00:00:00 → 00:00:02 ทุกวันนี้กลัวคนชวนออกไปข้างนอก
00:00:02 → 00:00:03 กลัวคนชวนออกไปดื่ม
00:00:04 → 00:00:06 พี่บอกไปเลย เวลามีเพื่อนส่งข้อความมา
00:00:07 → 00:00:08 พี่บอกไปเลย
00:00:10 → 00:00:12 แต่เมื่อก่อนปะป๊าคือไม่ยอมเข้าโรงพยาบาล
00:00:12 → 00:00:15 แต่เดี๋ยวนี้ก็คือคันตาก็ไปหาหมอแล้ว
00:00:15 → 00:00:16 นิดเดียวไม่ได้แล้ว
00:00:16 → 00:00:17 ไอก็กังวล
00:00:18 → 00:00:19 จามก็ไปหาหมอแล้ว
00:00:19 → 00:00:20 สมัยก่อนไม่เข้าใจนะ
00:00:20 → 00:00:21 พวกนิดเดียวไปหาหมอ
00:00:22 → 00:00:23 เดี๋ยวนี้นิดเดียวก็ไป
00:00:25 → 00:00:27 มีอะไรที่ยังอยากจะปรับปรุง
00:00:27 → 00:00:29 หรือว่ามีอะไรที่ทำไม่สำเร็จสักทีไหมคะ
00:00:29 → 00:00:30 ในเรื่องสุขภาพ
00:00:30 → 00:00:32 ก็กินน้ำตาล
00:00:32 → 00:00:33 กินขนม
00:00:33 → 00:00:33 กินช็อกโกแลต
00:00:33 → 00:00:34 เป็นคนติดช็อกโกแลต
00:00:34 → 00:00:37 แล้วกลับมาชมก็ซื้อของมาเต็มตู้เลย
00:00:39 → 00:00:41 นั่งประเมินดูอยู่ว่า
00:00:41 → 00:00:42 ซื้อมาเยอะขนาดนี้
00:00:42 → 00:00:44 แล้วต้องกินให้หมดภายใน 3 เดือน
00:00:44 → 00:00:45 เท่ากับกินน้ำตาลไปกี่กรัม
00:00:45 → 00:00:46 ไม่ได้ว่าต้องกินให้หมด
00:00:47 → 00:00:48 ยาปฏิชีวนะ
00:00:48 → 00:00:50 อย่างเมื่อก่อนก็จะต้องมีเก็บไว้ในกล่อง
00:00:50 → 00:00:51 ในทริปอะไรแบบนี้
00:00:51 → 00:00:52 ตอนนี้ก็คือไม่สต๊อก
00:00:52 → 00:00:53 แต่พี่ก็เก็บ แต่ไม่กิน
00:00:53 → 00:00:54 หมดอายุก็ทิ้ง
00:00:55 → 00:00:55 - แต่ต้องมี - ชมไม่เก็บ
00:00:56 → 00:00:57 แม้แต่ลูกทุกวันนี้
00:00:57 → 00:00:58 เป็นหวัดอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ
00:00:59 → 00:01:00 ชมก็แทบจะไม่ให้กินยา
00:01:00 → 00:01:01 จนบางทีพ่อบอกว่าให้มันกินไปเถอะ
00:01:01 → 00:01:02 ใช่
00:01:02 → 00:01:04 คือผมจะบาลานซ์
00:01:04 → 00:01:04 แต่ชม
00:01:04 → 00:01:05 นี่ก็สุดโต่ง
00:01:06 → 00:01:09 แต่ผมเป็นคนเปิดใจทุกอย่างก่อน
00:01:10 → 00:01:11 - ลองผิด ลองถูก - ไม่จริง
00:01:11 → 00:01:12 เป็นคนไม่เปิดใจก่อน
00:01:18 → 00:01:19 นี่รายการอะไรเนี่ย
00:01:20 → 00:01:22 On The Way with CHOM EP นี้
00:01:22 → 00:01:23 สตูดิโอเดือด
00:01:23 → 00:01:25 เมื่อพ่อน็อตกับแม่ชมมาบอกเคล็ดลับสุขภาพดี
00:01:25 → 00:01:27 สไตล์ใคร สไตล์มัน
00:01:27 → 00:01:28 ใครสุดโต่ง
00:01:28 → 00:01:29 ใครสายชิล
00:01:29 → 00:01:30 ใครสุขภาพดีกว่ากัน
00:01:30 → 00:01:33 ดูคลิปจบแล้วเลือกทีมไหน คอมเมนต์มาบอกกันหน่อย
00:01:33 → 00:01:36 เรื่องสุขภาพบ้านนี้ไม่มีใครยอมใครจริง ๆ
00:01:40 → 00:01:42 ปะป๊าตรวจเลือดทุก 3-4 เดือน ตอนนี้...
00:01:43 → 00:01:44 เอาเรื่องอดีตก่อนละกัน
00:01:45 → 00:01:46 ปัญหาสุขภาพในอดีต
00:01:46 → 00:01:47 จริง ๆ อยากตรวจทุกเดือนนะ
00:01:48 → 00:01:49 แต่ว่ามันก็เวอร์ไป
00:01:49 → 00:01:50 จริง ๆ อยากตรวจทุกเดือน
00:01:51 → 00:01:53 เมื่อก่อนมีปัญหาสุขภาพอะไรบ้างคะ
00:01:54 → 00:01:56 ปัญหาสุขภาพจริง ๆ
00:01:57 → 00:01:59 เรื่องใหญ่ไม่มี
00:01:59 → 00:02:03 โดยมากก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเจ็บเอ็นร้อยหวาย
00:02:03 → 00:02:04 ที่ต้องไปผ่าตัดมา
00:02:05 → 00:02:06 ก็คือเล่นฟุตบอลตั้งแต่เด็กแล้วก็...
00:02:07 → 00:02:10 อาจจะยืดน้อย หรือเล่นเสร็จแล้วไม่ได้ยืดร่างกายตึง
00:02:11 → 00:02:12 พอตึงแล้วบางทีขยับ
00:02:13 → 00:02:15 ไปเล่นต่อมันก็เกิดการฉีกได้
00:02:16 → 00:02:17 แล้วก็ไม่ได้ดูแลมัน
00:02:18 → 00:02:20 ก็จะมีเรื่องเอ็นร้อยหวายก็ไปผ่าตัดมา
00:02:21 → 00:02:22 เป็นทั้ง 2 ข้าง
00:02:22 → 00:02:23 ก็เจ็บ
00:02:24 → 00:02:26 วิ่งไม่ได้ ออกกำลังกายไม่ได้ อะไรอย่างนี้
00:02:26 → 00:02:29 ก็ต้องไปผ่าตัดเพื่อให้กลับมาออกกำลังกายได้เหมือนเดิม
00:02:30 → 00:02:31 ตอนนี้ผ่าข้างขวาไปแล้ว
00:02:32 → 00:02:33 ก็เหลือข้างซ้าย
00:02:33 → 00:02:35 ตอนนี้พอกลับมาเล่นหนัก ๆ
00:02:35 → 00:02:37 ข้างซ้ายก็จะเริ่มมารบกวน
00:02:37 → 00:02:38 แต่คิดว่าไม่ผ่าแล้ว
00:02:39 → 00:02:40 เพราะไม่ไหว
00:02:40 → 00:02:42 แล้วจะซ่อมยังไงคะ
00:02:42 → 00:02:44 - ถ้าไม่ผ่า - ก็ต้องค่อย ๆ หาหมอมายืด
00:02:44 → 00:02:46 แล้วก็ใช้เครื่อง
00:02:47 → 00:02:48 ทำเท่าที่มีไปก่อน
00:02:48 → 00:02:49 แต่ปะป๊าก็ไม่ค่อยยืดไง
00:02:50 → 00:02:50 ใช่
00:02:50 → 00:02:51 ปัญหาคือตอนนี้ก็อย่างที่บอก
00:02:51 → 00:02:53 รู้กับทำ
00:02:53 → 00:02:55 อันนี้อย่างสุดท้ายที่อยากทำ
00:02:56 → 00:02:57 พอเราศึกษา
00:02:58 → 00:02:59 เราก็จะเริ่มรู้ว่า
00:02:59 → 00:03:02 มันมีอะไรที่เราสามารถที่จะชะลอ
00:03:02 → 00:03:04 ในเรื่องของทั้งตัวร่างกาย
00:03:04 → 00:03:06 แล้วก็ฟื้นฟูได้ดีขึ้น
00:03:07 → 00:03:11 อย่างที่บ้านก็จะเริ่มทำเรื่องของ Cold plunge
00:03:13 → 00:03:14 แต่พี่ก็ไม่ค่อยจุ่มนะ
00:03:14 → 00:03:15 จุ่มแต่ชมไม่รู้
00:03:15 → 00:03:16 พี่จุ่มตอนไหน
00:03:16 → 00:03:17 เพราะคนละเวลากัน
00:03:17 → 00:03:17 พี่จุ่มกี่โมง
00:03:17 → 00:03:18 ก็แล้วแต่วัน
00:03:19 → 00:03:19 เดี๋ยวนี้จุ่ม...
00:03:20 → 00:03:21 ก็ศึกษาไปเรื่อย
00:03:21 → 00:03:22 เมื่อก่อนที่ชมเห็น
00:03:22 → 00:03:23 เพราะว่าพี่จุ่มนาน
00:03:24 → 00:03:25 อยู่นาน 20 นาที
00:03:25 → 00:03:26 ก็ใช่ไง ก็ป่วยไง
00:03:26 → 00:03:27 ชมก็ป่วย พี่ก็ป่วย
00:03:27 → 00:03:28 ก็เลยรู้สึกว่ามันป่วย
00:03:28 → 00:03:30 ทุกวันนี้คนจะไม่เห็นหรอก เพราะว่า
00:03:30 → 00:03:32 ก็ 3-5 นาที แล้วขึ้นเลย
00:03:33 → 00:03:35 เพราะฉะนั้น จะไม่ทันเห็น
00:03:38 → 00:03:39 ก็ศึกษาไปเรื่อย ๆ
00:03:40 → 00:03:42 ก็รู้ว่าจริง ๆ ทำไมมันจำเป็น
00:03:42 → 00:03:45 ทำไมการลงไปแช่ในน้ำเย็นถึงจำเป็น
00:03:45 → 00:03:47 ทำไมซาวน่าถึงจำเป็น
00:03:47 → 00:03:48 ทำไม Red Light Therapy ถึงจำเป็น
00:03:49 → 00:03:51 ก็เลยเอามาใช้ที่บ้าน
00:03:51 → 00:03:52 อะไรที่ดูแล้วเวิร์ก
00:03:52 → 00:03:53 ก็เอามาแบ่งปันไง
00:03:54 → 00:03:56 เห็นชมเล่นพิลาทิสทุกวันตอนเช้า
00:03:56 → 00:03:57 อาทิตย์หนึ่งสามวัน
00:03:58 → 00:03:58 ไม่ได้เล่นทุกวัน
00:03:59 → 00:04:00 แล้วก็โยคะ
00:04:01 → 00:04:01 พิลาทิส
00:04:02 → 00:04:03 พี่ก็เลยคิดว่ามันเป็น...
00:04:03 → 00:04:04 ถามว่าเคยลองไหม
00:04:04 → 00:04:06 ที่ชมเคยบังคับให้พี่ลอง
00:04:06 → 00:04:08 ถามว่าดีไหม รู้แหละว่าดี
00:04:08 → 00:04:12 แต่มันยังไม่สามารถที่จะเอามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตได้
00:04:12 → 00:04:13 เข้าใจ
00:04:13 → 00:04:15 ก็เหมือนที่ชมต้องปรับปรุงเรื่องคาร์ดิโอ
00:04:15 → 00:04:16 ใช่
00:04:16 → 00:04:17 เพราะว่าชมก็ไม่สามารถที่จะ...
