00:00:03 → 00:00:07 med cmu podcast fung for
00:00:07 → 00:00:10 help ัง for Health
00:00:10 → 00:00:13 podcast รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราว
00:00:13 → 00:00:16 ของสุขภาพและแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์
00:00:16 → 00:00:20 ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆของคณะแพทยศาสตร์
00:00:20 → 00:00:22 มหาวิทยาลัย
00:00:22 → 00:00:28 เชียงใหม่เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:00:28 → 00:00:32 เราสวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฟัง
00:00:32 → 00:00:35 for Health podcast อยู่กับดิฉันฟ้า
00:00:35 → 00:00:38 ธัญลักษณ์สดสวยนักประชาสัมพันธ์คณะ
00:00:38 → 00:00:41 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ผู้ฟังคะ
00:00:41 → 00:00:44 เรื่องที่จะมาพูดคุยกันเป็นเรื่องของโรค
00:00:44 → 00:00:47 เป่าหวานค่ะเรื่องไม่เบาที่พวกเราควรต้อง
00:00:47 → 00:00:50 รู้ไว้นะคะสำหรับวันที่ 14 พฤศจิกายนค่ะ
00:00:50 → 00:00:53 เป็นวันเบาหวานโลกทางสมพันธ์เบาหวานนานา
00:00:53 → 00:00:56 ชาติและองค์การอนามัยโลกเองนะคะก็จัดวัน
00:00:56 → 00:00:58 นี้ขึ้นมานะคะเพื่อที่จะสร้างความตระหนัก
00:00:58 → 00:01:01 แล้วก็ความสำคัญถึงโรคเบาหวานค่ะจึงหยิบ
00:01:01 → 00:01:04 ยกเรื่องของโรคเบาหวานมาพูดคุยกันเราจะมา
00:01:04 → 00:01:07 ทำความรู้จักค่ะว่าโรคเบาหวานคืออะไรแล้ว
00:01:07 → 00:01:10 แบ่งออกเป็นกี่ชนิดรวมถึงอะไรคือปัจจัย
00:01:10 → 00:01:13 เสี่ยงของโลกนี้เราสามารถป้องกันให้ตัว
00:01:13 → 00:01:16 เองและคนที่เรารักห่างไกลจากโลกนี้ได้ยัง
00:01:16 → 00:01:19 ไงบ้างซึ่งผู้ที่จะมาให้ข้อมูลกับเราท่าน
00:01:19 → 00:01:23 คืออาจารย์ดรนายแพทย์การเวทอภิกุลอาจารย์
00:01:23 → 00:01:25 หน่วยต่อมไรท่อและเมตาบอลิซึมภาควิชา
00:01:25 → 00:01:28 กุมารและเวชศาสตร์คณะแพทยศาสตร์
00:01:28 → 00:01:31 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะสวัสดีค่ะสวัสดี
00:01:31 → 00:01:33 ครับอาจารย์หมอคะอย่างที่เกิ่นเข้ารายการ
00:01:33 → 00:01:35 ค่ะอยากให้ผู้ฟังได้มาทำความรู้จักโรคเบา
00:01:35 → 00:01:38 หวานก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักก่อนค่ะว่า
00:01:38 → 00:01:42 โรคเบาหวานคืออะไรคะครับก็สำหรับโรคเบา
00:01:42 → 00:01:45 หวานเนี่ยก็เป็นภาวะของร่างกายอย่างหนึนะ
00:01:45 → 00:01:48 ครับที่ร่างกายเนี่ยมีระดับน้ำตาลในเลือด
00:01:48 → 00:01:50 ที่สูงกว่าปกตินะครับซึ่งสาเหตุหลักๆ
00:01:50 → 00:01:53 เนี่ยก็เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายเราเนี่ย
00:01:53 → 00:01:55 ไม่สามารถที่จะควบคุมระดับน้ำตาลหรือว่า
00:01:55 → 00:01:58 จัดการกับระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้ซึ่ง
00:01:58 → 00:02:01 ตัวที่ควบคุมน้ำน้ำตาลในร่างกายของเรามัน
00:02:01 → 00:02:03 มีฮอร์โมนตัวนึงที่สำคัญก็คือฮอร์โมน
00:02:03 → 00:02:05 อินซูลินนะครับซึ่งถ้าความสามารถของ
00:02:05 → 00:02:07 ฮอร์โมนตัวนี้ในการที่จะดึงน้ำตาลลงเนี่ย
00:02:07 → 00:02:09 มันทำไม่ได้ก็จะมีปัญหาเกิดขึ้นก็เกิด
00:02:10 → 00:02:12 ภาวะเบาหวาดเกิดขึ้นซึ่งมันอาจจะเกิดจาก
00:02:12 → 00:02:14 การที่ร่างกายเราสร้างฮอร์โมนตัวนี้ได้
00:02:14 → 00:02:16 ไม่เพียงพอนะครับก็เป็นเบาหวานชนิดหนึ่ง
00:02:16 → 00:02:20 ก็เป็นภาวะขาดอินซูลินแต่ว่าอีกอันนึงก็
00:02:20 → 00:02:22 อาจจะเกิดจากการที่เรามีฮอร์โมนตัวนี้
00:02:22 → 00:02:24 เพียงพอหรือบางทีอาจจะเยอะด้วยซ้ำแต่ว่า
00:02:24 → 00:02:27 ฮอร์โมนตัวเไม่สามารถที่จะออกฤทธิ์ได้ก็
00:02:27 → 00:02:29 คือถึงแม้มีก็ไม่สามารถดึงระดับน้ำตาลลง
00:02:29 → 00:02:32 มาได้อันนี้ก็เกิดภาวะที่เราเรียกว่าภาวะ
00:02:32 → 00:02:34 ดื้อต่ออินซูลินซึ่งทั้งหมดนี้ก็ส่งผลทำ
00:02:34 → 00:02:36 ให้น้ำตาลสูงนะครับแล้วก็ส่งผลทำให้เกิด
00:02:36 → 00:02:39 อาการของโรคบาหวานเกิดขึ้นครับดังนั้นค่ะ
00:02:39 → 00:02:42 โรคเบาหวานเนี่ยแบ่งได้เป็นกี่ชนิดคะจริง
00:02:42 → 00:02:44 ๆแล้วเนี่ยในปัจจุบันนี้นะครับเบาหวาน
00:02:44 → 00:02:47 เนี่ยจัดจำแนกออกได้เป็นหลายชนิดมากเลยนะ
00:02:47 → 00:02:50 ครับตามกลไกการเกิดโรคอะไรเงี้ยนะครับถ้า
00:02:50 → 00:02:52 ยึดตามเกณฑ์ล่าสุดขององค์การอนามัยโลค
00:02:52 → 00:02:54 เนี่ยเราอาจจะแบ่งได้เป็นถึง 6 ชนิดด้วย
00:02:54 → 00:02:56 กันแต่ว่าเราคงไม่พูดในรายละเอียดทั้งหมด
00:02:56 → 00:02:58 6 ชนิดเนาะคิดว่าคงเลือกพูดเฉพาะในอัน
00:02:59 → 00:03:02 ที่เราอาจจะเคยได้ยินบ่อยๆนะครับก็คือเบา
00:03:02 → 00:03:05 หวานชนิดที่ 1 กับเบาหวานชนิดที่ 2 นะ
00:03:05 → 00:03:07 ครับเบาหวานชนิดที่ 1 เนี่ยก็เป็นเบาหวาน
00:03:07 → 00:03:10 ที่เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายเนี่ยสร้าง
00:03:10 → 00:03:13 ฮอร์โมนอินซูลินที่พูดไปก่อนหน้านี้เนี่ย
00:03:13 → 00:03:15 ไม่เพียงพอนะครับซึ่งส่วนใหญ่เนี่ยเกิด
00:03:15 → 00:03:19 จากการที่มันมีภูมิคุ้มกันในร่างกายไปต่อ
00:03:19 → 00:03:21 ต้านเนื้อเยื่อตับอ่อนนะครับซึ่งเป็น
00:03:21 → 00:03:24 ตำแหน่งที่สร้างฮอร์โมนอินซูลินออกมานะ
00:03:24 → 00:03:26 ครับก็เลยส่งผลทำให้ฮอร์โมนอินซูลินเยมัน
00:03:26 → 00:03:29 สร้างได้น้อยลงแล้วเกิดภาวะน้ำตาลสูงเกิด
00:03:29 → 00:03:31 ขึ้นนะครับบางทีเราอาจจะคุ้นเคยเบาหวาน
00:03:31 → 00:03:34 ชนิดนี้เนี่ยในคนไข้เด็กนะครับที่ที่เป็น
00:03:34 → 00:03:37 เบาหวานตั้งแต่อายุน้อยๆอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:03:37 → 00:03:39 ครับที่ต้องฉีดอินซูลินอะไรเงี้ยแต่ก็
00:03:39 → 00:03:41 ต้องบอกว่าจริงๆแล้วเนี่ยเบาหวานชนิดนี้
00:03:41 → 00:03:43 ก็เจอในผู้ใหญ่ได้ด้วยเช่นเดียวกันและ
00:03:43 → 00:03:45 เนื่องจากว่าสาเหตุหลักๆเนี่ยเกิดจากการ
00:03:45 → 00:03:48 ขาดอินซูลินเพราะฉะนั้นการรักษาของภาวะ
00:03:48 → 00:03:50 เบาหวานชนิดนี้เนี่ยก็ทำได้โดยการฉีด
00:03:50 → 00:03:52 อินซูลินนะครับอันนี้เป็นการรักษาอย่าง
00:03:52 → 00:03:55 เดียวที่เรามีอยู่ในตอนนี้เป็นหลักนะครับ
00:03:55 → 00:03:58 แต่อีกชนิดนึงซึ่งเป็นชนิดที่คิดว่าเจอ
00:03:58 → 00:04:01 บ่อยแล้วก็ก็เราคุ้นเคยมากกว่านะครับก็
00:04:01 → 00:04:04 คือเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งจริงๆเนี่ยข้อ
00:04:04 → 00:04:07 มูลในปัจจุบันในคนไทยเราพบว่าคนไทยที่
00:04:07 → 00:04:09 เป็นเบาหวานเนี่ย 90 กว่าเปอร์เซเนี่ย
00:04:09 → 00:04:12 เป็นชนิดนี้นะครับเนาะซึ่งชนิดนี้เนี่ย
00:04:12 → 00:04:15 สาเหตุเนี่ยอ่าเกิดจากการที่มีภาวะดื้อ
00:04:15 → 00:04:17 ต่ออินซูลินนะครับคือจริงๆแล้วร่างกาย
00:04:17 → 00:04:20 เนี่ยหลังอินซูลินได้แล้วก็หลัได้เยอะ
00:04:20 → 00:04:22 ด้วยแต่อินซูลินเทำงานไม่ได้ก็เลยส่งผลทำ
00:04:22 → 00:04:25 ให้ถึงแม้มีอินซูลินก็ดึงน้ำตาลลงมาไม่
00:04:25 → 00:04:27 ได้ก็เกิดเบาหวานอยู่ดีนะครับซึ่งสาเหตุ
00:04:27 → 00:04:31 ส่วนใหญ่เนี่ยเกิดจากการที่ 1 อายุเยอะ
00:04:31 → 00:04:34 ขึ้นนะครับ 2 ซึ่งสำคัญมากเลยก็คือน้ำ
00:04:34 → 00:04:36 หนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นหรือมีภาวะเรื่อง
00:04:36 → 00:04:40 ของความอ้วนนะครับแล้วก็ถ้าใครมีปัจจัย
00:04:40 → 00:04:42 เสี่ยงเช่นมีคนในครอบครัวเช่นพ่อแม่พี่
00:04:42 → 00:04:44 น้องเนี่ยเป็นเบาหวานอันนี้ก็เพิ่มความ
00:04:44 → 00:04:47 เสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานชนิดนี้เช่นเดียว
