00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีค่ะห้างทาแผนไทยค่ะวันนี้อยากจะมา
00:00:03 → 00:00:05 แบ่งปันประสบการณ์นะคะที่ได้คุยกับคนไข้
00:00:05 → 00:00:07 หลายๆคนแล้วก็ยังมีคำถามเข้ามาอย่างต่อ
00:00:07 → 00:00:09 เนื่องเกี่ยวกับเรื่องของเสมหะค่ะทำไม
00:00:09 → 00:00:11 ปรับหลายอย่างก็แล้วเลี่ยงนู่นเลี้ยงนี่
00:00:11 → 00:00:13 ก็แล้วนอนเร็วก็แล้วออกกำลังกายก็แล้ว
00:00:13 → 00:00:15 ดื่มน้ำเยอะก็แล้วเสมหะก็ยังคงไม่หายไป
00:00:16 → 00:00:18 ซักทียังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องนะคะซึ่ง
00:00:18 → 00:00:20 อยากจะบอกว่าคลิปเกี่ยวกับเสมหะเนี่ยมีลง
00:00:21 → 00:00:24 ไปรอบนึงนะคะประมาณ 4-5 เดือนที่แล้วพอมา
00:00:24 → 00:00:25 วันนี้เพิ่งเข้าไปดูล่าสุดเนี่ยคนดู
00:00:25 → 00:00:28 200,000 กว่าคนแล้วนะคะทำให้ทราบว่าคน
00:00:28 → 00:00:30 ที่มีอาการแบบเนี้ยเยอะเหมือนกันแล้วไม่
00:00:30 → 00:00:34 เพียงแต่คนเข้ามาดูค่ะคำถามแล้วก็ข้อความ
00:00:34 → 00:00:36 ที่เขียนมาเนี่ยก็ต้องยอมรับว่าเยอะมากๆ
00:00:36 → 00:00:39 เลยบางคำถามแดงก็สามารถตอบได้แต่ต้องยอม
00:00:39 → 00:00:41 รับว่าหลังๆเแดงก็ตอบไม่ทันเหมือนกันนะคะ
00:00:41 → 00:00:43 ก็เลยอยากที่จะรวบรวมคำถามที่มีประโยชน์
00:00:43 → 00:00:45 เนี่ยแดงจะเอามาตอบไว้ในคลิปนี้เลยแล้วก็
00:00:46 → 00:00:49 จะมีหลายคนเป็นคนไข้กลุ่มใหญ่เลยค่ะที่
00:00:49 → 00:00:51 ไineเข้ามาแล้วก็โทรมาปรึกษาแดงเกี่ยวกับ
00:00:51 → 00:00:54 เรื่องของเสมหะนะคะซึ่งแดงก็ได้มีการพูด
00:00:54 → 00:00:56 คุยกับเขาแล้วก็ได้เก็บพฤติกรรมหรือว่า
00:00:56 → 00:00:58 การกินการนอนการใช้ชีวิตบางอย่างที่เค้า
00:00:58 → 00:01:00 ไม่ทราบอ่ะค่ะว่าเนี่ยแหละมันยังคงเป็น
00:01:00 → 00:01:03 ต้นเหตุอยู่ที่ทำให้เ้าไม่หายซะทีแดงเก็บ
00:01:03 → 00:01:05 รวบรวมมาแล้วก็อยากที่จะนำมาแบ่งปันในวัน
00:01:05 → 00:01:08 นี้นะคะเผื่อที่จะเป็นประโยชน์ว่าเฮ้ยใคร
00:01:08 → 00:01:10 ที่ลองปรับหลายๆอย่างแล้วอ่ะมันก็ยังเป็น
00:01:10 → 00:01:12 ปัญหาอยู่อาจจะเป็นเพราะสาเหตุเหล่านี้ก็
00:01:12 → 00:01:14 ได้จะได้ลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะเดี๋ลอง
00:01:14 → 00:01:16 ไปเริ่มกันเลยแดงแบ่งเป็น 3 เรื่องใหญ่ๆ
00:01:16 → 00:01:19 นะคะก็คือเรื่องของการกินการนอนการ
00:01:19 → 00:01:22 เคลื่อนไหวแล้วก็อารมณ์นะคะการกินน่ะค่ะ
00:01:22 → 00:01:24 ส่วนใหญ่อ่ะคนที่มีเสมหะนะคะเขาจะเรียก
00:01:24 → 00:01:27 แล้วแหละของอะไรที่มันเยอะๆทอดเยอะๆอะไร
00:01:27 → 00:01:31 ที่มันหวานผลไม้หวานมากๆของหวานเบเกอรี่
