00:00:00 → 00:00:02 เรื่องปัญหานอนไม่หลับเนี่ยเป็นปัญหาใหญ่
00:00:02 → 00:00:05 ของคนจำนวนมากเลยนะครับแล้วทุกคนเนี่ยก็
00:00:05 → 00:00:07 พยายามที่จะมองหาตัวช่วยว่าจะทำยังไงดี
00:00:07 → 00:00:11 ให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้นไวขึ้นหลับสนิท
00:00:11 → 00:00:14 นานมากยิ่งขึ้นในประเทศไทยเองเนี่ยหลายๆ
00:00:14 → 00:00:17 คนมักจะพูดถึงอาหารเสริมไม่ว่าจะเป็น
00:00:17 → 00:00:19 เมลาโทนินหรือว่ากาบนะครับเพราะมีการทำ
00:00:19 → 00:00:22 Marketing ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวเราเคย
00:00:22 → 00:00:24 พูดถึงทั้งกาบ้าแล้วก็เมลาโทนินไปแล้วนะ
00:00:24 → 00:00:26 ครับจริงๆแล้วเมลาโทนินเนี่ยมันไม่ใช่ยา
00:00:26 → 00:00:28 นอนหลับมันเป็นฮอร์โมนที่ร่างกายเราหลั่ง
00:00:28 → 00:00:30 อยู่แล้วเพื่อ Build ให้เราอยากพักผ่อนนะ
00:00:30 → 00:00:33 ครับเพจริงการกินเมลทนี้เนี่ยมันอาจจะไม่
00:00:33 → 00:00:35 ได้มีประสิทธิภาพมากเท่าไหร่ที่ช่วยให้
00:00:35 → 00:00:38 เรารับแล้วก็อาจจะเกิด Side เอฟเฟคได้
00:00:38 → 00:00:39 เพราะว่ามันอาจจะไปกระทบกับการผลิต
00:00:40 → 00:00:43 ฮอร์โมนบางอย่างนะครับทีนี้ตอนนี้นะครับ
00:00:43 → 00:00:47 มันมีอาหารเสริมตัวอื่นๆที่กำลังเป็นที่
00:00:47 → 00:00:49 นิยมเลยนะครับผมอยากจะเอามาฝากทุกคนหนึ่ง
00:00:49 → 00:00:53 ในนั้นที่กำลังฮิตมากๆเนี่ยคือแมกนีเซียม
00:00:53 → 00:00:55 ที่เขาเจอว่าแมกนีเซียมเนี่ยสามารถที่จะ
00:00:55 → 00:00:57 ช่วยทำให้ร่างกายเราเนี่ยหลับได้มี
00:00:58 → 00:00:59 ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นแล้วเดี๋ยววัน
00:00:59 → 00:01:03 เนี้ยแถมอีก 2 ตัวครับที่กำลังโด่งดังมาก
00:01:03 → 00:01:07 ในอเมริกานะครับก็คืออิิิแล้วก็ตานีนด้วย
00:01:07 → 00:01:11 นะครับทั้งแมกนีเซียมอิิิเนินเนี่ยใน
00:01:11 → 00:01:14 เมืองนอกเนี่ยแทบจะจับออกมาเป็นสูตรเลย
00:01:14 → 00:01:16 ครับเรียกว่าเป็น Sleep คอกเทลคือกินเข้า
00:01:16 → 00:01:18 ไปเม็ดเดียวเนี่ยรวมพลังการช่วยทำให้เรา
00:01:18 → 00:01:20 หลับสนิทแล้วก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น
00:01:20 → 00:01:22 เดี๋ยวเรามาดูกันว่าไอ้เจ้า 3 ตัวเนี้ย
00:01:22 → 00:01:25 แมกนีเซียมเนี่ยมันช่วยในการดับจริงหรือ
00:01:25 → 00:01:27 เปล่าแล้วเราควรจะกินยังไงเพื่อที่จะปลอด
00:01:27 → 00:01:29 ภัยกับร่างกายของเราครับ This is the
00:01:29 → 00:01:32 Standard podcast Eye Opening for
00:01:32 → 00:01:33 your
00:01:33 → 00:01:37 ears Top to Toe podcast สุขภาพที่
00:01:37 → 00:01:40 ใช้วิทยาศาสตร์ไขปัญหาตั้งแต่หัวจด
00:01:40 → 00:01:44 เท้าอ่ะมาว่ากันที่ Sleep คอกเทลนะครับ
00:01:44 → 00:01:46 เมื่อกี้พูดไปว่ามี 3 ตัวเนาะจริงๆแล้ว
00:01:46 → 00:01:49 ต้องบอกว่าคือที่มันโด่งดังขึ้นมาได้
00:01:49 → 00:01:51 เนี่ยนะครับเพราะว่ามี Celebrity
00:01:51 → 00:01:53 scientist คือนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นเบใน
00:01:53 → 00:01:57 เมืองนอกเนี่ยเออกมาพูดถึงไอ้เจ้าศาร
00:01:57 → 00:02:00 sumen เหล่านี้นะครับว่าเออมันมีมีงาน
00:02:00 → 00:02:02 วิจัยแล้วก็มันมี Backup Science เลย
00:02:02 → 00:02:04 เนาะแล้วตัวเขาเองเนี่ยก็ใช้แล้วมันก็เจอ
00:02:04 → 00:02:08 ว่าช่วยในการนอนหลับได้ยาวนานขึ้นมีมี
00:02:08 → 00:02:10 ประสิทธิภาพมากขึ้นจริงๆเพราะั้นทั้ง 3
00:02:10 → 00:02:13 ตัวเนี้ยมันก็เลยโด่งดังขึ้นมานะครับมีคน
00:02:13 → 00:02:15 เอาไปผลิตเป็นแคปซูลอาหารเสริมแล้วก็
00:02:15 → 00:02:17 พยายามทำ Marketing ทำแบรนด์ขึ้นมาวาง
00:02:17 → 00:02:19 positioning ขึ้นมาให้เป็น Sleep
