00:00:00 → 00:00:03 ลดน้ำหนักแบบ If นะครับกิน 2 มื้อกับกิน 3
00:00:03 → 00:00:06 มื้อนะครับแบบไหนผอมไวกว่ากันนะครับหรือ
00:00:06 → 00:00:08 บางคนที่ไม่เคยรู้จักการลดน้ำหนักแบบ If
00:00:08 → 00:00:10 มาก่อนเลยเดี๋ยววันนี้หมอ 1 ปูพื้นฐานให้
00:00:10 → 00:00:12 ด้วยเนาะจะได้รู้ว่าที่เขาสงสัยกันเเถียง
00:00:12 → 00:00:14 กันอยู่ว่า 2 มื้อกับ 3 มื้อแบบไหนมันดี
00:00:14 → 00:00:16 กว่ากันเนี่ยเดี๋ยวเข้าใจภายในคลิปนี้
00:00:16 → 00:00:17 คลิปเดียวเลยนะครับเพราะฉะนั้นตั้งใจฟัง
00:00:17 → 00:00:20 จะจบนะสวัสดีครับผมหมอ 1 Healthy ฮีโรนะ
00:00:20 → 00:00:22 ครับลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายในชีวิตคิดถึง
00:00:22 → 00:00:25 หมอ 1 Healthy ฮีโร่นะครับก็คลิปนี้เป็น
00:00:25 → 00:00:27 คลิปแรกของปี 2024 นะครับก็ถือโอกาส
00:00:27 → 00:00:29 สวัสดีปีใหม่ทุกคนด้วยนะครับแล้วก็เพจหมอ
00:00:29 → 00:00:31 1 ที่ฮีโร่หรือช่อง YouTube เนี่ยก็เดิน
00:00:31 → 00:00:34 ทางมาถึง 5 ปีแล้วนะตอนเเหลืออีกแค่ไม่
00:00:34 → 00:00:36 กี่คนนะครับใน Facebook ของเราเนี่ยก็จะ
00:00:36 → 00:00:38 มีผู้ติดตามครบ 1 ล้านคนแล้วแล้วก็ใน
00:00:38 → 00:00:40 YouTube ตอนนี้ก็ก้าวสู่ 800,000 ซับ
00:00:40 → 00:00:43 แล้วนะครับก็อยากให้ทุกคนติดตามกันไปนานๆ
00:00:43 → 00:00:45 นะครับในปีนี้เนี่ยหมอหนึ่งก็จะมีคทนที่
00:00:45 → 00:00:47 เกี่ยวกับสุขภาพใหม่ๆด้วยนะครับไม่ว่าจะ
00:00:47 → 00:00:50 เป็นเรื่องของการออกกำลังกายซึ่งหลายๆคน
00:00:50 → 00:00:53 เนี่ยติดปัญหาเรื่องนี้มากๆแล้วอยากให้ม 1
00:00:53 → 00:00:55 ทำนะครับว่าออกกำลังกายแบบไหนดีคะที่ไม่
00:00:55 → 00:00:57 ใช่แบบที่เทรนเนอร์สอนแต่เป็นในมุมมองที่
00:00:57 → 00:01:00 อธิบายง่ายๆแบบที่คุณหมอเคยทำมันในแง่มุม
00:01:00 → 00:01:02 ของการลดน้ำหนักนะครับเพราะว่าใน Content
00:01:02 → 00:01:04 เกี่ยวกับเรื่องของการออกกำลังกายที่เรา
00:01:04 → 00:01:06 จะได้ทำกันในปีนี้เนี่ยจะมีทั้งเรื่องของ
00:01:06 → 00:01:08 ออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักและออกกำลังกาย
00:01:08 → 00:01:11 เวลาที่เราอายุเกิน 30 ไปแล้วเนี่ยจนถึง
00:01:11 → 00:01:13 อายุ 80 คนไทยเป็นประเทศที่ต้องใช้ไม้
00:01:13 → 00:01:15 เท้าต้องนั่งรถเข็นเยอะมากๆถ้าเทียบกับคน
00:01:15 → 00:01:17 ต่างประเทศเพราะว่ากล้ามเนื้อเราไม่แข็ง
00:01:17 → 00:01:19 แรงเราจะมีวิธีแบบไหนบ้างที่ไม่จำเป็นจะ
00:01:19 → 00:01:21 ต้องใช้เวลาเยอะแต่เราสามารถจะออกกำลัง
00:01:22 → 00:01:24 กายกล้ามเนื้อแข็งแรงแล้วอายุมากขึ้นใน
00:01:24 → 00:01:26 แต่ละปีแต่เป็นคนที่แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ
00:01:26 → 00:01:27 และเด็กลงเรื่อยๆนะครับเพราะฉะนั้นก็อย่า
00:01:27 → 00:01:30 ลืมกดติดตามเพจและช่องหมอ 1 Healthy
00:01:30 → 00:01:32 ฮีโร่ไว้นะครับปีนี้มีคทนดีๆอีกเยอะมากๆ
00:01:32 → 00:01:35 เลยเนาะอ่ะคราวนี้ก่อนอื่นที่เราจะไปคุย
00:01:35 → 00:01:37 กันเรื่องของการลดน้ำหนักแบบ If ว่ากิน 2
00:01:37 → 00:01:38 มื้อหรือ 3 มื้อดีกว่ากันนะเพราะหมอหนึ
00:01:38 → 00:01:40 เคยพูดเรื่องของการกินมื้อเดียวไปแล้วถ้า
00:01:40 → 00:01:42 ใครยังไม่เคยชมก็กดดูในลิงก์ที่อยู่ใน
00:01:42 → 00:01:44 คอมเมนต์หรือว่าลิงก์ที่อยู่ทางด้านบนก็
00:01:44 → 00:01:46 ได้นะไปลองย้อนดูว่า 1 มื้อมันดีไม่ดียัง
00:01:46 → 00:01:48 ไงเพราะวันนี้ที่เราจะคุยกันคือ 2 มื้อ
00:01:48 → 00:01:50 กับ 3 มื้อนะครับแต่ก่อนอื่นนะครับตาม
00:01:50 → 00:01:52 ธรรมเนียมนะก่อนที่เราจะไปลุยกันในวันนี้
