00:00:00 → 00:00:05 สวัสดีครับผมรอชมธงทองมีหลายเรื่องที่คน
00:00:05 → 00:00:08 ไทยเข้าใจผิดทำไมนับเรื่องที่เกี่ยวกับผม
00:00:09 → 00:00:12 เช่นผมพูดว่าไม่ให้ดื่มน้ำผลไม้
00:00:12 → 00:00:16 ยูทูปเปอร์บางคนที่ชอบโหนคลิปไม่มีแสง
00:00:16 → 00:00:19 สว่างในตัวเองก็ไปอ้างว่าผมไม่ให้กิน
00:00:19 → 00:00:23 ผลไม้ผมบอกว่าไม่ให้กินข้าวไม่ให้กินแป้ง
00:00:23 → 00:00:27 ก็ไปใช้คำว่าผมไม่ให้กินครับมันคนละความ
00:00:27 → 00:00:30 หมายกันเลยจริงอยู่ไอ้ตัวโมเลกุล
00:00:30 → 00:00:34 คาร์โบไฮเดรตนั้นมันให้พลังงานและให้โทษ
00:00:34 → 00:00:37 แก่ร่างกายแต่ว่าเราจำเป็นต้องกินเพราะ
00:00:37 → 00:00:42 ว่ามันมีสารอาหารและไฟเบอร์ที่พ่วงติดมา
00:00:42 → 00:00:45 กับมันอย่างเช่นผักก็ถือว่าเป็นคาร์ฟแต่
00:00:45 → 00:00:48 คุณกินผักไม่ใช่ว่าคุณอยากจะได้
00:00:48 → 00:00:51 คาร์โบไฮเดรตคุณกินผักเพราะว่าคุณอยากจะ
00:00:51 → 00:00:54 ได้ไฟเบอร์อยากจะได้สารอาหารที่เรียกว่า
00:00:54 → 00:00:57 ไมโครทิชเชอร์ที่มันอยู่ในนั้นไวตามิน
00:00:57 → 00:01:00 เกลือแร่แร่ธาตุต่างๆคุณไม่ได้กินเป็นผัก
00:01:00 → 00:01:03 เพื่อให้มีแรงไม่มีกำลังทำงานแบบวัวแบบ
00:01:03 → 00:01:07 ควายแต่ว่ามันคนละเรื่องกับข้าวขาวข้าว
00:01:07 → 00:01:11 กล้องมีความเข้าใจผิดอันนึงที่ผมได้ยินมา
00:01:11 → 00:01:14 บ่อยมากก็ชอบบอกว่าคุณนี่โชคดีจังกินเท่า
00:01:14 → 00:01:17 ไหร่ก็ไม่อ้วนแล้วผมจะมาบอกในคลิปนี้ว่า
00:01:17 → 00:01:21 คนที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนเนี่ยรวมถึงผม
00:01:21 → 00:01:24 ด้วยในอดีตผมก็กินเยอะแต่ไม่ค่อยอ้วนไม่
00:01:24 → 00:01:28 ใช่ว่าโชคดีต้องกันข้ามครับเป็นโชคร้าย
00:01:28 → 00:01:32 เดี๋ยวคลิปนี้จะอธิบายให้ฟังและต้องบอก
00:01:32 → 00:01:35 ก่อนว่าคลิปนี้เป็นคลิปที่ 30 ก้าวถ้า
00:01:35 → 00:01:38 เกิดคุณไม่ได้ดูพื้นฐานมาก่อนหน้านี้มี
00:01:38 → 00:01:42 ถึง 38 คลิปแนะนำให้กดไอคอนของช่องลอย
00:01:42 → 00:01:47 Academy ไปที่ Playlist ดูที่วิว full
00:01:47 → 00:01:50 Playlist ไล่ดูตามลำดับอย่างไรก็ตามถ้า
00:01:50 → 00:01:53 เกิดคุณกด Subscribe มันก็จะขึ้นมาเรื่อย
00:01:53 → 00:01:56 ๆและถ้ากดกระดิ่งคุณก็จะไม่พลาดในคลิปถัด
00:01:56 → 00:01:59 ไปผมพยายามอ่านทุกคอมเมนต์แต่ว่า comment
