00:00:00 → 00:00:02 กินวิตามินเวลาไหนร่างกายดูดซึมดีที่สุด
00:00:03 → 00:00:05 นะมันต้องมีเวลากินด้วยเหรอผมก็นึกว่า
00:00:05 → 00:00:08 วิตามินเนี่ยก็กินตอนอยากกินเวลาไหนก็
00:00:08 → 00:00:11 อยากกินไปเถอะอะไรอย่างเงี้ยคือสะดวก
00:00:11 → 00:00:13 เมื่อไหร่ก็กินมันไม่เหมือนยาไงผมความรู้
00:00:13 → 00:00:16 สึกผมเหมเป็นแบบอมันไม่ใช่ยาที่กินออาหาร
00:00:16 → 00:00:18 มันไม่จำเป็นอะไรอย่างเงี้รึเปล่าอะไร
00:00:18 → 00:00:21 เงี้ยค่ะดูเหมือนกันนะอย่างเงี้เอาเอา
00:00:21 → 00:00:24 เป็นว่าเอาเริ่มที่ทำคำถามนี้เลยก็ได้ค่ะ
00:00:24 → 00:00:28 หมอก็จริงๆจริงๆก็เป็นไปได้เหมือนกันนะ
00:00:28 → 00:00:31 ที่แบบว่าเออกินเวลาไหนก็ได้อะไรเงี้จริง
00:00:31 → 00:00:35 ก็ก็เอาอย่างงี้ก่อนนะฮะในส่วนของถ้าเป็น
00:00:35 → 00:00:39 เอ่อคือคำถามนี้ก็เป็นคำถามที่ที่ดีเนาะ
00:00:39 → 00:00:42 ก็คือหมายความว่าวิตามินเนี่ยเอ่อจริงๆ
00:00:42 → 00:00:46 แล้วเนี่ยเรากินเวลาไหนดีที่สุดเนาะก็มัน
00:00:47 → 00:00:50 ก็ต้องไปดูว่าเออเราอย่างแรกเราควรกิน
00:00:50 → 00:00:54 วิตามินหรือเปล่าเนาะอแล้วก็อย่างที่ 2
00:00:54 → 00:00:58 วิตามินนั้นน่ะเป็นวิตามินเ่อที่เป็นชนิด
00:00:58 → 00:01:01 แบบไหนวิตามินที่ละลายในไขมันหรือว่าเป็น
00:01:01 → 00:01:04 วิตามินที่ละลายในน้ำเนาะอันนี้คราวนี้
00:01:04 → 00:01:08 เนี่ยสำคัญอันนี้ผมไม่แน่ใจว่าไอ้วิตามิน
00:01:08 → 00:01:11 เนี่ยเราหมายถึงวิตามินที่เป็นวิตามิน
00:01:11 → 00:01:15 จริงๆหรือวิตามินที่เป็นผลิตภัณฑ์เสริม
00:01:15 → 00:01:18 อาหารอ๋ออ่าซึ่งจริงๆแล้วมันมันก็ไม่ได้
00:01:18 → 00:01:21 มีแค่วิตามินอย่างเดียวมันก็จะมีพวก
00:01:21 → 00:01:25 วิตามินแร่ธาตุหรือว่าพวกกรดอะมิโนหรือ
00:01:25 → 00:01:28 ว่าพวกเอ่อเค้าเรียกว่าฟิช Oil อะไรพวกเย
00:01:28 → 00:01:30 อ่าพวกพวกเด้วยด้วยเพราะฉะนั้นเนี่ยไอ้
00:01:30 → 00:01:35 พวกเนี้ยโดยรวมๆเนี่ยทางเค้าเรียกว่าทั่ว
00:01:35 → 00:01:37 ไปเนี่ยก็จะเรียกว่าเป็นวิตามินทั้งหมด
00:01:37 → 00:01:40 เลยนะนะครับแต่จริงๆแล้วเนี่ยมันมันมีมาก
00:01:40 → 00:01:44 กว่าวิตามินแต่คราวนี้เนี่ยถ้าเราถ้าเรา
00:01:44 → 00:01:49 โฟกัสแค่วิตามินเลยเนาะถ้ากรณีจริงๆแล้ว
00:01:49 → 00:01:52 ผมผมผมว่าถ้าจะบอกว่าวิตามินเนี่ยกินตอน
00:01:52 → 00:01:55 ไหนก็ได้เนี่ยก็ถูกเหมือนกันนะแต่ว่ามัน
00:01:55 → 00:01:57 ก็อาจจะไม่ได้ได้หมายคว่าอาจจะไม่ได้
00:01:57 → 00:02:01 ประสิทธิภาพหรือว่าประสิทธิผลที่ที่ดีนะ
00:02:01 → 00:02:04 ครับอตามที่เราคาดหวังนะครับเพราะฉะนั้น
00:02:04 → 00:02:07 ถ้าตามหลักการแล้วเนี่ยถ้าเป็นวิตามินที่
00:02:08 → 00:02:12 ละลายในไขมันเนี่ยค่ะอ่าเค้าแนะนำว่าควร
00:02:12 → 00:02:16 จะกินพร้อมอาหารนะครับค่ะหรือว่าเอ่ออาจ
00:02:16 → 00:02:19 จะเป็นในก่อนอาหารเนาะแต่ว่าแต่ถ้าเป็น
00:02:19 → 00:02:23 วิตามินที่ละลายในน้ำนะครับอันเนี้ยจริงๆ
00:02:23 → 00:02:27 แล้วกินเวลาไหนก็ได้นะครับอแต่มันก็ไม่
00:02:27 → 00:02:30 ถึงกับว่าเราจะกินเวลาไหนก็ได้ครับแบบ
00:02:30 → 00:02:33 ฟรีสไตล์เพราะว่าแบบวิตามินบางอย่างเนี่ย
00:02:33 → 00:02:38 มันก็ระวังผลบางอย่างค่ะอ่าเราก็จะมีการ
00:02:38 → 00:02:43 รับประทานตอนเช้าหรือตอนเย็นเพื่อหวังผล
00:02:43 → 00:02:45 อะไรอะไรแบบเนี้ยครับเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:02:45 → 00:02:49 เอ่อในส่วนของอย่างเช่นวิตามินบนะเราจะ
00:02:49 → 00:02:52 แนะนำว่าเฮ้ยกินตอนเช้าดีกว่าเนาะวิตามิน
00:02:52 → 00:02:55 ซีเราแนะนำว่าควรจะกินตอนเช้าดีกว่าเพราะ
00:02:55 → 00:02:58 ว่าพอกินตอนเย็นเนี่ยมันเค้าเรียกว่ามัน
00:02:58 → 00:03:03 จะทำให้โอกาสที่มันจะไปทำให้เกิดภาวะแทรก
00:03:03 → 00:03:05 ซ้อนต่อร่างกายมันจะสูงนะครับเพราะว่า
00:03:05 → 00:03:09 ปกติวิตามินซีเราต้องดื่มน้ำเยอะๆนะครับ
00:03:09 → 00:03:12 ถ้าไม่ดื่มน้ำเยอะๆเนี่ยมันจะทำให้แบบเรา
00:03:12 → 00:03:17 อาจจะมีภาวะที่เหมือนกับกระตุ้นให้เค้า
00:03:17 → 00:03:20 เรียกว่าทำให้เรามีนิ่วในร่างกายเกิดได้
00:03:20 → 00:03:22 เนาะเพราะฉะนั้นเนี่ยเราเ้าไม่แนะนำให้
00:03:22 → 00:03:25 รับประทานวิตามินซีตอนช่วงก่อนเข้านอน
00:03:25 → 00:03:29 เนาะเพราะเราจะไม่ได้ดื่มน้ำนะครับออคอ
00:03:29 → 00:03:33 โอโหแไปกลับกันเนี่ยอย่างแมกนีเซียมเราก็
00:03:33 → 00:03:37 เข้าใจว่าออถ้ากินตอนเข้านอนมันจะดีอัน
00:03:37 → 00:03:40 นี้ก็คือแล้วแต่ชนิดของวิตามินว่าเอ่อควร
00:03:40 → 00:03:44 กินตอนไหนเพื่อหวังผลอะไรสุกใช่ครับใช่
00:03:44 → 00:03:46 ครับแต่ว่าก็อย่างพูดถึงถ้าเป็น
00:03:46 → 00:03:49 แมกนีเซียมเนี่ยก็จะไปเป็นแร่ธาตุละอ่า
00:03:49 → 00:03:52 แต่ว่าถ้าโดยการรับรู้โดยภาพรวมก็จะอไม่
00:03:52 → 00:03:55 ต้องแยกอะไรกันละคือถ้าคนทั่วไปก็เหมาว่า
00:03:55 → 00:03:59 เอวิตามินอาหารวแต่ว่าจริงๆแล้วมันคือแร่
00:03:59 → 00:04:04 าคาตุิดซึ่งจริงๆแมกนีเซียมเนี่ยเราจะเรา
00:04:04 → 00:04:08 จะแนะนำให้รับประทานช่วงช่วงเย็นหรือก่อน
00:04:08 → 00:04:12 นอนเพราะว่าเราหวังผลในเรื่องของการทำให้
00:04:12 → 00:04:16 เกิดการผ่อนคลายนะครับแล้วก็ในในส่วนของ
00:04:16 → 00:04:20 การช่วยให้หลับง่ายขึ้นนะครับแล้วก็นอก
00:04:20 → 00:04:23 นั้นเนี่ยยังมีผลต่อการลดการตึงตัวของ
00:04:23 → 00:04:26 กล้ามเนื้อด้วยครับอครับอ่าเออถึงว่าผม
00:04:26 → 00:04:29 หรือว่าผมไปกินแมกนีเซียมอะไรมาตอนกลาง
00:04:29 → 00:04:33 วันกลางวันนะชวนชวนง่วงสักครั้ไหนไหนบอก
00:04:33 → 00:04:35 ผมไม่เคยกินวิตามินไม่กินไม่กินไงผมกิน
00:04:35 → 00:04:40 แต่ไวตามิลใช่มั้ยใช่เอออ๋อแต่ละอย่างมัน
00:04:40 → 00:04:44 ก็มีมีผลเอ่อไม่เหมือนกันวิธีการเอ่อที่
00:04:44 → 00:04:47 จะทำให้ใชกินไปแล้วเนี่ยวิตามินกินไปแล้ว
00:04:47 → 00:04:50 จะเกิดให้ประสิทธิผลต่อร่างกายก็ไม่
00:04:50 → 00:04:52 เหมือนกันถ้ากินช่วงไหนก็จะได้
00:04:52 → 00:04:55 ประสิทธิภาพ 150 80 อันนี้แล้วแต่ช่วง
00:04:55 → 00:04:58 เหมือนกันใช่ครับค่ะอือืก็ก็แต่ว่าจริงๆ
00:04:58 → 00:05:00 แล้วมันไม่ได้
00:05:00 → 00:05:04 ไม่ได้ิกขนาดนั้นใช่ครับก็อยู่ที่ความ
00:05:04 → 00:05:08 จำเป็นแล้วก็เอ่อความรุนแรงของการขาดค่ะ
00:05:08 → 00:05:12 กับวิตามินด้วยเนาะแต่ถ้าเรารับประทานใน
00:05:12 → 00:05:15 เชิงของการป้องกันเนี่ยเราก็ไม่ต้องไป
00:05:15 → 00:05:18 ซีเรียสอะไรมากก็ได้ครับอขอแค่ว่าเอ่อเรา
00:05:18 → 00:05:23 พอจะรู้ว่าเอออันนี้ควรจะกินช่วงไหนแค่
00:05:23 → 00:05:25 นั้นเองเนาะนะครับเหมือนเหมือนกับว่าถ้า
00:05:25 → 00:05:29 ร่างกายของเราไม่ได้ขาดวิตามินบางตัวไป
00:05:29 → 00:05:33 ครับก็ต่อให้กินในปริมาณที่เอ่ออยู่ใน
00:05:33 → 00:05:35 ช่วงเวลาที่ถูกต้องมันก็จะร่างกายก็จะใช้
00:05:35 → 00:05:38 ได้เท่านี้อยู่ดีแหละครับประมาณนี้ใช่
00:05:38 → 00:05:42 มั้ยฮะเอ่อแต่ถ้าถ้าร่างกายเราขาดวิตามิน
00:05:42 → 00:05:45 บางส่วนไปแต่ถ้าเรากินได้ต่อให้ไม่ถูก
00:05:45 → 00:05:47 จังหวะไม่ถูกช่วงมันก็ยังเสริมไปได้แต่
00:05:47 → 00:05:50 มันอาจจะไม่ได้ร้อยแต่ถ้ากินตรงช่วงเวลา
00:05:50 → 00:05:53 มันจะได้แบบโอ้โหประสิทธิภาพที่ดีขจะได้
00:05:53 → 00:05:56 ประสิทธิภาพอ่าก็อาจจะไม่ถึงกับต้อง
00:05:56 → 00:05:58 ซีเรียสมากแต่รู้ไว้ก็เป็นประโยชน์ดี
00:05:58 → 00:06:03 เหมือนกันนะครับครับอืขอมาที่ตัวตั้งต้น
00:06:03 → 00:06:06 ก่อนเลยยังไงฮะอยากรู้ว่าเอ๊ะร่างกายคน
00:06:06 → 00:06:09 เราเนี่ยต้องการวิตมินแร่ธาตุอะไรบ้างแบบ
00:06:09 → 00:06:12 มันมันจำเป็นแค่ไหนแบบเหมือนกับว่ามัน
00:06:12 → 00:06:16 ต้องมีความเสริมเข้าไปมั้ยหรือจริงๆแล้ว
00:06:16 → 00:06:20 การกินอาหารที่หลากหลายเอ่อหลายๆประเภท
00:06:20 → 00:06:24 หลายๆสีเนี่ยมันก็เพียงพอแล้วเราเราใช้
00:06:24 → 00:06:26 ชีวิตอย่างงั้นเหมือนถ้าคนในอดีตบอกว่า
00:06:26 → 00:06:28 ไม่เห็นจำเป็นต้องกินวิตามินเลยแต่เกิดมา
00:06:28 → 00:06:32 เนี่ยเออเอมันจำเป็นแค่ไหนคะหมอก็อันนี้
00:06:32 → 00:06:35 ก็เป็นคำถามที่มีการถกเถียงกันค่อนข้าง
00:06:35 → 00:06:38 เยอะเนาะในปัจจุบันซึ่ง
00:06:38 → 00:06:42 เอ่อในปัจจุบันคือจะพูดจะพูดแบบนี้ก็ถูก
00:06:42 → 00:06:44 ก็เหมือว่าจริงๆเราก็สามารถที่จะรับ
00:06:44 → 00:06:48 ประทานเอ่อวิตามินเ่อได้ได้สารอาหารต่างๆ
