00:00:16 → 00:00:54 A
00:00:54 → 00:00:56 สวัสดีครับสดีต้อนรับเข้าสู่ Healthy
00:00:57 → 00:00:59 Friday ครับพบกันอีกแล้ววันศุกร์สุขภาพ
00:00:59 → 00:01:02 ดีให้คุผู้ชมนั้นอยู่ดีด้วยอาหารการกิน
00:01:02 → 00:01:04 อันนี้สำคัญมากนะครับเพราะบางคนอยู่แล้ว
00:01:04 → 00:01:07 ไม่ดีเพราะว่าอาหารที่กินเข้าไปมันทำให้
00:01:07 → 00:01:10 ป่วยก็เป็นอย่างงั้นได้เหมือนกันนะครับ
00:01:10 → 00:01:11 และพี่ป้องก็อยู่กับเราเช่นเคยครับคุณ
00:01:11 → 00:01:14 ชนิกาวงษ์วานิชนักกำหนดอาหารและอาจารย์
00:01:14 → 00:01:18 พิเศษสถาบันวชนาการมหาวิทยาลัยมหิดลครับ
00:01:18 → 00:01:20 สวัสดีนะครับพี่ป้อมครับสวัสดีค่ะคุณแท
00:01:20 → 00:01:22 ค่ะวันนี้รบกวนพี่ป้อมอีกครั้งนึงนะครับ
00:01:22 → 00:01:25 เพราะเป็นโรคหรือเป็นอาการของคนที่เรียก
00:01:25 → 00:01:28 ว่าโรคคเมืองทันสมัยอ่ะเออโรคคนเมืองอ่ะ
00:01:28 → 00:01:31 ที่ต้องแข่งขันกันตลอดเเวาแข่งขันกันเร็ว
00:01:31 → 00:01:34 ต้องทำงานต้องหาเงินต้องเลี้ยงครอบครัว
00:01:34 → 00:01:37 ต้องอะไรสารพัดจนลืมลืมกินใชใช่ลืมกิน
00:01:37 → 00:01:40 ข้าวลืมรับประทานอาหารไม่ได้ดูแลตัวเอง
00:01:40 → 00:01:42 สิ่งที่เกิดขึ้นคือโรคกระเพาะอาหารนี่
00:01:42 → 00:01:45 แหละครับเป็นโรคที่บางคนเป็นแล้วก็ไม่รู้
00:01:45 → 00:01:49 ตัวด้วยแต่มันค่อยๆใช่มค่อยๆสั่งสมมานาน
00:01:49 → 00:01:52 คะจริงๆมันมันมันยังไงฮะมันเกิดจากอะไร
00:01:52 → 00:01:53 ทำไมอยู่ดีคนเราเป็นโรคกระเพาะหรือปวด
00:01:53 → 00:01:56 ท้องมากเลยมันเป็นเป็นเพราะอะไรครับโรค
00:01:56 → 00:01:58 กระเพาะในปัจจุบันนี้เนี่ยเขาก็เชื่อว่า
00:01:58 → 00:02:00 มันเกิดจากการติดเชื่อ
00:02:00 → 00:02:03 แบคทีเรียชนิดหนึ่งชื่อว่าเอ่อ
00:02:03 → 00:02:05 เฮลิโคแบคเตอร์
00:02:05 → 00:02:09 ไรลนะคะหรือว่า H ไลายอ้าแล้วเราไปกิน
00:02:09 → 00:02:11 อะไรมาติดเชื้อแบคทีเรียนี่มาได้ยังไง
00:02:11 → 00:02:14 ครับเขาเชื่อว่าติดเชื้อเนี่ยบางทีติดมา
00:02:14 → 00:02:17 ตั้งแต่เด็กเลยแต่ไม่แสดงอาการอ๋อมันมี
00:02:17 → 00:02:20 อยู่แล้วในร่างกายใช่ส่วนมากก็คือเกิดจาก
00:02:20 → 00:02:22 การดื่มน้ำที่ไม่สะอาดอันที่ 1 นะที่เจอ
00:02:22 → 00:02:27 กันบ่อยๆหรือบางทีเนี่ยเ่อการที่เราได้
00:02:27 → 00:02:30 อาหารที่ไม่สะอาดนะคะเล้างไม่สะอาดแม่
00:02:30 → 00:02:34 ครัวหรือว่าคนขายเพราะฉะนั้นเนี่ยเาก็เลย
00:02:34 → 00:02:38 อ่าให้กินร้อนช้อนกลางล้างมืออ๋อให้แบบ
00:02:38 → 00:02:40 นี้นะคะเพราะเวลาบางทีเราอาจจะไปติดจาก
00:02:40 → 00:02:45 อุจจาระหรืออาเจียนของคนที่มีเชื้ออือ่า
00:02:45 → 00:02:47 แล้วก่อนจะทานอาหารเราก็ล้างมืออีกครั้ง
00:02:47 → 00:02:50 นึงกินอาหารร้อนที่มันสุกแล้วดื่มน้ำ
00:02:50 → 00:02:52 สะอาดอะไรอย่างเงี้ยนะคะอ้าวแล้วที่บอก
00:02:52 → 00:02:55 ว่าอ้าพอเราไม่ไม่ได้กินข้าวเป็นเวลามัน
00:02:55 → 00:02:57 ปวดท้องอ่ะอันนี้เป็นโรคกระเพาะนนมันเป็น
00:02:57 → 00:03:00 ไเสมอ๋อนั่นเป็นตัวเสริมต่างหากใช่บางคน
00:03:00 → 00:03:03 ก็อาจจะเกิดจากการที่ทานยาแก้ปวดเป็น
00:03:03 → 00:03:06 ประจำอันเนี้ยที่เราเจอกันบ่อยๆนะคะซึ่ง
00:03:06 → 00:03:09 มันอาจจะทำให้เกิดแผลก็ได้ไม่เกิดแผลก็
00:03:09 → 00:03:11 ได้นั่นน่ะสิครับหรือว่าน้ำย่อยออกมาพอ
00:03:11 → 00:03:13 ไม่กินข้าวน้ำย่อยออกมาไม่มีอาหารไปให้
00:03:13 → 00:03:16 น้ำย่อยมามาย่อยก็เลยย่อยกระเพาะซะ
00:03:16 → 00:03:18 กระเพาะก็เลยทะลุเป็นรูนี่เป็นโรคกระเพาะ
00:03:18 → 00:03:21 อันนี้ก็จะเป็นเ่อเหมือนเป็นปัจจัยเสริม
00:03:21 → 00:03:25 หรืออาหารเผ็ดอาหารร้อนใช่มั้ยคะเผ็ดร้อน
00:03:25 → 00:03:27 พวกเนี้ยค่ะหรืออาหารรสจัดพวกนี้ก็จะเป็น
00:03:27 → 00:03:28 ตัว
00:03:28 → 00:03:32 เสริมเป็นปัจจัยหลักอ๋อนี่ปัจจัยหลาย
00:03:32 → 00:03:35 อย่างมันมาเสริมกันให้เป็นงี้ได้ใช่โอถ้า
00:03:35 → 00:03:38 งั้นเราต้องดูแลอาหารการกินต้องยิ่งดูให้
00:03:38 → 00:03:41 ให้ดียิ่งขึ้นพี่ป้อมก็เลยนึกถึงคนไข้
00:03:41 → 00:03:45 เด็กน้อยสัก 10 ขวบได้ปัญหาในเมืองจริงๆ
00:03:45 → 00:03:49 นะเป็นยังไงฮะเด็กนี่ก็คือตื่นก็ต้องรีบ
00:03:49 → 00:03:53 ตื่นใช่มั้คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องแบบโอแต่ง
00:03:53 → 00:03:55 ตัวแล้วเรบายังยังไม่ตื่นเลยยังไม่ตื่น
00:03:56 → 00:03:58 เลยจับแต่งตัวขึ้นรถใช่ขึ้นรถกันแล้วอะไร
00:03:58 → 00:04:01 อย่างเงี้ยกินในรสบ้างอะไรบ้างอย่าเงี้
00:04:01 → 00:04:04 ใช่บางทีไม่ได้ทานข้าวเช้าเด็กอ่ะนะคะอัน
00:04:04 → 00:04:07 นี้คือเป็นปัญหาเลยที่เราไม่ได้ทานหรือ
00:04:07 → 00:04:11 บางทีได้ทานข้าวเช้าไปเร่งทานในรถออ๋ออ่า
00:04:11 → 00:04:13 การเร่งทานเนี่ยค่ะมันก็ทำให้อาหารอะไร
00:04:14 → 00:04:17 ต่างๆเก็คือไม่ย่อยย่อยลำบากด้วยแปลว่า
00:04:17 → 00:04:19 การรับประทานอาหารให้ตรงเวลาก็ยังจำเป็น
00:04:19 → 00:04:21 อยู่ใช่ยังจำเป็นอยู่แต่ในขนเดียวกันก็
00:04:21 → 00:04:23 ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้เป็นโรคกระเพาะ
00:04:23 → 00:04:26 ใช่ค่ะอาจจะมีเชื้อโรคมีแบคทีเรียจากการ
00:04:26 → 00:04:29 ที่กินไม่ถูกสุขสุขลักษณะไม่สุขอะไรต่าง
00:04:29 → 00:04:31 ๆ่ดเรื่องนี้คือเรื่องที่สำคัญแล้วก็
00:04:31 → 00:04:34 เรื่องที่จำเป็นเมื่อประมาณสัก 10 กว่าปี
00:04:34 → 00:04:35 ที่แล้วเนี่ยจะมีเยอะแต่เดี๋ยวนี้เนี่ย
00:04:35 → 00:04:38 เ่อความชุกก็จะเริ่มน้อยลงเพราะว่าเ่อทาง
00:04:38 → 00:04:41 กระทรวงสาธารณสุขก็รณรงค์ใช่มั้กินร้อน
00:04:41 → 00:04:45 ช้อนกลางล้างมืองั้นวันนี้เราล้างมือ
00:04:45 → 00:04:48 เรียบร้อยแล้วเราก็จะมากินร้อนกันค่ะ
00:04:48 → 00:04:51 เพราะเมนูวันนี้จะคืออะไรครับวันนี้เราจะ
00:04:51 → 00:05:04 ทำเมนูโจ๊กข้าวกล้อง 3 สหายค่ะ
00:05:04 → 00:05:07 โจ๊กนี่พอนึกออกโจ๊กเข้ากล้องอ่าใช้ข้าว