00:04:19 → 00:04:22 คือถ้ามันจะเกิดขึ้นได้คือมันต้องอยู่ในตารางชีวิต
00:04:22 → 00:04:22 ถูกต้อง
00:04:22 → 00:04:25 แล้วชมไม่รู้ว่า ชมจะเสียบมันไว้ตรงไหน
00:04:25 → 00:04:26 มันไม่ได้แค่นั้นด้วย
00:04:27 → 00:04:29 อย่างเครื่องวิ่งที่บ้าน
00:04:29 → 00:04:31 ถ้าช่วงโควิดเราก็วิ่งได้
00:04:31 → 00:04:32 เพราะมันจำเป็น
00:04:32 → 00:04:34 แต่ถ้ามีทางเลือกให้ไปเตะฟุตบอล
00:04:34 → 00:04:35 ไปตีเทนนิส
00:04:35 → 00:04:37 เล่นพาเดลกับเพื่อนอะไรอย่างนี้
00:04:37 → 00:04:39 ก็เลือกอันนั้นดีกว่า
00:04:39 → 00:04:40 เพราะมันได้เหมือนกัน
00:04:41 → 00:04:43 แล้วเราอยู่ 1-2 ชั่วโมง
00:04:43 → 00:04:44 เราไม่รู้สึกว่ามันนาน
00:04:44 → 00:04:45 แต่อยู่บนเครื่องวิ่ง
00:04:46 → 00:04:48 20 นาที 30 นาที เราก็รู้สึกว่านานแล้ว
00:04:48 → 00:04:49 ของชมก็คือว่า
00:04:49 → 00:04:51 ถ้ามันจะเป็นไปได้คือชมต้องตื่นเช้ากว่าเดิมไปอีก
00:04:51 → 00:04:53 - หรือว่าชมก็จะ... - ก็ต้องแบ่งเวลา แต่ว่า
00:04:53 → 00:04:55 พี่ว่าชมไม่ได้สนุกกับมันด้วยไง
00:04:58 → 00:05:00 ชมยกเวท ชมก็ไม่ได้สนุก
00:05:00 → 00:05:01 เข้าใจ แต่ว่า...
00:05:02 → 00:05:06 สมมติว่างานที่ชม...
00:05:06 → 00:05:09 การได้แต่งตัวไปถ่ายรูปทำคอนเทนต์
00:05:09 → 00:05:10 ชมสนุก
00:05:10 → 00:05:12 ชมก็ให้เวลามันเยอะมาก
00:05:12 → 00:05:13 ไม่ใช่ เพราะมันเป็นเงินไง
00:05:13 → 00:05:16 เข้าใจมันเป็นเงินแต่ว่าจัดการให้เป็นระบบยังไง
00:05:16 → 00:05:19 เพราะถ้าเรารักษาร่างกายแล้วหาเงินได้นานขึ้น
00:05:20 → 00:05:22 ถ้าเราคิดแบบนี้ เราต้องลงทุน
00:05:22 → 00:05:23 เพราะฉะนั้นพี่ก็ต้องไปพิลาทิส
00:05:23 → 00:05:26 ทั้ง ๆ ที่เครื่องพิลาทิสก็อยู่ที่บ้านอยู่ข้าง ๆ เครื่องวิ่ง
00:05:26 → 00:05:28 ใช่ แต่ว่าก็อย่างที่บอก รู้กับทำ
00:05:29 → 00:05:30 คือพี่ยังทำ
00:05:30 → 00:05:32 แต่ถ้าเกิดว่าวันหนึ่ง สภาพแวดล้อม
00:05:33 → 00:05:35 อันนี้ไม่ได้โฆษณานะ
00:05:35 → 00:05:37 ทำไมถึงต้องไป The Cubic Fitness
00:05:38 → 00:05:39 อันนี้เรื่องจริง
00:05:39 → 00:05:41 - เพราะว่าสิ่งที่เราสร้าง - อันนี้เห็นด้วย
00:05:41 → 00:05:43 สิ่งที่เราสร้างที่ The Cubic Fitness
00:05:44 → 00:05:45 มันเป็นสภาพแวดล้อม เป็นบรรยากาศของ...
00:05:45 → 00:05:46 มันเป็นชุมชน
00:05:46 → 00:05:48 ใช่ บางวันพี่รู้สึกไม่อยากยกเวท
00:05:48 → 00:05:49 แต่ขอแค่เปลี่ยนชุด
00:05:50 → 00:05:52 แล้วไปนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟ Two Thunder
00:05:53 → 00:05:54 แป๊บเดียว
00:05:54 → 00:05:55 ก็รู้สึก
00:05:57 → 00:05:59 อยากที่จะลงไปยกเวทแล้ว
00:06:00 → 00:06:01 ถูกไหม
00:06:01 → 00:06:01 เวลาเราไปเนี่ย
00:06:02 → 00:06:05 ไปเจอเทรนเนอร์ที่เรารวบรวมเอาไว้
00:06:06 → 00:06:07 ทุกคนเป็นของจริง
00:06:09 → 00:06:10 ทุกคนเป็นของจริง จริง ๆ
00:06:10 → 00:06:13 ทุกคนใช้ชีวิตเพื่อ Longevity
00:06:13 → 00:06:15 ผมเคยจัดงานเลี้ยงพนักงาน
00:06:16 → 00:06:18 เราเอาไวน์ เอาแอลกอฮอล์มาวาง
00:06:19 → 00:06:21 แล้วก็จัดงานเริ่มหกโมงเย็น หนึ่งทุ่ม
00:06:22 → 00:06:24 เชื่อไหมว่าสามทุ่ม ทุกคนขอกลับบ้านหมด
00:06:25 → 00:06:27 เพราะว่าเขารู้ว่าเขาต้องนอนสี่ทุ่ม
00:06:28 → 00:06:30 เหล้า ไวน์วางไว้ไม่มีใครแตะเลย
00:06:31 → 00:06:32 พิซซ่า ยังไม่กินเลย
00:06:32 → 00:06:33 พิซซ่าก็ไม่กิน
00:06:34 → 00:06:35 อันนี้คือ
00:06:35 → 00:06:37 คนพวกนี้ทำไมเขาถึงสุขภาพดี
00:06:38 → 00:06:39 ทำไมเขาถึงแข็งแรง
00:06:40 → 00:06:42 เขามีวินัยมาก ๆ ถึงจะทำอย่างนี้ได้
00:06:43 → 00:06:46 ของอร่อย ไวน์ดี ตั้งอยู่ข้างหน้าเขาไม่แตะ
00:06:47 → 00:06:50 ถึงเวลาสนุกสนาน มีเพลง มีเครื่องดื่ม มีอาหาร
00:06:50 → 00:06:51 เมาดิบได้
00:06:51 → 00:06:52 สามทุ่ม
00:06:52 → 00:06:53 ทุกคน
00:06:53 → 00:06:57 ทุกคนเกรงใจเพราะว่าพี่นั่งอยู่ไม่กล้ากลับบ้านนะ
00:06:58 → 00:07:00 ทุกวันนี้กลัวคนชวนออกไปข้างนอก
00:07:01 → 00:07:02 กลัวคนชวนออกไปดื่ม
00:07:03 → 00:07:06 พี่บอกไปเลย เวลามีเพื่อนส่งข้อความมา
00:07:07 → 00:07:08 พี่บอกไปเลย
00:07:09 → 00:07:11 - พี่บอกไปเลย - ไม่ ๆ ก็จะ...
00:07:11 → 00:07:12 พี่ไม่รับสายอะไรอย่างนี้
00:07:12 → 00:07:13 ตอบช้าอะไรอย่างนี้
00:07:13 → 00:07:16 ก็คือบางทีเราอยู่ต่างประเทศ
00:07:16 → 00:07:17 เขาจะรู้ว่าเราอยู่
00:07:18 → 00:07:20 เดี๋ยวมา เราก็จะแบบ...
00:07:22 → 00:07:23 ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง
00:07:23 → 00:07:24 เป็นคนปฏิเสธไม่ได้
00:07:24 → 00:07:25 ก็ไป
00:07:25 → 00:07:27 ก็คือไป
00:07:27 → 00:07:29 แต่ว่าโดยมากถ้าเกิดว่า
00:07:29 → 00:07:32 มันมีอะไรที่ต้องทำก็เลือกที่จะทำ
00:07:32 → 00:07:33 เช่น อยู่บ้าน
00:07:34 → 00:07:35 ก็คือ
00:07:36 → 00:07:39 มันอยู่บ้าน มันก็ได้ดูบอล
00:07:40 → 00:07:44 ได้ดูบอลแล้วก็ได้กินอาหารที่เรารู้ที่มาที่ไป
00:07:44 → 00:07:46 ได้กินอาหารที่เราอยากจะกิน
00:07:48 → 00:07:51 แล้วในช่วงกำลังจะก่อเกิดกิจวัตรใหม่
00:07:52 → 00:07:53 มันมีช่วงหลุดบ้างไหม
00:07:54 → 00:07:54 มันก็หลุด
00:07:54 → 00:07:56 ถามว่าทุกวันนี้หลุดไหม มันก็หลุดแหละ
00:07:56 → 00:07:58 ทุกวันนี้ก็มี Cheat Day ไม่ใช่ไม่มี
00:07:58 → 00:08:00 บางทียกเวทเสร็จหนัก ๆ
00:08:01 → 00:08:04 บางทีเทรนเนอร์ก็ไปกินด้วยกัน
00:08:04 → 00:08:06 ปกติเขาก็จะบอกว่า พี่!
00:08:07 → 00:08:10 ส่งรูปอาหารให้ผมดูด้วย ก็ไม่ส่ง
00:08:11 → 00:08:13 แล้วบางทีไปกินกับเขา เขาก็นั่งอยู่
00:08:13 → 00:08:14 นั่งอยู่กินเสร็จเดินลงมา
00:08:15 → 00:08:16 ก็บอกเดี๋ยวแวะซื้อไอศกรีมก่อน
00:08:17 → 00:08:18 - ต่อหน้าต่อตาเทรนเนอร์ - ใช่
00:08:19 → 00:08:20 เขาก็พูดไม่ออก
00:08:20 → 00:08:22 อ้าว พูดออกได้ไง พี่เป็นเจ้าของ
00:08:22 → 00:08:25 ได้ไหม? น้องเขาก็บอกว่า ได้ครับพี่
00:08:26 → 00:08:28 ถามว่าหลุดไหม ก็หลุดแหละ
00:08:29 → 00:08:32 คือบางทีมันก็เป็นเรื่องของ
00:08:32 → 00:08:34 ตัวพี่อาจจะยังทำไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
00:08:34 → 00:08:38 แต่ถามว่าเทรนเนอร์ที่ Cubic Fitness ทำได้ไหม เขาทำได้ทุกคน
00:08:38 → 00:08:40 เรามีการจัด Photo Shoot ประจำปี
00:08:41 → 00:08:42 คือให้ไปถ่ายแบบ
00:08:42 → 00:08:45 ก็บอกเขาล่วงหน้า 3 เดือน
00:08:46 → 00:08:48 เพราะฉะนั้น โดยมากเขาก็จะมีวินัยอยู่แล้ว
00:08:49 → 00:08:50 แต่พอ 3 เดือนสุดท้าย
00:08:50 → 00:08:51 ก็จะเห็นได้ว่า
00:08:51 → 00:08:54 พวกนี้อารมณ์แปรปรวนนะพอใกล้ ๆ วัน
00:08:54 → 00:08:55 ใช่
00:08:55 → 00:08:56 ถามว่าดีไหม ไม่ดี
00:08:56 → 00:08:57 ใช่
00:08:59 → 00:09:01 ถ้าต้องการจะเน้นเรื่องของความสวยงาม
00:09:01 → 00:09:03 เพื่อให้ไขมันในร่างกายลงไป 10 เปอร์เซ็นต์
00:09:03 → 00:09:04 ถ่ายรูปสวยอย่างนี้
00:09:04 → 00:09:06 มันก็ต้องยอมทรมานประมาณ 1-2 เดือนสุดท้าย
00:09:08 → 00:09:10 แต่ส่วนใหญ่เขาก็จะเลี้ยงร่างกายประมาณ 16 เปอร์เซ็นต์
00:09:11 → 00:09:12 17 เปอร์เซ็นต์ได้
00:09:12 → 00:09:16 แต่ 5 เปอร์เซ็นต์สุดท้ายเพื่อจะถ่ายรูปสวย
00:09:16 → 00:09:18 เขาก็ขอเวลากันคนละ 3 เดือน
00:09:19 → 00:09:21 เพราะว่าถ้าตัดแบบตัดไม่เหลือเลย
00:09:21 → 00:09:23 แป้ง น้ำตาลก็เป็นหมาบ้าเหมือนกันนะ
00:09:23 → 00:09:25 ก็มีผลต่ออารมณ์
00:09:25 → 00:09:27 ก็คือถามว่าหลุดไหม หลุดแน่นอน
00:09:29 → 00:09:32 แต่เมื่อก่อนปะป๊าคือไม่ยอมเข้าโรงพยาบาลเลยนะ
00:09:33 → 00:09:35 ไม่ใช่ไม่ยอมเข้าเมื่อก่อนมัน...
