ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไหนเพื่อป้องกันจอประสาทตาเสื่อม

[PODCAST] Food Choice | EP.20 - อาหารชะลอจอประสาทตาเสื่อม

จากช่อง : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 [เสียงดนตรี]

00:00:0300:00:06 You're listening to Mahidol Channel Podcast.

00:00:0600:00:08 Listen for a better life.

00:00:0800:00:11 ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

00:00:1100:00:14 และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel

00:00:1400:00:16 โดย มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:1600:00:22 [เสียงดนตรี]

00:00:2200:00:24 วันนี้คุณกินอะไร

00:00:2400:00:29 อาหารที่คุณกินจะส่งผลดี ส่งผลเสีย กับสุขภาพของคุณอย่างไร

00:00:2900:00:31 วันนี้หมอจะชวนทุกคนมาพูดคุย

00:00:3100:00:35 เกี่ยวกับรูปแบบของการกินอาหาร ที่ปลอดภัยกับสุขภาพของเรา

00:00:3500:00:40 กับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋

00:00:4000:00:42 แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:00:4200:00:46 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:4600:00:49 [เสียงดนตรี]

00:00:4900:00:54 สำหรับวันนี้ เราจะมาคุยกันในเรื่องของ อาหารชะลอจอประสาทตาเสื่อม

00:00:5400:00:57 โรคนี้ใช่ไหมคะ ก็ได้ยินกันบ่อย ๆ เนอะ

00:00:5700:01:00 ดวงตาเป็นสิ่งที่สำคัญ

00:01:0000:01:03 ไม่มีใครอยากจะสูญเสียการมองเห็นนะคะ

00:01:0300:01:04 เรามองไม่ชัด เราก็แย่แล้ว

00:01:0400:01:08 แต่ทีนี้ถ้าบางคนมีปัญหาเรื่องสุขภาพตาด้วย

00:01:0800:01:10 เราก็มาดูกันว่าเราจะทำอย่างไรดี

00:01:1100:01:13 ปัจจัยที่จะทำให้ตาเรามีปัญหานะคะ

00:01:1400:01:17 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันนี้เราจะคุยกันที่จอประสาทตาเสื่อม

00:01:1700:01:19 ทำไมมันถึงเสื่อม หนึ่ง อายุเลย

00:01:1900:01:21 สาว ๆ หนุ่ม ๆ ก็ไม่ค่อยมีปัญหาหรอก

00:01:2100:01:23 แต่พออายุเยอะขึ้นก็เริ่มมีปัญหาแล้ว

00:01:2300:01:28 อันที่ 2 ค่ะ ปัจจัยภายนอก เช่น แสง โดยเฉพาะ UV ที่เข้ามานะคะ

00:01:2800:01:32 ก็อาจจะมีผลที่จะทำให้เกิดปัญหาได้นะคะ

00:01:3200:01:35 นอกเหนือจากเรื่องของแสงอาทิตย์นะคะ

00:01:3500:01:39 ที่จะเป็น UV ที่จะเข้ามาตกกระทบตาเรา แล้วทำให้เกิดปัญหาแล้วนี่

00:01:3900:01:42 ไม่ว่าจะเป็นแสงที่มันจะมาจากสปอตไลต์

00:01:4200:01:45 เช่น คนที่ทำงาน แล้วต้องมีการใช้แสงตลอดเวลา

00:01:4500:01:48 หรือว่าแสงจากจอโทรศัพท์

00:01:4800:01:50 หรือว่าจากจอทีวี

00:01:5000:01:53 แสงจากจอคอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งหน้าจอโทรศัพท์

00:01:5300:01:55 ที่เราดูกันเป็นระยะเวลายาวนาน

00:01:5500:01:59 ก็อาจจะทำให้มีปัญหากับเรื่องของ สายตาเราได้เช่นกัน

00:01:5900:02:01 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกล้ามเนื้อตาล้า

00:02:0100:02:04 หรือในระยะยาวอาจจะมีผลกับ เรื่องของจอประสาทตาเสื่อมด้วย

00:02:0400:02:07 เช่นเดียวกันกับเรื่องของแสงอาทิตย์นะคะ

00:02:0700:02:13 เพราะฉะนั้นอันนี้ก็จะเป็นอันหนึ่งที่จะเป็น ปัจจัยที่จะทำให้สายตาเราแย่เร็วขึ้น

00:02:1300:02:16 นอกจากนั้นค่ะ ในเรื่องของไลฟ์สไตล์นี่

00:02:1600:02:17 นอกเหนือจากเรื่องของแสงแล้วนี่

00:02:1700:02:19 การสูบบุหรี่นะคะ

00:02:1900:02:21 หรือว่าเรื่องของอาหารการกินที่เรากิน

00:02:2100:02:26 ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ จอประสาทตาเราเสื่อมได้เร็วขึ้นนะคะ

00:02:2600:02:31 เพราะฉะนั้น วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องของ อาหารที่ช่วยบำรุงสายตา

00:02:3100:02:34 หรือชะลอเรื่องของจอประสาทตาเสื่อมกันค่ะ

00:02:3400:02:39 [เสียงดนตรี]

00:02:3900:02:44 ในกรณีของคนที่มีปัญหา โดยเฉพาะ เรื่องของวิตามินที่เราเคยได้ยินบ่อย ๆ

00:02:4400:02:49 ยกตัวอย่างเช่น เราบอกว่าวิตามินเอ ตา อันนี้เราเรียนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมใช่ไหมคะ

00:02:4900:02:54 เอ ตา คืออะไร เพราะว่าในเซลล์ที่ทำหน้าที่ ช่วยในเรื่องของการมองเห็นของเรานี่

00:02:5500:02:57 มันจำเป็นต้องอาศัยวิตามินเอนะคะ

00:02:5700:03:00 แล้วมันจะถูกกระตุ้นด้วยการที่มีแสง

00:03:0000:03:02 เพราะฉะนั้น พอมีแสงปุ๊บ เรามองเห็นใช่ไหมคะ

00:03:0300:03:05 ถ้าวิตามินเอมันไม่พอหรือมันไม่ดีนี่

00:03:0500:03:07 อันแรกที่จะโดนกระทบเลยก็คือ

00:03:0700:03:11 เราจะมองไม่เห็นตอนที่แสงมันลดลงนะคะ

00:03:1100:03:15 ดังนั้นนี่ บางคนก็จะเรียกว่า ตาบอดฟางบ้างล่ะ หรือว่ามืดลงบ้างล่ะ

