00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาเล่าเกี่ยวข้องกับ
00:00:02 → 00:00:06 โรคลำไส้แปรปรวนหรือที่เราเรียกกันว่าโรค
00:00:06 → 00:00:09 ibs นั่นเองนะครับโรค ibs ย่อมาจาก
00:00:09 → 00:00:14 elitable brows นะครับโรคนี้มันทำไมถึง
00:00:14 → 00:00:17 เป็นได้มีอาการอย่างไรนะครับแล้วมีวิธีใน
00:00:17 → 00:00:19 การดูแลรักษาตัวเองอย่างไรบ้างวันนี้ผมจะ
00:00:19 → 00:00:22 เล่าให้ฟังนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์
00:00:22 → 00:00:24 ธนินทะนียวรรณเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่
00:00:24 → 00:00:26 ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ
00:00:26 → 00:00:29 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับก่อนอื่น
00:00:29 → 00:00:32 เลยนะครับผมต้องขออธิบายคำสองคำซึ่งมักจะ
00:00:32 → 00:00:35 ใช้สับสนแล้วก็คนไข้หลายคนเนี่ยอาจจะเข้า
00:00:35 → 00:00:39 ใจไม่ถูกต้องได้นะครับนั่นก็คือคำว่า ibs
00:00:39 → 00:00:43 และ ibd ทั้ง 2 อย่างนี้ไม่ใช่โรคเดียว
00:00:43 → 00:00:47 กันนะครับ ids หรือ evisable Brown synd
00:00:47 → 00:00:50 นั้นเป็นโรคลำไส้แปรปรวนนะครับจะไม่มีการ
00:00:50 → 00:00:53 อักเสบแล้วมันก็จะไม่เพิ่มโอกาสในการ
00:00:53 → 00:00:56 เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้นะครับแตก
00:00:56 → 00:01:00 ต่างและตรงกันข้ามกับโรค ibd ซึ่งมันต่อ
00:01:00 → 00:01:03 ย่อมาจากคำว่า inflimitory Brown This
00:01:03 → 00:01:05 Is นะครับ infly Brown This Is หรือ
00:01:05 → 00:01:08 ibd นั้นจะมีการอักเสบของลำไส้นะครับ
00:01:08 → 00:01:11 เกิดจากภูมิต้านทานที่มันผิดปกติไปนะครับ
00:01:11 → 00:01:15 มันทำร้ายตัวเองนะครับแล้วมันก็มีโรคทั้ง
00:01:15 → 00:01:18 หมด 3 โรคซึ่งอยู่ในกลุ่ม ibd ด้วยกันนะ
00:01:18 → 00:01:20 ครับคือโรค
00:01:20 → 00:01:24 อัลเซอร์ทีทีสโรคโคลน dise นะครับแล้วก็
00:01:24 → 00:01:25 โรค
00:01:25 → 00:01:28 ไมโครสโคปิคโคไลติสนะครับทั้ง 3 โรคนี้มี
00:01:28 → 00:01:30 ลักษณะคล้ายกันอย่างหนึ่งก็คือมันมีการ
00:01:30 → 00:01:33 อักเสบในลำไส้นะครับแต่ว่ามันมีราย
00:01:33 → 00:01:35 ละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันไปในวันนี้
00:01:35 → 00:01:38 ผมจะไม่ได้เล่าถึงโรคในกลุ่ม ibd นะครับ
00:01:38 → 00:01:41 แต่ว่าโรคในกลุ่ม ibd นั้นถ้าคนไหนเป็น
00:01:42 → 00:01:44 แล้วล่ะก็จะต้องไปตรวจติดตามกับคุณหมอ
00:01:44 → 00:01:46 อย่างใกล้ชิดเพราะว่ามันมีโอกาสที่จะเกิด
00:01:46 → 00:01:49 มะเร็งในระบบทางเดินอาหารได้เพิ่มขึ้นโดย
00:01:49 → 00:01:52 เฉพาะมะเร็งในลำไส้ใหญ่นะครับอ่ะตรงนี้
00:01:52 → 00:01:55 เคลียร์กันไปแล้วเรามาฟังเรื่องของโรค IPS
00:01:55 → 00:01:59 หรือลำไส้แปรปรวนกันต่อเลยนะครับลำไส้แปร
00:01:59 → 00:02:02 ปรวนคนมันมีอาการแบบไหนอย่างไรนะครับ
00:02:02 → 00:02:05 อาการหลักๆของโรคลำไส้แปรปรวนก็คือมันจะ
00:02:05 → 00:02:08 มีอาการปวดท้องนะครับบางคนรู้สึกนี้
00:02:08 → 00:02:11 เหมือนคล้ายๆมีลมดันอยู่ในท้องนะครับแล้ว
00:02:11 → 00:02:14 ก็ร่วมกับการที่มีการขับถ่ายที่ผิดปกติไป
00:02:14 → 00:02:18 อาจจะเป็นท้องผูกอาจจะเป็นท้องเสียหรือ
00:02:18 → 00:02:21 อาจจะมีท้องผูกสลับท้องเสียหรือบางคน
00:02:21 → 00:02:24 เนี่ยบางวันมันขับถ่ายได้ปกติแต่ว่าอยู่ๆ
00:02:24 → 00:02:28 ก็จะมีท้องเสียขึ้นมาหรืออยู่ๆก็ท้องผูก
00:02:28 → 00:02:32 ขึ้นมาอย่างนี้เป็นต้นนะครับโดยเกณฑ์การ
00:02:32 → 00:02:34 วินิจฉัยของเราเนี่ยนะครับเราก็จะต้องดู
00:02:34 → 00:02:37 ว่าอาการเหล่านี้เนี่ยมันเป็นมาเกิน 3
00:02:37 → 00:02:40 เดือนนะครับแล้วในทุกๆอาทิตย์จะต้องมีสัก
00:02:40 → 00:02:43 วันหนึ่งที่มันผิดปกตินะครับอ่าแบบนี้นะ
00:02:43 → 00:02:46 ฮะอาการอย่างที่บอกไปจะมีอาการปวดมวนท้อง
00:02:46 → 00:02:50 ปวดบิดทองได้นะครับและมักจะมีความเกี่ยว
00:02:50 → 00:02:54 ข้องกับการขับถ่ายเช่นบางคนเนี่ยมีอาการ
00:02:54 → 00:02:56 ท้องผูกและพอขับถ่ายรู้สึกเอ๊ะมันดีขึ้น
00:02:56 → 00:02:58 แต่จะมีความรู้สึกเหมือนกับว่าขับถ่าย
00:02:58 → 00:03:23 แล้วมันไม่สุดหรือ
00:03:23 → 00:03:29 ที่สำคัญในคนไข้กลุ่ม IPS นั้นนะครับมัน
00:03:29 → 00:03:32 จะมีโรคอื่นๆร่วมด้วยได้นะครับโรคที่เรา
00:03:32 → 00:03:35 เจอร่วมด้วยกันบ่อยๆส่วนใหญ่จะเป็นโรคทาง
