00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับล่าสุดนะครับได้มีองค์กรอิสระ
00:00:03 → 00:00:08 ของฝรั่งเศสเนี่ยเาไปตรวจปลาทูน่ากระป๋อง
00:00:08 → 00:00:12 ในประเทศฝรั่งเศสเยอรมันอังกฤษสเปนและ
00:00:12 → 00:00:17 อิตาลีเพบว่าในจำนวน 148 ตัวอย่างที่เขา
00:00:17 → 00:00:20 ตรวจมานะครับมีศาปรอดบนเปื้อนทุกตัวอย่าง
00:00:20 → 00:00:24 ครับและเกินกว่าครึ่งหนึ่งมีศาปรอดเกิน
00:00:24 → 00:00:28 มาตรฐานไปอีกบางตัวอย่างเกินไป 4 เท่า
00:00:28 → 00:00:31 คราวนี้แะนะครับทุกคนก็ตื่นตกใจกันหมดเลย
00:00:31 → 00:00:34 ว่าอ้าวแล้วที่ชั้นทีนปลาทูน่าอยู่จะมี
00:00:34 → 00:00:37 ปัญหามั้ยจะต้องไปตรวจมั้ยอาการเป็นอย่าง
00:00:37 → 00:00:40 ไรปลอดมันเป็นพิษกับร่างกายได้ยังไงนะ
00:00:40 → 00:00:43 ครับวันนี้ผมจะมาเล่าทุกคนฟังกันเลยนะ
00:00:43 → 00:00:45 ครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ดีธนียาวัเป็น
00:00:45 → 00:00:47 อาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
00:00:47 → 00:00:49 เชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤต
00:00:50 → 00:00:51 บำบัดนะ
00:00:51 → 00:00:55 ครับหลังจากมีผลการตรวจแบบนี้ออกมาเนี่ย
00:00:55 → 00:00:58 ทุกคนกังวลหมดเลยนะครับแต่คุณรู้อะไรมั้ย
00:00:58 → 00:01:02 ครับว่าดราม่าไม่จบแแค่นี้มันไปไกลกว่า
00:01:02 → 00:01:05 นั้นอีกเยอะเลยนะครับหนึ่งในดราม่าซึ่ง
00:01:05 → 00:01:09 มันเป็นตัวที่น่ากังวลมากๆเลยก็คือโดย
00:01:09 → 00:01:13 ทั่วไปเนี่ยปลาทุกชนิดในทะเลเากำหนดให้
00:01:13 → 00:01:18 สารปรอดไม่ให้เกิน 0.3 มิลกรัมต่อกิกัของ
00:01:18 → 00:01:23 ปลาแต่ถ้าเป็นปลาทูน่าแล้วล่ะก็ค่าลิมิต
00:01:23 → 00:01:26 จะสูงถึง 1 มิลกรัมต่อกิกันั่นหมายความ
00:01:26 → 00:01:30 ว่าปลอดที่ปนเปื้อนเข้าในปลาทูนหน้าอาจจะ
00:01:31 → 00:01:34 สูงกว่าปลาชนิดอื่นได้เกิน 3 เท่าแต่ยัง
00:01:34 → 00:01:38 ไม่ถือว่ามันเป็นพิษยังไม่ถือว่าห้ามเอา
00:01:38 → 00:01:39 มา
00:01:39 → 00:01:44 กินฟังดูแล้วเนี่ยทำไมถึงเป็นเช่นนั้นผม
00:01:44 → 00:01:46 ให้คุณลองตัดสินใจดูเอาเองว่ามันเหมาะ
00:01:46 → 00:01:49 หรือไม่เหมาะนะครับเพราะอย่างงี้เค้าบอก
00:01:49 → 00:01:52 ว่าปลาทูน่าเนี่ยมันเป็นปลาที่ตัวใหญ่
00:01:52 → 00:01:56 อายุยืนแล้วก็อยู่ช่วงบนๆของห่วงโซ่อาหาร
00:01:56 → 00:01:58 นั่นหมายความว่ามันกินปลาตัวอื่นเข้าไป
00:01:58 → 00:02:00 ได้เรื่อยๆก็เลยจะเป็นเป็นโอกาสทำให้มัน
00:02:00 → 00:02:05 สามารถที่จะกักเก็บสารปรอดไว้ในร่างกาย
00:02:05 → 00:02:08 ของมันได้เยอะและสะสมได้มากกว่าปลาชนิด
00:02:08 → 00:02:12 อื่นถ้าเกิดว่าเราไปตั้งมาตรฐานของปรอดใน
00:02:12 → 00:02:15 ปลาทูน่าให้มันต่ำคือ 0.3 มกรต่อกิกั
00:02:15 → 00:02:18 เหมือนปลาชนิดอื่นแล้วล่ะก็โอกาสที่เราจะ
00:02:18 → 00:02:21 ได้ปลาทูน่ามากินเนี่ยคงจะน้อยมากเพราะ
