00:00:00 → 00:00:05 โน้ท
00:00:05 → 00:00:07 ด.ช
00:00:07 → 00:00:58 [เพลง]
00:00:58 → 00:01:05
00:01:05 → 00:01:09 ม.ค
00:01:09 → 00:01:21 [เพลง]
00:02:05 → 00:02:06 อ่านต่อ
00:02:06 → 00:03:05 [เพลง]
00:03:05 → 00:03:09 ม.ค
00:03:09 → 00:04:05 [เพลง]
00:04:05 → 00:04:09 ม.ค
00:04:09 → 00:04:24 [เพลง]
00:05:05 → 00:05:06 โน้ท
00:05:06 → 00:05:27 [เพลง]
00:05:27 → 00:05:29
00:05:29 → 00:05:29 [เพลง]
00:05:29 → 00:05:32 ก็
00:05:32 → 00:05:59 [เพลง]
00:05:59 → 00:06:02 สวัสดีค่ะคุณผู้ชมคะ
00:06:02 → 00:06:04 ถ้าอยู่ด้วยกันที่นี่ค่ะกับรายการสุขภาพ
00:06:04 → 00:06:07 ดีกับหมอสวนดอกนะคะรายการจากคณะ
00:06:07 → 00:06:10 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะดิฉัน
00:06:10 → 00:06:12 จะรีอนุมิตอานนท์นะคะจากการประชาสัมพันธ์
00:06:12 → 00:06:15 คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กลับมา
00:06:15 → 00:06:18 อยู่ด้วยกันที่นี่วันนี้พบกันในวันศุกร์
00:06:18 → 00:06:21 ค่ะสุขสุดสัปดาห์คุณผู้ชมคะกับรายการ
00:06:21 → 00:06:25 สุขภาพดีกับหมอสวนดอกท่านที่เข้ามาแล้วนะ
00:06:25 → 00:06:29 คะทักทายกันค่ะทั้งหมด 20 ท่าน 20 ท่านขอ
00:06:29 → 00:06:32 คนละ 1 แชร์และกันนะคะกดไลค์กดติดตามแล้ว
00:06:32 → 00:06:34 ก็กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้กับอาจารย์
00:06:34 → 00:06:38 หมอของเราด้วยนะคะวันนี้ประเด็นน่าสนใจนะ
00:06:38 → 00:06:41 คะคุณผู้ชมเคยได้ยินคำว่าไบโพล่าร์ไหมคะ
00:06:41 → 00:06:44 ช่วงก่อนเนี่ยจะได้ยินกันแบบแค่ทุกวันนะ
00:06:44 → 00:06:47 คะว่าไบโพล่าไบโพล่ามันคืออะไรหลายคน
00:06:47 → 00:06:51 สงสัยนะว่าลักษณะที่อารมณ์ของตัวเองมัน
00:06:51 → 00:06:53 ไม่ค่อยปกติเนี่ยเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
00:06:53 → 00:06:57 เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงอะไรเงี้ย x เป็น
00:06:57 → 00:07:00 ไบโพล่าร์หรือเปล่าหรือว่ามันแค่เป็น
00:07:00 → 00:07:02 อารมณ์แต่ปรวนหรือว่ามันแค่หงุดหงิดหรือ
00:07:02 → 00:07:04 วันนี้มีประจำเดือนมาหรือเปล่าเนี่ยมันจะ
00:07:04 → 00:07:07 โดนบ่อยๆนะวะเป็นอะไรเนี่ยเป็นไบโพล่าร์
00:07:07 → 00:07:10 นะคะเดี๋ยววันนี้เราจะมาหาคำตอบกันกับ
00:07:10 → 00:07:13 อาจารย์หมอจากภาควิชาจิตเวชศาสตร์ค่ะจะมา
00:07:13 → 00:07:17 เล่าให้เราฟังว่าไบโพล่าร์มันคืออะไรนะคะ
00:07:17 → 00:07:20 สังเกตตัวเองยังไงสัญญาณเตือนมันมีไหมนะ
00:07:20 → 00:07:23 คะแล้วนะครับว่ามันเต็มเนี่ยจะรักษายังไง
00:07:23 → 00:07:26 ดีรักษาให้หายขาดได้ไหมหรือว่ารักสายไป
00:07:26 → 00:07:29 แล้วกลับมาเป็นซ้ำได้หรือเปล่าวันนี้คุย
00:07:29 → 00:07:32 กับอาจารย์หมอกันค่ะแต่ว่าตอนที่จะไปคุย
00:07:32 → 00:07:34 กับอาจารย์นะคะแล้วก็รอคุณจะมีหลายท่าน
00:07:34 → 00:07:39 ที่กำลังเข้ามาด้วยนะคะก็มีข่าวฝาก
00:07:39 → 00:07:41 ประชาสัมพันธ์นะจากโรงพยาบาลมหาราชนคร
00:07:41 → 00:07:44 เชียงใหม่แจ้งให้กับทุกๆท่านได้ทราบรวม
00:07:44 → 00:07:47 ถึงเรื่องการฉีดวัคซีนด้วยค่ะอ่ะ
00:07:47 → 00:07:51 ต่อไปเรื่องแรกนะคะจากโรงพยาบาลตอนนี้ก็
00:07:51 → 00:07:54 ยังฝากถึงทุกๆท่านที่อาจจะเดินทางมาจาก
00:07:54 → 00:07:57 ต่างจังหวัดนะคะขอความร่วมมือว่าถ้ามาจาก
00:07:57 → 00:08:01 เขตพื้นที่สีแดงหรือว่าในจังหวัดที่มีผู้
00:08:01 → 00:08:05 ป่วยติดเชื้อโควิชนะคะก็ต้องขอความร่วม
00:08:05 → 00:08:08 มือว่าให้งดข้าวภายในตัวอาคารของโรง
00:08:08 → 00:08:11 พยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ก่อนหากมีความจำ
00:08:11 → 00:08:14 เป็นจริงๆขอให้ไปใช้บริการที่ห้องตรวจคัด
00:08:14 → 00:08:17 กรองโรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำนะคะต้องขอ
00:08:17 → 00:08:20 อภัยมาณโอกาสนี้ด้วยนะคะถ้าหากว่าเกิด
00:08:20 → 00:08:23 ความไม่สะดวกใดๆเกิดขึ้นแต่ก็เพื่อความ
00:08:23 → 00:08:27 ปลอดภัยค่ะทุกท่านคะอ่ะคะแล้วก็ช่วงนี้
00:08:27 → 00:08:30 ยังคงต้องงดเยี่ยมนะคะงดเยี่ยมผู้ป่วยค่ะ
00:08:30 → 00:08:34 คุณผู้ชมค้ากรณีที่มีผู้ป่วยวิกฤตนะคะนอน
00:08:34 → 00:08:38 อยู่ที่โรงพยาบาลสามารถอนุญาตให้เยี่ยม 1
00:08:38 → 00:08:41 คนนะคะในวันและเวลาราชการที่โรงพยาบาล
00:08:41 → 00:08:43 กำหนดให้เข้าเยี่ยมเท่านั้นส่วนกรณีผู้
00:08:43 → 00:08:47 ป่วยห้องพักพิเศษอยู่อ่ะพักกันในห้อง
00:08:47 → 00:08:50 พิเศษเลยนะคะที่เรียกกันญาติจะสามารถเฝ้า
00:08:50 → 00:08:53 ได้ 1 คนแล้วก็ขอความกรุณาไม่เปลี่ยนคน
00:08:53 → 00:08:56 เฝ้านะคะเพื่อที่จะลดความเสี่ยงในการ
00:08:56 → 00:09:00 สัมผัสเชื้อด้วยค่ะแนะนำว่าให้ยืมผ่านทาง
00:09:00 → 00:09:03 โทรศัพท์ Video Call หรือว่าวิธีอื่นแทน
00:09:03 → 00:09:06 กันเดินทางมาโรงพยาบาลดีกว่าค่ะสามารถจัด
00:09:06 → 00:09:09 การและการป้องกันการเฝ้าระวังการระบาดของ
00:09:09 → 00:09:12 ไวรัสโคโรนานะคะขออภัยในความไม่สะดวกมาณ
00:09:12 → 00:09:15 ที่มีค่ะอ่ะคือเรื่องของการฉีดวัคซีนนะคะ
00:09:15 → 00:09:18 หลายๆท่านที่ได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนที่โรง
00:09:18 → 00:09:21 พยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ทุกท่านจะได้รับ
00:09:21 → 00:09:25 SMS นะคะในการยืนยันให้มารับการฉีด
00:09:25 → 00:09:27 วัคซีนนะคะแล้วตอนนี้ก็มีประกาศล่าสุด
00:09:27 → 00:09:31 แล้วค่ะเรื่องของการเปลี่ยนแปลงวันนัดฉีด
00:09:31 → 00:09:34 วัคซีนป้องกันปุ๋ย 19 ของโรงพยาบาลมหาราช
00:09:34 → 00:09:37 นครเชียงใหม่นะคะสำหรับผู้ที่มีนัดหมาย
00:09:37 → 00:09:40 ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ประจำเดือนกันยานี้นะ
00:09:40 → 00:09:44 คะรถเข้ารับการฉีดวัคซีนหานัดหมายเดิมจะ
00:09:44 → 00:09:47 เป็นแถบสีฟ้าด้านหน้านะคะนัดหมายใหม่จะ
00:09:47 → 00:09:51 เป็นแถบสีเขียวๆค่ะใครที่มีนัดตรงกับวัน
00:09:51 → 00:09:55 ที่ปรากฏอยู่หน้าจอนะคะก็คือวันที่
00:09:55 → 00:10:02 14 นัดเดิมคือ 14 16 21 23 28 และ 30
00:10:02 → 00:10:06 กันยายนนะคะนับใหม่เลื่อนไปอีก 1 วันนะคะ
00:10:06 → 00:10:09 เลื่อนอีก 1 วันในนี่คือเลื่อนไวขึ้นนะคะ
00:10:09 → 00:10:13 จาก 14 เลื่อนเป็น 10 36 เดือนเป็น 15
00:10:13 → 00:10:16 ก็เห็ดเลื่อนเป็น 20 นะคะแล้วก็ 23
00:10:16 → 00:10:20 เลื่อนเป็น 22 28 เลื่อนเป็น 29 30
00:10:20 → 00:10:24 กันยายนนะคะเลื่อนเป็น 1 ตุลาคมนี้จะช้า
00:10:24 → 00:10:27 ไปช้าไป 1 วันนั้นมีสองวันที่ช้าไป 1 วัน
00:10:27 → 00:10:30 คือวันที่ 28 กับ 30 นะคะเลื่อนเป็น 29
00:10:30 → 00:10:33 แล้ววันที่ 1 สำหรับผู้ที่มีนัดในวันที่ 6
00:10:33 → 00:10:39 10 13 15 17 22 27 29 กันยายนแล้ว
00:10:39 → 00:10:42 ก็วันที่ 1 ตุลาคมนะคะการนัดหมายยังไม่มี
00:10:42 → 00:10:45 การเปลี่ยนแปลงนะคะรวมถึงท่านอื่นๆด้วย
00:10:45 → 00:10:48 ค่ะทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องของเวลานัดเนี่ย
00:10:48 → 00:10:52 นะคะขอให้ดูจากข้อความ SMS นะคะที่ทางโรง
00:10:52 → 00:10:55 พยาบาลส่งไปให้ซึ่งจะส่งไปให้ก่อนวันนัด
00:10:55 → 00:10:59 ฉีดประมาณ 1-3 วันค่ะคุณผู้ชมคะฝากบอกถึง
00:10:59 → 00:11:03 เหลือหลายท่านที่มีนัดฉีดวัคซีนของโรง
00:11:03 → 00:11:06 พยาบาลด้วยว่าให้สังเกต SMS ด้วยค่ะอ่ะ
00:11:06 → 00:11:09 แต่ในส่วนของคนที่ฉีดไปแล้วหลายๆท่านถาม
00:11:09 → 00:11:12 ว่าจะขอหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนเพื่อ
00:11:12 → 00:11:15 ใช้ในการทำงานเพื่อใช้ในการเดินทางจะต้อง
00:11:15 → 00:11:18 ทำยังไงบ้างนะคะในส่วนของโรงพยาบาลมหาราช
00:11:18 → 00:11:22 นครเชียงใหม่เองเนี่ยเราให้แอดไลน์นะคะ
00:11:22 → 00:11:25 แอดไลน์ของงานบริหารโรงพยาบาลสวนดอกค่ะ
00:11:25 → 00:11:28 รายคิวอาร์โค้ดที่ขึ้นอยู่ที่หน้าจอนะคะ
00:11:28 → 00:11:31 หรือเป็น id line ได้ App จากไอดีไลน์นะ
00:11:31 → 00:11:36 คะ ID LINE ก็คือ 993 NSX r r y u
00:11:36 → 00:11:39 ง่ายกว่านั้นสแกนเลยค่ะแจ้งความประสงค์
00:11:39 → 00:11:41 ผ่านไลน์ด้วยการกดปุ่มเลือกขอหนังสือรับ
00:11:41 → 00:11:44 รองการฉีดวัคซีนแล้วก็กรอกข้อมูลให้เรียบ
00:11:44 → 00:11:47 ร้อยนะคะทำตามขั้นตอนที่ปรากฏอยู่หน้าจอ
00:11:47 → 00:11:50 ตอนนี้ค่ะท่านก็จะได้รับหนังสือรับรองใน
00:11:50 → 00:11:53 การฉีดวัคซีนค่ะอันนี้แชร์ให้เพื่อนๆด้วย
00:11:53 → 00:11:58 นะคะอ่ะติดต่อไปค่ะท่านที่ยังไม่ได้เป็น
00:11:58 → 00:12:01 friend หรือว่าเป็นเพื่อนกันในสวนดอก
00:12:01 → 00:12:04 ปลายนะคะสวนดอกลาย Host ดีเท่าของเราค่ะ
00:12:04 → 00:12:09 จะเป็นลาย official นะคะ at med.cmu mee
00:12:09 → 00:12:13 D cmu นะคะหรือว่าจะสแกนคิวอาร์โค้ดที่
00:12:13 → 00:12:16 ขึ้นบนหน้าจอตอนนี้ค่ะท่านก็จะได้รับข่าว
00:12:16 → 00:12:20 สารความรู้นะคะแล้วก็เรื่องของการวันนัด
00:12:20 → 00:12:23 นะคะยานะคะที่ท่านจะต้องได้รับเลยเนี่ยมี
00:12:23 → 00:12:26 ข้อมูลเยอะแยะมากมายที่อยู่ในนั้นค่ะแอด
00:12:26 → 00:12:28 เป็นเพื่อนกันเลยส่วนใครที่แอปไม่เป็นขอ
00:12:28 → 00:12:31 ให้ลูกหลานหรือว่าให้เพื่อนๆที่เขามีลาย
00:12:31 → 00:12:34 สวนดอกแล้วเนี่ยช่วยกันแอบก็ได้นะคะไม่
00:12:34 → 00:12:37 ยากเลยรู้นะว่าใครที่มีปัญหาโทรศัพท์มา
00:12:37 → 00:12:39 สอบถามก็ได้ที่โรงพยาบาลมหาราชนคร
00:12:39 → 00:12:40 เชียงใหม่นะคะ
00:12:40 → 00:12:42
00:12:42 → 00:12:45 36150 ค่ะ
00:12:45 → 00:12:48 มาส่งย่าทางไปรษณีย์ตอนนี้นะหากว่าค่ะยาว
00:12:48 → 00:12:51 ใครใกล้หมดเช็คยาไม่อยากมาโรงพยาบาลนะคะ
00:12:51 → 00:12:53 แต่ขอให้เช็คล่วงหน้าก่อนประมาณ 1
00:12:53 → 00:12:56 อาทิตย์ค่ะแล้วก็โทรแสดงความจำนงได้ที่ 0
00:12:56 → 00:13:02 5393 400 550 5393 4005 นะคะทอสอบ
00:13:02 → 00:13:05 ถามก่อนว่ายาของเราเนี่ยสามารถส่งทาง
00:13:05 → 00:13:08 ไปรษณีย์ได้ไหมได้ไม่ได้อย่างไรนะคะเราจะ
00:13:08 → 00:13:11 มีพยาบาลแล้วก็เจ้าหน้าที่เนี่ยคอยให้คำ
00:13:11 → 00:13:14 ปรึกษาท่านค่ะหรือจะง่ายๆนะคะแอดไลน์มา
00:13:14 → 00:13:16 เนี้ยที่บอกไปเราสามารถแสดงความจำนงผ่าน
00:13:16 → 00:13:19 ลายตัวนั้นเลยก็ได้ค่ะยิ่งๆขึ้นไปใหญ่เลย
00:13:19 → 00:13:21 ค่ะคุณชมภัก
00:13:21 → 00:13:24 อีกต่อไปอันนี้อยากจะขอเชิญชวนนะคะสำหรับ
00:13:24 → 00:13:27 ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสมทบทุนเพื่อ
00:13:27 → 00:13:29 ปรับปรุงอาคารผู้ป่วยสุจิณโณของโรงพยาบาล
00:13:29 → 00:13:32 มหาราชนครเชียงใหม่สามารถสอบถามเพิ่มเติม
00:13:32 → 00:13:36 ได้ทางมูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอกได้เลยหรือ
00:13:36 → 00:13:39 จะมันต่อฝากผ่านบัญชีธนาคารนะคะ
00:13:39 → 00:13:42 ไทยพาณิชย์นะคะที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอตอน
00:13:42 → 00:13:45 นี้ค่ะ Capture หน้าจอไว้เลยสามารถบริจาค
00:13:45 → 00:13:48 สมทบทุนได้ค่ะว่าท่านใดอยากจะร่วมทำบุญนะ
00:13:48 → 00:13:52 คะก็สอบถามได้ทุกๆวันเลยค่ะที่หมายเลข
00:13:52 → 00:13:54 โทรศัพท์ 0 5393
00:13:54 → 00:13:57 84000 539
00:13:57 → 00:14:01 36000 และ 0 5393
00:14:01 → 00:14:04 8800 โทรถามได้เลยค่ะ
