00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับวันก่อนผมได้ยินเรื่องของโครง
00:00:02 → 00:00:05 การ Land Bridge นะครับวันนี้ผมก็เลยคิด
00:00:06 → 00:00:09 หัวข้ออันนึงได้นะครับคือมันมีโรครหนึ่ง
00:00:09 → 00:00:12 ในทางการแพทย์ชื่อว่า mycard bridging
00:00:12 → 00:00:14 นะครับอ่าโรคเนี้ยมันเป็นโรคที่ไม่ค่อยมี
00:00:14 → 00:00:17 คนรู้จักนะครับแต่จริงๆมันเจอได้พอสมควร
00:00:17 → 00:00:20 เลยทีเดียวนะครับมันเป็นโรคอะไรนั้นวัน
00:00:20 → 00:00:22 นี้ผมก็จะเล่าให้ฟังเลยนะครับเพราะว่ามัน
00:00:22 → 00:00:25 มีความสำคัญมากเลยทีเดียวบางคนเนี่ยมี
00:00:25 → 00:00:28 ปัญหาโรคหัวใจโดยที่ไม่รู้ตัวนะครับบางคน
00:00:28 → 00:00:31 บอกว่าเอ๊ะทำไมหัวใจมันวายหรือบางกรณี
00:00:31 → 00:00:34 เนี่ยหัวใจมันขาดเลือดแต่ไปตรวจแล้วเส้น
00:00:34 → 00:00:37 เลือดของหัวใจเนี่ยปกติเลยไม่ได้มีอะไรไป
00:00:37 → 00:00:40 อุดตันเลยแล้วทำไมมันเป็นได้ยังไงมันก็
00:00:40 → 00:00:43 คืออาจจะเป็นโรคไาร Bring วันนี้ผมก็จะ
00:00:43 → 00:00:45 เล่าให้ฟังเลยนะครับพบกับผมนะครับนาย
00:00:45 → 00:00:47 แพทย์ทนีธนียวันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่
00:00:47 → 00:00:49 ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ
00:00:49 → 00:00:53 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ mycard
00:00:53 → 00:00:56 bridging มันคืออะไรต้องขออธิบายเรื่อง
00:00:56 → 00:01:00 ของระบบหลอดเลือดที่หัวใจก่อนนะครับครับ
00:01:00 → 00:01:02 หลอดเลือดที่หัวใจเนี่ยจะมีทั้งหมด 2
00:01:02 → 00:01:04 แขนงนะครับเราจะเรียกมันว่า coronary
00:01:05 → 00:01:08 arteries นะครับมีแบ่งเป็นข้างซ้ายและ
00:01:08 → 00:01:11 ข้างขวาโดยทั่วไปเนี่ยหลอดเลือดพวกนี้
00:01:11 → 00:01:14 เนี่ยนะครับมันจะอยู่บนผิวของกล้ามเนื้อ
00:01:14 → 00:01:16 หัวใจนะครับสมมุติว่านี่คือกล้ามลหัวใจนะ
00:01:16 → 00:01:18 ครับหลอดเลือดเนี่ยมันจะวิ่งอยู่บนผิว
00:01:19 → 00:01:22 ข้างบนนะครับแต่ถ้ามันมีความผิดปกติแทน
00:01:22 → 00:01:24 ที่จะวิ่งอยู่บนผิวเนี่ยมันมุดเข้าไปข้าง
00:01:24 → 00:01:27 ในข้างในกล้ามเนื้อหัวใจเลยอันนี้แหละ
00:01:27 → 00:01:30 ครับที่เราจะเรียกว่า mycard
00:01:30 → 00:01:32 นะครับแต่พูดอย่างนี้แล้วก็งงเอ๊ะ Bridge
00:01:32 → 00:01:35 มันแปลว่าสะพานนี่มันเกี่ยวอะไรกับการที่
00:01:35 → 00:01:38 ไอ้ตัวหลอดเลือดมันมุดลงไปข้างในด้วยมัน
00:01:38 → 00:01:41 อย่างนี้ครับคือหลอดเลือดเนี่ยเราเปรียบ
00:01:42 → 00:01:45 เหมือนท่อน้ำนะครับหรือเปรียบเหมือนคลอง
00:01:45 → 00:01:48 นะถ้าเราเปรียบเหมือนคลองเนี่ยการที่มัน
00:01:48 → 00:01:50 มุดลงไปใต้กล้ามเนื้อเนี่ยนะครับไอ้กล้าม
00:01:51 → 00:01:54 เนื้อที่อยู่เหนือตัวคลองตัวเนี้ยเราจะ
00:01:54 → 00:01:57 เรียกมันว่าสะพานนะมันก็เหมือนเป็นสะพาน
00:01:57 → 00:02:00 ข้ามแม่น้ำนั่นแหละครับในกรณีนี้ที่เส้น