00:02:19 → 00:02:22 Cocktail หรือว่า Sleep Trio คือ 3 ตัว
00:02:22 → 00:02:25 นี่แหละมาช่วยกันรวมพลังนะครับมีอะไรบ้าง
00:02:25 → 00:02:28 ตัวที่ 1 นะครับคือแมกนีเซียมนะครับซึ่ง
00:02:28 → 00:02:30 เจ้าแมกนีเซียมที่ช่วยเรื่องการนอนหลับ
00:02:30 → 00:02:32 เนี่ยครับมักจะขายอยู่ในรูปของ 2 ฟอร์มก็
00:02:32 → 00:02:36 คือ 1 คือแมกนีเซียมรอตกับ 2 คือ
00:02:36 → 00:02:40 แมกนีเซียมบิกิตคือกินเข้าไปแล้วก็คือคุณ
00:02:40 → 00:02:42 จะได้แมกนีเซียมนั่นแหละนะครับตัวที่ 2
00:02:42 → 00:02:43 นะครับคือ
00:02:43 → 00:02:48 อิิินะครับและตัวที่ 3 คือตานีนซึ่งทั้ง 3
00:02:48 → 00:02:50 ตัวนี้นะครับถ้าเกิดว่ากินในปริมาณที่
00:02:50 → 00:02:53 เหมาะสมเนี่ยสามารถที่จะกินได้ทุกวันเป็น
00:02:53 → 00:02:57 เี่เลยนะครับและสามารถที่จะช่วยทำให้เรา
00:02:57 → 00:03:00 หลับง่ายขึ้นหลับได้ลึกแล้วก็สนิทแล้วก็
00:03:00 → 00:03:02 ทำให้เวลาตื่นมารู้สึกว่านอนหลับเต็มอิ่ม
00:03:02 → 00:03:05 รู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้นเดี๋ยวเราไปเจาะ
00:03:05 → 00:03:07 ทีละตัวเลยดีกว่าว่ามันช่วยยังไงแล้วเรา
00:03:08 → 00:03:10 ควรจะกินยังไงนะครับตัวแรกคือแมกนีเซียม
00:03:10 → 00:03:13 จริงๆแมกนีเซียมเนี่ยมีคนพูดถึงบ่อยมาก
00:03:13 → 00:03:15 ขึ้นนะครับในทุกวันนี้เพราะว่ามันมี
00:03:15 → 00:03:17 ประโยชน์เยอะที่สำคัญคือจริงๆแล้วเนี่ย
00:03:17 → 00:03:21 เขาเจอว่าประชากรโลกเนี่ยขาดแมกนีเซียม
00:03:21 → 00:03:23 คือมีเป็น magnesium deficiency คือกิน
00:03:23 → 00:03:26 แมกนีเซียมเข้าไปไม่พอเนี่ยครึ่งนึงของ
00:03:26 → 00:03:28 ประชากรโลกก็ว่าได้นะครับคนไทยเนี่ยก็ขาด
00:03:28 → 00:03:30 แมกนีเซียมไม่แพ้กันเพราะฉะนั้นเเาถึง
00:03:30 → 00:03:32 กำลังเริ่ม breast awareness ว่าเราควร
00:03:32 → 00:03:35 จะกินแมกนีเซียมให้พอเพราะมันสำคัญกับ
00:03:35 → 00:03:37 Over Health แล้วก็เจอว่าแมกนีเซียม
00:03:37 → 00:03:40 ช่วยเรื่องการนอนหลับด้วยนะครับถามว่าทุก
00:03:40 → 00:03:42 วันเนี้ยเราควรจะกินแมกนีเซียมปริมาณวัน
00:03:42 → 00:03:45 ละเท่าไหร่นะครับตัวเลียกที่ผมไปรีเสิร์ช
00:03:45 → 00:03:47 มาเเจอว่าควรจะกินอยู่ในช่วงประมาณ
00:03:47 → 00:03:51 300-400 มิลกรัมต่อวันขึ้นอยู่กับอายุ
00:03:51 → 00:03:54 เพศแล้วก็สภาพร่างกายนะครับถ้าเกิดว่า
00:03:54 → 00:03:56 เป็นเพศชายเนี่ยก็ต้องการมากกว่าผู้หญิง
00:03:56 → 00:03:58 นะครับแก่ขึ้นอาจจะต้องการไม่ได้เยอะเท่า
00:03:58 → 00:04:00 ตอนเด็กๆนะครับคนท้องอาจต้องการ
00:04:00 → 00:04:03 แมกนีเซียมสูงขึ้นกว่าผู้หญิงธรรมดาปกติ
00:04:03 → 00:04:05 ที่ไม่ได้ท้องนะครับทนี้ถามว่าแมกนีเซียม
00:04:05 → 00:04:07 จำเป็นยังไงตอนเด็กๆที่เราเรียนมาคือ
00:04:07 → 00:04:10 แมกนีเซียมสำคัญกับระบบประสาทแล้วก็กล้าม
00:04:10 → 00:04:12 เนื้อนะครับแต่จริงๆแล้วมันยังช่วยสร้าง
00:04:12 → 00:04:14 กระดูกคุมน้ำตาลในเลือดและก็ช่วยเรื่อง
00:04:14 → 00:04:17 คุณภาพการนอนด้วยแมกนีเซียมเนี่ยครับพอ
00:04:17 → 00:04:18 เรากินเข้าไปแล้วเนี่ยร่างกายก็ใช้ไปแล้ว
00:04:19 → 00:04:20 มันก็หมดไปนะครับเพราะฉะนั้นเราจำเป็นให้
00:04:20 → 00:04:23 ต้องกินแมกนีเซียมเข้าไปเรื่อยๆทุกวัน
00:04:23 → 00:04:26 เพราะมันเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายเนี่ยต้อง
00:04:26 → 00:04:28 ใช้อยู่สม่ำเสมอนั่นเองนะครับถามว่าแล้ว
00:04:28 → 00:04:31 เราควรจะกินแมแมกนีเซียมในรูปแบบไหนทำไม
00:04:31 → 00:04:35 ไอ้เจ้าแมกนีเซียมตินตแล้วก็แมกนีเซียม
00:04:35 → 00:04:38 บิกิตหรือว่าแมกนีเซียมกิตตัวเดียวกันนะ
00:04:38 → 00:04:41 ครับถึงเป็นที่นิยมมากกว่าแมกนีเซียมใน
00:04:41 → 00:04:44 รูปแบบอื่นๆเพราะว่าเจ้าแมกนีเซียมใน 2