00:03:1500:03:19 อันนี้ให้เราสงสัยไว้ก่อนเลยว่า มันจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มของตัววิตามินเอ

00:03:1900:03:25 หรือว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องของเซลล์ ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องของการมองเห็น

00:03:2500:03:28 ดังนั้นนี่ อันนี้ก็จะบอกว่าโดยทั่วไป เวลาที่จะมีปัญหานี่ในที่มืด

00:03:2800:03:30 หรือว่าในที่ที่แสงไม่เพียงพอ

00:03:3000:03:34 กลุ่มนี้จะมองเห็นได้ลดลงนะคะ หรือจะมีปัญหาก่อนนะคะ

00:03:3500:03:38 ถ้าเกิดเป็นที่ที่แสงสว่างเพียงพอ อาจจะยังไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่

00:03:3800:03:40 แต่พอเริ่มแบบ…ตกค่ำขึ้นมา

00:03:4000:03:43 อาจจะเริ่มมองไม่ค่อยเห็น หรือว่ามองเห็นภาพที่ลดลง

00:03:4400:03:47 อันนี้ให้สงสัยไว้ก่อนเลยนะคะ ว่าจะมีปัญหาในเรื่องของวิตามินเอค่ะ

00:03:4700:03:51 ในเรื่องของจอประสาทตาเสื่อม เราก็ได้ยินบ่อย ๆ นะคะ

00:03:5100:03:54 ชื่อมันตรงไปตรงมาเนอะ มันเป็นความเสื่อมใช่ไหมคะ

00:03:5400:03:56 แล้วก็เกิดขึ้นที่จอประสาทตา

00:03:5600:04:00 ทีนี้ตัวจอประสาทตานี่ เวลาเรามองภาพ ให้นึกภาพเนอะ

00:04:0000:04:02 มันคือ Center หรือมันคือจุดกึ่งกลาง

00:04:0200:04:04 เวลาเราเห็นภาพปุ๊บนี่

00:04:0400:04:07 ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีปัญหา ยกตัวอย่างเช่น

00:04:0700:04:09 ภาพที่เห็นตรงกลางมันเริ่มไม่ชัด

00:04:0900:04:13 เส้นที่เคยเป็นเส้นตรงนี่ ตรงกลางมันเริ่มเบี้ยว เริ่มเบลอ

00:04:1300:04:16 เริ่มมีจุดดำ หรือมีความผิดปกติ

00:04:1600:04:20 ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่ตรงบริเวณตรงกลางนะคะ

00:04:2000:04:24 โดยที่ขอบด้านนอก รอบ ๆ นี่ยังเห็นชัดอยู่

00:04:2400:04:27 หลายคนสมมุติว่าสายตาสั้น สายตายาว มันก็ไม่ชัดใช่ไหมคะ

00:04:2700:04:30 แล้วก็จะถามตัวเองว่า เอ๊ะ ฉันจอประสาทตาเสื่อมหรือเปล่า

00:04:3100:04:34 เวลาที่เราจะสงสัยว่า จะมีปัญหาเรื่องจอประสาทตาเสื่อมนี่

00:04:3400:04:38 มันไม่ได้มืด มันไม่ใช่ตาบอด ไม่ใช่แบบมองไม่เห็นไปเลยทีเดียว

00:04:3900:04:41 แต่ลักษณะของการมองเห็นน่ะค่ะ

00:04:4100:04:42 มันจะผิดปกติ

00:04:4200:04:46 โดยเฉพาะตรงที่เป็น Center หรือตรงจุดกลางนะคะ

00:04:4600:04:49 เพราะฉะนั้นถ้าสมมุติเรามองภาพนี่ ตรงกลาง ๆ ดูไม่ค่อยชัด

00:04:5000:04:52 แต่ เอ๊ะ ตรงขอบ ๆ นี่ เรายังเห็นชัดอยู่

00:04:5300:04:56 อันนี้ให้เราสงสัยว่าเราอาจจะมีปัญหาแล้ว

00:04:5600:04:59 เพราะฉะนั้นเราควรจะต้องไปตรวจนะคะ

00:04:5900:05:01 แล้ววันไหนที่จะไปตรวจกับคุณหมอตาเนอะ

00:05:0100:05:02 ก็ควรจะเตรียมตัวให้พร้อม

00:05:0200:05:05 เพราะวิธีการตรวจก็คือ จะต้องถูกขยายม่านตาค่ะ

00:05:0500:05:11 เวลาถูกขยายม่านตา แล้วคุณหมอตาเขาจะ ใช้เครื่องมือที่เข้าไปดูในจอประสาทตานี่

00:05:1100:05:15 สิ่งที่จะเกิดขึ้นในเวลาที่เราถูกขยายม่านตา คือภาพเราจะดูไม่ชัด

00:05:1500:05:17 มันจะเบลอ มันจะแบบโฟกัสไม่ค่อยได้

00:05:1700:05:21 และที่สำคัญคือเจอแสงมาก ๆ นี่ มันจะแยงตามาก ๆ นะคะ

00:05:2100:05:23 เพราะฉะนั้นนี่ โดยทั่วไป เราจะบอกว่า

00:05:2300:05:27 ถ้าวันไหนที่จะไปตรวจตา โดนขยายม่านตา ไม่ควรขับรถไปเอง

00:05:2800:05:29 ถ้าจะขับรถเอง

00:05:2900:05:33 ก็แนะนำว่า ต้องรอจนกว่ายาที่ขยายม่านตา หมดฤทธิ์ก่อน

00:05:3300:05:35 แล้วถึงจะกลับมาขับรถได้นะคะ

00:05:3500:05:38 ไม่งั้นจะมีปัญหาเรื่องของแสงเวลาที่เราขับรถ

00:05:3800:05:41 ส่วนในรายละเอียดของการวินิจฉัย

00:05:4200:05:44 ขอให้เป็นคุณหมอตาดูแล้วกันนะคะ

00:05:4400:05:46 เพราะว่าอันนี้อาจจะจำเพาะไปนิดนึง

00:05:4600:05:50 แต่ถ้าสมมุติว่า คุณหมอตาเขาบอกว่า มีเรื่องของจอประสาทตาเสื่อม

00:05:5000:05:52 เวลาที่คุณหมอตาเขามองเห็น

00:05:5200:05:54 เขาวินิจฉัยว่ามีจอประสาทตาเสื่อมนี่

00:05:5500:05:57 เราจะแบ่งคร่าว ๆ ก่อนว่าเป็น 2 กลุ่มนะคะ

00:05:5700:06:00 ก็คือกลุ่มนึงเขาเรียกว่าเป็นแบบเปียก

00:06:0000:06:03 กับกลุ่มที่ 2 เราเรียกว่าเป็นแบบแห้งนะคะ

00:06:0300:06:05 เป็น Dry หรือว่าเป็น Wet ในภาษาอังกฤษนะคะ

00:06:0500:06:07 ถามว่าแบบไหนเจอเยอะกว่า

00:06:0700:06:09 Dry ค่ะ แบบแห้งเจอเยอะกว่านะคะ

00:06:0900:06:11 ถ้าเป็นแบบเปียกนี่

00:06:1100:06:14 มันจะมีการรักษา เช่น การฉีดยา หรืออะไรอย่างนี้เข้าไปด้วย

00:06:1400:06:17 เพราะฉะนั้นนี่ เวลาที่เรามีจอประสาทตาเสื่อม

00:06:1700:06:20 ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนจะต้องรักษาเหมือนกันนะคะ

