การงีบหลับช่วงบ่ายนานเกินไปมีผลต่อการนอนคืนนั้นไหม

ผีอำ นอนละเมอ ฝันร้าย อธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ได้ยังไง? | เกลาแก้โรค EP.48 หมอไมท์ นพ.ชาญสิริ

จากช่อง : Klaoshow


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:02 ปกติเราฝันกันทุกคืนมคะ

00:00:0200:00:03 >> ใช่ครับเป็นส่วนหนึ่งของการนอนอยู่แล้ว

00:00:0300:00:06 ว่าเราจะมีความฝันประมาณ 25% แต่จำได้ไม่

00:00:0600:00:09 ได้อีกเรื่องนึงความฝันที่จำได้มักจะเป็น

00:00:0900:00:11 ความฝันที่เราตื่นในช่วงที่ฝันพอดีเพราะ

00:00:1100:00:14 ฉะนั้นรีบจดเลยว่าได้เลขอะไร

00:00:1400:00:17 >> เรื่องราวในความฝันเนี่ยค่ะมันมีนัยยะต่อ

00:00:1700:00:18 สุขภาพมั้ยคะ

00:00:1800:00:20 >> มันก็จะเป็นเรื่องที่สะท้อนความคิดของเรา

00:00:2000:00:23 ว่าเราคิดกับเรื่องไหนกังวลเรื่องไหนอยู่

00:00:2300:00:26 รวมทั้งชากาแฟคาเฟอีนต่างๆอันนี้ก็มีผลทำ

00:00:2600:00:29 ให้ความฝันเนี่ยมันเป็นฝันที่ไม่ดี

00:00:2900:00:31 >> ใช่กาแฟมีผลยังไงคะคุณหมอ

00:00:3100:00:32 >> อืก็

00:00:3200:00:34 >> การฝันแบบไหนที่

00:00:3400:00:36 >> มันทำร้ายสมองอ่ะค่ะแล้วอาการผีอั้มเนี่ย

00:00:3600:00:40 มันเกิดขึ้นได้ยังไงมีเคสการละเมอที่

00:00:4000:00:42 อันตรายมากๆเลยมั้คะคุณหมอ

00:00:4200:00:45 >> มีครับทำร้ายคนเขียนนี่แหละเตะต่อยหรือ

00:00:4500:00:49 ว่าบีบคอละเมอแล้วฆาตกรรมยิงคนในบ้านโดย

00:00:4900:00:52 ที่เขาไม่รู้ตัวเลย

00:00:5200:00:59 >> เกลาแก้โรคเกลานิสัยห่างไกลโรค 6

00:00:5900:01:02 สวัสดีค่ะยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการเกลา

00:01:0200:01:05 แกโรเออวันนี้นะคะหัวข้อที่เราจะมาคุยกัน

00:01:0500:01:09 เนี่ยค่อนข้างแบบมิติพิศวง์นิดนึงแต่จริง

00:01:0900:01:11 ๆแล้วมันมีคำอธิบายในเชิงวิทยาศาสตร์อยู่

00:01:1100:01:13 ค่ะทุกคนเคยสงสัยมั้ยคะว่าตอนที่เรานอน

00:01:1300:01:16 หลับเนี่ยร่างกายของเราทำงานยังไงแล้ว

00:01:1600:01:18 สมองของเราเนี่ยหลับไปกับเราหรือเปล่า

00:01:1800:01:20 เนาะแล้วรวมถึงอาการแปลกๆที่เกิดขึ้นตอน

00:01:2000:01:23 ที่เรานอนหลับไม่ว่าจะเป็นการละเมอการที่

00:01:2300:01:26 เราขากระตุกหรืออาการการผีอำที่เกิดขึ้น

00:01:2600:01:28 กับเราเนี่ยจริงๆมันคืออะไรวันนี้นะคะเรา

00:01:2900:01:31 มาหาคำตอบไปด้วยกันแพนด้าอยู่กับคุณหมอ

00:01:3100:01:33 ไม้แพทย์เฉพาะทางด้านหูคอจมูกและ

00:01:3300:01:35 เวชศาสตร์การนอนหลับสวัสดีค่ะคุณหมอ

00:01:3500:01:36 >> สวัสดีครับ

00:01:3600:01:39 >> เจอกันอีกแล้วค่ะวันนี้แล้วก็หัวข้อเป็น

00:01:3900:01:40 ยังไงคะกระชากอารมณ์

00:01:4000:01:43 >> มิติลีลับมากไม่รู้ว่าผิดรายการหรือเปล่า

00:01:4300:01:43 วันนี้

00:01:4300:01:45 >> อ๋อไม่ผิดรายการแน่นอนค่ะเป็นอะไรใหม่ๆ

00:01:4500:01:48 เออก่อนอื่นเนาะแพน่าอยากรู้ว่าจริงๆตอน

00:01:4800:01:51 ที่เรานอนหลับเนี่ยค่ะมันมีไซเคิลหรือว่า

00:01:5100:01:53 มีโครงสร้างการนอนหลับยังไงบ้างค่ะ

00:01:5300:01:55 >> อ่ะอันนี้ก็เป็นสิ่งที่อยากให้รู้ไว้เป็น

00:01:5500:01:58 พื้นฐานเพราะว่าเราจะได้ไปพูดถึงโรคที่จะ

00:01:5800:02:00 อาจจะเกิดขึ้นต่างๆอ่ะนะครับการที่เรา

00:02:0000:02:03 หลับเนี่ยเมื่อก่อนเราอาจจะคิดว่ามันคือ

00:02:0300:02:06 การที่เราชัดดาวน์สมองเราไม่ทำงานแต่มัน

00:02:0600:02:09 คือจริงๆมันคือโหมดอีกโหมดนึงของการทำงาน

00:02:0900:02:11 ของสมองเวลาที่เราหลับเนี่ยเราจะมีคลื่น

00:02:1100:02:13 สมองที่แตกต่างกับตอนที่เราตื่นคลื่นสมอง

00:02:1300:02:16 จะช้าแล้วก็อาจจะมีเร็วบ้างบางช่วงนะครับ

00:02:1600:02:18 เวลาเราหลับไปเนี่ยเราอาจจะคิดว่าเราอยู่

00:02:1800:02:21 นิ่งแต่จริงๆแล้วเนี่ยมีกลไกที่ไม่เหมือน

00:02:2100:02:24 กับตอนตื่นตรงที่ว่าตาเราเนี่ยครับดวงตา

00:02:2400:02:27 เราเนี่ยจะมีการเคลื่อนไหวในขณะหลับด้วย

00:02:2700:02:30 ก็จะมีการกระตุกช้าหรือว่าเร็วเวลาที่เรา

00:02:3000:02:33 หลับนะครับเราแบ่งสageหรือว่าระยะของการ

00:02:3300:02:35 หลับเนี่ยนะครับเมื่อเราหลับไปแล้วเนี่ย

00:02:3500:02:38 มันจะเข้าสู่การหลับที่ตากระตุกช้าๆก่อน

00:02:3800:02:40 เคลื่อนไหวช้าๆเ้าเรียกว่าเป็นระยะที่

00:02:4000:02:42 เป็น non rapid eye movement ก็คือ

00:02:4200:02:45 เป็นระยะที่ตากระตุกไม่เร็วซึ่งก็จะแบ่ง

00:02:4500:02:47 เป็นการหลับเ้าเรียกระยะ n เน non rbit

00:02:4700:02:49 ey movement นะครับระยะ n เนี่ยก็จะมี

00:02:4900:02:53 ระยะที่ n1 n1 คือหลับตื้นๆสะกิดนิด

00:02:5300:02:57 รู้ตัวและนะครับ N2 คือหลับกลางๆกลางๆก็

00:02:5700:03:00 คือว่าเราจะต้องพูดด้วยเสียงดังมากขึ้น

00:03:0000:03:04 ถึงจะรู้ตัวนะครับ N3 คือระยะหลับลึกหรือ

00:03:0400:03:06 ว่า deep EP sleep ที่เรารู้จักกันจะ

00:03:0600:03:09 เป็นระยะที่เราจะต้องใช้การกระตุ้นอย่าง

00:03:0900:03:11 มากขึ้นในการที่ทำให้ตื่นยกตัวอย่างเช่น

00:03:1100:03:13 เข้าไปกระตุกเข้าไปปลุกแรงอะไรอย่างเงี้ย

00:03:1300:03:16 ถึงจะตื่นขึ้นนะครับอ่ะอันนี้คือระยะที่

00:03:1600:03:19 ตาเราไม่กระตุกอีกระยะนึงเนี่ยเรียกว่า

00:03:1900:03:22 ระยะเร็มระยะเร็มคือ Rapid Eye Movement

00:03:2200:03:25 คือระยะที่ตากระตุกค่อนข้างไวนะครับระยะ

00:03:2500:03:28 เนี้ยเป็นระยะที่เรามักจะพูดถึงว่ามัน

00:03:2800:03:30 เกิดความฝันเกิดขึ้นเป็นระยะที่สมองเนี่ย

00:03:3000:03:33 ทำงานใกล้เคียงกับตอนตื่นแต่เราหลับอยู่

00:03:3300:03:35 เนาะในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ร่างกายจะมี

00:03:3500:03:40 การบันทึกความทรงจำจากสั้นเป็นยาวมีการทบ

00:03:4000:03:43 ทวนความทรงจำคล้ายๆกับเป็นช่วงเวลาที่

00:03:4300:03:46 เก็บบันทึกหนังสือเข้าในชั้นหนังสือก็

00:03:4600:03:48 เป็นอีกโหมดนึงของสมองเหมือนกันนะครับ

00:03:4800:03:50 เพราะฉะนั้นเราก็รู้คร่าวๆแล้วว่าการหลับ

00:03:5000:03:52 จะมีระยะ non rapid eyeb Movement

00:03:5200:03:55 เป็น 1 2 3 แล้วก็ Rapid Ey Movement

00:03:5500:03:57 คือระยะที่เราฝันนะครับคราวนี้การนอนของ

00:03:5700:04:01 คนเราเนี่ยมันจะเป็นไซคิleเนาะcซคิลนึง

00:04:0100:04:03 คือวงรอบนึงประมาณชั่วโมงครึ่งประมาณนี้

00:04:0300:04:07 90 นาทีนะครับเช่นเรานอนประมาณสัก 8 ชม.

00:04:0700:04:10 ก็มีหลับประมาณซักอาจจะ 4-5 หรือถึง 6

00:04:1000:04:12 ไซเคิลแล้วแต่บุคคลไซเคิลนึงจะเริ่มจาก

00:04:1200:04:15 การที่เราเริ่มหลับเราจะเข้าระยะหลับตื้น

00:04:1500:04:19 ๆก่อนคือระยะ n1 ก่อนเริ่มลึกขึ้นเป็น n2

00:04:1900:04:22 n3 แล้วก็มีความฝันเกิดขึ้นสั้นๆอันนี้

00:04:2200:04:26 คือวงรอบแรกวงรอบถัดไปก็คล้ายๆกันไป

00:04:2600:04:28 เรื่อยๆแต่ว่ามันแตกต่างตรงที่ว่าวงรอบ

00:04:2800:04:32 แรกๆเราจะมีการหลับลึกค่อนข้างยาววงรอบ

00:04:3200:04:36 ที่ 2 3 4 5 จะเริ่มสั้นลงสั้นลงสั้น

00:04:3600:04:39 ลงจนระยะท้ายๆเนี่ยวงรอบท้ายๆเราอาจจะไม่

00:04:3900:04:41 ได้มีการหลับลึกเลยเพราะฉะนั้นการหลับลึก

00:04:4100:04:44 จะกองกันในช่วงครึ่งแรกของการนอนส่วนทาง

00:04:4400:04:48 กับระยะฝันที่เราจะฝันจากสั้นเป็นยาวขึ้น

00:04:4800:04:50 ยาวขึ้นยาวขึ้นทำให้ช่วงแรกของคืนเราจะ

00:04:5000:04:53 ไม่ค่อยฝันแล้วความฝันจะไปกองกันในช่วง

00:04:5300:04:55 ท้ายคืนทำให้เรารู้สึกว่าเรามักจะฝันใน

00:04:5500:04:58 ช่วงใกล้รุ่งนะตอนช่วงใกล้เวลาเช้าอันนี้

00:04:5900:05:01 คือเป็นโครงสร้างการนอนทั่วไปนะครับคน

00:05:0100:05:04 ปกติจะมีการหลับลึกโดยทั้งหมดแล้วเนี่ย

00:05:0400:05:08 ประมาณ 20% ของการนอนถือว่าเพียงพอและมี

00:05:0800:05:12 การหลับฝันทั้งหมดรวมกันประมาณ 25% อัน

00:05:1200:05:15 นี้คือเป็นเปอร์เซ็นต์ของคนในวัยที่อายุ

00:05:1500:05:18 อาจจะไม่เกินประมาณ 50-60 แล้วก็อายุมาก

00:05:1800:05:21 กว่า 18 ปีประมาณนี้ก็คือเป็นวงรอบแล้วก็

00:05:2100:05:24 เปอร์เซ็นต์ของการหลับปกตินะครับ

00:05:2400:05:26 >> ปกติเราฝันกันทุกคืนมั้ยคะ

00:05:2600:05:26 >> ใช่ครับ

00:05:2600:05:28 >> อ้อถึงแม้ว่า

00:05:2800:05:30 >> ตื่นมาจำไม่ได้ก็ก็ฝันใช่ค่ะเป็นส่วน

00:05:3000:05:31 หนึ่งของการนอนอยู่แล้วว่าเราจะมีความฝัน

00:05:3200:05:34 ประมาณ 25% แต่จำได้ไม่ได้อีกเรื่องนึง

00:05:3400:05:37 ความฝันที่ที่จำได้มักจะเป็นความฝันที่

00:05:3700:05:39 เราตื่นในช่วงที่ฝันพอดียกตัวอย่างเช่น

00:05:3900:05:42 นาฬิกาเราปลูกตอนที่เราฝันพอดีเราก็จะจำ

00:05:4200:05:44 ได้หรือตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำตอนที่ฝันพอ

