00:00:00 → 00:00:14 [เพลง]
00:00:14 → 00:00:16 สวัสดีครับพี่หมอสวัสดีครับทุกคนครับ
00:00:16 → 00:00:18 สวัสดีครับครับสวัสดีครับพี่หมอสวัสดี
00:00:18 → 00:00:21 ครับทุกคนครับพี่หมอครับสวัสดีครับทุกคน
00:00:21 → 00:00:26 ครับโอเคหวัดีทุกคนนะวันนี้วันนี้เราจะ
00:00:27 → 00:00:30 เอ่อเริ่มเรื่องเรื่องสนนำในเรื่องเบา
00:00:30 → 00:00:34 หวานน่ะนะฮะก็จริงๆก็เป็นเรื่องนึงอ่ะที่
00:00:34 → 00:00:38 อยากจะพูดเอ่อแต่ว่าเราไปเริ่มต้นกันที่
00:00:38 → 00:00:42 เรื่องของไขมันผิดปกติดิปิดมียก่อนแต่
00:00:42 → 00:00:44 เดี๋ยวมันจะโยงไปโยงมาเกี่ยวข้องกัน
00:00:44 → 00:00:47 สำหรับวันนี้ก็จะเป็นเรื่องใหญ่นะที่หลาย
00:00:47 → 00:00:51 คน inbox มาอยากให้หมอลองคุยกันถึงเรื่อง
00:00:51 → 00:00:55 เบาหวานดูซิจะมีแนวทางเอ่อที่จะเอาไปใช้
00:00:55 → 00:00:58 ในทางปฏิบัติเ่ะในการดูแลตัวเองหรือจะมี
00:00:58 → 00:01:01 ข้อคิดยังไงบ้างนะฮะทนี้หมอบอกก่อนว่า
00:01:01 → 00:01:05 เอ่อเบาหวานที่เราคุยกันในวันเนี้ยมันถือ
00:01:05 → 00:01:09 ว่าเป็นพื้นฐานของเอ่อทางด้าน low C
00:01:09 → 00:01:12 High fash นะฮะแล้วก็การเ้าเรียกการ
00:01:12 → 00:01:15 Approach เนี่ยหรือการนำไปสู่ทางด้านเวท
00:01:15 → 00:01:19 ปฏิบัติอ่าที่จะไปสู่เรื่องนี้และการแก้
00:01:19 → 00:01:24 ไขในแนวทางปฏิบัติเนี่ยนะก็จะมีมุมมองที่
00:01:24 → 00:01:29 ไม่เหมือนกับภาคทฤษฎีเเท่าไหร่นะเอ่อเรา
00:01:29 → 00:01:32 จะมองบนลักฐานของความเป็นจริงนะฮะของคนใน
00:01:32 → 00:01:35 ยุคปัจจุบันน่ะที่เป็นเบาหวานกันเยอะๆนะ
00:01:35 → 00:01:39 ฮะแต่ว่าในรายละเอียดหรือเขาโครงทางด้าน
00:01:39 → 00:01:41 ทฤษฎีการแบ่งชนิดของเบาหวานอะไรต่างๆ
00:01:41 → 00:01:45 เนี่ยเราหาติดตามได้ทางเพจของการแพทย์แบบ
00:01:45 → 00:01:49 แผนหรือทางเพจเอ่อสุขภาพต่างๆเได้เยอะแยะ
00:01:49 → 00:01:53 ไปหมดนะอันนั้นซึ่งเราก็คงผ่านหูผ่านตามา
00:01:53 → 00:01:55 แล้วแล้วใครที่เป็นเบาหวานเนี่ยก็คงได้
00:01:55 → 00:01:58 เข้าไปดูบ้างไปศึกษาบ้าง
00:01:58 → 00:02:00 อ่า
00:02:00 → 00:02:03 มาบ้างนะก็วันนี้มาดูในแนวแบบเนี้ยในแนว
00:02:04 → 00:02:06 โภชนาการคาฟต่ำแบบ ow C High fash ดู
00:02:06 → 00:02:11 นะเวันนี้ก็ไม่เยอะแล้วก็อยากจะให้มีการ
00:02:11 → 00:02:15 จับประเด็นใจความสำคัญหลักๆนะฮะของการ
00:02:15 → 00:02:20 เป็นเบาหวานหมอแบ่งเป็น 2 2 2 กลุ่มคือ
00:02:20 → 00:02:24 คนอ้วนกับคนผอมนะว่าเบาหวานในคนอ้วนน่ะ
00:02:24 → 00:02:27 มันมีที่มาที่ไปยังไงแล้วก็จะต้องโฟกัสใน
00:02:27 → 00:02:31 เรื่องอะไรในการที่จะดูแลกับกลุ่มเบาหวาน
00:02:31 → 00:02:36 ในกลุ่มคนผอมหรือสมส่วนนะที่ที่ยังไม่
00:02:36 → 00:02:39 เข้าไปในเกณฑ์ของความอวบหรืออ้วนอะไร
00:02:39 → 00:02:41 เงี้ยหรือน้ำหนักเกินมากๆเนี่ยแต่ทีนี้
00:02:41 → 00:02:44 ถ้ามีปัญหาเบาหวานเนี่ยเออมันเพราะอะไร
00:02:44 → 00:02:50 แล้วก็มันมันไปไปรักษาหรือว่าไปดูแลตัว
00:02:50 → 00:02:54 เองในแบบคนอ้วนเนี่ยมันมันมันมันใช้กัน
00:02:54 → 00:02:57 ไม่ได้นะฮะนะเดี๋ยวมันจะเป็นยังไงอ่ะ
00:02:57 → 00:03:00 เดี๋ยว๋ยดูดูเรื่องพื้นฐานอันนี้ไปก่อนนะ
00:03:00 → 00:03:05 ฮะอ่ะหมอเล่างี้นะในปัจจุบันเนี่ยนะฮะก็
00:03:05 → 00:03:08 มีคนศึกษาทางด้านวิวัฒนาการของมนุษย์
00:03:08 → 00:03:11 เนี่ยที่เราจะเห็นว่ามีข่าวหรือว่ามีเอ่อ
00:03:11 → 00:03:15 ทางด้านเพจสุขภาพเนี่ยได้เอามาพูดกันถึง
00:03:15 → 00:03:19 แนวทางวิวัฒนาการของคนเราตั้งแต่ยุคก่อนๆ
00:03:19 → 00:03:22 มาเรื่อยๆเลยน่ะคือเขาอยากรู้่ะว่าคน
00:03:22 → 00:03:25 เนี่ยกินพืชหรือกินสัตว์หลักๆก็คืออย่าง
00:03:25 → 00:03:30 เงี้ยนะฮะนะแล้วมนุษยชาติเราอ่ะนะก่อร่าง
00:03:30 → 00:03:33 สร้างตัวกันมาในระดับเป็นล้านปีนะฮะเป็น
00:03:33 → 00:03:38 ล้านปีนะอ่า 2-7 ล้านปีนะฮะแต่เาก็เอาที่
00:03:38 → 00:03:42 ประมาณตั้งแต่ย้อนกลับไป 2 ล้านปีนะฮะนะ
00:03:42 → 00:03:47 ก็โดยส่วนใหญ่นะเรามนุษยชาติเราก็กินใน
00:03:47 → 00:03:51 เรื่องของสัตว์น่ะเป็นหลักนะส่วนการมากิน
00:03:51 → 00:03:54 พืชกินอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยมันก็มาในยุค
00:03:54 → 00:03:59 หลังๆอ่ะนะฮะทีนี้มันมีข้อสรุปเอ่อถึงถึง
00:03:59 → 00:04:01 คนที่เขาเขียนหนังสือเป็นเล่มๆออกมาอย่าง
00:04:01 → 00:04:07 เงี้ยนะว่าว่าเอ่อการที่จะดูว่าคนเนี่ย
00:04:07 → 00:04:13 เป็นอะไรนะอ่ากินยังไงนะถึงจะดีกว่ากันนะ
00:04:13 → 00:04:17 นะคือในข้อสรุปเนี่ยนะก็คือเราทุกคนก็รู้
00:04:17 → 00:04:19 แล้วว่าไม่ว่าจะเป็นสายกินพืชหรือกิน
00:04:19 → 00:04:22 สัตว์ก็ตามว่ามนุษย์เี่เป็นสัตว์เอางี้
00:04:22 → 00:04:24 ก่อนมนุษย์เป็นสัตว์ไม่ใช่พืชนะแล้วเป็น
00:04:25 → 00:04:29 สัตว์ที่มีความสมบูรณ์แบบนะฮะแล้วมนุษย์
00:04:29 → 00:04:34 เนี่ยเยกให้อยู่ในสูงสุดของยอดพีระมิดนะ
00:04:34 → 00:04:39 ฮะของวิวัฒนาการนะซึ่งอ่าจะกินทั้งพืช
00:04:39 → 00:04:43 ทั้งสัตว์อะไรก็แล้วแต่นะฮะนะแต่ในยุค
00:04:43 → 00:04:49 ปัจจุบันเนี้ยนะฮะนะเราเราควรนะจะรู้ว่า
00:04:49 → 00:04:53 แนวโน้มของเราอ่ะถ้าอยากมีสุขภาพดีอ่ะควร
00:04:53 → 00:05:00 จะกินไปในทิศทางไหนนะฮะเนะก็เบอกว่าคือ
00:05:00 → 00:05:02 พืชกษัตริย์เนี่ยอย่างมนุษย์หรือคนเราอ่ะ
00:05:02 → 00:05:05 ที่เป็นสัตว์เนี่ยวิวัฒนาการของคนเราก็
00:05:05 → 00:05:08 คือการวิวัฒนาการที่จะเอาสารอาหารและพลัง
00:05:08 → 00:05:13 งานเนี่ยมาสร้างเป็นสิ่งที่ให้เราขึ้นไป
00:05:13 → 00:05:17 อยู่ที่ยอดสุดของวิวัฒนาการน่ะนะก็คือการ
00:05:18 → 00:05:21 ที่มนุษย์มีสมองที่มันใหญ่ๆๆขึ้นโตขึ้น
00:05:21 → 00:05:26 ใหญ่ขึ้นนะฮะนะคือการควบรวมของพลังงานและ
00:05:26 → 00:05:28 สารอาหารต่างๆเนี่ยนะทุกอย่างเนี่ย
00:05:28 → 00:05:32 วิวัฒนาการให้กลายมาเป็นอ่าสิ่งที่เรา
00:05:32 → 00:05:35 เรียกว่าสมองนะงั้นสมองเนี่ยคือสัญลักษณ์
00:05:35 → 00:05:40 ของวิวัฒนาการสูงสุดของมนุษย์นะงั้นสมอง
00:05:40 → 00:05:43 เนี่ยนะสิ่งที่จะเป็นสมองเนี่ยก็คือการ
00:05:43 → 00:05:46 ควบรวมของสารอาหารต่างๆนะแล้วก็พลังงาน
00:05:46 → 00:05:50 ด้วยนะะนะโดยอ่าแหล่งแรกเลยก็คือก็คือลำ
00:05:50 → 00:05:53 ไส้หรือคือทางเดินอาหารนะเพราะฉะนั้นความ
00:05:53 → 00:05:56 สัมพันธ์ระหว่างสมองกับทางเดินอาหารเนี่ย
00:05:56 → 00:05:58 เถึงได้เรียกว่าทางเดินอาหารเนี่ยเป็น
00:05:58 → 00:06:00 สมองอีกส่วนส่วนนึงอ่ะนะ
00:06:00 → 00:06:07 ฮะนะมันก็จะโยงกันอย่างเงี้ยนะฮะแต่ทีนี้
00:06:07 → 00:06:12 เอ่อจากการที่เราอ่ะกินพลังงานและสาร
00:06:12 → 00:06:16 อาหารที่ค่อนไปทางสัตว์เป็นส่วนใหญ่เป็น
00:06:16 → 00:06:20 ส่วนใหญ่เลยในระดับเป็นล้านๆปีอนะฮะนะ
00:06:20 → 00:06:23 แล้วทำให้เราได้มาซึ่งสมองเนี่ยนะแล้วเรา
00:06:23 → 00:06:27 ก็ก้าวสู่ขึ้นเป็นสิ่งที่สิ่งมีชีวิตที่
00:06:27 → 00:06:31 อยู่ยอดสุดเลยของวิวัฒนาการเนี่ยอันเนี้ย
00:06:31 → 00:06:35 นะเราถือว่าให้มองย้อนกลับไปว่าสิ่งที่
00:06:35 → 00:06:39 เราสะสมมานะมันคือการกินสัตว์มากกว่าพืช
00:06:39 → 00:06:42 นะฮะเพราะฉะนั้นเนี่ยนะถ้าในแง่ของ
00:06:42 → 00:06:47 วิวัฒนาการแล้วเราถือว่านะอาหารที่ดี
00:06:47 → 00:06:50 สำหรับคนเราเพื่อจะต่อยอดในเรื่องของ
00:06:50 → 00:06:53 วิวัฒนาการก็คือการกินสัตว์เป็น
00:06:53 → 00:06:59 หลักกินสัตว์เป็นหลักเนาะอ่าทีนี้ตอนตอน
00:06:59 → 00:07:03 เนี้ยมันก็มีเรื่องของอะไรอ่ะเรื่องของ
00:07:03 → 00:07:06 ความเจริญต่างๆของโลกเราในเรื่องของการ
00:07:06 → 00:07:10 พัฒนาอาหารน่ะนะโดยโดยการพัฒนาทั้งพืช
00:07:10 → 00:07:12 ทั้งสัตว์เนี่ยนะกลายเป็นอุตสาหกรรมอาหาร
00:07:12 → 00:07:16 กลายเป็นการแปรรูปทางอาหารนะฮะเขาก็เลยพบ
00:07:16 → 00:07:19 ว่านะผลพวงจากเรื่องเนี้ยที่มันถือว่า
00:07:19 → 00:07:21 เป็น
00:07:21 → 00:07:24 วิวัฒนาการอีกแนวทางนึงอ่ะนะฮะของความ
00:07:24 → 00:07:28 เจริญของโลก่ะนะมันก็เลยทำให้สมองของ
00:07:28 → 00:07:32 มนุษย์น่ะมันลดขนาดลงนะสวนทางกับ
00:07:32 → 00:07:36 วิวัฒนาการอันเดิมนะแล้วเรื่องของอิทธิพล
00:07:36 → 00:07:39 ของการค้าหรืออุตสาหกรรมอาหารแปรรูปที่
00:07:39 → 00:07:41 เป็น Ultra โส
00:07:41 → 00:07:46 อ่ามันก็ไปทำให้เ่อเกิดการวิววิวัฒนาการ
00:07:46 → 00:07:50 ย้อนกลับลูกศรมันย้อนกลับนะนะย้อนกลับไป
00:07:50 → 00:07:52 ในสิ่งที่ว่าแทนที่มนุษย์เนี่ยจะก้าวหน้า
00:07:52 → 00:07:55 ไปในเรื่องการกินสัตว์ยิ่งๆขึ้นไปให้สมอง
00:07:55 → 00:07:58 มันโตขึ้นโตขึ้นเพราะมันเป็นสัญลักษณ์ของ
00:07:58 → 00:08:01 วิวัฒนาการน่ะนะกลับกลายเป็นว่าเราเกิด
00:08:01 → 00:08:05 การย้อนกลับนะไปกินพืชและไปกินพวกพืชแปร
00:08:05 → 00:08:08 รูปเพราะว่าในการแปรรูปของพืชกับสัตว์
00:08:08 → 00:08:12 เนี่ยปรากฏว่าสิ่งที่มีอิทธิพลสูงสุดและ
00:08:12 → 00:08:16 มีความถือว่าจะถือว่าเป็นพิษมากที่สุดเลย
00:08:16 → 00:08:20 ก็คือการแปรรูปพืชนี่แหละนะฮเพราะฉะนั้น
00:08:20 → 00:08:23 ข้อสรุปนะในปัจจุบันนี้เนี่ยก็คือถ้าคุณ
00:08:23 → 00:08:28 อยากอ่าทำตัวให้สอดคล้องกับวิวัฒนาการนะ
00:08:28 → 00:08:32 ฮะที่ดีดีกว่านะสุขภาพดีกว่าร่างกายแข็ง
00:08:32 → 00:08:36 แรงกว่าสมองเยอะกว่านะก็ไม่ควรจะมีการ
00:08:36 → 00:08:40 ย้อนวิวัฒนาการนะฮะแบบที่เขาเขียนไว้ว่า
00:08:40 → 00:08:42 อย่างเงี้ยนะณปัจจุบันนี้เราได้
00:08:42 → 00:08:45 วิวัฒนาการมาไกลเกินกว่าที่จะย้อนกลับไป
00:08:45 → 00:08:48 กินอาหารที่มาจากพืช
00:08:48 → 00:08:52 แล้วนะเพราะฉะนั้นข้อสรุปก็คือในยุค
00:08:52 → 00:08:56 ปัจจุบันยิ่งมนุษย์เนี่ยถือว่าอายุขัย
00:08:56 → 00:09:01 เจริญก้าวไกลไปแค่ไหนก็ตามนะนะฮแต่ว่านะ
00:09:01 → 00:09:04 ถ้าถ้าอยู่บนรากฐานพื้นฐานของการมีสุขภาพ
00:09:05 → 00:09:07 ดีแล้วเนี่ยนะควรจะเป็นอาหารที่มาจาก
00:09:07 → 00:09:12 สัตว์ให้มากๆๆกว่าพืชนะคือเราไม่มีอืไม่
00:09:12 → 00:09:17 ควรจะย้อนย้อนตัวเองกลับไปอ่าไปกินพืชแบบ
00:09:17 → 00:09:20 แต่ก่อนๆนู้นที่เราวิวัฒนาการหรือ
00:09:20 → 00:09:23 บรรพบุรุษเราอ่ะวิวัฒนาการมาไกลมากแล้ว
00:09:23 → 00:09:27 ครับก็จะเป็นตามเนี้ยนะฮะนะก็คือช่วงนึง
00:09:27 → 00:09:31 อ่ะที่เพบว่าเอ่อตอนนั้นน่ะยังไม่มี
00:09:31 → 00:09:34 อุตสาหกรรมอาหารเนี่ยคนที่กินสัตว์มาก
00:09:34 → 00:09:38 กว่าเสมองมันก็โตกว่าพอมากินอ่าอาหารแปร
00:09:38 → 00:09:42 รูปทางระบบการค้าและอุตสาหกรรมซึ่งมัน
00:09:42 → 00:09:45 เป็นเรื่องของพืชเป็นหลักเนี่ยสมองคนผมฝอ
00:09:45 → 00:09:49 ลงไปนะฮะมันเกิดการถอยหลังของวิวัฒนาการ
00:09:49 → 00:09:52 ซึ่งก็ถือว่าไม่ถูกยิ่งมาโยงกับเรื่องของ
00:09:52 → 00:09:55 สุขภาพและการเจ็บป่วยที่กระจายไปทั่วโลก
00:09:55 → 00:09:59 ในปัจจุบันเนี้ยครับนะมันก็เลยมีข้อสนบ
00:09:59 → 00:10:02 สนุนมาให้ลองย้อนอ่ากลับไปกินแบบ
00:10:02 → 00:10:06 บรรพบุรุษนะฮะซึ่งกินสัตว์เป็นอาหารให้
00:10:06 → 00:10:10 มากๆกว่าพืชแล้วก็เลี่ยงนะสิ่งที่ทั้งพืช
00:10:11 → 00:10:13 ทั้งสัตว์ที่มีการแปรรูปให้มากที่สุดครับ
00:10:13 → 00:10:16 ซึ่งคราวที่แล้วเนี่ยเราพูดกันไปถึง
00:10:16 → 00:10:18 เรื่องของภูมิเพี้ยนจากโรคออโตอิมมูน
00:10:19 → 00:10:21 เนี่ยเราก็พบว่าพืชเนี่ยนะเขาก็
00:10:21 → 00:10:24 วิวัฒนาการแต่ว่าเขาจะไปสร้างสมงสมองหรือ
00:10:24 → 00:10:27 สร้างอวัยวะอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเหมือน
00:10:27 → 00:10:30 มนุษย์เหมือนคนน่ะไม่ได้นะเคก็วิวัฒการใน
00:10:31 → 00:10:34 การสร้างแอนตี้นิวเทรียนแอนไทนิวนที่มี
00:10:34 → 00:10:38 ความปลอดภัยสำหรับตัวเขาแต่เป็นพิษกับใคร
00:10:38 → 00:10:42 ที่จะมาทำลายเค้า่ะหรือมากินเค้าอืมครับ
00:10:42 → 00:10:45 ผมเพราะฉะนั้นตรงนี้นะฮะตรงเนี้ยนะแล้วก็
00:10:45 → 00:10:48 มันก็มีรูปเนี่ยเห็นมเราวิวัฒนาการไปแล้ว
00:10:48 → 00:10:52 ในช่วง 28 ปีมาเนี้ยนะฮะนะเนี่ยที่เรา
00:10:52 → 00:10:55 เปลี่ยนแปลงไปในเรื่องของ Ultra process
00:10:55 → 00:10:58 Food แล้วเราก็กลายเป็นอย่างเงี้ยนะฮะนะ
00:10:59 → 00:11:02 ก็คือตัวเตี้ยลงสมองเล็กลงนะแต่ความกว้าง
00:11:02 → 00:11:07 ร่างกายมันึบๆขึ้นนะฮะครับเพในปัจจุบัน
00:11:07 → 00:11:09 เนี่ยการกินในแนวของที่ค่อนข้างเป็น
00:11:09 → 00:11:13 Animal Base ให้มากอ่าโดยเฉพาะในกลุ่ม
00:11:13 → 00:11:16 โลคบางโลกเช่นออโตอิมมูนที่เคยพูดไปเนี่ย
00:11:16 → 00:11:21 นะก็เลยมีความสำคัญนะเ่อเพิ่มมากขึ้นนะใน
00:11:21 → 00:11:26 การนำมาดูแลสุขภาพด้วยนะครับเอก็อันนี้
00:11:26 → 00:11:29 แล้วแต่คนจะพิจารณาก็แล้วกันนะฮะนะอันนี้
00:11:29 → 00:11:32 ก็พูดสรุปในแง่ของหนังสือทางด้าน
00:11:32 → 00:11:38 วิวัฒนาการนะที่เค้าเค้าเเกำลังมีการแชร์
00:11:38 → 00:11:42 กันหรือว่ากำลังสรุปออกมา
00:11:42 → 00:11:46 ครับแล้วก็ในช่วงสัก 1 หรือ 200 ปีเนี่ย
00:11:46 → 00:11:48 ที่เรามีเรื่องของอุตสาหกรรมอาหารที่เป็น
00:11:48 → 00:11:51 process Ultra process Food เนี่ยนะ
00:11:51 → 00:11:54 ฮะระบบอุตสาหกรรมอาหารของโลกน่ะโดยเฉพาะ
00:11:54 → 00:11:57 100 ปีที่ผ่านมาเนี่ยก็มีการนำกลุ่ม
00:11:57 → 00:12:00 อาหารประเภทพืชที่เป็นคาร์โบไฮเดรตหรือคฟ
00:12:00 → 00:12:04 เนี่ยนะฮะอ่ามามีการแปรรูปนะฮะซึ่งลักษณะ
00:12:04 → 00:12:07 การแปรรูปเนี่ยเจัดเป็น 2 ระบบนะฮะอันที่
00:12:07 → 00:12:12 1 เป็นการแปรรูปทางด้านเอ่อการเกษตรนะฮะ
00:12:12 → 00:12:16 ก็คือแปลรูปมันตรงไปตรงมาเลยอ่ะนะฮะว่า
00:12:16 → 00:12:19 ต้นทางต้นตอของพืชน่ะมันเป็นอะไรน่ะก็จัด
00:12:19 → 00:12:23 การแปรรูปตัดต่อยีนเอ่อหาอะไรต่างๆเป็น
00:12:23 → 00:12:25 ปุ๋ยเป็นเคมีเป็นนวัตกรรมหรือเป็น
00:12:25 → 00:12:29 เทคโนโลยีทางการเกษตรนะมันมันก็ทำให้พืช
00:12:29 → 00:12:31 อันนั้นยังเป็นพืชกล้วยยังเป็นกล้วยข้าว
00:12:31 → 00:12:33 โพดเป็นข้าวโพดถูเหลืองเป็นถูเหลืองอยู่
00:12:34 → 00:12:37 นะแต่รูปร่างหน้าตามันก็ผิดแผกแตกต่างไป
00:12:37 → 00:12:42 จากดั้งเดิมนะหรือเป็นแบบป่าๆนะสักหน่อย
00:12:42 → 00:12:45 นึงนะอันนี้คือการแปรรูปทางด้านการเกษตร
00:12:45 → 00:12:48 โดยตรงซึ่งเราก็ต้องถือว่าเป็นการแปรรูป
00:12:48 → 00:12:52 พืชไปแล้วนะฮนะส่วนอีกอันนึงก็คือร้ายแรง
00:12:52 → 00:12:55 กว่านั้นก็คือการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมอ่า
00:12:55 → 00:13:00 ผลิตเพื่ออ่าทางระบบอะไรอ่ะระบบการค้านะ
00:13:00 → 00:13:03 ฮะมีการใช้สารเคมีมีการครับเปลี่ยนอะไร
00:13:03 → 00:13:06 ต่างๆของความเป็นพืชให้ผิดแผกแตกต่างไป
00:13:06 → 00:13:11 เยอะแยะมากมายแล้วสิ่งนี้ก็เข้ามาในอ่า
00:13:11 → 00:13:15 วัฏจักรอาหารการกินของคนเรานะฮะครับเ
00:13:15 → 00:13:18 เพราะฉะนั้นทั้งพืชทั้งสัตว์เนี่ยฮะมีผล
00:13:18 → 00:13:21 หมดแต่พืชเนี่ยโดยเฉพาะกลุ่มอ่าอาหารและ
00:13:21 → 00:13:24 ก็สารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดตเนี่ยมันได้
00:13:24 → 00:13:28 รับอิทธิพลสูงสุดนะฮะแล้วก็มันก็เลยทำให้
00:13:28 → 00:13:33 เนี่ยฮะเกิดนะฮะเกิดการตอบสนองนะนะเบอก
00:13:33 → 00:13:37 ว่าเอ่อเกิดความเสียหายหรือความผิดเพี้ยน
00:13:37 → 00:13:41 ทางด้านอ่าการตอบสนองตามภาวะปกติของระบบ
00:13:41 → 00:13:44 ร่างกายครับระบบร่างกายก็ทั้งอวัยวะทั้ง
00:13:45 → 00:13:47 ฮอร์โมนทั้งระบบประสาทอัตโนมัติทั้ง
00:13:47 → 00:13:51 เรื่องของสุขภาพร่างกายเลยนะอันนี้ก็เป็น
00:13:51 → 00:13:54 อยู่ในช่วง 100 ปีนี้มีความชัดเจนนะนะ
00:13:54 → 00:13:57 ครับเพราะฉะนั้นใดๆก็ตามนะที่เป็นเรื่อง
00:13:57 → 00:14:01 ของคาฟไม่ว่าจะแปลรูปทั้งโส Ultra โสหรือ
00:14:01 → 00:14:05 แม้แต่ความเป็นธรรมชาติเองของคาฟก็ตามใน
00:14:06 → 00:14:10 ปัจจุบันเนี่ยในปัจจุบันเลยนะ 2566 จะ 67
00:14:10 → 00:14:14 แล้วเนี่ยนะถ้าเราเจ็บป่วยหนักหนานะเรื้อ
00:14:14 → 00:14:18 รังสาหัสสากรอะไรต่างๆครับเรื่องของคาฟ
00:14:18 → 00:14:22 ไม่ว่าจะเป็นชนิดไหนก็ตามอาจจะต้องมีการ
00:14:22 → 00:14:28 ตัดหรืองดนะไปก่อนในระยะแรกๆนะอืแบบที่
00:14:28 → 00:14:31 เราเรากิน CD kcd อะไรต่างๆเหล่าเนี้ย
00:14:31 → 00:14:34 แม้ว่าจะเป็นสมุนไพรแม้ว่าจะเป็นผักแม้
00:14:34 → 00:14:40 ว่าจะเป็นอะไรก็ตามนะที่ที่เป็นพืชเนี่ย
00:14:40 → 00:14:43 นะฮะเรามีแนวโที่ค่อนข้างจะให้น้อยที่สุด
00:14:43 → 00:14:47 นะบงไฟเบอร์อะไรก็บอกกินเข้าไปกเกะกะท้อง
00:14:47 → 00:14:49 ไม่ได้ช่วยในเรื่องของการขับถ่ายการระบาย
00:14:49 → 00:14:52 อะไรนักหนานะเพราะฉะนั้นองค์ความรู้ต่างๆ
00:14:52 → 00:14:55 ความเข้าใจต่างๆอะไรต่างๆเนี่ยมันก็เลยมี
00:14:55 → 00:14:58 ความหลากหลายมากขึ้นแล้วก็มีความชัดเจน
00:14:58 → 00:15:02 มากขึ้นนะ
00:15:02 → 00:15:06 อืทีนี้หมอจะพูดถึงเรื่องเข้าเรื่องเบา
00:15:06 → 00:15:09 หวานในแนวของโคฟ High Fat นะฮะนะเบาหวาน
