งนานๆอยู่เฉย
00:27:16 → 00:27:18 ๆนานๆเพราะว่าพฤติกรรมเหล่าเนี้ยเสี่ยง
00:27:19 → 00:27:23 มากที่จะเกิดโรคร้ายข้อ 5 ทำ IF บ้าง IF
00:27:23 → 00:27:26 ก็คือการอดอาหารในบางมื้อเนาะถ้าเริ่มต้น
00:27:26 → 00:27:29 เลยก็อาจจะอดแบบ 16 ชม.กิน 8 ชม.ถ้าใคร
00:27:29 → 00:27:32 อยากศึกษาเพิ่มก็ไปค้นหาเอาเนาะเดี๋ยวนี้
00:27:32 → 00:27:35 มีความรู้เยอะแยะมากมาย 6 คือ 6 กับ 7
00:27:35 → 00:27:39 คืออาหารที่ช่วยส่งเสริมก็คือข้อ 1 ข้อ 6
00:27:39 → 00:27:42 ชาเขียวชาเขียวมี EGCG ที่ช่วยลดการ
00:27:42 → 00:27:44 อักเสบในร่างกายและช่วยลดอินซูลินลดน้ำ
00:27:45 → 00:27:49 ตาลได้ข้อ 7 ก็คือปลาเพราะปลามีโอเมก้า 3
00:27:49 → 00:27:53 ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพดีลดไขมันเร็วลดน้ำ
00:27:53 → 00:27:57 ตาลได้เช่นกันอ่า 7 ข้อมีแค่นี้ง่ายมากๆ
00:27:57 → 00:28:02 และต่อไปไม่บอกไม่ได้ก็คือทั้งหมดที่หมอ
00:28:02 → 00:28:07 เฟิร์นพูดไปเนี่ยไม่ใช่ให้คุณทำหรือกิน
00:28:07 → 00:28:10 ไม่กี่วันแล้วคาดหวังว่าจะเห็นผลทันทีคุณ
00:28:11 → 00:28:16 ต้องทำแบบนี้กินแบบนี้จนเป็นนิสัยคือทำ
00:28:16 → 00:28:19 ต่อเนื่องให้มันเกิน 3 เดือนขึ้นไปแล้ว
00:28:19 → 00:28:22 ค่อยมาวัดผลว่ามันเวิร์คมยค่าน้ำตาลเป็น
00:28:22 → 00:28:26 ยังไงน้ำหนักลดมยพุงลดมยอันเนี้ยค่อยไป
00:28:26 → 00:28:30 วัดผลไม่ใช่ทำแค่แบบ 3-45 วันไม่เห็นเห็น
00:28:30 → 00:28:32 ผลเลยอ่ะเราก็เลิกทำแล้วก็ไปทำแบบเดิมอัน
00:28:32 → 00:28:36 นี้ไม่เอาเนาะต้องทำเป็นเดือนๆในวิจัย
00:28:36 → 00:28:39 เค้าจะทำเป็นเดือนเหมือนกันเพราะอะไรไอ้
00:28:39 → 00:28:44 นิสัยเดิมที่มันเป็นตัวการก่อโรคที่คุณ
00:28:44 → 00:28:47 กินของไม่ดีเข้าร่างกายนั่งนานไม่ค่อยไม่
00:28:47 → 00:28:51 ออกกำลังกายทั้งหลายคุณทำสะสมมาเป็นปี
00:28:51 → 00:28:54 นิสัยเดิมที่มันก่อโรคมันไม่เปลี่ยนมัน
00:28:54 → 00:28:56 ไม่ถูกแทนที่ด้วยนิสัยใหม่ 7 ข้อเนี้ย
00:28:56 → 00:28:59 นิสัยที่ดีที่ส่งเสริมเสริมสุขภาพผลสุด
00:29:00 → 00:29:04 ท้ายก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนเลยถ้าคุณไม่
00:29:04 → 00:29:07 เปลี่ยนนิสัย
00:29:07 → 00:29:11 เก่าไม่มีทางที่นิสัยที่ทำมาเป็นปีแล้ว
00:29:11 → 00:29:15 หวังจะแก้ในไม่กี่วันคือทางลัดที่ไม่ยั่ง