00:01:31 → 00:01:33 น้ำก็ดื่มมาเยอะนะคะพวกนี้เขาจะมีการ
00:01:33 → 00:01:36 ระวังตัวและแต่ว่าที่มันยังไม่หายบางคนคน
00:01:36 → 00:01:39 แยงคุยบางคนนะคะสิ่งที่ชอบมากๆเลยก็คือ
00:01:39 → 00:01:41 สนคที่เป็นพวกถั่วหรือว่าธัญพืชค่ะพวก
00:01:42 → 00:01:44 เนี้ยมันมีพลังงานสูงแล้วกินมากๆกินเป็น
00:01:44 → 00:01:47 บางคนอาจจะมีการลดน้ำหนักด้วยเงี้ยค่ะก็
00:01:47 → 00:01:48 ไม่กินขนมอย่างอื่นแต่กินถั่วอย่างเดียว
00:01:48 → 00:01:51 เลยซึ่งถั่วเนี่ยมันก็มีความมันทำให้ไอ
00:01:51 → 00:01:53 ได้ง่ายแล้วก็ทำให้มีเสมหะเยอะด้วยเพราะ
00:01:53 → 00:01:57 ฉะนั้นคนที่มีเสมหะเยอะพวกถั่วธัญพืชนะคะ
00:01:57 → 00:02:00 เบาไปก่อนนะคะแล้วก็อีกอย่างนึงก็คือพวก
00:02:00 → 00:02:02 เครื่องดื่มชงธัญพืชค่ะเครื่องดื่มที่
00:02:02 → 00:02:05 เป็นเหมือนกับสุขภาพอ่ะค่ะบางคนน่ะดูแล
00:02:05 → 00:02:07 สุขภาพคือน้ำอย่างอื่นน่ะที่ดูรู้สึกว่า
00:02:07 → 00:02:10 มันสุ่มเสี่ยงเช่นน้ำหมัดลมชาเขียวของที่
00:02:10 → 00:02:12 ขายตามร้านสะดวกซื้อน้ำที่ปรุงแต่งเนี่ย
00:02:12 → 00:02:14 เขาไม่กินนะคะแต่เขากินเครื่องดื่มเพื่อ
00:02:14 → 00:02:17 สุขภาพเช่นพวกชาสมุนไพรซึ่งมีน้ำตาลผสม
00:02:17 → 00:02:20 อยู่แน่นอนแล้วก็พวกเครื่องดื่มชงต่างๆ
00:02:20 → 00:02:24 ที่มีพวกอาจจะโกโก้ธรรมชาติพวกนี้ล่ะค่ะ
00:02:24 → 00:02:26 ก็มีเมือกมันเหมือนกันนะคะเพราะฉะนั้นถ้า
00:02:26 → 00:02:29 จะดูแลสุขภาพแล้วเรามีปัญหาเรื่องเสมหะ
00:02:29 → 00:02:31 อยู่เครื่องดื่มชงสุขภาพทุกรูปแบบเลยแดง
00:02:31 → 00:02:34 คิดว่าอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งลองเบาดูนะคะ
00:02:34 → 00:02:37 อีกอย่างนึงก็คือลูกอมค่ะคือคนที่มีเสียง
00:02:37 → 00:02:39 พันธุ์เนี่ยสตเลตเขาจะแห้งจะเหนียวแล้วก็
00:02:39 → 00:02:42 คอแห้งเพราะฉะนั้นเต้องการตัวช่วยแต่อยาก
00:02:42 → 00:02:45 จะบอกว่าลูกอมอ่ะอมไปมันก็ดีแลกในช่วงแรก
00:02:45 → 00:02:47 ล่ะค่ะหรือมักฝรั่งก็แล้วแต่มันดีในช่วง
00:02:47 → 00:02:49 แรกแต่ว่าทำไปนานๆน่ะอมไปเรื่อยๆก็เพิ่ม
00:02:49 → 00:02:52 ความหวานก็กลับมามีเสียงหาดเหนียวอีก
00:02:52 → 00:02:54 เพราะฉะนั้นลูกอมนะคะพวกอะไรที่ต้องอม
00:02:54 → 00:02:56 ทั้งหลายเนี่ยก็เบาไปก่อนเช่นเดียวกันอัน
00:02:56 → 00:02:58 นี้ก็เป็นประเด็นเหมือนกันก็คือคนที่ทาน
00:02:58 → 00:03:01 พวกแป้งหรือว่าคาร์โบไฮเดรตเยอะค่ะข้าว
00:03:01 → 00:03:04 บางคนทานข้าวเยอะนะคะทานข้าว 2 จานข้าว
00:03:04 → 00:03:06 เปลี่ยนเป็นอะไรคะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลขนม
00:03:06 → 00:03:07 ปังเปลี่ยนเป็นอะไรเปลี่ยนเป็นน้ำตาล
00:03:07 → 00:03:10 เพราะฉะนั้นกลุ่มพวกคาฟอ่ะค่ะพวกแป้งไม่
00:03:10 → 00:03:12 ได้ห้ามไม่ให้กินนะคะแดงเชื่อเรื่องการ
00:03:12 → 00:03:14 กินที่สมดุลมากๆไม่ได้บอกให้ตัดอะไรเลย
00:03:14 → 00:03:19 น้ำมันแป้งคาร์โบไฮเดรตโปรตีนวิตามินกิน
00:03:19 → 00:03:21 ให้ครบแต่ถ้าเรามีปัญหาเกี่ยวกับระบบ
00:03:21 → 00:03:25 เสมหะเราพยายามกินแต่น้อยนะคะข้าวไม่ต้อง
00:03:25 → 00:03:28 กินถึงขนาด 2 จาน 2 ทัพกิน 1 ทัพพีหรือ
00:03:28 → 00:03:30 ครึ่งทัพพีแล้วกินอย่างอื่นแทนกินพวกผัก
00:03:30 → 00:03:32 กินพวกเนื้อแทนอีกเรื่องที่สำคัญมากๆก็
00:03:32 → 00:03:35 คือเราอยากกินอิ่มเกินไปค่ะการกินอิ่ม
00:03:35 → 00:03:37 เกินไปทำให้กระเพาะทำงานหนักนะคะกินอิ่ม
00:03:37 → 00:03:39 เกินไปกับกินจุบจิบค่ะในทางแพทย์แผนจีนนะ
00:03:39 → 00:03:42 คะกระเพาะกับม้เนี่ยเป็นแม่ของปอดค่ะ
00:03:42 → 00:03:43 เพราะฉะนั้นถ้ากระเพาะกับมาม้แข็งแรง
00:03:43 → 00:03:46 เนี่ยปอดจะแข็งแรงแต่ถ้ากระเพาะกับน้ำ
00:03:46 → 00:03:48 ต้องทำงานหนักเราไม่ได้ดูแลมันเลยเรากิน
00:03:48 → 00:03:51 แบบโอ้โหกินจุกกินจิบนะคะกินดึกบ้างหรือ
00:03:51 → 00:03:53 ว่ากินเยอะเกินไปไม่ได้ปล่อยให้กระเพาะ
00:03:53 → 00:03:56 ได้พักกระเพาะกับปั๊มอ่อนแอปอดก็จะอ่อนแอ
00:03:56 → 00:03:59 ไปด้วยเพราะฉะนั้นเราต้องพักกระเพาะบ้าง
00:03:59 → 00:04:01 นะคะดูแลกระเพาะกับม้าปอดเราจะแข็งแรง
00:04:01 → 00:04:05 แล้วก็ทำให้ระบบหายใจเมือกมันเสมหะในหลอด
00:04:05 → 00:04:08 คอในหลอดท่อตรงเนี้ยมันค่อยๆดีขึ้นค่ะอีก
00:04:08 → 00:04:10 ข้อนึงที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือเรื่องของ
00:04:10 → 00:04:12 การกินน้ำค่ะอันนี้ได้ใช้ประสบการณ์จากคน
00:04:12 → 00:04:14 ไข้คนนึงที่มาปรึกษาแดงนะคะคือเค้าก็บอก
00:04:14 → 00:04:16 ว่าเค้าก็ทานน้ำเยอะนะคะวันนึงอ่ะ 2 ลิตร
00:04:16 → 00:04:19 กว่าเลยแต่ว่าทำไมก็ยังคงคอแห้งอยู่ยัง
00:04:19 → 00:04:21 รู้สึกว่ามีเสล็ดเหนียวอยู่เพราะว่าเค้า
00:04:21 → 00:04:24 กินน้ำไม่ถูกต้องค่ะคือตื่นเช้ามาเนี่ย
00:04:24 → 00:04:26 ดื่มนะคะเสร็จแล้วก็ร่วงเลยไปเลยจนถึง
00:04:26 → 00:04:29 อาหารเที่ยงแล้วก็ดื่มเยอะอีกรอบนึงเสร็จ
00:04:29 → 00:04:31 แล้วล่วงเลยไปจนถึงประมาณก่อนกินข้าวก็
00:04:31 → 00:04:35 ดื่มเยอะอีกรอบนึงแล้วก็ก่อนนอนอีกรอบนึง
00:04:35 → 00:04:37 คือการดื่มน้ำแบบเนี้ยค่ะมันไม่ได้ช่วย
00:04:37 → 00:04:40 หล่อลื่นคออ่ะค่ะวิธีการดื่มน้ำให้ถูก
