00:00:00 → 00:00:03 สรุปวิธีลดน้ำหนักแบบ If นะครับแบบครบจบ
00:00:03 → 00:00:05 ในคลิปเดียวเลยไม่ว่าจะเป็น If คืออะไร
00:00:05 → 00:00:07 สำหรับคนที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยนะครับ If
00:00:07 → 00:00:10 มีกี่แบบ 16/8 เอย 23/1 เอยอะไรพวกนี้มัน
00:00:10 → 00:00:12 คืออะไรนะครับและสำหรับใครที่เคยทำมาแล้ว
00:00:12 → 00:00:15 แล้วติดปัญหาว่าทำไแต่น้ำหนักไม่ลดหรือลด
00:00:15 → 00:00:17 แล้วน้ำหนักนิ่งนะครับมักจะติดปัญหาว่า
00:00:17 → 00:00:20 อะไรมักจะติดปัญหาว่าไม่รู้ว่า If เนี่ย
00:00:20 → 00:00:21 ต้องกินอะไรบ้างเพราะฉะนั้นเดี๋ยวจะ
00:00:21 → 00:00:23 อธิบายให้ฟังนะครับหม 1 จะอธิบายให้ฟัง
00:00:23 → 00:00:26 ว่า If เนี่ยควรกินอะไรบ้างนะครับแล้วที่
00:00:26 → 00:00:30 สำคัญคือหลายๆคนชอบถามว่าการทำ If เนี่ย
00:00:30 → 00:00:32 ต้องทำทุกวันมยนะครับทำกี่วันในสัปดาห์
00:00:32 → 00:00:35 นึงนะครับควรทำกี่วันใน 1 สัปดาห์เนาะ
00:00:35 → 00:00:37 แล้วก็ควรทำนานแค่ไหนใครบ้างที่พอถึงจุด
00:00:37 → 00:00:39 นึงแล้วไม่ควรทำ If ต่อแล้วนะครับเดี๋ยว
00:00:39 → 00:00:41 อธิบายให้ฟังจนครบเลยนะครับสวัสดีครับผม
00:00:41 → 00:00:43 หมอ 1 Healthy ฮีโร่นะครับลดน้ำหนัก
00:00:43 → 00:00:45 ครั้งสุดท้ายในชีวิตคิดถึงหมอ 1 Healthy
00:00:45 → 00:00:47 ฮีโร่นะครับคราวนี้เหมือนเดิมนะครับก่อน
00:00:47 → 00:00:49 ที่เราจะไปเริ่มดูกันนะครับว่าลดน้ำหนัก
00:00:49 → 00:00:52 แบบ If มีอะไรเทคนิคอะไรยังไงบ้างนะครับ
00:00:52 → 00:00:54 ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนท่านนี้ด้วยนะ
00:00:54 → 00:00:57 ลดน้ำหนักจาก 112 เหลือ 92 เนี่ยท่าน
00:00:57 → 00:00:59 เนี่ยตอนแรกเนี่ยติดตามหมอหนึมาจาก
00:00:59 → 00:01:01 YouTube เนาะติดตามมา 8 เดือนลดไปได้
00:01:01 → 00:01:03 ประมาณ 20 กลเลยถือว่าเก่งมากๆเลยนะครับ
00:01:03 → 00:01:05 แต่เชื่อว่าหลายคนที่ฟังหมอ 1 เนี่ยมา
00:01:05 → 00:01:08 ก่อนนะหรือไม่เคยฟังมาก่อนแล้วเพิ่งมาฟัง
00:01:08 → 00:01:10 คลิปแรกจะเจอปัญหาอยู่ 2 อย่างปัญหาที่ 1
00:01:10 → 00:01:13 คือลองลดเองแล้วแต่ลดไม่ลงเลยอันเนี้ย
00:01:13 → 00:01:15 ปัญหาเนี้ยมักจะเกิดจากเรื่องของสารอาหาร
00:01:15 → 00:01:18 ทำ f ยังไงก็ไม่ลงเพราะสารอาหารไม่เข้าใจ
00:01:18 → 00:01:20 เดี๋ยวจะไปอธิบายให้ฟังในหัวข้อที่ชื่อ
00:01:20 → 00:01:22 ว่า If ควรกินอะไรบ้างคุณจะได้รู้ว่าคุณ
00:01:22 → 00:01:24 พลาดอะไรไปนะครับส่วนบางคนอย่างนักเรียน
00:01:24 → 00:01:27 ท่านนี้เนี่ยลดเองมาได้แล้ว 20 กกแต่ติด
00:01:27 → 00:01:30 ปัญหาว่ามันไปต่อไม่ได้น้ำน้ำหนักเริ่มลง
00:01:30 → 00:01:32 ช้าทั้งๆที่ทำไเหมือนเดิมเลยใครเคยเป็น
00:01:32 → 00:01:35 แบบนี้เดี๋ยวมาฟังวิธีแก้กันก็จะย้อนกลับ
00:01:35 → 00:01:37 ไปเช็คที่เรื่องสารอาหารอีกเหมือนกันนะ
00:01:37 → 00:01:39 ครับและบางคนสารอาหารถูกต้องแล้วจะต้องไป
00:01:39 → 00:01:42 ดูในพีระมิด 5 ขั้นตอนของการลดน้ำหนักที่
00:01:42 → 00:01:44 ม1ึเคยสอนไว้นะครับว่าเออถ้ามันเจอปัญหา
00:01:44 → 00:01:47 น้ำหนักนิ่งเราควรจะแก้ยังไงบ้างโอเคมย
00:01:47 → 00:01:49 เนี่ยท่านนี้พอเริ่มเข้ามาเรียนกับหมอ 1
00:01:49 → 00:01:51 นะครับในกลุ่ม VIP ตัดสินใจเข้ากลุ่มปั๊บ
00:01:51 → 00:01:54 เนี่ย 3 สัปดาห์นะครับเริ่มเข้าใจแล้วว่า
00:01:54 → 00:01:56 อ๋อเราพลาดอะไรไปต้องปรับอะไรเพราะบางคน
00:01:56 → 00:01:59 เนี่ยบอกเลยนะว่าเวลาเจอปัญหาว่าลถไปได้
00:01:59 → 00:02:01 ระยะนึงแล้วน้ำหนักนิ่งและแก้ผิดวิธีสุด
00:02:01 → 00:02:03 ท้ายมันจะโยโยนะอย่าเด็ดขาดนะครับเนาะ
00:02:04 → 00:02:05 เพราะฉะนั้นวิธีที่ถูกต้องเลยสำคัญมากนะ
00:02:05 → 00:02:08 ครับน้ำหนักก็ลงสัดส่วนก็ลงด้วยนะครับจาก
00:02:08 → 00:02:11 l42 เหลือ 36 แล้วใครที่คิดว่าชีวิตนี้
00:02:11 → 00:02:14 จะลดน้ำหนักไม่ได้ฟังคลิปหมอ 1 ให้จบแล้ว
00:02:14 → 00:02:17 เอาไปทำตามก่อนนะครับส่วนใครที่ถามไปใน
00:02:17 → 00:02:18 คลิปอื่นๆนะครับว่าอยากเข้ากลุ่มเรียนลด
00:02:18 → 00:02:20 น้ำหนัก VIP กับหมอ 1 ด้วยนะครับเดี๋ยว
00:02:20 → 00:02:22 ช่วงท้ายหมอ 1 จะอธิบายให้ฟังว่าตอนนี้ใน
00:02:22 → 00:02:24 คลาเนี่ยเค้าเรียนอะไรกันบ้างแล้วเค้ามี
00:02:24 → 00:02:26 อัปเดตอะไรเพิ่มบ้างนะครับเนาะและมี
00:02:26 → 00:02:28 โปรโมชั่นพิเศษด้วยแต่สำหรับใครที่เพิ่ง
00:02:28 → 00:02:31 มาฟังคลิปนี้ฟังให้จบก่อนเอาความรู้ไปใช้
00:02:31 → 00:02:32 ก่อนนะครับเข้ากลุ่มไม่เข้ากลุ่มนี่ไม่
00:02:32 → 00:02:34 ใช่เรื่องสำคัญเลยแต่ขอให้ฟังให้จบจะได้
00:02:35 → 00:02:36 รู้ว่าเราพลาดอะไรไปอย่างน้อยได้เอาความ
00:02:37 → 00:02:39 รู้ในคลิปนี้ไปใช้ม 1 ก็ดีใจนะครับนะอ่ะ
00:02:39 → 00:02:42 คราวนี้คำถามแรกเลยสำหรับคนที่ไม่เคยฟัง
00:02:42 → 00:02:44 มาก่อนหรือเคยทำ If มาแต่เข้าใจแบบผิดๆนะ
00:02:44 → 00:02:46 ครับเพราะถ้าพื้นฐานคุณของการเข้าใจ
00:02:47 → 00:02:49 เรื่อง If คุณผิดมันจะผิดไปหมดเลยนะคำถาม
00:02:49 → 00:02:52 คือ If คืออะไรนะครับ If จริงๆแล้วเนี่ย
00:02:52 → 00:02:55 มันย่อมาจากคำว่า
00:02:55 → 00:02:57 intermittent นะครับ
00:02:57 → 00:03:00 intermittent fasting จริงๆจคุณไม่
00:03:00 → 00:03:02 จำเป็นที่จะต้องจำภาษาอังกฤษได้นะอันไหน
00:03:02 → 00:03:04 ที่เป็นศัพท์ไหนใครฟังหมอ 1 มาหลายคลิปจะ
00:03:04 → 00:03:06 รู้ว่าหมอ 1 เนี่ยไม่นิยมให้จำอะไรที่มัน
00:03:06 → 00:03:09 ไม่จำเป็นต้องจำแต่อันนี้อยากให้เข้าใจ
00:03:09 → 00:03:10 พื้นฐานที่มาของมันก่อนนะครับ
00:03:10 → 00:03:13 intermittent เนี่ยแปลว่าเป็นช่วงๆส่วน
00:03:13 → 00:03:16 fasting แปลว่าอดอาหารเพราะฉะนั้นจริงๆ
00:03:16 → 00:03:18 พอเอามารวมกันมันแปลว่ามีการอดอาหารเป็น
00:03:18 → 00:03:22 ช่วงๆใน 1 วันโอเคมยใน 1 วันเช่นอะไรเช่น
00:03:22 → 00:03:27 บางคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า If 16/8 เลข
00:03:27 → 00:03:29 เนี่ยมันบวกกันน่ะได้ 24 เพราะมันคือใน 1
00:03:29 → 00:03:32 วันมี 24 ชมดังนั้นหมายความว่าอะไรเราจะ
00:03:32 → 00:03:34 มีการแบ่งช่วงเวลานะครับเป็นช่วงของการ
00:03:34 → 00:03:38 กินกับช่วงของการที่เราหยุดกินทำไมต้อง
00:03:38 → 00:03:41 แบ่งแบบนี้ด้วยนะครับเพราะเค้าค้นพบว่า
00:03:41 → 00:03:43 เมื่อไหร่ก็ตามคีย์เวิร์ดสำคัญเลยนะเมื่อ
00:03:43 → 00:03:45 ไหร่ก็ตามที่เรามีพลังงานจากอาหารที่กิน
00:03:45 → 00:03:48 เข้าไปภายนอกแม้จะเป็นแค่เครื่องดื่มที่
00:03:48 → 00:03:50 มีน้ำตาลเล็กๆน้อยๆหรืออะไรพวกนี้ก็แล้ว
00:03:50 → 00:03:53 แต่นะครับที่มีพลังงานพอเรากินเข้าไปปั๊บ
00:03:53 → 00:03:58 ร่างกายจะหยุดใช้ไขมันแล้วไปใช้น้ำตาลที่
00:03:58 → 00:04:00 เรากินเข้าไปแทนซึ่งซึ่งของที่เรากินส่วน
00:04:00 → 00:04:02 ใหญ่มันย่อยแล้วมันได้น้ำตาลทั้งนั้นแหละ
00:04:02 → 00:04:03 นะครับเพราะฉะนั้นเราเลยจำเป็นที่จะต้อง
00:04:03 → 00:04:06 มีช่วงหยุดกินบ้างเพราะงานวิจัยเา้าบอก
00:04:06 → 00:04:09 เลยว่าร่างกายจะเริ่มเอาไขมันมาใช้ได้ดี
00:04:09 → 00:04:10 เมื่อเรามีช่วงเวลาของการหยุดทานอย่าง
00:04:10 → 00:04:13 น้อย 12 ชมงหมายความว่าอะไรอ้าเราลองนึก
00:04:14 → 00:04:16 ภาพของตัวเองวันนี้ว่าทำไมที่ผ่านมาเราถุ
00:04:16 → 00:04:19 อ้วนนะครับบางคนตื่นมา 6:00 นนะเริ่มกิน
00:04:19 → 00:04:21 กาแฟ T in one ก่อนมีน้ำตาลมั้ยมีเพราะ
00:04:21 → 00:04:23 ท in1 เนี่ยมีใส่น้ำตาลครีมเทียมในนั้น
00:04:23 → 00:04:25 อยู่แล้วถูกมยเพราะฉะนั้นร่างกายจะเริ่ม
00:04:25 → 00:04:27 ใช้น้ำตาลตั้งแต่ตอนนั้นแล้วหยุดใช้ไขมัน
00:04:27 → 00:04:30 เลยและหลายๆคนก็จะกินตอนสายตอนสายเนี่ย
00:04:30 → 00:04:32 อาจจะกินเป็นข้าวเช้าเสร็จปั๊บก็ไปกิน
00:04:32 → 00:04:34 ข้าวเที่ยงช่วงบ่ายๆก็มีกินเหมือนกันนะ
00:04:34 → 00:04:36 เป็นมื้อเบรกขนมมื้อเบรกส่วนใหญ่ก็มีน้ำ
00:04:36 → 00:04:38 ตาลกับแป้งเยอะๆนะครับแล้วก็กินมื้อเย็น
00:04:38 → 00:04:41 มื้อค่ำสุดท้ายก่อนเข้านอนอาจจะมีนมสัก 1
00:04:41 → 00:04:45 แก้วหมายความว่าอะไรตั้งแต่ 18:00 นจนถึง
00:04:45 → 00:04:47 22:00 นก่อนนอนนะครับเป็นเวลาทั้งหมด 16
00:04:47 → 00:04:51 ชมงคุณกินตลอดเวลาเลยแทนที่ร่างกายจะได้
00:04:51 → 00:04:53 หยุดพักบ้างเพื่อเอาไขมันมาใช้ร่างกายไม่
00:04:53 → 00:04:55 ได้ทำแบบนั้นเลยมีแค่ช่วงที่คุณนอนคือตอน
00:04:55 → 00:04:58 22:00 นจนถึง 18:00 นคือ 8 ชมนั้นที่
00:04:58 → 00:05:02 ร่างกายเอาไขมันมาใช้แต่ถามว่าใช้ได้เยอะ
00:05:02 → 00:05:04 ไมไม่เพราะมหนึพูดไปแล้วตั้งแต่ตอนต้นว่า
00:05:04 → 00:05:07 อะไรว่าร่างกายจะใช้ไขมันได้ดีเมื่อคุณมี
00:05:07 → 00:05:10 ช่วงหยุดกินอย่างน้อย 12 ช่วโมงดังนั้น
00:05:10 → 00:05:12 ถ้าคุณนอนแค่ 8 ชมช่วงนั้นร่างกายพยายาม
00:05:12 → 00:05:15 เอาไขมันมาใช้นะแต่ไม่มากพอที่คุณจะผอมลง
00:05:15 → 00:05:18 นะครับคราวนี้ตัดภาพกลับมาก่อนทำไมมันถึง
00:05:18 → 00:05:19 เป็นแบบนี้นะครับอีกเหตุผลนึงคือคุณต้อง
00:05:20 → 00:05:22 เข้าใจเรื่องระบบพลังงานนะระบบพลังงานใน
00:05:22 → 00:05:24 ร่างกายมี 2 ระบบหมอ 1 พูดทุกคลิปเลยนะ
00:05:24 → 00:05:26 คีย์เวิร์ดตรงนี้นะคือใช้น้ำตาลกับแป้ง
00:05:26 → 00:05:28 เป็นหลักหรือไม่ก็ใช้ไขมันเป็นพลังงาน
00:05:28 → 00:05:30 หลักแต่ก่อน 23 10 ปีเราเข้าใจว่าเฮ้ย
00:05:31 → 00:05:33 เรากินไขมันเยอะเราเลยอ้วนนะครับเา้าก็
00:05:33 → 00:05:36 เลยทำอาหารที่เป็นไงอุตสาหกรรมโล Fat นมล
00:05:36 → 00:05:38 Fat อาหารทุกอย่างล Fat มันเนยหมด
00:05:38 → 00:05:40 เลยแต่ไม่ผอมเพราะอะไรเพราะเรู้แล้วว่า
00:05:40 → 00:05:43 ปัจจุบันเนี่ยการที่คนเรามันอ้วนเนี่ยเรา
00:05:43 → 00:05:44 อ้วนจากการที่เรามีน้ำตาลกับแป้งที่มาก
00:05:44 → 00:05:47 เกินไปแล้วร่างกายใช้ไม่หมดนะครับการที่
00:05:47 → 00:05:49 ร่างกายเรากินไขมันเข้าไปมันสะสมเป็นไข
00:05:49 → 00:05:52 มันจริงนะแต่มันสะสมได้ไม่จำกัดนะแต่ถ้า
00:05:52 → 00:05:54 เมื่อไหร่ก็ตามคุณกินน้ำตาลกับแป้งเข้าไป
00:05:54 → 00:05:55 เนี่ยพอมันย่อยเป็นน้ำตาลทั้งหมดแล้วเรา
00:05:55 → 00:05:58 เก็บน้ำตาลในรูปของน้ำตาลในเลือดไม่ได้
00:05:58 → 00:05:59 เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของของคุณ
00:05:59 → 00:06:02 เนี่ยเก็บน้ำตาลแล้วอยู่ในเลือดนานๆมันจะ
00:06:02 → 00:06:03 ทำให้คุณเป็นเบาหวานถูกมั้ยเจาะน้ำตาลออก
00:06:03 → 00:06:06 มาได้ 400 อย่างเงี้ยนะครับคุณก็จะช็อก
00:06:06 → 00:06:09 อวัยวะต่างๆที่น้ำตาลวิ่งไปมันก็จะกลาย
00:06:09 → 00:06:11 เป็นเหมือนเอาหัวใจไปแช่ในน้ำตาลน้ำ
00:06:11 → 00:06:14 เชื่อมเอาไตไปแช่ในน้ำเชื่อมเอาสมองไปแช่
00:06:14 → 00:06:17 ในน้ำเชื่อมมันก็จะเสื่อมไวปว่าปกติเพราะ
00:06:17 → 00:06:20 ฉะนั้นร่างกายเลยฉลาดมากที่จะเปลี่ยนน้ำ
00:06:20 → 00:06:22 ตาลที่มากเกินไปแล้วใช้ไม่หมดเนี่ยไปสะสม
00:06:22 → 00:06:26 ในรูปอื่นแทนคือในรูปของไขมันนั่นเองนะ
00:06:26 → 00:06:28 ครับเพราะฉะนั้นเรารู้แบบนี้แล้วเราก็เลย
00:06:28 → 00:06:30 พยายามได้อ๋องั้นถ้าถอย่างงั้นเราต้องมี
00:06:30 → 00:06:32 ช่วงที่ไม่เติมอาหารอย่างอื่นเข้าไปใน
00:06:32 → 00:06:34 ร่างกายนะจะได้หยุดเอาน้ำตาลส่วนเกินไป
00:06:34 → 00:06:37 สะสมเป็นไขมันและในทางกลับกันนะครับช่วง
00:06:37 → 00:06:39 ที่ร่างกายไม่เอาน้ำตาลไปเติมมันสามารถ
00:06:39 → 00:06:41 ขุดเอาไขมันเก่ามาใช้ได้ด้วยเนาะเพราะ
00:06:41 → 00:06:44 ฉะนั้นจริงๆแล้ว If อ่ะมันไม่ใช่วิธีการ
00:06:44 → 00:06:46 ลดน้ำหนักนะหลายคนเข้าใจว่ามันคือการวิธี
00:06:46 → 00:06:49 การลดน้ำหนักจริงๆมันเป็นแค่ตัวเสริมเป็น
00:06:49 → 00:06:52 อชั่นเสริมเฉยๆนะครับที่จะทำให้การลดน้ำ
00:06:52 → 00:06:54 หนักของคุณน่ะทำได้เร็วขึ้นเหมือนเป็นตัว
00:06:54 → 00:06:57 เปิดประตูให้ร่างกายยอมปล่อยไขมันออกมา
00:06:57 → 00:07:00 แค่นั้นเองโอเคเปล่ามันเลยมีเหตุผลว่า
00:07:00 → 00:07:02 ทำไมหลายคนทำไแล้วไม่ผอมนะครับเพราะ
00:07:02 → 00:07:04 ฉะนั้นถ้าใครที่ไม่เคยทำไมาก่อนแล้วอยาก
00:07:05 → 00:07:06 เริ่มต้นหรือใครที่ยังไม่เคยเข้าใจเรื่อง
00:07:06 → 00:07:08 สารอาหารและอยากเริ่มต้นนักเรียนหมอ 1 ใน
00:07:08 → 00:07:10 กลุ่ม VIP แต่ละคนเนี่ยเคจะไม่อยู่ดีๆมา
00:07:10 → 00:07:13 เริ่มทำ If 16/8 กันนะเพราะอะไรเพราะถ้า
00:07:13 → 00:07:16 คุณไม่เข้าใจเรื่องสารอาหารทำ If 16/8
00:07:16 → 00:07:18 ทำ 23/1 ไม่พร้อมเลยนะครับคราวนี้มาดู
00:07:18 → 00:07:21 ก่อนว่าตัวเลขที่เห็นเนี่ยมันหมายความว่า
00:07:21 → 00:07:24 อะไรบ้างนะครับ 16 ตัวหน้าเนี่ยนะคือช่วง
00:07:24 → 00:07:27 เวลาของการอดและช่วงหลังคือช่วงเวลาของ
00:07:27 → 00:07:30 การกินนะครับถ้าใครที่อยากจะจะเริ่มต้นทำ
00:07:30 → 00:07:32 If แล้วเคยได้ยินว่า 16/8 มันคืออะไรมัน
00:07:32 → 00:07:35 คืออด 16 ชมกิน 8 ชมอด 16 ชมเวลานับนับ
00:07:35 → 00:07:38 ง่ายๆแต่ละวันบางคนกินเวลาไม่ตรงกันนะให้
00:07:39 → 00:07:41 ดูช่วงเวลาของมื้อสุดท้ายเมื่อวานสมมุติ
00:07:42 → 00:07:44 เมื่อคืนหมอ 1 กินมื้อสุดท้ายตอนประมาณ
00:07:44 → 00:07:47 18:00 นนะครับหมอ 1 ก็นับไป 16 ชมนะครับ
00:07:47 → 00:07:50 16 ชมงก็ไปชน 10:00 นของอีก 1 วันนะครับ
00:07:50 → 00:07:53 หมอ 1 จะเริ่มกินมื้อแรกเนี่ยตอนประมาณ 10
00:07:53 → 00:07:56 นของวันรุ่งขึ้นเพื่อให้มีช่วงเวลาของการ
00:07:56 → 00:08:00 อวดนาน 16 ชมแล้วในช่วง 8 ช่มคือตั้งแต่
00:08:00 → 00:08:03 10:00 นนะครับนับไปจนถึง 18:00 น
00:08:03 → 00:08:06 อันเนี้ยเป็นช่วงเวลาของการกินโอเคมยแบบ
00:08:06 → 00:08:08 เนี้ยก็จะทำให้ร่างกายเนี่ยสามารถมีช่วง
00:08:08 → 00:08:10 เวลาของการหยุดทานตั้งแต่ 18:00 นไปจนถึง
00:08:10 → 00:08:13 10:00 นอีกวันนึงเนี่ยมากพอที่จะเอาไข
00:08:13 → 00:08:16 มันมาใช้ได้อันนี้คือพื้นฐานของการทำ If
00:08:16 → 00:08:20 ก่อนนะครับคราวนี้คำถามถัดมาก็คือแล้ว If
00:08:20 → 00:08:23 อ่ะมันมีกี่แบบนะครับ If มันมีกี่แบบ If
00:08:23 → 00:08:26 จริงๆมีเยอะมากนะครับจะ 12/12 ก็คือกิน 12
00:08:26 → 00:08:29 ชมหยุด 12 ชมวันนี้หยุดกิน 18:00 นพรุ่ง
00:08:29 → 00:08:31 นี้ไปเริ่มกิน 18:00 นแบบนี้ก็ได้แต่ร่าง
00:08:31 → 00:08:34 กายก็จะใช้ไขมันได้ไม่เยอะมากนะเพราะอะไร
00:08:34 → 00:08:36 เพราะมัน 12 ชมงพอดีถูกมั้ยนะครับแล้ว
00:08:36 → 00:08:40 13/1 ได้มั้ยคุณหมอได้ก็ถือว่าได้กำไร
00:08:40 → 00:08:41 เพิ่มมา 1 ชั่วโมงคือร่างกายใช้ไขมัน
00:08:41 → 00:08:44 เพิ่มได้อีก 1 ชั่วโมงแต่เลขที่นยอดนิยม
00:08:44 → 00:08:48 กันก็จะเป็น If 16/8 16/8 ก็คืออะไรอด
00:08:48 → 00:08:53 16 ชมถูกมยแล้วก็กิน 8 ชมแบบนี้ก็ได้นะ
00:08:53 → 00:08:55 ครับไม่ได้หมายความว่าต้องลอกกันด้วยนะ
00:08:55 → 00:08:57 ใครที่อยู่ในกลุ่ม VIP นะนะครับเดี๋ยวว
00:08:57 → 00:08:59 นึงกำลังจะอัปเดตบทที่เป็น If ให้ด้วย
00:08:59 → 00:09:02 แล้วเพิ่มตัวอย่างให้แต่ใครที่ยังเพิ่ง
00:09:02 → 00:09:04 เข้ากลุ่มไปอย่าลืมไปทบทวนบทที่ 13 นะบท
00:09:05 → 00:09:07 ที่ 13 มีตัวอย่าง If ให้ด้วยนะครับใน
00:09:07 → 00:09:09 กลุ่ม VIP หมอ 1 จะมีตัวอย่างให้ดูหลาย
00:09:09 → 00:09:10 อันมากๆเพราะว่านักเรียนของหมอ 1 เนี่ยมี
00:09:10 → 00:09:13 20,000 กว่าคนเ้ามีทุกสาขาอาชีพโอเคมย
00:09:13 → 00:09:16 อย่าคิดว่าตัวเองทำงานแบบไม่เป็นเวลานอน
00:09:16 → 00:09:18 ดึกแล้วจะลดไม่ได้ลดได้หมดแต่ขอให้เรา
00:09:18 → 00:09:21 เห็นตัวอย่างก่อนว่ามันมีคนที่เเหมือนกัน
00:09:21 → 00:09:23 แล้วลดได้คุณจะได้มีกำลังใจนะครับเนาะ
00:09:23 → 00:09:27 คราวนี้ If 18/6 ล่ะคืออะไรก็คืออด 18
00:09:27 → 00:09:31 ชมนะแล้วก็กิน 6 ชมถูกมยอันเนี้ยแต่ก่อน