00:05:07 → 00:05:09 กล้องมาทำแต่ 3 สหายที่ว่าคืออะไรครับ 3
00:05:09 → 00:05:12 สหายก็ล้วนแต่เป็นอาหารย่อยง่ายของเรานะ
00:05:12 → 00:05:17 คะอันได้แก่ปลาซอนคะไข่แล้วก็เป็นวากะห
00:05:18 → 00:05:21 สาหร่ายสาหร่ายนะคะเป็นสาหร่ายก็เป็นเส้น
00:05:21 → 00:05:55 ใหญ่อาหารที่ละลายน้ำได้
00:05:55 → 00:05:59 ดูแล้วก็ไม่น่าจะยากเท่าไหร่แต่วิธีการทำ
00:05:59 → 00:06:01 ต้องมีขั้นตอนเล็กน้อยใช่มั้ยฮะมีขั้นตอน
00:06:01 → 00:06:02 เล็ก
00:06:02 → 00:06:05 น้อยมคเริ่มจากเราต้มข้าวกันก่อนเลยนะดี
00:06:05 → 00:06:08 ครับนี่พี่ใช้ข้าวข้าวเป็นข้าวกล้องอ่า
00:06:08 → 00:06:11 เป็นข้าวกล้องค่ะอันนี้คือเอาจจะผสมเล็กๆ
00:06:11 → 00:06:14 ค่ะอะไรงี้ตำอ๋อตำเลยเหรอฮะใช่การแพทย์
00:06:14 → 00:06:16 ทางเลือกเนี่ยเค้าก็บอกว่าการตำเนี่ยมัน
00:06:16 → 00:06:20 จะทำให้เราได้คุณค่าทางอ่าโภชนาการเนี่ย
00:06:20 → 00:06:24 ที่มากขึ้นได้สารอาหารได้ตัวยาที่ดีแต่ใน
00:06:24 → 00:06:27 ทางการแพทย์แผนปัจจุบันก็คือเราก็สามารถ
00:06:28 → 00:06:30 ที่จะทานได้ทุกรูปแบบ
00:06:30 → 00:06:31 อ้าวเพราะฉะนั้นเราตำเพราะว่าเราทำเป็น
00:06:32 → 00:06:37 โจ๊กด้วยตใช่
00:06:37 → 00:06:41 ผมแล้วเราก็ใส่ข้าวกล้องลงไปเลยนะครับค
00:06:41 → 00:06:45 ใส่ข้าวกล้องไปเลยแล้วก็ต้มไว้เลยล่ะฮะ
00:06:45 → 00:06:48 แล้วก็คนคนแล้วก็รอเ้าสุกครับค่ะคือขั้น
00:06:48 → 00:06:51 ตอนต้มนี่ใช้เวลานานมั้ยฮะค่ะก็เป็นครึ่ง
00:06:51 → 00:06:53 ชั่วโมงเนาะครึ่งชั่วโมงอือแล้วเราก็
00:06:54 → 00:06:56 ปล่อยทิ้งไว้ก่อนป่อยทิ้งไว้ก่อนระหว่าง
00:06:56 → 00:07:00 นี้ครับพี่ป้อมค่ะผมก็ได้เอาเสัตว์มา 2
00:07:00 → 00:07:05 จานก็คือเนื้อหมูและเนื้อปลาแซลมอนค่ะวาง
00:07:05 → 00:07:08 คู่กันแล้วพูดถึงอาหารที่ที่ดีกับคนที่
00:07:08 → 00:07:10 เป็นโรคกระเพาะเนี่ยควจะเป็นอาหารที่ย่อย
00:07:10 → 00:07:13 ง่ายใช่มั้ยอ่าถ้าสมมุติว่าเ้าปวดท้องมาก
00:07:13 → 00:07:16 เมีอาการมากอย่างเงี้ยค่ะหรือว่ามีแผลใน
00:07:16 → 00:07:18 กระเพาะร่วมด้วยอย่างเงี้ยเราก็อาจจะต้อง
00:07:18 → 00:07:21 เป็นอาหารอ่อนย่อยง่ายหน่อยนะคะเนื้อ
00:07:21 → 00:07:24 สัตว์ที่เราเลือกเนี่ยก็อาจจะเป็นปลาะก็
00:07:24 → 00:07:29 ได้นะคะใช่ย่อยง่ายกว่าย่อยง่ายกว่าเนื้อ
00:07:29 → 00:07:33 หมูนะถ้าเป็นหมูชิ้นเนี่ยมันก็จะใช้เวลา
00:07:33 → 00:07:37 ย่อยหน่อยนะแต่ถ้าสมมติว่าเราปรับเป็นสับ
00:07:37 → 00:07:43 หรือบดนะคะอก็ดีขึนก็จะดีขึ้นอ้าดูผิวของ
00:07:43 → 00:07:45 ปลาเนี่ยนะฮะอันนี้คือเป็นชิ้นใหญ่ๆมา
00:07:45 → 00:07:48 เหมือนกันอย่างงี้นะฮะนี่เก็ง่ายเลยนะ
00:07:48 → 00:07:51 ครับก็จะนี่เหมือนในกระเพาะเวลาบีบรัด
00:07:51 → 00:07:54 แล้วก็ย่อยอย่าเงี้ก็จะง่ายอย่างเงี้นะฮะ
00:07:54 → 00:07:58 อือ่ะมาลองมาดูหมูกันบ้างนะครับหมูเนี่ย
00:07:58 → 00:08:02 ถ้ามันกระเพาะก็พยจะออหอ่าอหคือถ้ากิน
00:08:02 → 00:08:05 ชิ้นอย่างนี้คงไม่ไหวเนาะนะคะเราเทียบกัน
00:08:05 → 00:08:07 ว่าอ่าอันนึงก็เป็นชิ้นหนาเหมือนกันอีก
00:08:07 → 00:08:10 อันก็หนาเนี่ยมันเทียบกันแต่ว่าแน่นอนว่า
00:08:10 → 00:08:13 พอไปอยู่ในกระเพาะอาหารของเราเนี่ยด้วย
00:08:13 → 00:08:16 ความที่คือเหมือนเส้นใหญ่ของค่ะของเนื้อ
00:08:17 → 00:08:19 แต่ละชนิก็ต่างกันใช่มั้ต่างกันอันนี้
00:08:19 → 00:08:21 เค้าก็จะย่อยยากหน่อยยากหน่อยแต่ถ้า
00:08:21 → 00:08:24 สมมุติว่าเอามาสับเอามาบดอย่างเงี้ยค่ะ
00:08:24 → 00:08:27 มันจะดีขึ้นมั้ยฮะได้หมดเลยได้คสามารถทัน
00:08:27 → 00:08:30 ได้เป็นโรคกระเพาะอาหารเนี่ยถ้าเกิดอยาก
00:08:30 → 00:08:33 รับประทานจำพวกเนี่ยเนื้อหมูอะไรต่างๆก็
00:08:33 → 00:08:36 ทำให้มันละเอียดขึ้นสักบดอะไรต่างๆใช่
00:08:36 → 00:08:39 หรือว่าเป็นชิ้นเล็กๆก็ได้นะเพื่อความรวด
00:08:39 → 00:08:42 เร็วเมื่อต้มได้ถึงเวลานึงแล้วนะครับเรา
00:08:42 → 00:08:45 ก็จะข้าวของเราก็จะเป็นแบบนี้เป็นข้าว
00:08:45 → 00:08:47 กล้องที่ผ่านการต้มมาเรียบร้อยนะครับก็จะ
00:08:47 → 00:08:49 เป็นอย่างงนี้จากนั้นยังไงต่อครับเราก็
00:08:49 → 00:08:52 เอาน้้ำซุปมาน้ำซุปนะฮนี่เป็นซุปเป็นน้ำ
00:08:52 → 00:08:55 ซุปไก่ซุปไก่นะครับ
00:08:55 → 00:08:59 ค่ะโอเคใส่ไปครึ่งนึงจากนั้นครับรอให้
00:08:59 → 00:09:05 เดือดจากนั้นเราก็รอให้เค้าเดือดก่อนนะ
00:09:05 → 00:09:09 คะใส่ข้าวกล้องที่เราซ่อมแล้วนะครับให้
00:09:09 → 00:09:16 หมดเลยนะ
00:09:16 → 00:09:20 ครับอาหารที่มีเส้นใยอาหารเยอะอ่ะค่ะมัน
00:09:20 → 00:09:22 ก็จะช่วยป้องกันนะมีงานการศึกษาวิจัยที่
00:09:22 → 00:09:25 บอกว่ามันจะช่วยป้องกันเรื่องของโรค
00:09:25 → 00:09:30 กระเพาะได้ด้วยอ๋อเหรอฮะค่ะอออ่าตไปเราก็
00:09:30 → 00:09:33 ใส่อ่าเราใส่ทั้งหมดไปเลยแล้วกันใส่ผัก
00:09:33 → 00:09:36 ค่ะใส่ผักใส่เผือกไปด้วยเอาเผือกมาต้ม
00:09:36 → 00:09:38 เผือกเผือกนี่ก็ต้มมาแล้วนะครับค่ะเผือก
00:09:38 → 00:09:41 ต้มมาแล้วนะคะก็จะทำให้รสชาติเ้าหวานแล้ว
00:09:41 → 00:09:43 ก็อร่อยขึ้นเนาะครับปกติเผือกนี่ใช้เวลา
00:09:43 → 00:09:45 ต้มนานหน่อยใช่ค่ะอันนี้เราต้มมาแล้ว
00:09:46 → 00:09:50 เรียบร้อยเราใส่อ่าเจ้าตัวผักอ่าแล้วก็
00:09:50 → 00:09:53 เห็ดลงมาแล้วก็ปรุง
00:09:53 → 00:09:58 รสแครอทนะครับค่ะใส่แครอทลงไปใส่เห็ดเห็ด
00:09:58 → 00:10:02 หอมใส่ลงไปเห็ดหอมนะครับค่ะเห็ดหอมอ่า
00:10:02 → 00:10:06 แล้วก็วากกะมะนะคะเป็นสาหร่ายนะก็จะทำให้
00:10:06 → 00:10:09 เราได้เส้นใหญ่อาหารที่ย่อยง่ายด้วยเนาะ
00:10:09 → 00:10:12 เดี๋ยวนี้คนชอบทานกันเนครับส่วนปลาเนี่ย
00:10:12 → 00:10:14 เดี๋ยวลงทีหลังก็ได้เพราะว่าซุกมาแล้ว
00:10:14 → 00:10:17 ด้วยนะครับใชสุกแล้วเดี๋ยวมันจะเละเราก็
00:10:17 → 00:10:21 ปรุงรสเลยมซีอิ๋วขาวซีอิวขาวใส่เลยนะครับ
00:10:21 → 00:10:24 ก็ใส่เลยแล้วก็แน่นอนเราก็ย้ำเหมือนเดิม
00:10:24 → 00:10:27 ว่าอาหารอย่าเค็มแล้วก็แค่ปรุงรสนิดหน่อย
