00:00:00 → 00:00:02 [เพลง]
00:00:02 → 00:00:04 สวัสดีครับคุณผู้ชมครับยินดีต้อนรับสู่
00:00:04 → 00:00:07 มหิดล Channel Live วันนี้ผมรพี
00:00:07 → 00:00:08 บุญเปลื้องหรืออาจารย์เต้จากคณะ
00:00:08 → 00:00:11 วิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดลรับหน้าที่
00:00:11 → 00:00:14 ผู้ดำเนินรายการครับคุณผู้ชมครับหลังจาก
00:00:14 → 00:00:17 ที่มีการผ่อนคลายมากตับการล็อกดาวน์ในใน
00:00:17 → 00:00:21 หลายๆพื้นที่ครับร้านอาหารร้านรวงต่างๆก็
00:00:21 → 00:00:23 เริ่มกลับมาเปิดทำการกันอีกครั้งหนึงผม
00:00:23 → 00:00:26 เชื่อว่าหลายๆคนคงจะเหมือนผมนะฮะตื่นเช้า
00:00:26 → 00:00:29 ขึ้นมานอกจากจะคิดถึงงานที่ต้องทำในแต่ละ
00:00:29 → 00:00:32 วันแล้วเนี่ยก็คงจะคิดแล้วว่าเย็นเนี้ยย
00:00:32 → 00:00:36 จะไปกินบุฟเฟ่ต์อะไรดีจะไปกินอาหารอะไรดี
00:00:36 → 00:00:40 เมนูมาเลยว่าวันนี้จะต้องกินอันนี้เสาร์
00:00:40 → 00:00:45 อาทิตย์นี้จะกินอันนี้แต่มีผู้มีคุณผู้ชม
00:00:45 → 00:00:48 อยู่อีกหลายท่านเลยฮะที่ไม่สามารถที่จะ
00:00:48 → 00:00:51 เลือกรับประทานในสิ่งที่หลายๆคนชื่นชอบ
00:00:51 → 00:00:55 ได้หลหลายๆคนคนกลุ่มเยครับจะต้องมีความ
00:00:55 → 00:00:57 ระมัดระวังเป็นพิเศษในการที่จะเลือกอาหาร
00:00:57 → 00:01:02 เพราะเขามีโรคภูมิแผแพ้อาหารครับมันอาจจะ
00:01:02 → 00:01:05 ฟังดูแปลกๆนะฮะเอ๊โรคภูมิแพ้อาหารมันมัน
00:01:05 → 00:01:09 มีอยู่จริงหรือวันนี้ครับเราจะมาคุยกันใน
00:01:10 → 00:01:13 เรื่องนี้สำหรับคุณผู้ชมที่มีอาการภูมิ
00:01:13 → 00:01:16 แพ้อาหารอยู่นะฮะอาจจะลองคอมเมนต์มาใน
00:01:16 → 00:01:18 ช่องคอมเมนต์ดูก็ได้ครับว่าคุณผู้ชมมี
00:01:18 → 00:01:21 อาการภูมิแพ้อาหารชนิดนี้ชนิดนั้นเพื่อ
00:01:21 → 00:01:25 ว่าเราอาจจะได้คำแนะนำเพิ่มเติมเฉพาะ
00:01:25 → 00:01:28 สำหรับคุณผู้ชมเลยจากแขกรับเชิญของเราใน
00:01:28 → 00:01:32 วันนี้ครับวันนี้ครับเราจะได้คุยกับคุณ
00:01:32 → 00:01:34 หมอท่านนึงฮะในหัวข้อที่ชื่อว่าเช็คก่อน
00:01:34 → 00:01:39 กินโรคภูมิแพ้อาหารอันตรายถึงชีวิตแขกรับ
00:01:39 → 00:01:41 เชิญที่จะมาพูดคุยกับเราวันนี้ครับคือคุณ
00:01:41 → 00:01:43 หมอแบงค์ครับผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์
00:01:43 → 00:01:47 มงคลสมพรรัตนพันธ์คุณหมอแบงค์เป็นอาจารย์
00:01:47 → 00:01:51 อยู่ที่สาขาวิชาโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน
00:01:51 → 00:01:54 ภาควิชาอายุรศาสตร์คณะแพทยศาสตร์รงคณะ
00:01:54 → 00:01:57 แพทยศาสตร์สิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล
00:01:57 → 00:02:00 ครับสวัสดีครับคุณหมอแบงค์ครับสวัสดีครับ
00:02:00 → 00:02:02 อาจารย์เต้ครับสครับคุณหมอแบงค์สบายดีนะ
00:02:02 → 00:02:07 ฮะสบายดีครับคุณหมอแบงค์ครับวันนี้เราจะ
00:02:07 → 00:02:10 มาพูดคุยกันเรื่องของโรคภูมิแพ้อาหารเลย
00:02:10 → 00:02:13 ครับแต่ก่อนที่จะไปถึงโรคภูมิแพ้อาหารผม
00:02:13 → 00:02:16 ขอแวะสักนิดนึงที่คำว่าโรคภูมิแพ้ก่อน
00:02:16 → 00:02:20 ครับเพราะว่าผมเองก็เป็นคนที่มีโรคภูมิ
00:02:20 → 00:02:23 แพ้อยู่ผมเป็นคนแพ้ฝุ่นแล้วบางครั้งตื่น
00:02:23 → 00:02:25 ขึ้นมาตอนเช้าผมก็มีอาการคัดจมูกเลยไม่
00:02:25 → 00:02:27 รู้ว่าเป็นเพราะว่าแพ้แพ้ตอนเช้าหรือ
00:02:27 → 00:02:29 เปล่าขี้เกียจไปทำงานหรือเปล่าไม่ค่อไม่
00:02:29 → 00:02:31 ค่อยแน่ใจโรคภูมิแพ้นนี่มันคืออะไรครับ
00:02:31 → 00:02:34 และอะไรที่นำมาสู่อาการภูมิแพ้หรือว่าโรค
00:02:34 → 00:02:37 ภูมิแพ้นี้ได้ครับอ่าจริงๆโรคภูมิแพ้ต้อง
00:02:37 → 00:02:40 ตอบก่อนมันมันมีหลายโรคอ่ามันเป็นคำรวมๆ
00:02:40 → 00:02:42 มันก็คือเป็นปฏิกริยาไวเกินต่อสิ่งแวด
00:02:42 → 00:02:46 ล้อมอนะฮะอ่าแต่หลักๆถ้าเวลาเขาพูดถึงโรค
00:02:46 → 00:02:48 ภูมิแพ้เนี่ยเขาก็จะหมายถึงอ่าจมูกอักเสบ
00:02:48 → 00:02:51 ภูมิแพ้หรือแพ้อากาศอือภูมิแพ้หอบหืดนะ
00:02:51 → 00:02:54 ครับแพ้อาหารหรือว่าเป็นผิวนาอักเสบภูมิ
00:02:54 → 00:02:57 แพ้อถ้าพูดภาษาง่ายๆก็คือแพ้อาหารเป็น
00:02:57 → 00:03:01 สับเซตนึงของของโรคภูมิแพ้นะครับครับวัน
00:03:01 → 00:03:04 นี้ครับเราจะมาคุยกันในเรื่องของโรคภูมิ
00:03:04 → 00:03:06 แพ้อาหารกันเป็นหลักเลยเพราะว่ามีเพื่อนๆ
00:03:06 → 00:03:09 หลายๆคนที่ผมรู้จักเ้าก็จะคนนี้ก็จะแพ้
00:03:09 → 00:03:12 กุ้งคนนี้ก็จะแพ้ปูผมก็ไม่แน่ใจว่าเอ๊ะ
00:03:13 → 00:03:16 มันมีสิ่งที่เรียกว่าโรคภูมิแพ้จริงๆหรือ
00:03:16 → 00:03:17 เปล่าหรือว่าจริงๆแล้วเขาอาจจะเป็นข้อ
00:03:17 → 00:03:20 อ้างบางอย่างเท่านั้นที่จะไม่เลือกบริโภค
00:03:20 → 00:03:23 อาหารที่เขาไม่ชอบวันนี้เราจะมาคุยกัน
00:03:23 → 00:03:27 เรื่องนี้เลยครับเริ่มจากโรคภูมิแพ้อาหาร
00:03:27 → 00:03:29 เนี่ยครับมันคืออะไรแล้วมันเกิดขึ้นได้
00:03:29 → 00:03:33 ยังไงครับก็จริงๆอ่าคำว่าโรคภูมิแพ้อาหาร
00:03:33 → 00:03:36 นะครับมันแปลว่าภูมิคุ้มกันวเกินแต่
00:03:36 → 00:03:39 บังเอิญมันไปไวต่อองค์ประกอบที่มันอยู่ใน
00:03:39 → 00:03:42 อาหารนะครับทำให้เกิดมันเป็นอาการแพ้ขึ้น
00:03:42 → 00:03:46 มาเช่นมีปากบวมคันคอมีผื่นมีแน่นหน้าอกอ
00:03:46 → 00:03:49 แน่นท้องหแพ้รุ่นแรงไปเลยก็ก็ได้อครับใคร
00:03:49 → 00:03:52 บ้างครับที่เป็นกลุ่มเสี่ยงกับโรคภูมิแพ้
00:03:52 → 00:03:55 อาหารเนี่ยจริงๆแล้วคนกลุ่มเสี่ยงเนี่ย
00:03:55 → 00:03:57 เา้ามักจะเป็นคนที่เขามีพื้นฐานที่จะเป็น
00:03:57 → 00:04:00 โรคภูมิแพ้อยู่และอือส่วนนึงเลยถ้าเราถาม
00:04:00 → 00:04:03 เดีๆเขจะมีโกคุมแพ้อากาศหรือแพ้อย่างอื่น
00:04:03 → 00:04:06 อตั้ 1 อย่างอ่าแล้วเขาก็เลยทำให้มีแนว
00:04:06 → 00:04:09 โน้มที่จะเซ้นต่ออาหารที่เขารับเข้าไปใน
00:04:09 → 00:04:12 จังหวะที่ร่างกายเาเปราะบางผมใช้คำว่า
00:04:12 → 00:04:15 เปราะบางแล้วกันแล้วในบางวันแจ็คพอตเราไป
00:04:15 → 00:04:18 แพ้ในวันนั้นพอดีครับครับถ้าบอกเป็นโรค
00:04:18 → 00:04:21 ภูมิแพ้อาหารนี่ก็แปลว่ามันจะต้องเข้าไป
00:04:21 → 00:04:23 เฉพาะทางเดินอาหารเท่านั้นใช่มั้ยเราต้อง
00:04:23 → 00:04:25 กินมันเท่านั้นใช่มั้ยเราถึงจะเกิดอาการ
00:04:25 → 00:04:28 ภูมิแพ้นี่ขึ้นมาครับออจริงๆอย่างที่
00:04:28 → 00:04:30 อาจารย์เต้ว่าคือส่วนใหญ่อาหารเราก็จะแพ้
00:04:30 → 00:04:33 โดยวิธีทางการกินเป็นหลักอ่าแต่จริงๆแล้ว
00:04:33 → 00:04:36 เนี่ยร่างกายของมนุษย์เราเนี่ยฟังดูอาจจะ
00:04:36 → 00:04:39 แปลกหน่อยนะเราเซ้นอาหารได้จากหลายๆช่อง
00:04:39 → 00:04:42 ทางด้วยกันคือทฤษฎีแพทย์ในปัจจุบันเนี่ย
00:04:42 → 00:04:45 เขาพูดถึง 3 ช่องทางหลักๆด้วยกัน 1 คือ
00:04:45 → 00:04:48 เราอาจจะเซ้นอาหารในทางเดินอาหารเองอย่าง
00:04:48 → 00:04:51 เช่นอ่าคนที่กินกุ้งแล้วก็บังเอิญโปรตีน
00:04:51 → 00:04:54 กุ้งไปสัมผัสกับเยื่อบุลำไส้แล้วก็
00:04:54 → 00:04:57 กระตุ้นภูมิแพ้ขึ้นมาหรือ 2 อาจจะเป็นทาง
00:04:57 → 00:05:00 ผิวหนังก็ได้ครับตัวอย่างเช่นอ่าในคน
00:05:00 → 00:05:04 ญี่ปุ่นที่เขาไปเซ้นสบู่ที่เขาผสมแป้ง
00:05:04 → 00:05:06 สาลีเข้าไปอืเอามาขัดหน้าถูหน้าแล้วแพ้
00:05:06 → 00:05:09 แล้วจากนั้นภูมิแพ้มันวิ่งเข้ากระแสเลือด
00:05:09 → 00:05:11 พอกินแป้งสาลีคนญี่ปุ่นเขาก็แพ้อันนี้คือ
00:05:11 → 00:05:14 เซ้นทางผิวหนังครับแต่ก็จริงๆมันมีอีกแบบ
00:05:14 → 00:05:18 นึงคือเขาเรียกแพ้ตังการหายใจอ่าฟังดูอาจ
00:05:18 → 00:05:20 จะแปลกนิดนึงนะครับอย่างอมริกาเนี่ยมัน
00:05:20 → 00:05:23 ลอยเข้าจมูกเยเหรอครับลอยเข้าไปได้ยังไงอ
00:05:23 → 00:05:27 ก็คือเขาคเรียกว่าคนอเมริกาจริงๆเขมี
00:05:27 → 00:05:31 กลุ่มคนที่เขาแพ้โพ่นหรือเกสรชนิดนึงที่เ
00:05:31 → 00:05:33 เป็น burge poen ซึ่งมันจะมีโปรตีนบาง
00:05:34 → 00:05:36 อย่างอนะครับที่มันไปคล้ายกับโปรตีนที่
00:05:36 → 00:05:40 เราเจอในพวกกลุ่มผลไม้พวกผักอ๋อทำให้คน
00:05:40 → 00:05:43 กลุ่มเนี้ยภูมิมันก็คล้ายๆแพ้ข้ามพานไป
00:05:43 → 00:05:47 แพ้ผลไม้จากการกินเข้าไปด้วยครับครับผม
00:05:47 → 00:05:50 เชื่อว่าหลายๆคนที่มีเป็นโรคภูมิแพ้อยู่
00:05:50 → 00:05:53 แล้วเนี่ยเขาก็จะพอจะรู้บ้างแหละว่าเขามี
00:05:53 → 00:05:56 อาการภูมิแพ้เนื่องจากอาหารอันนี้กินอัน
00:05:56 → 00:05:58 นี้แล้วเกิดอาการแบบนี้อะไรเงี้ยครับแต่
00:05:58 → 00:06:01 จริงๆแล้วในทางการแพทย์มีวิธีการตรวจไหม
00:06:01 → 00:06:04 ครับว่าคนคนเเขาแพ้อย่างนี้จริงๆนะหรือ
00:06:04 → 00:06:06 ว่าคนคนนี้จริงๆแล้วไม่ได้แพ้หรอกอะไร
00:06:06 → 00:06:08 เงี้ยครับอ่าการแพมีวิธีการตรวจครับ
00:06:08 → 00:06:11 อาจารย์เต้คือจริงๆส่วนตัวผมเป็นหมอหมอ
00:06:11 → 00:06:13 ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่คนแข้เก็จะมาด้วยอาการ
00:06:13 → 00:06:16 เหมือนแพ้เชนเฉียบพลันเป็นหลักเลยอือฮึ
00:06:16 → 00:06:18 ครับเวลาเราจะวินิจฉัยแพ้อาหารเนี่ยเราจะ
00:06:18 → 00:06:21 ใช้ใช้ 2 อย่างร่วมกันอ่าคือ 1 คือเราจะ
00:06:21 → 00:06:24 ใช้ประวัติอาการของผู้ป่วยที่เวลาเแพ้เ
00:06:24 → 00:06:27 ต้องเข้าได้นะกอที่ 2 คือเป็นการตรวจทด
00:06:27 → 00:06:32 สอบภูมิแพ้ชนิด IG อีอฟนเนี่ยนะฮะต่อองค์
00:06:32 → 00:06:34 ประกอบของอาหารเอแล้วก็พบว่าผู้ป่วยเขาก็
00:06:34 → 00:06:37 มีภูมิแพ้ต่ออาหารชนิดนั้นจริงๆอือซึ่ง
00:06:37 → 00:06:41 อาจจะทำได้โดยอ่าทดสอบผิวหนังก็ได้หรือ
00:06:41 → 00:06:43 อาจจะเป็นการเจาะเลือดไปตรวจ IG ก็ได้
00:06:43 → 00:06:46 ครับอือฮึคุณหมอแบงคครับขยายคำว่า IG นิด
00:06:46 → 00:06:49 นึง IG นี่ก็คือเป็นเป็นเป็นสิ่งที่ร่าง
00:06:49 → 00:06:52 กายของเราสร้างขึ้นมาเพื่อเพื่ออะไรยังไง
00:06:52 → 00:06:55 อ่ะครับอ่า IG จริงๆแล้วเนี่ยมันเป็นแิอ
00:06:55 → 00:06:58 ประเภทนึงในร่างกายมนุษย์นะฮะแต่มันเป็น
00:06:58 → 00:07:02 แิออ่าตัวร้ายคือพูดง่ายๆว่ามันมีบทบาทใน
00:07:02 → 00:07:05 แง่โรคภุมิแพ้เป็นหลักเลยอืครับพอมันไป
00:07:05 → 00:07:07 จับโมเลกุลพวกสิ่งที่เราแพ้เข้าไปปุ๊บมัน
00:07:07 → 00:07:10 จะกระตุ้นให้เมลดขาวเราสร้างสายฮิสตามีน
00:07:10 → 00:07:12 สร้างอะไรมาตอบสนองแล้วก็เกิดเป็นอาการ
00:07:12 → 00:07:16 แพ้ขึ้นมาครับอืฮึครับก็ก็เป็นส่วนหนึ่ง
00:07:16 → 00:07:18 ของกลไกในการที่ร่างกายของเราสร้าง
00:07:18 → 00:07:20 แอนติบอดี้ตัวนี้ขึ้นมาเพื่อจะจัดการกับ
00:07:20 → 00:07:23 สิ่งแปลกปลอมถูกมั้ยฮะอ่าใช่ครับแล้วมั้ย
00:07:23 → 00:07:25 ฮะแล้วบังเอิญว่ามันทำให้เกิดอาการแพ้
00:07:25 → 00:07:28 เกิดอาการพืนอาจจะทำให้มีอาการรุนแรงมาก
00:07:28 → 00:07:30 กว่านั้นเป็นไปได้มครับครับว่าถ้าสมมุติ
00:07:30 → 00:07:31 ว่าเราเคยกินไอ้อย่างเงี้ยมาตลอดชีวิต
00:07:31 → 00:07:34 แล้วอยู่ๆวันนึงขึ้นมาอ้าวเราเกิดมีอาการ
00:07:34 → 00:07:36 แพ้รุนแรงขึ้นมากับสิ่งที่เรากินมาแล้ว
00:07:36 → 00:07:38 ตลอดชีวิตอย่างเงี้ยครับอ้าเอาจริงๆ
00:07:38 → 00:07:41 ประเด็นนี้ก็น่าสนใจนะฮะอาจารย์เต้คือ
00:07:41 → 00:07:42 ครับเราต้องบอกก่อนเรามีคนแบบนี้อยู่จริง