00:04:40 → 00:04:43 ต้องคือทุกชั่วโมงเราพยายามจิบนะคะกินสัก
00:04:43 → 00:04:46 ครึ่งแก้วก็ได้แล้วก็ค่อยๆทยอยจิบไปทั้ง
00:04:46 → 00:04:49 วันการทิ้งช่วงการกินน้ำที่ห่างเกินไปมัน
00:04:49 → 00:04:51 ทำให้คอเราแห้งค่ะก็เป็นสาเหตุที่ทำให้
00:04:51 → 00:04:53 ร่างกายมันรู้สึกว่าเฮ้ยคอแห้งแล้วมัน
00:04:53 → 00:04:57 ต้องพยายามผลิตเมือกมันน้ำสลดออกมาหลอด
00:04:57 → 00:04:59 ลื่นอันนี้เป็นกลไกตามปกติของร่างกาย
00:04:59 → 00:05:01 เพราะฉะนั้นถ้าจะป้องกันการคอแห้งการ
00:05:01 → 00:05:05 ครateสลดเหนียวตลอดเวลาก็จะต้องพยายามจิบ
00:05:05 → 00:05:06 น้ำไปเรื่อยจิบน้ำบ่อยๆอันนี้คือวิธีการ
00:05:06 → 00:05:08 กินน้ำที่ถูกต้องนะคะเมื่อกี้เรื่องของ
00:05:08 → 00:05:10 การกินไปแล้วนะคะต่อไปจะให้มาสังเกต
00:05:10 → 00:05:13 เรื่องของการนอนกันบ้างค่ะคนที่เสมหะเยอะ
00:05:13 → 00:05:16 นะคะตื่นเช้ามาก็ยังคงคอแห้งแล้วก็มี
00:05:16 → 00:05:18 เสมหะขึ้นมาในตอนเช้าตลอดเวลาแบบนี้
00:05:18 → 00:05:20 เหนียวๆใสๆอย่างเงี้ยนะคะก็อยากให้ลอง
00:05:20 → 00:05:22 สังเกตเรื่องของการนอนค่ะบางทีเราปรับ
00:05:22 → 00:05:24 เรื่องของการกินแล้วอ่ะแต่ปรากฏว่าถามไป
00:05:24 → 00:05:27 ถามมาเป็นคนนอนกรบค่ะหรือบางคนนะคะนอนอ้า
00:05:27 → 00:05:30 ปากไปดูตัวการที่เรานอนกลอนอ้าปากเนี่ย
00:05:30 → 00:05:33 มันก็มีโอกาสที่ลมจะเข้าไปที่หลอดคอถูก
00:05:33 → 00:05:35 มั้ยคะแทนที่เราจะหายใจเอาอากาศที่ดีเข้า
00:05:35 → 00:05:37 ไปในทางโพรงจมูกซึ่งมันมีเยื่อในการกรอง
00:05:37 → 00:05:41 อากาศเราหายใจทางปากแทนคราวนี้นอกจาก
00:05:41 → 00:05:43 อากาศจะไม่ได้รับการกรองเข้าไปในปอดของ
00:05:43 → 00:05:45 เราแล้วมันก็ยังทำให้ลมผ่านเข้าไปแล้วก็
00:05:45 → 00:05:48 ทำให้คอแห้งได้บางคนปรับเรื่องการกินแล้ว
00:05:48 → 00:05:50 ยังคอแห้งอยู่อย่าลืมมาสังเกตเรื่องของ
00:05:50 → 00:05:53 การนอนแล้วลองไปปรับแก้ให้ถูกจุดที่
00:05:53 → 00:05:55 เรื่องของการนอนดูค่ะการนอนที่มีคุณภาพก็
00:05:55 → 00:05:57 จะทำให้ปอดแข็งแรงแล้วก็เรื่องของเสมหะ
00:05:57 → 00:05:59 ค่อยๆดีขึ้นด้วยเมื่อกี้เรื่องกินกับ
00:05:59 → 00:06:01 เรื่องนอนไปแล้วนะคะมาต่อกันที่เรื่องของ
00:06:01 → 00:06:03 การเคลื่อนไหวก็คือการออกกำลังกายนั่นเอง
00:06:03 → 00:06:05 คนที่โทรมาปรึกษานะคะจะมีอยู่ 2 กลุ่ม
00:06:05 → 00:06:07 ด้วยกันค่ะก็คือกลุ่มแรกที่เสมหะไม่หาย
00:06:07 → 00:06:09 เพราะว่าไม่ค่อยได้ขยับตัวไม่ค่อยได้ออก
00:06:09 → 00:06:12 กำลังกายก็จะแนะนำให้ไปออกกำลังกายเพราะ
