00:00:06 → 00:00:11 เคมีก็คือสารเคมีที่พบในพืชผักผลไม้
00:00:11 → 00:00:14 สมุนไพรต่างๆตามธรรมชาติเราไม่ได้จัดเป็น
00:00:14 → 00:00:17 สารอาหารสารอาหารนี่คือสารที่จำเป็นเรา
00:00:17 → 00:00:20 ขาดทำให้เกิดโรคเช่นวิตามินซีเราบอกหูเรา
00:00:20 → 00:00:22 ขาดวิตามินซีนะเราจะเจ็บป่วยง่ายเราจะมี
00:00:22 → 00:00:25 เลือดออกตามไรฟันสมัยเราเรียนมาเราจำได้
00:00:25 → 00:00:27 ใช่ไหมครับภูมิคุ้มกันแล้วก็จะไม่ดีติด
00:00:27 → 00:00:31 เชื้อได้ง่ายเราขาดแคลเซียมก็ดูเขาก็จะ
00:00:31 → 00:00:34 บางนะครับกระดูกพรุนอันนี้คือขาดแล้วทำ
00:00:34 → 00:00:37 ให้เกิดโรคเพราะมันคือสารอาหารสารที่ร่าง
00:00:37 → 00:00:40 กายต้องการจำเป็นส่วนศาลพฤกษศาสตร์เคมี
00:00:40 → 00:00:44 ไม่ใช่สารอาหารขาดไม่ได้ทำให้เกิดโรค
00:00:44 → 00:00:48 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:48 → 00:00:51 การโรงหมอดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:51 → 00:00:54 เอสช้อยส์
00:00:54 → 00:00:57 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังค่ะขอต้อนรับเข้าสู่
00:00:57 → 00:00:59 รายการโรงหมอทางไทย PBS Plus ค่ะวันนี้
00:00:59 → 00:01:03 มาพบกันเช่นเคยติดตามสาระกันได้ค่ะเกี่ยว
00:01:03 → 00:01:06 กับเรื่องของสมุนไพรและสารพฤกษศาสตร์เคมี
00:01:06 → 00:01:10 โอ้โหวันนี้เราจะลงไปถึงขนาด 3-3 เคมีคือ
00:01:10 → 00:01:13 อะไรมาทำความรู้จักกันนะคะเดี๋ยวคุยกับ
00:01:13 → 00:01:15 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรเอกราชบำรุงพืชจาก
00:01:15 → 00:01:17 วิทยาลัยการแพทย์โบราณในการมหาวิทยาลัย
00:01:17 → 00:01:21 ธุรกิจบัณฑิตคะสวัสดีค่ะอาจารย์ค่ะสวัสดี
00:01:21 → 00:01:23 ครับผมไม่รู้ว่าวันนี้จะออกเป็นแนว
00:01:23 → 00:01:25 วิชาการหรือเปล่า
00:01:25 → 00:01:28 มีความพฤกษาศเคมีสารพฤกษศาสตร์เคมีดูฟัง
00:01:28 → 00:01:32 แล้วแบบโอ้โหมีความเป็น
00:01:32 → 00:01:36 คำว่าเคมีมันอาจจะทำให้มีความเป็นวิชาการ
00:01:36 → 00:01:42 ใช่จริงๆแล้วเนี่ยมันคือสิ่งที่
00:01:42 → 00:01:46 พวกเราคุ้นเคยนะใกล้ตัวนี่แหละแต่เราอาจ
00:01:46 → 00:01:49 จะไม่รู้ไงว่าอ๋อเนี่ยคือพฤกษศาสตร์เคมี
00:01:49 → 00:01:52 นะ
00:01:52 → 00:02:49 [เพลง]
00:02:49 → 00:02:53 จึงเริ่มมามีบทบาทสำคัญกับสุขภาพร่างกาย
00:02:53 → 00:02:56 และมีงานวิจัยเพิ่มมากขึ้นไอ้เจ้าสาร
00:02:56 → 00:02:59 พฤกษศาสตร์เคมีหรือสารเคมีที่อยู่ในพืช
00:02:59 → 00:03:03 ผักผลไม้สมุนไพรทั้งหลายแหล่นะครับอันนี้
00:03:03 → 00:03:07 นะเราบอกว่าถ้าในแง่ของโภชนาการเนี่ย
00:03:07 → 00:03:10 เราไม่ได้จัดเป็นสารอาหาร
00:03:10 → 00:03:14 ก็ไม่ได้ทำให้เกิดโรคนึกออกไหมครับสาร
00:03:14 → 00:03:17 อาหารนี่คือสารที่จำเป็นเราขาดทำให้เกิด
00:03:17 → 00:03:22 โรคเช่นวิตามินซีเราขาดวิตามินซีนะเราจะ
00:03:22 → 00:03:24 เจ็บป่วยง่ายเราจะมีเลือดออกตามไรฟันสมัย
00:03:24 → 00:03:27 เราเรียนมาเราจำได้ใช่ไหมครับอ่าภูมิคุ้ม
00:03:27 → 00:03:30 กันแล้วก็จะไม่ดีติดเชื้อได้ง่ายนะเราขาด
00:03:30 → 00:03:34 แคลเซียมก็ดูเขาก็จะบางนะครับกระดูกพรุน
00:03:34 → 00:03:37 อันนี้คือขาดแล้วทำให้เกิดโรคเพราะมันคือ
00:03:37 → 00:03:41 สารอาหารสารที่ร่างกายต้องการจำเป็นนะ
00:03:41 → 00:03:43 ครับส่วนศาลพฤกษศาสตร์เคมีไม่ใช่สารอาหาร
00:03:43 → 00:03:46 ขาดไม่ได้ทำให้เกิดโรคอาจารย์ยกตัวอย่าง
00:03:46 → 00:03:49 ง่ายๆนะเช่นไลโคปีน
00:03:49 → 00:03:52 ที่พบในมะเขือเทศอันนี้เป็นสารพิษสารเคมี
00:03:52 → 00:03:53 ตัวหนึ่ง
00:03:53 → 00:03:56 ขาดไม่ได้ทำให้เกิดโรคนะครับไม่ใช่ว่า
00:03:56 → 00:03:58 โอ้โหเห็นอาจารย์เอกราชเดินมาแต่ไกลเลย
00:03:58 → 00:04:03 แบบว่าต่อมลูกหมากโตขาถ่างเกิดโรคอย่าง
00:04:03 → 00:04:05 นี้คือไม่ได้ทำให้เกิดโรคนึกออกไหมไม่มี
00:04:05 → 00:04:09 โรคไลโคปีนที่เราไม่ได้ขาดแล้วไม่ทำให้
00:04:09 → 00:04:13 เกิดโรคแคบที่ชินจากชาเขียวอย่างนี้เราก็
00:04:13 → 00:04:15 ไม่ได้แบบว่ามีโรคขาดสารพฤกษศาสตร์เคมี
00:04:15 → 00:04:19 ที่อยู่ในฉากเขียวไม่มีนะครับมันเลยไม่
