00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice โลกนี้มันไม่ได้พิ่งจะเกิดขึ้น
00:00:08 → 00:00:10 หรือเพิ่งจะปรากฏให้เห็นนะคะมันมีมาตั้ง
00:00:10 → 00:00:13 นานแล้วแต่สมัยก่อนด้วยวิวัฒนาการทางการ
00:00:13 → 00:00:16 แพทย์หรืออะไรแล้วก็เป็นความเชื่อใช่มั้ย
00:00:16 → 00:00:19 คะของคนว่าเอาลสูงอายุมันก็ต้องหลงลืมก็
00:00:19 → 00:00:22 เลยปล่อยปล่อยปะละเลยแล้วก็จำนวนผู้สูง
00:00:22 → 00:00:25 อายุก็ไม่มากใช่มั้ยคะในประเทศเราสมัย
00:00:25 → 00:00:28 ก่อนนะคะแต่พอมายุคนี้เป็นสังคมสูงวัยผู้
00:00:28 → 00:00:31 สูงอายุก็เยอะค่ะรู้อะไรต่างๆมันก็กว้าง
00:00:31 → 00:00:34 กวงขึ้นคนก็เริ่มเรมองเห็นว่าอ้ามันเป็น
00:00:34 → 00:00:36 ปัญหาที่ไม่ใช่เฉพาะทางการแพทย์เนาะมัน
00:00:36 → 00:00:39 เป็นปัญหาในครอบครัวทีเดียวเลยอ่ะที่เอจะ
00:00:39 → 00:00:41 อยู่ร่วมกันยังไงอะไรด้วยเพราะฉะนั้นสิ่ง
00:00:41 → 00:00:44 ที่ดีที่สุดคือหันกลับมาป้องกันซะดีกว่า
00:00:44 → 00:00:45 นะ
00:00:46 → 00:00:50 คะฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทยฟัง
00:00:50 → 00:00:55 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพร
00:00:55 → 00:00:59 ค่ะวันนี้ค่ะคุณผู้ฟังคะเรามาติดตามรับ
00:00:59 → 00:01:01 ฟังเรื่ข่าวเกี่ยวกับการชะลอสมองเสื่อม
00:01:01 → 00:01:05 สำหรับผู้สูงวัยกันนะคะว่ามีวิธีการยังไง
00:01:05 → 00:01:08 นะคะหรือว่ามีเทคนิคยังไงที่จะช่วยชลอได้
00:01:08 → 00:01:10 เดี๋ยวคุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรเกสร
00:01:11 → 00:01:13 สำเภาทองอาจารย์ประจำคณะสาธารณสุขศาสตร์
00:01:13 → 00:01:15 ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมสุขภาพและ
00:01:16 → 00:01:18 ป้องกันโรคมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ค่ะ
00:01:18 → 00:01:21 สวัสดีค่ะพี่เกสรคะสวัสดีค่ะอ่าวันนี้คุย
00:01:21 → 00:01:23 กันเนี่ยเป็นเรื่องของการชะลอสมองเสื่อม
00:01:23 → 00:01:26 ผู้สูงวัยนะคะฟังไปเรื่องใหญ่เรื่อง
00:01:26 → 00:01:29 ซีเรียสเตรียมตัวเองไปในตัวด้วยเพราะว่า
00:01:29 → 00:01:33 ค่ะเอ่อเรื่องของสมองเสื่อมหรือว่าเ่อ
00:01:33 → 00:01:35 อาการอะไรอย่างงี้ใช่ไหมมคะแล้วก็รวมไป
00:01:35 → 00:01:38 ถึงว่าบางคนอาจจะสับสนว่าเอ๊ะฉันตอนเนี้ย
00:01:38 → 00:01:41 เป็นสมองเสื่อมหรรือเปล่าเปล่ามีอาการ
00:01:41 → 00:01:43 หรือเปล่าขี้หลงขี้ลืมหรืออะไรอย่างงี้
00:01:43 → 00:01:46 หรือเปล่ามันมันมันจะดูในเรื่องความแตก
00:01:46 → 00:01:49 ต่างหรือว่าสังเกตอะไรยังไงได้ยคะค่ะคือ
00:01:49 → 00:01:51 ก่อนที่จะไปพูดถึงความแตกต่างอยากจะ
00:01:51 → 00:01:54 เกริ่นนำสักนิดนึงอ่ะค่ะว่าเอ่อไม่โรคนี้
00:01:54 → 00:01:56 มันไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้นหรือเพิ่งจะ
00:01:56 → 00:01:59 ปรากฏให้เห็นนะคะมันมีมาตั้งนานแล้วค่ะ
00:01:59 → 00:02:02 แต่สมัยก่อนด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์
00:02:02 → 00:02:05 หรืออะไรก็แล้วก็เป็นความเชื่อใช่มั้ยคะ
00:02:05 → 00:02:08 ของคนว่าเอาละสูงอายุมันก็ต้องหลงลืมก็
00:02:08 → 00:02:11 เลยปล่อยปล่อยปะระะเลยแล้วก็จำนวนผู้สูง
00:02:11 → 00:02:13 อายุก็ไม่มากใช่มั้ยคะในประเทศเราสมัย
00:02:13 → 00:02:17 ก่อนนะคะแต่พอมายุคนี้เป็นสังคมสูงวัยผู้
00:02:17 → 00:02:20 สูงอายุก็เยอะความรู้อะไรต่างๆมันก็กว้าง
00:02:20 → 00:02:22 ขวางขึ้นคนก็เริ่มเริ่มมองเห็นว่าอ้ามัน
00:02:22 → 00:02:25 เป็นปัญหาึไม่ใช่เฉพาะทางการแพทย์เนาะมัน
00:02:25 → 00:02:28 เป็นปัญหาในครอบครัวทีเดียวเลยอ่ะที่เอ๊ะ
00:02:28 → 00:02:30 จะอยู่ร่วมกันยังไงอะไรด้วยเพราะฉะนั้น
00:02:30 → 00:02:33 สิ่งที่ดีที่สุดคือหันกลับมาป้องกันนะคะ
00:02:33 → 00:02:36 หันกลับมาป้องกันซะดีกว่านะคะคือเหมือน
00:02:36 → 00:02:39 กับว่าจริงๆมันก็เป็นไปตามธรรมชาติที่มัน
00:02:39 → 00:02:41 อาจจะต้องเสื่อมไปตามกาลเวลาเพราะว่าเรา
00:02:41 → 00:02:44 ก็ใช้ร่างกายใช้สมองกันมาใช้กันมาตลอดคิด
00:02:44 → 00:02:47 เป็นอะไรเป็นเก็ใช้สมองมาโดยตลอดนะคะแต่
00:02:47 → 00:02:50 แค่ว่าเราจะเป็นการชะลอคือเราเราไปห้าม
00:02:50 → 00:02:53 ไม่ได้ใช่ค่ะหรืออะไรเลยแต่แค่ว่าชะลอยัง
00:02:53 → 00:02:57 ไงให้แบบว่าช้าลงหน่อยใช่มคะอค่ะคือถ้า
00:02:57 → 00:03:00 มันจะเสื่อมไปก็ขอให้ค่อยๆอ่าค่อยเป็น
00:03:00 → 00:03:03 ค่อยไปแล้วก็เรียกว่าอาการที่เกิดขึ้น
00:03:03 → 00:03:05 เนี่ยมันพอที่จะประคับประคองอยู่ด้วยกัน
00:03:05 → 00:03:08 ไปได้นะคะเพราะอย่างที่บอกมันเป็นโรคของ
00:03:08 → 00:03:10 ความเสื่อมด้วยนะแต่ว่ามันก็มีสาเหตุ
00:03:10 → 00:03:13 อย่างอื่นเข้ามาเป็นปัจจัยกระตุ้นค่อน
00:03:13 → 00:03:15 ข้างเยอะนะคะซึ่งเดี๋ยวเราคงจะได้คุยกัน
00:03:15 → 00:03:18 ใช่มั้ยคะว่าอะไรมากระตุ้นทำให้มันเกิด
00:03:18 → 00:03:21 ขึ้นเร็วกว่าที่มันควรจะเป็นหรือแม้
00:03:21 → 00:03:24 กระทั่งเกิดแล้วแบบร้ายแรงรุนแรงจน
00:03:24 → 00:03:28 กระทั่งเอ่อชีวิตในครอบครัวนะคะหรือว่า
00:03:28 → 00:03:31 เจ้าตัวเองเนี่ยก็ก็ก็อยู่ในคุณภาพชีวิต
00:03:31 → 00:03:34 ที่ตกต่ำมากๆอย่าเงี้ยค่ะค่ะแต่ว่าสังเกต
