00:00:00 → 00:00:02 ลดน้ำหนักนะครับใช้น้ำตาลแบบไหนดีนะครับ
00:00:02 → 00:00:04 คือบางคนเนี่ยลดน้ำหนักก็ยังอยากกินหวาน
00:00:04 → 00:00:06 บ้างอ่ะเนาะแต่ว่าเราจะเลือกน้ำตาลยังไง
00:00:06 → 00:00:09 ให้ลดน้ำหนักได้เร็วแล้วก็ดีต่อสุขภาพ
00:00:09 → 00:00:12 ด้วยนะครับมีคนถามมาว่าระหว่างน้ำตาลปกติ
00:00:12 → 00:00:14 เลยกับน้ำผึ้งอะไรมันดีกว่ากันนะครับ
00:00:14 → 00:00:16 เดี๋ยวมอเนี้ยมอ 1 อธิบายเรื่องน้ำตาลให้
00:00:16 → 00:00:18 ละเอียดเลยโอเคมั้ยนะครับเพราะฉะนั้นตั้ง
00:00:18 → 00:00:20 ใจฟังให้จบนะครับสวัสดีครับผมหมอ 1
00:00:20 → 00:00:22 Healthy ฮีโร่นะครับลดน้ำหนักครั้งสุด
00:00:22 → 00:00:25 ท้ายในชีวิตคิดถึงหมอ 1 Healthy ฮีโร่นะ
00:00:25 → 00:00:26 ครับคราวนี้ตามธรรมเนียมก่อนที่เราจะไป
00:00:26 → 00:00:29 คุยกันวันนี้นะนะครับก็ขอแสดงความยินดี
00:00:29 → 00:00:31 กับเพื่อนๆเราท่านนึงด้วยนะครับอันนี้
00:00:31 → 00:00:33 เป็นนักเรียนของม 1 เนาะตอนเนี้ยลดน้ำ
00:00:33 → 00:00:35 หนักเมื่อตอนเดือน 5 นะครับเห็นมา
00:00:35 → 00:00:38 คอมเมนต์เลยนะว่าลดไปได้ 8 กกจากน้ำหนัก
00:00:38 → 00:00:41 56 นะครับเหลือ 48 นะตอนนี้เนี่ยที่
00:00:41 → 00:00:43 สำคัญคือเค้าเข้าใจเทคนิคของการลดแป้ง
00:00:43 → 00:00:46 แล้วก็เทคนิคของการลดน้ำตาลแล้วใครที่ฟัง
00:00:46 → 00:00:48 หมอหนึมานานแล้วก็จะรู้ว่าจริงๆแล้วเนี่ย
00:00:48 → 00:00:51 เพียงแค่เราเข้าใจเรื่องระบบพลังงานถูกมย
00:00:51 → 00:00:53 ร่างกายเราจะสามารถสลับไปใช้ไขมันได้ดี
00:00:54 → 00:00:56 ขึ้นส่วนใครที่เพิ่งมาติดตามหมอ 1 คลิป
00:00:56 → 00:00:58 นี้คลิปแรกหมอ 1 มีคลิปดีๆในช่องเยอะมากๆ
00:00:58 → 00:01:01 นะครับสามารถกดติดติดตามกดติดตามไว้เลยนะ
00:01:01 → 00:01:03 แล้วก็เข้าไปย้อนดูคลิปเก่าๆได้นะครับจะ
00:01:03 → 00:01:05 ได้เข้าใจเรื่องระบบพลังงานเนาะว่าทำยัง
00:01:05 → 00:01:07 ไงเราถึงจะลดการใช้น้ำตาลไปเพิ่มการใช้ไข
00:01:07 → 00:01:10 มันสะสมได้มากขึ้นจะได้ผอมลงเร็วๆเนาะ
00:01:10 → 00:01:11 ส่วนพวกคลิปใหม่ๆหมอหนึ่งจะลงทุกวัน
00:01:11 → 00:01:14 อังคารพฤหัสแล้วก็อาทิตย์ช่วงประมาณ 19:45
00:01:14 → 00:01:16 นนะครับนะก็กดติดตามกดกระดิ่งแจ้งเตือน
00:01:16 → 00:01:18 ไว้ได้นะซึ่งเดี๋ยววันเนี้ยเราจะคุยกัน
00:01:18 → 00:01:20 เรื่องน้ำตาลอันเนี้ยละเอียดเลยนะแล้วก็
00:01:20 → 00:01:23 ที่ผมภูมิใจมากๆคือท่านเนี้ยเ้าเอาความ
00:01:23 → 00:01:25 รู้ที่ได้จากการเรียนกับผมเนี่ยไปสอนคุณ
00:01:25 → 00:01:28 พ่อที่อายุ 86 ปีดังนั้นตอนนี้ใครที่
00:01:28 → 00:01:30 กำลังคิดว่าการลดน้ำหนักสำหรับเรามันเป็น
00:01:30 → 00:01:32 เรื่องยากมากๆนะครับเพราะว่าเราอายุเยอะ
00:01:32 → 00:01:35 แล้วนี่บอกเลยนะอายุ 86 ปียังลดได้เลยอ่ะ
00:01:35 → 00:01:38 คุณคิดว่าคนอายุ 86 ปีนี่ออกกำลังกายหนัก
00:01:38 → 00:01:42 ๆได้มั้ยไม่ได้จะกินอาหารอะไรก็ลำบากกว่า
00:01:42 → 00:01:44 คนทั่วไปถูกมยเพราะว่าด้วยความที่พออายุ
00:01:44 → 00:01:46 เราเยอะขึ้นการเคี้ยวการย่อยมันไม่เหมือน
00:01:46 → 00:01:48 ตอนเราวัยหนุ่มสาวแล้วแต่เขายังสามารถทำ
00:01:48 → 00:01:51 ได้เลยนี่คือแรงบันดาลใจชั้นดีเลยนะครับ
00:01:51 → 00:01:53 เนาะกดหัวใจให้คนละ 1 ดวงให้กับคุณพ่อของ
00:01:54 → 00:01:56 นักเรียนของผมท่านนี้ด้วยเนาะก็ลดจาก 73
00:01:56 → 00:01:59 นะครับนะมาเหลือ 67 เลยตอนนี้มีความสุข
00:01:59 → 00:02:01 มากไปออกกำลังกายกับเพื่อนๆมีแต่คนทัก
00:02:01 → 00:02:04 เพราะฉะนั้นการที่ผมเอาความรู้แบบเนี้ยมา
00:02:04 → 00:02:06 สอนไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียนของผมหรือไม่
00:02:06 → 00:02:08 ได้เป็นนักเรียนของผมก็ตามนะครับผมอยาก
00:02:08 → 00:02:10 ให้คุณเนี่ยเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แล้วจะ
00:02:10 → 00:02:12 ได้เอาคววามรู้ตรงเนี้ยไปสอนคนในครอบครัว