00:09:36 → 00:09:40 เมื่อก่อนคือสมัยวัยรุ่นมันฟื้นตัวง่ายนะ
00:09:40 → 00:09:41 คือเจ็บ
00:09:42 → 00:09:44 เจ็บพัก 3-4 วันหาย เล่นได้แล้ว
00:09:45 → 00:09:47 แล้วก็เล่นเท่าไหร่ก็ไม่เจ็บอย่างที่บอกว่า
00:09:48 → 00:09:49 กินเหล้า 6 โมงเช้ากลับมาบ้าน
00:09:50 → 00:09:51 อาบน้ำ งีบไป 2 ชั่วโมง
00:09:52 → 00:09:55 8 โมงก็ไปถึงสนามก็วิ่งแดดร้อน ๆ
00:09:55 → 00:09:56 ก็เตะฟุตบอลได้
00:09:56 → 00:09:59 ถามว่ามันเหนื่อยไหม มันอะไรไหม
00:09:59 → 00:10:01 ก็ใช่ แต่ว่ามันก็ยังเอาสังขารไปได้
00:10:02 → 00:10:04 แต่วันนี้ลองให้พี่กินเหล้าถึง 6 โมงเช้า
00:10:05 → 00:10:06 ก็เจอกันอีกที อีกเดือนหนึ่ง
00:10:06 → 00:10:08 นอนอยู่บนเตียงยาว
00:10:08 → 00:10:10 งานก็ไม่ต้องทำ
00:10:11 → 00:10:14 แต่เดี๋ยวนี้ก็คือคันตาก็ไปหาหมอแล้ว
00:10:14 → 00:10:15 นิดเดียวไม่ได้แล้ว
00:10:15 → 00:10:16 สมัยก่อนไม่เข้าใจนะ
00:10:17 → 00:10:18 พวกนิดเดียวไปหาหมอ
00:10:19 → 00:10:20 เดี๋ยวนี้นิดเดียวก็ไป
00:10:20 → 00:10:21 จามก็ไปหาหมอแล้ว
00:10:25 → 00:10:26 คือพอเราศึกษาเยอะ
00:10:26 → 00:10:28 มันก็อาจจะรู้เยอะว่าอันนี้มันอาจจะเป็น
00:10:30 → 00:10:32 สัญญาณบางอย่างก็ได้
00:10:32 → 00:10:34 ของสิ่งที่มันจะใหญ่กว่านี้
00:10:35 → 00:10:36 ก็เช็กก่อนดีกว่า
00:10:37 → 00:10:38 เช็กทุกอย่าง
00:10:39 → 00:10:40 ไอก็กังวล
00:10:41 → 00:10:44 เมื่อก่อนไอ เออ...เดี๋ยวก็หาย
00:10:47 → 00:10:48 ไม่ ก็ปล่อย
00:10:49 → 00:10:50 ห้ามไม่ได้หรอกค่ะ
00:10:50 → 00:10:51 ห้ามไม่ได้
00:10:51 → 00:10:56 เดี๋ยวนี้ ผมว่าจริง ๆ การไปโรงพยาบาลก็สะดวกขึ้นด้วย
00:10:56 → 00:10:59 20 ปีที่แล้วอาจจะไปแล้วอาจจะต้องรอนาน
00:10:59 → 00:11:01 ผมก็เป็นคนใจร้อน
00:11:01 → 00:11:02 ขี้เกียจนั่งรอ
00:11:02 → 00:11:04 ให้รอนานก็ไม่เอาแล้วเดินกลับบ้านเลย
00:11:05 → 00:11:06 ก็เลยไม่รู้สึกอยากไป
00:11:07 → 00:11:08 แต่ทุกวันนี้มันมีการจองล่วงหน้า
00:11:09 → 00:11:11 รอเต็มที่ก็ 10 นาที
00:11:11 → 00:11:15 ผมว่าระบบต่าง ๆ มันทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้น
00:11:16 → 00:11:18 มันก็ใกล้หมอได้มากขึ้น
00:11:19 → 00:11:21 การจัดการ ระบบ การจอง
00:11:22 → 00:11:25 พอมันสะดวกมันชัดเจน เราแบ่งเวลาได้ง่ายขึ้นมันก็...
00:11:26 → 00:11:29 สามารถที่จะล็อกเวลาไปหาหมอได้
00:11:29 → 00:11:31 แต่เมื่อก่อนถ้าไปหาหมอเราไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่
00:11:32 → 00:11:33 มันก็เลยไม่อยากไป
00:11:36 → 00:11:38 ความดันผมว่า...ส่วนตัวนะ
00:11:39 → 00:11:40 หมอส่วนใหญ่อาจจะไม่เห็นด้วยกับผม
00:11:41 → 00:11:44 หมอไม่เห็นด้วยหลายเรื่องแล้วเหมือนกันนะวันนี้
00:11:44 → 00:11:45 ผมว่า
00:11:45 → 00:11:46 คือหนึ่ง
00:11:47 → 00:11:48 ผมว่าหนึ่งกินเหล้า
00:11:49 → 00:11:51 แล้วก็ไม่ออกกำลังกายช่วงนั้น
00:11:52 → 00:11:53 ความดันก็สูง
00:11:54 → 00:11:55 แต่ทุกวันนี้ก็กลับมาปกติ
00:11:55 → 00:11:56 เพราะว่าตัดแป้ง
00:11:57 → 00:11:57 ผมว่าแป้ง
00:11:58 → 00:11:59 ผมออกกำลังกาย
00:11:59 → 00:12:00 วิ่ง
00:12:00 → 00:12:01 ทำ VO2 Max
00:12:01 → 00:12:02 ก็คือเตะฟุตบอล
00:12:02 → 00:12:03 ตัดแป้ง
00:12:04 → 00:12:06 แล้วก็กินผักเยอะ
00:12:06 → 00:12:07 ผมว่า 3 อย่างนี้
00:12:07 → 00:12:11 ความดันปกติแล้วก็ค่าเลือดผมดีขึ้นต่อเนื่อง
00:12:13 → 00:12:15 แต่ถ้ามีช่วงเครียด ๆ บางทีก็มีความดันเหมือนกัน
00:12:15 → 00:12:16 อ๋อ มันเป็นครั้งเป็นคราว
00:12:16 → 00:12:19 แต่ถ้ามันลงมา ช่วงที่มันไม่ลงมาเลย มันมี
00:12:20 → 00:12:23 ที่หมอเริ่มพิจารณาให้กินยาลดความดัน
00:12:25 → 00:12:25 ซึ่งพี่ก็บอกว่า
00:12:26 → 00:12:26 ไม่กิน
00:12:27 → 00:12:28 อย่าหวัง
00:12:28 → 00:12:29 ฝันไปเถอะ
00:12:29 → 00:12:30 ไม่เชิงอย่าหวังหรอก
00:12:30 → 00:12:32 แค่อะไรที่มันเป็นสารเคมี
00:12:33 → 00:12:35 ก็พยายามจะน้อยที่สุด
00:12:35 → 00:12:36 อย่างทุกวันนี้
00:12:36 → 00:12:39 ก็เรียกว่าเราปรับไลฟ์สไตล์เราดีกว่า
00:12:39 → 00:12:40 ยาปฏิชีวนะผมก็พยายามไม่กิน
00:12:41 → 00:12:42 ไม่ไหวจริง ๆ
00:12:43 → 00:12:43 ก็กิน
00:12:44 → 00:12:45 ไม่ใช่ไม่เอาเลยนะ
00:12:45 → 00:12:47 ผมก็พยายามใช้มันอย่างมีสติ
00:12:48 → 00:12:49 พาราเซตามอลก็พยายามกินให้น้อย
00:12:49 → 00:12:51 ที่บ้านไม่มีพาราเซตามอล
00:12:51 → 00:12:53 - พี่มีแต่ว่าไม่ค่อยกิน - ชมไม่มี
00:12:54 → 00:12:56 แล้วก็ยาปฏิชีวนะ
00:12:58 → 00:12:59 ในทริปอะไรแบบนี้
00:12:59 → 00:13:00 ตอนนี้ก็คือไม่สต๊อก
00:13:00 → 00:13:01 แต่พี่ก็เก็บแต่ไม่กิน
00:13:01 → 00:13:02 หมดอายุก็ทิ้ง
00:13:02 → 00:13:03 - แต่ต้องมี - ชมไม่เก็บ
00:13:03 → 00:13:05 แม้แต่ลูกทุกวันนี้
00:13:06 → 00:13:08 เป็นหวัดอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ
00:13:09 → 00:13:10 ชมก็แทบจะไม่ให้กินยา
00:13:10 → 00:13:12 จนบางทีพ่อบอกว่าให้มันกินไปเถอะ
00:13:12 → 00:13:12 ใช่
00:13:13 → 00:13:14 คือผม
00:13:14 → 00:13:15 นี่ก็สุดโต่ง
00:13:15 → 00:13:16 จะบาลานซ์ไง
00:13:16 → 00:13:17 แต่ชมสุดโต่ง
00:13:18 → 00:13:19 ผมจะไม่สุดโต่งขนาดนั้น
00:13:19 → 00:13:22 คือถ้ามันถึงเวลาว่าต้องกิน ผมก็กิน
00:13:23 → 00:13:25 แต่ผมไม่ใช่แบบ... กินทุกครั้ง
00:13:25 → 00:13:29 ผมจะมีสติกับมันตลอดว่าเดี๋ยวจะกินยาแก้อักเสบ
00:13:30 → 00:13:32 แต่สำหรับชมนะประสบการณ์ตรงคือ
00:13:33 → 00:13:35 กินยาแก้อักเสบก็ไม่ได้หาย
00:13:36 → 00:13:38 คือมันไม่ได้หายเดี๋ยวนั้นอยู่ดี
00:13:38 → 00:13:39 คือยังไงก็ต้องรอ
00:13:40 → 00:13:42 แล้วก็บางทีหมดไป 2 เซตก็ยังไม่หาย
00:13:43 → 00:13:44 บางที
00:13:46 → 00:13:47 มันไม่ถูก
00:13:47 → 00:13:49 มันรู้สึกว่าเป็นอักเสบ
00:13:49 → 00:13:51 แต่มันไม่ใช่ เพราะมันจะมีเชื้อไวรัสกับแบคทีเรีย
00:13:52 → 00:13:53 ตัวยาแก้อักเสบ
00:13:53 → 00:13:55 มันน่าจะแค่ฆ่าไวรัส
00:13:55 → 00:13:57 แต่บางครั้งที่ป่วย
00:13:57 → 00:13:58 เจ็บคอบางทีมันมาจาก...