00:01:52 → 00:01:55 นะครับก็ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนของม 1
00:01:55 → 00:01:57 อีก 1 ท่านนะครับท่านนี้เนี่ยเค้าเรียนลด
00:01:57 → 00:01:59 น้ำหนักกับผมเนี่ยเข้ากลุ่ม VIP ไปแล้วนะ
00:01:59 → 00:02:02 ประมาณปีนึงแล้วนะแล้วเค้าก็วันคริสต์มาส
00:02:02 → 00:02:04 ก็ทักกลับมาบอกนะครับว่าเรียนกับผมไปแล้ว
00:02:04 → 00:02:06 1 ปีสิ่งที่คนลดน้ำหนักส่วนใหญ่มักจะ
00:02:06 → 00:02:09 กลัวคืออะไรรู้มั้ยคือกลัวว่ารถเสร็จปั๊บ
00:02:09 → 00:02:12 จะต้องโยโยแล้วกลับไปอ้วนใหม่แต่ใครที่
00:02:12 → 00:02:14 ติดตามหมอ 1 มาแล้วเอาเทคนิคในเพจหรือใน
00:02:15 → 00:02:16 ช่องของหมอ 1 ไปใช้หรือบางคนที่เป็นนัก
00:02:16 → 00:02:19 เรียนของผมอยู่จะรู้ว่าถ้าคุณลดน้ำหนัก
00:02:19 → 00:02:21 ได้ถูกวิธีมันจะไม่มีทางกลับไปโยโยเลยนะ
00:02:21 → 00:02:23 เพราะนั้นก็ขอแสดงความยินดีกับนักเรียน
00:02:23 → 00:02:26 ท่านนี้นะ 1 ปีผ่านไปยังคิดถึงกันตลอดนะ
00:02:26 → 00:02:28 ครับกลับมาอัปเดตว่าตอนนี้เนี่ยมีคนทัก
00:02:28 → 00:02:31 บ่อยมากว่าพอลงนะไปกินยาลดความอ้วนมาหรือ
00:02:32 → 00:02:33 เปล่าใครที่เรียนกับผมจะรู้ว่าผมไม่ใช้ยา
00:02:34 → 00:02:35 และไม่ได้ใช้อาหารเสริมใดๆถูกมั้ยความรู้
00:02:36 → 00:02:38 อย่างเดียวที่พวกเราขาดหายไปถ้าเรารู้ว่า
00:02:38 → 00:02:40 ทำไมเราถึงอ้วนเราก็จะรู้ว่าทำยังไงเรา
00:02:40 → 00:02:42 ถึงจะผอมและทำยังไงเราจะไม่กลับไปอ้วนอีก
00:02:42 → 00:02:45 นะครับเนี่ยท่านนี้บอกว่าอยากจะบอกเลยว่า
00:02:45 → 00:02:48 แค่เรียนและเอาความรู้จากหมอ1ึไปใช้ล้วนๆ
00:02:48 → 00:02:51 เลยกางเกงเป็นไงกางเกงที่หลวมๆตอนนี้ใส่
00:02:51 → 00:02:53 ได้แล้วนะครับใครที่กำลังจะเริ่มต้นลดน้ำ
00:02:53 → 00:02:55 หนักอย่าเพิ่งไปซื้อเสื้อผ้าใหม่นะเก็บ
00:02:55 → 00:02:57 ไว้ก่อนไอ้เสื้อผ้าเก่าๆที่เราชอบสวยๆ
00:02:57 → 00:03:00 เนี่ยถ้าลดน้ำหนักถูกวิธีแป๊บเดียวเดี๋ยว
00:03:00 → 00:03:02 ก็กลับไปใส่ได้แล้วนะครับเนาะเพราะฉะนั้น
00:03:02 → 00:03:05 ก็ท่านนี้ก็บอกว่ารู้สึกดีมากๆจะทำต่อไป
00:03:05 → 00:03:07 เรื่อยๆนะคะโอเคมนะครับก็ถือว่าเป็นของ
00:03:07 → 00:03:10 ขวัญปีใหม่ที่ดีมากๆเลยนะครับคนเราเนี่ย
00:03:10 → 00:03:13 สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะใช้เวลากับการหาเงิน
00:03:13 → 00:03:15 หาทองอะไรแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่สุขภาพคุณ
00:03:15 → 00:03:17 ไม่ดีทุกอย่างเงินทุกบาททุกสตางค์ที่คุณ
00:03:17 → 00:03:19 หามาเนี่ยมันจะไม่มีประโยชน์เลยเนาะเพราะ
00:03:19 → 00:03:21 ฉะนั้นสุขภาพกับครอบครัวเวลาในการให้
00:03:21 → 00:03:24 ครอบครัวเนี่ยสำคัญที่สุดโดยเฉพาะคนที่
00:03:24 → 00:03:25 เป็นหัวหน้าครอบครัวเนาะนะครับเพราะ
00:03:25 → 00:03:27 ฉะนั้นมันลดน้ำหนักกันนะครับอ่ะคราวนี้มา
00:03:27 → 00:03:29 ดูสิ่งที่เราจะคุยกันวันนี้นะก็คือเรื่อง
00:03:29 → 00:03:32 ของของการลดน้ำหนักเราจะลด 2 มื้อหรือ 3
00:03:32 → 00:03:34 มื้อดีกว่ากันนะครับคราวนี้ที่เาต้อง
00:03:34 → 00:03:36 เปรียบเทียบว่า 2 มื้อหรือ 3 มื้อดีกว่า
00:03:36 → 00:03:38 กันเนี่ยมันเพราะว่ามันมีการลดน้ำหนัก
00:03:38 → 00:03:41 อยู่แบบนึงที่เรียกว่าการลดน้ำหนักแบบ If
00:03:41 → 00:03:43 ใครที่เคยฟังหมอ 1 มาแล้วลองฟังซ้ำจะได้
00:03:43 → 00:03:45 รู้ว่าบางทีเราอาจจะพลาดแง่มุมไหนไปเนาะ
00:03:45 → 00:03:47 ส่วนใครที่ไม่เคยรู้จัก If เลย If จริงๆ
00:03:47 → 00:03:49 มันย่อมาจากคำว่า
00:03:49 → 00:03:52 intermittent fasting จำชื่อภาษาอังกฤษ
00:03:52 → 00:03:54 ไม่ได้ไม่เป็นไรแต่หมอนึงต้องพูดให้ฟัง