00:01:59 → 00:02:01 เยอะเหลือเกิน comment ที่ผมจะเห็นก่อนก็
00:02:01 → 00:02:04 คือ Comment ของสมาชิกคนที่กดปุ่มจอยซึ่ง
00:02:04 → 00:02:07 อาจมองไม่เห็นในเครื่อง Apple คุณต้องยืม
00:02:07 → 00:02:10 เครื่อง Android หรือ Windows ของเพื่อน
00:02:10 → 00:02:13 มาใช้ก่อนในคลิปนี้ผมอยากจะบอกว่าอ้วน
00:02:13 → 00:02:17 ง่ายดีกว่าอ้วนยากแล้วคนที่อ้วนยากนั้นมี
00:02:17 → 00:02:21 โอกาสเป็นเบาหวานได้สูงกว่าและคำว่าเบา
00:02:21 → 00:02:23 หวานที่ผมพูดเนี่ยมันไม่ใช่แค่โลกเบาหวาน
00:02:24 → 00:02:27 มันรวมถึงอัลไซเมอร์ด้วยปัจจุบันเขาก็ถือ
00:02:27 → 00:02:30 ว่าเอาไซเมอร์นั้นเป็นเบาหวานประเภทที่ 3
00:02:30 → 00:02:33 และมะเร็งเนี่ยมันชอบมากเลยคือน้ำตาลและ
00:02:33 → 00:02:37 อินซูลินมันสัมพันธ์กับการเป็นอัมพาตและ
00:02:37 → 00:02:41 โรค ncd อีกหลายสิบโรคที่ทำให้โรงพยาบาล
00:02:41 → 00:02:45 ล้นในขณะนี้เพราะฉะนั้นเวลาพูดว่าเบาหวาน
00:02:45 → 00:02:49 มันไม่ใช่แค่โลกของเบาหวานแต่มันรวมถึง
00:02:49 → 00:02:53 สุขภาพที่ดีอายุที่ยืนยาวคนที่เป็นเบา
00:02:53 → 00:02:56 หวานนั้นอายุสั้นเพราะมันเกี่ยวข้องกับ
00:02:56 → 00:03:00 ทั้งระบบที่สำคัญและคนเข้าใจผิดมากก็คือ
00:03:00 → 00:03:04 มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอ้วนหรือผอมคนผอม
00:03:04 → 00:03:08 ก็เป็นเบาหวานได้และจะเป็นเบาหวานได้ง่าย
00:03:08 → 00:03:11 มากเลยถ้าเกิดคุณผอมโดยพันธุกรรมหมายความ
00:03:11 → 00:03:14 ว่าทุกคนเนี่ยมีสิทธิ์เป็นเบาหวานไม่เท่า
00:03:14 → 00:03:17 กันคำว่าเบาหวานที่ว่านี้ก็คือความดื้อ
00:03:17 → 00:03:20 ต่ออินซูลินหรืออินซูลินมันไม่มี
00:03:20 → 00:03:23 ประสิทธิภาพต่างคนก็มีสิทธิ์ที่จะเกิด
00:03:23 → 00:03:27 ภาวะดื้อต่ออินซูลินไม่เท่ากันคนที่ผอม
00:03:27 → 00:03:31 เนี่ยโดยเฉพาะผอมโดยพันธุกรรมคนที่บอกว่า
00:03:31 → 00:03:34 ตัวเองอ่ะกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนถ้าเขา
00:03:34 → 00:03:38 ทะลึ่งไปกินแป้งกินน้ำตาลแล้วก็กินหลายๆ
00:03:38 → 00:03:41 มื้อแบบเพื่อนที่อ้วนง่ายกินเท่ากันเลยนะ
00:03:41 → 00:03:45 เขาจะมีแนวโน้มที่เป็นเบาหวานได้ง่ายซึ่ง
00:03:45 → 00:03:48 หมายถึงเบาหวานประเภทที่ 2 เบาหวานประเภท
00:03:48 → 00:03:52 ที่ 1 นั้นมีน้อยมากๆนะทุกครั้งที่ผมพูด
