00:00:49 → 00:00:51 สวัสดีค่ะคุณผู้ชม

00:00:51 → 00:00:54 พบกันเวลาใหม่หกโมงครึ่งเช้าๆวันอาทิตย์แบบนี้

00:00:54 → 00:00:56 กับรายการคุยกับหมออัจจิมานะคะ

00:00:56 → 00:00:58 จริงๆมาตอนเช้าก็ดีอย่างนึงคุณหมอขา

00:00:58 → 00:01:04 ดี นั่นหมายความว่าคนที่ตื่นมาดูเราในช่วงเวลานี้คือคนรักสุขภาพ

00:01:04 → 00:01:08 เพราะว่าตื่นเช้าเนี่ยเราก็ได้รับ Oxygen ได้วิตามินดีจากแสงแดดอ่อนๆ

00:01:08 → 00:01:10 แสดงว่าเขาไม่ใช่คนนอนดึก

00:01:10 → 00:01:13 และวันนี้คุณหมอจะมีเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพ

00:01:13 → 00:01:16 ที่ดี๊ดีแล้วทำได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆมาบอกต่อด้วย / ใช่

00:01:16 → 00:01:19 วันนี้เรามีเรื่องการชะลอวัย

00:01:19 → 00:01:22 การชะลอวัยแบบง่ายๆคือการดื่มน้ำ

00:01:22 → 00:01:24 แค่ดื่มน้ำเนี่ยหรอคะ / ใช่

00:01:24 → 00:01:25 ทำให้เราไม่แก่ / ใช่

00:01:25 → 00:01:30 ทำให้เราแข็งแรง แต่ว่าจะดื่มน้ำอะไร ดื่มยังไง ดื่มแค่ไหน

00:01:30 → 00:01:32 วันนี้ต้องดูเนอะคุณหมอเนอะ

00:01:32 → 00:01:36 ใครไม่อยากแก่ต้องดูรายการเราวันนี้นะคะ

00:01:36 → 00:01:37 แต่ว่าอดใจรอแป๊บนึง

00:01:37 → 00:01:41 ช่วงแรกของรายการเราพร้อมอยู่แล้วเกี่ยวกับน้ำเหมือนกันค่ะ

00:01:41 → 00:01:44 แต่จะเป็นน้ำอะไรไปติดตามในช่วงหมอคุยข่าวค่ะ

00:01:54 → 00:01:57 มาค่ะคุณผู้ชมขาช่วงหมอชวนคุยสัปดาห์นี้นะคะ

00:01:57 → 00:02:00 คุณหมออัจจิมาจะชวนพวกเราคุยเรื่องของน้ำ

00:02:00 → 00:02:03 แต่เป็นเรื่องน้ำชะลอวัย

00:02:04 → 00:02:10 งั้นถามก่อนเลยว่าน้ำเนี่ยเขามีบทบาทสำคัญยังไงต่อร่างกายเราบ้างคะคุณหมอคะ

00:02:10 → 00:02:13 จริงๆต้องรู้ก่อนว่าน้ำในร่างกายของเราเนี่ยประกอบไปด้วย 2 ส่วน

00:02:13 → 00:02:17 คือน้ำที่อยู่ในเซลล์ ก็จะมีผลช่วยในการทำงานต่างๆของเซลล์

00:02:17 → 00:02:20 ถ้าน้ำในเซลล์มีน้อยหรือเซลล์แห้งเนี่ย

00:02:20 → 00:02:24 การทำงานไม่ดี Metabolism ของเซลล์ไม่ดี การขับถ่ายของเซลล์ไม่ดี

