00:00:00 → 00:00:05 [เพลง]
00:00:05 → 00:00:08 สวัสดีค่ะกลับมาพบกับแป้งอีกครั้งในราย
00:00:08 → 00:00:11 การ New you resolution ซีรีย์พิเศษ New
00:00:11 → 00:00:13 her รายการที่อยากจะให้ผู้หญิงทุกคนไม่
00:00:13 → 00:00:15 ว่าจะวัยใดก็ตามได้มีสุขภาพที่ดีขึ้นทั้ง
00:00:16 → 00:00:18 กายแล้วก็ใจผ่านการพูดคุยเรื่องข้อสงสัย
00:00:18 → 00:00:20 และหาวิธีแก้ไขปัญหากับคุณหมอผู้เชี่ยว
00:00:20 → 00:00:23 ชาญค่ะซึ่งเรามีการพูดคุยกับคุณหมอไปแล้ว
00:00:23 → 00:00:26 ถึง 4 ep เลยแต่ก่อนที่เราจะไปหาคุณหมอ
00:00:26 → 00:00:28 คุณหมอโออีกครั้งนึงเนี่ยวันเนี้แป้งมี
00:00:28 → 00:00:31 แขกรับเชิญสุดพิเศษค่ะอยากจะมาพูดคุยใน
00:00:31 → 00:00:34 เรื่องปัญหาสุขภาพในวัยทำงานรวมไปถึง
00:00:35 → 00:00:37 ปัญหาผู้หญิงที่เราเราชาวผู้หญิงอยากจะ
00:00:37 → 00:00:40 ให้คุณผู้ชายได้เข้าใจกันวันนี้ก็ปรบมือ
00:00:40 → 00:00:42 ต้อนรับคุณเที่ยวนะคะโปรดิวเซอร์รายการ
00:00:42 → 00:00:44 ของเราในวันนี้นะคะวันนี้เมื่อกี้แอบคุย
00:00:44 → 00:00:47 กันหลังกล้องนิดนึงนนิดนึงมาแล้วว่า
00:00:47 → 00:00:50 เที่ยวเนี่ยยังมีความเข้าใจแอบแบบไม่ครบ
00:00:50 → 00:00:53 ถ้วนละกันเนาะเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพผู้
00:00:53 → 00:00:54 หญิงวันนี้เราจะมาคุยกันถึง 4 ประเด็น
00:00:55 → 00:00:58 ด้วยกันข่ะเที่ยวเรามากันที่ปัญหาแรกเลย
00:00:58 → 00:01:01 นะคะสำหรับพวกเราชาวออฟฟิเชื่อว่าพวกเรา
00:01:01 → 00:01:03 ทุกคนเนี่ยน่าจะเจอปัญหานี้กันแบบ 99
00:01:03 → 00:01:06 เต็มรแล้วกันอ่ะปวดหลังปวดเอ้ยเก่งผมปวด
00:01:06 → 00:01:08 อยู่เหมือนกันเหมือนโดนบีฟมาต่อเหมือนโดน
00:01:08 → 00:01:11 บีฟมาแต่ว่าทำงานออฟฟิศปวดหลังจริงถูก
00:01:11 → 00:01:13 ต้องเพราะว่าอะไรเราอยู่หน้าควมทั้งวันจะ
00:01:13 → 00:01:16 มาเที่ยวแล้วถามหน่อยว่าอาการปวดหลังของ
00:01:16 → 00:01:19 เที่ยวเนี่ยเคยไปหาคุณหมอมหรือว่ามีวิธี
00:01:19 → 00:01:21 ดูแลตัวเองยังไงตอนปวดหลังบ้างผมหมอผมไม่
00:01:21 → 00:01:24 เคยไปหาหมอแต่ว่าผมจะเป็นคนที่ยืดร่างกาย
00:01:24 → 00:01:28 ก่อนนอนอืยืดหลังตามท่าแบบผมเคยเรียนโยคะ
00:01:28 → 00:01:31 มาไงออเจะมีท่ายืดหลังก่อนนอนแล้วมันช่วย
00:01:32 → 00:01:34 มั้ยช่วยายเส้นผมไม่ได้ยืดแค่หลังนะผมยืด
00:01:34 → 00:01:37 หมดเลยยืดทั้งตัวเลยก็ช่วยเนอช่วยอยู่
00:01:37 → 00:01:39 ช่วยอยู่แต่ว่าพอเรากลับมาทำงานอีกครั้ง
00:01:39 → 00:01:41 นึงอ่ะก็ปวดอีกแปลว่าปัญหาการปวดหลังของ
00:01:41 → 00:01:43 พวกเราชาวออฟฟิศเนี่ยอ่ะอย่างเที่ยวเป็น
00:01:43 → 00:01:46 ตัวแทนชาวออฟฟิศที่ไม่เคยไปหาคุณหมอะกัน
00:01:46 → 00:01:48 แป้งอยากจะมาแชร์ว่าตอนนั้นเนี่ยแป้งมี
00:01:48 → 00:01:50 การพูดคุยกับคุณหมโอไปในเรื่องของอาการ
00:01:50 → 00:01:52 ปวดหลังเนี่ยตอนนั้นเราสงสัยว่าเฮ้ยปวด
00:01:52 → 00:01:54 หลังแบบไหนเราเป็นออฟฟิศซินโดรมหรรือ
00:01:54 → 00:01:57 เปล่าเพราะว่ามันมีการแบบสังเกตอาการอยู่
00:01:57 → 00:01:59 บางอย่างที่คุณหมอให้ไว้เป็นทริกว่าเรา
00:01:59 → 00:02:01 เราจะดูได้ยังไงว่าอันเนี้ยปวดหลังแบบอิ
00:02:01 → 00:02:03 Syndrome หรือว่าปวดหลังแบบปวดกล้าม
00:02:03 → 00:02:05 เนื้อปกติธรรมดาหรือว่าเป็นการปวดเรื้อ
00:02:05 → 00:02:07 รังไปเลยหรือแม้กระทั่งผู้หญิงเนี่ยอาจจะ
00:02:07 → 00:02:10 หนักกว่าผู้ชายด้วยเพราะว่าเรามีแบบปัญหา
00:02:10 → 00:02:12 อื่นๆแทรดซ้อนที่จะทำให้เราปวดหลังมาก
00:02:12 → 00:02:15 กว่าผู้ชายเข้าเข้ามาด้วยซึ่งการที่เรา
00:02:15 → 00:02:17 ปวดหลังอ่ะเรามีหลายสาเหตุและปัจจัยมากๆ
00:02:17 → 00:02:19 อย่างอย่างที่เที่ยวบอกเนาเรานั่งทำงาน
00:02:19 → 00:02:22 หน้าคอมเรานั่งผิดท่าเรานั่งโค้งหลัง
00:02:22 → 00:02:25 เก้าอี้ไม่ดีโต๊ะไม่เข้ากับสรีระเราที่
00:02:26 → 00:02:28 นอนแข็งที่นอนแข็งหมอนไม่ดีนอนตกหมอนด้วย
00:02:28 → 00:02:31 อันนี้ล้วนเป็นสาเหตุของการปวดหลังหมดเลย
00:02:31 → 00:02:33 รวมไปถึงผู้หญิงเนี่ยอย่างเมื่อกี้ที่
00:02:33 → 00:02:35 บอกผู้หญิงมันมีสาเหตุอื่นๆที่ทำให้
00:02:35 → 00:02:37 เราปวดหลังได้ด้วยไม่ว่าจะเป็นการแบบมี
00:02:37 → 00:02:40 ช็อกโกแลตซีสในท้องน้อยนึกออกป่ะแบบพอมัน
00:02:40 → 00:02:43 มีอะไรในท้องอ่ะมันลิ้งกับหลังออ่าหรือ
00:02:43 → 00:02:46 ว่าอย่างแบบนิ่วในท่อไตนิ่้วในท่อไต
00:02:46 → 00:02:48 อันเนี้ยมันก็เป็นเหมือนเป็นก้อนเป็นอะไร
00:02:48 → 00:02:50 ที่ทำให้เราดึงล้างกับหลังเราไว้เออนึก
00:02:50 → 00:02:53 ออกป่ะแบบผู้หญิงเออผู้หญิงมันก็เลยจะมี
00:02:53 → 00:02:55 ความปวดหลังได้ทรมานแล้วก็หลายสาเหตุมาก
00:02:56 → 00:02:58 กว่าผู้ชายอืเฮ้ยพี่ผนในปวยไตผู้ชายก็
00:02:58 → 00:03:00 เป็นได้ป่ะเป็นได้ป่ะเป็นได้ได้เพราะว่า
00:03:00 → 00:03:03 นิในท่อตมันก็มีได้ในทั้ง 2 เพจเออแต่ว่า
00:03:03 → 00:03:05 อันนี้ก็อยากให้ทุกคนไปปรึกษาคุณหมออีกที
00:03:05 → 00:03:08 นึงเพราะว่าอาการปวดหลายอย่างพอมันลิงก์
00:03:08 → 00:03:10 กับช่วงอื่นหลายอย่างมันก็จะเป็นการรักษา
00:03:10 → 00:03:13 ต่อไปอีกแบบกับคุณหมอหลากหลายแขนงลงไปอีก
00:03:13 → 00:03:15 นึกออกป่ะถ้ามันเป็นเกี่ยวกับช่องท้องมัน
00:03:15 → 00:03:17 ก็จะเป็นคุณหมอฝั่งนึงเกี่ยวกับอาการปวด
00:03:17 → 00:03:19 หลังหรือปวดกล้ามเนื้อก็จะเป็นคุณหมออีก
00:03:19 → 00:03:21 ฝั่งนึงเหมือนกันแต่ว่าพอมาตอบคำถามว่า
00:03:21 → 00:03:24 ปวดแบบไหนมันถึงจะเป็น Office syndrome
00:03:24 → 00:03:27 เนี่ยซึ่งคุณหมอให้สังเกตอาการตัวเองไอ้
00:03:27 → 00:03:30 อาการอิ Syndrome อ่ะเที่ยวมันเป็นจักของ
00:03:30 → 00:03:32 คำว่าอ Syndrome คือมันมีทั้งปวดหลังมัน
00:03:32 → 00:03:36 มีทั้งปวดหัวไมเกรนมันมีหลายอย่างคคอบาล
00:03:36 → 00:03:39 คอบาไหล่ด้วยถูกต้องคือลักษณะการปวดมันจะ
00:03:39 → 00:03:42 ค่อนข้างปวดร้าวไปที่ส่วนอื่นๆเพราะ
00:03:42 → 00:03:44 ฉะนั้น่ะเราสามารถสังเกตอาการตัวเองได้
00:03:44 → 00:03:46 โดยการที่ดูว่าอาการปวดของเราอ่ะมันไป
00:03:46 → 00:03:48 กระทบส่วนอื่นในร่างกายหรือเปล่าอย่าง
00:03:48 → 00:03:51 เช่นปวดปวดมากจนเที่ยวไม่สามารถใช้ชีวิต
00:03:51 → 00:03:53 ส่วนตัวแบบได้อย่างปกติกระทบกับชีวิต
00:03:53 → 00:03:56 ประจำวันถูกนี่คือพอยเลยถ้าสมมุติปวดจน
00:03:56 → 00:03:58 กระทบกับชีวิตประจำวันเที่ยวคนไปหาหมอได้
00:03:58 → 00:04:02 แล้วมีกณีกณีนี้เที่ยวกรณีไหนแป้งเคยถาม
00:04:02 → 00:04:04 คุณหมอว่าแล้วถ้าเราดื้อไม่ยอมไปหาหมอเออ
00:04:04 → 00:04:07 มันจะเกิดอะไรขึ้นเที่ยวคิดว่าถ้าสมมุติ
00:04:07 → 00:04:11 ว่าปวดอาแป้งดื้อเที่ยวดื้อเราไม่ไปหาหมอ
00:04:11 → 00:04:14 อะไรจะเกิดขึ้นอะไรจะเกิดขึ้นอมันน่าจะ
00:04:14 → 00:04:17 เป็นอย่างอย่างแรกเลยคือใช้ชีวิตประจำวัน
00:04:17 → 00:04:20 ลำบากแหละเพราะมันปวดมากอืแล้วมันอาจจะ
00:04:20 → 00:04:23 รักษะยากขึ้นรักษะยากมีอันนึงรักษาจะ
00:04:23 → 00:04:26 เหนื่อยขึ้นถูกจริงแล้วก็ถ้ามันลงไปถึง
00:04:26 → 00:04:29 ส่วนอื่นๆอ่ะมันก็จะรักษานานขึ้นค่าใช้
00:04:29 → 00:04:31 จ่ายตมันก็จะแบบเยอะขึ้นแต่มีอีกเรื่อง
00:04:31 → 00:04:33 นึงแป้งเซอร์ไพรสมากเเขาบอกว่าถ้าเราปวด
00:04:33 → 00:04:36 กล้ามเนื้อเรืรังมากๆจนมันไม่เราไม่ไปหา
00:04:36 → 00:04:39 หมอสักที่เนี่ยมันจะมีสิ่งนึงเกิดขึ้นกับ
00:04:39 → 00:04:41 ร่างกายของเราคือสมองของเราอ่ะมันจะรับ
00:04:41 → 00:04:44 รู้ว่าเรามีอาการปวดสิ่งเนี้ยอยู่เพราะ
00:04:44 → 00:04:46 ฉะนั้นมันอาจจะปล่อยไว้นานจนเราไม่หาย
00:04:46 → 00:04:50 เพราะว่าสมองมันจำไปแล้วนึกออกป่ะคือสมอง
00:04:50 → 00:04:52 มันจำไปแล้วว่าฉันปวดหลังฉันตื่นมาฉัน
00:04:52 → 00:04:55 ต้องปวดหลังอนึกออกป่ะแม้ว่าร่างกายฟิิ
00:04:55 → 00:04:58 จริงๆมันไม่ปวดสมองมันสั่งให้เราปวดเว้ย
00:04:58 → 00:05:00 เออเพราะฉะนั้นอ่ะการรักษามันก็เลยจะต้อง
00:05:00 → 00:05:03 ไปสู่แผนกแบบระบบประสาทเออเพราะฉะนั้นการ
00:05:03 → 00:05:05 ปวดหลังมันจะไม่ใช่แค่ปวดหลังอีกต่อไปนึก
00:05:05 → 00:05:08 ออกป่ะมันเป็นอีกปัญหานึงที่สะสมเอาไว้
00:05:08 → 00:05:10 แล้วก็แบบต่อให้เราไม่ปวดแล้วอ่ะแต่เราจำ
00:05:10 → 00:05:13 ได้ว่าความเจ็บเนี้ยยมันยังอยู่ออน่ากลัว
00:05:13 → 00:05:14 มากอันเนี้ยน่ากลัวอันนี้น่ากลัวแล้วก็
00:05:15 → 00:05:17 แบบวิธีการแก้เบื้องต้นแล้วกันเรามา
00:05:17 → 00:05:19 encourage ให้ทุกคนลองมาปรับกันเบื้อง
00:05:19 → 00:05:21 ต้นกันดูก่อนอย่างคุณหมอเนี่ยแนะนำมาหลาย
00:05:21 → 00:05:23 วิธีเลยค่ะสามารถย้อนกลับไปดูกันได้นะคะ
00:05:24 → 00:05:26 แต่ว่าอย่างวิธีที่เราๆชาวคนทำงานปรับกัน
00:05:26 → 00:05:29 ได้ง่ายที่สุดแล้วก็เริ่มได้เลยนั่นก็คือ
00:05:29 → 00:05:31 การอย่างแรกเลยเที่ยวคือเก้าอี้แล้วก็
00:05:31 → 00:05:34 โต๊ะอ่าสำคัญสำคัญมากเพราะว่าถ้ามันแข็ง
00:05:34 → 00:05:37 เกินไปเรานั่งๆไปเราก็ไม่สบายเนาะรวมไป
00:05:37 → 00:05:39 ถึงโต๊ะเนี่ยถ้าเตี้ยหรือว่าสูงเกินไป
00:05:39 → 00:05:41 เนี่ยมันก็จะไม่เหมาะสมกับระดับถูกผิดท่า
00:05:41 → 00:05:44 ใช่การตั้งคอมการตั้งจอเนี่ยจริงๆอ่ะควร
00:05:44 → 00:05:46 จะให้มันอยู่ในระดับสายตาไจริงๆแล้วการ
00:05:46 → 00:05:49 ตั้งแบบเนี้ยแอบแอบแบบไม่ดีต่อสุขภาพใช่
00:05:49 → 00:05:51 มันควรที่ต้องแบบเหมือนยกเาสูงขึ้นมานิด
00:05:51 → 00:05:54 นึงเออเพื่อให้หน้าจอเนี่ยมันอยู่ในระดับ
00:05:54 → 00:05:56 สายตาของเราลองกลับไปสังเกตอาการนั่งของ
00:05:56 → 00:05:59 ตัวเองดูเรานั่งๆอยู่บางทีเราก็แบบไหลๆไป
00:05:59 → 00:06:01 กับเก้าอี้เรายิ่งทำงานมันก็จะยิ่งไปแบบ
00:06:01 → 00:06:04 อย่างเงี้ยเอ้ยนี่เลยถูกต้องเลยถูกต้อง
00:06:04 → 00:06:06 เพราะว่าอะไรเที่ยวอาจจะไม่เคยสังเกตอ
00:06:06 → 00:06:10 Front ขนาดฟของเราในจอมันเล็กมันทำให้
00:06:10 → 00:06:12 เราอ่ะยื่นคอเข้าไปจนทำให้บางคนนะคะ
00:06:12 → 00:06:15 กระดูกคอกับไหล่ตรงเนี้ยมันยื่นใชแล้วก็
00:06:15 → 00:06:17 ปวดหลังด้วยปวดหลังด้วยสิ่งนึงที่แป้ง
00:06:17 → 00:06:20 อยากให้เที่ยวทำได้เลยลองขยายฟอขึ้นมาให้
00:06:20 → 00:06:23 ใหญ่ขึ้นหรือว่าแบบเนี่ยซูมเข้ามาเลยมัน
00:06:23 → 00:06:25 ก็จะทำให้เราอ่ะไม่ต้องเพ่งเข้าไปเยอะ
00:06:25 → 00:06:27 ขึึ้นใช่มยพอเราแบบไม่ต้องเข้าไปอย่าง
00:06:27 → 00:06:30 เงี้ยถ้านั่งเราปรับและระดับการวางมือเรา
00:06:30 → 00:06:33 ปรับและแล้วคุณหมอก็บอกว่านั่งๆทำงานอยู่
00:06:33 → 00:06:35 อ่ะค่ะอยากให้เราลุกขึ้นมาเดินบ้างไม่
00:06:35 → 00:06:38 อยากให้เรานั่งแช่นานๆค่ะซึ่งอีกหนึ่ง
00:06:38 → 00:06:40 สิ่งที่สำคัญคือการนอนที่มีคุณภาพก็จะ
00:06:40 → 00:06:42 ช่วยให้เราแบบหายปวดหลังได้ด้วยเพราะว่า
00:06:42 → 00:06:44 เวลานอนของเรานี่เดี๋ยวเราจะไปคุยกัน
00:06:44 → 00:06:46 เรื่องการนอนหลับต่อต่อไปประเด็นต่อไป
00:06:46 → 00:06:48 ประเด็นต่อไปยเราพูดถึงเรื่องการนอนหลับ
00:06:48 → 00:06:50 ต่อแต่ว่านั่นแหละถ้าเรานอนได้มีคุณภาพ
00:06:50 → 00:06:52 อาการปวดต่างๆเนี่ยมันก็จะถูกซ่อมแซมขณะ
00:06:52 → 00:06:55 เรานอนหลับ้วยเหมือนกันอ่าเป็นไงว้าวมย
00:06:55 → 00:06:58 ว้าวๆจริงเรื่องระบบประสาทนี้ว้าวมากว้าว
00:06:58 → 00:07:01 จริงผมไม่เคยรู้เื่อก่อนแงก็ไม่เคยรู้
00:07:01 → 00:07:03 ต้องเพิ่งรู้ต้องคุยกับหมอว่าแบบเฮ้ยมัน