00:15:09 → 00:15:14 เนี่ยหลักๆก็คือคือปฏิกิริยาโต้ตอบของ
00:15:14 → 00:15:18 ร่างกายนะนะและของฮอร์โมนนะฮะที่เกี่ยว
00:15:18 → 00:15:22 กับอาหารในกลุ่มคาฟนะเป็นหลักเลยนะแต่ก็
00:15:22 → 00:15:26 ยังมีปฏิกิริยาต่อพวกโปรตีนพวกไขมันด้วย
00:15:26 → 00:15:29 ดังที่เราเคยพูดๆคุยๆคุยกันไปในไลฟ์ต่างๆ
00:15:29 → 00:15:32 แล้วนะฮะในวันเนี้ยเราพูดถึงประเด็นใน
00:15:33 → 00:15:36 เรื่องของคาร์โบไฮเดรตก่อนนะฮะซึ่งตัว
00:15:36 → 00:15:38 ฮอร์โมนที่จะมาควบคุมเนี่ยก็คืออินซูลิน
00:15:38 → 00:15:42 อินซูลินนะฮะทีนี้หมอจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม
00:15:42 → 00:15:47 นะฮะนะก็คือกลุ่มคนผอมกับสมส่วนกับกลุ่ม
00:15:47 → 00:15:54 คนที่อ้วนนะอ้วนอวบนะน้ำหนักเกินนะ
00:15:55 → 00:16:01 ฮะเนี่ยก็นะน้ำตาลก็ดีแป้งก็ดีนะฮะนะหรือ
00:16:01 → 00:16:03 อาหารแปรรูปที่เป็นลักษณะสนคอะไรต่างๆก็
00:16:03 → 00:16:08 ดีนะฮะพวกนี้นะมีการกินอ่าเเรียกว่ากิน
00:16:08 → 00:16:12 เกินกับกินผิดนะฮะเนี่ยปฏิกิริยาการตอบ
00:16:12 → 00:16:15 สนองของอินซูลินนะฮะของร่างกายโดย
00:16:15 → 00:16:19 เบต้าเซลล์ของตับอ่อนเนะก็จะทำให้คนใน 2
00:16:19 → 00:16:24 กลุ่มเนี้ยนะอ่ามีมีอะไรอ่ะ
00:16:24 → 00:16:29 มีมีบางสิ่งบางอย่างนะที่เกิดการตอบสนอง
00:16:29 → 00:16:33 ต่อาฟในแบบเนี้ยแตกต่างกันนะฮะถ้าเป็นใน
00:16:33 → 00:16:36 กลุ่มคนอ้วนคนอวบคนน้ำหนักเกินนะฮะนะ
00:16:36 → 00:16:39 เนี่ยจะเป็น typ ไหนก็ตามนะฮะที่มีลักษณะ
00:16:39 → 00:16:43 แบบนี้นะคนพวกนี้เราต้องจำคำนี้ไว้เลยว่า
00:16:43 → 00:16:47 เขาจะมีภาวะไฮเปอร์อินซูลินนะฮะการตอบ
00:16:47 → 00:16:50 สนองจะเป็นรูปแบบของที่มีอินซูลินหรือ
00:16:50 → 00:16:53 เป็นฮอร์โมนอินซูลินออกมาเยอะๆออกมาเยอะๆ
00:16:53 → 00:16:57 นะฮะโดยช่วงแรกๆเนี่ยมันอินซูลินเเนี่ยย
00:16:57 → 00:16:59 มันก็ยังทำหน้าที่ที่เอาน้ำตาลเข้าเซลล์
00:16:59 → 00:17:01 ได้เข้าไปเปลี่ยนเป็นไขมันไตรกีซาไลน์
00:17:01 → 00:17:04 อะไรได้เข้าไปให้เซลล์ใช้เป็นพลังงานเข้า
00:17:04 → 00:17:08 สู่เคปไซเคิลอะไรได้หมดนะฮะแต่นะ
00:17:08 → 00:17:11 ปฏิกิริยาการตอบโต้ของคนกลุ่มนี้นะฮะนะ
00:17:12 → 00:17:15 เนี่ย opic Fat เนี่ยนะฮะนะก็เป็นลักษณะ
00:17:15 → 00:17:21 อินซูลินเยอะนะนี้ตรงกันข้ามนะฮะนะพวกที่
00:17:21 → 00:17:24 เป็นเนี่ยคน outside Fat Inside นะฮะ
00:17:24 → 00:17:29 พวกนี้เขาเรียกไดิอ่าไดอิจินะฮะนะคือ
00:17:29 → 00:17:32 กลุ่มคนผอมหรือสมส่วนเนี่ยปฏิกิริยาการ
00:17:32 → 00:17:36 ตอบสนองจะเป็นปฏิกิริยาที่ร่างกายจะมี
00:17:36 → 00:17:39 ปริมาณน้ำตาลในเลือดเยอะก็เป็นไฮเปอร์
00:17:39 → 00:17:45 ไลซีนนะฮะนะโดยคนพวกเอินซูลินจะไม่เยอะนะ
00:17:45 → 00:17:50 จะไม่เยอะนะอินซูลินอาจจะเยอะไม่ชัดเจน
00:17:50 → 00:17:54 หรือปกตินะฮะหรือปกติแต่ปัญหาก็คือ
00:17:54 → 00:17:57 อินซูลินเนี่ยมันเพี้ยนมันเดี้ยงนะเค้าก็
00:17:57 → 00:18:00 เรียกว่าอินซูลินฟังก์ชัน
00:18:00 → 00:18:04 นะอันเนี้ยมันจะแยกเป็น 2 กลุ่มแบบนี้เลย
00:18:04 → 00:18:07 อืครับถ้าเราจะเอาบี้ TY Diet มาจับ
00:18:07 → 00:18:12 เนี่ยนะฮะถ้ากลุ่มเยก็จะเป็นสายแป้งนะอ๋อ
00:18:12 → 00:18:15 ฮะกลุ่มนี้ก็คือกลุ่มสายแป้งนะฮะซึ่งจะ
00:18:15 → 00:18:19 เป็นกลุ่มพุงปุงตับกับไทรรอยด์นะฮะกลุ่ม
00:18:19 → 00:18:22 นี้ก็จะเป็นกลุ่มสายเนื้อนะฮะซึ่งก็จะ
00:18:22 → 00:18:26 เป็นกลุ่มพูมิเครียดกับเอสโตรเจนเดดนะฮะ
00:18:26 → 00:18:29 เพราะงั้นคนอ้วนจะตอบสนองในเรื่องของ
00:18:29 → 00:18:33 อินซูลินสูงนะฮะโดยที่น้ำตาลเนี่ยเ่าไม่
00:18:33 → 00:18:36 ค่อยเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายยกเว้นระยะท้าย
00:18:36 → 00:18:41 ๆนะฮะแต่คนผอมๆเนี่ยนะการตอบโต้กับไอ้พวก
00:18:41 → 00:18:45 คาฟแปรรูปนะน้ำตาลแป้งอะไรต่างๆนะหรือ
00:18:45 → 00:18:48 อาหารแปรรูปเนี่ยนะฮะพวกนี้ตอบโต้ตรงไป
00:18:48 → 00:18:52 ตรงมาเลยก็คือน้ำตาลสูงนะแต่อินซูลินนี่
00:18:52 → 00:18:56 ก็อาจจะสูงเล็กน้อยหรือปกติแต่เพียงแต่
00:18:56 → 00:18:59 ว่าเขาขี้เกียจทำงานเขี้เกียจทำงานเ
00:18:59 → 00:19:03 ฟังก์ชันเไม่ทำงานนะฮะแล้วพอทิ้งไว้ทิ้ง
00:19:03 → 00:19:06 ไว้ทิ้งไว้เนี่ยทั้ง 2 ฝั่งเนี่ยนะฮะก็จะ
00:19:06 → 00:19:09 เกิดโรคต่างๆตามมาเยอะแยะนะฮะซึ่งใน
00:19:09 → 00:19:12 ปัจจุบันเนี่ยนะในงานวิจัยก็คือมีทั้งหมด
00:19:12 → 00:19:17 87 โรคนะฮะ 87 โลกนะแล้วก็โลกที่เราพูด
00:19:17 → 00:19:20 กันว่ามันไปสิ้นสุดที่เบาหวานเบาหวานคือ
00:19:21 → 00:19:26 ปลายอุโมงค์นะของที่สิ้นสุดนะของทั้ง 2
00:19:26 → 00:19:30 ภาวะนี้นะฮะนะแล้วก็ 2 ภาวะเนี้ยนะช่วง
00:19:30 → 00:19:34 แรกๆเราก็เรียกว่าภาวะดื้ออินซูลินนะฮะ
00:19:34 → 00:19:37 ดื้ออินซูลินแต่ในปัจจุบันเนี่ยคำว่า
00:19:37 → 00:19:39 insulin resistance รือดื้อ insulin
00:19:39 → 00:19:43 เนี่ยเราจะหมายถึงกลุ่มคนฝั่งขวามือเป็น
00:19:43 → 00:19:44 ส่วน
00:19:44 → 00:19:49 ใหญ่นะแต่กลุ่มนี้เนี่ยก็ถือว่าเป็นดื้อ
00:19:49 → 00:19:51 อินซูลินนะแต่เขาพยายามจะใช้คำว่า
00:19:51 → 00:19:56 อินซูลินฟังกชันนะฮะก็คือฝั่งที่ Pin
00:19:56 → 00:19:59 outside Fat Inside ก็คือผอมหรือสม
00:19:59 → 00:20:01 ส่วน
00:20:01 → 00:20:06 นะแล้วอ่าทั้งหมดเนี่ยเมีชื่อเรียกอันนี้
00:20:06 → 00:20:08 นะฮะว่าเป็น Syndrome นะฮะ Syndrome คือ
00:20:08 → 00:20:13 กลุ่มอาการก็เรียกว่า lot Wi Syndrome
00:20:13 → 00:20:16 L Wi คืออะไร
00:20:16 → 00:20:20 อ่ะคือหมาพันธุล
00:20:20 → 00:20:27 ไลอนะเออ L vir Syndrome นะฮะนะอัน
00:20:27 → 00:20:29 นี้
00:20:29 → 00:20:30 โอเค
00:20:30 → 00:20:32 อ่าที
00:20:32 → 00:20:36 นี้เนี่ยอ่ายังอยู่กัน
00:20:36 → 00:20:42 นะอันนี้หมอสรุปให้นะคือสรุปออกมาเป็น
00:20:42 → 00:20:46 เป็นเป็นเ่อข้อมูลนะฮะนะก็ลองไปอ่านกัน
00:20:46 → 00:20:50 ได้นะฮะนะ L ไอ Syndrome นะจะเป็นกลุ่ม
00:20:50 → 00:20:54 อาการความผิดปกติของการกินของคนเราซึ่ง
00:20:54 → 00:20:58 เป็นปฏิกิริยาการจัดการน้ำตาลนะฮะนะน้ำ
00:20:58 → 00:21:03 ตาลเนี่ยโดยเฉพาะอ่าคาฟส่วนเกินคาฟที่ ex
00:21:03 → 00:21:06 คาฟที่วอรนะฮะนะหรือไม่ก็อีกส่วนหนึงก็
00:21:06 → 00:21:10 คือพวกโปรตีนล้นเกินนะซึ่งจะมีความแตก
00:21:10 → 00:21:14 ต่างกันไปในแต่ละบุคคลนะฮะนะก็มี 2 กลุ่ม
00:21:14 → 00:21:18 นะฮะนะก็คือกลุ่ม
00:21:18 → 00:21:22 จนิก็คือกลุ่มคนที่อ้วนอวบน้ำหนักเกินนะ
00:21:22 → 00:21:26 พวกนี้ความเด่นชัดก็คือปริมาณอินซูลินจะ
00:21:26 → 00:21:30 สูงเรียกว่าไฮเปอร์อินซูลินอีเมียนะเนี่ย
00:21:30 → 00:21:35 นะแต่ความเข้มข้นของระดับน้ำตาลในเลือดนะ
00:21:35 → 00:21:39 ยังสามารถที่จะควบคุมได้เป็นปกติดีนะฮะ
00:21:39 → 00:21:41 คืออินซูลินเนี่ยเขามีปริมาณเยอะอย่าง
00:21:41 → 00:21:44 เดียวนะฮะแต่การทำงานการทำหน้าที่ของเค
00:21:44 → 00:21:49 ยังปกตินะเพราะฉะนั้นถ้าถ้ามีน้ำตาลมาใน
00:21:49 → 00:21:52 กระแสเลือดเขาก็ยังพอจัดเก็บน้ำตาลต่างๆ
00:21:52 → 00:21:55 เข้าเซลล์หรือเข้าไปเปลี่ยนแปลงเป็นไตกี
00:21:55 → 00:21:58 สไลด์อะไรได้นะฮะนะเพียงแต่ว่าอินซูลิน
00:21:58 → 00:22:03 มันออกมาเยอะเกินไปนะจากการถูก
00:22:03 → 00:22:07 กระตุ้นถ้าระยะท้ายๆอ่ะระยะท้ายๆคือระยะ
00:22:07 → 00:22:10 ที่เซลล์เนี่ยมันดื้ออินซูลินแล้วนะฮะนะ
00:22:10 → 00:22:14 ถ้าเป็นอย่างนี้นะเอ่อเป็นอย่างนี้เนี่ย
00:22:14 → 00:22:17 นะน้ำตาลก็เข้าเซลล์ไม่ได้นะเซลล์เจะปิด
00:22:17 → 00:22:22 ประตูอ่ะนะฮะไอ้ตัวประตูกลัดโฟอถูกปิดนะ
00:22:22 → 00:22:24 เพราะฉะนั้นเนี่ยอินซูลินเอาน้ำตาลเข้า
00:22:24 → 00:22:26 เซลล์ไม่ได้น้ำตาลมันก็จะเอ่อท้นในกระแส
00:22:26 → 00:22:29 เลือดก็เป็นเบาหวางนะฮะเป็นบาหวาดเพราะ
00:22:29 → 00:22:32 ฉะนั้นพวกที่เนี้ยพวกเนี้ยในระยะท้ายๆ
00:22:32 → 00:22:35 เนี่ยอินซูลินก็สูงน้ำตาลก็สูงแต่ระยะแรก
00:22:35 → 00:22:38 ๆอินซูลินสูงแต่น้ำตาลยังอาจจะอยู่ใน
00:22:38 → 00:22:41 เกณฑ์ปกติหรือสูงเล็กน้อย
00:22:41 → 00:22:45 นะนกลุ่มที่ 2 ก็คือกลุ่ม
00:22:45 → 00:22:47 เนี่ย
00:22:47 → 00:22:51 ไดอิจินะฮะนะกลุ่มนี้ก็คือกลุ่มคนที่ไม่
00:22:51 → 00:22:55 อ้วนไม่อ้วนนะฮะอ่าน้ำหนักอยู่ในช่วงปกติ
00:22:55 → 00:23:01 สมส่วนนะสมส่วนค่อนผอมผอมหรือผอมมากๆนะนะ
00:23:01 → 00:23:05 ผอมมากๆต่ำกว่าเกณฑ์น่ะนะฮะนะซึ่งเอ่อ
00:23:05 → 00:23:08 กลุ่มที่ผอมเยอะๆเลยเนี่ยนะเคก็เรียกว่า
00:23:08 → 00:23:12 tin outside Fat Inside นะครับผอมนอก
00:23:12 → 00:23:13 อ้วน
00:23:13 → 00:23:17 ในคนพวกนี้นะฮะปฏิกิริยาตอบสนองต่อเรื่อง
00:23:17 → 00:23:22 ของคาฟนะต่างๆที่เยอะน่ะหรือแปรรูปมากๆ
00:23:22 → 00:23:26 เนี่ยเขาก็จะมีระดับน้ำตาลในเลือดนะสูงนะ
00:23:27 → 00:23:29 เเรียกว่าไเปือ
00:23:29 → 00:23:33 ไกลซีนอินซูลินเนี่ยที่มีการตอบสนองเนี่ย
00:23:33 → 00:23:37 นะฮะมันไม่ได้ถูกอ่าเบต้าเซลล์ของตับอ่อน
00:23:37 → 00:23:40 สร้างออกมามากมายเหมือนกลุ่มประเภทแรกนะ
00:23:40 → 00:23:46 ฮะนะนะขณะเดียวกันเนี่ยการทำงานเนี่ยนะฮะ
00:23:46 → 00:23:48 ของตัวอินซูลินหรือประสิทธิภาพคุณภาพของ
00:23:48 → 00:23:52 อินซูลินเนี่ยในกลุ่มนี้จะไม่ค่อยดีนะก็
00:23:52 → 00:23:55 เลยไม่สามารถที่จะเอาน้ำตาลเข้าเซลล์หรือ
00:23:55 → 00:23:57 เข้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรที่ระดับเซลล์ได้
00:23:57 → 00:24:01 ได้นะน้ำตาลมันก็เลยเอ่อท้นอยู่ในกระแส
00:24:01 → 00:24:04 เลือดเพราฉะนั้นกลุ่มเนี้ยจะเป็นกลุ่มที่
00:24:04 → 00:24:07 น้ำตาลจะสูงเร็วนะฮะน้ำตาลจะค่อนข้างสูง
00:24:07 → 00:24:11 เร็วนะฮะคือถ้าเปรียบเทียบคนอ้วนกับคนผอม
00:24:11 → 00:24:14 เนี่ยเวลาที่จะลงเอยด้วยภาวะเบาหวานเนี่ย
00:24:14 → 00:24:19 นะฮะนะคนที่อ้วนเนี่ยมันจะเหมือนได้ซื้อ
00:24:19 → 00:24:23 เวลานะนานเลยนะกว่าจะถูกวินิจฉัยว่าเป็น
00:24:23 → 00:24:27 เบาหวานนะซึ่งเขาคก็เรียกว่าอยู่ในภาวะ
00:24:27 → 00:24:30 ไฮเปอร์อินซูลินนีเมียอ่าอ่าก็ยังไม่ถึง
00:24:30 → 00:24:33 เวลานะที่จะออกหัวออกก้อยมาเป็นเบาหวาน
00:24:33 → 00:24:38 สักกทีนะฮะเอ่อมันก็ช้านะฮะนะเนี่ยแต่ถ้า
00:24:38 → 00:24:42 เป็นคนผอมเนี่ยนะคนผอมเนี่ยนะมันไม่มี
00:24:42 → 00:24:45 แหล่งที่เก็บอ่าพลังงานส่วนเกินอะไรมาก
00:24:45 → 00:24:50 มายนักนะเคนพวกนี้เนี่ยเร็วมากนะฮะนะถ้า
00:24:50 → 00:24:53 มีการกินคาฟที่ผิดๆนะหรือกลุ่มอาหารแปร
00:24:53 → 00:24:56 รูปเนี่ยนะไม่ช้าไม่นานน่ะน้ำตาลมันก็
00:24:56 → 00:24:59 พุ่งพรวดนะแล้วก็ถูกวินิจฉัยว่าเป็นเบา
00:24:59 → 00:25:02 หวานเพราะฉะนั้นคนผอมเนี่ยไม่มีช่วงการ
00:25:02 → 00:25:06 ซื้อเวลาในการที่จะเป็นเบาหวานนะถ้าเป็น
00:25:06 → 00:25:09 มันก็เป็นเลยนะฮะมันค่อนข้างเร็วนะอันนี้
00:25:09 → 00:25:16 มันก็ต่างกันระหว่างคนอ้วนกับคนผอมนะ
00:25:16 → 00:25:21 ฮะก็มีอีกเ่อประเภทที่ 3 เนี่ยก็คือมี
00:25:21 → 00:25:26 ลักษณะเ่อผสมเผสกันนะระหว่างเอ่ออินซูลิน
00:25:26 → 00:25:29 กับน้ำตาลในเลือดนะฮะแต่เค้าบอกว่ากลุ่ม
00:25:29 → 00:25:32 เนี้ยมันจะมีแค่ 5% นะที่มันจะเป็นลูกผสม
00:25:33 → 00:25:36 หรือเป็นไฮบิดนะฮะยังไม่เยอะนะฮะอ่าถ้า
00:25:36 → 00:25:41 อ้วนนะน้ำหนักเกินนะอันนี้ก็จะเป็นพวก
00:25:41 → 00:25:47 กลุ่มแรกนะแต่ถ้าผอมสมส่วนนะหรือน้ำหนัก
00:25:47 → 00:25:51 ตกเกณฑ์นะพวกนี้ก็จะเป็นกลุ่มที่ 2 อัน
00:25:51 → 00:25:55 นี้หวังว่าก็คงจะพอรู้พอเข้าใจพอจะแยกแยะ
00:25:55 → 00:25:56 ได้
00:25:56 → 00:26:01 เนาะอันนี้ก็ทำเป็นอ่าตัวแยกแยะไว้ให้ละ
00:26:01 → 00:26:04 นะฮะครับผมเออ
00:26:04 → 00:26:08 เนี่ยอันนี้พอพอเข้าใจมยยังติดตามกันอยู่
00:26:08 → 00:26:12 หือเปล่าครับยังติดตามอยู่ครับเออนะเนี่ย
00:26:12 → 00:26:14 นะมันก็จะมีอันนี้หมอเอามาเขียนไว้ให้
00:26:14 → 00:26:17 แล้วนะเดี๋ยวเราดูไปเรื่อยๆนะอ่ากราฟ
00:26:17 → 00:26:19 อันเนี้ยนะ
00:26:19 → 00:26:24 เนี่ยกลุ่มนี้คนผอมนะฮะนะอ่ากลุ่มนี้ก็
00:26:24 → 00:26:26 เป็นกลุ่มคนอ้วนถ้าอ้วนไฮเปอร์อินซูลิน
00:26:26 → 00:26:31 เมียถ้าผอมไฮเปอร์ไซซีมนะฮะแล้วก็หลักการ
00:26:31 → 00:26:35 ในการแก้ไขก็จะต่างกันนะฮะอีกกลุ่มนึงก็
00:26:35 → 00:26:39 คือกลุ่มประเภทที่มี 2 อย่างซ้อนกันนะฮะ
00:26:39 → 00:26:43 นะก็กลุ่มนี้ก็ไม่เยอะ 5% นะฮะอย่างกลุ่ม
00:26:43 → 00:26:47 ที่ผอมเนี่ยเวลาเแก้ไขนะเค้าก็ต้องกินแบบ
00:26:47 → 00:26:52 คาฟต่ำนะฮะนะแล้วเมื่อตัดคาฟเนี่ยต้องใช้
00:26:52 → 00:26:54 พลังงานหลักที่มาจาก High Good Fat นะ
00:26:54 → 00:26:58 ฮะก็คือเป็น low C High Good fat นะ
00:26:59 → 00:27:03 เนี่ยมีการแต่ว่ากลุ่มผอมเนี่ยนะฮะมันยัง
00:27:03 → 00:27:07 จะต้องมีการปรับนะใช้คาฟที่ดีในมื้อเย็น
00:27:07 → 00:27:10 อ่าเพื่อจะช่วยในเรื่องของการนอนหลับและ
00:27:10 → 00:27:15 คุมฮอร์โมนคอร์ติซอลด้วยนะฮะเเนี่ยมัน
00:27:15 → 00:27:18 กลุ่มคนที่ผอมเนี่ยจะต้องมี
00:27:18 → 00:27:22 เอ่อการดูแลใส่ใจการทำงานของคอร์ติซอลนะ
00:27:22 → 00:27:25 ฮะในเรื่องของการกินกินดีกินดีก็คือกิน
00:27:25 → 00:27:28 สารอาหารครบโดยเฉพาะมื้อเย็นต้องมีฟบ้าง
00:27:28 → 00:27:33 นะฮะนะแล้วก็ต้องนอนดีนะการออกแรงออก
00:27:33 → 00:27:39 กำลังนะเอ่อต้องทำให้เป็นในคนผอมนะฮะนะ
00:27:39 → 00:27:42 เนี่ยซึ่งก็จะต้องเวทเป็นหลักนะฮะเอ่อเวท
00:27:42 → 00:27:45 วๆอะไรอย่างงี้นะฮะนะแล้วก็เรื่องของจิต
00:27:46 → 00:27:49 ใจอารมณ์ความคิดที่เป็นบวกนะฮะส่วนใน
00:27:49 → 00:27:52 กลุ่มคนที่อ้วนเนี่ยในการแก้ไขไฮเปอร์
00:27:52 → 00:27:56 อินซูลินนีเมียนะฮะนะอันเนี้ยหลักการก็
00:27:56 → 00:28:00 คือการตัดหรืองดหรือควบคุมจำกัดปริมาณของ
00:28:00 → 00:28:03 คาฟนะฮะนะก็แล้วแต่เราเป็นหนักแค่ไหน
00:28:03 → 00:28:07 อินซูลินมันเยอะมากแค่ไหนนะฮะน้ำตาลมัน
00:28:07 → 00:28:10 สูงปี๊ดไปแค่ไหนแล้วนะฮะเนี่ยอ่าหลายคนก็
00:28:10 → 00:28:15 คือต้องกินแบบ CD อ่ะนะหรือ kcd นะฮะก็
00:28:15 → 00:28:19 คือตัดคาฟเหลือไม่ถึง 5% นะฮะนะอ่าหลัก
00:28:19 → 00:28:23 การก็คือยังจะต้องใช้ไขมันนะไขมันดีอ่ะนะ
00:28:23 → 00:28:26 เป็น low C High Good Fat เช่นเดียว
00:28:26 → 00:28:29 กันนะฮะพลังงานหลักต้องมาจาก High Good
00:28:29 → 00:28:34 Fat นะฮะแล้วก็กลุ่มนี้จะต้องมีการเว้น
00:28:34 → 00:28:37 ระยะการกินนะฮะที่ค่อนข้างห่างนะฮะคือนอก
00:28:37 → 00:28:41 จากตัด snack แล้วเนี่ยเราอาจจะต้องทำ If
00:28:41 → 00:28:44 ที่ค่อนข้างยาวนานนะบางคนอาจจะต้องทำ omas
00:28:44 → 00:28:48 ระยะแรกนะหรือไม่ก็แล้วแต่
00:28:48 → 00:28:52 18/6 20/4 อะไรอย่างงั้นนะฮะมีมื้อหลัก
00:28:52 → 00:28:54 มื้อเดียวแล้วก็มีมื้อย่อยเล็กๆอีกสัก
00:28:54 → 00:28:59 มื้อนึอะไรอย่างเงี้ยแล้วก็กลุ่มเนี่ยก็
00:28:59 → 00:29:01 มักจะมี 2 เรื่องเนี้ยนะเรื่องออกกำลัง
00:29:01 → 00:29:05 กายเอาไว้ทีหลังนะฮะช่วงแรกก็คือต้องตัด
00:29:05 → 00:29:10 ลดอินซูลินลงมาให้ได้ก่อนเลยนะฮะแต่กลุ่ม
00:29:10 → 00:29:12 แรกเนี่ยกลุ่มแรกเนี่ยก็จะคือจะต้องจะ
00:29:12 → 00:29:16 ต้องตัดไอ้เรื่องน้ำตาลนะฮะนะลด
00:29:16 → 00:29:21 ไฮเปอร์ไกลสีเมนให้ได้อันนี้มันจะต่าง
00:29:21 → 00:29:25 กันพอเข้าใจมั้ยพอเข้าใจเป็นแบบ
00:29:25 → 00:29:28 2 ซ้ายขวา
00:29:28 → 00:29:32 มั้ยเข้าใจครับได้ครับพอเข้าใจครับเออที
00:29:32 → 00:29:34 นี้ก็มีอีกรูปนึงเนี่ยที่จะช่วยให้เรา
00:29:34 → 00:29:38 เข้าใจมากยิ่งขึ้นนะฮะนะเนี่ยมันก็จะเป็น
00:29:38 → 00:29:44 แบบนี้นะฮะก็มีลักษณะของนโมไซเนะฮะอันนี้
00:29:44 → 00:29:48 น้ำตาลปกติอน้ำตาลปกติก็อาจจะเป็นคนปกติ
00:29:48 → 00:29:52 นะหรือคนที่กินโลคาฟ High Fat กินคีโต
00:29:52 → 00:29:56 กิน CD kcd อ่าอ่าเข้าที่เข้าทางแล้วนะ
00:29:56 → 00:30:00 ฮะนะเมื่อปรับเข้าที่เข้าทางแล้วเนี่ยนะ
00:30:00 → 00:30:03 ร่างกายมันจะ insulin sensitivity นะฮะ
00:30:03 → 00:30:06 นะแล้วมันก็จะเรืองมีเรื่องของการรักษา
00:30:06 → 00:30:09 ระดับน้ำตาลให้มันเสถียรอ่าทั้งวันทั้ง
00:30:09 → 00:30:12 คืนนะฮะเนี่ยเราจะเห็นว่าเซลล์ซลล์หนึ
00:30:12 → 00:30:14 เนี่ยนะไม่ว่าจะเป็นเซลล์ที่ตับที่กล้าม
00:30:14 → 00:30:17 เนื้อนะหรือที่ไหนก็ตามเนี่ยนะฮะมันก็จะ
00:30:18 → 00:30:20 มี 3 อย่างเนี้ยนะฮะคือมีอินซูลินมี
00:30:20 → 00:30:23 กลูโคสแล้วก็มีคีโตนนะฮะเนี่ยถ้าเราปรับ
00:30:23 → 00:30:26 ทุกอย่างมัน Normal แล้วเนี่ยนะฮะอ่าเรา
00:30:26 → 00:30:30 ก็จะเห็นว่าน้ำตาลเอยคีโตนเอยเนี่ยมัน
00:30:30 → 00:30:32 อยู่ทั้งข้างนอกมันอยู่ทั้งข้างในและ
00:30:32 → 00:30:37 อินซูลินเนี่ยเขาก็ทำงานได้แบบ sensitive
00:30:37 → 00:30:39 ในการที่จะเอาน้ำตาลเข้าเซลล์นะส่วนคีโตน
00:30:40 → 00:30:42 เนี่ยมันเข้าได้เลยอมันไม่ต้องมีเ่อ