00:13:58 → 00:14:00 ไม่แน่ใจนะ เดี๋ยวหมอด่าอีก
00:14:01 → 00:14:02 ก็คืออาจจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย
00:14:02 → 00:14:04 พอเราไปกิน มันไม่ตรงไง
00:14:04 → 00:14:05 กินไป 2 เซตก็ไม่ได้หาย
00:14:06 → 00:14:08 ก็คือถ้าอยู่โรงพยาบาลเขาก็จะเอาเชื้อเราไปเพาะ
00:14:08 → 00:14:10 แล้วก็จะใช้ยาให้มันตรงกัน
00:14:10 → 00:14:12 มันจะต้องมียาฆ่าแบคทีเรียกับยาฆ่าเชื้อไวรัส
00:14:13 → 00:14:14 บางอย่างเป็นไวรัส
00:14:14 → 00:14:15 บางอย่างเป็นแบคทีเรียมันต้องแยก
00:14:15 → 00:14:17 ก็จริง ๆ เขาเป็นคนทำอะไรสุดโต่งนะ
00:14:19 → 00:14:20 บ้า! ชมว่าชม...
00:14:21 → 00:14:23 ก็สมมติอย่างเขาเชื่อยาจีน
00:14:23 → 00:14:25 เขาก็ยาจีนอย่างเดียวเลย
00:14:25 → 00:14:27 ไม่เอายาแผนปัจจุบันเลย
00:14:27 → 00:14:30 ผมเชื่อว่าศาสตร์จีน ศาสตร์ปัจจุบัน
00:14:30 → 00:14:34 หมอฝรั่ง หมอไทยเก่งทั้งคู่เลย
00:14:34 → 00:14:37 เพียงแต่ว่าเหมาะกับเราตัวไหน
00:14:37 → 00:14:38 เราก็เลือก
00:14:39 → 00:14:41 ผมเป็นคนชอบเลือกสิ่งที่ดีที่สุด
00:14:41 → 00:14:43 ในทุก ๆ อย่างที่มีอยู่
00:14:43 → 00:14:44 อันนี้เห็นด้วย อันนี้เห็นด้วย
00:14:44 → 00:14:46 แต่ชมเนี่ย เวลาเขาเชื่อใคร
00:14:46 → 00:14:48 หรือเชื่อศาสตร์นี้
00:14:49 → 00:14:50 เขาก็จะไปจนสุดเลย
00:14:50 → 00:14:52 จนกระทั่งเขามาเจออีกทีหนึ่งว่า
00:14:52 → 00:14:53 อ้าว! มันไม่จำเป็นนี่หว่า
00:14:53 → 00:14:55 เขาก็จะเริ่มถอยกลับมา
00:14:55 → 00:14:56 แต่ต้องปล่อยเขา
00:14:56 → 00:14:57 ให้เวลาเขา
00:14:58 → 00:15:01 แต่ผมเป็นคนเปิดใจทุกอย่างก่อน
00:15:01 → 00:15:02 ลองผิด ลองถูก
00:15:02 → 00:15:04 ไม่จริง! เป็นคนไม่เปิดใจก่อน
00:15:08 → 00:15:09 นี่รายการอะไรเนี่ย
00:15:13 → 00:15:15 มาถึงเรื่องการจัดการความเครียด
00:15:16 → 00:15:18 พี่เป็นคนทำอะไรเยอะมาก
00:15:18 → 00:15:19 ชมเนี่ย
00:15:19 → 00:15:22 ถ้าสมมติว่าวันไหนที่ชมต้องคุยงานก่อนนอน
00:15:22 → 00:15:24 หรือว่ามีหลาย ๆ ประชุม
00:15:24 → 00:15:25 ก็จะนอนไม่หลับ
00:15:25 → 00:15:27 ใช่ หรือว่าวันนี้ต้องสวมหมวกหลายใบมาก อะไรอย่างนี้
00:15:28 → 00:15:29 คืนนั้นน่ะ
00:15:29 → 00:15:31 ชมก็จะนอนไม่ได้
00:15:31 → 00:15:32 ก็จะกระทบการนอนเลย
00:15:33 → 00:15:35 แต่ชมงงว่าพี่...
00:15:35 → 00:15:36 หลับสนิท
00:15:36 → 00:15:37 ใช่ พี่ไม่เครียดเหรอ
00:15:37 → 00:15:38 พี่แบบ...
00:15:39 → 00:15:39 หลับง่าย
00:15:39 → 00:15:41 แล้วก็ชอบทำงานด้วย
00:15:41 → 00:15:45 แล้วก็เหมือนจะอยู่เฉย ๆ ไม่ได้
00:15:47 → 00:15:49 หรือจริง ๆ พี่เครียดแต่พี่ไม่รู้ตัว
00:15:49 → 00:15:50 หรือพี่ไม่เครียดเลย
00:15:50 → 00:15:51 แต่พี่ก็หลับ
00:15:51 → 00:15:52 หลับตลอด
00:15:52 → 00:15:53 หลับง่าย หลับเร็ว
00:15:54 → 00:15:55 ไม่ได้มี...
00:15:55 → 00:15:58 ชมก็รู้พี่ไม่ได้เป็นคนมีปัญหา แป๊บเดียวหลับแล้ว
00:15:59 → 00:16:01 แต่ว่าถามว่าเครียดไหม
00:16:01 → 00:16:02 ความเครียดมันมี แต่ว่า...
00:16:02 → 00:16:05 ถ้าวันไหนไม่ออกกำลังกายมันจะหลับยาก
00:16:05 → 00:16:08 แต่หลับยากสำหรับพี่ก็ถือว่าหลับง่ายสำหรับคนทั่วไป
00:16:10 → 00:16:11 เครียดไหม
00:16:11 → 00:16:13 จริง ๆ ฝึกมาตั้งแต่เด็ก
00:16:14 → 00:16:15 เครียดไหม
00:16:15 → 00:16:16 มันมีบางวัน
00:16:17 → 00:16:18 อย่างช่วงแต่งงาน
00:16:18 → 00:16:20 ชมรู้ ชมจำได้ช่วงนั้น
00:16:20 → 00:16:21 ชมก็เห็น พี่ก็จะตื่น
00:16:22 → 00:16:23 ถามว่ามันมีความเครียดไหม มันก็มีแหละ
00:16:23 → 00:16:27 แต่ว่าเราก็ต้องพยายามรู้ว่าทำไมเราต้องนอน
00:16:28 → 00:16:30 แต่จริง ๆ ฝึกมาจนกระทั่งมันตัดได้ อย่างบางที
00:16:30 → 00:16:32 ถ้าถามทีมงานที่บริษัท
00:16:33 → 00:16:35 เครียด ๆ ในห้องประชุมเดินออกมา พี่ก็จะไม่...
00:16:35 → 00:16:41 คือเป็นคนไม่เอาอารมณ์มาซัดกับคนอื่นต่อ
00:16:41 → 00:16:43 เรารู้ว่าเราจบเรื่องนี้
00:16:43 → 00:16:44 อารมณ์ไม่ดีกับเรื่องนี้มา
00:16:45 → 00:16:46 ประชุมต่อไป
00:16:46 → 00:16:50 เราจะเอาอารมณ์มาต่อเนื่องกับประชุมที่เพิ่งเริ่มด้วยความสดใหม่ไม่ได้
00:16:50 → 00:16:51 มันก็เลยถูกฝึกว่า
00:16:51 → 00:16:52 มันต้องจบแล้วจบเลย
00:16:53 → 00:16:54 จบแล้วจบเลย
00:16:54 → 00:16:57 ถามว่าเรื่องให้คิดมีไหม มีตลอดเวลา
00:16:58 → 00:17:00 สมองเป็นคนคิดตลอด
00:17:00 → 00:17:01 แต่ถามว่าเครียดไหม
00:17:01 → 00:17:02 ไม่รู้ว่านับว่าเครียดไหม
00:17:03 → 00:17:04 แต่มีเรื่องให้คิดตลอด
00:17:04 → 00:17:05 พี่ว่าพี่นั่งสมาธิได้ไหม
00:17:06 → 00:17:07 จริง ๆ
00:17:07 → 00:17:08 - ทุกวันนี้ - ที่ไม่ใช่นั่งแล้วหลับไปเลย
00:17:08 → 00:17:09 ก็นี่แหละ
00:17:09 → 00:17:11 กำลังจะบอกว่าจริง ๆ การนั่งสมาธิของพี่
00:17:11 → 00:17:11 คือการทำให้หลับ
00:17:12 → 00:17:13 เพราะเราก็นับ
00:17:13 → 00:17:14 คือเวลาอยากจะหลับ
00:17:14 → 00:17:16 เวลาพร้อมจะหลับ
00:17:16 → 00:17:17 ก็คือไม่มีคนรู้ พี่ก็จะนับ
00:17:18 → 00:17:19 แล้วก็แป๊บเดียวมันก็ไปแล้ว
00:17:20 → 00:17:21 คิดแป๊บหนึ่งแล้วก็นับ
00:17:21 → 00:17:25 แล้วการบริหารที่เขาเรียก Breathing Exercise
00:17:25 → 00:17:26 คือการบริหารลมหายใจ
00:17:26 → 00:17:29 จริง ๆ ก็คือการนั่งสมาธิ
00:17:29 → 00:17:31 แต่ว่าแค่ไม่ได้อยู่ในท่านี้
00:17:31 → 00:17:32 เราอยู่ในท่านอน
00:17:33 → 00:17:33 แค่นั้นเอง
00:17:34 → 00:17:35 มันก็คือการนั่งสมาธิแหละ
00:17:36 → 00:17:38 มันก็คือทำให้ฟุ้งซ่านน้อยลง
00:17:38 → 00:17:41 แต่ว่ามันไม่ได้อยู่แบบตื่น
00:17:41 → 00:17:43 มันไม่ได้อยู่กับความที่ว่า
00:17:44 → 00:17:48 สังเกตว่าเรามีความคิดแล่นไปมาในหัวตลอดเวลา
00:17:48 → 00:17:50 ก็ยังไปไม่ถึงจุดนั้น
00:17:51 → 00:17:52 ยังไม่บรรลุ
00:17:52 → 00:17:55 แต่ว่า ถ้าให้พี่...
00:17:56 → 00:17:59 นอนแล้วก็นับ กำหนดลมหายใจ
00:18:00 → 00:18:02 เพื่อให้สมาธิ สติอยู่กับตัวเรา
00:18:02 → 00:18:03 เราไม่คิด เราจะนอนแล้ว
00:18:04 → 00:18:06 ตอนนี้เวลานอน
00:18:06 → 00:18:11 เราก็ทำสมาธิว่าจะนอนจะไม่ไปคิดเรื่องวันนี้ที่เราประชุมมา
00:18:11 → 00:18:13 จะไม่ไปวางแผนวันพรุ่งนี้
00:18:13 → 00:18:16 แต่จะคิดว่าพรุ่งนี้ทำอะไรบ้างก่อนนอน
00:18:16 → 00:18:18 เสร็จแล้วก็นอน ท่านอนนี่แหละ
00:18:19 → 00:18:20 แล้วก็กำหนดลมหายใจ
00:18:20 → 00:18:22 ให้สมาธิอยู่กับตัวแล้วเดี๋ยวมันก็หลับ
00:18:22 → 00:18:24 แต่บางทีวันนี้
00:18:25 → 00:18:26 เราบอกตัวเองแล้วว่า
00:18:26 → 00:18:28 คือเดี๋ยวต้องนอนแล้วนะ
00:18:29 → 00:18:32 สมองมันก็อาจจะไม่ได้คิดเรื่องของวันนี้
00:18:32 → 00:18:34 แต่เหมือนมันยังตื่นตัวอยู่
00:18:35 → 00:18:37 ก็คือของชมเนี่ย
00:18:37 → 00:18:38 ชมเป็นศิลปิน
00:18:39 → 00:18:41 พี่จะรู้ว่าแต่ไหนแต่ไรแล้ว ชมก็จะดูหนังไม่ได้
00:18:41 → 00:18:42 พอชมดูหนัง
00:18:43 → 00:18:44 สมมติหนังบู๊
00:18:44 → 00:18:45 หนังเศร้า
00:18:46 → 00:18:46 หนังจบก็ยังไม่จบ
00:18:46 → 00:18:48 ใช่ หนังจบจะหลับไม่ได้
00:18:48 → 00:18:49 ก็ยังเครียดกับหนังอยู่
00:18:50 → 00:18:51 ซึ่งพี่ไม่ได้เป็นไง
00:18:52 → 00:18:53 พี่ไม่ได้เป็น
00:18:53 → 00:18:55 ก็คือจบแล้วจบเลย
00:18:56 → 00:18:57 ตอนนี้จะนอนแล้ว
00:18:57 → 00:18:57 พี่ก็ฝึก
00:18:58 → 00:19:01 ความรู้สึกไม่ได้อินมาก เพราะไม่ได้เป็นศิลปิน
00:19:02 → 00:19:05 จริง ๆ ก็คืออย่างที่บอกเรียนวิศวะมา เป็นนักวิทยาศาสตร์
00:19:06 → 00:19:09 แล้วก็เป็นคนที่ใช้เหตุผล ก็คือวันนี้ตอนนี้จะนอน
00:19:10 → 00:19:11 ก็บอกกับตัวเอง
00:19:11 → 00:19:13 จิตเป็นนาย ตอนนี้จะนอนแล้ว
00:19:13 → 00:19:14 ทุกอย่างพัก
00:19:14 → 00:19:15 นอน
00:19:15 → 00:19:16 พรุ่งนี้ว่ากัน
00:19:17 → 00:19:18 ก็เหมือนเราสั่งตัวเราเอง
00:19:18 → 00:19:19 ว่าตอนนี้จะนอน
00:19:20 → 00:19:22 ก็เหมือนมันเป็นความทนทานอย่างหนึ่ง
00:19:24 → 00:19:27 ให้เราถึกทนต่อความเครียด
00:19:28 → 00:19:29 มันฝึกได้ไหม
00:19:29 → 00:19:30 ความเครียดอะไร
00:19:30 → 00:19:32 ก็เรื่องงาน เรื่องอะไรอย่างนี้
00:19:32 → 00:19:33 อ๋อ มันก็...