00:04:44 → 00:04:47 ฟอร์มนี้นะครับมันสามารถที่จะดูดซึมได้ดี
00:04:47 → 00:04:50 ในร่างกายนะครับถ้าเกิดว่ากินสารประกอบ
00:04:50 → 00:04:52 ที่มีแมกนีเซียมที่ดูดซึมได้ไม่ดีเนี่ย
00:04:52 → 00:04:55 ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นก็คือเราอาจจะเกิด
00:04:55 → 00:04:57 ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับทางเดินอาหารก็คือ
00:04:57 → 00:04:59 อาจจะขึ้นไส้อาเจียแล้วก็ท้องเสียได้แต่ 2
00:04:59 → 00:05:02 ตัวเนี้ยดูดซึมดีก็เลยจะไม่ค่อยเป็นปัญหา
00:05:02 → 00:05:05 นะครับแล้วทั้ง 2 ตัวเนี้ยครับมันสามารถ
00:05:05 → 00:05:08 ที่จะข้ามสิ่งที่เรียกว่า Blood Brain
00:05:08 → 00:05:10 barrier คือข้ามเข้าไปในสมองได้เร็วมาก
00:05:10 → 00:05:12 คือบริเวณรอบนอกสมองของเราเนี่ยครับมันจะ
00:05:12 → 00:05:15 มีกำแพงเมืองมีด่านตรวจคนเข้าเมืองที่
00:05:15 → 00:05:17 เข้มงวดมากในการสกรีนว่าอะไรจะวิ่งเข้า
00:05:18 → 00:05:20 สมองได้ไม่ได้นะครับไอ้เจ้าแมกนีเซียม 2
00:05:20 → 00:05:23 ตัวเนี้ยมันสามารถจะข้าม Blood Brain
00:05:23 → 00:05:25 barrier หรือว่าด่านตรวจคนเข้าเมืองของ
00:05:25 → 00:05:28 สมองเนี่ยได้ดีมากการที่มันข้ามเข้าไปใน
00:05:28 → 00:05:30 สมองได้ดีเนี่ยคือดูดซืมเข้าไปได้ดีแล้ว
00:05:30 → 00:05:33 วิ่งเข้าไปสมองเนี่ยมันก็จะไปช่วยกล่อม
00:05:33 → 00:05:37 ให้เรารู้สึกรีกสบายแล้วก็อยากจะนอนทำให้
00:05:37 → 00:05:39 เรานอนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเองโดย
00:05:39 → 00:05:41 เขาเจอว่าแมกนีเซียม trate เนี่ยนะครับ
00:05:41 → 00:05:44 มันสามารถจะข้าม bbb หรือว่าบั Brain
00:05:44 → 00:05:47 barrier ได้ดีกว่านะครับถามว่าข้ามไป
00:05:47 → 00:05:49 แล้วเนี่ยมันเข้าไปทำอะไรหรอเาเจอว่ามัน
00:05:49 → 00:05:53 เข้าไปกระตุ้นการทำงานของกาบครับกาบเนี่ย
00:05:53 → 00:05:55 อาจจะเคยได้ยินบ่อยเนาะคือกาบเนี่ยเป็น
00:05:55 → 00:05:59 สารที่ทำให้ร่างกายเราอ่ะรู้สึกรีกรู้สึก
00:05:59 → 00:06:02 รู้สึกสงบรู้สึกสบายนะครับเพราะงั้นใคร
00:06:02 → 00:06:05 ที่เคยกินกาบ้าหรือว่าอาหารที่นมหรือว่า
00:06:06 → 00:06:08 ผลิตภัณฑ์ที่เขามีการแอดกาบ้าเข้าไปแล้วเ
00:06:08 → 00:06:10 จะมักจะทำโฆษณาว่าออมีกาบ้าทำให้เรารู้
00:06:10 → 00:06:12 สึกผ่อนคลายสบายหลับง่ายซึ่งมันก็เป็น
00:06:12 → 00:06:14 อย่างนั้นจริงๆเพราะว่ามันเป็นสารที่ทำ
00:06:14 → 00:06:17 ให้ร่างกายรู้สึกสบายรีกการที่เราจะนอน
00:06:17 → 00:06:20 หลับได้เนี่ยร่างกายมันต้องเข้าสู่ภาวะ
00:06:20 → 00:06:23 รีกภาวะแบบ turn off อ่ะรู้สึกอยากพัก
00:06:23 → 00:06:25 ผ่อนนั่นเองนะครับซึ่งเจ้า magnesium
00:06:25 → 00:06:28 trate มันไปช่วยเสริมการทำงานของกาบมัน
00:06:28 → 00:06:31 ก็เลยทำให้ร่างกายเเข้าสู่โหมดพักผ่อน
00:06:31 → 00:06:34 แล้วหลับได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นนั่นเองนะฮะ
00:06:34 → 00:06:36 อีกตัวนึงคือ magnesium ิ glycinate หรือ
00:06:36 → 00:06:38 ว่าบางคนอาจจะเจอในรูปของแมกนีเซียมไซต
00:06:38 → 00:06:41 มันคือตัวเดียวกันคือกินเข้าไปแล้วเนี่ย
00:06:41 → 00:06:44 มันก็จะแตกตัวมาเป็นแมกนีเซียมกับไลซีนนะ
00:06:44 → 00:06:47 ครับไลซีนคืออมินแอซิดตัวนึงเจ้าไกลซีน
00:06:47 → 00:06:49 กับแมกนีเซียมเนี่ยครับมันร่วมกันทำงาน
00:06:49 → 00:06:52 เนาะมันก็จะไปช่วยให้การทำงานของ
00:06:52 → 00:06:55 เมลาโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้ร่างกาย
00:06:55 → 00:06:58 รู้สึกรกเนี่ยมันทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้นนะ
00:06:58 → 00:07:00 ครับคนละ mechanism คนละกลไกกับ
