00:00:02 → 00:00:04 นะครับ
00:00:04 → 00:00:05 We
00:00:05 → 00:00:13 Are 2 ทุ่มครึ่งแล้วนะคะทุกคน
00:00:13 → 00:00:20 เดี๋ยวรอแป๊บนึงให้เชาคณะเสร็จตัว
00:00:20 → 00:00:25 ว่าซุปเปอร์ปาเริ่มมากันแล้วแล้วมาแล้ว
00:00:25 → 00:00:33 สวัสดีค่ะใครเอ่ยดูอยู่ตอนนี้นะช่วย
00:00:33 → 00:00:38 ก็คอมเม้นท์บอกให้หมอรู้หน่อยนะคะ
00:00:38 → 00:00:41 ใครเข้ามาแล้ว
00:00:41 → 00:00:42 ก็อ่า
00:00:42 → 00:00:46 ทักทายชื่อกันเหมือนเดิมเนอะแล้วก็ก็ช่วย
00:00:46 → 00:00:50 เช็คเสียงเช็คผ้าป่าในไงหน้าคนซูชิตรามา
00:00:50 → 00:00:52 ก่อนเลยนะคะ
00:00:52 → 00:00:56 อ้าวสวัสดีนะคะ
00:00:56 → 00:00:59 ค่ะวันนี้เราไม่ได้ไลฟ์ผิดวันนะจ๊ะทุกคน
00:00:59 → 00:01:03 แต่เพียงแค่ว่าเราเปลี่ยนวันไลฟ์เป็นวัน
00:01:03 → 00:01:05 แรกเท่านั้นเองแล้วในเมื่อเราเปลี่ยนวัน
00:01:05 → 00:01:08 ไลค์เป็นวันแรกเนี่ยก็เป็นโอกาสที่ดีมากๆ
00:01:08 → 00:01:12 เลยนะคะที่จะให้ทุกคนนะคะได้เจอ
00:01:12 → 00:01:16 คุณหมอสองท่านนะคะที่บอกว่าน่ารักมากๆนะ
00:01:16 → 00:01:20 ก็เกิดเป็นนอกจากการที่เป็นทหารเหมือนกัน
00:01:20 → 00:01:23 นะคะก็เป็นรุ่นน้องมาด้วยนะนะคะแล้วก็
00:01:23 → 00:01:27 ทั้ง 2 5 เนี่ยก็มีความสามารถนะคะซึ่ง
00:01:27 → 00:01:30 แตกต่างกันนะเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังในคุณ
00:01:30 → 00:01:32 หมอเล่าให้ฟังนะว่าแต่ละท่านเนี่ยถนัด
00:01:33 → 00:01:36 ด้านไหนแล้วจะให้ความรู้หรือว่าแลก
00:01:36 → 00:01:38 เปลี่ยนพวกเราได้ยังไงบ้างนะคะใครมีคำถาม
00:01:38 → 00:01:43 อะไรก็ถามมาเลยนะนะคะแล้วงวดนี้แต่ละคน
00:01:43 → 00:01:46 อาจจะไม่ค่อยชินนะคะปกติเนี่ยเราเจอกัน
00:01:46 → 00:01:49 วันอาทิตย์นะเอ่อช่วงเวลานี้เราจะเริ่ม
00:01:49 → 00:01:54 คึกคักและพระเนี่ยจึงแรกที่เราจะต้องทำก็
00:01:54 → 00:01:56 คือ 1
00:01:56 → 00:02:00 ก็อาจจะเช็คหุ้น 40 ทาดีมากเลยนะเช็คให้
00:02:00 → 00:02:04 หมอก่อนกระตุกใช่ไหมคะอัดตอนนี้ยังกระตุก
00:02:04 → 00:02:06 อยู่หรือเปล่า
00:02:06 → 00:02:07 แต่
00:02:07 → 00:02:10 ตอนนี้ยังกระตุกอยู่หรือเปล่านะคะ
00:02:10 → 00:02:13 อันที่สองเสียง
00:02:13 → 00:02:17 เสียงเป็นยังไงบ้าง
00:02:17 → 00:02:22 ดีนะที่สองเสียงอ่ะพี่แหม่มโซไอ้พี่
00:02:22 → 00:02:23 เหมียวสวัสดีนะคะ
00:02:23 → 00:02:29 คิดถึงนะคะคุณเส้นด้ายสวัสดีด้วยนะคะอ่ะ
00:02:29 → 00:02:33 ค่ะวันนี้เสียงเป็นยังไงบ้างนะคะภาพเป็น
00:02:33 → 00:02:36 ยังไงบ้างช่วยเช็คเนาะแล้วก็ที่สำคัญก็
00:02:36 → 00:02:39 คืออย่าลืมกดแชร์
00:02:39 → 00:02:43 อ่ะจริงๆนี่ตอนนี้คุณหมอสองพันอยู่กับเรา
00:02:43 → 00:02:45 แล้วนะเดี๋ยวคุณหมอโบว์กับคุณหมอการก็
00:02:45 → 00:02:48 ต้องช่วยกันแชร์ด้วยนะจ๊ะอ่ะเสียงชัดนะคะ
00:02:48 → 00:02:51 เสียงชัดค่ะอยู่ข้างในอีกนิดนึงอ่าสิน
00:02:51 → 00:02:56 ชาตินะนะคะช่วยแชร์หน่อยเนาะวันนี้ทบทวน
00:02:56 → 00:03:00 อ่าตอนนี้เพื่อนๆเรากำลังเข้ามานะจากที่
00:03:00 → 00:03:03 หมอนดูสถิติเนี่ยพวกเราจะเข้ามาคบกันตอน
00:03:03 → 00:03:08 ช่วงประมาณเกือบเกือบเกือบ 10 นาทีนะ 5
00:03:08 → 00:03:12 นาทีขึ้นไป 5-10 นาทีเนี่ยชาวคณะเราก็จะ
00:03:12 → 00:03:16 เริ่มเข้ามาในไลฟ์นะคะว่าวันนี้เนี่ย
00:03:16 → 00:03:19 พิเศษหน่อยนะขยับเวลาเป็นวันแรก
00:03:19 → 00:03:24 ผมก็วันนี้เรามีหัวข้อที่น่าสนใจมากๆซึ่ง
00:03:24 → 00:03:27 เป็นหัวข้อที่หมอถูกถามบ่อยมากๆนะคะแล้ว
00:03:27 → 00:03:31 ก็เอิ่มอ๋อเคยทำชาเลี้ยงกับพี่ๆน้องๆ
00:03:31 → 00:03:36 ศิลปินนะคะก็มีคำถามนึงจากพี่แอนธิติมานะ
00:03:36 → 00:03:38 บอกว่าเนี่ยถ้าเกิดว่าเจอจิตแพทย์เนี่ย
00:03:38 → 00:03:43 คุณอยากถามอะไรนะคะพี่แอนก็ถามเลยค่ะว่า
00:03:43 → 00:03:46 อยากรู้ว่าจิตภาพเนี่ยมีวิธีการดูแลตัว
00:03:46 → 00:03:50 เองอย่างไรนะคะอันนั้นคนสำคัญในชีวิตหมอ
00:03:50 → 00:03:54 เขายังถามนะอ่าแถมคุณสามีหมอนะคะคุณพงษ์
00:03:54 → 00:03:58 เองเนี่ยก็โดนถามอยู่บ่อยๆค่ะว่าภรรยาคุณ
00:03:58 → 00:04:01 พงษ์เนี่ยมีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไรเหรอ
00:04:01 → 00:04:05 เหนืออ่าหรือบางคนก็บอกว่าได้ยินได้รับ
00:04:05 → 00:04:08 ฟังปัญหาอยู่บ่อยๆอย่างนี้นะไม่เครียดแย่
00:04:08 → 00:04:11 เหรอคะงั้นถ้าเกิดว่าหมอตอบเนี่ยเดี๋ยว
00:04:11 → 00:04:14 มันจะไม่เป็นกลางนะอันนั้นเรามาแชร์กันดี
00:04:14 → 00:04:16 กว่านะคะวันนี้ก็เลยชวนนะคุณหมอบอกว่าคุณ
00:04:16 → 00:04:20 หมอการมาแชร์โอ้เยี่ยมเลยวันนี้เข้ากันมา
00:04:20 → 00:04:26 เยอะแล้วนะคะอ่าคุณ The Boys สวัสดีนะคะ
00:04:26 → 00:04:31 คุณสารแห่งความวุ่นสวัสดีนะคะคุณแนน
00:04:31 → 00:04:37 สวัสดีด้วยเฮียโน๊ตนะคุณวรรณภาอ้าอ่า
00:04:37 → 00:04:41 สวัสดีวันเชอรี่นะคะฝากความคิดถึงถึงคุณ
00:04:41 → 00:04:44 หมอหนึ่งด้วยนะคะ
00:04:44 → 00:04:48 ฮะอ่ะงั้นทุกคนคงรอคอยแล้วแล้วตอนนี้
00:04:48 → 00:04:52 สมาชิกเริ่ม 50 กว่าไปแล้วนะคะงั้นสุด
00:04:52 → 00:04:57 ท้ายเลยก่อนที่จะจะเจอแขกคนสำคัญแล้วก็ก็
00:04:57 → 00:05:00 ได้แชร์กันบอกเลยนะวันนี้เนี่ยสุดยอดมากๆ
00:05:00 → 00:05:04 นะจิตแพทย์อยู่ด้วยกัน 3 คนเลยนะคะเนี่ย
00:05:04 → 00:05:08 คุณอยากถามเลยคุณรีบส่งคำถามมาก่อนเลยจ้า
00:05:08 → 00:05:12 จริงๆแม่เสียดายไม่มีกระดิ่งนะเนี่ยคุณ
00:05:12 → 00:05:17 ลูกค้าค่ะคุณลูกค้าขาเอออันรีบส่งคำถามมา
00:05:17 → 00:05:19 ก่อนเลยนะเพราะว่าถามก่อนเนี่ยคุณหมอก็จะ
00:05:19 → 00:05:23 ช่วยตอบก่อนนะนะคะอ้าแล้วก็จะเป็นจิตภาพ
00:05:23 → 00:05:26 เนี่ยเราต้องผ่านอะไรมาบ้างนะแต่ว่าตอน
00:05:26 → 00:05:32 นี้หมอขออนุญาตแชร์อาแชไปที่ Facebook
00:05:32 → 00:05:34 ตัวเอง
00:05:34 → 00:05:35 อ่ะ
00:05:35 → 00:05:37 นะ
00:05:37 → 00:05:42 ใครที่คิดว่าหัวข้อนี้จะมีประโยชน์นะคะก็
00:05:42 → 00:05:52 ช่วยกันแชร์ด้วยนะแชร์ด้วยเออ OK
00:05:52 → 00:05:56 I love เรียบร้อย
00:05:56 → 00:05:58 เออ
00:05:58 → 00:06:05 ตอนนี้สมาชิกของเรา 60 กว่าแล้วนะคะคุณเจ
00:06:05 → 00:06:09 นี่สวัสดีนะพี่อี๊ดสวัสดีนะคะคุณวรภัทร์
00:06:09 → 00:06:15 สวัสดีอ่ะเออนี่อ๋อคุณแอ๊ดก็สวัสดีด้วยนะ
00:06:15 → 00:06:19 คะอ่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราจะได้
00:06:19 → 00:06:23 มีเวลาคุยกับคุณหมอโบว์หมอการเยอะขึ้นนะ
00:06:23 → 00:06:27 วันนี้คุณหมอเออเนี่ยขออนุญาตทำตัวเป็น
00:06:27 → 00:06:31 ผู้ถามแล้วกันนะผู้ถามแล้วก็อาจจะแชร์
00:06:31 → 00:06:35 ด้วยนะคะเป็นเรื่องนะคะดูทุกคนอยากรู้
00:06:35 → 00:06:38 เนาะอยากรู้อยากรู้เรื่องนี้งั้นเดี๋ยว
00:06:38 → 00:06:43 เราไปเจอคุณหมอการกับคุณหมอโบว์เลยนะขอ
00:06:43 → 00:06:47 เบอร์
00:06:47 → 00:06:49 ก็สวัสดีค่ะ
00:06:49 → 00:06:51 สวัสดีครับ
00:06:52 → 00:06:56 ไม่ไม่ค่อยชินโมเม้นนี้เลยว่ะ
00:06:56 → 00:06:59 เออไม่ค่อยชิมโมเม้นนี้ด้วยว่าสวัสดีค่ะ
00:06:59 → 00:07:01 มีการคะ
00:07:01 → 00:07:07 สวัสดีครับโอเคครับถ้าขาดอาหารเราจะเรียบ
00:07:07 → 00:07:11 ร้อยออกสื่อสาธารณะกันนิดนึงนะคะเออๆมาก
00:07:11 → 00:07:16 เลยอ่ะอะไรนะโอเคเช่ามากดูอยู่อุ้ยขอบคุณ
00:07:16 → 00:07:20 มากค่ะพี่เป็นครั้งแรกชีวิตคันแรกของโบว์
00:07:20 → 00:07:26 เลยใช่ไหมคะอาวันนี้เนี่ยก็ยกขอให้ทั้ง
00:07:26 → 00:07:29 สองท่านเนี่ยแนะนำตัวเองก่อนแล้วกันนะคะ
00:07:29 → 00:07:34 ที่ต้องการแนะนำก่อนละกันว่าอ่าเป็นเท่า
00:07:34 → 00:07:36 นี้ทำอะไรที่ไหนอยู่นะครับ
00:07:36 → 00:07:39 มีครับเอาไปถึงขั้นไหนดีครับแนะนำตัวไป
00:07:39 → 00:07:41 ถึงขั้นอดีตชาติไม่ได้
00:07:41 → 00:07:45 นะคะอันนี้อ่าทุกคนเริ่มเห็นแนวแล้วนะคะ
00:07:45 → 00:07:49 ว่าเออเร่อหนัง HD ปีสุดท้ายจิตแพทย์ดีไป
00:07:49 → 00:07:51 เนี่ยเครียด
00:07:51 → 00:07:56 อาเธอๆเอาข้างละตัว
00:07:56 → 00:07:59 พี่น้องการค้าไม่กะโบก่อนบวกก่อนหน้านั้น
00:07:59 → 00:08:03 ค่ะก็ก็แนะนำตัวค่ะเชอร์ชื่อโบว์นะคะชื่อ
00:08:03 → 00:08:06 จริงก็มีทานะคะเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่
00:08:06 → 00:08:09 สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์นะคะก็เป็น
00:08:09 → 00:08:13 เอาอยู่ในคณะภาคนะคะรามาธิบดีมหาลัยมหิดล
00:08:13 → 00:08:16 ค่ะเย้
00:08:16 → 00:08:21 อาซึ่งตอนนี้คุณหมอการของเรานะคะค้างไป
00:08:21 → 00:08:25 แล้วนะทางดีนะที่ขาดเราหน้าแบบโอเคเป็น
00:08:26 → 00:08:29 น่ะเออใช่หน้ายังหล่อนะ
00:08:29 → 00:08:35 เออนะคนการเนี้ยอ้ะเดี๋ยวให้เค้าอ้า
00:08:35 → 00:08:36 เดี๋ยวให้เข้ามาไงเดี๋ยวให้การเข้ามาใหม่
00:08:36 → 00:08:41 นะคะอันนี้เท่านั้นเนี่ยถามโบว์ก่อนละกัน
00:08:41 → 00:08:44 ไม่รู้ว่าโบว์เนี่ยจะเจอคำถามแบบบ่อยๆมัน
00:08:44 → 00:08:47 ที่เออหรือเปล่านะเพราะเวลาที่คนอ่าโอเค
00:08:47 → 00:08:51 ถามว่าเราดูแลจิตใจตัวเองยังไงเนี่ย
00:08:51 → 00:08:54 เหมือนหัวข้อที่เราตั้งวันนี้ก็เป็นคำถาม
00:08:54 → 00:08:56 นึงนะแต่ส่วนใหญ่เนี่ยคำถามนี้จะมาก่อน
00:08:56 → 00:09:00 แต่ถ้าเรื่องเรียนจิตแพทย์เออ
00:09:00 → 00:09:04 อันนี้พี่อ้อนก็โดนบ่อยเนอะไม่รู้ว่าโว
00:09:04 → 00:09:08 เคยโดนหรือเปล่าแล้วก็เออเย็นของตัวเอง
00:09:08 → 00:09:09 เพราะอะไร
00:09:09 → 00:09:14 ไหมเฮ้ยเจเป็นเจ้าของเจ๊เป็นเจ้าของราย
00:09:14 → 00:09:18 การตอบทีหลังถามกับเนาะตอบคำถามเธอเท่า
00:09:18 → 00:09:20 ไหร่เราเริ่มก่อนเลยได้ก็คือว่าเอ่อส่วน
00:09:20 → 00:09:25 ใหญ่คนจะถามว่าคือทำไมมาเป็นจิตภาพใช่ไหม
00:09:25 → 00:09:29 คะก็ไหนเลือกเรียน 7 อะแพทย์เพราะอะไร
00:09:29 → 00:09:31 เลือกเรียนเกี่ยวกับภาพเพราะว่าเธอมีหลาย
00:09:31 → 00:09:34 เหตุผลมากเลยแล้วก็บางทีพอโดนถามต่างกรรม
00:09:34 → 00:09:36 ต่างวาระอาจจะตอบไม่เหมือนกันก็ได้เนาะ
00:09:36 → 00:09:41 คือถ้าเป็นช่วงต้นเลยจ้าคิดว่าแบบมันเป็น
00:09:41 → 00:09:44 วิชาที่เราแบบไม่เราไม่ค่อยหลับอ่ะคือเรา
00:09:44 → 00:09:48 สนใจแบบมันตื่นได้ตลอดแล้วคือมันปกติแต่
00:09:48 → 00:09:50 เรียนแบบเรียนเนื้อหาเยอะแล้วจะค่อนข้าง
00:09:50 → 00:09:53 แบบเออเออมันก็อาจจะเบื่อใช่ไหมแต่ว่าเออ
00:09:53 → 00:09:55 มันเป็นที่นาเวชมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ
00:09:55 → 00:09:59 การเข้าใจคนเข้าฟรุ๊ตไรเงี้ยเราก็จะแบบ
00:09:59 → 00:10:03 เห้ยมันน่าสนใจอะไรเงี้ยมันเหมือนกันมี
00:10:03 → 00:10:05 อะไรมึงอยู่แล้วก็อาจจะมีประสบการณ์ที่
00:10:05 → 00:10:09 เราไปเห็นโรโมเรยโดนเอ้าก็คือแบบอาจารย์
00:10:09 → 00:10:12 ของเราที่แบบเวลาที่เค้าคุยกับคนไข้แล้ว
00:10:12 → 00:10:15 เคี้ยวเขาดูคนไข้เนี่ยะเราจะรู้สึกว่าโขน
00:10:15 → 00:10:19 เหมือนเขามีแบบมีมีมีความเทพอะไรบางอย่าง
00:10:19 → 00:10:22 เนาะเหมือนเขามีแบบเครื่องมือรู้ได้ไงอ่ะ
00:10:22 → 00:10:27 ผมก็รู้ได้ไงอ่ะไม่รู้ใจได้นั้นก็แบบดูคน
00:10:27 → 00:10:30 ออกไปยังไงเนี่ยไม่งั้น Switch แปลว่าพูด
00:10:30 → 00:10:33 ไปถึงจุดนี้เราคนแค่น้ำตาไหลแล้วมันเข้า
00:10:33 → 00:10:36 ถึงหัวจิตหัวใจคนอะไรอย่างเงี้ยเราก็จะ
00:10:36 → 00:10:40 รู้สึกว่านี่มันมันเท่มากเลยอ่ะเราก็เรา
00:10:40 → 00:10:42 ก็อยากมีมีความสามารถจากนั้นบ้างเลยเนี่ย
00:10:42 → 00:10:44 ผมชื่อ
00:10:44 → 00:10:48 เพราะฉะนั้นเนี่ยฟังดูเหมือนมีปัจจัย 2
00:10:48 → 00:10:50 อย่างเลยก็คือเริ่มต้น
00:10:50 → 00:10:53 อันแรกเนี่ยก็คือบ่มีแฟชั่นกับมันอ่ะคือ
00:10:53 → 00:10:58 ชอบชอบเรื่องคนชอบเรื่องความเข้าใจจิตใจ
00:10:58 → 00:11:01 ของคนเนอะทำให้เวลาเรียนเนี่ยเราก็โฟกัส
00:11:01 → 00:11:03 เราไม่หลับวิชาอื่นอาจจะหลับไปวิชานี้ไม่
00:11:03 → 00:11:07 หลับเลยเออวันนี้รับมาดูดีรับที่สุดแล้ว
00:11:07 → 00:11:11 มันดูดีรักที่สุดและได้มันถ่าเข้าไปแล้ว
00:11:11 → 00:11:16 มันไม่เจอใช่ไหมคือถ้าเป็นบับ R นะมีคน
00:11:16 → 00:11:20 ทักว่าใส่มือมา
00:11:20 → 00:11:26 ครอบสายแปลว่าคนโพสต์ใจเย็นใจเย็นหมอ
00:11:26 → 00:11:32 ถึงเออใจเย็นหมอแหมบอกว่าเอ่อเอาสไบทวาย
00:11:32 → 00:11:35 เหมือนคุยกับเพื่อนหมออัลเลนจะเอาใหญ่เลย
00:11:35 → 00:11:37 อาการ
00:11:37 → 00:11:42 หายไปไหนขอโทษขอโทษครับได้ขึ้นไหมครับได้
00:11:42 → 00:11:48 ยินค่ะก็เริ่มแทงถูกอาไปเลยอาหารไม่เป็น
00:11:48 → 00:11:50 ไรต่อไปแบบหล่อมากน่ะเมื่อกี้นี้พี่
00:11:50 → 00:11:54 เอิร์นพึ่งถามโบนี่เรื่องของว่าเพราะอะไร
00:11:54 → 00:11:56 ถึงเรียกเรียนจิตเวชเนาะโบว์ต่อประเด็น
00:11:56 → 00:11:58 สำคัญ 2 อย่างก็คือหนึ่งก็คือแฟชั่นอ่ะ
