การเสริมแคลเซียมในรูปเม็ดมีข้อควรระวังอย่างไร

[PODCAST] Food Choice | EP.14 - อาหารป้องกันโรคกระดูกพรุน

จากช่อง : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 [เสียงดนตรี]

00:00:0300:00:06 You're listening to Mahidol Channel Podcast.

00:00:0600:00:08 Listen for a better life.

00:00:0800:00:11 ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

00:00:1100:00:14 และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel

00:00:1400:00:16 โดย มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:1600:00:22 [เสียงดนตรี]

00:00:2200:00:24 วันนี้คุณกินอะไร

00:00:2400:00:29 อาหารที่คุณกินจะส่งผลดี ส่งผลเสีย กับสุขภาพของคุณอย่างไร

00:00:2900:00:31 วันนี้หมอจะชวนทุกคนมาพูดคุย

00:00:3100:00:35 เกี่ยวกับรูปแบบของการกินอาหาร ที่ปลอดภัยกับสุขภาพของเรา

00:00:3500:00:40 กับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋

00:00:4000:00:42 แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:00:4200:00:46 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:4600:00:49 [เสียงดนตรี]

00:00:4900:00:53 วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องของ โรคกระดูกพรุนนะคะ

00:00:5300:00:56 โรคกระดูกพรุนเองนี่ ถือว่าเป็นภัยเงียบนะคะ

00:00:5600:00:57 ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอาการอะไรเลย

00:00:5800:01:00 เจอได้ทั้งผู้หญิงแล้วก็ผู้ชาย

00:01:0000:01:02 แต่ว่าจะเจอในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย

00:01:0200:01:06 อายุที่เราจะเจอกันบ่อย ๆ ก็จะเป็นประมาณสัก 50 ปีขึ้นไป

00:01:0600:01:10 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เริ่มมีการ หมดประจำเดือนแล้วนะคะ

00:01:1000:01:12 ในผู้ชายเองก็เจอได้เหมือนกันนะคะ

00:01:1200:01:15 แต่ว่าอาการจะเกิดช้ากว่าผู้หญิงนิดนึง

00:01:1500:01:21 ทีนี้สำหรับสาว ๆ ที่กำลังเข้าสู่วัย สว. หรือว่าเริ่มจะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนแล้ว

00:01:2100:01:25 ก็อาจจะต้องมาเตรียมตัว เตรียมพร้อม สำหรับการป้องกัน

00:01:2500:01:28 หรือแม้กระทั่งการดูแลตัวเอง ถ้าเกิดว่ามีภาวะนี้แล้วค่ะ

00:01:2800:01:31 สำหรับโรคกระดูกพรุน เหมือนที่บอกค่ะ ชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว

00:01:3100:01:34 ในกระดูกเรา มันจะมีความกลวง

00:01:3400:01:38 กระดูกเรามันไม่ได้เป็นแบบ กระดูกที่มันเป็นแท่งตัน ๆ นะคะ

00:01:3800:01:41 ลองนึกภาพเวลาเรากินไก่ทอด แล้วเรากัดที่กระดูกไก่

00:01:4100:01:44 แล้วเราจะรู้สึกว่ามันกร๊อบ มันกรอบใช่ไหมคะ

00:01:4400:01:47 ข้างในค่ะ โครงสร้างที่มันอยู่กันนี่

00:01:4700:01:49 โครงสร้างตรงนี้นี่

00:01:4900:01:52 มันจะมีความหนาแน่นของกระดูกในระดับหนึ่ง

00:01:5200:01:54 แต่พอเวลาเราอายุมากขึ้นนี่

00:01:5400:01:57 ความหนาแน่นพวกนี้ของโครงสร้าง มันก็จะลดลง

00:01:5700:02:01 ทำให้กระดูกมันเปราะ บาง แล้วก็หักง่าย

00:02:0100:02:04 ดังนั้นกระดูกพรุนนี่ มันจะเกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น

00:02:0400:02:07 ด้วยเหตุผลที่ว่าฮอร์โมนลดลง

00:02:0700:02:10 โดยเฉพาะผู้หญิงก็คือฮอร์โมนเอสโตรเจน

00:02:1000:02:12 ถ้างั้นถามว่าแล้วทำให้มันเกิดอะไรขึ้น

00:02:1300:02:15 เมื่อมีกระดูกพรุนปั๊บนี่ สิ่งที่ตามมาก็คือ

00:02:1500:02:18 กระดูกอันนั้นก็จะมีความเปราะ ความกรอบ

00:02:1800:02:21 แล้วก็สามารถที่จะหักง่ายขึ้น

00:02:2100:02:24 มีแรงกระแทกนิดหน่อย ก็อาจจะทำให้เกิดกระดูกหัก

00:02:2400:02:26 ทีนี้กระดูกหักในบางตำแหน่งนี่

00:02:2600:02:27 มันจะทำให้เราเดินไม่ได้ เรานอนติดเตียง

00:02:2800:02:30 ซึ่งอันนี้จะมีอันตรายนะคะ

00:02:3000:02:33 ถ้าสมมุติกระดูกหักที่ข้างหลัง ก็จะทำให้เราเตี้ยลง

00:02:3300:02:36 กระดูกหักที่สะโพก แล้วเราขยับไม่ได้ เราเดินไม่ได้

00:02:3700:02:40 ถ้าบางคนไม่ได้รับการผ่าตัด ก็อาจจะต้องนอนติดเตียง อย่างนี้เป็นต้น

00:02:4000:02:42 ทำให้คุณภาพชีวิตเราแย่ลงนะคะ

00:02:4200:02:46 เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ตอนนี้กระดูกเราพรุนแล้วนะคะ

