00:00:45 → 00:00:48 คุณหมอ..นี่แก้วที่สามของวันแล้วนะคะเนี่ย
00:00:48 → 00:00:51 คุณแนนรู้ไหมว่าเขาห้ามดื่มกาแฟเกินวันละกี่แก้ว
00:00:51 → 00:00:52 ไม่รู้อะสิ
00:00:52 → 00:00:54 เป็นเพราะอยู่กับคุณหมอเลยไม่ใส่น้ำตาลนะคะ
00:00:54 → 00:00:55 อ๋อ ดีๆๆ
00:00:55 → 00:00:56 แต่กินมากก็ไม่ได้หรอคะ
00:00:56 → 00:00:57 ไม่ได้
00:00:57 → 00:00:58 ว๊าย..ตายแล้ว ทำยังไงดีเนี่ย
00:00:58 → 00:01:01 เดี๋ยวติดกาแฟแล้วมีอาการถอนกาแฟนะคะคุณแนน
00:01:01 → 00:01:04 อุ๊ยถอนกาแฟ..ตายแล้วคุณหมอคะ ก่อนจะถอนกาแฟ เดี๋ยวๆๆ
00:01:04 → 00:01:07 เปิดรายการค่ะคุณหมอ สวัสดีค่าทุกคน/สวัสดีค่า
00:01:07 → 00:01:10 เราก็เม้าท์มอยหอยสังข์ตามชีวิตจริงเรานะ
00:01:10 → 00:01:13 วันนี้เราพูดถึงเครื่องช่วยชีวิตเราอย่างนึงนะคะคุณหมอ
00:01:13 → 00:01:14 ใช่ ขาดไม่ได้เลยอะ
00:01:14 → 00:01:17 เราถ่ายรายการตั้งแต่เช้านะคุณผู้ชม เราก็กินกาแฟกันเยอะ
00:01:17 → 00:01:19 คุณหมอทานกี่แก้วคะวันนี้
00:01:19 → 00:01:20 ไม่บอก
00:01:20 → 00:01:22 คุณหมอก็ไม่ได้ธรรมดาเรื่องกาแฟ
00:01:22 → 00:01:26 แต่ว่าจริงๆแล้วกาแฟ / คุณหมอรู้กาแฟมันมีประโยชน์นะ
00:01:27 → 00:01:30 ประโยชน์ก็มีหรือถ้าทานไม่ดีก็อาจจะเกิดอาการแบบที่คุณหมอบอก
00:01:30 → 00:01:31 ถูกกกกกก
00:01:31 → 00:01:34 วันนี้เราจะคุยกันเรื่องของความลับกาแฟ
00:01:34 → 00:01:38 นี่...ความลับของกาแฟจะมีอะไรบ้างต้องติดตาม
00:01:44 → 00:01:50 คุณผู้ชมขา สัปดาห์นี้คุณหมออัจจิมาชวนพวกเราคุยกันเรื่องราวของความลับของกาแฟ
00:01:50 → 00:01:53 ชวนคุยกันแบบนี้หลายๆคนรีบชิดติดจอ
00:01:53 → 00:01:56 เพราะว่าแนนก็เป็นคนนึงที่ชอบกินกาแฟมากๆ / ใช่
00:01:56 → 00:02:00 เราก็ต้องมาดูกันว่าจริงๆแล้วเนี่ยกาแฟเนี่ยมันมีทั้งประโยชน์
00:02:00 → 00:02:02 หรือว่ามันมีโทษมีอะไรที่ซ่อนเร้นกันอยู่บ้าง
00:02:02 → 00:02:05 คือจริงๆต้องบอกว่าเวลาที่เราจะดื่มกาแฟเนี่ยคุณแนน / ค่ะ
00:02:05 → 00:02:11 จะต้องดื่มให้มีประโยชน์ เรารู้ว่าตัวกาแฟเนี่ยคุณแนนมันมีสารต้านอนุมูลอิสระ
00:02:11 → 00:02:18 ซึ่งต้องบอกว่ามันเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เด่นที่สุดในอาหารทางฝั่งตะวันตก
00:02:18 → 00:02:21 อเมริกาเนี่ยกินกาแฟทั้งวัน / ค่ะ
00:02:21 → 00:02:24 แต่เป็นกาแฟ..กาแฟดริป ที่มันอ่อนๆนะคะคุณแนน
00:02:24 → 00:02:27 คือดื่มทั้งวัน เหมือนเอาน้ำร้อนผ่านกาแฟ / ค่ะ