00:03:34 → 00:03:36 บางคนค่ะพี่เกสรคะคุณผู้ฟังคะบางบางท่าน
00:03:36 → 00:03:41 นะคะโอความจำดีมากสมองดีมากเลยอะไรอย่าง
00:03:41 → 00:03:44 เงี้ยคือแบบโอ้โหท่านจำได้ขนาดนี้ได้ยัง
00:03:44 → 00:03:47 ไงค่ะเออเล่าอะไรเป็นเรื่องเป็นราวเป็น
00:03:47 → 00:03:50 ฉากๆนะแต่ว่าต้องเข้าใจนะคะว่าผู้สูงอายุ
00:03:50 → 00:03:54 เองความจำในอดีตอ่ะจะดีมากๆจำได้หมดลูกคน
00:03:54 → 00:03:57 นี้เกิดเมื่อไหร่ทำอะไรยังไงฉันเปลี่ยน
00:03:57 → 00:04:00 งานฉันทำอะไรบ้างน่ะนั่นน่ะจำเป๊ะมากเหตุ
00:04:00 → 00:04:02 การณ์บ้านเมืองในอดีตจำได้หมดเป็นความทรง
00:04:02 → 00:04:05 จำในอดีตแต่เมื่อวานนี้กินข้าวกับอะไรคะ
00:04:05 → 00:04:08 อะไรเงี้ยแล้วจำไม่ได้หรือว่าเมื่อวานนี้
00:04:08 → 00:04:10 ไปเจอใครอะไรเงี้ยจะจำไม่ได้หรือเมื่อสัก
00:04:10 → 00:04:13 ครู่นี้เอาของนั้นไปไว้ที่ไหนอาจจะจำไม่
00:04:13 → 00:04:16 ได้แล้วเออมันมันมันกลายเป็นเรื่องรจริงๆ
00:04:16 → 00:04:19 เรื่องในอดีตอ่ะน่าจะลืมน่าจะลืมแล้วไม่
00:04:19 → 00:04:21 ลืมอะไประมาณนี้อันนี้ก็เป็นลักษณะของผู้
00:04:21 → 00:04:24 สูงอายุที่ความจำในอดีตเนี่ยมันมีความทรง
00:04:24 → 00:04:27 จำเข้าไว้อ่าในในจิตใต้สำนึกในความจำของ
00:04:27 → 00:04:30 เขาแล้วแต่ว่าเมื่อสักครู่นี้ที่ทำอะไรไป
00:04:30 → 00:04:32 อาจจะหลงลืมเพราะมันอยู่ผิวๆของความทรงจำ
00:04:32 → 00:04:35 อ่ะค่ะอ๋อมันไม่ได้อยู่ในฝั่งรากลึกหรือ
00:04:35 → 00:04:37 ว่าเป็นเป็นสิ่งที่เราแบบโอ๊ยจดจำมาตั้ง
00:04:37 → 00:04:40 แต่ในอดีตแล้วอันนี้ก็เป็นลักษณะหนึ่งของ
00:04:40 → 00:04:43 ผู้ที่เข้าสู่ภาวะสมองเสื่อมนะคะที่บอก
00:04:43 → 00:04:45 ว่าสิ่งที่เคยทำได้มันมันนอกเหนือจากความ
00:04:45 → 00:04:48 คิดความจำแล้วก็คือพฤติกรรมถูกมั้ยคะที่
00:04:48 → 00:04:51 เมื่อมีความคิดมีความเข้าใจมีการประมวลผล
00:04:51 → 00:04:54 แล้วเนี่ยมันก็จะออกมาเป็นพฤติกรรมดัง
00:04:54 → 00:04:56 นั้นบางอย่างบางคนก็หลงลืมอ่าที่จะทำอะไร
00:04:57 → 00:04:59 ต่างๆกับเกี่ยวกับตัวเองเนี่ยแต่เาบอกว่า
00:04:59 → 00:05:02 มันจะเริ่มต้นตั้งแต่หลงลืมสิ่งที่มัน
00:05:02 → 00:05:05 เป็นทักษะที่ได้มาใหม่ในชีวิตในปัจจุบัน
00:05:05 → 00:05:09 น่ะเช่นเรื่องของการวางแผนการทำงานการคิด
00:05:09 → 00:05:11 อะไรต่างๆเนี่ยที่เป็นความสามารถพิเศษของ
00:05:11 → 00:05:14 ตัวเองที่ได้มาตอนที่สูงวัยแล้วหรือว่า
00:05:14 → 00:05:16 อาจจะเป็นผู้ใหญ่แล้วเนี่ยค่ะแล้วมันจะ
00:05:16 → 00:05:19 หลงลืมไปก่อนแต่ความสามารถที่มันติดตัวมา
00:05:19 → 00:05:21 ตั้งแต่เด็กแล้วก็เติบโตขึ้นมาเนี่ยมันจะ
00:05:21 → 00:05:25 ยังอยู่นะคะแล้วมันก็จะค่อยๆหายไปอ่ะค่ะ
00:05:25 → 00:05:28 กับภาวะสมองเสื่อมั้สุดท้ายก็คือตักอาหาร
00:05:28 → 00:05:31 ทานเองไม่ได้เข้าห้องน้ำเองไม่ได้อันนี้
00:05:31 → 00:05:35 มันคือระยะท้าๆเลยนะคะที่ที่มันเป็นขั้น
00:05:35 → 00:05:38 รุนแรงแล้วอ่ะค่ะโอ้โหดูฟังดูแล้วเนี่ย
00:05:38 → 00:05:41 น่ากังวลใจคือกำลังรู้สึกว่าอ่ะไม่แค่ตัว
00:05:41 → 00:05:44 เองอ่ะคุณพ่อคุณแม่อย่างบางท่านอยู่กับ
00:05:44 → 00:05:47 ยังอยู่กับคุณปู่คุณย่าอยู่กับผู้สูงวัย
00:05:47 → 00:05:49 ในครอบครัวเดียวกันเนี่ยที่จะต้องแบบใส่
00:05:49 → 00:05:51 ใจเป็นพิเศษเลยใส่ใจเป็นพิเศษค่ะบางคนก็
00:05:52 → 00:05:54 บอกว่าในยามที่เขารู้สึกว่าเขาเป็นผู้สูง
00:05:55 → 00:05:57 อายุแล้วนะสิ่งที่กังวลมากที่สุดคือสมอง
00:05:57 → 00:06:00 เสื่อมนะอเขไม่ได้บอกว่ากังวลมากมานักกับ
00:06:00 → 00:06:03 เ่อโรคเรื้อรังความดันเบาหวาดอะไรเบอกอัน
00:06:03 → 00:06:06 เนี้ยคุณหมอก็ช่วยได้กินยาก็ช่วยได้แต่
00:06:06 → 00:06:09 สมองเสื่อมนี่ใครจะช่วยล่ะมันช่วยไม่ได้
00:06:09 → 00:06:12 ในแง่ที่ว่าเมื่อเป็นแล้วเนี่ยมันได้แต่
00:06:12 → 00:06:16 ชะลอหรือว่าทำให้มันรุนแรงน้อยลงความ
00:06:16 → 00:06:18 เสื่อมๆแล้วก็เสื่อมล่ะค่ะอนั้นก็เป็น
00:06:18 → 00:06:21 อะไรที่ต้องดูแลกันไว้ก่อนนะคะใชมันไม่มี
00:06:21 → 00:06:23 อะไหล่เปลี่ยนนะไม่มีอะไหล่เปลี่ยนใช่ๆ
00:06:24 → 00:06:26 แต่ทีนี้ถ้าอย่างงั้นถามพี่เกสรอย่างงี้
00:06:26 → 00:06:30 ดีกว่าว่าแล้วปัจจัยหรือมีอะไรที่ทำให้
00:06:31 → 00:06:33 แบบว่าอ่ะความธรรมชาติของร่างกายล่ะส่วน
00:06:33 → 00:06:35 หนึ่งแต่ยังมีอย่างอื่นอีกใช่มั้ยคะมี
00:06:35 → 00:06:38 อย่างอื่นอีกมากทีเดียวนะคะเอ่อพอเป็นผู้
00:06:38 → 00:06:40 สูงอายุเนี่ก็ต้องยอมรับว่าความเสื่อม
00:06:40 → 00:06:43 เป็นเรื่องที่ก้ามกายเข้ามาหาเราล่ะนะคะ
00:06:43 → 00:06:46 สมองเสื่อมก็เป็นภาวะที่เราใช้งานมามาก
00:06:46 → 00:06:48 แต่มันมีปัจจัยอื่นที่เข้ามามีผลทำให้
00:06:48 → 00:06:51 เสื่อมเร็วขึ้นอย่างเช่นโรคประจำตัวโรค
00:06:51 → 00:06:54 เรื้อรังที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างดีโรค
00:06:54 → 00:06:56 หลอดเลือดสมองโรคความดันโลหิตสูงที่มันทำ
00:06:56 → 00:07:00 ให้มีผลต่อเส้นเลือดในสมองนะคะแล้วก็การ
00:07:00 → 00:07:04 สิ่งเสพติดต่างๆไม่ว่าจะเป็นบุหรี่สุรายา
00:07:04 → 00:07:06 เสพติดพวกนี้ก็ทำลายเนื้อสมองด้วยหรือแม้
00:07:06 → 00:07:09 กระทั่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในวัยหนุ่ม