00:02:4600:02:48 อันแรกที่เราเห็น แล้วเราไม่ได้ตรวจ เราเจอบ่อย ๆ

00:02:4800:02:50 ก็คือเราจะรู้สึกว่า เอ๊ะ เมื่อเราอายุมากขึ้นนี่

00:02:5100:02:52 ส่วนสูงเราจะลดลง

00:02:5200:02:54 อันนี้แสดงว่าอาจจะเริ่มมีแล้วค่ะ

00:02:5400:02:58 คือกระดูกสันหลังเรานี่ มันจะมีกระดูกพรุน แล้วก็เริ่มมีการสึก

00:02:5800:03:00 หรือว่าการหักของกระดูกสันหลัง

00:03:0000:03:03 แต่ถ้าเราอยากจะตรวจ แล้วทำให้ทราบได้ชัดเจน

00:03:0300:03:08 เราจะมีวิธีการวัด ที่เราเรียกว่าวัดความหนาแน่นของมวลกระดูก

00:03:0800:03:10 วัดความหนาแน่นของมวลกระดูกนี่

00:03:1000:03:13 วิธีการที่เป็น Standard หรือเป็นมาตรฐานนี่

00:03:1300:03:16 ก็คือวัดที่โรงพยาบาล โดยใช้เครื่องที่เรียกว่า DEXA

00:03:1600:03:18 เวลาที่เราจะวัดมวลกระดูกนี่นะคะ

00:03:1800:03:22 ร่างกายของเรานี่ จะมีช่วงเวลาที่มวลกระดูกมากที่สุด

00:03:2200:03:24 ก็คือช่วงประมาณอายุ 20-30

00:03:2400:03:25 มวลกระดูกเราจะมากที่สุดในช่วงนี้

00:03:2600:03:27 และหลังจากนั้นจะค่อย ๆ คงที่ก่อน

00:03:2800:03:29 แล้วก็ค่อย ๆ ลดลงนะคะ

00:03:3000:03:33 เวลาที่เราจะรู้ว่ามวลกระดูกของเรา อันนี้มันบางแล้วนะ

00:03:3300:03:34 หรือว่ากระดูกมันพรุนแล้วนะ

00:03:3400:03:37 เราจะเปรียบเทียบจากช่วงอายุประมาณ 20-30

00:03:3800:03:41 ถ้าสมมุติว่า ตอนนี้กระดูกเราเท่าอายุ 20-30

00:03:4100:03:43 อันนี้ไม่มีปัญหาแน่นอนนะคะ

00:03:4300:03:45 แต่ถ้าสมมุติว่ามันลดลงไปเรื่อย ๆ

00:03:4500:03:47 เทียบกับมาตรฐานตอนอายุ 20-30

00:03:4700:03:50 ตรงนี้ค่ะ เราก็จะบอกว่าตอนนี้เริ่มมีกระดูกบาง

00:03:5000:03:51 บางคือลดลง

00:03:5100:03:53 กระดูกพรุนนี่มันลดลงหนักเข้าไปอีก

00:03:5300:03:57 แล้วจุดที่เราเรียกว่ากระดูกพรุน คือความเสี่ยงที่จะหัก มันมีมากขึ้น

00:03:5700:04:01 เวลาที่พอประจำเดือนหมดใช่ไหมคะ

00:04:0100:04:04 มันจะทำให้มีการสูญเสียของเนื้อกระดูก ค่อนข้างรวดเร็ว

00:04:0400:04:07 ทำให้เสี่ยงกับการที่จะเกิดกระดูกพรุนมากขึ้น

00:04:0800:04:12 ดังนั้นคำแนะนำก็คือ ในผู้หญิงที่เป็นวัยหมดประจำเดือน

00:04:1200:04:16 ก็ควรที่จะมีการตรวจเรื่องของ ความหนาแน่นมวลกระดูก

00:04:1600:04:21 หรือบางท่านอาจจะแบบ เอ๊ะ เราแค่ล้มนิดเดียวแต่กระดูกเราหักนะคะ

00:04:2100:04:24 ซึ่งแรงกระแทก มันไม่สมเหตุสมผล

00:04:2400:04:27 อันนี้ก็อาจจะเป็นคนที่มีปัญหา เรื่องของกระดูกบางนะคะ

00:04:2700:04:28 ก็ควรจะไปตรวจ

00:04:2800:04:31 หรือว่าผู้หญิงที่บอกว่าพออายุมากขึ้นปั๊บ

00:04:3100:04:33 แล้วส่วนสูงมันลดลงไปเรื่อย ๆ

00:04:3300:04:36 หรือแม้กระทั่งเราฟิล์มเอกซเรย์แล้ว เราเจอว่ามีกระดูกสันหลังมันยุบ

00:04:3600:04:38 อันนี้ก็ควรที่จะไปตรวจดูว่า

00:04:3800:04:41 ตอนนี้เรามีกระดูกบางแล้วหรือยังค่ะ

00:04:4100:04:46 [เสียงดนตรี]

00:04:4600:04:48 สำหรับปัจจัยเสี่ยงในการเกิดกระดูกพรุนนี่

00:04:4800:04:50 เราก็จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มนะคะ

00:04:5000:04:52 กลุ่มแรกก็คือ ปัจจัยเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนไม่ได้

00:04:5200:04:55 กับอันที่สองก็คือ ปัจจัยเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนได้

00:04:5600:04:58 สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนไม่ได้

00:04:5800:05:00 ยกตัวอย่างเช่น อายุนะคะ อายุมาก

00:05:0000:05:03 หรือว่าหมดประจำเดือนเร็ว เช่น เร็วกว่า 45

00:05:0300:05:06 อันที่ 2 ก็จะเป็น ปัจจัยเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนได้นะคะ

00:05:0600:05:09 ยกตัวอย่างเช่น คนผอมหรือว่าโครงร่างเล็ก

00:05:0900:05:13 อันนี้มวลกระดูก จะน้อยกว่าคนที่น้ำหนักตัวเยอะหรือว่าคนอ้วน

00:05:1300:05:16 คนที่สูบบุหรี่ หรือว่าคนที่ดื่มเหล้านะคะ

00:05:1600:05:19 แล้วก็มีพวกของกาเฟอีน ที่กินอยู่เป็นประจำนะคะ

00:05:1900:05:22 อันนี้ก็จะทำให้มีการสูญเสีย เรื่องของแคลเซียมไปทางปัสสาวะ

00:05:2200:05:27 อันถัดไปก็คือคนที่มีปัญหาเรื่องของ การขาดแคลเซียมหรือว่าวิตามินดี

