00:00:06 → 00:00:08 ปกติความเสื่อมของคนเราเนี่ยมันจะมี
00:00:08 → 00:00:11 เสื่อมทั้งเส้นเอ็นเสื่อมทั้งกระดูกถ้าใน
00:00:11 → 00:00:13 ภาวะของกระดูกและข้อของเราเนี่ยนะกระดูก
00:00:13 → 00:00:16 เนี่ยคือประมาณ 55 ในผู้หญิงส่วน 65 ใน
00:00:16 → 00:00:18 ผู้ชายเป็นช่วงวัยทองของทั้งผู้หญิงและ
00:00:18 → 00:00:20 ผู้ชายนั่นเองในขณะที่ถ้าเส้นเอ็นเสื่อม
00:00:20 → 00:00:22 เนี่ยส่วนใหญ่เส้นเอ็นเสื่อมมันจะเป็นตอน
00:00:22 → 00:00:25 อายุสักประมาณ 35-40 ปัจจุบันเนี่ยเด็ก
00:00:25 → 00:00:28 ถึงมีปัญหาเรื่องกระดูกมากขึ้นเร็วขึ้น
00:00:28 → 00:00:30 มันอยู่ที่ปัจจัยหลายๆอย่างอาจจะเป็น
00:00:30 → 00:00:34 เรื่องของกรรมพันธุ์เด็กสมัยนี้นั่งก้ม
00:00:34 → 00:00:37 ใช่ไหมฮะแล้วก็ใช้แต่คอมเรียนก็ใช้ iPad
00:00:37 → 00:00:40 เพราะฉะนั้นเด็กปัจจุบันเนี่ยมันจะมีการ
00:00:40 → 00:00:43 นั่งนานตลอดเวลาก็คือก้มทั้งคอก้มข้าง
00:00:43 → 00:00:45 หลังโอกาสที่หมอนรองกระดูกมันจะมีปัญหา
00:00:45 → 00:00:47 มันก็สูง
00:00:47 → 00:00:49 [เพลง]
00:00:49 → 00:00:52 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:52 → 00:00:55 การรองหมอกิตฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:55 → 00:00:58 เอสช้อยส์
00:00:58 → 00:01:02 เอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังคะวันนี้เราจะมาคุยกัน
00:01:02 → 00:01:05 ถึงเรื่องของอายุน้อยกระดูกสันหลังก็
00:01:05 → 00:01:07 เสื่อมได้อาจเป็นเรื่องที่แปลกไหมคะคุณ
00:01:07 → 00:01:10 ผู้ฟังคะอายุน้อยๆทำไมมีปัญหาเรื่องของ
00:01:10 → 00:01:12 กระดูกสันหลังได้วันนี้เราต้องมาหาคำตอบ
00:01:12 → 00:01:16 กันกับดรนายแพทย์จตุพลคงถาวรสกุลแพทย์ผู้
00:01:16 → 00:01:18 เชี่ยวชาญด้านศูนย์กล้ามเนื้อกระดูกและ
00:01:18 → 00:01:22 ข้อจากเหตุดรหมอหมีค่ะสวัสดีค่ะหมอหมีอัน
00:01:22 → 00:01:25 นี้คืองงมากทำไมหรออายุน้อยๆนี่ก็เป็น
00:01:25 → 00:01:27 เรื่องเกี่ยวกับกระดูกได้ด้วยเหมือนกัน
00:01:27 → 00:01:31 หรอใช่คือปกติแล้วเนี่ยนะฮะคนเราเนี่ยมัน
00:01:31 → 00:01:34 ควรจะเสื่อมตอนประมาณอายุสัก 55 ขึ้นไป
00:01:34 → 00:01:37 ถ้าเป็นในผู้หญิงนะส่วนผู้ชายเนี่ยก็ควร
00:01:37 → 00:01:40 จะเสื่อมสักประมาณ
00:01:40 → 00:01:44 65 อะไรอย่างนี้นะฮะแต่ว่าไอ้เสื่อมคำ
00:01:44 → 00:01:46 ว่าเสื่อมเนี่ยมันอาจจะเสื่อมตามข้อต่างๆ
00:01:46 → 00:01:49 เนาะคืออยากจะแบ่งอย่างนี้ปกติความเสื่อม
00:01:49 → 00:01:51 ของคนเราเนี่ยมันจะมีเสื่อมทั้งสิ้นเอ็น
00:01:51 → 00:01:54 เสื่อมทั้งกระดูกถ้าในภาวะของกระดูกและ
00:01:54 → 00:01:57 ข้อของเราเนี่ยนะทีนี้กระดูกเนี่ยก็อย่าง
00:01:57 → 00:01:59 ที่ว่าไปแล้วก็คือประมาณ 55 ในผู้หญิง
00:01:59 → 00:02:03 ส่วน 65 ในผู้ชายก็คือเอาเป็นว่าช่วงวัย
00:02:03 → 00:02:07 หลังหมดประจำเดือนของผู้หญิงหรือเป็นช่วง
00:02:07 → 00:02:09 วัยทองของทั้งผู้หญิงและผู้ชายนั่นเองที
00:02:09 → 00:02:12 นี้ในขณะที่ถ้าเส้นเอ็นอักเส้นเอ็นเสื่อม
00:02:12 → 00:02:14 เนี่ยส่วนใหญ่เส้นเอ็นเสื่อมมันจะเป็นตอน
00:02:14 → 00:02:15 อายุสักประมาณ
00:02:15 → 00:02:19 35-40 เส้นเอ็นเอจริงๆเขาจะไปก่อนคนอาจ
00:02:19 → 00:02:21 จะงงไม่เคยได้ยินถึงคำว่าสิ้นเอ็นเสื่อม
00:02:21 → 00:02:24 นะฮะซึ่งเส้นเอ็นเสื่อมเนี่ยมันคือเส้น
00:02:24 → 00:02:28 เอ็นเปื่อยนั่นเองนะฮะทีนี้ถามว่าแล้ว
00:02:28 → 00:02:31 ทำไมปัจจุบันเนี่ยเด็กถึงมีปัญหาเรื่อง
00:02:31 → 00:02:35 กระดูกมากขึ้นเร็วขึ้นนะมันอยู่ที่ปัจจัย
00:02:35 → 00:02:37 หลายๆอย่างนะ
00:02:37 → 00:02:41 ก็คืออาจจะเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์นะกรรม
00:02:41 → 00:02:42 พันธุ์เช่น
00:02:42 → 00:02:47 ในปัจจุบันนี้มันมีคนที่มีปัญหาเรื่องเขา
00:02:47 → 00:02:48 เรียกว่าเป็น
00:02:48 → 00:02:50 ไฮเปอร์แรสิกซินโดรมก็คือมีความยืดหยุ่น
00:02:50 → 00:02:52 ของร่างกายมากกว่าปกติเมื่อมีความยืด
00:02:52 → 00:02:55 หยุ่นมากกว่าปกติปุ๊บเนี่ยตัวข้อเนี่ยมัน
00:02:55 → 00:02:58 จะต้องรับน้ำหนักหรือรับแรงเต็มๆใช่ไหม
00:02:58 → 00:03:01 อันนี้คือส่วนหนึ่งซึ่งมันเป็นกรรมพันธุ์
00:03:01 → 00:03:03 แล้วปัจจุบันเด็กที่มีไฮเปอร์สิคหรือมี
00:03:03 → 00:03:05 ความยืดหยุ่นมากกว่าปกติเนี่ยก็มีจำนวน
00:03:05 → 00:03:09 ที่สูงขึ้นตามไปเรื่อยตามเหมือนตาม
