00:00:00 → 00:00:03 มีวิธีลดน้ำหนักสูตรตัดแป้งหรือสูตรตัดไข
00:00:03 → 00:00:08 มันแบบไหนลดน้ำหนักได้ดีกว่ากันหลายๆคนนะ
00:00:08 → 00:00:11 ครับพบก้าวเข้ามาสู่องค์กันลดน้ำหนักวง
00:00:11 → 00:00:14 การดูแลสุขภาพเนี่ยก็คงจะอดนึกสงสัยไม่
00:00:14 → 00:00:18 ได้ว่าไปทำไมสูตรลดน้ำหนักหรือสู่ดูแล
00:00:18 → 00:00:20 สุขภาพสูตรการกินเนี่ยมันมีเยอะเหลือเกิน
00:00:20 → 00:00:24 ครับบนโลกใบนี้แล้วสูตรไหนเนี่ยที่ฉันควร
00:00:24 → 00:00:27 จะเชื่อถือและทำได้ทั้งชีวิตในคลิปนี้นะ
00:00:27 → 00:00:31 ครับถ้าหากว่าคุณฟังจบคุณจะได้ข้อมูลไป
00:00:31 → 00:00:34 ช่วยคุณตัดสินใจครับว่าว่าท้ายที่สุดคุณ
00:00:34 → 00:00:38 จะเลือกสูทแบบตัดแป้งหรือสุดตัดไขมันดีนะ
00:00:38 → 00:00:41 ครับก่อนอื่นเลยหาใครชมคลิปหมอแบงค์ผ่าน
00:00:41 → 00:00:44 ทาง facebook สามารถกดติดตามได้ทางวิธี
00:00:44 → 00:00:46 การนี้ครับหากใครชมคลิปมาแบงค์พันทาง
00:00:46 → 00:00:50 YouTube สามารถกดไลค์กดติดตามและกดสั่ง
00:00:50 → 00:00:52 กระดิ่งเพื่อที่จะไม่พลาดคลิปดีๆครับผม
00:00:52 → 00:00:56 เรามาเริ่มต้นกันแบบนี้นะครับในบรรดาสูตร
00:00:56 → 00:00:59 การกินเป็นพันๆแบบบนโลกใบนี้เนี่ยเรา
00:00:59 → 00:01:02 สามารถเอ่อออกได้เป็น 2 สายหลักๆนะครับ
00:01:02 → 00:01:06 สายหนึ่งชื่อว่าสาย Low ครับหรือสายตัด
00:01:06 → 00:01:09 แป้งนั่นเองครับอีกสายหนึ่งชื่อว่าสาย Low
00:01:09 → 00:01:13 Fat หรือสายตัดไขมันนั่นเองม็อบแบงค์ขอ
00:01:13 → 00:01:15 พูดสายแรกก่อนแล้วกันนะครับที่เรียกว่า
00:01:15 → 00:01:19 สุดโลครับนั่นเองครับเวลาคุณกิโลครับครับ
00:01:19 → 00:01:22 มันย่อมาจากโลว์คาร์โบไฮเดรตครับก็คือกิน
00:01:22 → 00:01:25 คาร์บอเนตทุกชนิดให้น้อยลงนะครับแล้วกิน
00:01:25 → 00:01:29 อะไรเพิ่มขึ้นครับกินโปรตีนกับกินไขมัน
00:01:29 → 00:01:32 เพิ่มขึ้นนั่นเองครับเอาทำไมมีหลายสูตร
00:01:32 → 00:01:37 จังเลยแบงค์ขึ้นกับปริมาณของโปรตีนกับไข
00:01:37 → 00:01:40 มันครับผมบางสูตรนะครับเพิ่มโปรตีนมาก
00:01:40 → 00:01:42 หน่อยครับก็จะชื่อ High Protein Diet
00:01:42 → 00:01:46 หรือว่าชื่อคาร์นิวอร์ Diet ปาริโอ Diet
00:01:46 → 00:01:49 เป็นแบบนี้นะครับบางสูตรไขมันเยอะมาก
00:01:49 → 00:01:52 หน่อยครับก็จะชื่อว่าสุดแอดกินส์ Diet
00:01:52 → 00:01:55 สูตรคีโตเจนิคไดเอท Blood type Diet
00:01:55 → 00:01:58 เป็นแบบนี้ครับ South Beach Diet คือ
00:01:59 → 00:02:02 มันไม่สู้โอ้มายครับสุดแปลกๆมักจะอยู่ใน
00:02:02 → 00:02:05 กลุ่มของโลครับเป็นหลักนะครับก็คือต่าง
00:02:05 → 00:02:08 กันแค่สัดส่วนของโปรตีนกับไขมันคาวบอย
00:02:08 → 00:02:11 เด่นน้อยอยู่แล้วบางสูตรก็จำกัดเท่านั้น
00:02:11 → 00:02:14 เท่านี้นะครับแต่หลักๆหลักการคือแบบนี้
00:02:14 → 00:02:17 ครับวิธีคิดของกลุ่ม low ครับนะครับเขาจะ
00:02:17 → 00:02:20 อ้างอิงโมเดลนี้ครับที่ชื่อว่าอินซูลิน
00:02:20 → 00:02:23 เซ็นทริคโมเดลครับหมายความว่าว่าอะไรก็
00:02:23 → 00:02:27 ตามที่กระตุ้นอินซูลินจะทำให้เกิดกระบวน
00:02:27 → 00:02:33 การเก็บไขมันเสมออ้าอ่ะจำดีๆนะสูตรสาย Low
00:02:33 → 00:02:35 ครับเนี่ยเขาจะโทษฮอร์โมนที่ชวดอินซูลิน
00:02:35 → 00:02:38 เป็นหลักครับยิ่งสุรินทร์หลังมาเยอะหลัง
00:02:38 → 00:02:41 มาบ่อยๆเนี่ยจะเกิดภาวะดื้ออินซูลินทำให้
00:02:41 → 00:02:44 เก็บไขมันทำให้คุณอ้วนทำให้คุณเป็นโรค
00:02:44 → 00:02:46 นั่นเองครับนั่นเลยเป็นสาเหตุที่ว่าทำไม
00:02:46 → 00:02:49 กลุ่มเนี่ยเลยกลัวแป้งมากๆครับเพราะว่า
00:02:49 → 00:02:52 เนื้อแต่ว่าเค้าคิดว่าคาร์โบไฮเดรตเนี่ย