00:14:04 → 00:14:07 และสุดท้ายนี้อยากจะฝากถึงคุณผู้ชมทุก
00:14:07 → 00:14:10 ท่านเรื่องของเขาไปสำคัญที่เรานำมาเสนอใน
00:14:10 → 00:14:13 วันนี้นะคะทั้งหมดก็เป็นข่าวของงานเกิด
00:14:13 → 00:14:15 จากการประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลมหาราชนคร
00:14:15 → 00:14:18 เชียงใหม่และอยากจะฝากว่าจะไปไหนมาไหนให้
00:14:18 → 00:14:20 สวมหน้ากากอนามัยมันล้างมือแล้วก็อย่าไป
00:14:20 → 00:14:23 อยู่ใกล้ๆถ้าเราไม่รู้จักเค้านะคะก็คือ
00:14:23 → 00:14:27 ให้เว้นระยะห่างอย่างเฮงคัท 3 ข้อนี้
00:14:27 → 00:14:31 เพื่อความปลอดภัยของพวกเราเองค่ะกลับมา
00:14:31 → 00:14:33 ที่ที่ในรายการของเราอาจารย์หมอนั่งรอ
00:14:33 → 00:14:36 อยู่แล้วตอนนี้เรื่องของไบโพล่าร์นะคะ
00:14:36 → 00:14:39 ชื่อตอนของเราอันนี้เนี่ยชัดมากเดี๋ยวดี
00:14:39 → 00:14:43 เดี๋ยวร้ายเฮ้ยหรือเป็นโรคไบโพล่าร์หรือ
00:14:43 → 00:14:47 เปล่านะคะวันนี้จะเราจะมาสังเกตตัวเองทำ
00:14:47 → 00:14:49 ที่มีคำถามและถามคอมเม้นท์เข้ามาค่ะแล้ว
00:14:49 → 00:14:52 เดี๋ยวเราจะให้อาจารย์ตอบให้นะคะเรื่อง
00:14:52 → 00:14:55 ของโรคไบโพล่าร์หรือที่เรารู้จักกันก็คือ
00:14:55 → 00:14:58 โรคอารมณ์สองขั้วนะคะเขาเรียกว่า
00:14:58 → 00:15:00 ไบโพล่าร์สองขั้วนี้นี่คือเดี๋ยวก็นี่ดี
00:15:00 → 00:15:04 บทจะดีก็ดีใจหายบทจะไม่ดีขึ้นมาเนี่ย
00:15:04 → 00:15:07 โอ้โหน้องฟิวดาวมากคือแบบรู้สึกแย่จังเลย
00:15:07 → 00:15:10 เลยเนี้ยเขาบอกว่าทั่วโลกนี้ออกมามันมีคน
00:15:10 → 00:15:14 ป่วยโรคไบโพล่าร์เนี่ย 60 ล้านคนน่ะทั้ง
00:15:14 → 00:15:19 ลูกนะคะแต่ก็มีคนไทยเองนะคะพบว่าป่วยอ่ะ
00:15:19 → 00:15:23 ห้าแสนคนอันนี้ได้จำนวนมาจากกรมสุขภาพจิต
00:15:23 → 00:15:25 จะไม่แน่ใจว่าอัพเดทเมื่อปีไหนเดี๋ยวต้อง
00:15:25 → 00:15:27 ลองถามอาจารย์หน่อยอีกทีนะคะแล้วก็รักษา
00:15:27 → 00:15:31 กันเป็นหลักหมื่นเลยอ่ะเราดูแบบนี้เรา
00:15:31 → 00:15:34 เนี่ยโหคงจะต้องมาสังเกตตัวเองแล้วว่า
00:15:34 → 00:15:37 เอ๊ะเราเนี่ยเป็นอารมณ์แต่ตัวธรรมดา
00:15:37 → 00:15:40 ธรรมดาตามฮอร์โมนด้านขายของเราหรือว่า
00:15:40 → 00:15:42 เป็นโรคไบโพล่าร์กันแน่นะคะวันนี้ฉันได้
00:15:42 → 00:15:45 เรียนเชิญท่านผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์
00:15:45 → 00:15:48 อวิรุทธ์อุ่นอารมณ์ค่ะอาจารย์ประจำภาค
00:15:48 → 00:15:50 วิชาจิตเวชศาสตร์คณะแพทยศาสตร์
00:15:50 → 00:15:53 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มาพูดคุยกันถึง
00:15:53 → 00:15:56 เรื่องของโรคไบโพลาร์โดยเฉพาะเลยคุณผู้ชม
00:15:56 → 00:16:00 รักสวัสดีแล้วก็ต้อนรับอาจารย์ค่ะครับ
00:16:00 → 00:16:04 สวัสดีคุณผู้ชมด้วยนะคะถ้าอาจารย์ดีค่ะ
00:16:04 → 00:16:09 อาจารย์หมอคะครับโรคใบโคราช 1 อะไรนะเช้า
00:16:09 → 00:16:14 โซเชียลใหญ่ๆจริงๆกระแสงานๆและผมเข้าใจ
00:16:14 → 00:16:17 ว่าคือมีคนพูดถึงโลกนี้ค่อนข้างเยอะอยู่
00:16:17 → 00:16:19 แล้วนะครับก็
00:16:19 → 00:16:23 ทั้งสื่อเนาะทั้งสื่อ tv Social Media
00:16:23 → 00:16:27 นะครับแล้วก็อาจจะอยู่ในข่าวค่ะท่านๆจะ
00:16:27 → 00:16:30 เยอะเหมือนกันที่นี้อ่าอาจจะมีความเข้าใจ
00:16:30 → 00:16:33 หลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในสังคมที่อาจจะคาด
00:16:33 → 00:16:36 เคลื่อนไปบ้างแล้วนี้เดี๋ยวอาจจะค่อยๆดู
00:16:36 → 00:16:39 กันไปว่าเอ๊ะจริงๆแล้วโรคไบโพล่าร์หรือ
00:16:39 → 00:16:41 ว่าโรคอารมณ์สองขั้วเนี่ยถ้ามันยังไงกัน
00:16:41 → 00:16:45 แน่อาบเราเคยดูในหนังด้วยนะจานใช่ไหมคะ
00:16:45 → 00:16:48 ครับใช่ครับพี่อธิบดูจากหนังเรื่องอะไรพอ
00:16:48 → 00:16:52 จะจำได้ไหมหนังเนี่ยบ้านเราแทบจะหลาย
00:16:52 → 00:16:54 เรื่องเลยนะที่เป็นอย่างนี้อาจารย์จะเป็น
00:16:54 → 00:16:58 ลักษณะตัวละครที่พริกเดี๋ยวตอนนี้กำลังดี
00:16:58 → 00:17:01 ๆอยู่แล้วก็พริกไปอีกแบบนึงอันนี้จะเป็น
00:17:01 → 00:17:05 ตัวอย่างละครไทยนะครับถ้าเป็โป้ฝรั่งคือ
00:17:05 → 00:17:09 ใช้พลังสลากดูแล้วอายุเยอะจังเลยก็คือ
00:17:09 → 00:17:11 หนังต่างประเทศจะมีเรื่องนึงที่ผมคิดว่า
00:17:11 → 00:17:13 ค่อนข้างใกล้เคียงนะครับเรื่อง silver
00:17:13 → 00:17:16 linings playbook ซึ่งอันนี้เดี๋ยวลอง
00:17:16 → 00:17:21 ถ้ามีใครติดตามลองไปดูก็ได้แต่ดูดูในโลก
00:17:21 → 00:17:23 ปัจจุบันก่อนว่าตอนนี้เราไปโพล่าในสื่อ
00:17:23 → 00:17:25 แล้วก็ความเข้าใจในสังคมแล้วตอนนี้มัน
00:17:25 → 00:17:29 เป็นยังไงบ้างนะครับเช่นเอ่ออยากที่พี่
00:17:29 → 00:17:31 จิ๊บบอกครับเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
00:17:31 → 00:17:35 จะดี๊ดีนะใช่ครับหรือว่าบางคนเนี่ยบอกว่า
00:17:35 → 00:17:39 มันเหมือนมีสองบุคลิกอยู่ในตัวเองอาหาร
00:17:39 → 00:17:42 นี้เป็นเป็นความเข้าบุคลิกสองบุคลิกละอัน
00:17:42 → 00:17:44 นี้คือไบโพล่าร์มั้ยใช่หรือเปล่าหรือไม่
00:17:44 → 00:17:48 ใช่นะครับสำคัญเช่นตอนนี้เป็นแบบนึงต่อ
00:17:48 → 00:17:52 อยู่กับอยู่กับสังคมนิสังคมที่ทำงานเป็น
00:17:52 → 00:17:55 แบบนึงที่อยู่กับที่บ้านเป็นแบบนึงอยู่คน
00:17:55 → 00:17:57 เดียวเป็นแบบนึงอ่ะมีใช่ไบโพล่าหรือเปล่า
00:17:57 → 00:18:02 อันนี้เป็นความเข้าใจในสังคมที่อาจจะเกิด
00:18:02 → 00:18:05 ขึ้นได้นะครับหรือว่าโคนนะค่ะสังเกตุว่า
00:18:05 → 00:18:09 ทีวีนขี้วีนคนอื่นมองว่าที่บีหรือที่ดิน
00:18:09 → 00:18:12 เขาก็รู้ตัวว่าเขาขี้วีนถ้าดูคุมอารมณ์
00:18:12 → 00:18:15 ไม่ได้อันนี้ใช่ไบโพล่าร์ไหมหรือเปล่าเออ
00:18:15 → 00:18:18 เออหรือเปล่าหรือว่าบางคนจะมองไปว่า
00:18:18 → 00:18:20 ไบโพล่าร์เนี่ยสำคัญกับการชอบใช้ความ
00:18:20 → 00:18:23 รุนแรงไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้แล้วก็
00:18:23 → 00:18:27 สำคัญไปกับใช้ใช้อ่ามีการทำร้ายร่างกาย
00:18:27 → 00:18:29 ว่าทำร้ายเขาของทำลายทรัพย์สิเกิดขึ้นนี้
00:18:29 → 00:18:33 ครับหรือไมโคล่าคืออันนี้มีคนบอกว่า
00:18:33 → 00:18:36 เหมือน 2 หน้าเปลี่ยนตามสถานการณ์เปลี่ยน
00:18:36 → 00:18:39 ตามสถานการณ์อันนี้มันมีคำจำกัดความหลาก
00:18:39 → 00:18:44 หลายที่เออในทางการแพทย์แล้วมันอาจจะมี
00:18:44 → 00:18:48 ส่วนที่โรงและไม่ตรงและข้อสรุปเรื่องของ
00:18:48 → 00:18:51 โรคไบโพลาร์ในสื่อและความเข้าใจในสังคมนะ
00:18:51 → 00:18:55 ครับว่าให้ดูเกิดสรุปเนี่ยแบบนี้ครับที่
00:18:55 → 00:19:00 ที่อาจจะเป็นความเข้าใจที่ค่าที่ทั้งหมด
00:19:00 → 00:19:03 นี้นะครับผมจะบอกว่าไม่ใช่เลยค่ะไม่ใช่
00:19:03 → 00:19:04 ไม่ใช่
00:19:04 → 00:19:05 ก็เลยครับ
00:19:05 → 00:19:10 อาจจะมีบางส่วนที่ที่ที่อาจจะไปคล้ายๆได้
00:19:10 → 00:19:12 แต่โรคไบโพล่าร์จริงๆแล้วไม่ได้ถูกจำกัด
00:19:12 → 00:19:15 ด้วยคำนิยามเหล่านี้ถ้าตามที่ใน
00:19:15 → 00:19:18 โซเชียลมีเดียหรือว่าในขาวหรือว่าในละคร
00:19:18 → 00:19:21 เลยเนี้ยเขาซื้อออกมานะครับมันก็เลยจะไม่
00:19:21 → 00:19:24 ตรงที่นั้นก็จะเกิดสร้างความเข้าใจที่ไม่
00:19:24 → 00:19:27 ตรงให้กับผู้ป่วยที่ตอนนี้กำลังรักษา
00:19:27 → 00:19:29 ไบโพล่าอยู่หรือว่าคนอยู่ที่อยู่รอบข้าง
00:19:29 → 00:19:33 เลยนะครับหรือบางทีจะเป็นการตีตราด้วยตี
00:19:33 → 00:19:36 ตาอีกเช่นเอ่อผมอนุมัติผมเงี้ยเดี๋ยวดี
00:19:36 → 00:19:39 เดี๋ยวต้องพูดเองไอที่สุดเดี๋ยวนี้เดี๋ยว
00:19:39 → 00:19:42 ก็ไม่ดีเดี๋ยวตอนนี้กำลังคุยดีๆสักพักหนา
00:19:42 → 00:19:45 เลยนะครับอ้าอันนี้อาจจะเป็นลักษณะที่บอก
00:19:45 → 00:19:48 ว่าเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแล้วคนเค้าจะแบบว่า
00:19:48 → 00:19:50 ในสมมติเป็นในละครเนาะเป็นผมจะละครตัวนึง
00:19:50 → 00:19:52 เนี้ยเนี่ยเป็นอย่างนี้เป็นไปโพล่าหรือ
00:19:52 → 00:19:55 เปล่าไปรักษามั้ยอะไรเงี้ยะซึ่งซึ่งอัน
00:19:55 → 00:19:58 นี้มันก็อาจจะคล้ายได้แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
00:19:58 → 00:20:02 ของโรคไบโพลาร์นะครับเพราะฉะนั้นเนี้ย
00:20:02 → 00:20:04 เดี๋ยววันนี้เรามาดูกันครับว่าเอาใบแต่
00:20:04 → 00:20:07 ว่าจริงๆแล้วคืออะไรขอดูนี่ขึ้นอยู่หน้า
00:20:07 → 00:20:11 จอตอนนี้คือยังไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่เป็นแค่
00:20:11 → 00:20:14 ไปสื่อที่เราดูดูหนังดูละครแล้วเราเห็น
00:20:14 → 00:20:17 แบบนั้นแล้วเราอาจจะเข้าใจแบบนี้ไม่ใช่คะ
00:20:17 → 00:20:21 แล้วก็สังคมส่วนมากเข้าใจว่า 6 คอนขึ้น
00:20:21 → 00:20:24 หน้าจอเนี่ยอันนี้คือไบโพล่าร์แต่จริงๆ
00:20:24 → 00:20:28 ยังไม่ใช่ครับนะคะเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายมี 2
00:20:28 → 00:20:32 บุคลิกอยู่กับสังคมเป็นหนึ่งเป็นอีกแบบ
00:20:32 → 00:20:35 นึงอยู่คนเดียวเป็นอีกแบบนึงที่วินไม่คุม
00:20:35 → 00:20:38 อารมณ์ชอบใช้ความรุนแรง 2 หน้าเปลี่ยนตาม
00:20:38 → 00:20:41 สถานการณ์เปลี่ยนเปลี่ยนพวกตามสถานการณ์
00:20:41 → 00:20:45 อย่างไม่ใช่ไปโคราชสบายใจได้นะถ้าใครที่
00:20:45 → 00:20:48 มี 1 ใน 6 ข้อนี้นะอาจจะเป็นภาวะอื่น
00:20:48 → 00:20:50 เดี๋ยวเราจะคุยอีกทีว่าไอ้ภาวะอื่นๆที่
00:20:50 → 00:20:54 มันไปคล้ายๆกับลักษณะแบบนี้คืออะไรนะครับ
00:20:54 → 00:20:59 ค่ะครับที่มีเข้าใจในสื่อในสังคมไปละนะคะ
00:20:59 → 00:21:02 ทีนี้เรามาดูจริงๆว่า
00:21:02 → 00:21:05 แต่ไอคำว่าไบโพล่าร์มันคืออะไรอ่ะหรอค่ะ
00:21:05 → 00:21:09 มีคนป่วยเยอะไหมอ่าคนครูผู้ป่วยพี่อ่ะพี่
00:21:09 → 00:21:12 จะไปหาข้อมูลมาครับก็ค่อนข้างจะมีเยอะมาก
00:21:12 → 00:21:15 ที่พิจิตรบอกเลยครับปริมาณก็คืออย่างที่
00:21:15 → 00:21:18 ทั่วโลกเนาะก็มี 60 ล้านคนเดินตัวเลขที่
00:21:18 → 00:21:21 อัพเดทที่สุดแล้วครับขับแล้วก็ถ้าที่ผมดู
00:21:21 → 00:21:23 เนี่ยมันจะซัก 3 ปีที่แล้วมันอยู่ที่มัน
00:21:23 → 00:21:26 46 ล้านคนทั่วโลกนะวันนั้นไม่น้อยนะครับ
00:21:26 → 00:21:30 ถ้าที่นี้เนี่ยการที่จะบ่งบอกว่าลักษณะ
00:21:30 → 00:21:35 อาการนั้นมันส่งผลอ่ะมันเป็นโรคหรือยัง
00:21:35 → 00:21:38 เราอาจจะต้องดูคำจำกัดความในทางทางการ
00:21:38 → 00:21:41 แพทย์ก็แล้วกันเนาะโรคทางจิตเวชเกือบทุก
00:21:41 → 00:21:45 โรคนะครับมีคำนิยามที่จะ
00:21:45 → 00:21:49 บอกว่ามันเป็นโรคแล้วคือต้องรักษาแล้ว
00:21:49 → 00:21:51 เนี่ยโดยรวมก็คือ
00:21:51 → 00:21:55 ถ้ามีปัญหากับตัวเองหรือผู้อื่นเช่นผู้
00:21:55 → 00:21:57 ที่เผชิญสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอารมณ์
00:21:57 → 00:22:01 ช่วงเนี้ยที่ทั่วไปนะครับเป็นโรคโรคซึม
00:22:01 → 00:22:05 เศร้าโรคอาการติดสุราอะไรนะเนาะเออโรค
00:22:05 → 00:22:07 ไบโพล่าร์ก็ตามเนี่ยหรืออารมณ์สองขั้วนะ
00:22:07 → 00:22:10 ครับถ้ามันจะมีส่วนที่เกมเป็นเกณฑ์ร่วม
00:22:10 → 00:22:13 กันอยู่ก็คือมีปัญหากับตัวเองแล้วก็มี
00:22:13 → 00:22:16 ปัญหากับคนอื่นรอบข้างคือเขาเองเผชิญกับ
00:22:16 → 00:22:19 หารกันแบบนี้ก็ไม่โอเครู้สึกจากการตัวเอง
00:22:19 → 00:22:23 ที่ได้รู้สึกทำงานหรือว่าการสร้างความ
00:22:23 → 00:22:26 สัมพันธ์หรือว่าการใช้ชีวิตประจำวันมันมี
00:22:26 → 00:22:30 ปัญหาเยอะขึ้นมากอันนี้จะเป็นเจนหรือคน
