00:00:00 → 00:00:03 สมองเป็นตัวควบคุมทุกสิ่งอย่างในร่างกายนะคะ
00:00:03 → 00:00:07 อาหาร ถ้าเราเลือกได้เหมาะสม ก็จะช่วยให้การทำงานได้อย่างสมดุล
00:00:07 → 00:00:09 แล้วก็มีประสิทธิภาพมากที่สุด
00:00:09 → 00:00:11 อย่างไรก็ตาม ถ้าเราเลือกอาหารที่ไม่เหมาะสม
00:00:11 → 00:00:14 ก็อาจจะมีส่วนทำร้าย หรือว่าทำลายสมองเราได้ค่ะ
00:00:14 → 00:00:23 [เสียงดนตรี]
00:00:23 → 00:00:25 อันแรกก็คือเรื่องของเนยหรือมาการีน
00:00:25 → 00:00:29 ซึ่งอาหารกลุ่มนี้ ก็จะทำให้เรื่องของไขมันในเลือดสูง
00:00:29 → 00:00:31 โดยเฉพาะไขมันที่เป็นไขมันตัวเลว
00:00:31 → 00:00:32 โดยเฉพาะไขมันทรานส์นะคะ
00:00:32 → 00:00:34 ก็จะลดไขมันตัวดีด้วย
00:00:34 → 00:00:36 แล้วอันนี้ก็จะทำให้เส้นเลือดแข็ง
00:00:36 → 00:00:38 แล้วก็มีโอกาสที่จะทำให้เส้นเลือดอุดตัน
00:00:38 → 00:00:41 เรารู้อยู่แล้วว่าเส้นเลือดสมองมีความสำคัญ
00:00:41 → 00:00:43 ถ้าสมมุติว่าเส้นเลือดมีปัญหา
00:00:43 → 00:00:46 เพราะฉะนั้น การทำงานของสมองในภาพรวม ก็จะลดลงค่ะ
00:00:46 → 00:00:50 [เสียงดนตรี]
00:00:50 → 00:00:53 กลุ่มต่อไปก็จะเป็นเรื่องของชีส
00:00:53 → 00:00:55 ชีสก็จะคล้าย ๆ กับเนยนะคะ
00:00:55 → 00:00:59 จะมีข้อดีมากกว่าเลยนิดนึงก็คือ ในชีสจะมีโปรตีนเพิ่มขึ้น
00:00:59 → 00:01:02 แต่ว่าไขมันที่มีในชีสนี่ ถือว่าเป็นไขมันอิ่มตัวค่ะ
00:01:02 → 00:01:04 การที่มีไขมันอิ่มตัวสูงนี่
00:01:04 → 00:01:07 มันก็จะทำให้เส้นเลือดอุดตันนะคะ แล้วก็เส้นเลือดแข็งได้
00:01:07 → 00:01:10 แล้วก็มีผลสืบเนื่องไปที่สมองได้เช่นกันค่ะ
00:01:10 → 00:01:15 [เสียงดนตรี]
00:01:15 → 00:01:19 กลุ่มต่อไปก็จะเป็นเรื่องของเนื้อแดง หรือว่าเนื้อแปรรูปนะคะ
00:01:19 → 00:01:21 กลุ่มนี้เองก็จะมีผลเสีย
00:01:21 → 00:01:24 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอนุมูลอิสระ ที่จะเกิดขึ้น
00:01:24 → 00:01:26 มีฮีมที่มีอยู่ในเนื้อแดงนะคะ
00:01:26 → 00:01:29 หรือแม้กระทั่งเรื่องของไขมันอิ่มตัว ที่มีอยู่ในเนื้อแดง
00:01:29 → 00:01:31 อันนี้ถ้าเรารับประทานเป็นปริมาณมาก
00:01:31 → 00:01:34 ก็จะไปมีผลกับเรื่องของคอเลสเตอรอลในเลือด
00:01:34 → 00:01:36 เพิ่มอนุมูลอิสระนะคะ
00:01:36 → 00:01:39 แล้วก็จะทำให้เกิดการอักเสบ เพิ่มขึ้นในร่างกาย
00:01:39 → 00:01:43 ซึ่งอันนี้ก็จะส่งผลโดยตรงกับเส้นเลือด แล้วก็การทำงานของเซลล์สมอง
00:01:43 → 00:01:46 ทำให้เกิดเรื่องของสมองเสื่อมได้ในอนาคตค่ะ
00:01:46 → 00:01:50 [เสียงดนตรี]
00:01:50 → 00:01:53 กลุ่มต่อไปก็จะเป็นกลุ่มของอาหารทอด
