00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice ในกลุ่มคนที่ออกกำลังกายทั่วไป
00:00:08 → 00:00:10 เนี่ยถ้ามีอาการบูบขึ้นมาได้เนี่ยก็มี
00:00:10 → 00:00:13 ปัจจัยกระตุ้นได้นะครับยกตัวอย่างเช่นมี
00:00:13 → 00:00:16 ภาวะอดนอนมาอนะครับอดนอนนะครับหรือบาง
00:00:17 → 00:00:19 ท่านเนี่ยมีการทำงานหนักมาก่อนเนาะนะ
00:00:19 → 00:00:22 อย่างเช่นก็คือต่อเวรในเวลาหลายหลายครั้ง
00:00:22 → 00:00:24 เป็นคุณหมออีนะแล้วก็หลังจากนั้นเนี่ยก็
00:00:24 → 00:00:26 เป็นปัจจัยกระตุ้นนึงทำให้เกิดวูบได้มี
00:00:26 → 00:00:29 ประวัติมีโรคหัวใจในครอบครัวนะหรือมีคน
00:00:29 → 00:00:31 เสียชีวิตกทันหันเนี่ยกลุ่มนี้เองก็อาจจะ
00:00:31 → 00:00:33 เป็นกลุ่มเสี่ยงหนึ่งที่จะมีโรคซ่อนเร้น
00:00:33 → 00:00:36 โรคหัวใจซ่อนเร้นได้นะครับหรือกลุ่มที่
00:00:36 → 00:00:38 ไม่เคยมีอาการแต่มีประวัติเคยวูบมาก่อน
00:00:38 → 00:00:40 หรือในบางท่านถ้ายิ่งเคยมีประวัติว่าเวลา
00:00:40 → 00:00:42 มีเรื่องเครียดนะหรือมีเรื่องวิตกกังวล
00:00:42 → 00:00:45 ต่างๆก็มีอาการเวียนศีรษะกลุ่มนี้ก็เป็น
00:00:45 → 00:00:47 กลุ่มที่มีปัจจัยเสียง
00:00:47 → 00:00:51 ครับฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทย
00:00:51 → 00:00:54 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพร
00:00:54 → 00:00:57 ค่ะ is Toy
00:00:57 → 00:01:00 pbsc สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังคะขอต้อนรับเข้า
00:01:00 → 00:01:02 สู่รายการโรงหมอทางไทย PBS podcast ค่ะ
00:01:02 → 00:01:05 วันนี้พบกันเช่นเคยนะคะติดตามเรื่องราว
00:01:05 → 00:01:07 สาระดีๆกันได้ค่ะวันนี้เราจะคุยกันถึง
00:01:07 → 00:01:11 เรื่องของอาการวูบจากการออกกำลังกายมัน
00:01:11 → 00:01:13 อันตรายถึงชีวิตเลยนะคะคุณผู้ฟังเดี๋ยว
00:01:13 → 00:01:16 วันนี้เราจะคุยกับรองศาสตราจารย์นายแพทย์
00:01:16 → 00:01:19 กรกิจชัยเจนกิจผู้ช่วยคณบดีฝ่ายสร้าง
00:01:19 → 00:01:22 เสริมสุขภาพและคลินิกการกีฬาวิทยาลัย
00:01:22 → 00:01:24 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา
00:01:24 → 00:01:27 มหาวิทยาลัยมหิดลค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอคะ
00:01:27 → 00:01:29 ครับสวัสดีครับทุกท่านสวัสดีครับวันนี้
00:01:29 → 00:01:32 เราคุยกันเนี่ยเป็นเรื่องที่โอ้โหก็น่าตก
00:01:32 → 00:01:34 ใจอยู่เหมือนกันนะคะคุณหมอตรงที่ว่าคือ
00:01:34 → 00:01:37 การออกกำลังกายเนี่ยเนาะก็เป็นการเสริม
00:01:37 → 00:01:40 สร้างร่างกายให้แข็งแรงเนาะแต่ทำไมแบบ
00:01:40 → 00:01:43 เท่าที่ติดตามข้อมูลกันมาเนี่ยมันจะมี
00:01:43 → 00:01:45 ปัญหาเรื่องของอาการวูบจากการออกกำลังกาย
00:01:45 → 00:01:48 แล้วมันถึงขั้นให้แบบบางคนเสียชีวิตได้
00:01:48 → 00:01:51 เลยหลายครั้งที่เกิดอาการวูบตรงเนี้ยมัน
00:01:51 → 00:01:53 เกิดจากอะไรมันเป็นเพราะสาเหตุอะไรคะคุณ
00:01:53 → 00:01:56 หมอคะครับจริงๆอาการวูบเนี่ยเป็นอาการ
00:01:57 → 00:02:00 แสดงออกของนักกีฬาหรือคนไข้นะครับส่วน
00:02:00 → 00:02:02 ใหญ่ก็จะมาด้วยเรื่องหมดสติสาเหตุส่วน
00:02:02 → 00:02:05 หนึ่งเนี่ยมาจากการที่สมองของเราเนี่ยมี
00:02:05 → 00:02:08 การขาดเลือดนะครับจากสาเหตุบางอย่างทำให้
00:02:08 → 00:02:11 คนไข้หรือนักกีฬาเนี่ยมีอาการเวียนศีรษะ
00:02:11 → 00:02:13 ปวดศีรษะนะครับหรือบางท่านก็อาจจะมีการ
00:02:14 → 00:02:17 อ่อนแรงแล้วก็หมดสติครับผมอืคือคือเรื่อง
00:02:17 → 00:02:19 เกี่ยวกับเส้นเลือดใช่ครับเป็นลักษณะที่
00:02:19 → 00:02:22 เส้นเลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลงนะครับแต่
00:02:22 → 00:02:26 จริงๆจะมีสาเหตุอยู่ 3 อย่างครับค่ะครับ
00:02:26 → 00:02:29 อย่างแรกเนี่ยเค้ามีคนศึกษาว่าเคเชื่อว่า
00:02:29 → 00:02:32 มันเกิดจากการที่มันมีการเปลี่ยนท่าทาง
00:02:32 → 00:02:34 เร็วๆนะครับหรือบางกรณีเนี่ยพบว่ามีการ
00:02:34 → 00:02:37 ศึกษาพอาจจะเกิดจากการที่มีความเครียดอด
00:02:37 → 00:02:40 นอนเป็นปัจจัยทางจิตใจกลุ่มเนี้ยทำให้
00:02:40 → 00:02:43 เกิดอาการวูบได้นะครับซึ่งสาเหตุหลักๆทาง
00:02:43 → 00:02:45 การแพทย์เนี่ยบางครั้งยังยังหาคำอธิบาย
00:02:45 → 00:02:47 ที่เป็นวิทยาศาสตร์ได้ยากแต่เกิดขึ้นได้
00:02:47 → 00:02:49 นะครับในกลุ่มนึงที่เราเจอได้เนี่ยก็เป็น
00:02:49 → 00:02:52 กลุ่มที่เกิดจากหลังจากการออกกำลังกาย
00:02:52 → 00:02:54 หนักๆนะครับในกลุ่มเมีคำอธิบายว่าเนื่อง
00:02:55 → 00:02:57 จากเวลาเราออกกำลังกายหนักๆเนี่ยปกติเรา
00:02:57 → 00:02:59 ออกกำลังกายเนี่ยเส้นเลือดเนี่ยเราต้อง
00:02:59 → 00:03:01 ฉีดสุบฉีดเลือดเพื่อไปเลี้ยงไวัต่างๆนะ
00:03:01 → 00:03:03 ครับหลังจากนั้นเราก็จะมีเลือดวิ่งไหล
00:03:03 → 00:03:05 กลับหัวใจทีนี้เวลาเราหยุดออกกำลังกาย
00:03:05 → 00:03:09 เร็วๆออกมาหนักๆเนี่ยเลือดที่วิ่งไหลกลับ
00:03:09 → 00:03:11 จากร่างกายเนี่ยยเฉพาะยิ่งจากกรณีที่
00:03:11 → 00:03:13 กล้ามเนื้อมันบีบกลับมันลดลงอย่างเร็วนะ
00:03:13 → 00:03:16 ครับมันทำให้เลือดเนี่ยมันเข้าสู่หัวใจ
00:03:16 → 00:03:18 น้อยในขะเดียวกันมันก็เลยทำให้เลือดออกไป
00:03:18 → 00:03:20 น้อยลงทุกท่านองนึกภาพเหมือนปั๊มน้ำไง
00:03:20 → 00:03:22 ครับถ้าเรามีปั๊มน้ำเนี่ยแล้วทุกท่านปั๊ม
00:03:22 → 00:03:25 น้ำไว้ท่านต้องมีแหล่งเก็บน้ำถูกมั้ยครับ
00:03:25 → 00:03:27 เมื่อไหร่ก็ตามถ้าแหล่งเก็บน้ำมันพร่องลง
00:03:27 → 00:03:29 น้อยไปปั๊มน้ำทำงานได้ลดลงมันก็ไม่มีน้ำ
00:03:29 → 00:03:32 ปั๊มออกอันนี้ก็เป็นคำอธิบายในในปัจจัย
00:03:32 → 00:03:35 อันที่ 2 ก็คือหยุดออกกำลังกายเร็วๆแล้ว
00:03:35 → 00:03:37 วูบนะครับอันที่ 3 เนี่ยก็เป็นกลุ่มที่
00:03:37 → 00:03:41 เกิดจากการที่มีโรคประจำตัวนะครับเช่นโรค