00:02:24 → 00:02:27 เซลล์ไม่สามารถจะทำงานได้

00:02:27 → 00:02:30 กับอีกกลุ่มนึงน้ำที่อยู่นอกเซลล์

00:02:30 → 00:02:32 ถามว่าน้ำที่อยู่นอกเซลล์มีอะไรบ้าง

00:02:32 → 00:02:35 ก็อย่างเช่นน้ำที่วิ่งอยู่ในหลอดเลือด

00:02:35 → 00:02:38 หรือน้ำที่อยู่ในส่วนประกอบอื่นๆของร่างกาย

00:02:38 → 00:02:40 น้ำที่อยู่ในช่องระหว่างเซลล์

00:02:40 → 00:02:43 น้ำที่อยู่ในลูกตา น้ำที่อยู่ในช่องท้อง

00:02:43 → 00:02:45 น้ำที่อยู่ในข้อต่อ

00:02:45 → 00:02:48 คือส่วนประกอบของร่างกายเนี่ยมันจะต้องมีน้ำอยู่ด้วย

00:02:48 → 00:02:51 เพราะฉะนั้นในร่างกายมนุษย์เนี่ยต้องรับน้ำได้เพียงพอ

00:02:51 → 00:02:55 ผู้หญิงกับผู้ชายเนี่ยสัดส่วนของการมีน้ำก็ไม่เหมือนกัน

00:02:55 → 00:02:57 เพราะว่ามันจะมีสัดส่วนของน้ำกับไขมัน

00:02:57 → 00:03:00 ถ้าไขมันเยอะน้ำก็น้อย

00:03:00 → 00:03:02 ถ้าไขมันน้อยน้ำก็เยอะ / ค่ะ

00:03:02 → 00:03:06 คือถ้าผู้หญิงกับผู้ชายเนี่ยต้องบอกเลยว่าผู้หญิงเนี่ยมีน้ำน้อยกว่า

00:03:06 → 00:03:08 เพราะว่าผู้หญิงมีไขมันเยอะกว่า

00:03:08 → 00:03:11 เพราะฉะนั้นในผู้หญิงเองจะมีส่วนประกอบของน้ำประมาณ 50% แค่นั้น

00:03:11 → 00:03:13 แต่ผู้ชายเนี่ยมีถึง 60%

00:03:13 → 00:03:16 เพราะว่าไขมันของผู้ชายเนี่ยน้อยกว่าเรา

00:03:16 → 00:03:18 เพราะฉะนั้นน้ำสำคัญมากๆ

00:03:18 → 00:03:21 ถามว่ามันทำหน้าที่อะไรบ้าง

00:03:21 → 00:03:24 คือมันทำหน้าที่แทบจะทุกอย่างของร่างกาย

00:03:24 → 00:03:26 ควบคุมอุณหภูมิ

00:03:26 → 00:03:30 ของร่างกาย ควบคุมการทำงานต่างๆ

00:03:30 → 00:03:32 เป็นตัวทำละลายที่ดี

00:03:32 → 00:03:34 ในการที่จะทำหน้าที่ในการดูดซึม

00:03:34 → 00:03:38 การแพร่กระจายสารต่างๆของร่างกาย

00:03:38 → 00:03:43 เป็นตัวกลางในการนำพวกสารต่างๆไปสู่ส่วนต่างๆของร่างกาย

00:03:43 → 00:03:45 แล้วก็ยังเป็นตัวสำคัญ

00:03:45 → 00:03:47 ที่ทำให้เกิดการทำงานของร่างกาย

00:03:47 → 00:03:50 เพราะว่ามันไปอยู่ในขบวนการปฏิกิริยาเคมี

00:03:50 → 00:03:52 หลายอย่างในร่างกาย

00:03:52 → 00:03:54 งั้นถ้าไม่มีน้ำนี่ไม่ได้เลย

00:03:54 → 00:03:59 นอกจากนี้แล้วก็ยังมีการช่วยลดการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้น

00:03:59 → 00:04:02 ต่างๆของสารต่างๆในร่างกาย

00:04:02 → 00:04:05 ป้องกันการกระแทกของสมอง

00:04:06 → 00:04:09 แทบจะทุกส่วนของร่างกาย / มีน้ำ

00:04:09 → 00:04:10 น้ำเป็นส่วนประกอบ

00:04:10 → 00:04:13 ถ้าอย่างนั้นคุณหมอพอจะอธิบายให้เราเห็นภาพได้ไหมคะว่า

00:04:13 → 00:04:16 น้ำที่มีส่วนช่วยกับระบบต่างๆ

00:04:16 → 00:04:18 หรือว่าการทำงานของระบบต่างๆในร่างกายนี่

00:04:18 → 00:04:19 มันช่วยอะไรบ้าง ตรงไหนบ้างคะ

00:04:19 → 00:04:23 ก็ถ้าสมมุติว่าเราเปรียบเทียบว่าในส่วนที่สำคัญของร่างกาย

00:04:23 → 00:04:26 คือเราต้องใช้การหายใจ

00:04:26 → 00:04:30 เราหายใจเข้าออกคุณแนนรู้ไหมเราก็อาศัยน้ำ

00:04:30 → 00:04:35 แล้วการหายใจเข้า-ออกของเราเนี่ยมันมีการสูญเสียน้ำไปกับการหายใจเข้า-ออก

