00:00:00 → 00:00:02 ค่ะวันนี้คุณกังวลใจอะไรอยู่หรือเปล่าคะ
00:00:02 → 00:00:05 แล้วตอนนี้ความกังวลกำลังก่อให้เกิดอาการ
00:00:05 → 00:00:08 อะไรบ้างอันนี้มาเกินมีเทคนิคง่ายๆที่คุณ
00:00:08 → 00:00:12 สามารถทำได้เองเพื่อลดความกังวลค่ะ
00:00:12 → 00:00:26 [เพลง]
00:00:26 → 00:00:29 สวัสดีค่ะหมอเปิ้ลเพียงอ่ะเราแข่งหากเป็น
00:00:29 → 00:00:32 เนี่ยนะคะช่องทางนี้เนี่ยจะเป็นช่องทาง
00:00:32 → 00:00:35 ที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับอารมณ์ความคิด
00:00:35 → 00:00:38 แล้วก็การปลดปล่อยศักยภาพของคุณนะคะให้
00:00:38 → 00:00:41 คุณมีความสุขแล้วก็สนุกมากขึ้นแต่การใช้
00:00:41 → 00:00:46 ชีวิตด้วยการถึงแหละตัวเราเองค่ะวันนี้นะ
00:00:46 → 00:00:50 คะหมอเองอยากจะมาพูดไปคะในเรื่องของความ
00:00:50 → 00:00:53 กังวงค่ะนั้นช่วงนี้อาจจะมีอะไรอย่างให้
00:00:53 → 00:00:56 พวกเรากังวลใช่ไหมคะทั้งเรื่องของเจ้าของ
00:00:56 → 00:01:00 เว็บที่กลับมาอีกรอบนึงนะคะแล้วก็แต่ว่า
00:01:00 → 00:01:04 ไอ้คนกังวลนี้นะมันก็เป็นกระบวนการป้อง
00:01:04 → 00:01:07 กันตัวเองของเราซะด้วยสิที่ให้เราเนี่ย
00:01:07 → 00:01:11 รอดพ้นจากในเรื่องของอันตรายต่างๆเพียง
00:01:11 → 00:01:14 ตอนนี้นะที่มีครูวิทย์เข้ามาเนี่ยจริงๆ
00:01:14 → 00:01:16 ความกังวลก็อาจจะเป็นประโยชน์นะคะที่ทำ
00:01:16 → 00:01:19 ให้พวกเราเนี่ยระวังตัวกันมากขึ้นแต่ว่า
00:01:19 → 00:01:21 ถ้าเกิดว่ามากเกินไปแน่นอนมันก็จะเกิด
00:01:21 → 00:01:24 ประสบการณ์ที่ผู้กองไม่ชอบมันแน่ๆเลยนะคะ
00:01:24 → 00:01:28 แนะนำมาเข้าใจก่อนนะคะว่าเอ๊ะแล้วผมกังวล
00:01:28 → 00:01:31 เนี่ยมันเกิดอะไรขึ้นในสมองเรานะเพราะ
00:01:31 → 00:01:37 เวลาที่เรากังวลนะคะสมองของเรานะก็จะจะ
00:01:37 → 00:01:41 ส่งสัญญานะของความเครียดนะคะทำให้เจ้า
00:01:41 → 00:01:44 ต่อมหมวกไตของเราเนี่ยคะหลังฮอร์โมนที่
00:01:44 → 00:01:48 ชื่อว่าข้อดีซอลล์แล้วก็ปล่อยเข้ามาใน
00:01:48 → 00:01:51 กระแสเลือดแล้วก็กลับไปทำงานกับสมองเรา
00:01:51 → 00:01:55 อีกทีนึงนะคะก่อนที่สมองเนี่ยก็จะส่ง
00:01:55 → 00:01:58 สัญญาณไปยังอวัยวะต่างๆให้ทำงานเนี่ย
00:01:58 → 00:02:01 กระตุ้นแล้วก็ตื่นตัวมานี้นะคะเด็กๆว่า
00:02:01 → 00:02:04 ระบบซิมพาเทติกนะหรือระบบประสาทอัตโนมัติ
00:02:05 → 00:02:08 แบบกระตุ้นเนี่ยมันก็จะทำงานหนักขึ้นอัน