00:09:31 → 00:09:33 หมอหนึ่งชอบทำแบบนี้เพราะว่าอะไรเพราะว่า
00:09:33 → 00:09:36 หมอหนึ่งตรวจคนไข้ตอนตอนเช้าถ้าหมอหนึ่ง
00:09:36 → 00:09:39 กินตั้งแต่เช้าแล้วเลิกตรวจคนไข้ตอนเย็น
00:09:39 → 00:09:41 แล้วไปกินอีกทีมันก็จะกลายเป็นกิน 8:00 น
00:09:41 → 00:09:43 แล้วบางทีกลับถึงบ้านไปกินอีกที 20:00 น
00:09:43 → 00:09:44 มันจะกลายเป็นเราไม่ค่อยได้กำไรเท่าไหร่
00:09:45 → 00:09:48 เพราะเราทำ If แค่ 12/12 ถูกมยนะครับแต่
00:09:48 → 00:09:50 หมอหนึ่งอยากได้กำไรหมอหนึ่งก็เอาอย่าง
00:09:50 → 00:09:51 งี้แล้วกันงั้นตั้งแต่เช้าหมอหนึ่งกิน
00:09:52 → 00:09:54 กาแฟดำอย่างเดียวเลยแล้วค่อยไปกินมื้อแรก
00:09:54 → 00:09:57 ตอนเที่นนะครับแล้วก็ไปกินมื้อสุดท้ายตอน
00:09:57 → 00:09:59 18:00 นก็จะกินวันละ 2 มื้อแต่ระหว่าง
00:09:59 → 00:10:01 นั้นน่ะเดี๋ยวมนึงจะบอกว่าเราควรกินอะไร
00:10:01 → 00:10:04 เพิ่มเพื่อที่จะทำให้สารอาหารคุณครบโอเค
00:10:04 → 00:10:07 มยไม่งั้นบางคนทำ If 18/6 แต่กลายเป็นอด
00:10:07 → 00:10:09 อาหารได้เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังในหัวข้อถัด
00:10:09 → 00:10:11 ไปนะครับเนาะเพราะฉะนั้น 18/6 ก็อด 18
00:10:11 → 00:10:14 ชั่วโมงอดแล้วก็กิน 6 ช่มก็ได้แต่หลังจาก
00:10:14 → 00:10:16 ตรงนี้เป็นต้นไปเนี่ยหมอหนึ่งไม่ค่อยนิยม
00:10:16 → 00:10:19 ให้ทำนะถ้าคุณต้องการทำเพื่อลดน้ำหนัก
00:10:19 → 00:10:22 เนี่ยจริงๆแค่ 16/8 18/6 อ่ะพอแล้วแต่
00:10:22 → 00:10:24 ถ้าสมมุติว่าทำเพื่อสุขภาพอย่างอื่นนานๆ
00:10:24 → 00:10:28 ทำทีเนี่ย 20/4 23/1 ได้หรือบางคนเนี่ย
00:10:28 → 00:10:31 เค้าทำฟาติหรือทำไยาวๆแบบไม่กินอะไรเลย 3
00:10:31 → 00:10:33 วันกินแต่น้ำเปล่าก็เคยมีเหมือนกันแต่ปี
00:10:33 → 00:10:36 นึงเนี่ยนานๆทำทีเดี๋ยวจะอธิบายในคลิป
00:10:36 → 00:10:38 อื่นๆแล้วกันว่ามันมีประโยชน์อะไรยังไง
00:10:38 → 00:10:40 บ้างแต่ถ้าทำเพื่อลดน้ำหนักอย่าทำเด็ดาด
00:10:40 → 00:10:43 เพราะกล้ามเนื้อคุณจะหายเพราะสารอาหารคุณ
00:10:43 → 00:10:46 ไม่ครบนะครับหรือบางคนเนี่ยทำ 23/1 แล้ว
00:10:46 → 00:10:49 ติดจนเป็นนิสัยอ 23/1 คืออด 23 ชั่มแล้ว
00:10:49 → 00:10:52 ก็กินชั่วโมงเดียวหมายความว่าเคกินไงกิน
00:10:52 → 00:10:57 วันละเป็นไงครับ 1 มื้อพอกินวันละ 1 มื้อ
00:10:57 → 00:10:59 เนี่ยปัญหาคืออะไรรู้มั้ยปัญหาคือสอาหาร
00:10:59 → 00:11:01 คุณจะไม่ครบสารอาหารที่ร่างกายต้องการ
00:11:01 → 00:11:05 จริงๆนะสำคัญมากๆเลยนะอันนึงเลยคือโปรตีน
00:11:05 → 00:11:07 นะครับเพราะโปรตีนทำหน้าที่ในการซ่อมแซม
00:11:07 → 00:11:10 ส่วนต่างๆของร่างกายเวลามันมีอะไรพังคุณ
00:11:10 → 00:11:13 นอนดึกเอยนู่นนั่นนี่เอยหรือว่ามีแผล
00:11:13 → 00:11:16 โปรตีนจะทำหน้าที่ตรงนี้แต่พอกินมื้อ
00:11:16 → 00:11:17 เดียวปั๊บโอกาสที่โปรตีนจะไม่ถึงมีเยอะ
00:11:18 → 00:11:20 มากโดยเฉพาะคนที่น้ำหนักเยอะเพราะในภาวะ
00:11:20 → 00:11:22 พื้นฐานนะครับนะใครที่ยังไม่เคยเรียนลด
00:11:22 → 00:11:24 น้ำหนักกับมาหนึ่งในกลุ่ม VIP อาจจะนับ
00:11:24 → 00:11:26 โปรตีนไม่เป็นไม่เป็นไรแต่ค่อยๆฟังไปก่อน
00:11:26 → 00:11:29 นะครับเนาะว่าจริงๆแล้วพื้นฐานร่างกายของ
00:11:29 → 00:11:32 คนเราเนี่ยถ้าสมมุติว่าเราอยากให้ร่างกาย
00:11:32 → 00:11:34 เราสุขภาพดีเราต้องกินโปรตีนประมาณ 1
00:11:34 → 00:11:36 เท่าน้ำหนักตัวอย่างหม 1 น้ำหนัก 70 หม 1
00:11:36 → 00:11:39 ต้องกินโปรตีน 70 กรัมต่อวันนะครับถ้าใคร
00:11:39 → 00:11:41 ที่อ้วนกว่านี้น้ำหนัก 90 ก็ต้องกิน
00:11:41 → 00:11:44 โปรตีนประมาณ 90 กรัมต่อวันเลยถามว่ากิน
00:11:44 → 00:11:46 มื้อเดียวเนี่ยให้ได้โปรตีนประมาณแบบ 70
00:11:46 → 00:11:49 กรัมต่อวัน 90 กรัมต่อวันยากมยากมากๆนะ
00:11:49 → 00:11:51 ครับเพราะอะไรอ่ะยกตัวอย่างง่ายๆอย่าถ้า
00:11:51 → 00:11:54 ผู้หญิงน้ำหนัก 70 ต้องกินโปรตีนแบบที่
00:11:54 → 00:11:55 ยังไม่ได้เอาไปสร้างกล้ามเนื้อนะแบบแค่
00:11:55 → 00:11:57 ให้สุขภาพดีนะ 70 กรัมต่อวันเนี่ยมีค่า
00:11:58 → 00:11:59 ประมาณกับการกินเนื้อสัตว์สัตว์อย่าง
00:11:59 → 00:12:01 เดียวประมาณ 3 ขีดครึ่งซึ่งมันเยอะมาก
00:12:01 → 00:12:03 มื้อเดียวมันกินไม่หมดนะครับต่อให้จะเอา
00:12:03 → 00:12:05 เนื้อสัตว์กินแค่ 1 ขีดแล้วไปกินอย่าง
00:12:05 → 00:12:08 อื่นเพิ่มไปกินเวเพิ่มไปกินไข่เพิ่มมื้อ
00:12:08 → 00:12:11 เดียวมันก็จะอิ่มมากเกินไปมันจะทำให้ระบบ
00:12:11 → 00:12:14 เผาผลาญของคุณระบบย่อยระบบดูซึมคุณมันไม่
00:12:14 → 00:12:16 ดีเพราะฉะนั้นการกินวันละ 1 มื้อเนี่ยนาน
00:12:16 → 00:12:18 ๆทำทีหมอหนึ่งก็จะทำในวันที่หมอหนึ่งกิน
00:12:18 → 00:12:21 บุฟเฟ่ต์กินชาบูปิ้งย่างพวกเนี้ยเพราะเรา
00:12:21 → 00:12:23 จะได้โปรตีนเยอะก็จะกินวันละ 1 มื้อได้
00:12:23 → 00:12:26 แต่ไม่แนะนำให้ทำบ่อยโอเคมเพราะฉะนั้น If
00:12:26 → 00:12:29 ก็มีหลายแบบมากๆเลือกแบบที่ถูกจะเด็ดกับ
00:12:29 → 00:12:32 การใช้ชีวิตประจำวันของเราคนที่ทำ If
00:12:32 → 00:12:36 16/8 กิน 8 ชมหยุดแค่ 16 ชมอาจจะผอมกว่า
00:12:36 → 00:12:39 คนที่กิน 6 ชมแต่หยุด 18 ชมก็ได้เฮ้ยคุณ
00:12:39 → 00:12:42 หมอทำไมอ่ะอีกคนนึงเขาคอดนานกว่าเคอดต้อง
00:12:42 → 00:12:46 18 ชมทำไมเ้าถึงผอมยากกว่าคนที่อด 16 ชม
00:12:46 → 00:12:50 ล่ะเค้าอดนานกว่านะคีย์เวิร์ดอยู่ที่ลด
00:12:50 → 00:12:55 น้ำหนักแบบ If ควรกินอะไรบ้างคนที่เค้าอด
00:12:55 → 00:12:59 แค่ 16 ชมแต่เขาคกินดีเค้าจะผอมไวกว่าคน
00:12:59 → 00:13:03 ที่อด 18 ชมงแต่กินไม่ดีจำประโยคนี้ดีๆนะ
00:13:03 → 00:13:08 คนที่อด 16 ชมงแต่กินดีจะผอมไวกว่าคนที่
00:13:08 → 00:13:11 กินวันละมื้อแต่กินไม่ดีเพราะฉะนั้นหมอ
00:13:11 → 00:13:13 หนึ่งเลยไม่เคยบอกใครว่าเอ้ยลดน้ำหนักอ่ะ
00:13:13 → 00:13:16 คุณต้องทำไก่อนนะไม่สารอาหารสำคัญที่สุด
00:13:16 → 00:13:20 นะครับเพราะฉะนั้นเวลาโฟกัสอยากจะผอมเร็ว
00:13:20 → 00:13:23 หรือผอมช้าให้ดูช่วงเวลาที่เรากินว่าใน
00:13:23 → 00:13:25 ช่วงที่กิน 8 ชมงเช่นกิน 10:00 นจนถึง
00:13:25 → 00:13:28 18:00 นเนี่ยเรากินกี่มื้อแต่ละมื้อสาร
00:13:28 → 00:13:30 อาหารเป็นยังไงบ้างเห็นภาพตรงนี้ก่อนเนาะ
00:13:30 → 00:13:33 โอเคมยเพราะบางคนเนี่ยเคยฟังมาว่าคุณหมอ
00:13:33 → 00:13:36 คะเขาบอกว่าห้ามกินน้ำตาลกับแป้งแล้ว
00:13:36 → 00:13:38 เดี๋ยวถ้ากินเยอะเนี่ยแล้วเดี๋ยวจะอ้วน
00:13:38 → 00:13:40 เพราะฉะนั้นหนูก็ไม่กินน้ำตาลกับแป้งค่ะ
00:13:40 → 00:13:42 ของมันของทอดเขาคก็บอกว่าอย่ากินค่ะแล้ว
00:13:42 → 00:13:44 พอกินมื้อน้อยๆโปรตีนก็ไม่ถึงการลดน้ำ
00:13:44 → 00:13:47 หนักที่โปรตีนก็กินไม่ถึงแป้งกับน้ำตาลก็
00:13:47 → 00:13:50 ไม่ค่อยกินไขมันก็ไม่กินรวมกันแล้วมัน
00:13:50 → 00:13:52 กลายเป็นคุณไม่ได้กินอะไรที่มีพลังงานเลย
00:13:52 → 00:13:54 เราเรียกมันว่าการอดอาหารไม่ได้เรียกว่า
00:13:54 → 00:13:58 การทำ If นะการทำไที่ดีสารอาหารต้องครบนะ
00:13:58 → 00:14:00 ครับเพราะฉะนั้นสารอาหารครบเราก็ต้องรู้
00:14:00 → 00:14:03 ว่าการทำเเนี่ยเราควรกินอะไรบ้างย้อนกลับ
00:14:03 → 00:14:05 มาอ่าใครที่ฟังบหนึมาหลายคลิปแล้วอย่า
00:14:05 → 00:14:08 เพิ่งเบื่อนะฟังบ่อยๆเมันจะได้ทั้งความ
00:14:08 → 00:14:10 รู้จำแม่นและได้กำลังใจด้วยไม่แปลกว่า
00:14:10 → 00:14:12 ทำไมนักเรียนในกลุ่มเพคลิปนึงชั่วโมงนึง
00:14:12 → 00:14:14 เคนั่งฟังกันไปนะ 20 กว่าบทน่ะฟังแล้วฟัง
00:14:14 → 00:14:17 อีกเวลาออกกำลังกายไปด้วยมันได้บรรยากาศ
00:14:17 → 00:14:20 นะครับเนาะอ่ะเพราะฉะนั้นพีระมิดความผอม
00:14:20 → 00:14:22 จำให้ขึ้นใจเลยสเต็ปที่ 1 นะครับถ้าคุณ
00:14:22 → 00:14:25 อยากจะลดน้ำหนักไม่ต้องปรับอย่างอื่นเลย
00:14:25 → 00:14:28 นะให้ปรับสารอาหารก่อนพูดง่ายๆคือกินอะไร
00:14:28 → 00:14:31 ดีถูกมยปรับสารอาหารสารอาหารในที่นี้
00:14:31 → 00:14:34 เนี่ยก็จะมีสารอาหารที่สำคัญำคัญอยู่ทั้ง
00:14:34 → 00:14:37 หมด 4 อย่างนะครับอันที่ 1 นะครับอันที่ 1
00:14:37 → 00:14:41 คือสิ่งที่เรียกว่าน้ำตาลอันที่ 1 คือ
00:14:41 → 00:14:43 สิ่งที่เรียกว่าน้ำตาลเมื่อไหร่ก็ตามที่
00:14:43 → 00:14:46 คุณอยากลดน้ำหนักนะให้ตัดสิ่งที่เป็นน้ำ
00:14:46 → 00:14:49 ตาลออกไปก่อนเท่าที่ทำได้หหคุณหมอคะอาหาร
00:14:49 → 00:14:52 ข้างนอกเขาก็ใส่น้ำตาลค่ะผัดกะเพราก็ใส่
00:14:52 → 00:14:54 น้ำตาลต้มยำก็ใส่น้ำตาลหนูก็กินอะไรไม่
00:14:54 → 00:14:58 ได้เลยสิคะกินแต่สลัดสิคะไม่ใช่ดีที่สุด
00:14:58 → 00:15:00 ในจุดที่ทำได้ได้ท่องไว้เลยเพราะฉะนั้น
00:15:00 → 00:15:02 น้ำตาลที่มันเยอะมากๆจริงๆมักจะอยู่ในหนึ
00:15:02 → 00:15:04 เครื่องดื่มเช่นตอนเช้าบางคนตื่นมากิน
00:15:04 → 00:15:07 กาแฟใส่นมใส่น้ำตาลใส่นมข้น T in วันพวก
00:15:07 → 00:15:09 เนี้ยมันมีน้ำำตาลหมดเลยเพราะฉะนั้นให้
00:15:09 → 00:15:11 เปลี่ยนมาเป็นกาแฟดำบางคนชอบกินชานมไข่
00:15:12 → 00:15:14 มุกกินชาต่างๆที่มีน้ำตาลเปลี่ยนมาเป็นชา
00:15:14 → 00:15:17 ไม่มีน้ำตาลนะครับมีอะไรอีกบางคนชอบกิน
00:15:17 → 00:15:19 เครื่องดื่มอื่นๆนะครับน้ำหวานเอยอะไรเอย
00:15:19 → 00:15:21 ให้เปลี่ยนมาเป็นน้ำเปล่าเพราะฉะนั้นจริง
00:15:21 → 00:15:23 ๆแล้วถ้าอยากลดน้ำหนักได้นะครับให้
00:15:23 → 00:15:25 เปลี่ยนมาเป็นน้ำเปล่าชากาแฟดำและพวกนี้
00:15:26 → 00:15:27 กินได้ตลอดทั้งวันด้วยเพราะมันไม่มีพลัง
00:15:27 → 00:15:31 งานตอนทำไอคุณก็กินได้เห็นภาพเนาะและอีก
00:15:31 → 00:15:33 อันนึงที่น้ำตาลสูงมากๆคือพวกขนมต่างๆ
00:15:33 → 00:15:35 อาหารแปรรูปนะครับถ้าเลี่ยงได้เลี่ยงไป
00:15:35 → 00:15:37 ก่อนส่วนพวกอาหารที่เวลาเราไปซื้อข้างนอก
00:15:37 → 00:15:39 หมอ 1 บอกแล้วว่าใครที่เรียนลดน้ำหนักกับ
00:15:39 → 00:15:41 หมอ 1 จะรู้ว่าอาหารในชีวิตประจำวัน
00:15:41 → 00:15:43 สามารถลดน้ำหนักได้เพราะฉะนั้นคุณไม่
00:15:43 → 00:15:45 จำเป็นต้องทำอาหารเองนะแต่คุณต้องรู้จัก
00:15:45 → 00:15:48 เลือกเช่นเวลาเราไปกินอาหารตามที่ทำงาน
00:15:48 → 00:15:50 แล้วเป็นอาหารตามสั่งถ้าเป็นอาหารตามสั่ง
00:15:50 → 00:15:53 ที่ทำสดๆเลยเนี่ยเราก็บอกเขาได้นะว่าอาจ
00:15:53 → 00:15:55 จะใส่น้ำตาลน้อยหน่อยหรือไม่ใส่ชูรสแต่
00:15:55 → 00:15:57 ถ้าสมมุติเป็นอาหารที่เขาทำเป็นอาหารที่
00:15:57 → 00:15:59 ตักเอา 3 อย่าง 40 4 อย่าง 50 แบบเนี้ย
00:16:00 → 00:16:02 นะครับพยายามเลือกอาหารที่มันมีน้ำอ่ะน้ำ
00:16:02 → 00:16:05 ้ำอ่ะน้อยๆหรือพวกน้ำซุปน้ำแกงพวกเนี้ย
00:16:05 → 00:16:08 น้อยๆอย่าไปซดเพราะน้ำตาลกับชูรสมันจะ
00:16:08 → 00:16:11 ละลายอยู่ในนั้นบางคนน่ะกินกะเพราแล้วว
00:16:11 → 00:16:13 นึงเห็นกะเพราแล้วผัดแฉะมากเลยไอ้ตงน้ำ
00:16:13 → 00:16:15 น้ำของกะเพราที่เอามาราดข้าวนั่นแหละตรง
00:16:15 → 00:16:17 นั้นแหละคือสิ่งที่น้ำตาลสูงพยายามเลี่ยง
00:16:17 → 00:16:20 พวกนี้ไปแค่ทำตรงนี้ได้นะ 7 วันนะพวงยุบ
00:16:20 → 00:16:22 แล้วะทั้งๆที่ยังไม่ทำ If เลยเพราะอะไร
00:16:22 → 00:16:24 เพราะระบบพลังงานของเรามันเปลี่ยนจากการ
00:16:24 → 00:16:27 ใช้น้ำตาลไปใช้ไขมันได้แล้วไงเห็นภาพเนาะ
00:16:27 → 00:16:30 นะครับนะคราวนี้ถัดมาอะไรบ้างที่เปลี่ยน
00:16:30 → 00:16:32 เป็นน้ำตาลได้อีกนะครับมันคือสิ่งที่เรา
00:16:32 → 00:16:34 เรียกว่าแป้งหมหนึ่งอาจจะไม่ได้พูดเรื่อง
00:16:34 → 00:16:36 สารอาหารละเอียดครบทุกตัวในคลิปเดียวนะ
00:16:36 → 00:16:38 เพราะว่าใครที่เรียนในกลุ่มจะรู้ว่าแป้ง
00:16:38 → 00:16:41 หมอ1ึพูดอยู่ 3 บทบทละเกือบชั่วโมงอ่ะ
00:16:41 → 00:16:43 เพราะอะไรเพราะว่าบางคนเข้าใจว่าแป้งคือ
00:16:43 → 00:16:45 แป้งขนมปังไม่ใช่แป้งเนี่ยมันเป็นการ
00:16:45 → 00:16:48 เรียกรวมของหมู่ของแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต
00:16:48 → 00:16:51 เฉยๆนะครับแป้งได้แก่อะไรบ้างข้าวเส้นขนม
00:16:51 → 00:16:54 ปังผักหัวต่างๆผลไม้ไม่ได้หมายความว่ากิน
00:16:55 → 00:16:57 ไม่ได้นะแต่แต่ก่อนที่เราอ้วนน่ะเรากิน
00:16:57 → 00:17:00 แป้งพวกเนี้ยมากเกินไปพอมันย่อยเสร็จปั๊บ
00:17:00 → 00:17:02 มันย่อยได้อะไรย่อยได้น้ำตาลแล้วเรากิน
00:17:02 → 00:17:05 เข้าไปมากกว่าที่เราใช้นะครับสิ่งที่เกิด
00:17:05 → 00:17:07 ขึ้นคือน้ำตาลก็ค้างเติ่งอยู่ในร่างกาย
00:17:07 → 00:17:09 ร่างกายบอกถ้าน้ำตาลอยู่ในเลือดเยอะฉัน
00:17:09 → 00:17:11 ต้องเป็นเบาหวานแน่เลยก็เลยเอาไปเก็บเป็น
00:17:11 → 00:17:13 อะไรเป็นไขมันเพราะฉะนั้นในส่วนของแป้ง
00:17:13 → 00:17:16 ข้าวเส้นขนมปังผักหัวผลไม้สิ่งที่คุณต้อง
00:17:16 → 00:17:20 ทำคืออะไรรู้มั้ยแค่ลดปริมาณมันลงก็พอถ้า
00:17:20 → 00:17:22 คุณลดปริมาณมันได้เช่นบางคนแบบนับแป้งไม่
00:17:22 → 00:17:24 เป็นกับคุณหมอไม่เคยเรียนกับคุณหมอใน
00:17:24 → 00:17:28 กลุ่มเอาง่ายๆเริ่มต้นข้าวเคยกิน 2 ทับพี
00:17:28 → 00:17:31 หรือ 1 ทับพีได้มามอ่าเคยกินขนมปัง 2
00:17:31 → 00:17:34 แผ่นหรือ 1 แผ่นได้มยเห็นภาพมยหรือเคยกิน
00:17:34 → 00:17:37 ก๋วยเตี๋ยวต้องเบิ้ลบอกขอพิเศษแล้วเ้าก็
00:17:37 → 00:17:39 พิเศษเส้นให้เราอ่ะงั้นเราไปพิเศษพวก
00:17:39 → 00:17:41 เนื้อหมูได้มอย่าไปพิเศษลูกชิ้นนะพวกนี้
00:17:41 → 00:17:43 ก็แป้งเหมือนกันนะแต่ถ้าเป็นร้านที่เป็น
00:17:43 → 00:17:46 เนื้อหมูเป็นพวกเอ่อต้มเลือดหมูอะไรพวก
00:17:46 → 00:17:48 เนี้ยพวกนี้มันเป็นเนื้อหมูเลยกินได้โอเค
00:17:48 → 00:17:50 เปล่ามันคือโปรตีนนะครับเนาะเพราะฉะนั้น
00:17:50 → 00:17:52 อีกอันนึงที่ใช้ได้นะคือเทคนิคการไม่กิน
00:17:53 → 00:17:55 แป้งซ้ำซ้อนมอนึ่งบอกไปแล้วว่าแป้งได้แก่
00:17:55 → 00:17:57 ข้าวเส้นขนมปังผักหัวผลไม้บางคนตื่นเช้า
00:17:58 → 00:18:00 มาเข้าร้านสะดวกซื้อซื้อแซนวิชขนมปังแป้ง
00:18:00 → 00:18:03 มั้ยแป้งแล้วก็กำลังจะจ่ายตังค์เค้าบอก
00:18:03 → 00:18:05 เอากล้วยหอมเพิ่มมั้ยเอานี่ก็แป้งถูกมั้ย
00:18:05 → 00:18:07 เพราะฉะนั้นแป้งมันก็จะมากเกินไปเมื่อเรา
00:18:07 → 00:18:10 กินซ้ำซ้อนหมอหนึ่งจะสอนนักเรียนตลอดเลย
00:18:10 → 00:18:12 ว่าอย่างมื้อเย็นใครชอบกินผลไม้นะกิน
00:18:12 → 00:18:15 โปรตีนอิ่มแล้วอ่ะกินผลไม้แล้วพยายามอย่า
00:18:15 → 00:18:17 กินข้าวนะเพราะอะไรเราไม่อยากได้แป้งซ้ำ
00:18:17 → 00:18:19 ซ้อนไงเย่งยิ่งเป็นมื้อเย็นนะครับเราไม่
00:18:19 → 00:18:21 ค่อยได้ใช้พลังงานเพิ่มเติมอะไรหรอกนะ
00:18:21 → 00:18:24 เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นอยากกินแป้งซ้ำ
00:18:24 → 00:18:26 ซ้อนเห็นภาพป่ะปรับสารอาหาร 2 อย่างแบบ
00:18:26 → 00:18:28 นี้นะ If มันถึงจะเริ่มได้ผลนะครับครับ
00:18:29 → 00:18:31 คราวนี้มีอะไรอีกที่สำคัญอันเนี้ยสำคัญ
00:18:31 → 00:18:34 ที่สุดเลยขีดเส้นใต้ 450 เส้นเลยโปรตีน
00:18:35 → 00:18:37 โปรตีนในที่นี้บางคนก็จะนึกถึงเวโปรตีน
00:18:37 → 00:18:39 ไม่ใช่นะโปรตีนในที่นี้เนี่ยยจะลดน้ำหนัก
00:18:39 → 00:18:42 ได้ดีควรเป็นโปรตีนจากธรรมชาติเลยไม่แปลก
00:18:42 → 00:18:44 ว่าทำไมคนที่กินพวกโปรตีนเขย่าเป็นมื้อ
00:18:44 → 00:18:46 หลักลัก 2 มื้อนะครับแบบที่เขาคขายๆกัน
00:18:46 → 00:18:49 คอร์สเป็นหมื่นๆน่ะแล้วสุดท้ายถึงกลับไป
00:18:49 → 00:18:51 โยโยเพราะอะไรเพราะมันไม่ใช่อาหาร
00:18:51 → 00:18:53 ธรรมชาติเป็นอาหารเสริมมากกว่าเสริมก็คือ
00:18:53 → 00:18:55 เสริมเพราะฉะนั้นอาหารหลักเราควรกินอาหาร
00:18:55 → 00:18:57 ที่มาจากธรรมชาติโปรตีนจากธรรมชาติก็จะ
00:18:58 → 00:19:00 แยกเป็นโปรตีนจากสัตว์กับโปรตีนจากพืช
00:19:00 → 00:19:02 ค่อยๆฟังไปเรื่อยๆนะเดี๋ยวเราจะเริ่มเห็น
00:19:02 → 00:19:04 ภาพมากขึ้นว่าอ๋อเฮ้ยรน้ำหนักไม่ยากนี่
00:19:04 → 00:19:06 เองแต่เราแค่ไม่รู้มาก่อนนะครับโปรตีนจาก
00:19:06 → 00:19:09 สัตว์ก็คือพวกเนื้อสัตว์นมแล้วก็ไข่
00:19:09 → 00:19:13 โปรตีนจากพืชก็พวกถั่วธัญพืชเทมเป้นะครับ