00:10:27 → 00:10:29 นะครับไม่ได้ใส่เยอะเลยแล้วระหว่างนี้ถ้า
00:10:29 → 00:10:32 เห็นว่าเอ๊น้ำจะเริ่มแห้งไปพร่องไปก็เติม
00:10:32 → 00:10:38 น้ำสุป
00:10:38 → 00:10:42 ไปแล้วก็สุดท้ายครับเอาปลาแซลมอนที่เรา
00:10:42 → 00:10:46 หั่นเป็นชิ้นแบบนี้ค่ะแล้วก็ล่วงมาเรียบ
00:10:46 → 00:10:49 ร้อยค่ะใส่ได้เลย
00:10:49 → 00:10:52 ค่ะอ่าแล้วเราก็ไม่ต้องคนแล้วเราปล่อยเข
00:10:52 → 00:10:55 ไว้ตอนนี้เราควรจะต้มหรือตุ๋นไปนานแค่ไหน
00:10:55 → 00:10:59 ครับพี่ป้อมตุ๋นไปเรื่อยๆนะคะคือจริงๆ
00:10:59 → 00:11:02 แล้วก็คือขึ้นอยู่กับว่าตัวเองด้วยนะต้อง
00:11:02 → 00:11:05 ดูตัวเองเป็นหลักว่าตัวเองน่ะปวดท้องมาก
00:11:05 → 00:11:09 แค่ไหนต้องแบบให้อาหารอ่อนย่อยง่ายมากม
00:11:09 → 00:11:11 อะไรประมาณอย่างเงี้ยเนาะายปวดมากอยอยาก
00:11:11 → 00:11:14 ให้ย่อยง่ายมากก็ตุนนใช่ก็ตุ๋นนานหน่อยนะ
00:11:14 → 00:11:16 ให้เขาละเอียดๆหน่อยมันก็จะใช้เวลาในการ
00:11:16 → 00:11:19 ย่อยอ่าน้อยลงแทบจะเป็นเนืเดียวกันเลยใช่
00:11:20 → 00:11:24 มใช่มใช่แล้วก็ใช้เ่ารสชาตินะไม่ต้องจัด
00:11:24 → 00:11:30 มากรสอ่อนๆหน่อยอยากเค็มมากอย่าเผ็ดมาก
00:11:30 → 00:11:34 เปรี้ยวอย่าค่ะเพราะบางทีบางคนทานข้าวต้ม
00:11:34 → 00:11:38 หรือโจ๊กเนี่ยจะใส่น้ำส้มด้วยอ๋อบางคนจะ
00:11:38 → 00:11:41 ชอบใส่น้ำส้มใส่น้ำปลาใส่ทุกอย่างในพวงนะ
00:11:41 → 00:11:45 คะกลายเป็นโจ๊กต้มยำใช่ค่ะอนี่น่าจะได้
00:11:45 → 00:11:48 แล้วมยฮะสมมติเราชอบขณะนี้เราพอแล้วปิดไฟ
00:11:48 → 00:11:53 ครับพออ่าโหคันหอมฉุยเลยแล้วก็พร้อม
00:11:53 → 00:12:09 เสิร์ฟนะครับ
00:12:09 → 00:12:13 และก็สุดท้ายเรามีไข่ร่วงนะครับอันนี้ก็
00:12:13 → 00:12:20 แล้วแต่คนจะชอบสุกขนาดไหนได้เลยตาม
00:12:20 → 00:12:24 สบายจานนี้จะมีคุณค่าทางอาหารเหมาะสำหรับ
00:12:24 → 00:12:26 หรือดีสำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะยังไง
00:12:26 → 00:12:30 บ้างครับก็คือเป็นอาหารอ่อนย่อยง่ายๆนะคะ
00:12:30 → 00:12:33 เราใช้ข้าวกล้องด้วยนะข้าวกล้องเนี่ยมัน
00:12:33 → 00:12:37 ก็จะมีเส้นใยอาหารเยอะนะคะมีโปรตีนที่
00:12:37 → 00:12:41 ย่อยง่ายมีเนื้อปลามีไข่ใช่มั้ยคะมีผัก
00:12:41 → 00:12:45 ด้วยถือเป็นผักก็คือสารายวากกาเมนะคะมี
00:12:45 → 00:12:48 เส้นใยอาหารที่ย่อยง่ายอืครบถ้วนเลยนะ
00:12:48 → 00:12:59 ครับ
00:12:59 → 00:13:03 หน้าตาดูดีมากเลยครับมาถึงขั้นตอนสำคัญ
00:13:03 → 00:13:05 ชิมครับโอ้โหไม่รู้จะตักอะไรก่อนดี 3
00:13:05 → 00:13:08 สหายนี่มากันครบถ้วนเลยใช่ค่ะแซลมอนเลยนะ
00:13:08 → 00:13:10 ฮะ
00:13:10 → 00:13:13 ครับแน่นอนนะครับเราต้องแซลมอนด้วย
00:13:13 → 00:13:18 สาหร่ายนิดนึงครับมีเผื่อติดมาหน่อยค่ะ
00:13:18 → 00:13:22 อื้อหือหอมคือกลิ่นข้าวกล้องเนี่ยกลิ่น
00:13:22 → 00:13:25 ชัดอย่างชัดๆดอยู่เลยบางคนจะชอบหอมข้าว
00:13:25 → 00:13:28 นี้หอมมาก
00:13:28 → 00:13:31 อือืยังไง
00:13:31 → 00:13:37 บ้างรสอ่อนค่ะไม่เค็มไม่มีรสจัดอะไรงนั้น
00:13:37 → 00:13:41 แต่ว่ามันได้รสอาหารจริงๆของปลางจริงๆ
00:13:41 → 00:13:43 สาหร่ายจริงๆเถ้าจริงๆอยู่ในนี้ใชอเป็นรส
00:13:44 → 00:13:49 ธรรมชาติของอาหารนะคะแล้วก็ใช้รสหวานนะคะ
00:13:49 → 00:13:51 จากเผือกถ้าเราเคี้ยวเผือกนานๆเนี่ยเค้า
00:13:52 → 00:13:55 ก็จะหวานนะอออจริงด้วยใช่นะคะหรือหรือถ้า
00:13:55 → 00:13:57 ใครอยากจะเติมอะไรเข้าไปที่ตัวเองชอบใช่
00:13:57 → 00:14:01 มั้ยฮะแล้วก็ตุ๋นนานๆใช่นะฮะก็จะได้เมนู
00:14:01 → 00:14:03 ที่เหมาะกับคนที่เป็นโรคกระเพาะนะครับแต่
00:14:03 → 00:14:07 ทีนี้เมนูเดียวไม่พอมีอะไรมาแนะนำอีกครับ
00:14:07 → 00:14:10 ในช่วงหน้าเป็นเครื่องดื่มค่ะเป็นเครื่อง
00:14:10 → 00:14:13 ดื่มสุขภาพสำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะนะ
00:14:13 → 00:14:18 คะนั่นก็คือน้ำนมข้าวโพดกล้วยน้ำว้าค่ะ
00:14:18 → 00:14:20 อุยเคยได้ยินแต่น้ำนมข้าวโพดอันนี้เป็น
00:14:20 → 00:14:24 น้ำนมข้าวโพดกล้วยน้ำว้าใชูรสชาติจะเป็น
00:14:24 → 00:14:27 ยังไงครับจะทานกันได้มั้ยนั่นน่ะสิฮะแล้ว
00:14:27 → 00:15:01 ทำยากมยเดี๋ยวมาชมกันช่วงหน้าค่ะ
00:15:01 → 00:15:04 กลับมาชม Healthy frid Day ครับกับเมนู
00:15:04 → 00:15:10 น้ำนมข้าวโพดกล้วยน้ำว้าค่ะงงเลยข้าโพด
00:15:10 → 00:15:12 ก้วยน้ำว้ามีน้ำนมด้วยเหรอแล้วยังไงทำยัง
00:15:12 → 00:15:14 ไงกันแน่ทำไมทำไมเลือกเมนูนี้มาครับพี่
00:15:14 → 00:15:18 ป้อเมนูนี้เนี่ยก็เป็นทางเลือกนึงนะบางคน
00:15:18 → 00:15:21 เขาจะกลัวการดื่มนมครับบางคนบอกดื่มนม
00:15:21 → 00:15:24 แล้วมันจะกระตุ้นให้กรดลังมากขึ้นนะคะ
00:15:24 → 00:15:27 แล้วก็เ่อทำให้แผลเป็นมากขึ้นอะไรอย่าง
00:15:27 → 00:15:30 เงี้ยค่ะเราก็เลือ
00:15:30 → 00:15:32 แต่ว่าอย่าอย่ามีชื่อคำว่าน้ำนมข้าวโพด
00:15:32 → 00:15:34 และกล้วยน้ำว้าอะไรอย่างเงี้ยแปลว่าอะไร
00:15:34 → 00:15:37 ทำไมข้าวโพดมีน้ำนมเหรอมันคืออะไรกันพอมา
00:15:37 → 00:15:39 ปั่นเอามาปั่นแล้วเนี่ยมันก็จะเหมือนกับ
00:15:40 → 00:15:42 น้ำนมเลยเหมือนกับน้ำนมถั่วเหลืองแต่จริง
00:15:42 → 00:15:45 ๆแล้วมันไม่ใช่นมหรอกมันก็คือน้ำข้าวโพด
00:15:45 → 00:15:48 น้ำข้าวโพดแต่เราใส่กล้วยน้ำว้าเออกล้วย
00:15:48 → 00:15:50 น้ำว้าจะดียังไงครับทำไมต้องเติมกล้วยน้ำ
00:15:50 → 00:15:53 ว้าลงไปกล้วยน้ำว้าเนี่ยเขาจะมีเปกตินเปก
00:15:53 → 00:15:56 นะคะเกติเนี่ยมันก็เหมือนกับเป็นเจลเรา
00:15:56 → 00:15:59 เคยเอามาแช่กันใช่มแล้วมันจะพูขึ้นเวลา
00:16:00 → 00:16:02 เอาเอากล้วยเมาหั่นแล้วแช่น้ำใช่แล้วมัน
00:16:03 → 00:16:04 จะไปทำอะไรในกระเพาะมันก็จะเคลือบกระเพาะ
00:16:04 → 00:16:07 ด้วยเคือบกระเพาะใช่แล้วนอกจากนั้นกล้วย
00:16:07 → 00:16:11 ก็ยังมีไวตามินซีเยอะนะคะแล้วก็มีสารต้าน
00:16:11 → 00:16:14 อนุมูลอิสระเยอะด้วยก็จะช่วยเรื่องของลด
00:16:14 → 00:16:17 การอักเสบแล้วก็เ่อช่วยให้แผลหายได้เร็ว