00:02:12 → 00:02:14 คนอีกได้ถ้าในครอบครัวคุณมี 5 คนนะครับ
00:02:14 → 00:02:16 คุณเป็น Healthy ฮีโร่คนแรกอีก 5 คนคุณก็
00:02:16 → 00:02:18 ผอมลงด้วยเพราะฉะนั้นถ้ามี 100 ครอบครัว
00:02:18 → 00:02:20 ก็เท่ากับมี 500 คนเลยนะที่ผอมลงอ่ะดัง
00:02:20 → 00:02:23 นั้นสู้ๆเค้านะครับโอเคมั้ยเอาความรู้ไป
00:02:23 → 00:02:25 ปรับใช้ดูเนาะคราวนี้มาถึงสิ่งที่เราคุย
00:02:25 → 00:02:27 กันวันนี้นะครับนะในเรื่องของน้ำตาลเท้า
00:02:27 → 00:02:29 ความก่อนว่าทำไมถึงต้องพูดของเรื่องน้ำ
00:02:29 → 00:02:31 ตาลด้วยเวลาเราลดน้ำหนักเนี่ยหมอหนึ่งจะ
00:02:31 → 00:02:33 พูดตลอดทุกคลิปเลยว่าเรื่องน้ำตาลสำคัญ
00:02:33 → 00:02:35 ที่สุดเพราะระบบพลังงานมี 2 ระบบคือใช้
00:02:35 → 00:02:38 น้ำตาลเป็นพลังงานหลักกับใช้ไขมันเป็น
00:02:38 → 00:02:40 พลังงานหลักใครที่ฟังมาหลายๆคลิปแล้วจำ
00:02:40 → 00:02:41 ได้ั้ยครับว่าร่างกายเราจะใช้อะไรเป็น
00:02:41 → 00:02:44 พลังงานหลักก่อนเลยถ้ามีมันจะใช้น้ำตาล
00:02:44 → 00:02:46 ก่อนนะเพราะอะไรเพราะว่าถ้าเทียบเป็นโรง
00:02:46 → 00:02:49 งานเป็นเตาเผาพลังงานน้ำตาลเนี่ยแค่เข้า
00:02:49 → 00:02:51 ประตูด่านแรกไปปั๊บเอาไปใช้เป็นพลังงาน
00:02:51 → 00:02:54 ได้เลยในขณะที่ไขมันเข้าประตูด่านแรกไป
00:02:54 → 00:02:55 ปั๊บยังใช้เป็นพลังงานไม่ได้ต้องผ่าน
00:02:55 → 00:02:57 ประตูชั้นที่ 2 ชั้นที่ 3 เข้าไปเพราะ
00:02:57 → 00:03:00 ฉะนั้นมันจะใช้เวลาในการเผาผ่านค่อนข้าง
00:03:00 → 00:03:02 เยอะนะครับเพราะฉะนั้นถ้ามีน้ำตาลมันจะ
00:03:02 → 00:03:04 เลือกใช้น้ำตาลก่อนถ้าคุณอยากจะเริ่มต้น
00:03:04 → 00:03:07 ลดน้ำหนักเป็นไปได้พยายามตัดน้ำตาลออกจาก
00:03:07 → 00:03:10 ชีวิตไปก่อนเลยเช่นเครื่องดื่มต่างๆอะไร
00:03:10 → 00:03:11 เอ่ยที่มันมีน้ำตาลเปลี่ยนเป็นเครื่อง
00:03:11 → 00:03:14 ดื่มที่ไม่มีน้ำตาลกาแฟที่เคยกินหวานๆ
00:03:14 → 00:03:17 เปลี่ยนเป็นกาแฟดำชาชานมไข่มุกที่เคยกิน
00:03:17 → 00:03:19 เปลี่ยนเป็นชาที่ไม่มีน้ำตาลน้ำอื่นๆอะไร
00:03:19 → 00:03:21 เอ่ยที่มันแปลกๆเปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าแค่
00:03:21 → 00:03:24 เนี้ยบอกเลยนะใครที่น้ำหนักเริ่มต้นเยอะๆ
00:03:24 → 00:03:27 นะ 7 วันน้ำหนักลงเลยรู้สึกพุงสบายเลยแต่
00:03:28 → 00:03:30 ความยากมันจะอยู่ที่ 3 วันแรกเพราะอะไร
00:03:30 → 00:03:31 รู้มั้ยไอ้เจ้าน้ำตาลที่เราจะคุยกันวัน
00:03:31 → 00:03:34 เนี้ยเวลาคุณกินมันบ่อยๆแล้วคุณจะติดสมอง
00:03:35 → 00:03:37 เราจะติดน้ำตาลมาก 3 วันแรกที่เราเลิกน้ำ
00:03:37 → 00:03:40 ตาเราจะรู้สึกโหยเราจะรู้สึกว่ามันแบบ
00:03:40 → 00:03:42 อยากกินจังเลยแต่คุณผ่าน 3 วันแรกไปได้นะ
00:03:43 → 00:03:45 ลิ้นคุณจะกลับมาปกติเลยพอเรากลับไปกินของ
00:03:45 → 00:03:47 ที่มันหวานๆเราจะรู้สึกว่าทำไมลิ้นเรามัน
00:03:47 → 00:03:49 แปลกๆทำไมแต่ก่อนเรากินแล้วเรารู้สึกว่า
00:03:49 → 00:03:52 มันปกติทำไมตอนนี้กินแล้วรู้สึกว่ามัน
00:03:52 → 00:03:54 หวานเพราะลิ้นเราปรับระดับกลับมารับรถได้
00:03:54 → 00:03:58 ปกติแล้วโอเคไหแต่ถ้าสมมุติว่าเราอยากจะ
00:03:58 → 00:04:02 กินจริงๆอยากจะใส่บ้างน้ำตาลแบบไหนที่พอ
00:04:02 → 00:04:05 จะใส่ได้บ้างและดีต่อสุขภาพอ่าก่อนที่เรา
00:04:05 → 00:04:06 จะไปเข้าใจเรื่องนี้เราก็ต้องเข้าใจก่อน
00:04:06 → 00:04:08 ว่าสารอาหารที่เกี่ยวกับน้ำตาลเนี่ยนะ
00:04:09 → 00:04:12 ครับนะเราจะเรียกมันว่าคาร์โบไฮเดรตอ่า
00:04:12 → 00:04:15 หรือว่าที่หลายๆคนเรียกรวมๆกันว่าขาบไอ้
00:04:15 → 00:04:17 เจ้าคาร์โบไฮเดรตเนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยมัน
00:04:17 → 00:04:20 มีหลายอย่างรวมอยู่ในนั้นนะครับมันจะมี
00:04:20 → 00:04:23 อันที่ 1 คือน้ำตาลอ่ามีอันที่ 1 คือน้ำ
00:04:23 → 00:04:26 ตาลอันที่ 2 คือกลุ่มที่เราเรียกว่าแป้ง
00:04:26 → 00:04:29 อ่าแล้วก็อันที่ 3 คือกลุ่มที่เราเรียก
00:04:29 → 00:04:32 เรียกว่าใยอาหารใครที่เคยเปิดฉลาก