00:03:09 → 00:03:12 เออคนมากขึ้นโอกาสที่เป็นโรคมากขึ้นเพราะ
00:03:12 → 00:03:16 มันเป็นเปอร์เซ็นต์นะเอ่อวิธีการใช้งานนะ
00:03:16 → 00:03:21 คือการพฤติกรรมที่ทำซ้ำๆพฤติกรรมซ้ำๆก็
00:03:21 → 00:03:25 คืออะไรเด็กสมัยนี้นั่งก้มใช่ไหมฮะแล้วก็
00:03:25 → 00:03:28 ใช้แต่คอมเรียนก็ใช้ iPad สมัยก่อนพวกเรา
00:03:28 → 00:03:32 เรียนกันเนี่ยก็เรียนการดำใช่ไหมหรือเล่น
00:03:32 → 00:03:35 ไวท์บอร์ดนะการที่เรียนไว้บ่อยมันมีข้อดี
00:03:35 → 00:03:39 กว่าการเรียนแบบนี้ตรงที่ว่าอาแต่ก่อนเรา
00:03:39 → 00:03:42 เรียนมันก็มีครูเดินไปเดินมาใช่ไหมนึกถึง
00:03:42 → 00:03:45 ภาพสมัยเมื่ออดีตที่เราเรียนมันก็จะแตก
00:03:45 → 00:03:47 ต่างตอนนี้ปัจจุบันนี้ขนาดอยู่ในห้อง
00:03:48 → 00:03:51 เรียนเนี่ยเด็กบางคนยังไม่ได้คุยไม่มี
00:03:51 → 00:03:53 ปฏิสัมพันธ์กับคุณครูเลย
00:03:53 → 00:03:56 นึกออกไหมเพราะฉะนั้นพอเขาเรียนอย่าง
00:03:56 → 00:03:58 เดียวเนี่ยเขาจะก้มคอตลอดเวลาแล้วท่านั่ง
00:03:58 → 00:04:03 อีกท่านั่งในการนั่งดู iPad หรือดู
00:04:03 → 00:04:07 แท็บเล็ตเนี่ยมันก็แตกต่างจากการที่เรา
00:04:07 → 00:04:10 นั่งเรียนปกติแล้วการเขียนหนังสือเนี่ย
00:04:10 → 00:04:13 กับการที่เราใช้ iPad จดมันก็คนละท่ากัน
00:04:13 → 00:04:16 อีกนะเพราะฉะนั้นเด็กปัจจุบันเนี่ยมันจะ
00:04:16 → 00:04:20 มีการนั่งนานตลอดเวลานะแล้วก็คือก้มทั้ง
00:04:20 → 00:04:23 คอก้มข้างหลังเพราะฉะนั้นโอกาสที่หมอนรอง
00:04:23 → 00:04:28 กระดูกมันจะมีปัญหามันก็สูงนะฮะนี้ปกติ
00:04:28 → 00:04:31 เนี่ยหมอนรองกระดูกจะเริ่มเสื่อมเมื่อ
00:04:31 → 00:04:33 ไหร่เรายังไม่ได้พูดเราพูดถึงเสื่อมมากๆ
00:04:33 → 00:04:36 เลยนะเอ็นเสื่อม 40 ใช่ไหมหลังเสื่อมก็
00:04:36 → 00:04:40 เอาเฉลี่ยเฉลี่ยก็ประมาณ 60 นะ
00:04:40 → 00:04:43 แต่หมอนรองกระดูกหลังที่เริ่มเสื่อมเนี่ย
00:04:43 → 00:04:47 นะฮะในอดีตเนี่ยมีงานวิจัยพบว่าเอาคนปกติ
00:04:47 → 00:04:51 เนี่ยนะไปเอกซเรย์แล้วก็ MRI นะพบว่ามี
00:04:51 → 00:04:54 กระดูกหลังเสื่อมเนี่ยได้ถึงประมาณ 50%
00:04:54 → 00:04:58 ครึ่งนึงเลยหรอใช่ซึ่งพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่
00:04:58 → 00:04:59 มีอาการ
00:04:59 → 00:05:02 เอาเป็นว่าถ้าเราดูแต่เอกซเรย์หรือ MRI
00:05:02 → 00:05:06 เนี่ยนะแล้วเรารักษาเนี่ยเราได้ 50% แต่
00:05:06 → 00:05:07 ในความเป็นจริงคือคนพวกนั้นไม่มีการอะไร
00:05:07 → 00:05:09 เลยแต่เสื่อมไปแล้ว
00:05:09 → 00:05:13 ซึ่งมันก็ไม่แปลกในอดีตเนี่ย 30 เป็นช่วง
00:05:13 → 00:05:16 เวลาที่ตัวหมอนรองกระดูกเนี่ยความยืด
00:05:16 → 00:05:18 หยุ่นมันจะเริ่มน้อยลงน้ำมันจะเริ่มน้อย
00:05:18 → 00:05:20 ลงนะครับเพราะฉะนั้นมันก็จะเสื่อมไป
00:05:20 → 00:05:24 เรื่อยๆทีนี้แต่ก่อนเริ่ม 30 ปัจจุบันนี้
00:05:24 → 00:05:27 นะฮะเราส่งคนไข้ไปใหม่ในเด็กที่ปวดหลังนะ
00:05:27 → 00:05:32 17 18 พวกนี้หมอนรองกระดูกเนี่ยถ้าเรา
00:05:32 → 00:05:36 ดูใน x-ray เนี่ยแทบจะปกติเลยแต่พอเราทำ
00:05:36 → 00:05:38 MRI ปุ๊บเนี่ยปรากฏว่า
00:05:38 → 00:05:40 ตัวหมอนรองกระดูกเนี่ย
00:05:40 → 00:05:42 มันเขาเรียกว่ามันจะเป็น Dark Disk ก็
00:05:42 → 00:05:43 คือมันจะดำไปเลย
00:05:43 → 00:05:48 นะเพราะฉะนั้นใครก็ตามที่มีลูกหลานนะที่
00:05:48 → 00:05:52 นั่งแล้วก็บ่นตลอดเวลาว่าเออเนี่ยปวดหลัง
00:05:52 → 00:05:57 แบบเดินขยับแล้วก็ประเภทต้องยืดหลังต้อง
00:05:57 → 00:06:00 ทำเสียงดังอะไรพวกนี้แบบนี้ให้สงสัยไว้
00:06:00 → 00:06:03 เลยว่าน่าจะเป็นอาการเริ่มต้นของอาการ
00:06:03 → 00:06:06 หมอนรองกระดูกหลังเสื่อมแม้กระทั่งจะอายุ
00:06:06 → 00:06:09 น้อยๆใช่
00:06:09 → 00:06:13 มีความผิดปกติจนถึงขั้นขนาดว่าเด็กบ่นได้
00:06:13 → 00:06:17 เนี่ยก็น่าจะไม่ธรรมดาใช่ถูกต้องซึ่งอัน
00:06:17 → 00:06:21 นี้เนี่ยก็จริงๆแล้วเนี่ยนะฮะมันมีปัจจัย
00:06:21 → 00:06:24 อื่นอีกนะนอกจากท่านั่งใช่ไหมคือทำอะไร
00:06:24 → 00:06:25 ซ้ำๆ
00:06:25 → 00:06:27 แล้วก็กรรมพันธุ์ที่บอกว่ามันมีโรคอะไร
00:06:27 → 00:06:29 ที่มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็นเปอร์เซ็นต์
00:06:29 → 00:06:31 อันที่ 3 เนี่ยก็คือ
00:06:31 → 00:06:36 ปัจจุบันเนี่ยมันเป็นโลกที่มีการเล่นกีฬา
00:06:36 → 00:06:39 ยุคเนี้ยมันมีการเล่นกีฬากันเยอะ
