00:00:00 → 00:00:03 ขอต้อนรับสู่หมอพัทรพcast Talk ความรู้

00:00:03 → 00:00:06 สุขภาพลึกและฟรีมีที่นี่

00:00:06 → 00:00:08 >> เคยสงสัยกันมั้ครับว่าทำไมความเชื่อที่

00:00:08 → 00:00:11 ว่ายิ่งออกกำลังกายหนักเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

00:00:11 → 00:00:14 เท่านั้นมันอาจจะไม่จริงเสมอไปวันนี้เรา

00:00:14 → 00:00:17 จะมาเจาะลึกแนวคิดใหม่ๆที่อาจจะเปลี่ยน

00:00:17 → 00:00:19 วิธีมองการสร้างความแข็งแรงไปเลยก็ได้

00:00:19 → 00:00:23 ครับเคยรู้สึกแบบนี้มั้ยครับคือทุ่มแทกาย

00:00:23 → 00:00:27 แบบสุดตัวเลยนะแต่กลับรู้สึกว่าเอ๊ะทำไม

00:00:27 → 00:00:30 เราไม่เห็นจะแข็งแรงขึ้นเลยถ้าใครเคยเจอ

00:00:30 → 00:00:32 ปัญหานี้อยู่แล้วก็บอกเลยว่าวันนี้มีคำ

00:00:33 → 00:00:36 ตอบที่น่าสนใจมากๆครับเรามักจะได้ยินกัน

00:00:36 → 00:00:39 อยู่บ่อยๆเลยใช่ไหมครับว่าถ้าอยากจะแข็ง

00:00:39 → 00:00:42 แรงขึ้นก็ต้องเล่นให้หนักขึ้นต้องpุชตัว

00:00:42 → 00:00:45 เองให้เกินลิมิตอยู่ตลอดเวลาแต่แล้วถ้า

00:00:45 → 00:00:48 ความเชื่อนี้มันอาจจะเป็นแค่เครื่องเดียว

00:00:48 → 00:00:51 ของความจริงล่ะครับเอาล่ะครับเรามาเริ่ม

00:00:51 → 00:00:54 กันเลยดีกว่าหัวใจสำคัญของการสร้างความ

00:00:54 → 00:00:57 แข็งแรงเนี่ยจริงๆแล้วมันคือหลักการง่ายๆ

00:00:57 → 00:01:00 ที่เรียกว่าการทำลายเพื่อสร้างใหม่ครับ

00:01:00 → 00:01:02 ซึ่งเป็นวิธีคิดที่จะเปลี่ยนมุมมองของเรา

00:01:03 → 00:01:06 ไปเลยลองนึกภาพตามง่ายๆนะครับการออกกำลัง

00:01:06 → 00:01:09 กายเนี่ยมันก็เหมือนกับการที่เราจงใจ

00:01:09 → 00:01:12 ทำลายกล้ามเนื้อแบบควบคุมได้เพื่อไป

00:01:12 → 00:01:15 กระตุ้นให้ร่างกายเนี่ยเริ่มกระบวนการ

00:01:15 → 00:01:18 ซ่อมแซมและสร้างใหม่ให้มันแข็งแรงกว่า

00:01:18 → 00:01:20 เดิมนั่นเองครับนี่แหละครับคือแก่นของมัน

00:01:20 → 00:01:24 เลยทีนี้เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นไปอีกนะ

00:01:24 → 00:01:26 ครับลองคิดว่าร่างกายของเราเนี่ยมัน

00:01:26 → 00:01:29 เหมือนกับบัญชีกำไรขาดทุนดูทุกครั้งที่

00:01:29 → 00:01:32 เราออกกำลังกายมันก็เหมือนการลงทุนอย่าง

00:01:32 → 00:01:35 หนึ่งแต่ผลลัพธ์สุดท้ายจะออกมาเป็นกำไร

00:01:35 → 00:01:38 หรือขาดทุนมันขึ้นอยู่กับอะไรกันแน่เป้า

00:01:38 → 00:01:41 หมายจริงๆของเราเนี่ยไม่ใช่แค่การทำลาย

00:01:41 → 00:01:43 กล้ามเนื้อให้ได้เยอะที่สุดนะครับแต่เป็น

00:01:43 → 00:01:47 การทำให้แน่ใจว่าการสร้างใหม่หรือการฟื้น

00:01:47 → 00:01:49 ตัวของเราเนี่ยมันต้องมากกว่าการทำลายที่

00:01:49 → 00:01:52 เกิดขึ้นว่าแต่แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะ

00:01:52 → 00:01:57 ครับดูตัวเลขตรงนี้สิครับชัดเจนมากเลยเคส

00:01:57 → 00:02:00 แรกเนี่ยคือการขาดทุนคือเราทำลายไปต้อง 10

00:02:00 → 00:02:04 แต่ร่างกายฟื้นตัวกลับมาได้แค่ 5 สุดท้าย

00:02:04 → 00:02:07 กลายเป็นว่าเราติดลบไป 5 แบบนี้ยิ่งออกก็

00:02:07 → 00:02:11 ยิ่งแย่ลงครับแต่กลับกันถ้าเราทำลายไปแค่

00:02:11 → 00:02:14 5 แต่ร่างกายฟื้นฟูสร้างใหม่ได้ถึง 6

00:02:14 → 00:02:18 นั่นแปลว่าเราได้กำไรมา 1 นี่แหละครับคือ

00:02:18 → 00:02:22 การแข็งแรงขึ้นของจริงอ่ะทีนี้มาดูเป็น

00:02:22 → 00:02:25 ภาพกราฟแท่งกันบ้างจะเห็นชัดขึ้นไปอีกเลย

00:02:25 → 00:02:29 ครับในกรณีที่ขาดทุนเนี่ยแท่งของการทำลาย

00:02:29 → 00:02:32 มันจะสูงกว่าแท่งของการฟื้นฟูเห็นๆเลยแต่

00:02:32 → 00:02:36 ในกรณีที่เป็นกำไรแท่งของการฟื้นฟูจะสูง

00:02:36 → 00:02:39 กว่าซึ่งนี่แหละครับคือภาพที่เราอยากจะ

00:02:39 → 00:02:42 เห็นพอเข้าใจแบบนี้แล้วเนี่ยคำถามสำคัญ

00:02:42 → 00:02:46 ที่ตามมาก็คือแล้วสรุปว่าการออกกำลังกาย

00:02:46 → 00:02:49 แบบไหนมันดีกว่ากันล่ะระหว่างแบบหนักกับ

00:02:49 → 00:02:52 แบบเบาคำตอบอาจจะทำให้หลายคนประหลาดใจเลย

00:02:52 → 00:02:56 นะครับและนี่คือคำตอบครับตัวตัดสินจริงๆ

00:02:56 → 00:02:58 แล้วเนี่ยมันไม่ได้อยู่ที่โปรแกรมออก

00:02:58 → 00:03:02 กำลังกายเลยแต่มันคือสภาวะร่างกายของเราณ

00:03:02 → 00:03:04 วินาทีนั้นต่างหากพูดง่ายๆคือคำตอบมัน

00:03:05 → 00:03:07 อยู่ในตัวเรานี่แหละไม่ได้อยู่ในตารางฝึก

00:03:07 → 00:03:10 เลยครับเพราะฉะนั้นประเด็นสำคัญเลยก็คือ

00:03:10 → 00:03:13 มันไม่มีกฎตายตัวหรอกครับว่าต้องหนักหรือ

00:03:13 → 00:03:15 เบาแต่มันคือการเลือกออกกำลังกายให้มันพอ

00:03:15 → 00:03:18 ดีกับความพร้อมของร่างกายในตอนนี้เลยสิ่ง

00:03:18 → 00:03:21 ที่เคยสร้างกำไรให้เราเมื่อวานวันนี้อาจ

00:03:21 → 00:03:24 จะทำให้เราขาดทุนก็ได้เป้าหมายง่ายๆเลย

00:03:24 → 00:03:27 ครับคือขอแค่ให้ฟื้นตัวได้ทันและแข็งแรง

00:03:27 → 00:03:30 แงกว่าเดิมอยากให้จำประโยคนี้ไว้ให้ดีเลย

00:03:30 → 00:03:32 ครับมันไม่ใช่เรื่องว่าในแผนบอกให้เราทำ

00:03:32 → 00:03:35 อะไรแต่มันคือเรื่องที่ว่าร่างกายของเรา

00:03:35 → 00:03:38 กำลังบอกอะไรเราต่างหากคำถามคือแล้วเรา

00:03:38 → 00:03:40 กำลังฟังเสียงร่างกายของตัวเองอยู่หรือ

00:03:40 → 00:03:44 เปล่าครับและทั้งหมดนี้ก็พาเรามาถึงข้อ

00:03:44 → 00:03:47 สรุปที่สำคัญที่สุดครับเป็นแก่นของเรื่อง

00:03:47 → 00:03:50 นี้ทั้งหมดเลยนั่นก็คือจุดที่ความแข็งแรง

00:03:50 → 00:03:52 ที่แท้จริงมันถูกสร้างขึ้นมาซึ่งมันอาจจะ

00:03:53 → 00:03:56 ไม่ใช่ที่ที่หลายๆคนคิดก็ได้ครับนี่คือ

00:03:56 → 00:03:59 ประโยคสำคัญเลยครับร่างกายจะแข็งแรงขึ้น

00:03:59 → 00:04:03 ในช่วงที่เราพักไม่ใช่ช่วงที่เราพังความ

00:04:03 → 00:04:05 แข็งแรงเนี่ยมันไม่ได้ถูกสร้างตอนที่เรา

00:04:05 → 00:04:08 กำลังยกเวทหรือวิ่งหรอกนะครับแต่มันถูก

00:04:08 → 00:04:11 สร้างตอนที่เรานอนหลับกินอาหารดีๆแล้วก็

00:04:11 → 00:04:14 ปล่อยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองต่างหาก