00:02:21 → 00:02:24 ว่าส่วนใหญ่แล้วปรอดมันเกินมันกินไม่ได้
00:02:24 → 00:02:27 ก็เลยต้องคัดทิ้ง
00:02:27 → 00:02:33 ไปนี่แหละครับราบังเกิดเลยว่าเราจะเอา
00:02:33 → 00:02:37 เรื่องของปริมาณปลาที่เรากินได้มาแลกกับ
00:02:37 → 00:02:42 สุขภาพของเราเหรอจะเอามาแลกเหรอตรงเนี้ย
00:02:42 → 00:02:45 คงต้องรอดูกันต่อไปแล้วครับว่าเขาจะตัด
00:02:45 → 00:02:51 สินกันยังไงนะครับจะต้องลดปริมาณปรอดที่
00:02:51 → 00:02:54 มีในเนื้อปลาที่ถือว่ากินได้ให้มันลดลงมา
00:02:54 → 00:02:57 เหมือนกับปลาตัวอื่นมยตรงนี้ผมก็ยังตอบ
00:02:57 → 00:03:01 ไม่ได้ก็ต้องรอดูกันต่อไปก่อนนะนะครับพิษ
00:03:01 → 00:03:05 ของปรอดเนี่ยเราเริ่มรู้จักกันมาตั้งแต่
00:03:05 → 00:03:08 ประมาณปี 1956 ในช่วงนั้นนะครับที่
00:03:08 → 00:03:12 ญี่ปุ่นมีบริษัทชื่อชิโสนะครับเค้า
00:03:12 → 00:03:16 บังเอิญได้ปล่อยสารปรอดตัวนึงชื่อเิเคี่
00:03:16 → 00:03:17 ซึ่งก็เป็นตัวเดียวกับที่อยู่ในปลาพวกนี้
00:03:17 → 00:03:23 นี่แหละลงในน้ำนะครับแล้วมันมีคนได้รับ
00:03:23 → 00:03:25 สารปรอดเข้า
00:03:25 → 00:03:28 ไปเมืองๆืนั้นน่ะที่เกิดเรื่องก็คือเมือง
00:03:28 → 00:03:30 ชื่อว่ามินามาตะมันเลยตั้งชื่อว่า
00:03:30 → 00:03:34 minamata disease หรือโรคมินาตะเวลาได้
00:03:34 → 00:03:37 สารปรอดเข้าไปในร่างกายเนี่ยปรอดเนี่ยนะ
00:03:37 → 00:03:39 ครับมันจะไปทำอันตรายต่อระบบประสาทเป็น
00:03:39 → 00:03:42 อย่างยิ่งนะครับมันไปขัดขวางกระบวนการ
00:03:42 → 00:03:44 สร้างพลังงานในไมโทคอนเดรียของเรานะครับ
00:03:44 → 00:03:47 ไมโทคอนเดรียก็คือเป็นอวัยวะหนึ่งในเซลล์
00:03:47 → 00:03:50 ที่เอาไว้สร้างพลังงานนะครับมันไปจับกับ
00:03:50 → 00:03:53 โมเลกุลบางอย่างนะครับกลุ่มที่เราเรียก
00:03:53 → 00:03:56 ว่าเป็นกลุ่มของซัลเฟอร์สไดนะครับซึ่งตัว
00:03:56 → 00:03:58 เนี้ยมันมีฤทธิ์ในการเป็นเอนไซม์ต่างๆมาก
00:03:59 → 00:04:01 มายนะครับแต่ผลทั้งหมดของมันเนี่ยนอก
00:04:01 → 00:04:03 เหนือจากพวกนี้มันสร้างการอักเสบสร้าง
00:04:03 → 00:04:07 อนุมูลอิสระขึ้นมาในร่างกายแต่มันจะไป
00:04:07 → 00:04:10 ทำลายระบบประสาทต่างๆถ้าระยะแรกนะครับที่
00:04:10 → 00:04:12 เราโดนเข้าไปเยอะๆเนี่ยเราก็อาจจะมีการ
00:04:12 → 00:04:16 คลื่นไส้อาเจียนนะครับอาจจะมีอาการมึนงง
00:04:16 → 00:04:19 แล้วก็การเคลื่อนไหวของเราเนี่ยครับมันก็
00:04:19 → 00:04:22 จะแปลกๆเช่นปกติเราอยากจะอยากจะจับสมมุติ
00:04:22 → 00:04:26 ผมมีมีรีโมทเนี้ยผมอยากจะจับผมก็เอ๊ะมัน
00:04:26 → 00:04:28 จะจับไม่ถูกสักทีมือเราควรจะยื่นไปแล้ว
00:04:28 → 00:04:30 จับได้ใช่มั้ยแต่พวกนี้นี่คือเอียงซ้าย
00:04:30 → 00:04:32 เอียงขวานะครับหรือบางทีเดินแล้วมันไม่
00:04:33 → 00:04:36 ตรงทางอันนี้คือได้รับเข้าไปเยอะๆครั้ง
00:04:36 → 00:04:39 แรกแต่ถ้าเกิดว่าคุณปล่อยไว้นานๆแล้วล่ะ