00:02:52 → 00:02:55 กระตุ้นอินซูลินมากที่สุดนั่นเองครับก็
00:02:55 → 00:02:58 เลยลดคาร์โบไฮเดรตลงมักจะทำร่วมกับการ
00:02:58 → 00:03:01 ฟาสติ้งด้วยนี่คือปล่อยท้องว่างๆเยอะ
00:03:01 → 00:03:04 เพราะว่าอะไรครับเพราะว่าจะได้ลดปริมาณ
00:03:04 → 00:03:08 อินซูลินลงอีกนั่นเองครับผมอ่ะหลายคนก็
00:03:08 → 00:03:11 เลยจะได้ยินสูตรที่ได้ว่าโลครับ I F ที่
00:03:11 → 00:03:15 โต I F ก็คือทำร่วมกับการทำ i s นั่น
00:03:15 → 00:03:18 เองเพื่อลดปริมาณอินซูลินลงแบบหนักๆเลย
00:03:18 → 00:03:21 นั่นเองครับผมวิธีลดน้ำหนักสายนี้เนี่ย
00:03:21 → 00:03:24 ไม่มีอะไรครับก็คือการตัดแป้งลงนั่นเอง
00:03:24 → 00:03:27 ครับและเพิ่มปริมาณของโปรตีนกับไขมัน
00:03:27 → 00:03:31 เพิ่มขึ้นครับผมแบงค์เคยอยู่สาย Low ครับ
00:03:31 → 00:03:33 มาก่อนครับทำเมื่อประมาณ 6 ปีก่อนธรรมะ
00:03:33 → 00:03:37 นั้นมากๆเลยครับก็ค้นพบว่าใครที่ไม่เคยทำ
00:03:37 → 00:03:39 สูตร low ครับมาเลยครับจะลดน้ำหนักได้ดี
00:03:39 → 00:03:43 มากๆเลยครับช่วงแรกๆบ่แบงค์ก็แหละทำกับคน
00:03:43 → 00:03:46 ไข้ทำกับนักเรียนทุกคนเลยครับลองไปติดตาม
00:03:46 → 00:03:49 ในคลิปเก่าๆแบงค์นะคนเข้าใจสัมภาษณ์ว่า
00:03:49 → 00:03:52 เนี่ยกินโปรตีนสูงขึ้นตัดแป้งน้อยลงนะ
00:03:52 → 00:03:55 ครับผลลัพธ์เนี่ยดีเยี่ยมเลยครับก็ไขมัน
00:03:55 → 00:03:58 ลดลงนะครับผลเลือดกลับมาดีเลยครับแต่ก็จะ
00:03:58 → 00:04:00 มีคนไข้บางกลุ่มครับแต่ผมว่ามี
00:04:00 → 00:04:03 โคเลสเตอรอลที่สูง L dl ที่สูงตามมาครับ
00:04:03 → 00:04:07 มีเรื่องของท้องผูกนะครับบางคนก็กินลมหาย
00:04:07 → 00:04:11 ใจแบบไม่สดชื่นนะครับและที่สำคัญเลยเนี่ย
00:04:11 → 00:04:14 ที่หมอแบงค์เจอนะครับก็คือเรื่องของตาม
00:04:14 → 00:04:16 บัตรแตกนั่นเองครับนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไม
00:04:16 → 00:04:20 คนทำสูตรตัดแป้งเนี่ยมักจะต้องมีชีทเดย์
00:04:20 → 00:04:23 ครับหรือว่าวันปล่อยผีครับผมคือเป็นวัน
00:04:23 → 00:04:27 ที่ฉันจะกินอะไรก็ได้แล้วก็กลับมาฟิตใหม่
00:04:27 → 00:04:30 นะครับเพราะกลับมาฟิตใหม่ก็หุ่นผอมลงแล้ว
00:04:30 → 00:04:34 ก็หลุดตบะแตกนั่นเองครับก็จะลดน้ำหนักแบบ
00:04:34 → 00:04:37 นี้อ้วนไปมีช่วงมีช่วงผอมแล้วก็มีช่วง
00:04:37 → 00:04:41 อ้วนขึ้นแบบนี้ครับก็ใครก็ตามนะครับที่ทำ
00:04:41 → 00:04:43 สูตร low ครับมาถึงประมาณครั้งที่ 4
00:04:43 → 00:04:45 ครั้งที่ 5 แล้วเนี่ยจะสังเกตได้อย่างนึง
00:04:45 → 00:04:48 ครับว่าน้ำหนักมันจะไม่ลดดีเท่ากับครั้ง
00:04:48 → 00:04:52 แรกเออเออลองสังเกตมะแล้วจะเจอจุดตันไว
00:04:52 → 00:04:55 มากครับก็ลดลงมาปุ๊บให้ทำไมมันตันนะครับ
00:04:55 → 00:04:57 เราก็เป็นรถแแป้งแล้วไปเพิ่มโปรตีนไปออก
00:04:57 → 00:04:59 กำลังกายอีกมันก็จะลดอีกนิดนึงครับแล้ว
00:04:59 → 00:05:02 มันก็จะเหมือนกันนั่นเองครับอ่ะลองสังเกต
00:05:02 → 00:05:06 ดูนะครับอันนี้คือสิ่งที่เจอของคนที่ทำ
00:05:06 → 00:05:08 low ครับนานๆนั่นเองครับบ่แบงค์ตั้งคำ
00:05:08 → 00:05:11 ถามนึงนะให้เพื่อนๆช่วยกันเดาเล่นๆนะครับ
00:05:11 → 00:05:17 ว่าระหว่างพาสต้าขาวเนี่ยต้มนะครับกับ
00:05:17 → 00:05:21 เนื้อปลานะครับต้มอันไหนกระตุ้นอินซูลิน
00:05:21 → 00:05:24 มากกว่ากันครับอ่ะลองทายดูรับระหว่าง
00:05:24 → 00:05:29 พาสต้าขาวนะครับกับกับเนื้อปลาต้มหลายคน
00:05:29 → 00:05:32 ก็คงจะนะเว้ยพาสต้ามันเป็นแป้งมันจะตุ้น
00:05:32 → 00:05:34 สุรินทร์มากกว่าปลาแน่นอนครับงานวิจัยนี้
00:05:34 → 00:05:37 นะครับชื่อว่าอินซูลิน Food index นะ
00:05:37 → 00:05:41 ครับคือเขาเอาอาหารหลายๆชนิดครับมาเทียบ