00:03:41 → 00:03:43 หัวใจนะครับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง
00:03:43 → 00:03:46 ของต่างๆที่เกี่ยวกับการบีบตัวของเส้น
00:03:46 → 00:03:49 เลือดก็จะทำให้เอ่อการบีบตัวมีปัญหาซึ่ง
00:03:49 → 00:03:52 กลุ่มนี้ก็จะเกิดอาการวูบได้ครับอืก็อาจ
00:03:52 → 00:03:55 จะมีปัจจัยเสี่ยงขึ้แต่จริงๆกำลังมองภาพ
00:03:55 → 00:03:58 ว่าโดยส่วนมากแล้วคนที่ออกกำลังกายเนี่ย
00:03:58 → 00:04:01 เคก็ออกมาโดยโดยตลอดอยู่ละร่างกายแข็งแรง
00:04:01 → 00:04:03 อยู่แลอะไรอย่างเงี้ยนะคะแต่มันอาจจะมี
00:04:03 → 00:04:09 อะไรภายในที่เค้าไม่รู้ว่ามันอาจจะส่งผล
00:04:09 → 00:04:11 ในขณะออกกำลังกายแล้วมันด้วยจากปัจจัย
00:04:12 → 00:04:14 สาเหตุตรงนี้ได้ใช่มั้ยคะใช่ครับขอบคุณคำ
00:04:15 → 00:04:17 ถามนี้น่าสนใจมากนะครับเราพบว่างี้ครับใน
00:04:17 → 00:04:19 กลุ่มคนที่ออกกำลังกายทั่วไปเนี่ยถ้ามี
00:04:19 → 00:04:22 อาการวูบขึ้นมาได้เนี่ยก็มีปัจจัยกระตุ้น
00:04:22 → 00:04:26 ได้นะครับยกตัวอย่างเช่นมีภาวะอดนอนมาอ่า
00:04:26 → 00:04:28 นะครับอดนอนนะครับหรือบางท่านเนี่ยมีการ
00:04:28 → 00:04:31 ทำงานหนักมาก่อนเนาะนะครับผมมีเคสตัว
00:04:31 → 00:04:33 อย่างเช่นเราเคยมีนักวิ่งที่ร่างกายแข็ง
00:04:33 → 00:04:35 แรงครับปรากฏในวันนั้นเนี่ยก่อนหน้านั้น
00:04:35 → 00:04:38 นะครับมีการทำงานหนักนะอย่างเช่นก็คือต่อ
00:04:38 → 00:04:41 เวรในเวลาหลายหลายครั้งเป็นคุณหมออีนะ
00:04:41 → 00:04:43 แล้วก็หลังจากนั้นเนี่ยก็มีในเรื่องของ
00:04:43 → 00:04:45 การอดนอนนะครับก็เป็นปัจจัยกระตุ้นนึงทำ
00:04:45 → 00:04:49 ให้เกิดวูบได้นะในอันดับต่อมานะครับใน
00:04:49 → 00:04:52 กลุ่มที่มีประวัตินะครับมีโรคหัวใจใน
00:04:52 → 00:04:55 ครอบครัวนะหรือมีคนเสียชีวิตกระทันหันนะ
00:04:55 → 00:04:57 ครับเนี่ยยกลุ่มนี้เองก็อาจจะเป็นกลุ่ม
00:04:57 → 00:05:00 เสี่ยงหนึงที่อาจจะเป็นกลุ่มที่อาจจะมี
00:05:00 → 00:05:03 โรคซ่อนเร้นโรคหัวใจซ่อนเร้นได้นะครับ
00:05:03 → 00:05:05 หรือกลุ่มที่ที่เรียนกล่าวไปข้างต้นนะ
00:05:05 → 00:05:08 ครับในบางกลุ่มที่นะครับไม่เคยมีอาการแต่
00:05:08 → 00:05:11 มีประวัติเคยวูบมาก่อนเช่นเวียนศีรษะง่าย
00:05:11 → 00:05:14 ๆนะครับทุกท่านบางทนท่านอาจจะเคยเป็นลูก
00:05:14 → 00:05:16 นั่งเร็วๆเวียนศีรษะนะครับหรือในบางท่าน
00:05:16 → 00:05:18 ถ้ายิ่งเคยมีประวัติว่าเวลามีเรื่อง
00:05:18 → 00:05:20 เครียดนะหรือมีเรื่องวิตกกังวลต่างๆก็มี
00:05:20 → 00:05:22 อาการเวียนศีรษะกลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มที่มี
00:05:23 → 00:05:25 ปัจจัยเสี่ยงครับอืถึงแม้ว่าเราจะมีแค่
00:05:25 → 00:05:30 อาการแบบบางทีมึนๆงงๆวิ้งๆนิดนึงมันก็อาจ
00:05:30 → 00:05:33 จะนำไปสู่อาการวูบในอนาคตได้เหมือนกันถูก
00:05:33 → 00:05:36 ต้องทีนี้คำถามเมื่อกี้ครับจริงๆส่วนใหญ่
00:05:36 → 00:05:38 ทางการแพทย์เนี่ยเวลาเรามีอการเวียนศีรษะ
00:05:38 → 00:05:41 เวลาเราเปลี่ยนท่าทางเนี่ยทางการแพทย์มัน
00:05:41 → 00:05:43 ก็มีการวินิจฉัยเช่นมีการวัดความดันท่า
00:05:43 → 00:05:46 นั่งท่านอนผมแนะนำว่าถ้าบางท่านที่เคยมี
00:05:46 → 00:05:48 อาการต่างๆเหล่าเนี้ยอาจจะไปพบแพทย์นะ
00:05:48 → 00:05:51 ครับซึ่งคุณหมอเองก็อาจจะทำการวินิจฉัยดย
00:05:51 → 00:05:53 การวัดความดันท่านั่งท่านอนถ้าท่านอยู่ใน
00:05:53 → 00:05:55 กลุ่มนั้นเนี่ยอาจจะมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจ
00:05:55 → 00:05:58 จะเกิดนวูบได้คุณหมอก็จะมีคำแนะนำนะครับ
00:05:58 → 00:06:01 เช่นอาจจะมีการให้ทานสารน้ำให้เพียงพอ
00:06:01 → 00:06:05 ก่อนการแข่งขันก่อนการฝึกซ้อมนะครับมีการ
00:06:05 → 00:06:07 ชดเชยสารเกลือแร่นะครับรวมถึงทำร่างกาย
00:06:07 → 00:06:09 ให้พร้อมพักผ่อนให้เพียงพอต่างๆเหล่านี้
00:06:10 → 00:06:12 ครับนึกภาพตามที่คุณหมอบอกเลยเพราะว่า
00:06:12 → 00:06:16 กำลังนึกว่าอย่างอย่างคนที่อ่าผู้สูงอายุ
00:06:16 → 00:06:18 จังหวะการลุกหรืออะไรเงี้ยเร็วๆอาจจะไม่
00:06:18 → 00:06:20 ค่อยเหมาะเท่าไหร่อันนี้ก็เป็นกลุ่ม
00:06:20 → 00:06:23 เสี่ยงได้แหละนะคะแต่เราไม่ได้บอกว่าจะ
00:06:23 → 00:06:25 ต้องเป็นแค่ผู้สูงอายุเท่านั้นแต่ตอนเมัน
00:06:25 → 00:06:28 กลายเป็นว่าหนุ่มสาวแม้กระทั่งคนรักการ
00:06:28 → 00:06:30 ออกกำลังกายก็เป็นกลุ่มเสียงได้เพราะว่า
00:06:30 → 00:06:33 นึกถึงตรงนี้เลยค่ะคุณหมอว่าหลายคนเ่อมี
00:06:33 → 00:06:35 ความรู้สึกว่าเสพติดการออกกำลังกายจะต้อง
00:06:35 → 00:06:40 ออกกำลังกายอันนี้ดูจากคนรอบตัวรอบข้างนะ
00:06:40 → 00:06:42 คะจะต้องไปวิ่งจะต้องคือยังไงก็ได้จะต้อง
00:06:43 → 00:06:46 ออกกำลังกายอ่ะต่อให้จะทำงานหนักมาแค่ไหน
00:06:46 → 00:06:49 อ่ะยังไม่กลับไปนอนรู้สึกว่าการออกกำลัง
00:06:49 → 00:06:53 กายคือสิ่งที่มันคือการช่วยให้ผ่อนคลาย
00:06:53 → 00:06:57 แล้วก็คือการพักผ่อนในรูปแบบของเขาอืก็
00:06:57 → 00:06:59 เลยอาจจะเป็นด้วยตรงนี้ด้วยหรือเปล่าที่
00:06:59 → 00:07:03 แบบการคิดแบบนี้อาจจะทำให้เฮ้ยถ้าเกิดมัน
00:07:03 → 00:07:06 หนักมาเมื่อยล้ามาเครียดมาคุณควรที่จะ
00:07:06 → 00:07:09 อยู่นิ่งๆพักผ่อนอาจจะนอนหลับก็ได้หรือ
00:07:09 → 00:07:11 อะไรก็ได้ดีกว่าไปออกกำลังกายก่อนอย่าง
00:07:11 → 00:07:14 งั้นหรือเปล่าจริงๆคำถามอันนี้เป็นที่น่า
00:07:14 → 00:07:17 สนใจนะครับปัจจุบันเรายอมรับเลยครับว่า
00:07:17 → 00:07:19 การออกกำลังกายเนี่ยเป็นส่วนหนึ่งของคน
00:07:19 → 00:07:21 ปัจจุบันยิ่งคนสมัยใหม่นะครับค่ะ Active
00:07:21 → 00:07:24 Lifestyle เป็นส่วนนึงซึ่งประเด็นตรง
00:07:24 → 00:07:26 เนี้ยผมคิดว่าถ้าเรามองว่าการออกกำลังกาย
00:07:27 → 00:07:28 เนี่ยเป็นเครื่องมือนึงที่ทำให้ร่างกาย
00:07:28 → 00:07:31 เรามีประสิทธิภาพสุขภาพที่ดีสิ่งที่เรา