00:29:15 → 00:29:18 ยืนที่มาถามว่าวิตามินตัวไหนลดความอ้วน
00:29:18 → 00:29:22 อะไรอย่างเงี้ยไม่ยั่งยืนสิ่งที่ยั่งยืน
00:29:22 → 00:29:24 ก็คือพฤติกรรมและนิสัยใหม่เท่านั้นที่ไป
00:29:24 → 00:29:27 แทนที่สิ่งเดิมที่คุณ
00:29:27 → 00:29:31 ทำอันนี้แก้ให้ทำแบบแก้แค่หลักเดือนแล้ว
00:29:31 → 00:29:35 มันดีขึ้นนี่มันแบบสุดยอดมากเลยนะคุณสะสม
00:29:35 → 00:29:38 มาเป็นปีแล้วมาทำ 7 ข้อนี้หลักเดือน
00:29:38 → 00:29:44 นะแค่นั้นเองแต่ถ้าใครที่ทำไม่ได้ไม่เป็น
00:29:44 → 00:29:47 ไรทำไม่ได้ไม่เป็นไรไม่มีใครว่าแต่คุณแค่
00:29:47 → 00:29:52 ต้องยอมรับว่าอาจเกิดความเสี่ยงในอนาคต
00:29:52 → 00:29:55 ที่จะเกิดขึ้นได้นะอย่างถ้าคุณไม่เปลี่ยน
00:29:55 → 00:29:59 แล้วยังทำเหมือนเดิมอาจจะเกิดโรคอ้วนอาจ
00:29:59 → 00:30:03 จะเป็นเบาหวานอาจจะเป็นความดันเป็นไขมัน
00:30:03 → 00:30:06 มีเป็นหลอดเลือดสมองหลอดเลือดหัวใจใน
00:30:06 → 00:30:08 อนาคตอาจจะเป็นมะเร็งในอนาคตอันนี้คุณ
00:30:08 → 00:30:12 ต้องยอมรับให้ได้ถ้าคุณยอมรับได้ก็ทำ
00:30:12 → 00:30:16 เหมือนเดิมได้เลยแต่ถ้าใครที่รับไม่ได้
00:30:16 → 00:30:19 เปลี่ยนเถอะอ่าความสม่ำเสมอเท่านั้นที่
00:30:19 → 00:30:22 สำคัญมากๆสำหรับการควบคุมน้ำตาลลด
00:30:22 → 00:30:26 อินซูลินลดน้ำหนักถ้าคุณทำได้นานพอ
00:30:26 → 00:30:29 ข่าวดีก็คือถ้าคนเป็นเบาหวานหรือคุมน้ำ
00:30:29 → 00:30:34 ตาลไม่ค่อยได้คุณจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น
00:30:34 → 00:30:38 โรคจะไปในทิศทางที่ดีขึ้นบางคนลดยาไปจน
00:30:38 → 00:30:42 ถึงขั้นหยุดยาได้เลยนะโรคที่เป็นอยู่หาย
00:30:42 → 00:30:46 ได้เลยนะจากการแค่เปลี่ยนแค่นี้คุณว่ามัน
00:30:46 → 00:30:49 คุ้มมยใครคุ้มพิมพ์
00:30:49 → 00:30:52 คุ้มใครรับไม่ได้พิมพ์รับไม่ได้ขอเปลี่ยน
00:30:52 → 00:30:54 ตัวเองดีกว่าตอนนี้ยังทันยังไม่ได้เป็น
00:30:54 → 00:30:58 โรคอะไรมากมายยังไม่ได้ต้องกินยาเป็นกำๆ
00:30:58 → 00:31:03 ขอกินอาหารเป็นยาขอเปลี่ยนตัวเองแค่ไม่
00:31:03 → 00:31:05 เหมือนเมื่อวานคุณก็เก่งสุดยอดมากๆแล้ว
00:31:05 → 00:31:09 อ่ะอ่าใครทำได้พิมพ์ทำได้มาหน่อยจะได้
00:31:09 → 00:31:12 ชื่นใจเนาะวันนี้พูดมาครึ่งชั่วโมงเพื่อ
00:31:12 → 00:31:14 โน้มน้าวให้คุณเปลี่ยนมาเป็นคนใหม่เป็นคน