00:02:08 → 00:02:11 นี้ถ้าเกิดว่าเราจับสัญญานี้ได้ค่ะว่าโห
00:02:11 → 00:02:15 ร่างกายเราเนี่ยนะมันเริ่มที่จะมีความ
00:02:15 → 00:02:20 วิตกกังวลนะจนออกมาเป็นในรูปแบบของปวดหัว
00:02:20 → 00:02:23 บ้างล่ะนะใจสั่นบ้างละเหงื่อแตกบ้างล่ะนะ
00:02:23 → 00:02:27 ท้องมวนบ้างล่ะนะคะเมื่อเราจะสัญญาในร่าง
00:02:27 → 00:02:32 กายได้แล้วนะคะอ่ะเราลองมาเรียนรู้เทคนิค
00:02:32 → 00:02:36 นะคะที่เรียกว่า Death เทคนิคนะอันนี้
00:02:36 → 00:02:39 เนี่ยเป็นเทคนิคที่จะจำง่ายแล้วพวกเรา
00:02:39 → 00:02:44 สามารถทำได้และลดความกังวลได้ในทันที Red
00:02:44 → 00:02:50 นะคะ b r e a t h ที่แปลว่าลมหายใจ
00:02:50 → 00:02:54 เนี่ยนะเป็นหลักการจำอย่างนึงค่ะนะคะว่า
00:02:54 → 00:02:57 อายุเวลาที่เรากังวลเนี่ยนั้นง่ายที่สุด
00:02:57 → 00:03:00 เนี่ยเครื่องมือครึ่งมือนึงนะที่เราจะโอ้
00:03:00 → 00:03:04 ใช้ได้ทันทีเลยนั่นก็คือลมหายใจค่ะแต่เรา
00:03:04 → 00:03:07 จะใช้มันอย่างไรล่ะคะเรามาดูที่ตัว B นะ
00:03:07 → 00:03:12 บีแรกเนี่ยก็คือ RE จิ้งค่ะ bridging
00:03:12 → 00:03:15 เนี่ยก็คือเรื่องของการหายใจยังเวลาเรา
00:03:15 → 00:03:19 หายใจระบบประสาทอัตโนมัติของเรานะคะทำงาน
00:03:19 → 00:03:23 พร้อมกันสองขาเลยก็คือสิ่งพติกเนี่ยก็คือ
00:03:23 → 00:03:27 ขาของการที่ระบบประสาทถูกกระตุ้นนะคะและ
00:03:27 → 00:03:31 พาราซิมพาเทติกคือขาที่ระบบประสาทของเรา
00:03:31 → 00:03:36 เนี่ยเกิดการผ่อนคลายค่ะงั้นเวลาที่เรานะ
00:03:36 → 00:03:40 คะหายใจออกนะคะระบบประสาทอัตโนมัติใน
00:03:40 → 00:03:44 เรื่องการผ่อนใครมันจะทำงานเยอะกว่าปกติ
00:03:44 → 00:03:48 ค่ะดังนั้นถ้าเกิดว่าคุณนะรู้สึกว่าหัวมี
00:03:48 → 00:03:52 ความกังวลนะปันปวนนะรู้สึกในร่างกายเรา
00:03:52 → 00:03:56 กลับมาที่ลมหายใจและใช้เรื่องของการหายใจ
00:03:56 → 00:04:00 ออกช่วยค่ะร้านการหายใจก็จะเป็นก็หายใจ
00:04:00 → 00:04:06 เข้าสั้นหายใจออกยาวน่าจะหายใจเข้านับ 4
00:04:06 → 00:04:11 หายใจออกแฝดเจ็บ
00:04:11 → 00:04:14 เสื้อผ้าสี
00:04:14 → 00:04:17 3215 ร้องไห้จะแบบนี้นะหายใจเองหายใจ
00:04:17 → 00:04:21 เข้าสั้นหายใจออกให้ยาวขึ้นนะคะต้องหายใจ
00:04:21 → 00:04:26 แบบนี้ต่อเนื่องนะคะรวมทั้งความคิดที่มัน
00:04:26 → 00:04:30 ไปอยู่กับปัญหาเนี่ยมันก็จะได้ถูกเปลี่ยน