00:05:2700:05:32 จะทำให้การสร้างโครงสร้างของตัวกระดูก ลดลงนะคะ

00:05:3200:05:34 ขาดการออกกำลังกายนะคะ

00:05:3400:05:36 หรือว่ามียาบางอย่าง เช่น สเตียรอยด์

00:05:3600:05:40 คนไข้ที่มีโรคข้ออักเสบเรื้อรัง ยกตัวอย่างเช่น รูมาตอยด์

00:05:4000:05:42 อันนี้ก็จะถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยง

00:05:4200:05:44 ที่จะทำให้เกิดเรื่องของกระดูกพรุน

00:05:4400:05:48 สำหรับคุณผู้ชาย ถ้ามีปัญหาเรื่องของ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำ

00:05:4900:05:52 อันนี้ก็ถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด เรื่องของกระดูกพรุนเช่นกันค่ะ

00:05:5200:05:57 [เสียงดนตรี]

00:05:5700:06:00 เมื่อเรามีการตรวจเรื่องของมวลกระดูกแล้วนะคะ

00:06:0000:06:03 ก็จะแยกออกมาว่าเป็นกระดูกบาง หรือว่ากระดูกพรุนนะคะ

00:06:0300:06:06 ในแง่ของการรักษา เราจะมีการคำนวณ

00:06:0600:06:09 เป็นลักษณะของการดูว่า เราเสี่ยงที่จะกระดูกหักไหม

00:06:0900:06:11 ถ้าเราเสี่ยงที่จะเกิดกระดูกหัก

00:06:1100:06:14 คุณหมออาจจะมีเรื่องของการให้ยานะคะ

00:06:1400:06:16 ที่จะป้องกันเรื่องของกระดูกหัก

00:06:1600:06:19 ในขณะที่บางคนมีปัญหาเรื่องของกระดูกบาง หรือว่ากระดูกพรุน

00:06:1900:06:20 แต่ว่ามีไม่มาก

00:06:2000:06:23 อันนี้คุณหมอเขาจะพิจารณาที่จะให้ดูเรื่องของ

00:06:2300:06:25 วิตามินดี แล้วก็เรื่องของแคลเซียม

00:06:2500:06:26 แล้วก็จะมียาให้

00:06:2600:06:29 ซึ่งรายละเอียดของการรักษา จะแตกต่างกันในแต่ละบุคคลค่ะ

00:06:2900:06:32 สำหรับการป้องกันกระดูกพรุนนะคะ ก็มี 2 ส่วน

00:06:3200:06:34 ส่วนแรกก็เรื่องของอาหารนะคะ

00:06:3400:06:37 ก็จะเน้นว่าจะต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่

00:06:3700:06:40 ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสมนะคะ

00:06:4000:06:44 แล้วก็กินอาหารที่มีแคลเซียม หรือวิตามินดีที่เพียงพอนะคะ

00:06:4400:06:48 ในส่วนของการออกกำลังกาย จริง ๆ เราแนะนำให้เป็นออกกำลังกายกลางแจ้ง

00:06:4800:06:52 โดยที่จะมีผลทางอ้อม ก็คือเราจะได้รับวิตามินดีด้วย

00:06:5200:06:55 การออกกำลังกายมีทั้งส่วนที่เป็นแอโรบิก

00:06:5500:06:59 แล้วก็ส่วนที่เป็นเรื่องของการสร้าง กล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงนะคะ

00:06:5900:07:04 แล้วก็เน้นว่าการออกกำลังกายควรจะมี แรงกระแทกอยู่บนกระดูกและข้อต่อ

00:07:0400:07:07 เพื่อจะเสริมสร้าง ให้มีการสร้างกระดูกได้ดีขึ้นค่ะ

00:07:0800:07:13 [เสียงดนตรี]

00:07:1300:07:17 สำหรับอาหารที่เราจะเน้นในคนที่มีปัญหา เรื่องกระดูกพรุนหรือกระดูกบาง

00:07:1700:07:19 ก็จะเป็นเรื่องของแคลเซียมนะคะ

00:07:1900:07:22 ในผู้ใหญ่ที่อายุน้อยกว่า 50 ปีนะคะ

00:07:2200:07:24 มีความต้องการแคลเซียมวันละ 1,000 มิลลิกรัม

00:07:2400:07:26 ถ้าอายุมากกว่า 50 ปี

00:07:2600:07:29 ความต้องการแคลเซียมจะสูงขึ้น เป็น 1,200 มิลลิกรัมค่ะ

00:07:2900:07:32 อีกอันนึงก็คือจะเป็นเรื่องของวิตามินดี

00:07:3200:07:36 แต่ต้องบอกว่า ในอาหารเองนี่ วิตามินดีเองนี่จะมีน้อยนะคะ

00:07:3600:07:39 ก็จะมาจากพวกเห็ดได้นะคะ หรือว่าสาหร่ายได้

00:07:3900:07:43 แต่หลัก ๆ นี่ เราได้รับวิตามินดีจากแสงแดด

00:07:4300:07:46 เพราะฉะนั้นถามว่าจะได้รับวิตามินดี เพียงพอหรือเปล่า

00:07:4600:07:48 ก็ต้องดูว่า หนึ่ง เราตากแดดมากพอไหม

00:07:4800:07:52 สอง เราใส่เสื้อแขนยาวขายาว เวลาที่ตากแดดหรือเปล่า

00:07:5200:07:54 เพราะอันนี้มันจะทำให้การสร้างวิตามินดีลดลง

00:07:5500:07:57 สาม เราทากันแดดหรือเปล่านะคะ

00:07:5700:08:00 ถ้าสมมุติว่าเราได้รับวิตามินดี ไม่เพียงพอจากอาหาร

00:08:0000:08:02 หรือว่าแม้กระทั่งกลางแดดนะคะ

00:08:0200:08:06 เราก็จะต้องมีการเสริมวิตามินดี ในรายที่มีวิตามินดีต่ำ

00:08:0600:08:08 ซึ่งอันนี้ก็ต้องไปตรวจเพิ่มเติม

00:08:0800:08:13 [เสียงดนตรี]

00:08:1300:08:16 แหล่งที่มาของแคลเซียมในอาหาร ก็จะแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ

00:08:1600:08:19 กลุ่มแรกก็จะเป็นกลุ่มของผลิตภัณฑ์จากนม

00:08:2000:08:23 ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มของนม กลุ่มของชีส หรือว่าโยเกิร์ต

00:08:2300:08:26 พวกนี้ก็จะอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส

00:08:2600:08:30 ซึ่งมีความจำเป็น ในเรื่องของการเสริมสร้างกระดูกนะคะ

00:08:3000:08:32 ทีนี้ถามว่าเวลาที่จะเลือกนี่

00:08:3200:08:34 ก็แนะนำว่าควรจะเลือกเป็น...

