00:00:23 → 00:00:27 สวัสดีทุกท่านนะครับผม
00:00:27 → 00:00:30 รอเพื่อนๆกันสักครู่นะครับ
00:00:30 → 00:00:39 ผมขอเช็คเสียงก่อนนะว่าใช้ได้ไหม
00:00:39 → 00:00:42 คุณมาลีสวัสดีครับคุณ Food คุณฝนหรือคุณ
00:00:42 → 00:00:45 ฝุ่นคุณฝนแล้วนะครับสวัสดีครับ
00:00:45 → 00:00:51 คุณมัสยาคุณมาลีคุณหนูกระแตนะครับคุณแม่
00:00:51 → 00:00:52 ท้องไผ่
00:00:52 → 00:00:55 คุณเรนนี่อินทนนท์นะครับน่าจะฮอลแลนด์
00:00:55 → 00:01:00 เนอะคุณพรสวัสดีครับคุณแดนสวัสดีครับคุณ
00:01:00 → 00:01:04 รุ่งทิพย์สวัสดีนะครับ
00:01:04 → 00:01:09 เสียงขวาเสียงซ้ายโอเคแล้วนะ
00:01:09 → 00:01:12 โอเคขอบคุณทุกท่านนะครับที่มาฟังกันนะวัน
00:01:12 → 00:01:14 นี้วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายนนะครับ
00:01:15 → 00:01:19 จะมาคุยกันถึงเรื่องรวบรวมแล้วกันเรื่อง
00:01:19 → 00:01:22 กรดไหลย้อนลำไส้แปรปรวนนะครับเพราะว่า
00:01:22 → 00:01:26 หลายๆท่านก็ยังยังงงๆใช่ไหมว่าต้องรักษา
00:01:26 → 00:01:29 ยังไงทำไมฉันไม่หายสักทีวันนี้ก็เลยรวบ
00:01:29 → 00:01:31 รวมกันเลยแล้วกันนะครับจะได้ฟังแล้วรู้
00:01:31 → 00:01:34 เรื่องเลยในคลิปเดียวนะครับคุณป้าต๋อย
00:01:34 → 00:01:37 สวัสดีครับคุณชนัญญาสวัสดีครับเสียงเป็น
00:01:37 → 00:01:39 ไงเนอะเสียงถ้าเสียงใช้ได้แล้วผมก็จะ
00:01:39 → 00:01:41 เริ่มแล้วนะครับก่อนอื่นแล้วกันนะครับ
00:01:41 → 00:01:45 ต้องไหว้ครูก่อนเนาะอ่าพร้อมกันนะครับยก
00:01:45 → 00:01:47 มือพร้อมกันนะครับ
00:01:47 → 00:01:51 โอมนะโมชีวโกฏิรักษาอหังกะลูกนิโกร
00:01:51 → 00:01:56 สรรพสานังโอสถาทที่พระมันตังพระโสสุริยา
00:01:56 → 00:01:59 จันทราโกมารภัจจโจประกาศเสียสิวันทามิวัน
00:01:59 → 00:02:03 ที่โตสุเมธโสอโรคาสุมะนาโฮมมิขอให้สิ่ง
00:02:03 → 00:02:06 ที่เราทำในวันนี้นะครับเผื่อแผ่ไปทุกๆ
00:02:06 → 00:02:09 ท่านขอทุกท่านเกิดปัญญาหลังจากหายจากโรค
00:02:09 → 00:02:13 ภัยไข้เจ็บทั้งหลายนะครับอ่ะมาเริ่มกันนะ
00:02:13 → 00:02:15 ครับ
00:02:15 → 00:02:19 คุณเอกบ่อนไก่นะเขาบอกว่าขอขอบคุณหมอนัด
00:02:19 → 00:02:24 มากครับผมดูรับชมทุกไลฟ์อ่าเป็นเวลา 1 ปี
00:02:24 → 00:02:26 แล้วเออใช่เพราะผมเห็นคุณเอกมันไกลเรื่อย
00:02:26 → 00:02:29 ๆนะครับประมาณปีนึงแล้วผมปฏิบัติตามจน
00:02:29 → 00:02:33 เป็นเอ่อโรควิตกกังวลแพนิคโรคกระเพาะผมดี
00:02:33 → 00:02:38 ขึ้นแล้วเออ 95% ครับอ่าโอเคแสดงว่าค่อยๆ
00:02:38 → 00:02:40 ปรับด้วยเห็นไหมคุณเรียนกลไกเนี่ยใช้เวลา
00:02:40 → 00:02:42 ประมาณ 1 ปีในการที่จะเปลี่ยนตัวเองเห็น
00:02:42 → 00:02:45 ไหมดังนั้นใครก็ตามที่เพิ่งเป็นใช่ไหม
00:02:45 → 00:02:47 เพิ่งเป็นโรคกรดไหลย้อนหนักๆเพิ่งเป็นโรค
00:02:48 → 00:02:50 Panic เพิ่งเป็นโรควิตกกังวลเนี่ยอย่า
00:02:50 → 00:02:52 เพิ่งรีบนะเพิ่งรีบกันไปคิดว่าหายพรุ่ง
00:02:52 → 00:02:54 นี้อะไรอย่างนี้เห็นไหมอย่างคุณเอกบ่อน
00:02:54 → 00:02:57 ไก่เนี่ยเขาก็ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆแล้วการ
00:02:57 → 00:03:00 ดีขึ้นเรื่อยๆเนี่ยข้อดีก็คือว่าจะได้
00:03:00 → 00:03:02 เรียนรู้ตัวเองด้วยว่าอ๋อฉันเป็นโรค
00:03:02 → 00:03:05 ประเภทนี้เพราะว่ามีพฤติกรรมลักษณะนี้
00:03:05 → 00:03:09 นิสัยลักษณะนี้แก้แบบนี้แล้วก็จะรู้โดย
00:03:09 → 00:03:11 ละเอียดว่าอ๋อฉันเป็นแบบนี้นี่เองนะครับ
00:03:11 → 00:03:15 ฉะนั้นข้อที่ 1 เลยต้องอดทนนะครับแล้วก็
00:03:15 → 00:03:18 รอเวลาให้ได้นะครับอ่ะผมกดหัวใจไว้นะ
00:03:18 → 00:03:21 ขอบคุณคุณเอกบ่อนไก่นะครับขอบคุณที่มาฟัง
00:03:21 → 00:03:24 เรื่อยๆเลยนะครับฟังทุกไลฟ์เลยเนาะคุณ
00:03:24 → 00:03:26 ติราภารุบอกว่า
00:03:26 → 00:03:31 เอ่อช่วงนี้ปวดท้องบ่อยครับช่วงนี้ปวด
00:03:31 → 00:03:35 ท้องบ่อยๆจะกินอะไรก็กลัวกินแต่ลวกผักกับ
00:03:35 → 00:03:39 ไข่ต้มน้ำหนักก็ลดลงไม่ถึงเดือนลดไป 3 กม
00:03:39 → 00:03:42 ไม่มีเรี่ยวแรงเลยครับตรวจหมอก็บอกเม็ด
00:03:42 → 00:03:46 เลือดขาวเยอะไขมันขึ้นสูงเออนะครับนี่
00:03:46 → 00:03:49 แหละตอนช่วงที่เป็นโรคประเภทนี้ใช่ไหมก็
00:03:49 → 00:03:52 จะมีอาการกลัวแบบนี้เนาะก็กินผักลวกไข่
00:03:52 → 00:03:54 ต้มน้ำหนักลดอะไรอย่างเงี้ยนะครับแต่ก็
00:03:54 → 00:03:59 ต้องบอกก่อนว่าถ้ากินผักต้มไข่ลวกใช่ไหม
00:03:59 → 00:04:02 เพราะว่ามันก็ได้สารอาหารค่อนข้างน้อยลง
00:04:03 → 00:04:05 ใช่ไหมถือว่าเป็นเรื่องปกติแล้วเดี๋ยว
00:04:05 → 00:04:09 กระบวนการย่อยของคุณจิระเนี่ยนะค่อยๆดี
00:04:09 → 00:04:11 ขึ้นแล้วน้ำหนักก็จะขึ้นมาเองฉะนั้นยัง
00:04:11 → 00:04:14 ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักลดดีด้วยซ้ำคือ
00:04:14 → 00:04:17 เขาเอาไขมันเราไปใช้นะครับแล้วก็กล้าม
00:04:17 → 00:04:19 เนื้ออาจจะลดลงนิดนึงแต่ช่างมันเถอะแล้ว
00:04:19 → 00:04:21 เดี๋ยวก็จะขึ้นมาได้ไม่ต้องกังวลนะครับ
00:04:21 → 00:04:24 เรื่องของที่ไปตรวจบอกว่าเม็ดเลือดขาว
00:04:24 → 00:04:28 เยอะแล้วก็ไขมันขึ้นสูงเนี่ยก็ต้องบอกงี้
00:04:28 → 00:04:31 เวลาเราเป็นโรคประเภทนี้นะร่างกายเราก็จะ
00:04:31 → 00:04:34 อ่อนแอนะฮะดังนั้นร่างกายก็ต้องผลิตเม็ด
00:04:34 → 00:04:37 เลือดขาวนะขึ้นมาต้านภัยไว้ก่อนก็เป็น
00:04:37 → 00:04:40 เรื่องค่อนข้างปกตินะแล้วก็ไขมันขึ้นสูง
00:04:40 → 00:04:41 เนี่ยมันเป็นเพราะว่า
00:04:41 → 00:04:45 ร่างกายที่อ่อนแอเออหรือว่าความเครียดที่
00:04:45 → 00:04:48 เกิดขึ้นอะไรเงี้ยนะครับมันจะมีปัญหากับ
00:04:48 → 00:04:51 เส้นประสาทเอ่อเส้นประสาทเนี่ยมันจะต้อง
00:04:51 → 00:04:54 ใช้ไขมันโดยเฉพาะคอเลสเตอรอลนะมาซ่อมแซม
00:04:54 → 00:04:59 เส้นประสาทดังนั้นแล้วนะใครก็ตามที่เป็น
00:04:59 → 00:05:03 คนเครียดเป็นคนที่ระบบย่อยยังไม่ดีลำไส้
00:05:03 → 00:05:05 ก็ไม่ค่อยดีลำไส้เนี่ยเส้นประสาททั้งนั้น
00:05:05 → 00:05:07 เลยเนาะฉะนั้นแล้วเนี่ยคอเลสเตอรอลจำเป็น
00:05:07 → 00:05:10 จะต้องเยอะซึ่งเป็นเรื่องดีแล้วถูกแล้ว
00:05:10 → 00:05:15 เห็นไหมก็คุณศิลาบอกแล้วนี่บอกว่าผมดิฉัน
00:05:15 → 00:05:19 เนี่ยก็กินแต่ผักลวกหรือไข่ต้มอยู่แล้ว
00:05:19 → 00:05:20 น่าฉะนั้นคุณก็ไม่ต้องกลัวเรื่องไขมัน
00:05:20 → 00:05:24 หรอกไขมันมันเป็นไขมันตามธรรมชาติผลิตออก
00:05:24 → 00:05:26 จากตับเป็นไขมันที่ดีอย่าไปกังวลนะครับ
00:05:26 → 00:05:29 แต่ก็อย่างที่บอกนะฉะนั้นวิธีการแก้
00:05:29 → 00:05:32 ลักษณะนี้ก็คือว่า 1 ไม่ต้องไปกังวล
00:05:32 → 00:05:34 เรื่องไขมันไม่ต้องกังวลเรื่องเม็ดเลือด
00:05:34 → 00:05:37 ขาวสิ่งที่ควรทำก็คือว่าตั้งจิตให้มั่นคง
00:05:37 → 00:05:40 วิธีการตั้งจิตให้มั่นคงก็คือแบบที่คุณ
00:05:40 → 00:05:43 เอกกำลังกายทำอ่ะนะคือเอ่อเวลาตั้งจิตว่า
00:05:43 → 00:05:45 จะหายพรุ่งนี้เนี่ยมันไม่ไหวมันเหนื่อยไป
00:05:45 → 00:05:49 ขอสักหายสัก 6 เดือนขอ 6 เดือนหลังจากนี้
00:05:49 → 00:05:53 เนี่ยจะเป็นคนที่แข็งแรงขึ้นมีความสุขมาก
00:05:53 → 00:05:54 ขึ้นอะไรอย่างเงี้ยนะฉะนั้นแล้วเนี่ยคุณ
00:05:54 → 00:05:57 อาจจะหายภายใน 2 เดือนก็ได้ใครจะรู้นะ
00:05:57 → 00:06:00 ครับแต่ขอเวลาให้เขาหน่อยนะครับอ่ะคราว
00:06:00 → 00:06:02 นี้พอตั้งจิตให้มั่นคงแล้วคุณก็เริ่มกลับ
00:06:02 → 00:06:06 มากินอาหารที่ค่อนข้างปกติขณะกินนะทำใจ
00:06:06 → 00:06:08 นิ่งๆอย่าไปคิดเยอะว่าเดี๋ยวมันจะเกิน
00:06:08 → 00:06:10 เป็นแก๊สหรือมันจะแสบท้องเดี๋ยวมันจะอะไร
00:06:10 → 00:06:13 อย่างเงี้ยถ้าคุณกินอาหารปกติไม่เผ็ดเกิน
00:06:13 → 00:06:17 ไปไม่เปรี้ยวเกินไปนะครับไม่มีนมเยอะๆไม่
00:06:17 → 00:06:19 กินอาหารดึกอ่ะกินอาหารเหมือนมนุษย์ปกติ
00:06:19 → 00:06:22 นะมันอาจจะมีลมบ้างแต่มันจะมีนิดเดียว
00:06:22 → 00:06:25 ฉะนั้นผ่านมันให้ได้ถ้ามีลมนิดเดียวต้อง
00:06:25 → 00:06:29 ผ่านมันครับอย่าไปกังวลนะมนุษย์เรามีลม
00:06:29 → 00:06:31 ตลอดแหละทุกมื้อแหละนะไม่งั้นจะผายลม
00:06:31 → 00:06:34 เจริญได้ยังไงล่ะใช่ไหมครับฉะนั้นคุณติรา
00:06:34 → 00:06:37 ภารุผมขอเป็นกำลังใจให้นะแล้วก็เดี๋ยวมัน
00:06:37 → 00:06:39 จะค่อยๆผ่านไปตามธรรมชาตินะครับ
00:06:39 → 00:06:42 สมุนไพรที่ผมพูดบ่อยๆพวกขมิ้นชันก่อน
00:06:42 → 00:06:44 อาหารหลังอาหารกินโปรไบโอติกอย่างนี้คุณ
00:06:44 → 00:06:48 ก็เอามากินซะหน่อยนะครับ
00:06:48 → 00:06:51 โอเคผมกดแชร์ไว้ให้นะคุณทิพย์ไทยบอกรอฟัง
00:06:51 → 00:06:55 ข่าวขอบคุณครับ
00:06:55 → 00:06:57 คุณธัญชนกบอกว่า
00:06:57 → 00:07:01 กรดไหลย้อนกินพริกเม็ดเดียวกินพริกนิด
00:07:01 → 00:07:04 เดียวอ่ะนิดเดียวเลยนะลิ้นแตกแล้วก็แสบ
00:07:04 → 00:07:08 มากเลยค่ะลมในท้องก็เยอะด้วยเลือดจางทำไม
00:07:08 → 00:07:13 ถึงหนาวในคะคุณหมอหนาวถึงกระดูกเลยใครที่
00:07:13 → 00:07:16 หนาวถึงกระดูกเนี่ยแสดงว่า
00:07:16 → 00:07:20 เขาเรียกว่าระบบประสาทส่วนกลางเนี่ยมัน
00:07:20 → 00:07:22 ไม่ค่อย Action สักเท่าไหร่นะครับแล้วก็
00:07:22 → 00:07:27 มันค่อนข้างมีความกลัวอยู่ในในตัวเราอ่ะ
00:07:27 → 00:07:30 ค่อนข้างมากนะครับอ่ะฉะนั้นแล้วเนี่ยใคร
00:07:30 → 00:07:34 ที่มีความกลัวนึกภาพอย่างง่ายๆกลัวมากๆ
00:07:34 → 00:07:37 เป็นไงขนหัวลุกไหมขนหัวลุกไปหมดเลยนะครับ
00:07:37 → 00:07:41 มือเย็นเท้าเย็นบางทีเจ็บเลยอ่ะเจ็บไปตาม
00:07:41 → 00:07:43 เส้นประสาทตามตัวเนอะฉะนั้นแล้วเนี่ยคน
00:07:43 → 00:07:46 เอ่อใครที่เป็นแบบเนี้ยอย่างคุณธัญชนก
00:07:46 → 00:07:49 เนี่ยอาการแบบนี้เขาเรียกว่ามีความกลัว
00:07:49 → 00:07:52 อยู่ในจิตใจเขาเรียกว่ามานานและเออเรียก
00:07:52 → 00:07:55 ว่าวิตกกังวลก็แล้วกันนะครับไอ้ความวิตก
00:07:55 → 00:07:58 กังวลเนี่ยมันจะสร้างไฟฟ้าเข้าไปในเส้น
00:07:58 → 00:08:01 ประสาททั้งเส้นประสาทส่วนกลางนะสมองไขสัน
00:08:01 → 00:08:05 หลังลำไส้แล้วก็ปลายประสาทเต็มไปหมดเลยนะ
00:08:05 → 00:08:08 ครับพอมันมีความรู้สึกเยอะเป็นไงพอโดน
00:08:08 → 00:08:11 พริกนิดเดียวเปรี้ยงเข้าไปโอ้โหรุนแรงเลย
00:08:11 → 00:08:14 ใช่มั้ยแสบปากมากเลยลมก็เยอะอะไรอย่างนี้
00:08:14 → 00:08:17 แล้วก็มีความหนาวด้วยเพราะว่ามันช็อตไป
00:08:17 → 00:08:19 หมดความรู้สึกในร่างกายมันหนาวนิดเดียวก็
00:08:19 → 00:08:22 หนาวเยอะขึ้นอ่านะครับฉะนั้นวิธีการแก้
00:08:22 → 00:08:25 ของคุณธัญชนกเนี่ยหรือใครที่เป็นแบบนี้นะ
00:08:25 → 00:08:28 คนที่มีความกลัวอยู่ในจิตใจเป็นเวลานาน
00:08:28 → 00:08:30 แล้วสิ่งที่ควรทำคือ
00:08:30 → 00:08:35 ใช้เวลาประมาณ 21 วันนะ 21 วันนี้ควรทำ
00:08:35 → 00:08:38 อะไรดีนะครับต้องเติมความกล้าเข้าไปอะไร
00:08:38 → 00:08:41 ก็ได้ที่คุณรู้สึกว่านี่คือความกล้าเช่น
00:08:41 → 00:08:45 เออนะครับเช่นออกไปเดินออกกำลังกายเอ่อ
00:08:45 → 00:08:48 วันละ 20 นาทีเอา 20 นาทีให้ได้ก่อนแล้ว
00:08:48 → 00:08:51 กันนะครับทำทุกวันเลยนะครับทำทุกวันถ้า
00:08:51 → 00:08:54 เป็นเวลาเดิมๆได้จะดีมากเช่นบอกว่าประมาณ
00:08:54 → 00:08:59 ตี 5 ครึ่งเออดิฉันผมจะเดินเป็นเวลา 20
00:09:00 → 00:09:03 นาทีอ่านะครับทำทุกวันเลยไปเดินเอาเดิน
00:09:03 → 00:09:04 เร็วๆนะครับจะได้ทำทุกวันได้
00:09:04 → 00:09:07 พอคุณทำได้แสดงว่าคุณกำลังเติมความกล้า
00:09:07 → 00:09:11 เข้าไปกล้าตื่นเช้าอ่ากล้าไปเดินมืดๆเห็น
00:09:11 → 00:09:14 มั้ยกล้าออกกำลังกายนะครับบางคนบอกโอ้ฉัน
00:09:14 → 00:09:18 ไม่มีที่เดินทำยังไงก็เล่นฮูลาฮูปก็ได้นะ
00:09:18 → 00:09:21 ครับออกกำลังกายแบบย่ำอยู่กับที่ก็ได้นะ
00:09:21 → 00:09:23 เล่นฮูลาฮูปทริปอ่ะนะครับไม่ต้องซื้อ
00:09:23 → 00:09:25 ฮูลาฮูปก็ได้นะหมุนเอวอะไรอย่างนี้นะครับ
00:09:25 → 00:09:28 กระโดดเชือกทิพย์เคยเห็นไหมกระโดดเชือก
00:09:28 → 00:09:30 โดยที่ไม่มีเชือกอ่ะก็ได้เหมือนกันนะครับ
00:09:30 → 00:09:33 เพราะเราออกกำลังกายเป็นเวลาเดิมๆนะเห็น
00:09:33 → 00:09:36 ไปเดินตื่นเช้าเลยว่าไปนะครับขณะกินอาหาร
00:09:36 → 00:09:40 กินอาหารด้วยความกล้ากล้าสั่งอาหารด้วยตน
00:09:40 → 00:09:43 เองนะไม่ใช่แบบกลัวตัวเองตัวเองตัวเองคือ
00:09:43 → 00:09:46 แบบว่าคนอื่นแบบข้างๆแฟนอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:09:46 → 00:09:47 ครับตัวเองคุณพ่อคุณแม่ช่วยสั่งให้หน่อย
00:09:47 → 00:09:50 ได้ไหมไม่รู้จะกินอะไรดีช่วยทำข้าวต้มปลา
00:09:50 → 00:09:52 ให้กินได้ไหมช่วยทำโจ๊กให้กินได้ไหมไม่
00:09:52 → 00:09:56 ฉันจะเลือกอาหารกินด้วยตนเองอ้ากระบวนการ
00:09:56 → 00:09:59 เลือกอาหารด้วยตนเองคือการเพิ่มความกล้า
00:09:59 → 00:10:02 นะคุณก็เติมแล้วความกล้านะครับ
00:10:02 → 00:10:06 เอ่ออะไรอ่ะแบ่งเวลาทำงานให้ชัดเจนอ่าว่า
00:10:06 → 00:10:08 ตอนนี้คือเวลาทำงานเวลานี้เวลากินข้าวนะ
00:10:09 → 00:10:11 ขณะกินข้าวไม่เล่นมือถืออะไรอย่างเงี้ย
00:10:11 → 00:10:14 พอเราตั้งเป้าอะไรที่มันชัดเจนแล้วก็ทำ
00:10:14 → 00:10:17 สามารถทำได้ใช่มั้ยเท่ากับเท่ากับคุณ
00:10:17 → 00:10:19 ธัญชนกหรือคุณผู้ฟังเนี่ยกำลังเติมความ
00:10:19 → 00:10:22 กล้าเข้าไปในจิตใจเติมเข้าไปเติมเข้าไป
00:10:22 → 00:10:25 เติมเข้าไปเวลามนุษย์เราเติมความกล้า
00:10:25 → 00:10:27 เนี่ยไอ้ความกลัวมันเติมไม่ทันหรอกครับ
00:10:27 → 00:10:30 ใช่มั้ยเพราะเราใช้ความกล้าเติมตลอดอ่ะ
00:10:30 → 00:10:33 ขณะเดินแล้วก็เอาจิตใจจิตใจให้นิ่งๆใช่
00:10:33 → 00:10:36 มั้ยคราวนี้พอเราเติมความกล้าไปประมาณสัก
00:10:36 → 00:10:38 15 วัน 21 วันเนี่ย
00:10:38 → 00:10:41 เขาเรียกว่าเขาเรียกว่านะอันนี้ฟังดีๆนะ
00:10:41 → 00:10:45 นิวรณ์ที่มันเกี่ยวข้องกับความท้อแท้ความ
00:10:45 → 00:10:48 ฟุ้งซ่านนะครับทั้งหลายนะครับนี่นอนกับ
00:10:48 → 00:10:51 ท้อแท้ก็เขาเรียกว่าตัวที่ 3 ทีนะมิธะ
00:10:51 → 00:10:54 นิวรณ์ตัวที่ 4 เขาเรียกฟุ้งซ่านไอ้สอง
00:10:54 → 00:10:57 ตัวนี้นะครับมันจะเข้ามาในจิตเราเมื่อเรา
00:10:57 → 00:11:00 อ่อนแอรู้สึกอ่อนแอไม่กล้าตัดสินใจด้วยตน
00:11:00 → 00:11:01 เอง
00:11:01 → 00:11:04 ไม่กล้าที่จะเป็นคนกล้าเป็นมนุษย์ที่มัน
00:11:04 → 00:11:06 กล้าอะไรอย่างนี้นะครับฉะนั้นพอคุณกล้า
00:11:06 → 00:11:08 ประมาณ 21 วันน่ะนิวรณ์พวกนี้มันจะหยุด
00:11:09 → 00:11:11 เติมครับพอหยุดเติมนะคุณจะกลายเป็นมนุษย์
00:11:11 → 00:11:15 ที่ไม่กลัวโดยปริยายนึกออกมั้ยโดยที่ไม่
00:11:15 → 00:11:18 ใช่แบบฉันอยากจะหายวันนี้อ่ะมันไม่ได้ใช่
00:11:18 → 00:11:22 ไหมแต่ใน 20 11 วันน่ะได้นะค่อยๆเติม
00:11:22 → 00:11:24 ความกล้าเข้าไปเรื่อยๆนะ
00:11:24 → 00:11:26 แล้วความกล้าดียังไงอ่ะความกล้าก็จะช่วย
00:11:26 → 00:11:31 เพิ่มธาตุไฟภาวะหนาวถึงกระดูกนะหนาวในอ่ะ
00:11:31 → 00:11:33 ก็จะดีขึ้นด้วยความกล้าก็เพิ่มถ่านไฟใน
00:11:33 → 00:11:36 การย่อยด้วยที่เหลือก็กินสมุนไพรที่ช่วย
00:11:36 → 00:11:40 ย่อยต่างๆเนาะลองดูนะครับผมกดหัวใจไว้ให้
00:11:40 → 00:11:44 นะคุณสุภาวดีบอกเราค่ะคุณหมอดีมาฟังทุก
00:11:44 → 00:11:48 ครั้งเลยคุณจะใหญ่นะรอฟังจะมาฟังตลอด
00:11:48 → 00:11:53 เหมือนกันนะครับขอบคุณครับคุณสุวิมลนะบอก
00:11:53 → 00:11:56 ว่ารอฟังค่ะ
00:11:56 → 00:12:01 กรดไหลย้อน Panic น้ำหนักลดเยอะเลยผอม
00:12:01 → 00:12:04 หนังหุ้มกระดูกไปไหนมีแต่คนทักเรื่องผอม
00:12:04 → 00:12:07 มากพร้อมจนแทบไม่มีแรงเดินกินข้าวไม่ค่อย
00:12:07 → 00:12:11 ได้ด้วยค่ะโอเคมาดูกันนะ
00:12:11 → 00:12:14 กรดไหลย้อนอันนี้ก็หนักแล้วเนาะกระบวนการ
00:12:14 → 00:12:17 ย่อยไม่ดีนะใครที่กระบวนการย่อยไม่ดี
00:12:17 → 00:12:22 สมองก็จะบอกว่าคนๆนี้คนๆนี้เนี่ยนอนไม่
00:12:22 → 00:12:23 ได้
00:12:23 → 00:12:24 กินไม่ได้
00:12:24 → 00:12:28 ขี้กลัวเพราะว่ามันไม่มีแรงพอที่จะเอาไป
00:12:28 → 00:12:30 ใช้ชีวิตอันนึกออกไหมฉะนั้นคนเป็นกรดไหล
00:12:30 → 00:12:33 ย้อนนานๆน่ะสมองจะเป็นสมองที่เขาเรียกปก
00:12:33 → 00:12:35 ป้องตัวเองอ่ะให้หลบก่อนหลบก่อนอย่าเพิ่ง
00:12:36 → 00:12:38 ไปทำอะไรมากๆหลบก่อนๆอ่าประมาณนี้อยู่
00:12:38 → 00:12:40 แล้วใช่ไหมอันนี้คือเรื่องที่ 1 อยู่แล้ว
00:12:40 → 00:12:42 นะครับที่คุณเป็น
00:12:42 → 00:12:45 อันที่ 2 คุณเป็นจนเป็น Panic ด้วยแพนิค
