00:00:03 → 00:00:05 สวัสดีค่ะทุกคนตอนนี้ซ้าอยู่ที่เชล
00:00:05 → 00:00:07 ช็อกโกแลตนะคะเชื่อว่าหลายๆคนน่ะต้องมี
00:00:07 → 00:00:09 ช็อกโกแลตอ่ะเป็นอาหารจุดโปรดแน่นอนแต่
00:00:09 → 00:00:12 ทุกคนรู้ไหมคะว่าจริงๆแล้วช็อกโกแลตอ่ะ
00:00:12 → 00:00:14 มันช่วยลดรอยเหวย่นบนใบหน้าได้ด้วย
00:00:14 → 00:00:17 สัปดาห์นี้ค่ะฟ้าจะพาทุกคนเนี่ยไปทำความ
00:00:17 → 00:00:19 รู้จักกับประโยชน์ของช็อกโกแลตกับสุขภาพ
00:00:19 → 00:00:22 ผิวของเรากันค่ะตามไปเลยอันดับแรกนะคะเรา
00:00:22 → 00:00:25 มาทำความรู้จักว่าช็อกโกแลตกับโกโก้หรือ
00:00:25 → 00:00:28 ว่าคาคาอ่ะมันเหมือนหรือต่างกันยังไงที่
00:00:28 → 00:00:31 มาที่ไปทั้งหมดเนี่ยมันมาจากผลของพืชชนิด
00:00:31 → 00:00:37 นึงค่ะชื่อ Tea คาคาซึ่งบมเนี่ยรากภาษา
00:00:37 → 00:00:39 เลยเนี่ยเขาบอกว่าแปลว่าอาหารของพระเจ้า
00:00:39 → 00:00:41 เพราะว่า to เนี่ยแปลว่า God หรือว่าพระ
00:00:41 → 00:00:44 เจ้านะคะส่วนโรร่าเนี่ก็คือ Food เพราะ
00:00:44 → 00:00:47 ฉะนั้นเนี่ยไอ้ต้นเนี้ยต้นโมเยมันก็ให้ผล
00:00:47 → 00:00:49 เนี่ยที่เราเรียกว่าเป็นตัวคาา pots ค่ะ
00:00:49 → 00:00:51 ในคาา pots เนี่ยพอเราเปิดออกมาเนาะมันก็
00:00:51 → 00:00:54 จะเป็นเม็ดเล็กๆๆๆๆเรียงกันอยู่เต็มไปหมด
00:00:54 → 00:00:57 เลยค่ะซึ่งตั้งแต่สมัยโบราณแล้วนะแถวพวก
00:00:57 → 00:01:00 โซนอเมริกาใต้ที่เขานิยมนำมาใช้ทานเนี่ย
00:01:00 → 00:01:03 เค้าก็จะเอามาทำเป็นน้ำเป็นของเหลวแล้วก็
00:01:03 → 00:01:06 เป็นเครื่องดื่มค่ะซึ่งเราพบว่าไอ้ตัวผล
00:01:06 → 00:01:07 แบบเค้าเรียกว่าดิบๆเลยเนี่ยมันกินได้
00:01:07 → 00:01:10 ค่อนข้างยากปัจจุบันเนี่ยเค้าก็เลยมีการ
00:01:10 → 00:01:13 ผ่านกระบวนการเอาไปหมักนะคะแล้วก็ทำให้
00:01:13 → 00:01:15 เมล็ดเหล่าเนี้ยแห้งแล้วก็บดเป็นผงพวกเ
00:01:15 → 00:01:19 เราก็จะเรียกว่าผงคาคาหรือผงโกโก้ค่ะซึ่ง
00:01:19 → 00:01:22 พอบดแยกไอ้เนื้อผงคาคาผงโกโก้ออกมาแล้ว
00:01:22 → 00:01:25 เนี่ยถ้าเกิดว่าเรานำไปผสมกับไอ้พวกเข้า
00:01:25 → 00:01:27 เรียกว่าคาคาหรือว่าโกโก้บัตเตอร์ก็คือ
00:01:28 → 00:01:30 เนยจากไอ้ตัวผงโกโก้เนี่ยผสมกับน้ำตาล
00:01:30 → 00:01:34 แต่งรสเอ่อแต่งกลิ่นแต่งสีต่างๆเนี่ยก็จะ