00:05:4400:05:47 ดีอ่าก็จะจำได้เพราะฉะนั้นรีบจดเลยว่าได้

00:05:4700:05:50 เลขอะไรเนาะเราก็จะจำได้ว่าเราฝันอะไร

00:05:5000:05:53 ความฝันเนี่ยบางทีเราตื่นมาแล้วสักพักนึง

00:05:5300:05:55 เราก็ลืมะเพราะว่ามันเป็นอะไรที่ลืมง่าย

00:05:5500:05:57 นะครับแล้วก็อีกเรื่องนึงที่ทำให้เราจำ

00:05:5700:05:59 ความฝันได้คือเนื้อหาของความฝันถ้าเป็น

00:05:5900:06:03 เรื่องที่แบบมันมีความฉุดฉาดมีความดราม่า

00:06:0300:06:05 มีความแบบได้เลขอ่ะมันก็จะจำได้มากกว่า

00:06:0500:06:08 เรื่องแบบพื้นๆเนาะจริงๆแล้วความฝันเนี่ย

00:06:0800:06:11 เกิดขึ้นทั้งช่วงเร็และนอนเร็มนะแต่ว่า

00:06:1100:06:13 เร็มจะเป็นช่วงที่ฝันค่อนข้างเป็นเรื่อง

00:06:1300:06:17 ที่ฉูดฉาดมากกว่าถ้าช่วงนอนเร็ม 1 2 3

00:06:1700:06:18 ก็มีฝันเหมือนกันแต่เป็นเรื่องเรื่อยๆเฉย

00:06:1800:06:21 ๆก็เลยจำไม่ค่อยได้

00:06:2100:06:24 >> อ่าแล้วอย่างเรื่องราวในความฝันเนี่ยค่ะ

00:06:2400:06:26 มันมีนัยยะต่อสุขภาพมั้ยคะคุณหมอ

00:06:2600:06:28 >> จริงๆแล้วมันก็จะเป็นเรื่องที่สะท้อนความ

00:06:2800:06:31 คิดของเราว่าเราคิดกับเรื่องไหนกังวล

00:06:3100:06:33 เรื่องไหนอยู่ยกตัวอย่างเช่นฝันว่าต้อง

00:06:3300:06:36 ส่งงานหรือฝันฝันว่าไปสอบแล้วลืมแบบปากกา

00:06:3600:06:38 ไปด้วยอย่างเงี้ยเนาะอาจจะมีคนอาจจะเคย

00:06:3800:06:41 ฝันแบบนี้เพราะคือความทรงจำของความฝัน

00:06:4100:06:44 เนี่ยมันคือเรื่องที่เราเคยกังวลมาในอดีต

00:06:4400:06:46 ก็ได้หรือว่ากังวลอยู่ปัจจุบันต้องรีบทำ

00:06:4600:06:49 อะไรแล้วไม่ทันจะต้องไปสอบแล้วไปไม่ถึง

00:06:4900:06:51 โรงเรียนอะไรอย่างเงี้ยมันก็อยู่ที่ความ

00:06:5100:06:52 กังวลนะช่วงนั้นของเราด้วยว่าเรากังวล

00:06:5200:06:53 เรื่องไหนอยู่

00:06:5300:06:56 >> ถ้าสมมุติตื่นมาแล้วจำได้ว่ามีความฝัน

00:06:5600:06:59 ลักษณะเนี้ยว่าเออไปสอบไม่ทันหรือว่าถูก

00:06:5900:07:01 ไล่ล่าหรืออะไรแบบเนี้ยค่ะคุณหมอเราควร

00:07:0100:07:03 ที่จะปล่อยมันไปมั้แบบอก็แค่ความฝันหรือ

00:07:0300:07:05 เราควรจะมาสนใจใส่ใจอะไร

00:07:0500:07:06 >> ก็อาจจะลองคิดว่าเรามีเรื่องอะไรกังวล

00:07:0600:07:09 อยู่หรือเปล่าที่มันอยู่ในsubcอciousหรือ

00:07:0900:07:11 ว่าใต้ความรู้สึกนึกคิดของเราว่าเราคิด

00:07:1100:07:13 เรื่องอะไรอยู่บางเรื่องเป็นเรื่องที่เรา

00:07:1300:07:15 ไม่ได้คิดในทั้งวันเลยแต่ว่ามันเป็น

00:07:1500:07:17 เรื่องที่อาจจะเคยคิดมาก่อนหรือว่าคิดลึก

00:07:1800:07:20 ๆในใจอะไรอย่างเงี้ยนะครับก็ลองตรวจสอบดู

00:07:2000:07:22 ว่ามีเรื่องอะไรที่กังวลมยถ้าไม่มีเนี่ย

00:07:2200:07:23 ก็ปล่อยมันไป

00:07:2300:07:25 >> ถึงแม้ว่าจะฝันแบบนั้นแต่เราตรวจสอบแล้ว

00:07:2500:07:28 ว่าไม่ได้มีเรื่องอะไรก็ไม่เป็นไร

00:07:2800:07:29 >> ออก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร

00:07:2900:07:31 >> ไม่ผิดปกติอะไรใช่ฮะ

00:07:3100:07:34 >> แล้วอย่างความฝันที่มันแฟนตาซีมากๆค่ะ

00:07:3400:07:36 >> คือคุณหมอบอกว่ามันเป็นช่วงเวลาของการจัด

00:07:3600:07:39 เก็บความทรงจำแต่ว่าในฝันเนี้ยมันแฟนตาซี

00:07:3900:07:41 มากๆไปที่ที่เราไม่เคยไปหรือว่าฟอร์ม

00:07:4100:07:43 ยักษ์มากๆเลยอะไรอย่างเงี้ยมันเกิดขึ้น

00:07:4300:07:45 ได้ยังไงครับเราไม่เคยมีประสบการณ์

00:07:4500:07:47 >> จริงนอกจากเรื่องที่เรามีพื้นฐานความรู้

00:07:4700:07:49 อยู่แล้วเนี่ยมันก็เกิดความฝันได้อย่าง

00:07:4900:07:51 เช่นเราอาจจะต้องมีพื้นฐานความรู้เช่นเรา

00:07:5100:07:53 เคยไปที่นั่นหรืออาจจะเคยเห็นภาพหรืออะไร

00:07:5300:07:55 มาก่อนเนี่ยนะครับมันก็จะเป็นความรู้

00:07:5500:07:58 เบสิคให้เราไปฝันต่อเนาะส่วนการที่เราจะ

00:07:5800:08:01 ขยายเรื่องเนี่ยมันก็เป็นความคิดของเรา

00:08:0100:08:03 เพราะว่ามันเป็นช่วงที่มันมีการมันเป็น

00:08:0300:08:06 การไซนของสมองความรู้ต่างๆมารวมกันเราอาจ

00:08:0600:08:08 จะคิดเรื่องที่มันกว้างขึ้นได้ยกตัวอย่าง

00:08:0800:08:11 เช่นเราอาจจะคิดว่าที่นี้เราอาจจะอยากไป

00:08:1100:08:13 แล้วเราก็แต่งเติมขึ้นมามันก็เป็นเรื่อง

00:08:1300:08:16 ที่จินตนาการมันก็จะมีความคิดที่มันมาก

00:08:1600:08:17 ขึ้นในช่วงที่ฝัน

00:08:1700:08:18 >> นะครับอื

00:08:1800:08:20 >> แล้วฝันดีก็ว่าไปอย่างบางคนฝันร้ายแล้ว

00:08:2100:08:23 ตื่นกลางหรือตื่นสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้าย

00:08:2300:08:25 แล้วก็บางคนรู้สึกเหนื่อยด้วยที่ตื่นขึ้น

00:08:2500:08:26 มามันเกิดจากอะไรคะ

00:08:2600:08:29 >> ก็เป็นผลเสียต่อร่างกายได้ก็ต้องดูว่าใน

00:08:2900:08:31 แต่ละวันเนี่ยเรามีพฤติกรรมที่มันเสี่ยง

00:08:3100:08:33 ต่อการฝันฝันไม่ดีมั้ยจริงจริงๆแล้วมันมี

00:08:3300:08:37 ผลกระทบจากหลายๆอย่างเช่นแอลกอฮอล์ใน

00:08:3700:08:39 เรื่องของยาบางชนิดก็กระตุ้นทำให้เกิดการ

00:08:3900:08:42 ฝันร้ายได้นะครับรวมทั้งชากาแฟคาเฟอีน

00:08:4200:08:45 ต่างๆอันนี้ก็มีผลทำให้ความฝันเนี่ยมัน

00:08:4500:08:47 เป็นฝันที่ไม่ดี

00:08:4700:08:48 >> ชากาแฟมีผลยังไงคะคุณหมอ

00:08:4800:08:51 >> อืพวกชากาแฟเนี่ยนะครับจริงๆมันไปบล็อก

00:08:5100:08:53 สารที่กระตุ้นความง่วงของร่างกายนะครับ

00:08:5300:08:55 คาเฟอีนพวกเนี้ยนะการที่เรากินชากาแฟ

00:08:5500:08:58 เนี่ยมันเป็นกลไกในการที่ทำให้ความง่วง

00:08:5800:09:00 นั้นเนี่ยถูกบล็อกไว้เหมือนแบบเรามีน้ำ

00:09:0000:09:03 แล้วเราเอาเขื่อนไปกั้นไว้คราวนี้พอหมด

00:09:0300:09:05 ฤทธิ์ของกาแฟแล้วหรือว่าชากาแฟแล้วเนี่ย

00:09:0500:09:08 มันก็จะมีความง่วงที่มันแบบระเบิดตู้ม

00:09:0800:09:10 ขึ้นมาเลยนะครับเคยสังเกตมั้ว่าเวลาที่

00:09:1000:09:12 เราแบบกินกาแฟเยอะๆเนี่ยวันนั้นเนี่ยบาง

00:09:1200:09:15 ทีเวลามันหมดฤทธิ์แล้วเราจะแบบอ่อนเพลีย

00:09:1500:09:18 มากเราจะแบบหลับเยอะเลยอะไรอย่างเงี้ยนะ

00:09:1800:09:20 ครับซึ่งก็ทำให้ระยะของฝันเนี่ยมันเด่น

00:09:2000:09:22 ชัดหรือมากขึ้นได้นะครับ

00:09:2200:09:24 >> อืก็ทำให้เราจำได้มากขึ้นด้วย

00:09:2400:09:25 >> ใช่อ

00:09:2500:09:28 >> แล้วคนที่ฝันแบบแฟนตาซีมากๆเป็นเทพนิยาย

00:09:2800:09:30 เป็นการ์ตูนเป็นอะไรอย่างงี้ไปเลย

00:09:3000:09:33 >> ฝันนานๆฝันบ่อยๆเงี้ยค่ะบางครั้งอาจจะชอบ

00:09:3300:09:35 ด้วยนะที่ฝันแบบนี้แต่ในเชิงการแพทย์แล้ว

00:09:3500:09:37 ค่ะมันสามารถนำไปสู่โรคอะไรได้มั้คะ

00:09:3700:09:39 >> อ่าต้องสังเกตว่าเราฝันอย่างงั้นบ่อยๆเรา

00:09:3900:09:41 มีอาการอื่นๆร่วมด้วยมนะครับเเรียกว่า

00:09:4100:09:43 เป็นความฝันที่มันค่อนข้างฉูดฉาแฟนตาซี

00:09:4300:09:46 พวกเนี้ยนะครับมันจะเกิดได้ในโรคบางโรคยก

00:09:4600:09:49 ตัวอย่างเช่นโรคลมหลับโรคลมหลับจะเป็นสาร

00:09:4900:09:51 ที่มันคงสภาพให้ตื่นเนี่ยนะครับมันหลัง

00:09:5100:09:54 น้อยลงคนพวกนี้เนี่ยเวลาที่บางทีเนี่ยใช้

00:09:5400:09:57 ชีวิตอยู่ดีๆก็หลับบล็อกไปเลยโดยที่เข้า

00:09:5700:10:00 ระยะฝันเลยนะเออบางทีเนี่ยพอหลับปุ๊บคน

00:10:0000:10:02 ปกติจะยังไม่เข้าระยะของความฝันฝันนะครับ

00:10:0200:10:04 แต่พอคนพวกนี้เขาหลับปุ๊บเนี่ยเขาจะฝัน

00:10:0400:10:07 เร็วมากและความฝันค่อนข้างจะฉูดฉาด

00:10:0700:10:09 แฟนตาซีนะครับก็เป็นโรคที่เกี่ยวกับสาร

00:10:0900:10:12 สืบประสาทในสมองแล้วก็มักจะมีอาการที่

00:10:1200:10:15 เกิดร่มด้วยเช่นขำๆอยู่แล้วก็ล้มไปเลย

00:10:1500:10:18 อารมณ์ฉูดฉาดโกรธหรือว่าขำอยู่เนี่ยก็อาจ

00:10:1800:10:21 จะอ่อนแรงล้มพับไปได้เรียกว่าโรคนโคลปซี่

00:10:2100:10:24 หรือโรคลมหลับอีกอย่างนึงก็คือว่าในคนที่

00:10:2400:10:26 ผู้สูงอายุแล้วมีความฝันที่ค่อนข้างฉูด

00:10:2600:10:29 ฉาดนะครับอาจจะต้องดูว่าเ้ามีการเคลื่อน

00:10:2900:10:32 ไหวหรือละเมอในช่วงที่เขาฝันมยก็เป็นภาวะ

00:10:3200:10:35 ที่เกิดการละเมินในช่วงระยะฝันอันเนี้

00:10:3500:10:37 ต้องสงสัยว่าอาจจะเป็นสัญญาณของภาวะโรค

00:10:3700:10:39 พากินสันได้นะครับ

00:10:3900:10:39 >> อื

00:10:3900:10:42 >> เอ่อแล้วการฝันแบบไหนที่

00:10:4200:10:43 >> มันทำร้ายสมองอ่ะคะ

00:10:4300:10:46 >> โดยที่มักจะพบก็คือว่าในคนเป็นพาร์สัน

00:10:4600:10:48 หรือว่าสมองเริ่มเสื่อมเนี่ยนะครับความ

00:10:4800:10:51 ฝันเนี่ยมันจะเกิดการเคลื่อนไหวร่วมด้วย

00:10:5100:10:53 ปกติเวลาที่เรามีการฝันเกิดขึ้นหรือระยะ

00:10:5400:10:56 ที่เป็นและปิด ey movement เนี่ยนะครับ

00:10:5600:10:58 ร่างกายคนเราอ่ะมันจะปกป้องไม่ให้เรามี

00:10:5800:11:01 การขยับตามความฝันทำให้ร่างกายเอามาผ้า

00:11:0100:11:04 ชั่วขณะขณะที่เราฝันน่ะนะครับแต่ว่าในคน

00:11:0400:11:07 ที่ผิดปกติก็คือว่าฝันแล้วเราขยับตามความ

00:11:0800:11:11 ฝันด้วยเช่นเตะต่อยหรือว่ามีการต่อสู้

00:11:1100:11:13 เวลาที่เราฝันสังเกตดูก็ได้ว่าถ้าเกิดว่า

00:11:1300:11:15 มีคนที่เขาละเมอแล้วเราไปบอกว่าเนี่ย

00:11:1500:11:17 ละเมอว่าทำกิจกรรมแบบเนี้ยคือฝันอยู่ด้วย

00:11:1700:11:19 หรือเปล่าถ้าฝันกับละเมอเป็นเรื่องเดียว

00:11:2000:11:22 กันอันเนี้ต้องสงสัยภาวะเรียกว่าเป็นโรค

00:11:2200:11:25 RBD หรือว่า R behavioral disorder

00:11:2500:11:27 เป็นภาวะที่เราเคลื่อนไหวตามสิ่งที่ฝัน

00:11:2700:11:30 อยู่มันไม่ปกตินะคือการที่เราฝันแล้วเรา

00:11:3000:11:33 ขยับเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นการละเมอ

