00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับผมเชื่อว่าหลายๆคนนะครับคงจะ
00:00:03 → 00:00:05 ได้เรียนรู้มาว่าการดื่มนมเนี่ยมันเป็น
00:00:05 → 00:00:08 สิ่งที่ดีต่อร่างกายนะครับมันมีแคลเซียม
00:00:08 → 00:00:10 แล้วก็ทำให้เรามีกระดูกร่างกายที่แข็งแรง
00:00:10 → 00:00:14 นะครับแต่พอหลังๆมาก็ชักจะได้ยินข้อมูล
00:00:14 → 00:00:17 ต่างๆที่ออกมาจากสื่อต่างๆว่าเอ๊ะนมเนี่ย
00:00:17 → 00:00:19 มันอาจจะไม่ดีอย่างที่คิดแล้วนะอ่ามันทำ
00:00:19 → 00:00:21 ให้มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดโรค
00:00:21 → 00:00:24 พาร์กินสันมันเกี่ยวข้องกับการเกิดโรค
00:00:24 → 00:00:27 มะเร็งนะครับมันเกี่ยวข้องกับอ่าโรคภูมิ
00:00:27 → 00:00:31 แพ้เกิดสิวได้นะครับเนี่ยแล้วนอกเหนือจาก
00:00:31 → 00:00:33 นี้คือแต่ก่อนที่เราเชื่อว่านมมันดีต่อ
00:00:33 → 00:00:36 กระดูกระดูกป้องกันเรื่องของกระดูกพรุน
00:00:36 → 00:00:38 เอ๊ะมันก็อาจจะไม่จริงแล้วนะเพราะเราเจอ
00:00:38 → 00:00:41 ว่ามีเอ่อคนมีกระดูกหักเพิ่มขึ้นนะครับใน
00:00:41 → 00:00:43 คนที่อายุเยอะๆแล้วดื่มนมเยอะๆนะครับ
00:00:43 → 00:00:46 เรื่องนี้เนี่ยมันมีที่มาที่ไปอย่างไรนะ
00:00:46 → 00:00:49 ครับแล้วมันทำไมทำให้เราสับสนเหลือเกินผม
00:00:49 → 00:00:51 ก็เลยังอยากจะเอาเรื่องเนี้ยมาคุยให้เรา
00:00:51 → 00:00:53 ได้ฟังกันเลยนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์
00:00:53 → 00:00:55 แทนีธนียาวันะครับเป็นอาจารย์แพทย์อยู่
00:00:55 → 00:00:57 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานะครับเชี่ยวชาญโรค
00:00:57 → 00:01:00 ปอดการปลูกถ่ายปอดและไวกฤตบำบัดนะครับ
00:01:00 → 00:01:03 ครับเหมือนเช่นเคยนะครับคลิปนี้เนี่ยผมก็
00:01:03 → 00:01:05 จะเอางานวิจัยที่ผมไปอ่านมาทั้งหมดเนี่ย
00:01:05 → 00:01:08 แนบไว้ให้ท่านสามารถไปอ่านแล้วก็พิจารณา
00:01:08 → 00:01:10 ได้ด้วยตัวเองเลยนะครับอย่าเพิ่งเชื่อผม
00:01:10 → 00:01:12 นะครับพิจารณาข้อมูลได้ด้วยตัวเองก่อน
00:01:12 → 00:01:14 แล้วค่อยตัดสินใจว่าท่านจะทำยังไงกับนม
00:01:15 → 00:01:17 ที่ท่านดื่มอยู่นะครับแต่ถ้าเกิดว่าคนไหน
00:01:17 → 00:01:20 ที่ไม่ต้องการฟังจนจบคลิปนะครับอ่าผมสรุป
00:01:20 → 00:01:23 ให้คร่าวๆเลยก็คือปัจจุบันเนี้ยนมยังถือ
00:01:23 → 00:01:25 ว่ามีประโยชน์มากกว่าโทษอยู่นะครับยังถือ
00:01:25 → 00:01:28 ว่ามีประโยชน์มากกว่าโทษอยู่นะครับส่วนคน
00:01:28 → 00:01:31 ไหนที่ควรที่จะเลี่ยงนมจากสัตว์นะครับไม่
00:01:31 → 00:01:34 ว่าจะเป็นนมวัวนมแพะนมแกะนมอูดหรืออะไร
00:01:34 → 00:01:38 อย่างเงี้ก็แล้วแต่นะครับก็ 1 เป็นคนที่
00:01:38 → 00:01:40 มีมะเร็งต่อมลูกหมากอยู่หรือมีความเสี่ยง
00:01:40 → 00:01:42 ในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากนะครับคนที่
00:01:42 → 00:01:45 เป็นพาร์กินสันนะครับอาจจะเลี่ยงนมไปก่อน
00:01:45 → 00:01:48 ก็ได้นะครับหรือคนที่กินแล้วมันเป็นสิว
00:01:48 → 00:01:51 เยอะๆนะฮะส่วนคนที่มีอาการแพ้นมเนี่ยส่วน
00:01:51 → 00:01:53 มากมักจะเจอในเด็กพวกเก็จะมีวิธีในการ
00:01:53 → 00:01:55 รักษานะครับตรงนี้ต้องไปปรึกษาคุณหมอโรค
00:01:55 → 00:01:59 ภูมิแพ้นะครับหรือในบางคนที่ดื่มนมเข้าไป
00:01:59 → 00:02:02 นะครับครับอ่าเด็กบางคนเนี่ยก็จะมีส่วน
00:02:02 → 00:02:04 ใหญ่ก็จะเป็นผู้ใหญ่ด้วยมีการไม่สามารถ
00:02:05 → 00:02:07 ย่อยนมได้นะครับเพราะว่ามีภาวะนึงที่
00:02:07 → 00:02:10 เรียกว่า lactose intolerance เนื่องจาก
00:02:10 → 00:02:12 ว่าร่างกายของเราเนี่ยขาดเอนไซม์ชื่อแลส
00:02:12 → 00:02:14 จึงไม่สามารถย่อยน้ำตาลในนมที่ชื่อว่า
00:02:14 → 00:02:17 lactose ได้นะครับอ่าในกรณีแบบนี้เนี่ย
00:02:17 → 00:02:20 ก็อาจจะเลี่ยงการดื่มนมหรือไปดื่มชนิด
00:02:20 → 00:02:23 อย่างอื่นไปก่อนก็ได้นะครับอ่านี้คือ
00:02:23 → 00:02:25 คร่าวๆนะครับส่วนคนที่ต้องการฟังเหตุผล
00:02:25 → 00:02:27 เต็มๆนะครับผมก็จะอธิบายต่อไปนี้เลยนะ
00:02:27 → 00:02:30 ครับอ่ะประการแรก
00:02:30 → 00:02:33 คนเราทำไมต้องดื่มนมนะครับคนเราเกิดมา
00:02:33 → 00:02:36 ปุ๊บสิ่งแรกที่เราได้รับเข้าไปเป็นสาร
00:02:36 → 00:02:39 อาหารก็คือนมของคุณแม่นะครับเพราะว่านม
00:02:39 → 00:02:41 แม่เนี่ยมีสารอาหารที่ค่อนข้างครบถ้วนเลย
00:02:41 → 00:02:45 นะครับไม่ว่าจะเป็นโปรตีนนะครับเกลือแร่
00:02:45 → 00:02:48 ไขมันวิตามินต่างๆนะครับนอกเหนือจากนี้
00:02:48 → 00:02:51 ยังมีภูมิคุ้มกันที่จะได้รับเข้าไปด้วยนะ
00:02:51 → 00:02:53 ครับนมของคุณแม่เนี่ยมีภูมิคุ้มกันที่
00:02:53 → 00:02:55 เด็กทารกดื่มเข้าไปปุ๊บเนี่ยก็จะได้ภูมิ
00:02:56 → 00:02:58 คุ้มกันชนิดที่เป็นสำเร็จรูปเพื่อป้องกัน
00:02:58 → 00:03:01 ไม่ให้เด็กทารกมีมีโอกาสป่วยได้นะครับตรง
00:03:01 → 00:03:04 นี้ยังมีความสำคัญมากอยู่นะแต่ว่าในสมัย
