00:00:00 → 00:00:03 [เสียงดนตรี]
00:00:03 → 00:00:08 จากสถิติพบว่าคนไทย 1 คน บริโภคกาแฟ ประมาณ 300 แก้ว ต่อปี
00:00:08 → 00:00:11 หรือเปรียบได้ว่า คนไทยบริโภคกาแฟเกือบทุกวัน
00:00:11 → 00:00:12 วันนี้เราก็จะมาดูกันว่า
00:00:12 → 00:00:14 กาแฟที่คนไทยดื่มทุกวันนั้น
00:00:14 → 00:00:16 แต่ละชนิดมีพลังงานเท่าไรกันบ้าง
00:00:16 → 00:00:21 [เสียงดนตรี]
00:00:21 → 00:00:23 โดยจุดเด่นของมอคคาเย็น
00:00:23 → 00:00:26 ก็จะใส่ในส่วนของผงโกโก้ และช็อกโกแลตไซรัปลงไป
00:00:26 → 00:00:28 ซึ่งจะทำให้พลังงานค่อนข้างมากเลย
00:00:28 → 00:00:32 ใน 1 แก้วของมอคคาเย็น ก็จะให้พลังงาน 320 กิโลแคลอรี
00:00:32 → 00:00:34 ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับการกินข้าว
00:00:34 → 00:00:35 ก็มากถึง 4 ทัพพีเลยค่ะ
00:00:36 → 00:00:38 โดยในส่วนของผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ
00:00:38 → 00:00:40 จะให้พลังงาน 30 กิโลแคลอรี
00:00:40 → 00:00:44 ส่วนช็อกโกแลตไซรัป 1 ออนซ์ จะให้พลังงานมากถึง 100 กิโลแคลอรี
00:00:44 → 00:00:46 แล้วถ้าใครเพิ่มวิปครีมลงไปใน 1 แก้ว
00:00:46 → 00:00:49 จะให้พลังงานมากถึง 70 กิโลแคลอรี
00:00:49 → 00:00:51 สำหรับข้อแนะนำในการรับประทานมอคคาเย็น
00:00:51 → 00:00:54 จะเห็นว่าเป็นกาแฟที่ให้พลังงานเยอะ
00:00:54 → 00:00:57 ดังนั้น ไม่แนะนำให้รับประทาน เป็นประจำทุกวันค่ะ
00:01:00 → 00:01:02 เอกลักษณ์ของลาเตเย็น ก็จะเป็นกาแฟนม
00:01:02 → 00:01:06 มีความหวาน ความมัน และมีความนุ่มของนม
00:01:06 → 00:01:08 ซึ่งพลังงานของลาเตเย็น 1 แก้ว
00:01:08 → 00:01:10 จะสูงถึง 275 กิโลแคลอรี
00:01:10 → 00:01:13 เทียบเท่ากับการรับประทานข้าว 3 ทัพพีครึ่ง
00:01:13 → 00:01:17 ที่ให้พลังงานค่อนข้างมากเนื่องจาก มีส่วนผสมของนมที่มีไขมันสูง
00:01:18 → 00:01:22 โดยใน 1 แก้ว จะใช้นมประมาณ 2 ออนซ์ ซึ่งให้พลังงาน 40 กิโลแคลอรี
00:01:22 → 00:01:25 ข้อแนะนำสำหรับใครที่ต้องการ รับประทานกาแฟลาเตเย็น
00:01:25 → 00:01:28 สามารถลดพลังงานลงได้ โดยปรับเปลี่ยนชนิดของนมที่ใส่
00:01:28 → 00:01:31 จากนมที่มีไขมันเต็มที่ให้พลังงานสูง
00:01:31 → 00:01:33 เปลี่ยนเป็นนมพร่องมันเนยหรือขาดมันเนย
00:01:33 → 00:01:37 ซึ่งก็จะลดพลังงานลงได้ 20-40 กิโลแคลอรีเลยค่ะ
00:01:40 → 00:01:43 เอกลักษณ์ของคาปูชิโนเย็น ก็จะมีโฟมนมอยู่บริเวณด้านบน
00:01:43 → 00:01:45 แล้วก็จะมีรสชาติหวานมัน
00:01:45 → 00:01:47 ซึ่งพลังงานของเขาก็ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
00:01:47 → 00:01:50 ก็จะมีพลังงานอยู่ที่ 240 กิโลแคลอรี
00:01:50 → 00:01:53 หรือเทียบเท่ากับการรับประทานข้าว 3 ทัพพี
00:01:53 → 00:01:56 ข้อแนะนำในการลดพลังงาน ในกาแฟคาปูชิโนเย็น
00:01:56 → 00:01:58 เนื่องจากตัวโฟมนมไม่ได้มีพลังงานมากมาย