00:31:14 → 00:31:18 สุขภาพดีเนี่ยอันนี้ก็คือหนึ่งในสิ่งที่
00:31:18 → 00:31:21 หมอเฟิร์นต้องได้เห็นน่ะต้องได้เห็นโรง
00:31:21 → 00:31:27 พยาบาลที่มีคนมาไม่มีคนไปโรงพยาบาลอ่ะพูด
00:31:27 → 00:31:29 ง่ายๆเพราะว่าที่เห็นอยู่ก็คือคนไปโรง
00:31:29 → 00:31:32 พยาบาลตั้งแต่ 4:00 น. 5:00 น.ไปจองคิว
00:31:32 → 00:31:35 เพื่อไปเจอหมอไม่กี่
00:31:35 → 00:31:39 นาทีไม่อยากเห็นภาพนั้นเราเลยมาทำตรงนี้
00:31:39 → 00:31:42 อยากให้โรงพยาบาลเนี่ยนั่งตบยุงกันไม่มี
00:31:43 → 00:31:47 คนไข้คนไทยสุขภาพดีหมดเลยแล้วก็เป็นหมอน
00:31:47 → 00:31:50 รักษาตัวเองได้กินอาหารเป็นยาเป็นอย่าง
00:31:50 → 00:31:52 เงี้ยอันนี้คือเป็นภาพ
00:31:52 → 00:31:56 ที่ชีวิตเนี้ยต้องเห็นเพราะหมอเฟิร์นก็
00:31:56 → 00:31:59 ยังเด็กอยู่เนาะใกล้จะ 30 ละรีบทำตรงนี้
00:32:00 → 00:32:03 ให้เร็วก่อนรีบรีบให้ความรู้คนไทยก่อน
00:32:03 → 00:32:05 ต้องได้เห็นแน่นอนชีวิตเนี้ยเพราะว่าหมอ
00:32:05 → 00:32:08 เฟิร์น่าจะอยู่ถึง 100 ปีอ่ะอใครอยากอยู่
00:32:09 → 00:32:12 ถึง 100 ปีเหมือนกันบ้างพิมพ์ 100 มาส่วน
00:32:12 → 00:32:15 ใครที่อสนใจน้ำมันเมล็ดแฟลกที่หมอเฟิร์น
00:32:15 → 00:32:17 กินอยู่แล้วอยากขอดูตัวอย่างดูฉลากอย่าง
00:32:17 → 00:32:19 เดียวก็ได้ก็พิมพ์ว่าน้ำมันเมล็ดแฟกก็ได้
00:32:19 → 00:32:22 เนาะใน YouTube ก็ให้แอด Line ในลิงก์ใต้
00:32:22 → 00:32:24 คลิปวีดีโอก็ได้ส่วนใน Facebook ก็พิมพ์
00:32:24 → 00:32:26 น้ำมันเมล็ดแฟลกได้เลยแล้วน้องแอดมินจะ
00:32:26 → 00:32:30 ส่งข้อมูลไปให้แล้วก็คนประชาสัมพันธจอง
00:32:30 → 00:32:33 หนังสือหรือวันที่ 20 กว่าจะได้เริ่มจัด
00:32:33 → 00:32:35 ส่งให้คุณแล้วเนาะแล้วก็เหลือไม่กี่ 10
00:32:35 → 00:32:40 เล่มละยังได้ราคาพิเศษอยู่ 1,990 บาทตอน
00:32:40 → 00:32:44 นี้ 1,44 บาทใครสนใจก็รีบหน่อยเนาะเหลือ
00:32:44 → 00:32:48 แค่แอดมินบอกว่าเหลือไม่กี่เล่มแล้วก็ไม่
00:32:48 → 00:32:51 รู้ว่าจะได้พิมพ์อีกเมื่อไหร่อันนี้ก็
00:32:51 → 00:32:54 เป็นหนังสือที่หมอเฟิร์นเขียนมา 300 กว่า
00:32:54 → 00:32:57 หน้าเป็นสำหรับมือใหม่ที่ไม่มีความรู้
00:32:57 → 00:33:00 เกี่ยวกับอาหารเสริมเลยซักกะในจะเขียนบอก
00:33:00 → 00:33:03 หมดเลยว่าอาหารเสริมอาหารและวิตามินและ