00:12:45 → 00:12:48 นี่คือมันกลายเป็นว่านอกจากหลบแล้วนะนอก
00:12:48 → 00:12:52 จากกลัวแล้วเนี่ยคุณยังมีความรู้สึกที่
00:12:52 → 00:12:54 ละเอียดมากขึ้นด้วยอ่าความรู้สึกที่
00:12:54 → 00:12:57 ละเอียดมากขึ้นคือแทนที่จะกลัว 1 ครั้งใน
00:12:57 → 00:13:00 1 วินาทีคุณกลายเป็นกลัวประมาณสัก 5
00:13:00 → 00:13:03 ครั้งความรู้สึกมี 5 ครั้งอ่ะใน 1 วินาที
00:13:03 → 00:13:06 คราวนี้ก็กลายเป็น Panic แหละรู้ได้ไงอ่ะ
00:13:06 → 00:13:10 คนเป็นแพนิคเสียงดังๆได้ไหมไม่ได้นะฟัง
00:13:10 → 00:13:14 เสียงดังๆเอาเสียงดังเอาอะไรนะหูฟังมา
00:13:14 → 00:13:16 เสียบหูอ่ะไม่ได้เลยนะใครทะเลาะกันอยู่
00:13:16 → 00:13:18 ไกลๆเนี่ยไม่ได้เลยเสียงประตูดังๆเนี่ย
00:13:18 → 00:13:21 ปุ้งปั้งเนี่ยไม่ได้เลยเห็นไหม
00:13:21 → 00:13:24 กลัวนิดเดียวมันกลัวเพิ่มอ่านะครับฉะนั้น
00:13:24 → 00:13:26 น่ะกรดไหลย้อนก็แย่อยู่แล้วเป็นคนขี้กลัว
00:13:26 → 00:13:27 อยู่แล้ว
00:13:27 → 00:13:32 Panic ก็คือกลัวรัวๆกลัวๆมันก็เลยยิ่ง
00:13:32 → 00:13:34 แย่ลงฉะนั้นคราวนี้พอคุณไปโดนแซวเยอะอ่ะ
00:13:34 → 00:13:37 พร้อมจังเลยทำไมดูไม่ดีจังเลยเนี่ยคนคน
00:13:37 → 00:13:40 ที่ไม่เคยเป็นลองฟังดีฮะดูไม่ดีเลยช่วง
00:13:40 → 00:13:43 นี้เห็นมั้ยเขากลัวอยู่แล้วอ่ะเขาเบิ้ล
00:13:43 → 00:13:45 เลยเขาเบิ้ลความกลัวเข้าไปอะไรอย่างเงี้ย
00:13:45 → 00:13:47 ฉะนั้นแล้วเนี่ย
00:13:47 → 00:13:50 เอ่อเวลาเห็นใครที่ผอมมากๆพยายามอย่าไป
00:13:50 → 00:13:52 ทักเห็นไหมคนๆเนี้ยเห็นมั้ยเค้าโดนหนัก
00:13:52 → 00:13:56 เลยใช่ไหมดังนั้นใครที่ฟังอยู่นะเห็นคน
00:13:56 → 00:14:00 ผอมเห็นคนอ้วนเห็นคนผมรักหัวล้านนะครับ
00:14:00 → 00:14:02 พยายามอย่าไปทักนะครับถ้าไม่รู้จักกัน
00:14:02 → 00:14:05 จริงๆนะอย่าไปทักทายอะไรกันขนาดนั้นนะ
00:14:05 → 00:14:07 ครับก็เอ่อให้กำลังใจอะไรก็ว่ากันไปนะ
00:14:07 → 00:14:11 ครับอ่ะคราวนี้วิธีการแก้คืออะไรนะครับ
00:14:11 → 00:14:14 วิธีการแก้ก็คือว่าเราต้องทำให้กระบวนการ
00:14:14 → 00:14:19 ย่อยค่อยๆดีขึ้นอ่าผมขอให้คุณสุวิมลนะกิน
00:14:19 → 00:14:21 สารอะไรกับทองก่อนตอนตื่นนอนนะครับเพื่อ
00:14:21 → 00:14:22 ทำให้
00:14:22 → 00:14:27 มีเลือดที่ดีเวลาเรามีเลือดที่ดีสมองก็จะ
00:14:27 → 00:14:30 บอกว่าโอเคๆคนๆนี้มีเลือดแล้วฉะนั้นแล้ว
00:14:30 → 00:14:33 เนี่ยกระบวนการย่อยฟื้นดีกว่าอ่ะมาช่วย
00:14:33 → 00:14:35 กันย่อยอาหารนะฉะนั้นก็ก่อนอาหารก็กิน
00:14:36 → 00:14:38 เช่นยาหอมก่อนอาหารทุกมื้อนะเพื่อทำให้
00:14:38 → 00:14:41 จิตใจผ่อนคลายกระเพาะอาหารเกร็งหลังอาหาร
00:14:42 → 00:14:45 กินยาประเภทประสานการพลูก็ได้นะช่วยเพิ่ม
00:14:45 → 00:14:47 ธาตุไฟในการย่อยนะครับหลังอาหารเช้าเย็น
00:14:48 → 00:14:50 นะครับถ้าเป็นหนักก็หลังอาหารเช้ากลางวัน
00:14:50 → 00:14:54 เย็นเลยนะครับใครที่ผอมมากๆแบบนี้แบบที่
00:14:54 → 00:14:56 คุณเป็นนะครับให้กิน 3 มื้อไปก่อนนะเพื่อ
00:14:56 → 00:14:59 ให้เติมสารอาหารเข้าไปแต่ว่าขอเป็น 3
00:14:59 → 00:15:03 มื้อที่เอ่อมีคุณภาพอ่ะนะแล้วก็ไม่กิน
00:15:03 → 00:15:07 เยอะเกินไปเนาะโอเคคราวนี้พอมีสารอาหาร
00:15:07 → 00:15:10 จากสาหร่ายเงินทองกระบวนการย่อยเริ่มดี
00:15:10 → 00:15:12 เนี่ยไอ้ภาวะหนังหุ้มกระดูกกระบวนการย่อย
00:15:12 → 00:15:16 ไม่ดีเนี่ยคุณสุรพลจะค่อยๆดีขึ้นดีขึ้นดี
00:15:16 → 00:15:18 ขึ้นแล้วคุณก็จะเริ่มมีความสุขมากขึ้นนอน
00:15:18 → 00:15:22 หลับได้ดีควบคุมอารมณ์ได้ภาวะแพนิคลดลง
00:15:22 → 00:15:25 อะไรอย่างเงี้ยนะครับเนี่ยค่อยๆทำไป
00:15:25 → 00:15:29 สิ่งที่ต้องรู้ไว้เลยนะครับคือภาวะที่คุณ
00:15:29 → 00:15:32 สุมนเป็นอยู่ตอนนี้นะมันเป็นภาวะที่ทำให้
00:15:32 → 00:15:36 เกิดปัญญาขั้นสูงอ่าคิดดีๆนะ
00:15:36 → 00:15:39 ถ้าคุณผ่านความทุกข์นี้ได้คุณจะได้ปัญญา
00:15:39 → 00:15:42 ขั้นสูงมาเป็นคนที่
00:15:42 → 00:15:47 เข้าใจตนเองในเชิงลึกอ๋อโอเคดูสิฉันน่ะ
00:15:47 → 00:15:50 เป็นคนแซวว่าผอมนะแล้วเครียดเลยแล้วรู้
00:15:50 → 00:15:53 สึกแย่เลยนี่ดูสิขนาดนี้เลยหรออะไรอย่าง
00:15:53 → 00:15:56 นี้นะเนี่ยฉันอายุ 30 ปี 40 ปีหรือ 50 ปี
00:15:56 → 00:16:00 แล้วเนี่ยโดนแซวว่าผอมเนี่ยจิตพังเลยจิต
00:16:00 → 00:16:02 แย่เลยจิตเสื่อมเลยโอ้แสดงว่าจิตเรายัง
00:16:02 → 00:16:04 ไม่มั่นคงจริงๆ
00:16:04 → 00:16:07 พอเราเข้าใจแล้วโอเควันนี้เรากำลังปรับ
00:16:07 → 00:16:09 อาหารสิ่งที่ต้องทำคือเราต้องเริ่มตั้ง
00:16:09 → 00:16:12 จิตใหม่สร้างความอดทนให้ตัวเองแล้วก็เข้า
00:16:12 → 00:16:16 ใจตัวเราว่าเฮ้ยไม่ได้นะอายุขนาดนี้แล้ว
00:16:16 → 00:16:19 เอ่อเริ่มโตแล้วนะครับแล้วก็เริ่มพัฒนา
00:16:19 → 00:16:23 จิตมาระดับนี้แล้วเนี่ยต้องทนได้นะใครจะ
00:16:23 → 00:16:27 แซวใครจะว่าใครจะเอ่อมองด้วยสายตาที่ไม่
00:16:27 → 00:16:32 ดีสิ่งที่เราทำนะไม่ควรจะไปว่าเขาแต่กลับ
00:16:32 → 00:16:36 มาดูที่เราว่าโอ้โหดูสิใจเราสั่นมากเลยนะ
00:16:36 → 00:16:39 หัวสมองเราทำงานหนักมากเลยขนาดแค่โดนแซว
00:16:39 → 00:16:41 แค่โดนมองแค่นั้นเองเห็นมั้ยฉะนั้นจริงๆ
00:16:41 → 00:16:44 แล้วไม่ใช่มองเขานะมองเรานั่นแหละเขา
00:16:44 → 00:16:48 เรียกว่าการฝึกจิตฝึกไปเรื่อยๆจิตที่แข็ง
00:16:48 → 00:16:51 แรงขึ้นโรคเนี่ยกรดไหลย้อนแพนิคน้ำหนักลด
00:16:51 → 00:16:53 พวกเนี้ยของคุณสุรนเนี่ยเขาจะดีขึ้นเอง
00:16:53 → 00:16:55 ตามธรรมชาติทุกวันทุกวันทุกวันพร้อมกับ
00:16:55 → 00:16:58 ปัญญาก็จะเกิดทุกวันทุกวันทุกวันทุกวัน
00:16:58 → 00:17:03 ภายใน 5 เดือน 6 เดือนก็หายจากโรคผอมใช่
00:17:03 → 00:17:05 ไหม Panic กรดไหลย้อนพร้อมด้วยปัญญาที่
00:17:06 → 00:17:08 มันเกิดขึ้นคราวนี้ก็จะกลับมาเป็นแบบเดิม
00:17:08 → 00:17:10 ไม่ได้แล้วเห็นไหมก็จะกลายเป็นคนที่แบบ
00:17:10 → 00:17:13 โดนแซวนิดนึงเซเลยเงี้ยไม่ได้แล้วเพราะ
00:17:13 → 00:17:16 ว่าจิตมันพัฒนาขึ้นแล้วจิตเวลาพัฒนาขึ้น
00:17:16 → 00:17:19 แล้วเนี่ยมันตกลงมายากนะครับดังนั้นแล้ว
00:17:19 → 00:17:22 เนี่ยโรคพวกนี้แหละเป็นโรคที่ทำให้เรา
00:17:22 → 00:17:25 ก้าวขึ้นกระไดได้ถ้าไม่มีโรคพวกนี้นะเรา
00:17:25 → 00:17:27 จะไม่กล้าก้าวขึ้นกระไดเข้าไปโอเคไหมครับ
00:17:27 → 00:17:31 ฉะนั้นต้องขอบคุณโรคภัยนะครับกดหัวใจไว้
00:17:31 → 00:17:34 ให้นะคุณปัณฑิตาบอกรอฟังค่ะนะครับขอบคุณ
00:17:34 → 00:17:38 ครับคุณชาลีนาบอกว่าสวัสดีค่ะคุณหมอพูดดี
00:17:38 → 00:17:41 น่าฟังเข้าใจง่ายอยากถามหมอว่าการฝึกลม
00:17:41 → 00:17:43 หายใจที่ดีทำให้หายจากทุกโรคจริงไหมครับ
00:17:43 → 00:17:46 อืมนะครับ
00:17:46 → 00:17:48 มีหลายศาสตร์มากเลยเนาะเดี๋ยวนี้ก็จะเป็น
00:17:48 → 00:17:53 เอ่อลมหายใจแบบอ่าทางสายปัจจุบันหน่อยเออ
00:17:53 → 00:17:56 สายปัจจุบันหน่อยเขาก็จะมีการทำวิจัยนู่น
00:17:56 → 00:17:58 นี่นั่นแล้วใช่ไหมครับว่าหายใจแบบนี้หาย
00:17:58 → 00:18:01 ใจ 5.5 วินาทีนะครับจะช่วยทำให้เรารู้สึก
00:18:01 → 00:18:04 ว่าโอ้พลังงานไหลเวียนทั่วร่างกายเลยมี
00:18:04 → 00:18:07 สมาธิมากขึ้นรู้สึกสดชื่นในยามเช้าก็ลอง
00:18:07 → 00:18:08 ทำได้นะครับ
00:18:08 → 00:18:10 อันนี้เป็น
00:18:10 → 00:18:13 เอ่อการหายใจเพื่อทำให้มีออกซิเจนมีพลัง
00:18:13 → 00:18:17 อะไรเงี้ยใช่มะแต่ว่าจริงๆแล้วเนี่ยถ้า
00:18:17 → 00:18:18 เราเอาในเชิงลึกแล้วกันนะถ้าเราบอกว่า
00:18:18 → 00:18:21 เอ๊ะแล้วทำไมเราฝึกหายใจมันถึงหายจากโรค
00:18:21 → 00:18:23 ต่างๆได้ก็แล้วกันนะครับ
00:18:23 → 00:18:25 เวลาเราฝึกหายใจเอาทางการแพทย์แผนโบราณ
00:18:25 → 00:18:28 จีนก่อนนะครับทางจีนเนี่ยลมหายใจเราเนี่ย
00:18:28 → 00:18:32 เขาเรียกว่าพลังชี่ฉี่มันเหมือนแบบการไหล
00:18:32 → 00:18:36 เวียนอ่านะครับเวลาเราหายใจเห็นไหมร่าง
00:18:36 → 00:18:37 กายจะขยาย
00:18:37 → 00:18:41 หายใจออกแล้วไงแฟบลงนะครับกระบวนการที่
00:18:41 → 00:18:46 ขยายออกแฟบลงขยายออกแฟบลงเห็นไหมนี่คือ
00:18:46 → 00:18:50 พลังที่นะครับคือมันมีชีวิตอ่ะพลังชี่คือ
00:18:50 → 00:18:53 พลังชีวิตอ่ะมันขึ้นลงขึ้นลงฉะนั้นใครก็
00:18:53 → 00:18:56 ตามที่เป็นไงหายใจแคบๆดูนะหายใจแค่นี้
00:18:56 → 00:18:58 เอ้อเนี่ยเห็นมั้ย
00:18:58 → 00:19:01 พลังชีวิตมีไหมไม่มีนะครับพอเป็นอย่างนี้
00:19:01 → 00:19:02 เนี่ย
00:19:02 → 00:19:06 จะเอาแรงที่ไหนไปทำงานจะเอาแรงที่ไหนไป
00:19:06 → 00:19:09 สู้กับสายตาคนที่มองว่าเราผอมเกินไปแล้ว
00:19:09 → 00:19:11 อ้วนเกินไป
00:19:11 → 00:19:15 เราจะแรงที่ไหนไปสู้กันกับขนมเค้กที่มัน
00:19:15 → 00:19:20 เย้ายวนใจนะจะแรงที่ไหนไปสู้กับข่าวลบๆ
00:19:20 → 00:19:22 ที่เขาใส่เข้ามาในหัวเราทุกวันเห็นมั้ย
00:19:22 → 00:19:25 ไม่มีแรงสู้หรอกฉะนั้นแล้วนะ
00:19:25 → 00:19:32 พลังชีวิตเนี่ยมันเริ่มจากลมหายใจที่มันอย่างนี้ลองทำดู
00:19:32 → 00:19:34 เอามือมือทำดู
00:19:34 → 00:19:35 เห็นไหม
00:19:35 → 00:19:45 เห็นความแน่นมันไหมนะครับอย่างนี้เขาเรียกว่าพลังที่มันเกิดเพราะพลังที่เกิดเนี่ยคุณก็จะเป็นคนกล้ามากขึ้นกล้าสั่งอาหารกล้ากินอาหารกล้าย่อยอาหารกล้าขับถ่ายบางคนไม่กล้าขับถ่ายนะไม่กล้าเบ่งไม่กล้าอะไรอย่างเงี้ยกลัวการขับถ่ายกลัวการกินกลัวการสั่งอาหารกลัวการอยู่คนเดียวเห็นไหมมันก็จะเกิดความกล้าไอ้ความกล้าเนี่ยทำให้โลกเกิดน้อยใช่ไหมภาวะความกลัวก็ลดลงไม่ตกกังวลก็ลดลงพลังที่ที่เป็นภายในเลือดก็หมุนเวียนดีโรคกระเพาะอาหาร
00:19:45 → 00:20:10 [เพลง]
00:20:10 → 00:20:26 โรคหลอดเลือดใช่ไหมโรคสมองพวกนี้มันก็ลดลงเพราะว่าพลังชีพมันเกิดขึ้นเห็นไหมอันนี้คือเรามองในมุมมองของพลังชีวิตพลังชีวิตแล้วก็ไอ้พลังที่เนี่ยพลังลมหายใจเนี่ยนะครับพลังปราณแล้วกันเรียกพลังปราณเนี่ยนะครับ
00:20:26 → 00:20:38 ปราณเนี่ยมันไปผสมกันกับสารอาหารที่เรากินเข้าไปนะเขาบอกว่ากระเพาะอาหารแล้วกันกระเพาะอาหารที่แข็งแรงกินอาหารได้ดีนะกระบวนการย่อยที่ดีนะเราก็ได้สารอาหารใช่ไหม
00:20:38 → 00:20:46 สารอาหารผสมกับปราณที่ที่เกิดจากการหายใจเนี่ยบวกกันปั้งมันจะกลายเป็นศาลจริงนะ
00:20:46 → 00:20:49 ไอ้ศาลจริงมันจะอยู่แถวๆไตนะครับ
00:20:49 → 00:20:56 ศาลจริงเนี่ยทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้างศาลจริงทำให้ภูมิคุ้มกันดีไม่เป็นมะเร็งง่ายๆ
00:20:56 → 00:21:05 ศาลจริงทำให้ไม่แก่ไวผมไม่ขาวไวหน้าไม่เหี่ยวก่อนวัยนอนหลับได้ลึกไม่ลุกขึ้นมาปัสสาวะกลางคืนเห็นไหม
00:21:05 → 00:21:19 ศาลจริงทำให้พลังงานส่งไปที่สมองคนที่มีศาลจริงเยอะสมองจะค่อนข้างนิ่งจะเป็นคนที่ตกกะใจกับสิ่งต่างๆได้น้อยลงคนนึกภาพ
00:21:19 → 00:21:23 ถ้าคุณฝึกลมปราณจนกระทั่งเหมือน
00:21:23 → 00:21:29 หลวงจีนเส้าหลินที่เขาแบบเดินลงบันไดด้วยมือได้ใช่ไหม
00:21:29 → 00:21:36 เอากล้าเอามีดมางัดกับคอตัวเองได้เห็นไหมกล้าเอาหินหกกว่าหัวได้เนี่ยเห็นมั้ย
00:21:36 → 00:21:40 นั่นน่ะคือพลังปราณที่เยอะจริงๆเนอะศาลจริงที่จริง
00:21:40 → 00:22:01 สมองที่มั่นใจสุดๆเลยนั่นน่ะคือพลังแบบนั้นไอ้พลังแบบนั้นเห็นมั้ยป่วยยากจริงๆใช่มั้ยมันป่วยนะอาจจะป่วยด้วยกรรมด้วยอะไรอย่างเงี้ยแต่ว่ามันจะป่วยยากจริงๆอ่ะถ้าคุณมีศาลจริงที่เยอะจากการที่คุณมีปลาระดับนั้นเข้าใจมั้ยฉะนั้นไอ้คำถามที่คุณชาลีนาถามเห็นมั้ยบอกว่าฝึกการหายใจที่ดีมันไม่ใช่แค่การหายใจ
00:22:01 → 00:22:04 มันคือภาพรวมของการหายใจการหายใจเป็นแค่
00:22:04 → 00:22:09 กระบวนการหนึ่งที่ทำให้เรามีภาพรวมฉะนั้น
00:22:09 → 00:22:13 ถ้าเรามองภาพเรามองภาพว่า
00:22:13 → 00:22:15 ฉันอยากแข็งแรงเหมือนหลวงจีนเส้าหลินนั่น
00:22:15 → 00:22:18 แหละไม่ต้องแข็งแรงระดับเอานิ้วงัดกับ
00:22:18 → 00:22:20 พื้นได้อะไรอย่างนี้นะไม่ต้องแข็งแรงขนาด
00:22:20 → 00:22:24 เอาหัวโขกหินแต่ให้มันเป็นแข็งแรงในตามสม
00:22:24 → 00:22:27 ควรตามวัยเอาแค่นั้นพอแล้วเออฉะนั้นแล้ว
00:22:27 → 00:22:30 ถ้าเราทำได้ลมหายใจดีนะคุณก็จะแข็งแรง
00:22:30 → 00:22:34 สมวัยเนาะแล้วก็มีลมหายใจที่ค่อนข้างแน่น
00:22:34 → 00:22:38 แล้วก็มั่นคงดีไหมคุณวีณาบอกว่ารอฟังข่าว
00:22:38 → 00:22:41 คุณหมอนัดขอบคุณครับคุณมีนาคมนี้ก็ฟังมา
00:22:41 → 00:22:43 ตลอดเนาะคุณใจดีแล้วบอกเราฟังคุณยายลาก็
00:22:43 → 00:22:46 ฟังมาตลอดเหมือนกันนะครับขอบคุณครับ
00:22:46 → 00:22:52 คุณลาตี้นะครับอ่าที่นี่เออพึ่งแน่ใจ 2-3
00:22:52 → 00:22:54 ครั้งแล้วนะประมาณนี้นะครับ
00:22:54 → 00:22:57 รอฟังค่ะคุณหมอและทีมงานที่ช่วยแนะนำวิธี
00:22:57 → 00:23:01 การรักษาจนอาการกระเพาะลำไส้ตอนนี้ดีขึ้น
00:23:01 → 00:23:04 มากจากเมื่อก่อนทานอะไรไม่ได้เลยขอให้ทีม
00:23:04 → 00:23:07 งานและเอ่ออะไรนะแล้วคุณหมอเออมีสุขภาพ
00:23:07 → 00:23:09 แข็งแรงอายุยืนยาวได้ช่วยรักษาคนป่วยใน
00:23:09 → 00:23:13 อนาคตเช่นกันนะครับมาจากสปปลาวนะขอบคุณ
00:23:13 → 00:23:16 เช่นกันนะครับเอ่อคนจากสปปลาวคนจับ
00:23:16 → 00:23:19 เมียนมาร์คนจากกัมพูชาคนจะเอ่อต่างประเทศ
00:23:19 → 00:23:22 เนาะฟังผมค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะคนจากสปป
00:23:22 → 00:23:24 ลาวนะขอบคุณมากเลยนะครับ
00:23:24 → 00:23:27 คุณบุษยาบอกว่าเราฟังคุณอายุดีๆขอบคุณ
00:23:27 → 00:23:31 ครับคุณมาลีสวัสดีค่ะโอเคอ่ะคุณลักษณะบอก
00:23:31 → 00:23:32 ว่าสวัสดีค่ะคุณหมอ
00:23:33 → 00:23:36 เป็นแพนิคกรดไหลย้อนทำตามคุณหมอแนะนำตอน
00:23:36 → 00:23:38 นี้หายดีแล้วทานทุกอย่างได้ปกติใช้ชีวิต
00:23:38 → 00:23:40 เหมือนปกติครับขอบพระคุณคุณหมอและ
00:23:40 → 00:23:42 ขอให้เป็นกำลังใจขอให้เป็นกำลังใจให้ทุก
00:23:42 → 00:23:47 คนที่ทำตามคุณหมอหายได้จริงสาธุวันนี้ดี
00:23:47 → 00:23:49 จังเลยเนี่ยมีคนมาให้กำลังใจกันเยอะจัง
00:23:49 → 00:23:52 เลยนะครับก็คือไม่ใช่แค่ทำใจผมนะให้กำลัง
00:23:52 → 00:23:54 ใจทุกท่านที่ฟังอยู่ณตอนนี้ขอบคุณมากเช่น
00:23:54 → 00:23:55 กันนะครับ
00:23:55 → 00:23:59 คุณปั่นแป้งบอกว่าเป็นกรดไหลย้อนชอบไม่มี
00:23:59 → 00:24:02 แรงเดินนิดเดียวก็เหนื่อยแต่จะเป็นแค่บาง
00:24:02 → 00:24:06 วันมื้อชันค่ะโอเคอันนี้ก็เป็นที่ระบบ
00:24:06 → 00:24:08 ย่อยไม่ดีนะมันนานจนกระทั่งสารอาหารเนี่ย
00:24:08 → 00:24:12 มันลดอ่ะพอสารอาหารลดก็จะทำให้เดินนิด
00:24:12 → 00:24:14 เดียวก็เหนื่อยแล้วก็เวลาลมเยอะลมหายใจก็
00:24:14 → 00:24:17 จะแคบลงด้วยก็เหนื่อยง่ายใช่ไหมอ่ะคราว
00:24:17 → 00:24:19 นี้เอาง่ายๆเอาแบบ basic ก่อนแล้วกันเนาะ
00:24:19 → 00:24:22 เผื่อใครเพิ่งเริ่มเป็นนะครับกรดไหลย้อน
00:24:22 → 00:24:24 คือโรคกระเพาะอาหารนั่นแหละแต่ว่ามันเป็น
00:24:24 → 00:24:27 โรคกระเพาะอาหารที่บวกกับความเครียดเข้า
00:24:27 → 00:24:29 ไปด้วยฉะนั้นวิธีการแก้วิธีการปลดล็อค
00:24:30 → 00:24:33 เนี่ยมันต้องแก้ที่ความเครียดผสมกันอ่ะ
00:24:33 → 00:24:36 ข้อที่ 1 ก่อนวิธีการลดความเครียดนะ
00:24:36 → 00:24:40 ตื่นเช้ามาอย่าเพิ่งไปฟังอย่าเพิ่งไปดู
00:24:40 → 00:24:43 มือถือเยอะอย่าเพิ่งไปฟังข่าวลบๆนู่นนี่
00:24:43 → 00:24:45 นั่นอะไรเงี้ยไม่เอานะครับตื่นเช้ามาให้
00:24:45 → 00:24:49 มาทำสมาธิสัก 5 นาทีเนาะถ้าออกกำลังกาย
00:24:49 → 00:24:52 ได้สัก 15-20 นาทียิ่งดีมากเลยที่ต้องทำ
00:24:52 → 00:24:55 แบบนี้เพราะว่าเราจะได้สร้างพลังใจเวลา
00:24:55 → 00:24:58 เรามีพลังใจที่แข็งแรงเนี่ยเราจะเครียด
00:24:58 → 00:25:01 ได้ยากสมองก็จะค่อนข้างนิ่งขึ้นอะไรอย่าง
00:25:01 → 00:25:04 นี้นะแต่ถ้าเราตื่นเช้ามาแล้วเราปั่นป่วน
00:25:04 → 00:25:07 สมองด้วยมือถือหรืออะไรที่มันเร็วเกินไป
00:25:07 → 00:25:09 เช่นเขาลบๆอะไรอย่างนี้นะครับ
00:25:09 → 00:25:13 จะทำให้ทั้งวันของคุณเนี่ยเป็นวันที่ค่อน
00:25:13 → 00:25:15 ข้างอ่อนไหวอ่ะเจออะไรเข้าไปก็จะเป็นความ
00:25:15 → 00:25:19 คิดในแง่ลบนะแต่ถ้าคุณตั้งจิตให้ดีตั้ง
00:25:19 → 00:25:21 แต่เช้านะความคิดของคุณจะเป็นแง่บวกซะ
00:25:21 → 00:25:24 เยอะเวลาเจออะไรคุณจะสู้กับมันได้โดยที่
00:25:24 → 00:25:26 คุณไม่ว้าวุ่นใจนะครับอันนี้คือสิ่งที่
00:25:26 → 00:25:27 ต้องทำนะ
00:25:27 → 00:25:29 ข้อที่ 2 คือก่อนอาหารทุกมื้อให้กินยาหอม
00:25:29 → 00:25:34 ยาหอมเนี่ยมีฤทธิ์ในการคลายประสาททำให้ลม
00:25:34 → 00:25:37 หายใจดีทำให้ลดอาการจุกแน่นที่หน้าอกเห็น