00:19:13 → 00:19:16 เต้าหู้พวกเนี้ยนะพวกโปรตีนจากสัตว์กับ
00:19:16 → 00:19:18 พืชหมอหนึ่งเคยทำคลิปย่อยๆไว้แล้วไปหาดู
00:19:18 → 00:19:20 ได้ว่ามันมีความแตกต่างกันยังไงแต่สำคัญ
00:19:20 → 00:19:22 ที่สุดอย่างที่หมอหนึ่งบอกคือคนส่วนใหญ่
00:19:22 → 00:19:25 ลดน้ำหนักไม่ได้เพราะกินโปรตีนไม่เพียงพอ
00:19:25 → 00:19:27 โดยเฉพาะคนที่น้ำหนักเริ่มต้นเยอะเพราะ
00:19:27 → 00:19:30 เราติดนิสัยว่าเราเข้าใจว่าเราอยากจะผอม
00:19:30 → 00:19:32 เราต้องกินน้อยๆเราถึงจะผอมแต่ใครเป็นนัก
00:19:32 → 00:19:34 เรียนหมอหนึ่งในกลุ่ม VIP จะรู้ว่ากิน
00:19:34 → 00:19:37 น้อยไม่ผอมไม่ใช่กินเยอะถึงผอมนะกินอิ่ม
00:19:37 → 00:19:41 ถึงผอมคำว่าอิ่มจะเกิดจากอะไรจะเกิดจาก
00:19:41 → 00:19:44 การกินโปรตีนที่เพียงพอคนน้ำหนักเริ่มต้น
00:19:44 → 00:19:48 เยอะถ้ายิ่งกินอิ่มโปรตีนเท่าไหร่ยิ่งผอม
00:19:48 → 00:19:50 ง่ายเท่านั้นเพราะอะไรเพราะทุกครั้งถ้า
00:19:50 → 00:19:53 สมมุติว่าคุณน้ำหนัก 90 คุณน้ำหนัก 80
00:19:53 → 00:19:55 แต่คุณกินโปรตีนไม่ถึงร่างกายจะไปสลาย
00:19:55 → 00:19:57 กล้ามเนื้อออกมาและกล้ามเนื้อเปรียบ
00:19:57 → 00:19:59 เสมือนเตาเผาพลังงานของร่างกายเมื่อไหร่
00:19:59 → 00:20:01 ก็ตามที่กล้ามเนื้อคุณลดลงเตาเผาคุณจะแย่
00:20:01 → 00:20:04 ลงเรื่อยๆๆๆๆๆจนสุดท้ายเวลาคุณตะบะแตกคุณ
00:20:04 → 00:20:06 จะกลับไปกินเยอะมากแล้วระบบเผาผ่านคุณมัน
00:20:06 → 00:20:08 น้อยเพราะกล้ามเนื้อคุณน้อยอ่ะคุณก็เลย
00:20:08 → 00:20:11 คุณก็เลยอ้วนขึ้นกระทันหันหรือโยโยนั่น
00:20:11 → 00:20:13 เองเคลียร์เนาะนะครับเพราะฉะนั้นโปรตีน
00:20:13 → 00:20:15 คีย์เวิร์ดนับโปรตีนยังไม่เป็นใช้คำว่า
00:20:15 → 00:20:18 อิ่มกินให้อิ่มเช่นเราเคยติดนิสัยกินข้าว
00:20:18 → 00:20:19 แล้วค่อยกินกับเปลี่ยนเป็นกินกลับแล้ว
00:20:19 → 00:20:22 ค่อยกินข้าวได้ไมมเคยติดนิสัยเติมข้าว
00:20:22 → 00:20:24 เปลี่ยนเป็นเติมกลับได้มยเห็นภาพเนาะแต่
00:20:24 → 00:20:26 จะมีข้อควรระวังเฉพาะในคนที่ไตเสื่อมนะ
00:20:26 → 00:20:28 ครับนะใครที่ไตเสื่อมอาจจะต้องจำกัด
00:20:28 → 00:20:31 โปรตีนเพราะไตเราทำงานได้ไม่ดีแต่ถ้าคุณ
00:20:31 → 00:20:33 เป็นคนปกตินะคุณสามารถกินโปรตีนจนอิ่มได้
00:20:33 → 00:20:36 เลยนะครับเนาะและอันสุดท้ายก็คือเรื่อง
00:20:36 → 00:20:39 ของไข่มันหลายคนบอกว่าคุณหมอคะลดน้ำหนัก
00:20:39 → 00:20:42 อ่ะกินของมันของทอดได้มยกินได้ครับแต่เอา
00:20:42 → 00:20:44 เทคนิคไปใช้ก่อนเลยนะปกติแล้วอ่ะร่างกาย
00:20:45 → 00:20:47 ระบบพลังงานของเรามันมี 2 ระบบคือใช้น้ำ
00:20:47 → 00:20:49 ตาลกับแป้งกับใช้ไขมันถูกมั้ยถ้าสมมุติ
00:20:49 → 00:20:51 ว่าเรากินทั้งแป้งเรากินทั้งไขมันเข้าไป
00:20:51 → 00:20:53 พร้อมกันร่างกายมันงงเพราะฉะนั้นอาหาร
00:20:53 → 00:20:55 ส่วนใหญ่ที่จะทำให้คุณอ้วนคืออาหารที่
00:20:55 → 00:20:59 เป็นอาหารมันๆทอดๆแล้วเป็นแป้งนึกออกม
00:20:59 → 00:21:01 อะไรที่เป็นแป้งทอดบ้างเฟรนช์ฟรายแป้งทอด
00:21:01 → 00:21:04 มมแป้งทอดไก่ชุบแป้งทอดเคยเห็นมพวกไก่ตาม
00:21:05 → 00:21:07 ร้านสะดวกซื้อไก่ทอดกินได้นะแต่พอเป็นไก่
00:21:07 → 00:21:09 ชุบแป้งทอดปั๊บมันคือแป้งทอดอ่ะเพราะ
00:21:09 → 00:21:11 ฉะนั้นร่างกายเราจะงงแล้วไม่รู้จะเอาพลัง
00:21:11 → 00:21:13 งานจากอะไรมาใช้นะครับระบบเผาผลาญมันจะ
00:21:13 → 00:21:15 พังเพราะฉะนั้นจริงๆถามว่ากินได้มั้ยกิน
00:21:15 → 00:21:17 ได้อย่างมื้อไหนหมอหนึ่งกินชาบูปิ้งย่าง
00:21:17 → 00:21:19 นะมื้อนั้นหมอหนึ่งชอบกินสันคอหมอหนึ่งจะ
00:21:19 → 00:21:21 รู้แล้วว่ามันมันเพราะฉะนั้นเราจะไม่กิน
00:21:21 → 00:21:23 อะไรที่เป็นแป้งไม่ซดน้ำซุปเยอะจิ้มน้ำ
00:21:23 → 00:21:26 จิ้มนิดเดียวและพวกที่เป็นข้าวไม่กินเลย
00:21:26 → 00:21:29 โอเคป่ะนี่คือเทคนิคง่ายๆเวลาปรับสาร
00:21:29 → 00:21:32 อาหารเนี่ยแล้วสิ่งที่ทำให้คนทำไไม่ผอมก็
00:21:32 → 00:21:34 เพราะไม่รู้สเต็ปที่ 1 เนี่ยแหละพอไม่รู้
00:21:34 → 00:21:37 สเต็ปที่ 1 สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร 8 ชม
00:21:37 → 00:21:40 นี้กินเหมือนคนอดอาหารเลยแล้วก็งงว่าทำไม
00:21:40 → 00:21:44 ทำไแล้วไม่ผอมหนูก็อด 16 ชมนะคะที่ไม่ผอม
00:21:44 → 00:21:46 ก็เพราะ 8 ชมเนี้ยกินไม่ดีส่วนถามว่าแล้ว
00:21:46 → 00:21:49 ไอ้ 16 ชมงที่เหลือตรงนี้กินอะไรได้บ้าง
00:21:49 → 00:21:51 มยกินได้นะครับแต่ต้องเป็นสิ่งที่ไม่มี
00:21:51 → 00:21:53 พลังงานง่ายสุดเลยคือน้ำเปล่าชากาแฟดำแค่
00:21:53 → 00:21:57 เนี้ยโอเคมยถามว่ายากมยไม่ยากหรอกแต่ความ
00:21:57 → 00:21:59 ยากคือคุณไม่เคยกินขคำว่าอิ่มไงพอคุณไม่
00:21:59 → 00:22:01 เคยสัมผัสคำว่าอิ่มคุณเลยรู้สึกว่าหลัง
00:22:01 → 00:22:03 18:00 นมันคือความทรมานแต่นักเรียนผมไม่
00:22:03 → 00:22:06 มีใครทรมานหรอกเพราะเรู้ว่า 8 ชมไม่ว่าจะ
00:22:06 → 00:22:09 เป็น 10:00 นถึง 18:00 นจะเป็น 9 น- 17:00
00:22:09 → 00:22:12 นหรือจะเป็น 8 น- 16:00 นเขาสามารถอยู่
00:22:12 → 00:22:14 ได้เพราะเขากินอิ่มหรือหมอ 1 กิน 1200 น
00:22:14 → 00:22:16 ถึง 18:00 นเนี่ยหม 1 ก็สามารถอยู่หลัง
00:22:16 → 00:22:18 6:00 นไปจนถึงเที่ยนอีกวันนึงได้เพราะพะ
00:22:18 → 00:22:22 หม 1 กินอิ่มเห็นภาพเนาะนะครับแล้วสเต็ป
00:22:22 → 00:22:25 ที่ 2 เราถึงไปเริ่มทำเรื่องอะไรเราถึงไป
00:22:25 → 00:22:30 จัดเวลานะจัดเวลาการกินด้วยการทำ If ที่
00:22:30 → 00:22:33 หมอหนึ่งพูดมาตั้งแต่เมื่อตอนต้นนะครับ
00:22:33 → 00:22:37 แล้วสเต็ปที่ 3 เราไปออกกำลังกายสร้าง
00:22:37 → 00:22:40 ระบบเผาผลาอ่าออกกำลังกายหลายคนน่ะบอกว่า
00:22:40 → 00:22:43 คุณหมอคะไม่ออกกำลังกายได้มั้ยจริงๆแล้ว
00:22:43 → 00:22:44 เนี่ยที่เราไม่อยากออกกำลังกายเพราะอะไร
00:22:45 → 00:22:47 รู้มั้ยเพราะที่ผ่านมาเราออกกำลังกายแล้ว
00:22:47 → 00:22:49 มันไม่ผอมถ้าเราออกแล้วผอมใครก็อยากออก
00:22:49 → 00:22:52 จริงไม่จริงถ้าทำงานแล้วได้เลื่อนขั้น
00:22:52 → 00:22:54 เรื่อยๆได้ผลตอบแทนเหมาะสมเราก็อยากออก
00:22:54 → 00:22:56 แรงอยากทำมากขึ้นจริงไม่จริงแต่ที่ผ่านมา
00:22:57 → 00:22:59 ไม่อยากออกเพราะอะไรเคยแล้วหมอออก 1 ช่ม 2
00:22:59 → 00:23:03 ชั่วมงไม่ผอมที่ไม่ผอมเพราะสารอาหารไม่ดี
00:23:03 → 00:23:07 หรือเปล่าเพราะอะไรทำไไม่ดีหรือเปล่าหรือ
00:23:07 → 00:23:09 บางคนทำไอแล้วออกกำลังกายด้วยไม่ผอมเพราะ
00:23:09 → 00:23:12 อะไรก็ย้อนกลับมาสารอาหารไม่ดีหรือเปล่า
00:23:12 → 00:23:14 เข้าใจเรื่องสารอาหารนะจบเลยโอเคเป่า
00:23:14 → 00:23:18 เพราะนักเรียนหมอ 1 นะอายุมากสุด 86 น้ำ
00:23:18 → 00:23:21 หนักมากสุด 160 ทำไมผอมได้เพราะออกกำลัง
00:23:21 → 00:23:24 กายหนักหรอไม่ใช่ใครที่น้ำหนักเยอะอายุ
00:23:24 → 00:23:26 แบบจะ 90 อยู่แล้วจะมาออกกำลังกายเวละ
00:23:26 → 00:23:28 ครึ่งชั่วโมงเข่าพังพอดีถูกมั้ยนะครับเ
00:23:28 → 00:23:32 ออก 10-15 นาทีแบบงูๆปลาๆทั้งนั้นแหละ
00:23:32 → 00:23:35 โอเคปป่าแค่ทำ 3 สเต็ปนี้ได้โดยเน้นสาร
00:23:35 → 00:23:38 อาหารก่อนนะ 7 วันพุงยุบท่องไว้เลย 7 วัน
00:23:38 → 00:23:41 พูงยุบนะครับเสร็จปั๊บสิ่งที่จะเจอคือ
00:23:41 → 00:23:44 สเต็ปที่ 4 พอลดน้ำหนักไปได้ระยะนึงจำไว้
00:23:44 → 00:23:47 เลยนะเจอทุกคนคือจะเจอปัญหาว่าน้ำำหนัก
00:23:47 → 00:23:50 เริ่มนิ่งแต่อาจจะไม่ได้มาเจาะลึกเรื่อง
00:23:50 → 00:23:52 น้ำหนักนิ่งในคลิปนี้นะนี่พูดมาก็ 20
00:23:52 → 00:23:54 กว่านาทีแล้วอ่ะนะครับน้ำหนักนิ่งใครอยู่
00:23:54 → 00:23:56 ในกลุ่ม VIP ไปทวนบทที่ 18 นะบ 1 พูดเป็น
00:23:56 → 00:23:59 ชั่วโมงเลยนะเพราะอะไรฟังครั้งเดียวคุณ
00:23:59 → 00:24:02 เข้าใจเสร็จปั๊บคุณจะลดได้ตลอดชีวิตเลยไป
00:24:02 → 00:24:04 สอนคนอื่นต่อก็ยังได้คนในครอบครัวน่ะนะ
00:24:04 → 00:24:06 ครับน้ำหนักนิ่งใครที่ทำ If มาแล้วน้ำ
00:24:06 → 00:24:09 หนักนิ่งนะไปเช็คสารอาหารที่ม 1 พูดว่า
00:24:09 → 00:24:12 ยังปรับอะไรได้อีกมถ้าปรับได้ดีแล้วอาจจะ
00:24:12 → 00:24:14 หยุดพักลดน้ำหนักแป๊บนึงก็ได้นะเพราะอะไร
00:24:14 → 00:24:17 ร่างกายคนเราอ่ะเวลาเราขับรถรถยังต้องพัก
00:24:17 → 00:24:19 เลยถูกมยเวลาเราทำงานเรายังต้องพักเลยรถ
00:24:19 → 00:24:21 น้ำหนักมันก็ต้องมีช่วงพักเหมือนกันนะ
00:24:21 → 00:24:23 ครับเนาะนะเพราะไม่ให้ร่างกายจับได้ว่า
00:24:23 → 00:24:25 เราลดน้ำหนักแล้วสุดท้ายพอเราลดไปได้จน
00:24:25 → 00:24:28 ถึงจุดที่เราพอใจแล้วอ่ะคุณหมอคะของมัน
00:24:28 → 00:24:31 ของทอดน่ะเรากินได้มคะกินได้แป้งต้องลด
00:24:31 → 00:24:34 ตลอดเลยหรอคะเพิ่มแป้งได้ไหเพิ่มได้กลับ
00:24:34 → 00:24:36 ไปกินแป้งเยอะได้ไอติมกินไม่ได้หรอคะกิน
00:24:36 → 00:24:39 ได้หมอ 1 ผอมแล้วหมอ 1 ก็กินไอติมอ่ะแต่
00:24:39 → 00:24:41 เราต้องรู้วิธีการสร้างระบบเผาผลาญของเรา
00:24:41 → 00:24:43 ให้ยั่งยืนก่อนนะไม่งั้นน่ะเราจะกลับไป
00:24:43 → 00:24:46 กินแล้วโโยโยโอเคป่านะครับเนาะเพราะ
00:24:46 → 00:24:49 ฉะนั้นตอนนี้มันคือการใช้หนี้ไขมันเฉยๆ
00:24:49 → 00:24:52 เราอ้วนเราใช้เวลาเป็น 10 ปีเลยอ่ะทำไม
00:24:52 → 00:24:54 เราถึงคาดหวังว่าเราจะผอมในระยะเวลาแค่ 10
00:24:54 → 00:24:57 วันถูกป่าแต่ถ้ามีความรู้ที่เหมา1ึสอนไป
00:24:57 → 00:25:00 คุณอาจจะใช้เวลาแค่ 10 สัปดาห์หรือ 2
00:25:00 → 00:25:02 เดือนก็จะเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลาย
00:25:02 → 00:25:06 อุโมงค์โอเคเนาะนะครับนะคราวนี้หลายคนถาม
00:25:06 → 00:25:08 ต่อว่าคุณหมอคะควรทำกี่วันต่อสัปดาห์ผม
00:25:08 → 00:25:11 บอกเลยนะว่าจริงๆแล้วการทำ If เนี่ยมัน
00:25:11 → 00:25:13 ไม่ใช่อะไรที่พิสดารถ้าคุณไม่ได้ทำโหด
00:25:13 → 00:25:16 เกินไปคำว่าทำโหดเกินไปหมายความว่าอะไร
00:25:16 → 00:25:19 บางคนทำโหดมากคือ 23/1 แบบเไม่ควรทำบ่อย
00:25:19 → 00:25:21 แต่ถ้าคุณทำแค่
00:25:21 → 00:25:25 16/8 18/6 คุณทำอยู่แค่นี้นะคุณสามารถ
00:25:25 → 00:25:28 ทำได้ทุกวันเลยเพราะอะไรเพราะจริงๆมันคือ
00:25:28 → 00:25:31 คือวิถีชีวิตในยุคก่อนด้วยซ้ำก่อนที่เรา
00:25:31 → 00:25:33 จะมีสิ่งที่เรียกว่าตู้เย็นก่อนที่เราจะ
00:25:33 → 00:25:36 รู้จักการถนอมอาหารยุคสมัยเก่าเนี่ยนะ
00:25:36 → 00:25:38 กว่าเขาจะได้อาหารมากินเ่ะเต้องออกไปล่า
00:25:38 → 00:25:40 สัตว์ตอนพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จปั๊บกว่าจะ
00:25:40 → 00:25:42 ได้สัตว์มา 1 ตัวแล้วก็เอามาประกอบอาหาร
00:25:42 → 00:25:45 กว่าจะได้กินก็เที่ยงแล้วพอพระอาทิตย์ตก
00:25:45 → 00:25:48 เย็นปั๊บเราจะกลายเป็นผู้ถูกล่าเราก็ต้อง
00:25:48 → 00:25:50 กลับไปซ่อนตัวอยู่ในที่ที่เราอยู่เพราะ
00:25:50 → 00:25:53 ฉะนั้นในวันๆนึงนะส่วนใหญ่นะบรรพบุรุษเรา
00:25:53 → 00:25:56 ก็ทำให้ f 16/8 18/6 แล้วเวลาที่เราไป
00:25:56 → 00:25:59 ดูพวกประวัติศาสตร์ที่เค้าจาลึกไว้ไม่มี
00:25:59 → 00:26:01 รูปที่แปะอยู่ตามผนังสลักตามผนังหินว่ามี
00:26:01 → 00:26:03 คนอ้วนเลยส่วนใหญ่เป็นรูปคนผอมหมดเลย
00:26:03 → 00:26:05 เพราะอะไรเพราะเขาคทำไโดธรรมชาติเพราะ
00:26:05 → 00:26:07 ฉะนั้นถามว่ามันอันตรายมยมันไม่ได้
00:26:07 → 00:26:09 อันตรายทำได้ทุกวันยกเว้นว่าเป็นช่วงที่
00:26:09 → 00:26:11 เราน้ำหนักนิ่งเราอยากจะพักบ้างคุณอาจจะ
00:26:11 → 00:26:15 สลับกลับไปทำแค่ 12/12 บ้างก็ว่ากันไปแต่
00:26:15 → 00:26:17 อย่ากินจุกจิกตลอดเวลามันจะติดเป็นนิสัย
00:26:17 → 00:26:20 นะครับเนาะนะเพราะฉะนั้นและอีกคำถามนึง
00:26:20 → 00:26:23 คือคุณหมอคะแล้วมันควรทำนานแค่ไหนอ่ะจริง
00:26:23 → 00:26:25 ๆแล้ว If อย่างที่บอกมันคือวิถีชีวิต
00:26:25 → 00:26:28 เพราะฉะนั้นถ้าสมมุติคุณจะทำ 16/8 นะ
00:26:28 → 00:26:30 อันเนี้ยมันคือการกินตั้งแต่พระอาทิตย์
00:26:30 → 00:26:33 ขึ้นพอพระอาทิตย์ตกดินปั๊บเราหยุดกิน 8:00
00:26:33 → 00:26:36 นเรากินมื้อแรกเที่ยนมื้อ 2 18:00 นมื้อ
00:26:36 → 00:26:38 3 พระอาทิตย์ตกดินปั๊บไม่กินอันเนี้ยมัน
00:26:38 → 00:26:40 คือวิถีชีวิตปกติคุณทำได้เรื่อยๆเลยแต่คน
00:26:40 → 00:26:43 ที่ไม่ควรทำไออพูดอย่างงี้ดีกว่าคือคนที่
00:26:43 → 00:26:47 ผอมเกินไปผอมแบบหนังติดกระดูกแล้วนะครับ
00:26:47 → 00:26:51 คนท้องนะครับคนให้นมบุดอาจจะต้องปรึกษา
00:26:51 → 00:26:54 หมอนะแต่คนที่น้ำหนักน้อยเกินไปไม่ควรทำ
00:26:54 → 00:26:57 แล้วคำว่าน้ำหนักน้อยเกินไปคือคุณมี BMI
00:26:57 → 00:26:59 นะครับน้อยกว่า
00:26:59 → 00:27:03 18.5 BMI หรือดัชนีมวลกกลน้อยกว่า 18.5
00:27:03 → 00:27:05 วิธีคิดง่ายๆนะครับว่า BMI หรือดัชนีมวล
00:27:05 → 00:27:08 กกลของคุณเท่าไหร่ให้คุณเอาน้ำหนักนะครับ
00:27:08 → 00:27:11 อย่างหมอ 1 เนี่ยน้ำหนัก 70 นะครับหาร
00:27:11 → 00:27:15 ด้วยส่วนสูงที่เป็นเมตรยกกำลัง 2 หมอ 1
00:27:15 → 00:27:19 สูง 1.78 นะครับแล้วก็ยกกำลัง 2 หารเสร็จ
00:27:19 → 00:27:22 ปั๊บถ้าต่ำกว่า 18.5 คุณหยุดทำไเลยนะ
00:27:22 → 00:27:24 เพราะอะไรแสดงว่าคุณผอมเกินไปแล้วคนที่
00:27:24 → 00:27:27 ผอมเกินไปส่วนใหญ่แล้วยังมีพวงอยู่นะมัน
00:27:27 → 00:27:29 เกิดจากปัญหาของคุณคือกล้ามเนื้อคุณน้อย
00:27:29 → 00:27:33 คุณต้องกินให้เยอะขึ้นและเน้นออกกำลังที่
00:27:33 → 00:27:35 ใช้แรงกล้ามเนื้อเยอะขึ้นพอกล้ามเนื้อคุณ
00:27:35 → 00:27:36 มากขึ้นน้้ำหนักคุณจะเพิ่มขึ้นเองแล้ว
00:27:36 → 00:27:38 อยู่ในเกณฑ์ปกติไม่งั้นอีกหน่อยกระดูกคุณ
00:27:38 → 00:27:41 จะบางเพราะฉะนั้นถามว่า If ทำได้นานแค่
00:27:41 → 00:27:43 ไหนคุณทำได้ตลอดชีวิตน่ะตราบใดที่ BMI
00:27:43 → 00:27:44 ของคุณเนี่ยยังไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ
00:27:44 → 00:27:47 กว่าเกณฑ์เพราะมันคือการทำเพื่อสุขภาพ
00:27:47 → 00:27:49 เห็นภาพเนาะนะครับเพราะฉะนั้นวันนี้น่าจะ
00:27:49 → 00:27:51 เข้าใจอะไรมากขึ้นว่าเราพลาดอะไรไปนะครับ
00:27:51 → 00:27:54 เนาะและน่าจะได้กำลังใจด้วยนะแต่สำคัญที่
00:27:54 → 00:27:57 สุดน่าใครที่ฟังคลิปหมอหนึ่งมาหลายคลิป
00:27:57 → 00:28:00 แล้วหรือฟังคลิปนี้มาถึงตรงนี้แล้วสำคัญ
00:28:00 → 00:28:02 ที่สุดถ้าคุณฟังแล้วคุณไม่ได้เอาไปลงมือ
00:28:02 → 00:28:04 ทำนะมันจะไม่มีประโยชน์เลยนะไม่ว่าคุณจะ
00:28:04 → 00:28:06 ฟังมากี่หมอหรือฟังมากี่คนถ้าคุณไม่มั่น
00:28:06 → 00:28:09 ใจในตัวเองนะไม่มีประโยชน์เลยหลายคนน่ะ
00:28:09 → 00:28:12 ไม่กล้าลงมือทำเพราะกลัวว่าตัวเองจะทำไม่
00:28:12 → 00:28:14 ได้วหนึงให้ข้อคิดนิดนึงนะที่หมอหนึ่งเคย
00:28:14 → 00:28:17 อ่านมาแล้วฟังมาแล้วดีมากเลยนะความพยายาม
00:28:17 → 00:28:19 อยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่นเนี่ยมัน
00:28:19 → 00:28:23 อาจจะไม่ได้เสมอไปคำว่าเสมอไปหมายความว่า
00:28:23 → 00:28:25 คนมักจะคาดหวังว่าพอเราพยายามเสร็จปั๊บ
00:28:25 → 00:28:28 ความสำเร็จต้องมาทันทีจริงๆจแล้วความ
00:28:28 → 00:28:31 พยายามของเราเนี่ยความสำเร็จอาจจะตามมานะ
00:28:31 → 00:28:34 แต่อาจจะ 2 เดือนนะอาจจะ 3 เดือนนะเพราะ
00:28:34 → 00:28:36 ฉะนั้นคุณต้องไม่ดูถูกตัวเองว่าไอ้ที่เรา
00:28:36 → 00:28:39 พยายามอยู่เนี่ยมันจะไม่เห็นผลนะโอเคป่า
00:28:39 → 00:28:41 ไม่ใช่ว่าพยายามวันนี้พรุ่งนี้ช่างน้ำ
00:28:41 → 00:28:43 หนักเลยว่าน้ำหนักลดมไม่ได้เพราะน้ำหนัก
00:28:43 → 00:28:45 มันไม่ได้ลดลงทุกวันมันมีช่วงลดช่วงนิ่ง
00:28:45 → 00:28:50 แต่ถ้าทำถูกวิธี 7 วันคุณจะเริ่มเห็นผล 2
00:28:50 → 00:28:52 สัปดาห์คุณจะเริ่มเห็นผลว่ามันดีขึ้น
00:28:52 → 00:28:55 เสร็จปั๊บทุกอย่างจะเจออะไรเจอปัญหาเจอ
00:28:55 → 00:28:58 ปัญหาเสร็จปั๊บให้รู้ก่อนว่าปัญหาเกิดจาก
00:28:58 → 00:29:00 อะไรทำไมน้ำหนักนิ่งแก้ให้ถูกแล้วเดี๋ยว
00:29:00 → 00:29:03 มันจะไปต่อได้โอเคป่าเพราะฉะนั้นสำคัญมาก
00:29:03 → 00:29:05 ๆหมอหนึเลยเน้นเรื่องความรู้มากๆเลยว่า