00:33:03 → 00:33:07 ธาตุที่จำเป็น 27 ชนิดอ่ะมีอะไรบ้างเรา
00:33:07 → 00:33:10 ต้องกินขนาดปริมาณเท่าไหร่เลือกรูปแบบไหน
00:33:10 → 00:33:13 ไปจนถึงช่วยป้องกันรักษาโรคที่คุณกลัว
00:33:13 → 00:33:16 อย่างโรคเบาหวานในนี้ก็มีถ้าคุณกลัวโรค
00:33:16 → 00:33:19 นี้อยู่คุณก็เปิดไปแค่หน้าโรคเบาหวานว่า
00:33:19 → 00:33:22 มันมีสาเหตุจากอะไรแล้วจะป้องกันได้มย
00:33:22 → 00:33:24 แล้วถ้าจะกินเสริมต้องกินตัวไหนก็มีอยู่
00:33:24 → 00:33:26 ในนี้แล้วก็มีเคล็ดลับชะลอวัยที่หมอ
00:33:26 → 00:33:30 เฟิร์นแถมเข้าไปอีกคุ้มมากๆเล่ม1ันกว่า
00:33:30 → 00:33:33 บาทกับวิตามินเนี่ยก็เป็น 1000 แล้วอ่า
00:33:33 → 00:33:36 มันเทียบกันไม่ได้เนาะกับโรคที่ถ้าคุณ
00:33:36 → 00:33:39 เป็นแล้วต้องมาเสียเงินค่ารักษาค่าเดิน
00:33:40 → 00:33:43 ทางเสียเวลาอีกดังนั้นดูแลตัวเองตั้งแต่
00:33:43 → 00:33:46 วันนี้สิ่งที่ต้องมีก็คือความรู้แล้วคุณ
00:33:46 → 00:33:50 ถึงจะพอมีความรู้ที่ถูกต้องเหมือนกระดุม
00:33:50 → 00:33:54 เม็ดแรกมันถูกอ่ะมันก็จะถูกไปหมดมันก็จะ
00:33:54 → 00:33:58 สุขภาพดีได้ง่ายกว่าคนที่ไม่รู้แล้วก็ลอง
00:33:58 → 00:34:01 ผิดลองถูกเนาะอันนี้ก็คือเหมือนทางรัดใน
00:34:01 → 00:34:03 เรื่องของอาหารเสริมในเรื่องของสุขภาพที่
00:34:03 → 00:34:06 ถ่ายทอดลงไปให้คุณใครสนใจหนังสือพิมพ์
00:34:06 → 00:34:10 อะไรพิมพ์หนังสือได้เลยมีแค่นี้วันนี้ก็
00:34:10 → 00:34:12 ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาฟังสดๆแล้วก็ย้อน
00:34:12 → 00:34:16 หลังถ้ามีคำถามอะไรเยอะๆก็พิมพ์ทิ้งไว้
00:34:16 → 00:34:18 ได้เลยถ้ามีคนสนใจเรื่องนี้เยอะๆหมอ
00:34:18 → 00:34:20 เฟิร์นก็จะมาไลฟ์สอนเหมือนในวันนี้เนาะ
00:34:20 → 00:34:23 เห็นมีคนสนใจอินซูลินเยอะก็มาไลฟ์สอนใน
00:34:23 → 00:34:26 วันนี้อ่านทุกคอมเมนต์ก็เลยเห็นตลอดแต่
00:34:26 → 00:34:28 อาจจะไม่ได้ตอบก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ที่มา
00:34:28 → 00:34:32 คอมเมนต์มาบอกกันเนาะก็ขออวยพรให้คุณมี
00:34:33 → 00:34:36 สุขภาพดีขึ้นควบคุมเบาหวานได้ลดน้ำตาลได้
00:34:36 → 00:34:39 ลดน้ำหนักได้ลดอินซูลินได้แล้วก็หุ่นดี
00:34:39 → 00:34:40 กันทวดหน้า
00:34:40 → 00:34:44 เลยหน้าเด็กลงไปด้วยกันทุกวันทุกวันรัก
00:34:44 → 00:34:46 ทุกคนสวัสดี