00:11:3300:11:35 ถ้าเป็นละเมอในช่วงที่ไม่ได้ฝันอันนั้น

00:11:3500:11:38 ปกติแต่ถ้าฝันอยู่แล้วละเมอเช่นฝันว่าเรา

00:11:3800:11:41 แบบต่อสู้อยู่แล้วเราก็ต่อยคนข้างๆเงี้ย

00:11:4100:11:44 หรือเราฝันว่าเราละเมอวิ่งละเมอเดินพวก

00:11:4400:11:46 เนี้ยนะครับซ้อนกับความฝันที่มันเกิดขึ้น

00:11:4600:11:49 อันเนี้ยมันแปลว่ากลไกของสมองในการปกป้อง

00:11:4900:11:52 ร่างกายไม่ให้ขยับกล้ามเนื้อมันผิดปกติละ

00:11:5300:11:55 ก็เป็นสัญญาณของสมองเสื่อมหรือว่าโรค

00:11:5500:11:57 พากินสันได้อ่ะ

00:11:5700:11:57 >> นะครับ

00:11:5700:12:00 >> ถ้าละเมอท่าทางตอนที่เป็นเรื่องเดียวกับ

00:12:0000:12:02 ที่เราฝันอยู่อันเนี้อาจจะนำไปสู่ภาคกิน

00:12:0200:12:06 สันอ้าแต่ถ้าสมมุติว่าเราละเมอออกท่าทาง

00:12:0600:12:07 >> แต่ไม่ได้ตรงกับเรื่องที่เราฝันไม่

00:12:0800:12:09 อันตรายหรอคะแบบนี้

00:12:0900:12:11 >> ถ้าเป็นละเมอในช่วงที่ไม่ได้ฝันเนี่ยนะ

00:12:1100:12:13 มันจะเป็นการเคลื่อนไหวที่มันไม่ได้มี

00:12:1300:12:14 ความคอมพล็กมาก

00:12:1400:12:18 >> ยกตัวอย่างเช่นการยกแขนยกขาพูดพงึมพะงำ

00:12:1800:12:20 พวกเนี้ยอันเนี้ยเป็นการละเมอมักจะเป็น

00:12:2000:12:23 การละเมอที่ปลอดภัยการละเมอที่ปลอดภัยจะ

00:12:2300:12:26 เกิดในระยะที่เราไม่เข้าระยะฝัน

00:12:2600:12:28 >> เเรียกว่าระยะ non rem หรือว่า non ปิด

00:12:2800:12:30 ey movement การละเมิดพวกพวกเนี้ยจะ

00:12:3000:12:32 เกิดได้เมื่อเราพักผ่อนไม่เพียงพอกิน

00:12:3200:12:35 แอลกอฮอล์กินชากาแฟเยอะนอนน้อยอดนอนมา

00:12:3500:12:38 ก่อนก็จะมีละเมออย่างนี้ได้ค่อนข้างบ่อย

00:12:3800:12:42 ก็จะมีขยับไปมายกแขนบ้างพูดบ้างแต่ถ้าการ

00:12:4200:12:45 ละเมอนั้นดูคอมพล็กมากขึ้นยกตัวอย่างเช่น

00:12:4500:12:49 ละเมอแล้วทำร้ายคนข้างเคียงละเมอขึ้นมา

00:12:4900:12:52 เดินแล้วตกเตียงละเมอเตะต่อยคนข้างๆละเมอ

00:12:5200:12:55 เดินออกจากห้องไปตู้เย็นไปหาอะไรกินอะไร

00:12:5500:12:57 แบบเนี้ยเป็นการละเมอที่มัน complex

00:12:5700:12:59 behavior พฤติกรรมซับซ้อนพวกเนี้ยควร

00:12:5900:13:02 ต้องหาหมอแล้วมันเป็นการละเมอที่ผิดปกติ

00:13:0200:13:04 >> แปลว่าจริงๆแล้วเวลาที่เรานอนหลับอาจจะมี

00:13:0400:13:06 การละเมอแบบท่าทางได้แต่มันจะไม่ได้ซับ

00:13:0600:13:08 ซ้อนมันจะแค่แบบอ่ะทำแล้วไม่ได้กินเวลา

00:13:0800:13:09 นาน

00:13:0900:13:12 >> แต่ว่าอันไหนที่เป็นการละเมอที่ออกท่าทาง

00:13:1200:13:13 เเป็นเรื่องเป็นราว

00:13:1300:13:15 >> เป็นเรื่องเป็นราวเนาะมีพฤติกรรมที่มันดู

00:13:1600:13:20 ซับซ้อนแล้วก็ส่งผลต่อตัวเองเช่นจะหกล้ม

00:13:2000:13:22 เนาะจะจะโดดลงเตียงอะไรอย่างเงี้ยมีผลต่อ

00:13:2200:13:25 การบาดเจ็บของคนข้างเคียงอ่ะไปต่อเาไปตี

00:13:2500:13:28 เขาอันเนี้ยก็ต้องตรวจดูตรวจการนอนหลับ

00:13:2800:13:28 ค่ะ

00:13:2800:13:28 >> นะครับ

00:13:2900:13:31 >> เช่นเคยถ้าสมมุติเรานอนคนเดียวล่ะเราจะ

00:13:3100:13:32 รู้ได้ยังไงคะว่าเรามีการละเมือแบบนั้น

00:13:3200:13:33 หรือเปล่า

00:13:3300:13:35 >> ตื่นมาแล้วไม่อยู่ที่เดิมอ่ะตื่นมาแล้วไป

00:13:3500:13:38 อยู่ในผิดที่ผิดทางเช่นไปอยู่ข้างล่าง

00:13:3800:13:40 เตียงเนาะตื่นมาแล้วทำอะไรในสิ่งที่ไม่

00:13:4000:13:43 รู้ตัวไปยกตัวอย่างเช่นเอาของมากระจัด

00:13:4300:13:46 กระจายในห้องเนาะหรือว่าตื่นไปอยู่ไปหา

00:13:4600:13:49 อะไรกินอะไรอย่างเงี้ยมีขนมติดปากอยู่

00:13:4900:13:50 อะไรอย่างเงี้ยมันก็มีอย่างงั้นเหมือนกัน

00:13:5000:13:52 พฤติกรรมที่เรียกว่า Sleep Eating

00:13:5200:13:54 Disorder คือออกไปหาอะไรกินในตู้เย็น

00:13:5400:13:55 เงี้

00:13:5500:13:57 >> แล้วมันมีมั้คะแบบเคสที่ไม่ได้ละเมอเพราะ

00:13:5700:14:00 เป็นโรคนะแต่แบบมันอาจจะมีแบบขำๆที่เขา

00:14:0000:14:03 บอกว่าเอ้ยตอนละเมอหิวก็เดินไปหาอะไรกิน

00:14:0300:14:04 อันนี้แต่ไม่ได้เป็นโรค

00:14:0400:14:06 >> อันนั้นมันก็จะเป็นภาวะที่เราต้องรู้ตัว

00:14:0600:14:07 >> อ

00:14:0700:14:09 >> การที่เราตื่นมาแล้วไปหาอะไรกินเพราะเรา

00:14:0900:14:11 หิวจริงๆอ่ะเราจะรู้ตัวแต่ถ้าเป็นการ

00:14:1100:14:14 ละเมินเนี่ยนะครับก็คือว่าตอนที่เราทำเรา

00:14:1400:14:16 ไม่รู้ตัวเราก็ไปหาอะไรกินก็มักจะเกิด

00:14:1600:14:18 ขึ้นได้ในคนที่มีความ

00:14:1800:14:22 >> เครียดเนาะหรือว่าลดน้ำหนักอยู่อะไรอย่าง

00:14:2200:14:24 เงี้ยความหิวมันก็ซ่อนอยู่ในร่างกายเรา

00:14:2400:14:24 อ่ะ

00:14:2400:14:25 >> ความเครียด

00:14:2500:14:27 >> ความเครียดด้วยแล้วก็สตสกับการลดน้ำหนัก

00:14:2700:14:29 อะไรอย่างเงี้ยค่ะแล้วในช่วงที่เราละเมอ

00:14:2900:14:32 เป็นเรื่องเป็นราวแบบนั้นค่ะดวงตาของเรา

00:14:3200:14:33 ก็คือเปิดปกติ

00:14:3300:14:33 >> ใช่

00:14:3300:14:35 >> เห็นปกติเลย

00:14:3500:14:38 >> ใช่บางคนที่เดินออกไปหาอะไรกินในตู้เย็น

00:14:3800:14:39 หรือเดินไปทำกิจกรรมอะไรที่ละเมออยู่

00:14:4000:14:43 เนี่ยคือตาเขาเปิดอยู่ตาเรับรู้เนาะแต่

00:14:4300:14:45 สมองยังอยู่ในระยะที่หลับอยู่

00:14:4500:14:48 >> อคือคือร่างกายมันทำงานของมันปกติแต่แค่

00:14:4800:14:49 เราไม่ได้จำว่า

00:14:4900:14:51 >> ใช่ใช่คือร่างกายอยู่ในสageของการหลับแต่

00:14:5100:14:54 มันมีการ process เช่นการเดินการมองนู่น

00:14:5400:14:57 มองนี่ไปหยิบหาอะไรกินอะไรแบบเนี้ยนะครับ

00:14:5700:14:59 ระยะของสมองเป็นระยะที่หลับ

00:14:5900:15:01 >> แล้วคนที่อยู่ด้วยค่ะจะรู้ได้ยังไงคะว่า

00:15:0100:15:04 อันนั้นน่ะเขาไม่ได้มีสติอยู่นะ

00:15:0400:15:06 >> ก็ต้องเข้าไปหาแล้วเขาไปปลุกแล้วว่านี่

00:15:0600:15:09 คืออยู่ในระยะหลับอยู่หรือเปล่าหรือ

00:15:0900:15:11 กิจกรรมดังต่อที่เขาทำเนี่ยมันเป็น

00:15:1100:15:13 กิจกรรมที่เขาไม่ควรจะทำตอนตื่นน่ะแล้ว

00:15:1300:15:15 เขาทำโดยที่เขาไม่รู้ตัว

00:15:1500:15:16 >> ไม่ควรจะทำตอนหลับใช่

00:15:1600:15:19 >> เออไม่ควรทำตอนหลับใช่หรือว่าตอนตื่นก็

00:15:1900:15:20 ไม่ค่อยทำอยู่แล้วพฤติกรรมนั้นไม่เคยทำ

00:15:2100:15:23 อยู่แล้วปกติไม่ใช่คนที่บางท่านกลางคืน

00:15:2300:15:25 เดินลงมาหาของกินอะไรอย่างเงี้ยเออแต่ว่า

00:15:2500:15:28 เห็นว่าเขาทำพฤติกรรมนานก็ต้องเข้าไปหา

00:15:2800:15:32 >> มีเคสการละเมอที่อันตรายมากๆเลยมั้ยคะคุณ

00:15:3200:15:32 หมอ

00:15:3200:15:35 >> อือมีครับก็คือทำร้ายคนเขียนนี่แหละก็คือ

00:15:3600:15:38 เตะต่อยหรือว่าบีบคออะไรอย่างเงี้ยนะครับ

00:15:3800:15:41 จริงๆในต่างประเทศน่ะมันมีก็คือว่าละเมอ

00:15:4100:15:45 แล้วฆาตกรรมทำร้ายยิงคนในบ้านอะไรอย่าง

00:15:4500:15:47 เงี้ยนะครับโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยแล้ว