00:04:19 → 00:04:22 ได้จัดเป็นสารอาหารเพราะมันไม่ได้จำเป็น
00:04:22 → 00:04:26 สำหรับการทำงานของร่างกายแต่ถ้าเราได้รับ
00:04:26 → 00:04:30 เข้าไปนะอย่างถูกต้องเหมาะสมมันก็ช่วยใน
00:04:30 → 00:04:33 การส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคหรือบําบัด
00:04:33 → 00:04:35 โรคได้
00:04:35 → 00:04:38 ไอ้เจ้าศาลปีศาจเคมีเนี้ยอ่าฉะนั้นแล้ว
00:04:38 → 00:04:41 ขาดไม่ได้ทำให้เกิดโรคเนอะเพราะมันไม่ได้
00:04:41 → 00:04:43 ทำหน้าที่ในร่างกาย
00:04:43 → 00:04:47 เหมือนวิตามินสารอาหารต่างๆ
00:04:47 → 00:04:51 นะครับแต่ถ้าเราได้รับมันก็ช่วยในการส่ง
00:04:51 → 00:04:54 เสริมสุขภาพป้องกันโรคบำบัดโรคอ่าแล้วมัน
00:04:54 → 00:04:57 ก็มีประโยชน์นะมันขึ้นอยู่กับว่าเอ้ย 3
00:04:57 → 00:04:59 พฤศจิกมีที่อยู่ในโลกล่านะพาอะไรอย่าง
00:04:59 → 00:05:02 เงี้ยโอ้โหมีหลายหมื่นชนิดมากถึงหมื่น
00:05:02 → 00:05:05 ชนิดนะเรานั่งคุยกัน 3 เวลาตีกันก็ไม่จบ
00:05:05 → 00:05:06 นะ
00:05:06 → 00:05:11 นานเกินของไฟโตเคมีคอล 3 พฤษภาคมในพืชผัก
00:05:11 → 00:05:14 สมุนไพรทั้งหลายแหล่เนี่ยนะครับมันก็จะ
00:05:14 → 00:05:18 แบ่งแยกแตกย่อยออกแบบเยอะมากซึ่งอาจารย์
00:05:18 → 00:05:21 บอกเลยว่า 3 พฤศจิกาเคมีเนี่ยถ้าในบทบาท
00:05:21 → 00:05:24 ที่เราเห็นในอาหารนั้นๆในพืชนั้นๆเนี่ย
00:05:24 → 00:05:27 มันจะทำหน้าที่ส่วนใหญ่นะมันจะทำหน้าที่
00:05:27 → 00:05:32 เป็น pigment หรือลงคะวัตถุที่ให้สีอยู่
00:05:32 → 00:05:38 ในพืชผักผลไม้สมุนไพรนั้น
00:05:38 → 00:05:42 พอจะเข้าใจใช่ไหมครับมันให้สีไงเช่นเรา
00:05:42 → 00:05:44 บอกว่าสีแดง
00:05:44 → 00:05:46 สีแดง
00:05:46 → 00:05:51 สีเหลืองส้มไงสีม่วงแอนโทไซยานนท์ไงที่พบ
00:05:51 → 00:05:54 ในอัญชันที่เราเห็นอัญชันเบอร์รี่มีสี
00:05:54 → 00:05:57 ม่วงแดงนะสารแอนโทไซยานินอย่างเงี้ยมันจะ
00:05:57 → 00:06:01 ให้สีทำหน้าที่ในการให้สีพิกเม้นท์
00:06:02 → 00:06:05 ก็คือสารสีเม็ดสีเนี่ยหรือลงเขาก็ถูก
00:06:05 → 00:06:09 เนี่ยให้กับพืชผักผลไม้สมุนไพรนะครับนั้น
00:06:09 → 00:06:11 อ่า
00:06:11 → 00:06:15 แต่ละสีเนี่ยมันก็ไม่มีข้อแนะนำไงเหมือน
00:06:15 → 00:06:16 กับ
00:06:16 → 00:06:19 สารอาหารแต่ละตัวคุณต้องกินเท่านี้เท่า
00:06:19 → 00:06:21 นั้นนะถึงจะเพียงพอต่อวันปริมาณเท่านู้น
00:06:21 → 00:06:24 เท่านี้แต่ศาลพฤกษศาสตร์เคมีเขาไม่ได้มี
00:06:24 → 00:06:28 ข้อแนะนำว่าคุณต้องกินวันละเท่าไหร่นะแบบ
00:06:28 → 00:06:32 ออกมาตายตัวเหมือนกับสารอาหารแบบว่า
00:06:32 → 00:06:35 โปรตีนต้องกินตามน้ำหนักตัวเท่านู้นเท่า
00:06:35 → 00:06:36 นี้
00:06:36 → 00:06:39 แต่ 3 พฤศจิกาเคมีเนี่ยเขาจะแนะนำว่าเฮ้ย
00:06:39 → 00:06:42 อย่างน้อยกินให้ได้วันละ 5 สี
00:06:42 → 00:06:45 คำนี้นี่เอง
00:06:45 → 00:06:50 เพราะแต่ละสีมันจะให้สารพฤกษาเคมีที่มี
00:06:50 → 00:06:53 คุณประโยชน์โดดเด่นต่างกันบางสีช่วยส่ง
00:06:53 → 00:06:56 เสริมสุขภาพสมองบางสิ่งช่วยส่งเสริม
00:06:56 → 00:06:59 สุขภาพสายตาบางศรีช่วยช่วยส่งเสริมสุขภาพ
00:06:59 → 00:07:02 หัวใจและหลอดเลือดบางสีช่วยเพิ่มภูมิคุ้ม
00:07:02 → 00:07:05 กันบางสีมีประโยชน์สำหรับกระดูกและข้อ 5
00:07:05 → 00:07:08 ฉะนั้นแล้วแต่ละสีต่างกันเลยบางสีอาจจะ
00:07:08 → 00:07:11 อุ๊ยโดดเด่นเรื่องผิวพรรณถ้าอ่างั้นแล้ว
00:07:11 → 00:07:15 เขาเลยให้กินหลากสีอย่างน้อย 5 สี
00:07:15 → 00:07:19 ฝรั่งเขาบอก 5 อดีตผัก 5 สีมณี 5 แสง
00:07:20 → 00:07:24 อาทิตย์
00:07:24 → 00:07:27 มันมีแค่ 5 สีหรอคะจริงๆแล้วมันอาจจะหลาย
00:07:27 → 00:07:30 สีนะเกินเกินกว่านี้แต่หลักๆอ่ะก็จะเป็น
00:07:30 → 00:07:36 แบบสีแดงใช่ไหมครับที่เราเห็นสี
00:07:36 → 00:07:39 เขียวเขียว
00:07:39 → 00:07:42 ม่วงแกมน้ำเงิน
00:07:42 → 00:08:01 สีเหลืองส้ม
00:08:01 → 00:08:04 แต่ละสีก็จะมีคุณประโยชน์เนี่ยที่โดดเด่น
00:08:04 → 00:08:09 แตกต่างกันไปเฉพาะตัวขึ้นอยู่กับศาลเคมี
00:08:09 → 00:08:13 ว่าจะเป็นกลุ่มไหนเพราะกลุ่มนึงเนี่ยถ้า
00:08:13 → 00:08:15 เราไล่เรียงไปตามสีสมมุติว่าเราพูดถึงสี
00:08:15 → 00:08:18 แดงนะครับอ่าเราวาดกันด้วยสีแดงก่อนสีแดง