00:03:04 → 00:03:07 ก่อนถ้าเราลองย้อนเข้าไปในสมอยโบราณเลยนะ
00:03:07 → 00:03:09 ครับสมัยโบราณเนี่ยแน่นอนว่าอาหารมันหามา
00:03:09 → 00:03:11 ได้ยากถูกมั้ยครับเราก็ต้องมีการไปล่า
00:03:11 → 00:03:14 สัตว์อะไรเงี้ยนะฮะเพื่อที่จะมากินแต่
00:03:14 → 00:03:16 มนุษย์ก็เรียนรู้แล้วว่าถ้าต้องล่าสัตว์
00:03:16 → 00:03:18 ไปตลอดเนี่ยสงสัยจะแย่แน่ๆเลยถ้าอย่าง
00:03:18 → 00:03:20 งั้นเนี่ยเราเลี้ยงสัตว์ซะเองมั้ยเลี้ยง
00:03:20 → 00:03:22 สัตว์ซะเองปลูกพืชปลูกผักเลี้ยงไก่เลี้ยง
00:03:22 → 00:03:25 วัวเลี้ยงแพะเลี้ยงพวกเนี้ยนะครับแล้วก็
00:03:25 → 00:03:28 ทำให้เขารู้ว่าเอ๊ะไอ้สัตว์พวกนี้เี่มัน
00:03:28 → 00:03:31 ผลิตนมให้เราได้นะนมเนี่ยก็มีคุณค่าทาง
00:03:31 → 00:03:34 โภชนาการค่อนข้างสูงดังนั้นนมเหล่านี้ก็
00:03:34 → 00:03:37 เลยกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
00:03:37 → 00:03:39 ในกลุ่มคนที่เขาสามารถเพาะเลี้ยงสัตว์
00:03:39 → 00:03:42 เหล่านี้ได้นะครับอ่านั่นก็เลยเป็นที่
00:03:42 → 00:03:45 มานะแล้วนอกเหนือจากนี้ผมคิดว่าท่านหลายๆ
00:03:45 → 00:03:48 ท่านนะครับคงเคยได้ยินว่าสมัยก่อนเนี่ยคน
00:03:48 → 00:03:52 ญี่ปุ่นนะครับบางคนบางทีเราล้อเ้าด้วยว่า
00:03:52 → 00:03:55 ไอ้ยุ่นนะครับเพราะว่าเค้าตัวเตี้ยนะครับ
00:03:55 → 00:03:58 แต่พอหลังจากมีการปฏิวัตินะครับส่งเสริม
00:03:58 → 00:04:01 ให้คนญี่ปุ่นกินนมนะครับเค้าสูงขึ้นมาหมด
00:04:01 → 00:04:03 เลยนะครับสูงขึ้นปัจจุบันเนี่ยไม่มี
00:04:03 → 00:04:05 ญี่ปุ่นคนไหนเตี้ยแล้วนะครับยกเว้นคนที่
00:04:05 → 00:04:08 อายุมากๆนะครับที่เค้ายังไม่ได้รับการ
00:04:08 → 00:04:10 ดื่มนมในช่วงที่เขายังสูงได้อยู่นะครับ
00:04:10 → 00:04:12 หลังจากนั้นเขาก็เลยเตี้ยติดแบบนั้นอยู่
00:04:12 → 00:04:15 ตลอดไปนะครับตอนนี้ไม่เป็นเช่นนั้นละนะฮะ
00:04:15 → 00:04:17 ดังนั้นเราจะรู้สึกว่าเอ๊ะนมเนี่ยมันค่อน
00:04:18 → 00:04:20 ข้างที่จะมีประโยชน์ค่อนข้างสูงนะครับไม่
00:04:20 → 00:04:22 ว่าจะช่วยเรื่องต่างๆอะไรก็ตามนะฮะนี่ก็
00:04:23 → 00:04:27 เลยเป็นที่มาของพวกนมนะครับทีนี้พอมีนม
00:04:27 → 00:04:31 เนี่ยนะครับนมขึ้นมาแล้วเราเราคุยกัน
00:04:31 → 00:04:33 เรื่องของประโยชน์ละนะครับประโยชน์อะไร
00:04:33 → 00:04:36 ที่เราได้มาจากนมจากการที่เราทำวิจัยเยอะ
00:04:36 → 00:04:39 ๆนะครับเราก็เจอว่านมเนี่ยมันมีข้อดีใน
00:04:39 → 00:04:42 การที่ช่วยเรื่องของอัลไซเมอร์นะครับป้อง
00:04:42 → 00:04:44 กันของอัลไซป้องกันอัลไซเมอร์แต่ถ้าท่าน
00:04:44 → 00:04:45 ไหนเป็นอัลไซเมอร์ไปแล้วไปกินนมก็มันไม่
00:04:45 → 00:04:47 ได้ช่วยอะไรแล้วนะครับอัลไซเมอร์นี่มัน
00:04:48 → 00:04:50 เป็นโรคสมองเสื่อมชนิดหนึ่งนะครับซึ่งผม
00:04:50 → 00:04:53 เคยเล่าให้ฟังไปแล้วนะครับถ้าใครอ่าจำไม่
00:04:53 → 00:04:55 ได้หรืออยากทบทวนหรืออยากจะรู้เพิ่มเติม
00:04:55 → 00:04:57 เกี่ยวข้องกับอัลไซเมอร์ก็ลองย้อนไปฟัง
00:04:57 → 00:05:00 คลิปเรื่องอัลไซเมอร์ของผมดูได้นะครับนม
00:05:00 → 00:05:02 เนี่ยมันจะมีส่วนช่วยเรื่องของอัลไซเมอร์
00:05:02 → 00:05:04 ช่วยเรื่องของเบาหวานนะครับช่วยเรื่องของ
00:05:04 → 00:05:08 ไขมันที่มันสูงรวมทั้งมันสามารถที่จะช่วย
00:05:08 → 00:05:10 เรื่องของความดันโลหิตสูงด้วยแต่ว่าข้อ
00:05:10 → 00:05:12 มูลในแง่ของความดันโลหิตสูงนั้นอาจจะไม่
00:05:12 → 00:05:16 ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นะครับนะครับแล้วที่
00:05:16 → 00:05:17 สำคัญมันเป็นส่วนที่ช่วยเรื่องของ
00:05:17 → 00:05:22 แคลเซียมนะครับทีนี้ในเรื่องของโรคกระดูก
00:05:22 → 00:05:24 พรุนนะครับเพราะว่าเราเรารู้อยู่แล้วว่า
00:05:25 → 00:05:26 เวลาเราจะเสริมสร้างกระดูกเนี่ยก็จะต้อง
00:05:26 → 00:05:29 พูดถึงเรื่องของแคลเซียมแล้วนมเนี่ยก็
00:05:29 → 00:05:32 เป็นแหล่งที่เป็นอ่าให้แคลเซียมค่อนข้าง
00:05:32 → 00:05:33 ที่จะสูงเมื่อเทียบกับอาหารชนิดอื่นนะ
00:05:33 → 00:05:36 ครับดังนั้นเนี่ยก็เลยมีคนสงสัยว่าเออ
00:05:36 → 00:05:39 เนี่ยถ้าเราให้กินนมเยอะๆเนี่ยนะครับเรา
00:05:39 → 00:05:41 น่าจะเป็นการป้องกันไม่ให้กระดูกมันพรุน
00:05:41 → 00:05:45 ได้นะครับแต่แต่นะครับก็มีคนไปศึกษาเพิ่ม
00:05:45 → 00:05:48 ขึ้นอีกว่าเอ๊ะถ้าเราดูทั้งโลกเนี่ยนะ
00:05:48 → 00:05:50 ครับประเทศที่เค้าดื่มนมเยอะเนี่ยทำไม
00:05:50 → 00:05:54 เค้าถึงเกิดเรื่องของกระดูกสะโพกหักเยอะ
00:05:54 → 00:05:57 ขึ้นล่ะในคนอายุเยอะนะครับอ่าตรงเนี้ยมัน
00:05:57 → 00:06:00 เป็นสิ่งที่หลายๆคนก็เอามาใช้เป็นตัวที่
00:06:00 → 00:06:02 บอกว่าเ้ยนมไม่น่าจะดีแล้วนะถ้าเรากินมาก
00:06:02 → 00:06:06 ๆเดี๋ยวกระดูกหักแต่ท่านต้องลองไปดูข้อ
00:06:06 → 00:06:09 มูลดีๆนะครับเวลาเ้าพล็อตกราฟตัวนี้เนี่ย
00:06:09 → 00:06:12 นะครับจะเจอว่าแน่นอนกลุ่มที่ดื่มนมเยอะ
