00:00:02 → 00:00:07 กาแฟช่วยต้านแก่ต้านโรคถ้าคุณรู้ 5 ข้อ
00:00:07 → 00:00:12 นี้หมอเฟิร์นเชื่อว่าทุกคนรู้ว่ากาแฟ
00:00:12 → 00:00:16 เนี่ยช่วยทำให้สมองแล่นช่วยทำให้คุณเนี่ย
00:00:16 → 00:00:20 รู้สึกตื่นขึ้นมาจากอาการง่วงนอนขนาดตั้ง
00:00:20 → 00:00:22 แต่เด็กละเด็กยังรู้ว่ากาแฟมีประโยชน์
00:00:22 → 00:00:27 อะไรทำให้คุณพ่อคุณแม่หายง่วงนอนแต่ถ้า
00:00:27 → 00:00:30 คุณเป็นสายรักสุขภาพนะถ้าคุณไปอ่านในงาน
00:00:30 → 00:00:33 วิจัยหลายๆงานนะเค้าพูดเหมือนๆกัน
00:00:33 → 00:00:36 คอนเฟิร์มตรงกันเลยว่ากาแฟเนี่ยไม่ได้มี
00:00:36 → 00:00:39 ประโยชน์แค่นี้แต่กาแฟเนี่ยมีผลไปช่วยลด
00:00:39 → 00:00:43 ความเสี่ยงที่คุณจะเป็นโรคร้ายต่างๆอย่าง
00:00:43 → 00:00:46 พวกโรคเรื้อรังมากมายเลยเพราะว่ากาแฟใน
00:00:46 → 00:00:50 กาแฟเนี่ยไม่ได้มีแค่คาเฟอีนกาแฟมีสาร
00:00:50 → 00:00:53 สำคัญหลักๆที่หมอเฟิร์นจะพูดใน 5 ข้อนี้
00:00:53 → 00:00:55 อย่าง
00:00:55 → 00:00:59 poโพลีฟีนอลคาเฟอีนคอโลเจนic acid ซึ่ง
00:00:59 → 00:01:03 สารแรกเลยที่สำคัญที่พบแล้วช่วยให้กาแฟ
00:01:03 → 00:01:07 เนี่ยเหมือนเป็นยาต้านโรคร้ายได้ก็คือ
00:01:07 → 00:01:09 โพลิฟีนอลเขียนอย่างี้คุณเอาไปเสิร์ชหาใน
00:01:09 → 00:01:12 งานวิจัยได้เลยมีเยอะแยะเพราะว่าสารตัว
00:01:12 → 00:01:15 เนี้ยพบมากในกาแฟเนาะสารตัวนี้เ้าพบว่าจะ
00:01:15 → 00:01:18 ช่วยลดโอกาสความเสี่ยงที่คุณจะเป็นโรค
00:01:18 → 00:01:21 มะเร็งบางชนิดบางชนิดโรคมะเร็งอะไรได้
00:01:21 → 00:01:24 บ้างอย่างเช่นโรคมะเร็งลำไส้เนาะถ้าที่ไป
00:01:24 → 00:01:26 เห็นในงานวิจัยนะแล้วก็โรคเบาหวานโรคหลอด
00:01:26 → 00:01:28 เลือดสมองหลอดเลือดหัวใจและโรคสมองของ
00:01:29 → 00:01:32 เสื่อมินสันก็มีในนี้อ่าคุณดูจากภาพด้าน
00:01:32 → 00:01:37 ล่างได้เลยและสารตัวนี้ยังช่วยป้องกันโรค
00:01:37 → 00:01:40 เบาหวานโรคหัวใจอีกอ่ะไม่รู้พูดซ้ำมั้
00:01:40 → 00:01:43 เนาะแล้วเค้าก็คิดต่อสิว่าอ่ะแล้วถ้าสาร
00:01:44 → 00:01:46 ตัวเนี้ยโพลีฟีนอเนี่ยมันมีประโยชน์ขนาด
00:01:46 → 00:01:51 นี้งั้นคีย์มันก็คืออะไรคีย์มันก็คืองั้น
00:01:51 → 00:01:55 ถ้ากาแฟเมล็ดกาแฟอะไรก็ตามที่มีสารตัวนี้
00:01:55 → 00:01:58 เยอะๆเนี่ยแสดงว่าเมล็ดกาแฟนั้นก็จะให้
00:01:58 → 00:02:01 ประโยชน์คุณที่สุดเค้าก็เลยไปหาต่อแล้ว
00:02:01 → 00:02:04 เมล็ดกาแฟตัวไหนล่ะที่ให้สารโพลีฟีนอล
00:02:04 → 00:02:08 เนี่ยเยอะๆเพื่อที่เอาใจใส่รัดถูกไงดื่ม
00:02:08 → 00:02:11 ทั้งทีดื่มเพื่อต้านโรคเพื่อต้านแก่ไปเลย
00:02:11 → 00:02:13 ซึ่งก็นำไปสู่ข้อแรกที่หมอเฟิร์นกำลังจะ
00:02:13 → 00:02:14 พูดก็
00:02:14 → 00:02:18 คืออ่าก่อนจะพูดข้อแรกขอพูดอันนี้ก่อนหา
00:02:18 → 00:02:20 ภาพมาให้
00:02:20 → 00:02:25 ฟนี้น่ารักมากเลยกาแฟกับผิวหนังเนาะ
00:02:25 → 00:02:27 เกี่ยวกับ Skin Edging เค้าพบว่ากาแฟ
00:02:27 → 00:02:32 กาแฟและชามีชาเขียวด้วยนะกาแฟกับชาเขียว
00:02:32 → 00:02:36 เนี่ยจะมีสารโพลีฟีนอลอยู่เยอะซึ่งมีผล
00:02:36 → 00:02:39 โดยตรงที่ทำให้คุณเนี่ยแก่ช้าลงเพราะว่า
00:02:39 → 00:02:42 เวลาเราโดนแสงแดดโดนสารต้านอนุมูลอิสระ
00:02:42 → 00:02:45 อย่างมลพิษอะไรทั้งหลายแหละจะทำให้เซลล์
00:02:45 → 00:02:47 เราเสื่อมเซลล์เราแก่เร็วซึ่งถ้าคนที่