00:07:03 → 00:07:05 เหมือนเราฟิลแบบเหมือนเราอบหักแต่เราทำใจ
00:07:05 → 00:07:08 ได้แล้วนะแต่เรายังไม่ลืมว่าเราเคยเจ็บ
00:07:08 → 00:07:11 อ่ะเรายังจำอยู่เรายังจำอยู่เราไม่ Mo on
00:07:11 → 00:07:15 แต่เออแต่จริงๆอ่ะเขาไปนานแล้วใช่เออเรา
00:07:15 → 00:07:18 ไปกันต่อที่ปัญหาที่ 2 ค่ะที่แป้งเชื่อ
00:07:18 → 00:07:19 ว่าไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ยน่าจะ
00:07:20 → 00:07:22 เจอเหมือนๆกันครับนั่นก็คือปัญหาในเรื่อง
00:07:22 → 00:07:25 ของการนอนหลับผมเจออยู่ตลอดเหมือนกันผม
00:07:25 → 00:07:27 นอนไม่ค่อยหลับเหมือนกันนั่นแหละเลยเป็น
00:07:28 → 00:07:30 ปัญหาที่แป้งเอามาปรึกษากับคุณหมอไปค่ะ
00:07:30 → 00:07:33 เดี๋ยวแป้งแรปอัพให้ฟังสั้นๆว่าสาเหตุที่
00:07:33 → 00:07:35 ทำให้เรานอนไม่หลับอ่ะจริงๆแล้วมันมีเยอะ
00:07:35 → 00:07:37 มากแล้วเราอาจจะไม่รู้ตัวแต่เราทำมันเป็น
00:07:37 → 00:07:40 ประจำไปแล้วอ่าอ่าอย่างเช่น 1 การดื่ม
00:07:40 → 00:07:44 คาเฟอีนค่ะอ่ากาแฟติดกาแฟป่ะเรานิดหน่อย
00:07:44 → 00:07:47 นิดหน่อยแป้งอ่ะไม่ติดกาแฟแต่ว่าติดชาอ
00:07:47 → 00:07:50 เหมือนมีเหมือนกันตัวคาเฟอีนเนี่ยยิ่งการ
00:07:50 → 00:07:53 ดื่มก่อนเรานอนในระยะเวลาที่สั้นเกินไป
00:07:53 → 00:07:55 เนี่ยกะคาเฟอีนมันยังทำงานอยู่ทีเนี้ยมัน
00:07:55 → 00:07:57 ทำให้เราร่างกายเราตื่นตัวหมดเลยไม่ว่าจะ
00:07:57 → 00:08:00 เป็นสมองตื่นตาตื่นอะไรเงี้ยค่ะรมไปถึง
00:08:00 → 00:08:03 การเล่นมือถือการเล่นคอหรือ iad การรับ
00:08:03 → 00:08:07 แสงสีฟ้าเข้าตาในบนเตียงก่อนที่เราจะหลับ
00:08:07 → 00:08:10 ไอ้แสงสีฟ้าเหล่านี้แหละมันทำให้ตาเราอ่ะ
00:08:10 → 00:08:14 ไม่สามารถแบบผ่อนคลายได้เออยิ่งแย่เข้าไป
00:08:14 → 00:08:16 ใหญ่เลยเยวถ้าสมมุติว่าเที่ยวดูซีรี่ส์
00:08:17 → 00:08:19 อย่างเงี้ยก่อนนอนแล้วเป็นซีรีส์แบบตื่น
00:08:19 → 00:08:22 เต้นตืเต้นยิงปืนปุ้งั้ๆๆหรือว่าหนังผี
00:08:22 → 00:08:25 อะไรอย่างเงี้ยมันยิ่งไปกระตุ้นความใช่ไป
00:08:26 → 00:08:27 กระตุ้นความคิดไปกระตุ้นอารมณ์ของเราให้
00:08:27 → 00:08:31 เราแบบไม่ปล่อยเออไม่สงบไม่ปล่อยเรายัง
00:08:31 → 00:08:34 คิดถึงเรื่องนั้นๆอยู่ยังสนุกอยู่เนี่ย
00:08:34 → 00:08:35 แหละเป็นสาเหตุที่ทำให้เราอ่ะนอนไม่หลับ
00:08:35 → 00:08:38 ได้ร่วมไปถึงอีกเรื่องนึงเร่รอันนี้แป้ง
00:08:38 → 00:08:40 เซอร์ไพรสมากตอนคุยกับหมอคือคุณหมอเนี่ย
00:08:40 → 00:08:42 บอกว่าการนอนหลับที่มีคุณภาพมันคือการ
00:08:42 → 00:08:44 เข้าไปสู่ Circle ของการ Sleeping
00:08:44 → 00:08:46 Sleeping เคิใช่ป่ะคุณหมอบอกว่า
00:08:46 → 00:08:49 แอลกอฮอล์ทำให้เรานอนหลับได้แย่เหรอเออ
00:08:50 → 00:08:54 แต่แป้งอ่ะเข้าใจว่ากินกให้กินให้เมาแปบ
00:08:54 → 00:08:56 นึงแล้วนอนถูถูกคิดเหมือนกันคือแป้งอ่ะ
00:08:56 → 00:08:59 เป็นพวกแบบกินถ้าเมาแล้วมันจะง่วงหลับแต่
00:08:59 → 00:09:01 จริงๆคุณหมอบอกว่ามันทำให้เราง่วงเร็ว
00:09:01 → 00:09:04 ขึ้นจริงแต่การเข้าไปสู่ Sleeping cle
00:09:04 → 00:09:07 ที่มีคุณภาพเนี่ยมันแย่ลงลองคิดถึงตอนเรา
00:09:07 → 00:09:10 เมาแล้วเราหลับหัวเรามันเหมือนเล่น
00:09:10 → 00:09:14 เครื่องเล่นแบบใช่โสตอยู่ใช่มันเหวี่ยง
00:09:14 → 00:09:16 นั่นแหละคือต่อให้เราหลับร่างกายเราหลับ
00:09:16 → 00:09:18 แต่การพักผ่อนของสมองหรือของร่างกายเรา
00:09:18 → 00:09:21 อ่ะมันไม่มันไม่ได้พักใช่มันไม่ได้เข้า
00:09:21 → 00:09:24 สู่วงจรนั้นอ่าเพราะฉะนั้นล้างความคิดการ
00:09:24 → 00:09:27 ดื่มแอลกอฮอล์ถ้าดื่มเยอะเกินไปอ่ะค่ะก็
00:09:27 → 00:09:30 มีผลต่อการนอนหลับของเราเหมือนกันอือ่า
00:09:30 → 00:09:33 รวมไปถึงการออกกำลังกายด้วยเป็นคนออก
00:09:33 → 00:09:35 กำลังกายป่ะออกกำลังครับปกติออกกำลังกาย
00:09:35 → 00:09:38 ประมาณกี่โมงออกกำลังกายประมาณ 19:00 น
00:09:38 → 00:09:42 ครับประมาณ 19:00 นแล้วนอนกี่โมงโอโหบาง
00:09:42 → 00:09:45 ถ้าอยากอยากทำให้ได้คือนอนก่อนเที่ยงคืน
00:09:45 → 00:09:48 อืแต่ทุกวันนี้ยากมาก 1:00 น 2:00 นเพราะ
00:09:48 → 00:09:50 มันร่างกายมันไม่หลับใช่มั้ยใช่เนี่ยแหละ
00:09:50 → 00:09:52 เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เรานอนหลับยาก
00:09:52 → 00:09:55 ขึึ้นเพราะว่าการออกกำลังกายที่ใกล้กับ
00:09:55 → 00:09:58 เวลานอนมากเกินไปอ่ะร่างกายมันยังตื่น
00:09:58 → 00:10:01 อยู่เอ๋อถึงว่าเวลาผมกลับมาจากเดบอลผม
00:10:01 → 00:10:04 หลับยากมากใช่เพราะมันยังแบบหัวใจเรายัง
00:10:04 → 00:10:07 แบบทำงานอยู่ AD อารีนยังหลังอยู่ใช่ซึ่ง
00:10:07 → 00:10:10 คุณหมอเนี่ยแนะนำว่าถ้าอยากออกกำลังกาย
00:10:10 → 00:10:12 เนี่ยอยากแนะนำให้ห่างจากเวลานอนอย่าง
00:10:13 → 00:10:17 น้อย 4-5 ชมมขับเที่ยวอ๋อนึกออกมยออกเออ
00:10:17 → 00:10:20 เพราะฉะนั้นเนี่ยต้องปรับต้องปรับ Time T
00:10:20 → 00:10:23 ของตัวเองให้เหมาะสมกับการนอนค่ะซึ่งพอ
00:10:23 → 00:10:25 แบคกลับมาว่าเฮ้ยถ้าเรายังมีปัญหาการนอน
00:10:25 → 00:10:28 หลับอยู่ตอนเนี้ยเราจะปรับตัวกันยังไงล่ะ
00:10:28 → 00:10:31 เที่ยวที่คุณหมอแบบแนะนำแล้วะกันให้เรา
00:10:31 → 00:10:33 ทุกคนเนี่ยสามารถปรับได้เลยเริ่มได้เลย
00:10:33 → 00:10:35 จากตัวเราเองเหมือนกันนั่นก็คืออย่างแรก
00:10:35 → 00:10:38 ปรับอุณหภูมิห้องอให้ไม่ร้อนไม่หนาวเกิน
00:10:38 → 00:10:43 ไปปิดไฟให้มืดรวมไปถึงการเสียงเอ่อควรจะ
00:10:43 → 00:10:45 เป็นห้องนอนที่ไม่มีเสียงรบกวนมากเกินไป
00:10:45 → 00:10:48 จนทำให้เราแบบมีเสียงเปิดปิดประตูหรือว่า
00:10:48 → 00:10:51 เสียงรถอะไรอย่างเงี้ยค่ะอาจจะิคให้เรา
00:10:51 → 00:10:55 ไม่สามารถหลับได้รวมไปถึงคุณหมอแนะนำว่า
00:10:55 → 00:10:58 บนเตียงเนี่ยหน้าที่ของเตียงนอนน่ะมันมี
00:10:58 → 00:11:01 แค่ 2 อย่างอย่างครับผมคือนอนหลับกับหลับ
00:11:01 → 00:11:04 นอนอ่าอ่าเพราะฉะนั้นเหตุนอนหลับกับหลับ
00:11:04 → 00:11:07 นอนนอนหลับกับหลับนอนแค่นั้นบนเตียงนะ
00:11:07 → 00:11:09 เพราะฉะนั้นใครที่ยังติดนิสัยเอาคอมไปทำ
00:11:09 → 00:11:12 บนเตียงก่อนนอนแนะนำว่าหยุดดีกว่าเที่ยว
00:11:12 → 00:11:15 รู้ไหมว่าการนอนไม่พอของเที่ยวอ่ะถ้า
00:11:15 → 00:11:18 ปล่อยไว้แบบนานๆโดยที่เราไม่ปรับโดยที่
00:11:18 → 00:11:20 เราไม่แก้ไขตัวเองอ่ะมันส่งผลเสียได้ทั้ง
00:11:20 → 00:11:23 ระยะสั้นแล้วก็ระยะระยะยาวเลยนะอะไรบ้าง
00:11:23 → 00:11:26 พี่อย่างระยะสั้นเนี่ยเที่ยวอาจจะเป็น
00:11:26 → 00:11:28 เป็นบางทีเราตื่นขึ้นมาแล้วเรารู้สึกว่า
00:11:28 → 00:11:32 เฮ้ยเบเบลอจำอะไรไม่ค่อยได้ภาคหลังรู้สึก
00:11:32 → 00:11:34 ความจำไม่ดีเป็นมั้ยซึ่งไอ้อาการนอนไม่พอ
00:11:34 → 00:11:37 สมมุติเที่ยวขับรถมันก็จะทำมาสู่อันตรใช่
00:11:37 → 00:11:40 เกิดอุบัติเหตุง่ายขึ้นบางทีอาจจะมีการ
00:11:40 → 00:11:44 หลับในถูกมันก็จะนำมาสู่แบบปัญหาตามอื่นๆ
00:11:44 → 00:11:47 ตามมาอันนี้ก็นอนนอนไม่พอเนี่ยตื่นมาขับ
00:11:47 → 00:11:50 รถเนี่ยการตัดสินใจเราไม่ดีด้วยถูกถูก
00:11:50 → 00:11:53 ต้องแล้วก็ไหวพริบปฏิภาณเราน้อยลเท่าเดิม
00:11:53 → 00:11:55 ไม่เท่าลงเออไม่เท่าเดิมใช่แล้วก็อันนี้
00:11:55 → 00:11:58 แค่ระยะสั้นนะแต่ที่รู้ป่ะว่าระยะยาวอ่ะ
00:11:58 → 00:12:01 มันมันทำให้เราเป็นโรคอื่นๆได้มากเลยคุณ
00:12:01 → 00:12:03 หมอบอกว่าแค่การนอนไม่พอมันทำให้เรา
00:12:03 → 00:12:07 เสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานความดันไขมัน
00:12:07 → 00:12:10 เส้นเลือดในสมองแตกหรือว่าแบบโรคหัวใจ
00:12:10 → 00:12:14 อะไรอย่าเงี้ยมันเสี่ยงเยอะมากๆใช่แค่แบบ
00:12:14 → 00:12:16 บางคนอาจจะคิดว่าเฮ้ยเท่นมันไม่หลับ
00:12:16 → 00:12:19 เดี๋ยวค่อยไปชดเชยเอาจริงๆอ่ะไม่ดีไม่ดี
00:12:19 → 00:12:21 ไม่ดีแล้วคุณหมอแนะนำเลยว่ามันชดเชยกัน
00:12:21 → 00:12:24 ไม่ได้นะสำหรับคนอย่างเราเราที่แบบสมมุติ
00:12:24 → 00:12:26 จะมีงาน 2 วันเนี้ยเราจะยุ่งมากๆเราจะโหม
00:12:26 → 00:12:29 งานไม่หลับไม่นอนไปเลยเดี๋ยวเสร็จงานแล้ว
00:12:29 → 00:12:31 ค่อยไปนอนทีเดียวอือคุณหมอบอกว่าไม่ได้
00:12:31 → 00:12:33 อันเนี้ยมันชดเชยกันไม่ได้ผิดเลยอันเนี้ย
00:12:33 → 00:12:36 ชดเชยกันไม่ได้ร่างกายเราไม่ง่ายขนาดนั้น
00:12:36 → 00:12:39 อิดออ่าเพราะฉะนั้นแนะนำว่าจัดแบ่งเวลา
00:12:39 → 00:12:41 การทำงานให้ดีแล้วก็มีเวลาให้ตัวเองพัก
00:12:41 → 00:12:43 ผ่อนให้เยอะๆดีกว่าเพราะฉะนั้นเที่ยวลอง
00:12:43 → 00:12:47 สังเกตตัวเองว่าอยู่ในสภาวะนอนไม่พอแล้ว
00:12:47 → 00:12:50 หรือยังมันมีวิธีสังเกตง่ายๆเช่นสมมุติ
00:12:50 → 00:12:53 เที่ยวลองสังเกตว่าวันทำงานของเที่ยวปกติ
00:12:53 → 00:12:56 ตื่นกี่โมงช่วงนี้ตื่น 8 นตื่น 8:00 น
00:12:56 → 00:12:58 แล้วถ้าเสาร์อาทิตย์ที่ไม่ต้องทำงานตื่น
00:12:58 → 00:13:00 กี่โมงครับไม่ต้องทำงานถ้าไม่มีใครปลุกผม
00:13:00 → 00:13:03 ก็เรื่อยๆยาวๆใช่ป่ะใช่แต่ว่าส่วนมากจะ
00:13:03 → 00:13:05 เด้งตอนประมาณ 11:00 นอ่ะแปลว่ามัน 11:00
00:13:05 → 00:13:07 นกับ 8:00 นเนี่ยห่างกันอยู่ประมาณ 2-3
00:13:07 → 00:13:10 ชั่วโมงใช่มยเด้งเองถูกป่ะแบบไม่มีนาฬิกา
00:13:10 → 00:13:13 ปลุกอันนี้ละค่ะที่คุณหมออ่ะแนะนำให้เรา
00:13:13 → 00:13:15 ทุกคนลองสังเกตตัวเองอ๋อให้เอามาเปรียบ
00:13:15 → 00:13:18 เทียบกันป่ะใช่เหมือนลองดูว่าถ้าวันปกติ
00:13:18 → 00:13:21 ที่เราตื่นไปทำงานน่ะมันคือเวลาไหนแล้ว
00:13:21 → 00:13:23 เสาร์อาทิตย์ที่เราไม่ต้องเจอนาฬิกาปเรา
00:13:23 → 00:13:26 ตื่นเวลาไหนถ้ามันห่างกันอยู่ที่ 2 2
00:13:26 → 00:13:29 ชั่วโมงเป็นต้นไปเนี่ยมันเป็นสัญแล้วว่า
00:13:29 → 00:13:31 ร่างกายเราเหนื่อยออเออแล้วเราอยู่ในภาวะ
00:13:32 → 00:13:35 นอนไม่พอออ่ะเพราะฉะนั้นเราต้องรีบปรับ
00:13:35 → 00:13:38 พฤติกรรมตัวเองอย่างที่เที่ยวบอกแหะกาแฟ
00:13:38 → 00:13:41 การดูหนังการออกกำลังกายลองกลับมาทบทวน
00:13:41 → 00:13:43 ตัวเองดูเออว่าเรามีพฤติกรรมแบบไหนในการ
00:13:43 → 00:13:46 ที่ทำให้เรานอนไม่พอค่ะอืเป็นไงเออนี้
00:13:46 → 00:13:49 เป็นทริกที่ผมไม่รู้นะเพราะผมไม่รู้ผมไม่
00:13:49 → 00:13:52 รู้ว่าการที่เราจะวัดว่าเรานอนไม่พอเนี่ย
00:13:52 → 00:13:55 เราต้องวัดจากอะไรอืใช่ถ้าร่างกายมันฟ้อง
00:13:55 → 00:13:56 มาแล้วว่าแบบเราเบออะไรเงี้ยผมก็แค่ง่วง
00:13:56 → 00:13:59 แล้วไปนอนก็อาจจะไม่รู้ว่าที่ๆจริงเรามัน
00:13:59 → 00:14:02 มีตัววัดแบบเอาเวลาที่เราตื่นจากนาฬิกา
00:14:02 → 00:14:04 ปลุกกับเราไม่ตั้งนาฬิกาปลุกเนี่ยมาวัด
00:14:04 → 00:14:06 กันนี้ต้องต้องผมต้องลองไปวัดแหละจริง
00:14:06 → 00:14:09 เพราะว่าแป้งเป็นแบบรู้ตัวเลยอ่ะเสาร์
00:14:09 → 00:14:11 อาทิตย์ถ้าไม่ตั้งนาฬิกาปูกลากยาวยาน
00:14:11 → 00:14:13 เที่ยงเลยเพราะมันเหนื่อยมากอะไอย่างี้
00:14:13 → 00:14:16 อ่ะโอเคมาต่อกันที่ประเด็นที่ 3 เลยใน
00:14:16 → 00:14:19 เรื่องของมนุษย์เมนค่ะครับซึ่งแป้งถาม
00:14:19 → 00:14:22 เที่ยวก่อนพอพอพูดถึงคำว่ามนุษย์เมน
00:14:22 → 00:14:25 เที่ยวนึกถึงอะไรมั่งปวดท้องอ่ะปวดท้อง
00:14:25 → 00:14:27 อารมณ์หงุดหงิดหงุดหงิดมีอะไรอีกเราทำ
00:14:28 → 00:14:31 อะไรก็ไม่ถูกใจอันนี้ความใน
00:14:31 → 00:14:34 ใจซึ่งอันเนี้ยถูกต้องเลยนะมันเป็นสับเซต
00:14:34 → 00:14:37 ของการเป็นมนุษย์เมนซึ่งมนุษย์เมนมันยัง