00:07:43 → 00:07:45 ๆในประเทศเรารวมถึงคนในโลกใบนี้ด้วยนะ
00:07:45 → 00:07:49 แล้วเจอเจอเยอะด้วยเยอะเลยทีเดียวครับอ่า
00:07:49 → 00:07:52 คือถ้าอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์นี่คือการ
00:07:52 → 00:07:55 ที่อาหารใดๆก็ตามที่เรากินเข้าไปปกติมัน
00:07:55 → 00:07:57 มันจะถือว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมของร่างกาย
00:07:57 → 00:08:01 มนุษย์นะอ่าแมว่ามันจะโดนย่อยจนเล็กเป็น
00:08:01 → 00:08:03 โมเลกุลเล็กๆแล้วแต่ในความจริงเนี่ยมันจะ
00:08:03 → 00:08:06 มีโปรตีนอันเล็กๆที่ยังย่อยไม่หมด 100%
00:08:06 → 00:08:08 มันยังมีโปรตีนขนาดใหญ่แบบหลุดเข้าไปในลำ
00:08:08 → 00:08:12 ไส้ส่วนปลายของมนุษย์ได้แต่บางเออในคน
00:08:12 → 00:08:15 ปกติเนี่ยเขาก็จะมีภูมิชนิดดีเอามาป้อง
00:08:15 → 00:08:19 กันไว้คือมีโทคฮะมียามีอะไรนะไม่ให้ภูมิ
00:08:19 → 00:08:22 แพ้ชนิด IG มันเข้ามาทำงานตอบโต้กับอาหาร
00:08:22 → 00:08:26 นั้นๆได้แต่ในคนที่เป็นภูมิแพ้อาหารก็จะ
00:08:26 → 00:08:29 ไม่ใช่ครับคือวันดีคืนร้ายภูมิแพ้ IG มัน
00:08:29 → 00:08:32 ไปเซ้นกับโปรตีนที่มันหลุดรอดเข้ามาอืใน
00:08:32 → 00:08:35 วันที่ร่างกายเปราะบางใช้คำว่าเปราะบาง
00:08:35 → 00:08:37 แล้วเราก็ตีความว่าอันนั้นมันเป็นแบบสิ่ง
00:08:37 → 00:08:40 แปกปอแล้วรอบหน้าเราเผลอกินเข้าไปอีกไอ้
00:08:40 → 00:08:43 ภูมิ IG ตัวนี้เนี่ยมันก็มันก็สร้างรอย
00:08:43 → 00:08:44 อยู่ในร่างกายอยู่แล้วนะฮะอือก็เลย
00:08:44 → 00:08:47 กระตุ้นให้มล็ดขาวเราสร้างฮิสตามีนแล้วก็
00:08:47 → 00:08:50 เกิดเป็นอาการแพขึ้นมาครับครับนั่นก็แปล
00:08:50 → 00:08:53 ว่าร่างกายคงเคยได้รับโปรตีนชนิดนี้มา
00:08:53 → 00:08:57 ก่อนแล้วเราก็ค่อยๆเริ่มสร้าง IG ขึ้นมา
00:08:57 → 00:09:00 เพื่อจะต่อต้านสค่อยๆเริ่มเซ็นใช่มยฮะอ๋อ
00:09:00 → 00:09:02 ไม่ใช่ว่ากินครั้งแรกแล้วมีอาการแพ้เลย
00:09:02 → 00:09:05 อันนั้นอาจจะไม่ใช่ใช่มั้ยฮะก็ส่วนใหญ่
00:09:06 → 00:09:08 เนี่ยจังหวะที่เซ้นคนเราจะไม่ค่อยรู้ตัว
00:09:08 → 00:09:10 เท่าไหร่เราจะไปรู้ตัวอีกทีคือตอนที่
00:09:10 → 00:09:12 อาจารย์เต้พูดถึงกินแล้วมีอาการแล้วแพ้
00:09:12 → 00:09:17 ให้มาครับอืออาการเนี่ยครับมันมีอาการแบบ
00:09:17 → 00:09:20 ไหนบ้างคุณผู้ชมหลายๆท่านอาจจะไม่รู้ตัว
00:09:20 → 00:09:22 ว่าตอนนี้กินไอ้นี่แล้วมันนำมาสู่อาการ
00:09:22 → 00:09:24 อย่างงี้คือมันเป็นโรคภูมิแพ้ภูมิแพ้
00:09:24 → 00:09:27 อาหารแล้วอาการมันเป็นยังไงบ้างครับจริงๆ
00:09:27 → 00:09:30 อาการของภูมิแพ้ในปัจจุบันมันมันโอมันมี
00:09:30 → 00:09:33 หลากหลายประเภทนะแต่ผมขอยกตัวอย่างประเภท
00:09:33 → 00:09:35 ที่เจอบ่อยในผู้ใหญ่ะกันคือภูมิแพ้ชนิด
00:09:35 → 00:09:38 เฉียบพลันอ่าคำว่าเฉียบพันอาการหลักมันจะ
00:09:38 → 00:09:41 มีอยู่ 2 องค์ประกอบคือ 1 หลังกินมันต้อง
00:09:41 → 00:09:44 เกิดอาการอะไรสักอย่างที่เร็วและสัมพันธ์
00:09:44 → 00:09:47 กับอาหารชนิดนั้นๆเนี่ยนะครับส่วนใหญ่ภาย
00:09:47 → 00:09:50 ในเอ่อชั่วโมง 2 ชั่วโมงหรือบางคนก็ไม่
00:09:50 → 00:09:53 กี่นาทีก็เกิดอาการขึ้นมาะอือครับกับ 2
00:09:53 → 00:09:55 คืออาการที่ว่าเนี่ยมันก็ต้องเป็นอาการใน
00:09:55 → 00:09:58 ลักษณะของภูมิแพ้ใช่มั้ครับเช่นกินอาหาร
00:09:58 → 00:10:02 นั้นเข้าไปไปสผัดโดนโดนปากก็จะมีคันคอคัน
00:10:02 → 00:10:06 ปากมีริมฝีปากบวมอืแต่ถ้าเกิดมันเข้าไป
00:10:06 → 00:10:09 นานขึ้นอีกเนามันดูดซึมเขกระแสเลือดก็อาจ
00:10:09 → 00:10:12 จะไปบวมที่ทางเดินหายใจก็เริ่มจุกคอจุก
00:10:12 → 00:10:16 แน่นอกอ่าลามเข้าไปอีกทีนี้ความดันเริ่ม
00:10:16 → 00:10:19 ตกะเพราะว่าหลอดเลือดมันเริ่มขยายตัวก็จะ
00:10:19 → 00:10:20 เป็นอาการกลุ่มเยมันจะเรียงเหมือนเป็น
00:10:20 → 00:10:25 ลำดับซีเควนตกันมาครับครับอาการแบบไหนที่
00:10:25 → 00:10:27 เรียกว่ารุนแรงอ่ะครับต้องไปถึงขนาดไหน
00:10:27 → 00:10:30 แล้วถึงจะเรียกว่าเนี่ยคือแพ้รุนแรงลจริง
00:10:30 → 00:10:33 ๆตามคำว่าแพ้รุนแรงของทางการแพทย์เขาจะ
00:10:33 → 00:10:36 หมายถึงว่ามีอาการทางระบบอ่าคือหมายถึง
00:10:36 → 00:10:39 ว่าไม่ใช่แค่ผิวหนังและแต่อาจจะกระจายไป
00:10:39 → 00:10:42 ยังระบบทางเดินหายใจเช่นมีอาการหายใจไม่
00:10:42 → 00:10:45 ออกแน่นหนาอโกวูบเป็นลมอะไรพวกนี้นะเถือ
00:10:45 → 00:10:48 ว่าเป็นรุนแรงแต่ในทางการแพทย์ที่แบบ
00:10:48 → 00:10:52 รุนแรงจริงๆเขาจะหมายถึงกรณีที่มันไปโดน 2
00:10:52 → 00:10:55 อวัยวะซึ่งอาจจะทำให้ผู้ป่วยเขาเสียชีวิต
00:10:55 → 00:10:57 ได้ตัวอย่างเช่น 1 คือทางเดินหายใจฮะ
00:10:57 → 00:11:01 ซันเต้เช่นอครับอุดกั้นตรงคอตรงอะไรเงี้ย
00:11:01 → 00:11:03 เราหายใจไม่ออกใช่มออกซิเจนลดลงนี้มันก็
00:11:03 → 00:11:06 อันตรายกับที่ 2 คือไปทำให้ความดันโลหิต
00:11:06 → 00:11:10 เราตกกลุ่มคนนี้เขาก็จะมีอาการเหมือน
00:11:10 → 00:11:13 วิงเวียนคล้ายๆจะเป็นลมจะวูบจะวูบอฮะครับ
00:11:13 → 00:11:14 อย่างอย่าตอนนั้นมีคนใก้ผมหลายคนเก็
00:11:15 → 00:11:16 พยายามเล่าให้ฟังว่าเออเขกินอาหารนี้เข้า
00:11:16 → 00:11:19 ไปเพราฉว่าน็อคไปเลยน็อคไปเลยคือหมดหมด
00:11:19 → 00:11:23 สติไปเลยแล้วล้มลงไปอันนี้เข้าขายรุนแรง
00:11:23 → 00:11:27 ครับครับถ้ามีอาการอาการระดับไหนครับที่
00:11:27 → 00:11:30 ควรจะต้องไปห้องฉุกเฉินที่โรงพบาะหรือว่า
00:11:30 → 00:11:32 อาการแบบไหนที่เออชิลๆสบายๆเดี๋ยวอีกสัก
00:11:32 → 00:11:35 พักนึงก็คงจะหายไปจริงๆเ่อผมมักจะแนะนำ
00:11:35 → 00:11:38 อย่างเงี้ฮะเราอาจจะไม่ต้องรอให้อาการฟู
00:11:38 → 00:11:40 โบนไล่ตั้งแต่ 1 10 แล้วเราค่อยไปที่โรง
00:11:41 → 00:11:44 พยาบาลก็ได้เอ่อขอเพียงว่าถ้าเกิดเขา
00:11:44 → 00:11:46 เริ่มมีอาการหลังจากกินอาหารที่เขาสงสัย
00:11:46 → 00:11:49 ว่าแพ้นะครับเซนเต้ครับอ่าแล้วเริ่มมี
00:11:49 → 00:11:53 อาการเช่นคันคอมีผืนขึ้นแต่ว่ามันดำเนิน
00:11:53 → 00:11:56 เร็วเช่นตะกี้มันเพิ่งแขนอยู่เองเนาขึ้น
00:11:56 → 00:11:59 ที่แขนจากนั้นมันมาพี่อกมันลงไปไปที่หน้า
00:11:59 → 00:12:02 อ่าแบบนี้เราควรไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
00:12:02 → 00:12:05 เท่าที่ทำได้ครับอื้อหือครับมีคุณผู้ชม
00:12:05 → 00:12:08 ทางบ้านตอนนี้ค่อยๆทยอยคอมเมนต์มานะฮะมี
00:12:08 → 00:12:10 คุณผู้ชมทางบ้านที่รับชมมาจากต่างประเทศ
00:12:10 → 00:12:14 ด้วยนะครับมาทั้งจากทางแอมส์นะครับมาจาก
00:12:14 → 00:12:17 อิตาลีก็มีนะฮะถ้าคุณผู้ชมนะฮะไม่ว่าจะชม
00:12:17 → 00:12:19 อยู่ที่ไหนก็ตามในประเทศหรือต่างประเทศ
00:12:19 → 00:12:22 ถ้าคุณผู้ชมมีอาการภูมิแพ้อาหารโรคภูมิ
00:12:22 → 00:12:25 แพ้อาหารลองส่งข้อความเข้ามาแล้วแชร์กัน
00:12:25 → 00:12:28 ครับมีคุณผู้ชมฮะคุณอัศวินครับบอกว่าคน
00:12:28 → 00:12:32 ที่บ้านแพ้อาหารทะเลครับเข้า ICU ไป 2
00:12:32 → 00:12:36 รอบแล้วแสดงว่าอาการภูมิแพ้อาหารเนี่ยมัน
00:12:36 → 00:12:38 ทำให้ถึงขนาดต้องเข้า ICU ได้เลยเหรอครับ
00:12:39 → 00:12:42 ครับคุณหมอแบนเอ่ออันนี้ถามว่าจริงมจริง
00:12:42 → 00:12:46 อ่าเพราะอาการคุมแพ้แบบเฉียบพลันเนี่ย
00:12:46 → 00:12:49 อย่างที่ผมบอกนับ 1 ไป 2 ไป 3 ไป 4 จน
00:12:49 → 00:12:52 กระทั่งไปถึง 10 การเข้า ICU ผมเดาว่า
00:12:52 → 00:12:55 อาการมักจะเป็น 789 เป็นหลังๆะคือเริ่มมี
00:12:55 → 00:12:59 ทางเือนหายใจติดขัดหายใจไม่ออกมีความดัน
00:12:59 → 00:13:04 ตกก็มีความเป็นไปได้ครับครับหลายๆคนคงจะ
00:13:04 → 00:13:07 พอรู้ตัวว่าตัวเองเนี่ยแพ้อาหารชนิดนั้น
00:13:07 → 00:13:11 ชนิดนี้คุณหมอแบงค์อยู่ในวงการแพทย์ที่
00:13:11 → 00:13:15 รักษาเรื่องของโรคภูมิแพ้อาหารประเภทไหน
00:13:15 → 00:13:17 ครับที่มีคนแพ้กันเยอะๆมีคุณผู้ชมทางบ้าน
00:13:17 → 00:13:21 นะฮะคุณกุ๊กกิ๊กครับบอกว่าสามีแพ้กล้วยมี
00:13:21 → 00:13:25 อาการหายใจติดขัดมีผื่นขึ้นแดงปกติไม่แพ้
00:13:25 → 00:13:29 แต่เพิ่งจะมาแพ้กันตอนอายุ 38 แล้วซึ่ง
00:13:29 → 00:13:31 มันก็คล้ายๆกับที่คุณหมอคุณหมอแบงค์ได้
00:13:31 → 00:13:32 พูดไปตอนต้นว่าจริงๆแล้วมันอาจจะไม่ได้
00:13:32 → 00:13:35 เกิดตอนเด็กก็ได้มันอาจจะพิ่งมาเกิดตอน
00:13:35 → 00:13:38 ที่อายุเยอะแล้วคำถามผมก็คือว่าเอ๊อาหาร
00:13:39 → 00:13:41 ประเภทไหนนะที่จะบอกว่าใช้คำว่าเป็นที่
00:13:41 → 00:13:45 นิยมคงไม่ถูกใช้เป็นว่าอาหารประเภทไหนที่
00:13:45 → 00:13:49 มีคนแพ้จำนวนเยอะๆอ่ะครับคือจริงๆขึ้น
00:13:49 → 00:13:53 อยู่กับอายุขึ้นอยู่กับอ่าเชื้อชาติเพราะ
00:13:53 → 00:13:55 ว่าแต่ละเชื้อชาติเรามีพฤติกรรมการกิน
00:13:55 → 00:13:58 อาหารที่แตกต่างกันไปนะครับคือสำหรับท่าน
00:13:58 → 00:14:00 ในเด็กของของคนไทยอย่างเงี้ครับในเด็กเรา
00:14:00 → 00:14:04 จะเจอเป็นพวกกลุ่มนมแพ้ไข่แพ้ถั่วแป้ง
00:14:04 → 00:14:07 สาลีอาหารทะเลแต่ว่าถ้าในผู้ใหญ่ไทยเนี่ย
00:14:07 → 00:14:10 เท่าที่ตอนนี้ในศิริราชรวบรวมข้อมูลเราก็
00:14:10 → 00:14:12 เจอว่าเออมันเป็นกลุ่มอาหารทะเลเป็นหลัก
00:14:12 → 00:14:15 จากนั้นก็จะมีพวกผลไม้หรือก็เป็นพวกแป้ง
00:14:15 → 00:14:19 สาลีอ่าก็อื่นๆก็มีปับใายนะครับแพ้ถั่ว
00:14:19 → 00:14:22 แพ้ผักแพ้ผลไม้อื่นๆก็มีครับครับงั้นเรา
00:14:22 → 00:14:25 เริ่มจากแพ้อะไรก่อนดีครับแพ้กุ้งดีมครับ
00:14:25 → 00:14:28 เพราะดูหลายๆคนที่ผมรู้จักเนี่ยมักจะแพ้
00:14:28 → 00:14:30 กุ้ง
00:14:30 → 00:14:34 ได้ครับก็จริงๆอย่างแพ้กุ้งเนี่ยก็เป็น
00:14:34 → 00:14:36 อันนึงที่เราเราเริ่มเจอบ่อยแล้วมันจะ
00:14:36 → 00:14:39 เป็นอะไรที่เริ่มมาแพ้ตอนวัยผู้ใหญ่มาก
00:14:39 → 00:14:42 ที่สุดนะครับคือหลายคนเนี่ยต้องบอกก่อน
00:14:42 → 00:14:45 เลยว่าอาหารทะเลหรือพวกกุ้งปูเนี่ยเป็น
00:14:45 → 00:14:47 เมนูโปรดคือพูดง่ายๆถือว่าเป็นความสุขของ
00:14:47 → 00:14:53 เา้าเลยใช่อ่าก็เอ่อการแพ้พวกกุ้งพวกปู
00:14:53 → 00:14:55 พวกเนี้ยหลายครั้งเราก็เจอว่าเออมันเซ้น
00:14:55 → 00:14:57 ผ่านทางระบบทางเรือนอาหารเช่นกันแล้วทำ
00:14:57 → 00:15:00 ให้เวลาเรากลับไปกินอาหารชนิดนั้นอีก
00:15:00 → 00:15:02 เนี่ยภูมิ IG อย่างที่ผมเล่าไปในตอนต้น
00:15:02 → 00:15:04 เรื่องเนี่ยมันก็จะไปจับกับพวกโปรตีนของ
00:15:04 → 00:15:08 กุ้งของปูนะแล้วก็เกิดกระตุ้นให้มีอาการ
00:15:08 → 00:15:12 แพ้ขึ้นมาได้อันนี้ก็เจอบ่อยครับครับครับ
00:15:12 → 00:15:14 เวลาที่พูดถึงกุ้งถึงปูเนี่ยถ้าสมมุติว่า
00:15:14 → 00:15:17 ผมแพ้กุ้งสมมุตินะว่าผมแพ้กุ้งผมมีแนว
00:15:17 → 00:15:20 โน้มว่าผมจะแพ้ปูด้วยมครับ
00:15:20 → 00:15:23 เอ่อการแพ้อันนี้ออันอาจจะเป็นประเด็น
00:15:23 → 00:15:26 เรื่องการแพ้ข้ามกลุ่มนะถ้าท่านผู้ชมลอง
00:15:26 → 00:15:29 ดูในในรูปที่เราเตรียมมาเนี่ยก็จะเห็นว่า
00:15:29 → 00:15:32 ว่ากุ้งล็อบสเตอร์หรือปูเองเนี่ยมันก็จะ
00:15:32 → 00:15:34 มีความเหมือนกันคือมันเป็นสัตว์ในกลุ่ม
00:15:34 → 00:15:37 พวกขาเป็นข้อปล้องใช่มครับอือฮึก็จริงๆ