00:02:27 → 00:02:29 เป็นกาแฟดริปแล้วก็ดื่มทั้งวัน / ค่ะ
00:02:29 → 00:02:34 มันก็จะจางๆ มันจะไม่ใช่กาแฟที่แบบมีรสเข้มข้นเหมือนที่เราดื่มกันปกติทั่วไป
00:02:34 → 00:02:37 แต่ว่าอันนี้คือเราดื่ม เพราะว่าอันนี้คือได้ประโยชน์
00:02:37 → 00:02:40 แล้วก็มันก็จะมีประโยชน์หลายอย่างในการที่จะกระตุ้น
00:02:40 → 00:02:42 ระบบการทำงานต่างๆของร่างกาย
00:02:42 → 00:02:47 ถือว่ากาแฟเนี่ยจริงๆแล้วมันเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์มากในโลกนี้
00:02:47 → 00:02:48 อืมมมมม
00:02:48 → 00:02:50 เป็นอาหารที่มีประโยชน์มากในโลกนี้แต่ว่าต้องกินให้ถูกวิธี
00:02:50 → 00:02:52 นี่ไง ขอดอกจันตรงเนี่ย / ใช่
00:02:52 → 00:02:58 ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่ไซรัป ไม่ใส่อะไรเลย คือเป็นกาแฟดริปธรรมดา อย่างเนี่ยโอเคได้ประโยชน์
00:02:58 → 00:03:00 ถ้าเมื่อไหร่ปุ๊บเราใส่อย่างอื่นปุ๊บ มันไม่ใช่ละ / อ่าาา
00:03:00 → 00:03:04 ถ้าอยากจะกินแล้วได้ประโยชน์จากกาแฟจริงๆ ต้องทานแบบคุณหมอบอก / ใช่
00:03:04 → 00:03:07 แล้วเราถึงจะได้ข้อต่อไปนี้ / ใช่
00:03:07 → 00:03:10 สามหน้ากระดานก็ไม่หมดอะ ประโยชน์ของกาแฟเยอะม๊ากกก
00:03:10 → 00:03:13 กาแฟเนี่ยเป็นตัวที่เพิ่มเอนเนอร์จี / อันดับแรกเลย
00:03:13 → 00:03:18 แล้วทำให้เวลาของร่างกายในการตอบสนองต่อสิ่งเร้ามันเร็วขึ้น / ค่ะ
00:03:18 → 00:03:21 อย่างเช่น เวลาเราขับรถแล้วเราง่วงนอนอันนี้อันตรายมาก
00:03:21 → 00:03:24 ถ้าการตอบสนองเราช้า โอกาสที่เกิดอุบัติเหตุมันเยอะมาก / ค่ะ
00:03:24 → 00:03:28 แต่ถ้าเราดื่มกาแฟปุ๊บ การตัดสินใจเรารวดเร็วขึ้น
00:03:28 → 00:03:29 เพราะว่ามันไปกระตุ้นสมอง
00:03:29 → 00:03:33 ค่ะ เหมือนที่เขาบอกว่าตื่นเช้ามาอยากบูสต์ก็กาแฟสักแก้ว / ใช่
00:03:33 → 00:03:39 หัวไว เพิ่มพลังงาน แล้วก็เพิ่มความจำ เพิ่มในเรื่องของการทำงานของสมอง
00:03:40 → 00:03:42 อันนี้คืออันดับหนึ่งของมันเลย / ดีมาก
00:03:42 → 00:03:44 ใช่ / ประโยชน์ต่อไป
00:03:44 → 00:03:46 ประโยชน์ต่อไปคือมันยังช่วยในการ Burn Fat
00:03:46 → 00:03:49 ต้องในปริมาณที่เหมาะสม จริงๆแล้วเขาพบว่า
00:03:49 → 00:03:53 Caffeine เองเนี่ยมันสามารถจะช่วยในการเพิ่ม Metabolism ของ Fat
00:03:53 → 00:03:57 คือเพิ่มการเบิร์นไขมันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนอ้วน