00:05:41 → 00:05:44 กับขนมปังขาวนั่นเองครับว่าจะกระตุ้น
00:05:44 → 00:05:47 อินซูลินมากหรืออินซูลินน้อยครับผมผล
00:05:47 → 00:05:49 ปรากฏว่าพาสต้าขาวนะครับกระตุ้นอินซูลิน
00:05:49 → 00:05:53 ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ครับในขณะที่ที่
00:05:53 → 00:05:57 เนื้อปลานะครับกระตุ้นอินซูลินมากถึง 59
00:05:57 → 00:05:59 เปอร์เซ็นต์ครับผมเนื้อวัวก็เช่นเดียวกัน
00:05:59 → 00:06:02 ครับถ้าคุณสุรินทร์สูงมากๆนั่นเองครับ
00:06:02 → 00:06:06 นั้นถ้าเกิดว่า Model อินซูลินเนี่ยใช้
00:06:06 → 00:06:10 ได้จริงนะครับเค้าจะต้องกลัวปลากลัวหมู
00:06:10 → 00:06:14 วัวไก่ด้วยครับเพราะว่าโปรตีนจากสัตว์
00:06:14 → 00:06:17 เนี่ยกระตุ้นอินซูลินฝูงมากนะครับพอๆกับ
00:06:17 → 00:06:21 น้ำตาลเลยครับผมโอเคไหมอันนี้ก็ทิ้งไว้
00:06:21 → 00:06:25 ให้กับทุกคนคิดแล้วกันนะครับอนาคตค่อยมา
00:06:25 → 00:06:28 เจาะลึกกันนะครับว่าเรื่องของอินซูลินมัน
00:06:28 → 00:06:32 เป็นยังไงอ่ะอ้าอันนี้คือหลักคิดของโมเดล
00:06:32 → 00:06:35 โลครับนั่นเองครับมาถึงสุด low Fat กัน
00:06:35 → 00:06:37 บ้างครับสู่ low Fat เนี่ยเขาเชื่อว่า
00:06:38 → 00:06:41 เซลล์ทุกเซลล์ร่างกายของเรานะครับใช้พลัง
00:06:41 → 00:06:45 งานจากน้ำตาลเป็นหลักครับโดยเฉพาะเซลล์
00:06:45 → 00:06:48 สมองครับใช้พลังงานจากอันอื่นๆไม่ได้เลย
00:06:48 → 00:06:51 ครับใช้ได้แค่แค่น้ำตาลเป็นหลักครับผม
00:06:51 → 00:06:54 หลายคนก็มีข้อโต้แย้งมาแล้วว่าหมอแบงค์
00:06:54 → 00:06:58 แล้วแล้วคนที่ทำสูตร shito เนี่ยสมองเขา
00:06:58 → 00:07:01 ก็ใช้จัก ketones ได้ไม่ใช่มีคำตอบคือใช่
00:07:01 → 00:07:04 ครับเพราะว่าสมองเขาปรับตัวนั่นเองครับ
00:07:04 → 00:07:06 แต่พลังงานหลักของสมองเนี่ยยังไงก็ต้อง
00:07:06 → 00:07:10 เป็นน้ำตาลครับเลยจะสังเกตเห็นว่าในกลุ่ม
00:07:10 → 00:07:12 คนที่ไม่กินแป้งนะครับกับแป้งน้อยมากๆ
00:07:12 → 00:07:16 ครับสมองเขาเนี่ยใช้คีย์ตนเป็นหลัก 75%
00:07:16 → 00:07:20 ครับแต่อีก 25% เนี่ยยังไงก็ต้องเป็นน้ำ
00:07:20 → 00:07:23 ตาลครับซึ่งตับแล้วเนี่ยทำหน้าที่แบบว่า
00:07:23 → 00:07:27 ผลิตน้ำตาลให้อ่ะสมองนะครับโดยการเปลี่ยน
00:07:27 → 00:07:29 โปรตีนแล้วก็เปลี่ยนไขมันเนี่ยมาเป็นพลัง
00:07:29 → 00:07:32 งานน้ำตาลให้กับสมองครับเพราะสมองเราขาด
00:07:32 → 00:07:35 น้ำตาลไม่ได้อ้าวแบบนี้นะครับต่อให้คุณ
00:07:35 → 00:07:39 กินแป้งน้อยขนาดไหนสมองคุณก็ยังจะต้องได้
00:07:39 → 00:07:42 รับน้ำตาลอยู่ดีนั่นเองครับส่วนโมเดลของ
00:07:42 → 00:07:45 กลุ่ม low Fat นะครับเขาเชื่อว่าการกิน
00:07:45 → 00:07:49 ไขมันเข้าไปเนี่ยมันจะพุ่งตรงไปสู่เซลล์
00:07:49 → 00:07:53 เลยครับผมถ้าเกิดว่าไขมันที่คุณกินเท่า
00:07:53 → 00:07:56 ไหร่ครับมันไปสู่เซลล์ไขมันก็จะทำให้คุณ
00:07:56 → 00:07:58 อ้วนขึ้นมานั่นเองครับเพราะว่ามันไปสะสม
00:07:58 → 00:08:01 ตามภูมิตามต้นขานี้นะครับก็ทำให้คุณอ้วน
00:08:01 → 00:08:04 ขึ้นมาถ้าเกิดว่าไขมันเนี่ยมันไปสะสมใน
00:08:04 → 00:08:08 เซลล์ของตับสะสมในเซลล์ของกล้ามเนื้ออัน
00:08:08 → 00:08:11 นี้จะทำให้เกิดโรคเบาหวานขึ้นมาครับเกิด
00:08:11 → 00:08:14 ภาวะดื้ออินสุลินขึ้นมาครับนั่นเป็น
00:08:14 → 00:08:17 สาเหตุที่ว่าทำไมสมาคมโรคเบาหวานแห่ง
00:08:17 → 00:08:21 ประเทศไทยครับที่เพิ่งประชุมกันไปเมื่อปี
00:08:21 → 00:08:25 2563 ครับเขาจัดเนื้อแดงหรืออาหารไขมัน
00:08:25 → 00:08:29 สูงเนี่ยเป็นความเสี่ยงเบาหวานเพิ่มขึ้น
00:08:29 → 00:08:33 เห็นไหมครับแล้วกลุ่มไหนล่ะที่ลดความ
00:08:33 → 00:08:36 เสี่ยงเบาหวานอ่าอะลองดูนะครับบรรทัดบน