00:03:54 → 00:03:56 เพราะจะได้รู้ว่ามันแปลว่าอะไรเนาะนะครับ
00:03:56 → 00:03:58 intermittent เนี่ยแปลว่าเป็นช่วงๆส่วน
00:03:58 → 00:04:00 คำว่า fasting แปลว่าว่าอดอาหารเพราะ
00:04:00 → 00:04:02 ฉะนั้น intermittent fasting แปลว่าการ
00:04:02 → 00:04:05 อดอาหารเป็นช่วงๆคำว่าเป็นช่วงๆหมายความ
00:04:05 → 00:04:07 ว่าอะไรหมายความว่าไอ้คำว่า 1 วันเนี่ย
00:04:07 → 00:04:11 มันมี 24 ชมงใครเคยได้ยินคำว่า If 16/8
00:04:11 → 00:04:15 มั้ยอ่าใครเคยได้ยิน If 20/4 มั้ยพวกนี้
00:04:15 → 00:04:18 เนี่ยมันเป็นการแบ่งเวลาใน 1 วันออกเป็น
00:04:18 → 00:04:20 ช่วงกินกับช่วงหยุดกินเพราะฉะนั้นมันจะมี
00:04:20 → 00:04:23 2 ฝั่งนะคือฝั่งที่เป็นฝั่งกินคือฝั่ง
00:04:23 → 00:04:26 ที่เรียกว่าช่วงฟีดีดแปลว่ากินนะครับหรือ
00:04:26 → 00:04:29 ให้อาหารแล้วก็ช่วงที่เป็นช่วงฟาหรือช่วง
00:04:29 → 00:04:32 ช่วงอดกินหรือช่วงหยุดกินนะครับจะแบ่ง
00:04:32 → 00:04:35 เป็นแบบนี้และที่มันบวกกันได้ 24 ก็เพราะ
00:04:35 → 00:04:38 ว่าใน 1 วันมี 24 ชมตัวแรกตัวหน้าอ่ะบาง
00:04:38 → 00:04:41 คนอาจจะไม่เคยเข้าใจมาก่อน 16/8 16 ตัว
00:04:41 → 00:04:45 หน้าคือช่วงของเวลาที่เราอดส่วนตัวหลัง
00:04:45 → 00:04:48 คือช่วงเวลาที่เรากินเพราะฉะนั้นง่ายๆเลย
00:04:48 → 00:04:51 นะครับกฎข้อแรกของการทำ If ก่อนที่จะไป
00:04:51 → 00:04:53 รู้ว่ากินกี่มื้อดีกว่ากันเนี่ยกฎข้อแรก
00:04:53 → 00:04:57 เลยของการทำ If คือช่วงเวลาของการอดทานจะ
00:04:57 → 00:05:00 ต้องนานกว่า 12 ชมงเป็นต้นไปเฮ้ยเพราะ
00:05:00 → 00:05:02 อะไรล่ะคะคุณหมอมันมีงานวิจัยครับเนาะแต่
00:05:02 → 00:05:04 หมอหนึ่งคงไม่ต้องเอางานวิจัยมาแปลให้ฟัง
00:05:04 → 00:05:06 นะสรุปให้ฟังแบบง่ายๆโดยที่ไม่มีศัพท์การ
00:05:06 → 00:05:08 แพทย์เลยแล้วกันว่าเ้าเอาคนเนี่ยเอามา
00:05:08 → 00:05:12 ตรวจแล้วดูว่าเริ่มเจอสารที่เกิดจากการ
00:05:12 → 00:05:14 เผาผลาญไขมันในร่างกายไปแล้วมันคือสารตัว
00:05:14 → 00:05:16 นึงที่ชื่อคีโตนจำชื่อไม่ได้ช่างมันนะโยน
00:05:16 → 00:05:18 โๆมันทิ้งไปแต่ให้รู้ว่าอ๋อวิธีการที่เขา
00:05:19 → 00:05:21 ตรวจเตรรวจแบบนี้นะเวลาร่างกายเรามันเผา
00:05:21 → 00:05:23 ผลาไขมันมันจะมีสารตัวนึงที่หลังจากเผา
00:05:23 → 00:05:26 ผลาไขมันออกมาแล้วเนี่ยจะได้คีโตนพอเตรวจ
00:05:26 → 00:05:29 ไปเรื่อยๆเรู้ว่าเฮ้ยณชั่วโมงที่ 12 หหล
00:05:29 → 00:05:31 จากที่เราหยุดกินเช่นวันนี้หมอหนึ่งกิน
00:05:31 → 00:05:34 ข้าวเย็นตอน 18:00 นนับไป 12 ชมมพอไปตรวจ
00:05:34 → 00:05:37 ไอ้สารตัวเนี้ยตอน 6:00 นเราเริ่มเจอว่า
00:05:37 → 00:05:39 สารตัวนี้มันมีเยอะขึ้นเยอะขึ้นหมายความ
00:05:39 → 00:05:41 ว่าอะไรหมายความว่าร่างกายเราเผาไขมันได้
00:05:41 → 00:05:43 ดีขึ้นไงไอ้สารตัวเเราก็เลยเจอเยอะขึ้น
00:05:43 → 00:05:46 เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากจะลดน้ำหนักได้ดี
00:05:46 → 00:05:49 ไอ้ช่วงฟาหรือช่วงอดอาหารของเราเนี่ยจะ
00:05:49 → 00:05:52 ต้องนานกว่านะช่วงฟาหรือช่วงอดนะจะต้อง
00:05:52 → 00:05:56 มากกว่า 12 ชมงคราวนี้มันก็เลยมีบางคนพูด
00:05:57 → 00:06:00 ว่าอุ๊ยคุณหมอคะอย่างงี้ถ้าสสมมุติว่าเรา
00:06:00 → 00:06:05 อด 23 ชมงแล้วกินแค่ 1 ชมงได้มั้ยคะถ้า
00:06:05 → 00:06:07 เขียนเป็นตัวเลขมันก็จะเป็นตัวเลขแบบที่
00:06:07 → 00:06:11 หลายๆคนชอบเขียนกันคือ If 23/1 อด 23 ชม
00:06:11 → 00:06:14 กิน 1 ชมงสิ่งที่จะเกิดขึ้นคืออะไรเรา
00:06:14 → 00:06:15 กำลังจะเข้าเรื่องที่เราจะคุยกันแล้วนะ
00:06:16 → 00:06:18 สิ่งที่เกิดขึ้นคือคุณลองนึกภาพว่าตอน
