00:00:00 → 00:00:04 ถ้า
00:00:04 → 00:00:08 คุณกำลังฟังชีวิตจิตถอด Cash ขับสุขภาพ
00:00:08 → 00:00:10 เพื่อคนทุกเพศวัย
00:00:10 → 00:00:14 สนับสนุนเรื่องราวสุขภาพมันกินโดยทักปั่น
00:00:14 → 00:00:17 ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเพื่อสุขภาพคนไทยจาก
00:00:17 → 00:00:20 ข้าวไทยมาตรฐานส่งออกระดับโลก
00:00:20 → 00:00:25 ชีวิตจิตเฮ็ดซึม episode 12 สวัสดีค่ะ
00:00:25 → 00:00:27 ยินดีต้อนรับเข้าสู่ชิวจิก Health Card
00:00:27 → 00:00:30 ซึมนะคะวันนี้อยู่กับแอดมินนิค่ะ
00:00:30 → 00:00:33 แอดมินเพจไม่ได้สารชีวจิตค่ะวันนี้เราก็
00:00:33 → 00:00:36 ยังอยู่กับคุณแพ็คนะคะคุณกฤษฎีโพธิทัตขา
00:00:36 → 00:00:39 ที่ปรึกษาด้านโภชนาการของโรงพยาบาล
00:00:39 → 00:00:41 เทพธารินทร์คาแล้วก็ยังเป็นนัดกำหนดอาหาร
00:00:41 → 00:00:44 ขึ้นทะเบียนวิชาชีพอีกด้วยนะสำหรับวันนี้
00:00:44 → 00:00:47 เนี่ยเรื่องของเราน่าสนใจมากๆมันอยู่ที่
00:00:47 → 00:00:50 เออเออเรามาลงกันที่วัฒนธรรมการกินที่
00:00:51 → 00:00:54 ใกล้ตัวมากๆที่กำลังเป็นกระแสความจริงมัน
00:00:54 → 00:00:55 ก็เป็นกระแสมาตั้งนานแต่ตอนนี้มันกลาย
00:00:55 → 00:00:59 เป็นเออเออเรื่องปกติของคนไทยไปแล้วนั่น
00:00:59 → 00:01:02 ก็คือวัฒนธรรมไปกินบุฟเฟ่ค่ะคุณแพทคะคุณ
00:01:02 → 00:01:06 แพทเคยกินบุฟเฟ่นะคะเคยจ๋าแล้วก็เราเป็น
00:01:06 → 00:01:09 ปกติเป็นคนกินบุฟเฟ่เป็นปกติไหมคะไม่อ่ะ
00:01:09 → 00:01:14 คะถ้าไม่ไม่ไปประจำงานนิษาขอเกริ่นถึงว่า
00:01:14 → 00:01:17 ทำการกินเซ่ที่กำลังจะหมายถึงก่อนเนาะ
00:01:17 → 00:01:20 สำหรับวัฒนธรรมการกินบุฟเฟ่ต์เนี่ยวันนี้
00:01:20 → 00:01:23 จะมาคุยกันว่ามันกำลังจะส่งผลต่อสุขภาพ
00:01:23 → 00:01:28 ของคนไทยไปในทิศทางไหนเราพูดถึงการกินเซ่
00:01:28 → 00:01:30 ก่อนการกินบุฟเฟ่ต์ปกติเราจะเข้าใจกันว่า
00:01:30 → 00:01:33 มันคือการให้บริการตัวเองในการจะเป็น
00:01:33 → 00:01:35 เรื่องกินอาหารที่เราต้องการจะทานเนาะใส่
00:01:35 → 00:01:37 จานแล้วก็มานั่งกินก็คือช่วยเหลือตัวเอง
00:01:37 → 00:01:40 เป็นบุฟเฟ่ต์แต่จะมีอาหารให้เลือกหลาก
00:01:40 → 00:01:43 หลายหน่อยแต่ในประเทศไทยการกินบุฟเฟ่ต์
00:01:43 → 00:01:46 นั้นมันจะมีความแตกต่างกันนิดหน่อยๆมัน
00:01:46 → 00:01:48 บางคนอาจจะยังกินแบบแบบแรกเนี่ยแต่ว่ามัน
00:01:48 → 00:01:51 ก็จะเขาเรียกว่าอะไรอ่ะมาทำการกินเส้น
00:01:51 → 00:01:55 เนี่ยพอมันเข้าถึงตลาดมากขึ้นมันแนทมาก
00:01:55 → 00:01:58 ขึ้นกลายเป็นว่ามันเป็นการเขาเรียกว่า
00:01:58 → 00:02:01 อะไรกันเหมาจ่ายหมอเขาจ่ายการกินอาหาร 1
00:02:01 → 00:02:05 มื้อที่เราจะสามารถกินอะไรก็ได้ในร้านตาม
00:02:05 → 00:02:09 แพ็คเกจที่เราเลือกไว้อย่างไม่อั้นจึงได้
00:02:09 → 00:02:12 ตามมาคืออะไรสิ่งที่ตามมาก็คือมันทำให้คน
00:02:12 → 00:02:16 เราก็กินมากกว่าที่ร่างกายต้องการมากๆ
00:02:16 → 00:02:19 เพราะเราอยากจะเอาชนะตัวค่า Package ที่
00:02:19 → 00:02:22 เราเสียไปใน 299 399 499 เราอยากจะกิน
00:02:22 → 00:02:25 ให้มันถึงพันถึงแล้วกับ 2-3 พันก็แค่ชั้น
00:02:25 → 00:02:28 แบบเสียมา 500 ฉันกินได้ 3,000 แบบนี้
00:02:28 → 00:02:30 ซึ่งเธอตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องปกติไปและ
00:02:30 → 00:02:32 กลายเป็นว่าคนเราเสียแพ็คเกจเขาไปแล้ว
00:02:32 → 00:02:35 ต้องกินให้คุณที่สุดเยอะที่สุดได้อ้ะได้
00:02:35 → 00:02:39 อาหารที่แบบแพงๆระดับได้กินหลายๆชิ้นที่
00:02:39 → 00:02:44 สุดอะไรแบบนี้ค่ะมันก็เลยเกิดอะไรอ่ะทำ
00:02:44 → 00:02:46 ให้คนคนนึงเนี่ยที่การที่จะกินอาหารใน
00:02:46 → 00:02:49 หนึ่งมื้อปกติมันก็แค่ปชั่นเดียวกลายเป็น
00:02:49 → 00:02:52 ว่าเรากินเบิ้ลเบิ้ลอ่ะ 3 4เท่าบางคน 5