00:07:09 → 00:07:13 สาวที่สมองกระทบกระเทือนก็อาจจะทำให้สมอง
00:07:13 → 00:07:16 เนี่ยเรียกว่าเสื่อมลงไปเร็วกว่าเดิมค่ะ
00:07:16 → 00:07:19 ด้วยพวกนี้แล้วก็ความอ้วนอีกนะคะเพราะ
00:07:19 → 00:07:22 อ้วนก็ไปส่งผลต่อหลอดเลือดใช่มั้ยคะหรือ
00:07:22 → 00:07:26 ว่าสารเคมีอะไรต่างๆที่ที่มีการอ่าได้รับ
00:07:26 → 00:07:29 มาในชีวิตประจำวันก็อาจจะมีผลด้วยโห
00:07:29 → 00:07:32 ปัจจัยเยอะมากเลยนะคะเยอะค่ะหรือว่าอาหาร
00:07:32 → 00:07:36 ที่เรารับประทานที่อ่าไม่ดีพอไม่บำรุง
00:07:36 → 00:07:39 ร่างกายที่มากพอเนี่ยอย่างเช่นบางคนก็ไม่
00:07:39 → 00:07:42 ทานอันนั้นไม่ทานอันนี้อาหารหลักพื้นฐาน 5
00:07:42 → 00:07:45 หมู่เนี่ยค่ะซึ่งมันก็จะช่วยดูแลร่างกาย
00:07:45 → 00:07:48 แบบองค์รวมอยู่แล้วแต่ขาดสารอาหารบาง
00:07:48 → 00:07:52 อย่างมีผลต่อสมองไงคะค่ะอืปัจจัยความ
00:07:52 → 00:07:56 เครียดสิ่งแวดล้อมใช่ค่ะการพักผ่อนอีกนะ
00:07:56 → 00:07:59 คะใช่ๆแล้วยิ่งพอเป็นผู้สูงอายุเนี่ยบาง
00:07:59 → 00:08:01 ทีมันนอกจากโรคเรื้อรังที่เป็นที่ต้องดู
00:08:01 → 00:08:04 แลแล้วความตุนเครียดอันเนื่องมาจากภาวะ
00:08:04 → 00:08:07 เศรษฐกิจแล้วก็การอยู่คนเดียวอืเขบอกการ
00:08:08 → 00:08:10 อยู่คนเดียวภาวะซึมเศร้าเนี่ยทำให้อ่ามัน
00:08:10 → 00:08:13 ถดถอยอย่างรวดเร็วในในทุกๆด้านเลยนะคะค่ะ
00:08:13 → 00:08:17 โอ้โหเป็นปัจจัยที่มันครอบคลุมเยอะมากแต่
00:08:17 → 00:08:20 ว่าบางปัจจัยเราอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้มัน
00:08:20 → 00:08:21 อาจจะเราไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้นแต่มัน
00:08:21 → 00:08:23 เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นเออแต่บางปัจจัยมัน
00:08:24 → 00:08:28 เกิดจากพฤติกรรมเราเองที่แบบอ่ะสั่งสมมา
00:08:28 → 00:08:30 ใช่ค่ะส่วนหนด้วยที่ทำให้การเสื่อมของ
00:08:31 → 00:08:35 สมองมันอาจจะเร็วกว่าสิ่งที่ควรจะเป็นใช่
00:08:35 → 00:08:38 ค่ะจริงๆแล้วเอ่อคนวัยผู้ใหญ่วัยทำงานน่ะ
00:08:39 → 00:08:41 ถ้าตระหนักรู้ถึงว่าเอ้ยชีวิตเราต้องไป
00:08:41 → 00:08:44 อีกไกลนะดูแลตัวเองซักตั้งแต่ตอนนี้ระมัด
00:08:44 → 00:08:46 ระวังสิ่งต่างๆแต่ไม่ต้องถึงกับตึงเครียด
00:08:46 → 00:08:49 อ่ะนะคะแต่ปรับทุกอย่างให้มันเข้าสู่ภาวะ
00:08:49 → 00:08:52 ที่สมดุลแล้วก็อยู่ได้กับสิ่งเหล่านั้น
00:08:52 → 00:08:55 เนี่ยเมื่อสูงวัยขึ้นมาแล้วเนี่ยมันจะลด
00:08:55 → 00:08:58 ความเสี่ยงลงได้เยอะเลยนะคะอย่างเช่นการ
00:08:58 → 00:09:00 เล่นกีฬาบางอย่างอย่างก็กระทบกระเทือน
00:09:00 → 00:09:03 สมองถูกมยคะอย่างเช่นกีฬาชกมวยเนี่ยเราก็
00:09:03 → 00:09:06 ต้องบอกว่ามันอาจจะมีปัญหาเรื่องที่ศีรษะ
00:09:06 → 00:09:09 ได้หรือว่าเอ่อการขับรถมอเตอร์ไซค์
00:09:09 → 00:09:11 อุบัติเหตุอะไรพวกนี้นะคะก็ต้องระมัด
00:09:11 → 00:09:14 ระวังแล้วก็สารเสพติดบุหรี่เนี่ยอันตราย
00:09:14 → 00:09:18 มากทีเดียวค่ะค่ะแล้วก็แอลกอฮอล์นะคะสุรา
00:09:18 → 00:09:22 เนี่ยค่ะทำให้สมองเสื่อมได้อืแต่
00:09:22 → 00:09:25 ก็ยังไม่ถึงเวลายังไม่ได้คิดแต่ก็เริ่ม
00:09:25 → 00:09:28 คิดบ้างก็ก็ดีค่ะอันนี้ก็คือในแง่ของการ
00:09:28 → 00:09:31 ลดความเสี่ยงอืมันก็ยังมีปัจจัยอีกชุด
00:09:31 → 00:09:34 หนึ่งนะคะที่เป็นการนอกจากลดความเสี่ยงลง
00:09:34 → 00:09:38 แล้วก็เสริมสร้างธนุบำรุงดูแลตัวเองด้วย
00:09:38 → 00:09:42 อาหารด้วยการพักผ่อนด้วยการคิดที่ทำให้
00:09:42 → 00:09:45 จิตใจปลอดโปรงเรื่องของการฝึกสมาธิเดี๋ยว
00:09:45 → 00:09:48 นี้เด็กๆก็ทำแล้วไปวทำงานก็จำเป็นต้องทำ
00:09:48 → 00:09:51 ยิ่งผู้สูงอายุก็ยิ่งต้องทำนะคะเพราะการ
00:09:51 → 00:09:54 ฝึกสมาธิมันจะช่วยค่ะช่วยให้ความคิดเป็น
00:09:54 → 00:09:57 ระบบระเบียบอืนะคะนอกจากความคิดเป็นระบบ
00:09:57 → 00:10:00 ระเบียบแล้วมันก็เกิดความปลอดโปรงนะจิตใจ
00:10:00 → 00:10:03 ก็แจ่มใสค่ะเพราะฉะนั้นสมาธิก็เป็นสิ่ง
00:10:03 → 00:10:07 ที่ทำได้ง่ายนะคะถ้าหากเราฝึกฝนวันละเล็ก
00:10:07 → 00:10:09 ละน้อยก็ทำได้ง่ายไม่ได้เป็นเรื่องยากมี
00:10:09 → 00:10:11 คนมีคนเคยบอกเหมือนกันค่ะพี่เกสอนว่าวัน
00:10:11 → 00:10:15 นึงนั่งสักแบบนิดๆหน่อยๆสะสมไปเรื่อยๆค่ะ
00:10:15 → 00:10:17 แล้วก็คือเหมือนกับว่าจริงๆแล้วเนี่ยหล
00:10:17 → 00:10:20 เชื่อว่าหลายคนอาจจะแบบนั่งสมาธิได้บางคน
00:10:20 → 00:10:23 อาจจะอย่างอย่างถ้าเป็นสุรีพรเองไม่ค่อย
00:10:23 → 00:10:26 ได้เพราะว่ามันฟุ้งมันมีอะไรอยู่ในหัวแบบ
00:10:26 → 00:10:30 ในตลอดเวลาเลยอาจจะนี่แะค่ะเป็นส่วนหนึ่ง
00:10:30 → 00:10:34 ที่เออเนาะเดี๋ยวในอนาคตอาจจะสมองสมเร็ว
00:10:34 → 00:10:36 ก็ได้คือการฝึกสมาธิที่บอกว่าไม่ใช่
00:10:36 → 00:10:38 เรื่องยากเนี่ยเพียงแต่ว่าเราต้องเข้าใจ
00:10:38 → 00:10:41 ธรรมชาติของความคิดของเราอ่ะค่ะเดี๋ยวอาจ
00:10:41 → 00:10:43 จะไปพูดประเด็นนี้นิดนึงแล้วกันนะคะเพราะ
00:10:43 → 00:10:46 ว่ามันมีส่วนช่วยเรื่องของชะลอความเสื่อม
00:10:46 → 00:10:49 ของสมองด้วยนะคะเพราะว่าความคิดของเรา
00:10:49 → 00:10:52 เนี่ยต้องบอกว่าธรรมชาติของจิตใจมันต้อง
00:10:52 → 00:10:55 คิดอยู่แล้วเราจะไปหยุดความคิดเไม่ได้ค่ะ
