00:00:00 → 00:00:03 เรื่องโกหกนะครับน้ำตาล 0% นะครับกินแล้ว
00:00:03 → 00:00:06 ผอมนะใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่หรือเป็นคน
00:00:06 → 00:00:08 รักสุขภาพนะครับที่ติดตามหมอหนึ่งอยู่นะ
00:00:08 → 00:00:11 FC หมอ 1 ต้องรู้นะครับว่าจริงๆแล้วมัน
00:00:11 → 00:00:13 ไม่ได้จริงเสมอไปเลยนะครับเดี๋ยวใครที่
00:00:13 → 00:00:15 ฟังคลิปนี้จนจบเนี่ยหมอ 1 จะอธิบายให้
00:00:15 → 00:00:18 เป็นฉากๆเลยนะว่าจริงๆอาหารที่น้ำตาล 0%
00:00:18 → 00:00:20 ที่ไม่ดีต่อสุขภาพเนี่ยมีเยอะมากบางอัน
00:00:20 → 00:00:23 กินแล้วไม่ผอมแต่เ้ามาโฆษณาว่าเฮ้ยน้ำตาล
00:00:23 → 00:00:26 0% นะแล้วเราเข้าใจว่าเออมัน 0% มันไม่
00:00:26 → 00:00:29 มีน้ำตาลมันน่าจะดีเนาะหรือมันมีน้ำตาล
00:00:29 → 00:00:31 ที่ไม่ใช่ 0 เ์นะคือมีน้ำตาลจริงๆแต่กิน
00:00:31 → 00:00:34 แล้วก็ดีกับสุขภาพก็มีนะครับเพราะฉะนั้น
00:00:34 → 00:00:37 สำคัญที่สุดเลยคุณต้องมีความรู้คุณถึงจะ
00:00:37 → 00:00:39 ไม่ถูกเขาหลอกนะครับเพราะฉะนั้นฟังคลิป
00:00:40 → 00:00:42 นี้ให้จบนะครับสวัสดีครับผมหมอ 1 Healthy
00:00:42 → 00:00:44 ฮีโรนะครับลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายในชีวิต
00:00:44 → 00:00:46 คิดถึงหมอ 1 Healthy ฮีโร่นะครับอ่ะคราว
00:00:47 → 00:00:48 นี้สิ่งที่เราจะคุยกันวันนี้นะครับคือ
00:00:48 → 00:00:51 เรื่องของเฮ้ยน้ำตาล 0% เนี่ยมันผอมจริง
00:00:51 → 00:00:54 หรือเปล่านะครับนะใครที่เคยได้ยินว่ากิน
00:00:54 → 00:00:55 แล้วผอมอย่าเพิ่งไปเชื่อฟังคลิปนี้ให้จบ
00:00:55 → 00:00:58 ก่อนเนาะน้ำตาล 0% เนี่ยหมอหนึ่งจะแบ่ง
00:00:58 → 00:01:01 ออกเป็นน้ำตาลที่ 0% จริงจริงคือไม่มีใส่
00:01:01 → 00:01:03 อะไรเลยนะอันนั้นน่ะก็ได้แก่พวกน้ำเปล่า
00:01:03 → 00:01:07 ชาไม่มีน้ำตาลเป็นพวกกาแฟดำนะครับหรือว่า
00:01:07 → 00:01:10 เป็นพวกชาที่มาจากพวกดอกหรือว่าใบของพืช
00:01:10 → 00:01:13 เนี่ยพวกเนี้ยจะน้ำตาล 0% จริงๆแต่มันจะ
00:01:13 → 00:01:16 มีน้ำตาล 0% ที่ไม่จริงนะครับน้ำตาล 0%
00:01:17 → 00:01:18 ที่ไม่จริงเนี่ยมันจะมีอยู่ทั้งหมด 2
00:01:18 → 00:01:20 หมวดด้วยกันตั้งใจฟังดีๆเลยนะคลิปนี้
00:01:20 → 00:01:23 กระชับสั้นๆแต่คุณจะเห็นภาพมากขึ้นเลยว่า
00:01:23 → 00:01:25 อ๋อจริงๆมันเป็นเรื่องโกหกนะครับที่น้ำ
00:01:25 → 00:01:28 ตาล 0% ดีต่อสุขภาพเสมอไปเนี่ยอ่ะอันที่ 1
00:01:28 → 00:01:30 นะครับอันที่ 1 1 ที่คุณจะต้องรู้ก็คือ
00:01:30 → 00:01:35 น้ำตาล 0% ที่คุณจะพบในพวกเครื่องดื่มที่
00:01:35 → 00:01:38 น้ำตาล 0% ชูการหรือ 0% น้ำตาลเช่นอะไร
00:01:38 → 00:01:41 บ้างโกซี Pepsi แกนะครับหรือไม่ว่าจะเป็น
00:01:41 → 00:01:44 พวกน้ำอัดลมอื่นๆที่น้ำตาล 0% พวกเนี้น้ำ
00:01:44 → 00:01:47 ตาลมัน 0% แต่มันหวานเพราะเขาใส่สิ่งที่
00:01:47 → 00:01:52 เรียกว่าใส่สารให้ความหวานมาอ่าคำถามคือ
00:01:52 → 00:01:55 กินได้ไมอ่ามันไม่มีอะไรบนโลกนี้ที่กิน
00:01:55 → 00:01:57 ไม่ได้หรอกนอกจากมันจะอันตรายต่อสุขภาพ
00:01:57 → 00:02:00 แต่ถามว่าถ้าเราเชื่อเแล้วบอกว่าเฮ้ยคุณ
00:02:00 → 00:02:02 อย่ากินครกนะเพราะมีน้ำตาลนะน้ำตาลมัน
00:02:02 → 00:02:05 หลายช้อน 4 ช้อน 6 ช้อนเลยนะให้กินแบบที่
00:02:05 → 00:02:08 น้ำตาล 0% ดีกว่าแล้วคุณจะผอมนะสุดท้าย
00:02:08 → 00:02:10 คุณจะไม่ผอมเพราะอะไรรู้มยเพราะพวกสารให้
00:02:10 → 00:02:12 ความหวานเวลาคุณกินไปเรื่อยๆเนี่ยจุดที่
00:02:12 → 00:02:16 หลายคนไม่รู้คือมันกระตุ้นให้คุณเนี่ยมี
00:02:16 → 00:02:19 รสชาติหวานติดลิ้นอยู่ตลอดเวลาและรสชาติ
00:02:19 → 00:02:22 หวานที่ติดลิ้นนี่แหละจะทำให้กระตุ้นให้
00:02:22 → 00:02:24 คุณอยากหวานได้อยู่เรื่อยๆนะครับเพราะ
00:02:24 → 00:02:26 ฉะนั้นจริงๆแล้วคนที่เขาคอยากลดน้ำหนัก
00:02:27 → 00:02:29 แล้วเงดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลออกไปเนี่ย
00:02:29 → 00:02:31 สิ่งที่เาากอยากได้นอกจากระบบเผาผลาที่
00:02:31 → 00:02:34 ฟื้นฟูกลับมาคืออะไรรู้มั้ยคือลิ้นที่
00:02:34 → 00:02:36 สามารถรับรถได้ปกติใครที่ฟังหมอหนึ่งคลิป
00:02:36 → 00:02:39 อื่นๆมานะครับแล้วพยายามลดน้ำหนักอยู่จะ
