00:00:00 → 00:00:02 ถ้าสมมุติว่าเราอ้วนง่ายหรือเรานอนไม่
00:00:02 → 00:00:05 หลับขี้หลงขี้ลืมเหล่าเนี้ยมันสัมพันธ์
00:00:05 → 00:00:08 กับฮอร์โมนจริงไหมคะจริงมากเลยค่ะคนยุค
00:00:08 → 00:00:10 ใหม่สมัยใหม่ออกกำลังกายเต็มที่เลยบางที
00:00:10 → 00:00:12 22:00 น. 23:00 น.ยังไปออกไปเลยเพราะฉัน
00:00:12 → 00:00:14 ไม่ว่างมันผิดเวลาค่ะเพราะว่าฮอร์โมนเรา
00:00:14 → 00:00:17 เราตอนเช้าอดีตๆหลังให้สดชื่นแล้วพอบ่ายๆ
00:00:17 → 00:00:19 ค่อยตกแล้วก็ตอนเย็นก็ต้องถึงเวลาพักผ่อน
00:00:19 → 00:00:21 แมการตอนคืนไปปลุกให้เค้าตื่นอีกรอบนึง
00:00:21 → 00:00:23 ร่างกายงงเลยว่าเธอจะนอนหรือเธอจะเผาผลาญ
00:00:23 → 00:00:25 หรือจะเอายังไงพอไปเรื่อยๆสังเกตเลยค่ะคน
00:00:25 → 00:00:28 ออกกำลังกายกลางคืนเนี่ยหน้าจะแก่เร็วมาก
00:00:28 → 00:00:30 ฮอร์โมนจะหายไปเรื่อยๆเพราะถ้าสุดท้ายมัน
00:00:30 → 00:00:32 ไปสุดที่แย่ที่สุดคือเกิดเป็นสตกติดเตียง
00:00:32 → 00:00:36 อัมพฤกษ์อัมพาตแพทย์หญิงนภาพรทำพัฒนากูล
00:00:36 → 00:00:38 แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้าน anti aging
00:00:38 → 00:00:42 และฮอร์โมนผู้เชื่อว่าฮอร์โมนที่สมดุลคือ
00:00:42 → 00:00:46 กุญแจของสุขภาพดีไร่างกายเราจะบอกยังไง
00:00:46 → 00:00:48 ว่าตอนนี้ฉันกำลังรวนนะฮอร์โมนฉันกำลัง
00:00:48 → 00:00:51 พังแล้วมันมีสัญญาณอะไรพอจะบอกได้จริงๆ
00:00:51 → 00:00:52 เรามีเช็คลิสต์ง่ายๆเนาะอ่ะเดี๋ยวจะเอา
00:00:53 → 00:00:55 ปากกากระดาษมาจดเลยนะคะข้อแรกเลยค่ะสำคัญ
00:00:55 → 00:00:58 สุดก็คือเรื่องของเรากินอาหารค้างคืนเก็บ
00:00:58 → 00:01:01 ไว้หลายๆวันอันนั้นคือการก่อให้เกิดเชื้อ
00:01:01 → 00:01:03 ราในอาหารคือที่มาว่าทำไมคนไทยมีอัตราการ
00:01:03 → 00:01:05 เสียชีวิตหรืออัตราการเป็นมะเร็งลำไส้
00:01:05 → 00:01:08 กระเพาะสูงขึ้นมากเพราะเราเสียดายของให้
00:01:08 → 00:01:10 ได้เต็มที่วันเดียวไม่ได้เลยค่ะห้ามค้าง
00:01:10 → 00:01:17 คืนจริงหรอ
00:01:17 → 00:01:20 หมอฮะจริงมั้ฮะที่เ้าบอกว่าถ้าสมมุติว่า
00:01:20 → 00:01:22 เราอ้วนง่ายหรือเรานอนไม่หลับหรือเราขี้
00:01:22 → 00:01:25 หลงขี้ลืมเหล่าเนี้ยมันสัมพันธ์กับ
00:01:25 → 00:01:28 ฮอร์โมนจริงมั้คะจริงมากเลยค่ะต้องบอกว่า
00:01:28 → 00:01:30 สถิติของงานวิจัยล่าสุดเลยค่ะพี่ตั๊กเขา
00:01:30 → 00:01:33 ค้นพบว่าผู้หญิงอ่ะค่ะที่อายุ 50 บวกเป็น
00:01:33 → 00:01:36 ต้นไปค่ะจะมีความเสี่ยงในการเกิดสตรกก็
00:01:36 → 00:01:38 คือเป็นเลือดเส้นเลือดในสมองตีบแตกตัน
00:01:38 → 00:01:41 หรือว่าติดเตียงหรือว่าที่เป็นกลุ่มหรือ
00:01:41 → 00:01:44 กลุ่มที่เป็นโรคแพ้ภูมหรือโรค่ะเหล่านี้
00:01:44 → 00:01:47 ทั้งหมดเกิดจากฮอร์โมนโดยผู้หญิงส่วนใหญ่
00:01:47 → 00:01:49 ไม่รู้เลยคิดว่าเราก็แค่อ้วนไงนอนไม่หลับ
00:01:49 → 00:01:51 เฉยๆไปกินยานอนหลับเอาก็ได้หรือกินยาแก้
00:01:51 → 00:01:53 แพ้เอาเพื่อให้ง่วงนอนหลับแต่จริงเหล่าเ
00:01:53 → 00:01:55 มันคือสัญญาณเตือนอันดับแรกเลยค่ะว่า
00:01:55 → 00:01:58 ฮอร์โมนเรากำลังพังแล้วงั้นเราต้องสังเกต
00:01:58 → 00:02:01 ใช่ค่ะถูกต้องสังเก
00:02:01 → 00:02:03 อ้วนง่ายต้องสังเกตใช่ต้องเริ่มสังเกต
00:02:03 → 00:02:07 แล้วค่ะพี่ถามนิดนึงคำว่าอ้วนง่ายอ่าค่ะ
00:02:07 → 00:02:09 แต่พี่ได้ยินบ่อยมากเลย
00:02:09 → 00:02:13 พออายุมากขึ้นเรื่องปกติเออใช่มันต้อง
00:02:13 → 00:02:15 เปลี่ยนฮอร์โมนเปลี่ยนมันก็ต้องอ้วนกิน
00:02:15 → 00:02:18 อะไรแค่หายใจก็อ้วนแล้วงั้นแสดงว่าเราก็
00:02:18 → 00:02:21 ไม่จำเป็นต้องอ้วนก็ได้อ่าถูกต้องค่ะถูก
00:02:21 → 00:02:23 ต้องมันเหมือนเป็นความเข้าใจที่ผิดส่วน
00:02:23 → 00:02:24 ใหญ่เลยค่ะว่าผู้หญิงบางทีเหมือนเราเรา
00:02:25 → 00:02:27 ยอมรับยอมแพ้ไปแล้วในในตัวเองว่าอ้าฉัน
00:02:27 → 00:02:30 อายุ 40 แล้วฉัน 50 แล้วบางคน 60-70 แล้ว
00:02:30 → 00:02:33 เขาจะบอกว่าก็แม่แก่แล้วไงก็พี่แก่แล้ว
00:02:33 → 00:02:36 กินอะไรก็ต้องอ้วนสิแค่ดมยังจะอ้วนแล้วทำ
00:02:36 → 00:02:38 ยังไงดีซึ่งส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นแบบ
00:02:38 → 00:02:43 แต่ร่างกายเรามีระบบฮซึ่งฮับระบบเผาผใน
00:02:43 → 00:02:45 ร่างกายฮอร์โมนเอสเจนของผู้หญิงเรา
00:02:45 → 00:02:47 ฮอร์โมน DA ฮอร์โมนเกี่ยวกับพลังงาน
00:02:47 → 00:02:49 ฮอร์โมนเนี่ยเรียกว่าเหมือนเป็นกุญแจดอก
00:02:49 → 00:02:51 สำคัญเลยค่ะเรียกว่าเป็นคีย์สำคัญของร่าง
00:02:51 → 00:02:53 กายเท่าเทียบว่าร่างกายเราเหมือนกับภูเขา
00:02:53 → 00:02:56 น้ำแข็งนะคะแล้วใต้ภูเขาน้ำแข็งนั้นเนี่ย
00:02:56 → 00:02:58 คือเรื่องของฮอร์โมนคนที่อ้วนขึ้นอยู่ๆ
00:02:58 → 00:03:00 น้ำหนักตัวขึ้นง่ายลงยากอดอาหารแล้ว
00:03:00 → 00:03:02 เทรนเนอร์เต็มที่แล้วกินอาหารคลินแล้วน้ำ
00:03:02 → 00:03:04 หนักไม่กระดิกเลยให้สงสัยว่าคุณไปหา
00:03:04 → 00:03:06 ฮอร์โมนหรือเปล่าเตาเผาข้างล่างคือ
00:03:06 → 00:03:08 ฮอร์โมนของเรามันพังไปแล้วค่ะเราต้องแก้
00:03:08 → 00:03:10 ที่กลางเครื่องลมใช่ถูกต้องค่ะถ้าเราไป
00:03:10 → 00:03:12 แก้ผิดทางเราไปใช้ตัวช่วยข้างนอกไปแบบ
00:03:12 → 00:03:15 เหมือนไปฉีดยาสลายไขมันไปกินยารับน้ำหนัก
00:03:15 → 00:03:17 แทนมันเป็นการแก้พายทางหรือเปล่าแต่ถ้า
00:03:17 → 00:03:19 แก้ต้นทางจริงๆค่ะเพราะสิ่งเหล่าเนี้ย
00:03:19 → 00:03:20 ฮอร์โมนมันเกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยตรงมัน
00:03:20 → 00:03:23 เป็นควบคุมการทำงานของสมองหัวใจหลอดเลือด
00:03:23 → 00:03:26 ของเราค่ะความจำของเราอารมณ์ของเราแล้วก็
00:03:26 → 00:03:29 รวมถึงผิวทั้งตัวของผู้หญิงด้วยค่ะอืมโดย
00:03:29 → 00:03:32 เฉลี่ยเนี่ยนะคะฮอร์โมนผู้หญิงเนี่ยเรา
00:03:32 → 00:03:34 รู้ได้ไงว่าลดลงแล้วมันจะเริ่มลดตอนอายุ
00:03:34 → 00:03:36 สักเท่าไหร่อ่าเป็นคำถามที่ดีมากเลยค่ะ
00:03:36 → 00:03:38 พี่ตั๊จริงๆแล้วผู้หญิงอ่ะเริ่มมีการ
00:03:38 → 00:03:42 เปลี่ยนแปลงฮอร์โมนตั้งแต่อายุ 35 ค่ะ 35
00:03:42 → 00:03:46 พี่จำได้เลยตอนแถวๆ 30 35 มันสวยมากเลย
00:03:46 → 00:03:50 นะหมอเออแล้วถึงเวลามันไปเลยใช่มันจะค่อย
00:03:50 → 00:03:52 ๆลดลงไปเรื่อยๆค่ะถ้าเราตั้งต้นแต่ 35
00:03:52 → 00:03:54 ฮอร์โมนเพศหญิงเขาเรียกว่าเอสโตรเจนค่ะ
00:03:54 → 00:03:56 ตัวนี้เราตรวจมาในช่วงวัยนั้นจะมีประมาณ
00:03:56 → 00:03:58 สัก 3-400 ซึ่งเยอะมากๆเลยแต่พอหลังจาก
00:03:58 → 00:04:01 นั้นผ่านวัยไปเรื่อยๆปึ๊บอาจจะเป็นสายแบบ
00:04:01 → 00:04:04 ทำงานหนักนอนน้อยกินของไม่ดีกินฟาสฟู้ด
00:04:04 → 00:04:05 กินเบเกอรี่เยอะกินน้ำตาลเยอะกินของหวาน
00:04:05 → 00:04:08 เยอะเครียดด้วยไม่กินผักเลยกินแต่เนื้อ
00:04:08 → 00:04:10 วัวกินแต่ปิ้งย่างฮอร์โมนจาก 300 ค่อยๆตก
00:04:10 → 00:04:13 200 100 แล้วเมื่อไหร่ก็ตามถ้าเทียบ
00:04:13 → 00:04:15 สมัยก่อนค่ะผู้หญิงสมัยก่อนเนี่ยอาจจะบอก
00:04:15 → 00:04:17 10 ปีที่แล้วประจำเดือนเจะหมดกันตอนอายุ
00:04:17 → 00:04:20 50 55 60 แต่ผู้หญิงปัจจุบันไม่ใช่แบบ
00:04:20 → 00:04:24 นั้นเลยคะพี่ตั๊กบางคน 38 หมดแล้วเหรอ 42
00:04:24 → 00:04:27 หมดแล้ว 45 ประจำเดือนห่างไปแล้วคิดว่าดี
00:04:27 → 00:04:29 จังเลยฉันไม่มีประจำเดือนฉันไม่ต้องการมี
00:04:29 → 00:04:31 ลูกแล้วก็สบายตัวไม่ต้องสนใจเรื่องประจำ
00:04:31 → 00:04:34 เดือนอีกแล้วนั่นแปลว่าถ้าเา้าประจำเดือน
00:04:34 → 00:04:36 ไม่มีฮอร์โมนหมดหรือเปล่าใช่ค่ะมันเป็น
00:04:36 → 00:04:39 สัญญาณเติมว่าฮอร์โมนคุณกำลังจะหายไปอ๋อ
00:04:39 → 00:04:41 ใช่แต่ว่าบางทีเราเข้าใจว่าพอเราแก่แล้ว
00:04:41 → 00:04:44 อายุมากแล้ว 50- 60 บวกประจำเดือนหมด
00:04:44 → 00:04:46 ฮอร์โมนหมดก็เป็นเรื่องปกติสำหรับเราแต่
00:04:46 → 00:04:48 จริงๆเราลืมไปว่าฮอร์โมนน่ะค่ะมันไม่ใช่
00:04:48 → 00:04:50 แค่เรื่องผิวๆไม่ใช่แค่เรื่องแค่ผิวพรรณ
00:04:50 → 00:04:51 ไม่ใช่แค่เรื่องของการมีลูกการตั้งครรภ์
00:04:51 → 00:04:53 อย่างเดียวแต่มันเกี่ยวข้องกับเรื่องของ
00:04:53 → 00:04:56 สมองด้วยถ้าฮอร์โมนหมดเมื่อไหร่เราจะนอน
00:04:56 → 00:04:58 ไม่หลับฮอร์โมนหมดเมื่อไหร่เราจะอ้วนง่าย
00:04:58 → 00:05:01 แล้วเราคิดภาพตาว่าถ้าเราอ้วนง่ายเผาผ่าน
00:05:01 → 00:05:03 ไม่ดีสิ่งที่เกิดขึ้นคือเอ๊ะกินให้หน่อย
00:05:03 → 00:05:05 ทำไมน้ำตาลมันขึ้นง่ายจังไปตรวจเช็คอั
00:05:05 → 00:05:07 เอ้ยแล้วทำไมไขมันคอเลสเตอรอลขึ้นตลอดเลย
00:05:07 → 00:05:09 บางทีก็ไปโทษว่าพันธุกรรมไงก็พ่อแม่ปู่
00:05:09 → 00:05:11 ย่าตายายเป็นฉันก็ต้องเป็นไปว่างั้นไปไป
00:05:11 → 00:05:13 ว่างั้นอีกก็ไม่มาหาว่าเอ้ยต้นเหตุจริงๆ
00:05:13 → 00:05:15 มันเกี่ยวกับฮอร์โมนหรือเปล่าถ้าเราปล่อย
00:05:15 → 00:05:16 ให้ฮอร์โมนของเราเป็นอย่างเงี้ยโดยที่เรา
00:05:16 → 00:05:19 ไม่ใส่ใจปล่อยให้พังไม่ดูแลอะไรจะเกิด
00:05:19 → 00:05:22 ขึ้นใช่ต้องบอกว่าเป็นภัยเงียบที่เราคิด
00:05:22 → 00:05:23 ไม่ถึงค่ะเพราะผู้หญิงส่วนใหญ่คิดว่ามัน
00:05:23 → 00:05:26 ไม่ได้เกี่ยวกันเนาะมีอยู่ 4 โรคด้วยกัน
00:05:26 → 00:05:28 ค่ะพี่ตั๊กเรื่องแรกคือติดเตียงค่ะก็คือ
00:05:28 → 00:05:31 สตรกอัมพฤกษ์อัมพาตถามว่าเอ๊ะมันเกี่ยว
00:05:31 → 00:05:33 ยังไงฮอร์โมนผู้หญิงของเราคือฮอร์โมน
00:05:33 → 00:05:35 เอสโตรเจนค่ะมันมีผลทำให้หลอดเลือดของเรา
00:05:35 → 00:05:37 ยืดหยุ่นดีเรียกว่าถ้าหลอดเลือดของเรา
00:05:37 → 00:05:39 เนี่ยสปริงตัวดีสมมุติว่าเรามีไขมันสูง
00:05:39 → 00:05:41 แล้วน้ำตาลอยู่แล้วแถมมีสารพิษด้วยแล้ว
00:05:41 → 00:05:43 เราไปเจอว่าวันนั้นเรานอนน้อยโอกาสที่
00:05:43 → 00:05:45 เสื้อเลือดโป๊ะแตกหรือโอกาสที่มันตีบขึ้น
00:05:45 → 00:05:48 มาตื่นมาปากเบี้ยวหน้าเบี้ยวไปแล้วซึ่ง
00:05:48 → 00:05:50 หมอเจอประจำเลยในคนไข้ที่แบบฮอร์โมนต่ำ
00:05:50 → 00:05:52 แล้วเขาคิดว่าไม่เป็นไรหรอกฉันแก่แล้วฉัน
00:05:52 → 00:05:54 ก็ปล่อยให้ร่างกายเป็นแบบนั้นแต่เราคิดไป
00:05:54 → 00:05:55 ว่าถ้าฮอร์โมนมันต่ำแล้ววันนึงเราเป็น
00:05:55 → 00:05:57 สโตรกติดเตียงขึ้นมาแทนที่เราจะดูอยู่ดู