00:10:55 → 00:10:58 นะคะถ้าหากว่าใครนั่งสมาธิในแนวทางของการ
00:10:58 → 00:11:01 หยุดคิดมันจะยากค่ะเพราะฉะนั้นเราต้อง
00:11:01 → 00:11:04 นั่งสมาธิในแง่ของการที่ไม่ได้หยุดคิดแต่
00:11:04 → 00:11:08 คิดในสิ่งที่ผ่อนคลายแล้วก็ค่อยๆความคิด
00:11:08 → 00:11:11 ที่มันวนเวียนกระจัดกระจค่อยๆหลอมรวมเข้า
00:11:11 → 00:11:13 มาเป็นความคิดในเรื่องเดียวคิดในสิ่งที่
00:11:13 → 00:11:16 ดีมองเห็นภาพที่ดีนะคะอันนี้เรียกว่า
00:11:16 → 00:11:19 จินตทัศน์หรือว่า imagination ก็อาจจะเอา
00:11:19 → 00:11:22 มาใช้ในกระบวนการของการฝึกจิตได้ด้วยฝึก
00:11:22 → 00:11:24 ฝึกคิดแบบเยค่ะแล้วสุดท้ายพอความคิดมัน
00:11:24 → 00:11:26 นิ่งสงบน่ะอยู่ที่จุดเดียวแล้วแต่ว่าเรา
00:11:26 → 00:11:29 จะเอาจิตของเราไปยึดยงไว้กับสิ่งน
00:11:29 → 00:11:34 บางคนก็กำหนดถึงลมหายใจบางคนก็มองภาพอ่า
00:11:34 → 00:11:37 ชายทะเลโล่งๆอะไรงี้นะคะก็ค่อยๆรวบรวม
00:11:37 → 00:11:40 ความคิดความคิดจะเป็นระบบนะคะไม่กระจัด
00:11:40 → 00:11:43 กระจายฝึกแบบเนี้ยหาง่ายๆแบบนี้มันเป็น
00:11:43 → 00:11:47 การช่วยทำให้จิตใจเราปลอดโปร่งแจ่มใสเอ่อ
00:11:47 → 00:11:49 เราคงไม่ได้ตั้งเป้าไปถึงขั้นว่าเราจะ
00:11:49 → 00:11:52 บรรลุอะไรอย่างนี้นะคะเราก็แค่ให้จิตใจ
00:11:52 → 00:11:56 สงบทำง่ายๆก่อนนอนนะคะทำง่ายๆตอนตื่นนอน
00:11:56 → 00:12:00 แล้วก็ทั้งวันเราก็จะมีความคิดที่มันจะใส
00:12:00 → 00:12:03 ความคิดที่มันเรียกว่าเป็นความคิดทางบวก
00:12:03 → 00:12:06 แล้วอันเนี้ยค่ะมันลดความตึงเครียดได้อื
00:12:06 → 00:12:09 ไม่ต้องพึ่งยาคลายเครียดไม่ต้องไปพึ่ง
00:12:09 → 00:12:12 เหล้าบุหรี่เพื่อคลายเครียดนะคะส่วนใหญ่
00:12:12 → 00:12:14 ก็จะไปเน้นพวกสิ่งเหล่านี้มากกว่าคืออยาก
00:12:14 → 00:12:17 จะหายเครียดแบบเร็วๆไวๆแต่ว่ามันไม่ได้
00:12:18 → 00:12:21 ถาวรเนาะคือมันถ้าไม่กินมันก็จะกลับมา
00:12:21 → 00:12:25 เป็นวชเครียดแบบนี้อีกแล้วยามที่ถ้าหาก
00:12:25 → 00:12:27 ว่าความคิดของเรายังฟุ้งซ่านแล้วเราไปกิน
00:12:27 → 00:12:30 ยาขายเครดเพื่อหลับมันหลับค่ะแต่ความคิด
00:12:30 → 00:12:33 ไม่ได้หยุดอืพอความคิดมันไม่ได้หยุดคิด
00:12:33 → 00:12:36 มันก็เข้าไปสู่ความฝันฝันแล้วก็เหนื่อย
00:12:36 → 00:12:40 ตื่นขึ้นมาก็ยังไม่ไม่แจ่มใสค่ะนั้นก็เลย
00:12:40 → 00:12:42 คิดว่าเรื่องของการฝึกสมาธิเพื่อเพื่อ
00:12:42 → 00:12:45 ช่วยเรื่องเนี้ยน่าจะจำเป็นกับคนทุกวยโดย
00:12:45 → 00:12:47 เฉพาะผู้สูงอายุนะคะเพราะว่ามีปัญหาความ
00:12:47 → 00:12:50 ตึงเครียดเยอะแล้วก็ส่งผลให้สมองอ่ะค่ะ
00:12:50 → 00:12:54 เข้าสู่ภาวะเสื่อมได้ง่ายมากขึ้นอาจจะ
00:12:54 → 00:12:57 ค่อยๆฝึกฝนหรือบางท่านอาจจะเอ่อไม่ค่อย
00:12:57 → 00:12:59 ได้จะอะไรจะต้องเข้าวัดอย่างเดียวหรือ
00:12:59 → 00:13:02 เปล่าไม่ใช่นะคะไม่ใช่อยู่นิ่งๆให้เป็น
00:13:02 → 00:13:04 สมาธิอ่ะคือไม่ได้แบบว่าจะต้องไปเข้าวัด
00:13:04 → 00:13:07 อย่างเดียวอยู่ที่ไหนก็ทำได้ใช่ค่ะแล้วก็
00:13:07 → 00:13:09 ผู้สูงอายุต้องบอกว่าคือท่านก็มีความ
00:13:09 → 00:13:12 เชื่อในเรื่องของการยืดโยงกับศาสนาที่
00:13:12 → 00:13:15 หลากหลายที่แตกต่างกันนะคะเพราะนั้นก็
00:13:15 → 00:13:18 ท่านพอใจแบบไหนก็ทำไปที่มันไม่เดือดร้อน
00:13:19 → 00:13:22 นะคะไม่ใช่จะต้องแบบไปข้างนอกไปมากมายไป
00:13:22 → 00:13:25 ไกลใช้เงินใช้ทองอันนี้ก็อาจจะเครียดหนัก
00:13:25 → 00:13:28 ขึ้นก็ได้นะคะแต่แต่ถ้าใครถนัดที่แแบบเอ
00:13:28 → 00:13:31 ไปสงบสงบก็ไปได้ก็ได้อ่าเพราะว่าเดี๋ยว
00:13:31 → 00:13:33 นี้ก็มีสถานที่ที่แบบไม่ใช่เป็นวันนะแต่
00:13:33 → 00:13:36 เป็นสถานปฏิบัติธรรมหรือว่าแบบให้เราไป
00:13:36 → 00:13:39 ได้ฝึกจิตฝึกใจให้สงบฝึกสมาธิก็มีเยอะแยะ
00:13:39 → 00:13:42 เลยไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดโปร่งทีนี้เลย
00:13:42 → 00:13:45 ขออนุญาตกลับมาอย่างงี้ค่ะว่าความปิดปกติ
00:13:45 → 00:13:47 ของสมองที่จะเป็นเรื่องสมองเสื่อมเนี่ย
00:13:47 → 00:13:50 ค่ะมันจะมีลักษณะปรากฏมา 2 ประเภทเนาะคือ
00:13:50 → 00:13:53 ความจำกับพฤติกรรมที่แปรเปลี่ยนไป
00:13:53 → 00:13:57 พฤติกรรมที่ปกติไม่เคยทำแบบนี้ทำไมถึงทำ
00:13:57 → 00:14:00 เช่นอาจจะเป็นในรูปของการแต่งกายความ
00:14:00 → 00:14:03 สะอาดของร่างกายการปล่อยปละเลซึ่งประเด็น
00:14:03 → 00:14:06 เนี้ยมันเป็นเรื่องที่สร้างความเดือดร้อน
00:14:06 → 00:14:09 ให้กับตัวเองแล้วก็คนอื่นด้วยนะคะแล้วก็
00:14:09 → 00:14:12 ความจำที่หลงลืมไปแล้วก็มีอาการหงุดหงิด
00:14:12 → 00:14:17 นะคะวิตกกังวลหรือว่าทุรนทุรายในเรื่อง
00:14:17 → 00:14:19 ที่ไม่มีสาเหตุอย่างเงี้ยค่ะก็เป็นอาการ
00:14:19 → 00:14:22 ซึ่งอันเนี้ยเมื่อเกิดขึ้นแล้วเนี่ยต้อง
00:14:22 → 00:14:25 พบผู้เชี่ยวชาญแล้วนะคะอย่ามารักษาตัวเอง
00:14:25 → 00:14:30 มันมันจะไม่สามารถชะลอได้นะคะอืมเค้าอาจ
00:14:30 → 00:14:32 จะไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นอะไรแต่
00:14:32 → 00:14:36 ว่าคนรอบข้างหรือลูกหลานเนี่ยคนรอบข้างจะ
00:14:36 → 00:14:39 ต้องคอยช่วยสังเกตนะคะพอถ้าเป็นดังนั้น
00:14:39 → 00:14:41 แล้วก็พบผู้เชี่ยวชาญแต่ทีนี้ย้อนกลับมา