00:06:48 → 00:06:51 จากอาหารที่เรารับประทานได้อยู่แล้วเนาะ
00:06:51 → 00:06:55 แต่อันนั้นด้วยบริบทที่เราก็จะต้องแบบมี
00:06:55 → 00:07:00 เวลากับการดูโนกับการเอาใจใส่เเรียกว่าเ
00:07:00 → 00:07:04 เรียกว่าพิถีพิถันในการเลือกการรับประทาน
00:07:04 → 00:07:09 มีเวลาที่จะเลือกว่าอันนี้เอ่อแบบมีอาหาร
00:07:09 → 00:07:12 แบบเนี้ยนะมีสารอาหารครบหรือไม่อะไรเงี้ย
00:07:12 → 00:07:15 แต่ในปัจจุบันนะครับก็คืออาหารเนี่ยเอ่อ
00:07:15 → 00:07:20 มันมีแนวโน้มที่จะเอ่อมีสารอาหารที่ไม่
00:07:20 → 00:07:24 ครบเนาะนะครับเอ่อรวมจนถึงเอ่อกระบวนการ
00:07:24 → 00:07:28 ในการแปรรูปอาหารต่างๆด้วยมันก็จะทำให้
00:07:28 → 00:07:32 เอ่อวิตามินเนี่ยเนี่ยมันลดน้อยลง่ธาตุ
00:07:32 → 00:07:36 ต่างๆก็ลดน้อยลงอครับแต่ที่ที่แบบมากขึ้น
00:07:36 → 00:07:38 อย่างเด่นชัดก็จะเป็นพวกโซเดียมที่ค่อน
00:07:38 → 00:07:41 ข้างจะสูงนะครับเราก็มักจะได้โซเดียมที่
00:07:41 → 00:07:46 ค่อนข้างจะเกินนะครับค่ะก็ดูท่าทางจะไม่
00:07:46 → 00:07:48 ค่อยดีเท่าไหร่อะไรแบบเนี้ยอ่าแล้วก็
00:07:49 → 00:07:53 อาหารเอ่ออย่างไอ้ตรงตรงตรงคุณภาพอาหาร
00:07:53 → 00:07:56 เนี่ก็ส่วนนึงนะครับแล้วก็นอกจากนั้นนะ
00:07:56 → 00:08:00 ครับยังเป็นในส่วนของเรื่องของบางทีเรา
00:08:00 → 00:08:04 ไม่สามารถที่จะเลือกกินนได้อือได้แบบอ่า
00:08:04 → 00:08:08 เค้าเรียกว่าไม่มีเวลาในการเลือกกินแล้ว
00:08:08 → 00:08:11 กันเนาะในสภาพอ่าในสภาพในสภาพสังคม
00:08:11 → 00:08:15 ปัจจุบันที่เราจะต้องได้เร่งรีบอ่าแล้ว
00:08:15 → 00:08:17 เราก็กินอะไรง่ายๆไปก่อนนะครับไม่ว่าจะ
00:08:17 → 00:08:20 เป็นฟาสฟู้ดบ้างนะครับหรือว่าอาหารที่
00:08:20 → 00:08:22 ผ่านการแปรรูปต่างๆเนาะนะครับเพราะฉะนั้น
00:08:22 → 00:08:26 เนี่ยไอ้พวกเมันหาง่ายไงหาง่ายแล้วเราก็
00:08:26 → 00:08:30 มักจะได้กินแบบเนี้ยซ้ำๆอืบางคนกินอาหาร
00:08:30 → 00:08:34 แช่แข็งซ้ำๆหลายครั้งแช่แข็งออน้ำแข็งกิน
00:08:34 → 00:08:35 ทุกวัน
00:08:35 → 00:08:40 บก็แช่แข็งพวกอาหารแช่แข็งที่ฟีดอสดอหาร
00:08:40 → 00:08:43 แช่แขงงี้ใช่มั้ยเข้าใจผิดกลุ่มกลุ่ม
00:08:43 → 00:08:47 เนี้ยกลุ่มเนี้ยก็จะก็จะก็จะมีโอกาสที่จะ
00:08:47 → 00:08:49 เค้าเรียกว่าได้ได้รับสารอาหารที่ไม่ครบ
00:08:49 → 00:08:53 ค่อนข้างสูงเนาะแล้วก็มักจะได้โซเดียมที่
00:08:53 → 00:08:58 สูงเกินกว่าปกติด้วยนะครับอืตัวเนี้ยพอ
00:08:58 → 00:09:02 มันเป็นสถานการณ์แบบเนี้ยครับค่ะอ่าเรา
00:09:02 → 00:09:05 ถึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเอ้ยเราอาจจะต้องมอง
00:09:05 → 00:09:09 มองทางเลือกอีกทางนึงถ้าเราจะดูแลสุขภาพ
00:09:09 → 00:09:13 ในเชิงป้องกันน่ะอครับเอ่อการที่เราอาจจะ
00:09:13 → 00:09:19 ต้องคำนึงถึงว่าเอ๊ะเราจะขาดสารอาหาร
00:09:20 → 00:09:23 วิตามินหรือแร่ธาตุที่ร่างกายจำจำเป็น
00:09:23 → 00:09:28 ต้องใช้หรือไม่นะครับค่ะคือตรงเนี้ยสำคัญ
00:09:28 → 00:09:31 ที่ว่าพอพอเราขาดแล้วเนี่ยช่วงแรกๆเนี่ย
00:09:31 → 00:09:33 มันไม่ค่อยมีอาการครับใช่อ่ามันไม่ค่อยมี
00:09:33 → 00:09:36 อาการคือหรือไม่มีอาการเลยแหละมันน้อยมัน
00:09:36 → 00:09:39 บานจนเราไม่รู้สึกตัวใช่มั้คอใช่นะครับ
00:09:39 → 00:09:42 เพราะว่ามันเป็นภาวะก่อนเกิดโรคไงนะครับ
00:09:42 → 00:09:46 มันจะไม่เหมือนสมัยก่อนนะที่แบบเอ่อขาด
00:09:46 → 00:09:50 วิตามินเอ่อที่แบบชัดเจนมากๆอย่างเช่น
00:09:50 → 00:09:53 วิตามินซีเลือดออกกบปากแบบเนี้ยครับออก
00:09:54 → 00:09:56 เลือดออกตามไรฟันใช่เป็นเลือดออกตามไรฟัน
00:09:56 → 00:09:58 คือถ้าขนาดคือปัจจุบันเนี่ยมันไม่มีแบบ
00:09:58 → 00:09:59 นั้นหรอก
00:09:59 → 00:10:02 แต่แต่ไอ้ตรงนั้นน่ะถ้าเกิดแบบนั้นเนี่ย
00:10:02 → 00:10:05 คือแบบรุนแรงละเเรียกว่าเป็นโรคละเป็นโรค
00:10:05 → 00:10:07 โรคแล้วก็ปิดแล้วก็เปิดอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:10:07 → 00:10:11 แต่คือจริงๆแล้ววิตามินซีมันไม่ได้มีเ่อ
00:10:11 → 00:10:13 อันนี้เปรียบเทียบให้ฟังเนาะวิตามินซีมัน
00:10:13 → 00:10:15 ไม่ได้มีแค่ว่าโอทำให้เลือดออกตรฟันอย่าง
00:10:15 → 00:10:18 เดียวจริงก็คือที่มันออกได้เพราะว่าเอคอ
00:10:18 → 00:10:20 คอลลาเจนมันสร้างไม่ได้มันสร้างได้ไม่ดี
00:10:20 → 00:10:23 เพราะฉะนั้นเนี่ยระบบต่างๆรอวะต่างๆเนี่ย
00:10:24 → 00:10:26 ที่มีการใช้คอลลาเจนอะไรแบบเนี้ยมันก็จะ
00:10:26 → 00:10:28 กระทบไปก่อนอยู่แล้วครับเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:10:28 → 00:10:31 ร่างกายเราเนี่ยก็จะเค้าเรียกว่าเสื่อม
00:10:31 → 00:10:35 หรือว่าเอ่อบาดเจ็บได้ง่ายแล้วกันเนาะนะ
00:10:35 → 00:10:37 ครับไม่ว่าจะเป็นเอ่ออวัยวะต่างๆอะไร
00:10:37 → 00:10:39 อย่างเงี้ยเพราะฉะนั้นเนี่ยไอ้ตรงเนี้ย
00:10:39 → 00:10:42 มันเป็นมันเป็นตัวอย่างที่ที่ให้เห็นว่า
00:10:42 → 00:10:47 เอ่อถ้าเราปล่อยให้มันขาดไปอ่ะโดยที่เรา
00:10:47 → 00:10:50 ไม่ได้ไม่ได้มีการคำนึงถึงว่า
00:10:51 → 00:10:55 เอ่อว่ามันขาดเนาะรอแต่ว่าให้เอ้ยมันต้อง
00:10:55 → 00:10:58 มีอาการก่อนนะเราถึงจะต้องไปเสริมเงี้ย
00:10:58 → 00:11:02 เออพวกเนี้ยสุดท้ายแล้วมันจะแก้ไม่ได้นะ
00:11:02 → 00:11:04 ครับก็เป็นโรคถาวรไปอะไรแบบเนี้ยนะครับ
00:11:04 → 00:11:07 เพราะฉะนั้นในแนวการดูแลสุขภาพในปัจจุบัน
00:11:07 → 00:11:11 เนี่ยก็เอ่อต้องคำนึงถึงตั้งแต่ก่อนเกิด
00:11:11 → 00:11:16 โรคเพราะฉะนั้นเนี่ยการเสริมเอ่อวิตามิน
00:11:16 → 00:11:18 หรือสารอาหารบางอย่างหรือแล่ธาตุบางอย่าง
00:11:18 → 00:11:23 เนี่ยก็เป็นเค้าเรียกว่าช่องทางนึงที่
00:11:23 → 00:11:28 ต้องคำนึงถึงแล้วะกันนะแต่ว่าไม่คงไม่ไม่
00:11:28 → 00:11:33 ชี้ชัดว่าอือจำเป็นแต่ว่าสภาวะแต่ละคนไม่
00:11:33 → 00:11:37 เหมือนกันอือแต่ให้คำนึงถึงตลอดว่าเรามี
00:11:37 → 00:11:41 โอกาสที่จะมีการขาดอือ่าวิตามินหรือสาร
00:11:41 → 00:11:45 อาหารบางอย่างอยู่แต่เราไม่รู้เนาะนะครับ
00:11:45 → 00:11:47 เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะรู้นะครับคุณก็จะ
00:11:47 → 00:11:52 ต้องไปเค้าเรียกว่าหาผู้รู้อ่ะครับก็คือ
00:11:52 → 00:11:57 อย่าให้ไปพบแพทย์เนาะแพทย์ที่ทำหน้าที่ใน
00:11:57 → 00:12:01 การดูแลเรื่องเนี้ยส่วนใหญ่ก็จะเป็นแพทย์
00:12:01 → 00:12:06 ที่เป็นอ่าแพทย์แพทย์ในกลุ่มของเอ่อเค้า
00:12:06 → 00:12:10 เรียกว่าเอ่อแพทย์วิทยศาสตร์เ่อชะลอวัย
00:12:10 → 00:12:13 แต่แต่จริงๆตรงเนี้ยตรงเนี้ยจริงๆแล้วใน
00:12:13 → 00:12:18 ในเชิงในทางของสายอ่าแพทย์อ่ะเจะเจะไม่มี
00:12:18 → 00:12:21 สายนี้หรอกแต่ว่าคือเป็นแพทย์ที่มีการ
00:12:21 → 00:12:24 เค้าเรียกว่ามีการอบรมหรือเป็นการเรียน
00:12:24 → 00:12:28 หลักสูตรเพิ่มเติมเกี่ยวกับชะลอวัยชวอค
00:12:28 → 00:12:31 หรือว่าแพทย์เวทสัตวป้องกันหรือแพทย์เวท
00:12:31 → 00:12:34 สัตว์วิถีชีวิตพวกเนี้ยนะครับเขาก็จะ
00:12:34 → 00:12:36 สามารถที่จะดูตรงนี้ได้แต่จริงๆแพทย์
00:12:36 → 00:12:38 แพทย์ทั่วไปก็สามารถดูได้เหมือนกันครับ
00:12:38 → 00:12:42 สามารถดูได้ทุกๆสาขาแต่ว่าในส่วนตรงเนี้ย
00:12:42 → 00:12:46 หลายๆเ่อท่านแพทย์ที่จะโฟกัสเรื่องนี้ได้
00:12:46 → 00:12:51 มากก็ก็จะเอ่อเกี่ยวข้องกับแพทย์ที่เอ่อ
00:12:51 → 00:12:55 ที่ผมได้กล่าวมาเนาะอืค่ะครับซึ่งซึ่งตรง
00:12:55 → 00:12:59 เนี้ยมันจะทำให้เอ่อเราอ่ะสามารถที่จะรู้
00:12:59 → 00:13:03 ได้ว่าเออเราเรามีความจำเป็นมั้ยที่จะ
00:13:03 → 00:13:07 ต้องรับประทานอาหารเสริมหรือวิตามินนะ
00:13:07 → 00:13:10 ซึ่งซึ่งโดยปกติแล้วคนทั่วไปเองก็เหมือน
00:13:10 → 00:13:12 กับว่าอาจจะไม่ได้รู้ตัวใช่มั้ยฮะว่าตัว
00:13:12 → 00:13:15 เองขาดวิตามินประเภทไหนมากน้อยแค่ไหนจะ
00:13:15 → 00:13:18 ต้องเติมอะไรเข้าไปบ้างเพราะว่าพวกเมัน
00:13:18 → 00:13:20 มันไม่ค่อยจะส่งผลออกมาแบบให้เห็นแบบ
00:13:20 → 00:13:22 อย่างที่คุณหมอบอกเดี๋ยวนี้มันไม่ค่อยชัด
00:13:22 → 00:13:24 และไม่ค่อยเหมือนสมัยก่อนที่ว่าขาดก็คือ
00:13:24 → 00:13:28 มันแสดงผลออกมาชัดเจนเลยแล้วเราเราจะรู้
00:13:28 → 00:13:31 ตัวได้ยังไงว่าต้องไปตรวจเอ้ยตรวจว่าเรา
00:13:31 → 00:13:34 ขาดวิตามินอะไรหรือว่าอยู่พ่วงอยู่ในตรวจ
00:13:34 → 00:13:37 สุขภาพประจำปีอย่างงั้นเหรอคใช่อ๋อก็คือ
00:13:37 → 00:13:39 เอ่อปัจจุบันมันก็จะมีโปรแกรมการตรวจ