00:08:3400:08:36 อย่างเช่นนมนะคะ ก็อาจจะเลือกเป็น low fat

00:08:3600:08:41 เพราะว่าในหลาย ๆ ท่านอาจจะมีปัญหา เรื่องของคอเลสเตอรอลหรือว่ามีน้ำหนักตัวเกิน

00:08:4100:08:45 อันที่สอง ถ้าเป็นโยเกิร์ต เราก็แนะนำให้กินเป็นโยเกิร์ตธรรมชาติ

00:08:4500:08:47 แต่ถ้าอยากจะเสริมพวกผลไม้นี่

00:08:4700:08:51 แทนที่จะกินเป็นโยเกิร์ตที่มันเป็นรสชาติ ซึ่งมันมีความหวานมาก ๆ

00:08:5100:08:56 เราก็จะใช้ผลไม้สดมาวางอยู่กับโยเกิร์ต แล้วเราก็สามารถจะรับประทานได้

00:08:5600:08:59 อันนี้ก็จะได้เรื่องของไฟเบอร์ วิตามิน

00:08:5900:09:02 รวมกับพวกของแคลเซียม ฟอสฟอรัสเช่นกันนะคะ

00:09:0200:09:05 ทีนี้ถ้าสมมุติว่า เราต้องการแคลเซียมมากกว่านั้นนี่

00:09:0500:09:09 เราอาจจะเลือกดูอันที่ฉลากโภชนาการ เขียนไว้ว่าเป็นแคลเซียมสูง

00:09:0900:09:13 ซึ่งอันนี้เขาอาจจะ มีการเสริมแคลเซียมลงไปนะคะ

00:09:1300:09:15 อีกกลุ่มหนึ่งก็จะเป็นกลุ่มของเนื้อสัตว์นะคะ

00:09:1500:09:19 ในเนื้อสัตว์ที่จะมีแคลเซียมเยอะ ๆ ก็จะเป็นส่วนของกระดูกเนอะ

00:09:1900:09:23 เพราะฉะนั้นก็จะเป็นปลาตัวเล็กตัวน้อย หรือว่ากุ้งตัวเล็ก ๆ นะคะ

00:09:2300:09:25 ซึ่งเราจะกินไปทั้งกระดูกเลยนะคะ

00:09:2500:09:28 อันนี้ก็จะทำให้เราได้รับแคลเซียมมากพอ

00:09:2800:09:32 ทีนี้ถ้าเกิดเราเอากุ้งตัวเล็ก ๆ มาทำเป็นกะปิหรือว่าเป็นเคยอย่างนี้ค่ะ

00:09:3200:09:37 อันนี้ก็จะทำให้เราได้รับแคลเซียมด้วย ถ้าเราเอากะปิมาทำอาหารนะคะ

00:09:3700:09:39 อีกกลุ่มหนึ่ง อย่างเช่นแซลมอนนะคะ

00:09:3900:09:41 ตัวนี้หรือว่าปลาที่มันมีไขมันเยอะ ๆ

00:09:4100:09:45 พวกนี้อาจจะแคลเซียมไม่ได้เยอะ แต่ว่าจะมีวิตามินดี

00:09:4500:09:49 ซึ่งวิตามินดีจะมีความสำคัญ ในเรื่องของการช่วยดูดซึมแคลเซียม

00:09:4900:09:51 ดังนั้นเวลาที่เรารับประทานอาหารนี่

00:09:5200:09:54 เราก็อาจจะต้องมีทั้งแคลเซียมและวิตามินดี

00:09:5400:09:58 นอกเหนือจากแซลมอน หรือว่าปลาที่มันจะมีไขมันอยู่นี่นะคะ

00:09:5800:10:00 พวกของสาหร่ายหรือว่าพวกเห็ด

00:10:0100:10:02 โดยเฉพาะเห็ดหอมที่ตากแห้ง

00:10:0200:10:05 พวกนี้ก็จะมีวิตามินดีค่อนข้างเยอะนะคะ

00:10:0500:10:09 การกินร่วมกัน ก็จะช่วยทำให้ได้รับแคลเซียมที่เพียงพอ

00:10:0900:10:12 มีวิตามินดี ซึ่งช่วยในเรื่องของการดูดซึมแคลเซียมค่ะ

00:10:1200:10:16 แล้วก็อีกกลุ่มหนึ่ง ก็จะเป็นแคลเซียมที่มีอยู่ในพืชผัก

00:10:1600:10:20 ในพืชผักมีอะไรบ้าง ผักใบเขียวค่ะ สีเขียวเข้ม ๆ นะคะ

00:10:2000:10:23 เช่น บรอกโคลี พวกของผักคะน้า ใบยอ

00:10:2300:10:25 พวกนี้ก็จะมีแคลเซียมค่อนข้างสูง

00:10:2500:10:27 ในส่วนของแคลเซียมที่มีในผักนี่

00:10:2700:10:31 ไม่สูญเสียไป เวลาที่เราทำให้มันเกิดความร้อนนะคะ

00:10:3100:10:34 ไม่ต้องกลัวว่าเวลาเอาไปต้มแล้ว เดี๋ยวผักฉันจะแคลเซียมหาย

00:10:3400:10:36 ไม่หายนะคะ

00:10:3600:10:41 แล้วก็จะเป็นพวกของถั่วเหลือง เต้าหู้ ถั่วแดง และงาดำ

00:10:4100:10:45 อันนี้ก็จะเป็นแหล่งแคลเซียม ที่มีปริมาณมากในอาหารไทยค่ะ

00:10:4500:10:50 อันนี้ก็จะเป็นตัวอย่างของอาหาร ที่จะเสริมสร้างแคลเซียมและป้องกันกระดูกพรุน