00:02:52 → 00:02:55 เท่าบางคนถ้าเคยหลับไปดูตาม้าเฟอาจจะเจอ
00:02:55 → 00:02:58 กับว่าอีทานอาหารที่วางพูนเหนือศรีษะเลย
00:02:58 → 00:03:01 ด้วยซ้ำอะไรแบบนี้มันก็อย่าเพิ่งบอกกิน
00:03:01 → 00:03:04 อาหารมากเกินไปให้ศาลเลยอยากถามมุมมอง
00:03:04 → 00:03:07 ความคิดเห็นของคุณแพ้นะคะว่าคิดยังไงกับ
00:03:07 → 00:03:09 พฤติกรรมการกับเป็ดเสพติดการกินบุฟเฟ่ต์
00:03:09 → 00:03:12 แบบนี้เนี่ยเราก็คิดว่ามันจะเกิดผลดีผล
00:03:12 → 00:03:15 เสียในมุมมองของนักกำหนดอาหารอย่างคุณแพท
00:03:15 → 00:03:17 ยังไงบ้างลองปลา
00:03:17 → 00:03:21 บอกหมูคำว่าเสพติดก็ก็เป็นคำที่แปลว่านึก
00:03:21 → 00:03:25 มองเห็นภาพนิดนึงนะว่าแบบว่าเหมือนกับอ่า
00:03:25 → 00:03:30 เคยชินกับการกินแบบนั้นแล้วก็
00:03:30 → 00:03:34 ใช่เรื่องของความคุ้มค่าที่เราจ่ายเงินไป
00:03:34 → 00:03:39 แล้วอะไรอย่างนี้ใช่ไหมครับเอิ่มมันคงถ้า
00:03:39 → 00:03:42 เป็นในลักษณะของการทำเป็นประจำเนี่ยถ้า
00:03:42 → 00:03:46 คิดว่ามันส่งผลต่อสุขภาพได้แน่นอนนะคะของ
00:03:46 → 00:03:48 วงเล็บก่อนด้วยความที่อย่างที่บอกว่าราคา
00:03:48 → 00:03:50 บุฟเฟ่ต์เดี๋ยวนี้ด้วยความที่มันหม๊ดแล้ว
00:03:50 → 00:03:53 มันมีหลายราคามันเข้าถึงคนได้ง่ายขึ้น
00:03:53 → 00:03:57 ราคามันถูกบางที่แบบว่าไม่ถึงร้อยก็มีท่า
00:03:57 → 00:03:59 แบบจำไม่ผิดกับ 99 บาทร้อยเก้าเก้าแล้วก็
00:03:59 → 00:04:02 กินก็ได้แล้วเอามากินอาหารได้ไม่อั้น
00:04:02 → 00:04:04 เลือกอาหารที่อยากจะกินในร้านนั้นได้แล้ว
00:04:04 → 00:04:07 ในตำนานมาทำให้เหมือนกับบางทีระหว่างที่
00:04:07 → 00:04:09 เลือกอาหารอลาคาส 1 จานอะไรแบบเนี้ยเปิด
00:04:09 → 00:04:12 ราคาเท่ากันเขาก็เลยมากินบุฟเฟ่ทำให้มื้อ
00:04:12 → 00:04:14 นั้นของเขาเนี่ยกลายเป็นมือที่แบบกินเยอะ
00:04:14 → 00:04:19 กว่าที่แบบปกติฉันใช่ 3 เท่า 4 เท่าแล้ว
00:04:19 → 00:04:21 มาทั้งรากเลยได้บ่อยยังบอกเพราะอ่ะราคา
00:04:21 → 00:04:23 มันถูกเขากินได้บ่อยฝึกอะไรกินแล้วก็จัง
00:04:23 → 00:04:27 เลยชวนให้กินไปกินแม่แบบง่ายๆนี่แหละใช่
00:04:27 → 00:04:31 ประเด็นก็เลยแบบอยากรู้ว่าคนเสียผลดีของ
00:04:31 → 00:04:34 แบบการที่เรามีเธอพฤติกรรมการกินแบบนี้
00:04:34 → 00:04:38 มันมีอะไรจะมีอะไรตามมาบ้างคะก็ขอบคุณที่
00:04:38 → 00:04:42 อธิบายนะคะๆขอบคุณค่ะนกว่าไม่ค่อยได้ทาน
00:04:42 → 00:04:44 ได้เลยเราก็เลยแบบอ่าขอแบบการ์ตูนความ
00:04:44 → 00:04:46 เข้าใจตรงกันก่อนว่าวัฒนธรรมการกิน
00:04:46 → 00:04:50 บุฟเฟ่ต์เอาเป็นในคนกลุ่มไม่อัดไม่มั่นใจ
00:04:50 → 00:04:53 ว่าเป็นส่วนใหญ่ของคนไทยไหมแต่ว่าก็ก็พบ
00:04:53 → 00:04:56 เห็นได้บ่อยว่ามีพฤติกรรมการกินแบบนี้ค่ะ
00:04:56 → 00:04:58 เอิ่ม
00:04:58 → 00:05:03 คือการกินเตือนฉันในปริมาณที่มากเกินความ
00:05:03 → 00:05:07 จำเป็นของเราเนี่ยอยู่เป็นประจำคือถ้า
00:05:07 → 00:05:10 เกิดขึ้นในวันนึง 3 ว่าเราไปกินบุฟเฟ่
00:05:10 → 00:05:14 แล้วก็โมโหสนุกสนานเฮฮากับเพื่อนแล้วกิน
00:05:14 → 00:05:17 อาหารเยอะขึ้นมาหน่อยเนาะเราทำเป็นแบบนาน
00:05:17 → 00:05:19 ๆทีเลยเนี่ยก็คิดว่าเรื่องนั้นมันเป็น
00:05:19 → 00:05:22 เรื่องปกติค่ะใช่ไหมเราได้ต้องสังสรรค์
00:05:22 → 00:05:25 บ้างไหมค่ะใช่ชินเดต้องได้กินอะไรแบบนี้
00:05:25 → 00:05:28 สิ่งที่วุ่นจะกินแล้วกินได้จำนวนเยอะบ้าง
00:05:28 → 00:05:32 ก็ต้องสนุกสนานบ้างนั้นโอเคแพตว่าอย่าไป
00:05:32 → 00:05:33 คิดว่ามันคงจะไม่ได้
00:05:33 → 00:05:37 กระทบสุขภาพอะไรแต่ถ้าสมมติว่ามันเป็น
00:05:37 → 00:05:40 อะไรที่เราทำเป็นประจำนะแล้วความคิดของ
00:05:40 → 00:05:44 เราในลักษณะที่วันที่ศาลอธิบายเนี่ยก็คือ
00:05:44 → 00:05:46 เหมือนกับต้องเอาชนะล่ะ