00:07:31 → 00:07:32 ต้องคำนึงอีกอันนึงก็คือเรื่องของความ
00:07:32 → 00:07:35 ปลอดภัยค่ะ Safety ทีนี้มันก็มีหลักการ
00:07:35 → 00:07:38 อยู่ 2-3 อย่างด้วยกันที่ผมคิดว่าในคนออก
00:07:38 → 00:07:41 กำลังกายควรจะต้องคำนึงถึงนะครับอย่างแรก
00:07:41 → 00:07:43 ก็คือในเรื่องของการฟังร่างกายตัวเองผม
00:07:43 → 00:07:46 ว่าอันนี้สำคัญเพราะว่าทุกท่านจะเห็นได้
00:07:46 → 00:07:48 ว่าทุกอย่างในโลกตอนนี้มันเป็นเรื่องของ
00:07:48 → 00:07:51 การติดตามดูนะครับเช่นท่านขับรถท่านก็คง
00:07:51 → 00:07:54 ดูเกยความร้อนเนาะใช่มช่านก็ต้องติดตามดู
00:07:54 → 00:07:57 โวลเตจของแบตเตอรี่ร่างกายเราเองก็มี
00:07:57 → 00:08:00 ระดับที่เราต้องติดตามตัวตัวเองนะครับ
00:08:00 → 00:08:01 เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามถ้าท่านออก
00:08:01 → 00:08:03 กำลังกายเนี่ยท่านต้องฟังร่างกายตัวเอง
00:08:03 → 00:08:06 สิ่งที่ควรดูมีอะไรบ้างนะครับอย่างแรกเลย
00:08:06 → 00:08:08 ถ้าเป็นเรื่องของระบบที่เราว่ากันเรื่อง
00:08:08 → 00:08:10 วูบเนี่ยท่านต้องสังเกตอาการตัวเองว่า
00:08:10 → 00:08:12 เมื่อใดก็ตามถ้าเราเริ่มมีอาการเวียน
00:08:12 → 00:08:15 ศีรษะนะหรือบางคนอาจจะบอกว่าบ้านหมุนต่าง
00:08:15 → 00:08:17 ๆอันเนี้ยท่านต้องพึงพิจารณาแล้วว่าร่าง
00:08:17 → 00:08:20 กายเราอาจจะไม่ปกตินะครับเพราะฉะนั้นถ้า
00:08:20 → 00:08:22 ท่านกำลังออกกำลังกายอยู่ในในขณะนั้น
00:08:22 → 00:08:26 เนี่ยคำแนะนำก็คือว่าควรจะต้องผ่อนลงหรือ
00:08:26 → 00:08:28 ทำให้การออกกำลังกายนั้นเบาลงหรือถ้าไม่
00:08:28 → 00:08:30 ไหวก็อาจจะต้องต้องหยุดพักหรือบางท่านอาจ
00:08:30 → 00:08:33 จะต้องยอมออกจากการแข่งขันค่ะอันนี้เป็น
00:08:33 → 00:08:35 อันนึงที่ผมคิดว่าการฟังร่างกายตัวเอง
00:08:35 → 00:08:38 เป็นประเด็นที่สำคัญนะในทางเดียวกันพอร
00:08:38 → 00:08:40 กายตัวเองแล้วเนี่ยอันที่ 2 ก็คือท่าน
00:08:40 → 00:08:42 ต้องทำร่างกายตัวเองให้พร้อมนะฮะการทำ
00:08:42 → 00:08:44 ร่างกายตัวเองให้พร้อมก็ไล่ไปเลยตั้งแต่
00:08:44 → 00:08:47 พักผ่อนให้เพียงพอใช่มครับทานอาหารที่มี
00:08:47 → 00:08:50 ประโยชน์แน่นอนครับการที่เอ่อเอ่อเราจะ
00:08:50 → 00:08:53 ออกกำลังกายก็ต้องมีการขยับร่างกายก่อนนะ
00:08:53 → 00:08:56 หรือบางท่านอาจใช้คำว่า warm up นะขยับ
00:08:56 → 00:08:58 ร่างกายยืดเหยียดเหมือนเราต้องการวอร์ม
00:08:58 → 00:09:00 เครื่องให้พร้อมค่ะครับก็เป็นการเต็มร่าง
00:09:00 → 00:09:02 กายให้ดีในปัจจุบันยิ่งถ้าในกลุ่มที่เป็น
00:09:02 → 00:09:05 นักกีฬาที่เป็นระดับสูงเนี่ยการตรวจ
00:09:05 → 00:09:08 ประเมินร่างกายก่อนทำการซ้อมก็ยังมีความ
00:09:08 → 00:09:11 สำคัญนะครับเช่นท่านอาจจะต้องมีการทำร่าง
00:09:11 → 00:09:13 กายให้ดีในเรื่องของความแข็งแรงของกล้าม
00:09:13 → 00:09:15 เนื้อนะครับการเคลื่อนไหวให้มี
00:09:15 → 00:09:18 ประสิทธิภาพนะครับความยืดหยุ่นความทนทาน
00:09:18 → 00:09:20 ต่างๆอันนี้เป็นสิ่งที่มาอันดับสุดท้ายนะ
00:09:20 → 00:09:23 ครับผมคิดว่าดู No har ครับก็คืออย่าทำ
00:09:23 → 00:09:26 ให้เกิดอันตรายถ้าวใดก็ตามท่านไม่แน่ใจมี
00:09:26 → 00:09:29 อาการดังกล่าวขั้นต้นท่านค้นพบผู้เชี่ยว
00:09:29 → 00:09:32 ชาญนะครับในปัจจุบันเบื้องต้นในในประเทศ
00:09:32 → 00:09:34 ไทยเองก็มีผู้แนะนำการให้ออกกำลังกายก็
00:09:34 → 00:09:38 สามารถขอคำแนะนำได้นะครับรวมถึงนักกายภาพ
00:09:38 → 00:09:41 หรือแพทย์นะครับเป็นต้นครับอือคือถ้าเป็น
00:09:41 → 00:09:44 นักกีฬาอาชีพอันนี้เราก็จะเห็นภาพของเวลา
00:09:44 → 00:09:48 ยังอ่ะยกง่ายๆเพิ่งเพิ่งดูคลิป YouTube
00:09:48 → 00:09:50 มาเมื่อไม่นานวันนี้นักกีฬาทีมชาติไทยนัก
00:09:50 → 00:09:53 วอลเลย์บอลหญิงที่เขาจะโอ้โหการออกกำลัง
00:09:53 → 00:09:57 กายนี่เคต้องมีเอ่อเป็นเชิงเค้าเรียกว่า
00:09:57 → 00:10:01 อะไรนะอ่อคนที่ที่ดูแลนักวิทยาเอ่อเค้า
00:10:01 → 00:10:03 เรียกอะไรวิทยาศาสต์นักวิทยาศาสตร์การ
00:10:03 → 00:10:07 กีฬาโดยตรงเลยที่จะมาดูระบบต่างๆเ่อความ
00:10:07 → 00:10:09 สมบูรณ์ของกล้ามเนื้อความแข็งแรงของร่าง
00:10:09 → 00:10:12 กายหัวใจอัตราการเต้นหัวใจทุกอย่างเลยอัน
00:10:12 → 00:10:15 นั้นคือแบบเต็มรูปแบบแต่ถ้าอย่างเราๆ
00:10:15 → 00:10:17 อย่างเงี้ยคุณหมออย่างอย่าอย่างพี่เนี่ย
00:10:17 → 00:10:22 ไปออกกำลังกายบางทีเอาจริงๆนะสัญญาณร่าง
00:10:22 → 00:10:27 กายเตือนแต่ก็แบบอืมไว้หน้าเฮ้ยไม่เป็นไร
00:10:27 → 00:10:30 นิดเดียวอีกนิดนึงอะไรประมาณนี้เดี๋ยว
00:10:30 → 00:10:35 ค่อยกลับไปพักเตือนแต่ไม่เชื่อตัว
00:10:35 → 00:10:39 เองครับเป็นอารมณ์แบบนี้รีแจ้งคือผมผม
00:10:39 → 00:10:42 เชื่อว่าปัจจุบันเนี่ยเนื่องจากนิดนึง
00:10:42 → 00:10:44 กีฬาก็มีหลายระดับใช่มั้ยครับบางท่านกีฬา
00:10:44 → 00:10:46 บางระบับเนี่ยอาจจะเป็นเรื่องของความเป็น
00:10:46 → 00:10:49 เลิศบางท่านเรื่องของเน้นสุขภาพแต่จริงๆ
00:10:49 → 00:10:52 แล้วพื้นฐานในเรื่องของร่างกายเหมือนกัน
00:10:52 → 00:10:55 ความต่างแค่เป้าหมายกับกระบวนการเพราะ
00:10:55 → 00:10:57 ฉะนั้นหลักการที่บอกดังกล่าวเมื่อกี้ครับ
00:10:57 → 00:11:00 คณีจริงๆเราสามารถใช้ได้ทั้งระดับนานา
00:11:00 → 00:11:03 ชาติรวมถึงคนทั่วไปที่ออกกำลังกายแต่ใน
00:11:03 → 00:11:07 เรื่องของความเอ่อแม่นยำหรือความเอ่อเป้า
00:11:07 → 00:11:09 หมายที่ตั้งอาจจะแตกต่างเพราะฉะนั้นหลัก
00:11:09 → 00:11:11 การใช้อันเดียวกันในทางเดียวกันเมื่อกี้
00:11:11 → 00:11:13 ในกรณีเราบอกเป็นเราเป็นทีมชาตินะครับทีม
00:11:13 → 00:11:15 ชาติเองเา้าก็มีกระบวนการหรือระดับโลกก็
00:11:15 → 00:11:17 ได้นะครับอย่างพูดตอนนี้อาจพูดถึงฟุตบอล
00:11:17 → 00:11:20 โลกอาจจะเข้ากระแสเนาะเค้าก็มีการทำร่าง
00:11:20 → 00:11:23 กายที่เป็นระบบนะครับแต่หลักการเนี่ยใช้