00:03:35 → 00:03:37 ด้านจิตใจนะครับเช่น
00:03:37 → 00:03:41 โรคซึมเศร้าอันนี้เจอบ่อยนะครับบางคนมี
00:03:41 → 00:03:44 โรคที่เรียกว่าไฟ romania มีอาการปวดตาม
00:03:44 → 00:03:46 บริเวณต่างๆของร่างกายซึ่งโรคไฟบนไม้เอา
00:03:46 → 00:03:49 เจียนั้นผมก็เคยได้พูดไปแล้วนะครับแล้วก็
00:03:49 → 00:03:51 สามารถจะกลับไปดูวีดีโอเรื่องไฟตัวใหม่
00:03:51 → 00:03:53 อาเจียนได้นะครับว่ามันเป็นแบบไหนเป็น
00:03:53 → 00:03:57 อย่างไรนะครับบางคนจะมีอาการกรดไหลย้อน
00:03:57 → 00:04:00 หรือมีอาการปวดจุกแน่นที่ลิ้นปี่หรือปวด
00:04:00 → 00:04:02 แสบที่ลิ้นปี่โดยที่เวลาไปหาหมอแล้วก็
00:04:03 → 00:04:05 ตรวจก็ไม่เจออะไรนะครับบางทีบางคนส่อง
00:04:05 → 00:04:07 กล้องลงไปดูที่กระเพาะก็ไม่ได้เจอว่ามัน
00:04:07 → 00:04:09 เป็นแผลอะไรนะครับในพวกนี้เราจะเรียกมัน
00:04:09 → 00:04:14 ว่าแอปเสียนะครับอ่า Display นะครับก็จะ
00:04:14 → 00:04:17 เป็นอาการเหล่านี้ได้นะฮะอ่านอกเหนือจาก
00:04:17 → 00:04:20 นี้ไม่ใช่แค่นั้นนะครับบางคนเนี่ยยังมี
00:04:20 → 00:04:23 โรคแพนิคนะฮะโรคแพนิคผมก็ได้พูดไปแล้ว
00:04:23 → 00:04:25 เหมือนกันนะครับว่ามันเป็นอย่างไรรักษาดู
00:04:25 → 00:04:27 แลตัวเองอย่างไรก็ย้อนกลับไปดูวีดีโอ
00:04:27 → 00:04:29 เรื่องโรคแพนิคของผมได้นะครับ
00:04:29 → 00:04:32 ไม่ใช่จบแค่นั้นนะครับมันยังมีโรคอื่นๆ
00:04:32 → 00:04:36 ซึ่งเราเจอร่วมในคนที่เป็นโรค ibs ได้อีก
00:04:36 → 00:04:40 เยอะแยะเลยนะครับเช่นบางคนมีอาการเจ็บ
00:04:40 → 00:04:43 หน้าอกบ่อยๆนะครับโดยหาสาเหตุไม่เจอบางคน
00:04:43 → 00:04:45 หายใจและเจ็บจี๊ดขึ้นมาเลยนะครับบางคนรู้
00:04:45 → 00:04:47 สึกมันแน่นๆมันเจ็บจี๊ดตรงบริเวณหัวใจ
00:04:47 → 00:04:50 ด้านซ้ายเนี่ยนะครับแบบนี้แล้วก็ไปตรวจ
00:04:50 → 00:04:52 กับหมอที่ไรก็ไม่เจออะไรเลยสักทีแบบนี้
00:04:52 → 00:04:55 บางครั้งเป็นอาการที่เกิดร่วมด้วยกับโรค
00:04:55 → 00:05:00 ibs ได้นะครับอ่าหรือในทางจิตเวชเนี่ย
00:05:00 → 00:05:03 มันจะมีกลุ่มอาการอันหนึ่งเรียกว่าสงบ
00:05:03 → 00:05:05 Thai Station นะครับส่วนไทย Station
00:05:05 → 00:05:08 เนี่ยแปลว่าอาการทางจิตนี่แหละครับมัน
00:05:08 → 00:05:11 แสดงออกมาทางกายบางที่เกิดจากการคิดเยอะ
00:05:11 → 00:05:14 คิดมากวิตกกังวลเครียดมากแล้วมันออกมาที่
00:05:14 → 00:05:17 อาการทางกายนะครับเช่นอะไรบ้างบางคนมี
00:05:17 → 00:05:20 อาการปวดท้องเมนส์ปวดหน่วงท้องน้อยระยะ
00:05:20 → 00:05:22 ยาวโดยที่มันตรวจแล้วก็ไม่เจออะไรเลยนะ
00:05:22 → 00:05:24 ครับไม่ได้เจอว่ามีอุ้มเชิงการอักเสบแต่
00:05:24 → 00:05:26 อย่างใดแต่มันปวดแล้วมันไม่หายนะครับอ่า
00:05:26 → 00:05:30 ปวดบิดท้องปวดเมื่อยตามร่างกายไปนะครับ
00:05:30 → 00:05:32 หรือเจ็บป่วยอะไรก็แล้วแต่ซึ่งเวลาไปตรวจ
00:05:32 → 00:05:34 ทางกายแล้วมันไม่เจออะไรสักอย่างนะครับ
00:05:34 → 00:05:38 นั่นแหละครับคือความสามารถของสมองและจิต
00:05:38 → 00:05:40 ใจของเรามันสั่งให้ร่างกายเรารู้สึกแบบ
00:05:40 → 00:05:43 ไหนมันก็มีความรู้สึกแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ
00:05:43 → 00:05:46 โดยที่ตรวจอะไรก็ไม่เจอนะครับนี่คือสิ่ง
00:05:46 → 00:05:49 ที่เราเจอร่วมกับ IPS นะครับ
00:05:49 → 00:05:54 ทีนี้เรามาว่ากันว่าแล้ว ibs เนี่ยหรือ
00:05:54 → 00:05:58 โรคลำไส้แปรปรวนมันเกิดได้ยังไงนะครับมัน
00:05:58 → 00:06:02 มีความคิดหลากหลายเลยนะครับว่าเหตุผลที่
00:06:02 → 00:06:05 มันเกิดเนี่ยนะครับมันอาจจะเกี่ยวข้องกับ
00:06:05 → 00:06:07 ระบบประสาทนะครับไม่ว่าจะเป็นระบบประสาท
00:06:07 → 00:06:11 เฉพาะที่ก็คือในลำไส้ของเราหรือระบบ
00:06:11 → 00:06:14 ประสาทที่สมองมันแปลผลผิดไปทำให้มันมี
00:06:14 → 00:06:17 ความไวต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆเพิ่มขึ้นนะ
00:06:17 → 00:06:20 ครับและสิ่งกระตุ้นส่วนใหญ่แล้วก็คือ
00:06:20 → 00:06:23 อาหารนั่นเองนะครับมันจะมีอาหารบางประเภท
00:06:23 → 00:06:26 ซึ่งสามารถกระตุ้นให้อาการเหล่านี้มัน
00:06:26 → 00:06:28 เป็นรุนแรงเพิ่มขึ้นได้นะครับดังนั้น
00:06:28 → 00:06:30 เดี๋ยวเราจะว่ากันเรื่องของอาหารว่าเราจะ
00:06:30 → 00:06:32 ต้องทำยังไงบ้างนะครับในการปรับเปลี่ยน
00:06:32 → 00:06:37 พฤติกรรมนะครับบางคนก่อนที่จะมีอาการลำ
00:06:37 → 00:06:40 ไส้แปรปรวนนั้นพบว่ามีอาการท้องเสียติด