00:05:46 → 00:05:50 แพ็คเกจอ่ะถ้าแบบ 5 บุฟเฟ่ต์ที่เราถ้าหัว
00:05:50 → 00:05:51 ที่เราต้องเรียกเข้าฆ่ามันฆ่าจ่ายรายหัว
00:05:52 → 00:05:54 นะว่าบังสร้าง 499 เท่านั้นกินให้ได้
00:05:54 → 00:05:57 2,000 ความคิดของเราเป็นในลักษณะอย่าง
00:05:57 → 00:06:01 นั้นน่ะนะคะอืมแล้วถ้าเราทำอย่างนี้เป็น
00:06:01 → 00:06:04 ประจำเราต้องกินเยอะเพื่อที่จะเอาให้คุ้ม
00:06:04 → 00:06:08 อยู่ตลอดแสดงว่าเรากำลังได้รับพลังงานจาก
00:06:08 → 00:06:11 อาหารเนี่ยเกินกว่าที่จำเป็นอยู่เรื่อยๆ
00:06:11 → 00:06:16 นะอาบแล้วแล้วการกินอาหารในปริมาณที่มาก
00:06:16 → 00:06:20 แบบนั้นเนี่ยมันอาจจะทำให้
00:06:20 → 00:06:23 กระเพาะของเราเนี่ยคือก็กระเพาะของเรามา
00:06:23 → 00:06:27 เป็นตั้มเนื้อน้องมันขยายได้นะคือเวลาเรา
00:06:27 → 00:06:30 กินในปริมาณที่เยอะแล้วก็เป็นประจำอย่าง
00:06:30 → 00:06:33 นั้นเนี่ยมันอาจจะทำให้กระเพาะของเราขยาย
00:06:33 → 00:06:36 ได้ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเราอาจจะต้องกิน
00:06:36 → 00:06:38 เยอะขึ้นเพื่อให้อิ่มพ่อกลายเป็นว่า
00:06:38 → 00:06:41 เหมือนกระเพาะจากที่แบบการเดียวอิ่มแล้ว
00:06:41 → 00:06:43 ไปมาฉันต้องกินของจาน 3 จานครั้งแรกเรา
00:06:43 → 00:06:47 อาจจะโอ้โหยิ้มแบบอิ่มแน่นท้องเรออย่าง
00:06:47 → 00:06:49 นี้ใช่มั้ยฮะอีกวันหนึ่งถ้าเป็นปกติเนี่ย
00:06:49 → 00:06:52 เราก็คงจะกินน้อยลงคะนั่นมันคือแพทเทิร์น
00:06:52 → 00:06:57 กันกินของคนที่แบบกินปกตินะที่เราว่าความ
00:06:57 → 00:07:00 หิวของเราก็อาจจะไม่เหมือนกันในแต่ตั้ง
00:07:00 → 00:07:03 ครรภ์ค่ะและถ้าเกิดเราฟังสัญญาณจากภายใน
00:07:03 → 00:07:07 ของเราเนี่ยแล้วเรา Honor เราทำตามที่
00:07:07 → 00:07:11 สัญญาเรากำลังบอกเนี่ยคือคือวันที่กินมา
00:07:11 → 00:07:14 เยอะละวันหลังจากนั้นเราอาจจะไม่หิวเราก็
00:07:14 → 00:07:18 กินตามปริมาณของความหิวที่น้อยลงใช่ไหม
00:07:18 → 00:07:20 เราก็จะกินน้อยลงอีกวันนึงโดยอัตโนมัติ
00:07:21 → 00:07:24 เนาะแต่ว่าสมมติอีกวันนึงเอาไปกินบุฟเฟ่
00:07:24 → 00:07:26 ดีกว่าเลยเนี่ยเหมือนกับว่าวันนี้ไปกับ
00:07:26 → 00:07:28 เพื่อนคนนี้ไงอีกวันหนึ่งเพื่อนคนนี้นัด
00:07:28 → 00:07:32 ไงรักษาน้ำใจก็อาจจะไปแบบเบิ้ล 2 อีกอะไร
00:07:32 → 00:07:34 อย่างเงี้ยใช่ไหมคะก็เราอาจจะไม่ได้หิว
00:07:34 → 00:07:38 แต่ด้วยความคิดอันนี้แหละที่เราจะต้องเอา
00:07:38 → 00:07:40 ชนะแล้วก็ต้องเอาให้คุ้มแห่งนี้มันก็อาจ
00:07:40 → 00:07:43 จะทำให้เราเมินสัญญาณจากร่างกายของเรา
00:07:43 → 00:07:46 อยู่ด้วยเนาะว่าแบบเราไม่ได้หิวแต่ว่าเรา
00:07:46 → 00:07:49 กลายเป็นกินเยอะแล้วก็กินเกินความต้องการ
00:07:49 → 00:07:54 ของร่างกายอีกใช่ไหมคะมันคือแพ้ก็คิดผู้
00:07:54 → 00:07:58 อยู่นะว่ามันคงจะไม่ได้รู้สึกดีข้างใน
00:07:58 → 00:08:01 ร่างกายด้วยนะใช่ก็กินเสร็จนี่เหมือนนรก
00:08:01 → 00:08:06 ลงโทษก็ก็คือถ้าถามหลายๆคนที่แปลว่าตอน
00:08:06 → 00:08:08 กินี่หุ่นกินไม่หยุดไม่ได้คุยกันเลยทั้งๆ
00:08:08 → 00:08:11 ที่แบบไปก่อนจับๆคุยกันก็ยังแสนนึงอ่ะกัน
00:08:11 → 00:08:13 เลยฮะก็คือพอกินก็คือเงียบทุกคนเงียบกริบ
00:08:13 → 00:08:15 แบบขี้เล่นอย่างเดียวอ้ะกินอย่างเดียว
00:08:15 → 00:08:19 แล้วก็ก็พบว่ากินเสร็จก็คือดูคนจะอดโอย
00:08:19 → 00:08:22 เพราะว่าป่ะล่ะท้องอืดแล้วปลอดยังไงอาหาร
00:08:22 → 00:08:25 ไม่ย่อยและนอนไม่ได้คืนนั้นกว่าหน้าเป็น
00:08:25 → 00:08:29 แบบตี 1 ตี 2 นานแหละเนียนนั้นแหละมันจะ
00:08:29 → 00:08:32 มีผลกระทบกับสุขภาพมากเพราะว่าคือถ้าเกิด
00:08:32 → 00:08:37 เรากินมื้อข้ามเนี่ยนะมื้อเย็นหรือที่มัน
00:08:37 → 00:08:42 หนักเนี่ยแล้วกลายเป็นว่าร่ำไห้อีกและ