00:06:2000:06:24 จอประสาทตาเสื่อมบางชนิด จะมีการรักษาเฉพาะบางอย่างนะคะ

00:06:2400:06:28 แต่ว่าจอประสาทตาเสื่อมบางชนิด ก็ไม่ได้มีการรักษาแบบนั้น

00:06:2800:06:29 เพราะฉะนั้น บางทีจะบอกว่า

00:06:2900:06:33 เอ๊ะ เรามีจอประสาทตาเสื่อม ทำไมคุณหมอคนนี้ฉีดยาให้เรา

00:06:3300:06:36 ทำไมคนไข้อีกคนนึงนี่ ก็จะเอาประสาทตาเสื่อมเหมือนกัน

00:06:3600:06:39 ทำไมคุณหมอไม่ฉีดให้ อันนี้คุณหมอไม่รักษาหรือเปล่า

00:06:3900:06:42 อันนี้ขึ้นกับชนิดของจอประสาทตาเสื่อมนะคะ

00:06:4200:06:45 ต้องบอกว่าจริง ๆ มันไม่ได้มีการรักษา ที่จำเพาะเจาะจง

00:06:4500:06:48 หรือว่าทำให้มันแบบ…หายขาดไปได้

00:06:4800:06:53 แต่ว่า ใช่ค่ะ ในกรณีของจอประสาทตาเสื่อม แบบเปียกนี่ อาจจะมีการใช้ยาบางอย่าง

00:06:5300:06:58 มีการฉีดยาเข้าไป แล้วทำให้โรคนี่มันเสื่อมช้าลง

00:06:5800:07:03 ก็จะทำให้เรารักษาสายตาเรา ให้มันยืนนานขึ้นไปกว่านี้ได้

00:07:0300:07:06 เพราะว่าเดี๋ยวถ้ามันเสื่อมไป มากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ

00:07:0600:07:08 มันก็จะมีผลกับเรื่องของการมองเห็นของเรา

00:07:0900:07:10 ในเรื่องของการใช้ชีวิตของเรา

00:07:1000:07:12 เพราะเราจะมองแล้วมันไม่ชัดเลย

00:07:1200:07:16 แล้วมันจะแบบ…เหมือนบางทีเห็นหน้าคน แล้วนึกไม่ออกว่ามันเป็นอะไร นึกออกไหมคะ

00:07:1600:07:21 สมมุติเราเห็นหน้าคน แล้วแบบปรากฏว่า เฮ้ย รายละเอียดตรงนั้นมันหายไปอะไรแบบนี้

00:07:2100:07:26 ดังนั้นนี่ ตรงนี้เราทำได้แค่ ชะลอความเสื่อมของจอประสาทตา

00:07:2600:07:29 ใครบ้างที่เสี่ยงกับ การที่จะเกิดจอประสาทตาเสื่อม

00:07:2900:07:32 อันแรกก็คือชื่อมันบอกเนอะว่าเสื่อม

00:07:3200:07:36 เพราะฉะนั้น กลุ่มที่จะเจอ ภาวะความเสื่อมในร่างกายได้เยอะกว่า

00:07:3600:07:38 ก็จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุนะคะ

00:07:3800:07:41 50 ปีขึ้นไป อันนี้ก็จะเริ่มเห็นบ่อยขึ้น

00:07:4100:07:43 ถามว่าอายุน้อยกว่านี้ได้ไหม ก็มีได้เหมือนกัน

00:07:4300:07:46 แต่ว่าอาจจะเจอไม่ได้เยอะมากนักนะคะ

00:07:4600:07:51 อันที่ 2 ในกลุ่มที่ต้องใช้ชีวิต ที่อาจจะเจอแสงเยอะ ๆ นะคะ

00:07:5100:07:53 หรือว่ากลุ่มที่สูบบุหรี่เยอะ ๆ

00:07:5400:07:57 คนที่อาจจะมีปัญหาเรื่องของหลอดเลือดนะคะ

00:07:5700:08:01 อันนี้ก็จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงเหมือนกัน กับการที่จะเกิดจอประสาทตาเสื่อม

00:08:0100:08:04 มีเรื่องของกรรมพันธุ์ เข้ามาเกี่ยวข้องบ้างเหมือนกัน

00:08:0400:08:06 แล้วก็ที่เหลือ ก็อาจจะยังไม่ได้ทราบสาเหตุชัดเจน

00:08:0600:08:08 ผู้หญิงกับผู้ชาย

00:08:0800:08:11 จริง ๆ นี่ มีคนพูดว่าผู้หญิงอาจจะเยอะกว่า

00:08:1100:08:14 แต่ว่าก็ไม่ได้จำเป็นว่า จะต้องเกิดเฉพาะในผู้หญิงนะคะ

00:08:1400:08:17 อันนี้ก็จะเป็นคร่าว ๆ เพราะว่าปัจจุบันนี้

00:08:1700:08:20 เราก็ยังไม่รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงเลยนี่ มันคืออะไร