00:06:18 → 00:06:20 เนี้ยคุณจะกินแค่วันละ 1 ชั่วโมงหมายความ
00:06:20 → 00:06:23 ว่าคุณกินกี่มื้อ 1 ชั่วโมงมื้อเดียวถูก
00:06:23 → 00:06:26 เปล่าการกิน 1 มื้อเนี่ยอ่าบางคนจะเรียก
00:06:26 → 00:06:29 ว่าการทำ If แต่หมอ 1 จะไม่เรียกการทำ If
00:06:29 → 00:06:31 ถ้าคุณกินผิดวิธีเราจะเรียกมันว่าการอด
00:06:31 → 00:06:34 อาหารเพราะฉะนั้นหลายคนเข้าใจผิดว่าการทำ
00:06:34 → 00:06:36 If เนี่ยมันจะอดกี่ชั่วโมงก็ได้ไม่
00:06:36 → 00:06:39 เกี่ยวนะครับถ้าคุณเข้าใจแต่ช่วงอดอย่าง
00:06:39 → 00:06:40 เดียวแล้วไม่เข้าใจช่วงกินว่ากินอะไรได้
00:06:40 → 00:06:44 บ้างเนี่ยไม่ผอมนะไม่ผอมไม่พอโยโยอีกด้วย
00:06:44 → 00:06:46 เพราะฉะนั้นถ้าใครที่เคยเรียนกับหมอ 1 ใน
00:06:46 → 00:06:49 กลุ่ม vip มาจะรู้ว่าส่วนตัวหมอ 1 เองไม่
00:06:49 → 00:06:52 เคยแยมให้ใครทำ If 23/1 หรือกินแค่วันละ
00:06:52 → 00:06:55 1 ชั่วโมงถ้าจะทำให้นานๆทำทีแต่มักจะบอก
00:06:55 → 00:06:58 ว่าช่วงอดที่ดีที่สุดมักจะอยู่ที่อด
00:06:58 → 00:07:01 ประมาณ 15 5-18 ชมอันนี้ไปเปิดหนังสือก็
00:07:02 → 00:07:03 จะไม่มีที่ไหนบอกแบบนี้นะครับเพราะมัน
00:07:03 → 00:07:05 เกิดจากประสบการณ์ที่ผมดูคนไข้กับดูนัก
00:07:05 → 00:07:08 เรียนที่ลดน้ำหนักกับผมมา 20,000 กว่าคน
00:07:08 → 00:07:11 ถ้าเราอด 15 ชั่วมงหมายความว่าเรามีช่วง
00:07:11 → 00:07:14 เวลากินกี่ชั่วโมงเอ่ย 9 ช่วโมงถ้าเราอด
00:07:14 → 00:07:18 18 ชั่วมงแสดงว่าเรามีช่วงเวลากิน 6 ชม
00:07:18 → 00:07:21 ถามว่าวันนึงกิน 6 ชมเนี่ยพอไหวไหมพอไหว
00:07:21 → 00:07:23 นะ 6 ช่วโมงคุณลองนึกสมมุติว่าหมอหนึ
00:07:23 → 00:07:26 เริ่มกินข้าวเช้าตอนเที่ยนข้าวเช้าเริ่ม
00:07:26 → 00:07:27 กินตอนเที่ยนซึ่งแต่ก่อนตอนที่หมอหนึเป็น
00:07:27 → 00:07:30 หมอตรวจในโรงพยาบาลตอนที่ทำงานหนักๆอ่ะ
00:07:30 → 00:07:32 อ้วนเลยนะถ้าไปดูคลิปเก่าๆจะเคยเห็นว่า
00:07:32 → 00:07:34 หมอ 1 ก็เคยอ้วนเหมือนกันตอนที่จะเริ่ม
00:07:34 → 00:07:36 ต้นลดน้ำหนักกับภรรยาเนี่ยหมอ 1 บอกว่า
00:07:36 → 00:07:39 โอเคเราจะเริ่มทำ If กันแต่ถ้าเราจะกิน
00:07:39 → 00:07:42 มื้อเช้าแล้วเราเลือเราเลิกตรวจตอนเย็น
00:07:42 → 00:07:43 เนี่ยค่อนข้างค่ำมันจะทำให้เราเนี่ยมี
00:07:43 → 00:07:45 ช่วงเวลาของการกินเนี่ยเยอะเกินไปตลอด
00:07:45 → 00:07:49 ทั้งวันบางคนตื่นมาก็กิน 8:00 นกินเที่ยน
00:07:49 → 00:07:51 16:00 นกว่ากินกลับบ้านมันเหนื่อยอ่ะ
00:07:51 → 00:07:53 เนาะเลิกงาน 18:00 น 19:00 นก็กินมันทำ
00:07:53 → 00:07:55 ให้เรากินตลอดเวลาเพราะฉะนั้นบนึงบอกว่า
00:07:55 → 00:07:57 เอาอย่างงี้แล้วกันช่วงเช้างานเราเยอะๆ
00:07:57 → 00:07:59 เวลาเราตรวจคนไข้บางทีเราลืมหิวไปเลยนะก็
00:07:59 → 00:08:02 กินกาแฟไปก่อนแล้วกันกาแฟดำนะไม่มีน้ำตาล
00:08:02 → 00:08:04 แล้วไปเริ่มอาหารมื้อแรกตอนเที่ยนแล้วก็
00:08:04 → 00:08:06 ไปหยุด 18:00 นถามว่ากินได้กี่มื้อบางคน
00:08:06 → 00:08:09 ก็จะบอกว่ากินได้ 2 มื้อเพราะว่า 6 ชมคือ
00:08:09 → 00:08:11 ตั้งแต่เที่ยนจนถึง 18:00 นเรากินได้ 2
00:08:11 → 00:08:13 มื้อแต่บางคนอาจจะกิน 3 มื้อก็ได้อาจจะ
00:08:13 → 00:08:15 กินตอนเที่ยนแล้วก็กินมื้อเล็กๆตอน 15:00
00:08:16 → 00:08:17 นแล้วก็กินอีกมื้อนึงตอน 18:00 นแบบนี้
00:08:17 → 00:08:20 ได้มั้ยได้เหมือนกันนะหรือถ้าสมมุติว่า
00:08:20 → 00:08:23 เรากิน 9 ชมหยุด 15 ชมอุ๊ยอันนี้ง่ายเลย
00:08:23 → 00:08:26 นะอาจจะเริ่มกินตั้งแต่ 8:00 นแล้วก็ไป
00:08:26 → 00:08:29 หยุดกินตอน 17:00 นอันเนี้ยคือกิน 9 ชมม
00:08:29 → 00:08:31 แล้วนับตั้งแต่ 17:00 นเป็นต้นไปไปจนถึง