00:05:57 → 00:05:59 แลคนในครอบครัวกับกลายเป็นว่าต้องมานั่ง
00:05:59 → 00:06:02 รถเข็นส่วนข้อที่ 2 ค่ะก็คือกลุ่มที่
00:06:02 → 00:06:03 เรียกว่าความเสี่ยงของเนื้องอกหรือมะเร็ง
00:06:04 → 00:06:05 ค่ะเพราะไม่เล็กก็ตามที่ฮอร์โมนเพศหญิง
00:06:05 → 00:06:08 เราต่ำงานวิจัยมากมายเลยค่ะเขาบอกว่า
00:06:08 → 00:06:10 เมื่อฮอร์โมนของเราต่ำก่อนวัยหรือต่ำมาก
00:06:10 → 00:06:13 กว่าวัยปกติต่อให้วัยเรา 60 บวกเราก็ต้อง
00:06:13 → 00:06:15 มีฮอร์โมนนะคะต่อให้วัยเรา 70 ก็ต้องมี
00:06:15 → 00:06:17 ฮอร์โมนอยู่แต่ไม่ไดรก็ตามฮอร์โมนเราตรวจ
00:06:17 → 00:06:19 แล้วน้อยกว่าวัยที่ควรจะเป็นความเสี่ยง
00:06:19 → 00:06:21 ที่เกิดขึ้นจะมี 2 โรคค่ะก็คือมะเร็งเต้า
00:06:21 → 00:06:24 นมกับมะเร็งกระเพาะอาหารมันจะตามมาทันที
00:06:24 → 00:06:27 เลยค่ะจะเกิดขึ้นในผู้หญิงได้ค่ะมีมั้ฮะ
00:06:27 → 00:06:30 อายุมากๆเลย 8-90 แล้วเกลี้ยงเลยฮอร์โมน
00:06:30 → 00:06:33 ไม่มีเลยมีค่ะมีแล้วอยู่ได้มั้ยต้องบอก
00:06:33 → 00:06:35 ว่าจริงๆร่างกายเราอยู่ไม่ได้ค่ะถ้าเราไป
00:06:35 → 00:06:37 ถามสัมภาษณ์อาการเหล่านั้นเค้าจะบอกเลย
00:06:37 → 00:06:39 ว่าเค้านอนไม่หลับเลยนอนแบบตาแจ้งตลอด
00:06:39 → 00:06:42 เวลาแล้วถ้ายังนอนหลับอยู่อ่านอนหลับอยู่
00:06:42 → 00:06:44 ก็ต้องถามอาการอื่นว่ามีปัญหาเรื่องไขมัน
00:06:44 → 00:06:46 เบาหวานเป็นมาตลอดทั้งชีวิตหรือเปล่าเผา
00:06:46 → 00:06:47 ผ่านจะไม่ดีหรือเปล่าหรือกลายเป็นผู้หญิง
00:06:47 → 00:06:49 ที่อ้วนตลอดเวลาหรือเปล่าหรือมีปัญหา
00:06:49 → 00:06:51 เรื่องของภูมิคุ้มกันหรือเปล่าเป็นผิว
00:06:51 → 00:06:53 แห้งผิวแพร่ง่ายพื้นลมพิษมาตลอดเวลาหรือ
00:06:53 → 00:06:55 เปล่ามันต้องมีสัญญาณบางอย่างที่ฮอร์โมน
00:06:55 → 00:06:57 ตกเพราะฮอร์โมนมันเป็นคีย์สำคัญของการควบ
00:06:57 → 00:06:59 คุมสุขภาพของเราของผู้หญิงเราเลยค่ะข้อ
00:06:59 → 00:07:01 ที่ 3 นะคะที่เป็นกลุ่มโรคร้ายแรงถ้าเกิด
00:07:01 → 00:07:04 ฮอร์โมนเราต่ำก็คือโรค SL ค่ะพี่จัหรือ
00:07:04 → 00:07:06 ที่เรียกว่าโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่ม
00:07:06 → 00:07:08 พวงกลุ่มเหล่านี้เองก็คือว่าฮอร์โมนต่ำ
00:07:08 → 00:07:10 เมื่อไหร่ผิวจะเริ่มมาด้วยผิวแห้งอ่าบาง
00:07:10 → 00:07:12 คนก็แค่แค่ผิวแห้งเฉยๆจริงๆไม่ใช่จะแบบ
00:07:12 → 00:07:15 เริ่มมีผื่นลมพิษเรื้อรังหรือบางคนอาผม
00:07:15 → 00:07:17 เริ่มร่วงเอ๊ะเริ่มปวดข้อสิ่งเหล่านั้น
00:07:17 → 00:07:19 เองบางทีเราคิดว่าเป็นแบบอฟิศsyrดมหรือ
00:07:19 → 00:07:21 เปล่าคำตอบคือไม่ใช่ค่ะเราเริ่มสังเกตเลย
00:07:21 → 00:07:22 ว่าอาการเหล่านี้ค่ะเขาเรียกว่าเป็นโรค
00:07:22 → 00:07:24 แพ้ภูมิตัวเองเพราะปัจจุบันเนี่ยจะมีผู้
00:07:25 → 00:07:26 หญิงหลายคนมากเลยค่ะว่าเป็นเยอะกว่าเมื่อ
00:07:26 → 00:07:28 ก่อนค่ะพี่ตเป็นเยอะพี่ได้ยินว่าเป็นเยอะ
00:07:28 → 00:07:31 นะคะแต่ผู้ชายก็มีนะผู้ชายก็มีค่ะพี่ตอัน
00:07:31 → 00:07:33 นั้นก็เกี่ยวกับฮอร์โมนเหมือนกันใช่ถูก
00:07:33 → 00:07:38 ต้องอ๋อพูดถึงเพะว่าคนชายจะเป็นคนแต่ทั้ง
00:07:38 → 00:07:41 หมดคือผู้หญิงคือ 9 คนแต่สิติไม่เหมือน
00:07:41 → 00:07:42 เมื่อก่อนนะคะพี่ตั๊กถ้าย้อนกลับไปเมื่อ
00:07:42 → 00:07:44 10 ปีที่แล้วแชมป์ดูแลคนไข้เราเจอว่า 10
00:07:44 → 00:07:46 คนเดินเข้ามาเนี่ยจะเป็น so อย่างมากก็
00:07:46 → 00:07:48 แค่ 2 คนแต่ตอนนี้ 10 เดินมาจะเป็น 8 คน
00:07:49 → 00:07:50 อีกอันนึงค่ะอีกอันนึงอันสุดท้ายคือกลุ่ม
00:07:50 → 00:07:53 อัลไซเมอร์ค่ะก็คือโรคของความจำเสื่อมค่ะ
00:07:53 → 00:07:55 ถามว่าเกิดได้ยังไงแน่นอนค่ะเมื่อฮอร์โมน
00:07:55 → 00:07:58 เราต่ำเราจะนอนหลับไม่ดีพอหลับไม่ดีเสร็จ
00:07:58 → 00:08:00 โรสฮอร์โมนไม่มาเซลล์สมองก็มีความเสื่อม
00:08:00 → 00:08:02 เร็วต้องบอกว่าคนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าเอ๊ะ
00:08:02 → 00:08:04 เอาเซมตาคนตอนอายุ 80 90 หรือเปล่าคำตอบ
00:08:05 → 00:08:07 คือไม่ใช่ค่ะเดี๋ยวนี้มันมาไวมากอายุไม่
00:08:07 → 00:08:10 เยอะเลยค่ะ 50 กว่าก็เป็นกันแล้ว 60 กว่า
00:08:10 → 00:08:12 ก็มาแล้วเหมือนคุยไปปุ๊บเดียวไม่เกิน 10
00:08:12 → 00:08:14 นาทีเมื่อกี้หมอพูดว่ายังไงนะหรือพูดกับ
00:08:14 → 00:08:18 เราช้าลงไปอีกแบบคุณหมอครับผมคุณหมอคะ
00:08:18 → 00:08:21 อยากรักษาดูแลคือประมวลผลในสมองเนี่ยเไม่
00:08:22 → 00:08:24 เหมือนเดิมเลยค่ะมีใช่มั้ฮะคนมีค่ะใช่
00:08:24 → 00:08:26 แล้วก็โหน่าเป็นห่วงมากเลยค่ะว่าเออถ้า
00:08:26 → 00:08:28 เกิดว่าเราเนี่ยแค่รู้ก่อนว่าฮอร์โมนเรา
00:08:28 → 00:08:30 ถ้ามันเริ่มรวนเนี่ยอย่าปล่อยให้มันสาย
00:08:30 → 00:08:32 ค่ะเพราะ 4 โรคร้ายแรงเหล่าเนี้ยไม่ว่าจะ
00:08:32 → 00:08:35 เป็นสตรกมะเร็งโรคแพ้ภูมิตัวเองโรค SL
00:08:35 → 00:08:37 และสุดท้ายคืออัลไซเมอร์มันเป็นโรคที่
00:08:37 → 00:08:39 รักษาได้ยากค่ะแล้วเป็นโรคที่เราจะทำให้
00:08:39 → 00:08:42 เราห่างไกลจากคนที่เรารักไปอีกด้วยมีหลาย
00:08:42 → 00:08:45 คนนะฮะพอหมอบอกนอนไม่หลับพี่เคยเห็นเ้า
00:08:45 → 00:08:48 แก้ด้วยวิธีการกินยาอ้าใช่เลยค่ะพี่ตาตรง
00:08:48 → 00:08:50 นี้มันจะไปทำให้ฮอร์โมนต่างๆมันแย่ไปอีก
00:08:50 → 00:08:53 มั้ฮะแน่นอนเลยค่ะกินยาให้หลับถูกต้องค่ะ
00:08:53 → 00:08:55 แล้วก็บอกว่าตัวเองได้หลับแหละเพราะว่า
00:08:55 → 00:08:57 ตัวเองกินยาใช่ใช่ค่ะต่อให้เรากินยานอน
00:08:57 → 00:09:00 หลับไปเนี่ยสมองเราแค่กดให้มันหลับแต่การ
00:09:00 → 00:09:02 นอนหลับสนิทเไม่หลับลึกเลยค่ะอือืเราวัด
00:09:02 → 00:09:04 ง่ายๆที่บ้านเลยค่ะถ้าทุกท่านมีนาฬิกาพวก
00:09:04 → 00:09:08 เราสามาวัดของเราได้พอเรากินับไปแล้วเรา
00:09:08 → 00:09:10 จะไม่เยอะน้อยเหมือนคนไม่ได้นอนอยู่ดี
00:09:10 → 00:09:12 เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากนอนหลับดีต้องไปดู
00:09:12 → 00:09:14 ก่อนว่าแล้วอะไรทำให้เรานอนหลับไม่ดีไป
00:09:14 → 00:09:15 แก้ต้นเหตุกันดีกว่าจะเป็นจากวิตามิน
00:09:15 → 00:09:18 ฮอร์โมนใดๆปรับสมดุลไปสุดท้ายฮอร์โมนเรา
00:09:18 → 00:09:20 ขึ้นเราก็จะหลับลึกขึ้นแต่เราไปแก้ปลาย
00:09:20 → 00:09:22 ทางกินยานหลับสุดท้ายเราติดยานนอนหลับค่ะ
00:09:22 → 00:09:24 เคยกิน 1 มิลลิกรัมจะกลายเป็น 2 มลกรัม
00:09:24 → 00:09:26 กลายเป็น 5 มลกัมก็ต้องเปลี่ยนไปอันที่
00:09:26 → 00:09:28 มันแรงขึ้นอันนั้นแหละค่ะเซลล์สมองเราก็
00:09:28 → 00:09:30 จะเสื่อมหรือบางคนตื่นมาอีกอ้ายังง่วงยัง
00:09:30 → 00:09:33 เพี้ยไม่กระปปี้กระเป่าแถมอาการขี้หลงขี้
00:09:33 → 00:09:35 ลืมก็ตามมาอีกด้วยค่ะงั้นแสดงว่าฮอร์โมน
00:09:35 → 00:09:38 เนี่ยมันมีความสำคัญและมันเกี่ยวเนื่อง
00:09:38 → 00:09:42 อะไรมันถึงได้คนนี้ดีคนนี้ไม่ดีคนนี้
00:09:42 → 00:09:45 ฮอร์โมนหมดคนนี้ทำไมมีปัญหามันเกี่ยวกับ
00:09:45 → 00:09:48 ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตมั้ยอใช่ค่ะมากเลย
00:09:48 → 00:09:50 ค่ะพี่ตั๊กหมอจะบอกคนไข้เลยว่ามันเหมือน
00:09:50 → 00:09:52 เป็นเคล็ดลับของจักรวาลอ่ะนะคะถ้าเรารู้
00:09:52 → 00:09:55 แล้วเนี่ยเราจะแบบสุขภาพดีอายุยืนสาวอมตะ
00:09:55 → 00:09:58 เหมือนสาวแบบพี่ตั๊ก 2,000 ปีได้สบายเลย
00:09:58 → 00:10:00 ใช่คือแรกๆเลยค่ะอันดับแรกคือเรื่องอาหาร
00:10:00 → 00:10:03 สำคัญที่ที่สุดเลยอืออาหารคือปัจจัยสำคัญ
00:10:03 → 00:10:05 เลยแต่คนส่วนใหญ่พูดให้ลึกกว่านั้นอีก
00:10:05 → 00:10:07 แล้วอาหารอะไรล่ะทำให้ฮอร์มนตเราพังเร็ว
00:10:07 → 00:10:09 ก็คือ high sugar อาหารที่เป็นน้ำตาลสูง
00:10:09 → 00:10:11 ทั้งหลายงั้นสาวๆทั้งหลายแน่นอนค่ะผู้
00:10:11 → 00:10:14 หญิงอ่ะเราชอบกินเบเกอรี่บ้างขนมปังบ้าง
00:10:14 → 00:10:17 ขนมหวานบ้างรวมถึงผลไม้หวานด้วยบางคนบอก
00:10:17 → 00:10:19 ฉันไม่ได้ใส่ขนมเลยนะเค้กคุกกี้เบเกอรี่
00:10:19 → 00:10:22 ขนมไทยฉันไม่กินแต่ฉันไปสายผลไม้อย่าง
00:10:22 → 00:10:24 หน้านี้หน้าทุเรียนใช่มั้คะมาเลยจะพันธุ์
00:10:24 → 00:10:27 ไหนก็มาจะหายากขนาดไปจองไว้เรียบร้อยแล้ว
00:10:27 → 00:10:30 หรือข้าวเหนียวมะม่วงหรือพวกส้มสับปะรด
00:10:30 → 00:10:33 แตงแตงโมองุ่นลำไยเงาะลิ้นจี่ทั้งหมดเลย
00:10:33 → 00:10:35 ค่ะคือน้ำตาลสูงหมดเลยอันนี้พี่เทียบจาก
00:10:35 → 00:10:39 ตัวเองนะได้เลยค่ะพี่ไม่ทานน่ะนะแต่ถ้า
00:10:39 → 00:10:42 พี่อยากทานพี่ก็จะทานนิดเดียวอ่าอ้าถูก
00:10:42 → 00:10:45 ต้องเลยค่ะทุเรียน 1 เม็ดอาจจะแบ่ง 4 วัน
00:10:45 → 00:10:48 หูพี่ๆพี่แบ่งเป็น 4 แต่ว่าแต่หน้านี้พี่
00:10:48 → 00:10:50 จำได้ว่าตั้งแต่ปีที่แล้วพี่ยังไม่ได้ทาน
00:10:50 → 00:10:54 ทุเรียนเลยเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเรากินบ้าง
00:10:54 → 00:10:56 มันก็ไม่ได้ทำให้ฮอร์โมนพังใช่มั้ฮะแต่
00:10:56 → 00:10:59 ไม่ใช่ว่าต้องกินเป็นประจำอยากให้หมอตรง
00:10:59 → 00:11:02 นี้คืออยากจะบอกที่พี่ต่ว่าโหฟังหมอแชมป
00:11:02 → 00:11:06 แล้วแบบว่าตายห้ามกินอะไรเลยโออดอาหารตาย
00:11:06 → 00:11:08 ก่อนพี่หมดความสุขก็ไม่ใช่แบบนั้นแต่เรา
00:11:08 → 00:11:11 กำลังพูดว่าน้ำตาลคือยาพิษน้ำตาลคือตัวทำ
00:11:11 → 00:11:13 ให้ฮอร์โมนเราพังถ้าเรารู้ว่าน้ำตาลเนี่ย
00:11:13 → 00:11:15 ทำโทษกับเราแบบนี้สมมุติว่าเราจะกำหนดไป
00:11:15 → 00:11:17 เลยว่า 7 วันเพราะคนไข้ถามหมอว่าแล้วหมอ
00:11:17 → 00:11:20 กินอะไรบ้างเนี่ยหมอว่า 7 วันนะหมอหยุด 1
00:11:20 → 00:11:22 วันคือวันจันทร์วันจันทร์ก็เป็นวันชี Day
00:11:22 → 00:11:24 ของหมออาจจะไปกินทุเรียนบ้างอ่ะกิน
00:11:24 → 00:11:26 เบเกอรี่บ้างแต่ไม่ใช่ว่าเราไม่กำหนดโอ๊
00:11:26 → 00:11:27 วันนี้เหนื่อยจังเลยขอกินโกโก้หน่อยวัน
00:11:27 → 00:11:30 นี้กินชานมอีกนิดนึงวันนี้ขอกินเค้กอีก
00:11:30 → 00:11:32 หน่อยนึงวันนี้ขอกินขนมปังอีกสุดท้ายมัน
00:11:32 → 00:11:35 มีวันเหตุผลทุกวันใช่น้ำตาลก็เยอะสุดท้าย
00:11:35 → 00:11:38 ฮอร์โมนเราก็หล่นลงไปสุดท้ายคือความแก่ก็
00:11:38 → 00:11:41 จะมาเยือนแน่นอนเลยค่ะงั้นก็ปัจจัยอันแรก