00:08:2000:08:23 แต่ว่าเท่าที่เห็นนี่ ก็จะมีเรื่องปัจจัยเสี่ยงเนอะ

00:08:2300:08:26 ที่จะทำให้เกิดเรื่องของจอประสาทตาเสื่อมนะคะ

00:08:2600:08:29 ในแง่ของการรักษาเรื่องของจอประสาทตาเสื่อม

00:08:2900:08:32 โดยหลักการนี่ก็คือชะลอความเสื่อมเนอะ

00:08:3200:08:34 มันมีการรักษาหลายรูปแบบนะคะ

00:08:3400:08:39 แต่ว่าการรักษานี่ขึ้นกับว่า สิ่งที่คุณหมอตาเขามองเห็นในตานี่

00:08:3900:08:42 ว่าความผิดปกติที่เกิดขึ้นคืออะไรนะคะ

00:08:4200:08:45 ตัวอย่างเช่น อาจจะมีเรื่องของการฉายแสงเนอะ

00:08:4500:08:49 อาจจะมีเรื่องของการฉีดยาเข้าไป หรือมีการผ่าตัดอะไรก็แล้วแต่

00:08:4900:08:51 อย่างไรก็ตาม

00:08:5100:08:54 คนไข้แต่ละคน ที่มีปัญหาเรื่องจอประสาทตาเสื่อมนี่

00:08:5400:08:56 ในแง่ของการรักษาอาจจะแตกต่างกัน

00:08:5600:08:58 ขึ้นกับภาวะโรคที่เป็น

00:08:5800:09:03 ขึ้นกับดุลยพินิจของคุณหมอตา ว่าอันนี้มันเหมาะสมหรือเปล่านะคะ

00:09:0300:09:08 [เสียงดนตรี]

00:09:0800:09:11 ทีนี้เรามามองกันว่า ในแง่ของอาหารนี่

00:09:1100:09:14 เราจะทำอย่างไรได้บ้างนะคะ

00:09:1400:09:18 เพื่อที่จะชะลอหรือว่าป้องกัน ในเรื่องของจอประสาทตาเสื่อมค่ะ

00:09:1800:09:23 เรามาเริ่มจากว่าปัจจัยเสี่ยง ที่จะทำให้เกิดจอประสาทตาเสื่อมมีอะไรบ้าง

00:09:2300:09:26 แล้วเราก็ป้องกันไปนะคะ ก็คือหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง

00:09:2600:09:29 อันแรกเลยก็คือเรื่องของแสง โดยเฉพาะ UV นะคะ

00:09:3000:09:32 ที่เราพูดกันบ่อย ๆ ก็คือจะเป็นแสง UV

00:09:3200:09:34 เพราะฉะนั้นนี่ เวลาที่เราจะต้องอยู่ในที่กลางแจ้ง

00:09:3400:09:36 หรือว่าต้องได้รับแสง UV เยอะ ๆ

00:09:3600:09:40 ก็แนะนำว่าควรจะต้องใส่แว่นกันแดด หรือว่าหลีกเลี่ยงนะคะ

00:09:4000:09:42 อันนี้ก็จะช่วยในทางหนึ่งแล้ว

00:09:4200:09:46 แต่ว่าในส่วนของพวกของไฟ ที่มาจากหน้าจอทีวี หน้าจอคอมพิวเตอร์

00:09:4600:09:49 หรือว่าพวกของโทรศัพท์มือถือที่ใช้กันบ่อย ๆ

00:09:4900:09:54 อันนี้ก็อาจจะต้องลดระยะเวลา ที่เขาบอกว่า มองจอให้ลดลงนะคะ

00:09:5400:09:57 ไม่ควรที่จะอยู่ติดจอมากเกินไป โดยเฉพาะในเด็ก ๆ

00:09:5700:09:59 หรือว่าในหลาย ๆ ท่านที่แบบ… นั่งมองจอตลอดเวลา

00:09:5900:10:03 ก็เลี่ยงไปมองอย่างอื่นบ้าง ที่ไม่ควรจะติดจอจนเกินไป

00:10:0300:10:06 เหล้ากับบุหรี่นะคะ เหล้ากับบุหรี่นะ เอาแต่ละอันก่อน

00:10:0600:10:09 ในกรณีของบุหรี่นี่ มีข้อมูลชัดเจนว่า

00:10:0900:10:11 ตัวบุหรี่เองนี่ ถ้าหยุดสูบบุหรี่

00:10:1100:10:13 หรือว่าคนที่สูบบุหรี่นี่

00:10:1300:10:18 มีความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องของ จอประสาทตาเสื่อมมากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่

00:10:1800:10:21 ถามว่ามันเกิดมาจากอะไร อันที่หนึ่งก็คือ ในคนที่สูบบุหรี่เองนี่

00:10:2100:10:24 มันก็อาจจะทำให้เกิด เรื่องของเส้นเลือดแข็งนะคะ

00:10:2400:10:27 แล้วการที่จะมีเส้นเลือดที่จะไปซัพพลาย

00:10:2700:10:31 หรือว่าไปเลี้ยงตรงบริเวณของจอประสาทตา มันลดลง อันนี้ก็จะมีปัญหา

00:10:3100:10:33 อาจจะไม่ใช่แค่เรื่องของจอประสาทตาเสื่อม

00:10:3300:10:36 แต่อาจจะเป็นเรื่องของโรคอื่น ๆ ได้ด้วยนะคะ

00:10:3600:10:40 อันที่ 2 ในคนที่สูบบุหรี่ค่ะ ก็จะมีอนุมูลอิสระเยอะขึ้น

00:10:4100:10:45 อันนี้ก็อาจจะไปทำร้ายเซลล์บริเวณนั้นมากขึ้น

00:10:4500:10:49 ดังนั้น แนะนำว่าถ้ายังไม่เคยสูบบุหรี่ ก็ไม่ควรจะลองสูบบุหรี่

00:10:4900:10:53 หรือถ้าใครที่สูบบุหรี่อยู่ ก็ควรจะหยุดสูบบุหรี่นะคะ

00:10:5300:10:55 ไม่ใช่แค่เรื่องของจอประสาทตาเสื่อม

00:10:5500:10:58 แต่หมายถึงโรคอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นโรคของปอด

00:10:5800:11:01 โรคของหลอดเลือดหัวใจหรือว่าสมอง

00:11:0100:11:05 อันนี้ก็จะสามารถช่วยป้องกัน แล้วก็ลดความเสี่ยงได้เช่นกันค่ะ

00:11:0500:11:06 เรื่องของแอลกอฮอล์เนอะ

00:11:0600:11:09 ตัวแอลกอฮอล์เองนี่ ด้วยตัวมันเองน่ะค่ะ

00:11:0900:11:13 ก็อาจจะไปยับยั้งเรื่องของ เมตาบอลิซึมของตัววิตามินเอ

00:11:1300:11:18 เรารู้แล้วว่าวิตามินเอ มีส่วนช่วยในเรื่องของสายตาถูกไหมคะ

00:11:1800:11:20 ในกรณีของคนที่กินเหล้าเยอะ ๆ

00:11:2000:11:24 การดูดซึมหรือว่าการทำงานของวิตามินเอ ก็จะลดลง

00:11:2400:11:28 อันที่ 2 วิตามินเอ นี่แหล่งสะสมส่วนใหญ่อยู่ที่ตับเนอะ

00:11:2800:11:32 ถ้าเราอยากจะรู้ว่า เอ๊ะ เราขาดวิตามินเอ หรือเราอยากจะกินวิตามินเอ