00:03:52 → 00:03:54 ถึงเนี่ยผมหมายถึงเบาหวานประเภทที่ 2
00:03:54 → 00:03:58 เหตุผลก็คือคนผอมเนี่ยพุงเขาไม่กางออกมา
00:03:58 → 00:04:03 เหมือนกับว่าไม่มีอ่างมารองรับน้ำตาลไอ้
00:04:03 → 00:04:05 การที่มันอ้วนนั้นไอ้การที่ร่างกายมัน
00:04:05 → 00:04:09 อ้วนเนี่ยก็คือมันไม่อยากเป็นเบาหวานมัน
00:04:09 → 00:04:12 เลยเปลี่ยนน้ำตาลให้มาเป็นไขมันแต่ไอ้คน
00:04:12 → 00:04:15 ที่ไม่ยอมเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมันหรืออ้วน
00:04:15 → 00:04:18 ยากแบบน้ำตาลมันก็ไหลอยู่ในกระแสเลือด
00:04:18 → 00:04:21 นั่นแหละความเข้มข้นของน้ำตาลในเลือดมัน
00:04:21 → 00:04:25 ก็เลยสูงกว่าคนอ้วนเพราะฉะนั้นถ้าเกิดคุณ
00:04:25 → 00:04:28 ผอมโดยพันธุกรรมหรือที่เรียกว่ากินเท่า
00:04:28 → 00:04:31 ไหร่ก็ไม่อ้วนอันดับแรกก็คืออย่าพยายาม
00:04:31 → 00:04:35 อ้วนโดยการกินแป้งกินน้ำตาลกินหลายๆมื้อ
00:04:35 → 00:04:38 ขอให้หยุดเพราะคุณจะเป็นเบาหวานได้ง่าย
00:04:38 → 00:04:43 มากคุณไม่มีพุงมารองรับแบบคนปกติคุณเป็น
00:04:43 → 00:04:46 มนุษย์ที่ไม่ปกติแบบผมเนี่ยกินแล้วไม่
00:04:46 → 00:04:49 ค่อยอ้วนและถ้าเกิดคุณอยากเพิ่มน้ำหนัก
00:04:49 → 00:04:51 คุณจะต้องกินน้อยมื้อนั่นแหละอย่างที่ผม
00:04:51 → 00:04:54 บอกตลอดเวลาให้กินน้อยมื้อแต่ว่าเน้น
00:04:54 → 00:04:58 โปรตีนมากขึ้นโปรตีนที่เข้มข้นที่สุดก็
00:04:58 → 00:05:00 คืออกไก่แต่ไม่ได้หมายว่าคุณกินแต่อกไก่
00:05:00 → 00:05:04 นะครับคุณก็ยังกินไข่กินเครื่องในสัตว์
00:05:04 → 00:05:07 กินถั่วโดยเฉพาะคนที่เป็นโรคไตหรือเสี่ยง
00:05:07 → 00:05:11 ต่อโรคไตคุณต้องลดโปรตีนจากสัตว์แล้วก็มา
00:05:11 → 00:05:14 กินโปรตีนจากพืชหลายคนเข้าใจผิดนึกว่าคน
00:05:14 → 00:05:18 ที่เป็นโรคไตนั้นเกิดจากโปรตีนนึกว่ากิน
00:05:18 → 00:05:20 โปรตีนเยอะแล้วจะกลายเป็นโรคไตแต่ว่า
00:05:20 → 00:05:23 โปรตีนจากสัตว์มันมีส่วนที่จะทำให้โรคไต
00:05:23 → 00:05:27 เลวร้ายลงขณะที่โปรตีนจากพืชดีกว่าสำหรับ
00:05:27 → 00:05:30 คนเป็นโรคไตเหตุที่ผมแนะนำให้คุณกิน
00:05:30 → 00:05:33 โปรตีนเพราะว่าผมอยากจะให้คุณสร้างกล้าม
00:05:33 → 00:05:35 เนื้อและกล้ามเนื้อมันจะสร้างได้ก็ต่อ
00:05:35 → 00:05:38 เมื่อคุณเล่นเวทหรือออกกำลังกายที่มันมี