00:29:05 → 00:29:08 สำคัญนะครับเนาะหรือบางคนที่เคยเอาความ
00:29:08 → 00:29:10 รู้ฟรีหมอ 1 ไปใช้เสร็จปั๊บลดน้ำหนักแล้ว
00:29:10 → 00:29:13 เจอปัญหาน้ำหนักนิ่งอย่าเพิ่งท้อสำคัญที่
00:29:13 → 00:29:15 สุดย้อนกลับมาเหมือนเดิมนะครับลดไปจนได้
00:29:15 → 00:29:17 ถึงจุดนึงแล้วอ่ะไม่ใช่ว่าเราไม่เก่งหรอก
00:29:17 → 00:29:20 แต่พอเจอปัญหาคุณต้องมีสติว่าปัญหาเกิด
00:29:20 → 00:29:23 จากอะไรถ้าแก้เองไม่ได้มาถามหมอ 1 ให้หมอ
00:29:23 → 00:29:26 1 ช่วยแล้วก็จะไปต่อได้เนาะสิ่งสำคัญ
00:29:26 → 00:29:28 เวลาลดน้ำหนักจะมีอยู่ 3 อย่างใครอยู่
00:29:28 → 00:29:30 อยู่ในกลุ่มเรียนจำได้มั้ยข้อที่ 1 คือ
00:29:30 → 00:29:33 ความรู้คุณต้องมีความรู้ก่อนซึ่งหมอหนึ่ง
00:29:33 → 00:29:35 มีให้อยู่แล้ว 2 คุณต้องมีสิ่งที่เรียก
00:29:35 → 00:29:38 ว่าอะไรคุณต้องมีความเชื่อบางทีคนเราอ่ะ
00:29:38 → 00:29:40 เคยลดน้ำหนักมาหลายวิธีมากๆแล้วแล้วมัน
00:29:40 → 00:29:44 ไม่ผอมอ่ะนะจนเราเริ่มเชื่อมั่นในตัวเอง
00:29:44 → 00:29:46 น้อยลงอย่าอยู่กับความที่ไม่เชื่อมั่นใน
00:29:46 → 00:29:49 ตัวเองนะครับพยายามออกไปหาความรู้ใหม่ๆ
00:29:49 → 00:29:51 ออกไปหาสังคมใหม่ๆแล้วคุณจะเชื่อว่าเฮ้ย
00:29:51 → 00:29:53 คนนั้นน่ะแย่กว่าเราอีกอ่ะทำไมเค้าลดได้
00:29:53 → 00:29:55 อ่ะนี่คือเหตุผลว่าทำไมต้นคลิปหมอหนึชอบ
00:29:55 → 00:29:57 เอานักเรียนที่เค้าลดยากๆมาพูดให้ฟังไม่
00:29:57 → 00:29:59 ได้หมายความความว่าหมอหนึ่งเก่งนะแต่หมอ
00:29:59 → 00:30:01 หนึ่งแค่ต้องการจะบอกว่าถ้าคุณตั้งใจอ่ะ
00:30:01 → 00:30:04 หมอหนึ่งช่วยคุณได้แล้วคุณก็จะเป็นแบบคน
00:30:04 → 00:30:05 ที่เป็น Healthy ฮีโร่ที่หมอหนึ่งเอามา
00:30:05 → 00:30:07 เขียนให้ดูอ่ะคุณจะเริ่มเชื่อว่ามันมีคน
00:30:08 → 00:30:11 ที่ยากกว่าเราทำได้คุณก็ทำได้นะครับแล้ว
00:30:11 → 00:30:14 ก็ข้อที่ 3 คุณต้องมีเพื่อนมีเพื่อนคือมี
00:30:14 → 00:30:17 สังคมใหม่ๆอย่าไปอยู่กับสังคมเดิมๆเช่น
00:30:17 → 00:30:19 วันๆเห็นแต่คนกินแล้วก็อ้วนกินแล้วก็อ้วน
00:30:19 → 00:30:21 ออกกำลังกายเท่าไหร่ก็ไม่ผอมพอไปอยู่ใน
00:30:21 → 00:30:23 สังคมแบบนั้นเราจะเชื่อว่าเออเฮ้ยมันเป็น
00:30:23 → 00:30:25 แบบนั้นจริงๆหร่ะเราก็คงทำไม่ได้หรอกจริง
00:30:25 → 00:30:27 ๆไม่ใช่ถ้าคุณเปลี่ยนไปอยู่ในอีกสังคมนึง
00:30:27 → 00:30:30 อย่างในกลุ่มหม 1 จะมีคนผอมลงทุกวันพอคุณ
00:30:30 → 00:30:32 เห็นแบบนั้นปั๊บคุณก็จะเชื่อว่าเฮ้ยเค้า
00:30:32 → 00:30:34 ทำได้เราต้องทำได้เห็นมั้ย 3 ข้อนี้สำคัญ
00:30:34 → 00:30:36 มากนะครับเนาะเพราะฉะนั้นลองเอาไปปรับใช้
00:30:36 → 00:30:38 ดูนะอันนี้มีกำลังใจมาให้ดูเพิ่มแล้วกัน
00:30:39 → 00:30:40 นะครับนะอันนี้เป็นตัวอย่างนักเรียนของม 1
00:30:40 → 00:30:43 ในกลุ่ม VIP นะเนี่ยบางคนเนี่ยติดปัญหามา
00:30:43 → 00:30:45 ทั้งชีวิตเลยเข้ากลุ่มไป 8 วันปั๊บผอม
00:30:45 → 00:30:47 แล้วนะครับวันนี้ครบ 8 วันที่เริ่มควบคุม
00:30:47 → 00:30:49 น้ำหนักใส่กางเกงที่ทำงานเริ่มหลวมมีคน
00:30:49 → 00:30:52 ที่ทำงานทักแล้วว่าผอมลงไปทำอะไรมาเห็น
00:30:52 → 00:30:55 ป่ะ 8 วันปรับสารอาหารใน 8 บทแรกส่วนใหญ่
00:30:55 → 00:30:56 จะเป็นเรื่องสารอาหหารนะเพราะปรับสาร
00:30:56 → 00:30:59 อาหารปั๊บผอมเลยนะครับนะยิ่งเรียนยิ่งมี
00:30:59 → 00:31:01 ความรู้นะครับมีความคุณหมอมีความละเอียด
00:31:01 → 00:31:04 ในการอธิบายแทบไม่มีคำถามเลยนะเพิ่งฟังมา
00:31:04 → 00:31:06 ถึงบทที่ 3 ก็รู้แล้วว่ามาถูกทางบทที่ 3
00:31:06 → 00:31:08 บทอะไรรู้มั้ยใครที่อยู่ในกลุ่มนะหรือ
00:31:08 → 00:31:10 อยากเข้ากลุ่มนะบทที่ 3 บทโปรตีนโปรตีน
00:31:10 → 00:31:12 เนี่ยสำคัญที่สุดคนไทยพลาดบทนี้แหละนะ
00:31:12 → 00:31:15 ครับตัดสินใจไม่ผิดที่เรียนกับคุณหมอนะ
00:31:15 → 00:31:17 ครับอีกคนนึงนะเรียนไป 2 เดือนแล้วบางคน
00:31:17 → 00:31:19 บอกว่าโหส่วนใหญ่จะไปติดปัญหาที่ 1 เดือน
00:31:19 → 00:31:21 ค่ะคุณหมอเนี่ยเรียนไป 2 เดือนก็ลดต่อได้
00:31:21 → 00:31:24 ถึง 9 กลอ่ะนะครับ 9 กกหายไปใน 2 เดือนนะ
00:31:24 → 00:31:27 ครับมีแต่คนทักว่าอุ๊ยลดได้จริงๆด้วยนะ
00:31:27 → 00:31:29 อีกคนบอกว่าลดน้ำหนักเสร็จแล้วหน้าเรียว
00:31:29 → 00:31:31 ไม่แปลกเพราะว่าไขมันเวลามันลงมันจะลงหมด
00:31:31 → 00:31:34 ทุกส่วนแต่จะเริ่มลงจากหน้าท้องก่อน 7
00:31:34 → 00:31:36 วันคุณจะเริ่มรู้สึกว่าพุงคุณยุบลงเมื่อ
00:31:36 → 00:31:39 คุณทำถูกวิธีนะครับเนาะอีกคนนึงเนี่ยลดมา
00:31:39 → 00:31:41 ระยะนึงแล้วได้ไป 18 กนะครับเหมือนได้
00:31:41 → 00:31:44 ชีวิตใหม่เลยลดจาก 92 เหลือ 75 ใน 3-4
00:31:44 → 00:31:48 เดือนไม่ธรรมดาเลยนะอย่างที่บอกนะแต่อย่า
00:31:48 → 00:31:50 ไปคาดหวังว่ามันจะลดใน 1 เดือน 20 กกมัน
00:31:50 → 00:31:53 เป็นไปไม่ได้อันนั้นคือป่วยแต่ถ้าสมมุติ
00:31:53 → 00:31:56 ว่าคุณมั่นใจในตัวเองค่อยๆทำไปเรื่อยๆมัน
00:31:56 → 00:31:58 จะลดลงเรื่อยๆๆๆๆๆมันจะใช้เวลาน้อยลงแต่
00:31:58 → 00:32:01 ก่อนอาจจะอ้วนแบบ 10 ปีแต่อาจจะใช้เวลา
00:32:01 → 00:32:03 แค่ 6 เดือนแล้วผอมก็ได้คุ้มจะตายนะครับ
00:32:03 → 00:32:05 เนาะนะเข้าใจง่ายนะครับใช้ได้ตลอดชีวิตนะ
00:32:05 → 00:32:08 ครับนี่แหละคือคำนิยามที่หลังจากได้เรียน
00:32:08 → 00:32:10 กับม 1 Hey ฮีโร่นะครับก็ดีดีใจกับทุกคน
00:32:10 → 00:32:13 ในกลุ่มเลยนะแล้วก็เป็นกำลังใจให้หลายๆคน
00:32:13 → 00:32:15 ที่กำลังลดน้ำหนักนะครับส่วนใครที่ถามมา
00:32:15 → 00:32:17 นะครับว่าเราเรียนอะไรกันบ้างในกลุ่มที่
00:32:17 → 00:32:18 อยากเข้าเรียนตรงนี้จะเป็นเรื่องราย
00:32:18 → 00:32:20 ละเอียดในกลุ่มเรียนแล้วนะใครที่ไม่ได้
00:32:20 → 00:32:22 อยากเรียนกับหมอหนึ่งนะครับก็สามารถข้าม
00:32:22 → 00:32:24 ไปดูคลิปอื่นได้เลยนะครับของหมอ 1 เนาะ
00:32:24 → 00:32:26 แต่ถ้าสำหรับใครที่อยากเรียนกับหมอ 1 นะ
00:32:26 → 00:32:29 ตั้งใจฟังต่อนะเพราะว่าตอนนี้มีสิทธิ
00:32:29 → 00:32:30 พิเศษสำหรับคนที่เข้ากลุ่มตอนนี้ด้วยนะ
00:32:30 → 00:32:32 ครับตัวอย่างในกลุ่มเนี่ยสิ่งที่เราจะ
00:32:32 → 00:32:34 เรียนกันนะย้อนกลับมาภาพนี้เลยนะครับคุณ
00:32:35 → 00:32:36 จะลดน้ำหนักได้ตลอดชีวิตคุณต้องเข้าใจ
00:32:36 → 00:32:39 พีระมิดความร้อมหมอ 1 จะมีบทเรียนหลัก
00:32:39 → 00:32:41 ทั้งหมด 21 บทนะครับเราจะเรียนกันใน
00:32:41 → 00:32:43 Facebook กลุ่มลับนะ facebook กลุ่มลับ
00:32:43 → 00:32:45 ซึ่งในนั้นเนี่ยคุณสามารถเรียนเมื่อไหร่
00:32:45 → 00:32:47 ก็ได้เรียนจากที่ไหนบนโลกก็ได้หมอ1ึมีคน
00:32:47 → 00:32:49 ไทยที่อยู่ต่างประเทศอยู่ยุโรปอยู่ฮ่องกง
00:32:49 → 00:32:51 อยู่ออสเตรเลียอเมริกาเต็มไปหมดเลยนะครับ
00:32:51 → 00:32:53 ไม่จำเป็นต้องเรียนพร้อมกันเพราะหมอ 1 ลง
00:32:53 → 00:32:56 คลิปไว้ให้แล้วนะครับคลิปหลักจะมี 21 บท
00:32:56 → 00:32:58 ซึ่งบอกตั้งแต่ตอนนี้ก่อนเลยเลยว่าไม่
00:32:58 → 00:33:00 เหมือนกับที่ลงใน Facebook กับ YouTube
00:33:00 → 00:33:03 ทั่วไปเพราะอะไรนะครับอันนี้จะเป็นสำหรับ
00:33:03 → 00:33:06 คนที่ตั้งใจเข้ามาเรียนกับมึงเท่านั้นนะ
00:33:06 → 00:33:08 ครับสิ่งที่จะมีความแตกต่างคือข้อที่ 1
00:33:08 → 00:33:10 เลยคลิปลึกกว่าเพราะฉะนั้นคลิปก็จะยาว
00:33:10 → 00:33:12 กว่าปกตินิดนึงในแต่ละบทส่วนใหญ่ก็จะอยู่
00:33:12 → 00:33:15 ประมาณ 40 กว่านาทีถึง 1 ช่วมในแต่ละบท
00:33:15 → 00:33:17 โอเคมั้ยเหมือนคุณนั่งดูซีรียส์อ่ะนะครับ
00:33:17 → 00:33:19 คุณจะต้องเข้าใจก่อนว่าอ๋อศัตรูหมายเลข 1
00:33:19 → 00:33:21 ที่ทำให้ลดน้ำหนักไม่ได้เป็นแบบนี้นี่เอง
00:33:21 → 00:33:23 อ๋อบทที่ 2 ร่างกายเราอ้วนเพราะแบบนี้เอง
00:33:23 → 00:33:26 อ๋อบทที่ 3 อุ๊ยโปรตีนเรากินไม่ถึงแบบนี้
00:33:26 → 00:33:28 เองเห็นภาพมั้ยเพราะจจบแต่ละบทปั๊บมันจะ
00:33:28 → 00:33:31 มีคำำถามเช่นจบบทที่ 3 ไปแล้วคุณหมอคะรู้
00:33:31 → 00:33:32 แล้วค่ะว่าน้ำหนักเท่านี้ต้องกินโปรตีน
00:33:32 → 00:33:35 เท่าไหร่เริ่มนับโปรตีนตามสูตรคุณหมอเป็น
00:33:35 → 00:33:37 แล้วแต่ว่าเออพอไปดูฉลากปั๊บอ่านฉลากไม่
00:33:37 → 00:33:39 เป็นบทที่ 4 จะมาสอนอ่านฉลากมันจะเป็น
00:33:39 → 00:33:41 สเต็ปๆไปเรื่อยๆเหมือนคุณได้เรียนรู้ร่าง
00:33:41 → 00:33:42 กายตัวเองนะครับเนาะเพราะฉะนั้นคุณจะได้
00:33:42 → 00:33:45 เรียนจนครบเลยนะครับในพีระมิดความผอมเนาะ
00:33:45 → 00:33:47 นะคราวนี้นี่เดี๋ยวให้ดูตัวอย่างเนี่ย
00:33:47 → 00:33:49 ระบบพลังงานในร่างกายเหมือนก็จะสอนว่าอ๋อ
00:33:49 → 00:33:51 มันมีระบบพลังงานแบบนี้นะสารอาหารอะไรยัง
00:33:51 → 00:33:53 ไงเป็นแบบนี้นะและมีสูตรการนับโปรตีนที่
00:33:53 → 00:33:55 หมอ 1 พูดไปนะครับเป็นเทคนิคของหมอ 1 เอง
00:33:55 → 00:33:57 เนาะก็เอาไปใช้ได้เลยนะครับว่าเรานหนัก
00:33:58 → 00:33:59 เท่านี้เรากินโปรจีนเท่าไหร่นะและที่หลาย
00:33:59 → 00:34:02 ๆคนถามมาว่าวันนึงมีเมนูอาหารให้มยสิ่ง
00:34:02 → 00:34:04 ที่ผมจะสอนมันมากกว่าเมนูอาหารอีกสิ่งที่
00:34:04 → 00:34:07 ผมจะสอนคือผมจะไม่ได้ให้เมนูอาหารคุณแต่
00:34:07 → 00:34:10 ผมจะสอนให้คุณจัดเมนูอาหารเป็นดีมยดี
00:34:11 → 00:34:13 เพราะอะไรรู้มั้ยแต่ละคนกินไม่เหมือนกัน
00:34:13 → 00:34:14 น่ะไม่ใช่ว่าผมมีเมนูอาหาร 1 อันแล้วจะ
00:34:14 → 00:34:17 โยนให้ทุกคนเอาไปทำทำแบบนั้นมันง่ายถูก
00:34:17 → 00:34:19 มั้ยแต่มันไม่ยั่งยืนหรอกเพราะอะไรณวัน
00:34:19 → 00:34:21 นึงถ้าผมไม่ได้มีเมนูอาหารให้คุณจะผอมหรอ
00:34:21 → 00:34:23 คุณก็กลับไปอ้วนเหมือนเดิมสิถูกมั้ยนะ
00:34:23 → 00:34:25 ครับเพราะฉะนั้นผมจะสอนคุณจัดเมนูอาหาร
00:34:25 → 00:34:28 ด้วยตนเองว่าเราชอบกินเมเมนูนี้เมนูนี้ทำ
00:34:28 → 00:34:30 ยังไงดีครับคุณหมอนะถ้าคุณเข้าใจเรื่อง
00:34:30 → 00:34:33 วัตถุดิบนะว่าโปรตีนมีอะไรบ้างนะเดี๋ยว
00:34:33 → 00:34:35 คุณมาทำเมนูอาหารโดยที่คุณไม่ต้องทำอาหาร
00:34:35 → 00:34:37 เองด้วยนะคุณไปเลือกเอาอ่ะกะเพราไก่
00:34:37 → 00:34:39 กะเพราหมผอมได้หมดถ้าเข้าใจสัดส่วนอาหาร
00:34:39 → 00:34:42 ตามน้ำหนักตัวนะครับเนาะแล้วก็ฉลาก
00:34:42 → 00:34:44 โภชนาการหลายคนชอบอ่านผิดหมอหนึสอน
00:34:44 → 00:34:46 ละเอียดหมดเลยมีตัวอย่างเป็น 10 ๆ100รๆ
00:34:46 → 00:34:48 อันเลยนะครับแล้วก็เรื่องแป้งอย่างเงี้ย
00:34:48 → 00:34:50 ก็จะมีสอนว่าอ๋อแป้งเนี่ยแต่ละหมวดเนี่ย
00:34:50 → 00:34:52 หมอหนึจะค่อยๆทยอยทีละหมวดนะว่าข้าวเราดู
00:34:53 → 00:34:56 ยังไงนะครับขนมปังดูยังไงผักผลไม้นะครับ
00:34:56 → 00:34:59 นมดูยังไงมีตัวอย่างให้ดูครบเลยนะครับนะ
00:34:59 → 00:35:02 น้ำหนักนิ่งแก้ยังไงแล้วก็พอลดได้เสร็จ
00:35:02 → 00:35:04 ปั๊บเราต้องเช็คอะไรบ้างว่าร่างกายของเรา
00:35:04 → 00:35:07 เนี่ยน้ำหนักสัดส่วนลงดียนะครับแล้วก็แถม
00:35:07 → 00:35:09 ให้นะตอนนี้มีบทเรียนที่เกี่ยวกับเรื่อง
00:35:09 → 00:35:12 ของผลเลือดด้วยนะครับวิธีแก้ปัญหาน้ำหนัก
00:35:12 → 00:35:14 นิ่งนะครับพวกเนี้ยคุณสามารถเอาไปใช้ได้
00:35:14 → 00:35:16 เลยนะครับแล้วตอนนี้เนี่ยใครที่สมัครเข้า
00:35:16 → 00:35:18 กลุ่มตอนนี้นะครับหมอ 1 มีอัปเดตไปแล้ว 4
00:35:18 → 00:35:20 บทด้วยนะคุณจะได้อัปเกรดเป็นคอร์สตลอดชีพ
00:35:20 → 00:35:22 หมายความว่าอะไรคอร์สเดิมของหมอ 1 เนี่ย
00:35:22 → 00:35:24 ประมาณ 3 ปีที่แล้วนะครับคนที่เข้าไป
00:35:24 → 00:35:27 เรียนเนี่ยผ้อมกันไปนานละแต่ถ้าคุณเพิ่ง
00:35:27 → 00:35:28 เข้ากลุ่มตอนตอนนี้หลังเห็นคลิปนี้คุณจะ
00:35:28 → 00:35:30 ได้เรียนคอร์สเดิมด้วยแล้วก็แถมคอร์สใหม่
00:35:30 → 00:35:32 ด้วซึ่งตอนนี้หมอหนึ่งอัปเดตไป 4 บทแล้ว
00:35:32 → 00:35:34 คุณสามารถเรียนได้ทั้งคอร์สใหม่คอร์สเก่า
00:35:34 → 00:35:36 ครบเลยที่เป็นคอร์สลดน้ำหนักดีมยนะครับ
00:35:36 → 00:35:38 คราวนี้หลายคนก็อาจจะคิดว่าคุณหมอคะแล้ว
00:35:38 → 00:35:40 ถ้าลดแบบนี้แล้วหนูมีคำถามหนูจะทำยังไงนะ
00:35:40 → 00:35:42 ครับหมอหนึจะมีโพสต์ให้ถามคำถามท้ายบทแต่
00:35:42 → 00:35:44 ละบทด้วยนะครับเราจะอัปเดตกันอยู่ตลอดใน
00:35:45 → 00:35:47 กลุ่มว่าเออตอนนี้ติดปัญหาอะไรนะครับแล้ว
00:35:47 → 00:35:49 เรียนบทนี้ไม่เข้าใจตรงไหนนะครับหมอหนึ่ง
00:35:49 → 00:35:51 จะช่วยตอบคำถามอยู่ในกลุ่มตลอดโอเคป่ะนะ
00:35:51 → 00:35:54 ครับเนาะเพราะฉะนั้นปิดประตูความอ้วนไป
00:35:54 → 00:35:55 ได้เลยนะครับผมจะช่วยจนกว่าคุณจะได้ผล
00:35:55 → 00:35:58 ลัพธ์ที่พอใจนะหลายคนฟังมาถึงตรงนี้คิด
00:35:58 → 00:36:00 ว่าโอ้โหค่าเรียนต้องเป็นหมื่นเป็นแสนนะ
00:36:00 → 00:36:02 ครับเนาะบอกเลยว่าคอร์สนี้ทำมาเพื่ออยาก
00:36:02 → 00:36:05 ให้ทุกคนเนี่ยกล้าที่จะลงทุนกับสุขภาพของ
00:36:05 → 00:36:08 ตนเองบ้างเนาะหลายคนเคยซื้ออาหารเสริม
00:36:08 → 00:36:10 มานะเดือนละ 1,500 3 เดือน 4,500 ไม่ผอม
00:36:10 → 00:36:12 เปลี่ยนชนิดเปลี่ยนไปเรื่อยๆบางคนซื้อ
00:36:12 → 00:36:15 คอร์สอาหารเสริมเขย่าๆเป็นหมื่นลดได้
00:36:15 → 00:36:17 เสร็จปั๊บกลับไปโยโยอีกเพราะไม่เข้าใจ
00:36:17 → 00:36:20 เรื่องอาหารบางคนนะซื้อสมาชิกฟิตเนสเดือน
00:36:20 → 00:36:21 นึงเป็นหมื่นแต่ไม่เคยไปใช้เพราะอะไรไม่
00:36:21 → 00:36:24 เข้าใจเรื่องสารอาหารนะครับแต่ถ้าคุณมี
00:36:24 → 00:36:26 ความรู้ในคอร์สนี้คุณจะใช้ได้ตลอดชีวิต
00:36:26 → 00:36:28 เลยนะครับราคาเต็มนะครับสำหรับคนที่จะ
00:36:29 → 00:36:30 สมัครเข้ากลุ่มเรียนนะครับปกติจะมีค่า
00:36:30 → 00:36:33 สมัครอยู่ที่ 9,900 บาทนะครับแต่ถ้าเห็น
00:36:33 → 00:36:35 คลิปนี้นะครับคุณจะได้สมัครในราคา
00:36:35 → 00:36:38 โปรโมชั่นพิเศษแค่ 3,900 บาทเท่านั้นนะ
00:36:38 → 00:36:41 ครับเทียบกับสิ่งที่คุณเคยลงทุนมาทั้ง
00:36:41 → 00:36:43 ชีวิตเกี่ยวกับเรื่องการลดน้ำหนักไม่ว่า
00:36:43 → 00:36:46 จะเป็นยาลดน้ำหนักอาหารเสริมโปรตีนต่างๆ
00:36:46 → 00:36:49 โปรตีนเขย่าคอร์สออกกำลังกายแต่ไม่ผอม
00:36:49 → 00:36:51 เพราะคุณขาดสิ่งเดียวเลยคือความรู้นะครับ
00:36:51 → 00:36:53 เพราะฉะนั้นเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ
00:36:53 → 00:36:55 แน่นอนนะครับใครที่สนใจสมัครเข้าเรียนนะ
00:36:55 → 00:36:58 ครับสามารถโอนค่าสมัครได้ที่เลขบัญชีนี้
00:36:58 → 00:36:59 นะครับแล้วก็ทักไปที่ LINE แ Healthy
00:36:59 → 00:37:01 Hero จะมีทีมงานที่น่ารักๆคอยอำนวยความ
00:37:02 → 00:37:04 สะดวกวิธีเข้ากลุ่มให้นะนะครับแล้วก็เข้า
00:37:04 → 00:37:06 ไปเสร็จเข้าไปเริ่มเรียนเลยนะผอมก่อนปี
00:37:06 → 00:37:08 หน้าแน่นอนนะครับและหลายๆคนอย่างที่บอกนะ
00:37:08 → 00:37:10 เค้าเข้าไป 7 วันเก็เห็นผลแล้วอ่ะเพราะ
00:37:10 → 00:37:13 อะไรปรับสารอาหารให้ถูกต้องอย่างเดียวเลย
00:37:13 → 00:37:14 นะครับเนาะเพราะฉะนั้นใครที่จะเข้ากลุ่ม
00:37:14 → 00:37:16 เรียนก็โอนค่าสมัครได้เลยทันทีนะครับ
00:37:16 → 00:37:18 เพราะถ้าสมมุติว่าโปรโมชั่นหมดแล้วหมอ
00:37:18 → 00:37:20 หนึ่งจะตัดตรงส่วนท้ายนี้ทิ้งไปนะครับคุณ
00:37:20 → 00:37:22 จะไม่เห็นโปรโมชั่นนี้อีกแล้วนะนะครับ
00:37:22 → 00:37:23 เพราะฉะนั้นก็สมัครเสร็จปั๊บส่งราย
00:37:23 → 00:37:24 ละเอียดที่ LINE แ Healthy Hero นะครับ
00:37:25 → 00:37:27 แล้วเจอกันในกลุ่มเรียนนะครับชมคลิปหมอ 1
00:37:27 → 00:37:28 จบแล้วนะครับอย่าลืมกดติดตามเพื่อที่จะ
00:37:28 → 00:37:30 ได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆจากหมอ 1 นะครับส่วน
00:37:30 → 00:37:33 คลิปอื่นๆที่น่าสนใจกดดูจากทางซ้ายมือได้
00:37:33 → 00:37:34 เลยครับส่วนใครที่อยากลดน้ำหนักครั้งสุด
00:37:34 → 00:37:36 ท้ายในชีวิตในกลุ่มเรียนกับม 1 นะครับกด
00:37:36 → 00:37:38 ดูรายละเอียดจากทางขวามือหรือดูราย
00:37:38 → 00:37:39 ละเอียดจากลิงก์ในคอมเมนต์ได้เลยนะครับ
00:37:39 → 00:37:43 แล้วพบกันในกลุ่มเรียนนะครับ