00:08:36 → 00:08:40 เลยครับคือสูตรอาหารแบบ low-fat แผ่นเบส
00:08:40 → 00:08:43 นั่นเองครับมีอาหารหลักมาจากธัญพืชนะครับ
00:08:43 → 00:08:47 ถั่วถั่วแล้วก็ผักผลไม้เป็นหลักอันนี้ทำ
00:08:47 → 00:08:50 ให้เบาหวานลดหลายคนเข้าใจผิดนะครับว่า
00:08:50 → 00:08:54 ผลไม้ทำให้เบาหวานเพิ่มเพราะกลัวน้ำตาล
00:08:54 → 00:08:56 จริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับผลไม้นี่แหละเป็น
00:08:56 → 00:09:00 ตัวลดความเสี่ยงเบาหวานแต่พี่ตาลแปรรูป
00:09:01 → 00:09:03 ต่างหากครับที่เพิ่มความเสี่ยงเบาหวาน
00:09:03 → 00:09:06 ห้ามเอามารวมกันนะครับอันนี้นะว่าเดี๋ยว
00:09:06 → 00:09:08 มาแบงค์ค่อยทำคลิปเจาะลึกเรื่องเกี่ยวกับ
00:09:08 → 00:09:11 เบาหวานให้ทุกคนเข้าใจง่ายอีกทีนึงนะครับ
00:09:11 → 00:09:13 อ่ะเรากลับมาที่โมเดลของ low Fat ครับ
00:09:13 → 00:09:16 นักวิทยาศาสตร์ก็สงสัยว่าเฮ้ยเวลาที่คุณ
00:09:16 → 00:09:19 กินกินไขมันเข้าไปหรือกินน้ำตาลเข้าไป
00:09:19 → 00:09:22 เนี่ยไอ้แบบไหนมันจะสะสมแล้วก็ทำให้คุณ
00:09:22 → 00:09:25 อ้วนมากกว่ากันอ้าคนอยากรู้ไหมนัก
00:09:25 → 00:09:27 วิทยาศาสตร์ครับเขาก็สงสัยประเด็นนี้
00:09:28 → 00:09:30 เหมือนกันครับเขาเลยนำน้ำมันเนี่ยมาติด
00:09:30 → 00:09:34 สารกัมมันตภาพรังสีครับแล้วดูว่าน้ำมัน
00:09:34 → 00:09:36 ที่เรากินป่ะเนี่ย 100 หน่วยมันไปที่ไหน
00:09:37 → 00:09:40 บ้างผลปรากฏว่าครับน้ำมัน 100 หน่วยเนี่ย
00:09:40 → 00:09:44 ถูกร่างกายผ่านไป 45 หน่วยครับอีก 55
00:09:44 → 00:09:48 หน่วยเนี่ยแบ่งเป็น 50% ครับไปที่ภูมิ
00:09:48 → 00:09:52 นั่นเองครับอีก 40% ไปที่ต้นขาครับแล้ว 10
00:09:52 → 00:09:55 เปอร์เซ็นตรงไปที่ไขมันในช่องท้องนั่นเอง
00:09:55 → 00:09:58 ครับคุณจะเห็นได้ว่าน้ำมันส่วนใหญ่นะครับ
00:09:58 → 00:10:01 ที่กินเข้าไปเนี่ยมันอยู่ตรงไปยังเซลล์
00:10:01 → 00:10:04 ต่างๆไปสะสมเลยครับอาจารย์ขอหมอนะครับ
00:10:04 → 00:10:06 Doctor John มักดูก่อนเนี่ยก็เลยมักจะ
00:10:06 → 00:10:09 พูดติดปากคำว่า the flash you is the
00:10:09 → 00:10:12 flash you wear ครับหมายความว่าใครมัน
00:10:12 → 00:10:14 ที่คุณกินไปนั่นแหละมันจะเข้าไปสะสมใน
00:10:14 → 00:10:18 ร่างกายเราทำดีคือใครมาที่คุณสวมใส่นั่น
00:10:18 → 00:10:21 แหละนะครับเข้านี้คนก็เริ่มสงสัยนะครับ
00:10:21 → 00:10:24 ว่าเออหมอแบงค์แล้วน้ำตาลที่กินเข้าไป
00:10:24 → 00:10:27 เนี่ยมันกระจายไปสูบแบบนี้ด้วยมั้ยเอ้อ
00:10:27 → 00:10:30 มันสะสมแบบนี้ด้วยหรือเปล่างานวิจัยนี้
00:10:30 → 00:10:33 ครับก็เลยนำน้ำตาลครับติดสาร
00:10:33 → 00:10:35 กัมมันตภาพรังสีเช่นเดียวกันครับแล้วเขา
00:10:35 → 00:10:40 ค้นพบว่าในมื้ออาหารมื้อนึงปกติของเรานะ
00:10:40 → 00:10:43 ครับจะมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่น้อยกว่า 1
00:10:43 → 00:10:45 เปอร์เซ็นต์ครับเปลี่ยนไปเป็นไขมันครับผม
00:10:45 → 00:10:48 ส่วนใหญ่และคาร์โบไฮเดรตเนี่ยจะถูกเผา
00:10:48 → 00:10:51 ผ่านออกเกือบหมดเลยครับหมอแบงค์ทำไมร่าง
00:10:51 → 00:10:54 กายถึงเป็นแบบนั้นล่ะกินไขมันปุ๊บตรงไป
00:10:54 → 00:10:57 เก็บเป็นไขมาเลยแต่ทำไมกินคาร์โบไฮเดรต
00:10:57 → 00:11:00 ไม่ค่อยเปลี่ยนเป็นไขมัน
00:11:00 → 00:11:02 การวิจัยนี้ตอบคำถามนี้ให้กับคุณเลยครับ
00:11:02 → 00:11:06 เพราะแบบนี้ครับงานวิจัยนี้บอกว่าการ
00:11:06 → 00:11:09 เปลี่ยนอาหารที่เป็นไขมันเป็นเซลล์ไขมัน
00:11:09 → 00:11:12 ครับใช้พลังงานน้อยกว่าการเปลี่ยนอาหาร
00:11:12 → 00:11:15 ที่มาจากคาร์โบไฮเดรตเป็นเซลล์ไขมันครับ
00:11:15 → 00:11:19 เนื่องจากว่าน้ำมันกับไขมันมันรูปร่าง