00:04:32 → 00:04:35 โภชนาการดูจะเห็นว่าเขาจะมีเขียนว่าขาบ
00:04:35 → 00:04:37 รวมทั้งคาร์โบไฮเดรตรวมทั้งหมดแล้วก็
00:04:37 → 00:04:40 บรรทัดถัดมาย่อยๆคือน้ำตาลแล้วก็ใยอาหาร
00:04:40 → 00:04:43 ถูกมยจริงๆแล้วไอ้คำว่าคาร์โบไฮเดรตรวม
00:04:43 → 00:04:45 ทั้งหมดเนี่ยมันคือตรงนี้แหละเขาก็เขียน
00:04:45 → 00:04:47 ว่าแล้วมันในนั้นเนี่ยมันมีน้ำตาลเป็นสัด
00:04:47 → 00:04:49 ส่วนเท่าไหร่มีแป้งมีใยอาหารสัดส่วนเท่า
00:04:49 → 00:04:51 ไหร่ใครที่อยู่ในกลุ่มลดน้ำหนักของหมอ1ึ
00:04:51 → 00:04:55 จำวิธีอ่านฉลากไม่ได้ไปทบทวนบทที่ 4 นะ
00:04:55 → 00:04:58 ส่วนเรื่องแป้งจะอยู่บทที่ 5 ที่ 7 ที่ 8
00:04:58 → 00:05:00 ไปทบทวนซะนะนะครับจะจะได้แม่นเนาะจะได้
00:05:00 → 00:05:03 ใช้ชีวิตแล้วมีความสุขกินเพื่อยทุกอย่าง
00:05:03 → 00:05:05 แต่ผอมลงเนาะส่วนของพวกเรามาฟังกันต่อนะ
00:05:05 → 00:05:07 ครับในเรื่องที่เราจะคุยกันจริงๆวันเนี้ย
00:05:07 → 00:05:10 เี่มันคือเรื่องของส่วนของน้ำตาลอ่าน้ำ
00:05:10 → 00:05:13 ตาลเนี่ยมันมีหลายชนิดมากๆนะครับแต่ปกติ
00:05:14 → 00:05:16 แล้วมันจะแบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกันคือ
00:05:16 → 00:05:19 โมเลกุลเดี่ยวกับโมเลกุลคู่บางคนบอกอะไร
00:05:19 → 00:05:21 อ่ะหมอโมเลกุลแปลว่าอะไรหมอหนึ่งอธิบาย
00:05:21 → 00:05:23 ให้ฟังง่ายๆแบบนี้ไม่ต้องจำศัพท์อะไรเลย
00:05:23 → 00:05:26 นะครับปกติแล้วเวลาเรากินข้าวเข้าไปเนี่ย
00:05:26 → 00:05:28 อ่าสมมติวันนี้หมอ 1 สมมุติให้นะว่ามัน
00:05:28 → 00:05:32 เป็นข้าวแน่เป็นข้าวข้าวที่เรากินเข้าไป
00:05:32 → 00:05:35 เนี่ยถ้าเราส่องกล้องลงไปดูเล็กๆเลยนะมัน
00:05:35 → 00:05:38 จะมีเจ้าจุดๆๆๆๆแต่ละอันเนี่ยต่อกันเยอะ
00:05:39 → 00:05:42 มากๆซึ่งไอ้จุดแต่ละจุดที่มันกว่าจะต่อ
00:05:42 → 00:05:44 กันมาเป็นข้าวหรือเป็นแป้งได้เนี่ยเรา
00:05:44 → 00:05:47 เรียกมันว่าน้ำตาล
00:05:47 → 00:05:50 อ้าถ้าตัดออกมาย่อยที่สุดเป็นน้ำตาลตัว
00:05:50 → 00:05:52 เดียวเดี่ยวๆก็คือโมเลกุลเดี่ยวก็คือมี
00:05:52 → 00:05:54 ตัวเดียวเดี่ยวๆแต่ถ้าสมมุติว่าตัดออกมา
00:05:54 → 00:05:58 แล้วมันเกาะกันอยู่ 2 ตัวอันนี้ก็คือ
00:05:58 → 00:06:02 โมเลกุลที่เป็นโมเลกุลขุนคู่อ่าทำไมถึง
00:06:02 → 00:06:04 ต้องรู้นะครับเพราะว่าไอ้เจ้าปกติเวลาเรา
00:06:04 → 00:06:07 กินข้าวหรือกินขนมปังกินอะไรเข้าไปในร่าง
00:06:07 → 00:06:09 กายมันจะต้องย่อยให้เล็กที่สุดเพื่อที่ลำ
00:06:09 → 00:06:11 ไส้เราจะสามารถดูดซึมเอาไปใช้ได้ถูกมย
00:06:11 → 00:06:13 เพราะฉะนั้นน้ำตาลพวกโมเลกุลเดี่ยว
00:06:13 → 00:06:15 โมเลกุลคู่พวกเคือน้ำตาลเล็กๆย่อยๆที่มี
00:06:15 → 00:06:18 ผลก่อร่างกายของเราซึ่งถามว่ามันมีชนิด
00:06:18 → 00:06:20 ไหนบ้างอ้านะครับหมอหนึ่งพูดเพิ่มเติมให้
00:06:21 → 00:06:23 ฟังแบบนี้นะน้ำตาลหลักๆที่เราจะต้องรู้
00:06:23 → 00:06:26 จักเนี่ยมาดูตัวน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวก่อน
00:06:26 → 00:06:29 น้ำตาลที่เป็นโมเลกุลเดี่ยวเนี่ยจะมีอยู่
00:06:29 → 00:06:32 ทั้งหมด 3 ชนิดหลักๆด้วยกันอันที่ 1 เรา
00:06:32 → 00:06:35 เรียกมันว่าน้ำตาลกลูโคสอันนี้อาจจะอยาก
00:06:35 → 00:06:38 ให้คุ้นชื่อนิดนึงนะครับมันสำคัญพอสมควร
00:06:38 → 00:06:40 เพราะอะไรเพราะว่าเจ้าน้ำตาลกลูโคสเนี่ย
00:06:40 → 00:06:42 เราเคยได้ยินมั้ยเวลาเราไปโรงพยาบาแล้ว
00:06:42 → 00:06:44 เจาะน้ำตาลปลายนิ้วไอ้น้ำตาลปลายนิ้วที่
00:06:44 → 00:06:46 เราเจาะได้เนี่ยน้ำตาลที่อยู่ในกระแส
00:06:46 → 00:06:48 เลือดเนี่ยมันคือน้ำตาลที่ชื่อว่าน้ำตาล
00:06:48 → 00:06:51 กลูโคสส่วนน้ำตาลอีกอันนึงนะครับนะเรา
00:06:51 → 00:06:55 เรียกมันว่าน้ำตาลฟรุกโตสอ้าและอันสุด
00:06:55 → 00:06:57 ท้ายที่เป็นโมเลกุลเดี่ยวเราเรียกมันว่า
00:06:57 → 00:07:00 น้ำตาลแกแลคโตส
00:07:00 → 00:07:03 ชื่อคุ้นๆเนาะอันเนี้ยอยากให้จำชื่อได้
