00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับในขณะนี้นะครับก็มีกระแสการ
00:00:03 → 00:00:06 ดื่มนมดิบหรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Raw
00:00:06 → 00:00:08 Milk นะครับเพิ่มมากขึ้นนะครับเนื่องจาก
00:00:08 → 00:00:12 ว่านมดิบเนี่ยมันมีคุณค่าทางโภชนาการที่
00:00:12 → 00:00:15 ค่อนข้างที่จะสูงนะครับก็เลยทำให้หลายๆคน
00:00:15 → 00:00:18 เนี่ยหันกลับมาสนใจรวมทั้งมันไม่ได้ผ่าน
00:00:18 → 00:00:22 กรรมวิธีอะไรเลยทำให้ความกังวลในแง่ของ
00:00:22 → 00:00:26 การที่มีการเติมสารเคมีการผ่านกรรมวิธี
00:00:26 → 00:00:28 ต่างๆที่อาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ
00:00:28 → 00:00:32 ร่างกายเนี่ยมันได้ถูกลบล้างหายไปก็เลย
00:00:32 → 00:00:35 เป็นกระแสการดื่มนมดิบขึ้นมานะครับวันนี้
00:00:35 → 00:00:37 เนี่ยนะครับผมก็อยากจะมาอธิบายให้ฟังนะ
00:00:37 → 00:00:40 ครับว่านมดิบจริงๆแล้วเนี่ยมันคืออะไรมัน
00:00:40 → 00:00:43 มีคุณค่าทางโภชนาการอะไรแค่ไหนอย่างไรมัน
00:00:43 → 00:00:46 มีข้อดีอย่างไรและที่สำคัญครับก่อนที่เรา
00:00:46 → 00:00:49 จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อะไรสักอย่างนั้นเรา
00:00:49 → 00:00:52 ก็มีความจำเป็นที่จะต้องรู้จักกับข้อเสีย
00:00:52 → 00:00:55 ของมันซะก่อนเพราะว่าในโลกนี้ไม่มีอะไร
00:00:55 → 00:00:56 สักอย่างที่มันมีแค่ประโยชน์อย่างเดียว
00:00:57 → 00:01:00 โดยที่ไม่มีโทษนะครับดังนั้นถ้าเราฟัง
00:01:00 → 00:01:02 คลิปของผมวันนี้จบแล้วก็จะสามารถตัดสินใจ
00:01:02 → 00:01:05 ได้อย่างถูกต้องว่าเราจะเลือกดื่มหรือเรา
00:01:05 → 00:01:08 จะไม่ดื่มนมดิบนะครับพบกับผมนะครับนาย
00:01:08 → 00:01:10 แพทย์ธนีธนียวันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่
00:01:10 → 00:01:12 ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ
00:01:12 → 00:01:15 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับผมต้องขอ
00:01:16 → 00:01:17 บอกอย่างนี้ก่อนนะครับว่าผมเนี่ยเคยทำ
00:01:17 → 00:01:19 คลิปเรื่องเกี่ยวข้องกับนมไปแล้วแต่ยัง
00:01:19 → 00:01:23 ไม่ได้ออกมาพูดเรื่องของนมดิบนะครับนม
00:01:23 → 00:01:26 เนี่ยมันไม่ได้เป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้อง
00:01:26 → 00:01:29 กินนะครับสารอาหารที่มีอยู่ในนมทั้งหมด
00:01:29 → 00:01:31 เนี่ยเราสามารถสามารถหาได้จากแหล่งอื่น
00:01:31 → 00:01:33 ทั้งหมดเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแคลเซียม
00:01:33 → 00:01:37 ซึ่งเราจะสามารถหาได้จากงาหรือว่าปลาตัว
00:01:37 → 00:01:39 เล็กๆที่เราสามารถกินก้างมันเข้าไปได้พวก
00:01:39 → 00:01:41 นี้เราก็จะสามารถได้แคลเซียมมาโดย
00:01:41 → 00:01:44 ธรรมชาตินะครับหรือสารอาหารชนิดอื่นเช่น
00:01:44 → 00:01:48 โปรตีนวิตามินเนื้อสัตว์ต่างๆมันก็มีนะ
00:01:48 → 00:01:51 ครับโปรตีนวิตามินเราก็หาได้จากอ่าเนื้อ
00:01:51 → 00:01:55 วัวนะครับปลาถั่วอย่างนี้เป็นต้นวิตามิน
00:01:55 → 00:01:59 ก็มีหลากหลายชนิดในในสัตว์ในพืชนะครับคือ
00:01:59 → 00:02:01 สรุปอะไแล้วว่าเราไม่จำเป็นจะต้องกินนมก็
00:02:01 → 00:02:04 ได้นะฮะแต่ทีนี้ถ้าเราจำเป็นจะต้องกินนม
00:02:04 → 00:02:08 หรือเราชอบกินหรือเราอยากจะกินนมนะครับก็
00:02:08 → 00:02:10 มีความจำเป็นจะต้องมารู้จักกันว่านมดิบ
00:02:10 → 00:02:14 เนี่ยมันคืออะไรครับนมดิบในที่นี้นะครับ
00:02:14 → 00:02:17 มันก็หมายถึงการที่เราเอานมจากสัตว์ซึ่ง
00:02:17 → 00:02:20 ส่วนใหญ่ก็เป็นวัวนะครับมาดื่มกินโดยที่
00:02:20 → 00:02:24 นมนั้นไม่ได้มีการผ่านกรรมวิธีอะไรเลยแม้
00:02:24 → 00:02:27 แต่น้อยพูดง่ายๆครับรีดออกมาจากเต้าเอาไป
00:02:28 → 00:02:30 ใส่ขวดแช่ตู้เย็นแล้วก็ดื่มมันอย่างนั้นแ
00:02:30 → 00:02:33 แหละนะครับหรือบางคนก็ดื่มตั้งแต่ตอนที่