00:05:38 → 00:05:40 แรงต้านเยอะๆ
00:05:41 → 00:05:44 มีคนเขาถามว่าถ้าเป็นกรรมกรเนี่ยมัน
00:05:44 → 00:05:47 จำเป็นต้องกิน 3 มื้อกิน 2 มื้อกิน 1
00:05:47 → 00:05:49 มื้อไม่ได้หรอกและผมอยากจะบอกว่ามันไม่
00:05:49 → 00:05:53 จริงคนที่เขากิน 3 มื้อนั้นเป็นเพราะว่า
00:05:54 → 00:05:58 ร่างกายมันชินกับการใช้กลูโคสมันไม่เคย
00:05:58 → 00:06:01 ใช้คีโตมาก่อนมนุษย์เนี่ยมันสามารถใช้
00:06:01 → 00:06:05 กลูโคสแบบวัวก็ได้หรือคีโตแบบเสือก็ได้
00:06:05 → 00:06:11 แต่ว่าคนส่วนมากใช้กลูโคสแบบวัวไม่ได้ใช้
00:06:11 → 00:06:15 คีโตแบบเสือแล้วใช้แบบนี้มาหลายสิบปีจน
00:06:15 → 00:06:18 ร่างกายมันลืมไปแล้วว่าตัวเองใช้คีโตได้
00:06:18 → 00:06:22 และผมต้องอธิบายอย่างนี้ไอ้คีโตที่ผมพูด
00:06:22 → 00:06:25 ถึงนั้นคือพลังงานคีโตมันเป็นสิ่งที่ตรง
00:06:25 → 00:06:30 ข้ามกับพลังงานกลูโคสแต่คำว่าอาหารคีโต
00:06:30 → 00:06:34 ที่คุณเคยได้ยินบ่อยๆมันหมายถึงสูตรอาหาร
00:06:34 → 00:06:37 อย่างหนึ่งในข้อที่ 3 ของสไลด์นี้เดี๋ยว
00:06:37 → 00:06:41 ผมอธิบายสไลด์นี้ให้ฟังคือคนส่วนมากที่
00:06:41 → 00:06:46 กินขนมจีบกะเพราไข่ดาวข้าวราดแกงเรียกว่า
00:06:46 → 00:06:51 มีคาบ 70% นี่คืออาหารปกติของคนไทยยุคนี้
00:06:51 → 00:06:55 รวมถึงใช้น้ำมันพืชด้วยถ้าไม่ออกกำลังกาย
00:06:55 → 00:06:59 ถ้าไม่เป็นเบาหวานคุณก็คาบเส้นของการเป็น
00:06:59 → 00:07:03 เบาอาหารสุขภาพไม่ดีมีโอกาสเป็นโรคอื่นๆ
00:07:03 → 00:07:07 ได้มากมายอันที่ 2 ก็คือสูตรการกินแบบที่
00:07:07 → 00:07:10 ผมกินเรียกว่าโรคาเป็นคาร์โบไฮเดรตที่
00:07:10 → 00:07:13 พ่วงมากับไฟเบอร์เยอะๆแล้วก็สารอาหาร
00:07:13 → 00:07:17 ไวตามินเกลือแร่ที่ผูกมากับมันเช่นผัก
00:07:17 → 00:07:21 ผลไม้ผมก็กินทั้งลูกอย่างเบอร์รี่ไม่ว่า
00:07:21 → 00:07:24 จะเป็นบลูเบอร์รี่ราสเบอรี่เชอรี่
00:07:24 → 00:07:27 Blackberry Strawberry แม้แต่ Apple ผม
00:07:27 → 00:07:31 ก็กินทั้งเปลือกผมกินค้าประมาณ 30% ขาย
00:07:31 → 00:07:36 ที่ไขมันโปรตีน 70% คนที่กินแล้วอย่างนี้
00:07:36 → 00:07:39 และกินวันละมื้อแม้ว่าสิ่งที่ผมกินเนี่ย
00:07:39 → 00:07:43 ไม่ถือว่าเป็นอาหารคีโตแต่ผมกินแค่วันละ
00:07:43 → 00:07:47 มื้อพลังงานคีโตมันเกิดสำหรับคนที่
00:07:47 → 00:07:51 ต้องการลดความอ้วนหรือมีภูมิต้านทานต่อ