00:22:30 → 00:22:32 รอบข้างรู้สึกว่าเขามีปัญหาเหล่านี้แล้ว
00:22:32 → 00:22:36 มีปัญหาในการสร้างความสัมพันธ์มีปัญหาใน
00:22:36 → 00:22:39 การทำงานอันนี้เป็นเกมข้อหนึ่งที่เป็น
00:22:39 → 00:22:42 เกณฑ์ร่วมกันในโรคทางจิตเวชทั้งหมดนะครับ
00:22:42 → 00:22:46 ค่ะเพราะฉะนั้นเนี่ยมีโรคไบโพล่าร์เนี่ย
00:22:46 → 00:22:49 จะมีอาการหลัก
00:22:49 → 00:22:52 r2r การเรียกว่าเป็นช่วงแล้วกันเนาะผมขอ
00:22:52 → 00:22:55 เรียกว่าเป็นช่วงช่วงหนึ่งที่เราอาจจะ
00:22:55 → 00:22:58 ค่อนข้างคุ้นเคยครับก็คือช่วงซึมเศร้าถ้า
00:22:58 → 00:23:01 หรือว่าทักษะกิจก็ senyou Pet Seal พี่
00:23:01 → 00:23:04 โสดนะครับลักษณะอาการของช่วงซึมเศร้า
00:23:04 → 00:23:07 เนี่ยเหมือนโรคซึมเศร้าเป๊ะเหมือนเลย
00:23:07 → 00:23:11 เหมือนๆเลยครับเป็นอ่าเดี๋ยวจะบอกว่ามัน
00:23:11 → 00:23:13 มีอาการอะไรบ้างเพราะว่าหลายๆคนตอนเนี้ย
00:23:13 → 00:23:15 ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าในค่อน
00:23:15 → 00:23:19 ข้างตรงละลักษณะก็จะมีช่วงในช่วง 2
00:23:19 → 00:23:22 สัปดาห์นะครับที่มีอารมณ์ซึมเศร้าหนักๆ
00:23:22 → 00:23:25 แล้วก็จะมีอาการประกอบต่างๆแล้วก็ก็นอก
00:23:25 → 00:23:29 จากช่วงซึมเศร้านั้นก็จะมีอาการของช่วง
00:23:29 → 00:23:31 ครึกครื้นหรือว่าหงุดหงิด
00:23:31 → 00:23:31 ถ้า
00:23:31 → 00:23:34 เป็นช่วงเหมือนกันไม่ได้เป็นแบบแป๊ปเดียว
00:23:34 → 00:23:37 นะเป็นช่วงช่วงเลยครับอาจจะนั้นในราย
00:23:37 → 00:23:40 ละเอียดก็จะเป็นช่วงตั้งแต่ 4 วันขึ้นไป
00:23:40 → 00:23:42 หรือว่า 7 วันขึ้นไปหรือเป็นช่วงที่ทำให้
00:23:42 → 00:23:44 เกิดปัญหากับการทำงานหรือว่าความสำคัญกับ
00:23:44 → 00:23:48 คนอื่นอันนี้นะครับช่วงเหล่านี้จะเกิด
00:23:48 → 00:23:54 ขึ้นโดยส่วนมากจะไม่พร้อมกันช่วงที่แย่จะ
00:23:54 → 00:23:58 แย่หนักช่วงที่ดีก็อาจจะดีน่ะค่ะทีนี้
00:23:58 → 00:24:01 ช่วงดีกับช่วงแย่เราต้องมาดูในรายละเอียด
00:24:01 → 00:24:06 นะครับว่ามันมีอาการประกอบพื้นอื่นๆยังไง
00:24:06 → 00:24:08 บ้างครับพี่เจ็บมาถึงตรงนี้ที่จะคิดว่า
00:24:08 → 00:24:11 สองช่วงนี้
00:24:11 → 00:24:15 หมอค่อนข้างอ่ามีคำถามอะไรไม่ที่อาจจะ
00:24:15 → 00:24:19 สงสัยการประกอบอื่นๆล่ะอ่าคืออยากรู้ว่า
00:24:19 → 00:24:22 อาการประกอบหนึ่งอีกทีอะไรบ้างเรามาดู
00:24:22 → 00:24:25 ช่วงซึมเศร้ากันก่อนนะครับหลักๆของช่วง
00:24:25 → 00:24:27 ซึมเศร้าเนี่ยเหมือนโรคซึมเศร้าที่บอก
00:24:27 → 00:24:29 เนาะอาการและก็มีอารมณ์ซึมเศร้าหรือ
00:24:29 → 00:24:31 อารมณ์เบื่อหน่าย
00:24:31 → 00:24:34 เบื่อหน่ายเนี่ยจะเป็นเบื่อในสิ่งที่จริง
00:24:34 → 00:24:38 ๆเดิมเคยชอบทำอ่ะชอบดูซีรีส์ชอบไปเที่ยว
00:24:38 → 00:24:41 ซึ่งตรงนี้เชี่ยวไม่ได้นะครับชอบอ่าน
00:24:42 → 00:24:45 หนังสือชอบฟังเพลงแต่เบอร์มาชอบทำพรุ่ง
00:24:45 → 00:24:48 นี้ทำน้ำมันพืชเพลินแต่ว่าในลักษณะของคน
00:24:48 → 00:24:52 ที่มีช่วงซึมเศร้าอาจจะรู้สึกไม่ไม่จอย
00:24:52 → 00:24:56 ล่ะไม่ emjoi กับสิ่งเหล่านั้นก็งั้นงั้น
00:24:56 → 00:24:58 น่ะตังค์ไปกับงานอันนี้คือ 2 อาการหลัก
00:24:58 → 00:25:01 ที่จะมีอันใดควรจะต้องมีอันใดอันหนึ่งถ้า
00:25:01 → 00:25:04 เราก็อาการประกอบอื่นเช่นความอยากอาหาร
00:25:04 → 00:25:07 เปลี่ยนแปลงไปบางคนก็จริงเยอะขึ้นมาคนก็
00:25:07 → 00:25:11 กินน้อยลงนอนไม่หลับหรือว่านอนเยอะมาก
00:25:11 → 00:25:14 เกินไปนะครับการคิดและก็สมาธิในการทำงาน
00:25:14 → 00:25:18 เนี่ยลดลงนะครับอ่อนเพลียหมดเรี่ยวหมดแรง
00:25:18 → 00:25:21 การเคลื่อนไหวอะไรต่างๆก็จะสังเกตตัวเอง
00:25:21 → 00:25:23 หรือคนอื่นสังเกตเห็นว่ามันช้าลงนะครับ
00:25:23 → 00:25:26 รู้สึกไร้ค่ารู้สึกผิดนะครับแล้วก็มีความ
00:25:26 → 00:25:28 คิดทำร้ายตัวเอง
00:25:28 → 00:25:32 อันนี้ไม่ได้จำเป็นต้องมีครบทุกอันก็คือ
00:25:32 → 00:25:35 อย่างน้อยก็คือ 5 ใน 9 อาจารย์ต่อเนื่อง
00:25:35 → 00:25:38 เป็นช่วงเวลา 2 สัปดาห์ 2 สัปดาห์ด้วยถ้า
00:25:38 → 00:25:40 รู้สึกอย่างเงี้ยในวันสองวันนี้อาจจะยัง
00:25:40 → 00:25:44 ไม่น่าจะยังไม่ใช่ช่วงซึมเศร้าค่ะเป็น
00:25:44 → 00:25:46 อารมณ์ซึมเศร้าที่เกิดขึ้นได้หรืออาจจะ
00:25:46 → 00:25:49 เป็นเหมือนกับการจับตัวของเราว่าบางทีเจอ
00:25:49 → 00:25:52 เรื่องอะไรหนักๆเนาะเช่นเรื่องเรื่องที่
00:25:52 → 00:25:54 สถานการณ์ตอนนี้มันก็ไม่ค่อยดีเลยนะครับ
00:25:54 → 00:25:59 ถ้ามันมีอยู่ในระยะสั้นๆ 2-3 บ้านในนะ
00:25:59 → 00:26:01 ครับอาจจะยังไม่ใช่แต่ถ้ามันเป็นอย่าง
00:26:01 → 00:26:04 เงี้ยเกือบทั้งวันเกือบทุกวันอย่างน้อย
00:26:04 → 00:26:07 ติดต่อกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์เนี่ยน่า
00:26:07 → 00:26:10 สงสัยว่าอาจจะมีช่วงซึมเศร้านี้เกิดขึ้น
00:26:10 → 00:26:14 ถ้าฮะซึ่งมีนิสัยเดี๋ยวนี้คุณมาถ้ามาตรวจ
00:26:14 → 00:26:16 รักษาเนาะก็แนะนำว่าถ้ามีขนาดนั้นก็ตรวจ
00:26:16 → 00:26:18 รักษาครับแล้วก็อาจจะต้องมาดูที่ว่ามัน
00:26:18 → 00:26:22 เป็นช่วงซึมเศร้าของไบโพล่าหรือโรคซึม
00:26:22 → 00:26:23 เศร้า
00:26:23 → 00:26:27 อาการพวกนี้อาจารย์ครับมันเป็นอาการที่
00:26:27 → 00:26:29 เราสามารถสังเกตได้เองหรือว่าต้องให้คน
00:26:29 → 00:26:32 ที่เขามองให้เขาสังเกตช่วยหรือว่าเขามอง
00:26:32 → 00:26:35 เราเอ๊ยรู้สึกว่าเรามีอาการแบบเนี้ยเป็น
00:26:35 → 00:26:37 ช่วงซึมเศร้าอย่างนี้คือยังไงคะครับอย่าง
00:26:37 → 00:26:41 น้อยจริงๆสังเกตได้เองเลยเนี่ยก็ก็ได้คือ
00:26:41 → 00:26:43 ถ้าสมสำรวจตัวเองเรียบร้อยแล้วนะจริงๆ
00:26:43 → 00:26:46 เครื่องมือในการสำรวจเรื่องอาการซึมเศร้า
00:26:46 → 00:26:48 เนี่ยมีหลายที่มากเลยครับของเราก็มีแต่
00:26:48 → 00:26:50 ว่ามันพอดีมันเป็นที่เตรียมมาด้วยในวัน
00:26:50 → 00:26:53 หลังจะแปะลิงค์ไว้ให้นะครับของโรงพยาบาล
00:26:53 → 00:26:56 รามาธิบดีก็ก็มีนะครับเป็นเป็นเว็บไซต์
00:26:56 → 00:26:59 ของเขานะครับก็ขนาดแพทย์ซึ่งจริงๆทุกที่
00:26:59 → 00:27:01 แหละครับโรงเรียนแพทย์คือเกือบทุกที่ที่
00:27:01 → 00:27:03 มีเครื่องมือสำรวจตัวเองพวกเนี้ยโรง
00:27:03 → 00:27:06 พยาบาลอำเภอบางทีเค้าก็ทำกันเองก็มีนะ
00:27:06 → 00:27:09 ครับก็ก็สามารถสำรวจได้คะแนนก็จะบอกความ
00:27:09 → 00:27:11 รุนแรงได้
00:27:11 → 00:27:14 แต่ว่าอ่าเวลาที่วินิจฉัยมันอาจจะต้อง
00:27:14 → 00:27:18 อาศัยหนึ่งก็คืออาการเหล่าเนี้ยเพื่อที่
00:27:18 → 00:27:23 จะดูว่าครบหรือยังนะครับ 2 เรื่อง
00:27:23 → 00:27:27 เหมือนกับโรคทางกายอื่นๆคือบางทีมันจะไป
00:27:27 → 00:27:31 คล้ายบังลบทางกายบางโรคเช่นฮอร์โมน
00:27:31 → 00:27:33 ไทรอยด์ผิดปกติไทรอยด์ตามหรือไทรอยด์สูง
00:27:33 → 00:27:38 นี้ครับหรือโรคทางกายบางอย่างที่เกี่ยว
00:27:38 → 00:27:40 ข้องกับสมองมันก็จะทำให้เกิดโรคตรงนี้ได้
00:27:40 → 00:27:43 เพราะฉันเนี้ยมีโรคประจำตัวอะไรอยู่อ่ะมี
00:27:43 → 00:27:46 ยาอะไรกินอยู่บ้างใช้สันจะติดอะไรบ้างมัน
00:27:46 → 00:27:48 ทีมันก็ทำให้เกิดอาการพรุ่งนี้ก็จะแนะนำ
00:27:48 → 00:27:53 ให้ 1 สำรวจตัวเองได้ถ้ามีอาการสองถ้ามี
00:27:53 → 00:27:57 สงสัยว่าจะเป็นให้ขอรับการตรวจรักษาถ้า
00:27:57 → 00:27:59 เป็นช่องทางที่ปลอดภัยที่สุดนะครับวันนี้
00:27:59 → 00:28:02 ช่วงพูดถึงช่วงซึมเศร้าอยู่นะยังไม่เข้า
00:28:02 → 00:28:05 อีกช่วงนึงเลยนะคะอ่ะต่อไปช่วงอะไรนะ
00:28:05 → 00:28:07 ครึกครื้นเหรอจะตายบางคนเขาก็จะใช้คำว่า
00:28:07 → 00:28:11 แม่เนี่ยดิที่โสดหรือว่าแม่เนี่ยนะ
00:28:11 → 00:28:13 เจาะลึกคืนหรือว่าหงุดหงิดถ้าแปลเป็นไทย
00:28:13 → 00:28:16 เพราะว่าอารมณ์หลักที่จะเกิดขึ้นในช่วง
00:28:16 → 00:28:21 ที่มีอากาศเนี่ยก็จะเป็นอารมณ์ดีค่ะแต่ดี
00:28:21 → 00:28:25 เนี่ยดีเกินกว่าปกติของคนๆนั้นที่เคยเป็น
00:28:25 → 00:28:28 เช่นถ้าสมมุติผมอาเป็นคนที่จะค่อนข้างพูด
00:28:28 → 00:28:31 มากประมาณนี้อยู่แล้วอารมณ์ก็อาจจะประมาณ
00:28:31 → 00:28:34 เนี่ยประมาณเนี้ยหงุดหงิดประมาณนี้นะครับ
00:28:34 → 00:28:37 ถ้าว่าคนคนอื่นก็จะรู้จักเก็บไว้ว่าผมจะ
00:28:37 → 00:28:39 ประมาณนี้ของผมอยู่แล้วแต่ถ้าวันใดวัน
00:28:39 → 00:28:44 หนึ่งผมเกิดหงุดหงิดมากขึ้นมาตลอดเวลาต่อ
00:28:44 → 00:28:48 เนื่องนะครับหรือว่าอารมณ์ดีเห็นอะไรก็คำ
00:28:48 → 00:28:51 ไปหมดหรือว่าแบบอ่าเห็นอะไรก็รู้สึกดีไป
00:28:51 → 00:28:55 หมดอย่างนี้ครับค่ะอันนี้จะเป็นอาการหลัก
00:28:55 → 00:28:57 ของช่วงคืนหรือว่าหงุดหงิดจะต้องมีอารมณ์
00:28:57 → 00:29:01 ช่วงนี้ต่อเนื่องกันอ่าแล้วแต่ชนิดของมัน
00:29:01 → 00:29:03 โคล่าน้องถ้าเป็นโรคไบโพล่าร์สิ่งที่ 2
00:29:04 → 00:29:06 อ่ะจะสี่วันนะครับแต่ว่าถ้าเป็นว่าชนิด
00:29:06 → 00:29:08 หนึ่งการ 17 วันแต่ไม่เป็นไรเราอย่างชนิด
00:29:08 → 00:29:11 ด้วยมีหลายชนิดด้วยครับแต่ว่าหนักเธออยาก
00:29:11 → 00:29:14 ให้รู้จักไบโคราชชนิดที่ 1 เป็นเป็นที่
00:29:14 → 00:29:17 ที่เราเจอกันค่อนข้างเยอะไว้ก่อนนะครับ
00:29:17 → 00:29:19 ว่าค่ะอะไรอย่างน้อยก็ติดต่อกันเกิน 1
00:29:19 → 00:29:23 สัปดาห์และมีอาการประกอบพวกเนี้ยอย่าง
00:29:23 → 00:29:26 น้อย 3 อาการต้องมี 3 อาการหน่อยครับ
00:29:26 → 00:29:30 ก็จะมีความคิดแล่นเร็วความคิดแล่นเร็ว
00:29:30 → 00:29:36 เป็นยังไงบางทีอ่าตัวผู้ป่วยนะเขาจะเขาจะ
00:29:36 → 00:29:40 รู้สึกว่าเขาเขาคิดเยอะมีหลายความคิดมาก
00:29:40 → 00:29:44 อยู่ในหัวตัวไม่สามารถพูดได้ทันคิดหลายๆ
00:29:44 → 00:29:46 อย่างเพราะคิดอะไรอย่างพร้อมกันนะครับ
00:29:46 → 00:29:49 ซึ่งมันก็อาจจะสัมพันธ์กับการผู้ที่เร็ว
00:29:49 → 00:29:53 ขึ้นด้วยกันจากเดิมอาจจะเคยพูดในระดับ
00:29:53 → 00:29:57 ประมาณนี้นะครับกลายเป็นว่าช่วงนั้นช่วง
00:29:57 → 00:29:59 ที่มีอารมณ์คึกครื้นหรือว่าหงุดหงิดเนี่ย
00:29:59 → 00:30:01 ต้องอย่ารวมก่อนนะมีอารมณ์เป็นพื้นเป็น
00:30:01 → 00:30:04 พื้นฐานก่อนค่ะก็จะคิดหลายเรื่องแล้วก็
00:30:04 → 00:30:06 พูดเร็วขึ้นเพราะว่าพูดเหมือนพูดพยายาม
00:30:06 → 00:30:10 พยายามพูดตามความคิดที่เขาคิดอยู่แต่ไม่
00:30:10 → 00:30:13 ทันมีหัวคิดไปหมดแล้วแต่ว่าปากจะมีอยู่
00:30:13 → 00:30:16 เรื่องเรื่องเดิมอยู่แต่ที่จริงรู้นะหรือ
00:30:16 → 00:30:18 ว่าสิทธิ์ไปหลายเรื่องแล้วเนี่ยครับอัน
00:30:18 → 00:30:21 นี้ก็อาจจะมาด้วยกันได้ค่ะบางคนก็จะ
00:30:21 → 00:30:24 สังเกตตัวเองว่าบอกว่าอยากได้ง่ายอ๋ออ๋อ
00:30:24 → 00:30:29 ไม่วอกแวกด้วยสมาธิลดลงแล้วก็อะไรที่มา
00:30:29 → 00:30:33 เปลี่ยนเรื่องนิดหน่อยลืมไปไปเรื่องนึง
00:30:33 → 00:30:36 น่ะใช่สมมติถ้าแบบ 6 กำลังนั่งนั่งคุยกับ
00:30:36 → 00:30:39 จิ๊บอยู่อย่างนี้ครับแล้วก็พี่จะพูดถึง
00:30:39 → 00:30:41 เรื่องอาหารขึ้นมาผมก็จะอยากคุยเรื่อง
00:30:41 → 00:30:43 อาหารแล้วก็ไปเรื่อยๆไปเรื่อยๆนะครับ
00:30:43 → 00:30:46 เปลี่ยนเปลี่ยนๆเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยๆ
00:30:46 → 00:30:49 ค่อนข้างที่จะเร็วนะครับค่ะต่อมาก็จะเป็น
00:30:49 → 00:30:51 ความต้องการการนอนอันนี้ก็จะเป็นข้อ
00:30:51 → 00:30:54 สังเกตที่ค่อนข้างจะชัดแล้วก็แตกต่างจาก
00:30:54 → 00:30:57 อ่าอารมณ์ด้านซึมเศร้าค่อนข้างชัดเจน