00:11:58 → 00:12:02 ชอบเรื่องจิตใจคนท้องก็คือเห็นเห็น
00:12:02 → 00:12:05 อาจารย์นะแล้วก็เวลาดูแลคนไข้แล้วก็
00:12:05 → 00:12:09 ประทับใจอยากเป็นอย่างนั้นมั่งนะคะอ้าว
00:12:10 → 00:12:13 ของหมอการล่ะครับคุณหมอกัน
00:12:13 → 00:12:17 ขอขายอีกแล้วหรอครับการครับอ๋อโอเคตอน
00:12:17 → 00:12:19 ยิ่งเฉย
00:12:19 → 00:12:23 นิ่งเสมือนค้างเลยนะครับการครับอาหารก็
00:12:23 → 00:12:26 คือเราของการเป็นยังเงี้ยะเดี๋ยวอาจจะ
00:12:26 → 00:12:29 เริ่มต้นขอให้การแนะนำตัวกับทุกคนยิ่ง
00:12:29 → 00:12:32 ก่อนแล้วก็เล่าให้ฟังหน่อยว่าเพราะอะไร
00:12:32 → 00:12:35 ถึงเลือกเรียนจิตแพทย์ครับ
00:12:35 → 00:12:40 ได้ครับก็ผมคือการจำรูญโรจน์นะครับก็เป็น
00:12:40 → 00:12:44 หมอจิตแพทย์ตอนนี้ทำงานอยู่โรงพยาบาล
00:12:44 → 00:12:47 รามาธิบดีนะครับเอ่อ
00:12:47 → 00:12:50 อุ้ยทำไมถึงเป็นจิตแพทย์ทำไมถึงเลิกเรียน
00:12:50 → 00:12:52 เลือกเรียนจิตแพทย์เอาเองจริงๆแล้วเริ่ม
00:12:52 → 00:12:55 ต้นอย่างดีกว่าครับว่าเริ่มต้นจากว่าตอน
00:12:55 → 00:12:57 แรกสุดในก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะได้กินอะไรดี
00:12:57 → 00:13:01 จะเห็นว่าตอนที่เรียนตอนแรกๆเนี่ยเรียน
00:13:01 → 00:13:04 ผ่านบัณฑิตเนี่ยถามว่าเรียนไปแล้วแล้วเรา
00:13:04 → 00:13:07 รู้ตัวเองขนาดนั้นไหมว่าชอบอะไรนะตอนแรก
00:13:07 → 00:13:09 ยังไม่ค่อยรู้นะครับตอนแรกยังไม่ค่อยรู้
00:13:09 → 00:13:11 ได้ทำว่าจะเป็นหมอต่อไปดีไหมเราเรียนเล็ก
00:13:11 → 00:13:14 ๆนะครับเพราะว่าเอ่อตอนแรกมันก็เรียนมัน
00:13:14 → 00:13:16 ก็เล่นหนักนะแล้วก็รู้สึกว่าแบบเอ้อมันก็
00:13:16 → 00:13:18 เหนื่อยเหมือนกันอะไรเงี้ยครับแต่ว่าพอ
00:13:18 → 00:13:22 เรียนไปเรียนมาก็รู้สึกว่าเออพอเราได้ดู
00:13:22 → 00:13:25 แลคนไข้หรือว่าได้หรือว่าอะไรอ้ะได้เรียน
00:13:25 → 00:13:27 ที่นั่นแบบเป็นครับเราได้ปฏิบัติมากขึ้น
00:13:27 → 00:13:30 อะไรเนี่ยแต่ก็รู้สึกว่าเออมันก็เป็นวิชา
00:13:30 → 00:13:32 ที่สนุกดีแล้วก็รู้สึกว่ามันมีคุณค่าใน
00:13:32 → 00:13:35 การที่เราได้ช่วยเหลือคนอื่นรวมไปถึงอื่น
00:13:35 → 00:13:38 จริงๆนะกดมันก็เป็นอาชีพที่มั่นคงแล้วก็
00:13:38 → 00:13:41 เป็นอะเราก็เอาสิ่งของนั้นมาดูแลครอบครัว
00:13:41 → 00:13:44 ได้อะไรนะครับแต่ที่นี้ที่รู้สึกว่าชอบ
00:13:44 → 00:13:47 วิชาจิตเวชแล้วมันเป็นจิตแพทย์เนี่ยอาจ
00:13:47 → 00:13:51 หลังจากที่ว่าพี่อาการแบบนี้จริงๆแล้วมัน
00:13:51 → 00:13:54 น่าสนใจอ่ะว่ามันเกิดขึ้นกับแบบคนเรา
00:13:54 → 00:13:58 เนี่ยมันเป็นยังไงไม่มีสาเหตุจากอะไรแล้ว
00:13:58 → 00:14:00 ที่จริงเราจะดูแลได้ยังไงบ้างอะไรนะครับ
00:14:00 → 00:14:03 เห็นตัวอย่างจากอาจารย์อะไรๆท่านอะไรไงก็
00:14:03 → 00:14:07 ลูกพี่ขอเรามาก็รู้สึกว่าเออต่างเขาก็แบบ
00:14:07 → 00:14:10 เก่งอ่ะแล้วก็ดูมั่นใจในการที่เรียกว่า
00:14:10 → 00:14:13 เลยเราจะเรียนเรื่องนี้แล้วก็ช่วยเหลือคน
00:14:13 → 00:14:15 ในด้านนี้อะไรเงี้ยอันนี้ก็คงเป็นจุด
00:14:15 → 00:14:18 เริ่มตนและก็บัวอย่างนึงก็คือรู้สึกว่า
00:14:18 → 00:14:21 มันก็ดูเป็นตาข่ายเที่ยวจริงๆแล้วเราไป
00:14:21 → 00:14:25 ยุคกับอีกหลายๆอย่างได้นะครับไม่ใช่เดียว
00:14:25 → 00:14:27 เช่นเรื่องของจิตวิทยาอาหารแล้วผมจะติ
00:14:27 → 00:14:29 กรรมคนอะไรเงี้ย
00:14:29 → 00:14:32 ฮือโอ้โห
00:14:32 → 00:14:38 รออีกแล้วจานการจันทร์กันคิดว่าๆหนาเออ
00:14:38 → 00:14:42 ตัวของพี่เออเนี่ยก็น่าจะก็ก็คิดว่านะฟัง
00:14:42 → 00:14:45 จากเราสองคนก็ไม่ไม่ไม่ได้ต่างกันเท่า
00:14:45 → 00:14:47 ไหร่ก็คือ 1 คือเรามีความสนใจเรื่องคนถ้า
00:14:47 → 00:14:51 เรามีกันเรามีเราชอบตั้งคำถามกับตัวเองใน
00:14:51 → 00:14:56 เรื่องของเอ่ออารมณ์ความคิดนั้นนิสัยของ
00:14:56 → 00:14:58 ผู้โกนหรือว่าพฤติกรรมของเราเองอะไรอย่าง
00:14:58 → 00:15:03 เงี้ยแล้วก็เอ่ออาจจะประจวบกับการที่เป็น
00:15:03 → 00:15:05 นักแต่งเพลงด้วยเนี่ยเข้าไปนักแต่งเพลง
00:15:05 → 00:15:09 นี้มันทำให้เราฟังคนต้องฟังคนเยอะมากนะก็
00:15:09 → 00:15:13 ฟังจนจนสามารถกันกองชีวิตคนนึงให้มาอยู่
00:15:13 → 00:15:17 ใน 3 นาที 4 นาทีได้วันนี้แน่นอนพอเรา
00:15:17 → 00:15:21 ตั้งใจฟังแบบนั้นแล้วอ้ะก็มักจะมีการขอคำ
00:15:21 → 00:15:23 แนะนำเพิ่มเติมจากข้อที่เล่าให้ฟังเสมอ
00:15:23 → 00:15:28 ซึ่งเราก็ก็ไม่รู้หรอกนะว่าสิ่งที่เราแนะ
00:15:28 → 00:15:33 นำเนี่ยมันถูกมันผิดอือแล้วก็อีกข้อนึงก็
00:15:33 → 00:15:36 คือเหมือนกับจริงๆอยากรู้สึกว่าตอนนั้น
00:15:36 → 00:15:40 อาจจะติดสุขนิยมรู้สึกว่าอยากมีความสุข
00:15:40 → 00:15:44 a s ทำไมตอนนี้เราบางทีก็มีความสุขนะ
00:15:44 → 00:15:49 บางทีก็ไม่มีความสุขมันปกติไหมนะเออหรือ
00:15:49 → 00:15:51 มีวิธีการยังไงไหมที่ทำให้ความสุขอยู่กับ
00:15:51 → 00:15:53 เราได้นานๆ
00:15:53 → 00:15:57 เธอก็เลยอยากจะเรียนเรื่องเกี่ยวกับจิตใจ
00:15:57 → 00:16:01 เพื่อให้ตัวเองมีความสุขอันนี้ง่ายเลย
00:16:01 → 00:16:06 เออเพื่อให้ตัวเองมีความสุขเนาะแล้วก็รู้
00:16:06 → 00:16:08 สึกว่าถ้าเรามีความสุขได้เนี่ยเราก็คงจะ
00:16:08 → 00:16:13 ดูแลคนรอบข้างได้อันนี้ก็คืออันนี้ก็คือ
00:16:13 → 00:16:17 เหตุผลว่าทำไมถึงมาเรียนจิตแพทย์เนี่ยค่ะ
00:16:17 → 00:16:22 อันนี้เอ่อเพียงที่ว่ามีคนส่วนหนึ่งอ้ะก็
00:16:22 → 00:16:26 คือจะไม่ได้เข้าใจหรอว่าโดยโดยเฉพาะเด็กๆ
00:16:26 → 00:16:29 ที่สมุดว่าเห็นพวกเราสามคนนี้เราคุยกัน
00:16:29 → 00:16:33 หรือว่าอ่าลาลูกๆของ
00:16:33 → 00:16:38 เพื่อนๆน้องๆที่ดูอยู่ตอนนี้นะบอกกูดีจัง
00:16:38 → 00:16:40 เลยอยากเป็นจิตแพทย์
00:16:40 → 00:16:44 อิอิแต่ว่าเค้าว่าจะไม่รู้ว่าฮู้กว่าจับ
00:16:44 → 00:16:46 เราจะมาเป็นจิตแพทย์เนี่ยเราต้องผ่านการ
00:16:46 → 00:16:50 เรียนรู้อะไรบ้างบางคนยังคิดว่าไม่จบมอหก
00:16:50 → 00:16:54 แล้วเรียนจิตแพทย์ยังไงคือว่าเรียนได้เลย
00:16:54 → 00:16:57 อะไรอย่างเงี้ยอันนี้อันนี้อาจจะต้องจะ
00:16:57 → 00:17:00 ต้องถามโบว์ดีกว่าเพราะว่าต้องบอกว่าโบว์
00:17:00 → 00:17:03 เนี่ยก็คือคุณหมอโบว์เนอะแม่เดี๋ยวเขาจะ
00:17:03 → 00:17:07 ถามว่าศีรษะตีกันไว้ละสิออกนอกจอเออมัน
00:17:07 → 00:17:11 ถามหมอโบว์ดีกว่าเพราะว่าเอ่อตอนเนี้ยแนะ
00:17:11 → 00:17:13 นำทุกคนก่อนว่ากูบ่เองเนี่ยค่ะน้องจะเป็น
00:17:13 → 00:17:17 จิตแพทย์แล้วเนี่ยกูบอกก็ศึกษาเป็นผู้
00:17:17 → 00:17:20 เชี่ยวชาญเนาะในเรื่องของกันการศึกษาด้วย
00:17:20 → 00:17:23 อ่าก็คือเรียนรู้เพิ่มเติมนี้เรื่องของ
00:17:23 → 00:17:27 การออกแบบการศึกษาการเรียนรู้นั้นหมอ
00:17:27 → 00:17:30 4shared ได้มั้ยกว่าว่าจะเป็นจิตแพทย์คน
00:17:30 → 00:17:32 นึงเนี่ยต้องผ่านอะไรบ้าง
00:17:32 → 00:17:37 และก็หลังกันจบมัธยมใช่ไหมคะก็คือว่าต้อง
00:17:37 → 00:17:40 เข้ามาหาไลน์น้องก็ต้องเข้าคณะแท็กสาด
00:17:40 → 00:17:43 ก่อนแล้วก็ผ่านทุกคนที่เป็นจิตแพทย์ก็
00:17:43 → 00:17:47 ต้องผ่านแพทย์ศาสตร์นะ 6 ปีก็ก็เรียนเป็น
00:17:47 → 00:17:49 เหมือนก็เป็นเอ่อเขาเรียกว่าอะไรอ่ะเจนนะ
00:17:49 → 00:17:53 เราพักที่ชั้นเนอะก็คือเป็นหมอทั่วไปก็
00:17:53 → 00:17:56 เรียน 6 ปีใช่ไหมคะ 3 ปีแรกก็เรียนเต็ม
00:17:56 → 00:17:59 เลยเธอพรีคลินิกเนาะแล้วก็อีก 3 ปีหลังก็
00:17:59 → 00:18:01 เรียนเรื่องครีมก็คือเรียนกับคนไข้เรียน
00:18:01 → 00:18:05 ในโรงพยาบาลน่ะค่ะเพราะจบ 6 ปีปุ๊บก็อัน
00:18:05 → 00:18:07 นี้ตกตัวเองนะก็
00:18:07 → 00:18:11 ก็คือว่าไปใช้ทุนนะคะบางคนเนี่ยฐิตะภาสก็
00:18:11 → 00:18:15 เป็นสาขาที่ขาดแคลนเนาะบางคนจบป 6 ปีแล้ว
00:18:15 → 00:18:18 ก็เรียนต่อที่จะให้ได้เลยแต่ว่าบางขวดนี้
00:18:18 → 00:18:20 ก็ไปใช้ทุนก่อนก็แล้วแต่บางคนก็ใช้ปีนึง 2
00:18:20 → 00:18:23 ปีหรือ 3 ปีนะคะแต่ของตัวเองให้ใช้ทุน 1
00:18:23 → 00:18:27 ปีแล้วก็กลับมาเรียนคือเขาเรียกว่าเป็น
00:18:27 → 00:18:32 เป็นเทรนด์ฝึกและปฏิบัติบ้านติดต่อวิทย์
00:18:32 → 00:18:36 ซึ่งสาขาจิตเวชนี้ก็แบ่งเป็น 2 3 สาขา
00:18:36 → 00:18:39 ที่ตอนนี้ก็คือว่ามีตับติดตี๊เตว็ดทั่วไป
00:18:39 → 00:18:42 ก็จะจิตเวชผู้ใหญ่เนาะเออแล้วก็ติดประเวศ
00:18:42 → 00:18:45 เด็กแล้วไว้ก็ขอตัวเองจะเรียนจับจิตเวช
00:18:45 → 00:18:47 เด็กและวัยรุ่นก็เรียนทั้งหมด 4 ปีแต่ว่า
00:18:47 → 00:18:52 ถ้าเป็นจิตเวชทั่วไปก็จะเรียน 3 ปีอะนะคะ
00:18:52 → 00:18:53 อ่าอ่า
00:18:53 → 00:18:58 ค่ะก็ออกก็ไม่ใช่มันเดี๋ยวจริงๆก็คือเรา
00:18:58 → 00:19:02 ก็ต้องจบหมอก่อนเนาะนึกว่าเวลารวมในการ
00:19:02 → 00:19:04 เรียนก็เกือบสิบเหมือนกันนะ
00:19:04 → 00:19:09 ก็เฉลี่ยหลังจากจบมอ 6 ตั้งเวลาเกือบ 90
00:19:09 → 00:19:10 ดีเหมือนกันดิ
00:19:10 → 00:19:15 อ้าประมาณ 10 ปีนะคะเออเค้านั้นในตอนที่
00:19:15 → 00:19:19 เรียนอ่าคณิตถามคุณหมอการวางอ่ะนี่ในตอน
00:19:19 → 00:19:23 ที่เรียนเนี่ยอ่ะหมอกันตอนช่วงเรียน
00:19:23 → 00:19:25 จิตแพทย์
00:19:25 → 00:19:28 ฮะอ่ะอ่ะซึ่งอันนี้เงียบมีหลายคนยังเข้า
00:19:28 → 00:19:31 ใจผิดนะแล้วว่าจิตแพทย์กับนักจิตเนี่ย
00:19:31 → 00:19:35 ต่างกันยังไงเออเกินเล่าให้ฟังหน่อยว่า
00:19:35 → 00:19:38 ตอนที่เทรนเป็นจิตแพทย์ซึ่งตอนนี้คุณบ่
00:19:38 → 00:19:41 การก็เป็นอาจารย์แพทย์สอนจิตแพทย์อีกที
00:19:41 → 00:19:44 อยู่เนี่ยอาจารย์การต้องสอนอะไรบ้างครับ
00:19:44 → 00:19:48 อ่ะเฮ้อออต้องสอนอะไรบ้างก่อนเลยใช่ไหมคะ
00:19:48 → 00:19:54 เนี่ยก็มันให้คุณหมอ 1 คนที่เป็นก่อนคนไป
00:19:54 → 00:19:58 ให้เขามาเฉพาะทางจิตแพทย์
00:19:58 → 00:20:02 อาจารย์การต้องให้ความรู้อะไรกับคุณหมอ
00:20:02 → 00:20:05 เหล่านั้นบ้างฮะครับๆแล้วก็คือจริงๆแล้ว
00:20:05 → 00:20:07 อ่า
00:20:07 → 00:20:11 ตีอย่างที่อย่างที่อื่นเเต่เดินเล่นบอก
00:20:11 → 00:20:14 เลยครับว่าเออนักจิตวิทยากับจิตแพทย์
00:20:14 → 00:20:18 เนี่ยจริงๆๆคนก็ได้เหมือนกับมีความงงหรือ
00:20:18 → 00:20:20 สับผลกันอยู่ว่าไอ้ต่างกันยังไงอะไรนะ
00:20:20 → 00:20:24 ครับจริงๆก็ก็มีความที่ต่างกันที่ชัดเจน
00:20:24 → 00:20:26 แต่ก็มีบางอย่างที่มันทับตอนกันอยู่บ้าง
00:20:26 → 00:20:28 นะครับก็อย่างเช่นในเรื่องของความรู้
00:20:28 → 00:20:31 เกี่ยวข้องกับทางเรื่องของพฤติกรรมแล้วก็
00:20:31 → 00:20:33 ติดใจมนุษย์หรืออะไรนะครับมันจะมีเรื่อง
00:20:33 → 00:20:36 ของความรู้ที่ 2 สาขาวิชาเนี้ยเอ่อ
00:20:36 → 00:20:39 รู้บางคนกันอยู่บ้างเหมือนกันให้ๆกันอยู่
00:20:39 → 00:20:42 บ้านเลยครับแต่ว่าได้นอนเรื่องของ
00:20:42 → 00:20:45 จิตแพทย์เนี่ยคือด้วยความที่เป็นแทบเนี่ย
00:20:45 → 00:20:47 นะครับว่ามันจะเริ่มต้องจากเรื่องที่ว่า
00:20:47 → 00:20:52 ดูแลก็จ๋าเกี่ยวข้องกับคนที่มีโรคนะครับ
00:20:52 → 00:20:54 และก็มีความเจ็บป่วยนะครับเพราะฉะนั้น
00:20:54 → 00:20:57 เนี่ยเอ่ออันดับแรกเลยเนี่ยการที่จะรู้
00:20:57 → 00:20:59 จักและวินิจฉัยโรคต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ
00:20:59 → 00:21:02 ทางจิตเวชสะอาดนะครับโรคทางจิตเวชเช่นโรค
00:21:02 → 00:21:07 จิตเภทโรคไปโพล่าโรคซึมเศร้าหรือว่าโรค
00:21:07 → 00:21:10 อื่นๆนี้นะครับอันนี้คือจิตแพทย์จะต้อง
00:21:10 → 00:21:12 เรียนรู้เรื่องของตรงนี้เรื่องของการ
00:21:12 → 00:21:15 วินิจฉัยโรคที่ถูกต้องนะครับเพราะว่าคน
00:21:15 → 00:21:17 เหล่านี้แหละที่จะเป็นจิตแพทย์เนี่ยจะ
00:21:17 → 00:21:20 เป็นคนที่เหมือนกับใดๆกับถ้าใครเป็นอะไร
00:21:20 → 00:21:24 มาแล้วมาหาเราต้องการการวินิจฉัยเพื่อที่
00:21:24 → 00:21:26 ว่าจะดูแลรักษายังไงคนเรานี่แหละจะเป็นคน
00:21:26 → 00:21:28 ที่อ่ะ
00:21:28 → 00:21:30 ไปให้กับคุยกับผู้ป่วยแล้วก็มีทำการ
00:21:30 → 00:21:33 วินิจฉัยอย่างนี้นะครับแต่ว่านอกจากนั้น
00:21:33 → 00:21:36 เนี่ยที่มีการเรียนรู้กันเพิ่มเติมก็คือ
00:21:36 → 00:21:40 อย่างเช่นเทคนิคของการที่ตาพูดคุยหรือว่า
00:21:40 → 00:21:43 ให้การดูแลให้การรักษาอย่างนั้นนะครับรวม
00:21:43 → 00:21:45 ไปถึงเรื่องของกันและขายที่ทั้งใช้ยาแล้ว
00:21:45 → 00:21:47 ไม่ใช่หน้าตาอย่างนี้นะครับอันนี้ก็จะ
00:21:47 → 00:21:50 เป็นเรื่องของจิตแพทย์เป็นหลักนะครับแต่
00:21:50 → 00:21:52 ว่าอันนี้เพิ่มเติมให้แล้วกันในเรื่องของ
00:21:52 → 00:21:54 ที่ความแตกต่างกับทางนักจิตวิทยานะครับ
00:21:54 → 00:21:57 เพราะว่าตัวเองในก็ไปเรียนวิชาจิตวิทยามา
00:21:57 → 00:21:58 บ้างแต่ว่าไม่ได้ถึงขั้นที่เป็นนักคิดจุด
00:21:58 → 00:22:01 แยกคลินิกหรืออะไรกันนะครับคือจริงๆแล้ว