00:04:30 → 00:04:33 เบนซ์มาสู่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงใน
00:04:33 → 00:04:37 ร่างกายด้วยนะทำแค่นี้นะปีแรกเนี่ยอ่ะลอง
00:04:38 → 00:04:40 ทำต่อเนื่องดูมันก็ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น
00:04:40 → 00:04:46 ได้แล้วนะคะต่อมานะคะก็คืออาอามาจากปีรัก
00:04:46 → 00:04:50 เซชั่นค่ะนั่นก็คือการผ่อนคลายอย่างที่
00:04:50 → 00:04:53 บอกนะคะเวลาที่เราใช้ความคิดเยอะๆนะเรามี
00:04:53 → 00:04:56 ความเครียดเรามีความกังวลเนี่ยร่างกายเรา
00:04:56 → 00:05:00 คะมันจะตึงโดยอัตโนมัติเลยนะก็เป็นผลมา
00:05:00 → 00:05:03 จากตัวคอดีเศร้าแล้วก็ระบบประสาท
00:05:03 → 00:05:06 อัตโนมัตินี่แหละและเนี่ยกล้ามเนื้อของ
00:05:06 → 00:05:10 เราก็จะตื่นตอนที่ร่างกายเราตึงเครียด
00:05:10 → 00:05:13 เนี่ยอ่ะถ้าผมแล้วก็จิตใจเราก็จะรู้สึก
00:05:13 → 00:05:17 ถึงเครียดในขณะเดียวกันนะคะบางคนอาจจะ
00:05:17 → 00:05:20 เริ่มต้นที่จิตใจเนี่ยมีความตึงเครียดก็
00:05:20 → 00:05:24 ส่งผลกับร่างกายเหมือนกันงั้นอารีลักษณ์
00:05:24 → 00:05:28 เซชั่นเนี่ยเราก็มาทำร่างกายให้ผ่อนคลาย
00:05:28 → 00:05:31 ค่ะเราอาจจะใช้เทคนิค
00:05:31 → 00:05:34 Progressive Muscle relaxation นะคะ
00:05:34 → 00:05:37 อย่างคลิปที่หมอเคยทำก่อนหน้านี้ก็ได้นะ
00:05:37 → 00:05:41 เดี๋ยวให้น้องๆเนี่ยใส่ลิงค์เอาไว้นะก็ก็
00:05:41 → 00:05:47 หรือนะคะเราอาจจะจะผ่อนคลายนะร่างกายด้วย
00:05:47 → 00:05:52 ตัวเราเองการยืดการเล่นโยคะนะคะหรือการทำ
00:05:52 → 00:05:56 กิจกรรมอะไรที่ตัวเองรู้สึกผ่อนคลายนะคะ
00:05:56 → 00:05:59 อันนี้ก็จะมาช่วยทำให้เราเนี่ยสามารถรับ
00:05:59 → 00:06:01 มือกับความคิดแล้วก็อารมณ์ที่เป็นความ
00:06:01 → 00:06:04 กังวลได้ดีขึ้นค่ะมาถึง
00:06:04 → 00:06:09 อีอีอีมาจาก Eyes closed เสร็จค่ะคือการ
00:06:09 → 00:06:13 เมืองก็อย่าลืมนะคะว่าเวลาที่สมองเรา
00:06:13 → 00:06:16 เนี่ยตื่นตัวเพราะความกังวลเนี่ยนะระบบ
00:06:16 → 00:06:20 ประสาทของเราในทุกๆส่วนเนี่ยแหมมันรับ
00:06:20 → 00:06:24 สัญญาณจากตัวกระตุ้นจากสภาพแวดล้อมได้
00:06:24 → 00:06:28 ง่ายมากเลยค่ะนะคะดังนั้นเนี่ยเราจะ
00:06:28 → 00:06:31 สังเกตนะมึงคนเนี่ยหนูตกใจง่ายได้ยินอะไร
00:06:31 → 00:06:36 นิดหน่อยๆผวาง่ายนะคะนั้นเนี่ยถ้าเกิดว่า
00:06:36 → 00:06:40 ร่างกายของเรานะคะมันรับตัวกระตุ้นแล้วก็
