00:00:00 → 00:00:02 รู้หรือไม่ กินวิตามิน B เยอะ
00:00:02 → 00:00:04 วิตามิน C เยอะ
00:00:04 → 00:00:06 อาจทำให้ได้ของแถม
00:00:06 → 00:00:08 อันตรายถึงชีวิต
00:00:08 → 00:00:10 เดี๋ยว..เดี๋ยว…ไม่ถึงชีวิต
00:00:11 → 00:00:12 แต่เกิดอะไร เดี๋ยวมาฟังกัน
00:00:14 → 00:00:16 เปิดตู้ยา
00:00:19 → 00:00:23 ตอน กินวิตามิน C วิตามิน B เยอะ เสี่ยงได้ของแถม
00:00:23 → 00:00:25 อุ๊ย...อย่างชอบ
00:00:28 → 00:00:29 นี่คือสระอี
00:00:30 → 00:00:31 เอา บ ใบไม้ มาใส่
00:00:31 → 00:00:33 อ่านว่า วิตามินบี
00:00:33 → 00:00:34 ช่วยเรื่องอะไรดี
00:00:34 → 00:00:36 ช่วยให้สมองดี
00:00:38 → 00:00:39 นี่คือสระอี
00:00:39 → 00:00:41 เอา ซ โซ่ มาใส่
00:00:41 → 00:00:42 อ่านว่า วิตามินซี
00:00:43 → 00:00:44 ช่วยเรื่องอะไรดี
00:00:44 → 00:00:46 ช่วยให้มีภูมิดี
00:00:47 → 00:00:49 ต้องกินช่วงไหนดี
00:00:49 → 00:00:51 กินยิ่งเยอะยิ่งดี
00:00:51 → 00:00:51 เออะ...
00:00:52 → 00:00:53 หา ?!
00:00:53 → 00:00:54 ฮืม ไม่จริงอะ
00:00:55 → 00:00:57 ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนค่ะ
00:00:57 → 00:01:00 ว่าวิตามินแบ่งได้เป็นกี่ชนิดค่ะ
00:01:00 → 00:01:04 วิตามิน หลัก ๆ เลยนี่ ก็คือแบ่งได้เป็น 2 ประเภทค่ะ
00:01:04 → 00:01:07 กลุ่มแรกก็คือกลุ่มที่ชอบละลายน้ำค่ะ
00:01:07 → 00:01:13 ก็จะเป็นวิตามินที่เราคุ้นเคยกัน เช่น พวกวิตามิน C วิตามิน B ค่ะ
00:01:13 → 00:01:16 ส่วนที่ละลายในไขมันก็คือ สิ่งที่เราชอบท่องกัน
00:01:16 → 00:01:20 ก็คือ A, D, E, แล้วก็ K ค่ะ
00:01:20 → 00:01:24 ทำไมเราจำเป็นจะต้องได้รับวิตามิน เข้าไปในร่างกายคะ
00:01:24 → 00:01:29 เพราะว่าวิตามินมันสามารถเข้าไปช่วย ในกระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายค่ะ
00:01:29 → 00:01:32 แล้วอีกอย่าง ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ค่ะ
00:01:33 → 00:01:35 จึงจำเป็นจะต้องได้รับจากภายนอกค่ะ
00:01:35 → 00:01:38 ภายนอกนี่คือจากไหนครับอาจารย์แพร์ ในอากาศ?
00:01:42 → 00:01:44 - ไม่ได้ค่ะอาจารย์บอล - ไม่ได้ ไม่ได้
00:01:44 → 00:01:47 ภายนอกในที่นี้คือหมายถึงว่า รับประทานเข้าไปค่ะ
00:01:47 → 00:01:50 แต่ไม่จำเป็นจะต้องรับประทานเป็นเม็ด ๆ เสมอไปนะคะ
00:01:50 → 00:01:54 เราสามารถรับประทาน จากสิ่งที่อยู่ในอาหารก็ได้ค่ะ
00:01:54 → 00:01:56 หรือผลไม้ค่ะ ผักต่าง ๆ
00:01:56 → 00:02:01 เหล่านี้ค่ะ ก็จะมีส่วนของประกอบ ของวิตามินที่แตกต่างกันไปค่ะ
00:02:01 → 00:02:03 โดยเฉพาะพวกเราที่อยู่ในประเทศไทยนะครับ
00:02:03 → 00:02:06 อาหารไทยนี่ขึ้นชื่ออยู่แล้ว
00:02:06 → 00:02:08 วิตามินสมบูรณ์มากครับ
00:02:08 → 00:02:10 เพราะฉะนั้น ถ้าเรารับประทานอาหาร
00:02:10 → 00:02:14 ปกตินี่ครับ เช้า กลางวัน เย็น ในปริมาณที่เหมาะสมนี่
00:02:14 → 00:02:18 รับประกันครับว่า เราได้รับวิตามิน B วิตามิน C
00:02:18 → 00:02:24 หรือแม้แต่วิตามิน A, D, E, K ในปริมาณที่เหมาะสม