00:06:40 → 00:06:43 เชื้อมาก่อนแล้วพอการติดเชื้อมันหายแล้ว
00:06:43 → 00:06:46 เนี่ยการขับถ่ายของเรามันไม่ปกติอีกเลยมี
00:06:46 → 00:06:48 อาการปวดท้องเรื้อรังนะครับปวดบิดนะครับ
00:06:48 → 00:06:51 บางคนก็ท้องผูกเดี๋ยวก็ท้องเสียเดี๋ยวก็
00:06:51 → 00:06:53 สลับกันไปสลับกันมานะครับเป็นเรื้อรัง
00:06:53 → 00:06:55 เกิน 3 เดือนนะครับก็จะเข้าข่ายกลุ่มโรค
00:06:55 → 00:06:59 ที่เรียกว่า ibs นะครับหรือลำไส้แปรปรวน
00:06:59 → 00:07:01 นั่นเองนะครับนี่ก็คือสาเหตุอย่างหนึ่งนะ
00:07:01 → 00:07:02 ครับ
00:07:02 → 00:07:06 นอกเหนือจากนี้อย่างที่บอกไปเนื่องจากว่า
00:07:06 → 00:07:08 มันเจอร่วมกับโรคทางด้านจิตใจได้ค่อนข้าง
00:07:08 → 00:07:10 ที่จะบ่อยไม่ว่าจะเป็นโรคซึมเศร้าโรค
00:07:10 → 00:07:14 แพนิคกลุ่มโรคไซโลไมอลเจียนะครับกลุ่มโรค
00:07:14 → 00:07:18 กรดไหลย้อนต่างๆพวกนี้มันก็มันก็ทำให้เรา
00:07:18 → 00:07:20 คิดว่าเอ้ยอาจจะมีปัญหาทางด้านจิตใจที่
00:07:20 → 00:07:23 มันทำให้ตัวโรคเป็นมากขึ้นได้นะครับ
00:07:23 → 00:07:28 แล้วถ้าเราสงสัยแล้วยังไงต่อนะครับยังไง
00:07:28 → 00:07:31 ต่อก็คือต้องไปพบแพทย์ครับอันนี้จะต้องไป
00:07:31 → 00:07:35 พบแพทย์ถามว่าทำไมต้องไปพบแพทย์เพราะว่า
00:07:35 → 00:07:37 อาการเหล่านี้เนี่ยนะครับทั้งหมดที่ว่าไป
00:07:37 → 00:07:40 ของโรคลำไส้แปรปรวนนั้นมันจะมีบางอย่าง
00:07:40 → 00:07:44 ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่เป็นจากโรคลำไส้แปร
00:07:44 → 00:07:47 ปรวนอาจจะไม่ใช่จากโลกลำไส้แปรปรวนแล้ว
00:07:47 → 00:07:50 อาการไหนบ้างล่ะที่มันไม่ใช่จากโรคลำไส้
00:07:50 → 00:07:52 แปรปรวนแล้วเราจำเป็นจะต้องระวังโรคอื่น
00:07:52 → 00:07:56 นะครับเช่นเราต้องระวังโรคมะเร็งเราต้อง
00:07:56 → 00:07:59 ระวังโรควัณโรคหรือโรคติดเชื้อบางชนิด
00:07:59 → 00:08:04 ซึ่งมันรักษาคนละแบบกันเลยนะครับอาการบาป
00:08:04 → 00:08:09 ไหนบ้างถ้าเรามีอาการพวกนี้ทั้งหมดหลัง
00:08:09 → 00:08:12 จากที่เราอายุ 50 ปีขึ้นไปแล้วนะครับเฮ้ย
00:08:12 → 00:08:14 อยู่ๆมันมาเป็นมาก่อนหน้า 50 ปีเราไม่เคย
00:08:14 → 00:08:16 เป็นมาเลยนะครับแล้วพออายุ 50 เพราะทำไม
00:08:16 → 00:08:18 มันประหลาดๆแบบเนี้ยเราต้องสงสัยมะเร็งลำ
00:08:18 → 00:08:21 ไส้เราครับนะเราต้องไปตรวจคนไหนที่มีน้ำ
00:08:21 → 00:08:23 หนักลดลงอย่างรวดเร็วโดยที่เราไม่ได้ตั้ง
00:08:24 → 00:08:25 ใจจะลดน้ำหนักแต่น้ำหนักมันหายพวกภาพเลย
00:08:25 → 00:08:29 นะครับทานอาหารไม่ได้เบื่ออาหารมีไข้นะ
00:08:29 → 00:08:31 ครับอ่ามีไข้กลางคืนมีเหงื่อออกกลางคืน
00:08:31 → 00:08:33 แบบนี้ต้องไปตรวจแล้วครับมันไม่ปกติมัน
00:08:33 → 00:08:36 ไม่ใช่โรค ibs นะครับต้องเป็นโรคอื่น
00:08:36 → 00:08:41 หรือคนไหนก็ตามที่ในครอบครัวมีประวัติโรค
00:08:41 → 00:08:45 มะเร็งลำไส้นะครับตรวจพบว่ามีโลหิตจางนะ
00:08:45 → 00:08:47 ครับอย่างนี้ไม่ใช่ IPS นะครับต้องไปหา
00:08:47 → 00:08:50 สาเหตุนะครับดังนั้นเวลาที่ไปหาหมอเนี่ย
00:08:50 → 00:08:53 เขาก็จะสอบถามพวกนี้แหละครับว่ามีปัญหา
00:08:53 → 00:08:55 อะไรหรือเปล่านอกเหนือจากนี้จะต้องดู
00:08:55 → 00:08:59 ลักษณะอุจจาระด้วยนะครับเพราะว่าอุจจาระ
00:08:59 → 00:09:02 บางชนิดนั้นมันบ่งบอกถึงโรคอื่นนะครับ
00:09:02 → 00:09:05 เช่นถ่ายออกมาแล้วอุจจาระของเราเป็นสีดำ
00:09:05 → 00:09:08 เละๆเหมือนยางมะตอยแล้วมันเหม็นมากติดกับ
00:09:08 → 00:09:10 ส้วมเยอะๆพวกนี้ต้องสงสัยว่ามีเลือดออกใน
00:09:10 → 00:09:13 ทางเดินอาหารนะครับไม่ใช่โรค ibs นะครับ
00:09:13 → 00:09:16 บางคนถ่ายออกมาแล้วมันมีมูกมีเลือดปนนะ
00:09:16 → 00:09:20 ครับการที่มันมีเลือดปนเนี่ยไม่ใช่ ibs
00:09:20 → 00:09:23 นะครับอ่าถ้ามีเลือดไม่ใช่ ibs ต้องเป็น
00:09:23 → 00:09:27 โรคอื่นแน่นอนนะครับแต่บางคนเนี่ยเป็นโรค
00:09:27 → 00:09:29 ibs จริงหรือลำไส้แปรปรวนจริงแต่มีการ
00:09:29 → 00:09:32 ถ่ายอุจจาระออกมาแล้วมันมีมูกป่นนะครับมี
00:09:32 → 00:09:36 มูกป่นตรงนี้ถ้ามันมีมูกปนบางทีเราก็จะ
00:09:36 → 00:09:38 ต้องตรวจให้แน่ใจก่อนว่ามันไม่ใช่โรคอื่น
00:09:38 → 00:09:41 ก่อนที่เราจะไปฟังธงว่าเป็นโรค IPS นะ
00:09:41 → 00:09:44 ครับดังนั้นเวลาที่เราไปหาหมอเนี่ยขั้น
00:09:44 → 00:09:46 แรกก่อนเลยหมอเขาจะดูว่าเรามีอาการอะไร
00:09:46 → 00:09:49 ที่เป็นจากโรคที่มันอันตรายมากกว่านั้น
00:09:49 → 00:09:51 หรือเปล่าเพราะว่าบางทีถ้าเราสงสัยกลุ่ม