00:15:37 → 00:15:40 ภูมิของเราเนี่ยมันจะแพ้โปรตีนจากสิ่งมี
00:15:40 → 00:15:43 ชีวิตที่มันมีความใกล้ชิดกันเชิง
00:15:43 → 00:15:46 วิวัฒนาการอ่าอย่างในกุ้งในล็อบสเตอร์ใน
00:15:46 → 00:15:48 ปูอย่างเงี้ยเราเรียกเป็นกลุ่มสัตว์
00:15:48 → 00:15:53 เปลือกแข็งคเชนเราก็จะอ่าเหคเชนคือถ้าเรา
00:15:53 → 00:15:59 แพ้กุ้งปุ๊บเราก็จะมีโอกาสแพ้คชนด้วยกันโ
00:15:59 → 00:16:02 ก้างอยู่ที่ประมาณ 75% ก็ค่อนข้างสูงอยู่
00:16:02 → 00:16:03 ทีเดียวครับอือ
00:16:03 → 00:16:07 ฮึครับมีอันนี้มาตรงกับความถามของคุณเก๋
00:16:08 → 00:16:10 นะครับคุณเก๋บอกว่าลูกสาวกินกุ้งแล้วปาก
00:16:10 → 00:16:14 บวมจะแพ้อาหารทะเลอย่างอื่นด้วยไหมก็จาก
00:16:14 → 00:16:16 คำตอบของคุณหมอแบงก็คือมีโอกาสถูกมั้ย
00:16:16 → 00:16:19 ครับอ่ามีโอกาสที่อาจจะมีการแพ้อาหารทะเล
00:16:19 → 00:16:22 อื่นด้วยที่มีความใกล้ชิดกันในแง่ของ
00:16:22 → 00:16:25 วิวัฒนาการครับผมก็ประมาณ 75% ก็จะเป็นใน
00:16:25 → 00:16:28 กลุ่มเนะครับกุ้งกั้งปูล็อบสเตอร์
00:16:28 → 00:16:30 อ่าแต่ต้องบอกว่าทั้งน้ำจืดทั้งน้ำเค็ม
00:16:31 → 00:16:33 ด้วยนะครับเพราะบางท่านเขาอาจจะเข้าใจว่า
00:16:33 → 00:16:35 เออมันเป็นอาหารทะเลนะมันต้องอยู่ในทะเล
00:16:35 → 00:16:38 อ่าแต่จริงๆคือพวกสัตว์พวกเนี้ยมันมัน
00:16:38 → 00:16:41 เป็นความคล้ายของโปรตีนในเชิงวิวัฒนาการ
00:16:41 → 00:16:43 ดังนั้นเวลาเราแพ้เราจะแพ้ทั้งน้ำจืดทั้ง
00:16:43 → 00:16:45 น้ำเค็มครับเป็นคืออย่างเงี้ยครับพวก
00:16:45 → 00:16:48 สัตว์กลุ่มก้วงกั้งัวล็อบสเตอร์เนี่ยมัน
00:16:48 → 00:16:50 เป็นกลุ่มไม่มีกระดูกสันหลังอโปรตีนบาง
00:16:50 → 00:16:52 อย่างมันจะไปคล้ายกับสัตว์ไม่มีกระดูกสัน
00:16:52 → 00:16:55 หลังด้วยกันด้วยตัวอย่างเช่นอ่าในหมึกใน
00:16:55 → 00:16:59 หอยก็อาจจะมีโอกาสแพ้ข้ามกันแต่เนื่องจาก
00:16:59 → 00:17:01 ว่ามันอาจจะเป็นสัตว์ที่อยู่คนละเค้า
00:17:01 → 00:17:04 เรียกว่าคนละไฟลั่มกันน่ะนะฮะโอกาสที่แพ้
00:17:04 → 00:17:06 หมึกกับหอยด้วยเนี่ยก็มีแต่ว่าอาจจะ
00:17:06 → 00:17:08 เปอร์เซ็นต์น้อยกว่าอยู่ที่ประมาณสัก 20
00:17:08 → 00:17:12 30% ประมาณเนี้ยครับอครับกลับมาที่แพ้
00:17:12 → 00:17:15 กุ้งครับบางคนบอกว่าที่เขาแพ้กุ้งอ่ะเขา
00:17:15 → 00:17:18 แพ้เป็นส่วนๆเขาอาจจะไม่ได้แพ้ที่เนื้อ
00:17:18 → 00:17:21 กุ้งเขาอาจจะแพ้ที่เปลือกกุ้งอย่างนี้มัน
00:17:21 → 00:17:24 เป็นไปได้ไหมครับอ่าต้องบอกตังงๆเรามีคน
00:17:24 → 00:17:26 ไข้ที่ให้ประวัติแบบที่อาจารย์เต้พูด
00:17:26 → 00:17:30 เหมือนกันมีเยอะพอสมควรด้วยเอ่อคือหลัก
00:17:30 → 00:17:32 การของการแพ้อาหารทะเลจริงๆมันเกิดจาก
00:17:32 → 00:17:35 โปรตีนครับมันมักจะเป็นสารโปรตีนที่มัน
00:17:35 → 00:17:38 อยู่ในตัวอกล้ามเนื้อกุ้งหรือในตัวกุ้ง
00:17:38 → 00:17:40 เนี่ยซึ่งบางครั้งการกระจายตัวของไอ้
00:17:40 → 00:17:43 โปรตีนที่ว่าเนี่ยมันมันไม่เท่ากันในแต่
00:17:43 → 00:17:46 ละส่วนเช่นโปรตีนชนิดนี้มันอาจจะกระจาย
00:17:46 → 00:17:49 มากหน่อยในส่วนลำตัวส่วนหัวอาจจะน้อย
00:17:49 → 00:17:53 หน่อยส่วนหางอาจจะมากหน่อยครับครับก็มัน
00:17:53 → 00:17:55 เป็นไปได้อยู่ครับว่าถ้าเกิดคนไข้คนนั้น
00:17:55 → 00:17:58 เขาไปแพ้โปรตีนที่มันเจอเยอะในส่วนลำตัว
00:17:58 → 00:18:00 เขก็จะแบบกินลำตัวแล้วก็มีปัญหาในขณะที่
00:18:01 → 00:18:03 กินหัวอาจจะไม่มีปัญหาแต่ผมเองก็ไม่ค่อย
00:18:03 → 00:18:07 แนะนำให้ให้ให้จำในหลักการที่ว่ากินลำตัว
00:18:07 → 00:18:10 ได้แต่ว่าเอ่อกินลำตัวไม่ได้แต่ให้ไปกิน
00:18:10 → 00:18:12 ตรงหัวเพราะว่ามันก็จะมีโปรตีนกระจาย
00:18:12 → 00:18:15 กระจายทั่วๆกันไปในสัส่วนมากน้อยต่างกันเ
00:18:15 → 00:18:18 ครับอือฮึครับบางทีเวลาที่เราเห็นกุ้ง
00:18:18 → 00:18:22 เป็นตัวๆปูเป็นตัวๆแล้วเรารู้ว่าเราแพ้
00:18:22 → 00:18:25 สิ่งนั้นเราก็จะพยายามเลี่ยงอนะครับแต่
00:18:25 → 00:18:29 ถ้ากุ้งหรือปูเนี่ยมันมาถูกผ่านกระบวนการ
00:18:29 → 00:18:31 บางอย่างแล้วแล้วแล้วมันอาจจะทำให้เรามอง
00:18:32 → 00:18:35 ไม่เห็นว่ามันเคยเป็นกุ้งหรือปูมาก่อน
00:18:35 → 00:18:38 อย่างเนี้ยเมื่อมันกลายเป็นผลิตภัณฑ์แปร
00:18:38 → 00:18:40 รูปไปแล้วเนี่ยมันมีโอกาสที่จะทำให้เรา
00:18:40 → 00:18:43 แพ้ได้มครับเพราะว่าเมื่อผ่านกิเอ่อเมื่อ
00:18:43 → 00:18:45 ผ่านพวกกระบวนการในการแปรรูปแล้วมันอาจจะ
00:18:45 → 00:18:48 โดนความร้อนอาจจะโดนสารเคมีบางอย่างแล้ว
00:18:48 → 00:18:50 จะทำให้สารที่มันก่อภูมิแพ้มันเสียสภาพไป
00:18:50 → 00:18:53 ได้มั้ครับเป็นไปได้มั้ยอประเด็นนี้ก็น่า
00:18:53 → 00:18:56 สนใจเหมือนกันครับจันเต้คือบางครั้งองค์
00:18:56 → 00:18:59 ประกอบของกุ้งปูเนี่ยยมันยังหลงเหลืออยู่
00:18:59 → 00:19:02 ในอาหารที่เขาแปรรูปะบางเอาจจะมองแล้ว
00:19:02 → 00:19:05 เอ๊ะมันมันไม่มีความเป็นรูปร่างกุ้งปู
00:19:05 → 00:19:07 เหลืออยู่ะแต่ว่ามันยังมีโปรตีนของมัน
00:19:07 → 00:19:10 อยู่อ่าตัวอย่างเช่นในกะปิกอย่างเงี้ยมัน
00:19:10 → 00:19:13 ก็ยังอาจจะมีอ่าเคยนะเคยก็เป็นกุ้งชนิด
00:19:13 → 00:19:18 นึงในเข้าเกียบกุ้งอ่าหรือในน้ำสลัดบาง
00:19:18 → 00:19:21 ชนิดมันก็อาจจะมีส่วนผสมของพวกสัตว์ใน
00:19:21 → 00:19:25 กลุ่มคเชนที่ให้กลิ่นหอมแต่จริงๆที่มีอีก
00:19:25 → 00:19:27 อันนึงฮะอาจารย์เต้คือผมเจอคนไข้เล่าว่า
00:19:27 → 00:19:31 ไปกินอ่าชาบูอ่าเป็นชาบูร้านดังบังเอิญ
00:19:31 → 00:19:35 กลิ่นของเขาจะมีลักษณะเฉพาะคือหอมอือฮึ
00:19:35 → 00:19:38 ส่วนใหญ่ความหอมมันจะได้จากพวกอ่าเปลือก
00:19:38 → 00:19:40 หรือกระดองจากสั่นในกลุ่มครัสเตเชียน
00:19:40 → 00:19:42 เนี่ยฮะดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่มันจะปน
00:19:42 → 00:19:45 เปื้อนอยู่ในอาหารที่เรามองไม่ถึงมองๆอง
00:19:45 → 00:19:48 ไม่ออกแล้วก็เกิดอาการแพ้ได้ครับครับมี
00:19:48 → 00:19:51 คุณผู้ชมเริ่มเริ่มส่งข้อความมานะครับ
00:19:51 → 00:19:53 อย่างเช่นคุณนิสาครับอยู่ที่ประเทศ
00:19:53 → 00:19:56 เยอรมนีครับบอกว่าเป็นภูมิแพ้อาหารทะเล
00:19:56 → 00:19:59 ค่ะส่วนอีกคนนึงนะฮะมาจากเอ่อผู้ชมผ่าน
00:19:59 → 00:20:01 Facebook ครับวันนี้เราไลฟ์ทั้งทาง
00:20:01 → 00:20:03 YouTube แล้วก็ Facebook มีท่านนึงนะฮะ
00:20:03 → 00:20:06 เอ่อคุณน้อยหน่าครับเข้าใจว่าคุณน้อยหนา
00:20:06 → 00:20:08 นะฮะถ้าผมอ่านชื่อผิดต้องขออภัยด้วยบอก
00:20:08 → 00:20:12 ว่าเอ่อคุณน้อยหนาแพ้แมงกะพรุนเออนะเราก็
00:20:12 → 00:20:14 ไม่แมงกะพรุนมันก็ไม่ใช่สัตว์ที่เป็น
00:20:14 → 00:20:16 สัตว์เปลือกแข็งเนาะมันก็ไม่ได้อยู่ในพวก
00:20:16 → 00:20:19 กลุ่มชียนแต่ก็มีโอกาสจะนำมาซึ่งอาการแพ้
00:20:19 → 00:20:22 ได้เหมือนกันใช่มั้ยฮะออจริงๆผมเองส่วน
00:20:22 → 00:20:25 ตัวก็อ่ายังยังไม่เคยเจอกับตัวเหมือนกัน
00:20:25 → 00:20:30 นะแต่แต่มีรายงานในในเค้าเรียกเคส Report
00:20:30 → 00:20:32 เป็นการรายงานทางการแพทย์ว่ามีคนที่แพ้
00:20:32 → 00:20:36 อ่าพวกแมงกะพรุนเนี่ยอยู่จริงอือซึ่งมัน
00:20:36 → 00:20:38 มันก็มักจะเป็นโปรตีนที่อยู่ในตัวเนื้อ
00:20:38 → 00:20:40 ของแมงกะพุนเองนั่นแหละอือฮึเพียงแต่ว่า
00:20:40 → 00:20:43 อาจจะยังไม่มีการศึกษาที่คล้ายๆลงลึกใน
00:20:43 → 00:20:45 ระดับโมเลกุลว่าเออมันไปแพ้ตองค์ประกอบ
00:20:45 → 00:20:47 ส่วนไหนส่วนอะไรเงี้ยครับครับมีความเป็น
00:20:47 → 00:20:51 ไปได้อยู่ครับครับอาหารที่แพ้ขเยอะๆก็คง
00:20:51 → 00:20:54 จะเป็นกุ้งปูแล้วก็อาหารทะเลมีอาหารกลุ่ม
00:20:54 → 00:20:57 ไหนอีกมยครับที่มีมีคนแพ้จำนวนค่อนข้างจะ
00:20:57 → 00:21:00 เยอะจริงๆจเท่าที่ผมสังเกตในในผู้ใหญ่ไทย
00:21:00 → 00:21:03 นะฮะแล้วตอนนี้มันดูลักษณะคล้ายๆเหมือน
00:21:03 → 00:21:06 Out เบรกเลยยังมีอีก 2 กลุ่มคือแป้งสาลี
00:21:06 → 00:21:11 กับแป้งสาลีผลไม้ครับจันเต้ผลไม้ก็แพ้ได้
00:21:11 → 00:21:14 ผลไม้ก็แพ้ได้ครับโอครับคล้ายๆกับสามีคุณ
00:21:15 → 00:21:17 กุ๊กกิ๊กเลยครับที่บอกว่าแพ้แพ้กล้วยแพ
00:21:17 → 00:21:20 แพ้กล้วยฮะครับอเริ่มจากแป้งสาลีครับคุณ
00:21:20 → 00:21:25 หมอแบงค์ครับผมเอ่อแบงสาลีเนี่ยจริงๆ
00:21:25 → 00:21:28 สาเหตุว่าร่างกายทำไมถึงแพ้หลักการมันจะ
00:21:28 → 00:21:30 เหมือนกันกับพวกกลุ่มแพ้อาหารทะเลเลยนะ
00:21:31 → 00:21:32 คือมันก็เกิดจากการที่ร่างกายเรามันมี
00:21:32 → 00:21:35 ปฏิกริยาภูมิแพ้ต่อโปรตีนในตัวของแป้ง
00:21:35 → 00:21:39 สาลีโปออ่าแสดงว่าแป้งสาลีต้องมีโปรตีน
00:21:39 → 00:21:42 แน่ๆเลยใช่มั้ครับแต่มันเป็นแป้งใช่มโปีน
00:21:42 → 00:21:44 อยู่แต่อาจะดูว่าเอ๊ยมันเป็นแป้งนะแต่
00:21:44 → 00:21:47 จริงๆในนั้นมันมีมันมีโปรตีนมงประกอบอยู่
00:21:47 → 00:21:50 ครับครับฮะคือแป้งสาลีเนี่ยที่ผมอยากมา
00:21:50 → 00:21:54 เล่าเพราะว่าเราเราเจอว่าหลายคนเขาก็กิน
00:21:54 → 00:21:57 ดีอยู่ดีอะไรมาได้โดยตลอดนะแต่พอวันนึง
00:21:57 → 00:21:59 วันดีคืนร้ายเกลับมาแพ้เอ่อแป้งสาลีเนี่ย
00:21:59 → 00:22:02 โอ้โหเคใช้ชีวิตยากมากครับอาจารย์เต้
00:22:02 → 00:22:04 เพราะเพราะแป้งสาลีนี่มันเป็นอาหารที่เจอ
00:22:04 → 00:22:06 อยู่ในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะในคนไทยเนา
00:22:06 → 00:22:09 อาหารไทยเรามีผสมแป้งผสมอะไรโอหอยู่เต็ม
00:22:09 → 00:22:13 เลยไม่ว่าจะเป็นเอ่ออ่าบะหมี่ใช่มั้ยฮะพก
00:22:13 → 00:22:17 เบเกอรี่ครับอ่าปลาท่องโก๋พวกเส้นพาสต้า
00:22:17 → 00:22:19 หรือพวกอาหารชุบแป้งทอดทั้งหลายเนี่ยอัน
00:22:19 → 00:22:22 นี้ก็ของโกรดเลยคือกินกลายเป็นกินไม่ได้
00:22:22 → 00:22:24 อีกต่อไปฮะ
00:22:24 → 00:22:28 ครับแล้วคือเวลาที่เราแพ้นี่คือเราแพ้
00:22:28 → 00:22:31 โปรตีนที่อยู่ในแป้งสาลีถูกมั้ยครับ
00:22:31 → 00:22:33 โปรตีนตัวนี้มันมันมันมีชื่อเรียกของมัน
00:22:33 → 00:22:36 มั้ยครับอ่าจริงๆมักจะอยู่ในกลุ่มที่
00:22:36 → 00:22:39 เรียกว่ากลูเตนน่ะนะครับซึ่งจริงๆมันก็มี
00:22:39 → 00:22:41 ชื่อย่อยๆกลูเตนเหมือนเป็นชื่อชื่อโปรตีน
00:22:41 → 00:22:44 อ่าเป็นกลุ่มใหญ่ๆแล้วกันผมยกตัวอย่าง
00:22:44 → 00:22:46 ให้ยๆแล้วฮะเราก็จะแพ้ตัวโมเลกุลที่เป็น
00:22:46 → 00:22:50 กลูเตนที่มันอยู่ในแป้งสาลีครับผมแล้วก็
00:22:50 → 00:22:54 จะมีอาการออกมาต่างๆนาาในแป้งสาลีเนี่ย
00:22:54 → 00:22:57 มันจะมีความพิเศษต่างจากอาหารทั่วไปนิด
00:22:57 → 00:22:59 นึงเพราะเราจะเจอแพทเทินการแพ้แปลกๆครับ
00:22:59 → 00:23:02 อาจารย์เตยังไงครับคืออย่างในคนทั่วไป
00:23:02 → 00:23:05 เนี่ยเรากินกุ้งใช่มั้ยครับกินปุ๊บแพ้
00:23:05 → 00:23:09 ปั๊บปากบวมคันปากอ่าแต่ในแป้งสาลีมันมี
00:23:09 → 00:23:11 อยู่ 2 แบบแบบที่ 1 คือมันก็เหมือนกุ้ง
00:23:11 → 00:23:14 นั่นแหละกินปุ๊บแพ้ปั๊บแต่มันจะมีแบบที่
00:23:14 → 00:23:18 ไม่ได้แพ้ทันทีแปลว่าเขาต้องกินแป้งสาลี
00:23:18 → 00:23:21 เข้าไปก่อนแล้วเขไปออกกำลังกายอ่าแล้วเขา
00:23:21 → 00:23:23 ก็ถึงค่อยมีอาการแพ้รุนแรงเราเรียกโรคนี้