00:04:35 → 00:04:37 คุณแนนรู้ไหมวันนึงเท่าไหร่ / เท่าไหร่คะ

00:04:37 → 00:04:39 เกือบจะครึ่งลิตอะ

00:04:39 → 00:04:44 นั่นแสดงว่าน้ำมันมีความสำคัญต่อระบบทางเดินหายใจมากๆ

00:04:44 → 00:04:47 เพราะฉะนั้นถ้าในร่างกายเรามีน้ำไม่พอเราจะเอาที่ไหนมาสูญเสีย

00:04:47 → 00:04:48 นั่นหน่ะสิคะ

00:04:48 → 00:04:53 นอกจากนี้แล้วเนี่ยมันยังอยู่ในส่วนที่สำคัญก็คือ

00:04:53 → 00:04:54 สมอง

00:04:54 → 00:04:57 น้ำเป็นส่วนประกอบหลักของสมองเกือบ 90%

00:04:57 → 00:04:58 ค่ะ

00:04:58 → 00:05:02 เมื่อไหร่ที่ขาดน้ำความสามารถในการทำงานของสมองจะแย่ลง

00:05:02 → 00:05:07 หรืออาจจะมีความเครียดอะไรพวกนี้เพิ่มขึ้นมากผิดปกติ

00:05:07 → 00:05:09 สมองก็เหมือนกัน ลืมตาก็เหมือนกัน

00:05:09 → 00:05:13 เพราะว่าน้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของดวงตา

00:05:13 → 00:05:18 น้ำตาให้ความชุ่มชื่นกับตา

00:05:18 → 00:05:21 มันก็ช่วยทำให้เรามองเห็นชัดเจนขึ้น

00:05:21 → 00:05:24 อีกอันที่สำคัญมากๆคือระบบย่อยอาหาร

00:05:25 → 00:05:28 น้ำย่อยก็คือช่วยในเรื่องของการระบบย่อยอาหาร

00:05:28 → 00:05:31 เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเราขาดน้ำ น้ำเราไม่พอ

00:05:31 → 00:05:34 การสร้างน้ำย่อยต่างๆ การสร้างเอนไซม์ต่างๆ

00:05:34 → 00:05:37 ก็ไม่ดี ไม่ดีหมายความว่าอะไร

00:05:37 → 00:05:40 ถามว่าระบบย่อยเราก็ไม่ดี ฮอร์โมนจะดีได้ไง

00:05:40 → 00:05:44 ฮอร์โมนก็ไม่ดี ไหนจะระบบขับถ่าย

00:05:44 → 00:05:46 ของร่างกายก็ต้องอาศัยน้ำ

00:05:46 → 00:05:48 ถ้าคุณแนนไม่มีน้ำก็เกิดอะไรขึ้น ก็ไม่ถ่าย

00:05:48 → 00:05:49 ท้องผูก ไม่ถ่าย

00:05:49 → 00:05:52 ท้องผูก ใช่ ลำไส้ทำงานไม่ดี ท้องผูก

00:05:52 → 00:05:55 ไม่มีน้ำมาช่วยละลายสารพิษ

00:05:55 → 00:05:58 ก็จะกลายเป็นสารพิษเข้มข้น

00:05:58 → 00:06:00 อยู่ในร่างกาย ก็ไม่ดี

00:06:00 → 00:06:07 ตัวน้ำเองเนี่ยก็ยังช่วยในเรื่องของการทำให้เซลล์ต่างๆมันทำงานไม่ดี

00:06:07 → 00:06:13 เพราะว่ามันก็จะลำเลียงของเสียจากทุกส่วนของร่างกายออกไปจากร่างกาย

