วิตามินบี 12 กับโฟเลต (บี 9) ต้องทานคู่กันเพราะเหตุใด

EP181 : 3 สารอาหารสำคัญที่ต้องทานคู่กัน

จากช่อง : Doctor Top


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:05 สารอาหาร วิตามินหรือเกลือแร่ ที่จำเป็นที่จะต้องทานคู่กัน

00:00:0500:00:09 3 คู่ 3 ตัวนี้ สำคัญต่อชีวิตมากๆ มาลองฟังกันดูว่า

00:00:0900:00:12 ต้องทานคู่กับอะไรและสําคัญอย่างไร

00:00:2000:00:23 สวัสดีครับ ผมหมอท๊อป และนี่คือ DOCTOR TOP Channel

00:00:2300:00:26 รายการสุขภาพที่ทั้งสนุกและมีสาระ

00:00:2700:00:32 วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องของสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่

00:00:3200:00:35 ที่จำเป็นที่จะต้องทานคู่กัน

00:00:3500:00:41 3 คู่ สำคัญสุดๆ มีแคลเซียมตัวหนึ่ง โซเดียมและวิตามินบี 12

00:00:4100:00:45 3 ตัวนี้สำคัญต่อชีวิตมากๆ มาลองฟังกันดูว่า

00:00:4500:00:48 ต้องทานคู่กับอะไรและสําคัญอย่างไร

00:00:4800:00:50 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share

00:00:5000:00:52 กด Subscribe และกดกระดิ่ง ขอบคุณครับ

00:00:5300:00:55 สำหรับท่านที่มีเวลาน้อย

00:00:5500:00:58 ผมขออนุญาตให้กระโดดไปดูที่ 3 นาทีสุดท้าย

00:00:5800:01:00 ผมสรุปไว้ให้เรียบร้อย

00:01:0000:01:03 แล้วเมื่อไหร่ที่ท่านมีเวลา ผมแนะนำให้กลับมาดูใหม่

00:01:0300:01:06 เพราะว่าในคลิปยาวคลิปเต็มมันจะมีรายละเอียด

00:01:0600:01:09 ซึ่งมันสำคัญต่อสุขภาพของท่านมากๆ

00:01:0900:01:14 สำหรับท่านที่พร้อมแล้ว เราไปพร้อมๆ กันเลย

00:01:1400:01:19 สำหรับสารตัวแรกหรือสารอาหารตัวแรกนี่แหละ

00:01:1900:01:23 ก็คือแคลเซียมเอง แคลเซียมนี่ผมว่าทุกๆ ท่าน

00:01:2300:01:26 คงทราบอยู่แล้วว่ามันสำคัญกับชีวิตเรามากๆ เลย

00:01:2600:01:29 แคลเซียมเป็นองค์ประกอบหลักเลย

00:01:2900:01:32 มากกว่า 90% ของกระดูกมีแคลเซียมอยู่

00:01:3200:01:40 ซึ่งตัวแคลเซียมพอท่านอายุ 30 มันจะลดลงเรื่อยๆ วันละนิดๆ

00:01:4000:01:46 เมื่อไหร่ก็ตามที่อายุ 50 โดยเฉพาะเพศหญิงที่หมดประจำเดือน

00:01:4600:01:49 แคลเซียมจะหายไปจากร่างกายของท่าน