00:11:23 → 00:11:26 หลักการเดียวกันนะครับเค้าต้องมีการฟัง
00:11:26 → 00:11:29 ร่างกายตัวเองแน่นอนเต้องมีการตรุด
00:11:29 → 00:11:31 ประเมินก่อนการเข้าร่วมเต้องมีการทำร่าง
00:11:31 → 00:11:33 กายให้เหมาะสมเพื่อการแข่งขันแต่รูปแบบ
00:11:33 → 00:11:36 เขาจะเน้นเพื่อความเป็นเลิศนะครับแต่ของ
00:11:36 → 00:11:38 เราเนี่ยก็จำเป็นต้องทำแต่เราอาจจะใช้ใน
00:11:38 → 00:11:41 ประเด็นของเรื่องเพื่อสุขภาพค่ะก็เพื่อ
00:11:41 → 00:11:44 สุขภาพเราก็ต้องเอาให้แบบสุขภาพดียาวๆไม่
00:11:44 → 00:11:47 ใช่แบบว่าร่างกายเตือนมาแล้วเริ่มมีอาการ
00:11:47 → 00:11:49 แบบใช่ครับวิ้งๆเชื่อว่าคุณผู้ฟังหลาย
00:11:49 → 00:11:51 ท่านอาจจะเคยมีบ้างนะคะถ้าเกิดสมมุติว่า
00:11:52 → 00:11:53 วันนั้นเรานอนไม่พออ่ะแต่เราต้องต้องไป
00:11:53 → 00:11:55 ออกกำลังกายหรืออะไรก็แล้วแต่อย่าเงี้ย
00:11:55 → 00:11:58 อย่างอย่าของของพี่เนี่ยทุกปีจะต้องมีทด
00:11:58 → 00:11:59 สอบสมัถภาพ
00:11:59 → 00:12:02 ร่างกายนะคะจะมีกำหนดไว้เลยว่าวิ่งกี่
00:12:02 → 00:12:06 กิโลภายในระยะเวลากี่นาทีซึ่งมันอเราไม่
00:12:06 → 00:12:08 ได้เป็นคนออกกำลังกายตลอดมันจะทรมานมากใน
00:12:08 → 00:12:13 การที่จะต้องให้ผ่านเกณฑ์ครับอาฮะ 2 การ
00:12:13 → 00:12:17 เอ่อลุก sit up ลุกนั่งอะไรต่างๆเหล่า
00:12:17 → 00:12:19 นี้คือทุกอย่างมันต้องผ่านเกณฑ์ภายในระยะ
00:12:19 → 00:12:22 เวลาพวกนี้เนี่ยพอร่างกายไม่พร้อมนี่มัน
00:12:23 → 00:12:27 มันรู้เลยค่ะมันรู้แต่เรายังต้องฝืนเพื่อ
00:12:27 → 00:12:32 ให้มันจบในช่วงเวลานั้นต้องพยายามแบบจะ
00:12:32 → 00:12:35 ใช้คำว่าอะไรดีกระเสือกกระสนร่างกายให้
00:12:35 → 00:12:40 ฉันผ่านไปให้ได้แล้วก็ไปนั่งหอบแฮกๆอยู่
00:12:40 → 00:12:42 ข้างสนามอะไรแบบเยค่ะอันนี้มันก็เสี่ยง
00:12:42 → 00:12:45 ได้เหมือนกันเนาะเสี่ยงคผมอยากตัวอย่าง
00:12:45 → 00:12:47 ให้ฟังไครับมันมีโมเดลนึงที่ฟังแล้วน่าจะ
00:12:47 → 00:12:50 เข้าใจง่ายเหมือนผมคิดว่าร่างกายเราก็คือ
00:12:50 → 00:12:54 เป็นเป็นเหมือนเป็นเอ่อกลไกกไกนึงนะครับ
00:12:54 → 00:12:56 ที่ร่าที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาถ้าเรามอง
00:12:56 → 00:12:58 ชีวิตประจำวันเราก็ได้ครับทุกวันนี้เรา
00:12:58 → 00:13:00 มองมองง่ายๆเราลองดูการใช้งานรถยนต์เรานะ
00:13:01 → 00:13:03 ครับรถยนต์เราในปัจจุบันเเวลาเราใช้งาน
00:13:03 → 00:13:06 เนี่ยเรามีการเช็คอัพตามระยะถูกมั้ยครับ
00:13:06 → 00:13:08 มีการเปลี่ยนไถยน้ำมันเครื่องปรับช่วง
00:13:08 → 00:13:10 ล่างเปลี่ยนล้อนะครับรวมถึงเรามีการดู
00:13:10 → 00:13:13 มอนิเตอร์ระหว่างทางเนาะเพผมเป็นคนผมเป็น
00:13:13 → 00:13:16 คนชอบรถเราก็จะชอบดูในเรื่องของอัตราความ
00:13:16 → 00:13:19 ร้อนต่างๆบางท่านแข่งรถหน่อยอาจจะดูรอบ
00:13:19 → 00:13:21 เครื่องยนต์ด้วยซ้ำเพราะฉะนั้นมันจะต้อง
00:13:21 → 00:13:23 มีการติดตามระหว่างทางค่ะร่างกายเราก็
00:13:23 → 00:13:26 เช่นกันครับจริงๆมันต้องมีการเช็ค up
00:13:26 → 00:13:30 ระหว่างระหว่างการเอ่อระหว่างทางของนั้น
00:13:30 → 00:13:32 เป็นต้นไปก็คือตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี
00:13:33 → 00:13:35 ถูกต้องทีนี้ประเด็นตรงนี้สำคัญตรวจ
00:13:35 → 00:13:36 สุขภาพส่วนใหญ่ในปัจจุบันเนี่ยถ้าเราไป
00:13:36 → 00:13:39 โรงพยาบาลเนี่ยจะเป็นสุขภาพแบบเรื่องของ
00:13:39 → 00:13:42 ตับไตไส้พุงอนะแต่ถ้าเรื่องของการออก
00:13:42 → 00:13:44 กำลังกายเนี่ยเขาใช้คำว่าเป็นในเรื่องของ
00:13:44 → 00:13:47 ความพร้อมของระบบกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
00:13:47 → 00:13:51 และกระดูกและสมองสั่งการโอ้โหคืออันเนี้ย
00:13:51 → 00:13:54 คือเป็นอีกประเด็นนึงที่ผมบอกว่าจริงๆใน
00:13:54 → 00:13:56 ถ้าเรามองก็ได้ครับเรามองนักกีฬาอาชีพ
00:13:56 → 00:13:58 เนี่ยในกลุ่มถ้าเราเห็นชัดนี่ในกลุ่มที่
00:13:58 → 00:14:01 เป็นเอ่อ Professional ต่างๆเช่นฟุตบอล
00:14:01 → 00:14:03 ต่างๆนะครับถ้าเราเห็นลีกอาชีพเราจะเห็น
00:14:03 → 00:14:05 ว่าเ้ามีการ regular chee up เช่นกัน
00:14:05 → 00:14:09 ซึ่งจะเป็นระบบที่เพิ่มเติมไปนอกจากระบบ
00:14:09 → 00:14:12 หัวใจตับไตพุงนะครับตับไตต่างๆก็จะเป็น
00:14:12 → 00:14:15 เรื่องของกล้ามเนื้อข้อต่อเส้นเอ็นและ
00:14:15 → 00:14:18 ระบบสั่งการโอ้โหสัมพันธ์กันหมดเลยทุก
00:14:18 → 00:14:20 อย่างถูกต้องครับซึ่งอันเนี้ยผมใช้คำว่า
00:14:20 → 00:14:23 เหมือนเราเช็ครถครับเหมือนเราเช็ครถเรา
00:14:23 → 00:14:25 ต้องคต้องต้องเช็คทั้งระบบช่วงล่างล้อ
00:14:25 → 00:14:28 ระบบน้ำมันเครื่องต่างๆเป็นวิธีการนึง
00:14:28 → 00:14:30 เพราะฉะนั้นการเช็คอัพนี้นะครับก็สามารถ
00:14:30 → 00:14:33 ทำได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญปัจจุบันเนาะ
00:14:33 → 00:14:35 หรือผู้ที่สนใจด้านกีฬาเช่นนัก
00:14:35 → 00:14:37 วิทยาศาสการกีฬาหรือนักกายภาพกีฬาซึ่งต
00:14:37 → 00:14:41 นี้ท่านสามารถขอคำแนะนำได้ครับอ๋อถ้าเป็น
00:14:41 → 00:14:44 คนปกติทั่วไปไม่ได้ถึงขนาดทีมชาติขนาด
00:14:44 → 00:14:47 นั้นแต่ว่าอยากจะเช็คอัพร่างกายดูอยากจะ
00:14:47 → 00:14:51 รู้ว่ากล้ามเนื้อข้อต่อเอ็นใดๆใช่ครับของ
00:14:51 → 00:14:56 เราไหวแค่ไหนมันมันโอเคอ๋อนึกออกะเหมือน
00:14:56 → 00:14:59 กับว่ากำลังนึกถึงอย่างอย่างฟิตเนสค่ะคุณ
00:14:59 → 00:15:03 หมอที่เคยไปเสียตังค์อย่างเงี้ยเค้าก็จะ
00:15:03 → 00:15:06 เช็คดูว่ามีเครื่องให้เราขึ้นไปช่างน้ำ
00:15:06 → 00:15:09 หนักดูมวนกระดูกกล้ามเนื้อไขมัน
00:15:09 → 00:15:13 Everything จิกบลอือแล้วก็มาถามเราว่า
00:15:13 → 00:15:18 เราต้องการเน้นอะไรแล้วเขาก็จะทำการเทรน
00:15:18 → 00:15:21 ตามนั้นตามที่เราต้องการลักษณะคล้ายๆกัน