00:06:13 → 00:06:17 งั้นถ้าสมมุติว่ามันสามารถที่จะนำสารพิษออกไปจากร่างกาย

00:06:17 → 00:06:20 ร่างกายทำงานได้ดี

00:06:20 → 00:06:22 สุขภาพก็จะแข็งแรง

00:06:23 → 00:06:27 ระบบย่อยดี ระบบเผาผลาญอาหารดี ก็ไม่อ้วน

00:06:27 → 00:06:29 งั้นทุกอย่างเนี่ยลิงค์กันไปหมดเลย

00:06:30 → 00:06:33 น้ำดี ข้อต่อดี ก็แก่ช้า

00:06:33 → 00:06:35 งั้นก็ไขข้อก็เสื่อมไปด้วย

00:06:35 → 00:06:39 ที่สำคัญอีกอันนึงนะถ้าน้ำเรามีมากพอ

00:06:39 → 00:06:41 ผิวพรรณก็จะสดชื่นเปล่งปลั่ง

00:06:42 → 00:06:45 การระเหยของน้ำออกจากผิวน้อย

00:06:45 → 00:06:48 น้ำอยู่ในเซลล์เยอะผิวพรรณก็จะดูสดชื่น

00:06:48 → 00:06:50 ดูแข็งแรง

00:06:50 → 00:06:54 ถ้าสมองเราขาดน้ำ

00:06:54 → 00:06:57 เกิดมีสมองส่วนที่รับความเครียด

00:06:57 → 00:06:59 เสียไป อย่างที่เขาเรียกว่าสมองส่วนไฮโปทาลามัส

00:06:59 → 00:07:01 ยุ่งเลยทีนี้ เพราะอะไร

00:07:01 → 00:07:06 เพราะว่าเป็นตัว Control หรือเป็นตัวควบคุมในการทำงานของร่างกายในการที่จะทำให้