00:10:5000:10:51 แล้วก็หลาย ๆ เองนะคะ

00:10:5100:10:55 พอเรามองดูในอาหารที่เรารับประทานเองก็ตาม หรือแม้กระทั่งการเสริม

00:10:5500:10:59 ผู้ใหญ่บางคนก็กินนมไม่ได้ ก็ไม่อยากกินนม

00:10:5900:11:00 กินนมแล้วท้องเสียอะไรอย่างนี้นะคะ

00:11:0000:11:03 การกินนมแล้วท้องเสีย อาจจะเปลี่ยนมาเป็นโยเกิร์ตก็ได้

00:11:0300:11:07 แต่ว่าผู้ใหญ่บางคนก็บอกว่า โยเกิร์ตไม่ใช่อาหารที่ฉันชอบกินนะคะ

00:11:0700:11:11 ถ้าลองทุกทางแล้ว แล้วก็อาจจะเริ่มมีปัญหาแล้วด้วย

00:11:1100:11:14 แล้วก็คิดว่าได้รับแคลเซียมจากอาหารไม่พอ

00:11:1400:11:17 หลายคนก็จะมุ่งมาสู่แคลเซียมที่มันเป็นเม็ด

00:11:1700:11:21 ในการที่จะเสริมปริมาณแคลเซียม ในอาหารในแต่ละวัน

00:11:2100:11:24 จะมีคำถามยอดฮิตที่เจอบ่อยมาก ข้อที่ 1

00:11:2400:11:28 ถามว่า กินแคลเซียมแล้ว ทำให้เกิดหินปูนในตัวหรือเปล่า

00:11:2800:11:30 กินแคลเซียมมาก ๆ แล้วเพิ่มหินปูนไหม

00:11:3000:11:33 ต้องบอกว่าหินปูนในที่ต่าง ๆ ในร่างกายนี่

00:11:3300:11:36 หลาย ๆ ครั้งนี่ มันเกิดจากความเสื่อมในร่างกาย

00:11:3600:11:39 ต่อให้เราไม่กินแคลเซียม มันก็เกิด

00:11:3900:11:40 การรับประทานแคลเซียมนี่

00:11:4000:11:44 มันจำเป็น ถ้าในกรณีที่เรากินแคลเซียมไม่เพียงพอ

00:11:4400:11:47 อันที่สอง ถามว่าเราจะเลือกแคลเซียมอย่างไรดี

00:11:4700:11:50 แคลเซียมที่เป็นเม็ดที่อยู่ในรูปเกลือนี่

00:11:5000:11:53 จริง ๆ แล้ว การดูดซึมไม่เท่ากันนะคะ

00:11:5300:11:55 ยกตัวอย่างเช่น แคลเซียมคาร์บอเนต

00:11:5500:11:57 ถ้าเรากินเข้าไป 100 นี่

00:11:5700:12:01 เราจะได้รับเข้าไปในร่างกาย แค่ประมาณ 40 ไม่ถึงครึ่งนะคะ

00:12:0100:12:03 เพราะฉะนั้น เรากินแคลเซียมคาร์บอเนต 1,000

00:12:0300:12:05 จริง ๆ เราก็ได้เข้าไป 400

00:12:0500:12:08 ถ้าเรากินกับอาหารได้ 500 ถูกไหมคะ

00:12:0800:12:11 มันก็จะประมาณ 1,000 พอดีเลยนะคะ

00:12:1100:12:13 หรือถ้าใครกินจากอาหารได้น้อยกว่านั้นอีกนะคะ

00:12:1300:12:17 ก็อาจจะต้องกินแคลเซียมคาร์บอเนต ที่โดสเยอะกว่านี้นะคะ

00:12:1700:12:20 แคลเซียมเม็ดฟู่กับไม่ใช่เม็ดฟู่ มีความต่างกันไหม

00:12:2000:12:23 เวลาที่มันเป็นเม็ดฟู่ มันอาจจะเสริมวิตามินดี

00:12:2300:12:27 มันอาจจะเสริมตัวโน้นตัวนี้ แล้วก็ทำให้กินได้ง่ายขึ้นนะคะ

00:12:2700:12:30 แคลเซียมเป็นเม็ดเองนี่ มีข้อเสียอย่างหนึ่งก็คือ

00:12:3000:12:33 หลาย ๆ คนกินแล้วนี่ ปริมาณเยอะ ๆ อาจจะทำให้เกิดเรื่องของท้องผูก

00:12:3300:12:35 วิธีแก้ไข อาจจะต้องดื่มน้ำให้เยอะขึ้น

00:12:3500:12:38 กินไฟเบอร์ หรือว่ากินพวกผักมากขึ้น

00:12:3800:12:43 ซึ่งอันนี้มันก็จะมีผลทางอ้อม เห็นไหมคะ ก็จะทำให้เราได้รับแคลเซียมเพิ่มขึ้นอีก

00:12:4300:12:47 ถ้าสมมุติว่าไม่ไหวจริง ๆ ก็จะมีคนบอกว่า การกินแคลเซียมเม็ดฟู่นี่

00:12:4700:12:49 โอกาสเกิดท้องผูกอาจจะน้อยกว่า

00:12:4900:12:53 แต่ว่าอันนี้ก็แล้วแต่นะคะ ยังไม่ได้มีข้อมูลว่ามันน้อยกว่าอย่างชัดเจน

00:12:5300:12:58 แต่ก็เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ กินแคลเซียมแล้วมีปัญหาว่าท้องผูกนะคะ