00:30:57 → 00:31:00 เหมือนกันแต่กี้ที่บอกไปน้องอารมณ์ด้าน
00:31:00 → 00:31:04 ซึมเศร้าเนี่ยจะเป็นการนอนที่อยากนอนแต่
00:31:04 → 00:31:08 นอนไม่ได้หรือว่ายาก่อนนอนไปยาวเลยไม่ทำ
00:31:08 → 00:31:11 อะไรเลยเลยนะครับแต่ว่าการนอนของช่วงก็
00:31:11 → 00:31:14 อ่าคึกครื้นหรือว่าหงุดหงิดเนี่ยจะเป็น
00:31:14 → 00:31:17 การนอนที่ไม่ต้องนอนเยอะก็ได้
00:31:17 → 00:31:21 ชั่วโมง 2 ชั่วโมงต่อวันแล้วอยู่ได้ทั้ง
00:31:21 → 00:31:23 วัน
00:31:23 → 00:31:26 อยู่ได้ 24 ชั่วโมงไม่หลับไม่นอนเลยหรือ
00:31:26 → 00:31:29 บางคนไม่นอนเลยครับก็คือไม่นอนเลยติดต่อ
00:31:29 → 00:31:32 กัน 2 3 วันเลยเนี่ยก็ก็อยู่ได้แล้วใน
00:31:32 → 00:31:34 ระหว่างนั้นเขาก็จะมีกิจกรรมอะไรที่เขา
00:31:34 → 00:31:38 อยากทำอยู่เรื่อยๆเท่านั้นมาทำเอาโลดเอา
00:31:38 → 00:31:40 นี่มาทำมีโปรเจคใหม่เมื่อสมองมันคิดอยู่
00:31:40 → 00:31:44 ตลอดเวลาไรใช่ครับใช่ครับเหมือนเป็นช่วง
00:31:44 → 00:31:48 ที่เอ่อไม่ไม่ไม่นอนเลยแต่ทั้งนี้ทั้ง
00:31:48 → 00:31:49 นั้นก็คือขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วยเนาะ
00:31:49 → 00:31:53 บางสถานการณ์เช่นอ้ะเป็นความจำเป็นจริงๆ
00:31:53 → 00:31:55 อย่างอย่างบุคลากรทางการแพทย์และการ
00:31:55 → 00:31:58 พยาบาลเนี่ยมะพีมันมีความจำเป็นที่จะต้อง
00:31:58 → 00:32:00 อยู่เวรนะคะเรียนทำให้นับมันก็ไม่รับแต่
00:32:00 → 00:32:04 ว่าคือความต้องการการนอนแล้วน้องคือจริง
00:32:04 → 00:32:07 ชีวิตก็นอนได้แต่ว่าไม่นอนดีกว่าอยากทำ
00:32:07 → 00:32:10 นู่นนี่นั่นเยอะๆนะครับความมั่นใจในตัว
00:32:10 → 00:32:12 เองมากขึ้นคะอันนี้จะออกมาในลักษณะว่า
00:32:12 → 00:32:15 เอ่อ
00:32:15 → 00:32:19 ถ้าคิดว่าทำอะไรก็น่าจะทำได้ดีทำได้
00:32:19 → 00:32:22 สำเร็จโดยที่เขาอาจจะไม่ได้มีประสบการณ์
00:32:22 → 00:32:24 ด้านนั้นมาก่อนเลย
00:32:24 → 00:32:29 อันยกตัวอย่างอ่ะออกมาแบบนี้ก็ได้เช่นอ่า
00:32:29 → 00:32:32 ลงทุน
00:32:32 → 00:32:35 ถ้าคิดว่าไม่สมมติไม่เคยค้าขายเรื่อง
00:32:35 → 00:32:37 อสังหาริมทรัพย์มาก่อนเลยในชีวิตนี้ไม่
00:32:37 → 00:32:40 เคยศึกษาแต่ในช่วงที่มีอาการเนี้ยอยู่ก็
00:32:40 → 00:32:45 ไปลงทุนเงินเก็บทั้งหมดอะไรนะครับกับกลับ
00:32:45 → 00:32:46 บางอย่างที่เขาไม่ได้มีประสบการณ์มาก่อน
00:32:46 → 00:32:50 และได้ศึกษารายละเอียดมาก่อนด้วยเลยค่ะ
00:32:50 → 00:32:51 อย่างเนี้ยไอ้เป็นตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น
00:32:51 → 00:32:53 นะครับไม่ได้แปลว่าจะเป็นอย่างนี้ทุกๆคน
00:32:53 → 00:32:55 เนาะเป็นตัวอย่างหนึ่งที่อาจจะเกิดได้นะ
00:32:56 → 00:32:59 ครับยับยั้งชั่งใจไม่ได้มีกิจกรรมเสี่ยง
00:32:59 → 00:33:02 มากขึ้นแล้วก็ทำกิจกรรมอยู่ตลอดเวลาอัน
00:33:02 → 00:33:04 นี้ก็จะเป็นหน้าที่สอดคล้องกันเนาะจะเป็น
00:33:04 → 00:33:06 ช่วงที่อารมณ์คืนเยอะหรือว่าห่วง it เยอะ
00:33:06 → 00:33:11 โดยที่อาการประกอบพวกนี้ก็จะมีเพิ่มขึ้น
00:33:11 → 00:33:14 มาผมขอขยายความเรื่องของการยับยั้งชั่งใจ
00:33:14 → 00:33:16 ไม่ได้แล้วก็การทำกิจกรรมเสี่ยงถ้าพี่
00:33:16 → 00:33:19 จิ๊บค่ะบางทีเนี่ยจะออกไปในทางมันออกได้
00:33:19 → 00:33:22 หลายทางกิจกรรมเสี่ยงลงทุนเยอะอันนี้ผมยก
00:33:22 → 00:33:24 ตัวอย่างไปแล้วเนาะอันตรายนะเดี๋ยวจะขับ
00:33:24 → 00:33:29 รถไวขับรถวัยเช่นจากเดิมก็เป็นคนขับรถ
00:33:29 → 00:33:32 เรียบร้อยอะไรเงี้ยเออไม่ได้ไม่ได้แบบ
00:33:32 → 00:33:34 เต็มปากหน้าปัดหลังอะไรแต่ช่วงที่อาการ
00:33:34 → 00:33:37 เหล่านี้อาจจะด้วยความด้วยความใจร้อนไม่
00:33:37 → 00:33:40 ถึงรับเขียวมันมีอารมณ์อยู่อ่ะครับมันก็
00:33:40 → 00:33:44 อาจจะทำให้มีการขับขี่ is ยอดยานพาหนะที่
00:33:44 → 00:33:47 เสี่ยงมากขึ้นถ้าอยู่เร็วมากขึ้นหรือไป
00:33:47 → 00:33:51 ใช้สารเสพติดมากขึ้นก็ได้นะครับเช่นช่วง
00:33:51 → 00:33:54 ที่มีอาการคือครึ่งหงุดหงิดอาจจะใช้การ
00:33:54 → 00:33:57 ดื่มนะขึ้นถ้าสารเสพติดอย่างอื่นที่ไม่
00:33:57 → 00:34:00 เคยลองแบบนี้ครับมันนำไปสู่ความเสี่ยง
00:34:00 → 00:34:03 อื่นๆทั้งด้านร่างกายได้ด้วยครับอันตราย
00:34:03 → 00:34:08 นะอย่างเงี้ยแล้วก็ช่วงช่วงที่เป็นเขื่อน
00:34:08 → 00:34:11 ๆเงี้ยบางครั้งจะไม่สามารถรับรู้อาการตัว
00:34:11 → 00:34:15 เองได้โอ้ยคนรอบข้างจาก
00:34:16 → 00:34:18 ก็จะสังเกตเห็นไม่ได้แปลว่าไม่รู้ว่าตัว
00:34:18 → 00:34:21 เองทำอะไรอยู่นะครับรู้มาทำนู่นนี่นั่น
00:34:21 → 00:34:24 อยู่แต่คุมตัวเองไม่ได้แล้วไม่คิดว่าสิ่ง
00:34:24 → 00:34:27 เหล่านี้เป็นปัญหาแต่คนรอบข้างอาจจะเริ่ม
00:34:27 → 00:34:28 เห็นแล้วว่า
00:34:28 → 00:34:32 ไม่ค่อยปกติหรือเปล่าเลยเนี้ยคือปกติของ
00:34:32 → 00:34:35 เขาจะประมาณนี้แต่ว่าคนละพันสุวะอันนี้
00:34:35 → 00:34:38 อันตรายและอันนี้ไม่เคยทำอ่ะอย่างนี้จะจะ
00:34:38 → 00:34:41 สามารถสังเกตได้สักคนอื่นได้ด้วยครับอัน
00:34:41 → 00:34:43 นี้ช่วงระยะเวลาของความรู้สึกว่ามันคึก
00:34:43 → 00:34:46 ครื้นนุชหงิดน่าจะพอๆกับช่วงที่มันซึม
00:34:46 → 00:34:48 เศร้าไปคืออาทิตย์สองอาทิตย์ขึ้นไปเลย
00:34:48 → 00:34:51 เนี่ยเอ่อถ้าเป็นตามคำจำกัดความของโลกนะ
00:34:51 → 00:34:54 ครับเป็นคนละชนิดที่ 1 เนี่ยจะเป็น 1
00:34:54 → 00:34:58 สัปดาห์ 1 สัปดาห์ต่อเนื่อง 1 สัปดาห์ค่ะ
00:34:58 → 00:35:00 แต่มันก็จะมีข้อรายละเอียดยกเว้นอีกเช่น
00:35:00 → 00:35:03 ถ้ามันชัดเจนมากค่ะช่วง Man อิกเนี่ยนะ
00:35:03 → 00:35:06 ครับชัดเจนแบบมันเกิดความเสียหายเกิดขึ้น
00:35:06 → 00:35:07 แล้ว
00:35:07 → 00:35:09 เช่น
00:35:09 → 00:35:12 ไปใช้สารเสพติดแล้วจะอะไรเนาะเออหรือว่า
00:35:12 → 00:35:16 อาการเยอะมากๆจนจนถึงขั้นที่จะอยู่โรง
00:35:16 → 00:35:19 พยาบาลแค่ได้ที่จะไรว่าไม่ไหวเนี่ยต้องมา
00:35:19 → 00:35:21 โรงบาลแล้วล่ะนี้นะครับมันจะเป็นข้อยก
00:35:21 → 00:35:23 เว้นว่ามันดูที่ความรุนแรงครับว่าถ้า
00:35:23 → 00:35:25 รุนแรงมากจะเรียกว่าเป็นราชนิดที่ 1
00:35:25 → 00:35:28 เนี่ยก็ไปไหนก็บอกว่ามีชนิดที่ 1 2 และ
00:35:28 → 00:35:30 อยากทำเลยดีกว่าว่าไบโพล่าร์เนี่ยจริงๆ
00:35:30 → 00:35:33 มันมีกี่ชนิดอาจารย์โก้จริงๆมันถ้าแจกแจง
00:35:33 → 00:35:37 นี่มันก็จับจะต้องบอกว่าแบ่งชนิดตาลอะไร
00:35:37 → 00:35:42 ถ้าแบ่งชนิดตามความรุนแรงเนี่ยหลักๆก็ขอ
00:35:42 → 00:35:45 ยกเป็น 2 ชนิดและพันธุ์ค่ะครับสองชนิดนี้
00:35:45 → 00:35:48 ก็จะมีชนิดที่ 1 กับคนที่สองชนิดอย่างนี้
00:35:48 → 00:35:51 รุนแรงมากกว่าก็คืออย่างที่ผมบอกคืออาการ
00:35:51 → 00:35:54 อาจจะยาวกว่าเนอะในช่วงของในที่สุดนะครับ
00:35:54 → 00:35:57 หรือว่าอาการมันรุนแรงกว่าจนถึงขั้นสร้าง
00:35:57 → 00:36:01 ความเสียหายให้กับตัวของผู้ป่วยเองหรือยา
00:36:01 → 00:36:03 สังเกตแล้วว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นนะ
00:36:03 → 00:36:06 ครับส่วนเป็นคนละชนิดที่สองเนี่ยเค้าจะ
00:36:06 → 00:36:09 เรียกช่วงคือเนี่ยว่าเป็นช่วง hypomanic
00:36:09 → 00:36:13 คือเป็นแบบน้องๆเป็นรุ่นเล็กรุ่นเล็ก
00:36:13 → 00:36:16 หน่อยอย่างนี้ครับค่ะก็อาจจะสังเกตมี
00:36:16 → 00:36:18 อาการก็จะเหมือนกันเลยเพียงแต่ว่าระดับ
00:36:18 → 00:36:22 ความรุนแรงจะน้อยกว่าเช่นให้เรื่องพูด
00:36:22 → 00:36:26 เร็วขึ้นทำอะไรเยอะขึ้นเนี่ยอาจจะเป็นไม่
00:36:26 → 00:36:28 เยอะและคนรอบข้างอาจจะสังเกตคาลาออกช่วง
00:36:28 → 00:36:30 นี้ขยันขึ้น
00:36:30 → 00:36:34 แต่ขยันกูจะขยันขึ้นแบบผิดหูผิดตาในที่ทำ
00:36:34 → 00:36:37 งานอาจจะชอบครับเพราะว่าอันดับอาจจะแบบโอ
00:36:37 → 00:36:39 ทำโน่นทำนี่ทำนั่นหลายอย่างมากเลยนะครับ
00:36:39 → 00:36:43 แต่ว่าอ่าในส่วนหนึ่งก็คือจริงๆร่างกาย
00:36:43 → 00:36:47 หรือว่าเรื่องของอ่าระบบเช่นการดูแลตัว
00:36:47 → 00:36:50 เองการนอนเลยอ่ะก็จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่พวก
00:36:50 → 00:36:53 เนี้ยจะอย่างอย่างช่วงหงุดหงิดคืนไม่ว่า
00:36:53 → 00:36:56 จะเป็นแบบที่ 1 แบบที่ 2 เนี่ยจะให้พ่อ
00:36:56 → 00:37:00 แม่เหล็กนะครับสังเกตด้วยตัวเองยากเพราะ
00:37:00 → 00:37:03 บางครั้งจะไม่ค่อยรู้สึกว่าเป็นปัญหาแต่
00:37:03 → 00:37:06 คนอื่นจะเริ่มเห็นว่าอันนี้ไม่เหมือนเดิม
00:37:06 → 00:37:10 ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่คนเดิมที่เคยรู้จักกัน
00:37:10 → 00:37:12 เลยเนี้ยแต่ว่าระดับความรุนแรงอาจจะต้อง
00:37:12 → 00:37:15 มานั่งคุยกันอีกทีครับข้อมูลก็ไม่จากหลาย
00:37:15 → 00:37:18 แหล่งช่วงเวลาที่อย่างผมเวลาที่ตรวจผู้
00:37:18 → 00:37:21 ป่วยครับก็ต้องถามจากข้อมูลที่ผู้ป่วย
00:37:21 → 00:37:24 ด้วยค่ะข้อมูลจากยาด้วยบางครั้งถ้าจำเป็น
00:37:24 → 00:37:28 หรืออาจจะเป็นอ่าคนที่ใกล้ชิดคนอื่นๆที่
00:37:28 → 00:37:32 ผู้ป่วยอนุญาตให้สอบถามข้อมูลเพราะว่ามัน
00:37:32 → 00:37:34 ก็จะได้ข้อมูลหลายๆมุมค่ะใช้ในการ
00:37:34 → 00:37:37 วินิจฉัยอาจารย์ให้อย่างเงี้ยเขาจะไม่รู้
00:37:37 → 00:37:39 ตัวนะว่าเป็นไบโพล่าร์ถ้าอย่างเงี้ยแต่
00:37:39 → 00:37:42 ว่ามันเกิดปัญหากับคนอื่นแล้วอ้ะได้อย่าง
00:37:42 → 00:37:44 เงี้ยมันจะไปรักษาทันได้ยังไงในเมื่อเจ้า
00:37:44 → 00:37:46 ตัวก็บอกว่าเขาไม่ได้เป็นหมอ
00:37:46 → 00:37:49 ไม่ใช่ทั้งหมดนะครับต้องบอกนี้กันว่าบาง
00:37:49 → 00:37:55 คนก็รู้ตัวว่าไม่เหมือนเดิมค่ะบางคนหรือ
00:37:55 → 00:37:58 ตัวเองก็ไปหาหมอกลับรู้สึกว่าไม่ใช่ไม่
00:37:58 → 00:38:00 เหมือนเราเหมือนเดิมเลยอ่ะไม่เหมือนเราคน
00:38:00 → 00:38:03 เดิมเท่าไหร่มันดูเกินกว่าเราปกติก็มา
00:38:03 → 00:38:06 ปรึกษาหรือว่ามาให้มาช่วยดูได้ครับว่าไฟ
00:38:06 → 00:38:10 ใช่อาการในช่วงของอ่าช่วงที่คือนึก
00:38:10 → 00:38:12 หงุดหงิดของไปโคราชหรือเปล่านะครับแต่ถ้า
00:38:12 → 00:38:13 สมมติว่า
00:38:13 → 00:38:16 อาจจะ
00:38:16 → 00:38:18 จะสังเกตได้โดยหญ้าหรือคนใกล้ชิดเนี่ย
00:38:18 → 00:38:22 เนาะค่ะสิ่งที่อาจจะพอช่วยช่วยเขาได้นะ
00:38:22 → 00:38:26 ครับก็คือบอกได้นะว่าเป็นหัวเท่าไหนเช่น
00:38:26 → 00:38:29 ถ้าเป็นญาติเนี่ยเห็นว่าไม่นอนมาซัก 2
00:38:29 → 00:38:31 วันแล้วเหรอเนี้ยถ้าอย่างอาการห้องเนี้ย
00:38:31 → 00:38:35 อ๋อคิดว่าถ้าเห็นชัดๆสามารถคุยคุยได้คือ
00:38:35 → 00:38:37 จริงๆช่วงที่มีอาการไม่คุยรู้เรื่องนะ
00:38:37 → 00:38:40 ครับช่วงที่อาจจะไม่ไม่ได้แบบเยอะมาก
00:38:40 → 00:38:44 เนี่ยจริงคุยกันได้ครับค่ะมีใครที่ฟัง
00:38:44 → 00:38:48 อยู่นะคะหรือว่าท่านที่อาจจะกลับมารับฟัง
00:38:48 → 00:38:52 ย้อนหลังและมีความสงสัยเกิดขึ้นนะว่าเท่า
00:38:52 → 00:38:54 ที่คุณหมอพูดมาเนี่ยเรามีอาการแบบนั้น
00:38:54 → 00:38:57 หรือเปล่าหรือว่าสงสัยตัวเองลองพิมพ์เข้า
00:38:57 → 00:39:00 มานะคะแล้วเดี๋ยวจะให้อาจารย์หมอเนี่ยตอบ
00:39:00 → 00:39:05 ให้คุณผู้ชมคะพูดถึงเรื่องของอันตรายที่
00:39:05 → 00:39:08 รบตัวว่าจะเกิดขึ้นเนี่ยอาจารย์หมอคะถ้า
00:39:08 → 00:39:12 หากว่าไบโพล่าร์เนี่ยมันเกิดขึ้นจริงๆ
00:39:12 → 00:39:14 แล้วเนี่ยแล้วเค้าไม่ได้รับการรักษาหรือ
00:39:14 → 00:39:17 ว่าไปรักษาแล้วแต่ถ้าหายแล้วก็ไม่มีการ