00:04:14 → 00:04:17 เพราะฉะนั้นเส้นทางที่จะสร้างกำไรให้กับ

00:04:17 → 00:04:21 ร่างกายเนี่ยสรุปง่ายๆก็มี 3 ขั้นตอนครับ

00:04:21 → 00:04:24 1 ประเมินสภาพร่างกายของตัวเองในวันนั้น

00:04:24 → 00:04:28 ๆก่อน 2 ออกกำลังกายให้พอเหมาะพอดีเพื่อ

00:04:28 → 00:04:32 ให้ผลลัพธ์เป็นบวกและ 3 ให้ความสำคัญกับ

00:04:32 → 00:04:35 การพักผ่อนเพื่อต่อยอดกำไรนั้นขึ้นมาครับ

00:04:35 → 00:04:38 ก่อนจะไปออกกำลังกายครั้งหน้าลองถามตัว

00:04:38 → 00:04:42 เองด้วยคำถามนี้ดูนะครับวันนี้ร่างกายเรา

00:04:42 → 00:04:45 พร้อมที่จะสร้างกำไรแล้วหรือยังหรือว่า

00:04:45 → 00:04:47 มันยังต้องการเวลาเพื่อฟื้นตัวจากการขาด

00:04:47 → 00:04:50 ทุนอยู่คำตอบของคำถามนี้แหละครับอาจจะ

00:04:50 → 00:04:53 เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เราแข็งแรงขึ้น

00:04:53 → 00:04:57 อย่างยั่งยืนเลยก็ได้

00:04:57 → 00:05:00 สวัสดีค่ะยินดีต้อนรับสู่การเจาะลึก

00:05:00 → 00:05:03 ประเด็นที่น่าสนใจกันอีกครั้งนะคะวันนี้

00:05:03 → 00:05:06 เรามีข้อมูลที่น่าสนใจชุดหนึ่งค่ะว่าด้วย

00:05:06 → 00:05:09 เอ่อหลักการออกกำลังกายเพื่อความแข็งแรง

00:05:09 → 00:05:12 พอได้อ่านดูแล้วเนี่ยมีมุมมองที่แบบเออ

00:05:12 → 00:05:14 น่าสนใจมากๆเลยโดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ได้

00:05:14 → 00:05:17 เน้นแค่ว่าต้องออกกำลังกายหนักแค่ไหนนาน

00:05:17 → 00:05:20 เท่าไหร่แต่กลับไปให้ความสำคัญกับสิ่งที่

00:05:20 → 00:05:22 ตามมาหลังจากนั้นมากกว่านะค่ะ

00:05:22 → 00:05:25 >> ใช่เลยครับเป้าหมายของเราวันนี้ก็คือจะมา

00:05:25 → 00:05:28 ลองแกะดูหัวใจสำคัญที่ทำให้การออกกำลัง

00:05:28 → 00:05:31 กายมันเกิดประโยชน์สูงสุดจริงๆตามที่ข้อ

00:05:31 → 00:05:34 มูลชุดนี้ชี้แนะนะครับซึ่งมันพุ่งเป้าไป

00:05:34 → 00:05:37 ที่เรื่องของการฟื้นตัวแล้วก็เอ่อการทำ

00:05:38 → 00:05:40 ให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นในระยะยาวไม่ใช่แค่

00:05:40 → 00:05:43 แบบความสะใจหรือตัวเลขที่เราทำได้วันนั้น

00:05:44 → 00:05:44 ๆ

00:05:44 → 00:05:46 >> มีแนวคิดเปรียบเปรอันนึงในข้อมูลที่ดิฉัน

00:05:46 → 00:05:50 ว่ามันเห็นภาพชัดมากๆเลยค่ะคือมองว่าการ

00:05:50 → 00:05:53 ออกกำลังกายเนี่ยเหมือนเป็นแฮชทกการทำลาย

00:05:53 → 00:05:56 เพื่อสร้างใหม่ฟังดูอาจจะแบบโหน่ากลัวนิด

00:05:56 → 00:05:59 นึงนะคะแต่ว่าเดี๋ยวมันจะเชื่อมโยงไปถึง

00:05:59 → 00:06:02 ความสำคัญของการฟื้นตัวว่าทำยังไงให้ร่าง

00:06:02 → 00:06:05 กายเราเหมือนได้กำไรกลับมาไม่ใช่ยิ่งทำ

00:06:05 → 00:06:08 ยิ่งขาดทุนสุขภาพไปเรื่อยๆเดี๋ยวเรามา

00:06:08 → 00:06:10 ค่อยๆคลี่ดูกันค่ะมันต้องเข้าเงื่อนไข

00:06:10 → 00:06:14 สำคัญคือฟื้นฟูได้ทันแล้วก็ผลลัพธ์คือ

00:06:14 → 00:06:17 ต้องทำให้เราแข็งแรงกว่าเดิมไม่ใช่แค่การ

00:06:17 → 00:06:20 วัดผลด้วยเอ่อระยะทางที่วิ่งได้น้ำหนัก

00:06:20 → 00:06:23 ที่ยกได้หรือแม้กระทั่งความรู้สึกว่าโอ๊ย

00:06:23 → 00:06:25 วันนี้ฉันทุ่มสุดตัวแล้วซึ่งบางทีมันอาจ

00:06:25 → 00:06:27 จะไม่ใช่ตัวชี้วัดที่ดีที่สุดเสมอไปก็ได้

00:06:27 → 00:06:28 นะคะ

00:06:28 → 00:06:31 >> ถูกต้องเลยครับประเด็นนี้เป็นแกนหลัก

00:06:31 → 00:06:34 สำคัญเลยในแหล่งข้อมูลที่เราดูเนี่ยเขา

00:06:34 → 00:06:38 เน้นมากๆว่าฮ#ทกสภาวะของร่างกายณเวลานั้น

00:06:38 → 00:06:42 ๆคือปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะบอกว่าเราควร