00:03:58 → 00:04:03 แต่มันมีการทนด้วย พอเรากินไปนานๆไอฤทธิ์ตรงนี้มันจะเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ
00:04:03 → 00:04:06 นอกจากนี้แล้วเนี่ยพอเวลาที่สมองเราดี
00:04:06 → 00:04:10 Metabolism ดี มันเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย
00:04:10 → 00:04:14 คือเพิ่ม physical performance งั้นเราก็จะรู้สึกว่าเรามีเอนเนอร์จีมากขึ้น
00:04:14 → 00:04:17 เหมือนความแข็งแรงของร่างกายเพิ่มขึ้น
00:04:17 → 00:04:21 เพราะว่ามันมีการหลั่งสารสื่อประสาทในสมองอันเนี่ยเพิ่มขึ้น
00:04:21 → 00:04:25 นอกจากนี้แล้วเนี่ยกาแฟเนี่ยมีสารอาหารอยู่เยอะมากในเมล็ดกาแฟ
00:04:25 → 00:04:31 โหมีมากมายวิตามินBทั้งหลาย B5 B12 Manganese
00:04:31 → 00:04:36 มีหลายตัวมากซึ่งเป็นตัวที่ช่วยทำให้การทำงานของร่างกายเป็นปกติ / ค่ะ
00:04:36 → 00:04:42 แล้วมันก็ยังช่วยลดพวกอัตราการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน / อืมมม
00:04:42 → 00:04:46 เขามีการทำการศึกษาคุณแนน ในกลุ่มคนไข้ที่มีการศึกษาเนี่ยเกือบ 500,000 คน
00:04:46 → 00:04:51 ก็พบว่าสามารถจะลดอัตราการเกิดเบาหวานได้ถึงเกือบ 10%
00:04:52 → 00:04:54 ประมาณ 7% สูงมาก / ค่ะ
00:04:54 → 00:04:58 เพิ่มการทำงานของสมองเพราะฉะนั้นมันก็เลยช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรค
00:04:58 → 00:05:03 ความเสื่อมของสมองก็คือโรคอัลไซเมอร์กับโรคพาร์กินสัน
00:05:03 → 00:05:06 โอโห..ฟังอย่างนี้คนกินกาแฟนี่มีเฮเลยนะ / ใช่
00:05:06 → 00:05:09 แล้วมันก็ยังช่วยลดอัตราการเกิดซึมเศร้า / ค่ะ
00:05:09 → 00:05:12 ก็ร่างกายมันทำงานดีขึ้นไงคุณแนนนึกออกไหม / ค่ะ
00:05:12 → 00:05:16 ในส่วนของอัลไซเมอร์เองเนี่ยมันสามารถลดได้ถึง 70%
00:05:16 → 00:05:18 หูยยย..เยอะมาก / เยอะมาก
00:05:18 → 00:05:20 รวมถึงโรคพาร์กินสันนะคะ / ค่ะ
00:05:20 → 00:05:24 นอกจากนี้แล้วเนี่ยเขายังพบว่ามันช่วยในการดูแลตับ / ค่ะ
00:05:24 → 00:05:28 เนื่องจากว่าตับเนี่ย หน้าที่อันนึงของตับก็คือในการขจัดสารพิษ
00:05:28 → 00:05:32 ซึ่งเขาพบว่าตัวกาแฟเนี่ยมันช่วยในการบำรุงตับ
00:05:32 → 00:05:33 ให้ตับทำงานดีขึ้น
00:05:33 → 00:05:38 เขาพบว่ากาแฟเองเนี่ยมันสามารถช่วยลดการเกิดมะเร็งบางชนิด