00:02:33 → 00:02:35 ออกมาจากเต้าใหม่ๆเลยก็ได้นะครับอันนี้ก็
00:02:36 → 00:02:39 คือนมดิบทีนี้ในนมดิบหรือ Raw Milk
00:02:39 → 00:02:41 เนี่ยนะครับมันก็จะมีสารอาหารต่างๆค่อน
00:02:41 → 00:02:45 ข้างที่จะเยอะนะแน่นอนคือมีโปรตีนนะฮะมี
00:02:45 → 00:02:48 สิ่งที่มันจะไม่โดนทำลายเช่นเอนไซม์ชนิด
00:02:48 → 00:02:51 ต่างๆไม่ว่าจะเป็นแลคเตสนะครับที่เอาไว้
00:02:51 → 00:02:54 ย่อยพวกตัวแลคโตสที่อยู่ในนมนะครับสำหรับ
00:02:55 → 00:02:58 บางคนที่ดื่มนมเข้าไปแล้วเนี่ยมันมีอาการ
00:02:58 → 00:03:01 ปวดท้องท้องอืดขึ้นไส้ท้องเสียนะครับก็
00:03:01 → 00:03:03 เพราะว่าท่านเนี่ยไม่สามารถที่จะสร้าง
00:03:03 → 00:03:06 เอนไซมแลคเตสได้การดื่มนมดิบซึ่งมันมี
00:03:06 → 00:03:08 เอนไซม์ตัวนี้เนี่ยอยู่ในนั้นก็จะทำให้
00:03:08 → 00:03:11 ท่านสามารถที่จะย่อยตัวนมได้แล้วก็สามารถ
00:03:11 → 00:03:14 ดูดซึมสารอาหารต่างๆที่มันอยู่ในนมได้นะ
00:03:14 → 00:03:17 ครับอ่าแลคเตสก็เป็นหนึ่งในเอนไซม์มี
00:03:17 → 00:03:19 อย่างอื่นก็มีฟอสฟาเทสนะครับแล้วก็มีตัวอ
00:03:19 → 00:03:22 ๆอีกมากมายนี่เป็นกรณีของเอนไซม์นะครับมี
00:03:22 → 00:03:24 โปรตีนที่มันเกี่ยวข้องกับภูมิต้านทานนะ
00:03:24 → 00:03:26 ครับช่วยเสริมภูมิต้านทานเช่น
00:03:26 → 00:03:28 อิมมูโนโกลบูลิน g อิมมูโนโกลบูลิน a
00:03:28 → 00:03:31 แล้วก็แลคแินนะครับพวกนี้เป็นสารที่มัน
00:03:31 → 00:03:35 ช่วยในการกำจัดเชื้อโรคต่างๆนะครับแล้วก็
00:03:35 → 00:03:39 มีอยู่ในนมวัวแบบเต็มๆด้วยนะครับแคลเซียม
00:03:39 → 00:03:41 อ่ะแน่นอนนะครับในนมวัวมีแคลเซียมนะครับ
00:03:41 → 00:03:44 มีวิตามินอื่นๆด้วยเช่นวิตามิน B12
00:03:44 → 00:03:47 วิตามิน b6 นะครับอ่ามีวิตามินซีแล้วก็
00:03:47 → 00:03:50 โฟลิแอซิดหรืออื่นๆอีกมากมายนะครับพวกนี้
00:03:50 → 00:03:53 ก็เป็นสิ่งที่เราเจอได้นอกเหนือจากนี้ยัง
00:03:53 → 00:03:56 ไม่พอครับมีเชื้อโรคตัวที่ดีด้วยนะครับ
00:03:56 → 00:03:58 เราเรียกว่าเป็นแบคทีเรียตัวดีหรือ
00:03:58 → 00:04:01 โปรไบโอติกนะพวกพวกนี้ก็จะเข้าไปเสริม
00:04:01 → 00:04:03 สร้างทำให้ลำไส้ของเราเนี่ยมีแบคทีเรีย
00:04:03 → 00:04:06 ตัวดีเอาไว้ต่อสู้กับเชื้อโรคแปลกๆที่มัน
00:04:06 → 00:04:09 อาจจะทำร้ายอันตรายกับร่างกายของเราได้นะ
00:04:09 → 00:04:12 ครับทีนี้เมื่อพูดมาถึงตรงเนี้ยหลายคนก็
00:04:12 → 00:04:16 คงจะคิดว่าเฮ้ยมันก็ดีนี่นามันดีต่อ
00:04:16 → 00:04:18 สุขภาพสารอาหารก็ครบถ้วนถ้าเรากินแล้วเรา
00:04:18 → 00:04:20 ย่อยนมได้เนี่ยเราก็สามารถจะดูดซึม
00:04:20 → 00:04:24 แคลเซียมวิตามินโปรตีนค่าเชื้อโรคได้อีก
00:04:24 → 00:04:26 แล้วไปเติมแบคทีเรียตัวดีให้กับลำไส้ของ
00:04:26 → 00:04:29 เรายังงั้นมันก็น่าจะดีถูกมั้ยครับอ่าอ่า
00:04:29 → 00:04:33 ก็ต้องบอกอย่างนี้ก่อนครับว่าคนสมัยก่อน
00:04:33 → 00:04:35 เมื่อหมื่นปีที่แล้ว
00:04:35 → 00:04:39 เนี่ยตอนแรกนะครับเค้าก็ไม่รู้จักการทำ
00:04:39 → 00:04:41 ฟาร์มปลาสุสัตว์หรอกครับเค้าก็ไปล่าสัตว์
00:04:42 → 00:04:46 ไปหาผลไม้หาต้นไม้อะไรมามารับประทานทีนี้
00:04:46 → 00:04:48 เนี่ยการจะทำแบบนั้นมันก็แน่นอนครับว่ามี
00:04:48 → 00:04:51 ข้อจำกัดในเรื่องของอาหารก็เลยเกิดไอเดีย
00:04:51 → 00:04:54 ขึ้นมาในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงวัวมันไว้ซะ
00:04:54 → 00:04:57 เลยนะครับเอาไว้ดื่มนมเอาไว้กินเนื้อมัน
00:04:57 → 00:04:59 ก็ได้นะครับก็เลยเกิดเป็นฟาร์มวัวขึ้นมา
00:04:59 → 00:05:02 ในตอนนั้นนะครับสมัยก่อนก็เลยดื่มแต่นม
00:05:02 → 00:05:06 วัวทีนี้กลุ่มที่เค้ามีความมั่นใจกับนม
00:05:06 → 00:05:08 วัวมากๆก็จะบอกว่าเนี่ยบรรพบุรุษของเรา
00:05:08 → 00:05:11 เนี่ยเค้าก็ดื่มนมวัวดิบๆนี่นมวัวสดเลย
00:05:11 → 00:05:13 อ่ะออกมาจากเต้าแบบนั้นเลยสมัยก่อนไม่มี