00:08:42 → 00:08:45 ยิ่งทำอยู่บ่อยๆเนี่ยหน้าแล้วก็มันใกล้
00:08:45 → 00:08:48 กับเวลานอนของเราซึ่งบางครั้งเนี่ยพอกิน
00:08:48 → 00:08:51 มื้อเย็นเสร็จที่มันหนักเนี่ยนะนี่มันก็
00:08:51 → 00:08:54 ทำให้เรารู้สึกไม่กระฉับกระเฉงเนอะมันก็
00:08:54 → 00:08:59 ต้องเอนตัวเราต้องมาถึงตัวทิ้งตัวจริงตัว
00:08:59 → 00:09:03 นี้นึงค่ะใช่แล้วเนี่ยแหละที่มันถ้าเกิด
00:09:03 → 00:09:06 เป็นอยู่บ่อยๆเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆเนี่ยมัน
00:09:06 → 00:09:09 ก็มีโอกาสนะที่จะเกิดเรื่องของโรคกรดไหล
00:09:09 → 00:09:13 ย้อนใช่ไหมคะเพราะว่าถ้าเกิดมีอาหารใน
00:09:13 → 00:09:17 ปริมาณมากๆเฉพาะดีตอนช่วงค่ำก่อนนอนหรือ
00:09:17 → 00:09:19 อะไรเนี่ยแล้วแล้วเราไม่ได้กระฉับกระเฉง
00:09:19 → 00:09:22 น้อยหลังจากที่กินอาหารเสร็จเนี่ย
00:09:22 → 00:09:25 อันนี้มันก็จะเป็นประเด็นหนึ่งที่พักคือ
00:09:25 → 00:09:29 มองภาพได้เห็นได้ชัดเลยว่าโอกาสของการ
00:09:29 → 00:09:33 เกิดกดไหลย้อนมันก็อาจจะมีหน้าซึ่งมัน
00:09:33 → 00:09:38 เป็นความรู้สึกที่ทรมานใช่นะเวลาเราเป็น
00:09:38 → 00:09:40 กรดไหลย้อนนะคะมันอาจจะไม่เกิดขึ้นตอนเรา
00:09:40 → 00:09:44 หนุ่มสาวแต่ว่าพอทำไปเยอะๆแล้วอย่างเงี้ย
00:09:44 → 00:09:46 อ้ามันก็อาจจะมีโอกาสที่เกิดขึ้นได้ว่า
00:09:46 → 00:09:49 นั้นต้องระวังนิดนึงนะเรื่องนี้แล้วก็การ
00:09:49 → 00:09:53 ที่เราได้กินอาหารในปริมาณมากๆอย่างที่
00:09:53 → 00:09:57 บอกคือโดยที่ไม่ได้ฟังสัญญาณร่างกายเรา
00:09:57 → 00:10:00 เลยอย่างนี้อ่ะอ่ะ
00:10:00 → 00:10:02 อุ้ยทำไมมากๆมันก็อาจจะคือมันก็ส่งผลต่อ
00:10:02 → 00:10:07 น้ำหนักตัวนะว่าจะเราก็อาจจะพอเดาได้ใช่
00:10:07 → 00:10:11 ไหมคะเอิ่มแล้วมันคือเวลาเราไปบุฟเฟ่ต์นะ
00:10:11 → 00:10:17 เราก็คงจะไม่ได้เลือกแล้วเคืองแพะ Imagine
00:10:17 → 00:10:19 นะว่าคือไว้เองเวลาทำไมบุฟเฟ่ต์แพ้ก็อยาก
00:10:19 → 00:10:22 ที่จะเลือกเนื้อสัตว์ก่อนหรือจะอย่าเลือก
00:10:22 → 00:10:25 ทำให้มันนั่งแบบว่า 1 บัตรสลัดไม่ต้องมี
00:10:25 → 00:10:28 ไม่รู้อย่างก็คือไปถึงก็คือต่อให้มันจะมี
00:10:28 → 00:10:31 ผักอะไรก็ทำก็จะเนื้อก่อนวันนี้เราได้มา
00:10:31 → 00:10:33 กินผักทุกวันจะมีปุ่มเซ็ตมา 7 ว่าอย่าง
00:10:33 → 00:10:36 นี้ค่ะถ้า 8 มูฟเฟ่ไปร้านเนื้ออะไรก็ตาม
00:10:36 → 00:10:38 จะแบบว่าวันนี้ฉันไม่ได้มากินผักคือใส่
00:10:38 → 00:10:40 สมองไว้แล้วเข้ามาถึงจะไม่มีการสัมผัส
00:10:40 → 00:10:44 เกิดขึ้นไม่มีมันก็ดังก็จะเอนไปทางก็บอก
00:10:44 → 00:10:47 ว่าโกลตีนขัดมันกินแต่ว่าอย่างอื่นมันไม่
00:10:47 → 00:10:50 คุ้มใช่มันตีไปแบ่งพื้นที่นั่นแหละพ่อหา
00:10:50 → 00:10:52 นะมันทำให้มีสามารถกินเนื้อเนี่ยจะกินอ่ะ
00:10:52 → 00:10:56 ได้เยอะใช่ใช่มาหาเพราะฉะนั้นมันก็เหมือน
00:10:56 → 00:10:59 กับอาหารมันก็อาจจะไม่บาลานซ์อีกแล้ว
00:10:59 → 00:11:01 เนี่ยไม่ได้ว่ะอย่าเอาแต่แล้วก็คือ
00:11:01 → 00:11:04 อาจารย์อันที่จะส่งผลได้ได้ใกล้เคียงที่
00:11:04 → 00:11:07 สมกับร่างกายคืนถึงเร็วที่สุดก็คือระบบ
00:11:07 → 00:11:10 เกี่ยวกับระบบการย่อยอาหารก็อาจจะเป็นกฎ
00:11:10 → 00:11:12 หมายย้อนซ้อคืออาจจะตบอันนี้เป็นระยะยาว
00:11:12 → 00:11:15 หน่อยหรืออาจจะพูดน้ำหนักตัวอาจจะแบบ
00:11:15 → 00:11:17 ปัญหาสุขภาพโดยรวม
00:11:17 → 00:11:20 ต่อมาก็คืออย่างที่คุณพัฒน์กุลบอกไปเมื่อ
00:11:20 → 00:11:24 กี้ก็เจอน้องเราก็ลืมคิดไปเลยว่าสมดุลมา
00:11:24 → 00:11:29 ของอาหารก็เสียไปแล้วด้วยใช่แล้วพอนานวัน
00:11:29 → 00:11:33 เข้าเราก็กินผักน้อยลงน้อยลงใช่ป่ะมันก็
00:11:33 → 00:11:37 หนักไปทางอ้ำโปรตีนกับไขมันซะส่วนใหญ่