00:05:38 → 00:05:43 เขาบอกแล้วว่ามันบำรุงตับใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นก็เลยช่วยลดอัตราความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งตับ
00:05:43 → 00:05:48 แล้วก็ยังช่วยลดอัตราความเสี่ยงของการเกิดเป็นกลุ่มโรคมะเร็งลำไส้
00:05:48 → 00:05:53 ของตับนี่จะสูงหน่อยเกือบ40% แต่ของมะเร็งลำไส้ก็จะประมาณ10% / ค่ะ
00:05:53 → 00:05:57 ในบางstudy เขาพบว่าคนที่ดื่มกาแฟมันจะลดอัตราความเสี่ยงของการเป็นโรคStroke
00:05:57 → 00:06:00 ก็คือโรคที่เกี่ยวกับพวกหลอดเลือดทั้งหลาย / ค่ะ
00:06:00 → 00:06:04 มันก็เป็นstudy ที่ยังมีการถกเถียงกันอยู่ว่าจริงๆแล้วเนี่ย
00:06:04 → 00:06:08 บางstudy มันบอกว่าช่วยลด แต่ว่ามันก็ยังมีคนถกเถียงอยู่ว่า
00:06:08 → 00:06:13 มันอาจจะทำไปทางตรงกันข้ามเพราะว่ามันไปเพิ่มความดันโลหิต
00:06:14 → 00:06:16 ในคนที่ดื่มกาแฟ / ค่ะ
00:06:16 → 00:06:20 แต่ว่ายังไงก็ตามรวมๆแล้วเขาพบว่าคนที่ดื่มกาแฟ
00:06:20 → 00:06:24 จะมีอายุขัยนานกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มกาแฟค่ะ
00:06:24 → 00:06:29 จากการศึกษาวิจัย / แต่หมอคิดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่ามันเป็น Antioxidant
00:06:29 → 00:06:31 ที่ powerful มากๆ / ค่ะ
00:06:31 → 00:06:34 เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ยมันก็เหมือนกับเราทานผักผลไม้อย่างนึง
00:06:34 → 00:06:37 แต่อย่างที่บอกว่าคุณจะต้องดื่มให้มันถูกต้อง / ค่ะ
00:06:38 → 00:06:42 ต้องดื่มขมๆอย่างนั้นหน่ะ แล้วก็ดื่มอย่ามากเกิน
00:06:42 → 00:06:43 หวานเป็นลมขมเป็นยานะคะ / ใช่
00:06:43 → 00:06:45 ต้องดื่มแบบถูกวิธี
00:06:45 → 00:06:48 เราทราบประโยชน์มากมายของการดื่มกาแฟไปละ
00:06:48 → 00:06:50 เปิดเคล็ดลับในฝั่งดีไปแล้ว
00:06:50 → 00:06:52 เดี๋ยวเรามาดูเคล็ดลับฝั่งอื่นกันบ้าง / ไม่มีอะไรด้านเดียว
00:06:52 → 00:06:57 เอ้อออ..เดี๋ยวเรามาดูกันว่าถ้าทานผิดหรือทานมากไปโทษของมันคืออะไร
00:06:57 → 00:07:00 เดี๋ยวช่วงหน้ากลับมาค้นความลับนี้กันต่อ / พักสักครู่ค่ะ
00:07:09 → 00:07:12 กลับมาคุยกันต่อในช่วงที่สองของหมอชวนคุยนะค้า
00:07:12 → 00:07:18 ช่วงนี้ของเราสนับสนุนโดย Ortisine ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดูแลรูปร่าง
00:07:18 → 00:07:23 เมื่อกี้คุณหมอพูดประโยชน์หนึ่งในข้อนี้ช่วยในเรื่องของการดูแลรูปร่างเหมือนกัน
00:07:23 → 00:07:28 ถ้าเกิดบางคนแพ้กาแฟทานแล้วใจสั่นปุ๊บปั๊บๆ ลอง Ortisine ดูแลรูปร่างได้