00:01:34 → 00:01:36 กลายเป็นช็อกโกแลตเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:01:36 → 00:01:39 ช็อกโกแลตเนี่ยก็จะประกอบไปด้วยส่วนของ
00:01:39 → 00:01:42 ตัวคาคาหรือว่าโกโก้บวกกับสารปรุงแต่ง
00:01:42 → 00:01:45 อย่างอื่นนั่นเองค่ะโดยสารออกฤทธิที่
00:01:45 → 00:01:47 สำคัญที่อยู่ในช็อกโกแลตนะคะหลักๆเลย
00:01:47 → 00:01:50 เนี่ยก็มาจากไอ้ตัวผงโกโก้หรือว่าผงคาคา
00:01:50 → 00:01:52 เนี่ยละค่ะซึ่งสารออกพิกที่สำคัญเนี่ย
00:01:52 → 00:01:54 จริงๆมีเยอะแยะมากมายนะแต่ว่าหลักๆเนี่ย
00:01:54 → 00:01:57 แบ่งเป็นสารเ้าเรียกว่าสารส่านอนุมูล
00:01:57 → 00:01:59 อิสระหรือว่าแอนติออกซิแดนท์ที่เป็นอยู่
00:01:59 → 00:02:02 ในกลุ่มที่เราเรียกว่าโพลีฟีนอลนะคะสาร
00:02:02 → 00:02:04 ออกฤทธิ์เด่นๆเลยที่คนชอบนำไปทำวิจัยกัน
00:02:04 → 00:02:08 เนี่ยมันเป็นตระกูลานอยชื่อ fl tre แล้ว
00:02:08 → 00:02:11 ก็ OL อๆเนี่ยนะคะซึ่งไอสารตัวนี้ก็อยู่
00:02:11 → 00:02:13 ในตระกูลของสารที่เราเรียกว่าคาชินค่ะ
00:02:13 → 00:02:17 แล้วก็มีพวก anant sanidine โปรซินนะคะ
00:02:17 → 00:02:19 ซึ่งพวกเนี้ยมันก็จะส่งผลต่อเรื่องของ
00:02:19 → 00:02:21 หลอดเลือดช่วยให้หลอดเลือดมีการขยายตัว
00:02:21 → 00:02:24 แล้วก็ช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือดได้
00:02:24 → 00:02:26 นอกจากนั้นเนี่ยก็ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ
00:02:26 → 00:02:29 มากมายนะคะไม่ว่าจะเป็นแมกนีเซียมสังกสี
00:02:29 → 00:02:32 นะคะธาตุเหล็กหรือแม้แต่ทองแดงค่ะซึ่งมี
00:02:32 → 00:02:34 ผลในกระบวนการต่างๆที่สำคัญของร่างกาย
00:02:35 → 00:02:36 อย่างมากเลยทีเดียวนอกจากนั้นแล้วเนี่ยก็
00:02:37 → 00:02:39 ยังมีสารที่ช่วยในเรื่องของความจำช่วย
00:02:39 → 00:02:41 เรื่องของสมองด้วยก็คือเป็นสารพวกตระกูล
00:02:41 → 00:02:44 ทีโอโรมนซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับพวกออกร
00:02:44 → 00:02:47 เหมือนพวกคาเฟอีนนั่นเองค่ะจากสารออก
00:02:47 → 00:02:49 ฤทธิ์ทั้งหลายเนี่ยนะคะก็มีคนเอาไปทำงาน
00:02:49 → 00:02:51 วิจัยค่ะก็มีตั้งแต่งานวิจัยตั้งแต่สมัย
00:02:51 → 00:02:53 อดีตเนี่ยเค้าก็ทำไปทดลองเนาะในชั้นผิว