00:00:00 → 00:00:03 สรุปวิธีลดน้ำหนักแบบ If นะครับแบบครบจบ
00:00:03 → 00:00:05 ในคลิปเดียวเลยไม่ว่าจะเป็น If คืออะไร
00:00:05 → 00:00:07 สำหรับคนที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยนะครับ If
00:00:07 → 00:00:10 มีกี่แบบ 16/8 เอย 23/1 เอยอะไรพวกนี้มัน
00:00:10 → 00:00:12 คืออะไรนะครับและสำหรับใครที่เคยทำมาแล้ว
00:00:12 → 00:00:15 แล้วติดปัญหาว่าทำไแต่น้ำหนักไม่ลดหรือลด
00:00:15 → 00:00:17 แล้วน้ำหนักนิ่งนะครับมักจะติดปัญหาว่า
00:00:17 → 00:00:20 อะไรมักจะติดปัญหาว่าไม่รู้ว่า If เนี่ย
00:00:20 → 00:00:21 ต้องกินอะไรบ้างเพราะฉะนั้นเดี๋ยวจะ
00:00:21 → 00:00:23 อธิบายให้ฟังนะครับหม 1 จะอธิบายให้ฟัง
00:00:23 → 00:00:26 ว่า If เนี่ยควรกินอะไรบ้างนะครับแล้วที่
00:00:26 → 00:00:30 สำคัญคือหลายๆคนชอบถามว่าการทำ If เนี่ย
00:00:30 → 00:00:32 ต้องทำทุกวันมยนะครับทำกี่วันในสัปดาห์
00:00:32 → 00:00:35 นึงนะครับควรทำกี่วันใน 1 สัปดาห์เนาะ
00:00:35 → 00:00:37 แล้วก็ควรทำนานแค่ไหนใครบ้างที่พอถึงจุด
00:00:37 → 00:00:39 นึงแล้วไม่ควรทำ If ต่อแล้วนะครับเดี๋ยว
00:00:39 → 00:00:41 อธิบายให้ฟังจนครบเลยนะครับสวัสดีครับผม
00:00:41 → 00:00:43 หมอ 1 Healthy ฮีโร่นะครับลดน้ำหนัก
00:00:43 → 00:00:45 ครั้งสุดท้ายในชีวิตคิดถึงหมอ 1 Healthy
00:00:45 → 00:00:47 ฮีโร่นะครับคราวนี้เหมือนเดิมนะครับก่อน
00:00:47 → 00:00:49 ที่เราจะไปเริ่มดูกันนะครับว่าลดน้ำหนัก
00:00:49 → 00:00:52 แบบ If มีอะไรเทคนิคอะไรยังไงบ้างนะครับ
00:00:52 → 00:00:54 ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนท่านนี้ด้วยนะ
00:00:54 → 00:00:57 ลดน้ำหนักจาก 112 เหลือ 92 เนี่ยท่าน
00:00:57 → 00:00:59 เนี่ยตอนแรกเนี่ยติดตามหมอหนึมาจาก
00:00:59 → 00:01:01 YouTube เนาะติดตามมา 8 เดือนลดไปได้
00:01:01 → 00:01:03 ประมาณ 20 กลเลยถือว่าเก่งมากๆเลยนะครับ
00:01:03 → 00:01:05 แต่เชื่อว่าหลายคนที่ฟังหมอ 1 เนี่ยมา
00:01:05 → 00:01:08 ก่อนนะหรือไม่เคยฟังมาก่อนแล้วเพิ่งมาฟัง
00:01:08 → 00:01:10 คลิปแรกจะเจอปัญหาอยู่ 2 อย่างปัญหาที่ 1
00:01:10 → 00:01:13 คือลองลดเองแล้วแต่ลดไม่ลงเลยอันเนี้ย
00:01:13 → 00:01:15 ปัญหาเนี้ยมักจะเกิดจากเรื่องของสารอาหาร
00:01:15 → 00:01:18 ทำ f ยังไงก็ไม่ลงเพราะสารอาหารไม่เข้าใจ
00:01:18 → 00:01:20 เดี๋ยวจะไปอธิบายให้ฟังในหัวข้อที่ชื่อ
00:01:20 → 00:01:22 ว่า If ควรกินอะไรบ้างคุณจะได้รู้ว่าคุณ
00:01:22 → 00:01:24 พลาดอะไรไปนะครับส่วนบางคนอย่างนักเรียน
00:01:24 → 00:01:27 ท่านนี้เนี่ยลดเองมาได้แล้ว 20 กกแต่ติด
00:01:27 → 00:01:30 ปัญหาว่ามันไปต่อไม่ได้น้ำน้ำหนักเริ่มลง
00:01:30 → 00:01:32 ช้าทั้งๆที่ทำไเหมือนเดิมเลยใครเคยเป็น
00:01:32 → 00:01:35 แบบนี้เดี๋ยวมาฟังวิธีแก้กันก็จะย้อนกลับ
00:01:35 → 00:01:37 ไปเช็คที่เรื่องสารอาหารอีกเหมือนกันนะ
00:01:37 → 00:01:39 ครับและบางคนสารอาหารถูกต้องแล้วจะต้องไป
00:01:39 → 00:01:42 ดูในพีระมิด 5 ขั้นตอนของการลดน้ำหนักที่
00:01:42 → 00:01:44 ม1ึเคยสอนไว้นะครับว่าเออถ้ามันเจอปัญหา
00:01:44 → 00:01:47 น้ำหนักนิ่งเราควรจะแก้ยังไงบ้างโอเคมย
00:01:47 → 00:01:49 เนี่ยท่านนี้พอเริ่มเข้ามาเรียนกับหมอ 1
00:01:49 → 00:01:51 นะครับในกลุ่ม VIP ตัดสินใจเข้ากลุ่มปั๊บ
00:01:51 → 00:01:54 เนี่ย 3 สัปดาห์นะครับเริ่มเข้าใจแล้วว่า
00:01:54 → 00:01:56 อ๋อเราพลาดอะไรไปต้องปรับอะไรเพราะบางคน
00:01:56 → 00:01:59 เนี่ยบอกเลยนะว่าเวลาเจอปัญหาว่าลถไปได้
00:01:59 → 00:02:01 ระยะนึงแล้วน้ำหนักนิ่งและแก้ผิดวิธีสุด
00:02:01 → 00:02:03 ท้ายมันจะโยโยนะอย่าเด็ดขาดนะครับเนาะ
00:02:04 → 00:02:05 เพราะฉะนั้นวิธีที่ถูกต้องเลยสำคัญมากนะ
00:02:05 → 00:02:08 ครับน้ำหนักก็ลงสัดส่วนก็ลงด้วยนะครับจาก
00:02:08 → 00:02:11 l42 เหลือ 36 แล้วใครที่คิดว่าชีวิตนี้
00:02:11 → 00:02:14 จะลดน้ำหนักไม่ได้ฟังคลิปหมอ 1 ให้จบแล้ว
00:02:14 → 00:02:17 เอาไปทำตามก่อนนะครับส่วนใครที่ถามไปใน
00:02:17 → 00:02:18 คลิปอื่นๆนะครับว่าอยากเข้ากลุ่มเรียนลด
00:02:18 → 00:02:20 น้ำหนัก VIP กับหมอ 1 ด้วยนะครับเดี๋ยว
00:02:20 → 00:02:22 ช่วงท้ายหมอ 1 จะอธิบายให้ฟังว่าตอนนี้ใน
00:02:22 → 00:02:24 คลาเนี่ยเค้าเรียนอะไรกันบ้างแล้วเค้ามี
00:02:24 → 00:02:26 อัปเดตอะไรเพิ่มบ้างนะครับเนาะและมี
00:02:26 → 00:02:28 โปรโมชั่นพิเศษด้วยแต่สำหรับใครที่เพิ่ง
00:02:28 → 00:02:31 มาฟังคลิปนี้ฟังให้จบก่อนเอาความรู้ไปใช้
00:02:31 → 00:02:32 ก่อนนะครับเข้ากลุ่มไม่เข้ากลุ่มนี่ไม่
00:02:32 → 00:02:34 ใช่เรื่องสำคัญเลยแต่ขอให้ฟังให้จบจะได้
00:02:35 → 00:02:36 รู้ว่าเราพลาดอะไรไปอย่างน้อยได้เอาความ
00:02:37 → 00:02:39 รู้ในคลิปนี้ไปใช้ม 1 ก็ดีใจนะครับนะอ่ะ
00:02:39 → 00:02:42 คราวนี้คำถามแรกเลยสำหรับคนที่ไม่เคยฟัง
00:02:42 → 00:02:44 มาก่อนหรือเคยทำ If มาแต่เข้าใจแบบผิดๆนะ
00:02:44 → 00:02:46 ครับเพราะถ้าพื้นฐานคุณของการเข้าใจ
00:02:47 → 00:02:49 เรื่อง If คุณผิดมันจะผิดไปหมดเลยนะคำถาม
00:02:49 → 00:02:52 คือ If คืออะไรนะครับ If จริงๆแล้วเนี่ย
00:02:52 → 00:02:55 มันย่อมาจากคำว่า
00:02:55 → 00:02:57 intermittent นะครับ
00:02:57 → 00:03:00 intermittent fasting จริงๆจคุณไม่
00:03:00 → 00:03:02 จำเป็นที่จะต้องจำภาษาอังกฤษได้นะอันไหน
00:03:02 → 00:03:04 ที่เป็นศัพท์ไหนใครฟังหมอ 1 มาหลายคลิปจะ
00:03:04 → 00:03:06 รู้ว่าหมอ 1 เนี่ยไม่นิยมให้จำอะไรที่มัน
00:03:06 → 00:03:09 ไม่จำเป็นต้องจำแต่อันนี้อยากให้เข้าใจ
00:03:09 → 00:03:10 พื้นฐานที่มาของมันก่อนนะครับ
00:03:10 → 00:03:13 intermittent เนี่ยแปลว่าเป็นช่วงๆส่วน
00:03:13 → 00:03:16 fasting แปลว่าอดอาหารเพราะฉะนั้นจริงๆ
00:03:16 → 00:03:18 พอเอามารวมกันมันแปลว่ามีการอดอาหารเป็น
00:03:18 → 00:03:22 ช่วงๆใน 1 วันโอเคมยใน 1 วันเช่นอะไรเช่น
00:03:22 → 00:03:27 บางคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า If 16/8 เลข
00:03:27 → 00:03:29 เนี่ยมันบวกกันน่ะได้ 24 เพราะมันคือใน 1
00:03:29 → 00:03:32 วันมี 24 ชมดังนั้นหมายความว่าอะไรเราจะ
00:03:32 → 00:03:34 มีการแบ่งช่วงเวลานะครับเป็นช่วงของการ
00:03:34 → 00:03:38 กินกับช่วงของการที่เราหยุดกินทำไมต้อง
00:03:38 → 00:03:41 แบ่งแบบนี้ด้วยนะครับเพราะเค้าค้นพบว่า
00:03:41 → 00:03:43 เมื่อไหร่ก็ตามคีย์เวิร์ดสำคัญเลยนะเมื่อ
00:03:43 → 00:03:45 ไหร่ก็ตามที่เรามีพลังงานจากอาหารที่กิน
00:03:45 → 00:03:48 เข้าไปภายนอกแม้จะเป็นแค่เครื่องดื่มที่
00:03:48 → 00:03:50 มีน้ำตาลเล็กๆน้อยๆหรืออะไรพวกนี้ก็แล้ว
00:03:50 → 00:03:53 แต่นะครับที่มีพลังงานพอเรากินเข้าไปปั๊บ
00:03:53 → 00:03:58 ร่างกายจะหยุดใช้ไขมันแล้วไปใช้น้ำตาลที่
00:03:58 → 00:04:00 เรากินเข้าไปแทนซึ่งซึ่งของที่เรากินส่วน
00:04:00 → 00:04:02 ใหญ่มันย่อยแล้วมันได้น้ำตาลทั้งนั้นแหละ
00:04:02 → 00:04:03 นะครับเพราะฉะนั้นเราเลยจำเป็นที่จะต้อง
00:04:03 → 00:04:06 มีช่วงหยุดกินบ้างเพราะงานวิจัยเา้าบอก
00:04:06 → 00:04:09 เลยว่าร่างกายจะเริ่มเอาไขมันมาใช้ได้ดี
00:04:09 → 00:04:10 เมื่อเรามีช่วงเวลาของการหยุดทานอย่าง
00:04:10 → 00:04:13 น้อย 12 ชมงหมายความว่าอะไรอ้าเราลองนึก
00:04:14 → 00:04:16 ภาพของตัวเองวันนี้ว่าทำไมที่ผ่านมาเราถุ
00:04:16 → 00:04:19 อ้วนนะครับบางคนตื่นมา 6:00 นนะเริ่มกิน
00:04:19 → 00:04:21 กาแฟ T in one ก่อนมีน้ำตาลมั้ยมีเพราะ
00:04:21 → 00:04:23 ท in1 เนี่ยมีใส่น้ำตาลครีมเทียมในนั้น
00:04:23 → 00:04:25 อยู่แล้วถูกมยเพราะฉะนั้นร่างกายจะเริ่ม
00:04:25 → 00:04:27 ใช้น้ำตาลตั้งแต่ตอนนั้นแล้วหยุดใช้ไขมัน
00:04:27 → 00:04:30 เลยและหลายๆคนก็จะกินตอนสายตอนสายเนี่ย
00:04:30 → 00:04:32 อาจจะกินเป็นข้าวเช้าเสร็จปั๊บก็ไปกิน
00:04:32 → 00:04:34 ข้าวเที่ยงช่วงบ่ายๆก็มีกินเหมือนกันนะ
00:04:34 → 00:04:36 เป็นมื้อเบรกขนมมื้อเบรกส่วนใหญ่ก็มีน้ำ
00:04:36 → 00:04:38 ตาลกับแป้งเยอะๆนะครับแล้วก็กินมื้อเย็น
00:04:38 → 00:04:41 มื้อค่ำสุดท้ายก่อนเข้านอนอาจจะมีนมสัก 1
00:04:41 → 00:04:45 แก้วหมายความว่าอะไรตั้งแต่ 18:00 นจนถึง
00:04:45 → 00:04:47 22:00 นก่อนนอนนะครับเป็นเวลาทั้งหมด 16
00:04:47 → 00:04:51 ชมงคุณกินตลอดเวลาเลยแทนที่ร่างกายจะได้
00:04:51 → 00:04:53 หยุดพักบ้างเพื่อเอาไขมันมาใช้ร่างกายไม่
00:04:53 → 00:04:55 ได้ทำแบบนั้นเลยมีแค่ช่วงที่คุณนอนคือตอน
00:04:55 → 00:04:58 22:00 นจนถึง 18:00 นคือ 8 ชมนั้นที่
00:04:58 → 00:05:02 ร่างกายเอาไขมันมาใช้แต่ถามว่าใช้ได้เยอะ
00:05:02 → 00:05:04 ไมไม่เพราะมหนึพูดไปแล้วตั้งแต่ตอนต้นว่า
00:05:04 → 00:05:07 อะไรว่าร่างกายจะใช้ไขมันได้ดีเมื่อคุณมี
00:05:07 → 00:05:10 ช่วงหยุดกินอย่างน้อย 12 ช่วโมงดังนั้น
00:05:10 → 00:05:12 ถ้าคุณนอนแค่ 8 ชมช่วงนั้นร่างกายพยายาม
00:05:12 → 00:05:15 เอาไขมันมาใช้นะแต่ไม่มากพอที่คุณจะผอมลง
00:05:15 → 00:05:18 นะครับคราวนี้ตัดภาพกลับมาก่อนทำไมมันถึง
00:05:18 → 00:05:19 เป็นแบบนี้นะครับอีกเหตุผลนึงคือคุณต้อง
00:05:20 → 00:05:22 เข้าใจเรื่องระบบพลังงานนะระบบพลังงานใน
00:05:22 → 00:05:24 ร่างกายมี 2 ระบบหมอ 1 พูดทุกคลิปเลยนะ
00:05:24 → 00:05:26 คีย์เวิร์ดตรงนี้นะคือใช้น้ำตาลกับแป้ง
00:05:26 → 00:05:28 เป็นหลักหรือไม่ก็ใช้ไขมันเป็นพลังงาน
00:05:28 → 00:05:30 หลักแต่ก่อน 23 10 ปีเราเข้าใจว่าเฮ้ย
00:05:31 → 00:05:33 เรากินไขมันเยอะเราเลยอ้วนนะครับเา้าก็
00:05:33 → 00:05:36 เลยทำอาหารที่เป็นไงอุตสาหกรรมโล Fat นมล
00:05:36 → 00:05:38 Fat อาหารทุกอย่างล Fat มันเนยหมด
00:05:38 → 00:05:40 เลยแต่ไม่ผอมเพราะอะไรเพราะเรู้แล้วว่า
00:05:40 → 00:05:43 ปัจจุบันเนี่ยการที่คนเรามันอ้วนเนี่ยเรา
00:05:43 → 00:05:44 อ้วนจากการที่เรามีน้ำตาลกับแป้งที่มาก
00:05:44 → 00:05:47 เกินไปแล้วร่างกายใช้ไม่หมดนะครับการที่
00:05:47 → 00:05:49 ร่างกายเรากินไขมันเข้าไปมันสะสมเป็นไข
00:05:49 → 00:05:52 มันจริงนะแต่มันสะสมได้ไม่จำกัดนะแต่ถ้า
00:05:52 → 00:05:54 เมื่อไหร่ก็ตามคุณกินน้ำตาลกับแป้งเข้าไป
00:05:54 → 00:05:55 เนี่ยพอมันย่อยเป็นน้ำตาลทั้งหมดแล้วเรา
00:05:55 → 00:05:58 เก็บน้ำตาลในรูปของน้ำตาลในเลือดไม่ได้
00:05:58 → 00:05:59 เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของของคุณ
00:05:59 → 00:06:02 เนี่ยเก็บน้ำตาลแล้วอยู่ในเลือดนานๆมันจะ
00:06:02 → 00:06:03 ทำให้คุณเป็นเบาหวานถูกมั้ยเจาะน้ำตาลออก
00:06:03 → 00:06:06 มาได้ 400 อย่างเงี้ยนะครับคุณก็จะช็อก
00:06:06 → 00:06:09 อวัยวะต่างๆที่น้ำตาลวิ่งไปมันก็จะกลาย
00:06:09 → 00:06:11 เป็นเหมือนเอาหัวใจไปแช่ในน้ำตาลน้ำ
00:06:11 → 00:06:14 เชื่อมเอาไตไปแช่ในน้ำเชื่อมเอาสมองไปแช่
00:06:14 → 00:06:17 ในน้ำเชื่อมมันก็จะเสื่อมไวปว่าปกติเพราะ
00:06:17 → 00:06:20 ฉะนั้นร่างกายเลยฉลาดมากที่จะเปลี่ยนน้ำ
00:06:20 → 00:06:22 ตาลที่มากเกินไปแล้วใช้ไม่หมดเนี่ยไปสะสม
00:06:22 → 00:06:26 ในรูปอื่นแทนคือในรูปของไขมันนั่นเองนะ
00:06:26 → 00:06:28 ครับเพราะฉะนั้นเรารู้แบบนี้แล้วเราก็เลย
00:06:28 → 00:06:30 พยายามได้อ๋องั้นถ้าถอย่างงั้นเราต้องมี
00:06:30 → 00:06:32 ช่วงที่ไม่เติมอาหารอย่างอื่นเข้าไปใน
00:06:32 → 00:06:34 ร่างกายนะจะได้หยุดเอาน้ำตาลส่วนเกินไป
00:06:34 → 00:06:37 สะสมเป็นไขมันและในทางกลับกันนะครับช่วง
00:06:37 → 00:06:39 ที่ร่างกายไม่เอาน้ำตาลไปเติมมันสามารถ
00:06:39 → 00:06:41 ขุดเอาไขมันเก่ามาใช้ได้ด้วยเนาะเพราะ
00:06:41 → 00:06:44 ฉะนั้นจริงๆแล้ว If อ่ะมันไม่ใช่วิธีการ
00:06:44 → 00:06:46 ลดน้ำหนักนะหลายคนเข้าใจว่ามันคือการวิธี
00:06:46 → 00:06:49 การลดน้ำหนักจริงๆมันเป็นแค่ตัวเสริมเป็น
00:06:49 → 00:06:52 อชั่นเสริมเฉยๆนะครับที่จะทำให้การลดน้ำ
00:06:52 → 00:06:54 หนักของคุณน่ะทำได้เร็วขึ้นเหมือนเป็นตัว
00:06:54 → 00:06:57 เปิดประตูให้ร่างกายยอมปล่อยไขมันออกมา
00:06:57 → 00:07:00 แค่นั้นเองโอเคเปล่ามันเลยมีเหตุผลว่า
00:07:00 → 00:07:02 ทำไมหลายคนทำไแล้วไม่ผอมนะครับเพราะ
00:07:02 → 00:07:04 ฉะนั้นถ้าใครที่ไม่เคยทำไมาก่อนแล้วอยาก
00:07:05 → 00:07:06 เริ่มต้นหรือใครที่ยังไม่เคยเข้าใจเรื่อง
00:07:06 → 00:07:08 สารอาหารและอยากเริ่มต้นนักเรียนหมอ 1 ใน
00:07:08 → 00:07:10 กลุ่ม VIP แต่ละคนเนี่ยเคจะไม่อยู่ดีๆมา
00:07:10 → 00:07:13 เริ่มทำ If 16/8 กันนะเพราะอะไรเพราะถ้า
00:07:13 → 00:07:16 คุณไม่เข้าใจเรื่องสารอาหารทำ If 16/8
00:07:16 → 00:07:18 ทำ 23/1 ไม่พร้อมเลยนะครับคราวนี้มาดู
00:07:18 → 00:07:21 ก่อนว่าตัวเลขที่เห็นเนี่ยมันหมายความว่า
00:07:21 → 00:07:24 อะไรบ้างนะครับ 16 ตัวหน้าเนี่ยนะคือช่วง
00:07:24 → 00:07:27 เวลาของการอดและช่วงหลังคือช่วงเวลาของ
00:07:27 → 00:07:30 การกินนะครับถ้าใครที่อยากจะจะเริ่มต้นทำ
00:07:30 → 00:07:32 If แล้วเคยได้ยินว่า 16/8 มันคืออะไรมัน
00:07:32 → 00:07:35 คืออด 16 ชมกิน 8 ชมอด 16 ชมเวลานับนับ
00:07:35 → 00:07:38 ง่ายๆแต่ละวันบางคนกินเวลาไม่ตรงกันนะให้
00:07:39 → 00:07:41 ดูช่วงเวลาของมื้อสุดท้ายเมื่อวานสมมุติ
00:07:42 → 00:07:44 เมื่อคืนหมอ 1 กินมื้อสุดท้ายตอนประมาณ
00:07:44 → 00:07:47 18:00 นนะครับหมอ 1 ก็นับไป 16 ชมนะครับ
00:07:47 → 00:07:50 16 ชมงก็ไปชน 10:00 นของอีก 1 วันนะครับ
00:07:50 → 00:07:53 หมอ 1 จะเริ่มกินมื้อแรกเนี่ยตอนประมาณ 10
00:07:53 → 00:07:56 นของวันรุ่งขึ้นเพื่อให้มีช่วงเวลาของการ
00:07:56 → 00:08:00 อวดนาน 16 ชมแล้วในช่วง 8 ช่มคือตั้งแต่
00:08:00 → 00:08:03 10:00 นนะครับนับไปจนถึง 18:00 น
00:08:03 → 00:08:06 อันเนี้ยเป็นช่วงเวลาของการกินโอเคมยแบบ
00:08:06 → 00:08:08 เนี้ยก็จะทำให้ร่างกายเนี่ยสามารถมีช่วง
00:08:08 → 00:08:10 เวลาของการหยุดทานตั้งแต่ 18:00 นไปจนถึง
00:08:10 → 00:08:13 10:00 นอีกวันนึงเนี่ยมากพอที่จะเอาไข
00:08:13 → 00:08:16 มันมาใช้ได้อันนี้คือพื้นฐานของการทำ If
00:08:16 → 00:08:20 ก่อนนะครับคราวนี้คำถามถัดมาก็คือแล้ว If
00:08:20 → 00:08:23 อ่ะมันมีกี่แบบนะครับ If มันมีกี่แบบ If
00:08:23 → 00:08:26 จริงๆมีเยอะมากนะครับจะ 12/12 ก็คือกิน 12
00:08:26 → 00:08:29 ชมหยุด 12 ชมวันนี้หยุดกิน 18:00 นพรุ่ง
00:08:29 → 00:08:31 นี้ไปเริ่มกิน 18:00 นแบบนี้ก็ได้แต่ร่าง
00:08:31 → 00:08:34 กายก็จะใช้ไขมันได้ไม่เยอะมากนะเพราะอะไร
00:08:34 → 00:08:36 เพราะมัน 12 ชมงพอดีถูกมั้ยนะครับแล้ว
00:08:36 → 00:08:40 13/1 ได้มั้ยคุณหมอได้ก็ถือว่าได้กำไร
00:08:40 → 00:08:41 เพิ่มมา 1 ชั่วโมงคือร่างกายใช้ไขมัน
00:08:41 → 00:08:44 เพิ่มได้อีก 1 ชั่วโมงแต่เลขที่นยอดนิยม
00:08:44 → 00:08:48 กันก็จะเป็น If 16/8 16/8 ก็คืออะไรอด
00:08:48 → 00:08:53 16 ชมถูกมยแล้วก็กิน 8 ชมแบบนี้ก็ได้นะ
00:08:53 → 00:08:55 ครับไม่ได้หมายความว่าต้องลอกกันด้วยนะ
00:08:55 → 00:08:57 ใครที่อยู่ในกลุ่ม VIP นะนะครับเดี๋ยวว
00:08:57 → 00:08:59 นึงกำลังจะอัปเดตบทที่เป็น If ให้ด้วย
00:08:59 → 00:09:02 แล้วเพิ่มตัวอย่างให้แต่ใครที่ยังเพิ่ง
00:09:02 → 00:09:04 เข้ากลุ่มไปอย่าลืมไปทบทวนบทที่ 13 นะบท
00:09:05 → 00:09:07 ที่ 13 มีตัวอย่าง If ให้ด้วยนะครับใน
00:09:07 → 00:09:09 กลุ่ม VIP หมอ 1 จะมีตัวอย่างให้ดูหลาย
00:09:09 → 00:09:10 อันมากๆเพราะว่านักเรียนของหมอ 1 เนี่ยมี
00:09:10 → 00:09:13 20,000 กว่าคนเ้ามีทุกสาขาอาชีพโอเคมย
00:09:13 → 00:09:16 อย่าคิดว่าตัวเองทำงานแบบไม่เป็นเวลานอน
00:09:16 → 00:09:18 ดึกแล้วจะลดไม่ได้ลดได้หมดแต่ขอให้เรา
00:09:18 → 00:09:21 เห็นตัวอย่างก่อนว่ามันมีคนที่เเหมือนกัน
00:09:21 → 00:09:23 แล้วลดได้คุณจะได้มีกำลังใจนะครับเนาะ
00:09:23 → 00:09:27 คราวนี้ If 18/6 ล่ะคืออะไรก็คืออด 18
00:09:27 → 00:09:31 ชมนะแล้วก็กิน 6 ชมถูกมยอันเนี้ยแต่ก่อน