00:01:4900:01:53 เหมือนรูของเรือไททานิคที่ล่มเลย

00:01:5300:01:56 โคร่ม แล้วก็ไหลออกไปเลย เอากลับคืนมาไม่ได้

00:01:5600:01:58 ซึ่งแบบอันตรายมากๆ เลย

00:01:5800:02:00 เพราะฉะนั้นจะได้ยินข่าว จะเห็นข่าวว่า

00:02:0000:02:04 เดินชนอะไรนิด เดินชนอะไรหน่อยนี่กระดูกหักหมด

00:02:0400:02:08 เพราะฉะนั้นแล้วเราจึงต้องการแคลเซียมเข้าไป

00:02:0800:02:13 คราวนี้เวลาเราทานแคลเซียมเข้าไป มันเผอิญต้องมีตัวช่วยดูดซึม

00:02:1300:02:16 นั่นก็คือวิตามินดี นั่นเอง

00:02:1600:02:21 เพราะฉะนั้นแล้วแคลเซียมต้องทานคู่กับวิตามินดี

00:02:2100:02:23 หรือไม่ทานก็ได้วิตามินดี

00:02:2300:02:28 วิตามินดีเราหาได้จากพระอาทิตย์

00:02:2800:02:31 พระอาทิตย์จะทำให้เรามีวิตามินดี

00:02:3100:02:34 เมื่อเราเดินออกไปตากแดดอย่างน้อยวันละ 15 นาที

00:02:3400:02:37 ก็ช่วงที่แดดมันไม่ร้อนมาก

00:02:3700:02:40 เอาซัก 7 โมง - 9 โมง กับ 5 โมงเย็น - 6 โมงเย็น

00:02:4000:02:44 คือถ้าตากช่วงเที่ยงมันก็คงได้ มันได้เยอะด้วยแต่มันร้อนไง

00:02:4400:02:46 เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำแบบนั้น

00:02:4600:02:48 จะกลายเป็นมะเร็งผิวหนังซะเปล่าๆ

00:02:4800:02:51 เอาแบบพอเหมาะสม อย่าเอ็กซ์ตรีมมากเกินไป

00:02:5100:02:56 เพราะฉะนั้นแนะนำท่านที่ต้องการแคลเซียมเสริมต้องมีวิตามินดี

00:02:5600:02:59 ถ้าท่านออกแดดน้อยโดนแดดน้อย ท่านต้องทานวิตามินดีเสริม

00:02:5900:03:03 มีขายในรูปแบบเม็ด ท่านก็ไปหาซื้อเอาเหอะ

00:03:0300:03:05 และแคลเซียมโดยส่วนใหญ่เวลาขายในปัจจุบัน

00:03:0500:03:08 จะบวกวิตามินดี มาส่วนนึงแต่มักจะไม่พอ

00:03:0800:03:12 มันจะน้อย เพราะฉะนั้นต่อไปเดินโดนแดดจะดีที่สุด

00:03:1200:03:15 คราวนี้อีกอย่างนึงก็ขอแนะนำว่า

00:03:1500:03:18 โดยปกติแล้วแคลเซียมที่เราต้องการต่อวันเลย

00:03:1800:03:23 ประมาณอายุ 30 ขึ้นไปต้องการ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน

00:03:2300:03:27 ถ้าอายุ 50 ขึ้นไปประมาณ 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน

00:03:2700:03:30 คราวนี้ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน คืออะไร