00:06:39 → 00:06:43 สมัยก่อนตอนเราเรียนเนี่ยอย่ามักเตะบอล
00:06:43 → 00:06:47 กีฬาตามปกติใครนักกีฬาที่จะเป็นนักกีฬา
00:06:47 → 00:06:50 ที่บิ้วตัวเองขึ้นมาเป็นนักกีฬาเนี่ยมัน
00:06:50 → 00:06:54 ไม่เยอะถูกไหมเรามองย้อนกลับไปนะคือผม
00:06:54 → 00:06:57 มั่นใจว่าคนฟังรายการเนี้ยส่วนใหญ่จะเป็น
00:06:57 → 00:07:00 คนที่อายุใกล้เคียงเราหรือมากกว่าเราเด็ก
00:07:00 → 00:07:03 ๆเขาไม่มาฟังหรอกแต่เราก็ไม่รู้มันอาจจะ
00:07:03 → 00:07:05 มีก็ได้แต่ผมว่าคือ
00:07:05 → 00:07:07 สมัยนี้
00:07:07 → 00:07:11 เรามุ่งเป็นเลิศทางด้านการกีฬา
00:07:11 → 00:07:14 กันอย่างมากเลยโดยที่บางทีประเทศเราเนี่ย
00:07:14 → 00:07:16 นะผมพูดเสมอว่า
00:07:16 → 00:07:19 เวชศาสตร์การกีฬาของเราเนี่ย
00:07:19 → 00:07:22 มันยังไปไม่ถึงของฝรั่งเนี่ยเขาจะมี
00:07:22 → 00:07:26 เทรนเนอร์หรือผมว่าการศึกษาในโรงเรียนของ
00:07:26 → 00:07:27 เขาเนี่ย
00:07:27 → 00:07:30 เขามีคนที่มีศักยภาพพอที่มาสอนว่า
00:07:30 → 00:07:33 เออเนี่ยปกติการเล่นกีฬาเราต้องมีเบสิค
00:07:33 → 00:07:34 แบบนี้นะกล้ามเนื้อมันต้องเป็นอย่างนี้
00:07:34 → 00:07:39 ที่สำคัญเนี่ยภาษากล้ามเนื้อเนี่ยมันเป็น
00:07:39 → 00:07:40 ภาษาอังกฤษ
00:07:40 → 00:07:44 ส่วนใหญ่เพราะฉะนั้นแน่นอนแหละมันย่อม
00:07:44 → 00:07:48 ง่ายต่อการเข้าใจของเด็กเพราะฉะนั้นเวลา
00:07:48 → 00:07:51 สอนเข้าไปอย่างเงี้ยกล้ามเนื้ออันนี้พอดู
00:07:51 → 00:07:53 รูปดูอะไรมันง่ายใช่ไหมเพราะฉะนั้นเขา
00:07:53 → 00:07:55 เข้าใจได้แล้วเขาสามารถที่จะเอามา
00:07:55 → 00:07:58 ประยุกต์ใช้ในการที่เขาจะออกกำลังกายเอง
00:07:58 → 00:08:01 ได้คือผมว่าคือไม่ได้ว่าอะไรผมว่าการ
00:08:01 → 00:08:04 ศึกษาไทยเนี่ยบางทีเอ่อผมว่ามันไม่ได้
00:08:04 → 00:08:08 ช่วยในเรื่องของเวสสันการกีฬามากนักเพราะ
00:08:08 → 00:08:09 ฉะนั้น
00:08:09 → 00:08:12 เราจะเห็นว่าเด็กของเราเนี่ยนะเล่นกีฬา
00:08:12 → 00:08:15 ปุ๊บเนี่ยปวดหลังกันเยอะพวกเล่นบาสปวด
00:08:15 → 00:08:16 หลัง
00:08:16 → 00:08:21 เตะบอลก็บ่นหลังวิ่งเยอะๆก็ยังปวดหลัง
00:08:21 → 00:08:24 ถามว่า 3 กีฬานี้เป็นกีฬาสุดฮิตในประเทศ
00:08:24 → 00:08:29 ไทยถูกไหมวิ่งเตะบอลแล้วก็เล่นบาสทีนี้
00:08:29 → 00:08:33 ทำไมฝรั่งมันเล่นไม่ค่อยปวดทำไมคนไทยปวด
00:08:33 → 00:08:36 มันก็น่าสงสัยนะเพราะว่าเอาจริงๆเป็นการ
00:08:36 → 00:08:39 ออกกำลังกายก็คือเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
00:08:39 → 00:08:42 ดีต้องแข็งแรง
00:08:42 → 00:08:46 ยิ่งเป็นการกระตุ้นทำให้มีปัญหาเพราะว่า
00:08:46 → 00:08:50 3 ชนิดกีฬาเนี่ยนะมันคือกีฬาที่เขาเรียก
00:08:50 → 00:08:54 ว่ามีการเคลื่อนไหวแบบและปิด movement ก็
00:08:54 → 00:08:57 คือหรือเจอ movement คือการเคลื่อนไหวของ
00:08:57 → 00:08:59 คนเราอ่ะมันจะมีการเคลื่อนไหวอยู่ 4-5
00:08:59 → 00:09:04 แบบจริงๆมี 4 แบบนะฮะคือ static เจอใช่
00:09:04 → 00:09:07 มั้ยฮะแล้วก็รับปิด Women ทีนี้การ
00:09:07 → 00:09:11 เคลื่อนไหวของคนน่ะในเด็กสมัยนี้ถ้าเราไป
00:09:11 → 00:09:14 ฝึกแต่การเคลื่อนไหวแบบเร็วหรือการ
00:09:14 → 00:09:16 เคลื่อนไหวแบบกระตุกหรือที่เรียกว่าเจอ
00:09:16 → 00:09:18 เนี่ยเพราะว่าการเล่นม้ามันต้องกระโดด
00:09:18 → 00:09:22 ปุ๊บพักแล้วก็ shoot เตะบอลก็ต้องวิ่งๆมา
00:09:22 → 00:09:24 หยุดทำขาหลอกเตะไอ้พวกนี้เขาเรียกว่าเจอ
00:09:24 → 00:09:27 movement คือถ้ามันมีการเจอ movement
00:09:27 → 00:09:30 เมื่อไหร่เนี่ยมันโอกาส injury สูงทันที
00:09:30 → 00:09:34 ยังบาสเนี่ยพอขึ้นไปกระโดด shoot ลงมามัน
00:09:34 → 00:09:37 ก็มี Impact ถูกไหมวิ่งเหมือนกันวิ่งคน
00:09:37 → 00:09:39 ที่วิ่งส่วนใหญ่เขาจะรู้ดีเลยพอเวลาวิ่ง
00:09:39 → 00:09:41 เนี่ยมันจะมีการแอ่นหลัง
00:09:41 → 00:09:43 พอวิ่งแล้วมีการกระแทกไปอีกกระแทกกระแทก
00:09:43 → 00:09:46 มันก็จะปวดหลังถูกไหมเพราะฉะนั้นพวกนี้
00:09:46 → 00:09:49 เนี่ยวิธีการที่จะทำให้อาการปวดมันน้อยลง
00:09:49 → 00:09:53 คือเราต้องบิวกล้ามเนื้อก่อนแต่ว่าใน
00:09:53 → 00:09:56 ประเทศเราสังเกตนะโรงเรียนมีสนามบาสสนาม
00:09:56 → 00:09:59 บอลแต่ไม่มียิง
00:09:59 → 00:10:02 ถูกมั้ยไม่ยิ้มก็ไม่มีอะไรสมัยตัวเองนะ
00:10:02 → 00:10:04 ยิ้มก็ไม่มีอะไรเครื่องเล่นอะไรอย่าง