00:14:41 → 00:14:44 ว่าถ้าท่านยังไม่เป็นแต่ว่าดูแล้ว
00:14:44 → 00:14:47 พฤติกรรมการดูแลตัวเองอาจจะไม่ค่อยดีดู
00:14:47 → 00:14:50 แปลกๆปกติดูแบบว่าโอ้โหใส่ใจตัวเองอะไร
00:14:50 → 00:14:53 อย่างงี้ใช่มั้ยแล้วลังเลยบางเรื่องบาง
00:14:53 → 00:14:56 ราวอันนี้ก็ต้องเป็นข้อที่สังเกตแล้วก็
00:14:56 → 00:15:00 อาจจะต้องเข้าใจก่อนนะค่ะเข้าใจเข้าใจเ
00:15:00 → 00:15:03 แล้วก็ถ้าหเริ่มไปตำหนิไปว่ากล่าวเนี่ยจะ
00:15:03 → 00:15:05 ยิ่งต่อต้านจะยิ่งออกไปจากหนทางของการดู
00:15:05 → 00:15:08 แลตัวเองมากขึ้นอืผู้สูงอายุนี่ต้องบอก
00:15:08 → 00:15:11 ว่าอาการที่ว่าผู้สูงอายุทำไมดื้อเนี่ยก็
00:15:11 → 00:15:14 ยังมีอยู่จริงนะคะเพราะว่ายิ่งบอกให้ทำ
00:15:14 → 00:15:16 อะไรก็อาจจะไม่อยากทำค่ะเพราะฉะนั้นทาง
00:15:17 → 00:15:19 ที่ดีที่สุดถ้าเคิดว่าเคควรทำอะไรก็ให้ทำ
00:15:19 → 00:15:22 เลยนะฮะให้ทำเลยแต่ถ้าไปบอกว่าต้องทำอัน
00:15:22 → 00:15:25 นี้ไปลักษณะเป็นบอกกล่าวในทำนองเหมือน
00:15:25 → 00:15:29 สั่งสอนบอกอบรมหรือสั่งอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:15:29 → 00:15:33 จะไม่ชอบจะไม่ทำอืเชิญชวนชี้ชวนไปเลยนะคะ
00:15:33 → 00:15:35 อ้าวันนี้เดี๋ยวเราไปออกกำลังกายกันอ้า
00:15:36 → 00:15:37 วันนี้เดี๋ยวเราทานอาหารแบบนี้วันนี้เรา
00:15:37 → 00:15:41 ต้องไปนู่นไปนี่ไปบอกเลยทำเลยอย่างงี้จะ
00:15:41 → 00:15:44 ดีกว่าที่จะมาต้องอย่างงั้นนะควรจะอย่าง
00:15:44 → 00:15:49 งี้นะที่จำไม่ทำนะคะเพเป็นธรรมชาติของ
00:15:49 → 00:15:53 เค้านี้ในในแง่ของ 3 ระยะของโรคเอ่อสมอง
00:15:53 → 00:15:56 เสื่อมไม่ว่าระยะเล็กน้อยนะคะปันกลางแล้ว
00:15:56 → 00:15:59 ก็รุนแรงในระยะเล็กน้อยเนี่ยต้องถือว่า
00:15:59 → 00:16:02 เป็นโชคถ้าเรารู้อืนะคะเพราะว่ามันยัง
00:16:02 → 00:16:06 เข้าสู่กระบวนการดูแลรักษาอาจจะใช้ยาแล้ว
00:16:06 → 00:16:09 ก็ใช้เรื่องของการปรับวิธีคิดนะคะการจัด
00:16:10 → 00:16:12 สิ่งแวดล้อมให้เอื้อแล้วก็มาฝึกกันใหม่
00:16:13 → 00:16:16 อย่าเงี้ก็จะช่วยได้พอสมควรหรือว่าเอา
00:16:16 → 00:16:19 เล็กน้อยไปตลอดก็ยังดีกว่าที่จะอืไปอีก
00:16:19 → 00:16:22 ขั้นนึงอ่ะปานกลางหรือว่ารุนแรงรุนแรงอัน
00:16:22 → 00:16:24 นี้ก็เรียกว่าต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์
00:16:24 → 00:16:27 แล้วครอบครัวมักจะเอาไม่อยู่่ะค่ะหรือถ้า
00:16:27 → 00:16:30 จัดการได้ก็ก็เป็นความทุกข์ยากลำบากของ
00:16:30 → 00:16:34 ทุกๆคนแต่ว่ามันก็เป็นอะไรที่แบบมันมัน
00:16:34 → 00:16:37 ค่อนข้างจะยากลำบากในในยุคนี้เหมือนกันนะ
00:16:37 → 00:16:40 คะพี่เกสอนตรงที่ว่าเราเป็นสังคมที่เป็น
00:16:40 → 00:16:44 แบบสังคมเดี่ยวมากขึ้นนะคะแล้วก็อใช่เลย
00:16:44 → 00:16:46 ค่ะอันนี้เนี่ยสูงวัยก็จะอยู่บ้านเอง
00:16:46 → 00:16:48 เพียงลำพังหรืออาจจะอยู่กับลูกก็เอ่ออยู่
00:16:48 → 00:16:51 กับหลานเด็กเล็กๆหรืออะไรอย่าเงี้ยเค้าก็
00:16:51 → 00:16:54 ไม่ทันได้จะมานั่งใส่ใจหรือเห็นในราย
00:16:54 → 00:16:57 ละเอียดเล็กๆน้อยๆตั้งแต่เริ่มต้นมารู้
00:16:57 → 00:17:00 อีกทีก็หนักแล้วเหมือนกันนะคะก็ถึงได้บอก
00:17:00 → 00:17:03 ว่าการอยู่คนเดียวเป็นปัจจัยเสียงอัน
00:17:03 → 00:17:06 หนึ่งอ่ะค่ะที่จะทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อม
00:17:06 → 00:17:08 ได้เพราะการที่สมองไม่ได้รับการกระตุ้น
00:17:08 → 00:17:12 ด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนนะคะจริงการ
00:17:12 → 00:17:14 พูดคุยกันเล่าเรื่องการทำกิจกรรมอันนี้
00:17:14 → 00:17:17 เนี่ยช่วยชะลอความเสื่อของสมองได้เป็น
00:17:17 → 00:17:20 อย่างดีนะคะผู้สูงที่มีความรู้นี่เขาจะ
00:17:20 → 00:17:23 เริ่มป้องกันด้วยการที่แบบต้องมีสังคมนะ
00:17:23 → 00:17:26 คะต้องมีกิจกรรมสันทนาการต่างๆนอกบ้านนี่
00:17:26 → 00:17:30 ป้องกันได้เฉพะผู้สูอยู่คนเดียวอ่ะค่ะนอก
00:17:30 → 00:17:33 จากที่มีปัจกระตุ้นในทางบกแล้วยังอยู่กับ
00:17:33 → 00:17:36 ภาวะซึมเศร้าเข้าไปอีกใช่มคะเพราะว่า
00:17:36 → 00:17:39 เงียบเหงาอ่าการเข้าถึงบริการทางการแพทย์
00:17:39 → 00:17:42 ก็ทำได้ยากเพราะอยู่คนเดียวอาจจะไม่มีคน
00:17:42 → 00:17:45 พาไปหาหมออะไรงี้ด้วยอ่ะค่ะอซึ่งยังมี
00:17:45 → 00:17:48 อยู่เยอะนะคะคุณผู้ฟังเอแต่ว่าอาจะแบบเรา
00:17:48 → 00:17:51 อาจจะไม่ได้ทราบข้อมูลคใช่ค่ะใช่ค่ะทีนี้
00:17:51 → 00:17:55 ต้องบอกว่าในในเรื่องของการที่เราจะชะลอ
00:17:55 → 00:17:57 เนาะเราจะชะลอหรือว่าเราจะป้องกันไม่ให้
00:17:57 → 00:18:00 สมองเราเสื่อมก่อนวหรือถ้ามันมีร่องรอย
00:18:00 → 00:18:04 ความเสื่อมแล้วก็ก็ให้อยู่ในสภาพนั้นให้
00:18:04 → 00:18:07 นานเท่านานนะชะลอเอาไว้เท่าที่พอที่จะ
00:18:07 → 00:18:10 ดำรงชีวิตได้อะไรเงี้ยคะไม่เสื่อมถอยไปจน
00:18:10 → 00:18:13 เกิดปัญหาใหญ่เนี่ยนะคะอันดับแรกเลยค่ะ
00:18:13 → 00:18:15 อยากให้มามองเกี่ยวกับเรื่องของโรคที่
00:18:15 → 00:18:19 เป็นอยู่อ่ะรักษาดูแลอย่าปล่อยน้ำตาลสูง
00:18:19 → 00:18:23 ปรี๊ดนะคะความดันสูงอะไรต่างๆพวกเนี้ยมัน
00:18:23 → 00:18:25 มันส่งผลทำให้สมองของเราเ่ะเสื่อมถอยไป
00:18:25 → 00:18:29 ได้มากอืนะคะโรคเนี้ยเป็นโรคที่ฝากไว้กับ