00:09:51 → 00:09:53 โรคพวกนั้นเนี่ยเราอาจจะต้องตรวจเพิ่ม
00:09:53 → 00:09:56 เติมยกตัวอย่างเช่นการตรวจส่องกล้องลำไส้
00:09:56 → 00:09:58 ใหญ่นะครับเพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ได้มี
00:09:58 → 00:10:00 แรงไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่อธิบายได้นะครับ
00:10:00 → 00:10:04 อ่านี้ต้องถามแล้วอันที่ 2 คือจะต้องดู
00:10:04 → 00:10:07 ว่าเรามีโรคประจำตัวมียาอะไรที่เราทาน
00:10:07 → 00:10:10 ประจำไหมเพราะว่ายาบางชนิดเนี่ยมันก็ทำ
00:10:10 → 00:10:12 ให้เราท้องเสียเรื้อรังได้ทำให้เราท้อง
00:10:12 → 00:10:15 ผูกเรื้อรังได้นะครับตรงนี้หมอเขาจะต้อง
00:10:15 → 00:10:17 สอบถามประวัติเราเหมือนกันว่าเราทานยา
00:10:17 → 00:10:19 กลุ่มพวกนั้นอยู่หรือเปล่านะครับถ้าเรา
00:10:19 → 00:10:22 ไม่แน่ใจว่ายาตัวไหนที่เราทานแล้วมันมี
00:10:22 → 00:10:24 อาการนั้นไหมเราลองสังเกตตัวเองดูก็ได้นะ
00:10:24 → 00:10:27 ครับว่าเอ๊ะก่อนหน้าที่เราจะเริ่มทานยา
00:10:27 → 00:10:30 กลุ่มเนี้ยเราการพวกนี้หรือเปล่าถ้าเกิด
00:10:30 → 00:10:32 เราไม่มีแล้วอยู่ๆเรารู้สึกว่าเฮ้ยตั้ง
00:10:32 → 00:10:35 แต่เราทานยาตัวนี้เรามีอาการขึ้นมาจริงๆ
00:10:35 → 00:10:37 วิธีง่ายๆเลยก็คือเราลองหยุดยาตัวนั้น
00:10:37 → 00:10:39 ก่อนสักอาทิตย์สองอาทิตย์มันควรจะต้องหาย
00:10:39 → 00:10:43 นะครับแล้วโรค ibs เนี่ยไม่ควรจะต้องมี
00:10:43 → 00:10:46 การตื่นกลางคืนเพื่อมาถ่ายอุจจาระนะครับ
00:10:46 → 00:10:51 ไม่ควรมีไม่ควรมีถ้ามีก็คือเรานอนหลับไป
00:10:51 → 00:10:54 แล้วบางคนรถที่นอนหรือต้องตื่นขึ้นมากลาง
00:10:54 → 00:10:56 คืนเพื่อไปเข้าห้องน้ำอันนี้ไม่น่าใช้โรค
00:10:56 → 00:10:59 ibs นะครับน่าจะต้องไปหาโรคโรคอื่นซะมาก
00:10:59 → 00:11:01 กว่านะครับอันนี้เป็นอาการนึงซึ่งหมอก็จะ
00:11:01 → 00:11:04 ต้องถามเหมือนกันนะครับอ่าอันนี้มีความ
00:11:04 → 00:11:07 เกี่ยวข้องแล้วก็มีความสำคัญมากขึ้นนะ
00:11:07 → 00:11:11 ครับทีนี้นอกเหนือจากถามเรื่องของอาการ
00:11:11 → 00:11:13 ที่เข้าได้กับโรคอื่นแล้วถามเรื่องยาแล้ว
00:11:13 → 00:11:17 นะครับหมอก็จะดูแลอะไรอีกนะครับเขาก็จะ
00:11:17 → 00:11:20 ถามเราเรื่องของอาหารอ่าอันนี้สำคัญนะ
00:11:20 → 00:11:23 ครับอาหารเนี่ยมันจะมีเยอะแยะไปหมดซึ่ง
00:11:23 → 00:11:25 สามารถที่จะทำให้โรคตัวนี้มันเป็นมากขึ้น
00:11:25 → 00:11:27 ได้บางทีเราอาจจะสังเกตตัวเองนะครับว่า
00:11:27 → 00:11:30 ทุกครั้งที่เราไปกินอาหารประเภทนี้เรา
00:11:30 → 00:11:33 เป็นแบบนี้ทุกทีเลยมันกระตุ้นให้โรคมัน
00:11:33 → 00:11:36 กำเริบนะครับวิธีง่ายๆเลยครับเราก็เลี่ยง
00:11:36 → 00:11:38 อาหารกลุ่มนั้นไปดูสิว่ามันดีขึ้นไหมถ้า
00:11:38 → 00:11:40 มันดีขึ้นก็แปลว่าเฮ้ยมันน่าจะเป็นจาก
00:11:40 → 00:11:42 อาหารนั่นแหละเราหลีกเลี่ยงมันแล้วอาการ
00:11:42 → 00:11:47 ก็จะหายดีขึ้นนะครับทีนี้เมื่อหมอเขาตรวจ
00:11:47 → 00:11:49 วินิจฉัยว่าเราไปเรียบร้อยแล้วนะครับหลัง
00:11:49 → 00:11:52 จากนั้นเขาจะทำอะไรบ้างนะครับอย่างแรกเรา
00:11:52 → 00:11:54 ก็อาจจะต้องมีการเจาะเลือดดูว่ามีโลหิต
00:11:54 → 00:11:56 จางไหมมีการอักเสบในร่างกายหรือเปล่านะ
00:11:56 → 00:11:59 ครับเราสามารถตรวจได้คนที่มีการขับถ่าย
00:11:59 → 00:12:01 เป็นรูปพวกนี้ก็อาจจะต้องมีการตรวจ
00:12:01 → 00:12:03 อุจจาระดูว่ามีการอักเสบไหมนะครับคุณหมอ
00:12:03 → 00:12:06 เขาอาจจะต้องดูว่ามีการเอาอุจจาระไปตรวจ
00:12:06 → 00:12:09 หาเชื้อโรคบางอย่างนะครับหรือบางกรณีก็
00:12:09 → 00:12:11 อาจจะตรวจดูว่ามันมีการอักเสบไหมนะครับ
00:12:11 → 00:12:15 เช่นการตรวจค่า Circle calplate
00:12:15 → 00:12:18 อะไรพวกนี้นะครับชื่อแปลกๆเราไม่ต้องสนใจ
00:12:18 → 00:12:20 แต่หมอก็จะตรวจไว้นะครับหรือบางกรณีก็
00:12:20 → 00:12:23 ตรวจจับเลือดดูว่ามีการอักเสบไหมดูค่า
00:12:23 → 00:12:26 High sensitivity crp นะครับว่ามัน
00:12:26 → 00:12:28 ขึ้นไหมถ้ามันขึ้นก็แปลว่าเฮ้ยมันไม่ปกติ
00:12:28 → 00:12:31 มันอาจจะไม่ใช่โรค ibs นะนะครับเราก็ต้อง
00:12:31 → 00:12:34 ไปหาโรคอื่นนะครับหรือในบางกรณีเพื่อให้
00:12:34 → 00:12:36 แน่ใจก็อาจจะต้องมีการส่องกล้องลำไส้
00:12:36 → 00:12:40 อย่างที่บอกไปนะครับทีนี้สมมุติว่าคุณหมอ
00:12:40 → 00:12:42 เขาตรวจทุกอย่างแล้วรู้สึกว่าเราน่าจะ
00:12:42 → 00:12:46 เป็นโรค ibs หรือโรคลำไส้แปรปรวนเราจะมี
