00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับเดี๋ยววันนี้ผมจะพูดเกี่ยวข้อง
00:00:02 → 00:00:05 กับโรคไฮโปไทรอยด์นะครับหรือไทรรอยด์ทำ
00:00:05 → 00:00:08 งานได้ลดลงนะครับว่ามันมีอาการอย่างไรนะ
00:00:08 → 00:00:11 ครับมีวิธีในการรักษาแบบไหนนะครับรวมทั้ง
00:00:11 → 00:00:13 มีผลอะไรบ้างถ้าเกิดว่าเราไม่รักษานะครับ
00:00:13 → 00:00:16 นอกเหนือจากนี้เนี่ยก็จะมีสอดแทรกความรู้
00:00:16 → 00:00:18 ที่เกี่ยวข้องกับแพทย์เข้าไปในนี้ให้ฟัง
00:00:18 → 00:00:20 ดังนั้นวีีดีโอครั้งนี้เี่ก็อาจจะยาวนิด
00:00:20 → 00:00:23 นึงนะครับก็มันมีรายละเอียดค่อนข้างมาก
00:00:23 → 00:00:26 แต่ผมจะพยายามพูดเท่าที่ผมทราบแล้วก็จำ
00:00:26 → 00:00:28 ได้แล้วกันนะครับถ้าตรงไหนที่ไม่ได้อยู่
00:00:28 → 00:00:31 ในการพูดครั้งนี้ก็สอบถามมาได้นะครับพบ
00:00:31 → 00:00:33 กับผมนะครับนายแพทย์ธานีธนียวันนะครับ
00:00:33 → 00:00:34 เป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐ
00:00:34 → 00:00:36 อเมริกานะครับเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่าย
00:00:37 → 00:00:39 ปอดและวิกฤตบำบัตนะครับสำหรับเรื่องของ
00:00:39 → 00:00:41 ไทรรอยด์นั้นถ้าเรามีฮอร์โมนไทรรอยด์ที่
00:00:41 → 00:00:45 ต่ำเนี่ยนะครับมันก็มีสาเหตุมาจากหลายๆ
00:00:45 → 00:00:47 อย่างด้วยกันอะไรก็แล้วแต่ซึ่งสามารถทำ
00:00:47 → 00:00:49 ให้เซลล์ของไทรรอยด์เนี่ยไม่สามารถสร้าง
00:00:49 → 00:00:52 ฮอร์โมนได้นะครับมันก็ทำให้เกิดภาวะ
00:00:52 → 00:00:54 ไทรรอยด์ต่ำหรือที่เรียกว่าไฮโปไทรอยด์
00:00:54 → 00:00:57 นั่นเองนะครับอ่ะทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น
00:00:57 → 00:01:01 นะครับที่เราเจอบ่อยๆก็จะเป็นเพราะว่า
00:01:01 → 00:01:03 ภูมิต้านทานต่อต้านตัวเองนะครับหรือที่
00:01:03 → 00:01:06 เรียกว่าฮาชิโมโตไทรอยไดิบางคนอาจจะเคย
00:01:06 → 00:01:08 ได้ยินภาวะนี้นะครับโดยมันจะมีแอนติบอดี้
00:01:08 → 00:01:12 หรือภูมิซึ่งสร้างผิดปกตินะครับต่อสารบาง
00:01:12 → 00:01:16 อย่างในไทรรอยด์ที่เรียกว่าเ่อไทรแอกซิส
00:01:16 → 00:01:19 นะไทรอย peroxides นะครับกับอีกตัวนึงคือ
00:01:19 → 00:01:22 ไทรินนะครับถ้ามีแอนติบอดี้ไปจับกับ 2
00:01:22 → 00:01:24 ตัวนี้เมื่อไหร่แล้วล่ะก็มันจะทำให้เซลล์
00:01:24 → 00:01:26 ของไทรรอยด์เนี่ยมันเสียไปแล้วก็ไม่
00:01:26 → 00:01:28 สามารถสร้างฮอร์โมนไทรรอยด์ออกมาได้ก็จะ
00:01:28 → 00:01:31 เกิดภาวะไฮโปไทรอยด์นั่นเองนะครับนอก
00:01:31 → 00:01:34 เหนือจากนี้คือการที่สมองเนี่ยนะครับมัน
00:01:34 → 00:01:35 ไม่สามารถสร้างฮอร์โมนที่ไปกระตุ้น
00:01:35 → 00:01:38 ไทรรอยด์ให้ทำงานได้ฮอร์โมนตัวนี้มีชื่อ
00:01:38 → 00:01:40 ว่า thyroid stimulating Hormone หรือ
00:01:40 → 00:01:43 tsh นะครับถ้าฮอร์โมนตัวนี้มันขาดหายไป
00:01:43 → 00:01:46 เนี่ยไทรรอยด์มันก็ไม่สามารถผลิตฮอร์โมน
00:01:46 → 00:01:49 ได้อย่างที่ร่างกายต้องการนะครับอ่าแต่
00:01:49 → 00:01:51 ว่าโอกาสที่จะเจอเหตุผลแบบนี้ก็จะค่อน
00:01:51 → 00:01:54 ข้างที่จะน้อยนะครับนอกเหนือจากนี้คือการ
00:01:54 → 00:01:57 ที่ท่านตัดต่อมไทรรอยด์ออกไปเลยนะครับตัด
00:01:57 → 00:01:59 ต่อมไทรรอยด์ก็ไม่มีฮอร์โมนไทรอยด์ถูก
00:01:59 → 00:02:00 มั้ยครับหรือบางคนเกิดมาแล้วมันไม่มี
00:02:00 → 00:02:03 ฮอร์โมนไม่มีต่อมไทรรอยด์อย่างเงี้ยนะฮะ
00:02:03 → 00:02:05 ซึ่งพวกนั้นในเด็กเนี่ยก็จะมีการตรวจ
00:02:05 → 00:02:07 สกรีนนิ่งอยู่แล้วว่าฮอร์โมนไทรรอยด์ของ
00:02:07 → 00:02:09 เด็กมันมีหรือไม่มีนะครับเพราะว่าจะต้อง
00:02:09 → 00:02:12 รักษาไม่รักษาก็จะเกิดปัญหาทางด้าน
00:02:12 → 00:02:14 พัฒนาการแล้วก็เด็กก็จะเสียชีวิตได้
00:02:14 → 00:02:16 เหมือนกันนะครับคือเด็กกลุ่มเนี้ยก็จะมี
00:02:16 → 00:02:19 เอ่อไม่ค่อยเจริญเติบโตนะครับไม่ค่อยกิน
00:02:19 → 00:02:21 อะไรทั้งหลายแหล่นะครับแล้วก็น้ำหนักก็
00:02:21 → 00:02:24 ไม่ขึ้นนะฮะเป็นโรคเอ๋อขึ้นมาซึ่งในภาษา
00:02:24 → 00:02:26 ทางการแพทย์เนี่ยเราจะเรียกว่าโรค
00:02:26 → 00:02:28 cretinism นะครับหรือถ้าอ่านแบบไทยก็
00:02:29 → 00:02:32 cretin ซึนะครับอ่าแต่ว่าฝรั่งเขาจะไม่
00:02:32 → 00:02:34 ค่อยชอบมีตัวตรงกลางเขาจะเรียกว่า cism
00:02:34 → 00:02:38 นะครับแบบนี้เป็นต้นนะฮะก็นั่นแหละครับ
00:02:38 → 00:02:40 นอกเหนือจากนี้คือการที่เราไปทำลายต่อม
00:02:40 → 00:02:42 ไทรอยดด้วยวิธีต่างๆเช่นเราอาจจะเกิด
00:02:42 → 00:02:45 อุบัติเหตุมีอะไรไปกระแทกต่อมไทรรอยด์นะ
00:02:45 → 00:02:47 ครับเซลล์มันตายไปนะครับหรือว่าเรามีการ
00:02:47 → 00:02:49 ติดเชื้อไวรัสเข้าไปตรงต่อมไทรรอยด์นะ
00:02:49 → 00:02:51 ครับไทรรอยด์มันโดนทำลายไปในช่วงที่มัน
00:02:51 → 00:02:53 โดนทำลายใหม่ๆนะครับตอนนั้นเนี่ยเซลล์มัน
00:02:53 → 00:02:56 แตกออกฮอร์โมนที่อยู่ในเซลล์มันก็จะออกมา
00:02:56 → 00:02:58 หมดเลยคนไข้คนนั้นก็จะเป็นอาการไฮเปอร์
00:02:58 → 00:03:00 ไทรอยด์หรือไทรรอยด์เป็นพิษขึ้นมาแต่ก็
00:03:00 → 00:03:03 เป็นแค่ชั่วคราวพอฮอร์โมนพวกนั้นมันหายไป
00:03:03 → 00:03:07 หมดแล้วเนี่ยนะครับก็จะมีปัญหาละคือขึ้น
00:03:07 → 00:03:09 อยู่กับอะตอมไทรรอยด์มันสร้างกลับมา
00:03:09 → 00:03:10 เหมือนเดิมหรือเปล่าถ้ามันสร้างกลับมา
00:03:10 → 00:03:12 เหมือนเดิมก็ไม่มีปัญหาแต่ถ้ามันไม่สร้าง
00:03:12 → 00:03:14 แล้วล่ะก็ก็จะเกิดภาวะฮอร์โมนไทรรอยด์ต่ำ
00:03:14 → 00:03:17 หรือที่เรียกว่าไฮโปไทรอยด์นั่นเองนะครับ
00:03:17 → 00:03:21 นอกเหนือจากนี้ถ้าเกิดว่าคนไหนที่เคยได้
00:03:21 → 00:03:23 ยินนะครับสมัยก่อนนี่ก็จะมีปัญหาเรื่อง
00:03:23 → 00:03:26 ของการขาดไอโอดีนนะฮะเช่นชาวเขานะฮะพวก
00:03:26 → 00:03:29 นี้เวลาขาดไอโอดีนซึ่งเกลือบนบกเนี่ยมัน
00:03:30 → 00:03:31 ไม่มีไอโอดีนต้องเป็นเกลือทะเลมันมี
00:03:31 → 00:03:33 ไอโอดีนนะครับพอขาดไอโอดีนมากๆเนี่ย
00:03:33 → 00:03:36 ฮอร์โมนไทรอยด์มันต้องการไอโอดีนมันก็เลย
00:03:36 → 00:03:38 ไม่สามารถที่จะสังเคราะห์ได้ถ้ามันไม่มี
00:03:38 → 00:03:41 ไอโอดีนนะครับนั่นคือปัญหานะฮะเ่านอก
00:03:41 → 00:03:44 เหนือจากนี้ถ้าในชาวเขาหรือคนที่กินพวก
00:03:44 → 00:03:46 อ่ากะหล่ำนะครับกระหล่ำปลีกินแต่กะหล่ำ
00:03:47 → 00:03:49 ปลีทั้งหมดเนี่ยมันจะมีสารในกะหล่ำปลี