00:04:47 → 00:04:49 กันส่วนเบาหวานอื่นๆเนี่ยที่อาจจะเจอได้
00:04:49 → 00:04:52 แต่น้อยกว่าเช่นเบาหวานในหญิงตั้งครรภอัน
00:04:52 → 00:04:54 นี้ก็จะเป็นชนิดที่แยกออกไปหรือบาวันที่
00:04:55 → 00:04:57 เกิดขึ้นจากโรคบางชนิดโรคทางฮอร์โมนบาง
00:04:57 → 00:04:59 อย่างหรือว่ายาบางชนิดหรือการติดเชื้อบาง
00:04:59 → 00:05:01 บางอย่างอันนี้ก็จะเป็นอันที่เจอได้น้อยๆ
00:05:02 → 00:05:04 นะครับในในบางกลุ่มของคนใครค่ะฟังอาจารย์
00:05:04 → 00:05:07 หมอพูดเชื่อว่ามีหลายคนสะดุ้งนะคะหลาย
00:05:07 → 00:05:09 ท่อนที่เราเองก็รู้สึกว่าเอ๊ะตรงนี้เป็น
00:05:10 → 00:05:12 ปัจจัยเสี่ยงบางอย่างที่เราควบคุมได้นะ
00:05:12 → 00:05:14 ไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นเองเข้าถึงเรื่องปัจจัย
00:05:14 → 00:05:17 เสี่ยงเลยะกันนะคะว่าปัจจัยเสี่ยงอะไรล่ะ
00:05:17 → 00:05:19 คะที่ทำให้คนๆนึงเนี่ยเสี่ยงเป็นโรคเบา
00:05:19 → 00:05:22 หวานได้ค่ะครับอันนี้ถ้าจะพูดถึงปัจจัย
00:05:22 → 00:05:25 เสี่ยงที่อาจจะสำหรับคนทั่วๆไปเนี่ยคงพูด
00:05:25 → 00:05:27 ถึงปัจจัยเสี่ยงหลักของบาหวาชนิดที่ 2
00:05:27 → 00:05:30 เนาะซึ่งเป็นชนิดที่เราพบได้
00:05:30 → 00:05:33 ก็ตอย่างที่บอกเลยว่าปัจจัยเสี่งมันอาจจะ
00:05:33 → 00:05:35 แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆเนก็คือ
00:05:35 → 00:05:38 ปัจจัยเสงที่เราไปจัดการกับมันไม่ได้มัน
00:05:38 → 00:05:40 ติดตัวเรามาแต่กำเนิดเนายกตัวอย่างเช่น
00:05:40 → 00:05:44 การที่เเรามีคนในครอบครัวนะครับที่เป็น
00:05:44 → 00:05:47 เบาหวานนะพ่อแม่พี่น้องอะไรเราที่ใกล้ชิด
00:05:47 → 00:05:50 เนี่ยมีคนที่เป็นเบาหวานอยู่ในครอบครัวก็
00:05:50 → 00:05:52 มีโอกาสที่เราเนี่ยมีความเสี่ยงต่อการที่
00:05:52 → 00:05:54 จะเป็นได้ซึ่งนี้เราแก้ไขเลยไม่ได้เหมือน
00:05:54 → 00:05:56 เราได้รับมาแต่แรกอยู่แล้วรับมาอยู่แล้ว
00:05:56 → 00:05:59 นะครับเนาหรืออายุที่เพิ่มมากขึ้นก็เพิ่ม
00:05:59 → 00:06:01 ความเสี่ยงต่อการที่จะเป็นเบาหวานได้มาก
00:06:01 → 00:06:03 ขึ้นซึ่งอันนี้เราก็แก้ไขเลยไม่ได้อยู่
00:06:03 → 00:06:05 แล้วใช่มั้ยคไม่มีใครหนีพ้นเลยทั้ง 2 ข้อ
00:06:05 → 00:06:08 นี้นะคะใช่ใช่แต่มันก็ยังมีอีกปัจจัยอีก
00:06:08 → 00:06:10 กลุ่มใหญ่ๆเลยที่ความจริงแล้วเนี่ยมัน
00:06:10 → 00:06:13 สามารถที่จะป้องกันหรือว่าปรับเปลี่ยนได้
00:06:13 → 00:06:15 นะครับก็อย่างเช่นเรื่องของพฤติกรรม
00:06:15 → 00:06:18 สุขภาพต่างๆนะครับเรื่องของการที่มีปัญหา
00:06:18 → 00:06:21 เรื่องโรคอ้วนใช่มั้ครับมีปัญหาเรื่องของ
00:06:21 → 00:06:24 ไขมันสูงมีปัญหาเรื่องของความดันโลหิตสูง
00:06:24 → 00:06:26 นะครับหรือว่ามีเรื่องของโรคหัวใจแล้วก็
00:06:26 → 00:06:28 หลอดเลือดอะไรอย่างเงี้ยพวกเนี้ยถ้า
00:06:28 → 00:06:31 สมมุติว่ามีอยู่ในตัวเราเนี่ยมันก็เพิ่ม
00:06:31 → 00:06:33 ความเสี่ยงต่อการที่จะเป็นเบาหวานได้เช่น
00:06:33 → 00:06:35 เดียวกันอย่าเงี้ยซึ่งอันนี้มันก็คงรวมไป
00:06:35 → 00:06:37 ถึงเรื่องของพฤติกรรมสุขภาพต่างๆด้วย
00:06:37 → 00:06:39 เงี้ยเนาะเพราะว่าพวกนี้มันก็มาประกอบกัน
00:06:39 → 00:06:41 ถ้าเราสุขภาพไม่ดีดูแลตัวเองไม่ดีน้ำหนัก
00:06:41 → 00:06:44 เยอะขึ้นโรคพวกนี้มันก็มาเป็นเป็นพวงติด
00:06:44 → 00:06:46 กันมาเหมือนมาเป็นแพ็คเกตรวมมาเลยนะคะใช่
00:06:46 → 00:06:48 ใช่ซึ่งหนึในนั้นก็เป็นเบาหวานเช่นเดียว
00:06:48 → 00:06:51 กันซึ่งพวกนี้ปรับเปลี่ยนได้ในระยะที่เรา
00:06:51 → 00:06:52 ยังไม่ได้เป็นโรคนี้เราสามารถปรับเปลี่ยน
00:06:52 → 00:06:55 พฤติกรรมได้นะถ้าเราไม่ได้มีแพ็คเกจตอน
00:06:55 → 00:06:57 แรกมาที่บอกว่ามีปัจจัยเสี่ยงจากครอบครัว
00:06:57 → 00:07:00 หรืออายุที่เพิ่มมากขึ้นอาจจะอยู่ในวัย
00:07:00 → 00:07:03 รุ่นวัยทำงานวัยรุ่นวัยทำงานมีโอกาสเป็น
00:07:03 → 00:07:06 โรคเบาหวานในชนิดที่ 2 นี้ได้มากมั้ยคะใน
00:07:06 → 00:07:10 ปัจจุบันค่ะจริงๆต้องบอกว่าอ่าเอาให้เด็ก
00:07:10 → 00:07:13 ลงไปกว่านั้นเลยครับในเด็กเองเนี่ยที่
00:07:13 → 00:07:16 อายุน้อยๆน้อยกว่า 15 ปีอะไรอย่างเงี้ยก็
00:07:16 → 00:07:18 ก็เจอว่าอุบัติการณ์ของการเกิดเบาหวาน
00:07:18 → 00:07:20 ชนิดที่ 2 เนี่ยเพิ่มมากขึ้นเราเพิ่งทำ
00:07:20 → 00:07:22 การศึกษาล่าสุดเมื่อปี 2 ปีที่ผ่านมา
00:07:22 → 00:07:24 เนี่ยนะครับแล้วพบว่าอุบัติการณ์ของเด็ก
00:07:24 → 00:07:27 ที่เอ่อมีภาวะวาชิ้นที่ 2 เนี่ยเพิ่มมาก
00:07:27 → 00:07:29 ขึ้นกว่าสมัยก่อนเยอะเลยซึ่งส่วนใหญ่
00:07:29 → 00:07:31 เนี่ยก็สัมพันธ์กับเรื่องของน้ำหนักตัว
00:07:31 → 00:07:34 ที่เยอะแล้วก็เรื่องของโรคอ้วนเพราะ
00:07:34 → 00:07:37 ฉะนั้นก็ไม่น่าสงสัยเลยว่าวัยรุ่นหรือผู้
00:07:37 → 00:07:39 ใหญ่ที่อาจจะอายุไม่ได้เยอะมากเนี่ยจริงๆ
00:07:39 → 00:07:41 ก็มีความเสี่ยงต่อการที่จะเป็นเบาหวาน
00:07:41 → 00:07:43 ชนิดที่ 2 ได้เช่นเดียวกันถ้าเกิดว่ามี
00:07:43 → 00:07:45 ปัญหาเรื่องของน้ำหนักตัวเยอะหรือว่าโร
00:07:45 → 00:07:48 อ้วนครับผู้ฟังท่านไหนที่กำลังฟัง podcast
00:07:48 → 00:07:50 อยู่นะคะอาจจะเป็นคุณพ่อคุณแม่เองที่
00:07:50 → 00:07:53 กำลังมีลูกอยู่ในวัยเด็กตอนแรกเราก็อุ่น
00:07:53 → 00:07:56 ใจว่าลูกเราอาจจะห่างไกลจากโลกนี้แต่พอ
00:07:56 → 00:07:58 อาจารย์หมอได้พูดขึ้นมาก็ทำให้เราเอะใจ
00:07:58 → 00:08:01 เหมือนกันนะคะรวมถึงวัยรุ่นวัยยทำงานนะคะ
00:08:01 → 00:08:03 ถ้าเรายังอยู่ในพฤติกรรมที่มีความเสี่ยง
00:08:03 → 00:08:06 โรคนี้ก็ไม่ไกลตัวเลยนะคะอาจารย์หมอคะ
00:08:06 → 00:08:09 แล้วสำหรับเรื่องโรคเบาหวานอาการเริ่มแรก
00:08:09 → 00:08:12 ของการที่คนๆนึงจะเป็นโรคเนี้ยเขาจะ
00:08:12 → 00:08:15 สังเกตตัวเองได้ยังไงบ้างคะครับจริงๆก็
00:08:15 → 00:08:18 คิดว่า 1 ก็สำรวจตัวเองก่อนว่าเรามีความ
00:08:18 → 00:08:20 เสี่ยงต่างๆเหล่านั้นมยใช่มั้ยครับอันที่
00:08:21 → 00:08:23 สำคัญที่สุดก็คือว่าเอ๊ะเรามีปัญหาเรื่อง
00:08:23 → 00:08:26 น้ำหนักเยอะหรือเปล่าอ้วนมยหรือว่ามีพวก
00:08:26 → 00:08:29 โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบไหลเวียนโลหิต
00:08:29 → 00:08:30 ความดันสูงอะไรมั้ยอะไรอย่าเงี้ยนะครับ
00:08:30 → 00:08:32 เอ่อพวกนี้ก็เป็นปัจจัยที่ถ้าเกิดว่าเรา
00:08:32 → 00:08:35 มีเนี่ยโอกาสก็จะเป็นเยอะขึ้นก็ต้อง
00:08:35 → 00:08:37 สังเกตอาการตัวเองให้ดีทีนี้อาการของเบา
00:08:37 → 00:08:40 หวานเองเนี่ยหลักๆมันก็จะแบ่งออกได้เป็น 2
00:08:40 → 00:08:42 กลุ่มด้วยกันก็คือกลุ่มของอาการที่เกิด
00:08:42 → 00:08:45 ขึ้นจากการที่เรามีระดับน้ำตาลที่สูงมาก
00:08:45 → 00:08:48 ขึ้นนะคะน้ำตาลที่สูงมากในเลือดเนี่ยมัน
00:08:48 → 00:08:51 จะส่งผลทำให้เรามีปัญหาเรื่องปัสสาวะบ่อย
00:08:51 → 00:08:52 เพราะว่าน้ำตาลมันสูงมากมันก็จะไหลออกทาง
00:08:52 → 00:08:55 ปัสสวะแล้วมันก็จะดึงน้ำออกมาด้วยเพราะ
00:08:55 → 00:08:57 ฉะนั้นเราก็จะมีฉี่บ่อยครับสังเกตได้จาก
00:08:57 → 00:09:00 ข้อนี้เลยนะใช่อันแรกคือข้อข้อนี้นะครับ
00:09:00 → 00:09:02 อย่างถ้าสมมุติว่าสมัยก่อนเราเคยนอนหลับ
00:09:03 → 00:09:05 ได้ทั้งคืนใช่มครับตื่นตอนเช้าไม่ต้องลุก
00:09:05 → 00:09:09 ขึ้นมาฉี่กลางคืนแต่ว่าพอเราเริ่มมีปัญหา
00:09:09 → 00:09:11 เบาหวานเนี่ยเราอาจจะสังเกตเห็นว่าเอ๊ะ
00:09:11 → 00:09:14 ทำไมเราถึงต้องตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำตอน
00:09:14 → 00:09:16 กลางคืนหลายๆรอบอย่างเงี้ยก็ต้องระวังว่า
00:09:16 → 00:09:18 เอ๊ะกลายเป็นว่ามีปัญหาเรื่องน้ำตาลสูง
00:09:18 → 00:09:21 หรือเริ่มเป็นเบาหวานหรือเปล่านะครับเอ่อ