00:23:23 → 00:23:27 ว่าเป็นการแพแป้งสาลีชนิดที่สัมพันธ์กับ
00:23:27 → 00:23:30 การออกกำลังกายเอชโรคยาวนิดนึงอ่าซึ่งเรา
00:23:30 → 00:23:33 ก็เจอเจอได้บ่อยในผู้ใหญ่ครับอ้าผมก็นึก
00:23:33 → 00:23:36 ว่าการที่บำรุงรักษาร่างกายให้แข็งแรง
00:23:36 → 00:23:39 ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยลด
00:23:39 → 00:23:41 โอกาสในการที่จะเป็นโรคภูมิแพ้แต่ฟังจาก
00:23:41 → 00:23:44 ที่คุณหมอแบงค์พูดปรากฏว่าการออกกำลังกาย
00:23:44 → 00:23:47 ยิ่งทำให้มันแย่ลงเหรอครับออการออกกำลัง
00:23:47 → 00:23:49 กายจริงๆผมยอมรับมันเป็นสิ่งดีนะสำหรับคน
00:23:49 → 00:23:52 ทั่วๆไปแต่ว่าในฟิของแพ้อาหารเนี่ยเราจะ
00:23:52 → 00:23:54 มองว่าอย่างงี้ครับเวลาเรากินอาหารเข้าไป
00:23:54 → 00:23:57 สักอย่างนึงอาหารมันค้างในลำไส้เราอ่ามัน
00:23:57 → 00:23:59 ย่อยมันอาจจะมีบางส่วนที่เป็นโปรตีนหลง
00:23:59 → 00:24:02 เหลืออยู่นะฮะทีนี้การเราที่เราไปออก
00:24:02 → 00:24:06 กำลังกายเอยการไปกินร่วมกับแอลกอฮอล์เอย
00:24:06 → 00:24:08 หรือไปกินร่วมกับพวกยาแก้ป่วดรสไข้ใน
00:24:08 → 00:24:11 กลุ่มพวกเอเสอย่างเงี้ยครับครับมันจะมีผล
00:24:11 → 00:24:15 ไปกระตุ้นการดูดซึมเอ่อในลำไส้เราให้มัน
00:24:15 → 00:24:19 เข้ากระแสเลือดได้มากขึ้นมีความอ่ามี
00:24:19 → 00:24:21 อาการแพ้ได้ไวขึ้นคือพูดง่ายๆว่าถ้ากิน
00:24:21 → 00:24:25 เฉยๆกินแป้งเฉยๆนะฮะสบายดีไม่มีอะไรออก
00:24:25 → 00:24:28 กำลังกายเฉยๆไม่มีอะไรแต่ถ้า 2 อันเนี่ย
00:24:28 → 00:24:31 มันมามันมาเจอกันกินด้วยออกกำลังด้วยอัน
00:24:31 → 00:24:33 นี้จะมีอาการแพ้แล้วมักจะเป็นแพ้รุนแรง
00:24:33 → 00:24:37 ด้วยครับอือฮึเพราะฉะนั้นถ้าเผื่อรู้ตัว
00:24:37 → 00:24:41 ว่ามีอาการแพ้แป้งสาลีก็อยกินไปออกกำลัง
00:24:41 → 00:24:42 กายไปอย่างงั้นเป็นข้อแนะนำได้มั้ครับ
00:24:42 → 00:24:44 หรือว่ายังไงดีครับหรือคุณจะเลี่ยงไปทั้ง
00:24:44 → 00:24:48 หมดเลยก็จริงๆถ้าตามแนวทางที่ต่างประเทศ
00:24:48 → 00:24:50 เค้าก็แนะนำนะว่าเอ่อถ้าเป็นไปได้เนี่ย
00:24:50 → 00:24:53 เ่อเลี่ยงได้ดีกว่าแต่ถ้าเกิดว่าเรากิน
00:24:53 → 00:24:57 อ่ะเราก็อย่าเพิ่งไปออกกำลังกายห่างห่าง
00:24:57 → 00:24:59 กับตอนที่กินไว้นานสักนิดนึงประมาณสัก 6
00:24:59 → 00:25:03 ชั่วโมงก็อาจจะกำลังปลอดภัยครับครับแต่
00:25:03 → 00:25:06 แต่ส่วนตัวที่ผมดูในคนไทยครับอาจารย์เต้
00:25:06 → 00:25:09 คือคนไทยจะมีความไวค่อนข้างมากกว่าในใน
00:25:09 → 00:25:12 ข้อมูลของต่างชาตินะเอ้อคือเา้าเว้นก็
00:25:12 → 00:25:15 จริงนะ 6 ชมงบางคนเว้นเป็น 10 ชั่วโมงบาง
00:25:15 → 00:25:18 คนเว้นข้ามวันแต่ไปออกกำลังกายอีกวันนึง
00:25:18 → 00:25:21 ก็ก็มีอาการไปแพ้ข้ามวันได้เช่นกันโอ้โห
00:25:21 → 00:25:25 ออแต่นานๆเราก็จะเจอทีครับแบบนี้ครับครับ
00:25:25 → 00:25:29 ครับอาการแพ้แป้งสาลีภูมิแพ้แป้งสาลี
00:25:29 → 00:25:32 เนี่ยปกติแล้วยังไงครับใครใครเป็นกลุ่ม
00:25:32 → 00:25:34 เสี่ยงบ้างจะเป็นเฉพาะในผู้ใหญ่หรือเปล่า
00:25:34 → 00:25:36 ครับหรือว่าเด็กก็สามารถจะมีอาการนี้ได้
00:25:36 → 00:25:39 เอ่าโรคแพแป้งสาลีจริงๆเราเจอได้ทั้งใน
00:25:39 → 00:25:42 เด็กแล้วก็ในทั้งผู้ใหญ่แต่มันก็อาจจะมี
00:25:42 → 00:25:44 ความแตกต่างกันอ่ะนะครับอย่างในเด็กเนี่ย
00:25:44 → 00:25:46 อย่างตะกี้ที่เราเกริ่นไปในตอนต้นรายการ
00:25:46 → 00:25:50 ว่าเราเซ้นได้ 3 ทางทางอาหารผิวหนังทาง
00:25:50 → 00:25:53 การหายใจใช่มั้ยฮะอครับในเด็กหลักๆมันก็
00:25:53 → 00:25:57 จะเป็นทางทางเดินอาหารเป็นเป็นหลักแต่ใน
00:25:57 → 00:25:59 ผู้ใหญ่เนี่ยผมเจอคือค่อนข้างหลากหลายนะ
00:25:59 → 00:26:03 ครับอาจจะเป็นทางดินอาหารก็ได้กินปุ๊บแพบ
00:26:03 → 00:26:06 ปั๊บหรืออาจจะเซ้นผ่านทางผิวหนังก็ได้
00:26:06 → 00:26:09 อย่างที่ประเทศญี่ปุ่นเนี่ยมันมีเหตุ
00:26:09 → 00:26:11 การณ์ประหลาดเกิดขึ้นอย่างนึงครับจันเต้
00:26:11 → 00:26:15 ครับคืออยู่ๆมีคนเป็นพันคนแพ้แป้งสาลี
00:26:15 → 00:26:19 พร้อมกันประมาณประมาณในช่วงปี 2 ปีอือ่อ
00:26:19 → 00:26:22 ซึ่งมันคล้ายๆเหมือนการระบาดสักอย่างน
00:26:22 → 00:26:23 ซึ่งปกติโลคภูมิแพ้มันไม่ใช่เป็น
00:26:23 → 00:26:26 แพทเทิร์นเหมือนการระบาดเหมือนเป็นเเบรก
00:26:26 → 00:26:29 ฮะครับแต่คนญี่ปุ่นเค้าพอเจอปรากฏการณ์
00:26:29 → 00:26:32 นี้เขาไม่ยอมเก็เข้าไปเ่อวิจัยไปสืบค้น
00:26:32 → 00:26:35 เลยปรากฏว่าผู้หญิงกลุ่มเนี้ยส่วนใหญเป็น
00:26:35 → 00:26:37 ผู้หญิงนะเขาให้ประวัติอย่างนึงเหมือนกัน
00:26:37 → 00:26:40 คือเขาไปใช้สบู่ยี่ห้อนึงอืซึ่งมันมี
00:26:41 → 00:26:43 โปรตีนของแป้งสาลีผสมเข้าไปคือพวกนี้มัน
00:26:43 → 00:26:46 เวลาใช้ล้างหน้าถูตัวก็จะนุ่มรื่นนะผู้
00:26:46 → 00:26:51 หญิงชอบอือใช้แรกๆอาจจะไม่มีอะไรแต่พอใช้
00:26:51 → 00:26:53 ไปประมาณสักเกือบปีนึงก็เริ่มมีผืนคันมี
00:26:53 → 00:26:56 อะไรที่หน้าอือ่าเขาก็ทิ้งสบู่นั้นไปแล้ว
00:26:56 → 00:26:59 ก็ลืมสักพักคนกลุ่มเนี้ยเขาก็ไปกินเส้น
00:26:59 → 00:27:02 อูด้งไปกินเบเกอรี่อแล้วเขาก็มีอาการแพ้
00:27:02 → 00:27:05 รุนแรงขึ้นมาครับอ่าแล้วก็จะเจอเป็น
00:27:05 → 00:27:10 แพทเทิร์นนี้กับอีกแบบนึงในอในในต่าง
00:27:10 → 00:27:13 ประเทศที่เขาเจอเป็นเกอร์แสมหรือคนที่เขา
00:27:13 → 00:27:16 ทำเป็นเป็นคนทำเบเกอรี่อนะครับแล้วสูตร
00:27:16 → 00:27:18 หายใจโงแป้งเข้าไปอันนี้จะมีอาการหลอดลม
00:27:18 → 00:27:21 ติเป็นอาการเด่นครับออือฮึเพราะฉะนั้นคน
00:27:21 → 00:27:25 ที่มีภูมิแพ้แป้งสาลีอาจจะไม่ใช่จากการ
00:27:25 → 00:27:28 กินอย่างเดียวถูกมั้ยฮะมันอาจจะมาเจอมา
00:27:28 → 00:27:31 จากการสัมผัสหรืออาจจะเป็นการหสูดหายใจ
00:27:31 → 00:27:34 เข้าไปและนำไปสู่อาการตอบสนองที่มัน
00:27:34 → 00:27:37 รุนแรงถูมั้ยครับครับถูกต้องครับพอฟังจาก
00:27:37 → 00:27:39 คุณหมอแบงค์แล้วเนี่ยดูเหมือนว่ามันคงจะ
00:27:39 → 00:27:42 มีส่วนผสมของแป้งสาลีในผลิตภัณฑ์อยู่หลาย
00:27:42 → 00:27:45 ๆประเภทที่เราควรจะต้องเลี่ยงถูกมั้ยครับ
00:27:45 → 00:27:48 คุณหมอแบงค์พอจะยกตัวอย่างของผลิตภัณฑ์
00:27:48 → 00:27:51 ที่อาจจะมีแป้งสาลีที่เรานึกไม่ถึงก็ได้
00:27:51 → 00:27:53 เพราะว่าถ้าเห็นว่ามันเป็นเส้นบะหมี่เป็น
00:27:53 → 00:27:55 เส้นพาสต้าแล้วก็ยังพอนึกออกว่ามันคงอาจ
00:27:55 → 00:27:59 จะมีแป้งสาลีเป็นส่วนผสมแต่มันมีอาหาร
00:27:59 → 00:28:01 ประเภทไหนหรือว่าผลิตภัณฑ์ประเภทไหนที่
00:28:01 → 00:28:04 เราอาจจะต้องระวังตัวมถ้าเรารู้ว่าเรา
00:28:04 → 00:28:07 เป็นโรคภูมิแพ้แป้งสาลีครับอ่าจริงๆแล้ว
00:28:07 → 00:28:10 ในนอกจากอาหารกลุ่มที่กล่าวไปนะครับอย่าง
00:28:10 → 00:28:14 ในกลุ่มของพวกซอสปรุงรสพวกซีอิ๊วขาวพวก
00:28:14 → 00:28:17 เต้าเจี้ยวอ่าจริงๆเราเราก็มีองค์ประกอบ
00:28:17 → 00:28:21 ของของโปรตีนแป้งสาลีมีอยู่ได้บ้างอเพียง
00:28:21 → 00:28:23 แต่ว่ามันอาจจะมีในสัดส่วนที่ไม่ได้ไม่
00:28:23 → 00:28:25 ได้เยอะมากอย่างที่คิดไว้มันมันมีแต่น้อย
00:28:25 → 00:28:28 อ่ะนะครับครับคือแต่แต่ทั้งนี้เนี่ยบางคน
00:28:28 → 00:28:31 ที่เขาไวมากจริงๆเกินพวกซอสปรุงรสอะไรพวก
00:28:31 → 00:28:34 นี้เข้าไปก็ก็มีอาการเราก็เจอมาได้ปะปลาย
00:28:34 → 00:28:39 ครับอครับถ้าถ้าผมดูที่ซอสปรุงรสผมก็ถ้า
00:28:39 → 00:28:42 เผื่อผมไม่ได้มีอาการเป็นโรคภูมิแพ้แป้ง
00:28:42 → 00:28:44 สาลีผมก็คงจะไม่รู้สึกว่าแล้วมันจะมีแป้ง
00:28:45 → 00:28:48 สาลีหรือเปล่าแต่ถ้าเผื่อถ้าเผื่อผู้ที่
00:28:48 → 00:28:51 เป็นคนไข้เป็นผู้ป่วยเนื่องมาจากโรคภูมิ
00:28:51 → 00:28:54 แพ้แป้งสาลีเขาจะรู้ได้ยังไงครับว่า
00:28:54 → 00:28:57 ผลิตภัณฑ์เนี่ยเจ้าเครื่องปรุงรสเนี่ยมัน
00:28:57 → 00:28:59 มีแป้งสาลีอยู่มันมีที่ไหนบอกไว้อะไร
00:28:59 → 00:29:01 อย่างไรหรือเปล่าครับหรือว่าจะต้องมี
00:29:01 → 00:29:03 ประสบการณ์แล้วเกิดอาการแพ้ขึ้นมาถึงจะ
00:29:04 → 00:29:06 ได้ยนรู้ว่าออนี่ฉันกำลังแพ้สิ่งนี้ที่
00:29:06 → 00:29:09 มันอยู่ในเจ้าขวดปรุงรสนี้นะโอเคครับจริง
00:29:09 → 00:29:13 ๆถ้าให้ดีนะฮะหมอเองแนะนำว่าอ่าอ่านฉลาก
00:29:13 → 00:29:16 ก่อนกินหรือก่อนจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม
00:29:16 → 00:29:20 เนี้ยได้ยิ่งดีอ่าปัจจุบันมันก็จะมีกฎของ
00:29:20 → 00:29:23 ทางอยอยู่นะครับว่าในเอ่ออาหารกลุ่ม
00:29:23 → 00:29:26 เสี่ยงที่เราเจอว่าแพ้ได้บ่อยในประชากร
00:29:26 → 00:29:29 เนี่ยนะมันก็จะมีประมาณ 8 ตัวด้วยกันเก็
00:29:30 → 00:29:31 จะเป็นเหมือนกฎข้อบังคับเลยครับอาจารย์
00:29:31 → 00:29:34 เต้ว่าเราจะต้องมีการเขียนระบุอยู่ไว้ใน
00:29:34 → 00:29:38 ฉลากเลยว่าออ่อมีสารตัวนี้อยู่คำที่อาจจะ
00:29:38 → 00:29:41 สังเกตง่ายๆนะครับก็คือกลูเตนฟรีครับอ่า
00:29:41 → 00:29:43 ถ้าเกิดเราพลิกไปเราเจอคำว่ากลูเตนฟรีถ้า
00:29:43 → 00:29:46 เป็นฉลากภาษาอังกฤษนะครับก็ก็แปลว่าเขา
00:29:46 → 00:29:49 อาจจะไม่มีแป้งไม่มีแป้งสาลีแล้วก็กลูเตน
00:29:49 → 00:29:52 ซึ่งมันเป็นโปรตีนในนั้นก็ก็สามารถใช้ได้
00:29:52 → 00:29:55 นะครับอือฮึครับเพราะฉะนั้นถ้าเผื่อคุณ
00:29:55 → 00:29:58 ผู้ชมนะฮะมีอาการโรคภูมิแพ้อยู่โดยเฉพาะ
00:29:58 → 00:30:01 ภูมิแพ้แป้งสาลีอันดับแรกเลยแนะนำให้ดู
00:30:01 → 00:30:04 ที่ชลากกรเลยเนาะว่ามีส่วนผสมของแป้งสาลี
00:30:04 → 00:30:07 หรือเปล่าหรือเขาเขียนระบุไว้เลยหรือ
00:30:07 → 00:30:10 เปล่าว่าเป็นกลูเตนฟรีก็คือปราศจากโปรตีน
00:30:10 → 00:30:13 ที่ชื่อว่ากลูเตนซึ่งเป็นโปรตีนที่พบอยู่
00:30:13 → 00:30:16 ในแป้งสาลีคุณหมอแบงค์ครับมีคุณผู้ชมถาม
00:30:16 → 00:30:19 มาครับชื่อคุณนิภาวันครับคุณนิภาวัลย์
00:30:19 → 00:30:23 ตติยนันทพรครับถามว่าเมื่ออายุมากขึ้น
00:30:23 → 00:30:28 ภูมิแพ้อาหารแป้งสาลีมีโอกาสหายไคะตรวจเร
00:30:28 → 00:30:32 ไปตรวจเลือด IG แล้วไม่พบแต่ทานแล้วแพ้
00:30:32 → 00:30:34 อย่างงี้ยังไงดีครับโอกาสที่จะหายเป็นยัง
00:30:34 → 00:30:37 ไงมีมีโอกาสที่จะหายมครับเป็นเป็นคำถาม
00:30:37 → 00:30:39 ที่น่าสนใจเหมือนกันวันนี้เราได้คำถามดีๆ
00:30:39 → 00:30:42 จากผู้ชมทางบ้านมาเยอะพอสมควรใช่ครับคุณ
00:30:42 → 00:30:46 ผู้ชมน่ารักเสมอครับครับคืออย่างงี้ครับ
00:30:46 → 00:30:49 ในเรื่องการแพ้อาหารเอย่างในเด็กที่เขา
00:30:49 → 00:30:52 แพ้อาหารแล้วก็โตขึ้นมาเหายอันเนี้ยเรามี
00:30:52 → 00:30:55 ข้อมูลทางการแพทย์ชัดเจนละแต่สำหรับการ
00:30:55 → 00:30:58 แพ้อาหารที่เป็นโภแป้งสาลีนะที่มันเริ่ม
00:30:58 → 00:30:59 เกิดในวัยผู้ใหญ่เนี่ยอันนี้ต้องบอกก่อน
00:30:59 → 00:31:03 ข้อมูลยังมีจำกัดอืแต่จากข้อมูลที่ผ่านมา
00:31:03 → 00:31:07 เนี่ยเอ่ออันที่ 1 คือของทางอิตาลีเนี่ย
00:31:07 → 00:31:12 เราพบว่าเมื่อเวลาผ่านไปประมาณซักเอ่อ 5
00:31:12 → 00:31:14 ปีก็มีบางคนหายนะแล้วก็เป็นคนส่วนใหญ่
00:31:14 → 00:31:17 ด้วยอ๋อเหรอเก็จะสามารถกลับมากินพาสต้า
00:31:17 → 00:31:20 กลับมากินพิซซ่าอะไรได้เหมือนตามเดิมอือ