00:05:13 → 00:05:15 แม้กระทั่งตู้เย็นด้วยเค้าก็ดื่มกันแบบ
00:05:15 → 00:05:17 นั้นนะครับแล้วก็แข็งแรงดีนะฮะไม่ได้มี
00:05:17 → 00:05:21 ปัญหาอะไรนะฮะมันก็เลยทำให้กระแสที่บอก
00:05:21 → 00:05:24 ว่าเราต้องทานอาหารต้นทางโดยที่ไม่ปรุง
00:05:24 → 00:05:26 อะไรเลยไม่มีการปรุงแต่งไม่มีการผ่าน
00:05:26 → 00:05:28 กรรมวิธีเนี่ยมันดังขึ้นมานะครับเพราะว่า
00:05:28 → 00:05:31 อุ้ยมันเป็นของธรรมชาติเราไม่ได้ใส่สาร
00:05:31 → 00:05:34 เคมีเข้าไปแล้วมันก็มีคุณค่าทางโภชนาการ
00:05:34 → 00:05:38 ครบถ้วนแต่คุณรู้อะไรมั้ยครับทำไมถ้ามัน
00:05:38 → 00:05:41 ดีขนาดนั้นแล้วเดี๋ยวเนี้ยนมถึงต้องมี
00:05:41 → 00:05:47 กรรมวิธีต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นพชหรือ uh
00:05:47 → 00:05:52 หรืออื่นๆเออทำไมล่ะฮะก็เพราะว่านมเนี่ย
00:05:52 → 00:05:56 มันมีเชื้อโรคค่อนข้างที่จะเยอะมากๆนะ
00:05:56 → 00:05:59 ครับทุกท่านเนี่ยผมคิดว่าเคยได้ยินเรื่อง
00:05:59 → 00:06:02 ของวัณโรคจริงมั้ยครับวัณโรคเนี่ยเกิดจาก
00:06:02 → 00:06:04 เชื้อตัวนึ่งชื่อว่าไบค teri
00:06:04 → 00:06:08 tuberculosis ในวัวก็มีวัณโรคครับมัน
00:06:08 → 00:06:09 ชื่อว่าไมโครแบคทีเรีย
00:06:09 → 00:06:14 ovis แล้วสามารถติดมาสู่คนได้ด้วยนมนี่
00:06:14 → 00:06:18 แหละนมดิบนี่แหละดังนั้นถ้าเราดื่มนมดิบ
00:06:18 → 00:06:20 เข้าไปแล้วบังเอิญมีเชื้อตัวนี้อยู่ใน
00:06:20 → 00:06:23 ร่างกายของวัวแล้วมันออกมาในนมเราได้รับ
00:06:23 → 00:06:26 เข้าไปเราก็จะเกิดปัญหาได้ครับอาการของ
00:06:26 → 00:06:29 วัณโรควัวเนี่ยมันเป็นยังไงเหมือนวัณโรค
00:06:29 → 00:06:32 คนเปี๊ยบเลยครับถ้าคุณดื่มมันเข้าไปแล้ว
00:06:32 → 00:06:34 คุณกินเข้าไปเนี่ยแล้วร่างกายคุณแข็งแรง
00:06:35 → 00:06:37 ดีคุณก็จะไม่เกิดปัญหาขึ้นมาแต่เชื้อมัน
00:06:37 → 00:06:39 ก็จะอยู่ตรงนั้นละครับรอวันที่คุณอ่อนแอ
00:06:39 → 00:06:43 แล้วก็จะเกิดอาการต่างๆเช่นไอออกมาเป็น
00:06:43 → 00:06:45 เลือดนะครับน้ำหนักลดมีไข้ตลอดเวลาถ้ามัน
00:06:45 → 00:06:47 เข้าไปที่กระเพาะก็เป็นวัณโรคลำไส้ได้นะ
00:06:47 → 00:06:50 ครับเกิดลำไส้อุดตันได้ไปที่กระดูกเป็น
00:06:50 → 00:06:54 วัณโรคกระดูกได้และที่สำคัญครับวัณโรควัว
00:06:54 → 00:06:57 ไมโคแบคทีเรียมโวสเนี่ยมันดื้อยาตัวนึง
00:06:57 → 00:06:59 ที่เอาไว้ใช้ในการรักษาวัณโรคทั่วไปดัง
00:07:00 → 00:07:03 นั้นแปลว่าจะรักษามันได้เนี่ยก็จะต้องใช้
00:07:03 → 00:07:06 ยาตัวอื่นๆซึ่งจะทำให้กระบวนการรักษา
00:07:06 → 00:07:09 เนี่ยยุ่งยากแล้วมักจะต้องให้ยาเป็นระยะ
00:07:09 → 00:07:12 เวลานานกว่าปกติซะด้วยนะครับอ่าถ้าใคร
00:07:12 → 00:07:15 สงสัยมันก็คือยาชื่อว่า Pin นะครับที่มัน
00:07:15 → 00:07:19 มักจะดื้อนะก็ต้องไปใช้ยาตัวอื่นแทนนะนี่
00:07:19 → 00:07:21 คือหนึ่งในเชื้อโรคที่เป็นไปได้แล้วมันก็
00:07:21 → 00:07:24 เคยระบาดมาในอดีตด้วยนะครับอีกตัวนึงซึ่ง
00:07:24 → 00:07:26 เคยมีการระบาดที่อเมริกานะครับเพราะว่า
00:07:26 → 00:07:28 กระแสนมดิบที่อเมริกาเนี่ยมันก็มาแรง
00:07:28 → 00:07:31 เหมือนกันนะนะฮะนั่นก็คือเชื้อปรสิทธิ์
00:07:31 → 00:07:32 ตัวนึงชื่อว่า
00:07:32 → 00:07:35 cryptosporidium นะตัวนี้เนี่ยมันจะทำ
00:07:35 → 00:07:38 ให้เกิดท้องเสียรุนแรงนะครับในคนทั่วไป
00:07:38 → 00:07:40 ที่ภูมิต้านทานแข็งแรงคุณไม่เกิดปัญหา
00:07:40 → 00:07:41 หรอกครับคุณกินเข้าไปคุณท้องเสียเดี๋ยว
00:07:41 → 00:07:45 คุณก็หายเองแต่ถ้าเกิดคุณเป็นเด็กคุณเป็น
00:07:45 → 00:07:48 คนท้องคุณเป็นคนที่กินยากดภูมิต้านทานคุณ
00:07:49 → 00:07:52 เป็นโรค HIV ที่ยังไม่ได้รับการรักษาพวก
00:07:52 → 00:07:54 เนี้ยถ้าได้คริตสปิมเข้าไปในร่างกายนะ
00:07:54 → 00:07:57 ครับมันไม่หายไปไหนครับคุณจะท้องเสีย
00:07:57 → 00:08:01 เรื้อรังระยะยาวแล้วยาเนี่ยก็ไม่มีด้วยยา