00:07:29 → 00:07:34 คุณหมอพูดเสมอว่าไม่มีอะไรหรอกที่มันจะแบบดีไปหมด100% / ใช่ๆๆ
00:07:34 → 00:07:40 ทราบคุณประโยชน์ของกาแฟไปแล้วนะคะ รอบนี้เราจะมาเปิดเผยความลับในด้านมืดกันบ้าง
00:07:40 → 00:07:45 กาแฟเนี่ยมันส่งผลเสียหรือมันมีข้อเสียบ้างไหมคะคุณหมอขา
00:07:45 → 00:07:50 คือจริงๆต้องบอกว่าตัวกาแฟจริงๆมันออกฤทธิ์ในการเป็นตัวกระตุ้นการทำงานของสมอง
00:07:50 → 00:07:53 ใช่ไหมคะ แต่ว่าการที่มันกระตุ้นเยอะๆเนี่ย
00:07:53 → 00:07:56 มันก็ส่งผลอย่างนึงต่อร่างกาย
00:07:56 → 00:08:01 คือตอนที่เราดื่มเราก็จะรู้สึกโอ้โหไม่เหนื่อยเลย เราก็จะทำงานโอเวอร์
00:08:01 → 00:08:04 กลายเป็นว่าร่างกายเราอะจะมีการทำงานมากกว่าปกติ
00:08:05 → 00:08:07 มากกว่าลิมิตหรือข้อจำกัดของร่างกาย / ค่ะ
00:08:08 → 00:08:13 คือบางทีพอเรารู้สึกว่าเราalertจากการดื่มกาแฟ พอฤทธิ์กาแฟหมดปุ๊บก็จะเริ่มlow
00:08:13 → 00:08:16 เข้าใจ..เราก็อยากเติมอีก / เริ่มlowเราก็เติม
00:08:17 → 00:08:22 มันเติมมากเกินเพราะว่ามันมีลิมิตของการได้รับ caffeine ต่อวัน
00:08:22 → 00:08:27 แล้วมันไม่ควรที่จะดื่มเกิน 400mg ของ caffeine
00:08:27 → 00:08:32 ต้องบอกว่าในหนึ่งแก้วเนี่ย ประมาณนะคุณแนน ในหนึ่งแก้วปกติของที่เราดื่มกาแฟเนี่ย
00:08:32 → 00:08:37 ก็จะไม่เกิด 100mg งั้นในวันนึงไม่ควรจะเกิน 4 แก้ว/วัน
00:08:37 → 00:08:40 อันนี้คือmaxสุดเเล้ว / จริงๆแก้วsizeปกตินะคะคุณผู้ชม
00:08:40 → 00:08:44 เพราะว่าไม่งั้นเนี่ยมันจะเกิดอาการปัญหาของการได้รับกาแฟมากเกินไป
00:08:44 → 00:08:47 หรือว่ามีอาการติดแล้วมันมีอาการขาด / อืมมม
00:08:47 → 00:08:51 เหมือนกับมีอาการขาดพวกยาหรือขาด caffeine พวกนี้
00:08:51 → 00:08:54 งั้นพวกนี้ก็แทนที่จะดีกลายเป็นไม่ดีละ
00:08:54 → 00:08:56 กลายเป็นคนหงุดหงิดง่าย / ค่ะ
00:08:56 → 00:08:58 เมื่อกี้เราบอก Alert ตรงข้ามเลย / ค่ะ
00:08:58 → 00:09:00 ง่วง / อืมมม
00:09:00 → 00:09:03 ช่วยเรื่องลดซึมเศร้า อันนี้ตรงข้ามเหมือนกัน
00:09:03 → 00:09:07 กลายเป็นวิตกกังวล และเราก็จะรู้สึกเหนื่อยเพลีย
00:09:07 → 00:09:13 หรืออาจจะมีอาการปวดหัว หรือถ้าเราดื่มมากๆเนี่ยคุณแนนมันจะงงๆแบบเบลอๆ
00:09:13 → 00:09:17 บางคนเนี่ยดื่ม sensitive ต่อกาแฟมากมีคลื่นไส้
00:09:17 → 00:09:23 มีงงๆ มีคลื่นไส้ มือสั่น แล้วก็จะมีอาการเหมือนกับประสาทหลอน