00:11:19 → 00:11:22 คล้ายๆกันครับร่างกายจะใช้พลังงานในการ
00:11:22 → 00:11:26 เปลี่ยนแค่ 3 กิโลแคลอรีต่อ 100 แคลอรี่
00:11:26 → 00:11:29 ที่เปลี่ยนครับผมซึ่งมันน้อยมากๆแต่การจะ
00:11:29 → 00:11:32 เปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตครับให้เป็นเซลล์ขาย
00:11:32 → 00:11:36 มันเนี่ยคุณจะต้องใช้พลังงานมากถึง 23
00:11:36 → 00:11:40 แคลอรี่ต่อ 100 kcal ครับคือจะสังเกตได้
00:11:40 → 00:11:43 ว่าว่าจะเปลี่ยนแป้งเป็นเซลล์ขายมันครับ
00:11:43 → 00:11:45 ร่างกายมันใช้พลังงานเยอะตั้งแต่เราถูก
00:11:46 → 00:11:48 ออกแบบมาให้ให้มันขี้เกียจครับมันจะเลือก
00:11:48 → 00:11:53 ทางที่สบายเสมอครับเพราะฉะนั้นคุณไม่ต้อง
00:11:53 → 00:11:56 ห่วงเลยครับถ้าคุณกินคาร์โบไฮเดรตร่างกาย
00:11:56 → 00:12:00 ส่วนใหญ่จับเผาผาญก่อนเอาไปเก็บนะครับผม
00:12:00 → 00:12:03 ถ้าคุณไม่ได้กินเยอะมากจริงๆนะครับแต่ว่า
00:12:03 → 00:12:06 วันนึงเป็นพันกิโลแคลอรีที่เกิดขึ้นมาจาก
00:12:06 → 00:12:10 น้ำตาลเนี่ยส่วนใหญ่แล้วจะไม่ไปเก็บเป็น
00:12:10 → 00:12:13 ไขมันครับแต่ไขมันที่คุณกินเข้าไปครับยัง
00:12:13 → 00:12:16 ไงก็ตามครับมันตรงเข้าไปสู่เซลล์ไขมันเลย
00:12:16 → 00:12:20 ทันทีครับผมเรามาพูดถึงงานวิจัยกันบ้าง
00:12:20 → 00:12:22 ล่ะแล้วงานวิจัยบนโลกเนี่ยเขาพูดว่ายังไง
00:12:22 → 00:12:24 บ้างเกี่ยวกับเรื่องของ low Fat กับ
00:12:24 → 00:12:28 โลคาบเนี่ยเออเค้าพูดยังไงบ้างหมอแบงค์
00:12:28 → 00:12:31 บอกทุกคนแบบนี้นะครับว่างานวิจัยเนี่ยมัน
00:12:31 → 00:12:33 มีทั้ง 2 ฝั่งเลยครับว่าว่าสูตร low ครับ
00:12:33 → 00:12:36 ดีกว่านะครับสูตร low Fat ดีกว่าถ้าคุณ
00:12:36 → 00:12:39 ไปเสิร์ทครับมันก็จะมีแบบโต้แย้งกันไปโต
00:12:39 → 00:12:41 อย่างกันมานะครับสูตรนี้ก็จะบอกโลครับดี
00:12:41 → 00:12:43 กว่าส่วนนี้ low Fat ดีกว่าบ่แบ่งให้
00:12:43 → 00:12:46 วิธีคิดนะครับในการดูดูเรื่องของงานวิจัย
00:12:46 → 00:12:50 อยู่ 2 เรื่องครับเรื่องแรกครับเวลาที่
00:12:50 → 00:12:53 งานวิจัยหรือคนพูดคำว่าโลครับหรือ low
00:12:53 → 00:12:56 Fat ขึ้นมาเนี่ยให้คุณลองเข้าไปดูใน
00:12:56 → 00:12:59 เนื้อในจริงๆด้วยครับว่าโลครับของเขา
00:12:59 → 00:13:03 เนี่ยเขามีอะไรกินกินไขมันจากไหนนะครับ
00:13:03 → 00:13:07 ถ้ากินกินไม่ Healthy กินเบคอนกินจากพวก
00:13:07 → 00:13:10 น้ำมันหมูก็เข้าไปเลยเนี้ยแน่นอนว่าสูตร
00:13:10 → 00:13:12 low ครับนั้นเป็นสูตร low ครับที่แยก
00:13:12 → 00:13:15 โอเคไหมสู่ low Fat เช่นเดียวกันครับ
00:13:15 → 00:13:18 ต้องไปดูข้างในครับว่าเขากินคาร์โบไฮเดรต
00:13:18 → 00:13:21 จากอะไรครับกินจากน้ำอัดลมเลยไม่กินแต่
00:13:21 → 00:13:23 คุกกี้เลยไหมหรือว่ากินกากน้ำตาลไหมถ้า
00:13:24 → 00:13:25 อย่างนั้นเนี่ยสูตร low Fat ก็แย่เช่น
00:13:25 → 00:13:29 เดียวกันครับก็นั้นเขาก็สามารถดีไซน์งาน
00:13:29 → 00:13:31 วิจัยให้มันชนะกันไปชนะกันมาได้แบบนี้
00:13:31 → 00:13:34 ครับสิ่งที่ 2 ที่คุณจะต้องดูเลยคำว่างาน
00:13:34 → 00:13:37 วิจัยเขาเนี่ยได้รับเงินสนับสนุนจากองค์
00:13:37 → 00:13:41 การไหนนะครับเป็นองค์การของรัฐองค์การของ
00:13:41 → 00:13:45 ชาติหรือเปล่าหรือเป็นองค์การจากจาก
00:13:45 → 00:13:48 บริษัทยาบริษัทอาหารที่ขายเนื้อขายไข่
00:13:48 → 00:13:51 หรือเปล่าอ่ะแบบนี้นะครับงานวิจัยมันก็จะ
00:13:51 → 00:13:54 ลดความน่าเชื่อถือลงนะครับเพราะเขาสามารถ
00:13:54 → 00:13:56 ดีไซน์งานวิจัยออกผลงานวิจัยตามที่เขา
00:13:56 → 00:14:00 ต้องการได้ครับผมอ่ะมาดูกันครับอยู่บ่