00:02:00 → 00:02:02 เลือดเนี่ยแทนที่มันจะอยู่ด้านบนผิวๆ
00:02:03 → 00:02:05 เนี่ยมันไหม้มันมุดลงไปข้างล่างนะครับก็
00:02:05 → 00:02:07 เลยทำให้ดูเหมือนกับว่ากล้ามเนื้อตรง
00:02:07 → 00:02:10 เนี้ยมันเป็นสะพานข้ามไอ้หลอดเลือดนะครับ
00:02:10 → 00:02:12 แล้วการที่มันอยู่ข้างในเนี่ยมันไม่ดียัง
00:02:12 → 00:02:15 ไงต้องบอกแบบนี้ครับกล้ามเนื้อหัวใจเนี่ย
00:02:15 → 00:02:18 มันเป็นกล้ามที่แข็งแรงมากมันบีบตลอดเวลา
00:02:18 → 00:02:21 เลยถูกมั้ยครับและไอ้หลอดเลือดของเรา
00:02:21 → 00:02:25 เนี่ยผนังมันบางบางมากนะครับแปลว่าอะไร
00:02:25 → 00:02:29 แปลว่าถ้ามันอยู่ภายใต้แรงกดดันในที่นี้
00:02:29 → 00:02:32 ก็คือกล้ามเนื้อมันก็จะโดนบีบครับบีบแล้ว
00:02:32 → 00:02:35 เกิดอะไรขึ้นหลอดเลือดที่มันเป็นกลมๆ
00:02:35 → 00:02:38 อย่างเงี้ยพอกล้ามเนื้อหัวใจบีบปุ๊บแทน
00:02:38 → 00:02:40 ที่ว่ามันจะคงรูปแบบนี้อยู่ได้มันก็โดน
00:02:40 → 00:02:42 กล้ามือหัวใจรอบๆบีบจนกระทั่งเหลือรูนิด
00:02:42 → 00:02:45 เดียวหรือบางทีติดไปเลยนะครับทำให้จังหวะ
00:02:45 → 00:02:48 เวลานั้นเนี่ยอาจจะเกิดปัญหาส่วนปลายที่
00:02:48 → 00:02:50 หลอดเลือดมันไปเลี้ยงเนี่ยเกิดการขาด
00:02:50 → 00:02:53 เลือดนะครับแล้วก็อาจจะทำให้เกิดปัญหา
00:02:53 → 00:02:55 อื่นตามมายกตัวอย่างเช่นมีหัวใจเต้นผิด
00:02:55 → 00:02:58 ปกติแบบรุนแรงอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตก็ได้
00:02:58 → 00:03:01 นะครับหรือบางกรณีก็จะมีอาการเจ็บแน่น
00:03:01 → 00:03:03 หน้าอกนออกกำลังกายแล้วรู้สึกเจ็บแน่น
00:03:03 → 00:03:07 หน้าอกเลยนะฮะหรือบางกรณีเนี่ยก็มีการนำ
00:03:07 → 00:03:09 ไฟฟ้าของหัวใจที่มันผิดปกติที่เราเรียก
00:03:09 → 00:03:12 ว่าาร Block นะครับหมายความว่าปกติเนี่ย
00:03:12 → 00:03:14 หัวใจควรจะส่งกระแสไฟฟ้าเพื่อไปกระตุ้น
00:03:15 → 00:03:17 บริเวณต่างๆของหัวใจทำให้มันบีบตัวแต่ถ้า
00:03:17 → 00:03:20 เกิดมันส่งไม่ได้ล่ะหัวใจบางส่วนก็จะบีบ
00:03:20 → 00:03:23 ตัวไม่ได้นะครับหรือบีบตัวช้าลงกว่าปกติ
00:03:23 → 00:03:26 นะฮะอันเนี้ยเราจะเรียกว่าาร Block นะ
00:03:26 → 00:03:27 ครับ
00:03:27 → 00:03:31 เออนี่แหละเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมคนปกติควร
00:03:31 → 00:03:35 จะมีหลอดเลือดเนี่ยอยู่บนผิวของกล้าม
00:03:35 → 00:03:38 เนื้อไม่ใช่อยู่ในตัวของกล้ามเนื้อนะครับ
00:03:38 → 00:03:41 นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นจาก myocardial
00:03:41 → 00:03:45 bridging นะ myocardial bridging เนี่ย
00:03:45 → 00:03:48 จริงๆแล้วถ้าเราดูอุบัติการณ์ที่เกิดขึ้น
00:03:48 → 00:03:50 เนี่ยมันเจอได้ค่อนข้างบ่อยนะครับแต่ยัง
00:03:50 → 00:03:53 โชคดีที่ส่วนใหญ่แล้วเนี่ยมันไม่ค่อยต้อง
00:03:53 → 00:03:55 รักษาอะไรแล้วก็หลายๆคนเนี่ยไม่มีอาการซะ
00:03:55 → 00:03:58 ด้วยซ้ำไปเป็นที่น่าพอใจอย่างหนึ่งนะครับ