00:06:12 → 00:06:15 เนี่ยนะครับมันมีสะโพกหักเพิ่มขึ้นแต่ว่า
00:06:15 → 00:06:18 มันไม่ได้ชัดเจนแบบเป๊ะขนาดนั้นนะครับข้อ
00:06:18 → 00:06:20 ที่ 2 ก็คือประเทศกลุ่มที่ดื่มนมเยอะๆ
00:06:20 → 00:06:23 เนี่ยนะครับแล้วเกิดกับสะโพกหักเนี่ยลอง
00:06:23 → 00:06:26 สังเกตดีๆมันเป็นกลุ่มประเทศที่ไม่ค่อย
00:06:26 → 00:06:30 เจอแสงแดดครับเป็นประเทศหนาวส่วนกลุ่มที่
00:06:30 → 00:06:32 มีสะโพกหักน้อยกว่าคือกลุ่มที่อยู่ใน
00:06:32 → 00:06:36 ประเทศแถบที่เจอแสงแดดเยอะมากต่อรอบปีนะ
00:06:36 → 00:06:39 ครับมันหมายความว่าอะไรมันหมายความว่า
00:06:39 → 00:06:42 วิตามินดีเนี่ยก็มีส่วนสำคัสำคัญมากๆนะ
00:06:42 → 00:06:45 ครับถ้าเกิดว่าท่านอยู่ในประเทศที่ขาดแสง
00:06:45 → 00:06:47 แดดแน่นอนว่าท่านก็จะต้องขาดวิตามินดีไป
00:06:47 → 00:06:49 ด้วยนะครับดังนั้นตรงนี้เนี่ยอาจจะเป็น
00:06:49 → 00:06:52 ส่วนที่อธิบายได้ว่าคนที่ดื่มแต่นมอย่าง
00:06:52 → 00:06:55 เดียวแต่ว่าไม่ได้มีวิตามินดีเนี่ยก็อาจ
00:06:55 → 00:06:57 จะมีปัญหาเรื่องของกระดูกก็ได้ดังนั้น
00:06:57 → 00:07:00 เวลาที่เราตั้งข้อสังเกตอะไรสักอย่างนึง
00:07:00 → 00:07:02 เนี่ยนะครับเราอาจจะต้องพยายามดูซิว่ามัน
00:07:02 → 00:07:05 มีอะไรที่อธิบายมันได้หรือเปล่าแทนที่จะ
00:07:05 → 00:07:07 ไปเชื่อแต่ข้อมูลเป๊ะอย่างนั้นออกมาอย่าง
00:07:07 → 00:07:09 เดียวนะครับถ้าเราไปดูข้อมูลตรงนั้นเนี่ย
00:07:09 → 00:07:11 ก็จะสามารถพอบอกได้แล้วเฮ้ยมันไม่น่าจะ
00:07:11 → 00:07:13 ใช่แล้วมันน่าจะมีอะไรที่มากกว่านั้นนะ
00:07:13 → 00:07:15 ครับอย่างในกรณีของนมนี่ก็คือเรื่องของ
00:07:15 → 00:07:19 วิตามินดีซึ่งมาเกี่ยวข้องแล้วก็เป็นเอ่อ
00:07:19 → 00:07:21 อย่างหนึ่งด้วยที่ว่ามีนมบางชนิดเนี่ย
00:07:21 → 00:07:23 เติมเสริมวิตามินดีเพิ่มเข้าไปอีกนะครับ
00:07:23 → 00:07:26 แต่เนนมนี้จริงๆก็มีวิตามินดีอยู่แล้วนะ
00:07:26 → 00:07:28 ครับแต่ว่าอาจจะอาจจะมีจำกัดบางทีเราอาจ
00:07:28 → 00:07:30 จะต้องได้เพิ่มเข้าไปไปมากกว่าเดิมนะครับ
00:07:30 → 00:07:34 อ่ะตรงนี้ก็เรื่องของกระดูกนะครับทีนี้ใน
00:07:34 → 00:07:38 เรื่องของปัญหาจากนมบ้างล่ะอ่ะปัญหาจากนม
00:07:38 → 00:07:41 แน่นอนคือในเด็กเนี่ยนะครับมันจะมีเด็ก
00:07:41 → 00:07:43 บางคนที่ไม่สามารถดื่มนมได้นะครับดื่ม
00:07:43 → 00:07:46 แล้วมีอาการแพ้นะครับแพ้นมคือเป็นยังไง
00:07:46 → 00:07:48 เวลาเราดื่มเข้าไปเนี่ยส่วนใหญ่เนี่ย
00:07:48 → 00:07:50 ประมาณสัก 2 ชั่วโมงจะเกิดอาการละเช่นจะ
00:07:50 → 00:07:54 มีผืนขึ้นตามตัวนะครับร้องนะครับมีตาแดง
00:07:54 → 00:07:56 มีน้ำตาไหลเยอะขึ้นนะครับรู้สึกทางเดิน
00:07:56 → 00:07:58 หายใจมันบวมแลหายใจไม่ค่อยออกเสียงก็จะ
00:07:58 → 00:08:01 แปลกๆแตกไปนะครับท้องเสียออกมาอย่างเงี้ย
00:08:01 → 00:08:04 นะครับพวกนี้คืออาการแพ้นมซึ่งเวเวลา
00:08:04 → 00:08:06 วินิจฉัยหรือรักษาเนี่ยจะต้องไปตรวจกับ
00:08:06 → 00:08:08 คุณหมอทางด้านภูมิแพ้นะครับภูมิแพ้ของ
00:08:08 → 00:08:11 เด็กแล้วมันจะมีวิธีในการรักษาได้นะครับ
00:08:11 → 00:08:13 บางคนแพ้ไม่มากเนี่ยบางทีโตขึ้นก็หายได้
00:08:14 → 00:08:18 เองเหมือนกันนะครับอ่าหรือเด็กเนี่ยเรา
00:08:18 → 00:08:20 เจอว่าถ้าเด็กดื่มนมเยอะๆไปเลยเนี่ยนะ
00:08:20 → 00:08:23 ครับบางคนจะมีโอกาสการเกิดการขาดธาตุ
00:08:23 → 00:08:26 เหล็กได้นะครับเราก็เลยอาจจะเคยได้ยินว่า
00:08:26 → 00:08:28 มีนมที่เสริมธาตุเหล็กเข้าไปด้วยนะครับ
00:08:28 → 00:08:30 ตรงนี้ก็จะเป็นสิ่งที่เาอาจจะเอามาบอกว่า
00:08:30 → 00:08:32 เออเนี่ยถ้าเราเสริมธาตุเหล็กเข้าไป้ด้วย
00:08:32 → 00:08:35 นะอาจจะช่วยได้นะครับอ่ะตรงนี้ผมพูดถึงใน
00:08:35 → 00:08:38 กรณีที่เด็กไม่ได้ดื่มนมของคุณแม่นะครับ
00:08:38 → 00:08:41 แล้วก็ไม่ได้ดื่มนมแบบผสมเป็นนมผงนะเพราะ
00:08:41 → 00:08:43 ว่าเดี๋ยวนี้มันมีนมผงที่อ่าสำหรับอายุ
00:08:43 → 00:08:46 ต่างๆไปนะครับตรงนั้นเนี่ยเป็นคนละเรื่อง
00:08:46 → 00:08:48 กับนมที่ผมจะพูดในวันนี้ซึ่งนมที่พูดใน
00:08:48 → 00:08:51 วันเนี้ยก็เป็นนมจากสัตว์ซะส่วนใหญ่ที่
00:08:51 → 00:08:53 เมืองไทยที่เจอบ่อยๆก็แน่นอนนมวัวนะครับ
00:08:53 → 00:08:56 อ่ะแต่จะมีนมแพะนมแกะนมอะไรพวกนี้ด้วย
00:08:56 → 00:08:59 เกี่ยวข้องด้วยนะครับนมมีมีความเกี่ยว
00:08:59 → 00:09:02 ข้องกับการเกิดสิวอันเนี้ยชัดเจนแล้วนะ
00:09:02 → 00:09:04 ครับว่ามันเกี่ยวข้องกับการเกิดสิวได้แต่
00:09:04 → 00:09:07 ว่ามันจะชัดเจนในคนที่เป็นผู้หญิงซะส่วน
00:09:07 → 00:09:09 ใหญ่นะครับอ่าในผู้หญิงที่ดื่มนมเยอะๆบาง
00:09:09 → 00:09:11 ทีมีสิวขึ้นนะครับไม่ได้หมายความว่าถ้า
00:09:11 → 00:09:13 ท่านดื่มนมแล้วท่านจะสิวขึ้นนะครับถ้า
00:09:13 → 00:09:15 ท่านไหนที่เป็นผู้หญิงดื่มนมแล้วมันสิว
00:09:15 → 00:09:17 ไม่ขึ้นท่านอยากดื่มต่อก็ดื่มได้นะครับ