00:07:06 → 00:07:09 อวัยวะต่างๆมันหลั่งฮอร์โมน

00:07:09 → 00:07:13 ถ้าตัวนี้ไม่ทำงาน ตัวนี้เสีย

00:07:13 → 00:07:16 ตัวนี้ถูกทำลาย การหลั่งฮอร์โมนร่างกายเพี้ยนไปหมด

00:07:16 → 00:07:18 ถ้าร่างกายขาดน้ำเนี่ย

00:07:18 → 00:07:21 หนึ่งสมองทำงานเสีย ฮอร์โมนทำงานผิดปกติ

00:07:21 → 00:07:25 หมายถึงว่าอวัยวะต่างๆเนี่ยก็จะมีการทำงานที่ผิดปกติไปด้วย

00:07:25 → 00:07:28 เพราะว่าฮอร์โมนที่ควบคุมอวัยวะต่างๆเหล่าเนี้ย

00:07:28 → 00:07:31 มันเสียไป เพราะฉะนั้นการทำหน้าที่อวัยวะต่างๆก็จะทำงานไม่ดี

00:07:31 → 00:07:36 งั้นอาการของคนที่ขาดน้ำบางทีเขาก็อาจจะมีอาการหิวน้ำมากขึ้น

00:07:36 → 00:07:39 บางทีลิ้นก็อาจจะมีอาการลิ้นแห้ง

00:07:39 → 00:07:41 ลิ้นสากนะ

00:07:41 → 00:07:44 ผิวหนังก็อาจจะเสียความยืดหยุ่นนะคะ

00:07:44 → 00:07:47 แล้วก็จะทำให้ดูไม่สดใส

00:07:47 → 00:07:50 การฟื้นตัวของผิวก็จะช้ากว่าเดิม

00:07:50 → 00:07:53 คนไข้ก็อาจจะมีปัญหาไม่ปัสสาวะ

00:07:53 → 00:07:54 หรือปัสสาวะน้อย

00:07:54 → 00:07:58 และถ้าเกิดบางคนมีแบบว่าขาดน้ำแล้ว

00:07:58 → 00:08:00 มีภาวะน้ำเกินไหมคะคุณหมอ

00:08:00 → 00:08:04 มีภาวะน้ำเกินการทำงานของร่างกายก็ผิดปกติเหมือนกัน

00:08:04 → 00:08:07 ก็อาจจะนำไปสู่ภาวะน้ำท่วมปอด

00:08:07 → 00:08:10 นำไปสู่ภาวะหัวใจวายไรเงี้ย

00:08:10 → 00:08:13 หรือบวม เเขน ขา บวม

00:08:13 → 00:08:14 หรือเป็นโรคไต

00:08:14 → 00:08:19 บางทีก็อาจจะทำให้มีภาวะที่เราขับน้ำมากกว่าเดิมขึ้นไปอีกก็ได้

00:08:19 → 00:08:23 โดยสรุปก็คือเราก็ควรจะดื่มน้ำ

00:08:23 → 00:08:25 เข้าไปให้มากพอ

00:08:25 → 00:08:27 กับความต้องการของร่างกาย

00:08:27 → 00:08:30 ไม่น้อยไป ไม่มากไป

00:08:30 → 00:08:32 อย่างงี้มันพอจะมีปริมาณที่แนะนำไหมคะว่า

00:08:32 → 00:08:35 แต่ละคนเนี่ยควรจะดื่มน้ำในปริมาณเท่าไหร่

00:08:35 → 00:08:37 ถึงจะพอดีกับความต้องการของร่างกายเรา

00:08:37 → 00:08:39 คือถ้าเอาง่ายๆจำง่ายๆนะคุณแนน

00:08:39 → 00:08:42 ก็คือเอาน้ำหนักตัวเป็นกิโลคูณด้วย 33

00:08:42 → 00:08:45 ก็จะออกมาเป็นจำนวนCC

00:08:45 → 00:08:47 ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณแนน 60

00:08:47 → 00:08:49 60 หรือเปล่าเนี่ย / น้ำหนัก

00:08:49 → 00:08:51 ใกล้ละค่ะ แต่ยังๆ

00:08:51 → 00:08:53 60 คูณ 33 ออกมาประมาณ 2 ลิตร

00:08:53 → 00:08:56 แต่ทั้งหมดนี่คือน้ำเปล่านะคะคุณผู้ชม

00:08:56 → 00:08:58 บางคนอาจจะไปนับบวกกาแฟ

00:08:58 → 00:09:00 ไม่นับน้ำแดง

00:09:00 → 00:09:03 เราได้ไอเดียเยอะเลยนะคะ

00:09:03 → 00:09:06 ว่าน้ำมีประโยชน์ต่อร่างกายทุกส่วนจริงๆนะคะ

00:09:06 → 00:09:10 แต่มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ได้อีกเหมือนกันนะคะ

00:09:10 → 00:09:13 งั้นเดี๋ยวช่วงหน้าเรากลับมาคุยกันต่อนะคะว่า

00:09:13 → 00:09:17 ดื่มน้ำชะลอวัยมันมีวิธีการดื่มยังไง และมันช่วยอะไรยังไงได้บ้าง

00:09:17 → 00:09:19 เดี๋ยวช่วงหน้ามาคุยกันต่อค่า

00:09:28 → 00:09:30 กลับมาค่ะช่วงที่สองของหมอชวนคุย

00:09:30 → 00:09:35 ช่วงนี้ของเราสนับสนุนโดย Ortisine ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดูแลรูปร่าง

00:09:35 → 00:09:39 อยากรูปร่างดีก็ให้ Ortisine เป็นตัวช่วย

00:09:39 → 00:09:41 ต้องดื่มน้ำให้ดีด้วยนะ

00:09:41 → 00:09:44 ไหนๆก็ไหนๆแล้วเข้าประเด็นเลยคุณหมอ

00:09:44 → 00:09:48 ดื่มน้ำชะลอวัย ต้องดื่มแบบไหนถึงจะช่วยชะลอวัยคะ

00:09:48 → 00:09:52 ดื่มน้ำชะลอวัยก็คือดื่มไปแล้วร่างกายเอาไปใช้ได้

00:09:52 → 00:09:57 ร่างกานสามารถทำงานได้ดี งั้นหมายความว่าเราจะต้องไม่ดื่มเยอะเกินไป

