00:00:00 → 00:00:05 สวัสดีครับผมคิดว่าหลายคนนะครับคงจะได้ ยินเรื่องของอาหารต้านมะเร็งกันมามากพอสม
00:00:05 → 00:00:11 ควรนะครับแต่จะมีสักกี่คนที่ลงไปดูราย ละเอียดของอาหารเหล่านั้นว่ามันได้ผลจริง
00:00:11 → 00:00:16 ๆหรือเปล่านะครับผมคนนึงล่ะครับที่ลงไปดู รายละเอียดเมื่อเวลามีคนบอกว่าอาหารชนิด
00:00:16 → 00:00:22 นั้นชนิดนี้ต้านมะเร็งได้แต่พอลงไปดูจริง ๆแล้วเนี่ยหลักฐานเนี่ยมันค่อนข้างที่จะ
00:00:22 → 00:00:27 อ่อนนะครับแล้วส่วนใหญ่แล้วนะครับมันไม่ สามารถที่จะทำได้อย่างที่โฆษณาหรอกครับ
00:00:27 → 00:00:33 ที่สำคัญมันอาจจะเป็นการกระทำบางอย่างที่ มากจนเกินไปทำให้ร่างกายของเราเสียสมดุล
00:00:33 → 00:00:38 นะครับวันนี้ผมก็เลยอยากจะเอาเรื่องนี้มา พูดให้ฟังนะครับว่าจริงๆในทางการแพทย์
00:00:38 → 00:00:44 ปัจจุบันมีงานวิจัยออกมาแล้วนะครับว่ามัน มีอาหารบางชนิดจริงๆที่สามารถช่วยเรื่อง
00:00:44 → 00:00:52 ของมะเร็งช่วยเรื่องของเบาหวานความดันไข มันความอ้วนแล้วมันก็ไม่ใช่อาหารที่สุด
00:00:52 → 00:00:58 โต่งแต่อย่างใดนะครับคนเราสามารถทำแบบนี้ ได้ไปตลอดชีวิตนะครับอ่าเดี๋ยวผมจะอธิบาย
00:00:58 → 00:01:04 ให้ฟังว่ามันคืออะไรคลิปนี้รบกวนฟังให้จบ นะครับเพราะว่าผมจะอธิบายถึงอาหารชนิด
00:01:04 → 00:01:09 อื่นๆด้วยว่าทำไมมันถึงทำเช่นนั้นไม่ได้ นะครับรวมทั้งอาหารที่กูรูสุขภาพ
00:01:09 → 00:01:15 influencer สุขภาพหลายๆคนนะครับแนะนำนะ ถ้าผมจะอธิบายว่าเออของพวกนั้นน่ะมันไม่
00:01:15 → 00:01:20 ได้ผลหรอกนะครับอ่ะเดี๋ยวลองฟังกันดูนะ ครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธนีย์ ธนียวัน
00:01:20 → 00:01:24 เป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐ อเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและ
00:01:24 → 00:01:29 วิกฤตบำบัดนะครับ สิ่งแรกซึ่งน่าจะคุ้นหูกันนะครับคือ
00:01:29 → 00:01:37 intermittent fasting นะครับหรือการอด อาหารในช่วงเวลาที่เราจำกัดนะครับความคิด
00:01:37 → 00:01:41 นี้เนี่ยมันมีมานานแล้วนะครับแล้วเขา เชื่อว่ามันสามารถที่จะทำให้มะเร็งมันดี
00:01:41 → 00:01:47 ขึ้นได้นะครับซึ่งถูกต้องปัญหาของ intermittent fasting ก็คือแล้วทำนาน
00:01:47 → 00:01:53 แค่ไหนทำไปได้ตลอดหรือเปล่าทำแล้วมันจะ ได้ผลมากน้อยขนาดไหนข้อเสียของมันคืออะไร
00:01:53 → 00:01:59 นะครับวันนี้เราจะลองมาดูคอนเซปต์กันก่อน ว่า intermittent fasting ทำไมมันจึง
00:01:59 → 00:02:05 ได้ผลเหมือนกับโรคมะเร็งนะครับ เรื่องของเซลล์ของเราเนี่ยเราต้องมาเข้า
00:02:05 → 00:02:10 ใจเซลล์มะเร็งก่อนว่ามันคืออะไรเซลล์ มะเร็งก็คือเซลล์ซึ่งไม่มีการยับยั้งตัว
00:02:10 → 00:02:15 เองในการแบ่งตัวนะครับเซลล์ของเราที่เป็น เซลล์ปกติเนี่ยนะครับเวลาที่มันแบ่งตัวจน
00:02:15 → 00:02:19 ถึงจุดหนึ่งแล้วเนี่ยมันจะบ่งบอกตัวเอง บอกว่าเฮ้ยอย่าไปแบ่งตัวมากกว่านั้นเรานะ
00:02:19 → 00:02:24 เพราะว่ามันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแบ่ง ตัวมันเปลืองทรัพยากรที่จะต้องเอามาสร้าง
00:02:24 → 00:02:29 เซลล์ใหม่นะครับการสร้างเซลล์หนึ่งไปเป็น อีกเซลล์นึงเนี่ยมันจะต้องมีการใช้
00:02:29 → 00:02:34 ทรัพยากรมากๆนะครับแต่มะเร็งเนี่ยมันเสีย การควบคุมกลไกตรงนี้ไปมันก็เลยทำให้มันโต
00:02:34 → 00:02:40 ได้เรื่อยๆนะครับ การอดอาหารนะครับหรือการทำ Intermittent fasting
00:02:40 → 00:02:45 นะครับสิ่งที่มันจะทำให้เกิดขึ้นกับเซลล์ มะเร็งกับเซลล์ธรรมดาเนี่ยมันจะไม่เหมือน
00:02:45 → 00:02:51 กันอ่าตรงนี้สำคัญละตรงนี้เป็นคอนเซปต์ สำคัญมันเป็น Concept ที่เรียกว่า
00:02:51 → 00:02:59 DSR นะครับ differential stress resistance นะครับคือมีความต้านทานความ
00:02:59 → 00:03:04 เครียดจากการอดอาหารที่ไม่เหมือนกันนะ ครับระหว่างเซลล์ธรรมดาและเซลล์มะเร็ง
00:03:04 → 00:03:10 สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไรในเซลล์ธรรมดา เมื่อเผชิญหน้ากับการอดอาหารการขาดพลัง