00:10:04 → 00:10:07 เงี้ยไม่มีก็ไม่มีโรงเรียนส่วนใหญ่มีสนาม
00:10:07 → 00:10:09 บาสสนามบอลสระว่ายน้ำมีเกือบทุกอย่างเลย
00:10:09 → 00:10:13 แต่ไม่มียิมอ่าไม่มีการบิ้วว่าเฮ้ยกล้าม
00:10:13 → 00:10:15 เนื้อมัดนี้เป็นยังไงอะไรยังไงที่สำคัญ
00:10:15 → 00:10:18 เทรนเนอร์ในประเทศเราไม่เป็นครู
00:10:18 → 00:10:20 เป็นเทรนเนอร์กับเป็นครูอันไหนเงินเยอะ
00:10:20 → 00:10:24 กว่ากันอันนี้ถูกมั้ยเพราะฉะนั้นโอกาสที่
00:10:24 → 00:10:27 เทรนเนอร์ที่มีความรู้ความสามารถจะเข้าไป
00:10:27 → 00:10:28 สอนเด็กในโรงเรียน
00:10:28 → 00:10:31 มันก็น้อยแต่โอเคแหละปัจจุบันมันก็จะมี
00:10:31 → 00:10:33 เรื่องของการสอนทาง YouTube หรืออะไร
00:10:33 → 00:10:37 อย่างนี้แต่เด็กเนี่ยเขาไม่ได้เข้าถึงยิม
00:10:37 → 00:10:41 ได้ทุกคนถูกไหมเขามีทางเลือกเพราะฉะนั้น
00:10:41 → 00:10:44 เขาก็เตะบอลไงแต่ถ้าเกิดว่าเราเข้าไปใน
00:10:44 → 00:10:48 ฟิตเนสแต่ตามที่ต่างๆไม่มีเด็กนะก็ใช่ก็
00:10:48 → 00:10:50 จะเป็นวัยทำงานอย่างเราหรืออาจจะอายุมาก
00:10:50 → 00:10:52 ขึ้นมาหน่อยนึงเท่านั้นเองร่วมกับความ
00:10:52 → 00:10:56 เชื่ออีกไงถามว่าทำไมถึงไม่ค่อยมีการบิ้ว
00:10:56 → 00:10:58 กล้ามเนื้อเพราะว่าอันนี้เราพูดถึงการ
00:10:58 → 00:11:01 Build กล้ามเนื้อเพราะว่ามันทำให้โหลด
00:11:01 → 00:11:04 หรือแรงที่ไปลงกระดูกหลังเนี่ยหรือกระดูก
00:11:04 → 00:11:06 คอมันสูงขึ้นถูกไหมเพราะมันไม่ได้บิล
00:11:06 → 00:11:09 เนี่ยมันก็มีปัญหาทีนี้ถามว่าทำไมเด็กถึง
00:11:09 → 00:11:12 ไม่บิ้วมันก็มีความเชื่อแปลกๆอีกอย่างนะ
00:11:12 → 00:11:17 ที่ว่านี่นะดูต้องเล่นบาสลูกจะได้สูง
00:11:17 → 00:11:20 ลูกต้องกระโดดเยอะๆเนี่ยมีคนไข้ล่าสุด
00:11:20 → 00:11:23 พึ่งมาบอกให้ลูกกระโดดวันละ 200 ครั้ง
00:11:23 → 00:11:26 เพื่อจะให้ตัวสูง
00:11:26 → 00:11:26 อ่า
00:11:26 → 00:11:28 คือ
00:11:28 → 00:11:31 ผมบอกงี้นะคนเล่นบาสเนี่ย
00:11:31 → 00:11:35 มันไม่ได้กระโดดมันไม่ได้เล่นเพราะว่าคือ
00:11:35 → 00:11:38 งี้คนเล่นบาสเนี่ยมันไม่ได้ไปเล่นแล้วเลย
00:11:38 → 00:11:41 สูงส่วนใหญ่จะสูงมันสูงอยู่แล้วมันจึง
00:11:41 → 00:11:46 เล่นบาสยังเนี่ยผมตัวเตี้ยผมเกลียดการ
00:11:46 → 00:11:47 เล่นบาส
00:11:47 → 00:11:51 ผมสูง 168 เจอเพื่อน 280 เรามีไปเลยอัพ
00:11:51 → 00:11:54 ได้ไงล่ะถูกไหมเราก็ชูตได้อย่างเดียว
00:11:54 → 00:11:58 เพราะฉะนั้นคนตัวเล็กเขาก็จะไม่เล่นบาสคน
00:11:58 → 00:11:59 ตัวเล็กเขาไปเล่นยิม
00:11:59 → 00:12:02 หรือคนตัวเล็กเขาจะเล่นบอลเพราะว่าไซส์
00:12:02 → 00:12:04 ของตัวหรือความสูงเนี่ยมันไม่ได้มีผล
00:12:04 → 00:12:08 สำหรับฟุตบอลใช่ไหมหรือจะเป็น Go อย่าง
00:12:08 → 00:12:10 นี้โกงก็ต้องตัวสูง
00:12:10 → 00:12:14 มันมีการเลือกมาแล้ว Natural Selection
00:12:14 → 00:12:17 คือเลือกมาแล้วว่าไอ้คนตัวสูงอ่ะมันเล่น
00:12:17 → 00:12:20 กีฬาชนิดนี้เพราะฉะนั้นขอร้องคุณพ่อคุณ
00:12:20 → 00:12:23 แม่ความเชื่อความเชื่อเนี่ยเลิกเหอะนะ
00:12:23 → 00:12:26 แล้วก็ทุกคนก็จะถามว่าเอ้าแล้วเล่นอะไร
00:12:26 → 00:12:28 แล้วมันสูงไง
00:12:28 → 00:12:30 เล่นอะไรแล้วมันสูงก็ได้ฮะขอให้เล่นกีฬา
00:12:30 → 00:12:34 เถอะแต่ว่าความสำคัญที่สุดมันอยู่ที่กรรม
00:12:34 → 00:12:35 พันธุ์
00:12:35 → 00:12:39 ต่อให้คุณจะบิ้วขนาดไหนเนี่ยนะ
00:12:39 → 00:12:43 กรรมพันธุ์เนี่ยถ้าเรามีกรรมพันธุ์ที่สูง
00:12:43 → 00:12:47 เด็กมันก็จะสูงนะแต่ว่าอาหงส์อาหารเนี่ย
00:12:47 → 00:12:50 มันก็ช่วยบ้างสมมุติว่าความสามารถในการ
00:12:50 → 00:12:54 สูงของเราอาจจะได้สัก 170 แหมแต่ว่าถ้า
00:12:54 → 00:12:58 เกิดเราบิ้วอาหารดีๆเล่นกีฬาอย่างมีวินัย
00:12:58 → 00:13:01 ที่สำคัญที่สุดคือการนอนโกรทฮอร์โมนมัน
00:13:01 → 00:13:04 ออกมาตอนนอนใช่ไหมเพราะฉะนั้นถ้าเรานอน
00:13:04 → 00:13:07 น้อยๆเด็กสมัยนี้เล่นเกมดึกๆอย่างนี้แล้ว
00:13:07 → 00:13:11 ก็อยากสูงบอกพ่อแม่สูงมากไม่มีทางก็อยาก
00:13:11 → 00:13:14 ไปเพราะฉะนั้นเด็กเนี่ยต้องนอนเยอะๆ
00:13:14 → 00:13:18 นอนเยอะสันหลังยาวไงสันหลังเลยยาวอ่าเขา
00:13:18 → 00:13:20 เลยพูดอย่างนี้ไม่น่าเกี่ยวนะผมไม่รู้
00:13:20 → 00:13:22 เหมือนกันว่ามาจากไหนแต่ว่าการนอนได้เยอะ
00:13:22 → 00:13:25 ทำให้เราสูงเพราะฉะนั้นปัจจัยในการเล่น
00:13:25 → 00:13:29 กีฬาเนี่ยอันนี้สำคัญเพราะฉะนั้นย้อนกลับ