00:03:49 → 00:03:51 ซึ่งมันไปยับยั้งการสร้างฮอร์โมนไทรรอยด์
00:03:51 → 00:03:53 ก็จะเกิดภาวะไทรรอยด์ต่ำได้นะครับแต่ว่า
00:03:53 → 00:03:55 ไม่ต้องห่วงนะครับถ้าท่านกินกะหล่ำปรี
00:03:55 → 00:03:57 อยู่มันไม่ได้ทำให้ท่านมีปัญหาแบบนั้น
00:03:57 → 00:03:59 ท่านจะต้องกินกะหล่ำปรีอย่างเดียวอ่ะกิน
00:03:59 → 00:04:01 เป็นเข่งๆอย่างอันอันนั้นท่านอาจจะมี
00:04:01 → 00:04:03 ปัญหาได้หรือกินแบบนั้นทุกวันอะไรอย่า
00:04:03 → 00:04:05 เงี้ยก็จะมีปัญหาได้ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมัน
00:04:05 → 00:04:07 ก็จะเกิดกับคนที่มีโอกาสจะเกิดไทรรอยด์
00:04:07 → 00:04:09 ต่ำอยู่ตั้งแต่แรกแล้วเช่นอาจจะมี
00:04:09 → 00:04:11 ไทรรอยด์ที่เป็นฮาชิโมโตะอยู่แล้วนะครับ
00:04:11 → 00:04:13 แต่ว่าไม่รู้ตัวแล้วดันไปกินไอของพวกนี้
00:04:13 → 00:04:16 เยอะๆก็เกิดปัญหาได้นะครับนอกเหนือจากนี้
00:04:16 → 00:04:19 คนที่รักษาอาการไฮเปอร์ไทรรอยด์นะครับยา
00:04:19 → 00:04:21 รักษาไฮเปอร์ไทรรอยด์ถ้ากินมากๆเนี่ยแน่
00:04:21 → 00:04:24 นอนว่ากินเกินขนาดกินเยอะเกินไปไม่ได้ไป
00:04:25 → 00:04:27 ตรวจติดตามกับหมอก็มีปัญหาไทรรอยด์
00:04:27 → 00:04:30 ฮอร์โมนมันต่ำได้นะครับนั่นก็คือปัญหาของ
00:04:30 → 00:04:34 ไฮโปไทรอยด์นั่นเองนะครับทีนี้ถ้ามันต่ำ
00:04:34 → 00:04:37 แล้วอ่ะอาการมันเป็นยังไงนะครับอ่ะอาการ
00:04:37 → 00:04:40 ฮอร์โมนไทรรอยด์ต่ำก็จะมีอาการช้าๆเลย
00:04:40 → 00:04:44 ครับมีเอ่อง่วหงาวเหานอนนะครับเซื่องซึม
00:04:44 → 00:04:47 นะครับมีอาการทางจิตเวทก็คือมีอาการที่
00:04:47 → 00:04:50 ซึมเศร้าได้นะครับบางคนก็อยากฆ่าตัวตาย
00:04:50 → 00:04:51 อะไรอย่างเงี้ยนะครับคือถ้ามีอาการแบบ
00:04:51 → 00:04:54 นั้นแน่นอนว่าในทางจิตเวทเราจะต้องตรวจ
00:04:54 → 00:04:56 ว่ามีภาวะไทรรอยด์เป็นปัญหาอยู่หรือเปล่า
00:04:56 → 00:04:58 เพราะถ้ามีต้องรักษาที่ไทรรอยด์ไม่ใช่ไป
00:04:58 → 00:05:00 รักษายาทางจิตเวทนะครับมฉะนั้นก็จะไม่หาย
00:05:01 → 00:05:06 นะฮะอ่ามีอาการที่ขี้หนาวนะครับคนพวก
00:05:06 → 00:05:07 เนี้ยคือร่างกายไม่สามารถที่จะมี
00:05:07 → 00:05:09 metabolism เหมือนคนทั่วไปได้ดังนั้น
00:05:09 → 00:05:14 เนี่ยเจออากาศปกติมันก็หนาวละนะคนอื่นเขา
00:05:14 → 00:05:16 ร้อนกันคนนี้หนาวนะครับน้ำหนักก็จะเพิ่ม
00:05:16 → 00:05:18 ขึ้นนะครับเนื่องจากเมตาบอลิซึมลดลงนะ
00:05:18 → 00:05:22 ครับจะมีการคั่งของสารบางอย่างนะครับที่
00:05:22 → 00:05:25 เรียกว่าไคซินไลแคนนะครับตามผิวหนังนะ
00:05:25 → 00:05:27 ครับตามที่ต่างๆก็จะทำให้ผิวหนังพวกเนี้ย
00:05:27 → 00:05:32 มันบวมนะครับบวมหนาหยาบนะครับก็อ่าอาจจะ
00:05:32 → 00:05:34 ลักษณะคล้ายๆผิวส้มตามบริเวณหน้าแข้งตาม
00:05:34 → 00:05:37 ขาอะไรเงี้ยครับเป็นทั่วๆตัวเลยนะถ้าไป
00:05:37 → 00:05:40 ตรงตาตาก็จะบวมไปตรงลิ้นลๆก็จะใหญ่ๆบวมๆ
00:05:40 → 00:05:42 นะครับซึ่งลิ้นใหญ่บวมเนี่ยมันก็จะทำให้
00:05:42 → 00:05:44 เกิดการอุดตันของทางเดินหายใจเราเวลาที่
00:05:44 → 00:05:47 เราหลับได้ก็จะเป็นการเกิดการอุดกั้นทาง
00:05:47 → 00:05:50 เดินหายใจนะฮะทำให้หยุดหายใจในขณะลับนี่
00:05:50 → 00:05:52 ก็จะเป็นโรคร่วมอีกอย่างหนึ่งซึ่งเราเจอ
00:05:52 → 00:05:56 ได้นะครับอ่านอกเหนือจากนี้ก็คนไข้พวกนี้
00:05:56 → 00:05:58 ก็จะเหนื่อยเพลียง่ายนะครับอ่าทำอะไรก็
00:05:58 → 00:06:01 ไม่อยากจะทำนะฮะปัญหาทางด้านของโรคหัวใจ
00:06:01 → 00:06:04 ก็มีก็คือว่าหัวใจพวกเนี้ยจะเต้นช้าอ่า
00:06:04 → 00:06:07 หัวใจเต้นช้านะครับแต่มีความดันโลหิตสูง
00:06:07 → 00:06:10 นะครับความดลหิตสูงชนิดที่เป็นความดลหิต
00:06:10 → 00:06:13 ตัวล่างด้วย diastolic นะครับคือ
00:06:13 → 00:06:16 diastolic hypertension ซึ่งอันเนี้ยจะ
00:06:16 → 00:06:19 เป็นสิ่งที่เราเอาไว้ชอบสอบถามนักเรียน
00:06:19 → 00:06:20 แพทย์กันหลายๆคนนะครับเพราะว่าหลายๆคนบอก
00:06:20 → 00:06:23 ว่าเออเป็นโรคไฮโปไทรอยด์นะฮะทุกๆอย่างจะ
00:06:23 → 00:06:27 ต้องดูช้าๆดูเต่าๆสงบๆนะครับแต่มันมีไอ้
00:06:27 → 00:06:29 เนี่ยเป็นข้อยกเว้นก็คือเป็นความดหิตที่
00:06:29 → 00:06:32 มันสูงขึ้นนะครับอ่าตรงนี้ก็จะต้องทราบ
00:06:32 → 00:06:35 ไว้นิดนึงนะครับระบบอื่นคือมันอาจจะมี
00:06:35 → 00:06:37 ระบบไขมันที่ผิดปกติพวกเนี้ยจะมีทั้ง
00:06:37 → 00:06:40 คอเลสเตอรอลสูงและไตรกลีสไลดสูงได้นะครับ
00:06:40 → 00:06:42 แล้วก็เกิดไขมันพอกตับหรือที่เราเรียกว่า
00:06:42 → 00:06:44 fatty liver ได้นะครับอันนี้คือไขมันไป
00:06:44 → 00:06:47 พอกตับก็เป็นเพราะว่าไทรรอยด์ทำงานต่ำได้
00:06:47 → 00:06:50 นะครับระบบต่อมาคือระบบกล้ามเนื้อนะครับ
00:06:50 → 00:06:53 กล้ามเนื้อจะมีการเกิดกล้ามเนื้อสลายได้
00:06:53 → 00:06:55 นะครับอ้ากล้ามเนื้อสลายได้บางคนก็มีการ
00:06:55 → 00:06:57 ปวดกล้ามเนื้อนะครับแล้วก็เวลาที่เราไป
00:06:57 → 00:07:00 ตรวจเอนไซม์กล้ามเนื้อก็คือเอนไซม์ที่
00:07:00 → 00:07:04 เรียกว่า cretin โคสหรือ cpk นะครับเอ่อ
00:07:04 → 00:07:06 เอนไซม์ตัวนี้เนี่ยมันจะสูงเพราะว่ากล้าม
00:07:06 → 00:07:09 เนื้อมันโดนสลายไปนะครับบางคนก็อาจจะตกใจ
00:07:09 → 00:07:11 ฮึ้ยเอนไซม์กล้ามเนื้อมันสูงมันเป็นเพราะ
00:07:11 → 00:07:13 อะไรเราไปวิ่งมาราธอนเราก็ไม่ได้ไปวิ่งมา
00:07:13 → 00:07:16 นี่เราไม่ได้ออกกำลังกายอะไรเออแล้วก็ไป
00:07:16 → 00:07:19 โทษว่าเอ้ยเราน่าจะเป็นหยักยาสแตตินที่
00:07:19 → 00:07:22 เรากินหรือเปล่านะครับก็ไม่เสมอไปนะครับ
00:07:22 → 00:07:24 ท่านก็ต้องสงสัยว่ามีภาวะไทรรอยด์ต่ำอยู่
00:07:24 → 00:07:26 ด้วยหรือเปล่าเพราะว่ามันทำให้เอนไซม์
00:07:26 → 00:07:28 กล้ามเนื้อของท่านสูงได้นะครับแล้วก็เกิด
00:07:28 → 00:07:30 กล้ามเนื้อสลายได้นะครับแล้วก็ต้องไปตรวจ
00:07:30 → 00:07:33 บางคนก็มีอาการปวดตามข้อตามกระดูกได้นะ
00:07:33 → 00:07:36 ครับถ้าเป็นไทรรอยด์ต่ำนะครับอ่าระบบทาง
00:07:36 → 00:07:39 เดินอาหารมีอะไรบ้างก็มีไอ้ลิ้นโตเมื่อ
00:07:39 → 00:07:41 ตะกี้ที่บอกนะครับมีอาการท้องผูกได้นี่
00:07:41 → 00:07:43 เจอบ่อยมากเลยนะไทรอยเนี่ยจะเป็นท้องผูก
00:07:43 → 00:07:47 ได้ง่ายๆนะครับเอิ่มระบบโรคเลือดอ่ะเรา
00:07:47 → 00:07:50 เจอว่ามีมีโลหิตจางได้นะครับแต่โลหิตจาง