00:15:21 → 00:15:24 แบบนั้นมั้ยที่ว่าเราต้องไปเช็ค up ก่อน
00:15:24 → 00:15:27 สมรรถภาพในร่างกายของเราจริงๆแล้วเนี่ย
00:15:27 → 00:15:29 มันมีมากน้อยแค่ไหนถูกต้องเหมากับการออก
00:15:29 → 00:15:33 กำลังกายแบบไหนถูกต้องครับใช่มั้ยอืถ้า
00:15:33 → 00:15:35 ถ้าพูดในทางวิทยาศาสตร์เค้าอาจจะเรียกว่า
00:15:35 → 00:15:37 การตรวจประเมินก่อนการเข้าร่วมการแข่งขัน
00:15:37 → 00:15:40 การฝึกซ้อมออโอเคเป็นกลุ่มนั้นเลยนะฮะ
00:15:40 → 00:15:43 เพราะยังผมอยากประสบการณ์ซึ่งผมมีโอกาสไป
00:15:43 → 00:15:46 ฟุตบอลโลกหญิงเนาะเมื่อเอ่อครั้งก่อนหน้า
00:15:46 → 00:15:49 เนะครับในฟุตบอลเองก็ตามฟุตบอลโลกเนี่ย
00:15:49 → 00:15:52 เขาก็มีการตูดประเมินร่างกายนักเตะอือ
00:15:52 → 00:15:55 ก่อนทุกครั้งนะครับเมี 2 ประเด็นประเด็น
00:15:55 → 00:15:58 แรกแน่นอนเต้องการเพื่อเซฟตี้นะครับท่าน
00:15:58 → 00:16:00 ทุกท่านท่านทราบแน่นอนในฟุตบอลโลกถ้าเกิด
00:16:00 → 00:16:02 เหตุการณ์หัวใจหยุดเต้นซึ่งเราเห็นแล้วนะ
00:16:02 → 00:16:05 ในฟุตบอลยูโรก่อนหน้านี้ที่มีเหตุการณ์ก็
00:16:05 → 00:16:08 เป็นเรื่องที่คนทั่วไปก็คงรู้สึกมันมัน
00:16:08 → 00:16:11 มันกระทบกระเทือนเนาะนั้น FIFA เองหรือ
00:16:11 → 00:16:13 สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติเก็ต้องตรวจประเมิน
00:16:13 → 00:16:15 เบื้องต้นก่อนถึงแม้ขนาดเตรวจประเมินแล้ว
00:16:15 → 00:16:18 เนี่ยทุกท่านจะเห็นว่าเขาก็ยังเจอเอ่าใช่
00:16:18 → 00:16:20 มีเหตุการณ์ขึ้นซึ่งแต่ประเด็นที่สำคัญ
00:16:20 → 00:16:22 คือเจอแล้วทำอย่างไรนี่ก็เป็นอีกเรื่อง
00:16:22 → 00:16:24 นึงก็คือต้องปฐมพยาบาลเบื้องต้นถูกวิธี
00:16:24 → 00:16:26 ช่วยเหลือได้เร็วนะครับแต่ผมก็ยังจะเรียน
00:16:26 → 00:16:29 ทุกท่านอย่างงี้ครับบางครั้งเนี่ยมันเป็น
00:16:29 → 00:16:32 อุบัติกาคือมันเกิดขึ้นมันมีโอกาสเกิด
00:16:32 → 00:16:35 ขึ้นในธรรมชาติผมบอกเลยว่าโอกาสมีคนศึกษา
00:16:35 → 00:16:39 ว่าตอนเนี้ยในคนวิ่งสมติงานวิ่งใหญ่ๆนะ
00:16:39 → 00:16:42 ครับที่มีงานวิ่ง 100,000 คนเนี่ยมันมีโ
00:16:42 → 00:16:45 เรามีโอกาสที่จะเจอกลุ่มคนที่มีหัวใจหยุด
00:16:45 → 00:16:48 เต้น 1 คนอื 1 ต่อแสน 1 ต่อแสนดูเหมือน
00:16:48 → 00:16:51 ไม่เยอะแต่มีแต่มีเออนั้นแปลว่าอะไรครับ
00:16:51 → 00:16:53 แปลว่าทุกตัวอย่างท่านลองมองในงานวิ่งก็
00:16:53 → 00:16:55 ได้ครับแต่แล้วงานวิ่งตอนนี้ผมว่าไม่น้อย
00:16:55 → 00:16:58 เนาะใช่มีตลอดทุกสัปดาห์อุบัติกาอาจจะที่
00:16:58 → 00:17:01 บอกไม่ถึง 1 แต่ไม่ถึง 1 แปลว่าไม่เกิด
00:17:01 → 00:17:03 ถูกมั้ครับเพราะฉะนั้นมีโอกาสเกิดวิธีการ
00:17:03 → 00:17:06 ที่เราจะลดได้อย่างแรกที่ผมบอกคือก็ต้อง
00:17:06 → 00:17:09 ตรวจประเมินก่อนการเข้าร่วมอืฟังร่างกาย
00:17:09 → 00:17:12 ตัวเองทำร่างกายให้พร้อมและสุดท้ายที่
00:17:12 → 00:17:15 สำคัญมากก็คือเรื่องของการกู้ชีพปฐม
00:17:15 → 00:17:18 พยาบาลเบื้องต้นต้องรวดเร็วถูกต้องส่งต่อ
00:17:18 → 00:17:21 อย่างรวดเร็วอันนี้เป็นประเด็นซึ่งก็คง
00:17:21 → 00:17:23 เป็นเรื่องที่ถ้าเราสนใจคงต้องศึกษากัน
00:17:23 → 00:17:26 ต่อไปแล้วก็ทำให้ถูกต้องตามหลักการนะครับ
00:17:26 → 00:17:29 ก็แสดงว่าจริงๆแล้วไม่ว่าจะเริ่มในการที่
00:17:29 → 00:17:32 จะออกกำลังกายอะไรก็แล้วแต่นะคะคุณผู้ฟัง
00:17:32 → 00:17:34 ก็คือถ้าจะไปประเมินได้ในเชิงทาง
00:17:34 → 00:17:38 วิทยาศาสตร์การกีฬาได้เนี่ยก็น่าจะเป็น
00:17:38 → 00:17:42 ตัวช่วยให้เราได้ได้รู้ความเสี่ยงหรือว่า
00:17:42 → 00:17:45 อะไรที่เราทำได้บ้างหรืออะไรที่เราทำไม่
00:17:45 → 00:17:49 ได้บ้างในในช่วงต้นก่อนพอออกกำลังกายไป
00:17:49 → 00:17:51 ระยะนึงแล้วมันอาจจะเกินขีดความสามารถใน
00:17:51 → 00:17:53 บางอย่างไปเราก็ไปตรวจประเมินอีกทีนึงว่า
00:17:53 → 00:17:55 เราอาจจะเพิ่มสเต็ปแบบนั้นก็ได้อันนี้จะ
00:17:55 → 00:17:58 เพิ่มความปลอดภัยใช่มั้ยคถูกต้องเลยครับ
00:17:58 → 00:18:00 เพราะฉะนั้นตอนนี้ครับคำแนะนำเนี่ยที่มี
00:18:00 → 00:18:03 เป็นแนวทางปฏิบัตินะครับถ้าทุกท่านอยาก
00:18:03 → 00:18:06 ออกกำลังกายปลอดภัยแล้วก็ได้ประสิทธิภาพ
00:18:06 → 00:18:09 ที่ต้องการเคก็จะนำอย่างแรกคือก็ต้องทำ
00:18:09 → 00:18:11 การตรวจประเมินก่อนการเข้าร่วมก่อนค่ะก็
00:18:11 → 00:18:14 มีตั้งแต่ใช้คำถามมีการตรวจร่างกายนะครับ
00:18:14 → 00:18:17 หลังจากนั้นก็จะต้องมีการทำร่างกายนะครับ
00:18:17 → 00:18:21 ให้พร้อมต่อการเล่นต่อการแข่งนะครับเช่น
00:18:21 → 00:18:24 เรื่องของการเอ่อยืดเหยียดการทำความแข็ง
00:18:24 → 00:18:26 แรงการทำการทรงตัวการปรับการเคลื่อนไหว
00:18:26 → 00:18:28 หลังจากนั้นท่านก็ต้องมีการ
00:18:28 → 00:18:31 ฟังร่างกายตัวเองอ่าอ่าใช่มั้ครับ
00:18:31 → 00:18:34 มอนิเตอรตัวเองและสุดท้ายก็ที่สำคัญเช่น
00:18:34 → 00:18:36 กันก็คือในสิ่งที่ที่ที่ท่านอยู่หรือที่
00:18:37 → 00:18:38 ที่ท่านออกกำลังกายก็ต้องมีกระบวนการ
00:18:38 → 00:18:41 ปฐมพยาบาลเบื้องต้นส่งต่ออย่างถูกวิธีและ
00:18:41 → 00:18:44 รวดเร็วค่ะเดี๋ยวให้คุณหมอย้ำอีกทีนึงว่า
00:18:44 → 00:18:47 ไอ้คำว่าฟังเสียงร่างกายอ่ะคือแต่ละคนอาจ
00:18:47 → 00:18:51 จะนึกภาพว่าเอ๊ะมันมันจะบอกเรายังไงมันจะ
00:18:51 → 00:18:54 มีอาการหรือว่ามันจะมีอะไรให้เรารู้สึก
00:18:54 → 00:18:58 ว่ามันต้องหยุดก่อนนะมันต้องพักก่อนนะฟัง
00:18:58 → 00:19:00 เสียงร่างกายตัวเองเนี่ยก็ไล่ไปตั้งแต่
00:19:00 → 00:19:03 อาการที่จะมีอันตรายอนะครับทุกท่านลองนึก
00:19:03 → 00:19:05 ภาพร่างกายเราเนี่มีระบบที่สำคัญที่ทำให้
00:19:05 → 00:19:09 เราอยู่รอดได้ก็หัวใจสมองนะครับแล้วก็ปอด
00:19:09 → 00:19:11 ถูกมั้ยครับอันนี้เป็นระบบพื้นฐานเพราะ
00:19:11 → 00:19:12 ฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามถ้าท่านเริ่มมีอาการ