00:12:5800:13:01 ทีนี้เวลาที่เราจะดู เราก็ไปดูว่า

00:13:0100:13:03 ในแคลเซียมแต่ละเม็ด มันมีปริมาณเท่าไหร่

00:13:0400:13:09 ส่วนใหญ่ก็จะใช้เป็นแคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งจะดูดซึมได้ประมาณ 40% นะคะ

00:13:0900:13:12 แคลเซียมคาร์บอเนตเวลาจะดูดซึมได้ดีนี่

00:13:1200:13:13 มันจะต้องอยู่ในที่ ๆ เป็นกรด

00:13:1300:13:18 ดังนั้นนี่เราจะเห็นว่า ในเม็ดแคลเซียม มักจะมีวิตามินซีเพื่อเพิ่มกรด

00:13:1800:13:22 เพิ่มวิตามินดี เพื่อจะช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมนะคะ

00:13:2200:13:25 อันนี้ก็เป็นแค่ gimmick เวลาที่เขาจะขายของเนอะ

00:13:2600:13:27 เพราะฉะนั้นเรามักจะเห็นมันไปด้วยกัน

00:13:2800:13:29 ส่วนถามว่าโดสเท่าไหร่

00:13:2900:13:32 เหมือนที่บอกเมื่อกี๊ค่ะ ถ้าอยู่ในรูปของแคลเซียมคาร์บอเนตเนอะ

00:13:3200:13:35 ก็ 100 ก็เข้าไปประมาณ 40 นะคะ

00:13:3500:13:40 ถ้าเป็นแคลเซียมตัวอื่น เช่น แคลเซียมซิเตรต หรือแคลเซียมกลูโคเนตอะไรก็ตามนี่

00:13:4000:13:43 แคลเซียมซิเตรตก็จะลดลงไปกว่านี้นะคะ

00:13:4300:13:46 ดังนั้นที่นิยมมากที่สุดในท้องตลาด มัก จะเป็นแคลเซียมคาร์บอเนตค่ะ

00:13:4600:13:51 [เสียงดนตรี]

00:13:5100:13:54 จากข้อมูลการสำรวจการบริโภคอาหารในคนไทยนะคะ

00:13:5400:13:56 ก็พบว่า จากอาหารไทยนี่

00:13:5600:14:01 โดยเฉลี่ย เราได้รับแคลเซียมจากอาหารอยู่ที่ ประมาณ 300-500 มิลลิกรัม/วันเท่านั้นเอง

00:14:0200:14:03 ซึ่งมันไม่เพียงพอ

00:14:0300:14:07 เพราะเมื่อกี๊เล่าไปแล้ว ว่าเราต้องการอยู่ ประมาณ 1,000-1,200 ในผู้ใหญ่ใช่ไหมคะ

00:14:0700:14:12 ดังนั้นก็มักจะมีคำแนะนำ ให้ไปรับประทานนมเพิ่มบ้างล่ะ

00:14:1200:14:14 ไปรับประทานเป็นแคลเซียมเสริมบ้างล่ะ

00:14:1400:14:17 ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นกับในแต่ละท่าน

00:14:1700:14:20 ทีนี้ถามว่าในกรณีของ การที่เราจะไปเลือกนมเสริมนี่

00:14:2000:14:22 เราก็อาจจะไปดูนิดนึงว่า

00:14:2200:14:24 ในนมนี่ ดูจากฉลากโภชนาการนะคะ

00:14:2400:14:28 ว่านมอันนั้นมีแคลเซียมปริมาณเท่าไรนะคะ

00:14:2800:14:29 ถ้าสมมุติว่าเรากินเข้าไปแล้ว

00:14:2900:14:32 แล้วเราก็เฉลี่ยว่า เออ...ที่เรากินกับอาหารปริมาณเท่านี้

00:14:3200:14:33 เรารับจากนมเท่านี้

00:14:3300:14:34 ถ้ามันเพียงพอ

00:14:3400:14:39 อันนี้เราก็ไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องไปกินแคลเซียมเป็นเม็ดเพิ่ม

00:14:3900:14:42 ข้อเสียของการกินแคลเซียมเป็นเม็ดเพิ่ม

00:14:4200:14:43 ก็คืออาจจะทำให้ท้องผูกนะคะ

00:14:4300:14:46 หลาย ๆ ท่านนี่โดนบังคับให้กินแคลเซียม

00:14:4600:14:50 เสร็จแล้วก็จะมีปัญหาว่าท้องผูกอยู่เป็นประจำ

00:14:5000:14:55 อีกเรื่องหนึ่งที่อาจจะมีความสำคัญไม่แพ้กัน ก็คือเรื่องของวิตามินดีนะคะ

00:14:5500:14:59 เพราะฉะนั้นอาจจะต้องเช็กค่ะว่า วิตามินดีที่เราได้อยู่ในแต่ละวันนี่

00:14:5900:15:00 จากแสงแดดก็ตาม

00:15:0000:15:02 การออกกลางแจ้งก็ตาม

00:15:0200:15:05 หรือแม้กระทั่งในอาหารนี่ มันเพียงพอหรือเปล่านะคะ

00:15:0500:15:09 เราเคยคิดค่ะว่าประเทศไทยนี่ อยู่ในประเทศเขตร้อน

00:15:0900:15:13 แต่ในความเป็นจริงก็คือ การสำรวจหรือการวัดปริมาณวิตามินดีนี่

00:15:1300:15:14 ของคนไทยนี่

00:15:1400:15:17 ยังไม่เพียงพออยู่เป็นปริมาณมากเลยทีเดียวค่ะ

00:15:1700:15:21 [เสียงดนตรี]

00:15:2200:15:26 สำหรับกระดูกพรุนป้องกันได้ไหม ต้องบอกว่าจริง ๆ ป้องกันได้นะคะ

00:15:2600:15:31 จริง ๆ แล้ว ต้องเริ่มตั้งแต่ว่าเราต้องมี แคลเซียม แล้วก็วิตามินดีที่เพียงพอ