00:03:10 → 00:03:17 งานต่างๆเซลล์จะเข้าสู่โหมดที่ไม่มีการ แบ่งตัวนะครับจะมุ่งเน้นมาในแง่ของการ
00:03:17 → 00:03:24 รีไซเคิลโปรตีนสารอาหารต่างๆเพื่อใช้ภาย ในเซลล์หรือเรียกว่า autophagy นั่นเองนะ
00:03:24 → 00:03:28 ครับอันนี้หลายคนคงจะเคยได้ยินแล้วผมก็ เคยทำคลิปเรื่อง autophagy แล้วนะครับว่า
00:03:28 → 00:03:33 มันเกิดขึ้นได้อย่างไรมีกลไกการทำงาน อย่างไรมีประโยชน์แบบไหนนะครับถ้าจำไม่
00:03:33 → 00:03:36 ได้ก็ลองกลับไปฟังคลิปเรื่อง autophagy ดูนะ ครับ
00:03:36 → 00:03:41 ประการที่ 2 ร่างกายของเราเนี่ยถ้าเซลล์ปกติเจอภาวะอด
00:03:41 → 00:03:47 อาหารเนี่ยนะครับสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เซลล์มันจะหันมาปกป้องและซ่อมแซม
00:03:47 → 00:03:55 ศาลพันธุกรรมต่างๆของร่างกายซึ่งก็คือ DNA ของเรานั่นเองสรุปว่าเวลาที่เราอดอาหารนะ
00:03:55 → 00:04:00 ครับเซลล์ปกติของเราเนี่ยมันจะไม่แบ่งตัว มันจะหันมาซ่อมแซมตัวเองหันมารีไซเคิล
00:04:00 → 00:04:07 ต่างๆนะครับและถ้าสมมุติว่าเราได้คีโม เคมีบำบัดในช่วงนั้นเนี่ยเซลล์ของเรา
00:04:07 → 00:04:13 เนี่ยมันก็จะไม่ค่อยโดนผลของเคมีบำบัดพวก นี้นะครับอ่าไม่ค่อยโดนผลของเคมีบำบัด
00:04:13 → 00:04:19 เพราะว่าอะไรครับเพราะว่า 1 เคมีบำบัดมัน จะได้ผลมากๆก็ต่อเมื่อเซลล์มันกำลังแบ่ง
00:04:19 → 00:04:25 ตัวเยอะๆซึ่งเซลล์ปกติในขณะที่ขาดอาหาร มันก็ไม่แบ่งตัวนะครับอ่านี้ก็เป็นที่มา
00:04:25 → 00:04:30 ของเซลล์ธรรมดามันจะเริ่มทนคีโมนะเริ่ม ที่จะไม่สามารถทำให้คีโมมันทำร้ายตัวเอง
00:04:30 → 00:04:36 ได้แล้วนะครับเริ่มนะครับไม่ได้แปลว่า 100% ที่เซลล์ปกติของเราจะไม่โดนทำลายนะ
00:04:36 → 00:04:42 ครับต่อมาแล้วมันต่างยังไงกับเซลล์มะเร็ง ล่ะเซลล์มะเร็งเนี่ยนะครับเวลาที่เกิด
00:04:42 → 00:04:47 ภาวะอดอาหารเนี่ยมันเกิดการเปลี่ยนแปลง หลายอย่างเลยทีเดียวนะครับ
00:04:47 → 00:04:52 อย่างแรกที่เราต้องบอกก่อนก็คือเซลล์ มะเร็งทั่วๆไปเนี่ยมันจะใช้น้ำตาลกลูโคส
00:04:52 → 00:04:59 เยอะนะครับกลูโคสเข้าไปในเซลล์มะเร็ง เนี่ยมะเร็งมันชอบที่จะทำยังไงก็ได้ให้
00:04:59 → 00:05:03 เอาไปสร้างเป็นสิ่งที่มันต้องการสร้าง พลังงานทำยังไงก็ได้ให้สร้างพลังงานเร็ว
00:05:03 → 00:05:08 ที่สุดดังนั้นเนี่ยกลูโคสเวลาเข้าไปใน เซลล์มะเร็งเหล่านี้สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ
00:05:08 → 00:05:13 คำว่า Warburg effect นะครับบางคนอาจ จะเคยได้ยินบางคนอาจจะไม่เคยได้ยินว่า
00:05:13 → 00:05:18 Warberg effect ก็คือการที่ glucose เข้า มาในเซลล์ของร่างกายของเราแล้วมันจะโดน
00:05:18 → 00:05:23 เปลี่ยนแปลงไปเป็นพลังงานแต่มันจะโดย เปลี่ยนแปลงพลังงานแบบไม่ได้ใช้ออกซิเจน
00:05:23 → 00:05:30 ก็คือ anaerobic นะครับทำให้มันสร้างกรด แลคติกออกมาเยอะการที่มันเปลี่ยนแปลง
00:05:30 → 00:05:35 การสร้างพลังงานแบบนี้นะครับการสร้างพลัง งานแบบนี้เนี่ยมันสร้างพลังงานได้น้อย
00:05:35 → 00:05:40 กว่าแบบออกซิเจนนะครับต่อให้เรามี ออกซิเจนเพียงพอมะเร็งมันก็ไม่สนใจนะครับ
00:05:40 → 00:05:45 มันไม่ได้สนใจออกซิเจนตรงนั้นมันสนใจที่ ทำยังไงก็ได้สร้างความเร็วที่สุดต้องการ
00:05:45 → 00:05:49 สร้างเร็วที่สุดก็คือการสร้างแบบ ไม่ได้ใช้ออกซิเจนหรือที่เราเรียกว่า anaerobic
00:05:49 → 00:05:54 นะครับ แต่ข้อเสียของการสร้างแบบ นี้คือมันสร้างเร็วจริงแหละแต่มันสร้าง
00:05:54 → 00:05:59 ได้น้อยมากนะครับ ดังนั้นเนี่ยคนก็คิดสิเอ๊ะถ้าเราให้
00:05:59 → 00:06:04 กลูโคสมันไม่เพียงพอให้พลังงานไม่เพียงพอ มันน่าจะไม่สามารถสร้างพลังงานได้แต่นั่น
00:06:04 → 00:06:08 ก็ไม่ใช่ทางออกอยู่ดีครับเพราะว่าถ้าเรา ไม่ได้พลังงานเซลล์ปกติของเรามันก็ไม่ได้
00:06:08 → 00:06:11 พลังงานไปด้วยมันก็ตายด้วยเหมือนกันนะ ครับ
00:06:11 → 00:06:16 แล้วเรื่องของพลังงานมันเกี่ยวข้องอะไร ไหมคือต่อให้เราให้พลังงานเข้าไปน้อยหรือ
00:06:16 → 00:06:20 มากยังไงก็แล้วแต่เซลล์มะเร็งเนี่ยมันจะ ต้องสร้างอันนี้ขึ้นมาให้ได้แต่ถ้าเราไม่