00:08:01 → 00:08:03 ที่มีก็มักจะไม่ค่อยได้ผลกินไปก็เท่านั้น
00:08:03 → 00:08:06 บางคนกินก็หายบางคนกินก็ไม่หายครับนี่คือ
00:08:07 → 00:08:09 ความน่ากลัวแล้วสมัยก่อนเนี่ยมันก็เคยมี
00:08:09 → 00:08:12 เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นแล้วแต่สมัยนี้ก็ยัง
00:08:12 → 00:08:15 มีเพราะว่ากระแสนมดิบมันกลับมาใหม่ครับ
00:08:15 → 00:08:18 น่ามันกลับมาใหม่นะฮะนี่ผมยกตัวอย่างให้
00:08:18 → 00:08:21 ฟังแค่ 2 ตัวนะถามว่าตัวอื่นๆมีอะไรอีก
00:08:21 → 00:08:24 บ้างไหนๆก็จะเล่าละเล่าให้มันหลายๆตัว
00:08:24 → 00:08:28 แล้วกันตัวที่ 3 มีตัวนึงชื่อว่า listeria
00:08:28 → 00:08:31 monocytogenes นะครับตัวนี้เนี่ยเป็นตัว
00:08:31 → 00:08:34 ร้ายสำหรับคนท้องเลยครับเพราะว่ามันจะทำ
00:08:34 → 00:08:37 ให้เกิดเยื่อสุ่มสมองอักเสบได้ในคนท้อง
00:08:37 → 00:08:42 ลูกที่เกิดมาเนี่ยบางทีตายนะครับตายเลย
00:08:42 → 00:08:45 เสียชีวิตนะครับคลอดก่อนกำหนดแล้วโรคนี้
00:08:45 → 00:08:48 เป็นโรคที่เวลาเราเรียนหมอเนี่ยเราจะทราบ
00:08:48 → 00:08:51 ดีถ้าเกิดคนท้องมาด้วยอาการของเยื้อหุม
00:08:51 → 00:08:54 สมองอักเสบนะครับมีไข้นะครับมีอาการคอตึง
00:08:54 → 00:08:57 แข็งเวลาเราดึงลงมันดึงไม่ลงเนี่ยนะครับ
00:08:57 → 00:09:00 นอกเหนือจากเชื้อปกติที่เราต้องรักษาแล้ว
00:09:00 → 00:09:03 ยังต้องมีเชื้อพิเศษคือียตัวเนี้ยในการ
00:09:03 → 00:09:06 รักษาด้วยแล้วเชื้อตัวนี้จะต้องใช้ยา
00:09:06 → 00:09:08 กลุ่มเพนิซิลินชื่อว่าแอมพิซิลลินในการ
00:09:08 → 00:09:11 รักษานะฮะไม่ฉะนั้นก็ต้องไปใช้ยาตัวอื่น
00:09:11 → 00:09:14 ที่อาจจะมีปัญหาได้นะนี่คือตัวนึงซึ่งเรา
00:09:14 → 00:09:19 เจอว่ามันติดได้ทางนมดิบนะครับอ่ะมาตัว
00:09:19 → 00:09:22 ที่ 4 ตัวนี้ชื่อว่า Blue cella
00:09:22 → 00:09:25 อ้าบู cella เนี่ยเป็นตัวประหลาดอย่างนึง
00:09:25 → 00:09:28 นะครับมันสามารถติดมาจากสัตว์สูคนได้แล้ว
00:09:28 → 00:09:31 ที่สำคัญครับมันไม่ได้วินิจฉัยง่ายเลยไม่
00:09:31 → 00:09:34 ได้วินิจฉัยง่ายเลยนะฮะมีไข้มีปวดข้อปวด
00:09:34 → 00:09:37 กล้ามเนื้ออาจจะมีตับอักเสบนิดๆหน่อยๆ
00:09:37 → 00:09:39 อาการไม่จำเพาะอะไรสักอย่างนึงเลยแล้วถ้า
00:09:39 → 00:09:41 ซักประวัติไม่ได้หรือว่าหมอที่เขาซักแล้ว
00:09:41 → 00:09:45 ไม่รู้เนี่ยไม่มีทางวินิจฉัยตัวนี้ได้นะ
00:09:45 → 00:09:47 เออแล้วมันต้องใช้ยาพิเศษในการฆ่ามันด้วย
00:09:47 → 00:09:51 นะครับนี่แหละแล้วมันติดเชื้อระยะยาวเป็น
00:09:51 → 00:09:55 อาการเรื้อรังก็ได้อีกตัวนึงก็คือ coel
00:09:55 → 00:09:59 burnet Ti ตัวนี้เนี่ยอาการก็ไม่จำเพาะ
00:09:59 → 00:10:01 เหมือนกันแต่มันร้ายกว่าครับคือมันทำให้
00:10:01 → 00:10:05 เกิดลิ้นหัวใจติดเชื้อได้ครับเออมันทำให้
00:10:05 → 00:10:08 เกิดลิ้นหัวใจติดเชื้อได้นะอันนี้ก็เป็น
00:10:08 → 00:10:10 สิ่งนึงซึ่งวินิจฉัยได้ยากมากไอ้ 2 โลก
00:10:10 → 00:10:13 เนี้ยบูลกับคอกซ่าเนี่ยคือถ้าเกิดว่าใคร
00:10:13 → 00:10:16 ที่เอ่อไม่คิดถึงมันซักประวัติไม่ได้หรือ
00:10:16 → 00:10:19 ซักแล้วไม่รู้หรือหมอคนไหนที่แบบเออเรียน
00:10:19 → 00:10:21 มาแล้วลืมไปแล้วรืว่ามันมีตัวนี้อยู่ใน
00:10:21 → 00:10:23 โลกนี้ด้วยหรือบางทีไม่รู้จักด้วยเอ้ยมัน
00:10:23 → 00:10:26 คืออะไรไม่เคยได้ยินมาก่อนนั่นแหละครับ
00:10:26 → 00:10:29 น่ากลัวมากนะเพราะว่าวินิจฉัยไม่ง่ายเลย
00:10:29 → 00:10:31 นะบางคนอาจจะไปแล้วบอกเอ้ยเป็นไข้ธรรมดา
00:10:31 → 00:10:34 เป็นจากไวรัสมึงเอายาไปกินแล้วมันไม่หาย
00:10:34 → 00:10:38 นี่นะโหดร้ายมากนะครับยังมีตัวอื่นอีก
00:10:38 → 00:10:40 ครับมันยังไม่จบแค่นี้มีตัวนึงชื่อว่า
00:10:40 → 00:10:45 เอชีย chine นะครับ o157 h7 ตัวเนี้ย
00:10:45 → 00:10:47 เป็นตัวพิเศษเพราะว่าถ้าคุณติดเข้าไปใน
00:10:47 → 00:10:51 ร่างกายแล้วล่ะก็มันจะทำให้มีปัญหาเรื่อง