00:18:29 → 00:18:32 คุณหมอได้แล้วก็เราได้ยามาเรากินยามือ
00:18:32 → 00:18:34 พฤติกรรมการดูแลตัวเองให้ดีแล้วก็ชะลอ
00:18:34 → 00:18:37 ความเสื่อของสมองได้แล้วในระดับหนึ่งนะคะ
00:18:37 → 00:18:40 นอกจากนี้อาหารออผู้สูงอายุนี่ก็จะมี
00:18:40 → 00:18:44 ธรรมชาติของการทานอาหารตามที่ชอบไม่ชอบก็
00:18:44 → 00:18:46 ก็ไม่อยากทานเลยอะไอย่างเงี้ยค่ะมันอาจจะ
00:18:46 → 00:18:49 ต้องแบบโอเคอาหารที่ชอบก็จริงแต่ว่าเสริม
00:18:49 → 00:18:53 สักนิดสำหรับอาหารที่มันจำเป็นนะคะอาหาร
00:18:53 → 00:18:56 ประเภทโปรตีนที่ที่ย่อยง่ายเนื้อปลาเนี่ย
00:18:56 → 00:18:59 ดีมากนะคะปลาอะไรอย่างงเนา
00:18:59 → 00:19:03 คะเพราะว่ามันสที่ชวยบำรงสมองนะคะข้าว
00:19:03 → 00:19:06 เนี่ยก็เราก็ทานแต่พอสมควรใช่มคะแล้วก็
00:19:06 → 00:19:09 ผักสดที่อาจผู้สูจะทานผักสดไม่ไหวนะคะ
00:19:09 → 00:19:12 เพราะว่าบางทีแข็งแล้วก็อาจจะไม่ชอบกลิ่น
00:19:12 → 00:19:15 ก็อาจจะเป็นผักต้มก็ยังดีนะคะเป็นผักต้ม
00:19:15 → 00:19:19 นะคะที่นุ่มๆนะคะแกงจืดอะไรพวกนี้ก็ดีนะ
00:19:19 → 00:19:22 ค่ะดีกับสุขภาพแล้วก็พักผ่อนให้เยอะนิด
00:19:22 → 00:19:24 นึงเขาว่าพักผ่อนเยอะบางคนก็นอนทั้งวัน
00:19:24 → 00:19:28 แต่ว่ายามการนอนในยามค่ำคืนที่เป็นเวลา
00:19:28 → 00:19:31 ปกติของการนอนร่างกายจะมีนาฬิกาชีวิตว่า
00:19:31 → 00:19:34 การนอนในช่วงนี้คือซ่อมแซมทนุบำรุงร่าง
00:19:34 → 00:19:36 กายแต่นอนกลางวันเนี้ยมันไม่ใช่กลางวัน
00:19:36 → 00:19:39 มันเป็นเวลาที่มีแสงแดดมีอะไรต้องทำ
00:19:39 → 00:19:42 กิจกรรมถ้านอนกลางวันมากไปก็เข้าสู่ภาวะ
00:19:42 → 00:19:46 ซึมเศร้าเหมือนกันนะมึนงงไม่รู้เวลาไหน
00:19:46 → 00:19:48 อะไรยังไงเนี่ยค่ะอันนี้ก็ต้องอาจจะต้อง
00:19:48 → 00:19:52 ปรับเวลานอนให้ดีอใช่ๆแต่ว่างีบหลับได้นะ
00:19:52 → 00:19:56 คะในระยะแบบว่าสั้นๆไม่ใช่แบบว่าเอ่อนอน
00:19:56 → 00:19:59 จริงจังแล้วเดี๋ยวพอตอนกลางคืนก็อาจจะแบบ
00:19:59 → 00:20:02 หลับแล้วก็ตื่นๆค่ะหลับไม่สนิทนะคะช่วง
00:20:02 → 00:20:05 เวลาของการซ่อมแซมร่างกายช่วง 22:00 นถ
00:20:05 → 00:20:08 2:00 นควรจะต้องนอนนะคะถึง 3:00 นก็ยิ่ง
00:20:08 → 00:20:10 ดีนะคผู้สูงบางท่านก็ 3:00 นกว่า 4:00 น
00:20:10 → 00:20:14 ก็ตื่นแล้วก็ก็โอเคแต่ว่านอนหัวค่ำนิดนึง
00:20:14 → 00:20:17 นะคะอีกอันหนึ่งคือช่วยชะลอความเสริมของ
00:20:17 → 00:20:20 สมองได้ก็คือออกกำลังกายค่ะเพราะออกกำลัง
00:20:20 → 00:20:22 กายเส้นเลือดเราเนี่ยเลือดจะไปหลอเลี้ยง
00:20:22 → 00:20:25 ทั่วร่างกายนะคะสมองก็จะได้รับการหล่อ
00:20:25 → 00:20:28 เลี้ยงด้วยสารอาหารด้วยเลือดด้วยออกซิเจน
00:20:28 → 00:20:30 อะไรที่ดีอือันนี้ก็ชลอความเสื่อมก็ไม่
00:20:31 → 00:20:34 ต้องถึงกลับไปหนักหหักโหมนะคะเอาพอประมาณ
00:20:34 → 00:20:38 แต่ให้สม่ำเสมออ่ะอ่าอาจจะเล็กๆน้อยๆในใน
00:20:38 → 00:20:41 แต่ละวันไปอะไรอย่างเงี้ยนะแบบช่วงเช้าๆ
00:20:41 → 00:20:44 เพราะว่าคือตื่นเช้าอยู่แล้วผู้สวตื่น
00:20:44 → 00:20:48 เช้ามากมากมีเวลาคือที่เคยได้ยินมาค่ะแบบ
00:20:48 → 00:20:53 ว่ามีเวลาตื่นมาเออนั่งดูทีวีจิบกาแฟอ่าน
00:20:53 → 00:20:56 นู่นอ่านนี่คือแบอะไรต่ออะไเรเปื่อยอะไร
00:20:56 → 00:20:59 อย่างเงี้ยแล้วก็แบบอพอมีแสงอาทิตสาสอง
00:20:59 → 00:21:02 หน่อยก็ค่อยออกไปก็ได้นะอย่าไปออกตอนมืดๆ
00:21:02 → 00:21:05 อ่าอันตรายมืดก็อันตรายนะคะแล้วก็ถ้าผู้
00:21:05 → 00:21:09 สูงเนี่ยชอบขี่จักรยานก็ให้ระมัดระวังค่ะ
00:21:09 → 00:21:11 นะคะจักรยานล้มนี่ก็เป็นเรื่องใหญ่อยู่นะ
00:21:11 → 00:21:15 คะสำหรับผู้สูงอายุให้ระมัดระวังแค่เดิน
00:21:15 → 00:21:17 ยังแบบว่าล้มแล้วก็ยังเรื่องใหญ่เลยนี่
00:21:17 → 00:21:20 ปั่นจักรยานอ่ะแต่ว่าบางทีบางคนชอบแนวที่
00:21:20 → 00:21:25 แบบว่าได้ออกกำลังกายเยอะๆได้แบบครู้สึก
00:21:25 → 00:21:28 สดชื่นขึ้นก็มีบางคนบอกว่าไม่ไหวแกว่งแขน
00:21:28 → 00:21:29 เอา
00:21:29 → 00:21:33 ค่ะเออหรืออาจจะอะไรนะคะเป็นโยคะเบาๆเล็ก
00:21:33 → 00:21:38 ๆค่ะก็ช่วยได้ทีนี้เอ่ออีกประการหนึ่งก็
00:21:38 → 00:21:41 คือการฝึกในเรื่องของสมองเลยโดยตรงนะคะ
00:21:41 → 00:21:45 เดี๋ยวนี้ก็มีหน่วยเ่อสถานบริการของรัฐ
00:21:45 → 00:21:48 หลายแห่งที่จัดโปรแกรมเรื่องของการฝึก
00:21:48 → 00:21:51 สมองนะคะเค้าเรียกชื่อว่า Brain Training
00:21:51 → 00:21:53 เนี่ยเพื่อป้องกันภาวะสมองเสื่อมอันนี้ก็
00:21:53 → 00:21:56 จะเป็นแพทเทิร์นเป็นคอร์สที่เขากำหนดเลย
00:21:56 → 00:21:59 ไปใช้บริการได้แต่ว่าเขาจะมีการประเมิน
00:21:59 → 00:22:03 ก่อนนะคะว่าเอ่อการทำงานของสมองฟังก์ชัน
00:22:03 → 00:22:05 เป็นยังไงอะไรก่อนที่จะเข้าไปสู่โปรแกรม
00:22:05 → 00:22:09 อันนั้นแต่ถ้าเราจะฝึกเองที่บ้านทำให้มัน
00:22:09 → 00:22:12 เป็นกิจวัตรประจำวันเนี่ยมันก็ทำได้ก็คือ
00:22:12 → 00:22:15 ไม่ได้อะไรมากมายกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
00:22:15 → 00:22:18 ที่ฝึกคิดเลขแล้วสังเกตมั้ยคะว่าผู้สูง
00:22:18 → 00:22:21 ที่ยังทำมาค้าขายอ่ะค่ะคิดเลขยังคล่อง
00:22:21 → 00:22:24 อยู่นะคะทีนี้เราก็โอลดการใช้เครื่องคิด
00:22:24 → 00:22:27 เลขลงดีมั้ยอะไรเงี้ยลองคิดคำนวณง่ายๆอ