00:19:12 → 00:19:17 เวียนศีรษะนะครับอเจ็บหน้าอกนะครับใจสั่น
00:19:17 → 00:19:20 นะครับหายใจไม่อิ่มหายใจเร็วพวกเเป็น
00:19:20 → 00:19:23 อาการแสดงแล้วว่าเริ่มอันตรายอ๋อและแน่
00:19:23 → 00:19:25 นอนครับถ้าท่านเริ่มมีหมดสติซึ่งอันนี้
00:19:26 → 00:19:28 เราทราบแล้วหมดสติหัวใจหยุดเต้นไม่หายใจ
00:19:29 → 00:19:31 อันนี้ก็แสดงว่ามีโอกาสเสียชีวิตเพราะ
00:19:31 → 00:19:34 ฉะนั้นถ้าท่านเริ่มมีอาการปวดศีรษะใจสั่น
00:19:35 → 00:19:37 นะครับหายใจไม่อิ่มเวียนศีรษะอันเนี้ย
00:19:37 → 00:19:40 ท่านต้องรู้แล้วว่าเรากำลังมีมีอาการที่
00:19:40 → 00:19:43 ต้องระวังนะคำแนะนำก็คือท่านก็ต้อง 1 ลด
00:19:43 → 00:19:47 ความหนักการเล่นลงนะครับหรือถ้ามันไม่ไม่
00:19:47 → 00:19:50 หายดีจริงๆท่านก็ต้อง withdraw หรือถอน
00:19:50 → 00:19:52 ตัวเองออกจากการซ้อมการเล่นค่ะและไปพบผู้
00:19:52 → 00:19:57 เชี่ยวชาญอือนะครับแสดงว่ายังไงร่างกายก็
00:19:57 → 00:19:59 ต้องบอกไม่มีทางที่ร่างกายจะไม่บอกเพียง
00:19:59 → 00:20:02 แต่ว่าเราครับไม่ได้สังเกตตัวเองถูกต้อง
00:20:02 → 00:20:04 แล้วก็ไม่ได้คิดว่านี่คือการเตือนถูกต้อง
00:20:04 → 00:20:07 ครับผมมีคนไข้หลายท่านนะครับที่ผมผมชอบ
00:20:07 → 00:20:10 คุยแล้วก็สอบถามที่มีปัญหาเรื่องของโรค
00:20:10 → 00:20:12 หัวใจจากการเล่นแล้วก็เคยมีบางท่านแล้ว
00:20:12 → 00:20:15 กันนะครับว่ามีเรื่องของหัวใจหยุดเต้นนะ
00:20:15 → 00:20:18 แล้วก็กลับมามีคนช่วยเหลือถูกวิธีอย่าง
00:20:18 → 00:20:21 ที่กล่าวไปแล้วก็กลับมาเล่นต่อผมย้อนกลับ
00:20:21 → 00:20:24 ไปถามทุกท่านเนี่ยส่วนมากเลยนะครับ 90%
00:20:24 → 00:20:27 จะบอกว่าเคยมีอาการนำมาก่อนแล้ว
00:20:27 → 00:20:30 อ๋อตรวจเช็คอ่าอนี้ผมเป็นอุทาหรณ์ไว้ครับ
00:20:30 → 00:20:33 เพราะฉะนั้นหมายความว่าอะไรครับถ้าเราตาม
00:20:33 → 00:20:36 หลักการเนี้ยท่านจะต้องรู้ตัวเองและแล้ว
00:20:36 → 00:20:40 ท่านก็ต้องไป seck for expert ถูกมั้ย
00:20:40 → 00:20:42 หาผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจประมนว่าฉันเป็น
00:20:42 → 00:20:46 อะไรฉันปลอดภัยมั้ยที่จะเล่นต่ออืแล้วพอ
00:20:46 → 00:20:49 ได้คำตอบแล้วท่านก็กลับไปเล่นใหม่ได้แล้ว
00:20:49 → 00:20:51 ถ้าท่านมีเจอว่าท่านมีปัญหาคำถามต่อไปก็
00:20:51 → 00:20:54 จะถามว่าแล้วฉันเล่นได้แค่ไหนอะไรได้ไม่
00:20:54 → 00:20:57 ได้มันก็จะตามมาเพราะฉะนั้นเราก็จะมีสิ่ง
00:20:57 → 00:21:00 ที่ที่จะติดตามดูตัวเองเราก็จะรู้ข้อ
00:21:00 → 00:21:03 จำกัดของเราแล้วก็จะรู้ว่าควรจะทำยังไง
00:21:03 → 00:21:04 ค่ะ
00:21:04 → 00:21:09 อืแสดงว่าอ่ามันก็ต้องสัมพันธ์กับเรื่อง
00:21:09 → 00:21:12 ของการเช็คอัพร่างกายประจำปีตรวจสุขภาพ
00:21:12 → 00:21:15 ร่างกายประจำปีเพราะว่าหลายคนอาเชื่อว่า
00:21:15 → 00:21:19 โดยส่วนมากจะไม่ค่อยไปตรวจสุขภาพอยู่แล้ว
00:21:19 → 00:21:21 นะคะแล้วพอวันนึงที่จะมาออกกำลังกายเพราะ
00:21:21 → 00:21:25 ว่าเอ้อเราก็ออกกำลังกายคือกีฬายาวิเศษ
00:21:25 → 00:21:29 เราก็เอ้อก็ไม่ได้มีอะไรนี่แต่เราแค่ไม่
00:21:29 → 00:21:33 รู้ว่าข้างในจริงๆแล้วมันมีอะไรซ่อนอยู่
00:21:33 → 00:21:36 เพียงแค่ว่ามันอาจจะยังไม่ได้แสดงอาการ
00:21:36 → 00:21:39 อะไรออกมาแบบนั้นเนาะงั้นก็ครับเพราะ
00:21:39 → 00:21:41 ฉะนั้นการฟังเสียงร่างกายตัวเองการรู้ตัว
00:21:41 → 00:21:44 เองเนี่ยครับคือจุดเริ่มต้นที่เราต้องถูก
00:21:44 → 00:21:48 ต้องครับต้องฟังแล้วแหละครับแต่ส่วนใหญ่
00:21:48 → 00:21:52 นี่แหละอย่างที่ตัวเองก็ผ่านมาก็ฝืนไป
00:21:52 → 00:21:55 เพราะว่า 1 ไม่ได้วอร์มร่างกายไม่ได้
00:21:55 → 00:21:58 วอร์มร่างกายอย่างดีไปทดสอบ่าร่างกายปึ๊บ
00:21:58 → 00:22:03 ปัก็โชคดีที่ยังไม่ได้ถึงถึงขนาดหรือ
00:22:03 → 00:22:06 อย่างที่คุณหมอบอกตั้งแต่ตอนต้นก็ได้เนาะ
00:22:06 → 00:22:10 ว่าเฮ้ยเราทำงานหนักในช่วงที่ผ่านมาหรือ
00:22:10 → 00:22:14 เปล่าพักผ่อนเพียงพอหรือเปล่ามีอะไรที่
00:22:14 → 00:22:17 มันไม่ได้ใช้ชีวิตปกติหรือเปล่าอันนี้ก็
00:22:17 → 00:22:20 เป็นตัวเริ่มต้นที่เราค่อยๆเบาๆก่อนก็ได้
00:22:20 → 00:22:24 เนาะน่าจะถูกต้องใช่มั้ยใช่ครับอือแต่ถ้า
00:22:24 → 00:22:26 สมมุติว่ามันมีอาการพวกนี้
00:22:26 → 00:22:30 แล้วให้ถอนตัวหรืออะไรเงี้ยแล้วเราเราก็
00:22:30 → 00:22:32 ไปเช็คอัพเช็คอัพแล้วก็อันนี้ก็ขึ้นอยู่
00:22:32 → 00:22:35 กับการวินิจฉัยของคุณหมอแล้วใช่มั้ยคะว่า
00:22:35 → 00:22:39 เรากลับไปเล่นได้ไหรือมีความเสี่ยงใดๆต่อ
00:22:39 → 00:22:42 ไปหรือว่าต้องอยู่ในการควบคุมของของแพทย์
00:22:42 → 00:22:44 ตลอดในการที่จะออกกำลังกายอันนั้นก็คือ
00:22:44 → 00:22:49 เป็นสเต็ปต่อไปครับออแล้วถ้าเกิดคนที่แบบ
00:22:49 → 00:22:52 คนที่ชอบออกกำลังกายมากๆอย่างเงี้ยครับ
00:22:52 → 00:22:54 อย่างที่เป็นข่าวอย่างเงี้ยค่ะว่าก็
00:22:54 → 00:22:58 เช็คอัพแล้วก็ไปตรวจแล้วก็ก็อะไรแล้วแะ
00:22:58 → 00:23:00 เสร็จแล้วก็กลับไปเล่นอีกคราวนี้ไม่ฟื้น
00:23:00 → 00:23:04 แล้วอ่ะคืออย่างที่ทราบว่าส่วนใหญ่เนี่ย
00:23:04 → 00:23:07 โรกหลายๆโรคเนี่ยในปัจจุบันเราอามันอาจจะ
00:23:07 → 00:23:10 ตรวจพบได้ยากถูกมั้ยครับเพราะว่าอย่างนี้
00:23:10 → 00:23:14 เราทราบเราไม่สามารถเอ่อบอมการตรวจทั้ง
00:23:14 → 00:23:17 หมดให้กับทุกคนได้เพราะฉะนั้นการที่เอ่อ
00:23:17 → 00:23:20 คุณหมอเนี่ยจะลงตรวจวินิจฉัยลึกบางอย่าง
00:23:20 → 00:23:23 เนี่ยบางหนึ่งเนี่ยอาจจะต้องสงสัยหรือมี
00:23:23 → 00:23:26 อาการแสดงทีเนี้ผมเลยคิดว่าสิ่งที่จะได้
00:23:26 → 00:23:28 ประโยชน์กับคนทุกท่านมากสุดคือเรื่องของ
00:23:28 → 00:23:30 ฟังร่างกายตัวเองเพราะอันเนี้ยเรารู้อยู่
00:23:30 → 00:23:33 แล้วมันคืออยู่กับเราอืๆเราจะทราบ 2 ก็