00:15:4700:15:50 ตื่นมาก็พบว่าตัวเองเนี่ยคือทำร้ายคนใน

00:15:5000:15:54 บ้านไปแล้วก็ต้องมาตรวจดูว่าเขามีเหตุผล

00:15:5400:15:57 ในการทำร้ายมยถ้าไม่มีก็ต้องตรวจการนอนดู

00:15:5700:16:00 ว่าเออมันมีภาวะของการละเมิดผิดปกติ

00:16:0000:16:02 ระหว่างการหลับเกิดขึ้นหรือเปล่าครับ

00:16:0200:16:04 >> ออันนี้คือเป็นการรักษาหรอคะ

00:16:0400:16:07 >> เราต้องคอนเฟิร์มก่อนว่าคนไข้เนี่ยมีโรค

00:16:0700:16:10 โรคนี้ซ่อนอยู่หรือเปล่าแต่ถ้าตรวจพบแล้ว

00:16:1000:16:12 ว่ามีเนี่ยก็มีการรักษาก็คือว่าเราก็ต้อง

00:16:1300:16:16 มีการรักษาความปลอดภัยมีการกินยาบางอย่าง

00:16:1600:16:19 นะครับเพื่อลดอาการดังต่อไปนี้เนาะแล้วก็

00:16:1900:16:21 ดูแลความปลอดภัยในห้องยกก็ตัวอย่างเช่น

00:16:2200:16:24 เค้าเป็นคนละเมอเดินเราก็ต้องลบเหลี่ยมลบ

00:16:2400:16:27 มุมภายในห้องเนาะหรือว่าห้องนอนเนี่ยก็

00:16:2700:16:31 ต้องมีการทำกรงในหน้าต่างไว้

00:16:3100:16:33 >> เพื่อป้องกันการเปิดหน้าต่างออกไป

00:16:3300:16:36 >> บางคนเนี่ยเวลาที่เขาไม่รู้ว่าเขาละเมอทำ

00:16:3600:16:38 อะไรเขาออกจากหน้าต่างโดดลงไปเลยก็มี

00:16:3900:16:41 เหมือนกันแล้วก็คนนั่งเคียงเนี่ยก็ต้อง

00:16:4100:16:44 อยู่แยกห้องเตียงเนี่ยก็ควรจะวางอยู่ใน

00:16:4400:16:48 ระดับที่ลาบกับพื้นบางทีไม่ควรจะเป็น

00:16:4800:16:50 เตียงที่สูงขึ้นมาเพราะบางคนเดินไม่รู้

00:16:5000:16:53 ตัวแล้วหกลมครับอันนี้ก็เป็นภาวะของการ

00:16:5300:16:57 ฝันแล้วละเมอนะครับอืมันรักษาหายขาดได้

00:16:5700:16:58 ใช่มั้คะ

00:16:5800:17:00 >> ควรจะต้องตรวจดูก่อนว่ามีภาวะนี้มจาก

00:17:0000:17:02 sleep test นะครับถ้ามีเนี่ยจะต้อง

00:17:0200:17:05 สenนingภาวะพินสันด้วยเพราะว่ามันจะเป็น

00:17:0500:17:09 สัญญาณของสมองเสื่อมจากพินสันการรักษานะ

00:17:0900:17:13 ก็มีตั้งแต่การให้ยาเพื่อควบคุมอาการแล้ว

00:17:1300:17:14 ถ้าพบว่าเป็นพาร์สันแล้วก็ต้องมีการรักษา

00:17:1400:17:16 พาินสันต่อ

00:17:1600:17:18 >> ก็ต้องรักษาไปเรื่อยๆจนกว่าอาการจะสงบกิน

00:17:1800:17:19 ยาตลอดชีวิต

00:17:1900:17:21 >> อย่างบางคนอาจจะเข้าใจเป็นเรื่องความ

00:17:2100:17:24 เชื่อค่ะคุณหมอว่าเออการละเมอหรือลุกขึ้น

00:17:2400:17:26 มาทำอะไรที่มันไม่ใช่ตัวเองไปเลยอย่าง

00:17:2600:17:27 เงี้ยเอาจริงๆเมื่อกี้คุณหมออธิบายมาคือ

00:17:2800:17:30 ทำในสิ่งที่ปกติเขาไม่ทำแต่ถ้าเรามองใน

00:17:3000:17:32 มุมความเชื่อเราอาจจะรู้สึกว่าเฮ้ยผีสิง

00:17:3200:17:34 หรือเปล่าโดนผีสิงป่ะเนี่ยเพราะว่ามันไม่

00:17:3400:17:36 ใช่พฤติกรรมของคนคนนี้เลยนะ

00:17:3600:17:39 >> แต่จริงๆแล้วคือเราก็คือมันก็อาจจะเป็น

00:17:3900:17:40 โรคทางร่างกาย

00:17:4000:17:42 >> ใช่เราก็ต้องตรวจก่อนว่ามันเป็นสาเหตุทาง

00:17:4200:17:44 กายหรือเปล่าก่อนที่จะไปเชื่อมิติลีลับ

00:17:4400:17:47 เนาะก็ต้องดูว่าการนอนของเขาเนี่ยมันเป็น

00:17:4700:17:51 การละเมอที่ก่อก่อให้เกิดโรคจริงๆมนะครับ

00:17:5100:17:53 ถ้ามันเกิดจากโรคเราก็ต้องไปรักษาตาม

00:17:5300:17:56 สาเหตุแต่ถ้าเกิดว่ามันไม่มีโรคก็ตัวใคร

00:17:5600:17:58 ตัวมัน

00:17:5800:18:00 >> ไปกันต่อค่ะอีกอย่างหนึ่งที่เป็นความ

00:18:0100:18:02 เชื่อเหมือนกัน

00:18:0200:18:04 >> เอ่อแล้วก็หลายๆคนอาจจะเคยเจอด้วยคือ

00:18:0400:18:07 อาการผีอำแล้วอาการผีอำเนี่ยค่ะมันเกิด

00:18:0700:18:07 ขึ้นได้ยังไง

00:18:0800:18:10 >> มันเกิดได้ยังไงก็ต้องพูดถึงว่าเรารู้จัก

00:18:1000:18:13 ภาวะของเรมที่หมอบอกไปแล้วเนาะก็คือเป็น

00:18:1300:18:15 ภาวะที่ rapid eye movement หรือระยะ

00:18:1500:18:18 ที่เราฝันนะครับภาวะนี้คือระยะที่ร่างกาย

00:18:1800:18:22 เนี่ยก็จะเป็นโหมดของความฝันนะมีการที่

00:18:2200:18:25 เกิดความคิดในสมองเกิดขึ้นนะครับแล้วก็

00:18:2500:18:27 สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือว่ากลไกในร่างกายจะ

00:18:2700:18:31 ปกป้องให้เราเป็นอัมพาตเราฝันเราจะขยับ

00:18:3100:18:34 กล้ามเนื้อไม่ได้เราจะมีภาวะอะโทเนียคือ

00:18:3400:18:36 กล้ามเนื้อมันอ่อนแรงขณะที่ฝันเพื่อให้

00:18:3600:18:39 เราเนี่ยไม่ขยับตามสิ่งที่เราฝันคราวนี้

00:18:3900:18:41 ผีอารมเกิดขึ้นได้ยังไงมันเป็นการเหลื่อม

00:18:4100:18:44 ของระยะตื่นกับระยะฝันที่เหลื่อมกันนั่น

00:18:4400:18:46 คือเราฝันอยู่แต่เราตื่นมาในระยะที่เรา

00:18:4600:18:49 ฝันเป็นการ overlap กันของสageของการนอน

00:18:4900:18:52 หลับถ้าเราตื่นในระยะฝันนึกภาพว่าเราฝัน

00:18:5200:18:54 อยู่เนี่ยกล้ามเนื้อเราอ่อนแรงแต่เราดัน

00:18:5400:18:58 ตื่นขึ้นมาเฉยเลยเนาะเราเลยขยับไม่ได้

00:18:5800:19:01 >> ตื่นขึ้นมาในที่นี้หมายความว่าตัวขึ้นสติ

00:19:0100:19:02 แต่ไม่ได้หมายความว่าลืมตา

00:19:0200:19:05 >> บางคนก็ลืมตาบางคนก็ไม่ลืมตาเป็นความรู้

00:19:0500:19:08 สึกเหมือนตื่นตัวมักจะเกิดในท่านอนหงาย

00:19:0800:19:10 อยู่บนเตียงแล้วมันจะเกิดขึ้นสั้นๆไม่กี่

00:19:1000:19:12 วินาทีเป็นความรู้สึกเหมือนกับตื่นมาแล้ว

00:19:1200:19:14 เฮ้ยขยับไม่ได้เลยอ่ะอะไรอย่างเงี้ยมัน

00:19:1400:19:16 ยังมันมีมีความเหลื่อมอยู่ก็คือว่าสมอง

00:19:1600:19:19 ส่วนนึงก็กำหนดว่าเราเป็นระยะของเรมอยู่

00:19:1900:19:22 ก็คือระยะฝันอยู่แต่ดันมีการตื่นเนี่ย

00:19:2200:19:24 แทรกเข้ามาเป็นช่วงๆเพราะฉะนั้นก็เลย

00:19:2400:19:26 เหมือนรู้ตัวในระยะที่ฝันอยู่ก็เลยขยับ

00:19:2600:19:29 กล้ามเนื้อไม่ได้นะครับจริงๆมีปัจจัยที่

00:19:2900:19:32 ส่งผลทำให้มีอาการผีอำก็คือว่า 1 คืออด

00:19:3300:19:35 นอนบ่อยพักผ่อนไม่เพียงพอนะครับอย่างที่ 2

00:19:3500:19:39 แคาเฟอีนถ้ากินกาแฟคาเฟอีนมากเกินไปอาจจะ

00:19:3900:19:41 เกิดภาวะนี้ได้หรือว่าแอลกอฮอล์ดื่ม

00:19:4100:19:45 แอลกอฮอล์ในคืนนั้นก็มีโอกาสจะเกิดผีอำก็

00:19:4500:19:47 อื่นๆเป็นพวกของยาอะไรบางอย่างเพราะ

00:19:4700:19:50 ฉะนั้นก็ลองคิดถึงภาวะวิทยาศาสตร์ก่อนว่า

00:19:5000:19:52 เกิดวิทยาศาสตร์ทำให้เกิดได้นะครับอื

00:19:5200:19:56 >> อย่างบางคนที่อาจจะไม่ได้ทำพฤติกรรมที่

00:19:5600:19:59 ว่ามาอาจจะนอนพอไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์แต่มี