00:25:37 → 00:25:39 มั้ยที่ท้อง
00:25:39 → 00:25:42 กระบวนการย่อยที่ดีนะครับก็เคี้ยวอาหาร
00:25:42 → 00:25:45 ให้ละเอียดนะครับขณะเคี้ยวอาหารเราก็เอา
00:25:45 → 00:25:49 ความรู้สึกอ่ะไปไว้ที่ปากที่คออะไรอย่าง
00:25:49 → 00:25:52 เงี้ยนะครับก็แล้วก็ทำจิตให้มันสบายๆนะ
00:25:52 → 00:25:55 ครับเอออร่อยดีอะไรอย่างเงี้ยนะเวลาเรา
00:25:55 → 00:25:58 เอาความรู้สึกไปที่ปากที่คอที่ลิ้นอะไร
00:25:58 → 00:26:00 อย่างนี้นะครับเท่ากับเราไม่ฟุ้งซ่านหรอก
00:26:00 → 00:26:03 แล้วเราก็เริ่มมีความสุขกับอาหารมนุษย์
00:26:03 → 00:26:05 ที่มีความสุขกับอาหารในแต่ละมื้อที่กิน
00:26:05 → 00:26:08 สมองจะบอกว่าไอ้มนุษย์คนนี้ปลอดภัยแล้ว
00:26:08 → 00:26:12 ฉะนั้นคุณก็จะมองโลกในแง่ดีมากขึ้นอีก
00:26:12 → 00:26:15 เห็นไหมฉะนั้นความรู้สึกในการกินสำคัญมาก
00:26:15 → 00:26:19 ถ้าคุณคิดว่าทุกคำที่คุณเคี้ยวเนี่ยเป็น
00:26:19 → 00:26:23 ความทุกข์นะสมองก็จะบอกว่าแย่จังเลยอ่ะคน
00:26:23 → 00:26:26 คนนี้เนี่ยไม่มีความสุขแม้กระทั่งการกิน
00:26:26 → 00:26:27 ฉะนั้น
00:26:27 → 00:26:30 โลกทั้งโลกเนี่ยนะมันคือแง่ลบเพราะว่า
00:26:30 → 00:26:33 เฮ้ยมันกำลังอันตรายนะเนี่ยๆเฮ้ยอาหาร
00:26:33 → 00:26:35 มื้อนี้ไม่ดีอาหารมื้อนี้สงสัยเป็นพิษ
00:26:35 → 00:26:37 มั้งมันไม่อร่อยงั้นต้องรีบหาที่อยู่ใหม่
00:26:37 → 00:26:41 ต้องหาเงินเพิ่มขึ้นหรือเปล่าอะไรเงี้ย
00:26:41 → 00:26:43 มันจะมีแต่ความแง่ลบเห็นมั้ยฉะนั้นความ
00:26:43 → 00:26:46 รู้สึกในปากสำคัญมากอ่ะดังนั้นพอกินอาหาร
00:26:46 → 00:26:49 ด้วยดีใช่ไหมหลังอาหารก็กินพวกโปรไบโอติก
00:26:49 → 00:26:52 ก็ได้นะครับถ้าใครจุกแน่นนะโปรเจคก็พวก
00:26:52 → 00:26:55 ไซเดอร์ก็ได้ถ้าเป็นไซเดอร์ก็ 1 ช้อนโต๊ะ
00:26:55 → 00:26:57 พร้อมน้ำครึ่งแก้วเพราะหลังอาหารเช้าเย็น
00:26:57 → 00:27:01 นะถ้าใครบอกโอ้ไซเดอร์มันแสบท้องกับหมอก็
00:27:01 → 00:27:04 เป็นโปรตีนแบบผงก็กินเช้าเย็นเหมือนกันนะ
00:27:04 → 00:27:06 ครับเวลาไหนก็ได้นะครับเช้าเย็นก่อนนะ
00:27:06 → 00:27:09 เช้าเย็นเอ่อก่อนอาหารหลังอาหารก็ได้นะ
00:27:09 → 00:27:12 ถ้าเป็นโพรงแบบผงอ่ะนะครับถ้าเป็นแบบโอ๊ย
00:27:12 → 00:27:16 เอ่อป้าอยู่ใกล้เออฉันอยู่สปปลาวนะครับก็
00:27:16 → 00:27:19 กินพวกสมุนไพรที่ช่วยย่อยสินะขมิ้นชันก็
00:27:19 → 00:27:22 ได้เอ่อ
00:27:22 → 00:27:24 นะครับ
00:27:24 → 00:27:27 น้ำขิงและกระดาษก็กินหลังอาหารเช้าเย็นนะ
00:27:27 → 00:27:29 ครับน้ำขิงก็ครึ่งแก้วอย่างนี้นะครับคราว
00:27:29 → 00:27:32 นี้มันก็กลายเป็นว่ากระบวนการย่อยก็ดีใช่
00:27:32 → 00:27:35 ไหมความรู้สึกในปากก็ดีระบบย่อยในกระเพาะ
00:27:35 → 00:27:39 ในลำไส้ก็โอเคนะครับสารอาหารก็จะค่อยๆ
00:27:39 → 00:27:42 เพิ่มขึ้นคุณก็จะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี
00:27:42 → 00:27:44 มากขึ้นและสารอาหารเพิ่มขึ้นอาการเดิน
00:27:44 → 00:27:47 เหนื่อยอะไรพวกนี้ก็หายไปเองตามธรรมชาติ
00:27:47 → 00:27:48 ที่เหลือก็แค่ว่า
00:27:48 → 00:27:51 นอนเร็วๆหน่อยใช่ไหมมันก็จะช่วยทำให้เรา
00:27:51 → 00:27:54 รู้สึกว่าเฮ้ยฉันผ่อนคลายได้ดีนะอะไร
00:27:54 → 00:27:57 อย่างนี้นะครับ
00:27:57 → 00:28:01 คุณการจะมีบอกว่าสวัสดีค่ะเอ่อ
00:28:01 → 00:28:03 คุณหมอกินอะไร
00:28:03 → 00:28:06 ถึงจะนิดเดียวแต่ก็ยังร้อนที่คอเป็นประจำ
00:28:06 → 00:28:10 ทุกวันเลยเออต้องกินอะไรถึงจะไม่ออกร้อน
00:28:10 → 00:28:13 เออโอเค
00:28:13 → 00:28:15 เอาเบื้องต้นก่อน
00:28:15 → 00:28:19 รักษาแผลก่อนรักษาแผลในปากในคอ
00:28:19 → 00:28:22 เอ่อกินน้ำเปล่าให้มากเพียงพอในแต่ละวัน
00:28:22 → 00:28:25 นะถ้าน้ำแก้วประมาณนี้นะครับก็ให้ได้
00:28:25 → 00:28:26 ประมาณสัก
00:28:26 → 00:28:31 8 แก้วถึง 9 แก้วนะครับ
00:28:31 → 00:28:34 พอเรากินน้ำเนี่ยเท่ากับว่าเรากำลังค่อยๆ
00:28:34 → 00:28:39 รักษาความร้อนในตัวใช่ไหมฉะนั้นกาแฟ
00:28:39 → 00:28:44 น้ำแข็งอาหารทอดเนื้อสัตว์ปริมาณมากๆ
00:28:44 → 00:28:49 อาหารเย็นปริมาณมากๆอาหารที่มีแต่แป้งพวก
00:28:49 → 00:28:52 นี้กินแล้วจะเกิดความร้อนแล้วก็อักเสบใน
00:28:52 → 00:28:55 ปากในคอได้ง่ายถ้าเป็นไปได้ควรเลี่ยงนะ
00:28:55 → 00:28:59 ครับเลี่ยงคือกินน้อยๆอย่ากินเยอะสมมุติ
00:28:59 → 00:29:01 ว่ากินก๋วยเตี๋ยวอย่างนี้ก็อย่าไปกินแต่
00:29:01 → 00:29:04 เส้นโอ้โหกินเส้นใหญ่เลยนะกินข้าวโอ้โห
00:29:04 → 00:29:06 ชอบกินข้าวเหนียวข้าวเหนียวเยอะๆไม่เอา
00:29:06 → 00:29:07 เด้อนะครับ
00:29:07 → 00:29:10 ก็กินแต่พอดีนะครับ
00:29:10 → 00:29:16 อะไรที่มันเป็นความแซ่บสุดๆผงชูรส
00:29:16 → 00:29:20 ผงหมาล่ากินแล้วโอ้โหมันแสบโหแสบร้อนรู้
00:29:20 → 00:29:23 สึกสะใจเนี่ยเลี่ยงไปก่อนนะจริงๆท่านก็คง
00:29:23 → 00:29:25 รู้อยู่แล้วแหละนะไม่ควรกินนะครับ
00:29:25 → 00:29:26 โอเคเนาะ
00:29:26 → 00:29:30 เอ่ออีกนิดนึงคืออาหารที่คุณแพ้ง่ายอาการ
00:29:30 → 00:29:33 เวลาเรากินอาหารที่แพงง่ายอ่ะปากเปิบมัน
00:29:33 → 00:29:35 จะมีภูมิคุ้มกันเยอะมันจะบวมมันจะแสบเนาะ
00:29:35 → 00:29:40 ถ้าคนไทยก็นมวัวถั่วเหลืองแป้งสาลีขอ 3
00:29:40 → 00:29:43 อย่างนะครับเลี่ยงไปก่อนอ่ะ
00:29:43 → 00:29:45 ประมาณนี้นะอันนี้คือไอ้ที่ไม่ควรกินและ
00:29:45 → 00:29:48 ที่คนกินเข้าไปเพื่อรักษาแผลในปากในคอล่ะ
00:29:48 → 00:29:53 มีอะไรบ้างเอาง่ายๆนะเบสิคเลยใบกะเพราใบ
00:29:53 → 00:29:58 โหระพาใบตำลึงใบแมงลักเนี่ยพวกเนี้ยเอามา
00:29:58 → 00:30:01 กินเพื่อช่วยรักษาแผลในปากในคอได้นะครับ
00:30:01 → 00:30:03 ต่างๆนะฟักเขียว
00:30:03 → 00:30:07 บวกพวกนี้กินได้เห็นไหมมันจะนิ่มๆรักษา
00:30:07 → 00:30:09 แผลในปาก
00:30:09 → 00:30:12 ทำแบบลดฝาดๆหน่อยก็
00:30:12 → 00:30:15 เอ่อใบมะตูมแขกที่เขาเรียกใบมะตูมซาอุพวก
00:30:15 → 00:30:19 นี้ใช้ได้นะครับผักปลังที่มันลื่นๆได้กิน
00:30:19 → 00:30:22 ได้ทั้งดอกแล้วก็ตัวใบมัน
00:30:22 → 00:30:25 ผักปังผักกูดมันจะลื่นๆใช่ไหมกระเจี๊ยบ
00:30:25 → 00:30:28 เขียวกล้วยน้ำว้าที่เป็นลูกๆกล้วยน้ำว้า
00:30:28 → 00:30:31 แบบสุกแล้วก็ได้กล้วยน้ำว้าดิบอาหารสัก 2
00:30:31 → 00:30:34 แว่นกินพร้อมอาหารก็ได้เออเห็นมั้ยดีมั้ย
00:30:34 → 00:30:36 โอ้โหมีให้กินตั้งเยอะเนี่ยพวกนี้ก็จะ
00:30:36 → 00:30:40 ช่วยรักษาแผลสม่ำเสมอเวลาเรารักษาแผลสม่ำ
00:30:40 → 00:30:42 เสมอเลี่ยงอาหารที่ไม่ควรกินใช่ไหมอาการ
00:30:42 → 00:30:47 แสบพวกเนี้ยก็ลดลงไปแต่ก็มีอีกหลายท่าน
00:30:47 → 00:30:50 อย่างน้อยประมาณสัก 20% แล้วกันสมมุติ 100
00:30:50 → 00:30:53 คนน่ะจะมี 20 คนที่บอกว่าทำแบบที่หมอบอก
00:30:53 → 00:30:56 แล้วแต่มันก็ยังไม่ดีขึ้นทำไมมันยังแสบคอ
00:30:56 → 00:30:59 เจ็บร้อนคออย่างเงี้ยนะอันเนี้ยมันเป็น
00:30:59 → 00:31:03 ที่ว่าเส้นประสาทในทางเดินอาหารเนี่ยมัน
00:31:03 → 00:31:07 ยังไม่ค่อยดีคราวนี้ก็ปรับไปที่การกินสิ
00:31:07 → 00:31:09 อ้าการกินนะครับอันนี้ผมแนะนำอย่างนี้นะ
00:31:09 → 00:31:12 แบบเชิงลึกหน่อย
00:31:12 → 00:31:16 เราต้องกินอาหารด้วยความสุขอยากกินอาหาร
00:31:16 → 00:31:19 ด้วยความทุกข์และความเร่งรีบนะครับ
00:31:19 → 00:31:22 เวลาเรากินอาหารด้วยความทุกข์ก็ความเร่ง
00:31:22 → 00:31:24 รีบนะครับ
00:31:24 → 00:31:27 มันจะเป็นความรู้สึกแบบเฮ้ยอาหารมื้อนี้
00:31:27 → 00:31:29 มันน่าจะไม่ดีต่อเราอะไรอย่างนี้นะครับ
00:31:29 → 00:31:33 ฉะนั้นภูมิคุ้มกันในปากในคอเราเนี่ยมันจะ
00:31:33 → 00:31:35 เยอะผิดปกติมันก็จะบวมความรู้สึกมากขึ้น
00:31:36 → 00:31:38 เส้นประสาทต้องทำงานมากขึ้นมันเหมือนแบบ
00:31:38 → 00:31:41 คุณอยู่ในที่ที่ไม่ปลอดภัยเช่นประสาทคุณ
00:31:41 → 00:31:44 จะไวมากนะโอ้ยตาต้องไวใช่ไหมผิวหนังต้อง
00:31:44 → 00:31:47 รับรู้ความร้อนความเย็นเวลาคุณอยู่ในที่
00:31:47 → 00:31:49 ที่ไม่ปลอดภัยเหมือนกันเลย
00:31:49 → 00:31:52 เวลาคุณกินอาหารที่ที่คุณชอบแล้วอ่ะที่
00:31:52 → 00:31:53 คุณรู้สึกว่าเอออันนี้อาหารนี้ปลอดภัย
00:31:53 → 00:31:56 แล้วคุณต้องรู้สึกด้วยว่ามันปลอดภัยเช่น
00:31:56 → 00:31:59 ขณะกินใช่ไหมก็อย่าดูมือถือให้ความรู้สึก
00:31:59 → 00:32:02 ในปากในคอเป็นความรู้สึกที่ปลอดภัยรู้สึก
00:32:02 → 00:32:05 อิ่มเอมจังเลยนะครับวิธีการรู้สึกอิ่ม
00:32:05 → 00:32:08 เอมันทำไงรู้มั้ยให้สำนึกบุญคุณอาหารที่
00:32:08 → 00:32:10 คุณกินเวลาเราสำนึกบุญคุณอาหารนะท่านจะ
00:32:10 → 00:32:14 รู้สึกว่าขอบคุณอาหารแล้วก็ความเป็นพิษ
00:32:14 → 00:32:17 หรือว่าความรู้สึกที่ไม่ดีต่ออาหารจะลดลง
00:32:17 → 00:32:19 เช่น
00:32:19 → 00:32:23 เอ่อข้าวทุกจานอาหารทุกอย่างอยากกินทิ้ง
00:32:23 → 00:32:28 ขว้างเป็นของมีค่าชาวนาเนื้อย่างลำบากนัก
00:32:28 → 00:32:31 หนาสงสารบันดาชาวนาอะไรอย่างเงี้ยว่ากัน
00:32:31 → 00:32:58 ไปนะครับผมจริงๆผมท่องได้เท่านี้นะ
00:32:58 → 00:33:02 คนอื่นเนี่ยใช้ความทุกข์แรกเงินนะแลกแลก
00:33:02 → 00:33:05 อาหารให้คุณกินแต่คุณมีหน้าที่แค่กินแต่
00:33:05 → 00:33:09 ดันกินด้วยความที่ไม่มีความสุขฉะนั้นพอ
00:33:09 → 00:33:11 เราเข้าใจเออว่ะทำไมเราทำอย่างนั้นล่ะใช่
00:33:11 → 00:33:13 ไหมพอเราเข้าใจมันแล้วเกิดปัญญาใช่ไหม
00:33:13 → 00:33:17 แล้วเรากินอาหารเวลาเราทำแบบนี้เนี่ยสมอง
00:33:17 → 00:33:21 เข้าใจตัวเราเข้าใจฉะนั้นในปากในคอในทุก
00:33:21 → 00:33:24 อย่างของเราเนี่ยมันจะคลายตัวมันเป็นการ
00:33:24 → 00:33:26 กินด้วยสำนึกบุญคุณน่ะมันเป็นการกินที่
00:33:26 → 00:33:30 เป็นความรู้สึกที่ดีกับอาหารแต่ละมื้อนี่
00:33:30 → 00:33:33 แค่ข้าวนะยังไม่นับรวมเนื้อสัตว์ยังไม่
00:33:33 → 00:33:36 นับรวมผักซึ่งมันยากกว่าไอ้นะเนื้อ
00:33:36 → 00:33:39 สัตว์เนี่ยมันต้องมีใครต้องสิ้นชีพมาใช่
00:33:39 → 00:33:42 ไหมเพื่อมาต่อชีวิตเราฉะนั้นถ้าเราไม่
00:33:42 → 00:33:43 สำนึกบุญคุณแม้แต่เนื้อสัตว์ที่เรากิน
00:33:43 → 00:33:45 เข้าไปนะ
00:33:45 → 00:33:48 ปากคอเรามีปัญหาหมดแหละใช่ไหมเรากินด้วย
00:33:48 → 00:33:50 ความเมามันเราไปกินด้วยความสะใจเราไปกิน
00:33:50 → 00:33:53 ด้วยความรู้สึกกลัวรู้สึกทุกข์เงี้ยไม่
00:33:53 → 00:33:56 ถูกต้องให้กินด้วยสำนึกนะพอเราทำแบบนี้
00:33:56 → 00:33:59 ได้นะปากคอดีขึ้นแน่นอนรับรองนะครับอัน
00:33:59 → 00:34:01 นี้ก็เข้าศีลข้อ 1 ใช่ไหมศีลข้อ 1 ก็
00:34:01 → 00:34:04 ปาณาติบาตก็คือเรารู้สึกสำนึกสำนึกบุญคุณ
00:34:04 → 00:34:08 กับเขาจริงๆนะครับกับสิ่งที่เขาสร้างมา
00:34:08 → 00:34:11 ให้เรานะอ่ะผมกดหัวใจไว้ให้นะครับสู้ๆนะ
00:34:11 → 00:34:15 สำหรับคนที่มีปัญหาในปากในคอเจ็บปากเจ็บ
00:34:15 → 00:34:19 ลิ้นอะไรพวกเนี้ยก็ทำวิธีนี้แหละนะครับ
00:34:19 → 00:34:22 คุณปอก็จะบอกรอฟังค่ะขอบคุณนะครับ
00:34:22 → 00:34:24 คุณภูมิศีลบอกว่า
00:34:24 → 00:34:27 ตอนนี้ท้องแปรปรวน
00:34:27 → 00:34:31 ท้องลมในท้องเยอะไม่ผายลมไม่ผายลมไม่ออก
00:34:31 → 00:34:32 เนี่ยนะ
00:34:32 → 00:34:36 นั่งน่ะอะไรนะนั่งนอนไม่ได้เอ่อแล้วก็ชอบ
00:34:36 → 00:34:38 เป็นไข้ตอนตี 1 ตี 2 ขึ้นไปอยากถามว่า
00:34:38 → 00:34:43 เป็นเพราะอะไรคะ
00:34:43 → 00:34:46 คือถ้าสมมุติว่าเราเป็นลำไส้แปรปรวนเนี่ย
00:34:46 → 00:34:48 แสดงว่า
00:34:48 → 00:34:50 ร่างกายเราเนี่ยมัน
00:34:50 → 00:34:53 กำลังสู้กับอะไรบางอย่างเออสู้กับอะไรบาง
00:34:53 → 00:34:55 อย่างไอ้กระบวนการสู้เนี่ยบางทีมันต้อง
00:34:55 → 00:34:58 เป็นไข้นะเป็นไข้เพื่อทำให้เกิดการฆ่า
00:34:58 → 00:35:00 เชื้อโรคอะไรอย่างนี้ฉะนั้นผมสันนิษฐาน
00:35:00 → 00:35:03 สำหรับคุณภูมิสินนะว่าคุณอาจจะมีติดเชื้อ
00:35:03 → 00:35:06 อะไรภายในท้องพอสมควรนะครับ
00:35:06 → 00:35:08 ฉะนั้นแล้วเนี่ยสิ่งที่ควรทำคือเติม
00:35:08 → 00:35:11 probiotic ทุกมื้อเลยทุกมื้อเช่นได้กิน
00:35:11 → 00:35:14 แบบซองก็ได้นะหลังอาหารทุกมื้อหรือถ้า
00:35:14 → 00:35:16 เป็นแบบน้ำถ้าเป็นแบบคลินิกเนี่ยก็ 2
00:35:16 → 00:35:18 ช้อนโต๊ะหลังอาหารเช้าเย็นอย่างนี้ก็ได้
00:35:18 → 00:35:22 นะครับจุลินทรีย์ที่ดีจะทำให้ลำไส้ไม่ติด
00:35:22 → 00:35:24 เชื้อง่ายนะครับ
00:35:24 → 00:35:26 ก่อนอาหารกิน
00:35:26 → 00:35:29 สมุนไพรช่วยย่อยอาหารหน่อยนะครับแล้วก็
00:35:29 → 00:35:32 ช่วยซ่อมแซมแผลถ้าที่คลินิกมีชื่อว่า
00:35:32 → 00:35:36 ประสะการพลูประสานการพลูเนี่ยเรียกทำย่อย
00:35:36 → 00:35:38 มาย่อยอาหารได้ดีแล้วก็การพลูเนี่ยก็มัน
00:35:38 → 00:35:42 จะเย็นๆใช่ไหมแล้วก็ชาๆก็จะเป็นการฆ่า
00:35:42 → 00:35:45 เชื้อโรคด้วยนะแล้วก็ทำให้ลำไส้นิ่งขึ้น
00:35:45 → 00:35:49 ด้วยอ่ะคราวนี้กระบวนการย่อยก็ดีเอ่อแล้ว
00:35:49 → 00:35:51 ก็นิ่งขึ้นใช่ไหมแล้วก็จุลินทรีย์ที่ดีก็
00:35:51 → 00:35:55 ดีขึ้นแล้วนะครับอาการติดเชื้อภายในลำไส้
00:35:55 → 00:35:57 หรือว่าติดเชื้อในเรื่องของระบบน้ำเหลือง
00:35:57 → 00:36:00 อะไรพวกเนี้ยมันก็ทุเลาลงนะอาการไข้ต่างๆ
00:36:00 → 00:36:02 ก็จะดีขึ้นนะครับ
00:36:02 → 00:36:04 สิ่งที่อยากให้คุณภูมิสินลดเลยมากๆเลยคือ
00:36:04 → 00:36:07 น้ำตาลเวลาเรากินน้ำตาลน่ะมันจะเป็นไข้
00:36:07 → 00:36:10 ไม่หยุดนะมันจะทำให้เราแบบติดเชื้อได้
00:36:10 → 00:36:12 ง่ายและภูมิคุ้มกันน่ะมันจะกลับเข้าสู่
00:36:12 → 00:36:16 ภาวะปกติอ่ะไม่สำเร็จสักทีดังนั้นก็ลดน้ำ
00:36:16 → 00:36:19 ตาลลงมากๆโดยเฉพาะมื้อเย็นนะเช่นกาแฟใส่
00:36:19 → 00:36:23 น้ำตาลโกโก้ใส่น้ำตาลอะไรใส่นมข้นหวาน
00:36:23 → 00:36:26 อะไรพวกนี้อันนี้ไม่เอาเลยนะครับชาเย็น
00:36:26 → 00:36:28 เนี่ยห้ามกินเลยนะชาเย็นที่ใส่นมน้ำตาล
00:36:28 → 00:36:30 เนี่ยไม่ให้กินเลยนะ
00:36:30 → 00:36:32 พอเราทำแบบนี้เนี่ยลำไส้เริ่มดีละนะครับ
00:36:32 → 00:36:34 อาการที่แบบเป็นไข้อะไรพวกนี้ก็จะดีขึ้น
00:36:34 → 00:36:37 ถ้าจะเติมเข้าไปหน่อยถ้าบอกเฮ้ยกังวล
00:36:37 → 00:36:39 เรื่องไอ้ไข้เนี่ยทำไงก็เติมฟ้าทะลายโจร
00:36:39 → 00:36:43 ก็ได้ 1 เม็ดเช้า 1 เม็ดก่อนนอนจะได้ไม่
00:36:43 → 00:36:45 ต้องไม่ร่างกายไม่เย็นเกินไปร่างกายเย็น
00:36:45 → 00:36:48 ก็อาจจะเกิดแก๊สได้นะครับกินสักประมาณ 10
00:36:48 → 00:36:52 วันนะฮะก็จะช่วยทำให้โอ้ลำไส้ดีขึ้นอาการ
00:36:52 → 00:36:54 ติดเชื้อน้อยลงอะไรอย่างเงี้ยนะครับ
00:36:54 → 00:36:56 ถ้าบอกโอ้ที่บ้านน่ะที่บ้านหนูอ่ะมีต้น
00:36:56 → 00:36:59 ฟ้าทะลายโจรเลยนะก็กินเลยนะครับก็เด็ดใบ
00:36:59 → 00:37:02 นะล้างน้ำหน่อยเคี้ยวๆๆนะครับไม่ต้องกลืน
00:37:02 → 00:37:05 ก็ได้นะนะแต่คืนไปก็ดีกว่านะฮะ
00:37:05 → 00:37:09 ก็เช้าแล้วก็ก่อนนอนครั้งละใบเนี่ยอ่า
00:37:09 → 00:37:15 เดี๋ยวก็ใช้ได้เหมือนกันนะครับ
00:37:15 → 00:37:17 คุณแอดดี้บอกว่ารอฟังขอบคุณค่ะ
00:37:17 → 00:37:22 คุณแอมป์บอกว่านอนตื่นแล้วขอบเปรี้ยวนะ
00:37:22 → 00:37:25 ครับทำไงดีครับเออขอเปรี้ยวเนี่ยก็ค่อน
00:37:25 → 00:37:28 ข้างชัดเจนนะลมในท้องเนี่ยเป็นไงมันพัด
00:37:28 → 00:37:32 เอาไอ้ตัวน้ำกรดอ่ะขึ้นมาแล้วมันก็เป็น
00:37:32 → 00:37:37 แค่ละอองน้ำกรดนะละอองน้ำกรดเนี่ยมันจะมี
00:37:37 → 00:37:39 ความเปรี้ยวแต่ถ้าเป็นน้ำกรดเลยอ่ะมันจะ
00:37:39 → 00:37:42 ฟันมันจะกร่อนฟันกร่อนปากเป็นแผลอันเนี้ย
00:37:42 → 00:37:44 ค่อนข้างหนักแต่อันนี้เป็นแค่ละอองน้ำกรด
00:37:44 → 00:37:45 ฉะนั้น
00:37:45 → 00:37:49 ความขมเนี่ยก็คือละอองน้ำดีอะไรอย่างนี้
00:37:49 → 00:37:51 นะครับก็คือน้ำดีแหละมันก็ดันขึ้นมานะ
00:37:51 → 00:37:52 ครับ
00:37:52 → 00:37:55 ฉะนั้นลงเนี่ยมันเยอะไปเราก็ต้องแก้โดย
00:37:55 → 00:37:59 การข้อที่ 1 ก่อนนะครับกินอาหารเป็นมื้อ
00:37:59 → 00:38:03 ใครที่ชอบกินหลายมื้อนะเช่น 5 มื้อบ้าง 6
00:38:03 → 00:38:05 มื้อบ้างเงี้ยไม่เอานะครับกินน้อยๆแต่
00:38:05 → 00:38:08 หลายมื้อไม่เอานะครับให้กินเป็นมื้อ 3
00:38:08 → 00:38:12 มื้อพอนะครับเช้ากลางวันเย็นแต่ละมื้อกิน
00:38:12 → 00:38:16 ไม่เยอะเกินไปแต่ละมื้อขอให้เคี้ยวให้ชัด
00:38:16 → 00:38:18 เจนนะครับการเคี้ยวอาหารมีความสุขกับการ
00:38:18 → 00:38:21 กินใช่ไหมกระบวนการย่อยที่ดีสารอาหารก็