00:07:51 → 00:07:55 พืชผักได้น้อยรวมถึงคนที่ไม่สามารถกิน
00:07:55 → 00:07:58 มื้อเดียวได้อย่างผมและเค้าจำเป็นจะต้อง
00:07:58 → 00:07:59 กิน 2 มื้อ
00:07:59 → 00:08:03 หรือบางคนต้องกิน 3 มื้ออย่างนี้เขาก็อาจ
00:08:03 → 00:08:06 จะขยับมากินสิ่งที่เรียกว่าคีโต
00:08:06 → 00:08:09 เจนิคไดเอทภาษาไทยเรียกสั้นๆว่าอาหารคีโต
00:08:09 → 00:08:13 แต่ผมไม่อยากให้คุณสับสนระหว่างอาหารคีโต
00:08:13 → 00:08:17 กับพลังงานคีโตพลังงานคีโตนั้นเป็นสิ่ง
00:08:17 → 00:08:21 ที่ดีเป็นสิ่งที่ภิกษุที่กินวันละมื้อ
00:08:21 → 00:08:23 เนี่ยมี
00:08:23 → 00:08:26 แล้วผมเชื่อว่าพระพุทธเจ้าก็มีพลังงาน
00:08:26 → 00:08:27 คีโต
00:08:27 → 00:08:31 แต่คนไทย 99% ไม่มี
00:08:31 → 00:08:36 ขณะที่อาหารคีโตเจนิคไดเอทหมายถึงคุณกิน
00:08:36 → 00:08:39 ครับน้อยมากๆเลยเรียกว่าไม่มีสิทธิ์กิน
00:08:39 → 00:08:43 ข้าวเลยกินแค่ 10% เท่านั้นเองสิ่งที่กิน
00:08:43 → 00:08:47 ได้ก็คือผักผลไม้ก็กินไม่ได้กินได้อย่าง
00:08:47 → 00:08:50 เก่งก็พวก bearry กินได้นิดหน่อยแล้วก็
00:08:50 → 00:08:54 เน้นไขมันเยอะๆโปรตีนรองลงไปคนพวกนี้จะ
00:08:54 → 00:08:58 เน้นไข่โดยเฉพาะไข่แดงน้ำหนักจะลดลงอย่าง
00:08:58 → 00:09:02 รวดเร็วแล้วก็เขาสามารถฟื้นฟูสุขภาพได้
00:09:02 → 00:09:05 อย่างรวดเร็วและถ้าจะเอาให้แรงไปกว่านั้น
00:09:05 → 00:09:09 นะอยากจะลดน้ำหนักให้เร็วไปกว่านั้นหรือ
00:09:09 → 00:09:12 จะรักษาเบาหวานให้หายเร็วไปกว่านั้นคุณ
00:09:12 → 00:09:14 ต้องขยับไปใช้สูตรที่เรียกว่า conenival
00:09:14 → 00:09:18 Diet หรือที่คนไทยชอบเรียกว่า CD พวกนี้
00:09:18 → 00:09:22 จะกินแต่สัตว์หมายความว่าเขาจะกินไข่
00:09:22 → 00:09:26 เครื่องในแล้วผมย้ำหลายครั้งว่าเวลาผมพูด
00:09:26 → 00:09:29 ถึงสัตว์ผมไม่ได้หมายความว่าเนื้อสัตว์ผม
00:09:29 → 00:09:31 อยากให้คุณกินสัตว์ไม่ได้หมายความว่าผม
00:09:31 → 00:09:34 อยากให้คุณกินเนื้อสัตว์ผมหมายถึงเครื่อง
00:09:34 → 00:09:40 ในไขกระดูกไข่ทุกส่วนของสัตว์แล้วคุณจะ
00:09:40 → 00:09:42 กินให้ครบเนี่ยส่วนมากมันจะเป็นปลาตัว
00:09:42 → 00:09:46 เล็กๆที่คุณสามารถกินได้ครบทุกส่วนของมัน
00:09:46 → 00:09:50 ปลาซาดีนหรือแมคเคอเรลที่มีอยู่ในปลา
00:09:50 → 00:09:53 กระป๋องชั้นดีมันถึงเป็นอาหารที่ดีอย่าง