00:03:3000:03:34 ยกตัวอย่างง่ายๆ ว่านมแก้วหนึ่งประมาณ 240 ซีซีหรือ 8 ออนซ์

00:03:3400:03:37 จะมีแคลเซียมประมาณ 300 มิลลิกรัม

00:03:3700:03:42 เพราะฉะนั้นท่านต้องดื่มนมอย่างน้อยวันละ 3-4 แก้ว

00:03:4200:03:44 ซึ่งจะเยอะมากเพื่อทดแทนแคลเซียมให้ได้

00:03:4400:03:48 ดังนั้นเราต้องหาแคลเซียมจากแหล่งอื่น

00:03:4800:03:50 ไม่ได้บอกว่าให้ไปซื้อแคลเซียมมาทาน

00:03:5100:03:54 ยกเว้นท่านที่ทานไม่ได้ จะซื้อทานก็ไม่ว่ากัน

00:03:5400:03:57 คือแคลเซียมยังมีอยู่ในตัวอื่น อย่างอื่น

00:03:5700:04:01 เช่น พวกปลาตัวเล็กๆ ที่เรากินพร้อมก้างได้

00:04:0100:04:04 หรือกุ้ง หรือปูตัวเล็กๆ ที่เรากินพร้อมเปลือกได้

00:04:0400:04:06 หรือผักบางชนิดที่มีแคลเซียม

00:04:0600:04:09 มันก็จะช่วยให้ร่างกายเราสมบูรณ์แข็งแรงดี

00:04:0900:04:12 และมีแคลเซียมอย่างพอเหมาะพอสม

00:04:1200:04:15 และวิตามินดีก็ต้องได้รับอย่างเพียงพอ

00:04:1500:04:18 เมื่อท่านอายุมากขึ้น วิตามินดีที่ต้องการก็มากขึ้น

00:04:1800:04:21 ก็ต้องบอกว่าวิตามินดีที่แนะนำต่อวัน

00:04:2100:04:26 ก็คือประมาณ 400 International Unit

00:04:2600:04:28 แต่พอท่านอายุ 70 ต้องการเพิ่ม

00:04:2800:04:34 ประมาณ 600 International Unit ต่อวัน และนี่ก็คือแคลเซียม

00:04:3400:04:38 แคลเซียมต้องทานคู่กับวิตามินดี

00:04:3800:04:40 หรือได้วิตามินดีจากแสงแดดอย่างเพียงพอ

00:04:4000:04:45 ท่านถึงจะได้แคลเซียมเข้าไปในร่างกายมีกระดูกที่แข็งแรง

00:04:4500:04:49 มาต่อกันที่สารอาหารตัวสำคัญมากๆ ตัวที่ 2

00:04:4900:04:51 นั่นก็คือโซเดียมนั่นเอง

00:04:5100:04:56 โซเดียมหรือเอาง่ายๆ ก็คือเกลือ

00:04:5600:05:01 โซเดียมจำเป็นที่จะต้องไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไปในร่างกาย

00:05:0200:05:06 เพราะฉะนั้นเราจึงจะต้องทานโซเดียมต่อวันให้ถูกต้อง

00:05:0700:05:14 โดยปกติเราแนะนำโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน

00:05:1400:05:19 แต่น่าตกใจมากๆ คนไทยค่าเฉลี่ยโซเดียม 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน

00:05:1900:05:22 ดังนั้นจึงเป็นโรคความดันโลหิตสูงกันเยอะ

00:05:2200:05:27 ไตวายเรื้อรังกันเยอะ ต้องฟอกไตกันเยอะมากๆ อันตรายมากๆ

00:05:2700:05:30 แล้วก็อาหารสมัยนี้ อาหารสำเร็จรูปต่างๆ

00:05:3000:05:34 มีเกลือหรือมีโซเดียมเป็นส่วนผสมเยอะมากๆ เลยทีเดียว

00:05:3400:05:37 คราวนี้ถ้าเราอยากให้โซเดียมในร่างกายของเรา

00:05:3700:05:40 มีสมดุลที่ดี ไม่มากไปไม่น้อยไป

00:05:4000:05:45 เราต้องมีสารอีกตัวนึงที่ชื่อว่าโพแทสเซียมนั่นเอง

00:05:4500:05:49 มันเป็นสมดุลของโซเดียมและโพแทสเซียม

00:05:4900:05:53 ตัวโพแทสเซียมจะไปคอยควบคุมโซเดียม

00:05:5300:05:57 ในการขับออกจากร่างกายที่ไตของเรานั่นเอง

00:05:5700:06:02 ถ้าเรามีโพแทสเซียมน้อยไป เราก็ขับโซเดียมออกได้ไม่ดีนัก

00:06:0200:06:05 คือมันต้องสมดุลกันไม่ใช่มากไป

00:06:0500:06:08 โซเดียมมากไปก็ไม่ดี โพแทสเซียมมากไปก็ไม่ดี

00:06:0800:06:12 หลักการเป็นอย่างนี้มากกว่าง่ายๆ ก็คือจะต้องสมดุล

00:06:1200:06:14 แล้วเท่าไหร่คือสมดุล

00:06:1400:06:19 โพแทสเซียมแนะนำที่ประมาณ 4,700 มิลลิกรัมต่อวัน

00:06:1900:06:23 ส่วนโซเดียมแนะนำที่ประมาณ 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน

00:06:2300:06:26 แต่ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม พวกนี้ต้องสมดุลกัน

00:06:2600:06:27 อันนี้คือส่วนคำคัญ

00:06:2700:06:29 แล้วคราวนี้จะไปเอาโพแทสเซียมจากไหน

00:06:2900:06:32 คือโซเดียมนี่เรารู้ ที่เรากินมันก็มีโซเดียมเต็มไปหมด

00:06:3200:06:36 เค็มๆ มีทั้งนั้นแหละ แต่โพแทสเซียมเอามาจากไหน

00:06:3600:06:39 โพแทสเซียมเอามาจากผัก โดยเฉพาะผักที่มีสีเขียวเข้มๆ

00:06:3900:06:41 สุดยอด โพแทสเซียมสูงมาก

00:06:4100:06:45 ผลไม้ต่างๆ พวกส้ม ตัวโพแทสเซียมสูงมาก

00:06:4500:06:47 กล้วย โพแทสเซียมสูงมาก

00:06:4700:06:50 เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่สำคัญก็คือ