00:19:33 → 00:19:34 คือชมอยากรู้ว่า
00:19:34 → 00:19:36 พี่คิดว่าพี่ถูกฝึกมาแบบนั้น
00:19:36 → 00:19:38 นี่คือนึกไปถึงลูกไง
00:19:38 → 00:19:39 ก็คงใช่แหละ
00:19:39 → 00:19:41 พี่คิดว่าพี่ถูกฝึกมาแบบนั้น
00:19:41 → 00:19:43 มันก็เลยสามารถ
00:19:44 → 00:19:45 โยนอะไรอย่างนี้ทิ้งไป
00:19:45 → 00:19:48 แล้วพรุ่งนี้เช้าก็มาซัดใหม่
00:19:48 → 00:19:48 ใช่
00:19:49 → 00:19:49 ฝึกแต่เด็ก
00:19:51 → 00:19:53 ชมก็รู้พี่เรียนต่างประเทศ
00:19:54 → 00:19:54 ตั้งแต่เด็ก
00:19:54 → 00:19:57 จริง ๆ ถ้าจะซักประวัติก็คือ
00:19:57 → 00:20:00 ต้องบริหารจัดการหลาย ๆ อย่างในชีวิตเอง
00:20:00 → 00:20:01 ตั้งแต่อายุ 14
00:20:01 → 00:20:05 เพราะฉะนั้น ทุกอย่างมันถูกฝึกให้ต้องเป็นคนเตรียม
00:20:05 → 00:20:06 ต้องเป็นคนวางแผน
00:20:08 → 00:20:12 ตั้งแต่เด็ก ๆ ก็คือถ้าไม่คิดพรุ่งนี้ก็จะมีปัญหา ทั้งเรื่องอาหาร
00:20:13 → 00:20:14 ทั้งเสื้อผ้า
00:20:14 → 00:20:15 ทั้งการไปโรงเรียน
00:20:16 → 00:20:19 เพราะฉะนั้น มันเริ่มจากเรื่องทั่วไปในชีวิตก่อน
00:20:19 → 00:20:21 ฝึกจนกระทั่งกลายมาเป็นเรื่องของหน้าที่การงาน
00:20:22 → 00:20:23 แล้วตั้งแต่เด็กจนโต
00:20:24 → 00:20:26 การที่อยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็ก
00:20:26 → 00:20:29 มันก็คือคำที่พี่พูดกับตัวเองเสมอว่า
00:20:29 → 00:20:30 ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
00:20:31 → 00:20:33 If not you, then who? (ถ้าไม่ใช่คุณ แล้วจะเป็นใคร?)
00:20:34 → 00:20:36 If not now, then when? (ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ แล้วเมื่อไหร่?)
00:20:36 → 00:20:38 เพราะฉะนั้นทุกอย่างมันก็ต้องเตรียมพร้อม
00:20:40 → 00:20:43 ถ้าเราไม่พึ่งตัวเอง พรุ่งนี้ไม่มีใครมาแก้ปัญหาให้เราได้
00:20:43 → 00:20:44 ก็นี่ไง
00:20:44 → 00:20:46 อย่างชมก็คือก็จะนอนคิดทั้งคืนไง
00:20:46 → 00:20:48 ก็บอกเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
00:20:48 → 00:20:50 แต่ชมก็จะเป็นแนวประเภทว่า
00:20:50 → 00:20:54 ถ้ายังไม่มีทางออกก็จะคิดจน...
00:20:54 → 00:20:55 หัวแตก
00:20:55 → 00:20:57 แต่ถ้ามีทางออกแล้วก็คือแยกย้าย
00:20:59 → 00:21:02 ก็ต้องบอกร่างกายว่ารอก่อนพรุ่งนี้คิดต่อ
00:21:02 → 00:21:05 ต้องบอกว่าร่างกายเราพร้อม
00:21:05 → 00:21:06 เราคิดได้ดีกว่านี้
00:21:07 → 00:21:09 บางทีปัญหาบางปัญหา มันง่ายนิดเดียวแต่ว่า
00:21:09 → 00:21:11 ด้วยที่ร่างกายเราไม่พร้อม
00:21:11 → 00:21:13 เราก็เลยคิดไม่ออก
00:21:13 → 00:21:14 พอร่างกายมันพร้อม
00:21:14 → 00:21:15 แป๊บเดียวแก้ได้แล้ว
00:21:16 → 00:21:19 เพราะจริง ๆ บางอย่างมันต้องถอยออกมาดู
00:21:19 → 00:21:20 ถอยออกมาหน่อย
00:21:20 → 00:21:23 แล้วอาจจะแก้ได้ดีกว่าไปจมกับมัน
00:21:23 → 00:21:25 เมื่อกี้พูดเรื่อง พี่ว่าชมดูหนังไม่ได้
00:21:25 → 00:21:28 แต่ล่าสุดก็คือตอนนี้พี่ก็ดูหนังไม่รู้เรื่องแล้ว
00:21:28 → 00:21:28 ใช่
00:21:28 → 00:21:31 ตอนเด็ก ๆ สมัยป๊าพาไปดูหนังในโรงภาพยนตร์
00:21:32 → 00:21:34 เดินออกมา เขาบอกเขาดูไม่รู้เรื่อง
00:21:34 → 00:21:35 เราไม่เข้าใจ
00:21:36 → 00:21:37 สนุกจะตาย
00:21:38 → 00:21:39 ทำไมดูไม่รู้เรื่อง
00:21:40 → 00:21:40 แต่ทุกวันนี้
00:21:41 → 00:21:42 ดูไม่รู้เรื่อง
00:21:42 → 00:21:45 ที่ดูไม่รู้เรื่องเพราะว่า มันเหมือนทำไมเราไม่อยากกินเหล้า
00:21:46 → 00:21:48 พี่ว่านะ เพราะเราไม่ได้อยากอยู่ตรงนั้น
00:21:49 → 00:21:49 มันก็เหมือนกัน
00:21:50 → 00:21:51 การดูหนังมันก็เหมือนว่า
00:21:51 → 00:21:54 เราไม่อยากเอาเวลามานั่งอยู่ตรงนี้
00:21:55 → 00:21:57 เราเอาเวลาไปคิดอย่างอื่นดีกว่า
00:21:57 → 00:21:58 ทำอย่างอื่นดีกว่า
00:21:58 → 00:21:59 แล้วเรื่องของการผ่อนคลายล่ะคะ
00:22:00 → 00:22:01 ผ่อนคลายก็คือดูฟุตบอล
00:22:01 → 00:22:02 ผ่อนคลายที่สุดแล้ว
00:22:03 → 00:22:03 ดูบอล
00:22:04 → 00:22:04 เวลาดูบอล
00:22:04 → 00:22:07 ชมก็จะเห็นพี่ปิดห้องไม่ให้ใครยุ่ง
00:22:07 → 00:22:10 ก็คือพี่จะดู นั่นแหละคือผ่อนคลายจริง ๆ
00:22:10 → 00:22:13 ดูบอลกับการเล่นกีฬานี่แหละ
00:22:13 → 00:22:13 คือผ่อนคลาย
00:22:14 → 00:22:18 ถ้าเราได้เพิ่มยืด
00:22:18 → 00:22:20 การออกกำลังกายในมุมของพี่นะ
00:22:20 → 00:22:21 เป็นการผ่อนคลายสมอง
00:22:22 → 00:22:24 แต่เป็นการกดดันร่างกาย
00:22:25 → 00:22:28 การทำงานคือการใช้สมองจนเครียด
00:22:29 → 00:22:30 ร่างกายไม่ได้ขยับ
00:22:31 → 00:22:32 แล้วในที่สุดก็...
00:22:33 → 00:22:33 นวด
00:22:34 → 00:22:35 คลาย
00:22:35 → 00:22:35 ยืด
00:22:37 → 00:22:39 แช่ในน้ำเย็น เข้าซาวน่า
00:22:40 → 00:22:41 ก็คือการฟื้นฟู
00:22:41 → 00:22:42 นอน
00:22:42 → 00:22:43 แต่ผ่อนคลายสมองก็คือ
00:22:43 → 00:22:46 ทุกวันนี้พาลูกไปเล่นกีฬาเป็นการผ่อนคลาย
00:22:47 → 00:22:50 มีอะไรที่ยังอยากจะปรับปรุงหรือว่ามีอะไรที่
00:22:51 → 00:22:52 ทำไม่สำเร็จสักทีไหมคะ
00:22:52 → 00:22:53 ในเรื่องสุขภาพ
00:22:53 → 00:22:54 ก็กินน้ำตาล
00:22:56 → 00:22:57 กินขนม
00:22:57 → 00:22:58 กินช็อกโกแลตเป็นคนติดช็อกโกแลต
00:22:58 → 00:23:02 แล้วกลับมา ชมก็ซื้อของมาเต็มตู้เลย
00:23:03 → 00:23:05 นั่งประเมินดูอยู่ว่า
00:23:05 → 00:23:06 ซื้อมาเยอะขนาดนี้
00:23:07 → 00:23:08 ต้องกินให้หมดภายใน 3 เดือน
00:23:08 → 00:23:09 เท่ากับกินน้ำตาลไปกี่กรัม
00:23:10 → 00:23:11 ไม่ได้ว่าต้องกินให้หมด
00:23:12 → 00:23:13 ชมแค่ไม่มี
00:23:13 → 00:23:14 ตู้ชมมันเต็ม
00:23:15 → 00:23:17 - เข้าใจแล้ว - ชมก็เลยไปแช่ตู้นั้น
00:23:17 → 00:23:18 - ป้าเจี๊ยบก็ซื้อช็อกโกแลตมาเต็ม - ชมไม่ได้ชวน
00:23:19 → 00:23:20 ชมไม่ได้ชวนพี่กินเลย
00:23:21 → 00:23:21 ก็รู้ไง
00:23:22 → 00:23:23 ที่บ้านเนี่ย
00:23:23 → 00:23:26 แม่บ้านที่บ้านก็จะค่อนข้างเป๊ะ
00:23:27 → 00:23:28 ถ้าสมมติบอกอะไรเนี่ย
00:23:28 → 00:23:30 บอกสิบได้สิบเสมอทุกมื้อ
00:23:30 → 00:23:32 - ไม่เคยขาด - ใช่ เขาจะเป็นคนที่...