00:11:41 → 00:11:44 ที่ว่าน้ำตาลทำให้ฮอร์โมนเราพังมีผลเยอะ
00:11:44 → 00:11:47 มั้คะมากเลยค่ะคือจากงานวิจัยเขาบอกเลย
00:11:47 → 00:11:49 ว่าน้ำตาลเป็นตัวต้นกำเนิดเลยค่ะทำให้
00:11:49 → 00:11:51 ระบบลำไส้ของเราก็คือตัวกระเพาะลำไส้เล็ก
00:11:51 → 00:11:53 ลำไส้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องการดูดซึมสารอาหาร
00:11:53 → 00:11:56 ทั้งหมดมันเกิดการดูดซึมไม่ดีพอดูดซึมไม่
00:11:56 → 00:11:59 ดีเสร็จปุ๊บลำไส้เกิดการอักเสบมากขึ้นสาร
00:11:59 → 00:12:01 อาหารที่เราควรจะกินเช่นบางทีคนไข้จะบอก
00:12:01 → 00:12:03 ว่าสมมุติเราดื่มน้ำทำไมฉี่บ่อยจังเพราะ
00:12:03 → 00:12:05 ระบบดูซึมเราเริ่มมีปัญหาหรือเปล่าหรือ
00:12:05 → 00:12:07 เรากินอาหารเสริมวิตามินต่างๆแล้วแบบกิน
00:12:07 → 00:12:09 เข้าไปเอ๊ะทำไมคนอื่นในวัยเดียวกันเกิน
00:12:09 → 00:12:11 แล้วเห็นผลไปแล้วผิวสวยสุขภาพดีปลดเข่า
00:12:11 → 00:12:13 หายหมดแล้วแต่เรากินตั้งนาน 3 เดือน 6
00:12:14 → 00:12:15 เดือนทำไมฉันเห็นผลช้ากว่าเพื่อนหรือฉัน
00:12:15 → 00:12:18 กินโปรตีนเข้าไปบางคนกินแบบ 2-3 สคุปวัน
00:12:18 → 00:12:20 นึง 50 กรัม 70 กรัมแต่กินแล้วทำไมกล้าม
00:12:20 → 00:12:22 เนื้อไม่ขึ้นสักทีต้องคิดต่อเลยว่าระบบดู
00:12:22 → 00:12:24 ซึมของเราพังเพราะเรากินน้ำตาลเยอะตั้ง
00:12:24 → 00:12:27 แต่แรกทำให้ลำไส้เราพังตั้งแต่ต้นนั่นคือ
00:12:27 → 00:12:28 รากอันดับแรกเลยค่ะที่ทำให้ร่างร่างกาย
00:12:28 → 00:12:32 ของเรารวนค่ะแต่น้ำตาลนี่มันมีผลจริงนะ
00:12:32 → 00:12:36 หมอมากเลยค่ะพี่จำได้ว่าพี่งดน้ำตาลมา 2-3
00:12:36 → 00:12:39 ปีเนี่ยออพี่ไม่ไม่ปวดไม่เมื่อยแล้วนอน
00:12:39 → 00:12:42 หลับโอ้โหมีผลมั้ยคะมีผลมากเลยค่ะมีผลมาก
00:12:42 → 00:12:45 งั้นแสดงว่าถ้าใครกินน้ำตาลเนี่ยเกี่ยว
00:12:45 → 00:12:48 ที่จะทำให้นอนไม่ค่อยหลับใช่ค่ะใช่เพราะ
00:12:48 → 00:12:49 ว่าเวลาที่น้ำตาลเข้าไปร่างกายเมื่อไหร่
00:12:49 → 00:12:51 เซลล์ในร่างกายทั้งหมดจะอักเสบเพราะคำว่า
00:12:51 → 00:12:53 เซลล์คือเซลล์สมองก็ได้เซลล์รังไข่ของเรา
00:12:54 → 00:12:56 ก็ฝ่อก็ได้ไม่ผลิตฮอร์โมนเพศหญิงก็ได้
00:12:56 → 00:12:58 หรือเซลล์ผิวหนังเราก็เหี่ยวง่ายอ่ะสมมติ
00:12:58 → 00:13:00 อาจจะแบบโบท็อกฟิเลอร์อะไรก็ตามเอ๊ะทำไม
00:13:00 → 00:13:02 เมื่อก่อน 3 เดือน 6 เดือนมันโอเคบางที
00:13:02 → 00:13:04 แบบอ้าทำไมเดือนนึงหมดฤทธิ์เร็วเราก็ไป
00:13:04 → 00:13:06 โทษว่าเอายาเค้าแบบไม่ดีหรือเปล่าหรือทำ
00:13:06 → 00:13:08 ยกกระชับแล้วปกติอยู่ได้เป็นปีทำไมเดี๋ยว
00:13:08 → 00:13:10 นี้มันหดสั้นลงกว่าเดิมก็ต้องไปดูว่า
00:13:10 → 00:13:13 ไลฟ์สไตล์เราเปลี่ยนไปมั้ยช่วงหลังไปกิน
00:13:13 → 00:13:15 ของหวานเยอะหรือเปล่าน้ำหวานเยอะไปมั้ย
00:13:15 → 00:13:17 หรือทุกอย่างต้องใส่น้ำเชื่อมใส่น้ำผึ้ง
00:13:17 → 00:13:19 ใส่น้ำตาลหล่อฮังกล้วยทุกอย่างคือน้ำตาล
00:13:19 → 00:13:22 มันคือยาผิดทั้งหมดเออพอพูดเรื่องนี้นะ
00:13:22 → 00:13:25 พี่ล่าสุดมีน้ำตาลหล่อหางกล้วยแล้วสมัย
00:13:25 → 00:13:26 ไม่ใช่สมัยเดี๋ยวนี้อาจจะยังมีอยู่เป็น
00:13:26 → 00:13:30 น้ำตาลเทียมอ่าอ่าคนก็หนีด้วยการไม่ใส่
00:13:30 → 00:13:32 น้ำตาลปกติไม่ใส่น้ำผึ้งแต่ไปใส่น้ำตาล
00:13:32 → 00:13:35 เทียมค่ะพี่ตั๊กใช่เลยค่ะได้มั้คะจริงๆก็
00:13:35 → 00:13:38 ไม่ได้ค่ะมันก็คือน้ำตาลถูกต้องค่ะมัน
00:13:38 → 00:13:39 เหมือนเรากำลังหลอกร่างกายว่าฉันไม่กิน
00:13:39 → 00:13:41 น้ำตาลแล้วนะแต่ร่างกายเราก็รับรู้ว่าฉัน
00:13:41 → 00:13:43 ติดหวานอยู่ดีแต่จะดีกว่ามั้ยสมมุติถ้า
00:13:43 → 00:13:46 เราจะสวิตช์การที่ชอบน้ำตาลค่อยๆลดปริมาณ
00:13:46 → 00:13:48 ลงแล้วเราไปเปลี่ยนเป็นอาหารที่เป็น
00:13:48 → 00:13:50 ไฮโปรตีนแทนแล้วเริ่มปรับเปลี่ยนว่าจะกิน
00:13:50 → 00:13:51 น้ำตาลเยอะเปลี่ยนเป็นกินโปรตีนเยอะดี
00:13:51 → 00:13:53 กว่าเพราะโปรตีนเป็นแหล่งสำคัญในการสร้าง
00:13:53 → 00:13:56 ฮอร์โมนเพศหญิงค่ะถ้ามนเพศหญิงเราเยอะเรา
00:13:56 → 00:13:58 ก็จะไม่ป่วยไม่ต้องกังวลเลยป่ะวันนึงฉัน
00:13:58 → 00:14:00 อายุยืนมีเงินมากมายแต่วันนึงฉันต้องติด
00:14:00 → 00:14:02 เตียงแบบนั้นเราก็ไม่เอาใช่มั้ยคะหมอบอก
00:14:02 → 00:14:05 ว่าต้องเน้นเรื่องโปรตีนอะไรที่ที่จะเป็น
00:14:05 → 00:14:08 โปรตีนที่ดีสำหรับเราเดี๋ยวนี้มันจะมี
00:14:08 → 00:14:11 โปรตีนอะไรธรรมชาติสังเคราะห์อะไรต่างๆ
00:14:11 → 00:14:14 โผล่กันมาหมอว่ายังไงฮะอ่าอย่างน้อย
00:14:14 → 00:14:15 โปรตีนเราต้องคำนวณตามน้ำหนักตัวค่ะพี่
00:14:15 → 00:14:18 ตั๊กว่าเช่นสมมุติสมมติน้ำหนัก 50 โปรตีน
00:14:18 → 00:14:20 ขั้นต่ำที่เราควรจะกินคือ 50 กรัมอ๋อต้อง
00:14:21 → 00:14:23 ต้องเท่ากับน้ำหนักเหรอคะใช่ขั้นต่ำนะคะ
00:14:23 → 00:14:26 อ๋อใช่สมมุติว่า 1 กรัมปั้นของมือเราอ่ะ
00:14:26 → 00:14:28 ค่ะเท่ากับโปรตีน 20 กรัมถ้าเราต้องการ
00:14:28 → 00:14:30 โปรตีน 50 กรัมต่อวันแสดงว่า 2 กรัมปั้น
00:14:30 → 00:14:33 ครึ่งโอเยอะมากเลยยากนะเพราะไข่เนี่ยบาง
00:14:33 → 00:14:36 คนกินไข่นี่ลูกไม่กี่โปรตีนเท่าไหร่ 5
00:14:36 → 00:14:39 กรัมเอง 7 7 กรัมต้องกินตั้งเท่าไหร่อ่ะ
00:14:39 → 00:14:41 เป็น 10 ฟองกี่ฟองคะใช่ต้องเป็น 10 ฟอง
00:14:41 → 00:14:44 กว่าจะได้ถึงโปรตีนอันนี้คำถามคือที่พี่
00:14:44 → 00:14:46 ตั๊กถามว่าแล้วกินยังไงดีอันแรกเลยค่ะเรา
00:14:46 → 00:14:48 แนะนำว่าสำหรับผู้หญิงไว้ 50 บวกควรจะกิน
00:14:48 → 00:14:51 โปรตีนที่มาจากเนื้อสัตว์ 50% อีก 50%
00:14:51 → 00:14:53 เป็นแบบแพนเบสดีกว่าเหตุผลเพราะว่าในวัย
00:14:53 → 00:14:55 เนี้ยค่ะระบบการดูดซึมการของเรามันเริ่ม
00:14:55 → 00:14:58 มีปัญหาถ้าไปจัดสัสายเนื้อบุฟเฟ่ต์โอ
00:14:58 → 00:15:01 เนื้อวัวชาบูเต็มที่อ้าท้องอืดไม่ย่อยลม
00:15:01 → 00:15:03 ตีขึ้นมาอีกอ้านอนไม่หลับอีกเพราะงั้นก็
00:15:03 → 00:15:05 เลยแนะนำว่าอาหารที่เราควรจะกินที่เป็น
00:15:05 → 00:15:08 เนื้อสัตว์คือเนื้อปลาจะเป็นโปรตีนที่มัน
00:15:08 → 00:15:09 ย่อยง่ายที่สุดแต่แนะนำว่าเป็นปลาไซส์
00:15:09 → 00:15:12 เล็กนะคะตัวไม่เกิน 1-2 กเหตุผลเพราะว่า
00:15:12 → 00:15:15 ถ้าไปกินปลาไซส์ใหญ่เยอะที่มาของสารพิษก็
00:15:15 → 00:15:18 จะอยู่ในเนื้อปลาอีกก็ได้สารตะกั่วปลอด
00:15:18 → 00:15:20 สารหนูอันนี้ก็เป็นแหล่งที่มาของความ
00:15:20 → 00:15:21 เสี่ยงในการเกิดมะเร็งหรือความเสี่ยงใน
00:15:21 → 00:15:24 การเกิดในงอกต่างๆได้ด้วยแล้วแพนเบสที่
00:15:24 → 00:15:27 หมอว่าคืออ้าแพนเบส
00:15:27 → 00:15:29 ทำจากพืชใช่มคะเดี๋ยวนี้เดี๋ยวนี้อย่าง
00:15:29 → 00:15:31 ที่พี่ตับอกเนามันมีหลากหลายมากเลยที่เรา
00:15:31 → 00:15:34 เป็นออกมาในรูปกระป๋องเพียง 1 ชูอะไรมี
00:15:34 → 00:15:37 สำเร็จรูปได้ค่ะได้เลยแต่ว่าเราก็จะเริ่ม
00:15:37 → 00:15:39 เลือกก่อนค่ะว่ามีโปรตีนแบบไหนบ้างจะเป็น
00:15:39 → 00:15:44 ถั่วลันเตาแอลมอนปิตาิโอวอนัโออินคาชิกพี
00:15:44 → 00:15:47 ควีนอสารพัดเลยซึ่งเดี๋ยวนี้คือถ้าสมมุติ
00:15:47 → 00:15:49 เราเอาแบบง่ายๆแล้วก็เริ่มต้นจากโปรตีน
00:15:49 → 00:15:52 ที่มาจากถั่วธัญพืชก่อนอาจจะเป็นโปรตีน
00:15:52 → 00:15:53 จากถั่วลันเตาก็ได้เพราะพวกนี้มันมี
00:15:53 → 00:15:55 คอเลสเตอรอลไขมันน้อยด้วยหรือเป็นอัลมอน
00:15:55 → 00:15:58 พิาชิโอวนัอันนี้ถือว่าเป็นอาหารที่มี
00:15:58 → 00:16:00 โปรตีนสูงและไขมันต่ำนะคะกลุ่มนี้สามารถ
00:16:00 → 00:16:02 ทานได้อันนั้นทานได้ใช่มั้คะเพราะมีบาง
00:16:02 → 00:16:06 กระแสก็บอกว่าอืมันถูกสังเคราะห์มาอ๋อ
00:16:06 → 00:16:08 เข้าใจเลยค่ะหมอมีความรู้สึกไงที่ก็เอามา
00:16:08 → 00:16:11 เช็คนะคะเช็คแล้วก็ดื่มก่อนออกกำลังกาย
00:16:12 → 00:16:14 หรืออะไรอย่างเงี้ยอ่าจริงๆเราสามารถ
00:16:14 → 00:16:16 เลือกได้ค่ะเพราะจริงๆกลุ่มพวกเชคเหล่าเย
00:16:16 → 00:16:17 มันมีกลุ่มที่เรียกว่าเป็นออร์แกนิค
00:16:17 → 00:16:19 ออร์แกนิคอย่างเช่นออรแกนิคพีโปรตีน
00:16:19 → 00:16:22 ออรแกนิคalมอนออร์แกนิคพิตาชิโอเราก็ต้อง
00:16:22 → 00:16:23 เลือกว่ามันมีคำว่าออรแกนิคแล้วก็มี
00:16:23 → 00:16:26 มาตรฐานรับรองเลยว่าเป็นการปลูกที่มาจาก
00:16:26 → 00:16:28 ฟาร์มที่มันปลอดสารนะไม่ใช่ว่าแพนเบสอะไร
00:16:28 → 00:16:30 ก็ได้ไม่ใช่ว่าเรื่องเราตัดจะเอ้ยอันนี้
00:16:30 → 00:16:32 ราคาถูกไปเอาอันนั้นอันนี้ก็จะได้สารพิษ
00:16:32 → 00:16:33 ที่มาจากฟาร์มเหล่านั้นก็ได้ด้วยเช่นกัน
00:16:33 → 00:16:37 ค่ะอ๋องั้นก็ก็ต้องเลือกหน่อยนะคะแล้วมี
00:16:37 → 00:16:40 สารพิษอะไรมั้ยฮะที่ทำให้ฮอร์โมนพังอ๋อมี
00:16:40 → 00:16:43 มากเลยค่ะต้องบอกว่าสารพิษเนี่ยมาจาก 2
00:16:43 → 00:16:45 ทางอันแรกคือ 80% มาจากอาหารอันนี้เรียก
00:16:45 → 00:16:48 เป็นภัยเงียบใกล้ตัวอีก 20% มาจาก
00:16:48 → 00:16:50 พฤติกรรมไลฟ์สไตล์อาจจะมาจากอาชีพของเรา
00:16:50 → 00:16:52 สิ่งแวดล้อมของเราก็ได้อาหารเนี่ย
00:16:52 → 00:16:53 ปัจจุบันเราก็สามารถหาได้ง่ายมากๆอาจจะ
00:16:53 → 00:16:55 เป็นกลุ่มประเภทซีฟู้ด
00:16:55 → 00:16:58 กุ้งปูปลาหมึกหอยต่างๆแล้วก็กลุ่มอาหาร
00:16:58 → 00:17:00 ที่เป็นปลาไซส์ใหญ่อย่างเช่นปลาแซลมอนปลา
00:17:00 → 00:17:04 หิมะพูชลต่างๆของใครถามหมอเลยว่าเอ๊ะมัน
00:17:04 → 00:17:06 เกี่ยวอะไรคะหมอกับสารพิษเขาไม่ได้ดื่ม
00:17:06 → 00:17:08 เหล้าซุบหรี่นะแล้วจะมีสารพิษได้ไงทำไม
00:17:08 → 00:17:09 พี่จะแก่ลงในพี่วัย 60 พี่ดูแลตัวเองดี
00:17:09 → 00:17:12 ตลอดเลยนะแต่เรากลับตรวจเจอว่าสารพิษเสูง
00:17:12 → 00:17:15 มากคำตอบคือว่าในทะเลอ่ะค่ะก็จะมีเรือ
00:17:15 → 00:17:18 ใหญ่เรือก็จะปล่อยน้ำมันเรือลงสู่ทะเลใน
00:17:18 → 00:17:20 น้ำมันเรือก็จะมีตะกัวปลอดสารหนูแคเมียม
00:17:20 → 00:17:22 โครเมียมซึ่งสิ่งเหล่านี้เขาเรียกว่าเป็น
00:17:22 → 00:17:25 สารพิษโลหะค่ะพี่ตั๊กอใช่อือแล้วถ้าเรามี
00:17:25 → 00:17:28 สพิษเหล่านี้อยู่ในทะเลแล้วปลาปูกุ้งหอย
00:17:28 → 00:17:30 ไปกินมันแล้วบางคนก็ชอบกินหัวกุ้งซะด้วย
00:17:30 → 00:17:32 โอมันดีจังเลยอร่อยกุ้งเผาเนี่ยจัดแต่หัว