00:09:17 → 00:09:19 ไม่ได้ห้ามดื่มนะฮะส่วนท่านไหนที่เป็นวัย
00:09:19 → 00:09:22 รุ่นแล้วเอ๊ะแล้วทำไมสิวมันขึ้นเห่อเยอะ
00:09:22 → 00:09:24 จังเลยแล้วเราเป็นคนที่ดื่มนมเยอะๆเนี่ย
00:09:24 → 00:09:27 บางครั้งการงดดื่มนมอาจจะช่วยท่านได้นะ
00:09:27 → 00:09:29 ครับแล้วคำถามต่อมาก็คือเอ๊ะแล้วนมมัน
00:09:30 → 00:09:32 จำเป็นหรือเปล่านะนมเนี่ยจริงๆมันไม่ใช่
00:09:32 → 00:09:34 สิ่งที่จำเป็นนะครับเพราะว่าสิ่งที่เป็น
00:09:35 → 00:09:37 สารอาหารที่อยู่ในนมเนี่ยเราสามารถไปหา
00:09:37 → 00:09:39 จากที่อื่นได้นะครับซึ่งเดี๋ยวเราจะคุย
00:09:39 → 00:09:43 กันต่อไปว่าหาจากไหนได้บ้างนะครับอ่ะ
00:09:43 → 00:09:46 เรื่องของอ่าดังนั้นเรื่องของตรงเนี้ยเรา
00:09:46 → 00:09:49 รู้แล้วว่าสิวมันมีความเกี่ยวข้องและอีก
00:09:49 → 00:09:51 อย่างนึงคือที่นมมันมีปัญหาแล้วมีความ
00:09:51 → 00:09:54 เกี่ยวข้องก็คือโรคพิสันนะครับโรคพิสัน
00:09:54 → 00:09:57 เนี่ยมันเป็นโรคที่เรามีความเสื่อมของ
00:09:57 → 00:10:00 สมองส่วนหนึงเหมือนกันแล้วก็อาการแน่นอน
00:10:00 → 00:10:03 หลายๆคนอาจจะคิดได้ว่าเออมันมีอาการสั่น
00:10:03 → 00:10:05 นะโบรก par กินสันที่เราเห็นคนอายุเยอะๆ
00:10:05 → 00:10:07 เนี่ยจะมีมือสั่นอย่างเงี้ยบางคนมีหัว
00:10:07 → 00:10:10 สั่นด้วยนะครับแล้วก็เอ่อการแสดงสีหน้า
00:10:10 → 00:10:13 ท่าทางเนี่ยอาจจะแสดงออกไม่ได้นะครับทำ
00:10:13 → 00:10:15 ให้รู้สึกเหมือนกับคนสูงอายุที่เป็น
00:10:15 → 00:10:17 Parkinson เนี่ยเค้าน่าบึ้งอยู่ตลอดเวลา
00:10:17 → 00:10:19 นะครับจริงๆเค้าไม่ได้บึ้งนะครับเค้าเป็น
00:10:19 → 00:10:21 Parkinson นะครับทำให้ไม่สามารถแสดง
00:10:21 → 00:10:25 อาการทางสีหน้าได้นะครับแล้วก็การเดินมัน
00:10:25 → 00:10:27 ก็จะลำบากนะครับกล้ามเนื้อมันก็จะเคลื่อน
00:10:27 → 00:10:29 ไหวไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่มีการแข็งเกร่ง
00:10:29 → 00:10:33 แบบนี้ก็มีความเกี่ยวข้องนะครับนอกจากนี้
00:10:33 → 00:10:35 อีกอย่างนึงซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับนมก็
00:10:35 → 00:10:38 คือมะเร็งต่อมลูกหมากนะครับงั้นในคนที่
00:10:38 → 00:10:41 ดื่มนมเนี่ยเราเจอว่ามีโอกาสการเกิด
00:10:41 → 00:10:44 มะเร็งต่องุหมากสูงกว่าคนที่ไม่ดื่มนมนะ
00:10:44 → 00:10:46 ครับอันนี้ไม่ได้หมายความว่าท่านดื่มนม
00:10:46 → 00:10:49 นานๆแก้วนึงหรือว่าดื่มวันละแก้ว 2 แก้ว
00:10:49 → 00:10:50 แล้วจะเป็นมะเร็งตอบลุกหมานะครับคนที่
00:10:50 → 00:10:53 ดื่มนมเยอะๆเนี่ย 3-4 แก้วต่อวันเนี่ยพวก
00:10:53 → 00:10:55 นี้แหละครับที่อาจจะมีความเกี่ยวข้องกัน
00:10:55 → 00:10:57 นะครับและนอกเหนือจากนี้คือถ้าเราเป็น
00:10:57 → 00:11:00 มะเร็งต่อมลูหมากไปแล้วพบว่าการดื่มนม
00:11:00 → 00:11:02 เนี่ยมันอาจจะทำให้มะเร็งต่อมุหมากตรง
00:11:02 → 00:11:05 เนี้ยเป็นเร็วมากขึ้นเป็นเยอะขึ้นนะครับ
00:11:05 → 00:11:09 อ่าดังนั้นเนี่ยถ้าท่านมีเหตุการณ์เหล่า
00:11:09 → 00:11:11 นี้ก็คือข้อแรกมีความเสี่ยงเป็นมะเร็ง
00:11:11 → 00:11:13 ต่อมลุกหมากเช่นว่าเราไปตรวจแล้วก็เอ้ย
00:11:13 → 00:11:16 ต่อมลุกหมากเราโตนะหรือเราไปตรวจค่าเอ่อ
00:11:16 → 00:11:19 ค่าค่านึงเรียกว่าค่า psa หรือเ่อ
00:11:19 → 00:11:21 prostate specific antigen นะครับตัว
00:11:21 → 00:11:23 เนี้ถ้ามันสูงๆเนี่ยบางคนก็อาจจะต้อง
00:11:23 → 00:11:25 ระวังเรื่องต่อมลูกหมากนะครับถ้าคนไหนที่
00:11:25 → 00:11:28 มีปัญหาเรืื่องเนี้ก็อาจจะงดนมไปก่อนนะ
00:11:28 → 00:11:30 ครับไปทานอย่างอื่นแทนนะครับส่วนคนที่มี
00:11:30 → 00:11:32 ต่อมลูกหมากโตอันนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร
00:11:32 → 00:11:34 กับมะเร็งต่อมลูกหมากนะครับสามารถดื่มนม
00:11:34 → 00:11:37 ต่อได้เหมือนเดิมนะครับคนที่มีเรื่องของ
00:11:37 → 00:11:41 พาร์กินสันอ่ะพวกนี้อาจจะต้องระวังนิดนึง
00:11:41 → 00:11:43 ละนะครับแต่ว่ามันก็ไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้น
00:11:43 → 00:11:45 ถ้าท่านดื่มแบบวันละแก้ว 2 แก้วนี่ไม่มี
00:11:45 → 00:11:47 ปัญหานะครับอยากดื่มต่อก็ดื่มได้แต่ถ้า
00:11:47 → 00:11:50 เรางดไปได้ก็จะดีกว่านะครับคนที่มีสิวอ่า
00:11:50 → 00:11:52 อนี้ก็เกี่ยวข้องด้วยนะครับอาจจะงดนมไป
00:11:52 → 00:11:55 ก่อนไปดื่มอย่างอื่นแทนนะครับอันสุดท้าย
00:11:55 → 00:11:57 ก็คือแน่นอนว่าการขาดธาตุเหล็กอาจจะมีได้
00:11:57 → 00:12:00 บ้างหรือคนที่เป็นแพ้เนี่ยแพ้นมก็จะต้อง
00:12:00 → 00:12:02 หลีกเลี่ยงนะครับแต่อย่างนึงที่เราจะต้อง
00:12:02 → 00:12:06 แยกให้ชัดเจนก็ว่าการแพ้นมกับการที่เรา
00:12:06 → 00:12:09 ไม่สามารถที่จะย่อยน้ำตาลในนมก็คือน้ำตาล
00:12:09 → 00:12:11 แลคโตสได้นี่มันเป็นคนละโรคกันนะครับการ