00:06:42 → 00:06:45 ออกกำลังกายแบบไหนหรือว่าหนักเบาเท่าไหร่

00:06:45 → 00:06:47 ไอ้แนวคิดการทำลายเพื่อสร้างใหม่ที่คุณ

00:06:47 → 00:06:50 ได้เกริ่นไปตอนต้นนะครับมันอธิบายได้แบบ

00:06:50 → 00:06:53 นี้ครับการออกกำลังกายโดยเฉพาะการออก

00:06:53 → 00:06:56 กำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแรงหรือความทน

00:06:56 → 00:06:58 ทานเนี่ยมันคือการที่เราจงใจสร้างความ

00:06:58 → 00:07:01 เครียดหรือstrรสนะครับหรืออาจจะเรียกว่า

00:07:01 → 00:07:04 เป็นการทำลายโครงสร้างเล็กๆในระดับเซลล์

00:07:04 → 00:07:06 กล้ามเนื้อหรือระบบพลังงานในร่างกายซึ่ง

00:07:06 → 00:07:09 การทำลายที่ว่าเนี่ยไม่ใช่เรื่องแย่นะ

00:07:09 → 00:07:11 ครับแต่มันเป็นเหมือนสัญญาณกระตุ้นให้

00:07:11 → 00:07:14 ร่างกายตอบสนองตอนที่เราพักผ่อนด้วยการ

00:07:14 → 00:07:17 ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไปแล้วไม่ใช่แค่ซ่อม

00:07:17 → 00:07:19 ให้กลับมาเท่าเดิมด้วยนะครับแต่ร่างกายจะ

00:07:19 → 00:07:21 ปรับตัวโดยการสร้างเสริมให้แข็งแกร่งขึ้น

00:07:22 → 00:07:24 ไปอีกระดับนึงเลยเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ

00:07:24 → 00:07:27 กับความเครียดลักษณะเดิมในครั้งต่อๆไปนี่

00:07:27 → 00:07:29 แหละครับคือกระบวนการที่เรียกว่า

00:07:29 → 00:07:32 adaptation หรือการปรับตัวซึ่งเป็นหัวใจ

00:07:32 → 00:07:36 สำคัญของการพัฒนาสมรรถภาพทางกายเลยครับ

00:07:36 → 00:07:39 >> อ๋อเข้าใจแล้วค่ะคือมันไม่ใช่การทำลายแบบ

00:07:40 → 00:07:43 เอิ่มศูนย์เปล่าไปเฉยๆแต่เป็นการทำลาย

00:07:43 → 00:07:46 อย่างมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการ

00:07:46 → 00:07:48 พัฒนาที่เหนือกว่าเดิมตอนที่เราพักฟื้น

00:07:48 → 00:07:49 นี่เอง

00:07:49 → 00:07:52 >> ใช่ครับใช่แล้วเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นไป