00:22:01 → 00:22:03 นะศิษย์วิทยาเนี่ยก็จะมีความรู้เกี่ยว
00:22:03 → 00:22:06 ข้องกับจิตวิทยาในแบบต่างๆที่ต่างกันไปนะ
00:22:06 → 00:22:09 ครับทั้งๆที่เป็นจะวิทยาทั่วไปหรือว่า
00:22:09 → 00:22:11 เป็นจิตวิทยาในอาคาอื่นๆนะครับเช่นเชื้อ
00:22:11 → 00:22:15 คลินิกจิตวิทยาที่นำไปประยุกต์กับอันอื่น
00:22:15 → 00:22:18 ๆทันตายฉันจะไม่ใช่การศึกษาหรืออะไรงั้น
00:22:18 → 00:22:20 นะครับเป็นต้นเพราะฉะนั้นนี้คือเขาก็ให้
00:22:20 → 00:22:23 ความรู้พวกยาครับในการที่นำไปประยุกต์ใช้
00:22:23 → 00:22:26 ทำงานต่างๆเช่นการให้คำปรึกษาหรือว่า
00:22:26 → 00:22:31 เรื่องของการที่นำไปผนวกกับการทำงานกับ
00:22:31 → 00:22:33 องค์กรต่างๆอะไรเงี้ยครับซึ่งก็จะผ่อนแตก
00:22:33 → 00:22:36 ต่างกันระหว่างการดูแลคนให้ของหมอกับการ
00:22:36 → 00:22:40 ดูแลคนอื่นๆของทางของทางจิตวิทยาย
00:22:40 → 00:22:45 ก็เรียกว่าหนึ่งก็คือว่าเนี่ยก็คือต้องมี
00:22:45 → 00:22:49 เฮก็ต้องจบคือเป็นเป็นหมอทั่วไปก็มีความ
00:22:49 → 00:22:52 รู้ในการดูแลรักษาเรื่องร่างกายเนาะต้อง
00:22:52 → 00:22:55 เป็นเบสิคเริ่มต้นที่เราจะไปต่ออันนี้นึง
00:22:55 → 00:22:58 ของจิตใจเนี่ยเราก็ต้องเรียนรู้อ่ะตั้ง
00:22:58 → 00:23:03 แต่ธรรมดาจนกระทั่งถึงเป็นโรคเลยมันเพื่อ
00:23:03 → 00:23:06 ไปถึงคีย์หลักของเราก็คือเรื่องของการที่
00:23:06 → 00:23:11 จิตแพทย์เนี่ยได้เป็นคนที่วินิจฉัยณวิชัย
00:23:11 → 00:23:14 ก็คือเราเขาอาจจะปกติก็ได้นะเราก็ไม่ได้
00:23:14 → 00:23:18 คือคืออันเนี้ยคนอาจจะเข้าใจโอ้เดี๋ยวไป
00:23:18 → 00:23:20 หาจิตแพทย์เนี่ยไม่ต้องได้มาจากโลกนึง
00:23:20 → 00:23:23 อันเนี้ยอาจจะอาจจะไม่ได้จำเป็นนะคะก็
00:23:23 → 00:23:26 หรือเขาเพียงแค่ว่าเอ่อ
00:23:26 → 00:23:30 คืออย่างอาจารย์จะอาจารย์ก็จะสอนให้คุณ
00:23:30 → 00:23:32 หมอที่มาเรียนเนี่ยก็คือสามารถที่จะเห็น
00:23:32 → 00:23:37 เขาเล่นเป็นสเปคตามเนาะเป็นแบบเออระดับ
00:23:37 → 00:23:40 ของความปกติจนถึงไม่ปกติแล้วไม่เป็นปกติ
00:23:40 → 00:23:45 เนี่ยยังไงนะฮะเพื่อการวางแผน
00:23:45 → 00:23:49 อ่ะค่ะก็ก็เมื่อกี้นี้เนี่ยกูหมอการพูด
00:23:49 → 00:23:53 เสริมเรื่องของจิตวิทยาการเรียนเพิ่มใน
00:23:53 → 00:23:57 สาขาเรื่องจิตวิทยาด้านไหนนะครับ
00:23:57 → 00:24:00 ขอเออคิดผมเรียนเพิ่มเติมเนี่ยจะเป็น
00:24:00 → 00:24:02 จิตวิทยาทางด้านการกีฬาและการออกกำลังกาย
00:24:02 → 00:24:05 นะครับซึ่งก็แต่ไม่ได้เป็นเขาเรียกอะไรนะ
00:24:05 → 00:24:09 ไม่ได้ไม่ได้ผ่านกันจบเรื่องของจิตวิทยา
00:24:09 → 00:24:11 คลินิกหรืออะไรแต่ว่ามันเป็นการไป
00:24:11 → 00:24:14 ประยุกต์เลออย่างนั้นของ 7 อุทยาที่
00:24:14 → 00:24:16 เกี่ยวข้องกับการกีฬาและการออกกำลังกาย
00:24:16 → 00:24:21 โดยเฉพาะยังไงเออโอเคค่ะวันนี้ก็ก็ต้อง
00:24:21 → 00:24:25 อ่าเคลียร์กับทุกคนนี้หน่อยว่าคำว่าจิตตะ
00:24:25 → 00:24:28 วิทยาคลินิกเนี่ยในที่นี้ก็คือจิตนัก
00:24:28 → 00:24:32 จิตตะวิทยาจริงๆมีหลายหลายสาขามากๆแต่ละ
00:24:32 → 00:24:36 สาขาก็ทำงานเฉพาะสาขาของตัวเองเนาะจะตาย
00:24:36 → 00:24:38 วิทยาคลินิกเนี่ยก็คือนักแต่วิชาที่ใช้
00:24:38 → 00:24:41 เครื่องมือทางด้านจิตเวชเอ่อเขาเรียก
00:24:41 → 00:24:45 จิตตะวิทยาในการที่มาประเมินคนไข้
00:24:45 → 00:24:50 ไม่ใช่ไหมคะอ่าอันนี้ก็จะเป็นการการใช้
00:24:50 → 00:24:54 เครื่องมือนะคะอ่ะเขานี่มาถึงคำถามสำคัญ
00:24:54 → 00:25:00 และก็คือตามหัวข้อของเราเนอะในงานจัดที่
00:25:00 → 00:25:04 พวกเราแชร์ให้ฟังนะว่าเราต้องผ่านอะไรมา
00:25:04 → 00:25:09 บ้างแน่นอนเราต้องรับฟังแล้วก็อยู่กับคน
00:25:09 → 00:25:12 ที่มีปัญหาเกิดจะเป็นโรคหรือไม่เป็นโรคก็
00:25:12 → 00:25:15 แล้วแต่ที่เดินมาหาพวกเรานะอันนี้ก็จะ
00:25:16 → 00:25:19 เกิดคำถามที่พี่เล่นเองก็เจอบ่อยนะไม่รู้
00:25:19 → 00:25:23 2 ท่านเจอไว้หรือไว้แล้วนะจริงเช่นเออ
00:25:23 → 00:25:27 หมอนฟังคนมีปัญหาเยอะๆเอิ่มอ๋อไม่เป็นบ้า
00:25:27 → 00:25:33 เหรอนะๆหรือล้มเอ้าวิธีการไปดูแลตัวเอง
00:25:33 → 00:25:36 ยังไงอ่ะเออแบบไม่คิดไปตามเขาเหรออะไร
00:25:36 → 00:25:37 อย่างเงี้ย
00:25:37 → 00:25:42 อันนี้เนี่ยไม่รู้ 2 2 ท่านเจอแบบนี้ไหม
00:25:42 → 00:25:46 หรือมีคำถามที่แตกต่างหรือคะเรียงกันนี้
00:25:46 → 00:25:48 ไหม
00:25:48 → 00:25:52 อ่ะค่ะก็เจอบ่อยๆเหมือนกันนะคะก็คือว่า
00:25:52 → 00:25:56 อีกส่วนในเดี๋ยวเจอว่าเอ่อเนี่ยฟังคนไข้
00:25:56 → 00:25:59 เยอะๆเอาปัญหาคนอื่นมาคิดเยอะๆเนี่ยไม่
00:25:59 → 00:26:02 เครียดข้อมูลเลยกับน้องเนี้ยก็จะเจอจะบอก
00:26:02 → 00:26:04 อีกเนาะเอาว่าเออส่วนใหญ่ก็จะตอบว่าเออ
00:26:04 → 00:26:08 จริงๆเวลาเราเจอปัญหาเนี่ยคือจริงๆมันมี
00:26:08 → 00:26:11 กระบวนการระหว่างที่เราเทรนน้องระหว่าง
00:26:11 → 00:26:14 ที่เราฝึกค่ะว่าเราควรจะดูแลตัวเองยังไง
00:26:14 → 00:26:17 เลยเนี่ยเราก็จะมีอาจารย์มีอะไรให้เรา
00:26:17 → 00:26:20 ปรึกษาใช่ไหมคะแล้วก็คือบางทีต้องไม่ได้
00:26:20 → 00:26:24 ทุกเคสน้อยที่จะทำให้ให้เราให้เราแบบ
00:26:24 → 00:26:27 เครียดเนาะเพราะว่าคือเราก็ทำหน้าที่รับ
00:26:27 → 00:26:30 ฟังแล้วก็ช่วยเหลือเขาใช่ไหมคะแต่มันน่า
00:26:30 → 00:26:34 จะมีบ้างว่าเออเราถ้าเราเขตบางเขตอ่ะจะทำ
00:26:34 → 00:26:37 ให้เราแบบอินมากกว่าเขตอื่นนะเพราะว่าอาจ
00:26:37 → 00:26:40 จะเป็นบางเคที่เบอร์นี้มีใกล้คล้ายเรา
00:26:40 → 00:26:42 เนาะมีประเด็นเรื่องอะไรบางอย่างว่าเรา
00:26:42 → 00:26:45 อิ่มเราอาจจะคิดคล้ายๆกับเขาบ้างเวลาจะ
00:26:45 → 00:26:48 ช่วยแก้ปัญหาให้เขายากหรืออะไรทำนองอยาก
00:26:48 → 00:26:50 มาอาจจะมีบ้างอยู่ตรงเนี้ยกระบวนการการ
00:26:50 → 00:26:54 เทรนเนี่ยก็จะมีมีมีมีการที่เราต้องเค้า
00:26:54 → 00:26:57 เรื่องของเราเนี่ยเอามาปรึกษาอาจารย์ด้วย
00:26:57 → 00:27:00 แล้วก็ค่อยๆเราก็ต้องดูแลใจตัวเองเหมือน
00:27:00 → 00:27:02 กันเพราะว่าถ้าเราไม่ได้เคลียร์ปัญหาของ
00:27:02 → 00:27:06 ตัวเองเนี่ยมึงทีเราก็ผ่าพาคนไข้เอ่อเขา
00:27:06 → 00:27:09 ให้เขาดูแลตัวเองได้ยากถ้าเราไม่ได้ดูแล
00:27:09 → 00:27:11 ตัวเองก่อน
00:27:11 → 00:27:15 เลยค่ะเอาของของการแหละครับอะมีมั้ยเราก็
00:27:15 → 00:27:20 ติดตามเขาไหมฮ่าๆๆอ้าๆเป็นคำถามที่ก้อยก็
00:27:20 → 00:27:22 มีคนถามบ่อยเหมือนกันวันกี่คนที่มาเป็น
00:27:22 → 00:27:25 ชายก็ไปให้ครับก็ทำอย่างนี้ตรงๆเหมือนกัน
00:27:25 → 00:27:28 นะครับเอ่ออันดับแรกตัวเองคิดอย่างนี้ก็
00:27:28 → 00:27:31 เลยนะครับว่าแบบเวลาที่เธอเจออะไรนะแบบ
00:27:31 → 00:27:34 ได้คนมาเป็นขานะว่าจะเป็นคนไข้หรือว่าคน
00:27:34 → 00:27:36 ที่ไม่ได้เป็นคนป่วยก็มันจะตายก็ตามอะไร
00:27:36 → 00:27:39 ไงแล้วแบบแล้วเราจะเป็นบ้าไปด้วยไหมขึ้น
00:27:39 → 00:27:41 ไม่ค่อยมีคนหาอย่างนี้จริงนะครับฮ่าๆๆ
00:27:41 → 00:27:44 อันดับแรกเลยที่ผมจะตอบเลยผมมันก็ตอบว่า
00:27:44 → 00:27:47 ที่ผมเรียนเป็นจิตแพทย์เนี่ยผมไม่ได้มา
00:27:47 → 00:27:50 บอกว่าใครบ้าใครได้ถ้ายังไม่เคยใช้คำนี้
00:27:50 → 00:27:53 เลยว่าแบบว่าแต่ว่าคุณเป็นคนบ้านั้นหรือ
00:27:53 → 00:27:55 ว่าคุณเป็นแม่คุณไม่ได้เป็นคนบ้านอ่ะเออ
00:27:55 → 00:27:58 ไม่มีไม่มีกิ่งจะเรียกว่าโรคบ้าอยู่ใน
00:27:58 → 00:28:01 อยู่ในตำราจิตเวชนะครับอันนี้เป็นคำให้
00:28:01 → 00:28:04 ทุกคนไปหรือบันทึกบัญชีเราพูดกันจนแตก
00:28:04 → 00:28:07 ต่างๆจนมันทีมันเป็นแบบมันเป็นแบบนี้เรา
00:28:07 → 00:28:10 ไปไปตีตาแล้วอะไรเงี้ยซึ่งก็ไม่อยากให้
00:28:10 → 00:28:13 เกิดอย่างนี้ขึ้นเท่าไหร่ยังไงนะครับอ่า
00:28:13 → 00:28:16 แต่ในขณะเดียวกันก็คืออ่ะถามว่าจริงๆก็
00:28:16 → 00:28:18 เข้าใจแหละว่าที่เขาถามกันเนี่ยคือให้
00:28:18 → 00:28:20 กว้างขึ้นและโรคเครียดไหมเราทำยังไงใช่
00:28:20 → 00:28:26 ไหมไอ้มึงอ่ะผมมองว่าเอาจริงๆแล้วอะพี่
00:28:26 → 00:28:29 ถึงรู้สึกว่าถ้าเป็นที่อื่นแล้วจะต้อง
00:28:29 → 00:28:32 ค่อยๆกับว่าบัญชีเธอนะผมเชื่อว่าทุกอาชีพ
00:28:32 → 00:28:35 เติมหมดนะครับคนที่แบบว่าไทยๆกับนาแล้ว
00:28:35 → 00:28:37 เขามีปัญหาความเครียดอะไรหรือว่าณตอนนั้น
00:28:37 → 00:28:40 เนี่ยเขาเจอปัญหาอะไรบางอย่างยกตัวอย่าง
00:28:40 → 00:28:43 เช่นอะไรอ่ะอาจจะเป็นอาชีพบริการอะไรใน
00:28:43 → 00:28:46 โรงแรมแท้กับว่าเป็นบริกรหรือไงก็ได้นะ
00:28:46 → 00:28:50 ครับรอดคนข้างๆตอนครับคะแล้วก็เจอคนที่
00:28:50 → 00:28:52 บอกว่าคนครบเรียกมาแล้วเขาก็มาหงุดหงิด
00:28:52 → 00:28:56 ใส่อะไรเงี้ยเอาจริงแล้วคนเหล่านั้นเนี่ย
00:28:56 → 00:28:59 คือคนที่เป็นพนักงานเนี่ยเขาไม่ได้ฝึกมา
00:28:59 → 00:29:01 นะครับในการที่จะรับมือกับพวกนี้แล้วเขา
00:29:01 → 00:29:05 ก็ยังต้องค่อยๆกับว่าอะไรนะอาจจะต้องอาจ
00:29:05 → 00:29:07 จะต้องแบบเหมือนกับให้บริการในด้านอื่นๆ
00:29:07 → 00:29:10 เช่นก็ต้องดูแลเรื่องความสะอาดเรียบร้อย
00:29:10 → 00:29:13 ความสะอาดความอะไรเนี่ยนะแต่ว่าเขาว่ามี
00:29:13 → 00:29:16 งานที่เรียกว่าไปอีกอะไรกันนะครับแล้วเขา
00:29:16 → 00:29:18 อาจจะไม่ได้เตรียมตัวมาเธอพบเจอแบบใคร
00:29:18 → 00:29:21 ครับจะมีใจคอหรืออะไรเงี้ยเท่าไหร่นะครับ
00:29:21 → 00:29:24 ซึ่งเป็นข้าจะยิ่งทำให้ยากทำให้เครียดๆ
00:29:24 → 00:29:27 แต่ว่าพวกเราเนี่ยจริงแล้วเราก็อย่างที่
00:29:27 → 00:29:30 เมื่อกี้อาหมอบอกนะครับก็คือเราก็มีการ
00:29:30 → 00:29:33 เรียนมาเพื่อที่ว่าจะได้ให้ใครกับเธอจ๋า
00:29:33 → 00:29:37 โอเคไปสีด้วยเพราะแล้วก็กินหนัง x เกย์
00:29:37 → 00:29:42 กับใครกับก็บอกว่าเดียวกันเราก็
00:29:42 → 00:29:46 เรียนรู้ที่ตามว่าดูแลตัวเองขึ้นนี้สำคัญ
00:29:46 → 00:29:48 มากแล้วเป็นเน็ตนึงเหมือนกันนะครับพี่ที่
00:29:48 → 00:29:52 ผมที่ 9 ไทยในกล้ามาเป็นจิตแพทย์ขว้าส่วน
00:29:52 → 00:29:54 นึงแล้วไม่มีทักษะในการดูแลตัวเองเนี่ย
00:29:54 → 00:29:57 เสริมเข้ามานะครับดูแลตัวเองผมก็ขึ้นมา
00:29:57 → 00:30:00 เห็นคุณอาเรื่องของใจของตัวเราอะไรกันนะ
00:30:00 → 00:30:03 ครับมันก็มันก็อันหนึ่งที่น่าสนใจและก็
00:30:03 → 00:30:09 ใช้กับตัวเองได้เออดูค่ะก็สิ่งที่คุณหมอ
00:30:09 → 00:30:13 ทั้งสองคนสื่อสารเนาะซึ่งจริงๆเนี่ยก็คือ
00:30:13 → 00:30:15 บอกว่าหนึ่งก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกันนะคะ
00:30:15 → 00:30:17 ก็คือเห็นด้วยเหมือนกันน็อคจริงเราถูกฝึก
00:30:17 → 00:30:23 มาค่ะเธอถามว่าเอ่อในบริบทที่เราต้องรอง
00:30:23 → 00:30:26 รับอารมณ์แล้วต้องฟังหรือว่าเราต้องเจอ
00:30:26 → 00:30:29 ความคิดเห็นนะคะเสียงมือทีอาจจะไม่ใช่
00:30:29 → 00:30:31 ความคืบหน้าหรือว่าความคิดของเราอะไร
00:30:31 → 00:30:35 เงี้ยเออแต่ว่าเราถูกฝึกให้มีสิ่งที่
00:30:35 → 00:30:39 เรียกว่า empathy เนาะคือเห็นค่ะคือเห็น
00:30:39 → 00:30:43 เห็นอกเห็นใจเนาะแต่ว่าเราไม่ได้ถูกฝึก
00:30:43 → 00:30:47 ให้ไปเป็นคือเป็นอารมณ์นั้นอ่ะเป็นสิ่ง
00:30:47 → 00:30:52 นั้นที่ที่ที่ถูกถูกรับมาหรือเอ่อได้ยิน
00:30:52 → 00:30:55 นะคะอันนี้ก็คือเป็นหัวใจสำคัญว่าทำไม
00:30:55 → 00:31:00 เรียนกิตติภาสถึงเรียนนานจังนะเฮ้อเรียน 3
00:31:00 → 00:31:03 ปีแล้วก็เราก็มีครูบาอาจารย์ก็ต้องบอกว่า
00:31:03 → 00:31:06 อาจารย์ก็จะช่วยคือสิ่งเหล่านี้น้องมัน
00:31:06 → 00:31:10 ไม่ได้เป็นกันตั้งแต่แรกนะคะเพื่อเนี่ยก็
00:31:10 → 00:31:14 เกิดเอ่อตอนนี้บางคนอยากจะอยากจะฟังปัญหา
00:31:14 → 00:31:17 ของคนรอบข้างให้เป็นแต่
00:31:17 → 00:31:21 ฟังแล้วเนี่ยอดของขึ้นไม่ได้นะกูก็อยากไป
00:31:21 → 00:31:24 โทษตัวเองยังยังไม่เคยแปลกใจนะแล้วก็เป็น
00:31:24 → 00:31:27 ธรรมดาของทุกคนที่เป็นนะคะอย่างพวกมองเอง
00:31:27 → 00:31:32 เนี่ยก็จะมีอ่อครูอาจารย์ที่คอยที่จะ
00:31:32 → 00:31:35 สะท้อนน้องคอยเป็นพี่เลี้ยงให้บอกว่าใน
00:31:35 → 00:31:38 ช่วง 3 ปีเนี่ยคอยเป็นพี่เลี้ยงให้ว่าเรา
00:31:38 → 00:31:42 ฟังยังไงให้เห็นใจแต่ไม่เข้าไปเป็นปัญหา
00:31:42 → 00:31:48 ของคนไข้นะคะแล้วก็โดนชอบมากเลยการนะคือ
00:31:48 → 00:31:52 ถ้าเราไม่มีบัญญัติคำว่า Bar เออเราไม่
00:31:52 → 00:31:56 เคยมีบัญญัติเขาว่าบ้านะอยู่ในหาระบบของ
00:31:56 → 00:32:01 จิตเวชศาสตร์อันนี้จริงมากๆเอ้
00:32:01 → 00:32:06 ไปไหนแล้วคนอื่นจะมาบัญญัติให้เรา
00:32:06 → 00:32:11 หามาเนี่ยคนใดเนาะเอ่อนั้นอันนี้ก็ก็เป็น
00:32:11 → 00:32:15 สิ่งที่ไม่เป็นไรนะคิดว่าเดี๋ยวสักพักนึง
00:32:15 → 00:32:19 ทุกคนจะเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้นนะคะอันนี้