00:12:11 → 00:12:13 ที่เราย่อยน้ำตาลแลคโตสไม่ได้เนี่ยเเลย
00:12:13 → 00:12:16 เรียกว่า lactose intolerance นะครับ
00:12:16 → 00:12:18 เวลาที่เราอายุเยอะขึ้นเนี่ยร่างกายของ
00:12:18 → 00:12:21 เราจะผลิตฮอร์โมนเอ่อผลิตเอนไซม์ตัวนึง
00:12:21 → 00:12:24 ชื่อว่าแลคเตสได้น้อยลงแลคเตสตัวเเี่มัน
00:12:24 → 00:12:26 จะเป็นตัวที่เอาไปย่อยนมมันหมายความว่า
00:12:26 → 00:12:29 เวลาที่เราอายุเยอะขึ้นน่ะนะครับเรากินนม
00:12:29 → 00:12:31 เข้าไปเนี่ยบางคนก็จะมีอาการท้องอืดปวด
00:12:31 → 00:12:34 ท้องคลื่นไส้อาเจียนนะครับหรือเอ่อผายลม
00:12:34 → 00:12:37 เยอะนะครับท้องเสียนะครับพวกเนี้ยก็เป็น
00:12:37 → 00:12:40 จากการที่ร่างกายเราไม่สามารถย่อยแลคโตส
00:12:40 → 00:12:43 ในนมได้นะครับวิธีแก้ไขก็คือเราสามารถที่
00:12:43 → 00:12:47 จะใช้เอนไซม์ที่เป็นแลคเตสกินเข้าไปก่อน
00:12:47 → 00:12:50 ที่เราจะกินนมพวกนี้ก็ได้นะครับหรือเราจะ
00:12:50 → 00:12:52 เลือกไปใช้นมที่มันไม่มีแลคโตสอยู่ในนั้น
00:12:52 → 00:12:55 เลยก็ได้เดี๋ยวนี้ก็มีหลากหลายยี่ห้อให้
00:12:55 → 00:12:57 เราเลือกท่านนะครับอ่าหรือว่าเราจะไม่
00:12:57 → 00:13:00 ดื่มนมจากสัตว์เราไปดื่มนมจากพืชเลยก็
00:13:00 → 00:13:02 สามารถที่จะทำได้นะครับทันนี้คือคนที่มี
00:13:02 → 00:13:05 โรคต่อไปนี้ก็พยายามหลีกเลี่ยงหน่อยะกัน
00:13:05 → 00:13:08 นะครับอีกอย่างนึงซึ่งเราอาจจะเคยได้ยิน
00:13:08 → 00:13:11 ว่าถ้าเราให้เด็กเนี่ยเค้าดื่มนมวัวเนี่ย
00:13:11 → 00:13:14 นะครับจะมีโอกาสเกิดภูมิแพ้ที่สูงขึ้นใน
00:13:14 → 00:13:17 ในตอนที่เราโตขึ้นมาอันนี้ก็มีส่วนเหมือน
00:13:17 → 00:13:19 กันนะครับดังนั้นก็เลยมีกลุ่มนึงเนี่ย
00:13:19 → 00:13:22 เขาคให้ไปดื่มนมแพะแทนนะครับอ่านมแพะนม
00:13:22 → 00:13:24 แกะอะไรพวกเนี้ยก็สามารถที่จะทำเช่นนั้น
00:13:24 → 00:13:26 ก็ได้นะครับแต่ว่ามันไม่ได้ชัดขนาดนั้น
00:13:27 → 00:13:28 เพราะว่าจริงๆโรคภูมิแพ้เนี่ยมันไม่ได้
00:13:28 → 00:13:31 เกิดเกิดจากนมได้อย่างเดียวนะครับมันเป็น
00:13:31 → 00:13:33 สิ่งที่เกิดขึ้นด้วยหลายปัจจัยนะครับ
00:13:33 → 00:13:35 ปัจจัยอะไรบ้างที่เราเกี่ยวข้องกับภูมิ
00:13:35 → 00:13:37 แพ้แน่นอน PM 2.5 นี่มีความเกี่ยวข้อง
00:13:37 → 00:13:42 ชัดเจนนะครับหรืออันที่เราอาจจะมีคนเคย
00:13:42 → 00:13:44 ได้ยินบ้างก็คือเรื่องของการรักษาความ
00:13:44 → 00:13:47 สะอาดที่มากจนเกินความจำเป็นนะครับหรือ
00:13:47 → 00:13:49 ที่ภาษาอังกฤษหรือภาษาทางการแพทย์เรา
00:13:49 → 00:13:51 เรียกว่า hygiene hypothesis นะครับคือ
00:13:51 → 00:13:54 ถ้าเรามีความสะอาดมากมากซะจนเกินไปเนี่ย
00:13:54 → 00:13:56 เราจะเจอว่าเรามีภูมิแพ้มากกว่าการที่เรา
00:13:56 → 00:13:59 ปล่อยให้เด็กไปเล่นสกปรกนะครับไปเล่นดิน
00:13:59 → 00:14:01 ไปขุดทรายไปอะไรอย่างเงี้ยนะครับไปเจอกับ
00:14:01 → 00:14:03 สิ่งพวกสกปรกพวกนั้นน่ะเราไม่ค่อยจะมี
00:14:03 → 00:14:05 ปัญหาเรื่องของภูมิแพ้นะครับแต่เด็กรุ่น
00:14:05 → 00:14:08 ใหม่เนี่ยพอไปขุดดินนิดนึงพ่อแม่ก็เอ้ยไป
00:14:08 → 00:14:10 ทำอะไรสกปรกอย่าไปเล่นตรงนั้นโคลนมันไม่
00:14:10 → 00:14:12 ได้อย่าไปลงไปอะไรอย่างเงี้ยนะครับมันก็
00:14:12 → 00:14:15 เป็นที่มาของการที่เรารักษาความสะอาดมาก
00:14:15 → 00:14:17 จนเกินไปตรงนี้ก็อาจจะมีความเกี่ยวข้อง
00:14:17 → 00:14:19 กับเรื่องของภูมิแพ้นอกเหนือจากนี้เรื่อง
00:14:19 → 00:14:21 ของการนอนไม่พอก็มีความเกี่ยวข้องซึ่งผม
00:14:21 → 00:14:23 เคยได้พูดไปแล้วว่าทำไมมันเกี่ยวข้องกัน
00:14:23 → 00:14:26 นะครับท่านก็ลองไปย้อนฟังดูคลิปพวกนั้นะ
00:14:26 → 00:14:30 กันนะครับคลิปนั้นนั้นผมพูดเรื่องของเอ่อ
00:14:30 → 00:14:32 น่าจะเป็นเรื่องของรองโควิดกับเอ่อการ
00:14:32 → 00:14:35 หยุดหายใจในขณะหลับนะครับผมพูดไว้ในคลิป
00:14:35 → 00:14:37 นั้นว่าเออมันทำให้เกิดเรื่องของภูมิแพ้
00:14:37 → 00:14:40 ได้ยังไงนะครับอ่าตรงนี้เป็นเรื่องของข้อ
00:14:40 → 00:14:42 ไม่ดีของนมนะครับข้อดีของนมผมก็ได้พูดไป
00:14:42 → 00:14:45 คร่าวๆแล้วเมื่อกี้และอีกอย่างนึงซึ่งไม่
00:14:45 → 00:14:47 ซึ่งผมยังไม่ได้พูดก็คือเรื่องของ
00:14:47 → 00:14:50 อัลไซเมอร์นะครับอ่านมเนี่ยมันอาจจะช่วย
00:14:50 → 00:14:52 เรื่องของอัลไซเมอร์ได้ด้วยนะครับอ่าช่วย
00:14:52 → 00:14:54 ตอนที่มันยังไม่เป็นนะครับถ้ามันเป็นไป
00:14:54 → 00:14:56 แล้วเนี่ยอาจจะช่วยไม่ได้นะครับงั้นบางคน
00:14:56 → 00:14:59 ตอนนี้ก็คงจะเริ่มงงแล้วเอ๊ยทำไมนมเนี่ย
00:14:59 → 00:15:01 มันช่วยเรื่องอัลไซเมอร์แต่มันมีความ
00:15:01 → 00:15:03 เกี่ยวข้องกับการเกิดพิสันทั้งๆที่ 2 โรค
00:15:03 → 00:15:05 เนี้ยมันเป็นโรคการเสื่อมของสมองเหมือน
00:15:05 → 00:15:08 กันตรงเนี้ยยังไม่มีคำตอบนะครับผมก็ยัง
00:15:08 → 00:15:10 ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันเกี่ยวข้องกันได้