00:09:21 → 00:09:23 ปัสสาวะบ่อยนะครับปัสสาวะปริมาณมากอันนี้
00:09:24 → 00:09:25 เป็นอาการอย่างหนึ่งนอกจากนี้มันก็จะตาม
00:09:25 → 00:09:28 กันมาพอเราปัสสาวะบ่อยเราก็จะสูญเสียน้ำ
00:09:28 → 00:09:30 ใช่มครับเพราะฉะนั้นเราก็จะมีการกระหาย
00:09:30 → 00:09:33 น้ำคอแห้งดื่มน้ำเยอะตามมาด้วยคือเยอะ
00:09:33 → 00:09:35 กว่าปกติอันนี้ก็ต้องระวังว่าเอ๊ะเป็น
00:09:35 → 00:09:38 อาการของเบาหวานหรือเปล่านอกจากนี้เนี่ย
00:09:38 → 00:09:40 น้ำตาลที่สูงเนี่ยมันเป็นตัวบ่งบอกเหมือน
00:09:40 → 00:09:42 กันว่าจริงๆแล้วเราอ่ะไม่สามารถดึงพลัง
00:09:42 → 00:09:45 งานที่เรากินเข้าไปเนี่ยไปใช้ได้เพราะว่า
00:09:45 → 00:09:48 น้ำตาลจริงๆมันต้องถูกดึงเข้าไปใช้ด้วย
00:09:48 → 00:09:50 ฮอร์โมนอินซูลินนะครับใช้เป็นพลังงานหลัก
00:09:50 → 00:09:52 ของร่างกายแต่ว่าถ้ามันทำไม่ได้เนี่ยสิ่ง
00:09:52 → 00:09:54 ที่เกิดขึ้นก็คือร่างกายมันก็จะขาดพลัง
00:09:54 → 00:09:56 งานเราก็จะยังรู้สึกว่าเอ๊ะกินเท่าไหร่ก็
00:09:57 → 00:10:00 ไม่พอก็กินจุหิวบอกปล่อยกินอาหารเยอะขึ้น
00:10:00 → 00:10:04 ร่างกายกับรู้สึกว่าต้องการมากขึ้นใช่ใช่
00:10:04 → 00:10:06 แล้วก็อีกอย่างนึงที่ต้องระวังก็คือว่า
00:10:06 → 00:10:08 ถ้าถึงจุดหนึงพอพลังงานมันไม่เพียงพอ
00:10:08 → 00:10:11 เนี่ยเราก็จะเริ่มมีลักษณะของอาการที่น้ำ
00:10:11 → 00:10:15 หนักลดลงบางคนบอกว่าเอ๊ะก่อนหน้านี้อ้วน
00:10:15 → 00:10:18 ใช่มยเราก็อยากจะลดน้ำหนักตอนนี้ไม่ได้ทำ
00:10:18 → 00:10:20 อะไรเลยนะน้ำหนักก็ลงๆงๆอย่างเงี้ยบางคน
00:10:20 → 00:10:22 คิดว่าดีไม่ต้องทำอะไรแต่ความจริงมันอาจ
00:10:22 → 00:10:25 จะเป็นอาการหนึของเบาหวานแสดงว่ามันมี
00:10:25 → 00:10:27 ภาวะแทรกซ้อนจากโรคอ้วนที่เกิดขึ้นแล้ว
00:10:27 → 00:10:31 เงี้ยครับอันนี้อของอ่าน้ำตาลสูงซึ่งเจอ
00:10:31 → 00:10:34 ได้ในเบาหวานหรือถ้าบางคนเนี่ยเป็นเยอะๆ
00:10:34 → 00:10:36 นะครับจนถึงมีภาวะแทรกซ้อนของเบาหวานเกิด
00:10:36 → 00:10:39 ขึ้นบางคนก็อาจจะเคยได้ยินเบาหวานขึ้นตา
00:10:39 → 00:10:42 ใช่มครับเบาหวานมีผลต่อเท้าปลายประสาท
00:10:42 → 00:10:43 อะไรเงี้ยครับเพราะฉะนั้นก็อาจจะมีอาการ
00:10:43 → 00:10:47 เช่นตาพ่ามัวจากการเสื่อมของจอประสาทตา
00:10:47 → 00:10:50 เป็นแผลแล้วหายากหรือมีอาการชาตามปลายมือ
00:10:50 → 00:10:52 ปลายเท้าจากการเสื่อมของปลายประสาทเงี้ย
00:10:52 → 00:10:55 ค่ะแล้วก็บางคนถ้าน้ำตาลสูงมากๆอาจจะมี
00:10:55 → 00:10:58 ปัญหาเรื่องเลือดเป็นโกรธก็อาจจะมาด้วยหอ
00:10:58 → 00:11:00 ปวดท้องึมอะไรอย่างเงี้ยได้ซึ่งอันนั้นก็
00:11:00 → 00:11:02 เป็นอาการที่อาจจะไม่ได้เจอบ่อยแต่ก็เป็น
00:11:02 → 00:11:04 อาการที่เจอได้ในคนไข้เบาหวานแต่ว่าส่วน
00:11:04 → 00:11:07 ใหญ่ก็เป็นอาการกลุ่มแรกอ่ะคเ่าที่ที่เรา
00:11:07 → 00:11:09 อาจจะมองหาว่าเอ๊ะตัวเองมีไหมนะครับ
00:11:09 → 00:11:12 อาจารย์หมอคะแล้วสำหรับวิธีการรักษาใน
00:11:12 → 00:11:15 ปัจจุบันค่ะวิวัฒนาการทางการแพทย์เองก็
00:11:15 → 00:11:18 ทันสมัยมากขึ้นเราก้าวล้ำต่างๆแล้วสำหรับ
00:11:18 → 00:11:20 เรื่องโรคเบาหวานเนี่ยวิธีการรักษาใน
00:11:20 → 00:11:22 ปัจจุบันเป็นยังไงบ้างคะจริงๆก็คงขึ้น
00:11:22 → 00:11:25 อยู่กับชนิดของเบาหวานด้วยนะครับถ้าเป็น
00:11:25 → 00:11:28 เบาหวานชนิดที่ 1 การรักษาในปัจจุบัน
00:11:28 → 00:11:30 อย่างที่บอกว่าสาเหตุมันเกิดจากการขาด
00:11:30 → 00:11:32 อินซูลินเพราะฉะนั้นก็ต้องให้อินซูลินทด
00:11:32 → 00:11:35 แทนเข้าไปซึ่งในปัจจุบันนี้ก็รูปแบบหลักๆ
00:11:35 → 00:11:37 ที่เราใช้ก็ยังเป็นรูปแบบฉีดก็ต้องใช้ยา
00:11:37 → 00:11:40 ฉีดอินซูลินแต่ว่าก็จะมีวิธีการในการใช้
00:11:40 → 00:11:43 ที่หลากหลายนะครับอ่าจำนวนครั้งในการฉีด
00:11:43 → 00:11:46 ยาก็แตกต่างกันไปแล้วแต่คุณหมอที่ที่ดูแล
00:11:46 → 00:11:49 แล้วก็แล้วแต่วิถีชีวิตไลฟ์สไตล์ของคนไข้
00:11:49 → 00:11:51 แต่ละคนแต่ถ้าเป็นบาวาชนิดที่ 2 เนี่ยการ
00:11:51 → 00:11:54 รักษาหลักๆในปัจจุบันนี้เนี่ยก็ประกอบไป
00:11:54 → 00:11:57 ด้วยอันที่ 1 คือต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
00:11:57 → 00:12:00 สุขภาพเพราะว่าพวนี้อย่างที่บอกว่ายิ่ง
00:12:00 → 00:12:02 อ้วนน้ำำหนักเยอะเนี่ยก็มีความเสี่ยงนะ
00:12:02 → 00:12:04 ครับแล้วก็เรื่องของอาหารการกินมันก็จะ
00:12:04 → 00:12:06 ส่งผลทำให้น้ำตาลมันสูงคุมไม่ได้เพราะ
00:12:06 → 00:12:08 ฉะนั้นก็ต้องปรับเปลี่ยนตรงนี้แล้วก็ร่วม
00:12:08 → 00:12:11 กับการใช้ยาซึ่งถ้าสมมุติว่าไม่ได้รุนแรง
00:12:11 → 00:12:14 มากเนี่ยก็จะมียากินซึ่งในปัจจุบันเนี้ย
00:12:14 → 00:12:17 อ่ายากินก็มีหลากหลายกลุ่มนะครับที่ช่วย
00:12:17 → 00:12:20 ในการลดระดับน้ำตาลหรือว่าช่วยทำให้เอ่อ
00:12:20 → 00:12:23 การควบคุมระดับน้ำตาลเนี่ยทำได้ดีขึ้นแต่
00:12:23 → 00:12:25 ถ้าสมมุติว่ายังควบคุมไม่ได้เก็จะต้อง
00:12:25 → 00:12:28 สต็ปมาเป็นพวกยาฉีดต่างๆซึ่งตอนนี้ก็มี
00:12:28 → 00:12:30 หลายกลุ่ม
00:12:30 → 00:12:36 ทั้งพกรูนโดยตงที่จะช่วทำให้น้ำตามันงที่
00:12:36 → 00:12:38 มายิ่งขึ้นรวมถึงฮอร์โมนตัวอื่นๆที่จะ
00:12:38 → 00:12:41 ช่วยเรื่องของการควบคุมน้ำหนักแล้วก็การ
00:12:41 → 00:12:43 ควบคุมระดับน้ำตาลด้วยครับเพั้นมันก็จะมี
00:12:43 → 00:12:46 หลายอย่างให้ให้เลือกใช้ก็คงต้องขึ้นอยู่
00:12:46 → 00:12:51 กับอาการความรุนแรงของคนไข้แต่ละคนแล้วก็
00:12:51 → 00:12:53 การประเมินของแพทย์ผู้ดูแลครับอย่างที่
00:12:53 → 00:12:57 ทราบกันดีค่ะโรคเบาหวานใครที่ได้เป็นคนไข
00:12:57 → 00:12:59 กลุ่มนี้แล้วไม่ได้รักษาหายกันง่ายเป็น
00:13:00 → 00:13:03 การรักษาระยะยาวด้วยใครที่ยังไม่ได้เป็น
00:13:03 → 00:13:05 โรคนี้นะคะผู้ฟังท่านไหนที่มาเจอ podcast
00:13:05 → 00:13:09 ตอนที่รู้สึกว่ายังมีโอกาสที่จะได้กลับไป
00:13:09 → 00:13:12 ดูแลร่างกายตัวเองก็ยังทันเวลานะคะแต่
00:13:12 → 00:13:14 อย่างที่อาจารย์หมอได้กล่าวมาเลยค่ะว่า
00:13:14 → 00:13:16 เป็นเรื่องของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมซึ่ง
00:13:16 → 00:13:19 ไม่ได้ทำแค่วัน 2 วันเท่านั้นคนๆนึง
00:13:19 → 00:13:22 จำเป็นที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนระยะยาว
00:13:22 → 00:13:25 แล้วก็ดูแลตัวเองไปเรื่อยๆนะคะการที่ไม่
00:13:25 → 00:13:28 เป็นโรคก็เป็นลาภอันประเสริฐนั่นเองค่ะ
00:13:28 → 00:13:31 ใช่ครับมาถึงคำถามสุดท้ายแล้วค่ะอาจารย์
00:13:31 → 00:13:33 หมอคะเชื่อว่าตรงนี้ค่ะต้องโน้ตไว้แน่ๆ
00:13:33 → 00:13:36 สำหรับใครที่อยากจะห่างไกลจากโลกนี้ค่ะ
00:13:36 → 00:13:39 เราสามารถป้องกันตัวเองและคนที่เรารักได้
00:13:39 → 00:13:41 ยังไงบ้างซึ่งอาจารย์หมอก็ได้เกิดมาบ้าง
00:13:41 → 00:13:44 แล้วนะคะใช่ก็คิดว่าคงคงสรุปง่ายๆอย่าง
00:13:44 → 00:13:47 งี้ครับว่าจริงๆแล้วเราก็ต้องพยายามดูแล
00:13:47 → 00:13:50 ตัวเองให้มีร่างกายที่แข็งแรงแล้วก็มี
00:13:50 → 00:13:53 พฤติกรรมสุขภาพที่ดีนะครับไม่ให้มีปัญหา
00:13:53 → 00:13:56 เรื่องโรคอ้วนน้ำหนักเกินอะไรเงี้ยนะครับ
00:13:56 → 00:13:59 รวมถึงเ่อโรคอื่นๆที่มันจะเกิดเมาเป็น
00:13:59 → 00:14:01 แพคเจเช่นความดันสูงไขมันสูงอะไรเงี้ซึ่ง
00:14:01 → 00:14:03 พวกนี้มันมาด้วยกันหมดทีเราจะทำยังไง
00:14:03 → 00:14:06 เพื่อให้เราไม่มีความเสี่ยงนั้นเนาฟังดู
00:14:06 → 00:14:09 เหมือนถ้าพูดแล้วเนี่ยก็จะเป็นอะไรที่ทุก
00:14:09 → 00:14:12 คนก็คุ้นเคยอยู่แล้วแต่ว่าก็อ่ะย้ำอีกที
00:14:12 → 00:14:13 นึงแล้ว
00:14:13 → 00:14:16 กันรู้เนี่ยรู้เข้าใจว่าทุกคนน่าจะรู้แต่