00:38:21 → 00:38:24 เพิ่มขึ้นใช่มั้ยเวลามนุษย์มีสารอาหารที่
00:38:24 → 00:38:27 เพิ่มอ่ะน้ำย่อยไม่ต้องออกมาเยอะไม่ต้อง
00:38:27 → 00:38:31 ไปออกกลางคืนไม่ต้องไปออกผิดเวลาใช่มั้ย
00:38:31 → 00:38:34 ยาที่เกี่ยวกับการกระบวนการลดกรดอะไร
00:38:34 → 00:38:38 เงี้ยเอาไว้กินตอนแสบท้องมากๆเท่านั้นยา
00:38:38 → 00:38:41 ที่เกี่ยวกับการเคลือบแผลต่างๆเก็บไว้กิน
00:38:41 → 00:38:45 ตอนแสบท้องมากๆเท่านั้นแต่ทำไมต้องทำ
00:38:45 → 00:38:47 อย่างนั้นเพราะว่าเราต้องการให้ร่างกาย
00:38:47 → 00:38:50 กลับคืนสู่ธรรมชาติให้เร็วที่สุดเท่าที่
00:38:50 → 00:38:52 จะทำได้โอเคไหมครับ
00:38:52 → 00:38:54 เช่นสมมุตินะคุณบอกว่าฉันแสบท้องตอนตี 1
00:38:54 → 00:38:58 อ่ะกินได้แต่ยาลดกรดยาเคลือบแผลกินไปเถอะ
00:38:58 → 00:39:01 แต่ถ้าเราในภาวะปกติที่เราอยากจะหายแล้ว
00:39:01 → 00:39:03 เรายังไม่ได้แสบอะไรมากนะกินอาหารเป็น
00:39:03 → 00:39:06 เวลา 3 มื้อนะครับแล้วก็ให้น้ำย่อยมันออก
00:39:06 → 00:39:08 มา
00:39:08 → 00:39:11 กินยาหอมก่อนอาหารก็ได้นะครับช่วยทำให้ลม
00:39:11 → 00:39:14 ในท้องสลายไปนะครับแล้วก็ทำให้กลืนอาหาร
00:39:14 → 00:39:17 ลงเห็นไหมหลังอาหารกินธาตุมันจบก็ได้จะ
00:39:17 → 00:39:20 เป็นเม็ดเป็นลูกกลอนเป็นอะไรว่ากันไปหลัง
00:39:20 → 00:39:22 อาหารเช้าเย็นแล้วกันนะครับจะได้ไม่ต้อง
00:39:22 → 00:39:25 มากไปถ้ามันจบข้อดีของเขาก็คือว่าช่วยไล่
00:39:25 → 00:39:27 ลมด้วยแล้วก็รักษาแผลไปด้วยแล้วก็ควบคุม
00:39:27 → 00:39:31 ไอ้ตัวเชื้อ hyoride ไปด้วยทำให้มันเชื้อ
00:39:31 → 00:39:33 มันไม่มากเกินไปเนี่ย SQL เนี่ยจริงๆอยู่
00:39:33 → 00:39:35 ในท้องเราอยู่แล้วนะยังไม่ต้องกลัวมาก
00:39:35 → 00:39:39 เอ่อแค่ทำให้กระเพาะเราไม่ได้เป็นแผลนะ
00:39:39 → 00:39:41 ครับเราก็จะควบคุมมันได้แค่นั้นเองนะครับ
00:39:41 → 00:39:42 คราวนี้
00:39:42 → 00:39:47 กระบวนการย่อยดีลงในท้องลดลงเอ่อแผลต่างๆ
00:39:47 → 00:39:48 ก็
00:39:48 → 00:39:51 ควบคุมได้แล้วนำย่อยไม่ออกมาเยอะเพราะว่า
00:39:51 → 00:39:54 ฉันมีสารอาหารเยอะถ้าใครบอกว่าโอ๋ปากโน้น
00:39:54 → 00:39:57 อ่ะซีดไปหมดแล้วลิ้นหนูว่าซีดไปหมดแล้ว
00:39:57 → 00:40:00 เออเพราะระบบย่อยไม่ดีเป็นเวลานานแบบนี้
00:40:00 → 00:40:03 เนี่ยนำย่อยจะมาไม่หยุดเหมือนกันฉะนั้นก็
00:40:03 → 00:40:06 เติมสารอะไรกับทองไปก่อนทองให้กิน 5 เม็ด
00:40:06 → 00:40:09 ตอนตื่นนะครับเพื่อทำให้น้ำกรดอ่ะไม่ต้อง
00:40:09 → 00:40:12 ออกมามั่วนะก็เออให้มันออกเป็นเวลาที่
00:40:12 → 00:40:16 เหลือก็กินอาหารเป็นเวลาแค่นั้นเองนะครับ
00:40:16 → 00:40:19 ตอนจะนอนสิ่งที่ไม่ควรทำเลยคือทำให้จิต
00:40:19 → 00:40:22 มันวุ่นวายเวลาเราจิตวุ่นวายนะคุณจะนอน
00:40:22 → 00:40:23 ด้วยความกลัว
00:40:23 → 00:40:26 เวลาเรานอนด้วยความกลัวคุณก็จะมีปัญหา
00:40:26 → 00:40:29 เรื่องน้ำกรดได้ง่ายนะครับดังนั้นก็ก่อน
00:40:29 → 00:40:31 นอนสักชั่วโมงนึงเปลี่ยนเป็นการอ่าน
00:40:31 → 00:40:35 หนังสือแทนนะทำจิตให้นิ่งๆขึ้นจะสวดมนต์
00:40:35 → 00:40:38 ทำสมาธิด้วยยิ่งดีมากๆเลยถ้าใครเป็นภาชนะ
00:40:38 → 00:40:42 อื่นก็ทำตามศาสนาของท่านถ้าใครไม่มีศาสนา
00:40:42 → 00:40:45 ขอให้จิตมันนิ่งแล้วก็มั่นคงก็แล้วกันนะ
00:40:45 → 00:40:46 ครับ
00:40:46 → 00:40:49 ถ้าเป็นมากๆเข้านะครับก็พยายามไปเดินให้
00:40:49 → 00:40:52 ลมมันเคลื่อนหน่อยเช่นหลังอาหารนะครับก็
00:40:52 → 00:40:55 จะช่วยได้นะ
00:40:55 → 00:40:58 คุณสมพรรอฟังข่าวขอบคุณค่ะ
00:40:58 → 00:41:02 คุณทด
00:41:02 → 00:41:05 บอกว่าสวัสดีค่ะคุณหมอรบกวนสอบถามเป็นต้อ
00:41:06 → 00:41:09 เนื้อควรรักษาอย่างไรอาหารที่ควรกินด้วย
00:41:09 → 00:41:10 ค่ะโอเค
00:41:10 → 00:41:13 ต้อเนื้อเนี่ยถ้าในยุคปัจจุบันนี้
00:41:13 → 00:41:16 สิ่งที่คนทำนะคืองี้
00:41:16 → 00:41:21 ก็ต้อหินก่อนอ่ะต้อหินเนี่ยมันเกิดจากท่อ
00:41:21 → 00:41:24 น้ำตามีปัญหาใช่ไหมกระบวนการดูดซึมน้ำใน
00:41:24 → 00:41:27 เนี้ยมีปัญหาอันนี้ก็ไปกลัวซาอะไรพวก
00:41:27 → 00:41:31 เนี้ยจะดีขึ้นแต่ถ้าพวกต้ออื่นๆอ่ะต่อลม
00:41:31 → 00:41:34 ต่อกระจกต่อเนื้อหรืออะไรประมาณนี้ส่วน
00:41:34 → 00:41:36 ใหญ่ๆแล้วมันเกิดจากความเสื่อมของร่างกาย
00:41:36 → 00:41:40 ครับฉะนั้นแล้วเนี่ยมันเสื่อมในสิ่งที่
00:41:40 → 00:41:42 แตกต่างกันไปแต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นน่ะ
00:41:42 → 00:41:45 ก็เรียกว่าตามันเสื่อมก็แล้วกันตามัน
00:41:45 → 00:41:47 เสื่อมสิ่งที่คนทำอันดับแรกก่อนก็คือต้อง
00:41:47 → 00:41:51 ลดการจ้องมองไฟนะก็ลดการเล่นมือถือลดการ
00:41:51 → 00:41:52 ใช้คอมพิวเตอร์นะครับ
00:41:52 → 00:41:56 สมมุติจะใช้จริงๆเปิด YouTube หรืออะไรก็
00:41:56 → 00:41:59 ตามเนี่ยก็เป็นการเปิดรับฟังเอาก็ใช้ได้
00:41:59 → 00:42:00 นะครับ
00:42:00 → 00:42:05 นวดนวดนวดหน้านะครับเพื่อทำให้เลือดมัน
00:42:05 → 00:42:07 หมุนเวียนเลือดศีรษะทำให้เลือดหมุนเวียน
00:42:07 → 00:42:10 อันนี้ทำให้ความเสื่อมในลูกตาเนี่ยนะครับ
00:42:10 → 00:42:12 มันลดลงไปตามธรรมชาติลดคิ้วอย่างเงี้ย
00:42:12 → 00:42:15 ก่อนนอนทุกคืนเนี้ยลองลดคิ้วดูแล้วคุณจะ
00:42:15 → 00:42:18 รู้สึกได้ว่าตาของคุณน่ะมันอุ่นขึ้นนะ
00:42:18 → 00:42:20 ครับ
00:42:21 → 00:42:24 อ่าแล้วก็เลี่ยงอาหารที่กินแล้วตาเสื่อม
00:42:24 → 00:42:27 นะครับก็คืออาหารที่ทำร้ายตับต่างๆนะครับ
00:42:27 → 00:42:30 เช่นของทอดนะครับของทอดเนี่ยทำให้ตับร้อน
00:42:30 → 00:42:32 แล้วก็แห้งนะครับ
00:42:32 → 00:42:34 เอ่อตาก็จะร้อนและแห้งเหมือนกันแล้วก็
00:42:34 → 00:42:37 เกิดความเสื่อมต่างๆว่ากันไปนะครับ
00:42:37 → 00:42:40 เอ่อน้ำที่มันหวานๆอ่ะน้ำอัดลมอะไรพวก
00:42:40 → 00:42:43 เนี้ยก็พยายามเลี่ยงไปนะครับกาแฟแบบทั้ง
00:42:43 → 00:42:46 วันน่ะวันนึง 3-4 แก้วเนี่ยไม่เอาเด้อนะ
00:42:46 → 00:42:49 ครับยิ่งกินเยอะยิ่งตายยิ่งมีปัญหานะครับ
00:42:49 → 00:42:52 ก็กินสักวันหนึ่งแก้วนึงอะไรอย่างนี้พอแล้วนะครับ
00:42:52 → 00:44:00 แล้วก็อาหารที่มีเนื้อสัตว์ปริมาณมากๆจริงๆแบบบุฟเฟต์นะครับชาบูอะไรอย่างนี้พวกนี้กินเยอะๆกินเนื้อสัตว์เยอะๆตับก็เหนื่อยนะเพราะตับต้องสร้างเอนไซม์สร้างน้ำย่อยสร้างอะไรพวกนี้ออกมามันหมดแรงครับพอหมดแรงตาก็จะมีปัญหาเหมือนกันเนาะฉะนั้นพอเราเลี่ยงสิ่งนั้นไปแล้วเนี่ยเราก็ค่อยๆดูแลดวงตาทำให้ลดความเสื่อมของดวงตาได้อ่ะเช่นขมิ้นชันก็ใช้ได้แอสต้าแซนทินก็ใช้ได้สาหร่ายเกลียวทองก็ใช้ได้นะครับธัญพืชที่เป็นสีๆอะไรต่างๆพวกเนี้ยก็ได้หมดเลยข้าวกล้องสีนิลสีดำพวกนี้ก็ใช้ได้นะเบอร์รี่ต่างๆนะครับพวกนี้ก็สามารถบำรุงดวงตาอันนี้พูดถึงตอนอื่นด้วยนะต่อลมต่อกระจกด้วยนะแล้วก็ต้อเนื้อเนี่ยนะครับก็กินพวกนี้ก็จะช่วยท่านได้นะครับประมาณนี้เนาะแล้วนี้เดี๋ยวนี้เขาจะมีอะไรนะมีการ
00:44:00 → 00:44:01 เอ่อใช้อ่ะบ่งต้อด้วยนะไว้อย่างเงี้ยก็ลองไปศึกษาดูว่าเอ๊ะแนวเราเนี่ยชอบไหมโอเคไหมดีไหมนะครับเพราะว่าเท่าที่ผมเห็นนะก็ได้ผลใช้ได้นะที่เขาแบบว่าเป็น
00:44:01 → 00:44:06 Before After
00:44:06 → 00:44:07 อะไรอย่างเงี้ยแล้วเขาก็ทำมาในอดีตกาลแล้วด้วยความเห็นผมเนี่ยเอ่อผมให้ซัก
00:44:07 → 00:44:11 60% ละกันนะครับน่าจะช่วยท่านได้นะครับ
00:44:11 → 00:44:14 นะครับลองไปศึกษาเราก็ลองปรับเปลี่ยน
00:44:14 → 00:44:16 อาหารการกินให้ดีนะครับแล้วก็ลดการจ้อง
00:44:16 → 00:44:24 มองไฟน่าจะช่วยคุณทดได้นะ
00:44:24 → 00:44:27 คุณอ้อมบอกว่าสวัสดีค่ะวัยทองเป็นนานแค่
00:44:27 → 00:44:30 ไหนถึงจะหายอาการ
00:44:30 → 00:44:32 เป็นๆหายๆบางครั้งบางเดือนก็เกือบทั้ง
00:44:33 → 00:44:35 เดือนบางเดือนก็แทบจะไม่มีอาการเลยแบบนี้
00:44:35 → 00:44:39 เกือบปีแล้วค่ะสมุนไพรตัวไหนช่วยได้บ้าง
00:44:39 → 00:45:10 ขอบคุณค่ะโอเค
00:45:10 → 00:45:14 ว่านรากสามสิบหรือเอ่อว่านชักมดลูกเนี่ย
00:45:14 → 00:45:17 มันก็ดีนะแต่มันจะดีประมาณสักเดือนสอง
00:45:17 → 00:45:20 เดือนเอ่อสู้ยาที่เป็นตำรับอ่ะไม่ได้ซึ่ง
00:45:20 → 00:45:23 ในประเทศไทยเนี่ยส่วนใหญ่ยาววัยทองเป็น
00:45:23 → 00:45:26 ตำรับนะกินแบบนั้นดีกว่ากินได้นานกว่ากิน
00:45:26 → 00:45:29 สักประมาณ 3-4 เดือนนะครับพอกินเงี้ย
00:45:29 → 00:45:33 ฮอร์โมนต่างๆก็จะเริ่มเข้าที่เข้าทางก็จะ
00:45:33 → 00:45:36 ช่วยได้สำคัญสุดๆคือคือวัยทองเนี่ยมันคือ
00:45:36 → 00:45:40 ภาวะที่ธาตุลมมันกำเริบฉะนั้นจริงๆแล้ว
00:45:40 → 00:45:43 เนี่ยโรคเนี่ยมันก็จะขึ้นแล้วมันก็ลงตาม
00:45:43 → 00:45:46 วัยนั่นแหละขึ้นก็คือตอนช่วงหมดจะหมด
00:45:46 → 00:45:49 ประจำเดือนหรือหมดประจำเดือนใหม่ๆหรือว่า
00:45:49 → 00:45:51 กันไปนะครับมันก็จะอารมณ์มันอารมณ์มันก็
00:45:51 → 00:45:55 จะแบบคืนเงินๆๆและตอนตบมันลงเลยนะตอนลง
00:45:55 → 00:45:59 เนี่ยสิ่งที่เราควรทำก็คือว่าเราต้องควบ
00:45:59 → 00:46:02 คุมอารมณ์ให้เป็นนะอะไรก็ได้ที่รู้สึกว่า
00:46:02 → 00:46:06 เราร้อนเกินไปเราใช้ร้อนเกินไปอ่ะใน
00:46:06 → 00:46:08 เรื่องนี้โอ้โหเช่นสมมุตินะ
00:46:08 → 00:46:10 สำหรับเรื่องความสวยความงามเนี่ยเราอ่ะ
00:46:10 → 00:46:14 แซวไม่ได้เลยอ่าแซวเรานะแบบเสื้อผ้าวัน
00:46:14 → 00:46:15 นี้เป็นอย่างนู้นอย่างนี้เนี่ยไม่ได้นะ
00:46:15 → 00:46:18 เราต้องเปลี่ยนเลยอะไรเงี้ยนะครับผมเรา
00:46:18 → 00:46:20 ร่วงนิดนึงอ่ะเราเราควบคุมอารมณ์ไม่ได้
00:46:20 → 00:46:22 เลยอย่างเงี้ยหงุดหงิดทั้งวันเลยหรือว่า
00:46:22 → 00:46:25 ส่องกระจกแล้วดูอ้วนจังเลยแล้วเราควบคุม
00:46:25 → 00:46:27 อารมณ์ไม่ได้ทั้งวันไงอันนี้ไม่เอาอ่านะ
00:46:27 → 00:46:30 ครับต้องทำจิตให้มันมั่นคงขึ้นหน่อยแล้ว
00:46:30 → 00:46:32 ก็ไปออกกำลังกายเด้อนะครับการออกกำลังกาย
00:46:32 → 00:46:35 เนี่ยเป็นการทำให้เราควบคุมอารมณ์ได้ควบ
00:46:35 → 00:46:37 คุมความรู้สึกตามเนื้อตามตัวอะไรได้นะ
00:46:37 → 00:46:41 ครับแล้วก็หาอะไรทำที่มันเป็นกิจวัตรที่
00:46:41 → 00:46:45 รู้สึกว่ามันสนุกๆหน่อยอ่ะนะครับเวลาเรา
00:46:45 → 00:46:47 มีอะไรกิจวัตรที่มันสนุกใช่มั้ยเราจะมี
00:46:47 → 00:46:50 สมาธิเช่นกิจวัตรเช่นเราปลูกต้นไม้ปลูก
00:46:50 → 00:46:52 บอนไซดูแลต้นไม้
00:46:52 → 00:46:54 หรือว่า
00:46:54 → 00:46:58 จะฝึกสิ่งใหม่ๆอาจจะเดี๋ยวนี้นะ
00:46:58 → 00:47:00 เรื่องฝึกเรื่องของโซเชียลมีเดีย
00:47:00 → 00:47:03 คอมพิวเตอร์อะไรพวกนี้ก็ใช้ได้นะครับ
00:47:03 → 00:47:07 ฝึกการพูดการคุยได้หมดเลยนะครับฝึกการ
00:47:07 → 00:47:10 เล่าเรื่องฝึกการเล่านิทานฝึกอ่านหนังสือ
00:47:10 → 00:47:13 อ่านหนังสือแล้วก็จด Short Note สรุป
00:47:13 → 00:47:15 เป็นเนื้อเนื้อหาอะไรเงี้ยได้เลยนะครับ
00:47:15 → 00:47:18 เวลาเราทำอะไรใหม่ๆแล้วก็สนุกไปกับมัน
00:47:18 → 00:47:22 เนี่ยเราจะมีสมาธิเวลาเรามีสมาธิลมมันจะ
00:47:22 → 00:47:24 ไม่ลมมันจะไม่ปั่นป่วนฉะนั้นช่วงที่เป็น
00:47:24 → 00:47:27 วัยทองนะอย่าเพิ่งไปยุ่งกับอะไรที่มัน
00:47:27 → 00:47:31 อะไรนะขึ้นๆลงๆอ่ะเช่นยุ่งกับร่างกายเยอะ
00:47:31 → 00:47:35 ๆยุ่งกับอารมณ์ตนเองยุ่งกับความประสบความ
00:47:35 → 00:47:37 สำเร็จเยอะๆเนี่ยอันนี้เลี่ยงๆไปก่อนนะ
00:47:37 → 00:47:41 ครับทำอะไรที่มันมั่นคงเช่นพวกทำอะไรก็
00:47:41 → 00:47:44 ได้ที่ทำให้เกิดวินัยเกิดความสนุกเกิด
00:47:44 → 00:47:48 ความมีสมาธิไงก็ได้แล้วคุณก็กินพวกเอ่อยา
00:47:48 → 00:47:50 ที่เกี่ยวกับวัยท้องอ่ะช่วยได้ดีนะครับ
00:47:50 → 00:47:51 เนาะ
00:47:51 → 00:47:54 ที่เหลืออีกนิดนึงไปนวดนะนวดสัปดาห์ละ
00:47:54 → 00:48:02 ครั้งจะช่วยท่านได้
00:48:02 → 00:48:05 อ่ะคุณดารุณีบอกว่ารอฟังค่ะ
00:48:05 → 00:48:11 ขอข้อ 1 เวลานั่งห้อยขาทำไมขาและเท้าบวม
00:48:11 → 00:48:15 นั่งไม่นานก็จะบวมค่ะ
00:48:15 → 00:48:18 เวลาขาบวมนะขาบวมนี่แสดงว่าเลือดมันไปได้
00:48:18 → 00:48:21 นะไปได้แต่มันกลับไม่ได้มันกลับมันกลับ
00:48:21 → 00:48:24 มันไม่ได้แสดงว่าท่านมีปัญหาเรื่องกล้าม
00:48:24 → 00:48:27 เนื้อกล้ามเนื้อที่อยู่ในตัวท่านน่ะนะ
00:48:27 → 00:48:27 ครับ
00:48:27 → 00:48:31 ก็ขอให้คุณดีนะขั้นแรกไปนวดก่อนเป็นนวด
00:48:31 → 00:48:33 สัปดาห์ละครั้งเพื่อทำให้อะไรที่มันติด
00:48:33 → 00:48:36 ขัดเนี่ยมันคลายออกก่อนนะครับแล้วก็ใน
00:48:36 → 00:48:39 ระหว่างนี้ค่อยๆฝึกออกกำลังกายเช่น
00:48:39 → 00:48:43 เอ่อการฝึกท่าสควอชอ่าการฝึกนั่งแล้วเตะ
00:48:43 → 00:48:47 ขาไปด้านหน้านะครับการเอ่ออะไรล่ะยืนแล้ว
00:48:47 → 00:48:51 ก็เอาส้นเท้าเตะก้นตัวเองนะจนเท้าเตะคน
00:48:51 → 00:48:53 อื่นเขาเรียกบัตรอะไรนะพูดง่ายๆคือออก
00:48:53 → 00:48:57 กำลังกายขานั่นแหละนะครับเวลาขาที่เอ่อ
00:48:57 → 00:48:59 กล้ามเนื้อไม่แข็งเกินไปนะครับไปนวดบ้าง
00:48:59 → 00:49:02 นวดด้วยตนเองบ้างเอายาหม่องนวดก่อนนอนทุก
00:49:02 → 00:49:05 คืนบ้างนะครับออกกำลังกายขาเป็นประจำไป
00:49:05 → 00:49:07 เดินบ้างอะไรเงี้ยนะครับเลือดก็จะหมุนละ
00:49:07 → 00:49:11 เออโมนเวียนหมุนเวียนได้ดีนะครับเวลานั่ง
00:49:11 → 00:49:15 เวลานอนเวลาดึกยืนนะครับอย่าอย่านอนผิด
00:49:15 → 00:49:18 ท่าแบบขานี่งอเลยนะเวลายืนก็อย่ายืนแอ่น
00:49:18 → 00:49:21 ไปข้างนึงอะไรอย่างเงี้ยนะครับประมาณนี้
00:49:21 → 00:49:23 นะเวลานั่งก็พยายามนั่งตัวตรงหน่อยนะครับ
00:49:23 → 00:49:26 อย่าแบบขาน่ะอย่าพับไปพับมายังไม่เอานะ
00:49:26 → 00:49:26 ครับ
00:49:27 → 00:49:29 คราวนี้พอเราเลื่อนมันหมุนเวียนดีใช่ไหม
00:49:29 → 00:49:32 อาการขาบวมอะไรพวกนี้ก็จะดีขึ้นแต่ถ้ามัน
00:49:32 → 00:49:34 ยังบวมอีกแสดงว่ามันอาจจะมีปัญหาเรื่อง
00:49:34 → 00:49:37 เลือดข้นคุณก็ต้องกินน้ำให้เพียงพอกินน้ำ
00:49:37 → 00:49:41 มันมะพร้าวประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อวันเช้า
00:49:41 → 00:49:44 ช้อนนึงบ่ายๆช้อนนึงนะครับ
00:49:44 → 00:49:46 แล้วก็กินไอ้ตัว
00:49:46 → 00:49:49 ถ้าคลินิกผมจะมีเอนไซม์กระเจี๊ยบอยู่
00:49:49 → 00:49:51 เนี่ยก็จะช่วยได้หรือจะเป็นต้มน้ำ
00:49:51 → 00:49:54 กระเจี๊ยบกินก็ใช้ได้เหมือนกันนะครับก็จะ
00:49:54 → 00:49:55 ช่วยทำให้
00:49:55 → 00:49:58 เลือดมันไม่ข้นหนืดเกินไปนะครับ
00:49:58 → 00:50:05 เลี่ยงเออนมน้ำแข็งน้ำเย็นแล้วก็อะไรที่
00:50:05 → 00:50:08 เป็นเมือกๆต่างๆเนาะโกโก้โกโก้เนี่ยก่อน
00:50:08 → 00:50:11 นอนตรงเนี้ยเรียงๆไปเด้อนะครับ
00:50:11 → 00:50:14 สู้ๆนะครับเออเดี๋ยวนี้คนเป็นขาบวมเยอะนะ
00:50:14 → 00:50:20 ครับค่อยๆปรับแก้ไขกันไป
00:50:20 → 00:50:22 อ่ะมาดูอันนี้เป็นน่าจะเป็นเอ่อ
00:50:22 → 00:50:24 ประสบการณ์นะครับ
00:50:24 → 00:50:27 สวัสดีครับคุณหมอติดตามคุณหมอมานานฟัง
00:50:27 → 00:50:30 แล้วนำมาใช้กับตัวเองเป็นกรดไหลย้อนระยะ
00:50:30 → 00:50:33 ที่ 3 นำความรู้ที่ได้รับคุณหมอมาปรับใช้
00:50:33 → 00:50:37 จนปัจจุบันชีวิตมีความสุขมากเลยนะป้าใช้
00:50:37 → 00:50:40 สมุนไพร 3 ตัวเท่านั้นมียาหอมชงเติมขิง
00:50:40 → 00:50:43 นิดหน่อยก็คือเอายาหอมผสมน้ำขิงเนอะนะ
00:50:43 → 00:50:47 ครับผงกล้วยน้ำว้าดิบชงกับน้ำอุ่นกินก่อน
00:50:47 → 00:50:50 อาหารเช้าเย็นนะครับแล้วก็ก่อนนอนกินธรณี
00:50:50 → 00:50:53 สัณฑะฆาตธรณีสารคามคือยาที่ช่วยทำให้ผัก
00:50:53 → 00:50:58 ลมในลำไส้นะไม่ใช่ไม่ใช่เพชรสังฆาตนะธรณี
00:50:58 → 00:51:01 สารคามช่วยผลักลมนะครับสัปดาห์ละ 2 วัน
00:51:01 → 00:51:03 ขอบคุณคุณหมอมากนะครับที่ให้ความรู้
00:51:03 → 00:51:08 ขอบคุณน้ำใจที่ดีงามขออวยพรให้คุณหมอเขา
00:51:08 → 00:51:11 จะเจอเจอแต่สิ่งที่ดีงามสุขภาพแข็งแรงนะ
00:51:11 → 00:51:13 ครับป้าฝากขอบคุณหมอชายที่คลินิกด้วยครับ
00:51:13 → 00:51:15 โอเคขอบคุณเช่นกันนะครับขอบคุณแทน
00:51:15 → 00:51:17 มอเตอร์ไซค์ด้วยนะครับก็คืออย่างงี้
00:51:17 → 00:51:20 จริงๆที่คุณป้าเขาดีขึ้นแล้วเนี่ยก็คือ
00:51:20 → 00:51:24 จากการกินสมุนไพรนะยาหอมช่วยไล่ลมยาหอม
00:51:24 → 00:51:26 ใส่น้ำขิงเนี่ยก็จะช่วยไล่ลมด้วยทำให้
00:51:26 → 00:51:29 กระเพาะอาหารแข็งแรงขึ้นด้วยนะครับผง
00:51:29 → 00:51:32 กล้วยดิบเนี่ยก็คือช่วยทำให้แผลในกระเพาะ
00:51:32 → 00:51:35 ในอะไรพวกนี้ดีขึ้นได้นะครับพอดีขึ้นก็