00:06:20 → 00:06:25 ให้พลังงานเข้าไปเลยหรือว่าให้ศาลอย่าง อื่นที่ทำให้ glucose ในร่างกายของเรา
00:06:25 → 00:06:28 เนี่ยมันลดลงแล้วมะเร็งเรามันจะต้องทำยัง ไง
00:06:28 → 00:06:35 มะเร็งเรามันจะโดนบังคับนะครับให้เกิด ภาวะแอนตี้ Warburg effect คือให้หันมาใช้
00:06:35 → 00:06:40 พลังงานแบบเซลล์ปกติของเรานั่นแหละครับ เซลล์ปกติของเราเวลาได้กลูโคสเข้ามาใน
00:06:40 → 00:06:46 ร่างกายแล้วเนี่ยมันจะต้องมีกระบวนการใช้ ออกซิเจนเพราะว่าการใช้ออกซิเจนนี้จะทำ
00:06:46 → 00:06:53 ให้ผลิตพลังงานได้มากกว่ามากกว่าแบบไม่ ใช้ออกซิเจนอย่างเยอะมากเลยนะครับแต่ข้อ
00:06:53 → 00:06:59 เสียของมันก็คือมันจะสร้างสารอนุมูลอิสระ ขึ้นมาเยอะแยะนะครับการที่เราสามารถใช้
00:06:59 → 00:07:03 อาหารบางประเภทหรือว่าทำ intermitment fasting เข้าไปเนี่ยนะครับมันจะทำให้มี
00:07:03 → 00:07:11 ภาวะต้าน Warburg effect นะครับทำให้มะเร็งเนี่ยโดน บังคับให้ไม่สามารถใช้การผลิตพลังงานแบบ
00:07:11 → 00:07:18 พร่ำเพรื่อแบบรวดเร็วที่ทำได้นะครับต้อง หันไปทำแบบปกติแล้วพอทำแบบปกติปุ๊บการ
00:07:18 → 00:07:23 เกิดสารอนุมูลอิสระที่เกิดเยอะๆนะครับมัน ก็ทำให้เซลล์มะเร็งพวกเนี้ยโดนในสารอัน
00:07:23 → 00:07:29 นู้นเนี่ยสะอาดตรงนี้ทำให้มันตายได้นะ ครับในขณะที่เซลล์ของเราปกติในระหว่างที่
00:07:29 → 00:07:32 อดอาหารอยู่นะครับ
00:08:31 → 00:08:35 บางอย่างนะครับมะเร็งเมื่อมันขาดสารอาหาร มันต้องเพิ่มไอ้ช่องพวกนี้เข้ามาเยอะๆ
00:08:35 → 00:08:41 เพื่อเอาอาหารเข้ามาในตัวมันเองนะครับแต่ บังเอิญไอ้ช่องทางนั้นบางอันนะครับบางอัน
00:08:41 → 00:08:47 เป็นทางผ่านของเคมีบำบัดด้วยนะครับอ่า เป็นทางผ่านของเคมีบำบัดแปลว่าอะไรแปลว่า
00:08:47 → 00:08:53 เราถ้าให้เคมีบำบัดเท่าเดิมผลของเคมี บำบัดต่อเซลล์มะเร็งมันจะมากขึ้นเพราะมัน
00:08:53 → 00:09:00 เข้าไปในเซลล์ได้มากขึ้นนะครับอันนี้คือ เหตุการณ์ที่ 3 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเราทำ
00:09:00 → 00:09:03 intermittent fasting หรืออดอาหารเซลล์ มะเร็งนะครับ
00:09:03 → 00:09:09 ต่อมาไม่ใช่แค่ 3 อย่างนะครับอย่างที่ 4 ก็คือมันเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่จะ
00:09:09 → 00:09:15 ทำให้เกิดการต่อต้านเซลล์มะเร็งนะครับอัน นี้มันเกิดขึ้นเพราะว่าอะไรนะครับมันเกิด
00:09:15 → 00:09:21 ขึ้นเพราะว่าเซลล์ปกติของเราเกิดภาวะที่ มากขึ้นมีการรีไซเคิลแล้วภาวะจริงเนี่ยจะ
00:09:21 → 00:09:27 เป็นการกระตุ้นเซลล์หนึ่งซึ่งเรียกว่า Macrophage นะครับ Macrophage เนี่ยจะมี 2
00:09:27 → 00:09:31 ชนิดหลักๆชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 นะครับ อ่า
00:09:31 → 00:09:37 ชนิดที่มันทำให้เกิดขึ้นในกรณีของ fasting ก็คือชนิดของ Macrophage ชนิดที่ 2 ซึ่งชนิด
00:09:37 → 00:09:43 ที่ 2 เนี่ยมันจะเป็นการที่เกิดการอักเสบ ในร่างกายเพื่อไปต่อต้านมะเร็งแต่ถ้าเป็น
00:09:43 → 00:09:47 ชนิดที่ 1 มันจะอยู่เฉยๆนิ่งๆไม่ทำอะไรลด การอักเสบนะครับ
00:09:47 → 00:09:55 พูดมาถึงตรงนี้หลายคนจะเริ่มสงสัยว่าเรา ต้องทำให้มีการอักเสบในร่างกายเหรอเราถึง
00:09:55 → 00:09:59 จะกำจัดมะเร็งได้ ถูกต้องครับมะเร็งโดนกำจัดด้วยวิธีการ
00:09:59 → 00:10:04 อักเสบวิธีการอักเสบอันแรกก็คือการที่มัน ต้องหายใจแบบใช้ออกซิเจนนั่นแหละครับมัน
00:10:04 → 00:10:10 จะทำให้เกิด Reactive oxygen species นะ ครับหรืออนุมูลอิสระขึ้นมาทำลายตัวเองนะ
00:10:10 → 00:10:15 ครับอันที่ 2 คือเราไปกระตุ้นภูมิต้านทาน ของเราให้มากัดกินเซลล์มะเร็งหรือ Macrophage
00:10:15 → 00:10:19 ชนิดที่ 2 นั่นเองนะครับ อ่าแบบนี้ เลยนะครับ
00:10:19 → 00:10:24 ถ้าเราไปต้านการอักเสบในช่วงเวลานี้อาจจะ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับเพราะว่ากลไก
00:10:24 → 00:10:29 เหล่านี้มันก็จะต้องโดนยับยั้งไปบ้างนะ ครับนี่คือเป็นเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นกับ
00:10:29 → 00:10:37 เซลล์มะเร็งเมื่อเราอดอาหารนะครับอ่าหลัก ๆเลยนะครับมันยังมีกลไกอื่นๆอีกนะครับที่