00:02:39 → 00:02:41 รู้ว่าหมอหนึ่งจะพยายามบอกสเต็ปแรกเสมอ
00:02:41 → 00:02:43 เลยว่าเวลาปรับสารอาหารนะให้งดเครื่อง
00:02:43 → 00:02:45 ดื่มที่มีน้ำตาลก่อนเพราะอะไรเพราะว่า
00:02:45 → 00:02:48 ร่างกายคนเรามีระบบพลังงาน 2 ระบบถูกมั้ย
00:02:48 → 00:02:50 ครับคือใช้น้ำตาลกับแป้งเป็นหลักและใช้ไข
00:02:50 → 00:02:52 มันเป็นพลังงานหลักที่เราอ้วนเราไม่ได้
00:02:52 → 00:02:54 อ้วนเพราะว่าไขมันมันเกินจากที่เรากินไข
00:02:54 → 00:02:56 มันของมันของทอดแต่มันเกิดจากการที่เรา
00:02:56 → 00:02:59 กินน้ำตาลมากเกินไปกินแป้งมากเกินไปพอ
00:02:59 → 00:03:01 แป้งยย่อยเป็นน้ำตาลแล้วในเลือดของคุณ
00:03:01 → 00:03:03 เนี่ยำดับน้ำตาลมันเยอะมากร่างกายใช้ไม่
00:03:03 → 00:03:06 หมดร่างกายก็เอาไปสะสมสะสมในรูปอะไรสะสม
00:03:06 → 00:03:08 ในรูปไขมันได้เพราะฉะนั้นจริงๆที่คุณอ้วน
00:03:08 → 00:03:10 มันเกิดจากการที่น้ำตาลในเลือดคุณเยอะแต่
00:03:10 → 00:03:13 การที่เรางดน้ำตาลนอกจากเราคาดหวังว่าจะ
00:03:13 → 00:03:15 ไม่ให้น้ำตาลในเลือดเยอะไม่ให้น้ำตาลไป
00:03:15 → 00:03:18 ถูกเอาไปสะสมเป็นไขมันร่างกายจะได้เอาไข
00:03:18 → 00:03:20 มันสะสมเก่ามาใช้เราคาดหวังให้ลิ้นของเรา
00:03:21 → 00:03:23 กลับมาปกติด้วยเพราะไม่งั้นคุณจะกลายเป็น
00:03:23 → 00:03:26 คนที่ติดหวานแล้วติดหวานมากขึ้นเรื่อยๆ
00:03:26 → 00:03:28 เพราะน้ำตาลเป็นสิ่งเสพติดชนิดหนึงนะครับ
00:03:28 → 00:03:31 เวลาเรากินแล้วเนี่ยสมมุติปัจจุบันคุณไม่
00:03:31 → 00:03:33 ใช่คนนติดหวานแต่คุณกินหวานไปประมาณ 2
00:03:33 → 00:03:36 เดือนแล้วเดือนที่ 3 คุณกินหวานเท่าเดิม
00:03:36 → 00:03:38 รสชาติมันจะกลายเป็นไม่หวานแล้วเพราะลิ้น
00:03:38 → 00:03:41 คุณชินกับระดับความหวานใหม่ที่กลายเป็น
00:03:41 → 00:03:43 ศูนย์ไปแล้วนะครับคุณก็ต้องกินหวานแบบนี้
00:03:43 → 00:03:45 ขึ้นไปเรื่อยๆเพราะฉนั้นการที่คุณงดหวาน
00:03:45 → 00:03:48 เนี่ยมันทำให้คุณเนี่ยเซตระบบการรับรดของ
00:03:48 → 00:03:50 ลิ้นได้ใหม่มันทำให้คุณสามารถรับรดได้ว่า
00:03:50 → 00:03:52 อันไหนหวานอันไหนไม่หวานดีต่อสุขภาพหรือ
00:03:52 → 00:03:54 ไม่ดีเพราะฉะนั้นการที่เราใส่สารให้ความ
00:03:54 → 00:03:56 หวานแล้วกินแบบนี้ตลอดทุกๆวันมันจะกลาย
00:03:56 → 00:03:58 เป็นการเซ็ตให้ลิ้นของคุณเนี่ยไม่กลับไป
00:03:58 → 00:04:00 สู่สิ่งที่มันควรจะเป็นเนาะเพราะฉะนั้น
00:04:00 → 00:04:03 ถามว่ากินได้มั้ยสารสใส่สารให้ความหวาน
00:04:03 → 00:04:05 กินได้แต่ไม่ควรกินบ่อยโอเคมยแต่อันที่
00:04:05 → 00:04:08 อันตรายกว่าสารให้ความหวานคือข้อที่ 2 นะ
00:04:08 → 00:04:10 ครับหลายคนเคยได้ยินมยว่าเอ้ยอันเนี้ย
00:04:10 → 00:04:16 อาหารหรือขนมอันเนี้ยน้ำตาล 0% นะอ่าเช่น
00:04:16 → 00:04:19 อะไรบ้างหมอหนึงยกตัวอย่างพวกขนมกรอบๆอ่า
00:04:19 → 00:04:21 นะครับหลายยี่ห้อมากๆที่เราเจอในร้าน
00:04:21 → 00:04:24 สะดวกซื้อใช่มยพวกนั้นคุณไปพลิกฉลากดูนะ
00:04:24 → 00:04:28 ฉลากจากน้ำตาล 0% เพราะอะไรพวกนั้นมันไม่
00:04:28 → 00:04:31 มีน้ำตาลแต่สิ่งที่ที่เขามีมาอยู่ในขนม
00:04:31 → 00:04:34 พวกนี้คืออะไรขนมต่างๆพวกนี้มักจะมีสิ่ง
00:04:34 → 00:04:38 ที่เป็นโครงสร้างหลักคือสิ่งที่เรียกว่า
00:04:38 → 00:04:40 คาร์โบไฮเดรตหรือสิ่งที่เรียกว่าขาบนะ
00:04:40 → 00:04:43 ครับซึ่งขาบจริงๆน่ะถ้าใครไปดูฉลาก
00:04:43 → 00:04:46 โภชนาการเขาจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 อย่าง
00:04:46 → 00:04:48 นะครับ 2 อย่างอันที่ 1 นะครับใครเคยเห็น
00:04:48 → 00:04:50 เนาะฉลากที่เขาเขียนว่าคาร์โบไฮเดรตรวม
00:04:50 → 00:04:54 ใช่มยบรรทัดแรกจะเขียนว่าใหญอาหารนะ
00:04:54 → 00:04:58 บรรทัดที่ 2 จะเขียนว่าน้ำตาลแล้วบรรทัด
00:04:58 → 00:05:01 ที่ 3 เขาจะไม่มีเขียนนะใครที่เคยเห็นว่า
00:05:01 → 00:05:06 คาร์โบไฮเดรตรวม 20 กรัมใยอาหาร 1 กรัม
00:05:06 → 00:05:09 น้ำตาล 0 กรัมประเด็นคืออ้าเฮ้ยแล้วที่
00:05:09 → 00:05:12 เหลือไปไหน 19 กรัมนะครับไอ้ 19 กรัมที่
00:05:12 → 00:05:16 เหลือเนี่ยเราเรียกมันว่าแป้งฟังดีๆเลยนะ
00:05:16 → 00:05:19 หมอหนึ่งพูดไปแล้วว่าถ้าคุณอยากผอมอยาก
00:05:19 → 00:05:23 สุขภาพดีคุณต้องกินน้ำตาลไม่มากเกินไปและ