00:14:37 → 00:14:40 มีอีกหลายเค้าเรียกว่าอะไรหลายหลาย
00:14:40 → 00:14:43 เวอร์ชั่นใช่หลายหลายอาการหลายเวอร์ชั่น
00:14:43 → 00:14:45 ของผู้หญิงแล้วแต่ละคนน่ะเป็นไม่เหมซึ่ง
00:14:45 → 00:14:47 อาการมนุษย์เมนเนี่ยหนึ่งสิ่งที่เราเห็น
00:14:47 → 00:14:49 แบบ obvious เลยแล้วก็ผู้หญิงทุกคนน่ะน่า
00:14:49 → 00:14:52 จะมี experience รวมไปถึงคุณผู้ชายน่าจะ
00:14:52 → 00:14:54 แบบคุ้นชินคือไอ้อาการปวดท้องที่เที่ยว
00:14:54 → 00:14:56 บอกนั่นแหละซึ่งเที่ยวรู้มั้ยว่าคุณหมอ
00:14:56 → 00:14:58 บอกว่าไอ้อาการปวดท้องเมนเนี่ยครับครับ
00:14:58 → 00:15:02 มันมี 2 แบบคือแบ่งเป็นแบบที่มีโรคแล้วก็
00:15:02 → 00:15:05 ไม่มีโรคด้วยนะเหรอเออซึ่งคนที่ปวดท้อง
00:15:05 → 00:15:08 อาจจะเป็นรูปแบบปวดท้องแต่ไม่มีโรคก็ได้
00:15:08 → 00:15:10 หรือคนที่ไม่ปวดท้องเมนเลยอาจจะมีโรคก็
00:15:10 → 00:15:13 ได้จริงๆมันยังมีความเสี่ยงอื่นๆที่เรา
00:15:13 → 00:15:17 ไม่รู้อย่างเช่นอาจจะมีเนื้องอกหรือว่ามี
00:15:17 → 00:15:21 ซีดไปอยู่ในตำแหน่งที่กดให้เราไม่ปวดอื
00:15:21 → 00:15:24 บางคนน่ะจะเกิดไม่เหมือนกันซึ่งกรณีเนี้ย
00:15:24 → 00:15:26 คอมันเป็นเรื่องของภายในอ่ะก็แนะนำอยากจะ
00:15:26 → 00:15:29 ให้ไปตรวจก่อนถูกเพราะว่าแบบอย่างแป้งอ่ะ
00:15:29 → 00:15:31 เป็นคนนึงที่ก่อนหน้าเนี้ยเป็นคนดื้อไม่
00:15:32 → 00:15:34 ชอบไปหาหมอเราก็จะคิดว่าเราทนได้เรากินยา
00:15:34 → 00:15:38 เราก็หายเออเดี๋ยวมันก็หายและแต่ว่าจริงๆ
00:15:38 → 00:15:40 คุณหมอบอกว่าไม่อยากให้ทนไม่ว่าจะเป็น
00:15:40 → 00:15:42 อาการปวดอะไรก็ตามนะไม่ใช่แค่ปวดท้องเมน
00:15:42 → 00:15:45 ปวดหลังเองด้วยซ้ำอือหมอบอกว่าไม่ต้องทน
00:15:45 → 00:15:48 คุณบอกว่าแบบเหมือนคนไทยเราอ่ะผู้หญิง
00:15:48 → 00:15:51 ด้วยนะแบบผู้หญิงคนไทยเนี่ยมองว่าแบบเป็น
00:15:51 → 00:15:55 คนทนเก่งอ่าเออเป็นคนแบบทนนิดนึงเดี๋ยวก็
00:15:55 → 00:15:57 หายแล้วเราทนกันเก่งมากๆอะไรเงี้ยค่ะแต่
00:15:57 → 00:15:59 ว่าจริงๆแล้วอ่ะไม่ต้องทนแล้วก็ไม่ต้อง
00:16:00 → 00:16:03 อายคุณหมอด้วยนะเพราะว่าผู้หญิงบางคนจะมี
00:16:03 → 00:16:05 ความคิดว่าแบบการตรวจภายในมันคือการต้อง
00:16:05 → 00:16:08 ขึ้นเตียงอย่างขาแต่คุณหมอเนี่ยบอกว่า
00:16:08 → 00:16:12 เอ่อการตรวจมันมีหลายแบบมากๆเมันมีทั้ง
00:16:12 → 00:16:15 การใช้อัลตร้าซาวมันมีทั้งการแบบรักษาแบบ
00:16:15 → 00:16:17 กินยาหรืออะไรที่ไม่ได้ต้องขึ้นขายอย่าง
00:16:17 → 00:16:19 เสมอไปเพราะฉะนั้นถ้าเรากังวลตรงนี้เรา
00:16:19 → 00:16:21 อยากตรวจแต่เราไม่อยากขึ้นขายอย่างปรึกษา
00:16:21 → 00:16:24 คุณหมอได้คุณหมอก่อนดีกว่าเออว่าแบบเขามี
00:16:24 → 00:16:29 วิธีไหนที่ตอบรับกับความเอ่อคอิต่างๆของ
00:16:29 → 00:16:31 ซึ่งสิ่งนึงที่แป้งเกิดมา 25 ปีแป้งไม่
00:16:31 → 00:16:33 เคยรู้เลยเยวเพิ่งมารู้ตอนอัดรายการกับ
00:16:34 → 00:16:36 คุณหมอคือคือไอ้อาการปวดท้องเมนน่ะเรา
00:16:36 → 00:16:40 สามารถกินยาดักได้นะเหรอเออก็คือถ้าเรา
00:16:40 → 00:16:42 ถ้าเรารู้สึกว่าเราจะมีเมนแล้วประจำเดือน
00:16:42 → 00:16:44 กำลังจะมากินได้เลยกินได้เลยคือผู้หญิง
00:16:44 → 00:16:47 บางคนรวมถึงแป้งเองค่อยไปกินตอนเราปวด
00:16:47 → 00:16:50 แล้วซึ่งไอ้อาการเน่ะยามันจะทำให้เราอ่ะ
00:16:50 → 00:16:53 หายปวดได้ช้ากว่ารวมไปถึงเราต้องไปนั่ง
00:16:53 → 00:16:56 ทรมานปวดก่อนแต่คุณหมอบอกว่าไม่กินเลย
00:16:56 → 00:16:59 ซึ่งไอไอไอการกินยาดักอ่ะคุณหมอก็จะแนะนำ
00:16:59 → 00:17:02 เป็นกลุ่มไอบู profen ค่ะใช่ก็คือสามารถ
00:17:02 → 00:17:05 กินตัวเนี้ยดักได้แบบดักไปก่อนเลยแล้วก็
00:17:05 → 00:17:07 ไปปรึกษาคุณหมอก่อนนะก่อนที่จะทันยาอะไร
00:17:07 → 00:17:11 รวมไปถึงเภสัชก็ได้ค่ะว่ายา 1 ตัวการกิน
00:17:11 → 00:17:14 เว้นระยะห่างชั่วโมงมันต้องเท่าไหร่อ่า
00:17:14 → 00:17:18 แต่ว่ามันกินดักไปเลยเออซึ่งคนที่จะกินยา
00:17:18 → 00:17:20 ดักได้นะคะก็อยากให้ไปเช็คกันก่อนว่าแล้ว
00:17:20 → 00:17:22 เราอ่ะมีโรคอื่นๆแทรกซอนหรือเปล่าก่อนที่
00:17:23 → 00:17:25 เราจะไปกินยาแบบตรงนี้เนาะอย่างเช่น
00:17:25 → 00:17:28 สมมุติแบบบางคนปวดท้องแบบมีโรคอื่นๆแทรก
00:17:28 → 00:17:32 สอนยาบางตัวมันกินด้วยกันไม่ได้แล้วก็มัน
00:17:32 → 00:17:34 มีประเด็นแป้งเคยถามคุณหมอไปว่าอย่าง
00:17:34 → 00:17:36 เพื่อนแป้งอย่างเงี้ยครับไม่ปวดท้องเลย
00:17:36 → 00:17:40 เที่ยวแต่แป้งปวดท้องหนักมากเออกรณีนี้
00:17:40 → 00:17:43 เนี่ยใครผิดปกติกันแน่คือคุณหมออ่ะแนะนำ
00:17:43 → 00:17:46 ให้สังเกตอาการว่าสำหรับคนที่ปวดก่อนนะ
00:17:46 → 00:17:48 ครับปวดแล้วยังปกติอยู่อ่ะมันจะเป็นความ
00:17:48 → 00:17:50 ปวดที่ทนได้ความปวดที่ทนได้คืออะไรการปวด
00:17:50 → 00:17:52 ท้องเมนไม่แน่เที่ยวอาจจะไม่เข้าใจแต่ว่า
00:17:52 → 00:17:55 มันจะเป็นการปวดอยู่ตรงทองน้อยตรงกลาง
00:17:55 → 00:17:59 หน่วงๆเหมือนมีอะไรบีบเราอยู่ข้างในเกรงเ
00:17:59 → 00:18:03 เกร็งๆใช่ซึ่งการปวดที่ยังปกติอยู่คือการ
00:18:03 → 00:18:06 ปวดที่เรายังทนได้และการปวดอยู่ตรงกลาง
00:18:06 → 00:18:09 นี้เท่านั้นอ๋อเออไม่มีการปวดเอียงไปทาง
00:18:09 → 00:18:12 ซ้ายไปทางขวาหรือว่าไม่มีการปวดร้าวลงไป
00:18:12 → 00:18:14 ที่อื่นไม่มีการปวดร้าวไปถึงหลังหรือขึ้น
00:18:14 → 00:18:16 มาถึงสมองอะไรอย่างเงี้ยอเหรออันเนี้ยคือ
00:18:16 → 00:18:19 ปกติอ่าอันนี้คือปกติใช่แต่ถ้ามันเกิดการ
00:18:19 → 00:18:22 เอียงเกิดการลามการปวดไปตรงส่วนอื่นๆแล้ว
00:18:22 → 00:18:24 หรือว่ามีอาการอื่นๆร่วมอย่างเช่นผู้หญิง
00:18:24 → 00:18:27 บางคนอย่างแป้งเองก็เป็นแบบบางคนแบบท้อง
00:18:27 → 00:18:30 เสียด้วยเวลาประดหรือว่าแบบปัสสาวะบ่อย
00:18:30 → 00:18:33 กว่าปกติเป็นไข้เป็นไข้อันเนี้ยไม่ปกติ
00:18:33 → 00:18:36 ไม่ปกติอันเนี้ยควรไปหาคุณหมอเฉพาะทาง
00:18:36 → 00:18:38 ซึ่งพอเราพูดกันถึงเรื่องประเด็นปวดของ
00:18:38 → 00:18:40 เมนแล้วเนี่ยแป้งอยากชวนเที่ยวคุยอีก
00:18:40 → 00:18:42 เรื่องนึงประเด็นสุดท้ายค่ะที่มันพ่วงมา
00:18:42 → 00:18:45 จากการปรวดประจำเดือนสุด้ายนั่นก็คือ
00:18:45 → 00:18:48 เรื่องของยาคุมกำเนิดค่ะอ่าอ่าถามเที่ยว
00:18:48 → 00:18:50 ก่อนเลยเที่ยวรู้จักอะไรบ้างอรู้จัก 3
00:18:50 → 00:18:53 ตัว 3 ตัวเท่านั้นเลยโอเคมีอะไรบ้างค่ะ
00:18:53 → 00:18:55 แต่ไม่รู้จะพูดชื่อถูกหรือเปล่านะได้ยา
00:18:55 → 00:18:57 คุมอันแรกที่รู้จักก็คือยคุมแบบเป็นเป็น
00:18:57 → 00:19:01 เดือนอืแบบกินที่กินทุกวันโอเคกินตามวัน
00:19:01 → 00:19:04 อือแบบ 2 คือยาคุมฉุกเฉินยาคุมฉุกเฉิน 3
00:19:04 → 00:19:07 คือแบบฝังแบบฝบบฝังฝังเอ่าใช่อ่าซึ่ง
00:19:07 → 00:19:09 เที่ยวรู้จักแค่นี้ถูกยคอ่ะเพราะฉะนั้น
00:19:09 → 00:19:12 เนี่ยแหละเป็นโอกาสดีมากๆที่แบงอยากจะแนะ
00:19:12 → 00:19:14 นำความรู้เพิ่มเติมให้เที่ยวแล้วกันพอเรา
00:19:14 → 00:19:16 พูดถึงจักรวาลยาคุมเนี่ยคุณหมอใช้คำว่า
00:19:16 → 00:19:20 มันมันคือจักรวาลเลยนะเหรอว่าเยอะมากเยอะ
00:19:20 → 00:19:23 มากเลยเยอะมาก ep นั้นน่ะเรายังแตะไม่ครบ
00:19:23 → 00:19:27 ด้วยซ้ำอ่าแต่ว่าหลักๆที่แบ่งออกเป็น 2
00:19:27 → 00:19:30 แบบให้เที่ยวได้จะกันเนามันก็คือการใช้
00:19:30 → 00:19:32 หยาคุมแบบมีฮอร์โมนแล้วก็ไม่มีฮอร์โมนค่ะ
00:19:33 → 00:19:34 อย่างไอ้พวกไม่มีฮอร์โมนเี่คืออะไรก็
00:19:34 → 00:19:37 อย่างเช่นแบบห่วงคุมกำเนิดรู้จักห่วงคุม
00:19:37 → 00:19:39 กำเนิดป่ะอ๋อรู้จักเออมันจะเป็นเหมือน
00:19:39 → 00:19:41 แท่งตัวทีฝันไว้ในแบบช่วงช่วงของหลูกผู้
00:19:41 → 00:19:44 หญิงอันนี้คือป้องกันการคุมกำเนิดโดย
00:19:44 → 00:19:46 เฉพาะแต่ว่าจะไม่มีฮอร์โมนแต่อย่างที่มี
00:19:46 → 00:19:48 ฮอร์โมนอย่างที่เที่ยวรู้เลยแบบกินแบบกิน
00:19:48 → 00:19:51 ฉุกเฉินหรือแบบฝังหรือแบบฉีดอ่ะอันเนี้ย
00:19:51 → 00:19:55 คือแบบที่มีฮอร์โมนซึ่งการเลือกใช้เอ่อยา
00:19:55 → 00:19:59 คุมในแต่ละคนน่ะค่ะมันจะต้องคำนึงถึง
00:19:59 → 00:20:02 คของแต่ละคนต่างกันไปอย่างเช่นคุณหมอจะมี
00:20:02 → 00:20:04 การวินิจฉัยเยอะมากนะคะอยากชวนทุกคนกลับ
00:20:04 → 00:20:06 ไปดูใน EP นั้นคุณหมออธิบายละเอียดมากแต่
00:20:06 → 00:20:10 ว่าแป้งสรุปวิธีการมาให้จำง่ายๆเป็น 4 ป
00:20:10 → 00:20:13 ปา 4 ปปา 4 ปปล่าอย่างปแรกเนี่ยนั่นก็คือ
00:20:13 → 00:20:16 ในเรื่องของความปลอดภัยค่ะนั่นก็คือเราจะ
00:20:16 → 00:20:18 ต้องคำนึงถึงว่าเรามีโรคอื่นๆอยู่ในตัว
00:20:18 → 00:20:20 เราด้วยหรือเปล่าอย่างเช่นเป็นมะเร็งเต้า
00:20:20 → 00:20:23 นมหรือว่ามีการปวดหัวไมเกรนมีโรคประจำตัว
00:20:23 → 00:20:26 อื่นๆอะไรอย่างเช่นโรคอ้วนหรือเปล่าซึ่ง
00:20:26 → 00:20:28 โรคอื่นๆเหล่านี้ค่ะอาจจะสผลให้เราอ่ะ
00:20:28 → 00:20:31 ต้องใช้ยาคุมในรูปแบบที่ไม่มีฮอร์โมน
00:20:31 → 00:20:32 เพื่อที่มันจะได้ไม่ไปกระทบส่วนอื่นๆที่
00:20:32 → 00:20:35 เรามีอยู่อันนี้คือเรื่องของความปลอดภัย
00:20:35 → 00:20:37 ในการเลือกใช้ยาคุมนะ 2 คือในเรื่องของ
00:20:37 → 00:20:39 ประสิทธิภาพค่ะคุณหมอเนี่ยอาจจะมีการ
00:20:39 → 00:20:41 เหมือนเซกเช็คประวัติเคยใช้วิธีการคุม
00:20:41 → 00:20:44 กำเนิดรูปแบบไหนมาแล้วบ้างใช้แบบไหนแล้ว
00:20:44 → 00:20:47 ดีใช้แบบไหนแล้วชอบก็บางคนอาจจะเคยแค่แบบ
00:20:47 → 00:20:49 ถุงยางอย่างเดียวเอซึ่งถุงยางเป็นหนึ่งใน
00:20:49 → 00:20:51 วิธีการคุมกำเนิดเหมือนกันอ่าซึ่งบางคน
00:20:51 → 00:20:53 อาจจะเคยลองแค่ถุงยางเลยค่ะคุณหมออะไร
00:20:53 → 00:20:57 อย่างเงี้ยแต่ว่าหนูมีโรคแบบปวดท้องเมน
00:20:57 → 00:21:00 หนักมากเลย
00:21:00 → 00:21:04 อินเป็นการแบบยกินที่มีฮอโมนฮมใช่เพื่อ
00:21:04 → 00:21:07 ที่คือยากินแบบมีคือแบบยาคุกำเนิดที่มี
00:21:07 → 00:21:09 ฮอร์โมนเนี่ยมันช่วยให้เราปวดทองน้อยลง
00:21:09 → 00:21:11 ถูกนี่กำลังจะพูดถึงอันต่อไปเลยใช่นั่น
00:21:11 → 00:21:14 คือปอที่ 3 คือเรื่องของประโยชน์ประโยชน
00:21:14 → 00:21:17 อ่ะหลายๆคนน่ะพูดถึงคำว่าการคุมกำเนิดอ่ะ
00:21:17 → 00:21:20 อาจจะนึกถึงแค่ว่าเพราะว่าไม่อยากท้องแต่
00:21:20 → 00:21:22 จริงๆอ่ะประโยชน์ของการใช้หญคุมอ่ะมันมี
00:21:22 → 00:21:26 หลายแบบมากๆเยวอย่างที่แป้งบอกพอประจำพอ
00:21:26 → 00:21:28 เราใช้หญาคุมแบบมีฮอร์โมนเนี่ยมันจะ
00:21:28 → 00:21:31 สามารถไปปรับในเรื่องของฮอร์โมนเราให้ดี
00:21:31 → 00:21:34 ขึ้นการเมนมาเนี่ยตรงรอบมากขึ้นรวมไปถึง
00:21:34 → 00:21:37 เลือดไหลในในเเรียกว่าอะไรปริมาณที่ปกติ
00:21:37 → 00:21:40 แล้วก็การปวดท้องน้อยลงหรือแม้กระทั่งสิว
00:21:41 → 00:21:44 แต่แต่บางคนก็จะใช้ฮอร์โมนแล้วก็แบบบอก
00:21:44 → 00:21:46 เหมือนกันนะว่าอ้วนขึ้นแล้วแต่คนแล้วแต่
00:21:46 → 00:21:49 คนแล้วแต่ฮอร์โมนซึ่งในการกินคยาคุม
00:21:49 → 00:21:52 เที่ยวรู้ไมมว่ามันมันไม่ได้จบแค่ยาคุม
00:21:52 → 00:21:54 แบบกินด้วยนะมันแบ่งเลยว่าโอเคมันมีมันมี
00:21:54 → 00:21:57 ยาคุมที่มีฮอร์โมนถูกป่ะฮอร์โมนน่ะแบ่งลง
00:21:57 → 00:21:59 ไปอีกว่ามีฮอร์โมนกี่เปอร์เซ็นตเหรอเออ
00:21:59 → 00:22:02 ตั้งแต่แบบ 15% 20 คือไล่ไปเลยซึ่งการ
00:22:02 → 00:22:04 เลือกยาคุมแบบไหนให้เหมาะกับตัวเองเนี่ย
00:22:04 → 00:22:07 มันต้องไปดูอีกว่าร่างกายเราอ่ะต้องการ