00:06:40 → 00:06:44 เกิดความกังวลได้มากขนาดนั้นนะเราอาจจะ
00:06:44 → 00:06:48 ใช้เทคนิคการหลับตานี้นะค่ะการหลับตาอยู่
00:06:48 → 00:06:54 กับลมหายใจนะคะจินตนาการถึงความผ่อนคลาย
00:06:54 → 00:06:59 สิ่งที่เกิดขึ้นอันนี้ก็จะเป็นสภาวะที่
00:06:59 → 00:07:04 เราเนี่ยทำให้ตัวเองกลับมาสู่ความสุขสงบ
00:07:04 → 00:07:09 ได้ในทันทีเลยแล้วก็ตัดประสาทสัมผัสที่จะ
00:07:09 → 00:07:12 มากระตุ้นความฟุ้งซ่านของเราได้ค่ะถัดมา
00:07:12 → 00:07:17 นะคะมาถึง a นั่นก็คืออะแวเนสนะคะมุ่ย
00:07:17 → 00:07:20 ทั้งนี้เอาอีกแล้วรอหมอพูดเอาไว้เนี่ย
00:07:20 → 00:07:24 บ่อยมากๆเลยนะเรื่องของการตระหนักรู้ว่า
00:07:24 → 00:07:28 เราจะดูแลอารมณ์ความคิดจิตใจของเราได้ยัง
00:07:28 → 00:07:31 ไงราคาถ้าเราไม่รู้ถูกแม้เพราะฉะนั้น
00:07:31 → 00:07:36 เนี่ยการที่เรานะคะกลับมานะอยู่กับความ
00:07:36 → 00:07:39 รู้สึกนะในด้านร่างกายของตัวเองใน
00:07:39 → 00:07:43 ปัจจุบันจริงๆเนี่ยเช่นนะตอนนี้นะแต่ละคน
00:07:43 → 00:07:46 เนี่ยนั่งฟังหมออยู่หรือเปล่านั่งฟังอยู่
00:07:46 → 00:07:49 เนี่ยก้นของคุณกำลังสัมผัสกับพี่ใช่ไหม
00:07:49 → 00:07:52 คุณรู้สึกไหมคะหรือบางคนเนี่ยจะยืนอยู่ก็
00:07:52 → 00:07:54 ได้นะนั้นตอนนี้คุณยืนอยู่เนี่ยเมื่อเช้า
00:07:54 → 00:07:57 คุณสัมผัสกับคืนหรือเปล่าคุณรับรู้มัน
00:07:57 → 00:08:00 หรือเปล่าเหตุการณ์ที่เรากลับมาอยู่กับ
00:08:00 → 00:08:04 ความรู้สึกตามความเป็นจริงในปัจจุบันของ
00:08:04 → 00:08:08 เราเองนี่ล่ะค่ะนะคะมันจะทำให้นะเรา
00:08:08 → 00:08:13 สามารถที่จะมองเห็นอารมณ์ความคิดของเรา
00:08:13 → 00:08:17 สามความเป็นจริงได้ง่ายขึ้นนะเนี่ยเมื่อ
00:08:17 → 00:08:20 ไหร่ก็ตามนะคะที่เรารู้สึกว่าตอนนี้ความ
00:08:20 → 00:08:23 คิดเรากำลังฟุ้งไปไกลและแล้วเราก็ไม่รู้
00:08:23 → 00:08:26 นะว่าอิทธิพเนี่ยมันจะเกิดขึ้นจริงไหมจะ
00:08:26 → 00:08:30 ถูกไม่ถูกยังไงนะคะบางทีแค่เรานะรู้นะว่า
00:08:30 → 00:08:35 ตอนนี้ฉันกำลังฟุ้งซ่านไปใหญ่แล้วนะและ
00:08:35 → 00:08:38 ไม่ต้องห้ามอ่ะค่ะแค่รับรู้แล้วคุณก็ลอง
00:08:38 → 00:08:42 กลับมาอยู่กับการรับรู้ในเรื่องของร่าง
00:08:42 → 00:08:45 กายอันนี้ก็จะเป็นตัวนึงนะที่จะช่วยให้
00:08:45 → 00:08:51 เราเนี่ยว่างจากความคิดในอนาคตซึ่งในรู้
00:08:51 → 00:08:53 เหมือนจะเกิดหรือเปล่ากลับมาอยู่กับความ