00:14:00 → 00:14:03 แบงค์ก็เลยคัดสรรงานวิจัยที่น่าตื่นเต้น
00:14:03 → 00:14:07 แล้วก็ที่น่าเชื่อถือมาให้ทุกคนดูนะครับ
00:14:07 → 00:14:10 แบงค์บอกเลยนะงานวิจัยนี้หมอแบงค์ซื้อมา
00:14:10 → 00:14:13 นะครับในมูลค่าพันกันไปแล้วพันบาทเลยนะ
00:14:13 → 00:14:17 ครับมันแพงมากๆเลยก็งานวิจัยนี้นะครับเขา
00:14:17 → 00:14:20 เปรียบเทียบกันระหว่าง Healthy คีโตเจนิค
00:14:20 → 00:14:23 ไดเอทอ่ามาเป็นตัวแทนของสูตร low ครับ
00:14:23 → 00:14:27 นั่นเองครับมาสู้กับ Healthy low Fat
00:14:27 → 00:14:29 Diet หรือที่เรียกว่า whole Food แผ่น
00:14:29 → 00:14:32 based Diet นั่นเองครับวัดตกลงแล้วอะไร
00:14:32 → 00:14:35 มันดีกว่ากันนะครับโดยเขาเอาอาสาสมัครนะ
00:14:35 → 00:14:38 ครับเข้ามาแอดมิดในโรงพยาบาลเลยครับผมโดย
00:14:38 → 00:14:42 ที่ทำอาหารให้กินเลยครับตามสูตรอ่ะอันนี้
00:14:42 → 00:14:45 เป็นตัวอย่างอาหารนะครับของสูตรสาย
00:14:45 → 00:14:47 Healthy คีโตนะครับก็จะมีผักรวมด้วยครับ
00:14:47 → 00:14:50 แล้วก็จะมีไข่มีเนื้อเนื้อสัตว์เป็นหลัก
00:14:50 → 00:14:53 นะครับนี่อันนี้เป็นอาหารของกลุ่ม Healthy
00:14:53 → 00:14:57 คีโตนะครับทำอาหารให้กินเลยอันนี้เป็น
00:14:57 → 00:15:01 อาหารของกลุ่มมโฮโฟล์คแผ่นเบสนะอ่านี่
00:15:01 → 00:15:04 ครับเป็นแบบนี้เลยดูกันเลยครับว่า
00:15:04 → 00:15:07 แอดมิดในโรงพยาบาลเนี่ยชั่งน้ำหนักและวัด
00:15:07 → 00:15:12 ไขมันเนี่ยเป็นยังไงบ้างผลปรากฏว่ากลุ่ม
00:15:12 → 00:15:15 low ครับนะครับสามารถลดน้ำหนักได้เร็ว
00:15:15 → 00:15:19 มากกว่ากลุ่ม low Fat ครับผมโอ้โหนะครับ
00:15:19 → 00:15:21 หลายคนมาฟังแบบนี้แล้วเราอยากลดน้ำหนัก
00:15:21 → 00:15:24 เร็วไปสู่โลครับเลยดีกว่ามาวางบอกช้าก่อน
00:15:25 → 00:15:28 ช้าก่อนนะครับโหลครับเนี่ยสามารถลดน้ำ
00:15:28 → 00:15:31 หนักได้เร็วกว่า low Fat จริงครับแต่พอ
00:15:31 → 00:15:33 เรามาดูเนื้อข้างในครับว่าน้ำหนักที่ลดลง
00:15:33 → 00:15:37 มาเนี่ยเป็นอะไรปรากฏว่าสูตร low ครับน้ำ
00:15:37 → 00:15:39 หนักที่ลดไปหลักๆเลยเนี่ยช่วงแรกๆเลยนะ
00:15:39 → 00:15:43 ครับเป็นน้ำกับกล้ามเนื้อเป็นหลักครับ
00:15:43 → 00:15:46 ส่วน low Fat ครับน้ำหนักๆที่เขาลดลงมา
00:15:46 → 00:15:50 เนี่ยเป็นจากมวลไขมันนั่นเองครับอ่านะ
00:15:50 → 00:15:53 ครับนะครับเพราะฉะนั้นเราอย่าดูแค่น้ำ
00:15:53 → 00:15:56 หนักตัวที่ลดลงไปนะครับผม
00:15:56 → 00:15:59 เรามาดูงานวิจัยนี้กันบ้างครับก็น่าเชื่อ
00:15:59 → 00:16:01 ถือเช่นเดียวกันครับเขาทำในคีโตเจนิค
00:16:01 → 00:16:04 ไดเอทเหมือนกันครับในช่วงเดือนแรกเนี่ย
00:16:04 → 00:16:07 น้ำหนักลงเร็วมากครับฝึกหวยเนี่ยลงเร็ว
00:16:07 → 00:16:11 เลยเห็นไหมครับตามกราฟแต่มาดูเนื้อในอีก
00:16:11 → 00:16:14 เช่นเคยครับผลปรากฏว่าเพื่อนน้ำหนักที่ลด
00:16:14 → 00:16:17 ลงไปเนี่ยมันเป็นไขมันซะน้อยนะส่วนใหญ่
00:16:17 → 00:16:22 เป็นน้ำกับกล้ามเนื้อครับผมเออมันสอด
00:16:22 → 00:16:24 คล้องอีกกับอย่างงานวิจัยหนึ่งเช่นกัน
00:16:24 → 00:16:27 ครับก็คือเอานักกีฬาคอร์สฟิตมาทำสูตรคีโต
00:16:27 → 00:16:30 เจนิคไดเอทครับผลก็กดว่าภายในระยะเวลา 2
00:16:30 → 00:16:33 เดือนนะครับกล้ามเนื้อน่องขาของเขาเนี่ย
00:16:33 → 00:16:37 หดตัวเล็กลงไป 8% ครับก็คือเขาสูญเสีย
00:16:37 → 00:16:39 กล้ามเนื้อไปเพิ่มขึ้นนั่นเองหมอแบงค์ก็
00:16:39 → 00:16:42 เลยแนะนำคุณแบบนี้ครับว่าถ้าเกิดใครจะทำ
00:16:42 → 00:16:45 สูตร low ครับหรือสูตรตัดแป้งนะครับให้
00:16:45 → 00:16:48 คุณทำในระยะสั้นจะลดน้ำหนักได้เร็วครับ
00:16:48 → 00:16:51 อย่างเช่นอาทิตย์หน้าเนี่ยเออคุณมีงาน