00:22:07 → 00:22:09 ฮอร์โมนเพไปเพิ่มเท่าไหร่ซึ่งสิ่งเนี้ย
00:22:09 → 00:22:11 เราไม่สามารถรู้ได้ด้วยตัวเองไงต้องหาคุณ
00:22:11 → 00:22:13 หมอต้องหาคุณหมอดีกว่าให้คุณหมอช่วยกัน
00:22:13 → 00:22:15 ประเมินค่ะเพื่อที่เราจะสามารถเลือกยาคุม
00:22:15 → 00:22:18 ได้ตอบโจทย์ประโยชน์ที่เราจะได้สูงสุด
00:22:18 → 00:22:19 แล้วก็เพิ่มความปลอดภัยในเรื่องของแบบ
00:22:19 → 00:22:21 สุขภาพเรารวมถึงการตั้งครรภ์แล้วก็ได้
00:22:21 → 00:22:23 ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นแป้งแอดให้อีกข้อนึง
00:22:23 → 00:22:26 ปอที่ 4 ข้อที่ 4 ปอที่ 4 นั่นก็คือใน
00:22:26 → 00:22:29 เรื่องของเป้าหมายค่ะเหมายอยากให้ทุกคน
00:22:29 → 00:22:31 ลองถามตัวเองว่าเราใช้หญ้าคุมเนี่ยมีเป้า
00:22:31 → 00:22:34 หมายเพื่ออะไรคุณหมอเนี่ยแนะนำว่าเออมัน
00:22:34 → 00:22:37 อยู่ที่การแบบชีวิตคู่ความสัมพันธ์ด้วย
00:22:37 → 00:22:40 อย่างเช่นสมมุติเที่ยวมีคนข้างกายเรายัง
00:22:40 → 00:22:44 แพลนว่ายังไม่อยากมีน้องเร็วๆนี้ดูระยะ
00:22:44 → 00:22:47 เวลาไกลๆเลยนู่น 3 ปี 5 ปีแป้นก็จะแนะนำ
00:22:47 → 00:22:51 เป็นรอบเดียวคือฝังดีกว่าอเพราะฝั่งเคุ
00:22:51 → 00:22:53 มันเริ่มต้นอยู่ได้ตั้งแต่ 3 ปี 3 ปีไป
00:22:53 → 00:22:56 ถึง 5 ปีเลยคือครั้งเดียวจบจ่ายเงินรอบ
00:22:56 → 00:23:00 เดียวอ่ะแต่ถ้าถ้าอย่างบางคนค่ะแฟนสมมุติ
00:23:00 → 00:23:03 ทำงานไกลกันคุณหมอยกตัวอย่างเป็นแฟน
00:23:03 → 00:23:05 สมมุติผู้หญิงอยู่บ้านแต่แฟนต้องไปออก
00:23:05 → 00:23:08 เรือเดือนนึงกลับมาทีนึงอ่ะจะไปนั่งกิน
00:23:08 → 00:23:10 ฮอร์โมนทุกเดือนทุเดือนเนี่ยมันก็อาจจะ
00:23:10 → 00:23:13 ไม่จำเป็นอาจจะมาใช้แค่วิธีการใช้ถุงยาง
00:23:13 → 00:23:15 ก็ได้อ่าเพราะว่ามันนานๆเรามีกันทีนึง
00:23:15 → 00:23:19 เนาะรวมไปถึงการใช้หญาคุมแบบฉุกเฉินเนี่ย
00:23:19 → 00:23:22 คุณหมอก็แนะนำว่าอย่าใช้บ่อยใช่ใช่เพราะ
00:23:22 → 00:23:24 การใช้ 1 ครั้งอ่ะมันกระทบกับฮอร์โมนของ
00:23:24 → 00:23:26 ผู้หญิงในร่างกายหมดเลยโอกาสการป้องกัน
00:23:26 → 00:23:29 น่ะเขาไม่ได้ 100% ในเรื่องของการตั้งร์
00:23:29 → 00:23:32 ด้วยรวมไปถึงมันเฟฟฮอร์โมนผู้หญิงด้วยบก
00:23:32 → 00:23:35 ไปถึงการโอกาสที่จะมีน้องเนี่ยมันยัง
00:23:35 → 00:23:38 สามารถถูกต้องเพราะว่าชื่อมันก็บอกอยู่
00:23:38 → 00:23:41 แล้วมันแค่ฉุกเฉินเราไม่ควรใช้บ่อยซึ่งมี
00:23:41 → 00:23:45 คำถามนึงแป้งถามเที่ยวเรู้ไหมว่าการฝังยา
00:23:45 → 00:23:47 คุมของผู้หญิงเนี่ยจะทำให้เมน์ไม่มาไม่
00:23:47 → 00:23:49 รู้อันนี้ไม่เคยรู้มาก่อนเลยไม่รู้จริงๆ
00:23:49 → 00:23:53 จริงๆเหรอใช่อ่ะงั้นถามก่อนว่าคือฝั่ง
00:23:53 → 00:23:55 ฝั่งยคุมแล้วไม่เป็นเมนไม่เป็นเมนเลยเหรอ
00:23:55 → 00:23:57 อันนี้แล้วแต่คนนะอ่ะพอแป้งพูดอย่างเงี้ย
00:23:57 → 00:23:59 ที่เรารู้สึกยังไงบ้างรู้สึกว่ามันน่า
00:23:59 → 00:24:02 กลัวมยกับการไม่มีรู้สึกยังไงก็ผมอ่ะคือ
00:24:02 → 00:24:04 อาเคยเคยคุยกับเพื่อนผู้หญิงหรือว่าน้อง
00:24:04 → 00:24:07 สาวอะไรเงี้ยก็จะบอกว่ามีเมนมันแบบมันทำ
00:24:07 → 00:24:11 ให้แบบชีวิตแบบเหนื่อยอ่ะถูกแบบมันปวด
00:24:11 → 00:24:13 ท้องอะไรอย่างเงี้ยใช้ทำอะไรก็ไม่สะดวก
00:24:13 → 00:24:15 อุดหงิดเหมือนเขาก็รู้สึกว่าเอถ้าไม่มี
00:24:15 → 00:24:19 เมนก็ก็คงจะใช้ชีวิตง่ายขึ้นอ้าจริงๆ
00:24:19 → 00:24:21 อันเนี้ยเป็นเหตุผลหลักที่แป้งตัดสินใจไป
00:24:21 → 00:24:24 ฝังยคุ้มเว้ยเออเพราะว่าเล่าต่อว่าอย่าง
00:24:24 → 00:24:26 ตอนนั้นที่พอไปพบคุณหมอแล้วอ่ะคุณหมอก็
00:24:26 → 00:24:29 แนะนำเป็นการไปฉีดดีกว่าอ่าการไปฉมันต้อง
00:24:29 → 00:24:32 ไปที่โรงพยาบาลฉให้แลต้องไปเติมทุก 3
00:24:32 → 00:24:34 เดือนอ๋ออ่าซึ่งอันนี้ก็แบกลับมาที่ไสล
00:24:34 → 00:24:37 ของแป้งว่าไม่สามารถไปโรงพยาบาลได้ทุก 3
00:24:37 → 00:24:39 เดือนรวมไปถึงให้แป้งกินยาคุมเนี่ยเป็นไป
00:24:39 → 00:24:42 ไม่ได้เพราะว่าไม่ชอบกินยาแล้วก็ขี้ลืม
00:24:42 → 00:24:45 ด้วยอ่าก็เลยตัดสินใจฝังเลยฝังเลยซึ่งฝัง
00:24:45 → 00:24:48 รอบเดียวจบจริงๆแล้วก็ในส่วนตัวแป้งนะ
00:24:48 → 00:24:51 แป้งไม่มีเมนเลยเที่ยวแล้วแบบใช้ชีวิต
00:24:51 → 00:24:53 ง่ายมากแต่ทางนี้ก็แล้วแต่คนเพราะว่าแป้ง
00:24:53 → 00:24:56 ก็มีคนรู้จักที่ไปฝังยคุมแล้วเกิดเหตุ
00:24:56 → 00:24:58 การณ์แบบเออเมนมากระปริบกระปอยเรื่อยๆไม่
00:24:58 → 00:25:01 หยุดหรือว่าเมนมาแบบยังมีเมนส์มาตามปกติ
00:25:01 → 00:25:04 อยู่อันเนี้ยค่ะมันก็มีวิธีการรักษาลงไป
00:25:04 → 00:25:06 อีกอ่าอย่างเช่นถ้าคนที่เป็นเมนมากระปิบ
00:25:06 → 00:25:09 กระปอยคุณหมอก็จะมียาให้ทานอืออ่าหรือว่า
00:25:09 → 00:25:12 วิธีการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคนแต่ละคน
00:25:12 → 00:25:15 ไปซึ่งแป้งอยากถามเที่ยวว่าถ้าสมมุติแป้ง
00:25:15 → 00:25:17 บอกว่าแป้งเมนไม่มาเนี่ยเที่ยวรู้มมว่า
00:25:17 → 00:25:20 แบบคิดมั้ยว่าร่างกายแป้งไม่ได้ขับของ
00:25:20 → 00:25:22 เสียหรือเลือดมันไม่ได้ไหลออกมามันคิดยัง
00:25:22 → 00:25:25 ไงเพราะตอนไเด็กเรียนมาเขาบอกว่าผู้หญิง
00:25:25 → 00:25:29 ก็คือเมนเมนก็คือแบบเลือกที่เสียอืขับออก
00:25:29 → 00:25:31 มาจริงๆแล้วอ่ะมันไม่ใช่มันไม่ใช่ไม่ใช่
00:25:31 → 00:25:34 เลยเพราะว่าถามว่าไม่ใช่เลย 100% มั้ย
00:25:34 → 00:25:35 ต้องต้องอยากให้ทุกคนกลับไปฟังที่คุณหมอ
00:25:35 → 00:25:37 อธิบายอย่างถูกต้องนะคะแต่ว่าที่แป้งจะมา
00:25:37 → 00:25:39 สรุปให้ฟังเนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยเลือดของ
00:25:39 → 00:25:41 เมนสน่ะค่ะมันไม่ใช่เลือดเสียที่ร่างกาย
00:25:41 → 00:25:44 เราขับออกแต่มันคือการที่เยื่อบุพงมดลูก
00:25:44 → 00:25:47 ของเราเนี่ยมันไม่ได้เกิดการถูกการแบบฝัง
00:25:47 → 00:25:50 ด้วยอสุจิไม่ได้เกิดการปฏิสนธิละกันอ่า
00:25:50 → 00:25:53 มันก็แค่เี้บุตรงนั้นมันก็แค่ไหลออกมาอ๋อ
00:25:53 → 00:25:55 แต่มันไม่ใช่การขับเลือดคั่งหรืออะไรที่
00:25:55 → 00:25:58 อยู่ในร่างกายเราไหลออกมาผนี้ไม่ใช่แล้ว
00:25:58 → 00:26:00 ก็การใช้หญ้าคุมแบบฝังหรือว่าการใช้หญ้า
00:26:00 → 00:26:02 คุมแบบอื่นๆที่ทำให้เราเมนไม่มาเนี่ย
00:26:02 → 00:26:04 เลือดมันก็ไม่ได้ไปค้างอยู่ส่วนไหนนะคือ
00:26:04 → 00:26:07 คุณหมอเนี่ยเล่าให้ฟังว่าต้องต้องเล่าให้
00:26:07 → 00:26:09 เห็นภาพอย่างงี้ว่ายาคุมอยู่นี่ใช่ป่ะอ
00:26:09 → 00:26:13 มันออกฤทธิ์ไปที่สมองเออพอมันออกฤทธิ์ไป
00:26:13 → 00:26:15 ที่สมองมาสมองมาจะสั่งการว่าเฮ้ยรังไข่ยู
00:26:15 → 00:26:18 ไม่ต้องสร้างไข่นะอ๋อเออยูไม่ต้องสร้าง
00:26:18 → 00:26:21 ไข่สิ่งเนี้ยขึ้นมานะซึ่งพอรังไข่มันไม่
00:26:21 → 00:26:23 สร้างเนี่ยเยื่อบุมันจะไม่หนาขึ้นเพราะ
00:26:23 → 00:26:26 เยื่อบุโพงตรงรังไขมันไม่หนาขึ้นเนี่ยแม้
00:26:26 → 00:26:29 ว่าจะไปติดเอ่อจะมีการมีเพศสัมพันธ์และมี
00:26:29 → 00:26:32 อสุจิไหลเข้ามาเนี่ยแต่เยื่อบุพพมลูกตรง
00:26:33 → 00:26:34 เนี้ยของเราไม่ได้ถูกสร้างขึ้นไม่มีใคร
00:26:34 → 00:26:37 อยู่ตรงนั้นอ๋อไม่มีใครตกไปไม่มีใครตกลง
00:26:37 → 00:26:39 ไปการเข้ามาของอุจิก็ไม่สามารถทำให้เรา
00:26:39 → 00:26:42 ตั้งคันได้อยู่ดีนึกออกป่ะอ๋อนึกออกเออ
00:26:42 → 00:26:44 คือเหมือนฟังก์ชันการทำงานของของเมนน่ะ
00:26:44 → 00:26:46 มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นด้วยสมองตั้งแต่แรก
00:26:46 → 00:26:49 เพราะฉะนั้นล้างความคิดว่าเลือดเสียเลือด
00:26:49 → 00:26:51 คลั่งเลือดค้างอันนี้ไม่มีเลยใช่ผมเข้าใจ
00:26:51 → 00:26:54 ผิดอืทุกคนหลายคนเข้าใจผิดใช่รวมไปถึงผู้
00:26:55 → 00:26:57 หญิงด้วยกันน่ะบางคนยังไม่เข้าใจความตรง
00:26:57 → 00:26:59 นี้เลยว่าแบบเฮ้ยแล้วถ้าฉันไม่มีเมน์แล้ว
00:26:59 → 00:27:01 ฉันจะเป็นยังไงอะไรอย่างเงี้ยร่างกายมัน
00:27:01 → 00:27:03 จะเป็นยังไงก็เป็นตัวแทนของคนที่ฝังมา
00:27:03 → 00:27:05 แล้ว 4 ปีนะคะร่างกายปกติทุกอย่างนะคะออ
00:27:05 → 00:27:08 โอเคเป็นไงบ้า่งวันนี้ได้ความรู้เยอะมาก
00:27:09 → 00:27:11 พี่บางเรื่องก็ไม่รู้ทั้งเรื่องการนอนปลด
00:27:11 → 00:27:14 หลังเรื่องเมนแล้วก็เรื่องยาคุมเรื่องสุด
00:27:14 → 00:27:16 ท้ายเนี่ยออันนี้ใจยาคุมก็เซอร์ไพรส์มาก
00:27:16 → 00:27:19 ว่าฝั่งยาคุมเนี่ยมันทำให้แบบบางคนก็ไม่
00:27:19 → 00:27:21 มีเมนหรือว่าเอฟเฟคมันก็แล้วแต่คนแนะนำ
00:27:21 → 00:27:23 ทุกคนว่าถ้าหากว่าอยากไปฟังเนี่ยก็ขอคำ
00:27:23 → 00:27:24 ปรึกษากับคุณหมอดีกว่าใช่เพราะว่าอยากที่
00:27:24 → 00:27:27 แจ้มันมีเอฟเฟคลงไปถึงส่วนอื่นๆในร่างกาย
00:27:27 → 00:27:29 เราด้วยบางคนอาจจะมีโรคอื่นๆแอบแฝงที่เรา
00:27:29 → 00:27:33 ไม่รู้หรือว่าแพ้ยาตัวไหนหรือว่าตัวไหน
00:27:33 → 00:27:35 ไม่ถูกกับตัวไหนอะไรอย่างเงี้ยค่ะแนะนำ
00:27:35 → 00:27:37 ว่าอย่าเพิ่งตัดสินใจเองหาข้อมูลเบื้อง
00:27:37 → 00:27:40 ต้นได้ดูจากรายการของพวกเราก่อนได้ค่ะ
00:27:40 → 00:27:42 ก่อนที่เราจะไปพูดคุยกับคุณหมอดีกว่าอ่า
00:27:42 → 00:27:44 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการจะเลือกใช้ทั้งยา
00:27:44 → 00:27:47 แล้วก็การปรับพฤติกรรมต่างๆของตัวเอง
00:27:47 → 00:27:49 เนี่ยมันต้องมาคู่กันใช่อ่าเพราะต่อให้
00:27:49 → 00:27:52 เราไปรักษากับคุณหมอทานยาแล้วทานยแต่เรา
00:27:52 → 00:27:53 ไม่เปลี่ยนตัวเองแต่เราไม่เปลี่ยนตัวเองอ
00:27:53 → 00:27:55 มันก็เหมือนเดิมใช่มันก็เหมือนเดิมแล้วก็
00:27:55 → 00:27:58 มันจะสามารถมันมันก็จะไม่หหายไปอาการ
00:27:58 → 00:28:00 เหล่านี้เพราะฉะนั้นเดี๋ยว EP ต่อๆไปค่ะ
00:28:00 → 00:28:03 ก็อยากเชชิญทุกคนติดตามนะคะว่าแป้งและคุณ
00:28:03 → 00:28:06 หมอโอจะเอาเกรดความรู้จะเอาความรู้ดีๆ
00:28:06 → 00:28:08 เกี่ยวกับการดูแลตัวเองการดูแลสุขภาพใน
00:28:08 → 00:28:11 เรื่องไหนมาฝากกันก็อยากให้ทุกคน Stay
00:28:11 → 00:28:13 Tune นะคะติดตามเรากันได้ในรายการนิ
00:28:13 → 00:28:16 เฮอร์ทุกวันพุธ 20:00 นค่ะวันเนี้มันแค่
00:28:16 → 00:28:18 บางส่วนที่แป้งเอาามาสรุปกับเที่ยวให้ฟัง
00:28:18 → 00:28:21 แต่แป้งแน่นอนว่า EP ต่อๆไปเที่ยวจะมี
00:28:21 → 00:28:23 เรื่องว้าวกว่านี้อีกมากมายผมว้าวแค่นี้
00:28:23 → 00:28:25 ผมก็ว้าวแหละว้าวเนาะแบบแค่ตอนนั่งคุยกับ
00:28:25 → 00:28:28 คุณหมอก็ว้าวมากๆเอออยากให้ทุกคนไปดูตัว
00:28:28 → 00:28:31 เต็มจาก EP ก่อนๆหน้าได้นะคะคุณหมออธิบาย
00:28:31 → 00:28:33 ไว้ค่อนข้างเข้าใจง่ายแล้วก็เชื่อว่าคุณ
00:28:33 → 00:28:36 ผู้หญิงได้ประโยชน์แล้วก็ถ้าคุณผู้ชายมา
00:28:36 → 00:28:38 นั่งฟังด้วยกันเนี่ยน่าจะดูแลกันและกัน
00:28:38 → 00:28:41 ได้แบบดีดีเลยจะได้เข้าใจกันมากขึ้นนะคะ
00:28:42 → 00:28:44 ก็หลังจากนี้ค่ะถ้าใครมีประสบการณ์ที่
00:28:44 → 00:28:46 อยากจะแชร์เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพหรือว่า
00:28:46 → 00:28:49 มีคอมเมนต์ใดๆอยากจะถามตอบเรากับคุณจะถาม
00:28:49 → 00:28:51 แบ้งก็ได้ถามคุณหมอโอก็ได้นะคะสามารถทิ้ง
00:28:52 → 00:28:53 เอาไว้ได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยแล้วเรามา
00:28:53 → 00:28:56 พบกันใน Episode หน้านะคะสำหรับวันนี้
00:28:56 → 00:28:58 สวัสดีค่ะ
00:28:58 → 00:29:02 [เพลง]
00:29:02 → 00:29:05 y