00:02:47 → 00:02:51 ดื่มกาแฟหรือชาเขียวเ้าพบว่ามันจะช่วย
00:02:51 → 00:02:54 ชะลอให้คุณเนี่ยแก่ช้าลงได้อ่าอันนี้เป็น
00:02:54 → 00:02:57 ทิกเล็กๆน้อยๆอยากเอามาเล่าให้ฟังเจออะไร
00:02:57 → 00:03:01 ดีก็อยากจะเอามาแบ่งปันเนาะโอเคข้อ 1 เลย
00:03:01 → 00:03:05 กันกาแฟเมล็ดที่ไหนล่ะที่มีสารโพลีฟีนอล
00:03:05 → 00:03:09 ที่เป็นพระเอกในงานนี้ก็คือเขาพบว่าเมล็ด
00:03:09 → 00:03:14 กาแฟเมล็ดใดก็ตามนะที่ปลูกในพื้นที่สูง
00:03:14 → 00:03:17 พื้นที่สูงในที่นี้ไม่ใช่ว่าอยู่บนภูเขา
00:03:17 → 00:03:19 ตรงนี้ก็เรียกว่าสูงแล้วไม่ใช่นะเค้าวัด
00:03:19 → 00:03:23 จากความสูงที่ต่างจากระดับน้ำทะเลยิ่ง
00:03:23 → 00:03:26 อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากเท่าไหร่ยิ่ง
00:03:26 → 00:03:30 พบฐานโพลีฟีนอลเนี่ยเยอะมากๆซึ่งที่ไหน
00:03:30 → 00:03:32 บ้างเดี๋ยวมาเฟิร์นยกตัวอย่างว่าที่ไหน
00:03:32 → 00:03:36 อย่างเช่นที่อธิโอเปียที่เซาทอเมริกาเนาะ
00:03:36 → 00:03:40 อเมริกาใต้หรือถ้าพูดง่ายๆเลยประเทศไทย
00:03:40 → 00:03:45 ที่สูงที่สุดคือภาคเหนืออย่างเชียงราย
00:03:45 → 00:03:48 เชียงใหม่อย่างี้เป็นต้นก็ให้คุณนำไป
00:03:48 → 00:03:52 พิจารณาในการเลือกได้ว่าโอเคกาแฟทำไมกาแฟ
00:03:52 → 00:03:55 ดอยช้างถึงดังเพราะว่ามันมีสารตัวนี้เยอะ
00:03:55 → 00:03:58 ด้วยทำไมกาแฟกาแฟเชียงรายถึงดังจังเลย
00:03:58 → 00:04:01 อย่างที่หมอเฟิร์นผลิตมาก็ให้สารตัวนี้
00:04:01 → 00:04:03 เยอะเหมือนกันเพราะเค้าคอนเฟิร์มมาแล้ว
00:04:03 → 00:04:06 ว่ายิ่งสูงยิ่งมีประโยชน์เนาะเมล็ดกาแฟ
00:04:06 → 00:04:12 ข้อถัดไปข้อที่ 2 ที่คุณจะต้องรู้นะก็คือ
00:04:12 → 00:04:17 การขั้วปิดรูปนี้ก่อนจะได้เห็นเราชัดๆการ
00:04:17 → 00:04:21 คั่วของกาแฟก็สำคัญนะหลายคนอาจจะเพิ่ง
00:04:21 → 00:04:24 เข้ามาในวงการกาแฟแต่ถ้าใครที่เป็นคอกาแฟ
00:04:24 → 00:04:27 อยู่แล้วจะรู้ว่ากาแฟแฟร์มันมีขั้วหลักๆ
00:04:27 → 00:04:30 อยู่ 3 ระดับก็คือขั้วอ่อนขั้วกลางขั้ว
00:04:30 → 00:04:34 เข้มยิ่งขั้วเข้มก็ยิ่งใช้ระยะเวลาในการ
00:04:34 → 00:04:38 ขั้วนานซึ่งยิ่งขั่วนานแน่นอนว่าสารสำคัญ
00:04:38 → 00:04:41 ในกาแฟอย่างพวกวิตามินต่างๆก็จะเสื่อม
00:04:41 → 00:04:44 สลายไปตามกาลเวลาที่คุณขั้วเลยอย่างเช่น
00:04:44 → 00:04:46 สารต้านอนุมูลอิสระที่เราต้องการอย่าง
00:04:46 → 00:04:50 โพลิฟีนอลเนี่ยก็จะค่อยๆลดลงและเค้ายังพบ
00:04:50 → 00:04:55 อีกว่าในการขั้วสำคัญตรงที่ว่าในกาแฟที่
00:04:56 → 00:04:59 ขั้วที่ใช้เวลาน้อยอย่างขั้วอ่อนนะจะมี
00:05:00 → 00:05:02 สารต้านอักเสบตัวหนึ่งที่ชื่อว่า
00:05:02 → 00:05:06 คอโลเจนic acid เขียนยังไงอ่าขึ้นให้ก่อน
00:05:06 → 00:05:09 เผื่อคุณอยากเอาไปหาเนาะคอลโลเจนic acid
00:05:09 → 00:05:13 นะเ้าพบว่าจะพบมากในกาแฟขั้วอ่อนมากกว่า
00:05:14 → 00:05:17 ขั้วอื่นๆเพราะว่าใช้ความร้อนและระยะเวลา
00:05:17 → 00:05:20 ขั้วน้อยไงเค้าเลยพบสารนี้สารนี้สำคัญกับ
00:05:20 → 00:05:23 ตัวเรายังไงสารนี้มีความสำคัญตรงที่ว่าจะ
00:05:23 → 00:05:27 ช่วยลดการอักเสบของเซลล์ได้เมื่อเซลล์เรา
00:05:27 → 00:05:29 อักเสบเซลล์อักเสบเป็นยังไงถ้าภายนอกชัด
00:05:29 → 00:05:32 เจนเลยเวลาคุณโดนแดดผิวจะแดงคุณเป็นสิว