00:01:58 → 00:02:00 ดังนั้น ถ้าเราอยากจะลดพลังงานลง
00:02:00 → 00:02:02 เราใช้การลดนมข้นหวานลง
00:02:02 → 00:02:04 โดย 1 ช้อนโต๊ะของนมข้นหวาน
00:02:04 → 00:02:07 ถ้าเราลดลง ก็จะลดลงได้ถึง 60 กิโลแคลอรีเลยค่ะ
00:02:10 → 00:02:11 เอสเปรสโซเย็น
00:02:11 → 00:02:14 เอกลักษณ์ของเขาคือมีความเข้ม หวาน และมัน
00:02:14 → 00:02:18 แต่ความหวานของเขา จะไม่ได้มากเท่ากับเมนูอื่น ๆ ก่อนหน้านี้
00:02:18 → 00:02:22 โดยพลังงานเอสเปรสโซเย็น 1 แก้ว จะให้พลังงาน 170 กิโลแคลอรี
00:02:22 → 00:02:24 เทียบเท่ากับการรับประทานข้าว 2 ทัพพี
00:02:24 → 00:02:28 สาเหตุที่เอสเปรสโซเย็น มีพลังงานต่ำกว่าเมนูอื่น
00:02:28 → 00:02:31 เพราะว่าความหวานของเขา จากนมข้นหวานและนมข้นจืด
00:02:31 → 00:02:34 จะน้อยกว่ากาแฟเย็นชนิดอื่น ๆ ก่อนหน้านี้
00:02:34 → 00:02:36 ข้อแนะนำสำหรับการลดพลังงาน ในเอสเปรสโซเย็น
00:02:37 → 00:02:39 ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกับคาปูชิโน
00:02:39 → 00:02:42 คือสามารถลดในส่วนของ นมข้นหวานลง 1 ช้อนโต๊ะ
00:02:42 → 00:02:44 ก็จะลดพลังงานลงได้ 60 กิโลแคลอรีเลยค่ะ
00:02:47 → 00:02:50 กาแฟเย็นอันดับสุดท้าย ซึ่งมีพลังงานน้อยที่สุด
00:02:50 → 00:02:51 คือ อเมริกาโนเย็น
00:02:51 → 00:02:55 เอกลักษณ์ของเขาก็คือจะมีความเข้ม และไม่มีส่วนผสมของนม
00:02:55 → 00:02:57 ดังนั้น อเมริกาโนเย็น 1 แก้ว
00:02:57 → 00:02:59 ถ้าไม่ได้ใส่ไซรัปลงไป
00:02:59 → 00:03:01 จะให้พลังงานเพียงแค่ 5 กิโลแคลอรี เท่านั้นเอง
00:03:01 → 00:03:03 แต่ถ้าเกิดเราอยากให้ความหวานลงไป
00:03:03 → 00:03:06 ไซรัป 1 ช้อนโต๊ะ จะให้พลังงาน 40 กิโลแคลอรี
00:03:06 → 00:03:09 ดังนั้น ถ้าใครอยากรับประทานกาแฟเย็นทุกวัน
00:03:09 → 00:03:12 เมนูอเมริกาโนเย็น ก็เป็นเมนูแนะนำ
00:03:12 → 00:03:15 ที่สามารถรับประทานกาแฟได้ทุกวัน โดยที่พลังงานไม่ได้มากเกินไปค่ะ
00:03:15 → 00:03:18 [เสียงดนตรี]
00:03:18 → 00:03:21 หลายคนที่ต้องการดูแลน้ำหนัก
00:03:21 → 00:03:23 แต่ไม่สามารถเปลี่ยนชนิดกาแฟที่กินได้
00:03:23 → 00:03:27 เนื่องจากชอบในเรื่องรสชาติความหวาน ความมันของกาแฟชนิดนั้น ๆ
00:03:27 → 00:03:29 ก็สามารถควบคุมพลังงานได้
00:03:29 → 00:03:31 โดยการเปลี่ยนจากกาแฟเย็น เป็นกาแฟร้อน
00:03:31 → 00:03:35 เนื่องจากกาแฟร้อน จะมีพลังงานที่ต่ำกว่ากาแฟเย็น
00:03:35 → 00:03:37 เพราะว่าเขาจะแยกน้ำตาลมาให้เราเติมเอง
00:03:38 → 00:03:40 ไม่เหมือนกับกาแฟเย็นที่จะใส่น้ำตาล
00:03:40 → 00:03:43 หรือว่าสิ่งที่ให้ความหวาน ลงไปในแก้วเรียบร้อยแล้วค่ะ
00:03:43 → 00:03:46 หรือใครที่ก็ยังชื่นชอบกาแฟที่พลังงานสูง
00:03:46 → 00:03:49 ก็แนะนำว่าให้จำกัดปริมาณการรับประทาน ใน 1 สัปดาห์
00:03:49 → 00:03:51 ไม่ควรเกิน 3 แก้ว ใน 1 สัปดาห์ค่ะ
00:03:51 → 00:03:56 [เสียงดนตรี]