00:07:00 → 00:07:03 แมกนีเซียมอีกตัวนึงแต่ว่าทั้ง 2 ตัวเี่
00:07:03 → 00:07:06 ครับเข้าไปอ่าช่วยในกระบวนการทำให้ร่าง
00:07:06 → 00:07:09 กายรู้สึกผ่อนคลายไปช่วยร่างกาย Build
00:07:09 → 00:07:12 Mode ที่อยากพักผ่อนแล้วก็รู้สึกสงบแล้ว
00:07:13 → 00:07:14 ทำให้เราเข้านอนได้ง่ายมากยิ่งขึ้นนั่น
00:07:14 → 00:07:17 เองนะครับถามว่าถ้าเกิดเราอยากกิน
00:07:17 → 00:07:19 แมกนีเซียมเนี่ยเราไม่ต้องกินอาหารเสริม
00:07:19 → 00:07:21 ได้มั้ยได้นะครับในอาหารทั่วไปเนี่ยมี
00:07:21 → 00:07:24 แมกนีเซียมอยู่นะครับแล้วเราก็หาสามารถจะ
00:07:24 → 00:07:26 หาซื้อได้กินทุกวันถามว่ามีเยอะในไหน
00:07:26 → 00:07:29 แมกนีเซียมเนี่ยนะครับมีเยอะในนี่ทั่ว
00:07:29 → 00:07:33 เปลือกแข็งคือแอลมอนด์มะม่วงหิมพานถั่ว
00:07:33 → 00:07:35 ลิสงเนี่ยครับกินได้เลยมีแมกนีเซียมเยอะ
00:07:35 → 00:07:38 นะครับถั่วเหลืองมีแมกนีเซียมเยอะพวก
00:07:38 → 00:07:41 ธัญพืชอย่างเมล็ดฟักทองเชีย์ซีดเนี่ยครับ
00:07:41 → 00:07:43 มีแมกนีเซียมเยอะต้องสังเกตว่าพวกเป็นแนว
00:07:43 → 00:07:46 แบบเมล็ดอะไรอย่าเยครับพวกถั่วเลยเนาะจะ
00:07:46 → 00:07:49 มีแมกนีเซียมอยู่เยอะผักใบเขียวรวมไปถึง
00:07:49 → 00:07:52 นมนะครับก็มีแมกนีเซียมเยอะเพราะงั้นเรา
00:07:52 → 00:07:54 สามารถจะกินพวกเนี้ยให้ให้มากยิ่งขึ้น
00:07:55 → 00:07:57 เพียงพอเนี่ยเราก็จะได้แมกนีเซียมเพียงพอ
00:07:57 → 00:07:59 นะครับแต่ถ้าเกิดว่าใครรู้สึกว่าเออไม่
00:07:59 → 00:08:01 ค่อยได้กินพวกนี้เลยหรือว่าไม่ชอบกินแล้ว
00:08:01 → 00:08:03 รู้สึกไม่มั่นใจว่าเราได้แมกนีเซียมพอ
00:08:03 → 00:08:06 หรือเปล่าเนี่ยแล้วอยากจะกินอาหารเสริมก็
00:08:06 → 00:08:09 กินได้นะครับถามว่าควรจะกินรูปแบบไหนก็
00:08:09 → 00:08:11 เชียร์ให้กินแมกนีเซียมตัวที่ร่างกายดูด
00:08:11 → 00:08:16 ซึมได้ดีก็คือกิตกับ trate นะครับโดสล่ะ
00:08:16 → 00:08:18 อย่างที่บอกไปร่างกายเนี่ยต้องการอยู่ที่
00:08:18 → 00:08:21 Range 300-400 มกรต่อวันนะครับเพราะ
00:08:21 → 00:08:24 ฉะนั้นเนี่ยก็ไม่ควรจะกินเกินกว่านี้นะ
00:08:24 → 00:08:28 ครับต่ำเลยไม่เกิน 350 มกรแต่มันก็ขึ้น
00:08:28 → 00:08:30 อยู่กับว่าเราขาดแมกนีเซียมเยอะหรือน้อย
00:08:30 → 00:08:32 ถ้าเกิดว่าคุณรู้สึกว่าเออเราก็ได้
00:08:32 → 00:08:35 แมกนีเซียมจากอาหารอยู่แล้วเนาะก็อาจจะ
00:08:35 → 00:08:38 ไม่ต้องกินเต็มสูบก็ได้กินแค่ลดลงมาหน่อย
00:08:38 → 00:08:40 นะครับอาจจะเหลือโดสแค่ประมาณช่วง 100-200
00:08:40 → 00:08:43 มิลกรัมแค่เสริมเข้าไปให้มั่นใจว่าเราได้
00:08:43 → 00:08:47 แมกนีเซียมเพียงพอนะครับที่สำคัญกว่าคือ
00:08:47 → 00:08:49 เมื่อมันเป็นอาหารเสริมนะครับอยากจะพูด
00:08:49 → 00:08:52 ถึงประเด็นอาหารเสริมนิดนึงอาหารเสริมมัน
00:08:52 → 00:08:56 ไม่ใช่ยาเพราะฉะนั้นหน่วยงานที่ควบคุม
00:08:56 → 00:08:59 ความปลอดภัยรวมไปถึงงานวิจัยที่มารองรับ
00:08:59 → 00:09:02 อาหารอเสริมกับยาเนี่ยความสกเนี่ยมันน้อย
00:09:02 → 00:09:04 กว่ามากนะครับทุกคนงั้นจะเห็นว่ามีอาหาร
00:09:04 → 00:09:07 เสริมขายกันเกลือดเลยการควบคุมเนี่ยมัน
00:09:07 → 00:09:10 เข้มงวดเข้มข้นน้อยกว่าเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:09:10 → 00:09:12 ความเสี่ยงในการกินอาหารเสริมเนี่ยมันจะ
00:09:12 → 00:09:15 ตกอยู่ที่ผู้บริโภคนะครับถามว่าแล้วผู้
00:09:15 → 00:09:18 บริโภคเนี่ยควรจะเลือกอาหารเสริมยังไง
00:09:18 → 00:09:20 ต้องบอกว่าถ้าจะกินอาหารเสริมไม่ว่าจะ
00:09:20 → 00:09:22 เป็นตัวไหนก็ตามนะครับรวมถึงแมกนีเซียม
00:09:22 → 00:09:25 ด้วยเนี่ยครับควรจะอ่านฉลากครับว่าใน
00:09:25 → 00:09:28 ผลิตภัณฑ์นั้นเนี่ยมันมีอะไรอยู่บ้าง
00:09:28 → 00:09:29 อย่างที่ 1 เราควรจะรู้ว่ามันมี