00:09:31 → 00:09:33 หมอหนึ่งชอบทำแบบนี้เพราะว่าอะไรเพราะว่า
00:09:33 → 00:09:36 หมอหนึ่งตรวจคนไข้ตอนตอนเช้าถ้าหมอหนึ่ง
00:09:36 → 00:09:39 กินตั้งแต่เช้าแล้วเลิกตรวจคนไข้ตอนเย็น
00:09:39 → 00:09:41 แล้วไปกินอีกทีมันก็จะกลายเป็นกิน 8:00 น
00:09:41 → 00:09:43 แล้วบางทีกลับถึงบ้านไปกินอีกที 20:00 น
00:09:43 → 00:09:44 มันจะกลายเป็นเราไม่ค่อยได้กำไรเท่าไหร่
00:09:45 → 00:09:48 เพราะเราทำ If แค่ 12/12 ถูกมยนะครับแต่
00:09:48 → 00:09:50 หมอหนึ่งอยากได้กำไรหมอหนึ่งก็เอาอย่าง
00:09:50 → 00:09:51 งี้แล้วกันงั้นตั้งแต่เช้าหมอหนึ่งกิน
00:09:52 → 00:09:54 กาแฟดำอย่างเดียวเลยแล้วค่อยไปกินมื้อแรก
00:09:54 → 00:09:57 ตอนเที่นนะครับแล้วก็ไปกินมื้อสุดท้ายตอน
00:09:57 → 00:09:59 18:00 นก็จะกินวันละ 2 มื้อแต่ระหว่าง
00:09:59 → 00:10:01 นั้นน่ะเดี๋ยวมนึงจะบอกว่าเราควรกินอะไร
00:10:01 → 00:10:04 เพิ่มเพื่อที่จะทำให้สารอาหารคุณครบโอเค
00:10:04 → 00:10:07 มยไม่งั้นบางคนทำ If 18/6 แต่กลายเป็นอด
00:10:07 → 00:10:09 อาหารได้เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังในหัวข้อถัด
00:10:09 → 00:10:11 ไปนะครับเนาะเพราะฉะนั้น 18/6 ก็อด 18
00:10:11 → 00:10:14 ชั่วโมงอดแล้วก็กิน 6 ช่มก็ได้แต่หลังจาก
00:10:14 → 00:10:16 ตรงนี้เป็นต้นไปเนี่ยหมอหนึ่งไม่ค่อยนิยม
00:10:16 → 00:10:19 ให้ทำนะถ้าคุณต้องการทำเพื่อลดน้ำหนัก
00:10:19 → 00:10:22 เนี่ยจริงๆแค่ 16/8 18/6 อ่ะพอแล้วแต่
00:10:22 → 00:10:24 ถ้าสมมุติว่าทำเพื่อสุขภาพอย่างอื่นนานๆ
00:10:24 → 00:10:28 ทำทีเนี่ย 20/4 23/1 ได้หรือบางคนเนี่ย
00:10:28 → 00:10:31 เค้าทำฟาติหรือทำไยาวๆแบบไม่กินอะไรเลย 3
00:10:31 → 00:10:33 วันกินแต่น้ำเปล่าก็เคยมีเหมือนกันแต่ปี
00:10:33 → 00:10:36 นึงเนี่ยนานๆทำทีเดี๋ยวจะอธิบายในคลิป
00:10:36 → 00:10:38 อื่นๆแล้วกันว่ามันมีประโยชน์อะไรยังไง
00:10:38 → 00:10:40 บ้างแต่ถ้าทำเพื่อลดน้ำหนักอย่าทำเด็ดาด
00:10:40 → 00:10:43 เพราะกล้ามเนื้อคุณจะหายเพราะสารอาหารคุณ
00:10:43 → 00:10:46 ไม่ครบนะครับหรือบางคนเนี่ยทำ 23/1 แล้ว
00:10:46 → 00:10:49 ติดจนเป็นนิสัยอ 23/1 คืออด 23 ชั่มแล้ว
00:10:49 → 00:10:52 ก็กินชั่วโมงเดียวหมายความว่าเคกินไงกิน
00:10:52 → 00:10:57 วันละเป็นไงครับ 1 มื้อพอกินวันละ 1 มื้อ
00:10:57 → 00:10:59 เนี่ยปัญหาคืออะไรรู้มั้ยปัญหาคือสอาหาร
00:10:59 → 00:11:01 คุณจะไม่ครบสารอาหารที่ร่างกายต้องการ
00:11:01 → 00:11:05 จริงๆนะสำคัญมากๆเลยนะอันนึงเลยคือโปรตีน
00:11:05 → 00:11:07 นะครับเพราะโปรตีนทำหน้าที่ในการซ่อมแซม
00:11:07 → 00:11:10 ส่วนต่างๆของร่างกายเวลามันมีอะไรพังคุณ
00:11:10 → 00:11:13 นอนดึกเอยนู่นนั่นนี่เอยหรือว่ามีแผล
00:11:13 → 00:11:16 โปรตีนจะทำหน้าที่ตรงนี้แต่พอกินมื้อ
00:11:16 → 00:11:17 เดียวปั๊บโอกาสที่โปรตีนจะไม่ถึงมีเยอะ
00:11:18 → 00:11:20 มากโดยเฉพาะคนที่น้ำหนักเยอะเพราะในภาวะ
00:11:20 → 00:11:22 พื้นฐานนะครับนะใครที่ยังไม่เคยเรียนลด
00:11:22 → 00:11:24 น้ำหนักกับมาหนึ่งในกลุ่ม VIP อาจจะนับ
00:11:24 → 00:11:26 โปรตีนไม่เป็นไม่เป็นไรแต่ค่อยๆฟังไปก่อน
00:11:26 → 00:11:29 นะครับเนาะว่าจริงๆแล้วพื้นฐานร่างกายของ
00:11:29 → 00:11:32 คนเราเนี่ยถ้าสมมุติว่าเราอยากให้ร่างกาย
00:11:32 → 00:11:34 เราสุขภาพดีเราต้องกินโปรตีนประมาณ 1
00:11:34 → 00:11:36 เท่าน้ำหนักตัวอย่างหม 1 น้ำหนัก 70 หม 1
00:11:36 → 00:11:39 ต้องกินโปรตีน 70 กรัมต่อวันนะครับถ้าใคร
00:11:39 → 00:11:41 ที่อ้วนกว่านี้น้ำหนัก 90 ก็ต้องกิน
00:11:41 → 00:11:44 โปรตีนประมาณ 90 กรัมต่อวันเลยถามว่ากิน
00:11:44 → 00:11:46 มื้อเดียวเนี่ยให้ได้โปรตีนประมาณแบบ 70
00:11:46 → 00:11:49 กรัมต่อวัน 90 กรัมต่อวันยากมยากมากๆนะ
00:11:49 → 00:11:51 ครับเพราะอะไรอ่ะยกตัวอย่างง่ายๆอย่าถ้า
00:11:51 → 00:11:54 ผู้หญิงน้ำหนัก 70 ต้องกินโปรตีนแบบที่
00:11:54 → 00:11:55 ยังไม่ได้เอาไปสร้างกล้ามเนื้อนะแบบแค่
00:11:55 → 00:11:57 ให้สุขภาพดีนะ 70 กรัมต่อวันเนี่ยมีค่า
00:11:58 → 00:11:59 ประมาณกับการกินเนื้อสัตว์สัตว์อย่าง
00:11:59 → 00:12:01 เดียวประมาณ 3 ขีดครึ่งซึ่งมันเยอะมาก
00:12:01 → 00:12:03 มื้อเดียวมันกินไม่หมดนะครับต่อให้จะเอา
00:12:03 → 00:12:05 เนื้อสัตว์กินแค่ 1 ขีดแล้วไปกินอย่าง
00:12:05 → 00:12:08 อื่นเพิ่มไปกินเวเพิ่มไปกินไข่เพิ่มมื้อ
00:12:08 → 00:12:11 เดียวมันก็จะอิ่มมากเกินไปมันจะทำให้ระบบ
00:12:11 → 00:12:14 เผาผลาญของคุณระบบย่อยระบบดูซึมคุณมันไม่
00:12:14 → 00:12:16 ดีเพราะฉะนั้นการกินวันละ 1 มื้อเนี่ยนาน
00:12:16 → 00:12:18 ๆทำทีหมอหนึ่งก็จะทำในวันที่หมอหนึ่งกิน
00:12:18 → 00:12:21 บุฟเฟ่ต์กินชาบูปิ้งย่างพวกเนี้ยเพราะเรา
00:12:21 → 00:12:23 จะได้โปรตีนเยอะก็จะกินวันละ 1 มื้อได้
00:12:23 → 00:12:26 แต่ไม่แนะนำให้ทำบ่อยโอเคมเพราะฉะนั้น If
00:12:26 → 00:12:29 ก็มีหลายแบบมากๆเลือกแบบที่ถูกจะเด็ดกับ
00:12:29 → 00:12:32 การใช้ชีวิตประจำวันของเราคนที่ทำ If
00:12:32 → 00:12:36 16/8 กิน 8 ชมหยุดแค่ 16 ชมอาจจะผอมกว่า
00:12:36 → 00:12:39 คนที่กิน 6 ชมแต่หยุด 18 ชมก็ได้เฮ้ยคุณ
00:12:39 → 00:12:42 หมอทำไมอ่ะอีกคนนึงเขาคอดนานกว่าเคอดต้อง
00:12:42 → 00:12:46 18 ชมทำไมเ้าถึงผอมยากกว่าคนที่อด 16 ชม
00:12:46 → 00:12:50 ล่ะเค้าอดนานกว่านะคีย์เวิร์ดอยู่ที่ลด
00:12:50 → 00:12:55 น้ำหนักแบบ If ควรกินอะไรบ้างคนที่เค้าอด
00:12:55 → 00:12:59 แค่ 16 ชมแต่เขาคกินดีเค้าจะผอมไวกว่าคน
00:12:59 → 00:13:03 ที่อด 18 ชมงแต่กินไม่ดีจำประโยคนี้ดีๆนะ
00:13:03 → 00:13:08 คนที่อด 16 ชมงแต่กินดีจะผอมไวกว่าคนที่
00:13:08 → 00:13:11 กินวันละมื้อแต่กินไม่ดีเพราะฉะนั้นหมอ
00:13:11 → 00:13:13 หนึ่งเลยไม่เคยบอกใครว่าเอ้ยลดน้ำหนักอ่ะ
00:13:13 → 00:13:16 คุณต้องทำไก่อนนะไม่สารอาหารสำคัญที่สุด
00:13:16 → 00:13:20 นะครับเพราะฉะนั้นเวลาโฟกัสอยากจะผอมเร็ว
00:13:20 → 00:13:23 หรือผอมช้าให้ดูช่วงเวลาที่เรากินว่าใน
00:13:23 → 00:13:25 ช่วงที่กิน 8 ชมงเช่นกิน 10:00 นจนถึง
00:13:25 → 00:13:28 18:00 นเนี่ยเรากินกี่มื้อแต่ละมื้อสาร
00:13:28 → 00:13:30 อาหารเป็นยังไงบ้างเห็นภาพตรงนี้ก่อนเนาะ
00:13:30 → 00:13:33 โอเคมยเพราะบางคนเนี่ยเคยฟังมาว่าคุณหมอ
00:13:33 → 00:13:36 คะเขาบอกว่าห้ามกินน้ำตาลกับแป้งแล้ว
00:13:36 → 00:13:38 เดี๋ยวถ้ากินเยอะเนี่ยแล้วเดี๋ยวจะอ้วน
00:13:38 → 00:13:40 เพราะฉะนั้นหนูก็ไม่กินน้ำตาลกับแป้งค่ะ
00:13:40 → 00:13:42 ของมันของทอดเขาคก็บอกว่าอย่ากินค่ะแล้ว
00:13:42 → 00:13:44 พอกินมื้อน้อยๆโปรตีนก็ไม่ถึงการลดน้ำ
00:13:44 → 00:13:47 หนักที่โปรตีนก็กินไม่ถึงแป้งกับน้ำตาลก็
00:13:47 → 00:13:50 ไม่ค่อยกินไขมันก็ไม่กินรวมกันแล้วมัน
00:13:50 → 00:13:52 กลายเป็นคุณไม่ได้กินอะไรที่มีพลังงานเลย
00:13:52 → 00:13:54 เราเรียกมันว่าการอดอาหารไม่ได้เรียกว่า
00:13:54 → 00:13:58 การทำ If นะการทำไที่ดีสารอาหารต้องครบนะ
00:13:58 → 00:14:00 ครับเพราะฉะนั้นสารอาหารครบเราก็ต้องรู้
00:14:00 → 00:14:03 ว่าการทำเเนี่ยเราควรกินอะไรบ้างย้อนกลับ
00:14:03 → 00:14:05 มาอ่าใครที่ฟังบหนึมาหลายคลิปแล้วอย่า
00:14:05 → 00:14:08 เพิ่งเบื่อนะฟังบ่อยๆเมันจะได้ทั้งความ
00:14:08 → 00:14:10 รู้จำแม่นและได้กำลังใจด้วยไม่แปลกว่า
00:14:10 → 00:14:12 ทำไมนักเรียนในกลุ่มเพคลิปนึงชั่วโมงนึง
00:14:12 → 00:14:14 เคนั่งฟังกันไปนะ 20 กว่าบทน่ะฟังแล้วฟัง
00:14:14 → 00:14:17 อีกเวลาออกกำลังกายไปด้วยมันได้บรรยากาศ
00:14:17 → 00:14:20 นะครับเนาะอ่ะเพราะฉะนั้นพีระมิดความผอม
00:14:20 → 00:14:22 จำให้ขึ้นใจเลยสเต็ปที่ 1 นะครับถ้าคุณ
00:14:22 → 00:14:25 อยากจะลดน้ำหนักไม่ต้องปรับอย่างอื่นเลย
00:14:25 → 00:14:28 นะให้ปรับสารอาหารก่อนพูดง่ายๆคือกินอะไร
00:14:28 → 00:14:31 ดีถูกมยปรับสารอาหารสารอาหารในที่นี้
00:14:31 → 00:14:34 เนี่ยก็จะมีสารอาหารที่สำคัญำคัญอยู่ทั้ง
00:14:34 → 00:14:37 หมด 4 อย่างนะครับอันที่ 1 นะครับอันที่ 1
00:14:37 → 00:14:41 คือสิ่งที่เรียกว่าน้ำตาลอันที่ 1 คือ
00:14:41 → 00:14:43 สิ่งที่เรียกว่าน้ำตาลเมื่อไหร่ก็ตามที่
00:14:43 → 00:14:46 คุณอยากลดน้ำหนักนะให้ตัดสิ่งที่เป็นน้ำ
00:14:46 → 00:14:49 ตาลออกไปก่อนเท่าที่ทำได้หหคุณหมอคะอาหาร
00:14:49 → 00:14:52 ข้างนอกเขาก็ใส่น้ำตาลค่ะผัดกะเพราก็ใส่
00:14:52 → 00:14:54 น้ำตาลต้มยำก็ใส่น้ำตาลหนูก็กินอะไรไม่
00:14:54 → 00:14:58 ได้เลยสิคะกินแต่สลัดสิคะไม่ใช่ดีที่สุด
00:14:58 → 00:15:00 ในจุดที่ทำได้ได้ท่องไว้เลยเพราะฉะนั้น
00:15:00 → 00:15:02 น้ำตาลที่มันเยอะมากๆจริงๆมักจะอยู่ในหนึ
00:15:02 → 00:15:04 เครื่องดื่มเช่นตอนเช้าบางคนตื่นมากิน
00:15:04 → 00:15:07 กาแฟใส่นมใส่น้ำตาลใส่นมข้น T in วันพวก
00:15:07 → 00:15:09 เนี้ยมันมีน้ำำตาลหมดเลยเพราะฉะนั้นให้
00:15:09 → 00:15:11 เปลี่ยนมาเป็นกาแฟดำบางคนชอบกินชานมไข่
00:15:12 → 00:15:14 มุกกินชาต่างๆที่มีน้ำตาลเปลี่ยนมาเป็นชา
00:15:14 → 00:15:17 ไม่มีน้ำตาลนะครับมีอะไรอีกบางคนชอบกิน
00:15:17 → 00:15:19 เครื่องดื่มอื่นๆนะครับน้ำหวานเอยอะไรเอย
00:15:19 → 00:15:21 ให้เปลี่ยนมาเป็นน้ำเปล่าเพราะฉะนั้นจริง
00:15:21 → 00:15:23 ๆแล้วถ้าอยากลดน้ำหนักได้นะครับให้
00:15:23 → 00:15:25 เปลี่ยนมาเป็นน้ำเปล่าชากาแฟดำและพวกนี้
00:15:26 → 00:15:27 กินได้ตลอดทั้งวันด้วยเพราะมันไม่มีพลัง
00:15:27 → 00:15:31 งานตอนทำไอคุณก็กินได้เห็นภาพเนาะและอีก
00:15:31 → 00:15:33 อันนึงที่น้ำตาลสูงมากๆคือพวกขนมต่างๆ
00:15:33 → 00:15:35 อาหารแปรรูปนะครับถ้าเลี่ยงได้เลี่ยงไป
00:15:35 → 00:15:37 ก่อนส่วนพวกอาหารที่เวลาเราไปซื้อข้างนอก
00:15:37 → 00:15:39 หมอ 1 บอกแล้วว่าใครที่เรียนลดน้ำหนักกับ
00:15:39 → 00:15:41 หมอ 1 จะรู้ว่าอาหารในชีวิตประจำวัน
00:15:41 → 00:15:43 สามารถลดน้ำหนักได้เพราะฉะนั้นคุณไม่
00:15:43 → 00:15:45 จำเป็นต้องทำอาหารเองนะแต่คุณต้องรู้จัก
00:15:45 → 00:15:48 เลือกเช่นเวลาเราไปกินอาหารตามที่ทำงาน
00:15:48 → 00:15:50 แล้วเป็นอาหารตามสั่งถ้าเป็นอาหารตามสั่ง
00:15:50 → 00:15:53 ที่ทำสดๆเลยเนี่ยเราก็บอกเขาได้นะว่าอาจ
00:15:53 → 00:15:55 จะใส่น้ำตาลน้อยหน่อยหรือไม่ใส่ชูรสแต่
00:15:55 → 00:15:57 ถ้าสมมุติเป็นอาหารที่เขาทำเป็นอาหารที่
00:15:57 → 00:15:59 ตักเอา 3 อย่าง 40 4 อย่าง 50 แบบเนี้ย
00:16:00 → 00:16:02 นะครับพยายามเลือกอาหารที่มันมีน้ำอ่ะน้ำ
00:16:02 → 00:16:05 ้ำอ่ะน้อยๆหรือพวกน้ำซุปน้ำแกงพวกเนี้ย
00:16:05 → 00:16:08 น้อยๆอย่าไปซดเพราะน้ำตาลกับชูรสมันจะ
00:16:08 → 00:16:11 ละลายอยู่ในนั้นบางคนน่ะกินกะเพราแล้วว
00:16:11 → 00:16:13 นึงเห็นกะเพราแล้วผัดแฉะมากเลยไอ้ตงน้ำ
00:16:13 → 00:16:15 น้ำของกะเพราที่เอามาราดข้าวนั่นแหละตรง
00:16:15 → 00:16:17 นั้นแหละคือสิ่งที่น้ำตาลสูงพยายามเลี่ยง
00:16:17 → 00:16:20 พวกนี้ไปแค่ทำตรงนี้ได้นะ 7 วันนะพวงยุบ
00:16:20 → 00:16:22 แล้วะทั้งๆที่ยังไม่ทำ If เลยเพราะอะไร
00:16:22 → 00:16:24 เพราะระบบพลังงานของเรามันเปลี่ยนจากการ
00:16:24 → 00:16:27 ใช้น้ำตาลไปใช้ไขมันได้แล้วไงเห็นภาพเนาะ
00:16:27 → 00:16:30 นะครับนะคราวนี้ถัดมาอะไรบ้างที่เปลี่ยน
00:16:30 → 00:16:32 เป็นน้ำตาลได้อีกนะครับมันคือสิ่งที่เรา
00:16:32 → 00:16:34 เรียกว่าแป้งหมหนึ่งอาจจะไม่ได้พูดเรื่อง
00:16:34 → 00:16:36 สารอาหารละเอียดครบทุกตัวในคลิปเดียวนะ
00:16:36 → 00:16:38 เพราะว่าใครที่เรียนในกลุ่มจะรู้ว่าแป้ง
00:16:38 → 00:16:41 หมอ1ึพูดอยู่ 3 บทบทละเกือบชั่วโมงอ่ะ
00:16:41 → 00:16:43 เพราะอะไรเพราะว่าบางคนเข้าใจว่าแป้งคือ
00:16:43 → 00:16:45 แป้งขนมปังไม่ใช่แป้งเนี่ยมันเป็นการ
00:16:45 → 00:16:48 เรียกรวมของหมู่ของแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต
00:16:48 → 00:16:51 เฉยๆนะครับแป้งได้แก่อะไรบ้างข้าวเส้นขนม
00:16:51 → 00:16:54 ปังผักหัวต่างๆผลไม้ไม่ได้หมายความว่ากิน
00:16:55 → 00:16:57 ไม่ได้นะแต่แต่ก่อนที่เราอ้วนน่ะเรากิน
00:16:57 → 00:17:00 แป้งพวกเนี้ยมากเกินไปพอมันย่อยเสร็จปั๊บ
00:17:00 → 00:17:02 มันย่อยได้อะไรย่อยได้น้ำตาลแล้วเรากิน
00:17:02 → 00:17:05 เข้าไปมากกว่าที่เราใช้นะครับสิ่งที่เกิด
00:17:05 → 00:17:07 ขึ้นคือน้ำตาลก็ค้างเติ่งอยู่ในร่างกาย
00:17:07 → 00:17:09 ร่างกายบอกถ้าน้ำตาลอยู่ในเลือดเยอะฉัน
00:17:09 → 00:17:11 ต้องเป็นเบาหวานแน่เลยก็เลยเอาไปเก็บเป็น
00:17:11 → 00:17:13 อะไรเป็นไขมันเพราะฉะนั้นในส่วนของแป้ง
00:17:13 → 00:17:16 ข้าวเส้นขนมปังผักหัวผลไม้สิ่งที่คุณต้อง
00:17:16 → 00:17:20 ทำคืออะไรรู้มั้ยแค่ลดปริมาณมันลงก็พอถ้า
00:17:20 → 00:17:22 คุณลดปริมาณมันได้เช่นบางคนแบบนับแป้งไม่
00:17:22 → 00:17:24 เป็นกับคุณหมอไม่เคยเรียนกับคุณหมอใน
00:17:24 → 00:17:28 กลุ่มเอาง่ายๆเริ่มต้นข้าวเคยกิน 2 ทับพี
00:17:28 → 00:17:31 หรือ 1 ทับพีได้มามอ่าเคยกินขนมปัง 2
00:17:31 → 00:17:34 แผ่นหรือ 1 แผ่นได้มยเห็นภาพมยหรือเคยกิน
00:17:34 → 00:17:37 ก๋วยเตี๋ยวต้องเบิ้ลบอกขอพิเศษแล้วเ้าก็
00:17:37 → 00:17:39 พิเศษเส้นให้เราอ่ะงั้นเราไปพิเศษพวก
00:17:39 → 00:17:41 เนื้อหมูได้มอย่าไปพิเศษลูกชิ้นนะพวกนี้
00:17:41 → 00:17:43 ก็แป้งเหมือนกันนะแต่ถ้าเป็นร้านที่เป็น
00:17:43 → 00:17:46 เนื้อหมูเป็นพวกเอ่อต้มเลือดหมูอะไรพวก
00:17:46 → 00:17:48 เนี้ยพวกนี้มันเป็นเนื้อหมูเลยกินได้โอเค
00:17:48 → 00:17:50 เปล่ามันคือโปรตีนนะครับเนาะเพราะฉะนั้น
00:17:50 → 00:17:52 อีกอันนึงที่ใช้ได้นะคือเทคนิคการไม่กิน
00:17:53 → 00:17:55 แป้งซ้ำซ้อนมอนึ่งบอกไปแล้วว่าแป้งได้แก่
00:17:55 → 00:17:57 ข้าวเส้นขนมปังผักหัวผลไม้บางคนตื่นเช้า
00:17:58 → 00:18:00 มาเข้าร้านสะดวกซื้อซื้อแซนวิชขนมปังแป้ง
00:18:00 → 00:18:03 มั้ยแป้งแล้วก็กำลังจะจ่ายตังค์เค้าบอก
00:18:03 → 00:18:05 เอากล้วยหอมเพิ่มมั้ยเอานี่ก็แป้งถูกมั้ย
00:18:05 → 00:18:07 เพราะฉะนั้นแป้งมันก็จะมากเกินไปเมื่อเรา
00:18:07 → 00:18:10 กินซ้ำซ้อนหมอหนึ่งจะสอนนักเรียนตลอดเลย
00:18:10 → 00:18:12 ว่าอย่างมื้อเย็นใครชอบกินผลไม้นะกิน
00:18:12 → 00:18:15 โปรตีนอิ่มแล้วอ่ะกินผลไม้แล้วพยายามอย่า
00:18:15 → 00:18:17 กินข้าวนะเพราะอะไรเราไม่อยากได้แป้งซ้ำ
00:18:17 → 00:18:19 ซ้อนไงเย่งยิ่งเป็นมื้อเย็นนะครับเราไม่
00:18:19 → 00:18:21 ค่อยได้ใช้พลังงานเพิ่มเติมอะไรหรอกนะ
00:18:21 → 00:18:24 เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นอยากกินแป้งซ้ำ
00:18:24 → 00:18:26 ซ้อนเห็นภาพป่ะปรับสารอาหาร 2 อย่างแบบ
00:18:26 → 00:18:28 นี้นะ If มันถึงจะเริ่มได้ผลนะครับครับ
00:18:29 → 00:18:31 คราวนี้มีอะไรอีกที่สำคัญอันเนี้ยสำคัญ
00:18:31 → 00:18:34 ที่สุดเลยขีดเส้นใต้ 450 เส้นเลยโปรตีน
00:18:35 → 00:18:37 โปรตีนในที่นี้บางคนก็จะนึกถึงเวโปรตีน
00:18:37 → 00:18:39 ไม่ใช่นะโปรตีนในที่นี้เนี่ยยจะลดน้ำหนัก
00:18:39 → 00:18:42 ได้ดีควรเป็นโปรตีนจากธรรมชาติเลยไม่แปลก
00:18:42 → 00:18:44 ว่าทำไมคนที่กินพวกโปรตีนเขย่าเป็นมื้อ
00:18:44 → 00:18:46 หลักลัก 2 มื้อนะครับแบบที่เขาคขายๆกัน
00:18:46 → 00:18:49 คอร์สเป็นหมื่นๆน่ะแล้วสุดท้ายถึงกลับไป
00:18:49 → 00:18:51 โยโยเพราะอะไรเพราะมันไม่ใช่อาหาร
00:18:51 → 00:18:53 ธรรมชาติเป็นอาหารเสริมมากกว่าเสริมก็คือ
00:18:53 → 00:18:55 เสริมเพราะฉะนั้นอาหารหลักเราควรกินอาหาร
00:18:55 → 00:18:57 ที่มาจากธรรมชาติโปรตีนจากธรรมชาติก็จะ
00:18:58 → 00:19:00 แยกเป็นโปรตีนจากสัตว์กับโปรตีนจากพืช
00:19:00 → 00:19:02 ค่อยๆฟังไปเรื่อยๆนะเดี๋ยวเราจะเริ่มเห็น
00:19:02 → 00:19:04 ภาพมากขึ้นว่าอ๋อเฮ้ยรน้ำหนักไม่ยากนี่
00:19:04 → 00:19:06 เองแต่เราแค่ไม่รู้มาก่อนนะครับโปรตีนจาก
00:19:06 → 00:19:09 สัตว์ก็คือพวกเนื้อสัตว์นมแล้วก็ไข่
00:19:09 → 00:19:13 โปรตีนจากพืชก็พวกถั่วธัญพืชเทมเป้นะครับ