00:01:53 → 00:01:57 หรือว่ากลุ่มอาหารฟาสต์ฟูด อาหารจานด่วนทั้งหลายนะคะ
00:01:57 → 00:02:00 กลุ่มนี้ก็จะมีแคลอรีเยอะขึ้น จะเป็นของทอด
00:02:00 → 00:02:02 นอกจากนี้ น้ำมันที่ใช้ทอดเองนี่
00:02:02 → 00:02:05 อาจจะมีผลที่จะทำให้เรื่องของ คอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น
00:02:05 → 00:02:06 ทำให้เราอ้วนขึ้นด้วย
00:02:06 → 00:02:10 เพราะว่าถ้าเรากินบ่อย ๆ ก็จะมีปัญหาเรื่องของความอ้วนนะคะ
00:02:10 → 00:02:14 ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะส่งผลโดยตรงกับเส้นเลือด แล้วก็การทำงานของสมองเหมือนกัน
00:02:14 → 00:02:17 ทำให้เส้นเลือดแข็ง เส้นเลือดอุดตันนะคะ
00:02:17 → 00:02:19 แล้วก็ทำให้การทำงานของสมองโดยรวมแย่ลงค่ะ
00:02:19 → 00:02:24 [เสียงดนตรี]
00:02:24 → 00:02:27 อันสุดท้ายนะคะ ที่เราจะต้องไม่พูดถึงไม่ได้เลย
00:02:27 → 00:02:29 ก็คือกลุ่มของของหวานหรือขนม
00:02:29 → 00:02:32 พวกนี้นี่ ถ้าสมมุติว่าเราดื่มเครื่องดื่ม ที่มันมีความหวานมาก ๆ
00:02:32 → 00:02:34 หรือขนมที่มีน้ำตาลเยอะ ๆ
00:02:34 → 00:02:37 สิ่งที่จะเกิดขึ้นนี่ มันก็จะทำให้น้ำตาลในเลือดเราสูงขึ้น
00:02:37 → 00:02:39 มีสารบางตัวที่เราเรียกว่า AGEs
00:02:39 → 00:02:42 มันจะไปทำให้เกิดเรื่องของอนุมูลอิสระ
00:02:42 → 00:02:43 ทำให้เส้นเลือดแข็ง
00:02:43 → 00:02:45 นึกภาพง่าย ๆ เลย ถ้าน้ำตาลในเลือดเราสูงขึ้น
00:02:45 → 00:02:48 เส้นเลือดเราก็จะแช่อยู่ในน้ำเชื่อม เส้นเลือดเราก็จะแข็ง
00:02:48 → 00:02:51 เส้นเลือดแล้วแข็งปั๊บ ก็จะเกิดอุดตันได้ง่าย
00:02:51 → 00:02:52 แตกได้ง่ายนะคะ
00:02:52 → 00:02:57 แล้วสมองเราซึ่งจำเป็นจะต้องได้เลือด จากเส้นเลือดพวกนี้ ก็จะได้รับเลือดไม่พอ
00:02:57 → 00:03:01 ระยะยาว มันก็จะทำให้มีปัญหา กับการทำงานของสมอง
00:03:01 → 00:03:03 นอกจากนี้ น้ำตาลในเลือดที่มันสูง ๆ
00:03:03 → 00:03:05 ก็จะทำให้เกิดอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น
00:03:06 → 00:03:09 แล้วก็ทำให้ทำร้าย แล้วก็ทำลายเซลล์สมองโดยตรงด้วยค่ะ
00:03:09 → 00:03:13 [เสียงดนตรี]
00:03:13 → 00:03:15 เราจะกินอะไรดีเพื่อจะบำรุงสมองของเรา
00:03:15 → 00:03:18 อันแรกเลย ก็จะเป็นกลุ่มของผักผลไม้นะคะ
00:03:18 → 00:03:20 ในกลุ่มของผักผลไม้เองนี่
00:03:20 → 00:03:23 ก็จะมีพวกไฟเบอร์ มีพวกของสารต้านอนุมูลอิสระ
00:03:23 → 00:03:26 นอกจากนี้ ยังมีวิตามินและเกลือแร่อย่างเต็มที่
00:03:26 → 00:03:28 อันนี้ก็จะเป็นตัวที่จะช่วยเสริมสร้าง
00:03:28 → 00:03:31 แล้วก็ทำให้การทำงานของสมองเต็มที่มากที่สุด
00:03:31 → 00:03:33 อันที่ 2 ค่ะ ก็จะเป็นกลุ่มของธัญพืช