00:31:20 → 00:31:23 ฮึในขณะที่บางประเทศอย่างในญี่ปุ่นนะครับ
00:31:23 → 00:31:28 เราก็พบว่าภูมิของอ่า IG ต่อแป้งสาลีไม่
00:31:28 → 00:31:32 ค่อยหายเมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี 10 ปีอือฮึ
00:31:32 → 00:31:34 ส่วนตัวของในประเทศไทยตอนนี้ยังไม่มีข้อ
00:31:34 → 00:31:37 มูลเหมือนกันแต่แต่ผมเองก็กำลังรวบรวมเ่อ
00:31:37 → 00:31:39 ดูเรื่องการดำเนินโลกอยู่ก็คิดว่าส่วน
00:31:39 → 00:31:42 ใหญ่คนไทยก็ก็นานเหมือนกันนะครับส่วนใหญ่
00:31:42 → 00:31:46 เกิน 5 ปีครับอาจารย์รพีอือฮึครับครับแต่
00:31:46 → 00:31:49 ที่ว่าเกิน 5 ปีนี่คือแล้วมันจะหายไปหลัง
00:31:49 → 00:31:51 จาก 5 ปีหรือว่า 5 ปีแล้วก็ยังมีอยู่ครับ
00:31:51 → 00:31:55 ไคือเนื่องจากตอนเเรายังเก็บติดตามไปได้
00:31:55 → 00:31:58 แค่ประมาณ 5 ปีเราก็อาจจะรู้แค่ข้อมูช่วง
00:31:58 → 00:32:01 ช่วง 5 ปีแรกนะครับแต่ประมาณสัก 80 90%
00:32:01 → 00:32:04 ไม่ค่อยหายแต่ต่อจากนี้อันนี้4ิไม่แน่ก็
00:32:04 → 00:32:07 มีความเป็นไปได้อยู่ที่ที่จะหายส่วนใหญ่
00:32:07 → 00:32:11 คนที่คนที่ภูมิ IG ในเลือดลดลงเรื่อยๆมัก
00:32:11 → 00:32:14 จะเป็นคนที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงการกิน
00:32:14 → 00:32:17 แป้งสาลีอย่างเครึ่งครัดอ่าภูมิพวกนี้มัน
00:32:17 → 00:32:19 ลืมได้ครับบางครั้งเวลาผ่านไปมันก็มี
00:32:19 → 00:32:22 ระดับลดๆๆๆลงจนกระทั่งเขาอาจจะกลับมากิน
00:32:22 → 00:32:25 ในอนาคตก็ได้แต่ผมก็ยังไม่แนะนำให้ประชา
00:32:25 → 00:32:29 ชนทั่วไปที่เาแพบแพแป้งสาลีไปลองกินเอง
00:32:29 → 00:32:31 ที่บ้านอะนะครับเพราะว่าเอ่อมันอาจจะมี
00:32:32 → 00:32:33 ปฏิกิริยารุนแรงอะไรขึ้นมาได้แล้วมัน
00:32:33 → 00:32:37 รักษาไม่ทันก็แนะนำให้บผมชอบที่คุณหมัว
00:32:37 → 00:32:39 แบงค์ใช้คำว่าภูมิพมกันมันลืมเพราะว่า
00:32:39 → 00:32:41 เพราะว่าจริงๆแล้วก็คือระบบภูมิพมกันของ
00:32:41 → 00:32:44 เราเรียนรู้ว่านี่สิ่งคือคือสิ่งแปลกปลอม
00:32:44 → 00:32:47 แล้วเราก็จดจำมาได้แต่ผมชอบที่ที่คุณหมอ
00:32:47 → 00:32:49 แบงใช่คำว่าพอนานๆนไปแล้วมันอาจจะลืมแล้ว
00:32:49 → 00:32:51 ก็อาจจะทำให้เกิดอาการก็อาจจะทำให้หายได้
00:32:52 → 00:32:54 ใช่มั้ยครับอ่ามีความเป็นไปได้มีคุณผู้ชม
00:32:54 → 00:32:58 ครับก็ยังคงมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องเรื่อง
00:32:58 → 00:33:01 โรคภูมิแพ้แป้งสาลีครับคุณวริยาครับคุณ
00:33:01 → 00:33:05 วริยาถามมาว่าอาหารบางประเภทเช่นเบเกอรี่
00:33:05 → 00:33:08 กระตุ้นให้เกิดโรคเซฟเดิมได้ไหมถือว่าถ้า
00:33:08 → 00:33:11 ถ้ามันกระตุ้นให้เกิดเซฟเดิมถือว่าเราแพ้
00:33:11 → 00:33:15 อาหารกลุ่มนั้นไหครับเ่อถ้าเป็นเซเซเดิม
00:33:15 → 00:33:18 จริงๆทางการแใช้คำเต็มว่าเซบเมาตินะครับ
00:33:18 → 00:33:22 เอ่อมันอาจจะไม่ไม่ไม่เป็นปฏิกิริยาแบบ
00:33:22 → 00:33:25 ภูมิแพ้ตรงไปตรงมาเหมือนอย่างที่ผมเล่าไป
00:33:25 → 00:33:28 พกอาการที่ว่าคันปากคันกออะไรเงี้นะครับ
00:33:28 → 00:33:30 เอ่อมันจะเป็นกลุ่มโรคของผิวหนังทีนี้ใน
00:33:30 → 00:33:33 บางบางรายเราถามว่าเจอมยจริงๆมันก็มีบาง
00:33:33 → 00:33:37 กลุ่มที่เเให้ประวัติให้ประวัติว่ากิน
00:33:37 → 00:33:40 กลุ่มนี้พวกแป้งสาลีเบเกอรี่แล้วเก็มีเซฟ
00:33:40 → 00:33:43 เดิมเห่อขึ้นมาอือแต่แต่จริงๆแล้วโรกนี้
00:33:43 → 00:33:45 มันมีปัจจัยกระตุ้นหลายอย่างอาจจะไม่ใช่
00:33:46 → 00:33:48 จากอาหารเพียงอย่างเดียวก็ได้ซึ่งส่วนให
00:33:48 → 00:33:51 อาหารผมผมมองว่ามันมันมีผลน้อยมากนะครับ
00:33:51 → 00:33:53 อาจจะเป็นปัจจัยอื่นก็ได้ครับเช่นช่วง
00:33:53 → 00:33:57 นั้นเครียดอดนอนมีการเจ็บป่วยบางอย่าง
00:33:57 → 00:34:00 แล้วก็กระตุ้นให้ให้ให้เซมเดิมมันเห่อ
00:34:00 → 00:34:03 ขึ้นครับครับดีใจจังเลยมีคุณผู้ชมหลายๆ
00:34:03 → 00:34:06 ท่านที่ส่งข้อความมาแล้วก็แชร์แชร์
00:34:06 → 00:34:09 ประสบการณ์แล้วก็แชร์ข้อความกับเรานะครับ
00:34:09 → 00:34:11 ขอบพระคุณมากนะครับคุณผู้ชมฮะส่งข้อความ
00:34:11 → 00:34:14 มาเรื่อยๆถ้าข้อความเหล่านั้นนะครับคุณ
00:34:14 → 00:34:16 หมอสามารถที่จะตอบได้แล้วเรามีเวลาเราก็
00:34:17 → 00:34:19 จะพยายามที่จะตอบนะฮะในกลุ่มต่อไปก็จะ
00:34:19 → 00:34:22 เป็นเรื่องของแพ้ผลไม้ครับคุณหมอแบงค์
00:34:22 → 00:34:24 ครับมีคุณผู้ชมหลายท่านเลยนะฮะที่แชร์มา
00:34:24 → 00:34:27 ว่าเอ่ออย่างเช่นคุุณธเนศครับคุณธเนศดูสิ
00:34:27 → 00:34:31 ศิษยธีรกุลบอกว่าผมแพ้กล้วยครับคุณไดออน
00:34:31 → 00:34:34 วัชรีพรครับบอกว่าแพ้อะโวคาโดค่ะนะครับ
00:34:34 → 00:34:37 ส่วนคุณกุ๊กกิ๊กก็คือสามีของคุณกุ๊กกิ๊ก
00:34:37 → 00:34:39 เนี่ยแพ้กล้วยแรกๆก็แพ้กล้วยหลังจากนั้น
00:34:40 → 00:34:44 ก็เริ่มแพ้ทุเรียนไม่ต้องกินแค่สัมผัสได้
00:34:44 → 00:34:49 กลิ่นก็มีอาการคันตัวแล้วครับอืโอเคแพ้
00:34:49 → 00:34:52 ผลไม้มันมีอะไรที่เป็นแบบแพ้กันเยอะๆมั้ย
00:34:52 → 00:34:57 ครับคือเท่าที่จริงๆผลไม้แทบทุกชนิดในใน
00:34:57 → 00:34:59 ในในในโลกใบเยนะมีมีรายงานหมดแล้วครับ
00:34:59 → 00:35:03 อาจารย์เต้ว่าว่าก็แพ้ได้ครับอ่าเพียงแต่
00:35:03 → 00:35:06 ว่าในประเทศไทยเท่าที่ผมประสบการดูผู้
00:35:06 → 00:35:08 ป่วยที่แพ้อาหารเป็นผู้ใหญ่เนี่ยครับมัน
00:35:08 → 00:35:11 มักจะเกาะกลุ่มกันในบางผลไม้ออผลไม้ที่
00:35:11 → 00:35:15 ว่าก็คือพวกกลุ่มกล้วยกีวี่ครับอโวกาโด
00:35:15 → 00:35:20 อ่าเกาัเกาัหรือเชสนัทออจะเกาะกลุ่มกัน
00:35:21 → 00:35:24 กันอยู่ในประมาณเนี้ยครับอือฮึซึ่งเอ่อ
00:35:24 → 00:35:26 ถามว่าเอ๊ยเราไปแพ้ไอ้พวกนี้ได้ยังไงทั้ง
00:35:26 → 00:35:28 ๆที่ก่อนหน้าเราก็กินมาได้ตลอดอย่างบางคน
00:35:28 → 00:35:31 เค้าทานกล้วยก่อนไปออกกำลังกายก่อนไปวิ่ง
00:35:31 → 00:35:33 อะไรใช่มั้ยฮะวันดีคืนร้าอยู่ๆกลายเป็น
00:35:33 → 00:35:35 ว่ามาแพ้แพ้กล้วยขึ้นมาแบบแพ้รุนแรงด้วย
00:35:35 → 00:35:38 นะฮะเช่นว่าเออกินแล้วื่นทั้งตัวหายใจไม่
00:35:38 → 00:35:43 ออกหมดสติไปอเอ่อกลไกปัจจุบันก็คือถ้าโดย
00:35:43 → 00:35:45 หลักการเนี่ยมันก็เหมือนกับตอนที่เราพูด
00:35:45 → 00:35:49 ไปตอนตอนอ่าต้นเชคือมันก็เป็นภูมิ IG นี่
00:35:49 → 00:35:51 แหละอเพราะปัจจุบันเรามีหลักฐานแล้วเรา
00:35:51 → 00:35:54 เจอโมเลกุล IG ที่มันจับต่อพวกโปรตีนใน
00:35:54 → 00:35:56 ผลไม้ได้ะอือแต่ถามว่าเอ๊ะทำไมมันมาเป็น
00:35:56 → 00:36:00 เราตรงเนี้ยยังไม่มียังไม่มีคำตอบชัดเจน
00:36:00 → 00:36:07 ครับมีบางคนไข้บางกลุ่มที่เค้าแพ้สารบาง
00:36:07 → 00:36:10 อย่างที่มันไม่ใช่อาหารเนี่ยนำมาก่อนจาก
00:36:10 → 00:36:13 นั้นเขาถึงค่อยมาแพ้ผลไม้อ่าฟังแล้วอาจจะ
00:36:13 → 00:36:16 ดูแปลกนั้นสารนั้นสารนั้นคือลาทกครับ
00:36:16 → 00:36:19 อาจารย์เต้ลาทกคือยางเนี่ยหรอครับก็คือ
00:36:19 → 00:36:22 ยางยางกาวอย่างเงี้ยหรอครับอ่าพวกยางกาว
00:36:22 → 00:36:25 อย่างที่เราใช้ในตามถุงมือทางการแพทย์ใช่
00:36:25 → 00:36:29 มั้ยครับอ่าลูกโป่งอ่าหรืออุปกรณ์ทางการ
00:36:29 → 00:36:31 แพทย์ทั้งหลายทั้งปวงเนี่ยครับส่วนใหญ่
00:36:31 → 00:36:34 เราจะเจอเนี่ยการแพ้ลาทกแล้วก็จะมีคนบาง
00:36:34 → 00:36:38 กลุ่มที่เขาแพ้ลาทกแล้วก็มามาแพ้ผลไม้ก็
00:36:38 → 00:36:40 จะเป็นกลุ่มเครับกล้วยกีวี่อะโวคาโดเกาั
00:36:40 → 00:36:43 เพราะว่ามันมีอ่าโปรตีนบางอย่างที่มัน
00:36:43 → 00:36:47 คล้ายกันคือถ้าพูดง่ายๆก็คือว่าจริงๆอยาง
00:36:47 → 00:36:49 มันก็เป็นเป็นพืชชนิดนึงอ่ะนะครับมันก็จะ
00:36:49 → 00:36:51 มีโปรตีนบางอย่างที่มันมีความคล้ายกัน
00:36:51 → 00:36:55 แล้วบังเอิญว่ามันก็ไปไปคอสไปจับกันแล้ว
00:36:55 → 00:36:58 ก็เกิดการแพ้บางคนเก็ใช้คำว่าเป็น fr
00:36:58 → 00:37:00 Syndrome ครับ
00:37:00 → 00:37:05 อ๋อแล้วถ้าผลไม้เหล่าเนี้ยครับถูกนำไปแปร
00:37:05 → 00:37:07 รูปถามเหมือนคล้ายๆกับเมื่อกี้เกี่ยวข้อง
00:37:07 → 00:37:10 กับเรื่องอาหารทะเลเลยถ้าผลไม้เหล่านี้
00:37:10 → 00:37:14 ถูกนำไปกวนถูกนำไปตากถูกนำไปอบผ่านความ
00:37:14 → 00:37:18 ร้อนเรียบร้อยแล้วมันจะยังคงทำให้เกิด
00:37:18 → 00:37:22 อาการเป็นโรคภูมิแพ้ได้มครับครับคือจริงๆ
00:37:22 → 00:37:25 ในผลไม้โชคดีหน่อยครับจารย์เต้คือโปรตีน
00:37:25 → 00:37:27 ที่เราแพ้ในผลไม้เนี่ยมักเป็นโปรตีนที่
00:37:27 → 00:37:31 สลายตัวง่ายอโอโดนความร้อนโดนน้ำกรดน้ำ
00:37:31 → 00:37:33 ย่อยในกระเพาะอาหารอะไรเงี้ยฮะมันก็สลาย
00:37:33 → 00:37:37 ตัวไปอือดังนั้นเอ่อส่วนใหญ่ผมใช้ตีสัก
00:37:37 → 00:37:40 90% แล้วกันนะคือพอมันผ่านกระบวนการความ
00:37:40 → 00:37:43 ร้อนเนี่ยโอเคคนไข้เาก็อาจจะกลับไปกินได้
00:37:43 → 00:37:46 ซึ่งเราก็เจออยู่ะในในในสถานการณ์
00:37:46 → 00:37:48 ปัจจุบันครับแต่ในความจริงคืออย่างงี้ฮะ
00:37:48 → 00:37:52 บางครั้งคำว่าความร้อนที่คนไข้เา้าว่า
00:37:52 → 00:37:54 ต้องผ่านความร้อนนี่เอมันร้อนเท่าไหร่ล่ะ
00:37:54 → 00:37:57 อันนี้เรายังไม่รู้ออ่ามันร้อนพอมั้ยพอ
00:37:57 → 00:38:00 ที่จะทำลายเนื้อไอ้โปรตีนทั้งหมดออกไปได้
00:38:00 → 00:38:03 หรือเปล่าอืกับอันที่ 2 คือขั้นตอนบาง
00:38:03 → 00:38:06 ครั้งอย่างที่เอ่ออาจารยเต้อาจจะสังเกต
00:38:06 → 00:38:08 อย่างกล้วยอย่าเงี้ยครับเวลาเขาผ่านการอก
00:38:08 → 00:38:10 บางครั้งเนื้อข้างในมันก็ยังเละๆอยู่มัน
00:38:10 → 00:38:13 โดนความร้อนไม่ทั่วถึงบางคนเขาก็ยังมี
00:38:13 → 00:38:15 อาการแพ้หลังจากกินพวกผลไม้แปรรูปได้เช่น
00:38:15 → 00:38:19 กันครับอือฮึครับถ้าอย่างนั้นถ้าเรารู้
00:38:19 → 00:38:23 ตัวแล้วล่ะว่าเราแพ้ผลไม้ชนิดนี้ชนิดนั้น
00:38:23 → 00:38:26 เราควรจะมีวิธีในการปฏิบัติตัวยังไงดี
00:38:26 → 00:38:29 ครับอคือคำแนะนำในปัจจุบันคืออย่างงนี้
00:38:29 → 00:38:33 ครับถ้าเป็นไปได้นะฮะเลี่ยงผลไม้เอ่อที่
00:38:33 → 00:38:36 เราแพ้และผลไม้ชนิดอื่นไปก่อนเหตุผลเพราะ
00:38:36 → 00:38:40 ว่าโปรตีนในผลไม้เนี่ยในพวกอาณาจักรพืช
00:38:40 → 00:38:43 เนี่ยมันดันมีความคล้ายคลึงกันในอาณาจักร
00:38:43 → 00:38:45 คือแทบทุกทั้ง Kingdom ของพืชนะฮะมันจะมี
00:38:45 → 00:38:47 โปรตีนที่เกาะกลุ่มกันค่อนข้างคล้ายกัน
00:38:47 → 00:38:49 มากซึ่งอันนี้มันจะเป็นประเด็นที่ต่างจาก
00:38:49 → 00:38:51 โปรตีนที่เจอในพวกสัตว์อย่างสัตว์เปิกแขง
00:38:51 → 00:38:53 มันก็จะเกาะกลุ่มในสัตว์เปิกแแต่ว่าใน
00:38:53 → 00:38:57 ผลไม้เนี่ยมันเเก็จะมีเทอมคำว่าแนอเจนโ
00:38:57 → 00:39:00 โมเลกุลโครงสร้างมันคล้ายกันดังนั้นภูมิ
00:39:00 → 00:39:02 เราถ้าจับกับผลไม้ชนิดนึงมันก็มีโอกาสที่
00:39:02 → 00:39:05 จะจับกับผลไม้ชนิดอื่นๆตามมาได้เช่นกัน
00:39:05 → 00:39:10 อือแต่ถามว่าเอ่อเขาจะกินผลไม้ชนิดอื่น
00:39:10 → 00:39:13 ได้มผมมักจะแนะนำว่าควรผ่านการประเมินโดย
00:39:13 → 00:39:16 แพร่เฉพาะทางด้านด้านภูมิแพ้ได้จะดีกว่า
00:39:16 → 00:39:18 เพราะเพะเราไปลองกินเองที่บ้านบางครั้ง
00:39:18 → 00:39:21 เราอาจจะก็ก็เกิดความเสี่ยงที่จะแพ้ที่