00:09:29 → 00:09:32 ingredient อะไรบ้างเพราะอาหารเสริมที่
00:09:32 → 00:09:34 บอกว่ากินเข้าไปแล้วได้แมกนีเซียมเนี่ย
00:09:34 → 00:09:36 มันไม่ได้มีแค่เจ้าแมกนีเซียมตัวนั้นแน่
00:09:36 → 00:09:39 นอนมันจะมีสารอื่นๆที่เป็นสารเจือปนอยู่
00:09:39 → 00:09:42 ด้วยและเราอาจจะแพ้ไอ้เจ้าสารเจือปนก็ได้
00:09:42 → 00:09:45 นะครับอ่าเลเบลยังไม่พอไอ้ที่บอกว่าอยู่
00:09:46 → 00:09:48 ในเลเบลนั้นน่ะจริงๆแล้วมันมีจริงตามใน
00:09:49 → 00:09:51 เลเบลบอกหรือเปล่านะครับอันเนี้ยมันก็จะ
00:09:51 → 00:09:54 รับรองได้จากการที่แบรนด์นั้นเนี่ยมี
00:09:54 → 00:09:58 Third ปารตี้มาตรวจสอบว่าเ้ยมันมีสารที่
00:09:58 → 00:10:01 บอกออกในเลเบลนั้นน่ะตัว 1 ตัว 2 ตัว 3
00:10:01 → 00:10:05 จริงมั้ยมีปริมาณนั้นจริงมยถ้าบริษัทไหน
00:10:05 → 00:10:07 นะครับโชว์เลยว่าโอ้บริษัทฉันมีเ
00:10:07 → 00:10:10 certificate มีการตรวจมีเดปารตี้เข้ามา
00:10:10 → 00:10:12 ตรวจแล้วก็รับรองอยู่เรื่อยๆสม่ำเสมอไม่
00:10:12 → 00:10:15 ใช่ตรวจโอ้โหปีแรกแล้วหลังจากนั้นเนี่ย
00:10:15 → 00:10:17 ขายอีก 5 ปีแล้วไม่มีการตรวจอัปเดตเลย
00:10:17 → 00:10:19 เนี่ยก็อาจจะไว้ใจไม่ได้ความน่าเชื่อถือ
00:10:19 → 00:10:22 ก็อาจจะลดลงนะครับนั่นคือข้อมูลในเรื่อง
00:10:22 → 00:10:25 ของ branding ที่ผู้บริโภเนี่ยควรจะดูนะ
00:10:25 → 00:10:27 ครับแล้วในกรณีของแมกนีเซียมเนี่ยนะครับ
00:10:27 → 00:10:29 อย่างที่บอกไปว่าแมกนีเซียมตินตกับ
00:10:29 → 00:10:31 แมกนีเซียมไซตเนี่ยเป็นตัวที่ดูดซึมดี
00:10:31 → 00:10:34 แล้วเราไม่ค่อยแพ้หลายๆเจ้าจะมีการแอด
00:10:34 → 00:10:36 แมกนีเซียมตัวอื่นเข้าไปด้วยนะครับหลาย
00:10:36 → 00:10:38 ตัวเลยไม่ว่าแมกนีเซียมคาร์บอเนต
00:10:38 → 00:10:40 แมกนีเซียมคลอไรด์แมกนีเซียมกลูโคเนต
00:10:40 → 00:10:45 แมกนีเซียมออกไซด์ถ้าคุณเจอ 4 ตัวนี้ใน
00:10:45 → 00:10:48 เลเบลอาจจะระวังไว้นิดหน่อยเพราะว่า 4
00:10:48 → 00:10:50 ตัวเมันอาจจะดูดซึมได้ไม่ดีเท่าแล้วถ้า
00:10:50 → 00:10:53 เกิดว่าร่างกายคุณไม่ตอบสนองกับมันดีเท่า
00:10:53 → 00:10:55 ไหร่เนี่ยคุณอาจจะคลื่นไส้อาเจียนแล้วก็
00:10:55 → 00:10:58 ท้องเสียได้เพราะสารเจือปนนั่นเองบางเจ้า
00:10:58 → 00:11:00 เนี่ยอาจจะมีการเคลมเลยว่าโอ้ยไม่มีไอพวก
00:11:00 → 00:11:02 นี้เจือปนก็อาจจะปลอดภัยกว่าในเรื่องของ
00:11:02 → 00:11:04 Side เอฟเฟคนะครับเพรางั้นอ่านเลเบลให้
00:11:04 → 00:11:08 ดีนะครับและถ้าเกิดว่าใครมีโรคประจำตัว
00:11:08 → 00:11:10 ปรึกษาคุณหมอก่อนกินแมกนีเซียมก็จะดี
00:11:10 → 00:11:14 เพราะว่ามันอาจจะไปกระทบกับการดูดซึมไอ้
00:11:14 → 00:11:17 ไอ้ตัวยาหรือว่าอาจจะไปเป็นปรปักษ์กับตัว
00:11:17 → 00:11:19 ยาก็ได้ใครจะรู้นะครับเพรางั้นปรึกษาคุณ
00:11:19 → 00:11:21 หมอก่อนที่จะกินอาหารเสริมใดๆก็ตามรวมถึง
00:11:21 → 00:11:24 แมกนีเซียมครับอ่ะงั้นพูดถึงแมกนีเซียมจบ
00:11:24 → 00:11:26 ไปนะครับมาดูอีก 2 ตัวครับเป็นตัวแถมนะ
00:11:26 → 00:11:30 อิจิครับค่อนข้างโด่งดังมากเลยนะในโลก
00:11:30 → 00:11:33 ตะวันตกเพราะว่านอกจากจะช่วยเรื่องการนอน
00:11:33 → 00:11:35 หลับแล้วจริงๆเขาโด่งดังมาจากการที่เป็น
00:11:35 → 00:11:38 แี้ cancer เลยนะครับเพราะว่าอิิเนี่ยมี
00:11:38 → 00:11:40 ฤทธิ์เป็น antioxidant แล้วก็ Anti
00:11:40 → 00:11:42 inflammatory คือลดการอักเสบแล้วก็
00:11:42 → 00:11:45 สามารถจัดการกับ Free Radical ได้พูด
00:11:45 → 00:11:48 ชื่ออิิิเนี่ยคนอาจจะไม่เคยได้ยินเลยนะ
00:11:48 → 00:11:52 ครับแต่ว่าถ้าเปลี่ยนเป็นว่าเ้ยชาคาโมคน
00:11:52 → 00:11:55 อาจจะคุ้นหูมากยิ่งขึ้นเพราะจริงๆแล้ว
00:11:55 → 00:11:59 เนี่ยอิิิเนี่ยเรียกว่าเป็นสารที่อยู่