00:51:35 → 00:51:37 ต้องลดลงนะผงกล้วยดิบนะครับแล้วก็กินอะไร
00:51:37 → 00:51:40 ใส่นาคาดเนี่ยสัปดาห์เรา 2 วันอันนี้ทาน
00:51:40 → 00:51:43 ได้เรื่อยๆช่วยขับผลักลมในลำไส้ออกไป
00:51:43 → 00:51:44 เพราะว่า
00:51:44 → 00:51:47 เวลาคนที่อายุเยอะๆนะครับจะมีปัญหาคือบาง
00:51:47 → 00:51:50 ทีลมเบ่งน้อยอุจจาระตกค้างอะไรอย่างนี้ก็
00:51:50 → 00:51:52 ทานได้เรื่อยๆแต่ถ้าคุณวันเพ็ญมั่นใจแล้ว
00:51:52 → 00:51:55 หรือใครที่บอกว่าเอ้ยฉันมั่นใจการขับถ่าย
00:51:55 → 00:51:57 ของฉันแล้วก็เลี่ยงไปไม่ต้องกินก็ได้โอเค
00:51:57 → 00:51:59 ไหมครับขอบคุณเช่นกันนะครับ
00:51:59 → 00:52:01 อันนี้เป็นประสบการณ์ดีๆแล้วก็
00:52:01 → 00:52:06 ฝากทุกๆท่านด้วยว่าไงนะก็สามารถถ่ายได้
00:52:06 → 00:52:08 ท่านก็หายได้เหมือนกันนะครับ
00:52:08 → 00:52:13 คุณสมจิตรนะครับบอกว่าทางเดินครับกระเพาะ
00:52:13 → 00:52:15 ปัสสาวะอักเสบรักษาด้วยสมุนไพรอะไรคะคุณ
00:52:15 → 00:52:19 หมอสมุนไพรที่มันลดจืดๆครับนะครับ
00:52:19 → 00:52:34 เอ่อรางจืดใช้ได้
00:52:34 → 00:52:37 หญ้าหนวดแมวพวกนี้ทานสลับกันไปชาพวกนี้
00:52:37 → 00:52:40 สลับกันไปหรือชาเจียวกู่หลานก็ใช้ได้น้ำ
00:52:40 → 00:52:44 ต้มใบเตยดีนะอันนี้นะครับก็เอามาทานสัก
00:52:44 → 00:52:45 ประมาณ
00:52:45 → 00:52:48 2 สัปดาห์ก็ได้นะครับก็กินไม่ต้องกิน
00:52:48 → 00:52:51 เยอะอะนะหลังจืดก็กินวันละ 2 แก้วนะครับ
00:52:51 → 00:52:53 สักประมาณวันเว้นวันก็แล้วกันถ้าเป็นราง
00:52:53 → 00:52:56 จืดนะเพราะพยายามค่อนข้างแรงแต่ถ้าเป็น
00:52:56 → 00:52:58 ย่านางก็ถ้าเป็นย่านางแบบย่านางกลั่นแล้ว
00:52:58 → 00:53:02 กันนะก็ 2 ฝา
00:53:02 → 00:53:06 เลยแล้วกัน 2 ฝานะหรือประมาณ 2-3 ก็
00:53:06 → 00:53:07 ประมาณซัก
00:53:07 → 00:53:11 4 ช้อนโต๊ะนะครับผสมกับน้ำประมาณแก้วนึง
00:53:11 → 00:53:14 เนี่ยเอ่อนะครับกินวันละ 2 แก้วนะครับก็
00:53:14 → 00:53:17 จะช่วยระบายพิษอะไรที่มันเกิดการอักเสบใน
00:53:17 → 00:53:20 ท่อทางเดินปัสสาวะพวกเนี้ยก็จะดีขึ้นไป
00:53:20 → 00:53:23 ได้นะครับถ้าน้ำต้มใบเตยก็กินสัก 2 แก้ว
00:53:23 → 00:53:26 ต่อวันนะครับพอดีขึ้นก็ลดลงไปเพราะว่าใบ
00:53:26 → 00:53:30 เตยมันไม่ค่อยแรงนะกินได้เรื่อยๆนะครับ
00:53:30 → 00:53:34 เออใครมีเอ่อที่นะปลูกนะเกาหลีอย่าลืม
00:53:34 → 00:53:39 ปลุกล้างจืดปลูกย่านางปลูกใบเตยด้วยนะ
00:53:39 → 00:53:42 ครับแล้วก็อะไรวะกลับหอยเนี่ยพวกนี้ก็ใช้
00:53:42 → 00:53:45 ได้พวกนี้ช่วยระบายความร้อนภายในตัวได้
00:53:45 → 00:53:48 ใครเป็นสายหมอเขียวใช่ไหมก็
00:53:48 → 00:53:52 อะไรนะข้าวต้นเบญจขันธ์ใช่ไหม
00:53:52 → 00:53:57 พวกนั้นก็ใช้ได้เหมือนกันนะครับ
00:53:57 → 00:54:00 คุณอรวรรณสวัสดีครับคุณจิมมี่รอค่ะคุณ
00:54:00 → 00:54:04 อรวรรณรอฟังรอฟังข่าวขอบคุณครับ
00:54:04 → 00:54:07 คุณเกษราบอกว่าหมอคะ
00:54:07 → 00:54:12 กินแอปเปิ้ลไซเดอร์ผสมน้ำตอนเช้าตื่นนอน
00:54:12 → 00:54:15 ทุกวันจะมีผลข้างเคียงอะไรไหมคะ
00:54:15 → 00:54:18 ถ้าคุณเกษราไม่ได้เป็นโรคกระเพาะอาหารก็
00:54:18 → 00:54:21 ไม่เป็นไรกินได้นะครับ
00:54:21 → 00:54:24 รสเปรี้ยวรสเปรี้ยวๆนะช่วยละลายเสมหะได้
00:54:24 → 00:54:28 ดีนะรสเปรี้ยวช่วยลดไขมันในร่างกายได้ดี
00:54:28 → 00:54:32 นะครับก็ต้องระวังเรื่องความแสบถ้าแสบก็
00:54:32 → 00:54:34 เลี่ยงๆไปหรือว่าถ้าแสบก็กินผสมน้ำผึ้ง
00:54:34 → 00:54:37 เข้าไปหน่อยเออก็ช่วยๆทำให้ความเปรี้ยว
00:54:37 → 00:54:42 พวกนี้ลดลงได้นะครับอืมผลข้างเคียงกินนาน
00:54:42 → 00:54:43 ๆ
00:54:43 → 00:54:46 การกินอะไรที่มีรสเปรี้ยวอ่ารสเปรี้ยวบาง
00:54:46 → 00:54:48 ท่านนะมันก็อาจจะเสาะท้องเช่นท้องเสียนะ
00:54:48 → 00:54:49 ครับ
00:54:49 → 00:54:53 ยางเอ่อไซเดอร์นี้ไม่เท่าไหร่ที่ผมเจอ
00:54:53 → 00:54:55 บ่อยๆเช่นน้ำมะนาวนะครับบางคนกินน้ำมะนาว
00:54:55 → 00:54:57 บ่อยอ่ะนะครับ
00:54:57 → 00:55:00 ถ้าคุณเป็นคนที่เลือดเข้มข้นดีไม่เป็นไร
00:55:00 → 00:55:03 นะครับแต่ถ้าบางคนเนี่ยเป็นคนโลหิตใกล้
00:55:03 → 00:55:05 โลหิตจางอยู่แล้วอ่ะนะครับหรือว่าเป็นคน
00:55:05 → 00:55:08 ที่ความดันต่ำอยู่แล้วอะไรอย่างเงี้ยการ
00:55:08 → 00:55:10 กินน้ำมะนาวเยอะๆไม่ดีนะมันทำให้เลือดมัน
00:55:10 → 00:55:12 ใสเกินไป
00:55:12 → 00:55:16 เวลาเลือดใสเกินไปคุณก็จะมึนหัวขึ้นสะพาน
00:55:16 → 00:55:19 ลอยมึนหัวอย่างนี้ไปเดินเร็วๆอะไรอย่าง
00:55:19 → 00:55:22 นี้หรือว่าแบบขึ้นที่สูงขึ้นอะไรอย่างนี้
00:55:22 → 00:55:24 นะครับมันก็จะมึนหัวได้ง่ายถ้าคุณกินน้ำ
00:55:24 → 00:55:27 มะนาวเยอะเกินไปนะครับสำหรับคนที่ความดัน
00:55:27 → 00:55:30 ต่ำแล้วก็เป็นภาวะโลหิตจางอยู่แล้วนะแนะ
00:55:30 → 00:55:33 นำว่าก็กินอาหารปกติดีกว่านะครับแล้วก็
00:55:33 → 00:55:35 กินอาหารที่มันเผ็ดร้อนหน่อยช่วยย่อย
00:55:35 → 00:55:36 อาหารสร้างเลือดใหม่ๆอะไรพวกนี้ก็จะช่วย
00:55:36 → 00:55:38 ได้ดีนะครับ
00:55:38 → 00:55:41 ส่วนไซเดอร์ก็กินได้เพราะมาหาถ้าคุณเป็น
00:55:41 → 00:55:43 แบบว่าความดันต่ำอยากให้เพิ่มเลือดอะไร
00:55:43 → 00:55:45 อย่างนี้นะครับ
00:55:45 → 00:55:48 คุณเจี๊ยบบอกว่ากรดไหลย้อนชอบเป็นตอนดึกๆ
00:55:48 → 00:55:52 นอนไม่ได้ต้องลุกขึ้นมานั่งเป็นบ่อยๆ
00:55:52 → 00:55:57 ลมเยอะ
00:55:57 → 00:55:59 เวลาเราเป็นกรดไหลย้อนตอนดึกๆเนี่ยแสดง
00:55:59 → 00:56:01 ว่า
00:56:01 → 00:56:04 ลมมันวิ่งตอนดึกแล้วก็สารอาหารมันไม่พอ
00:56:04 → 00:56:06 จริงๆนะเออ
00:56:06 → 00:56:09 เวลาเราลบคำว่าลมวิ่งเนี่ยนึกถึงภาพนี้
00:56:09 → 00:56:13 เวลาคุณหิวไงมันจะเว้าๆๆๆท้องร้องอ่ะ
00:56:13 → 00:56:17 กระเพาะทำงานลำไส้ทำงานเพื่อบอกตัวเราบอก
00:56:17 → 00:56:21 ว่าเฮ้ยไปหาอาหารมากินหน่อยประมาณนี้นะ
00:56:21 → 00:56:24 ครับฉะนั้นใครที่เป็นตอนดึกๆแสดงว่าอาหาร
00:56:24 → 00:56:26 ที่คุณกินเนี่ยไม่ค่อยได้สารอาหารจริงๆนะ
00:56:26 → 00:56:29 ถ้าเป็นผมนะผมก็แนะนำให้กินอะไรก็ทองหรือ
00:56:29 → 00:56:33 ธัญพืชชงตอนตื่นนอนจริงจังหน่อยอันนี้ไม่
00:56:33 → 00:56:37 ควรขาดนะกินเพื่อให้ได้สารอาหารก่อนอาหาร
00:56:37 → 00:56:39 ทุกมื้อก็เรียกน้ำย่อยหน่อยเช่นกินขมิ้น
00:56:39 → 00:56:43 ชันก่อนอาหารหลังอาหารกินพวกโปรไบโอติกนะ
00:56:43 → 00:56:44 ครับ
00:56:44 → 00:56:46 ทำ 3 มื้อเลยก็ได้นะครับเพื่ออะไรเพื่อ
00:56:46 → 00:56:48 เรียกน้ำย่อยให้เป็นเวลาตอนนี้ฉันต้องการ
00:56:48 → 00:56:51 น้ำย่อยเวลานี้นะอะไรอย่างนี้นะครับเนาะ
00:56:51 → 00:56:52 เลี่ยงเลยนะ
00:56:52 → 00:56:57 พวกอะไรก็ได้ที่ลดกรดเคลือบแผลเพราะว่า
00:56:57 → 00:57:00 เราต้องการน้ำย่อยนะ
00:57:00 → 00:57:03 ให้มาย่อยอาหารเช้ากลางวันเย็นถ้าจะกินลด
00:57:03 → 00:57:07 กรดเพื่อแผลกินเฉพาะตอนที่แสบท้องมากๆ
00:57:07 → 00:57:11 เท่านั้นเช่นแสบท้องตอนกลางคืนตอนเย็นแสบ
00:57:11 → 00:57:14 ท้องมากเจ็บไส้จะขาดแล้วค่อยกินค่อยว่า
00:57:14 → 00:57:15 กันไปนะครับ
00:57:15 → 00:57:18 แต่ว่าถ้าเป็นปกติเราต้องเรียกน้ำย่อยมา
00:57:18 → 00:57:20 ให้เป็นเวลานะครับการเรียกน้ำย่อยมาให้
00:57:20 → 00:57:23 เป็นเวลาจะทำให้เรา set up เข้าสู่
00:57:23 → 00:57:25 ธรรมชาติอ่าเวลาน้ำย่อยเข้าสู่ธรรมชาติ
00:57:25 → 00:57:29 เราเคี้ยวได้ดีย่อยได้ดีสารอาหารครบแล้ว
00:57:29 → 00:57:33 นำย่อยจะไม่ไปออกกลางคืนโอเคมั้ยความปั่น
00:57:33 → 00:57:37 ป่วนในท้องอ่ะก็จะไม่ไปออกกลางคืนนะครับ
00:57:37 → 00:57:40 ที่เหลือในมื้อเย็นน่ะสำคัญนะอย่าไปกิน
00:57:40 → 00:57:40 เผ็ดเยอะ
00:57:40 → 00:57:44 การกินเผ็ดเยอะเนี่ยจะทำให้สมองปั่นป่วน
00:57:44 → 00:57:47 เนาะอย่าไปกินอาหารที่มันรสชาติจัดๆเช่น
00:57:47 → 00:57:52 ผงหมาล่านะใส่แบบต้มยำหนักๆเล้งใส่พริก
00:57:52 → 00:57:55 ราดโอ้โหแซ่บสุดๆอันนี้ไม่ควรกินในมื้อ
00:57:55 → 00:57:57 เย็นนะสำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องลมเยอะนะ
00:57:57 → 00:58:00 ครับเลี่ยงไปนะครับกินอาหารรสกลางๆนะครับ
00:58:00 → 00:58:04 คราวนี้พอจะไปนอนใช่ไหมพยายามชั่วโมงนึง
00:58:04 → 00:58:08 ก่อนนอนพยายามทำใจให้มันสบายๆนะครับยืด
00:58:08 → 00:58:13 เหยียดก่อนนอนทำลมหายใจยาวๆเดินจงกรมได้
00:58:13 → 00:58:15 ยิ่งดีนะครับเพราะทำแบบนี้ใช่ไหม
00:58:15 → 00:58:19 เวลามนุษย์ที่เราจิตใจนิ่งขึ้นน่ะเราจะ
00:58:19 → 00:58:22 ไม่ต้องการอาหารครับนึกออกป่ะนึกภาพคุณ
00:58:22 → 00:58:25 นั่งสมาธิคุณจะไม่ค่อยหิวหรอกใช่ไหมเวลา
00:58:25 → 00:58:27 คุณเดินจงกรมคุณก็จะไม่ค่อยหิวหรอกแต่ถ้า
00:58:27 → 00:58:28 คุณแบบ
00:58:28 → 00:58:31 ทำงานเยอะมีความตั้งใจพรุ่งนี้จะทำอะไรดี
00:58:31 → 00:58:34 วางแผนงานใหญ่เลยเนี่ยคุณจะหิวโอเคไหม
00:58:34 → 00:58:37 ชั้น 1 ชั่วโมงก่อนนอนนะเป็น 1 ชั่วโมง
00:58:37 → 00:58:39 ที่จะทำให้คุณไม่แสบท้องไม่เจ็บท้องไม่
00:58:39 → 00:58:43 เป็นโรคกรดไหลย้อนตอนดึกถ้าทำได้แล้ว
00:58:43 → 00:58:45 กระบวนการย่อยเริ่มดีขึ้นใช่ไหม
00:58:45 → 00:58:48 ผมบอกเลยภายใน 1 เดือนอ่ะดีแน่ๆแล้วมันดี
00:58:48 → 00:58:50 ขึ้นทุกวันอ่ะภายในพรุ่งนี้ก็เริ่มดีขึ้น
00:58:50 → 00:58:53 แล้วก็ค่อยๆดีขึ้นดีขึ้นดีขึ้นเนาะหาย
00:58:53 → 00:58:57 แล้วสิ่งที่เราควรทำนะครับก็คือว่าต้อง
00:58:57 → 00:59:01 เข้าใจกรดนะเข้าใจน้ำกรดว่าอ๋อน้ำกรดมัน
00:59:01 → 00:59:03 มาเพื่อย่อยอาหารฉะนั้นแล้วนะสิ่งที่เรา
00:59:03 → 00:59:06 ทำคือพยายามกินอาหารให้มันใกล้ๆเวลาเดิม
00:59:06 → 00:59:09 โอเคไหมอย่าไปกลัวเขาอย่าไปกลัวเฮ้ยน้ำ
00:59:09 → 00:59:12 กรดมาไม่ให้มาไม่ได้นะมานี่มานี่ย่อย
00:59:12 → 00:59:14 อาหารฉันกินข้าวแล้วนะช่วยย่อยอาหารหน่อย
00:59:14 → 00:59:17 สิเอนไซม์ช่วยย่อยๆหน่อยสิสารอาหารมา
00:59:17 → 00:59:20 หน่อยอะไรอย่างนี้โอเคไหมครับพอเราเข้าใจ
00:59:20 → 00:59:23 ปุ๊บเราก็จะรู้โอเคฉันสามารถย่อยอาหารได้
00:59:23 → 00:59:25 ดีแล้วไม่ต้องกังวลมากอะไรอย่างนี้นะ
00:59:25 → 00:59:27 อ่ะลองปรับดูนะครับ
00:59:27 → 00:59:30 กดหัวใจไว้ให้นะคุณพลอยบอกขอบคุณคุณหมอ
00:59:30 → 00:59:33 และทีมงานขอบคุณนะครับคุณพล
00:59:33 → 00:59:37 สวัสดีคุณหมอรอฟังค่ะโอเคครับมาตอบในแชท
00:59:37 → 00:59:39 กันดีกว่า
00:59:39 → 00:59:41 เมื่อกี้ผมเห็นในแชทมีคำถามค่อนข้างเยอะ
00:59:41 → 00:59:42 นะ
00:59:42 → 00:59:46 มียาวๆด้วยเดี๋ยวมาดูกัน
00:59:46 → 00:59:50 คุณแตงกวาเออแตงกวาบอกว่าสวัสดีครับคุณ
00:59:50 → 00:59:54 หมอนัดมีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายค่ะเรื่อง
00:59:54 → 00:59:59 ของการรู้สึกปวดท้องรู้สึกปวดท้องนะแต่พอ
00:59:59 → 01:00:01 เข้าห้องน้ำแล้วเนี่ยพอไปเข้าห้องน้ำแล้ว
01:00:01 → 01:00:03 ขับถ่ายไม่ออกเออ
01:00:03 → 01:00:06 เคยหันมากินพวกไฟเบอร์
01:00:06 → 01:00:11 มากินก็ขับถ่ายได้ปกติแต่พอไม่ทานก็ขับ
01:00:11 → 01:00:15 ถ่ายไม่ออกค่ะไม่ทราบว่าใช้วิธีไหนในทาง
01:00:15 → 01:00:17 ธรรมชาติได้บ้างอะไรอย่างนี้นะครับก็คือ
01:00:17 → 01:00:20 ว่าต้องกินไฟเบอร์ถึงจะขับถ่ายได้เนี่ย
01:00:20 → 01:00:23 อาการนี้แสดงว่าลำไส้เนี่ยอาจจะขาดความ
01:00:23 → 01:00:26 ลื่นๆนะครับลื่นๆนะเพราะเวลากินไฟเบอร์นะ
01:00:27 → 01:00:29 ลำไส้มันจะลื่นๆขึ้นมีอุจจาระมีมวลอะไร
01:00:29 → 01:00:31 อย่างนี้นะครับฉะนั้นก็อันที่ 1 ก่อนกิน
01:00:31 → 01:00:34 น้ำมันมะพร้าวก่อนอยากให้คุณแตงกวากินน้ำ
01:00:34 → 01:00:37 มะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะตอนตื่นนอนทุกวันเลยนะ
01:00:37 → 01:00:40 ครับเพื่อให้ลำไส้เหมือนลื่นๆเนาะ
01:00:40 → 01:00:43 แล้วก็ขอให้คุณแตงกวาเนี่ยทานอาหารที่มัน
01:00:43 → 01:00:45 ย่อยง่ายหน่อยช่วงนี้นะช่วงประมาณสัก
01:00:45 → 01:00:47 เดือนเนี่ยกินย่อยง่ายหน่อยนะครับเคี้ยวๆ
01:00:47 → 01:00:49 ๆย่อยง่ายเพื่อกลายเป็นอุจจาระที่มันนิ่ม
01:00:49 → 01:00:51 ๆหน่อยนะครับ
01:00:51 → 01:00:55 แล้วก็เอ่อกินผักผลไม้ให้เยอะหน่อยเนื้อ
01:00:55 → 01:00:58 สัตว์ก็กินบ้างนะครับแต่ก็อย่ากินเยอะกิน
01:00:58 → 01:00:59 กลางๆเนี่ยนะครับ
01:00:59 → 01:01:02 เอ่อกินอาหารที่มันเผ็ดร้อนนิดนึงนะครับ
01:01:02 → 01:01:08 พริกไทยขิงขมิ้นอ่ากระเพราโหระพาอะไรพวก
01:01:08 → 01:01:10 เนี้ยกินในเมื่ออาหารนะก็จะช่วยทำให้ทวาร
01:01:10 → 01:01:13 ต่างๆมันเปิดออกมันก็จะช่วยขับถ่ายได้ดี
01:01:13 → 01:01:15 นะครับก็มีน้ำมันด้วยนะก็จะช่วยขับถ่าย
01:01:15 → 01:01:19 ได้ที่เหลือขอให้คุณแตงกวาเนี่ยไป
01:01:19 → 01:01:22 เดินหน่อยตอนเย็นๆเลยนะครับไปเดินเพื่อทำ
01:01:22 → 01:01:24 ให้ลำไส้มันเคลื่อนดีอะไรอย่างนี้นะครับ
01:01:24 → 01:01:28 แล้วก็พอทำทั้งหมดแล้วเนี่ยสมมุตินะว่า
01:01:28 → 01:01:31 คุณแตงกวาบอกว่าทำหมดแล้วหมอแต่มันก็ยัง
01:01:31 → 01:01:34 ไม่ขับถ่ายแสดงว่าลำไส้ของคุณแตงกวามัน
01:01:34 → 01:01:38 แข็งไปแล้วมันแข็งตึงไปแล้วอ่ะแล้วลำไส้
01:01:38 → 01:01:41 ทำไมลำไส้เราถึงแข็งตึงอ่ะนะครับให้นึก
01:01:41 → 01:01:42 นี้นะ
01:01:42 → 01:01:46 ให้นึกภาพว่าเรากำลัง
01:01:46 → 01:01:50 เข้าไปเข้าไปในที่ทำงานใหม่แล้วกันและถึง
01:01:50 → 01:01:52 เวลาเราเข้าไปที่ทำงานใหม่ๆแล้วเราตื่น
01:01:52 → 01:01:55 เต้นตื่นเต้นแต่เราจะทำผิดทำถูกอะไรไหม
01:01:55 → 01:01:57 เนี่ยอะไรอย่างเงี้ยนะสภาวะอย่างเงี้ยเรา
01:01:57 → 01:02:10 จะท้องแข็งนึกออกมั้ยเวลาสภาวะที่แบบ
01:02:10 → 01:02:14 ฉะนั้นลำไส้เราเนี่ยมันประกอบด้วยเส้น
01:02:14 → 01:02:17 ประสาทเยอะเลยเออเส้นประสาทรอบๆลำไส้นะ
01:02:17 → 01:02:17 ครับ
01:02:17 → 01:02:20 ไอ้เส้นประสาทพวกเนี้ยมันควบคุมเรื่องของ
01:02:20 → 01:02:23 ความตื่นเต้นความกังวลวิตกกังวลนะ
01:02:23 → 01:02:26 ฉะนั้นแล้วเนี่ยเวลามันแข็งเนี่ยลำไส้ก็
01:02:26 → 01:02:29 ไม่ขยับใช่มั้ยดังนั้นเราก็ต้องคลายเส้น
01:02:29 → 01:02:31 ประสาทพวกเนี้ยอ่าวิธีการคลายเส้นประสาท
01:02:31 → 01:02:34 พวกเนี้ยนะวิธีการก็คืองี้
01:02:34 → 01:02:37 เออดูลมหายใจระหว่างวันสมมุติเราตื่นเต้น
01:02:37 → 01:02:40 มากเลยกับที่ทำงานใหม่หรือเราจะต้อง
01:02:40 → 01:02:42 present งานหรือว่าเรากำลังเป็นนักศึกษา
01:02:42 → 01:02:44 อยู่อะไรก็ตามนั้นแล้วเราชอบตื่นเต้นอ่ะ
01:02:44 → 01:02:47 ทำอะไรก็ตื่นเต้นไปหมดนะครับทำคลิปวิดีโอ
01:02:47 → 01:02:50 อะไรก็ตื่นเต้นอะไรอย่างนี้นะครับเราก็ดู
01:02:50 → 01:02:53 ลมหายใจไปเรื่อยๆฝึกลมหายใจไปเรื่อยๆหรือ
01:02:53 → 01:02:55 ถ้าคุณนั่งสมาธิแล้วฝึกดูลมหายใจยิ่งดี
01:02:55 → 01:02:58 เข้าไปใหญ่นะนะครับพอทำแบบนี้เนี่ยลำไส้
01:02:58 → 01:03:03 คุณก็จะคลายตัวสมมุติว่าสักพักเราดูลำไส้
01:03:03 → 01:03:07 โอ๋ลำไส้แข็งมากเลยนะคุณก็ไปนวดบ้างเอายา
01:03:07 → 01:03:09 หม่องมานวดรอบสะดือบ้างอะไรอย่างนี้นะ
01:03:09 → 01:03:12 ครับพอลำไส้หายเกรงคุณรู้สึกว่าควบคุม
01:03:12 → 01:03:15 อารมณ์ได้โดยการดูลมหายใจนะการขับถ่าย
01:03:15 → 01:03:18 ต่างๆก็จะดีขึ้นดีขึ้นดีขึ้นตามธรรมชาติ
01:03:18 → 01:03:30 ด้วยดีไหมครับ
01:03:30 → 01:03:32 อ่ะคุณอรอนงค์บอกว่า
01:03:32 → 01:03:35 สวัสดีครับคุณหมอเป็นกรดไหลย้อนลำไส้แปร
01:03:35 → 01:03:37 ปรวนน่าจะใช่ท้อง
01:03:37 → 01:03:43 ร้องดังๆครบๆเอ่อท้องตึงลิ้นปีกตึงนวด
01:03:43 → 01:03:47 ท้องไล่ลมก็มีลมออกมาอีกนะไม่ถ่ายปกติ
01:03:47 → 01:03:50 หมายถึงถ่ายไม่เป็นเวลาเอ่อเหมือนเคยต้อง
01:03:50 → 01:03:52 กินไฟเบอร์ถึงถ่ายทุกวันท้องไม่ปกติทรมาน
01:03:52 → 01:03:56 ค่ะขึ้นคอขึ้นปากเสียฟันกลัวเป็นอย่าง
01:03:56 → 01:03:59 อื่นค่ะเครียดอ่าเนี่ยคนละคนกับคนเมื่อ
01:03:59 → 01:04:01 กี้เนาะเออเมื่อกี้คุณแตงกวานะแต่อาการ
01:04:01 → 01:04:04 คล้ายๆกันโอเคมาต่อเลยนะครับอาการคล้าย
01:04:04 → 01:04:06 กันนี่แหละก็เรื่องเดียวกันน่ะนะครับแต่
01:04:06 → 01:04:08 ว่าอย่างนั้นก็คือเป็นแบบ level up แล้ว
01:04:08 → 01:04:12 เออมีความเครียดมีความวิตกกังวลอยู่ใน
01:04:12 → 01:04:15 ระบบประสาทในช่องท้องเนี่ยเยอะมากเลยอ่ะ
01:04:15 → 01:04:17 คราวนี้มาดูกัน
01:04:17 → 01:04:20 ในท้องของเราเนี่ยมันคือความมั่นใจมันคือ