00:08:18 → 00:08:21 เนี่ยก็จะมีอะไรครบปีที่อาจารย์บอกว่า
00:08:21 → 00:08:31 โอ้โหพบมาก
00:08:31 → 00:08:36 ในแตงโมในฟักข้าวก็มีไลโคปีนอยู่สูง
00:08:36 → 00:08:39 อาจารย์ขออนุญาตถามนิดนึงแตงโมเนี่ยคือ
00:08:39 → 00:08:41 ที่เราบอกว่าเป็นสีแดงเนี่ยเป็นเพราะว่า
00:08:41 → 00:08:43 เรากินเนื้อมันเราถึงมองว่ามันเป็นสีแดง
00:08:43 → 00:08:46 เราไม่ได้ใช่ๆสีเขียว
00:08:46 → 00:08:48 [เสียงหัวเราะ]
00:08:48 → 00:08:52 แตงโมเปลือกนะเปลือกแตงโมเราก็จะแบบก็มี
00:08:52 → 00:08:56 คุณประโยชน์นะถ้าเรากินได้นะเอายาฆ่าแมลง
00:08:56 → 00:08:59 อะไรไปเคลือบมันนะเนื้อหมายถึงเนื้อสี
00:08:59 → 00:09:00 ส่วนที่กินได้
00:09:00 → 00:09:04 เราว่ากันด้วยส่วนที่กินได้
00:09:04 → 00:09:07 เหมือนผลไม้บางชนิดเราก็ไม่กินไง
00:09:07 → 00:09:10 อาจารย์บอกวันนี้เบต้าแคโรทีนสูงมากเลย
00:09:10 → 00:09:13 ทุเรียนสูงนะ
00:09:13 → 00:09:16 สีเหลืองอ่ะ
00:09:16 → 00:09:19 สูงมากเลยแต่กูรียิงเปลือกมั้ยอ่ะไม่กิน
00:09:19 → 00:09:23 ไง
00:09:23 → 00:09:27 แล้วเนี่ยคือส่วนที่กินได้เราจะพูดถึง
00:09:27 → 00:09:29 ส่วนที่กินได้กันน้ำมะเขือเทศอย่างนี้มัน
00:09:29 → 00:09:34 ก็จะมีพวกไลโคปแตงโมอย่างที่บอกนะอะไรคือ
00:09:34 → 00:09:36 ปีนสารสีแดงสูงอันนี้จะโดดเด่นในเรื่อง
00:09:36 → 00:09:39 ของการที่จะช่วยและก็ปีเนี่ยนะส่งเสริม
00:09:39 → 00:09:43 สุขภาพต่อมลูกหมากแล้วมันจะช่วยต้านหรือ
00:09:43 → 00:09:46 รถปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งต่อม
00:09:46 → 00:09:48 ลูกหมากอันนี้จะดีสำหรับท่านชายมากเลย
00:09:48 → 00:09:52 แล้วปริมาณที่แนะนำเนี่ยจากการศึกษาวิจัย
00:09:52 → 00:09:54 ไลโคปีนประมาณ 15 มิลลิกรัมซึ่งถ้าเป็น
00:09:54 → 00:09:56 มะเขือเทศเป็นลูกเป็นผลใหญ่หน่อยเนาะก็
00:09:57 → 00:09:59 ประมาณ 3 ผลถ้าลูกเล็กก็กินเป็น 10 ลูก
00:09:59 → 00:10:04 อ่ะ 10-12 ลูกที่เป็นลูกเล็กๆอ่าอันนั้น
00:10:04 → 00:10:07 คือมะเขือเทศถ้าแตงโมก็ประมาณแบบ 1 ส่วน
00:10:07 → 00:10:10 ก็ประมาณซัก 8 ชิ้นคำก็ไม่ได้เยอะอันนี้
00:10:10 → 00:10:13 ช่วยต้านมะเร็งต่อมลูกหมากได้ดีอ๋อแล้ว
00:10:13 → 00:10:15 ผู้หญิงควรกินผู้หญิงควรกินครับเค้าบอก
00:10:15 → 00:10:19 ต่อมลูกมาฉันไม่มีต่อมลูกหมาแต่ฉันมีหัว
00:10:19 → 00:10:22 ใจนะจริงๆแล้วทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายอ่ะ
00:10:22 → 00:10:26 เรามีหัวใจไอ้เจ้าอะไรครูปีเนี่ยมันช่วย
00:10:26 → 00:10:29 ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอด
00:10:29 → 00:10:30 เลือดได้ดี
00:10:30 → 00:10:35 อ่ามันไปช่วยป้องกันเอ้ยไขมันเลวอ่ะที่จะ
00:10:35 → 00:10:38 เกิดสนิมเหล็กอ่ะที่อาจารย์บอกแล้วมันไป
00:10:38 → 00:10:43 ช่วยให้ตัว ldl เนี่ยไม่มีขนาดเล็ก
00:10:43 → 00:10:45 ldl เนี่ยในสาร antiagging เนี่ยเขาไม่
00:10:45 → 00:10:47 ได้ดูแค่
00:10:47 → 00:10:50 คุณมีปริมาณ ldl สูงหรือต่ำเขาไม่ได้มอง
00:10:50 → 00:10:55 แค่ปริมาณแต่เขาดูขนาดของ ldl ด้วยให้ไข
00:10:55 → 00:10:57 มันที่เราบอกเฮ้ย ldl เป็นไขมันเลวนะเขา
00:10:57 → 00:11:00 วัดขนาดด้วยครับเขาตรวจสิ่งที่เราเรียก
00:11:00 → 00:11:02 ว่า ldl ปาร์ติคอลใส
00:11:02 → 00:11:05 ก็คือขนาดของอนุภาคของ ldl ที่มาอยู่ใน
00:11:05 → 00:11:09 หลอดเลือดของเราเนี่ยถ้าขนาดเล็กไม่ดี
00:11:09 → 00:11:12 ครับ ldl ยิ่งเล็กยิ่งร้ายเพราะอะไรรู้
00:11:12 → 00:11:16 ไหมครับ
00:11:16 → 00:11:19 เซลล์หรือเยื่อบุผนังหลอดเลือดของเราและ
00:11:19 → 00:11:22 ทำให้เกิดอาการสะสมอ่ะไขมันที่หลอดเลือด
00:11:22 → 00:11:24 ได้ง่ายเพราะฉะนั้นถ้าเกิดเป็นอนุภาคใหญ่
00:11:24 → 00:11:27 ก็ดีกว่าถูกต้อง
00:11:27 → 00:11:30 ว่าเราจะเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจแล้วหลอด
00:11:30 → 00:11:33 เลือดเท่ากับคนที่มีอนุภาคนี้เห็นมั้ย
00:11:33 → 00:11:36 ใหญ่เล็กแล้วตรวจได้นะเนี่ยแล้วบังเอิญ
00:11:36 → 00:11:38 เขาพบว่าไม่ได้บังเอิญหรอกนะวิจัยเขาก็พบ
00:11:38 → 00:11:43 ว่าเฮ้ยเจ้าไล่กูปีเนี่ยมันไปช่วยในการ
00:11:43 → 00:11:48 ที่จะลดไอ้พวก ldl ขนาดเล็กได้อ่าใช้แล้ว