00:30:42 → 00:30:46 อินซูลินมาพามันนะฮะนะเพราะฉะนั้นในเซลล์
00:30:46 → 00:30:49 นอกเซลล์อะไรต่างๆจะบาานทั้งหมดเลยนะฮะ
00:30:49 → 00:30:52 เพราะฉะนั้นสีเขียวเนี่ยก็เลยโยงมาถึงตรง
00:30:52 → 00:30:57 นี้นะฮะนะตรงกราฟอันเนี้ยว่านะเนี่ยในใน
00:30:57 → 00:31:01 เซลล์นอกเซลล์นะฮะนะเนี่ยทุกอย่างจะบาน
00:31:01 → 00:31:06 กันเป็นเส้นแบบ 45 องศาแบบนี้
00:31:06 → 00:31:11 นะทีนี้มาดูแบบนี้นะแบบคนผอมเนี่ยแบบคน
00:31:11 → 00:31:15 ผอมเนี่ยที่หมอว่านะคนผอมเนี่ยนะเ่อ
00:31:15 → 00:31:18 อินซูลินเขาสร้างไม่เยอะนะสีเขียวๆคือ
00:31:18 → 00:31:21 อินซูลินนะฮะแต่อินซูลินเขาคเดี้ยงเ
00:31:21 → 00:31:24 ฟังก์ชันเทำงานไม่ดีก็เลยไม่สามารถจะเอา
00:31:24 → 00:31:28 โมเลกุลของน้ำตาลเข้าเซลล์ได้นะเพราะ
00:31:28 → 00:31:31 ฉะนั้นมันเกิดภาวะไฮเปอร์ไกลสเมียนะน้ำ
00:31:31 → 00:31:33 ตาลมันก็เลยอยู่นอกเซลล์เป็นส่วนใหญ่นะ
00:31:34 → 00:31:37 น้ำตาลในเซลล์มันก็น้อยนะเซลล์มันก็จะขาด
00:31:37 → 00:31:41 พลังงานจากน้ำตาลนะฮะนะแล้วมันเวลาเซลล์
00:31:41 → 00:31:44 ขาดพลังงานจากน้ำตาลก็คือก็คือเซลล์มัน
00:31:44 → 00:31:49 เครียดนะฮะอนะมันเครียดก็ตัวตอบสนองก็คือ
00:31:49 → 00:31:52 คอร์ติซอลก็จะมานะฮะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:31:52 → 00:31:55 อันเนี้ยอันนี้คือระดับเซลล์นะฮะของคนผอม
00:31:55 → 00:31:59 นะฮะซึ่งคนผอมหอมเนี่ยอ่าเพราะพวกนี้ก็จะ
00:31:59 → 00:32:02 ไม่มีคีโตนแล้วนะเพราะฉะนั้นคีโตนไอ้สี
00:32:02 → 00:32:07 อะไรสีสีเลือดสีแดงๆเ่ะนะไม่มีอ่ะทั้ง 2
00:32:07 → 00:32:09 ฝั่งนะทั้งคนอ้วนคนผอมที่ดื้ออินซูลิน
00:32:09 → 00:32:13 หรือว่าที่อินซูลินฟังก์ชันนะฮะเนี่ยมัน
00:32:13 → 00:32:17 ก็มีแต่ว่าเอออินซูลินเป็นยังไงนะแล้วน้ำ
00:32:17 → 00:32:19 ตาลเป็นยังไงแล้วก็นอกเซลล์เป็นยังไงใน
00:32:19 → 00:32:21 เซลล์เป็นไงนะน้ำตาลส่วนใหญ่มันก็เป็น
00:32:21 → 00:32:25 ไฮเปอร์ไลซีนนอกเซลล์นะฮะในเซลล์ก็อ่า
00:32:25 → 00:32:28 เนี่ยมันจะเป็นกราฟเนี่ยเป็นกราฟอันนี้สี
00:32:28 → 00:32:32 แดงนี่นะเนี่ยนะจะปรากฏว่าน้ำตาลที่อยู่
00:32:32 → 00:32:35 นอกเซลล์เต้าเซลลูล่ากลูโคสเยอะนะฮะ
00:32:35 → 00:32:38 อินต้าเซลลูล่าน้อยนะ
00:32:39 → 00:32:44 ฮะถ้าเป็นคนอ้วนนะโอเซจิเนี่ยนะฮะพวกนี้
00:32:44 → 00:32:48 นะตับอ่อนผลิตอินซูลินนะสีเขียวๆออกมา
00:32:48 → 00:32:53 เยอะแยะเลยนะนะนะแล้วอินซูลินเนี่ยมันยัง
00:32:53 → 00:32:56 ทำงานได้ปกติมันก็เลยเอาน้ำตาลเข้าเซลล์
00:32:56 → 00:33:00 นะครับเก่งเลยนะฮะนะเพราะฉะนั้นอินซูลิน
00:33:00 → 00:33:05 ก็เยอะนะครับเอ่อทั้งจับที่ผิวของเซลล์
00:33:05 → 00:33:08 และอยู่นอกเซลล์นะแล้วน้ำตาลเนี่ยน้ำตาล
00:33:09 → 00:33:11 ที่มันเยอะๆเนี่ยมันก็ส่วนใหญ่มันจะเอา
00:33:11 → 00:33:15 เข้าเซลล์หมดนะเนี่ยมันเอาเข้าเซลล์หมดนะ
00:33:15 → 00:33:19 เออเซลล์มันก็บวมใหญ่ไปหมดเลยอืจะเปลี่ยน
00:33:20 → 00:33:23 เป็นไกกีทงไกกีสไลดมันก็เลยอ้วนขึ้นมานะ
00:33:23 → 00:33:26 ฮะเพราะงั้นคนพวกนี้นะปรากฏว่าน้ำตาลที่
00:33:27 → 00:33:31 อยู่ในเซลล์อินตเซลลูล่าสูงนะเนี่ยสูงนะ
00:33:31 → 00:33:35 แต่น้ำตาลที่อยู่อ่าเอกตราเซลลูลาร์นอก
00:33:35 → 00:33:39 เซลล์นะก็จะสูงไปด้วยนะฮะอืครับเนี่ยมัน
00:33:39 → 00:33:42 สูงทั้งนอกเซลล์ในเซลล์นะ
00:33:42 → 00:33:47 ฮะอันนี้คนผอมในเซลล์แทบจะไม่มีน้ำตาลแต่
00:33:47 → 00:33:49 นอกเซลล์มันเยอะ
00:33:49 → 00:33:53 นะแล้วก็คนผอมเนี่ยอินซูลินมากก็ได้น้อย
00:33:53 → 00:33:57 ก็ได้นะฮะแต่อินซูลินเไม่ทำงานแต่คน
00:33:57 → 00:34:02 อินซูลินเยอะแต่ฟังก์ชันเยังดีนะฮะเพรา
00:34:02 → 00:34:06 งั้นโดยรวมแล้วเนี่ยใน 3 อันเนี้ยนะ
00:34:06 → 00:34:09 เดี๋ยวลองไปดูพิจารณาให้ดีๆเถอะมันจะเป็น
00:34:09 → 00:34:13 พื้นฐานเนี่ยของการเป็นเบาหวานและการโต้
00:34:13 → 00:34:17 ตอบต่ออินซูลินกับคอร์ติซอลทั้งในคนอ้วน
00:34:17 → 00:34:21 และคนผอมนะอือๆซึ่งในกรณีเนี้ยคนอ้วน
00:34:21 → 00:34:25 เนี่ยนะเวลารักษาเบาหวานมันจะหายเร็ว
00:34:25 → 00:34:27 กว่าครับ
00:34:27 → 00:34:30 กว่านะแต่ไอ้คนผอมเนี่ยพอฮอร์โมนตัวแม่
00:34:30 → 00:34:34 มันออกมาปุ๊บเนี่ยนะเพราะว่าในเซลล์เนี่ย
00:34:34 → 00:34:38 มันไม่ไม่ค่อยมีน้ำตาลที่เพียงพอให้เขาค
00:34:38 → 00:34:42 ใช้เนี่ยนะฮะนะมันก็เลยมันก็ยังมีตัวตัว
00:34:42 → 00:34:46 คอร์ติซอลเป็นตัวเบื้องหลังอยู่นะเป็นตัว
00:34:46 → 00:34:49 เบื้องหลังอยู่ที่ต้องแก้ให้ดีๆนะฮะครับ
00:34:49 → 00:34:52 แต่คนอ้วนส่วนใหญ่เนี่ยเ่อไม่มีอ่ะ
00:34:52 → 00:34:55 คอร์ติซอลเค้าก็ไม่มานะมันเป็นการจัดการ
00:34:55 → 00:35:00 แก่อินซูลินโดยโดยตรงอย่างเดียวเลยอืๆๆๆ
00:35:00 → 00:35:02 นี่ก็เพิ่งรู้เหมือนกันนะครับว่าอิซูลิน
00:35:02 → 00:35:04 resistance เนี่ยดื้ออินซูลินเนี่ยมันมี
00:35:04 → 00:35:07 ทั้งในแบบคนอ้วนแล้วก็แบบคนผอมมันไม่
00:35:07 → 00:35:09 เหมือนกันใช่เพราะฉะนั้นวันนี้หมอถึงได้
00:35:09 → 00:35:13 บอกนะว่าอันชดตั่งใจฟังดีๆนะโดยเฉพาะใคร
00:35:13 → 00:35:17 ที่เป็นเบาหวานนะจะอ้วนจะผอมจะสมส่วนอะไร
00:35:17 → 00:35:22 ก็ตามนะดูกราฟ 2 กราฟเให้ดีๆนะฮะนะครับ
00:35:22 → 00:35:27 เนี่ยอ่านะอ่ะเนี่ยหมอก็มาสรุปให้ตรงนี้
00:35:27 → 00:35:31 นะฮะเนี่ยครับอืพรไม่ต้องพูดซ้ำนะแล้วก็
00:35:31 → 00:35:35 เป็นสรุปกราฟแรกเนี่ยนะฮะเนี่ยอันนี้นะ
00:35:35 → 00:35:40 เนี่ยพซ Fat Inside ผอมๆอ่าไดจินะฮะนะ
00:35:40 → 00:35:43 นี่ก็จะไปอย่างนี้ไฮเปอร์ไกีเมียนะ
00:35:43 → 00:35:48 อินซูลินไม่มากนะแต่มันไม่ทำงานนะสิ่งที่
00:35:48 → 00:35:52 มากก็คือน้ำตาลมากนะนะแล้วแกนการแก้ไขลด
00:35:52 → 00:35:57 ค้าเพิ่มไขมันดีคุมคอร์ติซอลนะนะแล้วก็
00:35:57 → 00:36:01 การคุมคอร์ติซอลเนี่ยจะมาช่วยอินซูลินนะ
00:36:01 → 00:36:04 ตัวแม่เขาจะมาช่วยตัวพ่อนอนให้ดีเวทเพิ่ม
00:36:05 → 00:36:09 กล้ามเนื้อนะอย่าไปคาร์ดิโอมากนักนะยิ่ง
00:36:09 → 00:36:13 กระตุ้นิอนะเดี๋ยวทั้งพ่อทั้งแม่ก็อารมณ์
00:36:13 → 00:36:16 เสียหมดทะเลาะ
00:36:16 → 00:36:21 กันแล้วก็ฝั่งนี้อ่าจนิ Fat นะฮะนะอันนี้
00:36:21 → 00:36:25 ก็จะเจอมากนะฮะนะแล้วมันก็จะเป็นอย่างนี้
00:36:25 → 00:36:29 แหละนะอินซูลินเเยอะนะครับเเราก็เลยอวบ
00:36:29 → 00:36:32 อ้วนเก็บพลังงานเต็มไปหมดนะทั้งในกระแส
00:36:32 → 00:36:36 เลือดน้ำตาลก็ท่วมนะฮะนะในเซลล์น้ำตาลก็
00:36:36 → 00:36:41 ท้นท่วมท้นนะนะเนี่ยอินซูลินเพิ่มมากขึ้น
00:36:41 → 00:36:45 นะอ่าแต่ทำงานปกตินะยัง
00:36:45 → 00:36:50 ปกติครับเนี่ยแล้วก็ทำไงอ่ะตัดคาฟนะอ่า
00:36:50 → 00:36:54 ใช้ไขมันดีแทนทำ If นะออกกำลังกายแบบ
00:36:54 → 00:36:58 คาร์ดิโอไม่ต้องเยอะนะนี้คาร์ดิโอนะฝั่ง
00:36:58 → 00:37:03 นี้เวทเวทเวทเพิ่มกล้ามเนื้ออ่าถ้าผอมๆไป
00:37:03 → 00:37:06 คาร์ดิโอนี่ก็เรียบร้อยเลยนะพี่มเอออย่า
00:37:06 → 00:37:09 ไปทำสมันเนี่ยจำซ้ายขวาให้ดีใครอ้วนใคร
00:37:09 → 00:37:15 ผอมนะต้องโฟกัสที่เรื่องอะไรนะแล้วก็มี
00:37:15 → 00:37:18 พวกเนี่ยเป็นแบบทับซ้อนทั้ง 2 อย่างอัน
00:37:18 → 00:37:24 นี้มี 5% ครับนะฮะ 5% นี่ก็ก็แก้มันทั้ง 2
00:37:24 → 00:37:27 อย่างนี่แหละนะฮะนะ
00:37:27 → 00:37:31 เออแล้วก็อันนี้ก็เป็นผลข้างเคียงต่างๆ
00:37:31 → 00:37:36 ที่จะเป็นตัวโลกเยอะแยะเลยยครับนะทีนี้
00:37:37 → 00:37:40 เราก็มาถึงหลักการแล้วนะฮะว่าในแนว low C
00:37:40 → 00:37:44 High fash เนี่ยเวลาที่เา้าจะแอปโพสเจะ
00:37:44 → 00:37:48 ดูคนไข้เบาหวานคนนึงเนี่ยนะฮะอ่าการแก้ไข
00:37:48 → 00:37:52 ในการลดระดับน้ำตาลนะนะจะทำยังไงบ้างนะ
00:37:52 → 00:37:56 อันนี้เนี่ยเป็นหลักการกว้างๆของทั้งคน
00:37:56 → 00:38:00 อ้วนคนผอมในระยะแรกนะฮะซึ่งเ่อเราจะมี 2
00:38:00 → 00:38:02 ระยะนะฮะระยะแรกเนี่ยเราเรียกว่าฮอร์โมน
00:38:03 → 00:38:06 Reset นะเพราะฉะนั้นฮอร์โมนรีตเนี่ยเรา
00:38:06 → 00:38:09 ก็ไม่ต้องไปสนใจแล้วว่าอ้วนหรือผอมนะฮะ
00:38:09 → 00:38:13 ใช้หลักการนี้อ่าไปก่อนเลยแล้วพอมาระยะ
00:38:13 → 00:38:17 ที่ 2 เนี่ยอ่าเขาก็เรียกว่าอ่า Body typ
00:38:17 → 00:38:21 Diet อ่า Reset and rebalance นะฮะนะ
00:38:21 → 00:38:24 ซึ่งก็จะต้องรันไปยาวๆนะแต่ช่วงแรกเนี่ย
00:38:24 → 00:38:28 ฮอร์โมนรีเซตนะซตเพื่อให้เกิด diabetic
00:38:28 → 00:38:30 remission นะฮะคือให้เบาหวานเข้าสู่ระยะ
00:38:30 → 00:38:33 สงบนั่นแหละนะ
00:38:33 → 00:38:37 เนี่ยอก็จะมีกฎ 3 ข้อนะฮะสำหรับจะทำให้
00:38:37 → 00:38:41 น้ำตาลลดลงอันที่ 1 คุณต้องลำดับลำดับ
00:38:41 → 00:38:44 พลังงานกับสารอาหารนะฮะอันที่ 2 กำกับ
00:38:44 → 00:38:48 ฮอร์โมนอันที่ 3 จำกัดคาฟนะฮะนะนี้ต้องดู
00:38:48 → 00:38:51 เรื่องพลังงานและสารอาหารให้ออกนะฮะนะ
00:38:51 → 00:38:54 อาหารมีไส้ในอาหารมีทั้งพลังงานและสาร
00:38:54 → 00:38:58 อาหารนะฮะการลำดับนะสิ่งที่จะเป็นพลังงาน
00:38:58 → 00:39:02 และเป็นสารอาหารให้กับคนไข้เบาหวานเพื่อ
00:39:02 → 00:39:06 ให้เกิดภาวะ emission นะหรือฮอร์โมน Reset
00:39:06 → 00:39:09 and rebalance เนี่ยนะฮะนะตัวอาหารหลัก
00:39:09 → 00:39:12 เลยที่เราจะให้ความสำคัญก็คือโปรตีนไอ typ
00:39:13 → 00:39:16 โปรตีนนะฮะเนี่ยอ่าโปรตีนเนี่ยต้องเป็น
00:39:16 → 00:39:19 โปรตีนคุณภาพนะทั้งพืชและสัตว์สัตว์มาก
00:39:19 → 00:39:23 กว่าพืชนะฮะต่อไปก็คือ Fat นะอ่า Fat
00:39:23 → 00:39:27 เนี่ยก็ต้องเป็น Good Healthy Fat นะอ
00:39:27 → 00:39:30 ก็หลักการของแฟตก็ต้องต้องเป็นอ่าพลังงาน
00:39:30 → 00:39:34 จากน้ำมันสกัดเย็นเนี่ยประมาณ 80% แล้ว
00:39:34 → 00:39:36 ที่เหลือค่อยเป็น
00:39:36 → 00:39:40 ครับ
00:39:40 → 00:39:43 มันอ้าวมันหายไป
00:39:43 → 00:39:45 ไหน
00:39:45 → 00:39:48 เอออ่ามาละครับ
00:39:48 → 00:39:53 เออแล้วที่เหลือค่อยเป็นแฟตคงลูกนะพวก
00:39:53 → 00:39:55 กะทิอะโวคาโดเนื้อ
00:39:55 → 00:39:58 มะพร้าว
00:39:58 → 00:40:01 แฟตเนี่ยนะเราก็พูดกันไปเยอะแยะแล้วนะต่อ
00:40:01 → 00:40:04 มาก็คือไฟเบอร์ไฟเบอร์ก็คือไฟเบอร์ละลาย
00:40:04 → 00:40:08 น้ำไม่ละลายน้ำนะฮะนะแต่ส่วนใหญ่ขอให้
00:40:08 → 00:40:11 เป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำมากกว่าไม่ละลาย
00:40:11 → 00:40:15 น้ำนะครับแล้วก็แป้งเชิงซ้อนหรือสตชนะฮะ
00:40:15 → 00:40:19 ยี่ห้อเอ่อสัญลักษณ์ตัว S นะฮะทีนี้ในการ
00:40:19 → 00:40:23 กินแบบ low C High Fat เนี่ยนะเราก็
00:40:23 → 00:40:27 อาจจะเป็นแบ่งเป็นส่วนใหญ่เนี่ยฮะนะทั่วๆ
00:40:27 → 00:40:30 ไปก็คือเป็น 2 มื้อมื้อแรกกับมื้อเย็นนะ
00:40:30 → 00:40:34 ฮะแต่ถ้าคนผอมมากๆอาจจะต้องมีมื้อแทรก
00:40:34 → 00:40:37 เป็น 3 มื้อนะฮะอย่างไรก็ตามความสำคัญจะ
00:40:37 → 00:40:41 อยู่ที่มื้อแรกนะฮะหลังเบรคฟาสเนี่ยนะฮะ
00:40:41 → 00:40:45 อ่าจัดสัดส่วนของโปรตีนนะฮะเป็นหลักนะฮะ
00:40:45 → 00:40:49 แล้วก็พวกแฟตแฟตก็ต้องเป็นน้ำมันสกัดเย็น
00:40:49 → 00:40:52 ในรูปของอ่าสิ่งที่จะให้เป็นพลังงานทั้ง
00:40:52 → 00:40:57 วันนะฮะนะแล้วก็มีไฟเบอร์นะฮะอ่าไฟเบอร์
00:40:57 → 00:41:01 นี่ก็เน้นเป็นอ่าไม่ละลายน้ำนะฮะนะแต่ถ้า
00:41:01 → 00:41:05 เป็นไฟเบอร์ประเภทผักหัวก็จะต้องเป็นส่วน
00:41:05 → 00:41:10 ที่ไม่ใช่เ่อหัวผักหรือต้นผักนะหรือราก
00:41:10 → 00:41:14 ของผักนะฮะอืก็คือผักหัวประเภทที่เป็นดอก
00:41:14 → 00:41:18 เป็นกิ่งเป็นก้านเป็นอ่าฝักอะไรของมัน
00:41:18 → 00:41:20 เนี่ยนะฮะครับเนี่ย
00:41:20 → 00:41:24 นะส่วนมื้อ 2 มื้อ 3 เนี่ยมื้อ 2 มื้อ 3
00:41:24 → 00:41:28 ก็อ่ามีโปรตีนมีแฟตที่เป็นแฟตโงรูปและนะ
00:41:28 → 00:41:31 ไม่ใช่แฟตในรูปของน้ำมันและนะฮะเพราะว่า
00:41:31 → 00:41:34 มื้อเย็นก่อนจะนอนเนี่ยนะเราไม่ต้องการ
00:41:34 → 00:41:38 พลังงานนะฮะแล้วก็มีไฟเบอร์ไฟเบอร์นะฮะนะ
00:41:38 → 00:41:42 ส่วนแป้งเชิงซ้อนเนี่ยในกรณีที่ที่บาหวาน
00:41:42 → 00:41:45 ิัแล้วนะฮะถึงจะมาเติมแป้งเชิงซ้อนได้ทับ
00:41:46 → 00:41:51 P1 นะฮะอืครับผมถ้ายังไม่ิัก็อ่าไฟเบอร์
00:41:51 → 00:41:55 ประเภทผักหัวเป็นหลักแทนนะ
00:41:55 → 00:42:00 ฮะอันนี้ก็คือในกรณีที่กินแบบ low C
00:42:00 → 00:42:04 High Fat ในช่วงแรกในช่วงแรกนะครับนี้
00:42:04 → 00:42:07 ในบางคนเนี่ยที่มัน emission แล้วนะหรือ
00:42:07 → 00:42:10 ไม่ได้เป็นมากๆเนี่ยนะฮะนะเอ่อก็อาจจะมี
00:42:10 → 00:42:13 การผ่อนคลายนะหรือเนี่ยเเรียกว่า treat
00:42:13 → 00:42:16 Day หรือ Cheat Day นั่นแหละนะฮะอ่าก็
00:42:16 → 00:42:19 คือมื้อเนี้ยเราจะกินเป็น low C low
00:42:19 → 00:42:22 Fat
00:42:22 → 00:42:27 นะก็คือกินมันแบบเป็นแบบทุกทมื้ออ่ะนะฮะ
00:42:27 → 00:42:32 นะอทุกมื้อก็มีทั้งอ่าโปรตีนไขมันแล้วก็
00:42:32 → 00:42:35 มีทั้งแป้งเชิงซ้อนนะครับอันนี้ก็แล้วแต่
00:42:36 → 00:42:39 ได้ 1 หรือ 2 วันต่อสัปดาห์ส่วนใหญ่ก็ให้
00:42:39 → 00:42:45 วันเดียวปล่อยผีวันเดียวนะฮะเนี่ยนะก็กิน
00:42:45 → 00:42:49 กินได้ทั้ง ow คาฟ low Fat นะแล้วก็ไ
00:42:49 → 00:42:53 โปรตีนอ่าแล้วก็ไฟเบอร์นะฮะนะกินได้หมดนะ
00:42:53 → 00:42:57 ฮะจะมื้อไหนก็ได้นะอไม่ต้องมีมื้อแรกมื้อ
00:42:57 → 00:43:01 หลังนะฮะเป็น Free Day อ่ะนะฮะออครับ
00:43:01 → 00:43:05 ครับแต่ถ้ายังไม่ิัหรือยังเป็นแบบรุนแรง
00:43:05 → 00:43:09 อยู่ไม่ได้นะฮะนะต้องแบบบรรทัดบนนี่ทั้ง 7
00:43:09 → 00:43:13 วันเลยนะอืทีนี้การกำกับฮอร์โมนเนี่ยนะฮะ
00:43:13 → 00:43:16 หลักการของคนที่เป็นเบาหวานและต้องการ
00:43:16 → 00:43:18 รักษาเนี่ยเราต้องโลอินซูลินกับโล
00:43:18 → 00:43:22 คอร์ติซอลนะฮะนะก็คือต้อง ow ทั้งพ่อทั้ง
00:43:22 → 00:43:26 แม่ทั้งวันทั้งคืนแล้วปล่อยให้ B Burning
00:43:26 → 00:43:30 ฮอร์โมนน่ะออกมาทำงานทั้งวันทั้งคืน Bat
00:43:30 → 00:43:33 Burning ฮอร์โมนก็มี 6 ตัวนี้นะฮะนะ
00:43:33 → 00:43:38 เนี่ยนะมีแนีอีกตัวนึงเอหมเออแนีอีกตัว
00:43:38 → 00:43:41 นึงอ่าครับ
00:43:41 → 00:43:45 ผมนะแต่ว่าเ่อการจะ ow อินซูลินกับ ow
00:43:45 → 00:43:50 คอร์ติซอลเนี่ยนะจะทำยังไงนะฮะนะการจะโ
00:43:50 → 00:43:54 อินซูลินเนี่ยนะก็คือในมื้อแรกเนะที่เรา
00:43:54 → 00:43:56 คือเเรียกว่าต้องกินให้เป็นใน 1 วันน่ะนะ
00:43:56 → 00:44:01 ฮะนะแล้วมื้อแรกอ่ะไม่มื้อแรกตัดคาฟ่ะฮะ
00:44:01 → 00:44:06 คาฟให้น้อยที่สุดนะฮะเราจะลนะส่วนมื้อ
00:44:06 → 00:44:08 เย็นเนี่ยเราจะโลคอร์ติซอลเนี่ยเราจะต้อง
00:44:08 → 00:44:12 อ่ามีสารอาหารครบเพราะฉะนั้นมื้อเย็น
00:44:12 → 00:44:15 เนี่ยเราเอาคาฟที่พอจะกินได้มากินในมื้อ
00:44:15 → 00:44:18 เย็นแต่ถ้าเป็นเบาหวานแล้วยังไม่ emission
00:44:18 → 00:44:21 เนี่ยคาฟที่จะกินในมื้อเย็นก็คือผลักหัว
00:44:21 → 00:44:27 นะประมาณ 1-2 ขีดนะฮะประมาณนี้นะฮะนะแล้ว
00:44:27 → 00:44:32 ก็มีพวกผักใบซึ่งไม่นับพลังงานครับอันนี้
00:44:32 → 00:44:34 เราจะโลคอร์ติซอลได้นะฮะแล้วก็เราจะหลับ
00:44:34 → 00:44:38 ได้นะเพราะฉะนั้นโลคอร์ติซอลทำในมื้อเย็น
00:44:39 → 00:44:42 นะเพื่อให้แม่ไม่ออกมาตอนกลางคืนนะฮะโ
00:44:42 → 00:44:47 อินซูลินนะฮะก็ทำในมื้อแรกนะนะเพื่อไม่
00:44:47 → 00:44:52 ให้ตัวพ่อออกมาวุ่นวายนะเ่อจัดการพลังงาน
00:44:52 → 00:44:56 ที่เป็นกลุ่มของคาฟในช่วงกลางวันนะนะ
00:44:56 → 00:45:00 เพราะว่าเราจะใช้พลังงานจากแฟตเป็นหลักนะ
00:45:00 → 00:45:04 ก็คือการกินให้เป็นกินให้ถูกใน 1 วันมื้อ
00:45:04 → 00:45:07 แรกกับมื้อเย็นนะฮะอันนี้คิดว่าหลายคนคง
00:45:07 → 00:45:10 ได้ไปดูมาแล้วอ่ะนะฮะเนี่ยอันนี้เเรียก
00:45:10 → 00:45:13 ว่าการกำกับฮอร์โมนสำหรับคนที่เป็นเบา
00:45:13 → 00:45:17 หวานนะฮะนะส่วนเรื่องการจำกัดคาฟเนี่ยก็
00:45:17 → 00:45:21 แล้วแต่ว่าเราเป็นหนักแค่ไหนนะฮะถ้าเป็น
00:45:21 → 00:45:23 จนกระทั่งเบต้าเซลล์ของตับอ่อนเนี่ยมัน
00:45:23 → 00:45:27 ผิดปกติครับปกติเหมือนเปือเกือบจะเป็นดาร
00:45:27 → 00:45:30 นะหรือเป็นเบาหวาน type 2 อ่ะแต่เป็น
00:45:30 → 00:45:34 ชนิดที่ว่ากินอะไรน้ำตาลก็ชูดหมดเลยนะฮะ
00:45:34 → 00:45:37 แม้ว่าจะตัดคาฟแล้วกินซีงซีดีอะไรต่างๆ
00:45:37 → 00:45:39 ตรวจน้ำตาลตอนเช้าก็ 200 กว่าน้ำตาลหลัง
00:45:39 → 00:45:43 อาหารก็ 200 กว่า 300 กว่านะฮะแต่เเป็นมา
00:45:43 → 00:45:46 นานแล้วแล้วไม่ใช่ดารอย่าเงี้ยครับอันนี้
00:45:46 → 00:45:48 ก็ถือว่าเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ค่อน
00:45:48 → 00:45:50 ข้างเคี้ยวเลยนะฮะเพราะฉะนั้นอันเนี้ย
00:45:50 → 00:45:53 ต้องฟื้นฟูตับอ่อนก่อนซึ่งการฟื้นฟูตับ
00:45:53 → 00:45:56 อ่อนหรือเบต้าเซลล์ตับอ่อนเนี่ยเราต้อง
00:45:56 → 00:45:59 จำกัดคาฟไม่เกิน 20 กรัมต่อวันเน็ตคาฟนะ
00:45:59 → 00:46:05 ฮะอืเน็ตคฟต้องไม่เกินอ่า 20 กรัมต่อวัน
00:46:05 → 00:46:09 นะฮะอันนี้เเรียกว่าเป็นการอ่อเป็นการเ่า