00:23:32 → 00:23:33 เป๊ะมาก
00:23:33 → 00:23:34 เขาจะตรงมาก
00:23:34 → 00:23:35 ก็คือทุกอย่างเป๊ะ
00:23:35 → 00:23:37 เขาไม่ทำอะไรนอกเหนือคำสั่ง เขาจะไม่อะไรทั้งนั้น
00:23:37 → 00:23:38 เป๊ะหมด
00:23:39 → 00:23:40 ก็เสิร์ฟมันทุกมื้อจริง ๆ
00:23:41 → 00:23:43 - รู้ว่า ถ้าวันนี้พี่กิน... - จนกว่าจะมีคำสั่งยกเลิก
00:23:43 → 00:23:44 ใช่
00:23:44 → 00:23:48 ถ้าไม่สั่งยกเลิกคือบริการต่อเนื่อง มาสม่ำเสมอ
00:23:49 → 00:23:50 เพราะฉะนั้น มันก็ได้กินตลอด
00:23:50 → 00:23:51 แล้วพอจะหมด
00:23:51 → 00:23:53 ก็มีการบอกป้าเจี๊ยบล่วงหน้าด้วยว่าจะหมดแล้ว
00:23:53 → 00:23:54 ซื้อมาตุนอีก
00:23:54 → 00:23:54 ใช่
00:23:54 → 00:23:56 แล้วมันก็จะเลิกยาก
00:23:56 → 00:23:57 ก็ไม่เป็นไร พี่ไม่ต้องกิน
00:23:57 → 00:23:59 แต่ถามว่าทุกวันนี้
00:23:59 → 00:24:02 ก็ถึงได้บอกว่าเราตรวจค่าเลือดอยู่ตลอด
00:24:02 → 00:24:03 ก็คือถ้าเกิด...
00:24:03 → 00:24:05 ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดยังอยู่ในเกณฑ์
00:24:05 → 00:24:07 ก็ยังถูไถได้ เพราะว่า
00:24:07 → 00:24:10 มองว่ามันอาจจะชดเชยในเรื่องของอารมณ์
00:24:11 → 00:24:11 ได้กิน
00:24:12 → 00:24:14 ระหว่างนอน ออกกำลังกาย อาหาร
00:24:14 → 00:24:16 พี่ให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด
00:24:17 → 00:24:19 จริง ๆ ถ้าพูดตามทฤษฎี
00:24:20 → 00:24:22 ต้องเป็นนอน มันสำคัญหมดแหละ
00:24:22 → 00:24:24 จะให้ไปมากที่สุด
00:24:25 → 00:24:27 แต่ถ้าเลือกได้อย่างเดียวต้องเลือกนอนก่อน
00:24:28 → 00:24:28 คนเรา
00:24:29 → 00:24:31 ถ้าไม่ออกกำลังกาย
00:24:31 → 00:24:32 ไม่คุมอาหาร
00:24:32 → 00:24:35 ก็ต้องนอนให้เต็มอิ่มก่อน
00:24:35 → 00:24:37 เพราะจริง ๆ มันมีทฤษฎี
00:24:37 → 00:24:40 คนเรานอนค่าเฉลี่ยน้อยลงต่อชั่วโมงมีผลอะไร
00:24:40 → 00:24:43 ต่ออัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุบ้าง
00:24:43 → 00:24:45 อันนี้มันก็มีตัวเลขอยู่ที่พี่ศึกษาอยู่
00:24:46 → 00:24:48 ถ้าเลือกได้อย่างเดียวก็ต้องเอานอนก่อน
00:24:49 → 00:24:52 แต่จริง ๆ มันไม่ควร มันต้องทำให้ครบหมด
00:24:56 → 00:24:57 ชมอยากให้พี่ทำอะไร
00:24:58 → 00:24:59 ชมนะ / ก็เรื่องยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
00:24:59 → 00:25:00 อ๋อ เรื่องยืด โอเค
00:25:00 → 00:25:01 ก็เรื่องยืดเหยียดกล้ามเนื้อไง
00:25:02 → 00:25:04 ก็รู้ว่าจำเป็น
00:25:04 → 00:25:07 ทุกวันนี้เวลาไปเล่นกีฬาก็รู้ว่าต้องยืดก่อน
00:25:07 → 00:25:08 เล่นเสร็จต้องยืด
00:25:08 → 00:25:12 มันต้องยืดแบบ Active นะ
00:25:12 → 00:25:13 ไม่ใช่แบบ Passive
00:25:14 → 00:25:15 ก็อย่างน้อยก็เริ่ม
00:25:16 → 00:25:19 Passive มันก็จะได้ประมาณหนึ่ง
00:25:19 → 00:25:21 แต่ว่าถ้าทำเองได้ มันจะแบบ...
00:25:22 → 00:25:23 อย่างน้อยก็คือขอให้เริ่ม
00:25:23 → 00:25:24 ถูกไหม
00:25:24 → 00:25:26 จริง ๆ อย่างที่พี่บอกว่า
00:25:26 → 00:25:28 อยู่ที่บ้านเครื่องวิ่งพี่ก็ไม่ได้อยากวิ่ง
00:25:28 → 00:25:30 แต่ถ้าเกิดพี่ไปเล่นฟุตบอลกับเพื่อน
00:25:30 → 00:25:31 พี่ก็อยากเล่น
00:25:32 → 00:25:34 เวทอยู่ที่บ้านถ้าเป็นโควิดได้เล่น
00:25:35 → 00:25:39 แต่ถ้าอยู่ที่บ้านทุกวันมันคงเบื่อ
00:25:39 → 00:25:41 แต่ถ้าเราเข้าไปที่ The Cubic Fitness ที่เกษร
00:25:42 → 00:25:43 เราก็จะมีเพื่อน
00:25:44 → 00:25:46 เราก็จะเข้าไปนั่งร้านกาแฟแป๊บหนึ่ง
00:25:46 → 00:25:48 คนนู้นเดินขึ้นมา คนนี้เดินขึ้นมา
00:25:49 → 00:25:50 พอเราลงไปสักพักหนึ่ง
00:25:50 → 00:25:53 เห็นคนยกเวทอยู่ข้าง ๆ เราก็รู้สึกแล้ว
00:25:53 → 00:25:54 ว่าเราอยากยกเวท
00:25:54 → 00:25:55 เราอยากยกเบา
00:25:55 → 00:25:56 เห็นคนข้าง ๆ ยกหนัก
00:25:57 → 00:25:58 เราก็จะใส่เวทเพิ่ม
00:25:59 → 00:26:00 มันก็จะมีเพื่อน
00:26:01 → 00:26:02 การยืด
00:26:02 → 00:26:05 ถ้าเมื่อไหร่ที่เอ็มสเฟียร์กับหมอชิตเปิด
00:26:05 → 00:26:06 มีโยคะ มีพิลาทิส
00:26:07 → 00:26:09 พี่ก็จะได้มีฟีลนั้น
00:26:11 → 00:26:13 แล้วมีเรื่องที่พี่อยากให้ชมเปลี่ยนไหม
00:26:13 → 00:26:15 เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ
00:26:15 → 00:26:16 จริง ๆ อันนี้ไม่ได้บอกใคร
00:26:16 → 00:26:17 แต่ว่าจริง ๆ
00:26:18 → 00:26:20 พี่ว่าชมค่อนข้างมีวินัยอยู่แล้ว
00:26:20 → 00:26:22 จริง ๆ เรื่องความมีวินัย ชมมีมากกว่าพี่นะ
00:26:23 → 00:26:23 ใช่
00:26:24 → 00:26:26 ชมมีวินัยมากในการจัดการทุกอย่างมากกว่าพี่
00:26:27 → 00:26:29 เพราะฉะนั้นจริง ๆ อยากให้เปลี่ยนไหมเหรอ
00:26:30 → 00:26:32 พี่ว่าชมเองก็รู้แหละ
00:26:32 → 00:26:33 ว่ามีอะไรที่ชมต้องทำ
00:26:34 → 00:26:37 แล้วรู้แต่ยังทำไม่ได้
00:26:37 → 00:26:38 ชมเขายกเวทอยู่แล้ว
00:26:38 → 00:26:40 อาหารดีอยู่แล้ว
00:26:41 → 00:26:44 แล้วก็ยืดพิลาทิสอยู่แล้ว แต่ว่า...
00:26:44 → 00:26:46 สองอย่างที่สำคัญที่สุด
00:26:46 → 00:26:48 - ถ้าพูดในมุมของ Longevity - VO2 Max
00:26:49 → 00:26:51 ถูกต้อง มันคือ VO2 Max
00:26:52 → 00:26:53 ก็คืออย่างพี่เล่นฟุตบอล
00:26:53 → 00:26:56 VO2 Max ก็คือปอด หัวใจ
00:26:56 → 00:26:57 มันจะต้อง Sprint
00:26:58 → 00:26:59 สั้น ๆ ให้ได้
00:27:01 → 00:27:02 เขาบอกหนึ่งอาทิตย์อย่างน้อยรวมแล้ว
00:27:02 → 00:27:03 สามนาที
00:27:04 → 00:27:04 อย่างน้อย
00:27:05 → 00:27:07 เพราะฉะนั้น เวลาพี่เล่นฟุตบอลมันมี Sprint สั้น ๆ
00:27:08 → 00:27:11 ทีละ 5-10 วินาทีในเกมอยู่เสมออยู่แล้ว
00:27:12 → 00:27:15 เล่นหนึ่งเกมประมาณ 80-90 นาที
00:27:15 → 00:27:16 พี่ได้อยู่แล้ว
00:27:16 → 00:27:17 อาทิตย์หนึ่งพี่เล่น 2 ครั้ง
00:27:17 → 00:27:20 เพราะฉะนั้น VO2 Max พี่มีอยู่แล้ว
00:27:21 → 00:27:23 ถึงอยู่แล้ว 3 นาทีถึงแน่นอน
00:27:23 → 00:27:24 คราวนี้ของชมไม่ได้ทำ
00:27:25 → 00:27:27 น่าจะเป็นอย่างเดียวที่ชมควรจะทำ
00:27:27 → 00:27:28 ชมยกเวท
00:27:28 → 00:27:30 ชมดูแลเรื่องอาหารอยู่แล้ว
00:27:30 → 00:27:32 และอีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของอารมณ์
00:27:32 → 00:27:34 ที่จะต้องปิดโหมดทุกอย่าง เพื่อจะนอนให้ได้
00:27:36 → 00:27:37 มีแค่ 2 เรื่องของชมก็คือ
00:27:37 → 00:27:40 VO2 Max กับปิดโหมดทุกอย่าง เรื่องการนอน
00:27:40 → 00:27:42 สมมติว่าอยู่บนเครื่องวิ่ง
00:27:42 → 00:27:45 ไม่มีทางที่จะผลักดันตัวเองไปถึง VO2 Max
00:27:46 → 00:27:48 อันดับแรกชมต้องรู้ก่อน
00:27:48 → 00:27:52 มันจะมีที่เขาเรียก Norwegian 4x4x3
00:27:52 → 00:27:53 ที่พี่เคยบอก
00:27:54 → 00:27:56 วิ่งไปเลยจนหอบแฮ่ก 4 นาที
00:27:57 → 00:28:00 พัก 4 นาที แล้วก็ทำ 3 เซต
00:28:00 → 00:28:01 อาทิตย์ละ 2 ครั้ง
00:28:01 → 00:28:02 ไม่ทำหรอก
00:28:02 → 00:28:03 ก็เพราะอะไร
00:28:03 → 00:28:04 เพราะสภาพแวดล้อมไม่ได้
00:28:04 → 00:28:05 ใช่
00:28:05 → 00:28:06 นั่นคือเหตุผล
00:28:06 → 00:28:08 เขาถึงต้องไปเข้า HIIT Class
00:28:08 → 00:28:08 ถูกต้อง
00:28:09 → 00:28:10 อันนี้คือทำไมต้องเข้า HIIT Class
00:28:11 → 00:28:14 ถ้าจะชวนเพื่อนไปเข้า HIIT Class ทั้งกลุ่ม
00:28:14 → 00:28:19 ไปเข้าคลาสที่เป็น HIIT 45 นาทีอย่างน้อยก็ได้
00:28:19 → 00:28:20 หรือจะไป Sprint
00:28:20 → 00:28:22 ถ้าได้ HIIT ได้ Sprint
00:28:22 → 00:28:25 มันก็ทำ VO2 Max ได้
00:28:25 → 00:28:26 เป้าหมายสูงสุด
00:28:27 → 00:28:28 คืออะไรคะ
00:28:28 → 00:28:30 เป้าหมายสูงสุดก็คืออยู่กับลูกให้นานที่สุด
00:28:30 → 00:28:32 จริง ๆ ทุกวันนี้ก็คืออยากเห็นหลาน
00:28:33 → 00:28:38 ก็อยากจะเห็นลูกของสายฟ้า พายุ แอบิเกล
00:28:38 → 00:28:39 เพราะฉะนั้น ถ้าเกิด...