00:11:48 → 00:11:50 ดีต่อใจเห็นไหมครับต้านมะเร็งต่อมลูกหมาก
00:11:51 → 00:11:54 ดีต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดนะครับแล้วก็
00:11:54 → 00:12:00 ยังช่วยในการที่ทำให้ hdl hdl ไขมันดี
00:12:00 → 00:12:02 เนี่ยมีขนาดใหญ่
00:12:02 → 00:12:05 บางคนบอกอาจารย์
00:12:05 → 00:12:09 sdl ไขมันดีเขาดูแค่สูงต่ำแต่ศาสตร์ชะลอ
00:12:09 → 00:12:10 วัยดูขนาดด้วย
00:12:10 → 00:12:13 คุณตัวใหญ่ไหมเพราะตัวใหญ่มันจะเป็นตัว
00:12:13 → 00:12:17 สะท้อนครับตัวสะท้อนหรือตัวบ่งชี้ว่ามัน
00:12:17 → 00:12:20 มีมันมี
00:12:20 → 00:12:23 อนุภาคในการที่จะต้านอนุมูลอิสระได้มาก
00:12:23 → 00:12:26 น้อยแค่ไหนอันนี้พูดง่ายๆว่าดีต่อระบบหัว
00:12:27 → 00:12:29 ใจแล้วหลอดเลือดแล้วก็
00:12:29 → 00:12:34 อีกหนึ่งทีเด็ดของอะไรกูปีนที่ฮิตมาก
00:12:34 → 00:12:37 เมื่อปีก่อนๆรู้สึกน้ำมะเขือเทศขายได้
00:12:37 → 00:12:44 เป็นพันล้านเพราะคนนิยมกินกันบำรุงผิว
00:12:44 → 00:13:14 แล้วดีต่อผิวพรรณต้องกินขนาดไหน
00:13:14 → 00:13:17 [เสียงหัวเราะ]
00:13:17 → 00:13:22 เช้าตื่นมาทำไมรูขุมขนกระชับหน้ายก
00:13:22 → 00:13:25 มโนเดี๋ยวสคบมา
00:13:25 → 00:13:29 ร้านเสริมความงามเขาทำงานไม่ได้เขาก็ได้
00:13:29 → 00:13:31 ส่วนนึงริ้วรอยเล็กๆที่มีงานวิจัยอะไร
00:13:31 → 00:13:33 อย่างเงี้ยมันก็ต้องผนวกกันหลายสิ่งอัน
00:13:33 → 00:13:37 ถ้าคุณกินน้ำตาลแบบสาดโคมสาดโคลมคุณก็
00:13:37 → 00:13:39 เกิดสารเร่งแกเยอะริ้วรอยผิวคุณก็เหี่ยว
00:13:39 → 00:13:41 ย่นหยอดยาแล้วคุณจะไปหวังอะไรของปีอะไร
00:13:41 → 00:13:45 เขาปีนมันก็เกินต้านนึกออกเออตายอ๋ออัน
00:13:45 → 00:13:48 นี้คือพวกสีแดงแต่แล้วสีแดงอ่ะมันยังพบ
00:13:48 → 00:13:51 มากอีกกลุ่มนึงซึ่งก็สีแดงเหมือนกันเรา
00:13:51 → 00:13:55 เรียกว่า aliji Acid หรือกรดอัลบริจิพบ
00:13:55 → 00:13:58 มากในทับทิมครับอ๋อทับทิมเนี่ยที่แบบ
00:13:58 → 00:14:00 โอ้โหให้คุณรีแกะเนื้อมาให้อาจารย์กิน
00:14:00 → 00:14:04 หน่อยสินะทับทิมอ่ะโอ้โหน้ำตาไหลได้ไหม
00:14:04 → 00:14:08 นิยมเอาไปบีบเอาไปคั้นน้ำทับทิม
00:14:08 → 00:14:13 เม็ดนะก็ต้องมานั่งแคะๆแท้ๆเอานะครับ
00:14:13 → 00:14:17 อันนี้มีประโยชน์สูงมากเลยมหาศาลเลยดีต่อ
00:14:17 → 00:14:20 ระบบหัวใจโดยเฉพาะเพิ่มไอ้ตัว hdl ที่
00:14:20 → 00:14:23 อาจารย์บอกอ่ะให้มีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น
00:14:23 → 00:14:26 เดี๋ยวจะไปกินเลยเนี่ยอ่าแล้วไอ้ hdl ที่
00:14:26 → 00:14:29 ขนาดใหญ่เนี่ยมันเป็นตัวบ่งชี้ว่ามันไป
00:14:29 → 00:14:32 เพิ่มเอนไซม์ตัวนึงที่เป็นโปรตีนนะครับ
00:14:32 → 00:14:34 ตัวนี้มันจะเกาะอยู่ที่โมเลกุลของ hdl
00:14:34 → 00:14:38 เราเรียกว่าเอ่อ paraoxygenes One โอ้
00:14:38 → 00:14:42 ชื่อยาวเชียวนะผ่อนวันนะครับ p o n
00:14:42 → 00:14:45 แล้วก็เลข 1 ตัวเนี้ยมันต้านการเกิดโรค
00:14:45 → 00:14:49 หลอดเลือดแดงแข็งตัวได้ดีมากอ๋อหรอคือ
00:14:49 → 00:14:51 อันดับ 1 เลยต้องบอกอย่างนี้นะ TO BE
00:14:51 → 00:14:55 NUMBER ONE เลยของการตั้งเอ่อการเกิด
00:14:55 → 00:14:57 โรคหลอดเลือดแดงแข็งตัวแล้วช่วยในการ
00:14:57 → 00:15:01 เพิ่มไอ้เจ้าเอนไซม์ตัวนี้ในการต้านโรค
00:15:01 → 00:15:06 หัวใจอ่าแล้วเนี่ยพบมากเลยในทัพทีมแต่เรา
00:15:06 → 00:15:08 ก็ต้องระมัดระวังเนาะถ้าเราซื้อมาคั้นเอง
00:15:08 → 00:15:12 โอเคแต่ถ้าน้ำทับทิมที่มีขายบางทีแบบว่า
00:15:12 → 00:15:15 เฮ้ยขายอาจจะใส่น้ำเชื่อมบางทีเห็นเต็ม
00:15:15 → 00:15:18 ขวดเลยรู้สึกว่าไม่น่าใช่
00:15:18 → 00:15:22 เติมหรืออะไรอย่างนี้เองก็โอเคเนาะอันนี้
00:15:22 → 00:15:24 ในกลุ่มสีแดงถ้ากลุ่มสีเหลืองส้มแน่นอน
00:15:24 → 00:15:27 เบรกแตกแคโรทีนในแครอทตำลึงฟักทองพวกนี้
00:15:27 → 00:15:33 นะครับอ่าซึ่งพวกเนี้ยเบต้าแคโรทีนที่พบ
00:15:33 → 00:15:35 ในพืชเวลาเรากินเข้าไปในร่างกายเนี่ยมัน
00:15:35 → 00:15:38 จะแปลงร่างกลายเป็นวิตามินเอนะครับ 1
00:15:38 → 00:15:39 โมเลกุลของเบต้าแคโรทีนจะเปลี่ยนเป็น
00:15:39 → 00:15:43 วิตามินเอซึ่งช่วยในเรื่องของสมองสุขภาพ