00:09:53 → 00:09:56 ไรก็ตามไอ้ Carnival Diet ไม่ได้หมาย
00:09:56 → 00:10:00 ความว่าคุณไม่กินพืชเลยนะคุณจะติดพืชกิน
00:10:00 → 00:10:04 เข้าไปบ้างเช่นคนกินสเต็กคุณก็อยากจะใส่
00:10:04 → 00:10:07 กระเทียมพริกไทยไอ้พวกนี้มันเล็กๆน้อยๆคน
00:10:07 → 00:10:11 ที่กินคาร์นิวอร์เขาก็กินกันหลายคนเขาก็
00:10:11 → 00:10:16 ชอบรสเผ็ดเขาก็ใส่พริกในระยะยาวเท่าที่ผม
00:10:16 → 00:10:20 อ่านงานวิจัยแล้วก็ฟังจากผู้รู้เนี่ยเรา
00:10:20 → 00:10:25 ยังเชื่อว่าโลกาฟไดเอทเป็นอาหารที่ดีที่
00:10:25 → 00:10:29 สุดสำหรับชีวิตที่ยืนยาวเพราะฉะนั้นถ้า
00:10:29 → 00:10:32 เกิดคุณกินหลายมื้อแล้วอยู่ๆอยากจะมา
00:10:32 → 00:10:35 เปลี่ยนกินมื้อเดียวแบบผมเนี่ยในวันพรุ่ง
00:10:35 → 00:10:39 นี้คุณจะล้มเหลวคุณจะทำไม่ได้คุณจะต้อง
00:10:39 → 00:10:42 เตรียมซะก่อนก็คือจากการที่เคยกินไม่เป็น
00:10:42 → 00:10:45 มื้อไม่ได้เข้าเรียนชั้นอนุบาลเนี่ย
00:10:45 → 00:10:48 มาเรียนชั้นอนุบาลให้จบซะก่อนก็คือกินแค่
00:10:48 → 00:10:51 3 มื้อจาก 3 มื้อคุณก็ปรับมาเป็น 2 มื้อ
00:10:51 → 00:10:54 ก็คือเรียกว่าชั้นประถมจากสองมือค่อยหัด
00:10:54 → 00:10:58 มาเรียนชั้นมัธยมก็คือกิน 1 มื้อเมื่อคุณ
00:10:58 → 00:11:01 กิน 1 มื้อได้ระยะหนึ่งร่างกายมันจะรู้
00:11:01 → 00:11:04 แล้วว่าตัวเองสามารถใช้คีโตได้แต่ว่ามัน
00:11:04 → 00:11:07 อาจจะใช้ได้ไม่นานนะคุณจะต้องฝึกไปเรื่อย
00:11:07 → 00:11:10 ๆช่วงแรกมันอาจจะมีสิ่งที่เรียกว่าใกล้
00:11:10 → 00:11:15 คีโตก็คือคุณจะไม่มีแรงตลอดทั้งวันมันจะ
00:11:15 → 00:11:20 โหยหากลูโคสแต่คุณยังต้องพยายามทำต่อไปนะ
00:11:20 → 00:11:23 บางคนอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนบางคนปาเข้า
00:11:23 → 00:11:27 ไป 2 เดือนนู่นจึงจะหมดไอ้อาการไข้ที่ว่า
00:11:27 → 00:11:30 นี้แล้วคุณเชื่อผมเหอะคุณกิน 1 มื้อคุณก็
00:11:30 → 00:11:34 เป็นกรรมกรได้แล้วคนที่ติดกับการกินแป้ง
00:11:34 → 00:11:37 กินน้ำตาลเขาจะอ่อนเพลียได้ง่ายสังเกต
00:11:37 → 00:11:40 เวลาที่คุณกินข้าวเข้าไปนะผ่านไป 10 นาที
00:11:40 → 00:11:43 15 นาทีคุณจะรู้สึกอ่อนเพลียคุณจะต้อง
00:11:43 → 00:11:48 โหยหาคาเฟอีนกาแฟมาดื่มให้รู้สึกตื่นตัว
00:11:48 → 00:11:51 แต่ว่าเวลาผ่านไป 4 ชั่วโมงคุณก็กลับมา