00:06:5000:06:53 การทานผักผลไม้จะช่วยเราเราหลายๆ อย่าง

00:06:5300:06:56 ลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ การขับถ่ายดี

00:06:5600:07:00 ผิวพรรณผุดผ่อง มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์

00:07:0000:07:04 รวมทั้งยังสามารถที่จะควบคุมโซเดียมในร่างกายได้เป็นอย่างดี

00:07:0400:07:07 ไม่ให้มากไปไม่ให้น้อยไป ผมบอกเลยอันตรายมากๆ

00:07:0700:07:11 โซเดียมในร่างกายที่มากไปหรือน้อยไป

00:07:1100:07:14 และโพแทสเซียมที่มากไปหรือน้อยไปแบบขึ้นลงเร็วๆ

00:07:1400:07:18 จะทำให้ท่านคลื่นไส้ เวียนหัว อาเจียน ชัก สับสน

00:07:1800:07:23 จนถึงเป็นลมหมดสติเสียชีวิตได้ อันนี้อันตรายจริงๆ ไม่ได้มาขู่

00:07:2300:07:27 เพียงแต่ว่าให้ระมัดระวังในการกินเรื่องของโซเดียม

00:07:2700:07:32 อันนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่แนะนำ แล้วโซเดียมมันไม่ได้อยู่ในแค่เกลือ

00:07:3200:07:37 แนะนำนิดนึงก็คือว่ามันมีอยู่ในจำพวกขนมต่างๆ

00:07:3700:07:39 หรือว่าจะเป็นขนมขบเคี้ยว

00:07:3900:07:42 เช่น มันฝรั่งอบกรอบใส่เกลืออย่างนี้มันก็เค็ม

00:07:4200:07:45 หรือว่าเป็นเฟรนช์ฟรายส์ที่โรยเกลือเยอะๆ มันก็เค็ม

00:07:4500:07:48 อาหารฟาสฟูดส์ต่างๆ หรืออาหารที่แช่แข็งต่างๆ

00:07:4800:07:50 ก็จะมีโซเดียมเยอะแม้ไม่มีรสเค็ม

00:07:5000:07:53 เพราะฉะนั้นการอ่านฉลากอาหารดูซิว่ามันมีโซเดียมเท่าไหร่

00:07:5300:07:59 เป็นสิ่งสำคัญที่คนในยุคปัจจุบันต้องให้ความสนใจ

00:07:5900:08:05 และนี่ก็คืออาหารที่ต้องคู่กันชนิดที่ 2 โซเดียมและโพแทสเซียม

00:08:0500:08:09 กินเค็มอย่าลืมกินผัก อย่าลืมกินผลไม้

00:08:0900:08:14 มาต่อกันที่สารอาหารคู่ที่ 3 ที่ต้องทานคู่กัน

00:08:1400:08:20 อันนี้เป็นวิตามินบี 12 นั่นเอง ถามว่าทำไมต้องรู้

00:08:2000:08:24 วิตามินบี 12 นี่สำคัญมาก ถ้าท่านไม่อยากความจำเสื่อมเร็ว

00:08:2400:08:29 อยากจะมีความจำดีจนแก่จนเฒ่าจนถึงขั้นแบบ 90 ก็ยังความจำดี

00:08:2900:08:31 วิตามินบี 12 สำคัญสุดๆ

00:08:3100:08:36 อยากจะเซลล์ต่างๆ เป็นเซลล์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมาใหม่

00:08:3600:08:40 ทดแทนเซลล์เก่าๆ ที่ตายไป วิตามินบี 12 สำคัญมากๆ

00:08:4000:08:46 และวิตามินบี 12 ต้องทานคู่กับวิตามินบี 9 หรือโฟเลต

00:08:4600:08:50 วิตามินบี 12 จะช่วยดูดซึมวิตามินบี 9 หรือโฟเลต

00:08:5000:08:56 คือช่วยๆ กันทั้งคู่ ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตาม บี12 + บี 9