00:08:31 → 00:08:34 8:00 นอีกวันนึง 15 ชมนั้นหยุดกินถามว่า
00:08:34 → 00:08:36 ไอ้ช่วงที่หยุดกินคือห้ามกินอะไรเลยหรือ
00:08:36 → 00:08:39 เปล่าไม่ใช่นะครับกินได้แต่ของที่กินจะ
00:08:39 → 00:08:41 ต้องไม่มีพลังงานเพราะฉะนั้นคำว่าไม่มี
00:08:41 → 00:08:43 พลังงานหมายความว่าอะไรน้ำเปล่ากินได้มย
00:08:43 → 00:08:46 กินได้น้ำเปล่าไม่มีพลังงานชากินได้ไหมชา
00:08:46 → 00:08:49 กินได้แต่ต้องเป็นชาที่ไม่มีน้ำตาลกาแฟ
00:08:49 → 00:08:51 กินได้ไหกาแฟก็กินได้แต่ต้องเป็นกาแฟดำ
00:08:51 → 00:08:54 ที่ไม่มีน้ำตาลโอเคป่าถ้าเป็นน้ำเปล่าชา
00:08:54 → 00:08:57 กาแฟดำแบบเนี้ยกินได้ในช่วงที่คุณอดอยู่
00:08:57 → 00:09:00 นะแต่ถ้าอะไรที่มีพลังพลังงานให้เอาไปกิน
00:09:00 → 00:09:02 ระหว่างวันแทนไปกินใน 6 ชั่วโมงไปกินใน 9
00:09:02 → 00:09:04 ชั่วโมงไปกินใน 8 ชั่วโมงระหว่างวันเรา
00:09:04 → 00:09:07 แทนเพราะอะไรหลักการง่ายๆของร่างกายเรานะ
00:09:07 → 00:09:10 เวลาที่ร่างกายเราไม่มีอาหารจากภายนอกมัน
00:09:10 → 00:09:12 ก็ต้องพยายามหาพลังงานจากที่อื่นเอามาใช้
00:09:12 → 00:09:15 เอามาจากที่ไหนล่ะก็ที่เราสะสมไว้ไงอ่า
00:09:15 → 00:09:17 เพราะฉะนั้นที่เราสะสมไเยอะที่สุดก็คือไข
00:09:17 → 00:09:19 มันเพราะฉะนั้นมันก็จะพยายามเอาไขมันเก่า
00:09:19 → 00:09:20 มาใช้แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรากินอะไรที่
00:09:20 → 00:09:23 มีพลังงานกลับเข้าไปนะครับมันก็จะเฮ้ยมี
00:09:23 → 00:09:25 ของใหม่มาเอาของใหม่มาใช้ก่อนดีกว่ามันก็
00:09:25 → 00:09:27 จะหยุดเผาผลาญไขมันคุณก็เลยไม่ผ้อมดัง
00:09:27 → 00:09:31 นั้นข้อที่ 1 ถ้าเราจะทำ If เพื่อให้ผอม
00:09:31 → 00:09:34 อย่าเพิ่งสนใจว่าจะกินกี่มื้อแต่ระยะเวลา
00:09:34 → 00:09:37 ของการอดควรจะอยู่ในช่วง 15 ชมถึง 18 ชม
00:09:37 → 00:09:40 ตามประสบการณ์ของหมอ 1 นะแต่บางคนจะ 20
00:09:40 → 00:09:43 ชั่วมงก็ได้แต่บางคนที่อด 20 ช่วโมงแล้ว
00:09:43 → 00:09:45 กิน 4 ช่มคุณลองนึกภาพว่าการกิน 4 ชมคือ
00:09:45 → 00:09:49 กินได้กี่มื้ออย่างมากที่สุดก็ 2 มื้อแต่
00:09:49 → 00:09:51 ไม่ได้หมายความว่ากิน 2 มื้อแล้วจะไม่ผอม
00:09:51 → 00:09:53 นะคราวนี้เราย้ายมาฝั่งนี้แล้วนะคำว่า 2
00:09:53 → 00:09:56 มื้อกับ 3 มื้อเนี่ยมันสำคัญยังไงบางคน
00:09:56 → 00:10:00 กิน 2 มื้อแต่กลับผอมบางคนกิน 3 มื้อแต่
00:10:00 → 00:10:03 กลับไม่ผอมเพราะคนจะผอมหรือไม่ผอมไม่ได้
00:10:03 → 00:10:06 สนใจว่ากินกี่มื้อแต่สนใจว่ารวมแล้วทุก
00:10:06 → 00:10:10 มื้อใน 1 วันนั้นสารอาหารพอหรือเปล่าซึ่ง
00:10:10 → 00:10:12 สารอาหารที่คุณควรจะต้องสนใจจะมีอยู่ 2
00:10:12 → 00:10:15 อย่างหลักๆอันที่ 1 เราเรียกสารอาหารนั้น
00:10:15 → 00:10:19 ว่าโปรตีนตัวเนี้ยสำคัญที่สุดเลยโปรตีน
00:10:19 → 00:10:20 หมอหนึ่งเคยพูดไว้ในคลิปอื่นๆแล้วเดี๋ยว
00:10:20 → 00:10:22 จะลงคลิปไว้ให้ในคอมเมนต์กับคลิปหรือใคร
00:10:22 → 00:10:25 ที่ดูจาก YouTube ก็กดจากลิงก์ด้านบนก็
00:10:25 → 00:10:27 ได้นะนะทำไมโปรตีนถึงสำคัญเพราะโปรตีน
00:10:28 → 00:10:30 เปรียบเสมือนเตาเผาพพลังงานของร่างกายมัน
00:10:30 → 00:10:32 เอาโปรตีนไปสร้างกล้ามเนื้อจริงๆโปรตีนมี
00:10:32 → 00:10:34 หน้าที่เยอะมากเลยนะครับเช่นเกี่ยวกับ
00:10:34 → 00:10:36 ภูมิคุ้มกันเกี่ยวกับเรื่องของการสร้าง
00:10:36 → 00:10:38 ฮอร์โมนอะไรต่างๆเยอะแยะไปหมดเลยแต่หลักๆ
00:10:38 → 00:10:40 จริงๆที่สำคัญที่สุดคือเอามาสร้างกล้าม
00:10:40 → 00:10:43 เนื้อซ่อมแซมส่วนต่างๆของร่างกายสังเกตนะ
00:10:43 → 00:10:45 คนที่เา้ามีมวลกล้ามเนื้อที่เหมาะสมหมอ1ึ
00:10:45 → 00:10:47 ไม่ได้บอกคว่าคนที่เป็นนักกล้ามนะแต่คน