00:19:13 → 00:19:16 เต้าหู้พวกเนี้ยนะพวกโปรตีนจากสัตว์กับ
00:19:16 → 00:19:18 พืชหมอหนึ่งเคยทำคลิปย่อยๆไว้แล้วไปหาดู
00:19:18 → 00:19:20 ได้ว่ามันมีความแตกต่างกันยังไงแต่สำคัญ
00:19:20 → 00:19:22 ที่สุดอย่างที่หมอหนึ่งบอกคือคนส่วนใหญ่
00:19:22 → 00:19:25 ลดน้ำหนักไม่ได้เพราะกินโปรตีนไม่เพียงพอ
00:19:25 → 00:19:27 โดยเฉพาะคนที่น้ำหนักเริ่มต้นเยอะเพราะ
00:19:27 → 00:19:30 เราติดนิสัยว่าเราเข้าใจว่าเราอยากจะผอม
00:19:30 → 00:19:32 เราต้องกินน้อยๆเราถึงจะผอมแต่ใครเป็นนัก
00:19:32 → 00:19:34 เรียนหมอหนึ่งในกลุ่ม VIP จะรู้ว่ากิน
00:19:34 → 00:19:37 น้อยไม่ผอมไม่ใช่กินเยอะถึงผอมนะกินอิ่ม
00:19:37 → 00:19:41 ถึงผอมคำว่าอิ่มจะเกิดจากอะไรจะเกิดจาก
00:19:41 → 00:19:44 การกินโปรตีนที่เพียงพอคนน้ำหนักเริ่มต้น
00:19:44 → 00:19:48 เยอะถ้ายิ่งกินอิ่มโปรตีนเท่าไหร่ยิ่งผอม
00:19:48 → 00:19:50 ง่ายเท่านั้นเพราะอะไรเพราะทุกครั้งถ้า
00:19:50 → 00:19:53 สมมุติว่าคุณน้ำหนัก 90 คุณน้ำหนัก 80
00:19:53 → 00:19:55 แต่คุณกินโปรตีนไม่ถึงร่างกายจะไปสลาย
00:19:55 → 00:19:57 กล้ามเนื้อออกมาและกล้ามเนื้อเปรียบ
00:19:57 → 00:19:59 เสมือนเตาเผาพลังงานของร่างกายเมื่อไหร่
00:19:59 → 00:20:01 ก็ตามที่กล้ามเนื้อคุณลดลงเตาเผาคุณจะแย่
00:20:01 → 00:20:04 ลงเรื่อยๆๆๆๆๆจนสุดท้ายเวลาคุณตะบะแตกคุณ
00:20:04 → 00:20:06 จะกลับไปกินเยอะมากแล้วระบบเผาผ่านคุณมัน
00:20:06 → 00:20:08 น้อยเพราะกล้ามเนื้อคุณน้อยอ่ะคุณก็เลย
00:20:08 → 00:20:11 คุณก็เลยอ้วนขึ้นกระทันหันหรือโยโยนั่น
00:20:11 → 00:20:13 เองเคลียร์เนาะนะครับเพราะฉะนั้นโปรตีน
00:20:13 → 00:20:15 คีย์เวิร์ดนับโปรตีนยังไม่เป็นใช้คำว่า
00:20:15 → 00:20:18 อิ่มกินให้อิ่มเช่นเราเคยติดนิสัยกินข้าว
00:20:18 → 00:20:19 แล้วค่อยกินกับเปลี่ยนเป็นกินกลับแล้ว
00:20:19 → 00:20:22 ค่อยกินข้าวได้ไมมเคยติดนิสัยเติมข้าว
00:20:22 → 00:20:24 เปลี่ยนเป็นเติมกลับได้มยเห็นภาพเนาะแต่
00:20:24 → 00:20:26 จะมีข้อควรระวังเฉพาะในคนที่ไตเสื่อมนะ
00:20:26 → 00:20:28 ครับนะใครที่ไตเสื่อมอาจจะต้องจำกัด
00:20:28 → 00:20:31 โปรตีนเพราะไตเราทำงานได้ไม่ดีแต่ถ้าคุณ
00:20:31 → 00:20:33 เป็นคนปกตินะคุณสามารถกินโปรตีนจนอิ่มได้
00:20:33 → 00:20:36 เลยนะครับเนาะและอันสุดท้ายก็คือเรื่อง
00:20:36 → 00:20:39 ของไข่มันหลายคนบอกว่าคุณหมอคะลดน้ำหนัก
00:20:39 → 00:20:42 อ่ะกินของมันของทอดได้มยกินได้ครับแต่เอา
00:20:42 → 00:20:44 เทคนิคไปใช้ก่อนเลยนะปกติแล้วอ่ะร่างกาย
00:20:45 → 00:20:47 ระบบพลังงานของเรามันมี 2 ระบบคือใช้น้ำ
00:20:47 → 00:20:49 ตาลกับแป้งกับใช้ไขมันถูกมั้ยถ้าสมมุติ
00:20:49 → 00:20:51 ว่าเรากินทั้งแป้งเรากินทั้งไขมันเข้าไป
00:20:51 → 00:20:53 พร้อมกันร่างกายมันงงเพราะฉะนั้นอาหาร
00:20:53 → 00:20:55 ส่วนใหญ่ที่จะทำให้คุณอ้วนคืออาหารที่
00:20:55 → 00:20:59 เป็นอาหารมันๆทอดๆแล้วเป็นแป้งนึกออกม
00:20:59 → 00:21:01 อะไรที่เป็นแป้งทอดบ้างเฟรนช์ฟรายแป้งทอด
00:21:01 → 00:21:04 มมแป้งทอดไก่ชุบแป้งทอดเคยเห็นมพวกไก่ตาม
00:21:05 → 00:21:07 ร้านสะดวกซื้อไก่ทอดกินได้นะแต่พอเป็นไก่
00:21:07 → 00:21:09 ชุบแป้งทอดปั๊บมันคือแป้งทอดอ่ะเพราะ
00:21:09 → 00:21:11 ฉะนั้นร่างกายเราจะงงแล้วไม่รู้จะเอาพลัง
00:21:11 → 00:21:13 งานจากอะไรมาใช้นะครับระบบเผาผลาญมันจะ
00:21:13 → 00:21:15 พังเพราะฉะนั้นจริงๆถามว่ากินได้มั้ยกิน
00:21:15 → 00:21:17 ได้อย่างมื้อไหนหมอหนึ่งกินชาบูปิ้งย่าง
00:21:17 → 00:21:19 นะมื้อนั้นหมอหนึ่งชอบกินสันคอหมอหนึ่งจะ
00:21:19 → 00:21:21 รู้แล้วว่ามันมันเพราะฉะนั้นเราจะไม่กิน
00:21:21 → 00:21:23 อะไรที่เป็นแป้งไม่ซดน้ำซุปเยอะจิ้มน้ำ
00:21:23 → 00:21:26 จิ้มนิดเดียวและพวกที่เป็นข้าวไม่กินเลย
00:21:26 → 00:21:29 โอเคป่ะนี่คือเทคนิคง่ายๆเวลาปรับสาร
00:21:29 → 00:21:32 อาหารเนี่ยแล้วสิ่งที่ทำให้คนทำไไม่ผอมก็
00:21:32 → 00:21:34 เพราะไม่รู้สเต็ปที่ 1 เนี่ยแหละพอไม่รู้
00:21:34 → 00:21:37 สเต็ปที่ 1 สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร 8 ชม
00:21:37 → 00:21:40 นี้กินเหมือนคนอดอาหารเลยแล้วก็งงว่าทำไม
00:21:40 → 00:21:44 ทำไแล้วไม่ผอมหนูก็อด 16 ชมนะคะที่ไม่ผอม
00:21:44 → 00:21:46 ก็เพราะ 8 ชมเนี้ยกินไม่ดีส่วนถามว่าแล้ว
00:21:46 → 00:21:49 ไอ้ 16 ชมงที่เหลือตรงนี้กินอะไรได้บ้าง
00:21:49 → 00:21:51 มยกินได้นะครับแต่ต้องเป็นสิ่งที่ไม่มี
00:21:51 → 00:21:53 พลังงานง่ายสุดเลยคือน้ำเปล่าชากาแฟดำแค่
00:21:53 → 00:21:57 เนี้ยโอเคมยถามว่ายากมยไม่ยากหรอกแต่ความ
00:21:57 → 00:21:59 ยากคือคุณไม่เคยกินขคำว่าอิ่มไงพอคุณไม่
00:21:59 → 00:22:01 เคยสัมผัสคำว่าอิ่มคุณเลยรู้สึกว่าหลัง
00:22:01 → 00:22:03 18:00 นมันคือความทรมานแต่นักเรียนผมไม่
00:22:03 → 00:22:06 มีใครทรมานหรอกเพราะเรู้ว่า 8 ชมไม่ว่าจะ
00:22:06 → 00:22:09 เป็น 10:00 นถึง 18:00 นจะเป็น 9 น- 17:00
00:22:09 → 00:22:12 นหรือจะเป็น 8 น- 16:00 นเขาสามารถอยู่
00:22:12 → 00:22:14 ได้เพราะเขากินอิ่มหรือหมอ 1 กิน 1200 น
00:22:14 → 00:22:16 ถึง 18:00 นเนี่ยหม 1 ก็สามารถอยู่หลัง
00:22:16 → 00:22:18 6:00 นไปจนถึงเที่ยนอีกวันนึงได้เพราะพะ
00:22:18 → 00:22:22 หม 1 กินอิ่มเห็นภาพเนาะนะครับแล้วสเต็ป
00:22:22 → 00:22:25 ที่ 2 เราถึงไปเริ่มทำเรื่องอะไรเราถึงไป
00:22:25 → 00:22:30 จัดเวลานะจัดเวลาการกินด้วยการทำ If ที่
00:22:30 → 00:22:33 หมอหนึ่งพูดมาตั้งแต่เมื่อตอนต้นนะครับ
00:22:33 → 00:22:37 แล้วสเต็ปที่ 3 เราไปออกกำลังกายสร้าง
00:22:37 → 00:22:40 ระบบเผาผลาอ่าออกกำลังกายหลายคนน่ะบอกว่า
00:22:40 → 00:22:43 คุณหมอคะไม่ออกกำลังกายได้มั้ยจริงๆแล้ว
00:22:43 → 00:22:44 เนี่ยที่เราไม่อยากออกกำลังกายเพราะอะไร
00:22:45 → 00:22:47 รู้มั้ยเพราะที่ผ่านมาเราออกกำลังกายแล้ว
00:22:47 → 00:22:49 มันไม่ผอมถ้าเราออกแล้วผอมใครก็อยากออก
00:22:49 → 00:22:52 จริงไม่จริงถ้าทำงานแล้วได้เลื่อนขั้น
00:22:52 → 00:22:54 เรื่อยๆได้ผลตอบแทนเหมาะสมเราก็อยากออก
00:22:54 → 00:22:56 แรงอยากทำมากขึ้นจริงไม่จริงแต่ที่ผ่านมา
00:22:57 → 00:22:59 ไม่อยากออกเพราะอะไรเคยแล้วหมอออก 1 ช่ม 2
00:22:59 → 00:23:03 ชั่วมงไม่ผอมที่ไม่ผอมเพราะสารอาหารไม่ดี
00:23:03 → 00:23:07 หรือเปล่าเพราะอะไรทำไไม่ดีหรือเปล่าหรือ
00:23:07 → 00:23:09 บางคนทำไอแล้วออกกำลังกายด้วยไม่ผอมเพราะ
00:23:09 → 00:23:12 อะไรก็ย้อนกลับมาสารอาหารไม่ดีหรือเปล่า
00:23:12 → 00:23:14 เข้าใจเรื่องสารอาหารนะจบเลยโอเคเป่า
00:23:14 → 00:23:18 เพราะนักเรียนหมอ 1 นะอายุมากสุด 86 น้ำ
00:23:18 → 00:23:21 หนักมากสุด 160 ทำไมผอมได้เพราะออกกำลัง
00:23:21 → 00:23:24 กายหนักหรอไม่ใช่ใครที่น้ำหนักเยอะอายุ
00:23:24 → 00:23:26 แบบจะ 90 อยู่แล้วจะมาออกกำลังกายเวละ
00:23:26 → 00:23:28 ครึ่งชั่วโมงเข่าพังพอดีถูกมั้ยนะครับเ
00:23:28 → 00:23:32 ออก 10-15 นาทีแบบงูๆปลาๆทั้งนั้นแหละ
00:23:32 → 00:23:35 โอเคปป่าแค่ทำ 3 สเต็ปนี้ได้โดยเน้นสาร
00:23:35 → 00:23:38 อาหารก่อนนะ 7 วันพุงยุบท่องไว้เลย 7 วัน
00:23:38 → 00:23:41 พูงยุบนะครับเสร็จปั๊บสิ่งที่จะเจอคือ
00:23:41 → 00:23:44 สเต็ปที่ 4 พอลดน้ำหนักไปได้ระยะนึงจำไว้
00:23:44 → 00:23:47 เลยนะเจอทุกคนคือจะเจอปัญหาว่าน้ำำหนัก
00:23:47 → 00:23:50 เริ่มนิ่งแต่อาจจะไม่ได้มาเจาะลึกเรื่อง
00:23:50 → 00:23:52 น้ำหนักนิ่งในคลิปนี้นะนี่พูดมาก็ 20
00:23:52 → 00:23:54 กว่านาทีแล้วอ่ะนะครับน้ำหนักนิ่งใครอยู่
00:23:54 → 00:23:56 ในกลุ่ม VIP ไปทวนบทที่ 18 นะบ 1 พูดเป็น
00:23:56 → 00:23:59 ชั่วโมงเลยนะเพราะอะไรฟังครั้งเดียวคุณ
00:23:59 → 00:24:02 เข้าใจเสร็จปั๊บคุณจะลดได้ตลอดชีวิตเลยไป
00:24:02 → 00:24:04 สอนคนอื่นต่อก็ยังได้คนในครอบครัวน่ะนะ
00:24:04 → 00:24:06 ครับน้ำหนักนิ่งใครที่ทำ If มาแล้วน้ำ
00:24:06 → 00:24:09 หนักนิ่งนะไปเช็คสารอาหารที่ม 1 พูดว่า
00:24:09 → 00:24:12 ยังปรับอะไรได้อีกมถ้าปรับได้ดีแล้วอาจจะ
00:24:12 → 00:24:14 หยุดพักลดน้ำหนักแป๊บนึงก็ได้นะเพราะอะไร
00:24:14 → 00:24:17 ร่างกายคนเราอ่ะเวลาเราขับรถรถยังต้องพัก
00:24:17 → 00:24:19 เลยถูกมยเวลาเราทำงานเรายังต้องพักเลยรถ
00:24:19 → 00:24:21 น้ำหนักมันก็ต้องมีช่วงพักเหมือนกันนะ
00:24:21 → 00:24:23 ครับเนาะนะเพราะไม่ให้ร่างกายจับได้ว่า
00:24:23 → 00:24:25 เราลดน้ำหนักแล้วสุดท้ายพอเราลดไปได้จน
00:24:25 → 00:24:28 ถึงจุดที่เราพอใจแล้วอ่ะคุณหมอคะของมัน
00:24:28 → 00:24:31 ของทอดน่ะเรากินได้มคะกินได้แป้งต้องลด
00:24:31 → 00:24:34 ตลอดเลยหรอคะเพิ่มแป้งได้ไหเพิ่มได้กลับ
00:24:34 → 00:24:36 ไปกินแป้งเยอะได้ไอติมกินไม่ได้หรอคะกิน
00:24:36 → 00:24:39 ได้หมอ 1 ผอมแล้วหมอ 1 ก็กินไอติมอ่ะแต่
00:24:39 → 00:24:41 เราต้องรู้วิธีการสร้างระบบเผาผลาญของเรา
00:24:41 → 00:24:43 ให้ยั่งยืนก่อนนะไม่งั้นน่ะเราจะกลับไป
00:24:43 → 00:24:46 กินแล้วโโยโยโอเคป่านะครับเนาะเพราะ
00:24:46 → 00:24:49 ฉะนั้นตอนนี้มันคือการใช้หนี้ไขมันเฉยๆ
00:24:49 → 00:24:52 เราอ้วนเราใช้เวลาเป็น 10 ปีเลยอ่ะทำไม
00:24:52 → 00:24:54 เราถึงคาดหวังว่าเราจะผอมในระยะเวลาแค่ 10
00:24:54 → 00:24:57 วันถูกป่าแต่ถ้ามีความรู้ที่เหมา1ึสอนไป
00:24:57 → 00:25:00 คุณอาจจะใช้เวลาแค่ 10 สัปดาห์หรือ 2
00:25:00 → 00:25:02 เดือนก็จะเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลาย
00:25:02 → 00:25:06 อุโมงค์โอเคเนาะนะครับนะคราวนี้หลายคนถาม
00:25:06 → 00:25:08 ต่อว่าคุณหมอคะควรทำกี่วันต่อสัปดาห์ผม
00:25:08 → 00:25:11 บอกเลยนะว่าจริงๆแล้วการทำ If เนี่ยมัน
00:25:11 → 00:25:13 ไม่ใช่อะไรที่พิสดารถ้าคุณไม่ได้ทำโหด
00:25:13 → 00:25:16 เกินไปคำว่าทำโหดเกินไปหมายความว่าอะไร
00:25:16 → 00:25:19 บางคนทำโหดมากคือ 23/1 แบบเไม่ควรทำบ่อย
00:25:19 → 00:25:21 แต่ถ้าคุณทำแค่
00:25:21 → 00:25:25 16/8 18/6 คุณทำอยู่แค่นี้นะคุณสามารถ
00:25:25 → 00:25:28 ทำได้ทุกวันเลยเพราะอะไรเพราะจริงๆมันคือ
00:25:28 → 00:25:31 คือวิถีชีวิตในยุคก่อนด้วยซ้ำก่อนที่เรา
00:25:31 → 00:25:33 จะมีสิ่งที่เรียกว่าตู้เย็นก่อนที่เราจะ
00:25:33 → 00:25:36 รู้จักการถนอมอาหารยุคสมัยเก่าเนี่ยนะ
00:25:36 → 00:25:38 กว่าเขาจะได้อาหารมากินเ่ะเต้องออกไปล่า
00:25:38 → 00:25:40 สัตว์ตอนพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จปั๊บกว่าจะ
00:25:40 → 00:25:42 ได้สัตว์มา 1 ตัวแล้วก็เอามาประกอบอาหาร
00:25:42 → 00:25:45 กว่าจะได้กินก็เที่ยงแล้วพอพระอาทิตย์ตก
00:25:45 → 00:25:48 เย็นปั๊บเราจะกลายเป็นผู้ถูกล่าเราก็ต้อง
00:25:48 → 00:25:50 กลับไปซ่อนตัวอยู่ในที่ที่เราอยู่เพราะ
00:25:50 → 00:25:53 ฉะนั้นในวันๆนึงนะส่วนใหญ่นะบรรพบุรุษเรา
00:25:53 → 00:25:56 ก็ทำให้ f 16/8 18/6 แล้วเวลาที่เราไป
00:25:56 → 00:25:59 ดูพวกประวัติศาสตร์ที่เค้าจาลึกไว้ไม่มี
00:25:59 → 00:26:01 รูปที่แปะอยู่ตามผนังสลักตามผนังหินว่ามี
00:26:01 → 00:26:03 คนอ้วนเลยส่วนใหญ่เป็นรูปคนผอมหมดเลย
00:26:03 → 00:26:05 เพราะอะไรเพราะเขาคทำไโดธรรมชาติเพราะ
00:26:05 → 00:26:07 ฉะนั้นถามว่ามันอันตรายมยมันไม่ได้
00:26:07 → 00:26:09 อันตรายทำได้ทุกวันยกเว้นว่าเป็นช่วงที่
00:26:09 → 00:26:11 เราน้ำหนักนิ่งเราอยากจะพักบ้างคุณอาจจะ
00:26:11 → 00:26:15 สลับกลับไปทำแค่ 12/12 บ้างก็ว่ากันไปแต่
00:26:15 → 00:26:17 อย่ากินจุกจิกตลอดเวลามันจะติดเป็นนิสัย
00:26:17 → 00:26:20 นะครับเนาะนะเพราะฉะนั้นและอีกคำถามนึง
00:26:20 → 00:26:23 คือคุณหมอคะแล้วมันควรทำนานแค่ไหนอ่ะจริง
00:26:23 → 00:26:25 ๆแล้ว If อย่างที่บอกมันคือวิถีชีวิต
00:26:25 → 00:26:28 เพราะฉะนั้นถ้าสมมุติคุณจะทำ 16/8 นะ
00:26:28 → 00:26:30 อันเนี้ยมันคือการกินตั้งแต่พระอาทิตย์
00:26:30 → 00:26:33 ขึ้นพอพระอาทิตย์ตกดินปั๊บเราหยุดกิน 8:00
00:26:33 → 00:26:36 นเรากินมื้อแรกเที่ยนมื้อ 2 18:00 นมื้อ
00:26:36 → 00:26:38 3 พระอาทิตย์ตกดินปั๊บไม่กินอันเนี้ยมัน
00:26:38 → 00:26:40 คือวิถีชีวิตปกติคุณทำได้เรื่อยๆเลยแต่คน
00:26:40 → 00:26:43 ที่ไม่ควรทำไออพูดอย่างงี้ดีกว่าคือคนที่
00:26:43 → 00:26:47 ผอมเกินไปผอมแบบหนังติดกระดูกแล้วนะครับ
00:26:47 → 00:26:51 คนท้องนะครับคนให้นมบุดอาจจะต้องปรึกษา
00:26:51 → 00:26:54 หมอนะแต่คนที่น้ำหนักน้อยเกินไปไม่ควรทำ
00:26:54 → 00:26:57 แล้วคำว่าน้ำหนักน้อยเกินไปคือคุณมี BMI
00:26:57 → 00:26:59 นะครับน้อยกว่า
00:26:59 → 00:27:03 18.5 BMI หรือดัชนีมวลกกลน้อยกว่า 18.5
00:27:03 → 00:27:05 วิธีคิดง่ายๆนะครับว่า BMI หรือดัชนีมวล
00:27:05 → 00:27:08 กกลของคุณเท่าไหร่ให้คุณเอาน้ำหนักนะครับ
00:27:08 → 00:27:11 อย่างหมอ 1 เนี่ยน้ำหนัก 70 นะครับหาร
00:27:11 → 00:27:15 ด้วยส่วนสูงที่เป็นเมตรยกกำลัง 2 หมอ 1
00:27:15 → 00:27:19 สูง 1.78 นะครับแล้วก็ยกกำลัง 2 หารเสร็จ
00:27:19 → 00:27:22 ปั๊บถ้าต่ำกว่า 18.5 คุณหยุดทำไเลยนะ
00:27:22 → 00:27:24 เพราะอะไรแสดงว่าคุณผอมเกินไปแล้วคนที่
00:27:24 → 00:27:27 ผอมเกินไปส่วนใหญ่แล้วยังมีพวงอยู่นะมัน
00:27:27 → 00:27:29 เกิดจากปัญหาของคุณคือกล้ามเนื้อคุณน้อย
00:27:29 → 00:27:33 คุณต้องกินให้เยอะขึ้นและเน้นออกกำลังที่
00:27:33 → 00:27:35 ใช้แรงกล้ามเนื้อเยอะขึ้นพอกล้ามเนื้อคุณ
00:27:35 → 00:27:36 มากขึ้นน้้ำหนักคุณจะเพิ่มขึ้นเองแล้ว
00:27:36 → 00:27:38 อยู่ในเกณฑ์ปกติไม่งั้นอีกหน่อยกระดูกคุณ
00:27:38 → 00:27:41 จะบางเพราะฉะนั้นถามว่า If ทำได้นานแค่
00:27:41 → 00:27:43 ไหนคุณทำได้ตลอดชีวิตน่ะตราบใดที่ BMI
00:27:43 → 00:27:44 ของคุณเนี่ยยังไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ
00:27:44 → 00:27:47 กว่าเกณฑ์เพราะมันคือการทำเพื่อสุขภาพ
00:27:47 → 00:27:49 เห็นภาพเนาะนะครับเพราะฉะนั้นวันนี้น่าจะ
00:27:49 → 00:27:51 เข้าใจอะไรมากขึ้นว่าเราพลาดอะไรไปนะครับ
00:27:51 → 00:27:54 เนาะและน่าจะได้กำลังใจด้วยนะแต่สำคัญที่
00:27:54 → 00:27:57 สุดน่าใครที่ฟังคลิปหมอหนึ่งมาหลายคลิป
00:27:57 → 00:28:00 แล้วหรือฟังคลิปนี้มาถึงตรงนี้แล้วสำคัญ
00:28:00 → 00:28:02 ที่สุดถ้าคุณฟังแล้วคุณไม่ได้เอาไปลงมือ
00:28:02 → 00:28:04 ทำนะมันจะไม่มีประโยชน์เลยนะไม่ว่าคุณจะ
00:28:04 → 00:28:06 ฟังมากี่หมอหรือฟังมากี่คนถ้าคุณไม่มั่น
00:28:06 → 00:28:09 ใจในตัวเองนะไม่มีประโยชน์เลยหลายคนน่ะ
00:28:09 → 00:28:12 ไม่กล้าลงมือทำเพราะกลัวว่าตัวเองจะทำไม่
00:28:12 → 00:28:14 ได้วหนึงให้ข้อคิดนิดนึงนะที่หมอหนึ่งเคย
00:28:14 → 00:28:17 อ่านมาแล้วฟังมาแล้วดีมากเลยนะความพยายาม
00:28:17 → 00:28:19 อยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่นเนี่ยมัน
00:28:19 → 00:28:23 อาจจะไม่ได้เสมอไปคำว่าเสมอไปหมายความว่า
00:28:23 → 00:28:25 คนมักจะคาดหวังว่าพอเราพยายามเสร็จปั๊บ
00:28:25 → 00:28:28 ความสำเร็จต้องมาทันทีจริงๆจแล้วความ
00:28:28 → 00:28:31 พยายามของเราเนี่ยความสำเร็จอาจจะตามมานะ
00:28:31 → 00:28:34 แต่อาจจะ 2 เดือนนะอาจจะ 3 เดือนนะเพราะ
00:28:34 → 00:28:36 ฉะนั้นคุณต้องไม่ดูถูกตัวเองว่าไอ้ที่เรา
00:28:36 → 00:28:39 พยายามอยู่เนี่ยมันจะไม่เห็นผลนะโอเคป่า
00:28:39 → 00:28:41 ไม่ใช่ว่าพยายามวันนี้พรุ่งนี้ช่างน้ำ
00:28:41 → 00:28:43 หนักเลยว่าน้ำหนักลดมไม่ได้เพราะน้ำหนัก
00:28:43 → 00:28:45 มันไม่ได้ลดลงทุกวันมันมีช่วงลดช่วงนิ่ง
00:28:45 → 00:28:50 แต่ถ้าทำถูกวิธี 7 วันคุณจะเริ่มเห็นผล 2
00:28:50 → 00:28:52 สัปดาห์คุณจะเริ่มเห็นผลว่ามันดีขึ้น
00:28:52 → 00:28:55 เสร็จปั๊บทุกอย่างจะเจออะไรเจอปัญหาเจอ
00:28:55 → 00:28:58 ปัญหาเสร็จปั๊บให้รู้ก่อนว่าปัญหาเกิดจาก
00:28:58 → 00:29:00 อะไรทำไมน้ำหนักนิ่งแก้ให้ถูกแล้วเดี๋ยว
00:29:00 → 00:29:03 มันจะไปต่อได้โอเคป่าเพราะฉะนั้นสำคัญมาก
00:29:03 → 00:29:05 ๆหมอหนึเลยเน้นเรื่องความรู้มากๆเลยว่า