00:11:59 → 00:12:02 อยู่ในคาโมไมล์นะครับในดอกคมมที่สามารถจะ
00:12:02 → 00:12:05 เอามาสกัดเป็นชาเราคุ้นหุอยู่แล้วว่าดื่ม
00:12:05 → 00:12:08 ชาคาโมไมล์เนี่ยทำให้เรารู้สึกรีกรู้สึก
00:12:08 → 00:12:11 สงบแล้วก็ช่วยในการนอนหลับเพราะฉะนั้น
00:12:11 → 00:12:13 อิิิเนี่ยถึงช่วยในการนอนหลับได้เช่นกัน
00:12:13 → 00:12:15 mechanism ของมันเนี่ยคล้ายๆกันกับ
00:12:15 → 00:12:17 แมกนีเซียมนะครับคือมันไปเสริมการทำงาน
00:12:17 → 00:12:20 ของกาบแล้วก็ไปเสริมการทำงานของเมลาโทนิน
00:12:20 → 00:12:24 นั่นเองถามว่าอินนจริงๆแล้วมันคืออะไรโดย
00:12:24 → 00:12:26 ทางเคมีแล้วนะครับอจินเนี่ยมันเป็นสาร
00:12:26 → 00:12:29 กลุ่มฟลาโวนซึ่งมันมันคือสับเซตของสาร
00:12:29 → 00:12:31 กลุ่มลาวนอยเวลาเราได้ยินว่าสารกลุ่ม
00:12:31 → 00:12:35 ลาวนอยเนี่ยมักจะเซน์ได้เลยว่ามันน่าจะ
00:12:35 → 00:12:37 เป็นสารที่มีประโยชน์ดูเป็นสมุนไพรดีกับ
00:12:37 → 00:12:40 ร่างกายนะครับเจอเยอะในๆนอกจากในคาโมไมล์
00:12:40 → 00:12:43 จะมีอินนินอยู่เยอะแล้วเนี่ยครับในผักบาง
00:12:43 → 00:12:46 ประเภทและผลไม้บางประเเภทมีเยอะมากนะครับ
00:12:46 → 00:12:49 ขึ้นช่ายเซลี่หรือขึ้นช่ายเนี่ยมีเยอะมาก
00:12:49 → 00:12:51 เรียกว่าเยอะเยอะสุดๆไปเลยนะครับเพราะ
00:12:51 → 00:12:54 งั้นใครที่กินน้ำสกัดเย็นน่ะแล้วมีการแอด
00:12:54 → 00:12:57 เซลี่ขึ้น่าเข้าไปเนี่ยมีประโยชน์นะครับ
00:12:57 → 00:12:59 กินได้เลยจริงๆฝรั่งเนี่ยเากินขึ้นช่าย
00:12:59 → 00:13:02 เป็นสนคเลยนะครับแบบเหมือนกับแครอทอ่ะ
00:13:02 → 00:13:04 แล้วก็แตงกวาเนี่ยเาก็จะแทะเซเลอรี่หรือ
00:13:04 → 00:13:06 ว่าขึ้นช่ายเล่นเป็นสนคมันได้ประโยชน์นะ
00:13:06 → 00:13:10 ครับผักโขมก็มีอินิเยอะผลไม้หลายตัวเลยนะ
00:13:10 → 00:13:13 ครับมีินิเยอะนะครับมะลกอส้มมะม่วงทับทิม
00:13:13 → 00:13:16 เชอรี่ตระกูลเบอร์รี่เนี่ยมีินนเยอะเพราะ
00:13:16 → 00:13:18 ฉะนั้นกินได้เลยครับก็จะช่วยในการนอนหลับ
00:13:18 → 00:13:21 เนาะอย่างที่บอกไปผลพอยได้คือ antioxidant
00:13:21 → 00:13:23 แล้วก็ Anti inflammatory ถามว่าถ้าอยาก
00:13:23 → 00:13:25 จะกินเป็นอาหารเสร์ฟแนะนำไม่ต้องเยอะเกิน
00:13:25 → 00:13:28 ไปครับประมาณ 50 มิลลิกรัมกำลังดีนะครับ
00:13:28 → 00:13:31 ไม่เยอะเกินกินได้ทุกวันนะครับแล้วถ้า
00:13:31 → 00:13:32 เกิดกินเยอะเกินไปเนี่ยด้วยความที่มันทำ
00:13:32 → 00:13:36 ให้ร่างกายรู้สึกรีแลกรู้สึกสงบมากถ้ากิน
00:13:36 → 00:13:38 เยอะเกินร่างกายอาจจะสงบเกินไปคือร่างกาย
00:13:38 → 00:13:40 อาจจะรู้สึกเหนื่อยหรือบางทีอาจทำให้ร่าง
00:13:40 → 00:13:42 กายรู้สึกเมื่อยล้าได้ด้วยนะครับเป็น Side
00:13:42 → 00:13:44 เอฟเฟคของมันเพราะฉนั้นถ้ากินเนี่ยก็ต้อง
00:13:44 → 00:13:48 ระวังแล้วก็เเจอว่าอิจิเนี่ยมันมีฤทธิ์ใน
00:13:48 → 00:13:51 การกดการผลิตเอสโตรเจนทำให้การผลิต
00:13:51 → 00:13:53 เอสโตรเจนเนี่ยน้อยลงซึ่งไม่เป็นผลดีกับ
00:13:54 → 00:13:55 ทั้งผู้หญิงและผู้ชายนะครับเพราะทำผู้
00:13:55 → 00:13:57 หญิงเนี่ยอาจจะไม่ผลดีเรื่องทำให้ฮอร์โมน
00:13:57 → 00:14:00 สวิงมันจะไม่ค่อยดีนะครับสำหรับผู้ชาย
00:14:00 → 00:14:01 เนี่ยการที่มีเอสโตรเจนน้อยเกินไปเนี่ยก็
00:14:01 → 00:14:03 ไม่ใช่เรื่องดีนะครับเพราะว่าการทำงานของ
00:14:03 → 00:14:05 สมองเนี่ยมันก็จะมีประสิทธิภาพลดน้อยลง
00:14:05 → 00:14:08 เพราะฉะนั้นรู้ว่าอิิิมันดีแต่ก็ไม่ใช่
00:14:08 → 00:14:11 ว่าคุณจะอัดๆๆดเข้าไปกินในปริมาณที่พอ
00:14:11 → 00:14:14 เหมาะตามที่ recom ครับ 50 ไม่เกิน 50
00:14:14 → 00:14:16 มิลกรัมต่อวันเนี่ยน่าจะกำลังดีหรือว่า
00:14:16 → 00:14:19 เลือกกินจากอาหารตามธรรมชาตินะครับอย่าง
00:14:19 → 00:14:22 บอกไปแล้วเี่กินเข้าไปเลยครับอีกตัวนึง