00:39:17 → 00:39:19 รักษาต่อหรือไม่รู้ตัวเองเนี่ยอาจารย์เขา
00:39:19 → 00:39:22 จะมีพฤติกรรมเสี่ยงในการทำอย่างอื่นไหมคะ
00:39:22 → 00:39:26 ครับแน่นอนว่าก็มีครับแล้วก็มีหลายหลาย
00:39:26 → 00:39:29 มุมด้วยครับค่ะถ้าสมมุติเป็นเอาเริ่มจาก
00:39:29 → 00:39:34 มุมมุมที่เกี่ยวข้องกับทางด้านอาการของ
00:39:34 → 00:39:38 จิตเวชและก็อาการทางสมองก่อนเนาะค่ะก็คือ
00:39:38 → 00:39:40 ถ้าสมมุติว่าอาการเหล่านี้มันเกิดขึ้น
00:39:40 → 00:39:42 อย่างต่อเนื่องโดยที่เขาไม่รับการรักษานะ
00:39:42 → 00:39:44 ครับเนี่ยนั่นก็คือจะมีความเสี่ยงด้าน
00:39:44 → 00:39:48 ความคิดและความจำที่มันถดถอยไปมากกว่ามาก
00:39:48 → 00:39:51 กว่าคนอื่นที่ไม่ได้ไม่มากกว่าผู้เปิด
00:39:51 → 00:39:53 ท่านอื่นที่มารักษาค่ะแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
00:39:53 → 00:39:55 ก็จะมีหลายปัจจัยนอกจากใจเรื่องยาปัจจัย
00:39:55 → 00:39:58 เรื่องความรุนแรงของโรคครับแต่ถ้าทิ้งไว้
00:39:58 → 00:40:02 เนี่ยมันอาจจะทำให้เรื่องของระบบการนอน
00:40:02 → 00:40:05 เสียไปแน่ๆนะครับ 2 ก็คือเรื่องความคิด
00:40:05 → 00:40:08 ความจำที่มันอาจจะทดมีโอกาสทดไทยได้โพสต์
00:40:08 → 00:40:12 มากกว่ามากกว่าคนที่รักษานะครับค่ะแล้วก็
00:40:12 → 00:40:14 เอ่อ
00:40:14 → 00:40:17 ทางด้านการความเสี่ยงในการใช้สารเสพติด
00:40:17 → 00:40:21 จากที่บอกถ้าจริงๆทั้งช่วงที่ซึมเศร้าและ
00:40:21 → 00:40:24 ช่วงที่คือคือนะครับถ้าเป็นช่วงที่มี
00:40:24 → 00:40:26 โอกาสที่จะเกิดการใช้สารเสพติดเต็มมาก
00:40:26 → 00:40:30 กว่าเช่นดื่มเยอะขึ้นหรือสุราเยอะขึ้นจาก
00:40:30 → 00:40:32 เดิมก็ตื่นๆอยู่ละอาจารย์อาจจะมีบ้าง
00:40:32 → 00:40:35 เนี่ยแต่ว่าก็จะดื่มหนักตื้นขึ้นหนักขึ้น
00:40:35 → 00:40:39 กว่าเดิม 1 อาทิตย์ขึ้นกว่าเดิมซึ่งมัน
00:40:39 → 00:40:42 อาจจะนำไปสู่ภาวะสมองติดยาเสพติดใต้ใน
00:40:42 → 00:40:45 อนาคตอย่างนี้ครับอันนี้ก็จะเป็นความ
00:40:45 → 00:40:47 เสี่ยงนึงเนาะหรือว่ายอมสารเสพติดใหม่ๆ
00:40:47 → 00:40:50 โดยที่ไม่
00:40:50 → 00:40:53 ไม่ไม่ไม่ได้เคยลองมาก่อนและอาจจะมีผล
00:40:53 → 00:40:57 ข้างเคียงเกิดขึ้นเยอะมากๆได้นะครับเช่น
00:40:57 → 00:41:00 อ่าไปลองใช้เซตจะมีน็อตยาบ้าหรืออะไร
00:41:00 → 00:41:02 เงี้ยซึ่งมันก็จะเกิดภาวะประสาทหล่อแทรก
00:41:02 → 00:41:06 ซ้อนตามมาได้ค่ะครับแล้วก็การใช้สารเสพ
00:41:06 → 00:41:08 ติดทุกอย่างทำให้การควบคุมตัวเอง
00:41:08 → 00:41:11 ทำได้ยากขึ้น
00:41:11 → 00:41:14 ก็เช่นมันอาจจะนำไปสู่พฤติกรรมเสี่ยงอื่น
00:41:14 → 00:41:17 ๆอย่างที่ผมบอกครับเครื่องไอจัดทัวร์ไป
00:41:17 → 00:41:20 โคราชว่าทำให้แบบขับรถเร็วอยู่แล้วใครพวก
00:41:20 → 00:41:21 สารเท่านี้ก่อนแล้วยิ่งระมัดระวังได้น้อย
00:41:21 → 00:41:25 ลงนะครับหรือบางคนเนี่ยเอ่ออาจจะมีอันนี้
00:41:25 → 00:41:28 เป็นอาการนึงนะครับยังใส่ไม่ได้ออกไปทาง
00:41:28 → 00:41:31 เรื่องของความต้องการทางเพศก็ได้ความน้ำ
00:41:31 → 00:41:33 มาทำเพจเยอะขึ้นมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ
00:41:33 → 00:41:37 มากขึ้นแบบที่ไม่เคยคะแล้วไม่เคยพิธีกรรม
00:41:37 → 00:41:40 แบบนี้มาก่อนที่มีที่สำคัญกับคนแปลกหน้า
00:41:40 → 00:41:44 อะไรนะครับก็อาจจะเสี่ยงของอ่าความโรคติด
00:41:44 → 00:41:48 ต่อทางเพศได้เหมือนกันนะครับหรือจะเป็น
00:41:48 → 00:41:53 ทางด้านอ่าอันนี้เป็นผลกระทบด้านอื่นๆใน
00:41:53 → 00:41:56 ชีวิตละค่ะก็อย่างที่บอกไปลงทุนไม่ได้คิด
00:41:56 → 00:41:58 มาคิดหลังมาที่ไม่ได้อยู่สภการมาก่อนเลย
00:41:58 → 00:42:00 นะขนาดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมก็
00:42:00 → 00:42:03 จะตามมาได้แน่นอนพรุ่งนี้ก็เป็นผลกระทบ
00:42:03 → 00:42:07 ที่ค่อนข้างจะวงกว้างความสำคัญกับคนรอบ
00:42:07 → 00:42:11 ข้างก็อาจจะจะแย่ลงได้ในลักษณะของ
00:42:11 → 00:42:13 ผมที่มันเปลี่ยนแปลงไปอย่างเช่นช่วงหมุด
00:42:13 → 00:42:15 อีกอย่างเงี้ยคนอื่นก็จะเข้าไม่ค่อยได้ละ
00:42:15 → 00:42:18 ค่ะเข้าไปคุยด้วยก็โดนหงุดหงิดใส่เลยนะ
00:42:18 → 00:42:21 ครับค่ะมันก็ส่งผลกระทบร่างข้างจะหลายทาง
00:42:21 → 00:42:25 จากครับที่นี้อาจารย์หรอคะใครบ้างที่ที่
00:42:25 → 00:42:29 มีความเสี่ยงในการที่จะเป็นโรคไบโพล่าร์
00:42:29 → 00:42:31 ใครในที่นี้หมายถึงเรื่องของการทำงาน
00:42:31 → 00:42:34 เรื่องของคนเรื่องของอะไรความเสี่ยงต่างๆ
00:42:34 → 00:42:38 ที่อยู่รอบตัวเราเนี่ยอาจารย์จริงๆแล้ว
00:42:38 → 00:42:42 เนี่ยเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยไม่มีไม่
00:42:42 → 00:42:45 ใช่ข้อยกเว้นนะครับเพียงแต่ว่าเราจะสื่อ
00:42:45 → 00:42:49 คืออ่านในวัยรุ่นค่อนข้างเยอะกว่าคือช่วง
00:42:49 → 00:42:51 เริ่มต้นหมายถึงการมีอาการครั้งแรกนะครับ
00:42:51 → 00:42:54 ค่ะพบว่ามีอาการครั้งแรกในช่วงแบบอายุ
00:42:54 → 00:42:58 15-20 ปีเนี่ยค่อนข้างจะเยอะนะครับก็จะ
00:42:58 → 00:43:02 เป็นวัยมัธยมหรือว่าวัยมหาวิทยาลัยค่ะเขา
00:43:02 → 00:43:06 เอาไปเรียนนะครับซึ่งอ่าก็ช่วงที่จะเยอะ
00:43:06 → 00:43:10 ที่สุดนะครับ 2 ก็คือผู้ที่ใช้มีประวัติ
00:43:10 → 00:43:13 การใช้สารเสพติดมาก็มีการหรือมีการใช้สาร
00:43:13 → 00:43:17 เสพติดอื่นๆมาเกาะหน้านี้แล้วตอบตอนหน้า
00:43:17 → 00:43:19 ไม่ได้มีความเจ็บป่วยเรื่องอารมณ์อะไรข้า
00:43:19 → 00:43:24 แต่เป็นความเสี่ยงหนึ่งที่เป็นข้อที่อาจ
00:43:24 → 00:43:28 จะทำให้เกิดจนของโปรไปโคล่าได้นะครับที่
00:43:28 → 00:43:30 ปัจจัยมันเยอะมากเลยครับที่เป็นความ
00:43:30 → 00:43:33 เสี่ยงเนาะอ่าปัจจัยทางด้านพันธุกรรมมี
00:43:33 → 00:43:36 ส่วนแต่ไม่ได้เยอะมากครับค่ะอ่า
00:43:36 → 00:43:40 อาจจะแค่ว่าถ้าเราอาจจะพบว่าแบบถ้าซัก
00:43:40 → 00:43:42 ประวัติย้อนกลับไปในผู้ป่วยไบโพล่าเนี่ย
00:43:42 → 00:43:43 อาจจะเจอ
00:43:43 → 00:43:49 คนผู้ย่านในม่านเช่นแบบพ่อแม่หรือว่ากู
00:43:49 → 00:43:51 จักรยานในที่เคยมีประวัติทั้งนั้นอารมณ์
00:43:51 → 00:43:55 มาตอบแต่อย่างในรุ่นในรุ่นที่รักษาน้อย
00:43:55 → 00:43:58 เช่นตอนนี้เป็นวัยรุ่นหรือวัยทำงานเนี่ย
00:43:58 → 00:44:01 ถ้าสักย้อนกลับไปเนี่ยเพราะในรุ่นอายุ
00:44:02 → 00:44:04 ประมาณทรัพย์คุณพ่อคุณแม่เขา 60 ปีหรือ
00:44:04 → 00:44:07 คุณทำใหญ่ 70 80 เนี่ยตอนนั้นให้ความรู้
00:44:07 → 00:44:09 เกี่ยวกับด้านจิตเวชข้างๆจะยังไม่เยอะก็
00:44:09 → 00:44:11 อาจจะไม่ได้เข้ารับการรักษา
00:44:11 → 00:44:14 นะครับก็เป็นไปได้เหมือนกันค่ะแต่ซัก
00:44:14 → 00:44:16 ประวัติย้อนกลับไปล่าสุดสื่อนะครับเรื่อง
00:44:16 → 00:44:20 ผลกระทบทางจิตใจก็จะเป็นไปได้ขับจริงๆก็
00:44:20 → 00:44:23 ความเสี่ยงทางด้านจิตใจเกี่ยวกับผลกระทบ
00:44:23 → 00:44:26 ไม่ได้ต่างจากภาวะอื่นๆนะครับอาจจะกระทบ
00:44:26 → 00:44:30 ทางด้านอ่าความสัมพันธ์นะครับมีเหตุทาง
00:44:30 → 00:44:34 ด้านการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจต่างๆอย่าง
00:44:34 → 00:44:35 นี้ครับ
00:44:35 → 00:44:38 อย่างช่วงโคบิตเนี่ยครับก็เป็นอ่าอะไรที่
00:44:38 → 00:44:40 กระตุ้นได้เหมือนกันเนาะมันก็มีความ
00:44:40 → 00:44:43 เปลี่ยนแปลงในสิ่งแวดล้อมอาเครียดอะไร
00:44:43 → 00:44:45 อย่างนี้เกี่ยวมันเริ่มอยู่แล้วครับความ
00:44:45 → 00:44:48 เครียดที่มันมาเป็นพื้นฐานที่มันอาจจะนำ
00:44:48 → 00:44:51 ไปสู่เรื่องของ - ทางจิตเวชได้อยู่แล้ว
00:44:51 → 00:44:54 ค่ะอาจารย์แล้วมันมีโรคอื่นๆที่มันคล้าย
00:44:54 → 00:44:57 กับไปโคราชมันไม่ใช่ไบโพล่าร์ไหมอ่ะใช่
00:44:57 → 00:44:59 อันนี้แหละที่ที่อยากจะพูดที่สุดคำว่ามัน
00:44:59 → 00:45:02 เป็นความเข้าใจที่อ่ะไม่ค่อยถูกต้องและ
00:45:02 → 00:45:05 รวดที่ถูกต้องแล้วนะเรากลับมาดู 5 ที่อาจ
00:45:05 → 00:45:08 จะไม่ค่อยตรงกับใบโคล่ามันขายได้ก็เข้าใจ
00:45:08 → 00:45:11 ว่าทำไมถึงถึงตีความแบบนั้นกันเพราะมี
00:45:11 → 00:45:14 ความอย่าเพิ่งกันบ้าที่อันแรกเลยก็คือ
00:45:14 → 00:45:16 เรื่องของโรคไบโพลาร์ที่เกิดจากสารเสพติด
00:45:16 → 00:45:20 แล้วก็โรคทางกายอันนี้จะเป็นอะที่ผมเป็น
00:45:20 → 00:45:22 หน้าที่ของหมอที่จะต้องแยกให้ออกว่านี่
00:45:22 → 00:45:26 มันมีเหตุถ้านี้หรือเปล่าเช่นไปไซ้ใช้ไป
00:45:26 → 00:45:28 ใช้สารเสพติดบางอย่างมาแล้วมันมากันคล้าย
00:45:28 → 00:45:34 อ่าอารมณ์คืนได้เช่นกันชาครับใช่เมื่อกี้
00:45:34 → 00:45:38 มึงเออคืนกันอยู่เอ่อเหรอทั้งวันทั้งแพ้
00:45:38 → 00:45:41 เลยอ่ะอาจจะไปใช้ตัวนี้มาแต่ว่าไม่ได้
00:45:41 → 00:45:44 หลักคือส่วนใหญ่คนไข้ก็จะไม่ค่อยบอกรอจะ
00:45:44 → 00:45:47 ต้องดูแลแบบสัญญาณทางด้านร่างกายว่ามัน
00:45:47 → 00:45:50 เกิดอะไรขึ้นหรือว่าสารเสพติดอื่นๆก็ทำ
00:45:50 → 00:45:53 ให้เกิดได้นะครับดื่มหนักๆอ้ะจะทำให้เกิด
00:45:53 → 00:45:57 ได้เงินกันนะครับหรือโรคทางกายอื่นๆก็คือ
00:45:57 → 00:46:01 ผมยกตัวอย่างเรื่องโรคไทรอยด์นะครับข้อ
00:46:01 → 00:46:03 มูลให้ร้อยที่มันมีความเปลี่ยนแปลงไปนะ
00:46:03 → 00:46:07 ครับ 2 พระอาจจะเป็นกลุ่มโรค
00:46:07 → 00:46:11 ภูมิคุ้มกันค่าที่เขาพอจะได้ยิน
00:46:11 → 00:46:15 อามาบ้านก็คือโรค sle ว่าโรคพุ่มพวง PT
00:46:15 → 00:46:18 รู้จักนะครับเนื่องจากพวกนี้ก็จะมีการ
00:46:18 → 00:46:22 อักเสบของเส้นเลือดทั่วร่างกายรวมถึงเส้น
00:46:22 → 00:46:24 เลือดแบบในส่วนของระบบประสาทและสมองด้วย
00:46:24 → 00:46:29 เนี้ยค่ะครับก็จะทำให้เกิดอาการการที่ไป
00:46:29 → 00:46:32 คล้ายกับไบโพล่าแต่จริงๆแล้วร่างของมันมา
00:46:32 → 00:46:34 จากการกับเริ่มของโรคทางกายก็ได้นะครับ
00:46:34 → 00:46:37 พรุ่งนี้ก็อาจจะต้องเอาพูดคุยกับคุณหมอ
00:46:37 → 00:46:40 อายุรกรรมแล้วก็คุณขออะไรๆแผนกที่แบบมี
00:46:40 → 00:46:42 ความเกี่ยวข้องนะครับแต่ว่าเราจะต้องดู
00:46:42 → 00:46:45 ว่าเอ่อมันมีอาการของไปโคราชแล้วเราจัด
00:46:45 → 00:46:47 การอาการของเป็นโคราชนั้นยังไงถ้าครับแบบ
00:46:47 → 00:46:51 ที่ 2 ครับอันนี้ที่พี่จิ๊บบอกไปช่วงแรกๆ
00:46:51 → 00:46:55 ก็แบบโอ้เป็นช่วงที่ประจำเดือนมาหรือ
00:46:55 → 00:46:57 กำลังเล่นกันและใกล้จะมาหรือเปล่านะครับ
00:46:57 → 00:47:01 ถ้าเธออันนี้คล้ายแต่ว่าไม่ได้ทั้งหมดจะ
00:47:01 → 00:47:04 ไปขายในมุมของความหงุดหงิด
00:47:04 → 00:47:09 ก็จะไปขายในมุมของความหงุดหงิดและการ
00:47:09 → 00:47:12 เปลี่ยแปลงอารมณ์ที่รวดเร็วถ้าเช่นที่คุย
00:47:12 → 00:47:17 กันว่าอ่าตอนนี้สักสองนาทีนี้ยังมีอยู่
00:47:17 → 00:47:20 อีก 3 นาทีถัดมาไม่ดีแล้วเลยนะครับการ
00:47:20 → 00:47:22 เปลี่ยนแปลงอารมณ์มันค่อนข้างจะรวดเร็ว
00:47:22 → 00:47:25 แบบเนี้ยก็คล้ายแต่ว่าว่าส่วนนึงเนี่ยอ้า
00:47:25 → 00:47:28 ถ้าเป็นอาการที่เกิดขึ้นเกาะนที่จะมี
00:47:28 → 00:47:32 ประจำเดือนค่ะคือบางคนอันนี้จะส่วนน้อยนะ
00:47:32 → 00:47:34 ครับที่มีประจำเดือนแล้วแล้วก็ยังก็จะมี
00:47:34 → 00:47:36 อาการยายังกินอยู่ก็จะมีได้เหมือนกันแต่
00:47:36 → 00:47:39 ว่ามันสัมพันธ์เป็นรอบๆคือว่าช่วงนี้ของ
00:47:39 → 00:47:42 รอบเดือนเนี่ยจะมีอาการแบบนี้ขึ้นมาแล้ว
00:47:42 → 00:47:45 มันก็จะหายไปทางคนช่วงอ่ะครับแต่เนี่ยก็