00:14:16 → 00:14:19 ว่าทำได้ไม่ได้เนี่ยอีกเรื่องนึงนะครับเ
00:14:19 → 00:14:22 อันแรกคือก็ต้องควบคุมอาหารสำคัญมากรับ
00:14:22 → 00:14:25 ประทานอาหารแต่พอดีไม่มากหรือว่าไม่น้อย
00:14:25 → 00:14:27 เกินไปก็คือไม่ให้มีภาวะน้ำหนักเกินหรือ
00:14:27 → 00:14:31 อ้วนนะครับซึ่งก็ทำได้ดยการที่เลือกอาหาร
00:14:31 → 00:14:34 ที่เหมาะสมใช่มครับคือคนเราอ่ะต้องการ
00:14:34 → 00:14:37 พลังงานจากอาหารแต่ว่าพลังงานที่ได้เข้า
00:14:37 → 00:14:39 ไปเนี่ยก็ควรจะเป็นพลังงานที่ดีอาหารที่
00:14:39 → 00:14:41 ให้พลังงานทั้งคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมัน
00:14:41 → 00:14:44 เนี่ยก็ควรจะเลือกให้มีการมีความหลากหลาย
00:14:44 → 00:14:46 แล้วก็มีการกระจายตัวอย่างเหมาะสมแต่ละ
00:14:46 → 00:14:48 ตัวก็ต้องเลือกให้เหมาะสมเช่นน้ำตาลหรือ
00:14:48 → 00:14:50 ว่าคาร์โบไฮเดรตเนี่ยถ้าเป็นไปได้ก็เลือก
00:14:51 → 00:14:54 ชนิดที่อ่าค่าดัชนีน้ำตาลต่ำยกตัวอย่าง
00:14:54 → 00:14:56 เช่นสมมุติถ้ากินข้าวอย่างเงี้ยพวกข้าว
00:14:56 → 00:15:00 กล้องข้าวซ้อมมือก็อาจจะดีกว่าข้าวขาวที่
00:15:00 → 00:15:02 มีการขัดสีขนมปังฮวีอะไรเงี้ยก็อาจจะดี
00:15:02 → 00:15:04 กว่าเอ่อขนมปังขาวอะไรอย่าเงี้ยเป็นต้นนะ
00:15:04 → 00:15:08 ครับมันก็จะมีการปล่อยน้ำตาลที่อาจจะดี
00:15:08 → 00:15:10 กว่าโปรตีนก็ควรจะเลือกโปรตีนที่เป็น
00:15:10 → 00:15:12 โปรตีนคุณภาพเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันอย่า
00:15:12 → 00:15:14 เงี้ยนะครับแล้วก็พวกไขมันก็พยายามเลือก
00:15:14 → 00:15:16 ไขมันชนิดที่มันไม่อิ่มตัวแล้วก็หลีก
00:15:16 → 00:15:19 เลี่ยงพวกไขมันทรานซ์นะครับแล้วก็อย่าลืม
00:15:19 → 00:15:22 ว่าก็ต้องรับประทานพวกผักผลไม้ให้เพียงพอ
00:15:22 → 00:15:24 ด้วก็คือเรื่องของการควบคุมอาหารนะครับ
00:15:24 → 00:15:27 แล้วก็ที่สำคัญอีกอย่างนึงกินเข้าไปแต่
00:15:27 → 00:15:29 ไม่ได้ใช้ออกก็อ้วน
00:15:29 → 00:15:33 อั้นก็ต้องพยามที่จะกิจกรรมนะครับเชออก
00:15:33 → 00:15:35 กำลังกายให้เพียงพอนะครับซึ่งการออกกำลัง
00:15:35 → 00:15:38 กายเนี่ยจริงๆก็แนะนำให้ทำทุกช่วงอายุแต่
00:15:38 → 00:15:40 ว่าแต่ละช่วงอายุเนี่ยก็อาจจะมีวิธีการ
00:15:40 → 00:15:42 ออกกำลังกายที่เหมาะสมที่แตกต่างกันเช่น
00:15:42 → 00:15:44 อายุน้อยๆอาจจะทำได้เต็มที่ใช่มครับแต่
00:15:45 → 00:15:47 ถ้าอุเยหน่อยเนี่ยก็อาจจะต้องระมัดระวัง
00:15:47 → 00:15:48 เรื่องของอุบัติเหตุแต่เราก็ยังแนะนำว่า
00:15:49 → 00:15:51 ควรจะออกกำลังกายเนี่ยอย่างน้อยสัปดาห์ละ
00:15:51 → 00:15:53 2-3 ครั้งนะครับครั้งละอย่างน้อยประมาณ
00:15:53 → 00:15:56 สักครึ่งถึง 1 ชมงนะครับเพื่อที่จะให้มี
00:15:56 → 00:15:59 โอกาสในการที่จะได้ใช้พลังงานที่เราเก็บ
00:15:59 → 00:16:01 สะสมหรือว่ากินเข้าไปเนี่ยออกไปด้วยใช่ม
00:16:01 → 00:16:04 ครับแล้วก็อีกอันนึงที่คู่กันไปด้วยก็คือ
00:16:04 → 00:16:07 ว่าเราต้องพยายามลดพฤติกรรมบางอย่างที่
00:16:07 → 00:16:09 ถ้าเป็นภาษาทางการแพทย์เราเรียกพฤติกรรม
00:16:09 → 00:16:10 เนื่อยนิ่งหรือว่าภาษาอังกฤษเรียกว่า
00:16:10 → 00:16:13 sedentary Lifestyle ก็คือการอยู่นิ่งๆ
00:16:13 → 00:16:16 เฉยๆซึ่งฟังดูเหมือนแบบใครมันจะไปอยู่
00:16:16 → 00:16:18 นิ่งๆเฉยๆแต่เอาเขจริงถ้าเราย้อนกลับไปดู
00:16:18 → 00:16:21 ในชีวิตเราเนี่ยส่วนใหญ่อ่ะเวลาของวันของ
00:16:21 → 00:16:23 เราเนี่ยอยู่กับพฤติกรรมแบบนี้เยอะมากเลย
00:16:23 → 00:16:26 นะครับเช่นคนที่ทำงานเนี่ยส่วนใหญ่เวลาทำ
00:16:26 → 00:16:29 งานก็จะนั่งอยู่ทำงานงคอมพิวเตอรหรืออะไร
00:16:29 → 00:16:31 อย่าเงี้นะครับอันเนี้ยเราก็นิ่งอยู่นาน
00:16:31 → 00:16:34 ถูกมครับนอกจากนี้เนี่ยเวลาเราใช้เวลา
00:16:34 → 00:16:36 ว่างเนี่ยในปัจจุบันนี้เวลาว่างของเรา
00:16:36 → 00:16:39 เนี่ยก็ใช้การอยู่กับที่เป็นหลักเช่นดู
00:16:39 → 00:16:42 netflix บ้างใช่่มครับดูทีวีบ้างดู
00:16:42 → 00:16:44 YouTube บ้างหรือบางคนไถโซเชียล Media
00:16:44 → 00:16:47 เป็นชั่วโมงเลยอย่างเงี้ยใช่มั้ยครับซึ่ง
00:16:47 → 00:16:49 ก็เป็นพฤติกรรมเริ่งก็อยู่เฉยๆเลยครับ
00:16:49 → 00:16:51 เพราะฉะนั้นจริงๆนับเวลาจริงๆอาจจะเอ่อ
00:16:52 → 00:16:54 ทั้งวันเลยอ่ะที่เราแทบไม่ได้เคลื่อนไหว
00:16:54 → 00:16:57 ร่างกายเพราะฉะนั้นเราก็ต้องลดพฤติกรรม
00:16:57 → 00:16:59 เหล่านี้นะครับส่ใหเคแนะนำว่าอย่างน้อย
00:16:59 → 00:17:02 ที่สุดวิธีการง่ายๆก็คือนับไปเลยทุกๆ 1
00:17:02 → 00:17:04 ชั่วโมงที่ผ่านไปเนี่ยครับเราควรจะได้ลุก
00:17:05 → 00:17:07 เดินเปลี่ยนอิริยาบถใช่มั้ยครับอย่างน้อย
00:17:07 → 00:17:10 สักชั่วโมงละครั้งแล้วก็ถ้าสมมุติว่าเรา
00:17:10 → 00:17:12 ต้องอยู่หน้าจอเนี่ยจริงๆเแนะนำเลยนะครับ
00:17:12 → 00:17:15 ว่าอถ้าไม่นับการทำงานบางคนต้องทำงานหน้า
00:17:15 → 00:17:17 จออนั้นอาจจะจะยกไว้แต่ว่านอกเหนือจาก
00:17:17 → 00:17:19 นั้นเนี่ยเราไม่ควรจะใช้เวลาอยู่หน้าจอ
00:17:19 → 00:17:21 เกิน 2 ช่วโมงต่อวันอย่างเงี้ยมันถ้าเรา
00:17:21 → 00:17:23 กำหนดตัวเองได้แบบเนี้ยเวลาที่เหลืออยู่
00:17:23 → 00:17:26 เราก็ต้องไปทำอะไรอย่างอื่นที่มันมี
00:17:26 → 00:17:28 เหมือน Active มากยิ่งขึ้นอย่างเงี้ยมัน
00:17:28 → 00:17:32 ก็ช่วยทำให้เ่อการเผาผลาญพลังงานมันดี
00:17:32 → 00:17:34 ขึ้นก็ช่วยป้องกันเรื่องของโรคอ้วนได้อีก
00:17:34 → 00:17:37 อันนึงคือพวกพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆที่อาจจะ
00:17:37 → 00:17:39 ส่งผลต่อโรคกลุ่มนี้เนี่ยก็มีทั้งเรื่อง
00:17:39 → 00:17:42 ของการสูบบุหรี่นะครับการดื่มเครื่องดื่ม
00:17:42 → 00:17:45 พวกแอลกอฮอล์ต่างๆพวกเก็เป็นปัจจัยเสี่ยง
00:17:46 → 00:17:48 ที่อาจจะส่งผลทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการ
00:17:48 → 00:17:51 ที่จะเกิดพวกโรคเบาหวานแล้วก็โรคอื่นๆที่
00:17:51 → 00:17:53 มาทั้งแพคเกจอย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้
00:17:53 → 00:17:55 เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถที่จะหลีกเลี่ยง
00:17:55 → 00:17:58 ได้ก็จะทำให้เราห่างไกลเบาหวานได้มามาก
00:17:58 → 00:18:00 ยิ่งขึ้นนะครับค่ะเป็นช่วงเวลาที่มีคุณ
00:18:00 → 00:18:03 ค่ามากๆเลยค่ะทำให้เราได้เอดใจกับหลายๆ
00:18:03 → 00:18:06 เรื่องนะคะหลายคนที่กำลังฟังพแสอยู่จาก
00:18:06 → 00:18:09 ที่นอนฟังอาจจะลุกขึ้นมาขยับตัวที่
00:18:09 → 00:18:11 อาจารย์หมอกล่าวมาเราพยายามดู 1 ชั่วโมง
00:18:11 → 00:18:14 นี้เราได้ขยับตัวบ้างหรรือยังเราอาจจะตก
00:18:14 → 00:18:17 อยู่ในสถานการณ์นั้นจนคิดว่าเป็นเรื่อง
00:18:17 → 00:18:21 ปกติค่ะอ้าก็กิจกรรมนี้ใครๆเขาก็เป็นใครๆ
00:18:21 → 00:18:23 เขาก็ทำหรือทางเลือกของโภชนาการเองด้าน
00:18:23 → 00:18:27 โภชนาการบางทีเราเองก็ละเลยค่ะมองว่าก็
00:18:27 → 00:18:30 กินกันแบบนี้เพื่อนกินแบบนี้ก็กินแบบนี้
00:18:30 → 00:18:32 มาด้วยกันเอ๊ะทำไมเพื่อนไม่อ้วนเลยแฮะ
00:18:32 → 00:18:35 อะไรอย่างเงี้ยค่ะการออกกำลังกายนะคะแต่
00:18:35 → 00:18:38 ละช่วงวัยแต่ละความเหมาะสมเป็นเรื่องที่
00:18:38 → 00:18:41 ทำได้ค่ะและก็ไม่ได้ยากเลยก็ขอเป็นกำลัง
00:18:41 → 00:18:44 ใจให้กับผู้ฟังทุกท่านด้วยนะคะเป็นช่วง
00:18:44 → 00:18:46 เวลาที่มีความหมายมากๆค่ะต้องขอบพระคุณ
00:18:46 → 00:18:49 อาจารย์หมอมากๆนะคะสวัสดีค่ะครับสวัสดี
00:18:49 → 00:18:53 ครับ med cmu podcast f for help
00:18:53 → 00:18:57 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:18:57 → 00:19:00 เรา
00:19:00 → 00:19:03 y