00:17:32 → 00:17:35 เลยจัดเต็มแซลมอนก็กินทุกวันเลยนี่คือการ
00:17:35 → 00:17:37 เติมสารโลหะหนักเขาเรียกว่าสารหนูเข้าไป
00:17:37 → 00:17:39 ในร่างกายและนี่คือภัยเงียบที่เราฉันว่า
00:17:39 → 00:17:41 ดูตัวเองดีแล้วนะฉันกินคลีนนะฉันกินปลา
00:17:41 → 00:17:43 ทุกวันแต่ลืมไปว่าอ้าวแล้วปลาอะไรบ้างล่ะ
00:17:44 → 00:17:45 ที่มันไม่มีสารพิษแล้วปลาอะไรบ้างที่มี
00:17:45 → 00:17:48 สารพิษหอหนักเยอะเราก็แค่เปลี่ยนค่ะมาไป
00:17:48 → 00:17:50 กินปลาที่ไซส์เล็กลงอาจจะเป็นปลากระพงปลา
00:17:50 → 00:17:53 สำลีปลานิลปลาทับทิมปลาจลเม็ดได้หมดเลย
00:17:53 → 00:17:55 ค่ะที่เป็นปลาที่ตัวเล็กต่ำต่ำกว่า 1-2
00:17:55 → 00:17:57 ก.ลงไปเพราะพวกนี้มันตายเร็วสารพิษเข้า
00:17:57 → 00:17:59 อยู่ในร่างกายเค้าก็จะน้อยกว่าปกติค่ะพี่
00:17:59 → 00:18:01 เพราะว่าเท่าที่ฟังดูเหมือนแทบเราแทบจะ
00:18:01 → 00:18:04 กินอะไรลำบากมากไปทุกโอมันดูยากขึ้นนะคะ
00:18:04 → 00:18:07 ออนะคะลำบากมากเลยแต่มากกว่านั้นที่อยาก
00:18:07 → 00:18:10 จะพูดถึงสำหรับแก๊งแม่ๆ 50- 60 บวกทั้ง
00:18:10 → 00:18:12 หลายบางทีแบบเรากินอาหารค้างคืนกินอาหาร
00:18:12 → 00:18:15 แช่แข็งกินอาหารไมโครเวฟบางทีเอ้ยเราทำ
00:18:15 → 00:18:17 กับข้าวมาเสียดายหม้อใหญ่อยู่กับหลายคนใน
00:18:17 → 00:18:20 บ้านเออเก็บไว้ก่อนเก็บไว้แช่เย็นอีกอ้า
00:18:20 → 00:18:22 อุ่นเป็นน้ำสต๊อกเก็บไว้หลายๆวันอันนั้น
00:18:22 → 00:18:25 คือการก่อให้เกิดเชื้อราในอาหารออกินไป
00:18:25 → 00:18:27 เรื่อยเกิดการอักของลำไส้แล้วคือที่มาว่า
00:18:27 → 00:18:29 ทำไมคนไทยมีอัตราการเสียชีวิตหรืออัตรา
00:18:29 → 00:18:32 การเป็นมะเร็งลำไส้กระเพาะสูงขึ้นมาใช่
00:18:32 → 00:18:34 เพราะเราเสียดายของอ๋อนี่คือเรื่องของ
00:18:34 → 00:18:36 อาหารค้างคืนใช่ค่ะต้องระวังมากๆแต่ส่วน
00:18:36 → 00:18:38 มากเเก็บกันนะคะหมอใช่ค่ะที่บ้านหมอก็
00:18:38 → 00:18:40 เป็นค่ะเมื่อก่อนคือเก็บจัดเต็มเลยให้ได้
00:18:40 → 00:18:43 เต็มที่วันเดียวไม่ได้เลยค่ะห้ามค้างคืน
00:18:43 → 00:18:45 จริงเหรอใช่ค่ะสมมุติถ้าพี่แบบพี่ตั๊กทำ
00:18:45 → 00:18:48 กับข้าวบอกว่าเออเราทำกับข้าวเช้ากลางวัน
00:18:48 → 00:18:50 เย็นจบ 3 มื้อครบที่เหลือคือให้น้องหมา
00:18:50 → 00:18:52 น้องแมวมั้ออๆต้องเป็นอย่างงั้นอ๋อบางคน
00:18:52 → 00:18:55 อย่างอย่างสมัยก่อนโบราณนี่แก๊งส้มนี่
00:18:55 → 00:18:59 หรือไข่พะโลของอร่อยเนี่ยนะก็จะเก็บค้าง
00:18:59 → 00:19:02 คืนไว้ไม่ควรไม่ควรเลยค่ะใช่แล้วเราช้อน
00:19:02 → 00:19:04 สะอาดตักก็ไม่ได้เหรอก็ไม่ได้เลยค่ะที่
00:19:04 → 00:19:06 บ้านก็เคยเห็นเหมือนกันแบบบางทีจับฉายมั้
00:19:06 → 00:19:09 คะต้มแล้ว 3 วัน 7 วันบางทีเห็นอยู่แบบ 2
00:19:09 → 00:19:11 อาทิตย์อ้าหม้อเดิมยังอยู่เติมผักเติมน้ำ
00:19:11 → 00:19:14 เข้าไปเติมหมูเพิ่มเรียบร้อยเลยเพราะเรา
00:19:14 → 00:19:16 ชิมแล้วมันไม่เปรี้ยวแต่เราจะรู้ได้ไงนะ
00:19:16 → 00:19:18 คะว่าจุลินทรีย์เชื้อราในอาหารมันเติบโต
00:19:18 → 00:19:20 ไปแล้วพนักงานวิจัยเหล่านี้เค้ามีพิการ
00:19:20 → 00:19:22 พิสูจน์เลยว่าถ้าเรากินอาหารซ้ำๆค้างคืน
00:19:22 → 00:19:24 บ่อยๆเหล่าเนี้ยแน่นอนกระเพาะอาหารเราจะ
00:19:24 → 00:19:26 เริ่มอักเสบลำไส้มีปัญหาเป็นการสะสม
00:19:26 → 00:19:28 แบคทีเรียตัวไม่ดีเข้าไปนั่นคือที่มาของ
00:19:28 → 00:19:30 การเกิดเนื้องอกเล็กๆแลนั่นคือที่มาว่า
00:19:30 → 00:19:32 ทำไมคนปัจจุบันเป็นกดไหลย้อนเยอะมีปัญหา
00:19:32 → 00:19:35 ปวดท้องเยอะเนื้องอกในลำไส้ตามมาง่ายขึ้น
00:19:35 → 00:19:38 เพราะเรากินอาหารค้างคืนตลอดเวลาแต่บางที
00:19:38 → 00:19:40 เราหลีกเลี่ยงในเรื่องการทานอาหารข้างนอก
00:19:40 → 00:19:43 ไม่ได้สมมุติเราไปทานอาหารเราก็คงไม่มั่น
00:19:43 → 00:19:49 ใจว่าร้านนั้นจะฟรีซอาหารไว้หรือว่าข้าม
00:19:49 → 00:19:52 คืนหรือค้างคืนตรงเนี้ยหมอมีมีไอเดียยัง
00:19:52 → 00:19:53 ไงบ้างอ่ะเพราะพอพูดนี้พี่เริ่มกลัวตัว
00:19:53 → 00:19:56 แล้วนะเออจะกินอะไรได้บ้างใช่มั้คะอ่า
00:19:56 → 00:19:58 ต้องบอกว่าเราต้องคิดก่อนเลยค่ะว่าอาหาร
00:19:58 → 00:20:00 อะไรบ้างที่ส่วนใหญ่ที่เขาชอบฟรีสง่ายๆ
00:20:00 → 00:20:03 เลยค่ะเนื้อวัวอันดับ 1 เลยเพราะเนื้อวัว
00:20:03 → 00:20:05 ที่อร่อยแบบพรีเมี่มจะเป็นมัสซากะจะเป็น
00:20:05 → 00:20:08 A4 A5 อร่อยมันต้องโรเzenนมามันต้องแช่
00:20:08 → 00:20:10 แข็งมาแล้วกลุ่มเหล่านี้เองเจอประจำเลย
00:20:10 → 00:20:13 ค่ะว่าคนไข้ชอบทานเนื้อวัวจะปิ้งย่างจะไป
00:20:13 → 00:20:15 ทำสเต็กตรวจมาปึ๊บสารหนู 200-300 แล้วคน
00:20:15 → 00:20:17 กลุ่มนี้เค้าไม่ดื่มร้าสูบบุหรี่นะคะมี
00:20:17 → 00:20:19 ทุกอันเลยเหรอมีทุกอันเลยค่ะถ้าเป็นเนื้อ
00:20:19 → 00:20:20 แช่แข็งเมื่อไหร่เพราะเนื้อที่อร่อยที่ดี
00:20:20 → 00:20:22 เนี่ยบางทีแบบเป็นก้อนใหญ่ๆเจะมาหั่นทำ
00:20:22 → 00:20:25 เป็นชาบูสวยสวยใช่มั้คะหรือว่าเก็บเอาไว้
00:20:25 → 00:20:27 แล้วอ่ะจะเอากี่กรัมล่ะก็หั่นมาให้เรา
00:20:27 → 00:20:29 แล้วก็ไปทำเป็นสเต็กซึ่งกลุ่มเหล่านี้เอง
00:20:29 → 00:20:30 ค่ะเพราะว่าเนื้อที่ดีอ่ะมันต้องไป
00:20:30 → 00:20:32 โรเzenนเอาไว้ว่าได้เอาแบบเนื้อสดเนื้อ
00:20:32 → 00:20:35 แบบดิบๆมาเพิ่งแบบค่าวัวมาจากต่างประเทศ
00:20:35 → 00:20:39 เลยบินหนูมาจากไหนโดยกระบวนการ process
00:20:39 → 00:20:41 ของเขาค่ะจริงๆเ้าเหมือนไม่ได้ตั้งใจจะ
00:20:41 → 00:20:43 ใส่ลงไปแต่ด้วย process ที่ทำให้อาหารที่
00:20:43 → 00:20:45 มันอยู่ได้นานเราคิดภาพบางทีแบบชเคยถาม
00:20:45 → 00:20:48 เนื้อพรีเมี่มโหเก็บได้เป็นปีเ้าต้องทำ
00:20:48 → 00:20:50 กระบวนการอะไรบ้างคะทำให้มันมันไม่เน่าทำ
00:20:50 → 00:20:52 ให้มันสามารถอยู่ได้นานใน process เหล่า
00:20:52 → 00:20:54 นั้นเองค่ะที่ที่มันแอดเข้าไปโดยที่เรา
00:20:54 → 00:20:55 ไม่รู้ตัวเพราะไม่ใช่ว่าเรากินปุ๊บจะมี
00:20:56 → 00:20:58 อาการแบบโอ๊ยคันจะมีเนื้องอกมะเร็งโผล่
00:20:58 → 00:21:00 ขึ้นมาเลยไม่เลยค่ะสิ่งเหล่านี้คือการ
00:21:00 → 00:21:02 สะสมเข้าไปกินวันละนิดวันละหน่อยอาทิตย์
00:21:02 → 00:21:04 นึงไปกินปิ้งย่างสเต็ก 1 รอบสมมุติว่าเรา
00:21:04 → 00:21:07 กินมาตลอด 30 ปีลองตรวจด้วยเลยค่ะจะเจอ
00:21:07 → 00:21:10 สารพิษโรหักงั้นงั้นแสดงว่าสมมุติเราไป
00:21:10 → 00:21:13 กินไอ้เนื้อชิ้นนั้นมีสารหนูแต่ก็ไม่ได้
00:21:13 → 00:21:16 หมายความว่ากลับบ้านเราจะเจอจะมีอาการไม่
00:21:16 → 00:21:18 มีค่ะคนไข้สจะไม่มีอาการเลยค่ะจนถึงจุด
00:21:18 → 00:21:21 นึงที่คือหมอชื่อว่าทุกคนมีสารพิษหนัก
00:21:21 → 00:21:23 อยู่แล้วแต่มีมากมีน้อยแล้วแต่ไลฟ์สไตล์
00:21:23 → 00:21:24 ว่าอ่ะฉันจะชอบกินปิ้งย่างด้วยเนื้อวัว
00:21:24 → 00:21:26 กันด้วยชอบกินของทอดด้วยกินอาหารค้างคืน
00:21:26 → 00:21:28 ด้วยอาหารแช่แข็งไมโครเวฟด้วยหลายอย่าง
00:21:28 → 00:21:30 รวมกันคนนี้อาจจะเยอะกว่าคนอื่นแต่อีก
00:21:30 → 00:21:31 กลุ่มนึงอาจฉันอาจชอบกินเนื้ออย่างเดียว
00:21:31 → 00:21:33 ฉันไม่กินอย่างอื่นอาจจะน้อยกว่าแต่เมื่อ
00:21:33 → 00:21:36 ไหร่ก็ตามที่คุมเราตกนอนน้อยด้วยเรากิน
00:21:36 → 00:21:39 น้ำตาลเยอะด้วยแล้วเรามีของหวานเยอะด้วย
00:21:39 → 00:21:41 มากๆคนไข้ถามหมอว่าแล้วสารพิษมันอันตราย
00:21:41 → 00:21:43 กับเรายังไงบ้างมันเกิดไปด้วย 3 อย่างอัน
00:21:43 → 00:21:46 ที่ 1 สารพิษเยอะจะก่อพมะเร็งอันที่ 2
00:21:46 → 00:21:48 สารพิษเยอะจะไปที่สตรกเพราะสารพิษมันกลาย
00:21:48 → 00:21:50 เป็นก้อนชนิดนึงถ้าเราตรวจเลือดเราจะเห็น
00:21:50 → 00:21:53 เป็นผลึกใหญ่ๆเลยเหรอคะถ้าเราไม่โชอุด
00:21:53 → 00:21:56 ปึ๊กอ้าอุยไขมันคอเลสอลไม่สูงน้ำตาลไม่
00:21:56 → 00:21:58 สูงแต่ทำไมกลายเป็นสกติดเตียงไปแล้วแล้ว
00:21:58 → 00:22:00 ผู้หญิงอย่างเราบางทีแบบอ่ะเรามีลูกที่
00:22:00 → 00:22:03 ต้องดูแลมีคุณพ่อคุณแม่มีสามีที่รักที่
00:22:03 → 00:22:05 เราอยากอยู่กับเขาไปนานๆแต่ถ้าเราเป็นสาย
00:22:05 → 00:22:06 ที่เรากินอาหารที่เราไม่รู้ว่ามีสารพิษ
00:22:06 → 00:22:08 เราหนักแล้วเราไม่เคยตรวจไม่เคยล้างสาย
00:22:08 → 00:22:10 พิษมาก่อนสิ่งเหล่านั้นคือภัยเงียบเลยค่ะ
00:22:10 → 00:22:12 พี่ตั๊กที่มันจะมาหาเราเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
00:22:12 → 00:22:15 โอสารที่ว่าสารพิษที่ว่าอยู่ในร่างกายของ
00:22:15 → 00:22:19 ทุกคนไม่แสดงอาการมีมากมีน้อยต้องมีทุกคน
00:22:19 → 00:22:23 เหรอคือบางคนต้องบอกว่าหมอถามหมอว่าถ้า
00:22:23 → 00:22:24 หมอเคยเจอคนไข้ที่ไม่มีมั้ตลอด 10 ปีที่
00:22:25 → 00:22:27 หมอดูคนไข้มามีบ้างมีไม่ถึง 1% ที่เขาไม่
00:22:27 → 00:22:30 มีแต่กลุ่มนั้นคือปลูกผักเองโหเลี้ยงไก่
00:22:30 → 00:22:33 เลี้ยงปลาเองคือออร์แกนิคล้วนออซึ่งหาได้
00:22:33 → 00:22:36 ยากนะคะมีเด็กๆมั้คะเด็กๆที่มีสารพิโรหัน
00:22:36 → 00:22:38 หนักเยอะใช่มั้ยคะมีค่ะอย่างล่าสุดที่หมอ
00:22:38 → 00:22:40 มีโอกาสเจอเรียกว่าเด็กสุดเลยค่ะ 5 ขวบ
00:22:40 → 00:22:43 เองตรวจมาศาลหนูเแบบ 200-300 แล้วบอกเฮ้ย
00:22:43 → 00:22:46 คุณแม่น้องไปทำอะไรมาคะแต่ว่าแน่นอนหมอ
00:22:46 → 00:22:48 ถามเก่อนว่าทำไมถึงพาอายุแค่เนี้มาหาหมอ
00:22:48 → 00:22:50 ใช่เพราะว่าคนไข้หลักที่หมอดูแลคือเป็น
00:22:50 → 00:22:52 ผู้หญิง 40 50 60 อยู่แล้วเบอกว่าลูก
00:22:52 → 00:22:54 อ่ะเป็นภูมิแพ้บ่อยมากขึ้นไม่รู้เป็น
00:22:54 → 00:22:56 เพราะอะไรทำไมช่วงนี้แพ้ง่ายมีผื่นผดแล้ว
00:22:56 → 00:22:59 ก็คิดว่า PM 2.5 หรือเปล่าแพ้ครีมสบู่
00:22:59 → 00:23:01 หรือว่าเสื้อผ้าแม่บ้านซักไม่สะอาดมั้คำ
00:23:01 → 00:23:03 ตอบคือไม่ใช่ตรวจมาในเลือดเจอสาหหนักเยอะ
00:23:03 → 00:23:06 มากคุณแม่บอกว่าน้องชอบกินแซลมอนค่ะคุณ
00:23:06 → 00:23:08 หมอกินเป็นประจำเลยเพราะแม่อยากให้ลูก
00:23:08 → 00:23:10 ฉลาดก็มีโอเมก้า 3 โอเมก้า 9 เยอะซึ่งมัน
00:23:10 → 00:23:13 ก็ถูกต้องค่ะมีสารอาหารที่ดีแต่โลหะหนัก
00:23:13 → 00:23:15 ก็มาด้วยนั่นแหละค่ะคือสิ่งที่มันเป็นภัย