01:04:20 → 01:04:23 ความมั่นใจจริงๆมันไล่แบบนี้นะ
01:04:23 → 01:04:26 มนุษย์เราเนี่ยพอเราเกิดมาในชีวิตอันนี้
01:04:26 → 01:04:28 ฟังดีๆนะฟังดีๆนะมนุษย์เราพอเกิดมาชีวิต
01:04:28 → 01:04:32 นะเราต้องบอกก่อนว่าเราชอบอะไรเราจะเป็น
01:04:32 → 01:04:35 ใครจะเป็นอะไรดีอะไรอย่างนี้นะครับเช่น
01:04:35 → 01:04:38 อย่างผมใช่ไหมผมบอกว่าโอเคผมมีหน้าที่
01:04:38 → 01:04:42 เป็นหมอผมเป็นหมอมีหน้าที่เป็นหมอให้ดี
01:04:42 → 01:04:47 ต้องอ่านหนังสือต้องหาข้อมูลเพิ่มต้อง
01:04:48 → 01:04:52 พูดจาให้ดีพูดให้เพราะการสื่อสารต้องโอเค
01:04:52 → 01:04:57 อย่างเงี้ยพอเรามีตัวตนมันก็มีหน้าที่มี
01:04:57 → 01:05:00 บทบาทใช่ไหมแล้วก็มีสิ่งที่ควรทำเพื่อ
01:05:00 → 01:05:03 พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆถูกไหมโอเค
01:05:03 → 01:05:06 แต่บางท่านเนี่ยมีปัญหาคือไม่รู้ว่าตัว
01:05:06 → 01:05:09 เองเป็นใครใช่ไหมคือ I don't know
01:05:09 → 01:05:11 เนี่ย I don't know เอ้ยฉันเป็นใครวะ
01:05:11 → 01:05:14 ฉันมาทำอะไรเนี่ยนะเกิดมาในชาตินี้ฉันมา
01:05:14 → 01:05:15 ทำอะไร
01:05:15 → 01:05:18 ก็เลยใช้ชีวิตไปเรื่อยๆไปวันๆอ่าพอใช้
01:05:18 → 01:05:20 ชีวิตไปเรื่อยๆเป็นวันเนี่ยพอเจออะไรที่
01:05:20 → 01:05:21 มันแบบ
01:05:21 → 01:05:23 เรื่องไม่ดีเข้ามาอะไรอย่างนี้นะในชีวิต
01:05:23 → 01:05:27 เรื่องสามีเรื่องลูกเรื่องเศรษฐกิจไม่ดี
01:05:27 → 01:05:29 หรืออะไรก็ตามอะไรอย่างนี้นะครับมัน
01:05:29 → 01:05:31 เหมือนโดนกระแทกพอกระแทกปุ๊บพอเราไม่มี
01:05:31 → 01:05:34 หลักอะไรเลยใช่ป่ะมันก็เอียง
01:05:34 → 01:05:37 นึกออกไหมครับ
01:05:37 → 01:05:41 สภาวะอย่างนี้เนี่ยเขาเรียกว่าพลังที่มัน
01:05:41 → 01:05:44 จะทำให้กระเพาะลำไส้มีกำลังอ่ะมันไม่มี
01:05:44 → 01:05:47 ครับนึกภาพออกไหมมันไม่มีแรงที่จะแบบจะ
01:05:47 → 01:05:50 set up ตัวเองนึกออกไหมครับนึกภาพนะถ้า
01:05:50 → 01:05:53 ผมเป็นเป็นหมอแล้วผมไม่รู้จะช่างมันเถอะ
01:05:53 → 01:05:55 ผมเป็นหมอตาม
01:05:55 → 01:05:58 ตามเวลาแล้วกันเพราะพ่อเป็นผมก็เลยเป็น
01:05:58 → 01:06:01 ตามแล้วผมคิดแค่นี้นะคราวนี้ผมก็จะอ่าน
01:06:01 → 01:06:04 หนังสือน้อยใหม่พัฒนาตัวเองไม่รู้บทบาท
01:06:04 → 01:06:06 ไม่รู้หน้าที่ตัวเองเพราะเป็นแบบนี้นะ
01:06:06 → 01:06:09 ส่วนมนุษย์มีคนมาแซวเฮ้ยหมอเนี่ยเก่งจริง
01:06:09 → 01:06:12 ป่าววะผมก็จะตื่นเต้นและเฮ้ยทำยังไงให้
01:06:12 → 01:06:15 เขาเขาคิดว่าเราเก่งลาทำยังไงเห็นมั้ยมัน
01:06:15 → 01:06:18 มั่วไปหมดอ่ะจิตใจมันพะวงไปหมดฉะนั้นก็
01:06:18 → 01:06:21 บอกคุณอรอนงค์หรือคนที่มีปัญหาเรื่อง
01:06:21 → 01:06:25 กระเพาะลำไส้ที่แบบเป็นมานานอ่ะจริงๆอ่ะ
01:06:25 → 01:06:29 ให้กลับไปที่เอ่อ Who are you ก่อน Who
01:06:29 → 01:06:31 are you คุณเป็นใครเนี่ยแล้วเกิดมาทั้ง
01:06:31 → 01:06:35 ทีเนี่ยจะทำอะไรดีเช่นบอกว่าฉันเนี่ยเกิด
01:06:35 → 01:06:39 มาทั้งทีฉันจะเป็นแม่ที่ดีเป็นแม่ที่ดีมี
01:06:39 → 01:06:41 ลูกอ่ะมีลูกอ่ะฉันจะมีแม่ที่ดีแม่ที่ดี
01:06:41 → 01:06:43 ต้องทำไง 1 ทำตัวเป็นตัวอย่าง
01:06:43 → 01:07:15 กินอาหารเป็นเวลาตื่นเช้าออกกำลังกายนะครับไม่ผัดวันประกันพรุ่งนะคำพูดคำจากับลูกเป็นคำพูดที่ดีเป็นคำพูดที่ส่งเสริมลูกให้กำลังใจลูกสม่ำเสมอไม่พูดคำหยาบคายเห็นไหมพอบอกว่าฉันเป็นแม่มันก็จะมีบทบาทแล้วก็หน้าที่ของความเป็นแม่เติมเข้าไปพอมันเป็นแบบนี้เนี่ยใครจะมาแสดงว่าคุณเป็นแม่ที่ไม่ดีคุณก็ไม่สนหรอกเพราะว่าเออฉันทำได้ดีจริงๆคือฉันมั่นใจว่าฉันทำดีจริงๆนะเออฉันมีบทบาทหน้าที่และฉันพัฒนาตัวเองทุกวันเห็นมั้ย
01:07:15 → 01:07:31 ใครที่เป็นแบบนี้เนี่ยกระเพาะอาหารลำไส้นะก็จะมีแรงมีกำลังเพราะว่าคุณรู้ว่าคุณเป็นใครทำอะไรไม่ตื่นเต้นเอ่อไม่รู้สึกตกกะใจกับสิ่งต่างๆได้ง่ายจนเกินไปแบบนี้แหละถ้าทำให้ขับถ่ายได้ดีลมในท้องน้อยลงไอ้ภาวะความเสียวฟันหรือว่าความความรู้สึกตามเนี่ยตามปากตามคอทำไมพวกเนี้ยมันก็จะไม่ค่อยมีหรอกเพราะว่าคุณตั้งตนได้ดีแล้วเออถ้าภาษาโบราณเขาเรียกอะไรนะ
01:07:31 → 01:07:44 [เพลง]
01:07:44 → 01:07:46 ไม้หลักอ่ะมันล้มอ่ะ
01:07:46 → 01:07:56 ไม้หลักถ้ามันปักขี้เลนนะมันจะเอียงไปเอียงมานกเกาะก็ไม่ได้มีอะไรไปผลักก็จะล้มเลยเอาไหมหลักเนี่ยมาปักลงไปในดินที่มันแน่นหน่อยใช่ไหมพอปักได้ดีนะ
01:07:56 → 01:07:58 อะไรผักเนี่ยมันก็ไม่ค่อยล้มหรอกยกเว้น
01:07:58 → 01:08:01 ผลักแรงจริงๆก็ว่ากันไปนะครับฉะนั้นแล้ว
01:08:01 → 01:08:04 เนี่ยใครที่แบบว่าท้องไม่ดีจริงๆนะแล้วก็
01:08:04 → 01:08:07 ต้องขับต้องกินยาอะไรพวกนั้นเยอะแยะมาก
01:08:07 → 01:08:09 มายเนี่ยมีความเสียวเสิร์ฟอะไรเงี้ยแสดง
01:08:09 → 01:08:14 ว่ามันเป็นที่ฮูอายุคุณไม่รู้ว่าคุณเป็น
01:08:14 → 01:08:17 ใครมาทำอะไรอ่ะมีอะไรบ้างเป็นแม่ที่ดีก็
01:08:17 → 01:08:22 ได้นะก็ได้ฉันเป็นพ่อก็ได้เออฉันเป็นนัก
01:08:22 → 01:08:25 ศึกษาก็ได้ฉันเกิดมาเพื่อเป็นนักศึกษาที่
01:08:25 → 01:08:28 ตั้งใจเรียนอะไรเงี้ยฉันเกิดมาเพื่อเอ่อ
01:08:28 → 01:08:33 ผู้อื่นก็ว่ากันไปนะครับบางคนเฮ้ยผมอ่ะ
01:08:33 → 01:08:36 ไม่ชอบหาเงินไม่เก่งหาเงินเป็นทหารพราน
01:08:36 → 01:08:41 ได้โอเคไหมก็คือฉันดูแลประเทศอะไรอย่าง
01:08:41 → 01:08:45 เงี้ยหรืออะไรก็ได้ที่คุณรู้สึกว่าเออฉัน
01:08:45 → 01:08:47 มีหน้าที่ว่ะเกิดมาที่ทำแบบนี้ได้มาหลาย
01:08:47 → 01:08:50 นะโรคต่างๆที่เกี่ยวกับกระเพาะอาหารระบบ
01:08:50 → 01:08:53 ย่อยเนี่ยไม่เป็นหรอกเออแต่ทำไมทุกวันนี้
01:08:53 → 01:08:55 ถึงเป็นกันเยอะเนี่ยเพราะว่า
01:08:55 → 01:08:58 เราเนี่ยดูโซเชียลมีเดียเยอะพอดูปุ๊บเรา
01:08:58 → 01:09:00 ก็อยากเป็นอันนู้นอยากเป็นอันนี้คนนู้น
01:09:00 → 01:09:03 เป็นอันนู้นเป็นนี่คือวันๆก็ดูแต่คนอื่น
01:09:03 → 01:09:06 เขาเลิกดูกลับมาดูตัวเองดีกว่าโอเคไหม
01:09:06 → 01:09:10 ครับพูดนานหน่อยเพราะว่าอันนี้คือเอ่อ
01:09:10 → 01:09:13 เป็นเป็นแกนจริงๆแกนของเรื่องของโรคกรด
01:09:13 → 01:09:16 ไหลย้อนเนี่ยคือแบบนี้นะถ้าเราตั้งตนถูก
01:09:16 → 01:09:19 เนี่ยโรคพวกนี้ก็ไม่ค่อยทำร้ายเราหรอกนะ
01:09:19 → 01:09:23 ครับ
01:09:23 → 01:09:28 คุณบุษราคำบอกว่าสวัสดีครับคุณหมอหนูเป็น
01:09:28 → 01:09:32 Panic กับกรดไหลย้อนเวลาทานข้าวจะมีลม
01:09:32 → 01:09:35 ดันขึ้นมาแล้วก็หัวใจจะเต้นอยู่ที่
01:09:35 → 01:09:39 100-118 ได้เร็วกว่ากันเนาะนะครับ
01:09:39 → 01:09:42 อนาคตหนูจะเป็นโรคหัวใจไหมคะขอบคุณค่ะ
01:09:42 → 01:09:45 นะครับโอเคเอางี้
01:09:45 → 01:09:48 เวลาใครที่เป็น Panic
01:09:48 → 01:09:51 ก็จะกังวลเรื่องการเต้นของหัวใจใช่ไหมอัน
01:09:51 → 01:09:55 นี้ค่อนข้างที่ตอนผมสอนผมเป็นเหมือนกันนะ
01:09:55 → 01:09:58 ก็คือมันจะกังวลน่ะหัวใจเต้นเป็นยังไงมือ
01:09:58 → 01:10:01 สั่นไหมอะไรอย่างนี้นะสมองเป็นยังไงอะไร
01:10:01 → 01:10:02 อย่างเงี้ยนะครับแล้วก็เป็นเรื่องปกติ
01:10:02 → 01:10:05 สำหรับคุณบุษราคัมนะแต่ผมแนะนำนะอย่าไป
01:10:05 → 01:10:08 ใส่ใจมากนะครับเพราะว่าใส่ใจไปก็ไม่ได้
01:10:08 → 01:10:10 เกิดประโยชน์อะไรนะครับใส่ใจก็ตื่นเต้น
01:10:10 → 01:10:13 เปล่าๆว่าตอนนี้หัวใจเต้นเร็วตอนนี้จะ
01:10:13 → 01:10:16 เป็นโรคหัวใจไหมฉะนั้นไปที่รักษาดีกว่า
01:10:16 → 01:10:17 เนาะ
01:10:17 → 01:10:20 รักษาที่กรดไหลย้อนแล้วก็รักษาแพนิคนะ
01:10:20 → 01:10:23 ครับอ่ะเข้าใจเรื่องแพนิคก่อนนะครับ
01:10:23 → 01:10:26 โรคแพนิคเนี่ยมันมีอยู่ 2 รูปแบบใหญ่ๆ
01:10:26 → 01:10:29 แล้วกัน 2 เรื่องใหญ่ๆนะครับรูปแบบแรกก็
01:10:29 → 01:10:31 คือ Panic เพราะว่า
01:10:31 → 01:10:36 เราเติมเข้าไปเยอะเติมความกลัวเข้าไปตั้ง
01:10:36 → 01:10:37 แต่เด็กๆอ่ะเออเติมความกลัวว่าเป็นเด็กๆ
01:10:37 → 01:10:38 นะ
01:10:38 → 01:10:40 มนุษย์ที่เติมความกลัวตั้งแต่เด็กเนี่ย
01:10:40 → 01:10:43 เขาเรียกว่า fix mindset fix ที่แปลว่า
01:10:43 → 01:10:47 ความคิดเดิมความคิดเดียวความคิดเดิมแล้ว
01:10:47 → 01:10:49 ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดได้อันนี้เขา
01:10:49 → 01:10:52 เรียกว่า fix mindset เวลาคนที่เป็น fix
01:10:52 → 01:10:55 mindset เนี่ยเวลาจะให้ทำอะไรใหม่ๆคุณจะ
01:10:55 → 01:10:59 มองในแง่ลบก่อนโอเคไหมเช่นบอกว่าออกกำลัง
01:10:59 → 01:11:01 พรุ่งนี้ไปออกกำลังกายสิไม่น่าจะไหวนะ
01:11:01 → 01:11:04 พรุ่งนี้ช่วงนี้หน้าฝนฝนตกอย่าเพิ่งดี
01:11:04 → 01:11:08 กว่าไม่มีรองเท้ารองเท้าไม่สวยอะไรอย่าง
01:11:08 → 01:11:11 นี้มีแต่นันยางอะไรเงี้ยก็ไม่กล้าไปวิ่ง
01:11:11 → 01:11:14 อะไรเงี้ยหรือว่าเอ่อ
01:11:14 → 01:11:16 อะไรอ่ะ
01:11:16 → 01:11:19 คุณน่าจะคุณสามารถเรียนหนังสือให้ดีได้
01:11:19 → 01:11:22 เอ้อไม่หรอกฉันก็เป็นคนที่ไม่ได้เก่ง
01:11:22 → 01:11:25 เหมือนคนคนนี้หรอกเอออะไรนะคือมันฟิตใหม่
01:11:25 → 01:11:29 เสร็จนะครับคุณสามารถรวยได้นะเฮ้ยไม่หรอก
01:11:29 → 01:11:33 ฉันเป็นคนที่สมถะติดดินเออจริงๆมันก็ไม่
01:11:33 → 01:11:36 เกี่ยวนะรวยไม่รวยก็คือถ้าคุณขยันน่ะฉัน
01:11:36 → 01:11:38 อยากนะอย่างน้อยคุณอยู่ได้เท่านั้นเองคุณ
01:11:38 → 01:11:40 ดูแลคุณพ่อคุณแม่ได้คุณหน่อยก็ได้รวยไม่
01:11:40 → 01:11:43 รวยไม่รู้แหละแต่ว่าคุณขยันเพียงพอแต่ว่า
01:11:43 → 01:11:46 ถ้าคนที่เป็น fix mindset ก็จะบอกว่าไม่
01:11:46 → 01:11:48 เป็นไรเดี๋ยวฉันจะมาถามดีกว่านึกออกมั้ย
01:11:48 → 01:11:50 คือขยันก็ไม่ขยันหรอกนะครับแต่บอกจะมาถาม
01:11:51 → 01:11:52 ไว้ก่อนอะไรอย่างเงี้ยให้ดูดีไว้ก่อนอะไร
01:11:52 → 01:11:56 เงี้ยโอเคไหมฉะนั้นสมถะได้นะแต่เป็นสมถะ
01:11:56 → 01:11:58 ที่นิ่งพอที่ดูแลตัวเองแล้วคนรอบข้างได้
01:11:58 → 01:12:02 ยิ่งดีเข้าไปใหญ่นะครับคราวนี้แล้วจะทำ
01:12:02 → 01:12:05 ยังไงคนที่เป็น fix mindset เนี่ยจะเติม
01:12:05 → 01:12:07 ความกลัวเข้าไปทุกสิ่งไม่ว่าคุณจะเจออะไร
01:12:07 → 01:12:10 ใหม่ๆเข้าไปนะจะเป็นการออกกำลังกายการกิน
01:12:10 → 01:12:14 ข้าวเพื่อนใหม่ที่ทำงานใหม่อากาศเปลี่ยน
01:12:14 → 01:12:17 ไปเที่ยวที่ไหนคุณจะเติมความกลัวเข้าไป
01:12:17 → 01:12:21 ตลอดไอ้การเติมคำกลัวนี้เติมปีนึงคงไม่
01:12:21 → 01:12:23 เป็นไรเนี่ยถ้าเติมสัก 20 ปี
01:12:23 → 01:12:25 fix mindset แล้วก็เติมความกลัว 20 ปี
01:12:25 → 01:12:29 ฉะนั้นคุณจะเป็นถังเนี่ยในถังเนี่ยนะแห่ง
01:12:29 → 01:12:30 ความกลัว
01:12:30 → 01:12:35 พอวันนึงครับอายุประมาณสัก 40 นะครับทั้ง
01:12:35 → 01:12:37 แบบถังใบนี้บอกว่า
01:12:37 → 01:12:39 เติมไม่ได้แล้วเต็มแล้วจริงๆมันไม่ไหว
01:12:39 → 01:12:42 จริงๆนะครับทั้งใบนี้ก็บอกว่างั้นเอาออก
01:12:42 → 01:12:46 เอาออกเขาจะเริ่มเทออกใช่ไหมกระบวนการเท
01:12:46 → 01:12:48 ความกลัวออกเนี่ยไอ้จังหวะเนี่ยนะ
01:12:48 → 01:12:53 เราจะกลัวผิดหูพี่ตาเลยกลัวอะไรไปหมดแล้ว
01:12:53 → 01:12:58 นะครับกลัวคนเสียงดังกลัวข่าวรบกลัวไป
01:12:58 → 01:12:59 เที่ยวนู้นเที่ยวนี้ก็กลัวไปหมดคือเป็น
01:13:00 → 01:13:02 เทคนิคนั่นแหละไอ้ตอนจังหวะเทเนี่ยถูก
01:13:02 → 01:13:06 แล้วถูกไหมคุณกำลังคุณกำลังเทไอ้สิ่งที่
01:13:06 → 01:13:09 คุณเติมเข้าไว้ทั้ง 40 ปีอ่ะกำลังเทนะ
01:13:09 → 01:13:13 นั่นน่ะเขาเรียกโรคแพนิคฉะนั้นเวลาเรา
01:13:13 → 01:13:15 เป็นโรคแพนิคแบบลักษณะแรกนะแบบ fix
01:13:15 → 01:13:17 mindset แล้วเราต้องการเทออกนะสิ่งที่
01:13:17 → 01:13:21 เราทำคือทำใจว่าฉันกำลังเทความโกรธยอมรับ
01:13:21 → 01:13:23 ก่อนนะว่าตัวเองเป็นคน fix mindset นะ
01:13:23 → 01:13:26 คือเป็นความคิดที่แบบกลัวไปหมดอ่ะกลัวทุก
01:13:26 → 01:13:29 สิ่งทุกอย่างไม่อยากจะคนเป็น fix mindset
01:13:29 → 01:13:32 เนี่ยจะเป็น perfectionist perfects ใคร
01:13:32 → 01:13:34 ที่เป็น perfectionist เนี่ยส่วนใหญ่จะ
01:13:34 → 01:13:36 เป็นเนี้ยจะเป็นแบบ fix My Set ก็คือ
01:13:36 → 01:13:39 ฉันมีความคิดแบบนี้เท่านั้นอะไรอย่าง
01:13:39 → 01:13:41 เงี้ยออกกำลังกายต้อง 5 โมงเย็นเท่านั้น
01:13:41 → 01:13:43 ข้าวต้องกินข้าวเวลานี้เท่านั้นแหละอัน
01:13:43 → 01:13:47 นี้มันก็เลยเป็นแบบนี้ฉะนั้นไอ้ตอนเทใช่
01:13:47 → 01:13:50 มั้ยเท่ๆๆออกมาคุณจะตกใจหมดสิ่งที่ทำคือ
01:13:50 → 01:13:54 ยอมรับว่าฉันกำลังเทออกก็ตื่นเต้นไปหัวใจ
01:13:54 → 01:13:57 เต้นเร็วก็เต้นไปดิดูไปเรื่อยๆ
01:13:57 → 01:13:59 กระบวนการนี้พอเทไปสักประมาณ
01:13:59 → 01:14:02 ปีนึง 1 ปีอ่ะเออ
01:14:02 → 01:14:04 จากที่มันเต็มๆใช่ไหมมันก็อาจจะเหลือสัก
01:14:04 → 01:14:05 ครึ่งนึง
01:14:05 → 01:14:09 คราวนี้คุณก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติแหละและ
01:14:09 → 01:14:11 สิ่งที่คุณทำคืออะไรล่ะถ้าคุณเป็นเผด็จ
01:14:11 → 01:14:13 เพราะเหตุผลแบบนี้คุณก็ต้องเปลี่ยนจาก fix
01:14:13 → 01:14:16 mindset หรือความคิดแบบชุดเดิมตลอดกาล
01:14:16 → 01:14:21 เปลี่ยนเป็น Growth mindset ก็คือว่าอ๋อ
01:14:21 → 01:14:24 ฉันเป็นมนุษย์ที่เปลี่ยนแปลงตัวเองได้
01:14:24 → 01:14:27 ใช้เป็นแม่ที่ดีได้นี่นาแต่ก่อนฉันเคยพูด
01:14:27 → 01:14:31 คำหยาบเนี่ยฉันโตมาในที่ที่ไม่ดีพ่อแม่
01:14:31 → 01:14:34 ชอบพูดคำหยาบฉันก็ไม่จำเป็นต้องพูดคำหยาบ
01:14:34 → 01:14:37 นะกับลูกของฉันใช่ไหมกับสังคมใหม่ๆของฉัน
01:14:37 → 01:14:39 ฉันไม่จำเป็นต้องพูดคำหยาบใช่ไหม
01:14:39 → 01:14:42 ฉันไม่เคยเป็นคนจนในอดีตจนมากเลยนะครับ
01:14:42 → 01:14:45 ต้องขอเงินเขาตลอดกู้หนี้ยืมสินตลอดแต่ณ
01:14:45 → 01:14:46 วันนี้ไม่จำเป็นต้องจนเหมือนเก่าแล้วก็
01:14:46 → 01:14:49 ได้นะฉันเป็นคนที่มีความขยันมีความพัฒนา
01:14:49 → 01:14:52 ตัวเองตลอดได้โอเคไหมครับ
01:14:52 → 01:14:54 เอ่อฉันเป็นคนออกกำลังกายไม่เก่งในสมัย
01:14:54 → 01:14:57 ก่อนวันนี้ฉันจะเริ่มออกกำลังกายพรุ่งนี้
01:14:57 → 01:15:01 ไปซื้อนันยางมาไปวิ่งไปเอากำลังกายเตะ
01:15:01 → 01:15:02 ตะกร้อหรือว่าไปนะครับ
01:15:02 → 01:15:05 นึกออกมั้ยพอคุณเปลี่ยนความแนวคิดแบบ
01:15:05 → 01:15:07 เนี้ยเท่ากับคุณกำลังไม่เติมไอ้ความกลัว
01:15:07 → 01:15:10 เข้าไปละเข้าไปในถังนี่เองแล้วดังนั้น
01:15:10 → 01:15:14 เนี่ยภาวะที่เป็นโรคแพนิคในแบบที่ 1 ก็จบ
01:15:14 → 01:15:15 ไป
01:15:15 → 01:15:17 มันก็ดีขึ้น
01:15:17 → 01:15:20 ภายในแบบที่ 2 แบบที่คุณ
01:15:20 → 01:15:23 บุษราคัมเนี่ยเป็นนะครับก็คือ
01:15:23 → 01:15:27 Panic เพราะว่าเป็นกรดไหลย้อนดังนั้นก็
01:15:27 → 01:15:29 รักษากรดไหลย้อนแล้วกันนะครับเช่นกินยา
01:15:29 → 01:15:32 หอมก่อนอาหารหลังอาหารกินธาตุมันจบนะเช้า
01:15:32 → 01:15:35 เย็นอะไรอย่างนี้นะครับแล้วก็กินอาหาร
01:15:35 → 01:15:37 เป็นเวลาไม่ไปกินยาอะไรที่มันทำให้น้ำกรด
01:15:37 → 01:15:41 มันเสียหายเกินไปนะครับเราก็มั่นใจในการ
01:15:41 → 01:15:45 กินอาหารแล้วก็มั่นใจว่าฉันหายแน่นอนต้อง
01:15:45 → 01:15:47 คิดอย่างนี้ฉันจะหายจากโรคกรดไหลย้อนแน่
01:15:47 → 01:15:49 นอนนะครับว่ากรดไหลย้อนเป็นทั้งชีวิตอัน
01:15:49 → 01:15:52 นี้ไม่จริงนะนะครับโรคอะไรต่างๆก็เป็น
01:15:52 → 01:15:54 ทั้งชีวิตได้ทั้งนั้นแหละจะเป็นโรคหวัด
01:15:54 → 01:15:56 โรคนู้นโรคนี้เนี่ยอันนี้เป็นคำพูดที่
01:15:57 → 01:16:00 เหมือนทำให้เรากลัวอย่าไปเชื่อเขานะเชื่อ
01:16:00 → 01:16:03 เราดีกว่าว่าเออฉันสามารถทำให้มันหายได้
01:16:03 → 01:16:07 แน่นอนโอเคไหมฉะนั้นพอมั่นใจละแล้วคุณก็
01:16:07 → 01:16:09 เดินหน้าเดินหน้าเดินหน้ากินข้าวเป็นเวลา
01:16:09 → 01:16:12 เอ่อกินยาหอมช่วยย่อยกินโปรตริกหลังอาหาร
01:16:12 → 01:16:14 ว่ากันไปนะครับ
01:16:14 → 01:16:17 เอ่อประมาณเนี้ยถ้ากระบวนการย่อยดีสาร
01:16:17 → 01:16:19 อาหารมาใช่ไหมสมองจะบอกว่ามนุษย์คนนี้
01:16:19 → 01:16:23 ปลอดภัยแล้วโรคแพนิคที่มาพร้อมกรดไหลย้อน
01:16:23 → 01:16:25 ก็จะหายไปเนอะ
01:16:25 → 01:16:28 แต่ที่ผมเจอเยอะเนี่ยมันเป็นมันเป็นแบบนี้นะ
01:16:28 → 01:16:36 เป็น Panic ที่เป็นแบบชุดที่ 1
01:16:36 → 01:16:37 ด้วยแล้วก็บวกกับกรดไหลย้อนด้วยผสมกันฉะนั้นเวลาแก้เนี่ยมันเลยต้องแก้ทั้งเปลี่ยนความคิดให้เป็น