00:13:39 → 00:13:42 สุขภาพเเรียกว่าการตรวจสุขภาพเชิงป้องกัน
00:13:42 → 00:13:45 แล้วก็การตรวจสุขภาพที่แบบเชิงลึกนะซึ่ง
00:13:45 → 00:13:48 ตรงนั้นมันก็จะรวมการตรวจวิตามินไปด้วย
00:13:48 → 00:13:51 ครับอยากจะยกตัวอย่างวิตามินอันนึงที่แบบ
00:13:51 → 00:13:56 เเรามักจะขาดคก็คือวิตามินดีดีวิตามิน
00:13:56 → 00:14:01 ดอกคนทั่วโลกเลยหรือคนโซนเอ่อบ้านเราทั่ว
00:14:01 → 00:14:04 โลกทั่วโลกเลยทั่วโลกก็แต่ว่าประเทศไทย
00:14:04 → 00:14:08 เนี่ยจะเยอะหน่อยนะคเก็คือเอ่อแต่บ้านเรา
00:14:09 → 00:14:11 แดดร้อนจัดนะคะหมออ่าแดดร้อนจัดแต่ว่าก็
00:14:11 → 00:14:14 ขาดเหมือนกันคืออย่างว่าเอ่อวิตามินดี
00:14:14 → 00:14:17 เนี่ยจะเป็นวิตามินดีอ่าจะเป็นวิตามินที่
00:14:17 → 00:14:20 เ่อชนิดที่ละลายในในไขมันเนาะแล้วก็เอ่อ
00:14:20 → 00:14:25 เป็นวิตามินที่ร่างกายเราสามารถที่จะได้
00:14:25 → 00:14:29 รับได้โดยการสร้างสังเคราะห์ได้จากการโดน
00:14:29 → 00:14:31 แดดเนาะนะครับจากผิวหนังเราเนี่ยนะครับมี
00:14:31 → 00:14:34 การสังเคราะห์ขึ้นมาเป็นช่องทางหลักเลยนะ
00:14:34 → 00:14:37 ครับประมาณ 80% เ่อประมาณสัก 20% เนี่ย
00:14:37 → 00:14:41 ได้จากการเอ่อบริโภคจากอาหารนะครับจากการ
00:14:41 → 00:14:45 รับประทานเอ่อคือปัจจัยหลายๆอย่างเนี่ย
00:14:45 → 00:14:49 มันทำให้การที่เราได้รับวิตามินดีจากการ
00:14:49 → 00:14:52 สังเคราะห์เนี่ยอือจากการที่ได้โดนแสงแดด
00:14:52 → 00:14:55 เนี่ยมันไม่เพียงพอไม่ว่าจะเป็นการที่เรา
00:14:55 → 00:14:59 ต้องอยู่ในอาคารนะครับหรือว่าบางทีเราใส
00:14:59 → 00:15:03 ใส่เสื้อผ้าแขงยาวหนาหนาชัดหน่อยอ่าแล้ว
00:15:03 → 00:15:07 ก็การใช้เอ่อพวกครีมอะไเอ่อครีมกันแดด
00:15:07 → 00:15:10 ต่างๆเนี่ยก็จะทำให้เราเนี่ยสามารถสังคร
00:15:10 → 00:15:13 เราจะสังเคราะห์วิตามินดีได้ได้ไม่ค่อย
00:15:13 → 00:15:16 ไม่ค่อยเต็มประสิทธิภาพนะทำให้โดยภาพรวม
00:15:16 → 00:15:21 เนี่ยเอ่อเราก็จะขาดวิตามินดีอนะครับนะก็
00:15:21 → 00:15:23 อย่างว่าแหละเราได้วิตามินดีจากอาหาร
00:15:23 → 00:15:27 เนี่ยน้อยมากนะครับอาหารที่มีวิตามินดีก็
00:15:27 → 00:15:31 ก็จะอย่างเช่นอ่าอย่างเช่นน้ำมันตับปลา
00:15:31 → 00:15:35 น้ำมันตอะไรพวกเนี้ยนะก็คือแต่ไม่ใช่ทาง
00:15:35 → 00:15:38 หลักเนาะทางหลักก็จะเป็นที่คุณหมอบอกใช่
00:15:38 → 00:15:42 มันน้อยเพราะฉะนั้นเนี่ยเอ่อพอมีเ่อใน
00:15:42 → 00:15:45 ส่วนของตรงเนี้ยเราก็จะขาดวิตามินดีกัน
00:15:45 → 00:15:48 ค่อนข้างเยอะนะคราวนี้วิตามินดีเนี่ยมัน
00:15:48 → 00:15:52 จะเป็นวิตามินที่มีความสำคัญหลายๆหลายๆ
00:15:52 → 00:15:55 หลายๆอย่างนะนะครับไม่ว่าจะเป็นระบบคุม
00:15:55 → 00:15:59 คุ้มกันนะครับอ่าแล้วก็ในส่วนของการที่
00:15:59 → 00:16:03 ป้องกันการเกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์อือ
00:16:03 → 00:16:07 นะครับนอกจากนั้นเนี่ยยังเกี่ยวข้องกับ
00:16:07 → 00:16:10 เรื่องของเอ่อกระดูกเนาะนะครับทำให้
00:16:10 → 00:16:14 กระดูกเนี่ยมันเหมือนกับมีการอ่าเก็บสะสม
00:16:14 → 00:16:19 แคลเซียมนะครับอ๋ดีเป็นสมานใช่อ่าแล้วก็
00:16:19 → 00:16:23 ในส่วนอื่นๆก็จะมีเกี่ยวข้องกับเรื่องของ
00:16:23 → 00:16:26 เอ่อเค้าเรียก
00:16:26 → 00:16:30 ว่าเค้าเรียกว่าเกี่ยวกับการชะลอไวอ่ะทำ
00:16:30 → 00:16:34 ให้เซลล์อ่ะมันไม่มันไม่เสื่อมง่ายนะครับ
00:16:34 → 00:16:36 อันเนี้ยอันเนี้ยโดยภาพรวมนะครับนะอเพราะ
00:16:37 → 00:16:40 ฉะนั้นเนี่ยเอ่อพอเราขาดวิตามินดีเนี่ย
00:16:40 → 00:16:43 เอาง่ายๆภาพรวมเราเนี่ยก็เหมือนกับร่าง
00:16:43 → 00:16:47 กายเราเสื่อมง่ายออครับเพราะฉะนั้นการที่
00:16:47 → 00:16:48 เรา
00:16:48 → 00:16:52 จะเราจะรู้ได้ยังไงพวกเนี้ยคุณหมอเขาจะ
00:16:52 → 00:16:55 แนะนำให้มีการตรวจครับตรวจวิตามินดีเนาะ
00:16:55 → 00:16:59 นะครับซึ่งโดยระดับที่ปกปกติแล้วเนี่ยควร
00:16:59 → 00:17:04 จะมากกว่า 30 นะครับแต่ถ้าถ้าถ้าเถ้าต่ำ
00:17:04 → 00:17:07 กว่า 30 ลงมาเนี่ยถือว่าต่ำนะครับตรงนี้
00:17:07 → 00:17:11 ก็ก็ควรจะต้องกินเสริมนะครับอ่าครับอย่าง
00:17:11 → 00:17:15 ๆอย่างกรณีแบบเอ้ยสมัยก่อนอ่ะสมัยรุ่นผม
00:17:15 → 00:17:20 เรียนเรียนมหาลัยเรียนมัธยมปลายอะไรเงี้ย
00:17:20 → 00:17:23 มันจะมีประเภทพวกพี่เพื่อนแบบหน้าสูงไว
00:17:23 → 00:17:25 กว่าเพื่อนเรียกดโดนเรียกว่าน่าแกะอันนี้
00:17:25 → 00:17:28 เกี่ยวกับขาดวิตามินดีมอันนี้สงสัยแบบ
00:17:28 → 00:17:32 เกี่ยวมั้ยอันนี้อันนี้อาจจะเกนไวอ่ะเ
00:17:32 → 00:17:35 ทารกอะไเี้เหรออันนี้ก็พูดยากเหมือนกัน
00:17:35 → 00:17:38 อ๋อไม่อาจอาจจะเรื่องของอย่างอื่นเรื่อง
00:17:38 → 00:17:40 ใช่ก็มีทั้งคือจริงๆวันนี้ก็มีทั้งเรื่อง
00:17:40 → 00:17:41 ของ
00:17:41 → 00:17:44 พันธุกรรมเรื่องของเเรียกว่าสภาพแวดล้อม
00:17:44 → 00:17:48 ต่างๆด้วยนะครับอเอ๊ะที่คุณหมอบอกมามันมี
00:17:48 → 00:17:50 อันนึงที่เกี่ยวกับวิตามินดีแล้วเอ้ยมัน
00:17:50 → 00:17:54 มันมันดันไปขัดกับอีกอีกความรู้สึกนึงก็
00:17:54 → 00:17:57 คือเอ้ยอย่างอย่างคนที่ทาครีมกันแดดอ่ะ
00:17:57 → 00:17:59 เป็นประจำอย่างเงี้ยเขกลัวกลัวเรื่องของ
00:17:59 → 00:18:02 มะเร็งผิวหนังอ่าค่ะเออแต่ถ้าคุณกลัวมาก
00:18:02 → 00:18:05 เกินไปกูณทาเป็นประจำแต่มันก็อาจจะมีความ
00:18:05 → 00:18:09 แนวน้มที่เสียงขาดวิตามินดีได้อุ๊ยเขาจะ
00:18:09 → 00:18:11 ใช้ชีวิตยังไงเขาต้องสมดุลร่างกายชีวิต
00:18:11 → 00:18:15 ความคิดใหญ่คือจริงๆก็ปัจจุบันก็แนะถ้า
00:18:16 → 00:18:19 แดดในปัจจุบันนะครับก็แนะนำให้ทาทาครีม่า
00:18:19 → 00:18:23 ทาทาซันสกรีนดีกว่าเพราะว่าคือคือ
00:18:23 → 00:18:26 ปัจจุบันน่ะแดดมันค่อนข้างแรงแต่ว่าเอ่อ
00:18:26 → 00:18:29 ในส่วนตรงเนี้ยเราต้องเลือกแดดที่มันแบบ
00:18:29 → 00:18:32 ช่วงช่วงเช้าๆช่วงักประมาณเอ่อประมาณไม่
00:18:32 → 00:18:35 เกินสัก 10:00 นอะไรแบบเนี้ยครับในการ
00:18:35 → 00:18:38 แล้วก็จริงๆมันเราเราตักแดดสักประมาณสัก
00:18:38 → 00:18:41 วันละไม่ไม่ไม่ถึง 20 นาทีอะไรบบเยมันก็
00:18:41 → 00:18:44 พอได้แล้วครับแล้วก็แต่ถ้ามันไม่ได้จริงๆ
00:18:44 → 00:18:47 เนี่ยเราก็สามารถที่จะเสริมวิตามินดีแบบ
00:18:47 → 00:18:50 รับประทานได้มันก็จะมีวิวิตามินดีรับ
00:18:50 → 00:18:54 ประทานซึ่งตรงเนี้ยเอ่อก็อย่างที่บอกว่า
00:18:54 → 00:18:57 ไม่อยากให้ซื้อรับประทานเองเนาะก็อยากให้
00:18:57 → 00:19:01 เอใช่มั้ยไปประเมินแล้วก็เอ่อปรึกษาแพทย์
00:19:01 → 00:19:05 แล้วก็ถ้าแพทย์แนะนำว่าต้องรับประทานแบบ
00:19:05 → 00:19:08 ไหนอะไรยังไงอย่างเงี้ยหรือว่าไปจนถึงว่า
00:19:08 → 00:19:11 ต้องฉีดมยอะไรแบบเนี้ยก็ก็ก็ค่อยว่ากัน
00:19:11 → 00:19:14 อีกทีนึงเป็นขั้นตอนทำไมอ่ะทำไมเราถึงไม่
00:19:14 → 00:19:18 ควรคิดจะซื้อวิตามินมาทานเองอครับคุณหมอ
00:19:18 → 00:19:22 ครับเพราะว่าก็คือบางทีเราอาจจะรับประทาน
00:19:22 → 00:19:25 ไปโดยที่ไม่ได้ประโยชน์อะไรก็ได้เก็อมบาง
00:19:25 → 00:19:28 ทีเราไม่ได้ขาดตัวนั้นแต่เราไปซื้อมาก็
00:19:28 → 00:19:31 ถ้าร่างกายมันบล็อกการรับพวกวิตามินพวก
00:19:31 → 00:19:34 นี้ไว้ในขีดจำกัดลฮะประมาณนั้นมยไม่ๆครับ
00:19:34 → 00:19:37 ก็คือหมายึงว่าคือก็ต้องพูดอย่างนี้ก่อน
00:19:37 → 00:19:40 เนาะว่าถ้าวิตามินที่มันละลายในน้ำอ่ะมัน
00:19:40 → 00:19:42 มันมันก็มีโอกาสคือหมายคามว่าส่วนใหญ่
00:19:43 → 00:19:46 ร่างกายมันมักจะขับอขับออกค่อนข้างเร็ว
00:19:46 → 00:19:50 แต่ว่าถ้าวิตามินที่ละลายในไขมันน่ะอ่า
00:19:50 → 00:19:54 สามารถสะสมได้แต่ว่าอมันจะมีวิตามินอยู่
00:19:54 → 00:19:58 บางอย่างที่ที่มักจะเอ่ออยากให้กังวลก็
00:19:58 → 00:20:00 คือวิวิตมิน a ที่มักจะสะสมแล้วอาจจะเกิด
00:20:01 → 00:20:04 พิษได้อมันเป็นยังไงหรอครับเกิดพิษได้นะ
00:20:04 → 00:20:09 ครับซึ่งซึ่งตรงเนี้ยเอ่อถ้าเราถ้าเรารับ
00:20:09 → 00:20:12 ประทานไปโดยที่เราไม่รู้ว่าเรามีระดับที่
00:20:12 → 00:20:15 มันเกินอยู่แล้วหรือเปล่าหรือว่าปริมาณ
00:20:15 → 00:20:17 ที่เหมาะสมหรือเปล่าเนี่ยก็มีโอกาสเกิด
00:20:17 → 00:20:21 พิษจากวิตามินได้ออย่างงี้นี่เองอ่ะคุณ
00:20:21 → 00:20:24 ผู้ฟังระมัดระวังนะเอิไม่ใช่ว่าเอ่อนึก
00:20:24 → 00:20:27 ฟังรายการวันนี้แล้วพรุ่งนี้เราไปร้านขาย