00:09:23 → 00:09:25 เกิดในคนที่มากๆจริงๆ
00:09:25 → 00:09:29 งั้นต้องลิมิตปริมาณของการได้รับกาแฟต่อวัน
00:09:29 → 00:09:33 และอีกอันนึง caffeine มันคล้ายๆกับกลุ่มของยาเสพติดที่
00:09:33 → 00:09:37 เมื่อคุณได้รับแล้วร่างกายของคุณจะทน แล้วคุณจะต้องได้รับปริมาณมากขึ้นๆ
00:09:37 → 00:09:38 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
00:09:39 → 00:09:42 ถ้าดื่มแบบนี้มันไม่ใช่ละ ผิด
00:09:42 → 00:09:46 เพราะจริงๆเราต้องการฤทธิ์ที่มันเป็น Antioxidant
00:09:46 → 00:09:50 หรือฤทธิ์ต้านการอักเสบ หรือฤทธิ์ลดสารอนุมูลอิสระของกาแฟ
00:09:50 → 00:09:53 และช่วยให้มีการทำงานของสมองดีขึ้น
00:09:53 → 00:09:58 ในระดับนึงนิดหน่อย แต่ไม่ใช่โอเวอร์ถ้าโอเวอร์ปุ๊บเนี่ยกลายเป็นผลเสียทันทีเลย
00:09:58 → 00:10:02 ตอนต้นรายการเนี่ยเราพูดถึงว่าเห้ยย..ตัวcaffeineเนี่ย
00:10:02 → 00:10:07 มันช่วยในเรื่องของการลดอัตราการเกิดเป็น Stroke ในบางการศึกษา
00:10:07 → 00:10:11 แต่พอมาดูเนี่ยจริงๆแล้วที่เราดื่มกาแฟเข้าไป
00:10:11 → 00:10:15 ดูดซึมจากกระเพาะอาหารเข้าไป เข้าไปอยู่ในหลอดเลือดของเรา
00:10:15 → 00:10:18 ตัว caffeine เองเนี่ย ทำให้มีการเพิ่มของความดันโลหิต
00:10:18 → 00:10:21 ซึ่งมันมาจากการที่มันไปเพิ่มพวกสารสื่อประสาท
00:10:21 → 00:10:23 บางตัว อย่างเช่น ตัว Adrenaline
00:10:23 → 00:10:28 ซึ่งจริงๆแล้วตัวเนี่ยมันเหมือนเป็น SKATE HORMONE ที่หลั่งมาเวลาที่ร่างกายเรามีความเครียด
00:10:28 → 00:10:32 แต่ว่าอันเนี่ยสั้นๆดี มันเหมือนกับความเครียดคุณแนนน้อยๆดี
00:10:33 → 00:10:37 นานๆมากๆเรื้อรังเนี่ยต้องมีความระมัดระวัง
00:10:37 → 00:10:39 กลายเป็นว่าหัวใจเราทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม
00:10:39 → 00:10:43 เพราะฉะนั้นคนที่เขามีความเสี่ยงอยู่แล้วเขาอาจจะมีเกิดภาวะใจสั่น
00:10:43 → 00:10:45 ไปกระตุ้นทำให้เกิดความดันโลหิตสูง
00:10:45 → 00:10:50 อันนี้เราก็ต้องมีความระมัดระวังแล้วว่าถ้าสมมุติว่าเราดื่มกาแฟในปริมาณมากเกินไป
00:10:50 → 00:10:54 เราได้ caffeine มากเกินไป แทนที่มันจะเป็นผลดี มันเกิดเป็นผลเสีย
00:10:54 → 00:10:57 ต่อการทำงานของร่างกาย ต่อการเต้นของหัวใจ
00:10:57 → 00:11:02 ต่อการหายใจ และอาจจะส่งผลทำให้เกิดมีเรื่องปัญหาของการชัก
00:11:02 → 00:11:05 หัวใจเต้นผิดจังหวะ เสียชีวิตได้เหมือนกัน