00:00:00 → 00:00:05 [เพลง]
00:00:05 → 00:00:08 สวัสดีค่ะกลับมาพบกับแป้งอีกครั้งในราย
00:00:08 → 00:00:11 การ New you resolution ซีรีย์พิเศษ New
00:00:11 → 00:00:13 her รายการที่อยากจะให้ผู้หญิงทุกคนไม่
00:00:13 → 00:00:15 ว่าจะวัยใดก็ตามได้มีสุขภาพที่ดีขึ้นทั้ง
00:00:16 → 00:00:18 กายแล้วก็ใจผ่านการพูดคุยเรื่องข้อสงสัย
00:00:18 → 00:00:20 และหาวิธีแก้ไขปัญหากับคุณหมอผู้เชี่ยว
00:00:20 → 00:00:23 ชาญค่ะซึ่งเรามีการพูดคุยกับคุณหมอไปแล้ว
00:00:23 → 00:00:26 ถึง 4 ep เลยแต่ก่อนที่เราจะไปหาคุณหมอ
00:00:26 → 00:00:28 คุณหมอโออีกครั้งนึงเนี่ยวันเนี้แป้งมี
00:00:28 → 00:00:31 แขกรับเชิญสุดพิเศษค่ะอยากจะมาพูดคุยใน
00:00:31 → 00:00:34 เรื่องปัญหาสุขภาพในวัยทำงานรวมไปถึง
00:00:35 → 00:00:37 ปัญหาผู้หญิงที่เราเราชาวผู้หญิงอยากจะ
00:00:37 → 00:00:40 ให้คุณผู้ชายได้เข้าใจกันวันนี้ก็ปรบมือ
00:00:40 → 00:00:42 ต้อนรับคุณเที่ยวนะคะโปรดิวเซอร์รายการ
00:00:42 → 00:00:44 ของเราในวันนี้นะคะวันนี้เมื่อกี้แอบคุย
00:00:44 → 00:00:47 กันหลังกล้องนิดนึงนนิดนึงมาแล้วว่า
00:00:47 → 00:00:50 เที่ยวเนี่ยยังมีความเข้าใจแอบแบบไม่ครบ
00:00:50 → 00:00:53 ถ้วนละกันเนาะเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพผู้
00:00:53 → 00:00:54 หญิงวันนี้เราจะมาคุยกันถึง 4 ประเด็น
00:00:55 → 00:00:58 ด้วยกันข่ะเที่ยวเรามากันที่ปัญหาแรกเลย
00:00:58 → 00:01:01 นะคะสำหรับพวกเราชาวออฟฟิเชื่อว่าพวกเรา
00:01:01 → 00:01:03 ทุกคนเนี่ยน่าจะเจอปัญหานี้กันแบบ 99
00:01:03 → 00:01:06 เต็มรแล้วกันอ่ะปวดหลังปวดเอ้ยเก่งผมปวด
00:01:06 → 00:01:08 อยู่เหมือนกันเหมือนโดนบีฟมาต่อเหมือนโดน
00:01:08 → 00:01:11 บีฟมาแต่ว่าทำงานออฟฟิศปวดหลังจริงถูก
00:01:11 → 00:01:13 ต้องเพราะว่าอะไรเราอยู่หน้าควมทั้งวันจะ
00:01:13 → 00:01:16 มาเที่ยวแล้วถามหน่อยว่าอาการปวดหลังของ
00:01:16 → 00:01:19 เที่ยวเนี่ยเคยไปหาคุณหมอมหรือว่ามีวิธี
00:01:19 → 00:01:21 ดูแลตัวเองยังไงตอนปวดหลังบ้างผมหมอผมไม่
00:01:21 → 00:01:24 เคยไปหาหมอแต่ว่าผมจะเป็นคนที่ยืดร่างกาย
00:01:24 → 00:01:28 ก่อนนอนอืยืดหลังตามท่าแบบผมเคยเรียนโยคะ
00:01:28 → 00:01:31 มาไงออเจะมีท่ายืดหลังก่อนนอนแล้วมันช่วย
00:01:32 → 00:01:34 มั้ยช่วยายเส้นผมไม่ได้ยืดแค่หลังนะผมยืด
00:01:34 → 00:01:37 หมดเลยยืดทั้งตัวเลยก็ช่วยเนอช่วยอยู่
00:01:37 → 00:01:39 ช่วยอยู่แต่ว่าพอเรากลับมาทำงานอีกครั้ง
00:01:39 → 00:01:41 นึงอ่ะก็ปวดอีกแปลว่าปัญหาการปวดหลังของ
00:01:41 → 00:01:43 พวกเราชาวออฟฟิศเนี่ยอ่ะอย่างเที่ยวเป็น
00:01:43 → 00:01:46 ตัวแทนชาวออฟฟิศที่ไม่เคยไปหาคุณหมอะกัน
00:01:46 → 00:01:48 แป้งอยากจะมาแชร์ว่าตอนนั้นเนี่ยแป้งมี
00:01:48 → 00:01:50 การพูดคุยกับคุณหมโอไปในเรื่องของอาการ
00:01:50 → 00:01:52 ปวดหลังเนี่ยตอนนั้นเราสงสัยว่าเฮ้ยปวด
00:01:52 → 00:01:54 หลังแบบไหนเราเป็นออฟฟิศซินโดรมหรรือ
00:01:54 → 00:01:57 เปล่าเพราะว่ามันมีการแบบสังเกตอาการอยู่
00:01:57 → 00:01:59 บางอย่างที่คุณหมอให้ไว้เป็นทริกว่าเรา
00:01:59 → 00:02:01 เราจะดูได้ยังไงว่าอันเนี้ยปวดหลังแบบอิ
00:02:01 → 00:02:03 Syndrome หรือว่าปวดหลังแบบปวดกล้าม
00:02:03 → 00:02:05 เนื้อปกติธรรมดาหรือว่าเป็นการปวดเรื้อ
00:02:05 → 00:02:07 รังไปเลยหรือแม้กระทั่งผู้หญิงเนี่ยอาจจะ
00:02:07 → 00:02:10 หนักกว่าผู้ชายด้วยเพราะว่าเรามีแบบปัญหา
00:02:10 → 00:02:12 อื่นๆแทรดซ้อนที่จะทำให้เราปวดหลังมาก
00:02:12 → 00:02:15 กว่าผู้ชายเข้าเข้ามาด้วยซึ่งการที่เรา
00:02:15 → 00:02:17 ปวดหลังอ่ะเรามีหลายสาเหตุและปัจจัยมากๆ
00:02:17 → 00:02:19 อย่างอย่างที่เที่ยวบอกเนาเรานั่งทำงาน
00:02:19 → 00:02:22 หน้าคอมเรานั่งผิดท่าเรานั่งโค้งหลัง
00:02:22 → 00:02:25 เก้าอี้ไม่ดีโต๊ะไม่เข้ากับสรีระเราที่
00:02:26 → 00:02:28 นอนแข็งที่นอนแข็งหมอนไม่ดีนอนตกหมอนด้วย
00:02:28 → 00:02:31 อันนี้ล้วนเป็นสาเหตุของการปวดหลังหมดเลย
00:02:31 → 00:02:33 รวมไปถึงผู้หญิงเนี่ยอย่างเมื่อกี้ที่
00:02:33 → 00:02:35 บอกผู้หญิงมันมีสาเหตุอื่นๆที่ทำให้
00:02:35 → 00:02:37 เราปวดหลังได้ด้วยไม่ว่าจะเป็นการแบบมี
00:02:37 → 00:02:40 ช็อกโกแลตซีสในท้องน้อยนึกออกป่ะแบบพอมัน
00:02:40 → 00:02:43 มีอะไรในท้องอ่ะมันลิ้งกับหลังออ่าหรือ
00:02:43 → 00:02:46 ว่าอย่างแบบนิ่วในท่อไตนิ่้วในท่อไต
00:02:46 → 00:02:48 อันเนี้ยมันก็เป็นเหมือนเป็นก้อนเป็นอะไร
00:02:48 → 00:02:50 ที่ทำให้เราดึงล้างกับหลังเราไว้เออนึก
00:02:50 → 00:02:53 ออกป่ะแบบผู้หญิงเออผู้หญิงมันก็เลยจะมี
00:02:53 → 00:02:55 ความปวดหลังได้ทรมานแล้วก็หลายสาเหตุมาก
00:02:56 → 00:02:58 กว่าผู้ชายอืเฮ้ยพี่ผนในปวยไตผู้ชายก็
00:02:58 → 00:03:00 เป็นได้ป่ะเป็นได้ป่ะเป็นได้ได้เพราะว่า
00:03:00 → 00:03:03 นิในท่อตมันก็มีได้ในทั้ง 2 เพจเออแต่ว่า
00:03:03 → 00:03:05 อันนี้ก็อยากให้ทุกคนไปปรึกษาคุณหมออีกที
00:03:05 → 00:03:08 นึงเพราะว่าอาการปวดหลายอย่างพอมันลิงก์
00:03:08 → 00:03:10 กับช่วงอื่นหลายอย่างมันก็จะเป็นการรักษา
00:03:10 → 00:03:13 ต่อไปอีกแบบกับคุณหมอหลากหลายแขนงลงไปอีก
00:03:13 → 00:03:15 นึกออกป่ะถ้ามันเป็นเกี่ยวกับช่องท้องมัน
00:03:15 → 00:03:17 ก็จะเป็นคุณหมอฝั่งนึงเกี่ยวกับอาการปวด
00:03:17 → 00:03:19 หลังหรือปวดกล้ามเนื้อก็จะเป็นคุณหมออีก
00:03:19 → 00:03:21 ฝั่งนึงเหมือนกันแต่ว่าพอมาตอบคำถามว่า
00:03:21 → 00:03:24 ปวดแบบไหนมันถึงจะเป็น Office syndrome
00:03:24 → 00:03:27 เนี่ยซึ่งคุณหมอให้สังเกตอาการตัวเองไอ้
00:03:27 → 00:03:30 อาการอิ Syndrome อ่ะเที่ยวมันเป็นจักของ
00:03:30 → 00:03:32 คำว่าอ Syndrome คือมันมีทั้งปวดหลังมัน
00:03:32 → 00:03:36 มีทั้งปวดหัวไมเกรนมันมีหลายอย่างคคอบาล
00:03:36 → 00:03:39 คอบาไหล่ด้วยถูกต้องคือลักษณะการปวดมันจะ
00:03:39 → 00:03:42 ค่อนข้างปวดร้าวไปที่ส่วนอื่นๆเพราะ
00:03:42 → 00:03:44 ฉะนั้น่ะเราสามารถสังเกตอาการตัวเองได้
00:03:44 → 00:03:46 โดยการที่ดูว่าอาการปวดของเราอ่ะมันไป
00:03:46 → 00:03:48 กระทบส่วนอื่นในร่างกายหรือเปล่าอย่าง
00:03:48 → 00:03:51 เช่นปวดปวดมากจนเที่ยวไม่สามารถใช้ชีวิต
00:03:51 → 00:03:53 ส่วนตัวแบบได้อย่างปกติกระทบกับชีวิต
00:03:53 → 00:03:56 ประจำวันถูกนี่คือพอยเลยถ้าสมมุติปวดจน
00:03:56 → 00:03:58 กระทบกับชีวิตประจำวันเที่ยวคนไปหาหมอได้
00:03:58 → 00:04:02 แล้วมีกณีกณีนี้เที่ยวกรณีไหนแป้งเคยถาม
00:04:02 → 00:04:04 คุณหมอว่าแล้วถ้าเราดื้อไม่ยอมไปหาหมอเออ
00:04:04 → 00:04:07 มันจะเกิดอะไรขึ้นเที่ยวคิดว่าถ้าสมมุติ
00:04:07 → 00:04:11 ว่าปวดอาแป้งดื้อเที่ยวดื้อเราไม่ไปหาหมอ
00:04:11 → 00:04:14 อะไรจะเกิดขึ้นอะไรจะเกิดขึ้นอมันน่าจะ
00:04:14 → 00:04:17 เป็นอย่างอย่างแรกเลยคือใช้ชีวิตประจำวัน
00:04:17 → 00:04:20 ลำบากแหละเพราะมันปวดมากอืแล้วมันอาจจะ
00:04:20 → 00:04:23 รักษะยากขึ้นรักษะยากมีอันนึงรักษาจะ
00:04:23 → 00:04:26 เหนื่อยขึ้นถูกจริงแล้วก็ถ้ามันลงไปถึง
00:04:26 → 00:04:29 ส่วนอื่นๆอ่ะมันก็จะรักษานานขึ้นค่าใช้
00:04:29 → 00:04:31 จ่ายตมันก็จะแบบเยอะขึ้นแต่มีอีกเรื่อง
00:04:31 → 00:04:33 นึงแป้งเซอร์ไพรสมากเเขาบอกว่าถ้าเราปวด
00:04:33 → 00:04:36 กล้ามเนื้อเรืรังมากๆจนมันไม่เราไม่ไปหา
00:04:36 → 00:04:39 หมอสักที่เนี่ยมันจะมีสิ่งนึงเกิดขึ้นกับ
00:04:39 → 00:04:41 ร่างกายของเราคือสมองของเราอ่ะมันจะรับ
00:04:41 → 00:04:44 รู้ว่าเรามีอาการปวดสิ่งเนี้ยอยู่เพราะ
00:04:44 → 00:04:46 ฉะนั้นมันอาจจะปล่อยไว้นานจนเราไม่หาย
00:04:46 → 00:04:50 เพราะว่าสมองมันจำไปแล้วนึกออกป่ะคือสมอง
00:04:50 → 00:04:52 มันจำไปแล้วว่าฉันปวดหลังฉันตื่นมาฉัน
00:04:52 → 00:04:55 ต้องปวดหลังอนึกออกป่ะแม้ว่าร่างกายฟิิ
00:04:55 → 00:04:58 จริงๆมันไม่ปวดสมองมันสั่งให้เราปวดเว้ย
00:04:58 → 00:05:00 เออเพราะฉะนั้นอ่ะการรักษามันก็เลยจะต้อง
00:05:00 → 00:05:03 ไปสู่แผนกแบบระบบประสาทเออเพราะฉะนั้นการ
00:05:03 → 00:05:05 ปวดหลังมันจะไม่ใช่แค่ปวดหลังอีกต่อไปนึก
00:05:05 → 00:05:08 ออกป่ะมันเป็นอีกปัญหานึงที่สะสมเอาไว้
00:05:08 → 00:05:10 แล้วก็แบบต่อให้เราไม่ปวดแล้วอ่ะแต่เราจำ
00:05:10 → 00:05:13 ได้ว่าความเจ็บเนี้ยยมันยังอยู่ออน่ากลัว
00:05:13 → 00:05:14 มากอันเนี้ยน่ากลัวอันนี้น่ากลัวแล้วก็
00:05:15 → 00:05:17 แบบวิธีการแก้เบื้องต้นแล้วกันเรามา
00:05:17 → 00:05:19 encourage ให้ทุกคนลองมาปรับกันเบื้อง
00:05:19 → 00:05:21 ต้นกันดูก่อนอย่างคุณหมอเนี่ยแนะนำมาหลาย
00:05:21 → 00:05:23 วิธีเลยค่ะสามารถย้อนกลับไปดูกันได้นะคะ
00:05:24 → 00:05:26 แต่ว่าอย่างวิธีที่เราๆชาวคนทำงานปรับกัน
00:05:26 → 00:05:29 ได้ง่ายที่สุดแล้วก็เริ่มได้เลยนั่นก็คือ
00:05:29 → 00:05:31 การอย่างแรกเลยเที่ยวคือเก้าอี้แล้วก็
00:05:31 → 00:05:34 โต๊ะอ่าสำคัญสำคัญมากเพราะว่าถ้ามันแข็ง
00:05:34 → 00:05:37 เกินไปเรานั่งๆไปเราก็ไม่สบายเนาะรวมไป
00:05:37 → 00:05:39 ถึงโต๊ะเนี่ยถ้าเตี้ยหรือว่าสูงเกินไป
00:05:39 → 00:05:41 เนี่ยมันก็จะไม่เหมาะสมกับระดับถูกผิดท่า
00:05:41 → 00:05:44 ใช่การตั้งคอมการตั้งจอเนี่ยจริงๆอ่ะควร
00:05:44 → 00:05:46 จะให้มันอยู่ในระดับสายตาไจริงๆแล้วการ
00:05:46 → 00:05:49 ตั้งแบบเนี้ยแอบแอบแบบไม่ดีต่อสุขภาพใช่
00:05:49 → 00:05:51 มันควรที่ต้องแบบเหมือนยกเาสูงขึ้นมานิด
00:05:51 → 00:05:54 นึงเออเพื่อให้หน้าจอเนี่ยมันอยู่ในระดับ
00:05:54 → 00:05:56 สายตาของเราลองกลับไปสังเกตอาการนั่งของ
00:05:56 → 00:05:59 ตัวเองดูเรานั่งๆอยู่บางทีเราก็แบบไหลๆไป
00:05:59 → 00:06:01 กับเก้าอี้เรายิ่งทำงานมันก็จะยิ่งไปแบบ
00:06:01 → 00:06:04 อย่างเงี้ยเอ้ยนี่เลยถูกต้องเลยถูกต้อง
00:06:04 → 00:06:06 เพราะว่าอะไรเที่ยวอาจจะไม่เคยสังเกตอ
00:06:06 → 00:06:10 Front ขนาดฟของเราในจอมันเล็กมันทำให้
00:06:10 → 00:06:12 เราอ่ะยื่นคอเข้าไปจนทำให้บางคนนะคะ
00:06:12 → 00:06:15 กระดูกคอกับไหล่ตรงเนี้ยมันยื่นใชแล้วก็
00:06:15 → 00:06:17 ปวดหลังด้วยปวดหลังด้วยสิ่งนึงที่แป้ง
00:06:17 → 00:06:20 อยากให้เที่ยวทำได้เลยลองขยายฟอขึ้นมาให้
00:06:20 → 00:06:23 ใหญ่ขึ้นหรือว่าแบบเนี่ยซูมเข้ามาเลยมัน
00:06:23 → 00:06:25 ก็จะทำให้เราอ่ะไม่ต้องเพ่งเข้าไปเยอะ
00:06:25 → 00:06:27 ขึึ้นใช่มยพอเราแบบไม่ต้องเข้าไปอย่าง
00:06:27 → 00:06:30 เงี้ยถ้านั่งเราปรับและระดับการวางมือเรา
00:06:30 → 00:06:33 ปรับและแล้วคุณหมอก็บอกว่านั่งๆทำงานอยู่
00:06:33 → 00:06:35 อ่ะค่ะอยากให้เราลุกขึ้นมาเดินบ้างไม่
00:06:35 → 00:06:38 อยากให้เรานั่งแช่นานๆค่ะซึ่งอีกหนึ่ง
00:06:38 → 00:06:40 สิ่งที่สำคัญคือการนอนที่มีคุณภาพก็จะ
00:06:40 → 00:06:42 ช่วยให้เราแบบหายปวดหลังได้ด้วยเพราะว่า
00:06:42 → 00:06:44 เวลานอนของเรานี่เดี๋ยวเราจะไปคุยกัน
00:06:44 → 00:06:46 เรื่องการนอนหลับต่อต่อไปประเด็นต่อไป
00:06:46 → 00:06:48 ประเด็นต่อไปยเราพูดถึงเรื่องการนอนหลับ
00:06:48 → 00:06:50 ต่อแต่ว่านั่นแหละถ้าเรานอนได้มีคุณภาพ
00:06:50 → 00:06:52 อาการปวดต่างๆเนี่ยมันก็จะถูกซ่อมแซมขณะ
00:06:52 → 00:06:55 เรานอนหลับ้วยเหมือนกันอ่าเป็นไงว้าวมย
00:06:55 → 00:06:58 ว้าวๆจริงเรื่องระบบประสาทนี้ว้าวมากว้าว
00:06:58 → 00:07:01 จริงผมไม่เคยรู้เื่อก่อนแงก็ไม่เคยรู้
00:07:01 → 00:07:03 ต้องเพิ่งรู้ต้องคุยกับหมอว่าแบบเฮ้ยมัน