00:20:27 → 00:20:30 ยาต่างๆครับปิ้งวิตามินเลยจ้ะก็ไม่ใช่ก็
00:20:30 → 00:20:34 ไม่ใช่ข้อข้อควรระวังอยู่พอสมควรใช่ครับ
00:20:34 → 00:20:38 ค่ะมีคุณผู้ฟังจากทางบ้านเมื่อกี้คุณหมอ
00:20:38 → 00:20:40 พูดถึงเรื่องตัวฟันที่มีเลือดออกใช่มั้ย
00:20:40 → 00:20:42 คะอาจจะเป็นเพราะว่ามีคอลลาเจนน้อยใช่
00:20:42 → 00:20:47 ครับอ่าแล้วถ้าเอ่อคอลลาเจนเนี่ยกินเสริม
00:20:47 → 00:20:50 ไปเนี่ยดีมยหรือว่ามันเหมาะสมหรือเปล่า
00:20:50 → 00:20:55 หรือใครที่ควรกินคอลลาเจนเสริมบ้างเอ่อใน
00:20:55 → 00:20:58 ส่วนของคอลลาเจนก็คือจริงๆแล้วร่างร่าง
00:20:58 → 00:21:02 กายเราอ่ะครับมันก็จะจะเหมือนว่าเราจะได้
00:21:02 → 00:21:06 เอ่อพวกกดเค้าเรียกว่ากดอมิโนอ่ะเราไปเอา
00:21:07 → 00:21:10 ไปแบบย่อยแล้วก็ไปสร้างเป็นคอลลาเจนอยู่
00:21:10 → 00:21:13 ละแต่ว่าพูดถึงว่ามันจะสร้างได้เร็วหรือ
00:21:14 → 00:21:18 ไม่อะไรแบบเนี้ยมันก็ขึ้นอยู่กับเอ่อว่า
00:21:18 → 00:21:21 เรามีสารตั้งต้นที่จะเอาไปใช้ในการสร้าง
00:21:21 → 00:21:25 คอลลาเจนเลยมยแต่คอลลาเจนเอ่อถ้าสมมุติ
00:21:25 → 00:21:28 ว่าเราไม่ได้มีปัญหาอะไรมากอ่ะเรามักจะ
00:21:28 → 00:21:31 ไม่ค่อยไม่ค่อยมีปัญหาในการในการสร้าง
00:21:31 → 00:21:34 คอลลาเจนนะครับรวมถึงอันที่สำคัญที่สุดก็
00:21:34 → 00:21:37 คือเราต้องมีวิตามินซีด้วยวิตามินซีจะ
00:21:37 → 00:21:40 เป็นตัวที่ตัวช่วยตัวร่วมในกระบวนการ
00:21:40 → 00:21:42 สร้างคอลลาเจนเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเราไม่
00:21:42 → 00:21:46 ได้ขาดวิตามินซีเราไม่ได้ขาดพวกโปรตีนเรา
00:21:46 → 00:21:49 ก็สามารถที่จะสร้างคอลลาเจนได้ด้วยด้วย
00:21:49 → 00:21:55 ตัวเราเองนะครับแต่ถ้ากรณีว่าเอ่อบางท่าน
00:21:55 → 00:21:58 นะครับมีเเรียกว่ามีภาวะที่ต้องการใช้ใช้
00:21:58 → 00:22:02 คอลลาเจนอย่างอย่างรวดเร็วเนาะเอ่ออาจจะ
00:22:02 → 00:22:05 ด้วยแบบบำรุงหรือว่าอะไรอย่างเงี้ยก็เรา
00:22:05 → 00:22:09 ก็จะเราก็จะมีการรับประทานพวกคอลลาเจนที่
00:22:09 → 00:22:12 มันสามารถดูดซึมไปไปได้ได้เร็วเนาะแล้วก็
00:22:12 → 00:22:14 เอาไปใช้ได้เลยอย่างเงี้ยครับเพจะมี
00:22:14 → 00:22:17 คอลลาเจนพวก type 2 คอลลาเจนอะไรแบบ
00:22:17 → 00:22:21 เนี้ยครับซึ่งตัวนี้ก็สามารถที่จะใช้รับ
00:22:21 → 00:22:24 ประทานเสริมได้ครับแต่ถ้าคือจริงๆแล้วมัน
00:22:24 → 00:22:29 ก็คงไม่ได้แบบเอ่อจะเห็นผลแบบชัดเจนขนาด
00:22:29 → 00:22:36 นั้นนะถ้าไม่ได้มีภาวะที่เอ่อจะเ้าเรียก
00:22:36 → 00:22:39 ว่ารับประทานไม่ได้เลยอย่างเงี้ยผมว่าก็
00:22:39 → 00:22:41 เสริมเป็นช่วงๆก็ได้ครับไม่ไม่ได้จำเป็น
00:22:41 → 00:22:44 จะต้องไปรับประทานคอลลาเจนให้มันให้แบบ
00:22:44 → 00:22:47 รู้สึกว่ามันจะต้องแบบเต่งตึงขึ้นแบบมาก
00:22:47 → 00:22:50 กว่ามากไปกว่านี้แล้วอะไรแบบเนี้ยออือค่ะ
00:22:50 → 00:22:53 เหมือนหลายๆท่านอาจจะรับประทานคอลลาเจน
00:22:53 → 00:22:56 เหมือนเสริมข้อเข่าอะไรอย่างเงี้ยอาจด้วย
00:22:56 → 00:23:00 ผู้สูงอายุหลายท่านเออเลือกซื้อคอลลาเจน
00:23:00 → 00:23:03 เกี่ยวกับเพราะว่าข้อเข่าเสียงดังก๊อบแกบ
00:23:03 → 00:23:06 ไอ้สิ่งเหล่าเนี้ยเอเป็นดังอย่างี้เพเข่า
00:23:06 → 00:23:09 ขาดคอลลาเจนรึเปล่าเออไม่มีตัวนี้ตัวนี้
00:23:09 → 00:23:11 อาจะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนคลาด
00:23:11 → 00:23:13 เคลื่อนอยู่นะเคื่อนไกลมเคลื่อนไปไก
00:23:13 → 00:23:17 เคลื่อนไปก็ประมาณนึงก็ประมาณนึงแต่ว่า
00:23:17 → 00:23:21 แต่ว่าตนี้มันจะลึกนิดนึงนะคือคือจริงๆ
00:23:21 → 00:23:25 มันมันมีหลายปัจจัยแล้วกันครับก็ไอ้ตรง
00:23:25 → 00:23:27 เข่ากอปแกบเนี่ยจริงๆเข่าเขคนเราก็จะมี
00:23:27 → 00:23:29 กอปแกบอยู่บ้านแต่ไม่รู้ว่าคก๊อปแก๊ป
00:23:29 → 00:23:31 เพราะเข่าเสื่อมหรือเปล่าหรือว่าก๊อปแก๊ป
00:23:31 → 00:23:34 เพราะว่าเอ่อบางทีมันมันก็เป็นเสียงที่
00:23:34 → 00:23:37 เกิดขึ้นได้ในในข้อเข่าค่ะหลายๆซึ่งซึ่ง
00:23:37 → 00:23:39 ไม่ได้เกิดจากเข่าเสื่อมก็มีนะครับคือมัน
00:23:39 → 00:23:42 มันสามารถดังได้เป็นปกติของร่างกายใช่แต่
00:23:42 → 00:23:45 ว่าเข่าเสื่อมก็จะมีลักษณะอีกแบบนึงซึ่ง
00:23:45 → 00:23:48 คุณหมอเจะตรวจแล้วมันจะมีการเสียงดังอีก
00:23:48 → 00:23:52 แบบนึงนะครับคราวนี้เนี่ยอหลายๆคนก็คือ
00:23:52 → 00:23:56 คืออันนี้เคยเคยเจอในตอนที่แบบตรวจอือ
00:23:56 → 00:24:00 ตรวจตามปกติอ่ะเนาะคือคือก็อันเนี้ยก็จะ
00:24:00 → 00:24:03 มาบอกว่าเอ้ยรู้สึกว่าเข่ามันดังอะไร
00:24:03 → 00:24:06 อย่างเงี้ยเข่าเสื่อมขาดอะไรอย่าเงี้ยขาด
00:24:06 → 00:24:08 คอลเจนขาดอะไรแบบเนี้ยเข่าเสื่อมแล้วหรือ
00:24:08 → 00:24:12 เปล่าอะไรแบบเนี้ยคือจริงๆมันก็มันมันคือ
00:24:12 → 00:24:14 พอตอนคือเข่าเนี่ยมันอาจจะมีดังอยู่ได้
00:24:14 → 00:24:16 นิดหน่อยแต่คราวนี้เนี่ยพอเราไม่ได้ปวด
00:24:16 → 00:24:18 ไม่ได้อะไรอย่างเงี้ยเราไม่ได้ไปโฟกัสมัน
00:24:18 → 00:24:22 เท่าไหร่เราก็จะไม่ได้แบบรู้สึกออ่าแต่
00:24:22 → 00:24:25 แต่บางคนก็ก็มีได้จริงๆหรือว่าบางคนมีการ
00:24:25 → 00:24:27 บาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรือว่าอะไรแบบ
00:24:27 → 00:24:30 เนี้ยด้วยเนื่องจากข้อมันไม่ไม่ไม่มั่นคง
00:24:30 → 00:24:34 อะไรแบบเนี้ยมันก็จะมีได้ซึ่งหมอก็จะค่อน
00:24:34 → 00:24:37 ก็จะต้องแยกให้อีกทีนึงครับานี้เนี่ยเอ่อ
00:24:37 → 00:24:42 ตรงเนี้ยก็เลยว่ามันก็ไม่ไม่ต้องไปกังวล
00:24:42 → 00:24:44 อะไรมากขนาดนั้นนะครับแล้วก็ปัจจัยในการ
00:24:44 → 00:24:47 ที่จะทำให้ว่าข้อเข่าเนี่ยมันต้องต้อง
00:24:47 → 00:24:50 เสริมอะไรอย่างเงี้ยมันมันมีหลายปัจจัย
00:24:50 → 00:24:53 มากเนารวมถึงน้ำไขข้อด้วยผิวกระดูกอ่อน
00:24:53 → 00:24:57 ด้วยนะครับนะเอซึ่งตรงเนี้ยคอลลาเจนก็
00:24:57 → 00:24:59 เป็นส่่วนหนึงแต่แต่ว่าเอ่อคงไม่ใช่ทั้ง
00:24:59 → 00:25:03 หมดนะครับค่ะอืย้อนกลับไปในช่วงที่คุณหมอ
00:25:03 → 00:25:06 บอกว่าวิตามินดีเรื่องวิตามินดีเนาะถ้า
00:25:06 → 00:25:09 ขาดเนี่ยมันจะกินเรื่องของวิตามินเสริม
00:25:09 → 00:25:11 เข้าไปได้วิตามินเสริมที่ว่าเนี่ยมันมัน
00:25:11 → 00:25:14 มันมีอะไรบ้างที่ไปเสริมในวิตามินดีครับ
00:25:14 → 00:25:17 เอ่อถ้าเป็นวิตามินดีเลยเนี่ยก็ก็จะเป็น
00:25:17 → 00:25:21 แบบก็เป็นวิตามินดีสำเร็จรูปนะครับแล้วก็
00:25:21 → 00:25:26 อีกอันนึงก็คือวิตามินดีที่อยู่ในน้ำมัน
00:25:26 → 00:25:31 ตับปลลาอ่าค่ะอ่าก็ฟิ Oil ใช่มยที่เขาเรก
00:25:31 → 00:25:33 เรียกกันคนละอย่างกันคือกำลังจะถามคุณหมอ
00:25:33 → 00:25:37 เลยว่าน้ำมันตักปลากับน้ำมันปลามันมัน
00:25:37 → 00:25:41 ต่างกันยังไงมันชื่อมันคล้ายกันมากเลยใช่
00:25:41 → 00:25:43 ๆหลายๆหลายคนก็จะคิดว่ามันเป็นอันเดียว
00:25:43 → 00:25:46 กันค่ะแต่ว่าชื่อมันคล้ายกันชื่อมันคล้าย
00:25:46 → 00:25:51 กันฮะแต่ก็มีส่วนที่ทับซ้อนกันอยู่เนาะโอ
00:25:51 → 00:25:55 น้ำมันน้ำมันปลาเนี่ยค่ะก็เป็นน้ำมันที่
00:25:55 → 00:26:01 ได้มาจากปลาครับสกัดมาจากตัวของปลานะเออ
00:26:01 → 00:26:06 ซึ่งพวกเนี้ยมันจะอุดมไปด้วยโอเมก้า 3
00:26:06 → 00:26:11 อ้าสารโอเมก้า 3 นะนะครับอ่าพวกเนี้ยเอ่อ
00:26:11 → 00:26:13 โอเมก้า 3 เนี่ยมันก็จะเป็นเค้าเรียกว่า
00:26:13 → 00:26:17 กดไขมันที่จำเป็นที่อือช่วยในเรื่องของ
00:26:17 → 00:26:21 การลดการอักเสบครับนะแล้วก็เค้าเรียกว่า
00:26:21 → 00:26:23 เกี่ยวกับเรื่องของการไหลเวียนของเลือด
00:26:23 → 00:26:25 อะไรแบบเนี้ยนะครับถ้าแบบภาพรวมเนาะ
00:26:25 → 00:26:29 ประมาณนี้แล้วก็เอ่อรถสล่ายอะไรแบบเงี้ย
00:26:29 → 00:26:33 นะครับแต่ถ้าเป็นน้ำมันตับปลาน้ำมันตับ
00:26:33 → 00:26:38 ปลาเนี่ยจะได้จากตับปลาที่เค้าเรียกว่า
00:26:38 → 00:26:43 ปลาคอสปลาคอสปลาคอสอ่าซึ่งพวกเนี้ยมันจะ
00:26:43 → 00:26:48 อุดมไปด้วยวิตามินเออืแล้วก็วิตามิน D อื
00:26:48 → 00:26:55 พวตัวเลยใช่นะเอ่อพวกเนี้ยมันจะมีตัว
00:26:55 → 00:26:58 โอเมก้า 3 เนี่ยอยู่ไม่เยอะครับเยอะเยอะ
00:26:58 → 00:27:00 เพราะฉะนั้นเนี่ยเราถ้าเราจะรับประทานให้
00:27:00 → 00:27:05 ถูกเราก็ต้องหมายคว่าเราอยากได้เสริมตัว
00:27:05 → 00:27:08 ไหนเนี่ยเราจะต้องเลือกให้ถูกถ้าโอเมก้า 3
00:27:08 → 00:27:11 ก็ต้องไปน้ำมันปลาใช่ครับแต่ถ้าวิตามิน a
00:27:11 → 00:27:15 หรือ D ให้ไปทางน้ำเสมวิตปเราต้องไปทาง