00:09:57 → 00:10:00 คุณแนนเห็นไหมเวลาเขาดื่มน้ำอะ บางคนอะ

00:10:00 → 00:10:03 ขวดนึง อึกๆๆ

00:10:03 → 00:10:05 3 ลิตร 4 ลิตร รวบเดียว

00:10:05 → 00:10:07 ในเวลาสั้นๆ

00:10:07 → 00:10:11 ไม่ดีนะคุณแนน ค่อยจิบเรื่อยๆจิบบ่อยๆ

00:10:11 → 00:10:15 ไม่งั้นถ้าโหลดเข้าไปทีนึง คุณแนนเวลาที่มันลง

00:10:15 → 00:10:18 มันรวดเดียว ไตก็ทำงานหนักเข้าไปอีก

00:10:18 → 00:10:21 งั้นดื่มน้ำก็ควรจะค่อยๆดื่ม

00:10:21 → 00:10:26 ถ้าดื่มน้อยเกิน ขาดน้ำ

00:10:26 → 00:10:31 แล้วคุณจะต้องทำกิจกรรม เช่น ออกกำลังกาย

00:10:31 → 00:10:34 ปริมาณน้ำในร่างกายของคุณเนี่ยน้อย

00:10:34 → 00:10:36 สังเกตได้ง่ายๆจากอะไร

00:10:36 → 00:10:38 ไม่ค่อยฉี่ ไม่ค่อยปัสสาวะ

00:10:38 → 00:10:42 แล้วก็ปัสสาวะออกมาสีเข้ม

00:10:42 → 00:10:45 นั่นแสดงว่าน้ำในร่างกายเราน้อยเกินไป

00:10:45 → 00:10:51 ซึ่งเวลาน้อยอย่างที่เราคุยกัน อาจจะส่งผลต่อการทำงานของระบบต่างๆโดยเฉพาะสมอง

00:10:52 → 00:10:56 อาจจะทำให้เรามีการสับสน อารมณ์เปลี่ยนแปลง

00:10:56 → 00:11:02 ได้ หรือว่าบางทีอาจจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงได้เพราะมันไม่มีน้ำที่จะขับออกไป

00:11:02 → 00:11:07 ไม่มีน้ำช่วยระบบย่อย ไม่มีน้ำช่วยในเรื่องของการขับถ่ายของเสีย

00:11:07 → 00:11:09 เกิดภาวะนิ่วในไต

00:11:09 → 00:11:12 เพราะว่าไอของเสียทั้งหลายที่มันจะต้องผ่านไตอะ

00:11:12 → 00:11:15 มันไม่ระบายออกไปคุณแนนนึกออกไหม ก็จะเกิดเป็นนิ่วขึ้นมา

00:11:15 → 00:11:18 หรือบางทีถ้าขาดน้ำมากๆ ช็อคเลย

00:11:20 → 00:11:25 เป็นไปได้หลายประการ เพราะฉะนั้นเนี่ยจะต้องดื่มให้พอเหมาะ ดื่มให้ถูกวิธี