00:05:23 → 00:05:26 กินแป้งไม่มากเกินไปเช่นกันเพราะสุดท้าย
00:05:26 → 00:05:28 แป้งที่อยู่ในขนมพวกเนี้ยมันสามารถ
00:05:28 → 00:05:31 เปลี่ยนเป็นอะไรได้เปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้
00:05:31 → 00:05:35 บางคนงดน้ำตาลไปแล้วคุณหมอคะติดตามคุณหมอ
00:05:35 → 00:05:37 มาเดือน 2 เดือนแล้วค่ะเนี่ยพี่งดเครื่อง
00:05:38 → 00:05:40 ดื่มที่มีน้ำตาลเป็นน้ำเปล่าชากาแฟดำแล้ว
00:05:40 → 00:05:43 แต่ไม่เห็นผอมเลยค่ะเพราะเข้าใจว่าตัวเอง
00:05:43 → 00:05:46 น้ำตาล 0% แล้วแต่จริงๆไม่ใช่เพราะยังได้
00:05:46 → 00:05:49 แป้งมากเกินไปนะครับเพราะฉะนั้นจริงๆ
00:05:49 → 00:05:51 เนี่ยถ้าอะไรที่บอกว่าเป็นขนมน้ำตาล 0%
00:05:51 → 00:05:54 ให้ดูแป้งด้วยหมอหนึ่งไม่ได้บอกว่าเรากิน
00:05:54 → 00:05:56 แป้งไม่ได้แต่คนส่วนใหญ่อ้วนเพราะกินแป้ง
00:05:56 → 00:05:59 มากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการเห็นภาพเนาะ
00:05:59 → 00:06:01 เพราะเพราะฉะนั้นถ้าจะเลี่ยงจริงๆนะพวก
00:06:01 → 00:06:03 ขนมถุงทั้งหลายนะครับขนมที่มันเป็นอาหาร
00:06:03 → 00:06:06 แปรรูปทั้งหลายนะไม่ควรกินเพราะอะไรเพราะ
00:06:06 → 00:06:09 พวกนั้นน้ำตาลไม่มีก็จริงแต่แป้งมันจะ
00:06:09 → 00:06:11 เยอะมากนะครับและอีกหมวดหมู่นึงที่
00:06:11 → 00:06:14 อันตรายมากๆนอกจากขนมคืออะไรรู้มั้ยแถม
00:06:14 → 00:06:17 ให้นะน้ำตาล 0% ค่ะอันนี้กินได้แน่นอน
00:06:17 → 00:06:20 อาหารเสริมอาหารเสริมโดยเฉพาะอาหารเสริม
00:06:20 → 00:06:24 ที่มาเป็นซองๆที่ต้องชงแล้วละลายน้ำนะพวก
00:06:24 → 00:06:26 เนี้ยหรือแม้กระทั่งเวโปรตีนนะครับนะที่
00:06:26 → 00:06:29 ต้องชงแล้วละลายน้ำเนี่ยข้อควรระวังคือ
00:06:29 → 00:06:31 โดยเฉพาะใครที่เป็นเบาหวานนะยิ่งต้อง
00:06:31 → 00:06:33 ระวังเลยน้ำตาลในเลือดเริ่มสูงเนี่ยพวก
00:06:33 → 00:06:36 ที่มาเป็นผงชงจริงๆแล้วเนี่ยมันจะมีสาร
00:06:36 → 00:06:39 ที่เป็นวิตมินเป็นพวกคอลลาเจนอะไรพวก
00:06:39 → 00:06:41 เนี้ยมีอยู่ไม่เยอะแต่ทำยังไงให้รู้สึก
00:06:41 → 00:06:43 ว่าผู้บริโภคคุ้มนะครับสิ่งที่เขาทำคือ
00:06:43 → 00:06:46 เขาจะใส่สารเพิ่มปริมาณซึ่งสารที่เพิ่ม
00:06:46 → 00:06:49 ปริมาณได้ดีที่สุดและไม่แพงก็คือสิ่งที่
00:06:49 → 00:06:51 เรียกว่าแป้งนั่นเองหรือผงแป้งนะครับถ้า
00:06:51 → 00:06:54 ไปดูที่ฉลากคุณจะเห็นว่าเขาจะใส่สารเพิ่ม
00:06:54 → 00:06:56 ปริมาณตัวนึงที่ชื่อว่า
00:06:56 → 00:07:00 เมกตินอ่าเมโต
00:07:00 → 00:07:02 ตัวเคือแป้งและความอันตรายของมันก็คือ
00:07:02 → 00:07:05 อะไรถ้าคุณกินมันบ่อยๆกินมันเยอะๆโดยที่
00:07:05 → 00:07:08 ระบบเผาผลาญเดิมของคุณไม่ดีคุณเป็นคนที่
00:07:08 → 00:07:11 ติดน้ำตาลเยอะชอบกินขนมปังอาหารแปรรูป
00:07:11 → 00:07:14 ต่างๆที่ไม่มีใยอาหารเลยและก็ยังกินอาหาร
00:07:14 → 00:07:18 เสริมที่มีสารเพิ่มปริมาณที่ชื่อโดกิอยู่
00:07:18 → 00:07:21 ด้วยนะครับตัวนี้เนี่ยมันจะมีค่าที่ชื่อ
00:07:21 → 00:07:25 ว่าค่า GI นะครับสูงสูงกว่าน้ำตาลอีกอ่า
00:07:25 → 00:07:28 หลายคนบอกเฮ้ยคุ้นๆจังค่ะคุณหมอค่า G
00:07:28 → 00:07:30 หรือค่าดัชนีนน้ำตาลนะครับนะเดี๋ยวหมอ
00:07:30 → 00:07:32 หนึ่งอธิบายให้ฟังแล้วกันตัวเนี้ยคุณ
00:07:32 → 00:07:34 จำเป็นต้องมีความรู้นิดนึงนะครับนะไม่
00:07:34 → 00:07:36 ต้องจำชื่อภาษาอังกฤษได้หมอหนึ่งบอกแล้ว
00:07:36 → 00:07:38 ว่าคุณไม่ได้เป็นหมอเราไม่ได้เป็นนัก
00:07:38 → 00:07:40 วิทยาศาสตร์เราไม่จำเป็นที่จะต้องจำชื่อ
00:07:40 → 00:07:43 ภาษาอังกฤษได้แต่ต้องเอาหลักการของมันไป
00:07:43 → 00:07:46 ใช้ได้โอเคมยนะครับนะเพราะฉะนั้นค่อยๆฟัง
00:07:46 → 00:07:50 นะค่า GI นะครับหรือค่าดัชนีน้ำตาลนะหรือ
00:07:50 → 00:07:53 ค่าดัชนีน้ำตาลตัวนี้เนี่ยมันบ่งบอกอะไร
00:07:53 → 00:07:57 มันบ่งบอกว่าร่างกายของคุณเนี่ยพอดูดซึม
00:07:57 → 00:08:00 น้ำตาลอันนั้นไปแล้วมันดูดซึมได้เร็วหรือ
00:08:00 → 00:08:02 ช้าระดับน้ำำตาลในเลือดของคุณจะสูงช้า
00:08:02 → 00:08:06 หรือสูงเร็วขึ้นอยู่กับค่า GI อ่าถ้าเป็น
00:08:06 → 00:08:09 น้ำตาลปกตินะครับค่า GI จะอยู่ประมาณ 100
00:08:09 → 00:08:12 นะแต่ถ้าสมมุติว่าอะไรก็แล้วแต่ที่ดูดซึม