00:11:06 → 00:11:09 มันจะเกิดในคนที่ใช้ caffeine ในการลดความอ้วน
00:11:10 → 00:11:13 เพราะว่ามันไม่ได้ใช้ในปริมาณที่ปกติ / ค่ะ
00:11:13 → 00:11:15 คุณแนนนึกออกไหม มันกลายเป็นว่า caffeine ที่เข้าไปเนี่ย
00:11:15 → 00:11:17 มัน overdose คือมันสูงเกิน
00:11:17 → 00:11:20 แทนที่มันจะกลายเป็นผลดีต่อร่างกาย มันไปเพิ่มความดันโลหิตสูง
00:11:20 → 00:11:24 มันไปเพิ่มการทำงานของหัวใจ กลายเป็นว่าคุณเกิดปัญหา
00:11:24 → 00:11:27 นอกจากนี้เนี่ย ตัวของ caffeine เองเนี่ย
00:11:27 → 00:11:31 บางคนที่ทาน caffeine เขาบอกว่า ในคนที่เป็นพวกกรดไหลย้อนเขาห้าม
00:11:31 → 00:11:34 อาหารอันนึงที่หมอสั่งห้ามเลยคือกาแฟ / ค่ะ
00:11:34 → 00:11:37 เพราะว่ากาแฟมันจะไปเพิ่มความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร
00:11:37 → 00:11:42 มันก็จะทำให้ปัญหาของกรดไหลย้อนของเราเนี่ยเป็นมากขึ้นกว่าเดิม
00:11:44 → 00:11:47 ตอนแรกแนนก็เป็นโรคกรดไหลย้อน แนนก้เอ๊..ทำไมคุณหมอห้ามทานกาแฟ
00:11:47 → 00:11:50 ตอนแรกคิดว่านม ปรากฏไม่ใช่เป็นตัวกาแฟนี่เอง / ใช่
00:11:51 → 00:11:54 และนอกจากนี้แล้วเนี่ยถ้าเราดื่มกาแฟในปริมาณมาก
00:11:54 → 00:11:56 พวกนี้จะส่งผลต่อการดูดซึมเเคลเซียม
00:11:57 → 00:12:03 งั้นถ้าคุณมีภาวะกระดูกพรุนอยู่แล้ว อันนี้มันมีปัญหาแน่นอน
00:12:03 → 00:12:12 แล้วก็บางทีเนี่ย คนดื่มกาแฟจะดื่มแล้วรู้สึกแบบแรงมันเยอะ ฉันมีแรงจะทำนู่นทำนี่
00:12:12 → 00:12:14 อาการปวดหายไป
00:12:14 → 00:12:18 คุณแนนรู้ไหมไอตัว caffeine เนี่ยมันอยู่ในยาแก้ปวด
00:12:18 → 00:12:20 ซึ่งเขาใช้ในการรักษาไมเกรน
00:12:20 → 00:12:24 และก็บางคนเขาก็เอามาใช้ในการรักษาอาการปวดอื่นๆทุกอย่างเลย
00:12:24 → 00:12:28 เพราะว่าประโยชน์ของมันคือมันช่วยลดไออาการปวดตามกล้ามเนื้อด้วย
00:12:29 → 00:12:34 แต่ว่าจริงๆแล้วเนี่ยถ้ามากเกินไปก็อย่างที่บอกมันก็จะส่งผลแบบอื่น
00:12:35 → 00:12:40 บางทีแบบเราไม่ไปแก้ที่ต้นเหตุของการปวด เราไปใช้ยาแก้ปวดที่ผสม caffeine เยอะๆ
00:12:40 → 00:12:44 มันก็อาจจะส่งผลต่อการทำงานของหลอดเลือดหรือส่งผลต่อการทำงานของจิตใจได้
00:12:44 → 00:12:49 คุณแนนรู้ไหมตัว caffeine เนี่ยอย่างที่บอกว่ามันดูดซึมจากกระเพาะอาหาร
00:12:49 → 00:12:52 เวลาที่เราดื่มเข้าไปสู่กระเเสเลือด / ค่ะ
00:12:53 → 00:12:55 เข้าไปสู่รกในกรณีของคนท้อง
00:12:55 → 00:12:57 อ๋อออ / อ่าาา