00:19:5900:20:01 ผีอำเกิดขึ้นเพราะว่าเขาคิดว่าเขาเป็นคน

00:20:0100:20:04 มีเซนแล้วกันอ่าแล้วก็แบบไปสถานที่สถาน

00:20:0400:20:07 ที่นึงอ่าแล้วก็รู้สึกว่าโดนแน่เลยคืนนี้

00:20:0700:20:10 มาแน่โดนอำแน่แล้วมันเป็นจริงๆค่ะมีอาการ

00:20:1000:20:12 ผีอำเกิดขึ้นจริงๆอ่ะมันอธิบายได้ยังไง

00:20:1200:20:13 บ้างคะ

00:20:1300:20:14 >> ก็อาจจะเป็นความเครียดได้

00:20:1400:20:16 >> ก็ตัวอย่างเช่นเราแบบเปลี่ยนที่เปลี่ยน

00:20:1600:20:19 ทางเนาะไม่คุ้นที่ก็จะมีความสตสเนี่ยเกิด

00:20:1900:20:23 ขึ้นได้ก็ทำให้เกิดอาการผีอำเนาะแล้วก็

00:20:2300:20:27 อย่างอื่นก็อาจจะเป็นเรื่องของผีจริงๆ

00:20:2700:20:27 >> ก็เว้นเอาไว้

00:20:2700:20:30 >> แต่มันจะเกิดสั้นๆแล้วก็มันจะเกิดเป็น

00:20:3000:20:32 หลักไม่กี่วินาทีอ่ะฮะแต่ตอนนั้นร่างกาย

00:20:3200:20:34 เราก็เริ่มแบบผ่อนคลายแล้วก็เข้าสู่การ

00:20:3400:20:36 หลับต่อหรือไม่ก็เริ่มขยับได้อะไรอย่าง

00:20:3600:20:39 เงี้ยบางคนก็จะมีเสียงมาด้วยนะเพราะว่า

00:20:3900:20:41 อย่าลืมว่าเราเข้าสู่ระยะที่ฝันอยู่แล้ว

00:20:4100:20:43 เรามีการตื่นแทรกอยู่ไอ้ช่วงที่ฝันก็จะมี

00:20:4300:20:46 อาจจะมีรู้สึกจินตนาการมีเสียงมีอะไรเกิด

00:20:4600:20:47 ขึ้นได้

00:20:4700:20:49 >> อ่ะถ้าในเชิงวิทยาศาสตร์แบบว่าสิ่งที่เรา

00:20:4900:20:52 ได้ยินหรือผีที่เราสัมผัสอยู่อาจจะมาจาก

00:20:5200:20:52 ความฝัน

00:20:5200:20:54 >> ความฝันใช่มันก็มันเป็นการเหลื่อมของความ

00:20:5400:20:56 ฝันและการตื่นที่เกิดขึ้น

00:20:5600:20:58 >> น่ากลัวแค่ไหนอยู่ที่การปรุงในฝัน

00:20:5800:21:01 >> อืมันก็แล้วแต่ว่าเราแบบมีปรุงแต่งยังไง

00:21:0100:21:01 เนาะ

00:21:0100:21:03 >> ตัวคุณหมอเคยมีอาการผีอำมั้คะ

00:21:0300:21:06 >> นานๆทีครับเป็นเรื่องปกติเกิดขึ้นได้

00:21:0600:21:09 >> แล้วในช่วงที่เรามีอาการผีอำ

00:21:0900:21:12 >> คือเรามีสติแต่เราขยับไม่ได้เลยอ่ะบางคน

00:21:1200:21:15 อาจจะสวดมนต์อาจจะทำแบบหลายวิธีอาจจะด่า

00:21:1500:21:17 บ้างอะไรอย่างเงี้ยด้วยความเชื่อคือทำ

00:21:1700:21:19 อะไรก็ได้เราขยันได้เพราะว่าณวินาทีนั้น

00:21:2000:21:22 น่ะมันมีความรู้สึกมันจะตายค่ะคุณหมอแล้ว

00:21:2200:21:25 คุณหมอแนะนำให้เราทำยังไงดีเพื่อให้ตอน

00:21:2500:21:27 นั้นเราหลุดออกมาจากภาวะผีอำ

00:21:2700:21:30 >> ก็ตั้งสติแล้วก็คิดว่าโอเคเดี๋มันก็ผ่าน

00:21:3000:21:30 ไป

00:21:3100:21:31 >> อื

00:21:3100:21:34 >> อ่าเดี๋มันก็ผ่านไปมันก็มันขยับไม่ได้อ่ะ

00:21:3400:21:36 มันเป็นกลไกของร่างกายอ่ะนะครับเราก็ต้อง

00:21:3600:21:39 อยู่กับมันน่ะแล้วก็นิ่งๆไว้ก่อนเดี๋ยว

00:21:3900:21:41 มันก็ดีขึ้นเองเดี๋มันก็หายเองปกติมันจะ

00:21:4100:21:43 เกิดไม่เกิน 10 วินาทีประมาณนี้เนาะ

00:21:4300:21:44 >> แค่ 10 วินาทีเอง

00:21:4400:21:45 >> ประมาณนั้นเป็นหลักวินาทีอ่ะครับเราก็

00:21:4500:21:48 หลับต่อได้เองคือโดยทั่วไปมันจะพ้นจาก

00:21:4800:21:50 ระยะเก็คือเราหลับต่อรู้สึกว่าโอครับได้

00:21:5100:21:53 แล้วแบบนิ่งละโอเคอ่ะหลับต่ออะไรอย่าง

00:21:5300:21:53 เงี้ย

00:21:5300:21:56 >> อืแค่ 10 วินาทีเนาะบางคนเอามาเล่าโอโห

00:21:5600:21:57 ยาวเป็นชั่วโมงเลย

00:21:5700:21:59 >> เพราะเราก็ไปปรุงมันเยอะขึ้นอะไรอย่างงี้

00:21:5900:22:01 เนาะถ้ารู้สึกอัดหายใจไม่ออกด้วยเนี่ยให้

00:22:0100:22:06 ไปตรวจเทสฮะเพราะว่าอาจจะมีการกล่อ

00:22:0600:22:08 ให้เกิดปัญหาในการหายใจมันจะเป็นการรู้

00:22:0800:22:12 สึกตัวเฉยๆกับการขยับไม่ได้แต่ถ้าอึดอัด

00:22:1200:22:15 รู้สึกหายใจไม่สะดวกแปลว่าคุณอาจจะกล่าว

00:22:1500:22:17 แล้วก็ไอ้การกลนั้นแหละทำให้คุณหายใจไม่

00:22:1700:22:18 สะดวก

00:22:1800:22:20 >> คืออย่างคุณหมอบอกว่าอาการผีอำอ่ะมักเกิด

00:22:2000:22:21 เวลา

00:22:2100:22:24 แล้วอย่างเงี้นอนคว่ำกันหมดแล้ว

00:22:2400:22:26 >> คนจะนอนท่าไหนดีคะ

00:22:2600:22:29 >> การนอนน่ะเราจะไม่ได้บังคับว่านอนท่าไหน

00:22:2900:22:31 เพราะว่าการนอนเป็นปัเจกเนาะเราก็อยากจะ

00:22:3100:22:33 นอนมีหงายบ้างตะแคงบ้างอันเนี้ยเป็นกลไก

00:22:3300:22:36 ของร่างกายในการปรับท่าไม่ให้เราอยู่ใน

00:22:3600:22:38 ท่าเดิมตลอดไม่งั้นเราก็จะปวดหลังปวดไหล่

00:22:3900:22:41 ถูกมยเพราะฉะนั้นร่างกายเราก็จะพยายาม

00:22:4100:22:44 ปรับอยู่และให้เปลี่ยนท่าไปเรื่อยๆแต่ท่า

00:22:4400:22:46 ที่ไม่แนะนำจริงๆคือท่าคว่ำเพราะว่าท่า

00:22:4600:22:49 คว่ำอ่ะมันจำกัดการขยายของทรงอกและปอด

00:22:4900:22:51 เวลาที่นอนคว่ำมันก็ทำให้ออกซิเจนไป

00:22:5100:22:53 เลี้ยงในร่างกายไม่ดีท่าที่แนะนำก็คือ

00:22:5300:22:55 เป็นหงายกับตะแคงนั่นแหละคราวนี้ในคนที่

00:22:5500:22:58 กรนน่ะเราจะบอกว่าเออก็ให้นอนตะแคงดีมั้ย

00:22:5800:23:00 เพราะว่าจะได้กรนเบาลงเพราะว่าคนที่กรนก็

00:23:0000:23:03 มักจะมีอาการเยอะในท่านอนหงายเป็นหลัก

00:23:0300:23:06 เพราะว่าลิ้นมันจะไปตกในคอหรือโครงสร้าง

00:23:0600:23:09 คอจะหย่อนเยอะในขณะที่นอนหงายคนที่กรนก็

00:23:0900:23:12 มักจะมีกลไกที่จะปกป้องให้เขา้าเนี่ย

00:23:1200:23:15 ตะแคงเขาจะหายใจสะดวกมากขึ้นแต่ก็มักจะมา

00:23:1500:23:17 ถึงอาการปวดไหล่อีกเพราะว่านอนตะแคงตลอด

00:23:1700:23:20 เพราะฉะนั้นก็แนะนำว่าให้รักษาเรื่องกรน

00:23:2000:23:23 จะได้นอนในทุกๆท่าได้จะหงายเรือตะแคงก็

00:23:2300:23:23 ได้

00:23:2300:23:25 >> อือเพราะว่าจริงๆร่างกายก็จะปรับสมดุลของ

00:23:2500:23:26 เขาเองอยู่แล้ว

00:23:2600:23:28 >> ใช่และการบังคับให้ตะแคงท่าเดียวก็เป็น

00:23:2800:23:30 สิ่งที่ทำให้นอนลำบากอีกบางทีเราหมอนไป

00:23:3000:23:32 หนุนตรงข้างหลังเนี่ยให้เรานอนอยู่ในใน

00:23:3200:23:35 ท่าเดินมานานนะครับตื่นมาก็จะปวดไหลใน

00:23:3500:23:36 ข้างนั้น

00:23:3600:23:38 >> แล้วอย่างอีกอาการนึงค่ะคุณหมอคือการนอน

00:23:3800:23:41 กัดฟันกัดแบบกัดอ่ะแล้วคนข้างๆก็รู้ได้

00:23:4100:23:43 ยินเสียงว่าเฮ้ยคนนี้นอนกัดฟันมันเกิดจาก

00:23:4300:23:46 อะไรคะแพนด้าเคยได้ยินว่าถ้าเครียดมากๆก็

00:23:4600:23:47 นอนกัดฟันได้

00:23:4700:23:47 >> อ้าจริงเหรอ

00:23:4700:23:51 >> ใช่จริงๆมันก็เป็นเอ่อเอ่อกลไกของสมองที่

00:23:5100:23:54 กระตุ้นให้กล้ามเนื้อบดเคี้ยวมันทำงานมาก

00:23:5400:23:56 ขึ้นนะครับกัดฟันต้องไปหาสาเหตุว่าเกิด

00:23:5600:23:59 จากสาเหตุอะไรโดยเราจะต้องไปดูก่อนว่ามัน

00:23:5900:24:01 มีสาเหตุที่แก้ไขได้มยส่วนนึงถ้าเป็น

00:24:0100:24:03 สาเหตุที่แก้ไขได้กัดฟันเกิดจากอะไรได้

00:24:0300:24:06 บ้าง 1 คือการหยุดหายใจระหว่างการหลับเรา

00:24:0600:24:08 มักจะพบว่าคนไข้ส่วนนึงเนี่ยครับที่กัด

00:24:0800:24:10 ฟันเนี่ยจะมีการกรนหรือหยุดหายใจร่วมด้วย

00:24:1000:24:13 เวลาที่เค้าหยุดหายใจอ่ะสมองเขาจะมีการ

00:24:1300:24:16 กระตุ้นบ่อยๆมีการฮึบมารับอากาศบ่อยๆเนาะ

00:24:1700:24:19 เวลาฮึบมาแต่ละครั้งเนี่ยสมองก็จะถูก

00:24:1900:24:21 กระตุ้นแล้วก็ทำให้การบดเคี้ยวมันทำงาน

00:24:2100:24:25 กัดฟันกรนปุ๊บกัดฟันปั๊บเลยเป็นช่วงนะ

00:24:2500:24:27 ครับอันเนี้ต้องรู้จาก slip test เพื่อ

00:24:2700:24:29 ดูว่าแพทเทิร์นของการกัดฟันมันอยู่ใกล้

00:24:2900:24:31 กันหยุดหายใจหรือเปล่าหรืออาจจะเกิดจาก

00:24:3100:24:34 หญ้าบางอย่างจากคาเฟอีนแอลกอฮอล์มาอีก

00:24:3500:24:37 แล้วเนาะแอลกอฮอล์แคอีนนี่หลายๆโรคเลยนะ

00:24:3700:24:39 ถ้าไม่มีสาเหตุเลยจะเป็นเรื่องของความ

00:24:3900:24:41 เครียดความกังวลหรือไม่มีสาเหตุแล้วก็มี

00:24:4100:24:43 เหมือนกันก็ต้องไปดูว่ามันเกิดจากสาเหตุ

00:24:4400:24:46 อะไรในเรื่องของการรักษาก็ต้องแก้ไขไปตาม

00:24:4600:24:49 สาเหตุถ้าพบสาเหตุว่าเกิดจากการหยุดหายใจ

00:24:4900:24:52 หรือการกรนการรักษาอาการกรนจะทำให้กัดฟัน

00:24:5200:24:55 ดีขึ้นหายได้แต่ถ้าเกิดไม่พบสาเหตุจะเป็น

00:24:5500:24:59 การที่ใช้อุปกรณ์เป็นไดไardดคือเป็นยาง

00:24:5900:25:01 ที่เราใส่ไม่ได้ฟันต้องปรึกษาคุณหมอด้าน

00:25:0100:25:03 การบดเคี้ยวทันบดเคี้ยวอ่ะนะครับทำ

00:25:0400:25:06 อุปกรณ์ในการป้องกันกัดฟันมานะครับเพื่อ

00:25:0600:25:09 ป้องกันไม่ให้ฟันมันกระทบกันซึ่งเวลาใส่

00:25:0900:25:12 เนี้ยทำให้เวลาเผลอกัดมันก็จะไม่เกิดการ

00:25:1200:25:16 บิ่นของฟันเนาะแล้วเวลาใส่นานๆเนี่ยมันก็

00:25:1600:25:18 จะเรียนรู้ว่าไม่ควรจะกัดแล้วภาวะประมาณ

00:25:1800:25:20 นั้นก็จะถูกแก้ไขหายขึ้นเอง

00:25:2000:25:22 >> มันสามารถเผลอไปกัดลิ้นได้เลยมั้คะ

00:25:2200:25:24 >> มีเหมือนกันว่าทำให้เกิดการบาดเจ็บในช่อง

00:25:2400:25:27 ปากเป็นแผลในกระพุ้งแก้มหรือที่ลิ้นมี

00:25:2700:25:29 เหมือนกันครับถ้ากัดฟันค่อนข้างเยอะนะ

00:25:2900:25:30 ครับอ

00:25:3000:25:32 >> อือแต่เอฟเฟคของอาการกัดฟันตอนนอนมันจะ

00:25:3200:25:34 เอฟเฟคแค่ในช่องปากถูกมั้คะ

00:25:3400:25:36 >> ส่วนมากก็จะเป็นอาการปวดฟันตอนเช้าหรือ

00:25:3600:25:39 ว่าฟันบิ่นฟันแตกง่ายเนาะซึ่งปกติแล้ว

00:25:3900:25:42 เนี่ยบางคนไม่รู้เลยนะแต่จะไปรู้จากการ

00:25:4200:25:44 ที่พบคุณหมอฟันแล้วพอคุณหมอฟันตรวจดูแล้ว

00:25:4400:25:47 เนี่ยเอ้ยฟันบิ่นฟันศึกแปลว่าคุณน่าจะมี

00:25:4700:25:49 กัดฟันฟันหรือเปล่านะครับในผู้สูงอายุ

00:25:4900:25:52 เนี่ยการที่ฟันสึกเนี่ยเราก็จะพบได้เพราะ

00:25:5200:25:55 ว่าเขาใช้ฟันมานานเนาหลายสิบปีใช่มยแต่

00:25:5500:25:57 ว่าในคนอายุน้อยๆอ่ะอายุประมาณ 20-30

00:25:5700:26:00 เนี่ยฟันเรายังใช้มาไม่นานนะแต่ถ้าฟัน

00:26:0000:26:03 เริ่มสึกฟันเริ่มบิ่นน่าจะมีการกัดฟัน

00:26:0300:26:05 ต้องสงสัยภาวะนี้ไว้ด้วยอ

00:26:0500:26:06 >> ครับ

00:26:0600:26:06 >> อื

00:26:0600:26:09 >> แล้วอย่างถ้าเป็นผู้สูงอายุที่อาจจะไม่มี

00:26:0900:26:11 ฟันแล้วฟันแท้อาจจะไปหมดแล้วลาก่อนแล้ว

00:26:1100:26:14 เนี่ยค่ะเหงือกของเราเนี่ยยังมีภาวะกัด

00:26:1400:26:15 ฟันได้

00:26:1500:26:16 >> ก็ยังมีได้

00:26:1600:26:17 >> เพราะว่ามันก็จะเป็นการเกร็งของกล้าม

00:26:1700:26:20 เนื้อบดเขียวอ่ะทั้งนั้นปากก็จะมีการขยับ

00:26:2000:26:22 ก็มีการขยับของเหงือกเกิดขึ้นได้

00:26:2200:26:23 >> ก็กระทบกระแทกก็

00:26:2300:26:24 >> ใช่

00:26:2400:26:26 >> อเกิดแผลได้เหมือนกันอ

00:26:2600:26:29 >> อือแล้วอย่างอาการขากระตุกตอนที่เรานอน

00:26:2900:26:31 หลับแล้วทำให้เราตื่นขึ้นมาเนี่ยค่ะคุณ

00:26:3100:26:32 หมอมันผิดปกติมั้ยคะ

00:26:3300:26:35 >> อขากระตุกก็มีหลายแบบเนาะถ้าแบบที่หลายๆ

00:26:3500:26:37 คนอาจจะมีการเรียกเป็นภาวะฮิปนิคเจิคือ

00:26:3700:26:40 ภาวะที่เหมือนกับตกจากที่สูงในช่วงที่เรา

00:26:4000:26:42 เริ่มหลับนะครับอ่าหลายๆคนอาจจะเคยมี

00:26:4200:26:44 ประสบการณ์ก็คือว่าเวลาที่เราเนี่ยเข้า

00:26:4400:26:47 สู่ระยะที่มันเคลิ้มหลับและเหมือนแบบจะตก

00:26:4700:26:50 ตึกอ่ะเราก็ถีบถีบขานะครับแล้วก็ตื่นขึ้น

00:26:5000:26:52 มานะอันนี้เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้ในคน