00:04:39 → 00:04:40 ก็สิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ยไม่เพียงอยู่แค่
00:04:40 → 00:04:41 นี้นะ
00:04:41 → 00:04:46 ครับมันจะทำให้บางคนมีอาการมือชาเท้าชา
00:04:46 → 00:04:50 เคลื่อนไหวผิดปกติมีความจำที่หายไปความจำ
00:04:51 → 00:04:54 เสื่อมนะฮะความจำเสื่อมได้เลยนะฮะการ
00:04:54 → 00:04:57 เคลื่อนไหวก็จะผิดปกติกล้ามเนื้อจะมีการ
00:04:57 → 00:05:01 บางคนมีกล้ามเนื้อไม่มีแรงอ่อนแรงไปเลย
00:05:01 → 00:05:03 เหมือนเป็นสตกเลยนะครับแต่มันเป็นได้ทั้ง
00:05:03 → 00:05:05 ร่างกายเลยทีเดียวนะครับและพวกเนี้ยถ้า
00:05:05 → 00:05:09 เป็นถึงขั้นนั้นแล้วมันไม่หายครับแก้ไม่
00:05:10 → 00:05:14 ได้แล้วที่สำคัญรู้มั้ยครับคนท้องครับ
00:05:14 → 00:05:18 เพราะว่าลูกเนี่ยเป็นวัยที่เขากำลังพัฒนา
00:05:18 → 00:05:21 ระบบประสาทแล้วประหลอดมันทำลายระบบประสาท
00:05:21 → 00:05:24 ครับดังนั้นในช่วงเวลาที่มีการปล่อยเิ
00:05:24 → 00:05:26 Mercury ลงมาจากโรงงานเข้าสู่น้ำเนี่ยนะ
00:05:27 → 00:05:29 ครับแล้วมีคนได้ไปเนี่ยช่วงนั้นเยเด็ก
00:05:29 → 00:05:30 เกิดมา
00:05:30 → 00:05:34 มีปัญหาแล้วบางคนตายพิษปรอดสูงๆมันทำลาย
00:05:34 → 00:05:38 ระบบประสาทคุณก็โคม่าเสียชีวิตได้เลยนะ
00:05:38 → 00:05:42 ครับนี่คือความน่ากลัวของปรอดนะอันเนี้ย
00:05:42 → 00:05:47 ผมขอเล่านิดนึงเกี่ยวข้องกับตัว
00:05:47 → 00:05:49 เทอร์โมมิเตอร์ที่ใช้ปลอดซึ่งปัจจุบันไม่
00:05:49 → 00:05:51 ค่อยมีคนใช้แล้วแต่สมัยก่อนเยังมีคนใช้
00:05:51 → 00:05:53 บางคนเคยเห็นใช่มั้ยฮะถ้าเด็กๆในรุ่นผม
00:05:53 → 00:05:55 เนี่ยมันจะต้องมีเทอร์โมมิเตอร์ที่เอาไว้
00:05:55 → 00:05:58 วัดไข้แล้วข้างในนั้นมันมีปลอดอยู่ตรงตรง
00:05:58 → 00:06:01 ก้นของมันมันแล้วบางทีเราชอบทำให้มันแตก
00:06:01 → 00:06:03 ออกมาแล้วมันเป็นมะหลอดสีเงินๆกลิ้งๆิ้มา
00:06:03 → 00:06:06 ไอ้เนี่ยถามว่าเราโดนมือรเรากินเข้าไป
00:06:06 → 00:06:10 อันตรายมยต้องบอกว่าไม่อันตรายทำไมเพราะ
00:06:10 → 00:06:13 ว่ามันไม่ใช่เิ Mercury มันเป็นเรียกว่า
00:06:13 → 00:06:16 Elemental Mercury พวกเนี้ยเอามากลิ้ง
00:06:17 → 00:06:20 บนมือมันไม่ได้ดูดซึมเข้าไปนะครับเรากิน
00:06:20 → 00:06:22 เข้าไปมันก็ไม่ดูดซึมในทางเดินอาหารมันก็
00:06:22 → 00:06:27 จะอึออกมาแต่สิ่งที่เรากลัวคือไอระเหยของ
00:06:27 → 00:06:32 ปรอดหรือ Mercury vapor นะครับมันระเหย
00:06:32 → 00:06:34 เข้ามาการที่มันระเหยแล้วเราดมเข้าไปไอ้
00:06:34 → 00:06:36 นี่แหละที่มันจะเข้าสู่กระแสเลือดเราได้
00:06:36 → 00:06:38 แต่การที่เอาไปโดนผิวหนังการกินมันเข้าไป
00:06:38 → 00:06:41 พวกเนี้ยไม่มีปัญหาอย่างไรก็ตามอันนี้
00:06:41 → 00:06:44 เป็นคนละชนิดกับปรอดที่มันอยู่ในปลาทูน่า
00:06:44 → 00:06:48 นะครับคนละชนิดกันเลยชนิดนั้นจะเรียกว่า
00:06:48 → 00:06:51 เิ Mercury และเนี่ยคือมันจะถูกดูดซึม
00:06:51 → 00:06:54 เข้าสู่ร่างกายได้นะครับปลาทูน่าต้องบอก