00:15:10 → 00:15:12 ยังไงแต่ว่าเเจอว่ามันมีความเกี่ยวข้อง
00:15:12 → 00:15:16 กันนะครับอ่ะทีนี้พอเราคิดมาถึงตรงนี้
00:15:16 → 00:15:18 แล้วล่ะเรารู้ว่าเออนมมันก็มีข้อดีแล้ว
00:15:18 → 00:15:20 มันก็มีข้อเสียที่มันชัดเจนด้วยนะครับ
00:15:20 → 00:15:24 เอ่อแล้วเราจะทำไงกับนมดีนะครับ
00:15:24 → 00:15:28 อ้อข้อสิ่งที่ผมไม่ได้พูดในวันเนี้ยนะ
00:15:28 → 00:15:31 ครับมันเป็นสิ่งที่เอ่อผมอาจจะลืมพูดหรือ
00:15:31 → 00:15:34 อาจจะพูดไม่ครบนะครับแต่ที่สำคัญก็คือข้อ
00:15:35 → 00:15:37 มูลน่ะมันยังไม่ชัดเจนสำหรับสิ่งอื่นๆนะ
00:15:37 → 00:15:39 ครับหรือบางครั้งเี่มันไม่เกิดในสิ่งที่
00:15:39 → 00:15:42 เราพูดแบบนั้นนะครับยกตัวอย่างเช่นเอ่อ
00:15:42 → 00:15:44 มะเร็งเต้านม
00:15:44 → 00:15:48 มะเร็งอะไรอ่ะมะเร็งกลุ่มที่เป็นมะเร็ง
00:15:48 → 00:15:51 ของตำอ่อนพวกเนี้ยไม่มีความเกี่ยวข้อง
00:15:51 → 00:15:54 อะไรกับนมนะครับไม่มีความเกี่ยวข้องกับนม
00:15:54 → 00:15:56 แต่ว่าเอ่อนมเนี่ยมันอาจจะช่วยลดการเกิด
00:15:57 → 00:15:59 มะเร็งลำไส้ใหญ่อ่านี้ช่วยลดมะเร็งลำไส้
00:15:59 → 00:16:01 ใหญ่่อันนี้อันนี้จริงนะอันนี้เจอมาแล้ว
00:16:01 → 00:16:03 นะครับว่ามันลดมะเร็งลำไส้ใหญ่แต่มันลด
00:16:03 → 00:16:05 ได้ยังไงนี้ก็ยังไม่มีคนทราบแบบชัดเจนนะ
00:16:05 → 00:16:08 ครับอ่ะเนี่ยประมาณเนี้ยความเกี่ยวข้อง
00:16:08 → 00:16:12 กับมะเร็งเท่าที่ผมจะพอจำได้นะครับงั้น
00:16:12 → 00:16:14 โดยสรุปนะครับนมยังถือว่ามีประโยชน์มาก
00:16:14 → 00:16:18 กว่าโทษอยู่นะครับแล้วเวลาที่เราทานนม
00:16:18 → 00:16:20 เนี่ยนะครับสิ่งที่เราต้องคำนึงถึงก็คือ
00:16:20 → 00:16:25 ข้อแรกนมเนี่ยนะะเราอย่าไปทานนมที่มีการ
00:16:25 → 00:16:28 ปรุงแต่งเยอะเช่นเป็นนมช็อกโกแลตนมรสกาแฟ
00:16:28 → 00:16:31 นมรสอะไรก็แล้วแต่นมสตรอเบอร์รี่พวกเ
00:16:31 → 00:16:33 เพราะว่ามันมีการเติมน้ำตาลเข้าไปก็แน่
00:16:33 → 00:16:35 นอนว่าถ้าเรากินเข้าไปเยอะๆมันก็มีความ
00:16:35 → 00:16:38 เสี่ยงต่อการเกิดความอ้วนเป็นเบาหวานพวก
00:16:38 → 00:16:41 นี้ได้นะครับอ่าตรงเมันมีความเกี่ยวข้อง
00:16:41 → 00:16:45 นมกินแทมน้ำได้มยนะครับคือตัวนมเนี่ยถ้า
00:16:45 → 00:16:48 เรากินแทนน้ำไปเลยเนี่ยผมส่วนตัวนะครับ
00:16:48 → 00:16:51 คิดว่าไม่สมควรเหตุผลเพราะว่าท่านก็จะได้
00:16:51 → 00:16:53 พลังงานที่มันมีอยู่ในนมเนี่ยเต็มไปหมด
00:16:53 → 00:16:56 เลยนะครับเยอะเลยนะครับเพราะว่านมมันมีไข
00:16:56 → 00:16:59 มันในนั้นนะครับมีพลังงานจากน้ำตาลจาก
00:16:59 → 00:17:01 เรือแร่ต่างๆพวกเนี้ยก็เยอะแยะไปหมดนะ
00:17:01 → 00:17:04 ครับดังนั้นนมเนี่ยไม่ควรจะดื่มแทนน้ำนะ
00:17:04 → 00:17:07 ครับคือดื่มได้พอประมาณนะฮะดื่มแค่ไหนผม
00:17:07 → 00:17:09 คิดว่าถ้าท่านดื่มอยู่แค่วันละแก้ว 2
00:17:09 → 00:17:11 แก้วเนี่ยไม่เป็นอะไรที่ต้องกังวลเลยนะ
00:17:11 → 00:17:14 ครับมันไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาอะไรมากขนาด
00:17:14 → 00:17:19 นั้นนะครับอ่ะแต่บางคนที่ไม่สบายใจอีกอ่ะ
00:17:19 → 00:17:22 เราดื่มนมวัวเนี่ยเราไม่อยากจะดื่มะเราทำ
00:17:22 → 00:17:24 ยไงได้นะครับแล้วเราอยากจะดื่มนมพืชนะ
00:17:24 → 00:17:27 ครับก็มีพวกนมอัลมอนด์นมถั่วต่างๆนะครับ
00:17:27 → 00:17:30 เอ่อนมอ่าถั่วเหลืองอย่างนี้นะครับคือ
00:17:30 → 00:17:33 ต้องบอกอย่างนี้นะครับนมที่มีคุณค่าทาง
00:17:33 → 00:17:36 อาหารที่เทียบเท่ากับนมจากสัตว์ได้เนี่ย
00:17:36 → 00:17:39 มีอยู่อย่างเดียวเลยครับนมถั่วเหลืองนะ
00:17:39 → 00:17:42 ครับส่วนนมที่เป็นอย่างอื่นเลยนมถั่ว
00:17:42 → 00:17:44 แอลมอนนมอะไรอย่างอื่นพวกเยนะครับคุณค่า
00:17:44 → 00:17:47 ทางสารอาหารเนี่ยเทียบเท่านมสัตว์ไม่ได้
00:17:47 → 00:17:50 นะครับพวกนี้มันจะต้องมีการไปเติมสาร
00:17:50 → 00:17:52 อาหารเข้าไปถึงจะมีโอกาสเทียบเท่ากับนม
00:17:52 → 00:17:55 จากสัตว์ได้นะครับแล้วนมที่มาจากพืชนั้น
00:17:55 → 00:17:58 ไม่มีวิตามิน B12 นะครับดังนั้นหมายความ
00:17:58 → 00:18:02 ว่าถ้าท่านเป็นคนกินวีแกนมังสวิรัสกินเจ
00:18:02 → 00:18:06 แบบเคร่งๆเนี่ยนะครับแล้วท่านเอ่อไม่อยาก
00:18:06 → 00:18:08 ดื่มนมสัตว์เนี่ยท่านอาจจะต้องไปรับ
00:18:08 → 00:18:10 ประทานวิตามิน B12 เสริมนะครับเพราะว่า
00:18:11 → 00:18:13 วิตามิน B12 นั้นไม่มีในพืชนะครับไม่มีใน
00:18:13 → 00:18:17 พืชนะฮะถ้าคันขาดวิตามิน B12 มากๆเนี่ย
00:18:17 → 00:18:20 มันจะมีปัญหาต่างๆตามมายกตัวอย่างเช่นมี
00:18:20 → 00:18:23 เรื่องโลหิตจางนะครับแล้วก็มีปัญหาทาง
00:18:23 → 00:18:25 ด้านระบบประสาทนะครับถ้าคนที่เป็นมากๆ
00:18:25 → 00:18:27 เนี่ยบางทีเอ่อเรื่องระบบประสาทที่ขา
00:18:27 → 00:18:29 เนี่ยมันเสียไปเลยนะนะครับรับแรงสั่น
00:18:29 → 00:18:31 สะเทือนอะไรพวกนี้ไม่ค่อยได้นะครับพวกนี้