00:10:37 → 00:10:45 ยังสามารถทำให้มะเร็งพวกนี้มันสลายไปได้ คำถามต่อมานะครับเฮ้ยแล้วเราต้องอดอาหาร
00:10:45 → 00:10:50 นานเท่าไหร่ล่ะนะครับปัจจุบันนะครับจาก งานวิจัยผมจะแนบงานวิจัยท่านไปอ่านนะครับ
00:10:50 → 00:10:54 มันมีงานเขียนอันหนึ่งซึ่งรวบรวมความคิด เกี่ยวข้องกับงานวิจัยเรื่องนี้ไว้ทั้ง
00:10:54 → 00:10:58 หมดซึ่งผมเห็นว่าเออมันอาจจะเข้าใจง่าย มากสำหรับท่านนะครับท่านอ่านอันนี้ก่อน
00:10:58 → 00:11:05 แล้วถ้ายังสงสัยสามารถลองไปดูบทความอ้าง อิงซึ่งเอกสารชิ้นนี้อ้างอิงได้ไปดูงาน
00:11:05 → 00:11:10 วิจัยแต่ละอย่างที่เขาอ้างอิงไว้ผมว่ามัน ดีหลายๆงานเลยทีเดียวนะครับสิ่งที่เกิด
00:11:10 → 00:11:16 ขึ้นนะครับเขาจะต้องทำการทำ intermittent fasting เนี่ยอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
00:11:16 → 00:11:23 ถึงจะมีผลต่อมะเร็งที่กำลังเป็นอยู่ในขณะ นี้นะครับอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
00:11:23 → 00:11:27 ทีนี้มันมีการทดลองกับในหนูนะครับที่เป็น มะเร็ง
00:11:27 → 00:11:34 ก็พบว่าเขาเทียบเลยหนูที่ให้กินอาหารปกติ หนูทำ intermittent fasting 48 ชั่วโมงนะ
00:11:34 → 00:11:40 ครับกับไม่รักษาอะไรเลยนะครับดูซิว่ามัน มีความแตกต่างไปอย่างไรบ้างนะครับแล้วก็
00:11:40 → 00:11:46 แบบให้เคมีบำบัดอีกแบบหนึ่งคือเอาทั้ง เคมีบำบัดและ intermittent fasting มารวม
00:11:46 → 00:11:51 กันรวมเกิดอะไรขึ้น อย่างนี้เลยผลที่ได้มันก็คือถ้าไม่ทำอะไร
00:11:51 → 00:11:55 เลยอัตราการตายเนี่ยมันสูงที่สุดนะครับ จากมะเร็ง
00:11:55 → 00:12:02 ถ้าทำเคมีบำบัด หรือทำเองอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
00:12:02 → 00:12:09 นะครับมันได้ผลเหมือนกัน แต่มันได้ผลเหมือนกันแปลว่าอะไรเรารู้ว่า
00:12:09 → 00:12:15 เคมีบำบัดนั้นไม่สามารถทำให้มะเร็งมันหาย ไปได้ครับหนูมันก็ยังตายอยู่ดีนะครับแต่
00:12:15 → 00:12:20 มันตายน้อยลงกว่าแบบไม่ให้เคมีบำบัดที่ น่าตื่นเต้นมากไปกว่านั้นก็คือถ้าเราทำ
00:12:20 → 00:12:28 intermittent fasting มันได้ผลเหมือนเคมีบำบัดเลย นะครับแต่ต้องเน้นย้ำไว้นะครับแต่มันไม่
00:12:28 → 00:12:32 ได้ทำให้มะเร็งหายไป มันไม่หายนะครับแต่มัน ลดลง
00:12:32 → 00:12:37 อันที่น่าตื่นเต้นมากที่สุดคือทางเลือก ที่ 3 ครับการทำ intermittent fasting
00:12:37 → 00:12:43 ร่วมกับการให้เคมีบำบัด สิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือผลที่ได้เนี่ยมันดีที่สุดในบรรดา
00:12:43 → 00:12:50 ทั้ง 3 วิธีเลยครับทั้ง 3 วิธีทีนี้งาน ตัวนี้นะครับก็มีลองไปทำในคนที่มันจะเกิด
00:12:50 → 00:12:56 อะไรขึ้นอย่างที่เมื่อกี้บอกมันมีการตอบ สนองที่แตกต่างกันไประหว่างเซลล์ปกติและ
00:12:56 → 00:13:03 เซลล์มะเร็งต่อภาวะความเครียดจากการอด อาหารนะครับเขาพบว่าในคนเนี่ยนะครับถ้า
00:13:03 → 00:13:08 เราทำแบบนี้ intermittent fasting อย่าง น้อย 48 ชั่วโมงนะครับงานบางงานเนี่ยก็
00:13:08 → 00:13:16 ต้องทำ 60 ชั่วโมงบางงานทำ 60 ชั่วโมงก็ คือทำในช่วงแรกเนี่ยอาจจะทำ 36 ชั่วโมง
00:13:16 → 00:13:21 ก่อนให้ทีมเคมีและให้เคมีไปแล้วหลังจาก นั้นเนี่ยทำต่ออีก 24 ชั่วโมงอย่างเงี้ย
00:13:21 → 00:13:28 รวมก็เป็น 60 ชั่วโมงนะครับก็พบว่าการทำ แบบนี้นะครับ 1 มันทำให้คนไข้เนี่ยไม่
00:13:28 → 00:13:34 ค่อยมีผลข้างเคียงจากเคมีบำบัดเช่นอาการ คลื่นไส้อาเจียนนะครับอ่อนเพลียพวกนี้ลด
00:13:34 → 00:13:42 ลงลดลงนะครับเพราะพบว่าแบบนี้แล้วก็ไอ้ ตัวผลการรักษามะเร็งเนี่ยบางครั้งมันดี
00:13:42 → 00:13:48 ขึ้นเนี่ยพอมีเหตุผลแบบนี้ก็เลยขึ้นมาถึง ว่าเฮ้ยอย่างนี้ intermittent fasting
00:13:48 → 00:13:53 ทำอย่างน้อย 48 ชั่วโมงน่าจะเป็นการกระทำ ร่วมไปกับการรักษาแผนปัจจุบันด้วยการทำ
00:13:53 → 00:13:58 เคมีบำบัดแบบนี้มันจะทำให้มะเร็งมันดี ขึ้นได้สิถูกไหมครับถูกครับอันนี้เป็น
00:13:58 → 00:14:03 ส่วนหนึ่งเท่านั้นแต่มันก็มีการทดลองไม่ ได้ทุกมะเร็งนะครับที่จะทำแบบนี้ได้นะฮะ