00:26:5200:26:55 ปกตินะครับก็จะเกิดจากการที่ร่างกายเรา

00:26:5500:26:57 เริ่มจะเริ่มผลหลับมากขึ้นเนี่ยก็จะมี

00:26:5700:27:01 กลไกในการลดความดันชึปจรให้มันเบาลงเบาลง

00:27:0100:27:04 บางทีร่างกายเราเข้าใจผิดคิดว่าเราจะตก

00:27:0400:27:08 จากที่สูงก็เลยมีการกระตุ้นโดยการเตะขา

00:27:0800:27:10 แล้วตื่นขึ้นมาเป็นภาวะที่เกิดได้ในคน

00:27:1000:27:13 ทั่วไปนะอาจจะกระตุ้นได้จากการอดนอนได้นะ

00:27:1300:27:16 หรือแอลกอฮอล์นะครับชากาแฟได้เหมือนอื

00:27:1600:27:18 เหมือนเดิมก็พวกนี้ไม่เป็นไรไม่ได้มีผล

00:27:1800:27:20 ต่อร่างกายอะไรเนาะแต่ถ้าเป็นขากระตุกใน

00:27:2100:27:23 ระหว่างที่เราหลับไปแล้วแล้วกระตุกบ่อยๆ

00:27:2300:27:25 เราก็ต้องดูว่ามันส่งผลต่อการทำให้เรา

00:27:2500:27:29 ตื่นมถ้าการกระตุกของขาทั่วๆไปเนี่ยจะทำ

00:27:2900:27:31 ให้เราไม่ตื่นจากการหลับคือกระตุกก็ช่าง

00:27:3100:27:33 มันปกติแล้วเราจะคลิปเทสเพื่อดูว่าขา

00:27:3300:27:36 กระตุกเกินเกณฑ์ผิดปกติหรือเปล่านะครับ

00:27:3600:27:39 ถ้าในชั่วโมงนึงเนี่ยมีกระตุกประมาณไม่

00:27:3900:27:42 เกิน 15 ครั้งเนี่ยผู้ใหญ่นะเตะขานิดนึง

00:27:4200:27:44 เนี่ยนะครับอันเนี้ยแล้วเราไม่ตื่นขึ้นมา

00:27:4400:27:46 จากการหลับเป็นสิ่งที่ปกติเกิดขึ้นได้มี

00:27:4600:27:49 ได้ทั่วไปแต่ถ้าเกิดขากระตุกแล้วทำให้คน

00:27:4900:27:51 ที่หลับอยู่ตื่นขึ้นมาจากการหลับอันนี้

00:27:5100:27:55 ต้องตรวจดูว่ามันมีผลยังไงกับร่างกายทำ

00:27:5500:27:58 ให้ตื่นจริงมยแล้วก็มีโรคอะไรซ่อนอยู่นะ

00:27:5800:28:01 ครับซึ่งสัมพันธ์กับหลายๆอย่างเนาะเช่น

00:28:0100:28:03 ภาวะขัดธาตุเหล็กขัดเกลอแร่บางอย่างหรือ

00:28:0300:28:06 ยาบางอย่างขาก็กระตุกเยอะเกินก็ทำให้เรา

00:28:0600:28:08 ปวดเมื่อยเราก็ตื่นมากลางดึกได้

00:28:0900:28:11 >> จริงๆก็คือมันอาจจะไม่ได้อันตรายขนาดนั้น

00:28:1100:28:14 ไม่ได้นำไปสู่โรคอะไรเป็นเหมือนภาวะที่

00:28:1400:28:16 ร่างกายป้องป้องกันตัวเอง

00:28:1600:28:19 >> ก็อาจจะมีโรคที่ซ่อนอยู่เนาะก็ต้องหา

00:28:1900:28:22 สาเหตุว่ามีอะไรทำให้เกิดภาวะนี้

00:28:2200:28:24 >> จริงๆแล้วถ้าเกิดว่าไม่ได้มีผลต่อร่างกาย

00:28:2400:28:27 ก็คือหลับได้ดีอยู่เนี่ยมันก็ไม่ได้ก่อ

00:28:2700:28:30 ปัญหาแต่ถ้ากระตุกจนคนๆนั้นเนี่ยสูญเสีย

00:28:3000:28:33 ความสามารถในการหลับคือหลับต่อก็ลำบาก

00:28:3300:28:35 ตื่นมาแล้วกระตุกขาแล้วตื่นขึ้นมาอะไร

00:28:3500:28:37 อย่างเงี้ยก็ต้องตรวจการนอนหลับดูว่ามัน

00:28:3700:28:39 เกิดจากสาเหตุอะไร

00:28:3900:28:42 >> ปกติเกิดขึ้นได้อยู่แล้วแต่ถ้ามันรบกวน

00:28:4200:28:44 การนอนอย่างชัดเจนอันนี้ต้องไปตรวจ

00:28:4400:28:47 >> ใช่ทำให้กลางคืนหลับต่อยากหรือกลางวันก็

00:28:4700:28:49 คือง่วงใช้ชีวิตไม่ได้อะไรอย่างเงี้ยครับ

00:28:4900:28:50 ก็ควรจะตรวจ

00:28:5000:28:53 >> อและอีกพฤติกรรมนึงที่หลายๆคนอาจจะชอบทำ

00:28:5300:28:55 >> เพราะว่ามันเนื่องมาจากการที่เรามีปัญหา

00:28:5500:28:58 การนอนไม่หลับมาก่อนค่ะก็เลยต้องหาวิธีใน

00:28:5800:29:00 การที่จะทำให้เรานอนหลับแล้วก็เขาก็อาจจะ

00:29:0000:29:02 ไปเจอวิธีนี้แล้วเวิร์คกับเขาก็คือการ

00:29:0200:29:05 เปิดอะไรสักอย่างฟังเพื่อให้นอนหลับอ่า

00:29:0500:29:07 แล้วพอเรานอนหลับไปแล้วมันก็ยังเปิดอยู่

00:29:0700:29:09 อย่างงั้นค่ะคุณหมอมันเอฟเฟคต่อการนอนของ

00:29:0900:29:10 เรามั้ยคะ

00:29:1000:29:13 >> มันแล้วแต่บุคคลแหละเพราะว่าจริงๆเราก็

00:29:1300:29:16 แนะนำว่าความเงียบอุณหภูมิที่เย็นอาจจะทำ

00:29:1600:29:18 ให้เราหลับได้ดีเนาะแต่ว่าบางคนอาจจะพึง

00:29:1800:29:21 พอใจในการที่จะเปิดเพลงกล่อมเบาๆโดยเฉพาะ

00:29:2100:29:23 คนที่มีปัญหาในเรื่องของความเครียดกังวล

00:29:2300:29:25 ในช่วงที่เวลาจะหลับเนาะหรือบางคนมีปัญหา

00:29:2600:29:28 เสียงในหูผู้สูงอายุจะมีบางทีประสาทหู

00:29:2800:29:31 เสื่อมจะมีเสียงในหูเกิดขึ้นได้ก็อาจจะ

00:29:3100:29:33 เปิดเพลงคลอเบาๆเพื่อให้ไม่โฟกัสกับเสียง

00:29:3400:29:35 ในหูของเขาอะไรอย่างเงี้ยอันนี้ก็ทำให้

00:29:3500:29:38 ผ่อนคลายได้ก็เปิดเบาๆแล้วทำให้หลับค่อน

00:29:3800:29:41 ข้างโอเคอาจจะตั้งไว้ตั้งหลับแล้วเนี่ย

00:29:4100:29:43 มันก็ให้มันปิดไม่งั้นจะไปรบกวนในช่วง

00:29:4300:29:44 กลางดึกที่เราหลับอยู่

00:29:4500:29:48 >> แต่ถ้ามันไม่ได้ฟังเป็นเพลงคลอๆแต่สมมุติ

00:29:4800:29:51 เปิดข่าวหรือเปิดหนังแอคชั่นทิ้งไว้อะไร

00:29:5100:29:53 >> น่าจะน่าจะไปทำให้ตื่นกลางดึกนะเพราะว่า

00:29:5300:29:56 เสียงมันก็ฉูดฉาดคือเวลาหลับเราก็มีสเตจ

00:29:5600:29:58 ที่เราหลับตื้นหลับลึกเนาะถ้าอยู่ในหลับ

00:29:5800:30:00 ลึกก็อาจจะไม่กระทบแต่ถ้าไปอยู่ในช่วง

00:30:0000:30:02 หลับตื้นแล้วเรามีเสียงที่มากระทบเรา

00:30:0200:30:05 อย่างเงี้ยก็ทำให้การนอนเรามันก็ถูกรบกวน

00:30:0500:30:06 ได้ง่าย

00:30:0600:30:08 >> เราสามารถสมมุติเราเปิดทิ้งไว้แล้วตอน

00:30:0800:30:10 นั้นเรากำลังอยู่ในช่วงหลับฝันน่ะเรา

00:30:1000:30:12 สามารถที่จะรับสารนั้นแล้วก็ฝันได้เลย

00:30:1200:30:14 >> เป็นไปได้เพราะว่าความฝันก็คือการปรุง

00:30:1400:30:17 แต่งจากสิ่งที่เราได้ยินบางคนก็เปิดอะไร

00:30:1700:30:19 อยู่ก็ฝันนั้นไปเลยอะไรอย่าเงี้บางคนอาจ

00:30:1900:30:22 จะอยากฝันอะไรบางอย่างก็เลยจะไปเปิดแล้ว

00:30:2200:30:23 คืนนี้

00:30:2300:30:25 >> แต่จริงๆนอนแบบไม่ฟังอะไรดีกว่าถูก

00:30:2500:30:27 >> ความเงียบก็ดีที่สุดนะครับปัจจุบันก็มี

00:30:2700:30:31 ASMR เ ASMR เนาะก็ ASMR ก็เป็นลักษณะ

00:30:3100:30:33 ของคลิปที่ให้เกิดความผ่อนคลายเช่นคลิปกด

00:30:3400:30:37 สิวคลิปที่เอ่อดูคนนวดหน้าอยู่อะไรอย่าง

00:30:3700:30:39 เงี้ยนวดอะไรอยู่แล้วก็ดูแล้วมันก็รู้สึก

00:30:3900:30:42 แบบชุบชูใจทำให้ร่างกายเราผ่อนคลายง่าย

00:30:4200:30:45 ขึ้นกระตุ้นประสาทพลาซาติเป็นประสาทด้าน

00:30:4500:30:47 ความผ่อนคลายก็ทำให้เราหลับได้ดีขึ้นเนาะ

00:30:4700:30:50 ก็แล้วแต่คนแต่จริงๆแล้วการที่เราเสพสื่อ

00:30:5000:30:53 พวกเก็มีข้อเสียเหมือนกันเพราะว่าเวลาเรา

00:30:5300:30:56 เปิดจอนะครับก็จะมีการเจอพวกแสงสีฟ้าหรือ

00:30:5600:30:59 บูไลทซึ่งก็กระตุ้นให้ร่างกายมันยังตื่น

00:30:5900:31:03 ตัวอยู่แล้วก็เมลาโทรนินมันก็จะหลังช้าลง

00:31:0300:31:04 เราจะหลับได้ยากขึ้น

00:31:0400:31:07 >> แล้วอย่างคำว่านาฬิกาชีวิตอ่ามันคืออะไร

00:31:0700:31:09 คะคุณหมอเราทำได้ยังไง

00:31:0900:31:11 >> มันคืออะไรเนาะอ่าอาจจะเคยได้ยินคำว่า

00:31:1100:31:14 circนanrึมcนrึมก็คือว่านาฬิกาชีวิตเนี่ย

00:31:1400:31:16 นะมันก็เป็นเหมือนนาฬิกาที่อยู่ภายในร่าง

00:31:1600:31:20 กายเรานะครับ circle เนี่ยคือเอ่อคำว่า

00:31:2000:31:22 ประมาณเด่นคือ day

00:31:2200:31:22 >> อื

00:31:2200:31:24 >> คือวันนึงนะ

00:31:2400:31:27 >> เคือประมาณ 1 วันจริงๆนาฬิกาเราเนี่ยจะมี

00:31:2700:31:30 อายุประมาณสซัก 24.2 ชม.เหลือนิดๆจะไม่ 24

00:31:3100:31:33 ตรงเด๊ะเนาะนาฬิกานี้เป็นนาฬิกาที่กำหนด

00:31:3300:31:36 ว่าร่างกายเราเนี่ยจะนอนเวลาไหนตื่นเวลา

00:31:3600:31:39 ไหนจะมีการหลั่งฮอร์โมนแต่ละอย่างเวลาไหน

00:31:3900:31:41 บ้างจะกินใช้ชีวิตลำไส้บิดตัวเป็นเวลาไหน

00:31:4100:31:44 มันก็จะเป็นไซเคิลแต่ละรอบแต่ละรอบประมาณ

00:31:4400:31:47 1 วันนะครับคราวนี้ในร่างกายคนเราถ้าพูด

00:31:4700:31:50 ถึงสมัยยุคหินเนี่ยนะครับเราไม่ได้เจอแสง

00:31:5000:31:52 เหมือนทุกวันนี้ร่างกายคนเราเวลาที่ตอน

00:31:5200:31:56 เช้าเราเจอแสงแดดเจอโรคภายนอกเราจะมีการ

00:31:5600:31:59 หลังฮอร์โมนชื่อคอร์ติซอลทำให้เราตื่นตัว

00:31:5900:32:02 แล้วเราก็จะมี activity แต่ละวันกินนอน

00:32:0200:32:06 ใช้ชีวิตอะไรต่างๆนะครับแต่พอเราเริ่ม

00:32:0600:32:08 เข้าเวลาที่เราเจอแดดน้อยลงเจอแสงน้อยลง

00:32:0800:32:12 ประมาณช่วงพบค่ำ 18 น.คอร์ติซอลจะลดลงและ

00:32:1200:32:14 มีการหลั่งเมลาโทนินเป็นฮอร์โมนอีก

00:32:1400:32:16 ฮอร์โมนนึงทำให้เราเนี่ยเคลิ้มหลับหลับ

00:32:1600:32:19 ได้ง่ายขึ้นปกติคือแบบนี้ที่มันจะมีการ

00:32:1900:32:21 หลั่งฮอร์โมนที่เป็นหยินหยางต่างกัน

00:32:2100:32:24 คอ์ซอลและเมลาโทนินนะครับแต่ปัจจุบัน

00:32:2400:32:25 เนี่ยการหลังฮอร์โมนพวกนี้มันดวนไปเพราะ

00:32:2500:32:27 ว่า activity เราไม่เหมือนเดิมในช่วงหัว

00:32:2800:32:31 ค่ำเราก็ยังเจอแสงอยู่จากทีวีจอแท็บเล็ต

00:32:3100:32:33 ต่างๆเวลาโทนินที่มันจะต้องหลั่งประมาณ

00:32:3300:32:35 ช่วง 19:00 20:00 น.เนี่ยให้เราหลับ

00:32:3500:32:38 ประมาณสัก 3-400 น.มันก็หลังดีลayมากขึ้น

00:32:3800:32:41 หลังช้าลงเรายังอยู่กับจอมือถือถึงประมาณ

00:32:4100:32:43 2:00 น.เนาะดูนู่นดูนี่เพราะฉะนั้นเราก็

00:32:4300:32:45 จะนอนได้ยากขึ้นนะครับเพราะฉะนั้นนาฬิกา

00:32:4600:32:48 ชีวิตคืออะไรมันคือสิ่งที่เป็นไซเคิลของ

00:32:4800:32:51 ชีวิตเราควบคุมด้วยแสงแดดเป็นตัวควบคุม

00:32:5100:32:54 เพื่อให้เกิดวงจรในการหลับตื่นที่เหมาะสม

00:32:5400:32:56 นอกจากนั้นเนี่ยนฬิกาชีวิตยังควบคุม

00:32:5600:32:59 พฤติกรรมด้วยเช่นการกินใช้ชีวิตขับถ่าย

00:32:5900:33:02 ต่างๆให้เป็นไปตามวงรอบการที่เราจะปรับ

00:33:0200:33:05 ให้ไซเคิลตรงเนี้ยมันเป็นไซเคิลที่มัน

00:33:0500:33:08 เป็นปกติได้แล้วก็ต้องเจอแสงในเวลาที่

00:33:0800:33:11 เหมาะสมนะครับกลางวันเราเจอแดดกลางคืนเรา

00:33:1100:33:14 ลดการเจอแสงพวกนี้น้อยลงลดการเจอแสงจาก

00:33:1400:33:17 ที่ไม่จำเป็นเช่นลดการเจอจอต่างๆมันก็จะ

00:33:1700:33:20 เกิดวงรอบที่เหมาะสมเนาะนอกจากนี้

00:33:2000:33:22 พฤติกรรมก็มีผลเหมือนกันนะครับเข้านอน

00:33:2200:33:25 เป็นเวลาเนาะแล้วก็ขับถ่ายเป็นเวลากิน

00:33:2500:33:28 ข้าวเป็นเวลาก็เป็นการเทรนนิ่งให้ไซเคิล

00:33:2800:33:30 พวกเนี้มันเป็นเวลาของมัน

00:33:3000:33:31 >> และอย่างอีกความเชื่อนึงของคนไทยอ่ะค่ะ

00:33:3100:33:34 ที่เรามักจะไม่นอนช่วง 5-6:00 น.หรือว่า

00:33:3400:33:37 ช่วงโพเพที่เราบอกว่าเป็นช่วงเวลาผีตาก

00:33:3700:33:39 ผ้าอ้อมเพราะว่าถ้านอนตอนนี้เนี่ยเราจะ

00:33:3900:33:41 ปวดหัวค่ะมันมันเป็นอย่างงั้นจริงๆมั้คะ

00:33:4100:33:42 แล้วทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้นน่ะ

00:33:4200:33:45 >> อ่าอันเนี้ยเป็นสิ่งที่อธิบายการงีบหลับ

00:33:4500:33:48 ที่เหมาะสมนะฮะคือการงีบหลับเนี่ยอ่ะเรา

00:33:4800:33:51 จะทำในคนที่เราอาจจะตื่นมาแล้วไม่สดชื่น

00:33:5100:33:54 เนาบ่ายๆเราเริ่มง่วงนะครับแต่คำแนะนำก็

00:33:5400:33:56 คือว่าการงีบหลับเราควรไม่งีบเย็นอ่า

00:33:5600:33:59 เพราะอะไรเพราะว่าการงีบในช่วงเย็นหรือ