00:08:53 → 00:08:57 เป็นจริงแต่ในปัจจุบันและเดี๋ยวความสงบก็
00:08:57 → 00:09:00 จะเกิดขึ้นกับร่างกายและก็จิตใจของเราเอง
00:09:00 → 00:09:05 ค่ะมาถึงตัวทีนะคะนั้นก็คือซอสดิส
00:09:05 → 00:09:09 ทอร์ชั่นนะหรือความคิดที่เปลี่ยนเบนเรา
00:09:09 → 00:09:13 สังเกตไหมคะกับเรื่องเดียวนะถ้าเกิดว่า
00:09:13 → 00:09:18 เราอยู่ในสภาวะที่จิตใจเราเนี่ยเบิกบานมี
00:09:18 → 00:09:22 ความสุขโอ้โหเราก็จะมองเป็นเรื่องดีใช่
00:09:22 → 00:09:25 ไหมเดอะมอลล์เป็นเรื่องปกติได้ง่ายในขณะ
00:09:25 → 00:09:28 ที่เรื่องเดียวกันนะถ้าเกิดว่าตอนนั้น
00:09:28 → 00:09:31 เนี่ยจิตใจเราแม่กำลังฟุ้งซ่านนะกำลังมี
00:09:31 → 00:09:34 ความคิดลบหรือความเหนื่อยล้าไม่พอใจอยู่
00:09:34 → 00:09:38 มองยังไงเนี่ยก็เป็นลบนะคะยกตัวอย่างนะ
00:09:38 → 00:09:42 ถ้าว่าช่วงนี้เนี่ยการระบาดของคุยกับใหม่
00:09:42 → 00:09:45 ครั้งหนึ่งใช่ไหมคะแล้วก็รู้เนาะหัวแรง
00:09:45 → 00:09:48 สำคัญเลยนะก็คือสถานที่ท่องเที่ยวหรือยัง
00:09:48 → 00:09:51 ใจกลางเมืองเช่นทองหล่อเนี่ยนะแล้วเราก็
00:09:51 → 00:09:54 ไม่รู้ใช่ไหมก่อนหน้านี้เนี่ยมันจะมีเหตุ
00:09:54 → 00:09:56 การณ์ถ้าเกิดขึ้นเราจะไปกินข้าวกับเพื่อน
00:09:56 → 00:10:01 เราจะไป Hang Out กับเพื่อนในสถานที่ที่
00:10:01 → 00:10:04 อาจจะมีความเสี่ยงเหล่านั้นใช่ไหมคะก็จะ
00:10:04 → 00:10:10 พอคนรอบข้างเราเนี่ยนะเขารู้เข้านะเขาก็
00:10:10 → 00:10:14 อาจจะมีคำพูดอย่างเช่นว่าทำไมเธอไม่รู้
00:10:14 → 00:10:18 จักดูแลตัวเองแค่คำนี้คำเดียวเราแปลกได้
00:10:18 → 00:10:22 หลายอย่างนะถ้าเกิดว่าตอนนั้นเนี่ยใจเรา
00:10:22 → 00:10:26 ดีหน่อยนะเราก็จะรู้สึกได้ว่าเอ่อคนที่
00:10:26 → 00:10:28 พูดแบบนี้เนี่ยมึงคือเขาก็เป็นห่วงเรา
00:10:28 → 00:10:31 เนอะที่กูว่าเราจะมีความเสี่ยงใช่ไหมคะ
00:10:31 → 00:10:36 อ่ะถ้าเกิดว่ามาตอนนั้นเนี่ยจะจิตใจเรา
00:10:36 → 00:10:39 หนูกำลังกังวลมากเลยเครียดมากเลยนะเราก็
00:10:39 → 00:10:45 จะฟังเป็นคำที่ถูกว่าได้ใช่ไหมคะเนี่ยถ้า
00:10:45 → 00:10:50 เกิดว่าเรานะแปลนะคะสถานการณ์คำพูดเนี่ย
00:10:50 → 00:10:55 ไปในเชิงที่มันลบเนอะเราอาจจะดูแต่ถ้าคือ
00:10:55 → 00:10:58 การที่เค้าพูดแบบนี้เนี่ยมันทำให้เรารู้
00:10:58 → 00:11:03 สึกไม่ดีเพราะเรารู้สึกว่าเขียนต่อว่าเรา