00:00:03 → 00:00:07 med cmu podcast fung for
00:00:07 → 00:00:10 help ัง for Health
00:00:10 → 00:00:13 podcast รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราว
00:00:13 → 00:00:16 ของสุขภาพและแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์
00:00:16 → 00:00:20 ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆของคณะแพทยศาสตร์
00:00:20 → 00:00:22 มหาวิทยาลัย
00:00:22 → 00:00:28 เชียงใหม่เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:00:28 → 00:00:32 เราสวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฟัง
00:00:32 → 00:00:35 for Health podcast อยู่กับดิฉันฟ้า
00:00:35 → 00:00:38 ธัญลักษณ์สดสวยนักประชาสัมพันธ์คณะ
00:00:38 → 00:00:41 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ผู้ฟังคะ
00:00:41 → 00:00:44 เรื่องที่จะมาพูดคุยกันเป็นเรื่องของโรค
00:00:44 → 00:00:47 เป่าหวานค่ะเรื่องไม่เบาที่พวกเราควรต้อง
00:00:47 → 00:00:50 รู้ไว้นะคะสำหรับวันที่ 14 พฤศจิกายนค่ะ
00:00:50 → 00:00:53 เป็นวันเบาหวานโลกทางสมพันธ์เบาหวานนานา
00:00:53 → 00:00:56 ชาติและองค์การอนามัยโลกเองนะคะก็จัดวัน
00:00:56 → 00:00:58 นี้ขึ้นมานะคะเพื่อที่จะสร้างความตระหนัก
00:00:58 → 00:01:01 แล้วก็ความสำคัญถึงโรคเบาหวานค่ะจึงหยิบ
00:01:01 → 00:01:04 ยกเรื่องของโรคเบาหวานมาพูดคุยกันเราจะมา
00:01:04 → 00:01:07 ทำความรู้จักค่ะว่าโรคเบาหวานคืออะไรแล้ว
00:01:07 → 00:01:10 แบ่งออกเป็นกี่ชนิดรวมถึงอะไรคือปัจจัย
00:01:10 → 00:01:13 เสี่ยงของโลกนี้เราสามารถป้องกันให้ตัว
00:01:13 → 00:01:16 เองและคนที่เรารักห่างไกลจากโลกนี้ได้ยัง
00:01:16 → 00:01:19 ไงบ้างซึ่งผู้ที่จะมาให้ข้อมูลกับเราท่าน
00:01:19 → 00:01:23 คืออาจารย์ดรนายแพทย์การเวทอภิกุลอาจารย์
00:01:23 → 00:01:25 หน่วยต่อมไรท่อและเมตาบอลิซึมภาควิชา
00:01:25 → 00:01:28 กุมารและเวชศาสตร์คณะแพทยศาสตร์
00:01:28 → 00:01:31 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะสวัสดีค่ะสวัสดี
00:01:31 → 00:01:33 ครับอาจารย์หมอคะอย่างที่เกิ่นเข้ารายการ
00:01:33 → 00:01:35 ค่ะอยากให้ผู้ฟังได้มาทำความรู้จักโรคเบา
00:01:35 → 00:01:38 หวานก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักก่อนค่ะว่า
00:01:38 → 00:01:42 โรคเบาหวานคืออะไรคะครับก็สำหรับโรคเบา
00:01:42 → 00:01:45 หวานเนี่ยก็เป็นภาวะของร่างกายอย่างหนึนะ
00:01:45 → 00:01:48 ครับที่ร่างกายเนี่ยมีระดับน้ำตาลในเลือด
00:01:48 → 00:01:50 ที่สูงกว่าปกตินะครับซึ่งสาเหตุหลักๆ
00:01:50 → 00:01:53 เนี่ยก็เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายเราเนี่ย
00:01:53 → 00:01:55 ไม่สามารถที่จะควบคุมระดับน้ำตาลหรือว่า
00:01:55 → 00:01:58 จัดการกับระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้ซึ่ง
00:01:58 → 00:02:01 ตัวที่ควบคุมน้ำน้ำตาลในร่างกายของเรามัน
00:02:01 → 00:02:03 มีฮอร์โมนตัวนึงที่สำคัญก็คือฮอร์โมน
00:02:03 → 00:02:05 อินซูลินนะครับซึ่งถ้าความสามารถของ
00:02:05 → 00:02:07 ฮอร์โมนตัวนี้ในการที่จะดึงน้ำตาลลงเนี่ย
00:02:07 → 00:02:09 มันทำไม่ได้ก็จะมีปัญหาเกิดขึ้นก็เกิด
00:02:10 → 00:02:12 ภาวะเบาหวาดเกิดขึ้นซึ่งมันอาจจะเกิดจาก
00:02:12 → 00:02:14 การที่ร่างกายเราสร้างฮอร์โมนตัวนี้ได้
00:02:14 → 00:02:16 ไม่เพียงพอนะครับก็เป็นเบาหวานชนิดหนึ่ง
00:02:16 → 00:02:20 ก็เป็นภาวะขาดอินซูลินแต่ว่าอีกอันนึงก็
00:02:20 → 00:02:22 อาจจะเกิดจากการที่เรามีฮอร์โมนตัวนี้
00:02:22 → 00:02:24 เพียงพอหรือบางทีอาจจะเยอะด้วยซ้ำแต่ว่า
00:02:24 → 00:02:27 ฮอร์โมนตัวเไม่สามารถที่จะออกฤทธิ์ได้ก็
00:02:27 → 00:02:29 คือถึงแม้มีก็ไม่สามารถดึงระดับน้ำตาลลง
00:02:29 → 00:02:32 มาได้อันนี้ก็เกิดภาวะที่เราเรียกว่าภาวะ
00:02:32 → 00:02:34 ดื้อต่ออินซูลินซึ่งทั้งหมดนี้ก็ส่งผลทำ
00:02:34 → 00:02:36 ให้น้ำตาลสูงนะครับแล้วก็ส่งผลทำให้เกิด
00:02:36 → 00:02:39 อาการของโรคบาหวานเกิดขึ้นครับดังนั้นค่ะ
00:02:39 → 00:02:42 โรคเบาหวานเนี่ยแบ่งได้เป็นกี่ชนิดคะจริง
00:02:42 → 00:02:44 ๆแล้วเนี่ยในปัจจุบันนี้นะครับเบาหวาน
00:02:44 → 00:02:47 เนี่ยจัดจำแนกออกได้เป็นหลายชนิดมากเลยนะ
00:02:47 → 00:02:50 ครับตามกลไกการเกิดโรคอะไรเงี้ยนะครับถ้า
00:02:50 → 00:02:52 ยึดตามเกณฑ์ล่าสุดขององค์การอนามัยโลค
00:02:52 → 00:02:54 เนี่ยเราอาจจะแบ่งได้เป็นถึง 6 ชนิดด้วย
00:02:54 → 00:02:56 กันแต่ว่าเราคงไม่พูดในรายละเอียดทั้งหมด
00:02:56 → 00:02:58 6 ชนิดเนาะคิดว่าคงเลือกพูดเฉพาะในอัน
00:02:59 → 00:03:02 ที่เราอาจจะเคยได้ยินบ่อยๆนะครับก็คือเบา
00:03:02 → 00:03:05 หวานชนิดที่ 1 กับเบาหวานชนิดที่ 2 นะ
00:03:05 → 00:03:07 ครับเบาหวานชนิดที่ 1 เนี่ยก็เป็นเบาหวาน
00:03:07 → 00:03:10 ที่เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายเนี่ยสร้าง
00:03:10 → 00:03:13 ฮอร์โมนอินซูลินที่พูดไปก่อนหน้านี้เนี่ย
00:03:13 → 00:03:15 ไม่เพียงพอนะครับซึ่งส่วนใหญ่เนี่ยเกิด
00:03:15 → 00:03:19 จากการที่มันมีภูมิคุ้มกันในร่างกายไปต่อ
00:03:19 → 00:03:21 ต้านเนื้อเยื่อตับอ่อนนะครับซึ่งเป็น
00:03:21 → 00:03:24 ตำแหน่งที่สร้างฮอร์โมนอินซูลินออกมานะ
00:03:24 → 00:03:26 ครับก็เลยส่งผลทำให้ฮอร์โมนอินซูลินเยมัน
00:03:26 → 00:03:29 สร้างได้น้อยลงแล้วเกิดภาวะน้ำตาลสูงเกิด
00:03:29 → 00:03:31 ขึ้นนะครับบางทีเราอาจจะคุ้นเคยเบาหวาน
00:03:31 → 00:03:34 ชนิดนี้เนี่ยในคนไข้เด็กนะครับที่ที่เป็น
00:03:34 → 00:03:37 เบาหวานตั้งแต่อายุน้อยๆอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:03:37 → 00:03:39 ครับที่ต้องฉีดอินซูลินอะไรเงี้ยแต่ก็
00:03:39 → 00:03:41 ต้องบอกว่าจริงๆแล้วเนี่ยเบาหวานชนิดนี้
00:03:41 → 00:03:43 ก็เจอในผู้ใหญ่ได้ด้วยเช่นเดียวกันและ
00:03:43 → 00:03:45 เนื่องจากว่าสาเหตุหลักๆเนี่ยเกิดจากการ
00:03:45 → 00:03:48 ขาดอินซูลินเพราะฉะนั้นการรักษาของภาวะ
00:03:48 → 00:03:50 เบาหวานชนิดนี้เนี่ยก็ทำได้โดยการฉีด
00:03:50 → 00:03:52 อินซูลินนะครับอันนี้เป็นการรักษาอย่าง
00:03:52 → 00:03:55 เดียวที่เรามีอยู่ในตอนนี้เป็นหลักนะครับ
00:03:55 → 00:03:58 แต่อีกชนิดนึงซึ่งเป็นชนิดที่คิดว่าเจอ
00:03:58 → 00:04:01 บ่อยแล้วก็ก็เราคุ้นเคยมากกว่านะครับก็
00:04:01 → 00:04:04 คือเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งจริงๆเนี่ยข้อ
00:04:04 → 00:04:07 มูลในปัจจุบันในคนไทยเราพบว่าคนไทยที่
00:04:07 → 00:04:09 เป็นเบาหวานเนี่ย 90 กว่าเปอร์เซเนี่ย
00:04:09 → 00:04:12 เป็นชนิดนี้นะครับเนาะซึ่งชนิดนี้เนี่ย
00:04:12 → 00:04:15 สาเหตุเนี่ยอ่าเกิดจากการที่มีภาวะดื้อ
00:04:15 → 00:04:17 ต่ออินซูลินนะครับคือจริงๆแล้วร่างกาย
00:04:17 → 00:04:20 เนี่ยหลังอินซูลินได้แล้วก็หลัได้เยอะ
00:04:20 → 00:04:22 ด้วยแต่อินซูลินเทำงานไม่ได้ก็เลยส่งผลทำ
00:04:22 → 00:04:25 ให้ถึงแม้มีอินซูลินก็ดึงน้ำตาลลงมาไม่
00:04:25 → 00:04:27 ได้ก็เกิดเบาหวานอยู่ดีนะครับซึ่งสาเหตุ
00:04:27 → 00:04:31 ส่วนใหญ่เนี่ยเกิดจากการที่ 1 อายุเยอะ
00:04:31 → 00:04:34 ขึ้นนะครับ 2 ซึ่งสำคัญมากเลยก็คือน้ำ
00:04:34 → 00:04:36 หนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นหรือมีภาวะเรื่อง
00:04:36 → 00:04:40 ของความอ้วนนะครับแล้วก็ถ้าใครมีปัจจัย
00:04:40 → 00:04:42 เสี่ยงเช่นมีคนในครอบครัวเช่นพ่อแม่พี่
00:04:42 → 00:04:44 น้องเนี่ยเป็นเบาหวานอันนี้ก็เพิ่มความ
00:04:44 → 00:04:47 เสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานชนิดนี้เช่นเดียว