00:12:46 → 00:12:49 วิธีในการเริ่มรักษาอย่างไรนะครับอย่าง
00:12:49 → 00:12:52 แรกเลยครับเรื่องของอาหารก่อนเลยนะครับ
00:12:52 → 00:12:56 อาหารเพราะว่าอาหารเนี่ยมันเป็นตัวซึ่ง
00:12:56 → 00:12:59 ถ้าเราเปลี่ยนแปลงมันเนี่ยบางครั้งนะครับ
00:12:59 → 00:13:02 อาการทั้งหมดหายได้ทันทีโดยที่เราไม่ต้อง
00:13:02 → 00:13:04 ไปทำอะไรเลยไม่ต้องไปใช้ยาตัวใดเลยสักตัว
00:13:04 → 00:13:05 เดียวนะครับ
00:13:05 → 00:13:09 อาหารกลุ่มที่โรค IPS หรือลำไส้แปรปรวน
00:13:09 → 00:13:12 ควรจะหลีกเลี่ยงนะครับมันมีชื่อว่า
00:13:12 → 00:13:15 ฟอสแมทซ์นะครับ f o d m a p นะครับ
00:13:15 → 00:13:19 มันย่อมาจาก perment Table oligo ใด
00:13:19 → 00:13:24 แล้วก็โมโนแซ็กคาไรด์แอนด์ผมจะทิ้ง Link
00:13:24 → 00:13:27 อาหารพวกนี้ไว้ให้ด้วยนะครับว่ากลุ่มไหน
00:13:27 → 00:13:30 ซึ่งเป็นกลุ่มอาหารฟักแมพนะครับซึ่งมี
00:13:30 → 00:13:32 High Force Map นะครับแล้วก็กลุ่มไหน
00:13:32 → 00:13:35 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มี low Frost Maps นะ
00:13:35 → 00:13:38 ครับเราจะต้องบอกให้คนไข้กลุ่มนี้ทาน
00:13:39 → 00:13:43 อาหารที่เป็น low Fat Map นะครับอาหาร
00:13:43 → 00:13:47 คืออะไรอันนี้สำคัญละอาหารฟอสแบบเนี่ยมัน
00:13:47 → 00:13:49 จะเป็นอาหารซึ่งเวลาที่เรารับประทานเข้า
00:13:49 → 00:13:52 ไปมันจะทำให้เกิดแก๊สเพิ่มขึ้นในทางเดิน
00:13:52 → 00:13:55 อาหารของเรานะครับยกตัวอย่างเช่นอะไรบ้าง
00:13:55 → 00:13:58 ขนมต่างๆเลยครับที่มีน้ำตาลเยอะนะพวกนี้
00:13:58 → 00:14:02 จะทำให้เรามีลมในท้องเยอะนะครับบางคนทาน
00:14:02 → 00:14:06 อาหารประเภทถั่วนะครับถั่วหัวหอมหรือว่า
00:14:06 → 00:14:09 บางคนก็ทานพวกกระเทียมก็จะอาการเป็นมาก
00:14:09 → 00:14:12 ขึ้นผักบางชนิดก็จะทำให้ท่านมีอาการมาก
00:14:12 → 00:14:15 ขึ้นได้เช่นกันนะครับรวมทั้งพวกน้ำตาล
00:14:15 → 00:14:18 เทียมบางชนิดนะพวกหมากฝรั่งที่มีน้ำตาล
00:14:18 → 00:14:21 เทียมมีไซติทอลอยู่มีซอบิทัลพวกนี้ก็จะทำ
00:14:21 → 00:14:23 ให้มีอาการท้องอืดมีลมเพิ่มขึ้นในกระเพาะ
00:14:23 → 00:14:24 อาหารมี
00:14:24 → 00:14:27 ลงเพิ่มขึ้นในลำไส้ได้นะครับดังนั้นกลุ่ม
00:14:27 → 00:14:30 พวกนี้จะต้องหลีกเลี่ยงนะครับแล้วอาหาร
00:14:30 → 00:14:32 กลุ่มที่มันเป็นฟอสแมทเนี่ยมันมีเยอะมาก
00:14:32 → 00:14:37 นะครับทำให้เวลาที่เราจะแนะนำเรื่องอาหาร
00:14:37 → 00:14:40 เราควรจะต้องปรึกษานักโภชนาการนะครับต้อง
00:14:40 → 00:14:44 ปรึกษา App โภชนาการท่านสามารถไปดู Link
00:14:44 → 00:14:46 ที่ผมแนบไว้ให้ได้นะครับเพราะว่ามันมีจะ
00:14:46 → 00:14:47 มีอาหารกลุ่มที่เป็น low Force Map
00:14:47 → 00:14:49 แล้วก็กลุ่มที่เป็น High fort Map นะ
00:14:49 → 00:14:52 ครับว่ามันคืออะไรเพราะมันเยอะซะจนผมไม่
00:14:52 → 00:14:54 สามารถจะเล่าได้หมดนะครับดังนั้นท่านจะ
00:14:54 → 00:14:57 ต้องไปดูนะฮะถามว่าท่านดูด้วยตัวเองแล้ว
00:14:57 → 00:15:00 เนี่ยบางทีเห็นรายการอาหารแล้วอาจจะท้อ
00:15:00 → 00:15:02 เลยนะครับเพราะว่ามันเยอะมากที่ท่านจะ
00:15:02 → 00:15:05 ต้องหลีกเลี่ยงนอกเหนือจากนี้ยังต้องหลีก
00:15:05 → 00:15:07 เลี่ยงอาหารกลุ่มพวกนมแล้วก็สิ่งที่มันมา
00:15:07 → 00:15:09 จากนมด้วยนะครับอ่าพวกแลคโตสอะไรพวกนี้
00:15:09 → 00:15:11 อาจจะต้องหลีกเลี่ยงนะครับ
00:15:11 → 00:15:14 พอเราดูรายการอาหารแล้วเราจะท้อเลยว่า
00:15:14 → 00:15:16 เฮ้ยทำไมมันเยอะขนาดนี้ของที่เรากินได้
00:15:16 → 00:15:18 มันมีไม่ค่อยกี่อย่างเองนะครับจริงๆตรง
00:15:18 → 00:15:21 นี้นะครับถึงอยากจะให้ปรึกษานักโภชนาการ
00:15:21 → 00:15:25 เหตุผลเพราะว่าเขาก็จะได้มีการออกแบบ
00:15:25 → 00:15:29 อาหารที่ท่านสามารถทานได้ไงครับนะผมเนี่ย
00:15:29 → 00:15:32 ทำอาหารไม่เก่งผมก็ไม่สามารถบอกท่านได้
00:15:32 → 00:15:33 หรอกครับว่าอะไรที่ทานได้อะไรที่ทานไม่
00:15:33 → 00:15:35 ได้แต่ผมสามารถเอารายการอาหารที่ท่านไม่
00:15:36 → 00:15:39 ควรทานให้ท่านดูได้นะครับและที่สำคัญทุก
00:15:39 → 00:15:42 คนไม่ได้ตอบสนองต่ออาหารแบบนี้เหมือนกัน
00:15:42 → 00:15:45 นะครับบางคนทานกระเทียมไม่เป็นอะไรบางคน
00:15:45 → 00:15:47 ทานกระเทียมแล้วท้องปวดท้องขึ้นมาทันทีนะ
00:15:47 → 00:15:50 ครับมันไม่เหมือนกันดังนั้นเนี่ยในตอนแรก
00:15:50 → 00:15:51 สุดนะครับ
00:15:51 → 00:15:55 นะโภชนาการเค้าจะแนะนำว่าให้เราพยายาม