00:06:54 → 00:06:58 ว่ามันมีหลากหลายชนิดนะฮะคนไหนที่เสี่ยง
00:06:58 → 00:07:02 บ้างมันคือคนที่กินปลาทูน่ากระป๋องเนี่ย
00:07:02 → 00:07:07 เกินสัปดาห์ละ 2 กระป๋องเกินสัปดาห์ละ 2
00:07:07 → 00:07:09 กระป๋องนะมีข้อยกเว้นคือถ้าคุณตัวเล็ก
00:07:09 → 00:07:14 เป็นเด็กน้ำหนักน้อยหรือคุณมีโรคไตโรคทาง
00:07:14 → 00:07:18 ระบบประสาทอยู่แล้วพวกเนี้ยก็จะไวต่อปลอด
00:07:18 → 00:07:20 มากกว่าคนปกติดังนั้นคนเหล่านี้อาจจะกิน
00:07:20 → 00:07:23 ได้น้อยกว่าปกติด้วยซ้ำไปอาจจะแค่ได้แค่
00:07:23 → 00:07:26 แบบเอ่อเดือนละครั้ง 2 ครั้งแค่นั้นถ้า
00:07:26 → 00:07:28 เกิดกินเกินหน้านั้นกินประจำกินทุกวันกิน
00:07:28 → 00:07:30 วันละเยอะๆไอย่างอย่างเงี้ยมีโอกาสที่จะ
00:07:31 → 00:07:36 ได้รับปลอดที่มันเกินปกติได้นะครับคนท้อง
00:07:36 → 00:07:39 แน่นอนว่ามันมีความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป
00:07:39 → 00:07:42 ถึงแม้แม่จะไม่โดนปัญหาจากผลปลอดแต่ลูก
00:07:42 → 00:07:45 ที่ระบบประสาทกำลังเจริญเนี่ยมันโดนไป
00:07:45 → 00:07:48 เต็มๆเลยครับนะจากพิษ
00:07:48 → 00:07:52 ปรอดปลาทูน่ามีหลายชนิดที่เา้าเอามาทำ
00:07:52 → 00:07:56 เป็นทูน่ากระป๋องยิ่งปลาทูน่ามีขนาดใหญ่
00:07:56 → 00:07:58 เท่าไหร่โอกาสที่เขาจะมีสารปรอดมากเนี่ย
00:07:58 → 00:08:01 จะมีมากเท่านั้นดังนั้นวิธีในการเลือก
00:08:01 → 00:08:03 ส่วนหนึ่งก็คือเราต้องไปดูว่าปลาทูหน่า
00:08:03 → 00:08:06 ตัวไหนมันตัวเล็กนะครับซึ่งตัวเล็กเนี่ย
00:08:06 → 00:08:08 จะเป็นพันธุ์ชื่อว่า skip JA นะครับ skip
00:08:08 → 00:08:10 Jack tuna เนี่ยมันจะเป็นตัวเล็กไม่
00:08:10 → 00:08:12 ค่อยมีปลอดเท่าไหร่แต่ถ้าเป็นแบบพันธุ์
00:08:12 → 00:08:14 ใหญ่เช่นแบบ albacore White tuna อะไร
00:08:15 → 00:08:18 อย่าเงี้ยไอ้อย่างเงี้ยมันมักจะมีสารปลอด
00:08:18 → 00:08:22 สูงนะครับแล้วคือเราไม่สามารถดูได้ทุก
00:08:22 → 00:08:25 ยี่ห้อหรว่ายี่ห้อนี้มีมีเยอะมีน้อยมัน
00:08:25 → 00:08:27 มันบอกไม่ได้ตอนนี้ก็ต้องระแวงถูหน้าไป
00:08:27 → 00:08:30 ทุกอย่างแต่ถ้าถามว่ากินยังยังไงให้ปลอด
00:08:30 → 00:08:34 ภัยเรื่องของทูน่าข้อแรกอยกินบ่อยนะครับ
00:08:34 → 00:08:37 บ่อยคือแค่ไหนถ้าคนปกติไม่ได้เป็นคนท้อง
00:08:37 → 00:08:40 ไม่ได้เป็นคนที่เป็นเด็กนะครับไม่ได้มี
00:08:40 → 00:08:43 โรคไตไม่ได้มีโรคระบบประสาทคุณกินได้วัน
00:08:43 → 00:08:46 ละ 1 เอ้ยอาทิตย์ละ 1-2 กระป๋องอันนี้
00:08:46 → 00:08:48 โอเคอยู่นะครับแต่แน่นอนมันมีผลเสียอย่าง
00:08:48 → 00:08:50 อื่นอีกเพราะว่ามันมีโซเดียมอยู่ในนั้น
00:08:50 → 00:08:53 เยอะคนไหนที่มีปัญหาเรื่องไตคนไหนที่มี
00:08:53 → 00:08:56 ความดันโลหิตสูงคนไหนที่มีน้ำท่วมปอดง่าย
00:08:56 → 00:08:59 จากโรคหัวใจโรคอะไรก็แล้วแต่กินเข้าไปก็
00:08:59 → 00:09:01 ได้เกิดเรื่องแน่ๆดังนั้นคนพวกเนี้ย