00:08:12 → 00:08:14 เข้าน้ำตาลและระดับน้ำตาลในเลือดสูงช้าก็
00:08:14 → 00:08:17 คือดีถูกมั้ยน้ำตาลในเลือดสูงไม่เร็วดีก็
00:08:17 → 00:08:20 จะต่ำกว่า 100 นะครับยิ่งต่ำก็ยิ่งดีนะ
00:08:20 → 00:08:23 แต่ถ้าสมมุติว่าสูงกว่า 100 มีมั้ยมีไม่
00:08:23 → 00:08:27 ดีด้วยนะครับและสิ่งที่สูงกว่าดัชนีน้ำ
00:08:27 → 00:08:29 ตาลปกติเนี่ยก็คือตัวเมื่อกี้ที่นึงบอก
00:08:30 → 00:08:31 นั่นแหละพวกอาหารแปรรูปส่วนใหญ่เนี่ยค่า
00:08:31 → 00:08:34 ดัชนีน้ำตาลจะค่อนข้างสูงเพราะฉะนั้นแม้
00:08:34 → 00:08:36 มันจะเป็นแป้งแต่เวลาย่อยไปเสร็จปั๊บกลาย
00:08:36 → 00:08:39 เป็นน้ำตาลมันจะดูดซึมเข้ากระแสเลือดเร็ว
00:08:39 → 00:08:42 มากเพราะฉะนั้นพอค่าดัชนีน้ำตาลสูงดูด
00:08:42 → 00:08:44 เข้ากระแสเลือดเร็วระดับน้ำตาลในเลือดคุณ
00:08:45 → 00:08:47 เป็นไงครับโหระดับน้ำตาลในเลือดคุณสูง
00:08:47 → 00:08:49 เร็วมากเลยอ่ะบางคนก็จะเกิดภาวะอะไรเริ่ม
00:08:49 → 00:08:52 เวียนหัวหลังกินน้ำตาลเยอะๆนะเสร็จปั๊บพอ
00:08:52 → 00:08:54 น้ำตาลในเลือดเยอะแป๊บนึงร่างกายต้องรีบ
00:08:54 → 00:08:56 เคลียร์น้ำตาลเอาไปเก็บเอาไปเก็บในรูป
00:08:56 → 00:08:59 อะไรเอาไปเก็บในรูปของไขมันน้ำตาลในเลือด
00:08:59 → 00:09:02 คุณจะตกเร็วมากแล้วก็จะเริ่มรู้สึกอะไร
00:09:02 → 00:09:04 เริ่มรู้สึกว่าเฮ้ยทำไมมันหวิวๆหิวอีก
00:09:04 → 00:09:07 แล้วลองสังเกตดีๆใครที่กินน้ำตาลเยอะๆ
00:09:07 → 00:09:09 อาหารที่น้ำตาลเยอะๆหรือแป้งที่ดัชนีน้ำ
00:09:09 → 00:09:14 ตาลสูงๆนะครับขนมปังขาวๆโรตีราดนมใส่น้ำ
00:09:14 → 00:09:16 ตาลพวกเนี้ยนะครับคุณจะรู้สึกดีแป๊บนึงนะ
00:09:16 → 00:09:19 หรือตอนเช้าใครที่ตื่นมาชอบกินกาแฟ 3 in
00:09:19 → 00:09:22 one ชอบกินพวกชานมไข่มุกนะครับนะกินไป
00:09:22 → 00:09:24 เสร็จปั๊บตอน 8:00 น 10:00 นรู้สึกดีโห
00:09:24 → 00:09:26 น้ำตาลเลือดมันสูงไงรู้สึกว่ากระปี้
00:09:26 → 00:09:28 กระเป๋าแต่ 11:00 นปั๊บน้ำตาลตกเลยเพราะ
00:09:28 → 00:09:30 ร่างกายเอาน้ำตาลที่อยู่ในเลือดเยอะๆไป
00:09:30 → 00:09:33 เก็บในรูปไขมันไปแล้วพอน้ำตาลตกคุณก็จะ
00:09:33 → 00:09:36 หวิวหวิวเสร็จคุณจะอยากกินน้ำตาลอีกนี่
00:09:36 → 00:09:40 แหละคือจุดที่หลายคนไม่รู้แล้วทำให้หิว
00:09:40 → 00:09:42 บ่อยตะบะแตกบ่อยใครที่อยู่ในกลุ่มเรียนลด
00:09:42 → 00:09:44 น้ำหนัก VIP ของหมอหนึจะรู้หมอหนึ่งจะใช้
00:09:44 → 00:09:46 คำที่ทุกคนเข้าใจตรงกันนักเรียนของผมจะ
00:09:46 → 00:09:49 เข้าใจตรงกันว่ามันคือคำว่ารถไฟเหาะคือรถ
00:09:49 → 00:09:51 ไฟน้ำตาลเหาะขึ้นแป๊บเดียวเหาะลงอีกแป๊บ
00:09:51 → 00:09:53 เหาะขึ้นอีกแป๊บเหาะลงเหาะอยู่อย่างเงี้ย
00:09:53 → 00:09:56 มันทำให้เราตะบะแตกแล้วลดน้ำหนักไม่ได้
00:09:56 → 00:09:58 โอเคมั้ยนะครับเนาะเพราะฉะนั้นเมื่อไหร่
00:09:58 → 00:10:02 ก็ตามที่ได้ยินคำว่าน้ำตาล 0% ถ้าใส่สาร
00:10:02 → 00:10:05 ให้ความหวานมานานๆกินทีได้แต่อย่ากินบ่อย
00:10:05 → 00:10:08 ไม่งั้นลิ้นจะติดหวานคุณจะเสียโอกาสที่จะ
00:10:08 → 00:10:11 ได้ตมรับรดคืนมาและพวกขนมน้ำตาล 0% เนี่ย
00:10:11 → 00:10:14 จริงๆแล้วน้ำตาลมัน 0% แต่ให้ดูเสมอว่า
00:10:14 → 00:10:16 แป้งเยอะหรือเปล่าเพราะแป้งเหล่านั้นโดย
00:10:16 → 00:10:19 เฉพาะที่เป็นอาหารแปรรูปมาขนมแปรรูปมา
00:10:19 → 00:10:21 แป้งเหล่านั้นมักจะดัชนีน้ำตาลสูงมากทำ
00:10:21 → 00:10:24 ให้น้ำตาลในเลือดคุณสูงเร็วมากพอน้ำตาลใน
00:10:24 → 00:10:26 เลือดสูงเร็วมากมันก็เอาไปเก็บเป็นไขมัน
00:10:26 → 00:10:29 เร็วมากเห็นภาพเนาะเพราะฉะนั้นคุณต้องมี
00:10:29 → 00:10:31 ความความรู้นะไม่งั้นเห็นน้ำตาล 0% ปั๊บ
00:10:31 → 00:10:34 เราซื้อหมดเลยไม่ได้นะครับนะคราวนี้เพิ่ม
00:10:34 → 00:10:36 เติมให้อีกนิดนึงคือบางคนบอกว่าน้ำตาลไม่
00:10:36 → 00:10:38 ดีต่อสุขภาพแสดงว่าเราไม่ควรกินน้ำตาลเลย
00:10:38 → 00:10:42 ใช่มมไม่ใช่ข้อที่ 1 มันมีน้ำตาลที่ไม่
00:10:42 → 00:10:46 ใช่ 0% แต่ก็กินได้ถ้าเป็นน้ำตาลธรรมชาติ
00:10:46 → 00:10:49 และกินในปริมาณที่เหมาะสมข้อที่ 2 เราไม่
00:10:49 → 00:10:52 จำเป็นจะต้องตัดน้ำตาลไปตลอดชีวิตถ้าระบบ
00:10:52 → 00:10:54 เผาผลาคุณดีหมอหนึ่งพูดหลายคลิปมากๆแล้ว