00:16:17 → 00:16:19 ขึ้นกล้วยที่ว่าคือกล้วยน้ำว้านะฮะเรา
00:16:19 → 00:16:21 เลือกล้วยน้ำว้าค่ะเราเลือกกล้วยน้ำว้า
00:16:21 → 00:16:24 เพราะว่าเขาจะเกิดลมทำให้เกิดลมเนี่ยได้
00:16:24 → 00:16:26 น้อยกว่ากล้วยหอมเออนั่นเสียกล้วยหอม
00:16:26 → 00:16:29 กล้วยไข่กล้วยหักมุกอะไรพวกนี้จริงๆกล้วย
00:16:29 → 00:16:33 เยจะเกิดลมน้อยที่สุดเกิดแก๊สน้อยที่สุด
00:16:33 → 00:16:35 อ๋อก็เลยดีกับคนที่เป็นโรคกใช่แล้วก็มี
00:16:35 → 00:16:38 ไวตามินซีเยอะด้วยอันเนี้ยที่สำคัญชอบนะ
00:16:38 → 00:16:42 คะเพราะฉะนั้นทำเลยนะครับขั้นตอนก็เอาทุ
00:16:42 → 00:16:47 ปักันใช่มั้ยก็มีเอ่อข้าวโพดที่ต้มแล้วก็
00:16:47 → 00:16:49 หั่นมาเรียบร้อยนะครับแล้วก็กล้วยน้ำวา
00:16:49 → 00:16:53 ใช้ 1 1 ลูกนะฮะอ้าได้ค่ะพี่จะให้ใช้แค่
00:16:53 → 00:16:56 ครึ่งลูกใช่ค่ะแต่ผมไม่ยอมใช้ลูกนึงโอเค
00:16:56 → 00:17:00 จัดไปใส่เลยนะฮะ
00:17:00 → 00:17:02 พี่ครับการเลือกกล้วยเนี่ยเราควรเลือก
00:17:02 → 00:17:05 กล้วยที่สุกหน่อยหรือว่าจะดิบนิดนึงแข็ง
00:17:05 → 00:17:07 นิดนึงดีหรือว่าเป็นยังไงดีอค่อนข้างสุก
00:17:08 → 00:17:11 งอมอ่าค่อนข้างสุกงอมนะคะเขาก็จะได้ความ
00:17:11 → 00:17:14 หวานตามธรรมชาติเราก็จะได้ไม่ต้องเติมน้ำ
00:17:14 → 00:17:17 ตาลเยอะอ๋อใช่ๆเพราะว่ากล้วยที่ที่สุก
00:17:17 → 00:17:20 หน่อยก็จะหวานด้วยใช่ครับบางคนบอกถ้าสุก
00:17:20 → 00:17:22 นี่หวานเกินไปจะหหเพิ่มน้ำตาลหรือเปล่า
00:17:22 → 00:17:24 แต่ว่าความหวานจากธรรมชาติของล้วยเนี่ยดี
00:17:24 → 00:17:27 ค่ะเราจะไม่ต้องเติมอะไรเลยนะคะแล้วก็
00:17:27 → 00:17:31 เติมน้ำลงไปนี่เป็นน้ำอะไรครับน้ำต้มสุก
00:17:31 → 00:17:36 ที่เย็นแล้วนะคะแล้วก็ใส่น้ำแข็งนิดนึงน้
00:17:36 → 00:17:39 แขงเลยนะ
00:17:39 → 00:17:43 ครับ
00:17:43 → 00:17:51 อ้าวสเริ่ม
00:17:51 → 00:17:54 สวยเสร็จเรียบร้อยครับเสร็จเรียบร้อยเรา
00:17:54 → 00:17:58 ก็เทใส่แก้วเลยเทใส่แก้วนี่คือน้ำนมข้าว
00:17:59 → 00:18:09 โพดกล้วยน้ำว้าที่เราปั่นมา
00:18:09 → 00:18:14 แล้วอ้าวถึงเวลาชิมด้วยชิมนะครับค่ะรส
00:18:14 → 00:18:17 ชาติเป็นยังไงนี่เราแทบจะไม่ได้เติมความ
00:18:17 → 00:18:20 หวานคือเติมน้อยมากเติมน้อยมากเราใช้ความ
00:18:20 → 00:18:24 หวานของกล้วยแทนนะถ้าเราใช้กล้วยสุกงอม
00:18:24 → 00:18:29 เนี่ยมันจะหวานมากอืรสชาติของข้าวโพดชัด
00:18:29 → 00:18:32 เจนมากเลยครับอ่าเราใส่ข้าวโพเยอะนอนครับ
00:18:32 → 00:18:34 ก็หวานน้อยมากแต่ว่าเป็นความหวานธรรมชาติ
00:18:34 → 00:18:38 ของข้าวโพดอืทีนี้ถ้าเราอยากให้เอ่อกล้วย
00:18:38 → 00:18:40 เนี่ยชัดขึ้นมาอีกหน่อยเราก็เติมกล้วยไป
00:18:40 → 00:18:43 อีกเพิ่มอีกเราเอากล้วยสุกขึ้นสุกขึ้นดี
00:18:43 → 00:18:47 กว่าอออ่าสุกงอมขึ้นที่จะได้หวานชัดขึ้น
00:18:47 → 00:18:50 ใช่เพราะว่าลูกหนึนี่ก็เยอะละนะคะใช่อัน
00:18:50 → 00:18:54 นี้เนี่ยสำหรับทาน 2 คนนะเหรอฮะนี่ครับก็
00:18:54 → 00:18:57 คือได้เมนูที่ดีต่ออสุขภาพกระเพาะของเรา
00:18:57 → 00:19:00 ค่ะนี้อยากให้ป้อมย้ำหน่อยว่าคนที่เป็น
00:19:00 → 00:19:02 โรคกระเพาะอาหารอยู่เนี่ต้องระวังอะไร
00:19:02 → 00:19:04 บ้างต้องปฏิบัติตัวยังไงเรื่องอาหารการ
00:19:04 → 00:19:07 กินเรื่องการใช้ชีวิตต้องเป็นยังไงครับ
00:19:07 → 00:19:09 อันแรกเนี่ยก็คงจะต้องเอ่อฝึกการรับ
00:19:09 → 00:19:13 ประทานอาหารให้ตรงเวลานะคะก่อนเลยเนาะก็
00:19:13 → 00:19:16 ยังสำคัญอยู่ใช่มก็ยังสำคัญอยู่นะคะแล้ว
00:19:16 → 00:19:19 ก็เอ่อรับประทานอาหารเช้าอันเนี้ยเป็น
00:19:19 → 00:19:22 สิ่งที่สำคัญนะโอบางคนมองข้ามไปเลยมอง
00:19:22 → 00:19:24 ข้ามไปเลยรีบอ่ะต้องรีบออกจากบ้านเดี๋ไม่
00:19:24 → 00:19:26 ทันอะไรอย่างเงี้ยใช่ค่ะเพราะว่าการไม่
00:19:26 → 00:19:29 ทันอาหารเช้าเนี่ยเป็นสาเหตุหลักอันนึง
00:19:29 → 00:19:33 เลยนะของเด็กๆที่พี่ป้อมเจอนะคะแล้วก็ใน
00:19:33 → 00:19:38 เรื่องของบุหรี่เห่าบุหรี่เล่าสูบบุหรี่
00:19:38 → 00:19:40 ดื่มเหล้าหรือเปล่าซึ่งอันนี้ก็จะเป็น
00:19:40 → 00:19:45 สาเหตุหลักนะคะก็จะต้องลดละเลิกสอย่างนี้
00:19:45 → 00:19:47 นะฮะรับประทานรับประทานอาหารให้เป็นเวลา
00:19:47 → 00:19:50 อาหารเช้าก็ต้องอย่าอย่าขาดอย่าลืมอย่า
00:19:50 → 00:19:52 ปฏิเสธมันนะแล้วก็เล่า
00:19:52 → 00:19:56 บุหรี่ใช่ค่ะใช่หรือว่าในบางรายที่เอ่อ
00:19:56 → 00:20:01 ทันยาแก้ปวดค่ะยาแก้ปวดตามข้อยาปวดกล้าม
00:20:01 → 00:20:04 เนื้อทานกันเป็นประจำเป็นระยะเวลานานอัน
00:20:04 → 00:20:08 นี้ก็ต้องระวังเช่นกันนะคะและสิ่งสำคัญก็
00:20:08 → 00:20:12 คือเรื่องของกินร้อนช้อนกลางแล้วก็ล้าง
00:20:12 → 00:20:15 มือนะคะแล้วก็ดื่มน้ำที่สะอาดก็ยังเป็น
00:20:15 → 00:20:18 สิ่งที่สำคัญอยู่ค่ะอครับก็มองแล้วก็คือ
00:20:18 → 00:20:20 ไม่ยากที่จะปฏิบัติตัวนะครับให้คนที่เป็น
00:20:21 → 00:20:23 โรคกระเพาะก็ให้มันอย่าอาการรุนแรงเพิ่ม
00:20:23 → 00:20:25 ขึ้นคนที่ยังไม่เป็นก็ทำแบบนี้เพื่อจะได้
00:20:25 → 00:20:27 ไม่เป็นโรคกระเพาะอาหารค่ะขอบคุณพี่ป้อม
00:20:27 → 00:20:30 มากๆเลยนะครับขอบคุณครับค่ะสวัสดีค่ะเอา
00:20:30 → 00:20:32 ล่ะสุขภาพดีด้วยอาหารกันแล้วไปออกกำลัง
00:20:32 → 00:20:34 กายกันต่อช่วงหน้าครับตอนนั้นน้ำหนักเท่า
00:20:34 → 00:20:37 ไหร่ครับตอนที่ 2 ปีที่แล้วประมาณ 65
00:20:37 → 00:20:39 ปัจจุบันนี้ 100 ครับสุดยอดยินดีด้วยครับ
00:20:40 → 00:20:42 ยินดีด้วยคุณสามารถทำได้ 100 คะแนนเต็มนะ
00:20:42 → 00:20:44 วันนี้ครับคุณผู้ชมครับการออกกำลังกายของ
00:20:44 → 00:20:46 เรานะครับไม่ใช่เพียงเพื่อว่าสำหรับอ้วน
00:20:46 → 00:20:49 แล้วทำไงให้ผอมเดี๋ยวเราจะออกกำลังกายแบบ
00:20:49 → 00:20:53 เป็น
00:20:53 → 00:20:59 เกมอเร็วใครกลับก่อนชนะเร็ววิดเร็วเร็วๆ 3
00:20:59 → 00:21:05 2 1 2 7 5 ดีครับดีโตสู้ครับ
00:21:05 → 00:21:09 โตสุดยอด