00:03:58 → 00:04:00 แต่ว่ามันไม่สามารถบอกได้ว่าคนไหนจะมี
00:04:00 → 00:04:02 อาการหรือคนไหนไม่มีอาการบ้างเพราะว่าคุณ
00:04:02 → 00:04:06 ต้องคิดดูที่ิว่าบริเวณที่มันพุ่งทะลุ
00:04:07 → 00:04:09 เข้าไปในตัวกล้ามเนื้อหัวใจเนี่ยบริเวณ
00:04:09 → 00:04:10 ที่มันอยู่ภายในกล้ามเนื้อหัวใจเนี่ยมัน
00:04:10 → 00:04:13 ยาวแค่ไหนถ้าเกิดมันแค่สั้นๆนิดเดียวอัน
00:04:13 → 00:04:16 นี้ไม่ค่อยมีปัญหาครับปัญหามันจะอยู่ที่
00:04:16 → 00:04:18 ว่าถ้าหลอดเลือดเกือบทั้งเส้นเลยเนี่ยมัน
00:04:18 → 00:04:20 อยู่ภายใต้กล้ามเนื้อเนี่ยนั่นแหละครับ
00:04:20 → 00:04:24 ที่จะเกิดปัญหาขึ้นมานะครับแล้วเราก็เจอ
00:04:24 → 00:04:27 ได้ตั้งแต่ในช่วงวัยเด็กเลยนะฮะในนักกีฬา
00:04:27 → 00:04:30 เนี่ยนะฮะผมเคยเล่าไปหลายครั้งแล้วว่าเอ๊
00:04:31 → 00:04:33 ถ้าเกิดว่าอยู่ๆออกกำลังกายแล้วแน่นหน้า
00:04:33 → 00:04:36 อกหัวใจวายตายไปเลยเนี่ยหลายๆครั้งเนี่ย
00:04:36 → 00:04:38 มันจะมีภาวะอันนึงซึ่งเรียกว่า
00:04:38 → 00:04:39 hypertrophic obstructive
00:04:39 → 00:04:42 cardiomyopathy นะครับหัวใจมันโตมากนะ
00:04:42 → 00:04:44 ครับแล้วอาจจะทำให้เกิดการเต้นผิดปกติของ
00:04:44 → 00:04:47 หัวใจได้หรือไปขัดขวางการเดินของเลือดที่
00:04:47 → 00:04:51 ออกไปจากหัวใจก็ได้และหนึ่งในนั้นก็คือใน
00:04:51 → 00:04:54 คนที่มีโรคเนี้ยนะฮะเส้นเลือดที่มันไป
00:04:54 → 00:04:56 เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจมันจะมีส่วนหนึ่ง
00:04:56 → 00:04:57 ซึ่งมันมุดเข้าไปในกล้ามเนื้อหัวใจก็คือ
00:04:58 → 00:05:00 ภาวะ mardi bridging นี่เองเราจะเจอในคน
00:05:00 → 00:05:02 พวกเเยอะนะครับแล้วก็บางกรณีทำให้เกิดการ
00:05:02 → 00:05:05 เต้มปปกติของหัวใจหรือกล้ามเนื้อหัวใจตาย
00:05:05 → 00:05:08 ได้นะครับฟังดูอย่างนี้แล้วมันเหมือนจะ
00:05:08 → 00:05:11 น่ากลัวใช่มั้ยครับใช่มันน่ากลัวแต่ว่า
00:05:11 → 00:05:14 เราก็ต้องทราบก่อนว่าเอออาการมันเป็นยัง
00:05:14 → 00:05:17 ไงนะครับโดยทั่วไปพวกนี้เนี่ยอาการเนี่ย
00:05:17 → 00:05:20 มันเหมือนเมื่อกี้ที่บอกว่ามันมีหลากหลาย
00:05:20 → 00:05:22 นะครับเช่นมันอาจจะมีอาการแน่นอกเวลาที่
00:05:22 → 00:05:25 เราออกแรงนะครับแน่นอกเนี่ยลักษณะการแน่น
00:05:25 → 00:05:28 ของโรคหัวใจนะมันจะแน่นตรงกลางนะครับจะ
00:05:28 → 00:05:32 แน่นตรงกลางกลางไม่ใช่แน่นข้างซ้ายนะครับ
00:05:32 → 00:05:35 คือหลายๆคนบอกว่าเนี่ยเรามีอาการแน่นมี
00:05:35 → 00:05:37 อาการเจ็บที่หัวใจแล้วอาการเจ็บที่หัวใจ
00:05:37 → 00:05:39 ของหลายๆคนที่เข้าใจผิดเนี่ยก็คือเจ็บที่
00:05:39 → 00:05:42 ตรงข้างซ้ายซึ่งมันไม่ใช่ถ้าเป็นเจ็บที่
00:05:42 → 00:05:45 หัวใจเนี่ยจะอยู่ตรงกลางนะครับจะดูตรง
00:05:45 → 00:05:48 กลางหนักๆเหมือนใครมาเหยียบมันหนักแน่น
00:05:48 → 00:05:50 หน้าอกแบบนั้นเลยนะครับแล้วมันก็จะร้าวไป
