00:00:00 → 00:00:05 มียากินหญ้าหวานเพื่อลดน้ำหนักหลายๆคนนะ
00:00:05 → 00:00:07 ครับพอฟังหัวข้อนี้ปุ๊บเนี่ยก็คงจะเกิดคำ
00:00:07 → 00:00:10 ถามขึ้นในใจเขาว่าหมอแบงค์หญ้าหวานเป็น
00:00:10 → 00:00:13 สารสกัดจากธรรมชาติไม่ใช่เหรอแล้วอีก
00:00:13 → 00:00:16 อย่างหนึ่งก็ 0 กิโลแคลอรีด้วยตกลงแล้ว
00:00:16 → 00:00:19 เนี่ยการกินยาวันดีกับสุขภาพไหมแล้วก็ลด
00:00:19 → 00:00:22 น้ำหนักได้จริงหรือเปล่าในคลิปนี้นะครับ
00:00:22 → 00:00:25 ถ้าหากว่าคุณฟังจบคุณจะได้รับคำตอบนี้ไป
00:00:25 → 00:00:28 เลยครับหากใครชมคลิปมาแบงค์พันทาง
00:00:28 → 00:00:30 Facebook สามารถกดติดตามได้ทางวิธีการ
00:00:30 → 00:00:33 นี้ครับหากใครชมคลิปมาแบงค์พัน YouTube
00:00:33 → 00:00:36 สามารถกดไลค์กดติดตามและกดสั่นกระดิ่ง
00:00:36 → 00:00:38 เพื่อที่จะไม่พลาดคลิปดีๆครับผม
00:00:39 → 00:00:42 วันนี้หมอแบงค์มาชวนคุยเรื่องของหญ้าหวาน
00:00:42 → 00:00:44 กัน 2 ประเด็นนะครับประเด็นแรกเนี่ยคือ
00:00:44 → 00:00:48 หญ้าหวานส่งผลต่อสุขภาพอย่างไรบ้างปลอด
00:00:48 → 00:00:52 ภัยไหมนะครับอีกประเด็นนึงคือในคนที่อยาก
00:00:52 → 00:00:56 จะลดน้ำหนักสำเร็จเนี่ยควรจะใช้หญ้าหวาน
00:00:56 → 00:00:58 หรือเปล่านะครับเรามาสู่ประเด็นแรกกันเลย
00:00:58 → 00:01:02 นะครับหญ้าหวานก็มีการใช้มันๆมากๆและใน
00:01:02 → 00:01:05 หลักหลายประเทศนะครับก็มีงานวิจัยหนึ่ง
00:01:05 → 00:01:10 น่าสนใจมากครับเขานำสารสกัดจากหญ้าหวานมา
00:01:10 → 00:01:13 ให้หนูทดลองกินครับสารสกัดจากหญ้าหวานตัว
00:01:13 → 00:01:16 นี้ชื่อว่าสตีวีโอซ้ายครับเป็นสารที่ให้
00:01:16 → 00:01:20 ความหวานของยาหวานนั่นเองครับปรากฏว่าลำ
00:01:20 → 00:01:22 ไส้ของหนูครับมีแบคทีเรียที่สามารถ
00:01:22 → 00:01:26 เปลี่ยนสารสกัดจากหญ้าหวานสตีดีโอทราย
00:01:26 → 00:01:28 เนี่ยให้กลายเป็นอีกศาลอีกตัวนึงได้ครับ
00:01:28 → 00:01:32 ก็คือ tvo ครับ CD or เนี่ยหลังจากดูด
00:01:32 → 00:01:35 ซึมเข้าไปสู่กระแสเลือดของหนูแล้วนะครับ
00:01:35 → 00:01:39 ก็กดว่า cpall ไปทำให้ DNA หรือสาร
00:01:40 → 00:01:42 พันธุกรรมของหนูเนี่ยเกิดแตกหักขึ้นมา
00:01:42 → 00:01:45 ครับถูกทำลายครับทุกท่านจะเห็นได้จากกราฟ
00:01:45 → 00:01:50 ที่พุ่งขึ้นไปนะครับแปลว่ามีฤทธิ์เกาะโรค
00:01:50 → 00:01:54 มะเร็งมากขึ้นในหนูทดลองครับผมคำถามท่าน
00:01:54 → 00:01:58 มาเนี่ยโบแบงค์แล้วในคนน่ะมีแบคทีเรียที่
00:01:58 → 00:02:01 เปลี่ยน cdo ซ้ายให้เป็น a CD or ด้วย
00:02:01 → 00:02:03 หรือเปล่านะครับเพราะถ้ามีเนี่ยมันก็จะ
00:02:03 → 00:02:07 เสี่ยงมะเร็งเพิ่มขึ้นด้วยนะหมอแบงค์ขอ