00:02:53 → 00:02:56 หนังของสัตว์ทดลองค่ะจนกระทั่งมาถึงอีการ
00:02:56 → 00:02:58 วิจัยในคนที่คนชอบอ้างถึงบ่อยๆเนี่ยก็มัก
00:02:58 → 00:03:00 จะเป็นงานวิจัยนะคะที่ที่ทำโดยชาวเกาหลี
00:03:00 → 00:03:03 ค่ะตีพิมพเมื่อปี 2016 นั่นเองความน่าสน
00:03:03 → 00:03:06 ใจก็คือเมื่อเราทานพวกสารสกัดเนี่ยสารออก
00:03:06 → 00:03:08 ฤทธิ์ของโกโก้นะคะเข้าไปก็คือในกลุ่มไอ้
00:03:08 → 00:03:10 ตัวเข้าเรียกว่าลาวนอยเนี่ยประโยชน์ที่
00:03:10 → 00:03:13 ได้ค่ะที่เรียงลำดับมาให้นะหลังจากทานไป 1
00:03:13 → 00:03:15 เดือนนะคะพบว่าช่วยในเรื่องของความชุ่ม
00:03:15 → 00:03:17 ชื้นของผิวค่ะเชื่อว่าน่าจะมาจากกระบวน
00:03:18 → 00:03:20 การที่มันช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
00:03:20 → 00:03:23 นั่นเองถัดไปค่ะถ้าเกิดว่าทานถึง 12
00:03:23 → 00:03:25 สัปดาห์หรือประมาณ 3 เดือนใช่มั้ยคะก็พบ
00:03:26 → 00:03:28 ว่าจะช่วยป้องกันผิวของเราค่ะจากการถูก
00:03:28 → 00:03:31 ทำลายโดยแส UV ได้นอกจากนั้นแล้วเนี่ยก็
00:03:31 → 00:03:34 ยังช่วยเพิ่มเาเรียกว่า elasticity คือ
00:03:34 → 00:03:36 ความยืดหยุ่นของผิวได้หลังจากทานไป 3
00:03:36 → 00:03:38 เดือนแต่ถ้าเกิดว่าทานต่อเนื่องถึง 24
00:03:38 → 00:03:41 เดือนค่ะพบว่าความแตกต่างในเรื่องของร่อง
00:03:41 → 00:03:43 ลึกของริ้วรอยเนี่ยในกลุ่มที่ทานพวกโกโก้
00:03:43 → 00:03:46 เนี่ยลดลงอย่างเห็นได้ชัดซึ่งในงานวิจัย
00:03:46 → 00:03:48 นะคะในเรื่องของป้องกันผิวจากแสง UV
00:03:48 → 00:03:51 เนี่ยเขาทำในกลุ่มคนที่เป็นชนผิวขาวหรือ
00:03:51 → 00:03:53 ว่าเราเรียกว่าคอเคเชียนค่ะในกลุ่มนั้น
00:03:53 → 00:03:56 เนี่ยเขาก็จะใช้สารสกัดนะคะโกโก้ที่มีสาร
00:03:56 → 00:04:00 ออกฤทธิ์ไอ้ตัวลาวนอยเนี่ยสูงถึง 600 มั
00:04:00 → 00:04:02 ค่ะก็ให้ทาน 600 มิลกรัมต่อวันในขณะที่
00:04:02 → 00:04:05 กลุ่มงานวิจัยของชาวเกาหลีเนี่ยเขาศึกษา
00:04:05 → 00:04:07 ในกลุ่มผู้หญิงค่ะช่วงอายุ 43 ปีถึง 89
00:04:08 → 00:04:10 ปีแล้วก็ให้เป็นเครื่องดื่มที่มันมีสาร
00:04:10 → 00:04:13 ออกเลไอ้ตัววนอเนี่ยปริมาณ 320 มิลกรัม
00:04:13 → 00:04:16 ต่อวันเพราะฉะนั้นถ้าเราจะแปลมาเป็นเอ๊ะณ