00:28:39 → 00:28:41 อย่างน้อยสมมติว่าเขาแต่งงานมีลูก
00:28:42 → 00:28:45 ก็ต้องอย่างน้อยหลานอายุ 10 ขวบ
00:28:45 → 00:28:48 สายฟ้า พายุ สมมติว่าแต่งงานช้าหน่อย
00:28:48 → 00:28:50 คนยุคใหม่ ก็แต่งอายุ 35 ปี
00:28:50 → 00:28:55 กว่าจะมีลูก 10 ขวบก็อีก 45 ปีข้างหน้า
00:28:56 → 00:28:59 อีก 45 ปี พี่ก็อายุจะร้อยปีแล้ว
00:28:59 → 00:29:02 ก็ต้องอยู่ให้ถึงอายุ 100+ นั่นแหละเป้าหมายสูงสุด
00:29:03 → 00:29:05 อายุ 100+ ถ้าได้ 120 ปี
00:29:05 → 00:29:08 แต่ไม่ได้อยู่อายุ 100+ แบบอุ้มหลานไม่ได้
00:29:08 → 00:29:10 เพราะฉะนั้นอายุ 100+ ก็ต้องอุ้มหลานได้
00:29:11 → 00:29:12 จะอายุ 100+ อุ้มหลานได้
00:29:12 → 00:29:15 เราก็ต้องทำพวก Compound Exercises ให้ได้
00:29:15 → 00:29:18 ทำไมคนเราจะต้องทำ Squat
00:29:18 → 00:29:22 ยกของจากพื้นก็คือ อุ้มลูก อุ้มหลาน จากพื้น
00:29:22 → 00:29:24 อุ้มแล้วก็ชูได้
00:29:24 → 00:29:26 ทำไมต้อง Deadlift ทำไมต้อง Squat
00:29:26 → 00:29:30 ทำไมต้องเป็น Push Overhead อะไรอย่างนี้
00:29:31 → 00:29:35 ทำไมกล้ามเนื้อจะต้องแข็งแรง
00:29:35 → 00:29:36 นั่นคือเป้าหมายสูงสุด
00:29:37 → 00:29:39 อายุถึง 100 ปี แบบอุ้มหลานได้
00:29:39 → 00:29:41 พาหลานไปทำกิจกรรมได้
00:29:41 → 00:29:44 เพราะฉะนั้นมันต้องไม่ใช่แค่ Lifespan
00:29:44 → 00:29:46 มันต้องเป็น Healthspan
00:29:46 → 00:29:47 แล้วเรื่องลูกของเราล่ะปะป๊า
00:29:48 → 00:29:49 พี่ว่าเรา...
00:29:50 → 00:29:53 ปลูกฝังอะไรเขาบ้างในเรื่องสุขภาพ
00:29:53 → 00:29:57 ถ้าในมุมสุขภาพก็ทุกวันนี้เราก็พยายาม
00:29:57 → 00:30:00 คืออย่างที่เขาบอกว่าเด็กมันทำตาม
00:30:00 → 00:30:02 เราก็ทำให้เขาเห็นอยู่แล้วว่า
00:30:02 → 00:30:05 พ่อแม่ออกกำลังกาย พ่อแม่ไปยิม
00:30:05 → 00:30:07 แล้วก็อยู่บ้าน
00:30:07 → 00:30:11 แอบิเกลก็จะเห็นชมเล่นโยคะ เล่นพิลาทิสอยู่แล้ว
00:30:12 → 00:30:13 เสาร์ อาทิตย์ หลังเลิกเรียน
00:30:13 → 00:30:15 เราก็ให้เขาทำ ECA ที่โรงเรียนตลอด
00:30:15 → 00:30:19 ให้เขารักกีฬา ให้เขารักสุขภาพ
00:30:19 → 00:30:23 ถ้าเขารู้ว่าทำไมเขาต้องรักษากล้ามเนื้อ
00:30:23 → 00:30:24 ทำไมเขาต้องออกกำลังกาย
00:30:25 → 00:30:26 พวกอบายมุข
00:30:27 → 00:30:30 เขาก็จะอยากอยู่ห่าง เหมือนที่ทำไมเราไม่อยากกินเหล้า
00:30:31 → 00:30:33 ทำไมเราไม่อยากใกล้อบายมุข อะไรอย่างนี้
00:30:33 → 00:30:36 เพราะฉะนั้นพี่เชื่อว่าถ้าเราปลูกฝังการรักกีฬา
00:30:36 → 00:30:39 อย่างพี่เป็นคนไม่สูบบุหรี่ เพราะรู้ว่าอยากเล่นกีฬา
00:30:39 → 00:30:42 พอข้อมูลด้านสุขภาพมันชัดเจนขึ้น
00:30:42 → 00:30:45 พี่ว่าทุกคนก็อยากมีสุขภาพที่ดี
00:30:46 → 00:30:48 เชื่อว่ามันก็คือทำให้เห็นเป็นตัวอย่างแหละ
00:30:48 → 00:30:51 อย่างบ้านเราก็ไม่มีน้ำอัดลม
00:30:51 → 00:30:53 พี่ก็เลิกน้ำอัดลม
00:30:53 → 00:30:55 - เมื่อก่อน - โอ้โฮ ไม่กินมา...
00:30:55 → 00:30:57 - เลิกมากี่ปี - เดี๋ยวนี้แบบ Diet ก็ไม่กินเลย
00:30:58 → 00:30:59 ใช่ / กิน Sparkling อย่างเดียว
00:30:59 → 00:31:02 - เมื่อก่อนพวก Diet พวก Zero พี่ก็ยังกิน - ก็ยังกินอยู่
00:31:02 → 00:31:04 แต่เดี๋ยวนี้ก็คือไม่
00:31:04 → 00:31:05 เดี๋ยวนี้ไม่มี
00:31:05 → 00:31:08 คือตั้งแต่มีลูกเราไม่เคย
00:31:09 → 00:31:09 ใช่
00:31:09 → 00:31:12 ถ้าไปข้างนอกแล้วมีคนสั่งน้ำอัดลมมา
00:31:12 → 00:31:14 สายฟ้า พายุก็จะ...
00:31:14 → 00:31:17 ฟ้องเลย เป็นเรื่องแปลกมากในบ้าน
00:31:17 → 00:31:19 ถ้ามีคนสั่งน้ำอัดลมมาบนโต๊ะ
00:31:19 → 00:31:21 ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก
00:31:22 → 00:31:26 นี่คือสิ่งที่เราปลูกฝังเขา น้ำตาล น้ำอัดลม
00:31:26 → 00:31:28 แต่ไอศกรีมเราก็ยังให้กินอยู่
00:31:28 → 00:31:33 ไอศกรีม เอาจริง ๆ ขนม คือชมก็ไม่ได้ถึงกับห้าม
00:31:33 → 00:31:35 คือไป 7-Eleven ก็...
00:31:36 → 00:31:39 ถ้าเขาเลือกเอง เขาหยิบเอง เขาก็จะหยิบอะไรก็ไม่รู้
00:31:39 → 00:31:41 แต่ว่าถ้าสิ่งที่มาจากเรา ที่เราเลือกให้
00:31:41 → 00:31:44 แน่นอนเราก็พยายามที่จะเลือกอย่างอื่น
00:31:44 → 00:31:48 ที่มันดีต่อสุขภาพกว่า
00:31:48 → 00:31:51 แต่ก็ไม่ได้อยาก ห้าม! ดึงออกจากปาก
00:31:51 → 00:31:54 หรืออะไรอย่างนี้ ชมว่ามันต้อง...
00:31:55 → 00:31:57 จะทำได้คือก็ต้องเข้าใจว่า “ทำไม” ด้วย
00:31:57 → 00:31:58 ใช่
00:31:58 → 00:32:02 ก็คงต้องใช้เวลา แล้วเขาก็น่าจะซึมซับไปเรื่อย ๆ ว่า
00:32:02 → 00:32:03 พ่อแม่ไม่ทำ
00:32:05 → 00:32:09 เขาก็ยังเป็นเด็กอยู่ไง
00:32:09 → 00:32:11 พี่ก็ไม่อยากจะไปบังคับว่าห้ามกินน้ำตาลเลย
00:32:11 → 00:32:16 ห้ามกินขนม พวกเยลลี่ชุบน้ำตาลอะไรพวกนี้
00:32:16 → 00:32:19 คือเราเห็น เราก็รู้ว่าจริง ๆ มันไม่ควร
00:32:19 → 00:32:22 แต่ว่าด้วยความที่เขาเป็นเด็ก มันก็เหมือนเรา
00:32:22 → 00:32:24 ไอศกรีมช็อกโกแลต เค้กช็อกโกแลต พี่ก็ชอบ
00:32:24 → 00:32:27 ถามว่ารู้ไหมว่าน้ำตาลไม่ดี ก็รู้
00:32:27 → 00:32:30 แต่ถามว่าทำได้ไหม ก็ยังทำไม่ได้
00:32:30 → 00:32:33 ยิ่งเขาเป็นเด็ก ก็ต้องปล่อย
00:32:33 → 00:32:35 แต่เราก็พยายามปลูกฝังไปในวันหนึ่ง
00:32:35 → 00:32:39 เมื่อเขาโตแล้ว เขามีความคิดเป็นของตัวเอง
00:32:39 → 00:32:41 และเขาเข้าใจว่ามันไม่ดี เดี๋ยวเขาก็เลิกเอง
00:32:41 → 00:32:43 คงไม่ต้องไปบังคับ
00:32:43 → 00:32:48 คิดยังไงกับการที่คนจะลงทุนเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ
00:32:49 → 00:32:50 ควรจะลงทุนกับอะไร
00:32:50 → 00:32:54 มันก็มีหลายเรื่อง การออกกำลังกาย
00:32:54 → 00:32:58 อาหารเสริม หรือว่าแล็บนู่นนี่
00:32:58 → 00:33:00 มันควรจะลงทุนกับอะไรให้ได้ผลคุ้มค่า
00:33:01 → 00:33:05 คำว่าลงทุนจริง ๆ ของบางอย่างมันทำมันไม่ได้ใช้เงิน
00:33:05 → 00:33:08 แต่ว่าทุนเวลาคุณจะลงหรือเปล่าแค่นั้นเอง
00:33:08 → 00:33:10 ถูกไหม
00:33:10 → 00:33:13 ทุนในที่นี้คือเวลา
00:33:13 → 00:33:17 พี่ว่าคือเวลา เพราะว่านอนเสียเงินไหม ก็ไม่ได้เสีย
00:33:17 → 00:33:20 ออกกำลังกายเสียเงินไหม แบบไม่เสียเงินก็มี
00:33:20 → 00:33:24 ทุกวันนี้สวนสาธารณะในกรุงเทพฯ ดี ๆ มีเยอะแยะ
00:33:24 → 00:33:26 แล้วก็...