00:15:43 → 00:15:46 สายตาโทษทีครับเรื่องของสายตาจริงๆแล้ว
00:15:46 → 00:15:48 สมองก็มีงานวิจัยแหละว่ากลุ่มเบต้า
00:15:48 → 00:15:50 แคโรทีนเนี่ยช่วยต้านโรคสมองเสื่อมได้นะ
00:15:51 → 00:15:54 ครับแล้วก็เรื่องของสายตานะครับอ่ารวมไป
00:15:54 → 00:15:58 ถึงเรื่องของภูมิคุ้มกันผิวพรรณก็ไปกลุ่ม
00:15:58 → 00:16:01 ของเบต้าแคโรทีน
00:16:01 → 00:16:04 กับสุขภาพผิวแล้วมาช่วยในการกันแดดได้
00:16:04 → 00:16:07 ด้วยนะมันมีงานวิจัยครับพูดง่ายๆว่า
00:16:07 → 00:16:11 เหมือนเป็นเป็นออรัลสกรีนเป็นกันแดดแบบ
00:16:11 → 00:16:14 กินก็คือกินอาหารน่ะแล้วก็เป็นแบบตัว
00:16:14 → 00:16:18 เหมือนกัน UV จะมาทำร้ายผิว
00:16:18 → 00:16:21 อ่า UV เนี่ยมันจะมีอยู่ 2 UV หลักๆที่
00:16:21 → 00:16:26 เราเคยได้ยินกันประจำคือ uva กับ UV uva
00:16:26 → 00:16:28 เนี่ยทำให้เรา aging a เนี่ยคือ aging
00:16:28 → 00:16:34 คือแก่เหี่ยว
00:16:34 → 00:16:37 แล้วก็ uvb เนี่ยอืม
00:16:37 → 00:16:41 คือ Body ทำให้เรา Back
00:16:41 → 00:16:47 ถูกต้องไม่เกรียมให้เรา uvb ไอ้เจ้าเบต้า
00:16:47 → 00:16:51 แคโรทีนเนี่ยมันป้องกันรังสี uva ได้ดีนะ
00:16:51 → 00:16:53 ครับ uva มันจะทำให้ผิวเราเหี่ยว
00:16:53 → 00:16:58 ย่นหรือเกิดแบบการเบิร์นเกิดการแดงเขา
00:16:58 → 00:16:59 เรียกได้ง่าย
00:16:59 → 00:17:02 คือเกิดแบบเหมือนรอยแดงอะไรอย่างเงี้ย
00:17:02 → 00:17:05 เบิร์นเวลาเราไปทะเลหรือตากแดดอ่ะก็จะแดด
00:17:05 → 00:17:08 บ้านเราก็เกินไปอ่ะถูกต้องไม่รู้จะกิน
00:17:08 → 00:17:17 วิตามินที่แบบว่ามีขนาดไหน
00:17:17 → 00:17:21 พวกอะโวคาโด
00:17:21 → 00:17:24 แล้วก็รูทีน 4 แซนทีที่จะพูดถัดมาตระกูล
00:17:24 → 00:17:28 เดียวกันนะตระกูลแคโรทีนอยด์นะครับอ่าพวก
00:17:28 → 00:17:31 เนี้ยน้องก็จะมีพวกเบต้าแคโรทีนจากแครอท
00:17:31 → 00:17:33 จาก
00:17:33 → 00:17:33 เอ่อ
00:17:33 → 00:17:39 ฟักทองนะอ่ามะม่วงมะม่วงสุกของโปรดกูรี
00:17:39 → 00:17:42 เลยแต่ว่าพอบอกปุ๊บโอ้โหเดี๋ยวชี้โพรงให้
00:17:42 → 00:17:45 กระรอกยิงซะแบบว่าเบต้าแคโรทีนก็สูงนะแต่
00:17:45 → 00:17:49 น้ำตาลก็สูงด้วยเลือกเอาๆอันไหนเดี๋ยวก็
00:17:49 → 00:17:51 หวานขึ้นตาตาฝ้าฟางแทนที่จะเอาเบต้า
00:17:51 → 00:17:56 แคโรทีนมาบำรุงตาด้วยนะมันมาคู่เลยหรอ
00:17:56 → 00:18:00 โอ้โหแล้วก็รูทีนซีแซนทีนอันนี้จะดีมาก
00:18:00 → 00:18:03 เลยนะครับพกมากในข้าวโพด
00:18:03 → 00:18:06 เก๋ากี้โกจิเบอร์รี่
00:18:06 → 00:18:09 อะโวคาโดที่เราเห็นสีเหลืองๆเนี่ยช่วย
00:18:09 → 00:18:11 ชะลอความเสื่อมของจอประสาทตา
00:18:11 → 00:18:13 อาจารย์
00:18:13 → 00:18:16 เอาเก๋ากี้ชงกับน้ำร้อนกินนะไม่ค่อยช่วย
00:18:16 → 00:18:19 แล้วค่ะไม่ทันค่ะไม่ทันใช่ไหมก็ต้องฟื้น
00:18:19 → 00:18:21 ฟูกินแค่ไหนกูรีกี่เมตร
00:18:21 → 00:18:24 เขามีแบ่งแยกเป็นซองเลยห่อเล็กๆค่ะมัน
00:18:24 → 00:18:26 เค้าขายเป็นแผงอันนี้ไปเจอในห้างมาก็เลย
00:18:26 → 00:18:30 แบบเทแก้วประมาณอย่างเงี้ยแล้วก็
00:18:30 → 00:18:33 โกจิเบอร์รี่อ่าเก๋ากี้อ่ะใส่ลงไป
00:18:33 → 00:18:36 ไล่เม็ดมากแล้วก็น้ำร้อนอย่างเงี้ยทั้ง
00:18:36 → 00:18:41 วัน
00:18:41 → 00:18:46 ดีครับ
00:18:46 → 00:18:49 เอ๊ะตอนนี้ตัวเลข
00:18:49 → 00:18:51 มองไม่ชัด
00:18:51 → 00:18:56 ก็จะส่งเสริมสุขภาพสายตาได้แล้วก็อีกตัว
00:18:56 → 00:19:00 นึงที่เหลืองส้มแล้วอยู่ในพืชตระกูลส้มคน
00:19:00 → 00:19:03 ไม่ค่อยรู้จักกันพึ่งมารู้จักหลังๆเพราะ
00:19:03 → 00:19:06 ว่ามันมีงานวิจัยเรื่องภูมิคุ้มกันเรื่อง
00:19:06 → 00:19:09 อะไรอย่างนี้ก็คือมันชื่อว่า hisperidine
00:19:09 → 00:19:13 ชื่อยาวมากเลย hisperidine เขาคือใครเรา
00:19:13 → 00:19:16 กินส้มเนี่ยปกติเราก็รู้แต่ว่าเฮ้ยเราได้
00:19:16 → 00:19:17 วินาที
00:19:17 → 00:19:25 แต่จริงๆแล้วในส้มโดยเฉพาะในใหญ่ส้มๆ
00:19:25 → 00:19:29 มีประโยชน์มากไม่กินอย่างเดียว
00:19:29 → 00:19:33 ซึ่งมันช่วยในการเสริมภูมิคุ้มกันได้ดี
00:19:33 → 00:19:37 ช่วยต้านมะเร็งได้ด้วยทำไมเพิ่งมาเขาอยู่
00:19:37 → 00:19:40 ของเขามานานแล้วนะกินกันมานานแล้วแต่เรา