00:11:25 → 00:11:28 ตื่นนอนขึ้นมาเนี่ยก็ดื่มน้ำสักหนึ่งแก้ว

00:11:28 → 00:11:30 เขามีแชร์กันทางอินเทอร์เน็ตเยอะมากว่า

00:11:30 → 00:11:33 หลังตื่นนอน 1 แก้ว

00:11:33 → 00:11:36 ก็จะไปกระตุ้นระบบการทำงานของลำไส้

00:11:36 → 00:11:39 หรือถ้าเราอยากจะกระตุ้นระบบทางเดินอาหารอีกอันนึงก็คือ

00:11:39 → 00:11:42 ดื่มก่อนรับประทานอาหาร

00:11:42 → 00:11:44 สักประมาณครึ่งชั่วโมง

00:11:44 → 00:11:47 ดื่มสัก 1 แก้ว ตัวนี้ก็จะเป็นตัวที่ช่วยทำให้

00:11:47 → 00:11:49 ระบบย่อยอาหารเราดีขึ้น

00:11:49 → 00:11:52 แล้วก็ระหว่างวันก็จิบตลอดวัน / ใช่

00:11:52 → 00:11:54 ทีนี้หลายคนค่ะคุณหมอขา

00:11:54 → 00:11:59 พอรู้ว่าน้ำดีมีประโยชน์ก็จะไปสรรหาสารพัดอย่างมาเลย

00:11:59 → 00:12:02 มีตัวนี้เนี่ยใส่น้ำไปเพิ่มวิตามิน

00:12:02 → 00:12:04 หรือว่าจะเป็นน้ำอันนั้นอันนี้ที่มันดี

00:12:04 → 00:12:08 เคยได้ยินอยู่อย่างนึงที่เขาขายกันแล้วได้รับความนิยมมาก

00:12:08 → 00:12:11 ก็พวกน้ำด่างอันนี้ดีจริงไหมคะคุณหมอขา

00:12:11 → 00:12:14 กระเเสเรื่องของการดูแลสุขภาพโดยการใช้น้ำด่างเนี่ย

00:12:14 → 00:12:18 จริงๆแล้วเป็นกระแสที่ไม่ใช่แต่บ้านเรานะคุณแนน

00:12:18 → 00:12:22 ในอเมริกา ตั้งแต่ 20 กว่าปีที่แล้วเนี่ย

00:12:22 → 00:12:26 กลุ่มของแพทย์เอง โดยเฉพาะแพทย์ทางด้านการแพทย์ทางเลือก

00:12:26 → 00:12:29 หรือแพทย์ที่เป็นกลุ่ม Anti-aging เนี่ย

00:12:29 → 00:12:31 เขาจะดื่มน้ำด่าง

00:12:31 → 00:12:35 เพราะว่าอะไร เพราะว่าน้ำด่างเนี่ยมันช่วยในเรื่องของ

00:12:35 → 00:12:39 การลดการทำงาน หรือลดปัญหาภาวะความเป็นกรด

00:12:39 → 00:12:42 ในร่างกาย คือเสริมสมดุลความเป็นกรดด่างในร่างกาย

00:12:42 → 00:12:46 ทำให้ร่างกายเนี่ยไม่ไปดึงพวกแร่ธาตุต่างๆ

00:12:46 → 00:12:49 ที่เป็นกลุ่มพวกอัลคาไลน์หรือตัวที่ทำให้เกิดด่าง

00:12:49 → 00:12:52 ที่เก็บสะสมไว้ในส่วนต่างๆ อย่างเช่น กระดูก ฟัน

00:12:52 → 00:12:57 เอามาใช้ เพราะฉะนั้นเนี่ยมันก็เหมือนกับเราได้รับจากการดื่มเข้าไป

00:12:57 → 00:13:00 มันก็เอาไปปรับสมดุลพวกการทำงาน

00:13:00 → 00:13:02 ในเรื่องของการขับของเสียของร่างกายได้ดี

00:13:02 → 00:13:04 โดยที่ไม่ต้องไปยุ่งกับอื่นๆของร่างกาย

00:13:05 → 00:13:07 แต่ถามว่าในตัวของมันเนี่ย

00:13:08 → 00:13:12 น้ำด่างดีไหม คุณแนนรู้ไหมน้ำด่างที่มาจากธรรมชาติเนี่ย

00:13:12 → 00:13:14 ก็คือน้ำแร่

00:13:15 → 00:13:19 คุณแนนอยากดื่มน้ำด่างคุณแนนก็น้ำผสมมะนาว

00:13:19 → 00:13:23 ก็น้ำด่าง เบกกิ้งโซดาก็น้ำด่าง น้ำผลไม้ก็น้ำด่าง

00:13:23 → 00:13:27 จริงๆแล้วคือน้ำด่างมีได้หลายอย่าง

00:13:28 → 00:13:33 แต่ว่าในเวลาที่เขาเอามาทำน้ำด่างเนี่ยบางทีเขาจะควบคุมค่าความเป็นกรดด่าง