00:15:55 → 00:15:59 หลีกเลี่ยงอาหารฟอสแมพไปก่อนแล้วค่อยๆดู
00:15:59 → 00:16:02 ว่าอาหารเนี่ยในฟอสแมนกลุ่มไหนที่เราทาน
00:16:02 → 00:16:04 ได้บ้างเราหยุดไปให้หมดก่อนนะครับแล้ว
00:16:04 → 00:16:07 ค่อยๆทานเพิ่มขึ้นทีละอย่าง 2 อย่างโดย
00:16:07 → 00:16:10 เขาจะดูว่าปกติเราทานอาหารประเภทไหนและใน
00:16:10 → 00:16:12 อาหารประเภทที่เราทานนั้นมีฟอสแมพอะไร
00:16:12 → 00:16:16 อยู่บ้างเช่นเราชอบทานแอปเปิ้ลแอปเปิ้ล
00:16:16 → 00:16:19 นี่ก็เป็นฟอสแมนอย่างหนึ่งนะครับลองให้
00:16:19 → 00:16:21 เราทาน Apple ดูสิเรามีปัญหาไหมนะครับ
00:16:21 → 00:16:24 หลังจากที่เราหยุดทุกอย่างไปก่อนเราทาน
00:16:24 → 00:16:26 แอปเปิ้ลเราทานแอปเปิ้ลได้ไม่มีปัญหาแปล
00:16:26 → 00:16:28 ว่า Apple ในกลุ่ม forcement นั้นเรา
00:16:28 → 00:16:31 สามารถทานได้ครับแบบนี้นะ
00:16:31 → 00:16:36 นอกเหนือจากนี้ท่านที่ทานพวกกาแฟพวก
00:16:36 → 00:16:38 แอลกอฮอล์อันนี้ต้องงดนะครับเพราะว่า 2
00:16:38 → 00:16:41 อย่างนี้มันกระตุ้นให้เกิดโรคพวกนี้เพิ่ม
00:16:41 → 00:16:43 ขึ้นได้คนไหนที่สูบบุหรี่ก็อาจจะเป็นมาก
00:16:43 → 00:16:45 ขึ้นได้นะครับพวกนี้เรื่องเกี่ยวข้องกับ
00:16:45 → 00:16:47 พฤติกรรมซึ่งท่านสามารถเปลี่ยนแปลงได้เอง
00:16:47 → 00:16:48 นะครับ
00:16:48 → 00:16:52 จะมีกรณีพิเศษก็คือคนที่ขาดสารอาหารหรือ
00:16:52 → 00:16:55 คนที่ผอมมากๆนะครับเพราะว่าพวกนี้ถ้าเรา
00:16:55 → 00:16:58 ไปให้หยุดฟอสแมปทันทีเลยเนี่ยแทนที่อาการ
00:16:58 → 00:17:01 จะดีขึ้นบางครั้งเรายิ่งขาดสารอาหารเข้า
00:17:01 → 00:17:03 ไปใหญ่ยิ่งอันตรายใหญ่นะครับดังนั้นในคน
00:17:03 → 00:17:06 ในกลุ่มนี้นะครับทางนักโภชนาการเขาอาจจะ
00:17:06 → 00:17:08 ไม่ให้เราหยุดทุกอย่างซะทีเดียวโดยเขาจะ
00:17:08 → 00:17:11 มาดูว่าจะมีอะไรที่เราปรับเปลี่ยนได้หรือ
00:17:11 → 00:17:13 เปล่าให้เราทานพวกนั้นให้น้ำหนักมันเพิ่ม
00:17:13 → 00:17:15 ขึ้นก่อนแล้วค่อยไปลองหยุดบางตัวนะครับ
00:17:15 → 00:17:17 ดังนั้นอันนี้มันจะไม่ใช่สูตรสำเร็จ
00:17:17 → 00:17:19 สำหรับทุกคนเราจะต้องไปดูแต่สิ่งที่เรา
00:17:19 → 00:17:22 สามารถงดได้ง่ายๆนะครับเราลองไปดูที่
00:17:22 → 00:17:25 ตารางอาหารฟอสแมพก่อนนะครับว่าเอ๊ะมันมี
00:17:25 → 00:17:27 อะไรที่เรากินบ่อยๆแล้วเราสามารถหลีก
00:17:27 → 00:17:28 เลี่ยงได้บ้างเราต้องเลี่ยงตัวนั้นนะครับ
00:17:28 → 00:17:31 แล้วสิ่งที่เลี่ยงได้แน่ๆก็คือแอลกอฮอล์
00:17:31 → 00:17:32 นะครับพวกเหล้าเบียร์ต่างๆเลี่ยงได้แน่
00:17:32 → 00:17:35 นอนนะครับกาแฟอันนี้เลี่ยงได้แน่นอนนะ
00:17:35 → 00:17:36 ครับก่อนสูบบุหรี่อันนี้เลี่ยงได้แน่นอน
00:17:36 → 00:17:38 นะครับไม่ต้องปรึกษาใครมันก็เลี่ยงได้นะ
00:17:38 → 00:17:41 ครับงั้นเราต้องแก้ตรงนี้ก่อนนะครับอ่ะที
00:17:42 → 00:17:45 นี้พอเราปรับอาหารแล้วเมื่อไหร่เราถึงจะ
00:17:45 → 00:17:47 เริ่มรู้สึกดีขึ้นส่วนใหญ่แล้วนะครับ
00:17:47 → 00:17:50 ประมาณสัก 2-4 สัปดาห์เราจะเริ่มรู้สึก
00:17:50 → 00:17:52 มันดีขึ้นแล้วนะครับดังนั้นใช้เวลานิดนึง
00:17:52 → 00:17:54 นะครับแต่มันไม่ได้นานเกินรอเราก็จะรู้
00:17:54 → 00:17:57 สึกดีขึ้นบางทีการปรับอาหารอย่างเดียวทำ
00:17:57 → 00:18:00 ให้โรค IPS ของเราเนี่ยควบคุมได้ถึง 90%
00:18:00 → 00:18:03 เลยทีเดียว 90% โดยไม่ต้องใช้ยาแม้แต่
00:18:03 → 00:18:06 ชนิดเดียวเลยนะครับอันนี้มันเจ๋งที่ตรง
00:18:06 → 00:18:10 นี้แหละครับน่ะทีนี้นอกเหนือจากการปรับ
00:18:10 → 00:18:13 อาหารแล้วการออกกำลังกายการพักผ่อนให้
00:18:13 → 00:18:16 เพียงพอนะครับการลดความเครียดก็เป็นสิ่ง
00:18:16 → 00:18:19 ซึ่งสามารถช่วยให้โรค IPS มันดีขึ้นได้
00:18:19 → 00:18:24 โดยที่เราไม่ต้องใช้ยานะครับทีนี้สมมติ
00:18:24 → 00:18:26 ว่าเราทำเต็มที่แล้วมันยังไม่ดีขึ้นแล้ว
00:18:26 → 00:18:29 เราทำยังไงนะครับโรคไอเดียเนี่ยมันแบ่ง
00:18:29 → 00:18:32 เป็น 2 3 อย่างด้วยกันอย่างแรกก็คือมี
00:18:32 → 00:18:35 อาการท้องเสียเด็ดอย่างที่ 2 อาการท้อง
00:18:35 → 00:18:38 ผูกเด่นอย่างที่ 3 มันบ่นๆกันนะครับทั่ว
00:18:38 → 00:18:42 ไปแล้วเราจะรักษาอาการตามว่าอะไรที่เด็ก
00:18:42 → 00:18:45 ถ้าเรามีอาการท้องเสียเด็ดเราอาจจะให้ยา
00:18:45 → 00:18:49 ในกลุ่มการหยุดถ่ายเช่นอ่ายาอีโมเดียมนะ
00:18:49 → 00:18:51 ครับยาโรติติ้วอย่างนี้เป็นต้นนะครับ
