00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:04 world by the
00:00:04 → 00:00:08 voice การมีความวิตกกังวลนะครับเป็นภาวะ
00:00:08 → 00:00:09 นึงที่ทำให้คนรู้สึกไม่ค่อยมีความสุขคำ
00:00:09 → 00:00:12 ว่ากังวลเนี่ยครับทุกคนน่าจะพอรู้จักอยู่
00:00:12 → 00:00:15 แล้วล่ะเพราะมันคือโทนอารมณ์ปกติที่ตั้ง
00:00:15 → 00:00:17 แต่เด็กๆอ่ะเราสามารถเจอภาวะพวกเนี้ยตลอด
00:00:17 → 00:00:20 จนถึงที่มีที่เรามีอายุปัจจุบันเลยแต่
00:00:20 → 00:00:22 เพียงแค่ว่าไอ้เรื่องที่เรากังวลเนี่ยมัน
00:00:22 → 00:00:24 ก็จะแตกต่างกันไปมันเป็นความรู้สึกไม่รู้
00:00:24 → 00:00:26 อนาคตไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นและจะสิ้น
00:00:26 → 00:00:29 สุดภาวะตรงนี้เมื่อไหร่อืทีนี้พอมันเกิด
00:00:29 → 00:00:30 ช่องว่างที่มันเป็นเป็นความไม่แน่นอนเนาะ
00:00:31 → 00:00:33 เป็นการคาดการณ์ไม่ได้ไม่รู้ว่าข้างหน้า
00:00:33 → 00:00:35 จะเกิดอะไรขึ้นมาเลยเป็นช่องโหว่ครับให้
00:00:35 → 00:00:39 จิตใจเราเกิดความปรุงแต่งบางอย่างขึ้น
00:00:39 → 00:00:43 มาฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทยฟัง
00:00:43 → 00:00:47 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:47 → 00:00:50 This Is tha PBS podcast วันนี้ค่ะ
00:00:50 → 00:00:54 คุณผู้ฟังเราจะคุยกันถึงเรื่องของความ
00:00:54 → 00:00:57 วิตกกังวลนะคะไม่รู้ว่าคุณผู้ฟังเป็นกัน
00:00:57 → 00:01:00 บ้างหรือเปล่านะที่เรามักจะติดอยู่ในความ
00:01:00 → 00:01:04 วังวลนะคะในบ่อของความวิตกกังวลคิดแล้ว
00:01:04 → 00:01:06 คิดอีกอยู่นั่นแหละไม่ได้ไม่ไม่ได้คิด
00:01:06 → 00:01:09 อะไรอย่างอื่นได้เลยอ่ะนะคะวันนี้เรามาไข
00:01:09 → 00:01:12 คำตอบเรื่องนี้กันว่าจะทำยังไงให้เราหลุด
00:01:12 → 00:01:14 พ้นจากการที่จะต้องอยู่ในความวิตกกังวล
00:01:14 → 00:01:17 แบบนี้คุยกับดรสุววุฒิวงษ์ทางสวัสดิ์ค่ะ
00:01:17 → 00:01:20 นักจิตวิทยาการปรึกษาหรือคุณเอินสวัสดี
00:01:21 → 00:01:22 ค่ะสวัสดีครับคุณรีสวัสดีครับคุณผู้ฟัง
00:01:23 → 00:01:26 อ้าวันนี้อืมปกติอ่ะเนาะคนเราก็ต้องมี
00:01:26 → 00:01:29 ความวิตกกังวลกันอยู่บ้างแหละนะคะวิตก
00:01:29 → 00:01:31 กังวลเรื่องเออจะใช้ชีวิตกันยังไง
00:01:31 → 00:01:36 เศรษฐกิจก็ไม่ดีไหนจะออภ่ออนไลน์ก็เยอะ
00:01:36 → 00:01:39 ไหนจะนู่นนี่นั่นทำไมมันอยู่ยากขนาดนี้นะ
00:01:39 → 00:01:42 เออเนายุคนี้นี่มันอะไรก็ไม่รู้เนาะใช่
00:01:42 → 00:01:45 ค่ะวความวิตกกังวลมีทุกรูปแบบมีหลากหลาย
00:01:45 → 00:01:47 มากซึ่งก็แต่ละคนจะมีความวิตกกังวลแตก
00:01:47 → 00:01:52 ต่างกันออกไปใช่มั้ยคะแต่ทีเนี้ยบางคนที่
00:01:52 → 00:01:55 อยู่ในความวิตกกังวลมากๆมากๆๆๆเนี่ยมันจะ
00:01:55 → 00:01:57 ส่งผลอะไรยังไงมแล้วเราจะมีวิธียังไงที่
00:01:57 → 00:02:02 เราจะออกจากความวตกกังวลนี้ได้บ้างอ่าได้
00:02:02 → 00:02:04 ครับต้องบอกว่าจริงๆการมีความวิตกกังวล
00:02:04 → 00:02:06 น่ะครับเป็นเป็นภาวะนึงที่ทำให้คนรู้สึก
00:02:06 → 00:02:08 ไม่ค่อยมีความสุขอือจริงๆความสุขมันจะ
00:02:08 → 00:02:11 อ้างอิงอยู่กับความรู้สึกพอใจถ้าไม่ใช่พอ
00:02:11 → 00:02:14 ใจก็จะเป็นความรู้สึกสงบอพอสงบปั๊บมันก็
00:02:14 → 00:02:16 ไม่นึกถึงอนาคตไม่ได้สนใจอดีตมากมายแต่
00:02:16 → 00:02:19 มันอยู่กับปัจจุบันแล้วรู้สึกว่าอ้าชีวิต
00:02:19 → 00:02:21 ประมาณนี้ก็น่าพอใจะอือฮึใช่มั้ยครับที
00:02:21 → 00:02:23 นี้เรามาำทำความรู้จักไอ้ความวิตกกังวล
00:02:23 → 00:02:26 เพิ่มสักนิดนึงเนาะคความวิตกกังวลคืออะไร
00:02:26 → 00:02:30 ครับพี่ลีออโยนถามงงเลยอ่ะเริมวิตกกังวล
00:02:30 → 00:02:33 แล้วจะตอบไม่ได้ครับจริงๆแล้วความวิตก
00:02:33 → 00:02:35 กังวลเนี่ยครับคือคือความรู้สึกไม่สบายใจ
00:02:35 → 00:02:38 จริงๆผมว่าคำว่ากังวลเนี่ยครับทุกคนน่าจะ
00:02:38 → 00:02:41 พอรู้จักอยู่แล้วล่ะเพราะมันคือโทนอารมณ์
00:02:41 → 00:02:43 ปกติที่ตั้งแต่เด็กๆอ่ะเราสามารถเจอภาวะ
00:02:43 → 00:02:46 พวกเนี้ยตลอดจนถึงที่มีที่เรามีอายุ
00:02:46 → 00:02:48 ปัจจุบันเลยแต่เพียงแค่ว่าไอ้เรื่องที่
00:02:48 → 00:02:50 เรากังวลเนี่ยมันก็จะแตกต่างกันไปอืเช่น
00:02:50 → 00:02:53 สมมุติตอนวัยเด็กเนาะผมอาจจะแบบเอ่ออยู่
00:02:53 → 00:02:56 ในยุคที่ยังไม่มีโทรศัพท์มือถืออืโอรู้
00:02:56 → 00:03:00 ยุคเลยรู้อายุกันเลยนะฮะตอนผมเด็กๆตอน
00:03:00 → 00:03:02 ประถมตอนอะไรเงี้ยครับก็ต้องรอคุณพ่อคุณ
00:03:02 → 00:03:05 แม่มารับณตอนนั้นเรายังไม่ได้กลับบ้านเอง
00:03:05 → 00:03:07 ได้เพราะเขาอาจจะห่วงว่าแบบเอ๊ะจะกลับได้
00:03:07 → 00:03:09 มหรือว่าแบบจะปลอดภัยหรือเปล่าเพราะ
00:03:09 → 00:03:11 ฉะนั้นเราก็จะต้องรอคุณพ่อคุณแม่ที่โรง
00:03:11 → 00:03:14 เรียนทีนี้เรานัดกันว่าอ่ะสมมุติเลิก
00:03:14 → 00:03:17 เรียน 16:00 นอ่าอ่าเราคิดว่าพ่อแม่เราจะ
00:03:17 → 00:03:20 มา 16:30 นไม่วันนั้น 17:30 นก็ยังไม่มา
00:03:20 → 00:03:23 อุยเออเลยเวลาไปเยอะมากโดยที่เราไม่รู้
00:03:23 → 00:03:26 ด้วยช้ำว่า 1 ชม 2 ช่วโมงที่ผ่านไปเนี่ย
00:03:26 → 00:03:32 เอ๊ะเจะยังมามยนะอแล้วแล้วเไปไหนนะแล้ว
00:03:32 → 00:03:34 มันโอเคอยู่หรือเปล่านะแล้วเรากำลังรอ
00:03:34 → 00:03:35 อะไรอยู่แล้วเพื่อนเราก็ทยอยกลับไปทีละคน
00:03:35 → 00:03:37 จนเหลือเรานั่งคนเดียวอย่าเงี้ยครับอาฮะ
00:03:37 → 00:03:40 เออความกังวลเกิดขึ้นะใช่อืพี่รีคิดว่า