00:07:03 → 00:07:05 อยากให้รู้จักชื่อเพราะมันคุ้นหูในชีวิต
00:07:05 → 00:07:09 ประจำวันนะครับ 3 ตัวเยคือตัวที่สำคัญที่
00:07:09 → 00:07:11 สุดที่เราจะต้องรู้จักน้ำตาลกลูโคสเนี่ย
00:07:11 → 00:07:13 โอ้โหมันเจออยู่ในเกือบทุกอย่างเลยเพราะ
00:07:13 → 00:07:15 ว่ามันคือตัวที่เล็กที่สุดที่พอย่อยทุก
00:07:15 → 00:07:16 อย่างออกมาแล้วเนี่ยน้ำตาลตัวเนี้ยร่าง
00:07:16 → 00:07:19 กายเอาไปใช้เป็นพลังงานได้และไอ้น้ำตาล
00:07:19 → 00:07:21 ที่อยู่ในเลือดที่เราเจาะได้จึ๊ดออกมา
00:07:21 → 00:07:23 อันเนี้ยคือน้ำตาลกลูโคสส่วนน้ำตาล
00:07:23 → 00:07:26 ฟรุคโตสคืออะไรไอ้เจ้าอันนี้แหละที่เรา
00:07:26 → 00:07:28 พูดกันถึงตอนแรกว่าคุณหมอกินน้ำตาลปกติ
00:07:28 → 00:07:31 หรือกินน้ำผึ้งดีกว่ากันไอ้เจ้าฟรุคโตส
00:07:31 → 00:07:33 เนี่ยส่วนใหญ่มักจะเจอในพวกที่เป็นน้ำ
00:07:33 → 00:07:37 ผึ้งเจอในพวกที่เป็นผลไม้ส่วนเจ้าที่เป็น
00:07:37 → 00:07:43 แคตพวกเนี้ยเจอในไหนมักจะเจอในน้ำนมนน้ำ
00:07:43 → 00:07:46 นมแต่มันไม่ได้อยู่ในรูปแกแลคโตสนะครับ
00:07:46 → 00:07:48 จริงๆแล้วเนี่ยในน้ำนมอ่ะที่เราจะเจอหลัก
00:07:48 → 00:07:52 ๆคือน้ำตาลที่เราเรียกว่าน้ำตาลแลคโตส
00:07:52 → 00:07:55 ชื่อคุ้นๆมยแกแลคโตสแลคโตสจริงๆมันกลุ่ม
00:07:55 → 00:07:58 เดียวกันแหละแต่เจ้าน้ำตาลแลคโตสเนี่ยมัน
00:07:58 → 00:08:02 เกิดมามาจากน้ำตาลกลูโคสไปบวกกับเจ้าน้ำ
00:08:02 → 00:08:05 ตาลแกแลคโตสจำว่าอะไรบวกอะไรไม่ได้ช่าง
00:08:05 → 00:08:08 มันแต่ให้รู้วิธีการเอาไปใช้โอเคมยหมอ 1
00:08:08 → 00:08:11 ไม่ซีเรียสไม่อยากให้จำสูตรอะไรได้ชื่อ
00:08:11 → 00:08:13 ภาษาอังกฤษอะไรช่างมันเลยแต่เอาไปใช้ให้
00:08:13 → 00:08:16 ได้ก็พอตรงนี้สำคัญที่สุดนะครับเพราะ
00:08:16 → 00:08:19 ฉะนั้นน้ำตาลแลคโตสจริงๆคืออะไรน้ำตาลแล
00:08:19 → 00:08:21 แลคโตสจริงๆคือน้ำตาล 2 ตัวต่อกันคือ
00:08:21 → 00:08:24 กลูโคสกับแกแลคโตสจะเจอในน้ำนมเป็นหลัก
00:08:24 → 00:08:25 เพราะฉะนั้นเวลาคุณไปกินนมแล้วบางคนที่เ
00:08:25 → 00:08:29 บอกว่าไอ้เจ้านมแลคโตสฟรีมันคืออะไรหรอคะ
00:08:29 → 00:08:32 คุณหมอบางคนเขย่อยนมที่มีแลคโตสไม่ได้ลำ
00:08:32 → 00:08:35 ไส้ไม่แข็งแรงเา้าก็เลยผลิตนมที่เป็นนม
00:08:35 → 00:08:38 แลคโตสฟรีออกมาทำยังไงมันถึงจะแลคโตสฟรี
00:08:38 → 00:08:41 เขาก็ย่อยแลคโตสออกเป็นกลูโคสกับกาแลคโตส
00:08:41 → 00:08:43 ซะเลยเพราะฉะนั้นถามว่าถ้าใครเคยลดน้ำ
00:08:43 → 00:08:45 หนักกับหมอ 1 จะรู้ว่าหมอ 1 จะไม่ค่อยได้
00:08:45 → 00:08:48 แนะนำให้กินนมแลคโตสฟรีเท่าไหร่ในการลด
00:08:48 → 00:08:50 น้ำหนักเพราะว่าอะไรเพราะว่ามันย่อยจาก
00:08:50 → 00:08:52 โมเลกุลที่ใหญ่กว่ากลายเป็นโมเลกุลเล็กๆ
00:08:52 → 00:08:55 พูดง่ายๆคือน้ำตาลมันเยอะขึ้นและพร้อมที่
00:08:55 → 00:08:57 จะดูดซึมเข้าร่างกายเลยเห็นภาพเนาะเพราะ
00:08:57 → 00:08:59 ฉะนั้นพวกนมที่เป็นแลคโตสฟรีไม่ค่อยเหมาะ
00:08:59 → 00:09:00 กับการลดน้ำหนักเท่าไหร่แต่สิ่งที่เราจะ
00:09:00 → 00:09:03 โฟกัสจริงๆคือเจ้าตัวที่เป็นฟรุกโตสนะ
00:09:03 → 00:09:06 เจ้าน้ำผึ้งกับผลไม้เนี่ย 2 ตัวเนี้ยถาม
00:09:06 → 00:09:09 ว่าอ้วนมั้ยคะคุณหมอทำไมบางคนเขาบอกว่า
00:09:09 → 00:09:12 กินผลไม้ไปสิไม่เป็นไรหรอกน้ำตาลในเลือด
00:09:12 → 00:09:15 ไม่สูงต้องบอกแบบนี้ต้องระวังมากๆเลยนะ
00:09:15 → 00:09:19 น้ำผึ้งกับผลไม้เนี่ยน้ำตาลในนั้นเนี่ย
00:09:19 → 00:09:21 เป็นน้ำตาลฟรุคโตสเป็นหลักเพราะฉะนั้น
00:09:21 → 00:09:23 เวลาเราไปเจาะเลือดสมมุติว่าเรากินผลไม้
00:09:23 → 00:09:25 เข้าไปเยอะๆแล้วเราไปเจาะเลือดปลายนิ้ว
00:09:25 → 00:09:27 ตรวจน้ำตาลมันจะไม่ขึ้นเพราะเมื่อกี้วัน
00:09:27 → 00:09:29 หนึ่งพูดไปแล้วว่าน้ำตาลที่มันอยู่ใน
00:09:29 → 00:09:31 กระแสเลือดมันคือน้ำตาลอะไรครับที่เรา
00:09:31 → 00:09:34 ตรวจมันคือน้ำตาลกลูโคสแต่ในผลไม้กับน้ำ
00:09:34 → 00:09:36 ผึ้งมีน้ำตาลฟรุกโตสเป็นหลักคนก็เลยเอา