00:10:54 → 00:10:56 ว่าถ้าคุณอยากจะลดน้ำหนักได้และอยากจะลด
00:10:56 → 00:10:58 ได้ยั่งยืนเราต้องทำตามพีระมิด 5 ขั้นตอน
00:10:58 → 00:11:01 ถูกมั้ยเดี๋ยวท้ายๆจะพูดซ้ำให้ฟังนะครับ
00:11:01 → 00:11:03 ว่าพีระมิด 5 ขั้นตอนลดน้ำหนักมีอะไรบ้าง
00:11:03 → 00:11:05 ซึ่งหัวยอดสุดของมันคือลดยังไงให้ยั่งยืน
00:11:05 → 00:11:08 แล้วกลับไปกินอาหารอร่อยๆได้นะครับเนาะ
00:11:08 → 00:11:10 เพราะฉะนั้นตั้งใจฟังให้ถึงตอนท้ายเนาะ
00:11:10 → 00:11:11 แต่อันเนี้ยความแตกต่างอันนี้คือสิ่งที่
00:11:11 → 00:11:14 คุณต้องรู้นะครับอันซ้ายคือน้ำตาลที่เขา
00:11:14 → 00:11:16 สกัดกันมานะครับส่วนใหญ่เราก็จะเรียกมัน
00:11:16 → 00:11:20 ว่าน้ำตาลขัดสีอ่าน้ำตาลน้ำตาลขัดสีสีขาว
00:11:21 → 00:11:24 จั๊วะเลยถูกมั้ยแล้วก็อีกอันนึงก็คือน้ำ
00:11:24 → 00:11:27 ตาลที่มาจากธรรมชาติน้ำตาลที่มาจาก
00:11:27 → 00:11:29 ธรรมชาติคืออะไรนะครับน้ำน้ำตาลที่มาจาก
00:11:30 → 00:11:32 ธรรมชาติมักจะมีข้อดีนะครับเช่นมาจากอยู่
00:11:32 → 00:11:35 ในพวกผักผลไม้ในผักก็จะมีพวกแป้งถูกมั้ย
00:11:36 → 00:11:38 เช่นผักหัวข้าวโพดเผือกมันฟักทองนะครับ
00:11:38 → 00:11:41 มันหวานเคยกินมยนะร่างกายย่อยแป้งก็กลาย
00:11:41 → 00:11:43 เป็นน้ำตาลเหมือนกันแต่น้ำตาลพวกนี้ที่
00:11:43 → 00:11:45 อยู่ในผักผลไม้ที่มาจากธรรมชาติเนี่ยมัน
00:11:45 → 00:11:48 จะมีข้อดีกว่าน้ำตาลขัดสีข้อที่ 1 ที่ดี
00:11:48 → 00:11:51 กว่าคืออะไรต้องบอกว่าทั้ง 2 ข้อนี้เนี่ย
00:11:51 → 00:11:55 กินแล้วให้พลังงานเหมือนกันเป็นข้อดีคือ
00:11:55 → 00:11:57 เรากินอาหารเราต้องการพลังงานถูกมั้ยครับ
00:11:57 → 00:12:00 นะมันให้พลังงานเหมือนกันแต่สิ่งที่น้ำ
00:12:00 → 00:12:03 ตาลขัดสีเนี่ยให้เราไม่ได้หรือพวกที่เป็น
00:12:03 → 00:12:05 แป้งที่มันไม่มีประโยชน์เลยเป็นจังก์ฟู้ด
00:12:05 → 00:12:08 เนี่ยให้เราไม่ได้คือสิ่งที่เรียกว่าสาร
00:12:08 → 00:12:10 อาหารคุณลองนึกภาพดูว่าคุณกินเข้าไปพลัง
00:12:10 → 00:12:12 งานคุณได้แต่สารอาหารคุณไม่ได้มีประโยชน์
00:12:12 → 00:12:16 มยไม่มีนะครับนะแต่ถ้าเป็นกลุ่มที่เป็น
00:12:16 → 00:12:20 น้ำตาลธรรมชาติคุณจะได้สารอาหารด้วยอ่าดี
00:12:20 → 00:12:22 กว่าเนาะนะครับนอกจากสารอาหารมีอะไรอีก
00:12:22 → 00:12:26 ถ้าเป็นพวกที่ขัดสีมานะครับเป็นพวกที่
00:12:26 → 00:12:29 เป็นน้ำตาลจ๋าเลยเนี่ยนะครับสิ่งที่เขาจะ
00:12:29 → 00:12:32 ไม่มีเลยก็คือไม่มีใยอาหารแต่ถ้าเป็นน้ำ
00:12:32 → 00:12:36 ตาลธรรมชาติมันจะมีใยอาหารใยอาหารสำคัญ
00:12:36 → 00:12:39 ยังไงใยอาหารจะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล
00:12:39 → 00:12:42 พูดง่ายๆก็คือสมมุติคุณกินข้าวขาวซึ่ง
00:12:42 → 00:12:44 ข้าวขาวกับข้าวกล้องตัวข้าวกล้องจะดัชนี
00:12:44 → 00:12:46 น้ำตาลต่ำกว่าหมายความว่าถ้าคุณกินข้าว
00:12:46 → 00:12:49 กล้องไปย่อยเสร็จปั๊บดูดซึมเข้ากระแส
00:12:49 → 00:12:51 เลือดระดับน้ำตาลในเลือดของคุณจะสูงช้า
00:12:51 → 00:12:53 มากแต่ถ้าเป็นข้าวขาวที่ไม่มียอาหารระดับ
00:12:53 → 00:12:56 น้ำตาลในเลือดของคุณจะสูงเร็วมากเร็วกว่า
00:12:56 → 00:12:59 การกินข้าวกล้องวิธีที่จะทำให้มันช้าลง
00:12:59 → 00:13:01 คืออะไรบางคนบอกคุณหมอคะที่ทำงานน่ะมีแต่
00:13:01 → 00:13:04 ข้าวขาวไม่มีข้าวกล้องคุณกินผักสิเพราะ
00:13:04 → 00:13:07 ผักคือใยอาหารกินเข้าไปปั๊บจะช่วยชะลอการ
00:13:07 → 00:13:10 ดูดซึมน้ำตาลที่เกิดจากข้าวขาวได้เห็นภาพ
00:13:10 → 00:13:12 มั้ยถ้าคุณมีความรู้คุณจะเข้าใจว่าคุณจะ
00:13:12 → 00:13:15 ประยุกต์ยังไงนะครับนอกจากพวกนี้มีอะไร
00:13:15 → 00:13:18 อีกถ้าเป็นพวกที่ขัดสีมาแล้วสิ่งที่จะไม่
00:13:18 → 00:13:22 ค่อยมีเลยคือพวกวิตามินแต่พวกที่เป็นผัก
00:13:22 → 00:13:26 ผลไม้ธรรมชาติจะมีสิ่งที่เรียกว่าวิตามิน
00:13:26 → 00:13:28 วิตามินนี่คือตัวสำคัญนะแม้มันจะไม่ได้
00:13:28 → 00:13:30 ให้พลังงานแต่มันสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่า
00:13:31 → 00:13:33 ระบบเผาผลาญน่าอันนี้หมอหนึไม่ค่อยได้พูด
00:13:33 → 00:13:36 นะครับระบบเผาผลาจริงๆเนี่ยในเซลล์แต่ละ
00:13:36 → 00:13:38 เซลล์ของคนเรามันจะมีโรงงานสร้างพลังงาน