00:27:15 → 00:27:18 น้ำมันตับปลานะครับอผมถามต่อเลยในเมื่อ
00:27:18 → 00:27:21 เขามี a กับ D อยู่ในตัวเองซึ่งเราคุยกับ
00:27:21 → 00:27:24 a วิตามิน a มาแล้วส่วนหนึงที่คุณหมอบอก
00:27:24 → 00:27:27 ว่าถ้ามันได้เยอะเกินไปมันก็ไม่ดีมันสะสม
00:27:27 → 00:27:30 มันก็ไม่ดีอ่าแสดงว่ามันก็ย้อนกลับไปที่
00:27:30 → 00:27:32 คุณหมอบอกเพราะฉะนั้นต้องไปปรึกษาทำไม
00:27:32 → 00:27:35 ทำไมแล้วมันจะกินยังไงดีครับไอ้เจ้าน้ำ
00:27:35 → 00:27:39 มันตับปลาอุ้ยเฮ้ยเรามันมันมันคือส่วน
00:27:39 → 00:27:42 ใหญ่มันก็จะมีปริมาณที่ที่กำหนดไว้ในใน
00:27:42 → 00:27:46 แต่ละผลิตภัณฑ์เนาที่ให้รับประทานคือน้ำบ
00:27:46 → 00:27:48 ตับปลาเนี่ยมันจะมันจะเป็นช้อนแล้วกัน
00:27:48 → 00:27:51 ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบให้ให้รับประทานเป็น
00:27:51 → 00:27:54 ช้อนอ้าเหรอฮะอที่เม็ดๆที่ผมเห็นแต่เป็น
00:27:54 → 00:27:56 เม็ดก็มีเป็นเม็ดก็มีแต่ว่าส่วนใหญ่มันก็
00:27:56 → 00:28:00 จะมีปริมาณที่ที่เหมาะสมอยู่ก็คืออ่าส่วน
00:28:00 → 00:28:04 ใหญ่ไม่เกิน 30 30 เ่อเ้าเรียกว่าไม่
00:28:04 → 00:28:08 เกิน 30 มิลลต่อต่อวันใช่ครับแต่ว่าถ้า
00:28:08 → 00:28:11 เป็นในส่วนของิ Oil เนี่ยิช Oil หรือน้ำ
00:28:11 → 00:28:15 มันปลาเนี่ยมันจะเป็นมิลลิกรัมอมิลลิกรัม
00:28:16 → 00:28:19 ก็พวกเนี้ย pish Oil เนี่ยมันจะมีตัวเ่า
00:28:19 → 00:28:22 กดกดไขมันที่จำเป็นก็จะมี epa กับ dha
00:28:22 → 00:28:26 อยู่ในนั้นซึ่งตัวเนี้ยมันก็จะมีสัดส่วน
00:28:26 → 00:28:31 ของของกดไขมันอยู่ที่ที่มันควรจะอเป็นไป
00:28:31 → 00:28:34 ตามนั้นนะครับเพื่อเพื่อที่จะให้มันแบบ
00:28:34 → 00:28:38 เอ่อออกฤทธิ์ได้ดีเนาะนะครับครับพวกเนี้ย
00:28:38 → 00:28:43 เอ่อส่วนใหญ่เราจะแนะนำว่าเออประมาณ 1,000
00:28:43 → 00:28:46 มิลลิกรัมถึง 2,500 มิลลิกรัมแบบเนี้ยนะ
00:28:46 → 00:28:49 ครับต่อวันนะนะครับอันนี้จะคนละอย่างกัน
00:28:49 → 00:28:52 เพราะฉะนั้นเดี๋ยวถ้าจำผิดนี่เดี๋ยวไปรับ
00:28:52 → 00:28:56 ประทานเอ่อตัวน้ำมันตับปลาเยอะขึ้นไปนี่
00:28:56 → 00:28:59 จะได้วิตามินที่เกินอ๋อเพราะฉะนั้นก็ต้อง
00:28:59 → 00:29:02 ดูแต่น้ำมันปลาเนี่ยฟิช Oil เนี่ยจะรับ
00:29:02 → 00:29:05 ประทานได้เยอะใช่เพราะฉะนั้นก็ต้องดูตรง
00:29:05 → 00:29:08 ข้างขวดให้ดีๆก่อนนะว่าเป็นน้ำมันตับคา
00:29:08 → 00:29:11 หรือว่าใช่เขียนมาว่าอะไรเออใช่ชัคือไม่
00:29:11 → 00:29:14 ว่ายังไงก็ตามเ่ะถ้ามุมมองของผมครับก็
00:29:14 → 00:29:18 อยากให้อยากให้ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ทั้ง
00:29:18 → 00:29:21 นั้นเลยนะคือไม่อยากให้ซื้อกินเองค่ะเออ
00:29:21 → 00:29:23 พราะผมเหม็นน้ำมันตับปลาเนี่ยขายกันแบบ
00:29:23 → 00:29:28 ขายเยอะเียบเลยคือแบบคือมีอยู่ทั่วทุกทุก
00:29:28 → 00:29:31 เธอเข้าไปร้านไหนเธอก็เจอใช่ไปต่างประเทศ
00:29:31 → 00:29:33 นี่ก็เจอบ่อยในประเทศไทยก็เพียบเอออะไร
00:29:33 → 00:29:36 เงี้นะคแต่เคยอ่านผ่านๆมาแต่อาจจะไม่ไม่
00:29:36 → 00:29:39 แน่ใจขอสอบถามจากคุณหมอแล้วกันว่าเอ่อการ
00:29:39 → 00:29:42 กินน้ำมันปลาเยอะไปเนี่ยมันจะมีความ
00:29:42 → 00:29:45 เสี่ยงอะไรมั้ยเหมือนจะทำให้หัวใจเต้นผิด
00:29:46 → 00:29:48 จังหวะหรืออะไรทำนองนี้มั้ยคะเออไม่ครับ
00:29:48 → 00:29:52 ก็คือตรงนั้นก็อาจจะเป็นความเข้าใจที่
00:29:52 → 00:29:55 คลาดเคลื่อนแต่คือที่แน่ชัดที่สุดก็คือใน
00:29:56 → 00:30:00 เรื่องของการแข็งตัวของของเลือดค่ะที่อ
00:30:00 → 00:30:02 ที่อาจจะไม่ไม่ดีเค้าเรียกว่าทำให้การ
00:30:02 → 00:30:05 แข็งตัวของเลือดไม่มีประสิทธิภาพหมายถึง
00:30:05 → 00:30:08 ว่าที่ดีพอถ้ากินมากไปถ้ากินถ้าคือถ้ารับ
00:30:08 → 00:30:11 ประทานอยู่อ่ะครับค่ะเอ่อจะทำให้เลือดออก
00:30:11 → 00:30:15 ง่ายแล้วกันหยุดยากถ้ามีแผลอยู่มันจะ
00:30:15 → 00:30:18 เลือดเลือดจะออกออกแล้วหยุดยากหยุดช
00:30:19 → 00:30:22 เหมือนกับถ้าอันนี้ถ้าหมอที่เขาผ่าตัดอ่ะ
00:30:22 → 00:30:25 เขาจะแนะนำว่าให้หยุดตัวฟิช Oil มาก่อน
00:30:25 → 00:30:29 อ่ะประมาณสัก 1 อาทิตย์อะไรแบบเอ๋อน้มัน
00:30:29 → 00:30:32 ปลาเนี่ยนะอ่าน้ำมันปลานะนะเออพวกนี้มัน
00:30:32 → 00:30:37 จะทำให้เลือดน่ะไม่ค่อยแข็งตัวอ๋ออ่ายิ่ง
00:30:37 → 00:30:41 ถ้าไปกินอ่ารับประทานร่วมกับพวกยาต้านการ
00:30:41 → 00:30:44 แข็งตัวของเลือดหรือว่าพวกแินอะไรพวก
00:30:44 → 00:30:47 เนี้ยยิ่งยิ่งไปกันใหญ่เลยอ่าอันนี้เป็น
00:30:47 → 00:30:50 ความรู้ใหม่เลยค่ะหมอเพราะว่าอันนี้ถ้า
00:30:50 → 00:30:53 แชร์จากคนในครอบครัวที่คุณแม่ต้องไปส่อง
00:30:53 → 00:30:55 กล้องอะไรอย่าเงี้ยเพราะว่าตอนก่อนหน้า
00:30:56 → 00:30:58 นี้ก็อาจจะกินยาละลายลิ่มเลือดอยู่ด้วย
00:30:58 → 00:31:01 ครับอือแต่อันนี้ตรงๆว่าเราไม่เคยได้รับ
00:31:01 → 00:31:05 คำแนะนำว่าน้ำมันปลาที่กินอยู่เนี่ยงด
00:31:05 → 00:31:09 ด้วยนะอืเอออันเนี้ยก็อ๋อเพิ่งทราบอันก็
00:31:09 → 00:31:11 แต่ก็ไม่ได้มากอะไรนะแต่พูดถึงว่าแบบแต่
00:31:11 → 00:31:12 ในส่วน
00:31:12 → 00:31:16 ของจัดการความเสี่ยงหรือว่าหัตการอะไรแบบ
00:31:16 → 00:31:20 เนี้ยครับถ้าเราสามารถที่จะลดลดโอกาสที่
00:31:20 → 00:31:23 เกิดฮอแทรกซ้อนได้เนี่ยเราเราเราจะต้อง
00:31:23 → 00:31:26 แนะนำเพราะว่าเดี๋ยวถ้าแบบบางทีเลือดมัน
00:31:26 → 00:31:28 ออกเยอะเสียเลือดเลือดเยอะบบเงี้ยข้าม
00:31:28 → 00:31:30 เลือดได้ไม่ดีอะไรอย่างเงี้ยมันก็จะมี
00:31:30 → 00:31:34 ภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นในการทำอัตการอมีคูณ
00:31:34 → 00:31:37 ผู้ฟังสถามมาเพื่อนเติมนะสำหรับน้ำมันปลา
00:31:37 → 00:31:40 กลิ่นของเขาเนี่ยมันเป็นยังไงมันเหม็นม
00:31:40 → 00:31:43 แล้วก็มันเอ่อเมื่อก่อนเนี่ยเขาเคยกินน้ำ
00:31:43 → 00:31:45 มันตับปลาแล้วมันรู้สึกว่าเหม็นมากน้ำมัน
00:31:45 → 00:31:47 ปลาน้ำมันตับปลานี่จะเหม็นแต่ว่าน้ำมัน
00:31:47 → 00:31:50 ปลามันจะไม่เหม็นนะอ๋อมันก็คล้ายๆเหมือน
00:31:50 → 00:31:53 แล้วแต่ความรู้สึกก็เหมือนน้ำมันที่ไม่
00:31:53 → 00:31:55 ค่อยมีกลิ่นเล็กๆกมีกลิ่นนิดๆอะไรอย่าง
00:31:55 → 00:31:59 งี้ใช่มั้ยฮะแต่ไม่ถึงกับกลิ่นอ๋อใช่แต่
00:31:59 → 00:32:01 สำคัญคือนอกจากเรื่องกลิ่นแล้วคือเรื่อง
00:32:01 → 00:32:04 ของคุณสมบัติของเขาต่างกันลิบลับเลยต่างๆ
00:32:04 → 00:32:09 กันต่างลิบลับเลยออนี้ก็ต้องต้องแบบแยก
00:32:09 → 00:32:12 ให้ถูกแล้วบางทีคือส่วนใหญ่ผมเข้าใจว่า
00:32:12 → 00:32:16 น่าจะน่าจะเข้าใจว่ามันอันเดียวกันเก็ใช้
00:32:16 → 00:32:20 รวมกันอือะไรแบบเนี้ยครับค่ะจริงๆแล้วคือ
00:32:20 → 00:32:24 มันต้องแยกแล้วก็จริงๆแล้วเวลาจะกินไม่
00:32:24 → 00:32:28 ว่าน้ำมันปลาหรือน้ำมันตับปลาก็ควรที่จะ
00:32:28 → 00:32:31 ปรึกษาแพทย์โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว
00:32:31 → 00:32:33 เนี่ยต้องปรึกษาเป็นพิเศษเลยใช่มั้ยคะคุณ
00:32:33 → 00:32:38 หมออใช่ใช่ๆอันนี้สำคัญมากเพราะว่าคือคือ
00:32:38 → 00:32:42 หมายคามว่าหลายๆท่านมักจะอยากคือหมายคาม
00:32:42 → 00:32:47 ว่าเข้าใจเข้าใจไปเข้าใจเองด้วยว่าคือบาง
00:32:47 → 00:32:51 ทีรับประทานพวกไอ้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
00:32:51 → 00:32:54 เนี่ยเพื่อรักษาโรคบังโรคด้วยอะไรแบบ
00:32:54 → 00:33:00 เนี้ยเอ่อแต่จริงๆแล้วเนี่ยคือเอ่อโรคบาง
00:33:00 → 00:33:02 โรคที่เป็นโรคเรื้อรังอย่างเบาหวานความ
00:33:02 → 00:33:05 ดันอะไรพวกเนี้ยถ้าถ้าเมื่อไหร่นะครับ
00:33:05 → 00:33:12 เป็นแล้วเนี่ยคือคือมันก็โอกาสที่จะหาย
00:33:12 → 00:33:17 หรือว่าจะดีขึ้นเนี่ยคมันด้วยอะไรด้วยการ
00:33:17 → 00:33:21 ทำอะไรสักอย่างนึงด้วยแบบง่ายๆเนี่ยค่อน
00:33:21 → 00:33:24 ข้างน้อยนะฮะเพราะฉะนั้นเนี่ยต้องอยากให้
00:33:24 → 00:33:28 อตระหนักนิดนึงว่าคือเอ่อเอ่อพวกเนี้ย
00:33:28 → 00:33:31 หลักๆเนี่ยไม่ใช่ว่าโลกพวกนี้มันฟื้นฟู
00:33:31 → 00:33:35 ไม่ได้นะครับแต่ว่าการฟื้นฟูจะใช้พลัง
00:33:35 → 00:33:39 เยอะนิดนึงแล้วกันนะออในช่วงที่เราฟื้นฟู
00:33:39 → 00:33:42 เราจำเป็นจะต้องรับประทานยาที่คุณหมอเขา
00:33:42 → 00:33:45 จัดให้ก่อนนะนะครับเป็นหลักเลยนะครับถ้า
00:33:45 → 00:33:48 จำเป็นต้องรับประทานยานะครับอยู่ในระดับ