00:14:22 → 00:14:25 คือเนีนเตีนจริงๆแล้วมันเป็นกรดอมิโน
00:14:25 → 00:14:28 แอซิดที่ร่างกายเนี่ยสร้างไม่ได้แล้วมัน
00:14:28 → 00:14:30 ก็ไม่ได้จำเป็นกับร่างกายด้วยนะครับแต่
00:14:30 → 00:14:32 ว่าจริงๆแล้วเนี่ยเค้าก็เจอว่ากินเตียนีน
00:14:32 → 00:14:34 เข้าไปเนี่ยมันช่วยเหมือนกันทำให้ร่างกาย
00:14:34 → 00:14:37 รีกผ่อนคลายครับช่วยลดความเครียดได้ด้วย
00:14:37 → 00:14:41 นะครับถามว่าเจอเยอะในไหนเจอในชาเขียวชา
00:14:41 → 00:14:44 ดำแล้วก็เจอในชาอู่หลงนะครับค่อนข้างเยอะ
00:14:44 → 00:14:47 เจอในเห็ดด้วยรสชาติของมันเก็จะมีความ
00:14:47 → 00:14:50 อุมิคือแบบเพิ่มความอร่อยเข้าไปนะครับเ
00:14:50 → 00:14:53 เจอว่ามันไปกระตุ้นกาบ้าเหมือนกันทำให้
00:14:53 → 00:14:56 ร่างกายรู้สึกรีกแล้วก็เจอว่าจากการทดลอง
00:14:56 → 00:14:59 เนี่ยเจอว่าการที่เราได้รับไอ้เจ้าเตียง
00:14:59 → 00:15:01 เข้าไปเนี่ยจะทริกสมองให้เข้าสู่ในช่วง
00:15:01 → 00:15:04 คลื่น alra Wave คือช่วงที่รีกนะจากสมอง
00:15:04 → 00:15:06 ที่มัน Active Active เนี่ยอยู่ช่วง
00:15:06 → 00:15:08 แกมม่าหรอะไรเงี้ยกำลังโฟกัสเลยการที่เรา
00:15:08 → 00:15:11 ได้รับเตี้นี้จะทำให้สมองเนี่ยรีกแล้วก็
00:15:11 → 00:15:14 ผ่อนคลายมากขึ้นนะครับถามว่ากินเนี่ยวัน
00:15:14 → 00:15:17 นึงไม่ควรจะเกิน 100-300 มิลกรัมต่อวันนะ
00:15:17 → 00:15:20 ครับข้อควรระวังของเตียนีเเจอว่าบางทีกิน
00:15:20 → 00:15:23 เตียนีเข้าไปเยอะๆเนี่ยทำให้เราฝันเป็น
00:15:23 → 00:15:26 ตุบเป็นตะฝันเยอะมากบางทีฝันร้ายด้วยซ้ำ
00:15:26 → 00:15:29 หรืออาจจะทำให้เละเมอเรียกว่าน Walk
00:15:29 → 00:15:31 เงี้ยนะครับได้ง่ายมากยิ่งขึ้นเพราะ
00:15:31 → 00:15:33 ฉะนั้นถ้าเกิดว่าใครมีความสุ่มเสี่ยงที่
00:15:33 → 00:15:37 จะเป็นคนขี้ละเมอก็การกินเตียนเก็ควรจะ
00:15:37 → 00:15:39 ระวังนิดนึงเพราะเราอาจจะละเมอไปทำอะไรก็
00:15:39 → 00:15:41 ได้แล้วอาจจะทำให้เกิดอันตรายกับตัวเรานะ
00:15:42 → 00:15:44 ครับพูดถึง 3 ตัวไปเรียบร้อยแล้วเนี่ย
00:15:44 → 00:15:47 ครับอยากจะสรุปให้ฟังนิดนึงเป็น Final
00:15:47 → 00:15:50 verdict นะครับว่า 3 ตัวเนี้ยจริงๆแล้ว
00:15:50 → 00:15:54 มันก็คืออาหารเสริมมันไม่ใช่ยาเนาะการกิน
00:15:54 → 00:15:57 อาหารเสริมเนี่ยอย่างที่บอกก็ควรจะระมัด
00:15:57 → 00:16:00 ระวังเพราะว่าเอ่อหน่วยงานที่ดูแลกำกับ
00:16:00 → 00:16:02 มันไม่ได้เข้มงวดเหมือนกับยาความเสี่ยง
00:16:02 → 00:16:06 มันลงที่ผู้บริโภคนะครับเลือกให้ดีอ่าน
00:16:06 → 00:16:09 เลเบลดูความน่าเชื่อถือของแบรนด์นะครับ
00:16:09 → 00:16:12 แล้วถามว่า 3 ตัวนี้ปลอดภัยไหจริงๆอ่ะ
00:16:12 → 00:16:14 overall ต้องบอกว่าปลอดภัยเพราะมันเป็น
00:16:14 → 00:16:17 สารสกัดจากธรรมชาติอยู่แล้วแต่สิ่งที่เรา
00:16:17 → 00:16:20 ควรจะรู้คือมันไม่ใช่การนอนหลับนะครับทุก
00:16:20 → 00:16:25 คนมันไปช่วยเสริมฤทธิ์การทำงานของสารเคมี
00:16:25 → 00:16:27 บางตัวในร่างกายหรือฮอร์โมนบางตัวในร่าง
00:16:27 → 00:16:30 กายอย่างเช่นกาบ้าแล้วก็เมลาโทนินทั้ง
00:16:30 → 00:16:33 กาบ้าและเมลาโทนินน่ะมีส่วนร่วมที่ทำให้
00:16:33 → 00:16:35 เรานอนหลับได้ดีเพราะมันเป็นสาร Build
00:16:35 → 00:16:37 Build ให้ร่างกายเนี่ยอยู่ในโหมดอยากพัก
00:16:37 → 00:16:41 ผ่อนผมเคยแชร์ไปและเล่าไปนะครับว่าการที่
00:16:41 → 00:16:44 เราจะนอนหลับได้เนี่ยมันมี 2 กลไกที่ทำ
00:16:44 → 00:16:48 งานเสริมกันกลไกแรกครับคือกลไกในการ Build
00:16:48 → 00:16:50 ร่างกายที่ทำให้ร่างกายเข้าสู่โหมดพัก
00:16:50 → 00:16:53 ผ่อนปิดสวิตชในการทำงานและนะครับเมื่อ
00:16:53 → 00:16:56 ไหร่เรารู้สึกสงบอยากพักผ่อนเนี่ยมันก็จะ