00:33:5900:34:01 ใกล้เวลานอนมากเกินเนี่ยนะครับเราจะนอน

00:34:0100:34:03 คืนนั้นเนี่ยได้ยากขึ้น

00:34:0300:34:06 >> เป็นการใช้ความง่วงไปคืนถัดไปก็จะนอนหลับ

00:34:0600:34:09 ได้ยากขึ้นนะครับและการงีบหลับเนี่ยอัน

00:34:0900:34:11 ข้อ 1 ที่แนะนำว่าไม่งีบเย็นเกินไปไม่ควร

00:34:1100:34:14 จะเกิน 14:00 น.กับอีกอย่างคือการงีบหลับ

00:34:1400:34:16 เนี่ยเราไม่อยากให้งีบเกินครึ่งชั่วโมง

00:34:1600:34:18 เพราะว่าถ้างีบเกินครึ่งชั่วโมงแล้วเราจะ

00:34:1800:34:21 ไปกินเวลาของ deep sleep คือเวลาของหลับ

00:34:2100:34:24 ลึกคนทั่วไปเราจะหลับเนี่ยเราจะเข้าระยะ e

00:34:2400:34:25 sleep เมื่อหลับไปเกินประมาณครึ่ง

00:34:2500:34:28 ชั่วโมงการหลับช่วงแรกครึ่งชั่วโมงแรกจะ

00:34:2800:34:30 เป็นการหลับระยะตื้นๆก่อนคือระยะสage 1

00:34:3000:34:33 หรือว่า 2 นะครับที่ยังไม่หลับลึกถ้าเรา

00:34:3300:34:35 หลับแล้วเรากินเวลาของการหลับลึกตื่นมา

00:34:3500:34:39 เราจะรู้สึกว่ามีความปวดหัวมึนรู้สึกไม่

00:34:3900:34:42 สดชื่นการหลับงีบเนี่ยคือการหลับเพื่อให้

00:34:4200:34:45 เรารู้สึกสดชื่นรชเพราะฉะนั้นงีบควรจะ

00:34:4500:34:46 ตั้งปลุกประมาณไม่เกินครึ่งชั่วโมงหรือ

00:34:4600:34:49 ไม่เกิน 10 นาทีแล้วก็ไม่ควรจะงีบหลัง

00:34:4900:34:54 15:00 น.อืแต่ว่าจริงๆการนอนแบบช่วงเย็น

00:34:5400:34:57 ถ้าเป็นแค่การงีบแป๊บได้แต่ถ้านอนเกิน

00:34:5700:34:59 ครึ่งชั่วโมงหรือ 40 นาทีที่มันไปกินช่วง

00:34:5900:35:01 เวลาของ EP sleep หรือหลับลึกแล้วเนี่ย

00:35:0100:35:02 แล้วเราต้องตื่นช่วงนั้นมันเหมือนต้องขุด

00:35:0200:35:04 ตัวเองขึ้นมาเยอะก็จะใช่ก็จะมีภาวะ

00:35:0400:35:07 อินอร์เชียคือเป็นภาวะที่มีความเฉื่อยคือ

00:35:0700:35:09 ถ้าเกิดหลับแล้วไปกินเวลาของการหลับลึก

00:35:0900:35:10 เนี่ยไม่ควรนะครับ

00:35:1000:35:14 >> แล้วถ้าสมมุติเขานอนช่วง 5-600 น.แต่นอน

00:35:1400:35:15 ยาวไปเลยอย่างงี้ได้มั้คะ

00:35:1600:35:18 >> นอนตั้งแต่ 18:00 น.ไปเลยจะเกิดได้ในผู้

00:35:1800:35:21 สูงอายุผู้สูงอายุก็จะมีภาวะเรียกว่าเป็น

00:35:2100:35:23 early sleep weight disorder หมาย

00:35:2300:35:26 ความว่าผู้สูงอายุเนี่ยบางทีไม่ได้มีอะไร

00:35:2600:35:29 ที่จะต้องทำกลางคืนเนาะเขาจะมีแนวโน้มใน

00:35:2900:35:31 การที่จะนอนเร็วกว่าปกติคือบางที 1900

00:35:3100:35:33 20:00 น.หรือไม่เกิน 19:00 น.บางทีก็

00:35:3300:35:35 หลับแล้วนะครับถามว่าข้อเสียของคนไข้

00:35:3500:35:38 กลุ่มนี้คืออะไรเจะไปตื่นช่วงกลางดึกอ่ะ

00:35:3800:35:40 ขมว่านอนประมาณสัก 19:00 น.อ่ะไปตื่น

00:35:4000:35:42 เที่ยงก็คือนอน 5 ช่มหรือ 6:00 ชั่วโมง

00:35:4200:35:44 1:00 น.อะไรอย่างเงี้ยหลังจากนั้น 1:00

00:35:4400:35:46 น.เป็นต้นไปไม่หลับแล้วเพราะว่าไม่รู้จะ

00:35:4600:35:49 ทำอะไรก็เป็นความทุกข์ว่าเ้าตื่นมากลาง

00:35:4900:35:51 ดึกอีกแล้วไม่ทำอะไรเลยไม่รู้จะทำอะไร

00:35:5100:35:53 ซึ่งจริงๆแล้วเนี่ยมันคือภาวะที่เหมือน

00:35:5300:35:55 เฟสของการนอนเนี่ยเขาเลื่อนให้เร็วขึ้น

00:35:5500:35:58 เพราะฉะนั้นการจะทำให้ผู้สูงอายุหรือคุณ

00:35:5800:36:00 พ่อคุณแม่เราที่เขานอนเร็วเนี่ยเานอนเป็น

00:36:0000:36:02 เวลาปกติคือนอน 21:00 น. 22:00 น.เนี่ย

00:36:0200:36:05 คือการที่มีกิจกรรมในช่วงหัวค่ำนิดนึง

00:36:0500:36:08 หรือการเจอแสงนิดนึงเพื่อให้ฮอร์โมนทิน

00:36:0800:36:11 มันหลังช้าลงหน่อยก็ทำให้เ้านอนได้ดึก

00:36:1100:36:13 ขึ้นก็นอนสัก 22:00 น.ตื่นเอามาสัก

00:36:1300:36:15 5:00-6:00 น.กำลังดีถูกมย

00:36:1500:36:19 >> อืค่ะอันนี้ก็เป็นสำหรับใครที่นอนเร็วอ่า

00:36:1900:36:21 เพราะว่าร่างกายแบบง่วงเร็วคือมันจะมี

00:36:2100:36:23 ไทมไลนของการนอนพอเราไปนอนเร็วเหมือนว่า

00:36:2300:36:25 โอเคร่างกายได้นอนแล้วตื่นมาอีกทีก็ใช้

00:36:2600:36:28 ชีวิตแล้วใช่มีทั้งผู้สูงอายุเนี่ยมักจะ

00:36:2800:36:30 เป็นในเรื่องของการนอนเร็วตื่นเร็วนอน

00:36:3100:36:34 เร็วตื่นกลางดึกเน 20:00 น.ตื่น 2:00 น.

00:36:3400:36:36 อะไรอย่างเงี้ยหลับต่อไม่ได้แต่ในวัยรุ่น

00:36:3600:36:40 หรือวัยทำงานเนี่ยมักจะเป็นพวกนอนดึกแล้ว

00:36:4000:36:43 ตื่นสายนอน 2:00 น.แล้วถ้าไม่ตั้งปลุกวัน

00:36:4300:36:46 หยุดนะตื่น 10:00 น.นแต่ชีวิตเราก็จะต้อง

00:36:4600:36:49 ตื่นมาตอนเช้าถูกมเพื่อมาทำงานเราก็เลย

00:36:4900:36:53 เป็นการนอน 2 แล้วตื่น 18:00 น.ก็คือนอน

00:36:5300:36:55 ไม่เพียงพอเพราะว่าระยะของการนอนมันถูก

00:36:5500:36:57 เลื่อนให้มันขึ้นแต่เราจำกัดเวลาในการนอน

00:36:5700:36:59 คือการต้องตื่นมาทำงานเพราะฉะนั้นเรานอน

00:36:5900:37:02 ไม่พอแล้วจะกลับไปนอนเร็วก็ลำบากและเพราะ

00:37:0200:37:04 นั้นเราก็ต้องมีการเทรนนิ่งร่างกายเราให้

00:37:0400:37:08 กลับไปนอนเวลาเดิมได้ก็คือการลดการเจอแสง

00:37:0800:37:11 ที่กระตุ้นในช่วงหัวค่ำกิจกรรมที่จะลดให้

00:37:1100:37:14 เราไม่ถูกกระตุ้นบ่อยๆก็คือลดการเจอมือ

00:37:1400:37:17 ถือหรือว่าแสงในช่วงหัวค่ำประมาณ 2 ช่โมง

00:37:1700:37:20 เนี่ยอยากให้ลดการสัมผัสจอมือถือจอ

00:37:2000:37:21 แท็บเล็ตยกตัวอย่างเช่นน้องต้องการนอนไม่

00:37:2100:37:23 เกินเที่ยงคืนเนี่ยนะครับ 21:00 น.ไม่ควร

00:37:2300:37:24 จะอยู่กับจอแล้ว

00:37:2400:37:25 >> เป็นอะไรที่ทำยาก

00:37:2500:37:28 >> เพราะว่าจอมันจะมีบลูไลท์อยู่คือแสงสีฟ้า

00:37:2800:37:30 ที่จะกระตุ้นให้ตาเราเนี่ยรับรู้ว่าเนี่ย

00:37:3000:37:32 คือเหมือนแสงแดดอ่ะนะครับเราก็จะมีการ

00:37:3200:37:35 หลั่งฮอร์โมนทonนินเนี่ยที่มันช้าลงก็จะ

00:37:3500:37:38 นอนดึกขึ้นนะสามารถที่จะเลือกเป็นโหมดที่

00:37:3800:37:41 ตัดแสงสีฟ้าก็อาจจะช่วยแต่จริงๆแล้วในจอ

00:37:4100:37:43 มันไม่ได้มีแค่แสงมันมี content ด้วยไอ้

00:37:4300:37:45 content เนี่ยคือสิ่งที่ทำให้เราเนี่ยมี

00:37:4500:37:47 ความคิดเราก็ทำให้เรานอนยากขึ้น

00:37:4800:37:48 >> อื

00:37:4800:37:51 >> สำคัญทั้งหมดเลยเนาะว่ามันมาจากพฤติกรรม

00:37:5100:37:53 เล็กๆที่เราคุ้นเคยคุ้นชินกินทำจนเป็น

00:37:5300:37:56 นิสัยแล้วมันก็มากระทบกับนาฬิกาชีวิตพอ

00:37:5600:37:58 กระทบนาฬิกาชีวิตอย่างที่เราฟังกันมาตลอด

00:37:5800:38:01 2 EP ที่ผ่านมาเนี่ยค่ะว่าเฮ้ยการนอน

00:38:0100:38:03 น่ะมันสำคัญมากๆแล้วคุณหมอก็ได้อธิบายให้

00:38:0300:38:05 ฟังแล้วว่ามันสำคัญยังไงมันกระทบกับร่าง

00:38:0500:38:07 กายของเรายังไงแล้วเกิดโรคอะไรได้บ้างถ้า

00:38:0700:38:08 เรานอนไม่ดี

00:38:0900:38:12 >> อ่าทีนี้มันก็กลับมาที่ว่าโอเคตั้งต้นคือ

00:38:1200:38:14 พฤติกรรมของเรานี่แหละเนาะเราต้องมาปรับ

00:38:1400:38:16 พฤติกรรมของเรากันเพื่อให้ต้นทางของเรา

00:38:1600:38:18 มันดีแล้วเดี๋ยวอย่างอื่นมันจะดีขึ้นเอง

00:38:1800:38:21 >> ใช่ก็คือเราจะเริ่มแก้พฤติกรรมให้นอนดี

00:38:2100:38:23 ขึ้นก็ต้องเริ่มจากทุกคมนอนหลับหรือว่า

00:38:2300:38:25 Sleep Higgนนะครับ 1 ก็คือว่านอนเป็น

00:38:2500:38:27 เวลาเดียวกันทุกวันตื่นเวลาเดียวกันทุก

00:38:2700:38:31 วันนะครับบางคนเราจะรู้สึกว่าวันหยุดเรา

00:38:3100:38:34 ก็จะนอนดึกแล้วก็ตื่นสายเนาะจริงๆแล้ว

00:38:3400:38:36 เนี่ยมันเป็นการที่ทำให้ไซเคิลของการนอน

00:38:3600:38:39 มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆเราจะต้องพยายามที่จะ

00:38:3900:38:41 รักษาให้เวลานอนเป็นเวลาเดียวกันวันหยุด

00:38:4100:38:43 และวันธรรมดาให้เหมือนกันทุกวันเพราะว่า

00:38:4300:38:46 การนอนคือนาฬิกาที่ต้อง regular ทุกวันนะ

00:38:4600:38:49 ครับอย่างที่ 2 เลยก็คือว่าพฤติกรรมใน

00:38:4900:38:52 ช่วงระหว่างวันมีอะไรบ้าง 1 ก็คือว่าชา

00:38:5200:38:55 กาแฟคาเฟอีนแต่ละคนก็ตอบไม่เหมือนกันบาง

00:38:5500:38:58 คนก็กินกาแฟหัวค่ำยังกินได้อยู่ยังหลับ

00:38:5800:38:59 ได้อยู่เนาะ

00:38:5900:38:59 >> อือ

00:38:5900:39:03 >> บางคนกินในช่วงเช้า 9:00 น.ก็ยังไม่หลับ

00:39:0300:39:06 เพราะฉะนั้นเนี่ยก็คือพฤติกรรมการกินชา

00:39:0600:39:09 กาแฟคาเฟอีนหรือพวกโกโก้ช็อกโกแลตหรือว่า

00:39:0900:39:12 ในเรื่องของน้ำผัดลมที่เป็นน้ำดำพวกเนี้ย

00:39:1200:39:15 มันมีคาเฟอีนอยู่จะแนะนำว่าไม่ควรจะกิน

00:39:1500:39:17 หลังเที่ยงแต่ก็แล้วแต่คนนะบางคนกิน

00:39:1700:39:19 ช็อกโกแลตชงตอนช่วงก่อนนอนก็น่าจะดีเนาก็

00:39:1900:39:21 ต้องบอกว่าแล้วแต่บุคคลนะครับหลักๆก็คือ

00:39:2100:39:24 กลางๆคือหลังเที่ยงไม่ควรจะแตะถ้าเป็นคน

00:39:2400:39:27 นอนยากนะต่อไปมื้ออาหารบางคนกินข้าวดึก

00:39:2700:39:30 อาหารเนี่ยไม่ควรจะใกล้เวลานอนมากเกิน

00:39:3000:39:32 ประมาณสัก 3-4 ชั่วโมงโมเพราะอะไรเพราะ

00:39:3300:39:35 ว่า 1 คือกดไหลย้อนแหละกินแล้วในช่วงใกล้

00:39:3600:39:37 เวลานอนแล้วเราไปนอนเลยเนี่ยนะครับ

00:39:3700:39:40 กระเพาะยังย่อยอาหารอยู่เพราะฉะนั้นกรด

00:39:4000:39:43 มันจะย้อนขึ้นมาที่คอนะทำให้รู้สึกจุก

00:39:4300:39:46 แน่นคอแล้วก็อึดอัดตอนนอนได้แต่อีกอย่าง

00:39:4600:39:48 นึงก็คือว่าเวลาที่เรากินข้าวไปเนี่ย

00:39:4800:39:51 กระเพาะลำไส้มันไม่คามดาวให้เราเลยมันยัง

00:39:5100:39:53 มีการทำงานเยอะอยู่เพราะฉะนั้นร่างกายเรา

00:39:5300:39:56 ก็ยังถูกกระตุ้นบ่อยๆอุณหภูมิกายยังมีการ

00:39:5600:39:59 สูงอยู่เราจะหลับได้ยากขึ้นนะครับเรื่อง

00:39:5900:40:02 ของพฤติกรรมการกินแล้วคาเฟอีนแล้วออก

00:40:0200:40:06 กำลังกายไม่แนะนำในช่วง 3 ช่โมงก่อนนอน

00:40:0600:40:09 บางคนคิดว่าให้เหนื่อยๆจะได้หลับได้ดี

00:40:0900:40:11 >> แต่จริงๆมันสวนทางกับการนอนตรงที่ว่า

00:40:1100:40:14 อุณหภูมิกายมันสูงขึ้นหัวใจเต้นเร็วเต้น

00:40:1400:40:17 แรงส่วนทางกับการนอนปกติจะต้องมีหัวใจ

00:40:1700:40:20 เต้นช้าลงอุณหภูมิกายเริ่มน้อยลงถ้าเป็น

00:40:2000:40:22 ยกเวทเบาๆพอได้ยกเวทที่มันไม่มีการ

00:40:2200:40:25 กระตุ้นของหัวใจเนี่ยพอ

00:40:2500:40:28 >> ใช่แต่คาร์ดิโอเนี่ยไม่ควรจะ 3 ช่โมงควร

00:40:2800:40:30 จะห่างเกิน 3 ชั่วโมงก่อนจะหลับร่างกายก็

00:40:3000:40:32 จะหลับได้ดีขึ้นเนาะเรื่องของน้ำอุ่นน้ำ

00:40:3200:40:35 ร้อนอันนี้ก็แล้วแต่บุคคลเพราะบางคนจะบอก

00:40:3500:40:39 ว่าอาบน้ำร้อนก็ดีเราก็รู้สึกผ่อนคลาย

00:40:3900:40:41 เนาะจริงๆก็แนะนำประมาณสักชั่วโมงนึงก่อน

00:40:4100:40:44 จะหลับก็ได้อุณหภูมิสูงพอสูงปุ๊บค่อยๆ

00:40:4400:40:46 ดรอปลงมาเอ้ยตอนดรอปเนี่ยเราจะหลับได้

00:40:4600:40:49 ง่ายขึ้นนะครับอ่ะแอลกอฮอล์จะบอกว่าเออ

00:40:4900:40:52 บางคนบอกว่ากินแล้วมันแบบรู้สึกว่าเคลิ้ม

00:40:5200:40:55 หลับได้ง่ายแต่มันจะมีผลในช่วงท้ายคืนจะ

00:40:5500:40:58 ทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้างเราจะมีระยะที่ฝัน