00:09:01 → 00:09:04 เลี่ยงซะจะดีกว่าไม่จำเป็นจะต้องดูเรื่อง
00:09:04 → 00:09:07 แค่ปลอดอย่างเดียวนะครับถ้าเลือกเลือกจาก
00:09:07 → 00:09:09 พันธุ skip แจคเพราะมันตัวเล็กไม่ค่อยมี
00:09:09 → 00:09:12 ปลอดอาจจะปลอดภัยมากกว่านะครับแล้วถ้าต่อ
00:09:12 → 00:09:15 ไปมีการประกาศชื่อยี่ห้อที่มันทำให้มันมี
00:09:15 → 00:09:17 ไอ้ปลอดสูงๆปนเปิ้นอยู่ในนั้นเนี่ยนะครับ
00:09:17 → 00:09:20 คุณก็อาจจะต้องเลี่ยงยี่ห้อนั้นหน่อยนะ
00:09:20 → 00:09:23 ครับนี่คือวิธีกินให้มันโอเคและที่สำคัญ
00:09:23 → 00:09:27 คือการเฉลี่ยการกินปลาชนิดอื่นเนี่ยมันมี
00:09:27 → 00:09:29 ปลอดได้เหมือนกันแต่มันน้อยกว่าถ้าเรา
00:09:29 → 00:09:33 เฉลี่ยอ่ะทูน่าเดือนนี้สัก 2-3 กระป๋อง
00:09:33 → 00:09:36 แล้วไปกินปลาแซลมอนปลากระพงปลาอะไรอย่าง
00:09:36 → 00:09:38 อื่นเนี่ยปรอดมันน้อยกว่าดังนั้นโอกาสที่
00:09:38 → 00:09:41 คุณจะได้พิษจากปรอดเข้าไปก็จะยากกว่านะ
00:09:41 → 00:09:44 ครับดังนั้นการเฉลี่ยได้ก็เป็นสิ่งที่ดี
00:09:44 → 00:09:46 นะ
00:09:46 → 00:09:47 ครับ
00:09:47 → 00:09:51 แล้วมันมีอาหารอะไรมหรือวิธีอะไรมที่จะ
00:09:51 → 00:09:55 ขับปลอดพวกเนี้ยออกมาจากร่างกายมีครับมี
00:09:55 → 00:09:58 โดยที่คุณอาจจะไม่ต้องไปตรวจด้วยซ้ำไป
00:09:58 → 00:10:00 อะไร
00:10:00 → 00:10:04 เซเลเนียมครับเซเลเนียมเนี่ยมันเป็นตัว
00:10:04 → 00:10:08 นึงซึ่งจะสามารถลดพิษจากปรอดได้มันมีใน
00:10:08 → 00:10:12 อาหารบางอย่างเช่นไข่นะครับหรือเอ่อ
00:10:12 → 00:10:15 บราซิลนัถั่วบราซิลพวกเนี้ยก็จะมีพวกนี้
00:10:15 → 00:10:18 ได้เหมือนกันเซเลเนียมนะฮะโดยทั่วไปเนี่ย
00:10:18 → 00:10:20 บางคนบอกเอ้ยไปกินของพวกนี้เราจะไปรู้ได้
00:10:20 → 00:10:24 ยังไงมีเซเลเนียมปริมาณเท่าไหร่จริงๆไอ้
00:10:24 → 00:10:26 ถั่วบราซิลเนี่ยมันจะเยอะหน่อยนะแล้วก็
00:10:26 → 00:10:28 ถ้าเกิดว่าใครขี้เกียจไปหามันมากินอยากจะ
00:10:28 → 00:10:29 กินเป็นอาหารเสริมเสริมตัวนึงไปเลยได้
00:10:29 → 00:10:33 มั้ยเซเลเนียมไปได้มั้ยคำตอบก็คือได้กิน
00:10:33 → 00:10:36 เท่าไหร่ล่ะมันอยู่ที่ประมาณ 100-200
00:10:36 → 00:10:39 ไมโครกรัมต่อวันเนี่ยแค่นี้ก็สามารถที่จะ
00:10:39 → 00:10:44 แก้ไขเรื่องของปัญหาปลอดพอได้ยกเว้นถ้า
00:10:44 → 00:10:46 คุณมีอาการจากพิษปรอดอันนั้นน่ะกิน
00:10:46 → 00:10:48 เซเลเนียมเท่าไหร่มันก็ไม่ช่วยแต่ถ้ามัน
00:10:48 → 00:10:50 ไม่ค่อยมีอาการอะไรเท่าไหร่หรือเป็นน้อยๆ
00:10:50 → 00:10:52 หรือเราแค่สงสัยเรากินปลาพวกนี้เยอะเหลือ
00:10:52 → 00:10:54 เกินเรากินปลากระป๋องบ่อยเหลือเกินก็อาจ
00:10:54 → 00:10:59 จะใช้ตัวเนี้ยพอทุเราแล้วก็บันเทาปัญหา
00:10:59 → 00:11:05 จากปลอดได้บ้างนะครับอย่างไรก็ตามถ้าคน
00:11:05 → 00:11:08 ไหนที่กินทูน่าเป็นประจำอยู่แล้วกินเยอะๆ
00:11:08 → 00:11:10 กินพวกทูน่ากระป๋องนะโดยเฉพาะทูน่า