00:05:50 → 00:05:53 ที่แขนข้างซ้ายได้ไหล่ข้างซ้ายหรือบางคน
00:05:53 → 00:05:56 ร้าวขึ้นคอหรือร้าวไปข้างหลังก็ได้นะครับ
00:05:56 → 00:05:59 นี่คืออาการที่เจ็บแน่นหน้าอกจากโรคหัวใจ
00:05:59 → 00:06:02 แล้วหลายๆครั้งนะครับก็จะมีอาการเหงื่อ
00:06:02 → 00:06:06 แตกปากซีดนะครับแบบนั้นเลยเหมือนจะเป็นลม
00:06:06 → 00:06:08 นะฮะนี่คือการที่เป็นจากโรคหลอดเลือดของ
00:06:08 → 00:06:11 หัวใจนะครับหรือบางคนมีการเต้นไปหัวตของ
00:06:11 → 00:06:13 หัวใจเมื่อมีอาการแบบนี้แล้วเนี่ยเวลาไป
00:06:14 → 00:06:16 หาหมอเค้าก็จะแน่นอนว่าตรวจคลื่นไฟฟ้าหัว
00:06:16 → 00:06:19 ใจก่อนนะครับโรคนี้เนี่ยวินิจฉัยได้หลักๆ
00:06:19 → 00:06:23 2 ทางนะครับทางแรกก็คือต้องสวนหัวใจนะ
00:06:23 → 00:06:26 ครับสวนหัวใจคือยังไงถ้าเกิดว่าเราไปหา
00:06:26 → 00:06:29 หมอแล้วเนี่ยคลื่นไฟฟ้าของหัวใจของเรามัน
00:06:29 → 00:06:32 ผิดปกติทำให้เราสงสัยว่าเอ๊ะจะเป็นการขาด
00:06:32 → 00:06:35 เลือดนะครับหมอเาจะต้องทำการสวนหัวใจเข้า
00:06:35 → 00:06:38 ไปก็อาจจะมีทางสวนทางด้านอ่าสวนเข้าจาก
00:06:38 → 00:06:42 ทางตัวเส้นเลือดที่ข้อมือหรือจะเป็นเส้น
00:06:42 → 00:06:45 เลือดที่ขาหนีบก็ได้นะครับก็จะมีสายเนี่ย
00:06:45 → 00:06:47 เข้าไปที่หัวใจแล้วก็จะฉีดสีดูลักษณะของ
00:06:47 → 00:06:50 หัวใจนะครับคนที่เป็นโรค mardi bridging
00:06:50 → 00:06:53 เนี่ยหลายๆคนเนี่ยจะมีหลอดเลือดที่ดูปกติ
00:06:54 → 00:06:56 เลยนะครับไม่ได้มีคราบตะกันไขมันอะไรไป
00:06:56 → 00:06:59 เกาะข้างในนะครับแต่สิ่งที่จะเจอเจอได้ก็
00:06:59 → 00:07:02 คือว่าในช่วงเวลาที่หัวใจมันบีบตัวหรือ
00:07:02 → 00:07:05 ที่เราเรียกช่วงิีเนี่ยไอ้หลอดเลือดที่
00:07:05 → 00:07:08 มันควรจะเป็นรูอย่างเงี้ยปกติมันโดนกล้าม
00:07:08 → 00:07:10 เนื้อรอบๆเนี่ยบี้จนกระทั่งมันไม่มีไม่มี
00:07:10 → 00:07:12 รูให้เหลือเลยไม่มีเลือดวิ่งไปเลยนะครับ
00:07:12 → 00:07:14 แล้วเวลาหัวใจคลายตัวไอ้นี่มันก็จะค่อยๆ
00:07:14 → 00:07:17 เปิดออกมาอีกทีนึงทำให้เลือดเข้าไปในหลอด
00:07:17 → 00:07:19 เลือดหัวใจได้นะครับนี่คือลักษณะที่เรา
00:07:19 → 00:07:24 เจอทีนี้การที่เราเจอไมอ Cardio bridging
00:07:24 → 00:07:28 เมันไม่ได้แปลว่าเราจะเจอโรคอื่นด้วยไม่
00:07:28 → 00:07:31 ได้นะครับเมื่อกี้ที่ผมบอกว่าบางคนเนี่ย
00:07:31 → 00:07:34 ไม่มีตะกันอะไรไปเกาะที่ผนังหลอดเลือดแต่
00:07:34 → 00:07:37 บางคนก็มีนะครับงั้นถ้าเกิดคนไหนที่สวน
00:07:37 → 00:07:38 หลอดเลือดเข้าไปแล้วเนี่ยแล้วเจอภาวะ
00:07:38 → 00:07:41 myocardial bridging เนี่ยหรือหมอเขา
00:07:41 → 00:07:43 สงสัยมากๆว่ามันใช่น่ะเขาก็จะมีการตรวจ
00:07:44 → 00:07:46 อย่างอื่นเพิ่มเติมนะครับเช่นวิธีการตรวจ
00:07:46 → 00:07:49 อัตซาวภายในหลอดเลือดอ่าอันนี้หลายๆคนอาจ
00:07:50 → 00:07:52 จะไม่เคยรู้จักนะครับมันจะชื่อว่า ius
00:07:52 → 00:07:55 ivus นะครับ inra Venus หรือ