00:15:3100:15:34 แล้วก็ทำให้กระดูกและกล้ามเนื้อเรา แข็งแรงตั้งแต่ต้นนะคะ

00:15:3500:15:36 อย่างที่พูดไปตอนต้นค่ะ

00:15:3600:15:39 ว่าความหนาแน่นของมวลกระดูกเรานี่

00:15:3900:15:42 จะพีคหรือว่าจะเยอะที่สุด ตอนช่วงประมาณ 20-30 ปี

00:15:4300:15:46 เพราะฉะนั้นนี่ การที่เราจะไปเสริมสร้างความแข็งแรง

00:15:4600:15:49 เราต้องเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่อายุน้อยนะคะ

00:15:4900:15:54 แล้วก็ทำให้มวลกระดูกเรามีความแข็งแรง ตั้งแต่ประมาณอายุ 20-30 นะคะ

00:15:5400:15:58 แล้วหลังจากนั้น มันก็จะมีของสะสมเยอะอยู่นะคะ

00:15:5800:16:00 การลดลง มันก็จะค่อย ๆ น้อยลง

00:16:0000:16:05 ในขณะเดียวกัน เราก็จะไม่ทำให้ร่างกายเรา ขาดแคลเซียมหรือวิตามินดี

00:16:0500:16:09 ไม่อย่างนั้น ร่างกายจะดึงเอาแคลเซียม ในกระดูกออกมา แล้วกระดูกมันก็จะบางนะ

00:16:0900:16:14 ดังนั้นตลอดระยะเวลา เราควรจะได้รับ วิตามินดีและแคลเซียมที่เพียงพอ

00:16:1400:16:16 มีการออกกำลังกายสม่ำเสมอ

00:16:1600:16:19 เพื่อกระตุ้นให้ร่างกาย มีการสร้างกระดูกที่สมบูรณ์ค่ะ

00:16:1900:16:24 [เสียงดนตรี]

00:16:2400:16:26 ยกตัวอย่างเมนูอาหารประจำวัน

00:16:2600:16:29 สำหรับในกรณีที่เราต้องการจะเสริมแคลเซียม

00:16:2900:16:33 เช่น ตอนเช้านี่เราอาจจะดื่มนม เป็นนมไฮแคลเซียม

00:16:3300:16:35 หรือว่าจะใช้เป็นโยเกิร์ตก็ได้นะคะ

00:16:3500:16:38 โยเกิร์ตก็อาจจะใส่ผลไม้เข้าไปก็ได้นะคะ

00:16:3800:16:42 เสร็จแล้วถ้าเกิดเป็นมื้อเป็นอาหาร เราก็จะใช้เป็นสลัดนะคะ

00:16:4200:16:43 อาจจะเป็นสลัดถั่วอย่างนี้

00:16:4300:16:48 แล้วก็โรยปลาตัวเล็กตัวน้อย ใช้น้ำสลัดเป็นน้ำสลัดงาดำนะคะ

00:16:4800:16:52 ส่วนพอถึงมื้อเที่ยงปั๊บ เราก็จะใช้เป็นข้าวกล้องแล้วนะคะ

00:16:5200:16:54 อาจจะใช้เป็นลักษณะของผัดคะน้า

00:16:5400:16:57 โรย topping บนข้าวเหมือนกับผงโรยข้าวญี่ปุ่น

00:16:5700:17:00 แต่ว่าใช้เป็นงาโรย อะไรอย่างนี้เป็นต้นนะคะ

00:17:0000:17:03 เราก็พอถึงมื้อเย็น เราก็เลือกใช้เป็นเต้าหู้ทรงเครื่อง

00:17:0300:17:05 ร่วมกันกับ...จะใช้เป็นผัดไทยก็ได้นะคะ

00:17:0500:17:10 ผัดไทยที่เราจะใส่แบบเป็นผัดไทยที่อาจจะ เป็นใส่เส้นหรือไม่ใส่เส้นก็ได้