00:11:37 → 00:11:42 อะไรอย่างนี้นะมันก็เนาะมันเป็นแพทเทิน
00:11:42 → 00:11:44 ที่เราต้องดูระยะยาวอ่ะเท่านั้นมันเกิด
00:11:44 → 00:11:47 ขึ้นบ่อยมันก็อาจจะเป็นอะไรที่ส่งผลเสีย
00:11:47 → 00:11:52 ต่อต่ำความดันโลหิตก็ได้เนอะอ่าต่อเรื่อง
00:11:52 → 00:11:56 ของระบบหลอดเลือดและหัวใจอย่างเงี้ยอะมัน
00:11:56 → 00:11:58 ก็ส่งผลตรงนี้ได้ด้วยเหมือนกันเพราะ
00:11:58 → 00:12:02 ฉะนั้นก็ต้องระวังนิดนึงอีกแล้วพอหลาย
00:12:02 → 00:12:05 แล้วคนพอน้ำหนักตัวค่อนข้างแบบไปขึ้น
00:12:05 → 00:12:09 อย่างนี้โดยที่ไม่ได้มีความกระฉับกระเฉง
00:12:09 → 00:12:12 หรือเคลื่อนไหวร่างกายหรือออกกำลังกาย
00:12:12 → 00:12:15 เป็นประจำอะไรอย่างนี้นะด้วยนะคะเอิ่ม
00:12:15 → 00:12:20 สิ่งที่ตามมาก็คือเรื่องของโลกหลังน้อย
00:12:20 → 00:12:23 ใหญ่ตรงเนี่ยลูกอินทรีย์ดีความชาติความ
00:12:23 → 00:12:25 ดันสูงขึ้นนะเพราะคนเราสูงขึ้นมันก็จะ
00:12:25 → 00:12:29 เป็นสัญญาณเริ่มละอ้าวแล้วเรื่องของอ่า
00:12:29 → 00:12:32 น้ำตาลในเลือดละเรื่องของเบาหวานล่ะมา
00:12:32 → 00:12:37 เพราะว่าข้าวค่ะใช่แล้วพอเอิ่มพอจะไอ้
00:12:37 → 00:12:41 เนี่ยเราถ้าเกิดเราเคยชินกับการกินอาหาร
00:12:41 → 00:12:45 ในปริมาณมากๆอย่างนี้อ่ะแล้วพอเราพูดถึง
00:12:45 → 00:12:48 เรื่องของการควบคุมโลกมันก็คือต้องเป็น
00:12:48 → 00:12:51 การปรับเปลี่ยนชนิดของอาหารแล้วก็ปริมาณ
00:12:51 → 00:12:55 อาหารด้วยใช่ไหมมันก็อาจจะทำให้คนเกิด
00:12:55 → 00:12:58 ความทุกข์ทรมานใจได้เวลาต้องมาปรับ
00:12:58 → 00:13:01 เปลี่ยนเวลารถถ้าเกิดขึ้นเพราะเราเสีย
00:13:01 → 00:13:04 นิสัยในการกินไปเสียแล้วมันที่มันแค่มัน
00:13:04 → 00:13:08 เค้าเคยเคยความเคยชินชีน่ะมันก็เราตัวนี้
00:13:08 → 00:13:09 ไหลแล้วเราแบบเราชิ้นเหมือนกันกินแบบนี้
00:13:10 → 00:13:13 ใช่หรอก็คือเอาง่ายก็คือเราไม่ได้ทำตัว
00:13:13 → 00:13:16 ให้เหมือนกับกิน Healthy มันแรกเหมือนกับ
00:13:16 → 00:13:19 เราปล่อยปละจนมันจนมันกลายเป็นว่าให้ฉัน
00:13:19 → 00:13:21 ชินกับการกินเพราะชั่นแบบนี้สัดส่วน
00:13:21 → 00:13:24 ปริมาณประมาณนี้ไม่ได้ผักแค่นี้เนื้อเยอะ
00:13:24 → 00:13:27 หน่อยอะไรแบบนี้ฉันแล้วเวลาต้องมาต้องมา
00:13:27 → 00:13:29 ควบคุมเพราะเวลาเป็นโรคเราไม่สามารถเขา
00:13:29 → 00:13:31 ยังไม่มาตามใจเราได้เราจะเซ็นและก็คือ
00:13:31 → 00:13:33 เหมือนที่เราคุยกันมาที่บอกที่คือใครบอก
00:13:33 → 00:13:36 ว่ามันต้องความคิดหยุดอันนั้นในเงื่อนไข
00:13:36 → 00:13:38 ของสุขภาพที่ไม่ได้จำกัดเรามากแต่พอเริ่ม
00:13:38 → 00:13:42 มีโลกเข้ามาเออการกินมันเริ่มต้องระวัง
00:13:42 → 00:13:45 มันใช่มันเริ่มแบบมันตีวงแคบก็มาและเรา
00:13:45 → 00:13:47 อาจจะ fatsex เอเบิลได้ไม่เท่ากับตอนที่
00:13:47 → 00:13:51 ดูร่างกายเรายังไม่มีโลกใช่แล้วการที่เรา
00:13:51 → 00:13:55 มีความคิดต่ออาหารไม่ใช่ไหมแบบความเหมือน
00:13:55 → 00:13:59 กับใช้ก็นึกภาพนะว่าคนจะต้องขึ้นนอกจาก
00:13:59 → 00:14:02 กินให้อีกแล้วเนี่ยหรือบางที่มันจำกัด
00:14:02 → 00:14:06 เวลาด้วยใช่ต้องกินให้เร็วได้บ้างสิถึง
00:14:06 → 00:14:08 ไม่คุยกันนะพอแบบประทานลงพวกไม่มีใครคุย
00:14:08 → 00:14:11 กันเสียเวลากินเลยเพราะฉะนั้นอันนี้ก็
00:14:11 → 00:14:14 เป็นอีกประเด็นหนึ่งด้วยเหมือนกันที่ถ้า
00:14:14 → 00:14:18 เรากินเร็วใช่ไหมล่ะกินเร็วกินแล้วกินใน
00:14:18 → 00:14:21 ปริมาณที่เยอะเกินมันก็จะเป็นความเคยชิน
00:14:21 → 00:14:26 อีกและใช่ไหมคะแล้วอ้ำสิ่งหนึ่งที่
00:14:26 → 00:14:29 แพทเวลาสอนเรื่องอาหารที่แบบดูแลสุขภาพ
00:14:29 → 00:14:33 อะไรอย่างเงี้ยก็คือประเด็นที่เราพูดถึงำ
00:14:33 → 00:14:36 ว่าการกินอย่างมีสติค่ะหรือการกินให้มัน