00:04:47 → 00:04:49 กันส่วนเบาหวานอื่นๆเนี่ยที่อาจจะเจอได้
00:04:49 → 00:04:52 แต่น้อยกว่าเช่นเบาหวานในหญิงตั้งครรภอัน
00:04:52 → 00:04:54 นี้ก็จะเป็นชนิดที่แยกออกไปหรือบาวันที่
00:04:55 → 00:04:57 เกิดขึ้นจากโรคบางชนิดโรคทางฮอร์โมนบาง
00:04:57 → 00:04:59 อย่างหรือว่ายาบางชนิดหรือการติดเชื้อบาง
00:04:59 → 00:05:01 บางอย่างอันนี้ก็จะเป็นอันที่เจอได้น้อยๆ
00:05:02 → 00:05:04 นะครับในในบางกลุ่มของคนใครค่ะฟังอาจารย์
00:05:04 → 00:05:07 หมอพูดเชื่อว่ามีหลายคนสะดุ้งนะคะหลาย
00:05:07 → 00:05:09 ท่อนที่เราเองก็รู้สึกว่าเอ๊ะตรงนี้เป็น
00:05:10 → 00:05:12 ปัจจัยเสี่ยงบางอย่างที่เราควบคุมได้นะ
00:05:12 → 00:05:14 ไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นเองเข้าถึงเรื่องปัจจัย
00:05:14 → 00:05:17 เสี่ยงเลยะกันนะคะว่าปัจจัยเสี่ยงอะไรล่ะ
00:05:17 → 00:05:19 คะที่ทำให้คนๆนึงเนี่ยเสี่ยงเป็นโรคเบา
00:05:19 → 00:05:22 หวานได้ค่ะครับอันนี้ถ้าจะพูดถึงปัจจัย
00:05:22 → 00:05:25 เสี่ยงที่อาจจะสำหรับคนทั่วๆไปเนี่ยคงพูด
00:05:25 → 00:05:27 ถึงปัจจัยเสี่ยงหลักของบาหวาชนิดที่ 2
00:05:27 → 00:05:30 เนาะซึ่งเป็นชนิดที่เราพบได้
00:05:30 → 00:05:33 ก็ตอย่างที่บอกเลยว่าปัจจัยเสี่งมันอาจจะ
00:05:33 → 00:05:35 แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆเนก็คือ
00:05:35 → 00:05:38 ปัจจัยเสงที่เราไปจัดการกับมันไม่ได้มัน
00:05:38 → 00:05:40 ติดตัวเรามาแต่กำเนิดเนายกตัวอย่างเช่น
00:05:40 → 00:05:44 การที่เเรามีคนในครอบครัวนะครับที่เป็น
00:05:44 → 00:05:47 เบาหวานนะพ่อแม่พี่น้องอะไรเราที่ใกล้ชิด
00:05:47 → 00:05:50 เนี่ยมีคนที่เป็นเบาหวานอยู่ในครอบครัวก็
00:05:50 → 00:05:52 มีโอกาสที่เราเนี่ยมีความเสี่ยงต่อการที่
00:05:52 → 00:05:54 จะเป็นได้ซึ่งนี้เราแก้ไขเลยไม่ได้เหมือน
00:05:54 → 00:05:56 เราได้รับมาแต่แรกอยู่แล้วรับมาอยู่แล้ว
00:05:56 → 00:05:59 นะครับเนาหรืออายุที่เพิ่มมากขึ้นก็เพิ่ม
00:05:59 → 00:06:01 ความเสี่ยงต่อการที่จะเป็นเบาหวานได้มาก
00:06:01 → 00:06:03 ขึ้นซึ่งอันนี้เราก็แก้ไขเลยไม่ได้อยู่
00:06:03 → 00:06:05 แล้วใช่มั้ยคไม่มีใครหนีพ้นเลยทั้ง 2 ข้อ
00:06:05 → 00:06:08 นี้นะคะใช่ใช่แต่มันก็ยังมีอีกปัจจัยอีก
00:06:08 → 00:06:10 กลุ่มใหญ่ๆเลยที่ความจริงแล้วเนี่ยมัน
00:06:10 → 00:06:13 สามารถที่จะป้องกันหรือว่าปรับเปลี่ยนได้
00:06:13 → 00:06:15 นะครับก็อย่างเช่นเรื่องของพฤติกรรม
00:06:15 → 00:06:18 สุขภาพต่างๆนะครับเรื่องของการที่มีปัญหา
00:06:18 → 00:06:21 เรื่องโรคอ้วนใช่มั้ครับมีปัญหาเรื่องของ
00:06:21 → 00:06:24 ไขมันสูงมีปัญหาเรื่องของความดันโลหิตสูง
00:06:24 → 00:06:26 นะครับหรือว่ามีเรื่องของโรคหัวใจแล้วก็
00:06:26 → 00:06:28 หลอดเลือดอะไรอย่างเงี้ยพวกเนี้ยถ้า
00:06:28 → 00:06:31 สมมุติว่ามีอยู่ในตัวเราเนี่ยมันก็เพิ่ม
00:06:31 → 00:06:33 ความเสี่ยงต่อการที่จะเป็นเบาหวานได้เช่น
00:06:33 → 00:06:35 เดียวกันอย่าเงี้ยซึ่งอันนี้มันก็คงรวมไป
00:06:35 → 00:06:37 ถึงเรื่องของพฤติกรรมสุขภาพต่างๆด้วย
00:06:37 → 00:06:39 เงี้ยเนาะเพราะว่าพวกนี้มันก็มาประกอบกัน
00:06:39 → 00:06:41 ถ้าเราสุขภาพไม่ดีดูแลตัวเองไม่ดีน้ำหนัก
00:06:41 → 00:06:44 เยอะขึ้นโรคพวกนี้มันก็มาเป็นเป็นพวงติด
00:06:44 → 00:06:46 กันมาเหมือนมาเป็นแพ็คเกตรวมมาเลยนะคะใช่
00:06:46 → 00:06:48 ใช่ซึ่งหนึในนั้นก็เป็นเบาหวานเช่นเดียว
00:06:48 → 00:06:51 กันซึ่งพวกนี้ปรับเปลี่ยนได้ในระยะที่เรา
00:06:51 → 00:06:52 ยังไม่ได้เป็นโรคนี้เราสามารถปรับเปลี่ยน
00:06:52 → 00:06:55 พฤติกรรมได้นะถ้าเราไม่ได้มีแพ็คเกจตอน
00:06:55 → 00:06:57 แรกมาที่บอกว่ามีปัจจัยเสี่ยงจากครอบครัว
00:06:57 → 00:07:00 หรืออายุที่เพิ่มมากขึ้นอาจจะอยู่ในวัย
00:07:00 → 00:07:03 รุ่นวัยทำงานวัยรุ่นวัยทำงานมีโอกาสเป็น
00:07:03 → 00:07:06 โรคเบาหวานในชนิดที่ 2 นี้ได้มากมั้ยคะใน
00:07:06 → 00:07:10 ปัจจุบันค่ะจริงๆต้องบอกว่าอ่าเอาให้เด็ก
00:07:10 → 00:07:13 ลงไปกว่านั้นเลยครับในเด็กเองเนี่ยที่
00:07:13 → 00:07:16 อายุน้อยๆน้อยกว่า 15 ปีอะไรอย่างเงี้ยก็
00:07:16 → 00:07:18 ก็เจอว่าอุบัติการณ์ของการเกิดเบาหวาน
00:07:18 → 00:07:20 ชนิดที่ 2 เนี่ยเพิ่มมากขึ้นเราเพิ่งทำ
00:07:20 → 00:07:22 การศึกษาล่าสุดเมื่อปี 2 ปีที่ผ่านมา
00:07:22 → 00:07:24 เนี่ยนะครับแล้วพบว่าอุบัติการณ์ของเด็ก
00:07:24 → 00:07:27 ที่เอ่อมีภาวะวาชิ้นที่ 2 เนี่ยเพิ่มมาก
00:07:27 → 00:07:29 ขึ้นกว่าสมัยก่อนเยอะเลยซึ่งส่วนใหญ่
00:07:29 → 00:07:31 เนี่ยก็สัมพันธ์กับเรื่องของน้ำหนักตัว
00:07:31 → 00:07:34 ที่เยอะแล้วก็เรื่องของโรคอ้วนเพราะ
00:07:34 → 00:07:37 ฉะนั้นก็ไม่น่าสงสัยเลยว่าวัยรุ่นหรือผู้
00:07:37 → 00:07:39 ใหญ่ที่อาจจะอายุไม่ได้เยอะมากเนี่ยจริงๆ
00:07:39 → 00:07:41 ก็มีความเสี่ยงต่อการที่จะเป็นเบาหวาน
00:07:41 → 00:07:43 ชนิดที่ 2 ได้เช่นเดียวกันถ้าเกิดว่ามี
00:07:43 → 00:07:45 ปัญหาเรื่องของน้ำหนักตัวเยอะหรือว่าโร
00:07:45 → 00:07:48 อ้วนครับผู้ฟังท่านไหนที่กำลังฟัง podcast
00:07:48 → 00:07:50 อยู่นะคะอาจจะเป็นคุณพ่อคุณแม่เองที่
00:07:50 → 00:07:53 กำลังมีลูกอยู่ในวัยเด็กตอนแรกเราก็อุ่น
00:07:53 → 00:07:56 ใจว่าลูกเราอาจจะห่างไกลจากโลกนี้แต่พอ
00:07:56 → 00:07:58 อาจารย์หมอได้พูดขึ้นมาก็ทำให้เราเอะใจ
00:07:58 → 00:08:01 เหมือนกันนะคะรวมถึงวัยรุ่นวัยยทำงานนะคะ
00:08:01 → 00:08:03 ถ้าเรายังอยู่ในพฤติกรรมที่มีความเสี่ยง
00:08:03 → 00:08:06 โรคนี้ก็ไม่ไกลตัวเลยนะคะอาจารย์หมอคะ
00:08:06 → 00:08:09 แล้วสำหรับเรื่องโรคเบาหวานอาการเริ่มแรก
00:08:09 → 00:08:12 ของการที่คนๆนึงจะเป็นโรคเนี้ยเขาจะ
00:08:12 → 00:08:15 สังเกตตัวเองได้ยังไงบ้างคะครับจริงๆก็
00:08:15 → 00:08:18 คิดว่า 1 ก็สำรวจตัวเองก่อนว่าเรามีความ
00:08:18 → 00:08:20 เสี่ยงต่างๆเหล่านั้นมยใช่มั้ยครับอันที่
00:08:21 → 00:08:23 สำคัญที่สุดก็คือว่าเอ๊ะเรามีปัญหาเรื่อง
00:08:23 → 00:08:26 น้ำหนักเยอะหรือเปล่าอ้วนมยหรือว่ามีพวก
00:08:26 → 00:08:29 โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบไหลเวียนโลหิต
00:08:29 → 00:08:30 ความดันสูงอะไรมั้ยอะไรอย่าเงี้ยนะครับ
00:08:30 → 00:08:32 เอ่อพวกนี้ก็เป็นปัจจัยที่ถ้าเกิดว่าเรา
00:08:32 → 00:08:35 มีเนี่ยโอกาสก็จะเป็นเยอะขึ้นก็ต้อง
00:08:35 → 00:08:37 สังเกตอาการตัวเองให้ดีทีนี้อาการของเบา
00:08:37 → 00:08:40 หวานเองเนี่ยหลักๆมันก็จะแบ่งออกได้เป็น 2
00:08:40 → 00:08:42 กลุ่มด้วยกันก็คือกลุ่มของอาการที่เกิด
00:08:42 → 00:08:45 ขึ้นจากการที่เรามีระดับน้ำตาลที่สูงมาก
00:08:45 → 00:08:48 ขึ้นนะคะน้ำตาลที่สูงมากในเลือดเนี่ยมัน
00:08:48 → 00:08:51 จะส่งผลทำให้เรามีปัญหาเรื่องปัสสาวะบ่อย
00:08:51 → 00:08:52 เพราะว่าน้ำตาลมันสูงมากมันก็จะไหลออกทาง
00:08:52 → 00:08:55 ปัสสวะแล้วมันก็จะดึงน้ำออกมาด้วยเพราะ
00:08:55 → 00:08:57 ฉะนั้นเราก็จะมีฉี่บ่อยครับสังเกตได้จาก
00:08:57 → 00:09:00 ข้อนี้เลยนะใช่อันแรกคือข้อข้อนี้นะครับ
00:09:00 → 00:09:02 อย่างถ้าสมมุติว่าสมัยก่อนเราเคยนอนหลับ
00:09:03 → 00:09:05 ได้ทั้งคืนใช่มครับตื่นตอนเช้าไม่ต้องลุก
00:09:05 → 00:09:09 ขึ้นมาฉี่กลางคืนแต่ว่าพอเราเริ่มมีปัญหา
00:09:09 → 00:09:11 เบาหวานเนี่ยเราอาจจะสังเกตเห็นว่าเอ๊ะ
00:09:11 → 00:09:14 ทำไมเราถึงต้องตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำตอน
00:09:14 → 00:09:16 กลางคืนหลายๆรอบอย่างเงี้ยก็ต้องระวังว่า
00:09:16 → 00:09:18 เอ๊ะกลายเป็นว่ามีปัญหาเรื่องน้ำตาลสูง
00:09:18 → 00:09:21 หรือเริ่มเป็นเบาหวานหรือเปล่านะครับเอ่อ