00:17:1000:17:14 แล้วก็ใส่เป็นพวกเต้าหู้ที่เป็นเต้าหู้แข็ง เอามาผัด อย่างนี้ค่ะ

00:17:1400:17:17 ก็จะมีตัวแคลเซียมเยอะพอสมควรนะคะ

00:17:1700:17:19 หรือว่าจะใช้เป็นนมถั่วเหลือง

00:17:1900:17:22 หรือว่าเป็นนมไฮแคลเซียมอีกมื้อนึง สำหรับมื้อว่างก็ได้ค่ะ

00:17:2200:17:25 สำหรับตัวกระดูกพรุนเองนี่ หลาย ๆ ครั้ง เราก็ไม่สนใจ

00:17:2500:17:27 เพราะว่ามันไม่มีอาการนะคะ

00:17:2700:17:29 ก็จะยกตัวอย่างให้ดูเลย

00:17:2900:17:31 จะมีผู้ป่วยอยู่คนหนึ่งนะคะ

00:17:3100:17:35 ซึ่งอันนี้ท่านก็จะเป็นผู้สูงอายุนิดนึง อายุประมาณ 80 กว่า ๆ

00:17:3500:17:37 ก็ใช้ชีวิตอยู่บ้านปกติเลย

00:17:3700:17:38 แล้วก็เลี้ยงหมาอยู่ที่บ้าน

00:17:3800:17:43 มีอยู่วันนึงนี่ค่ะ แค่หมากระโจนใส่ แล้วก็คุณป้าก็ล้มลง

00:17:4300:17:44 พอล้มลงเสร็จปุ๊บนี่

00:17:4400:17:47 ก็ขยับขาไม่ได้ แล้วบอกปวดขามาก

00:17:4700:17:49 เอามาถึงโรงพยาบาล เอกซเรย์ไปนี่

00:17:4900:17:53 ก็เจอว่ากระดูกสะโพก ตรงหัวสะโพกหักนะคะ

00:17:5300:17:55 ก็จะเจ็บพอสมควรเลยทีเดียว

00:17:5500:17:58 ถามว่าในผู้สูงอายุค่ะ เวลาที่กระดูกหักนี่

00:17:5800:17:59 เราควรจะผ่าตัด

00:17:5900:18:02 เพราะว่าไม่อย่างนั้น ถ้าจะรอให้กระดูกติดเองนี่

00:18:0200:18:05 มันต้องนอนติดเตียงนานมากนะคะ

00:18:0500:18:07 คนนี้ก็เลยต้องเซตผ่าตัด

00:18:0700:18:09 เวลาเซตผ่าตัดที่จะเข้าไปนี่

00:18:0900:18:12 เขาก็จะต้องมีการใส่เหล็กอะไรอย่างนี้นะคะ

00:18:1200:18:16 ต้องบอกเลยว่าเวลาที่ผ่าตัด เรื่องของกระดูกนี่

00:18:1600:18:18 มันมีความเสี่ยงอันหนึ่งก็คือ

00:18:1800:18:22 อาจจะมีลิ่มเลือดที่จะหลุดเข้าไป แล้วก็ไปอุดที่บริเวณของปอดได้

00:18:2300:18:28 หลังผ่าตัดอาจจะมีความเสี่ยง ที่จะทำให้เรื่องของออกซิเจนมันลดลง

00:18:2800:18:33 หรือว่าถ้าบางรายที่เป็นมากนี่ ความดันตก หรือถึงกับเสียชีวิตได้เลยนะคะ

00:18:3300:18:35 สำหรับรายนี้ก็ต้องไปผ่าตัด

00:18:3500:18:37 พอผ่าตัดเสร็จแล้วปั๊บนี่

00:18:3700:18:38 ก็ต้องมาพักฟื้น

00:18:3800:18:40 ทำกายภาพ

00:18:4000:18:44 จากคนที่เคยช่วยเหลือตัวเองได้ดี ตอนนี้ก็ต้องมีคนดูแลแล้วนะคะ

00:18:4400:18:48 แล้วกว่าที่จะพักฟื้นจนกระทั่ง กลับมาเดินได้เป็นปกติก็ใช้เวลานานอีก

00:18:4800:18:49 เพราะว่าในผู้ใหญ่นี่ค่ะ

00:18:5000:18:53 เราให้นอนติดเตียงนาน ๆ กล้ามเนื้อก็จะลีบถูกไหมคะ

00:18:5300:18:55 ต้องทำกายภาพ ต้องมีการดูแล

00:18:5500:18:58 เพราะฉะนั้น ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่คนเดียวที่ไม่สบาย

00:18:5800:19:00 แต่กลายเป็นว่าทุกคนในบ้านนี่

00:19:0000:19:01 ก็จะต้องมาคอยดูแล

00:19:0100:19:03 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินเนอะ

00:19:0300:19:07 ทั้งจ้างคนดูแล ทั้งเรื่องของอาหาร อะไรทุกอย่างเลยค่ะ

00:19:0700:19:09 เพราะฉะนั้นนี่ ถ้ามันป้องกันได้

00:19:0900:19:14 หรือว่าดูแลได้ ไม่ให้มันเกิดกระดูกพรุน หรือว่าทำให้กระดูกพรุนช้าที่สุด

00:19:1400:19:17 หรือว่าป้องกันกระดูกพรุนไปแล้ว ป้องกันไม่ให้กระดูกหัก

00:19:1800:19:19 อันนี้น่าจะดีที่สุดนะคะ

00:19:2000:19:22 ไม่ใช่เพียงผู้สูงอายุที่อายุมาก ๆ

00:19:2200:19:25 แต่ว่าคนที่อายุน้อย ๆ หรือมีโรคประจำตัว

00:19:2500:19:29 แล้วจำเป็นต้องได้รับยาบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น สเตียรอยด์นะคะ

00:19:2900:19:31 อันนี้ก็ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงเหมือนกัน

00:19:3100:19:34 ที่จะทำให้เรื่องของกระดูกบาง แล้วก็กระดูกพรุน

00:19:3400:19:36 แล้วก็เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดกระดูกหัก

00:19:3600:19:40 เพราะฉะนั้น ถ้าใครที่ต้องได้รับ สเตียรอยด์อยู่เป็นระยะเวลานานนะคะ

00:19:4000:19:42 ก็ต้องคุยกับคุณหมอที่ดูแล

00:19:4200:19:46 หรือว่าจะต้องมีการตรวจ เรื่องของมวลกระดูกเป็นระยะ ๆ ด้วยค่ะ

00:19:4600:19:50 แล้วก็ต้องมั่นใจว่าเขาได้รับวิตามินดี และแคลเซียมที่เพียงพอ

00:19:5000:19:53 ในคนที่มีความเสี่ยง ที่จะเกิดเรื่องของกระดูกพรุนนะคะ

00:19:5300:19:56 ก็ควรจะได้รับการตรวจ เรื่องของความหนาแน่นของมวลกระดูก

00:19:5600:20:00 เพื่อประเมินว่าตอนนี้ เรามีภาวะเรื่องของกระดูกพรุนแล้วหรือยัง

00:20:0000:20:03 นอกเหนือจากเรื่องของ ความหนาแน่นของมวลกระดูกแล้วนี่

00:20:0300:20:08 ก็ควรจะได้รับการประเมินระดับของแคลเซียม วิตามินดี ฟอสฟอรัสนะคะ

00:20:0800:20:11 เพื่อจะดูให้มันเป็นระดับที่เหมาะสมนะคะ

00:20:1100:20:16 แล้วก็ควรจะได้รับอาหารที่มีแคลเซียม และวิตามินดีที่เพียงพอนะคะ

00:20:1600:20:19 ออกกำลังกายอย่างเป็นประจำแล้วก็สม่ำเสมอ

00:20:1900:20:21 เพื่อจะทำให้กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรงค่ะ

00:20:2200:20:26 พบกับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้

00:20:2600:20:29 ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.

00:20:2900:20:31 ที่ Mahidol Channel Podcast

00:20:3100:20:33 ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel

00:20:3300:20:35 YouTube Mahidol Channel

00:20:3500:20:36 Apple Podcasts

00:20:3600:20:37 Spotify

00:20:3700:20:38 Anchor

00:20:3800:20:39 Blockdit

00:20:4100:20:46 ดำเนินรายการโดยหมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:20:4600:20:49 [เสียงดนตรี]