00:00:16 → 00:00:54 A
00:00:54 → 00:00:56 สวัสดีครับสดีต้อนรับเข้าสู่ Healthy
00:00:57 → 00:00:59 Friday ครับพบกันอีกแล้ววันศุกร์สุขภาพ
00:00:59 → 00:01:02 ดีให้คุผู้ชมนั้นอยู่ดีด้วยอาหารการกิน
00:01:02 → 00:01:04 อันนี้สำคัญมากนะครับเพราะบางคนอยู่แล้ว
00:01:04 → 00:01:07 ไม่ดีเพราะว่าอาหารที่กินเข้าไปมันทำให้
00:01:07 → 00:01:10 ป่วยก็เป็นอย่างงั้นได้เหมือนกันนะครับ
00:01:10 → 00:01:11 และพี่ป้องก็อยู่กับเราเช่นเคยครับคุณ
00:01:11 → 00:01:14 ชนิกาวงษ์วานิชนักกำหนดอาหารและอาจารย์
00:01:14 → 00:01:18 พิเศษสถาบันวชนาการมหาวิทยาลัยมหิดลครับ
00:01:18 → 00:01:20 สวัสดีนะครับพี่ป้อมครับสวัสดีค่ะคุณแท
00:01:20 → 00:01:22 ค่ะวันนี้รบกวนพี่ป้อมอีกครั้งนึงนะครับ
00:01:22 → 00:01:25 เพราะเป็นโรคหรือเป็นอาการของคนที่เรียก
00:01:25 → 00:01:28 ว่าโรคคเมืองทันสมัยอ่ะเออโรคคนเมืองอ่ะ
00:01:28 → 00:01:31 ที่ต้องแข่งขันกันตลอดเเวาแข่งขันกันเร็ว
00:01:31 → 00:01:34 ต้องทำงานต้องหาเงินต้องเลี้ยงครอบครัว
00:01:34 → 00:01:37 ต้องอะไรสารพัดจนลืมลืมกินใชใช่ลืมกิน
00:01:37 → 00:01:40 ข้าวลืมรับประทานอาหารไม่ได้ดูแลตัวเอง
00:01:40 → 00:01:42 สิ่งที่เกิดขึ้นคือโรคกระเพาะอาหารนี่
00:01:42 → 00:01:45 แหละครับเป็นโรคที่บางคนเป็นแล้วก็ไม่รู้
00:01:45 → 00:01:49 ตัวด้วยแต่มันค่อยๆใช่มค่อยๆสั่งสมมานาน
00:01:49 → 00:01:52 คะจริงๆมันมันมันยังไงฮะมันเกิดจากอะไร
00:01:52 → 00:01:53 ทำไมอยู่ดีคนเราเป็นโรคกระเพาะหรือปวด
00:01:53 → 00:01:56 ท้องมากเลยมันเป็นเป็นเพราะอะไรครับโรค
00:01:56 → 00:01:58 กระเพาะในปัจจุบันนี้เนี่ยเขาก็เชื่อว่า
00:01:58 → 00:02:00 มันเกิดจากการติดเชื่อ
00:02:00 → 00:02:03 แบคทีเรียชนิดหนึ่งชื่อว่าเอ่อ
00:02:03 → 00:02:05 เฮลิโคแบคเตอร์
00:02:05 → 00:02:09 ไรลนะคะหรือว่า H ไลายอ้าแล้วเราไปกิน
00:02:09 → 00:02:11 อะไรมาติดเชื้อแบคทีเรียนี่มาได้ยังไง
00:02:11 → 00:02:14 ครับเขาเชื่อว่าติดเชื้อเนี่ยบางทีติดมา
00:02:14 → 00:02:17 ตั้งแต่เด็กเลยแต่ไม่แสดงอาการอ๋อมันมี
00:02:17 → 00:02:20 อยู่แล้วในร่างกายใช่ส่วนมากก็คือเกิดจาก
00:02:20 → 00:02:22 การดื่มน้ำที่ไม่สะอาดอันที่ 1 นะที่เจอ
00:02:22 → 00:02:27 กันบ่อยๆหรือบางทีเนี่ยเ่อการที่เราได้
00:02:27 → 00:02:30 อาหารที่ไม่สะอาดนะคะเล้างไม่สะอาดแม่
00:02:30 → 00:02:34 ครัวหรือว่าคนขายเพราะฉะนั้นเนี่ยเาก็เลย
00:02:34 → 00:02:38 อ่าให้กินร้อนช้อนกลางล้างมืออ๋อให้แบบ
00:02:38 → 00:02:40 นี้นะคะเพราะเวลาบางทีเราอาจจะไปติดจาก
00:02:40 → 00:02:45 อุจจาระหรืออาเจียนของคนที่มีเชื้ออือ่า
00:02:45 → 00:02:47 แล้วก่อนจะทานอาหารเราก็ล้างมืออีกครั้ง
00:02:47 → 00:02:50 นึงกินอาหารร้อนที่มันสุกแล้วดื่มน้ำ
00:02:50 → 00:02:52 สะอาดอะไรอย่างเงี้ยนะคะอ้าวแล้วที่บอก
00:02:52 → 00:02:55 ว่าอ้าพอเราไม่ไม่ได้กินข้าวเป็นเวลามัน
00:02:55 → 00:02:57 ปวดท้องอ่ะอันนี้เป็นโรคกระเพาะนนมันเป็น
00:02:57 → 00:03:00 ไเสมอ๋อนั่นเป็นตัวเสริมต่างหากใช่บางคน
00:03:00 → 00:03:03 ก็อาจจะเกิดจากการที่ทานยาแก้ปวดเป็น
00:03:03 → 00:03:06 ประจำอันเนี้ยที่เราเจอกันบ่อยๆนะคะซึ่ง
00:03:06 → 00:03:09 มันอาจจะทำให้เกิดแผลก็ได้ไม่เกิดแผลก็
00:03:09 → 00:03:11 ได้นั่นน่ะสิครับหรือว่าน้ำย่อยออกมาพอ
00:03:11 → 00:03:13 ไม่กินข้าวน้ำย่อยออกมาไม่มีอาหารไปให้
00:03:13 → 00:03:16 น้ำย่อยมามาย่อยก็เลยย่อยกระเพาะซะ
00:03:16 → 00:03:18 กระเพาะก็เลยทะลุเป็นรูนี่เป็นโรคกระเพาะ
00:03:18 → 00:03:21 อันนี้ก็จะเป็นเ่อเหมือนเป็นปัจจัยเสริม
00:03:21 → 00:03:25 หรืออาหารเผ็ดอาหารร้อนใช่มั้ยคะเผ็ดร้อน
00:03:25 → 00:03:27 พวกเนี้ยค่ะหรืออาหารรสจัดพวกนี้ก็จะเป็น
00:03:27 → 00:03:28 ตัว
00:03:28 → 00:03:32 เสริมเป็นปัจจัยหลักอ๋อนี่ปัจจัยหลาย
00:03:32 → 00:03:35 อย่างมันมาเสริมกันให้เป็นงี้ได้ใช่โอถ้า
00:03:35 → 00:03:38 งั้นเราต้องดูแลอาหารการกินต้องยิ่งดูให้
00:03:38 → 00:03:41 ให้ดียิ่งขึ้นพี่ป้อมก็เลยนึกถึงคนไข้
00:03:41 → 00:03:45 เด็กน้อยสัก 10 ขวบได้ปัญหาในเมืองจริงๆ
00:03:45 → 00:03:49 นะเป็นยังไงฮะเด็กนี่ก็คือตื่นก็ต้องรีบ
00:03:49 → 00:03:53 ตื่นใช่มั้คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องแบบโอแต่ง
00:03:53 → 00:03:55 ตัวแล้วเรบายังยังไม่ตื่นเลยยังไม่ตื่น
00:03:56 → 00:03:58 เลยจับแต่งตัวขึ้นรถใช่ขึ้นรถกันแล้วอะไร
00:03:58 → 00:04:01 อย่างเงี้ยกินในรสบ้างอะไรบ้างอย่าเงี้
00:04:01 → 00:04:04 ใช่บางทีไม่ได้ทานข้าวเช้าเด็กอ่ะนะคะอัน
00:04:04 → 00:04:07 นี้คือเป็นปัญหาเลยที่เราไม่ได้ทานหรือ
00:04:07 → 00:04:11 บางทีได้ทานข้าวเช้าไปเร่งทานในรถออ๋ออ่า
00:04:11 → 00:04:13 การเร่งทานเนี่ยค่ะมันก็ทำให้อาหารอะไร
00:04:14 → 00:04:17 ต่างๆเก็คือไม่ย่อยย่อยลำบากด้วยแปลว่า
00:04:17 → 00:04:19 การรับประทานอาหารให้ตรงเวลาก็ยังจำเป็น
00:04:19 → 00:04:21 อยู่ใช่ยังจำเป็นอยู่แต่ในขนเดียวกันก็
00:04:21 → 00:04:23 ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้เป็นโรคกระเพาะ
00:04:23 → 00:04:26 ใช่ค่ะอาจจะมีเชื้อโรคมีแบคทีเรียจากการ
00:04:26 → 00:04:29 ที่กินไม่ถูกสุขสุขลักษณะไม่สุขอะไรต่าง
00:04:29 → 00:04:31 ๆ่ดเรื่องนี้คือเรื่องที่สำคัญแล้วก็
00:04:31 → 00:04:34 เรื่องที่จำเป็นเมื่อประมาณสัก 10 กว่าปี
00:04:34 → 00:04:35 ที่แล้วเนี่ยจะมีเยอะแต่เดี๋ยวนี้เนี่ย
00:04:35 → 00:04:38 เ่อความชุกก็จะเริ่มน้อยลงเพราะว่าเ่อทาง
00:04:38 → 00:04:41 กระทรวงสาธารณสุขก็รณรงค์ใช่มั้กินร้อน
00:04:41 → 00:04:45 ช้อนกลางล้างมืองั้นวันนี้เราล้างมือ
00:04:45 → 00:04:48 เรียบร้อยแล้วเราก็จะมากินร้อนกันค่ะ
00:04:48 → 00:04:51 เพราะเมนูวันนี้จะคืออะไรครับวันนี้เราจะ
00:04:51 → 00:05:04 ทำเมนูโจ๊กข้าวกล้อง 3 สหายค่ะ
00:05:04 → 00:05:07 โจ๊กนี่พอนึกออกโจ๊กเข้ากล้องอ่าใช้ข้าว