00:32:19 → 00:32:24 มาถึงตรงนี้เราว่าโอเคเราก็เอ่อเราก็ถูก
00:32:24 → 00:32:29 ฝึกมาให้ไม่เอาเรียกว่าความคิดนะที่เป็น
00:32:29 → 00:32:31 ลบหรืออารมณ์ของคนอื่นอย่ามาเข้าตัวเอง
00:32:31 → 00:32:35 อ่ะอาจจะเผลอมีความคิดเชื่อมโยงเวลาที่
00:32:35 → 00:32:37 มันถูกกับชีวิตเราบ้างเป็นบางครั้งแต่
00:32:37 → 00:32:40 แล้วก็จัดการดูแลได้ดีถึงการจัดการดูแล
00:32:40 → 00:32:44 นี่แหละมันดูแลยังไงอ่ะอ่าดูแลยังไงอย่าง
00:32:44 → 00:32:48 หมอโบ้เองเนี่ยก็น้องเป็นอาจารย์หมอก็
00:32:48 → 00:32:52 จริงแต่ว่าอาจารย์อาจารย์หมอเนี่ยไม่ใช่
00:32:52 → 00:32:55 ว่าไม่ตรวจใช่ไหมก็ยังต้องตรวจคนไข้ที่
00:32:55 → 00:32:57 สำคัญต้องตรวจให้เป็นแบบอย่างกันนักศึกษา
00:32:57 → 00:33:03 อีกต่างหากอ้าเอองั้นออกขึ้นมาโมเนี่ยมี
00:33:03 → 00:33:06 วิธีการดูแลใจตัวเองยังไงบ้าง
00:33:06 → 00:33:11 ก็ก็คือคิดว่าแต่ละคนก็คงมีวิธีที่มันแบบ
00:33:11 → 00:33:13 ถูกจริตของตัวเองนะเนาะ
00:33:14 → 00:33:18 คือแล้วก็มันก็อาจจะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา
00:33:18 → 00:33:21 น้อยอย่างตัวเองเนี่ยมันก็มีเป็นช่วงๆนะ
00:33:21 → 00:33:24 ว่าพี่ช่วงนี้เราใช้วิธีนี้หรือว่าเอ่อ
00:33:24 → 00:33:27 สักพักนึงหล่อจะเปลี่ยนเลยเนี่ยคือตัวเอง
00:33:27 → 00:33:30 เป็นคนที่แบตค่อนข้างที่เบื่อก็จะเหมือน
00:33:30 → 00:33:33 กับถ้าเป็นยุคอันนี้มีหลายเฟสมากเลยคือ
00:33:33 → 00:33:37 ถ้าเป็นเฟสตอนเด็กๆน้องก็จะชอบอ่าน
00:33:37 → 00:33:41 หนังสือพวกดัดอะไรที่มันเป็นการพัฒนาตัว
00:33:41 → 00:33:43 เองเลยนี้อยู่แล้วอ่ะแล้วก็สมุดถ้าเกิด
00:33:43 → 00:33:46 เราอกหักอย่างเงี้ยเออเราก็เออแล้วก็เป็น
00:33:46 → 00:33:49 คนธรรมดาใช่ไหมเราก็เราก็อกข้างนอกแม่เกศ
00:33:49 → 00:33:52 น้องทีนี้เวลาถ้ามีปัญหาปุ๊บเราก็อ่าน
00:33:52 → 00:33:55 หนังสือก็ไปเอาหนังสือที่เกี่ยวกับเนี่ย
00:33:55 → 00:33:58 ประเด็นเหล่าเนี้ยมาอ่านพอมาอ่านเราก็ได้
00:33:58 → 00:34:00 ข้อคิดเนาะเออข้อคิดดีๆแล้วก็เอากลับมา
00:34:00 → 00:34:03 เอากลับมาใช้กับตัวเองก็ยุคนั้นก็จะมี
00:34:03 → 00:34:06 เรื่องอันการอ่านหนังสือหลากหลายมากเนาะ
00:34:06 → 00:34:09 แล้วก็ก็มีช่วงนึงช่วงที่ตีที่เทรน
00:34:09 → 00:34:12 จิตแพทย์เนี่ยเป็นท่าประจำบ้านเนี่ยก็ก็
00:34:12 → 00:34:15 เป็นบังเอิญอ่ะไปเจอหนังสือที่เกี่ยวกับ
00:34:15 → 00:34:19 พุทธศาสนาอ่าอันนี้พระพุทธศาสนาแล้วก็ดู
00:34:19 → 00:34:22 โอทุกคนก็ได้แบบไม่อยากไม่ไม่ค่อยอินเลย
00:34:22 → 00:34:24 ใช่ไหมแต่ว่าตอนนั้นแล้วก็ไปเจอหนังสือ
00:34:24 → 00:34:28 หนึ่งที่มันแบบเออมันดีแฮะอะไรเนี่ยเราพอ
00:34:28 → 00:34:31 เราอ่านปุ๊บเราก็เริ่มสนใจเรื่องนี้ขึ้น
00:34:31 → 00:34:34 มาแล้วก็ก็มีบ้างไปปฏิบัติคำไปอะไรอย่าง
00:34:34 → 00:34:36 เงี้ยคือเหมือนเรารู้สึกว่ามันก็เป็นการ
00:34:36 → 00:34:38 ฝึกตัวเองเลยอย่างน้อยกว่าฝึกความอดทน
00:34:38 → 00:34:41 หรืออะไรเงี้ยมันก็ได้เรียนรู้ว่าอะไรมาก
00:34:41 → 00:34:44 เหมือนกันนะคะแล้วก็พอถ้าจะอ้างปฏิบัติ
00:34:44 → 00:34:47 เออศึกษาเกี่ยวกับพุทธศาสนาเอามาใช้มีอีก
00:34:47 → 00:34:50 มียุคที่แบบผู้ใหญ่อายุมากอายุอายุแก่มาก
00:34:50 → 00:34:52 เลยเนี้ย
00:34:52 → 00:34:56 ตอบคุณหมอบ่ครับผู้หญิงหยาบคายนะคะคุณหมอ
00:34:56 → 00:35:00 คะอ่ามอเที่ยวใครนะคะของอายุมากเลยค่ะ
00:35:00 → 00:35:02 เพราะว่าพี่เอินอยู่อายุมากกว่าว่าเดี๋ยว
00:35:02 → 00:35:04 นี้อยู่มากกว่านะคะเพราะว่าเป็นเจ้ของเธอ
00:35:04 → 00:35:06 สองคนนะ
00:35:06 → 00:35:10 มีหลากหลายประสบการณ์แล้วอยากแชร์น้องก็
00:35:10 → 00:35:13 มีอ่ะคุยศาสนาเสร็จแล้วก็มีช่วงที่เออเรา
00:35:13 → 00:35:16 เริ่มเราเริ่มเรียนรู้จักสัก community
00:35:16 → 00:35:20 มากขึ้นคล้ายๆยังไงอ่ะคือคนที่มีความสนใจ
00:35:20 → 00:35:23 คล้ายกับอะไรอย่างเงี้ยเช่นบั๋นพอเราไปทำ
00:35:23 → 00:35:26 workshop แล้วก็จะเจอกลุ่มที่สนใจแบบ
00:35:26 → 00:35:28 เดียวกันเช่นเรามาฝึกทำได้อะหรอกอย่าง
00:35:28 → 00:35:31 เงี้ยมาพูดคุยรับฟังกันอะไรเงี้ยก็จะมี
00:35:31 → 00:35:33 กลุ่มคนซึ่งไม่ใช่ติดกับแพทย์แล้วก็เป็น
00:35:33 → 00:35:37 กลุ่มคนที่แบบเหมือนทั่วไปทำงานแล้วเนี่ย
00:35:37 → 00:35:39 เราก็มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นฝึกในการพูด
00:35:39 → 00:35:42 คุยรับฟังกันก็มีแล้วก็สุดท้ายช่วงนี้คือ
00:35:42 → 00:35:46 ช่วงที่รู้สึกว่าธรรมชาติเป็นอันที่ช่วย
00:35:46 → 00:35:48 เราเยอะมากที่สุดก็คือว่า
00:35:48 → 00:35:51 จากการที่เราแบบจริงๆที่เราได้ช้าลงที่
00:35:51 → 00:35:55 เราได้แบตเอ่ออยู่กับธรรมชาติปลูกต้นไม้
00:35:55 → 00:35:58 หรือการที่เราได้ไปสัมผัสเอาเท้าสัมผัส
00:35:58 → 00:36:02 ดินน้ำอะไรอย่างนี้คือรู้สึกว่ามันเออมัน
00:36:02 → 00:36:05 เป็นอะไรที่มันเราขาดมากนะเนี้ยค่ะก็
00:36:05 → 00:36:08 ประมาณนี้วิธีของเราคือลองไปเรื่อยๆวิธี
00:36:08 → 00:36:10 ไหนดีเราก็ทำเลยเงี้ย
00:36:11 → 00:36:13 อือ
00:36:13 → 00:36:17 ก็อาจจากที่คุณหมอโบว์เรามาก็เป็นคนขี้
00:36:17 → 00:36:22 เบื่อจริงๆด้วยนะคะข้างเออเนาะตามช่วงวัย
00:36:22 → 00:36:26 ตามช่วงวัยจะมีหลากหลายวิธีหนาตั้งแต่การ
00:36:26 → 00:36:31 หาหนังสือที่สอดคล้องกับปัญหาของตัวเอง
00:36:31 → 00:36:35 ยังแม่ค้าก็ได้แง่คิดได้ข้อคิดเนอะการที่
00:36:35 → 00:36:40 มีเวลาเนี่ยไปปฏิบัติหน้าทำการปลีกวิเวก
00:36:40 → 00:36:43 กับของตัวเองก็มีเหมือนกันหรือการที่ได้
00:36:43 → 00:36:48 อยู่กับธรรมชาติอย่างตอนนี้น่าจะน่าจะล่า
00:36:48 → 00:36:51 สุดก็คือการได้ได้อยู่กับธรรมชาติใช่ไหม
00:36:51 → 00:36:55 คะอ่ะลองการแล้วครับผม
00:36:55 → 00:36:58 อย่าเอาอดีตเนี้ยอ๋อถ้าแบบไม่โดน
00:36:58 → 00:37:02 เซ็นเซอร์นี่สงสัยไทยโชว์ซีแพคมากๆเลย
00:37:02 → 00:37:07 เซ็นทรัลนะครับถ้าหลายๆไปโดน 7 เธอใช่ไหม
00:37:07 → 00:37:11 แม่กับเอ่อซิกแพคสบายฉันได้
00:37:11 → 00:37:15 เข้าใจคำถามคือว่า
00:37:15 → 00:37:19 วิธีการดูแลตัวเองใช่มั้ยได้ใช่ๆโอเคครับ
00:37:19 → 00:37:23 เอ่อคืออาจจะเริ่มต้นอย่างนี้ครับว่าคือ
00:37:23 → 00:37:26 ผมเองไงคิดว่าอันดับแรกเลยเนี่ยความ
00:37:26 → 00:37:29 เครียดเนี่ยมันเป็นธรรมดานะครับความ
00:37:29 → 00:37:33 เครียดมันเป็นธรรมดามันไม่ได้ที่เราพอเรา
00:37:33 → 00:37:35 พูดถึงคำเทียบเนี่ยส่วนใหญ่แล้วเราจะรู้
00:37:35 → 00:37:39 สึกว่ามันเป็นที่หนักไม่ดีกับเราจริงๆ
00:37:39 → 00:37:42 แล้วพันเครียดน่ะอ่านมันมีเพราะว่าจริง
00:37:42 → 00:37:44 เราต้องอยู่รอดนะครับถ้าเราไม่เครียดแล้ว
00:37:44 → 00:37:48 ก็ไม่อยู่รอดเราดาษหิวไปกับทุกอย่างเลย
00:37:48 → 00:37:50 ไหมกับสิ่งที่เป็นอันตรายก็ตามอย่างนี้นะ
00:37:50 → 00:37:53 ครับแล้วก็ถ้าเป็นในเชิงของโดยทั่วไป
00:37:53 → 00:37:56 เนี่ยจริงๆแล้วทำเครียดเนี่ยทำให้เราจะทำ
00:37:56 → 00:37:59 อะไรหลายๆอย่างได้ดีขึ้นด้วยนะนะครับถ้า
00:37:59 → 00:38:02 ลองคิดถึงดีๆในตอนที่เราเองก็ต้องเป็นนัก
00:38:02 → 00:38:05 เรียนแล้วต่อแล้วเราต้องแบบไปตอบไม่ว่าจะ
00:38:05 → 00:38:07 สอบปฏิบัติต่อทฤษฎีก็ตามถ้าเราเครียด
00:38:07 → 00:38:10 เนี่ยจริงๆทำแค่นิดนึงทำให้เราทำได้ดี
00:38:10 → 00:38:14 ขึ้นนะครับว่าหาถ้าเป็นไม่รู้สินักร้อง
00:38:14 → 00:38:17 นักแสดงอะไรก็ได้นะครับคือจริงความเครียด
00:38:17 → 00:38:19 ที่มันพอหมอเนี่ยผมเชื่อว่ามันทำให้เธอ
00:38:19 → 00:38:22 เปอร์แมนของเราอ่ะดีที่สุดณตอนนั้นถ้าแบต
00:38:22 → 00:38:25 มันจะเป็นว่าเราไม่เครียดเลยบางทีมันก็
00:38:25 → 00:38:28 กลับถึงว่าแบบมันก็เรื่อยๆเฉยๆไปอะไรงั้น
00:38:28 → 00:38:32 ก็มีแค่นั้นแล้วมันคนเลยเธอไม่จริงๆก็เรา
00:38:32 → 00:38:33 เห็นขั้นเทพเป็นธรรมดาของชีวิตนะที่มัน
00:38:34 → 00:38:36 เกินไงนะครับอันนี้เป็นอย่างหนึ่งเพราะ
00:38:36 → 00:38:39 ว่าออกมาแล้วจริงๆแล้วเข้าใจว่าเวลาที่พอ
00:38:39 → 00:38:41 เราพูดถึงเครียดเนี่ยมันคงเป็นลักษณะของ
00:38:41 → 00:38:42 คำเคลื่อนที่มันมากเกินไปแล้วไม่ทำให้
00:38:43 → 00:38:45 เกิดความทุกข์ทรมานใจปัญญาแห่งนี้นะครับ
00:38:45 → 00:38:47 เอ่อถ้าเป็นตัวเองตัวเองจะมองอยู่นะครับ
00:38:47 → 00:38:51 อันดับแรกเลยคือจริงๆใช่ไหมครับว่าตัวเรา
00:38:51 → 00:38:54 เนี่ยเราไม่ได้ทำอะไรเลยนะตัวเรามีวิธี
00:38:54 → 00:38:56 จัดการกับความว่าตัวเองอยู่แล้วนะครับ
00:38:56 → 00:38:59 เป็นอันเป็นฉันเกิดขึ้นด้วยอัตโนมัติโดย
00:38:59 → 00:39:02 ที่เราไม่ต้องทำอะไรเลยนะครับยกตัวอย่าง
00:39:02 → 00:39:07 ง่ายๆเราก็แบบไม่อะไรนะบางทีเราก็ไม่ได้
00:39:07 → 00:39:09 สนใจเรื่องนั้นไปเลยอะไรกันนะครับก็มีใช่
00:39:09 → 00:39:11 ไหมครับหรือว่าเธอไปหาไรกินดีกว่าโดยที่
00:39:11 → 00:39:13 เราเป็นกิโลไม่ได้คิดด้วยฉันมาเลยนะครับ
00:39:13 → 00:39:16 มันก็เป็นเหมือนสโนว์หมายของมันนะครับแต่
00:39:16 → 00:39:19 ว่าหลายๆทีความเป็นอัตโนมัติเนี่ยมันก็ทำ
00:39:19 → 00:39:21 ให้เกิดผลเสียในระยะยาวได้เหมือนกันเช่น
00:39:21 → 00:39:23 ก็กลายเป็นว่าเราก็ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร
00:39:23 → 00:39:26 หรือว่าอะไรนะถ้าเราไปช้อปปิ้งด้วยความ
00:39:26 → 00:39:30 ถึงแล้วโทรมากดเงินหมดไม่ใช่ไหมครับเพราะ
00:39:30 → 00:39:33 ฉะนั้นในระดับต่อมาเนี่ยจริงๆตัวเองคิด
00:39:33 → 00:39:35 ว่าความที่มันจะมาช่วยดูแลตัวเองได้มาก
00:39:35 → 00:39:38 ขึ้นอาจจะค่อยๆของหมอโบว์ครับคือพันธุ์
00:39:38 → 00:39:42 ที่เรามีสตินะครับแล้วก็รู้ว่าเออนะตอน
00:39:42 → 00:39:44 นี้เรากำลังเป็นยังไงเรากำลังรู้สึกยังไง
00:39:44 → 00:39:49 แล้วก็เออค่อยๆกลับมาหนึ่งอาจจะให้ๆกับ
00:39:49 → 00:39:52 เมตตาตัวเองนะครับที่ว่าเออเราก็เป็น
00:39:52 → 00:39:55 มนุษย์นะเรารู้สึกอย่างนี้ได้เราเรามี
00:39:55 → 00:39:58 อะไรพาดทางได้นะเราก็เครียดได้นะอะไรกัน
00:39:58 → 00:40:01 นะครับก็จะความเมตตาตัวเองเหมือนกับที่
00:40:01 → 00:40:03 เวลาที่เราแม้แต่กับคนอื่นที่เขากำลัง
00:40:03 → 00:40:05 เป็นทุกข์เนี่ยจริงๆเนี่ยค่อนข้างค่อย
00:40:05 → 00:40:07 เป็นตัวช่วยหนึ่งเวลาที่เราเก็บเยอะๆนะ
00:40:07 → 00:40:10 ครับแล้วก็ตอบมาหาก็ค่อยมาดูว่าเออเอ้ย
00:40:10 → 00:40:13 เราอ่ะต้องการอะไรนะตอนนั้นแล้วเราก็ค่อย
00:40:13 → 00:40:15 ๆที่ต่อเติมความต้องการของตัวเราเนี่ย
00:40:15 → 00:40:18 ด้วยตัวเองมากขึ้นยกตัวอย่างเช่นเอ่อถ้า
00:40:18 → 00:40:20 ตอนนั้นเราต้องการการพักไปนิดนึงนะก็พัก
00:40:20 → 00:40:23 ผ่อนอะไรเนี่ยนะครับหรือว่าเออถ้าตอนนั้น
00:40:23 → 00:40:26 เรามองลึกลงไปเราเห็นว่าจริงๆตอนนี้ที่
00:40:26 → 00:40:28 เราคงเที่ยงเพราะว่าเราต้องการความปลอด
00:40:28 → 00:40:31 ภัยนะเราต้องการความมั่นคงในชีวิตนั้นเลย
00:40:31 → 00:40:33 เล็กๆนะตอนนี้เราทำอะไรได้บ้างเนี้ยไอ้
00:40:33 → 00:40:35 พวกนี้มันก็จะเป็นตัวที่อาจจะช่วยในระยะ
00:40:35 → 00:40:36 ยาว
00:40:36 → 00:40:38 ก็คือ
00:40:38 → 00:40:40 ครับ
00:40:40 → 00:40:44 ไงเอออันนี้ก็
00:40:44 → 00:40:47 ดีมากเลยก็คือว่าอย่างเขาหมอการก็อาจจะ
00:40:47 → 00:40:50 เริ่มต้นที่หมายเสร็จเลยนะ
00:40:50 → 00:40:55 คือเวลาที่เราเราเราเครียดเนี่ยถือว่าเรา
00:40:55 → 00:40:58 มีปัญหาเนี่ยก็คือมันจะเป็นช่วงที่เราใช้
00:40:58 → 00:41:00 คำว่าเราจะต้องมาดูแลจิตใจตัวเองนั่นแหละ
00:41:00 → 00:41:04 เออๆหนาวแล้วก็มองเรื่องของความเครียด
00:41:04 → 00:41:07 เป็นเรื่องของของสัญญาณเอ้อหลายๆคนเนี่ย
00:41:07 → 00:41:11 เขาเรียกว่ามีมีกล่องความเชื่อบางอย่าง
00:41:11 → 00:41:13 หรือว่ามีทัศนคติบางอย่างเกี่ยวกับความ
00:41:13 → 00:41:16 เครียดนะเนี่ยเอาเวลาที่เราเจอปัญหาแล้ว
00:41:16 → 00:41:19 เจอเรารู้สึกเครียดเนี่ยเราจะรู้สึกไม่
00:41:19 → 00:41:23 โอเคและวิธีความเครียดเนี่ยมันโอเคนะแต่
00:41:23 → 00:41:27 ไม่อยากเครียดเนี่ยเครียดหนักเลยนะค่ะเออ
00:41:27 → 00:41:31 นั้นเรื่องของการยอมรับนะฟังดูเหมือนกับ
00:41:31 → 00:41:34 การเองก็ใช้เรื่องของการการยอมรับน้ำมัน
00:41:34 → 00:41:38 ก่อนเนาะแล้วก็มีและมีทัศนคติ mind Set
00:41:38 → 00:41:43 เอ่อที่ดีในต่อคำเครียดแล้วก็ฟังสัญญาณ
00:41:43 → 00:41:47 หรือจะสังเกตดูน่าจะเป็นเหมือนกันฟัง
00:41:47 → 00:41:49 สัญญาณว่าจริงๆแล้วตอนเนี้ยเราต้องการ
00:41:49 → 00:41:54 อะไรแล้วแล้วทำได้ไหมก็ทำมันนะคะคือนี้
00:41:54 → 00:41:58 จริงๆก็คล้ายๆกันนะพี่แอนก็ก็คล้ายกัน
00:41:58 → 00:42:03 เหมือนกันขายกันเหมือนกันก็คือคือ