00:11:10 → 00:11:13 กระป๋องทูน่าจริงๆเนี่ยถ้าทูน่าสดมันก็มี
00:11:13 → 00:11:14 ปัญหาอยู่ดีแล้วแหละครับแต่ว่ามันไม่มี
00:11:14 → 00:11:17 การวัดไอ้กระป๋องเนี่ยมันวัดได้แต่ไอ้ถู
00:11:17 → 00:11:19 หน้าที่เขาคจับมาอย่างเงี้ยหรือเอามาหั่น
00:11:19 → 00:11:22 เป็นปลาหรืออะไรก็แล้วแต่เนี่ยปลาดิบกิน
00:11:22 → 00:11:25 พวกนี้มันไม่ได้วัดวัดไม่ได้ไม่มีใครไป
00:11:25 → 00:11:28 วัดกันงั้นคุณไม่มีทางรู้ไม่มีทางรู้แล้ว
00:11:28 → 00:11:31 กินเท่าไหร่ถึงจะปลอดอภัยที่รู้แน่ๆคือ
00:11:31 → 00:11:33 เรื่องกระป๋องเนี่ยชัวร์ชัวร์ชัดเจนแต่
00:11:33 → 00:11:35 แน่นอนว่าถ้าคุณกินทูหน้าก็เลือกเอาตัว
00:11:35 → 00:11:37 เล็กๆหน่อยมันจะได้ไม่ค่อยมีสารพวกนี้ถ้า
00:11:37 → 00:11:41 คุณเลือกเอาแบบใหญ่ๆเนี่ยอ่าอาจจะมีปัญหา
00:11:41 → 00:11:43 อาจจะมีปัญหาบลูฟินทูหน้าที่ตัวเบเริ่ม
00:11:43 → 00:11:45 เิ่มเนี่ยเออาจจะมีปัญหาหน่อยนะครับถ้า
00:11:45 → 00:11:48 คุณกินเยอะๆนะนะครับดังนั้นกินเฉลี่ยจะดี
00:11:48 → 00:11:53 กว่าถ้าเกิดคุณมีภาวะพิษปลอดฉับพลันมี
00:11:53 → 00:11:56 คลื่นแส้เจียนรู้สึกเดินเซมือมันจับไม้
00:11:56 → 00:11:58 จับอะไรไม่ค่อยถูกต้องแล้วมีชาๆพวกเนี้ย
00:11:58 → 00:12:02 บางทีอาต้องไปไปตรวจหน่อยนะตรวจอะไร
00:12:02 → 00:12:05 ล่ะถ้าเกิดคุณได้รับเิ Mercury เข้าไป
00:12:05 → 00:12:08 เนี่ยสามารถตรวจได้จากเลือดครับคนปกตินะ
00:12:08 → 00:12:12 ควรจะต่ำกว่า 5 ไมโครกรัมต่อลิตรแต่ถ้า
00:12:12 → 00:12:15 เกิดว่าคุณเป็นพิษฉับพลันมันจะเกิน 50 นะ
00:12:15 → 00:12:20 ครับจะเกิน 50 ไมโครกรัมต่อลิตรและถ้า
00:12:20 → 00:12:22 เกิดมันเกิน 50 แล้วมีอาการเราต้องรักษา
00:12:22 → 00:12:29 ครับรักษายังไงนะครับเราจะใช้วิธี kation
00:12:29 → 00:12:33 คีชเนี่ยมีแบบกินแล้วก็แบบฉีดไม่ใช่คีช
00:12:33 → 00:12:35 ที่พวกคุณไปใช้กันตามเวชศาสตร์ชะลอวัยแบบ
00:12:35 → 00:12:38 นั้นเพื่อลดอายุ antiaging หรือเพื่อ
00:12:38 → 00:12:40 กำจัดโลหะอะไรก็แล้วแต่อันนั้นไม่ได้
00:12:40 → 00:12:42 ประโยชน์ไม่ได้ผลแล้วเป็นอันตรายได้ด้วย
00:12:42 → 00:12:45 ผมเคยทำคลิปไปแล้วถ้าใครจำไม่ได้ก็ย้อนไป
00:12:45 → 00:12:49 ฟังคลิปคีชที่ผมเคยทำได้นะครับคีชเ่ะเรา
00:12:49 → 00:12:53 ใช้ในทางการแพทย์ก็ต่อเมื่อมีข้องใช้ซึ่ง
00:12:53 → 00:12:56 ข้อบ่งใช้คือมีปัญหาจากโลหะหนักที่มัน
00:12:56 → 00:13:01 เกินร่วมกับออารที่เข้าได้ไม่ใช่อยู่ๆ
00:13:01 → 00:13:03 อ่อนเพลียแล้วก็ไปตรวจแล้วก็เฮ้ยมันสูง
00:13:03 → 00:13:06 นี่นาเค้าก็เลยให้คีชอันอย่างงั้นไม่ถูก
00:13:06 → 00:13:08 ต้องนะครับแล้วมันก็จะมีปัญหาอย่างที่ผม
00:13:08 → 00:13:11 เคยทำคลิปไปแล้วถ้าอยากจะสนใจทบทวนก็ย้อน
00:13:11 → 00:13:14 กลับไปฟังคลิปนั้นได้นะครับนั้นคุณต้องมี
00:13:14 → 00:13:19 อาการบวกกับผลเลือดที่มันเยอะเกินไปหรือ
00:13:19 → 00:13:23 บางทีอาจจะมีอลุ้มอร่วยเช่นในคนที่ท้อง