00:05:33 → 00:05:35 สิวอักเสบผิวหน้าแดงอย่างงี้หรือว่าเวลา
00:05:35 → 00:05:38 คุณปวดบวมแดงร้อนนั่นแหละเซลล์อักเสบแต่
00:05:38 → 00:05:40 ข้างในอ่ะสิเวลาถ้าอักเสบข้างในเราอาจจะ
00:05:40 → 00:05:43 ไม่เห็นแต่อาจจะแสดงออกมาเป็นอาการปวดหัว
00:05:43 → 00:05:46 ปวดเมื่อยกล้ามเนื้ออะไรแบบนี้เป็นต้น
00:05:46 → 00:05:50 เนาะซึ่งถ้าคุณปล่อยให้เซลล์ของคุณอักเสบ
00:05:50 → 00:05:54 ซ้ำๆบ่อยๆแน่นอนส่งผลต่อร่างกายโดยรวมโดย
00:05:54 → 00:05:57 การที่คุณเนี่ยจะแก่เร็วร่างกายเสื่อม
00:05:57 → 00:06:00 เร็วพอร่างกายเซลล์เสื่อมเร็วเซลล์ดาเมจ
00:06:00 → 00:06:03 เซลล์ถูกทำลายคุณก็จะป่วยง่ายขึ้นนั่นเอง
00:06:03 → 00:06:07 ง่ายกว่าการที่กว่าคนที่เซลล์ไม่อักเสบ
00:06:07 → 00:06:13 เนาะโอเคแล้วถ้าแน่นอนถ้าคุณได้ทานสารตัว
00:06:13 → 00:06:16 นี้เข้าไปที่อยู่ในกาแฟนะอย่างที่พบมากใน
00:06:16 → 00:06:19 ขั้วอ่อนก็จะช่วยทำให้คุณเนี่ยเสื่อมช้า
00:06:19 → 00:06:21 แกะช้าแล้วคุณก็จะดูอ่อนกว่าวัยไม่ค่อย
00:06:21 → 00:06:24 เจ็บไม่ค่อยป่วยเหมือนหมอเฟิร์นนั่นเองใบ
00:06:24 → 00:06:26 ไผ่บอกว่ามาแล้วค่ะสวัสดีค่ะแชร์แป๊บ
00:06:26 → 00:06:29 ขอบคุณค่ะที่แชร์ใครที่เข้ามาใหม่ก็แชร์
00:06:29 → 00:06:33 ได้อะไรก็หรือว่าทักทายกันก็ได้เนาะอ่ะ
00:06:33 → 00:06:36 เรามาข้อ 2 แล้วเนาะก็คือการ
00:06:36 → 00:06:40 อักเสบต่อไปเช็คลิสต์ข้อที่ 3 ก็
00:06:40 → 00:06:44 คือการบดการบดเนี่ยเป็นเรื่องรายละเอียด
00:06:44 → 00:06:47 อ่อนมากเลยนะถ้าไม่ถ้าคุณไม่ดื่มกาแฟถ้า
00:06:47 → 00:06:49 คุณมาฟังคุณอาจจะไม่ค่อยเข้าใจแต่ว่าฟัง
00:06:49 → 00:06:51 ไว้เป็นความรู้ก็ได้เพราะว่าหมอเฟิร์น่ะ
00:06:51 → 00:06:54 เป็นคอกาแฟแล้วก็พูดได้เลยว่าอาจจะหมก
00:06:54 → 00:06:57 มุ่นกับเรื่องนี้เยอะเหมือนกันเพราะว่า
00:06:57 → 00:07:00 เราก็เป็นคนนึงที่ผลิตกาแฟมาดื่มเหมือน
00:07:00 → 00:07:04 กันเราก็เลยทำรีเสิร์ชทำการบ้านหลังบ้าน
00:07:04 → 00:07:06 เยอะเราเลยรู้เรื่องนี้เยอะแล้วมาแชร์ให้
00:07:06 → 00:07:08 คุณว่าเออถ้าคุณรู้เหมือนกันแล้วคุณใช้
00:07:08 → 00:07:10 เทคนิคเหมือนหัวเฟิร์นไปเลือกดื่มกาแฟคุณ
00:07:10 → 00:07:12 ก็จะได้รับประโยชน์สูงสุดที่จะไปช่วยต้าน
00:07:13 → 00:07:16 แก่ชะลอไว้ได้หมดเลยอ่ะข้อนี้เรามาพูดถึง
00:07:16 → 00:07:19 การบดเนาะนักบดกาแฟเนี่ยหรือนักชิมกาแฟคอ
00:07:19 → 00:07:23 กาแฟบาริต้าเนี่ยจะรู้ดีว่ารสชาติกาแฟที่
00:07:23 → 00:07:27 อร่อยที่สุดที่หอมที่สุดก็คือกาแฟที่
00:07:27 → 00:07:29 เพิ่งบดมาใหม่ๆที่เขา้าปั่นๆกันน่ะเพิ่ง
00:07:29 → 00:07:32 บดมาใหม่ๆแล้วก็นำมาชงดื่มเพราะว่าเวลา
00:07:32 → 00:07:35 ที่เราบดกาแฟแล้วเราทิ้งไว้อ่ะแล้วมันไป
00:07:35 → 00:07:37 โดนกับอากาศอ่ะมันจะไปทำปฏิกิริยาอะไรบาง
00:07:37 → 00:07:40 อย่างนั่นแหละจะทำให้รสชาติเนี่ยมัน
00:07:40 → 00:07:43 เสื่อมลงแน่นอนรสชาติอาจจะไม่ได้ดีแต่ไม่
00:07:43 → 00:07:46 ต้องเสียใจไปเพราะประโยชน์มันยังคงอยู่
00:07:46 → 00:07:50 แต่ถ้าต้องการสารสำคัญอย่างโพลิฟีนอที่
00:07:50 → 00:07:53 เราพูดไปข้างต้นเนาะขึ้นก่อนถ้าต้องการ
00:07:53 → 00:07:57 สารตัวนี้เยอะๆเค้าก็ไปทำการทดสอบมาอีก
00:07:57 → 00:08:01 แล้วว่าทำยังไงต้องบดแบบไหนเพื่อให้ได้