00:11:03 → 00:11:08 อาจจะลองคอริเวอร์รีเฟรมเนอะมันมีความคิด
00:11:08 → 00:11:12 อื่นได้ไหมนอกจากการที่รู้สึกว่าถูกต่อ
00:11:12 → 00:11:16 ว่าเราก็จะสามารถที่จะกรอบแล้วโอ้วโอ้ว
00:11:16 → 00:11:19 คุณพูดอย่างนี้ได้เนี่ยมันเกิดจากความ
00:11:19 → 00:11:23 ห่วงได้เหมือนกันนะนะคะนั้นการปรับมุมมอง
00:11:23 → 00:11:27 นะกับสถานการณ์แล้วก็ความคิดลบที่เกิด
00:11:27 → 00:11:30 ขึ้นอันนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างนึงนะที่
00:11:30 → 00:11:33 ทำให้เราเนี่ยจะรับมือกับความกังวลได้ดี
00:11:33 → 00:11:38 ขึ้นด้วยค่ะมา s. ท้ายและนะก็คือ Healthy
00:11:38 → 00:11:43 Lifestyle นะคะนายที่สุดนะในการที่จะ
00:11:43 → 00:11:46 เรียนรู้ตัวเองนะแล้วก็ใช้ศักยภาพตัวเอง
00:11:46 → 00:11:49 นะอย่างหนึ่งที่เราเอามาเป็นจุดเริ่มต้น
00:11:49 → 00:11:52 ได้เลยก็คือเรื่องร่างกายเรานี่แหละบางที
00:11:52 → 00:11:55 เนี่ยเราเริ่มต้นที่มีอารมณ์เริ่มต้นที่
00:11:55 → 00:11:58 ความคิดเราเลยบางทียากเหมือนกันเพราะว่า
00:11:58 → 00:12:01 มันเป็นเรื่องนามธรรมน้องทีเราอ่ะก็เผลอ
00:12:01 → 00:12:03 ได้ง่ายมากเลยนะเราก็ไม่รู้หลงหัวอันนี้
00:12:03 → 00:12:06 เนี่ยเราคิดมากเกินไปหรือเปล่าแต่ว่าสิ่ง
00:12:06 → 00:12:11 ที่จะทำให้เราเนี่ยนะรู้สึกอะไรตามความ
00:12:11 → 00:12:14 เป็นจริงได้ง่ายขึ้นธงชาติได้น้อยลงก็คือ
00:12:14 → 00:12:17 การที่เรากลับมาดูแลร่างกายของเราให้มัน
00:12:17 → 00:12:21 เป็นปกตินี่ล่ะค่ะอย่างเช่นนะการนอนนะนอน
00:12:21 → 00:12:24 ให้ดีนอนให้เป็นปกติกูการนอนที่ดีเนี่ย
00:12:24 → 00:12:28 เหมือนเป็นยาวิเศษเลยนะทำให้เราเนี่ยมี
00:12:28 → 00:12:32 สมาธิดีมีความดำที่ดีและแถมปากสินใจอะไร
00:12:32 → 00:12:36 ก็เฉียบขาดและมีความคิดสร้างสรรค์ที่ดี
00:12:36 → 00:12:38 ได้ด้วยนะคะหนูการนอนที่ดีสำคัญขนาดนั้น
00:12:38 → 00:12:42 เลยนะอันที่สองคือการออกกำลังกายนะคะการ
00:12:42 → 00:12:46 ที่เรามีร่างกายที่ดีนะเพราะเวลาที่มี
00:12:46 → 00:12:49 อะไรมากระทบจิตใจเนี่ยนอกจากร่างกายไม่
00:12:49 → 00:12:53 ซ้ำเติมแล้วนะคะร่างกายอาจจะเป็นเหมือน
00:12:53 → 00:12:58 หน่วยนะและให้การสนับสนุนเรานะคะที่จะแก้
00:12:58 → 00:13:01 ปัญหาในเรื่องของอารมณ์คิดได้ดีด้วยนะการ
00:13:01 → 00:13:05 ออกกำลังกายการทานอาหารดีๆนี้ก็สำคัญมากๆ