00:18:31 → 00:18:34 ก็จะต้องไปแก้ไขด้วยการให้วิตามิน B12
00:18:34 → 00:18:37 เข้าไปนะครับถ้าท่านไม่ดื่มนมจากสัตว์
00:18:37 → 00:18:39 แล้วเนี่ยโอกาสที่ท่านได้วิตามิน B12 ไม่
00:18:39 → 00:18:41 มีทางนะครับท่านจะต้องได้จากสัตว์เท่าไป
00:18:41 → 00:18:44 เท่านั้นยกเว้นว่าในนมพืชของท่านอาจจะมี
00:18:44 → 00:18:47 คนไปเติมวิตามิน B12 เข้าไปในนั้นอันนี้
00:18:47 → 00:18:52 ก็อาจจะพอได้เหมือนกันนะครับอ่าะนี้นม
00:18:52 → 00:18:55 เนี่ยมันเป็นสิ่งที่ต้องบอกนะครับว่าไม่
00:18:55 → 00:18:58 ได้จำเป็นต่อการดำรงชีวิตนะครับคนจะไม่
00:18:58 → 00:19:01 ทานก็ไม่เป็นไรนะครับส่งสิ่งที่อยู่ในนม
00:19:01 → 00:19:05 นี้มีอะไรบ้างอแน่นอนไขมันดีพวกนี้หาได้
00:19:05 → 00:19:08 จากไขมันสัตว์ทั่วไปเหมือนกันนะครับไขมัน
00:19:08 → 00:19:10 จากพืชก็หาได้เหมือนกันนะครับเกลือแร่นะ
00:19:10 → 00:19:13 ครับวิตามินอ่ามีวิตามิน a d e k
00:19:13 → 00:19:16 วิตามินกลุ่มวกวิตามิน B เยอะแยะไปหมดนะ
00:19:16 → 00:19:18 ครับวิตามินพวกเนี้ยก็สามารถหาได้จาก
00:19:18 → 00:19:21 แหล่งอื่นๆเช่นกันนะครับจากไข่จากอาหาร
00:19:21 → 00:19:23 จากสัตว์นะครับจากน้ำมันจากไขมันพวกนี้ก็
00:19:24 → 00:19:26 สามารถหาได้โปรตีนก็หาจากแหล่งอื่นๆได้
00:19:26 → 00:19:29 เช่นกันนะครับแคลเซียมที่บอกว่านมมันมี
00:19:29 → 00:19:31 เยอะๆนะครับท่านก็กินอย่างอื่นได้เหมือน
00:19:31 → 00:19:33 กันเช่นกินงาดำเนี่ยแคลเซียมเยอะนะครับ
00:19:33 → 00:19:36 ท่านก็สามารถกินพวกนี้หรือว่าพวกเอ่อปลา
00:19:36 → 00:19:38 ที่ทอดกรอบกินเข้าไปได้ทั้งกล้างพวกนี้ก็
00:19:38 → 00:19:40 มีแคลเซียมเยอะเช่นกันนะครับท่านก็หาได้
00:19:40 → 00:19:42 นะพวกถั่วพวกอะไรพวกเนี้ยบางอย่างก็จะมี
00:19:43 → 00:19:45 แคลเซียมสูงท่านก็จะหาได้จากแหล่งเหล่า
00:19:45 → 00:19:47 นั้นดังนั้นจะเห็นว่านมเนี่ยมันไม่เป็น
00:19:47 → 00:19:49 สิ่งที่จำเป็นขนาดนั้นนะครับท่านไม่ต้อง
00:19:49 → 00:19:52 กินก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะว่าท่านสามารถหา
00:19:52 → 00:19:55 สิ่งเหล่านั้นได้จากที่อื่นนะครับอ่ะที
00:19:55 → 00:19:58 นี้มาดูอีกอย่างนึงซึ่งผมคิดว่าบางคนเค้า
00:19:58 → 00:20:01 ก็คิดนะครับเพราะว่านมเนี่ยเค้าก็กังวลนะ
00:20:01 → 00:20:04 ครับว่าเอ๊ะมันจะมีฮอร์โมนอยู่ในนั้นมั้ย
00:20:04 → 00:20:07 จะมีแอนติไบโอติกหรือยาปฏิชีวนะที่ให้ไป
00:20:07 → 00:20:11 กับสัตว์มั้ยเอิ่มจะมีมีอะไรปนเปื้อนมั้ย
00:20:11 → 00:20:15 มีพวกยา่าแมลงมีพวกสารอะไรต่างๆสันปลอด
00:20:15 → 00:20:17 สันอะไรก็แล้วแต่ปนเปื้อนอะไรพวกนี้มั้ย
00:20:17 → 00:20:19 แล้วเวลาที่เ้าทำนมเนี่ยมันโหดร้ายต่อ
00:20:19 → 00:20:21 สัตว์อะไรพวกนี้หรือเปล่านะครับเพราะว่า
00:20:21 → 00:20:23 เดี๋ยวนี้เราก็ต้องมาดูเรื่องของเอ่อ
00:20:23 → 00:20:26 กลุ่มพวกเนี้ยนะครับก็ต้องบอกอย่างนี้
00:20:26 → 00:20:29 ครับเรื่องของฮอร์โมนในนมเนี่ยนะครับอ่า
00:20:29 → 00:20:31 มันมีพวกฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่นะครับซึ่ง
00:20:31 → 00:20:34 เป็นฮอร์โมนเพศหญิงนะแต่ว่ามันมีไม่เยอะ
00:20:34 → 00:20:36 นะครับพวกนี้มีมีน้อยมากส่วนใหญ่ก็ไม่ได้
00:20:36 → 00:20:38 มีความสำคัญอะไรต่อร่างกายเดี๋ยวร่างกาย
00:20:38 → 00:20:40 เราเจอน้ำย่อยเนี่ยมันก็ย่อยฮอร์โมนพวก
00:20:40 → 00:20:42 นี้หายไปหมดแล้วนะครับเราก็ไม่ได้รับเข้า
00:20:42 → 00:20:46 ไปนะครับเรื่องของสารปนเปื้อนต่างๆเนี่ย
00:20:46 → 00:20:48 นะครับถ้าเป็นเรื่องของยาปฏิชีวนะแน่นอน
00:20:48 → 00:20:51 ว่ามันมีการควบคุมนะครับเอ่อที่กรมประสู
00:20:51 → 00:20:53 สัตว์ต่างๆออกมาตรงนี้ท่านก็ต้องไปดูข้อ
00:20:53 → 00:20:55 มูละเพราะว่าหลายๆประเทศผมเชื่อว่าเขาควบ
00:20:55 → 00:20:58 คุมดีแล้วนะครับถ้าเกิดว่าที่ไหนเนี่ยนม
00:20:58 → 00:21:02 มีความปนเปื้อนของสิ่งต่างๆเช่นยา่าแมลง
00:21:02 → 00:21:06 อ่าโลหะหนักต่างๆเกินที่เป็นมาตรฐานนะ
00:21:06 → 00:21:08 ครับเค้าก็จะไม่ให้ผ่านนะครับไม่ให้ผ่าน
00:21:08 → 00:21:10 ก็หมายความว่านนท์ล็อตนั้นเนี่ยจะต้องถูก
00:21:10 → 00:21:13 ทิ้งนะครับไม่สามารถที่จะเอามาขายได้นะ
00:21:13 → 00:21:15 ครับดังนั้นตรงนี้ส่วนตัวผมนะครับผมก็จะ
00:21:15 → 00:21:19 รู้สึกสบายใจะว่าเออถ้าเราดูตามพวกเนี้ย
00:21:19 → 00:21:21 เราดูแน่ๆว่านมมันไม่หมดอายุนะครับถ้าเรา
00:21:21 → 00:21:24 จะดื่มก็สามารถที่จะดื่มได้เป็นปกตินะ
00:21:24 → 00:21:25 ครับ
00:21:25 → 00:21:30 อ่าส่วนบางคนเป็นพวกที่เอ่อรักสัตว์รัก
00:21:30 → 00:21:35 โรคนะครับก็จะบอกว่าเออนมเนี่ยวัวเวลาที่
00:21:35 → 00:21:38 นมวัวมันผลิตนมเนี่ยเค้าก็ต้องมีการใช้
00:21:39 → 00:21:41 เครื่องนะครับดูดนมวัวออกมาตลอดเวลานะ
00:21:41 → 00:21:44 ครับก็เป็นการทรมานวัวนะครับก็หรือเป็น