00:42:03 → 00:42:07 ต้องบอกว่าตัวเองเนี่ยก็ใช้วิธีการว่าทุก
00:42:07 → 00:42:10 วันนี้จะต้องหยอดกระปุกความสงบสุขให้ตัว
00:42:10 → 00:42:11 เองทุกวัน
00:42:11 → 00:42:17 เออการหยอดกระปุกความสงบสุขในก็คือว่าการ
00:42:17 → 00:42:22 ที่จะต้องมีเวลาที่จะฟังเสียงตัวเองฟัง
00:42:22 → 00:42:27 หรือถ้าเกิดว่าอาจจะพูดให้เหมือนเข้าวัด
00:42:27 → 00:42:30 หน่อยก็ค่อยๆปฏิบัติธรรมได้ไม่ได้เข้าวัด
00:42:30 → 00:42:34 เอ่อก็คือโอเคอยู่กับลมหายใจตัวเองซึ่ง
00:42:34 → 00:42:37 ซึ่งเป็นกิจเลยว่าจะต้องทำทุกวันว่า
00:42:37 → 00:42:40 ฮัลโหลว่าเราต้องแชร์พลังงานชีวิตให้ผู้
00:42:40 → 00:42:44 คนอ่านแน่นอนเราอาจจะถูกฝึกมาให้เห็นใจคน
00:42:44 → 00:42:47 อื่นแล้วก็ไม่ให้ไปเป็นตามอารมณ์หรือความ
00:42:47 → 00:42:51 คิดของคนที่มาปรึกษาแต่ว่าว่าสิ่งที่เรา
00:42:51 → 00:42:54 อาจจะเผลอโดยไม่รู้ตัวเลยก็คือการที่เรา
00:42:54 → 00:42:58 บางทีเราให้พลังงานชีวิตกับเขาด้วยเพื่อ
00:42:58 → 00:43:01 เขาออกไปมีพลังงานชีวิตที่ดีเงี้ยมันจะ
00:43:01 → 00:43:04 เป็นคนที่ค่อนข้างหยอดกระปุกความสงบสุข
00:43:04 → 00:43:07 ให้ตัวเองอย่างนี้ทุกวันด้วยการที่อยู่
00:43:07 → 00:43:08 กับลมหายใจ
00:43:08 → 00:43:13 นะแล้วก็นั่งมองนั่งมองว่าเออฉันรู้สึก
00:43:13 → 00:43:18 ยังไงฉันคิดอะไรโดยที่โดยที่คิดอะไรก็ได้
00:43:18 → 00:43:21 ปล่อยให้ตัวเองคิดอะไรก็ได้ไม่ตัดสินว่า
00:43:21 → 00:43:24 มันถูกมันผิดแม่ตาตัวเองให้เป็นคนธรรมดา
00:43:24 → 00:43:28 คนหนึ่งก็มีเนี้ยเอ่อเราจะเป็นเหมือนคน
00:43:28 → 00:43:31 ที่เชื่อว่าเฮ้ยจิตแพทย์เครียดได้ด้วย
00:43:31 → 00:43:34 เหรอเคยได้ละ
00:43:34 → 00:43:38 เออเนี่ยชอบโดนเฮ้ยเฮ้ยเป็นแพทย์คิดได้
00:43:38 → 00:43:40 ด้วยเหรออ้าว
00:43:40 → 00:43:45 จิตแพทย์ก็คนนะครับผม
00:43:45 → 00:43:48 หนาไม่ได้เราก็เป็นคนหนูเป็นคนธรรมดาแต่
00:43:48 → 00:43:52 ว่าเราอาจจะต้องเป็นคนธรรมดาคนนึงที่ก็
00:43:52 → 00:43:56 เอ่อดูแลอารมณ์แล้วก็จิตใจของตัวเองได้
00:43:56 → 00:43:59 แว่นเทคนิคของพี่อ้นก็ง่ายๆเลยก็จะที่ฝึก
00:43:59 → 00:44:02 ที่จะต้องมีช่วงเวลาซื่อสัตย์
00:44:02 → 00:44:05 อยากด่าใครก็ให้เห็นนะเอ่อตอนนี้ดับนะเธอ
00:44:05 → 00:44:09 โกรธก็ให้ตัวเองรับรู้ถึงความโกรธนั้น
00:44:09 → 00:44:12 แล้วก็แต่แต่ว่าไม่ตัดสินว่ามันไม่ดีนะ
00:44:12 → 00:44:15 มันทีแค่เราไม่ตัดสินตัวเองก็คิดว่าเธอ
00:44:15 → 00:44:19 มันก็ทำให้เราสงบกับตัวเราเองแล้วอะไร
00:44:19 → 00:44:23 เงี้ยเราก็ไม่ต้องเอาความโกรธไปเอาคืนจาก
00:44:23 → 00:44:24 ใครแล้วเนี่ย
00:44:24 → 00:44:30 มันก็จะก็นิดนึงอ่ะค่ะเหอะอีพอดีที่ต่อไป
00:44:30 → 00:44:32 มันเป็นเรื่องวิธีการน้องว่าแบบมันมี
00:44:32 → 00:44:35 เทคนิคนนท์นั้นนี้เยอะมากเลยอ่ะแต่ว่า
00:44:35 → 00:44:39 หลายๆวิธีการแต่พอเราใช้จะบอกว่ามันมัน
00:44:39 → 00:44:42 ช่วยยังไงกลไกที่สิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็น
00:44:42 → 00:44:46 พุทธศาสนาหรือว่าอะไรอย่างเงี้ยกันการที่
00:44:46 → 00:44:50 สุดผิดเออคือการที่ว่ามีสติแล้วก็เรื่อง
00:44:50 → 00:44:53 ของการเมตตาตัวเองนะที่พี่อ้นไปแต่เมื่อ
00:44:53 → 00:44:57 กี้นิดนึงค่ะสำหรับตัวเองว่างสำคัญมากที่
00:44:57 → 00:45:01 สุดเลยเพราะว่าพี่ตือบางครั้งเราอาจจะไม่
00:45:01 → 00:45:06 ได้รู้ทันว่าไอ้ความความคาดหวังหรือความ
00:45:06 → 00:45:10 ดิบคั้นที่มันมาจากตัวเราอ่ะมะที่อยากให้
00:45:10 → 00:45:15 ใกล้ทำได้มาตามมาตรฐานการที่สังคมตั้งไว้
00:45:15 → 00:45:18 หรือบทบาทที่เราตั้งไว้ให้ตัวเองเลยเนี่ย
00:45:18 → 00:45:21 ถ้าเป็นเป็นหมอต้องเป็นแบบเนี้ยเป็นรุ่น
00:45:21 → 00:45:24 เป็นแบบนี้แบบนี้เอ่ออารยาเป็นสามีเป็น
00:45:24 → 00:45:28 แม่อย่างนี้คืออ๋อเป็นมันต้องเป็นทุก
00:45:28 → 00:45:32 อย่างแล้วเรามีตั้งกี่บทบาทในมือรอบตัว
00:45:32 → 00:45:35 เราเนาะแล้วมันก็เลยแล้วบางทีเราก็แค่
00:45:35 → 00:45:39 เป็นเราอ่ะคะโดยที่เราแบบฉันก็ไม่ได้เป็น
00:45:39 → 00:45:41 แม่ตลอดเวลาน้องฉันก็ไม่ได้เป็นรูปตลอด
00:45:41 → 00:45:46 เวลาคือเป็ดที่ว่าเราเป็นเราได้ไหมว่าเรา
00:45:46 → 00:45:49 จะไม่ได้น่ารักน่ะที่เราอยากให้
00:45:49 → 00:45:52 เออแล้วถ้าเรายอมรับเราเป็นเจ้าของความ
00:45:52 → 00:45:56 ที่ไม่น่ารักอ่ะของอื่นแล้วแล้วก็ยอมนะ
00:45:56 → 00:45:59 ยอมรับว่าเออเราก็มีพาร์ทนี้น้องเอ๋ยพา
00:45:59 → 00:46:02 ขี้อิจฉาน้อง pass แบบอะไรอย่างเงี้ยแต่
00:46:02 → 00:46:06 ว่าเราก็อยากเป็นคนที่ดีกว่านี้แต่ว่าตอน
00:46:06 → 00:46:08 นี้มันก็ไม่ได้แย่อะไรเลยเนี่ยคือรู้สึก
00:46:08 → 00:46:11 ว่าคืนโมเม้นแบบเนี้ยเมื่อกี้พอดีในชัดก็
00:46:11 → 00:46:15 มีคนถามเรื่องคิดบวกเนาะก็คือลืมว่าหมวก
00:46:15 → 00:46:16 มันไม่ใช่ว่า
00:46:16 → 00:46:21 ก็เหมือน Force หรือบังคับให้เรามองด้าน
00:46:21 → 00:46:26 บวกของศักย์ตื่นกันหรืออะไรแต่ว่ามันเป็น
00:46:26 → 00:46:29 มีความน้อมรับในประสบการณ์นะคะว่าเอ่อ
00:46:29 → 00:46:32 เรื่องเนี้ยที่มันเกิดขึ้นกับเราเนี่ยเรา
00:46:32 → 00:46:36 ยินดีรับมันเนาะเรายินดีเผชิญกับมันแม้
00:46:36 → 00:46:40 ว่ามันจะทำให้เรารู้สึกไม่สะดวกสบายหึตัด
00:46:40 → 00:46:44 เลยเออยอมรับว่าเราเราจะเผชิญและกันแล้ว
00:46:44 → 00:46:47 เราก็ไม่ได้แย่หรอกนะคะเหรียญเงี้ยคือรู้
00:46:47 → 00:46:50 สึกว่าไอ้โมเม้นท์พวกนี้ทำให้ทำให้เรามอง
00:46:50 → 00:46:52 ด้านบวกได้ง่ายขึ้นมากกว่าที่เราจะไปบอก
00:46:52 → 00:46:55 ว่าพี่ให้คิดบวก 4 คิดบวกสี่แล้วซึ่งมัน
00:46:55 → 00:46:57 ไม่ค่อยมันก็คิดไม่ได้แล้วเพราะเราบังคับ
00:46:58 → 00:47:03 ใช่ๆๆสาวนั้นอันนี้เราก็ต้องคืออันนี้ก็
00:47:03 → 00:47:05 ต้องเคลียร์ให้ทุกคนฟังอย่างนั้นจริง
00:47:05 → 00:47:07 จิตแพทย์เนี่ยเราไม่ได้พยายามให้ใครไปคิด
00:47:07 → 00:47:09 บวก
00:47:09 → 00:47:13 นะเออหรือว่าพญาว่าเออคุณต้องคิดบวกสี
00:47:13 → 00:47:16 ต้องหันนี่นะคือแต่เราอาจจะพยายามให้คน
00:47:16 → 00:47:20 ที่มารับคำปรึกษาจากเราเนี่ยะก็คือคิดตาม
00:47:20 → 00:47:23 ความเป็นจริงมากกว่าความเป็นจริงเนี่ยก็
00:47:23 → 00:47:26 คือว่าทุกอย่างมันก็มีบวกแล้วก็มีลบทำไม
00:47:26 → 00:47:30 เอ่อเอ่อนะคะว่านะเนี่ยทุกอย่างก็จะมีข้อ
00:47:30 → 00:47:35 ข้อดีข้อเสียของมันนะอันนี้ก็คะนี่เป็น
00:47:35 → 00:47:39 เป็นวิธีการที่อ่อนเทคนิคของแต่ละคนใช้
00:47:39 → 00:47:42 ได้อย่างหนึ่งที่ก่อนที่เดี๋ยวเราคงจะ
00:47:42 → 00:47:44 ต้องไปตอบคำถามเราเพราะว่าคำถามเรื่องมา
00:47:44 → 00:47:47 เยอะมากเนาะแล้วก็นี่คือจะใกล้จะหมดเวลา
00:47:47 → 00:47:50 แล้วก็อยากจะไม่ทันนะแต่ว่าโอเคเราจะตอบ
00:47:50 → 00:47:54 คำถามให้ทุกคนนะโอเคไหมโอเคไหมบอกการอ่ะ
00:47:54 → 00:47:59 เออได้ครับที่เสริมอีกอย่างนึงนะก็คือบาง
00:47:59 → 00:48:01 ทีอ่ะพอเวลาที่เราเจอทุกข์มากๆแล้วเจอ
00:48:01 → 00:48:04 ความเครียดมากๆไอ้กันหยอดกระปุกก็เอาไม่
00:48:04 → 00:48:06 อยู่
00:48:06 → 00:48:09 โอเล่เอ้นะไม่ใช่เวลารบโกรธและโมโหใครนะ
00:48:09 → 00:48:13 โอ๋พรุ่งนี้แหละเอนเนอร์จีมันแรงนะเรานะ
00:48:13 → 00:48:15 เนี่ยอย่างที่อ้นเองนะก็จะใช้วิธีการ
00:48:15 → 00:48:20 เชื่อมเชื่อมโยงกับร่างกายก็คือต้องออก
00:48:20 → 00:48:25 กำลังกายคือต้องเอาเอาพลังเนาะพลังของ
00:48:25 → 00:48:29 ความเครียดเนี่ยออกอ๋อวิ่งแต่ว่าการวิ่ง
00:48:29 → 00:48:32 เนี่ยเราไม่ใช่สักแต่ว่าวิ่งนะอย่างเยอะ
00:48:32 → 00:48:35 เนี่ยเวลาที่เราวิ่งเพื่อการดูแลตัวเอง
00:48:35 → 00:48:38 เดี๋ยวเราจะดูแลทางจิตใจแล้วก็ดูแลทั้ง
00:48:38 → 00:48:41 ร่างกายไปด้วยก็คือโอเคเราวิ่งเนี่ย 40
00:48:41 → 00:48:44 นาทีเนาะเราก็อยู่กับสิ่งที่ชอบที่สุดใน
00:48:44 → 00:48:47 ชีวิตนั่นก็คือเสียงเพลงเราก็แล้วก็รับ
00:48:47 → 00:48:51 รู้ถึงลมหายใจแล้วก็เท้าที่สัมผัสกับพื้น
00:48:51 → 00:48:56 เวลาที่เราวิ่งแต่เมื่อไหร่ที่คิดอะไรที่
00:48:56 → 00:49:00 มันผุดขึ้นมามันไม่ดีมันโกรธมาไรอย่าง
00:49:00 → 00:49:03 เนี้ยก็คือรู้ตัวให้เร็วแล้วก็ใช้การวิ่ง
00:49:03 → 00:49:07 เหมือนเป็นเป็นบ้านของความรู้สึกคะแล้วก็
00:49:07 → 00:49:10 เพราะว่าทำแบบนี้ก็เอ่อได้ไอเดียดีๆแทน
00:49:10 → 00:49:14 กันแทนความความคิดที่ไม่ดีเยอะเลยทีเดียว
00:49:14 → 00:49:19 เนี่ยหากแล้วก็กินก็ใส่ใจเรื่องของจริงใจ
00:49:19 → 00:49:22 กับใจมันก็สอดคล้องกันเนาะอีกอย่างนึงก็
00:49:22 → 00:49:25 คือดูแลเรื่องของการนอนนั้นช่วงนี้อายุ
00:49:25 → 00:49:29 มากแล้วเนี่ยปีนี้ขึ้นเลข 4 ก็จะอ่ะใส่ใจ
00:49:29 → 00:49:33 เรื่องการกินการนอนการออกกำลังกายมากขึ้น
00:49:33 → 00:49:35 ค่ะ
00:49:35 → 00:49:38 ซึ่งเรื่องนี้จริงๆแล้วการอาจจะเสริมได้
00:49:38 → 00:49:41 ดีมั๊วะกันเรียนด้านนี้โดยเฉพาะเลย
00:49:41 → 00:49:45 เออครับมาดูว่าเล่นออกกำลังกายแล้วล้างใจ
00:49:45 → 00:49:49 เลยครับค่ะปากก็เท่าที่เห็นก็เป็นอย่าง
00:49:49 → 00:49:51 ที่พี่อันบอกนะครับคือมันก็มีอันนี้อัน
00:49:51 → 00:49:54 นี้ก็ยังอีกยังจะศึกษาวิจัยนิดนึงแล้วกัน
00:49:54 → 00:49:56 นะถึงไงว่าพูดไปแล้วมันจะดูน่าเบื่อแค่
00:49:56 → 00:49:58 ไหนก็ตามอะไรนะครับแต่ว่าเพื่อให้เพื่อ
00:49:58 → 00:50:01 ให้ทุกท่านได้ทราบด้วยว่าเองจริงๆเรื่อง
00:50:01 → 00:50:03 แบบนี้มันมีเรื่องของการวิจัยทาง
00:50:03 → 00:50:06 วิทยาศาสตร์อยู่นะครับว่าละกันแบบการออก
00:50:06 → 00:50:09 ผู้ชายการเคลื่อนไหวร่างกายการดูแลร่าง
00:50:09 → 00:50:12 กายเราคือวิธีง่ายๆเลยนะครับเช่นบอกว่า
00:50:12 → 00:50:15 เราออกไปเดินออกไปวิ่งให้เราพอเหนื่อยโดย
00:50:15 → 00:50:17 ที่ไม่ต้องเหนื่อยมากด้วยนะครับแล้วก็ต่อ
00:50:17 → 00:50:19 เนื่องกันเป็นระยะเวลานึงเช่นกันเกิน 10
00:50:19 → 00:50:22 นาที 15 นาทีเนี่ยมันดีทั้งร่างกายแล้วก็
00:50:22 → 00:50:25 ในขณะเดียวกันมันก็มีการศึกษาวิจัยว่ามัน
00:50:25 → 00:50:28 ก็ทำให้พวกเพื่อนของอารมณ์เรื่องของความ
00:50:28 → 00:50:31 ตามเรื่องของการนอนอะไรมันดีขึ้นนะครับ
00:50:31 → 00:50:34 เพราะฉะนั้นเธอก็เชื่อมโยงมาจากที่อื่น
00:50:34 → 00:50:36 พูดไม่แก่จริงๆก็เป็นวิธีในการดูแลตัวเอง
00:50:36 → 00:50:39 ทั้งกายและใจที่ดีนะครับ
00:50:39 → 00:50:42 เพราะว่าอย่างที่บอกแหละอยู่ที่เราเครียด
00:50:42 → 00:50:45 status ไหนเธอเครียดมากๆมันก็เอาไม่อยู่
00:50:45 → 00:50:50 นะมันพลอยจะคิดลบไปหมดนะคะมันก็คงจะแหมมา
00:50:50 → 00:50:53 มาหยอดกระปุกหรือไม่ยอมรับยังคงไม่ทันอัน
00:50:53 → 00:50:56 ที่สองคือบางคนไม่ถนัดมองเข้ามาในตัวเอง
00:50:56 → 00:50:59 ก็ถามว่าคุณรู้สึกยังไงโอ๊ะงงอะไรวะรู้
00:50:59 → 00:51:06 สึกไงเออคิดยังไงเอางงๆนะเนี่ยถ้าเกิดว่า
00:51:06 → 00:51:08 แต่ถ้ามีใครถามคุณลบคุณเนี่ยรู้สึกวงแบบ
00:51:08 → 00:51:12 นี้นะก็นะลองดูแลร่างกายดูนะคะลองดูแล
00:51:12 → 00:51:15 ร่างกายอยู่แล้วดูซิว่าร่างกายที่ผ่อน
00:51:15 → 00:51:18 คลายแบบนี้นะสดชื่นแบบนี้เราออกกำลังกาย
00:51:18 → 00:51:21 เนี่ยคุณรู้สึกยังไงนะคะมันก็คือนั่นแหละ
00:51:21 → 00:51:25 ก็คือการวิธีการดูแลจิตใจของเราเนอะอ่ะคะ
00:51:25 → 00:51:29 นี้มาถึงปากคำถามกำลังดีกว่านะนะคะโอ้โห
00:51:29 → 00:51:31 เอ๊ยไอ้ผู้ชมดูจะเหนียวแน่นนะเนี่ยดู
00:51:31 → 00:51:34 เหนียวแน่นนะไม่ไม่ตกเลย
00:51:34 → 00:51:41 ไปเนี่ยโอเคตอบคำถามนี้เราอาจจะไม่
00:51:41 → 00:51:45 อ่อนงั้นย่นขอว่าเราจะไม่ได้ตอบทุกคนเนาะ
00:51:45 → 00:51:48 อ่ะแล้วแต่ว่าคำคำถามไหนใครจะเป็นคนตอบ
00:51:48 → 00:51:52 อยู่นะว่าเราตอบทุกคนเดี๋ยวไม่ได้นอนนะ
00:51:52 → 00:51:56 เราเริ่มต้นจากคำถามนี้ก่อนนะคะนี่เออ
00:51:56 → 00:52:02 เดี๋ยวหมอจะขอสิ้นสุดคำถามที่อันนี้อ๋อ
00:52:02 → 00:52:07 คุณทิพย์กัญญานะบอกเขาจะทักมาบอกกับควรยา
00:52:07 → 00:52:10 ที่บายเรื่องการคิดบวกก็จะแจ่มแจ้งแล้วนะ
00:52:10 → 00:52:14 คะอ่ะขอบคุณที่มาดูพวกเราด้วยนะคะไม่ว่า
00:52:14 → 00:52:17 จะเรื่องบวกลบเนาะสิ่งที่ควรทำคือรู้ท่าน
00:52:17 → 00:52:23 ตัวเองนะคะใช่แล้วยิ้มเลยอ่ะอันนี้เราจะ
00:52:23 → 00:52:25 ตัดคำถามที่
00:52:25 → 00:52:27 คุณ
00:52:27 → 00:52:30 คุณอันนี้ละกันนะ
00:52:30 → 00:52:34 ตุ้มตุ้มเบ้งเปล่ากะอ่านว่าไงนะอ่ะการ
00:52:34 → 00:52:35 กระโปรงช่วยดูซิ
00:52:35 → 00:52:39 ไม่ถึงว่าเพื่อนจะตัดคำถามที่ 5 ใช่ฉัน
00:52:39 → 00:52:43 พรุ่งนี้ถ้ากูบอกว่าที่น่ารักเนี่ยเหรอ
00:52:43 → 00:52:48 ใช่ๆค่ะดีอ่ะอันนี้ดีมากเลยเนี่ยเพี้ยนก็