00:11:51 → 00:11:55 หิวใหม่ผมเรียกอาการนี้ว่าใครครับก็คือ
00:11:55 → 00:11:58 คุณต้องกินข้าวทั้งวันแบบหมวกและถ้าเกิด
00:11:58 → 00:12:02 คุณอยากจะกินวันละมื้อแล้วมีกำลังทั้งวัน
00:12:02 → 00:12:07 คุณจะต้องลดครับมากินไขมันดีๆเยอะๆกิน
00:12:07 → 00:12:10 โปรตีนเยอะๆคุณก็จะมีพลังแบบเสือไม่ได้
00:12:10 → 00:12:14 กินมา 2 วันยังมีแรงล่าสัตว์เลยแล้วถ้า
00:12:14 → 00:12:19 เกิดคุณผ่านไข้คีโตที่ว่านี้ไปได้นะบางคน
00:12:19 → 00:12:21 อาจจะใช้เวลา 2 เดือน 3 เดือนก็แล้วแต่
00:12:21 → 00:12:24 คุณจะถึงจุดที่เรียกว่า Fat อะแดปเตอร์
00:12:24 → 00:12:28 แม้ว่าจะอดข้ามวันคุณก็ไม่โหยหาและถ้า
00:12:28 → 00:12:31 เกิดคุณเป็นแฟน adapted ขั้นสูงสุดเรียก
00:12:31 → 00:12:34 ว่าจบปริญญาเอกเงี้ยคือคนที่อดได้ตั้งแต่
00:12:34 → 00:12:38 95 ชั่วโมงขึ้นไปคนพวกนี้จะไม่หิวแล้วจะ
00:12:38 → 00:12:42 ให้เขาอดจนตายเขาก็ไม่หิวผมเรียกสภาวะ
00:12:42 → 00:12:46 หนี้ว่าฤาษีไม่ได้หมายความว่าคุณจะอดตลอด
00:12:46 → 00:12:49 ไปได้ก็คือคุณอดตลอดไปคุณก็ตายแต่สิ่งที่
00:12:49 → 00:12:52 เกิดขึ้นก็คือคุณมีแรงและคุณไม่หิวแล้ว
00:12:52 → 00:12:55 คุณจะรู้ว่าไอ้สิ่งสิ่งนี้สิ่งที่ผม
00:12:55 → 00:12:58 พยายามบอกตลอดเวลาเนี่ยมันยิ่งกว่าถูก
00:12:58 → 00:13:01 รางวัลที่ 1 ซะอีกถ้าเกิดคุณค้นพบว่าตัว
00:13:01 → 00:13:04 เองทำได้ในระหว่างที่อดนั้นไม่ได้หมาย
00:13:04 → 00:13:06 ความว่าคุณกินแต่น้ำนะครับคุณจะต้องกิน
00:13:06 → 00:13:10 เกลือเกลือแร่ไวตามินเท่าที่จำเป็นคุณอาจ
00:13:10 → 00:13:13 จะกินอาหารเสริมบางตัวในปริมาณน้อยนิด
00:13:13 → 00:13:17 แล้วก็อาหารกลุ่มที่ support fasting ก็
00:13:17 → 00:13:20 คือไม่หยุดฟาสคือจะต้องไม่มีแป้งและน้ำ
00:13:20 → 00:13:23 ตาลเลยมีโปรตีนไขมันได้นิดหน่อยขอให้เป็น
00:13:23 → 00:13:26 เกลือแร่แล้วก็กากใยและในช่วงที่อดนั้น
00:13:26 → 00:13:30 ถ้าเกิดคุณกินไอ้พวกไฟโตนิวเทรนซ์ดีๆเข้า
00:13:30 → 00:13:33 ไปมันจะดูดทรัพย์เร็วมากและนี่เป็นตัว
00:13:33 → 00:13:37 อย่างนึงเท่านั้นเองคุณสามารถทำเองได้ไอ้
00:13:37 → 00:13:40 ที่ผมแนะนำตลอดเวลาก็คือเครื่องเทศอิตาลี
00:13:40 → 00:13:44 ขมิ้นชันอบเชยเทศงาดำแมงลักพริกไทยดำ
00:13:44 → 00:13:48 กระเทียมผงโกโก้ชามัทฉะใบมะรุมและต้อง
00:13:48 → 00:13:51 เป็นใบมะรุมอ่อนเท่านั้นใบมะรุมอ่อนผมถือ