00:18:51 → 00:18:54 เพื่อที่จะกินเวลาที่เราถ่ายเยอะเกินไปนะ
00:18:54 → 00:18:57 ครับหรือบางกรณีเราอาจจะให้ทานพวกไฟเบอร์
00:18:57 → 00:19:00 ต่างๆนะครับเช่นไซเรียม Hulk นะครับอย่าง
00:19:00 → 00:19:03 นี้เป็นต้นแต่การทานไฟเบอร์จะต้องค่อยๆ
00:19:03 → 00:19:05 ทานนะครับทานไปทีเดียวเยอะๆไม่ได้นะครับ
00:19:05 → 00:19:09 มันอาจจะมีอาการจุกปวดท้องได้นะครับดัง
00:19:09 → 00:19:11 นั้นค่อยๆทานก่อนนะครับระยะแรกๆไม่ต้อง
00:19:11 → 00:19:13 รีบนะครับ
00:19:13 → 00:19:16 ยาเรื่องท้องเสียตัวอื่นๆก็มีเหมือนกันนะ
00:19:16 → 00:19:19 ครับแต่ว่าส่วนใหญ่แล้วเราจะไม่แนะนำยก
00:19:19 → 00:19:22 เว้นว่ายาเหล่านี้มันไม่ได้ผลนะครับซึ่ง
00:19:22 → 00:19:24 ตรงนั้นเนี่ยผมแนะนำว่าควรจะไปคุยกับหมอ
00:19:24 → 00:19:26 เขาดีกว่าเพราะว่ายาตัวหลังๆที่เราให้กัน
00:19:26 → 00:19:30 เนี่ยนะครับมันอาจจะมีปัญหาแล้วมันก็จะมี
00:19:30 → 00:19:34 ราคาที่สูงตามมาด้วยนะครับ
00:19:34 → 00:19:37 อีกกลุ่มนึงก็คือคนที่ท้องผูกระยะแรกเรา
00:19:37 → 00:19:40 จะให้กินพวกไฟเบอร์พวกยาถ่ายทั่วๆไปก่อน
00:19:40 → 00:19:43 ถ้ามันไม่หายจริงๆเราถึงจะมาใช้ยากลุ่ม
00:19:43 → 00:19:46 อื่นนะครับและยากลุ่มอื่นมันจะมีราคาที่
00:19:46 → 00:19:48 ค่อนข้างแพงดังนั้นเราจะไม่แนะนำเป็นยา
00:19:48 → 00:19:51 ตัวแรกนะครับอ่าพวกนี้เราจะไม่แนะนำเป็น
00:19:51 → 00:19:53 ยาตัวแรกนะครับ
00:19:53 → 00:19:56 ดังนั้นผมจำไม่กล่าวลงไปถึงพวกนั้นเท่า
00:19:56 → 00:19:59 ไหร่นะครับก็ยกตัวอย่างเช่นยารูบิโพรสโซน
00:19:59 → 00:20:01 พวกนี้โอ้โหสุดยอดแพงเลยที่อเมริกาก็แพง
00:20:01 → 00:20:06 นะครับอ่าแพ็คเกจแพงมากนะครับดังนั้นผมจะ
00:20:06 → 00:20:08 ไม่ลงรายละเอียดต้องไปปรึกษาคุณหมอโรคทาง
00:20:08 → 00:20:11 เดินอาหารนะครับอ่าพวกนั้นเราจะไม่ให้ยา
00:20:11 → 00:20:13 เป็นตัวแรกแน่นอนเราจะไปให้เป็นตัวหลังๆ
00:20:13 → 00:20:15 หลังจากที่เราใช้ยาแล้วมันไม่ได้ผลนะครับ
00:20:15 → 00:20:19 กลุ่มอาการปวดท้องนะครับปวดบิดท้องเราใช้
00:20:19 → 00:20:22 ยาอะไรได้บ้างยาตัวแรกๆที่เราจะใช้กันก็
00:20:22 → 00:20:25 ยกตัวอย่างเช่นไดไซโทมีนนะครับเป็นยาแก้
00:20:25 → 00:20:28 อาการปวดบิดยาไคโอซีนนะครับไฮโดซินนามาย
00:20:28 → 00:20:31 นะครับพวกเนี้ยมันเป็นยาที่แก้ปวดบิดได้
00:20:31 → 00:20:35 ถ้ามันไม่หายเราถึงจะให้ยากลุ่มอื่นยกตัว
00:20:35 → 00:20:37 อย่างเช่นยาต้านโรคซึมเศร้าตัวหนึ่งชื่อ
00:20:37 → 00:20:42 ว่า tca หรือ trycy deprison นะครับยก
00:20:42 → 00:20:45 ตัวอย่างเช่นยา ametricteline ยา
00:20:45 → 00:20:48 อีมิพลามีนนะครับยา northerin ยาในกลุ่ม
00:20:48 → 00:20:53 นี้เขาเชื่อว่ามันสามารถที่จะไปลดความไว
00:20:53 → 00:20:55 ของเส้นประสาทที่รับการเจ็บปวดในท้องได้
00:20:55 → 00:20:58 นะครับโดยขนาดยานี้เราจะให้ขนาดต่ำๆเลย
00:20:58 → 00:21:01 ครับไม่จำเป็นจะต้องให้ยาขนาดสูงเหมือนใน
00:21:01 → 00:21:03 โรคซึมเศร้าแต่ยาพวกนี้มันจะไปช่วยแก้ไข
00:21:03 → 00:21:06 ภาวะนี้ได้นะครับก็ช่วยเรื่องของอาการปวด
00:21:06 → 00:21:07 ท้องได้
00:21:07 → 00:21:11 อันนี้เป็นหลักๆในการรักษาแต่ถ้าท่านมี
00:21:11 → 00:21:13 โรคอื่นๆร่วมด้วยก็ต้องรักษาโรคอื่นร่วม
00:21:13 → 00:21:15 ด้วยนะครับรวมทั้งการปรับพฤติกรรมนะครับ
00:21:15 → 00:21:18 เช่นถ้าท่านมีโรคซึมเศร้าอันนี้แน่นอนว่า
00:21:18 → 00:21:21 อาจจะต้องรับประทานยาโรคซึมเศร้าเพื่อที่
00:21:21 → 00:21:23 จะช่วยรักษาโรคนี้ได้นะครับแล้วโรคซึม
00:21:23 → 00:21:25 เศร้ามันก็มันส่งผลหลายๆอย่างต่อร่างกาย
00:21:25 → 00:21:29 เราก็ต้องไปแก้ไขภาวะพวกนี้ด้วยนะครับยา
00:21:29 → 00:21:31 อย่างหนึ่งซึ่งผมอยากจะให้หลีกเลี่ยงมัน
00:21:31 → 00:21:33 จะเป็นกลุ่มที่เรียกว่า benso dies 10
00:21:33 → 00:21:38 ปีนะครับเช่น sanax Reverse พวกนี้ควรจะ
00:21:38 → 00:21:41 หลีกเลี่ยงถามว่าทำไมต้องหลีกเลี่ยงตรง
00:21:41 → 00:21:44 นี้สำคัญแล้วนะครับผมเคยเล่าเรื่องของยา
00:21:44 → 00:21:46 เป็นโซ่ได้สิปินส์ไปกลุ่มหนึ่งแล้วนะครับ
00:21:46 → 00:21:48 เพราะว่ายาพวกนี้มันทำให้ท่านติดได้แต่
00:21:48 → 00:21:51 ว่าในคนที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวนหรือ IPS
00:21:51 → 00:21:54 นั้นกินไประยะหนึ่งเนี่ยมันจะทำให้โรค
00:21:54 → 00:21:59 เป็นมากขึ้นครับเป็นมากขึ้นมันจะไปเพิ่ม
00:21:59 → 00:22:02 ความไวต่อความเจ็บป่วยให้มันมากขึ้นดัง