00:13:38 → 00:13:41 นะคุณไม่ต้องรู้ว่ามันชื่ออะไรแต่โรงงาน
00:13:41 → 00:13:43 สร้างพลังงานมันจะมีชั้นในกับชั้นนอกน่า
00:13:43 → 00:13:46 นะครับถ้าคุณอยากได้พลังงานเยอะคุณต้องทำ
00:13:46 → 00:13:49 ยังไงก็ได้ให้โรงงานที่อยู่ชั้นในเนี่ย
00:13:49 → 00:13:53 มันทำงานได้มากที่สุดมีประสิทธิภาพที่สุด
00:13:53 → 00:13:56 นะเพราะฉะนั้นการที่คนเราจะเผาผลาบางคน
00:13:56 → 00:13:58 เผาผลาได้ดีบางคนเผาผลาญได้ไม่ดีเนี่ยมัน
00:13:58 → 00:14:00 เกิดจากองค์กรอบเล็กๆน้อยๆที่เรียกว่า
00:14:00 → 00:14:03 วิตามินและเกลือแร่ด้วยนะถ้าคุณเป็นคนที่
00:14:03 → 00:14:06 ไม่มีวิตามินไม่มีเกลือแร่นะครับคือแทบจะ
00:14:06 → 00:14:08 ไม่กินสารอาหารอะไรเลยเน้นแต่อาหารที่
00:14:08 → 00:14:10 เป็นจังก์ฟู้ดเน้นแต่พวกน้ำตาลที่ไม่มี
00:14:10 → 00:14:13 ประโยชน์ต่อร่างกายนะพวกนี้เนี่ยเวลาเผา
00:14:13 → 00:14:15 ผลาญพลังงานแล้วไม่มีวิตามินเกลือแร่คุณ
00:14:15 → 00:14:18 จะเผาผลาญได้แค่ภายนอกเผาผลาญภายนอกจะได้
00:14:18 → 00:14:21 พลังงานระดับนึงนะถามว่าผอมมั้ยจะไปผอม
00:14:21 → 00:14:23 ได้ยังไงระบบเผาผลาก็ไม่ดีสิถูกมั้ยนะ
00:14:23 → 00:14:25 ครับแต่ถ้าคุณสามารถเปิดประตูโรงงานเข้า
00:14:25 → 00:14:28 ไปเผาชั้นนอกแล้วเข้าไปเผาชั้นในได้ด้วย
00:14:28 → 00:14:30 จะเกิดอะไรขึ้นพลังงานที่ร่างกายสร้างได้
00:14:30 → 00:14:33 จะต่างกันเกือบ 20 เท่าเลยนะครับเพราะ
00:14:33 → 00:14:35 ฉะนั้นสิ่งสำคัญก็คือวิตามินเกือแร่เช่น
00:14:35 → 00:14:37 วิตามินอะไรบ้างที่ร่างกายต้องการ
00:14:37 → 00:14:41 แมกนีเซียมนะมีอะไรอีกนะครับแคลเซียมถูก
00:14:41 → 00:14:45 มยนะหรือว่ามีพวกวิตามินบีนะพวกเนี้ยถ้า
00:14:45 → 00:14:48 คุณกินพวกอาหารครบถ้วน 5 หมู่นะครับนะไม่
00:14:48 → 00:14:51 ว่าจะเป็นโปรตีนกับเป็นโปรตีนที่ดีต่อ
00:14:51 → 00:14:53 สุขภาพนะครับกินหลากหลายทั้งโปรตีนจากพืช
00:14:53 → 00:14:57 จากสัตว์มีกินทั้งใยอาหารกินผักและผลไม้
00:14:57 → 00:15:00 ในปริมาณที่เหมาะสมนะพวกเนี้ยคุณจะได้พวก
00:15:00 → 00:15:02 สารอาหารครบถ้วนได้สังกสีได้อะไพวกเนี้ย
00:15:02 → 00:15:04 แล้วจะทำให้ระบบเผาผลาญเนี่ยเผาผลาญได้
00:15:04 → 00:15:07 ถึงข้างในทำให้คุณได้พลังงานได้เยอะเห็น
00:15:07 → 00:15:10 ภาพมยเผาผ่านพลังงานได้เยอะผอมมั้ยผอมสิ
00:15:10 → 00:15:13 เนาะนะครับเพราะฉะนั้นน่าจะเห็นภาพมาก
00:15:13 → 00:15:16 ขึ้นว่าจริงๆแล้วนะครับน้ำตาล 0% เนี่ย
00:15:16 → 00:15:19 ไม่ได้ดีเสมอไปถ้าเป็นพวกสารให้ความหวาน
00:15:19 → 00:15:20 สิ่งที่คุณต้องทำคืออะไรอ่ะหมหนึ่งย้อน
00:15:20 → 00:15:23 ทวนให้ฟังก่อนนิดนึงนะสำคัญมากเลยนะถ้า
00:15:23 → 00:15:25 เป็นพวกสาให้ความหวานกินได้นานๆกินทีและ
00:15:25 → 00:15:29 แนะนำให้กินช่วงระหว่างวันนะใครที่ฟังไ
00:15:29 → 00:15:30 แล้วหรืออยู่ในกลุ่มเรียนลดน้ำหนักของม 1
00:15:30 → 00:15:32 แล้วเนี่ยเวลาเรากินสารให้ความหวานพยายาม
00:15:32 → 00:15:35 โยกไปกินช่วงฟีดหรือช่วงที่เป็นระหว่าง
00:15:35 → 00:15:37 วันส่วนใครยังทำ If ไม่เป็นไม่เป็นไรค่อย
00:15:37 → 00:15:40 ๆเรียนรู้ไปเรื่อยๆนะครับไม่ค่อยแนะนำให้
00:15:40 → 00:15:43 กินช่วงที่เป็นช่วงฟาของการทำ If เพราะ
00:15:43 → 00:15:45 มันจะทำให้ลิ้นคุณติดหวานมากๆไม่แนะนำ
00:15:46 → 00:15:49 ส่วนพวกขนมที่น้ำตาล 0% ไม่ใช่เห็นมาปั๊บ
00:15:49 → 00:15:51 น้ำตาล 0% แล้วกินเลยเพราะขนมส่วนใหญ่
00:15:51 → 00:15:54 โครงสร้างของมันคือแป้งนะครับและแป้งบาง
00:15:54 → 00:15:56 อันเป็นแป้งที่ไม่ใช่แป้งธรรมชาติด้วย
00:15:56 → 00:15:58 เป็นแป้งที่ผ่านกระบวนการมาแล้วพวกนี้ค่า
00:15:58 → 00:16:01 น้ำน้ตาลดัชนีน้ำำตาลจะสูงอาหารเสริมบาง
00:16:01 → 00:16:03 ตัวอย่างหมอ 1 เนี่ยเวลาหมอ 1 เลือก
00:16:03 → 00:16:05 สมมุติว่าเป็นพวกโปรไบโอติกหมอ 1 จะ
00:16:05 → 00:16:08 พยายามเลือกพวกพรีไบโอติกโพรไบโอติกหรือ
00:16:08 → 00:16:11 พวกซินไบโอติกที่ช่วยระบบขับขับถ่ายช่วย
00:16:11 → 00:16:13 ระบบลำไส้เนี่ยหมอหนึ่งจะพยายามเลือกที่
00:16:13 → 00:16:15 เป็นพวกอาหารเสริมที่มาเป็นแคปซูลมากกว่า
00:16:15 → 00:16:17 ด้วยเหตุผลที่ว่าหมอหนึไม่ได้ต้องการ