00:46:09 → 00:46:14 very low C นะของตับอ่อนนะฮะครับอ่าดี
00:46:14 → 00:46:16 ขึ้นมาแล้ว
00:46:16 → 00:46:21 ะถ้าดีขึ้นมาแล้วเนี่ยเราจะโฟที่ตับโลคาฟ
00:46:21 → 00:46:24 ที่ตับเนี่ยเน็ตคาฟก็คือไม่เกิน 50 กรัม
00:46:24 → 00:46:27 นะเน็ตคฟไม่เกิน 50 กรก็จะมีพวกผักหัว
00:46:27 → 00:46:31 เป็นหลักนะฮะประมาณ 3 ขีด 3 ขีด 100
00:46:31 → 00:46:36 ประมาณอ่า 3 ขีดเนี่ยมันก็จะได้ได้เน็ต
00:46:36 → 00:46:39 คาฟประมาณ 20 กรัมอ่ะฮะครับครับนะส่วน
00:46:39 → 00:46:43 แป้งเชิงซ้อน 1 ทับพีหรือ 60 กรัมหรือ
00:46:43 → 00:46:47 เท่ากับอ่าข้าวก็ประมาณ 5 ช้อนโต๊ะ 5
00:46:47 → 00:46:50 ช้อนโต๊ะอันนี้จะได้เน็ตคาฟประมาณ 18
00:46:50 → 00:46:51 กรัม 18
00:46:51 → 00:46:54 กรัม
00:46:54 → 00:46:58 นะ
00:46:58 → 00:47:03 เอ่อเออใช่นะต่อไปก็คือพวกโคฟที่กล้าม
00:47:03 → 00:47:07 เนื้อนะฮะนะครับนะถ้าตับดีแล้วเนี่ยนะเ่อ
00:47:07 → 00:47:10 การจะโลคาฟที่กล้ามเนื้อเนี่ยเน็ตคาฟต่อ
00:47:10 → 00:47:13 วันไม่เกิน 100 กรัไม่เกิน 100 กันะฮะนะ
00:47:13 → 00:47:17 เพราะว่าเอ่อคนเอเซียเราตัวไม่ได้ใหญ่มาก
00:47:17 → 00:47:19 เหมือนฝรั่งฝรั่งนี่บางทีก็อัพขึ้นไปถึง
00:47:19 → 00:47:23 130 กรัมนะเน็ตคฟนะบางคนก็ 150 กรัมอะไร
00:47:23 → 00:47:26 อย่างงั้นอันนี้กรณีเบาหวันะฮะเบาหวาน
00:47:26 → 00:47:29 เป็นหลักเนี่ยของเราก็ส่วนใหญ่ไม่เกิน
00:47:29 → 00:47:33 เน็ตคไม่เกิน 100 กรันะอันนี้แบบรัดีแล้ว
00:47:33 → 00:47:36 ผ่านไปเป็นปีแล้วอะไรอย่างงั้นนะฮะนะแล้ว
00:47:36 → 00:47:40 ก็พยายามที่เนี่ยเ่อจะฟื้นฟูกล้ามเนื้อนะ
00:47:40 → 00:47:44 ฮะนะก็จะกินพวกแป้งเชิงซ้อนเนี่ยได้ 1-3
00:47:44 → 00:47:49 ทัพพีต่อวันนะฮะถ้าเป็นแบบอ่าโคฟที่ตับ
00:47:49 → 00:47:52 นี่ก็ประมาณ 1 ทัพพีนะส่วนผักหัวเนี่ยก็
00:47:52 → 00:47:56 ยังอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 3 ขีดนะนะเป็นหลัก
00:47:56 → 00:48:00 นะสุกแล้วนะ 3 ขิอันนี้เป็นหลักการเลย 3
00:48:00 → 00:48:05 ข้อต้องจำให้เป๊ะเลยนะฮะนะใช้ไปได้ตลอด
00:48:05 → 00:48:07 เลยนะฮะ
00:48:07 → 00:48:12 นะครับผมนี้อีก 3 ข้อนะฮะอีก 3 ข้อเนี่ย
00:48:12 → 00:48:16 นะเนี่ยอันนี้ก็คือเรื่องของฮอร์โมนนะฮะ
00:48:16 → 00:48:21 ในข้อที่ 2 เนี่ยว่าว่าการจะคุมฮอร์โมน
00:48:21 → 00:48:24 ตัวพ่อตัวแม่แล้วก็ลูกเทพเนี่ยนะฮะนะก็
00:48:24 → 00:48:27 คือการเป็นหวานในปัจจุบันเนี่ยเรารู้แล้ว
00:48:27 → 00:48:29 ว่าไม่ได้เกิดจากอินซูลินอย่างเดียวนะฮะ
00:48:29 → 00:48:32 มันมาคู่กันทั้งอินซูลินกับคอร์ติซอลนะจะ
00:48:32 → 00:48:36 เป็นการทำงานร่วมกันตีคู่กันไปเสมอนะฮะ
00:48:36 → 00:48:40 ถ้าน้ำตาลสูงเนี่ยน้ำสาลสูงนะจะแปลว่า
00:48:40 → 00:48:44 อินซูลินเอาน้ำตาลเข้าเซลล์ไม่ได้นะฮะนะ
00:48:44 → 00:48:48 นะหรือนะอันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นในคนอ้วนนะ
00:48:49 → 00:48:54 โอเซจินะฮะเมื่อกี้นี้นะหรือน้ำตาลสูงนะ
00:48:54 → 00:48:58 เนี่ยแปลว่าคอร์ติซอลยังมีการกระตุ้นให้
00:48:58 → 00:49:02 ตับสร้างน้ำตาลออกมาตลอดนะฮะนะเพราะเซลล์
00:49:02 → 00:49:05 มันขาดน้ำตาลเซลล์มันขาดน้ำตาลอันนี้เป็น
00:49:05 → 00:49:10 ในกรณีของคนสมส่วนกับคนผอมนะฮะเนี่ยเนี่ย
00:49:10 → 00:49:12 เพราะฉะนั้นทั้งอินซูลินกับคอร์ติซอล
00:49:12 → 00:49:16 เนี่ยนะก็จะมีแอชต่อคนอ้วนกับคนผอมที่
00:49:16 → 00:49:20 เป็นเบาหวานเนี่ยนะในลักษณะนี้นะในลักษณะ
00:49:20 → 00:49:24 นี้ส่วนใหญ่คนผอมเนี่ยนะมันจะคุมยากนะมัน
00:49:24 → 00:49:29 จะคุมยากนะเพราะว่าเอ่อถึงจะจำกัดคาฟก็
00:49:29 → 00:49:34 แล้วนะอฟมอก็ยังพุ่งปี๊ดอยู่ตลอดนะฮะ
00:49:34 → 00:49:38 เพราะว่าตัวแม่เนี่ยเยังมีมีบทบาทนะที่จะ
00:49:38 → 00:49:43 ไปสั่งให้ตับเนี่ยนะเอาอะไรก็ได้นะอ่ามา
00:49:43 → 00:49:47 สร้างน้ำตาลให้ทีนะนะคาฟแทบจะไม่มีแล้วนะ
00:49:47 → 00:49:52 เ่อก็ใช้ไขมันนะถ้าไขมันเนี่ยใช้แล้วยิ่ง
00:49:52 → 00:49:55 ผอมไขมันสะสมน้อยนะตัวแม่เคก็จะไปเอาเอา
00:49:55 → 00:49:58 กล้ามเนื้อมาอือเพราะฉะนั้นเนี่ยน้ำตาล
00:49:58 → 00:50:03 สูงหรือภาวะไฮเปอร์ไลซีนในคนที่เป็นไดจิ
00:50:03 → 00:50:06 หรือคนผอมเนี่ยนะบทบาทส่วนใหญ่มันเป็น
00:50:06 → 00:50:09 เรื่องของคอร์ติซอลนะฮะอันนี้ดูดี
00:50:09 → 00:50:11 ๆแต่ถ้าคนอ้วนส่วนใหญ่มันเป็นเรื่อง
00:50:11 → 00:50:13 อินซูลิน
00:50:13 → 00:50:17 นะส่วนใหญ่มันก็จะเป็นแบบคบนกันไปเรื่อยๆ
00:50:17 → 00:50:20 นะฮะครับแล้วแต่อันไหนจะมีอิทธิพลสูงกว่า
00:50:21 → 00:50:24 กันนะคนอ้วนก็อินซูลินจะมากคนผอมก็
00:50:24 → 00:50:25 คอร์ติซอล
00:50:25 → 00:50:31 อืมครับทีนี้การลดเนี่ยอ่าจะจะแก้ไขเนี่ย
00:50:31 → 00:50:35 นะฮะนะจะรีเวสเนี่ยเราต้องดูในเรื่องบท
00:50:35 → 00:50:39 บาทของฮอร์โมนทั้ง 2 ตัวนี้นะฮะนะลดน้ำ
00:50:39 → 00:50:43 ตาลหลังกินอาหารคือลดอินซูลินนะอันนี้คือ
00:50:43 → 00:50:48 ทำในมื้อแรกทำในมื้อแรกครับคือทำคือกิน
00:50:48 → 00:50:52 อาหารให้ถูกต้องในมื้อแรกนะฮะนะอ่าคุณจะ
00:50:52 → 00:50:57 สามารถลดน้ำตาลหลังกินอาหารคือโพสแนนนะ
00:50:57 → 00:51:01 กลูโคสเนี่ยมันจะไม่สูงนะแปลว่าอินซูลินอ
00:51:01 → 00:51:05 จะไม่ถูกกระตุ้นครับอันนี้ก็คือหลังอาหาร
00:51:05 → 00:51:08 มื้อแรกเพรางั้นอาหารมื้อแรกเนี่ยเราก็
00:51:08 → 00:51:11 เลยไม่กินคาฟไงเพราะกินคาฟมันกระตุ้นอออ
00:51:11 → 00:51:15 ครับเราก็เลยต้องกินโปรตีนกับ Good
00:51:15 → 00:51:18 Healthy Fat งั้นที่มาของมื้อแรกอ่ะถ้า
00:51:18 → 00:51:21 จะไม่กระตุ้นอินซูลินนะแล้วก็ควบคุมน้ำตา
00:51:21 → 00:51:25 หลังอาหารนะครับแล้วก็ทำให้ a1c มันลดลง
00:51:25 → 00:51:30 นะก็คือต้องเนี่ยต้องให้ความสำคัญกการกิน
00:51:30 → 00:51:34 ที่ตัดคาฟนะหรือ very low คฟ
00:51:34 → 00:51:39 นะส่วนจะลดน้ำตาลก่อนอาหารนะก่อนอาหารนะ
00:51:39 → 00:51:43 คุณต้องลดคอร์ติซอลนะฮะโดยเฉพาะการโฟกัส
00:51:43 → 00:51:46 เกี่ยวกับอาหารมื้อเย็นมื้อเย็น
00:51:46 → 00:51:50 อ่าเพราะว่ามื้อเย็นเนี่ยมันจะไปตัดสิน
00:51:50 → 00:51:53 กันที่นู่น fasting บัชูก้าของอีกวันรุ่ง
00:51:53 → 00:51:54 ขึ้นนะ
00:51:54 → 00:51:58 ฮะถ้ามื้อเย็นเนี่ยคุณมีการจัดการนะเติม
00:51:58 → 00:52:01 คาฟที่ถูกต้องเข้าไปนะให้ตับเนี่ยมัน
00:52:01 → 00:52:05 สร้างเป็นไกลโคเจนไว้แม่เค้าจะสบายใจแม่
00:52:05 → 00:52:09 เขาจะสบายใจเขจะไม่พุ่งพ่านนะไม่ห่วงหา
00:52:09 → 00:52:13 อาทรเขาคก็จะไม่ออกมาแล้วเราก็จะหลับได้
00:52:13 → 00:52:16 แล้วตอนเช้าๆเนี่ยน้ำตาลมันจะไม่สูงอ่า
00:52:16 → 00:52:19 ไอ้พวกที่เกิดดอนฟมอเนี่ยโดยเฉพาะในคนผอม
00:52:19 → 00:52:23 ๆหรือคนฝั่งเนี่ยที่เค้าเรียกว่าไดอิจิ
00:52:23 → 00:52:26 เนี่ยนะฮะส่วนใหญ่มันก็เป็นปัญหาของ
00:52:26 → 00:52:30 คอร์ติซอลเนี่ยแล้วคอร์ติซอลเข้ามาเร็วนะ
00:52:30 → 00:52:33 แล้วก็รีบมาหาน้ำตาลทำให้น้ำตาลตอนเช้า
00:52:33 → 00:52:35 มันพุ่งเนี่ยก็เพราะว่ามื้อเย็นเนี่ยมัน
00:52:35 → 00:52:40 กินไม่ดีกินไม่ถูกนะนั่นแหละนะมันต้องไป
00:52:40 → 00:52:43 แก้มื้อเย็นต้องไปแก้มื้อเย็นแก้มื้อเย็น
00:52:43 → 00:52:47 ได้นะก็จะคุมคอร์ติซอลได้คุมคอร์ติซอลได้
00:52:47 → 00:52:50 เพราะฉะนั้นน้ำตาลวันรุ่งขึ้นน้ำตาลก่อน
00:52:50 → 00:52:56 อาหารนะมันก็จะสวยหรูนะฮะอ่า
00:52:56 → 00:52:58 อันนี้พอเข้าใจ
00:52:58 → 00:53:03 มั้ยพอเข้าใจครับนะนะที
00:53:03 → 00:53:07 นี้เมื่อใดก็ตามนะฮอร์โมนตัวใดตัวหนึ่ง
00:53:07 → 00:53:12 สูงเพิ่มขึ้นมากๆใน 1 วันนะฮะเนี่ยเรา
00:53:12 → 00:53:18 หลุดใน 1 วันเนี่ยนะเ่อเ่อหรือมีการสูง
00:53:18 → 00:53:22 ขึ้นนะฮะนะทีละเล็กทีละน้อยแต่ต่อเนื่อง
00:53:22 → 00:53:25 กันประมาณ 3 วันขึ้นไปเมื่อนั้นท่านจะ
00:53:25 → 00:53:29 กลับมาดื้อฮอร์โมนต่างๆได้อีกก็แล้วแต่
00:53:29 → 00:53:32 ว่าจะดื้ออินซูลินหรือดื้อคอร์ติซอล
00:53:32 → 00:53:37 นะเอ่าเนี่ยเพราะฉะนั้นในเวลาแค่ 1-3 วัน
00:53:37 → 00:53:42 เนี่ยอ่าสิ่งต่างๆเหล่าเนี้ยมันจะมันจะตี
00:53:42 → 00:53:47 กลับได้นะฮะนะเพราะฉะนั้นเลยต้องมีวินัย
00:53:47 → 00:53:51 นะฮะแล้วก็มีการใส่ใจที่จะเอาจริงเอาจัง
00:53:51 → 00:53:55 นะในการควบคุมสิ่งเหล่านี้นะให้มันชินให้
00:53:55 → 00:53:59 มันแบบเอ่ออยู่กระร่องกระลอยนะแล้วก็เกิด
00:53:59 → 00:54:04 ภาวะการเสถียรของน้ำตาลนะอแล้วก็เกิดการ
00:54:04 → 00:54:07 สร้างคีโตนให้ได้นะฮะเราเหมือถึงจะคุม
00:54:07 → 00:54:09 อะไรต่ออะไรได้ที่เราเรียกว่า metalic
00:54:09 → 00:54:10 flexibility
00:54:10 → 00:54:15 อ๋อครับผมนะทีนี้เขาคก็บอกว่าสัญญาณที่
00:54:15 → 00:54:20 เตือนว่าอินซูลินกับคอร์ติซอลพุ่งสูงจะมี
00:54:20 → 00:54:23 ความสำคัญมากกว่านะการเจาะเลือดแล้วน้ำ
00:54:23 → 00:54:26 ตาลพุ่งอันนี้จำไว้เลยนะในคนเป็นเบาหวาน
00:54:26 → 00:54:31 นะเราจะต้องให้ความสำคัญและถือสาหาความ
00:54:31 → 00:54:33 เกี่ยวกับการพุ่งขึ้นหรือสูงขึ้นของ
00:54:33 → 00:54:36 อินซูลินกับคอร์ติซอลนะมากกว่าค่าน้ำตาล
00:54:36 → 00:54:40 ที่มันพุ่งขึ้นนะซึ่งก็จะมีตารางนะให้
00:54:40 → 00:54:46 สังเกตนะฮะนะเดี๋ยวขอขยายนะเนี่ยตาราง
00:54:46 → 00:54:51 เนี้ยนะต้องเอาไปไว้ดูเลยนะฮะนะว่าถ้าน้ำ
00:54:51 → 00:54:55 ตาลสูงเนี่ยมันจะเป็นอย่างงี้นะฮะแต่ถ้า
00:54:55 → 00:54:57 ทั้งคอร์ติซอลกับอินซูลินสูงเนี่ยมันจะ
00:54:57 → 00:54:59 เป็นแบบนี้ครบเลยนะสีเขียวหมดเลยเนี่ยนะ
00:55:00 → 00:55:04 ฮะครับโดย 2 อย่างเนี้ยจะเป็นตัวอ่าเป็น
00:55:04 → 00:55:08 มาร์เกอร์หรือว่าเป็นตัวที่เป็นตัวคอยคือ
00:55:08 → 00:55:12 เนี่ยง่วงตอนกลางวันหลังกินอาหารไปแล้วนะ
00:55:12 → 00:55:16 2 ช่วโมงขึ้นไปครับไอ้พวกง่วง 2-3
00:55:16 → 00:55:18 ชั่วโมงขึ้นไปแล้วเนี่ยนะแล้วก็งีบหลับ
00:55:18 → 00:55:22 อะไรต่างๆนะพวกนี้นะฮะจะเป็นสัญลักษณ์
00:55:22 → 00:55:25 เรื่องของฮอร์โมนคอร์ติซอล
00:55:25 → 00:55:29 กับอินซูลินเขามาตีกันนะฮะนะแล้วก็เกิด
00:55:29 → 00:55:32 อ่าการสวิงหรือการพุ่งชูตขึ้นไปของน้ำตาล
00:55:32 → 00:55:37 แล้วอินซูลินต้องรีบมามาประกบอ่ะนะฮะนะ
00:55:37 → 00:55:41 แล้วก็อินซูลินเขาก็จะดัมน้ำตาลลงนะ
00:55:41 → 00:55:44 คอร์ติซอลก็จะเ่อมันก็เลยเกิดภาวะไฮโป
00:55:44 → 00:55:47 ไลซีนตาลไอ้คอร์ติซอลก็จะต้องรีบกลับออก
00:55:47 → 00:55:51 มาจัดหาพลังงานครับนะอันนี้ก็คือที่ 2
00:55:51 → 00:55:53 ช่วโมงขึ้นไปนะฮะส่วนใหญ่อยู่ประมาณสัก
00:55:53 → 00:55:56 นี่แหละ 2 ชมงครึ่ง 3 ชั่วโมงอีกอันนึงก็
00:55:56 → 00:55:59 คือตื่นขึ้นมาตอนเช้าๆแล้วเพลียแล้วไม่มี
00:55:59 → 00:56:03 แรงนะไม่มีแรงนะฮะซึ่งอันเนี้ยเป็น
00:56:03 → 00:56:07 สัญลักษณ์ของของการดื้ออินซูลินกับดื้อ
00:56:07 → 00:56:10 คอร์ติซอลนะฮะนะก็คือมันเอซอน่ะมันหมดน่ะ
00:56:10 → 00:56:16 หมดพลังชีวิตอ่ะนะนะจริงๆแล้วเนี่ยถ้านะ
00:56:16 → 00:56:20 ถ้าคอร์ติซอลนะคือถ้าอินซูลินเนี่ยยังไม่
00:56:20 → 00:56:23 ดื้อมากแล้วคอร์ติซอลก็ยังยังไม่ดื้อเยอะ
00:56:23 → 00:56:27 อ่ะนะฮะครับพวกนี้เนี่ยมันยังตื่นขึ้นมา
00:56:27 → 00:56:30 แล้วเนี่ยน้ำตรงน้ำตาลอะไรมันยังมันยัง
00:56:30 → 00:56:33 ยังจะมียังจะอยู่ในระดับอยู่นะฮะแต่ถ้า
00:56:33 → 00:56:36 ตื่นขึ้นมาแล้วเนี่ยไม่มีพลังงานเลยนะน้ำ
00:56:36 → 00:56:38 ตรงน้ำตาล
00:56:38 → 00:56:42 อ่าทำอะไรไม่ได้เลยนะฮะไมงไมโทคอนเดรีย
00:56:42 → 00:56:45 เอ้ไมโทคอนเดรียเอาน้ำตาลเนี่ยนะที่
00:56:45 → 00:56:48 คอร์ติซอลสร้างขึ้นมาไปใช้เป็นพลังงานไม่
00:56:48 → 00:56:52 ได้นะพวกนี้ก็เรียบร้อยแล้วนะฮะเรียบร้อย
00:56:52 → 00:56:55 สท้อนถึงไมโตคอนเดรียฟังก์ชันนะฮะอ๋ออ๋อ
00:56:55 → 00:56:57 ครับตขึ้นมาแล้วเพลียมากไม่มีแรงเนี่ย
00:56:57 → 00:57:02 เพราะว่าทั้งอินซกับคอร์ติซอลเนี่ยอนะก็
00:57:02 → 00:57:07 สุดๆไปแล้วอ่ะนะฮะนะครับ
00:57:07 → 00:57:11 ครับอย่างอื่นก็ลองไปอ่านดูนะฮะเนี่ยมัน
00:57:11 → 00:57:16 ก็จะมีลักษณะอย่างนี้นะฮะ
00:57:16 → 00:57:20 ก็หลักการของการรักษาเบาหวานเนี่ยมันจะมี
00:57:20 → 00:57:23 หลักๆแค่เนี้ยนะฮะ
00:57:23 → 00:57:27 ครับถ้ามาสรุปเป็นขั้นตอนเนี่ยเราจะทำยัง
00:57:27 → 00:57:30 ไงบ้างนะกับคนที่เป็นเบาหวานเนี่ย 1 ก็
00:57:30 → 00:57:35 คือลดอินซูลินลดอินซูลินก็คือควบคุมคาฟนะ
00:57:35 → 00:57:40 อาจจะตัดหรือลดนะฮะนะนะอะไรบ้างที่
00:57:40 → 00:57:44 กระตุ้นอินซูลินนะฮะเยอะแยะไปหมดนะโดย
00:57:44 → 00:57:46 เฉพาะแปรรูกนะฮะ
00:57:46 → 00:57:50 เอ่ออันที่ 2 ก็คือทดแทนพลังงานหลักด้วย
00:57:50 → 00:57:54 High Good Healthy Fat นะฮะในที่นี้
00:57:54 → 00:57:57 เราก็แนะนำนำการใช้พลังงานจากไขมันในรูป
00:57:58 → 00:58:02 ของน้ำสลัดทีออยจากน้ำมันสกัดเย็นนะนะอ
00:58:02 → 00:58:05 แล้วก็กินโปรตีนกินผักหัวผักใบอะไรอย่าง
00:58:05 → 00:58:11 งี้นะฮะนะในสัดส่วนที่เคยบอกครับอันที่ 3
00:58:11 → 00:58:13 ต้องมีการเพิ่มพื้นที่ในการเก็บแป้ง
00:58:13 → 00:58:18 ไกลโคเจนนะฮะนะนะคือยังไงเสียเนี่ยถึงเรา
00:58:18 → 00:58:21 จะตัดคาฟสนิทอะไรต่างๆร่างกายเนี่ยจะมี
00:58:21 → 00:58:26 วิถีทางของเขานะฮะที่จะสลายพวกไขมันและ
00:58:26 → 00:58:30 สลายโปรตีนออกมานะฮะเพื่อจะมาเปลี่ยนเป็น
00:58:31 → 00:58:35 แป้งไกลโคเจนเก็บไว้ที่ตับนะฮะครับซึ่ง
00:58:35 → 00:58:38 กลไกอันเนี้ยมันเป็นสิ่งสำคัญยิ่งยวดเลย
00:58:38 → 00:58:42 ของหน้าที่ของคอร์ติซอลนะเป็นเป็นการห่วง
00:58:42 → 00:58:45 หาอาทรของฮอร์โมนตัวแม่หรือคอร์ติซอลนะ
00:58:45 → 00:58:48 ซึ่งมันเป็นฮอร์โมนที่มันจะทำทุกวิถีทาง
00:58:48 → 00:58:52 อ่ะที่เรียกฮอร์โมนกันตายอ่ะคือกันไม่ให้
00:58:52 → 00:58:55 ตายอ่ะนะออ่าแล้วตัวที่กันจะไม่ให้ตาย
00:58:55 → 00:59:00 เนี่ยนะนะก็คือไกลโคเจนที่ตัดนี่แหละนะ
00:59:00 → 00:59:02 ที่มันจะมาเป็นพลังงานนะเพราะถ้าไม่มี
00:59:02 → 00:59:05 ไกลโคเจนที่ตับนี่มันจะวุ่นวายมากนะฮะ
00:59:05 → 00:59:09 ระบบต่างๆมันจะรวนไปหมดนะฮะครับเพราะว่า
00:59:09 → 00:59:12 อย่างน้อยไกลโคเจนที่ตับเนี่ยก็จะมามา
00:59:12 → 00:59:15 รีเสิร์ชพลังงานให้กับเซลล์ที่มันใช้ไข
00:59:16 → 00:59:19 มันใช้คีโตนไม่ได้อฮะมีอะไรบ้างอ่ะมี
00:59:19 → 00:59:23 เซลล์เม็ดเลือดแดงอ่ามีเซลล์ของอะไรอ่ะ
00:59:23 → 00:59:28 อ่าหน่วยไตอ่าเดล่าเ่อหน่วยไตเนื้อไตส่วน
00:59:28 → 00:59:34 กลางนะฮะนะครับแล้วก็มีเซลล์อ่าที่สมองนะ
00:59:34 → 00:59:37 โดยเฉพาะสมองที่ควบคุมการนอนหลับเนะมัน
00:59:37 → 00:59:40 อ๋อครับๆคือสมองเนี่ย 20% เนี่ยเขาจะใช้
00:59:40 → 00:59:44 น้ำตาลนะแต่จะมีสมองส่วนที่ 5% เนี่ยมัน
00:59:44 → 00:59:47 จะสำคัญมากนะฮะนะซึ่งเป็นส่วนของ
00:59:47 → 00:59:50 ไฮโปทาลามัสที่จะเกี่ยวกับการนอนหลับด้วย
00:59:50 → 00:59:52 อืๆๆๆๆ
00:59:52 → 00:59:57 เอ่อเซลล์ที่ที่จอจอประสาทตาที่เรติน่า
00:59:57 → 01:00:01 ที่จอรับภาพนะฮะครับแล้วก็ในผู้ชายก็คือ
01:00:01 → 01:00:05 เซลล์อสุจินะเใช้พลังงานจากไขมันไม่ได้นะ
01:00:05 → 01:00:08 เใช้น้ำตาลอย่างเดียวนะ
01:00:08 → 01:00:09 ครับ
01:00:09 → 01:00:12 [เพลง]
01:00:12 → 01:00:17 อืเพราะฉะนั้นนะต้องมีพื้นที่ในการสต๊อก
01:00:17 → 01:00:22 แป้งนะนะก็คืออันเนี้ยเราก็ต้องทำการอ่า
01:00:22 → 01:00:26 เนี่ยทำการออกแรงออกกำลังนะเวทอพวกกล้าม
01:00:26 → 01:00:29 เนื้ออะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะฮะครับเผื่อมี
01:00:29 → 01:00:32 แป้งเกินนะนอกจากสต๊อกที่ตับแล้วก็ไปเก็บ
01:00:32 → 01:00:37 ต่อที่กล้ามเนื้อนะฮะนะเอ่อเพราะว่าเราก็
01:00:37 → 01:00:41 ต้องกินนั่นแหละนะนะแป้งต่างๆนะทั้งร่าง
01:00:41 → 01:00:44 กายสร้างเองทั้งหลุดออกมาจากอาหารข้างนอก
01:00:44 → 01:00:46 เหล่าเนี้ยส่วนใหญ่มันก็เกินอยู่แล้วโดย
01:00:46 → 01:00:50 เฉพาะวิถีทางของอาหารในยุค
01:00:50 → 01:00:53 ปัจจุบันอันต่อมาก็คือการลด viser Fat
01:00:53 → 01:00:58 นะนะการเลดขมันในช่องท้องนะฮะนะเพวกนี้ก็
01:00:58 → 01:01:01 มีทั้ง If แล้วก็มีทั้งการออกแรงออกกำลัง
01:01:01 → 01:01:07 เอ่อมีทั้งการทำยิอะไรต่างๆครับอ่าแล้วก็
01:01:07 → 01:01:13 การนอนนะฮะนะการนอนหลับนะก็เรื่องการนอน
01:01:13 → 01:01:16 เนี่ยก็ต้องมีอ่าเกลือแร่แมกนีเซียม
01:01:16 → 01:01:20 โปแทสเซียมวิตามินดีอ่า 3 แล้วก็วิตามิน
01:01:20 → 01:01:25 ซีไรโบโซมนะฮะซีไรโบโซมก็ละลายในไขมันนะ
01:01:25 → 01:01:28 ฮะเพราะละลายในน้ำนี่เอ่อไม่เข้าเซลล์นะ
01:01:28 → 01:01:31 ฮะนะอินซูลินกันหมดนะ
01:01:31 → 01:01:37 อ๋อไปก็ฉีดนะฮะใครจะกินวิตามินซีจากผลไม้
01:01:38 → 01:01:43 จากพืชผักอะไรต่างๆยากมากในปัจจุบันอื
01:01:43 → 01:01:48 ครับโอเคนะฮะแล้วก็มีว่าเนี่ยในการจะลด
01:01:49 → 01:01:52 น้ำตาลหลังอาหารง่ายๆนะฮะนะนะก่อนอาหาร
01:01:52 → 01:01:56 กินน้ำเยอะหน่อยนะนะนะกินนน้ำไว้เนี่ยสัก