00:07:03 → 00:07:05 เหมือนเราฟิลแบบเหมือนเราอบหักแต่เราทำใจ
00:07:05 → 00:07:08 ได้แล้วนะแต่เรายังไม่ลืมว่าเราเคยเจ็บ
00:07:08 → 00:07:11 อ่ะเรายังจำอยู่เรายังจำอยู่เราไม่ Mo on
00:07:11 → 00:07:15 แต่เออแต่จริงๆอ่ะเขาไปนานแล้วใช่เออเรา
00:07:15 → 00:07:18 ไปกันต่อที่ปัญหาที่ 2 ค่ะที่แป้งเชื่อ
00:07:18 → 00:07:19 ว่าไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ยน่าจะ
00:07:20 → 00:07:22 เจอเหมือนๆกันครับนั่นก็คือปัญหาในเรื่อง
00:07:22 → 00:07:25 ของการนอนหลับผมเจออยู่ตลอดเหมือนกันผม
00:07:25 → 00:07:27 นอนไม่ค่อยหลับเหมือนกันนั่นแหละเลยเป็น
00:07:28 → 00:07:30 ปัญหาที่แป้งเอามาปรึกษากับคุณหมอไปค่ะ
00:07:30 → 00:07:33 เดี๋ยวแป้งแรปอัพให้ฟังสั้นๆว่าสาเหตุที่
00:07:33 → 00:07:35 ทำให้เรานอนไม่หลับอ่ะจริงๆแล้วมันมีเยอะ
00:07:35 → 00:07:37 มากแล้วเราอาจจะไม่รู้ตัวแต่เราทำมันเป็น
00:07:37 → 00:07:40 ประจำไปแล้วอ่าอ่าอย่างเช่น 1 การดื่ม
00:07:40 → 00:07:44 คาเฟอีนค่ะอ่ากาแฟติดกาแฟป่ะเรานิดหน่อย
00:07:44 → 00:07:47 นิดหน่อยแป้งอ่ะไม่ติดกาแฟแต่ว่าติดชาอ
00:07:47 → 00:07:50 เหมือนมีเหมือนกันตัวคาเฟอีนเนี่ยยิ่งการ
00:07:50 → 00:07:53 ดื่มก่อนเรานอนในระยะเวลาที่สั้นเกินไป
00:07:53 → 00:07:55 เนี่ยกะคาเฟอีนมันยังทำงานอยู่ทีเนี้ยมัน
00:07:55 → 00:07:57 ทำให้เราร่างกายเราตื่นตัวหมดเลยไม่ว่าจะ
00:07:57 → 00:08:00 เป็นสมองตื่นตาตื่นอะไรเงี้ยค่ะรมไปถึง
00:08:00 → 00:08:03 การเล่นมือถือการเล่นคอหรือ iad การรับ
00:08:03 → 00:08:07 แสงสีฟ้าเข้าตาในบนเตียงก่อนที่เราจะหลับ
00:08:07 → 00:08:10 ไอ้แสงสีฟ้าเหล่านี้แหละมันทำให้ตาเราอ่ะ
00:08:10 → 00:08:14 ไม่สามารถแบบผ่อนคลายได้เออยิ่งแย่เข้าไป
00:08:14 → 00:08:16 ใหญ่เลยเยวถ้าสมมุติว่าเที่ยวดูซีรี่ส์
00:08:17 → 00:08:19 อย่างเงี้ยก่อนนอนแล้วเป็นซีรีส์แบบตื่น
00:08:19 → 00:08:22 เต้นตืเต้นยิงปืนปุ้งั้ๆๆหรือว่าหนังผี
00:08:22 → 00:08:25 อะไรอย่างเงี้ยมันยิ่งไปกระตุ้นความใช่ไป
00:08:26 → 00:08:27 กระตุ้นความคิดไปกระตุ้นอารมณ์ของเราให้
00:08:27 → 00:08:31 เราแบบไม่ปล่อยเออไม่สงบไม่ปล่อยเรายัง
00:08:31 → 00:08:34 คิดถึงเรื่องนั้นๆอยู่ยังสนุกอยู่เนี่ย
00:08:34 → 00:08:35 แหละเป็นสาเหตุที่ทำให้เราอ่ะนอนไม่หลับ
00:08:35 → 00:08:38 ได้ร่วมไปถึงอีกเรื่องนึงเร่รอันนี้แป้ง
00:08:38 → 00:08:40 เซอร์ไพรสมากตอนคุยกับหมอคือคุณหมอเนี่ย
00:08:40 → 00:08:42 บอกว่าการนอนหลับที่มีคุณภาพมันคือการ
00:08:42 → 00:08:44 เข้าไปสู่ Circle ของการ Sleeping
00:08:44 → 00:08:46 Sleeping เคิใช่ป่ะคุณหมอบอกว่า
00:08:46 → 00:08:49 แอลกอฮอล์ทำให้เรานอนหลับได้แย่เหรอเออ
00:08:50 → 00:08:54 แต่แป้งอ่ะเข้าใจว่ากินกให้กินให้เมาแปบ
00:08:54 → 00:08:56 นึงแล้วนอนถูถูกคิดเหมือนกันคือแป้งอ่ะ
00:08:56 → 00:08:59 เป็นพวกแบบกินถ้าเมาแล้วมันจะง่วงหลับแต่
00:08:59 → 00:09:01 จริงๆคุณหมอบอกว่ามันทำให้เราง่วงเร็ว
00:09:01 → 00:09:04 ขึ้นจริงแต่การเข้าไปสู่ Sleeping cle
00:09:04 → 00:09:07 ที่มีคุณภาพเนี่ยมันแย่ลงลองคิดถึงตอนเรา
00:09:07 → 00:09:10 เมาแล้วเราหลับหัวเรามันเหมือนเล่น
00:09:10 → 00:09:14 เครื่องเล่นแบบใช่โสตอยู่ใช่มันเหวี่ยง
00:09:14 → 00:09:16 นั่นแหละคือต่อให้เราหลับร่างกายเราหลับ
00:09:16 → 00:09:18 แต่การพักผ่อนของสมองหรือของร่างกายเรา
00:09:18 → 00:09:21 อ่ะมันไม่มันไม่ได้พักใช่มันไม่ได้เข้า
00:09:21 → 00:09:24 สู่วงจรนั้นอ่าเพราะฉะนั้นล้างความคิดการ
00:09:24 → 00:09:27 ดื่มแอลกอฮอล์ถ้าดื่มเยอะเกินไปอ่ะค่ะก็
00:09:27 → 00:09:30 มีผลต่อการนอนหลับของเราเหมือนกันอือ่า
00:09:30 → 00:09:33 รวมไปถึงการออกกำลังกายด้วยเป็นคนออก
00:09:33 → 00:09:35 กำลังกายป่ะออกกำลังครับปกติออกกำลังกาย
00:09:35 → 00:09:38 ประมาณกี่โมงออกกำลังกายประมาณ 19:00 น
00:09:38 → 00:09:42 ครับประมาณ 19:00 นแล้วนอนกี่โมงโอโหบาง
00:09:42 → 00:09:45 ถ้าอยากอยากทำให้ได้คือนอนก่อนเที่ยงคืน
00:09:45 → 00:09:48 อืแต่ทุกวันนี้ยากมาก 1:00 น 2:00 นเพราะ
00:09:48 → 00:09:50 มันร่างกายมันไม่หลับใช่มั้ยใช่เนี่ยแหละ
00:09:50 → 00:09:52 เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เรานอนหลับยาก
00:09:52 → 00:09:55 ขึึ้นเพราะว่าการออกกำลังกายที่ใกล้กับ
00:09:55 → 00:09:58 เวลานอนมากเกินไปอ่ะร่างกายมันยังตื่น
00:09:58 → 00:10:01 อยู่เอ๋อถึงว่าเวลาผมกลับมาจากเดบอลผม
00:10:01 → 00:10:04 หลับยากมากใช่เพราะมันยังแบบหัวใจเรายัง
00:10:04 → 00:10:07 แบบทำงานอยู่ AD อารีนยังหลังอยู่ใช่ซึ่ง
00:10:07 → 00:10:10 คุณหมอเนี่ยแนะนำว่าถ้าอยากออกกำลังกาย
00:10:10 → 00:10:12 เนี่ยอยากแนะนำให้ห่างจากเวลานอนอย่าง
00:10:13 → 00:10:17 น้อย 4-5 ชมมขับเที่ยวอ๋อนึกออกมยออกเออ
00:10:17 → 00:10:20 เพราะฉะนั้นเนี่ยต้องปรับต้องปรับ Time T
00:10:20 → 00:10:23 ของตัวเองให้เหมาะสมกับการนอนค่ะซึ่งพอ
00:10:23 → 00:10:25 แบคกลับมาว่าเฮ้ยถ้าเรายังมีปัญหาการนอน
00:10:25 → 00:10:28 หลับอยู่ตอนเนี้ยเราจะปรับตัวกันยังไงล่ะ
00:10:28 → 00:10:31 เที่ยวที่คุณหมอแบบแนะนำแล้วะกันให้เรา
00:10:31 → 00:10:33 ทุกคนเนี่ยสามารถปรับได้เลยเริ่มได้เลย
00:10:33 → 00:10:35 จากตัวเราเองเหมือนกันนั่นก็คืออย่างแรก
00:10:35 → 00:10:38 ปรับอุณหภูมิห้องอให้ไม่ร้อนไม่หนาวเกิน
00:10:38 → 00:10:43 ไปปิดไฟให้มืดรวมไปถึงการเสียงเอ่อควรจะ
00:10:43 → 00:10:45 เป็นห้องนอนที่ไม่มีเสียงรบกวนมากเกินไป
00:10:45 → 00:10:48 จนทำให้เราแบบมีเสียงเปิดปิดประตูหรือว่า
00:10:48 → 00:10:51 เสียงรถอะไรอย่างเงี้ยค่ะอาจจะิคให้เรา
00:10:51 → 00:10:55 ไม่สามารถหลับได้รวมไปถึงคุณหมอแนะนำว่า
00:10:55 → 00:10:58 บนเตียงเนี่ยหน้าที่ของเตียงนอนน่ะมันมี
00:10:58 → 00:11:01 แค่ 2 อย่างอย่างครับผมคือนอนหลับกับหลับ
00:11:01 → 00:11:04 นอนอ่าอ่าเพราะฉะนั้นเหตุนอนหลับกับหลับ
00:11:04 → 00:11:07 นอนนอนหลับกับหลับนอนแค่นั้นบนเตียงนะ
00:11:07 → 00:11:09 เพราะฉะนั้นใครที่ยังติดนิสัยเอาคอมไปทำ
00:11:09 → 00:11:12 บนเตียงก่อนนอนแนะนำว่าหยุดดีกว่าเที่ยว
00:11:12 → 00:11:15 รู้ไหมว่าการนอนไม่พอของเที่ยวอ่ะถ้า
00:11:15 → 00:11:18 ปล่อยไว้แบบนานๆโดยที่เราไม่ปรับโดยที่
00:11:18 → 00:11:20 เราไม่แก้ไขตัวเองอ่ะมันส่งผลเสียได้ทั้ง
00:11:20 → 00:11:23 ระยะสั้นแล้วก็ระยะระยะยาวเลยนะอะไรบ้าง
00:11:23 → 00:11:26 พี่อย่างระยะสั้นเนี่ยเที่ยวอาจจะเป็น
00:11:26 → 00:11:28 เป็นบางทีเราตื่นขึ้นมาแล้วเรารู้สึกว่า
00:11:28 → 00:11:32 เฮ้ยเบเบลอจำอะไรไม่ค่อยได้ภาคหลังรู้สึก
00:11:32 → 00:11:34 ความจำไม่ดีเป็นมั้ยซึ่งไอ้อาการนอนไม่พอ
00:11:34 → 00:11:37 สมมุติเที่ยวขับรถมันก็จะทำมาสู่อันตรใช่
00:11:37 → 00:11:40 เกิดอุบัติเหตุง่ายขึ้นบางทีอาจจะมีการ
00:11:40 → 00:11:44 หลับในถูกมันก็จะนำมาสู่แบบปัญหาตามอื่นๆ
00:11:44 → 00:11:47 ตามมาอันนี้ก็นอนนอนไม่พอเนี่ยตื่นมาขับ
00:11:47 → 00:11:50 รถเนี่ยการตัดสินใจเราไม่ดีด้วยถูกถูก
00:11:50 → 00:11:53 ต้องแล้วก็ไหวพริบปฏิภาณเราน้อยลเท่าเดิม
00:11:53 → 00:11:55 ไม่เท่าลงเออไม่เท่าเดิมใช่แล้วก็อันนี้
00:11:55 → 00:11:58 แค่ระยะสั้นนะแต่ที่รู้ป่ะว่าระยะยาวอ่ะ
00:11:58 → 00:12:01 มันมันทำให้เราเป็นโรคอื่นๆได้มากเลยคุณ
00:12:01 → 00:12:03 หมอบอกว่าแค่การนอนไม่พอมันทำให้เรา
00:12:03 → 00:12:07 เสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานความดันไขมัน
00:12:07 → 00:12:10 เส้นเลือดในสมองแตกหรือว่าแบบโรคหัวใจ
00:12:10 → 00:12:14 อะไรอย่าเงี้ยมันเสี่ยงเยอะมากๆใช่แค่แบบ
00:12:14 → 00:12:16 บางคนอาจจะคิดว่าเฮ้ยเท่นมันไม่หลับ
00:12:16 → 00:12:19 เดี๋ยวค่อยไปชดเชยเอาจริงๆอ่ะไม่ดีไม่ดี
00:12:19 → 00:12:21 ไม่ดีแล้วคุณหมอแนะนำเลยว่ามันชดเชยกัน
00:12:21 → 00:12:24 ไม่ได้นะสำหรับคนอย่างเราเราที่แบบสมมุติ
00:12:24 → 00:12:26 จะมีงาน 2 วันเนี้ยเราจะยุ่งมากๆเราจะโหม
00:12:26 → 00:12:29 งานไม่หลับไม่นอนไปเลยเดี๋ยวเสร็จงานแล้ว
00:12:29 → 00:12:31 ค่อยไปนอนทีเดียวอือคุณหมอบอกว่าไม่ได้
00:12:31 → 00:12:33 อันเนี้ยมันชดเชยกันไม่ได้ผิดเลยอันเนี้ย
00:12:33 → 00:12:36 ชดเชยกันไม่ได้ร่างกายเราไม่ง่ายขนาดนั้น
00:12:36 → 00:12:39 อิดออ่าเพราะฉะนั้นแนะนำว่าจัดแบ่งเวลา
00:12:39 → 00:12:41 การทำงานให้ดีแล้วก็มีเวลาให้ตัวเองพัก
00:12:41 → 00:12:43 ผ่อนให้เยอะๆดีกว่าเพราะฉะนั้นเที่ยวลอง
00:12:43 → 00:12:47 สังเกตตัวเองว่าอยู่ในสภาวะนอนไม่พอแล้ว
00:12:47 → 00:12:50 หรือยังมันมีวิธีสังเกตง่ายๆเช่นสมมุติ
00:12:50 → 00:12:53 เที่ยวลองสังเกตว่าวันทำงานของเที่ยวปกติ
00:12:53 → 00:12:56 ตื่นกี่โมงช่วงนี้ตื่น 8 นตื่น 8:00 น
00:12:56 → 00:12:58 แล้วถ้าเสาร์อาทิตย์ที่ไม่ต้องทำงานตื่น
00:12:58 → 00:13:00 กี่โมงครับไม่ต้องทำงานถ้าไม่มีใครปลุกผม
00:13:00 → 00:13:03 ก็เรื่อยๆยาวๆใช่ป่ะใช่แต่ว่าส่วนมากจะ
00:13:03 → 00:13:05 เด้งตอนประมาณ 11:00 นอ่ะแปลว่ามัน 11:00
00:13:05 → 00:13:07 นกับ 8:00 นเนี่ยห่างกันอยู่ประมาณ 2-3
00:13:07 → 00:13:10 ชั่วโมงใช่มยเด้งเองถูกป่ะแบบไม่มีนาฬิกา
00:13:10 → 00:13:13 ปลุกอันนี้ละค่ะที่คุณหมออ่ะแนะนำให้เรา
00:13:13 → 00:13:15 ทุกคนลองสังเกตตัวเองอ๋อให้เอามาเปรียบ
00:13:15 → 00:13:18 เทียบกันป่ะใช่เหมือนลองดูว่าถ้าวันปกติ
00:13:18 → 00:13:21 ที่เราตื่นไปทำงานน่ะมันคือเวลาไหนแล้ว
00:13:21 → 00:13:23 เสาร์อาทิตย์ที่เราไม่ต้องเจอนาฬิกาปเรา
00:13:23 → 00:13:26 ตื่นเวลาไหนถ้ามันห่างกันอยู่ที่ 2 2
00:13:26 → 00:13:29 ชั่วโมงเป็นต้นไปเนี่ยมันเป็นสัญแล้วว่า
00:13:29 → 00:13:31 ร่างกายเราเหนื่อยออเออแล้วเราอยู่ในภาวะ
00:13:32 → 00:13:35 นอนไม่พอออ่ะเพราะฉะนั้นเราต้องรีบปรับ
00:13:35 → 00:13:38 พฤติกรรมตัวเองอย่างที่เที่ยวบอกแหะกาแฟ
00:13:38 → 00:13:41 การดูหนังการออกกำลังกายลองกลับมาทบทวน
00:13:41 → 00:13:43 ตัวเองดูเออว่าเรามีพฤติกรรมแบบไหนในการ
00:13:43 → 00:13:46 ที่ทำให้เรานอนไม่พอค่ะอืเป็นไงเออนี้
00:13:46 → 00:13:49 เป็นทริกที่ผมไม่รู้นะเพราะผมไม่รู้ผมไม่
00:13:49 → 00:13:52 รู้ว่าการที่เราจะวัดว่าเรานอนไม่พอเนี่ย
00:13:52 → 00:13:55 เราต้องวัดจากอะไรอืใช่ถ้าร่างกายมันฟ้อง
00:13:55 → 00:13:56 มาแล้วว่าแบบเราเบออะไรเงี้ยผมก็แค่ง่วง
00:13:56 → 00:13:59 แล้วไปนอนก็อาจจะไม่รู้ว่าที่ๆจริงเรามัน
00:13:59 → 00:14:02 มีตัววัดแบบเอาเวลาที่เราตื่นจากนาฬิกา
00:14:02 → 00:14:04 ปลุกกับเราไม่ตั้งนาฬิกาปลุกเนี่ยมาวัด
00:14:04 → 00:14:06 กันนี้ต้องต้องผมต้องลองไปวัดแหละจริง
00:14:06 → 00:14:09 เพราะว่าแป้งเป็นแบบรู้ตัวเลยอ่ะเสาร์
00:14:09 → 00:14:11 อาทิตย์ถ้าไม่ตั้งนาฬิกาปูกลากยาวยาน
00:14:11 → 00:14:13 เที่ยงเลยเพราะมันเหนื่อยมากอะไอย่างี้
00:14:13 → 00:14:16 อ่ะโอเคมาต่อกันที่ประเด็นที่ 3 เลยใน
00:14:16 → 00:14:19 เรื่องของมนุษย์เมนค่ะครับซึ่งแป้งถาม
00:14:19 → 00:14:22 เที่ยวก่อนพอพอพูดถึงคำว่ามนุษย์เมน
00:14:22 → 00:14:25 เที่ยวนึกถึงอะไรมั่งปวดท้องอ่ะปวดท้อง
00:14:25 → 00:14:27 อารมณ์หงุดหงิดหงุดหงิดมีอะไรอีกเราทำ
00:14:28 → 00:14:31 อะไรก็ไม่ถูกใจอันนี้ความใน
00:14:31 → 00:14:34 ใจซึ่งอันเนี้ยถูกต้องเลยนะมันเป็นสับเซต
00:14:34 → 00:14:37 ของการเป็นมนุษย์เมนซึ่งมนุษย์เมนมันยัง