00:07:52 → 00:07:54 อีกนิดนึงในข้อมูลมีการเปรียบเทียบเป็น

00:07:54 → 00:07:58 เหมือนการลงทุนหรือการทำธุรกิจเลยครับลอง

00:07:58 → 00:08:00 นึกภาพตามนะครับสมมุติว่าการออกกำลังกาย

00:08:00 → 00:08:03 ของเราในวันนี้เนี่ยมันสร้างภาระหรือ

00:08:03 → 00:08:06 ทำลายร่างกายไปเท่ากับ 10 หน่วยอาจจะเป็น

00:08:06 → 00:08:09 พลังงานที่เราใช้ไปความเสียหายเล็กๆของ

00:08:09 → 00:08:11 กล้ามเนื้ออะไรพวกเนี้ยรวมๆกันคือ 10

00:08:11 → 00:08:15 หน่วยแต่ทีนี้ปัจจัยสำคัญมันอยู่ที่ความ

00:08:15 → 00:08:18 สามารถในการฟื้นฟูของเราครับถ้าวันนั้น

00:08:18 → 00:08:21 เราแบบพักผ่อนไม่พอทานอาหารไม่ดีหรือมี

00:08:21 → 00:08:24 ความเครียดสะสมเยอะทำให้ร่างกายเราฟื้นฟู

00:08:24 → 00:08:27 กลับมาได้แค่ 5 หน่วยถึงแม้ว่าเราจะรู้

00:08:27 → 00:08:29 สึกว่าโอ้โหออกกำลังกายหนักมากก็ตามผล

00:08:29 → 00:08:33 ลัพธ์สุทธิร่างกายเราติดลบหรือขาดทุนไป 5

00:08:33 → 00:08:37 หน่วย 10 -5 เหลือติด -5 การทำแบบนี้ซ้ำ

00:08:37 → 00:08:40 ๆบ่อยๆแทนที่เราจะแข็งแรงขึ้นอาจจะกลาย

00:08:40 → 00:08:42 เป็นอ่อนแอลงหรือเสี่ยงต่อการบาดเช็บมาก

00:08:42 → 00:08:43 ขึ้นไปอีกครับ

00:08:43 → 00:08:46 >> หพอเปรียบเทียบเป็นตัวเลขขาดทุนกำไรแบบ

00:08:46 → 00:08:49 นี้เราเห็นภาพชัดเลยค่ะมันเหมือนเราใช้

00:08:49 → 00:08:51 จ่ายเกินปูไปเรื่อยๆเลยเนาะสุดท้ายก็เข้า

00:08:51 → 00:08:54 เนื้อตัวเองทั้งๆที่ตอนจ่ายหรือตอนออก

00:08:54 → 00:08:56 กำลังกายเนี่ยอาจจะรู้สึกดีรู้สึกว่าเออ

00:08:56 → 00:08:58 ได้ใช้เต็มที่

00:08:58 → 00:09:01 >> ตรงกันข้ามเลยครับถ้าสมมุติว่าเราประเมิน

00:09:01 → 00:09:03 สภาวะของร่างกายตัวเองแล้วว่าเออวันนี้

00:09:03 → 00:09:06 อาจจะไม่ได้พร้อมเต็มร้อยนะเราเลยเลือก

00:09:06 → 00:09:10 ออกกำลังกายที่ทำลายน้อยลงหน่อยอาจจะแค่ 5

00:09:10 → 00:09:13 หน่วยพอแต่เราใส่ใจกับการพักผ่อนดีมากทาน

00:09:13 → 00:09:16 อาหารที่มีประโยชน์ร่างกายมีความพร้อม

00:09:16 → 00:09:19 เต็มที่ในการซ่อมแซมและสร้างเสริมทำให้

00:09:19 → 00:09:22 สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ถึง 6 หน่วยแบบนี้

00:09:22 → 00:09:26 ผลลัพธ์สุทธิร่างกายเราได้กำไรมา 1 หน่วย

00:09:26 → 00:09:29 5 ได้คืน 6 ก็คือ + 1 นี่แหละครับคือ

00:09:29 → 00:09:32 การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนทำให้ร่างกายเรา

00:09:32 → 00:09:35 แข็งแรงกว่าเดิมอย่างแท้จริงการสะสมกำไร

00:09:35 → 00:09:38 เล็กๆน้อยๆแบบนี้ไปเรื่อยๆจะนำไปสู่การ

00:09:38 → 00:09:40 พัฒนาที่ยั่งยืนครับผม

00:09:40 → 00:09:42 >> ชัดเจนมากค่ะการเปรียบเทียบเป็นกำไรขาด

00:09:42 → 00:09:46 ทุนนี่มันเอ่อเปลี่ยนมุมมองไปเลยนะคะมัน

00:09:46 → 00:09:49 ท้าทายความเชื่อที่อาจจะฝังหัวใครหลายๆคน

00:09:49 → 00:09:52 รวมถึงตัวดิฉันเองด้วยในบางทีที่ว่ายิ่ง

00:09:52 → 00:09:55 ออกกำลังกายหนักเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น