00:10:51 → 00:10:54 ของอุจจาระเนี่ยท้องร่วงเกิดมีมูกมีเลือด
00:10:54 → 00:10:57 ออกมาได้และไม่แค่นั้นครับมันทำให้มีโรค
00:10:57 → 00:11:01 ไตวายชนิดหนึ่งชื่อว่า hemolytic uremic
00:11:01 → 00:11:06 Syndrome ไตวายได้เม็ดเลือดแดงแตกได้
00:11:06 → 00:11:09 แล้วไม่ได้รักษาง่ายนะครับพวกเนี้ยบางคนไ
00:11:09 → 00:11:13 วายถาวรเลยต้องใช้เครื่องล้างไตถาวรก็มี
00:11:13 → 00:11:17 บางคนก็ฟื้นกลับมาคล้ายเดิมได้คล้ายเดิม
00:11:17 → 00:11:20 แปลว่ามันมีบางคนที่กลับมาฆ่าตายปกติแต่
00:11:20 → 00:11:23 ไอ้บางคนเ่ะฆ่าตายผิดปกติไปตลอดชีวิตแล้ว
00:11:23 → 00:11:26 ไม่หายด้วยไม่รู้ว่าคุณจะแจ็คพอตไปเจอ
00:11:26 → 00:11:29 เชื้อตัวนี้หรือไม่อ่านี้ตอบไม่ได้แล้ว
00:11:29 → 00:11:32 บอกไปเลยนะครับเชื้อพวกเนี้ยวัวไม่จำเป็น
00:11:33 → 00:11:36 จะต้องแสดงอาการผิดปกติครับแม่วัวปกติ
00:11:36 → 00:11:39 เปี๊ยบเลยก็ได้แต่มีเชื้อพวกนี้อยู่นะ
00:11:39 → 00:11:40 ครับ
00:11:40 → 00:11:43 เอ่อยังมีเชื้อตัวอื่นๆอีกเช่นอ่า campy
00:11:43 → 00:11:46 bac เจจูตัวนี้ก็ทำให้เกิดท้องเสียได้
00:11:46 → 00:11:49 แล้วก็อ่าเอ้อที่สำคัญ Camp bacter เจจู
00:11:49 → 00:11:52 เนี่ยเป็นตัวที่มีความเกี่ยวข้องกับโรคๆ
00:11:52 → 00:11:54 หนึ่งชื่อว่า Gang barry Syndrome เคย
00:11:54 → 00:11:57 มีคนถามผมเรื่องโรคนี้แล้วครับ ilang Bar
00:11:57 → 00:12:00 Syndrome เนี่ยคือมันเป็นโรคอัมพาตนะ
00:12:00 → 00:12:04 ครับเ่าเป็นอัมพาตเลยอ่ะแขนขาเป็นอัมพาต
00:12:04 → 00:12:07 เคลื่อนไหวไม่ได้นะครับมันรักษาได้นะแต่
00:12:07 → 00:12:10 ว่าหลังจากรักษาแล้วเนี่ยกว่าคุณจะกลับมา
00:12:10 → 00:12:13 เป็นปกติสมมุติรักษาทันนะต้องรักษาทัน
00:12:13 → 00:12:16 ต้องเจอหมอที่เขารู้จากโรคนี้จริงๆนะฮะ
00:12:16 → 00:12:17 รักษา
00:12:17 → 00:12:20 ทันใช้เวลาเป็นอาทิตย์เป็นเดือนกว่าคุณจะ
00:12:20 → 00:12:24 ฟื้นกำลังกลับมาเป็นปกติครับบางคนถ้าเกิด
00:12:24 → 00:12:28 ว่าในขั้นตอนการฟืตัวเนี่ยไม่หมั่นออก
00:12:28 → 00:12:31 กำลังกายไม่กภาพนะครับซึมเศร้าทำอะไรไม่
00:12:31 → 00:12:35 ได้ขี้เกียจท้อแท้ก็ไม่กลับมาเป็นเหมือน
00:12:35 → 00:12:37 เดิมนะครับก็จะอ่อนแอเหมือนเดิมและหลัง
00:12:37 → 00:12:40 จากนั้นโรคต่างๆก็จะตามมาไปเรื่อยๆนั่น
00:12:40 → 00:12:42 แหละนะครับดังนั้นอันนี้ก็เป็นเชื้อโรค
00:12:42 → 00:12:46 ตัวนึงซึ่งอยู่ในนมดิบของวัวที่ทำให้เกิด
00:12:46 → 00:12:48 ปัญหาได้ยังมีเชื้อโรคที่ทำให้เกิดท้อง
00:12:48 → 00:12:51 เสียเช่นสฟิ cus oras เนี่ยมันปล่อยพิษ
00:12:51 → 00:12:55 ออกมาก็จะท้องเสียได้เอ่อมีปรสิทตัวนึง
00:12:55 → 00:12:59 ชื่อ toxoplasma กดีตัวนี้เนี่ยก็มีปัญหา
00:12:59 → 00:13:02 ได้ถ้าเกิดว่าติดเข้าไปในแม่ที่ตั้งท้อง
00:13:02 → 00:13:05 อยู่ลูกออกมาผิดปกติทางสมองได้เลยนะครับ
00:13:05 → 00:13:08 แล้วแก้ไม่ได้รักษาไม่ได้ด้วยเป็นแล้ว
00:13:08 → 00:13:11 เป็นเลยช่วยไม่ได้นะฮะเป็นแล้วเป็นเลยถ้า
00:13:11 → 00:13:14 เป็นคนที่เป็นโรค HIV อย่างเงี้ยตัวเนี้ย
00:13:14 → 00:13:18 มันสามารถขึ้นไปในสมองได้เป็นฝีในสมองได้
00:13:18 → 00:13:21 นะแล้วทอกพลาสมากดีมันมีอีกที่นึงที่มาก็
00:13:21 → 00:13:25 คืออยู่ในแมวครับนอยู่ในแมวดังนั้นคนไหน
00:13:25 → 00:13:27 ที่ภูมิต้านทานอ่อนแอเป็นคนท้องเป็นคนที่
00:13:27 → 00:13:30 กินยากดภูมิต้านต้าทานนะครับมีเบาหวานที่
00:13:30 → 00:13:32 ควบคุมไม่ได้เป็นโรคตับที่มันเสียไปแล้ว
00:13:32 → 00:13:36 นะครับหรือว่ากินหรือว่าอ่าเราเป็น HIV
00:13:36 → 00:13:38 ที่ยังรักษาได้ไม่ดีเนี่ยอย่าไปยุ่งกับ
00:13:38 → 00:13:40 ขี้แมวครับเพราะมันอยู่ในทางเดินอาหารของ
00:13:40 → 00:13:43 แมวมันขี้ออกมาแล้วถ้าใคุณไปจัดการกับขี้
00:13:43 → 00:13:45 แมวแล้วมันระเหยเข้ามาคุณหายใจเข้าไปคุณ
00:13:45 → 00:13:47 ก็ติดไปเรียบร้อยแล้วแล้วก็รอวันที่จะให้