00:02:24 → 00:02:28 และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายต่อวัน แน่นอนครับ
00:02:28 → 00:02:33 แต่ก็จะมีบางกลุ่มนะคะอาจารย์บอล ที่อาจจะไม่เพียงพอค่ะ เช่น
00:02:33 → 00:02:34 กลุ่มที่เป็นผู้ป่วยนะคะ
00:02:35 → 00:02:38 หรือในกรณีที่หลายต่อหลายครั้ง เราไม่ได้เป็นผู้ป่วย
00:02:38 → 00:02:42 แต่เคยมีบางช่วงบางตอนไหมคะอาจารย์บอล ที่ช่วงนี้เราไม่ค่อยอยากอาหาร
00:02:42 → 00:02:45 หรือไม่ค่อยอยากจะรับประทานอะไรเข้าไปค่ะ
00:02:45 → 00:02:48 เพราะฉะนั้นแล้วนี่ เขาจึงมีการกำหนดค่ะว่า
00:02:48 → 00:02:53 วิตามินในแต่ละวันที่ควรจะต้องได้รับ เป็นเท่าไร
00:02:53 → 00:02:57 ซึ่งเราเรียกอันนี้ว่า Thai RDI
00:02:57 → 00:02:59 Thai RDI
00:02:59 → 00:03:01 ใช่ค่ะ Thai RDI
00:03:01 → 00:03:06 RDI ย่อมาจาก Recommended Daily Intakes
00:03:06 → 00:03:08 แปลเป็นภาษาไทยง่าย ๆ ครับ
00:03:08 → 00:03:12 ก็คือปริมาณสารอาหารที่ร่างกายต้องการต่อวัน
00:03:14 → 00:03:17 เรามาดูประโยชน์ของวิตามินเหล่านี้ กันอย่างละเอียดนะครับอาจารย์แพร์
00:03:18 → 00:03:18 ค่ะ
00:03:18 → 00:03:20 เริ่มด้วยวิตามิน C ค่ะ
00:03:20 → 00:03:25 วิตามิน C เป็นวิตามินที่ทุกคน รู้จักกันเป็นส่วนใหญ่นะคะ
00:03:25 → 00:03:28 แล้วก็มักจะเสริมเข้าร่างกายนะคะ
00:03:28 → 00:03:30 คราวนี้นะคะ เวลาที่เราพูดถึงวิตามิน C
00:03:30 → 00:03:32 วิตามิน C มีประโยชน์มากมายค่ะ
00:03:32 → 00:03:35 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสริมภูมิคุ้มกันนะคะ
00:03:35 → 00:03:38 หรือว่าจะช่วยสร้างพวกคอลลาเจนนะคะ
00:03:38 → 00:03:41 มีเรื่องของลดกระบวนการอักเสบนะคะ
00:03:41 → 00:03:43 อันนี้ก็คือจะเป็นเรื่องทั่วไปนะคะ
00:03:43 → 00:03:46 ถึงเอามาใช้เรื่องความงาม หรือเรื่อง Cosmetic เยอะใช่ไหมครับ
00:03:46 → 00:03:50 ใช่ค่ะ แต่อย่างไรก็ตามนะคะ ในแต่ละประโยชน์ของมัน
00:03:50 → 00:03:56 มันก็จะมีลักษณะของจำนวนมิลลิกรัม ที่จะต้องใช้แตกต่างกันออกไปนะคะ
00:03:56 → 00:04:00 อย่างไรก็ตามค่ะ รับประทานเสริมเข้าไปค่ะ ก็เป็นเรื่องดีทั้งนั้นค่ะ
00:04:00 → 00:04:06 แต่ถ้ารับประทานเยอะเกินไปค่ะอาจารย์บอล มันก็มีข้อเสียเหมือนกันนะคะ
00:04:06 → 00:04:07 เอาอันแรกก่อนค่ะ
00:04:07 → 00:04:11 ปริมาณที่ร่างกายต้องการวิตามิน C ในแต่ละวัน
00:04:11 → 00:04:15 ในผู้ใหญ่ขึ้นไปแล้วกันนะครับ ก็คือตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไปนี่
00:04:15 → 00:04:18 เราต้องการประมาณวันละ 100 มิลลิกรัม
00:04:18 → 00:04:20 ส่วนในกรณีที่เป็นเด็กเล็ก
00:04:20 → 00:04:24 หรือในกรณีที่มีการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้
00:04:24 → 00:04:26 คราวนี้เริ่มสงสัยแล้วใช่ไหมคะ
00:04:26 → 00:04:29 เพราะจริง ๆ แล้ว 100 นี่ ไม่ค่อยเป็นเลขที่คุ้นค่ะ
00:04:29 → 00:04:31 เวลาที่รับประทานกันทั้งทีนี่