00:14:36 → 00:14:39 ช้าลงถ้าใครที่มีลักษณะนิสัยการกินเร็ว
00:14:39 → 00:14:42 มันก็เป็น
00:14:42 → 00:14:45 พฤติกรรมนึงที่แพทบงเพื่อแบบดาวได้แหละ
00:14:45 → 00:14:48 ว่ามันเป็นพฤติกรรมที่ทำมานานแล้ววางใช่
00:14:48 → 00:14:52 ไหมคะเท่าเร็วเพียงหมดแล้วก็เข้าใจได้แบบ
00:14:52 → 00:14:57 แบบบางบ้านเนี่ยบางๆก็แบบสุกคนนั่งกินๆ
00:14:57 → 00:15:01 ใช่ไหมแปลว่าไม่จำยังรวดเร็วร้านน้าตรง
00:15:01 → 00:15:04 เนี้ยบางครั้งเราก็ไม่ได้รับรู้รสชาติของ
00:15:04 → 00:15:07 อาหารด้วยเนอะอ๋ออ๋อกันก็แปลว่ามันก็จะ
00:15:07 → 00:15:09 สอดคล้องมาถึงมันทำให้เคยไม่เกิดความพึง
00:15:09 → 00:15:13 พอใจถูกต้องแท่นให้ความสำคัญตรงนี้เยอะ
00:15:13 → 00:15:16 มากเลยเพราะเราไม่รับรู้รสชาติอาหารเราก็
00:15:16 → 00:15:19 เหมือนกับบางคนก็จำไม่ได้นะว่ากินอะไร
00:15:19 → 00:15:21 บ้างหรือว่าเป็นรถเป็นยังไงว่าแต่ว่ากูจบ
00:15:21 → 00:15:27 กันหมดแล้วเธอใช่ใช่ตรงนี้แหล่ะที่เพิ่ม
00:15:27 → 00:15:30 มันอาจจะส่งเสริมพฤติกรรมวันนี้มากขึ้น
00:15:30 → 00:15:33 ด้วยหรือเปล่าพวกวิธีการกินบุฟเฟ่ต์ของคน
00:15:33 → 00:15:37 เราเนี่ยอ่ะเนาะมันมีหลายๆแง่มุมนะที่เรา
00:15:37 → 00:15:40 สามารถที่จะดูได้มันไม่ใช่แค่เรื่องของ
00:15:40 → 00:15:43 อาหารเพื่อสุขภาพไม่สร้างแต่ลักษณะการกิน
00:15:43 → 00:15:47 ของเราด้วยใช่เวลาที่มันส่งผลระยะยาวต่อ
00:15:47 → 00:15:50 สุขภาพของเราการกินเร็วการไม่รับรู้รส
00:15:50 → 00:15:54 ชาติของอาหารส่งผลให้เราแบบไม่เกิดความ
00:15:54 → 00:15:57 พึ่งพอใจแล้วพวกนี้แล้วเราก็ยัง
00:15:57 → 00:16:01 เหมือนยังอยากกินอยู่คะ
00:16:01 → 00:16:03 สรุปง่ายๆคือกับการกินบุฟเฟ่ต์มันไม่ได้
00:16:03 → 00:16:06 ผิดแต่เขาเร็วขึ้นหนึ่งทำตอนกินดีกว่าที่
00:16:06 → 00:16:10 แบบว่ามันสุ่มเสี่ยงต่อการบอกว่าเราจะมี
00:16:10 → 00:16:13 พฤติกรรมการกินผิดๆทำให้เหมือนกับส่งผล
00:16:13 → 00:16:16 ต่อร่างกายในระยะยาวของเราได้นั่นเองใช่
00:16:16 → 00:16:18 คือถ้าเกิดสมมติว่าเราไปกินบุฟเฟ่ต์กับ
00:16:18 → 00:16:21 เพื่อนเราอยากที่จะอยู่ในสังคมเฮฮากับ
00:16:21 → 00:16:24 เพื่อนมันสนุกอะไรเงี้ยโอเคนะคะแต่ก็อยาก
00:16:24 → 00:16:26 ให้ Enjoy อ่ะด้วยอย่างอยากให้แบบใหม่
00:16:26 → 00:16:29 เต็ดไม่ใช่การที่แบบฉันจะไปเอาชนะค่าหัว
00:16:29 → 00:16:32 ของตัวบุฟเฟ่ต์แต่เป็นแค่แบบว่าเออเป็น
00:16:32 → 00:16:35 การเขาเรียกไงผ่อนคลายความเครียดในการออน
00:16:35 → 00:16:37 ทำงานมาทั้งวันฉันอยากให้รางวัลตัวเองฉัน
00:16:37 → 00:16:39 อยากกินอาหารกับเพื่อนๆได้กินอาหารหลัก
00:16:39 → 00:16:42 หลายอะไรแบบนี้แล้วก็อยากรู้เลยว่าอาหาร
00:16:42 → 00:16:46 มื้อนั้นอ่ะมันอร่อยไหมเนาะบางทีนึงถ้า
00:16:46 → 00:16:48 เกิดเรากินเร็วแล้วก็ไม่ได้รับรู้รสชาติ
00:16:48 → 00:16:50 แล้วเราก็ไม่รู้ว่ามันอร่อยไม่อร่อยมัน
00:16:50 → 00:16:51 อร่อยค่ะ
00:16:51 → 00:16:55 Love คือกันนี้ก็เป็น Challenge เหมือน
00:16:55 → 00:16:57 กันนะว่าเราฟังสัญญาจำร่างกายจริงหรือ
00:16:57 → 00:17:00 เปล่าหรือมันเป็นแค่ความคิดค่ะว่าก็ต้อง
00:17:00 → 00:17:02 อร่อยว่าบางคนบอกว่าอุ้ยเจ้านี้อร่อยเท่า
00:17:02 → 00:17:04 นี้อร่อยเราก็ออเจ้าอร่อยไปด้วยแต่เราก็
00:17:04 → 00:17:07 กลับจิตวิทยาขึ้นเรามาฟังหัวไว้แล้วว่า
00:17:07 → 00:17:10 กินเนี่ยมันต้องอร่อยคนหญิงจะไม่ได้อร่อย
00:17:10 → 00:17:13 จริงๆในมันอร่อยแต่แค่เราอ่ะเผลอเราอาจจะ
00:17:13 → 00:17:16 ยังไม่ได้รู้รถมันด้วยซ้ำแต่เราอะไรไป
00:17:16 → 00:17:18 ก่อนแต่ถ้าเราฟังหัวไว้แล้วมันอร่อยอ๋อ
00:17:18 → 00:17:21 มันก็มีเปิดประเด็นนี้ได้เนาะแต่กลับมา
00:17:21 → 00:17:23 ที่ร่างกายเราได้ว่าน้องมาฟังสัญญาณจาก