00:11:3200:11:35 นึกอะไรไม่ออก กินตับค่ะ มีวิตามินเอเยอะนะคะ

00:11:3500:11:38 ทีนี้ถ้าคนไข้ดื่มเหล้าเยอะ ๆ

00:11:3800:11:41 จนกระทั่งทำให้ตับมีปัญหา

00:11:4100:11:43 หรือว่ามีการทำร้ายเซลล์ตับ

00:11:4400:11:46 แหล่งสะสมวิตามินเอเราลดลง

00:11:4600:11:49 เพราะฉะนั้น มีโอกาสที่จะมีปัญหา

00:11:4900:11:53 กับเรื่องของสุขภาพที่จะตามมา จากเรื่องของวิตามินเอได้เหมือนกัน

00:11:5300:11:57 ดังนั้นนี่ ก็ควรที่จะลด เรื่องของแอลกอฮอล์ด้วยนะคะ

00:11:5700:12:00 ในกรณีที่เรามีปัญหา เรื่องของจอประสาทตาเสื่อม

00:12:0000:12:02 หรือป้องกัน ไม่อยากจะมีจอประสาทตาเสื่อม

00:12:0200:12:04 ก็ควรจะลดเรื่องของแอลกอฮอล์ค่ะ

00:12:0400:12:07 ตัวถัดมาก็คือ ในเรื่องของหลอดเลือดเนอะ

00:12:0700:12:09 เราพูดไปแล้วว่า หลอดเลือดเองนี่

00:12:0900:12:12 ก็จะเป็นตัวที่จะช่วยในเรื่องของ การเลี้ยงจอประสาทตาใช่ไหมคะ

00:12:1200:12:16 อาหารที่มีไขมันโดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว แล้วก็คอเลสเตอรอลสูงเองนี่

00:12:1600:12:19 ก็จะเพิ่มความเสี่ยง ที่จะทำให้เส้นเลือดแข็งใช่ไหมคะ

00:12:1900:12:22 แล้วก็อาจจะทำให้เกิด เรื่องของคอเลสเตอรอลในเลือดสูง

00:12:2200:12:24 เพิ่มความเสี่ยงในเรื่องของเส้นเลือดอุดตัน

00:12:2400:12:27 เพราะฉะนั้น อันนี้ก็จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่จะทำให้เป็นปัจจัยเสี่ยง

00:12:2700:12:29 สำหรับเรื่องของจอประสาทตาเสื่อม

00:12:3000:12:33 นอกจากนี้ค่ะ ในกลุ่มของอาหารไขมันอิ่มตัวสูงนี่

00:12:3300:12:37 ก็อาจจะทำให้เกิดเรื่องของ อนุมูลอิสระเยอะขึ้นนะคะ

00:12:3700:12:39 แล้วทำให้มีปัญหา

00:12:3900:12:43 หรืออาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะเป็นความเสี่ยง ในเรื่องของการเกิดจอประสาทตาเสื่อมค่ะ

00:12:4300:12:46 เพราะฉะนั้นควรจะหลีกเลี่ยง อาหารที่มีไขมันสูง

00:12:4600:12:48 หรือว่าคอเลสเตอรอลสูงด้วยเช่นกัน

00:12:4800:12:49 แล้วก็ข้อสุดท้ายนะคะ

00:12:4900:12:52 เพื่อป้องกันในส่วนของจอประสาทตาเสื่อม

00:12:5200:12:54 หรือว่าทำให้สุขภาพตาเราดีขึ้นก็แล้วกันเนอะ

00:12:5400:12:57 เราก็ควรจะได้รับวิตามินเอที่เพียงพอนะคะ

00:12:5700:13:02 โดยเฉพาะสารที่เราชื่อว่าลูซีนกับซีแซนทีน เราเคยได้ยินบ่อย ๆ ใช่ไหมคะ

00:13:0200:13:05 ตัวนี้นี่เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ

00:13:0500:13:08 ทั้งสองตัวนี่ก็ร่างกายสร้างเองไม่ได้

00:13:0800:13:10 ก็จะต้องได้รับมาจากอาหารนะคะ

00:13:1000:13:14 อันนี้ก็จะช่วยทำให้การทำงานของเซลล์

00:13:1400:13:17 ที่จะช่วยในเรื่องของการมองเห็น ทำงานได้ดีขึ้นนะคะ

00:13:1700:13:20 มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

00:13:2000:13:23 เพราะฉะนั้นจะช่วยลด เรื่องของอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น

00:13:2300:13:29 แล้วก็จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิด เรื่องของจอประสาทตาเสื่อมได้เช่นกัน

00:13:2900:13:35 นอกจากนี้ สิ่งที่เราจะต้องรู้ก็คือว่า วิตามินเอเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน

00:13:3500:13:37 เวลาที่เรากินอาหารที่มีวิตามินเอนี่

00:13:3800:13:40 เวลาที่กิน ถ้ามันไม่มีไขมันเลย

00:13:4000:13:42 มันก็จะไม่สามารถจะดูดซึมเข้าไปได้

00:13:4200:13:47 เพราะฉะนั้น วิตามินเอเวลาเรากิน ควรจะเป็นร่วมกับอาหารที่มีไขมันด้วย

00:13:4700:13:50 หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่า เอ๊ะ เวลาเรากินวิตามินเอนี่

00:13:5000:13:53 ถ้าเราเอาไปผัด หรือเราเอาไปทำอะไรที่มันจะมีน้ำมัน

00:13:5300:13:56 มันจะทำให้การดูดซึมของวิตามินเอดีขึ้น

00:13:5600:13:57 อันนี้ถูกต้อง

00:13:5700:14:00 เพราะว่าวิตามินเอนี่ เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน

00:14:0000:14:02 เพราะฉะนั้น เราจะต้องกินร่วมกันกับไขมัน

00:14:0300:14:05 แต่ว่าถ้าเรากินไขมันเยอะเกินไป ก็ไม่ดีใช่ไหมคะ

00:14:0500:14:08 เพราะฉะนั้น ควรจะเลือกไขมันที่ดี

00:14:0800:14:10 ร่วมกันกับการกินวิตามินเอค่ะ

00:14:1000:14:15 [เสียงดนตรี]