00:02:07 → 00:02:10 แสดงความเสียใจไว้ตรงนี้เลยนะครับในคน
00:02:10 → 00:02:14 เนี่ยมีแบคทีเรียแบบนั้นเช่นเดียวกันครับ
00:02:14 → 00:02:16 เพราะฉะนั้นการที่คุณกินสตีวิโอไซด์เข้า
00:02:16 → 00:02:19 ไปเนี่ยมันจะเปลี่ยนเป็น cereal เช่น
00:02:19 → 00:02:22 เดียวกันครับแต่คำถามท่านมาที่เราควรจะ
00:02:22 → 00:02:26 ถามครับก็คือแล้วมีปริมาณที่กำหนดไหม
00:02:26 → 00:02:30 ปริมาณที่กินแล้วปลอดภัยหรือเปล่านะครับ w
00:02:30 → 00:02:32 h o ครับหรือว่าองค์การอนามัยโลกเนี่ย
00:02:32 → 00:02:35 ก็มีการประชุมกันครับหลายปีและผ่านมาและ
00:02:35 → 00:02:39 ก็ประชุมให้ความเห็นเหมือนเดิมครับว่าเรา
00:02:39 → 00:02:43 เนี่ยไม่ควรกินสารสกัด cvo ซ้ายเนี่ยเกิน
00:02:43 → 00:02:46 4 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
00:02:46 → 00:02:49 ครับซึ่งข่าวร้ายอีกเช่นเดียวกันครับ
00:02:49 → 00:02:52 ประเทศทางฝั่งตะวันตกเนี่ยหรือว่าเมริกา
00:02:52 → 00:02:55 ครับเขามีการบริโภคหญ้าหวานเป็นเยอะมากๆ
00:02:55 → 00:02:57 ครับทุกอย่างใส่หญ้าหวานหญ้าหวานหญ้าหวาน
00:02:57 → 00:03:01 เพราะคิดว่าธรรมชาติจนมีระดับการบริโภค
00:03:01 → 00:03:05 หญ้าหวานเนี่ยเกินเกณฑ์ที่ w h o กำหนด
00:03:05 → 00:03:09 ครับเขาบริโภคเนี่ย 5.8 mg นะครับตอน
00:03:09 → 00:03:12 หนักตัว 1 กิโลกรัมในขณะที่ระดับปลอดภัย
00:03:12 → 00:03:15 คุปต์ไม่ควรเกิน 4 เท่านั้นครับอ้าวอย่าง
00:03:15 → 00:03:18 นี้คำถามหมอแบงค์รถ 4 มันเยอะขนาดไหนเรา
00:03:18 → 00:03:21 ไม่ควรกินเยอะขนาดไหนนะครับถึงจะปลอดภัย
00:03:21 → 00:03:26 ตีง่ายๆนะครับเราไม่ควรกินน้ำหวานหรือว่า
00:03:26 → 00:03:29 ว่าสารสกัดจากหญ้าหวานผลิตภัณฑ์จากหญ้า
00:03:29 → 00:03:32 หวานเกิน 2 แก้วต่อวันครับอันนี้เป็นค่า
00:03:32 → 00:03:36 ประมาณนะครับกินได้แต่ขออยู่ในระดับที่
00:03:36 → 00:03:40 ปลอดภัยยิ่งน้อยยิ่งดีครับประเด็นที่สอง
00:03:40 → 00:03:44 ก็คือเรื่องของการลดน้ำหนักครับหญ้าหวาน 0
00:03:44 → 00:03:48 กิโลแคลไม่มีพลังงานลดน้ำหนักได้ไหมนะ
00:03:48 → 00:03:49 ครับ
00:03:49 → 00:03:52 ถ้ามีงานวิจัยนี้ครับน่าสนใจจริงๆครับเขา
00:03:52 → 00:03:55 แบ่งคนออกมาเป็น 4 กลุ่มครับมาทดสอบเลย
00:03:55 → 00:03:58 อ่ะมากินสารให้ความหวานที่แตกต่างกันแล้ว
00:03:58 → 00:04:03 วัดระดับน้ำตาลในเลือดถ้าผมอ่าร้านน่าสน
00:04:03 → 00:04:07 ใจไหมกลุ่มแรกครับเขาให้คนเนี่ยกินน้ำตาล
00:04:07 → 00:04:11 ทรายนะ 16 ตอนชาครับกลุ่มที่ 2 เขาให้กิน
00:04:11 → 00:04:15 แอ๊ปปาตั้มครับกลุ่มที่ 3 ให้กินสารสกัด
00:04:15 → 00:04:18 จากหล่อฮังก๊วยครับกลุ่มที่ 4 ให้กินสาร