00:09:36 → 00:09:39 ตรงเนี้ยมาทำการตลาดว่าเฮ้ยอย่างเงี้ยกิน
00:09:39 → 00:09:42 ผลไม้ดิกินเยอะๆเลยน้ำตาลไม่ขึ้นนะแล้วก็
00:09:42 → 00:09:44 น้ำผึ้งอ่ะกินไปเลยเพราะอะไรน้ำตาลไม่
00:09:44 → 00:09:47 ขึ้นนะเพราะมันเป็นน้ำตาลุกโต๊ดแต่เราไม่
00:09:47 → 00:09:50 เคยรู้ข้อเสียของมันเลยว่าการที่เรากิน
00:09:50 → 00:09:53 น้ำผึ้งกับผลไม้เยอะมากเกินไปหมอนถึงใช้
00:09:53 → 00:09:55 คำว่าเยอะมากเกินไปนะไม่ได้หมายความว่า
00:09:55 → 00:09:58 กินไม่ได้นะแต่บางคนพอบอกว่ากินได้ปั๊บ
00:09:58 → 00:10:00 กินเยอะๆเลยสิ่งที่จะเกิดคืออะไรรู้ไม
00:10:00 → 00:10:04 เจ้าฟุคโตสเนี่ยมันจะไปสะสมที่ตับตายแล้ว
00:10:04 → 00:10:07 หมายความว่าอะไรหมายความว่าถ้าเราอยากเผา
00:10:07 → 00:10:09 ผลาญออกเราต้องเผาผลาที่ตับให้ได้เยอะที่
00:10:09 → 00:10:12 สุดแต่ถ้าเราเผาผลาญไม่หมดมันจะสะสมที่
00:10:12 → 00:10:16 ตับและกลายเป็นอะไรครับไขมันพอกตับเพราะ
00:10:16 → 00:10:19 ฉะนั้นบางคนจะเคยสงสัยว่าคุณหมอคะเรามัก
00:10:19 → 00:10:22 จะเจอคนที่เป็นเบาหวานร่วมกับไขมันพอกตับ
00:10:22 → 00:10:24 แต่ทำไมพี่ไขมันพอกตับแล้วพี่ไม่เป็นเบา
00:10:24 → 00:10:27 หวานคะเอ่อโทษนะครับกินผลไม้เยอะไหครับ
00:10:27 → 00:10:30 ใช่ค่ะพี่กินผลไม้เยอะขาดนี่ไงสาเหตุ
00:10:30 → 00:10:32 เพราะเจ้าผลไม้ส่วนใหญ่เป็นน้ำตาล
00:10:32 → 00:10:34 ฟรุ๊กโตสไม่ได้ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
00:10:34 → 00:10:37 คุณเลยไม่ได้เป็นเบาหวานแต่ไขมันพอกตับ
00:10:37 → 00:10:40 ได้ตับแข็งได้เหมือนกันถ้ากินเยอะเกินไป
00:10:40 → 00:10:42 ดังนั้นฟังดีๆนะไม่ได้หมายความว่ากินไม่
00:10:42 → 00:10:44 ได้แต่อย่ากินเยอะเกินไปคราวนี้อีกคนก็
00:10:44 → 00:10:46 เลยถามว่าคุณหมอคะแล้วมันต่างอะไรกับน้ำ
00:10:47 → 00:10:49 ตาลทรายเพราะวันนี้สิ่งที่เราจะคุยกันคือ
00:10:49 → 00:10:51 เราเลือกน้ำตาลทรายปกติดีหรือว่าเราเลือก
00:10:51 → 00:10:54 น้ำผึ้งดีถูกมยไอ้เจ้าน้ำตาลทรายเนี่ยมัน
00:10:54 → 00:10:57 เป็นน้ำตาลชนิดนึงที่เราเรียกชื่อมันว่า
00:10:57 → 00:10:59 น้ำตาลซูโครส
00:10:59 → 00:11:02 โสจำชื่อไม่ได้ช่างมันเปิดมาฟังซ้ำบ่อยๆ
00:11:02 → 00:11:06 นะครับเนาะน้ำตาลซูโคสส่วนใหญ่พวกน้ำตาล
00:11:06 → 00:11:08 ทรายผลิตจากอะไรผลิตจากธรรมชาตินะผลิตจาก
00:11:08 → 00:11:11 อ้อยใช่มยซูโคสเนี่ยจริงๆมันเกิดจากน้ำ
00:11:11 → 00:11:12 ตาล
00:11:12 → 00:11:17 กลูโคสบวกกับน้ำตาลฟรุกโตสเพราะฉะนั้นดู
00:11:17 → 00:11:21 ไปดูมาหนีฟรุกโตสพ้นมั้ยไม่พ้นแต่ไม่ได้
00:11:21 → 00:11:24 หมายความว่ากลูโคสไม่ดีกลูโคสดีแต่ร่าง
00:11:24 → 00:11:26 กายจำเป็นต้องใช้ในปริมาณที่พอเหมาะแต่
00:11:26 → 00:11:28 ที่ทุกวันนี้เราอ้วนน่ะมันอ้วนเพราะว่า
00:11:28 → 00:11:30 อะไรเพราะเรากินน้ำตาลภายนอกเข้าไปแบบ
00:11:30 → 00:11:33 ตะบี้ตะบันกินถูกป่ากินเยอะกว่าที่ร่าง
00:11:33 → 00:11:36 กายต้องการใช้มันก็เลยอ้วนส่วนฟุคโตสก็
00:11:36 → 00:11:38 เหมือนกันมันมมันผสมอยู่ในน้ำตาลทรายอจ
00:11:39 → 00:11:41 เนี้ยคือน้ำตาลทรายนะเพราะฉะนั้นพอร่าง
00:11:41 → 00:11:42 กายย่อยเสร็จมันก็กลายเป็นกลูโคสกับ
00:11:42 → 00:11:44 ฟรุคโตสก็เหมือนเดิมกลูโคสร่างกายเอาไป
00:11:44 → 00:11:46 ใช้ได้ฟรุ๊กโตสก็เอาไปเผาผ่านที่ตัดเพราะ
00:11:46 → 00:11:49 ฉะนั้นน้ำตาลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นน้ำตาล
00:11:49 → 00:11:52 ทรายหรือน้ำหรือน้ำผึ้งถามว่ากินได้มยกิน
00:11:52 → 00:11:55 ได้ในปริมาณที่พอเหมาะแค่พอได้รสชาติแต่
00:11:55 → 00:11:58 ข้อควรระวังอีกข้อนึงคือสังเกตมั้ครับว่า
00:11:58 → 00:12:02 ว่าทำไมเวลากินผลไม้แล้วกินได้เรื่อยๆเออ
00:12:02 → 00:12:05 ใครเคยกินรองกองทีเป็นกิโลมั้ยใครเคยกิน
00:12:05 → 00:12:07 เงาะปอกไปได้เรื่อยๆทุเรียนกินเท่าไหร่ก็
00:12:07 → 00:12:09 ไม่อิ่มเคยมยเพราะอะไรรู้เปล่าปกติแล้ว