00:23:15 → 00:23:18 เงียบเดียวที่เราไม่รู้ตัวอืมโอหน่าคิดนะ
00:23:18 → 00:23:21 ถ้าสมมุติว่าสารหนูหรือโลหะหนักถ้าเราไป
00:23:21 → 00:23:25 ทำสุขหายมั้ไม่หายค่ะอยู่ครบเลยเป็นคำถาม
00:23:25 → 00:23:27 ที่เจอบ่อยมากคนไข้บอกหมอว่าพี่ไม่ได้กิน
00:23:27 → 00:23:29 ปลาดิบนะพี่ไม่ได้กินซาซิมินะพี่เอาไปต้ม
00:23:29 → 00:23:31 แล้วนะเป็นแบบหัวปลาแซลมอนด้วยนะเอาไป
00:23:32 → 00:23:33 ตุ่นเรียบร้อยแล้วนะสารโลหักมันคือมันไม่
00:23:34 → 00:23:35 โดนความร้อนแล้วมันหายไปจริงๆงานวิจัยล่า
00:23:35 → 00:23:38 สุดคือที่ต่างประเทศคืออเมริกาเขาพบว่า
00:23:38 → 00:23:40 ทำไมในอเมริกาถึงมีคนมีความเสี่ยงเป็น
00:23:40 → 00:23:43 สโตรกเยอะโรคหัวใจเยอะมะเร็งเยอะเกลับพบ
00:23:43 → 00:23:45 ว่าเพราะคนอเมริกาเหล่านั้นน่ะกินฟาสฟู้ด
00:23:45 → 00:23:48 เยอะพวกพิซซ่าเบอร์เกอร์ไกดทอดคลองทอด
00:23:48 → 00:23:50 อาหารแปรรูปกินของหวานเบเอรี่แค่คุกี้มี
00:23:50 → 00:23:52 หมดเลยแล้วนั่นแหละค่ะเคก็รู้ว่าถ้าเค้า
00:23:52 → 00:23:55 มัวแต่ผลิตคุณหมอไปผ่าตัดหัวใจผ่าตัดสมอง
00:23:55 → 00:23:57 คงไม่พอเค้าก็เลยคิดว่าแล้วถ้าเราสามารถ
00:23:57 → 00:23:59 ตรวจได้ว่าอะไรเป็นตัวต้นเหตุหลักๆก็ตรวจ
00:23:59 → 00:24:01 เจอว่าคนกลุ่มเหล่านั้นที่มีความเสี่ยง
00:24:01 → 00:24:04 เป็นมะเร็งสตรกมีสารพิษโรหหนักเยอะมาก
00:24:04 → 00:24:05 นั่นแหละค่ะแล้วพอเมื่อไหร่สารพิษเยอะ
00:24:05 → 00:24:07 ฮอร์โมนคุณจะต่ำทันทีฮอร์โมนต่ำคุณก็จะ
00:24:07 → 00:24:10 อ้วนง่ายไขมันมะเร็งก็จะมาอีกเห็นมั้ยคะ
00:24:10 → 00:24:12 มันคู่กันเลยค่ะอันนี้คือสิ่งที่เป็นต้น
00:24:12 → 00:24:15 เหตุหลักๆเลยค่ะงั้นเราอยากจะรู้ว่าข้าง
00:24:15 → 00:24:17 ในร่างกายเรามีสารพิษสารอะไรเราสามารถ
00:24:17 → 00:24:19 ตรวจได้จากเลือดใช่ค่ะถูกต้องสามารถตรวจ
00:24:19 → 00:24:21 จากเลือดได้แล้วฮอร์โมนด้วยว่าเราตกหรือ
00:24:21 → 00:24:23 ยังตรวจได้จากเลือดเหล่านี้ซึ่งจำเป็น
00:24:23 → 00:24:26 ต้องตรวจเน็ต้องตรวจมากเลยค่ะใช่ค่ะนอก
00:24:26 → 00:24:29 จากนี้มีอะไรที่ทำให้ฮอร์โมนพังอีกบ้าง
00:24:29 → 00:24:32 อ่าอีกอันนึงที่สำคัญเรียกว่าควบคู่กับ
00:24:32 → 00:24:34 อาหารเลยค่ะก็คือเรื่องของตัวการนอนหลับ
00:24:34 → 00:24:36 นั่นเองคนส่วนไหนจะเข้าใจแบบนี้ค่ะพี่
00:24:36 → 00:24:38 ตั๊กว่าเฮ้ยฉันออกกำลังกายแล้วนะฉันจะกิน
00:24:38 → 00:24:41 อะไรก็ได้ฉันนอนดึกไงก็ได้นั่งดูหนังไป
00:24:41 → 00:24:43 เพราะฉันออกกำลังกายอยู่แล้วแต่เป็นความ
00:24:43 → 00:24:44 เข้าใจผิดหมดเลยเพราะจริงๆร่างกายสำคัญ
00:24:44 → 00:24:47 น่ะค่ะเราจะแข็งแรงได้ก็ต่อเมื่ออันดับ 1
00:24:47 → 00:24:49 คือนอนดีถ้าคุณนอนดีร่างกายคุณ healthy
00:24:49 → 00:24:52 ไปแล้ว 70% อือันที่ 2 คืออาหารถ้าคนเรา
00:24:52 → 00:24:54 เลือกอาหารเฉพาะบุคคลที่มันถูกต้องกับ
00:24:54 → 00:24:56 ร่างกายกีฬาที่ย่อยง่ายกีฬที่ดูดซึมได้ดี
00:24:56 → 00:24:58 ไม่กินอะไรที่ก่อให้เกิดการอักเสบร่างกาย
00:24:58 → 00:25:00 คุณhealthตี้ 90% ไปแล้วส่วน 10% ถือว่า
00:25:00 → 00:25:03 เป็นโบนัสคือออกกำลังกายอืแต่คนยุคใหม่
00:25:03 → 00:25:05 สมัยใหม่ผิดวิธีออกกำลังกายเต็มที่เลยบาง
00:25:05 → 00:25:06 ที 22:00 น. 23:00 น.ยังไปออกอยู่เลย
00:25:06 → 00:25:08 เพราะฉันไม่ว่างยังไปวิ่งอยู่เลย 23:00
00:25:08 → 00:25:10 น.เที่ยงคืนมันผิดเวลาค่ะอันนี้ผิดใช่มั้
00:25:10 → 00:25:12 ใช่เพราะมวลเราเราตื่นมาตอนเช้าอดีตรี
00:25:12 → 00:25:15 หลังให้สดชื่นแล้วพอบ่ายๆค่อยตกแล้วก็ตอน
00:25:15 → 00:25:17 เย็นก็ต้องถึงเวลาพักผ่อนแต่ถ้าเราไปออก
00:25:17 → 00:25:18 กำลังกายตอนคืนไปปลุกให้เค้าตื่นอีกรอบ
00:25:18 → 00:25:21 นึงช่วยตื่นมาหน่อยฉันกำลังออกกำลังกาย
00:25:21 → 00:25:22 ร่างกายงงเลยว่าเธอจะเธอจะนอนหรือเธอจะ
00:25:22 → 00:25:25 เผาผลาญหรือจะเอายังไงพอไปเรื่อยๆสังเกต
00:25:25 → 00:25:27 เลยค่ะคนออกกำลังกายกลางคืนเนี่ยหน้าหน้า
00:25:27 → 00:25:30 จะแก่เร็วมากฮอร์โมนจะหายไปเรื่อยๆอันนี้
00:25:30 → 00:25:33 ความน่ากลัวมากเลยค่ะคุณหมอลองลองลองแบ่ง
00:25:33 → 00:25:35 ให้หน่อยว่าเราควรจะออกกำลังตอนไหนเราควร
00:25:35 → 00:25:38 จะดูแลตอนไหนเราควรจะนอนยังไงเอออ่าได้
00:25:38 → 00:25:40 เลยค่ะงั้นถ้าเราแบ่งเป็นสลอตเวลาจริงๆ
00:25:40 → 00:25:43 ตื่นมาตอนเช้าสุดจัดโปรตีนก่อนเลยเพราะ
00:25:43 → 00:25:45 โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญที่สุดพอเรา
00:25:45 → 00:25:47 บูทโปรตีนปุ๊บเอเนอร์จีมาสดชื่นทั้งวัน
00:25:47 → 00:25:50 ใช่ค่ะโปรตีนคือสำคัญตอนเช้าเสร็จแล้ว
00:25:50 → 00:25:52 ปุ๊บถ้าเราจะออกกำลังกายเช้าได้กลางวัน
00:25:52 → 00:25:56 ได้บ่ายได้แต่หลัง 19:00 น.ไม่ได้อ่าเหตุ
00:25:56 → 00:25:58 ผลเพราะว่าฮอร์โมนเวลาที่เราสร้างขึ้นมา
00:25:58 → 00:26:00 อเดนาลีนปุ๊บหลังให้เราสดชื่นปึ๊บค่อยๆจะ
00:26:00 → 00:26:02 ตกลงไปเรื่อยๆอ๋ออ่าพอประมาณ 19:00 น.เค
00:26:02 → 00:26:04 จะตกเค้าอยากพักผ่อนแล้วรู้สึกเอออยากนอน
00:26:04 → 00:26:06 และอยากรู้สึกเพลียและแต่ถ้าเราไปปรับ
00:26:06 → 00:26:08 นาฬิกาชีวิตใหม่ปึ้งไม่ฉันจะไม่นอนฉันจะ
00:26:08 → 00:26:10 ดูซีรีส์ทั้งคืนฉันทำงานสมองฉันกำลังคิด
00:26:10 → 00:26:12 เร็วแล้วเราก็ไปเปลี่ยนนาฬิกาว่างั้น
00:26:12 → 00:26:14 22:00 น.จะออกกำลังกายเพราะฉะนางกลางวัน
00:26:14 → 00:26:17 ออกไปออกมาเราจะเป็นโรคนอนไม่หลับมากขึ้น
00:26:17 → 00:26:19 เพราะเราไปปรับนาฬิกาชีวิตเราใหม่ไปแล้ว
00:26:19 → 00:26:22 อ๋ออันนั้นราคาสำคัญเพราะงั้นโปรตีนควรจะ
00:26:22 → 00:26:25 ตอนเช้าเช้าเลยค่ะสมมุติใครจะทานปลาทาน
00:26:25 → 00:26:28 ไก่ก็ทานเช้าก็ดีแต่มีหลายกระแสก็บอกว่า
00:26:28 → 00:26:30 อันนี้อันนี้เกี่ยวกับเรื่องอาหารไม่ควร
00:26:30 → 00:26:33 จะกินอาหารเช้าไปควรจะกินเ้าทำอะไรก็ไม่
00:26:33 → 00:26:37 รู้ IF อะไรต่างๆพี่พี่ไม่ทราบนะคะอื
00:26:37 → 00:26:40 เพราะงั้นเช้าสำคัญนะหมอสำคัญมากเลยค่ะ
00:26:40 → 00:26:41 ใช่เราคิดว่าเราตื่นมาปุ๊บเราต้องคิดงาน
00:26:41 → 00:26:44 แล้วอ่ะโปรเจคต่างต่างบริหารงานลูกน้อง
00:26:44 → 00:26:46 ทีมลูกๆไปส่งโรงเรียนอีกถ้าเราไม่มี
00:26:46 → 00:26:48 energy เลยเรากินแต่กาแฟแก้วเดียวจบแล้ว
00:26:48 → 00:26:51 เอาที่ไหนเป็นพลังงานสมองก็จะอึนๆงงๆอยู่
00:26:51 → 00:26:53 ได้ด้วยแค่คาเฟอีนแต่จะดีกว่าไหถ้าเราได้
00:26:53 → 00:26:56 โปรตีนขึ้นไปบูทการทำงานของร่างกายบูทำ
00:26:56 → 00:26:58 งานของเซลล์บูทำงานของฮอร์โมนจีเราก็จะสด
00:26:59 → 00:27:01 ชื่นทั้งวันกะปี้กระเป๋าแคทีกระบวนการ
00:27:01 → 00:27:04 ผ่านก็จะเกิดขึ้นไขมันก็จะลงอย่างรวดเร็ว
00:27:04 → 00:27:07 แต่ถ้าคนไม่กินโปรตีนไปกินสลัดยำส้มตำกิน
00:27:07 → 00:27:10 แต่ผักใช่ค่ะมันเอเนอร์จี้มันไม่พออาการ
00:27:10 → 00:27:13 ออกกำลังกายมันก็จะไม่ฟิตสุดไขมันก็ลงช้า
00:27:14 → 00:27:16 อันนี้คือเป็นเคลับสำคัญเลยค่ะว่าถ้าเรา
00:27:16 → 00:27:17 กินโปรตีนไม่ถึงต่อให้คุณออกกำลังกายหนัก
00:27:17 → 00:27:20 7 วันต่อสัปดาห์ไขมันก็ไม่มีทางลงเลยอัน
00:27:20 → 00:27:22 นี้คือสำคัญมากสำหรับผู้หญิงเลยคะเพราะ
00:27:22 → 00:27:24 ว่าคนเราบางทีมันเพี้ยนไปหมดไปออกกำลัง
00:27:24 → 00:27:26 ตอนเย็นตอนกลางคืน 23:00 น.มันยังออก
00:27:26 → 00:27:28 กำลังอยู่
00:27:28 → 00:27:32 มีเครื่องดื่มบางอย่างที่ทำให้ฮอร์โมนพัง
00:27:32 → 00:27:35 อืมีมั้ฮะหมอออืมีมากเลยค่ะเค้าเรียกว่า
00:27:35 → 00:27:36 เครื่องดื่มตระกูลเนี้ยเรียกว่าอยู่ใกล้
00:27:36 → 00:27:38 ตัวมากๆเค้าเรียกว่าเครื่องดื่มที่ทำให้
00:27:38 → 00:27:41 ร่างกายเป็นกรดอ่าต้องบอกว่าในทางสายการ
00:27:41 → 00:27:44 แพทย์เองค่ะเขาจะมีการวัดพีในร่างกายก็จะ
00:27:44 → 00:27:47 มีตั้งแต่พ 2 3 4 5 6 ไปเรื่อยๆถ้าพี
00:27:47 → 00:27:49 ที่ต่ำกว่า 7 ลงไปเขาเรียกว่าเครื่องดื่ม
00:27:49 → 00:27:53 ทำให้ร่างกายเป็นกรดได้แก่กาแฟอุ้ยชาน้ำ
00:27:53 → 00:27:56 อัดลมโซดาแอลกอฮอล์ทั้งหมดนี่เลยค่ะที่
00:27:56 → 00:27:58 เราเคยได้ยินเนากาแฟรวมอยู่ด้วยเหรอด้วย
00:27:58 → 00:28:01 เลยค่ะเราลองซื้อเกแต่พี่พี่เคยได้ยินว่า
00:28:01 → 00:28:04 คนที่ไม่ดื่มกาแฟจากคนใกล้ตัวพี่มดูมัน
00:28:04 → 00:28:08 มันไม่ค่อยสดชื่นสดชื่นปอ๋องแ๋องอ๋องแ๋อง
00:28:08 → 00:28:10 พี่มีความรู้สึกว่าคนต้องกินกาแฟพี่ดื่ม
00:28:10 → 00:28:13 กาแฟวันละ 2 แก้วโอ้เยอะเลยกาแฟดำเยอะมั้
00:28:13 → 00:28:16 คะเยอะเลยค่ะต้องต้องเอาลงแล้วะกาแฟดำ 1
00:28:16 → 00:28:20 แก้วแล้วก็บ่ายก็อาจจะมีใส่นมนิดนึงแต่
00:28:20 → 00:28:23 ตอนหลังมันประหลาดมากมันมีอาการอย่างนึง
00:28:23 → 00:28:28 คือพอทานกาแฟดำตอนเช้าแล้วก็มันคลื่นไส้
00:28:28 → 00:28:32 อ๋อขึ้นไปได้ไม่เป็นไรซึ่งซึคิดว่ามันมี
00:28:32 → 00:28:35 คนเป็นแบบนี้เพราะงั้นกาแฟดำถูกรวมอยู่ใน
00:28:35 → 00:28:38 ชานมชาไข่มุกเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือ
00:28:38 → 00:28:41 น้ำหมกถ่ะใช่ค่ะไม่ดีค่ะต้องบอกว่าร่าง
00:28:41 → 00:28:43 กายเราเนี่ยเหมือนเราเคยได้ยินเนาะว่า
00:28:43 → 00:28:45 ร่างกายเราที่จะแข็งแรงhealตี้ร่างกาย
00:28:45 → 00:28:47 ต้องเป็นด่างต้องไม่เป็นกรดเพราะฉะนั้น
00:28:47 → 00:28:50 คือร่างกายเป็นด่างก็ต้องมาจากผักสดปลา
00:28:50 → 00:28:53 น้ำเปล่าการนอนเร็วอารมณ์ดีไม่กินน้ำตาล
00:28:54 → 00:28:55 แต่พอเรามาย้ายให้เป็นฝั่งกรดปุ๊บเราใส่
00:28:55 → 00:28:58 กาแฟเข้าไปเต็มที่เลยน้ำอัดลมเลยโซดาเลย
00:28:58 → 00:29:01 แอลกอฮอล์กินของทอดของมันปิ้งย่างช้าบู
00:29:01 → 00:29:03 หมูกระทะกินของหวานร่างกายเป็นกรดสูงมาก
00:29:03 → 00:29:05 แล้วนี่คือที่มาว่าทำไมผู้หญิงปัจจุบัน
00:29:05 → 00:29:07 ถึงตรวจเจออ้าฉันเป็นซิสที่เต้านมลูกรัง
00:29:07 → 00:29:09 ไข่แล้วบอกว่าเป็นเรื่องปกติคำตอบคือไม่
00:29:09 → 00:29:11 ปกติค่ะเพราะเรากำลังเติมอาหารที่เป็นกรด
00:29:11 → 00:29:13 เข้าไปมากมายเลยจะดีกว่ามั้ถ้าสมมุติเรา
00:29:13 → 00:29:15 เป็นสายคาเฟอีเหมือนที่พี่ตั๊กบอกเออถ้า