00:13:29 → 00:13:32 มาคือแล้วเด็กเนี่ยเล่นยิมได้ไหม
00:13:32 → 00:13:35 พ่อแม่จะรู้สึกว่าการเล่นยิมเนี่ยมันทำ
00:13:35 → 00:13:37 ให้กล้ามเนื้อเนี่ยมันแข็งแรงเกินไปกล้าม
00:13:37 → 00:13:40 เนื้อแข็งแรงแล้วทำให้กระดูกไม่งอกไม่ยืด
00:13:40 → 00:14:14 อันนี้ก็ไม่จริงอีก
00:14:15 → 00:14:18 เด็กไม่ชอบมันไม่ได้แบบว่าหลายๆคนไงนี่ไง
00:14:18 → 00:14:20 ผมถึงบอกว่าการศึกษาเนี่ยมันต้องถึงเพื่อ
00:14:20 → 00:14:22 ที่จะทำให้
00:14:22 → 00:14:25 เวชศาสตร์การกีฬามันดีขึ้นเพราะขนาดตอน
00:14:25 → 00:14:26 นี้ปัจจุบัน
00:14:26 → 00:14:30 ในเราพูดถึงผู้ใหญ่แล้วกันเพราะเวลาจะ
00:14:30 → 00:14:33 เล่นกีฬาคิดถึงแต่ฟุตบอล
00:14:33 → 00:14:37 คิดถึงแต่บาสแล้วก็พอเลิกงานเสร็จไปเล่น
00:14:37 → 00:14:40 กันทำเหมือนตอนที่เรายังเป็นเด็กตีวงตี
00:14:40 → 00:14:43 แบดว่าไปเออคือมาถึงก็ไม่ยืดไม่ยิ้มไม่
00:14:43 → 00:14:44 เวทไม่อะไรเลย
00:14:45 → 00:14:47 คือมันไม่ได้พวกนี้ถึงได้เจ็บกันถึงได้
00:14:47 → 00:14:50 เอ็นห้อยหน้าค่อยหลังขาดกันถึงได้หมอนรอง
00:14:50 → 00:14:52 กระดูกปลิ้นกันเนี่ยไหนหมอหมีก็เลยงาน
00:14:52 → 00:14:55 เยอะเลยเพราะว่าไม่ใช่ผู้ใหญ่ก็เป็นเด็ก
00:14:55 → 00:14:59 เนี่ยมันมีความอดทนของกล้ามเนื้อของ
00:14:59 → 00:15:04 กระดูกเนี่ยที่สูงกว่าผู้ใหญ่มันเลยมี
00:15:04 → 00:15:06 โหลดลงตลอดเวลามันก็เลยบอกว่างั้นไม่เป็น
00:15:06 → 00:15:08 ไรงั้นไม่เป็นก็ได้
00:15:08 → 00:15:11 หมอนรองไม่ปริ้นให้ก็ได้แต่ขอเป็นเสื่อม
00:15:11 → 00:15:14 แล้วกันเฮ้ยเดี๋ยวปลิ้นก็เสื่อมก็ไม่ค่อย
00:15:14 → 00:15:16 จะดีทั้งคู่แต่จะเสื่อมหนักเลยอ่ะทีนี้
00:15:16 → 00:15:20 เสื่อมเนี่ยมายังไงอาการเขาจะมายังไง
00:15:20 → 00:15:22 ปกติเด็กสมัยนี้นะฮะเค้าจะมีอาการปวดแต่
00:15:22 → 00:15:24 หาจุดกดเจ็บไม่ได้
00:15:24 → 00:15:27 จำไว้เลยว่าถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ปวดจาก
00:15:27 → 00:15:30 หมอนรองกระดูกไม่ว่าจะเป็นคอหรือหลังมัน
00:15:30 → 00:15:33 จะหาจุดกดเจ็บไม่เจอเพราะปกติแล้วถ้าหา
00:15:33 → 00:15:34 จุดกดเจ็บเจอมันจะเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ
00:15:34 → 00:15:36 มันจะรู้สึกยังไงคะมันจะมีความรู้สึก
00:15:36 → 00:15:40 เหมือนปวดร้าวๆลงกลางสะบักถ้าเป็นคอนะถ้า
00:15:40 → 00:15:42 เป็นหลังก็คือจะปวดร้าวลงก้นกบเขาเรียก
00:15:42 → 00:15:45 ว่าแอคเซลแบล็คเพนแอกมาว่าแนวกลางมันจะ
00:15:45 → 00:15:49 ปวดตามแนวกลางของตัวเพราะว่าอย่างนี้ตรง
00:15:49 → 00:15:51 เส้นประสาทที่มันวิ่งเข้าไปรับความรู้สึก
00:15:51 → 00:15:54 ของหมอนรองกระดูกในระดับนั้นๆมันคือเส้น
00:15:54 → 00:15:57 เดียวกับที่มารับความรู้สึกตรงบริเวณท้าย
00:15:57 → 00:16:00 ทอยลงไปถึงสะบักเพราะฉะนั้นพอเวลามันปวด
00:16:00 → 00:16:02 ที่ด้านหลังของหมอนรองกระดูกซึ่งเกิดจาก
00:16:03 → 00:16:06 การเสื่อมจึงให้อาการออกมาข้างนอกเขา
00:16:06 → 00:16:09 เรียกว่า Reference คือจริงๆปัญหามันอยู่
00:16:09 → 00:16:10 ข้างใน
00:16:10 → 00:16:14 แต่มันดันปวดขึ้นมาข้างนอก
00:16:14 → 00:16:18 หรือปวดตรงอื่นแต่เจ็บตรงนี้
00:16:18 → 00:16:23 ทีนี้พอเขามีการ refer Pain เนี่ยเรา
00:16:24 → 00:16:26 ง่ายๆเลยถ้ามาเจอเรานะเราตรวจกดปุ๊บไม่
00:16:26 → 00:16:28 เจ็บอะไรเลยตรงไหนเลยทั้งคอและหลังเนี่ย
00:16:28 → 00:16:31 พวกนี้ส่วนใหญ่ผมส่งใหม่ๆเลยผมไม่ผมสกิน
00:16:31 → 00:16:32 เอกซเรย์เลยเพราะเอกซเรย์มันไม่เห็นเลย
00:16:32 → 00:16:37 เอกซเรย์มันจะดูเหมือนปกติแต่ผสม
00:16:37 → 00:16:40 ว่าถ้าไปกดปุ๊บเนี่ยคือแทนที่มันควรจะ
00:16:40 → 00:16:44 เจ็บมันก็ไม่เจ็บแต่ว่าไม่ได้กดเนี่ยหรือ
00:16:44 → 00:16:46 ว่าอะไรมันก็จะมีอาการปรับปวดร้าวอย่าง
00:16:46 → 00:16:49 ที่หมอมีบอกเมื่อกี้ใช่เออแปลกดี
00:16:49 → 00:16:54 เออปวดอีกแบบนึงที่มีเขาเรียกว่าเป็น Red
00:16:54 → 00:16:57 dicular Page ก็คือพอเวลาปวดแบบหมอนรอง
00:16:57 → 00:17:00 เนี่ยนะบางคนมันใช้จนมันเสริมใช่มั้ยพอ
00:17:00 → 00:17:33 เสื่อมเสร็จปุ๊บบางทีมันปลิ้น
00:17:33 → 00:17:37 เขาเล่นบาสบ่อยแล้วมีวันนึงเขาไปเล่นบาส
00:17:37 → 00:17:40 ปรากฏมาแบบหมอนรองกระดูกหลังปลิ้นเลยคือ
00:17:40 → 00:17:43 หมอนรองกระดูกหลังปลิ้นเนี่ยนะปกติแล้ว