01:01:56 → 01:02:00 ประมาณนี่แหละนะฮะเอ่อครึ่งลิตรนะ 2-3
01:02:00 → 01:02:03 ชั่วโมงก่อนมื้ออาหารนะฮะครับโดยเฉพาะ
01:02:03 → 01:02:07 มื้อเย็นมื้อเย็นนะนะแล้วก็มื้อแรกนะ
01:02:07 → 01:02:11 พยายามกินผักหัวนะแทนแป้งนะฮะคือแป้งเชิง
01:02:11 → 01:02:15 ซ้อนต่างๆถ้ากินได้เอามาไว้มื้อเย็นนะแต่
01:02:15 → 01:02:18 ถ้ากินไม่ได้เอาผักหัวมาไว้มื้อเย็นนะแบบ
01:02:18 → 01:02:20 เป็นเบาหวานหนักๆเลยเแล้วมื้อแรกก็กินผัก
01:02:20 → 01:02:24 ใบไปนะอ่าแล้วก็งดอะไรสิ่งที่กระตุ้น
01:02:25 → 01:02:28 อินซูลินอันนี้พอรู้แล้วนะกินเป็นมื้อนะ
01:02:28 → 01:02:31 ฮะจะ 2 มื้อนะส่วนใหญ่ก็แนะนำ 2 มื้ออ่ะ
01:02:31 → 01:02:34 นะฮะนะแต่บางคนผอมมากๆก็อาจจะมีมื้อแทรก
01:02:34 → 01:02:39 นะงดสนะฮะอ่ากินผักกินน้ำสลัดในมื้อแรกนะ
01:02:39 → 01:02:42 อ่าก็อันนี้ก็หมายถึง High Good Healthy
01:02:42 → 01:02:46 Fat เป็นพลังงานหลักแทนค้านะแล้วก็มี
01:02:46 → 01:02:49 resistance Training นะฮะนะโดยเฉพาะ
01:02:49 → 01:02:53 ก่อนกินนะฮะอันนี้เก็จะเป็นบริหารแบบการ
01:02:53 → 01:02:56 ใช้ยางยืดนะนะฮะนะซึ่งในผู้หญิงเนี่ยจะ
01:02:56 → 01:03:01 ได้ผลนะฮะครับก็ชายก็แล้วแต่จะไปเวทจะไป
01:03:01 → 01:03:06 อ่าใช้ลูกเหล็กครับชายใช้ลูกเหล็กครับโ
01:03:06 → 01:03:07 เฉพาะคนผอมๆอ่ะ
01:03:08 → 01:03:11 นะแล้วก็พลังงานเนี่ยก็เท่ากับ Bal
01:03:11 → 01:03:14 metabolic Rate นะฮะ
01:03:14 → 01:03:18 นะเดี๋ยวเราจะมีวิธีคำนวณอีกนิดนึงนะฮะนะ
01:03:18 → 01:03:20 แล้วก็ 1 เมนูที่ควรจะกินทุกวันจนกว่าจะ
01:03:20 → 01:03:24 หายเบาหวานเนี่ยคือยำนะโดยให้ใส่พวกผัก
01:03:24 → 01:03:29 ดองน้ำผักดองนะอ่ามีเนื้อสัตว์มีผักสดผัก
01:03:29 → 01:03:33 สุกอะไรก็แล้วแต่นะควรจะมีนะฮะถ้าไม่มีก็
01:03:33 → 01:03:37 กินผักดองกิมจินะน้ำผักดองก็เอาไปเอ่อใส่
01:03:37 → 01:03:42 ในน้ำต้มกระดูกอะไรก็ได้นะครับแล้วก็มี
01:03:42 → 01:03:46 งานวิจัยนะฮะในเรื่องของการเดินนะฮะโดย
01:03:46 → 01:03:50 เฉพาะในคนสูงวัยนะอายุเกินกว่า 60 ปีอ่า
01:03:50 → 01:03:53 ก็ให้เดินประมาณ 6,000 - 8,9 นะฮะครับ
01:03:53 → 01:03:56 พวกนี้จะลด morality หรืออัตราการเสีย
01:03:56 → 01:04:00 ชีวิตก่อนกำหนดได้ถึงครึ่งนึงอ่ะนะถ้า
01:04:00 → 01:04:03 อายุน้อยกว่า 60 ปีก็เนี่ยเพิ่มไปอีก
01:04:03 → 01:04:07 23,000 นะนะ 8,000 - 19,000 นะนะอัน
01:04:07 → 01:04:09 นี้ก็ลด
01:04:09 → 01:04:12 morality ก็การเดินพวกเให้เดินหลังอาหาร
01:04:12 → 01:04:16 นะให้เดินหลังมื้ออาหารนะโดยเฉพาะมื้อ
01:04:16 → 01:04:20 เย็นนะฮะแล้วก็การเทการ resistance
01:04:20 → 01:04:24 Training นะอันนี้ให้ทำก่อนมื้ออาหารโดย
01:04:24 → 01:04:27 เฉพาะก่อนมื้อแรกถ้าไม่สะดวกก็ก่อนมื้อ
01:04:27 → 01:04:31 เย็นครับอันนี้แล้วแต่อันนี้สำหรับคนเป็น
01:04:31 → 01:04:34 เบาหวาน
01:04:34 → 01:04:39 นะส่วนสูตรในการคำนวณแคลอรี่เนี่ยนะฮะคือ
01:04:39 → 01:04:41 หมอใช้คำว่าคำนวณแคลอรี่เนี่ยแต่เราไม่
01:04:41 → 01:04:45 ใช่แบบแ in แ Out นะฮะครับเนี่ยเรามีการ
01:04:45 → 01:04:48 คำนวณแคลอรี่ก็จริงนะว่าวันนึงเนี่ยควรจะ
01:04:48 → 01:04:52 ได้เท่าไหร่นะฮะก็เอาส่วนสูง - 105 ก็
01:04:52 → 01:04:56 คือน้ำหนักค่ากลางครับครับเนี่ยแล้วจาก
01:04:56 → 01:05:01 ค่าน้ำหนักนั้นเนี่ยก็เอามาคูณนะอ่าตัว
01:05:01 → 01:05:06 คูณที่เป็นพลังงานครับนะแล้วแต่ผู้หญิง
01:05:06 → 01:05:09 ผู้ชายอ้วนผอมนะฮะเนี่ยก็มาคูณแล้วเราจะ
01:05:09 → 01:05:13 ได้ค่าพลังงานคร่าวๆต่อวันแล้วหลังจาก
01:05:13 → 01:05:17 นั้นเราก็มาจัดสรรพลังงานนะฮะจะเอาาฟกี่
01:05:17 → 01:05:20 เปอร์เซ็นต์ล่ะ 5 หรือ 10% นะอ่าโปรตีน
01:05:20 → 01:05:23 เอากี่เปอร์เซ็นต์อ่าซัก 20 25% ไขมัน
01:05:23 → 01:05:29 เอา 60 65% นะฮะนะก็คูณค่าพลังงานเข้า
01:05:29 → 01:05:34 ไปครับอ่าเราเทียบแคลอรี่เราคำนวณหรือเรา
01:05:34 → 01:05:38 เทียบจำนวนแคลอรี่นะที่ร่างกายควรจะได้
01:05:38 → 01:05:42 รับต่อวันเพื่อเอามาเทียบเคียงหาปริมาณ
01:05:42 → 01:05:46 น้ำหนักสุทธิของสารอาหารที่เป็นกรในตัว
01:05:46 → 01:05:49 อาหารต่างๆทั้งคาร์โบไฮเดรตโปรตีนและไข
01:05:49 → 01:05:53 มันที่เราจะกินต่อวันเราไม่ได้คำนวณมา
01:05:53 → 01:05:57 เพื่อเพื่อหาแคลอรี่ในอาหารแต่ละอย่าง
01:05:57 → 01:06:01 แล้วเอามาบวกเอามาลบให้มันให้มันอะไรให้
01:06:01 → 01:06:04 มันเท่ากับแคลอรีที่ร่างกายต่อวันไม่ใช่
01:06:04 → 01:06:08 ครับคนละอย่างกันนะคนละอย่างนะแต่ตอนแรกๆ
01:06:08 → 01:06:10 เนี่ยการเทียบมันก็เทียบเป็นเรื่องของ
01:06:10 → 01:06:13 พลังงานในรูปแบบของแคลอรี่เหมือนกันแต่
01:06:13 → 01:06:16 สุดท้ายแล้วเนี่ยมันมาได้เป็นตัวอาหารนะ
01:06:16 → 01:06:19 ที่เป็นน้ำหนักนะไม่ได้ตัวอาหารที่เป็น
01:06:19 → 01:06:21 แคลอรี่นะ
01:06:21 → 01:06:26 ฮะอันนี้วิชาโลคไก็ใช้หลักการแบบเนี้ยนะ
01:06:26 → 01:06:30 ครับทีนี้ในคนที่เป็นเบาหวารเนี่ยสาเหตุ
01:06:30 → 01:06:33 ที่การดื้ออินซูลินหรือคอร์ติซอลเนี่ยมัน
01:06:33 → 01:06:38 ไม่ลดนะหรือมันยังวนหลูบกลับมาเป็นซ้ำๆ
01:06:38 → 01:06:42 เนี่ยมันจะเกิดจาก 5 เรื่องเนี้ยนะฮะ 1
01:06:42 → 01:06:45 ก็คือเรื่องกินไม่ดีกินไม่ถูกกินไม่เป็น
01:06:45 → 01:06:50 และกินมั่วนะฮะทำให้ร่างกายขาดพลังงานขาด
01:06:50 → 01:06:54 สารอาหารนะอ่าพลังงานเกินสารอาหารขาดอ่า
01:06:54 → 01:06:57 พลังงานขาดเ่อสารอาหารขาดอะไรเงี้ยก็แล้ว
01:06:57 → 01:07:00 แต่นะมันก็จะวนๆอยู่ที่เรื่องของ
01:07:00 → 01:07:04 คาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันครับอันนี้เนี่ย
01:07:04 → 01:07:08 นะหลายคนก็กินแล้วมันปรากฏว่าอ่าบางคนก็
01:07:08 → 01:07:12 กินน้อยไปอดนานเกินไปนะกินหลุดหยวนๆหย่อน
01:07:12 → 01:07:16 ๆนะกินบางสิ่งบางอย่างไม่หมุนเวียนน่ะไม่
01:07:16 → 01:07:20 หมุนเวียนร่างกายชอบการหมุนเวียนเนี่ยก็
01:07:20 → 01:07:22 เลยทำให้การจัดสรรเรื่องพลังงานสารอาหาร
01:07:22 → 01:07:26 เกิดความผิดปกติติขาดเกินนะนะอันเนี้ยก็
01:07:26 → 01:07:30 จะทำให้อินซูลินกับคอร์ติซอลเขาฮึ้มๆอ่ะ
01:07:30 → 01:07:34 นะฮะนะเนี่ยเขาก็ไม่นิ่งไงไม่นิ่งครับ
01:07:34 → 01:07:37 ครับเบอกแล้วว่าต้องให้เขาอยู่ในที่ในทาง
01:07:37 → 01:07:40 อย่าออกมาเพ่นพ่านทั้งกลางวันกลางคืนให้
01:07:40 → 01:07:44 ลูกๆอ่ะเขออกมานะให้ฮอร์โมนลูกเทพอ่ะออก
01:07:44 → 01:07:49 มาทำงานนะฮะคือถ้าเรากินมื้อแรกเนี่ยแบบ
01:07:49 → 01:07:51 ที่ว่าตัดคาฟเนี่ยฮะนะแล้วพลังงานส่วน
01:07:51 → 01:07:55 ใหญ่ก็เป็นเรื่องของโปรตีนกับไขมันดีอ่ะ
01:07:55 → 01:07:57 เนี่ยฮอร์โมนลูกเทพก็ออกมาทำงานในระบบน้ำ
01:07:57 → 01:08:00 เหลืองเลยแล้วเอาพลังงานไปจ่ายอ่าให้
01:08:00 → 01:08:04 เซลล์ให้เนื้อเยื่อให้ไขที่ต้องการนะอืๆ
01:08:04 → 01:08:08 เนี่ยส่วนมื้อเย็นเนี่ยมื้อเย็นก็ให้พ่อ
01:08:08 → 01:08:12 ออกมาทำงานแป๊บนึงนะอ่าสัก 2 ช่วโมงไม่
01:08:12 → 01:08:16 เกิน 4 ชัวโมงนะครับอ่าแล้วหลังจากนั้น
01:08:16 → 01:08:19 เนี่ยพ่อก็ไปพักแล้วฮอร์โมนลูกเทพก็ออกมา
01:08:19 → 01:08:22 ทำงานต่ออ่าแล้วพอมาช่วงเช้ามืดนะจะตื่น
01:08:22 → 01:08:26 นอนเนี่ยให้แม่ก็ออกมาทำงานแป๊บนึงถึง
01:08:26 → 01:08:29 ประมาณ 8 น 900 นแล้วแม่เค้าก็ไปพักนะ
01:08:29 → 01:08:34 แล้วฮอร์โมนลูกเทพก็ทำงานต่ออืก็กวนอย่าง
01:08:34 → 01:08:37 เงี้ยฮะนะเนี่ยก็คือเป็นหลักการที่มาของ
01:08:37 → 01:08:40 การกินให้ถูกใน 1 วันมื้อแรกกินยังไง
01:08:40 → 01:08:43 เพราะอะไรแล้วถ้าไม่กินแล้วมันจะเป็นยัง
01:08:43 → 01:08:45 ไงแล้วถ้ากินมันจะได้ประโยชน์ยังไงครับ
01:08:46 → 01:08:49 แล้วมื้อเย็นเนี่ยกินยังไงเอ่อถ้าไม่กิน
01:08:49 → 01:08:51 แล้วมันจะเป็นยังไงแล้วถ้ากินแล้วมันจะ
01:08:51 → 01:08:52 ได้ประโยชน์
01:08:52 → 01:08:55 อะไร
01:08:55 → 01:08:58 อืเรื่องกินก็เรื่องใหญ่ที่สุด่ะนะมีผล
01:08:58 → 01:09:02 ถึง 80% นะต่อมาก็เป็นเรื่องการนอนนะฮะเ
01:09:02 → 01:09:05 อันนี้มันก็จะโยงใยมาจากเรื่องของเรื่อง
01:09:05 → 01:09:07 ของฮอร์โมนเรื่องของการกินมื้อเย็นที่ไม่
01:09:07 → 01:09:11 ถูกนะฮะครับอ่ามันก็จะนอนหลับไม่ลึกนะ
01:09:11 → 01:09:13 หลับๆตืนๆต้องทุบมาปัสสาวะอะไรอย่างเงี้ย
01:09:13 → 01:09:18 นะฮะอือ่าแล้วก็เนี่ยนะหรือว่าบางคนก็
01:09:18 → 01:09:21 Over Training นะฮะนะออกแรงออกกำลังมาก
01:09:21 → 01:09:27 หักโหมนะอ่าแล้วก็บางคนก็ฟิกอยู่กับการ
01:09:27 → 01:09:30 อ่าทำอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งคาร์ดิโออย่าง
01:09:30 → 01:09:32 เดียวเวทไม่เวทหรอกนะออกกำลังกายเหมือน
01:09:33 → 01:09:34 กันเดี๋ยวก็ได้ผลเหมือนกันล่ะน่ะอะไร
01:09:34 → 01:09:38 อย่างเงี้ยอ่าครับก็ต้องต้องเข้าใจนะหรือ
01:09:38 → 01:09:41 บางคนก็ไม่ออกเลยนะกลัวเหนื่อยกลัวเหงื่อ
01:09:41 → 01:09:43 ออก
01:09:43 → 01:09:48 นะนะเฮ้อนะต่อมาก็คืออารมณ์เปลี่ยนแปลงนะ
01:09:48 → 01:09:51 ฮะนะบางครั้งบางคราวคนเราก็จะมีเรื่องราว
01:09:51 → 01:09:55 ในชีวิตน่ะนะฮะนะนะอารมณ์พวกนี้ก็จะมีผล
01:09:55 → 01:09:59 ต่อเรื่องของคอร์ติซอลกับอินซูลินนะฮะนะ
01:09:59 → 01:10:01 โดยมักจะมีผลต่อคอร์ติซอลมากกว่าอินซูลิน
01:10:01 → 01:10:04 แต่เรื่องกินเนี่ยอินซูลินมักจะมีผลมาก
01:10:04 → 01:10:07 กว่าคอร์ติซอลนะฮะนะแล้วก็เรื่องของ
01:10:07 → 01:10:10 อุบัติเหตุการเจ็บป่วยกระทันหันนะพวกนี้
01:10:10 → 01:10:14 ทั้งคอร์ติซอลกับอินซูลินเพี้ยนหมดนะ
01:10:14 → 01:10:18 เหล่าเนี้ยนะฮะก็ต้องมาดูให้ดีว่าเอ่อการ
01:10:18 → 01:10:21 ที่เราเนี่ยไปไม่ถึงฝั่งนะคุมน้ำตาลไม่
01:10:21 → 01:10:25 ได้นะฮะหรือ a1c ต่างๆมันยังนิ่งอะไรต่าง
01:10:25 → 01:10:27 ๆเหล่าเนี้ยนะฮะหรือค่าแลบอะไรต่างๆไม่ดี
01:10:27 → 01:10:31 เนี่ยเพราะอะไร 1-5 นะฮะนะ
01:10:31 → 01:10:35 ครับอันอื่นก็มันเป็นอารัมภบทเนี่ยอันนี้
01:10:35 → 01:10:38 หมอฝากไปอ่านนะซึ่งมักจะเป็นเรื่อง
01:10:38 → 01:10:42 พฤติกรรมของทั่วๆไปของเรานั่นแหละนะฮะ
01:10:42 → 01:10:45 ครับโดยเฉพาะในเรื่องอาหารการกินนะนะอัน
01:10:45 → 01:10:46 นี้
01:10:46 → 01:10:51 นะก็มีตอกย้ำซ้ำทวนน่ะไม่ใช่อะไรนะฮะนะท
01:10:51 → 01:10:54 นี้เรามาดูตรงนี้นะฮะว่า
01:10:54 → 01:10:58 มันจะมีอยู่ 7 ข้อนะฮะนะนะที่คนเนี่ยบอก
01:10:58 → 01:11:02 ว่าเออเ่าเหมือนกับเเข้าใจไวว่าเทำถูก
01:11:02 → 01:11:05 ต้องแล้วอ่ะนะแต่จริงๆเนี่ยพอไปดูไส้ใน
01:11:05 → 01:11:09 ของอาหารแล้วมันยังไม่ถูกอ่ะนะฮะนะอ่าๆ 1
01:11:09 → 01:11:11 อ่ายังมีเรื่องของการกินจุกจิกกิน
01:11:11 → 01:11:16 จุ๊บจิ๊บมีสนคกินระหว่างมื้อนะอ่าก็คือ
01:11:16 → 01:11:20 มันนับมื้อหมด่ะมันนับมื้อยกเว้นน้ำเปล่า
01:11:20 → 01:11:24 นะฮะนะบอกให้กิน 2 มื้อนะแต่ระหว่างมื้อ
01:11:24 → 01:11:27 มีกินนู่นเติมนั่นเติมนี่อะไรต่างๆมันก็
01:11:27 → 01:11:30 กลายเป็นวันละ 5 มื้อ 7 มื้ออ่ะครับอ่า
01:11:30 → 01:11:35 อันต่อมาก็คือพวกเนี่ยพวกแฝงเล้นนะฮะนะนะ
01:11:35 → 01:11:39 พวกคาฟคาฟแฝงเล้นคาฟเล่นกลต่างๆนะเ๋
01:11:39 → 01:11:42 อุตสาหกรรมอาหารโอหรือแม้แต่จะเป็นอาหาร
01:11:42 → 01:11:47 คีตงขีโตอะไรต่างๆครับโอนะมันปนเปื้อนซะ
01:11:47 → 01:11:51 ไม่รู้จะว่าไงแล้วนะฮะอือันต่อมาก็คือพวก
01:11:51 → 01:11:54 รูปแบบของอาหารแปรรูปประเภทที่บอกว่า
01:11:54 → 01:11:57 เพื่อสุขภาพนะก็เป็นตั้งแต่เรื่องของ
01:11:57 → 01:12:01 โปรตีนผงคอลลาเจนนะทั้งพืชทั้งสัตว์เว
01:12:01 → 01:12:06 โปรตีนครับเนี่ยอันนี้พวกแปรรูปพวกนี้ก็
01:12:06 → 01:12:11 อืปนเปื้อนเยอะแยะนะแล้วก็มีอาหารเสริมใน
01:12:11 → 01:12:14 ในรูปแบบต่างๆนะอะไรเงี้ยสำเร็จรูปเป็น
01:12:14 → 01:12:17 ซองๆเป็นแพ็คก้้งแพ็คกิ้งแพ็คเกจอะไรต่าง
01:12:17 → 01:12:23 ๆนะครับกลัวการเวทนะนะก็คือเอ่อการออกแรง
01:12:24 → 01:12:27 ออกกำลังของกล้ามเนื้อมันไปไม่ถึงฝั่งไม่
01:12:27 → 01:12:31 ถึงจุดนะฮะนะของการที่จะเกิดการทำลาย
01:12:31 → 01:12:36 กล้ามเนื้อนะหรือเกิดการบาดเจ็บอ่า
01:12:36 → 01:12:43 แบบแบบไม่หนักอ่ะนะฮะอืๆครับผมนะแล้วก็
01:12:43 → 01:12:47 อะไรนะกลัวการอดไม่ได้กินในสิ่งที่ชอบ
01:12:47 → 01:12:52 หรือสิ่งที่คุ้นเคยนะฮะการนอนไม่ดีนะก็
01:12:52 → 01:12:55 พวกนี้ก็อยู่วนๆอยู่กินๆนอนๆแล้วก็นี่
01:12:55 → 01:13:01 แหละเวทนะฮะออกแรงออกกำลังนะฮะสุดท้าย
01:13:01 → 01:13:05 อยากจะย้ำในเรื่องของกลุ่มอาหารนะฮะนะว่า
01:13:05 → 01:13:08 นะอาหารที่ให้พลังงานและสารอาหารซึ่งไม่
01:13:08 → 01:13:11 รบกวนไม่กระตุ้นอินซูลินไม่ต้องพึ่งา
01:13:11 → 01:13:14 ฮอร์โมนอินซูลินนะจะมีลักษณะ 3 อย่างนี้
01:13:14 → 01:13:18 นะฮะอันที่ 1 ก็คือไฟเบอร์หรือกากใจอาหาร
01:13:18 → 01:13:20 นะพวกนี้เราเรียกว่า Negative Energy
01:13:20 → 01:13:24 Balance นะฮะนะครับนะแล้วก็ตัวเนี้ยต้อง
01:13:24 → 01:13:27 กินคู่กับโปรตีนนะฮะ
01:13:27 → 01:13:31 นะเขาจะมาต้องต้องต้องใส่เข้าไปคู่กับ
01:13:31 → 01:13:34 โปรตีนนะอันต่อมาก็คือน้ำมันพืชสกัดเย็น
01:13:34 → 01:13:37 นะนะอันนี้ก็เป็นพลังงานทดแทนและจะเป็น
01:13:37 → 01:13:40 พลังงานที่ทำให้ร่างกายมันสร้างสารคีโตน
01:13:40 → 01:13:43 นะฮะนะซึ่งอันนี้เราถือว่าเป็น High
01:13:43 → 01:13:45 Energy นะที่ร่างกายหรือที่เซลล์หรือ
01:13:45 → 01:13:48 ไมโทคอนเดรียก็ต้องการแล้วมีนิตรเนในรูป
01:13:48 → 01:13:53 แบบของอ่าสารพฤกษาเคมีนะฮะนะอ่าทีนี้
01:13:53 → 01:13:56 โปรไบโอติกพรีไบโอติกนะฮะอันนี้เป็น low
01:13:56 → 01:14:00 Energy แล้วก็มีนินเนะแต่พวกนี้เราก็กิน
01:14:00 → 01:14:04 ไม่เยอะนะกินในรูปของอะไรกิมจิผักดองน้ำ
01:14:04 → 01:14:08 ผักดองนะหรือใครจะมีอะไรที่ดีกว่านั้นนะ
01:14:08 → 01:14:12 ก็เติมได้นะฮะจะเป็นชีสจะเป็นอะไรอ่ะกีก
01:14:12 → 01:14:13 โยเกิร์ต
01:14:13 → 01:14:20 เอ่อจะเป็นน้ำหมักอะไรไม่รู้นะ
01:14:20 → 01:14:25 อืสุดท้ายก็อยากจะย้ำตารางนี้นะฮะว่านะ
01:14:25 → 01:14:28 ถ้าเราเป็นเบาหวานนะเราพยายามแยกแยะก่อน
01:14:28 → 01:14:30 ว่าเราอยู่ในกลุ่มไหน
01:14:30 → 01:14:35 อ่าสมมุติว่าเราอ้วนนะแล้วเรารีเวเบาหวาน
01:14:35 → 01:14:38 อะไรต่ออะไรมาจนกระทั่งน้ำหนักสมส่วนเรา
01:14:38 → 01:14:41 ต้องมาดูในกลุ่มนี้นะฮะเราต้องมาระวัง
01:14:41 → 01:14:45 ระแวดระวังในกลุ่มนี้นะฮะนะครั้งหนึ่งเคย
01:14:45 → 01:14:49 อ้วนบัดนี้เนี่ยสมส่วนนะหรือผอมแล้วอ่ะ
01:14:49 → 01:14:52 น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์แล้วเราก็ต้องย้ายฐาน
01:14:52 → 01:14:55 มาดูดูฝั่งซ้ายนี่แล้วนะฮะนะแล้วก็ควบคุม
01:14:55 → 01:14:59 ในฝั่งนี้นะฮะนะไม่ใช้เป็นใช้หลักการแบบ
01:14:59 → 01:15:04 นี้อยู่นะฮะนะนะแต่ถ้าอ้วนเนี่ยฝั่งขวานะ
01:15:04 → 01:15:07 ฮะฝั่งขวา
01:15:07 → 01:15:13 นะโอเคนะครับก็ไม่มีอะไรฝากไปอ่านหมดแล้ว
01:15:14 → 01:15:19 นะก็มีเคสแถมเคสนึงมีใครสงสัยอะไร
01:15:19 → 01:15:23 มั้ยไม่มีครับไม่สงสัยครับคือคือแบบเนี้ย
01:15:23 → 01:15:26 อ่ะอย่างอย่างไพโรจว่าไงอ่ะมันมันแนวทาง
01:15:26 → 01:15:30 Approach เบาหวานแบบเนี้ยนะหมอว่ามันน่า
01:15:30 → 01:15:33 จะพอเข้าใจดีกว่า
01:15:33 → 01:15:37 นะแล้วเราจะไปสู่แนวทางของอาหารเนี่ยที่
01:15:37 → 01:15:41 จะเลือกกินน่ะนะเพื่อไปปรับนะจะปรับ
01:15:41 → 01:15:45 อินซูลินหรือจะปรับคอร์ติซอลถ้าเกิดใน
01:15:45 → 01:15:49 กลุ่มคนผอมก็ต้องระวังอ่าตัวคอร์ติซอลให้
01:15:49 → 01:15:52 ดีๆ
01:15:52 → 01:15:54 อ่ะ
01:15:54 → 01:15:59 ครับผมอันเนี่ยนะเราเข้าใจมว่าสมมุตินะ
01:15:59 → 01:16:03 สมมุติว่าคนไข้เนี่ยมันเครียดมากมัน
01:16:03 → 01:16:05 เครียดเรื่องราวอะไรต่างๆมาประดังประเด
01:16:05 → 01:16:09 เยอะแยะเลยเนี่ยนะฮะเนี่ยถามว่าเอาล่ะเรา
01:16:09 → 01:16:12 ก็รู้แล้วล่ะว่าไอ้คอร์ติซอลเนี่ยมันมีผล
01:16:12 → 01:16:17 ก่อคนพวกเนี้ยมันมากเลยนะแล้วเรารู้มยว่า
01:16:17 → 01:16:22 เราจะเอาอะไรมาเป็นตัวแก้คอร์ติซอล
01:16:22 → 01:16:26 อต้องนอนก่อน่ะมงครับน่าจะต้องนอนให้ดี
01:16:26 → 01:16:30 ก่อนเออเนี่ยเราจะเราจะแก้คอร์ติซอลยังไง
01:16:30 → 01:16:31 อ่ะ
01:16:32 → 01:16:37 เออตัวแก้คอร์ติซอลคืออินซูลินนะฮะนะเรา
01:16:37 → 01:16:40 ต้องกระตุ้นให้อินซูลินเข้ามาให้พ่อออกมา
01:16:40 → 01:16:44 นะเพราะถ้าแม่อาละวาดเนี่ยนะฮะนะบ้านแตก
01:16:44 → 01:16:50 สาแหลกขาดนะฮะนะนะแต่ถ้าพ่ออาละวาดเนี่ย
01:16:50 → 01:16:52 แค่อะไร
01:16:52 → 01:16:59 อ่ะอะไรนะถ่อถ่อแพเวลาเเขไปสุทัศน์แกไป
01:16:59 → 01:17:02 ล่องแพนี่แกเอาอะไรถ่ออ๋อผมว่ายน้ำครับ
01:17:02 → 01:17:07 พี่หมอไม่ใช่เวลาแพเอาไม้อ่ะถ่อ่อเอาไม้
01:17:07 → 01:17:12 ถ่อเออนั่นแหละเบอกว่าถ้าขาดพ่อแค่ถ่อหัก
01:17:12 → 01:17:16 แกก็เอามือวักไปสิเออนะวักมันก็ไม่ไปดิ
01:17:16 → 01:17:21 พี่หมอไปไม่ไปก็แล้วแต่เดี๋ยวรอลมรอน้ำ