00:08:01 → 00:08:05 สกัดแล้วได้สารนี้เยอะๆก็คือเขาพบว่ายิ่ง
00:08:05 → 00:08:08 คุณบดกาแฟละเอียดมากเท่าไหร่นะก็จะยิ่ง
00:08:08 → 00:08:12 ได้สารต้านอนุมูลอิสระอย่างโพลิฟนอลเนี่ย
00:08:12 → 00:08:16 เยอะเท่านั้นซึ่งเขาพบว่ากาแฟการหมอ
00:08:16 → 00:08:20 เฟิร์นขึ้นรูปให้ดูดีกว่าอ่ะการชงมันก็
00:08:20 → 00:08:22 คือก็เกี่ยวตรงที่
00:08:22 → 00:08:26 ว่าเค้าจะใช้เมล็ดกาแฟที่บดแต่ละประเภท
00:08:26 → 00:08:28 เนี่ยไม่เหมือนกันกับการชงเนาะซึ่งหมอ
00:08:28 → 00:08:31 เฟิร์นก็พบว่ายอดฮิตเลยก็คือการชงแบบ
00:08:31 → 00:08:34 เอเปสซoเนาะก็คือเวลาไปร้านแล้วเขาจะมี
00:08:34 → 00:08:36 เครื่องกาแฟเป็นแสนๆนั่นแหละก็คือใช้เมเม
00:08:37 → 00:08:39 เมเมล็ดกาแฟที่บดละเอียดหน่อยอย่างถ้าดิฟ
00:08:39 → 00:08:43 ก็อยู่ประมาณตรงกลางเนาะซึ่งถ้าเข้มเกิน
00:08:43 → 00:08:46 ไปบางคนอาจจะไม่ชอบกาแฟที่ชงมาจากเครื่อง
00:08:46 → 00:08:49 เพราะว่ามันขมมันเข้มคุณสามารถเปลี่ยน
00:08:50 → 00:08:52 เป็นกาแฟแบบดิฟได้ก็จะลดความเข้มลงโดยที่
00:08:52 → 00:08:55 คุณเลือกเมล็ดกาแฟที่บดละเอียดเหมือนเดิม
00:08:55 → 00:08:59 ก็จะได้สารสำคัญแบบนี้เยอะเหมือนเดิมและ
00:08:59 → 00:09:01 ที่หมอเฟิร์นเชียร์เป็นพิเศษแล้วตัวเองก็
00:09:01 → 00:09:04 ดื่มด้วยก็คือเป็นการดื่มแบบดิฟเนาะก็คือ
00:09:04 → 00:09:07 ตรงกลางรูปตรงกลางนี้ที่เหมือนจะมีกระดาษ
00:09:07 → 00:09:11 ที่คอยกรองเป็นกระดาษกรองน้ำมันกาแฟออกไป
00:09:11 → 00:09:14 ไอ้น้ำมันกาแฟเนี่ยเค้ามีวิจัยพบว่ามันมี
00:09:14 → 00:09:18 ส่วนไปทำให้ไขมันคอเลสเตอรอลในร่างกายของ
00:09:18 → 00:09:20 เราเพิ่มเล็กน้อยซึ่งหมอเฟิร์นไม่อยากได้
00:09:20 → 00:09:23 ตรงนี้หมอเฟิร์นก็เลยดื่มเป็นกาแฟแบบชง
00:09:23 → 00:09:26 แบบดิฟเนาะเพราะว่าให้มันกรองน้ำมันออกไป
00:09:26 → 00:09:30 ซึ่งไอ้น้ำมันกาแฟที่ชื่อคอสตอลนี่แหละ
00:09:30 → 00:09:32 มันจะเป็นผลที่ถ้าเราดื่มไปนานๆเนี่ยอาจ
00:09:32 → 00:09:34 จะไปเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้ดัง
00:09:34 → 00:09:37 นั้นเราก็เลยเลือกที่ปลอดภัยกับเราที่สุด
00:09:37 → 00:09:39 เพราะเราดื่มเกือบทุกวันก็คือถ้าจะให้
00:09:39 → 00:09:43 เชียร์ก็คุณเลือกเมล็ดที่บดละเอียดแต่ให้
00:09:43 → 00:09:46 ชงแบบดิฟแบบนี้อ่ะสรุปให้เลยการบดก็คือ
00:09:46 → 00:09:50 ยิ่งบดละเอียดยิ่งมีประโยชน์มากอ่าแล้ว
00:09:50 → 00:09:52 ข้อต่อ
00:09:52 → 00:09:55 ไปมาเร็วไหนเราอ่านคอมเมนต์หน่อยซิใบไพ่
00:09:55 → 00:09:57 บอกความรู้สุขภาพดีๆต้องแบ่งปันคายยิ่ง
00:09:58 → 00:10:01 ให้ยิ่งได้จริงๆขอบคุณค่ะใครชอบคอเทน
00:10:01 → 00:10:04 สุขภาพดีๆแบบนี้ช่วยกันแชร์ได้นะคะขอบคุณ
00:10:04 → 00:10:07 ค่ะขอบคุณมากๆ
00:10:07 → 00:10:13 เลยข้อที่ 4 ข้อที่ 4 คืออุณหภูมิน้ำที่
00:10:13 → 00:10:16 คุณชงอันนี้เป็นรายละเอียดยิบย่อยเล็กๆ
00:10:16 → 00:10:20 มากอ่ะแต่มันสำคัญสำคัญตรงไหนเขาพบว่าถ้า
00:10:20 → 00:10:27 คุณใช้น้ำเดือดที่อุณหภูมิ 90 ถึง 95
00:10:27 → 00:10:31 องศาจะทำให้เวลาที่คุณชงกาแฟเนี่ยมันไป
00:10:31 → 00:10:34 ช่วยสกัดสารสังคารที่อยู่ในเมล็ดเนี่ยออก
00:10:34 → 00:10:37 มาได้ดีที่สุดซึ่งถ้าบางคนบอกว่าฉันไม่