00:29:15 → 00:29:17 เราไม่กินมันไม่สดชื่นเนาะหมอเคยเป็นแต่
00:29:17 → 00:29:19 พอเรามาเรียนสาด้านนี้เรารู้อ้าวถ้าฉัน
00:29:19 → 00:29:21 กินกาแฟแล้วฉันจะแก่วันฉันจะพังแล้ววัน
00:29:21 → 00:29:23 นึงฉันจะกลายเป็นสตกอัลไซเมอร์งั้นมี
00:29:23 → 00:29:25 คาฟีนอะไรบ้างที่มันปลอดปลอดภัยคำตอบก็
00:29:25 → 00:29:27 คือชาเขียวเรากินชาเขียวได้ค่ะแต่มันอาจ
00:29:28 → 00:29:30 จะอร่อยไม่เหมือนอ่าความหอมความอะไรมันจะ
00:29:30 → 00:29:33 ไม่เท่ากันเนาะงั้นคุณหมอก็เคยทานกาแฟ
00:29:34 → 00:29:36 แล้วก็ถูกเปลี่ยนใช่ค่ะในตอนเช้าหมอดื่ม
00:29:37 → 00:29:39 ชาเขียวแทนใช่ค่ะใช่ค่ะแล้วหมอเลิกกาแฟ
00:29:39 → 00:29:41 เลยเหรอคะเลิกไปเลยค่ะต้องบอกว่าพอเข้าวง
00:29:41 → 00:29:43 การอยู่ในศาสตร์ Prventive Medicine
00:29:43 → 00:29:45 ป้องกันของการป่วยเลิกกาแฟมา 10 ปีแล้ว
00:29:45 → 00:29:46 ค่ะต้องบอกว่าเมื่อก่อนหน้านี้นะคะกิน
00:29:46 → 00:29:49 กาแฟเหมือนพี่ตั๊กเลยเคยกินสูงสุดวันละ 5
00:29:49 → 00:29:51 แก้วก็เคยหรือเครื่องดื่มชูกำลังเหมือน
00:29:51 → 00:29:52 ตอนที่เราสมัยเป็นนักเรียนแพร่เราแบบโอ๊ย
00:29:52 → 00:29:54 เราทำยังไงให้เราไม่ต้องนอนท่านอ่าน
00:29:54 → 00:29:56 หนังสือจากกระป๋องเขียวกระป๋องแดงอะไรใน
00:29:56 → 00:29:59 ร้านสะดวกซื้อกินมาหมดแล้วกาแฟสดกาแฟแบบ
00:29:59 → 00:30:01 ชงอะไรอย่างเงี้ยคือจัดมาหมดแล้วรู้ว่า
00:30:01 → 00:30:03 เฮ้ยพอกินไปนานๆปึ๊บเราเหมือนเราเริ่มติด
00:30:03 → 00:30:06 กาแฟแล้วขาดไม่ได้ติดๆพี่ก็ติดนะพี่ก็ติด
00:30:06 → 00:30:08 อวันไหนไม่กินไปรู้สึกมั้บางคนแบบ
00:30:08 → 00:30:10 หงุดหงิดง่ายมาเลยค่ะแล้วพวกนี้ทำให้ร่าง
00:30:10 → 00:30:12 กายเราเป็นกรดเพราะฉะนั้นสังเกตตัวเอง
00:30:12 → 00:30:14 เฮ้ยทำไมผิวเริ่มแห้งขึ้นเรื่อยๆแห้งมาก
00:30:14 → 00:30:16 ขึ้นมากขึ้นเพราะว่าพอเราเติมกรดเข้าไป
00:30:16 → 00:30:18 เยอะๆค่ะจุลินทรีย์ที่อยู่ในกระเพาะในลำ
00:30:18 → 00:30:20 ไส้ทั้งหมดมันตายหมดเลยค่ะเ้าเรียกว่า
00:30:20 → 00:30:23 โปรไบโอติกมันถึงหายไปหมดเลยเหรอคะใช่ใช่
00:30:23 → 00:30:26 ค่ะไโอนี่เป็นความเข้าใจผิดอย่างอื่นทำ
00:30:26 → 00:30:28 ถูกหมดเลยนะจะเลื้อกาแฟอย่างเดียวอืแต่
00:30:28 → 00:30:30 ว่าแนะนำว่าพี่ตั๊กอย่าเหมือนหักดิบไปเลย
00:30:30 → 00:30:32 นะคะบางทีไม่งั้นอาจจะโอไปฟังหมอแชมป์บอก
00:30:32 → 00:30:35 แล้วแบบโหอีกวันนึงพี่หงุดหงิดเลยเดี๋ไป
00:30:35 → 00:30:37 โดนเหลือครึ่งแก้วแล้วกันอ่าจะค่อยๆลดจาก
00:30:37 → 00:30:39 เคย 2 มาเหลือ 1 เหลือ 1 มาเหลือครึ่ง
00:30:39 → 00:30:42 แล้วค่อยๆสวิตช์ไปเป็นกลุ่มชาเขียวได้แต่
00:30:42 → 00:30:44 นั่นว่าต้องเป็นชาเขียวร้อนนะคะไม่นับชา
00:30:44 → 00:30:46 เขียวเย็นค่ะเพราะในชาเขียวร้อนเนี่ยที่
00:30:46 → 00:30:49 เราชงใหม่ๆมันจะมีสารคาเตชินช่วยในการ
00:30:49 → 00:30:52 ชะลอไวลดความเสี่ยงหลอดเลือดหัวใจลดความ
00:30:52 → 00:30:54 ดันฟันเลือดแล้วก็ช่วยทำให้หลอดเลือดของ
00:30:54 → 00:30:56 เรายื่นได้ดีแถมรสการอักเสบทำให้เราอ่อน
00:30:56 → 00:30:59 เยาด้วยนักสังเกตคนญี่ปุ่นสิคะเถึงดูเด็ก
00:30:59 → 00:31:01 สุขภาพดีอายุยืนเป็นร้อยๆปีก็อยู่ในคน
00:31:01 → 00:31:04 ญี่ปุ่นไม่ต้องผสมอะไรนะคะไม่ตาต้องจิ้งๆ
00:31:04 → 00:31:06 พี่มีทุกอย่างเลยแต่พี่ยังไม่มีแปลงชง
00:31:06 → 00:31:08 ด้วยใช่มั้คะออทำให้เป็นตัว M เวลาเอา
00:31:08 → 00:31:11 แปลงมาใช่พี่ตั๊รู้จิกใช่เลยค่ะอ๋อเมื่อ
00:31:11 → 00:31:15 กี้คือเรื่องของทานนะของพฤติกรรมอะไรบ้าง
00:31:15 → 00:31:18 ที่เสี่ยงฮอร์โมนพังอ่าเมื่อกี้เราพูดถึง
00:31:18 → 00:31:20 ข้อ 2 ที่ก็คือเรื่องของการนอนค่ะที่บอก
00:31:20 → 00:31:22 ว่าคนสมัยใหม่เนี่ยยุคปัจจุบันต่อให้เรา
00:31:22 → 00:31:25 จะ 50 60 70 เดี๋ยวนี้สื่อโซเชียลเราดู
00:31:25 → 00:31:27 ได้ตลอดเวลาสมัยก่อนต้องดูแบบทีวีตามช่อง
00:31:27 → 00:31:29 อาจจะ 21:00 น. 22:00 น.ต้องปิดแล้วแต่
00:31:29 → 00:31:31 เดี๋ยวนี้คือเราจะเอาอะไรคะ Netflix
00:31:31 → 00:31:34 YouTube TikTok โซเชียล Media มีตลอด
00:31:34 → 00:31:36 เวลานั่นคือเหตุผลว่าคนเริ่มดอกขึ้น
00:31:36 → 00:31:38 เรื่อยๆค่ะแล้วก็มากกว่านั้นอีกเราก็มี
00:31:38 → 00:31:40 ความคิดไปอีกว่าเออไม่เป็นไรฉันต้องฟัง
00:31:40 → 00:31:42 เพลงก่อนนอนเปิดทีวีเป็นเพื่อนเปิดไฟเป็น
00:31:42 → 00:31:45 เพื่อนหรือเปิดไฟทั้งคืนเลยแล้วร่างกาย
00:31:45 → 00:31:47 เราฉลาดมากค่ะพี่ตั๊กเาเรียกว่านาฬิกา
00:31:47 → 00:31:49 ชีวิตเขาจะรู้เลยว่าตอนเนี้ยกลางคืนแล้ว
00:31:49 → 00:31:51 เพราะฉะนั้นคือไฟต้องมืดสนิทเสียงต้อง
00:31:51 → 00:31:54 เงียบสงบอากาศอุณหภูมิต้องดีเป๊ะฮอร์โมน
00:31:54 → 00:31:55 กรดฮอร์โมนมันถึงจะสร้างออกมาแต่เมื่อ
00:31:55 → 00:31:58 ไหร่ก็ตามเรานอนผิดเวลาไปเราคิดว่าไม่
00:31:58 → 00:31:59 เป็นไรหรอกฉันเป็นเจ้าของกิจการนะฉันเป็น
00:31:59 → 00:32:01 ผู้หารระดับสูงนะฉันเกษียณแล้วนะเดี๋ฉัน
00:32:01 → 00:32:04 มานอนนอนกลางวันก็ได้คำตอบคือไม่ได้ค่ะ
00:32:04 → 00:32:06 นาฬิกาชีวิตของเรารับรู้ได้หมดเลยว่าโรส
00:32:06 → 00:32:08 ฮอร์โมนของเราจะสร้างแค่ตอน 22:00 น.และ
00:32:08 → 00:32:09 หยุดสร้างตอน 2:00 น.
00:32:09 → 00:32:12 ใช่แต่ก็ตามเราแบบอ่ะฉันนอนเก็ได้เดี๋ฉัน
00:32:12 → 00:32:14 ตื่นวันแทนฉันไม่รีบนั่นแหละค่ะฮอร์โมน
00:32:14 → 00:32:17 คุณกำลังหายไปเรื่อยๆวันละนิดวันละหน่อย
00:32:17 → 00:32:18 แล้วคุณเริ่มสังเกตว่าทำแบบนี้เรื่อยๆ
00:32:18 → 00:32:22 ตื่นมาทำไมสมองอ๊องๆอึ่นๆงงๆเริ่มคิดอะไร
00:32:22 → 00:32:24 ไม่ค่อยออกเริ่มลืมกุญแจบ้านปิดประตูหรือ
00:32:24 → 00:32:27 ยังลืมเครื่องเพชรลืมนู่นลืมนี่จะโทรหา
00:32:27 → 00:32:29 ลูกค้าโทรหาเพื่อนเอ๊ะเมื่อกี้จะคุยอะไร
00:32:29 → 00:32:32 นะจำไม่ได้แล้วอันนั้นเลยค่ะคือสัญญาณคือ
00:32:32 → 00:32:34 นั่นนั่นคืออาการที่มันเริ่มแล้วล่ะเพราะ
00:32:34 → 00:32:36 ฮอร์โมนมันมันเริ่มจะพังเริมแล้วใช่ๆค่ะ
00:32:36 → 00:32:40 ใช่ค่ะอ๋อมีเรื่องการหลงลืมเราจะรู้ได้
00:32:40 → 00:32:43 ยังไงร่างกายเราจะบอกยังไงว่าตอนนี้ฉัน
00:32:43 → 00:32:46 กำลังรวนนะฮอร์โมนฉันกำลังพังแล้วมันมี
00:32:46 → 00:32:48 สัญญาณอะไรพอจะบอกได้นอกจากการที่เราจะไป
00:32:48 → 00:32:50 ตรวจเลือดอ้าได้เลยค่ะจริงๆเรามี
00:32:50 → 00:32:52 เช็คลิสต์ง่ายๆเนาะไม่ใช่ว่าโหทุกคนต้อง
00:32:52 → 00:32:54 มาเจาะเลือดหมดเลยบางทีเรานั่งเช็คลิสต์
00:32:54 → 00:32:56 ด้วยกันอ่ะเดี๋ยวจะเอาปากกากระดาษมาจดเลย
00:32:56 → 00:32:58 นะคะข้อแรกเลยค่ะสำคัญสุดก็คือเรื่องของ
00:32:58 → 00:33:01 การนอนค่ะถ้าเราเริ่มมีสัญญาณว่าเอ๊ะทำไม
00:33:01 → 00:33:03 ฉันเข้านอนแล้วใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะ
00:33:03 → 00:33:05 หลับนั่นแหละค่ะเริ่มคิดเลยว่าไม่ใช่ว่า
00:33:05 → 00:33:07 คุณเครียดงานแต่คุณกำลังเริ่มมีสัญญาณ
00:33:07 → 00:33:09 ฮอร์โมนตกหรือเปล่า
00:33:09 → 00:33:11 หรือเราหลับไปแล้วเสียงก๊อกแก๊กนิดหน่อย
00:33:11 → 00:33:13 มีน้องหมาน้องแมวรถมอเตอร์ไซค์ขับผ่าน
00:33:13 → 00:33:16 บ้านมีใครเสียงเปิดประตูอ้าวตื่นแล้วจะ
00:33:16 → 00:33:18 หลับต่อก็ยากนี่คือสัญญาณเตอันแรกเลยค่ะ
00:33:18 → 00:33:20 ว่าฮอร์โมนคุณกำลังรวนทำให้คุณมีปัญหา
00:33:20 → 00:33:22 เรื่องของการนอนค่ะอันดับ 1 เลยข้อ 2 ค่ะ
00:33:22 → 00:33:24 เรื่องของน้ำหนักตัวค่ะเขาเรียกว่าระบบ
00:33:24 → 00:33:26 เผาผลาของร่างกายค่ะต้องมาดูว่าเผาผานของ
00:33:26 → 00:33:28 เราเป็นยังไงเพราะบางคนเนี่ยถามไปสัญญาณ
00:33:28 → 00:33:30 จะบอกว่าฉันออกกำลังกายเต็มที่แล้วนะแล้ว
00:33:30 → 00:33:33 ออกแบบมีเทรนเนอร์ด้วยนะแถมอาหารฉันก็คุม
00:33:33 → 00:33:35 แล้วแล้วฉันแทบจะกินอาหารนกแล้วนะกินถั่ว
00:33:35 → 00:33:37 เมล็ดเจียร์ควีนัวแทบจะไม่มีขนมหวาน
00:33:37 → 00:33:39 เบเกอรี่แต่ทำไมน้ำหนักจะลงแต่ละขีดทำไม
00:33:39 → 00:33:41 มันยากจังเลยอันนี้เราไปสัญญาณเตือนแล้ว
00:33:41 → 00:33:44 ค่ะว่าเตาเผาของเราหรือฮอร์โมนของเราพัง
00:33:44 → 00:33:48 หรือเปล่าอ๋ออ่าหมอหมอใช้คำว่าพังแสดงว่า
00:33:48 → 00:33:51 มันมันน่ากลัวมันน่ากลัวเลยค่ะใช่เพราะ
00:33:51 → 00:33:53 บางทีฮอร์โมนของเราอ่ะค่ะมันไม่ได้มีตัว
00:33:53 → 00:33:56 เดียวฮอร์โมนผู้หญิงมันมีตั้ง 9 ตัวถ้า
00:33:56 → 00:33:58 เราตรวจเนี่ยคำว่าพังหมอคือปกติสมมุติเรา
00:33:58 → 00:34:00 มีตั้ง 100-300 แต่บางคนเหลือแค่ 5 อย่าง
00:34:00 → 00:34:03 เงี้ยค่ะมันแทบไม่เหลือให้ทำงานกินอะไรก็
00:34:03 → 00:34:06 คือสะสมหมดเลยแทนที่สมมุติว่าเราอดอาหาร
00:34:06 → 00:34:08 คุมอาหารนิดหน่อยเมื่อก่อนตอนสมัยสาวๆอ่ะ
00:34:08 → 00:34:11 น้ำหนักลงและพุงยุบและเอวบางและแต่ตอนนี้
00:34:11 → 00:34:13 คือบางทีอดอาหารไป 3 เดือนน้ำหนักไม่ลง
00:34:13 → 00:34:16 สักขีดก็มีอันนี้ให้เลยคิดเลยว่าฮอร์โมน
00:34:16 → 00:34:18 ผานของเราอาจจะไม่เหลือแล้วหรือฮอร์โมน
00:34:18 → 00:34:20 เอเนอร์จีของเราที่ช่วยในการดึงไขมันเก่า
00:34:20 → 00:34:23 ไปใช้ดึงน้ำตาลไปใช้ดึงพลังงานไปใช้มัน
00:34:23 → 00:34:25 หายไปไหนหมดก็ต้องตรวจให้ละเอียดให้ครบ
00:34:25 → 00:34:27 ทุกตัวของมวลเพศหญิงอ่ะค่ะเมื่อกี้ถึง
00:34:27 → 00:34:30 เรื่องของการนอนสังเกตน้ำหนักตัวอีกอัน
00:34:30 → 00:34:32 นึงคือเรื่องของอารมณ์ด้วยงั้นถ้าอารมณ์
00:34:32 → 00:34:34 ของเราเริ่มแบบเวียง่ายหงุดหงิดง่ายฉุน
00:34:34 → 00:34:36 เฉี่ยวทั้งที่เมื่อก่อนเป็นคนอารมณ์ดี
00:34:36 → 00:34:37 หรือมากกว่านั้นคืออาจจะกลายเป็นคนที่แบบ
00:34:37 → 00:34:40 เหงาเศร้าเอ๊ะทำไมฉันแบบทำไมเหมือนแบบ
00:34:40 → 00:34:42 น้อยใจจังเดี๋ก็น้อยใจสามีน้อยใจลูกน้อย
00:34:43 → 00:34:45 ใจแฟนน้อยใจทีมงานให้คิดแล้วว่าฮอร์โมน
00:34:45 → 00:34:47 สำรวดหรือเปล่าเพราะไม่ใช่ว่าช่วงวันนั้น
00:34:47 → 00:34:48 ของเดือนอย่างเดียวเพราะบางที 50 ประจำ
00:34:48 → 00:34:51 เดือนหมดไปแล้วทำไมฮอร์โมนมันยังขึ้นลงๆ
00:34:51 → 00:34:53 ให้คิดว่าช่วงนั้นฮอร์โมนแปรปวดหรือเปล่า