00:14:37 → 00:14:40 มีอีกหลายเค้าเรียกว่าอะไรหลายหลาย
00:14:40 → 00:14:43 เวอร์ชั่นใช่หลายหลายอาการหลายเวอร์ชั่น
00:14:43 → 00:14:45 ของผู้หญิงแล้วแต่ละคนน่ะเป็นไม่เหมซึ่ง
00:14:45 → 00:14:47 อาการมนุษย์เมนเนี่ยหนึ่งสิ่งที่เราเห็น
00:14:47 → 00:14:49 แบบ obvious เลยแล้วก็ผู้หญิงทุกคนน่ะน่า
00:14:49 → 00:14:52 จะมี experience รวมไปถึงคุณผู้ชายน่าจะ
00:14:52 → 00:14:54 แบบคุ้นชินคือไอ้อาการปวดท้องที่เที่ยว
00:14:54 → 00:14:56 บอกนั่นแหละซึ่งเที่ยวรู้มั้ยว่าคุณหมอ
00:14:56 → 00:14:58 บอกว่าไอ้อาการปวดท้องเมนเนี่ยครับครับ
00:14:58 → 00:15:02 มันมี 2 แบบคือแบ่งเป็นแบบที่มีโรคแล้วก็
00:15:02 → 00:15:05 ไม่มีโรคด้วยนะเหรอเออซึ่งคนที่ปวดท้อง
00:15:05 → 00:15:08 อาจจะเป็นรูปแบบปวดท้องแต่ไม่มีโรคก็ได้
00:15:08 → 00:15:10 หรือคนที่ไม่ปวดท้องเมนเลยอาจจะมีโรคก็
00:15:10 → 00:15:13 ได้จริงๆมันยังมีความเสี่ยงอื่นๆที่เรา
00:15:13 → 00:15:17 ไม่รู้อย่างเช่นอาจจะมีเนื้องอกหรือว่ามี
00:15:17 → 00:15:21 ซีดไปอยู่ในตำแหน่งที่กดให้เราไม่ปวดอื
00:15:21 → 00:15:24 บางคนน่ะจะเกิดไม่เหมือนกันซึ่งกรณีเนี้ย
00:15:24 → 00:15:26 คอมันเป็นเรื่องของภายในอ่ะก็แนะนำอยากจะ
00:15:26 → 00:15:29 ให้ไปตรวจก่อนถูกเพราะว่าแบบอย่างแป้งอ่ะ
00:15:29 → 00:15:31 เป็นคนนึงที่ก่อนหน้าเนี้ยเป็นคนดื้อไม่
00:15:32 → 00:15:34 ชอบไปหาหมอเราก็จะคิดว่าเราทนได้เรากินยา
00:15:34 → 00:15:38 เราก็หายเออเดี๋ยวมันก็หายและแต่ว่าจริงๆ
00:15:38 → 00:15:40 คุณหมอบอกว่าไม่อยากให้ทนไม่ว่าจะเป็น
00:15:40 → 00:15:42 อาการปวดอะไรก็ตามนะไม่ใช่แค่ปวดท้องเมน
00:15:42 → 00:15:45 ปวดหลังเองด้วยซ้ำอือหมอบอกว่าไม่ต้องทน
00:15:45 → 00:15:48 คุณบอกว่าแบบเหมือนคนไทยเราอ่ะผู้หญิง
00:15:48 → 00:15:51 ด้วยนะแบบผู้หญิงคนไทยเนี่ยมองว่าแบบเป็น
00:15:51 → 00:15:55 คนทนเก่งอ่าเออเป็นคนแบบทนนิดนึงเดี๋ยวก็
00:15:55 → 00:15:57 หายแล้วเราทนกันเก่งมากๆอะไรเงี้ยค่ะแต่
00:15:57 → 00:15:59 ว่าจริงๆแล้วอ่ะไม่ต้องทนแล้วก็ไม่ต้อง
00:16:00 → 00:16:03 อายคุณหมอด้วยนะเพราะว่าผู้หญิงบางคนจะมี
00:16:03 → 00:16:05 ความคิดว่าแบบการตรวจภายในมันคือการต้อง
00:16:05 → 00:16:08 ขึ้นเตียงอย่างขาแต่คุณหมอเนี่ยบอกว่า
00:16:08 → 00:16:12 เอ่อการตรวจมันมีหลายแบบมากๆเมันมีทั้ง
00:16:12 → 00:16:15 การใช้อัลตร้าซาวมันมีทั้งการแบบรักษาแบบ
00:16:15 → 00:16:17 กินยาหรืออะไรที่ไม่ได้ต้องขึ้นขายอย่าง
00:16:17 → 00:16:19 เสมอไปเพราะฉะนั้นถ้าเรากังวลตรงนี้เรา
00:16:19 → 00:16:21 อยากตรวจแต่เราไม่อยากขึ้นขายอย่างปรึกษา
00:16:21 → 00:16:24 คุณหมอได้คุณหมอก่อนดีกว่าเออว่าแบบเขามี
00:16:24 → 00:16:29 วิธีไหนที่ตอบรับกับความเอ่อคอิต่างๆของ
00:16:29 → 00:16:31 ซึ่งสิ่งนึงที่แป้งเกิดมา 25 ปีแป้งไม่
00:16:31 → 00:16:33 เคยรู้เลยเยวเพิ่งมารู้ตอนอัดรายการกับ
00:16:34 → 00:16:36 คุณหมอคือคือไอ้อาการปวดท้องเมนน่ะเรา
00:16:36 → 00:16:40 สามารถกินยาดักได้นะเหรอเออก็คือถ้าเรา
00:16:40 → 00:16:42 ถ้าเรารู้สึกว่าเราจะมีเมนแล้วประจำเดือน
00:16:42 → 00:16:44 กำลังจะมากินได้เลยกินได้เลยคือผู้หญิง
00:16:44 → 00:16:47 บางคนรวมถึงแป้งเองค่อยไปกินตอนเราปวด
00:16:47 → 00:16:50 แล้วซึ่งไอ้อาการเน่ะยามันจะทำให้เราอ่ะ
00:16:50 → 00:16:53 หายปวดได้ช้ากว่ารวมไปถึงเราต้องไปนั่ง
00:16:53 → 00:16:56 ทรมานปวดก่อนแต่คุณหมอบอกว่าไม่กินเลย
00:16:56 → 00:16:59 ซึ่งไอไอไอการกินยาดักอ่ะคุณหมอก็จะแนะนำ
00:16:59 → 00:17:02 เป็นกลุ่มไอบู profen ค่ะใช่ก็คือสามารถ
00:17:02 → 00:17:05 กินตัวเนี้ยดักได้แบบดักไปก่อนเลยแล้วก็
00:17:05 → 00:17:07 ไปปรึกษาคุณหมอก่อนนะก่อนที่จะทันยาอะไร
00:17:07 → 00:17:11 รวมไปถึงเภสัชก็ได้ค่ะว่ายา 1 ตัวการกิน
00:17:11 → 00:17:14 เว้นระยะห่างชั่วโมงมันต้องเท่าไหร่อ่า
00:17:14 → 00:17:18 แต่ว่ามันกินดักไปเลยเออซึ่งคนที่จะกินยา
00:17:18 → 00:17:20 ดักได้นะคะก็อยากให้ไปเช็คกันก่อนว่าแล้ว
00:17:20 → 00:17:22 เราอ่ะมีโรคอื่นๆแทรกซอนหรือเปล่าก่อนที่
00:17:23 → 00:17:25 เราจะไปกินยาแบบตรงนี้เนาะอย่างเช่น
00:17:25 → 00:17:28 สมมุติแบบบางคนปวดท้องแบบมีโรคอื่นๆแทรก
00:17:28 → 00:17:32 สอนยาบางตัวมันกินด้วยกันไม่ได้แล้วก็มัน
00:17:32 → 00:17:34 มีประเด็นแป้งเคยถามคุณหมอไปว่าอย่าง
00:17:34 → 00:17:36 เพื่อนแป้งอย่างเงี้ยครับไม่ปวดท้องเลย
00:17:36 → 00:17:40 เที่ยวแต่แป้งปวดท้องหนักมากเออกรณีนี้
00:17:40 → 00:17:43 เนี่ยใครผิดปกติกันแน่คือคุณหมออ่ะแนะนำ
00:17:43 → 00:17:46 ให้สังเกตอาการว่าสำหรับคนที่ปวดก่อนนะ
00:17:46 → 00:17:48 ครับปวดแล้วยังปกติอยู่อ่ะมันจะเป็นความ
00:17:48 → 00:17:50 ปวดที่ทนได้ความปวดที่ทนได้คืออะไรการปวด
00:17:50 → 00:17:52 ท้องเมนไม่แน่เที่ยวอาจจะไม่เข้าใจแต่ว่า
00:17:52 → 00:17:55 มันจะเป็นการปวดอยู่ตรงทองน้อยตรงกลาง
00:17:55 → 00:17:59 หน่วงๆเหมือนมีอะไรบีบเราอยู่ข้างในเกรงเ
00:17:59 → 00:18:03 เกร็งๆใช่ซึ่งการปวดที่ยังปกติอยู่คือการ
00:18:03 → 00:18:06 ปวดที่เรายังทนได้และการปวดอยู่ตรงกลาง
00:18:06 → 00:18:09 นี้เท่านั้นอ๋อเออไม่มีการปวดเอียงไปทาง
00:18:09 → 00:18:12 ซ้ายไปทางขวาหรือว่าไม่มีการปวดร้าวลงไป
00:18:12 → 00:18:14 ที่อื่นไม่มีการปวดร้าวไปถึงหลังหรือขึ้น
00:18:14 → 00:18:16 มาถึงสมองอะไรอย่างเงี้ยอเหรออันเนี้ยคือ
00:18:16 → 00:18:19 ปกติอ่าอันนี้คือปกติใช่แต่ถ้ามันเกิดการ
00:18:19 → 00:18:22 เอียงเกิดการลามการปวดไปตรงส่วนอื่นๆแล้ว
00:18:22 → 00:18:24 หรือว่ามีอาการอื่นๆร่วมอย่างเช่นผู้หญิง
00:18:24 → 00:18:27 บางคนอย่างแป้งเองก็เป็นแบบบางคนแบบท้อง
00:18:27 → 00:18:30 เสียด้วยเวลาประดหรือว่าแบบปัสสาวะบ่อย
00:18:30 → 00:18:33 กว่าปกติเป็นไข้เป็นไข้อันเนี้ยไม่ปกติ
00:18:33 → 00:18:36 ไม่ปกติอันเนี้ยควรไปหาคุณหมอเฉพาะทาง
00:18:36 → 00:18:38 ซึ่งพอเราพูดกันถึงเรื่องประเด็นปวดของ
00:18:38 → 00:18:40 เมนแล้วเนี่ยแป้งอยากชวนเที่ยวคุยอีก
00:18:40 → 00:18:42 เรื่องนึงประเด็นสุดท้ายค่ะที่มันพ่วงมา
00:18:42 → 00:18:45 จากการปรวดประจำเดือนสุด้ายนั่นก็คือ
00:18:45 → 00:18:48 เรื่องของยาคุมกำเนิดค่ะอ่าอ่าถามเที่ยว
00:18:48 → 00:18:50 ก่อนเลยเที่ยวรู้จักอะไรบ้างอรู้จัก 3
00:18:50 → 00:18:53 ตัว 3 ตัวเท่านั้นเลยโอเคมีอะไรบ้างค่ะ
00:18:53 → 00:18:55 แต่ไม่รู้จะพูดชื่อถูกหรือเปล่านะได้ยา
00:18:55 → 00:18:57 คุมอันแรกที่รู้จักก็คือยคุมแบบเป็นเป็น
00:18:57 → 00:19:01 เดือนอืแบบกินที่กินทุกวันโอเคกินตามวัน
00:19:01 → 00:19:04 อือแบบ 2 คือยาคุมฉุกเฉินยาคุมฉุกเฉิน 3
00:19:04 → 00:19:07 คือแบบฝังแบบฝบบฝังฝังเอ่าใช่อ่าซึ่ง
00:19:07 → 00:19:09 เที่ยวรู้จักแค่นี้ถูกยคอ่ะเพราะฉะนั้น
00:19:09 → 00:19:12 เนี่ยแหละเป็นโอกาสดีมากๆที่แบงอยากจะแนะ
00:19:12 → 00:19:14 นำความรู้เพิ่มเติมให้เที่ยวแล้วกันพอเรา
00:19:14 → 00:19:16 พูดถึงจักรวาลยาคุมเนี่ยคุณหมอใช้คำว่า
00:19:16 → 00:19:20 มันมันคือจักรวาลเลยนะเหรอว่าเยอะมากเยอะ
00:19:20 → 00:19:23 มากเลยเยอะมาก ep นั้นน่ะเรายังแตะไม่ครบ
00:19:23 → 00:19:27 ด้วยซ้ำอ่าแต่ว่าหลักๆที่แบ่งออกเป็น 2
00:19:27 → 00:19:30 แบบให้เที่ยวได้จะกันเนามันก็คือการใช้
00:19:30 → 00:19:32 หยาคุมแบบมีฮอร์โมนแล้วก็ไม่มีฮอร์โมนค่ะ
00:19:33 → 00:19:34 อย่างไอ้พวกไม่มีฮอร์โมนเี่คืออะไรก็
00:19:34 → 00:19:37 อย่างเช่นแบบห่วงคุมกำเนิดรู้จักห่วงคุม
00:19:37 → 00:19:39 กำเนิดป่ะอ๋อรู้จักเออมันจะเป็นเหมือน
00:19:39 → 00:19:41 แท่งตัวทีฝันไว้ในแบบช่วงช่วงของหลูกผู้
00:19:41 → 00:19:44 หญิงอันนี้คือป้องกันการคุมกำเนิดโดย
00:19:44 → 00:19:46 เฉพาะแต่ว่าจะไม่มีฮอร์โมนแต่อย่างที่มี
00:19:46 → 00:19:48 ฮอร์โมนอย่างที่เที่ยวรู้เลยแบบกินแบบกิน
00:19:48 → 00:19:51 ฉุกเฉินหรือแบบฝังหรือแบบฉีดอ่ะอันเนี้ย
00:19:51 → 00:19:55 คือแบบที่มีฮอร์โมนซึ่งการเลือกใช้เอ่อยา
00:19:55 → 00:19:59 คุมในแต่ละคนน่ะค่ะมันจะต้องคำนึงถึง
00:19:59 → 00:20:02 คของแต่ละคนต่างกันไปอย่างเช่นคุณหมอจะมี
00:20:02 → 00:20:04 การวินิจฉัยเยอะมากนะคะอยากชวนทุกคนกลับ
00:20:04 → 00:20:06 ไปดูใน EP นั้นคุณหมออธิบายละเอียดมากแต่
00:20:06 → 00:20:10 ว่าแป้งสรุปวิธีการมาให้จำง่ายๆเป็น 4 ป
00:20:10 → 00:20:13 ปา 4 ปปา 4 ปปล่าอย่างปแรกเนี่ยนั่นก็คือ
00:20:13 → 00:20:16 ในเรื่องของความปลอดภัยค่ะนั่นก็คือเราจะ
00:20:16 → 00:20:18 ต้องคำนึงถึงว่าเรามีโรคอื่นๆอยู่ในตัว
00:20:18 → 00:20:20 เราด้วยหรือเปล่าอย่างเช่นเป็นมะเร็งเต้า
00:20:20 → 00:20:23 นมหรือว่ามีการปวดหัวไมเกรนมีโรคประจำตัว
00:20:23 → 00:20:26 อื่นๆอะไรอย่างเช่นโรคอ้วนหรือเปล่าซึ่ง
00:20:26 → 00:20:28 โรคอื่นๆเหล่านี้ค่ะอาจจะสผลให้เราอ่ะ
00:20:28 → 00:20:31 ต้องใช้ยาคุมในรูปแบบที่ไม่มีฮอร์โมน
00:20:31 → 00:20:32 เพื่อที่มันจะได้ไม่ไปกระทบส่วนอื่นๆที่
00:20:32 → 00:20:35 เรามีอยู่อันนี้คือเรื่องของความปลอดภัย
00:20:35 → 00:20:37 ในการเลือกใช้ยาคุมนะ 2 คือในเรื่องของ
00:20:37 → 00:20:39 ประสิทธิภาพค่ะคุณหมอเนี่ยอาจจะมีการ
00:20:39 → 00:20:41 เหมือนเซกเช็คประวัติเคยใช้วิธีการคุม
00:20:41 → 00:20:44 กำเนิดรูปแบบไหนมาแล้วบ้างใช้แบบไหนแล้ว
00:20:44 → 00:20:47 ดีใช้แบบไหนแล้วชอบก็บางคนอาจจะเคยแค่แบบ
00:20:47 → 00:20:49 ถุงยางอย่างเดียวเอซึ่งถุงยางเป็นหนึ่งใน
00:20:49 → 00:20:51 วิธีการคุมกำเนิดเหมือนกันอ่าซึ่งบางคน
00:20:51 → 00:20:53 อาจจะเคยลองแค่ถุงยางเลยค่ะคุณหมออะไร
00:20:53 → 00:20:57 อย่างเงี้ยแต่ว่าหนูมีโรคแบบปวดท้องเมน
00:20:57 → 00:21:00 หนักมากเลย
00:21:00 → 00:21:04 อินเป็นการแบบยกินที่มีฮอโมนฮมใช่เพื่อ
00:21:04 → 00:21:07 ที่คือยากินแบบมีคือแบบยาคุกำเนิดที่มี
00:21:07 → 00:21:09 ฮอร์โมนเนี่ยมันช่วยให้เราปวดทองน้อยลง
00:21:09 → 00:21:11 ถูกนี่กำลังจะพูดถึงอันต่อไปเลยใช่นั่น
00:21:11 → 00:21:14 คือปอที่ 3 คือเรื่องของประโยชน์ประโยชน
00:21:14 → 00:21:17 อ่ะหลายๆคนน่ะพูดถึงคำว่าการคุมกำเนิดอ่ะ
00:21:17 → 00:21:20 อาจจะนึกถึงแค่ว่าเพราะว่าไม่อยากท้องแต่
00:21:20 → 00:21:22 จริงๆอ่ะประโยชน์ของการใช้หญคุมอ่ะมันมี
00:21:22 → 00:21:26 หลายแบบมากๆเยวอย่างที่แป้งบอกพอประจำพอ
00:21:26 → 00:21:28 เราใช้หญาคุมแบบมีฮอร์โมนเนี่ยมันจะ
00:21:28 → 00:21:31 สามารถไปปรับในเรื่องของฮอร์โมนเราให้ดี
00:21:31 → 00:21:34 ขึ้นการเมนมาเนี่ยตรงรอบมากขึ้นรวมไปถึง
00:21:34 → 00:21:37 เลือดไหลในในเเรียกว่าอะไรปริมาณที่ปกติ
00:21:37 → 00:21:40 แล้วก็การปวดท้องน้อยลงหรือแม้กระทั่งสิว
00:21:41 → 00:21:44 แต่แต่บางคนก็จะใช้ฮอร์โมนแล้วก็แบบบอก
00:21:44 → 00:21:46 เหมือนกันนะว่าอ้วนขึ้นแล้วแต่คนแล้วแต่
00:21:46 → 00:21:49 คนแล้วแต่ฮอร์โมนซึ่งในการกินคยาคุม
00:21:49 → 00:21:52 เที่ยวรู้ไมมว่ามันมันไม่ได้จบแค่ยาคุม
00:21:52 → 00:21:54 แบบกินด้วยนะมันแบ่งเลยว่าโอเคมันมีมันมี
00:21:54 → 00:21:57 ยาคุมที่มีฮอร์โมนถูกป่ะฮอร์โมนน่ะแบ่งลง
00:21:57 → 00:21:59 ไปอีกว่ามีฮอร์โมนกี่เปอร์เซ็นตเหรอเออ
00:21:59 → 00:22:02 ตั้งแต่แบบ 15% 20 คือไล่ไปเลยซึ่งการ
00:22:02 → 00:22:04 เลือกยาคุมแบบไหนให้เหมาะกับตัวเองเนี่ย
00:22:04 → 00:22:07 มันต้องไปดูอีกว่าร่างกายเราอ่ะต้องการ