00:52:48 → 00:52:51 เลยคิดว่าคุณตุ้มเม้งจะเป็นคนจะเป็นจะไม่
00:52:51 → 00:52:54 เข้าไปถามสุดท้ายก็คือนี้แต่แต่ว่าไม่ใช่
00:52:54 → 00:52:56 ว่าทุกคนถ้าไม่ได้นะคะยังถามเข้ามาได้
00:52:56 → 00:53:00 แล้วก็เดี๋ยวหมอการกับหมอโบว์แล้วก็มา
00:53:00 → 00:53:02 เกินเนี่ยที่จะช่วยตอบย้อนหลังให้เราต่าง
00:53:02 → 00:53:05 ตอบในคอมเม้นเนาะอ่ะก็อ่าเขียนเป็น
00:53:05 → 00:53:09 คอมเม้นท์อันนี้ในการตอบสดเนี่ยเราเราเขา
00:53:09 → 00:53:12 เริ่มขอเริ่มต้นที่นี่แล้วกันเพราะว่า
00:53:12 → 00:53:16 เดี๋ยวมันจะเหลือเกินไปนะคะโอเค
00:53:16 → 00:53:19 ฮะอ่ะคำถามแรกนอนไม่ค่อยหลับแนะนำหน่อย
00:53:19 → 00:53:23 ครับโอ้โหความรัก
00:53:23 → 00:53:26 อ่ะคำถามมีใครตอบ
00:53:26 → 00:53:30 ให้ตอบเดี๋ยวผมตอบก็ได้ครับฮ่าๆๆอาการต่อ
00:53:30 → 00:53:33 ไปหาหลวงพ่อกันต่อไปรายการ 2 ถามเลยนะ
00:53:33 → 00:53:35 โอเค
00:53:35 → 00:53:38 อ่าเอาจริงๆนอนไม่ค่อยนอนไม่หลับเนี่ยมัน
00:53:38 → 00:53:41 เป็นอย่างนึงที่ต้องหาสาเหตุนะครับว่านอน
00:53:41 → 00:53:44 ไม่หลับไปจากอะไรนะครับมันมีได้หลาย
00:53:44 → 00:53:47 สาเหตุหน้านะครับตั้งแต่ว่าหนึ่งเลยคือ
00:53:47 → 00:53:50 ให้กับเรื่องสุภานามัยในการนอนหลับของเรา
00:53:50 → 00:53:53 เนี่ยมันแบบมันผิดเพี้ยนไปหรือเปล่านะ
00:53:53 → 00:53:56 ครับเช่นมันนอนผิดเวลามันมีการจะเข้านอน
00:53:56 → 00:53:59 แล้วเรายังดูโซเชียลเน็ตเวิร์คอยู่หรือ
00:53:59 → 00:54:01 อะไรอย่างนี้นะครับไปถึงมากหรือทั้งแบบ
00:54:01 → 00:54:05 ว่าไปตื่นสายเก็บเวลาไรนะมีอ่าด้วยนะ
00:54:05 → 00:54:08 สภาวะสิ่งแวดล้อมในการนอนหลับที่ไม่ดีมี
00:54:08 → 00:54:11 อะไรนะครับมันเป็นได้อย่างนั้นก็ได้หรือ
00:54:11 → 00:54:13 ไม่มีโรคบางอย่างที่มากวนเราก็ได้นะครับ
00:54:13 → 00:54:17 เช่นเกี่ยวข้องกับร่างกายนะมันมีแน่นอน
00:54:17 → 00:54:20 กรนมากวนอะไรเงี้ยนะหรือว่าบัญชีเออไปทาน
00:54:20 → 00:54:23 ยาบางตัวไปทานสารอ่ะค่ะอาหารเสริมบางตัว
00:54:23 → 00:54:27 ซื้อมันกูอะไรอย่างเงี้ย
00:54:27 → 00:54:30 เพราะฉะนั้นสิ่งที่อยากจะบอกไว้เลยก็คือ
00:54:30 → 00:54:32 ว่าเมื่อไหร่ที่นอนไม่หลับเนี่ยนะครับอาจ
00:54:32 → 00:54:35 จะต้องดูก่อนว่ามันมีปัจจัยอะไรที่มันทำ
00:54:35 → 00:54:37 ให้เราเริ่มมีอาการนี้แล้วก็ถ้าเราหาไม่
00:54:37 → 00:54:40 เจอจริงๆไปปรึกษาแพทย์ได้นะครับเพื่อที่
00:54:40 → 00:54:42 จะได้รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุนะครับเมื่อวัน
00:54:42 → 00:54:45 การใช้ยานอนหลับไปเองโดยที่ไม่ได้ไปถาม
00:54:45 → 00:54:49 แพทย์อันนี้ไม่ควรเลยน้ะอันตรายติดยาแล้ว
00:54:49 → 00:54:52 ก็ใช้ยาโดยเกินจำเป็นได้อย่างนี้ครับขับ
00:54:52 → 00:54:56 อ่าการแนะนำให้คำว่าสังเกตตัวเองนานสัก
00:54:56 → 00:55:00 เท่าไหร่จึงควรไปหาจิตแพทย์เกิดว่าเราหา
00:55:00 → 00:55:02 สาเหตุไม่เจอจริง
00:55:02 → 00:55:06 จริงๆผ้าคงไม่มีเวลาอะไรที่มันแบบว่าเป็น
00:55:06 → 00:55:08 ชัดเจนนะครับแต่ว่าถ้ารู้สึกว่าการนอนไม่
00:55:08 → 00:55:10 หลับเนี่ยมันส่งผลกระทบกับเราแล้วนะครับ
00:55:10 → 00:55:13 เช่นเราลูกอ่อนเพลียมากเรารู้สึกว่ามีผล
00:55:13 → 00:55:17 ต่อสุขภาพต่อชีวิตประจำวันแล้วก็มีตัวเอง
00:55:17 → 00:55:19 จริงๆแล้วตกลงแล้วมันเกิดจากอะไรเงี้ย
00:55:19 → 00:55:22 จริงๆสามารถไปปรึกษาแพทย์ได้เลยนะครับแม่
00:55:22 → 00:55:27 ค้าก็ต้องบอกว่าสำคัญมากๆเนอะเพราะว่าการ
00:55:27 → 00:55:29 ที่เรามีปัญหาเรื่องนอนแล้วนอนไม่หลับ
00:55:29 → 00:55:31 แล้วหลังนะมีผลกับสมองทำให้สมองเราอ่อนแอ
00:55:31 → 00:55:36 แล้วแน่นอนมันก็นำพาซึ่งการเอ่อเขาเรียก
00:55:36 → 00:55:40 ว่าวีนเหวี่ยงนะความจำก็ไม่ดีคิดก็ไม่ออก
00:55:40 → 00:55:44 นะเหอเหอนะเป็นมันเหมือนแบบหลายอย่างเลย
00:55:44 → 00:55:47 นะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยอันนี้เนี่ยมันก็คือ
00:55:47 → 00:55:51 สิ่งที่เป็นสัญญาณหมอเคยหัวการเคยพูดถึง
00:55:51 → 00:55:55 เรื่องสัญญาณที่ร่างกายบอกเราใช่ไหมคะ
00:55:55 → 00:55:59 งั้นการนอนเนี่ยเป็นสัญญาณหนึ่งที่ต้อง
00:55:59 → 00:56:03 บอกว่าต้องรีบกลับไปดูแลเลยนะโอเคค่ะอาอา
00:56:03 → 00:56:08 ต่อมานะคะอ่ะค่ะขออันนี้ถามว่านักจิตเป็น
00:56:08 → 00:56:11 ข้าราชการไหมคะ
00:56:11 → 00:56:15 อ้าวอันนี้พี่เอาเคาะอันนี้เนี่ยไม่ตอบ
00:56:15 → 00:56:18 ใช่ไหมจะอยู่ที่ว่าแต่ติดที่ไหนไงใช่มั้ย
00:56:18 → 00:56:21 อ่าก็คือทำเป็นข้าราชการให้เป็นข้าราชการ
00:56:21 → 00:56:24 เนี่ยมันอยู่ที่ว่าเอ่อเป็นนักจิตที่ไหน
00:56:24 → 00:56:29 นะคะว่าคุณอยู่ในรื่นจิ๋วอยู่ที่ไหนก็
00:56:29 → 00:56:31 อยู่ที่ว่าเราเนี่ยอยู่ในสิทธิ์อะไรเนาะ
00:56:31 → 00:56:34 เสมอว่าอยู่ในของกรมสุขภาพจิตนะแต่เป็น
00:56:34 → 00:56:38 ลูกจ้างชั่วคราวแน่นอนก็ไม่ใช่ข้าราชการ
00:56:38 → 00:56:42 ใช่ไหมคะนะคะอันนี้ก็ตามตัวเนาะคุณทำงาน
00:56:42 → 00:56:44 ที่ไหนอยู่ในภาครัฐก็มีโอกาสเป็นข้า
00:56:44 → 00:56:47 ราชการแต่ว่าตอนนั้นเป็นเอ่อรับเข้ามาใน
00:56:47 → 00:56:50 ตำแหน่งอะไรนะคะ
00:56:50 → 00:56:54 คือซึ่งตอนนี้การเข้าเป็นข้าราชการก็ไม่
00:56:54 → 00:56:59 ง่ายแล้วเนาะค่ะอ่ะค่ะมาอันถัดมานะคะน้อง
00:56:59 → 00:57:04 ชายเคยมีประวัตินะคะเป็นแต่ขาดการธัญญา
00:57:04 → 00:57:08 แล้วก็และมีโรคเบาหวานนะคะเขาจะเชื่อ
00:57:08 → 00:57:11 เกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ณเครื่องรางของ
00:57:11 → 00:57:15 ขลังมากจัดการเป็นระเบียบที่บ้านไม่ชอบ
00:57:15 → 00:57:20 เสียงดังไม่ยอมไปหาหมอนะและแม่ลาเราพูด
00:57:20 → 00:57:26 เขาจะคิดมากอยากขอคำแนะนำในการดูแลอาค่ะ
00:57:26 → 00:57:31 อยู่ของไงอาจจะอันนี้ขึ้นอยู่กับว่าเอ่อ
00:57:31 → 00:57:35 ที่เคยอาจจะเคยไปรักษาแล้วในนี้นะแล้วก็
00:57:35 → 00:57:38 อาจจะมียาบางอย่างอยู่ที่นี้เนี่ยคือถ้า
00:57:38 → 00:57:41 เกิดว่าเคยรักสามีวินิจฉัยแล้วทันต้องทาน
00:57:41 → 00:57:45 ยาแล้วหยุดทานยาไปเนี่ยก็อาจจะทำให้อาการ
00:57:45 → 00:57:48 บางอย่างไม่กลับมาได้เนาะก็คือว่าเธออัน
00:57:48 → 00:57:51 นี้เราก็ไม่รู้รายละเอียดแต่ว่าให้สังเกต
00:57:51 → 00:57:53 ว่าถ้าอาการเนี่ยเรารู้สึกว่าเขาเปลี่ยน
00:57:53 → 00:57:57 ไปเยอะคืนทำอะไรไม่สมเหตุสมผลแล้วมันดูจะ
00:57:57 → 00:58:01 มีโทษกับตัวเขาเองเช่นว่าเจอเรื่องการดู
00:58:01 → 00:58:05 แลตัวเองนะกินข้าวอาบน้ำเลยเงี้ยดู 8 ไป
00:58:05 → 00:58:08 ดูไม่ดูแลตัวเองหรือว่าดูไอ้ความเชื่อของ
00:58:08 → 00:58:12 เขาเนี่ยมันรบกวนชีวิตประจำวันรบกวนความ
00:58:12 → 00:58:15 สัมพันธ์รบกวนการทำงานเนี่ยคิดว่าแล้ว
00:58:15 → 00:58:17 แล้วเขาก็ยังไม่กินมีการคิดว่าเนี่ยสำคัญ
00:58:17 → 00:58:21 ที่ควรจะต้องเติมพบแพทย์และได้รับการช่วย
00:58:21 → 00:58:24 เหลือและจะถามว่าจะพูดยังไงจะคุยยังไง
00:58:24 → 00:58:28 เนี่ยก็คือว่าอันนี้บอกก่อนว่าสิ่งที่ไม่
00:58:28 → 00:58:31 ควรทำเลยสิ่งที่ไม่ควรทำก็คือว่าหล่อเขา
00:58:31 → 00:58:35 โกหกเขาหรืออะไรเนาะว่าเออหลอกไปเจอหมอ
00:58:35 → 00:58:38 หรืออะไรอย่างนี้หรือว่าไปเที่ยวเที่ยว
00:58:38 → 00:58:43 เที่ยวจะดูไม่ค่อยเจอคนเดียวเจอประจำให้
00:58:43 → 00:58:47 เออความสองพันทั้งเรื่องครอบครัวด้วยแล้ว
00:58:47 → 00:58:49 ก็กลับไปเพิ่มเงินกับพอที่จะรักษาก็เสีย
00:58:49 → 00:58:53 ด้วยเนาะก็คือทำยังไงก็คือพยายามรับฟัง
00:58:53 → 00:58:56 เขาจะหลอกอย่าหลอกว่าอย่าหลอกอย่าหลอก 2
00:58:56 → 00:58:59 เดี๋ยวไปบอกว่าเขาว่าเขาป่วยหรือพยายามจะ
00:58:59 → 00:59:03 ยังไงอ่ะนมนะว่าเขามีปัญหาหนักหรือว่าเขา
00:59:03 → 00:59:04 ป่วย
00:59:04 → 00:59:08 ก็จะทำให้เกิดการต่อต้านหรือเขาก็จะรู้
00:59:08 → 00:59:11 สึกว่าเราเข้าใจเขาว่าอย่างนี้นะครับสิ่ง
00:59:11 → 00:59:14 หนึ่งก็คือว่ารับฟังใช่มั้ย
00:59:14 → 00:59:17 อ๋อเขาโกรธเนี่ยก็ท่าทางเขาอะไรเนี่ย
00:59:17 → 00:59:21 สร้างความสำคัญที่ดีซึ่งแสดงความเป็นห่วง
00:59:21 → 00:59:24 เป็นใหญ่นะว่า Hello เป็นห่วงเขาเรื่อง
00:59:24 → 00:59:26 อะไรบ้างบอกความรู้สึกของเราในฐานะที่เรา
00:59:26 → 00:59:29 เป็นคนใกล้ชิดใช่ไหมคะอย่าไปบอกว่าคุณ
00:59:29 → 00:59:31 เป็นปัญหาอย่างมีแต่บอกว่าเรารู้สึกเป็น
00:59:31 → 00:59:36 ห่วงเราก็จะเชื่อมโยงจากปัญหาที่ที่เป็น
00:59:36 → 00:59:39 ปัญหาที่เขาอาจจะเอออย่าๆอยากได้รับการ
00:59:39 → 00:59:42 แก้น้องเช่นเขาอาจจะบอกว่าเครียดมากแล้ว
00:59:42 → 00:59:45 ก็เออนั้นไปหาด้วยกันไหมหรือว่าเขานอนไม่
00:59:45 → 00:59:47 หลับแบบนี้ก็จะมีไว้ที่เราถือว่าอื่น
00:59:47 → 00:59:50 ปัญหาเหล่านี้ไปหาหมอแล้วหมอจะช่วยได้
00:59:50 → 00:59:52 แล้วก็จะเออลองเสนอดูแล้วก็ไปเป็นเพื่อน
00:59:52 → 00:59:55 ด้วยกันกับเขานี้ก็จะน่าจะช่วยได้มากที่
00:59:55 → 00:59:56 สุด
00:59:56 → 01:00:01 อย่าดื้อนะคะโอ้มันก็อันนี้เป็นประโยชน์
01:00:01 → 01:00:04 มากนะคะก็คือเมื่อกี้ว่าไม่เห็นด้วยกับ
01:00:04 → 01:00:07 คุณหมอโมเนอะคือการที่เขาจะมาร่วมมือใน
01:00:07 → 01:00:10 การรักษาหรือรักษาเนี่ยมันไม่ใช่การเมือง
01:00:10 → 01:00:13 คับหรือการหลอกนะคะมันควรจะมาจากการที่
01:00:13 → 01:00:16 เขาเห็นว่าเราเป็นห่วงเขาจริงๆเพราะ
01:00:16 → 01:00:18 ฉะนั้นเนี่ยสิ่งแรกที่เราต้องจัดการก่อน
01:00:18 → 01:00:21 นะเราต้องจัดการตัวเองเฮ้อเราเห็นเขาแบบ
01:00:21 → 01:00:24 นี้เรากังวลยังไงนะมันคือความกังวลเนี่ย
01:00:24 → 01:00:28 ทำให้เราพูดอะไรที่ไม่ควรพูดนะเดี๋ยวทำ
01:00:28 → 01:00:30 อะไรที่เราไม่ควรทำลงไปวะเนี่ยเราต้อง
01:00:30 → 01:00:33 เห็นความกังวลของตัวเองก่อนความกลัวของ
01:00:33 → 01:00:39 ตัวเองก่อนจะขาแล้วก็ให้ขอดูแลความกังวล
01:00:39 → 01:00:41 ตัวเองแล้วมาให้มองเห็นนะว่าเรามีความ
01:00:41 → 01:00:45 ปรารถนาดียังไงกับเขานะค่ะนั้นความ
01:00:45 → 01:00:47 ปรารถนาดีที่เกิดขึ้นเนี่ยคือเครื่องมือ
01:00:47 → 01:00:49 สำคัญที่จะทำให้เขาร่วมมือในการรักษา
01:00:49 → 01:00:53 เครื่องมืออะไรผมก็บอกแล้วนั่นก็คือการ
01:00:53 → 01:00:56 รับฟังเขาค่ะนะตั้งคำถามที่ดี
01:00:56 → 01:01:00 คำถามคือง่ายๆเลยไม่ต้องมี 1 2 3 นะถาม
01:01:00 → 01:01:02 อะไรก็ได้ที่ทำให้เราเข้าใจเขามากขึ้นอ้ะ
01:01:02 → 01:01:06 มันจะเป็นคำถามที่เอ่อเขาเรียกว่าไงทำให้
01:01:06 → 01:01:12 เขารู้สึกว่าเราแคร์เขานะคะคือคำถามแถบมา
01:01:12 → 01:01:19 รอบเติมนิดนึงได้ไหมได้สีแน่นๆคนที่ 3 มา
01:01:19 → 01:01:22 บอกว่าแบบอยากรู้วิธีดูแลตัวเองด้วยนะ
01:01:22 → 01:01:25 ครับแล้วก็ผมเข้าใจว่าในคนที่เป็นคนดูแล
01:01:25 → 01:01:28 ผู้ป่วยเนี่ยหลายๆที่มันก็ก่อให้เกิดความ
01:01:28 → 01:01:31 เครียดได้มากเหมือนกันครับด้วยความที่ว่า
01:01:31 → 01:01:34 มันก็เป็นคนที่เราขวดใหญ่เราก็เป็นคนที่
01:01:34 → 01:01:36 เราอยากให้เขาหายจากอาการอย่างนี้นะครับ
01:01:36 → 01:01:39 เพราะฉะนั้นที่อยากมาดูแลตัวเองนะดีมาก
01:01:39 → 01:01:41 เลยเราเข้าใจว่ามันคงเป็นเรื่องลำบากที่
01:01:41 → 01:01:44 สุดที่จัดการที่จะดูแลอย่างเต็มที่ตลอด
01:01:44 → 01:01:47 เวลาเนี่ยเพราะฉะนั้นการที่หาคนช่วยด้วย
01:01:47 → 01:01:51 เนี่ยไม่ใช่เธอเธอไม่ใช่ว่าแปลว่าเราไม่
01:01:51 → 01:01:54 อยากจะดูแลเขานะครับจริงๆหมอแนะนำว่าอยาก
01:01:54 → 01:01:56 ให้แบบหาคนอื่นๆที่มาช่วยทำให้เราสามารถ
01:01:56 → 01:02:00 ช่วยแชร์ช่วยใช้ใครๆก็จะนักไงๆกับว่าเออ
01:02:00 → 01:02:03 เราก็จะได้มีเวลาดูแลตัวเองด้วยอย่างนั้น
01:02:03 → 01:02:08 แล้วก็แล้วก็ให้ๆกับไว้อีกคนนึงคือนอก
01:02:08 → 01:02:10 เหนือไปจากเข้มขึ้นมาบนแนะนำไปแล้วเนี่ย
01:02:10 → 01:02:13 ผมแนะนำว่าอาจจะดูด้วยว่ามันเกี่ยวข้อง
01:02:13 → 01:02:15 กับเรื่องของความปลอดภัยของตัวคนไข้เท่า
01:02:15 → 01:02:17 ไหร่นะครับเช่นณตอนนั้นเขาอยู่ในสภาวะที่
01:02:17 → 01:02:19 ขนาดจะไม่ปลอดภัยต่อตัวเขามากเลยอ่ะเขา
01:02:20 → 01:02:22 อาจจะมีความคิดไม่อยากมีชีวิตอยู่หรือว่า
01:02:22 → 01:02:25 มีความมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยกับคนอื่น
01:02:25 → 01:02:27 อะไรเงี้ยอันนี้อาจจะเป็นโจทย์ที่อาจจะ
01:02:27 → 01:02:30 ต้องแบบหาคนไปช่วยและว่าจะพาไปลงทำไมยัง
01:02:30 → 01:02:34 ไงนะครับหรือโทรมาขายกับทางโรงพยาบาลใกล้
01:02:34 → 01:02:36 บ้านก็ได้ว่าจะทำยังไงได้บ้าง
01:02:36 → 01:02:41 วันนี้คีย์สำคัญเลยครับก็คือต้องดูสัญญาณ
01:02:41 → 01:02:46 อันตรายเพิ่มเติมด้วยเนาะเออว่าเขาเนี่ย
01:02:46 → 01:02:49 หนูจะมีอันตรายกับตัวเองหรือเปล่าหรือมี