00:10:37 → 00:10:40 ได้มีเครื่องวัดอุณหภูมิหมอเฟิร์นก็ไม่มี
00:10:40 → 00:10:42 เหมือนกันซึ่งมีทริกเล็กๆน้อยๆให้ใครไม่
00:10:42 → 00:10:46 มีเครื่องวัดอุณหภูมิคุณสามารถใช้น้ำที่
00:10:46 → 00:10:49 ต้มผึ้งเดือดแล้วรออีก 30 วินาทีนาทีแล้ว
00:10:49 → 00:10:52 ค่อยมาชงอันเนี้ยก็จะได้อุณหภูมิประมาณ
00:10:52 → 00:10:55 90-95 พอดีซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ดีที่สุด
00:10:55 → 00:10:58 ในการสกัดสารสำคัญที่อยู่ในเมล็ดกาแฟมา
00:10:58 → 00:11:01 ดื่มเนาะดังนั้นทริกนี้ง่ายมากหลายคนแต่
00:11:01 → 00:11:04 หลายคนก็อาจจะสงสัยว่าแล้วถ้าแบบนี้คนที่
00:11:04 → 00:11:07 ดื่มกาแฟสกัดเย็นยังจะได้ประโยชน์อยู่มั้
00:11:07 → 00:11:11 หมอเฟิร์นตอบได้เลยยังมีอยู่ยังมีอยู่แต่
00:11:11 → 00:11:14 อาจจะไม่ได้เยอะเท่ากับการที่ชงในน้ำร้อน
00:11:14 → 00:11:18 เนาะอาจจะมีประมาณ 80% แบบนี้ก็ได้สกัด
00:11:18 → 00:11:21 อะไรก็ยังได้อยู่แต่ถ้ามากที่สุดเราพูด
00:11:21 → 00:11:23 ถึงในมุมมุมมองที่ดีที่สุดได้ประโยชน์สูง
00:11:23 → 00:11:28 สุดคือดื่มโดยชงแบบร้อนเนาะซึ่งข้อดีถ้า
00:11:28 → 00:11:31 คนดื่มสกัดเย็นนะหมอเฟิร์นก็เคยดื่มข้อดี
00:11:31 → 00:11:33 ของมันก็คือจะมีความเป็นกรดน้อยแล้วรส
00:11:33 → 00:11:37 ชาติเนี่ยจะขมน้อยกว่ากาแฟที่ชงแบบร้อน
00:11:37 → 00:11:39 ซึ่งก็เลยดื่มง่ายสำหรับมือใหม่ถ้าใคร
00:11:39 → 00:11:42 เป็นมือใหม่สามารถดื่มกาแฟแบบสกัดเย็นก็
00:11:42 → 00:11:46 ได้แล้วพอมันดื่มง่ายมันไม่ขมคุณก็ไม่จำ
00:11:46 → 00:11:48 มันเลยทำให้คุณเนี่ยไม่ต้องไปเติมน้ำตาล
00:11:48 → 00:11:52 ไม่ต้องไปเติมนมก็ได้ดื่มกาแฟดำได้เลยแต่
00:11:52 → 00:11:54 ถ้าใครที่ยังอยากได้เปลิดสูญสุดก็มีทริก
00:11:54 → 00:11:59 เหมือนกันโดยการชงด้วยน้ำร้อนนั่นแหละแต่
00:11:59 → 00:12:02 ให้เอาน้ำแข็งไว้ในแก้วแล้วก็ชงแล้วให้
00:12:02 → 00:12:05 มันไหลผ่านน้ำแข็งไปแบบเนี้ยมันเรียกว่า
00:12:06 → 00:12:09 การชงแบบแฟชบueเนาะเป็นยังไงเดี๋ยวให้ดู
00:12:09 → 00:12:11 รูปว่ามันชงยังไงแบบนี้เนาะชงแบบดิฟนี่
00:12:11 → 00:12:14 แหละแล้วคุณจะสังเกตว่ามีน้ำแข็งอยู่ข้าง
00:12:14 → 00:12:18 ในชงผ่านน้ำร้อนเนี่ยแหละแบบเนี้ยเงี้ยก็
00:12:18 → 00:12:21 คือจะช่วยทำให้ยังได้ประโยชน์สูญสุขแล้ว
00:12:21 → 00:12:23 กาแฟเนี่ยรสชาติดีด้วยดื่มง่ายไม่ขม
00:12:24 → 00:12:26 อย่างี้อ่านี้เป็นทิกเล็กๆน้อยๆเอามา
00:12:26 → 00:12:30 ให้ข้อถัดไปข้อสุดท้ายละพูดเรื่องกาแฟ
00:12:30 → 00:12:33 แล้วอินทุกทีเลยเพราะว่าเราชอบกินชอบดื่ม
00:12:33 → 00:12:37 ไงอ่ะข้อนี้หลายคนรู้ดีว่ากาแฟที่ให้
00:12:37 → 00:12:40 ประโยชน์สูงสุดไม่ใช่กาแฟ inone ไม่ใช่
00:12:40 → 00:12:43 กาแฟสำเร็จรูปไม่ใช่กาแฟที่เติมใดๆทั้ง
00:12:43 → 00:12:48 สิ้นแต่คือกาแฟดำนั่นเองขอเอาโดนสิวนี้ลง
00:12:48 → 00:12:51 หน่อยแต่คือกาแฟดำนั่นเองกาแฟดำก็คือกาแฟ
00:12:51 → 00:12:53 ที่ไม่เติมอะไรเลยไม่ใส่cอฟeเมจไม่ใส่
00:12:53 → 00:12:57 ครีมเทียมอ่ะอันเดียวกันนี่ไม่ใส่น้ำตาล
00:12:57 → 00:13:00 ไม่ใส่ใดๆทั้งสิ้นกาแฟแบบเพียวๆเลยในงาน
00:13:01 → 00:13:05 วิจัยเนี่ยเขาค้าก็พบว่าถ้าคุณดื่มแค่ 4-5
00:13:05 → 00:13:09 แก้วนะ 4-5 แก้วในที่นี้ก็คือแก้วละ