00:03:40 → 00:03:42 แบบเด็กในอายุประมาณนั้นน่าจะกังวลว่า
00:03:42 → 00:03:46 อะไรครับจะมารับเรามยเออมันเหมือนกับอาจ
00:03:46 → 00:03:48 จะแบบเอ๊ะโดนทิ้งไว้หรือเปล่าจะมาเมื่อ
00:03:48 → 00:03:51 ไหร่ไม่รู้อนาคตนะครับมันเป็นความรู้สึก
00:03:51 → 00:03:53 ไม่รู้อนาคตไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นและจะ
00:03:53 → 00:03:56 สิ้นสุดภาวะตรงนี้เมื่อไหร่อืทีนี้พอมัน
00:03:56 → 00:03:58 เกิดช่องว่างที่มันเป็นความไม่แน่นอนเนาะ
00:03:58 → 00:04:00 เป็นการคาดการไม่ได้
00:04:00 → 00:04:02 ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นมันเลย
00:04:02 → 00:04:04 เป็นช่องโหวครับให้จิตใจเราเกิดความปรุง
00:04:04 → 00:04:06 แต่งบางอย่างขึ้นมาอันนี้มันเป็นเรื่อง
00:04:06 → 00:04:09 ปกติใช่มยใช่ปที่ที่ทุกคนสามารถจะเกิด
00:04:09 → 00:04:11 ความวิตกกังวลนี้ขึ้นมาได้ใช่ครับทุกคน
00:04:11 → 00:04:14 เกิดขึ้นอย่างเช่นตะกี้เด็กเนาะเด็กที่
00:04:14 → 00:04:17 ผู้ปกครองยังไม่มารับหรือบางคนที่เป็น
00:04:17 → 00:04:20 เด็กที่ต้องสอบแล้วคะแนนยังไม่ประกาศอืก็
00:04:20 → 00:04:23 วิตกกังวลไปะคะแนนจะผ่านมั้ยเอ่าใช่เอ่อ
00:04:23 → 00:04:26 โทรหาอ่ะสมมุติโทรหาแฟนแฟนไม่รับสายเออ
00:04:26 → 00:04:29 เป็นไงครับเป็นเรื่องอ่าอาจจะปรุงแต่งบาๆ
00:04:29 → 00:04:32 บลาๆไม่ใช่วิตกกังวลนะเป็นเรื่องใช่มใช่
00:04:32 → 00:04:33 มั้ยครับหรือถ้าเกิดยิ่งโทรไปแล้วจุๆไป
00:04:34 → 00:04:36 สายแบบคุยๆกันอยู่แล้วก็ชั่วสายตัดเฉยเลย
00:04:36 → 00:04:38 อุ้ยอันนั้นยิ่งแล้วใหญ่เลยนะเออแล้วถ้า
00:04:38 → 00:04:39 เกิดมีเสียงตู้มแล้วสายตัดเป็นไงครับ
00:04:39 → 00:04:43 โอ้โหตัดอ่ะไม่ใช่แค่วิตกกังวลแล้วล่ะใช่
00:04:43 → 00:04:45 มั้ยฮะหรืออ่ะคนที่เป็นพนักงานประจำอาจจะ
00:04:45 → 00:04:48 มีเงินเดือนแล้วจู่ๆมีนโยบายเรื่องเลอฟ
00:04:48 → 00:04:51 ออกมาแต่ยังไม่รู้ว่าใครโดนแต่บอกว่าเร็ว
00:04:51 → 00:04:53 ๆนี้จะมีเลอฟมันกังวลได้ทุกอย่างเลยนะ
00:04:53 → 00:04:55 เนี่ยหลอเลยมั้ยฮะเอใช่มั้ยครับหรือแม้
00:04:55 → 00:04:58 กระทั่งสุขภาพเช่นแบบเฮ้ยมันมันเหมือนกับ
00:04:58 → 00:05:00 มีก้อนอะไรบางอย่างขึ้นอืแต่เราไม่รู้ว่า
00:05:00 → 00:05:03 ไอ้ก้อนนี้คืออะไรต้องส่งชิ้นเนื้อไปตรวจ
00:05:03 → 00:05:05 ก่อนอะไรเงี้ยครับแล้วผลยังไม่ออกอือ
00:05:05 → 00:05:07 เนี่ยครับนี่คือสิ่งสิ่งที่มันปรากฏอยู่
00:05:07 → 00:05:09 ในชีวิตพวกเราทุกคนได้หมดเลยอ่ะตั้งแต่
00:05:09 → 00:05:12 เด็กยันโตอ่ะครับเรื่องชีวิตส่วนตัว
00:05:12 → 00:05:13 เรื่องการงานเรื่องความรักความสัมพันธ์
00:05:13 → 00:05:15 เรื่องอะไรก็ตามมันเป็นสิ่งที่คาดการณ์
00:05:15 → 00:05:17 ไม่ได้และไม่แน่นอนเพราะฉะนั้นความวิตก
00:05:17 → 00:05:20 กังวลเนี่ยครับมันจะเกี่ยวข้องกับความรู้
00:05:20 → 00:05:22 สึกไม่สบายใจเมื่อเราต้องเจอเหตุการณ์ที่
00:05:22 → 00:05:26 ไม่แน่นอนและคาดการและควบคุมไม่ได้อือ่ะ
00:05:26 → 00:05:29 ที่สำคัญคือเรามีความกลัวด้วยจริงๆพื้น
00:05:29 → 00:05:31 ของความตกกังวลนะครับข้างล่างมันคือความ
00:05:31 → 00:05:34 กลัวค่ะกลัวคือก็คือการที่จะไม่อยากเจอ
00:05:34 → 00:05:37 บางสิ่งไม่อยากเจอว่าตัวเองถูกทิ้งไม่
00:05:37 → 00:05:39 อยากเจอว่าตัวเองต้องไม่มีเงินไม่อยากเจอ
00:05:39 → 00:05:42 ว่าตัวเองตกงานสอบคะแนนไม่ดีมันจะมีความ
00:05:42 → 00:05:44 รู้สึกไม่อยากเจอสิ่งนั้นๆสิ่งนี้นี้อยู่
00:05:44 → 00:05:46 เงี้ยฮะเออตรงนี้แหละมันคือคำอธิบายว่า
00:05:46 → 00:05:49 ความวิตกกังวลคืออะไรก็คือสิ่งที่เป็น
00:05:49 → 00:05:51 ภาวะอารมณ์เมื่อเราเกิดความรู้สึกกลัว
00:05:51 → 00:05:54 หรือไม่อยากจะเจอในบางสิ่งที่อนาคตมันยัง
00:05:54 → 00:05:56 ไม่เกิดขึ้นและเราคาดการไม่ได้อืเหมือนอ
00:05:56 → 00:05:58 เพราะฉะนั้นอันเนี้ยคือความวิตกกังวล
00:05:58 → 00:06:00 เหมือนขามันลอยอยู่ในน้ำที่มันขาไม่แตะ
00:06:00 → 00:06:02 พื้นยังไงไม่รู้เลยเนาะแบบเ้ยเอจะร่วงไม่
00:06:03 → 00:06:05 ร่วงปลอดภัยอะไรอย่างเงี้ยเออใช่เพราะ
00:06:05 → 00:06:07 ฉะนั้นในเรื่องกังวลนะครับมันจะเกี่ยวพัน
00:06:07 → 00:06:09 กับสิ่งที่เราให้ความสำคัญเสมอเพราะถ้า
00:06:09 → 00:06:11 เรื่องไหนไม่สำคัญมันจะไม่กังวลยกตัว
00:06:11 → 00:06:15 อย่างเช่นอ่ะสมมุติเราสอบสอบปึ๊บคะแนนจะ
00:06:15 → 00:06:18 ได้เกด 1 เกด 3 เกด 4 ช่างมันไม่ได้สนไม่
00:06:18 → 00:06:21 ได้ใส่ใจยังไงก็ได้ขึ้นชั้นตต่อต่อให้สอบ
00:06:21 → 00:06:24 ซ่อมก็ก็ซ่อมผ่านอยู่ดีอะไรเงี้ยฮะเพราะ
00:06:24 → 00:06:26 ฉะนั้นสิ่งพวกเนี้ยครับถ้ามันไม่ได้ดู
00:06:26 → 00:06:28 เป็นภัยต่อตัวเองไม่ได้เป็นภัยต่อคุณค่า
00:06:28 → 00:06:31 บางอย่างหรือชีวิตเราเงี้ยครับเราจะรู้
00:06:31 → 00:06:34 สึกไม่ได้กังวลกมาเท่าไหร่อืซึ่งบางที
00:06:34 → 00:06:36 เรื่องเดียวกันเนี่ยอีกคนนึงอาจจะกังวล
00:06:36 → 00:06:39 อีกคนก็อาจจะไม่ได้กังวลก็ได้ใช่ค่ะบางคน
00:06:39 → 00:06:41 อาจจะไม่กังวลเลยเออเอ้ยแต่คนที่ไม่กังวล
00:06:41 → 00:06:43 นี่มันน่าดูน่าจะดีกว่าเนาะใช่ค่ะเพราะ
00:06:43 → 00:06:46 ว่าจริงๆแล้วสุดท้ายทุกคนทุกคนมีความรู้
00:06:46 → 00:06:48 สึกต้องการอย่างจะสบายใจค่ะแต่แต่ต้องบอก
00:06:48 → 00:06:50 ว่าบางทีความกังวลเป็นเรื่องของความ
00:06:50 → 00:06:52 เครียดถูกมั้ยฮะทีเนี้มันขึ้นอยู่กับ
00:06:52 → 00:06:55 ระดับความเครียดด้วยอว่าว่าสิ่งที่กังวล
00:06:55 → 00:06:58 นั้นน่ะมันมากมากมากๆจนแบบรู้สึกจัดการ