00:09:55 → 00:09:57 ยิ่งเหนื่อยยิ่งเหงื่อออกเยอะยิ่งรู้สึก

00:09:57 → 00:10:00 ว่าได้ผลดีซึ่งในแหล่งข้อมูลที่เราดูนี่

00:10:00 → 00:10:03 ถึงกับใช้คำถามที่ค่อนข้างเอ่อแรงนิดนึง

00:10:03 → 00:10:06 นะคะประมาณว่าไม่ใช่ซักแต่ว่าจะออกให้

00:10:06 → 00:10:09 หนักๆแล้วจะดีบ้าหรือเปล่าซึ่งมันก็ชวน

00:10:09 → 00:10:12 ให้คิดจริงๆค่ะว่าบางทีการที่เราโหมออก

00:10:12 → 00:10:15 กำลังกายแบบไม่ดูสภาพตัวเองเลยเนี่ยอาจจะ

00:10:15 → 00:10:17 เป็นแค่การบดขยี้ร่างกายเพื่อตอบสนองความ

00:10:17 → 00:10:19 ต้องการทางจิตใจหรือเป้าหมายที่เราตั้ง

00:10:19 → 00:10:22 ไว้ในหัวเฉยๆหรือเปล่าโดยที่ลืมฟังเสียง

00:10:22 → 00:10:23 ร่างกายไปเลย

00:10:23 → 00:10:26 >> ใช่ครับการตั้งคำถามแบบนั้นในแหล่งข้อมูล

00:10:26 → 00:10:29 เนี่ยผมคิดว่าเค้าต้องการกระตุกให้ฉุกคิด

00:10:29 → 00:10:32 กันนะครับไม่ได้มีเจตนาจะต่อว่าใครนะแต่

00:10:32 → 00:10:35 ต้องการชี้ให้เห็นถึงความเข้าใจผิดที่อาจ

00:10:35 → 00:10:37 เกิดขึ้นได้ง่ายๆและจุดยืนของข้อมูลนี้

00:10:37 → 00:10:40 จริงๆแล้วมันละเอียดอ่อนนะครับคือเขาไม่

00:10:40 → 00:10:43 ได้ฟันธงไปเลยว่าการออกกำลังกายหนักนั้น

00:10:43 → 00:10:46 ไม่ดีหรือการออกกำลังกายเบาดีกว่าเสมอไป

00:10:46 → 00:10:49 มันไม่ใช่แบบขาวกับดำชัดเจนขนาดนั้นครับ

00:10:49 → 00:10:52 แต่ประเด็นสำคัญที่เขาเน้นย้ำมากๆคือคำ

00:10:52 → 00:10:55 ตอบมันอยู่ที่ตัวเราต่างหากว่าในช่วงเวลา

00:10:55 → 00:10:58 นี้เราเหมาะกับการออกกำลังกายแบบไหนมัน

00:10:58 → 00:11:01 ต้องอาศัยการประเมินสภาวะของร่างกายณ

00:11:01 → 00:11:03 ปัจจุบันเนี่ยเป็นตัวตั้งต้นเลยไม่ใช่การ

00:11:03 → 00:11:06 ยึดติดกับตารางซ้อมเดิมๆหรือเป้าหมายที่

00:11:06 → 00:11:09 ตั้งไว้เพียงอย่างเดียวอือฮึแล้วการ

00:11:09 → 00:11:12 ประเมินสภาวะของร่างกายที่ว่านี่มันมี

00:11:12 → 00:11:15 อะไรที่เราพอจะสังเกตได้บ้างคะสำหรับคน

00:11:15 → 00:11:17 ทั่วไปที่อาจจะไม่ได้มีเครื่องมือวัดอะไร

00:11:17 → 00:11:20 มากมายจริงๆแล้วแหล่งข้อมูลไม่ได้ลงราย

00:11:20 → 00:11:23 ละเอียดเครื่องมือวัดเป๊ะๆนะครับแต่เน้น

00:11:23 → 00:11:26 หลักการของการตระหนักรู้ในตนเองหรือ self

00:11:26 → 00:11:29 awareness มากกว่าซึ่งมันก็เชื่อมโยงกับ

00:11:29 → 00:11:31 ปัจจัยพื้นฐานที่เราพอจะรู้สึกได้ในชีวิต

00:11:31 → 00:11:34 ประจำวันเลยครับเช่นเอ่อคุณภาพการนอนหลับ

00:11:34 → 00:11:37 เมื่อคืนเป็นยังไงตื่นมารู้สึกสดชื่นหรือ

00:11:37 → 00:11:40 ว่ายังเพลียอยู่วันนี้มีระดับความเครียด

00:11:40 → 00:11:42 จากเรื่องงานเรื่องส่วนตัวมากน้อยแค่ไหน

00:11:42 → 00:11:45 รู้สึกมีพลังงานดีหรือสึกอ่อนล้าผิดปกติ

00:11:45 → 00:11:48 หรือเปล่ามีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจาก

00:11:48 → 00:11:51 ครั้งก่อนๆหลงเหลืออยู่มากมยสิ่งเหล่านี้

00:11:51 → 00:11:53 แหละครับเป็นสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมาบอก

00:11:53 → 00:11:57 เราถึงความพร้อมในขณะนั้นการปรับการออก

00:11:57 → 00:11:59 กำลังกายให้เหมาะสมกับสภาวะร่างกายในแต่

00:11:59 → 00:12:02 ละวันจึงสำคัญมากๆเลยครับวันไหนที่เรารู้

00:12:02 → 00:12:06 สึกว่านอนน้อยเครียดหรือร่างกายยังละอยู่

00:12:06 → 00:12:08 การเลือกที่จะออกกำลังกายเบาลงเน้นการ

00:12:08 → 00:12:11 เคลื่อนไหวเพื่อฟื้นฟูหรือแม้กระทั่งการ

00:12:11 → 00:12:13 ตัดสินใจพักผ่อนไปเลยอาจจะเป็นทางเลือก

00:12:13 → 00:12:16 ที่ทำให้เราได้กำไรมากกว่าการฝืนไปออก

00:12:16 → 00:12:18 กำลังกายหนักๆตามตารางทางเดิมซึ่งอาจจะ

00:12:18 → 00:12:22 กลายเป็นการขาดทุนสุขภาพในวันดันแทนมัน

00:12:22 → 00:12:25 ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวจริงๆครับต้องปรับ

00:12:25 → 00:12:28 เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ณตอนนั้นเลย