01:17:22 → 01:17:27 เนี่ยนะเนี่ยขาดพ่อ่อหักถ้าขาดแม่แพแตก
01:17:27 → 01:17:31 อ่ะแพแตกแกก็ต้องลอยคออยู่ในน้ำเนี่ยแล้ว
01:17:31 → 01:17:35 อะไรมันจะสำคัญกว่ากันล่ะอ่าขาดพ่อถ่อหัก
01:17:35 → 01:17:39 ขาดแม่แพแตกอ่ะผมผมขอแพอย่างน้อยมันก็ยัง
01:17:39 → 01:17:42 ไปติดโขดหินได้พี่หมอก็เออสินะเพราะ
01:17:42 → 01:17:45 ฉะนั้นถ้าแม่เนี่ยถ้าแม่เนี่ยมันสุดๆแล้ว
01:17:45 → 01:17:49 เอาไม่อยู่แล้วเนี่ยนะนะเนี่ยนะเถึงว่า
01:17:49 → 01:17:53 ต้องให้เอาอินซูลินออกมาไงนะถ้าถ้าถ้ามัน
01:17:53 → 01:17:56 เครียดนะแล้วพิสูจน์ได้ว่าคอร์ติซอลมัน
01:17:56 → 01:18:00 แรงหนักเลยนะฮะคุณต้องกินคาฟนะฮะครับคุณ
01:18:00 → 01:18:03 ต้องกินคาฟนะถึงคุณจัน้ำตาลสูง 200 300
01:18:03 → 01:18:07 กว่าคุณเติมคาฟเข้าไปเหอะนะเติมคาฟให้
01:18:07 → 01:18:11 คอร์ติซอลเสงบหน่อครับเพราะว่าตัวที่จะ
01:18:11 → 01:18:14 ตัวที่จะให้คอร์ติซอลสงบเร็วที่สุดดีที่
01:18:14 → 01:18:18 สุดเลยก็คือคือคาฟคาฟก็คืออินซูลินนั่น
01:18:18 → 01:18:22 แหละครับต้องเติมคาฟเข้าไปนะฮะคุณยังบอก
01:18:22 → 01:18:27 ว่าได้น้ำตาล 200 300 อูยยังมาให้กินคาฟ
01:18:27 → 01:18:32 อีกนะแต่ตอนเมันเครียดนเอออืครับมัน
01:18:32 → 01:18:35 เครียดซะขนาดนี้เนี่ยนะฮะนะก็ต้องต้องใช้
01:18:35 → 01:18:39 คาฟนอย่างน้อยก็มันจะสงบมันจะหลับออะไรก็
01:18:39 → 01:18:42 เดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่วันรุ่งขึ้นนะเออคือ
01:18:42 → 01:18:45 ส่วนส่วนมากคนจะไม่ค่อยรู้คนจะไม่ค่อยรู้
01:18:45 → 01:18:48 ว่าแบบบางคนเบาหวานที่เป็นลักษณะผอมเนี่ย
01:18:48 → 01:18:52 มันถ้าไปใช้วิธีแบบคนอ้วนมันก็มันก็จะ
01:18:52 → 01:18:56 ยิ่งแย่ใหญ่อ่ะพี่หมอใช่อือเออถ้าๆแบบทำ
01:18:56 → 01:18:59 แบบคนอ้วนเต็มๆเลยนะตัดคราฟสนิทหรือว่า
01:18:59 → 01:19:02 อะไรแล้วตัวเองก็ผอมด้วยอย่างเงี้ยมันมัน
01:19:02 → 01:19:06 ก็ยิ่งแย่อ่ะเออนะเออเพราะฉะนั้นเนี่ยมัน
01:19:06 → 01:19:09 ถึงได้ต้องมีพลังงานทดแทนขาดพลังงานไม่
01:19:09 → 01:19:13 ได้ขาดสารอาหารไม่ได้นะแล้วมื้อแรกกับ
01:19:13 → 01:19:16 มื้อเย็นเโดยเฉพาะมื้อเย็นกินให้ถูกเพราะ
01:19:16 → 01:19:18 เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไปสกิดสเกาหรือไป
01:19:18 → 01:19:22 กระตุ้นคอร์ติซอลมาเนี่ยนะมันจะหนักกว่า
01:19:22 → 01:19:25 อินซูลินเยอะนะฮะนะ
01:19:25 → 01:19:30 เออะนั้นก็คงไม่แปลกใจอ่ะว่าทำไมอ่ะเนี่ย
01:19:30 → 01:19:32 จริงๆเนี่ยสุทัศน์ก็ผ่านเหตุการณ์เหล่า
01:19:32 → 01:19:34 นี้มาแหมบๆไม่ใช่แล้ว
01:19:34 → 01:19:37 หรือกระทันหันเนี่ยถ้าเรื่องถ้าเรื่องคอ
01:19:37 → 01:19:41 ตีเซอนะพี่หมอดีอเผมนี่รู้ซึ้งเพราะว่า
01:19:41 → 01:19:44 เป็นหนักหมายถึงว่าไอ้ช่วงช่วงที่ผมก่อน
01:19:44 → 01:19:47 มาเจอคุณหมอเนี่ยผมโลขาบด้วยออกกำลังกาย
01:19:47 → 01:19:51 หนักด้วยอืคือคือออกหนักหนักค่อนข้างหนัก
01:19:51 → 01:19:54 เพราะว่าตื่นตื่น 4:00 นมาแล้วก็เวทก่อน
01:19:54 → 01:19:59 เลยเวทเสร็จออกไปวิ่ง 10 กแล้วก็แล้วก็
01:19:59 → 01:20:02 เวทอีกกลับมาเวทอีกคือบ้าบอแล้วก็กินกิน
01:20:02 → 01:20:05 ตอนหลังเหลือเป็นเป็นวัน Me Day ด้วยออ
01:20:05 → 01:20:11 อ่าคือมนไขมันตกตกแล้วโลคฟด้วยมั้ยโลคฟ
01:20:11 → 01:20:16 เกือบจะโคฟแล้วพี่หมอโอ้โหเออแล้วไขมันก็
01:20:16 → 01:20:19 ไม่รู้กินยังไงก็ก็ก็จัดน้ำมันมะกอกไปสัก
01:20:19 → 01:20:23 1 ช้อนโต๊ะพอเป็นพิธีเออกินมากมันเปลือง
01:20:24 → 01:20:28 อมันแพงมันกินไม่เป็นพี่หมอไม่อีซอบโกรธ
01:20:28 → 01:20:33 มากเลยก็ผลออกมาก็คือนอนไม่หลับแล้วก็ลุก
01:20:33 → 01:20:36 ขึ้นฉี่ตลอดแล้วก็มันจะร้อนๆวูบวาวูบๆ
01:20:36 → 01:20:39 เหมือนคนวายทองอ่ะพี่หมอเออเออต้องเปิด
01:20:39 → 01:20:41 แอร์พอเปิดแอร์ไปสักพักหนาวก็หรี่แอร์พอ
01:20:41 → 01:20:43 หรี่แอร์ก็ร้อนก็ต้องอย่างเงี้ยวนไปแล้ว
01:20:43 → 01:20:47 ก็เอ๊ผมก็เริ่มรู้สึกจนจนหนักๆเข้าตอน
01:20:47 → 01:20:49 หลังนี่เริ่มมีอาการต่อมหมวกตายร้าอย่าง
01:20:49 → 01:20:53 ชัดเลยก็คือตื่นมาแล้วเพียอือืตื่นมา
01:20:53 → 01:20:58 เพลียแล้วก็ช่วงบ่ายแอบไปนอนโอคือคือชัด
01:20:58 → 01:21:02 เลยจนจนจนมาเจอพี่หมอนี่
01:21:02 → 01:21:07 แหละแล้วก็มวลกินเยอะกินกินเยอะเหมือนพี่
01:21:07 → 01:21:09 ไพโรจอ่ะชอบกินบุฟเฟ่ต์อะไรอย่าเงี้ยครับ
01:21:09 → 01:21:13 แต่ว่ากินกินทีแบบคนก็มองหน้านะกินกัน 2-3
01:21:13 → 01:21:16 ชั่วโมงไม่หยุดอ่ะแต่ว่าน้ำหนักไม่ขึ้น
01:21:16 → 01:21:20 ครับเออเออมันมันมีแต่ลงกับลงลงกับลง
01:21:20 → 01:21:25 อย่างเงี้ยอืเหือครับก็คือคที่ิเซ่อดุ
01:21:25 → 01:21:28 เด่นดื้อเลยล่ะใช่แล้วเจอเจอพี่หมอนี่
01:21:28 → 01:21:31 แหละถึงได้ได้กลับตัวทันไม่งั้นก็ก็น่าจะ
01:21:31 → 01:21:34 เป็นเหมือนหลายๆคนที่ที่ออกจากวงการโลคาฟ
01:21:34 → 01:21:36 ไปอ่ะครับเพราะว่าป่วย
01:21:36 → 01:21:40 อื
01:21:40 → 01:21:43 ครับวันนี้เดี๋ยวเรามาดูเรื่องเคสนี้เป็น
01:21:43 → 01:21:47 เคสแถมนะฮะแต่ว่าก็ไม่มีอะไรนะฮะในเพจ
01:21:47 → 01:21:50 สุขภาพเพจนึงเนี่ยก็อยากจะให้ดูลำดับ
01:21:50 → 01:21:55 เรื่องราวที่เบอกนะเบอกว่าสวัสดีครับเอ่อ
01:21:55 → 01:22:00 ค่าต่กับไขมันแบบนี้นะผมควรจะทำ omas
01:22:00 → 01:22:03 หรือปรับเปลี่ยนสารอาหารแบบในดีครับนะ
01:22:03 → 01:22:07 ปัจจุบันกินแบบ 16/8 วันละ 2 มื้ออาหาร
01:22:07 → 01:22:11 ทั้งหมดใน 1 วันเนี่ยนะเขาจะนำมาแบ่งเป็น
01:22:11 → 01:22:15 2 มื้อโดยองค์ประกอบของอาหารก็จะมีโจ๊ก
01:22:15 → 01:22:19 เปล่า 2 ถุงคำว่าโจ๊กเปล่านี่คือข้าวล้วน
01:22:19 → 01:22:22 นะฮะไม่มีไข่ไม่มีเนื้อสัตว์นะโจ๊กเปล่า 2
01:22:22 → 01:22:28 ถุงอ่าจะมีไข่ลวกนะประมาณ 10-12 ฟองแต่จะ
01:22:28 → 01:22:32 กินไข่แดงแค่ 5-8 ฟองนะฮะมีเทมเป้ถั่ว
01:22:32 → 01:22:37 เหลืองเนี่ยอ่าประมาณ 150 กรัมนะแล้วก็มี
01:22:37 → 01:22:41 นมเปรี้ยวโยเกิร์ตน้ำตาลตามปกติน้ำตาลตาม
01:22:41 → 01:22:45 ปกติครับอรู้สึกว่ากินสารทดแทนความหวาน
01:22:45 → 01:22:49 บางตัวแล้วจะมีอาการเวียนหัวเวียนหัวนะ
01:22:49 → 01:22:53 แล้วก็มีเนี่ยวิตามินซี 5 500 มิลกรัม
01:22:53 → 01:22:56 บัฟเฟอร์นะฮะอันนี้ไม่เข้านะฮะไม่เข้า
01:22:56 → 01:23:00 บัฟเฟอร์คือละลายน้ำไม่ใช่ละลายในไขมันนะ
01:23:00 → 01:23:03 อ๋อีทิ้งไปกวิตามินดีรวมนะไม่ใช่
01:23:03 → 01:23:09 ไบโอแอคทีฟก็ไปกระฉี่นะ
01:23:09 → 01:23:15 แปรไม่กินเนื้อสัตว์ครับนะรบกวนขอคำแนะนำ
01:23:15 → 01:23:20 หน่อยอันนี้ก็เหมือนกินยิ่งเป็นทำนองคลีน
01:23:20 → 01:23:24 เลยล่ะยิ่งแต่ว่ามันเป็นไม่ใช่คีนแบบ
01:23:24 → 01:23:28 โลคราฟนะฮะคีนคีนปกติอ่ะนะครับแล้วก็ไม่
01:23:29 → 01:23:31 กินเนื้อสัตว์ไม่กินผัดทอด
01:23:31 → 01:23:33 นะ
01:23:33 → 01:23:39 เออไข่ลวกไข่ก็ลวกด้วยนะเทมเป้ถั่วเหลือง
01:23:39 → 01:23:42 ครับยงไข่เนี่ยอย่างไข่กินไข่ขาวประมาณ
01:23:43 → 01:23:45 สัก 10 ฟองเนี่ยแต่กินไข่แดงประมาณ 5-6
01:23:45 → 01:23:48 ฟองเนี่ยครับเอถ้าอย่างนี้เนี่ยน่าจะได้
01:23:48 → 01:23:51 โปรตีนเน็ตโปรตีนน่าจะได้ประมาณสัก 60
01:23:51 → 01:23:56 กรัม 60 กรัมอืทั้งหมดเนี่ยนะต่อวันนะ
01:23:56 → 01:24:00 แล้วก็เม้ถั่วเหลือง 150 กรัมเม้ 60 กรัม
01:24:00 → 01:24:03 เนี่ยมันจะได้ได้ 7 ได้เน็ตโปรตีน 7 กรัม
01:24:03 → 01:24:06 เนี่ยอันนี้ก็น่าจะได้ประมาณ 20 ซักเกือบ
01:24:06 → 01:24:10 20 กรัมรวมแล้วโปรตีนน่าจะได้เน็ตโปรตีน
01:24:10 → 01:24:13 น่าจะได้ไม่เกิน 80 กรัมนะครับไม่เกิน 80
01:24:13 → 01:24:16 กรัมอ่าแล้วก็มีนมเปรี้ยวมีโยเกิร์ตอะไก็
01:24:16 → 01:24:18 ไม่รู้
01:24:18 → 01:24:21 นะคือคนเนี้ยทั้งหมดเลยเนี่ยมันสารอาหาร
01:24:21 → 01:24:25 มันน้อยฮะพลังงานก็น้อยไปด้วยนะครับอ่า
01:24:25 → 01:24:28 เราก็ไม่รู้ว่ามีความเข้าใจยังไงนะเกี่ยว
01:24:28 → 01:24:31 กับโภชนาการแนวทางใหม่เนี่ยนะฮะทนี้จากผล
01:24:31 → 01:24:36 แลปเค้าเนี่ยเอ่อมันก็จะมีคือค่าอะไรปิด
01:24:36 → 01:24:39 โปรไฟล์เยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีนะฮะเพราะ
01:24:39 → 01:24:43 ว่าพลังงานน้อย่ะฮะพลังงานน้อยนะแล้วก็ดู
01:24:43 → 01:24:47 เหมือนจะไม่ดื้ออินซูลินนะแต่ก็บอกยากนะ
01:24:47 → 01:24:51 ฮะว่าเอ่อคนนี้น่าจะต้องเจาะเรื่องของไอ้
01:24:51 → 01:24:54 พวกพวกอินซูลินน่ะน่าจะเจาะอินซูลินเจาะ
01:24:54 → 01:24:58 ting ชูก้าแล้วก็คำนวณม่า ir ครับว่า
01:24:58 → 01:25:01 อินซูลินเกินมแล้วก็ดื้อมแล้วก็เราก็ไม่
01:25:01 → 01:25:05 ทราบส่วนสูงน้ำหนักหรือบอ type อะไรเด้วย
01:25:05 → 01:25:07 ครับแต่เรื่องที่สำคัญของเคสเนี้ยก็คือ
01:25:07 → 01:25:10 เรื่องของเอนไซมตับเนี่ยที่มันสูงที่มัน
01:25:10 → 01:25:14 สูงนะฮะโดยเฉพาะ sgpt เนี่ยเด้งขึ้นไปถึง
01:25:14 → 01:25:21 เท่าไหร่ 62 เออ 62 นะคนนี้มีภาวะตับ
01:25:21 → 01:25:24 อักเสบนะฮะไม่รู้ก่อนหน้านี้เป็นยังไงนะ
01:25:24 → 01:25:26 พี่หมอนะมันปกติหรือเปล่าหรือว่าเพิ่งมา
01:25:27 → 01:25:30 เด้งหรือยังไงก็ไม่รู้อืนะ
01:25:30 → 01:25:34 อืนะแล้วก็พลังงานไม่ถึงนะฮะแล้วก็สาร
01:25:34 → 01:25:37 อาหารก็ไม่น่าจะพออ่ะ
01:25:37 → 01:25:41 นะคือตับเนี่ยต้องบอกก่อนว่าตับเขาจะแข็ง
01:25:41 → 01:25:44 แรงสมบูรณ์เนี่ยสิ่งที่เซลล์ตับต้องการ
01:25:44 → 01:25:51 คือไขมันดีในรูปของน้ำมันสกัดเย็นจากพืช
01:25:51 → 01:25:54 นะฮะไมโทคอนเดรียของตับเนี่ยเขต้องการ
01:25:54 → 01:25:58 แหล่งพลังงานที่สำคัญเลยคือแฟตฟๆนะครับ
01:25:58 → 01:26:03 และก็ต้องเป็นอ่าแฟตจากพืชน่ะเป็นในรูป
01:26:03 → 01:26:06 ของน้ำมันสกัดเย็นนี่แหละจะมีสารศึกษา
01:26:06 → 01:26:10 เคมีนะแต่ถ้าไม่ได้จริงๆถ้าเป็นแฟตจาก
01:26:10 → 01:26:14 สัตว์เนี่ยก็ยังพออรุ่มอร่วยแต่ก็ไม่ดีนะ
01:26:14 → 01:26:19 อ่าๆๆพลังงานมันถึงจะถึงนะฮะนะมันถึงจะ
01:26:19 → 01:26:23 ถึงเนี่ยถ้าไม่ถึงตับเติบเก็ไม่ไหวอ่ะนะ
01:26:23 → 01:26:24 ฮะครับ
01:26:24 → 01:26:28 เอก็มีเนี่ยมีการเปลี่ยนแปลงเป็นภาวะ
01:26:28 → 01:26:31 เรื่องของเอ่อเ้าเรียกเฮต Cellular แดเมจ
01:26:31 → 01:26:34 ตับอักเสบนะฮะครับ
01:26:34 → 01:26:38 เออก็ไม่รู้น้ำหนักส่วนสูงหรือว่าประวัติ
01:26:38 → 01:26:42 ความเป็นมาโรคภัยไข้เจ็บก่อนหน้านี้นะฮะ
01:26:42 → 01:26:45 อันนี้ต้องบอกเลยว่าพลังงานไม่ถึงสาร
01:26:45 → 01:26:48 อาหารโดยเฉพาะโปรตีนเนี่ยนะที่ว่าต้อง
01:26:48 → 01:26:53 ไอไซโปรตีนอะไรต่างๆอ่ะไม่ได้หรอกนะฮะ
01:26:53 → 01:26:57 แล้วไอ้เรื่องของคาฟเนี่ยก็ยังค่อนข้าง
01:26:57 → 01:27:01 เยอะอยู่อ่ะอย่างเช่นโจ๊กเปล่า 2 ถุงนะฮะ
01:27:01 → 01:27:07 นมเปรี้ยวโยเกิร์ตนะน้ำตาลปกตินะพวกนี้
01:27:07 → 01:27:13 อินซูลินพุ่งนะฮะโอโจกนี่ตัวดีเลยเนี่ยนะ
01:27:13 → 01:27:15 ใครที่ติดเครื่อง cgm นี่
01:27:15 → 01:27:21 นะครับอินซูลินใช่ๆๆเพราะฉะนั้นยังจะมีบท
01:27:21 → 01:27:24 ความที่หมอแว่าถ้าถ้าคนไข้ของหมอที่เป็น
01:27:24 → 01:27:27 คนไข้เจ็บคอทอนซินเป็นหนองท้องเสียอะไร
01:27:27 → 01:27:30 ต่างๆเราจะได้กินโจ๊กไข่ขาวนะฮะไม่ให้
01:27:30 → 01:27:34 โช๊คข้าวนะไม่ให้โช๊คข้าวนะอ๋อโช๊คไข่ขาว
01:27:34 → 01:27:39 อ่าๆๆครับครับๆเอาไข่ขาวมาตีอ่ะมาตีนะเ่อ
01:27:39 → 01:27:42 มันทำได้ 6 เลเวล่ะฮะทำไปได้ถึงข้าวตังค์
01:27:42 → 01:27:47 ไข่ขาวเลยนะครับโอโหอืออย่าง
01:27:47 → 01:27:51 โหดก็อันนี้ก็อืแต่ก็คิดว่าน่าจะมีเรื่อง
01:27:51 → 01:27:54 ของอินซูลินนี่แหละนะฮะนะที่ผิดปกติเพราะ
01:27:54 → 01:27:58 ว่าไหนจะโจ๊กนะวันละ 2 ถุงแล้วก็นม
01:27:58 → 01:28:02 เปรี้ยวโยเกิร์ตอีกอพลังงานไม่พอนะฮะนี้
01:28:02 → 01:28:04 หลายปัญหาแล้วล่ะนะฮะนมเปรี้ยวเยอะเกิด
01:28:04 → 01:28:08 กับน้ำตาลเยอะอยู่นะใช่ฮะนะถ้าซื้อกิน
01:28:08 → 01:28:10 เนี่ยไม่ได้นะฮะไม่แนะนำใช่
01:28:10 → 01:28:11 [เพลง]
01:28:11 → 01:28:17 ครับก็ก็เคสนี้ก็ไม่มีอะไรนะเอยากจะบอก
01:28:17 → 01:28:22 ว่าเรื่องของตับนะถึงแม้ว่าเอ่อเราไม่รู้
01:28:22 → 01:28:25 ว่าว่าไขมันพอกตับมั้ยอาจจะมีภาวะไขมัน
01:28:25 → 01:28:29 พอกตับด้วยก็ได้ผอมๆหรือเปล่านะข้อมูล
01:28:29 → 01:28:32 น้อยอ่ะครับมใชน้ำหนักน้ำหนักส่วนสูงก็
01:28:32 → 01:28:37 ไม่มีัติบัก็ไม่มีแต่ว่าหมอก็ไม่ได้ไปตอบ
01:28:37 → 01:28:40 ไปอะไรนะเอามาเป็นตัวอย่างเคสให้พวกเราดู
01:28:40 → 01:28:44 อ่าๆเถ้าข้อมูลมันไม่ครบมันก็มันก็ตีความ
01:28:44 → 01:28:48 ได้ประมาณนี้แหละได้นิดหน่อยเนี่ยเพราะ
01:28:48 → 01:28:51 ฉะนั้นจากเคสเนี้ยนะแล้วก็มาดูอันเนี้ยดู
01:28:51 → 01:28:53 เถอะ
01:28:53 → 01:28:58 นะเออเนี่ยดูปริมิตอาหารสินะเนี่ยนระดับ
01:28:58 → 01:29:03 นี้อนี้นี้ๆๆๆครับเอ่อเากินแค่ไข่อย่าง
01:29:03 → 01:29:08 เงี้ยนะฮะนะครับมันก็ยากแล้วนะแล้วก็ยัง
01:29:08 → 01:29:12 มีโจ๊กอีกมี Daily produc มีนมมีอะไรนะ
01:29:12 → 01:29:16 แต่ไปใส่น้ำตรงน้ำตาลซะนะก็ไม่ไหวไม่ได้
01:29:16 → 01:29:20 แล้วครับ
01:29:20 → 01:29:25 เออมีใครจะถามอะไร
01:29:25 → 01:29:29 มย
01:29:29 → 01:29:33 อืยังไม่มีอ่ะครับมันเหมือนมันยังคืออย่า
01:29:33 → 01:29:37 ลืมนะฮะว่าคอร์ติซอลเนี่ยอนะคอร์ติซอลมัน
01:29:37 → 01:29:42 เป็นอะไรที่มันยังอยู่ลึกๆๆเข้าไปนะฮะนะ
01:29:43 → 01:29:46 นะโดยเฉพาะในคนผอมนะคอร์ติซอลเป็นตัว
01:29:46 → 01:29:49 กำกับสุรินทเบื้องหลังอีกที
01:29:49 → 01:29:53 นึงนะเออคนที่
01:29:53 → 01:29:58 ผครับแต่อย่างคนอ้วนเนี่ยคนอ้วนเนี่ยเขา
01:29:58 → 01:30:01 ก็อินซูลินเขาคก็เดดนะอ่าน้ำตรงน้ำตาลใน
01:30:01 → 01:30:04 เซลล์นอกเซลล์อะไรเเพียบอยู่แล้วพลังงาน
01:30:04 → 01:30:10 ก็มีนะฮะครับจนกว่าที่ตัวเซลล์เองนี่แหละ
01:30:10 → 01:30:13 มันจะดื้อนะพอแล้วพอแล้วไม่ไหวแล้วนะอะไร
01:30:13 → 01:30:17 อย่างเงี้ยนะบวมไปหมดแล้วอวบไปหมดแล้วนะ
01:30:17 → 01:30:20 หมดที่เก็บแล้วอะไรอย่างเงี้ย
01:30:20 → 01:30:25 นะเออแต่เราจะเห็นว่าอย่างคนผอมเนี่ย
01:30:25 → 01:30:29 เซลล์มันก็ไม่บวมไม่อะไรเลยอ่ะใช่มั้ยล่ะ
01:30:29 → 01:30:31 เออใช่
01:30:31 → 01:30:37 คุณเยคุณหมอครับคนผอมไอ้้นี่มันมีเรื่อง
01:30:37 → 01:30:39 ของเค้าเรียกว่าอะไรนะเปอร์เซ็นต์ถังไข
01:30:39 → 01:30:41 มันในร่างกายที่มันแตกต่างกันนะครับพี่
01:30:41 → 01:30:46 หมอใช่อ่าผมจำไม่ได้ของหมออะไรนะที่ต่าง
01:30:46 → 01:30:49 ประเทศอ่ะครับที่เา้าพูดเรื่องเนี่ยถังไข
01:30:49 → 01:30:52 มันเนี่ยเออมันมันมันเป็นไปได้มั้พี่หมอ
01:30:52 → 01:30:56 ว่าในคนผอมก็ถังไขมันเต็มหรือว่ายังไง
01:30:56 → 01:30:58 ครับหรือว่าหรือว่าเป็นเป็นที่อินซูลิน
01:30:58 → 01:31:01 ด้วยหรือว่ายังไงครับ
01:31:01 → 01:31:07 อ๋อคือคือคนผอมเนี่ยคนผอมเนี่ยมันก็มีการ
01:31:07 → 01:31:12 จุจุพลังงานในระดับนึงแต่มันขยายตัวไม่
01:31:12 → 01:31:17 ออกครับสมมุติว่ามันจุได้ 10 ล 10 10
01:31:17 → 01:31:20 ก้อนอย่างเงี้ยมันก็แค่เนี้ยนะแต่ในคน
01:31:20 → 01:31:24 อ้วนเนี่ยเอาจจะเพิ่มเป็น 2 เท่าก็เป็น 20
01:31:24 → 01:31:29 ก้อนนะอ่าๆๆๆแล้วก็มันยังมีเรื่องการ
01:31:30 → 01:31:33 ไฮเปอร์เพียนะนอกจากไฮเปอร์แล้วมีไฮเปอร์
01:31:33 → 01:31:38 เพียอีกนะฮะนะซึ่งคนอ้วนเนี่ยก็อาจจะมี
01:31:38 → 01:31:42 การแบ่งเซลล์เพิ่มขึ้นได้อีกส่วนนึงนะโดย
01:31:42 → 01:31:46 เฉพาะในตอนเด็กๆในตอนที่ยังไม่โตเต็มวัย
01:31:46 → 01:31:49 ถ้าโตเต็มวัยแล้วมันแบ่งอ่อไม่ได้นะมันมี
01:31:49 → 01:31:53 แต่ขยายนะฮะคือการการขยายตัวของเซลล์ในคน
01:31:53 → 01:31:56 อ้วนเนี่ยนะมันก็จะเยอะกว่าแล้วมันจะจุ
01:31:56 → 01:31:58 พลังงานได้แยะกว่าเเลยเรียกว่าเป็นการ
01:31:58 → 01:32:05 ซื้อเวลาแล้วก็เก็บงำพลังงานส่วนเกินครับ
01:32:05 → 01:32:08 เอาไว้ได้เยอะกว่าก็เลยอ้วนกว่านะฮะใหญ่
01:32:08 → 01:32:12 กว่าอ้วนกว่าอวมกว่าแต่คนหอมเนี่ยนะยีน
01:32:13 → 01:32:17 เนี่ยมันมีการจำกัดนะว่ามันจุได้ 10 ก้อน
01:32:17 → 01:32:21 ก็ 10 ก้อนนะฮะนะก้อนต่อไปจะเข้าไปก้อน
01:32:21 → 01:32:24 ที่ 11 เข้าไม่ได้แล้วนะฮะแล้วคนหอมเนี่ย
01:32:24 → 01:32:26 ส่วนใหญ่ยีนเนี่ยมันก็จะบังคับไม่ให้แบ่ง
01:32:26 → 01:32:31 ตัวไม่ให้ไฮเปอร์เพียด้วยนะฮะครับแล้วก็
01:32:31 → 01:32:34 มันก็เลยมีข้อจำกัดอยู่แค่นั้นนะฮะอ่อ
01:32:34 → 01:32:36 แล้วเราจะรู้ได้ยังไงอ่ะครับว่าเราต้อง
01:32:36 → 01:32:39 วัดอินซูลินหรอครับพี่หมอว่ามันเ่อทำงาน
01:32:39 → 01:32:42 ได้ดีม effective มอะไรอย่างเงี้ยครับอ๋อ
01:32:42 → 01:32:46 ทั้งคนอ้วนคนผอมเนี่ยเวลาที่จะมิตอค่าแลบ
01:32:46 → 01:32:50 ต่างๆเราต้องเจาะทั้ง fing บัชูก้าเจาะ
01:32:50 → 01:32:54 ทั้งอินซูลินและคำนวณ homa ir นะครับแลบ
01:32:54 → 01:32:57 3 ตัวเนี้ยเป็นแลบที่มีความสำคัญใน
01:32:57 → 01:33:00 เรื่องของเบาหวานนะอ๋อครับแต่คนส่วนใหญ่
01:33:00 → 01:33:03 จะเจาะแต่ฟาติบัต