00:47:45 → 00:47:47 อาจจะเป็นภาวะอารมณ์เปลี่ยนแปลงในช่วง
00:47:47 → 00:47:49 ประจำเดือนได้เหมือนกันนะครับ
00:47:49 → 00:47:53 อ้างจากที่ 3 ครับโรคสมาธิสั้นอ่าอันนี้
00:47:53 → 00:47:56 จะไปคล้ายกับไบโคร่าในมุมของ
00:47:56 → 00:48:01 บล็อกบล็อกแบบเออหรือว่าอ่า
00:48:01 → 00:48:05 ทำอะไรหลายๆอย่างความของฉันค่ะนะครับแล้ว
00:48:05 → 00:48:09 ก็อยู่นี่ไม่ค่อยได้เนี่ยคะมันไปๆได้ซึ่ง
00:48:09 → 00:48:12 อาจจะถูกมองว่าเป็นไบโพล่าร์แต่จริงๆแล้ว
00:48:12 → 00:48:16 มันเป็นภาวะสมาธิสั้นนะครับซึ่งอันนี้จะ
00:48:16 → 00:48:19 เจอในเด็กด้วยเหมือนว่าอะช่วงเด็กๆก็จะ
00:48:19 → 00:48:21 เริ่มสังเกตเห็นแต่ว่าจะเริ่มชาติในช่วง
00:48:21 → 00:48:23 วัยรุ่นด้วยครับเพราะว่าการเรียนการสอน
00:48:23 → 00:48:27 และมันต้องใช้สมาธิมากขึ้นค่ะนะครับมันก็
00:48:27 → 00:48:30 อาจจะเริ่มเห็นชัดตอนช่วงวัยรุ่นเหมือน
00:48:30 → 00:48:34 กันก็เลยคล้ายๆกันนะครับหรือสุดท้ายนี้
00:48:34 → 00:48:38 อาจจะมีหลายๆสื่อหลายๆเพจร้องเพลงหลายเพจ
00:48:38 → 00:48:40 เรื่องเขียนเรื่องของบุคคลก็ภาพแปรปรวน
00:48:40 → 00:48:43 ชนิดก้ำกึ่งหรือว่าแบบรัวชนิดเจ้าอารมณ์
00:48:43 → 00:48:47 นะครับคืออะไรยังไงอาจารย์จะมีเอ่ออันนี้
00:48:47 → 00:48:51 จะเป็นอีกภาวะอีกถ้าใครกระดิ่งเลย
00:48:51 → 00:48:57 ครับอีกกลุ่มนึงเลยซาเป็นความผิดปกติของ
00:48:57 → 00:48:59 บุคลิกภาพ
00:48:59 → 00:49:04 ก็คือพูดยังไงดีเดี๋ยวนะดิยังอธิบายอ่ะ
00:49:04 → 00:49:07 พระเอกบุคลิกกับพูดอะไรแปลกคืนชนิดก้ำ
00:49:07 → 00:49:12 กึ่งคือสิ่งที่เป็นมาเนิ่นนานว่าแต่ละคน
00:49:12 → 00:49:15 พวกเราก็จะมีบุตรนี่ก็เท่าในการที่จะสื่อ
00:49:15 → 00:49:20 สารในการที่จะแสดงออกทางอารมณ์หรือว่าแก้
00:49:20 → 00:49:23 ปัญหาต่างๆในไม่เหมือนกันนะครับอันนี้พูด
00:49:23 → 00:49:27 ถึงบุคลิกภาพแปรปรวนทั่วๆไปก่อนถ้าแปร
00:49:27 → 00:49:29 ปรวนและเป็นความผิดปกติเนี่ยจะเป็นลักษณะ
00:49:29 → 00:49:32 ว่าว่าส่งผลกระทบต่อด้านความสัมพันธ์เป็น
00:49:32 → 00:49:37 หลักแต่อันนี้เป็นแบบแบบนึงที่ค่อนข้างจะ
00:49:37 → 00:49:39 เห็นชัดเกี่ยวกับ
00:49:39 → 00:49:42 มีอารมณ์จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
00:49:42 → 00:49:46 และแสดงออกทางอารมณ์ค่อนข้างเยอะถ้าครับ
00:49:46 → 00:49:50 อ่าลักษณะสำคัญอีกอย่างนึงก็อาจจะมีพื้น
00:49:50 → 00:49:53 ที่กรรมเกี่ยวกับการทำร้ายตัวเองเพื่อที่
00:49:53 → 00:49:56 จะระบายความรู้สึกทางใจออกมาโดยที่ไม่ได้
00:49:56 → 00:50:00 หวังผลว่าจะแบบเสียชีวิตเหมือนๆเหมือน
00:50:00 → 00:50:03 อยากระบายออกมาเฉยๆอย่างนี้ครับถ้าแล้วก็
00:50:03 → 00:50:07 ค่อนข้างจะอารมณ์เปรียบแปลงง่ายเจออะไร
00:50:07 → 00:50:10 ที่ไม่ได้เป็นเรื่องที่
00:50:10 → 00:50:14 อาจจะใหญ่มากแต่จะรู้สึกได้เยอะค่ะไว้ว่า
00:50:14 → 00:50:18 คนอื่นๆห้ามอันนี้ก็จะออกมาในรูปแบบของ
00:50:18 → 00:50:21 บุคลิกภาพแบบตัวต้อมฝึกซึ่งมันก็จะคล้ายๆ
00:50:21 → 00:50:25 กับไบโพล่าได้เหมือนกันครับพอแล้วและอีก
00:50:25 → 00:50:27 อย่างนึงเป็นความเสี่ยงนะครับไม่ถึงว่า
00:50:27 → 00:50:29 บุคลิกภาพแบบนี้ต้องทำเสียงที่เรียกว่าคน
00:50:29 → 00:50:33 ข้างด้วยเป็นด้วยกันสองอย่างก็น่าเพราะ
00:50:33 → 00:50:36 ฉะนั้นแยกกันไม่ออกนะ 4 โรคนี้มันคือโรค
00:50:36 → 00:50:39 หรือภาวะอื่นที่คล้ายกับไบโพล่าขายไม่ใช่
00:50:39 → 00:50:42 ก็จะไม่ใช่ใช่นะคะสีโรคนี้ที่ขึ้นอยู่
00:50:42 → 00:50:46 ข้างบนค่ะอาจารย์และที่เนี้ยจะทำยังไง
00:50:46 → 00:50:49 เมื่อถ้าหากว่าเราดูแล้วไม่ใช่แน่นอนนะ
00:50:49 → 00:50:51 เนี้ยเรารู้สึกว่ามันเข้าข่ายไบโพล่าร์ทำ
00:50:51 → 00:50:55 ยังไงดีอันดับแรกก็ไปทำยังไงอ่ะอันดับแรก
00:50:55 → 00:50:58 นะครับอยากให้นึกถึงโรงพยาบาลหาญและห่าง
00:50:58 → 00:51:01 น้องจะหาญสวัสดิ์รักษาที่ที่สามารถดูแล
00:51:01 → 00:51:04 เรื่องของสุขภาพจิตได้ค่ะเห็นอันดับแรก
00:51:04 → 00:51:09 จริงๆตอนเนี้ยเอ่อคุณหมอทั่วไปนึกว่าตาม
00:51:09 → 00:51:11 โรงพยาบาลอำเภอโรงเรียนจังหวัดนะครับก็มี
00:51:11 → 00:51:13 ความรู้เรื่องนี้อยู่แล้วแต่อาจจะไม่ได้
00:51:13 → 00:51:16 เชี่ยวชาญแต่เขาคอจะรู้ว่าจะต้องจัดการ
00:51:16 → 00:51:19 อาการเบื้องต้นยังไงบ้างและควรจะส่งต่อ
00:51:19 → 00:51:23 ที่ไหนเมื่อไหร่เนี่ยครับคือจะมีระบบที่
00:51:23 → 00:51:25 คอยดูแลเรื่องนี้อยู่แล้วฮะซึ่งแต่ว่าแต่
00:51:25 → 00:51:27 ละที่จะมีความพร้อมที่แตกต่างกันนะเนี่ย
00:51:27 → 00:51:29 จะต้องคุยในรายละเอียดและว่าโรงพยาบาล
00:51:29 → 00:51:31 นั้นเขาพร้อมแค่ไหนหรือว่าเขาแนะนำให้ไป
00:51:31 → 00:51:34 ดูแลที่ไหนอย่างนี้ค่ะอันนี้เป็นราย
00:51:34 → 00:51:36 ละเอียดอ๊ะแต่ว่าการตรวจรักษาน่าจะเป็น
00:51:36 → 00:51:41 ขั้นตอนแรกที่ที่น่าจะต้องถ้างั้นจะต้อง
00:51:41 → 00:51:45 นึกถึงขาเพราะว่ามันมีหลายอาการที่มันอาจ
00:51:45 → 00:51:50 จะดีขึ้นได้ด้วยตัวเองได้ยากเหมือนกันเรา
00:51:50 → 00:51:52 ใช้เวลารักษานานไหมคะจะนะพูดถึงการรักษา
00:51:52 → 00:51:56 จะต้องกินยาจะต้องเจอหมอบ่อยๆไหมหรือว่า
00:51:56 → 00:51:59 จะใช้ระยะเวลาในการรักษานานมาแล้วก็รักษา
00:51:59 → 00:52:03 แต่มันหายขาดไหมอาจารย์ครับต้องบอกดวง
00:52:03 → 00:52:06 ันทิปเป็นเขาทำได้ก่อนนะว่าจะต้องรักษา
00:52:06 → 00:52:11 อยู่นานไหมกว่าที่จะหายนะครับก็คือตอบยาก
00:52:11 → 00:52:13 เหมือนกันเพราะว่าแต่ละคนนี้จะมีการตอบ
00:52:13 → 00:52:16 สนองต่อการรักษาที่ไม่เหมือนกันแล้วก็ใน
00:52:16 → 00:52:19 ช่วงทั้งสองช่วงนะไปถือว่าอย่างเช่นช่วง
00:52:19 → 00:52:23 ซึมเศร้าช่วงแม่นี่นะครับกาดยาที่ใช้ใน
00:52:23 → 00:52:28 การที่จะรักษาก็จะมีความแตกต่างกันเพราะ
00:52:28 → 00:52:32 ฉะนั้นเนี่ยเราคาดหวังบอกคาดหวังว่าให้ 1
00:52:32 → 00:52:35 เดือนค่ะอันนี้เป็นเป้าเนาะส่วนใหญ่จะ
00:52:35 → 00:52:37 พยายามตั้งเป้าไว้ว่าภายใน 1 เดือนหน้าจะ
00:52:37 → 00:52:41 ทำให้อาการสงบได้หมดมีอาการสำคัญก็ควรจะ
00:52:41 → 00:52:43 หายได้ภายในซักหนึ่งถึงหนึ่งอาทิตย์เนี่ย
00:52:43 → 00:52:47 ควรจะทนจะรีบจัดการให้ให้มันลดลงได้เช่น
00:52:47 → 00:52:50 การนอนครับสำคัญมากเลยมันที่จะจัดพุ่งไป
00:52:50 → 00:52:53 ที่การนอนเป็นหลักก่อนฉะนั้นตอบไม่ได้ว่า
00:52:53 → 00:52:57 แต่ละคนจะรักษานานกว่าจะหายหรือเปล่า
00:52:57 → 00:53:00 เพราะแต่ละคนตอบสนองกับการรักษาไม่เหมือน
00:53:00 → 00:53:03 ดานและการรักษาที่แต่ละคนเลือกก็อาจจะไม่
00:53:03 → 00:53:07 เหมือนกันเช่นบางคนเค้าขอไม่จริงยาฆ่านะ
00:53:07 → 00:53:10 ครับซึ่งมันก็จะยากนิดนึงเพราะว่ามันจะ
00:53:10 → 00:53:13 ต้องใช้ตัวช่วยอื่นๆมาช่วยเช่นกันรักษา
00:53:13 → 00:53:15 หรือสีฟ้าครับถ้าไม่กินยาก็จะสามารถรักษา
00:53:15 → 00:53:19 ด้วยไฟฟ้าได้ถ้าการเมืองแตกมากครับอ่าอัน
00:53:19 → 00:53:23 นี้คำถามที่ 1 ว่ารักษานานไหมมีเป้าแต่
00:53:23 → 00:53:27 ว่าไม่รู้นะหรือเปล่าต้องมาดูกันอ่ะคำถาม
00:53:27 → 00:53:29 ที่ 2 คือแล้วจะต้องกินยาไปอีกนานเท่า
00:53:29 → 00:53:33 ไหร่ถ้าหายแล้วนะครับต้องบอกก่อนว่าแนว
00:53:33 → 00:53:38 โน้มของการที่จะกลับมาอ่ามีอาการอีกมันก็
00:53:38 → 00:53:42 ขึ้นอยู่กับว่าอ้ะต่อไปหายจากอาการนานๆ
00:53:42 → 00:53:44 นานเท่าไหร่มีช่วงทิพย์ปกติได้นานเท่า
00:53:44 → 00:53:48 ไหร่เนี่ยครับเออหลักๆเนี่ยเราจะประเมิน
00:53:48 → 00:53:52 เป็นช่วงๆนะครับถ้าคงที่ดีในช่วงสัก 6
00:53:52 → 00:53:54 เดือนเนี่ยเราอาจจะพิจารณาเหมือนกับปรับ
00:53:54 → 00:53:57 ให้มันเหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะจำเป็น
00:53:57 → 00:54:00 แต่ถ้ามันมีการกำเริบซ้ำอย่างเงี้ยอาจจะ
00:54:00 → 00:54:04 ต้องคุยกันว่าการรักษาด้วยอยากจะต้องเป็น
00:54:04 → 00:54:07 ไปเพื่อป้องกันไม่ให้มันกลับมาที่นี่ผมกด
00:54:07 → 00:54:11 ให้อ่าขอโชว์เรื่องของการเปลี่ยนแปลงทาง
00:54:11 → 00:54:14 อารมณ์ที่เป็นการดำเนินโรคของเป็นโคล่า
00:54:14 → 00:54:18 กันเนาะค่ะครับจะได้เข้าใจนะครับว่าแต่ละ
00:54:18 → 00:54:21 รอบแต่ละรอบเมียมันมีความแตกต่างกันในการ
00:54:21 → 00:54:24 รักษาค่อนข้างจะเยอะไปละเอียดค่อนข้าง
00:54:24 → 00:54:27 เยอะแต่ผมสรุปมาให้ฟังแบบนี้ครับเราดู
00:54:27 → 00:54:29 เส้นการ์ดสีเขียวค่ะเนาะสีเขียวเนี่ยเป็น
00:54:29 → 00:54:32 อารมณ์ปกติของคนครับด้านบนจะเป็นอารมณ์
00:54:32 → 00:54:34 ที่มีความสุขนะครับด้านล่างจะเป็นอารมณ์
00:54:34 → 00:54:38 ที่เศร้านะครับสีเขียวเนี้ยคนละทั่วไปมี
00:54:38 → 00:54:41 ได้ครับเดี๋ยวก็ก็อาจจะรู้สึกอีกทีเดียว
00:54:41 → 00:54:43 ป่าอาจจะรู้สึกไหมดีแต่มันแบบ
00:54:43 → 00:54:47 ก้อนมันเล็กๆก่อนมันไม่ได้แบบถูกมากนะ
00:54:47 → 00:54:53 ครับแต่ว่าถ้าเป็นโรคไบโพล่าร์ครับก้อน
00:54:53 → 00:54:56 มันจะค่อนข้างใหญ่จะเห็นว่าแบบมันลงมันก็
00:54:56 → 00:54:59 ลงเยอะเลยนะครับตอนขึ้นก็ขึ้นเยอะเลยนะ
00:54:59 → 00:55:03 ครับแล้วก็อ่าส่วนใหญ่จริงๆแล้วเราจะพบ
00:55:03 → 00:55:09 ว่าอาการด้านซึมเศร้าจะคกมากกว่าคือบางที
00:55:09 → 00:55:15 อ่าไปเจอตอนนี้ครับไปเจออาการของซึมเศร้า
00:55:15 → 00:55:17 ถ้าคนไข้บางคนอาจจะได้รับการวินิจฉัยว่า
00:55:17 → 00:55:21 เป็นโรคซึมเศร้ามาก่อนคือค่ะตามไปเรื่อย
00:55:21 → 00:55:23 อาจจะซึมเศร้าอีกตอนนี้ก็ยังเป็นซึมเศร้า
00:55:23 → 00:55:27 อยู่แต่พอซักช่วงนึงรักษาไปปรากฏว่ามี
00:55:27 → 00:55:29 อาการด้านเขื่อนหรือว่าด้านหงุดหงิดขึ้น
00:55:29 → 00:55:33 มาแบบนี้วินิฉัยจะเปลี่ยนคือหมอก็จะ
00:55:33 → 00:55:36 เปลี่ยนนิสัยว่าไม่น่าจะใช่โรคซึมเศร้าละ
00:55:36 → 00:55:39 แบบนี้น่าจะเป็นโรคไบโพล่าร์มากกว่านะ
00:55:39 → 00:55:43 ครับซึ่งอ่าพรุ่งนี้อาจจะต้องใช้ประสบ
00:55:43 → 00:55:46 ประสบการณ์ด้วยแล้วก็ลักษณะอาการที่
00:55:46 → 00:55:49 ติดต่อแพทย์หรือว่าคุณหมอที่มีความเชี่ยว
00:55:49 → 00:55:53 ชาญหรือว่าเคยเห็นได้รับแบบการฝึกอบรมมา
00:55:53 → 00:55:57 ช่วยพัฒนาให้คือคนไข้ก็จะรู้ตัวและอยากจะ
00:55:57 → 00:55:59 มองเห็นแหละแต่ว่าอยากจะขอให้ไปปรึกษาคุณ
00:55:59 → 00:56:02 หมอว่ามันใช่ช่วงแบบนี้หรือยังมากินมันจะ
00:56:02 → 00:56:05 ดูยากนะครับและที่สำคัญคือจะมีช่วงที่พัด
00:56:05 → 00:56:07 ลมปกติ
00:56:07 → 00:56:11 มาด้วยก็ได้เพราะฉะนั้นเนี่ยเอ่อบางคนเขา
00:56:11 → 00:56:13 หมดรอบนะครับไม่ได้กินยงกินยาอะไรก็จะรู้
00:56:13 → 00:56:16 สึกว่าต้องกลับมาเหมือนเดิมและนะครับแต่
00:56:16 → 00:56:19 มันจะไม่ยาวจริงนะการใช้ยาเพื่อการรักษา
00:56:19 → 00:56:22 หรือว่าการรักษาด้วยอ่า
00:56:22 → 00:56:25 เอ่ออื่นๆเนาะเช่นกันรักษาด้วยสีฟ้าการ
00:56:25 → 00:56:28 รักษาด้วยอ่า
00:56:28 → 00:56:31 การนอนโรงพยาบาลเลยนะครับมันเป็นไปเพื่อ
00:56:31 → 00:56:34 ประคองช่วงที่อารมณ์ปกตินี่แหละให้ได้นาน
00:56:34 → 00:56:37 ที่สุดและป้องกันไม่ให้มันเกิดไอ้พวกที
00:56:37 → 00:56:40 พวกนี้ก่อนๆใหญ่ๆพวกนี้ขึ้นมาอีกนะครับ
00:56:40 → 00:56:42 คือมันเป็นการรักษาเพื่อการป้องกันแล้ว
00:56:42 → 00:56:45 ค่ะหลังจากที่หายเพราะฉะนั้นเนี่ยอย่าที่
00:56:45 → 00:56:48 ใช้มันจะเป็นยาที่ป้องกันไม่ให้มันกลับมา