00:16:56 → 00:16:58 ทำให้ร่างกายเนี่ยหลับได้ง่ายขึ้นกลุ่ม
00:16:58 → 00:17:01 เนี้ยก็คือพวกกาบ้าเมลาโทนินนะครับอีก
00:17:01 → 00:17:05 กลุ่มนึงคือสารง่วงคือเราจะหลับได้เนี่ย
00:17:05 → 00:17:08 ร่างกายเราต้องแบบอ่อนเพลียแล้วก็ง่วง
00:17:08 → 00:17:11 ครับสารง่วงคืออะดีโนซีนนะครับต้องมีทั้ง
00:17:11 → 00:17:14 สารบิ้วและสารง่วงในปริมาณที่พอเหมาะร่าง
00:17:14 → 00:17:16 กายแล้วจะเข้าสู่โหมดการนอนหลับที่มี
00:17:16 → 00:17:19 ประสิทธิภาพอาหารเสริมเหล่านี้ทั้ง 3 ตัว
00:17:19 → 00:17:21 โดยเฉพาะแมกนีเซียมเนี่ยนะครับมันไปช่วย
00:17:21 → 00:17:24 ทำให้กระบวนการ Build เนี่ยมันมี
00:17:24 → 00:17:26 ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นมันไม่ใช่ยานอน
00:17:26 → 00:17:29 หลับอันนี้คืออยากให้รู้ไว้นะครับซึ่งการ
00:17:29 → 00:17:31 กินปลอดภัยและช่วยส่งเสริมแต่ที่อยากจะ
00:17:31 → 00:17:33 บอกคืออย่าไปพึ่งมันทั้งหมดผมก็ยังอยาก
00:17:33 → 00:17:37 ชวนทุกคนเนี่ยให้พึ่งการดำเนินชีวิตที่
00:17:37 → 00:17:40 Healthy แล้วก็ทำให้ร่างกายเนี่ยมันรู้
00:17:40 → 00:17:43 สึกง่วงรู้สึกอยากพักได้ด้วยตัวเองตาม
00:17:43 → 00:17:46 วิถีธรรมชาติตามนาฬิกาชีวิตเนี่ยมันจะ
00:17:46 → 00:17:48 เป็นอะไรที่เป็น Permanent solution นะ
00:17:48 → 00:17:51 ครับถามว่าทำยังไงตื่นเช้ามารีบออกไปเจอ
00:17:51 → 00:17:54 แสงแดดเลยตอนที่เราตื่นนะครับสัก 10-15
00:17:54 → 00:17:57 นาทีดีๆครึ่งชั่วโมงได้จะยิ่งดีเพื่อเป็น
00:17:57 → 00:18:00 การให้แสงเข้าดวงตาบอกไปเลยว่านี่ตอนเช้า
00:18:00 → 00:18:03 พอกลางคืนเนี่ยร่างกายมันจะหลัสารบิ้วที่
00:18:03 → 00:18:05 ทำให้รู้สึกอยากพักผ่อนเนี่ยได้ในปริมาณ
00:18:05 → 00:18:07 ที่เหมาะสมเองนะครับปริมาณฮอร์โมนเนี่ย
00:18:07 → 00:18:10 มันจะหลังได้ดีเนาะแล้วตอนกลางคืนเนี่ย
00:18:10 → 00:18:14 เลี่ยงแสงที่เป็นแสงสีขาวเป็นแสงสีฟ้านะ
00:18:14 → 00:18:17 ครับพยายามอยู่ในแสงสีเหลืองเยอะๆมากกว่า
00:18:17 → 00:18:19 นะครับเพราะว่าแสงสีฟ้ากับแสงสีขาวเนี่ย
00:18:19 → 00:18:23 มันเป็นศัตรูร้ายของไอ้เจ้าสารบิทำให้เรา
00:18:23 → 00:18:26 รู้สึกอยากพักผ่อนนะครับเป็นตัวร้ายทำให้
00:18:26 → 00:18:28 เรานอนไม่หลับแล้วก็เลี่ยงพวกคาเฟอีนแล้ว
00:18:28 → 00:18:32 ก็แอลกอฮอล์หลังจาก 14:00 นไปนะครับก็จะ
00:18:32 → 00:18:34 เป็นการช่วยได้เพราะว่าคาเฟอีนเนี่ยเป็น
00:18:34 → 00:18:37 ศัตรูร้ายของเจ้าสาง่วงครับเพราะฉะนั้น
00:18:37 → 00:18:40 น่ะพยายามกำจัดศัตรูที่มาทำให้ศาง่วงและ
00:18:40 → 00:18:43 ศาบิ้วอยากพักผ่อนเนี่ยมันทำงานได้ไม่มี
00:18:43 → 00:18:45 ประสิทธิภาพเนี่ยมันก็ทำให้นาฬิกาชีวิต
00:18:45 → 00:18:48 ของเราเนี่ยทำงานได้ดีแล้วเราก็จะเข้านอน
00:18:48 → 00:18:51 ได้ง่ายขึ้นนอนหลับสนิทขึ้นนอนได้ยาวขึ้น
00:18:51 → 00:18:55 ตื่นมารู้สึกเฟรชขึ้นได้ตามวิถีธรรมชาติ
00:18:55 → 00:18:57 ก็จะดีกว่าแต่ถ้าใครรู้สึกว่าพยายามทำ
00:18:57 → 00:19:00 แล้วยังเจอปัญหาก็ลองพึ่งไอ้เจ้า 3 ตัว
00:19:00 → 00:19:02 นี้ดูครับเขาเรียกว่าเป็น Sleep คอกเทล
00:19:02 → 00:19:07 คือแมกนีเซียมอินแล้วก็เตีนยังไงลองไปทด
00:19:07 → 00:19:11 ลองด้วยตัวเองแล้วค่อยๆทดลองจากโดสต่ำๆไป
00:19:11 → 00:19:13 ก่อนนะครับถ้าเกิดว่าเราเจอ Side effect
00:19:13 → 00:19:15 The pair เนี่ยควรหลีกเดี้ยงทันทีเพราะ
00:19:15 → 00:19:17 แต่ละคนตอบสนองกับสารเหล่านี้ไม่เหมือน
00:19:17 → 00:19:21 กันใช้อาหารเสริมได้แต่ก็ควรจะมีความรู้
00:19:21 → 00:19:24 แล้วก็ระวังในการเลือกใช้ด้วยครับจะเป็น
00:19:24 → 00:19:25 ประโยชน์กับเรา
00:19:26 → 00:19:29 ครับ Top toto
00:19:29 → 00:19:31 The Standard podcast ey Opening
00:19:31 → 00:19:35 for your ears