00:07:55 → 00:07:56 intravascular
00:07:56 → 00:07:59 Ultrasound นะครับ intravascular
00:07:59 → 00:08:01 ultrasonography นะครับคือเป็นการตรวจ
00:08:01 → 00:08:03 Ultra Sound ที่อยู่ในหลอดเลือดเพื่อดู
00:08:03 → 00:08:05 ลักษณะของผนังหลอดเลือดดูว่ามันเกิด
00:08:05 → 00:08:07 bridging จริงหรือเปล่านะครับก็ตรวจแบบ
00:08:07 → 00:08:09 นั้นได้แล้วก็มีการตรวจดัดวัดความดันว่า
00:08:09 → 00:08:12 ไอ้ส่วนที่มันอยู่ในกล้ามเนื้อเนี่ยมันมี
00:08:12 → 00:08:15 ความสำคัญมากแค่ไหนเพราะว่าบางกรณีเนี่ย
00:08:15 → 00:08:18 คนไข้มันไม่มีอาการก็ไปตรวจเจอโดยบังเอิญ
00:08:18 → 00:08:20 นะครับเค้าก็ต้องพยายามมีการประเมินความ
00:08:20 → 00:08:23 เสี่ยงว่าโอกาสที่มันจะตีบไปจนกระทั่งหัว
00:08:23 → 00:08:25 ใจมีโอกาสขาดเลือดมันสูงแค่ไหนเพราะว่า
00:08:25 → 00:08:27 ถ้ามันสูงมากเราก็ต้องทำการแก้ไขนะครับ
00:08:27 → 00:08:30 อ่าถ้าคนไหนที่มันมีกล้ามเนื้อหัวใจที่
00:08:30 → 00:08:32 มันตายจริงๆเนี่ยนะครับหรือขาดเลือดจริงๆ
00:08:32 → 00:08:35 น่ะหมอเขาจะทำการใส่สตนหรือเป็นขดลวดที่
00:08:35 → 00:08:37 เอาไว้ถ่างหลอดเลือดนะครับโดยวิธีในการ
00:08:37 → 00:08:41 ใส่เนี่ยจะต้องใส่ในหลอดเลือดส่วนที่มัน
00:08:41 → 00:08:43 อยู่ในตัวกล้ามเนื้อด้วยนะไม่ฉะนั้นเนี่ย
00:08:43 → 00:08:47 มันก็ทำอะไรไม่ได้นะครับอย่างไรก็ตาม
00:08:47 → 00:08:49 เรื่องเนี้ยต้องไปคุยกับหมอที่เค้าสูงหาย
00:08:49 → 00:08:50 ใจเพราะว่ามันมีความเสี่ยงเหมือนกันนะ
00:08:50 → 00:08:53 ครับคือไอ้สนหรือไอ้ตัวขดลวดที่เอาไว้
00:08:53 → 00:08:56 ถ่างหลอดเลือดเนี่ยนะครับกรณีแบบเนี้ย
00:08:56 → 00:08:58 กรณีโรคเนี้ยมันมีโอกาสทำให้หลอดเลือด
00:08:58 → 00:09:00 ทะลุได้ง่ายนะนะครับง่ายกว่ากรณีอื่นๆ
00:09:00 → 00:09:03 ด้วยนะครับตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องไปคุย
00:09:03 → 00:09:05 กับหมอหัวใจเพราะว่ามันก็มีความเสี่ยงใน
00:09:05 → 00:09:09 แต่ละคนที่ไม่เท่ากันนะครับการรักษาทำยัง
00:09:09 → 00:09:12 ไงเออตรงเนี้สำคัญละมันมีอันอันนึงที่
00:09:12 → 00:09:14 สำคัญมากที่สุดเลยคือมันแตกต่างจากการ
00:09:14 → 00:09:17 รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจขาดเลือดวิธีอื่น
00:09:17 → 00:09:20 ทั้งหมดตรงนี้คุณต้องฟังดีๆถ้าเกิดว่าผม
00:09:20 → 00:09:22 รู้ว่าคลิปเนี้ยมันไม่น่ามีคนสนใจมากทั้ง
00:09:22 → 00:09:24 หรอกนะครับแต่ถ้าเกิดว่าใครมาฟังอันเนี้ย
00:09:25 → 00:09:28 หรือว่านิสิตนักศึกษาแพทย์มาฟังจำตรงนี้
00:09:28 → 00:09:31 อย่างเดียวเลยนะครับโรคนี้ห้ามใช้ไนเตรต
00:09:31 → 00:09:37 เด็ดขาดห้ามใช้ไนโตกลีเซอลีนเด็ดขาดปกติ
00:09:37 → 00:09:39 เนี่ยเวลาที่เราไปหาหมอแล้วเราเป็นกล้าง
00:09:39 → 00:09:42 ้วหัวใจขาดเลือดเจ็บแน่นหน้าอกมากหมอเขา
00:09:42 → 00:09:46 จะทำอะไรครับเา้าจะให้เราอมยาใต้ลิ้นยา
00:09:46 → 00:09:49 ไนโตรกลีเซอรีนใต้้ลิ้นแต่ถ้าคุณเป็น