00:04:16 → 00:04:18 ปัจจุบันที่อยากจะทานช็อกโกแลตเนี่ยแล้ว
00:04:18 → 00:04:20 ช่วยในเรื่องของผิวเนี่ยควรจะต้องทานเท่า
00:04:20 → 00:04:22 ไหร่ดีนะคะก็บอกว่าควรจะต้องทานเป็น
00:04:22 → 00:04:25 ช็อกโกแลตที่มีความเข้มข้นสูงค่ะคือเป็น
00:04:25 → 00:04:28 กลุ่ม Dark ช็อกโกแลตเกิน 70% ขึ้นไปทำไม
00:04:28 → 00:04:30 ต้องเกิน 70% ขึ้นไปเพราะว่ามันมีเนื้อ
00:04:30 → 00:04:32 โกโก้อยู่มากถึง 70% ถ้าเราไปทานในกลุ่ม
00:04:32 → 00:04:35 ช็อกโกแลตที่มีมวลของเนื้อโกโก้น้อยกว่า
00:04:35 → 00:04:38 นั้นเนี่ยโอกาสที่จะได้ประโยชน์จากสารอลิ
00:04:38 → 00:04:40 ตัวเยก็แน่นอนว่าย่อมจะลดลงนะคะซึ่ง
00:04:40 → 00:04:43 ปริมาณนะคะจากความเข้มข้นเรารู้แล้วนะว่า
00:04:43 → 00:04:45 ต้องเกิน 70% ขึ้นไปส่วนปริมาณที่แนะนำใน
00:04:45 → 00:04:47 ปัจจุบันเนี่ยก็จะแนะนำให้ทานอยู่ที่
00:04:47 → 00:04:49 ประมาณ 20-30 กรัมค่ะหรือประมาณ 1 ออนซ
00:04:49 → 00:04:51 นั่นเองเพราะถ้าเกิดว่าเราอ้างอิงข้อมูล
00:04:51 → 00:04:54 จาก European Food Standard authority
00:04:54 → 00:04:57 หรือว่า efsa เนี่ยเขาก็บอกว่า 10 กรัม
00:04:57 → 00:05:00 ของ dar ช็อกโกแลตที่เกิน 70 10% ขึ้นไป
00:05:00 → 00:05:03 เนี่ยจะมีสารออก R flonal อยู่ 200 มกร
00:05:03 → 00:05:05 เพราะฉะนั้นถ้าอิงจากอันนี้นะคะเราก็
00:05:05 → 00:05:08 สามารถทานช็อกโกแลตเนี่ยได้ตามจำนวนที่
00:05:08 → 00:05:10 ฟ้าได้กล่าวไปในเบื้องต้นก็คือประมาณ 20
00:05:10 → 00:05:13 กรัมถ 30 กรัมถ้าแบ่งเป็นไอ้ตัวสแควรเล็ก
00:05:13 → 00:05:16 ๆเนี่ยก็จะประมาณสี่เหลี่ยมเล็กๆ 1-2
00:05:16 → 00:05:18 ชิ้นต่อวันเท่านั้นเองนะคะแล้วนอกจากนั้น
00:05:18 → 00:05:20 แล้วเนี่ยตัวที่เราควรจะต้องเรียกเนี่ย
00:05:20 → 00:05:24 คือกลุ่มที่เขาเขียนไว้้ว่า dch โกเพราะ
00:05:24 → 00:05:26 ว่าไอ้พวกัชโกหรือว่าดัชคาคาเนี่ยมันจะ
00:05:26 → 00:05:29 ถูกนำไปผ่านกระบวนการเอัคาลดค่ะทำให้เป็น
00:05:29 → 00:05:32 ด่างเพิ่มขึ้นสีที่ได้ก็จะเข้มขึ้นแต่
00:05:32 → 00:05:34 กระบวนการเยทำให้เราทานช็อกโกแลตได้อร่อย
00:05:34 → 00:05:37 ขึ้นสีดูเข้มน่าทานขึ้นแต่มันจะไปลดสัน
00:05:37 → 00:05:40 ออก R laal นั่นเองค่ะและสำหรับคนที่ชอบ