00:34:53 → 00:34:55 ค่ะอารมณ์ก็เกี่ยวค่ะพี่ต๊ะส่วนข้อ 4 ก็
00:34:55 → 00:34:57 คือเป็นเรื่องของผิวพรรณค่ะถ้าเริ่ม
00:34:57 → 00:35:00 สังเกตว่าเอ๊ะผิวฉันทำไมมันแห้งง่ายขึ้น
00:35:00 → 00:35:02 สังเกตง่ายๆเวลาเราแต่งหน้าค่ะแป้งมัน
00:35:02 → 00:35:04 เริ่มแบบอ้าตกร่องเริ่มเป็นคราบเริ่มไม่
00:35:04 → 00:35:07 สวยเอ๊ทำไมหรือว่าการที่เราไปทำสายบิวตี้
00:35:07 → 00:35:09 แล้วมันเริ่มเอาไม่ค่อยอยู่ต้องคิดว่าเออ
00:35:09 → 00:35:11 ผิวเราอาจจะไม่เหมือนเดิมหรือมากกว่านั้น
00:35:11 → 00:35:13 คือถึงจุดซ่อนเร้นบางคนมีปัญหาเรื่องช่อง
00:35:13 → 00:35:15 คอดแห้งใช่นี้ก็เป็นเรื่องที่แบบคนไข้
00:35:15 → 00:35:17 ส่วนไหนบางทีเอ๊ะมันก็จะเขิดเหมือนกันนะ
00:35:17 → 00:35:19 ที่จะคุยกับหมอแต่หมอว่าเป็นเรื่องปกติ
00:35:19 → 00:35:21 เลยค่ะบอกหมอได้เต็มที่เลยหมอจะได้รู้ว่า
00:35:21 → 00:35:23 อาการของอาการที่เรามีช่องแห้งมาหรือยัง
00:35:23 → 00:35:25 ถ้ามาแล้วเนี่ยอันนี้เป็นจุดเส้นเล็กๆบาง
00:35:25 → 00:35:28 ๆเลยค่ะทำให้เตียงหักอย่าล้างได้เลยออใช่
00:35:28 → 00:35:30 เพราะบางทีคนในครอบครัวสะกิดแล้วเฮ้ยไม่
00:35:30 → 00:35:32 ได้อ่ะไม่เอาอ่ะมันรู้สึกเจ็บระคายเคือง
00:35:32 → 00:35:34 เพราะว่ามันมีปัญหาเรื่องของฮอร์โมนไป
00:35:34 → 00:35:36 แล้วอ๋ออันนี้คือล้วนแล้วแต่เกี่ยวกับฮอ
00:35:36 → 00:35:40 เกี่ยวมาก่อันนี้ถือว่าหนักสุดหรือยัง
00:35:40 → 00:35:41 หนักสุดหรือยังของอาการใช่มั้คะยังไม่
00:35:41 → 00:35:44 หนักสุดค่ะพี่ตั๊กมันไปต่อได้อีกค่ะต่อไป
00:35:44 → 00:35:45 ข้อที่มันหนักข้อสุดท้ายก่อนนะคะคือ
00:35:46 → 00:35:48 เรื่องของร้อนวูบวาบค่ะอีกข้อนึงที่เป็น
00:35:48 → 00:35:50 เช็คลิสต์ว่าเอ๊ะฮอร์โมนเราแปรปรวนหรือ
00:35:50 → 00:35:52 ยังคือเรื่องของร้อนวูบวาบเขาบอกว่า
00:35:52 → 00:35:54 ฮอร์โมนเราเมื่อต่ำเมื่อไหร่ค่ะการควบคุม
00:35:54 → 00:35:56 อุณหภูมิของเราจะเสียไปเดี๋ยวก็ร้อนเดี๋
00:35:57 → 00:35:59 ก็หนาวถ้าอยู่กัน 2 คนสมมุติว่าบางคนไข้
00:35:59 → 00:36:01 หมอจะเล่าเลยว่าอยู่กันสามีสามีเปิดแอร์
00:36:01 → 00:36:03 นี่ก็ปิดแอร์สามีเปิดพัดลมนี่ก็จะปิดพัด
00:36:03 → 00:36:06 ลมคือจะทะเลาะกันตลอดเวลาเพราะว่าผู้หญิง
00:36:06 → 00:36:08 ฮอร์โมนคนมันหมดเนี่ยมีปัญหาขึ้นมาการคู่
00:36:08 → 00:36:11 อุณหภูมิของเราจะเสียไปจะขี้ร้อนง่ายขี้
00:36:11 → 00:36:14 หนาวง่ายเถึงเรียกว่าร้อนวูบวาบค่ะอืถ้า
00:36:15 → 00:36:17 ใครไม่รู้เนี่ยไม่รู้นะคะว่ามันทรมานจริง
00:36:17 → 00:36:18 ๆมันทำให้เรานอนไม่หลับทั้งคืนได้ด้วยเคย
00:36:18 → 00:36:21 ได้ยินคนนึงเเล่าเบอกเเหมือนเท้าเค้า
00:36:21 → 00:36:24 เนี่ยเอาเอาเป็นนาบกับน้ำแข็งเลยอ๋อจะมี
00:36:24 → 00:36:26 อย่างงั้นด้วยเหรออ่ามีค่ะอันนี้อันนี้
00:36:26 → 00:36:29 ถือว่าหนาวจัดเลยนะใช่ค่ะเพราะบางทีมัน
00:36:29 → 00:36:30 ร้อนมันรู้สึกแบบเปิดเท่าไหร่มันก็ไม่
00:36:30 → 00:36:33 เย็นแอร์ทั้งพัดลมทั้งจ่อแล้วแต่อุณหภูมิ
00:36:33 → 00:36:35 ในร่างกายมันคือมันจะมาจากฮอร์โมนอ่ะค่ะ
00:36:35 → 00:36:38 ไม่ได้มาจากอากาศร้อนพวกนี้มันต้องเกิด
00:36:38 → 00:36:40 การซ่อมข้างในอาการเหล่านี้ที่ว่าร้อนวูบ
00:36:40 → 00:36:43 วาบหรือหนาวหรือเย็นแล้วแต่จะอยู่กับเรา
00:36:43 → 00:36:46 นานแค่ไหนอ่าถ้าฮอร์โมนมันดิ่งมากมันจะ
00:36:46 → 00:36:48 อยู่กับเราตลอดไปเลยค่ะอืแต่ถ้าเกิด
00:36:48 → 00:36:50 ฮอร์โมนเราดิ่งแป๊บเดียวเพราะรู้วิธีใน
00:36:50 → 00:36:52 การฟื้นฟูมันก็กลับมาทำให้อาการเรากลับมา
00:36:52 → 00:36:56 ปกติได้ค่ะพี่ตั๊พอพูดถึงวิธีแก้ทำยังไง
00:36:56 → 00:36:59 บ้างอ่าวิธีแก้ใช่มั้ยฮอร์โมนตกอ่าต้อง
00:36:59 → 00:37:02 บอกว่าวิธีแก้ค่ะต้องเริ่มต้นจากการที่
00:37:02 → 00:37:04 เราเช็คลิสต์ตัวเองก่อนว่าเอ๊ะเราเข้าขาย
00:37:04 → 00:37:05 ฮอร์โมนตกหรือ
00:37:05 → 00:37:08 ถ้าคำตอบคือตรงเพียงแค่ 1 ใน 5 ข้อเหล่า
00:37:08 → 00:37:10 นั้นนั่นแหละค่ะคือสัญญาณที่คุณต้องเริ่ม
00:37:10 → 00:37:12 รีบซ่อมแซมตัวเองแล้วแต่วิธีง่ายๆคือ 1
00:37:12 → 00:37:15 ก็คือเราเนี่ยสังเกตตัวเองว่าเราเข้าขาย
00:37:15 → 00:37:18 แล้ว 2 คือเรากลับมาโฟกัสซิว่าแล้วต้น
00:37:18 → 00:37:19 เหตุของเราเกิดจากอะไรเหมือนที่หมอพูดไป
00:37:19 → 00:37:22 ว่าเป็นคนที่กินน้ำตาลเยอะหรือเปล่าคนที่
00:37:22 → 00:37:24 นอนดึกหรือเปล่าดูจากต้นเหตุก่อนใช่คนต้น
00:37:24 → 00:37:25 เหตุก่อนถ้าเรามีต้นเหตุแล้วนั้นไปปรับ
00:37:25 → 00:37:27 ที่ต้นเหตุก่อนเลยลดน้ำตาลโล่งลดอาหารที่
00:37:28 → 00:37:30 มีสารพิษสูงโล่งถ้าต้องล้างสารพิษก็ล้าง
00:37:30 → 00:37:32 สารพิษไปถ้ามีความเครียดนอนหลับไม่ดีก็
00:37:32 → 00:37:34 ปรับการนอนกันอันนี้คือการปรับเบื้อง
00:37:34 → 00:37:36 และมากกว่านั้นคือข้อ 3 ก็คือเรื่องของ
00:37:36 → 00:37:38 ไฮโปรตีนค่ะอย่างที่พูดไปว่าโปรตีนสำคัญ
00:37:39 → 00:37:41 มากเลยถ้าตรวจมาแล้วฮอร์โมนตกโปรตีนเป็น
00:37:41 → 00:37:43 ตัวสำคัญในการสร้างฮอร์โมนเพศหญิงได้แต่
00:37:43 → 00:37:45 ว่าต้องกินโปรตีนให้ถูกด้วยเนาะแต่ที่พี่
00:37:45 → 00:37:48 เคยได้ยินนะ่ะพี่ตว่าฮอร์โมนตกเ้าก็มี
00:37:48 → 00:37:52 ฮอร์โมนอ่าฮอร์โมนทดแทนใช่มั้ยคะทดแทนอ้า
00:37:52 → 00:37:54 อันเนี้ยเป็นไงเพราะเราแทบจะเรายังไม่ได้
00:37:54 → 00:37:56 พูดถึงฮอร์โมนทดแทนเลยจำเป็นมั้ยดีมั้ย
00:37:56 → 00:37:59 ยังไงอ่าใช่ได้เลยค่ะต้องบอกว่าเป็นอีก
00:37:59 → 00:38:00 ด้านนึงเลยค่ะที่เรียกว่าอยู่คนละศาสตร์
00:38:00 → 00:38:02 กับเราต้องบอกว่าในสายที่หมอดูแลเค้า
00:38:02 → 00:38:04 เรียกเป็นสาย preventive medicine ก็ก็
00:38:04 → 00:38:05 คือป้องกันก่อนการป่วยเพราะงั้นการดูแล
00:38:06 → 00:38:08 ฟากเนี้ยเราจะไม่ใช้ฮอร์โมนจะไม่ใช้ยากิน
00:38:08 → 00:38:10 ยาทากลุ่มที่เป็นเอสโตรเจนแบบทา
00:38:10 → 00:38:13 โปรเจสเตอรนแบบทาทาท่องแขนทาพุงเราจะไม่
00:38:13 → 00:38:16 ใช้กลุ่มนั้นหมอไม่ใช้ไม่ใช้เลยค่ะพอบอก
00:38:16 → 00:38:18 ได้มั้เพราะอะไรได้ค่ะแต่พี่ได้เคยได้ยิน
00:38:18 → 00:38:20 ว่าเขาให้ใช้กันใช่ส่วนใหญ่เขาจะใช้กัน
00:38:20 → 00:38:22 เนาะพี่ยังไม่เคยลองนะบางคนก็เหมือนป้าย
00:38:22 → 00:38:26 ไอ้นั่นไอ้นี่เคยเหมือนกันแต่ว่าอือมัน
00:38:26 → 00:38:28 เปียกเสื้อนอนมันอะไรเงี้ยเราก็มันเลอ
00:38:28 → 00:38:31 หรือมันอะไรยังไงใช่มั้คะอ่าถ้าเป็นใน
00:38:31 → 00:38:32 ความเห็นส่วนตัวที่หมอดูแลคนไข้มา 10
00:38:32 → 00:38:34 กว่าปีเราเจอว่าเวลาคนไข้ที่เราตรวจมา
00:38:34 → 00:38:36 เนี่ยเช่นผู้หญิง 60 บวกตรวจมาฮอร์โมน
00:38:37 → 00:38:39 เอสโตรเจนเเหลือต่ำกว่า 5 พอเไปใช้กลุ่ม
00:38:39 → 00:38:42 ยาทาปึ๊บทาพุ้งปึ๊บหรือกินปุ๊บจาก 5 ขึ้น
00:38:42 → 00:38:45 เป็น 200 ทันทีเลยภายในไม่ถึงเดือนพอมัน
00:38:45 → 00:38:47 ขึ้นเร็วปุ๊บคนไข้จะบอกเลยว่าหลับดีมาก
00:38:47 → 00:38:49 เลยอารมณ์ดีเผาผ่าเริ่มดีขึ้นแต่สิ่งที่
00:38:49 → 00:38:52 ตามมาฟ้าเริ่มขึ้นและซิสที่เต้านมลูกรัง
00:38:52 → 00:38:55 ไข่เริ่มเกิดขึ้นสำหรับหมอเองก็เลยว่าเรา
00:38:55 → 00:38:57 เป็นศาสตร์ธรรมชาติเราเลยบอกว่าอะไรก็ตาม
00:38:57 → 00:38:59 ที่เปลี่ยนแปลงเร็วเกินไปเรากังวลเลยค่ะ
00:38:59 → 00:39:01 แทนที่รักษา 1 โรคแต่คนไข้ได้อีก 2-3 โรค
00:39:01 → 00:39:04 ผึ้มาหมอคิดว่ามันไม่คุ้มฆ่ากันจะดีกว่า
00:39:04 → 00:39:06 มั้ถ้าเราไปแก้ที่ต้นเหตุปรับวิตามินการ
00:39:06 → 00:39:08 ตรวจมาว่าร่างกายเราขายวิตามินตัวไหนที่
00:39:08 → 00:39:10 ช่วยในการฟื้นฟูฮอร์โมนเพศหญิงได้กิน
00:39:10 → 00:39:12 โปรตีนที่เยอะขึ้นนอนที่ดีขึ้นมีสารพิษ
00:39:12 → 00:39:14 ที่เอาสารพิษออกปรับอาหารเฉพาะบุคคลอัน
00:39:14 → 00:39:16 นี้ก็สามารถฟื้นฟูฮอร์โมนโดยที่เราไม่
00:39:16 → 00:39:18 ต้องใช้กลุ่มฮอร์โมนแบบกินหรือแบบทาแล้ว
00:39:18 → 00:39:21 ค่ะดูแลคนไข้เยอะมากสำหรับคุณหมอเนี่ยนะ
00:39:21 → 00:39:24 ฮะจุดเริ่มต้นของเรื่องการศึกษาเรื่อง
00:39:24 → 00:39:27 ฮอร์โมนเห็นบอกว่ามาจากคุณแม่กับหมอออใช่
00:39:27 → 00:39:29 เลยค่ะเหมือนตอนเนี้ยคุณแม่ชมอายุ 70 ปี
00:39:29 → 00:39:32 แต่ถ้าเราย้อนเท้าเท้าความไปเมื่อ 10 ปี
00:39:32 → 00:39:34 ที่แล้วคุณแม่เพิ่งอายุ 60 ปีค่ะคุณแม่
00:39:34 → 00:39:36 เป็นผู้หญิงที่แข็งแรงมากเป็นผู้หญิงตัว
00:39:36 → 00:39:39 เล็กๆสูง 150 แล้วท่านหนัก 48 แต่ว่าช่วง
00:39:39 → 00:39:42 ชีวิตผ่านไปเรื่อยๆเอ๊ะฉันเริ่มสังเกตว่า
00:39:42 → 00:39:44 ทำไมคุณแม่ที่แข็งแรงแบบนี้ไม่มีโรคประจำ
00:39:44 → 00:39:46 ตัวไม่ต้องกินยาอะไรแต่ทำไมอยู่มาวันนึง
00:39:46 → 00:39:48 ผู้หญิงที่สูง 150 48 น้ำหนักเริ่มดีด
00:39:48 → 00:39:52 ขึ้นกลายเป็น 50 55 60 65 ขึ้นเรื่อยๆ
00:39:52 → 00:39:53 ไปเรื่อยๆภายในช่วงเวลาปีเดียวค่ะพี่ตั๊ก
00:39:53 → 00:39:56 ขึ้นแบบรวดเร็วอุ๊ยใช่เราก็รู้สึกว่าเอ้า
00:39:56 → 00:39:58 แม่เกิดอะไรขึ้นแม่กินอะไรมาแล้วก็สังเกต
00:39:58 → 00:40:00 อาหารที่คุณแม่ทานคุณแม่ทานเหมือนเดิม
00:40:00 → 00:40:02 พฤติกรรมเหมือนเดิมออกกำลังกายเหมือนเดิม
00:40:02 → 00:40:04 คุณแม่วิ่งวันละ 7 ก.ด้วยค่ะแล้วก็เริ่ม
00:40:04 → 00:40:06 สังเกตว่าน้ำหนักเปลี่ยนไปอันที่ 1 อัน
00:40:07 → 00:40:09 ที่ 2 คุณแม่เริ่มมีอารมณ์เหมือนกับขี้
00:40:09 → 00:40:11 น้อยใจแบบเอ๊ะเท้าทำไมแม่เหมือนแบบ
00:40:11 → 00:40:13 เซensitiveร้องไห้ง่ายทำไมแบบว่าเหงา
00:40:13 → 00:40:15 เศร้าเอ๊ะแม่เราทำอะไรไม่ถูกใจแม่หรือ
00:40:15 → 00:40:17 เปล่าแม่เรารู้สึกว่าเอ๊ยอารมณ์แม่ไม่
00:40:17 → 00:40:20 เหมือนเดิมเราก็เลยสังเกตว่าเอ๊ะกลางคืน
00:40:20 → 00:40:22 แม่นอนมั้ยแม่บอกว่าแม่นอนแม่นอนตั้งแต่
00:40:22 → 00:40:24 21:00 น.เลยค่ะแต่แม่หลับไม่สนิทในฐานะ
00:40:24 → 00:40:26 ที่เราเป็นหมอเราก็เป็นลูกสาวของคุณแม่
00:40:26 → 00:40:28 ด้วยรู้สึกว่าแบบเนี้ยไม่ใช่สัญญาณปกติ
00:40:28 → 00:40:30 แล้วนะเตือนภัยแล้วว่าเอ้ยต้องไปหาต้น
00:40:30 → 00:40:32 เหตุให้เจอแล้วก็เลยพาคุณแม่ไปตรวจทุก