00:13:47 → 00:13:49 มันแสดงอาการออกมาซึ่งคุณไม่มีทางรู้ว่า
00:13:49 → 00:13:52 ครับว่าจะแสดงอาการมั้ยจะแสดงเมื่อไหร่
00:13:52 → 00:13:55 แล้วจะเป็นยังไงต่อไปนี่ทั้งหมดที่ผมพูด
00:13:56 → 00:13:59 มาเนี่ยก็มีในนมดิบนะครับยังมีเชื้ออื่นๆ
00:13:59 → 00:14:02 อีกมากมายที่ผมคิดได้อีกตัวนึงก็เอิ่ม
00:14:02 → 00:14:07 เซียเคิอ่าเซีียเนี่ยมันเป็นเชื้อที่แบบ
00:14:07 → 00:14:10 ชอบชอบธาตุเหล็กนะบางคนกินบางคนที่มีธาตุ
00:14:10 → 00:14:12 เหล็กเกินในร่างกายนะไม่ว่าจะเป็นซีเมีย
00:14:13 → 00:14:17 เป็นเอ่อโรคคาเหล็กเกินฮีโม osis ก็จะติด
00:14:17 → 00:14:20 ไอ้เชื้อพวกนี้ไปได้นะครับเนี่ยผมพูดทั้ง
00:14:20 → 00:14:23 หมดเนี่ยมั่นใจได้เลยว่าไม่ค่อยมีคนจำได้
00:14:23 → 00:14:25 หรอกว่ามีเชื้ออะไรบ้างแต่จะบอกว่าทั้ง
00:14:25 → 00:14:29 หมดเนี่ยมันมีในน้ำนมวัวได้และมันแก้ไข
00:14:29 → 00:14:32 ได้ง่ายนิดเดียวครับทำ
00:14:32 → 00:14:34 piz ทำ
00:14:34 → 00:14:38 piz คนในอดีตเนี่ยที่คุณว่าเคฉลาดแล้ว
00:14:38 → 00:14:42 ใช่มั้ยฮะเคฉลาดที่เอาวัวมาเลี้ยงเฉลาด
00:14:42 → 00:14:44 ที่กินนมวัวที่มีคุณค่าทางสารอาหารทำให้
00:14:44 → 00:14:47 เขารอดตายจากการอดอาหารเค้ามีอาหารกิน
00:14:47 → 00:14:50 ตลอดทั้งปีเพราะว่าเขาคเลี้ยงวัวไว้กินนม
00:14:50 → 00:14:52 แต่ว่าก็จะตามมาด้วยการเกิดโรคระบาดพวก
00:14:52 → 00:14:55 เนี้ยจนเาเสียชีวิตไปในอดีตแล้วเขาคก็
00:14:56 → 00:14:59 เรียนรู้ครับจากนี้คือเฮ้ยมันมีวิธีที่จะ
00:14:59 → 00:15:01 ทำให้มันปลอดภัยแล้วเราดื่มได้โดยที่ไม่
00:15:01 → 00:15:03 มีปัญหาก็คือแค่เอานมเนี่ยไปผ่านความร้อน
00:15:03 → 00:15:07 ขนาดสูงระยะเวลาสั้นๆ pation แล้วสามารถ
00:15:07 → 00:15:11 ทำให้เรากินนมได้โดยปลอดภัยครับแต่คุณรู้
00:15:11 → 00:15:14 อะไรมั้ยครับสายที่กินนมดิบบางคนเนี่ย
00:15:15 → 00:15:18 เค้าไปโฆษณาอย่างเดียวก็คือคนสมัยก่อนก็
00:15:18 → 00:15:21 กินไม่เห็นเป็นอะไรเลยแข็งแรงสุขภาพดีฉัน
00:15:21 → 00:15:23 ก็ดื่มเนี่ยไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยสุขภาพดี
00:15:23 → 00:15:25 แต่เขาลืมไปแล้วครับว่าคนสมัยก่อนเนี่ย
00:15:25 → 00:15:28 เขาเป็นคนเข้าใจว่านมดิบมันมีปัญหาตรงไหน
00:15:28 → 00:15:31 แล้วแล้วเคเป็นคนคิดวิธีในการแก้ปัญหานี่
00:15:31 → 00:15:35 แหละนะครับงั้นเราต้องรู้ว่ามันมีวิธีใน
00:15:35 → 00:15:38 การป้องกันการติดเชื้อต่างๆที่มาจากนี้
00:15:38 → 00:15:41 ได้อ่ะตอนนี้ก็คงจะมีคนสงสัยแล้วครับว่า
00:15:41 → 00:15:45 เฮ้ยถ้ามันจะมีเชื้อโรคเยอะซะขนาดเนี้
00:15:45 → 00:15:48 แล้วทำไมลูกวัวไม่เห็นเป็นอะไรเลยก็ดื่ม
00:15:48 → 00:15:51 นมจากแม่วัวเออทำไมลูกวัวไม่เห็นป่วยเลยอ
00:15:51 → 00:15:54 อ่าแสดงว่าท่านไม่เข้าใจอะไรสักอย่างนะ
00:15:54 → 00:15:57 ครับข้อแรกนะครับผมขอถามท่านง่ายๆเลยท่าน
00:15:57 → 00:16:01 เป็นวัวเ่าครับเราเป็นคนเราไม่ใช่วัวหรือ
00:16:01 → 00:16:04 ว่าท่านเกิดมาหน้าเหมือนวัวอ่าใช่มั้ยฮะ
00:16:04 → 00:16:07 ไม่นับคนเกิดปีวัวนะครับนี่นับคนไม่ใช่
00:16:07 → 00:16:11 นับวัวนะครับคนกับวัวหน้าก็ไม่เหมือนกัน
00:16:11 → 00:16:16 และระบบร่างกายก็ไม่เหมือนกันครับแล้ววัว
00:16:16 → 00:16:18 เนี่ยถ้าลูกวัวใครเลี้ยงวัวก็คงจะรู้ดี
00:16:18 → 00:16:23 ว่าถึงแม้ว่าจะดื่มนมจากเต้าของแม่วัว
00:16:23 → 00:16:25 จริงๆเลยเนี่ยความสะอาดก็เป็นสิ่งสำคัญ
00:16:25 → 00:16:28 ถ้าสกปรกนิดนึงปุ๊บเนี่ยนะครับลูกวัวก็
00:16:29 → 00:16:32 ป่วยได้ครับลูกวัวเขาก็ป่วยได้ดังนั้นจึง
00:16:32 → 00:16:36 ต้องมีความสะอาดพอสมควรนะครับทีนี้เนี่ย
00:16:36 → 00:16:40 ถามว่าวัวกับเรามันต่างกันยังไงลูกวัว
00:16:40 → 00:16:43 เนี่ยนะครับเกิดมาปุ๊บเนี่ยน้ำนมของแม่
00:16:43 → 00:16:47 เนี่ยจะเป็นแหล่งอาหารเพียงแหล่งเดียว