01:02:49 → 01:02:51 โอกาสที่จะเป็นอันตรายกับคนรอบข้างหรือ
01:02:51 → 01:02:53 เปล่าถ้าเกิดสมมติว่าเขามีความเชื่อหรือ
01:02:53 → 01:02:56 ความหลงผิดที่เราอาจจะคาดการณ์ไม่ได้ไม่
01:02:56 → 01:02:58 ใช่ไหมคะอันนี้กรณีสุดโต่งเลยนะมันเรา
01:02:58 → 01:03:01 ต้องดูสัญญาณอันตรายมันการร้องขอความช่วย
01:03:01 → 01:03:04 เหลือไปที่เรื่องเสียหายนะคะหรือแม้
01:03:04 → 01:03:06 กระทั่งว่าเขาอาจจะไม่ได้ด่วนตะไลขนาด
01:03:06 → 01:03:09 นั้นแต่การที่เราจะต้องมีช่วงเวลาดูแลตัว
01:03:09 → 01:03:12 เองการที่ให้คนในบ้านคนอื่นๆมามีส่วนร่วม
01:03:12 → 01:03:16 ในการดูแลบ้างก็สำคัญนะค่ะเอาล่ะค่ะคำถาม
01:03:16 → 01:03:19 ถัดไปนะคะหรืออีกบานเลยนะคะเพื่อนะเนี่ย
01:03:19 → 01:03:22 เราคงจะต้องบอกว่ากระชับกันนิดนึงมั้ยฮะ
01:03:22 → 01:03:29 ก็คือเอ่ออันนี้อยู่อาจจะอ่าคุณนี้นะคะ
01:03:29 → 01:03:30 ถามว่า
01:03:30 → 01:03:33 เป็นไบโพล่าร์นะคะช่วงนี้นอนเยอะนะไม่
01:03:33 → 01:03:37 อยากทำอะไรแล้วว่าหงุดหงิดง่ายมากนะคะชจ
01:03:37 → 01:03:41 ใช่ช่วงดีเพลสหรือเปล่าอาการตอบแล้วกัน
01:03:41 → 01:03:45 ขอเบอร์คุณตอบผมตรงไปตรงมาเลยนะครับผมตอบ
01:03:45 → 01:03:48 ไม่ได้เลยครับพูดยากมากเพราะว่าเวลาที่
01:03:48 → 01:03:50 มันมีอาการเนี่ยจริงๆแล้วต้องต้องดูราย
01:03:50 → 01:03:52 ละเอียดมากกว่านี้นะครับว่าเป็นยังไงบ้าง
01:03:52 → 01:03:55 แล้วก็จริงๆการไปพบคุณหมอที่ตรวจประจำ
01:03:55 → 01:03:57 หรือว่าราคาประจำเนี่ยคุณหมอจะช่วยดู
01:03:57 → 01:03:59 อาการตรงนี้ได้ดีกว่านะครับแต่ถ้าตอบเข้า
01:03:59 → 01:04:01 ก็คือว่าถ้ามันมีเรื่องของการนอนที่
01:04:01 → 01:04:04 เปลี่ยนแปลงไปอารมณ์ใจคอที่มันเปลี่ยน
01:04:04 → 01:04:06 แปลงไปมันมีโอกาสครับที่ว่าณตอนนั้นเนี่ย
01:04:06 → 01:04:09 มันเป็นช่วงที่อาการอาจจะกำเริบขึ้นได้นะ
01:04:09 → 01:04:12 ครับถามว่าจะเป็นช่วงยูเพลสไหมหรือเป็น
01:04:12 → 01:04:14 ช่วงแบบที่ไอ้อ้วนนึงเป็นกลัวบวกเกินไป
01:04:14 → 01:04:17 มั้ยอะไรอย่างเงี้ยอันนี้คงตอบผ่านไปนี้
01:04:17 → 01:04:20 ไม่ได้จริงๆว่ามันมันมันไม่สามารถดูราย
01:04:20 → 01:04:23 การได้อย่างถี่ถ้วนอย่างนี้ครับใช่ค่ะวัน
01:04:23 → 01:04:26 เนี้ยเราทุกคนนะไม่กระทั่งเรา 3 คนเอง
01:04:26 → 01:04:28 เนี่ยซึ่งเป็นหมอที่ดูแลเรื่องอารมณ์จิต
01:04:28 → 01:04:30 ใจผู้คนนั้นเราก็เศร้าแล้วก็มีความเศร้า
01:04:30 → 01:04:33 เป็นของเราเหมือนกันนะคะเพื่อเนี่ยมันบอก
01:04:33 → 01:04:36 ยากมากเลยนะคะก็คงต้องดูองค์ประกอบแล้วก็
01:04:36 → 01:04:38 คือถ้าเกิดใครมีหาเสมอว่าเรามีคนปรึกษา
01:04:38 → 01:04:41 ที่เป็นหลักเนี่ยเราก็อยากจะแนะนำให้หมอ
01:04:41 → 01:04:45 ให้ปรึกษาคนนั้นแหละเพราะว่าเรื่องของจิต
01:04:45 → 01:04:51 ใจบางทีเราต้องดูกันยาวๆมาหาโอเคค่ะต่อมา
01:04:51 → 01:04:55 นะนี้คำถามยาวมากอ่ะใครช่วยอ่านหน่อยสิ
01:04:55 → 01:04:59 น้ำลายเจ๊แห้งแล้วเนี่ย
01:04:59 → 01:05:02 ขออนุญาตตั้งคำถามครับเวลาเราเครียดเรามี
01:05:02 → 01:05:04 พื้นที่ที่ปลอดภัยในการบอกเล่าเพื่อได้
01:05:04 → 01:05:08 ระบายออกไปอยากจะถามว่าคนที่รับฟังเราแบบ
01:05:08 → 01:05:12 ตั้งใจและเขาและเข้าใจเข้าใจเขาจะทำแล้ว
01:05:12 → 01:05:14 เข้าใจเขาจะเครียดไหมครับหรือเพียงแค่
01:05:14 → 01:05:17 อยากให้เราสบายใจเขาถึงยอมรับฟังแล้วก็จะ
01:05:17 → 01:05:20 เอาคำแก้ไปให้คนที่เรารักต่อไหมครับ Note
01:05:20 → 01:05:23 7 คนที่ฟังเราคือคุณแม่ครับ
01:05:23 → 01:05:26 อันนี้ก็เดี๋ยวขอตอบแล้วกันนะคะก็คือว่า
01:05:26 → 01:05:31 ถ้าจากที่ฟังดูเนี่ยก็จริงๆแล้วคุณแม่ก็
01:05:31 → 01:05:34 คงอยากจะเข้าใจแล้วก็อยากจะช่วยเหลือเรา
01:05:34 → 01:05:37 นะคะแต่ว่าเออคุณที่ถามเนี่ยก็อาจจะรู้
01:05:37 → 01:05:41 สึกว่า AR อาจจะเป็นห่วงคุณแม่น้องเป็นห
01:05:41 → 01:05:44 มีคนที่บัตรจะมารับฟังปัญหาเราว่าเขาจะ
01:05:44 → 01:05:47 เครียดไปกับเรามั้ยอะไรเงี้ยจริงๆจะบอก
01:05:47 → 01:05:50 อย่างนี้ก่อนนะว่างบางครั้งเราก็ถูกเพราะ
01:05:50 → 01:05:54 ว่าเราคิดแทนคนอื่นเนาะใช่ไหมคะว่าแบบเรา
01:05:54 → 01:05:56 เราเป็นภาระให้คนอื่นหรือเปล่าหน้าเลย
01:05:56 → 01:05:59 เนี่ยจริงดิคนอื่นเขาก็คิดคิดแทนเรา
01:05:59 → 01:06:01 เหมือนกันเนาะคือเขาก็อยากช่วยเราอะไร
01:06:01 → 01:06:04 เงี้ยก็นั้นถ้าต่างคนต่างคิดว่าโอนเดี๋ยว
01:06:04 → 01:06:06 ฉันเป็นภาระให้เธอเป็นภาระให้ฉันเนี่ยมัน
01:06:06 → 01:06:09 ทีมันอาจจะทำให้เราไม่ได้ไม่ได้แสดงความ
01:06:09 → 01:06:13 รู้สึกต่อกันอย่างที่อย่างที่แบบตรงๆใช่
01:06:13 → 01:06:15 ไหมหรือเราอาจารย์ให้เธอไม่กล้าให้คุณแม่
01:06:15 → 01:06:18 ฟังก็เลี้ยงไรเงี้ยไม่เล่าดีกว่าเลยเนี่ย
01:06:18 → 01:06:21 แต่ว่าจริงๆให้ให้ลองว่าเออถ้าคุณแม่เขา
01:06:21 → 01:06:24 น่าจะอยากฟังเราอยากช่วยเหลือเราเราก็
01:06:24 → 01:06:28 เวลาที่เค้ารับฟังเราเนี่ยค่ะก็อาศัยว่า
01:06:28 → 01:06:31 เออเราขอบคุณเขาและแสดงความรู้สึกให้เขา
01:06:31 → 01:06:34 ฟังว่าเออขอบคุณที่รับฟังเราแล้วก็มัน
01:06:34 → 01:06:36 ช่วยเรายังไงบ้างแล้วก็ถามเขากลับก็ได้นะ
01:06:36 → 01:06:39 คะว่าเวลาที่เจอแล้วฟังเรื่องของเราไป
01:06:39 → 01:06:42 เยอะๆแล้วเนี่ยเออมันทำให้เขาเรียกไหมคุณ
01:06:42 → 01:06:44 แม่เป็นยังไงบ้างอะไรเงี้ยมันเป็นการแลก
01:06:44 → 01:06:46 เปลี่ยนนะเพราะว่าเราไม่ซ้ำมือแทนคนอื่น
01:06:46 → 01:06:50 ได้เนาะแต่เราสามารถคุยกันได้แล้วบอกความ
01:06:50 → 01:06:52 รู้สึกกันได้
01:06:52 → 01:06:55 ใช้นี้ก็เห็นด้วยมากเลยเนาะไม่รู้เนี่ย
01:06:55 → 01:06:58 จริงๆถามเราสามคนเดียวก็ไม่รู้หรอกถามแม่
01:06:58 → 01:07:03 นั่นแหละเออแม่ๆฟังผมเยอะๆเนี่ยแม่เครียด
01:07:03 → 01:07:06 เปล่านะโอเคก็ไม่คิดยุบไม่เป็นไรแม่ฟังไป
01:07:06 → 01:07:10 ก่อนนะเดี๋ยวผมเองก็จะไปหาวิธีการดูแลตัว
01:07:10 → 01:07:14 เองเหมือนกันเน๊อะเธอจะฟังเลยไม่ฟังนะหมอ
01:07:14 → 01:07:19 ก็คิดว่าการที่เราเองเนี่ยก็ต้องหาวิธี
01:07:19 → 01:07:22 การที่จะดูแลอารมณ์ความคิดตัวเองควบคู่ไป
01:07:22 → 01:07:26 กับการที่มีใครสักคนรับฟังก็สำคัญ
01:07:26 → 01:07:29 ค่ะตำแหน่งเอาล่ะขานอกจากเล่าความทุกข์
01:07:29 → 01:07:32 ให้แม่ฟังแล้วเวลามีความสุขเราให้แม่ฟัง
01:07:32 → 01:07:36 ด้วยฮ่าๆๆๆๆๆๆ
01:07:36 → 01:07:40 ไม่ใช่แบบแม่คิดถึงฉันเดาเวลาไม่สบายใจนะ
01:07:40 → 01:07:47 แกเนี้ยบ่แม่นจะซุปเธอชุดจะสุกดัดหูเธอจะ
01:07:47 → 01:07:50 ทุกข์จะสุขใช่ไหมจะได้ร่วมทุกข์ร่วมสุข
01:07:50 → 01:07:57 กันนะโอเคค่ะอ้าวทักไป
01:07:57 → 01:08:01 หืออันนี้อันนี้หมอบอกมีคนตอบมาว่าธุระ
01:08:01 → 01:08:03 แก้ปัญหาตัวเองก่อน
01:08:03 → 01:08:06 เอาก็แล้วก็เลยศึกษาหลายวิธี
01:08:06 → 01:08:09 อ้าวการเชิญครับ
01:08:09 → 01:08:15 แก้ปัญหาสมาธิสั้นยังไงหล่ะครับเธออย่าทำ
01:08:15 → 01:08:16 งานที่ท่านเข้าเกิดขึ้นได้จากหลายอย่าง
01:08:16 → 01:08:19 เหมือนกันนะครับนะฮะอ่าของจริงแล้วเอา
01:08:19 → 01:08:22 จริงแล้วเวลาที่คนเราเนี่ยไม่ได้เป็นโรค
01:08:22 → 01:08:25 อะไรเลยนะครับแต่ว่าบางทีนะครับมันให้กับ
01:08:25 → 01:08:28 ว่าไปมีพฤติกรรมอะไรบางอย่างที่ทำให้เรา
01:08:28 → 01:08:30 ไม่ได้ใช้สมาธิไปกับสิ่งที่เราควรจะไทย
01:08:30 → 01:08:33 เนี่ยมันก็ทำให้เราคิดว่าเรามีปัญหาสมาธิ
01:08:33 → 01:08:35 สั้นได้เหมือนกันนะครับยกตัวอย่างเช่น
01:08:35 → 01:08:37 สมัยนี้เนี่ยเรามีมือถึงอยู่กับตัวเองใช่
01:08:37 → 01:08:40 ไหมครับไม่มีเราก็ค่อยถึงมือถืออะไรไปนะ
01:08:40 → 01:08:42 ดูนั่นดูนี่ไปมีแต่ก็ไม่สิ่งที่มันเป็น
01:08:42 → 01:08:44 แบบอาจจะเป็นงานข้างหน้าเลยที่เราทำอยู่
01:08:44 → 01:08:46 อะไรเงี้ยแล้วเราก็เป็นว่าเรารู้สึกว่า
01:08:46 → 01:08:49 มันได้ทำให้แต่โฟกัสอยู่กับแอบงานที่เรา
01:08:49 → 01:08:51 ทำได้เลยอะไรนะเมื่อกี้ก็ทำให้เราเองรู้
01:08:51 → 01:08:54 สึกว่าเฮ้ยเนี่ยสมัยที่เราทันได้จริงมัน
01:08:54 → 01:08:56 เป็นแค่เป็นเป็นตับพฤติกรรมบางอย่างที่
01:08:56 → 01:08:59 เราทำมาเรื่อยๆทุกวันอันนี้อย่างหนึ่งแต่
01:08:59 → 01:09:01 จริงๆแล้วมันก็ทำหน้าเต็มตากเรื่องของ
01:09:01 → 01:09:05 เอ่อโรคหรือความผิดปกติได้ไหมก็ได้เหมือน
01:09:05 → 01:09:07 กันนะครับในทางในการรักษาทางจิตเวชเองอ่ะ
01:09:07 → 01:09:10 มันใกล้จะมีโรคบางโรคที่อาจทุกข์กว่านี้
01:09:10 → 01:09:12 เช่นพวกขณะที่ตั้นแต่ว่าโรคนั้นที่ท่าน
01:09:12 → 01:09:14 เนี่ยมันก็ต้องมีอาการไปอย่างที่เป็นมา
01:09:14 → 01:09:17 ตั้งแต่วัยเด็กอย่างนั้นนะครับอ้ะพี่ลืม
01:09:17 → 01:09:20 บ่อยๆหรือว่าไม่สามารถจะอยู่นิ่งๆได้หรือ
01:09:20 → 01:09:23 เหม่อลอยบ่อยมาตั้งแต่เด็กเลยตั้งแต่วัย
01:09:23 → 01:09:26 เรียนอะไรนะครับหรือว่าถ้าเพิ่งมาเป็นตอน
01:09:26 → 01:09:29 ที่เป็นผู้ใหญ่จริงๆแล้วรู้สึกว่ามัน
01:09:29 → 01:09:31 เปลี่ยนไปจริงๆอะไรนะครับว่าจะต้องลองมา
01:09:31 → 01:09:33 ดูและว่ามันมีถ้าเหตุอะไรได้บ้างซึ่ง
01:09:33 → 01:09:36 อันเนี้ยมันดีได้เยอะเลยครับที่มันสามารถ
01:09:36 → 01:09:38 กับพบกับสมัยดีได้นะครับยกตัวอย่างเช่น
01:09:38 → 01:09:41 โรคซึมเศร้าเองก็สามารถจะคบกันได้จะเป็น
01:09:41 → 01:09:44 อาการดอกง่ายๆหรือว่าหรือว่าการนอนไม่
01:09:44 → 01:09:46 หลับเกิดขึ้นบ่อยๆเองมันก็ทำให้เรามี
01:09:46 → 01:09:49 สมาธิไม่ดีได้อย่างนี้ครับก็จะต้องไปดูใน
01:09:49 → 01:09:50 รายละเอียด
01:09:50 → 01:09:55 ตัวเนี่ยง่ายที่สุดเลยนะสังเกตตัวเองนะคะ
01:09:55 → 01:10:00 คือคือถ้าไม่เป็นแต่ไหนแต่ไรนะก็มาลองมา
01:10:00 → 01:10:04 ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนะถ้ามันพึ่งมาเป็น
01:10:04 → 01:10:07 ช่วงระยะหลังๆนี้ละ 1 ปี2ปีหรือว่าช่วง
01:10:07 → 01:10:10 ไม่กี่เดือนเราก็ลองสังเกตปัจจัยในเรื่อง
01:10:10 → 01:10:14 ของการใช้ชีวิตอะไรบ้างที่ทำให้เราเอง
01:10:14 → 01:10:17 เนี่ยไม่มีโฟกัสเนาะตั้งเป้าไว้ไปถึงสัก
01:10:17 → 01:10:22 ทีหรือบางคนนะไม่มีเป้าเลยนะคะนั้นการที่
01:10:22 → 01:10:26 เราเองก็อาจจะต้องฝึกนั้นในการที่เราจะ
01:10:26 → 01:10:30 ตั้งเป้าหมายและลดทอนสิ่งที่มากวนเราใน
01:10:30 → 01:10:32 ระหว่างวันอันนี้ก็จะเป็น
01:10:32 → 01:10:35 สิ่งที่เราเอาสัตว์ก็จะทดลองเนาะไม่ได้
01:10:35 → 01:10:39 หมายความว่ามันถูกต้องนะเออขึ้นทดลองได้
01:10:39 → 01:10:42 นี่ไม่ได้เสียหายอะไรนะคะอ่ะพวกเรามาจาก
01:10:42 → 01:10:44 สาเหตุอย่างนี้เราทดลองแล้วมันก็จะดีขึ้น
01:10:44 → 01:10:47 ไหมจากการใช้ชีวิตและเกิดรถทดลองแล้วมัน
01:10:47 → 01:10:49 ยังเป็นอีกหน่ะเดี๋ยวเนี่ยเราก็มาหาผู้
01:10:49 → 01:10:53 เชี่ยวชาญนะคะเป็นเบื้องต้นลองฝึกเหมือน
01:10:53 → 01:10:55 ที่พี่แนะนำก็ได้นะครับคือหาเวลาในวันนึง
01:10:55 → 01:10:59 นะลองมาอยู่กับตัวเองแล้วก็อยู่กับเพื่อ
01:10:59 → 01:11:01 ให้กับเพื่อนนะตรงนี้เป็นยังไงปัจจุบัน
01:11:01 → 01:11:05 นี้เป็นยังไงมาใช้กับว่าเออรับรู้จะอยาก
01:11:05 → 01:11:07 มีสติกับปัจจุบันนี้ก็เป็นวิธีหนึ่งในการ
01:11:07 → 01:11:11 ฝึกของการที่เราจะมีสมาธิได้มากขึ้นได้นะ
01:11:11 → 01:11:17 ครับครับผมโอเคคำถามถัดไปนะคะทำไมเรารู้
01:11:17 → 01:11:23 สึกต่อต่อคำพูดมากไปหรือรู้สึก
01:11:23 → 01:11:28 หน่อยๆหน่อยๆหน่อยมากกว่าปกติที่เคยเป็น
01:11:28 → 01:11:32 อ่าอ่ะ
01:11:32 → 01:11:35 อีกนิดอนสในมุมของนี้แล้วกันนะก็คือว่า
01:11:35 → 01:11:39 จริงบางทีการที่เราสั่นไหวนะคะต่อความคิด
01:11:39 → 01:11:41 ต่อสายตาแต่มุมมองของคนอื่นเนี่ยจนมึงก็
01:11:41 → 01:11:44 ต้องกลับมาดูตัวเองเนอะไม่อาจจะเป็นเพราะ
01:11:44 → 01:11:46 ว่าเราไม่มั่นใจในตัวเองหรือเปล่า
01:11:46 → 01:11:50 นะมันโดยทั่วไปเนี่ยเรื่องของความการไม่
01:11:50 → 01:11:53 มั่นใจในตัวเองการที่เราเนี่ยไม่เห็นคุณ
01:11:53 → 01:11:57 ค่าในตัวเองว่าชั้นดียังไงฉันไม่ดียังไง
01:11:57 → 01:12:02 เอ่อฉันมีอะไรที่ทำถูกต้องแล้วมีอะไรที่
01:12:02 → 01:12:05 ฉันต้องปรับปรุงตัวเองได้อีกเลยเงี้ยการ
01:12:05 → 01:12:07 ที่เรามองไม่เห็นในจุดนี้มันก็ทำให้เรา
01:12:07 → 01:12:12 เนี่ยหวั่นไหวกับถ้อยคำน้องต่อกับอารมณ์
01:12:12 → 01:12:16 กับสายตาของผู้คนรอบข้างมากเกินความเป็น
01:12:16 → 01:12:18 จริงอ่ะ
01:12:18 → 01:12:22 นี้นะคะงั้นลองเอากลับไปถามตัวเองนะว่า
01:12:22 → 01:12:26 เออแล้วเพราะอะไรทั้งรู้สึกอ่ะกับคำพูด
01:12:26 → 01:12:30 แบบนี้มากนักหนาเอองั้นถ้าเกิดว่าเราได้