00:13:09 → 00:13:12 ประมาณแก้วเล็กอ่ะแก้วละ 200 ml จะได้
00:13:12 → 00:13:15 ประโยชน์สูงสุดแต่ 4-5 แก้วหมอเฟิร์นก็
00:13:15 → 00:13:18 ยังมองว่ามันเยอะเกินเกินไปอยู่ดีคุณ
00:13:18 → 00:13:21 สามารถดื่มแค่วันละแก้ว 2 แก้วก็พอแล้ว
00:13:21 → 00:13:24 แล้วถ้าคุณอยากได้สารสำคัญอย่างที่หมอ
00:13:24 → 00:13:27 เฟิร์นพูดโพลี่เนี่ยคุณทานจากอาหารตัว
00:13:27 → 00:13:30 อื่นๆก็ได้คุณไม่จำเป็นต้องมาดื่มแต่กาแฟ
00:13:30 → 00:13:33 เพราะว่าถ้าดื่มเยอะเกินไปมันอาจจะเกิดผล
00:13:33 → 00:13:37 เสียได้ซึ่ง FDA หรือที่เรียกว่าอย.บ้าน
00:13:37 → 00:13:40 เราเนาะเาก็กำหนดไว้ว่าคาเฟอีนต่อวันถ้า
00:13:40 → 00:13:45 จะให้ปลอดภัยที่สุดไม่ควรดื่มหรือกินเกิน
00:13:45 → 00:13:48 วันละ 400 มิลกรัมต่อวันแล้วมันขนาดไหน
00:13:48 → 00:13:50 ล่ะถ้าพูดเป็นตัวเลขคุณก็มองไม่ออกเนาะ
00:13:50 → 00:13:54 หมอเวฟเวินก็ไปหารูปมาให้ว่า 400 มลกรัม
00:13:54 → 00:13:57 ต่อวันเนี่ยเทียบเท่ากับแก้วกาแฟเท่าไหร่
00:13:57 → 00:14:00 ถ้าเป็นแก้วช็อตเนาะก็ประมาณ 5 แก้วถ้า
00:14:00 → 00:14:04 คุณดื่มแบบดิฟแก้วเล็กๆนี่แหละก็ประมาณ 4
00:14:04 → 00:14:08 แก้วครึ่งอืดังนั้นถ้าให้เซฟที่สุดใครที่
00:14:08 → 00:14:12 เป็นคอกาแฟอยู่ไม่ควรดื่มเกินนี้และไม่
00:14:12 → 00:14:15 ควรหรือถ้าคุณไม่ถ้าคุณบอกว่าหมอเฟิร์น
00:14:15 → 00:14:17 บอกว่าให้ดื่ม 4-5 แก้วจะได้ประโยชน์สูน
00:14:18 → 00:14:21 สุดหยุดคุณสามารถกินอาหารอย่างอื่นเพื่อ
00:14:21 → 00:14:23 ให้ได้โพลิฟีนอลได้ซึ่งหมอเฟิร์นก็เตรียม
00:14:23 → 00:14:26 มาละไม่จำเป็นต้องได้รับจากกาแฟอย่าง
00:14:26 → 00:14:29 เดียวก็ได้คุณสามารถกินดื่มอาหารอื่นๆให้
00:14:29 → 00:14:32 มันหลากหลายอ่ะอันนี้สโลแกนของเราเนาะกิน
00:14:32 → 00:14:34 อาหารเป็นยาแล้วก็กินให้หลากหลายไม่
00:14:34 → 00:14:36 จำเป็นต้องตะบี้ตะบันกินอย่างเดียวอย่าง
00:14:36 → 00:14:39 เงี้ยไม่เอายิ่งหลากหลายยิ่งได้ประโยชน์
00:14:39 → 00:14:43 สูงสุดโพลีฟีนอสามารถพบในไหนได้บ้างอ่ะ
00:14:43 → 00:14:46 หมอเฟิร์นก็เอามาบอกนี่เยอะเลยผลไม้บ้าน
00:14:46 → 00:14:51 เราเนี่ยมีเยอะแยะเลยอย่างพวกสีม่วงเนาะ
00:14:51 → 00:14:55 บลูเบอร์รี่มะเขือเทศแตงโมอะไรอีกในเนี้ย
00:14:55 → 00:14:58 คุณไปดูในรูปเอาอันเนี้ยเป็นผลไม้ผัก
00:14:58 → 00:15:00 ผลไม้ที่ให้สารโพลิฟีนอลเหมือนกันคุณไม่
00:15:01 → 00:15:03 ต้องเอาเฉพาะกาแฟก็
00:15:03 → 00:15:06 ได้อ่ะ
00:15:06 → 00:15:09 ต่อไปก็คือแต่ถ้าใครบอกว่าอ่ะฟังหมอ
00:15:09 → 00:15:12 เฟิร์นแล้วประโยชน์มันเยอะจังเลยอยากลอง
00:15:12 → 00:15:15 ดื่มกาแฟบ้างคุณสามารถดื่มได้แต่ว่าคุณ
00:15:15 → 00:15:19 บอกว่าแต่ว่าฉันไวต่อกาแฟมากเลยดื่มแล้ว
00:15:19 → 00:15:24 ใจสั่นดื่มแล้วปวดหัวบางคนก็มี DNA ที่ไว
00:15:24 → 00:15:27 ต่อคาเฟอีนดังนั้นถ้าคุณอยากดื่มอาจจะลอง
00:15:27 → 00:15:30 ดื่มจากกาแฟที่เป็น DCAP ก็ได้เนาะก็คือ
00:15:30 → 00:15:34 เขาจะสกัดสารคาเฟอีนออกไปแล้วซึ่งสกัดออก
00:15:34 → 00:15:37 ไปแต่ยังมีอยู่นะสกัดออกไปประมาณ 97% แต่
00:15:37 → 00:15:39 ยังมีอยู่เล็กน้อยก็ถ้ายังอยากได้
00:15:39 → 00:15:41 ประโยชน์อย่างโพลิฟีนอลแอนตี้ออกซidน
00:15:41 → 00:15:43 วิตามินอื่นๆที่อยู่ในกาแฟนะให้ลองดื่ม