00:40:5800:41:02 ในช่วงท้ายคืนมากผิดปกปกตินะครับคือคน

00:41:0200:41:04 ปกติเขาจะฝันประมาณ 25% แต่ถ้าเกิดว่ากิน

00:41:0400:41:06 แอลกอฮอล์เยอะเนี่ยท้ายคืนจะฝันเยอะเป็น

00:41:0700:41:10 พิเศษและทำให้กล้ามเนื้อหย่อนตัวมากขึ้น

00:41:1000:41:12 ใครที่กรนอยู่จะกรนหนักขึ้นถ้ากิน

00:41:1200:41:15 แอลกอฮอล์และการหลับในช่วงท้ายคืนจะตื้น

00:41:1500:41:18 เป็นพิเศษนะครับก็จะเป็นการหลับที่ขาด

00:41:1800:41:20 คุณภาพเพราะฉะนั้นแนะนำว่าก็คือกินในปมาณ

00:41:2000:41:23 ที่เหมาะสมแล้วก็ไม่กินใกล้เวลานอนมาก

00:41:2300:41:26 เกินการงีบทำได้ถ้าไม่จำเป็นไม่ทำดีกว่า

00:41:2600:41:28 เพราะว่าเราจะเก็บความงีบนั้นไว้เป็นความ

00:41:2800:41:31 ง่วงนั้นน่ะไปสะสมทีเดียวคืนถัดไปเพราะ

00:41:3100:41:33 ว่าถ้าเรางีบเราเป็นการใช้ความง่วงเหมือน

00:41:3300:41:35 เราเป็นหนี้อยู่เนี่ยเราจะเก็บหนี้ไปใช้

00:41:3500:41:39 ทีเดียวเนี่ยตอนค่ำเลยดีมยแต่เราไม่มาแบบ

00:41:3900:41:42 ผ่อนจ่ายในช่วงตอนกลางวันการงีบอ่ะถ้า

00:41:4200:41:45 เป็นไปได้ไม่งีบดีกว่าถ้าทำได้นะแต่รู้

00:41:4500:41:48 สึกไม่สดชื่นมากๆจะต้องมีการงีบให้เลือก

00:41:4800:41:50 เวลางีบที่เหมาะสมคือไม่เกินประมาณ 14:00

00:41:5100:41:53 15:00 น.และงีบตั้งเวลาสั้นๆไม่เกิน

00:41:5300:41:56 ครึ่งชั่วโมงให้รู้สึกสดชื่นพอคืนนั้นก็

00:41:5600:42:00 จะนอนต่อได้นะครับอ่ะอื่นๆพฤติกรรมบน

00:42:0000:42:04 เตียงบางคนมีความคิดว่าจะต้องขึ้นเตียง

00:42:0400:42:07 เพื่อที่ว่าอยากจะนอนเร็วเคยมย

00:42:0700:42:07 >> อื

00:42:0700:42:09 >> อ่ะอยากจะนอนคืนนี้อยากนอนเยอะนอนเร็วนอน

00:42:0900:42:12 ดี 20:00 น.ขึ้นเตียงและแต่ยังไม่หลับนะ

00:42:1200:42:13 เล่นมือถือดูทีวี

00:42:1300:42:13 >> อ

00:42:1300:42:17 >> นะครับนอนอีกทีก็เที่ยงคืนอะไรอย่างเงี้ย

00:42:1700:42:19 ไม่มีประโยชน์เราจะทำให้ร่างกายเราเนี่ย

00:42:1900:42:22 บ่งบอกว่าที่นี่คือที่นอนที่นี่คือเตียง

00:42:2200:42:24 ขึ้นเตียงแล้วนอนเลยหลับได้เลยหลับได้

00:42:2400:42:26 ง่ายเมื่อเราให้ที่นี่คือที่นอนที่เดียว

00:42:2600:42:28 เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ในการนอนคำแนะนำก็คือ

00:42:2800:42:31 ว่าเราจะขึ้นเตียงบ้านเราง่วงเท่านั้น

00:42:3100:42:33 หลับปุ๊บ 2200- 23:00 น.ขึ้นเตียงปิดไฟ

00:42:3300:42:36 นอนเลยแต่จะไม่ขึ้นเตียงไปทำกิจกรรมอื่น

00:42:3600:42:39 บนเตียงเพื่อรอคอยความง่วงนะครับอันนี้จะ

00:42:3900:42:43 ทำให้นอนยากขึ้นนะและตอนเช้าถ้าเกิดว่า

00:42:4300:42:46 นาฬิกาปลุกดังตื่นแล้วลุกเลยอย่าพยายาม

00:42:4600:42:49 สนูทต่อการสนูทเนี่ยเป็นการกระตุ้นสมอง

00:42:4900:42:52 อีกะคือแบบว่าหลับต่ออ่ะดังอีกะดังอีกะ

00:42:5200:42:54 เรื่อยๆอย่างเงี้ยนะครับร่างกายก็เหมือน

00:42:5400:42:56 ถูกกระตุ้นบ่อยๆก็เป็นผลที่ไม่ดีต่อร่าง

00:42:5600:42:59 กายนะครับแล้วก็เราต้องจัดเตียงเป็นที่

00:42:5900:43:02 นอนจริงๆคือเมื่อตื่นก็คือตื่นลุกเลยหลับ

00:43:0200:43:05 ก็ปิดไฟแล้วก็หลับเลยนะครับสมองถึงจดจำ

00:43:0500:43:06 ว่าที่นี่คือที่นอนแล้วเราจะขึ้นเตียงเรา

00:43:0600:43:08 จะหลับง่ายขึ้น

00:43:0800:43:10 >> อืเป็นคำแนะนำที่ดีมากๆค่ะ

00:43:1000:43:12 >> คุณหมอมีทริกมั้คะว่าพอเราตื่นขึ้นมาแล้ว

00:43:1200:43:14 เนี่ยเราจะทำยังไงให้ร่างกายเราตื่นตัว

00:43:1400:43:16 ว่าเฮ้ยเนี่ยตื่นแล้วนะหรือว่าสมองหรือ

00:43:1700:43:18 จิตใจของเราเตรียมพร้อมสำหรับวันนี้

00:43:1800:43:21 >> ถ้าแนะนำก็คือว่าตื่นมาแล้วเนี่ยกินน้ำ 1

00:43:2100:43:23 แก้วจนหมดแก้วเลยคือวางไว้ตอนหัวค่ำเลย

00:43:2300:43:25 ว่าเราจะหลับแล้วตื่นขึ้นมา

00:43:2500:43:25 >> โค้ก

00:43:2500:43:28 >> ไม่น้ำเปล่าน้ำเปล่าตื่นมาเราก็ดื่มน้ำ

00:43:2800:43:31 อาจจะ 1 แก้วเนาะหมดแก้วแล้วให้ร่างกาย

00:43:3100:43:33 เราสดชืชื่นวันนี้คือเวลาที่เราจะตื่นไป

00:43:3300:43:36 ทำงานในแต่ละวันแล้วนะฮะหรือว่าอย่างคือ

00:43:3600:43:38 เวลาที่เหยียบกับพื้นเนี่ยคิดว่านี่คือ

00:43:3800:43:40 วันใหม่ละต้องทำอะไรให้ดีกว่าเดิมอย่าง

00:43:4000:43:41 เงี้ยนะครับ

00:43:4100:43:42 >> อจะต้องพูดกับตัวเองนิดนึง

00:43:4200:43:44 >> พูดกับตัวเองว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นวัน

00:43:4400:43:46 นี้ก็คือเป็นวันที่เราต้องทำให้ดีที่สุด

00:43:4600:43:47 อะไรอย่างเงี้ยครับ

00:43:4700:43:49 >> ตื่นมาแล้วไปถ่ายโทรศัพท์เลยเช็คเลยดี

00:43:4900:43:50 มั้ยคะไม่

00:43:5000:43:53 >> มันก็เป็นสิ่งที่ทำกันอยู่เนาะ

00:43:5300:43:54 >> ก็ใช่ก็ใช่

00:43:5400:43:57 >> อ่าแต่ว่าก็อย่าเพิ่งเลยอาบน้ำก่อนให้

00:43:5700:43:59 ร่างกายสดชื่นก่อนแล้วค่อยมารับรู้ข่าว

00:43:5900:44:00 สารนะครับ

00:44:0000:44:02 >> คำถามสุดท้ายสำหรับวันนี้ค่ะคุณหมอแพนด้า

00:44:0200:44:05 อยากรู้ว่าการฝึกสมาธิหรือว่าฝึกสติก่อน

00:44:0500:44:07 นอนน่ะมันมีส่วนช่วยในการบรรเทาหรือลด

00:44:0700:44:10 อาการแปลกๆที่เกิดขึ้นระหว่างนอนหลับได้

00:44:1000:44:10 มั้คะ

00:44:1000:44:13 >> ได้ฮะมีประโยชน์อย่างยิ่งเลยก็คือทำให้

00:44:1300:44:15 เรานอนได้ง่ายขึ้นอันนี้คือเบสิคที่สุด

00:44:1500:44:18 นอนได้ง่ายขึ้นนะครับทำให้ความกังวลความ

00:44:1900:44:21 คิดในช่วงระหว่างก่อนนอนเนี่ยมันมันลดลง

00:44:2100:44:24 โอกาสที่จะเกิดภาวะต่างๆเช่นนอนละเมอผิด

00:44:2400:44:28 ปกติหรือว่าในเรื่องของการฝันร้ายหรือว่า

00:44:2800:44:31 ผีอำเนี่ยมันก็น่าจะดีขึ้นถ้าถ้าเกิดเรา

00:44:3100:44:35 มีสติแล้วก็อยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด

00:44:3500:44:35 นะครับ

00:44:3500:44:38 >> อค่ะสติจำเป็นมากโดยเฉพาะจริงๆช่วงเวลาผี

00:44:3800:44:39 อำเองก็ต้องมีสติ

00:44:3900:44:41 >> ต้องมีสติไม่งั้นก็จะรู้สึกตื่นเต้นอะไร

00:44:4200:44:42 อย่างงี้เนาะ

00:44:4200:44:43 >> เออเดี๋แพนิคไปอีก

00:44:4300:44:44 >> ใช่ครับ

00:44:4400:44:46 >> โอเคค่ะวันนี้ก็ต้องขอขอบคุณคุณหมอมากๆ

00:44:4600:44:49 เลยนะคะสำหรับข้อมูลความรู้แล้วก็ไขคำตอบ

00:44:4900:44:52 คาใจหลายๆคนได้เลยแหละว่าเฮ้ยอาการต่างๆ

00:44:5200:44:55 ที่มันเกิดขึ้นกับเราเนี่ยมันมีคำตอบมตอบ

00:44:5500:44:56 กันแล้วนะคะ

00:44:5600:44:58 >> แล้ววันนี้ค่ะแพนด้าก็มี

00:44:5800:45:01 >> ชุดอ่ามีเสื้อมาให้คุณหมอค่ะจะบอกชุดนอน

00:45:0100:45:03 แต่จริงๆใส่ตอนไหนก็ได้นะคะเสื้อเกลาค่ะ

00:45:0300:45:05 เกลานิสัยอันตรายใส่ตอน

00:45:0500:45:06 >> ผ้านิ่มมากเลย

00:45:0600:45:08 >> อุ๊ยขอบคุณค่ะผ้านิ่มจริงนะคะทุกคน

00:45:0800:45:11 คอนเฟิร์มนะคะก็ใส่ตอนไหนก็ได้ใส่ตอนเช้า

00:45:1100:45:14 ตื่นมาเห็นก็ดีเหมือนกันเนาะอ่าในกระจก

00:45:1400:45:16 ค่ะอันนี้มอบให้คุณหมอเลยนะคะ

00:45:1600:45:18 >> แล้วก็สำหรับใครที่อยากได้เสื้อเกลาแบบ

00:45:1800:45:21 นี้ไปเริ่มต้นวันใหม่ดีๆนะคะก็สามารถสั่ง

00:45:2100:45:23 ซื้อได้ที่ใต้ description นี้เลยนะคะทาง

00:45:2300:45:26 เกลายังมีกระเป๋าผ้าเกลานะคะแล้วก็หมวก

00:45:2600:45:28 เกลาด้วยนะคะมาเป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ

00:45:2800:45:30 แล้วก็ถ้าใครนะคะที่ยังอยากติดตามคอนเทน

00:45:3000:45:32 จากคุณหมอเพราะว่าเฮ้ยฟังวันนี้เราชอบมาก

00:45:3200:45:34 ๆนะคะติดตามได้ที่ทางไหนบ้างคะ

00:45:3400:45:37 >> ก็เพจหมอไม้หูคอจมูกและการนอนหลับนะครับ

00:45:3700:45:39 ก็มีทั้ง Facebook แล้วก็ TikTok ครับ

00:45:3900:45:41 >> ฝากติดตามคุณหมอแล้วก็ติดตามเกลาด้วยนะคะ

00:45:4100:45:43 กดไลก์กดแชร์คลิปนี้ไปให้คนที่คุณรักนะคะ

00:45:4300:45:45 หรือว่าจะส่งคลิปนี้นะคะไปให้คนใน

00:45:4500:45:48 ครอบครัวที่มีอาการแปลกๆตอนนอนหลับก็ได้

00:45:4800:45:50 นะคะยังไงก็ฝากสนับสนุนพวกเราด้วยนะคะเจอ

00:45:5000:45:53 กันใหม่ EP ต่อไปนะคะทั้งคุณหมอแล้วก็ทุก

00:45:5300:45:55 ท่านเลยค่ะวันนี้ขอบคุณมากๆค่ะ

00:45:5500:45:58 >> ครับสวัสดีครับสวัสดีครับ

00:45:5800:46:07 [เพลง]

00:46:0700:46:18