01:12:30 → 01:12:32 คำตอบว่าเออเราก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นนี่
01:12:32 → 01:12:36 เนาะนั้นเราอาจจะต้องออกกลับมาเติมนะก็
01:12:36 → 01:12:39 ยอดเขาปลูกอีกนะยอดหยอดกระปุกและความมั่น
01:12:39 → 01:12:41 ใจในตัวเองอันนี้ฉันได้ทำอะไรให้ตัวเอง
01:12:41 → 01:12:45 เนี่ยเอ่อมันใจเนอะจะทำอะไรดีๆตัวเองหรือ
01:12:45 → 01:12:47 ยังวันนี้อ่า
01:12:47 → 01:12:49 งั้นฉันได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับตัว
01:12:49 → 01:12:52 เองได้ทำประโยชน์กับคนอื่นหรือยังรอเห็น
01:12:52 → 01:12:54 คุณข้าวด้วยนะกรุณาเห็นมุมข้าวมาด้วยวัน
01:12:54 → 01:12:57 ที่เวลาทำอะไรเราไม่ค่อยให้เครดิตตัวเอง
01:12:57 → 01:13:01 เอ่อเราให้เครดิตคนอื่นหมดอ้ะแต่ว่าไม่
01:13:01 → 01:13:04 ให้เครดิตตัวเองก็ต้องทำอยู่แล้วนี่คือ
01:13:04 → 01:13:08 ฮ่าๆมาถือว่าเป็นมมนี่นะมันก็จะทำให้เรา
01:13:08 → 01:13:15 อ่อนไหวต่อคำของคนอื่นได้ง่ายนะคะอ่ะ
01:13:15 → 01:13:20 ฮะอ่ะอันนี้เราต่อไปแล้วเนาะนะเรื่องคิด
01:13:20 → 01:13:23 บวกซึ่งเขาก็ขอบคุณแล้วเรียบร้อย
01:13:23 → 01:13:26 ใช่ไหมอันนี้อันนี้น่าจะเป็นเรียกเพื่อน
01:13:26 → 01:13:29 มา
01:13:29 → 01:13:34 คะอันนี้อ่ะอันนี้ก็ถามหรือเปล่าในการ
01:13:34 → 01:13:37 ช่วยอ่านหน่อย
01:13:37 → 01:13:41 ได้ครับผมมองว่าเวลาเครียดมันเหมือนเรา
01:13:41 → 01:13:45 กำลังตัวนี้ตกในสิ่งนั้น
01:13:45 → 01:13:49 นำมันมาแก้ไขอะไรไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ
01:13:49 → 01:13:53 ทำมันนะทำน้ำมันทำนำมันมาแก้ไขมาเรียนรู้
01:13:53 → 01:13:56 ว่าเกิดเทียบได้อย่างไรไปแก้ไขอย่างไรมึง
01:13:56 → 01:13:58 กลายเป็นเราสามารถแก้ปัญหานั้นได้ครับ
01:13:58 → 01:14:02 เข้าใจว่าน่าจะเป็นสิบๆแชร์น่าจะแท้นะ
01:14:02 → 01:14:06 ครับน่าจะให้กับความเครียดความเครียด
01:14:06 → 01:14:08 เนี่ยมันก็เหมือนกับว่าเป็นสิ่งที่เรานำ
01:14:08 → 01:14:13 มาใช้กับป้าเรียนรู้ได้อะไรอ่าอ่ะโอเคก็
01:14:13 → 01:14:20 ก็มาถึงจริงๆอ๋อมาถึงคำถามสุดท้ายที่เรา
01:14:20 → 01:14:22 ปักหมุดไว้
01:14:22 → 01:14:26 เออแต่ว่าเดี๋ยวเราเราก็สวัสดีคุณที่มา
01:14:26 → 01:14:30 ไทยๆหน่อยเนาะ
01:14:30 → 01:14:31 อ่าโอเค
01:14:31 → 01:14:35 อ้าไม่มีอีกสองคำถามเราแถมให้เขานิดนึงนะ
01:14:35 → 01:14:37 เนาะนะคะสองคนสองมาถามจริงๆนะนะคะเราจะ
01:14:37 → 01:14:42 ตอบให้สั้นๆอันนี้มีวิธีที่จะจัดความ
01:14:42 → 01:14:47 เครียดให้ไวที่สุดโหยใจร้อนกันเว้ย
01:14:47 → 01:14:53 เออให้ไวที่สดอ่ะเอาเอาคนเอาคนละ 1 อย่าง
01:14:53 → 01:14:56 ต่อไปสุดเลยแล้วกันนะเอาแล้ว 1 อย่างอาญา
01:14:56 → 01:14:59 อย่างที่อ้นนะไวสุดคือถ้าเครียดจัดเลยนะ
01:14:59 → 01:15:03 ไวสุดตอบแบบฉกกัดแบบมีกระสอบทรายอ่ะอยู่
01:15:03 → 01:15:11 บ้านชกกระสอบทรายหายเลยอ่า
01:15:11 → 01:15:16 มีอะไรพอเลยอ่ะใช่ครับเอาแล้วเอาเอาอย่าง
01:15:16 → 01:15:18 เดียวเอาแบบเอาแบบเร็วสูตรไงเอาแบบเร็ว
01:15:18 → 01:15:22 สุด 1 อย่างตอบเร็วสุดด้วยอ่ะอ่ะ
01:15:22 → 01:15:27 ก็อาจคิดว่าคิดว่าคำถามนี้มันในตัวของมัน
01:15:27 → 01:15:31 น่ะมันมีมันมีความทุกข์คือไวสุดเลยนะเอา
01:15:31 → 01:15:33 คำว่าไวออก
01:15:33 → 01:15:35 ก็คือว่า
01:15:35 → 01:15:39 มีความทุกข์ให้มันมีที่มาของมันน่ะเออถ้า
01:15:39 → 01:15:42 มันรีบอยากขายไวๆเนี่ยมันก็จะเหมือนทุก
01:15:42 → 01:15:46 คุณ 2 เพราะว่ามันทุก 1 ดอกแล้วมันก็ทำไม
01:15:46 → 01:15:49 ไม่หาศักดิ์ศรีมันก็คือคูณ 2 เป็น 2 ดอก
01:15:49 → 01:15:53 อะไรอ่ารู้สึกว่าไวสุดคือบรรเทาๆอย่าง
01:15:53 → 01:15:56 น้อยลดเหลือครึ่งนึงก็คือไม่ต้องหายไวก็
01:15:56 → 01:16:00 ได้นะเลยนะคือเหมือนกับเฮ้ยเออใจเย็นสัก
01:16:00 → 01:16:04 นิดนึงอะเออหายใจเข้าหรอกรับรู้ความไม่
01:16:04 → 01:16:07 อยากเครียดใช่มั้ยอ้ารับรู้ว่าเราไม่อยาก
01:16:07 → 01:16:12 เครียดนะก็อยากให้ตัวเองเครียดซะ
01:16:12 → 01:16:14 ซึ่ง
01:16:14 → 01:16:18 จริงๆฮะตัวเองพวกเหมือนกันครับว่าถ้าให้
01:16:18 → 01:16:20 ตอบสิ่งที่ไวสุดเนี่ยมันจะเป็นสิ่งที่ไม่
01:16:20 → 01:16:24 ดีเลยครับในขึ้นไม่แนะนำเลยนะแต่น้อยอะไร
01:16:24 → 01:16:26 นะครับนะมันจะกันหางี้ถ้าจะยกตัวอย่าง
01:16:26 → 01:16:29 เช่นคนที่เขาเราไม่กระทำแบบไว้ตรวจนะครับ
01:16:29 → 01:16:31 เช่นเครียดหน้าเขาไปถึงเล่าอะไรเนี่ย
01:16:31 → 01:16:34 เพื่อนไม่นานแล้วไม่ใช่งั้นไม่แนะนำให้
01:16:34 → 01:16:36 แน่นอนไม่แนะนำเนื้อเพลงมันก็จะไวถูกไหม
01:16:36 → 01:16:39 ครับแต่ว่าแน่นอนมันจะมีผลเสียตามมาได้
01:16:39 → 01:16:42 เยอะมากนะครับสิ่งที่จะแนะนำก็จะคล้ายๆ
01:16:42 → 01:16:44 หมอโบว์นะครับกับถ้าอย่างหนึ่งก็คือว่า
01:16:44 → 01:16:49 ลองดูหากว่าที่เราสิ่งที่เราเนี่ยชอบทำ
01:16:49 → 01:16:52 สิ่งที่เราหรือเคยทำแล้วมันก็เพลินใจอะไร
01:16:52 → 01:16:54 พวกนี้ครับมันอาจจะเป็นช่องระบายความ
01:16:54 → 01:16:58 เครียดที่มันไม่ได้เกิดผลเสียกับตัวเรา
01:16:58 → 01:17:03 เลยครับคนอื่นได้จะเปลี่ยนไปชอบที่
01:17:03 → 01:17:07 ขอบควายเนี่ยคือก็ไม่ได้เดือดร้อนใครมา
01:17:07 → 01:17:08 ใช่
01:17:08 → 01:17:15 อ่างั้นนะก็ 2 2 ทิ้งเนี่ยง่ายๆเลยคือก็
01:17:15 → 01:17:18 เห็นว่าอยากหายแหละนะแต่ก็ยอมรับนางฟ้า
01:17:18 → 01:17:22 แล้วก็เราก็อย่าไปใจร้อนแล้วก็บรรเทาด้วย
01:17:22 → 01:17:25 กันทำอะไรที่เรารู้สึกว่าเรามีความสุข
01:17:25 → 01:17:29 แล้วก็เอ่อคือถ้ายิ่งใช้ได้ใช้พลังเนาะ
01:17:29 → 01:17:33 อาจจะเป็นแบบพลังของของความสงบก็ได้นะจะ
01:17:33 → 01:17:37 เป็นพลังของการที่เราได้ถ้าแพงก็ได้นะการ
01:17:37 → 01:17:40 การที่อยู่ยังไงที่ให้เราที่สำคัญคิดว่า
01:17:40 → 01:17:43 การที่เราทำอะไรแล้วระวังจากความคิดได้
01:17:43 → 01:17:45 เรามาอยู่กับการกระทำที่มันเป็นปัจจุบัน
01:17:45 → 01:17:46 ที่สุด
01:17:46 → 01:17:50 อุ้ยอย่ามันก็จะทำให้เราอ่ะมีสติได้ง่าย
01:17:50 → 01:17:54 ที่สุดนะอาการมีสติแหละที่จะทำให้เราอยู่
01:17:54 → 01:17:58 กับความเครียดได้มีความสุขมากขึ้นนะจ๊ะ
01:17:58 → 01:18:00 อ้า
01:18:00 → 01:18:06 ๆจะเสร็จแล้วอ่าแล้วอ่ะอ่า
01:18:06 → 01:18:08 ไม่ว่า
01:18:08 → 01:18:11 อ้ะเค้าจะอะ
01:18:11 → 01:18:15 อันนี้คำถามสุดท้ายนะคะสุดท้ายแล้วก็คือ
01:18:15 → 01:18:17 ถ้าไม่ล่ะตอนเรียนสามารถทานได้บ่อยมาก
01:18:17 → 01:18:21 น้อยแค่ไหนคะอ่ะ
01:18:21 → 01:18:23 โน้ท
01:18:23 → 01:18:27 We Are มาท่านเดิมมาบ่อยไม้น้อยแค่ไหน
01:18:27 → 01:18:31 ตรงนี้เป็นยาที่แนะนำให้ทันช่วงก่อนนอน
01:18:31 → 01:18:35 เวลาเดียวอยู่แล้วนะครับนะฮะแล้วก็อ่ามัน
01:18:35 → 01:18:37 ก็จะมีโดดของมันระบุอยู่นะครับเพราะ
01:18:37 → 01:18:40 ฉะนั้นจริงมันๆช่วงซักแป๊บเย็นหัวค่ำก่อน
01:18:40 → 01:18:43 นอนอะไรเงี้ยนะครับต่อวันนะครับแม่ไม่ได้
01:18:43 → 01:18:44 ไม่ต้องไปหันหน้าไปกว่านั้นแหละเพราะว่า
01:18:44 → 01:18:47 ไม่ได้ทำให้เกิดผลอะไรที่มันมากขึ้นนะ
01:18:47 → 01:18:49 ครับแต่ที่จริงก็ทานแล้วมันไม่ได้มีผล
01:18:49 → 01:18:51 อะไรที่มันดีขึ้นชัดเจนอะไรงั้นน่ะจริง
01:18:51 → 01:18:53 ลองปรึกษาแพทย์อย่างที่ผมแนะนำนะครับว่า
01:18:53 → 01:18:56 แต่ต้องไปดูถ้าเหตุก่อนว่าสาเหตุการนอน
01:18:56 → 01:18:58 ไม่หลับแต่มันเกิดจากอะไรนะไม่กินอะไรตอน
01:18:58 → 01:19:00 นี้ไม่ค่อยอาทิตย์กล้วยสำหรับทุกสาเหตุ
01:19:00 → 01:19:04 เสมอไปนะครับใช่ก็ต้องบอกว่าจริงๆนะว่า
01:19:04 → 01:19:07 ปัญหาการนอนเนี่ยมีเอาสักร้อยอย่างได้นะ
01:19:07 → 01:19:10 เฮ้อเอารวมเขาทั้งหมดเนี่ยเธอเนี่ยเรา
01:19:10 → 01:19:15 ชื่อเป็นเรื่องที่มีลาตัวนิลจำเป็นต้อง
01:19:15 → 01:19:19 ใช้คือไม่เราตัวเนี่ยมันช่วยทำให้เราเปิด
01:19:19 → 01:19:22 ประตูการนอนคือรู้สึกง่วงแค่นั้นเองมัน
01:19:22 → 01:19:24 เกิดปัญหาเราไม่ใช่สิ่งที่เรารู้สึกง่วง
01:19:24 → 01:19:27 อ่าด้านอื่นมันก็ไม่ตอบโจทย์แล้วนะเนี่ย
01:19:27 → 01:19:30 ดังนั้นเนี่ยเรื่องนี้อาจจะเป็นแค่ 1 ใน
01:19:30 → 01:19:34 ร้อยสาเหตุที่ไทยแล้วมันจะเหมาะก็ได้นะคะ
01:19:34 → 01:19:38 แล้วเนี่ยเอ่ออย่างที่คุณหมอการบอกเนาะก็
01:19:38 → 01:19:41 กินตามที่เขาบอกในฉลากแหละแล้วแต่ละ
01:19:41 → 01:19:45 ยี่ห้อก็มีมิลลิกรรมที่ต่างกันยังไงจำนวน
01:19:45 → 01:19:49 การกินก็ต่างกันซึ่งเขาก็ระบุไว้แล้วนะคะ
01:19:49 → 01:19:54 ใช้แล้วไม่เวิร์คก็หาทางใหม่แค่นั้นเองนะ
01:19:54 → 01:19:55 จ๊ะ
01:19:55 → 01:19:58 มีอาร์มเมื่อกี้มีคน
01:19:59 → 01:20:00 ก็อย่า
01:20:00 → 01:20:03 แคร์กับเราด้วยนะเรื่องของการใช้เครียดนะ
01:20:03 → 01:20:08 อาบน้ำแล้วหายเครียดนะฮือๆเอาน้ำลายแค่นะ
01:20:08 → 01:20:15 ขอบคุณนะคะขอบคุณคุณหมอนาวะมรกตมาเลยค่ะ
01:20:15 → 01:20:18 อันนี้ก็คุณ K PC ก็บอกว่าแฮปปี้
01:20:18 → 01:20:25 Exercise นะคะช่วยโอเควันนี้เต็มสูบเลย
01:20:25 → 01:20:32 ขอบคุณเอ่อคุณหมอโบว์หมอการอ่านตรงนี้แต่
01:20:32 → 01:20:36 ขอบคุณคุณหมอโบว์คุณหมอการมากๆเลยนะคะที่
01:20:36 → 01:20:42 ให้เวลานะพี่หมอเปิ้ลนะกับชาวแฟนเพจในวัน
01:20:42 → 01:20:49 นี้นะคะก็สุดท้ายนะเอ่อทิ้งทิ้งท้ายหรือ
01:20:49 → 01:20:52 ฝากอะไรสำหรับแฟนเพจโมเดิร์นแอร์ล็อกกิ้ง
01:20:52 → 01:20:54 Happiness ไหมเอ่ยเพื่อให้เขานอนหลับฝัน
01:20:54 → 01:20:57 ดีราตรีสวัสดิ์ด้วยกับเราวันนี้นะ
01:20:57 → 01:20:59 ม.ค
01:20:59 → 01:21:03 แต่ก็ขอบคุณนะคะที่มารับฟังกันนะคะก็ให้
01:21:03 → 01:21:06 เจอรักตัวเองกันเยอะๆนะคะก็คือไม่ตากตัว
01:21:06 → 01:21:08 เองเยอะๆก็จะทำให้เราแฮปปี้ได้น้องอัญเรา
01:21:08 → 01:21:13 แค่ฟิตเนสกับพี่ดา
01:21:13 → 01:21:17 อันนี้ออมพอดีเราไม่คุ้นนะปกติเนี่ยเรียก
01:21:17 → 01:21:19 เจ๊ตลอดนะฮะ
01:21:19 → 01:21:23 เสียดายเลี้ยงเริ่มจะไม่คุณนะฮะอ่าค่ะ
01:21:23 → 01:21:27 ขอบคุณพ่อมากเลยนะหนูก็วันนี้อ๋อวันนี้
01:21:27 → 01:21:32 ไม่ได้ทำงานเนาะนะคะก็เสียสละเวลามานี้ก็
01:21:32 → 01:21:37 คำแหละเอออ่ะต่อไปการครับก็เหมือนกันครับ
01:21:37 → 01:21:41 รู้สึกขอบคุณที่เห็นอะไรคนเลยนะครับรู้
01:21:41 → 01:21:43 สึกว่าอยากดูแลตัวเองในเรื่องของสุขภาพ
01:21:43 → 01:21:46 จิตนะครับก็เป็นกำลังใจให้เพราะว่าจริงๆ
01:21:46 → 01:21:49 แล้วมันเป็นสิ่งที่ดีมากๆเลยครับประกันมา
01:21:49 → 01:21:52 ดูแลตัวเองนะครับแล้วก็อันนี้ก็คุยกันไป
01:21:52 → 01:21:54 เยอะเกี่ยวกับเรื่องกันดูแลตัวเองที่หลาย
01:21:54 → 01:21:56 ๆแบบนะครับจริงๆหาวิทยาลัยก็ได้ครับพี่
01:21:56 → 01:22:00 มันให้กับทำได้เลยทำได้ง่ายๆก่อนอากาศนี่
01:22:00 → 01:22:02 ครับแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันนะครับเพราะ
01:22:02 → 01:22:05 ฉะนั้นลองเลือกดูครับแล้วอันไหนมันเรามัน
01:22:05 → 01:22:09 เข้ากับเราก็ทำแบบนั้นแล้วครับเออใช่ค่ะ
01:22:09 → 01:22:12 มันชีวิตเนี่ยมันมีไว้เรียนรู้เนาะนั้น
01:22:12 → 01:22:15 เราทำอะไรก็ได้ค่ะอ้าวง่ายๆทำได้เลยทำ
01:22:15 → 01:22:18 แล้วไม่เดือดร้อนใครเนาะทำแล้วเวิร์คก็ทำ
01:22:18 → 01:22:21 ต่อทำแล้วไม่เวิร์คก็หาวิธีใหม่เท่านั้น
01:22:21 → 01:22:25 เองนะคะการที่เราสามคนวันนี้เนี่ยมาแชร์
01:22:25 → 01:22:26 ในเรื่องการดูแลตัวเองก็ไม่ได้หมายความ
01:22:27 → 01:22:30 ว่ามันดีที่สุดหรือใช่ที่สุดนะทุกคนก็จะ
01:22:30 → 01:22:33 มีวิธีที่ดีและใช่เป็นของตัวเองอยู่แต่
01:22:33 → 01:22:38 ที่แน่ๆเราสามคนยืนยันนะคะว่าการที่ก่อน
01:22:38 → 01:22:41 ที่เราจะรักใครเรารักตัวเองให้เป็นด้วยนะ
01:22:41 → 01:22:46 นะอ่าเราเนี่ยอยากมีความเมตตาให้กับใคร
01:22:46 → 01:22:50 นักอยากได้รับความเมตตายังไงทำให้ตัวเอง
01:22:50 → 01:22:53 อย่างนั้นก่อนก็ได้นะนะคะก่อนที่เราจะ
01:22:53 → 01:22:57 ร้องขอนะคะการที่อยากให้ใครมาทำอะไรให้
01:22:57 → 01:23:00 เราเราทำสิ่งนั้นแหละนะคะอาหมีทำให้ตัว
01:23:00 → 01:23:01 เองก่อนเลย
01:23:01 → 01:23:05 นะนี่ก็คืออือหือล็อกกิ้ง Happiness นะคะ
01:23:05 → 01:23:10 ระหว่างว่าทุกคนจะค้นหาความสุขง่ายๆที่ทำ
01:23:10 → 01:23:13 ได้เองจะทำได้เลยจากวันนี้เป็นต้นไปนะเรา
01:23:13 → 01:23:20 สามคนต้องบอกว่าเราสามคนที่น้องจะเป็นอ่ะ
01:23:20 → 01:23:28 ไม่ดีไม่ดีวิธีเดี๋ยวไอ้นี้ละกัน
01:23:28 → 01:23:33 เออเล่า 3 คนพี่น้องเป็นกำลังใจให้ทุกคน
01:23:33 → 01:23:37 นะจ๊ะอ้าวการกับโอราตรีสวัสดิ์ทุกคนด้วย
01:23:37 → 01:23:40 สิ่งนี้โอ้โหมันเอา 2 อะไรไว้บ๊ายบาย
01:23:40 → 01:23:43 ราตรีสวัสดิ์
01:23:43 → 01:23:48 โน้ท
01:23:48 → 01:23:51 พ.ย