00:13:23 → 00:13:26 หรือตั้งใจว่าจะมีบุตรพวกนี้อาจจะต้องไป
00:13:26 → 00:13:27 ตรวจโดยเฉพาะถ้าเกิดคุณกินทูหน้าเป็น
00:13:27 → 00:13:30 ประจำเนี่ยตรวจแล้วถ้ามันเกินอันนี้อาจจะ
00:13:30 → 00:13:32 ต้องจัดดการเอาให้มันลงมาก่อนทั้งๆที่คุณ
00:13:32 → 00:13:35 ยังไม่มีอาการเพื่อป้องกันลูกน้อยที่จะ
00:13:35 → 00:13:37 เกิดมาในคันของคุณเพื่อไม่ให้มีปัญหานะ
00:13:37 → 00:13:40 ครับงั้นตอนนี้เรารู้ว่าตรวจยังไงนะฮะ
00:13:40 → 00:13:42 จริงๆมันก็ตรวจทางอื่นได้อีกตรวจเส้นผม
00:13:42 → 00:13:45 ตรวจปัสาวะแต่ตรวจเลื่อนนง่ายที่สุดนะ
00:13:45 → 00:13:47 ครับแล้วก็มีวิธีในการรักษาคีชมีทั้งแบบ
00:13:47 → 00:13:51 กินแล้วก็แบบฉีดนะครับทั่วไปแบบกินเนี่ย
00:13:51 → 00:13:53 เราก็จะกินอยู่นาน 2 อาทิตย์เลยอาจจะมี
00:13:53 → 00:13:56 การปรับโดสยาซึ่งตรงนี้ไปถามคุณหมอเค้านะ
00:13:56 → 00:13:59 ครับแล้วแน่นอนว่าหลังจากกินเสร็จปุบผ่าน
00:13:59 → 00:14:01 ไป 2 อาทิตย์ถึงเดือนเนี่ยก็อาจจะต้องมี
00:14:01 → 00:14:03 การตรวจร้างว่าเอ้ยระดับมันโอเคหรือยังนะ
00:14:03 → 00:14:05 ครับมันลงมาแล้วหรือยังแล้วก็ระหว่างนี้
00:14:05 → 00:14:08 เราต้องบอกคนไข้ว่าเฮ้ยอย่าไปกินไอ้ปลา
00:14:08 → 00:14:10 พวกนี้เยอะนะมันมีปัญหาถ้าจะกินก็กิน
00:14:10 → 00:14:14 เฉลี่ยหันๆกันบ้างนะครับมันจะได้ไม่เกิด
00:14:14 → 00:14:18 ปัญหาอะไรขึ้นมานะครับเนี่ยอันนี้ก็คือ
00:14:18 → 00:14:22 เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับดราม่าปาทูน่า
00:14:22 → 00:14:27 กระป๋องที่แถบยุโรปนะครับใครกินกันเยอะก็
00:14:27 → 00:14:29 ระวังตัวไว้ดีๆนะครับและที่สสำคัญคือคุณ
00:14:29 → 00:14:33 รู้อะไรมั้ยครับว่าถ้าคุณเป็นพิษปลอด
00:14:33 → 00:14:37 เรื้อรังถึงขั้นโรคมินาตะจนมันทำลายระบบ
00:14:37 → 00:14:40 ประวัติศาสตร์ส่วนกลางไปแล้วคุณไม่มีทาง
00:14:40 → 00:14:45 หายครับต่อให้คุณใช้คีชยังไงก็แล้วแต่กิน
00:14:45 → 00:14:49 เซเลเนียมกินทุกอย่างดีและมันก็ไม่หาย
00:14:49 → 00:14:54 ครับไม่หายเลยก็ต้องมานั่งทำกายภาพไปนะ
00:14:54 → 00:14:56 ครับพวกเนี้ยระยะเรื้อรังนะครับถ้ามัน
00:14:56 → 00:14:59 ทำลายระบบประสาทไปแล้วความจำเสื่อมไปเลย
00:14:59 → 00:15:02 อาจจะมีอาการมือเท้าชาแขนชาขยับไม่ได้นะ
00:15:02 → 00:15:06 ครับเดินก็เซนะครับทำอะไรไม่ได้ักอย่าง
00:15:06 → 00:15:08 เลยก็ต้องนอนป้อแป้อยู่บนเตียงทำอะไรไม่
00:15:08 → 00:15:10 ได้จริงๆนะครับอันนี้ก็เลยเป็นเรื่องที่
00:15:10 → 00:15:13 อันตรายแล้วเรื่องของดราม่าเราคงต้องรอ
00:15:13 → 00:15:17 กันอีกนะครับว่าตกโลงแล้วเนี่ยเราจะยอม
00:15:17 → 00:15:20 เอาจำนวนของปลาทูน่าที่เรามากินได้มา
00:15:20 → 00:15:24 เสี่ยงกับสุขภาพเราจริงหรือเปล่าหรือเรา
00:15:24 → 00:15:29 จะยอมลดปริมาณตลอดมาตรฐานที่อยู่ในเนื้อ
00:15:29 → 00:15:32 ปลาทูน่าให้มันน้อยกว่าให้มันน้อยลงมา