00:09:49 → 00:09:51 myocardial breaching คุณห้ามทำเด็ดขาด
00:09:52 → 00:09:55 เลยเพราะว่าอะไรมันจะเป็นหนักขึ้น
00:09:55 → 00:09:59 ครับมันจะเป็นหนักขึ้นเอ้อต้องราบตรงนี้
00:09:59 → 00:10:03 ไว้ก่อนทำไมมันถึงเป็นหนักขึ้นไนเตรต
00:10:03 → 00:10:07 เนี่ยมันไปทำอะไรในร่างกายเรามันไปขยาย
00:10:07 → 00:10:10 หลอดเลือดทั้งหมดทำให้ความดันเราตกนะครับ
00:10:10 → 00:10:14 พอความดันเราตกเนี่ยมันจะมีภาวะนึงเรียก
00:10:14 → 00:10:17 ว่า reflex sympathetic
00:10:17 → 00:10:20 Action ขึ้นมานะครับคือหัวใจเนี่ยมันจะ
00:10:20 → 00:10:23 บีบแรงขึ้นนะครับแล้วโทนของเส้นเลือด
00:10:23 → 00:10:26 เนี่ยมันจะอ่อนแอลงนะครับแล้วมันเกิดอะไร
00:10:26 → 00:10:28 ล่ะเมื่อกี้เราบอกแล้วว่าไอ้หลอดเลือด
00:10:28 → 00:10:31 เนี่ยมันอยู่ในกล้ามเนื้อถูกมมครับในภาวะ
00:10:31 → 00:10:33 myopic bridging นะครับถ้าความดันตกตก
00:10:34 → 00:10:36 แล้วหลอดเลือดเป็นไงความดันความดันในหลอด
00:10:36 → 00:10:38 เลือดตกหลอดเลือดก็ฟีบง่ายถูกมยครับเพราะ
00:10:38 → 00:10:40 ว่าถ้าความดันในหลอดเลือดมันสูงมันก็จะ
00:10:40 → 00:10:42 ดันออกไปข้างนอกนะฮะถ้าความดันในหลอด
00:10:42 → 00:10:44 เลือดต่ำมันก็ฟีบลงมาข้างในได้ง่ายแล้ว
00:10:44 → 00:10:46 ไอ้กล้ามืหัวใจคราวนี้มันบีบแรงขึึ้นก็
00:10:46 → 00:10:50 อุดไปเลยสิครับดังนั้นอาการก็จะรุนแรงมาก
00:10:50 → 00:10:52 ขึ้นเพราะฉะนั้นถ้าท่านตรวจเจอว่าเป็น
00:10:52 → 00:10:56 ไมอา Bring นี่ห้ามใช้ไนเตรตไม่ว่ากรณีใด
00:10:56 → 00:10:59 ๆก็ตามนะครับการการตรวจ myocardial
00:10:59 → 00:11:01 bridging มันยังมีการตรวจอีกวิธีนึงคือ
00:11:01 → 00:11:04 การทำ CT angiography นะครับคือฉีดสีและ
00:11:04 → 00:11:07 ทำ CT สแกนของหัวใจนะครับอันนี้ก็สามารถ
00:11:07 → 00:11:08 ทำได้โดยที่เราไม่ต้องสวนหัวใจได้เหมือน
00:11:08 → 00:11:11 กันในกรณีที่เราไม่ได้สงสัยว่าเออ้ามัน
00:11:11 → 00:11:13 จำเป็นต้องใส่สตนหรืออะไรพวกนี้นะครับหมอ
00:11:13 → 00:11:16 ก็จะพิจารณาทำแบบนี้เหมือนกันนะครับการ
00:11:16 → 00:11:20 รักษาอื่นๆเนี่ยจะมีข้อแตกต่างบางอย่างนะ
00:11:20 → 00:11:23 ครับวิธีในการรักษาถ้าคนไข้เป็นไม่รุนแรง
00:11:23 → 00:11:26 นะครับไม่รุนแรงหมายความว่าไม่มีกล้ามนื
00:11:26 → 00:11:29 หัวยใจขาดเลือดไม่มีการเต้นผิดปกติหัวใจ
00:11:29 → 00:11:31 ที่มันรุนแรงเช่นพวกกลุ่มที่เรียกว่า
00:11:31 → 00:11:33 ventricular tactic cardia หรือ
00:11:33 → 00:11:35 ventricular fibrillation หรือในกรณี
00:11:36 → 00:11:39 ที่ไม่มีภาวะาร Block หรือหัวใจมันทำงาน
00:11:39 → 00:11:42 ผิดปกติรุนแรงเนี่ยถ้าไม่มีภาวะเหล่านี้
00:11:42 → 00:11:45 นะแล้วคนไข้อาการน้อยหรือไม่มีอาการนะ
00:11:45 → 00:11:48 วิธีการรักษาคือทำให้หัวใจเต้นช้าลงครับ
00:11:48 → 00:11:52 ทำยังไงยาหลักๆที่เราใช้เนี่ยจะเป็นยา