00:16:51 → 00:16:53 แต่งและหรืออาทิตย์หน้าน่าจะต้องไปเจอคน
00:16:53 → 00:16:56 สำคัญและอยากลดน้ำหนักแบบเร็วเลยเอาตัว
00:16:56 → 00:16:59 เลขในตาก็ต้องเป็นหลักนะครับก็ทำ low
00:16:59 → 00:17:02 ครับได้เช่นกันครับแต่ว่าหมอแบงค์ไม่แนะ
00:17:02 → 00:17:06 นำทำระยะยาวครับผมเนื่องจากว่ามีงานวิจัย
00:17:06 → 00:17:09 แบบมากมายนะครับอันนี้คือเป็นในทิศทาง
00:17:09 → 00:17:13 เดียวกันเลยครับว่าการทำ low ครับระยะยาว
00:17:13 → 00:17:16 ครับจัดส่งผลเสียกับสุขภาพของคุณมากครับ
00:17:16 → 00:17:20 ผมจะทำให้อัตราการตายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย
00:17:20 → 00:17:23 ยะสำคัญครับถ้าเกิดทำระยะยาวนะครับบ่
00:17:23 → 00:17:25 แบงค์ก็เลยบอกว่าไอ้คนที่ทำสูตร low ครับ
00:17:25 → 00:17:27 อยู่เนี่ยระยะยาวเนี่ยควรจะเปลี่ยนมาเป็น
00:17:28 → 00:17:31 low Fat เพื่อดูแลสุขภาพได้แล้วนะครับ
00:17:31 → 00:17:36 พอแบงค์แล้วมีงานวิจัยระยะยาวของสูตร low
00:17:36 → 00:17:39 Fat บ้างไหมอ่าอ้านะครับงานวิจัยนี้นะ
00:17:39 → 00:17:41 ครับชื่อว่าบ่สตาร์ทดี้นะครับผู้วิจัย
00:17:41 → 00:17:43 เนี่ยเป็นนักวิจัยชาวนิวซีแลนด์นะครับเขา
00:17:43 → 00:17:47 ก็เอ่ออยากรู้ผลผลระยะยาวการลดน้ำหนักการ
00:17:47 → 00:17:50 ลดไขมันของ whole Food แผ่นเบสเนี่ยเป็น
00:17:50 → 00:17:53 ยังไงนะครับก็ผลปรากฏว่านะครับงานวิจัย
00:17:53 → 00:17:56 เนี้ย 3 เดือนนะครับเค้าแนะนำให้คนที่ขี้
00:17:56 → 00:17:59 มีงานวิจัยเนี่ยคุณกินได้จนอิ่มอาไม่
00:17:59 → 00:18:03 จำกัดแคลอรีนะครับกินได้จนกว่าคุณจะพอใจ 3
00:18:03 → 00:18:06 เดือนผ่านไปครับคนที่ทำสูตร whole Food
00:18:06 → 00:18:09 แผ่น Base เนี่ยน้ำหนักลดไปมากถึง 19
00:18:09 → 00:18:12 ปอนด์หรือประมาณ 8 กิโลกว่านั่นเองครับ
00:18:12 → 00:18:15 ซึ่งเยอะมากๆนะครับแล้วก็งานวิจัยก็เสร็จ
00:18:15 → 00:18:18 สิ้นไปประมาณ 3 เดือนครับหลังจากนั้นเขา
00:18:18 → 00:18:21 ก็แนะนำคนที่เข้าร่วมงานวิจัยเนี่ยบอกว่า
00:18:21 → 00:18:24 เออคุณก็ไปกินแบบของคุณน่ะตามที่แนะนำไป
00:18:24 → 00:18:27 แล้วก็นัดมาอีกที 6 เดือนครับผลปรากฏว่า
00:18:27 → 00:18:31 ว่าน้ำหนักเขาลดเพิ่มครับกลายเป็น 27
00:18:31 → 00:18:34 ปอนด์นั่นเองครับหรือประมาณ 12 กิโลกรัม
00:18:34 → 00:18:38 กว่าครับผมขูนี้ 6 เดือนแล้วนะยังไม่ยัง
00:18:38 → 00:18:40 ไม่นำใจครับนักวิจัยชาวนิวซีแลนด์เนี่ย
00:18:40 → 00:18:44 เขาก็นัดมาปีนึงนะครับว่าแล้วปีนึงยังจะ
00:18:44 → 00:18:47 คงน้ำหนักได้อยู่ไหมเออไอ้สุด low Fat
00:18:47 → 00:18:50 Healthy เนี่ยยังคงน้ำหนักได้อยู่ไหนผล
00:18:50 → 00:18:54 ปรากฏวันหนึ่งปีผ่านไปครับผู้เข้าร่วมงาน
00:18:54 → 00:18:57 วิจัยครับยังสามารถคงน้ำหนักไปที่จุดเดิม
00:18:57 → 00:19:02 โดยไม่มีตบะแตกเลยครับผมอ้านะครับปรบมือ
00:19:02 → 00:19:04 ให้กับบอท start ดีนะครับเดี๋ยวหมอทิ้ง QR
00:19:04 → 00:19:07 Code นะครับใครอยากไปตามอ่านก็ตามไปอ่าน
00:19:07 → 00:19:10 ได้เลยนะครับซึ่งจากงานวิจัยหรือจากทฤษฎี
00:19:10 → 00:19:13 ที่เราคุยกันมาตั้งแต่ต้นคลิปเนี่ยนั่น
00:19:13 → 00:19:16 เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมคลาสเรียน Food
00:19:16 → 00:19:18 Doctor ออนไลน์มาสเตอร์คลาสของหมอแบงค์
00:19:18 → 00:19:22 นะครับถึงออกแบบให้เป็น whole Food แผ่น
00:19:22 → 00:19:24 based Diet ครับหรืออาหารจากธรรมชาติ
00:19:24 → 00:19:27 นั่นเองครับก็เลยมีนักเรียนหลายท่านนะ
00:19:27 → 00:19:30 ครับที่มาจากสูตร low ครับนะครับอยาก
00:19:30 → 00:19:33 เปลี่ยนสายมาสายสุขภาพอยากดูแลระยะยาวนะ