00:04:18 → 00:04:22 สกัดจากหญ้าหวานซึ่งเขาปรับรสชาติปรับสี
00:04:22 → 00:04:24 ปรับกินเนี่ยให้มันเหมือนกันจนผู้เข้าทด
00:04:24 → 00:04:28 ลองเนี่ยไม่รู้ว่ากำลังกินอะไรอยู่นะครับ
00:04:28 → 00:04:32 ผลปรากฏว่าครับในทั้ง 4 กลุ่มนี้เนี่ยพบ
00:04:32 → 00:04:37 ว่ามีน้ำตาล 24 ชั่วโมงเนี่ยเข้ากันเลย
00:04:37 → 00:04:37 ครับ
00:04:37 → 00:04:41 เฮ้ยเฮ้ยหมอแบงค์ระดับน้ำตาล 24 ชั่วโมง
00:04:41 → 00:04:45 เนี่ยมันเท่ากันได้ยังไง 3 กลุ่มเนี้ยที่
00:04:45 → 00:04:47 ไม่ได้กินน้ำตาลทรายเนี่ยเขาได้รับน้ำตาล
00:04:47 → 00:04:50 น้อยกว่าอีกกลุ่มหนึ่งถึง 16 ช้อนชาเลยนะ
00:04:50 → 00:04:54 แต่ทำไมระดับน้ำตาลทรายทั้งวันถึงเท่ากัน
00:04:54 → 00:04:58 ระดับน้ำตาลในเลือดทั้งวันอ่ะเท่ากันนัก
00:04:58 → 00:05:01 วิจัยเลยให้ดูกราฟเจาะลึกลงไปครับผลปรากฏ
00:05:02 → 00:05:05 ว่ากลุ่มที่กินน้ำตาลทราย 16 ช้อนชาเนี่ย
00:05:05 → 00:05:07 หลังจะกินเข้าไปประมาณ 1 ชั่วโมงนะครับ
00:05:07 → 00:05:10 น้ำตาลก็ผู้ไป 40 จุดครับหลังจากนั้นก็ลด
00:05:10 → 00:05:13 ลงอันนี้ไม่แปลกใจนะครับไม่แปลกใจกินน้ำ
00:05:13 → 00:05:15 ตาลน้ำตาลพุ่งอยู่แล้วมาดูอีก 3 กลุ่ม
00:05:15 → 00:05:16 ครับ
00:05:16 → 00:05:21 มีคนพบว่าหลัง 1 ชั่วโมงครับน้ำตาลมั้ย
00:05:21 → 00:05:25 ขึ้นครับผมเออนะครับเพราะว่า 0 แคลอรี่นะ
00:05:25 → 00:05:30 ครับน้ำตาลไม่ขึ้นก็ถูกต้องแล้วแต่ทำไม 24
00:05:30 → 00:05:33 ชั่วโมงมันถึงวัดได้เท่ากัน
00:05:33 → 00:05:36 และนักวิจัยก็เลยให้ 4 ทั้ง 4 กลุ่มนี้นะ
00:05:36 → 00:05:39 ครับกินอาหารกลางวันเข้าไปครับแล้ววัด
00:05:39 → 00:05:43 ระดับน้ำตาลอีกรอบนึงครับผลบทว่ากลุ่มที่
00:05:43 → 00:05:46 กินน้ำตาลทรายนะครับหลังจะกินข้าวกลางวัน
00:05:46 → 00:05:49 ไปปุ๊บเนี่ยน้ำตาลก็พุ่งขึ้นปกตินะครับ
00:05:49 → 00:05:52 แล้วก็ลงมาครับก็เป็นกระบวนการทาง
00:05:52 → 00:05:54 ธรรมชาตินะกินข้าวน้ำตาลขึ้นอยู่แล้ว
00:05:54 → 00:05:58 กลุ่มแอสปาแตมเป็นไงบ้างกลุ่ม at แสตมป์
00:05:58 → 00:06:01 ครับหลังจะกินข้าวตะวันไปปุ๊บเนี่ยพบว่า
00:06:01 → 00:06:05 น้ำตาลพุ่งขึ้นสูงกลุ่มแรกอย่างมีนัยยะ
00:06:05 → 00:06:09 สำคัญครับเฮ้ยหมอแบงค์นี่อาจจะเป็นสาเหตุ
00:06:09 → 00:06:12 ที่ทำให้ 24 ชั่วโมงเนี่ยวัดได้เท่ากัน
00:06:12 → 00:06:15 แล้วมันเกิดขึ้นในกลุ่มหล่อฮังก๊วยกับ
00:06:15 → 00:06:19 กลุ่มน้ำกลุ่มหญ้าหวานด้วยหรือเปล่าแต่ผล
00:06:19 → 00:06:22 ปรากฏว่านะครับหลังจาก 2 กลุ่มเนี้ยกิน
00:06:22 → 00:06:26 อาหารกลางวันเข้าไปนะครับพบว่าน้ำตาลพุ่ง
00:06:26 → 00:06:29 ขึ้นสูงกว่ากลุ่มแรกครับแล้วก็เทียบเท่า