00:14:1500:14:20 ทีนี้ถามว่ามันมีอาหารหรือว่ามีอะไรไหม ที่จะช่วยป้องกันจอประสาทตาเสื่อม

00:14:2000:14:24 ต้องบอกอย่างนี้นะคะ ในอดีตมันมีงานวิจัยที่จะทำ

00:14:2400:14:28 แบ่งเป็น 2 กลุ่มนะ กลุ่มแรกคือ คนที่ยังไม่มีเรื่องของจอประสาทตาเสื่อมเลย

00:14:2800:14:30 แล้วก็ให้กินพวกของวิตามิน

00:14:3000:14:36 วิตามินนั้นมีอะไรบ้าง ก็จะเป็นพวกของวิตามิน ที่มันจะมีคุณสมบัติเป็นแอนติออกซิแดนท์ เช่น

00:14:3600:14:38 วิตามินเอ เช่น เบตาแคโรทีน

00:14:3800:14:42 วิตามินซี วิตามินอีนะคะ มีสังกะสีนะคะ

00:14:4200:14:46 พวกนี้ให้กินเป็นระยะเวลายาวนิดนึงนะคะ 5 ปี

00:14:4600:14:47 แล้วมาติดตามดูว่า

00:14:4700:14:51 จะป้องกันเรื่องของการเกิด จอประสาทตาเสื่อมหรือเปล่า

00:14:5100:14:56 อันนี้ต้องบอกว่า การกินพวกนี้ค่ะ ไม่ได้ช่วยป้องกันการเกิดจอประสาทตาเสื่อม

00:14:5600:14:59 หมายความว่า จะกินหรือไม่กินวิตามินกลุ่มนี้

00:14:5900:15:04 โอกาสที่จะเกิดจอประสาทตาเสื่อม ในระยะเวลาที่เขาวิจัยนี่ ไม่ต่างกัน

00:15:0400:15:05 คำถามก็คือว่า

00:15:0600:15:10 เราไม่รู้จริง ๆ ค่ะว่า ระยะเวลาตรงนี้มันนานพอไหม

00:15:1000:15:14 เราไม่รู้เลยว่า จากเราไม่เป็นนี่ อีกกี่ปีเราถึงจะเป็น

00:15:1400:15:18 เพราะฉะนั้น ตรงนี้อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่อาจจะทำให้งานวิจัยแบบนี้

00:15:1800:15:21 มันดูไม่ประสบความสำเร็จ หรือว่าไม่เห็นผลนะคะ

00:15:2100:15:23 ทีนี้มันก็มีงานวิจัยอีกอันหนึ่งค่ะ

00:15:2300:15:26 สักประมาณน่าจะ 20 กว่าปีที่แล้ว

00:15:2700:15:30 เขาให้คนที่มีปัญหา เรื่องจอประสาทตาเสื่อมแล้ว

00:15:3000:15:32 เป็นแบบระยะเริ่มต้นถึงปานกลางเนอะ

00:15:3200:15:35 เสร็จแล้วนี่ก็มาให้กินวิตามิน

00:15:3500:15:37 วิตามินอันนี้มีอะไรบ้าง

00:15:3700:15:40 ก็จะมีวิตามินซี วิตามินอี มีเบตาแคโรทีน

00:15:4000:15:43 มีสังกะสี แล้วก็มีทองแดง ตอนนั้นนะคะให้กิน

00:15:4400:15:45 แล้วก็ติดตามคนไข้ไป

00:15:4600:15:49 ปรากฏว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ กลุ่มที่กินวิตามินพวกนี้ค่ะ

00:15:4900:15:54 สามารถจะชะลอการเสื่อมของตัวจอประสาทตาได้

00:15:5400:15:56 ตอนนั้นก็ว้าวกันใหญ่เลยนะคะ

00:15:5600:15:57 ก็ขายกันเยอะแยะเลย

00:15:5800:16:00 ทีนี้พอหลังจากนั้นมาปุ๊บนี่

00:16:0000:16:02 มันก็มีงานวิจัยอีกอันหนึ่งบอกว่า

00:16:0200:16:05 ในคนที่กินเบตาแคโรทีนเยอะ ๆ นี่

00:16:0500:16:07 มันเพิ่มความเสี่ยงนะ

00:16:0700:16:09 ที่จะเกิดเรื่องของมะเร็งปอด

00:16:1000:16:11 โดยเฉพาะคนที่สูบบุหรี่

00:16:1200:16:15 อ้าว แล้วเมื่อกี๊ ปัจจัยเสี่ยงอันหนึ่งคือบุหรี่ถูกไหมคะ

00:16:1500:16:18 เพราะฉะนั้นหลังจากนั้นนี่ คนก็กังวล

00:16:1800:16:20 เขาก็ทำงานวิจัยใหม่อีกอันหนึ่ง

00:16:2100:16:23 โดยที่เอาเบตาแคโรทีนออกนะคะ

00:16:2400:16:28 ก็ยังใส่วิตามินซี วิตามินอี คอปเปอร์ สังกะสีเหมือนเดิมนะคะ

00:16:2800:16:30 คอปเปอร์คือทองแดงเนอะ แล้วก็สังกะสี

00:16:3000:16:33 แต่เปลี่ยนจากตัวเบตาแคโรทีน

00:16:3300:16:35 ให้เป็นลูทีนกับซีแซนทีน

00:16:3500:16:41 ลูทีนกับซีแซนทีนตัวนี้ ก็จะเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอนะคะ

00:16:4100:16:45 แล้วก็จะมีคุณสมบัติที่จะเป็นเรื่องของ ตัวแอนติออกซิแดนท์ด้วย

00:16:4500:16:47 แล้วติดตามคนไข้

00:16:4700:16:51 ปรากฏว่ากลุ่มนี้ค่ะ ไม่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอดนะคะ

00:16:5200:16:55 ในขณะเดียวกัน สามารถจะช่วยลดหรือชะลอความเสื่อม

00:16:5500:16:58 ของการที่จะเกิดจอประสาทตาเสื่อมด้วย

00:16:5800:17:02 เราคงป้องกันไม่ได้ เราคงทำให้หายไม่ได้

00:17:0200:17:06 แต่เราทำให้จากที่มันเป็นอยู่นี่ มันไม่แย่ลงเร็วนะคะ

00:17:0600:17:10 อันนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้น จากการที่จะใช้กลุ่มวิตามินเสริมพวกนี้