01:16:37 → 01:16:50 Growth mindset
01:16:50 → 01:16:52 คือฉันสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แล้วก็ปรับที่ระบบย่อยด้วยมันต้องบวกกันแล้วมันก็จะหายทั้งแพนิคกรดไหลย้อนแล้วก็จะกลายเป็นมนุษย์คนใหม่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เสมอไม่เป็น
01:16:52 → 01:16:53 perfectionist perfection
01:16:53 → 01:17:14 คือเป็นคนสมบูรณ์แบบเท่านั้นแบบนี้ถ้าหากนะต้องทำแบบนี้ถึงจะถูกต้องเท่านั้นอะไรอย่างเงี้ยคุณก็จะหายจากโรคพวกนี้เห็นมั้ยดีมั้ยก็จะกลายเป็นมนุษย์ที่มีปัญญาแล้วก็มีความสุขในการดำเนินชีวิตได้ด้วยนะครับ
01:17:14 → 01:17:18 อ่ะคุณฮ่าๆๆทำแต่งานอ่ะ
01:17:18 → 01:17:20 ชื่อบอกอารมณ์เลย
01:17:20 → 01:17:21 นะครับ
01:17:21 → 01:17:30 อ่ะโอเคบอกว่าตอนนอนแล้วได้ยินเสียงอะไรก็ตามที่ตื่นแล้วหงุดหงิดนะฮะ
01:17:30 → 01:17:36 แล้วก็นอนไม่หลับด้วยเป็นเพราะอะไรครับเออโอเคเป็นเพราะอะไรครับอือ
01:17:36 → 01:17:40 เอ่อเวลาเราทำงานใช่มั้ยเราทำงานเรื่อยๆ
01:17:40 → 01:17:43 สิ่งหนึ่งที่เราได้นะก็คือพวกพลังงานลบๆ
01:17:43 → 01:17:46 บ้างพลังงานต่างๆบ้างหรือร่างกายผลิตพลัง
01:17:46 → 01:17:48 งานอะไรต่างๆขึ้นมาบ้างนะครับ
01:17:48 → 01:17:51 เวลาเราเป็นแบบนี้สิ่งที่เกิดขึ้นคือระบบ
01:17:51 → 01:17:54 ประสาทเราจะไวครับเวลาเราเครียดเวลาเรา
01:17:54 → 01:17:57 ตั้งใจจะทำอะไรบางอย่างนะครับเช่นสมมุติ
01:17:57 → 01:17:59 เนี่ยถ้าใครก็ตามที่ตั้งใจฟังผมอยู่นะคุณ
01:17:59 → 01:18:03 จะรู้สึกได้ว่าหัวใจเต้นเร็วสมองตาเนี่ย
01:18:03 → 01:18:07 มันเบิกโพลงอะไรมานะครับมือไม้เนี่ยรู้
01:18:07 → 01:18:09 สึกว่ามีกำลังบูชาดีถ้าใครตั้งใจฟังผมมาก
01:18:09 → 01:18:11 ๆนะครับเห็นมั้ยก็คือ
01:18:11 → 01:18:14 พลังงานมันออกมาเนี่ยเออเวลาเราเป็นอย่าง
01:18:14 → 01:18:17 นี้ใช่มั้ยแล้วพอคุณเลิกงานปุ๊บแล้วคุณจะ
01:18:17 → 01:18:20 ไปนอนปัญหาคือไอ้พลังงานยังอยู่ครับพลัง
01:18:20 → 01:18:23 งานพวกเนี้ยมันยังอยู่ฉะนั้นหูก็ยังไว
01:18:23 → 01:18:24 อยู่
01:18:24 → 01:18:26 สมองก็ยังหงุดหงิดง่ายอยู่คือเติมอะไร
01:18:27 → 01:18:29 ใหม่ๆไม่ได้จะพร้อมปะทะอยู่เสมออะไรเงี้ย
01:18:29 → 01:18:31 อ่าโอเคไหมตามเนื้อตามตัวก็ยังมีพลังงาน
01:18:31 → 01:18:32 อยู่เยอะฉะนั้น
01:18:32 → 01:18:36 ใครก็ตามที่เอ่อนอนแล้วได้ยินเสียงอะไร
01:18:36 → 01:18:38 ไม่ค่อยได้ตื่นมาแล้วหงุดหงิดนอนไม่หลับ
01:18:38 → 01:18:40 อะไรเงี้ยนะครับสิ่งที่ควรทำคือหลังเลิก
01:18:40 → 01:18:42 งานให้ทำ grounding
01:18:42 → 01:18:46 grounding ก็คือการระบายพลังงานที่มัน
01:18:46 → 01:18:49 เกินๆในระหว่างวันน่ะที่คุณใช้เยอะมีความ
01:18:49 → 01:18:52 เครียดมากกว่างานอะไรอย่างเงี้ยนะให้มัน
01:18:52 → 01:18:55 ออกไปวิธีการ grounding ง่ายๆอะไรได้ไหม
01:18:55 → 01:18:58 ผมเห็นผมมีวิธีง่ายๆนะฟังเพลงพี่เบิร์ด
01:18:58 → 01:18:59 แล้วกัน
01:18:59 → 01:19:01 ฟังเพลงพี่เบิร์ด
01:19:01 → 01:19:03 เพลงพี่เบิร์ดส่วนใหญ่เนี่ยเพลงเก่าๆนะ
01:19:03 → 01:19:06 เพลงเก่าๆยุคประมาณสักยุค 80 90 อะไร
01:19:06 → 01:19:06 อย่างนี้
01:19:06 → 01:19:09 เพลงยุคนั้นเนี่ยจะเป็นเพลงที่ไม่ค่อย
01:19:09 → 01:19:12 เร็วหรอกนะเพลงสบายๆไม่ต้องการที่แบบ
01:19:12 → 01:19:14 ต้องการเรียกร้องอารมณ์คนฟังอะไรเท่าไหร่
01:19:14 → 01:19:15 นะ
01:19:15 → 01:19:17 สบายๆอะไรอย่างเงี้ย
01:19:17 → 01:19:20 เพราะฉันเป็นแค่บูมเมอแรงอะไรว่าไปนะเวลา
01:19:20 → 01:19:22 ฟังเพลงพวกนี้ที่แบบ
01:19:22 → 01:19:25 ไม่ได้เร่งเร้าแบบ 5 วินาทีแรกต้องให้เรา
01:19:25 → 01:19:27 กระชากอารมณ์เข้าไปได้อะไรอย่างเงี้ยนะ
01:19:27 → 01:19:29 เวลาเราฟังเพลงพวกนี้หรือว่า
01:19:29 → 01:19:31 ถ้าเป็นฝรั่งมันเอ่อมันจะมีเพลงนึงเพื่อ
01:19:31 → 01:19:34 ชื่อเพลง Angel อะไรอย่างเงี้ยเออเพลง
01:19:34 → 01:19:37 Angel ของซาร่าอะไรสักอย่างซาร่า Max
01:19:37 → 01:19:39 Corner maxlay อะไรประมาณนี้นะครับ
01:19:39 → 01:19:41 เป็นเพลงที่แบบเบาๆสบายๆ
01:19:41 → 01:19:44 มีเสียงก็ได้มีเสียงร้องก็ได้ไม่มีก็ได้
01:19:44 → 01:19:47 เป็นเพลงบอสซ่าโนวาอะไรก็ได้นะครับ
01:19:47 → 01:19:51 ฟังปุ๊บใช่ไหมเออให้เราให้ความรู้สึกนะ
01:19:51 → 01:19:53 มันเหมือนเรากำลังอาบน้ำอ่ะหรือเราอยู่ใน
01:19:53 → 01:19:56 น้ำตกอะไรก็ได้นะให้มันรู้สึกผ่อนคลาย
01:19:56 → 01:19:59 อารมณ์ไฟฟ้าทั้งหมดอ่ะแล้วก็คลายลงดินไป
01:19:59 → 01:20:01 คุณจะเหยียบดินหรือไม่เหยียบดินก็ได้นะ
01:20:01 → 01:20:03 อันนี้แล้วแต่นะครับ
01:20:03 → 01:20:07 ฟังปุ๊บปรับความรู้สึกให้รู้สึกว่าดึง
01:20:07 → 01:20:11 อารมณ์เราลงไม่ได้เอาอะไรกับใครแล้วไม่
01:20:11 → 01:20:13 ได้อยากจะชนะคะคานอะไรกับใครแล้วนะครับ
01:20:13 → 01:20:16 ไม่ได้อยากที่จะต่อสู้อะไรกับใครและหลัง
01:20:16 → 01:20:19 จากเลิกงานใครที่จะว่าอะไรเราอยากจะ
01:20:19 → 01:20:22 วิจารณ์เราเราก็รับได้เอออยากใช้แบบปรับ
01:20:22 → 01:20:24 อะไรเดี๋ยวเราปรับให้อะไรอย่างนี้นะครับ
01:20:24 → 01:20:26 เดี๋ยวเราไปกินข้าวแล้วก็กินข้าวอร่อยๆมี
01:20:26 → 01:20:29 ความสุขกับการกินอะไรอย่างนี้นะครับพอเรา
01:20:29 → 01:20:31 ปรับอารมณ์ grounding ตัวเองลงมาใช่ไหม
01:20:31 → 01:20:34 จากการที่เราต้องเป็นผู้ชนะเสมอก็กลาย
01:20:34 → 01:20:35 เป็นคนที่แบบ
01:20:35 → 01:20:39 Balance กลางๆอ่ะเออนั่นแหละเวลาเป็นแบบ
01:20:39 → 01:20:41 นี้ใช่มั้ยไฟฟ้าไม่ได้อยู่ในเนื้อในตัวละ
01:20:41 → 01:20:43 นะครับเวลาคุณนอนก็จะไม่ฝันบ่อย
01:20:43 → 01:20:46 ไม่หงุดหงิดง่ายเวลาได้ยินได้ฟังนู่นนี่
01:20:46 → 01:20:48 นั่นอะไรมากๆใช่มั้ยก็จะเริ่มคลายเนื้อ
01:20:48 → 01:20:51 คลายตัวไปแล้วดีมั้ยอันนี้วิธีการนะครับ
01:20:51 → 01:20:53 อ่ะคราวนี้
01:20:53 → 01:20:57 สมมุติว่าเออดีจังหมอเจ๋งอ่ะ
01:20:57 → 01:21:00 คราวนี้ฟังเพลงพี่เบิร์ดก็ได้อะไรอย่าง
01:21:00 → 01:21:01 งี้ใช่มั้ย
01:21:01 → 01:21:03 แต่ว่าจริงๆมีวิธีที่เจ๋งมาอีกนะคืออะไร
01:21:03 → 01:21:07 รู้ไหมก็ทำตัวให้ไม่ต้องมีพลังงานเยอะ
01:21:07 → 01:21:11 เกินไปดิอ่านะครับทำไงอ่ะนะครับ
01:21:11 → 01:21:13 เวลาคุณใช้ชีวิตในแต่ละวันใช่มั้ยเวลาคุณ
01:21:13 → 01:21:16 ไปเจอใครก็ตามอะไรเงี้ยนะครับ
01:21:16 → 01:21:19 ให้มองด้วยความเมตตาอย่ามองด้วยการต่อสู้
01:21:19 → 01:21:23 เช่นสมมุติว่าคนๆนี้แต่งตัวสวยจังเลยก็ชม
01:21:23 → 01:21:25 เขาหน่อยแทนที่จะมองว่าเข้าใจเสื้อยี่ห้อ
01:21:25 → 01:21:28 อะไรวะเดี๋ยวพรุ่งนี้เราแต่งให้ดีกว่าไหม
01:21:28 → 01:21:32 หรือที่บ้านเรามีชุดที่มันมันเป็นแบบนี้
01:21:32 → 01:21:33 บ้างไหมเนี่ยเดี๋ยวต้องไปซื้อหรือเปล่า
01:21:33 → 01:21:36 อะไรอย่างนี้นึกออกไหมอย่าไปต่อสู้ตลอด
01:21:36 → 01:21:40 เวลาเออเห็นใครก็แผ่เมตตาให้เออชมเขายิน
01:21:40 → 01:21:42 ดีกับเขาด้วยโอเคไหมครับ
01:21:42 → 01:21:45 เออเห็นใครเขามีความสุขก็ยินดีกับความสุข
01:21:45 → 01:21:48 เขาอะไรอย่างเงี้ยดีไหม
01:21:48 → 01:21:50 เนี่ยดูหมอนัดเออหมอนัดให้มันร้ายเว้ยนะ
01:21:50 → 01:21:54 ครับมันไร้ทั้งชั่วโมงครึ่งนะโอ้มันมัน
01:21:54 → 01:21:57 อะไรมันใช้พลังงานเยอะนะเออยินดีด้วยที่
01:21:57 → 01:21:59 ตั้งใจทำงานอะไรอย่างเงี้ยนะครับก็อย่าไป
01:21:59 → 01:22:00 มองว่าเออ
01:22:00 → 01:22:03 มันไร้อะไรเยอะนะมันตั้งนานเนี่ยมันไม่จบ
01:22:03 → 01:22:05 ไม่สิ้นสักทีอะไรเงี้ยไม่เอาใช่มั้ยก็แผ่
01:22:05 → 01:22:09 เมตตาไปด้วยในการที่เราจะฟังจะพูดจะดู
01:22:09 → 01:22:11 ราคาเวลาเราแผ่เมตตาเนี่ยเราจะมีความ
01:22:11 → 01:22:15 เครียดแบบพอดีๆครับในการทำงานน่ะในแต่ละ
01:22:15 → 01:22:17 วันมันก็จะไม่มากเกินไปฉะนั้นคุณก็ไม่
01:22:17 → 01:22:20 ต้องไปกล่าวนิ่งตอนก่อนนอนไปคราวหลังเลิก
01:22:20 → 01:22:24 งานเพราะว่าเรามีการแผ่เมตตาออกไปเสมอๆ
01:22:24 → 01:22:26 แถมได้ตังค์ง่ายที่สุดคือการขอบคุณนั่น
01:22:26 → 01:22:29 แหละขอบคุณสิ่งต่างๆนะขอบคุณที่คุณช่วย
01:22:29 → 01:22:30 เรื่องนี้นะอะไรอย่างเงี้ยนะครับอ่ะ
01:22:30 → 01:22:32 ขอบคุณลูกน้องเนี่ยสมมุติว่าเขาทำไม่ดี
01:22:32 → 01:22:35 คุณก็ชมเขาก่อนเฮ้ยคุณทำเรื่องนี้ได้ดี
01:22:35 → 01:22:37 แล้วนะแต่ขอเรื่องนี้นะลองปรับนิดหน่อยสิ
01:22:37 → 01:22:39 ครับอะไรอย่างเงี้ยพูดเพราะๆอะไรอย่าง
01:22:39 → 01:22:42 เงี้ยนี่คือการแผ่เมตตาเนอะดีกว่ากันด่า
01:22:42 → 01:22:45 แล้วชมทีหลังถ้าชมก่อนค่อยๆด่าอะไรเนี่ย
01:22:45 → 01:22:48 ว่ากันไปนะครับก็ไม่ต้องด่าหรอกก็อธิบาย
01:22:48 → 01:22:53 เหตุผลว่ากันไป
01:22:53 → 01:22:55 ผมดูข้างล่างหน่อยนะครับ
01:22:55 → 01:22:58 เพราะว่าเดี๋ยวจะหมดเวลาซะก่อนนะ
01:22:58 → 01:23:06 คุณวิภาวีบอกว่ารอชมคุณหมอนะครับ
01:23:06 → 01:23:09 คุณเจษฎาภรณ์บอกว่าคุณหมอคะยาบำรุงธาตุลด
01:23:09 → 01:23:12 ความดันโลหิตป้าความดันต่ำอยู่แล้วพอกิน
01:23:12 → 01:23:16 ยาตัวนี้แล้วความดันยิ่งต่ำลงค่ะตัวนี้มี
01:23:16 → 01:23:19 ส่วนไหมก็มีส่วนนะครับฉะนั้นก็ยาบำรุง
01:23:19 → 01:23:21 ธาตุเนี่ยก็ลองเปลี่ยนเป็นถ้าเป็นคลิปที่
01:23:21 → 01:23:23 คลินิกผมนะจะมียาตัวนึงช่วยนอนหลับชื่อ
01:23:23 → 01:23:28 ว่ายาบำรุงหมอลูกอินนะครับก็จะใส่เปลือก
01:23:28 → 01:23:30 ทิ้งถ่อนตะโกนนาอะไรอย่างนี้นะครับก็จะ
01:23:30 → 01:23:33 ช่วยบำรุงเลือดด้วยนะแล้วก็ทำให้ความดัน
01:23:33 → 01:23:35 ไม่ต่ำเกินไปแล้วก็ช่วยนอนหลับได้ด้วยนะ
01:23:35 → 01:23:38 ครับส่วนยาบำรุงธาตุเนี่ยช่วยนอนหลับได้
01:23:38 → 01:23:40 แล้วแต่ว่ามันจะช่วยมันจะช่วยลดความดัน
01:23:40 → 01:23:44 ด้วยอันนี้เหมาะสำหรับคนที่ความดันสูงก็
01:23:44 → 01:23:48 ลองแบบอยากให้คุณเจษฎรปรับดูนะลองเป็นกิน
01:23:48 → 01:23:52 ยาบำรุงมาล็อกอินแทนนะครับ
01:23:52 → 01:23:56 คุณต๊ะหลิวต๊ะหลิวคือตะหลิวนะครับสวัสดี
01:23:56 → 01:23:57 คุณหมอครับ
01:23:57 → 01:24:03 กลางคืนนอนหลับฝันบ่อยๆแล้วก็ตื่นเช้าตัว
01:24:03 → 01:24:07 ร้อนฝันเยอะนะตื่นเช้าตัวร้อนในท้องล้ม
01:24:07 → 01:24:10 เยอะด้วยเรอบ่อยกลืนน้ำลายลำบากกลืนน้ำ
01:24:10 → 01:24:13 ลายลงไปลมสวนขึ้นมาเลยครับนั่น
01:24:13 → 01:24:16 แต่ดูดูจากภาพนะภาพมันเล็กอ่ะนะน่าจะอายุ
01:24:16 → 01:24:19 ยังไม่เยอะนะ
01:24:19 → 01:24:22 ตัวร้อนลมเยอะก็คือลมเยอะนั่นแหละแต่เวลา
01:24:22 → 01:24:25 ลมเยอะก็ร่างกายก็อึดอัดนะครับดูลมนะดู
01:24:25 → 01:24:26 ลักษณะของลมกันดีกว่า
01:24:27 → 01:24:34 ลมนึกภาพลมลมเป็นยังไงลมๆเป็นไงครับ
01:24:34 → 01:24:37 นี่ลมดินี่เห็นลมใช่ไหมลมพัดไปพัดมาเป็น
01:24:37 → 01:24:40 ไงครับพัดแล้วพัดอีกพัดแรงผลิตเกิดความ
01:24:40 → 01:24:45 ร้อนเอ่อนะครับลมตรงไหนเยอะตรงนั้นก็จะ
01:24:45 → 01:24:47 ร้อนนะฮะใครเคยเป่าลูกโป่งไหมลูกโป่งมา
01:24:47 → 01:24:50 แล้วคุณเป๋าหนักๆอ่ะมีความดันเยอะๆพอลูก
01:24:50 → 01:24:53 โป่งร้อนเลยเออนะครับยางรถยนต์เนี่ยคุณ
01:24:53 → 01:24:57 อัดลมเข้าเยอะๆยางรถยนต์ก็ร้อนนะประมาณ
01:24:57 → 01:24:59 นี้ฉะนั้นแล้วเนี่ยแสดงว่ามีความดันใน
01:24:59 → 01:25:02 ท้องเยอะนะครับแล้วก็มีลมเยอะด้วยดังนั้น
01:25:02 → 01:25:05 สิ่งที่ต้องทำก่อนเลยนะครับก็ต้องลดอาหาร
01:25:05 → 01:25:08 ที่สร้างความดันแล้วก็ลมเข้าเหนียวน้ำ
01:25:08 → 01:25:10 แข็งน้ำเย็น
01:25:10 → 01:25:13 อาหารเยอะๆอาหารที่สร้างแก๊สถั่วเนื้อ
01:25:13 → 01:25:14 แข็ง
01:25:14 → 01:25:21 อาหารเผ็ดจัดๆเนี่ยอะไรที่เพิ่มความดัน
01:25:21 → 01:25:24 เรากินอาหารรสชาติกลางๆกินมื้อเย็นเบาๆ
01:25:24 → 01:25:25 หน่อยอะไรอย่างนี้นะ
01:25:25 → 01:25:29 ลมก็ลดลงนะแล้วก็กินยาไล่ลมเป็นหลักกินยา
01:25:29 → 01:25:31 หอมก่อนอาหารทุกมื้อหลังอาหารก็กิน
01:25:31 → 01:25:33 สมุนไพรช่วยย่อยเช่นขมิ้นก็ได้หลังอาหาร
01:25:33 → 01:25:37 เช้าเย็นก่อนนอนกินธรณีสารคามนะครับเอายา
01:25:37 → 01:25:39 หม่องนวดท้องแล้วก็ไปนวดตัวสัปดาห์ละ
01:25:39 → 01:25:41 ครั้งหน่อยนะครับเพื่อไล่ลมน่ะลมก็หายไป
01:25:41 → 01:25:43 นะครับ
01:25:43 → 01:25:46 หายแล้วก็ให้คุณตั้งหลิวถามตัวเองว่าลมมา
01:25:46 → 01:25:48 จากไหน
01:25:48 → 01:25:51 ลมมันมาจากอาหารไม่ย่อยก่อนอันดับแรกที่
01:25:51 → 01:25:53 เมื่อกี้ต้องเลี่ยงอาหารที่เป็นคนกินนะ
01:25:53 → 01:25:56 แต่ลมส่วนใหญ่ในมนุษย์เราทุกวันนี้มันมา
01:25:56 → 01:25:59 จากมือถืออ่ะนะครับมือถืออ่ะเล่นมือถือ
01:25:59 → 01:26:02 มากไปเปล่านะครับหรือคิดมากเกินไปหรือ
01:26:02 → 01:26:04 เปล่าตั้งเป้าหมายในชีวิตรุนแรงเกินไป
01:26:04 → 01:26:08 หรือเปล่านะครับหรือว่าใช้เอ่อใช้ชีวิต
01:26:08 → 01:26:10 ด้วยสมองมากเกินไปหรือเปล่านะฮะเปลี่ยน
01:26:10 → 01:26:13 จากการใช้ชีวิตด้วยสมองนะมาใช้ด้วยความ
01:26:13 → 01:26:16 รู้สึกจะดีนะครับเมื่อกี้ที่เราคุยกัน
01:26:16 → 01:26:18 เรื่องของการที่เวลาเราเจออะไรกับใครใช่
01:26:18 → 01:26:21 ไหมแทนที่เราใช้สมองใช่ไหมเราใช้ความรู้
01:26:21 → 01:26:24 สึกนะฮะเช่นสมมุติว่าเราเจอคนแต่งตัวสวย
01:26:24 → 01:26:27 นะถ้าเราใช้สมองใช่ไหมเราก็จะคิดว่าเฮ้ย
01:26:27 → 01:26:30 เสื้อยี่ห้ออะไรเออกางเกงยี่ห้ออะไร
01:26:30 → 01:26:33 เขาแต่งตัวยังไงนะให้มันสวยอะไรอย่างนี้
01:26:33 → 01:26:35 นะจ๊ะอันนี้คือความคิดนะความคิดมันจะเป็น
01:26:35 → 01:26:40 เชิงแบบทำให้เกิดอัตตาน่ะนึกภาพไหมแต่ถ้า
01:26:40 → 01:26:42 เป็นความรู้สึกอ่ะความรู้สึกมันเป็นไง
01:26:42 → 01:26:45 พอเห็นคนแต่งตัวสวยหรือว่าเห็นคนฉลาดหรือ
01:26:45 → 01:26:48 อะไรอย่างนี้นะความรู้สึก
01:26:48 → 01:26:52 ดีจังเนาะวันนี้เขาแต่งตัวสวยแต่วันนี้
01:26:52 → 01:26:56 เขาพูดได้ดีเขาพูดจาพูดจาได้น่าฟังน่าน่า
01:26:56 → 01:26:59 เชื่อถือนะเราใช้ความเราใช้ความรู้สึก
01:26:59 → 01:27:00 เห็นไหม
01:27:00 → 01:27:02 ความรู้สึกเนี่ยมันจะส่วนใหญ่มันจะไม่
01:27:02 → 01:27:05 เป็นแง่ลบนะเออมันก็เป็นความรู้สึกต่อเขา
01:27:05 → 01:27:07 น่ะโดยที่ไม่ใช่หัวนะถ้าหัวผสมเมื่อไหร่
01:27:07 → 01:27:11 เนี่ยมันจะได้ความคิดลบอ่าเช่นรู้สึกว่า
01:27:11 → 01:27:14 เออคนๆนี้พูดดีนะพูดดีจังวันนี้อะไรเงี้ย
01:27:14 → 01:27:17 แต่ถ้าเอาหัวมาผสมนะ
01:27:17 → 01:27:19 ทำยังไงให้ฉันพูดดีกว่าเขาบ้างอ่าเห็น
01:27:19 → 01:27:21 มั้ยมันเริ่มมาแล้วนี่มันเริ่มมาฉะนั้นก็
01:27:21 → 01:27:26 ใช้ได้แต่อย่าใช้เยอะอ่าฉะนั้นเวลาเราใช้
01:27:26 → 01:27:29 ความรู้สึกต่อสิ่งรอบข้างมากขึ้นอ่ะนะใจ
01:27:29 → 01:27:33 เราจะสงบเราจะรู้สึกว่าเออคนนี้ก็ดีคนนี้
01:27:33 → 01:27:37 ก็ใช้ได้สิ่งนี้ก็ดีอาหารนี้ก็โอเคใช้ได้
01:27:37 → 01:27:41 โอเคมั้ยพอทำแบบนี้เนี่ยลงมาเยอะครับอ่า
01:27:41 → 01:27:45 ดังนั้นก็ฝึกมารู้เนื้อรู้ตัวรู้กายนะ
01:27:45 → 01:27:48 ครับก็จะช่วยทำให้คุณต๊ะหลิวใครก็ตามที่
01:27:48 → 01:27:55 ลมมันเยอะสุดยอดอ่ะก็จะดีขึ้นนะครับ
01:27:55 → 01:27:58 คุณพระจันทร์สีน้ำเงินบ้างนะครับ Blue
01:27:58 → 01:28:03 Moon บอกว่าหมอคะไม่รู้เป็นอะไรนอนแอร์
01:28:03 → 01:28:07 ไม่ได้ถ้านอนแล้วจะหนาวหลับก็ไม่สนิทตื่น
01:28:07 → 01:28:09 กลางคืนกลางดึกหลายๆครั้งไม่เหมือนคนอื่น
01:28:09 → 01:28:11 ที่หลับสบาย
01:28:11 → 01:28:14 และตอนเช้าตื่นมาอากาศอุ่นๆหรือปิดพัดลม
01:28:14 → 01:28:17 ไปแล้วจะรู้สึกสดชื่นกว่าตอนมาเจอแอร์มา
01:28:17 → 01:28:20 เจอพัดลมเย็นๆค่ะเป็นเพราะอะไรเป็นแบบนี้
01:28:20 → 01:28:23 ผิดปกติไหมคะนอนแอร์รวมร่วมกับแฟนไม่ได้
01:28:23 → 01:28:26 เลยอันนี้เป็นกันเยอะนะโอเค
01:28:26 → 01:28:30 อันแรกก่อนเอาแบบเอาแบบตรงๆง่ายๆก่อนอัน
01:28:30 → 01:28:32 นี้ก็ต้องเติมธาตุไฟเข้าไปใครที่แบบอยู่
01:28:32 → 01:28:34 แอร์ไม่ได้อะไรอย่างนี้นะครับก็ต้องเติม
01:28:34 → 01:28:36 ธาตุไฟเข้าไปเช่นอย่าให้คุณพระจันทร์สี
01:28:36 → 01:28:38 น้ำเงินไปออกกำลังกายแบบ
01:28:38 → 01:28:42 คาร์ดิโอหน่อยคาดิโอทำให้หัวใจทำงานดีทำ
01:28:42 → 01:28:43 ให้ปอดทำงานดีใช่ไหม
01:28:43 → 01:28:48 เช่นแอโรบิคอ่ากระโดดเชือก
01:28:48 → 01:28:51 เดินเร็วอะไรอย่างเงี้ยฝากไปวิ่งก็ได้นะ