00:06:12 → 00:06:14 ว่าเรื่องของเสมหะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ
00:06:14 → 00:06:16 ปอดโดยตรงเลยค่ะถ้าเราไม่ได้ออกกำลังกาย
00:06:16 → 00:06:19 เคลื่อนไหวปอดก็จะไม่ได้สูบฉีดไม่ได้บีบ
00:06:19 → 00:06:22 ไม่ได้คลายแล้วก็หัวใจด้วยนะคะมันก็จะทำ
00:06:22 → 00:06:26 ให้ของเสียสะสมคงค้างมากอยู่ในปอดเพราะ
00:06:26 → 00:06:28 ฉะนั้นการออกกำลังกายเป็นการขับของเสีย
00:06:28 → 00:06:31 อย่างนึงเป็นการไล่ชื้นออกจากปอดอย่างนึง
00:06:31 → 00:06:34 แนะนำให้ออกกำลังกายอีกกลุ่มนึงคือออก
00:06:34 → 00:06:36 กำลังกายค่ะก็ยังงงตัวเองอยู่ว่าเฮ้ยออก
00:06:36 → 00:06:39 กำลังกายนะตีแบตมีการออกไปวิ่งแต่ทำไมยัง
00:06:39 → 00:06:42 คงมีเสมหะอยู่บางคนคือออกกำลังกายมากเกิน
00:06:42 → 00:06:46 ไปแล้วก็ออกกำลังกายไม่สม่ำเสมอค่ะบางคน
00:06:46 → 00:06:48 คือตีแบตอาทิตย์ละ 1-2 ครั้งเว้นช่วงห่าง
00:06:48 → 00:06:51 นะคะแล้วออกกำลังกายคือไปถึงตีเลยตีแบบ
00:06:51 → 00:06:54 ขวดอย่างแรงเลยเพราะฉะนั้นหัวใจกับปอดไม่
00:06:55 → 00:06:57 ได้รับการวอร์มการยืดเหยียดก่อนแล้วก็มัน
00:06:57 → 00:07:00 ไม่ได้ทำสม่ำเสมอมันจะทำงานหนักเกินไปค่ะ
00:07:00 → 00:07:04 กลับกลายเป็นทำให้มันเหมือนมันtนอ่ะค่ะอ
00:07:04 → 00:07:06 อันนี้อาจจะต้องแนะนำว่าให้ปรับใหม่คือ
00:07:06 → 00:07:08 เน้นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องหนักมากจน
00:07:09 → 00:07:11 เกินไปแต่เน้นความสม่ำเสมอเช่นถ้าจะวิ่ง
00:07:12 → 00:07:14 ก็วิ่งหย่อเดินก็เดินเร็วนะคะแต่ว่าเน้น
00:07:14 → 00:07:17 ว่าทำติดต่อกันประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วก็
00:07:17 → 00:07:20 ทำในความถี่ที่สม่ำเสมอแบบนี้ก็จะเป็นการ
00:07:20 → 00:07:22 บริหารปอดแล้วก็เป็นการขับของเสียขับชื้น
00:07:23 → 00:07:25 ออกจากปอดที่ถูกต้องค่ะอีกเรื่องนึงที่
00:07:25 → 00:07:28 สำคัญมากๆเลยก็คือเรื่องของอารมณ์ค่ะ
00:07:28 → 00:07:30 อารมณ์โศกเศร้าเป็นอารมณ์ของปอดค่ะคนที่
00:07:30 → 00:07:33 โศกเศร้าจะทำให้ปอดอ่อนแอมีเคสนึงนะคะพี่
00:07:33 → 00:07:35 คนไข้ที่โทรมาคุยกับแดนเนี่ยเป็นเกี่ยว
00:07:35 → 00:07:38 กับเสพหานี่แหละเป็นไม่หายซะทีค่ะพอคุยไป
00:07:38 → 00:07:40 คุยมานะคะถึงสืบสาวเราเรื่องได้ว่าอาการ
00:07:40 → 00:07:43 เนี้ยเริ่มเป็นเมื่อ 5 ปีที่แล้วคือสามี
00:07:43 → 00:07:46 ของพี่เขาเสียชีวิตนะคะแล้วก็มีอารมณ์ส่ง
00:07:46 → 00:07:50 เศร้าแล้วเพิ่งจะมาค่อยๆเริ่มปรับเริ่ม
00:07:50 → 00:07:53 อยู่กับตัวเองได้ทำใจได้ก็มาช่วงหลังๆนี้
00:07:53 → 00:07:55 เองนะคะแล้วว่าอาการจะค่อยๆเริ่มดีขึ้น