00:39:21 → 00:39:27 บ้านได้นะครับครับแพ้แป้งสาลีละแพ้อาหาร
00:39:27 → 00:39:31 เลยละแพ้ผลไม้และในกลุ่มต่อไปก็คงจะเป็น
00:39:31 → 00:39:35 เรื่องแพ้อะไรดีครับอ่าเป็นแพ้นมวัวดี
00:39:35 → 00:39:38 มั้ยฮะแพ้นมวัวได้เลยครับแพ้นมวัวมีคุณ
00:39:38 → 00:39:42 ผู้ชมถามมาถามมาพอดีนะฮะคุณพัฒนานะครับผม
00:39:42 → 00:39:45 ขออภัยถ้าอ่านชื่อผิดนะฮะคุณพัฒนาเกต
00:39:45 → 00:39:49 ชัยโกศลครับสวัสดีครับผมดื่มนมแล้วเจ็บคอ
00:39:49 → 00:39:53 อย่างนี้ถือว่าผมแพ้นมั้ครับโอเคครับเอ่อ
00:39:53 → 00:39:58 จริงๆมันในในกลุ่มที่เป็นรกกลุมแผเนี่ย
00:39:58 → 00:40:00 มันมีข้อสังเกตอยู่จุดนึงครับคืออาการมัน
00:40:00 → 00:40:03 จะคล้ายๆกันอ่าทุกท่านจะสังเกตว่าตั้งแต่
00:40:03 → 00:40:05 ที่ผมเล่ามาเรื่องอาหารทะเลเอยแป้งสาลี
00:40:05 → 00:40:08 เอยหรือผลไม้เอยอ่ากลุ่มอาการที่มัน
00:40:08 → 00:40:10 เหมือนจะเป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้จริงๆมันมัก
00:40:10 → 00:40:14 จะคันอมักจะเป็นอื่นกินเข้าไปแล้วปากจะ
00:40:14 → 00:40:17 บวมถ้าไปโดนตามปากตามอะไรอาการอย่างเงี้ย
00:40:17 → 00:40:20 อันนี้มั่นใจได้เลย 99% น่าจะเป็นปฏิกิยา
00:40:20 → 00:40:24 ภูมิแพ้แหละอืแต่ว่าในเ่อกินเข้าไปแล้ว
00:40:24 → 00:40:26 เจ็บคอหรือกินเข้าไปแล้วถ่ายท้องท้องเสีย
00:40:26 → 00:40:28 เออบางบางครั้งมันอาจจะเป็นปฏิกริยาที่
00:40:28 → 00:40:30 มันคล้ายจะใช่แต่บางครั้งมันไม่ใช่ก็ก็มี
00:40:30 → 00:40:33 ครับอือฮึอาจจะต้องดูอาการอื่นด้วยนะครับ
00:40:33 → 00:40:35 นี่ต้องต้องถามทางบ้านว่าไม่แน่ใจเมี
00:40:35 → 00:40:38 อาการอย่างอื่นร่มด้วยมครับอือครับปกติ
00:40:38 → 00:40:41 แล้วถ้าเผื่อจะบอกว่าแพ้นมวัวเนี่ยเราเรา
00:40:41 → 00:40:43 แพ้อะไรที่อยู่ในนมวัวผมเดาก่อนเลยว่า
00:40:43 → 00:40:46 ต้องเป็นโปรตีนในนมแน่ๆเลยใช่มั้ยฮะถูก
00:40:46 → 00:40:49 ต้องครับอาจารย์เต้ใชมครับแล้วถ้าแพ้ครับ
00:40:49 → 00:40:51 ถ้าแพ้เนี่ยมันแพ้กันมาตั้งแต่เด็กๆ้ว
00:40:51 → 00:40:54 มั้ยครับหรือว่าหรือว่าแพ้อะไรยังไงจริงๆ
00:40:54 → 00:40:57 การแพ้นวัวเราเจอในเด็กได้เยอะในสัดส่วน
00:40:57 → 00:40:57 เยอะ
00:40:57 → 00:41:00 ครับอ่าดังนั้นหมอเด็กที่ที่เขดูแลเรื่อง
00:41:00 → 00:41:02 คุมแพ้อาหารเนี่โอ้โหเขจะเจอคนที่แพ้นม
00:41:02 → 00:41:04 วัวนี่เต็มไปหมดเลยซึ่งอาจจะมีทั้งแพ้แบบ
00:41:04 → 00:41:07 เฉียบพันธเอยไม่เฉียบพันเอยแพ้แบบอาเจียน
00:41:07 → 00:41:10 ถ่ายเป็นเรอะไรอย่างเงี้ยเราก็เจอเจอได้
00:41:10 → 00:41:12 หลากหลายแต่สำหรับในในผู้ใหญ่เนี่ยกันแพ้
00:41:12 → 00:41:15 นำวัวจริงๆถ้าเทียบกับอาหาร 3 กลุ่มข้าง
00:41:15 → 00:41:17 ต้นที่ได้กล่าไปเนี่ยครับเจอในสัดส่วน
00:41:17 → 00:41:20 น้อยมากน้อยกว่ามากๆครับแต่ถามว่าเป็นไป
00:41:20 → 00:41:25 ได้มเราก็มีเคสที่มาเริ่มแพ้นมวัวตอนวัย
00:41:25 → 00:41:28 ผู้ใหญ่เช่นกันอืออือแต่มีไม่กี่รายเท่า
00:41:28 → 00:41:32 นั้นนะครับอันเต้ครับครับแ้ที่ไหนเนี่ยก็
00:41:32 → 00:41:35 หลักเอ่อมันก็จะเป็นโปรตีนที่อยู่ในนมวัว
00:41:35 → 00:41:38 เหมือนกันอือถามว่าทำไมต้องเป็นโปรตีนต
00:41:38 → 00:41:40 กี้ที่เราพูดอาหารทั้งหลายมันก็เป็น
00:41:40 → 00:41:42 โปรตีนโปรตีนทั้งหมดเพราะว่าโปรตีนมันมี
00:41:42 → 00:41:44 ความพิเศษอย่างหนึ่งคือมันเป็นโมเลกุลที่
00:41:44 → 00:41:48 ชอบไปจับกับภูมิของของ IG มนุษย์ได้ดีอือ
00:41:48 → 00:41:51 ฮึอ่าได้ดีกว่าพวกชีวะโมเลกุลอื่นๆครับ
00:41:51 → 00:41:54 อย่างเช่นคาร์โบไฮเดรตไขมันพวกนี้โอกาส
00:41:54 → 00:41:55 ที่มันจะจับแบบนั้นได้มันมีแต่ว่ามันน้อย
00:41:55 → 00:41:58 กว่าครับครับถ้าสมมุติว่าตอนเด็กเคยแพ้
00:41:58 → 00:42:02 น่มวัวแล้วโตขึ้นจะมีโอกาสหายแพ้น่มวัว
00:42:02 → 00:42:05 มั้ยครับปัจจุบันมีข้อมูลอยู่ครับคือใน
00:42:05 → 00:42:08 เด็กเนี่ยโชคดีหน่อยคือถ้าเกิดเราแพ้ตอน
00:42:08 → 00:42:11 ตอนวัยเล็กๆนะฮะครับอ่าประมาณขวบ 2 ขวบ
00:42:11 → 00:42:13 เอ่อประมาณครึ่งนึงเขก็จะหายที่ประมาณ
00:42:13 → 00:42:16 อายุ 7 ปี 8 ปีอือแต่ก็จะมีอีกส่วนนึงที่
00:42:16 → 00:42:20 เขาก็ยังแพ้ต่อจนกระทั่งไปถึงวัยรุ่นไป
00:42:20 → 00:42:22 ถึงผู้ใหญ่มีบางคนเหมือนกันนะครับที่แพ้
00:42:22 → 00:42:24 ตั้งแต่เด็กแล้วก็ได้ไปต่อจนถึงวัยผู้
00:42:24 → 00:42:28 ใหญ่ก็มีครับครับอาการแพ้นมวัวเนี่ยมันมี
00:42:28 → 00:42:31 อาการยังไงอ่ะครับเพราะว่าหลายๆคนผมเคย
00:42:31 → 00:42:33 เจอผู้ใหญ่หลายๆท่านบอกว่าโอ๊ยฉันดื่มนม
00:42:33 → 00:42:35 ไม่ได้หรอกเพราะว่าพอดื่มนมแล้วมีอาการ
00:42:35 → 00:42:38 ท้องเสียมีอาการท้องเฟ้อท้องขึ้นอย่าง
00:42:38 → 00:42:40 นั้นมันเรียกว่าเป็นเป็นเป็นโรคภูมิแพ้นม
00:42:40 → 00:42:42 อยู่ด้วยมั้ยหรือว่ามันเป็นอาการอย่าง
00:42:42 → 00:42:45 อื่นนะครับครับสำหรับในผู้ใหญ่เนี่ยเอ่อ
00:42:45 → 00:42:47 เวลาเรากินนมเข้าไปแล้วมีอาการเราอาจจะ
00:42:47 → 00:42:51 ต้องคิดถึง 2 กลุ่มอาการก่อนอันที่ 1 คือ
00:42:51 → 00:42:54 เป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้จริงๆกลุ่มนั้นเขาจะ
00:42:54 → 00:42:57 มีอาการคือคันมีพืนมีอาจจะมีปวดท้องได้
00:42:57 → 00:43:00 อ่าแต่อาการเด่นต้องเป็นคันกับผืนอันนี้
00:43:00 → 00:43:02 จะต้องเป็นอาการนำก่อนเลยครับอครับแต่
00:43:02 → 00:43:06 อาการอีกอันนึงข้อ 2 ที่เราเจอเยอะกว่า
00:43:06 → 00:43:09 คือเป็นเาเรียกว่า lactose intolerance
00:43:09 → 00:43:12 อือ่าหรือพูดง่ายๆว่าทนแลคโตสไม่ได้คือใน
00:43:12 → 00:43:15 นมวองเราก็จะมีน้ำตาลอย่างที่เราเราเคย
00:43:15 → 00:43:17 เรียนตอนวิทยาศาสตร์เงี้ยมันก็มีโมเลกุล
00:43:17 → 00:43:20 น้ำตาลแลคโตสซึ่งมันก็จะย่อยโดยเอนไซม์
00:43:20 → 00:43:23 แลคเตสที่อยู่ในลำไส้ปรากฏว่าอย่างเงี้
00:43:23 → 00:43:26 ครับในคนเอเชียเนี่ยเวลาเราโตขึ้นมาเนี่ย
00:43:26 → 00:43:28 เอนไซม์เจ้าแลคเตสเนี่ยนะมันก็จะค่อยๆมี
00:43:28 → 00:43:32 ระดับลดลงเรื่อยๆตอนเราโตขึ้นมันก็จะหาย
00:43:32 → 00:43:35 ไปเลยตอนตอนวัยผู้ใหญ่ทำให้หลายคนกินนมมา
00:43:35 → 00:43:38 ได้ตลอดเลยตอนเด็กๆตอนวัยรุ่นแต่พอมาอายุ
00:43:39 → 00:43:43 30 เงปุ๊บมากินนมปุ๊บเริ่มท้องอืดถ่าย
00:43:43 → 00:43:46 ท้องไผลมบ่อยหรือบางรายก็ปวดท้องมากก็ก็
00:43:46 → 00:43:49 มีกลุ่มนี้ก็จะเป็น lactose intolerance
00:43:49 → 00:43:54 ครับอือฮึครับจัเป็นภูมิแพ้อ่าครับอ๋อ
00:43:54 → 00:43:57 ครับๆแล้วถ้าเผื่อแพ้นมวัวเนี่ยอาการแพ้
00:43:57 → 00:43:59 ก็จะมาออกอย่างที่อาจารย์ว่าก็คืออาจจะ
00:43:59 → 00:44:01 เป็นเรื่องของผื่นเรื่องของระบบทางเดิน
00:44:01 → 00:44:04 หายใจนี่ก็คือเนี่ยมันน่าจะเป็นโรคภูมิ
00:44:04 → 00:44:07 แพ้ใช่มั้ยฮะครับน่าจะเป็นกลุ่มอาการที่
00:44:07 → 00:44:09 ที่เกาะกลุ่มกันและเป็นแพทเทิร์น
00:44:09 → 00:44:11 recognition อย่างที่ที่ได้เล่าไปมาก
00:44:11 → 00:44:15 กว่าครับมีคุณผู้ชมทางบ้านก็ส่งข้อความมา
00:44:15 → 00:44:17 นะครับว่าแพ้อะไรบ้างนะฮะมีหลายๆท่านนะฮะ
00:44:17 → 00:44:20 ที่ถามเรื่องของแพ้ถั่วครับบางท่านอย่าง
00:44:20 → 00:44:24 เช่นคุณพรประภาครับบอกว่าสามีของคุณ
00:44:24 → 00:44:28 พรประภาครับแพ้ถั่วปากอ้านะครับอคุณเอิน
00:44:28 → 00:44:32 โรสคุณเอินโรสนะครับก็บอกว่าแพ้ถั่วลิสง
00:44:32 → 00:44:34 แพ้ถั่วเหลืองก็แสดงว่าเรื่องของการแพ้
00:44:34 → 00:44:37 ถั่วนี่ก็มีโอกาสเหมือนกันใช่มั้ยฮะเอ่อ
00:44:37 → 00:44:40 มีโอกาสเหมือนกันคือเราเจอได้ในผู้ใหญ่
00:44:40 → 00:44:43 แต่เจออาจจะไม่ได้มากเท่ากลุ่มแรกๆที่ที่
00:44:43 → 00:44:45 ได้กล่าวไปเกลุ่มนั้นเราจะเจอเป็นกระบิ
00:44:45 → 00:44:49 ใหญ่เลยครับอาจารย์เต้มาแล้วส่วนใหญ่ 90%
00:44:49 → 00:44:52 จะเป็นเนี่ยกลุ่มพวกนี้แต่ว่าก็จะมีส่วน
00:44:52 → 00:44:56 น้อยที่เราเจอว่าแพ้ทร์อ่าแพ้ีนัดแพ้พนัด
00:44:56 → 00:45:00 อแพ้เอ่อซอยบีนแบบเนี้เราก็เจอได้ได้ได้
00:45:00 → 00:45:04 ปับปลายครับอึอือฮึฟังดูฟังดูรู้สึกคือ
00:45:04 → 00:45:06 คือผมก็รู้จักกับชาวต่างประเทศมีชาวต่าง
00:45:06 → 00:45:09 ประเทศที่ผมรู้จักหลายคนเลยล่ะที่เขาแพ้
00:45:09 → 00:45:13 กลุ่มพวกถั่วหรือว่านัดเปลือกแข็งแต่ดู
00:45:13 → 00:45:14 เหมือนว่าคนไทยจะไม่ค่อยแพ้ถั่วหรือเปล่า
00:45:15 → 00:45:18 ครับหรือยังไงฮะคือคนไทยถ้าเป็นเอ่อในใน
00:45:18 → 00:45:20 ผู้ใหญ่นะครับเราเราเจอไม่ค่อยเยอะมากอ๋อ
00:45:20 → 00:45:23 เหรอครับอืมเจอเจออาจจะมีแต่ว่าไม่ไม่ได้
00:45:24 → 00:45:27 เยอะแบบเท่าเท่าอาหาร 3 กลุ่มแรกในขณะที่
00:45:27 → 00:45:29 ถ้าเป็นในต่างประเทศเนื่องจากว่าเขาอาจจะ
00:45:29 → 00:45:32 ทานอาหารกลุ่มตระกูลถั่วหรืออะไรอย่าง
00:45:32 → 00:45:35 เงี้ยมากกว่าคนไทยอือเขาก็มีโอกาสที่ย่อม
00:45:35 → 00:45:37 จะแพ้เ่ออาหารในกลุ่มนั้นเนี่ยมากกว่า
00:45:37 → 00:45:40 เพราะการแพ้อาหารมันอย่างงี้ครับมันขึ้น
00:45:40 → 00:45:42 กับว่าวัฒนธรรมการกินอาหารแต่ละประเทศ
00:45:42 → 00:45:44 เป็นยังไงด้วยครับถ้าเกิดประเทศนั้นกิน
00:45:44 → 00:45:47 แบบนั้นเยอะอ่าเขาก็มีโอกาสที่จะแพ้มาก
00:45:47 → 00:45:49 กว่ากลุ่มประเทศที่เขากินอาหารแบบนี้น้อย
00:45:49 → 00:45:53 กว่าประมาณเนี้ยเป็นต้นนะครับครับคุณหมอ
00:45:53 → 00:45:56 แบงค์ครับผมเชื่อว่าคุณหมอแบงค์คงจะเคยพบ
00:45:56 → 00:45:58 กับคนไข้หรือผู้ป่วยที่เป็นคนไข้ของคุณ
00:45:58 → 00:46:02 หมอแบงค์ที่มีความเชื่อว่าก็ถ้าเราแพ้
00:46:02 → 00:46:05 สิ่งนี้แล้วเราก็กินไปทีละน้อยทีละน้อย
00:46:05 → 00:46:09 สักวันนึงภูมิภูมิคุ้มกันของเราก็คงจะรับ
00:46:09 → 00:46:11 มือกับสิ่งที่เรากินได้แล้วก็จะหายจากโรค
00:46:11 → 00:46:14 ภูมิแพ้อาหารชนิดอันนั้นอย่างนี้มันมัน
00:46:14 → 00:46:17 เป็นความเชื่อที่โอเคมั้ยครับจริงๆตรงนี้
00:46:17 → 00:46:20 ต้องต้องรีบแก้ไขก่อนเพราะว่าเราไม่แนะนำ
00:46:20 → 00:46:22 ให้ทำแบบนั้นเลยฮะันเตออเหรอครับยังไง
00:46:22 → 00:46:24 ครับทำไมครับทำไมถึงไม่แนะนำเลยอ่ะครับ
00:46:24 → 00:46:27 เพราะอย่างงี้ครับเวลาเราคือถามว่าตาม
00:46:27 → 00:46:29 ความเป็นจริงเนี่ยถ้าเราให้อาหารกลับเข้า
00:46:29 → 00:46:32 ไปมันมันมีอยู่ในหลักการนะแต่ว่าในชีวิต
00:46:32 → 00:46:35 จริงเราไม่สามารถกำหนดได้เลยว่าคนไข้ต้อง
00:46:35 → 00:46:37 กินในระดับเท่าไหร่มันถึงจะค่อยๆเพิ่ม
00:46:37 → 00:46:40 ภูมิหรือระดับความทนเพราะบางครั้งเราช่าง
00:46:40 → 00:46:43 ตรงวัดได้ไม่แม่นยำแล้วอีกประเด็นนึงคือ
00:46:43 → 00:46:45 การทำแบบนี้มันเสี่ยงเสี่ยงที่จะอะไร
00:46:45 → 00:46:48 เสี่ยงที่จะแพ้นะบางคนเกลับไปลองกินอย่าง
00:46:48 → 00:46:51 งั้นเโดยคิดว่าเกินบ่อยๆมันมันมันมันจะ
00:46:51 → 00:46:54 หายแต่ในทางกับกันเนี่ยปรากฏว่ามันไม่ใช่
00:46:54 → 00:46:57 อืมันกลายเป็นกระตุ้นหรือบูสภูมิให้กลาย
00:46:57 → 00:46:59 เป็นแพ้มากขึ้นในครั้งหลังๆถ้าเกิดว่าเรา