00:33:26 → 00:33:31 - ถ้าไม่มีอุปกรณ์เลย วิดพื้น ซิตอัป ก็ไม่ได้ใช้เงิน - บอดี้เวท
00:33:32 → 00:33:34 อยากจะ Squat Deadlift
00:33:34 → 00:33:36 อย่างเวลาบางทีพี่เดินทาง
00:33:36 → 00:33:40 แล้วไม่มีเวลาจริง ๆ กระเป๋าเดินทางเล็ก ๆ พี่ก็ใส่ของหนัก ๆ
00:33:40 → 00:33:41 ก็ Squat Deadlift ได้
00:33:41 → 00:33:46 ก็อย่างที่เขามีคำพูดว่า ถ้าคุณไม่แบ่งเวลาให้มันตอนนี้
00:33:46 → 00:33:48 ธรรมชาติก็จะบังคับ
00:33:48 → 00:33:51 ให้คุณให้เวลากับมัน ก็คือไปอยู่โรงพยาบาล
00:33:51 → 00:33:56 คุณต้องนอนโรงพยาบาล ถ้าคุณไม่ยอมนอนที่บ้านให้ครบ
00:33:56 → 00:33:59 คุณก็จะถูกธรรมชาติบังคับให้คุณไปนอนโรงพยาบาล
00:33:59 → 00:34:02 ถ้าคุณไม่คุมอาหาร
00:34:02 → 00:34:05 ถ้าคุณไม่ดูแลเรื่องอาหาร
00:34:05 → 00:34:09 ธรรมชาติก็จะให้คุณกินยาเป็นอาหารแทน ถูกไหม
00:34:09 → 00:34:13 เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่ออกกำลังกาย
00:34:14 → 00:34:17 ธรรมชาติก็จะบังคับให้คุณทำทุกอย่าง
00:34:18 → 00:34:20 แต่คุณไม่อยากจะไปถึงจุดนั้น
00:34:20 → 00:34:21 งั้นวันนี้่่ก็ต้องลงทุนก่อน
00:34:21 → 00:34:25 ต้องแบ่งเวลามาออกกำลังกาย
00:34:25 → 00:34:28 แบ่งเวลามาดูแลเรื่องอาหาร แบ่งเวลามานอน
00:34:28 → 00:34:29 ต้องเริ่มก่อน
00:34:29 → 00:34:32 ทำไมพี่บอกว่าใช้เวลา 10 ปี
00:34:33 → 00:34:35 เพราะว่าอย่างน้อยเราเริ่ม
00:34:35 → 00:34:37 เริ่มแล้วเราทำได้ดีกว่าเมื่อวาน
00:34:37 → 00:34:41 วันนี้ยังกินเยอะอยู่ รู้ว่ามันไม่ดี พยายามคุม
00:34:41 → 00:34:43 มีวินัย กินน้อยลงหน่อยหนึ่ง
00:34:43 → 00:34:46 จากเคยกิน โอ้โฮขนาดนี้
00:34:46 → 00:34:48 อย่างแป้ง กว่าจะมาถึงวันนี้ได้
00:34:48 → 00:34:51 แต่ก่อนเป็นคนกินข้าวเป็นจาน ๆ ก็กิน
00:34:52 → 00:34:54 ไปกินข้าวมันไก่ ออกกำลังกายเสร็จ
00:34:54 → 00:35:00 ข้าวมันไก่ ไก่หนึ่งที่ ข้าว 4 ถ้วยก็เคยกิน
00:35:00 → 00:35:04 ทุกวันนี้ครึ่งถ้วยยังกินไม่หมดเลย
00:35:04 → 00:35:08 จนวันนั้นมาถึงวันนี้ รู้ว่าตัวเองตั้งใจจะลดน้ำตาล
00:35:08 → 00:35:10 เมื่อก่อนก็กิน
00:35:10 → 00:35:16 ช็อกโกแลตลูกกลม ๆ 16 ลูก นั่งกินครึ่งชั่้วโมงก็กิน 16 ลูก
00:35:17 → 00:35:20 ทุกวันนี้กิน 2 ลูกก็รู้สึกผิดแล้ว
00:35:20 → 00:35:21 แต่กินไหม ก็กิน
00:35:21 → 00:35:25 แต่กว่าจะลดจาก 16 ลูก เหลือ 2 ลูกก็ใช้เวลา
00:35:25 → 00:35:27 16 ลูก เดี๋ยวเหลือครึ่งกล่อง
00:35:28 → 00:35:32 ลดไปอีกครึ่งหนึ่ง ทุกวันนี้กินหนึ่งคำพอแล้ว หายอยาก
00:35:32 → 00:35:38 ขอให้ทำ และขอให้ดีกว่าเมื่อวาน เดี๋ยวมันก็ดีเอง
00:35:39 → 00:35:41 อันนี้ส่วนตัวนะ / จ้ะ
00:35:41 → 00:35:42 ยาวไหม
00:35:42 → 00:35:43 ยาว
00:35:43 → 00:35:44 ยาวเหรอ
00:35:44 → 00:35:46 - ยาว - พี่ยังว่าทำไมจบเร็ว
00:35:46 → 00:35:47 ยาวมาก
00:35:48 → 00:35:50 ผมเป็นคนไม่กลัวผีตั้งแต่เด็ก
00:35:50 → 00:35:54 เพราะฉะนั้น ผมไม่เชื่อเรื่องวิญญาณ เรื่องผี
00:35:54 → 00:35:56 ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์
00:35:56 → 00:36:00 ผมไปบวช ให้ผมนอนป่านอนอะไรตั้งแต่เด็ก ผมก็ไม่กลัว
00:36:00 → 00:36:03 ให้ผมนอนคนเดียวมืด ๆ
00:36:03 → 00:36:06 จริง ๆ ผมอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็ก ก็เลยยิ่งไม่กลัวไง
00:36:06 → 00:36:09 ผมบวชเป็นเณร ผมก็นอน
00:36:09 → 00:36:11 ให้ผมนอนเหมือนกลางป่า
00:36:11 → 00:36:14 อยู่ใกล้ ๆ สุสานผมก็เป็นคนไม่กลัว
00:36:14 → 00:36:17 เพราะฉะนั้นผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องผี เรื่องวิญญาณ
00:36:17 → 00:36:19 ไม่ ชมว่าเขากลัวพี่
00:36:20 → 00:36:22 ไม่รู้
00:36:22 → 00:36:24 - ผมก็จะบอกว่า - เขากลัวพี่
00:36:24 → 00:36:27 ผมยังไม่เคยเจอ อย่างตอนคุณพ่อผมเสีย
00:36:27 → 00:36:31 เชื่อไหมว่าผมอธิษฐานทุกคืนเลยว่าให้มาหา
00:36:31 → 00:36:35 ผมเดินที่มืด เขาบอกผีมาที่มืด ผมขอเลยนะว่า...
00:36:35 → 00:36:38 ถ้าผีมีจริง ป๊ามาหาหน่อย มีเรื่องอยากคุย
00:36:38 → 00:36:41 จริง ๆ แต่ผมก็ไม่เคยเจอ ผมก็เลยไม่เชื่อไง คิดว่า...
00:36:41 → 00:36:44 - ส่วนตัวไม่เชื่อ - ชมว่าคลื่นไม่ตรงกัน
00:36:44 → 00:36:46 ใช่ไหมชาวเน็ต
00:36:48 → 00:36:51 เรื่องพวกนี้อย่างหมอดู หรือว่า...
00:36:52 → 00:36:53 ก็พิสูจน์มาหลายรอบ
00:36:53 → 00:36:58 ที่เขาว่าแม่น ผมก็ไม่ได้ว่าเขาแม่น ผมเชื่อในสถิติ
00:36:58 → 00:37:02 หมอดูที่ใช้สิถิติ เชื่อในประวัติศาสตร์
00:37:02 → 00:37:04 ประวัติศาสตร์ เอาสถิติมาเรียง
00:37:04 → 00:37:08 แล้วก็เทรนด์ อ่านเทรนด์ แล้วอ่านจากสถิติ
00:37:08 → 00:37:10 คือจริง ๆ โหราศาสตร์จริง ๆ ก็คือสถิติ
00:37:11 → 00:37:14 เก็บสถิติมา แล้วก็ขึ้นอยู่กับคนตีความแล้ว
00:37:14 → 00:37:16 เหมือนผลเลือด
00:37:16 → 00:37:21 หมอ 5 คนก็อ่านผลเลือดแล้ววิเคราะห์อาหารเสริมไม่เหมือนกัน
00:37:21 → 00:37:23 หมอดูก็อ่านสถิติมา
00:37:23 → 00:37:28 เพราะฉะนั้นหมอดูที่แม่น คือหมอดูที่แปลผลสถิติเก่ง
00:37:29 → 00:37:34 อย่างสมัยก่อนที่บ้านเชื่อ ก็จะเอาพวกหมอดู
00:37:34 → 00:37:37 พระแม่น ๆ หลายองค์มา นิมนต์มา
00:37:37 → 00:37:41 แล้วก็ชอบทักนู่น ทักนี่ ทักแรง ๆ ทักอะไรอย่างนี้
00:37:41 → 00:37:44 พี่ก็จะเป็นคนแบบ ถ้ากล้องจับไว้ก็จะ...
00:37:46 → 00:37:49 ไม่เคยฟังเลยตั้งแต่เด็ก
00:37:49 → 00:37:52 อย่างผมสมัยเด็ก ๆ เรียนต่างประเทศ
00:37:52 → 00:37:53 พระอาจารย์ดัง ๆ ในเมืองไทย
00:37:53 → 00:37:56 พอเวลาที่เขานิมนต์ไปต่างประเทศ
00:37:56 → 00:38:00 พอดีก็จะมีโอกาส ท่านก็จะมาที่บ้าน
00:38:00 → 00:38:03 พระอาจารย์ดัง ๆ สมัยก่อน
00:38:03 → 00:38:05 ทุกวันนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นยังไง
00:38:05 → 00:38:09 อย่างผมก็โดนทักแรง ๆ เยอะมาก
00:38:10 → 00:38:13 เพื่อจะให้ผมเชื่อ เพื่อจะให้ผมไปบริจาคทำบุญ
00:38:13 → 00:38:16 หรือไปเป็นลูกศิษย์อะไรอย่างนี้
00:38:16 → 00:38:18 แต่ในที่สุดก็ไม่เคยเชื่อ แล้วก็ไม่เคยฟัง
00:38:19 → 00:38:24 เพราะเชื่อมาตลอดว่า ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน
00:38:24 → 00:38:26 งั้นเราก็ทำของเราให้ดีที่สุดไป
00:38:27 → 00:38:28 ดูคลิปนี้จบแล้วนะคะ
00:38:28 → 00:38:29 คอมเมนต์มาบอกกันหน่อยนะคะ
00:38:29 → 00:38:31 ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
00:38:31 → 00:38:35 หรือว่าอยากให้ชมเชิญใครมาคุย
00:38:35 → 00:38:38 หรือว่าอยากให้คุยเรื่องอะไรก็คอมเมนต์มาได้นะคะ
00:38:40 → 00:38:43 เห็นด้วยกับคุณน็อต หรือว่าเห็นด้วยกับชม
00:38:43 → 00:38:46 คอมเมนต์มาบอกกันได้นะคะ ขอคนละหนึ่งคอมเมนต์ค่ะ
00:38:46 → 00:38:49 ติชมกันมาได้เลย เพราะว่าพวกเราอยากจะพัฒนา
00:38:49 → 00:38:51 แล้วก็ปรับปรุงรายการให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ
00:38:51 → 00:38:53 ฝากกดไลก์ กดแชร์ กดติดตาม
00:38:53 → 00:38:55 ช่อง LifeDot ของเราด้วยนะคะ
00:38:55 → 00:38:57 พวกเราจะสุขภาพดีไปด้วยกันค่ะ