00:19:33 → 00:19:37 ครับไม่อยากตบะแตกอีกต่อไปแล้วอ่าก็เลย
00:19:37 → 00:19:41 เลือกสายนี้ครับผมอ่ะมาดูนักเรียนท่านนี้
00:19:41 → 00:19:44 ของหมอนะครับบอกว่าฟังเรื่องการทานอาหาร
00:19:44 → 00:19:47 สุขภาพมาเยอะมากมีข้อขัดแย้งกันเองนะครับ
00:19:47 → 00:19:50 ไม่รู้จะเชื่อใครดีนะตอนนี้มีหมอเป็นผู้
00:19:50 → 00:19:52 นำทางคงไม่ต้องหลงทางอีกแล้วนะครับที่
00:19:52 → 00:19:55 ผ่านมาสับสนมากเห็นไหมครับข้อมูลในโลก
00:19:55 → 00:19:58 อยู่ปัจจุบันจะทำให้คนสับสนเยอะจริงๆนะ
00:19:58 → 00:20:01 ครับอย่างเช่นพี่ท่านนี้นะครับสิ่งที่ได้
00:20:01 → 00:20:04 เรียนนะครับในวันนี้ต่างอย่างสิ้นเชิงเลย
00:20:04 → 00:20:08 กับที่รู้มาค่ะเป็นคนชอบทานผลไม้และถั่ว
00:20:08 → 00:20:11 มากแต่กังวลเรื่องของน้ำตาลที่นี้จะกิน
00:20:11 → 00:20:14 ของที่ชอบได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิดอีกต่อไป
00:20:14 → 00:20:17 แล้วอ่ะอ่าอ่ะขอบคุณค่ะนี่เป็นไงครับที่
00:20:17 → 00:20:20 ท่านนี้พี่ท่านนี้ครับบอกว่าเหมือนกันเลย
00:20:20 → 00:20:24 ค่ะเข้าคอร์สลดน้ำหนักมาหลายรอบมากๆ Yoyo
00:20:24 → 00:20:27 มาตลอดเสียเงินทุกครั้งเสียเวลาทุกครั้ง
00:20:27 → 00:20:30 นะครับแล้วก็รู้สึกท้อหลายครั้งเลยครั้ง
00:20:30 → 00:20:32 นี้คือครั้งสุดท้ายและยั่งยืนตลอดไปค่ะ
00:20:32 → 00:20:36 ขอบคุณมากค่ะนี่นะครับคุณมีเยอะมากๆครับ
00:20:36 → 00:20:39 โชคดีที่ได้เจอคิดคุณหมอใน YouTube ดูจบ
00:20:39 → 00:20:41 ตัดสินใจสมัครเลยทั้งๆที่ยังเทรนออนไลน์
00:20:41 → 00:20:44 สาย Low ครับได้เอ็ดอยู่เห็นไหมเรียนตาม
00:20:44 → 00:20:47 คู่มือคุณหมอสอนไว้ไม่กี่ module ครับคิด
00:20:47 → 00:20:49 ในใจว่าเรามาถูกทางแล้วจริงๆขุมทรัพย์
00:20:49 → 00:20:53 สุขภาพดีและยั่งยืนค่ะขอบคุณคุณหมอที่
00:20:53 → 00:20:57 เปิดคลาสสุขภาพหลักล้านให้นะคะนี้พี่เทพ
00:20:57 → 00:21:00 เป็นไงครับคุณพี่ทุกท่านลดลงมากันคนละ 4-5
00:21:00 → 00:21:03 โลกันหมดแล้วนะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยหมอ
00:21:03 → 00:21:06 แบงค์ก็เลยอยากจะแนะนำทุกคนแบบนี้ครับคุณ
00:21:06 → 00:21:10 ทำ low ครับอยู่โอเคครับแต่ว่าว่าให้รู้
00:21:10 → 00:21:13 ว่าทำระยะสั้นเท่านั้นครับถ้าเกิดคุณ
00:21:13 → 00:21:17 จำเป็นจะต้องมาทำซ้ำแล้วซ้ำอีกซ้ำแล้วซ้ำ
00:21:17 → 00:21:21 อีกต้องมีช่วงตบะแตกหมอว่าคุณควรเปลี่ยน
00:21:21 → 00:21:25 มาสูตร low Fat มากกว่าครับเพราะว่าคุณ
00:21:25 → 00:21:27 จะไม่ต้องรู้สึกสะบัดแตกไม่ต้องรู้สึกผิด
00:21:27 → 00:21:30 เวลากินแป้งอีกเลยครับผมสุดท้ายนี้นะครับ
00:21:30 → 00:21:34 ทุกคนเคยผ่านกระบวนการลดน้ำหนักแบบไหนมา
00:21:34 → 00:21:37 บ้างครับช่วยคอมเม้นต์ลงใต้คลิปนี้ให้หมอ
00:21:37 → 00:21:41 แบงค์รับรู้นิดนึงครับว่าเราเคยเป็น
00:21:41 → 00:21:43 เพื่อนกันมาก่อนนะครับหมอแบงค์ก็เคยลอง
00:21:43 → 00:21:47 สูตรมามากมายครับจนมาจบสาย Healthy low
00:21:47 → 00:21:50 Fat นี่ล่ะครับผมหมอแบงค์ต้องขอขอบพระ
00:21:50 → 00:21:53 คุณอาจารย์สาย whole Food แผ่นเบสของหมอ
00:21:53 → 00:21:56 ทุกท่านเลยนะครับหนังสือของท่านทุกหมอนะ
00:21:57 → 00:21:59 ครับหมอแบงค์เนี่ยอ่านแล้วก็เอามาย่อยลง
00:21:59 → 00:22:02 มากลายเป็นคลิปมาเป็นคลาสเรียนลดน้ำหนัก
00:22:02 → 00:22:05 ให้กับนักเรียนของประเทศไทยนั่นเองครับ
00:22:05 → 00:22:08 บ่วางว่าหวังว่าทุกคนเนี่ยจะมีความสุขมาก
00:22:08 → 00:22:11 ขึ้นนะครับจากการที่ได้เรียนรู้วิชาด้าน
00:22:11 → 00:22:15 สุขภาพครับผมและเราเจอกันในคลิปถัดไปอยู่
00:22:15 → 00:22:20 กับผมหมอแบงค์ดอกเกอร์แบงก์ Food Doctor