00:06:58 → 00:07:00 ไม่ได้แล้วมันทุกข์แล้วมีปัญหาการใช้
00:07:00 → 00:07:03 ชีวิตหรือสิ่งนี้มันก็เป็นความเครียดที่
00:07:03 → 00:07:06 ช่วยกระตุ้นให้เราแบบอาจจะมีความเครียด
00:07:06 → 00:07:08 บ้างเพื่อให้เราได้คิดวางแผนได้เตรียมการ
00:07:08 → 00:07:11 หลายๆอย่างเพื่อค่อยๆลดความกังวลนั้นลงอื
00:07:11 → 00:07:14 อเพราะงั้นอย่างเช่นอ่ะสมมุติเอ่อเราอาจ
00:07:14 → 00:07:17 จะแบบเอ้ยอยู่อยู่ในจุดที่อาจจะเกิดการ
00:07:17 → 00:07:20 เลยอขึ้นมาแต่อย่างเงี้ยครับเกิดความวิตก
00:07:20 → 00:07:22 อืถูกมั้ยครับทีนี้สมมุติถ้าไม่เกิดความ
00:07:22 → 00:07:25 วิตกเลยเราลองคิดภาพเล่นๆเนาะคนที่อยู่ใน
00:07:25 → 00:07:27 อาชีพที่แบบเหมือนเรารู้สึกว่าน่าจะมั่น
00:07:27 → 00:07:30 คงดีบางทีมันจะไม่กังวลอะไรมากอ่ะเพราะ
00:07:30 → 00:07:33 โอ้ยังไงเดี๋ยวก็มีเงินเดือนอยู่และยังไง
00:07:33 → 00:07:36 เดี๋ยวพอสิ้นสิ้นเดือนเวลานี้เงินก็จะออก
00:07:36 → 00:07:38 ถูกมั้ยครับความกระตือรือล้นบางอย่างอาจ
00:07:38 → 00:07:41 จะหายไปอืและแลอาจจะพวกมากับคำว่าความ
00:07:41 → 00:07:44 ประมาทก็ได้อือ่าบางครั้งความกังวลเนี่ย
00:07:44 → 00:07:46 ต้องบอกว่ามันอาจจะเป็นประโยชน์กับเรา
00:07:46 → 00:07:48 ด้วยและอาจจะเป็นโทษกับเราด้วยขึ้นอยู่
00:07:48 → 00:07:51 กับว่าเอ่อระดับที่มันเกิดขึ้นมากมากไป
00:07:51 → 00:07:54 หรือน้อยไปและเรามีวิธีการรับมือกับความ
00:07:54 → 00:07:56 กังวลนั้นยังไงบ้างอือเจ้าที่ฟังเอิ้นมา
00:07:56 → 00:07:58 มันเหมือนกับว่าคำว่าวิตกกับคำว่ากังวล
00:07:58 → 00:08:01 น่ะจริงๆมันมันมันก็จะคนละภาวะกันแต่พอ
00:08:01 → 00:08:04 เอามารวมกันมันเหมือนแบบอือมันเป็นความ
00:08:04 → 00:08:06 ปั่นป่วนของใจเหมือนกันที่มันมีความรู้
00:08:06 → 00:08:08 สึกไม่แน่นอนแล้วมันจะจัดการมันยังไงนะจะ
00:08:08 → 00:08:11 ควบคุมได้มั้ยนะอย่างเงี้ยครับอย่างตะกี้
00:08:11 → 00:08:12 ที่พูดเรื่องว่าถ้าเราไม่กังวลเลยอย่าง
00:08:12 → 00:08:14 เงี้ยครับมันกลายเป็นว่ามันเกิดความ
00:08:14 → 00:08:16 ประมาทขึ้นเราอาจจะเป็นคนใช้จ่ายสุรุ่ยสุ
00:08:16 → 00:08:18 ไร่แล้วก็ใช้หมดไม่เป็นไรเดี๋ยวเงินก็ออก
00:08:19 → 00:08:21 อ่าก็เหมือนกับช่วงที่โรคระบาดที่ผ่านมา
00:08:21 → 00:08:24 ที่แบบทุกคนไม่ได้มีความที่จะต้องเตรียม
00:08:24 → 00:08:27 ตัวอะไรอย่างนี้มาก่อนแล้วพอถึงวันนึงที่
00:08:27 → 00:08:30 งานก็ไม่มีไปทำงานก็ไม่ได้อืต้องหยุดหมด
00:08:30 → 00:08:34 ชัดทุกอย่างเงี้ยแล้วมันกลายเป็นว่ามัน
00:08:34 → 00:08:36 เห็นเลยว่าใครสุขภาพการเงินเป็นยังไงใช่
00:08:36 → 00:08:39 คนสุขภาพการเงินดีหลังบ้านแข็งแรงอ่ะครับ
00:08:39 → 00:08:41 อาจจะรู้สึกวิตกอยู่เหมือนกันอือฮึแต่เขา
00:08:41 → 00:08:44 จะไม่ตื่นตนกมากเพราะเมีแบคข้างหลังที่
00:08:44 → 00:08:46 รู้สึกว่าเฮ้ยเายังมีเงินสำรองเขยังมี
00:08:46 → 00:08:49 ช่องทางออกหรือเขาอาจจะมีอาชีพเสริมบาง
00:08:49 → 00:08:50 อย่างที่แบบมันยังเป็นแหล่งรายได้อื่นที่
00:08:50 → 00:08:52 ไม่ใช่งานประจำก็ได้ค่ะอย่างเงี้ยฮะเพราะ
00:08:52 → 00:08:54 ฉะนั้นต้องบอกว่าความกังวลอะไรอย่าเงี้ย
00:08:54 → 00:08:57 ครับเอ่อมันอาจจะมีประโยชน์อยู่เหมือนกัน
00:08:57 → 00:09:00 ในมุมที่ว่ามันช่วยทำให้เราไม่ประมาทกับ
00:09:00 → 00:09:02 ชีวิตแต่แต่ถ้าเรากังวลมากเกินไปอย่า
00:09:02 → 00:09:04 เงี้ยครับมันจะกลายเป็นว่าลองนึกภาพเนาะ
00:09:04 → 00:09:07 เงินได้มาแต่ไม่ใช้เราก็จะเก็บเขียมไวกับ
00:09:07 → 00:09:10 ตัวอือฮึบาทบาทตังบาทนึงสลึงนึงคือไม่ให้
00:09:10 → 00:09:12 หลุดมันกลายเป็นว่าชีวิตก็เกิดความเครียด
00:09:12 → 00:09:14 อีกแบบนึงเพราะงั้นเรื่องเนี้ยครับมัน
00:09:14 → 00:09:17 แล้วแต่ว่าความพอดีที่เราจะจัดการกับแต่
00:09:17 → 00:09:21 ละเรื่องเนี่ยมันอยู่ตรงไหนอืแต่ว่าบางที
00:09:21 → 00:09:25 ในความวิตกกังวลเนี่ยมันก็อาจจะกระทบกับ
00:09:25 → 00:09:27 ชีวิตประจำวันได้เหมือนกันใช่มั้ยใช่ๆ
00:09:27 → 00:09:30 ครับกระทบมากอืมมันขึ้นอยู่กับว่าเรื่อง
00:09:30 → 00:09:33 นั้นสำคัญมากมยถ้าถ้าเหมือนที่ผมย้ำเนาะ
00:09:33 → 00:09:36 ถ้ามันสำคัญมากเป็นภัยคุกคามชีวิตมากหรือ
00:09:36 → 00:09:38 อาจจะเป็นไม่ใช่ไม่ใช่แค่คุกคามภัยชีวิต
00:09:38 → 00:09:42 นะคุกคามความรู้สึกการมีคุณค่าในตัวเอง
00:09:42 → 00:09:45 ตัวเองตัวเองตัวตนเราเนี่ยครับหรือเซลเรา
00:09:45 → 00:09:47 เนี่ยมันก็จะมีเรื่องของความรู้สึกปลอด
00:09:47 → 00:09:49 ภัยในตัวตนตัวเองเหมือนกันออ่ะสมมุติยก
00:09:49 → 00:09:52 ตัวอย่างเช่นเอ่อเรามีแฟนอย่างเงี้ยครับ
00:09:52 → 00:09:54 แล้วแฟนแบบทำท่าทีเหมือนไม่ได้รักเรา
00:09:54 → 00:09:57 เหมือนเดิมอ่าแล้วเกิดมีตัวละครรับที่เรา
00:09:57 → 00:09:59 ได้ยินชื่อผ่านๆแล้วแบบคนนี้มันใครอ่ะเออ
00:09:59 → 00:10:02 อย่างเงี้ยฮะเราจะเริ่มเกิดความหลอนะเกิด
00:10:02 → 00:10:05 ความระแวงปรุงแต่งมาละปรุงแต่งแล้วแบบ
00:10:05 → 00:10:08 เฮ้ยเาจะยังรักฉันไม่นะสถานนี้มันจะยัง
00:10:08 → 00:10:11 อยู่อีกมั้ยนะเออทำไมเปลี่ยนไปอ่าเครับ
00:10:11 → 00:10:13 มันก็จะเกิดความรู้สึกตระหนกเกิดความรู้
00:10:13 → 00:10:16 สึกแบบกลัวขึ้นมาแล้วถ้าเกิดลองนึกภาพว่า
00:10:16 → 00:10:18 แฟนของเราเนี่ยครับเกิดไปคบคนอื่นจริงๆ
00:10:18 → 00:10:20 แล้วตัวเราเนี่ยครับเป็นคนเอาคุณค่าในตัว
00:10:20 → 00:10:22 เองผูกไว้กับเขาอือฮึการที่เขาปฏิเสธเรา