00:17:23 → 00:17:27 ร่างกายเรานิดนึงอะว่าแบบเฮ้ยมันอร่อย
00:17:27 → 00:17:31 จริงไหมค่ะต้องแบบ slow down หน้าคือกิน
00:17:31 → 00:17:34 ให้มันช้าลงแล้วได้รับรู้รสชาติของอาหาร
00:17:34 → 00:17:38 จริงๆบางคนก็แปลว่าพ่อกินไปกินหมากต้อง
00:17:38 → 00:17:43 มันเค็มไปอ่ะซึ่งเนอะบางทีมันก็แบบไม่
00:17:43 → 00:17:46 จำเป็นแล้วเลยเงี้ยอะบางคนก็อาจจะพอรับ
00:17:46 → 00:17:51 รู้ตรงนี้ปุ๊บเนี่ยเขาก็อาจจะไม่กินต่อก็
00:17:51 → 00:17:55 เป็น of ถ้ำโอเคงั้นก็งั้นตอนนี้เคลียร์
00:17:55 → 00:17:58 เลยงั้นเรื่องสุดท้ายก็คืออยากให้คุณคะ
00:17:58 → 00:18:00 แต่ว่าสรุปเป็นข้อๆเลยว่าๆขอแนะนำคนที่
00:18:00 → 00:18:04 กินบุฟเฟ่ต์อ่ะควรมีหลักการอะไรเอาเป็น
00:18:04 → 00:18:07 ข้อสั้นๆง่ายๆเพราะว่าเราก็ไม่ได้ก็ห้าม
00:18:07 → 00:18:10 คนกินๆมายแต่ว่าแค่อยากให้ใครมาระหว่าง
00:18:10 → 00:18:12 พฤติกรรมระวัง mind set ของตัวเองที่จะ
00:18:12 → 00:18:17 ทำให้แบบติดนิสัยการกินผิดๆเข้ามาใช่คือ
00:18:17 → 00:18:20 อ้ะ Enjoy นะอันนี้คือไม่ได้ข้ามนะคือถ้า
00:18:20 → 00:18:22 อยากไปเพราะว่ามันเป็นสิ่งที่แบบมีความดู
00:18:22 → 00:18:25 แล้วแบบมีความสุขไปด้วยนะคะอันนี้นี่น่า
00:18:25 → 00:18:29 พระอยากจะฝากไว้ก็คือถ้าเราแทนนะว่าตอน
00:18:29 → 00:18:32 เย็นจะกินบุฟเฟ่ต์กับเพื่อนอย่านะคะอย่า
00:18:32 → 00:18:34 อดอาหารไปทั้งวัน
00:18:34 → 00:18:38 อันนี้หลายคนทำรู้เลยว่าหลายคนคือแบบอด
00:18:38 → 00:18:41 อาหารแบบไม่กินก็เช้านี้รถเที่ยงแบบเก็บ
00:18:41 → 00:18:45 ทั้งหมดเก็บแคลอรี่ไว้คุณในห้องนี้มัน
00:18:45 → 00:18:48 ต้องมีบ้างที่ทำแบบนั้นเพราะว่าสิ่งที่จะ
00:18:48 → 00:18:53 เกิดขึ้นก็คือเราจะปรับคิวจัดและพอไปถึง
00:18:53 → 00:18:56 ตรงนั้นแล้วเนี่ยมันไม่ต้องดับไปพูดอะไร
00:18:56 → 00:18:59 ถึงจะใครแล้วเรานั่งกินแบบเหมือนกับมันจะ
00:18:59 → 00:19:02 ไม่มีอีกแล้วเตือนพรุ่งนี้อ่ะ
00:19:02 → 00:19:06 ไม่ได้เหมือนกันเหมือนที่เป็นมาด้วยกัน
00:19:06 → 00:19:08 แต่เหมือนไม่ค่อยมาด้วยกันแล้วเราจะกิน
00:19:08 → 00:19:12 แล้วนะที่เหมือนกับเป็นมื้อสุดท้าย
00:19:12 → 00:19:16 หัวเราะก็คนในห้องส่งตัวนี้ก็กดกับการขำ
00:19:16 → 00:19:19 เพราะมันตรงมากอย่าเพราะว่ามันจะทำให้เรา
00:19:19 → 00:19:22 รู้สึกไม่ดีดีด้วยหลังจากให้กินเสร็จแล้ว
00:19:22 → 00:19:26 น่ารักก็แผ่นว่านะเราสามารถที่จะกินได้
00:19:26 → 00:19:29 ค่ะน้าเรากินเป็นมื้อปกติไปเลยดีกว่าว่า
00:19:29 → 00:19:32 มีแป้งด้วยมีโปรตีนด้วยในเมื่อเช้าเมื่อ
00:19:32 → 00:19:36 กลางวันหรืออะไรก็ตามเราอ่ะมาอาจจะปลาร้า
00:19:36 → 00:19:38 เส้นทางมีการกินผักเพิ่มขึ้นเพราะรู้ว่า
00:19:38 → 00:19:42 ในบุฟเฟ่ต์มื้อนั้นล่ะจะไม่กินปั๊มเยอะใน
00:19:42 → 00:19:44 มื้อนั้นอยู่แล้วอะไรอย่างเงี้ยโอเคเราก็
00:19:44 → 00:19:48 แบบแบ่งๆผักมาในมื้ออื่นๆตอนช่วงวันเนี้ย
00:19:49 → 00:19:53 ถ้าคิดว่ามันก็โอเคนะฮะแล้วก็แพทย์ว่าเรา
00:19:53 → 00:19:57 ไปด้วยความสะอาดอย่างที่ที่ 3 ผู้นะคือ
00:19:57 → 00:20:01 ไม่เซ็ตของเราเนี่ยอ่ะว่าคุ้มค่าตรงนี้
00:20:01 → 00:20:05 เราอาจจะได้ความสุขเพียงชั่วขณะเนาะแต่
00:20:05 → 00:20:09 ต้องถามตัวเองและถามใจตัวเองว่ามันคุ้ม
00:20:09 → 00:20:13 ค่าหลังจากที่เรากินเสร็จไหมหน้าไปคิดว่า
00:20:13 → 00:20:16 ประสบการณ์ของคนเนี่ยสามารถที่จะบอกได้
00:20:16 → 00:20:20 ว่าเราเคยมีประสบการณ์ที่แบบกินแล้วมัน
00:20:20 → 00:20:24 อิ่มจนแบบมันถึงคอแล้วอย่างนี้หรือว่าเรา
00:20:24 → 00:20:27 เราจะลงนอนแล้วเราก็นอนไม่หลับเนี่ยเป็น
00:20:27 → 00:20:31 ประสบการณ์ที่มันไม่ดีต่อมทั้งในร่างกาย
00:20:31 → 00:20:33 ใช่ไหมคะเพราะฉะนั้นก็ต้องถามใจตัวเองนะ