00:14:03 → 00:14:09 เขามีการทดลองทีละมะเร็งไปเรื่อยๆมะเร็ง ที่มีหลักฐานพวกนี้นะครับที่ผมเป็นคนเจอ
00:14:09 → 00:14:14 มาก็คือมีมะเร็งเต้านมมะเร็งรังไข่มะเร็ง ลำไส้ใหญ่มะเร็งปอดมะเร็งต่อมลูกหมากนะ
00:14:14 → 00:14:19 ครับเอ่อ leukemia รู้สึกว่าจะมีเหมือนกัน นะครับนี่คือคร่าวๆที่ Intermittent fasting น่า
00:14:19 → 00:14:23 จะมีประโยชน์ ปัญหาที่ตามมาเลยครับเกี่ยวข้องกับ intermittent fasting
00:14:23 → 00:14:30 เราอดอาหารนาน 48 ชั่วโมง แล้วจะไหวเหรอ
00:15:29 → 00:15:35 มันไม่มีปัญหาอะไรหรอกมีครับงานทดลองที่ เขาทำเนี่ยเขาไม่ได้ทำกับคนที่ขาดสาร
00:15:35 → 00:15:37 อาหารสักคนเลยนะครับ
00:15:38 → 00:15:46 แล้วทีนี้มันก็มีคำถามสิครับว่า เออแล้วมันจะมีอาหารประเภทไหนไหมที่
00:15:46 → 00:15:51 เลียนแบบ intermittent fasting แต่เรา ยังน้อยเรายังได้กินอยู่
00:15:51 → 00:15:56 มีไหมครับมีครับแล้วเดี๋ยววันนี้เราจะไล่ ให้อาหารเป็นรายๆไปเลยนะครับว่าอาหารแบบ
00:15:56 → 00:16:01 ไหนมันทำได้ทำไม่ได้อย่างไรนะครับมีคนไทย อีกอย่างหนึ่งซึ่งสำคัญเกี่ยวข้องกับ
00:16:01 → 00:16:06 เซลล์มะเร็งซึ่ง intermittent fasting มันจะ ไปยับยั้งตรงนี้ก็คือกระบวนการกระตุ้นสาร
00:16:06 → 00:16:12 ตัวหนึ่งซึ่งเรียกว่า IGF -1 นะครับ Insulin-like growth factor -1 นะ
00:16:12 → 00:16:16 ครับตัวนี้เนี่ยมันจะทำให้มะเร็งโตขึ้น แล้วที่สำคัญคือมันก็ทำให้กล้ามเนื้อของ
00:16:16 → 00:16:21 เราโตด้วยถ้าเราขาดสารตัวนี้กล้ามเนื้อ มันอาจจะฝ่อเหี่ยวลงแต่มะเร็งก็อาจจะฝ่อ
00:16:21 → 00:16:27 เหี่ยวลงด้วยนะครับตรงนี้สำคัญทีนี้เออ แล้วอาหารอะไรล่ะที่สามารถทำไปแบบนั้นได้
00:16:27 → 00:16:32 เราต้องคิดก่อนเวลาที่เราอดอาหารหรือทำ Intermittent fasting สิ่งที่เกิดขึ้น
00:16:32 → 00:16:38 กับร่างกายเราคืออะไร 1 กลูโคสหรือน้ำตาล เราตกลงคีโตนเราเพิ่มขึ้น
00:16:38 → 00:16:45 Intermittent fasting ก็ยังทำให้ IGF-1
00:16:50 → 00:16:58 Intermittent fasting สามารถทำให้ IGF-1 เนี่ยลดลงนะครับ แล้วนี่ล่ะครับที่เราต้องการนะครับคือ
00:16:58 → 00:17:07 น้ำตาลลดลง IGF-1 ลดลงแล้วก็คีโตนเพิ่มขึ้น ที่สำคัญคือพลังงานที่ได้ลดลงเราต้องการ
00:17:07 → 00:17:12 อาหารแบบนี้อาหารอะไรที่ตอบโจทย์เราไล่ไป ทีละอัน
00:17:12 → 00:17:18 ดีไหมคือการจำกัดปริมาณแคลอรี่ไม่ได้สนใจ ว่าองค์ประกอบอาหารคืออะไรแต่เราต้องการ
00:17:18 → 00:17:25 ให้ตัวแคลอรี่ที่เราได้รับเนี่ยน้อยนะ ครับถามว่าทำได้ไหมไม่ได้ครับแคลอรี่น้อย
00:17:25 → 00:17:29 แต่อย่างอื่นมันไม่ได้ถ้าเราไม่ได้จำกัด อาหารไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเนี่ยสิ่งที่
00:17:29 → 00:17:34 เหลืออยู่อย่างอื่นเนี่ยมันก็ได้ผลไม่ เต็มที่นะครับกลูโคสถ้าเราจำกัดแคลอรี่
00:17:34 → 00:17:39 แล้วแคลอรี่ทั้งหมดเรากินจากกลูโคสอันนี้ ก็มะเร็งก็ไม่ได้ได้ผลแบบนั้นไปนะครับ
00:17:39 → 00:17:47 หรือถ้าเราจำกัดแคลอรี่มากๆนะครับ แคลอรี่ของเรามันได้มาจากอย่างอื่นเยอะ
00:17:47 → 00:17:50 แยะไปหมดนะครับมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรไขมัน อย่างเดียวก็ไม่ได้ช่วยอะไรเช่นกันนะครับ
00:17:50 → 00:17:57 ทีนี้การจำกัดแคลอรี่เนี่ยมันอาจจะไม่ได้ ผลละอ่ะแล้วต่อมาถ้าเรากินคีโตล่ะเออคีโต
00:17:57 → 00:18:02 เนี่ยคีโตเจนิคไดเอทมันทำให้มีปริมาณ คีโตนเข้ามาในร่างกายเราเยอะๆนะครับการ
00:18:02 → 00:18:07 สร้างคีโตนเยอะๆเอ๊ะมันก็เหมือนกับ intermittent fasting สร้างคีโตนเยอะๆถูก
00:18:07 → 00:18:13 ไหมครับแล้วปริมาณกลูโคสที่เราให้ไปก็ลด ลงเอ้ยมันก็ทำให้บุคคลลดลงถูกไหมครับมัน
00:18:13 → 00:18:19 ก็คล้ายละสิแต่ไม่ใช่ครับ ketogenic diet เนี่ยมันไม่มีการกำหนดพลัง
00:18:19 → 00:18:24 งานนะครับพอมันไม่มีการกำหนดพลังงานเสร็จ ปุ๊บแล้วเนี่ยถ้าให้พลังงานเข้าไปเท่า
00:18:24 → 00:18:28 ไหร่ก็ได้ผลแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นกับเซลล์ มะเร็งครับ