00:22:27 → 00:22:31 อือฮึนะคะคิดเลขนะคะหรือว่าอ่านเรื่องราว
00:22:31 → 00:22:34 ต่างๆในเอกสารหนังสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ
00:22:34 → 00:22:37 เดี๋ยวนี้ก็มีอ่านในโทรศัพท์มือถือกันมาก
00:22:37 → 00:22:39 ขึ้นน่ะนะคะแต่จริงๆถ้าอ่านเป็นสมุดเป็น
00:22:39 → 00:22:42 หนังสือเป็นเรื่องราวหรือว่าสมัยก่อนจะมี
00:22:42 → 00:22:44 หนังสือพิมพ์ให้ผู้สูงอายุได้อ่านเดี๋ยว
00:22:44 → 00:22:47 นี้ก็น้อยลงใชน้อยลงไปเยอะเลยค่ะเออการ
00:22:47 → 00:22:50 อ่านแล้วก็การได้แบ่งปันพูดคุยจริงๆแล้ว
00:22:50 → 00:22:54 สภากาแฟในอดีตนั้นดีกับผู้สูงอายุมากนะคะ
00:22:54 → 00:22:56 ได้มาคุยได้มาเอ่อพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้
00:22:56 → 00:22:59 กันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอันนั้นนดี
00:22:59 → 00:23:02 เพราะนอกจากได้สังคมได้เพื่อนแล้วก็ได้
00:23:02 → 00:23:05 ฝึกความคิดได้เปิดจิตเปิดใจรับฟังเรื่อง
00:23:05 → 00:23:08 ราวของคนอื่นด้วยออันนี้ก็เป็นการช่วยนะ
00:23:08 → 00:23:12 คะให้สมองยังคงมีฟังก์ชันการทำงานที่ดีนะ
00:23:12 → 00:23:15 คะหรือแม้กระทั่งเรื่องของงานฝีมือนะคะ
00:23:15 → 00:23:18 ได้มีโอกาสไปดูตามชมรมผู้สูงอายุต่างๆนะ
00:23:18 → 00:23:21 คะทั่วประเทศเลยเนี่ยคะชมรมผู้สูงอายุ
00:23:21 → 00:23:24 เป็นสิ่งที่ดีเพราะเจะมีกิจกรรมกิจกรรม
00:23:24 → 00:23:27 พวกงานฝีมือนะคะเย็บปักถักร้อยสำหรับผู้
00:23:27 → 00:23:30 หญิงนะคะร้อยลูกปัดอันนี้ก็ช่วยนะคะช่วย
00:23:30 → 00:23:34 สมองร้อยลูกปัดนะทำเป็นกำไลข้อมือนะคะทำ
00:23:34 → 00:23:37 เป็นสร้อยคอค่ะทำแล้วมันมีสุนทรเค้าเรียก
00:23:37 → 00:23:40 ว่าฝึกสมองทั้ง 2 ด้านนะทั้งซี่ซ้ายทั้ง
00:23:40 → 00:23:43 ซี่ขวาใช่มั้ยคะอ่ะฝึกเสร็จแล้วก็มีการ
00:23:43 → 00:23:46 เล่าเรื่องราวสตอรี่กันในกลุ่มผู้สูงอายุ
00:23:46 → 00:23:49 เดี๋ยวนี้มีถึงขั้นนะมีแผนภาพนะคะแล้วก็
00:23:49 → 00:23:52 มีอันนี้ธนาคารอันนี้บ้านอันนี้วัดนี้โรง
00:23:52 → 00:23:55 เรียนผู้สูงบ้านอยู่ตรงไหนเเอาแผนที่ใน
00:23:55 → 00:23:58 หมู่บ้านมาตั้งเลยนะบ้านคุณยายอยู่ตรงไหน
00:23:58 → 00:24:01 อ้าอยู่ตรงนี้ถ้าคุณยายจะไปวัดไปทางไหนเ
00:24:01 → 00:24:05 ก็บอกตึ๊ดๆๆไปจากแผนภาพอันนั้นก็ฝึกความ
00:24:05 → 00:24:08 คิดในเรื่องของทิศทางค่ะก็จะได้ป้องกัน
00:24:08 → 00:24:11 ว่าไม่หลงลืมบ้านฉันอยู่ทิศไหนออกจากบ้าน
00:24:11 → 00:24:14 กลับบ้านไม่ถูกออือันนี้ก็เป็นเรียกว่า
00:24:14 → 00:24:16 เป็นแล้วนวัตกรรมทางสังคมที่เขาทำกันอุ้ย
00:24:16 → 00:24:19 น่ารักมากเลยจริงๆนะคะเนี่ยแบบว่าคือ
00:24:19 → 00:24:22 เริ่มต้นจากจุดเล็กๆในหมู่บ้านตัวเองค่ะ
00:24:22 → 00:24:24 เพราะว่าก็ดูแลกันเองทุกคนรู้จักกันหมด
00:24:24 → 00:24:26 อยู่และใช่มั้ยคะแล้วก็แบบว่ามีอะไรเดีบ
00:24:26 → 00:24:29 แบบเสามารถจะช่วยเหลือกันได้แต่พออเป็น
00:24:29 → 00:24:31 อะไรที่มันใหญ่ขึ้นมันอาจจะลำบากสักนิด
00:24:31 → 00:24:34 นึงให้รู้จักในชุมชนของตัวเองว่าอะไรอยู่
00:24:34 → 00:24:37 ตรงไหนนะคะนี้ก็เรียกว่าชมรมผู้สูงอายุ
00:24:37 → 00:24:41 เนี่ยไปแล้วได้รอบรอบอ่าเรียกว่ารอบด้าน
00:24:41 → 00:24:45 นะอาหารเขาก็จะมีกิจกรรมคุกกิ้งนะคะ
00:24:45 → 00:24:48 สำหรับผู้สูงอายุอ่าทำอาหารแบบนี้อาหาร
00:24:48 → 00:24:51 นี้อันนี้ดีอย่างไรอะไรอย่างเงี้ยค่ะหรือ
00:24:51 → 00:24:54 ว่าร้องเพลงอออร้องเพลงนี่คือชอบมากคามจำ
00:24:54 → 00:24:57 นี่ต้องมาเลยร้องเพลงถ้าจำเนื้อเพลงไม่
00:24:57 → 00:25:00 ได้ตอนแรกให้ดูก่อนแต่ส่วนใหญ่จะจำได้
00:25:00 → 00:25:03 เพราะเพลงในยุคนั้นสมัยนั้นแล้วจังหวะนะ
00:25:03 → 00:25:06 มันช่วยปลุกเรียกความทรงจำมันช่วยรู้สึก
00:25:06 → 00:25:10 ว่าบันเทิงเริงใจก็จะเป็นกิจกรรมร้องเพลง
00:25:10 → 00:25:14 นะคะแล้วก็อาจจะมีการฟ้อนแล้วแต่ท้องถิ่น
00:25:14 → 00:25:18 นะฮะบางที่ก็จะเป็นฟ้อนทางภาคเหนือภาค
00:25:18 → 00:25:21 อีสานภาคใต้ภาคกลางก็จะมีวัฒนธรรมการแสดง
00:25:21 → 00:25:24 ของผู้สูงอายุแบบนี้อืเพราะว่าเดี๋ยว
00:25:24 → 00:25:26 เดี๋ยวนี้เห็นเวลาที่มารำบวงสรวงกันจำนวน
00:25:26 → 00:25:29 เยอะๆเนี่ยก็จะมีหลายๆวัยเหมือนกันนะที่
00:25:29 → 00:25:32 มาร่วมกันรำบวงสรวงแล้วก็แบบว่าพร้อมๆ
00:25:32 → 00:25:34 เพียงกันอะไรอย่างเงี้ยพร้อมเพียงกันอัน
00:25:34 → 00:25:36 นี้เป็นสิ่งที่อยากจะให้ให้ไปร่วมกิจกรรม
00:25:36 → 00:25:39 เพื่อชะลอความเสื่อมของสมองนะคะอีกประการ
00:25:39 → 00:25:42 หนึ่งสังเกตว่าเราใช้ยาเยอะมยบางทีเนี่ย
00:25:42 → 00:25:44 โอเราเป็นกิจกรรมมากมายแต่เราใช้ยาจำนวน
00:25:44 → 00:25:47 มากลองหอบยาทั้งหมดไปให้คุณหมอดูสักครั้ง
00:25:47 → 00:25:50 นะคะใช้ยาอันนี้ใช้ยาอนี้ใช้ยาเยอะมาก
00:25:50 → 00:25:54 เนี่ยการใช้ยาจำนวนมากบางทีฤทธิ์ยามันจะ
00:25:54 → 00:25:56 ต้านกันเสริมกันแล้วทำให้เกิดอาการเป็น
00:25:56 → 00:26:00 พิษได้แล้วผตสมองค่ะนะคะอันนี้ก็อยากให้
00:26:00 → 00:26:03 ลองตรวจสอบดูอือหือวันนี้ก็แบบว่าได้หลาย
00:26:03 → 00:26:07 ด้านได้ไปลองไปดูซิว่าเราเป็นยังไงแล้วก็
00:26:07 → 00:26:10 ปรับตัวเองแล้วก็ลองดูิว่าเราจะชะลอการ