00:10:22 → 00:10:25 หรือเขาไม่เลือกเราเนี่ยครับมันก็จะ
00:10:25 → 00:10:28 เหมือนทำลายทำลายคุณค่าในตัวเราด้วยเออ
00:10:28 → 00:10:30 เพราะฉะนั้นมันอาจจะไม่ไม่ได้เป็นภัยต่อ
00:10:30 → 00:10:32 ตัวชีวิตโดยตรงแต่มันเป็นภัยต่อตัวจิตใจ
00:10:32 → 00:10:35 เราโดยตรงอือว่าเราไม่อยากถูกทำลายเรื่อง
00:10:35 → 00:10:38 คุณค่าในตัวเองโอโหมันก็จะมีความกังวล
00:10:38 → 00:10:40 เพราะฉะนั้นไอ้เรื่องหึงหวงไอ้เรื่องตาม
00:10:40 → 00:10:43 จิกไอ้เรื่องโทรตามไปแบบติด GPS อะไร
00:10:43 → 00:10:46 เงี้ยฮะพวกเนี้ยมันเกิดขึ้นจากความกังวล
00:10:46 → 00:10:49 และความกลัวอืเออเราถึงลงมือทำบางอย่าง
00:10:49 → 00:10:52 เพื่ออยากจะได้ข้อมูลให้เราไม่ต้อง
00:10:52 → 00:10:55 จินตนาการจะได้รู้ว่าอะไรคืออะไรก็จะแบบ
00:10:55 → 00:10:57 ติด GPS ให้รู้ไปเลยว่าแบบไปไหนจะได้ไม่
00:10:57 → 00:11:00 ต้องคิดเองแต่ถ้ามันไม่ได้เป็นอย่างที่
00:11:00 → 00:11:02 เราหรือหรือมันเป็นไปอย่างที่มันมันเกิด
00:11:02 → 00:11:05 ขึ้นเนี่ยมันก็เออก็วิตกกังวลได้ขึ้นได้
00:11:05 → 00:11:09 อีกนะมันจก็กังวลซ้อนกังวลไปอีกใช่หรือ
00:11:09 → 00:11:11 บางคนอาจจะเห็นแล้วก็เออทำใจดีกว่าเห็น
00:11:11 → 00:11:15 ความจริงะไม่จะได้ไม่ต้องคิดเองอือืทีนี้
00:11:15 → 00:11:17 มันเลยต้องบอกว่าแต่ละคนน่ะครับมันจะมี
00:11:17 → 00:11:19 เค้าเรียกว่าความพร้อมของจิตใจเนาะหรือ
00:11:19 → 00:11:21 วัตถุดิบหรือต้นทุนทางจิตใจไม่เหมือนกัน
00:11:21 → 00:11:24 อือคนบางคนอาจจะแบบสมมุติติด GPS ปั๊บรู้
00:11:24 → 00:11:26 ความจริงอาจจะยิ่งกลัวกว่าเดิมว่าแบบมัน
00:11:26 → 00:11:29 กำลังจะเกิดขึ้นยิ่งกลัวใหญ่เลยแต่ความคน
00:11:29 → 00:11:31 อาจจะเห็นแล้วแบบเฮ้ยถ้าเขาไม่ซื่อสัตย์
00:11:31 → 00:11:34 แล้วก็พอดีกว่าอืพอเห็นอย่างงี้ปั๊บบางคน
00:11:34 → 00:11:37 เนาะเห็นเหตุการณ์เดียวกันค่ะคนนึงตระหนก
00:11:37 → 00:11:39 รู้สึกไม่ไหวแล้วฉันจะต้องทำทุกอย่าง
00:11:39 → 00:11:41 เพื่อให้กอบกู้กลับคืนมาอ่าาฮะเออแต่บาง
00:11:42 → 00:11:43 คนอาจจะแบบเออเห็นความจริงแล้วปล่อยวางดี
00:11:43 → 00:11:46 กว่าความกังวลก็หายไปค่ะเพราะเขารู้สึก
00:11:46 → 00:11:48 ว่าเขายอมรับความจริงข้อนี้ได้แล้วเขาอาจ
00:11:48 → 00:11:51 จะรู้สึกว่าเมีคุณค่ามากพอดีกว่าจะมามา
00:11:51 → 00:11:54 นั่งถูกหักหลังอ่ะค่ะเออทีเมันเลยเหมือน
00:11:54 → 00:11:56 กับว่าแต่ละคนมี mindset หรือวิธีคิดไม่
00:11:56 → 00:11:59 เหมือนกันคนบางคนความวิตกกังวลเลยหายไป
00:11:59 → 00:12:01 เมื่อพบความจริงบางอย่างแล้วเยอมรับความ
00:12:01 → 00:12:03 จริงข้อนั้นได้อืพอยอมรับความจริงข้อนั้น
00:12:04 → 00:12:06 ได้ความจริงไม่ได้เป็นศัตรูกับเราปึ๊บ
00:12:06 → 00:12:08 เป็นไงครับเราก็ไม่หวาดหวั่นกับอนาคตแล้ว
00:12:08 → 00:12:10 อ่ะเพราะรู้สึกว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้อง
00:12:10 → 00:12:13 เกิดะเราก็ไม่กังวลแต่ถ้าถามว่าเศร้าม
00:12:13 → 00:12:16 เศร้าแต่ความเศร้ากับความกังวลเป็นคนละ
00:12:16 → 00:12:19 ชุดอารมณ์กันค่ะอืคนคนกังวลจะไม่ได้อาจจะ
00:12:19 → 00:12:21 มีเศร้าแต่มันมันจะไม่ได้เด่นที่เศร้าอ่ะ
00:12:21 → 00:12:23 คือคนนึงหลากหลายอารมณ์มากในในชั่วโมง
00:12:23 → 00:12:25 นั้นเนี่ยใช่ใช่ครับเพราะความเศร้าเป็น
00:12:25 → 00:12:27 เรื่องของความผิดหวังอือฮะเมื่อเมื่อ
00:12:27 → 00:12:29 กระทบบางสิ่งเห็นความจริงบางอย่างแล้วแบบ
00:12:29 → 00:12:31 แบบผิดหวังมันจะเศร้าค่ะแต่กังวลเนี่ยมัน
00:12:31 → 00:12:33 กำลังนึกถึงสิ่งที่แบบไม่รู้จะเกิดหรือ
00:12:33 → 00:12:36 ไม่เกิดเป็นความไม่แน่นอนเพราะงั้นตัวฐาน
00:12:36 → 00:12:38 อารมณ์หรือฐานความรู้สึกครับมันจะคนละชุด
00:12:38 → 00:12:41 กันอืเพราะงั้นอย่างคนตะกี้ที่แบบเออเห็น
00:12:41 → 00:12:43 แล้วความจริงคืออะไรอย่างเงี้ยครับเขาอาจ
00:12:43 → 00:12:45 จะต้อนรับมันได้เขาอาจจะรู้สึกเศร้าได้
00:12:46 → 00:12:48 เพราะเกิดความผิดหวังว่าโหเขาคก็แหมคบกัน
00:12:48 → 00:12:50 มาตั้งนานเนาะอือฮึเดี๋เขาคอาจจะเคยวาด
00:12:50 → 00:12:52 ฝันไว้อะไรเงี้ยครับมันก็เศร้าได้ค่ะเออ
00:12:52 → 00:12:55 แต่เขาจะพร้อมก้าวข้ามสิ่งนี้ไปได้แล้ว
00:12:55 → 00:12:58 ความวิตกกังวลก็จะหายไปจากใจเาเออคือเศ้า
00:12:58 → 00:13:00 ก็ปล่อยให้มันเศ้าเพราะมันอารมณ์ชดนี้มัน
00:13:00 → 00:13:03 คนละแบบกันเศร้าไปเลยไม่ได้ว่าอะไรแต่ว่า
00:13:03 → 00:13:05 ในความวิตกกังวลนั้นน่ะมันได้รู้ความ
00:13:05 → 00:13:08 จรริงแลชัดเจนะเพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องมา
00:13:08 → 00:13:11 นั่งคิดหรืออะไรต่อไปแล้วใช่ครับเพราะ
00:13:11 → 00:13:14 กังวลมันคือการที่แบบไม่รู้อ่ะมันจะได้ม
00:13:14 → 00:13:17 มันจะโอเคยพอมันมีความไม่รู้ปั๊บมันก็จะ
00:13:17 → 00:13:19 กังวลนะครับเพราะมันคือจินตนาการที่ปรุง
00:13:19 → 00:13:22 ขึ้นมาอือืเพราะงั้นการการรู้ความจริงอ่ะ
00:13:22 → 00:13:26 ครับคือทางออก 1 อย่างที่ช่วยสกัดความ
00:13:26 → 00:13:29 วิตกกังวลทิ้งไปได้
00:13:29 → 00:13:31 โอโหแต่แต่อย่างที่บอกนะมันมันเกิดขึ้นมา
00:13:31 → 00:13:33 ปั๊บทีนี้มันก็จะเป็นเรื่องของไซแล้วว่า
00:13:33 → 00:13:35 เมื่อรู้ความจริงปั๊บเรามีท่าทีต่อความ
00:13:35 → 00:13:38 จริงนั้นยังไงต่ออันนี้ก็สำคัญมันก็
00:13:38 → 00:13:40 เหนื่อยดีเหมือนกันเนาะกับความวิตกกังวล
00:13:40 → 00:13:44 เนี้ยคือคือมันเดาไปทางไหนก็ไม่ได้อ่ะจะ