00:18:28 → 00:18:34 ผลของ Intermittent fasting จะไม่เกิดขึ้นกับเซลล์มะเร็งด้วยอาหาร ketogenic diet นะฮะงั้นบางคน
00:18:34 → 00:18:39 ก็บอกว่างั้นก็รวม ketogenic diet กับ intermittent fasting อันนั้นท่านจะทำ
00:18:39 → 00:18:43 แบบนั้นก็ได้นะครับแต่ปัญหาของ ketogenic Diet ก็คือมันจะไม่สามารถทำให้ท่านได้
00:18:43 → 00:18:47 รับสารอาหารครบเพียงพอนั่นก็คือเป็น ปัญหาเข้ามาอีกขั้นหนึ่งแล้วที่สำคัญคือ
00:18:47 → 00:18:52 ท่านก็ยังต้องทำ intermittent fasting อยู่นั่นแหละครับนะ
00:18:52 → 00:19:01 ถ้าไม่ใช่ 2 อาหารนี้แล้วอาหารไหนล่ะ คีโตก็ไม่ใช่ caloric restriction ก็ไม่ได้นะครับ กิน
00:19:01 → 00:19:08 carnivore diet ดีไหมกินแต่โปรตีนกินแต่เนื้อ พวกนี้คำตอบก็คือก็ไม่ดีอยู่ดีนะครับ การไม่จำกัด
00:19:08 → 00:19:13 แคลอรี่การไปสร้างการอักเสบที่ไม่จำเป็น ด้วยสารอาหารที่มันมาจากเนื้ออย่างเดียว
00:19:13 → 00:19:17 ไม่มีพืชไม่มีผักอะไรเลยนี่นะครับมันก็ ยิ่งทำให้ร่างกายมีปัญหาเข้าไปใหญ่นะครับ
00:19:17 → 00:19:23 ปัญหาก็คือ 1 พวกวิตามินเกลือแร่ทุกอย่าง พวกนี้เราได้ไม่พออยู่แล้วบางคนก็บอกว่า
00:19:23 → 00:19:28 ก็เถียงก็ไปกินเสริมสิอันนั้นท่านก็ต้อง ไปกินเสริมอีกต่อหนึ่งนะครับถูกมั้ยฮะก็
00:19:28 → 00:19:32 ต้องไปหามาเสริมอีกนั่นแหละบางคนกิน Carnivore diet ก็จะมีปัญหาอย่างอื่น
00:19:32 → 00:19:38 เช่นกรดยูริคสูงท้องผูกบางคนก็รู้สึก เพลียมากกว่าเดิมนะครับแต่บางคนไหนที่กิน
00:19:38 → 00:19:43 แล้วดีอันนั้นก็ปล่อยเขาไปนะครับแต่ว่า มันไม่ได้สามารถทำให้ร่างกายเกิด autophagy
00:19:43 → 00:19:49 ได้มันไม่ทำให้เกิด ketone body ได้มัน ไม่สามารถทำให้เซลล์มะเร็งเปลี่ยนแปลงจาก
00:19:49 → 00:19:55 การใช้กลูโคสที่ไม่ใช้ออกซิเจนมาใช้ ออกซิเจนแบบเซลล์ปกติได้มันไม่สามารถทำ
00:19:55 → 00:20:02 ให้เกิดแบบนั้นได้เลยสักอย่างนะครับดัง นั้น Carnivore diet เนี่ยก็ไม่ใช่สิ่ง
00:20:02 → 00:20:10 ที่จะมาตอบโจทย์ละมาถึงสุดท้ายเลย สารอาหารอย่างหนึ่งซึ่งเราเรียกว่า FMD
00:20:10 → 00:20:19 นะครับ Fasting mimicking diet คืออาหารกลุ่มหนึ่ง เลยที่เลียนแบบทุกอย่างของ Intermittent fasting
00:20:19 → 00:20:27 คือ FMD นะครับ FMD คืออะไร มันคืออาหารที่มีการจำกัดปริมาณแคลอรี่นะ
00:20:27 → 00:20:31 ครับ มีหลากหลายสูตรแต่ส่วนใหญ่แล้วนะครับ
00:20:31 → 00:20:39 แคลอรี่ต่อวันจะไม่เกิน 1000 แคลอรี่จาก ไม่เกิน 1,000 แคลอรี่นะครับหรือพันกิโล
00:20:39 → 00:20:42 แคลอรี่บางคนจะเรียกแคลอรี่บางคนเรียก กิโลแคลอรี่จะเรียกแบบไหนก็ได้นะครับให้
00:20:42 → 00:20:48 เราเข้าใจตรงกันแล้วกัน มันจะเน้นไปที่
00:20:48 → 00:20:55 อาหารที่มาจากพืชผักเป็นหลักนะครับจากพืช ผักเป็นหลักเลยนะฮะพืชผักเยอะมากๆและจะมี
00:20:55 → 00:21:05 คาร์โบไฮเดรตและโปรตีนต่ำ คาร์โบไฮเดรตโปรตีนต่ำนะครับไขมันสูงแต่
00:21:05 → 00:21:10 จะเป็นไขมันตัวดีเสมอร่วมกับอาหารจากพืช ผักเยอะ
00:21:10 → 00:21:13 และที่สำคัญท่านไม่ต้องกินแบบนี้ทุกวัน ครับ
00:21:13 → 00:21:22 งานทดลองมีแล้วกิน 5 วันต่อเดือนได้ผล ครับ 5 วันต่อเดือนเท่านั้นเอง 5 วันติด
00:21:22 → 00:21:29 ต่อกันแล้วที่สำคัญคือถ้าท่านทำ 5 วันแบบ นี้มันไม่ได้แปลว่าร่างกายของท่านขาดพลัง
00:21:29 → 00:21:32 งานนะครับท่านไม่ต้องทำ intermittent fasting ทำอย่างได้พลังงานวันละ 1,000
00:21:32 → 00:21:39 กิโลแคลอรี่อยู่ยังได้สารอาหารครบอยู่ยัง ได้ทุกๆอย่างที่ควรจะได้อยู่แล้วมันไม่
00:21:39 → 00:21:45 ได้ทำไปตลอดชีวิตเพราะฉะนั้นเรื่องของการ ที่ไม่ต้องทำไปตลอดชีวิตเนี่ยมันทำให้ทุก
00:21:45 → 00:21:51 อย่างทำได้ง่ายขึ้นแล้วถูกไหมครับแล้วคน ที่จะทำคีโมเนี่ยนะครับทั้งกระทำแบบนี้
00:21:51 → 00:21:56 แค่นี้เลยนะครับไม่ต้องอดอาหารไม่ต้อง อะไรนะครับถ้าเกิดคนไหนทำ intermittent fasting
00:21:56 → 00:22:01 ร่วมไปด้วยได้ในช่วงที่จะทำก่อนทำคีโม กำลังทำคีโมอันนั้นท่านอาจจะได้ประโยชน์