00:17:43 → 00:17:46 เนี่ยเราจะเจอในคนที่อายุแบบ 20 กว่าปี
00:17:46 → 00:17:48 ขึ้นไปแล้วนะ Common คือเจอบ่อยเนี่ย
00:17:48 → 00:17:52 ประมาณ 25 ปีถึง 45 ปีเพราะว่าถ้าเกิน 45
00:17:52 → 00:17:54 ปีไปแล้วเนี่ยถ้าหลังมันเสื่อมแล้วเนี่ย
00:17:54 → 00:17:56 มันจะไม่ค่อยปลิ้น
00:17:56 → 00:17:58 เพราะมันปลิ้นไม่ได้แล้วมันไม่มีอะไรให้
00:17:58 → 00:18:03 ปลิ้นทีนี้ปรากฏเด็กคนนี้อายุ 16 ปี 17
00:18:03 → 00:18:06 ปีประมาณเนี้ยอยู่ประมาณ 5 มอ่ะเฮ้ยไป
00:18:06 → 00:18:08 เล่นบาสกระโดดปุ๊บ
00:18:08 → 00:18:12 ลงมาปุ๊บปวดหลังแล้วลงขาเลยอ่าซึ่งเคสนี้
00:18:12 → 00:18:14 พอเรา MRI มานะปรากฏว่า
00:18:14 → 00:18:16 เอ่อตัวหมอนรองกระดูกเนี่ยมีเสื่อมระดับ
00:18:16 → 00:18:20 นึงและอีกระดับนึงซึ่งมันไม่ควรจะเป็น
00:18:20 → 00:18:22 หลังของคนอายุน้อยถูกไหม
00:18:22 → 00:18:26 อ่าทีนี้อย่างเคสนี้ก็ดึงหลังปกติแล้วถ้า
00:18:26 → 00:18:29 มันมีอาการปวดร้าวลงขาการรักษาง่ายๆคือ
00:18:29 → 00:18:31 การดึงหลังแต่ถ้าเป็นหมอนรองกระดูกหลัง
00:18:31 → 00:18:33 เสื่อมอย่างเดียวอันนี้ให้ออกกำลังแต่
00:18:33 → 00:18:36 ลักษณะต่างกันเพราะฉะนั้นถ้าในเด็กเนี่ย
00:18:36 → 00:18:40 คุณพ่อคุณแม่ดูอาการนะถ้ามาด้วยปวดหลัง
00:18:40 → 00:18:45 ร้าวลงคอกลางหลังเนี่ยหรือปวดหลังร้าวลง
00:18:45 → 00:18:48 ก้นกบอย่างใดอย่างหนึ่งพวกนี้ไม่ต้องดึง
00:18:48 → 00:18:51 หลังการกายภาพไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่นะสิ่ง
00:18:51 → 00:18:54 ที่ต้องทำคือไป Exercise กล้ามเนื้อเพราะ
00:18:54 → 00:18:55 ว่า
00:18:55 → 00:18:59 กระดูกมันผุพังใช่ไหมมันรับแรงไม่ได้สิ่ง
00:18:59 → 00:19:00 ที่ต้องรับแรงคือกล้ามเนื้อเพราะฉะนั้น
00:19:00 → 00:19:03 เราต้องไปออกกำลังกายฝึกคอบอดี้
00:19:03 → 00:19:07 พวกนี้ฝึกกล้ามเนื้อลำตัววิธีการก็ Plant
00:19:07 → 00:19:11 อย่างนี้ได้นะแล้วก็อาจจะโหนบาร์อย่างนี้
00:19:11 → 00:19:14 ได้ใช้เขาเรียก
00:19:14 → 00:19:37 [เพลง]
00:19:37 → 00:19:40 อ่าหมอนรองกระดูกเสื่อมเนี่ยพอเวลานั่ง
00:19:40 → 00:19:43 มันจะมีการ Pressure หรือความดันหรือน้ำ
00:19:43 → 00:19:45 หนักของเรามันกดลงไปผมกดลงไปปุ๊บมันจะทำ
00:19:45 → 00:19:47 ให้ปลายประสาทตรงด้านหลังอ่ะมันมีการโดน
00:19:47 → 00:19:49 กระตุ้นแล้วมันก็เลยจะปวดร้าวลงเพราะ
00:19:49 → 00:19:52 ฉะนั้นถ้าเด็กนั่งนานๆมันจะบอกปวดบ่นแล้ว
00:19:52 → 00:19:56 ก็ขยับไปขยับมาอยู่ไม่นิ่งอยู่ไม่สุขก็ไป
00:19:56 → 00:20:00 เสริมสร้างกล้ามเนื้อแทนแล้วก็ถ้าไอ้พวก
00:20:00 → 00:20:04 เด็กที่นั่งท่านอนน่ะนั่งนอนก็คือนั่ง
00:20:04 → 00:20:08 กึ่งนอนพวกเนี้ยมันจะทำให้แรงเนี่ยมันลง
00:20:08 → 00:20:12 ไปตรงบริเวณหมอนรองกระดูกมากขึ้นนะถามว่า
00:20:12 → 00:20:16 นั่งหลังตรงดีไหมนั่งหลังตรงเนี่ยก็อืม
00:20:16 → 00:20:19 จริงๆก็ดีแต่จริงๆเขามีการศึกษาว่าถ้าเรา
00:20:19 → 00:20:22 เอาหมอนมารองนะฮะแล้วก็นั่งโดยที่มันมี
00:20:22 → 00:20:25 Back support เนี่ยในจุดที่ควรจะควรจะ
00:20:25 → 00:20:30 support อะนะอันเนี้ยก็จะทำให้ตัวหมอน
00:20:30 → 00:20:33 รองกระดูกมีโอกาสที่จะรับแรงน้อยลง 20%
00:20:33 → 00:20:37 อ๋อมิน่ามันมีไอ้ตัวแผ่นรองรับนั่งข้าง
00:20:37 → 00:20:38 หลัง
00:20:38 → 00:20:41 มันจะทำให้โหลดหรือแรงเนี่ยมันลงมาน้อยลง
00:20:41 → 00:20:45 20% เพราะฉะนั้นถ้าเด็กบ่นว่าปวดให้
00:20:45 → 00:20:49 เนี่ยฝึกนี้ 2 อย่าง 1 คือที่นั่งท่านั่ง
00:20:49 → 00:20:52 เปลี่ยนก่อนเลยใครนั่งนอนจับมันนั่งขึ้น
00:20:52 → 00:20:56 มาดีๆนะแล้วก็ 2 คือเอา support มารองไว้
00:20:56 → 00:21:00 ทีหลังแล้วก็ตัวการออกกำลังกายเนี่ยก็ออก
00:21:00 → 00:21:04 กำลังกายคอบอดี้นะฮะทีนี้สำหรับกลุ่มที่
00:21:04 → 00:21:07 เป็นปวดร้าวลงขาอันนี้ง่ายพวกนี้รักษา
00:21:07 → 00:21:10 เหมือนผู้ใหญ่แต่ข้อดีคือเด็กส่วนใหญ่
00:21:10 → 00:21:16 เนี่ยมักจะไม่ต้องผ่าตัด
00:21:17 → 00:21:21 ซึ่งถ้าเป็นผู้ใหญ่เนี่ยมันหมอนมันมักจะ
00:21:21 → 00:21:25 ใหญ่แล้วมันมักจะกดเยอะแต่เด็กเนี่ยหมอน
00:21:25 → 00:21:28 มันมักจะเล็กแต่เด็กเนี่ยนะถึงหมอนจะใหญ่
00:21:28 → 00:21:34 แต่อย่าลืมเด็กเนี่ยมันมีน้ำมากกว่าอ่า
00:21:34 → 00:21:36 มันจะเป็นน้ำมันจะเป็นหมอนรองกระดูกที่
00:21:36 → 00:21:39 ปลิ้นออกมาแต่ว่ามีแต่น้ำอ่าเพราะฉะนั้น