00:10:47 → 00:10:50 ที่มีมวลกล้ามเนื้อที่เหมาะสมอ่ะมันจะเผา
00:10:50 → 00:10:52 ผลาญพลังงานได้ดีกว่าแต่เมื่อไหร่ก็ตาม
00:10:52 → 00:10:54 ที่คุณกินโปรตีนไม่ถึงร่างกายก็บอกว่า
00:10:54 → 00:10:57 เฮ้ยโปรตีนมันไม่พอทำไงดีก็ต้องไปสลาย
00:10:57 → 00:10:59 โปรตีนมาใช้และในร่างกายของของคนเรา
00:10:59 → 00:11:01 โปรตีนที่สลายง่ายที่สุดก็คือกล้ามเนื้อ
00:11:01 → 00:11:03 ครับเพราะฉะนั้นถ้ากล้ามเนื้อคุณเหลือ
00:11:03 → 00:11:05 น้อยลงจากการที่คุณกินโปรตีนไม่พอมันก็จะ
00:11:05 → 00:11:08 ทำให้กล้ามเนื้อคุณหายไประบบเภาผลาคุณก็
00:11:08 → 00:11:10 น้อยลงณวันนึงคุณตะบะแตกกลับไปกินเยอะๆ
00:11:10 → 00:11:12 คราวนี้ระบบเาผลาพลังงานของคุณมันน้อยอ่ะ
00:11:12 → 00:11:15 เพราะกล้ามเนื้อคุณมันน้อยแล้วเวลาคุณกิน
00:11:15 → 00:11:17 กับเข้าไปเยอะๆเป็นไงมันเผาไม่ทันมันเผา
00:11:17 → 00:11:19 ผลาญไม่ทันเพราะฉะนั้นเป็นไงอ้วนสิครับ
00:11:19 → 00:11:22 เนาะเพราะะนั้นโปรตีนอย่างแรกเลยต้องกิน
00:11:22 → 00:11:24 ให้อิ่มถ้าจะกิน 2 มื้อก็ต้องกินโปรตีน
00:11:24 → 00:11:26 ให้อิ่มหนักกว่าเดิมหน่อยเพราะอะไรคนปกติ
00:11:26 → 00:11:28 เรากินข้าว 3 มื้อถูกมั้ยข้าว 3 มื้อก็
00:11:28 → 00:11:31 เฉลี่ยโปรตีนกินเช้ากลางวันเย็นถึงเพียง
00:11:31 → 00:11:34 พอแต่ถ้าเราจะกินแค่ 2 มื้อเราจะไม่ใช่
00:11:34 → 00:11:36 การตัดโปรตีนเหลือแค่ 2 มื้อนะแต่ต้องเอา
00:11:36 → 00:11:38 โปรตีนที่เราจะเคยกินอิ่มใน 3 มื้ออ่ะมา
00:11:38 → 00:11:40 เฉลี่ยให้เหลือ 2 มื้อเห็นภาพมยเช่นวัน
00:11:40 → 00:11:43 นึงหมอหนึ่งบอกว่าน้ำหมอหนึ่งน้ำหนัก 70
00:11:43 → 00:11:45 วันหนึ่งต้องกินโปรตีนอย่างต่ำเนี่ย 70
00:11:45 → 00:11:49 กรัมต่อ 1 วันนะครับเพราะในร่างกายของคน
00:11:49 → 00:11:50 เราถ้าสมมุติว่าเราไม่ได้มีโรคประจำตัว
00:11:50 → 00:11:52 อะไรที่เกี่ยวกับไตโปรตีนไม่ได้รั่วใน
00:11:52 → 00:11:54 ปัสสาวะเราต้องกินโปรตีนประมาณ 1 เท่าของ
00:11:54 → 00:11:56 น้ำหนักตัวเพื่อให้ร่างกายเราอยู่ได้แบบ
00:11:56 → 00:11:59 สุขภาพดีถ้าอยากจะลดน้ำหนักแล้วออกกำลัง
00:11:59 → 00:12:00 กายเพิ่มด้วยก็อาจจะต้องกินมากกว่า 1
00:12:00 → 00:12:03 เท่าอาจจะ 1-16 เท่าของน้ำหนักตัวก็ได้
00:12:03 → 00:12:05 เพราะฉะนั้นหมอ 1 ยกตัวอย่างตัวเองแล้ว
00:12:05 → 00:12:07 กันเนาะหมอ 1 น้ำหนัก 70 ถ้าหมอ 1 น้ำ
00:12:07 → 00:12:09 หนัก 70 หมอ 1 ก็ต้องกินโปรตีนอย่างต่ำ 70
00:12:09 → 00:12:11 กรัมต่อวัน 70 กรัมต่อวันถ้าแบ่ง 3 มื้อ
00:12:11 → 00:12:13 ก็อาจจะตกมื้อละ 25 กรัมก็จะไม่ได้อิ่ม
00:12:13 → 00:12:15 มากแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่หมอหนึจะกินเหลือ
00:12:15 → 00:12:17 2 มื้อไม่ใช่ว่าหมอหนึกินเหลือแค่ 50
00:12:17 → 00:12:19 กรัมไม่ใช่นะจะต้องเอามาเฉลี่ยเอา 70
00:12:19 → 00:12:21 กรัมมาเฉลี่ยเหลือ 2 มื้อก็จะกลายเป็น
00:12:21 → 00:12:24 มื้อละ 35 กรัมเพราะฉะนั้นคียจริงๆโปรตีน
00:12:24 → 00:12:27 เนี่ยสำคัญมากๆต้องกินโปรตีนให้เพียงพอจะ
00:12:27 → 00:12:29 2 มื้อหรือจะ 3 มื้อไม่ว่าว่ากันแบ่ง 2
00:12:29 → 00:12:32 มื้อก็ได้แบ่ง 3 มื้อก็ได้หรือบางทีหมอ
00:12:32 → 00:12:33 หนึ่งจะเคยบอกนักเรียนหมอหนึ่งที่อยู่ใน
00:12:33 → 00:12:35 กลุ่มเรียนหมอหนึ่งว่าเฮ้ยถ้าอย่างงั้น
00:12:35 → 00:12:38 กิน 2 มื้อได้นะแต่หามื้อย่อยสักมื้อนึง
00:12:38 → 00:12:41 เติมโปรตีนได้มให้มันเต็มเห็นภาพป่านะ
00:12:41 → 00:12:43 ครับและอีกข้อนึงที่จะทำให้คุณไม่ผอม
00:12:43 → 00:12:45 เนี่ยคือเรื่องของแป้งการที่เราจะลดน้ำ