00:12:09 → 00:12:12 สารอาหารแต่ละชนิดอ่ะมันจะกระตุ้นให้ร่าง
00:12:12 → 00:12:14 กายเกิดความอิ่มได้ไม่เท่ากันอาหารที่ทำ
00:12:14 → 00:12:16 ให้ร่างกายเกิดความอิ่มได้มักจะเป็นพวก
00:12:16 → 00:12:18 โปรตีนกับไขมันใครที่เรียนกับหมอ 1 ใน
00:12:18 → 00:12:20 กลุ่มเรียนลดน้ำหนัก VIP จะรู้ว่าพอเรา
00:12:20 → 00:12:22 อิ่มปั๊บเราจะรู้เลยว่าอ๋อนี่คือความรู้
00:12:22 → 00:12:24 สึกของการลดน้ำหนักแล้วกินอิ่มเหรอเนี่ย
00:12:24 → 00:12:26 แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรากินสารอาหารผิด
00:12:26 → 00:12:29 ประเภทเช่นเรากินผลไม้ไปเรื่อยเรื่อโดย
00:12:29 → 00:12:31 ที่เป็นผลไม้ที่มีรสหวานด้วยแล้วมี
00:12:31 → 00:12:33 ฟรุคโตสอยู่ในนั้นเยอะฟรุคโตสจะเป็นสาร
00:12:33 → 00:12:36 อาหารที่ร่างกายกินเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึก
00:12:36 → 00:12:38 อิ่มเพราะฉะนั้นมันเลยมีอุตสาหกรรม
00:12:38 → 00:12:39 อุตสาหกรรมนึงที่ทุกคนเนี่ยอาจจะไม่เคย
00:12:39 → 00:12:42 รู้เมก่อนเนาะไปดัดแปลงไอ้เจ้าน้ำตาล
00:12:42 → 00:12:44 ฟรุกโตสตัวเนี้ยนะครับให้กลายเป็นตัวตัว
00:12:45 → 00:12:49 นึงที่ชื่อว่าไฟุสคอนไซจำชื่อตัวนี้ดีๆ
00:12:49 → 00:12:51 เลยนะอันนี้จำเป็นต้องรู้นะเพราะอันตราย
00:12:51 → 00:12:54 กับสุขภาพมากๆนะครับไฮฟรุกโตสคอนไซรับมี
00:12:54 → 00:12:57 ฟรุกโตสปริมาณสูงถูกมั้ยไฟรุคโตสคอนไซรับ
00:12:57 → 00:13:00 คอนแปลว่าข้าวโพดเพราะฉะนั้นมันคือน้ำ
00:13:00 → 00:13:02 เชื่อมข้าวโพดที่ผลิตจากแป้งข้าวโพดแต่
00:13:02 → 00:13:04 มันไม่ใช่ฟลุ๊กโตสธรรมชาตินะมันคือการที่
00:13:04 → 00:13:07 ถูกสังเคราะห์ขึ้นมามันจะมีความหวานมาก
00:13:07 → 00:13:09 กว่าน้ำตาลธรรมชาติหลายเท่าและราคาถูก
00:13:09 → 00:13:12 กว่าด้วยเขาก็เลยเอาไอ้เจ้าไฮฟรุกโตสคอ
00:13:12 → 00:13:15 ไซรับเนี่ยเอามาทำเบเกอรี่เอามาทำขนมกรอบ
00:13:15 → 00:13:18 ๆและเอามาใส่ในน้ำอัดลมถามว่าจะเกิดอะไร
00:13:18 → 00:13:20 ขึ้นเวลากินน้ำอัดลมกินได้เรื่อยๆเคยมย
00:13:20 → 00:13:23 นักเรียนผมก่อนจะมาลดน้ำหนักกับผมบางคนนะ
00:13:23 → 00:13:25 กินน้ำอัดลมวันละขวดลิตร์อ่ะถามว่าทำไม
00:13:25 → 00:13:26 กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มเพราะมันใส่
00:13:26 → 00:13:29 ไฮฟรุกโตสคอนไซรับตัวเนี้ยทำให้กินยังไง
00:13:29 → 00:13:31 ก็ไม่อิ่มถ้าเค้าไปใส่ตัวที่กินแล้วอิ่มเ
00:13:31 → 00:13:33 จะขายได้เยอะมั้ยไม่เยอะนะครับเนาะเพราะ
00:13:33 → 00:13:35 ฉะนั้นสมัยแต่ก่อนเนี่ยใส่ตัวเกันเยอะมาก
00:13:35 → 00:13:37 แล้วสุขภาพเสียเพราะอะไรเพราะเจ้าน้ำตาล
00:13:37 → 00:13:40 ตัวเเนี่ยมีผลกับอะไรบ้างเป็นเบาหวานไข
00:13:40 → 00:13:43 มันพอกตับพออ้วนเสร็จปั๊บโรคต่างๆก็ตามมา
00:13:43 → 00:13:46 ความดันเบาหวานไขมันหัวใจถูกป่าเพราะ
00:13:46 → 00:13:49 ฉะนั้นถามว่าน้ำตาลทรายที่เป็นกลูโคสบวก
00:13:49 → 00:13:52 ฟรุกโตสกินได้มยกินได้ในปริมาณที่เหมาะสม
00:13:52 → 00:13:54 ใส่นิดเดียวอย่างเวลาผมไปกินก๋วยเตี๋ยวก็
00:13:54 → 00:13:57 ไม่ใช่ว่าชิมเสร็จปั๊บแล้วจะกินจืดๆเลย
00:13:57 → 00:13:59 สมมุติน้ำซุปมันมาจืดๆจะกินกินจืดๆเลยก็
00:13:59 → 00:14:01 ไม่ใช่อาจจะใส่นิดเดียวนิดเดียวของผมคือ
00:14:02 → 00:14:04 อะไรไม่เกินครึ่งช้อนชาให้พอได้รสชาติพอ
00:14:04 → 00:14:07 ได้แต่ใครที่ทำ If ด้วยนะกินน้ำตาลในช่วง
00:14:07 → 00:14:09 If ไม่ได้นะโอเคมยนะครับนะน้ำตาลทุก
00:14:09 → 00:14:11 อย่างกินไม่ได้เลยเพราะมันมีพลังงานถูก
00:14:11 → 00:14:13 มั้ยใครที่อยากลดน้ำหนักแล้วไม่เคยรู้จัก
00:14:13 → 00:14:15 การทำ If เลยไปดูคลิปในช่องหมอ 1 ได้มี
00:14:15 → 00:14:17 คลิปทำไว้หลายคลิปเลยนะครับส่วนใครอยู่ใน
00:14:17 → 00:14:20 กลุ่มเรียนไปทบทวนบทที่ 13 โอเคป่ะบทที่
00:14:20 → 00:14:22 13 เรื่อง If เนาะแล้วใครที่ถามมาหลัง
00:14:22 → 00:14:24 ไมค์เรื่องอยากเข้าเรียนด้วยนะครับนะเห็น