00:04:31 → 00:04:35 1 เม็ด เราก็มักจะเจอกัน ประมาณ 500 มิลลิกรัมต่อวัน
00:04:35 → 00:04:38 แบบนี้สงสัยแล้วใช่ไหมคะว่า เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ
00:04:38 → 00:04:41 ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยเป็นอะไรนะคะ
00:04:41 → 00:04:45 เพราะอะไร เพราะว่าวิตามิน C ละลายน้ำได้ค่ะ
00:04:45 → 00:04:49 สิ่งที่เรากังวลก็คือว่า กรณีที่เป็นวิตามิน C นี่
00:04:49 → 00:04:51 พอมันไม่ละลายน้ำค่ะ
00:04:51 → 00:04:53 พอมันไม่ละลายน้ำ แล้วมันไปไหนคะ
00:04:53 → 00:04:55 มันก็เดินทางไปที่ไตค่ะ
00:04:55 → 00:04:56 พอเดินทางไปที่ไต
00:04:56 → 00:04:58 ไม่มีน้ำมาช่วยมันละลายนะคะ
00:04:58 → 00:05:00 มันก็จะกลายเป็นผลึก
00:05:00 → 00:05:05 โรคที่จะนำมาซึ่งการเกิดจาก การที่เรารับประทานวิตามิน C มากเกินไป
00:05:05 → 00:05:07 ก็คือ นิ่วในไต
00:05:07 → 00:05:09 ถ้าบางคนมีความเสี่ยงอยู่เดิมค่ะอาจารย์บอล
00:05:09 → 00:05:12 - กินนิดเดียวก็เกิดอาการขึ้นได้ - ใช่ค่ะ
00:05:12 → 00:05:15 บางทีกินแค่ 300 มิลลิกรัม หรือ 500 มิลลิกรัมครึ่งเม็ด
00:05:16 → 00:05:18 ก็อาจจะทำให้เกิดนิ่วในไตขึ้นได้
00:05:18 → 00:05:21 เพราะฉะนั้น คำแนะนำทั่วไปเลยค่ะ
00:05:21 → 00:05:24 ก็คือ ถ้าต้องการรับประทานวิตามิน C เยอะ
00:05:24 → 00:05:27 ขอให้รับประทานน้ำเยอะ ๆ ด้วยค่ะ
00:05:27 → 00:05:29 แล้วระวังดี ๆ นะคะว่า
00:05:29 → 00:05:34 มีการปวดท้อง เจ็บ หรือมีลักษณะของ อะไรแบบนี้เกิดขึ้นหรือเปล่า
00:05:34 → 00:05:38 ถ้าแบบนั้นปุ๊บนี่ ก็อาจจะต้องมี การปรึกษาเพิ่มเติมว่ามันเกิดอะไรขึ้นค่ะ
00:05:40 → 00:05:43 เอาล่ะครับ เรารู้จักวิตามิน C กันเรียบร้อยแล้วนะครับ
00:05:43 → 00:05:47 ทีนี้ เราเคลื่อนที่ไปครับ ไปดูวิตามิน B กันบ้าง
00:05:47 → 00:05:51 วิตามิน B เป็นวิตามิน ที่ชอบละลายในน้ำเหมือนกันค่ะ
00:05:51 → 00:05:53 หน้าที่ของวิตามิน B ค่ะ
00:05:53 → 00:05:57 ก็สามารถเข้าไปช่วยใน กระบวนการต่าง ๆ ของร่างกายค่ะ
00:05:57 → 00:06:01 ไม่ว่าจะเป็นทำให้เซลล์ทำงานได้ดีขึ้น ทำงานได้ปกติ
00:06:01 → 00:06:04 อันนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของวิตามิน B ค่ะ
00:06:04 → 00:06:07 ในรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้อยู่ในปัจจุบัน
00:06:07 → 00:06:11 อาจจะมี B เดี่ยว ๆ B1, B6, B12
00:06:11 → 00:06:13 หรือเป็น B รวมผสมกันค่ะ
00:06:13 → 00:06:16 ในกรณีที่รับประทานแบบปกติ
00:06:16 → 00:06:20 ร่างกายก็จะสามารถเข้าไป แล้วก็ขับออกได้ตามปกติ
00:06:20 → 00:06:21 ไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ
00:06:21 → 00:06:27 แต่ถ้าสมมุติว่าเรารับประทานเยอะเกินไป ก็เกิดผลเสียค่ะอาจารย์บอล
00:06:27 → 00:06:28 ทำให้เกิดอะไรได้คะอาจารย์บอล
00:06:28 → 00:06:35 ตัววิตามิน B ที่เราค่อนข้างกังวลนะครับ ว่าอาจจะทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้