00:16:17 → 00:16:19 ปริมาณแป้งที่เป็นโดคิเยอะไม่ได้ต้องการ
00:16:20 → 00:16:22 สารเพิ่มปริมาณเห็นภาพมั้ยเพราะแคปซูลมัน
00:16:22 → 00:16:24 ใส่มานิดเดียวแต่เวลาถ้าเขาขายคุณเป็นซอง
00:16:24 → 00:16:27 เล็กๆแล้วเอามาเทใส่น้ำแกะซองออกมาปั๊บมี
00:16:27 → 00:16:29 อยู่แค่นิดเดียวใครจะซื้อถูกมั้ยเพราะว่า
00:16:29 → 00:16:32 คนชอบของที่มันเยอะๆเพราะฉะนั้นคุณก็ต้อง
00:16:32 → 00:16:34 ระวังด้วยว่าเคใส่สารเพิ่มปริมาณมาหรือ
00:16:34 → 00:16:36 เปล่าเพราะตัวนี้ดัชนีน้ำตาลเป็นไงดัชนี
00:16:36 → 00:16:38 น้ำตาลสูงดัชนีน้ำตาลสูงน้ำตาลในเลือด
00:16:38 → 00:16:42 พุ่งเร็วเอาไปสะสมเป็นไขมันเร็วพอเกิดน้ำ
00:16:42 → 00:16:45 ตาลสูงเร็วต่ำเร็วเกิดรถไฟเหาะไปเหาะมา
00:16:45 → 00:16:46 เหมือนที่นักเรียนหมอน1ึในกลุ่ม VIP เขค
00:16:46 → 00:16:48 เข้าใจกันเนี่ยนะอันนี้ก็จะทำให้คุณหิว
00:16:48 → 00:16:51 บ่อยตะบะแตกแล้วก็จะเป็นสาเหตุที่ทำให้
00:16:51 → 00:16:54 คุณลดน้ำหนักไม่ได้เห็นภาพนะครับเนาะ
00:16:54 → 00:16:56 เพราะฉะนั้นตั้งแต่ที่พูดมาใครฟังหมอ
00:16:56 → 00:16:58 หนึ่งมาตลอดเป็น FC หมอหนึ่งก็จะรู้ว่า
00:16:58 → 00:17:00 สุดท้ายมันก็วนกลับมาที่เรื่องพีระมิด
00:17:00 → 00:17:03 ความผอมนั่นแหละว่าอะไรสเต็ปที่ 1 เรา
00:17:03 → 00:17:06 ต้องปรับสิ่งที่เรียกว่าอะไรครับสารอาหาร
00:17:06 → 00:17:09 ถูกมยซึ่งสารอาหารในที่นี้หมอหนึบอกไป
00:17:09 → 00:17:11 แล้วว่ามันก็ขึ้นอยู่กับแค่ 1 เรื่องอะไร
00:17:11 → 00:17:14 เรื่องน้ำตาล 2 อะไรที่เปลี่ยนเป็นน้ำตาล
00:17:14 → 00:17:19 ได้แป้ง 3 อะไรอีกบางคนกินแล้วไม่อิ่มเรา
00:17:19 → 00:17:22 จะอิ่มจากการกินสิ่งที่เรียกว่าโปรตีนนะ
00:17:22 → 00:17:25 ครับแล้วก็มีเรื่องไขมันแล้วก็มีเรื่อง
00:17:25 → 00:17:29 อะไรครับใยอาหารถูกมยอันนี้คือทั้งหมดของ
00:17:29 → 00:17:31 การที่เราอยากลดน้ำหนักเราต้องรู้ว่าเรา
00:17:31 → 00:17:33 จะกินอะไรแล้วผอมในปริมาณเท่าไหร่คือ
00:17:33 → 00:17:36 เรื่องสารอาหารสุดท้าย 2 เราค่อยไปจัด
00:17:37 → 00:17:39 เวลาการทานด้วยการทำ If แต่ถ้าสมมุติหลาย
00:17:39 → 00:17:41 คนทำ If มาก่อนนะบางคนเพิ่งมาฟังเจอหมอ 1
00:17:41 → 00:17:43 คลิปนี้คลิปแรกแล้วทำ If แล้วไม่พรอมนะ
00:17:43 → 00:17:45 ให้รู้ไว้เลยว่าสิ่งที่คุณเนี่ยยังปรับ
00:17:45 → 00:17:48 ไม่ดีคือเรื่องสารอาหารบางคนยังเข้าใจผิด
00:17:48 → 00:17:51 เรื่องน้ำตาล 0% อยู่เลยถูกมยก็เลยไม่ผอม
00:17:51 → 00:17:53 ไงเพราะสารอาหารคุณไม่ถูกต้องสเต็ปที่ 1
00:17:53 → 00:17:56 คุณถูกก่อนคุณถึงจะเดินทางไปสเต็ปที่ 2
00:17:56 → 00:17:59 ค่อยไปทำ If พอทำ If เป็นปั๊บมันจะช่วย
00:17:59 → 00:18:01 ปล่อยไขมันออกมามากขึ้นแล้วคุณค่อยไปทำ
00:18:01 → 00:18:05 สเต็ปที่ 3 คือไปสร้างระบบเผาผลาญพลังงาน
00:18:05 → 00:18:07 คุณจะไปเข้าใจว่าเออระบบเผาผลาญของเรานะ
00:18:07 → 00:18:09 มันขึ้นอยู่กับว่ามวลกล้ามเนื้อเราแข็ง
00:18:09 → 00:18:11 แรงแค่ไหนเราจะสร้างกล้ามเนื้อได้ดีเรา
00:18:11 → 00:18:14 ต้องมีโปรตีนเราต้องออกกำลังกายแบบไหนออก
00:18:14 → 00:18:17 กำลังกายยังไง 10-15 นาทีเราถึงจะผอมโดย
00:18:17 → 00:18:19 ที่เราไม่ต้องออกกำลังกายหนักเพราะบางคน
00:18:19 → 00:18:22 อายุเยอะบางคนน้ำหนักตัวแรกเริ่มเยอะไม่
00:18:22 → 00:18:24 มีทางที่จะออกกำลังกายหนักได้ถูกมยนะแต่
00:18:24 → 00:18:26 คนเราอ่ะอ้วนไม่ได้อ้วนเพราะไม่ได้ออก
00:18:26 → 00:18:28 กำลังกายแต่เราอ้วนเพราะเรากินอาหารไม่ดี
00:18:28 → 00:18:31 นะครับเนาะพอปรับ 3 สเต็ปนี้ได้น้ำหนักก็
00:18:31 → 00:18:33 จะเริ่มลดแต่พอลดไปเสร็จจะเจอปัญหาที่ 4
00:18:33 → 00:18:37 คืออะไรครับปัญหาน้ำหนักนิ่งถูกป่านะน้ำ
00:18:37 → 00:18:40 หนักนิ่งถ้ารู้สาเหตุแก้ถูกวิธีจะไปต่อ
00:18:40 → 00:18:43 ได้และในช่วงชีวิตของการลดน้ำหนักแต่ละคน
00:18:43 → 00:18:45 จะเจอช่วงน้ำหนักนิ่งประมาณ 2-3 ครั้งอ่ะ
00:18:45 → 00:18:47 ต้องเจอแน่ๆลดเสร็จปั๊บน้ำหนักนิ่งแก้ถูก
00:18:47 → 00:18:50 ไปต่อลดต่อเจอน้ำหนักนิ่งแก้ถูกไปต่อลด
00:18:50 → 00:18:53 ต่อเจอน้ำหนักนิ่งแก้ถูกไปต่อจนได้น้ำ
00:18:53 → 00:18:56 หนักที่พอใจแล้วสเต็ปที่ 5 เราถึงจะ