00:07:50 → 00:07:52 นี้มีสาเหตุหลายๆอย่างด้วยกันเช่นการขาด
00:07:52 → 00:07:54 ธาตุเหล็กโดยเฉพาะถ้าเป็นวัยเจริญพันธุ์
00:07:55 → 00:07:56 ที่เป็นผู้หญิงแล้วก็มีประจำเดือนเพราะ
00:07:56 → 00:07:59 ว่าไทรรอยด์ที่มันต่ำเนี่ยจะทำให้มีบาง
00:07:59 → 00:08:01 ครั้งมีประจำเดือนเยอะเกินไปนะครับบางคน
00:08:02 → 00:08:04 ประจำเดือนไม่มานะครับแล้วก็จะมีปัญหาใน
00:08:04 → 00:08:06 แง่ของการมีบุตรยากด้วยนะครับถ้าประจำ
00:08:06 → 00:08:08 เดือนเยอะๆนะครับก็จะยิ่งมีปัญหาเรื่อง
00:08:09 → 00:08:11 การขาดธาตุเหล็กได้นะครับอีกอย่างนึงก็
00:08:12 → 00:08:15 คือมีโรคออโตอิมมูนก็คือมีภูมิต้านทานต่อ
00:08:15 → 00:08:17 ต้านตัวเองแต่คราวนี้มันไปต่อต้านเซลล์ใน
00:08:17 → 00:08:20 กระเพาะนะครับอ่าเซลล์ในกระเพาะพอมันไป
00:08:20 → 00:08:22 ต่อต้านเนี่ยก็จะเกิดโรคๆหนึ่งในทางพ
00:08:22 → 00:08:25 แพทย์เราเรียกว่า atrophic gastritis นะ
00:08:25 → 00:08:27 ครับ atrophic ก็คือการฝ่อไป gastritis
00:08:27 → 00:08:30 gastos แปลว่ากระเพาะนะครับไิก็คือการ
00:08:30 → 00:08:33 อักเสบนะครับเอามารวมกันก็คือเป็นการเกิด
00:08:33 → 00:08:35 การอักเสบของกระเพาะที่ทำให้เซลล์กระเพาะ
00:08:35 → 00:08:38 มันฝ่อไปแล้วไอ้เซลล์กระเพาะเนี่ยนะครับ
00:08:38 → 00:08:41 มันจะมีความสำคัญอย่างหนึ่งคือมันมีเซลล์
00:08:41 → 00:08:43 ตัวนึงชื่อว่า paral Cell นะครับซึ่งพวก
00:08:43 → 00:08:46 เนี้ยมันจะต้องทำให้ร่างกายเราสามารถดูด
00:08:46 → 00:08:48 ซึมวิตามิน B12 ถ้ามันเสียไปร่างกายเรา
00:08:48 → 00:08:50 ดูดซึมวิตามิน B12 ไม่ได้เราก็จะเกิด
00:08:50 → 00:08:53 โลหิตจางขึ้นมาได้นะครับอีกอย่างนึงที่
00:08:53 → 00:08:55 เกี่ยวข้องกับระบบโลหิตก็คือจะทำให้คนพวก
00:08:56 → 00:08:58 เนี้ยบางคนมีเลือดออกง่ายนะครับอันนี้
00:08:58 → 00:09:01 เป็นคำถามสำหรับประแพทย์นะฮะคือเวลาที่
00:09:01 → 00:09:03 ถามว่ามีความผิดปกติที่ทำให้เลื่อนออก
00:09:03 → 00:09:06 ง่ายในคนที่เป็นไฮโปไทรอยด์คืออะไรนะครับ
00:09:06 → 00:09:09 อันนี้คำตอบก็คือ acquired volm Brand
00:09:09 → 00:09:13 disease Type 1 นะครับอ่าอันนี้เวลา
00:09:13 → 00:09:16 ที่เราเราเป็นแพทย์เราก็จะมีคนมาชอบถาม
00:09:16 → 00:09:17 อะไรพวกนี้นะครับแต่จริงๆไม่รู้ก็ไม่เป็น
00:09:17 → 00:09:19 ไรนะครับแต่ว่าถ้ารู้ไว้หน่อยมันก็ดูเท่
00:09:19 → 00:09:21 ดีนะฮะอันนี้ก็คือเป็นเป็นเหตุผลอันหนึ่ง
00:09:21 → 00:09:25 นะครับของของเ่อปัญหาทางด้านเลือดออกง่าย
00:09:25 → 00:09:28 ในในคนที่เป็นไฮโปไทรอยด์นะครับอ่าระบบ
00:09:28 → 00:09:31 ทางด้านทางเดินปัสสาวะบางคนก็จะมีปัญหานะ
00:09:31 → 00:09:33 ครับปัสสาวะลำบากบางคนก็ปัสสาวะบ่อยอัน
00:09:33 → 00:09:35 นี้ได้ทั้งคู่นะครับมาแล้วแต่นะฮะก็เจอ
00:09:35 → 00:09:38 ได้หลากหลายแบบนะครับอ่าพวกนี้งั้นโดย
00:09:38 → 00:09:41 สรุปเลยคนที่เป็นไทรรอยด์ต่ำเนี่ยก็จะมี
00:09:41 → 00:09:44 อาการช้านะครับง่วงเหงาเหานอนบ่อยนะครับ
00:09:44 → 00:09:47 เอ่อก็อาจจะมีอาการซึมเศร้าได้นะครับนอน
00:09:47 → 00:09:49 เท่าไหร่ก็ไม่อิ่มเพราะบางคนก็มีการหยุด
00:09:49 → 00:09:51 หายใจในขณะหลับจากลิ้นที่มันใหญ่ขึ้นนะ
00:09:52 → 00:09:55 ครับมีผิวที่มันบวมๆได้นะครับตามที่ต่างๆ
00:09:55 → 00:09:58 ผมนี่ก็อาจจะผมร่วงง่ายหรือผมมันก็จะสักะ
00:09:59 → 00:10:01 แข็งแข็งนะฮะเหงื่อออกไม่ค่อยมากนะพวกนี้
00:10:01 → 00:10:03 ไม่ค่อยมีเหงื่อนะครับถ้าเรามีอาการพวก
00:10:03 → 00:10:06 เนี้ยเราก็ควรจะไปตรวจนะครับเวลาหมอเค้า
00:10:06 → 00:10:08 ตรวจเนี่ยประการแรกก็คือซักประวัติทั้ง
00:10:08 → 00:10:10 หมดแหละนะครับแล้วก็ตรวจเลือดนะครับตรวจ
00:10:10 → 00:10:12 เลือดเราดูฮอร์โมนเมื่อตะกี้ที่เราบอกก็
00:10:12 → 00:10:15 คือ tsh คือเป็นฮอร์โมนจากต่อมที่มันอยู่
00:10:15 → 00:10:18 ในสมองแล้วก็มากระตุ้นไทรรอยด์นะครับในคน
00:10:18 → 00:10:20 พวกที่เป็นไทรรอยด์ต่ำนะครับฮอร์โมนตัว
00:10:20 → 00:10:22 นี้มันจะต้องออกมามหาศาลมากเลยเพราะว่า
00:10:22 → 00:10:24 ไทรรอยด์มันไม่ทำงานข้างบนก็ต้องสั่งแหลก
00:10:24 → 00:10:26 เลยสั่งบอกเฮ้ยทำงานซะนะครับแต่สั่งเท่า
00:10:26 → 00:10:28 ไหร่มันก็ไม่ทำงานฮอร์โมนตัวเนี้มันก็จะ
00:10:28 → 00:10:30 มีเยอะแยะไปหมดนะนะครับงั้นถ้า tsh มัน
00:10:30 → 00:10:34 สูงแล้วล่ะก็ก็สงสัยละนะครับแล้วฮอร์โมน
00:10:34 → 00:10:37 ไทรรอยด์เราก็ตรวจฟรี T3 กับฟรี t4 นะ
00:10:37 → 00:10:39 ครับ 2 ตัวนี้นะครับมันเป็นฮอร์โมนของ
00:10:39 → 00:10:42 ไทรรอยด์นะครับก็อาจจะมีตัวใดตัวหนึ่งต่ำ
00:10:42 → 00:10:44 หรือต่ำทั้งคู่ก็ได้นะครับดังนั้นในคนที่
00:10:44 → 00:10:47 มีไทรรอยด์ต่ำนะครับก็มักจะมี tsh ซึ่ง
00:10:47 → 00:10:50 สูงมากๆนะครับแล้วก็ fre t4 กับ fre T3
00:10:50 → 00:10:52 ที่ต่ำมากๆนะครับอ่าหรือตัวใดตัวหนึ่งก็
00:10:52 → 00:10:57 ได้นะฮะอาจจะมีข้อยกเว้นก็คือถ้าในกรณี
00:10:57 → 00:10:59 ที่มันเสียที่สมองก็คือสมองของเราไม่
00:10:59 → 00:11:02 สามารถสั่งให้หลั่ง tsh ออกมาได้นะครับ
00:11:02 → 00:11:04 tsh นี่ก็จะต่ำแล้วฮอร์โมนไทรอยด์มันก็
00:11:04 → 00:11:06 จะต่ำไปด้วยนะครับนี้เราเรียกว่า Central
00:11:06 → 00:11:08 hyp ไทรอยดซึ่งเจอน้อยแต่ว่าก็เจอได้ใน
00:11:08 → 00:11:11 ทางการแพทย์นะแล้วผมจะไม่ลงรายละเอียดตรง
00:11:11 → 00:11:12 นี้แล้วกันนะครับเอาเป็นว่ามันมีได้นะ
00:11:12 → 00:11:15 ครับแล้วก็ในบางคนคือคนที่มีความเสี่ยง
00:11:15 → 00:11:18 มากๆต่อการเป็นไฮโปไทรอยด์เนี่ยระยะแรกๆ
00:11:18 → 00:11:20 ที่เรามาตรวจเนี่ยอาจจะไม่เจออะไรเท่า
00:11:20 → 00:11:22 ไหร่นะครับอาจจะเจอแค่ tsh มันสูงขึ้นมา
00:11:22 → 00:11:24 นิดนิดหน่อยๆแล้วก็ฮอร์โมนไทรรอยด์เนี่ย
00:11:24 → 00:11:28 มันปกติซึ่งในบางกรณีเราเรียกว่าไทรรอยด์
00:11:28 → 00:11:31 ต่ำแฝงอ่าผมเคยเห็นมีคนนึงคอมเมนต์มาว่า
00:11:31 → 00:11:33 ไทรรอยด์ต่ำแฝงนี่ต้องทำยังไงรักษาอะไร
00:11:33 → 00:11:35 หรือเปล่านะครับไทรรอยด์ต่ำแฝงเนี่ยนะ
00:11:35 → 00:11:38 ครับมันอาจจะกลายเป็นเป็นไทรรอยด์ต่ำแบบ
00:11:38 → 00:11:42 จริงๆเลยก็ได้นะครับคือโดยเฉพาะในคนที่มี
00:11:42 → 00:11:45 โรคออโตอิมมูนซึ่งมันมีแอนติบอดี้ตัวนึง
00:11:45 → 00:11:48 เนี่ยที่ไปทำลายไทรรอยด์คือแอนติบอดี้ต่อ