00:09:21 → 00:09:23 ปัสสาวะบ่อยนะครับปัสสาวะปริมาณมากอันนี้
00:09:24 → 00:09:25 เป็นอาการอย่างหนึ่งนอกจากนี้มันก็จะตาม
00:09:25 → 00:09:28 กันมาพอเราปัสสาวะบ่อยเราก็จะสูญเสียน้ำ
00:09:28 → 00:09:30 ใช่มครับเพราะฉะนั้นเราก็จะมีการกระหาย
00:09:30 → 00:09:33 น้ำคอแห้งดื่มน้ำเยอะตามมาด้วยคือเยอะ
00:09:33 → 00:09:35 กว่าปกติอันนี้ก็ต้องระวังว่าเอ๊ะเป็น
00:09:35 → 00:09:38 อาการของเบาหวานหรือเปล่านอกจากนี้เนี่ย
00:09:38 → 00:09:40 น้ำตาลที่สูงเนี่ยมันเป็นตัวบ่งบอกเหมือน
00:09:40 → 00:09:42 กันว่าจริงๆแล้วเราอ่ะไม่สามารถดึงพลัง
00:09:42 → 00:09:45 งานที่เรากินเข้าไปเนี่ยไปใช้ได้เพราะว่า
00:09:45 → 00:09:48 น้ำตาลจริงๆมันต้องถูกดึงเข้าไปใช้ด้วย
00:09:48 → 00:09:50 ฮอร์โมนอินซูลินนะครับใช้เป็นพลังงานหลัก
00:09:50 → 00:09:52 ของร่างกายแต่ว่าถ้ามันทำไม่ได้เนี่ยสิ่ง
00:09:52 → 00:09:54 ที่เกิดขึ้นก็คือร่างกายมันก็จะขาดพลัง
00:09:54 → 00:09:56 งานเราก็จะยังรู้สึกว่าเอ๊ะกินเท่าไหร่ก็
00:09:57 → 00:10:00 ไม่พอก็กินจุหิวบอกปล่อยกินอาหารเยอะขึ้น
00:10:00 → 00:10:04 ร่างกายกับรู้สึกว่าต้องการมากขึ้นใช่ใช่
00:10:04 → 00:10:06 แล้วก็อีกอย่างนึงที่ต้องระวังก็คือว่า
00:10:06 → 00:10:08 ถ้าถึงจุดหนึงพอพลังงานมันไม่เพียงพอ
00:10:08 → 00:10:11 เนี่ยเราก็จะเริ่มมีลักษณะของอาการที่น้ำ
00:10:11 → 00:10:15 หนักลดลงบางคนบอกว่าเอ๊ะก่อนหน้านี้อ้วน
00:10:15 → 00:10:18 ใช่มยเราก็อยากจะลดน้ำหนักตอนนี้ไม่ได้ทำ
00:10:18 → 00:10:20 อะไรเลยนะน้ำหนักก็ลงๆงๆอย่างเงี้ยบางคน
00:10:20 → 00:10:22 คิดว่าดีไม่ต้องทำอะไรแต่ความจริงมันอาจ
00:10:22 → 00:10:25 จะเป็นอาการหนึของเบาหวานแสดงว่ามันมี
00:10:25 → 00:10:27 ภาวะแทรกซ้อนจากโรคอ้วนที่เกิดขึ้นแล้ว
00:10:27 → 00:10:31 เงี้ยครับอันนี้อของอ่าน้ำตาลสูงซึ่งเจอ
00:10:31 → 00:10:34 ได้ในเบาหวานหรือถ้าบางคนเนี่ยเป็นเยอะๆ
00:10:34 → 00:10:36 นะครับจนถึงมีภาวะแทรกซ้อนของเบาหวานเกิด
00:10:36 → 00:10:39 ขึ้นบางคนก็อาจจะเคยได้ยินเบาหวานขึ้นตา
00:10:39 → 00:10:42 ใช่มครับเบาหวานมีผลต่อเท้าปลายประสาท
00:10:42 → 00:10:43 อะไรเงี้ยครับเพราะฉะนั้นก็อาจจะมีอาการ
00:10:43 → 00:10:47 เช่นตาพ่ามัวจากการเสื่อมของจอประสาทตา
00:10:47 → 00:10:50 เป็นแผลแล้วหายากหรือมีอาการชาตามปลายมือ
00:10:50 → 00:10:52 ปลายเท้าจากการเสื่อมของปลายประสาทเงี้ย
00:10:52 → 00:10:55 ค่ะแล้วก็บางคนถ้าน้ำตาลสูงมากๆอาจจะมี
00:10:55 → 00:10:58 ปัญหาเรื่องเลือดเป็นโกรธก็อาจจะมาด้วยหอ
00:10:58 → 00:11:00 ปวดท้องึมอะไรอย่างเงี้ยได้ซึ่งอันนั้นก็
00:11:00 → 00:11:02 เป็นอาการที่อาจจะไม่ได้เจอบ่อยแต่ก็เป็น
00:11:02 → 00:11:04 อาการที่เจอได้ในคนไข้เบาหวานแต่ว่าส่วน
00:11:04 → 00:11:07 ใหญ่ก็เป็นอาการกลุ่มแรกอ่ะคเ่าที่ที่เรา
00:11:07 → 00:11:09 อาจจะมองหาว่าเอ๊ะตัวเองมีไหมนะครับ
00:11:09 → 00:11:12 อาจารย์หมอคะแล้วสำหรับวิธีการรักษาใน
00:11:12 → 00:11:15 ปัจจุบันค่ะวิวัฒนาการทางการแพทย์เองก็
00:11:15 → 00:11:18 ทันสมัยมากขึ้นเราก้าวล้ำต่างๆแล้วสำหรับ
00:11:18 → 00:11:20 เรื่องโรคเบาหวานเนี่ยวิธีการรักษาใน
00:11:20 → 00:11:22 ปัจจุบันเป็นยังไงบ้างคะจริงๆก็คงขึ้น
00:11:22 → 00:11:25 อยู่กับชนิดของเบาหวานด้วยนะครับถ้าเป็น
00:11:25 → 00:11:28 เบาหวานชนิดที่ 1 การรักษาในปัจจุบัน
00:11:28 → 00:11:30 อย่างที่บอกว่าสาเหตุมันเกิดจากการขาด
00:11:30 → 00:11:32 อินซูลินเพราะฉะนั้นก็ต้องให้อินซูลินทด
00:11:32 → 00:11:35 แทนเข้าไปซึ่งในปัจจุบันนี้ก็รูปแบบหลักๆ
00:11:35 → 00:11:37 ที่เราใช้ก็ยังเป็นรูปแบบฉีดก็ต้องใช้ยา
00:11:37 → 00:11:40 ฉีดอินซูลินแต่ว่าก็จะมีวิธีการในการใช้
00:11:40 → 00:11:43 ที่หลากหลายนะครับอ่าจำนวนครั้งในการฉีด
00:11:43 → 00:11:46 ยาก็แตกต่างกันไปแล้วแต่คุณหมอที่ที่ดูแล
00:11:46 → 00:11:49 แล้วก็แล้วแต่วิถีชีวิตไลฟ์สไตล์ของคนไข้
00:11:49 → 00:11:51 แต่ละคนแต่ถ้าเป็นบาวาชนิดที่ 2 เนี่ยการ
00:11:51 → 00:11:54 รักษาหลักๆในปัจจุบันนี้เนี่ยก็ประกอบไป
00:11:54 → 00:11:57 ด้วยอันที่ 1 คือต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
00:11:57 → 00:12:00 สุขภาพเพราะว่าพวนี้อย่างที่บอกว่ายิ่ง
00:12:00 → 00:12:02 อ้วนน้ำำหนักเยอะเนี่ยก็มีความเสี่ยงนะ
00:12:02 → 00:12:04 ครับแล้วก็เรื่องของอาหารการกินมันก็จะ
00:12:04 → 00:12:06 ส่งผลทำให้น้ำตาลมันสูงคุมไม่ได้เพราะ
00:12:06 → 00:12:08 ฉะนั้นก็ต้องปรับเปลี่ยนตรงนี้แล้วก็ร่วม
00:12:08 → 00:12:11 กับการใช้ยาซึ่งถ้าสมมุติว่าไม่ได้รุนแรง
00:12:11 → 00:12:14 มากเนี่ยก็จะมียากินซึ่งในปัจจุบันเนี้ย
00:12:14 → 00:12:17 อ่ายากินก็มีหลากหลายกลุ่มนะครับที่ช่วย
00:12:17 → 00:12:20 ในการลดระดับน้ำตาลหรือว่าช่วยทำให้เอ่อ
00:12:20 → 00:12:23 การควบคุมระดับน้ำตาลเนี่ยทำได้ดีขึ้นแต่
00:12:23 → 00:12:25 ถ้าสมมุติว่ายังควบคุมไม่ได้เก็จะต้อง
00:12:25 → 00:12:28 สต็ปมาเป็นพวกยาฉีดต่างๆซึ่งตอนนี้ก็มี
00:12:28 → 00:12:30 หลายกลุ่ม
00:12:30 → 00:12:36 ทั้งพกรูนโดยตงที่จะช่วทำให้น้ำตามันงที่
00:12:36 → 00:12:38 มายิ่งขึ้นรวมถึงฮอร์โมนตัวอื่นๆที่จะ
00:12:38 → 00:12:41 ช่วยเรื่องของการควบคุมน้ำหนักแล้วก็การ
00:12:41 → 00:12:43 ควบคุมระดับน้ำตาลด้วยครับเพั้นมันก็จะมี
00:12:43 → 00:12:46 หลายอย่างให้ให้เลือกใช้ก็คงต้องขึ้นอยู่
00:12:46 → 00:12:51 กับอาการความรุนแรงของคนไข้แต่ละคนแล้วก็
00:12:51 → 00:12:53 การประเมินของแพทย์ผู้ดูแลครับอย่างที่
00:12:53 → 00:12:57 ทราบกันดีค่ะโรคเบาหวานใครที่ได้เป็นคนไข
00:12:57 → 00:12:59 กลุ่มนี้แล้วไม่ได้รักษาหายกันง่ายเป็น
00:13:00 → 00:13:03 การรักษาระยะยาวด้วยใครที่ยังไม่ได้เป็น
00:13:03 → 00:13:05 โรคนี้นะคะผู้ฟังท่านไหนที่มาเจอ podcast
00:13:05 → 00:13:09 ตอนที่รู้สึกว่ายังมีโอกาสที่จะได้กลับไป
00:13:09 → 00:13:12 ดูแลร่างกายตัวเองก็ยังทันเวลานะคะแต่
00:13:12 → 00:13:14 อย่างที่อาจารย์หมอได้กล่าวมาเลยค่ะว่า
00:13:14 → 00:13:16 เป็นเรื่องของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมซึ่ง
00:13:16 → 00:13:19 ไม่ได้ทำแค่วัน 2 วันเท่านั้นคนๆนึง
00:13:19 → 00:13:22 จำเป็นที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนระยะยาว
00:13:22 → 00:13:25 แล้วก็ดูแลตัวเองไปเรื่อยๆนะคะการที่ไม่
00:13:25 → 00:13:28 เป็นโรคก็เป็นลาภอันประเสริฐนั่นเองค่ะ
00:13:28 → 00:13:31 ใช่ครับมาถึงคำถามสุดท้ายแล้วค่ะอาจารย์
00:13:31 → 00:13:33 หมอคะเชื่อว่าตรงนี้ค่ะต้องโน้ตไว้แน่ๆ
00:13:33 → 00:13:36 สำหรับใครที่อยากจะห่างไกลจากโลกนี้ค่ะ
00:13:36 → 00:13:39 เราสามารถป้องกันตัวเองและคนที่เรารักได้
00:13:39 → 00:13:41 ยังไงบ้างซึ่งอาจารย์หมอก็ได้เกิดมาบ้าง
00:13:41 → 00:13:44 แล้วนะคะใช่ก็คิดว่าคงคงสรุปง่ายๆอย่าง
00:13:44 → 00:13:47 งี้ครับว่าจริงๆแล้วเราก็ต้องพยายามดูแล
00:13:47 → 00:13:50 ตัวเองให้มีร่างกายที่แข็งแรงแล้วก็มี
00:13:50 → 00:13:53 พฤติกรรมสุขภาพที่ดีนะครับไม่ให้มีปัญหา
00:13:53 → 00:13:56 เรื่องโรคอ้วนน้ำหนักเกินอะไรเงี้ยนะครับ
00:13:56 → 00:13:59 รวมถึงเ่อโรคอื่นๆที่มันจะเกิดเมาเป็น
00:13:59 → 00:14:01 แพคเจเช่นความดันสูงไขมันสูงอะไรเงี้ซึ่ง
00:14:01 → 00:14:03 พวกนี้มันมาด้วยกันหมดทีเราจะทำยังไง
00:14:03 → 00:14:06 เพื่อให้เราไม่มีความเสี่ยงนั้นเนาฟังดู
00:14:06 → 00:14:09 เหมือนถ้าพูดแล้วเนี่ยก็จะเป็นอะไรที่ทุก
00:14:09 → 00:14:12 คนก็คุ้นเคยอยู่แล้วแต่ว่าก็อ่ะย้ำอีกที
00:14:12 → 00:14:13 นึงแล้ว
00:14:13 → 00:14:16 กันรู้เนี่ยรู้เข้าใจว่าทุกคนน่าจะรู้แต่