00:26:10 → 00:26:15 เ่อสมองเสื่อมเนี่ยให้ช้าลงได้ยังไงค่ะ
00:26:15 → 00:26:17 พื้นฐานก็ไม่ใช่เป็นเรื่องยากเพียงแต่ว่า
00:26:17 → 00:26:19 ทำให้สม่ำเสมอนะคะอันนี้เป็นหัวใจสำคัญ
00:26:19 → 00:26:22 ค่ะค่ะนะคะอันนี้ต้องฝากคุณผู้ฟังกันเอา
00:26:22 → 00:26:25 ไว้ค่ะขอบคุณพี่เกสรค่ะขอบคุณค่ะสวัสดี
00:26:25 → 00:26:27 ค่ะสวัสดีค่ะเอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังหมดเวลา
00:26:27 → 00:26:29 แล้วนะคะพบกันใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรง
00:26:29 → 00:26:31 หมอทางไทย PBS podcast ค่ะวันนี้ลาไป
00:26:31 → 00:26:35 ก่อนสวัสดีค่ะ This Is tha PBS
00:26:35 → 00:26:37 podcast หน้องนายปอดเกิดจากอะไรเป็นตัว
00:26:37 → 00:26:40 กระตุ้นอาการของผู้ป่วยเป็นอย่างไรทำไม
00:26:40 → 00:26:42 เสี่ยงเสียชีวิตผู้ช่วยศาสตราจารย์นาย
00:26:42 → 00:26:45 แพทย์ศีระลาวไทยแพทย์ศัลยกรรมประสาททรวง
00:26:45 → 00:26:49 อกเฉพาะทางมาเล่าให้ฟังครับอาการของตัว
00:26:49 → 00:26:52 หนองนปอนะครับผู้ป่วยเนี่ยมักจะมาด้วย
00:26:52 → 00:26:58 อาการ 3 อันเลยนะครับไข้ไอแล้วก็เหนื่อยค
00:26:58 → 00:27:01 ไข้ไอหอบหรือไข้ไอเหนื่อยนะฮะทีนี้เนี่ย
00:27:01 → 00:27:03 ก็มันจะมันจะแยกกันแยกระหว่างว่าคนไข้
00:27:03 → 00:27:08 เนี่ยเป็นไข้หวัดใหญ่นะครับหรือว่าเป็น
00:27:08 → 00:27:10 เป็นไข้หวัดนะครับหรือว่าเป็นปลอดอักเสบ
00:27:10 → 00:27:13 พวกนี้จะมาหน้าตาเหมือนกันเลยคำว่าไข้
00:27:13 → 00:27:14 เนี่ยมันเกิดจากการอักเสบขึ้นมาของร่าง
00:27:14 → 00:27:17 กายนะครับไม่ว่าจะมีสิ่งแปลอมอะไรก็ตาม
00:27:17 → 00:27:20 เช่นเป็นแบคทีเรียไวรัสหรืออะไรก็ตามนะ
00:27:20 → 00:27:22 ครับพวกนี้เนี่ยทำให้เกิดกระตุ้นให้เกิด
00:27:22 → 00:27:24 เป็นไข้ได้อย่างที่ 2 ถ้าสมมุติมีอาการ
00:27:24 → 00:27:28 ที่มันลงปอนขึ้นมาเนี่ยคุณไข้ก็มีอากการ
00:27:28 → 00:27:30 เหนื่อยเกิดขึ้นนะครับไม่เช่นการที่มี
00:27:30 → 00:27:32 อาการในปออย่างเช่นมันเกิดติดเชื้อในปอ
00:27:32 → 00:27:35 เป็นัอักเสบขึ้นมานะครับพวกนี้เนี่ยก็
00:27:35 → 00:27:37 สมผลไม่เกิดอาการเหนื่อยได้หรือว่ามัน
00:27:37 → 00:27:39 เกิดเป็นน้ำขึ้นมาทำให้เกิดเป็นเหนื่อย
00:27:39 → 00:27:42 ได้เช่นเดียวกันนะครับทีเไอ้คำไอ้คำว่า
00:27:42 → 00:27:45 หนองในปอดหรือว่าบางคนก็จะเรียกว่าหนองใน
00:27:46 → 00:27:48 เยื่อหุ้มปอดเนี่ยนะครับพวกนี้เนี่ยหรือ
00:27:48 → 00:27:50 ว่าฝีในปอดพวกนี้ก็จะมีความคล้ายคนกันแตก
00:27:50 → 00:27:53 ต่างกันนิดหน่อยนะครับพวกนี้มันจะเริ่ม
00:27:53 → 00:27:55 ต้นเลยเริ่มต้นจากการที่ร่างกายเราเนี่ย
00:27:55 → 00:27:59 สูดดมสิ่งแปลกปลอมเข้าไกครับเกิดปอดติด
00:27:59 → 00:28:01 เชื้อขึ้นมาพอมันเกิดปอดติดเชื้อขึ้นมา
00:28:01 → 00:28:03 ปุ๊บสิ่งที่เกิดขึ้นขึ้นมาเนี่ยมันก็จะมี
00:28:03 → 00:28:06 อาการเาเรียกว่ามีปอดอักเสบขึ้นมานะครับ
00:28:06 → 00:28:08 พอมันเกิดร่างกายปอดอักเสบหรือปอดติดเช
00:28:08 → 00:28:10 ขึ้นปุ๊บเนี่ยร่างกายก็จะมีการกระตุ้น
00:28:11 → 00:28:13 ขึ้นมาที่ทำให้เกิดน้ำหรือเกิดหนองบริเวณ
00:28:13 → 00:28:16 เยื่อหุ้มปอดเกิดขึ้นหรือหรือในบางราย
00:28:16 → 00:28:18 เนี่ยอาจจะเป็นน้ำในตัวเนื้อปอดเองก็ตาม
00:28:18 → 00:28:20 ซึ่งเป็นฝีพอมันปล่อยทิ้งไว้คั่งไปเรื่อย
00:28:20 → 00:28:23 ๆคั่งไปเรื่อยๆเนี่ยพวกนี้คนไข้ก็จะมีน้ำ
00:28:24 → 00:28:25 เกิดขึ้นแล้วมันก็จะเหมือนกับเหมือนกับ
00:28:25 → 00:28:28 เวลาเราน้ำเนี่ยที่มันฝังเนี่ยอยู่อยู่ใน
00:28:28 → 00:28:30 ตรงพื้นหรือตรงอะไรพวกเนี้ยมันก็เริ่มทำ
00:28:30 → 00:28:32 การเป็นไงมันก็จะเริ่มเน่าขึ้นมาพวกนี้
00:28:32 → 00:28:35 มันก็จะจากน้ำอักเสบธรรมดาใสๆก็จะเริ่ม
00:28:35 → 00:28:38 กลายเป็นหนองอฉะนั้นผู้ป่วยเนี่ยก็จะเข้า
00:28:38 → 00:28:41 มาปรึกษาเราด้วยอาการที่มาด้วยไข้ไอ
00:28:41 → 00:28:43 เหนื่อยแล้วเสร็จแล้วแล้วเราจะรู้ยังไง
00:28:43 → 00:28:45 ว่าผู้ป่วยเนี่ยเราสงสัยว่าเป็นหนองหรือ
00:28:45 → 00:28:47 เป็นอะไรก็ตามเนี่ยข้อที่ 1 นอกจากอาการ
00:28:47 → 00:28:49 ที่เกิดขึ้นเนี่ยมันก็อาจจะเริ่มมีอาการ
00:28:49 → 00:28:53 ไอไอออกมาเป็นสมหะเป็นหนองและไข้เนี่ยไข้
00:28:53 → 00:28:56 ที่มันสูงเนี่ยมันจะไม่ใช่ไข้สูงธรรมดานะ
00:28:56 → 00:28:58 ครับมันจะเป็นไข้สูงเป็นแบบฟันปลาเลยคำ
00:28:58 → 00:29:02 ว่าฟันปลาหมายความว่าไข้สูง 38 39 นะ
00:29:02 → 00:29:05 ครับมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วยแล้วก็กินยา
00:29:05 → 00:29:08 ก็ไม่ลดพวกนี้เนี่ยโอ้โหไขสูงปี๊ดเลยกิน
00:29:08 → 00:29:10 ยาเท่าไหร่ก็ไม่หายทุกอย่างเท่าไหร่ก็ไม่
00:29:10 → 00:29:15 หายพวกนี้เนี่ยมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
00:29:15 → 00:29:20 เลย This Is Toy PBS
00:29:20 → 00:29:23 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:29:23 → 00:29:28 แอพลิเคชันของไย PBS podcast spotify
00:29:28 → 00:29:30 Cloud Google podcast Apple podcast
00:29:30 → 00:29:34 และ YouTube Channel Thai PBS podcast
00:29:34 → 00:29:37 Thai PBS podcast View the world
00:29:37 → 00:29:39 via The Voice
00:29:39 → 00:29:44 [เพลง]