00:13:44 → 00:13:46 จะเดาไปในทางดีก็ไม่รู้มันจะไปขนาดนั้น
00:13:46 → 00:13:49 มั้ยบางคนก็อาจจะบอกว่าเฮ้ยคิดมากไปหรือ
00:13:49 → 00:13:51 เปล่าไปไปตกวิตกมากเกินไปสิมันอาจจะไม่
00:13:51 → 00:13:54 ได้เป็นอย่างงั้นแต่ว่าเราคือผู้ที่เผชิญ
00:13:54 → 00:13:56 กับภาวะนั้นอยู่เนี่ยความไม่แน่นอนที่มัน
00:13:56 → 00:13:59 เกิดขึ้นเนี่ยคือพอได้คำตอบตบแล้วว่าอ่ะ
00:13:59 → 00:14:02 โอเคสมมติไม่ได้เลยอพนักงานออกซึ่งเราไม่
00:14:02 → 00:14:05 ได้โดนออกก็ความพสกของมูนก็ปปิดทิ้งไป
00:14:05 → 00:14:09 แล้วสบายใจเออแต่ถ้าเกิดแบบหรือเรารู้ว่า
00:14:09 → 00:14:13 เราเป็นคนนี่ออกอ่ะเออไปเครียดอย่างอื่น
00:14:13 → 00:14:17 แทนไปวิตกกังวลอย่างอื่นแทนใช่ว่าแล้วจะ
00:14:17 → 00:14:20 ไปห่างานตรงไหนเงินจะยังไงอ่ะได้เงินชด
00:14:20 → 00:14:22 เชยมาแล้วถ้าเกิดเงินชดเชยตรงนั้นจะเอาไป
00:14:22 → 00:14:24 ทำอะไรต่อมันมันก็จะเป็นสเต็ปความวิตก
00:14:24 → 00:14:27 กังวลไปอีกรูปแบบนึงใช่มันก็กังวลกับขั้น
00:14:27 → 00:14:29 ๆถัดๆไปแต่มันจะเกิดการปับตัวขึ้นไปตาม
00:14:30 → 00:14:32 ความจริงแล้วแบบที่อย่างคนที่อยู่ในวังวน
00:14:32 → 00:14:35 ความวิตกกังวลเนี่ยมันมันมันจะเป็นแบบไหน
00:14:35 → 00:14:40 คะที่เฮ้ยมันเกินไปะมันมีผลกระทบแน่นอน
00:14:40 → 00:14:43 คือมันต้องระดับเวลไหนอ่ะคืออาจสมมุติถ้า
00:14:43 → 00:14:45 สังเกตง่ายๆครับคนบางคนจะเหมือนคิดคิดวน
00:14:45 → 00:14:47 อยู่เรื่องเดิมๆวนแล้วก็รู้สึกหมดหมอง
00:14:47 → 00:14:49 เนาะอันนี้คือต้องเป็นเรื่องเดิมใช่มั้ย
00:14:49 → 00:14:51 ส่วนใหญ่กังวลมันจะเป็นพอย์ที่แบบค่อน
00:14:51 → 00:14:54 ข้างชัดเจนอืคืออย่างที่ผมบอกอ่ะครับว่า
00:14:54 → 00:14:57 มันเป็นเรื่องสำคัญพอสำคัญปึ๊บสุดท้ายอ
00:14:57 → 00:14:59 ครับเอ่อจิตของเรามันจะวนอยู่กับเรื่อง
00:14:59 → 00:15:02 ที่สำคัญเสมออือฮึเรื่องไหนไม่สำคัญมันจะ
00:15:02 → 00:15:05 ไปรู้แป๊บนึงแล้วมันก็จะผ่านหายไปมันมี
00:15:05 → 00:15:09 ขนาดว่าวิตกกังวลหลๆเรื่องได้มั้ยได้ครับ
00:15:09 → 00:15:11 แล้วแต่แล้วแต่ว่าตัวเค้าไปเกี่ยวพันกับ
00:15:11 → 00:15:14 อะไรบ้างออย่าเช่นนะสมมุติว่าเา้าจะโดน
00:15:14 → 00:15:15 เลอฟใช่มั้ยฮะอือฮึอันนี้คือ 1 เรื่อง
00:15:15 → 00:15:18 กังวละเกี่ยวกับตัวงานอย่างที่ 2 แม่เดัน
00:15:18 → 00:15:22 ป่วยด้วยโอ๊ยแล้วแบบเอ่อแม่เ้าจะยังมี
00:15:22 → 00:15:25 ชีวิตมั้ยหรือแล้วถ้าฉันโดนเลยอเงินเอา
00:15:25 → 00:15:29 ที่ไหนไปรักษาอืมนี้ชีวิตจริง 3 ชีวิต
00:15:29 → 00:15:32 รุ่มแล้วโอแฟนกำลังจะนอกใจอีกคนหรือมี
00:15:32 → 00:15:35 หนี้สินบางอย่างที่แบบคล้ายๆต้องผ่อนอยู่
00:15:35 → 00:15:37 เนี่ยครับบางทีมันวนอยู่กับ 3-4 เรื่อง
00:15:37 → 00:15:39 เนี่ยส้ำซอนมากคือคืออย่างเช่นเรื่องคุณ
00:15:39 → 00:15:41 แม่อย่าเงี้ยครับอย่างเช่นมันเป็นความ
00:15:41 → 00:15:42 กังวลเรื่องการเงินด้วยเช่นแบบเอาเงินที่
00:15:42 → 00:15:45 ไหนมารักษาคุณแม่ถูกมั้ยฮะอือแต่มันอาจจะ
00:15:45 → 00:15:47 มีตรงนี้ด้วยก็ได้ว่าที่ไม่เกี่ยวกับเงิน
00:15:47 → 00:15:49 ก็คือคุณแม่จะยังแข็งแรงและอยู่กับเราได้
00:15:49 → 00:15:52 นานมคือเขาอาจจะมีเงินก็ได้นะเออแต่เขา
00:15:52 → 00:15:54 อาจจะกังวนว่าแบบคุณแม่จะอยู่ไม่นานแล้ว
00:15:54 → 00:15:57 เขาจะต้องอยู่ลำพังคนเดียวอย่างเงี้ยหรือ
00:15:57 → 00:15:59 ชีวิตที่แบบแม่เไม่อยู่จะรู้สึกยังไงอือ
00:15:59 → 00:16:01 คือมันอาจจะเป็นความกังวลที่ไม่ใช่เรื่อง
00:16:01 → 00:16:04 การเงินแต่เป็นเรื่องของการที่ยังไม่อยาก
00:16:04 → 00:16:07 จะสูญเสียอืก็มีหรือถ้าบ้านถูกยึดแล้วจะ
00:16:07 → 00:16:09 ไปอาศัยที่ไหนค่ะอย่างเงี้ยครับคือถ้าไม่
00:16:09 → 00:16:13 มีเงินจ่ายมันก็จะไปกังวลต่อว่าแล้วจะไป
00:16:13 → 00:16:15 นอนที่ไหนเออเป็นสต่อก็เป็นเรื่องความ
00:16:15 → 00:16:17 มั่นคงที่อยู่อาศัยอย่าเงี้ยครับแต่ว่าใน
00:16:17 → 00:16:21 ในความวังวลวิตกกังวลที่แบบว่าซ้ำๆย้ำๆ
00:16:21 → 00:16:24 ไอ้เรื่องสำคัญเนี่ยเมื่อกี้มันเหมือน
00:16:24 → 00:16:26 สำคัญหลายอย่างเลยนะใช่ครับใช่สำคัญทุก
00:16:26 → 00:16:30 อย่างเลยทุกอย่างเลยแล้วมันมันจะไปแยกยัง
00:16:30 → 00:16:32 ไงอันนี้สำคัญกว่าฉันวิตกกังวลนี้ก่อน
00:16:32 → 00:16:34 แล้วได้มั้ยหรืออะไรยังไงมันสุดท้ายมัน
00:16:34 → 00:16:36 อันนี้มันจะขึ้นอยู่กับแผนการปฏิบัตินะ
00:16:36 → 00:16:37 ครับคือจริงๆต้องบอกว่ากังวลเนี่ยมันเป็น
00:16:37 → 00:16:41 ภาวะอารมณ์ที่อยู่กับเราได้เราบางเรื่อง
00:16:41 → 00:16:43 บางเรื่องเราทำได้แค่เฝ้ารอให้เหตุการณ์
00:16:43 → 00:16:46 มันดำเนินไปจนผ่านไปก็มีนะบางอันมัน
00:16:46 → 00:16:48 เหมือนกับอย่างเช่นเราสอบอย่าเงี้ยครับ
00:16:48 → 00:16:50 แล้วผลยังไม่ประกาศบางทีมันอาจจะทำอะไร
00:16:50 → 00:16:52 ไม่ได้นอกจากแค่แบบรับรู้แหละว่าเรากังวล
00:16:52 → 00:16:55 ว่าผลยังไม่ออกอือฮึถูกมั้ยครับจนกว่าผล
00:16:55 → 00:16:57 จะออกแล้วไม่ถึงจะถึงจะรู้สึกเข้าใจว่า
00:16:57 → 00:17:00 แบบโอเคจะเสียใจเศร้าหรือสบายใจจะอะไรต่อ
00:17:00 → 00:17:02 ก็ค่อยว่ากันมันก็ขึ้นกับผลข้างหน้าถูก
00:17:02 → 00:17:05 มั้ยฮะแต่ทีเนี้ยระหว่างทางอ่ะครับต้อง
00:17:05 → 00:17:09 บอกว่าเราเรามีทางเลือกว่าจะอยู่กับความ
00:17:09 → 00:17:12 วิตกนั้นไปก่อนหรือเราจะเบี่ยงให้ตัวเอง
00:17:12 → 00:17:14 ไปทำอย่างอื่นก่อนเพราะการอยู่กับความ