00:18:56 → 00:18:58 มาเรียนรู้กันว่าเราจะสร้างระบบเผาผลายัง
00:18:58 → 00:19:00 ไงให้ยั่งยืนแล้วกลับไปกินน้ำตาลได้บ้าง
00:19:00 → 00:19:02 กลับไปกินอาหารได้กลับไปกินบุฟเฟ่ต์ได้
00:19:02 → 00:19:05 เยอะๆเห็นภาพมยแต่ถ้าสเต็ปที่ 4 บางคน
00:19:05 → 00:19:07 เนี่ยลดไปสักพักน้ำหนักนิ่งแก้ผิดวิธีคุณ
00:19:07 → 00:19:09 เริ่มต้นนับ 1 ใหม่เพราะฉะนั้นศึกษา
00:19:09 → 00:19:12 พีระมิดความผอมให้ให้เข้าใจนะครับเนาะไม่
00:19:12 → 00:19:14 ต้องดูตอินเทอร์เน็ตนะอันนี้เป็นวิธีของม
00:19:14 → 00:19:16 1 นะครับหมอหนึ่งดูแลนักเรียนกับคนไข้มา
00:19:16 → 00:19:19 อย่างตั้งแต่เปิดเพจมา 5 ปีนะครับนะมีนัก
00:19:19 → 00:19:21 คนติดตามมา 2 ล้านกว่าคนนะครับแล้วนัก
00:19:21 → 00:19:23 เรียนที่ลดน้ำหนักกับหม 1 20,000 กว่าคน
00:19:23 → 00:19:25 เพราะฉะนั้นทั้งหมดเนี่ยสรุปมาให้แล้วใน
00:19:25 → 00:19:27 พีรามิดเดียวค่อยๆฟังย้อนไปเรื่อยๆสำหรับ
00:19:27 → 00:19:29 ใครที่เพิ่งมาติดตามหมอ 1 นะครับแล้ว
00:19:29 → 00:19:31 สำหรับใครที่ถามมาต้นคลิปว่าอยากเข้า
00:19:31 → 00:19:33 กลุ่มเรียนลดน้ำหนักก็แอด Line @hee
00:19:33 → 00:19:36 Hero ได้นะครับนะแล้วไปสอบถามรายละเอียด
00:19:36 → 00:19:39 วิธีเข้ากลุ่มกับทีมงานนะครับนะแอไป @hee
00:19:39 → 00:19:40 Hero และแจ้งทีมงานว่าสนใจเข้ากลุ่ม
00:19:40 → 00:19:42 เรียน VIP นะครับทีมงานก็จะสอบถามราย
00:19:42 → 00:19:45 ละเอียดว่าคุณน้ำหนักเท่าไหร่ส่วนสูงเท่า
00:19:45 → 00:19:47 ไหร่มีโรคประจำตัวอะไรมยก่อนที่จะเข้า
00:19:47 → 00:19:49 กลุ่มแล้วก็ทีมงานจะส่งวิธีเข้ากลุ่มให้
00:19:49 → 00:19:51 ว่าเข้ากลุ่มยังไงนะครับเนาะเพราะฉะนั้น
00:19:51 → 00:19:53 หวังว่าจะได้ประโยชน์กับคลิปนี้มากขึ้นนะ
00:19:54 → 00:19:56 มีคำถามอะไรก็จะพยายามเอามาพูดให้ละเอียด
00:19:56 → 00:19:59 ให้ทุกคนเนี่ยมีความรู้มากขึ้นสิ่งสำคัน
00:19:59 → 00:20:00 ที่หลายคนลดน้ำหนักไม่ได้ไม่ใช่เพราะไม่
00:20:00 → 00:20:02 เก่งหรือไม่มีวินัยนะครับแต่เป็นเพราะว่า
00:20:02 → 00:20:04 คุณไม่มีความรู้แค่นั้นเองนะครับถ้ามี
00:20:04 → 00:20:07 ความรู้ผอมได้ตลอดชีวิตเนี่ยเหมือนนัก
00:20:07 → 00:20:08 เรียนหมอ 1 เนี่ยหลายคนเนี่ยเพิ่งเข้าไป
00:20:08 → 00:20:10 เรียนเองนะครับคนนี้เนี่ยเพิ่งเข้าเรียน
00:20:10 → 00:20:13 ไปนะน้ำหนักลดไปแล้ว 8 กกยังลดต่ออีกนะ
00:20:13 → 00:20:16 ครับนะแล้วค่อยๆลดไปเรื่อยๆๆๆๆๆคุ้มมาก
00:20:16 → 00:20:18 กับการเรียนในครั้งนี้นะครับเรื่องความ
00:20:18 → 00:20:20 รู้เกี่ยวกับสุขภาพถ้าคุณเข้าใจครั้ง
00:20:20 → 00:20:22 เดียวมันจะเข้าใจตลอดชีวิตโอเคั้ยนะครับ
00:20:22 → 00:20:25 เนาะนะหมอหนึสอนครบทุกรายละเอียดเลยนะนะ
00:20:25 → 00:20:28 อีกคนนึงบอกว่าลดมา 2-3 เดือนน่ะลดไป 21
00:20:28 → 00:20:30 กลคุณคิดว่าความดันเบาหวานน่ะไขมันดีขึ้น
00:20:31 → 00:20:33 มั้ยดีแน่นอนไขมันพอกต่งพอกตับอะไรนะครับ
00:20:33 → 00:20:36 มันก็จะดีขึ้นหมดเลยเมื่อคุณมีความรู้น้ำ
00:20:36 → 00:20:39 หนักลดแล้วเดี๋ยวสุขภาพมันจะดีตามมาเอง
00:20:39 → 00:20:41 เนาะนะครับนะแล้วก็ยินดีกับอีกหลายๆคนที่
00:20:41 → 00:20:43 เพิ่งเข้ากลุ่ม VIP ไปนะครับเมื่อสัปดาห์
00:20:43 → 00:20:45 ที่แล้วแล้วน้ำหนักลดนะครับนะเพราะฉะนั้น
00:20:45 → 00:20:47 ใครที่เพิ่งติดตามหมอ 1 อย่าลืมกดติดตาม
00:20:47 → 00:20:49 ไว้นะครับส่วนใครที่จะเข้ากลุ่มนะครับก็
00:20:49 → 00:20:51 แอด Line @th Hero แล้วก็สอบถามทีมงาน
00:20:51 → 00:20:53 นะครับว่าเข้ากลุ่มยังไงนะครับส่วนใครที่
00:20:53 → 00:20:55 จะเข้ากลุ่มก็เจอกันในกลุ่มนะครับชมคลิป
00:20:55 → 00:20:57 หมอ 1 จบแล้วนะครับอย่าลืมกดติดตามเพื่อ
00:20:57 → 00:20:59 ที่จะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆใหม่จากหมอ 1 นะ
00:20:59 → 00:21:01 ครับส่วนคลิปอื่นๆที่น่าสนใจกดดูจากทาง
00:21:01 → 00:21:03 ซ้ายมือได้เลยครับส่วนใครที่อยากลดน้ำ
00:21:03 → 00:21:04 หนักครั้งสุดท้ายในชีวิตในกลุ่มเรียนกับ
00:21:04 → 00:21:06 หมอ 1 นะครับกดดูรายละเอียดจากทางขวามือ
00:21:06 → 00:21:08 หรือดูรายละเอียดจากลิงก์ในคอมเมนต์ได้
00:21:08 → 00:21:12 เลยนะครับแล้วพบกันในกลุ่มเรียนนะครับ