00:17:1000:17:12 แล้วถ้าสังเกตคือวิตามินกลุ่มนี้

00:17:1200:17:16 ก็จะเป็นกลุ่มที่มีคุณสมบัติ เป็นแอนติออกซิแดนท์

00:17:1600:17:18 หรือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

00:17:1800:17:21 หลัง ๆ ก็เลยมีคนพยายามเอาพวกนี้มาขาย

00:17:2100:17:25 แล้วก็บอกว่าเป็น Supplement หรือว่า มันเป็นอาหารที่สำหรับเรื่องของตา

00:17:2500:17:29 บำรุงสายตา หรือว่าช่วยในเรื่องของ จอประสาทตาเสื่อม

00:17:2900:17:32 ก็จะมีที่มาจากงานวิจัยอันนี้นะคะ

00:17:3200:17:34 ทีนี้คำถามต่อไปคือ ถ้าเราไม่ซื้อล่ะ

00:17:3400:17:36 เราจะเอามาจากตรงไหน

00:17:3600:17:39 เราก็ต้องมาดูก่อนว่า สิ่งที่เขาบอกคืออะไรคะ

00:17:3900:17:42 วิตามินซี วิตามินอี ใช่ไหมคะ อันนี้เรารู้อยู่แล้วเนอะ

00:17:4200:17:44 วิตามินซีกับวิตามินอีมาจากไหน

00:17:4400:17:46 ลูทีนกับซีแซนทีนมาจากไหน

00:17:4600:17:49 ก็อยู่ในผักผลไม้สีเขียวเข้ม ๆ

00:17:5000:17:53 หรือผักผลไม้ที่มันเป็นสีเหลือง สีส้ม

00:17:5300:17:58 ตอนที่เราเรียน มันเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ เป็นอนุพันธ์ของแคโรทีนอยด์เนอะ

00:17:5800:18:02 เพราะฉะนั้น มันจะต้องเป็นผักผลไม้สีออก ส้ม แดง ใช่ไหมคะ เหลืองอะไรอย่างนี้

00:18:0300:18:05 ถามว่า อ้าว แล้วทำไมมีสีเขียวเข้มด้วยล่ะ

00:18:0500:18:09 เนื่องจากในสีเขียวเข้มค่ะ เขาจะมีสารตัวหนึ่งที่ชื่อคลอโรฟิลล์

00:18:0900:18:10 คลอโรฟิลล์นี่มันเข้ม

00:18:1000:18:13 เพราะฉะนั้น มันจะไปบดบังสีเหลืองส้มทั้งหมด

00:18:1300:18:15 เพราะฉะนั้นนี่ เราจะเห็นสีเขียวเข้มเด่น

00:18:1500:18:18 ถามว่ามีอะไรบ้างที่จะมีสารพวกนี้เยอะ ๆ

00:18:1800:18:21 ถ้ามันเขียวเข้ม ๆ เช่น คะน้า

00:18:2100:18:24 พวกเคล พวกบรอกโคลี พวกปวยเล้ง

00:18:2400:18:29 พวกนี้ก็จะถือว่ามีเรื่องของ ลูทีน ซีแซนทีน วิตามินเอนะคะ

00:18:2900:18:30 ค่อนข้างเยอะนะคะ

00:18:3100:18:34 อันถัดมาก็จะเป็น พวกที่มันเป็นสีออกเหลืองส้มใช่ไหมคะ

00:18:3400:18:37 แดง หรือว่าม่วงอะไรอย่างนี้

00:18:3700:18:41 ในกรณีที่มันเป็นสีม่วง มันก็จะมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกตัวหนึ่ง

00:18:4100:18:43 กลุ่มเบอร์รีที่เราจะได้ยินเนอะ

00:18:4300:18:45 มีแอนโทไซยานินอะไรอย่างนี้

00:18:4500:18:50 เพราะฉะนั้น อันนี้ก็จะเป็นอีกอันหนึ่งที่มี เรื่องของนอกจากจะมีลูทีน ซีแซนทีนแล้วนี่

00:18:5000:18:53 ก็จะมีเรื่องของ สารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นด้วย

00:18:5300:18:55 ดังนั้น เวลาเราเห็นเขาโฆษณาขาย เห็นไหมคะ

00:18:5600:19:00 อาหารหรือผลไม้ที่บำรุงสายตา ก็จะเป็นสีเขียวเข้ม ๆ

00:19:0000:19:03 สีแดง สีเหลือง สีส้มนะคะ

00:19:0300:19:06 หรือว่าจะเป็นกลุ่มที่มันจะมีสีม่วงเข้ม ๆ

00:19:0600:19:08 อันนี้ก็สามารถจะเลือกกินได้

00:19:0800:19:12 นอกจากบรอกโคลี ปวยเล้งใช่ไหมคะ เมื่อกี๊คะน้าเนอะ

00:19:1200:19:15 ก็จะมีข้าวโพด มีถั่วลันเตาใช่ไหมคะ

00:19:1500:19:18 แล้วก็กลุ่มตระกูลเบอร์รีทั้งหมดเลยนะคะ

00:19:1800:19:21 อีกอันหนึ่งค่ะ ที่เคยได้ยินฮิต ๆ เนอะ

00:19:2100:19:24 เราจะได้ยินคำว่าโกจิเบอร์รีใช่ไหมคะ

00:19:2400:19:26 บางคนก็บอก โอ้โฮ ชื่อมันดูเพราะเนอะ ดูมันเก๋

00:19:2600:19:31 แต่ถ้าไปถามบอกว่ารู้จักเก๋ากี้ไหมคะ เวลาที่เราเห็นในหม้อต้มยาจีน

00:19:3100:19:36 ที่เขาบอกว่าอันนี้จะเป็นแบบต้มซุปขึ้นมา แล้วบอกอันนี้บำรุงสายตา

00:19:3600:19:40 เก๋ากี้ค่ะ ที่มันเป็นเม็ดแดง ๆ ค่ะ อันนั้นก็คือโกจิเบอร์รีนะคะ

00:19:4000:19:43 ซึ่งก็จะมีเรื่องของลูทีน ซีแซนทีนเหมือนกัน

00:19:4300:19:47 เพราะฉะนั้นก็อาจจะเป็นอันหนึ่งนะคะ ที่สามารถจะเอามาใช้ทำอาหารได้