00:22:02 → 00:22:05 นั้นอย่าทานนะครับถ้าทานเนี่ยส่วนใหญ่ผม
00:22:06 → 00:22:08 จะให้ทานไม่เกินอาทิตย์เท่านั้น
00:22:08 → 00:22:12 แล้วยาพวกนี้มันติดง่ายมากเลยนะครับติด
00:22:12 → 00:22:14 แล้วมีอาการยังไงคืออาการติดหมายความว่า
00:22:14 → 00:22:17 ถ้าท่านไม่ทานเนี่ยอาการของท่านจะไม่ดี
00:22:17 → 00:22:19 ขึ้นมันจะต้องทานเพิ่มขึ้นบางคนหยุดทาน
00:22:19 → 00:22:22 ปุ๊บอาการต่างๆเป็นมากขึ้นเลยนะครับนอนก็
00:22:22 → 00:22:24 ไม่รับนะครับปวดนู่นปวดนี่นะครับเป็นเยอะ
00:22:24 → 00:22:27 ขึ้นนั้นอย่าไปทานมาตั้งแต่แรกจะดีที่สุด
00:22:27 → 00:22:30 นะครับต้องอดทนนิดนึงนะครับเพราะว่าหลายๆ
00:22:30 → 00:22:32 คนเนี่ยขอยาตัวนี้อยู่หรือบางทีหมอเขาตัด
00:22:32 → 00:22:35 รำคาญเพราะว่าคนไข้มันบ่นเหลือเกินเอายา
00:22:35 → 00:22:36 ตัวนี้ไปทานสุดท้ายก็ติดแล้วก็เลือกไม่
00:22:36 → 00:22:39 ได้แล้วก็จะมีปัญหาต่างๆตามมามากมายเลย
00:22:39 → 00:22:42 ครับอ่ะงั้นตัวนี้ต้องพยายามอย่าไปกินมัน
00:22:42 → 00:22:44 นะครับอ่า
00:22:44 → 00:22:47 ตรงนี้ล่ะครับเป็นเรื่องที่แนะนำนะครับ
00:22:47 → 00:22:50 ดังนั้นโดยสรุปแล้วโรคลำไส้แปรปรวนหรือ
00:22:50 → 00:22:53 ibs with elvisable Brown Syndrome
00:22:53 → 00:22:56 นะครับเป็นโรคที่มีอาการปวดท้องเรื้อรัง
00:22:56 → 00:22:59 นะครับเกิน 3 เดือนโดยอาจจะมีอาการท้อง
00:22:59 → 00:23:01 ผูกหรือท้องเสียหรือสลับกันก็ได้นะครับ
00:23:01 → 00:23:05 วิธีในการรักษาด้วยตัวเองขั้นแรกสังเกต
00:23:05 → 00:23:08 ว่าอาหารที่ตัวเองกินเนี่ยมันมีอะไรที่ไป
00:23:08 → 00:23:10 กระตุ้นไหมเราหลีกเลี่ยงอาหารตัวนั้นก่อน
00:23:10 → 00:23:13 ถ้าเราไม่แน่ใจให้เราไปดูตารางอาหาร
00:23:13 → 00:23:16 foxmap ที่ผมแนบไว้ให้นะครับท่านต้อง
00:23:16 → 00:23:20 หลีกเลี่ยงอาหารเช่นพวกขนมต่างๆนะครับที่
00:23:20 → 00:23:23 มีน้ำตาลสูงๆนะครับอาหารจำประเภทที่มัน
00:23:23 → 00:23:26 สร้างแก๊สได้เช่นถั่วชนิดต่างๆนะครับ
00:23:26 → 00:23:29 กระเทียมหรือหัวหอมพวกนี้นะครับต้องหลีก
00:23:29 → 00:23:31 เลี่ยงอ่าพวกน้ำตาลเทียมพวกนี้ก็ต้อง
00:23:31 → 00:23:33 พยายามหลีกเลี่ยงด้วยเช่นกันนะครับถ้า
00:23:33 → 00:23:36 เป็นไปได้นะฮะเรื่องผลิตภัณฑ์จากนมนะฮะ
00:23:36 → 00:23:40 กาแฟแอลกอฮอล์บุหรี่พวกนี้หลีกเลี่ยงนะ
00:23:40 → 00:23:42 ครับนอกเหนือจากนั้นคือการออกกำลังกายพัก
00:23:42 → 00:23:44 ผ่อนให้เพียงพอนะครับ
00:23:44 → 00:23:47 ก็ลดความเครียดนะฮะอันนี้ถ้าท่านทำได้แบบ
00:23:47 → 00:23:50 นี้บางทีไม่ต้องไปหาหมอนะครับบางทีไอ้ของ
00:23:50 → 00:23:53 ท่านเองนะครับโรคพวกนี้ต้องบอกอย่างนี้
00:23:53 → 00:23:55 ก่อนมันจะเป็นโรคที่เป็นเรื้อรังตลอด
00:23:55 → 00:23:59 ชีวิตตราบใดที่ท่านสามารถคุมอาหารได้ดี
00:23:59 → 00:24:02 มักจะไม่แสดงอาการหรืออาการแสดงก็น้อยนะ
00:24:02 → 00:24:05 ครับแต่ถ้าท่านคุมอาหารได้ไม่ดีกินตามใจ
00:24:05 → 00:24:07 ปากทุกครั้งเลยอะไรอย่างเงี้ยอาจจะแย่ได้
00:24:07 → 00:24:10 นะครับพอผมลืมพูดไปอย่างนึงอาจจะมีคนสอบ
00:24:10 → 00:24:12 ถามเรื่องของการใช้โปรไบโอติกนะครับ
00:24:12 → 00:24:16 เรื่องของอาหารเสริมต่างๆพวกนี้ต้องบอก
00:24:16 → 00:24:19 ก่อนว่ามันได้ผลไม่แน่นอนนะครับ probiotic
00:24:19 → 00:24:20 เนี่ยถ้าท่านอยากจะลองก็ลองได้นะครับแต่
00:24:20 → 00:24:24 ว่าต้องบอกไว้ก่อนบางคนได้ผลแล้วบางคนมัน
00:24:24 → 00:24:26 ก็ไม่ได้ผลนะครับดังนั้นท่านจะได้ผลหรือ
00:24:26 → 00:24:27 ไม่ได้ผลก็ต้องลองเอาเองนะครับส่วนว่า
00:24:27 → 00:24:31 อาหารเสริมหรือสมุนไพรต่างๆพวกนั้นจริงๆ
00:24:31 → 00:24:34 ไม่ได้ผลสักตัวนะครับเท่าที่ใช้มาเองนะ
00:24:34 → 00:24:36 ครับเท่าที่คนไข้ของผมใช้เราก็เท่าที่ดู
00:24:36 → 00:24:38 ในงานวิจัยมันก็ไม่มีตัวไหนสักตัวเลยที่
00:24:38 → 00:24:40 ได้ผลต่อให้เขาบอกว่ามันได้ผลก็ตามนะครับ
00:24:40 → 00:24:44 มันไม่ได้ผลนะครับงานวิจัยที่อ่านๆมาก็
00:24:44 → 00:24:46 หลายงานวิจัยก็ทำแล้วมันไม่ค่อยดีเท่า
00:24:46 → 00:24:48 ไหร่นะครับมันมีปัญหาเยอะนะครับดังนั้นผม
00:24:48 → 00:24:51 ก็จะไม่สามารถแนะนำแล้วก็เชื่อได้นะครับ
00:24:51 → 00:24:54 อ่าก็ประมาณนี้ละกันนะครับใครมีอะไรสงสัย
00:24:54 → 00:24:57 เรื่องของลำไส้แปรปรวนก็สอบถามมาได้นะ
00:24:57 → 00:25:00 ครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