00:06:29 → 00:06:32 กับกลุ่มที่กินแอสปาร์แตมเลยครับโอ้โห
00:06:32 → 00:06:36 เป็นยังไงล่ะงานวิจัยนี้ครับเขาเลยสรุป
00:06:36 → 00:06:37 แบบนี้ครับ
00:06:37 → 00:06:40 เอาหญ้าหวานหรือว่าหล่อฮังก๊วยที่คุณกิน
00:06:40 → 00:06:43 เข้าไปเนี่ยอาจจะไม่ได้ทำให้น้ำตาลคุณผู้
00:06:43 → 00:06:46 ขึ้นสูงหลังจะกินครับแต่ทำให้คุณไปกิน
00:06:46 → 00:06:50 มื้อถัดไปเยอะมากขึ้นครับทำไมมันถึงเป็น
00:06:50 → 00:06:53 อย่างนั้นล่ะหมอแบงค์เพราะแบบนี้ครับเรา
00:06:53 → 00:06:55 เนี่ยพยายามจะหลอกสมองเขาว่าเราได้รับ
00:06:55 → 00:06:58 ความหวานเข้าไปแล้วแต่แคลอรี่เราไม่ได้
00:06:58 → 00:07:02 รับครับสมองเราเนี่ยฉลาดนะวิวัฒนาการเขา
00:07:02 → 00:07:07 เนี่ยฉลาดมากๆอ๋ออ๋อคุณหลอกฉันใช่ไหมได้
00:07:07 → 00:07:11 รับความหวานไปปุ๊บไม่ได้รับแคลอรี่เขาเลย
00:07:11 → 00:07:14 ชดเชยครับด้วยการให้คุณเนี่ยไปกินอีกมื้อ
00:07:14 → 00:07:18 นึงอ่ะเยอะมากขึ้นครับเป็นสาเหตุที่ว่า
00:07:18 → 00:07:21 ทำไมคุณถึงตบะแตกง่ายครับจากการกินสารให้
00:07:21 → 00:07:24 ความหวานจากยาหวานนั่นเองครับผมนักเรียน
00:07:25 → 00:07:27 หมอแบงค์ท่านนี้นะครับทานสารให้ความหวาน
00:07:27 → 00:07:30 เนี่ยมาหลายปีมากเลยครับจนน้ำหนักพุ่ง
00:07:30 → 00:07:33 ขึ้นไปสูงเป็นร้อยกิโลครับผมพอมาเข้าคลาส
00:07:33 → 00:07:35 เรียน Food Doctor ออนไลน์มาสเตอร์คลาส
00:07:35 → 00:07:38 นะครับหมอก็เริ่มจะปรับพฤติกรรมถ้าเขาไม่
00:07:38 → 00:07:42 ติดไม่เสร็จติดความหวานได้ครับไม่เกิน 2
00:07:42 → 00:07:44 อาทิตย์ครับเขาน้ำหนักลดลงมา 5 กิโลกรัม
00:07:44 → 00:07:47 ละสามารถเลิกสารให้ความหวานได้เลยครับผม
00:07:47 → 00:07:50 สรุปเนี่ยสุดท้ายแล้วเนี่ยหมอแบงค์ก็อยาก
00:07:50 → 00:07:53 จะฝากทุกคนไว้ครับสำหรับคนที่ตั้งใจลดน้ำ
00:07:53 → 00:07:56 หนักอยู่นะครับไม่ควรจะกินสารสกัดจากยา
00:07:56 → 00:07:59 หวานครับเพราะจะทำให้คุณตาบัดแตกครับ
00:07:59 → 00:08:02 กระตุ้นอินซูลินสูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
00:08:02 → 00:08:05 ครับทำให้น้ำตาล 24 ชั่วโมงสูงขึ้นเทียบ
00:08:05 → 00:08:09 เท่ากับการกินน้ำตาลทรายเลยครับผมสุดท้าย
00:08:09 → 00:08:12 นี้ถ้าหากว่าใครเคยใช้สารให้ความหวานชนิด
00:08:12 → 00:08:16 ไหนนะครับลองคอมเมนต์บอกหมอข้างใต้คลิป
00:08:16 → 00:08:19 นี้นะครับหมอแบงค์หวังว่าทุกคนจะได้รับ
00:08:19 → 00:08:22 ความสุขในการทานอาหารมากขึ้นนะครับมี
00:08:22 → 00:08:25 ชีวิตที่สมบูรณ์มากขึ้นแล้วเราเจอกันใน
00:08:25 → 00:08:27 คลิปถัดไปอยู่กับผมหมอแบงค์ดอกเกอร์แบงก์
00:08:28 → 00:08:31 Food Doctor