00:07:55 → 00:07:57 แล้วก็มีการปรับพฤติกรรมต่างๆร่วมด้วยอ่ะ
00:07:57 → 00:08:00 นะคะเพราะฉะนั้นค่ะแดงก็เลยอยากที่จะลอง
00:08:00 → 00:08:03 ให้สังเกตตัวเองดูว่าเฮ้ยเรามีอารมณ์นี้
00:08:03 → 00:08:05 อยู่หรือเปล่านะคะมีอารมณ์เศร้าอยู่กับ
00:08:05 → 00:08:07 เรื่องอะไรผูกพันอยู่กับเรื่องอะไรนานๆ
00:08:07 → 00:08:11 หรือเปล่าแล้วทางแก้ก็คืออะไรคะก็คือเรา
00:08:11 → 00:08:14 หาเรื่องดีใจวันละเรื่องค่ะอารมณ์ดีใจ
00:08:14 → 00:08:16 เป็นอารมณ์ของหัวใจค่ะในทางแพร่แผนจีนหัว
00:08:16 → 00:08:19 ใจข่มปอดได้เพราะฉะนั้นอารมณ์ดีใจสามารถ
00:08:19 → 00:08:22 ข่มอารมณ์ศกเจ้าได้ค่ะแดงแนะนำคนไข้แดง
00:08:22 → 00:08:24 หลายๆคนเลยนะที่มีอารมณ์แบบเนี้ยวิตก
00:08:24 → 00:08:28 กังวลโศกเศร้าเสียใจนะคะให้เค้าหาสมุดมา
00:08:28 → 00:08:30 เล่มนึงค่ะให้เขียนเรื่องดีๆที่เกิดขึ้น
00:08:30 → 00:08:33 กับตัวเราเองในวันเนี้ยวันละ 1 เรื่องค่ะ
00:08:33 → 00:08:36 เปิดเลยวันนี้เอ่อลูกกลับมาลูกยิ้มให้นะ
00:08:36 → 00:08:39 คะวันนี้กินอาหารอร่อยจังเลยได้เจออาหาร
00:08:39 → 00:08:42 ที่ชอบวันนี้อากาศดีมากเป็นอากาศที่แบบรอ
00:08:42 → 00:08:45 คอยมากเลยวันนี้ไม่มีฝนอะไรก็ได้ค่ะ
00:08:45 → 00:08:47 เรื่องเล็กเรื่องน้อยถ้ามันไม่มีก็สร้าง
00:08:47 → 00:08:49 ขึ้นมาเองนะคะวันนี้ยิ้มสวยจังเลยวันนี้
00:08:49 → 00:08:52 หน้าตาดีจังเลยอะไรก็ได้ขอให้มีเรื่องดี
00:08:52 → 00:08:55 ใจวันละ 1 เรื่องอารมณ์ดีใจเนี่ยแหละค่ะ
00:08:55 → 00:08:57 มันจะช่วยเราเอาชนะความโศกเศร้าได้อารมณ์
00:08:57 → 00:09:01 ดีใจสามารถทำให้ปอดแข็งแรงได้สามารถทำให้
00:09:01 → 00:09:05 เสมหะขี้เหมียวข้นหนืดค่อยๆดีขึ้นได้ลอง
00:09:05 → 00:09:08 ดูนะคะสุดท้ายอันนี้อยากให้เป็นข้อมูลไว้
00:09:08 → 00:09:10 นะคะคือในทางแพทย์แผ่นจีนเนี่ยเสพเนี่ย
00:09:10 → 00:09:12 มันมีหลากหลายลักษณะมากเลยแล้วลักษณะของ
00:09:12 → 00:09:15 เสพเนี่ยมันบอกได้ค่ะว่ามันมีสาเหตุมาจาก
00:09:15 → 00:09:18 อะไรแบ่งเป็น 2 สาเหตุก็คือร้อนกับเย็นนะ
00:09:18 → 00:09:21 คะเสมหะร้อนเนี่ยลักษณะของเสมหะมันจะเป็น
00:09:21 → 00:09:24 มีความเหลือเหลืองข้นแล้วมันแห้งมันจะเอา
00:09:24 → 00:09:26 ไม่ค่อยออกแล้วสล็ดของมันมันจะร้อนค่ะมัน
00:09:26 → 00:09:29 จะร้อนมันจะมีความเหนียวมากเป็นพิเศษ
00:09:29 → 00:09:32 อันเนี้ยกลุ่มนึงกับอีกอันนึงที่เป็นส่วน
00:09:32 → 00:09:35 ใหญ่เลยของคนไข้ที่เข้ามาเนี่ยคือเสมหะ
00:09:35 → 00:09:38 แบบเย็นค่ะเสมหะแบบเย็นคือมีลักษณะใสแต่
00:09:38 → 00:09:41 มันมีความข้นหนืดแล้วมันเยอะมันคอยจะออก