00:13:51 → 00:13:54 ว่าเป็นอาหารแต่ถ้าเกิดคุณกินใบมะรุมแก่
00:13:54 → 00:13:57 เมื่อไหร่ถือว่าเป็นสมุนไพรหรือว่าเป็นยา
00:13:57 → 00:14:01 มันจะต้องมีการควบคุมปริมาณและผมย้ำหลาย
00:14:01 → 00:14:03 ครั้งว่าคุณทำเองได้แต่ถ้าไม่มีเวลาก็
00:14:03 → 00:14:07 สามารถสั่งซื้อได้ในราคาไม่แพงผ่านทาง
00:14:07 → 00:14:10 ไลน์ลอย Choice หรือโทรไปตามสไลด์ที่เห็น
00:14:10 → 00:14:13 สำหรับคนที่อ่อนเพลียง่ายเพราะว่าร่างกาย
00:14:13 → 00:14:16 ของคุณยังไม่เป็นแฟดอะแดปเตอร์ผมก็แนะนำ
00:14:16 → 00:14:19 อาหารธรรมชาติที่มันสามารถ Boost Energy
00:14:19 → 00:14:22 ของคุณได้ง่ายๆนะโดยที่ไม่ต้องไปพึ่งพา
00:14:22 → 00:14:26 เครื่องดื่มชูกำลังอาหารที่ว่านั้นก็คือ
00:14:26 → 00:14:30 พวกกาแฟอาราบิก้าดีกว่าโรบัสต้าชามมะลิชา
00:14:30 → 00:14:35 ดำอู่หลงมัชฌาย์ซึ่งเป็นชาเขียวเข้มข้น
00:14:35 → 00:14:38 แล้วผมก็อธิบายในคลิปก่อนหน้าอันตรายของ
00:14:38 → 00:14:42 เครื่องดื่มชูกำลังที่เขียนว่าผสมไวตามิน
00:14:42 → 00:14:43 เนี่ยไอ้ไวตามินเหล่านั้นมันไม่มี
00:14:43 → 00:14:47 ประโยชน์ยังไงหาดูจากคลิปก่อนหน้าได้เอา
00:14:47 → 00:14:49 ล่ะครับคลิปนี้ก็สั้นๆขอขอบพระคุณที่ติด
00:14:49 → 00:14:51 ตาม
00:14:51 → 00:14:55 และหลายคนก็บอกว่าดีใจเหลือเกินที่ได้มา
00:14:55 → 00:14:59 อยู่ลัทธิกินน้อยอิ่มนานยกให้ผมเป็นเจ้า
00:14:59 → 00:15:03 ลัทธิสุดโต่งที่ค้านสายตาของหมอหลายคนแต่
00:15:03 → 00:15:07 ก็มีหมอจำนวนไม่น้อยที่เห็นด้วยกับผมว่า
00:15:07 → 00:15:10 การป้องกันโรคนั้นมันสำคัญกว่าการรักษา
00:15:10 → 00:15:14 โรคและรักษาที่ต้นปอมันสำคัญกว่าการใช้ยา
00:15:14 → 00:15:17 แล้วถ้าเกิดคุณเห็นว่าคลิปนี้ดีมี
00:15:17 → 00:15:20 ประโยชน์ก็อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนให้คนที่
00:15:20 → 00:15:24 คุณรักได้รู้โดยเฉพาะคนที่ผอมและคิดว่า
00:15:24 → 00:15:30 ตัวเองนั้นปลอดภัยจากเบาหวานเขาคิดผิดและ
00:15:30 → 00:15:33 วิธีง่ายๆที่จะดูคลิปอื่นในชุดเดียวกันก็
00:15:33 → 00:15:37 กด Link ที่อยู่บนหัวผมในขณะนี้เป็นชุด
00:15:37 → 00:15:40 สุขภาพแล้วก็ลิงค์ที่ YouTube เชื่อว่า
00:15:40 → 00:15:45 คุณสนใจอยู่ข้างล่างในขณะนี้ขอขอบพระคุณ
00:15:45 → 00:15:48 ที่ติดตามสวัสดีครับ