00:11:48 → 00:11:50 เอ่อไทรอยดแอกซิสนะครับแล้วก็แอนติบอดี้
00:11:50 → 00:11:53 ต่อตัวที่เรียกว่าไทโร globulin นะครับ
00:11:53 → 00:11:56 ถ้ามันมีปัญหาตัวนี้เนี่ยในอนาคตท่านอาจ
00:11:56 → 00:11:58 จะกลายไปเป็นไทรรอยด์ต่ำจริงๆดังนั้นใน
00:11:58 → 00:12:00 กลุ่มพวกนี้นี่ก็อาจจะต้องตรวจติดตาม
00:12:00 → 00:12:05 อาการต่อเนื่องนะครับอ่าแล้วไทรรอยด์ต่ำ
00:12:05 → 00:12:08 แฝงเมื่อไหร่จะต้องรักษาไทรอยดต่ำแฝงนี้
00:12:08 → 00:12:10 เราเรียกว่า subclinical hyp thyroid
00:12:11 → 00:12:14 นะครับเราจะรักษาก็ต่อเมื่อข้อแรกธาต tsh
00:12:14 → 00:12:17 ของท่านเกิน 10 รักษานะครับแล้วต้องให้
00:12:17 → 00:12:20 ฮอร์โมนไทรรอยด์ทดแทนนะครับอีกประการหนึ
00:12:20 → 00:12:22 คือถ้าท่านเป็นผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์แล้ว
00:12:22 → 00:12:25 มีปัญหาทางด้านการมีบุตรยากนะครับอาจจะมี
00:12:25 → 00:12:27 การให้ยาฮอร์โมนไทรรอยด์ต่ำนะครับโดยที่
00:12:27 → 00:12:29 เราต้องตั้งเป้าหมายเพื่อให้ฮอร์โมน
00:12:29 → 00:12:33 ไทรรอยด์ของเราเนี่ยเข้าสู่ระดับในในช่วง
00:12:33 → 00:12:36 อ่าเรียกว่า First trimester หรือไตรมาส
00:12:36 → 00:12:38 แรกของการตั้งคันนะครับเราจะเราจะตั้ง
00:12:38 → 00:12:41 เป้าให้มันเหมือนกับในกรณีที่ตั้งรภนะ
00:12:41 → 00:12:43 ครับถึงจะมีประโยชน์นะแต่ถ้านอกเหนือจาก
00:12:44 → 00:12:46 กรณีเนี้ยส่วนใหญ่ยังมียังเป็นที่ถกเถียง
00:12:46 → 00:12:48 ว่าควรจะให้ฮอร์โมนไทรอยด์หรือไม่นะครับ
00:12:48 → 00:12:50 อันนั้นก็ต้องแล้วแต่ว่าท่านคุยกับคุณหมอ
00:12:50 → 00:12:53 ว่ายังไงนะครับทีนี้เวลาที่เราจะให้
00:12:53 → 00:12:56 ฮอร์โมนไทรรอยด์เราให้ยังไงบ้างแล้วกิน
00:12:56 → 00:13:00 ยังไงนะครับแล้วมันมีปัญหามอ่ะเรามาฟัง
00:13:00 → 00:13:03 กันนะครับฮอร์โมนไทรรอยด์นะครับ
00:13:03 → 00:13:07 เอ่อแน่ๆเลยถ้าเราตัดปอมไทรรอยด์ออกไป
00:13:07 → 00:13:09 หรือเราไม่มีต่อมไทรอยด์เลยก็ต้องกินนะ
00:13:09 → 00:13:10 ครับไม่กินไม่ได้นะครับฮอร์โมนไทรอยด์เ
00:13:11 → 00:13:12 มันขาดแล้วไม่ไม่ได้นะครับมันเสียชีวิต
00:13:12 → 00:13:15 ได้นะครับแล้วเวลาที่เรากินเนี่ยนะครับ
00:13:15 → 00:13:17 มันก็จะมีฮอร์โมนไทรอยด์อยู่ทั้งหมด 2
00:13:17 → 00:13:21 ชนิดคือ T3 กับ t4 นะครับเอ่ออ้าย้อนไป
00:13:21 → 00:13:24 นิดนึงทำไมเราถึงเรียก T3 t4 นะครับตัว 3
00:13:24 → 00:13:26 กับ 4 เนี่ยเป็นจำนวนของไอโอดีนที่อยู่ใน
00:13:26 → 00:13:29 โมเลกุลนะครับ t4 เนี่ยนะนะครับก็คือมี 4
00:13:29 → 00:13:32 โมเลกุลอยู่ในนั้นนะครับ T3 มี 3 โมเลกุล
00:13:32 → 00:13:35 นะครับคือไอ้ตัว t4 ในทางการแพทย์เราเย
00:13:35 → 00:13:37 เราเรียกว่าไทรอกซินนะครับไทรอกซินจะมี
00:13:37 → 00:13:40 ไอโอดิน 4 ตัวนะครับแล้วมันจะเจอเอนไซม
00:13:40 → 00:13:42 ตัวนึงซึ่งเปลี่ยนแปลงให้ตัวมันเนี่ยกลาย
00:13:42 → 00:13:46 ไปเป็น T3 ก็คือเอนไซมชื่อว่าไ Prime โอส
00:13:46 → 00:13:50 นะครับโอนเสก็คือ D เอาเอาออกไปไอโอดีน
00:13:50 → 00:13:53 เอาไอโอดีนออกไปนะครับเนสก็เป็นคำต่อท้าย
00:13:53 → 00:13:57 ของเอนไซมนะครับก็จะเป็นการไปตัดเอาไออิน
00:13:57 → 00:13:59 ออกไปตัวนึงนะครับทำให้มันเหลือดิน 3 ตัว
00:13:59 → 00:14:03 อันนี้ก็จะเรียกว่า T3 หรือไตรไอโอดินนะ
00:14:03 → 00:14:07 ครับนะพวกนี้ก็เอ่อเป็นเป็นชื่อของมัน
00:14:07 → 00:14:09 แล้วกันเราไม่ต้องเรียกอะไรมันเรียก t4
00:14:09 → 00:14:12 T3 ง่ายๆดีนะครับแล้วเวลาที่เราให้
00:14:12 → 00:14:15 ฮอร์โมนเสริมนะครับเราก็มักจะให้เฉพาะตัว
00:14:15 → 00:14:17 t4 หรือที่เราเรียกเป็นฮอร์โมน
00:14:17 → 00:14:20 สังเคราะห์ว่าีวไทรอกซินนะครับประเทศไทย
00:14:20 → 00:14:23 อาจจะชื่อยี่ห้อเอทอกนะครับถ้าอเมริกาจะ
00:14:23 → 00:14:26 ยี่ห้อรอยแต่ก็อาจจะมียี่ห้ออื่นด้วยเช่น
00:14:26 → 00:14:28 กันนะครับก็แล้วแต่ว่าท่านกินตัวไหนอยู่
00:14:28 → 00:14:30 นะครับส่วนใหญ่เวลาที่หมอรักษาจะให้เฉพาะ
00:14:31 → 00:14:33 t4 จะไม่ให้ T3 นะครับ T3 เป็นข้อถก
00:14:33 → 00:14:35 เถียงแล้วก็อาจจะให้ในกรณีซึ่งเดี๋ยวผมจะ
00:14:35 → 00:14:38 พูดต่อไปว่ากรณีไหนบ้างซึ่งมีคนใช้กัน
00:14:38 → 00:14:41 อยู่นะครับอ่ะแต่ T 4 ก่อนนะครับเวลาที่
00:14:41 → 00:14:45 เราให้นะฮะคนทั่วๆไปเราจะให้อยู่ที่ขนาด
00:14:45 → 00:14:48 อันนี้สำหรับหมอนะครับ 1.6 ไมโครกรัมต่อ
00:14:48 → 00:14:51 กิโลกรัมต่อวันนะครับโดยยึดเอา Lean body
00:14:52 → 00:14:54 weight เสมอนะครับถ้าคนอ้วนมากๆนะครับ
00:14:54 → 00:14:56 น้ำหนักตัวเยอะๆเนี่ยความต้องการของ
00:14:56 → 00:14:59 ไทรรอยด์มันจะต่ำลงนะครับอ่าจะต่ำลงเราก็
00:14:59 → 00:15:02 มักจะให้แต่ถ้าเราคิดอะไรไม่ออกก็เอาเ
00:15:02 → 00:15:05 กลางๆแล้วกัน 1.6 นะครับคูณด้วย adjust
00:15:05 → 00:15:07 body weight ถ้าเราอ้วนมากๆนะครับอ่า
00:15:07 → 00:15:09 นี่สำหรับหมอนะครับคนทั่วไปถ้าไม่ไม่เข้า
00:15:09 → 00:15:11 ใจคำพวกนี้ไม่เป็นไรนะครับให้ต่อวันแล้ว
00:15:11 → 00:15:15 ก็ตรวจฮอร์โมนไทรรอยด์โดยเฉพาะ tsh ที่
00:15:15 → 00:15:17 4-6 สัปดาห์อย่าไปตรวจไวกว่านั้นนะครับ
00:15:17 → 00:15:20 เพราะว่ามันยังไม่ปกตินะฮะใช้เวลานาน
00:15:20 → 00:15:24 หน่อยนะครับนี่สำหรับคนที่ทั่วทๆไปแต่จะ
00:15:24 → 00:15:27 มีกลุ่มพิเศษบางกลุ่มนะครับที่ทำแบบนี้
00:15:27 → 00:15:29 ไม่ได้นะครับคนแรกก็คือคนที่อายุเยอะเกิน
00:15:29 → 00:15:33 65 ปีนะครับมีโรคหัวใจนะครับโดยเฉพาะหัว
00:15:33 → 00:15:36 ใจขาดเลือดหรือหัวใจเต้นผิดปกติอย่าให้
00:15:36 → 00:15:40 โดสนี้นะครับให้แค่ 25-50 ไมโครกรัมต่อ
00:15:40 → 00:15:43 วันพอนะครับไม่ต้องคำนวณตามน้ำหนักนะครับ
00:15:43 → 00:15:45 25-50 ไมโครกรัมต่อวันแล้วก็ไปตรวจที่
00:15:45 → 00:15:48 เดือนนึงแล้วที่เดือนนึงถึงค่อยเพิ่มขนาด
00:15:48 → 00:15:50 นะครับอย่าไปให้เร็วกว่านั้นนะครับเพราะ
00:15:50 → 00:15:52 ให้เร็วกว่านั้นคนไข้กลุ่มนี้อาจจะเกิด
00:15:52 → 00:15:55 กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้หรืออาจจะเกิด
00:15:55 → 00:15:57 การเต้นหัวใจผิดปกติที่เรียกว่า atrial
00:15:57 → 00:15:59 fibrillation ได้นะครับเราไม่ควรทำนะ
00:15:59 → 00:16:02 ครับในคนอายุเยอะๆเกิน 65 มีโรคหัวใจอยู่
00:16:02 → 00:16:05 ก่อนให้ช้าๆนะครับถ้าคนอายุไม่เยอะแต่มี