01:28:51 → 01:28:53 ครับเดินเร็วก่อนแล้วกันนะครับเพราะทำแบบ
01:28:54 → 01:28:57 นี้ใช่ป่ะเออหัวใจก็ดีหัวใจที่ดีอ่ะจะทำ
01:28:57 → 01:29:00 ให้ร่างกายอุ่นนะครับคุณก็จะไม่ขี้หนาว
01:29:00 → 01:29:02 เกินไปอะไรอย่างเงี้ยนะครับ
01:29:02 → 01:29:07 จะนอนตอนจะนอนอย่าอาบน้ำอุ่นฟังดีนะเวลา
01:29:07 → 01:29:11 อาบน้ำอุ่นน่ะรูขุมขนมันจะเปิดพอรูขุมขน
01:29:11 → 01:29:13 เปิดใช่ไหมแล้วไปกระทบความเย็นเนี่ยคุณจะ
01:29:13 → 01:29:16 ยิ่งเย็นมากขึ้นโอเคไหมครับฉะนั้นถ้าอยาก
01:29:16 → 01:29:19 อาบน้ำอุ่นจริงๆให้อาบน้ำอุ่นซักแป๊บ
01:29:19 → 01:29:21 เดียวนาทีนึงอะไรเงี้ยแล้วก็ตบด้วยน้ำ
01:29:21 → 01:29:25 เย็นนะเวลาเราอาบน้ำเย็นใช่ไหมร่างกายภาย
01:29:25 → 01:29:26 ใน
01:29:26 → 01:29:29 เลือดภายในมันจะบอกเจอความเย็นเขาก็จะ
01:29:29 → 01:29:32 เบ่งพลังเอาความอุ่นออกมาเอาความอุ่นออก
01:29:33 → 01:29:37 มามาไว้ที่ผิวเลือดเลือดแถวๆกระดูกอ่ะมัน
01:29:37 → 01:29:39 จะอุ่นใช่ป่ะพอเราอาบน้ำเย็นใช่ป่ะเลือด
01:29:39 → 01:29:42 ที่อยู่ข้างในแล้วก็ดูแบบมันจะมาอยู่ที่
01:29:42 → 01:29:45 ผิวเนื้อละอ่ามันก็จะทำให้ตัวอุ่นเวลาคุณ
01:29:45 → 01:29:49 อาบน้ำเย็นดังนั้นนะถ้าคุณพระจันทร์สี
01:29:49 → 01:29:52 น้ำเงินอยากให้ตัวอุ่นๆบ่อยๆก็ให้อาบน้ำ
01:29:52 → 01:29:55 เย็นแทนน้ำอุ่นน้ำเย็นคือไม่ใช่น้ำแข็งนะ
01:29:55 → 01:29:57 น้ำอุณหภูมิห้องนั่นแหละนะครับอุณหภูมิ
01:29:57 → 01:30:01 ปกตินั่นแหละเขาเรียกน้ำเย็นนะสำหรับผมนะ
01:30:01 → 01:30:05 แล้วก็ถ้าแบบแข็งแรงสุดๆก็ค่อยไปอะไรนะทำ
01:30:05 → 01:30:07 อะไรนะฮะแช่น้ำแข็งอะไรก็ว่ากันไปนะครับ
01:30:07 → 01:30:09 แต่ว่าไม่ต้องขนาดนั้นหรอกเอาแค่อาบน้ำ
01:30:09 → 01:30:11 เย็นอาบน้ำอุณหภูมิห้องปกติให้ได้ก็โอเค
01:30:11 → 01:30:12 และ
01:30:12 → 01:30:16 อ่าอะไรกันกินอาหารที่มันช่วยทำให้ตัว
01:30:16 → 01:30:18 อุ่นหน่อยน้ำขิงก็ได้ครึ่งแก้วก่อนอาหาร
01:30:18 → 01:30:20 เช้าเย็นหรือกินวันละแก้วนึงอ่ะให้ใช้ได้
01:30:20 → 01:30:23 ก็ใช้ได้ละนะครับกินอาหารในกลุ่มเครื่อง
01:30:23 → 01:30:26 เทศหน่อยเออเช่นเครื่องพะโล้กระเทียมหัว
01:30:26 → 01:30:30 หอมกระชายอะไรพวกเนี้ยช่วยทำให้ตัวมีความ
01:30:30 → 01:30:33 อุ่นเห็นมั้ยถ้าคุณพระจันทร์สีน้ำเงินบอก
01:30:33 → 01:30:35 ว่าทำแล้วนะหมอไอ้ที่บอกว่าเนี่ยทำหมด
01:30:35 → 01:30:37 แล้วเพิ่มธาตุไฟอันนี้หนูรู้อยู่แล้วนะ
01:30:37 → 01:30:39 ครับหรือบางคนก็บอกว่าหนูรู้อยู่แล้วใช่
01:30:39 → 01:30:42 ไหมมันยังไม่หายสักทีแสดงว่าอะไรแสดงว่า
01:30:42 → 01:30:46 ร่างกายเราเนี่ยมันมีปัญหาคือเขาเรียกว่า
01:30:46 → 01:30:50 ระบบประสาทส่วนกลางมันทำงานไม่ค่อย
01:30:50 → 01:30:53 สมบูรณ์สักเท่าไหร่วิธีการทำยังไง
01:30:53 → 01:30:56 ข้อที่ 1 อย่านอนดึกนะครับ
01:30:56 → 01:30:59 นอนประมาณสัก 4 ทุ่มเลยนะครับสักเดือนนึง
01:30:59 → 01:31:02 ร่างกายก็จะเริ่มอุ่นขึ้นมาได้ดีแล้วแล้ว
01:31:02 → 01:31:06 ก็ไปนวดไปนวดตัวการนวดเนี่ยทำให้ปรับระบบ
01:31:06 → 01:31:09 ประสาทส่วนกลางช่วยทำให้เข้าสู่ภาวะปกติ
01:31:09 → 01:31:11 คือระบบประชา
01:31:11 → 01:31:14 โดยเฉพาะสมองนะตอบได้สมองอะไรพวกเนี้ยมัน
01:31:14 → 01:31:16 จะควบคุมอุณหภูมิร่างกาย
01:31:16 → 01:31:20 ฉะนั้นแล้วเนี่ยเวลาเรานอนหลับดีเวลาเรา
01:31:20 → 01:31:23 ไปนวดเนี่ยมันจะส่งสัญญาณไปที่โดยเฉพาะ
01:31:23 → 01:31:25 การนวดนะการนวดเนี่ยจะส่งสัญญาณไปที่
01:31:25 → 01:31:29 ไฮโปทาลามัสแล้วก็ไปควบคุมพวกอิตาลีอะไร
01:31:29 → 01:31:31 พวกเนี้ยให้ดีไอ้ iPhone talamus ที่ถูก
01:31:31 → 01:31:33 ลอตเตอรี่เนี่ยมันจะควบคุมอุณหภูมิร่าง
01:31:33 → 01:31:37 กายนะครับว่าขณะเนี้ยมันควรจะเย็นหรือมัน
01:31:37 → 01:31:40 ร้อนหรือมันหนาวแต่ถ้าใครก็ตามที่มันทน
01:31:40 → 01:31:42 เย็นไม่ได้จริงๆหรือทนร้อนไม่มากไม่ได้
01:31:42 → 01:31:44 จริงๆแสดงว่าไอ้ต่อมไร้สมองเนี่ยโดยเฉพาะ
01:31:44 → 01:31:47 ไอ้ 2 ต่อเลยนะ hypot กับพี่เนี่ย
01:31:47 → 01:31:51 มันเจ๊งอ่ะมันเจ๊งมันเจ๊งก็เพราะว่านอน
01:31:51 → 01:31:55 ดึกใช่มั้ยหรือบางคนก็เครียดเป็นติดต่อ
01:31:55 → 01:31:58 กันเครียดติดต่อกันนานๆแบบเป็นมนุษย์ที่
01:31:58 → 01:32:00 เครียดสะสมอันนี้ก็จะทำให้หนาวได้ง่าย
01:32:00 → 01:32:04 เหมือนกันนะครับฉะนั้นก็ต้องเครียดเป็น
01:32:04 → 01:32:07 เวลานอนเป็นเวลาไปนวดบ้างคนนี้จะช่วยให้
01:32:07 → 01:32:10 ดีขึ้นแล้วก็อย่าลืมไปออกกำลังกายนะคุณ
01:32:10 → 01:32:12 พระจันทร์สีน้ำเงินก็จะดีขึ้นหรือว่าใคร
01:32:12 → 01:32:14 ก็ตามที่ขี้หนาวนอนกับแฟนไม่ได้นะครับนอน
01:32:14 → 01:32:16 กับแฟนโอ้ยมันหนาวไปหมดเลยเนี่ยก็ต้อง
01:32:16 → 01:32:19 ปรับตัวดูนะครับแต่ส่วนใหญ่ที่ผมเจอนะ
01:32:19 → 01:32:23 เกิดจากการไม่ค่อยได้ออกกำลังกายนะครับ
01:32:23 → 01:32:27 คุณอันสัญญาบอกว่าจุกที่คอเอออันนี้เป็น
01:32:27 → 01:32:31 คำถามซุปเปอร์ยอดฮิตเอ่อแปลกใจที่มีคนถาม
01:32:31 → 01:32:34 ในๆหลายๆเมื่อกี้นะที่ใน YouTube ไม่ค่อย
01:32:34 → 01:32:37 มีคนทำ
01:32:37 → 01:32:39 จุกที่คออือ
01:32:39 → 01:32:42 เหมือนมีอะไรติดคอตลอดเวลาเลยค่ะเป็นทุก
01:32:42 → 01:32:45 วันเป็นมา 3 ปีแล้วค่ะเอออันนี้ก็คนเขา
01:32:45 → 01:32:48 บอกว่าอ๋อเป็นที่ต่อมน้ำเหลืองไทรอยด์
01:32:48 → 01:32:52 เป็นที่อ่านู่นนี่นั่นใช่ไหมแต่ส่วนใหญ่
01:32:52 → 01:32:54 แล้วก็เป็นที่ลมนั่นแหละเนาะก็คือจริงๆ
01:32:54 → 01:32:57 มันไม่ได้มีอะไรไม่ส่องกล้องแล้วก็มาเด่ะ
01:32:57 → 01:32:59 มีอะไรมันอะไรมันติดคอแหละหมออะไรอย่าง
01:32:59 → 01:33:01 เงี้ยนะฮะตรงคอเนี่ยมันเป็นลมครับมันเป็น
01:33:01 → 01:33:03 ก้อนลมอ่ะที่อยู่ตรงเนี้ย
01:33:03 → 01:33:07 ฉะนั้นสิ่งที่เราควรทำคือคือนะครับ
01:33:07 → 01:33:11 ลดภาวะที่มันรักอยู่ตรงนี้ภาวะที่มันรัด
01:33:11 → 01:33:13 ตรงนี้ทำให้ลมมันเคลื่อนลงไม่ได้นะครับ
01:33:13 → 01:33:18 แล้วภาวะรัดตรงนี้ตรงอกเนี่ยนะ
01:33:18 → 01:33:21 มันคืออะไรที่ทำให้ลมมันเคลื่อนขึ้นลงไป
01:33:21 → 01:33:25 ได้นะมันภาวะกษัยชนิดหนึ่งเหมือนกษัยท้น
01:33:25 → 01:33:27 กับสายอะไรอย่างนี้ที่มันอยู่ตรงนี้เกิด
01:33:27 → 01:33:30 อะไรขึ้นนะครับอันแรกก่อนกินยาหอมก่อนกิน
01:33:30 → 01:33:32 ยาหอมก่อนอาหารทุกมื้อเลยกินก่อนนอนด้วย
01:33:32 → 01:33:34 ก็ได้นะครับเพื่อทำให้อะไรที่มัน
01:33:34 → 01:33:39 รัดเนี่ยมันก็คลายตัวไปคลายต่อไปไปนวดนะ
01:33:39 → 01:33:41 ขอให้คุณอาร์สยามแล้วไปนวดสรรพนาม 1
01:33:42 → 01:33:44 ครั้งหนวดเท้านวดตัวได้หมดนะครับถ้าบอก
01:33:44 → 01:33:47 โอ๊ยไม่ไหวหมอช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีก็ยืด
01:33:47 → 01:33:50 เหยียดด้วยตนเองอ่ายืดเหยียดด้วยตัวเองก็
01:33:50 → 01:33:53 เสิร์ชเลยนะครับวิธีการยืดเหยียดเอ่อวัน
01:33:53 → 01:33:56 ละ 15 นาทีอะไรอย่างเงี้ยก็ทำเลยนะครับ
01:33:56 → 01:34:00 เวลาเรายืดเหยียดไปนวดหรือทำอะไรก็ตามที่
01:34:00 → 01:34:02 รู้สึกว่าเออเราผ่อนคลายตรงนี้ได้ดีนะมัน
01:34:02 → 01:34:05 ก็จะช่วยทำให้ภาวะรัดตรงเนี้ยมันค่อยๆ
01:34:05 → 01:34:08 คลายไปพอกินยาหอมด้วยมันก็ช่วยด้วยใช่ไหม
01:34:08 → 01:34:11 มันก็ช่วยทำให้รู้สึกเออหายใจได้ดีขึ้น
01:34:11 → 01:34:14 แล้วนะแล้วก็ทำให้อาการกลืนตรงนี้มันก็จะ
01:34:15 → 01:34:17 ช่วยให้ดีขึ้นไม่เกิดอาการจุกแน่นติดคอ
01:34:17 → 01:34:18 อะไรอย่างเงี้ยนะครับ
01:34:18 → 01:34:22 ที่เหลือก็กินธรณีสัณฑะฆาตสัปดาห์แล้ว 2
01:34:22 → 01:34:26 วันก็จะทำให้มันลมมันไหลออกไปนะครับ
01:34:26 → 01:34:29 แล้วก็กินโปรติคอะไรอย่างนี้นะครับในมื้อ
01:34:29 → 01:34:33 อาหารก็กินสมุนไพรที่มันมีฤทธิ์เผ็ดๆนิด
01:34:33 → 01:34:35 นึงเผ็ดๆร้อนๆหน่อยๆนะครับช่วยเปิดทวาร
01:34:35 → 01:34:38 ต่างๆทำให้ทุกอย่างมันคลายออกไปนะครับ
01:34:38 → 01:34:41 เนาะอันนี้ก็น่าจะทราบกันพอสมควรนะครับ
01:34:41 → 01:34:43 แต่ว่าอย่างนี้
01:34:43 → 01:34:46 ใครที่เป็นแบบระดับ 3 ปีปีนึงอะไรอย่าง
01:34:46 → 01:34:49 เงี้ยแสดงว่าไม่ใช่เรื่องแค่นี้แล้วเพราะ
01:34:49 → 01:34:52 ว่าอันนั้นก็คงรู้อยู่แล้วอ่ะนะ
01:34:52 → 01:34:56 เอออันแรกก่อนนะครับต้องทำให้ตรงเนี้ยมัน
01:34:56 → 01:35:00 เปิดบริเวณตรงนี้นะตรงนี้นะ
01:35:00 → 01:35:04 มันคือการควบคุมควบคุมตัวเองอ่ะครอบครัว
01:35:04 → 01:35:07 ตัวเองบางคนควบคุมมากไป
01:35:07 → 01:35:10 ควบคุมมากไปเช่นเช่นนั้นเช่นเฉยๆนะผมไม่
01:35:10 → 01:35:12 ได้หมายถึงว่าคุณอัจฉริยะเป็นอย่างนี้นะ
01:35:12 → 01:35:14 แต่หมายความว่าโดยส่วนใหญ่ที่ผมเจอแล้ว
01:35:14 → 01:35:16 กันเป็นแบบนี้นะครับ
01:35:16 → 01:35:20 เอ่อฉันมีนิสัยลักษณะนี้เออฉันไม่เปลี่ยน
01:35:20 → 01:35:26 หรอกนะครับฉันเป็นคนที่พูดจาผงผาง
01:35:26 → 01:35:28 เนี่ยฉันเป็นคนอย่างนี้แหละไม่เปลี่ยน
01:35:28 → 01:35:33 หรอกฉันเป็นคนที่ชอบกินอาหารลักษณะนี้นะ
01:35:33 → 01:35:36 ทุกเช้าต้องคิดอันนี้เท่านั้นน่ะไม่
01:35:36 → 01:35:42 เปลี่ยนหรอกนะครับหรือเป็นคนที่อะไรนะชอบ
01:35:42 → 01:35:45 ตัดสินคนตัดสินคนเวลาเราไปเจออะไรก็ตาม
01:35:45 → 01:35:47 อะไรอย่างนี้นะครับเราก็จะตัดสินว่าสิ่ง
01:35:47 → 01:35:49 นี้มันเป็นแบบนั้นสิ่งนั้นแบบนี้คนแบบนี้
01:35:49 → 01:35:51 ไม่เจริญหรอก
01:35:51 → 01:35:54 คนแบบนี้สิถึงเรียกว่าจะได้ดีอะไรอย่าง
01:35:54 → 01:35:57 เงี้ยเออประเทศเราเนี่ยเป็นแบบเนี้ยไม่มี
01:35:57 → 01:35:59 ทางเจริญได้หรอกเพราะว่าประเทศเราไม่
01:35:59 → 01:36:01 เหมือนประเทศนั้นนี่นั่นอะไรอย่างเงี้ย
01:36:01 → 01:36:04 นึกออกป่ะมันเป็นภาวะที่แบบมองไปสิ่งใดก็
01:36:04 → 01:36:07 ตามอ่ะเราจะเป็นคนควบคุมเสมออ่ะนึกภาพ
01:36:07 → 01:36:09 มั้ยมันจะเหมือนแบบเราเป็น Manager ตลอด
01:36:09 → 01:36:11 เวลาเฮ้ยอันนี้ต้องเป็นอย่างนี้สิอันนั้น
01:36:11 → 01:36:12 ต้องเป็นอย่างนั้นเออ
01:36:12 → 01:36:14 ใครที่เป็นนักจัดการ
01:36:14 → 01:36:18 เอ่อเป็นนักควบคุมอ่ะเออเวลามองอะไรก็จะ
01:36:18 → 01:36:21 มองในในเชิงการควบคุมอ่ะเออเวลาเราเป็น
01:36:21 → 01:36:25 แบบนี้เนี่ยเวลาเป็นแบบนี้นะภาวะเนี้ย
01:36:25 → 01:36:29 ใจมันจะไม่เปิดนึกภาพคือเราเป็นคนควบคุม
01:36:29 → 01:36:31 ไงฉะนั้นเรามองรูปไงเราก็จะควบคุมลูกให้
01:36:31 → 01:36:33 ลูกเป็นแบบที่เราคิดเท่านั้นอะไรอย่างนี้
01:36:33 → 01:36:36 นะใจมันไม่เปิดถ้าเรียกง่ายๆเลยนะเอาลูก
01:36:36 → 01:36:39 ตรงๆเลยนะเขาเรียกว่าใจมันแคบลงใจมันเล็ก
01:36:39 → 01:36:43 ลงฉะนั้นเวลาเป็นแบบนี้นานๆคุณลองสังเกต
01:36:43 → 01:36:46 นะคุณจะหายใจไม่ค่อยเข้าแล้วก็จะจุกคอนะ
01:36:46 → 01:36:49 อันนี้คือลักษณะหนึ่งของภาวะกรดไหลย้อนนะ
01:36:49 → 01:36:52 ดังนั้นผมเจอเยอะมากจริงๆโลกแบบนี้นะครับ
01:36:52 → 01:36:55 ฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำคืออะไรตื่นเช้ามา
01:36:55 → 01:36:57 พรุ่งนี้เริ่มเลยนะครับ
01:36:57 → 01:36:59 ฉันจะเป็นคนใจกว้าง
01:36:59 → 01:37:04 เปิดเลย
01:37:04 → 01:37:05 โอเคไหม
01:37:05 → 01:37:08 ลองหายใจแบบนี้นะลองเอามือทำเงี้ยทุกคน
01:37:08 → 01:37:10 ลองทำมืออย่างงี้นะแล้วลองหายใจนะแล้วลอง
01:37:10 → 01:37:14 คิดว่าเราหายใจได้แค่เนี้ยนะเราหายใจเป็น
01:37:14 → 01:37:16 ไงเข้ามั้ย
01:37:16 → 01:37:20 ได้นะแต่มันได้นิดเดียวนะแล้วลองทำมือ
01:37:20 → 01:37:24 ขยายนะ
01:37:24 → 01:37:28 อีกที
01:37:28 → 01:37:31 เห็นไหมโรคเปิดไหมสมองโล่งใช่มั้ยตาเปิด
01:37:31 → 01:37:34 ออกใช่มั้ยความรู้สึกมันปล่อยกว้างออกไป
01:37:34 → 01:37:37 เป็นการแผ่เมตตาไปฉะนั้นเวลาเรารู้สึกว่า
01:37:37 → 01:37:41 อ๋อไอ้ความรู้สึกที่เราอยากจะไปควบคุม
01:37:41 → 01:37:43 สิ่งนั้นสิ่งนี้สิ่งนู้นเนี่ยมันจะทำให้
01:37:43 → 01:37:47 ทุกอย่างมันรัดเข้าใจแต่พอเราคลายออกนะ
01:37:47 → 01:37:50 เวลาเราเห็นลูกทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเรา
01:37:50 → 01:37:53 ก็จะถามแทนที่เราจะว่าเขาเราก็จะถามว่า
01:37:53 → 01:37:56 ทำไมลูกทำแบบนี้นะเหตุผลคืออะไรอ๋อผมคิด
01:37:56 → 01:38:00 แบบนี้ครับผมคิดผิดเออเข้าใจพ่อก็เคยเป็น
01:38:00 → 01:38:03 เหมือนกันแม่ก็เคยเป็นเหมือนกันโอเคให้
01:38:03 → 01:38:05 อภัยแล้วเดี๋ยวคราวหน้าเดี๋ยวเราลองค่อยๆ
01:38:05 → 01:38:07 ปรับนะคราวหน้าอาจจะยังไม่ดี 100% หรอก
01:38:07 → 01:38:09 แต่ค่อยๆปรับกันไปนะเดี๋ยวเราค่อยๆปรับ
01:38:09 → 01:38:37 แก้ไขโอเคมั้ย
01:38:37 → 01:38:39 เพราะมั่นใจมันเปิดออกอะไรเงี้ยไม่หวังจะ
01:38:39 → 01:38:42 เป็นเจ้านายเป็นพ่อเป็นแม่เป็นคนที่ดูแล
01:38:42 → 01:38:45 ตนเองจัดการสภาวะชีวิตตัวเองเนี่ยพอใจมัน
01:38:45 → 01:38:48 เปิดใช่มั้ยมันก็ทำให้ตรงเนี้ยอะไรที่มัน
01:38:48 → 01:38:52 จุกตรงเนี้ยมันก็หายสิมันก็ดีขึ้นเออ
01:38:52 → 01:38:54 ฉะนั้นใครก็ตามที่เป็นโรคเกี่ยวกับตรง
01:38:54 → 01:38:58 เนี้ยนะตรงคอตรงเนี้ยผมขอตัวนี้เช่นคอ
01:38:58 → 01:39:01 เป็นไทรอยด์เป็นโรคเกี่ยวกับเนี่ยในคอใน
01:39:01 → 01:39:04 ปากอย่างเงี้ยนะครับก็พยายามนะเปิดใจ
01:39:04 → 01:39:07 กว้างๆพอเราเปิดใจกว้างๆหายใจโล่งๆคุณจะ
01:39:07 → 01:39:10 รู้สึกได้เลยว่ากลิ่นปากน้อยลงรู้สึกผ่อน
01:39:10 → 01:39:13 คลายกับตัวเองมากขึ้นรู้สึกมองโลกในแง่ดี
01:39:13 → 01:39:17 มากขึ้นแล้วก็คนข้างๆเดี๋ยวคุณเขาก็บอก
01:39:17 → 01:39:20 พวกนี้ว่าเออเดี๋ยวนี้ดีจังอะไรเงี้ยแล้ว
01:39:20 → 01:39:22 ก็อีกอันนึงน่าจะไม่ดำด้วยนะเวลาใครก็ตาม
01:39:22 → 01:39:25 ที่ตรงนี้มันเปิดแล้วอ่ะนะหายใจโล่งแล้ว
01:39:25 → 01:39:29 ปลอดหายใจดีตามเบิกโพลงดีน่าจะไม่ดำคล้ำ
01:39:29 → 01:39:31 โอเคไหมครับเนาะ
01:39:31 → 01:39:34 ทุกคนเนี่ยผมเองก็ตามนะเป็นเหมือนกันแหละ
01:39:34 → 01:39:38 นะครับใช้ชีวิตอยู่สักพักนึงอ่ะจะเริ่มมี
01:39:38 → 01:39:41 อาการแล้วอยากจะไปควบคุมมันเริ่มเก่งอ่ะ
01:39:41 → 01:39:43 เริ่มเก่งก็อยากจะไปควบคุมสิ่งนั้นสิ่ง
01:39:43 → 01:39:46 นี้สิ่งนี้ให้มันเป็นไปตามสิ่งที่เราคิด
01:39:46 → 01:39:48 อะไรอย่างเงี้ยนะครับก็เป็นเรื่องปกติวัน
01:39:48 → 01:39:51 นี้เอ่อเราก็จะรู้แล้วอ๋อโอเคเดี๋ยวพรุ่ง
01:39:51 → 01:39:55 นี้เราจะเริ่มแล้วเป็นคนที่ดูแล้วก็แก้
01:39:55 → 01:39:57 อะไรๆก็แก้ไม่ต้องไปควบคุมซะทุกอย่างนะ
01:39:57 → 01:39:59 ครับก็ช่วยทำให้เราหายใจโล่งดีมีความสุข
01:39:59 → 01:40:04 ดีอะไรอย่างเงี้ยนะครับ
01:40:04 → 01:40:06 โอเคอ้าว
01:40:06 → 01:40:08 เดี๋ยวจบเดี๋ยวกูจริงใจแล้วกันนะคุณยัง
01:40:08 → 01:40:11 ใช้บอกว่าขอบคุณความรู้จากคุณหมอครับคุณ
01:40:11 → 01:40:14 พระรัตนตรัยคุ้มครองให้แข็งแรงทั้งกายใจ
01:40:14 → 01:40:17 แล้วก็เขาต่อด้วยนะเค้าบอกว่าให้แข็งแรง
01:40:17 → 01:40:19 ทั้งกายใจเจริญทั้งทางโลกทางธรรมนะคะโอเค
01:40:19 → 01:40:22 เอ่อขอคำอวยพรนี้นะให้ทุกท่านเช่นกันนะ
01:40:22 → 01:40:25 ครับขอให้ทุกท่านเนี่ยเจริญทั้งทางโลก
01:40:25 → 01:40:29 แล้วก็ทางธรรมด้วยขอให้ทุกท่านมีความสุข
01:40:29 → 01:40:33 ในร่างกายที่แข็งแรงเนาะแล้วก็ป่วยครั้ง
01:40:33 → 01:40:37 ใดอย่าเพิ่งมองแต่โรคให้มองตัวเองด้วยว่า
01:40:37 → 01:40:41 พฤติกรรมใดที่ทำให้เราป่วยนะแล้วเมื่อ
01:40:41 → 01:40:44 ไหร่ก็ตามที่เราแก้ไขพฤติกรรมแล้วก็เข้า
01:40:44 → 01:40:47 ใจโรคเนี่ยสุดท้ายสิ่งที่จะเกิดขึ้นน่ะก็
01:40:47 → 01:40:50 จะเกิดปัญญาไอ้ปัญญานี่แหละนะครับก็จะ
01:40:50 → 01:40:54 ช่วยทำให้ท่านเนี่ยมีชีวิตที่มีความสุขนะ
01:40:54 → 01:40:57 มีชีวิตที่ง่ายขึ้นแล้วก็สามารถที่จะเป็น
01:40:57 → 01:41:02 แบบอย่างให้กับลูกให้กับคนรุ่นหลังให้กับ
01:41:02 → 01:41:05 ตนเองให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้ด้วยบางทีคุณ
01:41:05 → 01:41:07 พ่อคุณแม่ก็ดื้อเหมือนกันใช่ไหมวิธีการ
01:41:07 → 01:41:09 แก้ก็ต้องแก้ที่เราก่อนนะครับอันนี้คือ
01:41:09 → 01:41:11 การแผ่เมตตาให้ตัวเองอย่างมากนะครับ
01:41:11 → 01:41:15 โอเคขอดูท่านมีความสุขนะครับวันนี้ลาไป
01:41:15 → 01:41:17 ก่อน