00:19:40 → 00:19:43 ก็ไม่รู้เราก็ดึงๆๆออกอะไรอย่างเงี้ยจริง
00:19:43 → 00:19:46 ๆแล้วมันก็มีประโยชน์กินได้ก็กินไปใครไม่
00:19:46 → 00:19:48 กินก็ไม่เป็นไรก็ได้น้อยหน่อยอ่าอันนี้ใน
00:19:48 → 00:19:52 กลุ่มของสีเหลืองส้มถัดมาสีเขียวครับสี
00:19:52 → 00:19:56 เขียวเนี่ยโอ้โหถ้าโดดเด่นเลยก็คือพวกไอ้
00:19:56 → 00:19:59 โซ่ไทโอเซียยาวมาก
00:19:59 → 00:20:01 นะถ้าอาจารย์แบ่งแยกแตกย่อยในกลุ่มเนี้ย
00:20:01 → 00:20:04 ครูลีก็จะงงไปอีกนะก็จะมีพวกซันโฟน
00:20:04 → 00:20:07 อินโดทรีคาบีน่า
00:20:08 → 00:20:09 วันนี้
00:20:09 → 00:20:13 เป็นไงล่ะ
00:20:13 → 00:20:17 ให้เรารู้จักนะครับพวกนี้จะพบมากในพืช
00:20:17 → 00:20:20 ตระกูลพืชผัก
00:20:20 → 00:20:23 ตระกูลิฟฟอรัสก็คือพืชที่มันตระกูล
00:20:23 → 00:20:26 บร็อคโคลี่ครับกะหล่ำปลีกะหล่ำดอก
00:20:26 → 00:20:30 บล็อคโคลี่กะหล่ำปลีกะหล่ำดอกผักเคี้ยว
00:20:30 → 00:20:34 ผักคะน้าโดยเฉพาะพืชผักที่กะหล่ำเนอะมัน
00:20:34 → 00:20:37 ก็จะเป็นแบบหัวมันค่ะ
00:20:37 → 00:20:41 พวกนั้นน่ะจะมีสารพวก
00:20:41 → 00:20:44 ไอโซไทโอซีเนตช่วยในกระบวนการดีท็อกซ์
00:20:44 → 00:20:46 cbration กำจัดสารพิษและต้านมะเร็งได้ดี
00:20:46 → 00:20:48 มากพูดง่ายๆว่า
00:20:48 → 00:20:52 เป็นอันดับ 1 อ่ะถ้าอยากจะต้านมะเร็งก็
00:20:52 → 00:20:53 ต้องกินพวกนี้
00:20:53 → 00:20:57 กะหล่ำปลีกะหล่ำดอกที่ที่ได้ยินมาแว้วๆ
00:20:57 → 00:20:59 ไม่ใช่แว่วๆหรอกมันมีแหล่แต่แค่ว่าจำไม่
00:20:59 → 00:21:02 ได้คือเขาบอกบร็อคโคลี่นี่แบบโอ้โหตัวที่
00:21:02 → 00:21:06 เด็ดสุดเลยใช่แต่ยาฆ่าแมลงตกค้างก็หนัก
00:21:06 → 00:21:11 สุดเพราะมันอยู่ในนั้นถูกต้อง
00:21:11 → 00:21:16 มันมีความมีความแบบ
00:21:16 → 00:21:20 ซับซ้อนคือเมื่อก่อนน่ะเคยกินอร่อยแต่
00:21:20 → 00:21:22 เดี๋ยวนี้กินไม่ได้อ้าวทำไมอ่ะไม่ชอบไป
00:21:22 → 00:21:25 เลยอยู่ๆก็ไม่ชอบไปเลยค่ะอาจารย์กินได้นะ
00:21:25 → 00:21:31 แต่ดอกดอกกะหล่ำทำความสะอาดให้ดีอ่า
00:21:31 → 00:21:35 ไม่ต้องกลัวเพราะ 21:00 นมันโอเคอยู่
00:21:35 → 00:21:38 มากกว่าเพราะเดี๋ยวมันได้ไม่คุ้มเสียไง
00:21:38 → 00:21:42 มันจะเอาแบบไอ้โซ่ไทโอเซียแล้วจะเอาเอ่อ
00:21:42 → 00:21:44 สารที่ช่วยในกระบวนการดีท็อกต้านมะเร็ง
00:21:44 → 00:21:48 จากบล็อกโคลี่ว่าเราไปเอาสารที่เหนียวนำ
00:21:48 → 00:21:51 มาเล็งอ่ายาฆ่าแมลงตกค้างศาลกำจัดว่าจะ
00:21:51 → 00:21:55 วัชพืชตกค้างกลายเป็น
00:21:55 → 00:21:59 คาสิโนเจนจากกล่องมะเร็งไม่คุ้มอย่าทำ
00:21:59 → 00:22:04 อะไรนี้ไม่ใช่สารซื้อสารเคมีนะคะ
00:22:04 → 00:22:07 อันนี้ช่วยในกระบวนการกำจัดสารพิษแล้วก็
00:22:07 → 00:22:10 ช่วยในการกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีอ่ามันมี
00:22:10 → 00:22:13 ความแบบมหัศจรรย์มากศาลพวกนี้แล้วก็ปรับ
00:22:13 → 00:22:15 สมดุลฮอร์โมนให้ด้วย
00:22:15 → 00:22:18 ถักดีทั้งคุณผู้ชายดีทั้งคุณผู้หญิงอ่ะ
00:22:18 → 00:22:22 น่าสนใจตรงนี้ก็ช่วยในกระบวนการ Detox
00:22:22 → 00:22:26 อีกตัวนึงที่พบมากในพวกชาเขียวก็คือ egcg
00:22:26 → 00:22:28 หรือคาติชินตัวนี้จะช่วยในการ
00:22:28 → 00:22:33 เพิ่มการเผาผลาญไขมันลดไขมันสะสมในร่าง
00:22:33 → 00:22:36 กายแล้วก็ช่วยในการลดไขมันในเลือดไขมัน
00:22:36 → 00:22:39 เลว ldl ในเลือดได้ด้วยที่มีงานวิจัยรวม
00:22:39 → 00:22:42 ทั้งเสริมภูมิคุ้มกันต้านมะเร็งได้แต่ชา
00:22:42 → 00:22:44 เขียวขอร้องอย่าเติมน้ำตาล
00:22:44 → 00:22:45 นะ
00:22:45 → 00:22:48 คุณจะกินร้อนกินเย็นก็ได้เพราะอย่าลืมบาง
00:22:48 → 00:22:51 คนมาเถียงกันกินร้อนกินเย็นก่อนที่คุณจะ
00:22:51 → 00:22:54 ทำใจเย็นน่ะคุณท่านจะร้อนมาก่อนหรือเปล่า
00:22:54 → 00:22:57 ก็ต้องให้มันละลายก่อนเนาะ
00:22:57 → 00:23:00 นึกออกมั้ยก่อนที่ว่าใจเย็นเนี่ยคุณผ่าน
00:23:00 → 00:23:02 ร้อนมาก่อนแล้วฉะนั้นแล้วคุณจะกินร้อนกู
00:23:02 → 00:23:05 จะกินเลยถ้าคุณจะกินเย็นก็กินก็ร้องให้
00:23:05 → 00:23:07 มันเย็นหรือคุณจะเติมน้ำแข็งให้มันเย็นก็
00:23:07 → 00:23:09 ไม่ได้ซีเรียสดินึกออกมั้ยเพราะเข้าสู่
00:23:09 → 00:23:12 ร่างกายก่อนเพราะระบบทางเดินอาหารเราก็