00:46:59 → 00:47:03 ไปกินเกินระดับความทนของคนๆนั้นนะฮะอแต่
00:47:03 → 00:47:06 นั้นในปัจจุบันเนี่ยคือเราก็ยังแนะนำว่า
00:47:06 → 00:47:08 เลี่ยงได้เลี่ยงจะดีกว่าอบางครั้งอาจหาย
00:47:09 → 00:47:11 เร็วกว่าด้วยนะครับในกลุ่มที่เลี่ยงอือ
00:47:11 → 00:47:13 เหมือนคล้ายๆกถ้าเราไม่ได้ไปกินเลยเนี่ย
00:47:13 → 00:47:14 ภูมิมันก็จะลืมไปอย่างที่อาจารย์เต้ได้
00:47:15 → 00:47:18 ได้ได้เกริ่นไว้ตอนตนช่วงต้นต้นๆนเชชัอ
00:47:18 → 00:47:22 ครับครับคือบางทีเราก็ชอบอาหารสิ่งเนี้ย
00:47:22 → 00:47:24 แต่อยู่ๆวันนึงเราเกิดรู้ตัวขึ้นมาแล้ว
00:47:24 → 00:47:27 เราว่าเราแพ้สิ่งเนี้ยแต่เราก็ยังแพ้ใจ
00:47:27 → 00:47:29 ตัวเองอ่ะก็ยังอยากกินอยู่อ่ะถ้างั้นก็
00:47:29 → 00:47:31 กินยาแก้แพ้ดักไว้ก่อนอย่างงี้ได้มั้ย
00:47:31 → 00:47:34 ครับเอ่ออันนี้ก็เป็นอีกอันนึงที่ที่ต้อง
00:47:34 → 00:47:37 ต้องแก้ไขก่อนเพราะว่าถือว่าอันตรายเอ่อ
00:47:37 → 00:47:40 อย่างยาแก้แพ้เนี่ยมันก็เป็นยาที่ทั้งการ
00:47:40 → 00:47:42 แพทย์เา้าเรียกว่าแอนตี้ฮิสตามีนหรือยา
00:47:42 → 00:47:44 ต้านฮิสตามีนอ่ะนะครับครับแต่ในความเป็น
00:47:44 → 00:47:46 จริงแล้วปฏิกิริยาภูมิแพ้มันมีสารมากมาย
00:47:46 → 00:47:48 ที่มันไม่ใช่ฮิสตามีนด้วยอ่ามันมีสาร
00:47:48 → 00:47:51 อักเสบมีอะไรที่มันหลัออกมาอซึ่งจะเห็น
00:47:51 → 00:47:55 ว่ายาต้านฮิสตามีนมันก็อาจจะพอทุเรานะ
00:47:55 → 00:47:57 ซึ่งเราก็เจออยู่บ่อยๆว่าเคสที่เาแพ้นิดๆ
00:47:57 → 00:48:01 หน่อยๆเกินยาแก้แพ้มันมันมันก็หายแต่มัน
00:48:01 → 00:48:04 เสี่ยงเพราะว่าปฏิกิริยาแพ้บางครั้งหนัก
00:48:04 → 00:48:06 เบาเนี่ยเราคาดเดาไม่ได้เลยครับจันเต้อือ
00:48:06 → 00:48:09 อย่าวันนี้เบาครั้งหน้าเราไม่ได้การันตี
00:48:09 → 00:48:12 ว่าเขาจะแพ้เบาแบบนี้เสมอไปอเขาอาจจะเป็น
00:48:12 → 00:48:15 ปฏิยาที่แพ้หนักขึ้นก็ได้แล้วการกินยาแก้
00:48:15 → 00:48:17 แพ้มันอาจจะช่วยในแง่เรื่องเ่ออาการ
00:48:17 → 00:48:19 เผื่อนผิวหนังแต่มันไม่ได้ป้องกันเรื่อง
00:48:19 → 00:48:23 หลอดล้มตีเรื่องความดันตกซึ่งกลุ่มเนี้ย
00:48:23 → 00:48:25 เราอาจจะต้องใช้เป็นยาอีกกลุ่มนึงต้องออก
00:48:25 → 00:48:28 ฤทเป็นแบบยาฉีดะอ่านี้ก็จะมาถึงประเด็น
00:48:28 → 00:48:32 เรื่องยาฉีดแทครับออือฮึครับซึ่งซึถ้าถึง
00:48:32 → 00:48:34 ขนาดหายใจไม่ออกเนี่ยมันเป็นเรื่องที่
00:48:34 → 00:48:37 ค่อนข้างรุนแรงรุนแรงเลยแหละต้องต้องไป
00:48:37 → 00:48:39 ได้รับความช่วยเหลืออาจจะต้องไปโรงพยาบาล
00:48:39 → 00:48:41 แล้วล่ะใช่มั้ยฮะใช่ครับแล้วยาแก้แพ้จริง
00:48:41 → 00:48:43 ๆกว่าจะออกฤทธิ์ได้เนี่ยส่วนใหญ่ก็ประมาณ
00:48:43 → 00:48:47 เกือบชั่วโมงแต่ว่าโรกแพ้อาหารแพ้รุนแรง
00:48:47 → 00:48:49 เนี่ยพวกนี้มันมาเร็วบางครั้งมันดำเนิน
00:48:49 → 00:48:52 ต่อไปเป็นหลักนาทีดังนั้นมันจะไม่ทันการ
00:48:52 → 00:48:56 ครับก็ไม่แนะนำนะครับครับมีคุณผู้ชมหลายๆ
00:48:56 → 00:48:58 ท่านนะฮะส่งเรื่องราวของตนเองเรื่องของ
00:48:58 → 00:49:02 การแพ้แบบรุนแรงมาเลยครับถ้าถ้ามันมี
00:49:03 → 00:49:06 อาการแพ้อาหารอย่างรุนแรงนะครับสิ่งที่
00:49:06 → 00:49:08 เราต้องปฏิบัติตัวเนี่ยควรจะต้องปฏิบัติ
00:49:08 → 00:49:13 ตัวยังไงบ้างครับครับก็คำแนะนำที่ที่ผมใน
00:49:13 → 00:49:15 เบื้องต้นดีสุดเลยนะคืออย่างน้อยไปไป
00:49:15 → 00:49:18 ประเมินโดยเ่าแพทย์ด้านภูมิแพ้สักครั้ง
00:49:18 → 00:49:22 นึงก็ดีอือฮึการรักษาภูมิแพ้อาหารที่ดี
00:49:22 → 00:49:24 ที่สุดในปัจจุบันไม่ใช่การกลับไปกินให้
00:49:24 → 00:49:27 หายแพ้อย่างที่กล่าวไปตะกี้นี้แต่คือการ
00:49:27 → 00:49:30 เลี่ยงอย่าไปกินได้จะดีกว่าอือฮึแล้วสัก
00:49:31 → 00:49:33 วันนึงภูมิมันอาจจะค่อยๆลืมมันไปแล้วอาจ
00:49:33 → 00:49:36 จะหายในอนาคตก็ได้นะครับครับแล้วก็ใน
00:49:36 → 00:49:39 กลุ่มที่เคยมีประวัติแท้รุนแรงเราก็จะแนะ
00:49:39 → 00:49:43 นำให้เขาพกตัวปากกาฉีดฉุกเฉินซึ่งมันก็จะ
00:49:43 → 00:49:47 เป็นปากกาที่เรียก epin ครับินจริงๆมัน
00:49:47 → 00:49:49 เป็นฮอร์โมนในร่างกายของมนุษย์น่ะนะฮะที่
00:49:49 → 00:49:51 เวลาเราตื่นเต้นตกใจใช่มครับเราก็จะมี
00:49:51 → 00:49:56 เฟินหลังมาปรากฏว่าอ่าเราก็เอายาฮอร์โมน
00:49:56 → 00:49:58 ตัวเมาสกัดมาใช้ในการรักษาแล้วก็ช่วย
00:49:58 → 00:50:01 ชีวิตคนหลายๆคนและหนึ่งในนั้นก็คือภาวะ
00:50:01 → 00:50:04 แพ้รุนแรงตามในในรูปเยครับครับครับก็แนะ
00:50:05 → 00:50:09 นำพกติดตัวไว้ครับเวลาไปที่อ่าร้านอาหาร
00:50:09 → 00:50:12 ไปอยู่บนสายการบินหรือว่าเวลาไปเที่ยว
00:50:12 → 00:50:15 อยู่ที่ห่างไกลจากสถานพยาบาลเอ่อการพกตัว
00:50:15 → 00:50:17 เนี้ยมันก็จะช่วยชีวิตเราในฉุกเฉินใน
00:50:17 → 00:50:21 เบื้องต้นก่อนที่จะไปพกแพร่นะครับครับตัว
00:50:21 → 00:50:24 ปากกาที่ว่าเนี่ยครับเรื่องนี้เราเดินไป
00:50:24 → 00:50:26 ซื้อเองที่ร้านขายยาเลยได้มั้ยหรือว่าคุณ
00:50:26 → 00:50:29 หมอจะต้องเป็นคนสั่งให้อปัจจุบันยังยัง
00:50:29 → 00:50:31 เป็นหมอสั่งอยู่ครับเพราะว่ามันมันยังจัด
00:50:31 → 00:50:33 ว่าเป็นกลุ่มยาอันตรายเพราะว่ามันเป็นยา
00:50:33 → 00:50:35 ฉีดด้วยแล้วก็ออกฤทธิ์ทางการกระตุ้นหัวใจ
00:50:35 → 00:50:38 อะไรอย่างเงี้ได้ครับก็แนะนำควรอยู่ใน
00:50:38 → 00:50:41 ความดูแลของแพทเฉพาะทางทางโรคภูมิแพ้ได้
00:50:41 → 00:50:45 จะจะดีกว่าครับครับอันนี้เป็นคำถามที่มา
00:50:45 → 00:50:49 จากคุณสยามนเลยครับถามมาเรื่องของตัวยา
00:50:49 → 00:50:53 ฉีดนี่เลยครับว่าว่าเอ่ออยากทราบว่าในไทย
00:50:53 → 00:50:56 มียาฉีดิรนหรือยาที่พกเองเพื่อรักษา
00:50:56 → 00:50:58 ฉุกเฉินไมซึ่งซึ่งเรามีใช่มั้ยครับคุณหมอ
00:50:58 → 00:51:01 แบงค์อ่ามีนะครับก็เราจะมีทั้ง 2 ฟอร์ม
00:51:01 → 00:51:03 อย่างในรูปที่ได้แสดงให้เห็นอันนี้จะเป็น
00:51:03 → 00:51:07 แบบปากกาอัตโนมัติก็คือว่าอ่าเราสามารถ
00:51:07 → 00:51:11 ดึงจริงๆจุกฟ้ามันต้องดึงออกมาก่อนจะปัก
00:51:11 → 00:51:13 เราดึงออกมาก่อนแล้วเราก็ปักเข้าไปที่ตรง
00:51:13 → 00:51:17 กล้ามเนื้อหน้าแข้งมันก็จะฉีดตัวยาเข้าไป
00:51:17 → 00:51:20 ในชั้นกล้ามเนื้ออัตโนมัติออครับอ่าแบบ
00:51:20 → 00:51:23 เนี้ยมันก็จะมีอยู่ในโรงพยาบาลใหญ่ๆแต่
00:51:23 → 00:51:27 บางโรงพยาบาลก็ก็มีจะต้องไปไปลองสอบถามดู
00:51:27 → 00:51:29 ครับอ่าสำหรับโรงพยาบาลที่ไม่มีปากกาชนิด
00:51:29 → 00:51:33 อัตโนมัติงี้ครับเราก็จะมีแบบเอ่อรองลงมา
00:51:33 → 00:51:38 ก็คือการใส่เฟิไว้ในเข็มฉีดยาอือ่าแล้วก็
00:51:38 → 00:51:41 ต่อตัวเข็มฉีดยาที่ขนาดยาวพอแล้วใส่ใน
00:51:41 → 00:51:44 กล่องดินสอที่ทึบแสงแล้วก็ให้พกติดตัวได้
00:51:44 → 00:51:47 ครับมันก็จะเป็นแบบที่ที่สามารถใช้ทดแทน
00:51:47 → 00:51:51 กันได้ครับครับวันนี้เราพูดกันเรื่องของ
00:51:51 → 00:51:54 โรคภูมิแพ้อาหารคุณหมอแบงครับเราก็แยก
00:51:54 → 00:51:58 เป็นว่าเอออันนี้คือเป็นกลุ่มแป้งแพ้แป้ง
00:51:58 → 00:52:01 สาลีที่มีคนแพ้กันเยอะแพ้นมวัวแพ้ผลไม้
00:52:01 → 00:52:05 เป็นไปได้มครับว่าที่คนๆนึงจะแพ้อาหาร
00:52:05 → 00:52:08 หลายๆกลุ่มอ่ะครับเอ่อมีอยู่จริงครับ
00:52:09 → 00:52:12 อย่างที่อาจารย์เต้ว่าเลยคือโรคภูมิแพ้
00:52:12 → 00:52:15 บางครั้งอพื้นฐานภูมิของเขาเนี่ยมันมัน
00:52:16 → 00:52:18 มันเป็นกลุ่มภูมิแพ้หรือ atopy เนี่ยเขา
00:52:18 → 00:52:21 ก็มีแนวโน้มที่จะแพ้สิ่งต่างๆตามสิ่งแวด
00:52:21 → 00:52:23 ล้อมแล้วก็มีบางคนที่ก็แพ้อาหารมากกว่า 1
00:52:23 → 00:52:26 ชนิดนะครับครับแต่การแพ้มากกว่า 1 ชนิด
00:52:26 → 00:52:28 มันก็จะมีอยู่ 2 กรณีกรณีที่ 1 ก็คือมัน
00:52:29 → 00:52:31 อาจจะเป็นแค่การแพ้ข้ามก็ได้เช่นว่าแพ้
00:52:31 → 00:52:33 กุ้งแล้วไปแพ้ปูจริงๆเา้าก็แพ้สัตว์
00:52:33 → 00:52:36 เปลือกแข็งนี่แหละคือแพ้ 1 อย่างกับอีก
00:52:36 → 00:52:38 กรณีนึงคือแพ้อาหารที่มันต่างกลุ่มอย่าง
00:52:38 → 00:52:41 สิ้นเชิงเลยอย่างเช่นว่าเข้าแพ้อ่ากุ้ง
00:52:41 → 00:52:44 ด้วยแล้วเก็ไปแพ้ผักผลไม้ด้วยอ่าแบบนี้
00:52:44 → 00:52:45 เราก็จะเรียกว่าเป็นแพ้อาหารมากกว่า 1
00:52:45 → 00:52:50 ประเภทซึ่งก็ก็ก็มีอยู่จริงครับออือฮึ
00:52:50 → 00:52:53 ครับอย่างเงี้ยคนที่แพ้เป็นโรคภูมิแพ้
00:52:53 → 00:52:55 อาหารเค้าก็จะรู้ตัวเองเพราะว่าเคอาจจะมี
00:52:55 → 00:52:58 ประสบการณ์การแพ้แบบรุนแรงเขาก็จะระมัด
00:52:58 → 00:53:01 ระวังในการเลือกรับประทานอาหารแต่คนที่
00:53:01 → 00:53:05 อยู่รอบข้างเขาอ่ะครับเขาอาจจะเอ๊คนนี้เา
00:53:05 → 00:53:08 เฟกหรือเปล่านะเค้าอย่างโน้นอย่างนี้หรือ
00:53:08 → 00:53:10 เปล่านะพยายามเรียกร้องความสนใจหรือเปล่า
00:53:10 → 00:53:12 นะอย่างนี้เราต้องสื่อสารกับคนที่อยู่รอบ
00:53:12 → 00:53:15 ค้ายไงครับว่าอันเนี้ยมันเป็นโรคภูมิแพ้
00:53:15 → 00:53:18 อาหารที่มันอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
00:53:18 → 00:53:21 จริงนะไม่ได้เฟกนะอืตรงนี้จริงๆเป็น
00:53:21 → 00:53:24 ประเด็นสำคัญแล้วก็ยังเป็นอ่าเอาจริงๆคือ
00:53:24 → 00:53:26 มันเป็นปัญหาสำหรับบ้านเราอยู่นะฮะใน
00:53:26 → 00:53:29 ประเทศไทยคือผมคิดว่าเริ่มต้นเนี่ยที่ดี
00:53:29 → 00:53:32 ที่สุดเลยคือควรเริ่มต้นที่อ่าความรู้
00:53:32 → 00:53:35 ความเข้าใจเกี่ยวกับตัวโลกก่อนอย่างน้อย
00:53:35 → 00:53:37 เราอยากให้ประชาชนที่เขาอาจจะไม่ได้เป็น
00:53:37 → 00:53:40 เองหรือไม่ได้มีญาติเป็นเาต้องรู้ก่อนว่า
00:53:40 → 00:53:42 เออโลกกลุ่มเนี้ยมันมีอยู่จริงนะเช่นแพ้
00:53:42 → 00:53:44 อาหารแปลกๆตะกี้ที่เราฟังกันมาเรามีอยู่
00:53:44 → 00:53:47 จริงพอเขารู้ว่ามีอยู่จริงปุ๊บเขาก็จะ
00:53:47 → 00:53:49 เริ่มเข้าใจแล้วว่าอ้อโอเคการปฏิบัติตัว
00:53:49 → 00:53:51 ที่ถูกต้องที่ถูกอ่าที่ควรเนี่ยมันควร
00:53:51 → 00:53:55 เป็นยังไงอือคนที่แพ้อาหารในผู้ใหญ่เนี่ย
00:53:55 → 00:53:58 หลายครั้งเรับไม่ได้คือเขากินอาหารสิ่ง
00:53:59 → 00:54:01 นั้นได้มาโดยตลอดอาหารนั้นคือความสุขของ
00:54:01 → 00:54:04 เขาแล้ววันนึงเหมือนเหมือนโดนคำสาปเหมือน
00:54:04 → 00:54:07 โดนอะไรเข้ามาทำให้ความสุขเาโดนดึงออกไป
00:54:07 → 00:54:09 ออแล้วเทำทำให้เขาต้องระวังตัวตลอดเวลา
00:54:09 → 00:54:12 แล้วบางครั้งคนที่เขามีประวัติแพ้รุนแรง
00:54:12 → 00:54:14 ขึ้นมาเนี่ยถ้าใครเคยแพ้รุนแรงเจะรู้
00:54:14 → 00:54:17 โอ้โหมันทรมานนะมันเหมือนกับเราเราเอ๊ะ
00:54:17 → 00:54:20 เราจะกำลังจะตายหรือเปล่าบางคนเก็เป็น
00:54:20 → 00:54:23 ภาวะที่คล้ายๆเหมือนมีความเครียดเป็นอ่า
00:54:23 → 00:54:26 เ้าเรียก ptsd ไปเลยก็ทำให้มีมีอาการ
00:54:26 → 00:54:29 เหมือนหลอนเหมือนมีความกังวลมีจนหวาน
00:54:29 → 00:54:32 ระแวงอะไรมากขึ้นอครับบางคนถ้าเป็นคนรอบ
00:54:32 → 00:54:34 ข้างไม่เข้าใจเขาเขาก็อาจจะเหมือนมีการ
00:54:34 → 00:54:36 กลั่นแกล้งมีอะไรเราก็เจอเหมือนกันนะครับ
00:54:36 → 00:54:40 ที่ว่ามีเพื่อนอ่าที่เขารู้ว่าไอ้คนเเขา
00:54:40 → 00:54:42 แพ้แป้งสารีแต่เขาไม่เชื่อว่าคนๆนี้แพ้