00:09:41 → 00:09:45 มาตลอดเวลาแบบเนี้ยมาจากข้างในของเรามัน
00:09:45 → 00:09:47 เย็นมันเย็นจากอะไรลองสังเกตพฤติกรรมตัว
00:09:47 → 00:09:50 เองนะคะคนที่ชอบกินของเย็นกินน้ำแข็งนะคะ
00:09:50 → 00:09:54 ทำงานก็อยู่ในห้องเย็นกินผักเยอะมากผักใบ
00:09:54 → 00:09:57 เขียวมันก็มีฤทธิ์เย็นแล้วก็นอนห้องแอร์
00:09:57 → 00:09:59 นะคะอาจจะห่มผ้าไม่ดีไม่ได้สวมเสื้อที่
00:09:59 → 00:10:02 เหมาะสมกับอุณหภูมิร่างกายของเราป่วยง่าย
00:10:02 → 00:10:05 เป็นหวัดง่ายแบบเนี้ยค่ะมีแนวโน้มมากว่า
00:10:05 → 00:10:08 เราเป็นเสมหะเนื่องจากปอดเราเย็นเพราะ
00:10:08 → 00:10:10 ฉะนั้นทางที่จะช่วยได้ก็คือการกินสมุนไพร
00:10:10 → 00:10:13 ที่มีฤทธิ์อุ่นหรือว่าฤทธิ์ร้อนค่ะขิง
00:10:13 → 00:10:16 อันเนี้ยดีนะคะคนที่เสมหะเย็นปอดเย็นปอด
00:10:16 → 00:10:19 ชื้นต้มน้ำขิงกินอันนี้ช่วยได้นะคะปอด
00:10:19 → 00:10:22 เนี่ยรสชาติของปอดคือรสเผ็ดค่ะถ้ากินรส
00:10:22 → 00:10:26 เผ็ดอย่างพอดีจะบำรุงปอดแต่ถ้ากินเผ็ดมาก
00:10:26 → 00:10:28 เกินไปอันนี้ทำให้ปอดอ่อนแอเพราะฉะนั้น
00:10:28 → 00:10:31 ทางสายกลางนะคะถ้าเสมาเย็นต้มน้ำขิงกิน
00:10:31 → 00:10:33 เรื่อยๆได้อบอุ่นปอดแต่ถ้าเสมหะร้อนอย่า
00:10:33 → 00:10:36 กินน้ำขิงนะต้องดูเสนหะของเราให้เป็นด้วย
00:10:36 → 00:10:38 เท่าที่แดงสังเกตจากการคุยกับคนไข้อีก
00:10:38 → 00:10:40 อย่างนึงนะคะก็คือเสพหาที่มันเยอะตลอด
00:10:40 → 00:10:43 เวลาเนี่ยมันสำคัญเกี่ยวเนื่องกับ 2 โรค
00:10:43 → 00:10:45 ค่ะคือโรคภูมิแพ้กับโรคเกี่ยวกับระบบทาง
00:10:45 → 00:10:48 เดินอาหารนะคะเพราะฉะนั้นถ้าเรามีอาการ
00:10:48 → 00:10:50 ควบคู่กับภูมิแพ้ด้วยคือเป็นภูมิแพ้เรือ
00:10:50 → 00:10:52 รังปอดไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้วอาจจะเกิดมา
00:10:52 → 00:10:55 จากการที่เราทำงานหนักไม่ได้ดูแลตัวเองใน
00:10:55 → 00:10:57 เมื่อก่อนที่ทำงานมานานๆเนี่ยค่ะแล้วมัน
00:10:57 → 00:10:59 ก็จะมาเกิดผลในตอนนี้เนี่ยเราก็ต้องค่อยๆ
00:10:59 → 00:11:01 ค่ะโรคภูมแพ้แดงบอกกับทุกคนที่เป็นมาเลย
00:11:01 → 00:11:04 นะคะว่ามันไม่ได้มียาอะไรที่กินแล้วมัน
00:11:04 → 00:11:07 รักษาภูมิแพ้ยาที่ดีที่สุดก็คือการเพิ่ม
00:11:07 → 00:11:09 ภูมิคุ้มกันของตัวเองให้แข็งแรงค่ะโรค
00:11:09 → 00:11:12 ภูมิแพ้เอาชนะได้ด้วยการเพิ่มภูมิคุ้มกัน
00:11:12 → 00:11:15 ของเราให้แข็งแรงซึ่งทำได้ก็ด้วยเรื่อง
00:11:15 → 00:11:18 เบสิคมากๆเรื่องของการกินการนอนการใช้
00:11:18 → 00:11:21 ชีวิตการพักผ่อนการออกกำลังกาย
00:11:21 → 00:11:24 ทำสิ่งต่างๆเหล่านี้ให้ดีค่ะนำรับเข้า