00:56:48 → 00:56:52 ก็เลยถึงบอกว่าถ้ามีกับเรื่อง 3 ซ้ำสงสัย
00:56:52 → 00:56:55 ก็จะต้องป้องกันถ้ามันซ้ำบ่อยๆมากๆนะครับ
00:56:55 → 00:56:58 อาจจะต้องอำเภอต้องใช้ยาไปเรื่อยๆจนกว่า
00:56:58 → 00:57:01 เราจะมั่นใจว่ามันสงบซึ่งก็จะเมินทุก 6
00:57:01 → 00:57:05 เดือนถึง 2 ปีเลยนะครับว่าสงบดีแล้วยังยา
00:57:05 → 00:57:08 ลดได้แค่ไหนหรือว่ามีโรคทางกายอื่นๆที่
00:57:08 → 00:57:11 จำเป็นจะต้องกลับยาที่ป้องกันอาการพวก
00:57:11 → 00:57:14 เนี้ยให้น้อยลงเช่นมาที่อายุเยอะขึ้นเนาะ
00:57:14 → 00:57:17 การขับขับยาออกเลยครับจะไม่เหมือนเดิม
00:57:17 → 00:57:18 แล้วก็ต้องมาที่หน้าวะ
00:57:18 → 00:57:22 ตับดีไหมน้อยลงได้มั้ยเลยนะครับเอ่อ
00:57:22 → 00:57:26 อาจารย์คะไบโพล่าร์นะเท่าที่ฟังอาจารย์
00:57:26 → 00:57:30 หมอเนี่ยบางคนถ้ารักษานะคะก็จะมีการควบ
00:57:30 → 00:57:33 คุมไปเป็นช่วงๆซึ่งแต่ละช่วงแต่ละคนก็จะ
00:57:33 → 00:57:36 ไม่เหมือนกันเราก็ยังมีช่วงที่ปกติด้วย
00:57:36 → 00:57:38 บางคนอาจจะอยู่ช่วงปกติและคิดว่าตัวเอง
00:57:38 → 00:57:42 หายละก็เลยหายไปใช่ครับคะกับคนที่อีก
00:57:42 → 00:57:44 กลุ่มนึงคือไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นไปโพล่า
00:57:44 → 00:57:48 เลยแล้วก็มีอาการอย่างนี้เรามากๆสู่มากๆ
00:57:48 → 00:57:51 ดูจากกราฟคือเหมือนรถไฟของอ่ะอารมณ์อย่าง
00:57:51 → 00:57:54 นั้นเลยอ่ะค่ะนานหรออ๋อครับถ้าอย่างนี้นะ
00:57:54 → 00:57:58 ถ้าหากว่าเขารักษาแต่รักษาไม่สุดกับคนที่
00:57:58 → 00:58:01 มารักษาเลยเนี่ยนะ 2 กลุ่มเนี้ยจะทำให้
00:58:01 → 00:58:06 แบบกลายเป็นแบบนำไปสู่การเป็นบ้าควบคุม
00:58:06 → 00:58:09 สติไม่ได้เลยนี้นะมั้ยอ๋อ
00:58:09 → 00:58:12 ถ้าไม่รักษาก็มีความเสี่ยงมากกว่าแต่ว่า
00:58:12 → 00:58:15 งี้ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นในโคล่าแล้วจะควบ
00:58:15 → 00:58:17 คุมตัวเองไม่ได้จนถึงขั้นนั้นคือมีครับ
00:58:17 → 00:58:22 ที่บางทีอาการเป็นโคล่าเป็นหนักมากๆจนถึง
00:58:22 → 00:58:25 ขั้นมีหน้าร้อนหูแว่วค่าหรือว่ามีความ
00:58:25 → 00:58:27 เชื่อที่อาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริงเท่า
00:58:27 → 00:58:31 ไหร่ได้นะคะอันนี้ก็จะเป็นผลแทรกซ้อนที่
00:58:31 → 00:58:33 ค่อนข้างรุนแรงแต่ไม่ได้เป็นทุกคนนะครับ
00:58:33 → 00:58:36 แต่ว่าคนที่กลุ่มที่ไม่ได้รักษาในมีแนว
00:58:36 → 00:58:39 โน้มจะเกิดความรุนแรงนั้นได้มากกว่า
00:58:39 → 00:58:42 เราก็ไม่อยากให้มันไปถึงจุดที่รุนแรงแบบ
00:58:42 → 00:58:45 นั้นนะครับก็เลยคิดว่าจริงๆถ้ารักษาตอน
00:58:45 → 00:58:48 ที่อาการมันยังไม่มีค่ะมีแนวโน้มที่จะ
00:58:48 → 00:58:50 ปลอดภัยมากกว่าแล้วก็ควบคุมอาการได้มาก
00:58:50 → 00:58:53 กว่าใช้ชีวิตตามปกติได้
00:58:53 → 00:58:57 ตอนที่หายก็คือปกติครับถ้าปกติเลยใช้
00:58:57 → 00:59:00 ชีวิตร่วมเหมือนเดิมเหมือนๆคนเดิมที่ตัว
00:59:00 → 00:59:05 ของเค้ารู้สึกค่ะโอ้ยงานถ้ารู้ตัวรู้ตัว
00:59:05 → 00:59:07 หรือว่ามีคนสังเกตเราว่าเป็นไปโบล่าหรือ
00:59:07 → 00:59:09 เปล่าเลี้ยงรักษาดีกว่านะว่าตาลนะครับค่ะ
00:59:09 → 00:59:12 เพราะว่ามันสามารถหายเป็นปกติได้ไงมันไม่
00:59:12 → 00:59:14 ใช่ว่ารักษาแล้วมันไม่หายใช่ไหมคะสวัสดี
00:59:14 → 00:59:17 คุณผู้ชมที่ติดตามรับชมอยู่ด้วยตอนนี้นะ
00:59:17 → 00:59:19 คะถ้าหากว่าท่านใดที่มีคำถามเนี่ยถามกัน
00:59:19 → 00:59:20 เข้ามาได้เลยนะคะเดี๋ยวจะให้อาจารย์หมอ
00:59:20 → 00:59:24 ตอบให้สวัสดีคุณทรายนั่งลงค่ะคุณสุภาวดี
00:59:24 → 00:59:26 คุณสมพรทักทายอาจารย์หมอมาด้วยบอกว่า
00:59:26 → 00:59:29 สวัสดีค่ะคุณหมอสวัสดีคุณหมอบ๊วยด้วยนะคะ
00:59:29 → 00:59:34 คุณลลิตาคุมแดงวิภาคุณพิมพาพรรณค่ะคุณ
00:59:34 → 00:59:36 เรือจ้างลำน้อยนะคะอยู่ด้วยกันฟังอยู่
00:59:36 → 00:59:40 ด้วยกันที่นี่หลายท่านเลยนะคะอ่ะอ่ะขอไป
00:59:40 → 00:59:43 ที่คำถามนะคะในกิน Box มากันอาจารย์หมอคะ
00:59:43 → 00:59:47 เคยถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าอาจารย์
00:59:47 → 00:59:49 คะแล้วหลังจากนั้นแพทย์ก็แจ้งว่าเป็นโรค
00:59:49 → 00:59:54 ไบโพล่าร์เออสรุปว่าดิฉันเป็น 2 โรคหรือ
00:59:54 → 00:59:59 เปล่าใช่หรือไม่ใช่ไม่ใช่ครับก็ไม่ใช่
00:59:59 → 01:00:02 ครับคืออย่างที่พี่อ่ะแกก็กลับเมื่อกี้
01:00:02 → 01:00:05 ใช้ได้เลยครับค่ะบางทีเหมาะเจอตอนที่
01:00:05 → 01:00:09 เศร้าอ้ากลับตอนแรกมาดูครับเหมือนคำถาม
01:00:09 → 01:00:12 ที่ได้ถามมาเนี่ยจะตรงกับนี้เลยครับอะตอน
01:00:12 → 01:00:16 ที่เศร้าเนาะค่ะมาหาหมอตอนนี้พอดีหมอไป
01:00:16 → 01:00:19 นี้ขายนะว่าเป็นโรคซึมเศร้าเพราะว่ามัน
01:00:19 → 01:00:22 เห็นอาการด้านเดี่ยวค่ะนะครับตามไปเรื่อย
01:00:22 → 01:00:24 ๆนะคะเอามันมีอาการด้านหงุดหงิดด้วยแฮะ
01:00:24 → 01:00:28 ค่ะอย่างนี้ครับเหมาะก็จะเปลี่ยนวินิจฉัย
01:00:28 → 01:00:31 จากโรคซึมเศร้าเป็นโรคอารมณ์สองขั้วหรือ
01:00:31 → 01:00:36 ไบโพล่าร์ค่านะครับก็ก็แต่ว่าเป็นโรค
01:00:36 → 01:00:39 เดียวค่ะก็คือคือว่าแต่จะมีอาการของช่วง
01:00:39 → 01:00:43 ซึมเศร้าแล้วมีอาการช่วงหงุดหงิดด้วยแต่
01:00:43 → 01:00:45 ถ้าเป็นซึมเศร้าจริงๆคือเขาก็จะจะอยู่ตรง
01:00:45 → 01:00:49 กราฟข้างล่างจะไม่มีขึ้นมาข้างบนเลยครับ
01:00:49 → 01:00:51 จะไม่มีขึ้นมาข้างบนก็ใหญ่ๆแบบนี้ครับค่ะ
01:00:51 → 01:00:55 ครับอ่ะอีกคำถามนึงนะคะตอนนี้ขอตอบคำถาม
01:00:55 → 01:00:59 ให้กับคุณผู้ชมนะคะเคยเจอคนใกล้ตัว
01:00:59 → 01:01:04 อาจารย์หมอคะอารมณ์ขึ้นขึ้นลงๆเดี๋ยวดี
01:01:04 → 01:01:06 เดี๋ยวร้ายค่ะเหมือนกับตัวอิจฉาในละคร
01:01:06 → 01:01:11 เป็นไบโพล่าร์หรือเปล่าอันนี้ถ้าความตั้ง
01:01:11 → 01:01:14 แต่ต้นก็จะได้คำตอบแล้วครับว่าไม่ใช่ใคร
01:01:14 → 01:01:17 เพียงแต่ว่าต้องไปดูละลายของตัวอิจฉาใน
01:01:17 → 01:01:20 ละครนะครับซึ่งขึ้นลงๆมันเป็นไปได้หลายๆ
01:01:20 → 01:01:22 อันเนาะเช่น
01:01:22 → 01:01:25 ถ้าถามว่าไบโพล่าร์มีไหมที่ขึ้นลงๆมีได้
01:01:25 → 01:01:28 เพียงแต่ว่ามันจะมีอาการประกอบอื่นๆที่
01:01:28 → 01:01:30 เราคุยกันเมื่อกี้ค่ะแต่ถ้ามีแค่เรื่อง
01:01:30 → 01:01:33 ของอารมณ์ขึ้นลงๆโดยที่ไม่มีองค์ประกอบ
01:01:33 → 01:01:36 อื่นๆเกี่ยวกับอารมณ์เนี่ยอาจจะเป็นภาวะ
01:01:36 → 01:01:39 อารมณ์เปลี่ยนแปลงช่วงมีประจำเดือนก็ได้
01:01:39 → 01:01:42 นะครับอาจจะเป็นบุคลิกภาพที่
01:01:42 → 01:01:46 ผิดปกติและจะส่งผลกระทบต่อคนอื่นได้แบบทำ
01:01:46 → 01:01:48 ขื่นจะเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ดีสำหรับการ
01:01:48 → 01:01:51 ที่คุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ค่ะถ้าอย่าง
01:01:51 → 01:01:54 เงี้ยอาจารย์ขึ้นอารมณ์ขึ้นลงๆเดี๋ยวร้าย
01:01:54 → 01:01:56 เดี๋ยวดีเหมือนนี้ช้าตัวละครเนี่ยนะถ้า
01:01:56 → 01:01:58 อย่างนี้แนะนำว่าทำยังไงดีเนี่ยกันหมาย
01:01:58 → 01:02:00 ถึงคนที่เต็มหรือว่าหมายถึงคนที่อยู่ด้วย
01:02:00 → 01:02:02 นะครับเนี่ยทั้งคนที่เป็นแล้วก็ดีอยู่
01:02:02 → 01:02:05 ด้วยนี่แหละจะให้คำแนะนำยังไงนะครับที่
01:02:05 → 01:02:09 นี้ถ้าถ้าพอจะรู้ตัวว่ามันมันเริ่มส่งผล
01:02:09 → 01:02:11 ไม่ค่อยดีอย่างที่ผมบอกตั้งแต่ตอนแรกเลย
01:02:11 → 01:02:15 คำว่าเกมส์นึงที่จะบอกว่าเป็นโรคหรือยัง
01:02:15 → 01:02:18 ของของวินิจฉัยทางจิตเวชเนี่ยค่อนข้างจะ
01:02:18 → 01:02:21 ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนั้นๆนะคะรู้สึกว่า
01:02:21 → 01:02:23 มันเป็นปัญหาหรืออ่ะค่ะถ้าเขารู้สึกว่า
01:02:23 → 01:02:26 มันเป็นปัญหาแล้วเช่นทำงานกับคนอื่นไม่
01:02:26 → 01:02:29 ได้มีใครอยู่ด้วยแล้วเนี่ยมึงคิดแบบนี้
01:02:29 → 01:02:32 มันขึ้นลงๆมากจนแบบไม่มีใครเข้าหน้าได้
01:02:32 → 01:02:35 แล้วครอบครัวก็มีใครคุยด้วยแล้วเนี่ยแบบ
01:02:35 → 01:02:53 นี้ก็แนะนำให้ปรึกษาอ่า
01:02:53 → 01:03:22 [เพลง]
01:03:22 → 01:03:27 นี่คือถ้ารู้ตัวว่าอยู่แล้วเหนื่อยถอยมา
01:03:27 → 01:03:29 ก่อนก็ได้
01:03:29 → 01:03:32 ไม่ให้ไม่ได้เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้อง
01:03:32 → 01:03:36 ไปรับผิดชอบความรู้สึกอะไรแล้วผิดชอบความ
01:03:36 → 01:03:38 รู้สึกตรงนั้นของของคนใกล้ตัวนะครับถ้า
01:03:38 → 01:03:42 หรือว่าไม่ไหวไม่ไหวก็ไม่ไหวเราจะไม่ไหว
01:03:42 → 01:03:45 บอกไหวไปก็จะแบบอาจจะมีผู้ป่วยเพิ่มอีก 1
01:03:45 → 01:03:50 นะครับก็ค่อยออกมาดูแลตัวเองสิว่าตอนนั้น
01:03:50 → 01:03:53 เวลาที่เค้าพูดหรืออะที่มีเขามีการกระทำ
01:03:53 → 01:03:56 แบบนั้นเนี่ยรู้สึกยังไงล่ะอาจจะรู้สึก
01:03:56 → 01:04:01 โกรธถ้าสึกไม่พอใจเลยนะครับก็ดูแลอารมณ์
01:04:01 → 01:04:04 ของตัวเองถ้าสมมติว่ารู้ว่าโอเคโปรดอยู่
01:04:04 → 01:04:07 เพราะฉะนั้นวิธีจัดการความโกรธของเราเคย
01:04:07 → 01:04:11 ทำอะไรแล้วดีครับก็ใช้วิธีนั้นต่ออันนี้
01:04:11 → 01:04:12 ถามมาเหมือนที่จะถามเมื่อกี้เลยค่ะ
01:04:12 → 01:04:16 อาจารย์จะเป็นจะเป็นผีบ้าไหมเธอเป็นบ้า
01:04:16 → 01:04:20 ถามว่าเพื่อ by หายขาดได้ไหมธรรมะที่บ้าน
01:04:20 → 01:04:23 เนี่ยเป็นคำที่อยู่คู่กับมีสังคมคนเมือง
01:04:23 → 01:04:26 และให้ใครแม้บางแน่ใจแล้วแบบคนคนเมือง
01:04:26 → 01:04:28 หมายถึงคนเหนือน้องคำว่าที่บ้านที่จะติด
01:04:28 → 01:04:33 ปากเลยครับน่ารักอ้าใช่กลายเป็นว่าผมแล้ว
01:04:33 → 01:04:37 ก็กลายเป็นหมอที่บ้าไปด้วยนะครับก็จริงๆ
01:04:37 → 01:04:40 ต้องดูคำนิยามในใจกันว่าถามว่าผิดหน้าของ
01:04:40 → 01:04:44 แต่ละคนแปลว่าอะไรค่ะถ้ารุ่นรุ่นก่อนๆนะ
01:04:44 → 01:04:47 เช่นๆพ่อคุณแม่ผมสั้นอายุ 40 50 60
01:04:47 → 01:04:50 ขึ้นไปเลยเนี่ยครับเขาจะมองว่าโรคทาง
01:04:50 → 01:04:55 จิตเวชทุกโรคอ่ะก็คือบ้าซึ่งมันจะมีนิยาม
01:04:55 → 01:04:58 ที่ค่อนข้างแตกต่างกันคือในรายละเอียด
01:04:58 → 01:05:00 เนี่ยโรคทางจิตเวชเราจะไม่มีโรคที่บ้านนะ
01:05:00 → 01:05:04 ครับก็คือมันจะมีโรคกลุ่มโลกนึงที่เป็น
01:05:04 → 01:05:08 กลุ่มโรคอาการทางอ่าอาการทางจิตเวชที่ไม่
01:05:08 → 01:05:10 สามารถรับรู้ความเป็นจริงได้หมายถึงว่า
01:05:10 → 01:05:13 เขามีความเชื่อหรือว่ามีพฤติกรรมอะไรบาง
01:05:13 → 01:05:15 อย่างที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงไปละเช่น
01:05:15 → 01:05:18 ได้ยินเสียงได้ยินเสียงหูแว่วหรือว่า 5
01:05:18 → 01:05:21 ครับหลอนหรือว่ามีความชื่อว่าจะมีคนมาทำ
01:05:21 → 01:05:22 ร้าย
01:05:22 → 01:05:25 ตั้งค่าความเชื่อหลงผิดแล้วเงี้ยมันเกิด
01:05:25 → 01:05:27 ขึ้นเราจะได้กลุ่มอาการนี้ว่าเป็นกลุ่ม
01:05:27 → 01:05:31 อาการโรคจิตอ๋อซึ่งอันนี้อาจจะเป็นคำ
01:05:31 → 01:05:35 นิยามที่ค่อนข้างจะใกล้เคียงกับกับที่บอก
01:05:35 → 01:05:39 ว่าว่าในลักษณะของคนทั่วไปอ่ะผมก็เลยมอง
01:05:39 → 01:05:41 ว่าคือจริงๆโลกอันจะเป็นโลกอีกกลุ่มนึงนะ
01:05:41 → 01:05:45 ครับพี่ที่คำว่ามันค่อนข้างจะสร้างตราบาป
01:05:45 → 01:05:48 เยอะเหมือนกันเพราะว่าจริงมันคือไม่สบาย
01:05:48 → 01:05:53 ทั้งสมองแบบนึงแล้วก็การให้ยาก็จะทำให้
01:05:53 → 01:05:56 อาการเหล่านั้นสงบลงได้มีคุณภาพชีวิตที่