00:23:12 → 00:23:14 ปรับอุณหภูมิอยู่แล้วอ่ะนะครับแต่เราจะ
00:23:14 → 00:23:17 กินร้อนกินเย็นขอให้คุณแบบว่าเอ้ยแช่
00:23:17 → 00:23:21 ประมาณไม่เกิน 3 นาทีเพื่อให้ Cat มันออก
00:23:21 → 00:23:26 มานะครับแทนนินไม่ควรออกมาเยอะ 3 นาทีแช่
00:23:26 → 00:23:28 นานๆเนี่ยแทนนินสารที่มีรถไฟในเนี่ยมัน
00:23:28 → 00:23:31 ออกมาแล้วมันจะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม
00:23:31 → 00:23:34 ธาตุเหล็กแล้วก็ทำให้ท้องผูกแต่บางคน
00:23:34 → 00:23:36 เพื่อนซื้อชามาฝากจากอังกฤษโอ้โหเมืองผู้
00:23:36 → 00:23:40 ดีแช่ชาไป 3 ที่วาระตีกันเสียดายอ่าเสีย
00:23:40 → 00:23:44 ดายไม่ต้องเสียดายครับแล้วถ้าอย่างนี้
00:23:44 → 00:23:47 แสดงว่าหลายๆรอบไม่ได้ไม่ได้รอบเดียวพอ
00:23:47 → 00:23:52 สะใจเราเอายอดช้ายอดยอดศาลอาทิตย์ๆออกมา
00:23:52 → 00:23:56 นะครับอ่าสีม่วงสีม่วงนี่ก็จะมีสีม่วงสี
00:23:56 → 00:23:58 ม่วงแกมน้ำเงินเนาะพวกกลุ่มแอนโทไซยานิน
00:23:58 → 00:24:01 พบมากในพืชตระกูลเบอร์รี่นะเบอร์รี่ฝรั่ง
00:24:01 → 00:24:03 บลูเบอร์รี่ Blackberry Life Berry
00:24:03 → 00:24:06 Berry ไทยก็มาเบอรี่หรือลูกหม่อนมาเม่า
00:24:06 → 00:24:10 มาหลอดมาเกี๋ยงตะขบลูกว่าลูกไหนลูกหว้า
00:24:10 → 00:24:13 หายไปไหนแล้วเนี่ยนึกถึงสมัยเด็กๆคือ
00:24:13 → 00:24:15 องุ่นก็ได้ครับถ้าพืชริมรั้วก็คือ
00:24:15 → 00:24:18 กระเจี๊ยบอัญชัน
00:24:18 → 00:24:21 ก็เอามาได้แอนโทซีนีสูงมากนะพวกนี้จะขุด
00:24:21 → 00:24:23 อาจารย์บอกเลยว่าชะลอวัยชะลอลูกได้ดีพวก
00:24:23 → 00:24:25 แอนโทไซยานินเนี่ยแต่ว่าโดนความร้อนไม่
00:24:25 → 00:24:29 เป็นไรใช่มั้ยอ๋อเอามาต้มเก็บมาซัก 10
00:24:29 → 00:24:31 ดอกมาต้มน้ำใบเตย
00:24:31 → 00:24:35 อัญชันก็ได้นะครับต้มใส่น้ำใบเตยเพื่อ
00:24:35 → 00:24:37 ความหอมใส่หญ้าหวานไปนิดนึงหรือ
00:24:37 → 00:24:39 หล่อฮังก๊วยไปหน่อยนึงมีมะนาวไปนิดนึง
00:24:39 → 00:24:42 โอ้โหชุ่มคออร่อยชื่นใจอาจารย์ครับ
00:24:42 → 00:24:45 อันเนี้ยช่วยชะลอความเสื่อมของสมองหิวเลย
00:24:45 → 00:24:49 อ่ะสายตานะหัวใจและหลอดเลือดผิวพรรณภูมิ
00:24:49 → 00:24:53 คุ้มกันได้หมดครอบคลุมชะลอวัยชะลอโลกงั้น
00:24:53 → 00:24:56 กินแค่สีม่วงอย่างเดียวพอ
00:24:56 → 00:25:00 แล้วต้องกินให้ครบเหมือนกันก็ในสีม่วง
00:25:00 → 00:25:02 เหมือนกันพวกในองุ่นในบลูเบอร์รี่แล้วก็
00:25:02 → 00:25:05 ในถั่วเปลือกถั่วลิสงม่วงๆครับอันนี้
00:25:05 → 00:25:08 กระตุ้นยีนส์ที่ทำให้อายุยืนไอ้นี่อ่ะใช่
00:25:08 → 00:25:11 ถั่วต้มอ้าหัวต้มถูกต้อง
00:25:11 → 00:25:16 นี่ทำให้อายุยืนยาวครับ restruital สีสุด
00:25:16 → 00:25:19 ท้ายสีขาวครับสีขาวในหัวหอมที่คุณลีชอบ
00:25:19 → 00:25:22 มากนี่แหละคือสิตินนะตัวนี้ในหัวหอมใน
00:25:22 → 00:25:25 แอปเปิ้ลในองุ่นจะช่วยลดความดันเสริมภูมิ
00:25:25 → 00:25:28 คุ้มกันส่งเสริมสุขภาพปอดบรรเทาอาการรอง
00:25:28 → 00:25:32 โควิดและช่วยในกระบวนการลดผลกระทบของ PM
00:25:32 → 00:25:33 2.5
00:25:33 → 00:25:37 อีก 1 ขาวที่ให้ไว้ก่อนปิดท้ายคืออารีซีน
00:25:37 → 00:25:40 จากกระเทียมครับยิ่งทุบยิ่งโค้งยิ่งตี
00:25:40 → 00:25:44 ยิ่งดีครับกระเทียมเนี่ยนะคุณจะกินสดอัน
00:25:44 → 00:25:47 นี้ก็ดีนะอ่าเพราะคุณกินเจียวบางทีมันไป
00:25:47 → 00:25:50 กับน้ำมันนะครับอันนี้จะดีต่อใจช่วยในการ
00:25:50 → 00:26:02 ลดไขมันเลว ldl ช่วยในการลดความดันนะครับ
00:26:02 → 00:26:10 [เพลง]
00:26:54 → 00:26:57 หมอทาง Thai PBS podcast ค่ะวันนี้
00:26:57 → 00:27:00 สุรีย์พรลาไปก่อนนะคะสวัสดีค่ะ
00:27:00 → 00:27:02 [เพลง]
00:27:02 → 00:27:05 fwb หรือ friend with benefit มีความ
00:27:05 → 00:27:07 หมายและเป็นความสัมพันธ์เชิงเพศสัมพันธ์
00:27:07 → 00:27:09 ในรูปแบบใดผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรจันทร์
00:27:09 → 00:27:11 วิภาดิลกสัมพันธุ์ผู้เชี่ยวชาญด้านความ
00:27:11 → 00:27:15 สัมพันธ์และครอบครัวมาเล่าให้ฟังครับ
00:27:15 → 00:27:18 Friends ถ้าแปลเป็นไทยมันก็จะหมายถึง
00:27:18 → 00:27:21 ความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่สามารถมี