00:12:28 → 00:12:31 >> เข้าใจเลยค่ะมันคือการฟังเสียงร่างกายตัว

00:12:31 → 00:12:33 เองให้มากขึ้นนั่นเองซึ่งก็นำมาสู่

00:12:33 → 00:12:35 ประเด็นสำคัญอีกข้อที่ข้อมูลนี้ตอกย้ำมาก

00:12:35 → 00:12:40 ๆเลยก็คือแฮชทกร่างกายจะแข็งแรงในช่วงพัก

00:12:40 → 00:12:42 ไม่ใช่ช่วงพังหรือช่วงที่เรากำลังออก

00:12:42 → 00:12:44 กำลังกายอย่างหนักหน่วงอยู่ตรงนั้นตรงนี้

00:12:44 → 00:12:47 อยากให้ช่วยขยายความเพิ่มอีกนิดได้มั้คะ

00:12:47 → 00:12:49 ได้เลยครับอันเนี้เป็นความเข้าใจที่สำคัญ

00:12:49 → 00:12:53 มากๆเลยหลายคนอาจจะคิดว่ากล้ามเนื้อเรา

00:12:53 → 00:12:56 ใหญ่ขึ้นหรือร่างกายเราแข็งแรงขึ้นในขณะ

00:12:56 → 00:12:59 ที่เรากำลังยกน้ำหนักหรือกำลังวิ่งอยู่

00:12:59 → 00:13:02 แต่ในความเป็นจริงแล้วช่วงเวลาที่เราออก

00:13:02 → 00:13:05 กำลังกายคือช่วงที่เรากำลังทำลายหรือ

00:13:05 → 00:13:07 สร้างความเครียดให้กับร่างกายอย่างที่เรา

00:13:07 → 00:13:10 คุยกันไปเมื่อกี้นะครับส่วนช่วงเวลาที่

00:13:10 → 00:13:12 ร่างกายจะซ่อมแซมและสร้างเสริมตัวเองให้

00:13:12 → 00:13:15 แข็งแรงกว่าเดิมหรือที่เรียกว่า super

00:13:15 → 00:13:18 compensation นั้นมันเกิดขึ้นหลังจากที่

00:13:18 → 00:13:21 เราออกกำลังกายเสร็จแล้วโดยเฉพาะอย่าง

00:13:21 → 00:13:24 ยิ่งในช่วงที่เราพักผ่อนนอนหลับครับดัง

00:13:24 → 00:13:27 นั้นการให้เวลาและคุณภาพกับการพักฟื้นจึง

00:13:27 → 00:13:30 สำคัญไม่แพ้การออกกำลังกายเลยนะครับถ้า

00:13:30 → 00:13:33 เราทำลายไปแล้วแต่ไม่เปิดโอกาสให้ร่างกาย

00:13:33 → 00:13:35 ได้สร้างใหม่อย่างเพียงพอหรือว่าเร่งรีบ

00:13:35 → 00:13:38 กลับไปทำลายซ้ำในขณะที่ยังฟื้นตัวไม่เต็ม

00:13:38 → 00:13:41 ที่เนี่ยกระบวนการพัฒนาให้แข็งแรงขึ้นมัน

00:13:41 → 00:13:44 ก็เกิดขึ้นไม่ได้หรือเกิดได้ไม่เต็มที่

00:13:44 → 00:13:47 เป้าหมายหลักจึงต้องการฟื้นฟื้นให้ทันและ

00:13:47 → 00:13:50 ต้องฟื้นให้พอที่จะเกิดกำไรทางกายภาพ

00:13:50 → 00:13:52 เพื่อให้ร่างกายเราแข็งแรงขึ้นแบบบุกๆ

00:13:52 → 00:13:55 สะสมไปเรื่อยๆนะครับอ๋อเหมือนกับการสร้าง

00:13:55 → 00:14:00 ตึกเลยนะคะช่วงตอกเสาเข็มช่วงเทปูนอาจจะ

00:14:00 → 00:14:03 ดูเป็นการลงแรงที่หนักหน่วงมากแต่ตึกมัน

00:14:03 → 00:14:06 จะแข็งแรงได้จริงๆก็ต่อเมื่อปูนมันเซ็ต

00:14:06 → 00:14:09 ตัวได้ที่แล้วซึ่งก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน

00:14:09 → 00:14:12 >> โอ้เป็นการเปรียบเทียบที่ดีมากครับใช่เลย

00:14:12 → 00:14:15 และถ้าเราไม่ใส่ใจเรื่องการฟื้นฟูมองข้าม

00:14:15 → 00:14:18 สัญญาณเตือนต่างๆของร่างกายไปหรือว่า

00:14:18 → 00:14:20 เชื่อมั่นในความคิดที่ว่าต้องหนักเท่า

00:14:20 → 00:14:23 นั้นถึงจะดีผลเสียมันตามมาได้จริงๆครับ

00:14:23 → 00:14:25 อาจจะเริ่มจากอาการเหนื่อยล้าเรื้อรัง

00:14:26 → 00:14:28 ประสิทธิภาพในการออกกำลังกายค่อยๆลดลงไป

00:14:28 → 00:14:31 จนถึงการเจ็บป่วยบ่อยขึ้นหรือเกิดอาการ

00:14:31 → 00:14:34 บาดเจ็บที่กล้ามเนื้อข้อต่อซึ่งสุดท้าย

00:14:34 → 00:14:36 อาจจะทำให้เราต้องหยุดออกกำลังกายไปนาน

00:14:36 → 00:14:38 เลยก็ได้นะครับมันจะกลายเป็นวงจรที่เรียก

00:14:38 → 00:14:41 ว่ายิ่งออกยิ่งพังอ่ะครับคือแทนที่จะได้

00:14:41 → 00:14:43 สุขภาพดีและความแข็งแรงกลับได้ความอ่อนแอ

00:14:44 → 00:14:46 และอาการบาดเจ็บมาแทนและสุดท้ายก็มานั่ง

00:14:46 → 00:14:51 เสียใจทีหลังบ่นว่ารู้งี้พักซะก็ดีหรือ

00:14:51 → 00:14:53 รู้งี้ไม่น่าหักโหมเลยซึ่งมันน่าเสียดาย

00:14:54 → 00:14:56 ศักยภาพในการพัฒนาของเรามากๆครับผม

00:14:56 → 00:14:59 >> ฟังดูน่ากลัวเหมือนกันนะคะการออกกำลังกาย

00:14:59 → 00:15:02 ที่ตั้งใจจะให้ดีต่อสุขภาพแท้ๆกลับกลาย

00:15:02 → 00:15:05 เป็นผลเสียไปได้ถ้าเราไม่เข้าใจหลักการ

00:15:05 → 00:15:07 พื้นฐานเรื่องนี้นี่เอง

00:15:07 → 00:15:10 >> แต่ในทางกลับกันนะครับถ้าเราเข้าใจและนำ

00:15:10 → 00:15:13 หลักการทำลายเพื่อสร้างใหม่และฟื้นฟูให้

00:15:13 → 00:15:16 ได้กำไรนี้ไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสมผล

00:15:16 → 00:15:18 ลัพธ์ที่ได้คือการพัฒนาที่ต่อเนื่องและ

00:15:18 → 00:15:21 ยั่งยืนเลยครับร่างกายจะค่อยๆแข็งแรงขึ้น

00:15:21 → 00:15:24 ทนทานขึ้นมีพลังงานมากขึ้นรู้สึกดีกับตัว

00:15:25 → 00:15:28 เองมากขึ้นมันคือการแข็งแรงแบบ Plus

00:15:28 → 00:15:30 อย่างที่แหล่งข้อมูลว่าไว้เลยครับซึ่ง

00:15:30 → 00:15:32 เป็นการลงทุนด้านสุขภาพที่ผมว่าคุ้มค่า

00:15:32 → 00:15:35 มากๆและให้ผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมในระยะยาว

00:15:35 → 00:15:37 ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์แบบฉาบฉวยในระยะสั้นๆ

00:15:37 → 00:15:38 ครับ

00:15:38 → 00:15:41 >> ฟังดูแล้วก็สมเหตุสมผลมากๆเลยค่ะมันคือ

00:15:41 → 00:15:44 การเปลี่ยนมุมมองจากการเน้นแค่ปริมาณหรือ

00:15:44 → 00:15:46 ความหนักของการออกกำลังกายมาเป็นการเน้น

00:15:46 → 00:15:49 ที่คุณภาพของกระบวนการทั้งหมดเลยตั้งแต่

00:15:49 → 00:15:52 การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสภาวะร่างกาย

00:15:52 → 00:15:55 ไปจนถึงการพักฟื้นที่มีประสิทธิภาพสรุป

00:15:55 → 00:15:58 ได้ว่าหัวใจสำคัญของประสิทธิผลในการออก

00:15:58 → 00:16:00 กำลังกายตามหลักการที่เราคุยกันในวันนี้

00:16:00 → 00:16:03 ก็คือการสร้างสมดุลที่พอดีพอๆระหว่างการ

00:16:03 → 00:16:05 ทำลายหรือการสร้างความเครียดให้ร่างกายใน

00:16:05 → 00:16:08 ระดับที่เหมาะสมกับการสร้างใหม่หรือการ

00:16:08 → 00:16:10 ให้เวลาและทัพยากรที่เพียงพอสำหรับการพัก

00:16:11 → 00:16:13 ฟื้นโดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการทำให้ร่าง

00:16:13 → 00:16:16 กายเกิดกำไรทางสมรรถภาพคือมีความแข็งแรง

00:16:16 → 00:16:19 หรือความทนทานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

00:16:19 → 00:16:21 และรูปแบบหรือความหนักเบาของการออกกำลัง

00:16:21 → 00:16:24 กายที่เหมาะสมที่สุดนั้นไม่ได้มีสูตรตาย

00:16:24 → 00:16:26 ตัวอะไรเลยแต่ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสภาวะ

00:16:26 → 00:16:29 ของร่างกายของเราณเวลานั้นๆเป็นสำคัญที่

00:16:29 → 00:16:30 สุดนะคะ

00:16:30 → 00:16:33 >> ถูกต้องครบถ้วนเลยครับและเมื่อเราเข้าใจ

00:16:33 → 00:16:36 หลักการสำคัญ 2 อย่างนี้คือทำลายเพื่อ

00:16:36 → 00:16:39 สร้างใหม่และฟื้นฟูให้ได้กำไรอย่างลึก

00:16:39 → 00:16:43 ซึ้งแล้วมันก็นำไปสู่คำถามที่น่าสนใจให้

00:16:43 → 00:16:46 เราแต่ละคนนำกลับไปขบคิดต่อยอดเพื่อปรับ

00:16:46 → 00:16:48 ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงนะครับคำถาม

00:16:48 → 00:16:52 นั้นก็คือแล้วเราจะนำความเข้าใจในหลักการ

00:16:52 → 00:16:55 นี้ไปปรับใช้กับการตัดสินใจเลือกรูปแบบ

00:16:55 → 00:16:58 ความหนักเบาและความถี่ในการออกกำลังกายใน

00:16:58 → 00:17:01 แต่ละวันของเราได้อย่างไรเราจะเริ่มฟัง

00:17:01 → 00:17:04 สัญญาณจากร่างกายตัวเองมากขึ้นแล้วก็ปรับ

00:17:04 → 00:17:06 แผนการออกกำลังกายให้ยืดหยุ่นตามสภาวะ

00:17:07 → 00:17:10 จริงแทนที่จะยึดติดกับตารางหรือความคาด

00:17:10 → 00:17:13 หวังเดิมๆได้ยังไงเพื่อให้มั่นใจว่าทุก

00:17:13 → 00:17:15 ครั้งที่เราออกกำลังกายหรือแม้กระทั่งตัด

00:17:15 → 00:17:18 สินใจที่จะพักเนี่ยมันคือการลงทุนเพื่อ

00:17:18 → 00:17:21 สุขภาพที่ชานฉลาดจริงๆและให้ผลตอบแทนที่

00:17:21 → 00:17:24 ดีที่สุดแก่ตัวเราในระยะยาวจริงๆนี่เป็น

00:17:24 → 00:17:27 คำถามที่น่าจะช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพ

00:17:27 → 00:17:29 ของเราไปอีกขั้นได้เลยครับ

00:17:29 → 00:17:47 [เพลง]