00:14:24 → 00:14:27 พูดหลายทีว่ามีบทนั้นบทนี้ไปดูตอนท้ายนะ
00:14:27 → 00:14:29 เดี๋ยวตอนท้ายอธิบายให้ฟังว่านักเรียนผม
00:14:29 → 00:14:31 เรียนอะไรกันบ้างนะครับแต่ใครที่เพิ่งมา
00:14:31 → 00:14:33 ติดตามลองเข้าไปดูคลิปในช่องก่อนได้บางคน
00:14:33 → 00:14:35 เนี่ยลดจากคลิปในช่องไปลดไปได้ตั้งเยอะแน
00:14:35 → 00:14:38 โอเคมยติดปัญหาปั๊บค่อยมาให้ผมช่วยก็ได้
00:14:38 → 00:14:40 เนาะนะครับเพราะฉะนั้นลองเอาตรงนี้ไปปรับ
00:14:40 → 00:14:43 ใช้ดูสรุปนะน้ำตาลทุกชนิดถ้าจะกินให้กิน
00:14:43 → 00:14:46 ในปริมาณที่มันน้อยมากๆแค่พอได้รสชาติแต่
00:14:46 → 00:14:48 ถ้าอยากลดน้ำหนักได้เร็วๆตัดน้ำตาลทิ้งไป
00:14:48 → 00:14:51 ก่อนเลย 3 วันปั๊บลิ้นเราจะกลับมาปกติถ้า
00:14:51 → 00:14:53 จะเลือกระหว่างน้ำตาลทรายกับน้ำผึ้งเรา
00:14:53 → 00:14:55 ต้องรู้ข้อดีข้อเสียมันมีข้อดีข้อเสีย
00:14:55 → 00:14:58 ต่างกันน้ำผึ้งกินได้มยกินได้ใส่ใส่ใน
00:14:58 → 00:15:01 ปริมาณที่พอเหมาะแค่เพราะได้รสชาติแต่ถ้า
00:15:01 → 00:15:04 กินน้ำผึ้งหรือผลไม้ที่มีรสหวานมากเกินไป
00:15:04 → 00:15:06 น้ำตาลในเลือดอาจจะไม่ได้สูงนะแต่ไขมัน
00:15:06 → 00:15:08 พอกตับแล้วเป็นตับแข็งได้ส่วนพวกน้ำตาล
00:15:09 → 00:15:11 ที่เป็นน้ำตาลสังเคราะห์เช่นไฮฟรุกโตสคอน
00:15:11 → 00:15:13 ไซรับเลี่ยงได้เลี่ยงไปเลยอยู่ในไหนบ้าง
00:15:13 → 00:15:17 เบเกอรี่ต่างๆขนมกรุบกรอบน้ำอัดลมโอเคมย
00:15:17 → 00:15:19 นะครับส่วนอีกกลุ่มนึงที่หลายๆคนถามมานะ
00:15:20 → 00:15:22 ก็คือเรื่องของพวกที่เป็นสารให้ความหวาน
00:15:22 → 00:15:25 เช่นหญ้าหวานอีริสทีท่อพวกเนี้ยมันเพิ่ง
00:15:25 → 00:15:28 มาในช่วงปีหลังๆถามว่าใช้ได้มยใช้ได้แต่
00:15:28 → 00:15:31 แต่ใช้เยอะๆก็ไม่ดีเพราะบางตัวเป็นสารที่
00:15:31 → 00:15:33 เป็นสารสังเคราะห์บางตัวเป็นสารธรรมชาติ
00:15:33 → 00:15:36 ก็จริงแต่เรายังไม่มีการเก็บข้อมูลในระยะ
00:15:36 → 00:15:39 ยาว 50 ปี 80 ปีว่ากินแล้วมันเป็นยังไง
00:15:39 → 00:15:42 กับร่างกายบ้างเพราะฉะนั้นก็ใช้ในปริมาณ
00:15:42 → 00:15:45 ที่พอเหมาะก็พอโอเคมยนะครับเนาะถ้าใครลด
00:15:45 → 00:15:47 น้ำหนักกับม1ึก็จะรู้ว่าสารอาหารทุกอย่าง
00:15:47 → 00:15:49 มันกินได้หมดแหละแต่กินปริมาณเท่าไหร่กิน
00:15:49 → 00:15:51 ตอนไหนเท่านั้นเองไม่ได้หมายความว่าลดน้ำ
00:15:51 → 00:15:53 หนักกินของมันของทอดไม่ได้เราต้องมี
00:15:53 → 00:15:55 เทคนิคถูกมยไม่ได้หมายความว่าลดน้ำหนัก
00:15:55 → 00:15:57 แล้วเราจะกินแป้งไม่ได้เราต้องรู้ว่าเรา
00:15:57 → 00:16:00 แลกแป้งยังไงถูกมั้ยมยเคยอธิบายไว้หลาย
00:16:00 → 00:16:02 คลิปเลยเพราะฉะนั้นหวังว่าจะเข้าใจมาก
00:16:02 → 00:16:05 ขึ้นนะว่าเรื่องของน้ำตาลมันมีชนิดไหน
00:16:05 → 00:16:07 บ้างแล้วก็อันไหนที่อันตรายนะครับเนาะ
00:16:07 → 00:16:09 เพราะฉะนั้นก่อนจากกันวันนี้ก็เหมือนเดิม
00:16:09 → 00:16:11 นะครับขอแสดงความยินดีกับนักเรียนท่านนี้
00:16:11 → 00:16:14 อีก 1 ครั้งนะครับนะลดได้ไม่พอยังทำให้
00:16:14 → 00:16:16 ครอบครัวสุขภาพดีด้วยนะครับ Healthy
00:16:16 → 00:16:18 ฮีโร่ตัวจริงเลยส่วนใครที่อยากเป็น
00:16:18 → 00:16:20 Healthy ฮีโร่แบบนี้นะครับนะเข้าไปดู
00:16:20 → 00:16:21 คลิปที่อยู่ในช่องหมอ 1 ได้หรือใครที่
00:16:21 → 00:16:24 อยากเรียนกับหมอ 1 นะครับสามารถดูราย
00:16:24 → 00:16:27 ละเอียดวิธีการเรียนในกลุ่มลดน้ำหนัก VIP
00:16:27 → 00:16:29 ได้นะครับกลุ่มลดน้ำหนัก VIP เนี่ยหมอ 1
00:16:29 → 00:16:31 เปิดกลุ่มเรียนกลุ่มเนี้ยมาประมาณ 3 ปี
00:16:31 → 00:16:34 กว่าแล้วนะช่วยคนมาเยอะมากๆในนั้นเนี่ย
00:16:34 → 00:16:36 หมอ 1 จะเจอคำถามเกี่ยวกับการลดน้ำหนักมา
00:16:36 → 00:16:38 เยอะมากๆดังนั้นมั่นใจได้ว่ามันไม่หนีไป
00:16:38 → 00:16:40 จากนี้หรอกทุกคนที่ลดน้ำหนักจะเจอปัญหา
00:16:40 → 00:16:43 คล้ายๆกันแล้วม 1 สรุปมาเป็นบทเรียนทั้ง