00:05:40 → 00:05:43 เป็นแบบเครื่องดื่มนะคะเราพบว่าพวกผง
00:05:43 → 00:05:45 โกโก้สำหรับชงดื่มที่ไม่มีการปรุงรสอย่าง
00:05:45 → 00:05:48 อื่นเพิ่มเลยเนี่ยให้สารออก ris flonal
00:05:48 → 00:05:51 เนี่ยค่อนข้างสูงมากค่ะก็คือใน 1 ช้อนชา
00:05:51 → 00:05:54 เนาะอาจจะสูงมากถึง 130 มิลกรัมเลยที
00:05:54 → 00:05:56 เดียวก็เป็นอีกทางเลือกนึงนอกจากแท่งๆที่
00:05:56 → 00:05:58 เพื่อนๆอาจจะเลือกทานได้นะคะทั้งนี้ทั้ง
00:05:58 → 00:06:00 นั้นเนี่ยต้องอย่าลืมว่าในช็อกโกแลตเนี่ย
00:06:00 → 00:06:03 มันไม่ได้มีแค่โกโก้ที่มีสารออกวนอเท่า
00:06:03 → 00:06:06 นั้นแต่ว่าโดยมากยังถูกไปผสมกับพวกเนยพวก
00:06:06 → 00:06:09 น้ำตาลแล้วก็สารให้ความหวานอย่างอื่น
00:06:09 → 00:06:11 เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเราทานมากเกินไปค่ะ
00:06:11 → 00:06:13 เราก็จะได้แคลอรีที่มากเกินไปรวมถึงอาจจะ
00:06:13 → 00:06:16 ได้พวกน้ำตาลที่มันแฝงมาด้วยเพราะฉะนั้น
00:06:16 → 00:06:18 แทนที่ถ้าเราทานเยอะแล้วผิวเราจะเหี่ว
00:06:18 → 00:06:20 น้อยลงก็อาจจะกลับกลายเป็นว่าเราทานเยอะ
00:06:20 → 00:06:22 แล้วอ้วนด้วยแล้วก็เหี่ยวไวขึ้นจากน้ำตาล
00:06:22 → 00:06:24 นั่นเองนอกจากนั้นเนี่ยที่ต้องระมัดระวัง
00:06:24 → 00:06:27 อีกอย่างนึงก็คือในผลโกโก้ทั้งหลายค่ะบาง
00:06:27 → 00:06:29 ทีเราก็พบว่าอาจจะมีการปนเปื้อนของสาร
00:06:29 → 00:06:31 ตะกรุกนิเกิลได้เพราะฉะนั้นในปัจจุบัน
00:06:31 → 00:06:34 สรุปให้นะคะเพื่อที่จะสู้กับแสงแดดอัน
00:06:34 → 00:06:36 ร้อนแรงของกรุงเทพฯและประเทศไทยในตอนนี้
00:06:36 → 00:06:39 รวมถึง PM 2.5 เนี่ยอีกทางเลิกนึงของ
00:06:39 → 00:06:41 เพื่อนๆนอกจากทาครีมกันแดดก่อนออกไปผจญ
00:06:41 → 00:06:44 เ้าเรียกว่าผจญผิวกับมลภาวะข้างนอกแล้ว
00:06:44 → 00:06:47 เนี่ยก็ลองพิจารณาทาน dar ช็อกโกแลต 70%
00:06:47 → 00:06:51 ขึ้นไป 100% ได้ยิ่งดีค่ะวันละประมาณ 1-2
00:06:51 → 00:06:54 ชิ้นเล็กนะคะหรือว่าจะชงเป็นโคโกเย็นทาน
00:06:54 → 00:06:56 ก็ได้ค่ะขอให้ทุกคนสุขภาพผิวสดใสไม่มี
00:06:56 → 00:06:59 ริ้วรอยนะคะแล้วเจอกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ
00:06:59 → 00:07:03 สวัสสวัดีค่ะ