00:33:48 → 00:33:49 ที่ต้องรับประทานาแต่ถ้าคุณหมอบอกว่าอ๋อ
00:33:49 → 00:33:52 อยู่ในระดับปรับพฤติกรรมเราก็ต้องปรับ
00:33:52 → 00:33:55 พฤติกรรมตามที่คุณหมอบอกร่วมกับอ่าเราอาจ
00:33:55 → 00:33:58 จะมีการเสริมอ่าข้อถามคุณหมอได้ว่าอ่าอัน
00:33:58 → 00:34:02 นี้จะเสริมตัววิตามินอะไรได้หรือว่าสาร
00:34:02 → 00:34:05 อะไรได้สารแอนติออกซิแดนท์อะไรได้บ้าง
00:34:05 → 00:34:08 อะไรแบบเนี้ยก็ถ้าคุณหมอเาไม่ได้ติดขัด
00:34:08 → 00:34:12 อะไรก็เราก็สามารถที่จะจะเสริมได้นะครับ
00:34:12 → 00:34:13 ค่ะ
00:34:13 → 00:34:17 แต่จะไม่สามารถที่จะไปเอาพวกนั้นน่ะมา
00:34:17 → 00:34:20 เสริมเพื่อทดแทนการรักษาได้เลยนะครับนะ
00:34:20 → 00:34:25 อ่าอซึ่งอันตรายมากอ๋อเพราะคือบางทีพวก
00:34:25 → 00:34:28 โรคเรื้อรังพวกเยมันไม่ค่อยมีอาการถูก
00:34:28 → 00:34:31 ต้องพอเราไม่รู้อ่ะมันก็จะรับประทานไปมัน
00:34:32 → 00:34:34 เหมือนกับพอเรารับประทานอาหารเสริมไปแล้ว
00:34:34 → 00:34:37 เรารู้สึกว่าคือมันมันมีความรู้สึกดีอะไร
00:34:37 → 00:34:40 แบบเนี้ยหรือบางทีมันอาจจะจะใส่อะไรตัว
00:34:40 → 00:34:43 ที่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาอย่างเงี้ยครับ
00:34:43 → 00:34:48 ก็ทำให้เราแบบชะล่าใจหรือบทบางอาการอืสุด
00:34:48 → 00:34:51 ท้ายเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการหยุดจานะครับ
00:34:51 → 00:34:54 ค่ะเยอะเหมือนกันผู้ป่วยกลุ่มนี้ก็ค่อน
00:34:54 → 00:34:56 ข้างเยอะนะครับไม่ว่าจะเป็นเป็นเป็นโรค
00:34:56 → 00:35:01 หัวใจอสองนะครับอ่าเ่อเป็นแซกซ้อนขึ้มา
00:35:01 → 00:35:05 เฉียบพลันซึ่งน่าเสียดายมากๆนะครับอือัน
00:35:05 → 00:35:07 นี้อยากเตือนไว้ให้อันนี้เป็นเป็นข้อเป็น
00:35:07 → 00:35:12 ข้อที่ข้อสังเกตนะพี่ขวัญคุณหมอคือปัดคือ
00:35:12 → 00:35:15 ผมอ่ะตัวผมก็ได้ไม่ต้องใครหรอกผมก็คิดว่า
00:35:15 → 00:35:17 เอ้ยการซื้อวิตามินมาทานรับประทานน่ะมัน
00:35:17 → 00:35:21 ก็เข้าร้านขายยาร้านเอ่อไม่รู้ร้านอะไรก็
00:35:21 → 00:35:24 ได้ที่มันมีขายซื้อมาแล้วก็กินได้เลยตาม
00:35:24 → 00:35:26 ข้างขวดไม่ต้องไปปรึกษาแพทย์ก็ได้เพราะ
00:35:26 → 00:35:29 ว่าเ้ยเราไม่เคยรู้ก่อนนะว่ามันจะต้อง
00:35:29 → 00:35:33 ปรึกษาแพทยด้วยแม้น้ำมันตัดปลาคือบางคน
00:35:33 → 00:35:35 ซื้อเป็นกระเช้านะพี่ขวัญเห็นมั้ยเอาไป
00:35:35 → 00:35:38 ฝากผู้ผู้หลักผู้ใหญ่ยาปีใหม่อะไรเงี้ย
00:35:38 → 00:35:41 เออให้เหมือนกับอยากให้แต่จริงๆแล้วมัน
00:35:41 → 00:35:44 ควรจะต้องได้รับการคำแนะนำจากจากแพทย์
00:35:44 → 00:35:46 ก่อนแต่ว่ามันมันก็ลำบากนะคุณหมอคือยุค
00:35:46 → 00:35:49 ปัจจุบันน่ะการเข้าโรงพยาบาลแต่ละทีอ่ะ 1
00:35:49 → 00:35:52 ก็ไปโรงพยาบาลราชเรื่องของเวลาครับจะไป
00:35:52 → 00:35:55 ปรึกษาก่อโอ้โหเข่าคิวไม่รู้กี่คิวจะไป
00:35:55 → 00:35:57 เพื่อปรึกษาเรื่องวิตามินเนี่ยนะอะไร
00:35:57 → 00:35:59 เงี้ยคคนก็อาจจะคิดอย่างงี้นะเอ่อไปโรง
00:35:59 → 00:36:02 พยาบาลเอกชนก็อาจจะมีเรื่องของราคาเข้ามา
00:36:02 → 00:36:05 เกี่ยวข้องอะไรแบบเนี้ยเอ้ยมันแบบนี้มัน
00:36:05 → 00:36:08 จะมันมันจะมีวิธีจะมีวิธีแต่บางทีต้อง
00:36:08 → 00:36:11 ต้องคิดนิดนึงแบบถ้าเสียน้อยเสียยากเสีย
00:36:11 → 00:36:16 มากเสียง่ายอันนี้คือคือส่วนตัวยังยังมอง
00:36:16 → 00:36:19 ว่านะครับดีที่สุดเนี่ยอยากให้พบแพทย์
00:36:19 → 00:36:23 ก่อนอแล้วก็หรือหรือเภสัชกรก็ได้ครับที่
00:36:23 → 00:36:29 แนะนำที่ที่ร้านก็ได้แต่คือคือแบบบางที
00:36:30 → 00:36:32 มันมันต้องมองให้มันครอบคลุมกว่านั้นบาง
00:36:32 → 00:36:36 ทีอ่ะอเอ่อมันต้องมองว่าให้เอ่อบางที
00:36:36 → 00:36:40 เนี่ยคุณหมอเขาอาจจะเจอภาวะอะไรที่จะต้อง
00:36:40 → 00:36:43 ดูแลอืเป็นพิเศษใช่มั้ยฮะให้ด้วยก็ได้
00:36:43 → 00:36:46 ครับคือหมายคามว่ามันมันไม่ได้แค่ว่าเรา
00:36:46 → 00:36:50 ไปซื้อวิตามินมารับประทานแล้วก็จบแล้วก็
00:36:50 → 00:36:53 สุขภาพแข็งแรงออือเออสุขภาพดีอะไรแบบ
00:36:53 → 00:36:56 เงี้ยอ่าแต่ว่าในส่วนตรงนั้นน่ะคุณหมอเขา
00:36:57 → 00:37:00 จะดูให้ในส่วนที่เราอาจจะไม่ได้ไม่ได้คิด
00:37:00 → 00:37:04 ว่ามันจะมีแบบว่ามันขาดร่างกายของเราอะไร
00:37:04 → 00:37:08 แบบคืออย่างน้อยคือเราเช็คว่าเราขาดอะไร
00:37:08 → 00:37:10 แล้วคืออย่างคือถ้าจะเสียเงินเพื่อไปซื้อ
00:37:11 → 00:37:13 วิตามินแล้วเนี่ยควรกินให้มันถูกที่ถูก
00:37:13 → 00:37:17 ทางไงใช่เพราะว่าถ้าไปเอ่อซื้อรับประทาน
00:37:17 → 00:37:22 เองเงี้ยค่ะก็อาจจะไม่ได้ตรงที่ขาดที่ขาด
00:37:22 → 00:37:25 ไม่ได้กินเออเสียเงินฟรีอีกแทนที่จะเสีย
00:37:25 → 00:37:28 เงินให้แพทย์วินิจฉัยร่างกายของเราอย่าง
00:37:28 → 00:37:32 ครบถ้วนรอบครอบเนี่ยก็อกับการไปเลือกซื้อ
00:37:32 → 00:37:36 กินเองอือเอ่อเดี๋ยวนี้วิตามินโอเคยอมรับ
00:37:36 → 00:37:39 ว่าราคามันค่อนข้างที่จะเข้าถึงง่ายขึ้น
00:37:39 → 00:37:42 แต่ก็ไม่ใช่ราคาที่จะแบบถ้าเรากินหลายๆ
00:37:42 → 00:37:45 ตัวก็หลักพันเหมือนกันนะมันก็เยอะเหมือน
00:37:45 → 00:37:48 กันนะใช่ใช่ครับเอออย่างเช่นที่ผมเคยเห็น
00:37:48 → 00:37:52 อีกอีกตัวนึงที่คนมักจะนิยมซื้อไปฝากผู้
00:37:52 → 00:37:55 หลักผู้ใหญ่คุณพ่อคุณแม่นะตัวแคลเซียมอ๋อ
00:37:55 → 00:37:58 เอ่าตัวเนี้ยมันมันมีข้อสังเกตหรือว่าข้อ
00:37:58 → 00:38:02 ระมัดระวังมั้ยคุุณหมอก็แคแคลเซียมมันก็
00:38:02 → 00:38:05 คือบางทีไอ้ตัวเยก็จะเป็นบางทีเรามองถึง
00:38:05 → 00:38:09 ว่าแบบเออเขาคก็จะแบบไปทำให้กระดูกมัน
00:38:09 → 00:38:14 แข็งแรงขึ้นอะไรแบบเนี้ยหรือว่าเอ่อข้อ
00:38:14 → 00:38:17 เสื่อมดีขึ้นแต่จริงๆแคลเซียมกับข้อ
00:38:17 → 00:38:20 เสื่อมเคนละเรื่อง่อ่าแต่ว่าแคลเซียม
00:38:20 → 00:38:23 เนี่ยเสริมเรื่องกระดูกบางได้แต่ว่าคงไม่
00:38:23 → 00:38:25 ได้ไปเสริมข้อเข่าเสื่อมแต่ว่าบางคนเข่า
00:38:26 → 00:38:28 เสื่อมก็จะเห็นไปกินแคนเซ
00:38:28 → 00:38:31 ซึ่งมันเสื่อมคนละที่กันเข่าเสื่อมมันจะ
00:38:31 → 00:38:34 เป็นเสื่อมของผิวข้อครับซึ่งซึ่งมันไม่
00:38:34 → 00:38:37 ได้เกี่ยวกับแคลเซียมอเพราะะนั้นแต่ว่า
00:38:37 → 00:38:40 การที่เราเสริมแคลเซียมในอายุเยอะเนี่ย
00:38:40 → 00:38:45 มันมันมันเอ่อถือว่าได้มเนี่ยก็คือเอ่อ
00:38:46 → 00:38:50 ได้นะอก็มีคนคนที่อายุเยอะเนี่ยก็มีโอกาส
00:38:50 → 00:38:53 ที่จะเค้าเรียกว่ากระดูกเนี่ยจะบางไปตาม
00:38:53 → 00:38:57 วัยเลยนะครับโดยเฉพาะเพศหญิงนะครับที่
00:38:57 → 00:38:59 เอ่อหมดประจำเดือนไปแล้วเนี่ยนะครับการ
00:38:59 → 00:39:02 สะสมกระดูกในเอ้ยการสสมสะสมแคลเซียมใน
00:39:02 → 00:39:06 กระดูกเนี่ยจะค่อนข้างจะเค้าเรียกว่าลดลง
00:39:06 → 00:39:09 อย่างมากนะครับอย่างมีสำคัญเลยแล้วทำให้
00:39:09 → 00:39:13 กระดูกหักง่ายได้เพราะฉะนั้นเนี่ยเอ่อก็
00:39:13 → 00:39:16 คุณหมอเขาก็จะแนะนำให้มีการเสริมเ่อ
00:39:16 → 00:39:19 แคลเซียมขึ้นมาได้เพราะฉะนั้นเพราะฉะนั้น
00:39:19 → 00:39:22 เนี่ยคือแคลเซียมเนี่ยคุณหมอเค้าก็จะมัก
00:39:22 → 00:39:27 จะมีการเอ่อสั่งให้อ่ะนะนะครับถ้าจำเป็น
00:39:27 → 00:39:30 ซื้อรับประทานเองเนี่ยผมก็ยังคิดว่ามันก็
00:39:30 → 00:39:32 ยังไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่อยู่ดีเพราะว่า
00:39:32 → 00:39:36 บางทีแคลเซียมเยอะๆไปมันก็จะทำให้เป็นอ่า
00:39:36 → 00:39:39 มีนิ่วด้วยได้ด้วยนะครับแล้วก็ในส่วนของ
00:39:39 → 00:39:42 อีกอันนึงก็จะเป็นการสะสมแคลเซียมที่อยู่
00:39:42 → 00:39:46 ในหลอดเลือดได้ด้วยนะครับก็อ่าถ้ามันมี
00:39:46 → 00:39:48 การบาดเจ็บของหลอดเลือดก็จะทำให้หลอด
00:39:48 → 00:39:51 เลือดเรามันเหมือนกับเสื่อมง่ายขึ้นอเออ
00:39:51 → 00:39:54 ก็เป็นข้อคิดให้บรรดาลูกๆหลานๆนะกระเช้า
00:39:54 → 00:39:58 ปีใหม่ปีนี้ต้องคิดเยอะแล้วแหละลปริมาณไป
00:39:58 → 00:40:01 ลงไปลดลงไปในไม่ต้องซื้อวิตามินละพาท่าน
00:40:01 → 00:40:04 ไปตรวจสุขภาพได้หลายได้หลายพันอยู่คือคือ
00:40:04 → 00:40:08 อันนี้ผมผมเห็นเยอะมากเลยนะวิตามินคืดๆ
00:40:08 → 00:40:11 แต่จริงๆจริงๆมันก็จะเป็นหลายๆอย่างคือ
00:40:11 → 00:40:15 อันนี้ประสบการณ์ที่อเอ่อเคยเจอมาก็คือ
00:40:15 → 00:40:18 อ่าไม่ว่าจะจะไปหาหมอก็ตามอ่ะเนาะหรือไม่
00:40:18 → 00:40:21 หาหมอก็ตามมันจะมีวิตามินที่ทั้งซื้อเอง
00:40:21 → 00:40:25 ทั้งไปหาหมอหมอคนที่ 1 หมอคนที่ 2 หมอคน