00:21:44 → 00:21:46 สัตว์อะไรก็แล้วแต่ทรมานสัตว์เพราะว่ามัน
00:21:47 → 00:21:49 ต้องอยู่ในช่วงที่สามารถมีนมตลอดเวลานะ
00:21:49 → 00:21:52 ครับถ้าหมดประโยชน์แล้วบางทีเขาอาจจะเอา
00:21:53 → 00:21:56 นมเอาวัวตัวนี้ไปฆ่าทิ้งเพื่อทำเป็นเนื้อ
00:21:56 → 00:21:58 อะไรอย่างงี้ก็ได้นะครับถ้าคนที่ที่คิด
00:21:58 → 00:22:01 ทำนองเนี้ยนะครับผมคิดว่าโอเคการไม่ดื่ม
00:22:01 → 00:22:04 นมเนี่ยมันก็อาจจะช่วยในแง่ของเรื่องพวก
00:22:04 → 00:22:06 นี้ได้บางคนก็กังวลเรื่องเอ้ยนมมันเกี่ยว
00:22:06 → 00:22:08 อะไรกับโรคร้อนหรือเปล่าเพราะว่ามันมี
00:22:08 → 00:22:10 อุตสาหกรรมเรื่องของคาร์บอนฟุตปริ้นอะไร
00:22:10 → 00:22:13 ต่างๆเมันก็อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับ
00:22:13 → 00:22:16 เรื่องพวกเนี้ยนะครับเอ่อถ้าคนคิดทำนอง
00:22:16 → 00:22:19 เนี้ยผมคิดว่าท่านดื่มนมจากอย่างอื่นได้
00:22:19 → 00:22:22 นะครับนมพืชแล้วก็ไปหาอย่างอื่นเสริมเข้า
00:22:22 → 00:22:24 ไปแทนนะครับก็สามารถที่จะแก้ไขเรื่องนี้
00:22:24 → 00:22:28 ได้นะครับโอเคดังนั้นโดยสรุปแล้วนะครับนม
00:22:28 → 00:22:30 เนี่ยยังมีประโยชน์มากกว่าโทษนะครับถ้า
00:22:30 → 00:22:32 ท่านดื่มวันละแก้ว 2 แก้วไม่มีอะไรที่
00:22:32 → 00:22:35 จำเป็นจะต้องน่ากังวลนะครับคนกลุ่มที่ควร
00:22:35 → 00:22:38 จะหลีกเลี่ยงนมก็คนที่มีโอกาสเกิดมะเร็ง
00:22:38 → 00:22:40 ต่อมลูกหมากหรือว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
00:22:40 → 00:22:42 อยู่พวกเนี้ยผมแนะนำว่าเลี่ยงไปก่อนดี
00:22:42 → 00:22:44 กว่านะครับเพราะว่าเราไม่แน่ใจว่ามีความ
00:22:44 → 00:22:46 เกี่ยวข้องอะไรกันขนาดนั้นมแต่ว่าเราเจอ
00:22:46 → 00:22:48 ว่ามันมีความเกี่ยวข้องกันคนที่เป็น
00:22:48 → 00:22:51 พาร์กินสันนะครับก็อาจจะเลี่ยงไปก่อนก็
00:22:51 → 00:22:53 ได้หรือว่าถ้าดื่มก็ดื่มแต่น้อยแล้วกันนะ
00:22:53 → 00:22:56 ครับวันละแก้ว 2 แก้วอะไรเงี้ยโอเคยังยัง
00:22:56 → 00:22:59 ใช้ได้อยู่นะครับคนที่ที่เป็นวัยรุ่นกิน
00:22:59 → 00:23:01 เข้าไปแล้วมีสิวเยอะๆอย่างเงี้ยอาจจะ
00:23:01 → 00:23:05 เลี่ยงนะครับหรือเอ่อคนที่มีการแพ้จริงๆ
00:23:05 → 00:23:07 เนี่ยพวกนี้อาจจะต้องไปปรึกษาคุณหมอทาง
00:23:07 → 00:23:09 ด้านภูมิแพ้เพื่อที่จะตรวจรักษานะครับถ้า
00:23:09 → 00:23:13 มีการขาดเอนไซม์แลคเตสนะครับท่านก็ไปกิน
00:23:13 → 00:23:16 นมที่มันไม่มีแลคโตสนะครับสามารถที่จะกิน
00:23:16 → 00:23:19 ได้นะครับส่วนนมมีประโยชน์ทางด้านไหนบ้าง
00:23:19 → 00:23:21 นะครับแน่นอนว่าเรื่องของเบาหวานความดัน
00:23:21 → 00:23:25 ไขมันอ่านมมันช่วยนะครับอ่อนมก็สามารถที่
00:23:25 → 00:23:27 จะช่วยเหลือเรื่องของการเกิดอัลไซเมอร์
00:23:27 → 00:23:30 ได้อีกเรื่องนึนะครับป้องกันมะเร็งที่
00:23:30 → 00:23:32 เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่นะครับอันนี้ป้องกัน
00:23:32 → 00:23:35 ได้ส่วนอย่างอื่นเนี่ยข้อมูลยังไม่ชัดเจน
00:23:35 → 00:23:37 นะครับเรื่องของกระดูกก็อย่างที่บอกว่า
00:23:37 → 00:23:39 มันยังไม่ค่อยชัดเจนส่วนเรื่องของกระดูก
00:23:39 → 00:23:42 สะโพกหักที่เราเจอเนี่ยมันก็มีข้อโต้แย้ง
00:23:42 → 00:23:44 ได้ว่าประเทศที่เขาดื่มนมเยอะเนี่ยมัน
00:23:44 → 00:23:46 เป็นประเทศที่ไม่ค่อยเจอแสงแดดนะครับ
00:23:46 → 00:23:49 โอกาสเกิดสะโพกหักพวกนี้มันก็อาจจะสูง
00:23:49 → 00:23:50 ขึ้นไปหน่อยนะครับแล้วมันเป็นประเทศที่
00:23:50 → 00:23:53 หนาวๆเวลาหนาวๆสิ่งที่เกิดขึ้นที่ประเทศ
00:23:53 → 00:23:58 ไทยไม่มีเลยก็คืออะไรครับน้ำแข็งนะครับ
00:23:58 → 00:24:01 เวลาที่มันหนาวมากๆแล้วทางเดินมันเป็นน้ำ
00:24:01 → 00:24:03 แข็งเนี่ยคนพวกเนี้ยลื่นล้มได้ง่ายมากนะ
00:24:03 → 00:24:06 ครับแล้วจะเห็นว่าที่อเมริกาถ้าเกิดว่าคน
00:24:06 → 00:24:08 ที่ทำงานที่เนี่ยรู้เลยนะครับถ้าอยู่โรง
00:24:08 → 00:24:11 พยาบาลเนี่ยเดี๋ยวเอาละหน้าหนาวเนี่ยมีมี
00:24:11 → 00:24:14 มาเรื่อยๆนะครับคนที่อายุเยอะๆลื่นล้ม
00:24:14 → 00:24:17 แล้วก็สะโพกกระแทกสะโพกหักเข้ามานโรง
00:24:17 → 00:24:19 พยาบาลบ่อยไปนะครับอ่าแต่ประเทศไทยมันไม่
00:24:19 → 00:24:21 มีน้ำแข็งนะโอกาสล้มจากน้ำแข็งเนี่ยมัน
00:24:21 → 00:24:24 ไม่น่ามีนะมีก็คงน้อยมากๆนะครับอาจจะเป็น
00:24:24 → 00:24:27 พวกโรงงานน้ำแข็งหรือว่าไปพื้นเหมือนลื่น
00:24:27 → 00:24:30 หรท่านท่านแบบถูพื้นไว้แล้วคนแก่เดินมา
00:24:30 → 00:24:32 แล้วมองไม่เห็นไม่ชัดเจนอันนี้ลื่นล้มอาจ
00:24:32 → 00:24:34 จะสัโพกหักอันนี้ก็เป็นอีกอย่างนึงซึ่ง
00:24:34 → 00:24:36 เจอได้แต่ว่าที่เมืองหนาวมันจะมีเหตุผล
00:24:36 → 00:24:39 อย่างเงี้มากกว่านะครับโอเควันนี้ก็
00:24:39 → 00:24:41 ประมาณเท่านี้แล้วกันนะครับถ้าใครมีอะไร
00:24:41 → 00:24:43 สงสัยก็สอบถามมาได้นะครับขอบคุณมากครับ
00:24:43 → 00:24:47 สวัสดีครับ