01:05:56 → 01:05:58 ดีขึ้นใช้ชีวิตได้ตามปกติอย่างเนี้ยครับ
01:05:58 → 01:06:02 คือต้องดูว่าว่าแต่ละคนนะนิทานความเป็น
01:06:02 → 01:06:07 บ้างเนี่ยว่าอะไรเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้ารู้
01:06:07 → 01:06:10 ครั้งนี้ยาวแล้วเออมันจะต้องมานั่งคุยกัน
01:06:10 → 01:06:13 นะครับว่าเออๆแล้วถึงแม้แต่เขาจะคิดว่า
01:06:13 → 01:06:16 มันบ้าเนี่ยเรามีทางจัดการยังไงอีกบ้าง
01:06:16 → 01:06:19 เป็นคำที่แบบนี้ฟังแล้วก็เจ็บเจ็บแทน
01:06:19 → 01:06:25 เหมือนกันนะฟังแล้วก็รู้ถ้ามันทำให้การคน
01:06:25 → 01:06:27 ดังส่วนออกจากการรักษาครับพี่จิ๊บใช่กลัว
01:06:27 → 01:06:30 การรักษาว่าเธอว่าตัวเองจะถูกตาหรือว่า
01:06:30 → 01:06:33 เป็นผี by เอ๊ยทั้งๆที่จริงๆเป็นความไม่
01:06:33 → 01:06:37 สบายแบบนึงที่สามารถรักษาได้ครับแต่ละคน
01:06:37 → 01:06:41 ยากง่ายหรือว่าแบบใช้เวลานานสัตว์ไม่
01:06:41 → 01:06:45 เหมือนกันเท่านั้นเองค่ะอ่ะนะคะก็ก็ไม่
01:06:45 → 01:06:48 ใช่นะไปโคราชไม่ใช่ที่บ้านเอ๊ยที่บ้านนะ
01:06:48 → 01:06:51 คะรักษาให้หายขาดได้ด้วยใช่ไหมคะใช่ครับ
01:06:51 → 01:06:55 ใช่ครับคำว่าหายขาดได้ก็เหมือนกันหายขาด
01:06:55 → 01:06:57 ของคุณขึ้นมาผู้ป่วยแต่ละคนไม่เหมือนกัน
01:06:57 → 01:07:01 บางคนเขาก็รู้สึกว่าหายขาดของเขาคือโอเค
01:07:01 → 01:07:05 ใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยที่กินยาก็ได้ค่ะ
01:07:05 → 01:07:08 แต่บางคนก็รู้สึกว่าไม่ได้ก็คือต้องหาย
01:07:08 → 01:07:11 โดยที่แบบไม่กินยาเลยนะครับมันก็ต้องขึ้น
01:07:11 → 01:07:14 อยู่กับอาการของแต่ละคนว่ามีความแรงไหม
01:07:14 → 01:07:17 บางคนถ้ากำเริบบ่อยซ้ำๆความจำเป็นในการ
01:07:17 → 01:07:20 สัญญาก็คงต้องมีแต่ถ้าไปคาดหวังว่าจะไม่
01:07:20 → 01:07:24 กินอย่างเลยใช่ก็เหมือนเดิมทำปกติในบาง
01:07:24 → 01:07:27 โรคอาจจะยากไปคนละก็เป็นหนึ่งในนั้นที่
01:07:27 → 01:07:31 ท่านการซ้ำๆก็มีแนวโน้มว่าจะต้องได้กินยา
01:07:31 → 01:07:36 ในระยะยาวยาวเหมือนเหมือนโรคอ่าเพื่อร่าง
01:07:36 → 01:07:38 อื่นๆนะครับเช่นถ้าสมมุติมีความดันมาว่า
01:07:38 → 01:07:41 ใครมาที่มันไม่สามารถคุมได้ด้วยกันต่อ
01:07:41 → 01:07:43 พฤติกรรมแล้วยามันก็ภูมิไปให้เกิดผลเสีย
01:07:43 → 01:07:47 ที่ตามมาเป็นคนละก็เหมือนกันก็คือค่ะคุม
01:07:47 → 01:07:49 ไม่ให้เกิดผลเสียทางด้านพฤติกรรมที่ตอนมา
01:07:49 → 01:07:52 และที่เราคุยกันไปเนาะเช่นเรื่องการใช้
01:07:52 → 01:07:54 สารเสพติดเรื่องขับรถไปอุบัติเหตุเลยนะ
01:07:54 → 01:07:58 ครับคำถามสุดท้ายอาจารย์หมอคะถ้าหากว่า
01:07:58 → 01:08:02 เราอยากจะรักษาแต่ว่ามันไม่อยากมาโรง
01:08:02 → 01:08:05 พยาบาลน่ะไม่อยากจะเจอหมอจิตเวชก็จะมี
01:08:05 → 01:08:09 วิธีการรักษาด้วยวิธีอื่นไหมคะอาจารย์
01:08:09 → 01:08:16 เช่นมีไหมและสงบจิตสงบใจหนังสมาธิอะไรพวก
01:08:16 → 01:08:20 นี้เข้าวงเข้าวัดช่วยได้ไหมคะอันนี้ก็
01:08:20 → 01:08:22 เป็นคำถามยอดฮิตเหมือนกันนะครับจากจากจาก
01:08:22 → 01:08:27 เวลาที่คุยกับผู้ป่วยหรือว่าอ่าญาตินะ
01:08:27 → 01:08:31 ครับตามหลักฐานและตอนนี้นะถ้าเป็นโรคเอา
01:08:31 → 01:08:34 ชนะโรคไบโพล่าร์ก่อนนะครับก็ก็อาการรักษา
01:08:34 → 01:08:37 ที่ไม่ใช้ยาก็จะเป็นการรักษาอีกแบบไปเลย
01:08:37 → 01:08:39 ที่มันเป็นการกระตุ้นสมองหรือว่ารักษา
01:08:39 → 01:08:44 ด้วยเคยฟ้าเพื่อที่จะลดอาการนะครับแต่ว่า
01:08:44 → 01:08:47 สิ่งเหล่านี้ที่เค้าปรึกษาว่าแบบใช้อ่า
01:08:47 → 01:08:51 เรื่องของการทำใจให้สงบนี้ได้ไหมใช้ได้
01:08:51 → 01:08:55 แต่แนะนำให้ใช้ควบคู่กับการรักษาทางอ่า
01:08:55 → 01:09:00 ที่นี่หลักฐานทางการแพทย์ด้วยครับคือจริง
01:09:00 → 01:09:05 ๆเอ่อจะดีในลักษณะว่าอาการสงบแล้วแล้ว
01:09:05 → 01:09:08 เป็นการป้องกันการกลับเป็นซ้ำแบบเนี้ยถ้า
01:09:08 → 01:09:10 เป็นวิธีที่ถูกจริตแต่ละคนน้องบางคนก็คือ
01:09:10 → 01:09:14 ถ้าชอบแบบใช้มีการเมเทชั่นหรือว่าการทำ
01:09:14 → 01:09:17 สมาธิหามันทำให้รู้อารมณ์ตัวเองได้เร็ว
01:09:17 → 01:09:19 ขึ้นจัดการอารมณ์ได้เร็วขึ้นอ่าแบบนี้ดี
01:09:19 → 01:09:24 ครับแต่ว่าถ้าจะไปหวังเพื่อให้อ่ะเช่นตอน
01:09:24 → 01:09:27 นั้นกำลังคืนอยู่แล้วก็แบบไปอยู่วัดอะไร
01:09:27 → 01:09:30 เงี้ยคือมันก็จะขัดกับอาการที่มันมีเพราะ
01:09:30 → 01:09:33 ฉันเนี้ยอ่าการรักษาที่เป็นตัวเลือกอื่นๆ
01:09:33 → 01:09:37 นะครับณตอนนี้หลักฐานทางการแพทย์ยังไม่
01:09:37 → 01:09:41 ได้ชัดเจนเพียงแต่ว่าผมมองว่าถ้าทำแล้ว
01:09:41 → 01:09:45 รู้สึกโอเคน่าจะเหมาะกับในช่วงที่ที่เป็น
01:09:45 → 01:09:48 ช่วงที่อาการสงบแล้วนะครับข้อควรเพราะว่า
01:09:48 → 01:09:52 อีกอย่างนึงนะครับเวลาที่ทำกิจกรรมทาง
01:09:52 → 01:09:54 ศาสนาโดยเฉพาะบ้านเราถ้าเป็นศาสนาพุทธ
01:09:54 → 01:09:58 นั่งสมาธิอะไรนะครับบางที่เนี่ยอ่ะนั่งผม
01:09:58 → 01:10:00 ได้ยินมานะผมไม่รู้ที่ไหนนั่งการทั้งวัน
01:10:00 → 01:10:02 ทั้งคืนโดยที่ไม่หลับไม่นอนโอ้ยเนี่ยก็
01:10:02 → 01:10:06 ต้องระวังว่าอ่าการไม่หลับไม่นอนมันเป็น
01:10:06 → 01:10:08 ตัวกระตุ้นตัวหนึ่งที่ทำให้อาการไบโพล่า
01:10:08 → 01:10:12 กำเริบได้หรือว่าอาการทางด้านซึมเศร้ากก็
01:10:12 → 01:10:15 ได้เหมือนกันนะครับคะเนี้ยเกี่ยวกับการ
01:10:15 → 01:10:18 นอนเท่านั้นเวลาที่มีภาวะแบบนี้เราก็มี
01:10:18 → 01:10:21 ผู้ป่วยมาขอคำแนะนำจากผมว่าไปนั่งสมาธิดี
01:10:21 → 01:10:24 ไหมไปหาแบบทำดีไหมก็เลยจะต้องแนะนำว่าให้
01:10:24 → 01:10:28 ระวังเรื่องของเวลานอนอยากให้เป็นเวลานอน
01:10:28 → 01:10:29 ที่เหมือนเดิมแล้วก็การรักษาหลักที่ให้
01:10:29 → 01:10:33 ตอนนี้ให้คงไว้เหมือนเดิมครับค่า
01:10:33 → 01:10:36 อาจารย์หมอให้ข้อมูลได้ละเอียดชัดเจนมาก
01:10:36 → 01:10:39 เลยนะคะในๆเรื่องนะคะเรื่องของโรค
01:10:39 → 01:10:42 ไบโพลาร์แต่วันนี้เวลาเราใกล้จะหมดและเขา
01:10:42 → 01:10:45 หรอคะอาจจะต้องให้อาจารย์ได้ฝากทิ้งท้าย
01:10:45 → 01:10:48 นะคะกับคุณผู้ชมที่กำลังรับชมอยู่รวมถึง
01:10:48 → 01:10:50 คนที่กลับมาชมย้อนหลังด้วยนะคะรวมถึงโยง
01:10:50 → 01:10:53 กันป้องกันด้วยค่ะอาจารย์ว่าจะต้องกันยัง
01:10:53 → 01:10:56 ไงไม่ให้มันเกิดขึ้นกับตัวเราเองค่ะเชิญ
01:10:56 → 01:11:00 อาจารย์หนูคะครับผมก็สำหรับโรคทางจิตเวช
01:11:00 → 01:11:03 นะครับหรือว่าโรคที่วันนี้เราคุยกันก็คือ
01:11:03 → 01:11:06 โรคไบโพล่าร์นะครับเป็นเพราะความไม่สบาย
01:11:06 → 01:11:10 ใจและเป็นความไม่สบายทางอารมณ์แบบนึงเท่า
01:11:10 → 01:11:12 นั้นเองนะครับที่อาจจะมีอาการที่และทาง
01:11:12 → 01:11:15 ธรรมเพราะนะครับมีความเข้าใจหลายอย่างที่
01:11:15 → 01:11:19 อาจจะคาดเคลื่อนไปจากจะสื่อหรือว่าละคร
01:11:19 → 01:11:21 ภาพยนตร์ต่างๆนะครับวันนี้เราก็ได้ดูแล
01:11:21 → 01:11:23 ว่าจริงๆว่าเป็นยังไงแต่ทั้งหมดทั้งหมด
01:11:23 → 01:11:24 หรือว่า
01:11:24 → 01:11:28 ทุกๆคนนะไม่ว่าจะไม่สบายด้วยภาวะทาง
01:11:28 → 01:11:30 อารมณ์หรือไม่สบายด้วยภาวะอื่นทางการใดๆ
01:11:30 → 01:11:34 นะครับก็คือมีสิทธิ์ที่จะอยู่ในสังคมที่
01:11:34 → 01:11:38 อบรับเขานะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าสมมติ
01:11:38 → 01:11:41 ว่ามีอาการจังกล่าวแล้วหรือคนไข้ตัวมี
01:11:41 → 01:11:46 อาการอย่างให้อ่าค่อยๆดูแลและสังเกตกัน
01:11:46 → 01:11:51 การรักษาก็จะทำให้สามารถอยู่ในอ่าสังคม
01:11:51 → 01:11:54 เดิมอ่ะจริงๆก็คือที่เดิมที่เคยอยู่อ่ะ
01:11:54 → 01:11:57 ครับใกล้อย่างสบายใจแล้วก็อย่างราบรื่น
01:11:57 → 01:11:59 มากขึ้นเท่านั้นเองมันอาจจะเหมือนเป็น
01:11:59 → 01:12:03 งั้นไม่เสบยกันไม่สบายเกี่ยวกับโรคทาง
01:12:03 → 01:12:05 จิตเวชเหมือนเป็นอุบัติเหตุ 1 มากกว่า
01:12:05 → 01:12:08 แล้วที่เราก็ต้องค่อยๆดูแลมันอาจจะมีผล
01:12:08 → 01:12:12 กระทบที่ตามมานะครับมีแต่ว่าว่าถ้าถ้ามี
01:12:12 → 01:12:16 แบ่งสนับสนุนจากทั้งครอบครัวนะครับจาก
01:12:16 → 01:12:19 ทั้งระบบบริการสุขภาพคือโรงพยาบาลแล้วก็
01:12:19 → 01:12:24 จากระดับสังคมนะเช่นการลดการตีตราหรือว่า
01:12:24 → 01:12:28 การใช้ความเข้าใจผิดๆในการตีตราของผู้
01:12:28 → 01:12:30 ป่วยจิตเวชเนี่ยก็อาจจะช่วยให้เราอยู่
01:12:30 → 01:12:34 ด้วยกันได้ในสังคมโลกนี้ได้ดียิ่งขึ้น
01:12:34 → 01:12:36 ครับวันนี้ต้องขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งนะ
01:12:36 → 01:12:38 คะอาจารย์ประจำภาควิชาจิตเวชศาสตร์คณะ
01:12:38 → 01:12:41 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นะคะท่าน
01:12:41 → 01:12:44 ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์อวิรุทธ์อุ่น
01:12:44 → 01:12:48 อารมณ์ค่ะขอบคุณค่ะอาจารย์ครับขอบคุณผู้
01:12:48 → 01:12:51 ชมทุกท่านนะคะที่ติดตามรับชมแล้วก็รับฟัง
01:12:51 → 01:12:54 ในวันนี้ทั้งๆหน้าเพจสุขภาพดีกับหมอสวน
01:12:54 → 01:12:57 ดอกนะคะเราก็ทางคลับเฮาส์ของคณะ
01:12:57 → 01:12:59 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้วยค่ะ
01:12:59 → 01:13:01 วันนี้เวลาหมดแล้วนะคะเราได้รับความรู้
01:13:01 → 01:13:04 มันไปเยอะเลยในเรื่องนี้นะคะเดี๋ยวดี
01:13:04 → 01:13:06 เดี๋ยวร้ายหรือเป็นโรคไบโพล่าร์คิดว่า
01:13:06 → 01:13:08 เหรอท่านคงจะแยกโรคกันออกแล้วล่ะตอนนี้นะ
01:13:08 → 01:13:11 คะว่าอะไรคือไบโพล่าร์และอะไรที่ไม่ใช่
01:13:11 → 01:13:15 โรคคุณป้านะคะใส่ที่ทำไม่ได้กลับมาชมย้อน
01:13:15 → 01:13:19 หลังได้ชมหลายๆรอบเลยก็ได้ค่ะเอาให้แบบ
01:13:19 → 01:13:22 ว่า get เลยว่าขอจริงๆแล้วเนี่ยมันจะได้
01:13:22 → 01:13:24 ไปโคราชแล้วเป็นอย่างอื่นๆนะคะหรือถ้าหาก
01:13:24 → 01:13:27 ว่าใครที่มีความรู้สึกว่ามันเหมือนๆนะ
01:13:27 → 01:13:30 เหมือนจะเป็นไบโอร่าก็ก็โรงพยาบาลค่ะก็
01:13:30 → 01:13:34 พูดคุยกับพูดคุยกับคุณหมอจิตเวชนะคะหรือ
01:13:34 → 01:13:36 ว่าจิตแพทย์คือเมื่อกี้หมอก็บอกไปแล้วว่า
01:13:36 → 01:13:38 ไปโพล่าไม่ได้เป็นบ้าหรือว่าไม่ได้เป็นผี
01:13:38 → 01:13:42 บ้านะคะนักอีบ้ามันคือเป็นโรคจิตชนิดนึง
01:13:42 → 01:13:44 นะคะแต่ว่าวันนี้จะไปโพล่านะคะเพราะ
01:13:44 → 01:13:49 ฉะนั้นมีความผิดปกติทางร่างกายใดๆเกิด
01:13:49 → 01:13:52 ขึ้นเนี่ยขอให้ปรึกษาหมอจะดีที่สุดนะคะ
01:13:52 → 01:13:54 เพราะว่าอย่างโรคนี้สามารถรักษาให้หายขาด
01:13:54 → 01:13:56 ได้ด้วยนะคะเพราะฉะนั้นไม่ต้องวิตกกังวล
01:13:56 → 01:13:59 ค่ะวันนี้เวลาหมดแล้วนะคะที่ฉันและฉัน
01:13:59 → 01:14:02 ต้องลาไปก่อนเจอกันใหม่อาทิตย์หน้าจะเป็น
01:14:02 → 01:14:05 เรื่องไรติดตามหน้าเพจสุขภาพดีกับหมอสวน
01:14:05 → 01:14:08 ดอกนะคะและเรามีการเลื่อนตอบเวลาค่ะไปออก
01:14:08 → 01:14:12 อากาศกันในช่วงเย็นนะคะพบกันในช่วงเย็นๆ
01:14:12 → 01:14:15 เปิด 17:00 นจนถึง 18:00 นนะคะแต่ว่าก็
01:14:15 → 01:14:18 ต้องติดตามว่าเราจะเริ่มไปเมื่อไหร่อย่าง
01:14:18 → 01:14:20 ไรค่ะวันนี้เวลาหมดแล้วลาไปก่อนนะคะเจอ
01:14:20 → 01:14:23 กันใหม่อาทิตย์หน้าสำหรับวันนี้สวัสดีคะ
01:14:23 → 01:14:27 ค่ะอ่ะ
01:14:27 → 01:14:29 พ.ย
01:14:29 → 01:14:39 [เพลง]
01:14:39 → 01:14:41
01:14:41 → 01:14:41 [เพลง]
01:14:41 → 01:14:43 โน้ท