00:11:52 → 00:11:54 กลุ่มที่เรียกว่า Beta blocker นะครับ
00:11:54 → 00:11:57 เช่น metropol นะครับอ่า metropol
00:11:57 → 00:11:59 carvedilol
00:11:59 → 00:12:03 ใน Bal นะครับ Bal อ่าพวกเนี้ยนะครับหรือ
00:12:03 → 00:12:05 antinol กลุ่มอะไรก็แล้วแต่ที่มันลงท้าย
00:12:05 → 00:12:07 ด้วยล่อๆทั้งหลายแลนเนี่ยนะครับมันจะเป็น
00:12:07 → 00:12:09 กลุ่มที่เรียกว่า Beta blocker ซึ่งทำ
00:12:09 → 00:12:11 ให้หัวใจของเราเนี่ยเต้นช้าลงแล้วก็บีบ
00:12:11 → 00:12:14 ตัวไม่ไม่แรงมากดังนั้นมันก็เลยจะทำให้
00:12:14 → 00:12:17 หลอดเลือดพวกเนี้ยไม่โดนบีบจากกล้ามเนื้อ
00:12:17 → 00:12:20 หัวใจรอบๆนะครับตัวที่ 2 ที่อาจจะพอใช้
00:12:20 → 00:12:22 ได้ก็คือยากลุ่มที่เรียกว่า iA brine นะ
00:12:22 → 00:12:25 ครับ iA badin ตัวนี้เนี่ยมันทำให้หัวใจ
00:12:25 → 00:12:27 ของเราเต้นช้าลงอย่างเดียวแต่ไม่ได้มีผล
00:12:27 → 00:12:30 ทำให้กล้ามมือหัวใจเราบีบช้าหรือเอ่อบีบ
00:12:30 → 00:12:33 ไม่แรงนะครับก็เป็นตัวรองลงมาตัวที่ 3
00:12:33 → 00:12:36 เนี่ยจะเป็นกลุ่มที่เราว่าเรียกว่า non
00:12:36 → 00:12:38 dihr pine Calcium Channel blocker
00:12:38 → 00:12:41 นะครับพวกนี้ก็ยกตัวอย่างเช่น duem
00:12:41 → 00:12:43 verapamil นะครับแต่ว่ามันจะไม่ดีเท่า
00:12:43 → 00:12:45 ตัวแรกและยากลุ่มเนี้ยบางคนกินแล้วท้อง
00:12:45 → 00:12:48 ผูกด้วยนะฮะก็ไม่ค่อยอยากจะให้กินเท่า
00:12:48 → 00:12:50 ไหร่ดังนั้นการรักษาหลักก็คือการใช้ยา
00:12:50 → 00:12:54 กลุ่ม B blocker นะครับทีนี้มันตรงนี้
00:12:54 → 00:12:56 แหละครับที่จะแตกต่างจากการรักษาโรคหัวใจ
00:12:56 → 00:12:59 ทั่วไปโรคหัวใจทั่วไปที่มันมีหลอดเลือด
00:12:59 → 00:13:02 มันตีบไปเนี่ยเาก็มักจะให้ยินยากลุ่มสติน
00:13:02 → 00:13:06 และแสปนถูกมั้ยครับแต่ mia breaching
00:13:06 → 00:13:09 ไม่ต้องกินครับถ้าเป็น mycard breaching
00:13:09 → 00:13:12 เปล่าๆโดยที่ตรวจแล้วไม่มีภาวะไขมันสูง
00:13:12 → 00:13:15 ไม่มีผนังหลอดเลือดมีตะกันมากอบนะครับไม่
00:13:15 → 00:13:18 มีโรคแบบเนี้ยก็ไม่จำเป็นจะต้องกินแสปน
00:13:18 → 00:13:20 ไม่จำเป็นจะต้องกินสตินเลยสักนิดเดียวนะ
00:13:20 → 00:13:23 ครับแต่ถ้ามันเจอร่วมกันเช่นคุณมี
00:13:23 → 00:13:26 myocardial bridging แล้วคุณก็มีภาวะ
00:13:26 → 00:13:29 ตะกันเกาะที่ผนังหลอดเลือดพวกนี้จำเป็นจะ
00:13:29 → 00:13:33 ต้องกินแสปนและสตินร่วมไปด้วยนะ
00:13:33 → 00:13:36 ครับถ้าเรากินยาพวกนี้แล้วอาการมันคุมได้
00:13:36 → 00:13:39 ดีก็ไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่มเติมแต่ถ้ามัน
00:13:39 → 00:13:41 คุมไม่ได้ก็อาจจะต้องมีการใส่สนแบบเมื่อ
00:13:41 → 00:13:45 กี้เป็นต้นนะครับหรือถ้ามันมีโรคหลอด
00:13:45 → 00:13:47 เลือดหัวใจที่มันอุดตันไปมากๆเราอาจจะ
00:13:47 → 00:13:49 ต้องทำการผ่าตัดนะครับเวลาการทำการผ่าตัด
00:13:49 → 00:13:52 ก็มักจะเรียกว่าเราทำ byp นั่นเองนะครับ