00:12:45 → 00:12:47 หนักได้เนี่ยต้องเข้าใจว่าระบบพลังงานมี 2
00:12:47 → 00:12:49 ระบบคือใช้น้ำตาลกับแป้งเป็นพลังงานหลัก
00:12:49 → 00:12:51 แล้วก็ใช้ไขมันซึ่งถ้ามีน้ำตาลร่างกายเรา
00:12:51 → 00:12:53 จะใช้น้ำตาลก่อนเพราะมันเผาผลาง่ายมากและ
00:12:53 → 00:12:55 สิ่งที่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลง่ายๆมันก็จะเผา
00:12:55 → 00:12:57 ผลาง่ายเหมือนกันซึ่งสิ่งที่เผาผลาญ
00:12:57 → 00:12:59 เปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ง่ายๆก็คือแป้งเพราะ
00:12:59 → 00:13:01 ฉะนั้นการที่เรากินโปรตีนได้คีย์เวิร์ด
00:13:01 → 00:13:04 คือคำว่าอิ่มนะมันจะทำให้เราเนี่ยลดการ
00:13:04 → 00:13:07 ทานแป้งลงได้จะกิน 2 มื้อจะกิน 3 มื้อไม่
00:13:07 → 00:13:10 ว่ากันแต่ต้องลดปริมาณแป้งลงโดยรวมแล้ว
00:13:10 → 00:13:12 ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าเป็นมื้อที่หมอนึงอยากให้
00:13:12 → 00:13:14 ลดแป้งลงได้เยอะหน่อยคือมื้อเย็นเพราะว่า
00:13:14 → 00:13:16 มื้อเย็นเราไม่ค่อยได้ใช้พลังงานแล้วเรา
00:13:16 → 00:13:19 ก็กินแป้งน้อยหน่อยโอเคป่านะครับเนาะ
00:13:19 → 00:13:22 เพราะฉะนั้นถามว่ากิน 2 มื้อกับกิน 3
00:13:22 → 00:13:25 มื้อแบบไหนผอมกว่ากันคำตอบคือผอมทั้งคู่
00:13:25 → 00:13:28 แต่สิ่งที่ 1 ที่ต้องเข้าใจคือ 2 มื้อกับ
00:13:28 → 00:13:30 3 มื้อจะผอมได้ก็ต่อเมื่อช่วงเวลาของการ
00:13:30 → 00:13:33 อดต้องมากกว่า 12 ชมงจะดีที่สุดก็คืออยู่
00:13:33 → 00:13:36 ในช่วง 15-18 ชมงเพราะมันจะทำให้เรามี
00:13:36 → 00:13:39 ช่วงเวลาของการกินที่ไม่น้อยเกินไปลดน้ำ
00:13:39 → 00:13:41 หนักอย่ากินน้อยถ้ากินน้อยกล้ามเนื้อเรา
00:13:41 → 00:13:43 จะหายโอเคมยคราวนี้ถ้าเรากินอยู่ในช่วง 6
00:13:43 → 00:13:46 ชมงบางทีอาจจะกินได้ 2 มื้อ 2 มื้อนั้น
00:13:46 → 00:13:49 โปรตีนต้องถึงเพราะฉะนั้นถ้าเราจะกิน 2
00:13:49 → 00:13:51 มื้อเราต้องเฉลี่ยโปรตีนที่เคยกิน 3 มื้อ
00:13:51 → 00:13:53 มาอยู่ใน 2 มื้อให้อิ่มให้ได้หรืออาจจะ
00:13:53 → 00:13:55 เป็น 2 มื้อก็ได้อย่างหมอ 1 ลดน้ำหนักตอน
00:13:55 → 00:13:57 นั้นหมอ 1 กินเที่ยนกับ 18:00 นแล้ว 15:00
00:13:57 → 00:13:59 นอาจจะเติมโปรตีนจากขไข่ลวกหรืออะไรก็ว่า
00:13:59 → 00:14:02 ไปนะครับเนาะและอีกข้อนึงที่สำคัญคือพอ
00:14:02 → 00:14:05 เราเฉลี่ยโปรตีนจนอิ่มในแต่ละมื้อแล้วให้
00:14:05 → 00:14:07 เราลดปริมาณของน้ำตาลกับแป้งลงร่างกายจะ
00:14:07 → 00:14:10 สลับไปใช้ไขมันได้มากขึ้นโอเคมยเห็นภาพ
00:14:10 → 00:14:11 เนาะเพราะฉะนั้นอย่าไปยึดติดนะครับว่าจะ
00:14:11 → 00:14:15 กิน 2 มื้อหรือ 3 มื้อแต่ให้เน้นคำว่าสาร
00:14:15 → 00:14:18 อาหารอ่าคำนี้สำคัญที่สุดเลยเนาะปีใหม่
00:14:18 → 00:14:20 แล้วนะใครที่อยู่ในกลุ่มเรียนลดน้ำหนัก
00:14:20 → 00:14:22 VIP กับหมอ 1 อย่าลืมไปทบทวนตั้งแต่บท
00:14:22 → 00:14:24 ที่ 2 ถึงบทที่ 8 เรื่องสารอาหารนะครับ
00:14:24 → 00:14:27 เนาะจะได้ลดน้ำหนักกันต่อนะโอเคเนาะเพราะ
00:14:27 → 00:14:29 ฉะนั้นก็หวังว่าจะเข้าใจมามากขึ้นนะว่า
00:14:29 → 00:14:30 กินกี่มื้อมันต่างกันยังไงนะครับเพราะ
00:14:30 → 00:14:32 ฉะนั้นก็ย้อนกลับมานะครับขอแสดงความยินดี
00:14:32 → 00:14:34 กับนักเรียนท่านี้อีก 1 ครั้งนะเรียนกลับ
00:14:34 → 00:14:36 มาหนึ่งไป 1 ปีแล้วยังผอมอยู่เลยนะครับ
00:14:36 → 00:14:38 แล้วก็อยากให้โพส์เนี้ยเป็นกำลังใจสำหรับ
00:14:38 → 00:14:40 คนที่เริ่มต้นลดน้ำหนักอยู่นะผมเชื่อว่า
00:14:40 → 00:14:43 ถ้าคุณเริ่มต้นวันนี้อ่ะพอสิ้นปีนะเอา
00:14:43 → 00:14:45 จริงๆ 2 เดือนคุณก็ผอมแล้วแต่พอบางคนน้ำ
00:14:45 → 00:14:47 หนักเยอะหน่อยอาจจะผ่านไป 3-4 เดือน 5