00:15:43 → 00:15:46 จาก Dcap ก็ได้ถ้าใครที่แพ้คาเฟอีนเนาะ
00:15:46 → 00:15:49 แต่ถ้าใครไม่แพ้ก็เคลียร์ให้ดื่มเป็นกาแฟ
00:15:49 → 00:15:53 ดำแบบดิฟเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดอ่ะแถม
00:15:53 → 00:15:56 จริงๆ 5 ข้อแต่หมอเฟิร์นขอแถมไหนๆก็มาให้
00:15:56 → 00:15:58 สุดละวิธีการเลือกกาแฟให้ได้ประโยชน์สูง
00:15:58 → 00:16:01 สุดเนี่ยข้อที่ 6 แล้วะกันถ้าจะเลือกมา
00:16:01 → 00:16:03 ทั้ง 5 ข้อแล้วเนี่ยเติมเข้าไปอีก 1 ข้อ
00:16:03 → 00:16:05 ให้คุณได้ประโยชน์ที่สุดจริงๆอ่ะก็คือ
00:16:05 → 00:16:09 กาแฟให้เลือกที่เขียนว่าออร์แกนิคเพราะ
00:16:09 → 00:16:12 อะไรเพราะเวลาเราดื่มเรากินอะไรอ่ะได้
00:16:12 → 00:16:16 ประโยชน์ก็จริงแต่ถ้าแถมสารเคมีมาด้วยแบบ
00:16:16 → 00:16:19 นี้ไม่เอาไม่เวิร์คแทนที่เราจะได้
00:16:19 → 00:16:22 ประโยชน์อย่างเดียวเราก็ควรจะลดความ
00:16:22 → 00:16:24 เสี่ยงจากสารเคมีต่างๆเราไม่รู้ว่าเค้า
00:16:24 → 00:16:27 ผลิตมายังไงเค้าอาจจะใส่สารเคมีเพื่อเป็น
00:16:27 → 00:16:32 ยาฆ่าแมลงเป็นยาฆ่าอะไรนะค่าวัชพืชอะไร
00:16:32 → 00:16:34 ทั้งหลายแหล่ซึ่งเราไม่ต้องการสารตัวนี้
00:16:34 → 00:16:38 ถ้าไหนเราจะเป็นสายลักษณ์สุขภาพมาละให้
00:16:38 → 00:16:40 เลือกแบบออร์แกนิคไปเลยดูสังเกตได้เองจาก
00:16:40 → 00:16:43 ตรงนี้จะมีตาออร์แกนิคแบบนี้ก็จะเชื่อถือ
00:16:43 → 00:16:46 ได้หรือว่าที่เขียนว่าออร์แกนิคคุณเอาไป
00:16:46 → 00:16:49 เลือกได้หมดเลยสรุปแล้วกัน 5 ข้อมีอะไร
00:16:49 → 00:16:52 บ้างที่จะทำให้คุณเนี่ยดื่มกาแฟแล้วช่วย
00:16:52 → 00:16:56 ต้านแก่ต้านโรคได้ก็คือข้อ 1 นะให้เลือก
00:16:56 → 00:16:59 กาแฟที่ปลูกในพื้นที่สูงอย่างประเทศไทยก็
00:17:00 → 00:17:03 ภาคเหนือเนาะข้อ 2 ก็คือให้ดูว่ามันเป็น
00:17:03 → 00:17:06 ขั้วอะไรซึ่งขั้วอ่อนเนี่ยจะให้สารต้าน
00:17:06 → 00:17:08 อนุมูลอิสระแล้วก็สารสำคัญอย่างโพลิฟนอล
00:17:08 → 00:17:11 สูงที่สุดข้อ 3 ก็คือดูที่การบดยิ่งบด
00:17:11 → 00:17:14 ละเอียดสารสำคัญที่ให้ประโยชน์เนี่ยยิ่ง
00:17:14 → 00:17:18 เยอะข้อ 4 ก็คือให้ดูที่อุณหภูมิน้ำที่ชง
00:17:18 → 00:17:20 อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดในการสกัดสาร
00:17:20 → 00:17:25 สำคัญของเมล็ดกาแฟก็คือ 90-95 องศถ้าใคร
00:17:25 → 00:17:28 ไม่มีเครื่องวัดไม่เป็นไรคุณก็ต้มน้ำให้
00:17:28 → 00:17:30 เดือดแล้วรอ 30 วินาทีแล้วค่อยนำน้ำเนี่ย
00:17:30 → 00:17:34 มาชงก็จะได้อุณหภูมิ 90-95 องศนั่นแหละ
00:17:34 → 00:17:37 ข้อที่ 5 ให้ดื่มเป็นกาแฟดำอย่าเติมน้ำ
00:17:37 → 00:17:40 ตาลนมครีมเทียมไม่เติมสักอย่างเลยอันนี้
00:17:40 → 00:17:43 จะได้ประโยชน์สูงสุดข้อที่ 6 ที่แถมก็คือ
00:17:43 → 00:17:47 ให้เลือกกาแฟที่เป็นออร์แกนิคยิ่ง USDA
00:17:47 → 00:17:50 รับรองยิ่งดีเลยก็คือมาตรฐานสากลเนาะเรา
00:17:50 → 00:17:54 จะดื่มจะกินอะไรทั้งทีเราจะไม่เอาสารเคมี
00:17:54 → 00:17:57 เพิ่มไม่ว่าจะเป็นกาแฟหรืออาหารชนิดใดก็
00:17:57 → 00:18:00 ตามให้เลือกที่ออร์แกนิคอ่ะแต่ท่านใดที่
00:18:00 → 00:18:03 อยากดื่มแต่ตัวเองเนี่ยไวต่อสารคาเฟอีน
00:18:03 → 00:18:06 มากเลยแต่ยังอยากดื่มอยากได้สารต้านแก่