00:23:34 → 00:23:37 คืออย่างที่ว่าคือพอฟังปุ๊บต้องถามตัวเอง
00:23:37 → 00:23:40 ว่าแล้วฉันรู้ยังฉันเป็นอะไรฉันทำอะไรได้
00:23:40 → 00:23:42 ไม่ได้คนะอันนี้คือสิ่งที่ผมคิดว่า
00:23:42 → 00:23:44 อันเนี้ยจะเกิดประโยชน์กับกับประชาทุก
00:23:44 → 00:23:47 ท่านที่ฟังมากที่สุดอันต่อมาให้เป็นหน้า
00:23:47 → 00:23:49 ที่ผู้เชี่ยวชาญครับพะท่านไปเจอผู้เชี่ยว
00:23:49 → 00:23:50 ชาญแล้วเนี่ยสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญจะกำลัง
00:23:50 → 00:23:54 จะหาให้ท่านคือท่านเป็นอะไรแล้วทำได้แค่
00:23:54 → 00:23:58 ไหนอะไรเป็นข้อระวังอืแต่ที่ผมผมบอกสุด
00:23:58 → 00:24:00 ท้ายสำคัญที่สุดที่ท่านทราบนะฮะเราเรา
00:24:00 → 00:24:02 พยายามทุกอย่างและยกตัวอย่างผมบอกเราจะ
00:24:02 → 00:24:05 บอกเวลาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเสมอว่าเราทำดี
00:24:05 → 00:24:07 ทุกอย่างแล้วบางครั้งมันเป็นอุบัติเหตุ
00:24:07 → 00:24:09 ครับทุกท่านจะดูว่าบางอย่างเราทำทุกอย่าง
00:24:09 → 00:24:12 เซฟตี้ทุกอย่างเนาะมันก็ยังเกิด
00:24:12 → 00:24:13 อุบัติเหตุเพราะฉะนั้นวิธีการนี้เราต้อง
00:24:13 → 00:24:16 คิดคือแล้วถ้าเกิดขึ้นเราจะปฐมพยาบาลส่ง
00:24:17 → 00:24:19 ต่อรักษาอย่างไรก็คือต้องถามตัวเองว่า
00:24:19 → 00:24:22 แล้วที่ที่เราไปออกกำลังกายที่ที่เราไป
00:24:22 → 00:24:24 แข่งขันเนี่ยเาเตรียมพร้อมในการปฐมพยาบาล
00:24:25 → 00:24:28 ช่วยเหลือกู้ชีพส่งต่อแค่ไหนค่ะซึ่งถ้า
00:24:28 → 00:24:32 เกิดแล้วถ้าท่านมีเอ่อการดูแลที่ถูกต้อง
00:24:32 → 00:24:34 ทันท่วงทีส่งต่อรวดเร็วท่านก็มีโอกาสรอด
00:24:34 → 00:24:37 ชีวิตปกติได้สูงเหมือนกันเพราะฉะนั้นผม
00:24:37 → 00:24:39 เชื่อว่ามันต้องประกอบกัน 3 อย่างโอ้โห
00:24:39 → 00:24:44 ป้องกันฟังร่างกายนะฮะแล้วก็มีระบบการดู
00:24:44 → 00:24:47 แลที่ถูกต้องทันช่วงทีครับผมอือฮึนี่คือ
00:24:47 → 00:24:51 สิ่งที่จะต้องมีทั้งองค์ประกอบถูกต้อง
00:24:51 → 00:24:53 ครับอูยเดี๋ยวนี้แสดงว่าถ้าจะไปออกกำลัง
00:24:53 → 00:24:56 กายที่ไหนนี่ต้องดูว่า Safety ของเขา
00:24:56 → 00:24:59 เนี่ยเอ่อเเรื่องเครื่องไม้เครื่องมือการ
00:24:59 → 00:25:01 ที่จะช่วยในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะ
00:25:01 → 00:25:03 ว่าค้องแบบเนี้ยเมื่อกี้คุณหมอบอกว่ามัน
00:25:03 → 00:25:05 เป็นอุบัติเหตุได้อ่ะมันเกิดอะไรก็ได้อ่ะ
00:25:06 → 00:25:08 เราไม่รู้ล่วงหน้าเราไม่รู้หรอกว่าโอเค
00:25:08 → 00:25:10 เช็คอัพมาแล้วอ่ะก็ดูเหมือนไม่ได้เป็น
00:25:10 → 00:25:13 อะไรนักกีฬาที่เขาแข็งแรงมากๆเขายังแบบ
00:25:13 → 00:25:16 ปึ๊บไม่ไม่ได้มีโอกาสมาอยู่ในสนามต่อ
00:25:16 → 00:25:19 อย่างเงี้ยก็ก็มีเดี๋ยวนี้มันรู้สึก
00:25:19 → 00:25:22 เหมือนจะเยอะขึ้นนะคุณหมอคือมุมมมองไป
00:25:22 → 00:25:24 อย่างงี้ครับท่านิภาพนะครับนักกีฬาที่เรา
00:25:24 → 00:25:25 เห็นในปัจจุบันเนี่ยที่เราเห็นในข่าว
00:25:26 → 00:25:28 เนี่ยส่วนใหญ่เป็นนักกีฬาระดับสุเอที่มี
00:25:28 → 00:25:31 รายได้มากมีชื่อเสียงโดยกระบวนการเนี่ยเข
00:25:31 → 00:25:34 ต้องได้รับการตรวจประเมินอย่างดีใช่รวม
00:25:34 → 00:25:37 ถึงในเรื่องของการองค์ความรู้ต่างๆแต่ผม
00:25:37 → 00:25:40 กำลังจะบอกว่าสุดท้ายมันมันเกิดขึ้นได้ฮะ
00:25:40 → 00:25:41 ที่ผมบอก Nobody can Control
00:25:41 → 00:25:44 Everything นะเราควบคุมทุกอย่างในโลกนี้
00:25:44 → 00:25:46 ไม่ได้เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดขึ้นแล้วสิ่ง
00:25:46 → 00:25:49 ที่เราทำได้คือมีมาตมีมาตรการการจัดการ
00:25:49 → 00:25:51 นั้นกับปัญหานั้นเพราะฉะนั้นในทางเดียว
00:25:51 → 00:25:54 กันครับทุกท่านท่านลองกลับมาย้อนดูในตัว
00:25:54 → 00:25:57 เราเองถึงแม้ท่านมองเลยก็ได้นะครับคุณหมอ
00:25:57 → 00:26:00 ในปัจจุบันเอ่อก็มีโอกาสที่จะเกิดสใจหยุด
00:26:00 → 00:26:02 เต้นได้ทั้งนั้นที่เป็นคุณหมอเองนะนะมี
00:26:02 → 00:26:04 โอกาสอยู่ในโรงพยาบาลเพราะฉะนั้นผมเลยบอก
00:26:04 → 00:26:07 ว่ามันจะต้องสอดประสานไปทั้ง 3 ระบบตรวจ
00:26:07 → 00:26:10 ประเมินนะครับติดตามฟังร่างกายแล้วก็ใน
00:26:10 → 00:26:12 เรื่องของการดูแลรักษาและในทางเดียวกัน
00:26:13 → 00:26:14 เนี่ยปัจจุบันต้องยอรับว่าการออกกำลังกาย
00:26:14 → 00:26:17 แล้วคือการแข่งขันกีฬาเยอะขึ้นมากถูกมั้
00:26:17 → 00:26:19 ครับเพราะฉะนั้นเมื่อจำนวนเยอะขึ้นโอกาส
00:26:19 → 00:26:22 การเกิดมันก็เยอะขึ้นอ่าๆ่แล้วสื่อก็รับ
00:26:22 → 00:26:24 ทราบได้มากขึ้นนะไม่ว่าจะเป็นโซเชียล
00:26:24 → 00:26:26 Media ลงเพราะฉะนั้นผมคิดว่ามันก็เป็น
00:26:26 → 00:26:28 สิ่งที่มันตอบกันมาแต่วิธีการยังกลับไป
00:26:28 → 00:26:30 หลักการ 3 ข้อเมื่อกี้ครับอืนะคะเพราะ
00:26:30 → 00:26:33 ฉะนั้นก็คือป้องกันฟังร่างกายและอีกอัน
00:26:33 → 00:26:35 นึงคือคือก็คือเอ่อรักษาแล้วก็ทรงต่อ
00:26:35 → 00:26:38 อย่างถูกวิธีนะครับแล้วก็รวดเร็วอนะคอัน
00:26:38 → 00:26:41 นี้ก็คือจะเป็นสิ่งที่จะช่วยเซฟได้อีกนะ
00:26:41 → 00:26:44 คะในกระบวนการที่คุณอยากจะออกกำลังกายนะค
00:26:44 → 00:26:46 ออกกำลังกายดีอยู่แล้วค่ะคุณผู้ฟังไม่ใช่
00:26:46 → 00:26:49 ไม่ดีนะฮะแต่แค่ว่าทำยังไงให้มันดีขึ้นไป
00:26:50 → 00:26:51 อีกแล้วก็ไม่มีความเสี่ยงในการที่จะแบบ
00:26:51 → 00:26:54 อยู่ๆวูเพราะใครๆก็เป็นได้ไม่ใช่แค่นัก
00:26:54 → 00:26:56 กีฬาแข็งแรงอย่างเดียวนะคะหรือคนที่สูง
00:26:56 → 00:26:58 วัยเท่านั้นทุกคนมีโอกาสเสี่ยงทั้งนั้น
00:26:58 → 00:27:01 เลยนะคะอ่ะคุยกันมาวันนี้เป็นแนวทางให้
00:27:01 → 00:27:03 สำหรับคุณผู้ฟังนะคะได้รู้ถึงวิธีการที่
00:27:03 → 00:27:06 เราจะออกกำลังกายแล้วก็ไม่ต้องเสี่ยงกับ
00:27:06 → 00:27:09 อันตรายถึงชีวิตกับอาการวูบตรงนี้นะคะ