00:16:47 → 00:16:49 แล้วใน 7 วันแรกเนี่ยมันจะมีน้ำนมน้ำ
00:16:49 → 00:16:53 เหลืองที่เรียกว่า ostro ซึ่งคนก็มีนะแต่
00:16:53 → 00:16:56 ว่าวัวเนี่ยเขาจะดื่มตรงนี้เข้าไป ostrom
00:16:56 → 00:16:58 ของวัวเนี่ยจะมีภูมิต้านทานที่ส่งมาจาก
00:16:58 → 00:17:02 แม่วัวให้กับลูกวัวเต็มๆนะครับซึ่งถามว่า
00:17:02 → 00:17:05 มีคนคนไหนกินนมดิบแล้วไปเอาลสรุ่มดิบของ
00:17:05 → 00:17:10 วัวมากินมครับไม่มีหรอกครับนะไม่มีงั้น
00:17:10 → 00:17:12 วัวเนี่ยเขาจะได้ตัวป้องกันลำไส้ของเขา
00:17:12 → 00:17:16 จากตรงนี้ไปแล้ว 1 อันอันที่ 2 ลูกวัว
00:17:16 → 00:17:20 เนี่ยจะมีความเป็นกรดในกระเพาะสูงกว่าคน
00:17:20 → 00:17:25 เยอะมากนะสูงกว่าคนนะครับสูงกว่าคนชัดเจน
00:17:25 → 00:17:27 ดังนั้นเชื้อโรคอะไรแปลกๆพวกเนี้ยเข้าไป
00:17:27 → 00:17:29 ในกระเพาะวัวปุ๊บอ่าวัวมันจัดการทำลาย
00:17:29 → 00:17:32 ทิ้งหมดเลยนะฮะรวมทั้งวัวมันสามารถสร้าง
00:17:33 → 00:17:36 สารต้านการติดเชื้อต่างๆออกมาในตัวของมัน
00:17:36 → 00:17:40 เองได้นะครับโปรไบโอติกอ่ะวัวมันก็ได้มา
00:17:40 → 00:17:43 จากเต้านมแม่วัวนี่แหละนะครับสิ่งเหล่า
00:17:43 → 00:17:47 เนี้ยคือเป็นสิ่งที่ลูกวัวมันแตกต่างจาก
00:17:47 → 00:17:52 คนนะฮะแตกต่างจากคนดังนั้นถ้าเกิดคุณบอก
00:17:52 → 00:17:54 ว่าลูกวัวไม่ป่วยเราก็จะทำจากวัวเราก็ทำ
00:17:54 → 00:17:58 เหมือนลูกวัวมั่งก็คงไม่ได้นะครับแล้วไม่
00:17:58 → 00:18:01 เพียงแค่นนั้นครับคุณรู้มยว่าถ้าเกิดว่า
00:18:01 → 00:18:04 คุณดื่มนมวัวดิบทุกวันทำไมคุณไม่ป่วยใน
00:18:04 → 00:18:07 บางคนเพราะว่าคุณต้องเลือกแหล่งที่มัน
00:18:07 → 00:18:10 เชื่อถือได้มีการดูแลวัวอย่างดีไม่มีการ
00:18:10 → 00:18:13 ติดเชื้อแล้วมีขั้นตอนการเก็บนมที่ดี
00:18:13 → 00:18:14 เพราะคุณลองคิด
00:18:14 → 00:18:18 ดูนมวัวที่ออกมาจากเต้าวัวใหม่ๆเนี่ยก็
00:18:18 → 00:18:21 ขึ้นกับคนรีดนมวัวเนี่ยรักษาความสะอาดแค่
00:18:21 → 00:18:24 ไหนถูกมั้ยฮะถ้ารักษาความสะอาดไม่ดีอ่ะ
00:18:24 → 00:18:26 ติดเชื้ออีกสกปรกอีกใช่มั้ยครับมันก็
00:18:26 → 00:18:28 เหมือนเวลาคุณไปกินอาหารมาถ้าเกิดคุณเอา
00:18:28 → 00:18:30 มือไปไปจับดินจับทรายมาแล้วคุณมากินอาหาร
00:18:30 → 00:18:33 โดยมือคุณไม่ล้างเนี่ยคุณก็ได้ปัญหาเข้า
00:18:33 → 00:18:37 ไปนะครับถูกมยนมวัวก็เหมือนกันขั้นตอนคีด
00:18:37 → 00:18:39 เ้าเป็นยังไงอุปกรณ์ถังที่เก็บนมเนี่ยมัน
00:18:39 → 00:18:44 สะอาดมยแล้วเอาไปเทใส่ในอ่าขวดขวดนั้น
00:18:44 → 00:18:47 สะอาดมยทิ้งไว้นานเท่าไหร่เพราะอย่าลืมนะ
00:18:47 → 00:18:50 ครับนมวัวที่คุณทิ้งไว้นานมันเป็นไงครับ
00:18:51 → 00:18:54 มันเสียใช่มั้ยมันบูดมันกินไม่ได้มันมี
00:18:54 → 00:18:57 เชื้อโรคนะครับดังนั้นก็ไม่รู้ว่าเค้า
00:18:57 → 00:19:00 ทิ้งไว้ข้างนอกนานกี่นาทีความร้อนเป็นยัง
00:19:00 → 00:19:03 ไงถ้าร้อนเกินไปอ่ะเชื้อโรคก็มันมันก็งอก
00:19:03 → 00:19:06 เงยกันเป็นปัญหาอีกนะครับถ้าเกิดอุณหภูมิ
00:19:06 → 00:19:08 ไม่เย็นเลยทีเดียวอ่ะเชื้อโรคก็มีปัญหา
00:19:08 → 00:19:10 อีกมันอยู่ในช่วงที่เราเรียกว่า Danger
00:19:10 → 00:19:12 Zone นะครับก็คือประมาณ 40 -140 องศ
00:19:12 → 00:19:15 ฟาเรนไฮนะครับถ้าเกิดมันไม่อยู่ในช่วงถ้า
00:19:15 → 00:19:17 มันอยู่ในช่วงอุณหภูมิอย่างเงี้ยมันก็อาจ
00:19:17 → 00:19:20 จะมีการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้ก็ต้อง
00:19:20 → 00:19:23 มีความระมัดระวังนะครับปัญหามันอยู่ตรง
00:19:23 → 00:19:27 นี้ครับคุณรู้ว่าโอเคความสะอาดเนี่ยเป็น
00:19:27 → 00:19:30 สิ่งที่ต้องมีนะแน่ๆแม่วัวต้องสุขภาพแข็ง
00:19:30 → 00:19:33 แรงสภาพในฟาร์มต้องสะอาดนะครับขั้นตอนการ
00:19:33 → 00:19:35 จัดเก็บเนี่ยมันมีเวลาเฉพาะของมันมี
00:19:35 → 00:19:37 อุณหภูมิเฉพาะของมันในการทำนมบีบออกมา