00:21:39 → 00:21:42 พอเวลามันมีแต่น้ำเนี่ยมันจะมีการอักเสบ
00:21:42 → 00:21:46 พอเอาไปดึงหลังแล้วก็นั่งดีๆไม่ให้มี
00:21:46 → 00:21:49 Pressure ลงมาไอ้พวกน้ำพวกนี้หรือหมอน
00:21:49 → 00:21:51 รองกระดูกในเด็กเนี่ยจำไว้เลยนะพอเวลามัน
00:21:51 → 00:21:53 ปลิ้นออกมาเนี่ยโอกาสที่มันจะสลายไปเอง
00:21:53 → 00:21:57 เกิดขึ้นได้คนชอบบอกหมอนรองกระดูกเป็น
00:21:57 → 00:21:59 แล้วเป็นเลยซึ่งมันจริงเพราะเวลามันปลิ้น
00:21:59 → 00:22:01 ออกมาแล้วมันจะอยู่อย่างนั้นแหละแล้วมัน
00:22:01 → 00:22:04 ก็จะคายอยู่ตรงนั้นน่ะแต่ว่ามันจะมีช่วง
00:22:04 → 00:22:05 เวลาที่ไม่อักเสบเพราะฉะนั้นเส้นประสาท
00:22:05 → 00:22:08 มันก็จะฟรีอันนี้ก็จะไม่มีอาการแต่ในเด็ก
00:22:09 → 00:22:11 เนี่ยคือมันปลิ้นออกมาแล้วมันหายไปเลยมัน
00:22:11 → 00:22:14 จะถูกดูดซึมแล้วหายไปเลยเพราะฉะนั้น
00:22:15 → 00:22:17 อันเนี้ยไม่ต้องกังวลแล้วก็หลังจากดึง
00:22:17 → 00:22:21 หลังถ้ายังไม่ดีขึ้นอีกก็ฉีดเสียรอยเข้า
00:22:21 → 00:22:23 หลังส่วนใหญ่ไม่แค่นี้ฮะอย่างมากพอฉีด
00:22:23 → 00:22:26 แล้วกันปวดปุ๊บซักประมาณ 6 เดือนสักพัก
00:22:26 → 00:22:29 นึงเหมือนเรากระดูกมันก็จะสลายเอาเองคือ
00:22:29 → 00:22:31 อย่างงั้นแสดงว่าถ้าเด็กมีอาการหรือไร
00:22:31 → 00:22:34 เงี้ยก็ทำอย่างที่หมอมีบอกแต่ว่าเอ้อเขา
00:22:34 → 00:22:37 ก็จะหายได้ดีขึ้นได้เพราะว่าด้วยความที่
00:22:37 → 00:22:40 เขายังอายุยังน้อยเพราะฉะนั้นคนที่ปวด
00:22:40 → 00:22:43 หลังในเด็กเนี่ยเราก็ต้องให้ความระมัด
00:22:43 → 00:22:46 ระวังนะวันนี้อยากจะมาพูดเพราะว่าช่วงนี้
00:22:46 → 00:22:49 mi เด็กเนี่ยนะฮะที่หลังเนี่ยแล้วก็ที่
00:22:49 → 00:22:53 คอเนี่ยมันเจอเสื่อมผิดปกตินะ 16 เป็น
00:22:53 → 00:22:56 แล้วเงี้ย 18 เป็นแล้วคือมันเริ่มเสื่อม
00:22:56 → 00:22:59 ตั้งแต่ 16 18 ลองคิดดูนะแล้วโอ้โหอายุ
00:22:59 → 00:23:02 เขาอีกไกลอ่ะเขาจะต้องอยู่ด้วยอาการปวด
00:23:02 → 00:23:05 หลังนี้ไปอีกนานแค่ไหนวิธีการป้องกันก็
00:23:05 → 00:23:08 อย่างที่บอกไปแล้วคือท่านั่งให้ถูกแล้วก็
00:23:08 → 00:23:14 การเรียนเนี่ยถ้าเลือกได้นะฮะผมว่าเราอาจ
00:23:14 → 00:23:15 จะ
00:23:15 → 00:23:17 ทำเป็นทีวีติดผนัง
00:23:17 → 00:23:21 ในความคิดนะคือผมว่าในอนาคตเนี่ยในการ
00:23:21 → 00:23:25 ป้องกันพวกนี้เราควรจะทำเป็นทีวีติดผนัง
00:23:25 → 00:23:28 หรือเป็นการเรียนการสอนที่เป็นการเรียน
00:23:28 → 00:23:32 มันพ้นโควิดมาแล้วควรจะเรียนแบบปกติได้
00:23:32 → 00:23:34 แล้วให้คุณครูสอนบนไวท์บอร์ดเพราะว่าพอ
00:23:34 → 00:23:38 เวลาเรามีท่านั่งที่เรามองขึ้นไปมันไม่
00:23:38 → 00:23:41 ต้องก้มคออันดับหนึ่งเลย 2 คือมันจะไม่
00:23:41 → 00:23:43 นั่งในท่าที่ประหลาดเพราะว่าเราต้องนั่ง
00:23:43 → 00:23:45 ให้มันเหมือน Alert เพราะมันมีคนดูเรา
00:23:45 → 00:23:48 อยู่แล้วในสมัยก่อนน่ะครูก็จะบอกเออนั่ง
00:23:48 → 00:23:51 ดีๆใช่ไหมถูกว่าอย่างน้อยเราก็ยังมีคน
00:23:51 → 00:23:54 เตือนตลอดเวลาถูกไหมฮะบางทีแปรงลบกระดาน
00:23:54 → 00:23:57 บินด้วยอ่าใช่มั้ยเพราะฉะนั้นคือตรงเนี้ย
00:23:57 → 00:24:00 ผมว่าเรากลับมาสู่การเรียนการสอนแบบปกติ
00:24:00 → 00:24:05 ได้แล้วนะฮะเพื่อที่ว่าทำให้ท่านั่งแล้ว
00:24:05 → 00:24:07 ก็อาการปวดหลังของเด็กอ่ะดีขึ้นรวมถึงใน
00:24:07 → 00:24:10 โรงเรียนเนี่ยผมอยากจะให้มีการ
00:24:10 → 00:24:13 สนับสนุนเรื่องของการมียิมรวมถึงมี
00:24:13 → 00:24:16 เทรนเนอร์เลยจ้างเลยเทรนเนอร์เข้าไปอยู่
00:24:16 → 00:24:18 ในโรงเรียนเพื่ออะไรเพื่อที่เขาจะได้มี
00:24:18 → 00:24:20 ความรู้เรื่องของการ Build กล้ามเนื้อไม่
00:24:20 → 00:24:22 ใช่เราเล่นกีฬาอย่างเดียวแล้วเราไม่บิล
00:24:22 → 00:24:24 กล้ามเนื้อพวกนี้ยังไงก็มีแต่จะเจ็บแล้ว
00:24:24 → 00:24:27 การบิวก้ามเนื้อเนี่ยก็คือต้องถูกต้อง
00:24:27 → 00:24:30 ด้วยนะถ้าข้างหรืออะไรต่างๆไม่งั้นบาด
00:24:30 → 00:24:32 เจ็บได้อีกเหมือนกันเพราะเวทพวกนี้บางที
00:24:32 → 00:24:35 ยิ่งเวทไปนะบางทีบางท่านเนี่ยมันทำให้พวก
00:24:35 → 00:24:37 หมอนรองกระดูกเนี่ยมันได้รับโหลดมากกว่า
00:24:37 → 00:24:40 เดิมมีโอกาสที่จะเป็นหมอนรองกระดูกปลิ้น
00:24:40 → 00:24:42 เลยคราวนี้เพราะฉะนั้นเราควรจะมีคนที่มี
00:24:42 → 00:24:45 ความรู้แล้วก็ดูแลเด็กนะเพราะฉะนั้นเรา