00:06:35 → 00:06:38 ถ้าเกิดว่ารับประทานในขนาดที่สูงจนเกินไปนี่
00:06:38 → 00:06:40 ก็คือตัววิตามิน B6
00:06:40 → 00:06:42 สาเหตุที่เราระวังเพราะอะไรครับ
00:06:42 → 00:06:44 เพราะว่าวิตามิน B6 นี่นะครับ
00:06:44 → 00:06:47 ถ้าเรารับประทานในขนาดที่สูงมาก
00:06:47 → 00:06:50 คำว่าสูงมากในที่นี้นี่ ต้องเป็นหลักร้อยนะครับ
00:06:50 → 00:06:52 เช่น อาจจะ 300 มิลลิกรัมต่อวัน
00:06:52 → 00:06:54 500 มิลลิกรัมต่อวัน
00:06:54 → 00:07:00 และที่สำคัญคือ ต้องรับประทานติดต่อกัน เป็นเวลานานด้วย เช่น
00:07:00 → 00:07:02 รับประทานติดต่อกัน 1 เดือนขึ้นไป
00:07:03 → 00:07:07 เราพบว่า การรับประทานวิตามิน B6 ในขนาดสูงติดต่อกันนี่ครับ
00:07:07 → 00:07:11 อาจจะทำให้เกิดอาการปลายมือปลายเท้าชา
00:07:11 → 00:07:14 หรือบางคนเป็นเหน็บ เหน็บยิบ ๆ ยิบ ๆ นี่ครับ
00:07:14 → 00:07:15 เป็นง่ายขึ้นนะครับ
00:07:15 → 00:07:18 เพราะฉะนั้น ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาได้
00:07:18 → 00:07:21 เพราะว่าปกติแล้วนี่ วิตามิน B6 ค่ะ
00:07:21 → 00:07:25 หลักหน่วยของปกตินี่ จะแค่ประมาณ 1-2 มิลลิกรัมเอง
00:07:25 → 00:07:27 - อันนี้คือที่ร่างกายต้องการต่อวันใช่ไหม - ใช่
00:07:27 → 00:07:30 แล้วก็เลขที่ส่วนใหญ่อยู่ในผลิตภัณฑ์นี่
00:07:30 → 00:07:32 จริง ๆ ก็เป็นเลขในหลักหน่วย
00:07:32 → 00:07:37 เพราะฉะนั้น พอเป็นเลขที่เป็นหลักร้อยขึ้นมา แสดงว่าสูงมาก ๆ จริง ๆ นะคะ
00:07:37 → 00:07:40 ถ้าเกิดว่ากรณีที่ท่านได้รับวิตามินต่าง ๆ
00:07:40 → 00:07:44 ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน B หรือวิตามิน C จากโรงพยาบาลนี่
00:07:44 → 00:07:46 ทั้งหมดนี่ส่วนใหญ่จะเป็นยาครับ
00:07:46 → 00:07:48 เมื่อไหร่ที่วิตามินเป็นยา
00:07:48 → 00:07:55 เราก็จะพบปริมาณของสารอาหารต่าง ๆ เหล่านี้ ในปริมาณที่สูงกว่าค่า RDI อยู่แล้วนะครับ
00:07:55 → 00:08:02 [เสียงดนตรี]
00:08:02 → 00:08:03 อย่างไรก็ตามนะครับ
00:08:03 → 00:08:06 ถ้าท่านกำลังรับประทาน วิตามินต่าง ๆ เหล่านี้อยู่นะครับ
00:08:06 → 00:08:10 แล้วเห็นว่าปริมาณสูงเหมือนที่เราเล่าให้ฟัง
00:08:10 → 00:08:11 อย่าเพิ่งตกใจนะครับ
00:08:12 → 00:08:15 ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนนะครับว่า
00:08:15 → 00:08:17 ตัวท่านเองมีข้อบ่งใช้
00:08:17 → 00:08:22 หรือได้รับประโยชน์จากการรับประทาน วิตามินต่าง ๆ เหล่านี้อยู่หรือเปล่า
00:08:22 → 00:08:24 วิตามินต่าง ๆ มีประโยชน์
00:08:24 → 00:08:27 แต่ถ้ารับประทานเยอะ ๆ ก็เกิดผลกระทบได้นะคะ
00:08:27 → 00:08:29 ดังนั้นครับ อย่าลืม
00:08:29 → 00:08:31 เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ยาแบบผิด ๆ
00:08:32 → 00:08:34 ก่อนเปิดตู้ยา
00:08:35 → 00:08:37 เปิดตู้ยา
00:08:37 → 00:08:39 ความรู้ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้
00:08:39 → 00:08:41 มหาวิทยาลัยมหิดล
00:08:41 → 00:08:42 ปัญญาของแผ่นดิน