00:05:07 → 00:05:09 กล้องมาทำแต่ 3 สหายที่ว่าคืออะไรครับ 3
00:05:09 → 00:05:12 สหายก็ล้วนแต่เป็นอาหารย่อยง่ายของเรานะ
00:05:12 → 00:05:17 คะอันได้แก่ปลาซอนคะไข่แล้วก็เป็นวากะห
00:05:18 → 00:05:21 สาหร่ายสาหร่ายนะคะเป็นสาหร่ายก็เป็นเส้น
00:05:21 → 00:05:55 ใหญ่อาหารที่ละลายน้ำได้
00:05:55 → 00:05:59 ดูแล้วก็ไม่น่าจะยากเท่าไหร่แต่วิธีการทำ
00:05:59 → 00:06:01 ต้องมีขั้นตอนเล็กน้อยใช่มั้ยฮะมีขั้นตอน
00:06:01 → 00:06:02 เล็ก
00:06:02 → 00:06:05 น้อยมคเริ่มจากเราต้มข้าวกันก่อนเลยนะดี
00:06:05 → 00:06:08 ครับนี่พี่ใช้ข้าวข้าวเป็นข้าวกล้องอ่า
00:06:08 → 00:06:11 เป็นข้าวกล้องค่ะอันนี้คือเอาจจะผสมเล็กๆ
00:06:11 → 00:06:14 ค่ะอะไรงี้ตำอ๋อตำเลยเหรอฮะใช่การแพทย์
00:06:14 → 00:06:16 ทางเลือกเนี่ยเค้าก็บอกว่าการตำเนี่ยมัน
00:06:16 → 00:06:20 จะทำให้เราได้คุณค่าทางอ่าโภชนาการเนี่ย
00:06:20 → 00:06:24 ที่มากขึ้นได้สารอาหารได้ตัวยาที่ดีแต่ใน
00:06:24 → 00:06:27 ทางการแพทย์แผนปัจจุบันก็คือเราก็สามารถ
00:06:28 → 00:06:30 ที่จะทานได้ทุกรูปแบบ
00:06:30 → 00:06:31 อ้าวเพราะฉะนั้นเราตำเพราะว่าเราทำเป็น
00:06:32 → 00:06:37 โจ๊กด้วยตใช่
00:06:37 → 00:06:41 ผมแล้วเราก็ใส่ข้าวกล้องลงไปเลยนะครับค
00:06:41 → 00:06:45 ใส่ข้าวกล้องไปเลยแล้วก็ต้มไว้เลยล่ะฮะ
00:06:45 → 00:06:48 แล้วก็คนคนแล้วก็รอเ้าสุกครับค่ะคือขั้น
00:06:48 → 00:06:51 ตอนต้มนี่ใช้เวลานานมั้ยฮะค่ะก็เป็นครึ่ง
00:06:51 → 00:06:53 ชั่วโมงเนาะครึ่งชั่วโมงอือแล้วเราก็
00:06:54 → 00:06:56 ปล่อยทิ้งไว้ก่อนป่อยทิ้งไว้ก่อนระหว่าง
00:06:56 → 00:07:00 นี้ครับพี่ป้อมค่ะผมก็ได้เอาเสัตว์มา 2
00:07:00 → 00:07:05 จานก็คือเนื้อหมูและเนื้อปลาแซลมอนค่ะวาง
00:07:05 → 00:07:08 คู่กันแล้วพูดถึงอาหารที่ที่ดีกับคนที่
00:07:08 → 00:07:10 เป็นโรคกระเพาะเนี่ยควจะเป็นอาหารที่ย่อย
00:07:10 → 00:07:13 ง่ายใช่มั้ยอ่าถ้าสมมุติว่าเ้าปวดท้องมาก
00:07:13 → 00:07:16 เมีอาการมากอย่างเงี้ยค่ะหรือว่ามีแผลใน
00:07:16 → 00:07:18 กระเพาะร่วมด้วยอย่างเงี้ยเราก็อาจจะต้อง
00:07:18 → 00:07:21 เป็นอาหารอ่อนย่อยง่ายหน่อยนะคะเนื้อ
00:07:21 → 00:07:24 สัตว์ที่เราเลือกเนี่ยก็อาจจะเป็นปลาะก็
00:07:24 → 00:07:29 ได้นะคะใช่ย่อยง่ายกว่าย่อยง่ายกว่าเนื้อ
00:07:29 → 00:07:33 หมูนะถ้าเป็นหมูชิ้นเนี่ยมันก็จะใช้เวลา
00:07:33 → 00:07:37 ย่อยหน่อยนะแต่ถ้าสมมติว่าเราปรับเป็นสับ
00:07:37 → 00:07:43 หรือบดนะคะอก็ดีขึนก็จะดีขึ้นอ้าดูผิวของ
00:07:43 → 00:07:45 ปลาเนี่ยนะฮะอันนี้คือเป็นชิ้นใหญ่ๆมา
00:07:45 → 00:07:48 เหมือนกันอย่างงี้นะฮะนี่เก็ง่ายเลยนะ
00:07:48 → 00:07:51 ครับก็จะนี่เหมือนในกระเพาะเวลาบีบรัด
00:07:51 → 00:07:54 แล้วก็ย่อยอย่าเงี้ก็จะง่ายอย่างเงี้นะฮะ
00:07:54 → 00:07:58 อือ่ะมาลองมาดูหมูกันบ้างนะครับหมูเนี่ย
00:07:58 → 00:08:02 ถ้ามันกระเพาะก็พยจะออหอ่าอหคือถ้ากิน
00:08:02 → 00:08:05 ชิ้นอย่างนี้คงไม่ไหวเนาะนะคะเราเทียบกัน
00:08:05 → 00:08:07 ว่าอ่าอันนึงก็เป็นชิ้นหนาเหมือนกันอีก
00:08:07 → 00:08:10 อันก็หนาเนี่ยมันเทียบกันแต่ว่าแน่นอนว่า
00:08:10 → 00:08:13 พอไปอยู่ในกระเพาะอาหารของเราเนี่ยด้วย
00:08:13 → 00:08:16 ความที่คือเหมือนเส้นใหญ่ของค่ะของเนื้อ
00:08:17 → 00:08:19 แต่ละชนิก็ต่างกันใช่มั้ต่างกันอันนี้
00:08:19 → 00:08:21 เค้าก็จะย่อยยากหน่อยยากหน่อยแต่ถ้า
00:08:21 → 00:08:24 สมมุติว่าเอามาสับเอามาบดอย่างเงี้ยค่ะ
00:08:24 → 00:08:27 มันจะดีขึ้นมั้ยฮะได้หมดเลยได้คสามารถทัน
00:08:27 → 00:08:30 ได้เป็นโรคกระเพาะอาหารเนี่ยถ้าเกิดอยาก
00:08:30 → 00:08:33 รับประทานจำพวกเนี่ยเนื้อหมูอะไรต่างๆก็
00:08:33 → 00:08:36 ทำให้มันละเอียดขึ้นสักบดอะไรต่างๆใช่
00:08:36 → 00:08:39 หรือว่าเป็นชิ้นเล็กๆก็ได้นะเพื่อความรวด
00:08:39 → 00:08:42 เร็วเมื่อต้มได้ถึงเวลานึงแล้วนะครับเรา
00:08:42 → 00:08:45 ก็จะข้าวของเราก็จะเป็นแบบนี้เป็นข้าว
00:08:45 → 00:08:47 กล้องที่ผ่านการต้มมาเรียบร้อยนะครับก็จะ
00:08:47 → 00:08:49 เป็นอย่างงนี้จากนั้นยังไงต่อครับเราก็
00:08:49 → 00:08:52 เอาน้้ำซุปมาน้ำซุปนะฮนี่เป็นซุปเป็นน้ำ
00:08:52 → 00:08:55 ซุปไก่ซุปไก่นะครับ
00:08:55 → 00:08:59 ค่ะโอเคใส่ไปครึ่งนึงจากนั้นครับรอให้
00:08:59 → 00:09:05 เดือดจากนั้นเราก็รอให้เค้าเดือดก่อนนะ
00:09:05 → 00:09:09 คะใส่ข้าวกล้องที่เราซ่อมแล้วนะครับให้
00:09:09 → 00:09:16 หมดเลยนะ
00:09:16 → 00:09:20 ครับอาหารที่มีเส้นใยอาหารเยอะอ่ะค่ะมัน
00:09:20 → 00:09:22 ก็จะช่วยป้องกันนะมีงานการศึกษาวิจัยที่
00:09:22 → 00:09:25 บอกว่ามันจะช่วยป้องกันเรื่องของโรค
00:09:25 → 00:09:30 กระเพาะได้ด้วยอ๋อเหรอฮะค่ะอออ่าตไปเราก็
00:09:30 → 00:09:33 ใส่อ่าเราใส่ทั้งหมดไปเลยแล้วกันใส่ผัก
00:09:33 → 00:09:36 ค่ะใส่ผักใส่เผือกไปด้วยเอาเผือกมาต้ม
00:09:36 → 00:09:38 เผือกเผือกนี่ก็ต้มมาแล้วนะครับค่ะเผือก
00:09:38 → 00:09:41 ต้มมาแล้วนะคะก็จะทำให้รสชาติเ้าหวานแล้ว
00:09:41 → 00:09:43 ก็อร่อยขึ้นเนาะครับปกติเผือกนี่ใช้เวลา
00:09:43 → 00:09:45 ต้มนานหน่อยใช่ค่ะอันนี้เราต้มมาแล้ว
00:09:46 → 00:09:50 เรียบร้อยเราใส่อ่าเจ้าตัวผักอ่าแล้วก็
00:09:50 → 00:09:53 เห็ดลงมาแล้วก็ปรุง
00:09:53 → 00:09:58 รสแครอทนะครับค่ะใส่แครอทลงไปใส่เห็ดเห็ด
00:09:58 → 00:10:02 หอมใส่ลงไปเห็ดหอมนะครับค่ะเห็ดหอมอ่า
00:10:02 → 00:10:06 แล้วก็วากกะมะนะคะเป็นสาหร่ายนะก็จะทำให้
00:10:06 → 00:10:09 เราได้เส้นใหญ่อาหารที่ย่อยง่ายด้วยเนาะ
00:10:09 → 00:10:12 เดี๋ยวนี้คนชอบทานกันเนครับส่วนปลาเนี่ย
00:10:12 → 00:10:14 เดี๋ยวลงทีหลังก็ได้เพราะว่าซุกมาแล้ว
00:10:14 → 00:10:17 ด้วยนะครับใชสุกแล้วเดี๋ยวมันจะเละเราก็
00:10:17 → 00:10:21 ปรุงรสเลยมซีอิ๋วขาวซีอิวขาวใส่เลยนะครับ
00:10:21 → 00:10:24 ก็ใส่เลยแล้วก็แน่นอนเราก็ย้ำเหมือนเดิม
00:10:24 → 00:10:27 ว่าอาหารอย่าเค็มแล้วก็แค่ปรุงรสนิดหน่อย