00:13:33 → 00:13:35 ชีวิตประจำวันของมนุษย์เราเนี่ย

00:13:35 → 00:13:39 มันมีส่วนประกอบที่ทำให้ร่างกายเป็นกรดเยอะ

00:13:39 → 00:13:45 ยกตัวอย่างเช่น เนื้อสัตว์ นม ชา กาแฟ

00:13:45 → 00:13:48 มันก็ไปมีผลต่อการทำงานของร่างกาย

00:13:48 → 00:13:50 ไปมีผลในการสร้างพวกสารอนุมูลอิสระ

00:13:50 → 00:13:53 งั้นการที่เอาน้ำด่างเข้าไปเนี่ย

00:13:53 → 00:13:55 ก็เป็นการช่วยในการปรับสมดุล

00:13:55 → 00:13:58 การทำงานของร่างกายให้มันดี

00:13:58 → 00:14:02 คุณแนนทำพืชผักผลไม้มันก็เป็นการปรับความเป็นกรดด่างอยู่เเล้ว

00:14:02 → 00:14:05 ถามว่าจะเป็นต้องดื่มน้ำด่างไหม

00:14:05 → 00:14:08 ก็พิจารณาเอาเอง ก็มีการศึกษาเหมือนกันนะคะ

00:14:08 → 00:14:10 ในของญี่ปุ่น เขาพบว่าน้ำด่างเนี่ย

00:14:10 → 00:14:13 สามารถจะช่วยรักษาพวกโรคร้ายในลำไส้ได้

00:14:13 → 00:14:17 ช่วยลดอาการของกลุ่มคนไข้ที่เป็นกรดไหลย้อนได้

00:14:18 → 00:14:22 มันก็มีการศึกษากันเพียงแต่ว่าไอข้อมูลการศึกษาเนี่ยอาจจะไม่ได้มากพอ

00:14:22 → 00:14:27 ที่จะบอกว่า คุณต้องดื่มน้ำด่างนะถึงจะดีต่อร่างกาย

00:14:27 → 00:14:32 เพราะว่าจริงๆแล้วตัวการสร้างความเป็นด่างในร่างกายมันมีหลายอย่าง

00:14:32 → 00:14:33 ไม่ใช่แต่น้ำด่างอย่างเดียว

00:14:33 → 00:14:35 อย่างที่บอกถ้าคุณรับประทานพืชผัก

00:14:35 → 00:14:38 หรือน้ำซุป ที่เป็นน้ำซุป

00:14:38 → 00:14:41 ที่มาจากกระดูกสัตว์

00:14:41 → 00:14:45 เนื้อสัตว์ ก็เปลี่ยนไปเป็นน้ำซุปที่มาจากผัก

00:14:45 → 00:14:47 พวกนี้ก็จะสร้างความเป็นด่าง

00:14:47 → 00:14:49 ให้เราอยู่แล้ว

00:14:49 → 00:14:51 หรือถ้าเราดื่มน้ำดื่มที่เป็นน้ำแร่

00:14:51 → 00:14:54 ก็ช่วยในเรื่องของการที่ทำให้ร่างกายเป็นด่างอยู่แล้ว

00:14:54 → 00:14:59 งั้นมันมีหลายวิธีที่จะทำให้ร่างกายของราเนี่ยเป็นด่าง

00:14:59 → 00:15:04 ส่วนคุณอยากที่จะรับประทานน้ำด่างหรือไม่ก็พิจารณากันเอาเอง

00:15:04 → 00:15:06 โอ้โห วันนี้ได้หลายไอเดียเลยนะคะ

00:15:06 → 00:15:11 ที่แน่ๆเนี่ยดูรายการวันนี้แล้วทุกคนอยากจะรีบลุกไปดื่มน้ำเลยนะคะ

00:15:11 → 00:15:15 เพราะอย่างที่คุณหมอบอกว่าน้ำเปล่านี้มีประโยชน์กับทุกระบบของร่างกาย

00:15:15 → 00:15:19 และต้องดื่มให้ถูกวิธีก็คือค่อยๆจิบระหว่างวัน

00:15:19 → 00:15:22 ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไปไม่น้อยจนเกินไป

00:15:22 → 00:15:25 และก็อย่าลืมติดตามรายการของเราเป็นประจำทุกสัปดาห์เช่นเดียวกัน

00:15:25 → 00:15:32 เพราะว่าจะมีเรื่องราวที่น่ารู้และก็เป็นประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพและความงามมาฝากกันแบบนี้เป็นประจำเลยค่ะ

00:15:32 → 00:15:36 ก่อนจากกันวันนี้ขอบคุณดอกไม้สวยๆเติมความสดชื่นให้กายและใจของเรานะคะ

00:15:36 → 00:15:38 ด้วยดอกไม้จาก Kapsule Florist ค่ะ

00:15:38 → 00:15:45 ใครอยากจะมีดอกไม้ไปฝากคนพิเศษในโอกาสพิเศษก็สามารถติดต่อไปได้ตามคอนแทคที่ขึ้นหน้าจอนี้เลยนะคะ

00:15:45 → 00:15:48 วันนี้หมดเวลาแล้ว คุณหมอและแนนลาไปก่อนสวัสดีค่ะ