00:13:05 → 00:13:09 นะเนี่ยเรากินไปแล้วเนี่ยนอกจากที่จะช่วย
00:13:09 → 00:13:12 บำรุงนะคะรักษาร่างกายของเราอาหารน่ะ
00:13:12 → 00:13:15 สำคัญกับสมองแล้วมากๆเลยนะแต่เนี่ยถ้า
00:13:15 → 00:13:18 เกิดว่าเรานะคะอยากให้สมองเราเป็นยังไง
00:13:18 → 00:13:22 นั่นหมายความว่าเรากำลังออกแบบอารมณ์และ
00:13:22 → 00:13:25 ความคิดของเราด้วยนั้นอยากให้เรานะคะกลับ
00:13:25 → 00:13:29 มาดูแล Healthy Lifestyle นะของเราให้
00:13:29 → 00:13:34 เป็นการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพค่ะแล้วก็ทั้ง
00:13:34 → 00:13:39 หมดทั้งมวลนี้นะก็คือเรื่องของเทคนิคที่
00:13:39 → 00:13:44 จะทำให้คุณนะคะสามารถก้าวค่ำความกังวลได้
00:13:44 → 00:13:47 ด้วยตัวเราเองด้วยเทคนิคง่ายๆ Race
00:13:47 → 00:13:51 เทคนิคนี้แหละลองเอาไปทำดูนะคะความรู้ที่
00:13:51 → 00:13:54 ดีที่สุดนะคะก็คือประสบการณ์ที่เกิดขึ้
00:13:54 → 00:13:58 ครั้งหนึ่งในชีวิตเรานะคะวันนี้เนี่ยหมอ
00:13:58 → 00:14:02 นั่นเองนะนอกจากการที่ที่ได้เรียนรู้และ
00:14:02 → 00:14:06 หลักการในตำราแล้วนะสำคัญเลยก็คือว่าได้
00:14:06 → 00:14:11 รับฟังปัญหาของคนที่มาปรึกษารวมทั้งได้
00:14:11 → 00:14:14 ใช้กับตัวเองแล้วนะคะรู้สึกว่ามันได้ผล
00:14:14 → 00:14:17 แฮะแต่ว่ามันอาจจะไม่ได้ผลคุณก็ได้นะคุณ
00:14:17 → 00:14:20 จะรู้ว่ามันได้ผลหรือไม่ได้ผลคุณต้องลอง
00:14:20 → 00:14:25 ทำมันเองค่ะแล้วเธอว่าคุณลองใช้เน้น
00:14:25 → 00:14:28 เทคนิคในการคล้ายกับมวลนี้แล้วได้ผลยังไง
00:14:28 → 00:14:31 นะลองมา comment ให้ฟังหน่อยละกันนะต้อง
00:14:31 → 00:14:35 บอกว่าทุกอย่างไม่มีผิดไม่มีถูกนะคะเรา
00:14:35 → 00:14:39 อาจจะค้นพบนะวิธีการที่ทำให้เรามีความสุข
00:14:39 → 00:14:42 ได้ด้วยตัวของเราเองก็ได้และอย่าลืมมา
00:14:42 → 00:14:45 แชร์กันนะคะใครที่คิดว่าคลิปนี้ได้
00:14:45 → 00:14:48 ประโยชน์นะคะก็สามารถแชร์ให้เพื่อนๆแล้ว
00:14:48 → 00:14:51 กด Subscribe Like Share กดกระดิ่งไว้
00:14:51 → 00:14:54 ด้วยก็ดีนะคะแล้วก็ถ้าเกิดว่า
00:14:54 → 00:14:57 ถ้าไม่อยากฟังหมอเอิ้นผู้สดๆในเรื่องของ
00:14:57 → 00:15:01 การดูแลตัวเองก็เจอกันในไลฟ์หมอเกินที
00:15:01 → 00:15:04 ละอันล็อกกิ้ง Happiness ทุกวันเสาร์ 9:00
00:15:04 → 00:15:07 นสรุปวันนี้ไปก่อนนะจ๊ะบ๊ายบาย
00:15:07 → 00:15:16 [เพลง]
00:15:16 → 00:15:19 ม.ค