00:17:14 → 00:17:16 วิตกกังวลไม่ได้เป็นประโยชน์อือย่างเช่น
00:17:16 → 00:17:18 แบบเนี่ยผลสอบยังไม่ออกเงี้ยครับให้มา
00:17:18 → 00:17:20 นั่งแบบอมทุกข์อยู่บ้านแบบเมื่อไหร่ผลจะ
00:17:20 → 00:17:22 ออกเมื่อไหร่ผลจะออกอชีวิตมันหาคววามจลง
00:17:22 → 00:17:25 ใจไม่ได้เลยนะอือใช่มั้ยฮะเพราะงั้นบางคน
00:17:25 → 00:17:27 ก็อาจจะแบบโอ้เครียดไปก็เท่านั้นเราเคย
00:17:27 → 00:17:29 ได้ยินคำนี้เนาะใช่เครียดไปก็นั้นช่างมัน
00:17:29 → 00:17:31 เราไปเที่ยวกับเพื่อนดีกว่าเพราะว่าตอน
00:17:32 → 00:17:33 นี้นั่งอยู่กับบ้านวิตกกังวลไปก็ไม่ได้
00:17:33 → 00:17:35 เกิดอะไรขึ้นมาทำอะไรไม่ได้เออเพราะ
00:17:36 → 00:17:38 ฉะนั้นไปทำอย่างอื่นดีกว่าอืบางทีพวก
00:17:38 → 00:17:40 เนี้ยมันก็จะช่วยเบี่ยงให้เราแบบคล้ายๆ
00:17:40 → 00:17:43 ผ่อนผ่อนความรู้สึกวิตกได้บ้างค่ะอืแต่ที
00:17:43 → 00:17:45 นี้ก็ต้องบอกว่าการที่เราจะเลี่ยงสิ่งนี้
00:17:45 → 00:17:48 มาได้อครับมันเหมือนกับคงต้องมีจุดอิ่ม
00:17:48 → 00:17:49 ตัวบางอย่างเหมือนกันที่เรารู้สึกว่า
00:17:49 → 00:17:52 กังวลต่อไปก็เท่านั้นอือกังวลต่อไปก็ไม่
00:17:52 → 00:17:55 ได้ช่วยอะไรบางทีประโยคพวกเนี้ยครับมันจะ
00:17:55 → 00:17:57 มาหลังจากการที่เราได้วิตกกับมันแล้วสัก
00:17:57 → 00:18:00 พักนึงอืออยู่วิตกกับมันสักพักนึงจนรู้
00:18:00 → 00:18:03 สึกว่าเออพอดีกว่ามันไม่ได้พาเราไปไหนอ
00:18:03 → 00:18:05 เราก็อาจจะเบี่ยงไปทำอย่างอื่นหรือนอกจาก
00:18:05 → 00:18:07 ว่าอีกอย่างนึงที่คนจะเบี่ยงไม่ได้นะครับ
00:18:08 → 00:18:11 ก็คือการที่เรื่องนั้นสำคัญมากๆมากระดับ
00:18:11 → 00:18:13 ที่มันแบบอพคสูงอครับเช่นสมมุติอ่าเกิด
00:18:13 → 00:18:16 คุณแม่เข้าห้องผ่าตัดระหว่างที่นั่งอ่ะ
00:18:16 → 00:18:18 ครับเราก็จะแบบเออช่างแม่เถอะเล่นเกมดี
00:18:18 → 00:18:21 กว่าคือมันก็จะไม่ใช่นึกออกมั้ยฮเค้าก็
00:18:21 → 00:18:23 อาจจะแบบนั่งแบบไม่อยากทำอะไรอ่ะคือเขา
00:18:23 → 00:18:25 รู้สึกว่ายังไงเรื่องนี้มันสำคัญที่สุดจน
00:18:25 → 00:18:27 เขาไม่ได้มีจิตใจอยากจะไปทำอย่างอื่นงั้น
00:18:27 → 00:18:30 แสดงว่าแต่ละคนเนี่ยจะสามารถลำดับความ
00:18:30 → 00:18:33 สำคัญในแต่ละเรื่องที่อันภาวะที่เผชิญ
00:18:33 → 00:18:35 อยู่ตนั้นของของตัวเองได้อยู่แล้วใช่ใช่
00:18:35 → 00:18:38 ค่ะต้องไปช่างเอาว่าอันไหนสำคัญมากสำคัญ
00:18:38 → 00:18:40 น้อยอันไหนที่เขาอยากจะอยู่กับมันด้วย
00:18:40 → 00:18:42 ความวิตกไปก่อนหรืออันไหนที่เขารู้สึกว่า
00:18:42 → 00:18:44 อยู่แล้วแบบไม่ได้เป็นประโยชน์กังวลไปก็
00:18:44 → 00:18:46 เท่านั้นแล้วก็ผันไว้ทำทางอื่นอย่างเงี้ย
00:18:46 → 00:18:49 ครับอลำดับความสำคัญของความไอเรื่องนั้น
00:18:49 → 00:18:51 ได้แล้วก็ต้องเหมือนกับว่าเราสามารถหา
00:18:51 → 00:18:55 วิธีในการที่จะออกจากภาวะความวิตกกังวล
00:18:55 → 00:18:56 ตรงนั้นได้อ่าใช่ครับแต่จริงๆแล้วถ้า
00:18:57 → 00:19:00 สมมุติพูดถึงสูตรสำเร็จอที่ที่น่าจะช่วย
00:19:00 → 00:19:02 ทำให้เราเป็นกลายเป็นคนวิตกน้อยอืต้องบอก
00:19:02 → 00:19:06 งี้ครับเอ่อผมว่าอย่างแรกสำคัญที่สุดคือ
00:19:06 → 00:19:08 การรู้จักอครับว่าตัวเองให้ความสำคัญกับ
00:19:08 → 00:19:12 เรื่องอะไรอือฮึอะไรเป็นสิ่งสำคัญที่
00:19:12 → 00:19:14 อุปถัมภ์หรืออุ้มชูให้ชีวิตเรารู้สึกว่า
00:19:15 → 00:19:17 จิตใจมั่นคงอยู่บ้างเช่นสมมุติอ่ะเรามา
00:19:17 → 00:19:21 นั่งทบทวนปึ๊บเราพบว่าออการงานที่ดีทำให้
00:19:21 → 00:19:24 เรารู้สึกจิตใจสงบมั่นคงอือฮึถูกมั้ยครับ
00:19:24 → 00:19:27 การที่เรามีเพื่อร่วมงานดีการที่เรายังมี
00:19:27 → 00:19:30 บ้านที่แบบเอ่อมั่นคงดีไม่ต้องผ่อนแล้ว
00:19:30 → 00:19:33 สมมุติไม่มีหนี้สินอย่างเงี้ยฮะไอ้พวก
00:19:33 → 00:19:35 เนี้ยมันคือสิ่งที่เราได้คำตอบกับตัวเอง
00:19:35 → 00:19:37 แล้วว่าพวกเนี้ยมันคือเหมือนเสาหลักอ่ะ
00:19:37 → 00:19:40 ครับที่ทำให้จิตใจเรามั่นคงดีอือเพราะ
00:19:40 → 00:19:43 ฉะนั้นสิ่งพวกเนี้ยมันจะเป็นสิ่งสำคัญมาก
00:19:43 → 00:19:46 ๆต่อการคุ้มครองเราให้ไม่วิตกกังวลอ่า
00:19:46 → 00:19:48 วิธีการของมันก็คือว่าเมื่อรู้ว่าอะไร
00:19:48 → 00:19:51 สำคัญปั๊บเราต้องคิดต่อว่าไอ้พวกเนี้ยมัน
00:19:51 → 00:19:54 ยังคงมั่นคงอยู่ได้ยังไงอืเช่นสมมุติการ
00:19:54 → 00:19:56 เงินที่ดีนะครับเราเห็นว่าตัวเองมีเงินจะ
00:19:56 → 00:19:59 ทำให้ใจเรามั่นคงแต่เงินเนี่ยมันไม่ได้
00:19:59 → 00:20:02 จู่ๆแบบเสถียนของมันเองนะเราจะต้องรู้สึก
00:20:02 → 00:20:04 ว่ามันต้องมีปัจจัยหล่อเลี้ยงเช่นเฮ้ยเรา
00:20:04 → 00:20:07 ยังเห็นรายได้ที่มันเข้ามาไม่ขาดเหรียง
00:20:07 → 00:20:09 ที่ 2 คือเราพบว่าตัวเราอ่ะมีวิธีการ
00:20:09 → 00:20:12 บริหารการเงินที่ดีเรามีการอดการมีมีการ
00:20:12 → 00:20:15 ออมที่ดีอย่างเงี้ยฮะไอ้พวกเนี้ยพอเรา
00:20:15 → 00:20:17 เห็นว่าเงินมันมั่นคงได้จากวินัยการใช้
00:20:17 → 00:20:20 เงินไอ้ตรงเนี้ยมันจะช่วยให้เราแบบมี
00:20:20 → 00:20:22 ปัญหาการเงินน้อยค่ะแล้วพอปัญหาการเงิน
00:20:22 → 00:20:24 น้อยเราก็จะไม่ค่อยมีความวิตกกังวลเรื่อง
00:20:25 → 00:20:27 การเงินอืๆเออหรือเรื่องสุขภาพอย่างเงี้ย
00:20:27 → 00:20:29 ครับถ้าเราแบบรู้สึกว่าสุขภาพมันสำคัญเรา
00:20:30 → 00:20:32 ก็หมั่นดูแลตัวเองให้มันแบบยังคงสมบูรณ์
00:20:32 → 00:20:34 ค่ะถูกมั้ยฮะเราก็จะเจอความเจ็บป่วยน้อย
00:20:34 → 00:20:36 หน่อยก็จะกังวลน้อยหน่อยอือฮหรืออีกอย่าง