00:12:57 → 00:13:02 มันก็ไปส่งผลถึงเบบี๋ในท้องได้ Metabolism ของเบบี๋ก็จะเปลี่ยนไป
00:13:02 → 00:13:05 การทำงานการเต้นของหัวใจเบบี๋ก็จะเปลี่ยนไปนะคะ
00:13:05 → 00:13:11 คนที่ยังไม่ท้องเนี่ยการดื่มกาแฟมันทำให้การปฏิสนธิน้อยลง / ค่ะ
00:13:11 → 00:13:16 ทำให้การปฏิสนธิน้อยลง ทำให้การเจริญเติบโตของเด็กในครรภ์เนี่ยมีปัญหา
00:13:17 → 00:13:18 แล้วก็เพิ่มอัตราการแท้งด้วย
00:13:18 → 00:13:21 โอโห...ฟังแล้วเเบบน่ากลัวนะคะเนี่ย
00:13:21 → 00:13:23 คนท้องเขาถึงไม่ให้ดื่มไง / ค่ะ
00:13:23 → 00:13:28 แล้วก็คนที่ให้นมบุตรให้ใช้ความระมัดระวังในการดื่ม / ค่ะ
00:13:28 → 00:13:29 โอ้โหหห
00:13:29 → 00:13:32 อันนี้คือข้อเสียของมันเราต้องพูดให้เห็นว่าเอ้ยมันไม่ได้มีแต่ข้อดีอย่างเดียว
00:13:32 → 00:13:38 มันมีข้อเสียด้วย เพราะฉะนั้นถ้าเราจะดื่มเพื่อที่จะช่วยในการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ
00:13:38 → 00:13:44 คุณต้องดื่ม..ดื่มน้อย ไม่เกินวันละ 400mg ก็คือไม่เกินวันละ4แก้ว
00:13:45 → 00:13:48 จริงๆแล้วpreferก็คือ1-2แก้วไม่เกิน / พอออ
00:13:48 → 00:13:52 พอแล้ว และก็ต้องดื่มกาแฟที่เป็นกาแฟสด
00:13:52 → 00:13:57 เป็นกาแฟที่ไม่ใส่ไม่ปรุงแต่งทั้งสิ้นเหมือนคลีนคอฟฟี่นะคะ
00:13:58 → 00:14:02 วันนี้ทราบไปแล้วว่าต้องดื่มกาแฟแบบไหนในปริมาณเท่าไหร่
00:14:02 → 00:14:05 เราถึงจะได้ประโยชน์แบบที่เราคุยกันไปในเบรคที่แล้ว / ค่ะ
00:14:05 → 00:14:07 เอาจริงๆเนี่ยมันก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย
00:14:07 → 00:14:11 แต่ถ้าเกิดเราเลือกทานแบบถูกวิธีและในปริมาณที่พอเหมาะ
00:14:11 → 00:14:14 เราก็จะได้ข้อดีจากมันนะคะคุณหมอ
00:14:14 → 00:14:18 คือถ้ามันไม่ดีอะมันไม่เป็นหนึ่งในตัวยารู้ไหม caffeine เป็นตัวยาอันนึง
00:14:18 → 00:14:20 ที่อยู่ในยาเลย / ค่ะ
00:14:20 → 00:14:23 เพราะฉะนั้นประโยชน์มันมี แต่มันก็มีโทษ
00:14:23 → 00:14:26 ต้องไปปรับนิดนึงไปปรับวิธีการทานหน่อยนะคะ
00:14:26 → 00:14:28 ก็จะได้ประโยชน์อย่างสูงสุดนั่นเองนะคะ
00:14:29 → 00:14:33 วันนี้เปิดเผยทุกความลับของกาแฟกันไปเรียบร้อยแล้วนะคะ
00:14:33 → 00:14:35 สัปดาห์หน้าคุณหมอจะชวนพวกเราคุยเรื่องไหน
00:14:35 → 00:14:37 กลับมาติดตามได้ที่นี่เวลาเดิมนะคะ
00:14:37 → 00:14:42 วันนี้เวลาหมดเกลี้ยงเลยคุณหมอและแนนลาไปก่อนนะคะ สวัสดีค่า / สวัสดีค่า