00:16:05 → 00:16:08 โรคหัวใจก็ให้ช้าเหมือนกันนะครับแล้วทุกๆ
00:16:08 → 00:16:09 อย่างปรับที่ประมาณสักเดือนนึงถึงเดือน
00:16:10 → 00:16:12 ครึ่งนะจะไปปรับเร็วกว่านั้นนะครับถ้าเรา
00:16:12 → 00:16:15 ให้ยาได้ถูกต้องคนไข้ที่มีอาการทั้งหมด
00:16:15 → 00:16:17 เนี่ยมักจะเริ่มอาการดีขึ้นที่ประมาณ 2
00:16:17 → 00:16:20 อาทิตย์นะครับอ่าแต่ว่าอาจจะต้องใช้เวลา
00:16:20 → 00:16:23 เป็นเดือนเลยกว่ามันจะปกตินะครับแล้วในคน
00:16:23 → 00:16:25 ที่อายุเยอะๆที่เราเริ่มโดสต่ำๆเนี่ย
00:16:25 → 00:16:26 อาการอาจจะยังไม่หายไปไหนเพราะว่าเรา
00:16:26 → 00:16:28 เริ่มโดสต่ำเพราะที่เราต้องการให้มันไม่
00:16:28 → 00:16:30 มีปัญหาทางด้านหัวใจเพราะว่าถ้าเรากิน
00:16:30 → 00:16:32 เยอะเกินไปแล้วล่ะก็หัวใจมีปัญหาได้นะ
00:16:32 → 00:16:34 ครับฮอร์โมนไทรรอยด์นี้ก็มีคนเอาไปใช้ผิด
00:16:34 → 00:16:36 กันอย่างหนึ่งคือเอาไปใช้ลดน้ำหนักนะครับ
00:16:36 → 00:16:41 ไม่ดีนะครับถ้าใช้แล้วเนี่ยเกินไปแล้ว
00:16:41 → 00:16:43 ร่างกายท่านไม่ได้ขาดแล้วได้เกินไปเนี่ย
00:16:43 → 00:16:45 สิ่งที่เกิดขึ้นคือหัวใจท่านเตปิดปกติได้
00:16:45 → 00:16:48 นะครับหัวใจขาดเลือดได้มีอาการไบโพล่า
00:16:48 → 00:16:50 ขึ้นมาได้เกิดการเพี้ยนเกิดการวิตกกังวล
00:16:50 → 00:16:52 เกิดการหลอนขึ้นมาได้นะครับเป็นโรคทางจิต
00:16:52 → 00:16:55 ตเวทขึ้นมาได้นะครับถ้าท่านกินเกินไปนะ
00:16:55 → 00:16:57 ตัวท่านก็จะสั่นมือก็สั่นตัวก็ร้อนๆนะ
00:16:57 → 00:17:02 ครับก็อย่าทำนะครับแล้วก็อีกกลุ่มนึงซึ่ง
00:17:02 → 00:17:04 พิเศษหน่อยก็คือกลุ่มที่เป็นหญิงตั้ง
00:17:04 → 00:17:07 ครรภ์นะครับเพราะว่าความต้องการในฮอร์โมน
00:17:07 → 00:17:10 เนี่ยจะมากกว่าคนทั่วๆไปนะครับความ
00:17:10 → 00:17:12 ต้องการของฮอร์โมนในหญิงตั้งครรภ์เนี่ยก็
00:17:12 → 00:17:14 จะค่อยๆเพิ่มขึ้นตั้งแต่ประมาณสักสัปดาห์
00:17:14 → 00:17:17 ที่ 5 นะครับแล้วก็พอไปสักประมาณเอ่อ
00:17:17 → 00:17:19 16-20 สัปดาห์เนี่ยความต้องการมันจะคง
00:17:19 → 00:17:21 ที่ะมันจะไม่เพิ่มไปกว่านั้นะนะครับดัง
00:17:21 → 00:17:24 นั้นในตอนแรกเนี่ยเราจะต้องดูเลยว่าเอ้ย
00:17:24 → 00:17:27 ในไตรมาสแรกเนี่ยความตการของฮอร์โมนต่างๆ
00:17:27 → 00:17:30 เนี่ยจะไม่เหมือนกับพวกอื่นนะครับเราต้อง
00:17:30 → 00:17:32 มีการปรับเร็วหน่อยนะครับอาจจะต้องนัดมา
00:17:32 → 00:17:34 ปรับยาอะไรพวกเนี้ยเร็วขึ้นหน่อยนะครับ
00:17:34 → 00:17:37 ซึ่งตรงเนี้ยก็แนะนำว่าให้หมอทางด้านเอ่อ
00:17:37 → 00:17:39 ต่อมไร้ท่อเป็นคนดูจะเหมาะสมมากกว่านะ
00:17:39 → 00:17:42 ครับยกเว้นว่าถ้าท่านอยู่ที่โรงพยาบาลเ่อ
00:17:42 → 00:17:44 ที่ไม่มีหมอต่อมไร้ท่ออันเนี้ยก็เป็นข้อ
00:17:44 → 00:17:47 ที่ควรระวังท่านอาจจะต้องปรับยาเร็วหน่อย
00:17:47 → 00:17:50 นะครับแล้วถ้าท่านที่มีคนที่เป็น
00:17:50 → 00:17:53 ไฮโปไทรอยด์แล้วไปตั้งคันทีหลังจะต้องดู
00:17:53 → 00:17:55 ให้ดีนะครับเพราะว่าจะต้องปรับฮอร์โมนที่
00:17:55 → 00:17:58 กินอยู่ให้สูงขึ้นมิฉะนั้นเด็กยังมีปัญหา
00:17:58 → 00:17:59 นะครับ
00:17:59 → 00:18:03 อ่าแล้วเวลาเรากินเนี่ยยาฮอร์โมนไทรรอยด์
00:18:03 → 00:18:05 จะต้องกินตอนท้องว่างนะครับต้องท้องว่าง
00:18:06 → 00:18:07 นะครับส่วนใหญ่แล้วกินเข้าไปแล้วอย่าไป
00:18:08 → 00:18:10 กินอะไรเลยอย่างน้อยก็ชั่วโมงนึงถ้าทำไม่
00:18:10 → 00:18:13 ได้ให้ไปกินเอาก่อนนอนแทนกินตอนไหนก็ได้
00:18:13 → 00:18:15 นะครับไม่จำเป็นต้องตอนเช้าหรือตอนเย็น
00:18:15 → 00:18:17 หรือตอนเที่ยนตอนไหนก็ได้ที่ไม่มีอาหารใน
00:18:17 → 00:18:18 กระเพาะนะครับ
00:18:18 → 00:18:23 อ่าถ้าเป็นกลางคืนให้แนะนำว่าเว้นจาก
00:18:23 → 00:18:27 อาหารเย็นไปอย่างน้อยๆเลย 2 ช่วโมงนะครับ
00:18:27 → 00:18:30 แล้วค่อยกินยานะครับถ้าเรากินก่อนนอนนะ
00:18:30 → 00:18:32 ครับถ้ากินตอนเช้ากินเข้าไปแล้วก็รอไปอีก
00:18:32 → 00:18:35 ชั่วโมงนึงเลยก่อนที่ท่านจะกินอาหารเช้า
00:18:35 → 00:18:38 นะครับอ่าอย่าไปกินตอนที่ท้องท่านมีของ
00:18:38 → 00:18:40 อยู่ข้างในนะครับแล้วก็อย่ากินร่วมกับ
00:18:40 → 00:18:42 ธาตุเหล็กพวกแคลเซียมพวกนี้เพราะมันจะไป
00:18:42 → 00:18:44 จับทำให้ยามันไม่หดูดสูดซึมนะครับก็มี
00:18:44 → 00:18:47 ปัญหาได้นะครับอ่าคนที่พวกกินวิตามินบี
00:18:47 → 00:18:49 รวมกินวิตามินรวมทั้งหลายแหละซึ่งมันอาจ
00:18:49 → 00:18:51 จะมีเหล็กอยู่ในนั้นมีแคลเซียมอยู่ในนั้น
00:18:51 → 00:18:53 เนี่ยห้ามกินกับยาไทรอยด์ไม่งั้นมันไม่
00:18:53 → 00:18:56 ได้ผลนะครับท่านอาจจะต้องบอกเอ้ยทำไมกิน
00:18:56 → 00:18:58 ไปแล้วมันไม่ได้ผลนะต้องไปให้หมอเพิ่มยา
00:18:58 → 00:19:01 ทุกทีนั่นแหละครับนั่นปัญหาของท่านนะครับ
00:19:01 → 00:19:03 เอ่อสำหรับแพทย์นะครับถ้าคนไหนที่มี
00:19:03 → 00:19:05 atrophic gastritis เนี่ยเราจะรู้ได้
00:19:05 → 00:19:08 ยังไงคือคนไข้ที่มีวิตามิน B12 ที่หายไป
00:19:08 → 00:19:10 นะครับแล้วก็คนไข้พวกเนี้ยดูซึมไม่ค่อย
00:19:10 → 00:19:12 ได้นะครับแล้วไอ้ยาไทรรอยด์เนี่ยมันมี
00:19:12 → 00:19:14 หลายฟอร์มนะครับหลายแบบก็คือแบบเป็นเม็ด
00:19:14 → 00:19:17 แท็บเล็ตนะครับเม็ดแป้งอีกแบบนึงมันเป็น
00:19:17 → 00:19:20 เม็ดแคปซูลนะครับแล้วก็ไอ้แบบสุดท้ายก็
00:19:20 → 00:19:23 คือเป็นแบบน้ำนะครับถ้าคนไข้กินแบบเม็ด
00:19:23 → 00:19:25 แป้งซึ่งเป็นทั่วๆไปเราจะสั่งแบบเม็ดแป้ง
00:19:25 → 00:19:28 เนี่ยนะครับกินเข้าไปแล้วมีแก๊สไส่ติด
00:19:28 → 00:19:29 เนี่ยมันอาจจะไม่ค่อยดูอยู่สึมันอาจจะ
00:19:29 → 00:19:30 ต้องเพิ่มขนาดนิดนึงนะครับถ้าไม่อยาก
00:19:30 → 00:19:32 เพิ่มขนาดก็เปลี่ยนเป็นแบแบบแคปซูลแต่แบบ
00:19:32 → 00:19:35 แคปซูลมันแพงกว่านะครับส่วนใหญ่ผมบางโรง
00:19:35 → 00:19:36 พยาบาลก็ไม่มีด้วยนะครับดังนั้นก็ต้อง
00:19:37 → 00:19:40 ระวังตรงนี้นะครับถ้าคนที่แพ้แพ้ฮอร์โมน
00:19:40 → 00:19:43 ไทรรอยด์มีมั้ยมีนะฮะแพ้ได้ยังไงนะครับ
00:19:43 → 00:19:46 คือไอ้ตัวแท็บเล็ตเนี่ยมันจะมีสีอยู่ข้าง
00:19:46 → 00:19:48 ในนะครับบางคนแพ้สีนะครับก็ต้องเปลี่ยนไป
00:19:48 → 00:19:51 เป็นแบบแคปซูลนะครับแต่แคปซูลก็ต้องระวัง
00:19:51 → 00:19:53 อีกเหมือนกันบางคนแพ้เจลาตินไอ้แคปซูลมัน
00:19:53 → 00:19:55 เป็นเจลาตินก็กินไม่ได้นะก็ต้องไปกินแบบ