00:14:16 → 00:14:19 ว่าทำได้ไม่ได้เนี่ยอีกเรื่องนึงนะครับเ
00:14:19 → 00:14:22 อันแรกคือก็ต้องควบคุมอาหารสำคัญมากรับ
00:14:22 → 00:14:25 ประทานอาหารแต่พอดีไม่มากหรือว่าไม่น้อย
00:14:25 → 00:14:27 เกินไปก็คือไม่ให้มีภาวะน้ำหนักเกินหรือ
00:14:27 → 00:14:31 อ้วนนะครับซึ่งก็ทำได้ดยการที่เลือกอาหาร
00:14:31 → 00:14:34 ที่เหมาะสมใช่มครับคือคนเราอ่ะต้องการ
00:14:34 → 00:14:37 พลังงานจากอาหารแต่ว่าพลังงานที่ได้เข้า
00:14:37 → 00:14:39 ไปเนี่ยก็ควรจะเป็นพลังงานที่ดีอาหารที่
00:14:39 → 00:14:41 ให้พลังงานทั้งคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมัน
00:14:41 → 00:14:44 เนี่ยก็ควรจะเลือกให้มีการมีความหลากหลาย
00:14:44 → 00:14:46 แล้วก็มีการกระจายตัวอย่างเหมาะสมแต่ละ
00:14:46 → 00:14:48 ตัวก็ต้องเลือกให้เหมาะสมเช่นน้ำตาลหรือ
00:14:48 → 00:14:50 ว่าคาร์โบไฮเดรตเนี่ยถ้าเป็นไปได้ก็เลือก
00:14:51 → 00:14:54 ชนิดที่อ่าค่าดัชนีน้ำตาลต่ำยกตัวอย่าง
00:14:54 → 00:14:56 เช่นสมมุติถ้ากินข้าวอย่างเงี้ยพวกข้าว
00:14:56 → 00:15:00 กล้องข้าวซ้อมมือก็อาจจะดีกว่าข้าวขาวที่
00:15:00 → 00:15:02 มีการขัดสีขนมปังฮวีอะไรเงี้ยก็อาจจะดี
00:15:02 → 00:15:04 กว่าเอ่อขนมปังขาวอะไรอย่าเงี้ยเป็นต้นนะ
00:15:04 → 00:15:08 ครับมันก็จะมีการปล่อยน้ำตาลที่อาจจะดี
00:15:08 → 00:15:10 กว่าโปรตีนก็ควรจะเลือกโปรตีนที่เป็น
00:15:10 → 00:15:12 โปรตีนคุณภาพเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันอย่า
00:15:12 → 00:15:14 เงี้ยนะครับแล้วก็พวกไขมันก็พยายามเลือก
00:15:14 → 00:15:16 ไขมันชนิดที่มันไม่อิ่มตัวแล้วก็หลีก
00:15:16 → 00:15:19 เลี่ยงพวกไขมันทรานซ์นะครับแล้วก็อย่าลืม
00:15:19 → 00:15:22 ว่าก็ต้องรับประทานพวกผักผลไม้ให้เพียงพอ
00:15:22 → 00:15:24 ด้วก็คือเรื่องของการควบคุมอาหารนะครับ
00:15:24 → 00:15:27 แล้วก็ที่สำคัญอีกอย่างนึงกินเข้าไปแต่
00:15:27 → 00:15:29 ไม่ได้ใช้ออกก็อ้วน
00:15:29 → 00:15:33 อั้นก็ต้องพยามที่จะกิจกรรมนะครับเชออก
00:15:33 → 00:15:35 กำลังกายให้เพียงพอนะครับซึ่งการออกกำลัง
00:15:35 → 00:15:38 กายเนี่ยจริงๆก็แนะนำให้ทำทุกช่วงอายุแต่
00:15:38 → 00:15:40 ว่าแต่ละช่วงอายุเนี่ยก็อาจจะมีวิธีการ
00:15:40 → 00:15:42 ออกกำลังกายที่เหมาะสมที่แตกต่างกันเช่น
00:15:42 → 00:15:44 อายุน้อยๆอาจจะทำได้เต็มที่ใช่มครับแต่
00:15:45 → 00:15:47 ถ้าอุเยหน่อยเนี่ยก็อาจจะต้องระมัดระวัง
00:15:47 → 00:15:48 เรื่องของอุบัติเหตุแต่เราก็ยังแนะนำว่า
00:15:49 → 00:15:51 ควรจะออกกำลังกายเนี่ยอย่างน้อยสัปดาห์ละ
00:15:51 → 00:15:53 2-3 ครั้งนะครับครั้งละอย่างน้อยประมาณ
00:15:53 → 00:15:56 สักครึ่งถึง 1 ชมงนะครับเพื่อที่จะให้มี
00:15:56 → 00:15:59 โอกาสในการที่จะได้ใช้พลังงานที่เราเก็บ
00:15:59 → 00:16:01 สะสมหรือว่ากินเข้าไปเนี่ยออกไปด้วยใช่ม
00:16:01 → 00:16:04 ครับแล้วก็อีกอันนึงที่คู่กันไปด้วยก็คือ
00:16:04 → 00:16:07 ว่าเราต้องพยายามลดพฤติกรรมบางอย่างที่
00:16:07 → 00:16:09 ถ้าเป็นภาษาทางการแพทย์เราเรียกพฤติกรรม
00:16:09 → 00:16:10 เนื่อยนิ่งหรือว่าภาษาอังกฤษเรียกว่า
00:16:10 → 00:16:13 sedentary Lifestyle ก็คือการอยู่นิ่งๆ
00:16:13 → 00:16:16 เฉยๆซึ่งฟังดูเหมือนแบบใครมันจะไปอยู่
00:16:16 → 00:16:18 นิ่งๆเฉยๆแต่เอาเขจริงถ้าเราย้อนกลับไปดู
00:16:18 → 00:16:21 ในชีวิตเราเนี่ยส่วนใหญ่อ่ะเวลาของวันของ
00:16:21 → 00:16:23 เราเนี่ยอยู่กับพฤติกรรมแบบนี้เยอะมากเลย
00:16:23 → 00:16:26 นะครับเช่นคนที่ทำงานเนี่ยส่วนใหญ่เวลาทำ
00:16:26 → 00:16:29 งานก็จะนั่งอยู่ทำงานงคอมพิวเตอรหรืออะไร
00:16:29 → 00:16:31 อย่าเงี้นะครับอันเนี้ยเราก็นิ่งอยู่นาน
00:16:31 → 00:16:34 ถูกมครับนอกจากนี้เนี่ยเวลาเราใช้เวลา
00:16:34 → 00:16:36 ว่างเนี่ยในปัจจุบันนี้เวลาว่างของเรา
00:16:36 → 00:16:39 เนี่ยก็ใช้การอยู่กับที่เป็นหลักเช่นดู
00:16:39 → 00:16:42 netflix บ้างใช่่มครับดูทีวีบ้างดู
00:16:42 → 00:16:44 YouTube บ้างหรือบางคนไถโซเชียล Media
00:16:44 → 00:16:47 เป็นชั่วโมงเลยอย่างเงี้ยใช่มั้ยครับซึ่ง
00:16:47 → 00:16:49 ก็เป็นพฤติกรรมเริ่งก็อยู่เฉยๆเลยครับ
00:16:49 → 00:16:51 เพราะฉะนั้นจริงๆนับเวลาจริงๆอาจจะเอ่อ
00:16:52 → 00:16:54 ทั้งวันเลยอ่ะที่เราแทบไม่ได้เคลื่อนไหว
00:16:54 → 00:16:57 ร่างกายเพราะฉะนั้นเราก็ต้องลดพฤติกรรม
00:16:57 → 00:16:59 เหล่านี้นะครับส่ใหเคแนะนำว่าอย่างน้อย
00:16:59 → 00:17:02 ที่สุดวิธีการง่ายๆก็คือนับไปเลยทุกๆ 1
00:17:02 → 00:17:04 ชั่วโมงที่ผ่านไปเนี่ยครับเราควรจะได้ลุก
00:17:05 → 00:17:07 เดินเปลี่ยนอิริยาบถใช่มั้ยครับอย่างน้อย
00:17:07 → 00:17:10 สักชั่วโมงละครั้งแล้วก็ถ้าสมมุติว่าเรา
00:17:10 → 00:17:12 ต้องอยู่หน้าจอเนี่ยจริงๆเแนะนำเลยนะครับ
00:17:12 → 00:17:15 ว่าอถ้าไม่นับการทำงานบางคนต้องทำงานหน้า
00:17:15 → 00:17:17 จออนั้นอาจจะจะยกไว้แต่ว่านอกเหนือจาก
00:17:17 → 00:17:19 นั้นเนี่ยเราไม่ควรจะใช้เวลาอยู่หน้าจอ
00:17:19 → 00:17:21 เกิน 2 ช่วโมงต่อวันอย่างเงี้ยมันถ้าเรา
00:17:21 → 00:17:23 กำหนดตัวเองได้แบบเนี้ยเวลาที่เหลืออยู่
00:17:23 → 00:17:26 เราก็ต้องไปทำอะไรอย่างอื่นที่มันมี
00:17:26 → 00:17:28 เหมือน Active มากยิ่งขึ้นอย่างเงี้ยมัน
00:17:28 → 00:17:32 ก็ช่วยทำให้เ่อการเผาผลาญพลังงานมันดี
00:17:32 → 00:17:34 ขึ้นก็ช่วยป้องกันเรื่องของโรคอ้วนได้อีก
00:17:34 → 00:17:37 อันนึงคือพวกพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆที่อาจจะ
00:17:37 → 00:17:39 ส่งผลต่อโรคกลุ่มนี้เนี่ยก็มีทั้งเรื่อง
00:17:39 → 00:17:42 ของการสูบบุหรี่นะครับการดื่มเครื่องดื่ม
00:17:42 → 00:17:45 พวกแอลกอฮอล์ต่างๆพวกเก็เป็นปัจจัยเสี่ยง
00:17:46 → 00:17:48 ที่อาจจะส่งผลทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการ
00:17:48 → 00:17:51 ที่จะเกิดพวกโรคเบาหวานแล้วก็โรคอื่นๆที่
00:17:51 → 00:17:53 มาทั้งแพคเกจอย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้
00:17:53 → 00:17:55 เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถที่จะหลีกเลี่ยง
00:17:55 → 00:17:58 ได้ก็จะทำให้เราห่างไกลเบาหวานได้มามาก
00:17:58 → 00:18:00 ยิ่งขึ้นนะครับค่ะเป็นช่วงเวลาที่มีคุณ
00:18:00 → 00:18:03 ค่ามากๆเลยค่ะทำให้เราได้เอดใจกับหลายๆ
00:18:03 → 00:18:06 เรื่องนะคะหลายคนที่กำลังฟังพแสอยู่จาก
00:18:06 → 00:18:09 ที่นอนฟังอาจจะลุกขึ้นมาขยับตัวที่
00:18:09 → 00:18:11 อาจารย์หมอกล่าวมาเราพยายามดู 1 ชั่วโมง
00:18:11 → 00:18:14 นี้เราได้ขยับตัวบ้างหรรือยังเราอาจจะตก
00:18:14 → 00:18:17 อยู่ในสถานการณ์นั้นจนคิดว่าเป็นเรื่อง
00:18:17 → 00:18:21 ปกติค่ะอ้าก็กิจกรรมนี้ใครๆเขาก็เป็นใครๆ
00:18:21 → 00:18:23 เขาก็ทำหรือทางเลือกของโภชนาการเองด้าน
00:18:23 → 00:18:27 โภชนาการบางทีเราเองก็ละเลยค่ะมองว่าก็
00:18:27 → 00:18:30 กินกันแบบนี้เพื่อนกินแบบนี้ก็กินแบบนี้
00:18:30 → 00:18:32 มาด้วยกันเอ๊ะทำไมเพื่อนไม่อ้วนเลยแฮะ
00:18:32 → 00:18:35 อะไรอย่างเงี้ยค่ะการออกกำลังกายนะคะแต่
00:18:35 → 00:18:38 ละช่วงวัยแต่ละความเหมาะสมเป็นเรื่องที่
00:18:38 → 00:18:41 ทำได้ค่ะและก็ไม่ได้ยากเลยก็ขอเป็นกำลัง
00:18:41 → 00:18:44 ใจให้กับผู้ฟังทุกท่านด้วยนะคะเป็นช่วง
00:18:44 → 00:18:46 เวลาที่มีความหมายมากๆค่ะต้องขอบพระคุณ
00:18:46 → 00:18:49 อาจารย์หมอมากๆนะคะสวัสดีค่ะครับสวัสดี
00:18:49 → 00:18:53 ครับ med cmu podcast f for help
00:18:53 → 00:18:57 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:18:57 → 00:19:00 เรา
00:19:00 → 00:19:03 y