00:15:32 → 00:15:34 อย่างน้อยก็ต้องเท่ากับปลาชนิดอื่นนั่น
00:15:34 → 00:15:37 แหละครับนะงั้นอันนี้ก็คงจะต้องดูต่อไปนะ
00:15:38 → 00:15:39 กันนะครับถ้าเกิดว่ามีข่าวยังไงผมก็อาจจะ
00:15:39 → 00:15:42 เอามาแจ้งให้ทุกคนทราบไว้นะครับถ้าใครกิน
00:15:42 → 00:15:45 ทูน่ากระป๋องอยู่ตอนนี้ก็อาจจะต้องอย่าไป
00:15:45 → 00:15:47 กินมันเยอะแล้วกันนะครับไปกินอย่างอื่น
00:15:47 → 00:15:49 เฉลี่ยกันไปถ้าเกิดว่าใครกินปลาทูหน้าตัว
00:15:49 → 00:15:53 ใหญ่ๆกินกับปลาดิบนะฮะก็อาจจะต้องเพลาๆลง
00:15:53 → 00:15:55 นิดนึงนะครับเพราะว่าเราไม่มีทางรู้เลย
00:15:55 → 00:15:57 ว่าทะเลตรงไหนที่เา้ามีปลอดปนเปื้อนเยอะ
00:15:57 → 00:16:00 ขนาดไหนนะครับครับต่อให้เราพอรู้แล้วจับ
00:16:00 → 00:16:02 มาแล้วจะรู้ได้ยังไงเพราะมันไม่มีใครไป
00:16:02 → 00:16:05 วัดในปลาที่เรากินเข้าไปนะครับเออหรือบาง
00:16:05 → 00:16:08 คนก็สติแตกเลยเฮ้ยเรากินบ่อยเราไปตรวจดี
00:16:08 → 00:16:10 มั้ยเรากินปลาดิบกินอาหารญี่ปุ่นประจำเลย
00:16:10 → 00:16:13 เราไปตรวจดีมยคือส่วนมากน่ะถ้าไม่ได้มี
00:16:13 → 00:16:16 ความเสี่ยงเช่นมีโรคไตนะครับเ่อโรคทาง
00:16:16 → 00:16:19 สมองอยู่แล้วกำลังจะตั้งครรภ์ตัวเล็กๆ
00:16:19 → 00:16:21 แล้วกินเข้าไปเยอะๆอย่างเงี้ยนะครับพวก
00:16:21 → 00:16:24 นี้อาจจะไม่จำเป็นต้องตรวจนะครับเออถ้า
00:16:24 → 00:16:26 เป็นคนอื่นๆเนี่ยอือาจจะไม่ต้องตรวจนะถ้า
00:16:26 → 00:16:28 เป็นเฉพาะบุคคลพิเศษเหล่านี้ที่เล่าไป
00:16:28 → 00:16:31 อันเนี้ยอาจจะต้องลองคิดถึงนิดนึงนะครับ
00:16:31 → 00:16:35 เพราะบางทีมันมีโรคแบบนี้มันค่อนข้างหา
00:16:35 → 00:16:37 ยากเนาะเราก็ไม่ค่อยคิดถึงเท่าไหร่นะครับ
00:16:37 → 00:16:40 ดังนั้นโอกาสที่เราจะเป็นโดยที่ไม่มีใคร
00:16:40 → 00:16:44 รู้ไม่มีใครตรวจมันก็มีอยู่ได้นะครับ
00:16:44 → 00:16:48 แต่ระวังอย่างหนึ่งเวลาเราไปตามคลินิก
00:16:48 → 00:16:51 แล้วเคขอให้เราตรวจดูโลหะหนักไม่ว่าจะ
00:16:51 → 00:16:53 เป็นตรวจเลือดตรวจปัสสาวะอันนั้นไม่ต้อง
00:16:53 → 00:16:56 ตรวจครับเสียเวลาเพราะว่าหลังจากนั้นก็จะ
00:16:56 → 00:16:59 มีการขายคีชต่อขายวิตามินขายอาหารเสริม
00:17:00 → 00:17:03 ต่อซึ่งพวกเนี้ยไม่ได้ช่วยอะไรคุณเลยไม่
00:17:03 → 00:17:06 ได้ช่วยเลยนะครับในกรณีของโดยเฉพาะโลหะ
00:17:06 → 00:17:09 หนักที่แบบเรื่องของปลาแซปลาทูน่าที่มัน
00:17:09 → 00:17:11 กำลังเป็นขาวเนี่ยไม่ได้ช่วยอะไรเลยเพราะ
00:17:11 → 00:17:14 ว่าหลายครั้งหลายๆคนนะครับจะได้รับการ
00:17:14 → 00:17:16 รักษาโดยที่คุณไม่จำเป็นจะต้องได้รับการ
00:17:16 → 00:17:18 รักษาคือทำให้คุณไปเสี่ยงต่อการเกิดผล
00:17:18 → 00:17:21 ข้างเคียงโดยไม่จำเป็นเลยสักนิดเดียวนะ
00:17:21 → 00:17:23 ครับอ่ะวันนี้ผมก็เล่าให้ฟังเพียงเท่านี้
00:17:23 → 00:17:26 นะครับถ้าใครมีอะไรสงสัยก็สอบถามมานะครับ
00:17:26 → 00:17:30 ขอบคุณครับ