00:22:07 → 00:22:09 ฮอร์โมนเพไปเพิ่มเท่าไหร่ซึ่งสิ่งเนี้ย
00:22:09 → 00:22:11 เราไม่สามารถรู้ได้ด้วยตัวเองไงต้องหาคุณ
00:22:11 → 00:22:13 หมอต้องหาคุณหมอดีกว่าให้คุณหมอช่วยกัน
00:22:13 → 00:22:15 ประเมินค่ะเพื่อที่เราจะสามารถเลือกยาคุม
00:22:15 → 00:22:18 ได้ตอบโจทย์ประโยชน์ที่เราจะได้สูงสุด
00:22:18 → 00:22:19 แล้วก็เพิ่มความปลอดภัยในเรื่องของแบบ
00:22:19 → 00:22:21 สุขภาพเรารวมถึงการตั้งครรภ์แล้วก็ได้
00:22:21 → 00:22:23 ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นแป้งแอดให้อีกข้อนึง
00:22:23 → 00:22:26 ปอที่ 4 ข้อที่ 4 ปอที่ 4 นั่นก็คือใน
00:22:26 → 00:22:29 เรื่องของเป้าหมายค่ะเหมายอยากให้ทุกคน
00:22:29 → 00:22:31 ลองถามตัวเองว่าเราใช้หญ้าคุมเนี่ยมีเป้า
00:22:31 → 00:22:34 หมายเพื่ออะไรคุณหมอเนี่ยแนะนำว่าเออมัน
00:22:34 → 00:22:37 อยู่ที่การแบบชีวิตคู่ความสัมพันธ์ด้วย
00:22:37 → 00:22:40 อย่างเช่นสมมุติเที่ยวมีคนข้างกายเรายัง
00:22:40 → 00:22:44 แพลนว่ายังไม่อยากมีน้องเร็วๆนี้ดูระยะ
00:22:44 → 00:22:47 เวลาไกลๆเลยนู่น 3 ปี 5 ปีแป้นก็จะแนะนำ
00:22:47 → 00:22:51 เป็นรอบเดียวคือฝังดีกว่าอเพราะฝั่งเคุ
00:22:51 → 00:22:53 มันเริ่มต้นอยู่ได้ตั้งแต่ 3 ปี 3 ปีไป
00:22:53 → 00:22:56 ถึง 5 ปีเลยคือครั้งเดียวจบจ่ายเงินรอบ
00:22:56 → 00:23:00 เดียวอ่ะแต่ถ้าถ้าอย่างบางคนค่ะแฟนสมมุติ
00:23:00 → 00:23:03 ทำงานไกลกันคุณหมอยกตัวอย่างเป็นแฟน
00:23:03 → 00:23:05 สมมุติผู้หญิงอยู่บ้านแต่แฟนต้องไปออก
00:23:05 → 00:23:08 เรือเดือนนึงกลับมาทีนึงอ่ะจะไปนั่งกิน
00:23:08 → 00:23:10 ฮอร์โมนทุกเดือนทุเดือนเนี่ยมันก็อาจจะ
00:23:10 → 00:23:13 ไม่จำเป็นอาจจะมาใช้แค่วิธีการใช้ถุงยาง
00:23:13 → 00:23:15 ก็ได้อ่าเพราะว่ามันนานๆเรามีกันทีนึง
00:23:15 → 00:23:19 เนาะรวมไปถึงการใช้หญาคุมแบบฉุกเฉินเนี่ย
00:23:19 → 00:23:22 คุณหมอก็แนะนำว่าอย่าใช้บ่อยใช่ใช่เพราะ
00:23:22 → 00:23:24 การใช้ 1 ครั้งอ่ะมันกระทบกับฮอร์โมนของ
00:23:24 → 00:23:26 ผู้หญิงในร่างกายหมดเลยโอกาสการป้องกัน
00:23:26 → 00:23:29 น่ะเขาไม่ได้ 100% ในเรื่องของการตั้งร์
00:23:29 → 00:23:32 ด้วยรวมไปถึงมันเฟฟฮอร์โมนผู้หญิงด้วยบก
00:23:32 → 00:23:35 ไปถึงการโอกาสที่จะมีน้องเนี่ยมันยัง
00:23:35 → 00:23:38 สามารถถูกต้องเพราะว่าชื่อมันก็บอกอยู่
00:23:38 → 00:23:41 แล้วมันแค่ฉุกเฉินเราไม่ควรใช้บ่อยซึ่งมี
00:23:41 → 00:23:45 คำถามนึงแป้งถามเที่ยวเรู้ไหมว่าการฝังยา
00:23:45 → 00:23:47 คุมของผู้หญิงเนี่ยจะทำให้เมน์ไม่มาไม่
00:23:47 → 00:23:49 รู้อันนี้ไม่เคยรู้มาก่อนเลยไม่รู้จริงๆ
00:23:49 → 00:23:53 จริงๆเหรอใช่อ่ะงั้นถามก่อนว่าคือฝั่ง
00:23:53 → 00:23:55 ฝั่งยคุมแล้วไม่เป็นเมนไม่เป็นเมนเลยเหรอ
00:23:55 → 00:23:57 อันนี้แล้วแต่คนนะอ่ะพอแป้งพูดอย่างเงี้ย
00:23:57 → 00:23:59 ที่เรารู้สึกยังไงบ้างรู้สึกว่ามันน่า
00:23:59 → 00:24:02 กลัวมยกับการไม่มีรู้สึกยังไงก็ผมอ่ะคือ
00:24:02 → 00:24:04 อาเคยเคยคุยกับเพื่อนผู้หญิงหรือว่าน้อง
00:24:04 → 00:24:07 สาวอะไรเงี้ยก็จะบอกว่ามีเมนมันแบบมันทำ
00:24:07 → 00:24:11 ให้แบบชีวิตแบบเหนื่อยอ่ะถูกแบบมันปวด
00:24:11 → 00:24:13 ท้องอะไรอย่างเงี้ยใช้ทำอะไรก็ไม่สะดวก
00:24:13 → 00:24:15 อุดหงิดเหมือนเขาก็รู้สึกว่าเอถ้าไม่มี
00:24:15 → 00:24:19 เมนก็ก็คงจะใช้ชีวิตง่ายขึ้นอ้าจริงๆ
00:24:19 → 00:24:21 อันเนี้ยเป็นเหตุผลหลักที่แป้งตัดสินใจไป
00:24:21 → 00:24:24 ฝังยคุ้มเว้ยเออเพราะว่าเล่าต่อว่าอย่าง
00:24:24 → 00:24:26 ตอนนั้นที่พอไปพบคุณหมอแล้วอ่ะคุณหมอก็
00:24:26 → 00:24:29 แนะนำเป็นการไปฉีดดีกว่าอ่าการไปฉมันต้อง
00:24:29 → 00:24:32 ไปที่โรงพยาบาลฉให้แลต้องไปเติมทุก 3
00:24:32 → 00:24:34 เดือนอ๋ออ่าซึ่งอันนี้ก็แบกลับมาที่ไสล
00:24:34 → 00:24:37 ของแป้งว่าไม่สามารถไปโรงพยาบาลได้ทุก 3
00:24:37 → 00:24:39 เดือนรวมไปถึงให้แป้งกินยาคุมเนี่ยเป็นไป
00:24:39 → 00:24:42 ไม่ได้เพราะว่าไม่ชอบกินยาแล้วก็ขี้ลืม
00:24:42 → 00:24:45 ด้วยอ่าก็เลยตัดสินใจฝังเลยฝังเลยซึ่งฝัง
00:24:45 → 00:24:48 รอบเดียวจบจริงๆแล้วก็ในส่วนตัวแป้งนะ
00:24:48 → 00:24:51 แป้งไม่มีเมนเลยเที่ยวแล้วแบบใช้ชีวิต
00:24:51 → 00:24:53 ง่ายมากแต่ทางนี้ก็แล้วแต่คนเพราะว่าแป้ง
00:24:53 → 00:24:56 ก็มีคนรู้จักที่ไปฝังยคุมแล้วเกิดเหตุ
00:24:56 → 00:24:58 การณ์แบบเออเมนมากระปริบกระปอยเรื่อยๆไม่
00:24:58 → 00:25:01 หยุดหรือว่าเมนมาแบบยังมีเมนส์มาตามปกติ
00:25:01 → 00:25:04 อยู่อันเนี้ยค่ะมันก็มีวิธีการรักษาลงไป
00:25:04 → 00:25:06 อีกอ่าอย่างเช่นถ้าคนที่เป็นเมนมากระปิบ
00:25:06 → 00:25:09 กระปอยคุณหมอก็จะมียาให้ทานอืออ่าหรือว่า
00:25:09 → 00:25:12 วิธีการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคนแต่ละคน
00:25:12 → 00:25:15 ไปซึ่งแป้งอยากถามเที่ยวว่าถ้าสมมุติแป้ง
00:25:15 → 00:25:17 บอกว่าแป้งเมนไม่มาเนี่ยเที่ยวรู้มมว่า
00:25:17 → 00:25:20 แบบคิดมั้ยว่าร่างกายแป้งไม่ได้ขับของ
00:25:20 → 00:25:22 เสียหรือเลือดมันไม่ได้ไหลออกมามันคิดยัง
00:25:22 → 00:25:25 ไงเพราะตอนไเด็กเรียนมาเขาบอกว่าผู้หญิง
00:25:25 → 00:25:29 ก็คือเมนเมนก็คือแบบเลือกที่เสียอืขับออก
00:25:29 → 00:25:31 มาจริงๆแล้วอ่ะมันไม่ใช่มันไม่ใช่ไม่ใช่
00:25:31 → 00:25:34 เลยเพราะว่าถามว่าไม่ใช่เลย 100% มั้ย
00:25:34 → 00:25:35 ต้องต้องอยากให้ทุกคนกลับไปฟังที่คุณหมอ
00:25:35 → 00:25:37 อธิบายอย่างถูกต้องนะคะแต่ว่าที่แป้งจะมา
00:25:37 → 00:25:39 สรุปให้ฟังเนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยเลือดของ
00:25:39 → 00:25:41 เมนสน่ะค่ะมันไม่ใช่เลือดเสียที่ร่างกาย
00:25:41 → 00:25:44 เราขับออกแต่มันคือการที่เยื่อบุพงมดลูก
00:25:44 → 00:25:47 ของเราเนี่ยมันไม่ได้เกิดการถูกการแบบฝัง
00:25:47 → 00:25:50 ด้วยอสุจิไม่ได้เกิดการปฏิสนธิละกันอ่า
00:25:50 → 00:25:53 มันก็แค่เี้บุตรงนั้นมันก็แค่ไหลออกมาอ๋อ
00:25:53 → 00:25:55 แต่มันไม่ใช่การขับเลือดคั่งหรืออะไรที่
00:25:55 → 00:25:58 อยู่ในร่างกายเราไหลออกมาผนี้ไม่ใช่แล้ว
00:25:58 → 00:26:00 ก็การใช้หญ้าคุมแบบฝังหรือว่าการใช้หญ้า
00:26:00 → 00:26:02 คุมแบบอื่นๆที่ทำให้เราเมนไม่มาเนี่ย
00:26:02 → 00:26:04 เลือดมันก็ไม่ได้ไปค้างอยู่ส่วนไหนนะคือ
00:26:04 → 00:26:07 คุณหมอเนี่ยเล่าให้ฟังว่าต้องต้องเล่าให้
00:26:07 → 00:26:09 เห็นภาพอย่างงี้ว่ายาคุมอยู่นี่ใช่ป่ะอ
00:26:09 → 00:26:13 มันออกฤทธิ์ไปที่สมองเออพอมันออกฤทธิ์ไป
00:26:13 → 00:26:15 ที่สมองมาสมองมาจะสั่งการว่าเฮ้ยรังไข่ยู
00:26:15 → 00:26:18 ไม่ต้องสร้างไข่นะอ๋อเออยูไม่ต้องสร้าง
00:26:18 → 00:26:21 ไข่สิ่งเนี้ยขึ้นมานะซึ่งพอรังไข่มันไม่
00:26:21 → 00:26:23 สร้างเนี่ยเยื่อบุมันจะไม่หนาขึ้นเพราะ
00:26:23 → 00:26:26 เยื่อบุโพงตรงรังไขมันไม่หนาขึ้นเนี่ยแม้
00:26:26 → 00:26:29 ว่าจะไปติดเอ่อจะมีการมีเพศสัมพันธ์และมี
00:26:29 → 00:26:32 อสุจิไหลเข้ามาเนี่ยแต่เยื่อบุพพมลูกตรง
00:26:33 → 00:26:34 เนี้ยของเราไม่ได้ถูกสร้างขึ้นไม่มีใคร
00:26:34 → 00:26:37 อยู่ตรงนั้นอ๋อไม่มีใครตกไปไม่มีใครตกลง
00:26:37 → 00:26:39 ไปการเข้ามาของอุจิก็ไม่สามารถทำให้เรา
00:26:39 → 00:26:42 ตั้งคันได้อยู่ดีนึกออกป่ะอ๋อนึกออกเออ
00:26:42 → 00:26:44 คือเหมือนฟังก์ชันการทำงานของของเมนน่ะ
00:26:44 → 00:26:46 มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นด้วยสมองตั้งแต่แรก
00:26:46 → 00:26:49 เพราะฉะนั้นล้างความคิดว่าเลือดเสียเลือด
00:26:49 → 00:26:51 คลั่งเลือดค้างอันนี้ไม่มีเลยใช่ผมเข้าใจ
00:26:51 → 00:26:54 ผิดอืทุกคนหลายคนเข้าใจผิดใช่รวมไปถึงผู้
00:26:55 → 00:26:57 หญิงด้วยกันน่ะบางคนยังไม่เข้าใจความตรง
00:26:57 → 00:26:59 นี้เลยว่าแบบเฮ้ยแล้วถ้าฉันไม่มีเมน์แล้ว
00:26:59 → 00:27:01 ฉันจะเป็นยังไงอะไรอย่างเงี้ยร่างกายมัน
00:27:01 → 00:27:03 จะเป็นยังไงก็เป็นตัวแทนของคนที่ฝังมา
00:27:03 → 00:27:05 แล้ว 4 ปีนะคะร่างกายปกติทุกอย่างนะคะออ
00:27:05 → 00:27:08 โอเคเป็นไงบ้า่งวันนี้ได้ความรู้เยอะมาก
00:27:09 → 00:27:11 พี่บางเรื่องก็ไม่รู้ทั้งเรื่องการนอนปลด
00:27:11 → 00:27:14 หลังเรื่องเมนแล้วก็เรื่องยาคุมเรื่องสุด
00:27:14 → 00:27:16 ท้ายเนี่ยออันนี้ใจยาคุมก็เซอร์ไพรส์มาก
00:27:16 → 00:27:19 ว่าฝั่งยาคุมเนี่ยมันทำให้แบบบางคนก็ไม่
00:27:19 → 00:27:21 มีเมนหรือว่าเอฟเฟคมันก็แล้วแต่คนแนะนำ
00:27:21 → 00:27:23 ทุกคนว่าถ้าหากว่าอยากไปฟังเนี่ยก็ขอคำ
00:27:23 → 00:27:24 ปรึกษากับคุณหมอดีกว่าใช่เพราะว่าอยากที่
00:27:24 → 00:27:27 แจ้มันมีเอฟเฟคลงไปถึงส่วนอื่นๆในร่างกาย
00:27:27 → 00:27:29 เราด้วยบางคนอาจจะมีโรคอื่นๆแอบแฝงที่เรา
00:27:29 → 00:27:33 ไม่รู้หรือว่าแพ้ยาตัวไหนหรือว่าตัวไหน
00:27:33 → 00:27:35 ไม่ถูกกับตัวไหนอะไรอย่างเงี้ยค่ะแนะนำ
00:27:35 → 00:27:37 ว่าอย่าเพิ่งตัดสินใจเองหาข้อมูลเบื้อง
00:27:37 → 00:27:40 ต้นได้ดูจากรายการของพวกเราก่อนได้ค่ะ
00:27:40 → 00:27:42 ก่อนที่เราจะไปพูดคุยกับคุณหมอดีกว่าอ่า
00:27:42 → 00:27:44 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการจะเลือกใช้ทั้งยา
00:27:44 → 00:27:47 แล้วก็การปรับพฤติกรรมต่างๆของตัวเอง
00:27:47 → 00:27:49 เนี่ยมันต้องมาคู่กันใช่อ่าเพราะต่อให้
00:27:49 → 00:27:52 เราไปรักษากับคุณหมอทานยาแล้วทานยแต่เรา
00:27:52 → 00:27:53 ไม่เปลี่ยนตัวเองแต่เราไม่เปลี่ยนตัวเองอ
00:27:53 → 00:27:55 มันก็เหมือนเดิมใช่มันก็เหมือนเดิมแล้วก็
00:27:55 → 00:27:58 มันจะสามารถมันมันก็จะไม่หหายไปอาการ
00:27:58 → 00:28:00 เหล่านี้เพราะฉะนั้นเดี๋ยว EP ต่อๆไปค่ะ
00:28:00 → 00:28:03 ก็อยากเชชิญทุกคนติดตามนะคะว่าแป้งและคุณ
00:28:03 → 00:28:06 หมอโอจะเอาเกรดความรู้จะเอาความรู้ดีๆ
00:28:06 → 00:28:08 เกี่ยวกับการดูแลตัวเองการดูแลสุขภาพใน
00:28:08 → 00:28:11 เรื่องไหนมาฝากกันก็อยากให้ทุกคน Stay
00:28:11 → 00:28:13 Tune นะคะติดตามเรากันได้ในรายการนิ
00:28:13 → 00:28:16 เฮอร์ทุกวันพุธ 20:00 นค่ะวันเนี้มันแค่
00:28:16 → 00:28:18 บางส่วนที่แป้งเอาามาสรุปกับเที่ยวให้ฟัง
00:28:18 → 00:28:21 แต่แป้งแน่นอนว่า EP ต่อๆไปเที่ยวจะมี
00:28:21 → 00:28:23 เรื่องว้าวกว่านี้อีกมากมายผมว้าวแค่นี้
00:28:23 → 00:28:25 ผมก็ว้าวแหละว้าวเนาะแบบแค่ตอนนั่งคุยกับ
00:28:25 → 00:28:28 คุณหมอก็ว้าวมากๆเอออยากให้ทุกคนไปดูตัว
00:28:28 → 00:28:31 เต็มจาก EP ก่อนๆหน้าได้นะคะคุณหมออธิบาย
00:28:31 → 00:28:33 ไว้ค่อนข้างเข้าใจง่ายแล้วก็เชื่อว่าคุณ
00:28:33 → 00:28:36 ผู้หญิงได้ประโยชน์แล้วก็ถ้าคุณผู้ชายมา
00:28:36 → 00:28:38 นั่งฟังด้วยกันเนี่ยน่าจะดูแลกันและกัน
00:28:38 → 00:28:41 ได้แบบดีดีเลยจะได้เข้าใจกันมากขึ้นนะคะ
00:28:42 → 00:28:44 ก็หลังจากนี้ค่ะถ้าใครมีประสบการณ์ที่
00:28:44 → 00:28:46 อยากจะแชร์เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพหรือว่า
00:28:46 → 00:28:49 มีคอมเมนต์ใดๆอยากจะถามตอบเรากับคุณจะถาม
00:28:49 → 00:28:51 แบ้งก็ได้ถามคุณหมอโอก็ได้นะคะสามารถทิ้ง
00:28:52 → 00:28:53 เอาไว้ได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยแล้วเรามา
00:28:53 → 00:28:56 พบกันใน Episode หน้านะคะสำหรับวันนี้
00:28:56 → 00:28:58 สวัสดีค่ะ
00:28:58 → 00:29:02 [เพลง]
00:29:02 → 00:29:05 y