00:16:43 → 00:16:45 หมด 21 บทหลักนะครับไม่รวมบทย่อยๆที่จะ
00:16:45 → 00:16:48 แถมให้เนาะใน 21 บทหลักเนี่ยใครที่ไม่
00:16:48 → 00:16:50 อยากลดน้ำหนักด้วยตนเองนะไม่อยาก
00:16:50 → 00:16:52 สะเปะสะปะเนี่ยหมอหนึ่งจะเรียงไว้ให้แล้ว
00:16:52 → 00:16:53 ว่าวันที่ 1 ทำอะไรวันที่ 2 ทำอะไรวันที่
00:16:53 → 00:16:56 3 ทำอะไรเราค่อยๆเหมือนเล่นเกมอ่ะผ่านไป
00:16:56 → 00:16:58 ทีละด่านแต่ละด่านเวลาเราล้ดน้ำหนักเนี่ย
00:16:58 → 00:17:00 ปัญหาคืออะไรรู้มั้ยหลายคนที่ลดน้้ำหนัก
00:17:00 → 00:17:02 เองเนี่ยหมอหนึ่งเจอปัญหาว่าคุณหมอคะเรา
00:17:02 → 00:17:05 ต้องทำอะไรบ้างคะแล้วทุกคนน่ะมักจะชอบทำ
00:17:05 → 00:17:08 ทุกอย่างในวันเดียวมันยากมันทำยากเพราะ
00:17:08 → 00:17:10 อะไรพอทำทุกอย่างวันเดียวอันนี้ฉันทำหรือ
00:17:10 → 00:17:12 ยังอันนี้ฉันทำหรือยังมันจะดีกว่ามยถ้า
00:17:12 → 00:17:15 คุณค่อยๆทำทีละอย่างแล้วเรียนรู้ร่างกาย
00:17:15 → 00:17:18 ไปวันละนิดว่าเอ้ยวันนี้ฉันทำแบบนี้วัน
00:17:18 → 00:17:19 นี้ฉันเปลี่ยนเครื่องดื่มแบบนี้ร่างกาย
00:17:19 → 00:17:22 รู้สึกยังไงพอรู้สึกหิวปั๊บเดี๋ยวบทถัดไป
00:17:22 → 00:17:24 อ่ะผมรู้แล้วว่าคุณจะเจอปัญหาหิวผมเอา
00:17:24 → 00:17:26 วิธีแก้หิวมารอแล้วอ๋อปรับสารอาหารแบบนี้
00:17:26 → 00:17:29 มันแก้หิวได้พอแก้หอยู่ได้แล้วจะลดได้
00:17:29 → 00:17:31 เร็วขึ้นเราต้องลดอะไรต่อคะเนี่ยมันจะ
00:17:31 → 00:17:33 เป็นสเต็ปแบบเนี้ยมันจะทำให้คุณลดน้ำหนัก
00:17:33 → 00:17:35 ง่ายเลยไม่แปลกว่าทำไมนักเรียนผมแต่ละคน
00:17:35 → 00:17:37 บางคนเข้ากลุ่มไปแค่ 7 วันโดนน้ำหนักได้
00:17:37 → 00:17:40 ละ 2 กก 3 กกหรือในคนที่น้ำหนักเริ่มต้น
00:17:40 → 00:17:43 เยอะๆนะแค่ปรับอาหารอย่างเดียวเนี่ยยัง
00:17:43 → 00:17:46 ไม่ทันผ่าน 10 บทแรกเลยน้ำหนักลงละ 5 กก
00:17:46 → 00:17:47 เราอ้วนน่ะไม่ได้อ้วนเพราะว่าเราไม่มี
00:17:47 → 00:17:50 วินัยหรอกแต่เราอ้วนเพราะเราไม่มีความรู้
00:17:50 → 00:17:52 กับไม่มีความเชื่อเพราะฉะนั้นผมเลยพยายาม
00:17:52 → 00:17:54 ทำคลิปบ่อยๆให้ทุกคนฟังแล้วรู้สึกว่าเออ
00:17:54 → 00:17:56 เชื่อว่าเราทำได้สำคัญที่สุดคือเรื่องนี้
00:17:56 → 00:17:58 เลยนะโอเคมั้ยเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเชื่อ
00:17:58 → 00:18:00 เื่อว่าเราทำได้พอเราเห็นวิธีการแล้วเรา
00:18:00 → 00:18:02 จะกล้าลงมือทำแต่หลายๆครั้งอ่ะคุณฟังคลิป
00:18:03 → 00:18:05 มาหลายคลิปมากๆอ่ะเรารู้สึกว่าเออเฮ้ย
00:18:05 → 00:18:06 คลิปนี้ดีจังเลยแต่วันรุ่งขึ้นปั๊บแล้ว
00:18:06 → 00:18:08 กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมอ่ะโอเคป่านะ
00:18:08 → 00:18:11 ครับนะถ้าใครฟังตั้งแต่ม 1 เริ่มลงคลิปนะ
00:18:11 → 00:18:13 เนี่ยอีกเดือนกว่าๆจะปีใหม่แล้วให้รางวัล
00:18:13 → 00:18:15 ตัวเองด้วยสุขภาพดีๆซะหน่อยให้รางวัลตัว
00:18:15 → 00:18:17 เองด้วยความภูมิใจในชีวิตเนาะเริ่มต้นลด
00:18:17 → 00:18:20 น้ำหนักนะครับนะผมเป็นกำลังใจให้ส่วนใคร
00:18:20 → 00:18:21 ที่จะเข้าเรียนก็ไปดูรายละเอียดในลิงก์
00:18:21 → 00:18:23 ที่อยู่ในคอมเมนต์ที่ปักหมุดทางด้านล่าง
00:18:23 → 00:18:26 ก็ได้นะครับหรือแ LINE @th Hero นะครับ
00:18:26 → 00:18:28 จะมีทีมงานคอยดูแลอำนวยความสะดวกวิธีการ
00:18:28 → 00:18:31 เข้ากลุ่มนะครับนะแล้วพบกันคลิปถัดไปนะ
00:18:31 → 00:18:33 ครับเอาใจช่วยทุกคนนะครับชมคลิปหมอ 1 จบ
00:18:33 → 00:18:34 แล้วนะครับอย่าลืมกดติดตามเพื่อที่จะได้
00:18:34 → 00:18:37 ไม่พลาดคลิปใหม่ๆจากหมอ 1 นะครับส่วนคลิป
00:18:37 → 00:18:39 อื่นๆที่น่าสนใจกดดูจากทางซ้ายมือได้เลย
00:18:39 → 00:18:41 ครับส่วนใครที่อยากลดน้ำหนักครั้งสุดท้าย
00:18:41 → 00:18:42 ในชีวิตในกลุ่มเรียนกับหมอ 1 นะครับกดดู
00:18:42 → 00:18:44 รายละเอียดจากทางขวามือหรือดูรายละเอียด
00:18:44 → 00:18:46 จากลิงก์ในคอมเมนต์ได้เลยนะครับแล้วพบกัน
00:18:46 → 00:18:49 ในกลุ่มเรียนนะครับ