00:27:09 → 00:27:12 ขอบคุณคุณหมอก่อนกฤตค่ะครับขอบคุณครับ
00:27:12 → 00:27:14 สวัสดีครับสเอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังหมดเวลา
00:27:14 → 00:27:15 แล้วนะคะเราจะกลับมาพบกันใหม่ครั้งหน้า
00:27:16 → 00:27:18 กับรายการโรงหมอทางไทย PBS podcast ค่ะ
00:27:18 → 00:27:21 วันนี้ลาไปก่อนนะคะขอบคุณที่ติดตามรับฟัง
00:27:21 → 00:27:24 สวัสดีค่ะ This Is Toy PBS podcast
00:27:24 → 00:27:26 เคยสงสัยหรือไม่เวลาที่เรากินอาหารชนิด
00:27:26 → 00:27:29 เดียวกันกับเพเราเกิดอาการท้องเสียแต่
00:27:29 → 00:27:31 เพื่อนกลับสบายดีไม่มีปัญหาผู้ช่วย
00:27:31 → 00:27:34 ศาสตราจารย์ดรเอกราชบำรุงพืชจาก
00:27:34 → 00:27:37 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตมาเล่าให้ฟังครับ
00:27:37 → 00:27:39 อาหารเป็นพิษเนี่ยส่วนใหญ่แล้วเนี่ยก็คือ
00:27:39 → 00:27:43 จะเกิดจากการที่เรากินอาหารเนาะหรือเอ่อ
00:27:43 → 00:27:45 น้ำดื่มทั้งหลายแหละที่ปนเปื้อนของเชื้อ
00:27:45 → 00:27:48 ก่อโรคไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรียไวรัสนะครับ
00:27:48 → 00:27:51 หรือพวกปรสิทธิ์พยาธิทั้งหลายแหล่มันก็
00:27:51 → 00:27:55 ส่งผลทำให้เราเนี่ยคลื่นไส้ปวดท้องท้อง
00:27:55 → 00:27:58 เสียถ่ายเหลวบางคนภูมคุ้มกันไม่ดีนะก็จะ
00:27:58 → 00:28:00 sensitive หน่อยนะเพราะไอ้เชื้อเนี่ย
00:28:01 → 00:28:03 เชื้อโรคที่เข้าไปเนี่ยถ้าคนมีภูมิคุ้ม
00:28:03 → 00:28:05 กันดีมีโปรไบโอติกจุลินทรีย์ที่ดีเยอะค่ะ
00:28:05 → 00:28:08 มันเกิดการต่อสู้กันนะครับโอมันเลยในอ่า
00:28:08 → 00:28:11 โปรไบโอติกมันเปรียบเสมือนทหารตำรวจค่ะ
00:28:11 → 00:28:14 งั้นแล้วเนี่ยผู้ร้ายมาเป็นไงครับก็หัว
00:28:14 → 00:28:17 หมู่ทะลวงฟันจัดการเลยค่ะนะแต่ละคนคือ
00:28:17 → 00:28:21 กำจัดนะครับก็ทำให้แบบเอ๊ะทำไมกินเข้าไป
00:28:21 → 00:28:24 อ่ะเธอท้องเสียชันไม่เห็นเป็นไรเลยเออ
00:28:24 → 00:28:26 แล้วแต่คนจริงๆบางคนบอกเอ้ยฉันทาตุหนัก
00:28:26 → 00:28:28 อะไรอย่างี้ไม่เกี่ยวกับธาตุหนักธาตุเบา
00:28:28 → 00:28:30 บางคนขึ้นอยู่กับภูมิอ่ะออถ้าอธิบายทาง
00:28:30 → 00:28:34 วิทยาศาสตร์จริงๆเนี่ยอือๆนะครับคือคือ
00:28:34 → 00:28:37 มันก็เหมือนกับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายเรา
00:28:37 → 00:28:40 ได้รับมาจากอาหารเข้าปากมันก็ลงไปที่ลำ
00:28:40 → 00:28:43 ไส้อืถูกมั้ยครับใช่อ่าฉะนั้นแล้วเนี่ย
00:28:43 → 00:28:45 ถ้าใครที่มีจุลินทรีย์ที่ดีโปรไบโอติก
00:28:45 → 00:28:49 อุดมสมบูรณ์อยู่ที่ผนังลำไส้ค่ะก็กำจัด
00:28:49 → 00:28:52 สิ่งที่ไม่ดีเขาถึงบอกว่าสมดุลของ
00:28:52 → 00:28:53 จุลินทรีย์ที่ลำไส้เนี่ยถ้าเรามี
00:28:53 → 00:28:56 โปรไบโอติกอยู่เยอะก็จะดีครับคแต่บางคนมี
00:28:56 → 00:28:59 โปรไบโอติกน้อยไม่ค่อยเกิผักผลไมค่ะงั้น
00:28:59 → 00:29:01 แล้วไม่มีอาหารที่จะไปเลี้ยงจุลินทรีย์
00:29:01 → 00:29:04 ที่ดีไอ้พวกตัวเลวมันก็เพิ่มมากขึ้น
00:29:04 → 00:29:06 ฉะนั้นแล้วร่างกายเราเนี่ยก็ไม่ได้รับ
00:29:06 → 00:29:10 เชื้อเพราะมันถูกฆ่าแล้วถูกกำจัดแล้วค่ะ
00:29:10 → 00:29:13 แต่บางคนสมดุนจุลินทรีย์ที่ลำไส้ไม่ดีค่ะ
00:29:13 → 00:29:15 ไอ้ตรงเนี้ยมันเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิ
00:29:15 → 00:29:19 คุ้มกันไงเป็นประการด่านแรกเลยออืนะครับอ
00:29:19 → 00:29:21 แล้วถ้าเรามีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีสมดุล
00:29:21 → 00:29:23 ของจุลินทรีย์ที่ลำไส้ที่ดีมีโปรไบโอติก
00:29:23 → 00:29:26 อยู่เยอะบางคนกินอาหารก็ไปเหมือนกันแหละ
00:29:26 → 00:29:29 ค่ะแต่คนนท้องท้องเสียท้องเสียอาหารเป็น
00:29:29 → 00:29:32 พิษอีกคนนึงไม่เป็นหรือเป็นไม่เท่ากันบาง
00:29:32 → 00:29:35 คนถ่ายไป 3 ปาดค่ะอีกคนนึงถ่ายไปทีเดียว
00:29:35 → 00:29:40 แล้วก็แบบก็จบเลยถูกต้องครับอแล้วแล้วแต่
00:29:40 → 00:29:42 ละคนเนี่ยมันต่างกันท้องเสียว่ามันมีขึ้น
00:29:42 → 00:29:46 หลายสาเหตุครับเช่นบางคนไปกินนมแล้วแบบโอ
00:29:46 → 00:29:48 ท้องเสียตลอดเลยเขไม่ได้อาหารเป็นพิษนะ
00:29:48 → 00:29:52 ครับคแต่เขามีภาวะที่เอ่อภาษาทางการแพทย์
00:29:52 → 00:29:55 เเรียก lactose intolerance คือไม่ทนต่อ
00:29:55 → 00:29:58 การย่อยน้ำตาลแลคโตสไม่ทนต่อน้ำตาแลคโตส
00:29:58 → 00:30:01 คือเขาย่อยได้ไม่ดีหรือบางคนอาจจะแพ้
00:30:01 → 00:30:03 อาหารเออท้องเสียแต่ไม่ใช่อาหารเป็นพิษ
00:30:04 → 00:30:06 ค่ะอ่าถ้าอาหารเป็นพิษคือมีเชื้อโรคเลย
00:30:06 → 00:30:10 แหละอเบางคนไปกินผักอสลัดผักแล้วท้องเสีย
00:30:10 → 00:30:14 ค่ะอืออาหารเป็นพิษเพราะมีไข่พยาธิอยู่มี
00:30:14 → 00:30:17 ปรสิทอยู่อย่างเงี้ยครับค่ะอือก็ต้อง
00:30:17 → 00:30:19 ระวังหรือมีแบคทีเรียเชื้อก่อโรคปนเปื้อน
00:30:20 → 00:30:23 อยู่นะซึ่งพวกเนี้ยมันพบในอาหารได้เยอะ
00:30:23 → 00:30:26 มากอืบางทีอาหารค้างคืนนึกออกมั้ยครับ
00:30:26 → 00:30:28 แล้วอากาศบ้านเราร้อนค่ะถ้าต่างจังหวัด
00:30:28 → 00:30:31 เนี่ยชอบใส่ตู้กับข้าวอือแล้วเกิดอากาศ
00:30:31 → 00:30:34 มันร้อนมันก็มีผลครับนรถเชื้อต่างๆที่พบ
00:30:35 → 00:30:38 ในอาหารที่มันแบบกึงซุกกึงดิบนะหรือทำมา
00:30:38 → 00:30:41 จากนมหรือกะทิอืที่มันบู่เสียง่ายไขมัน
00:30:41 → 00:30:45 สูงเชื้อก่อโรคมันจะเริเติบโตได้
00:30:45 → 00:30:50 ดี This Is Toy PBS
00:30:50 → 00:30:53 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:30:53 → 00:30:57 แอปพลิเคชันของ Thai PBS podcast สิ
00:30:57 → 00:30:59 Sound Cloud Google podcast Apple
00:30:59 → 00:31:03 podcast และ YouTube Channel Thai PBS
00:31:03 → 00:31:06 podcast tha PBS podcast View the
00:31:07 → 00:31:09 world via The
00:31:09 → 00:31:18 [เพลง]
00:31:18 → 00:31:21 Voice