00:19:55 → 00:19:58 น้ำนะอันนี้เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆนะ
00:19:58 → 00:20:00 ครับที่ว่าถ้ารู้ไว้มันก็ช่วยเราได้หลายๆ
00:20:00 → 00:20:03 อย่างนะครับอ่านี่คือวิธีการรักษาแล้วก็
00:20:03 → 00:20:06 วิธีในการติดตามทีนี้เอาล่ะถ้าท่านเป็น
00:20:06 → 00:20:08 แล้วไปตรวจเป็นแล้วถ้าไม่กินไม่กิน
00:20:08 → 00:20:11 ฮอร์โมนไทรรอยด์จะเกิดอะไรขึ้นนี่แหละ
00:20:11 → 00:20:15 ครับปัญหามันจะมีภาวะนึงซึ่งเรียกว่า mixa
00:20:15 → 00:20:18 Coma นะครับ ama Coma ออสำหรับหมอที่
00:20:18 → 00:20:20 เข้ามาฟังผมจะบอกวิธีในการรักษาแล้วก็จะ
00:20:20 → 00:20:22 เพิ่มโรคเข้าไปอีกโรคนึงก็คือโรคที่เรียก
00:20:22 → 00:20:26 ว่าชิต encephalopathy นะครับตอนท้ายแล้ว
00:20:26 → 00:20:28 ท่านที่อยากฟังโรกนี้ว่ามันเป็นยังไงก็ก็
00:20:28 → 00:20:33 เลื่อนไปฟังตอนท้ายนะครับอ่ะโรคิม Cha
00:20:34 → 00:20:36 คืออะไรนะครับคือคนที่มีฮอร์โมนไทรรอยด์
00:20:36 → 00:20:39 ต่ำมากๆกนะครับจนกระทั่งโคม่าก็คือไม่ได้
00:20:39 → 00:20:41 สติไปเลยนะครับในคนเหล่านี้นะครับจะไม่
00:20:41 → 00:20:44 ได้สตินะครับมีปัญหาเรื่องเกลือรดต่ำด้วย
00:20:44 → 00:20:46 นะครับคนทั่วๆไปที่เป็นไทรรอยด์ต่ำก็จะมี
00:20:46 → 00:20:48 เกลือแรดต่ำโดยเฉพาะเกลือแรดที่เป็น
00:20:48 → 00:20:50 โซเดียมโซเดียมจะต่ำได้แต่ว่าในคนที่เป็น
00:20:50 → 00:20:55 mi โมพวกเจะต่ำนะครับคือซึมไม่รู้สึกตัว
00:20:55 → 00:20:57 นะครับหัวใจเต้นช้ามากนะครับซึ่งจะแตก
00:20:57 → 00:21:00 ต่างจากกกรณีอื่นๆซึ่งหัวใจจะเต้นเร็วนะ
00:21:00 → 00:21:02 ครับที่เวลาช็อกมาก็จะหัวใจเต้นเร็วแต่
00:21:02 → 00:21:05 พวกนี้หัวใจเต้นช้าตัวเย็นนะครับอ่าไม่
00:21:05 → 00:21:09 รู้สึกตัวหรือสับสนเพ้อนะครับตัวเย็นหัว
00:21:09 → 00:21:12 ใจเต้นช้านี่คือเราต้องสงสัย ama โละมี
00:21:12 → 00:21:15 เหตุผลอื่นๆมยที่ทำให้เป็นแบบนี้ในทางการ
00:21:15 → 00:21:17 แพทย์มีครับถ้าอายุเยอะๆเช่น sepsis การ
00:21:17 → 00:21:19 ติดเชื้อในกระแสเลือดก็ทำให้เป็นแบบนี้
00:21:19 → 00:21:23 ได้นะครับหรือบางคนมีปัญหาที่เอ่อเกิด
00:21:23 → 00:21:26 เกิดในแง่ของการกินยาบางอย่างเกินขนาด
00:21:26 → 00:21:28 เช่นยากลุ่มเบต้าบอกเกอร์ยากลุมกลุ่ม
00:21:28 → 00:21:30 แคลเซียม chal blocker นะครับถ้ากินพวก
00:21:31 → 00:21:33 เนี้ยเกินขนาดหรือกินเพื่อฆ่าตัวตายก็จะ
00:21:33 → 00:21:35 เป็นแบบนี้ได้ก็ต้องไปแก้ไขอีกแบบนึงซึ่ง
00:21:35 → 00:21:37 ผมจะไม่ได้เล่าในตรงนี้นะครับวิธีในการ
00:21:37 → 00:21:41 รักษา meem Cha จะต้องทำโดยเร่งด่วนมากๆ
00:21:41 → 00:21:43 และนี่เป็นภาวะฉุกเฉินถ้าไม่ถ้าไม่รักษา
00:21:43 → 00:21:46 ให้ทันตายนะครับโอกาสตายเนี่ยสูงนะฮะอยู่
00:21:46 → 00:21:49 ที่ประมาณ 30 -50% นะครับแม้กระทั่ง
00:21:49 → 00:21:51 รักษาแล้วบางทีมีโรคร่วมอื่นๆก็ทำให้เขา
00:21:51 → 00:21:53 เสียชีวิตได้นะครับดังนั้นจะต้องระวังนะ
00:21:53 → 00:21:56 ครับวิธีในการรักษาเราจะให้ฮอร์โมน
00:21:56 → 00:22:00 ไทรรอยด์ทางเส้นเลือดนะครับคือให้เลโบ
00:22:00 → 00:22:02 ไทรอกซินทางเส้นเลือดเลยนะฮะโดยให้
00:22:02 → 00:22:05 200-400 ไมโครกรัมในวันแรกแล้วหลังจาก
00:22:05 → 00:22:07 นั้นเนี่ยก็อาจจะลดเหลือประมาณสัก 100
00:22:07 → 00:22:10 50-100 ไมโครกรัมต่อวันนะครับหลังจาก
00:22:10 → 00:22:12 นั้นเป็นต้นไปนะครับจนกระทั่งคนไข้สามารถ
00:22:12 → 00:22:15 กินได้ทางปากเราก็จะให้ทางปากนะครับแต่
00:22:15 → 00:22:17 ตอนแรกจะต้องให้ทางเส้นเลือดก่อนนะครับ
00:22:17 → 00:22:19 วิธีในการเลือกโดนเมื่อกี้ผมบอกว่าเอ้ย
00:22:19 → 00:22:21 200 -400 แล้วให้ให้ 200 หรือ 400 หรือ
00:22:21 → 00:22:24 ให้ 300 ดีให้ดูความเสี่ยงเมื่อตะกี้ถ้า
00:22:24 → 00:22:27 คนอายุเยอะนะครับมีโรคประจำตัวเป็นโรคหัว
00:22:27 → 00:22:29 ใจโรคหัวใจเต้นผิดปกติปติให้รถต่ำไว้ก่อน
00:22:29 → 00:22:32 ให้ 100 นนะฮะแต่ถ้าอายุน้อยให้เยอะๆไว้
00:22:32 → 00:22:36 ก่อนนะครับอ่างั้นเป็นต้นและในกรณีนี้จะ
00:22:36 → 00:22:39 ต้องให้สเตียรอยด์เสริมเสมอเพราะว่าคน
00:22:40 → 00:22:42 เหล่านี้มีจำนวนไม่น้อยเลยนะครับที่มี
00:22:42 → 00:22:45 ภาวะต่อมหมวกไตทำงานไม่ได้แล้วมันจะขาด
00:22:45 → 00:22:47 ฮอร์โมนสตีลอยตัวนึงชื่อว่าคอร์ติซอลแล้ว
00:22:47 → 00:22:50 ก็ตัวอื่นๆด้วยนะครับพอมันขาดไปแล้วเนี่ย
00:22:50 → 00:22:53 นะครับก็จะเกิดภาวะช็อขึ้นมาได้เราก็จะ
00:22:53 → 00:22:55 ต้องให้ยาสเตียรอยด์เข้าไปเสริมในที่นี้
00:22:55 → 00:22:58 ก็อาจจะเป็นไฮโดรคอร์ติโซน
00:22:58 → 00:23:01 ก็ได้นะครับหรือถ้าบางคนอยากทำเทสก่อนก็
00:23:01 → 00:23:03 ได้นะครับแต่ว่าแนะนำว่าให้สีลอยไปเลยก็
00:23:03 → 00:23:05 ยกตัวอย่างเช่นให้ dexa met Zone จะได้
00:23:05 → 00:23:09 ไม่ไปเอิ่มมีปัญหากับการทำเทสนะครับอาจจะ
00:23:09 → 00:23:11 เจาะคอร์ติซอลตอนนั้นอะไรอย่างนี้ก็ได้นะ
00:23:11 → 00:23:15 ครับก็สามารถตรวจได้นะฮะสารน้ำถ้าคนไข้มี
00:23:15 → 00:23:17 ความดันต่ำจะต้องให้สารน้ำแต่สำหรับแพทย์
00:23:17 → 00:23:20 จะต้องให้สารน้ำที่อย่างน้อยความเข้มข้น
00:23:20 → 00:23:22 เท่ากับ Normal saline หรือเหนือกว่า
00:23:22 → 00:23:24 เท่านั้นนะครับอย่าไปให้อะไรก็แล้วแต่ที่
00:23:24 → 00:23:27 มันมีคำว่า have เช่น d5 hal d5 Water
00:23:27 → 00:23:30 อย่าให้เด็ดขาดเพราะว่าจะยิ่งทำให้เกลือ
00:23:30 → 00:23:32 ร่โซเดียมต่ำไปแล้วก็เกิดการชักขึ้นมาได้
00:23:33 → 00:23:36 นะครับห้ามให้เด็ดขาดนะครับนี่เป็นสิ่ง
00:23:36 → 00:23:38 ที่ต้องระวังมากๆนะครับในทางการแพทย์คน
00:23:38 → 00:23:41 ไข้พวกนี้ตัวเย็นนะครับให้ทำ Passive
00:23:41 → 00:23:44 warming อย่าทำ Active warming นะครับ
00:23:44 → 00:23:46 Passive warming คือทำอะไรเอาผ้าห่มผม
00:23:46 → 00:23:49 อย่างเดียวครับ Active warming อย่าทำนะ
00:23:49 → 00:23:51 ครับคืออะไรเอาผ้าห่มที่มันร้อนหรือให้
00:23:51 → 00:23:53 น้ำเกลือที่มันร้อนๆเข้าไปนะครับเพราะว่า
00:23:53 → 00:23:55 ถ้าท่านทำอย่างนั้นเนี่ยเส้นเลือดมันจะ
00:23:55 → 00:23:57 ขยายความดันจะตกแล้วมีปัญหาได้นะครับอย่า
00:23:57 → 00:24:00 ทำเด็ดขาดนะครับเอ่อถ้ามีภาวะเลือดออกแน่
00:24:00 → 00:24:02 นอนก็จะต้องไปแก้ไขภาวะเลือดออกอาจจะต้อง