00:19:37 → 00:19:41 แล้วคุณจะรู้ได้ยังไงครับว่าเค้าตำทำตาม
00:19:41 → 00:19:44 มาตรฐานที่สมควรทำคุณเดินไปดูที่โรงงาน
00:19:44 → 00:19:46 เค้าหรือเปล่าครับถ้าคุณเดินเข้าไปดูที่
00:19:46 → 00:19:49 โรงงานเค้าคุณจะรู้มว่าขั้นตอนไหนที่เกิด
00:19:49 → 00:19:51 ความผิดปกติได้คุณมีความรู้ขนาดนัก
00:19:51 → 00:19:55 วิชาการที่ดูแลเรื่องนมหรือเปล่าถ้าไม่มี
00:19:55 → 00:19:58 แล้วคุณไม่ได้ไปดูด้วยตาตัวเองคุณจะมั่น
00:19:58 → 00:20:00 ใจได้ยังไงว่าไอ้ของพวกนั้นเนี่ยไม่มี
00:20:00 → 00:20:02 เชื้อโรคพวกนี้ป่น
00:20:02 → 00:20:07 มานั่นแหละครับคือปัญหาอ่าดังนั้นวันนี้
00:20:07 → 00:20:09 ผมพูดมาทั้งหมดเนี่ยจะบอกว่านมดิบมันก็มี
00:20:09 → 00:20:12 สารอาหารเต็มๆเหมือนกันแต่มันก็มีข้อเสีย
00:20:12 → 00:20:16 ในเรื่องของโรคติดเชื้อชนิดต่างๆนะครับ
00:20:16 → 00:20:19 การให้ความร้อนโดย pation โอเคมันทำลาย
00:20:19 → 00:20:23 พวกโภชนาการบางอย่างของนมวัวไปได้แต่มัน
00:20:23 → 00:20:26 ก็จะทำให้ความปลอดภัยมีสูงขึ้นมากๆเลยที
00:20:26 → 00:20:29 เดียวในการดื่มนมพวกนี้นะครับถ้าท่านยัง
00:20:29 → 00:20:33 คิดที่จะดื่มนมนมดิบอย่างเงี้ยก็ต้องมี
00:20:33 → 00:20:38 ความมั่นใจว่านมนี้แหล่งที่มามาจากไหนมี
00:20:38 → 00:20:40 การดูแลเรื่องของความสะอาดความปลอดภัย
00:20:40 → 00:20:44 อย่างมาตรฐานแค่ไหนนะครับถ้าผมไปฟังคนคน
00:20:44 → 00:20:47 นึงเล่ามาว่าเฮ้ยเราได้นมดิบมาจากเจ้านี้
00:20:47 → 00:20:50 มันดีจริงดีมากๆเลยเป็นศาสตราจารย์ด้านนม
00:20:50 → 00:20:52 เลยนะครับผมก็ยังไม่เชื่อตราบใดก็ตามที่
00:20:52 → 00:20:55 ผมไม่ได้มีความรู้เรื่องนมดิบแล้วไปดูที่
00:20:55 → 00:20:58 ฟาร์มนมนั้นด้วยตัวเองนะครับผมก็ไม่มั่น
00:20:58 → 00:20:59 ใจเหมือนเหมือนกันว่าเขาจะทำได้อย่างที่
00:20:59 → 00:21:01 พูดหรือเปล่าเพราะว่าแน่นอนครับเวลาคนมา
00:21:01 → 00:21:05 ขายนมดิบหรือโฆษณานมดิบก็ต้องพูดแต่ข้อดี
00:21:05 → 00:21:09 ครับนะแล้วก็ต้องพูดให้คุณเนี่ยมีความ
00:21:09 → 00:21:12 สงสัยความเคลือบแคลงในหน่วยงานรัฐหน่วย
00:21:12 → 00:21:14 งานที่เกี่ยวข้องว่าเฮ้ยเา้าจะออกมาพูด
00:21:14 → 00:21:17 เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทนมหรือ
00:21:17 → 00:21:20 เปล่าอ่าเขาออกมาพูดเพื่อที่จะให้คนกลัวอ
00:21:20 → 00:21:25 นี้หรือเปล่าแต่ก็ต้องบอกว่าโอเคแล้วคุณ
00:21:25 → 00:21:27 รู้หรือเปล่าว่าไอ้สิ่งที่คุณผลิตออกมานม
00:21:27 → 00:21:29 ดิบเนี่ยมันปลอดภัยแค่ไหนคุณเอามาตรฐาน
00:21:29 → 00:21:33 อะไรมาการันตีคุณมีการไปถ่ายทำนมขาดแต่
00:21:33 → 00:21:36 ขั้นตอนแค่ไหนยังไงบ้างหรือคุณแค่โฆษณา
00:21:36 → 00:21:39 มันออกมาเฉยๆและใช้ปากเปล่าพูดอ่านี้คือ
00:21:39 → 00:21:43 สิ่งสำคัญนะครับสุดท้ายนี้การที่จะเลือก
00:21:43 → 00:21:47 นมดิบมาดื่มนะครับแล้วแต่คุณเลยครับแล้ว
00:21:47 → 00:21:51 แต่คุณผมไม่ได้มีการสนับสนุนหรือห้ามการ
00:21:51 → 00:21:53 ดื่มนมดิบแต่ว่าการที่จะเลือกดื่มอะไรัก
00:21:53 → 00:21:56 อย่างหนึ่งเป็นสิทธิและเป็นหน้าที่ของคุณ
00:21:56 → 00:21:58 ที่จะต้องศึกษาแล้วก็เป็นความรับผิดชอบ
00:21:58 → 00:22:01 ของคุณเองนั่นแหละครับที่ดื่มแล้วถ้าดีก็
00:22:01 → 00:22:04 ดีไปถ้าเกิดดื่มแล้วมีปัญหาอันนั้นก็เป็น
00:22:04 → 00:22:07 เพราะว่าคุณตัดสินใจด้วยตัวเองนมเนี่ยคุณ
00:22:07 → 00:22:08 ไม่จำเป็นจะต้องไปดื่มมันเลยก็ได้นะครับ
00:22:08 → 00:22:11 สารอาหารทั้งหมดคุณสามารถหาได้จากอย่าง
00:22:11 → 00:22:13 อื่นหมดแต่ถ้าท่านที่จะต้องการดื่มนมแล้ว
00:22:13 → 00:22:16 อยากจะดื่มนมดิบก็จะต้องเข้าใจในส่วนที่
00:22:16 → 00:22:18 ผมเล่าในวันนี้ด้วยนะครับโอเควันนี้ผมก็
00:22:18 → 00:22:20 เล่าให้ฟังเพียงเท่านี้นะครับใครมีคำถาม
00:22:20 → 00:22:23 สงสัยอะไรก็สอบถามมานะครับขอบคุณมากครับ
00:22:23 → 00:22:26 สวัสดีครับ