01:33:03 → 01:33:07 ชูก้าแล้วก็ไม่ได้เจาะฟาติอินซูลินไม่ได้
01:33:07 → 01:33:09 คำนวณม่าครับ
01:33:09 → 01:33:14 ครับคือการตรวจ fing อินซูรินเนี่ยก็คือ
01:33:14 → 01:33:17 ตรวจเพื่อให้รู้ปริมาณนะฮะเพราะฉะนั้นใน
01:33:17 → 01:33:22 คนอ้วนๆน่ะฟิอิซูลินมาจะเกิน 10 นะ
01:33:22 → 01:33:25 จะเกิน 10 ขึ้นไปนะฮะครับๆแต่คนผอมๆเนี่ย
01:33:25 → 01:33:28 ส่วนใหญ่แล้ว ting อินซูลินเนี่ยมันจะไม่
01:33:28 → 01:33:33 สูงอ่าบางคนก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดินน่ะ 1 กว่า
01:33:33 → 01:33:37 2 กว่าอยู่แค่นั้นแหละอืหรืออยู่ในเกณฑ์
01:33:38 → 01:33:39 ปกติก็คือ
01:33:39 → 01:33:43 2-6 ครับจะไม่พุ่งขึ้นไปเป็นเลข 2 หน่วย
01:33:43 → 01:33:48 10 15 20 16 18 20 40 อะไรอย่า
01:33:48 → 01:33:50 เงี้ยไม่ใช่ครับคนผอมอินซูลินมันก็อยู่
01:33:50 → 01:33:53 น้อยๆแค่นั้นน่ะนะฮะอ่าฮะเพราะว่ายีนมัน
01:33:54 → 01:33:58 กำกับมาว่าอ่าอินซูลินเนี่ยเบตเซลของต
01:33:58 → 01:34:00 อ่อนมันสร้างอินซูลินได้เท่าเนี้ยนะครับ
01:34:00 → 01:34:03 เพราะตอนเนี้ยมันเดี้ยงไปมันเพี้ยนไปมัน
01:34:03 → 01:34:10 ไม่ทำงานเออมันดิฟังก์ชันอือือๆๆอืคือใน
01:34:10 → 01:34:14 คนผอมนะที่ี่ว่าอินซูลินฟังก์ชันเนี่ยนะ
01:34:14 → 01:34:17 ฮะครับพี่หมอส่วนนึงเนี่ยนะฮะสันนิษฐาน
01:34:17 → 01:34:20 ว่ามันมาจากอิทธิพลของฮอร์โมนคอร์ติซอล
01:34:20 → 01:34:25 นี่แหละที่ครับที่ไปทำให้ไอ้ตัวไอ้ตัว
01:34:25 → 01:34:29 เกลือแร่ฮะเกลือแร่ครับครับเกลือแร่ที่จะ
01:34:29 → 01:34:33 มาช่วยอินซูลินให้ทำงานได้ดีๆเก่งๆเนี่ย
01:34:33 → 01:34:38 นะครับมันมันมันตัดเอมันมันคอร์ติซอล
01:34:38 → 01:34:41 เนี่ยมันยับมันทำให้คอร์ติซอลเนี่ยเวลา
01:34:42 → 01:34:46 ถ้าเกิดมีเยอะๆเนี่ยก็จะขับขับเกลือแร่
01:34:46 → 01:34:49 ออกทางปัสสาวะนะนะ
01:34:49 → 01:34:53 อ๋อเอ่อเจะขับไอ้พวกโปแทสเซียมแมกนีเซียม
01:34:53 → 01:34:57 ออกไปครับโปแทสเซียมแมกนีเซียมเนี่ยนะมัน
01:34:57 → 01:35:00 มันมีน้อยลงพอมันมีน้อยลงเนี่ยครับไอ้ตัว
01:35:00 → 01:35:03 อินซูลินมันก็เลยทำงานไม่ได้นะมัน
01:35:03 → 01:35:08 ฟังก์ชันมันขี้เกียจครับเพราะฉะนั้นคนผอม
01:35:08 → 01:35:12 เนี่ยจึงเป็นคนที่ถ้าพูดถึงอินซูลินมัน
01:35:12 → 01:35:16 ไม่ทำงานเนี่ยนะก็คือเจอในเคส
01:35:16 → 01:35:19 คนแต่ถ้าคนอ้วนเนี่ยอินซูลินมันมากมากๆมา
01:35:20 → 01:35:23 ๆอย่างเดียวแต่มันยังทำงานปกติแล้วมันเอา
01:35:23 → 01:35:27 น้ำตาลเข้าเซลล์ได้ครับแต่น้ำตาลก็เยอะ
01:35:27 → 01:35:30 แล้วอินซูลินก็ถูกผลผลิตออกมาเยอะเพราะ
01:35:30 → 01:35:32 ฉะนั้นข้างนอกเซลล์ในเซลล์มันเลยท่วมไป
01:35:32 → 01:35:34 หมด
01:35:34 → 01:35:37 อืเออมันก็จะต่างกันนิดนึงอตรงเนี้ยเพราะ
01:35:37 → 01:35:40 ฉะนั้นเราต้องดูให้ดีๆนะครับ
01:35:40 → 01:35:44 เออเราเราต้องจำแนกแจกจ่ายตัวเราเองก่อน
01:35:44 → 01:35:48 ว่าบัดเนี้ยณเวลาเนี้ยเราเป็นคนยังอ้วน
01:35:48 → 01:35:51 อยู่ยังอวบอยู่น้ำหนักยังเกินอยู่หรือเรา
01:35:52 → 01:35:56 สมส่วนหรือเราผอมหรือเราผอมกเกณฑ์ไปแล้ว
01:35:56 → 01:35:59 อ่ะคืออ้วนอ้วนแล้วดื้ออินซูลินเนี่ยยัง
01:35:59 → 01:36:02 แก้ง่ายนะพี่หมอก็ค่อนข้างง่ายเพราะว่าเ
01:36:02 → 01:36:06 จัการเป็นหลักง่ายอ่าแต่ผอมแต่ผอมแล้ว
01:36:06 → 01:36:09 เนี่ยมันมันจะเจอศึก 2 ด้านเลยเออทั้งั้ง
01:36:09 → 01:36:13 อินซูลินด้วยคอร์ติซอลด้วยรู้สึกลึกลับ
01:36:13 → 01:36:16 เลยเก็คือผู้อยู่บงการอยู่เบื้องหลังคือ
01:36:16 → 01:36:20 คอร์ติซอลเนี่ยอซึ่งมันจะเข้าถึงได้ยาก
01:36:20 → 01:36:24 ไม่ค่อยมีใครพูดถึงอ่ะมันมันระดับลึกอ่ะ
01:36:24 → 01:36:29 เอออืมบางคนเราึงมุ่งเอ่อมุ่งแก้แต่ไดเอต
01:36:29 → 01:36:35 If ออกกำลังฮเออครับครับก็ลืมใส่ใจใน
01:36:35 → 01:36:39 เรื่องเนี่ยเรื่องคอร์ติซอลนะฮะเอ่าโดย
01:36:39 → 01:36:43 เฉพาะปฏิกิริยาฟมอเนี่ยส่วนใหญ่เป็นปัญหา
01:36:43 → 01:36:48 นะการแสดงออกหรือว่าการให้สัญญาณว่าฉัน
01:36:48 → 01:36:52 อยู่ไม่สุขนะโว้ยนะก็คือตัวแม่แหละนะฮะ
01:36:52 → 01:36:54 ครับต้องคอยจับสัญญาณพวกนี้ให้ได้นะพี่
01:36:55 → 01:36:57 หมอเออเพราะฉะนั้นจะควบคุมตัวแม่ทำยังไง
01:36:57 → 01:37:00 ่ะฮะตัวแม่ก็คือคอร์ติซอลใช่่มั้ย
01:37:00 → 01:37:04 คอร์ติซอลเค้าก็จะต้องครับได้กินดีอยู่ดี
01:37:04 → 01:37:06 ได้อาหารมื้อเย็นเนี่ยอาหารมื้อเย็นจะ
01:37:06 → 01:37:09 เป็นอาหารสำคัญมากเลยของคอร์ติซอลนะฮะ
01:37:09 → 01:37:12 ซึ่งจะต้องครบนะครบทั้งคาร์โบไฮเดรต
01:37:13 → 01:37:16 โปรตีนไขมันนะคาร์โบไฮเดรตไม่ต้องเยอะ
01:37:16 → 01:37:20 แล้วเป็นเชิงซ้อนนะครับส่วนไขมันก็เป็นไข
01:37:20 → 01:37:22 มันคงลูปไม่ใช่ไขมันในรูปน้ำำมันแลเป็น
01:37:22 → 01:37:26 พลังงานครับส่วนโปรตีนก็มีทั้งพืชทั้ง
01:37:26 → 01:37:30 สัตว์นะอย่างละหน่อยนะฮะเนี่ยเอามาเติม
01:37:30 → 01:37:34 เต็มนะถ้าสิ่งเหล่านี้ครบถ้วนนะอ่ะ
01:37:34 → 01:37:38 คอร์ติซอลเขจะสบายใจเขาคก็จะดูอยู่ห่างๆ
01:37:38 → 01:37:41 อ่ะนะแต่ถ้าไม่ครบเนี่ยไม่ครบไม่ครบมี
01:37:41 → 01:37:44 หลายอย่างอ่ะมื้อเย็นเนี่ยบางคนก็ไม่กิน
01:37:44 → 01:37:49 มื้อเย็นบางคนก็กินน้อยๆอ่าอ่าใช่ๆผมไม่
01:37:49 → 01:37:52 แต่ก่อนผมไม่กินมื้อเย็นกลัวอ้วนกลัวจะ
01:37:52 → 01:37:55 ย่อยไม่ดีกลัวท้องจะอืดกลัวจะแน่นอึดอัด
01:37:55 → 01:38:00 นะฮะอ่าใช่ครับหรือบางคนก็บางคนก็กินเกิน
01:38:00 → 01:38:04 กินบุฟเฟ่ต์มื้อเย็นนะฮะนะกินอะไรก็ไม่
01:38:04 → 01:38:07 รู้อ่ะกินอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมดเลยอ่ะ
01:38:07 → 01:38:11 นะคือสัส่วนอะไรต่างๆมันมันไปหมดเลยเพราะ
01:38:11 → 01:38:14 บุฟเฟ่ต์เนี่ยกลัวจะขาดทุนไงกีนอะไรเข้า
01:38:14 → 01:38:17 ไปอ่ะมันก็ไม่ถูกอิเ้าเรียกกิน
01:38:17 → 01:38:21 เกินผิดอ่ะก็จ่ายตังค์ไปแล้วกิกินน้อยๆ
01:38:21 → 01:38:25 ได้ยังไงเพราะฉะนั้นกินบุฟเฟ่ต์แล้วไม่
01:38:25 → 01:38:28 หลับก็คือกินเกินอุยร้อนวูบวาบเลยพี่หมอ
01:38:28 → 01:38:32 วันไหนถ้ากินนะวันไอ้ช่วงก่อนๆนะโอ้โหไม่
01:38:32 → 01:38:35 ต้องนอนเลยพี่หมอแต่คนส่วนใหญ่คือกินผิด
01:38:35 → 01:38:40 นะกินสัดส่วนผิดนะหรือกินอาหารผิดเช่นพวก
01:38:40 → 01:38:45 นี้แหละกินน้อยนะหรือกินแบบกลัวๆกล้าๆ
01:38:45 → 01:38:47 หรือไปกินแบบเข้าใจผิดน่ะมื้อเย็นกินอะไร
01:38:47 → 01:38:51 อ่ะกินน้ำเต้าหู้กินนมมื้อเย็นกินผลไมไม้
01:38:51 → 01:38:55 กินสลัดนะก็คือกินแบบมันไม่ครบน่ะเ้า
01:38:55 → 01:38:59 เรียกกินผิดกินผิดกินเกินแล้วกินขาดอย่าง
01:38:59 → 01:39:01 เงี้ยอืถ้าอย่างงี้เมื่อไหร่เนี่ยอย่า
01:39:01 → 01:39:05 หวังเลยว่าคืนนั้นจะได้หลับลึกหลับสบายนะ
01:39:05 → 01:39:09 ครับอไม่เช้าไม่นานคอร์ติซอลเค้าก็มานะ
01:39:09 → 01:39:12 เพราะว่ามันผิดเมันผิดเ่อคอร์ติซอลเต้อง
01:39:12 → 01:39:16 เอาออกมาจัดการนะนัแหละนะแล้วเจะมาเร็ว
01:39:16 → 01:39:20 ด้วยนะนะครับคือจริงๆเนี่ยเวลาหลับเนี่ย
01:39:20 → 01:39:22 ประมาณ
01:39:22 → 01:39:25 เนี่ยไอ้ตัวเมลานินก็เริ่มจะหายไปแล้วนะ
01:39:25 → 01:39:29 โดฮอร์โมนยังแชดีอยู่นะเพราะว่าช่วงนี้
01:39:29 → 01:39:33 อะไรต่างๆนะมันจะเปลี่ยนไอ้ตัวโสฮอร์โมน
01:39:33 → 01:39:35 เป็น IG F1 แล้วออกมาช่วยกันซ่อมอ่ะนะ
01:39:35 → 01:39:38 ครับปรากฏว่า
01:39:38 → 01:39:41 เอ่อถ้าเกิดสิ่งที่เรากินในมื้อเย็นเนี่ย
01:39:41 → 01:39:45 เราทำไม่ถูกเนี่ยนะครับคอร์ติซอลเจะมา
01:39:45 → 01:39:47 แล้วตอน 2:00 3:00 นเนี่ยนะหรือหลัง
01:39:47 → 01:39:51 เที่ยงคืนเก็มาแล้วนะเพราะว่ามันเกิดเกิด
01:39:51 → 01:39:54 ความบกพร่องในแง่ของความไม่พอความไม่ครบ
01:39:54 → 01:39:57 ของอาหารสารอาหารนั่นแหละครับโดยเฉพาะการ
01:39:57 → 01:40:01 ฟิวไกลโคเจนที่ตับกับกล้ามเนื้อเนี่ยนะ
01:40:01 → 01:40:05 ถ้าเกิดมันไม่ถึงจุดนะโดยเฉพาะตับนะฮะนะ
01:40:05 → 01:40:08 คอร์ติซอลเขาจะจับสัญญาณไว้เลยว่ามันไม่
01:40:08 → 01:40:12 ได้นะเาต้องรีบออกมาแต่หัวรุ่งเลยอ่ะนะ
01:40:12 → 01:40:16 เฮ้ยไอเจนที่ตับไม่พอกูต้องหาไกลโคเจน
01:40:16 → 01:40:19 เดี๋ยวลูกกูตื่นตอนเช้าไม่มีน้ำตาลหล่อ
01:40:19 → 01:40:21 เลี้ยง
01:40:21 → 01:40:24 เพราฉนั้นคอร์ติโซนเจะออกมา 2:00 น 3:00
01:40:24 → 01:40:27 นเลยฮะเพราะฉะนั้นโก๊ดฮอร์โมนก็ก็มาไม่
01:40:27 → 01:40:31 ได้ปิดเลยปิดทางครับๆอ๋อหมอลูกเทพนี่จะ
01:40:31 → 01:40:36 กลัวพ่อกลัวแม่มากนะฮะเพราะฉะนั้นกลางคืน
01:40:36 → 01:40:39 เนี่ยเราต้องนอนแล้วต้องหลับให้สนิทเพื่อ
01:40:39 → 01:40:43 อะไรฮะเพื่อซ่อมแซมแต่ถ้าโกดฮอร์โมนไม่มา
01:40:43 → 01:40:45 คอร์ติซอลมามันจะได้ซ่อมมั้ยล่ะมันก็ไม่
01:40:45 → 01:40:49 ซ่อมอ่ะไม่ซ่อมมันก็ป่วยยาว่ะฮะก็ป่วยยาว
01:40:49 → 01:40:53 ๆเลยนะฮะอืๆๆเพราะฉะนั้นเนี่ยต้องจัดการ
01:40:54 → 01:40:58 ให้แม่เนี่ยเสบายใจแม่เขจะสบายใจเฮ้ยพลัง
01:40:58 → 01:41:02 งานไกลโคเจนที่ตับฟิวเต็มที่นะเดี๋ยวตอน
01:41:02 → 01:41:06 เช้ามีน้ำตาให้ลูกกูใช้กล้ามเนื้อออกล้าม
01:41:06 → 01:41:10 เนื้อก็มีอไปออกแรงออกกำลังมาแล้วก็เอา
01:41:10 → 01:41:13 ไกลโคเจนใส่กล้ามเนื้อมีโปรตีนอะไรดีๆ
01:41:13 → 01:41:16 กล้ามเนื้อไปสร้างมวลได้กล้ามเนื้อก็แข็ง
01:41:16 → 01:41:21 แรงเพราะฉะนั้นตับสมบูรณ์นะกล้ามเนื้อ
01:41:21 → 01:41:25 แข็งแรงคอร์ติซอลเสบายใจเพราะว่าตัว
01:41:25 → 01:41:29 คอร์ติซอลเนี่ยเค้าจะจับสัญญาณที่ตับกับ
01:41:29 → 01:41:34 กล้ามเนื้อนะฮะว่าดีหรือยังนะเต็มมั้ยนะ
01:41:34 → 01:41:36 หรือว่าขาดตกบกพร่องอะไรหรือเปล่าอะไร
01:41:36 → 01:41:40 อย่าเงี้ยครับนะถ้าเกิดกล้ามเนื้อแข็งแรง
01:41:40 → 01:41:44 แล้วก็ตับแบบมีพลังงานสำรองครบนะเอ่อ
01:41:44 → 01:41:49 คอร์ติซอลไม่เพ่นพ่าเลยฮะเขาจะเงียบหายไป
01:41:49 → 01:41:53 เลยแล้วเราก็จะหลับทะลุมิติตื่นตอนเช้าสด
01:41:53 → 01:41:56 ชื่นอ่าๆๆซึ่งทุกวันนี้ก็เป็นแบบนั้นแล้ว
01:41:56 → 01:42:00 พี่หมอเออทุกวันนี้ไม่ไม่ไม่ไม่มีอาการ
01:42:00 → 01:42:02 แบบแบบนั้นแหละยกเว้นแต่ว่าช่วงไหนที่
01:42:02 → 01:42:06 เครียดนะอือมีมีก็ก็มีนิดหน่อยแต่ว่าไอ้ๆ
01:42:06 → 01:42:09 ไอ้ความเียตั้งทางร่างกายอ่ะจากการกินแบบ
01:42:09 → 01:42:13 แบบเดิมๆนก็ไม่มีละก็มีบ้างอย่าเกิน 80
01:42:13 → 01:42:17 อย่าเกิน 20% อ่าครับๆให้ร่างกายได้เรียน
01:42:17 → 01:42:20 รู้นะฮะอืเพราะฉะนั้นเรื่องคิอเนี่ยนะนะ
01:42:20 → 01:42:24 ฮะใครที่มีปัญหาดอนฟมอเนี่ยนะให้จับหลัก
01:42:24 → 01:42:28 ที่หมอว่าเมื่อกี้นี้ไว้อ่ะนะฮะก็คือตับ
01:42:28 → 01:42:32 กับกล้ามเนื้อเนี่ยต้องสมบูรณ์นะฮะนะนะ
01:42:32 → 01:42:35 โดยเฉพาะในมื้อเย็นนะแล้วก็นอนแล้วก็สงบ
01:42:35 → 01:42:39 นะฮะกิซอก็จะไม่ห่วงเขาจะไม่มาพุ่งพ่าน
01:42:39 → 01:42:43 เอาอีตอนดื่นมาดึกๆแล้วก็ลุกขึ้นมาปุ๊บ
01:42:43 → 01:42:48 นะขี่มานอนไม่หลับมานอนตะแคงพลิกซ้ายพลิก
01:42:48 → 01:42:53 ขวาอะไรก็ไม่รู้อ่ะฝันลายด้วยธาตุกำเริบ
01:42:53 → 01:42:56 ครบอ่ะพี่หมอ
01:42:56 → 01:43:00 ครบแล้วก็สุดท้ายที่บอกไปเมื่อกี้เนี่ย
01:43:00 → 01:43:04 ว่าถ้าเอาคอร์ติซอลไม่อยู่จริงๆเนี่ยนะฮะ
01:43:04 → 01:43:07 ก็ใส่คาฟเข้าไปให้อินซูลินเออกมาปามล์แม่
01:43:08 → 01:43:12 นะนะถึงจะกลางค่ำกลางคืนดึกื่นเหอะนะ 2:00
01:43:12 → 01:43:15 3:00 นเนี่ยมันหิวๆๆอ่ะหิวก็คือเครียดนะ
01:43:16 → 01:43:19 ฮะนะครับๆเพราะว่ามื้อเย็นเล่นไม่กินน่ะ
01:43:19 → 01:43:24 กินไปตั้งแต่บ่าย 2:00 แล้วจะไยาวๆ
01:43:24 → 01:43:27 อ่ะพิซ่าเจับสัญญาณว่าเฮ้ยตับไม่มี
01:43:28 → 01:43:32 ไกลโคเจนพอเนี่ยคก็ต้องมากินนะะนะเออมัน
01:43:32 → 01:43:35 หิวก็ต้องกินเข้าไปถึงจะเป็นเบาหวานก็
01:43:35 → 01:43:38 เถอะนะไม่งั้นแล้วคอร์ติซอลเอยู่ไม่สุก
01:43:38 → 01:43:42 เนี่ยเช้าๆเนี่ยน้ำตาลขึ้นพุ่ง 300 กว่า
01:43:42 → 01:43:46 400 อ่ะอืๆเพราะฉะนั้นเนี่ยหมอหมอก็เลย
01:43:46 → 01:43:49 อยากจะให้สิ่งเหล่าเนี้ยมันเป็นพื้นฐาน
01:43:49 → 01:43:53 ก่อนนะฮะว่าเออคนอ้วนคนผอมแล้วก็เป็นเบา
01:43:53 → 01:43:56 หวานด้วยแล้วก็จะต้องจับหลักถึงเรื่อง
01:43:56 → 01:43:58 ทั้งอาหารสารอาหารพลังงานแล้วก็ฮอร์โมน
01:43:58 → 01:44:00 ให้ดีๆอ่ะนี่ยังไม่ได้เข้าเรื่องเบาหวาน
01:44:00 → 01:44:04 เลยใช่มั้ยพี่หมอก็ยังไม่ได้เข้าเลยัวแต่
01:44:04 → 01:44:06 ขี่ม้าเรียบค่ายอยู่
01:44:06 → 01:44:10 เนี่ยแต่ว่าไอ้จุดนู่นจุดนี่มันก็สำคัญ
01:44:10 → 01:44:14 กระจุ๊บกระจุกไปหมดจะถึงหน้าฝนแล้วนะพี่
01:44:14 → 01:44:16 หมอว่าจะเลียบค่า
01:44:16 → 01:44:20 อยู่เออจะถามอีกเรื่องนึงครับพี่หมออ่า
01:44:20 → 01:44:22 เรื่องเรื่องบอดี้ type เรื่องบอดี้ type
01:44:22 → 01:44:25 อย่างผอมผอมกับอ้วนเนี่ยที่ที่บอกว่ามัน
01:44:25 → 01:44:28 ถูกกำหนดโดยยีนด้วยใช่มั้ยพี่หมอเออเขาก็
01:44:28 → 01:44:31 ว่ามีปัญหามีมียีนน่ะฮะมียีนมีตัว
01:44:31 → 01:44:35 โครโมโซมเอ่อมีรหัสของโครโมโซมเนี่ยในการ
01:44:35 → 01:44:40 ควบคุมยีนอ้วนยีนผมอ่ะอ่าๆที่ที่มันจะทำ
01:44:40 → 01:44:43 ให้เราแบบเราเป็นสายแป้งสายเนื้อที่มันจะ
01:44:43 → 01:44:47 เค้าเรียกว่าอะไรอ่ะจะต้องจัดอาหารให้มัน
01:44:47 → 01:44:49 จัดอาหารที่มันเหมาะเหมาะกับเหมาะกับนั่น
01:44:49 → 01:44:51 เคือมันเป็นเรื่องของของจีนแล้วก็
01:44:51 → 01:44:53 พฤติกรรมที่เราติดต่อกันมาอย่างงี้ใช่
01:44:53 → 01:44:58 มั้ยครับใช่ๆนะที่เค้าถ่ายทอดกันมาอืแล้ว
01:44:58 → 01:45:02 เขาก็มาใช้การ classify เป็นเรื่องของ
01:45:02 → 01:45:06 บอดี้ typ Diet นะครับเพราะว่าอย่างตัว
01:45:06 → 01:45:08 ผมไอ้นี่ส่วนส่วนตัวเนี่ยอย่างผมเป็นสาย
01:45:08 → 01:45:11 แป้งใช่มยผมสายแป้งแล้วผมไปกินโลคราฟแบบ
01:45:11 → 01:45:15 ผิดอ่ะแบบผิดก็คือไม่ไม่กินคาฟกินคาฟน้อย
01:45:15 → 01:45:19 มากแล้วก็ไปไปไปกินโปรตีนโปรตีนส่วนไขมัน
01:45:19 → 01:45:21 กินไม่เป็นเราคิดว่าไขมันมันมากับโปรตีน
01:45:22 → 01:45:24 อยู่แล้วอะไรอย่างเงี้ยครับสรุปผิดหมดเลย
01:45:24 → 01:45:28 สรุปผิดหมดเลยมันก็เลยมีอาการอย่างที่ว่า
01:45:28 → 01:45:34 ครับเออแล้วแถมออกกำลังกายผิดด้วยค่อยๆป
01:45:34 → 01:45:37 ไปให้มันถูกแต่ก่อนแต่ก่อนนั่งนับกิโลกัน
01:45:37 → 01:45:41 วิ่งวิเอากิโลกันเยอะๆกินน้อยอย่าเงี้ย
01:45:41 → 01:45:45 ครับยิ่งวิ่งยิ่งโทรมตอนนั้นนะ
01:45:45 → 01:45:48 ครับตอนนี้กลับมาหล่อแล้วพี่
01:45:48 → 01:45:51 หมอคือถ้าเราไม่แน่ใจในเรื่องอาหารเนี่ย
01:45:51 → 01:45:55 นะฮะแหบเลือดเนี่ยจะเป็นตัวบอกเรื่องว่า
01:45:55 → 01:45:59 อาหารถูกผิดมากน้อยขาดเกินครับๆโดยเฉพาะ
01:45:59 → 01:46:03 แลบอ่าทางด้านพลังงานเนี่ยนะน้ำตาลไขมัน
01:46:04 → 01:46:08 นะแล้วก็การทำงานตับไตต่อมไทรรอยด์นะแล้ว
01:46:08 → 01:46:11 ก็อย่าลืมตรวจเช็คทางด้านฮอร์โมนอินซูลิน
01:46:11 → 01:46:18 น่ะนะปริมาณเป็นยังไงความไวเป็นยังไงนะฮะ
01:46:18 → 01:46:22 ครับคือคือตารางที่เราสรุปไว้ที่จะใช้
01:46:22 → 01:46:25 เป็นหลักของประจำกลุ่มเนี่ยอันนี้ก็จะ
01:46:25 → 01:46:27 เป็นไกด์ไลน์ที่บอกอะไรได้
01:46:27 → 01:46:33 เยอะอืๆๆตารางค่าเลือด่ะนะครับพี่หมอใช่
01:46:33 → 01:46:36 ฮะตารางค่าเลือดเพียงแต่ว่าการตรวจเลือด
01:46:36 → 01:46:39 ที่ถามๆมาว่าแล้วจะต้องตรวจอะไรบ้างเนี่ย
01:46:39 → 01:46:42 จริงๆก็ตรวจตามตารางนั่นแหละนะฮะแต่บาง
01:46:42 → 01:46:45 ส่วนเนี่ยมันใช้การคำนวณเอา
01:46:45 → 01:46:52 นะก็คือตรวจเฉพาะตัวที่ต้องตรวจวัดจากค่า
01:46:52 → 01:46:56 เคมีในเลือดนะฮะบางสิ่งบางอย่างจะมาคำนวณ
01:46:56 → 01:47:00 เอาเองนะฮะหรือถ้าเรานำค่าเคมีในเลือดที่
01:47:00 → 01:47:03 เป็นตัวเลขอ่ะมาใส่ปุ๊บเนี่ยเดี๋ยวมันก็
01:47:03 → 01:47:05 จะเด้งออกมาในเรื่องอัตราส่วนและการแปรผล
01:47:05 → 01:47:10 คร่าวๆครับครับช่วยได้เยอะครับเ้ใครใครจะ
01:47:10 → 01:47:14 มาช่วยพี่หมอหมายถึงว่าจะส่งค่าเลือดมาดู
01:47:14 → 01:47:18 ก็ยังไงก็ลองใส่ในตารางดูก่อนก็ดีนะครับ
01:47:18 → 01:47:21 เออเพราะว่า
01:47:21 → 01:47:24 อยู่ในปากหมุดนะฮะใช่ไม่งั้นก็จะมาโหลด
01:47:24 → 01:47:27 ทางพวกเราต้องมากรอก
01:47:27 → 01:47:31 ให้กอกหลหลายคนมือ
01:47:31 → 01:47:34 หงิกครับ
01:47:34 → 01:47:38 ผมแต่ว่าถ้าทัทั่วไปนะฮะถ้าทั่วๆไปก็ถ้า
01:47:38 → 01:47:40 ไม่มีปัญหาอะไรเนี่ย
01:47:40 → 01:47:43 เอ่อก็จะไม่ได้ค่อยไปตอบอะไรเท่าไหร่แล้ว
01:47:43 → 01:47:47 ก็คิดว่าคงไปเปิดเอาไลฟ์เก่าๆหรือว่าข้อ
01:47:47 → 01:47:50 มูลที่เป็นสไลด์อะไรต่างๆเนี่ยหรือหรือ
01:47:50 → 01:47:53 ไม่หมอก็จะแชร์การแปรผลชั่วไปเลยหน้า
01:47:53 → 01:47:57 เดียวอย่าเงี้ยว่าเป็นเพราะว่าเิซตมันลด
01:47:57 → 01:47:59 ลงเพราะว่ามันฮอร์โมนเรื่องอินซูลิน
01:47:59 → 01:48:03 คอร์ติซอลฮอร์โมนเพศวทองหรือไม่ก็
01:48:03 → 01:48:07 ไทรรอยด์อะไรงี้ครับนะหรือว่ากินสัดส่วน