00:29:05 → 00:29:08 สำคัญนะครับเนาะหรือบางคนที่เคยเอาความ
00:29:08 → 00:29:10 รู้ฟรีหมอ 1 ไปใช้เสร็จปั๊บลดน้ำหนักแล้ว
00:29:10 → 00:29:13 เจอปัญหาน้ำหนักนิ่งอย่าเพิ่งท้อสำคัญที่
00:29:13 → 00:29:15 สุดย้อนกลับมาเหมือนเดิมนะครับลดไปจนได้
00:29:15 → 00:29:17 ถึงจุดนึงแล้วอ่ะไม่ใช่ว่าเราไม่เก่งหรอก
00:29:17 → 00:29:20 แต่พอเจอปัญหาคุณต้องมีสติว่าปัญหาเกิด
00:29:20 → 00:29:23 จากอะไรถ้าแก้เองไม่ได้มาถามหมอ 1 ให้หมอ
00:29:23 → 00:29:26 1 ช่วยแล้วก็จะไปต่อได้เนาะสิ่งสำคัญ
00:29:26 → 00:29:28 เวลาลดน้ำหนักจะมีอยู่ 3 อย่างใครอยู่
00:29:28 → 00:29:30 อยู่ในกลุ่มเรียนจำได้มั้ยข้อที่ 1 คือ
00:29:30 → 00:29:33 ความรู้คุณต้องมีความรู้ก่อนซึ่งหมอหนึ่ง
00:29:33 → 00:29:35 มีให้อยู่แล้ว 2 คุณต้องมีสิ่งที่เรียก
00:29:35 → 00:29:38 ว่าอะไรคุณต้องมีความเชื่อบางทีคนเราอ่ะ
00:29:38 → 00:29:40 เคยลดน้ำหนักมาหลายวิธีมากๆแล้วแล้วมัน
00:29:40 → 00:29:44 ไม่ผอมอ่ะนะจนเราเริ่มเชื่อมั่นในตัวเอง
00:29:44 → 00:29:46 น้อยลงอย่าอยู่กับความที่ไม่เชื่อมั่นใน
00:29:46 → 00:29:49 ตัวเองนะครับพยายามออกไปหาความรู้ใหม่ๆ
00:29:49 → 00:29:51 ออกไปหาสังคมใหม่ๆแล้วคุณจะเชื่อว่าเฮ้ย
00:29:51 → 00:29:53 คนนั้นน่ะแย่กว่าเราอีกอ่ะทำไมเค้าลดได้
00:29:53 → 00:29:55 อ่ะนี่คือเหตุผลว่าทำไมต้นคลิปหมอหนึชอบ
00:29:55 → 00:29:57 เอานักเรียนที่เค้าลดยากๆมาพูดให้ฟังไม่
00:29:57 → 00:29:59 ได้หมายความความว่าหมอหนึ่งเก่งนะแต่หมอ
00:29:59 → 00:30:01 หนึ่งแค่ต้องการจะบอกว่าถ้าคุณตั้งใจอ่ะ
00:30:01 → 00:30:04 หมอหนึ่งช่วยคุณได้แล้วคุณก็จะเป็นแบบคน
00:30:04 → 00:30:05 ที่เป็น Healthy ฮีโร่ที่หมอหนึ่งเอามา
00:30:05 → 00:30:07 เขียนให้ดูอ่ะคุณจะเริ่มเชื่อว่ามันมีคน
00:30:08 → 00:30:11 ที่ยากกว่าเราทำได้คุณก็ทำได้นะครับแล้ว
00:30:11 → 00:30:14 ก็ข้อที่ 3 คุณต้องมีเพื่อนมีเพื่อนคือมี
00:30:14 → 00:30:17 สังคมใหม่ๆอย่าไปอยู่กับสังคมเดิมๆเช่น
00:30:17 → 00:30:19 วันๆเห็นแต่คนกินแล้วก็อ้วนกินแล้วก็อ้วน
00:30:19 → 00:30:21 ออกกำลังกายเท่าไหร่ก็ไม่ผอมพอไปอยู่ใน
00:30:21 → 00:30:23 สังคมแบบนั้นเราจะเชื่อว่าเออเฮ้ยมันเป็น
00:30:23 → 00:30:25 แบบนั้นจริงๆหร่ะเราก็คงทำไม่ได้หรอกจริง
00:30:25 → 00:30:27 ๆไม่ใช่ถ้าคุณเปลี่ยนไปอยู่ในอีกสังคมนึง
00:30:27 → 00:30:30 อย่างในกลุ่มหม 1 จะมีคนผอมลงทุกวันพอคุณ
00:30:30 → 00:30:32 เห็นแบบนั้นปั๊บคุณก็จะเชื่อว่าเฮ้ยเค้า
00:30:32 → 00:30:34 ทำได้เราต้องทำได้เห็นมั้ย 3 ข้อนี้สำคัญ
00:30:34 → 00:30:36 มากนะครับเนาะเพราะฉะนั้นลองเอาไปปรับใช้
00:30:36 → 00:30:38 ดูนะอันนี้มีกำลังใจมาให้ดูเพิ่มแล้วกัน
00:30:39 → 00:30:40 นะครับนะอันนี้เป็นตัวอย่างนักเรียนของม 1
00:30:40 → 00:30:43 ในกลุ่ม VIP นะเนี่ยบางคนเนี่ยติดปัญหามา
00:30:43 → 00:30:45 ทั้งชีวิตเลยเข้ากลุ่มไป 8 วันปั๊บผอม
00:30:45 → 00:30:47 แล้วนะครับวันนี้ครบ 8 วันที่เริ่มควบคุม
00:30:47 → 00:30:49 น้ำหนักใส่กางเกงที่ทำงานเริ่มหลวมมีคน
00:30:49 → 00:30:52 ที่ทำงานทักแล้วว่าผอมลงไปทำอะไรมาเห็น
00:30:52 → 00:30:55 ป่ะ 8 วันปรับสารอาหารใน 8 บทแรกส่วนใหญ่
00:30:55 → 00:30:56 จะเป็นเรื่องสารอาหหารนะเพราะปรับสาร
00:30:56 → 00:30:59 อาหารปั๊บผอมเลยนะครับนะยิ่งเรียนยิ่งมี
00:30:59 → 00:31:01 ความรู้นะครับมีความคุณหมอมีความละเอียด
00:31:01 → 00:31:04 ในการอธิบายแทบไม่มีคำถามเลยนะเพิ่งฟังมา
00:31:04 → 00:31:06 ถึงบทที่ 3 ก็รู้แล้วว่ามาถูกทางบทที่ 3
00:31:06 → 00:31:08 บทอะไรรู้มั้ยใครที่อยู่ในกลุ่มนะหรือ
00:31:08 → 00:31:10 อยากเข้ากลุ่มนะบทที่ 3 บทโปรตีนโปรตีน
00:31:10 → 00:31:12 เนี่ยสำคัญที่สุดคนไทยพลาดบทนี้แหละนะ
00:31:12 → 00:31:15 ครับตัดสินใจไม่ผิดที่เรียนกับคุณหมอนะ
00:31:15 → 00:31:17 ครับอีกคนนึงนะเรียนไป 2 เดือนแล้วบางคน
00:31:17 → 00:31:19 บอกว่าโหส่วนใหญ่จะไปติดปัญหาที่ 1 เดือน
00:31:19 → 00:31:21 ค่ะคุณหมอเนี่ยเรียนไป 2 เดือนก็ลดต่อได้
00:31:21 → 00:31:24 ถึง 9 กลอ่ะนะครับ 9 กกหายไปใน 2 เดือนนะ
00:31:24 → 00:31:27 ครับมีแต่คนทักว่าอุ๊ยลดได้จริงๆด้วยนะ
00:31:27 → 00:31:29 อีกคนบอกว่าลดน้ำหนักเสร็จแล้วหน้าเรียว
00:31:29 → 00:31:31 ไม่แปลกเพราะว่าไขมันเวลามันลงมันจะลงหมด
00:31:31 → 00:31:34 ทุกส่วนแต่จะเริ่มลงจากหน้าท้องก่อน 7
00:31:34 → 00:31:36 วันคุณจะเริ่มรู้สึกว่าพุงคุณยุบลงเมื่อ
00:31:36 → 00:31:39 คุณทำถูกวิธีนะครับเนาะอีกคนนึงเนี่ยลดมา
00:31:39 → 00:31:41 ระยะนึงแล้วได้ไป 18 กนะครับเหมือนได้
00:31:41 → 00:31:44 ชีวิตใหม่เลยลดจาก 92 เหลือ 75 ใน 3-4
00:31:44 → 00:31:48 เดือนไม่ธรรมดาเลยนะอย่างที่บอกนะแต่อย่า
00:31:48 → 00:31:50 ไปคาดหวังว่ามันจะลดใน 1 เดือน 20 กกมัน
00:31:50 → 00:31:53 เป็นไปไม่ได้อันนั้นคือป่วยแต่ถ้าสมมุติ
00:31:53 → 00:31:56 ว่าคุณมั่นใจในตัวเองค่อยๆทำไปเรื่อยๆมัน
00:31:56 → 00:31:58 จะลดลงเรื่อยๆๆๆๆๆมันจะใช้เวลาน้อยลงแต่
00:31:58 → 00:32:01 ก่อนอาจจะอ้วนแบบ 10 ปีแต่อาจจะใช้เวลา
00:32:01 → 00:32:03 แค่ 6 เดือนแล้วผอมก็ได้คุ้มจะตายนะครับ
00:32:03 → 00:32:05 เนาะนะเข้าใจง่ายนะครับใช้ได้ตลอดชีวิตนะ
00:32:05 → 00:32:08 ครับนี่แหละคือคำนิยามที่หลังจากได้เรียน
00:32:08 → 00:32:10 กับม 1 Hey ฮีโร่นะครับก็ดีดีใจกับทุกคน
00:32:10 → 00:32:13 ในกลุ่มเลยนะแล้วก็เป็นกำลังใจให้หลายๆคน
00:32:13 → 00:32:15 ที่กำลังลดน้ำหนักนะครับส่วนใครที่ถามมา
00:32:15 → 00:32:17 นะครับว่าเราเรียนอะไรกันบ้างในกลุ่มที่
00:32:17 → 00:32:18 อยากเข้าเรียนตรงนี้จะเป็นเรื่องราย
00:32:18 → 00:32:20 ละเอียดในกลุ่มเรียนแล้วนะใครที่ไม่ได้
00:32:20 → 00:32:22 อยากเรียนกับหมอหนึ่งนะครับก็สามารถข้าม
00:32:22 → 00:32:24 ไปดูคลิปอื่นได้เลยนะครับของหมอ 1 เนาะ
00:32:24 → 00:32:26 แต่ถ้าสำหรับใครที่อยากเรียนกับหมอ 1 นะ
00:32:26 → 00:32:29 ตั้งใจฟังต่อนะเพราะว่าตอนนี้มีสิทธิ
00:32:29 → 00:32:30 พิเศษสำหรับคนที่เข้ากลุ่มตอนนี้ด้วยนะ
00:32:30 → 00:32:32 ครับตัวอย่างในกลุ่มเนี่ยสิ่งที่เราจะ
00:32:32 → 00:32:34 เรียนกันนะย้อนกลับมาภาพนี้เลยนะครับคุณ
00:32:35 → 00:32:36 จะลดน้ำหนักได้ตลอดชีวิตคุณต้องเข้าใจ
00:32:36 → 00:32:39 พีระมิดความร้อมหมอ 1 จะมีบทเรียนหลัก
00:32:39 → 00:32:41 ทั้งหมด 21 บทนะครับเราจะเรียนกันใน
00:32:41 → 00:32:43 Facebook กลุ่มลับนะ facebook กลุ่มลับ
00:32:43 → 00:32:45 ซึ่งในนั้นเนี่ยคุณสามารถเรียนเมื่อไหร่
00:32:45 → 00:32:47 ก็ได้เรียนจากที่ไหนบนโลกก็ได้หมอ1ึมีคน
00:32:47 → 00:32:49 ไทยที่อยู่ต่างประเทศอยู่ยุโรปอยู่ฮ่องกง
00:32:49 → 00:32:51 อยู่ออสเตรเลียอเมริกาเต็มไปหมดเลยนะครับ
00:32:51 → 00:32:53 ไม่จำเป็นต้องเรียนพร้อมกันเพราะหมอ 1 ลง
00:32:53 → 00:32:56 คลิปไว้ให้แล้วนะครับคลิปหลักจะมี 21 บท
00:32:56 → 00:32:58 ซึ่งบอกตั้งแต่ตอนนี้ก่อนเลยเลยว่าไม่
00:32:58 → 00:33:00 เหมือนกับที่ลงใน Facebook กับ YouTube
00:33:00 → 00:33:03 ทั่วไปเพราะอะไรนะครับอันนี้จะเป็นสำหรับ
00:33:03 → 00:33:06 คนที่ตั้งใจเข้ามาเรียนกับมึงเท่านั้นนะ
00:33:06 → 00:33:08 ครับสิ่งที่จะมีความแตกต่างคือข้อที่ 1
00:33:08 → 00:33:10 เลยคลิปลึกกว่าเพราะฉะนั้นคลิปก็จะยาว
00:33:10 → 00:33:12 กว่าปกตินิดนึงในแต่ละบทส่วนใหญ่ก็จะอยู่
00:33:12 → 00:33:15 ประมาณ 40 กว่านาทีถึง 1 ช่วมในแต่ละบท
00:33:15 → 00:33:17 โอเคมั้ยเหมือนคุณนั่งดูซีรียส์อ่ะนะครับ
00:33:17 → 00:33:19 คุณจะต้องเข้าใจก่อนว่าอ๋อศัตรูหมายเลข 1
00:33:19 → 00:33:21 ที่ทำให้ลดน้ำหนักไม่ได้เป็นแบบนี้นี่เอง
00:33:21 → 00:33:23 อ๋อบทที่ 2 ร่างกายเราอ้วนเพราะแบบนี้เอง
00:33:23 → 00:33:26 อ๋อบทที่ 3 อุ๊ยโปรตีนเรากินไม่ถึงแบบนี้
00:33:26 → 00:33:28 เองเห็นภาพมั้ยเพราะจจบแต่ละบทปั๊บมันจะ
00:33:28 → 00:33:31 มีคำำถามเช่นจบบทที่ 3 ไปแล้วคุณหมอคะรู้
00:33:31 → 00:33:32 แล้วค่ะว่าน้ำหนักเท่านี้ต้องกินโปรตีน
00:33:32 → 00:33:35 เท่าไหร่เริ่มนับโปรตีนตามสูตรคุณหมอเป็น
00:33:35 → 00:33:37 แล้วแต่ว่าเออพอไปดูฉลากปั๊บอ่านฉลากไม่
00:33:37 → 00:33:39 เป็นบทที่ 4 จะมาสอนอ่านฉลากมันจะเป็น
00:33:39 → 00:33:41 สเต็ปๆไปเรื่อยๆเหมือนคุณได้เรียนรู้ร่าง
00:33:41 → 00:33:42 กายตัวเองนะครับเนาะเพราะฉะนั้นคุณจะได้
00:33:42 → 00:33:45 เรียนจนครบเลยนะครับในพีระมิดความผอมเนาะ
00:33:45 → 00:33:47 นะคราวนี้นี่เดี๋ยวให้ดูตัวอย่างเนี่ย
00:33:47 → 00:33:49 ระบบพลังงานในร่างกายเหมือนก็จะสอนว่าอ๋อ
00:33:49 → 00:33:51 มันมีระบบพลังงานแบบนี้นะสารอาหารอะไรยัง
00:33:51 → 00:33:53 ไงเป็นแบบนี้นะและมีสูตรการนับโปรตีนที่
00:33:53 → 00:33:55 หมอ 1 พูดไปนะครับเป็นเทคนิคของหมอ 1 เอง
00:33:55 → 00:33:57 เนาะก็เอาไปใช้ได้เลยนะครับว่าเรานหนัก
00:33:58 → 00:33:59 เท่านี้เรากินโปรจีนเท่าไหร่นะและที่หลาย
00:33:59 → 00:34:02 ๆคนถามมาว่าวันนึงมีเมนูอาหารให้มยสิ่ง
00:34:02 → 00:34:04 ที่ผมจะสอนมันมากกว่าเมนูอาหารอีกสิ่งที่
00:34:04 → 00:34:07 ผมจะสอนคือผมจะไม่ได้ให้เมนูอาหารคุณแต่
00:34:07 → 00:34:10 ผมจะสอนให้คุณจัดเมนูอาหารเป็นดีมยดี
00:34:11 → 00:34:13 เพราะอะไรรู้มั้ยแต่ละคนกินไม่เหมือนกัน
00:34:13 → 00:34:14 น่ะไม่ใช่ว่าผมมีเมนูอาหาร 1 อันแล้วจะ
00:34:14 → 00:34:17 โยนให้ทุกคนเอาไปทำทำแบบนั้นมันง่ายถูก
00:34:17 → 00:34:19 มั้ยแต่มันไม่ยั่งยืนหรอกเพราะอะไรณวัน
00:34:19 → 00:34:21 นึงถ้าผมไม่ได้มีเมนูอาหารให้คุณจะผอมหรอ
00:34:21 → 00:34:23 คุณก็กลับไปอ้วนเหมือนเดิมสิถูกมั้ยนะ
00:34:23 → 00:34:25 ครับเพราะฉะนั้นผมจะสอนคุณจัดเมนูอาหาร
00:34:25 → 00:34:28 ด้วยตนเองว่าเราชอบกินเมเมนูนี้เมนูนี้ทำ
00:34:28 → 00:34:30 ยังไงดีครับคุณหมอนะถ้าคุณเข้าใจเรื่อง
00:34:30 → 00:34:33 วัตถุดิบนะว่าโปรตีนมีอะไรบ้างนะเดี๋ยว
00:34:33 → 00:34:35 คุณมาทำเมนูอาหารโดยที่คุณไม่ต้องทำอาหาร
00:34:35 → 00:34:37 เองด้วยนะคุณไปเลือกเอาอ่ะกะเพราไก่
00:34:37 → 00:34:39 กะเพราหมผอมได้หมดถ้าเข้าใจสัดส่วนอาหาร
00:34:39 → 00:34:42 ตามน้ำหนักตัวนะครับเนาะแล้วก็ฉลาก
00:34:42 → 00:34:44 โภชนาการหลายคนชอบอ่านผิดหมอหนึสอน
00:34:44 → 00:34:46 ละเอียดหมดเลยมีตัวอย่างเป็น 10 ๆ100รๆ
00:34:46 → 00:34:48 อันเลยนะครับแล้วก็เรื่องแป้งอย่างเงี้ย
00:34:48 → 00:34:50 ก็จะมีสอนว่าอ๋อแป้งเนี่ยแต่ละหมวดเนี่ย
00:34:50 → 00:34:52 หมอหนึจะค่อยๆทยอยทีละหมวดนะว่าข้าวเราดู
00:34:53 → 00:34:56 ยังไงนะครับขนมปังดูยังไงผักผลไม้นะครับ
00:34:56 → 00:34:59 นมดูยังไงมีตัวอย่างให้ดูครบเลยนะครับนะ
00:34:59 → 00:35:02 น้ำหนักนิ่งแก้ยังไงแล้วก็พอลดได้เสร็จ
00:35:02 → 00:35:04 ปั๊บเราต้องเช็คอะไรบ้างว่าร่างกายของเรา
00:35:04 → 00:35:07 เนี่ยน้ำหนักสัดส่วนลงดียนะครับแล้วก็แถม
00:35:07 → 00:35:09 ให้นะตอนนี้มีบทเรียนที่เกี่ยวกับเรื่อง
00:35:09 → 00:35:12 ของผลเลือดด้วยนะครับวิธีแก้ปัญหาน้ำหนัก
00:35:12 → 00:35:14 นิ่งนะครับพวกเนี้ยคุณสามารถเอาไปใช้ได้
00:35:14 → 00:35:16 เลยนะครับแล้วตอนนี้เนี่ยใครที่สมัครเข้า
00:35:16 → 00:35:18 กลุ่มตอนนี้นะครับหมอ 1 มีอัปเดตไปแล้ว 4
00:35:18 → 00:35:20 บทด้วยนะคุณจะได้อัปเกรดเป็นคอร์สตลอดชีพ
00:35:20 → 00:35:22 หมายความว่าอะไรคอร์สเดิมของหมอ 1 เนี่ย
00:35:22 → 00:35:24 ประมาณ 3 ปีที่แล้วนะครับคนที่เข้าไป
00:35:24 → 00:35:27 เรียนเนี่ยผ้อมกันไปนานละแต่ถ้าคุณเพิ่ง
00:35:27 → 00:35:28 เข้ากลุ่มตอนตอนนี้หลังเห็นคลิปนี้คุณจะ
00:35:28 → 00:35:30 ได้เรียนคอร์สเดิมด้วยแล้วก็แถมคอร์สใหม่
00:35:30 → 00:35:32 ด้วซึ่งตอนนี้หมอหนึ่งอัปเดตไป 4 บทแล้ว
00:35:32 → 00:35:34 คุณสามารถเรียนได้ทั้งคอร์สใหม่คอร์สเก่า
00:35:34 → 00:35:36 ครบเลยที่เป็นคอร์สลดน้ำหนักดีมยนะครับ
00:35:36 → 00:35:38 คราวนี้หลายคนก็อาจจะคิดว่าคุณหมอคะแล้ว
00:35:38 → 00:35:40 ถ้าลดแบบนี้แล้วหนูมีคำถามหนูจะทำยังไงนะ
00:35:40 → 00:35:42 ครับหมอหนึจะมีโพสต์ให้ถามคำถามท้ายบทแต่
00:35:42 → 00:35:44 ละบทด้วยนะครับเราจะอัปเดตกันอยู่ตลอดใน
00:35:45 → 00:35:47 กลุ่มว่าเออตอนนี้ติดปัญหาอะไรนะครับแล้ว
00:35:47 → 00:35:49 เรียนบทนี้ไม่เข้าใจตรงไหนนะครับหมอหนึ่ง
00:35:49 → 00:35:51 จะช่วยตอบคำถามอยู่ในกลุ่มตลอดโอเคป่ะนะ
00:35:51 → 00:35:54 ครับเนาะเพราะฉะนั้นปิดประตูความอ้วนไป
00:35:54 → 00:35:55 ได้เลยนะครับผมจะช่วยจนกว่าคุณจะได้ผล
00:35:55 → 00:35:58 ลัพธ์ที่พอใจนะหลายคนฟังมาถึงตรงนี้คิด
00:35:58 → 00:36:00 ว่าโอ้โหค่าเรียนต้องเป็นหมื่นเป็นแสนนะ
00:36:00 → 00:36:02 ครับเนาะบอกเลยว่าคอร์สนี้ทำมาเพื่ออยาก
00:36:02 → 00:36:05 ให้ทุกคนเนี่ยกล้าที่จะลงทุนกับสุขภาพของ
00:36:05 → 00:36:08 ตนเองบ้างเนาะหลายคนเคยซื้ออาหารเสริม
00:36:08 → 00:36:10 มานะเดือนละ 1,500 3 เดือน 4,500 ไม่ผอม
00:36:10 → 00:36:12 เปลี่ยนชนิดเปลี่ยนไปเรื่อยๆบางคนซื้อ
00:36:12 → 00:36:15 คอร์สอาหารเสริมเขย่าๆเป็นหมื่นลดได้
00:36:15 → 00:36:17 เสร็จปั๊บกลับไปโยโยอีกเพราะไม่เข้าใจ
00:36:17 → 00:36:20 เรื่องอาหารบางคนนะซื้อสมาชิกฟิตเนสเดือน
00:36:20 → 00:36:21 นึงเป็นหมื่นแต่ไม่เคยไปใช้เพราะอะไรไม่
00:36:21 → 00:36:24 เข้าใจเรื่องสารอาหารนะครับแต่ถ้าคุณมี
00:36:24 → 00:36:26 ความรู้ในคอร์สนี้คุณจะใช้ได้ตลอดชีวิต
00:36:26 → 00:36:28 เลยนะครับราคาเต็มนะครับสำหรับคนที่จะ
00:36:29 → 00:36:30 สมัครเข้ากลุ่มเรียนนะครับปกติจะมีค่า
00:36:30 → 00:36:33 สมัครอยู่ที่ 9,900 บาทนะครับแต่ถ้าเห็น
00:36:33 → 00:36:35 คลิปนี้นะครับคุณจะได้สมัครในราคา
00:36:35 → 00:36:38 โปรโมชั่นพิเศษแค่ 3,900 บาทเท่านั้นนะ
00:36:38 → 00:36:41 ครับเทียบกับสิ่งที่คุณเคยลงทุนมาทั้ง
00:36:41 → 00:36:43 ชีวิตเกี่ยวกับเรื่องการลดน้ำหนักไม่ว่า
00:36:43 → 00:36:46 จะเป็นยาลดน้ำหนักอาหารเสริมโปรตีนต่างๆ
00:36:46 → 00:36:49 โปรตีนเขย่าคอร์สออกกำลังกายแต่ไม่ผอม
00:36:49 → 00:36:51 เพราะคุณขาดสิ่งเดียวเลยคือความรู้นะครับ
00:36:51 → 00:36:53 เพราะฉะนั้นเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ
00:36:53 → 00:36:55 แน่นอนนะครับใครที่สนใจสมัครเข้าเรียนนะ
00:36:55 → 00:36:58 ครับสามารถโอนค่าสมัครได้ที่เลขบัญชีนี้
00:36:58 → 00:36:59 นะครับแล้วก็ทักไปที่ LINE แ Healthy
00:36:59 → 00:37:01 Hero จะมีทีมงานที่น่ารักๆคอยอำนวยความ
00:37:02 → 00:37:04 สะดวกวิธีเข้ากลุ่มให้นะนะครับแล้วก็เข้า
00:37:04 → 00:37:06 ไปเสร็จเข้าไปเริ่มเรียนเลยนะผอมก่อนปี
00:37:06 → 00:37:08 หน้าแน่นอนนะครับและหลายๆคนอย่างที่บอกนะ
00:37:08 → 00:37:10 เค้าเข้าไป 7 วันเก็เห็นผลแล้วอ่ะเพราะ
00:37:10 → 00:37:13 อะไรปรับสารอาหารให้ถูกต้องอย่างเดียวเลย
00:37:13 → 00:37:14 นะครับเนาะเพราะฉะนั้นใครที่จะเข้ากลุ่ม
00:37:14 → 00:37:16 เรียนก็โอนค่าสมัครได้เลยทันทีนะครับ
00:37:16 → 00:37:18 เพราะถ้าสมมุติว่าโปรโมชั่นหมดแล้วหมอ
00:37:18 → 00:37:20 หนึ่งจะตัดตรงส่วนท้ายนี้ทิ้งไปนะครับคุณ
00:37:20 → 00:37:22 จะไม่เห็นโปรโมชั่นนี้อีกแล้วนะนะครับ
00:37:22 → 00:37:23 เพราะฉะนั้นก็สมัครเสร็จปั๊บส่งราย
00:37:23 → 00:37:24 ละเอียดที่ LINE แ Healthy Hero นะครับ
00:37:25 → 00:37:27 แล้วเจอกันในกลุ่มเรียนนะครับชมคลิปหมอ 1
00:37:27 → 00:37:28 จบแล้วนะครับอย่าลืมกดติดตามเพื่อที่จะ
00:37:28 → 00:37:30 ได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆจากหมอ 1 นะครับส่วน
00:37:30 → 00:37:33 คลิปอื่นๆที่น่าสนใจกดดูจากทางซ้ายมือได้
00:37:33 → 00:37:34 เลยครับส่วนใครที่อยากลดน้ำหนักครั้งสุด
00:37:34 → 00:37:36 ท้ายในชีวิตในกลุ่มเรียนกับม 1 นะครับกด
00:37:36 → 00:37:38 ดูรายละเอียดจากทางขวามือหรือดูราย
00:37:38 → 00:37:39 ละเอียดจากลิงก์ในคอมเมนต์ได้เลยนะครับ
00:37:39 → 00:37:43 แล้วพบกันในกลุ่มเรียนนะครับ