00:03:33 → 00:03:36 อันนี้เน้นหนักว่า ขอเป็นธัญพืชที่ไม่ขัดสี
00:03:36 → 00:03:38 เพื่อจะให้ได้วิตามินครบถ้วน
00:03:38 → 00:03:41 แล้วก็มีไฟเบอร์ที่เหมาะสมกับ แบคทีเรียในลำไส้
00:03:41 → 00:03:44 อันถัดมาค่ะ จะเป็นกลุ่มของถั่วนะคะ
00:03:44 → 00:03:46 ในถั่วเองนี่ก็จะมีข้อดีค่ะ
00:03:46 → 00:03:49 ก็คือจะมีส่วนของวิตามินอีค่อนข้างมาก
00:03:49 → 00:03:51 มีน้ำมัน มีโปรตีนนะคะ
00:03:51 → 00:03:53 แต่ว่าน้ำมันที่มีอยู่ในถั่วนี่ จะถือว่าเป็นน้ำมันที่ดี
00:03:53 → 00:03:57 เพราะฉะนั้น การรับประทานถั่วก็จะดีกับสุขภาพ
00:03:57 → 00:04:00 ถามว่ารับประทานมากแค่ไหน ถ้ามากเกินไป ก็อาจจะอ้วนได้
00:04:00 → 00:04:02 เราให้ใช้ปริมาณประมาณกำมือนึง
00:04:03 → 00:04:04 เวลาเราเอาถั่วใส่กำมือเรา
00:04:04 → 00:04:07 แค่นี้ค่ะ อาทิตย์หนึ่งสักประมาณ 5 ครั้ง
00:04:07 → 00:04:09 อันนี้ก็จะช่วยในเรื่องของสุขภาพค่ะ
00:04:09 → 00:04:12 ทีนี้พอผ่านจากผักมาแล้ว เราก็จะมาดูแหล่งของโปรตีนนะคะ
00:04:12 → 00:04:14 เราก็จะแนะนำว่าโปรตีนอันนี้มาจากพืช
00:04:14 → 00:04:17 หรือถ้าเกิดจะเป็นเนื้อสัตว์นี่ เราจะเน้นให้เป็นเนื้อสีขาว
00:04:17 → 00:04:18 ยกตัวอย่างเช่น สัตว์ปีก
00:04:18 → 00:04:21 กินปลา อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
00:04:21 → 00:04:23 หรือว่าเป็นอาหารทะเล
00:04:23 → 00:04:26 1 ครั้งของปลานี่ ปริมาณเท่ากับฝ่ามือเรานะคะ
00:04:26 → 00:04:29 อันนี้ขนาดเท่าฝ่ามือเรา ประมาณอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
00:04:29 → 00:04:33 อันถัดมาค่ะ ก็จะเป็นกลุ่มของ น้ำมันที่เราใช้ในการทำอาหาร
00:04:33 → 00:04:35 เราก็เน้นว่าขอให้เป็นน้ำมันพืช
00:04:35 → 00:04:38 ถ้าสมมุติว่าใครอยากจะใช้น้ำมันมะกอก ก็ตามสะดวก
00:04:38 → 00:04:39 ถ้าไม่อยากจะใช้น้ำมันมะกอก
00:04:39 → 00:04:43 น้ำมันที่มีไขมันชนิดเดียวกันกับน้ำมันมะกอก
00:04:43 → 00:04:46 ยกตัวอย่างเช่น น้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันคาโนลา ก็สามารถใช้ได้
00:04:46 → 00:04:48 [เสียงดนตรี]
00:04:48 → 00:04:51 สำหรับอาหารที่ทำลายสมอง เราก็ทราบกันแล้วนะคะ
00:04:51 → 00:04:54 จริง ๆ แล้วเราก็ไม่ได้จำเป็น ที่จะต้องบอกว่าเราไม่ได้กินเลย
00:04:54 → 00:04:57 แต่ว่าเราควรจะกินในปริมาณที่เหมาะสม คือน้อยหน่อย
00:04:57 → 00:04:59 แล้วเราก็เลือกใช้ชีวิตที่ดีขึ้น
00:04:59 → 00:05:01 แล้วก็เลือกอาหารที่ดีกับสุขภาพมากขึ้น
00:05:01 → 00:05:04 เพื่อจะทำให้สุขภาพสมองเรา อยู่กับเราได้ดีขึ้น
00:05:04 → 00:05:05 และนานขึ้นค่ะ