00:10:27 → 00:10:29 นะครับไม่ได้ใส่เยอะเลยแล้วระหว่างนี้ถ้า
00:10:29 → 00:10:32 เห็นว่าเอ๊น้ำจะเริ่มแห้งไปพร่องไปก็เติม
00:10:32 → 00:10:38 น้ำสุป
00:10:38 → 00:10:42 ไปแล้วก็สุดท้ายครับเอาปลาแซลมอนที่เรา
00:10:42 → 00:10:46 หั่นเป็นชิ้นแบบนี้ค่ะแล้วก็ล่วงมาเรียบ
00:10:46 → 00:10:49 ร้อยค่ะใส่ได้เลย
00:10:49 → 00:10:52 ค่ะอ่าแล้วเราก็ไม่ต้องคนแล้วเราปล่อยเข
00:10:52 → 00:10:55 ไว้ตอนนี้เราควรจะต้มหรือตุ๋นไปนานแค่ไหน
00:10:55 → 00:10:59 ครับพี่ป้อมตุ๋นไปเรื่อยๆนะคะคือจริงๆ
00:10:59 → 00:11:02 แล้วก็คือขึ้นอยู่กับว่าตัวเองด้วยนะต้อง
00:11:02 → 00:11:05 ดูตัวเองเป็นหลักว่าตัวเองน่ะปวดท้องมาก
00:11:05 → 00:11:09 แค่ไหนต้องแบบให้อาหารอ่อนย่อยง่ายมากม
00:11:09 → 00:11:11 อะไรประมาณอย่างเงี้ยเนาะายปวดมากอยอยาก
00:11:11 → 00:11:14 ให้ย่อยง่ายมากก็ตุนนใช่ก็ตุ๋นนานหน่อยนะ
00:11:14 → 00:11:16 ให้เขาละเอียดๆหน่อยมันก็จะใช้เวลาในการ
00:11:16 → 00:11:19 ย่อยอ่าน้อยลงแทบจะเป็นเนืเดียวกันเลยใช่
00:11:20 → 00:11:24 มใช่มใช่แล้วก็ใช้เ่ารสชาตินะไม่ต้องจัด
00:11:24 → 00:11:30 มากรสอ่อนๆหน่อยอยากเค็มมากอย่าเผ็ดมาก
00:11:30 → 00:11:34 เปรี้ยวอย่าค่ะเพราะบางทีบางคนทานข้าวต้ม
00:11:34 → 00:11:38 หรือโจ๊กเนี่ยจะใส่น้ำส้มด้วยอ๋อบางคนจะ
00:11:38 → 00:11:41 ชอบใส่น้ำส้มใส่น้ำปลาใส่ทุกอย่างในพวงนะ
00:11:41 → 00:11:45 คะกลายเป็นโจ๊กต้มยำใช่ค่ะอนี่น่าจะได้
00:11:45 → 00:11:48 แล้วมยฮะสมมติเราชอบขณะนี้เราพอแล้วปิดไฟ
00:11:48 → 00:11:53 ครับพออ่าโหคันหอมฉุยเลยแล้วก็พร้อม
00:11:53 → 00:12:09 เสิร์ฟนะครับ
00:12:09 → 00:12:13 และก็สุดท้ายเรามีไข่ร่วงนะครับอันนี้ก็
00:12:13 → 00:12:20 แล้วแต่คนจะชอบสุกขนาดไหนได้เลยตาม
00:12:20 → 00:12:24 สบายจานนี้จะมีคุณค่าทางอาหารเหมาะสำหรับ
00:12:24 → 00:12:26 หรือดีสำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะยังไง
00:12:26 → 00:12:30 บ้างครับก็คือเป็นอาหารอ่อนย่อยง่ายๆนะคะ
00:12:30 → 00:12:33 เราใช้ข้าวกล้องด้วยนะข้าวกล้องเนี่ยมัน
00:12:33 → 00:12:37 ก็จะมีเส้นใยอาหารเยอะนะคะมีโปรตีนที่
00:12:37 → 00:12:41 ย่อยง่ายมีเนื้อปลามีไข่ใช่มั้ยคะมีผัก
00:12:41 → 00:12:45 ด้วยถือเป็นผักก็คือสารายวากกาเมนะคะมี
00:12:45 → 00:12:48 เส้นใยอาหารที่ย่อยง่ายอืครบถ้วนเลยนะ
00:12:48 → 00:12:59 ครับ
00:12:59 → 00:13:03 หน้าตาดูดีมากเลยครับมาถึงขั้นตอนสำคัญ
00:13:03 → 00:13:05 ชิมครับโอ้โหไม่รู้จะตักอะไรก่อนดี 3
00:13:05 → 00:13:08 สหายนี่มากันครบถ้วนเลยใช่ค่ะแซลมอนเลยนะ
00:13:08 → 00:13:10 ฮะ
00:13:10 → 00:13:13 ครับแน่นอนนะครับเราต้องแซลมอนด้วย
00:13:13 → 00:13:18 สาหร่ายนิดนึงครับมีเผื่อติดมาหน่อยค่ะ
00:13:18 → 00:13:22 อื้อหือหอมคือกลิ่นข้าวกล้องเนี่ยกลิ่น
00:13:22 → 00:13:25 ชัดอย่างชัดๆดอยู่เลยบางคนจะชอบหอมข้าว
00:13:25 → 00:13:28 นี้หอมมาก
00:13:28 → 00:13:31 อือืยังไง
00:13:31 → 00:13:37 บ้างรสอ่อนค่ะไม่เค็มไม่มีรสจัดอะไรงนั้น
00:13:37 → 00:13:41 แต่ว่ามันได้รสอาหารจริงๆของปลางจริงๆ
00:13:41 → 00:13:43 สาหร่ายจริงๆเถ้าจริงๆอยู่ในนี้ใชอเป็นรส
00:13:44 → 00:13:49 ธรรมชาติของอาหารนะคะแล้วก็ใช้รสหวานนะคะ
00:13:49 → 00:13:51 จากเผือกถ้าเราเคี้ยวเผือกนานๆเนี่ยเค้า
00:13:52 → 00:13:55 ก็จะหวานนะอออจริงด้วยใช่นะคะหรือหรือถ้า
00:13:55 → 00:13:57 ใครอยากจะเติมอะไรเข้าไปที่ตัวเองชอบใช่
00:13:57 → 00:14:01 มั้ยฮะแล้วก็ตุ๋นนานๆใช่นะฮะก็จะได้เมนู
00:14:01 → 00:14:03 ที่เหมาะกับคนที่เป็นโรคกระเพาะนะครับแต่
00:14:03 → 00:14:07 ทีนี้เมนูเดียวไม่พอมีอะไรมาแนะนำอีกครับ
00:14:07 → 00:14:10 ในช่วงหน้าเป็นเครื่องดื่มค่ะเป็นเครื่อง
00:14:10 → 00:14:13 ดื่มสุขภาพสำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะนะ
00:14:13 → 00:14:18 คะนั่นก็คือน้ำนมข้าวโพดกล้วยน้ำว้าค่ะ
00:14:18 → 00:14:20 อุยเคยได้ยินแต่น้ำนมข้าวโพดอันนี้เป็น
00:14:20 → 00:14:24 น้ำนมข้าวโพดกล้วยน้ำว้าใชูรสชาติจะเป็น
00:14:24 → 00:14:27 ยังไงครับจะทานกันได้มั้ยนั่นน่ะสิฮะแล้ว
00:14:27 → 00:15:01 ทำยากมยเดี๋ยวมาชมกันช่วงหน้าค่ะ
00:15:01 → 00:15:04 กลับมาชม Healthy frid Day ครับกับเมนู
00:15:04 → 00:15:10 น้ำนมข้าวโพดกล้วยน้ำว้าค่ะงงเลยข้าโพด
00:15:10 → 00:15:12 ก้วยน้ำว้ามีน้ำนมด้วยเหรอแล้วยังไงทำยัง
00:15:12 → 00:15:14 ไงกันแน่ทำไมทำไมเลือกเมนูนี้มาครับพี่
00:15:14 → 00:15:18 ป้อเมนูนี้เนี่ยก็เป็นทางเลือกนึงนะบางคน
00:15:18 → 00:15:21 เขาจะกลัวการดื่มนมครับบางคนบอกดื่มนม
00:15:21 → 00:15:24 แล้วมันจะกระตุ้นให้กรดลังมากขึ้นนะคะ
00:15:24 → 00:15:27 แล้วก็เ่อทำให้แผลเป็นมากขึ้นอะไรอย่าง
00:15:27 → 00:15:30 เงี้ยค่ะเราก็เลือ
00:15:30 → 00:15:32 แต่ว่าอย่าอย่ามีชื่อคำว่าน้ำนมข้าวโพด
00:15:32 → 00:15:34 และกล้วยน้ำว้าอะไรอย่างเงี้ยแปลว่าอะไร
00:15:34 → 00:15:37 ทำไมข้าวโพดมีน้ำนมเหรอมันคืออะไรกันพอมา
00:15:37 → 00:15:39 ปั่นเอามาปั่นแล้วเนี่ยมันก็จะเหมือนกับ
00:15:40 → 00:15:42 น้ำนมเลยเหมือนกับน้ำนมถั่วเหลืองแต่จริง
00:15:42 → 00:15:45 ๆแล้วมันไม่ใช่นมหรอกมันก็คือน้ำข้าวโพด
00:15:45 → 00:15:48 น้ำข้าวโพดแต่เราใส่กล้วยน้ำว้าเออกล้วย
00:15:48 → 00:15:50 น้ำว้าจะดียังไงครับทำไมต้องเติมกล้วยน้ำ
00:15:50 → 00:15:53 ว้าลงไปกล้วยน้ำว้าเนี่ยเขาจะมีเปกตินเปก
00:15:53 → 00:15:56 นะคะเกติเนี่ยมันก็เหมือนกับเป็นเจลเรา
00:15:56 → 00:15:59 เคยเอามาแช่กันใช่มแล้วมันจะพูขึ้นเวลา
00:16:00 → 00:16:02 เอาเอากล้วยเมาหั่นแล้วแช่น้ำใช่แล้วมัน
00:16:03 → 00:16:04 จะไปทำอะไรในกระเพาะมันก็จะเคลือบกระเพาะ
00:16:04 → 00:16:07 ด้วยเคือบกระเพาะใช่แล้วนอกจากนั้นกล้วย
00:16:07 → 00:16:11 ก็ยังมีไวตามินซีเยอะนะคะแล้วก็มีสารต้าน
00:16:11 → 00:16:14 อนุมูลอิสระเยอะด้วยก็จะช่วยเรื่องของลด
00:16:14 → 00:16:17 การอักเสบแล้วก็เ่อช่วยให้แผลหายได้เร็ว