00:11:24 → 00:11:27 เคลื่อนไหวนำออกทำให้วงจรแบบเนี้ยมันดีพอ
00:11:27 → 00:11:30 ร่างกายมันดีมันไหลเวียนดีทุกอย่างมันดี
00:11:30 → 00:11:33 มันจะกลับมาสู่ปกติของมันเองภูมิดีอาการ
00:11:33 → 00:11:36 ภูมิแพ้มันก็จะไม่กำเริบขึ้นมานี่คือการ
00:11:36 → 00:11:39 อยู่กับโรคภูมิแพ้ซึ่งทำให้เสพหหะเราค่อย
00:11:39 → 00:11:42 ๆดีขึ้นค่อยๆดีขึ้นนะคะใช้เวลานิดนึงกับ
00:11:42 → 00:11:45 อีกอย่างนึงก็คือคนที่เป็นเสมหะไม่หาย
00:11:45 → 00:11:48 เนื่องจากระบบทางเดินอาหารไม่ดีค่ะเป็นกด
00:11:48 → 00:11:51 ไหลย้อนเรื้อรังระบบย่อยไม่ค่อยดีท้อง
00:11:51 → 00:11:53 อื่นกระเพาะทำงานหนักอันนี้สังเกตได้จาก
00:11:53 → 00:11:55 ลิ้นเหมือนกันนะคะลิ้นที่เป็นฝ้าขาวมีคำ
00:11:55 → 00:11:58 ถามถามมาแดงยังไม่ได้ตอบเลยคือแต่เห็น
00:11:58 → 00:12:00 แล้วนะคะลิ้นน่ะเป็นฝ้าขาวเกิดจากอะไรก็
00:12:00 → 00:12:02 เกิดจากกระเพาะมันทำงานได้ไม่ดีกระเพาะ
00:12:02 → 00:12:05 กับมาค่ะอาจจะทำงานหนักเกินไปย่อยได้ไม่
00:12:05 → 00:12:07 ดีอันเนี้เราต้องกลับมาปรับเรื่องของการ
00:12:07 → 00:12:10 กินเราหันมาดูซิว่าเรากินเยอะเกินไปหรือ
00:12:10 → 00:12:12 เปล่ากินจุกกินจิบกระเพาะไม่ได้พักหรือ
00:12:12 → 00:12:15 ว่ากินที่มันผิดเพี้ยนไปอย่างที่แดงเคย
00:12:15 → 00:12:17 พูดไปในหลายคลิปว่ากนที่เป็นกฎไหลย้อน
00:12:17 → 00:12:20 เลื้อรังเกิดจากการกินที่ไม่ถูกต้องยังไง
00:12:20 → 00:12:21 ได้บ้างก็ลองไปเปิดฟังดูแล้วลองปรับ
00:12:21 → 00:12:24 พฤติกรรมดูถ้าเราแก้ที่ต้นเหตุค่ะภูมิแพ้
00:12:24 → 00:12:28 กฎไหลย้อนดีขึ้นมีหรืออาการเสมหะของเราจะ
00:12:28 → 00:12:31 ไม่ดีขึ้นนะคะเพราะฉะนั้นลองฝากไว้ตรงนี้
00:12:31 → 00:12:34 เลยค่ะว่าถ้าเราทำหลายๆอย่างแล้วตามที่คน
00:12:34 → 00:12:37 อื่นพูดกันมันยังไม่ดีขึ้นหมอที่ดีที่สุด
00:12:37 → 00:12:40 ก็คือตัวเราเองค่ะกลับมาลองสังเกตนำสิ่ง
00:12:40 → 00:12:43 ที่แดงได้มาจากการพูดคุยแนะนำคนไข้ที่โทร
00:12:43 → 00:12:46 มาคุยแล้วก็ปรึกษาแดงเนี่ยลองนำไปสังเกต
00:12:46 → 00:12:48 ตัวเองดูแล้วหยิบจับบางข้อที่จะเป็น
00:12:48 → 00:12:50 ประโยชน์กับตัวเองลองนำไปใช้ดูท้ายที่สุด
00:12:50 → 00:12:54 แล้วนะคะตามเอ่อความเชื่อของแนก็คือการดู
00:12:54 → 00:12:57 แลการใช้ชีวิตตามปกติให้ดีแล้วเดี๋ยวทุก
00:12:57 → 00:12:59 อย่างมันจะตามมาเองค่ะและนี่ก็คือทั้งหมด
00:12:59 → 00:13:01 ของคลิปนี้นะคะแล้วเดี๋ยวครั้งหน้ากลับมา
00:13:01 → 00:13:03 พบกันใหม่ค่ะวันแพทย์แผนไทยลาไปก่อน
00:13:03 → 00:13:09 สวัสดีค่ะ
00:13:09 → 00:13:18 [เพลง]