00:40:32 → 00:40:34 อย่างเช็คอัพที่โรงพยาบาลชั้นนำทั้งหมด
00:40:34 → 00:40:36 ทั่วประเทศไทยว่าตรงไหนที่ว่าดีตรงไหนที่
00:40:36 → 00:40:38 ว่าละเอียดไปตรวจให้หมดเลยค่ะแต่เราก็ไม่
00:40:38 → 00:40:40 เจอสาเหตุว่าเอ๊ะคุณแม่เป็นอะไรแต่ตอน
00:40:40 → 00:40:42 ระหว่างนั้นเองเมื่อ 10 ปีที่แล้วค่ะก็
00:40:42 → 00:40:43 เป็นช่วงเวลาที่หมอกำลังเรียนสาย
00:40:43 → 00:40:45 preventive medicine ด้วยเป็นสายที่
00:40:45 → 00:40:47 ป้องกันของการป่วยแล้วเราก็โฟกัสเรื่อง
00:40:47 → 00:40:49 ฮอร์โมนด้วยว่าเอ้ยคุณแม่สงสัยนะเรื่อง
00:40:49 → 00:40:51 นี้คุณแม่ยังไม่ได้ตรวจเราก็เลยพาคุณแม่
00:40:51 → 00:40:54 ในการตรวจตรวจสาด้านนี้ 60 รายการตรวจ
00:40:54 → 00:40:56 วิตามินตรวจสารพิษตรวจฮอร์โมนในร่างกาย
00:40:56 → 00:40:58 ทั้งหมด 9 ตัวค่ะพี่ตั๊กแล้วก็ตรวจอาหาร
00:40:58 → 00:41:00 เฉพาะบุคคลว่าจริงๆแล้วคุณแม่ต้องกินอะไร
00:41:00 → 00:41:02 คุณแม่กินถูกหรือเปล่าเพราะคุณแม่กินน้ำ
00:41:02 → 00:41:03 ผักปั่นทุกวันเลยนี่ยังไม่ดีอีกหรอยัง
00:41:03 → 00:41:06 สงสัยเลยค่ะก็ให้คุณแม่ตรวจสุภาพแล้วก็
00:41:06 → 00:41:07 ตรวจสแกนร่างกายระดับเซลล์เพื่อดูว่าคุณ
00:41:07 → 00:41:10 แม่หลับลึกมั้ยลำไส้ดูดซึมดีมั้ยหรือ
00:41:10 → 00:41:12 ฮอร์โมนเป็นยังไงระบบไหนที่มันเริ่มรวนไป
00:41:12 → 00:41:15 บ้างสุดท้ายคำตอบเจอเลยค่ะว่าฮอร์โมนผ่าน
00:41:15 → 00:41:17 คุณแม่แทบจะเหลือ 0 เลยค่ะมันไม่มีมานาน
00:41:17 → 00:41:19 แล้วก็เข้าสู่กระบวนการในการดูแลคุณแม่
00:41:19 → 00:41:23 ตลอด 3 เดือนวิตามินใหม่ล้างสารพิษใหม่โห
00:41:23 → 00:41:25 คุณแม่กลับเป็นเวอร์ชั่นใหม่เลยค่ะน้ำ
00:41:25 → 00:41:29 หนักค่อยๆลงเหลือ 60 55 ปัจจุบันคุณแม่
00:41:29 → 00:41:31 อายุ 70 น้ำหนักเหลือ 48 เป็นผู้หญิงตัว
00:41:32 → 00:41:34 เล็กๆแล้วก็วิ่งวันละ 7 กว่ายน้ำเรา
00:41:34 → 00:41:37 ชั่วโมงได้แข็งแรงสดใสไม่เคยป่วยไม่เคย
00:41:37 → 00:41:40 ติดโควิดเลยค่ะพี่ตั๊คุณหมอเคยเจอเคสที่
00:41:40 → 00:41:43 มาตรวจวัดฮอร์โมนฮอร์โมนพังตอนที่อายุ
00:41:43 → 00:41:46 น้อยที่สุดสักมีมั้คะสักเท่าไหร่อายุมี
00:41:46 → 00:41:49 ค่ะพี่ตั๊กต้องบอกว่าจริงๆเจอที่พังมากๆ
00:41:49 → 00:41:53 เลยนะคะอายุ 37 เองค่ะคือสรู้สึกว่าจริงๆ
00:41:53 → 00:41:56 น้อยไปมากค่ะใช่เร็วมากค่ะมันพังยังไงอ่ะ
00:41:56 → 00:41:59 คุณแม่วัย 70 แล้วพาลูกอายุ 37 มาแล้วก็
00:41:59 → 00:42:01 หมอก็เห็นร่างกายเขาคือเราคิดภาพตามเลย
00:42:01 → 00:42:04 ว่าเป็นผู้หญิง 160 สูง 160 ค่ะพี่ตั๊ก
00:42:04 → 00:42:06 แต่นั่งเหมือนคนหมดแรงนั่งแบบตัวเหมือน
00:42:06 → 00:42:08 เหี่ยวๆแบบเหมือนแบบไม่สบายเหมือนคนจะ
00:42:08 → 00:42:10 หลับคุยกับหมอทีเหมือนจะหลับครึ่งหลับ
00:42:10 → 00:42:14 ครึ่งตื่นแล้วผมก็ขาวเต็มหัวผิวก็แห้งมาก
00:42:14 → 00:42:16 หน้าตาก็มีริ้วรอยก่อนวัยคือถ้าเราสังเกต
00:42:16 → 00:42:19 ภายนอกปุ๊บหมอไม่ดูอายุเขาเอ๊ะคนนี้ 50
00:42:19 → 00:42:21 หรือเปล่าคือภายนอกเขาดูแก่ไปไกลมากแต่พอ
00:42:22 → 00:42:23 เราไปถามว่าแบบคนนี้มีโรคประจำตัวอะไร
00:42:23 → 00:42:25 เปล่าคะคุณแม่คุณแม่ตอบแทนเลยว่าเค้าเป็น
00:42:25 → 00:42:28 มะเร็งรังไข่แล้วตัดไปแล้วทั้ง 2 ข้างตอน
00:42:28 → 00:42:30 นี้คือไม่เหลือแล้วเรียกว่ายกพวงไปเลยค่ะ
00:42:30 → 00:42:32 พี่ตั๊กแล้วมันก็เลยถามต่อว่าเพิ่งเป็น
00:42:32 → 00:42:33 เหรอคะหรือเป็นนั้นแค่ไหนเคเป็นตั้งแต่
00:42:33 → 00:42:36 อายุ 30 คือตัดมาแล้ว 7 ปีค่ะพี่ตั๊กสิ่ง
00:42:36 → 00:42:38 ที่เกิดขึ้นคือพอเราตัดมรุ่งไข่ออกไปผู้
00:42:38 → 00:42:40 หญิงคนนี้จะกลายเป็นผู้หญิงที่เข้าวัยทอง
00:42:40 → 00:42:43 ก่อนวัยเร็วกว่าเดิมไป 20 ปีเพราะผู้หญิง
00:42:43 → 00:42:45 เราต้องหมดประจำจนตอายุ 50 ใช่มั้คะแต่คน
00:42:45 → 00:42:47 นี้ตัดตั้งแต่อายุ 30 ด้วยความที่โฟกัส
00:42:47 → 00:42:49 กับงานเรียนสายเคมีด้วยก็เป็นอาชีพอาจจะ
00:42:49 → 00:42:51 เป็นแบบเกี่ยวกับพวก
00:42:51 → 00:42:53 วิทยาศาสตร์เคมีอาจจะมีการสัมผัสสารเคมี
00:42:53 → 00:42:55 ระดับนึงแล้วก็บวกกับอาหารเราโทษอาชีพ
00:42:55 → 00:42:57 อย่างเดียวไม่ได้นะคะแต่ไลฟ์สไตล์เขาไม่
00:42:57 → 00:42:59 ผ่านด้วยเขาก็กินอาหารแช่แข็งตลอดกิน
00:43:00 → 00:43:02 เบเกอรี่ตลอดก็ไม่ออกไปไหนอ่ะอยู่ในห้อง
00:43:02 → 00:43:04 ทำงานนู่นนี่นั่นก็มาแล้วะเบเกอรี่จัด
00:43:04 → 00:43:07 เต็มน้ำอัดลมชานมน้ำหวานไม่เคยกินน้ำ
00:43:07 → 00:43:09 เปล่าเลยค่ะคนนี้แล้วนั่นค่ะคือที่มาว่า
00:43:09 → 00:43:11 เขาเริ่มมีมะเร็งรังไข่เกิดขึ้นตอนแรกเ
00:43:11 → 00:43:13 เป็นข้างเดียวค่ะแล้วมากกว่านั้นคือเ้า
00:43:13 → 00:43:16 ไม่รู้ว่าต้องแก้ยังไงก็ไปตัดรังไข่ออก
00:43:16 → 00:43:19 แล้วก็จบผ่านไปพฤติกรรมไม่ได้เปลี่ยนมัน
00:43:19 → 00:43:21 ก็เริ่มมาข้างที่ 2 อืคราวนี้คุณหมอบอก
00:43:21 → 00:43:23 เลยว่าต้องตัดยกพวงแล้วนะไม่งั้นมาที่
00:43:23 → 00:43:25 อื่นอีกแต่สิ่งบอกกับคุณแม่เเลยว่าโหคุณ
00:43:25 → 00:43:27 แม่โชคดีมากเลยนะคะที่รีบมาตรวจเพราะว่า
00:43:27 → 00:43:29 สำหรับหมอเองเนี่ยมันไม่จบแค่นี้นะถ้าเรา
00:43:29 → 00:43:31 เป็นมะเร็งได้แล้วครั้งนึงไม่ใช่แค่จบแค่
00:43:31 → 00:43:33 มะรุ่งรังไข่เพราะร่างกายเรามีมะเร็งได้
00:43:33 → 00:43:36 ตลอดเวลาจะเป็นที่เตานมล่ะใช่หรือว่าจะ
00:43:36 → 00:43:37 เป็นที่สมองล่ะหรือไปโผล่ที่กระเพาะที่
00:43:37 → 00:43:39 ตับที่ลำไส้หมองว่าตอนนี้เรามาตรวจ 60
00:43:39 → 00:43:42 รายการนานเรามาวิเคราะห์กันดีกว่าว่าอะไร
00:43:42 → 00:43:43 ทำให้เขามีความเสี่ยงเป็นโรคเหล่านี้มัน
00:43:44 → 00:43:46 เกิดจากฮอร์โมนตัวไหนมันมีสารพิษตัวไหนมา
00:43:46 → 00:43:48 ปรับอาหารการกินกันดีมากเลยค่ะที่เขามา
00:43:48 → 00:43:50 ตรวจเขาจะเริ่มปรับเปลี่ยนการกินเพราะ
00:43:50 → 00:43:51 ขนาดที่เขาเป็นมะเร็งตับไปแล้วทั้งหมดเ
00:43:51 → 00:43:53 ยังกินขนมปังอยู่เลยเยังกินน้ำตาลอยู่เลย
00:43:54 → 00:43:55 เยังนอนดึกอยู่เลยเพราะเขาไม่รู้ไลฟสไตล์
00:43:55 → 00:43:57 เหล่าเนี้ยคือต้นเหตุของมะเร็งก้อนถัดไป
00:43:57 → 00:43:59 เรื่องภัยใกล้ตัวหรือเรื่องของฮอร์โมน
00:43:59 → 00:44:00 เนี่ยไม่ใช่เรื่องของคนอายุเยอะค่ะน่า
00:44:00 → 00:44:02 กลัวเป็นเรื่องของคนใกล้ตัวที่เราต้อง
00:44:02 → 00:44:05 ตระหนักในการใส่ใจแล้วก็ฟังร่างกายมากๆ
00:44:05 → 00:44:08 เลยค่ะฟังคุณหมอพูดแล้วนะฮะถ้าคุณผู้ชมสน
00:44:08 → 00:44:10 ใจที่รู้สึกว่าเอ๊อยากจะตรวจสุขภาพเชิง
00:44:10 → 00:44:14 ลึกวันนี้เรามีโปรโมชั่นพิเศษนะคะสำหรับ
00:44:14 → 00:44:17 คนที่ดูรายการตั๊ก Talk ด้วยแพ็คเกจตรวจ
00:44:17 → 00:44:21 สุขภาพแบบเต็มที่เลย 60 รายการแบบลึกเลย
00:44:21 → 00:44:24 นั่นก็คือซื้อ 1 แถม 1 ปกติท่านเดียว
00:44:25 → 00:44:27 เนี่ยนะคะจะ 65,950
00:44:27 → 00:44:31 นะคะแต่วันนี้ 65,950
00:44:31 → 00:44:34 ได้ถึง 2 ท่านจะเป็นคุณพาคุณแม่ไปหรือคุณ
00:44:34 → 00:44:37 จะพาสามีหรือสามีจะพาคุณไปก็ได้นั่นก็คือ
00:44:37 → 00:44:40 โปรแกรมซื้อ 1 แถม 1 เฉพาะ 50 ท่านแรกนะ
00:44:41 → 00:44:44 คะอ่ะสุดท้ายตรงนี้อยากจะให้คุณหมอฝาก
00:44:44 → 00:44:47 อะไรถึงผู้หญิงนะคะวัย 40 50 บวกว่าเค้า
00:44:47 → 00:44:50 ควรจะต้องดูแลตัวเองยังไงนะคะหรือสังเกต
00:44:50 → 00:44:52 อาการของตัวเองยังไงที่จะไม่เกิดเรื่อง
00:44:53 → 00:44:55 ของฮอร์โมนพังต้องบอกว่าอยากให้ทุกคน
00:44:55 → 00:44:57 เหมือนแบบตอนนี้ฟังอยู่เนี่ยลองนั่งเงียบ
00:44:58 → 00:45:00 ๆแป๊บนึงนะคะแล้วลองฟังเสียงร่างกายตัว
00:45:00 → 00:45:03 เองดูค่ะว่าตอนนี้เขาพูดอะไรบ้างต้องบอก
00:45:03 → 00:45:05 ว่าร่างกายเราฉลาดมากนะคะเจะพูดอะไรว่า
00:45:05 → 00:45:08 ตอนนี้ฉันนอนไม่หลับฉันเหนื่อยฉันเพลีย
00:45:08 → 00:45:10 ฉันรู้สึกอารมณ์ไม่ค่อยดีหรือฉันรู้สึก
00:45:10 → 00:45:13 ว่ากำลังท้อกำลังหมดแรงกำลังหมดพลังงาน
00:45:13 → 00:45:15 สิ่งเหล่านั้นเองค่ะลองฟังเสียงเขาดู
00:45:15 → 00:45:17 เพราะทั้งชีวิตที่ผ่านมาของผู้หญิงในวัย
00:45:17 → 00:45:19 50-60 เนี่ยอาจจะให้คนที่รักไปหมดแล้ว
00:45:19 → 00:45:23 ให้กับสามีไปให้กับงานไปให้กับลูกๆไปหรือ
00:45:23 → 00:45:25 ให้กับบริวารทั้งหมดกับที่ทำงานไปหมดแล้ว
00:45:25 → 00:45:27 แต่ลืมฟังเสียงร่างกายลืมรักคนที่ควรจะ
00:45:27 → 00:45:29 รักที่สุดก็คือรักตัวเองค่ะอยากให้ตอนเ
00:45:29 → 00:45:31 ลองกลับมาดูว่าตอนเนี้ร่างกายของเราบ่ง
00:45:31 → 00:45:34 บอกอะไรบ้างอย่าปล่อยให้เขาสายเกินกว่าจะ
00:45:34 → 00:45:36 แก้พทะสุดท้ายมันไปสุดที่แย่ที่สุดคือ
00:45:36 → 00:45:38 เกิดเป็นสตกติดเตียงไปแล้วตอนนั้นเราไม่
00:45:39 → 00:45:41 มีอะไรจะช่วยเราได้แล้วงั้นสุดท้ายแล้วก็
00:45:41 → 00:45:43 อยากฝากนะคะว่ากลับมารักตัวเองค่ะถ้าเรา
00:45:43 → 00:45:45 แข็งแรงเมื่อไหร่เราจะได้ดูแลคนที่เรารัก
00:45:45 → 00:45:48 ไปอีกนานเท่านานเลยค่ะคุณตั๊ดูคลิปนี้จบ
00:45:48 → 00:45:52 แล้วใครที่เคยมีปัญหาเรื่องของฮอร์โมนพัง
00:45:52 → 00:45:55 แล้วสามารถกู้ร่างตัวเองกลับมาได้แชร์มา
00:45:55 → 00:45:57 เล่าในรายการให้กับคนอื่นด้วยจะได้เป็น
00:45:57 → 00:46:00 ประโยชน์กับคนอื่นด้วยนะคะอีกเรื่องนึง
00:46:00 → 00:46:03 ที่พี่ตั๊กอยากจะแชร์รายการนี้จะอยู่ไม่
00:46:03 → 00:46:06 ได้เลยถ้าเราไม่มีผู้สนับสนุนรายการวัน
00:46:06 → 00:46:09 นี้ต้องขอขอบคุณคทentดีๆนะคะเรื่องราวของ
00:46:09 → 00:46:13 ฮอร์โมนวันนี้ต้องขอบคุณ Wellness คinิ
00:46:13 → 00:46:16 วันนี้ด้วยนะคะและสำหรับท่านใดที่อยากจะ
00:46:16 → 00:46:19 เห็นพี่ตั๊กทำคทentเรื่องอะไรเม้น์
00:46:19 → 00:46:22 คอมเมนต์บอกมาได้ใต้คลิปนี้ได้เลยนะคะ
00:46:22 → 00:46:25 เดี๋ยวทีมงานเราจัดให้แล้วก็อย่าลืมนะคะ
00:46:25 → 00:46:28 ชมรายการแล้วก็อย่าลืมกดไลค์กดแชร์กดติด
00:46:28 → 00:46:30 ตามทางช่อง Live Dot ด้วยนะคะเพื่อเป็น
00:46:30 → 00:46:33 กำลังใจให้กับพี่ตั๊กและทีมงานเราจะได้
00:46:33 → 00:46:39 ไม่พลาดสาระดีๆจากช่อง Live Dot ค่ะ