00:20:36 → 00:20:38 นึงคือที่สำคัญมากคือเป็นเรื่องของการ
00:20:38 → 00:20:41 เตรียมใจเกี่ยวกับการปล่อยวางอืเพราะ
00:20:41 → 00:20:45 เรื่องบางเรื่องเหนือการควบคุมมันเหนือ
00:20:45 → 00:20:47 การควบคุมของเราจริงๆมันอาจจะเกิดขึ้นได้
00:20:47 → 00:20:50 เช่นต่อให้สุขภาพเราจะดูแลดียังไงก็ตาม
00:20:50 → 00:20:52 อาจจะมีบางสิ่งที่เหนือความคลาดหมายก็ได้
00:20:52 → 00:20:54 เช่นอุบัติเหตุหรืออาจจะเป็นโรคร้ายแรง
00:20:54 → 00:20:56 บางอย่างที่แบบเหมือนแจ็คพอตจู่ๆก็โผล่มา
00:20:56 → 00:20:58 ที่เราเช่นโรคมะเร็งหรืออื่นๆอย่างเงี้ย
00:20:58 → 00:21:00 ครับครับบางทีพวกเนี้ยถ้าเราไม่ได้มีจิต
00:21:00 → 00:21:02 ใจที่เตรียมไว้ล่วงหน้าว่าชีวิตอะไรก็
00:21:02 → 00:21:05 เกิดขึ้นได้ค่ะเมื่อมันกระทบเราปึ๊บความ
00:21:05 → 00:21:07 วิตกกังวลมันมาเลยครับความเศร้าความผิด
00:21:07 → 00:21:10 หวังมันมาทันทีแต่สมมุติถ้าเราเห็นชีวิต
00:21:10 → 00:21:12 กว้างพอครับว่าจริงๆแล้วอ่ะถ้าเรามองไป
00:21:12 → 00:21:15 กว้างๆมันก็มีคนที่โดนแจ็คพอตแบบเนี้ย
00:21:15 → 00:21:18 เต็มไปหมดเลยขึ้นกับว่าจะมาลงกับเรามั้ย
00:21:18 → 00:21:19 ทีนี้ถ้าตัวเราไม่เคยคิดเผื่อไว้เลยว่า
00:21:20 → 00:21:21 มันอาจจะเกิดขึ้นกับเราก็ได้นะอย่างเงี้ย
00:21:21 → 00:21:24 ฮะเหมือนเราไม่คิดว่ามันจะเกิดพอเกิดปั๊บ
00:21:24 → 00:21:26 มันตกใจแต่ถ้ามันมีจุดที่เผื่อใจไว้บ้าง
00:21:26 → 00:21:29 ว่ามันอาจจะเกิดขึ้นกับก็ได้แต่ถ้าเกิด
00:21:29 → 00:21:32 ขึ้นเราก็รักษาไปตามโลกเอ้ยตามตามเรื่อง
00:21:32 → 00:21:34 ตามราวอือฮึแล้วชีวิตจะให้เวลาเราเท่า
00:21:34 → 00:21:37 ไหร่ก็เท่านั้นแหละอือ่าทีนี้ถ้าเราใช้
00:21:37 → 00:21:39 ชีวิตแบบรู้สึกไม่ได้เสียดายแล้วว่าเฮ้ย
00:21:39 → 00:21:41 ที่ผ่านมาฉันได้พิสูจน์ตัวเองฉันได้ทำ
00:21:41 → 00:21:44 สิ่งที่มีคุณค่ามากมายจนรู้สึกว่าสมมุติ
00:21:44 → 00:21:46 ตายพวกนี้คือไม่เสียดายอย่าเงี้ยฮะบางที
00:21:46 → 00:21:48 มันก็อาจจะไม่กังวลอะไรมากก็ได้นะทำไมฟัง
00:21:48 → 00:21:51 ดูเหมือนปลงๆอันนี้เหมือนเหมือนจะเข้าใจ
00:21:51 → 00:21:54 ก็เออๆเข้าใจนะแต่ก็ปลงไปในตัวก็เลยทำให้
00:21:54 → 00:21:57 แบบว่าความวิตกกังวลมันน้อยลงอน้อยลงครับ
00:21:57 → 00:22:00 จริงๆแล้วปลงปลงมันอาจจะดูเป็นคำแบบ
00:22:00 → 00:22:02 เหมือนคนแก่ปลงอะไรสักอย่างเนาะแต่จริงๆ
00:22:02 → 00:22:04 ต้องบอกว่าความปลงมันคือความรู้สึกว่าวาง
00:22:04 → 00:22:08 ได้วางได้หรือว่ามันมันมันคือสัจธรรมแหละ
00:22:08 → 00:22:10 ซึ่งมันเกิดขึ้นกับใครก็ได้อ่าเราอาจจะ
00:22:10 → 00:22:13 เป็นผู้โชคโชคร้ายหนึ่งในนี้ที่แบบเ้า
00:22:13 → 00:22:15 ต้องเผชิญกับภาวะโรคร้ายแรงอะไรอย่างงี้
00:22:15 → 00:22:18 ก็ได้อะไรงี้ใช่มั้อ่าใช่ครับอแต่ว่าคนคน
00:22:18 → 00:22:21 ที่ปลงได้เอาจจะมีความเผื่อใจไว้อ่ะว่า
00:22:21 → 00:22:25 มันอาจจะรักษาได้มั้งหรือไม่ได้อะไรเงี้ย
00:22:25 → 00:22:27 ฮะแต่แต่อะไรจะเกิดขึ้นคือที่ผ่านมาเขา
00:22:27 → 00:22:29 ใช้ชีวิตเต็มที่และอเพราะงั้นเขาก็จะไม่
00:22:29 → 00:22:32 มีอะไรที่รู้สึกมานั่งเสียดายผิดหวังเออ
00:22:32 → 00:22:34 แต่เขาคก็ไม่ได้ทอดทิ้งชีวิตตัวเองนะก็
00:22:34 → 00:22:37 คือว่าใช้ยังคงใช้ชีวิตด้วยสติอยู่แล้วก็
00:22:37 → 00:22:40 ถ้ารักษาได้ก็รักษาอออฮะอย่างเงี้ยครับอ
00:22:40 → 00:22:42 แต่จะไม่ให้ความวิตกกังวลมาครอบงำจน
00:22:42 → 00:22:45 กระทั่งเขหาความสุขในชีวิตไม่ได้โอ้โหถ้า
00:22:45 → 00:22:46 อย่างเงี้เราก็เหมือนกับว่าเราก็ต้อง
00:22:47 → 00:22:48 พยายามที่จะ
00:22:48 → 00:22:52 เอ่อคือต้องมีสติกับการใช้ชีวิตอ่ะเออ
00:22:52 → 00:22:55 แล้วก็พยายามจะไม่ไม่ต้องเอาอะไรมาให้วิ
00:22:55 → 00:22:58 วิตกกังวลเยอะๆซึ่งมันมันยากนะมันต้องอ
00:22:58 → 00:22:59 ยากครับยากเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องของการ
00:22:59 → 00:23:02 ฝึกจิตใจอยู่ที่ว่าเราเข้าใจชีวิตแค่ไหน
00:23:02 → 00:23:04 มันก็ต้องผ่านระยะเวลาประสบการณ์
00:23:04 → 00:23:06 ประสบการณ์อีกใช่ครับประสบการณ์กว่าจะตก
00:23:07 → 00:23:09 ตะกอนได้กว่าจะหายวิตกกังคือจริงๆเชื่อ
00:23:09 → 00:23:12 ว่าต่อให้ผ่านอะไรมาเยอะอ่ะแค่บางอย่าง
00:23:12 → 00:23:15 มันลดทอนความวิตกกังวลลงไปแต่ว่าไม่ได้
00:23:15 → 00:23:17 หายไปทั้งหมดหรอกเพราะมันมีเรื่องให้
00:23:17 → 00:23:20 เดี๋ยวก็เรื่องนั้นเรื่องนี้ให้วิตกกังวล
00:23:20 → 00:23:22 ต่อให้เรื่องเดิมก็เถอะบางทีมันก็อาจจะ
00:23:22 → 00:23:25 เริ่มแกว่งได้เหมือนกันนะอืวิตกกังวลตอน
00:23:25 → 00:23:28 แรกอาจจะเคยไม่ค่อยวิตกกังวลอะไรอาจจะ
00:23:28 → 00:23:32 เป็นคนแบบชิวๆสบายๆแต่พอแบบเจอซ้ำๆเอ้ย
00:23:32 → 00:23:35 มันเริ่มอืใช่หนักขึ้นเรื่อยๆอะไรงใชนี้
00:23:35 → 00:23:37 ต้องต้องฝากไว้ให้คุณผู้ฟังทราบอีกอย่าง
00:23:37 → 00:23:40 นึงคือบางทีตามอายุอ่ะครับพออายุมากขึ้น
00:23:40 → 00:23:42 ผมมีคนหลายๆท่านที่แบบพออายุมากขึ้นแล้ว
00:23:42 → 00:23:45 สมองเริ่มถดถอยความวิตกกังวลบางอย่างเาจะ
00:23:45 → 00:23:47 เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้จะเริ่มยากบางคน
00:23:47 → 00:23:50 เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนก็มีครับฮอร์โมนเพศ
00:23:50 → 00:23:53 เช่นแบบเอ่อประจำเดือนจะมาวัทองอือหรือ
00:23:53 → 00:23:55 ผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมบางทีการ
00:23:55 → 00:23:58 ควบคุมความวิตกกังวลเขาจะยากกว่าเดิมอือ
00:23:58 → 00:24:01 บางีตงอจต้องพบนักวิชาชีพที่เป็นจิตแพทอา
00:24:01 → 00:24:04 จะต้องดูว่าแบบต้องมีใช้ยาตัวไหนช่วยย
00:24:04 → 00:24:06 หรือมีอะไรที่มันช่วยทำให้ประคับประอง
00:24:06 → 00:24:08 ฮอร์โมนให้ให้มันเสถียรขึ้นได้หรือเปล่า
00:24:08 → 00:24:10 เกี่ยวถ้าเกิดเป็นเกี่ยวกับทางสมองด้วย
00:24:10 → 00:24:11 อันนั้นมันมันต้องใช้ใช่ใช่เพราะฉะนั้น
00:24:11 → 00:24:13 เรื่องเนี้ยหต้องแยกเป็น 2 ส่วนส่วนที่
00:24:13 → 00:24:15 เป็นคนปกติที่เจอได้เหมือนพวกเรากับส่วน
00:24:15 → 00:24:17 ที่มันแบบโอ้โหมันกระทบกระเทือนการใช้
00:24:17 → 00:24:20 ชีวิตมากจนใช้ชีวิตยากและเราหาที่มาที่ไป
00:24:20 → 00:24:22 หรือความสมเห็ดสมผลของความกังวลได้ไม่
00:24:22 → 00:24:25 เท่าไหร่พวกเอาจจะต้องลองปรึกษาที่เป็น
00:24:25 → 00:24:27 นักวิชาชีพด้านด้านจิตแพทย์อะไรเงี้ยฮะ
00:24:27 → 00:24:29 ค่ะอือเห็นภาพชั้นเจนเพราะว่าอย่างน้อง
00:24:29 → 00:24:33 ที่ทำงานคนนึงเา้าก็เอ่อเผชิญภัยคุกคาม
00:24:33 → 00:24:36 อ่ะนะคะแล้วก็ทำให้เค้าเนี่ยทุกวันเนี้ย
00:24:36 → 00:24:38 เห็นไม่ได้เลยจะเกิดความวิตกกังวลแล้วนอน
00:24:38 → 00:24:41 ไม่หลับขึ้นมาแต่ว่าเคก็ไปปรึกษาจิตแพทย
00:24:41 → 00:24:44 ซึ่งซึ่งกินยาด้วยอ่ะนะคะเราก็ต้องคอยดู
00:24:44 → 00:24:47 แลเหมือนกันว่าอย่าอย่าขาดยาถึงเวลาต้อง
00:24:47 → 00:24:51 ไปหาตลอดนะอย่าทิ้งช่วงอย่าคิดว่าตัวเอง
00:24:51 → 00:24:54 หายเอาให้ชัวร์ว่าหมอบอกว่าดีขึ้นแล้ว
00:24:54 → 00:24:56 จริงๆเพราะว่าต่อให้ไม่เจอมานแล้วพอมาเจอ
00:24:57 → 00:24:59 อีกสักแวบนึงเนี่ย
00:24:59 → 00:25:02 เวิตกกังวลใช่กวไม่ได้แล้วเกังวลไปหมดเลย
00:25:02 → 00:25:06 อ่ะแล้วหน้าตาออกแบบเออๆอันนี้มันมันน่า
00:25:06 → 00:25:08 เห็นใจคนที่อยู่ในภาวะแบบนี้มากๆนะใชขึ้น
00:25:08 → 00:25:10 กับว่าเาเจอกระทบแรงแค่ไหนเนาะถ้าเจอ
00:25:10 → 00:25:12 กระทบแรงมากเหมือนเป็นภัยคุกคามมากก็เกิด
00:25:12 → 00:25:15 ความยิ่งกลัวมากขึ้นนะใช่ๆอันนี้ก็ถ้า
00:25:15 → 00:25:17 เกิดว่าเราเรามีเพื่อนหรือเราอยู่ในภาวะ
00:25:17 → 00:25:19 วิตกที่เราพอจะจัดการเองได้อันนี้ก็ไม่มี
00:25:19 → 00:25:21 ปัญหาแต่ถ้าเราอยู่ใกล้กับใครที่เขาไม่
00:25:22 → 00:25:25 สามารถจะคลายตรงนี้ได้เนี่ยลองลองหาวิธี
00:25:25 → 00:25:28 หรือแนะนำเขไปพบกับจิตแพทย์ก็น่าจะดี
00:25:28 → 00:25:30 วิทยาก็ได้อได้ปรึกษาคุณเอิ้นได้ค่ะครับ
00:25:30 → 00:25:34 ผมขอบคุณคุณเอิ้นค่ะสวัสดีค่ะหมดเวลาแล้ว
00:25:34 → 00:25:36 ค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่ครั้งหน้ากับรายการ
00:25:36 → 00:25:39 โรงหมอทาง Thai PBS podcast นะคะวันนี้
00:25:39 → 00:25:43 ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ This Is Thai PBS
00:25:43 → 00:25:45 podcast เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วต้องไป
00:25:45 → 00:25:48 เซเรย์ร่างกายจะต้องให้ความสนใจผลเซเรย์
00:25:48 → 00:25:51 ไม่ต่างจากผลอื่นด้วยเพราะอะไรดรนายแพทย์
00:25:51 → 00:25:54 จตุพลคงถาวรสกุลแพทย์ศูนย์กล้ามเนื้อ
00:25:54 → 00:25:57 กระดูกและข้อมาเล่าให้ฟังครับปกติแล้ว
00:25:57 → 00:26:01 เนี่ยนะนะสมมุตินะพอเวลาทุกท่านเนี่ยเกิด
00:26:01 → 00:26:05 อุบัติเหตุค่ะล้มแล้วกันเข่ากระแทกค่ะไป
00:26:05 → 00:26:07 เซเรย์ที่โรงพยาบาลอ่ะไปถึงโรงพยาบาลอ่ะ
00:26:07 → 00:26:10 หมอส่วนใหญ่หมอกระดูกทุกคนน่ะหาไปเเรก่อน
00:26:10 → 00:26:12 ไม่ว่ามันจะเบาหรือจะหนักเพราะว่าบางที
00:26:12 → 00:26:15 มันมองด้วยลูกกตาไม่ได้บางรายหักก็มีใช่
00:26:15 → 00:26:19 มั้ยอ่าเา้าก็จะแนะนำเราไปเดี๋ยวเซเรก่อน
00:26:19 → 00:26:23 อพอเเรกลับมาปุ๊บสิ่งที่คนไข้รอฟังคือหัก
00:26:23 → 00:26:27 ไม่หักไม่ไม่ดูใช่หักไม่หักเป็นไรมั้ยอ๋อ
00:26:27 → 00:26:32 ไม่หักอ่ะสบายใจพอไม่หักเคยขอดูมั้ยขอดู
00:26:32 → 00:26:35 ฟิล์มไม่ก็ไม่หักไงอ่ะก็น้อยแต่มีมั้ยมี
00:26:35 → 00:26:40 คนขอดูฟิล์มมีอืออ่ะขอถ่ายมีนะผมแนะนำ
00:26:40 → 00:26:44 อย่างงี้นะใครก็ตามที่มีอุบัติเหตุก็ตาม
00:26:44 → 00:26:46 หรือไปเซเรย์เพราะว่ามันปวดเข่าหรืออะไร
00:26:46 → 00:26:50 ไงก็ตามเนี่ยให้กรุณาเซเรย์เสร็จปุ๊บ
00:26:50 → 00:26:51 เนี่ยสน
00:26:51 → 00:26:55 ใจสิ่งที่เราได้ไปทำมาด้วยเหมือนกับเช่น
00:26:55 → 00:26:59 พอเวลาเราไปเจาะเลือดเลือดเงี้ยดูเมเลือด
00:26:59 → 00:27:03 ขาวเมเลือดแดงอ่ะเรายังถามผลเลยเฮ้ยเป็น
00:27:03 → 00:27:06 ยังไงอ่ะคุณหมออือใช่ป่ะบางทีหมอบอกปกติ
00:27:06 → 00:27:09 เรายังอยากรู้ค่าเลยหรืออย่างยูริกเงี้ย
00:27:09 → 00:27:11 เราไปตรวจอ่ะกลัวเป็นเก๊าไม่เป็นเก๊า
00:27:11 → 00:27:14 เงี้ยค่ะไปถึงหมอบอกปกติเรายังถามเลยเท่า
00:27:14 → 00:27:17 ไหร่อ่ะหมอปกติคือเท่าไหร่เออปกติคือเท่า
00:27:17 → 00:27:19 ไหร่ของผมคือเท่าไห่แล้วมันปิมมันปริ่ม
00:27:19 → 00:27:21 หรือว่ามันจะอีกนิดนึงแล้วเมื่อไหร่ผิด
00:27:21 → 00:27:23 ปกติอะไรอย่างเงี้แล้วยังสนใจเลยแต่พอเย
00:27:23 → 00:27:27 ปุ๊บไม่หักนะไม่เป็นไรอโอเคกลับบ้านอ่า
00:27:27 → 00:27:28 ซึ่งอันเนี้ย
00:27:28 → 00:27:31 ไม่เราไม่แนะ
00:27:31 → 00:27:35 นำ This Is Thai PBS
00:27:35 → 00:27:38 podcast ติดตามรายการของ Thai PBS
00:27:39 → 00:27:40 podcast ได้ทางเว็บไซต์
00:27:40 → 00:27:55 www.thaipbs.or.th
00:27:55 → 00:27:58 [เพลง]
00:27:58 → 00:28:01 อ