00:14:47 → 00:14:50 เดือน 6 เดือนคุณจะเริ่มกลับมาอยู่ในจุด
00:14:50 → 00:14:52 ที่คุณเ่ะรักตัวเองมากขึ้นละพอสิ้นปีปั๊บ
00:14:52 → 00:14:55 ถ้าคุณลดถูกวิธีนะคุณจะเป็นแบบคนนี้แหละ
00:14:55 → 00:14:57 ทักมาหาหมอหนึว่าโหชีวิตนี้ไม่เคยคิดมา
00:14:57 → 00:14:59 ก่อนเลยว่าเราจะจะกลับไปผอมได้แล้วผอมแบบ
00:14:59 → 00:15:01 ไม่กลับไปอ้วนอีกด้วยอ่ะผมเชื่อว่าทุกคน
00:15:01 → 00:15:04 น่ะที่ได้ฟังคลิปเนี้ยคือฟังมาถึงจุดนี้
00:15:04 → 00:15:06 แล้วเป็นคนที่รักตัวเองแน่นอนไม่มีใครไม่
00:15:06 → 00:15:08 อยากสุขภาพดีหรอกแค่ยังไม่เจอวิธีที่
00:15:08 → 00:15:09 เหมาะสมเท่านั้นเองเพราะฉะนั้นก็ลองเอา
00:15:09 → 00:15:12 ความรู้ที่หมอหนึ่งมอบให้ที่หมอหนึ่งสรุป
00:15:12 → 00:15:13 มาให้แล้วแบบที่ไม่ได้มีศัพท์การแพทย์
00:15:13 → 00:15:15 อะไรเยอะแยะลองไปปรับใช้ดูนะครับอยากให้
00:15:15 → 00:15:18 มั่นใจในตัวเองเนาะอย่างน้อยการที่เราได้
00:15:18 → 00:15:20 ลงมือทำอะไรเพื่อตัวเองอ่ะจะสำเร็จช้า
00:15:20 → 00:15:22 สำเร็จเร็วเนี่ยอย่างน้อยมันคือการที่เรา
00:15:22 → 00:15:24 ได้ทำเพื่อตัวเองแล้วดีกว่าเราอยู่เฉยๆ
00:15:24 → 00:15:26 เพราะเวลาผ่านไปเรื่อยๆสุขภาพเรามันก็แย่
00:15:26 → 00:15:28 ลงไปทุกวันแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราสู้เรา
00:15:29 → 00:15:32 ยังมีทางชนะโอเคเปล่านะครับเนาะส่วนคนที่
00:15:32 → 00:15:34 ถามหมอ 1 ว่าอยากเรียนลดน้ำหนักกับหมอ 1
00:15:34 → 00:15:37 ด้วยนะครับนะจะทำยังไงนะครับก็สามารถดู
00:15:37 → 00:15:39 รายละเอียดได้ใน LINE @hee Hero นะครับ
00:15:39 → 00:15:41 นะหมอหน่งมีรายละเอียดไว้ให้ว่าเข้ากลุ่ม
00:15:41 → 00:15:43 เรียนยังไงบ้างนะครับใครที่เรียนตอนนี้ก็
00:15:43 → 00:15:45 จะได้สิทธิ์อัปเกรดเป็นคสตลอดชีพด้วยนะ
00:15:45 → 00:15:47 ครับก็คือเป็นครอบครัว Healthy ฮีโร่
00:15:47 → 00:15:49 เนี่ยลดจนกว่าจะได้น้ำหนักที่พอใจเลยแล้ว
00:15:49 → 00:15:51 มา 1 ตอบคำถามด้วยตัวเองอยู่ในกลุ่มด้วย
00:15:51 → 00:15:53 นะครับและเร็วๆดีก็จะมีอัปเดตข้อมูลอื่นๆ
00:15:53 → 00:15:55 ให้นะครับถ้ามีอัปเดตอะไรเพิ่มเติมก็จะ
00:15:55 → 00:15:57 อัปเดตในกลุ่มนั้นให้ฟรีนะครับหรือใครที่
00:15:57 → 00:16:00 ดูจากช่องไยทอื่นๆสามารถกดดูในคอมเมนต์
00:16:00 → 00:16:01 ได้หมอหนึ่งจะลงลิงก์รายละเอียดไว้ให้นะ
00:16:01 → 00:16:04 ครับนะว่าเข้าเรียนอะไรยังไงบ้างนะครับ
00:16:04 → 00:16:06 สหรับเข้ากลุ่มครั้งเดียวก็เรียนได้ตลอด
00:16:06 → 00:16:08 ชีวิตเลยนะครับก็ใครที่สนใจก็เจอกันใน
00:16:08 → 00:16:10 กลุ่มนะครับส่วนใครที่ยังไม่ได้กดติดตาม
00:16:10 → 00:16:12 อย่าลืมกดติดตามนะครับหมอหนึ่งจะลงความ
00:16:12 → 00:16:14 รู้ดีๆแบบนี้ไว้ให้อยู่เรื่อยๆนะครับก็
00:16:14 → 00:16:16 สุดท้ายนี้ก็สวัสดีปีใหม่ทุกคนนะครับขอ
00:16:16 → 00:16:18 ให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรงติดตามกันไปนานๆนะ
00:16:18 → 00:16:21 ครับแล้วพบกันคลิปถัดไปนะครับชมคลิปหมอ 1
00:16:21 → 00:16:22 จบแล้วนะครับอย่าลืมกดติดตามเพื่อที่จะ
00:16:22 → 00:16:24 ได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆจากหมอ 1 นะครับส่วน
00:16:24 → 00:16:27 คลิปอื่นๆที่น่าสนใจกดดูจากทางซ้ายมือได้
00:16:27 → 00:16:28 เลยครับส่วนใครที่อยากลดน้ำหนักครั้งสุด
00:16:28 → 00:16:30 ท้ายในชีวิตในกลุ่มเรียนกับหมอ 1 นะครับ
00:16:30 → 00:16:32 กดดูรายละเอียดจากทางขวามือหรือดูราย
00:16:32 → 00:16:33 ละเอียดจากลิงก์ในคอมเมนต์ได้เลยนะครับ
00:16:33 → 00:16:37 แล้วพบกันในกลุ่มเรียนนะครับ