00:54:43 → 00:54:46 แป้งสาลีก็มีการผสมเาแป้งสาลีผสมเข้าไปใน
00:54:46 → 00:54:49 น้ำโกโก้ปั่นแล้วก็ให้กินสคนแข่ก็แพ้รุน
00:54:49 → 00:54:52 แรงแล้วไปห้องฉุกๆซึ่งก็น่าเห็นใจพอสมควร
00:54:52 → 00:54:55 แล้วก็เราเราไม่ไม่แนะนำให้ให้ให้ทำแบบเย
00:54:56 → 00:55:00 ฮะครับๆก็อยากให้บองว่าอืเป็นโรกนี้มัน
00:55:00 → 00:55:03 เป็นเหมือนเป็นเป็นโรคต่อเนื่องกันแล้ว
00:55:03 → 00:55:06 กันผลของแพ้อาหารมันส่งผลตามมามันเป็น
00:55:06 → 00:55:08 เอฟเฟคที่เรามองไม่เห็นตามมาอีกมากมาย
00:55:08 → 00:55:11 ครับครับคุณบอแบงค์ครับวันนี้มีคุณผู้ชม
00:55:11 → 00:55:14 ถามคำถามเข้ามาเยอะมากครับมีคำถามที่น่า
00:55:14 → 00:55:17 สนใจที่หลายๆท่านถามเข้ามาเรื่องเกี่ยว
00:55:17 → 00:55:20 กับการอาการแพ้ในเด็กครับคำถามที่น่าสนใจ
00:55:20 → 00:55:24 ก็คืออาการแพ้ที่ว่าเนี้ยมันสามารถที่จะ
00:55:24 → 00:55:29 ส่งผ่านน้ำนมไปสู่ทารกได้ไหอย่างเช่นถ้า
00:55:29 → 00:55:33 คุณแม่แพ้แป้งสาลีเจ้า IG ที่ที่คุณหมอ
00:55:33 → 00:55:35 แบงค์พูดมาเนี่ยมันสามารถที่จะผ่านน้ำนม
00:55:35 → 00:55:38 ไปยังลูกแล้วทำให้ลูกมี IG และแพ้ต่อแป้ง
00:55:38 → 00:55:41 สาลีเหมือนกับคุณแม่ได้มเอ่อจริงๆเดี๋ยว
00:55:41 → 00:55:44 ออกตัวก่อนผมอาจจะไม่ได้ไม่ได้เชี่ยวชา
00:55:44 → 00:55:46 ด้านของเด็กมากพอดีเป็นหมอผู้ใหญ่ด้วยแต่
00:55:46 → 00:55:50 แต่โอเคการแพร่ตรงนี้เนื่องจากเอ่อไนี่
00:55:50 → 00:55:53 โอกาสที่มันจะแพร่ไปผ่านทางน้ำนมอะไรมัน
00:55:53 → 00:55:55 มันจะน้อยกว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเนี่ยคือ
00:55:55 → 00:55:58 แทบแทบมันมันเป็นได้น้อยมากนะครับอือฮึ
00:55:58 → 00:56:01 ครับผมก็ส่วนใหญ่คนที่เขาแพ้ในเด็กเขาจะ
00:56:02 → 00:56:04 มีเหมือนเป็นพันธุกรรมบางอย่างที่เพิ่ม
00:56:04 → 00:56:06 ความเสี่ยงทำให้เป็นภูมิแพ้ได้ง่ายกว่าคน
00:56:06 → 00:56:08 ทั่วไปแล้วเขาก็ไปเซ้นด้วยตัวของเด็กคน
00:56:08 → 00:56:12 นั้นเองมากกว่าครับครับมีคุณแม่ท่านนึงฮะ
00:56:12 → 00:56:15 คุณพรประภาครับอยากให้คุณหมอพูดถึงเรื่อง
00:56:15 → 00:56:19 แพ้อาหารในเด็กทารกว่าจะเริ่มสงสัยว่า
00:56:19 → 00:56:22 เด็กทารกอายุสักเท่าไหร่นะครับถึงจะมี
00:56:22 → 00:56:26 อาการแพ้อาหารอ่าพูดให้เข้าใจง่ายขึ้นอี
00:56:26 → 00:56:29 ก็คือจะเริ่มสงสัยตั้งแต่เด็กกี่เดือนคะ
00:56:29 → 00:56:32 อายุกี่เดือนคะว่าจะเริ่มมีอาการแพ้อาหาร
00:56:32 → 00:56:36 ในเด็กทารกครับโอเคยทั่วไปคือเราก็มักจะ
00:56:36 → 00:56:40 อ่าอายุต้องมากสักักระยะนึงอาจจะประมาณัก
00:56:40 → 00:56:42 6 เดือนขึ้นไปหรืออย่างเงี้ยเราจะเริ่ม
00:56:42 → 00:56:45 เห็นปฏิกิริยาอย่างที่ว่าแล้ว่ะนะเอ่อโดย
00:56:45 → 00:56:49 ข้อสังเกตง่ายๆคือเช่นเรากินอ่านมหรือกิน
00:56:49 → 00:56:51 อาหารที่เราเริ่มใส่เข้าไปในตอนหลังหลัง
00:56:51 → 00:56:53 ขวบเนี้ยคือบางปัจจุบันเขาคก็แนะนำให้
00:56:54 → 00:56:56 ค่อยๆให้แค่กินนมแม่ได้ก็จะดีสุดใช่มั้ย
00:56:56 → 00:56:59 ฮะในช่วงกบปีแรกแต่ในรายที่เขากินอาหาร
00:56:59 → 00:57:01 เร็วหรืออ่ามีอาหารชนิดอื่นเข้าไปเนี่ย
00:57:01 → 00:57:04 บางคนเขาก็จะแสดงอาการออกมาก่อนหน้านั้นะ
00:57:04 → 00:57:07 ซึ่งอาจจะมีผื่นโผล่ขึ้นมาหรือบางคนอาจจะ
00:57:07 → 00:57:10 ร้องกวนร้องเอ่อวกวนหรืออะไรที่ไม่อยู่
00:57:10 → 00:57:12 ไม่สุกอาการอย่างงี้ก็เหมือนเป็นสัญญาณ
00:57:12 → 00:57:14 ที่ทำให้เราต้องสังเกตแล้วว่าเอ๊ะของลูก
00:57:14 → 00:57:17 ของเราเี่เป็นอะไรแนะนำว่าไปตรวจประเมิน
00:57:17 → 00:57:20 กับแพนเฉพาะทางอ่าด้านภูมิแพ้กุมารแพทย์
00:57:20 → 00:57:24 ได้น่าจะดีกว่าครับครับคุณผู้ชมฮะคุณเบญ
00:57:24 → 00:57:27 จวัครับคุณเบญจวามเกี่ยวกับเรื่องของการ
00:57:27 → 00:57:31 ตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงครับว่าเอ๊คุณหมอ
00:57:31 → 00:57:35 แบงค์แนะนำว่าควรจะต้องไปตรวจไหคือแพ้
00:57:35 → 00:57:38 อาหารแฝงปัจจุบันไม่แนะนำอือสิ่งที่เรา
00:57:38 → 00:57:41 แนะนำคือการตรวจภูมิชนิด IG ซึ่งมันก็จะ
00:57:41 → 00:57:43 เป็นภูมิที่จำเพาะต่อโมเลกุลอาหารนะครับ
00:57:43 → 00:57:46 สำหรับ igg เองเนี่ยในคนปกติอย่างเราๆ
00:57:46 → 00:57:49 เนี่ยครับที่กินอาหารได้เนี่ยมันก็มี igg
00:57:49 → 00:57:50 สร้างต่ออาหารทุกวันอยู่แล้วเพราะอย่าง
00:57:50 → 00:57:52 ที่กล่าวไปอาหารมันเหมือนเป็นสิ่งแฟอร์ม
00:57:52 → 00:57:55 ใช่มั้ยครับดังนั้นการเจาะ IG ในปัจจุบัน
00:57:55 → 00:57:58 ไม่แนะนำนะครับแล้วก็คำว่าแพ้อาหารแฝง
00:57:58 → 00:58:03 จริงๆในเอ่อในวงการของของภูมิแพ้ในประเทศ
00:58:03 → 00:58:06 ไทยเองในต่างประเทศเองจริงๆก็ทุกๆประเทศ
00:58:06 → 00:58:09 นะครับเรายังไม่มีคำใช้อยู่ส่วนใหญ่คำว่า
00:58:09 → 00:58:12 ภูมิแพ้แฝกเหมือนเป็นคำที่เสมมุติขึ้นมา
00:58:12 → 00:58:14 แต่มันไม่มีอยู่จริงคนกลุ่มนี้มักจะมี
00:58:14 → 00:58:16 อาการบางอย่างเช่นเขาอาจจะเป็นโรคอื่นก็
00:58:16 → 00:58:20 ได้ตัวอย่างเช่นเขาเป็นโรคลำไส้แปรปวนเขา
00:58:20 → 00:58:22 เป็นโรคผิวหนังบางอย่างเช่นอย่างเป็นเซฟ
00:58:22 → 00:58:24 เดิมอย่างเงี้ยครับเอแล้วทำให้เขาตีความ
00:58:24 → 00:58:27 ว่าเอ๊ะจริงๆมันเป็นการแพ้อาหารบางอย่าง
00:58:27 → 00:58:29 หรือเปล่าอ่าแล้วทำให้ตีว่าเป็นภูมิแพ้
00:58:29 → 00:58:32 แฝงครับแต่ปัจจุบันเราไม่มีคำนี้ในในทาง
00:58:32 → 00:58:34 การแพทย์นะครับถ้าจะตรวจวินิจฉัยแนะนำว่า
00:58:34 → 00:58:37 ไปปรึกษาแพทยเฉพาะทางด้านภูมิแพ้ประเมิน
00:58:37 → 00:58:41 เป็นลายๆได้น่าจะเหมาะสมกว่าครับครับมี
00:58:41 → 00:58:46 คุณผู้ชมถามมาฮะว่าอาการภูมิแพ้อาหารมัน
00:58:46 → 00:58:49 จะไปมีโอกาสในการกระตุ้นให้โรคบางอย่าง
00:58:49 → 00:58:51 มันรุนแรงขึ้นได้หรือไม่เช่นมันไปกระตุ้น
00:58:51 → 00:58:54 ให้ไมเกรนเนี่ยมันรุนแรงขึ้นได้มีโอกาสม
00:58:54 → 00:58:55 ครับ
00:58:55 → 00:58:58 เอ่อจริงๆต้องบอกก่อนว่ามีได้แต่ว่ามัน
00:58:58 → 00:59:02 ไม่ได้บ่อยนักนะอย่างในเอ่อของต่างประเทศ
00:59:02 → 00:59:05 มันก็มีรายงานว่าบางคนเขาแพ้แป้งสาลีแต่
00:59:05 → 00:59:08 อาการของเขาคือนอกจากเขามีผืนะไมเกน
00:59:08 → 00:59:11 กำเริบด้วยซึ่งก็มีการยืนยันจากการลองให้
00:59:11 → 00:59:13 กินต่อหน้าหมอมันก็ก็มีบางคนเป็นแบบนี้
00:59:13 → 00:59:16 แต่ว่าในเชิงกลไกเนี่ยเราังอธิบายด้วย
00:59:16 → 00:59:18 ปรากฏการณ์ภูมิแพ้ตรงไปตรงมาแบบยังยังไม่
00:59:18 → 00:59:21 ได้ชัดเจนครับแต่ถามว่ามีมมีอยู่จริงครับ
00:59:21 → 00:59:25 อือฮึครับวันนี้เราคุยกันมาไม่น่าเชื่อ
00:59:25 → 00:59:27 เลยว่าเวลาผ่าไปแล้ว 1 ช่มนะครับคุณหมอ
00:59:27 → 00:59:29 แบงค์วันนี้เราคุยกันสนุกมากมีคุณผู้ชม
00:59:29 → 00:59:32 หลายๆท่านที่ส่งข้อความเข้ามาแล้วก็แชร์
00:59:32 → 00:59:34 ประสบการณ์ของแต่ละท่านนะครับวันนี้ครับ
00:59:34 → 00:59:38 คุณผู้ชมครับเราพูดกันถึงเรื่องโรคภูมิ
00:59:38 → 00:59:40 แพ้อาหารซึ่งวันนี้คุยกับคุณหมอแบงค์แล้ว
00:59:40 → 00:59:44 โรคนี้มันมีอยู่จริงคนไทยแพ้กันหลายอย่าง
00:59:44 → 00:59:47 ผู้ใหญ่แพ้กันหลายอย่างเช่นแพ้อาหารทะเล
00:59:47 → 00:59:52 แพ้แป้งสาลีแพ้ผลไม้แพ้นมวัวคุณหมอแบงค์
00:59:52 → 00:59:56 พูดว่าูนแพ้สามารถอาจจะรักษาได้บางคนก็
00:59:56 → 00:59:58 หายแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรจะอยู่ในความ
00:59:58 → 01:00:02 ดูแลของแพทย์ไม่ใช่ว่าค่อยๆกินทีละนิดกิน
01:00:02 → 01:00:05 ทีละนิดแล้วหวังว่ามันจะหายเองแล้วก็ไม่
01:00:05 → 01:00:09 ควรจะกินยาแก้แพ้เพื่อจะดักอาการแพ้ของ
01:00:09 → 01:00:13 ตัวเองนะครับและที่สำคัญผู้คนที่อยู่รอบ
01:00:13 → 01:00:17 ข้างผู้ป่วยก็ควรจะมีความเข้าอกเข้าใจกับ
01:00:17 → 01:00:20 ผู้ป่วยว่าคุณว่าคนที่เป็นผู้ป่วยนะเไม่
01:00:20 → 01:00:23 ได้เฟกเไม่ได้พยายามที่จะเรียกร้องคามสน
01:00:23 → 01:00:27 ใจถ้าเขาแพ้ก็คือเขาแพ้จริงๆและอาการแพ้
01:00:27 → 01:00:29 มันอาจจะรุนแรงถึงชีวิตก็ได้ในวันนี้ครับ
01:00:29 → 01:00:33 คุณหมอแบงค์ครับจะมีอะไรที่จะฝากถึงคุณ
01:00:33 → 01:00:36 ผู้ชมในเรื่องของอาการโรคภูมิแพ้ในช่วง
01:00:36 → 01:00:39 สุดท้ายนี้บ้างมั้ครับเชิญครับครับก็จริง
01:00:39 → 01:00:42 ๆหมอคิดว่าเอ่อการแพ้อาหารในในผู้ใหญ่
01:00:42 → 01:00:44 หรือแม้แต่ในเด็กเนี่ยนะครับเราอาจจะเป็น
01:00:44 → 01:00:47 โรคนี้แต่ว่าเราก็สามารถมีความสุขกับ
01:00:47 → 01:00:50 ชีวิตของเราได้นะครับเราอาจจะเพิ่มเติม
01:00:50 → 01:00:52 แค่ว่าเราอาจจะต้องใช้ชีวิตอย่างระมัด
01:00:52 → 01:00:55 ระวังคือมีดีเทลนิดนึงเพิ่มเข้ามาในชีวิต
01:00:55 → 01:00:57 หน่อยก็ทำให้เราระมัดระวังในการกินในการ
01:00:57 → 01:00:59 รับประทานอาหารได้มากขึ้นนะครับดีที่สุด
01:01:00 → 01:01:03 คือพยายามรักษาโรคภูมิแพ้ทุกโรคให้ดีไป
01:01:03 → 01:01:05 ด้วยกันไปพร้อมๆกันเพราะอย่างที่บอกว่า
01:01:05 → 01:01:07 เอ่อการแพ้อาหารบางครั้งมันเซ็นได้หลาย
01:01:07 → 01:01:10 ช่องทางอย่างบางช่องทางเราอาจจะป้องกัน
01:01:10 → 01:01:12 ได้ก็ได้อย่างเช่นในผิวหนังในจมูกใช่มั้
01:01:12 → 01:01:14 ครับรักษาอาการพวกนี้ให้ดีๆแต่บางช่องทาง
01:01:14 → 01:01:16 มันก็สุดวิสัยอย่างทางเรินอาหารเราก็อาจ
01:01:16 → 01:01:19 จะยังหาวิธีป้องกันได้ไม่ชัดเจนครับก็ขอ
01:01:20 → 01:01:23 เป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยทุกคนที่เป็นแพ้
01:01:23 → 01:01:26 เป็นภาวะภูมิแพ้อาหารนะครับเราสามารถมี
01:01:26 → 01:01:29 ความสุขกับตัวโลกได้ครับวันนี้ต้องขอบคุณ
01:01:29 → 01:01:31 คุณหมอแบงค์ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์
01:01:31 → 01:01:35 มงคลสมพรรัตนพันธ์อาจารย์สาขาวิชาโรคภูมิ
01:01:36 → 01:01:39 แพ้และภูมิคุ้มกันภาควิชาอายุรศาสตร์คณะ
01:01:39 → 01:01:41 แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล
01:01:41 → 01:01:44 ครับที่มาพูดคุยกับเราในเรื่องของโรคภูมิ
01:01:44 → 01:01:47 แพ้อาหารขอบพระคุณมากครับคุณหมอแบงค์
01:01:47 → 01:01:50 ขอบคุณครับจันเต้ครับคุณผู้ชมครับมหิดน
01:01:50 → 01:01:52 Channel Live ของเราครับก็จะนำประเด็น
01:01:52 → 01:01:55 เด่นประเด็นร้อนที่เป็นที่สนใจของคุณผู้
01:01:55 → 01:02:00 ชมมาพูดคุยกันโดยเราจะเลือกหัวข้อที่น่า
01:02:00 → 01:02:02 จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้ชมทั้งในเรื่อง
01:02:02 → 01:02:06 ของสุขภาพกายสุขภาพใจโดยที่เราจะเชิญผู้
01:02:06 → 01:02:09 เชี่ยวชาญที่มีอยู่มากมายหลากหลายสาขาใน
01:02:09 → 01:02:13 มหาวิทยาลัยมหิดลมาพูดคุยและตอบคำถามของ
01:02:13 → 01:02:17 คุณผู้ชมสดๆในมหิดน Channel Live สำหรับ
01:02:17 → 01:02:21 รายการในครั้งต่อไปจะเป็นหัวข้ออะไรนั้น
01:02:21 → 01:02:23 ฝากคุณผู้ชมติดตามด้วยนะครับจนกว่าจะพบ
01:02:23 → 01:02:29 กันใหม่รักษาสุขภาพสวัสดี
01:02:29 → 01:02:35 [เพลง]
01:02:35 → 01:02:38 ครับ