00:22:01 → 00:22:06 สูงที่สุดแต่ถ้าท่านทำไม่ได้วิธีหนึ่ง ซึ่งมันได้ผลเหมือนกันเปี๊ยะเลยก็คือไอ้
00:22:06 → 00:22:11 นี่แหละครับอ่าแล้วอาหารแบบนี้ท่านไม่ ต้องซื้อนะครับนะครับท่านทำของท่านเองก็
00:22:11 → 00:22:19 ได้นะครับท่านก็ไปหาเลยว่าโอ้เราต้องกิน คาร์โบไฮเดรตต่ำนะครับเราต้องกินโปรตีน
00:22:19 → 00:22:24 ต่ำนะครับโปรตีนต่ำนี้มันเหตุผลเพราะอะไร เพราะว่าโปรตีนถ้ามันโปรตีนที่มันมาจาก
00:22:24 → 00:22:30 สัตว์เยอะเนี่ยมันจะมีกรดเมนูจำเป็นซึ่ง สามารถกระตุ้นการสร้าง IGF-1 ได้นะครับแต่
00:22:30 → 00:22:35 เราไม่ต้องการนะครับเราไม่ต้องการเพราะ ว่า IGF-1 แบบกระตุ้นมะเร็งได้เราไม่
00:22:35 → 00:22:40 ต้องการเราก็ต้องตัดโปรตีนตรงนี้ลงไปนะ ครับแล้วก็เพิ่มพวกผักผลไม้อะไรพวกนี้
00:22:40 → 00:22:45 เยอะๆเข้าไปผักผลไม้นี่ไม่ต้องกลัวนะครับ เพราะว่าบางคนกลัวว่าเอ๊ยผลไม้มันจะมี
00:22:45 → 00:22:49 กลูโคสมีอะไรเยอะเกินหรือเปล่านะครับถ้า ท่านทานไปทั้งอันเนี่ยยังโอเคอยู่นะครับ
00:22:49 → 00:22:54 แต่ก็ไม่ใช่ว่าโอ้โหเราขอเอ่อสับปะรดมัน ทั้งลูกแตงโมทั้งลูกอะไรอย่างงี้อันนั้น
00:22:54 → 00:22:57 ก็ไม่ได้ก็เยอะเกินไปท่านก็ควรจะรู้อยู่ แล้วนะครับว่าอะไรมันเยอะอะไรมันน้อยเกิน
00:22:57 → 00:23:03 ๆไปเราก็ต้องคำนวณปริมาณพลังงานแคลอรี่ ต่ำๆด้วยนะครับทำแบบนี้แค่ 5 วันต่อเดือน
00:23:03 → 00:23:10 ได้ผลไม่ต้องไปหาสูตรที่ไหนนะครับไม่ต้อง ไปซื้ออาหารแปลกประหลาดที่ไหนนะครับ
00:23:10 → 00:23:14 ไม่ต้องไปทำตามใครท่านทำของท่านเองก็ได้ นะครับไม่ต้องเสียเงินซื้ออะไรที่มันแปลก
00:23:14 → 00:23:19 ๆมานะครับโอเคแต่ถ้าท่านมีเงินแล้วท่าน อยากจะไปหาซื้อ FMD เนี่ยมันก็มีนะครับ
00:23:19 → 00:23:24 ที่อเมริกานี้ก็มีขายนะครับคนเขาก็ทำขาย กันแต่ผมก็จะไม่โฆษณาให้ใครทั้งคนนะครับ
00:23:24 → 00:23:29 ก็แล้วแต่ท่านนะท่านมีเงินท่านก็ทำถ้า ท่านไม่มีเงินท่านทำเองก็ได้นะครับมันไม่
00:23:29 → 00:23:34 ได้ลำบากยากเย็นอะไรแล้วมันก็ไม่ได้ทำไป ตลอดนะครับพอมันไม่ต้องทำไปตลอดเนี่ยสิ่ง
00:23:34 → 00:23:41 ที่ได้ผลอย่างหนึ่งก็คือพอท่านหมดช่วงนี้ ปุ๊บท่านกินปกติได้เออกินปกติแล้วมันได้
00:23:41 → 00:23:46 อะไรขึ้นมาก็เสริมสร้างร่างกายกล้ามเนื้อ แล้วก็ภาวะทุพโภชนาการทั้งหมดดังนั้น
00:23:46 → 00:23:50 อาหาร FMD เนี่ยมันตอบโจทย์แบบแทบจะทุก อย่างเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งเลยนะครับ
00:23:50 → 00:23:55 แล้วนอกเหนือจากนี้มันไม่ได้แค่ตอบโจทย์ เรื่องโลกมะเร็งนะครับถ้าท่านไปดูงาน
00:23:55 → 00:24:00 วิจัยซึ่งมีผลแปะไว้ให้เนี่ยหลายๆอย่างนะ ครับก็จะเจอว่า
00:24:00 → 00:24:06 ถ้ากลูโคสหรือน้ำตาลกลูโคสในร่างกายของ ท่านจะต่ำลงมันชั่วเรื่องเบาหวานนะครับไข
00:24:06 → 00:24:12 มันรอบกลุ่มมันลดลงนะครับไขมันในเส้น เลือดก็ลดลงความดันโลหิตก็ลดลงน้ำหนักก็
00:24:12 → 00:24:19 ดีขึ้นนะครับดีขึ้นทุกอย่างมะเร็งมันก็ดี ขึ้นได้ด้วยครับแต่อย่างไรก็ตามต้องเน้น
00:24:19 → 00:24:25 ย้ำจุดจุดนี้เลยนะครับไม่มีอาหารในโลกแบบ ไหนรวมทั้ง intermittent fasting ด้วยที่
00:24:25 → 00:24:32 สามารถทำให้มะเร็งมันหายไปได้ด้วยอาหาร อย่างเดียวไม่มีนะครับไม่มีมันจะต้องทำ
00:24:32 → 00:24:40 ร่วมกับการรักษาแบบปกติการผ่าตัดการให้ เคมีบำบัดอีกอย่างหนึ่งนะครับสำหรับคนที่
00:24:40 → 00:24:45 ต้องการผ่าตัดเราต้องรู้ก่อนว่ามะเร็งบาง อย่างเนี่ยมันใช้พลังงานของร่างกายเรา
00:24:45 → 00:24:50 เยอะถ้าเราไปผ่าตอนที่เรากำลังทุก โภชนาการขาดสารอาหารเนี่ยเราจะไม่มีโอกาส
00:24:50 → 00:24:56 ที่จะฟื้นตัวจากการผ่าตัดอันนั้นได้ดัง นั้นเนี่ยคนที่เชื่อใน intermittent
00:24:56 → 00:25:01 fasting การหยุดอาหารนานๆเพื่อที่จะให้ แมลงมันต่อมันตายไปในคนที่ต้องผ่าตัดทำ
00:25:01 → 00:25:04 ไม่ได้นะครับแล้วไอ้มะเร็งถ้ามันใหญ่ขนาด นั้นจำเป็นต้องผ่าตัดเนี่ยการไปอดอาหาร
00:25:04 → 00:25:10 นานๆท่านอาจจะเสียชีวิตก่อนที่มะเร็งมัน จะเสียชีวิตนะครับตัวท่านเองนั้นอาจเสีย