00:24:45 → 00:24:48 อยากจะลดการปวดหลังในเด็กลดการเกิดหลัง
00:24:48 → 00:24:51 เสื่อมในเด็กเราต้องออกกำลังกายให้ถูก
00:24:51 → 00:24:54 วิธีและมีความเข้าใจเรื่องของสรีระของ
00:24:54 → 00:24:56 เด็กได้ดีด้วยครับก็ไม่น่าเชื่อนะคะว่า
00:24:57 → 00:25:00 อ่ะอายุน้อยก็กระดูกสันหลังเสื่อมได้ได้
00:25:00 → 00:25:03 ฟังคำตอบจากหมอมีไปแล้วก็ลองไปดูละกัน
00:25:03 → 00:25:06 เพราะว่าลูกๆละๆเราก็บางทีเขาอาจจะไม่ได้
00:25:06 → 00:25:08 พูดอะไรหรือว่าอาจจะแค่เห็นว่าเอ้อเด็กๆ
00:25:09 → 00:25:11 ปนหลงปวดหลังเป็นเรื่องปกตินะคะบางทีอาจ
00:25:11 → 00:25:13 จะไม่ได้ปกติก็ได้ลองไปดูนะคะวันนี้
00:25:13 → 00:25:17 ขอบคุณหมอหมีจ้าสวัสดีค่ะเอาล่ะค่ะคุณผู้
00:25:17 → 00:25:19 ฟังค่ะหมดเวลาแล้วนะคะพบกันใหม่ครั้งหน้า
00:25:19 → 00:25:22 กับรายการโรงหมอทาง Thai PBS podcast
00:25:22 → 00:25:25 ค่ะวันนี้ดิฉันลาไปก่อนสวัสดีค่ะ This Is
00:25:25 → 00:25:29 Thai PBS น้ำผลไม้ให้ความสดชื่นก็จริง
00:25:29 → 00:25:33 ส่วนชาที่มีสรรพคุณมากมายดื่มมากมายมีผล
00:25:33 → 00:25:36 อะไรบ้างผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรเอกราชบำรุง
00:25:36 → 00:25:38 พืชผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการมาเล่าให้ฟัง
00:25:38 → 00:25:39 ครับ
00:25:39 → 00:25:44 เอาง่ายๆเลยเรามองว่าน้ำผลไม้แล้วพอมี
00:25:44 → 00:25:47 วิตามินมีเกลือแร่และธาตุเยอะแยะเลยน้ำ
00:25:47 → 00:25:49 ผลไม้เนี่ยแต่มีน้ำตาลแฝงแล้วมันอาจจะไป
00:25:49 → 00:25:52 ทำลายสุขภาพได้ถ้าเรากินมากเกินถ้าไม่กิน
00:25:52 → 00:25:56 ได้เลยกินผลไม้สดดีที่สุดแต่พอมันเป็นน้ำ
00:25:56 → 00:25:59 ผลไม้เรากินได้ไหมกินได้ไม่ควรเกิน 1
00:25:59 → 00:26:01 แก้ว 1 กล่องสังเกตน้ำตาลแต่มันหมดโควต้า
00:26:01 → 00:26:05 นะมีน้ำตาลมันสูงอ่ะใช่ๆมันก็ไปแย่งกิน
00:26:05 → 00:26:09 โควต้านะกินเป็นผลไม้สดดีกว่าน้ำผลไม้แต่
00:26:09 → 00:26:13 น้ำผลไม้อาจสำหรับคนไข้ผู้ป่วยหรือผู้สูง
00:26:13 → 00:26:16 อายุที่รับประทานได้น้อยต้องการพลังงาน
00:26:16 → 00:26:20 หรือผู้ป่วยมะเร็งที่แบบต้องการหวานๆ
00:26:20 → 00:26:23 เปรี้ยวๆนะเพราะว่าการรับรถของเขาเนี่ย
00:26:23 → 00:26:27 มันไม่ดีแล้วแล้วต้องการแบบพลังงานที่สูง
00:26:27 → 00:26:29 ด้วยเพราะเขากินอะไรไม่ค่อยได้จะเกิด
00:26:29 → 00:26:32 ประโยชน์กับบุคคลเหล่านี้เห็นไหมครับแล้ว
00:26:32 → 00:26:34 มันขึ้นอยู่กับความเหมาะสมแต่ถ้าเกิดว่า
00:26:34 → 00:26:36 กินไปเลยน้ำผลไม้วันละ 3 กล่องเชื่อสิ
00:26:36 → 00:26:40 อ้วนเลยทีนี้น้ำนางเอกมันก็ขึ้นอยู่กับ
00:26:40 → 00:26:43 ชนิดเนาะของเครื่องดื่มทั้งหลายแหล่อย่าง
00:26:43 → 00:26:47 คนยอดนิยมสุดเลยเนี่ยชากาแฟแล้วก็บอกว่า
00:26:47 → 00:26:50 เฮ้ยกินเพื่อสุขภาพชาเนี่ยโหดีมากเลยนะมี
00:26:50 → 00:26:54 ชาเขียวเพิ่มการเผาผลาญไขมันลดไขมันเนาะ
00:26:54 → 00:26:59 ชาดำลดน้ำตาลได้ดีอ่าชาวอู่หลงลดการดูด
00:26:59 → 00:27:02 ซึมไขมันนะครับฉากขาวมีสารต้านอนุมูล
00:27:02 → 00:27:04 อิสระสูงอย่างเงี้ยเราก็ดีว่าโอ้โหมันมัน
00:27:04 → 00:27:07 ดีกับสุขภาพแต่หารู้ไม่ว่าเฮ้ยถ้าเรากิน
00:27:07 → 00:27:11 เยอะสิ่งที่แฝงอยู่ในชาก็คือพวกคาเฟอีน
00:27:11 → 00:27:14 อ่ามันก็มีเหมือนในกาแฟนี่แหละนะครับแล้ว
00:27:14 → 00:27:18 แทนนินสารที่มีรสขมรสฝาดมันก็แฝงอยู่ในชา
00:27:18 → 00:27:21 อันเนี้ยบางทีเรามองว่าเฮ้ยมันมันดูแบบ
00:27:21 → 00:27:24 เอ้ยมีเพื่อสุขภาพฉันกินชาเขียวก็โอ้โห
00:27:24 → 00:27:25 ฟาดไปแบบ
00:27:25 → 00:27:27 กินเต็มที่เลยเพราะเพิ่มการเผาผลาญกลาย
00:27:27 → 00:27:30 เป็นว่ากินชาเนี่ยสังเกตง่ายๆเลยนะครับ
00:27:30 → 00:27:33 พวกคาเฟอีนเนี่ยมันมีฤทธิ์เป็นไดยูเรติก
00:27:33 → 00:27:37 ขับน้ำทำให้เราเนี่ยปัสสาวะบ่อยเอาน้ำออก
00:27:37 → 00:27:41 มากๆขาดน้ำร่างกายเกิดภาวะดีไฮเดรย์คือ
00:27:41 → 00:27:44 พวกคาเฟอีนเองมันก็มีผลในการที่จะขับพวก
00:27:44 → 00:27:47 แคลเซียมด้วยนะก็ทำให้กระดูกเนี่ยอาจจะ
00:27:47 → 00:27:51 บางเพราะว่าเราสูญเสียแคลเซียมสูญเสียน้ำ
00:27:51 → 00:28:00 อย่างนี้ครับ
00:28:00 → 00:28:03 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:28:03 → 00:28:05 ของไทย
00:28:05 → 00:28:09 pdash
00:28:09 → 00:28:17 และ YouTube Channel Thai PBS ผ่อน
00:28:17 → 00:28:23 [เพลง]