00:18:06 → 00:18:09 อยากได้สารต้านโรคที่หมอเฟิร์นพูดไปเนี่ย
00:18:09 → 00:18:12 คุณสามารถลองทดลองดื่มได้แต่ให้เป็นดื่ม
00:18:12 → 00:18:18 แบบเนาะก็คือกาแฟที่สกัดคาเฟอีนออกไป 97%
00:18:18 → 00:18:20 ก็คือยังเหลืออยู่นิดเดียวคุณก็ยังดื่ม
00:18:20 → 00:18:22 ได้แล้วคุณก็ยังจะได้โพลิฟนอลแล้วก็ได้
00:18:22 → 00:18:25 แอนตี้ออกซิดอยู่หรือถ้าไม่ได้จริงๆคุณ
00:18:25 → 00:18:28 สามารถดื่มเป็นชาแทนก็ได้ชาเขียวชาอูหลง
00:18:28 → 00:18:30 อย่างี้ก็มีประโยชน์เหมือนกันได้
00:18:30 → 00:18:33 แอนตี้ออกซิดเหมือนกันได้สารต้านแกะต้าน
00:18:33 → 00:18:36 โรคเหมือนกันส่วนท่านใดที่เป็นคอกาแฟสาย
00:18:37 → 00:18:39 รักสุขภาพเหมือนหมอเฟิร์นนะสามารถนำ
00:18:39 → 00:18:41 เช็คลิสต์ 5 ข้อที่หมอเฟิร์นพูดไปที่สรุป
00:18:42 → 00:18:45 ไปเนี่ยเอาไปใช้เอาไปประยุกต์ในการเลือก
00:18:45 → 00:18:48 ดื่มกาแฟของคุณได้เพราะว่าอันสิ่งเนี้ยก็
00:18:48 → 00:18:50 คือเคล็ดลับส่วนตัวที่หมอเฟิร์นใช้เลือก
00:18:50 → 00:18:52 เองเหมือนกันวันนี้ก็เลยอยากเอามาแบ่งปัน
00:18:52 → 00:18:55 ให้คุณที่ชอบดื่มกาแฟเหมือนกันเนาะหมอ
00:18:55 → 00:18:58 เฟิร์นเวลาจะเลือกซื้อเมล็ดกาแฟก็ดูอย่าง
00:18:58 → 00:19:02 เงี้ยเหมือนกันเพราะว่าเรารักสุขภาพรัก
00:19:02 → 00:19:05 ตัวเองเวลาเลือกก็เลยต้องมีกระบวนการนิด
00:19:05 → 00:19:08 นึงเนาะก็เลยเอามาแชร์เนาะถ้ามันเป็น
00:19:08 → 00:19:10 ประโยชน์อย่าลืมกดไลก์กดแชร์แบ่งปันไปให้
00:19:10 → 00:19:14 คนที่คุณรักได้เลยบอกกาแฟใส่ผงมะพร้าว
00:19:14 → 00:19:18 สกัดเย็นแทนครีมเทียมได้ไหมคุณหมออ่ะถ้า
00:19:18 → 00:19:24 ถามแบบนี้ก็ได้เหมือนกันถ้าเกิดว่าจะใช้
00:19:24 → 00:19:29 ผงมะพร้าวเพื่อทดแทนครีมเทียมนะถ้าให้
00:19:29 → 00:19:32 เลือก 2 อย่างระหว่างครีมเทียมกับผง
00:19:32 → 00:19:34 มะพร้าวหมอเฟิร์นก็จะเลือกผงมะพร้าวแต่
00:19:34 → 00:19:37 ถ้าให้เลือกผงมะพร้าวกับไม่ใส่อะไรเลยหมอ
00:19:37 → 00:19:40 เฟิร์นก็จะเลือกไม่ใส่อะไรเลยเพราะว่าถ้า
00:19:40 → 00:19:42 จะให้ประโยชน์สูญสุดก็คือไม่ใส่อะไรเลย
00:19:42 → 00:19:46 แต่ถ้ามือใหม่เพิ่งเริ่มดื่มกาแฟแล้วค่อย
00:19:46 → 00:19:48 อยากดื่มเป็นดำค่อยๆเปลี่ยนก็ได้อย่างบาง
00:19:48 → 00:19:51 คนใส่น้ำตาลคุณก็อาจจะเปลี่ยนเป็นหล่อ
00:19:51 → 00:19:53 อังก๊วยสารให้ความหวานแทนน้ำตาลอย่างหญ้า
00:19:53 → 00:19:57 หวานหรือน้ำผึ้งค่อยๆลดไปจนดื่มแบบไม่ใส่
00:19:57 → 00:20:00 อะไรเลยอันเนี้จะมีประโยชน์ที่ที่สุดอ่า
00:20:00 → 00:20:03 อันนี้ก็ถือเป็นคำตอบน่าจะได้คำตอบเนาะ
00:20:03 → 00:20:05 ถ้าให้เลือก 2 อย่างนี้เราจะเลือกอย่าง
00:20:05 → 00:20:08 ที่ให้ประโยชน์สูงสุด
00:20:08 → 00:20:12 เสมอแต่โอเคใครมีคำถามอีกมั้ยหมอเฟิร์นก็
00:20:12 → 00:20:17 จะตอบให้เนาะวันนี้
00:20:17 → 00:20:20 ก็ใครสนใจก็ CF ละกันส่วนใครที่ฟังไม่ทัน
00:20:21 → 00:20:23 ก็ฟังย้อนหลังได้เรื่อยๆเนาะไม่มีลบคลิป
00:20:23 → 00:20:27 วันนี้ก็ขออวยพรถ้าไม่มีคำถามนะก็จะก็จะ
00:20:27 → 00:20:30 อวยพรละอวยพรให้คุณเนี่ยมีสุขภาพดีขึ้น
00:20:30 → 00:20:33 และหน้าเด็กลงรักทุกคนค่ะแล้วก็ขอบคุณทุก
00:20:33 → 00:20:35 คนที่เข้ามาฟังไลฟ์สดในวันนี้หรือว่าฟัง
00:20:35 → 00:20:40 ย้อนหลังขอบคุณทุกคนจริงๆเลย