00:25:10 → 00:25:14 ชีวิตดังนั้นเนี่ยถ้าต้องผ่าตัดสิ่งที่ ควรจะต้องทำก็คือทำให้ร่างกายเราเนี่ยมี
00:25:14 → 00:25:21 สารอาหารมากที่สุดนะครับมีพลังงานมากที่ สุดนะครับพลังงานแน่นอนเข้าไปในร่างกาย
00:25:21 → 00:25:24 มันจะต้องโดนเซลล์มะเร็งใช้ไปเยอะแต่ เซลล์ปกติมันก็ต้องการพลังงานเหมือนกัน
00:25:24 → 00:25:30 ดังนั้นเราต้องกินเข้าไปนะครับพอเราภาวะ โภชนาการดีหลังจากนั้นเราผ่าตัดนะครับผ่า
00:25:30 → 00:25:34 ตัดเสร็จหลังจากผ่าเราต้องฟื้นตัวพอฟื้น ตัวเสร็จปุ๊บแล้วเขาอาจจะให้เคมีบำบัดตอน
00:25:34 → 00:25:41 ช่วงที่ให้เคมีบำบัดในระดับท่านทำ FMD ไป เลยเดือนละ 5 เดือนละ 5 วันอ่าไม่ได้ไม่
00:25:41 → 00:25:45 ต้องทำทุกวันนะครับเพราะถ้าทำทุกวันอัน นั้นก็ไม่ดีเหมือนกันเพราะว่าอะไรมันเป็น
00:25:45 → 00:25:50 การจำกัดปริมาณแคลอรี่นะครับแคลอรี่ของ ท่านก็จะต่ำนะครับดังนั้นก็มีปัญหาอีกเรา
00:25:50 → 00:25:54 ไม่ต้องการให้แคลอรี่เราต่ำไปตลอดเรา ต้องการให้มันมีช่วงที่เราต้องการอ่า
00:25:54 → 00:26:01 เสริมกันเลยที่เข้าไปในร่างกายด้วยนะครับ ดังนั้นเนี่ยถ้าเล่ามาให้ถึงปัจจุบันจุด
00:26:01 → 00:26:06 นี้นะครับจริงๆมันมีอาหารอีกหลากหลาย ประเภทเลยที่คนเขากินกันเช่น vertical
00:26:06 → 00:26:12 Diet นะครับ Paleo diet นะครับหรือ Atkins อะไรก็แล้วแต่ Diet นะครับแต่ว่า Diet ตัว
00:26:12 → 00:26:19 ที่มันได้ผลในกรณีที่เลียนแบบ fasting หรือการอดอาหารแต่มันยังให้คุณค่าและผล
00:26:19 → 00:26:24 ประโยชน์ต่อร่างกายรวมทั้งมันไม่ได้สุด โต่งจนเกินไปมันยังสามารถทำไปได้ตลอด
00:26:24 → 00:26:30 ชีวิตเพราะมันแค่ 5 วันต่อเดือนก็คือ FMD นั่นแหละครับเท่าที่ผมอ่านหลักฐานมานะ
00:26:30 → 00:26:34 ครับ เพราะฉะนั้นโดยสรุปนะครับถ้าเราทำการอด
00:26:34 → 00:26:39 อาหารหรือ intermittent fasting ผลที่ ได้ก็คือเซลล์ปกติของเรามันจะหันมาซ่อม
00:26:39 → 00:26:45 แซมตัวเองนะครับแล้วก็มีความทนทานต่อเคมี บำบัดสูงขึ้นในขณะที่เซลล์มะเร็งนั้นมัน
00:26:45 → 00:26:51 ตัวมันเองเนี่ยจะไวต่อเคมีบำบัดเพิ่มขึ้น มันจะขาดสารอาหารหลายๆอย่างที่มันต้องการ
00:26:51 → 00:26:57 นะครับเกิดภาวะแอนตี้ไวน์เบิร์กเอฟเฟคก็ คือมันจำเป็นจะต้องหันหนีการสร้างกลูโคส
00:26:57 → 00:27:02 ไปสร้างด้วยวิธีปกติถ้าทำให้เกิดอนุมูล อิสระขึ้นมาทำลายตัวเองมีสาร caspase สูง
00:27:02 → 00:27:09 ขึ้นได้สาร IGF-1 น้อยลงเซลล์มันก็จะไม่โต นะครับอ่าแล้วก็มีเซลล์ macrophage ชนิด
00:27:09 → 00:27:16 M2 มาจัดการกับตัวมันเองเพิ่มมากขึ้น พวกนี้มีหลากหลายอย่างเลยที่จัดการกับ
00:27:16 → 00:27:21 เซลล์มะเร็งได้นะครับดังนั้นถ้าเราทำ intermittent fasting ถ้าเราจะทำอย่างน้อย
00:27:21 → 00:27:28 ก็ต้อง 48 ชั่วโมงกินได้แต่น้ำเปล่าอย่าง เดียวนะครับอ่าก่อนคีโมนะครับอย่างนี้ถึง
00:27:28 → 00:27:33 จะช่วยได้แล้วทำไปนานเท่าไหร่หลังจากนั้น ถ้าท่านไม่ได้อยู่ในช่วงให้คีโมอันนี้ก็
00:27:33 → 00:27:37 ตอบไม่ได้นะครับแต่ว่าอาหารชนิดหนึ่งซึ่ง สามารถนำมาทดแทนตรงนี้ได้ทำให้ท่านสามารถ
00:27:37 → 00:27:44 กินได้ก็คืออาหารแบบ FMD นะครับคือ Fasting mimicking diet เราจำกัดปริมาณ
00:27:44 → 00:27:50 แคลอรี่อยู่ที่ 1,000 แคลอรี่เอ่อ 1,000 กมแคลอรี่ต่อวันนะครับทาน 5 วันในปริมาณ
00:27:50 → 00:27:55 ที่เราทานนั้นมีผักเป็นส่วนใหญ่นะครับอาจ จะมีชามีกาแฟอะไรพวกนี้ได้บ้างนะครับแต่
00:27:55 → 00:28:03 ว่าให้คาร์โบไฮเดรตและโปรตีนต่ำไขมันสูง แต่เป็นไขมันที่ดีมาจากไขมันเอ่อพวกพืช
00:28:03 → 00:28:09 พวกอะไรพวกเนี้ยนะครับอ่าเป็นพวกอะโวคาโด พวกนี้ก็ได้ไขมันที่มาจากถั่วบางอย่างงี้
00:28:09 → 00:28:14 ก็ได้เหมือนกันนะครับอ่า MCT oil อะไร พวกนี้ก็ช่วยได้นะครับก็เอามาเป็นตัว
00:28:14 → 00:28:19 เสริมเป็นพลังงานหลักๆเพราะว่ามาจากให้ พลังงานหลักกับของ FMD เนี่ยมาจากไขมันที่
00:28:19 → 00:28:24 ดีนะครับโอเควันนี้ก็เท่านี้ละกันนะครับ ใครมีอะไรสงสัยก็สอบถามกันได้นะครับ
00:28:24 → 00:28:27 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