00:24:02 → 00:24:06 ให้เอ่อกลุ่มพวก C prip เสริมเพราะว่า
00:24:06 → 00:24:08 อย่างที่เมื่อกี้ผมบอกว่ามันทำให้เกิดพวก
00:24:08 → 00:24:10 acquire vol rand นะครับก็จะต้องให้
00:24:11 → 00:24:12 พวกกลุ่มพวกนั้นหรือ ffp หรืออะไรก็แล้ว
00:24:13 → 00:24:15 แต่ที่ท่านมีอยู่ในมือนะครับให้ให้ตัวไหน
00:24:15 → 00:24:17 ก็ได้ให้ไปได้แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อย
00:24:17 → 00:24:19 มีเลือดออกเท่าไหร่ในกรณีของคนเหล่านี้นะ
00:24:19 → 00:24:23 ครับอ่าทีนี้เมื่อกี้ผมบอกไปแล้วว่ามีบาง
00:24:23 → 00:24:27 คนที่จะให้ T3 ก็ตอนนี้แครับคือ T3 เนี่ย
00:24:27 → 00:24:30 จะมีหมอบางรบานที่มันหมอต่อมไทอนะครับเ
00:24:30 → 00:24:32 ต้องการจะให้ T3 นะครับทำไมต้องให้ T3 ใน
00:24:32 → 00:24:35 กรณีนี้เพราะว่าในคนทั่วๆไปนะครับจะมี
00:24:35 → 00:24:38 ทั้ง t4 T3 อยู่ในร่างกายแต่ T3 เนี่ยจะ
00:24:38 → 00:24:40 ออกฤทธิ์เป็นหลักเลยนะครับออกฤทธิ์เป็น
00:24:40 → 00:24:43 หลัก t4 มันจะไม่ได้ออกฤทธิ์ขนาด T3
00:24:43 → 00:24:45 เพราะงั้นร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลง t4
00:24:45 → 00:24:48 ให้กลายไปเป็น T3 นะครับแล้วก็สำหรับหมอ
00:24:48 → 00:24:51 ที่เอ่อต้องการให้ T3 เข้าไปก็คิดว่าเออ
00:24:51 → 00:24:53 ในกรณีแบบนี้เนี่ยบางครั้งร่างกายอาจจะทำ
00:24:53 → 00:24:55 หน้าที่ได้ไม่ค่อยดีเราก็จะต้องให้ T3
00:24:55 → 00:24:59 เข้าไปเสริมให้ได้มั้ยได้ครับก็ในวิธีให้
00:24:59 → 00:25:02 ให้ยังไงก็ครั้งแรกนะครับให้ที่ประมาณสัก
00:25:02 → 00:25:05 5-20 ไมโครกรัมนะครับอย่างเงี้ยทุก 8
00:25:05 → 00:25:08 ชมงนะครับหรือให้เป็นโดสแรกแล้วก็โดสถัด
00:25:09 → 00:25:11 ไปก็อาจจะลดลงนะครับเช่นเหลือ 2.5 -10
00:25:11 → 00:25:14 ไมโครกรัมนะครับอ่าแล้วก็ทำอย่างเงี้ยทุก
00:25:14 → 00:25:16 8 ชมนะครับโดสแรกอาจจะสูงหน่อยแล้วโดส
00:25:16 → 00:25:18 ถัดถัดไปก็ลดขนาดลงตามแบบนี้นะครับแต่ว่า
00:25:18 → 00:25:22 ผมแนะนำว่าถ้าท่านไม่แน่ใจตามหมอเอ่อต่อม
00:25:22 → 00:25:24 ไรยท่อมารักษาดีกว่านะครับแต่ถ้าโรง
00:25:24 → 00:25:26 พยาบาลที่โรงพยาบาลต่างจังหวัดแล้วไม่มี
00:25:26 → 00:25:29 ต่อหมอต่อมไรยท่อเอ่อก็อาจจะต้องทำด้วย
00:25:29 → 00:25:32 ตัวเองนะครับแล้วก็ถ้าท่านไม่มี T3 ไม่
00:25:32 → 00:25:34 เป็นไรครับไม่ต้องกังวลใดทั้งสิ้น t4
00:25:34 → 00:25:37 อย่างเดียวได้ผลนะครับให้แบบฉีดเข้าไปนะ
00:25:37 → 00:25:39 ครับถ้าโรงพยาบาลไหนแย่หน่อยไม่มีไม่มี
00:25:39 → 00:25:43 แบบฉีดก็จะต้องใส่ ng นะครับคือท่อ n
00:25:43 → 00:25:46 gastric Tube ก็คือท่อเข้าจมูกไปที่
00:25:46 → 00:25:49 ท้องแล้วก็ให้ไอ้ตัวไทรรอยด์ฮอร์โมนแบบ
00:25:49 → 00:25:51 เม็ดนะครับก็ต้องหวังว่าคนไข้จะดูดซึมนะ
00:25:51 → 00:25:54 ครับอาจจะต้องให้ขนาดสูงหน่อยนะครับเพราะ
00:25:54 → 00:25:56 ว่าโดยปกติถ้าเราให้ทั้งเส้นเลือดเนี่ย
00:25:56 → 00:25:58 มันให้ขนาดต่ำได้แต่ต่ำในที่เก็คือ 100
00:25:58 → 00:26:01 ถึงให้ให้แบบ 200 ไมโครกรัมถึง 400
00:26:01 → 00:26:03 ไมโครกรัมอถ้าถ้าให้เข้าไปทางกระเพาะ
00:26:03 → 00:26:06 เนี่ยก็โน่นเลยครับอาจจะต้องให้ 400
00:26:06 → 00:26:08 ไมโครกรัมหรืออะไรแบบเนี้ยเป็นต้นนะครับ
00:26:08 → 00:26:11 แต่ว่าตรงนี้เอ่อถ้าให้แบบเข้าเข้าเส้น
00:26:11 → 00:26:14 เลือดได้จะดีที่สุดนะครับแล้วกรณีแบบนี้
00:26:14 → 00:26:16 จะต้องตรวจติดตามฮอร์โมนทุกๆประมาณสัก 2
00:26:16 → 00:26:19 วันนะครับอ่าทุกๆ 2 วันนะครับเพื่อจะดู
00:26:19 → 00:26:21 ว่าฮอร์โมนมันขึ้นมาตามที่เราต้องการหรือ
00:26:21 → 00:26:22 เปล่านะฮะถ้ามันไม่ขึ้นเราอาจจะต้องมีการ
00:26:22 → 00:26:25 ปรับฮอร์โมนอะไรอย่างนี้เป็นต้นนะครับอ่า
00:26:25 → 00:26:28 ก็ต้องระวังในภาวะพวกนี้ไว้ด้วยนะฮะคนไข้
00:26:28 → 00:26:30 ก็มักจะค่อยๆดีขึ้นในระยะเป็นวันนะครับ
00:26:30 → 00:26:33 แล้วก็เราอาจจะปรับไปใช้แบบยาแบบกินก็ได้
00:26:33 → 00:26:36 ถ้าใช้ยาแบบกินก็อย่าให้ขนาดเดียวกับยา
00:26:36 → 00:26:38 แบบฉีดนะครับให้ไปให้ขนาดเหมือนที่เมื่อ
00:26:38 → 00:26:41 กี้ผมบอกคือ 1.6 ไมโครกรัมต่อกิกัต่อวัน
00:26:41 → 00:26:43 นะครับตาม Lean body weight นะฮะเราจะ
00:26:43 → 00:26:46 ทำกันแบบนั้นนะครับเราก็ต้องให้ไปตลอดยา
00:26:46 → 00:26:49 หยุดเองเด็ดขาดนะครับยาฮอร์โมนไทรรอยด์
00:26:49 → 00:26:51 อย่าหยุดเองเด็ดขาดนะครับเพราะมันจะมี
00:26:51 → 00:26:54 ปัญหามากถ้าท่านได้เพราะว่าไฮโปไทรอยด์นะ
00:26:54 → 00:26:56 ครับฮอร์โมนไทรรอยด์ของท่านไม่สามารถ
00:26:56 → 00:26:58 สร้างกลับมาได้อีกแล้วนะครับครับแล้วไม่
00:26:58 → 00:27:01 ต้องไปหาอาหารเสริมใครที่บอกว่าโอกินตัว
00:27:01 → 00:27:03 นี้แล้วดีตัวนั้นไม่ต้องไปยุ่งเลยครับมัน
00:27:03 → 00:27:05 ไม่ได้ผลนะฮะไม่ได้ผลแล้วท่านทำอย่างนั้น
00:27:05 → 00:27:07 จะอันตรายด้วยซ้ำไปถ้าท่านฮอร์โมน
00:27:07 → 00:27:10 ไทรรอยด์ที่เอ่อไม่ได้กินเสริมแล้วมัน
00:27:10 → 00:27:12 เป็นแบบนั้นขึ้นมาครับก็จะเสียชีวิตได้นะ
00:27:12 → 00:27:14 ครับดังนั้นต้องกินสม่ำเสมอนะครับ
00:27:14 → 00:27:18 อ่าแล้วก็เมื่อกี้ผมบอกว่าอยากจะแถมให้
00:27:18 → 00:27:20 คุณหมอหลายๆคนที่เข้ามาฟังว่าเอ๊ะมันมี
00:27:21 → 00:27:23 โรคที่ชื่อว่าฮาชิโมโต encephalopathy
00:27:23 → 00:27:26 คืออะไรนะครับภาวะเนี่ยวินิจฉัยได้ค่อน
00:27:26 → 00:27:29 ข้างยากคนไข้ก็จะมาด้วยอาการสับสนเพ้อซึม
00:27:29 → 00:27:31 แล้วบางคนมีอาการชักนะครับโดยเฉพาะแบบ
00:27:31 → 00:27:34 ไมนัสนะฮะซึ่งเราเจอได้เยอะเลยนะครับ
00:27:34 → 00:27:37 ประมาณ 1 ใน 3 ของคนไข้เนี่ยอาจจะมีไมนัส
00:27:37 → 00:27:40 ได้นะครับถ้าเป็นแบบนี้เวลาหมอเตรวจทั่ว
00:27:40 → 00:27:45 ไปเจะทำอะไรครับอ่า MRI สมอง CT สแกนสมอง
00:27:45 → 00:27:48 ทำ LP ทำ LP ในโรงเรียนแพทย์หรือที่ไหนก็
00:27:48 → 00:27:51 แล้วแต่เตรวจหาอะไรครับหาไวรัสหาเซลล์นะ
00:27:51 → 00:27:53 ครับหาน้ำตาลนะครับพวกนี้เวลาเราเจาะออก
00:27:53 → 00:27:55 มาเนี่ยจะเป็นลิมโฟไซต์ซะเยอะแล้วก็มี
00:27:55 → 00:27:57 โปรตีนขึ้นด้วยนะครับแล้วก็สงสัยเฮ้ยมัน
00:27:57 → 00:28:01 เป็นเอิ่มเป็นลิมโฟไซต์แล้วมีโปรตีนขึ้น
00:28:01 → 00:28:03 มันเป็น TB ในสมองหรือเปล่าอ่าหาได้ครับ