00:40:25 → 00:40:28 ที่ 3 อะไรอย่างเงี้ยนะเออได้เบิ้ลมาได้
00:40:28 → 00:40:31 เบิ้ลมาคุณแม่ที่บ้านเลยกินกินทีนึงก็
00:40:31 → 00:40:33 อิ่มเป็นจำใช่มั้ยเยอะมากินเป็นก่ำอะไร
00:40:33 → 00:40:37 แบบเนี้ยแล้วบางทีคือคือหน้าตาเ่า
00:40:37 → 00:40:39 Packaging อ่ะค่ะไม่เหมือนกันแต่ยาข้าง
00:40:40 → 00:40:44 ในอ่ะตัวเดียวกันเออๆก็คือกินซ้อนครับเคย
00:40:44 → 00:40:47 เคยมาแล้วเอ่อที่ส่วนใหญ่ที่จะแนะนำก็คือ
00:40:47 → 00:40:51 ว่าพอเราไปหาครับค่ะภาวะใหม่อ่ะถ้ามันคือ
00:40:51 → 00:40:54 หมายว่าก็เอาอันเดิมอ่ะไปให้คุณหมอเดู
00:40:54 → 00:40:59 ด้วยว่าอันเดิมได้มอันไหนต้องต้องรับ
00:40:59 → 00:41:01 ประทานต่ออันไหนไม่ต้องรับประทานแล้วแล้ว
00:41:01 → 00:41:06 ก็ก็คุณหมอเก็จะได้ดูให้ว่าว่าต้องรับ
00:41:06 → 00:41:08 ประทานตัวไหนบ้างที่มันไม่ต้องแบบเยอะมาก
00:41:08 → 00:41:11 แล้วก็ไม่ต้องไปเสียดายถ้าแบบมันเริ่มแบบ
00:41:11 → 00:41:15 เออคือเราเปิดแล้วอ่ะแล้วมันนานแล้วอ่ะ
00:41:15 → 00:41:17 เราก็ไม่ต้องเก็บไว้ละอะไรอย่างเงี้ยก็
00:41:17 → 00:41:20 ทิ้งไปบ้างก็ได้ครับเออืเพราะไม่งั้น
00:41:20 → 00:41:23 เนี่ยเดี๋ยวกินไปแล้วเนี่ยมันก็อย่างแรก
00:41:23 → 00:41:26 ไม่ได้ไม่ได้คุณสมบัติค่ะเพราะว่ายามัน
00:41:26 → 00:41:30 เสื่อมยวิตามินมันก็เหมือนแบบยานะแต่มัน
00:41:30 → 00:41:33 มันก็จะเสื่อมสภาพละนะครับอะไรแบบเนี้ยอ
00:41:33 → 00:41:35 เดี๋ยวช่วงนี้พักกันสักครู่ก่อนดีกว่า
00:41:36 → 00:41:38 เนาะเดี๋ยวก็เดี๋ยวช่วงหน้ามาชวนคุณหมอ
00:41:38 → 00:41:42 ตอบคำถามให้กับคุณผู้ฟังแล้วก็ให้โอ๊กทาย
00:41:42 → 00:41:45 ว่าเมื่อกี้พี่คุยกับคุณหมอก่อนเข้าราย
00:41:45 → 00:41:49 การควรเสริมแคลเซียมตอนอายุเท่าไหร่ออวผม
00:41:49 → 00:41:51 มาทายตัวเลขนะเอทายตัวเลขเดี๋ยวเอาไว้ใช้
00:41:51 → 00:41:54 วันที่ 1 ด้วยคุณคุณผู้ฟัง่าตัวเลขมาด้วย
00:41:54 → 00:41:57 ก็ได้ค่ะว่าจริงๆแล้วควรเราควรเสริมแ
00:41:57 → 00:41:59 แคลเซียมตั้งแต่อายุเท่าไหร่ได้ครับอ่า
00:41:59 → 00:42:02 เดี๋ยวช่วงนี้พักกันสักครู่ก่อนค่ะครับ
00:42:02 → 00:42:04 กลับมาในช่วงหนึของสุภาพดี 2200 นนะครับ
00:42:04 → 00:42:07 ในช่วงที่ 2 นะครับก็ยังอยู่กับคุณหมอนะ
00:42:07 → 00:42:12 ครับเ่อคุณหมอภัทรพลนะครับก็ยังคุยกับ
00:42:12 → 00:42:13 เรื่องเกี่ยวกับวิตามินกับเราอยู่นะครับ
00:42:13 → 00:42:16 เมื่อกี้พี่ขวัญทิ้งท้ายก่อนเบรคไว้
00:42:16 → 00:42:18 เกี่ยวกับเรื่องของการทายใช่มั้ยใช่ทาย
00:42:18 → 00:42:20 ตัวเลขว่าอายุเท่าไหร่เราควรที่จะมา
00:42:20 → 00:42:23 ตระหนักเรื่องของแคลเซียมใส่ใจเรื่องของ
00:42:23 → 00:42:27 แคลเซียมโอให้เท่าไหร่ใเร่ตอนแรกผมให้ 45
00:42:27 → 00:42:29 ตกใจมยคุณผู้ฟังเดี๋ยวมาฟังคำตอบกันดี
00:42:29 → 00:42:33 กว่าเราควรตระหนักเรื่องแคลเซียมตอนอายุ
00:42:33 → 00:42:39 25 255 คณนะก็คือคือหมายคว่าพออายุสัก
00:42:39 → 00:42:42 25 ปีเนี่ยเอ่อเราร่างกายเราก็จะเลิกเ้า
00:42:42 → 00:42:45 เรียกว่าสะสมแคลเซียมเนี่ยน้อยกว่าการ
00:42:45 → 00:42:48 สลายแล้วก็ก็จะเริ่มมีอัตราการสลายที่ที่
00:42:48 → 00:42:51 มากกว่าการสะสมะเพราะฉะนั้นเนี่ยมันจะพีค
00:42:51 → 00:42:53 แล้วเ้าเรียกว่าเป็นแบบจุดพีคเหมือนว่า
00:42:53 → 00:42:57 ยอดเขาอ่ะยอดเขาเราต่ายไปถึงยอดเขาแล้ว
00:42:57 → 00:43:00 เหลือขาลงขาลงเราเราก็จะลงแบบเหวหรือว่า
00:43:01 → 00:43:04 จะลงแบบเอ่อเค้าเรียกว่าค่อยๆค่อยๆเป็น
00:43:04 → 00:43:06 ค่อยๆไปอะไรแบบเนี้ยเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้า
00:43:06 → 00:43:09 เรามีการตระหนักถึงการเสริมแคลเซียมไปไว้
00:43:09 → 00:43:15 ตั้งแต่อายุแบบ 25 เป็นตไปเนี่ยเอ่อเราจะ
00:43:15 → 00:43:21 มีต้นทุนของเอ่อกระดูกครับที่ที่แบบดีนะ
00:43:22 → 00:43:25 ในอายุที่เรามากๆอ่ะนะครับนะเพราความ
00:43:25 → 00:43:27 เสี่ยงกระดูกเปาะกระดูกพุนกระดูกบางอะไร
00:43:27 → 00:43:30 พวนี้ใช่มั้ยจะลดลงจะลดลงเอลอ้าถ้าอย่าง
00:43:30 → 00:43:33 งั้นคุณผู้ฟังฟังอยู่น้องๆ 25 ไปซื้อ
00:43:33 → 00:43:37 แคลเซียมกินได้มั้ยไม่ไม่ควรคือเหมือนว่า
00:43:37 → 00:43:39 การเสริมแคลเซียมเนี่ยมันเราเราเราลักษณะ
00:43:39 → 00:43:43 ว่าเราตระหนักเนาะแล้วก็เราก็อาจจะต้อง
00:43:43 → 00:43:44 เลือกรับประทานเลือกรับประทานอาหารที่มัน
00:43:44 → 00:43:48 มีแคลเซียมเยอะๆอ่ะเนื้อนมไข่ริงเนื้อนม
00:43:48 → 00:43:52 ไข่ทั่วไปเแหลอ่าแล้วก็ผักใบเขียวไข่แดง
00:43:52 → 00:43:55 นะครับหรือว่าพวกปลาเล็กปลาน้อยนะครับ
00:43:55 → 00:43:58 กระดูกที่มันเป็นแบบปลาหมอค้างดำตัวเล็กป
00:43:58 → 00:44:03 ปลาปดออๆกำลังนิยมเอ้ยแต่จริงก็ได้จริงๆ
00:44:03 → 00:44:05 ก็ได้แต่ต้องเอาคลายออกมาจากปากของพแม่
00:44:05 → 00:44:09 ก่อนไงจริงๆจริงๆทอดทอดกรอบแล้วก็กินทั้ง
00:44:09 → 00:44:13 กล้ากินทั้งตัวไปแต่แต่ระหว่างกลางติดคอ
00:44:13 → 00:44:16 มันกางใหญ่อันนั้นก็เลือกใหญ่อีกแต่ว่าก็
00:44:16 → 00:44:19 อย่างว่าแะคือหมายความว่าถ้าในยิ่งโดย
00:44:19 → 00:44:22 เฉพาะเพศหญิงอ่ะครับถ้าแบบเอ่อพอเราไม่
00:44:22 → 00:44:26 ได้แบบคำนึงถึงการสะสมแคลเซียมอไว้หรือ
00:44:26 → 00:44:28 ว่าการการเเรียกว่า
00:44:28 → 00:44:30 Maintenance การรับประทานอาหารที่มี
00:44:30 → 00:44:35 แคลเซียมสูงตั้งแต่ตั้งแต่อายุแบบอายุที่
00:44:35 → 00:44:38 เอ่อวัยวัยรุ่นน่ะเนาะนะครับอ่าวัยเอ่อ
00:44:38 → 00:44:42 มันก็พอไปถึงวัยที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนหมดก็
00:44:42 → 00:44:45 คือวัยทองเนี่ยค่ะพวกเนี้ยฮอร์โมนพวกเมัน
00:44:45 → 00:44:49 จะหมดลงไปแล้วทำให้การสะสมแคลเซียมใน
00:44:49 → 00:44:52 กระดูกเนี่ยลดลงอย่างแบบรวดเร็วเลยครับทำ
00:44:52 → 00:44:55 ให้กระดูกบังนะครับกระดูกหักง่ายก็เป็น
00:44:55 → 00:44:58 โรคกระดูกพุนได้ง่ายแต่ถ้าเรามีต้นทุนที่
00:44:58 → 00:45:02 ดีมันจะมันจะไม่มากนะแล้วเราจะไม่เกิด
00:45:02 → 00:45:06 ภาวะกระดูกพุนที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะ
00:45:06 → 00:45:09 กระดูกหักง่ายอ่ะครับอแล้วก็ทำให้บางที
00:45:09 → 00:45:13 เกิดทุบพลภาพครับตอนอายุที่เยอะออะไรแบบ
00:45:13 → 00:45:15 เนี้ยไปกินตอนอายุมากเนี่ยไม่ค่อยทันเท่า
00:45:15 → 00:45:19 ไหร่ไม่ค่อยทันแล้วอว่าไม่ค่อยทันเลยอ่ะ
00:45:19 → 00:45:21 ไม่ค่อยทันแล้วต้องเริ่มกันตั้งแต่ได้แค
00:45:21 → 00:45:24 ได้แค่ประคับประคองนะกินต่ออุมากเหมือน
00:45:24 → 00:45:26 ได้แค่ประคับประคองไว้ผ่อหนักเป็นเบาค่ะ
00:45:26 → 00:45:29 ผ่อนหนักเป็นเบาเท่านั้นไม่มีกินแคลเซียม
00:45:29 → 00:45:32 แล้วกระดูกกลับมาเป็นปกติปึงปัเป็นไว่นก็
00:45:32 → 00:45:36 ไม่ใช่แม้แต่ว่าเราใช้ยารักษากระดูกพนก็
00:45:36 → 00:45:40 ไม่ได้สามารถที่จะทำให้แคลเซียมกลับมาได้
00:45:40 → 00:45:42 ชะลอชะลอความเสื่อมแล้วกันผ่อนหนักเป็น
00:45:42 → 00:45:46 เบาค่ะคุณผู้ฟังจากทางบ้านสอบถามมาค่ะว่า
00:45:46 → 00:45:49 ไอ้ตัวยาหรือวิตามินตัวเนี้ยมันช่วย
00:45:49 → 00:45:51 เรื่องเข่าได้มั้ยเอ่อสิ่งนี้มันเรียกว่า
00:45:51 → 00:45:55 อะไรคะหมอตัวนี้เป็นกลูโคซามีนก็เป็นยายา
00:45:55 → 00:46:00 ชนิดนึงนะเป็นยาแบบที่คุณหมอจ่ายให้เพราะ
00:46:00 → 00:46:03 ว่ามีภาวะเข่าเสื่อมอ่ะครับค่ะก็เป็นตัว
00:46:03 → 00:46:08 นึงที่มีการศึกษาว่ามีผลช่วยในการที่จะ
00:46:08 → 00:46:11 รักษาภาวะข้อเข่าเสื่อมได้นะครับร่วมกับ
00:46:11 → 00:46:14 อย่างอื่นนะนะครับร่วมกับเอ่อคือหมายความ
00:46:14 → 00:46:18 ว่าก็ก็ต้องมีการใช้การรักษาอย่างอื่น
00:46:18 → 00:46:23 ด้วยแล้วก็เอ่อตัวนี้ก็เป็นตัวนึงนะครับอ
00:46:23 → 00:46:26 แต่จริงๆการดูแลเข่าเสื่อมเนี่ยอเอ่อคือ
00:46:26 → 00:46:31 อะไรมันเสื่อมไปแล้วอ่ะมันก็ทำได้แค่ชะลอ
00:46:31 → 00:46:34 นะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยชการดูแลเนี่ยเรา
00:46:34 → 00:46:37 จะเน้นไปที่การปรับพฤติกรรมนะครับปรับ
00:46:37 → 00:46:40 พฤติกรรมก็คือเราจะทำให้กล้ามเนื้อที่
00:46:40 → 00:46:43 อยู่รอบๆเข่าเนี่ยมันแข็งแรงเพื่อพยุงข้อ
00:46:43 → 00:46:46 เขาไว้แล้วเข่าจะปวดน้อยลงแล้วทำให้เข่า
00:46:46 → 00:46:50 มันมั่นคงมากขึ้นนะครับแล้วก็มันก็จะไม่
00:46:50 → 00:46:53 ค่อยกระทบกันได้ง่ายขึ้นแบบเนี้ยอันนี้