00:08:5600:08:58 จะมีความสามารถที่ดีมาก

00:08:5800:09:03 เขาจะซ่อมแซมเซลล์และสร้างเซลล์ใหม่ๆ ขึ้นมา

00:09:0400:09:07 เซลล์ในร่างกายของเราจะมีการตายไปทุกวัน

00:09:0700:09:09 เขาเรียกว่าการผลัดเซลล์

00:09:0900:09:11 เช่น ผิวเราก็ต้องผลัดผิว ขนแล้วก็ต้องร่วง

00:09:1100:09:14 ผมเราก็ต้องงอกใหม่ เซลล์เยื่อบุกระเพาะ

00:09:1400:09:16 มันก็ตายไปทุกวันก็ต้องงอกมาใหม่

00:09:1600:09:21 พวกนี้ต้องการวิตามินบี 12 และวิตามินบี 9 หรือโฟเลตมากๆ

00:09:2100:09:23 ต้องทานคู่กัน อันนี้สำคัญมากๆ

00:09:2300:09:27 ถ้าท่านอยากอ่อนกว่าวัย วิตามินบี 12 สำคัญสุดๆ

00:09:2800:09:31 แล้วคราวนี้ วิตามินบี 12 ต้องการเท่าไหร่และอยู่ในไหน

00:09:3100:09:35 วิตามินบี 12 ในต้องการประมาณ 2.4 ไมโครกรัมต่อวัน

00:09:3500:09:39 ส่วนวิตามินบี 9 หรือโฟเลต ต้องการ 400 ไมโครกรัมต่อวัน

00:09:3900:09:41 ถ้าเป็นผู้หญิงท้องอาจจะต้องการมากกว่านี้

00:09:4100:09:46 เพื่ออาจทำให้ลูกร่างกายแข็งแรง อันนั้นแยกออกไป

00:09:4600:09:48 คราวนี้วิตามินบี 12 จะหาได้จากที่ไหน

00:09:4800:09:53 ง่ายมาก เนื้อ นม ไข่ นั่นเองหาได้ง่ายๆ

00:09:5300:09:56 เพราะฉะนั้นผู้ที่มีปัญหาคือกลุ่มมังสวิรัติ

00:09:5600:09:58 หรือว่าที่ไม่ได้ เนื้อ นม ไข่

00:09:5800:10:02 อันนี้ขอแนะนำให้ทานวิตามินบี 12 เสริม

00:10:0200:10:05 ส่วนตัวโฟเลตหรือวิตามินบี 9 หาได้จากไหน

00:10:0500:10:09 ก็จากถั่ว ผักใบเขียว อันนี้ดีมากๆ พวกผักใบเขียวทานไป

00:10:0900:10:12 เพราะว่ามีกากใยลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่

00:10:1200:10:15 แถมยังมีวิตามินและมีสิ่งที่มีประโยชน์มากมาย

00:10:1500:10:17 มีคลอโรฟิลล์ มีสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย

00:10:1700:10:21 แนะนำให้ทานเป็นประจำทุกๆ วัน

00:10:2200:10:26 อันนี้ก็คือความสำคัญของวิตามินบี 12 และวิตามินบี 9

00:10:2600:10:28 ที่ต้องทานคู่กันนั่นเอง

00:10:2800:10:32 เมื่อไหร่ที่ท่านขาดวิตามินบี 12 ความจำท่านก็อาจจะไม่ดีเท่าไหร่

00:10:3200:10:37 ทั้งๆ ที่ควรจะดีกว่านี้และอาจจะมีเหน็บชาปลายมือปลายเท้า

00:10:3700:10:40 แต่ถ้าเกิดขาดวิตามินบี 9

00:10:4000:10:45 ก็อาจจะเกิดเรื่องของ Macrocytic anemia

00:10:4500:10:48 เป็นลักษณะหลอดเลือดจางชนิดหนึ่งนั่นเอง

00:10:4800:10:50 ก็จะทำให้ร่างกายเราไม่แข็งแรง

00:10:5000:10:53 ก็ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงทุกๆ คน

00:10:5300:10:56 แล้วก็ทานอาหารอย่างมีประโยชน์ทุกๆ คน

00:10:5600:10:59 คราวนี้ผมขออนุญาตสรุป

00:10:5900:11:02 3 คู่สารอาหารที่ต้องทานคู่กัน

00:11:0200:11:06 เพื่อให้ชีวิตของท่านสมบูรณ์และแข็งแรง

00:11:0600:11:11 อันแรกเลย แคลเซียมต้องทานคู่กับวิตามินดี

00:11:1100:11:15 คือแคลเซียมจะดูดซึมได้ดีต้องมีวิตามินดีเข้าไป

00:11:1500:11:19 กินแคลเซียมอย่างเดียวไม่มีวิตามินดีดูดซึมได้น้อยมาก

00:11:1900:11:21 บางคนกินแคลเซียมตั้งเยอะ ขาดวิตามินดี

00:11:2100:11:23 มิน่าล่ะ กระดูกเลยไม่แข็งแรง

00:11:2300:11:25 วิตามินดีหาได้จากไหน

00:11:2500:11:28 หาง่ายมาก เดินออกไปนอกบ้านมองที่ดวงอาทิตย์

00:11:2800:11:31 ยืนยิ้มให้กับมัน เดินไปเดินมา 10-15 นาที

00:11:3100:11:34 ท่านก็จะได้วิตามินดีต่อวันที่เพียงพอ

00:11:3400:11:37 แนะนำก็ไปตากแดดสักช่วง 7 โมง - 9 โมง

00:11:3700:11:40 หรือว่าอาจจะเป็นช่วง 5 โมงเย็น - 6 โมงเย็น

00:11:4000:11:43 ก็จะได้วิตามินดีที่เพียงพอแล้ว

00:11:4300:11:47 ถ้าไม่ค่อยได้ออกแดด การทานอาหารเสริมที่มีวิตามินดีเสริม

00:11:4700:11:50 ก็อาจจะเป็นทางเลือกหนึ่ง ก็ลองดู

00:11:5000:11:53 แต่ยังไงก็ตามอยากแนะนำให้เรื่องของการออกกำลังกาย

00:11:5300:11:55 เดินออกไปข้างนอกก็จะดีที่สุด

00:11:5500:11:59 เพราะฉะนั้นแนะนำสำหรับแคลเซียมที่ต้องทานคู่กับวิตามินดี

00:11:5900:12:02 และแคลเซียมต่อวันเมื่อท่านอายุเกิน 30

00:12:0200:12:04 ต้องการประมาณ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน

00:12:0400:12:07 เมื่ออายุเกิน 50 ต้องการประมาณ 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน

00:12:0700:12:11 วิตามินดีต้องการประมาณ 400 International Unit ต่อวัน

00:12:1100:12:14 แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามอายุเกิน 70

00:12:1400:12:18 ต้องการ 600 International Unit ต่อวัน

00:12:1800:12:24 มาต่อกันที่อย่างที่ 2 นั่นก็คือคู่หูโซเดียมและโพแทสเซียม

00:12:2400:12:27 โซเดียมก็คือเกลือของเรานี่แหละ เกลือเค็มๆ ของเรา

00:12:2700:12:30 วันนึงแนะนำไม่ให้ทานโซเดียมเกิน 2,000 มิลลิกรัม

00:12:3000:12:33 แต่คนไทยทานเฉลี่ยวันละ 4,000 มิลลิกรัม

00:12:3300:12:36 มีโอกาสเป็นโรคไตและความดันโลหิตสูงมากๆ เลย

00:12:3600:12:39 เพราะฉะนั้นพยายามรดเค็มลงนิดนึง

00:12:3900:12:42 โซเดียมสูงไปก็ไม่ดี ต่ำไปก็ไม่ดี

00:12:4200:12:46 เพราะฉะนั้นเราจะต้องมีโพแทสเซียมมาคอยควบคุมสมดุล

00:12:4600:12:50 โซเดียมเรารู้อยู่แล้วหาได้จากไหน ก็กินปกติมันก็ได้อยู่แล้ว

00:12:5000:12:51 แต่โพแทสเซียมมันแอบอยู่ในไหน

00:12:5100:12:55 โพแทสเซียมอยู่ในผักใบเขียว อยู่ในผลไม้หลายๆ ชนิด

00:12:5500:12:58 ผักยิ่งใบเขียวเข้มยิ่งมีโพแทสเซียมสูง

00:12:5800:13:01 ผลไม้หลายๆ อย่างที่อร่อยและมีประโยชน์

00:13:0100:13:04 เช่น ส้ม กล้วย มีโพแทสเซียมสูงมากๆ

00:13:0400:13:08 วันนึงเราต้องการโพแทสเซียมประมาณ 4,700 มิลลิกรัมต่อวัน

00:13:0800:13:11 ต้องการโซเดียมเฉลี่ย 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน

00:13:1100:13:16 แต่ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน นี่คือสิ่งที่ควรเข้าคู่กัน

00:13:1600:13:20 เพราะฉะนั้นท่านควรจะทานผักและผลไม้

00:13:2000:13:23 เพื่อควบคุมโซเดียมในร่างกายให้เหมาะสม

00:13:2300:13:27 เรื่องโซเดียมท่านไม่ต้องกลัวหรอก ท่านเกินเกือบทั้งนั้น

00:13:2700:13:30 เพราะฉะนั้นแล้วเสริมผัก เสริมมผลไม้

00:13:3000:13:32 ได้ประโยชน์หลายๆ อย่างจริงๆ

00:13:3200:13:40 มาต่อกันที่คู่หูคู่ที่ 3 วิตามินบี 12 และโฟเลตหรือวิตามินบี 9

00:13:4000:13:44 อันนี้สำคัญมากๆ เป็นคู่หูเขาเรียกคู่หูสร้างเซลล์ใหม่

00:13:4400:13:46 ให้หน้าใส สดใส กว่าเดิม

00:13:4700:13:51 คือเซลล์ในร่างกายของเรา มันจะตายลงไปทีละนิดๆ

00:13:5100:13:52 ทุกวัน วันละนิดวันละหน่อย

00:13:5200:13:57 เช่น ผมที่จะต้องร่วง ขนที่จะต้องร่วง ผิวหนังต้องผลัดเซลล์ผิว

00:13:5700:14:00 เยื่อบุกระเพาะอาหารที่ต้องลอกไปแล้วก็มีใหม่ขึ้นมา

00:14:0000:14:04 พวกนี้ต้องการวิตามินบี 12 และ บี 9 เข้าไปช่วยบำรุง

00:14:0400:14:08 วิตามินบี 12 จะช่วยเหลือ บี 9 ให้ดูดซึมได้ดีขึ้น

00:14:0800:14:12 ถ้าท่านขาดวิตามินบี 12 ความจำท่านก็จะไม่ค่อยดี

00:14:1200:14:15 มีอาการชา เหน็บชามือก็จะเป็นเยอะ

00:14:1500:14:21 ท่านขาดวิตามินบี 9 ท่านก็จะเป็นโรคโลหิตจาง

00:14:2100:14:24 เขาเรียก Macrocytic anemia เป็นโรคโลหิตจางชนิดหนึ่ง

00:14:2400:14:26 เพราะฉะนั้นแนะนำจริงๆ

00:14:2600:14:29 สำหรับวิตามินบี 12 และวิตามินบี 9 หรือโฟเลต

00:14:2900:14:32 วิตามินบี 12 หาจากไหน เนื้อ นม ไข่

00:14:3200:14:36 เพราะฉะนั้นในกลุ่มมังสวิรัติหรือผู้ที่ไม่ทานเนื้อ นม ไข่

00:14:3600:14:38 ต้องทานวิตามินบี 12 เพิ่ม

00:14:3800:14:40 สำหรับบี 9 หาจากไหน ไม่ยาก

00:14:4000:14:43 ถั่วและผักใบเขียว มีประโยชน์ทั้งนั้น

00:14:4300:14:49 ถั่วมีไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งดีมากๆ เลย ทำให้ร่างกายแข็งแรง

00:14:4900:14:54 และผักใบเขียวก็จะมีโฟเลตได้ดีมากๆ

00:14:5400:14:57 แถมมีกากใย มีคลอโรฟิลล์ มีของดีๆ ทั้งนั้น

00:14:5700:15:02 ทานไปแล้วทั้ง 2 อย่าง ก็จะช่วยให้ร่างกายท่านสมบูรณ์แข็งแรง

00:15:0200:15:07 นี่ก็คือ 3 อาหารคู่กันที่จะทำให้ชีวิตท่านสมบูรณ์และแข็งแรง

00:15:0700:15:09 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share

00:15:0900:15:11 กด Subscribe และกดกระดิ่ง สวัสดีครับ