00:13:52 → 00:13:54 byp พวกนี้หมอเจะพยายามทำเอาเส้นเลือด
00:13:55 → 00:13:56 อย่างอื่นมาต่อทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วน
00:13:56 → 00:13:59 ปลายได้นะครับแล้วก็ส่วนไหนที่ที่มันอยู่
00:13:59 → 00:14:01 ในกล้ามเนี้ยเราต้องผ่าแล้วแงะมันออกมานะ
00:14:01 → 00:14:03 ครับเพื่อที่จะให้ทางเดินเลือดเนี่ยมัน
00:14:03 → 00:14:05 เดินได้สะดวกนะครับไม่ฉะนั้นจะยิ่งมี
00:14:05 → 00:14:07 ปัญหานะครับงั้นทั้งหมดเนี่ยก็คือเรื่อง
00:14:07 → 00:14:10 ของ mycard bridging นะครับผมก็เล่าโรค
00:14:10 → 00:14:12 แปลกๆให้ทุกคนฟังเล่นๆแล้วกันนะครับ
00:14:12 → 00:14:15 เรื่องนี้เนี่ยไม่ได้มีอะไรสำคัญมากมายนะ
00:14:15 → 00:14:17 ครับแต่ว่าสำหรับแพทย์เนี่ยเราต้องรู้เลย
00:14:17 → 00:14:19 นะถ้าเกิดคนไหนที่มีการวินิจฉัยว่าเป็น
00:14:19 → 00:14:22 mardi bridging เนี่ยเราห้ามให้ไนเตรท
00:14:22 → 00:14:26 นะห้ามเลยนะฮะไม่งั้นจะเป็นหนักขึ้นนะ
00:14:26 → 00:14:28 ครับอย่าให้นเรดถ้าคนไข้มีอาการเจ็บแน่น
00:14:28 → 00:14:30 หน้าอกมาในตอนนั้นเนี่ยเวลาที่เรารักษา
00:14:30 → 00:14:33 เราอาจจะให้พวกมอร์ฟีนนะครับหรือเราอาจจะ
00:14:33 → 00:14:35 ให้กลุ่มเต้า blocker พวกนี้เข้าไปช่วย
00:14:35 → 00:14:39 ได้นะครับแล้วเอ้อผมลืมพูดไปอย่างนึงหลอด
00:14:39 → 00:14:42 เลือดตัวที่มันมักจะเกิดภาวะเนี้ยขึ้นมา
00:14:42 → 00:14:45 เราจะเรียกว่า lad นะครับ left anterior
00:14:45 → 00:14:47 descending artery ซึ่งเป็นเส้นเลือด
00:14:47 → 00:14:49 เส้นใหญ่เลยเลี้ยงหัวใจด้านซ้ายด้านหน้า
00:14:49 → 00:14:51 ที่เป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ๆไอ้ตัวเนี้ยมัก
00:14:51 → 00:14:54 จะโดนบ่อยบ่อยกว่าเค้าเพื่อนเลยนะครับดัง
00:14:54 → 00:14:57 นั้นเนี่ยความผิดปกติของเอ่อกราฟไฟฟ้าหัว
00:14:57 → 00:14:59 ใจเนี่ยเราอาจจะเห็นตรงนี้เนี้ยได้เด่น
00:14:59 → 00:15:01 กว่าบริเวณอื่นๆนะครับอย่างไรก็ตามจะต้อง
00:15:01 → 00:15:04 ยืนยันด้วยวิธีการสวนหัวใจมิฉะนั้นก็จะ
00:15:04 → 00:15:08 ต้องทำ CT angy คือฉีดสีเข้าไปแล้วก็
00:15:08 → 00:15:11 ถ่ายภาพ CT Scan นะครับอ่ะวันนี้ก็เล่า
00:15:11 → 00:15:13 ให้ฟังเพียงเท่านี้นะครับความแตกต่างกับ
00:15:13 → 00:15:15 โรคหัวใจหลอดเลือดอย่างอื่นก็คือเราเนี่ย
00:15:15 → 00:15:18 จะใช้แค่เ้า blocker ตัวเดียวไม่ต้องใช้
00:15:18 → 00:15:21 ตัวอื่นเลยก็ได้นะครับและต้องไม่ใช้
00:15:21 → 00:15:24 ไนเตรตไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้แสปนกับ
00:15:24 → 00:15:29 สตินยกเว้นกรณีที่เจอว่ามีภาวะรกริหรือ
00:15:29 → 00:15:31 หลอดเลือดเนี่ยมันมีตะกันร่วมไปด้วยนะ
00:15:31 → 00:15:33 ครับโอเควันนี้เล่าให้ฟังเพียงเท่านี้นะ
00:15:33 → 00:15:35 ครับถ้าใครมีอะไรสงสัยก็สอบถามมาแล้วกัน
00:15:35 → 00:15:40 นะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