00:20:33 → 00:20:36 ว่าโอเคเราเคยมีประสบการณ์อย่างนี้แล้ว
00:20:36 → 00:20:40 วันนี้เราอยากจะมีลักษณะการกินบุฟเฟ่ต์ใน
00:20:40 → 00:20:44 วันนี้เป็นยังไงค่ะเราเรา
00:20:44 → 00:20:49 เอ่อ Enjoy รสชาติกับมันได้ไหมเราลองแช่
00:20:49 → 00:20:53 เลนส์ตัวเองดูบ้างได้ไหมว่าเราจะต่อมรับ
00:20:53 → 00:20:58 รู้รสชาติของไอ้ซอสของมันหรือไอ้น้ำจิ้ม
00:20:58 → 00:21:02 จุ่มอะไรดีล่ะกินกันไม่ว่าจะเป็นอะไรหน้า
00:21:02 → 00:21:05 ตามอาหารบุฟเฟ่ต์บางทีมันก็ทำออกมาแบบ
00:21:05 → 00:21:08 เยอะเนอะค่ะเยอะๆแล้วมันไม่ได้รับรสชาติ
00:21:08 → 00:21:12 มันอาจจะแบบไม่ได้อะไรต้องปรุงแต่งอะไร
00:21:12 → 00:21:14 มากมายเท่ากับอาหารจานอยู่เดี๋ยวๆใช่ไหม
00:21:15 → 00:21:17 คะเขาอาจจะไม่ได้ใส่ใจมากนะคะเขาต้องผลิต
00:21:17 → 00:21:20 ในปริมาณที่เยอะชนะพยานตรงนี้ก็ต้องลองดู
00:21:20 → 00:21:23 ล่ะกูก็อ่านแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันนะแต่
00:21:23 → 00:21:26 แพทอยากจะแชร์เล่นใช่ลองชิมดึงจริงๆและ
00:21:26 → 00:21:29 รับรู้รสชาติอาหารจริงๆมันอาจจะทำให้เรา
00:21:29 → 00:21:33 อ่ะมันกินช้าลงโดยอัตโนมัติเขาเราจะต้อง
00:21:33 → 00:21:37 ใส่ใจก็คิดว่าต้องชาตินิดนึงนะ
00:21:37 → 00:21:40 เออไม่รู้มันไม่รู้เหมือนเมคเซ้นสมัยแต่
00:21:40 → 00:21:44 ว่าคืออืมแต่ก็อยากจะฝากเอาไว้นะคะว่าก็
00:21:44 → 00:21:47 คือเรื่องของไม่ว่าจะเป็นกรดไหลย้อนหรือ
00:21:47 → 00:21:50 จะเป็นความดันหรือจะเป็นอะไรที่เราพูดถึง
00:21:50 → 00:21:53 ncd อะไรต่างๆเนี่ยคือโอเคหลายคนอาจจะ
00:21:53 → 00:21:56 แบบไม่อย่างยังมองภาพไม่เห็นนะคะวันนี้
00:21:56 → 00:22:01 ยังไม่เป็นนะเออใช่ก้อยแต่ว่าถ้าเกิดเรา
00:22:01 → 00:22:04 ทำไปแล้วมันเป็นแพทเทินที่เรากินเป็น
00:22:04 → 00:22:05 ประจำเนี่ย
00:22:05 → 00:22:07 เราอาจจะ
00:22:07 → 00:22:12 มีความเสี่ยงกันข้างสูงแล้วพฤติกรรมนี้
00:22:12 → 00:22:16 มันอาจจะติดตัวเราไปแล้วมันพอเราจะต้อง
00:22:16 → 00:22:18 เปลี่ยนพฤติกรรมนี้มันอาจจะเสียงยากมั้ย
00:22:18 → 00:22:20 อย่างงั้นก็ต้องถามแต่ละคนนะว่ามันเป็น
00:22:20 → 00:22:25 ยังไงแต่ถ้าเกิดเราอ่ะไม่ไปทุกวันหรือ
00:22:25 → 00:22:29 บ่อยทุกสัปดาห์เลยอย่างนี้ไปว่ายืดออกไป
00:22:29 → 00:22:33 บ้างก็ได้นะอ่ะเราสามารถที่จะเอาความอะไร
00:22:33 → 00:22:37 อ่ะเราอยากจะไปเอ็นจอยกับเพื่อนอั้มกับ
00:22:37 → 00:22:41 อาหารอื่นๆบ้างหลากหลายมากหรือไม่บอกไปไป
00:22:41 → 00:22:44 แดนซ์ซุ้มบ้าด้วยกัน 4 ถ้าเราอยากจะเร็วๆ
00:22:44 → 00:22:48 ไม่ใช่ไหมคะเราทำอะไรได้ร่างนั้นโอเคคา
00:22:48 → 00:22:51 และนี่ก็คือคำแนะนำในวันนี้นอกสำหรับสาย
00:22:51 → 00:22:54 รุปเฟสต่างๆที่อาจจะรู้แล้วว่าตัวเองแบบ
00:22:54 → 00:22:57 ว่ามีพฤติกรรมให้แบบหมูรู้สึกไม่ดีต่อ
00:22:57 → 00:22:59 สุขภาพเลยแต่อยากจะปรับเปลี่ยนแต่ก็เมีย
00:22:59 → 00:23:01 จะเลิกอันนี้วันนี้ก็คงจะได้ข้อมูลที่
00:23:01 → 00:23:04 เป็นประโยชน์แล้วก็สำหรับอีพีนี้คงต้องลา
00:23:04 → 00:23:07 ไปเท่านี้นะคะเวลาหมดแล้วนิสากับคุณแพทขอ
00:23:07 → 00:23:11 สวัสดีเออผู้ฟังทุกท่าแล้วก็มาติดตามกัน
00:23:11 → 00:23:15 EP ต่อไปว่าเรากำลังจะหยิบยกอะไรมาอีก
00:23:15 → 00:23:18 รับรองว่าไม่ไกลตัวแน่นอนสวัสดีคะสวัสดี
00:23:18 → 00:23:19 ค่ะ
00:23:19 → 00:23:23 ขนาดถนนเรื่องราวสุขภาพจริงโดยฮักปัน
00:23:23 → 00:23:27 ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเพื่อสุขภาพคนไทยจาก
00:23:27 → 00:23:30 ข้าวไทยมาตรฐานส่งออกระดับโลก
00:23:30 → 00:23:34 สนใจติดต่อโฆษณาและสนับสนุนชีวิตจิต
00:23:34 → 00:23:40 เฮลก้าซึมได้ที่ 08 02 805 290
00:23:40 → 00:23:43 [เพลง]