00:28:03 → 00:28:05 ไม่ว่ากันก็หาได้เป็นไวรัสในสมองหรือ
00:28:05 → 00:28:08 เปล่าหาได้ไม่ว่ากันหาเราไม่เจอก็ส่ง
00:28:08 → 00:28:12 autoimmune panel นะครับคือเช่นอ่าแี้
00:28:12 → 00:28:18 nmda นะครับ entis หาเอิ่มตัวประหลาดๆนะ
00:28:18 → 00:28:21 ครับเอ่อ nma อะไรพวกเยครับหรือว่าตัว
00:28:21 → 00:28:23 อะไรอย่างอื่นก็แล้วแต่นะครับที่ท่านสรร
00:28:23 → 00:28:27 หามาได้นะครับแต่ผมยังไม่เคยเห็นที่ไหน
00:28:27 → 00:28:29 เลยนะครับหรือหรือมันอาจจะมีก็ได้ผมอาจจะ
00:28:29 → 00:28:30 ผิดพลาดก็ได้เพราะว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่
00:28:30 → 00:28:32 ประเทศไทยนานแล้วนะครับก็เลยไม่รู้ว่าตอน
00:28:32 → 00:28:34 นี้ประเทศไทยมีแบบนี้หรือเปล่านะครับสมัย
00:28:34 → 00:28:37 ผมอยู่ไม่มีนะครับตอนอยู่ที่ประเทศไทยก็
00:28:37 → 00:28:39 ไม่เคยมีใครตรวจหาที่อเมริกาตอนผมมาก็ไม่
00:28:39 → 00:28:43 มีใครตรวจหานะครับคือแอนติบอดี้ต่อไทรอย
00:28:43 → 00:28:46 แอกซิสแล้วก็แอนติบอดี้ต่อไทโร
00:28:46 → 00:28:51 กบินไม่มีคนหานะครับถ้าเราหาแล้วเราเจอ
00:28:51 → 00:28:53 เนี่ยภาวะนรักษาสุดยอดจะง่ายเลยเราให้
00:28:53 → 00:28:55 สเตียรอยด์แล้วคนไข้จะดีขึ้นเลยครับไม่
00:28:55 → 00:28:58 ชักแล้วก็ตื่นขึ้นมาด้วยนะครับแล้วบางคน
00:28:58 → 00:28:59 ก็บอกว่าเอ้ยมันชื่อ harimoto
00:28:59 → 00:29:02 encephalopathy มันน่าจะเกี่ยวข้องกับชิ
00:29:02 → 00:29:05 thyroiditis ถูกต้องครับมันเกี่ยวข้อง
00:29:05 → 00:29:08 กันแต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับระดับ
00:29:08 → 00:29:10 ฮอร์โมนดังนั้นถ้าท่านไปตรวจระดับฮอร์โมน
00:29:10 → 00:29:13 tsh fre T3 fre t4 ออกมาแล้วมันปกติ
00:29:13 → 00:29:15 ไม่ได้บอกว่านั่นไม่ใช่ encephalopathy
00:29:15 → 00:29:19 จากฮาชิโมโต่านะครับอ่าตรงนี้แหละครับมัน
00:29:19 → 00:29:22 อาจจะเป็นระยะไฮเปอร์ไทรรอยก็ได้
00:29:22 → 00:29:24 ไฮโปไทรอยด์ก็ได้ subclinical
00:29:24 → 00:29:27 ไฮโปไทรอยด์หรือ norm ไทรอยหรือูไทรอยก็
00:29:27 → 00:29:30 ได้ทั้งหมดเลยนะครับแต่สิ่งที่จะตัดสิน
00:29:30 → 00:29:32 เลยว่าคนๆเนี้ยเป็นโรคนี้หรือเปล่าคือจะ
00:29:32 → 00:29:36 ต้องตรวจแอนติบอดี้ต่อไทรอย peroxides
00:29:36 → 00:29:40 กับแอนติบอดี้ต่อไทรินเท่านั้นนะครับ
00:29:40 → 00:29:42 รักษาไม่ยากนะครับภาวะนี้ถ้าเป็นขึ้นมา
00:29:42 → 00:29:45 แล้วเราเจอนะครับดังนั้นถ้าท่านเจอแบบคน
00:29:45 → 00:29:48 ไข้ซึมๆมาไม่รู้เรื่องนะครับแล้วก็มีไคริ
00:29:48 → 00:29:50 เจิกนะอาจจะมีไม่มีก็ได้นะครับแล้วซึม
00:29:50 → 00:29:53 แล้วก็ตรวจหาอะไไม่เจอตรวจหา TB ในหัว
00:29:53 → 00:29:56 ใน่าน้ำไข่สัหลังอะไรไม่เจอตรวจหาไวรัส
00:29:56 → 00:29:58 ไม่เจอตรวจหาออโมนอื่นไม่เจอ
00:29:58 → 00:30:01 ตรวจหามะเร็งบางอย่างที่ทำให้เกิดเอ่อ
00:30:01 → 00:30:03 สมองเป็นแบบนั้นได้นะครับตรวจหามะเร็ง
00:30:03 → 00:30:05 ซึ่งเรียกว่า paraneoplastic Syndrome
00:30:05 → 00:30:09 ไม่เจอ paran Plastic panel ไม่เจอคิด
00:30:09 → 00:30:12 ถึงภาวะนี้ไว้ครับตรวจแล้วถ้าเจอมันรักษา
00:30:12 → 00:30:15 ได้ครับถามว่าทำไมผมถึงรู้เรื่องพวกนี้ก็
00:30:15 → 00:30:16 เพราะว่าผมเคยเจอเคสมานี่แหละครับแล้วก็
00:30:16 → 00:30:20 ตอนนั้นบังเอิญผมจำได้เลยนะครับว่าสมัย
00:30:20 → 00:30:22 ที่ผมเป็นนิสิตแพทย์ผมเคยอ่านเรื่องนี้
00:30:22 → 00:30:25 อยู่แบบอ่านผ่านๆเลยอ่ะผ่านๆไม่รู้ไม่รู้
00:30:25 → 00:30:27 ว่ามันคืออะไรด้วยซ้ำไปอ่านรู้สึกอืติด
00:30:27 → 00:30:30 หัวนิดนึงแล้วบังเอิญผมมาเจอคนไข้ที่
00:30:30 → 00:30:33 อเมริกาแล้วผมไปดูนะฮะก็ตรวจหาทุกอย่างนะ
00:30:33 → 00:30:36 ครับไม่เจออะไรทั้งสิ้นเลยคนไข้ก็มีชัก
00:30:36 → 00:30:39 อยู่นะครับก็ให้ยากันชักให้อะไรก็แล้วแต่
00:30:39 → 00:30:42 คนไข้ก็ไม่ฟื้นนะฮะแล้วผมก็เฮ้ยมันเป็น
00:30:42 → 00:30:45 ภาวะนี้หรือเปล่าวะเราเคยอ่านมาตอนที่เรา
00:30:45 → 00:30:47 เรียนแพทย์อยู่ที่ประเทศไทยนะมันอาจจะใช่
00:30:47 → 00:30:50 ก็ได้นะเราก็ตรวจไม่เสียหายนี้เกิดก็ก็
00:30:50 → 00:30:52 ถ้าตรวจแล้วเป็นเราก็ให้สตีลอยเผื่อมันจะ
00:30:52 → 00:30:54 ดีขึ้นก็เป็นจริงๆครับตรวจแล้วเจอแล้วให้
00:30:54 → 00:30:57 สเตรอยด์ก็ภายใน 2-3 คือให้ไปวันแรกคนไข้
00:30:57 → 00:30:59 ก็ไม่ชักอีกอีกเลยนะครับแล้วก็ผ่านไป 2-3
00:30:59 → 00:31:02 วันหายเลยนะกลับมาเป็นปกติเลยนะครับนั่น
00:31:02 → 00:31:06 แหละฮะก็เป็นที่มาของเอทำไมผมถึงรู้
00:31:06 → 00:31:09 เรื่องพวกนี้ได้นะฮะก็ยังไงก็แล้วแต่นะ
00:31:09 → 00:31:11 ครับคือเรื่องของไฮโปไทรอยด์ที่เราเจอกัน
00:31:11 → 00:31:14 เยอะๆที่ประเทศไทยก็หรือทั่วโลกก็คือชิโต
00:31:14 → 00:31:17 ไทรรอยไดินะครับมันรักษาให้หายไม่ได้นะ
00:31:17 → 00:31:19 ครับไม่ต้องไปกินยากดภูมิใดทั้งสิ้นนะ
00:31:19 → 00:31:21 ครับไม่ช่วยใดทั้งสิ้นดีที่สุดคือกิน
00:31:21 → 00:31:23 ฮอร์โมนไทรรอยด์นะครับถ้าท่านมีอาการเข้า
00:31:23 → 00:31:26 ได้กับไทรรอยด์ที่มันต่ำเช่นมีอาการง่วง
00:31:26 → 00:31:28 เหงาหาวนอนหยุดหายใจในขนาดหลับนะครับมีไข
00:31:28 → 00:31:32 มันในเลือสูงนะครับมีเอ่อไขมันเกาะตับนะ
00:31:32 → 00:31:34 ครับเพลียท้องผูกนะครับเหนื่อยง่ายไม่มี
00:31:34 → 00:31:37 สมาธิซึมเศร้านะครับพวกเนี้ยทั้งหมดนะฮะ
00:31:37 → 00:31:40 ไปตรวจแล้วก็เจอไทรรอยด์ต่ำกินฮอร์โมน
00:31:40 → 00:31:42 ไทรรอยด์นะครับตามที่หมอเขาแนะนำปรับยา
00:31:42 → 00:31:44 ตามหมอแนะนำอย่าไปทำอย่างอื่นนะครับ
00:31:44 → 00:31:47 ฮอร์โมนไทรรอยด์บางคนเอาจจะกินเพราะว่า
00:31:47 → 00:31:49 ท่านเป็นมะเร็งไทรรอยด์นั่นก็เป็นอีกกรณี
00:31:49 → 00:31:51 นึงซึ่งผมจะไม่ลงไปรายละเอียดวันนี้แล้ว
00:31:51 → 00:31:53 กันนะครับก็ข้ามไปก่อนนะแต่ว่ามันมีเหตุ
00:31:53 → 00:31:56 ผลที่บางคนก็ต้องกินนะครับเพราะว่าไม่กิน
00:31:56 → 00:31:58 เดี๋ยวไทรรอยด์ที่เป็นเมล็กเหมือนกำเลิบ
00:31:58 → 00:32:00 ได้นะครับันนั้นก็มีเหตุผลเหมือนกันนะ
00:32:00 → 00:32:03 ครับโอเควันนี้ก็ยาวมากเลยนะครับถ้าใครมี
00:32:03 → 00:32:05 อะไรที่สงสัยแล้วผมไม่ได้พูดในคลิปนี้ก็
00:32:05 → 00:32:07 สอบถามมาได้นะครับวันนี้เท่านี้นะครับ
00:32:07 → 00:32:11 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