00:27:21 → 00:27:24 เพศสัมพันธ์ได้ด้วยกันได้โดยไม่มีการผูก
00:27:24 → 00:27:26 มัดอันนี้นะคะเป็นคำจังหวัดความที่ฝรั่ง
00:27:26 → 00:27:30 เขาให้ไว้เราแปลออกมาเป็นแบบนี้หรอคะแบบ
00:27:30 → 00:27:32 นี้แล้วก็ถ้าแปลตามความหมายของมันจริงๆ
00:27:32 → 00:27:34 เนี่ยนะฮะมันจะหมายถึงความสัมพันธ์แบบ
00:27:34 → 00:27:37 เพื่อนแต่ร่วมหลับนอนกับเพื่อนด้วยกัน
00:27:37 → 00:27:40 เนี่ยได้นะคะอาจจะเป็นความสัมพันธ์ในรูป
00:27:40 → 00:27:42 แบบที่เนื่องจากมันมีความเสี่ยงหยิบขนม
00:27:42 → 00:27:45 กันทางร่างกายก่อนมากกว่าความหลงใหลลุ่ม
00:27:45 → 00:27:48 หลงแบบคู่รักเข้าใจไหมคะความสนิทกันเนี่ย
00:27:48 → 00:27:51 กอดคอกันเทไหนเฮนั่นนะคะแต่มันไม่มีความ
00:27:51 → 00:27:55 รักผูกพันแบบแบบชู้สาวกันมาก่อนเอางี้ละ
00:27:55 → 00:27:57 กันนะฮะสามารถเที่ยวด้วยกันได้อะไรด้วย
00:27:57 → 00:28:01 กันได้เป็นเพื่อนกินเพื่อนเดินทางแล้วก็
00:28:01 → 00:28:03 เพื่อนนอนด้วยอันนี้นะคะสำหรับ benefit
00:28:03 → 00:28:06 เนี่ยนะก็คือว่าสามารถมีเพศสัมพันธ์ด้วย
00:28:06 → 00:28:09 กันได้โดยไม่มีการผูกมัดไม่ใช่ว่าพอมีใช้
00:28:09 → 00:28:11 กันไปแล้วอ่ะฉันเป็นของเธอเธอเป็นของฉัน
00:28:11 → 00:28:14 เราผูกมัดกันแล้วนะไม่ใช่ค่ะอันนี้ของ
00:28:14 → 00:28:16 เมืองนอกนะต้องเน้นก่อนว่านี่ของเมืองนอก
00:28:16 → 00:28:20 นะสามารถอยู่ร่วมกันใกล้ชิดกันได้โดยไม่
00:28:20 → 00:28:24 ต้องกดดันอะไรเพราะอย่าลืมว่าสังคมต่าง
00:28:24 → 00:28:25 ประเทศเนี่ยส่วนใหญ่เขาจะเป็นสังคมฟรี
00:28:25 → 00:28:28 เซ็กส์ถูกไหมคะนะฮะเพราะฉะนั้นมันก็เป็น
00:28:28 → 00:28:30 ความสัมพันธ์แบบรูปแบบหนึ่งที่เพื่อนทำ
00:28:30 → 00:28:32 หน้าที่หลับนอนกับเพื่อนน่ะเอางี้ละกันนะ
00:28:33 → 00:28:36 ฮะก็เหมือนกับว่าคนสองคนเนี่ยนะเป็น
00:28:36 → 00:28:39 เพื่อนกันมันมีความสนิทสนมกันอยู่แล้วนะ
00:28:39 → 00:28:42 คะชายหญิงว่าอ่าแล้วก็ต่างอยากจะมีเช็ค
00:28:42 → 00:28:45 ด้วยกันทั้งคู่แต่ว่าไม่มีคนรักก็เลยเอา
00:28:45 → 00:28:47 ว่าเพื่อนกับเพื่อนช่วยกันหน่อยละกันนึก
00:28:47 → 00:28:50 ออกมั้ยคะถ้าจะเปลี่ยนความสัมพันธ์นะ
00:28:50 → 00:28:53 สมมุติเป็นแกนหลับตานึกนะคะท่านผู้ฟังนะ
00:28:53 → 00:28:56 ถ้าเราเปรียบเทียบเป็นเป็นขั้วๆของความ
00:28:56 → 00:28:59 รักเนี่ยเอาเอาซ้ายมือสุดแล้วกันนะคะซ้าย
00:28:59 → 00:29:01 มือสุดเนี่ยจะเป็นพวก one night stand
00:29:01 → 00:29:04 ก็หมายความว่าพวกที่ไปเจอกันปั๊บก็เกิด
00:29:04 → 00:29:06 Spark กันมีเซ็กส์กันคืนเดียวแล้วก็แยก
00:29:06 → 00:29:10 จากกันแต่ขั้วขวาสุดเนี่ยนะคะเป็นแบบคน
00:29:10 → 00:29:14 รักแบบโรแมนติกเป็นคู่รักกันเลยนะคะก็เรา
00:29:14 → 00:29:15 ก็จะบอกว่า
00:29:15 → 00:29:18 fwb เนี่ยมันคือตรงกลางค่ะของ 2 อันนั้น
00:29:18 → 00:29:21 ก็หมายความว่าไอ้คู่รักเนี่ยมันมีความ
00:29:21 → 00:29:24 สนิทสนมกันใช่ไหมคะรู้จักมักคุ้นกันจน
00:29:24 → 00:29:27 ลุ่มหลงลุ่มรักกันแล้วส่วนไอ้ฝั่งซ้ายสุด
00:29:27 → 00:29:29 เนี่ยซึ่งมันเป็น one night stand
00:29:29 → 00:29:31 เนี่ยมันไม่สนิทกันมาก่อนเลยแต่เจอปั๊บ
00:29:31 → 00:29:37 มันก็มีความใคร่ทางกายกันนะคะแต่ไอ้ fwb
00:29:37 → 00:29:39 เนี่ยมันอยู่ตรงกลางก็หมายความว่าขนมกัน
00:29:39 → 00:29:42 ประมาณนึงแบบเพื่อนแต่ไม่ได้รักลุ่มหลงนะ
00:29:42 → 00:29:46 ฮะแต่ก็ดีกว่าที่จะแต่งหน้าแล้วก็มั้ยคะ
00:29:46 → 00:29:49 นะคะเพราะน้ำมันเลยเค้าบอกว่าถ้าเทียบกัน
00:29:49 → 00:29:51 เนี่ยไอ้เนี่ยมันอยู่ตรงกลางนะคะเพราะ
00:29:51 → 00:29:54 ฉะนั้นเนี่ยก็มีความรู้จักคุ้นเคยกันพอ
00:29:54 → 00:29:56 ประมาณแล้วแต่ก็ไม่พัฒนาไปสู่การเป็นคู่
00:29:57 → 00:29:59 รักหรือที่จะเข้าไปสู่การเป็นคู่แต่งงาน
00:29:59 → 00:30:08 ที่คิดจะสร้างอนาคตด้วยกัน
00:30:08 → 00:30:11 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:30:11 → 00:30:15 ของไทยพีแดช็อตคลาส spotify soundcloud
00:30:15 → 00:30:17 Google podcast
00:30:17 → 00:30:26 และ YouTube Channel Thai PBS
00:30:26 → 00:30:31 [เพลง]