00:46:53 → 00:46:55 อันนี้คือหลักการเพราะฉะนั้นเนี่ยเจะให้
00:46:56 → 00:47:00 บริหารกเนื้อต้นขานะครับโดยการยกขาเตะ
00:47:00 → 00:47:03 เค้าเรียกว่าเตะขาอครับบริหารแบบเตะขา
00:47:03 → 00:47:06 แล้วก็ยกค้างไว้แต่ไม่ใช่แบบไปเตะขึ้นเตะ
00:47:06 → 00:47:08 ลงบ่อยๆอะไรอย่างงี้ไม่ใช่มันจะเป็นยก
00:47:08 → 00:47:11 เป็นยกยกแล้วก็พักไว้ทับ 1-5 แล้วค่อยลง
00:47:12 → 00:47:15 ไวใช่ครับบริหารอ่าตัวเนี้ยก็จะเป็นตัว
00:47:15 → 00:47:19 นึงที่เราจะต้องทำร่วมๆกันไปด้วยแล้วก็
00:47:19 → 00:47:22 อาจจะมียาที่เสริมเข่าเสื่อมอย่างอื่น
00:47:22 → 00:47:24 เพิ่มเติมที่คุณหมอเขาจะสั่งให้ด้วยแต่
00:47:24 → 00:47:27 ถ้าบางท่านมีการปวดก็จะมียลดอาการปวดให้
00:47:27 → 00:47:31 ด้วยที่ที่เป็นยาที่เอ่อเค้าเรียกว่ามี
00:47:31 → 00:47:34 การใช้ในระยะสั้นอะไรแบบเนี้ยครับแต่ตัว
00:47:34 → 00:47:37 นี้ก็สามารถใช้รักษาเข่าเสื่อมได้ครับอื
00:47:37 → 00:47:41 อ่าค่ะก็อีกคำถามนึงมีคุณผู้ฟังถามมาว่า
00:47:41 → 00:47:46 เอ่อถ้ากินผักผักเขียวผงเนี่ยดีมั้ยคือ
00:47:46 → 00:47:49 มันก็เป็นแปรรูปมาหรือเปล่าคะอันนี้ไม่
00:47:49 → 00:47:52 การันตีเพราะว่าเราไม่รู้นะคือหมือนคว่า
00:47:52 → 00:47:56 คือคือคือคือเอาเป็นว่าเอ่อเดี๋ยวนี้มัน
00:47:56 → 00:47:59 ก็จะจะมีแบบ
00:47:59 → 00:48:02 นวัตกรรมเอ่าใช่ครับก็คือแบบผลิตภัณฑ์ที่
00:48:02 → 00:48:04 จะทำให้เราเป็นวิธีรัดมากขึ้นอะไรแบบ
00:48:04 → 00:48:08 เนี้ยอันนี้ไม่ค่อยอันนี้เอาเป็นว่าไม่
00:48:08 → 00:48:11 ไม่กล้ารับรองแล้วกันนะครับเพราะมันมี
00:48:11 → 00:48:14 หลากหลายเหลือเกินคือมีอะไรนะที่เป็นเป็น
00:48:14 → 00:48:17 เอาผักมากินจากกินเป็นกะละมังเหลือรถแค่
00:48:17 → 00:48:20 ปลายช้อนหรือช้อนชานึงอะไรใช่มั้ยอ่าเคย
00:48:20 → 00:48:22 ได้ยินเหมือนกันผักผักเม็ดอะไรแบบเนี้ย
00:48:22 → 00:48:26 ผักเป็นเม็ดอย่างเงี้ยคือใช่แบบไม่ไม่ไม่
00:48:26 → 00:48:30 กล้ารับรองคือเน้นรับประทานผักที่เป็นผัก
00:48:30 → 00:48:34 ผักสดนะครับแล้วก็ล้างให้สะอาดเนาะนะครับ
00:48:34 → 00:48:37 อ่าอันนี้น่าจะดีที่สุดนะครับแล้วเราก็จะ
00:48:37 → 00:48:41 ได้ไฟเบอร์กากใยด้วยนะครับนะใช่เออถามต่อ
00:48:41 → 00:48:44 เลยอย่างระหว่างผักสดกับผักปรุงสุด
00:48:44 → 00:48:48 วิตามินมันเท่ามั้ยฮะไม่เท่าก็แต่ว่าคือ
00:48:48 → 00:48:51 เราเราไม่ต้องต้มแบบมันสุแบบเยอะนะครับ
00:48:51 → 00:48:54 ไม่ต้องใช่ไม่ต้องใช้ความร้อนมากคือพอ
00:48:54 → 00:48:59 ผ่านความร้อนวิตามินจะหายไปบยอแต่ว่าแต่
00:48:59 → 00:49:02 ว่าก็คือบางทีเราก็ต้องบาานกันระหว่างแบบ
00:49:02 → 00:49:07 เอ่อเชื้อโรคใช่กำลังบอกว่าเอ้ยบางบาง
00:49:07 → 00:49:10 อย่างก็คือเดี๋ยวเนี้ยเอ่อเค้าเรียกสาร
00:49:10 → 00:49:13 เคมีที่อยู่ในผักก็ก็น่ากังวลอยู่เหมือน
00:49:13 → 00:49:15 กันอะไรเงี้ยค่ะแล้วก็เดี๋ยวนี้เนี่ยนอก
00:49:15 → 00:49:19 จากการล้างแบบธรรมดาน้ำผ่านอะไรอย่างงี้
00:49:19 → 00:49:21 แต่ว่านอกจากนั้นก็มีอะไรนะน้ำส้มสายชู
00:49:21 → 00:49:24 เดี๋ยวนี้ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ล้างผัก
00:49:24 → 00:49:28 ผลไม้เป็นการเฉพาะอีกอันนี้ก็ก็อันนี้ก็
00:49:28 → 00:49:30 ถือว่าอย่างที่คุณหมอบอกว่าต้องบาลานซ์
00:49:30 → 00:49:33 กันแต่ว่าอย่างใช่ครับบักเคอรี่อะไอย่าง
00:49:33 → 00:49:35 เงี้ยค่ะผ่านความร้อนนี่มันจะดีกว่าหรือ
00:49:36 → 00:49:40 เปล่าคุณหมอเอ่อหมายถึงดีกว่าในแง่ไหนฮะ
00:49:40 → 00:49:43 ดีกว่าการกินดิบหรือเปล่าตัวบล็อกเคอรี่
00:49:43 → 00:49:47 ใช่่มั้ยใช่ๆก็ก็เอ่อตัวนี้ตัวนี้เนี่ย
00:49:47 → 00:49:52 ถ้าผ่านความร้อนจะจะดีกว่าใช่เพราะว่ามัน
00:49:52 → 00:49:56 มันก็จะคือหมายคามว่าไอ้คือตัว
00:49:56 → 00:50:01 บล็อกเคอรี่เนี่ยมันมันก็เค้าเรียกว่ามี
00:50:01 → 00:50:07 ทั้งเรื่องของเอ่อเค้าเรียกว่าในพวกสาร
00:50:07 → 00:50:11 สารเคมีต่างๆด้วยนะครับแล้วก็เอ่ออีก
00:50:11 → 00:50:13 อย่างนึงก็คือในเรื่องของพวกเชื้อโรคต่าง
00:50:13 → 00:50:16 ๆด้วยมันมีอ๋อมันมีลักษณะของของของของเ่อ
00:50:16 → 00:50:20 ลักษณะของมันมีความขยุกขยิกที่อาจจะเป็น
00:50:20 → 00:50:23 แหล่งของแมลงเชื้อโรคที่มันสะสมแล้วถ้า
00:50:23 → 00:50:25 มันทำความสะอาดไม่ดีมันก็จะสะสมไปต้อง
00:50:25 → 00:50:29 ปรุงสุดปรุงสุกดีกว่าจะได้แบบปลอดภัยใน
00:50:29 → 00:50:31 เรื่องของไม่ต้องมาเสี่ยงอะไรนะท้องส่ง
00:50:31 → 00:50:34 ท้องเสียอะไรงงี้ใช่มั้ยอ่าใช่ครับคืออัน
00:50:34 → 00:50:37 นี้อันนี้แนะนำว่าเป็นแบบปรุงสุกดีกว่า
00:50:37 → 00:50:39 สุกดีกว่าอืคุณผู้ฟังสอบถามมาเยอะพอสมควร
00:50:39 → 00:50:41 ครับเดี๋ยวไล่แล้วกันนะครับเพราะว่าช่วง
00:50:41 → 00:50:43 ท้ายของรายการและนะครับคุณผู้ฟังถามมาว่า
00:50:44 → 00:50:46 วิตามินดีจากแดดเนี่ยถ้าออกแดดมากเกินไป
00:50:46 → 00:50:49 ก็กลัวว่าจะเกิดรอยย่นเกิดฝ้าเกิดกระ
00:50:49 → 00:50:53 เอ่อจะทำอย่างไรกินน้ำมันตัดปลาเป็นทาง
00:50:53 → 00:50:54 เลือกเดียวหรือเปล่าหรือว่าเป็นทางเลือก
00:50:54 → 00:50:57 อื่นเอ้มีทางเลือกอื่นด้วยมีทางเลือกอื่น
00:50:57 → 00:51:00 นะครับซึ่งซึ่งจริงๆแล้วมันนอกจากรับ
00:51:00 → 00:51:03 ประทานเนี่ยเราถ้าสมมุติว่าคุณหมอเขาตรวจ
00:51:03 → 00:51:07 แล้วพบว่าระดับมันต่ำมากๆเนี่ยครับคุณหมอ
00:51:07 → 00:51:09 พิจารณาให้ฉีด
00:51:09 → 00:51:12 อ๋อดถ้าต่ำมากนะคือเพื่อเพื่อฉีดมันจะ
00:51:12 → 00:51:15 เข้าไปเร็วกว่าแล้วรใช่แต่ว่าแต่ว่าอัน
00:51:15 → 00:51:17 นี้ก็คือขึ้นอยู่ดุลมนิแพทย์อีกทีนึงนะ
00:51:17 → 00:51:21 ครับก็อันนี้เราไม่ได้แบบแบบสมเสริมแบบ
00:51:21 → 00:51:24 ว่าว่าว่าทุกรายต้องมีการฉีดหรือว่าอะไร
00:51:24 → 00:51:27 แบบเนี้ยครับแต่ว่าคนที่มีการขาดมากจริงๆ
00:51:27 → 00:51:31 คุณหมอพิจารณาแล้วเนี่ยถ้าไม่ฉีดหรือว่า
00:51:31 → 00:51:33 ไม่ได้เพิ่มปริมาณขึ้นมาเนี่ยอาจจะมีผล
00:51:33 → 00:51:36 เกี่ยวกับเรื่องของระบบร่างกายหรือว่าทำ
00:51:36 → 00:51:40 ให้ป่วยได้ง่ายอะไรอย่างเงี้ยก็คุณหมอเจะ
00:51:40 → 00:51:42 พิจารณาว่าเออเราจะต้องบูทระดับขึ้นมาให้
00:51:43 → 00:51:46 เร็วครับก็จะเป็นฉีดเข้ากล้ามเนื้อครับนะ
00:51:46 → 00:51:49 ครับวิตามินซีนะครับคุณหมอวิตามินซีทาน
00:51:49 → 00:51:52 ได้ทุกวันหรือเปล่าวิตามินวิตามินซีทาน
00:51:52 → 00:51:54 ได้ทุกวันครับก็ปกติเราเราต้องทานวิตามิน
00:51:54 → 00:51:56 ซีให้ได้ประมาณสักวันละ 1,000 1000 1000
00:51:56 → 00:52:00 มิลลิกรัมเลยแนะนำเป็นช่วงเช้าอ่าแนะนำ
00:52:00 → 00:52:02 เป็นช่วงเช้านะวิตามินซีนี่ต้องรับประทาน
00:52:02 → 00:52:06 ช่วงเช้าก่อนหังอาหารนะคุณหมอก็ก็คือจริง
00:52:06 → 00:52:12 ๆมันก็ก็เป็นก่อนก็ได้อืออ่าแล้วก็แต่ว่า
00:52:12 → 00:52:15 สำคัญคือก็ผมผมไม่ค่อยซีเรียสเรื่องก่อน
00:52:15 → 00:52:18 หรือหลังเท่าไหร่แต่ว่าขอแค่ว่าวิตามิน
00:52:18 → 00:52:21 ซีนี่อย่าไปรับประทานช่วงก่อนนอนแค่นั้น
00:52:21 → 00:52:23 เองช่วงเย็นเท่านั้นเท่านั้นอช่วงกลางวัน
00:52:23 → 00:52:25 ช่วงไหนก็ได้นะครับก็ตัวนี้มันก็จะเป็น
00:52:25 → 00:52:29 ลักษณะแบบรับประทานเป็นเหมือนเอ่อ
00:52:29 → 00:52:32 Maintenance น่ะนะครับนะเป็นแต่ว่าถ้า
00:52:32 → 00:52:35 บางท่านต้องการแบบเป็นลักษณะของการเป็น
00:52:35 → 00:52:39 แอนติออกซินจะปริมาณที่มากขึ้นแต่การรับ
00:52:39 → 00:52:42 ประทานวิตามินซีเยอะขึ้นมันจะระคายเคือง
00:52:42 → 00:52:46 ทางเดือนอาหารอ่าบางทีคุณหมอเก็จะเป็น
00:52:46 → 00:52:50 เปลี่ยนจรับประทานไปเป็นเข้าเเรียกว่าดร
00:52:50 → 00:52:52 บ้างอะไรบบเนี้ยแต่ว่าคงไม่ลงรายละเอียด
00:52:52 → 00:52:55 เรมันเป็นเรื่องของอ่าทางด้านเฉพาะตัวที่
00:52:55 → 00:52:58 ต้องปรึกษาคุณหมอนะคะถือว่าวันนี้ครบถน
00:52:58 → 00:53:01 หลายวิตามินมากเลยแล้วก็ขอบคุณคุณหมอมาก
00:53:01 → 00:53:04 ที่ให้เกียรติมาในรายการเราวิตามินเยอะ
00:53:04 → 00:53:07 มากค่ะเดี๋ยวมาคุณหมอมาอธิบายเพิ่มค่ะ
00:53:07 → 00:53:09 สำหรับวันนี้หมดเวลาแล้วนะคะขอบคุณนาย
00:53:09 → 00:53:12 แพทย์พพลคำมนตรีค่ะรักษาการผู้อำนวยการ
00:53:12 → 00:53:15 คุณภาพและผู้ช่วยผู้อำนวยการบริหารส่วน
00:53:15 → 00:53:17 บริหารโรงพยาบาลไทยนครินทร์แพทย์เฉพาะทาง
00:53:17 → 00:53:21 ด้านเวชศาสตร์ป้องกันค่ะ