00:19:4700:19:50 อาจจะเป็นต้มซุปใช่ไหมคะ แล้วเราก็ใส่โกจิเบอร์รี

00:19:5000:19:52 อาจจะมีเป็นผัดคะน้าใช่ไหม

00:19:5200:19:55 หรือว่าอาจจะเป็นปวยเล้งใช่ไหมคะ ปวยเล้งผัดตับอย่างนี้

00:19:5500:19:57 มันก็จะได้วิตามินเอด้วยเนอะ

00:19:5800:20:01 แล้วก็จะได้เรื่องของ ตัวลูทีน ซีแซนทีนด้วยนะคะ

00:20:0100:20:04 แล้วกินกับพวกเบอร์รีเป็นน้ำคั้น

00:20:0400:20:06 หรือว่าสมูทตี้เนอะ

00:20:0700:20:10 หรือว่าอาจจะเป็นลักษณะของการกินสด ที่เป็นผลไม้

00:20:1000:20:12 ไม่ว่าจะเป็นพวกหม่อนก็ได้นะคะ มัลเบอร์รี

00:20:1200:20:15 อันนี้ก็ไม่ต้องไปซื้อของต่างประเทศเนอะ

00:20:1500:20:17 หรือว่าถ้าใครสะดวกใจจะกินเป็นสตรอว์เบอร์รี

00:20:1700:20:21 กินบลูเบอร์รี แบล็กเบอร์รี แครนเบอร์รี ได้หมดเลย

00:20:2100:20:23 ทีนี้เราก็จะบอกไปแล้วนะคะว่า

00:20:2300:20:27 ในกรณีของอาหารที่เราจะมองหาว่า มีลูทีน ซีแซนทีน วิตามินเอ

00:20:2700:20:30 หรือว่าแอนติออกซิแดนท์เยอะ ๆ นี่อยู่ในไหน

00:20:3000:20:34 ก็พยายามเลือกอาหารกลุ่มนี้ เข้ามาอยู่ในอาหารที่เรากิน

00:20:3400:20:38 สมมุติเราจะไปซื้อเป็น supplement ได้ไหม

00:20:3800:20:41 อันนึงที่อยากจะให้ดูนะคะ ก็คือกรุณาเช็กนิดนึง

00:20:4200:20:44 ว่ามันมีเบตาแคโรทีนอยู่เยอะหรือเปล่า

00:20:4400:20:47 ถ้าสมมุติมีเบตาแคโรทีน อันนี้ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่

00:20:4700:20:50 โดยเฉพาะในคนที่มีความเสี่ยง ที่จะเกิดมะเร็งปอด

00:20:5000:20:53 เช่น คนที่สูบบุหรี่เยอะ ๆ อยู่นะคะ

00:20:5300:20:56 หรือว่าคนที่ทำงานเกี่ยวกับพวกแร่ใยหินเนอะ

00:20:5600:21:01 อันนี้มันมีข้อมูลว่า กลุ่มนี้ถ้าเกิดได้รับเบตาแคโรทีนในโดสเยอะ ๆ

00:21:0100:21:06 เบตาแคโรทีนที่มาจากอาหาร ไม่มีผลที่จะไปเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งปอด

00:21:0600:21:08 แต่เบตาแคโรทีนที่มาจาก supplement

00:21:0800:21:11 หรือพวกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในโดสเยอะ ๆ

00:21:1100:21:14 อันนี้กินต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานนี่

00:21:1400:21:18 ก็อาจจะทำให้เพิ่มความเสี่ยง ของการเกิดมะเร็งปอดนะคะ

00:21:1900:21:21 ถ้าเกิดสมมุติว่าเราอยู่ในกลุ่มเสี่ยง

00:21:2200:21:24 และเรามีปัญหาเรื่องจอประสาทตาเสื่อมด้วย

00:21:2400:21:28 ถ้าจะใช้ ใช้เป็นอันที่มันไม่มีเบตาแคโรทีนเนอะ

00:21:2800:21:32 เขาก็จะเปลี่ยนจากเบตาแคโรทีน มาเป็นพวกลูทีน ซีแซนทีนแทนนะคะ

00:21:3200:21:34 ซึ่งจริง ๆ เราก็จะพูดแค่ลูทีน ซีแซนทีน

00:21:3400:21:36 แต่จริง ๆ แล้ว ในงานวิจัยค่ะ

00:21:3600:21:40 ค็อกเทลอันนี้ มันมีส่วนของวิตามินซี วิตามินอี

00:21:4000:21:42 ลูทีน ซีแซนทีน

00:21:4200:21:43 แล้วก็มีสังกะสี

00:21:4300:21:45 รวมถึงมีทองแดงด้วยนะคะ

00:21:4500:21:48 เพราะฉะนั้น จริง ๆ นี่มันคงมีหลายตัวเนอะ

00:21:4800:21:50 แล้วถ้าสมมุติถามว่าเรากินนี่ มันก็อาจจะแพง

00:21:5000:21:52 มันก็อาจจะไม่ได้อร่อยใช่ไหมคะ

00:21:5200:21:54 แต่ถ้าสมมุติเราสามารถเลือกจากอาหารได้

00:21:5400:21:56 เราก็กินจากอาหาร

00:21:5600:21:59 สุดท้ายเลย ถ้าสมมุติว่าเราสงสัย

00:21:5900:22:02 หรือเราไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องของสายตานะคะ

00:22:0200:22:04 เอ๊ะ เรามองภาพไม่ชัดหรือเปล่า

00:22:0400:22:06 เราเริ่มเห็นอะไรผิดปกติหรือเปล่า

00:22:0700:22:11 แนะนำว่าควรจะไปตรวจกับจักษุแพทย์ ให้ละเอียดนะคะ

00:22:1100:22:13 เพื่อจะได้ทราบว่าเราเป็นอะไร

00:22:1300:22:16 แล้วถ้าเกิดว่าเราทราบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

00:22:1700:22:21 การรักษาย่อมมีผลการรักษา ที่ดีกว่าที่เราจะปล่อยทิ้งไว้ค่ะ

00:22:2100:22:23 ดวงตาเป็นสิ่งสำคัญนะคะ

00:22:2300:22:27 เพราะฉะนั้นนี่ ควรถนอมสายตาตัวเอง แล้วก็ดูแลรักษาดวงตาด้วยค่ะ

00:22:2700:22:32 พบกับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้

00:22:3200:22:34 ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.

00:22:3400:22:36 ที่ Mahidol Channel Podcast

00:22:3600:22:38 ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel

00:22:3900:22:40 YouTube Mahidol Channel

00:22:4000:22:42 Apple Podcasts

00:22:4200:22:43 Spotify

00:22:4300:22:44 Anchor

00:22:4400:22:44 Joox

00:22:4700:22:52 ดำเนินรายการโดยหมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:22:5200:22:55 [เสียงดนตรี]