01:48:07 → 01:48:11 อาหารผิดไขมันอิ่มตัวนะกินโปรตีนอะไรต่าง
01:48:11 → 01:48:14 ๆนะฮะเนี่ยอันนี้ก็เป็นแนวทางที่จะไปแก้
01:48:14 → 01:48:17 หรือบางคนก็ต้องไปบำรุงฟื้นฟูต่อม
01:48:17 → 01:48:22 ไทรอยด์อืแฮะในต่างประเทศเก็ทำกันอย่าง
01:48:22 → 01:48:24 เงี้นะฮะนะครับ
01:48:24 → 01:48:28 เออเค้าก็เคก็แก้กันอย่างเงี้ยแต่ตารางใน
01:48:28 → 01:48:31 ต่างประเทศเก็จะละเอียดกว่าเราเยอะอ่าๆ
01:48:31 → 01:48:35 ว่างๆเอามาเอามาคุยกันบ้างก็ดีนะพี่หมอไอ
01:48:35 → 01:48:38 เเปิดเปิดโลกบ้างแบบให้เห็นว่าต่างประเทศ
01:48:38 → 01:48:41 เเวิเคราะห์กันยังไงอะไรอย่างเงี้ยฮะคือ
01:48:41 → 01:48:44 ตารางของเาเนี่ยสำเร็จรูปไปเลยอ่ะนะใช่
01:48:44 → 01:48:47 ใช่ผมเห็นแล้วโหละเอียดยิบเลยจะละเอียด
01:48:47 → 01:48:50 ยิบแต่แต่ก็มีคำถามคล้ายๆคนไทยนะพี่หมอ
01:48:50 → 01:48:53 เออเข้าจะอย่างงั้นแหละคำคำถามเช่นๆแบบ
01:48:53 → 01:48:55 เนี่ยคอเลสเตอรอลขึ้นหมอจะให้ยาแล้วทำยัง
01:48:55 → 01:48:57 ไง
01:48:57 → 01:49:00 ดีแล้วก็วิธีแก้ไม่ต่างกันนะฮะแบบที่เรา
01:49:00 → 01:49:03 ได้แนะนำแบบสรุปไปแล้วอ่ะต่างใช่ครับใช่
01:49:03 → 01:49:06 ครับคือปรับเรื่องไขมันอิ่มตัวเอ่อปรับ
01:49:06 → 01:49:11 เรื่องตัวโปรตีนพืชอะไรเข้ามาช่วยครับๆๆอ
01:49:11 → 01:49:14 หรือไม่ก็บางคนก็เติมคาฟเชิงซ้อนลงไปเลยอ
01:49:14 → 01:49:17 พอแก้ไปแล้วเนี่ยมันก็จะเปลี่ยนน่ะฮะค่า
01:49:17 → 01:49:21 แลบมันเปลี่ยนนะเค่าแหลบมันจะเปลี่ยนนะ
01:49:21 → 01:49:25 ครับหือแบบมีคนที่ถามมาว่าเนี่ยจะจะไป
01:49:25 → 01:49:29 ตรวจเลือดเพื่อจะหลอกหมอที่เ้าไม่ให้ทำ
01:49:29 → 01:49:33 ประกันยังไงอะไรอย่างเงี้ยครับก็เนี่ยแนว
01:49:33 → 01:49:39 ทางในการเปลี่ยนก็มีอ่ะ
01:49:39 → 01:49:43 เอือโอเคครับผมหมดคำถามแล้วครับพี่หมอ
01:49:43 → 01:49:45 ครับไพโรจล่ะเนส
01:49:46 → 01:49:51 ล่ะคำถามก็จะถามว่าเอออย่าง
01:49:51 → 01:49:55 ๆอย่างคนที่เเป็นเป็นเป็นทรงผอมเนี่ยเขา
01:49:55 → 01:49:57 จะมีโอกาสที่จะเปลี่ยนเป็นทรงอ้วนอย่าง
01:49:57 → 01:50:00 เงี้ยส่งถว่าเป็นเป็นไท้ที่ว่าพุงเครียด
01:50:00 → 01:50:02 หรือว่าเอสโตรเจนเด่นอย่างงี้ได้มั้ยครับ
01:50:02 → 01:50:07 อ๋อได้ฮะได้ได้ก็ก็ก็เป็นไปได้เหมือนกัน
01:50:07 → 01:50:10 เป็นไปได้ก็คือคือสิ่งที่เป็นไปได้เนี่ย
01:50:10 → 01:50:14 ก็คืออินซูลินครับอินซูลินนะฮะนะถ้าเกิด
01:50:14 → 01:50:18 มีพภาว่าดื้ออินซูลินสุดๆหนักๆเลยเนี่ย
01:50:18 → 01:50:22 มันจะเป็นแบบเดียวกันหมดเลยมันจะเป็นแบบ
01:50:22 → 01:50:25 เดียวกันหมดเลยคือเรื่องของอินซูลินเนี่ย
01:50:25 → 01:50:28 ที่มันมีทั้งไฮเปอร์อินซูลินเนเมียกับ
01:50:28 → 01:50:31 อินซูลินดิฟฟังก์ชันเนี่ยนะทั้ง 2 อย่าง
01:50:31 → 01:50:35 เนี้ยนะฮะนะในที่สุดแล้วเนี่ยตัวอินซูลิน
01:50:35 → 01:50:38 เนี่ยจะทำให้มีลักษณะรูปร่างหรือมีการ
01:50:38 → 01:50:42 สะสมพลังงานเนี่ยเ่อพอๆกันถ้าถ้าสมมุติ
01:50:42 → 01:50:45 เราไม่ได้ไหวตัวหรือแก้ไขอะไรต่างๆหรือ
01:50:45 → 01:50:48 เป็นมานมนานแล้วตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้ว
01:50:48 → 01:50:51 เนี่ยครับ
01:50:51 → 01:50:56 แล้วพอมา ree นะหรือหรือการทำ hormonal
01:50:56 → 01:51:00 Reset and rebalance เนี่ยอ่าจนจนค่า
01:51:00 → 01:51:03 เลือดค่าอะไรต่างๆปกติแล้วเนี่ยเมื่อนั้น
01:51:03 → 01:51:06 เนี่ยไอ้ตัว Body type จริงๆของคนๆนั้น
01:51:06 → 01:51:10 เนี่ยมันจะเผยออกมานะก็คือทรงพุงตับเป็น
01:51:10 → 01:51:13 อย่างนี้ทรงไทรรอยด์จะมีลักษณะแนาฬิกา
01:51:13 → 01:51:18 ทรายถ้าทรงพุงเครียดอ่าก็จะข้างบนใหญ่
01:51:18 → 01:51:23 ข้างล่างเล็กถ้าทรงแบบอะไรอ่ะแบบเอสโตเจน
01:51:23 → 01:51:27 เด่นเนี่ยเก็จะมีช่วงล่างลึ้มฮึมไป
01:51:27 → 01:51:32 หมดคืออ๋อคือที่ที่หมอทำงานอยู่เนี่ยนะฮะ
01:51:32 → 01:51:39 นะจะมีจะมีอ่าจะมีแอฟริกันแล้วก็อเมริกัน
01:51:39 → 01:51:42 นิโกเนี่ยที่เข้ามาสอนโรงเรียนนานาชาติ
01:51:42 → 01:51:47 เนี่ยนะฮะซึ่งในทุกๆปีเนี่ยนะทุกๆปีอ่ะ
01:51:47 → 01:51:50 เขาจะต้องมาตรวจเพื่อเอาใบไลเซ้นที่ไป
01:51:50 → 01:51:53 ยื่นเวิร์ค permit นะฮะนะแล้วก็คนพวก
01:51:53 → 01:51:56 เนี้ยนะก็จะต้องมาตรวจทุกปีอ่ะมันก็จะซ้ำ
01:51:56 → 01:52:01 หน้าอยู่บ่อยๆนะแล้วแล้วลักษณะเขาอ่ะก็จะ
01:52:01 → 01:52:04 เป็นลักษณะแบบเนี้ยนะก็คือเอสโตเจนเด่น
01:52:04 → 01:52:08 เอสโตเจนเด่นนะซึ่งเคยคุยกับเขาอ่ะเค้าก็
01:52:08 → 01:52:11 บอกว่าตอนที่เเป็นวัยรุ่นน่ะเขยังไม่ได้
01:52:11 → 01:52:14 เป็นครูเป็นอาจารย์ในระดับจบปริญญาโทอะไร
01:52:14 → 01:52:17 อย่าเงี้ยนะเค้าก็รูปร่างดีอ่ะเค้ายังเอา
01:52:17 → 01:52:20 รูปในเฟซในอะไรเมาให้ดูเลยนะ
01:52:20 → 01:52:24 แล้วพอเนี่ยคือคนพวกเนี้ยเขาจะชอบ Daily
01:52:24 → 01:52:28 produc เขาจะชอบพวกนมเนยชีสพวกเบเกอรี่
01:52:28 → 01:52:31 น่ะนะโดยเฉพาะนี่แหละเขาบ้าคั่งในเรื่อง
01:52:31 → 01:52:33 ของการกินไอ้พวก Daily produc คือใน
01:52:33 → 01:52:36 กลุ่มที่มีเอสโตรเจนเด่นเนี่ยนะแล้วเขาก็
01:52:36 → 01:52:39 ไม่รู้หลอกอันไหนออร์แกนิคอันไหนเอ่อฉีด
01:52:39 → 01:52:41 ยาไม่ฉีดยาวัวกินหญ้าไม่กินหญ้าอะไรต่างๆ
01:52:41 → 01:52:45 อ่ะนะแล้วก็ในที่สุดเนี่ยพอมันหลายปี
01:52:45 → 01:52:48 ดีดักสะสมสะสมขึ้นเรื่อยๆเนี่ยเนี่ยเขาก็
01:52:48 → 01:52:51 เลยดื้ออินซูลินแล้วตามมาด้วยภาวะ
01:52:51 → 01:52:54 เอสโตเจนเด่นแล้วรูปร่างก็ก็จะเป็นอย่าง
01:52:54 → 01:52:58 นั้นน่ะออืแล้วพอมันเป็นแล้วเนี่ยมันเป็น
01:52:58 → 01:53:02 แล้วเนี่ยมันก็มันก็เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
01:53:02 → 01:53:05 อายุไปสัก 30 40 แล้วเงี้ย 40 อะไรต่างๆ
01:53:05 → 01:53:09 เนี่ยมันจะรีวยาก
01:53:09 → 01:53:12 มากก็คือเราก็รู้เนี่ยว่าถ้าดื้ออินซูลิน
01:53:12 → 01:53:15 แล้วโดยเฉพาะการดื้ออินซูลินประเภทที่มัน
01:53:15 → 01:53:19 มีขบวนการ elongation ของไอ้ไขมันอิ่มตัว
01:53:19 → 01:53:23 สายยาวที่ไปสะสมอ่ะนะครับเนี่ยพวกนี้มัน
01:53:23 → 01:53:27 revere มัน ER reversible อ่ะนะฮะอื
01:53:27 → 01:53:32 แล้วก็ไอ้ตรงซตหรือตัวลับเนี่ยตัวลับต่อ
01:53:32 → 01:53:35 ฮอร์โมนก็ดีต่อการสะสมไขมันหรือพลังงาน
01:53:35 → 01:53:38 ส่วนเกินก็ดีเนี่ยถ้ามัน ER reversible
01:53:38 → 01:53:41 แล้วเนี่ยมันก็ยากถึงจะออกกำลังกายอะไร
01:53:41 → 01:53:44 ต่างๆยกเว้นไปผ่าตัดดูดไขมงไขมันหรอย่าง
01:53:45 → 01:53:47 งั้น
01:53:47 → 01:53:51 นะอืครับเอมันก็จะเป็นเป็นไปอย่างนั้น
01:53:51 → 01:53:53 แหละมันเป็นไปอย่าง
01:53:53 → 01:53:56 งั้นเพราะฉะนั้นในทั้งหมดเนี้ยที่ถาม
01:53:56 → 01:54:00 เนี่ยนะฮะนะวิธีแก้ 1 มน Reset hormonal
01:54:00 → 01:54:03 Reset and rebalance แล้วก็ 2 Body
01:54:04 → 01:54:08 type Diet Reset นะฮะแต่คุณต้องปรับ
01:54:08 → 01:54:11 ฮอร์โมนต่างๆโดยเฉพาะฮอร์โมนสะสมพลังงาน
01:54:11 → 01:54:16 เนี่ยให้มันสงบก่อนคืออินซูลินคอร์ติซอล
01:54:16 → 01:54:20 เอสโตรเจนนะจะต้องอยู่ในร่องเลอยอ่ะพอดิบ
01:54:20 → 01:54:23 พอดีนะโดยเฉพาะตัวอินซูลินเนี่ยฮอร์โมน
01:54:23 → 01:54:28 ตัวพ่ออันเนี้ยเขาจะต้องทั้งอยู่ในเกณฑ
01:54:28 → 01:54:33 เซออิซูลินและมีภาวะ insulin
01:54:33 → 01:54:38 sensitivity อืเพวจากค่า homa ir tyg
01:54:38 → 01:54:44 นะแล้วก็ตรวจ fing
01:54:44 → 01:54:50 inulin เคลียร์มพี่พี่ไพโรจแต่แต่ผมเข้า
01:54:50 → 01:54:53 ใจว่าพี่ไพโรจน่าจะหมายถึงอ่าเหมือนอยก
01:54:53 → 01:54:55 ตัวอย่างผมเงี้ยอย่างผมเป็นพุงตับใช่มั้ย
01:54:55 → 01:54:59 พี่พี่หมอคือตอนเผมเห็นชัดเลยลักษณะบอไทย
01:54:59 → 01:55:01 เนี่ยพุงตับแน่นอนนี้ผมอยากจะเปลี่ยนเป็น
01:55:01 → 01:55:04 ไทรรอยด์ผมอยากเป็นหุ่นนางนายแบบอ่ะให้
01:55:04 → 01:55:09 มันแบบให้มันไปมันพองทั่วตัวดีๆหน่อยอ่ะ
01:55:09 → 01:55:13 อย่างเงี้ยมันจะทำได้ม
01:55:13 → 01:55:17 คือคือมันอ้วนขึ้นมาแล้วสะสมพลังงานเนี่ย
01:55:17 → 01:55:21 ได้แต่ถ้าเกิดจะเปลี่ยนจากกุงตับไปเป็น
01:55:21 → 01:55:24 ไทรรอยด์หรือไปเป็นกุงเครียดอะไรเงี้ย
01:55:24 → 01:55:26 เปลี่ยนไม่ได้
01:55:26 → 01:55:30 อ๋อเปลี่ยนไม่ได้ฮะเปลี่ยนไม่ได้เพราะว่า
01:55:30 → 01:55:34 ร่างกายมันเจริญเติบโตมันหมดแล้วอ่ะมัน
01:55:34 → 01:55:37 เกินอายุมันเกิน 22 ไปแล้วอ่ะผมต้องเกิด
01:55:37 → 01:55:41 ใหม่ใช่มั้ยพี่
01:55:41 → 01:55:44 หมอแต่เราเลือกได้ว่าจะให้ไขมันหรือว่า
01:55:44 → 01:55:48 กล้ามเนื้อตรงจุดไหนเพิ่มเพิ่มอย่างเงี้ย
01:55:48 → 01:55:51 เออคือจะเป็นแบบหมีได้มั้ยคว่าเวลาช่วงจำ
01:55:51 → 01:55:54 ศินเจะกินผลไม้แล้วก็ไปสะสมพลังงานอย่าง
01:55:54 → 01:55:58 เงี้ยทฤษฎีที่ว่ากินผลไม้กินฟุกโตสมาก
01:55:58 → 01:56:02 ขึ้นกินๆๆออกินผลไม้มากขึ้นแล้วมันค่อยๆ
01:56:02 → 01:56:04 สะสมไปแล้วก็เปลี่ยนบอดี้ type ไปอย่าง
01:56:05 → 01:56:08 เงี้ยครับ
01:56:08 → 01:56:12 เอ่อมันต้องดูช่วงอายุด้วยอ่ะครับช่วง
01:56:13 → 01:56:15 อายุอ่ะนะถ้าคุณเจริญเติบโตเต็มที่เต็ม
01:56:15 → 01:56:17 วัยแล้วเนี่ย
01:56:17 → 01:56:21 อืมมันมีแต่อ้วนน่ะอ้วนแล้วก็ป่วยคือมัน
01:56:21 → 01:56:24 จะตายซะก่อนผมผมเข้าใจว่าบี้ type เนี่ย
01:56:24 → 01:56:27 มันเป็นแกนนะพี่ไพโรจเออมันเหมือนเป็นแกน
01:56:27 → 01:56:30 เป็นแกนไม้อ่ะเหมือนกับว่าเราก็เป็นแกน
01:56:30 → 01:56:33 นี้ของพี่อาจจะเป็นแกนแบบนึงของผมอาจจะ
01:56:33 → 01:56:35 เป็นแกนแบบนึงอย่างเงี้ยแต่ว่าเวลากิน
01:56:35 → 01:56:38 เข้าไปเนี่ยมันเหมือนกับไปเอาดินไปพอกมาก
01:56:38 → 01:56:43 กว่าอืครับพอพอกพพอกพอกๆแล้วถึงเวลารถมัน
01:56:43 → 01:56:45 ก็เหลือแกนมันก็จะเห็นแกนแบบนั้นใช่มั้ย
01:56:45 → 01:56:47 พี่หมอที่พี่หมอบอกว่าพอมันทุกอย่างมัน
01:56:47 → 01:56:53 โอเคมันก็จะบี้ไออกมาก็ครับโอโอเคก็คือ
01:56:53 → 01:56:57 สรุปว่าเปลี่ยนเปลี่ยนไม่ได้เนาะเพราะว่า
01:56:57 → 01:57:01 โเต็มวัยไปแล้วโๆเต็ม
01:57:01 → 01:57:07 วยถามอีกเราเราเราเพิ่มเพิ่มการกินพวกพวก
01:57:07 → 01:57:11 าฟเยอะๆแล้วก็ไปเวทไปเพิ่มออกกำลังกายใน
01:57:11 → 01:57:14 การเวทเทเสริมกล้ามเนื้อเนี่ยบอไทยเรา
01:57:14 → 01:57:17 สามารถเปลี่ยนได้มครับผม
01:57:17 → 01:57:20 เอ่ออายุเท่าไร
01:57:20 → 01:57:24 ไก็เนี่ยครับเกินเกินวยเจริญสัตตูแล้ว
01:57:24 → 01:57:30 ครับผมเกิดใหม่เกิดใหม่พี่ไม่ได้ไม่
01:57:30 → 01:57:33 ได้ผมผมว่าน่าจะเป็นอย่างที่บอกอ่ะเป็น
01:57:33 → 01:57:36 แกนที่มันมันมันแข็งตัวแล้วอ่ะที่เหลือก็
01:57:36 → 01:57:41 คือเอาดินมาพอกเฉยๆว่าว่าจะพอกส่วนไหนจะ
01:57:41 → 01:57:44 เป็นจะเป็นดินเหนียวหรือว่าดิน
01:57:44 → 01:57:47 ร่วนเปได้แค่กระพี้รอบๆแค่นั้นเองครับผม
01:57:47 → 01:57:50 อ่าๆทำได้แค่เพิ่มกระพี้อารมณ์ประมาณนั้น
01:57:50 → 01:57:53 นะครับใช่ถ้าเกิดยังไม่โตเต็มที่นะฮะ
01:57:53 → 01:57:56 อย่างเช่นมีข่าวเรื่องวง God เซเว่นของ
01:57:56 → 01:57:59 เกาหลี่ะฮะมีคนนึงอ่ะมีนักร้องคนนึงอ่ะฮะ
01:57:59 → 01:58:02 ตอนนั้นน่ะเค้าอ้วนมากอ้วนมากแล้วใส่ชุด
01:58:02 → 01:58:07 ทหารน่ะนะอเนี่ยนะอ้วนมากเลยตอนนั้นน่ะ
01:58:07 → 01:58:09 อ้วนจนกระทั่งจับเค้าไม่ได้เลยว่าเป็น
01:58:09 → 01:58:12 บอดี้ type แบบไหนแต่รู้สึกว่าอ้วนน่ะนะ
01:58:12 → 01:58:16 แล้วเสร็จแล้วเนี่ยพอเ้ามาปรับอาหงอาหาร
01:58:16 → 01:58:19 แล้วมามาอยู่ในวง God เซเว่นอะไรต่างๆ
01:58:19 → 01:58:22 เนี่ยเ้าเป็นรูปร่างแบบทรงไทรรอยด์ฮะนะ
01:58:22 → 01:58:27 แล้วก็มีกล้ามอน่ารักเลยอายุ 21 ปีอืแต่
01:58:27 → 01:58:31 ตอนนี้ก็อายุมาถึง 730 แล้วอ่ะนะ
01:58:31 → 01:58:35 นะคือถ้าเกิดยังไม่โตเต็มที่เนี่ยนะมันก็
01:58:35 → 01:58:38 มันก็บอ type อะไรต่างๆมันก็พยายามปรับ
01:58:38 → 01:58:42 เปลี่ยนได้นะอืครับแต่พอโตเต็มที่แล้ว
01:58:42 → 01:58:45 เนี่ยคุณมียีนของบอยที่ใช้แบบไหนมันก็จะ
01:58:45 → 01:58:48 ต้องเป็นไปแบบนั้นอแต่ถ้าไม่เป็นไปเนี่ย
01:58:48 → 01:58:51 แปลว่าคุณน่าจะจะดื้ออินซูลิน hormonal
01:58:51 → 01:58:53 imbalance จนกระทั่ง
01:58:53 → 01:58:57 เอ่ออ้วนแล้วก็ป่วยแล้วก็ไม่สามารถรีว
01:58:57 → 01:58:59 กลับมาได้อื
01:58:59 → 01:59:05 อืคือคือใครน้อ God เซเว่น
01:59:05 → 01:59:08 เนี่ยพี่หมอรู้ด้วยเหรอเกาหลีเมื่อปี
01:59:08 → 01:59:12 เมื่อปี 2020 อ่ะคุณหมอยังเอามาลงอยู่ในไ
01:59:12 → 01:59:15 ฮะอใช่ฮอ๋อยองแจป่าพี่หมอยองแจปป่าไม่รู้
01:59:16 → 01:59:18 หมอจำไม่ได้หรอกเว้ย
01:59:18 → 01:59:19 โอ
01:59:19 → 01:59:22 ผมยังไม่รู้จักเลยครับผมโอผมผมใช้ Google
01:59:22 → 01:59:26 หา
01:59:26 → 01:59:29 เอาเออแต่เขาอ้วนไงพี่หมอมันก็มันก็ยัง
01:59:29 → 01:59:33 ไม่น้ำน้ำยังไม่ลดไงถ้าน้ำลดแล้วตอถึงจะ
01:59:33 → 01:59:39 ผุดใช่นะอืเค้านี้คคือคนที่เป็นสายเนื้อ
01:59:39 → 01:59:42 เค้าก็จะมีโอกาสที่จะพัฒนาสมองไปได้มาก
01:59:42 → 01:59:46 กว่าสายสายแป้งใช่มั้ยครับประมาณนี้มีแนว
01:59:46 → 01:59:49 โน้มอย่างงั้นอ่าอ่าก็คือโอกาสที่เจะจะไป
01:59:49 → 01:59:53 ถ่ายทอดเเรชต่อไปที่จะเอ่อสมมุติว่าเค้า
01:59:53 → 01:59:55 กลิ่นถูกกินเนื้อสัตว์เน้นเนื้อสัตว์เยอะ
01:59:55 → 01:59:58 ๆอย่างเงี้ยลูกที่เกิดมาเ้าก็จะมีโอกาส
01:59:58 → 02:00:03 ที่จะไปวิวัฒนาการที่ทำให้สมองเจริญเติบ
02:00:03 → 02:00:07 โตมากกว่าสายแปงงี้ถูกมั้ยครับมีแนวโน้ม
02:00:07 → 02:00:11 จะพูดได้อย่างนั้นโอครับแต่ชีวิตคนเรา
02:00:11 → 02:00:14 เนี่ยในสังคมยุคพ.ศแบบเนี้ยซึ่งมันเป็น
02:00:14 → 02:00:20 อะไรนิยมซะจนแบบมันหลุดหมดแหละนะ
02:00:20 → 02:00:22 ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ผมผมมองเรื่อง
02:00:23 → 02:00:26 ซอฟต์แวร์ด้วยนะพี่หมออที่พี่เพรดบอกคือ
02:00:26 → 02:00:29 เขาอาจจะฮาร์ดแวร์แรงแต่ว่าซอฟต์แวร์ภาย
02:00:29 → 02:00:33 ในอ่ะคือคือเขาอาจจะแบบว่าเอ้ยค I 7
02:00:33 → 02:00:36 แล้วแต่ว่าของของคนสายแป้งอาจจะแค่ i5
02:00:36 → 02:00:40 แต่ว่าซอฟต์แวร์ดีกว่าก็ก็เป็นไปได้นะพี่
02:00:40 → 02:00:42 มันมันน่าจะมีหลายปัจจัยอ่ะมีหลายมิติอ่ะ
02:00:42 → 02:00:47 ครับพี่คือมันขึ้ความรู้ความเข้าใจแล้วก็
02:00:47 → 02:00:53 การการที่จะดูดูแลสุขภาพสนใจขนาดไหน
02:00:53 → 02:00:57 อืก็เราไม่มีอะไรหรอกเราก็เอาแค่เรื่อง
02:00:57 → 02:00:59 ที่จะมุ่งรักษาตอนเนี้ยคนที่เจ็บป่วย
02:00:59 → 02:01:04 ทุกข์ทรมานนะให้มันทรมานน้อยที่สุดน่ะ
02:01:04 → 02:01:10 ครับไม่หายก็แล้วแต่
02:01:10 → 02:01:14 บุญกรรมอย่างที่บอกลครับก็เราก็ให้ข้อมูล
02:01:14 → 02:01:17 ไปนะพี่หมอเเออมีบุญแล้วก็ได้มาเจอกัน
02:01:17 → 02:01:21 แล้วก็แล้วก็เอาไปเป็นข้อมูลประกอบการ
02:01:21 → 02:01:24 พิจารณาไปอืเพราะฉะนั้นวันนี้เนี่ยข้อมูล
02:01:24 → 02:01:27 เบื้องต้นเรื่องเบาหวานเนี่ยนะฮะเพ้าใคร
02:01:27 → 02:01:32 เอ่อไปไปพยายามทบทวนแล้วก็ไปดูให้ละเอียด
02:01:32 → 02:01:36 อ่าแล้วก็ดูเกี่ยวกับตัวเองอ่ะว่าสามารถ
02:01:36 → 02:01:40 รีวหรือรีตฮอร์โมนอ่ามาได้ขนาดไหนแล้วจะ
02:01:40 → 02:01:43 ต้องปรับยังไงถ้าไม่เข้าใจอะไรก็ลองโพสต์
02:01:43 → 02:01:48 ถามแล้วกันนะฮะอือได้ครับจริงๆข้อข้อมูล
02:01:48 → 02:01:50 วันนี้เป็นข้อมูลที่สามารถนำมาปรับใช้กับ
02:01:50 → 02:01:53 ตัวเองได้เลยครับหลายอย่างเลยครับผมเออ
02:01:53 → 02:01:55 แล้วเราไม่ได้เป็นเบาหวานเนี่ยแต่เราก็พอ
02:01:55 → 02:01:58 รู้แล้วล่ะว่าเออมันอย่างงั้นอย่างงี้นะ
02:01:58 → 02:02:01 ที่สัมพันธ์กับเรื่องของคาฟเรื่องของ
02:02:01 → 02:02:02 อาหารเรื่องของ
02:02:02 → 02:02:07 ฮอร์โมนอครับ
02:02:07 → 02:02:11 อืมโอเคครับพูดพโอเ
02:02:12 → 02:02:15 อั้นเกือบ 2 2 ชั่วโมงพอดีเลยพี่หมอ 2
02:02:15 → 02:02:18 ชั่วโมง 2 นาทีก็ต้องพอแล้วล่ะนะโอเคครับ
02:02:19 → 02:02:22 ไม่มีอะไรสงสัยนะก็โพสต์ถามจะให้เค้า
02:02:22 → 02:02:27 โพสต์ที่ไหนอ่ะตั้งกระตู้อ่อถามตอบให
02:02:27 → 02:02:30 กระทู้ถามตอบได้ครับได้ใช่ครับผมเพราะว่า
02:02:30 → 02:02:36 เดี๋ยวกระทู้มันจะมันจะยาวครับครับครับผม
02:02:36 → 02:02:38 มันไม่เด้งขึ้นมาเหมือนเหมือนในกลุ่มอ่ะ
02:02:38 → 02:02:40 เนาะในกลุ่มมันใครตั้งคำถามอะไรมันจะเด้ง
02:02:40 → 02:02:43 ขึ้นมาเอออันนี้มันไม่เด้ง่ะมันแปลกๆไม่
02:02:43 → 02:02:46 เป็นไรแล้วก็ตั้งขึ้นมาใหม่ไม่เป็นไร
02:02:46 → 02:02:50 ครับโอเคครับงั้นเดี๋ยวเรานะสวเจอกันใหม่
02:02:50 → 02:02:53 คราวต่อไปนะครับขอบคุณครับคุณหมอขอบคุณ
02:02:53 → 02:02:54 มากครับขอบคุณครับทุกคนครับสวัสดีครับ
02:02:54 → 02:02:59 ขอบคุณมากครับคุณหมอครับผมสวัสดีครับ
02:02:59 → 02:03:15 [เพลง]
02:03:15 → 02:03:17
02:03:17 → 02:03:17 [เพลง]
02:03:17 → 02:03:20 ครับ
02:03:20 → 02:03:30 [เพลง]
02:03:30 → 02:03:33 เ