00:16:17 → 00:16:19 ขึ้นกล้วยที่ว่าคือกล้วยน้ำว้านะฮะเรา
00:16:19 → 00:16:21 เลือกล้วยน้ำว้าค่ะเราเลือกกล้วยน้ำว้า
00:16:21 → 00:16:24 เพราะว่าเขาจะเกิดลมทำให้เกิดลมเนี่ยได้
00:16:24 → 00:16:26 น้อยกว่ากล้วยหอมเออนั่นเสียกล้วยหอม
00:16:26 → 00:16:29 กล้วยไข่กล้วยหักมุกอะไรพวกนี้จริงๆกล้วย
00:16:29 → 00:16:33 เยจะเกิดลมน้อยที่สุดเกิดแก๊สน้อยที่สุด
00:16:33 → 00:16:35 อ๋อก็เลยดีกับคนที่เป็นโรคกใช่แล้วก็มี
00:16:35 → 00:16:38 ไวตามินซีเยอะด้วยอันเนี้ยที่สำคัญชอบนะ
00:16:38 → 00:16:42 คะเพราะฉะนั้นทำเลยนะครับขั้นตอนก็เอาทุ
00:16:42 → 00:16:47 ปักันใช่มั้ยก็มีเอ่อข้าวโพดที่ต้มแล้วก็
00:16:47 → 00:16:49 หั่นมาเรียบร้อยนะครับแล้วก็กล้วยน้ำวา
00:16:49 → 00:16:53 ใช้ 1 1 ลูกนะฮะอ้าได้ค่ะพี่จะให้ใช้แค่
00:16:53 → 00:16:56 ครึ่งลูกใช่ค่ะแต่ผมไม่ยอมใช้ลูกนึงโอเค
00:16:56 → 00:17:00 จัดไปใส่เลยนะฮะ
00:17:00 → 00:17:02 พี่ครับการเลือกกล้วยเนี่ยเราควรเลือก
00:17:02 → 00:17:05 กล้วยที่สุกหน่อยหรือว่าจะดิบนิดนึงแข็ง
00:17:05 → 00:17:07 นิดนึงดีหรือว่าเป็นยังไงดีอค่อนข้างสุก
00:17:08 → 00:17:11 งอมอ่าค่อนข้างสุกงอมนะคะเขาก็จะได้ความ
00:17:11 → 00:17:14 หวานตามธรรมชาติเราก็จะได้ไม่ต้องเติมน้ำ
00:17:14 → 00:17:17 ตาลเยอะอ๋อใช่ๆเพราะว่ากล้วยที่ที่สุก
00:17:17 → 00:17:20 หน่อยก็จะหวานด้วยใช่ครับบางคนบอกถ้าสุก
00:17:20 → 00:17:22 นี่หวานเกินไปจะหหเพิ่มน้ำตาลหรือเปล่า
00:17:22 → 00:17:24 แต่ว่าความหวานจากธรรมชาติของล้วยเนี่ยดี
00:17:24 → 00:17:27 ค่ะเราจะไม่ต้องเติมอะไรเลยนะคะแล้วก็
00:17:27 → 00:17:31 เติมน้ำลงไปนี่เป็นน้ำอะไรครับน้ำต้มสุก
00:17:31 → 00:17:36 ที่เย็นแล้วนะคะแล้วก็ใส่น้ำแข็งนิดนึงน้
00:17:36 → 00:17:39 แขงเลยนะ
00:17:39 → 00:17:43 ครับ
00:17:43 → 00:17:51 อ้าวสเริ่ม
00:17:51 → 00:17:54 สวยเสร็จเรียบร้อยครับเสร็จเรียบร้อยเรา
00:17:54 → 00:17:58 ก็เทใส่แก้วเลยเทใส่แก้วนี่คือน้ำนมข้าว
00:17:59 → 00:18:09 โพดกล้วยน้ำว้าที่เราปั่นมา
00:18:09 → 00:18:14 แล้วอ้าวถึงเวลาชิมด้วยชิมนะครับค่ะรส
00:18:14 → 00:18:17 ชาติเป็นยังไงนี่เราแทบจะไม่ได้เติมความ
00:18:17 → 00:18:20 หวานคือเติมน้อยมากเติมน้อยมากเราใช้ความ
00:18:20 → 00:18:24 หวานของกล้วยแทนนะถ้าเราใช้กล้วยสุกงอม
00:18:24 → 00:18:29 เนี่ยมันจะหวานมากอืรสชาติของข้าวโพดชัด
00:18:29 → 00:18:32 เจนมากเลยครับอ่าเราใส่ข้าวโพเยอะนอนครับ
00:18:32 → 00:18:34 ก็หวานน้อยมากแต่ว่าเป็นความหวานธรรมชาติ
00:18:34 → 00:18:38 ของข้าวโพดอืทีนี้ถ้าเราอยากให้เอ่อกล้วย
00:18:38 → 00:18:40 เนี่ยชัดขึ้นมาอีกหน่อยเราก็เติมกล้วยไป
00:18:40 → 00:18:43 อีกเพิ่มอีกเราเอากล้วยสุกขึ้นสุกขึ้นดี
00:18:43 → 00:18:47 กว่าอออ่าสุกงอมขึ้นที่จะได้หวานชัดขึ้น
00:18:47 → 00:18:50 ใช่เพราะว่าลูกหนึนี่ก็เยอะละนะคะใช่อัน
00:18:50 → 00:18:54 นี้เนี่ยสำหรับทาน 2 คนนะเหรอฮะนี่ครับก็
00:18:54 → 00:18:57 คือได้เมนูที่ดีต่ออสุขภาพกระเพาะของเรา
00:18:57 → 00:19:00 ค่ะนี้อยากให้ป้อมย้ำหน่อยว่าคนที่เป็น
00:19:00 → 00:19:02 โรคกระเพาะอาหารอยู่เนี่ต้องระวังอะไร
00:19:02 → 00:19:04 บ้างต้องปฏิบัติตัวยังไงเรื่องอาหารการ
00:19:04 → 00:19:07 กินเรื่องการใช้ชีวิตต้องเป็นยังไงครับ
00:19:07 → 00:19:09 อันแรกเนี่ยก็คงจะต้องเอ่อฝึกการรับ
00:19:09 → 00:19:13 ประทานอาหารให้ตรงเวลานะคะก่อนเลยเนาะก็
00:19:13 → 00:19:16 ยังสำคัญอยู่ใช่มก็ยังสำคัญอยู่นะคะแล้ว
00:19:16 → 00:19:19 ก็เอ่อรับประทานอาหารเช้าอันเนี้ยเป็น
00:19:19 → 00:19:22 สิ่งที่สำคัญนะโอบางคนมองข้ามไปเลยมอง
00:19:22 → 00:19:24 ข้ามไปเลยรีบอ่ะต้องรีบออกจากบ้านเดี๋ไม่
00:19:24 → 00:19:26 ทันอะไรอย่างเงี้ยใช่ค่ะเพราะว่าการไม่
00:19:26 → 00:19:29 ทันอาหารเช้าเนี่ยเป็นสาเหตุหลักอันนึง
00:19:29 → 00:19:33 เลยนะของเด็กๆที่พี่ป้อมเจอนะคะแล้วก็ใน
00:19:33 → 00:19:38 เรื่องของบุหรี่เห่าบุหรี่เล่าสูบบุหรี่
00:19:38 → 00:19:40 ดื่มเหล้าหรือเปล่าซึ่งอันนี้ก็จะเป็น
00:19:40 → 00:19:45 สาเหตุหลักนะคะก็จะต้องลดละเลิกสอย่างนี้
00:19:45 → 00:19:47 นะฮะรับประทานรับประทานอาหารให้เป็นเวลา
00:19:47 → 00:19:50 อาหารเช้าก็ต้องอย่าอย่าขาดอย่าลืมอย่า
00:19:50 → 00:19:52 ปฏิเสธมันนะแล้วก็เล่า
00:19:52 → 00:19:56 บุหรี่ใช่ค่ะใช่หรือว่าในบางรายที่เอ่อ
00:19:56 → 00:20:01 ทันยาแก้ปวดค่ะยาแก้ปวดตามข้อยาปวดกล้าม
00:20:01 → 00:20:04 เนื้อทานกันเป็นประจำเป็นระยะเวลานานอัน
00:20:04 → 00:20:08 นี้ก็ต้องระวังเช่นกันนะคะและสิ่งสำคัญก็
00:20:08 → 00:20:12 คือเรื่องของกินร้อนช้อนกลางแล้วก็ล้าง
00:20:12 → 00:20:15 มือนะคะแล้วก็ดื่มน้ำที่สะอาดก็ยังเป็น
00:20:15 → 00:20:18 สิ่งที่สำคัญอยู่ค่ะอครับก็มองแล้วก็คือ
00:20:18 → 00:20:20 ไม่ยากที่จะปฏิบัติตัวนะครับให้คนที่เป็น
00:20:21 → 00:20:23 โรคกระเพาะก็ให้มันอย่าอาการรุนแรงเพิ่ม
00:20:23 → 00:20:25 ขึ้นคนที่ยังไม่เป็นก็ทำแบบนี้เพื่อจะได้
00:20:25 → 00:20:27 ไม่เป็นโรคกระเพาะอาหารค่ะขอบคุณพี่ป้อม
00:20:27 → 00:20:30 มากๆเลยนะครับขอบคุณครับค่ะสวัสดีค่ะเอา
00:20:30 → 00:20:32 ล่ะสุขภาพดีด้วยอาหารกันแล้วไปออกกำลัง
00:20:32 → 00:20:34 กายกันต่อช่วงหน้าครับตอนนั้นน้ำหนักเท่า
00:20:34 → 00:20:37 ไหร่ครับตอนที่ 2 ปีที่แล้วประมาณ 65
00:20:37 → 00:20:39 ปัจจุบันนี้ 100 ครับสุดยอดยินดีด้วยครับ
00:20:40 → 00:20:42 ยินดีด้วยคุณสามารถทำได้ 100 คะแนนเต็มนะ
00:20:42 → 00:20:44 วันนี้ครับคุณผู้ชมครับการออกกำลังกายของ
00:20:44 → 00:20:46 เรานะครับไม่ใช่เพียงเพื่อว่าสำหรับอ้วน
00:20:46 → 00:20:49 แล้วทำไงให้ผอมเดี๋ยวเราจะออกกำลังกายแบบ
00:20:49 → 00:20:53 เป็น
00:20:53 → 00:20:59 เกมอเร็วใครกลับก่อนชนะเร็ววิดเร็วเร็วๆ 3
00:20:59 → 00:21:05 2 1 2 7 5 ดีครับดีโตสู้ครับ
00:21:05 → 00:21:09 โตสุดยอด