00:00:00 → 00:00:01 เจ็บเหมือนถูก
00:00:01 → 00:00:04 แทงอาการปวดท้องมากๆที่ผมเป็นอยู่เนี่ย
00:00:04 → 00:00:07 เป็นเพราะอะไรกันแน่โรคกระเพาะก็ไม่ใช่
00:00:07 → 00:00:10 สูบ 1 พอตหรือ 1 หัวเนี่ยเท่ากับคุณสู่
00:00:10 → 00:00:14 บุหรี่ทั่วไป 50 มวลนะ 50 50 มวลโรคปอด
00:00:14 → 00:00:17 อักเสบแบบรุนแรงเจอในเฉพาะคนที่สูบพอต
00:00:17 → 00:00:21 ด้วยปีนึงเนี่ยจะมีคนตายจากการทำงานมากจน
00:00:21 → 00:00:25 เกินไปปีละ 700,000 คนอทำงานอย่างเดียว
00:00:25 → 00:00:28 ไม่มีเวลาพักผ่อนการที่มีความเครียดสะสม
00:00:28 → 00:00:30 มากๆมีความเสียงที่จะเป็นโรคหหัวใจและโรค
00:00:30 → 00:00:34 ของสมองก็แปลว่าเราสามารถเครียดมากๆจน
00:00:34 → 00:00:36 เส้นเลือดสมองแตกเป็นความจริงเกิดขึ้นได้
00:00:36 → 00:00:39 เกิดขึ้นได้แล้วเราจะรู้ได้ยังไงอ่ะคะว่า
00:00:39 → 00:00:41 เราเข้าสู่ขั้นวิกฤตพวกเนี้ยก็คือจะไม่มี
00:00:41 → 00:00:45 สัญญาณมาก่อนก็คืออยู่ดีๆปึบหนูทำงานแบบ
00:00:45 → 00:00:47 work from home ค่ะทำงานจนถึง 3:00 น
00:00:47 → 00:00:49 4:00 นหนูไม่ได้ออกกำลังกายเลยค่ะจนน้ำ
00:00:50 → 00:00:52 หนักตัวตอนนี้ขึ้นเป็น 10 โหนูรู้สึกไม่
00:00:52 → 00:00:54 ค่อยมีอารมณ์ทางเพศเลยค่ะหนูก็เลยอยากจะ
00:00:54 → 00:00:57 แก้ไขเรื่องนี้และอยากมีอารมณ์ทางเพศได้
00:00:57 → 00:01:01 เหมือนคนอื่นๆควรแก้ไขยังไงดีคะคุณภาวะบก
00:01:01 → 00:01:03 พร่องความต้องการทางเพศในผู้หญิงรู้มว่า
00:01:03 → 00:01:06 คนไทยเนี่ยในผู้หญิงเนาะภาวะเนี้เจอได้
00:01:06 → 00:01:09 กี่เปอร์เซ็นต์โหดาไม่ถูกเลยอ่ะ 40% ครับ
00:01:09 → 00:01:11 อุเกือบเกือบครึ่งเลยหรอคะเกือบครึ่งของ
00:01:11 → 00:01:14 ประเทศนิ่งเลยถือศีเลยผู้ชายเนี่ยยังมี
00:01:14 → 00:01:17 วาก้าเลยแล้วผู้หญิงเนี่ยมีอะไรช่วย
00:01:17 → 00:01:20 กระตุ้นได้บ้างคะอันนี้ก็ของผู้หญิงก็มี
00:01:20 → 00:01:21 เหมือนกันนะครับ 1 ก็
00:01:22 → 00:01:25 คือสวัสดีค่ะยินดีต้อนรับเข้าสู่ AR
00:01:25 → 00:01:27 Doctor podcast ที่จะพาคุณไปพบแพทย์
00:01:27 → 00:01:30 เพื่อถามคำถามสุขภาพอยู่กับรติพันธ์พัน
00:01:30 → 00:01:33 พินิจเจนค่ะใครหลายๆคนที่เข้ามาเจอคลิป
00:01:33 → 00:01:37 นี้นะคะน่าจะคุ้นเคยกับ Doctor Talk
00:01:37 → 00:01:39 podcast นะคะดำเนินโดยคุณหมอจิมมี่และ
00:01:39 → 00:01:42 คุณหมอเอมมี่นะคะที่จะผลัดกันพูดคุยกับ
00:01:42 → 00:01:45 แพทย์และผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพนะคะจะ
00:01:45 → 00:01:47 พูดประเด็นไม่ว่าจะเป็นเรื่องมะเร็งนะคะ
00:01:47 → 00:01:50 วิตามินอาหารเสริมวิธีการลดน้ำหนักวิธี
00:01:50 → 00:01:53 ปัญหาการนอนนะคะแล้วก็ในทุกๆคลิปเนี่ยจะ
00:01:53 → 00:01:56 มีคำถามเข้ามามากมายทีนี้เราก็เลยตั้งใจ
00:01:57 → 00:01:59 ทำ podcast ask Doctor อันนี้ขึ้นมานะ
00:01:59 → 00:02:01 คะเพื่อเพื่อตอบคำถามเหล่านั้นโดยเฉพาะ
00:02:01 → 00:02:04 เลยค่ะในทุกวันนี้นะคะมีข้อมูลมากมายอาจ
00:02:04 → 00:02:07 จะมีข้อมูลที่เชื่อถือได้บ้างไม่ได้บ้าง
00:02:07 → 00:02:09 นะคะแล้วก็การเข้าถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
00:02:10 → 00:02:12 อาจจะเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลายๆคนเจ
00:02:12 → 00:02:15 เลยก็จะเป็นตัวแทนสำหรับทุกคนนะคะเพื่อ
00:02:15 → 00:02:17 ที่จะถามคำถามให้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
00:02:17 → 00:02:20 เฉพาะทางจะได้รับคำตอบที่ถูกต้องแม่นยำ
00:02:20 → 00:02:23 แล้วก็ปลอดภัยสำหรับผู้ถามแล้วก็คนอื่นๆ
00:02:23 → 00:02:26 ที่กำลังชมคลิปแล้วก็มีปัญหาที่คล้ายคลึง
00:02:26 → 00:02:29 กันค่ะและใน EP นี้เราได้รวบรวมปัญหา
00:02:29 → 00:02:32 สุขภาพของคนเมืองในแง่มุมต่างๆมาถามคุณ
00:02:32 → 00:02:35 หมอค่ะเพื่อประเดิม EP แรกต้องเป็นหมอคน
00:02:35 → 00:02:37 นี้เท่านั้นค่ะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทาง
00:02:37 → 00:02:39 ด้านเวชศาสตร์ป้องกันนะคะมีความถนัดในการ
00:02:39 → 00:02:42 ดูแลคนไข้ผ่านไสล์ Medicine หรือว่าการ
00:02:42 → 00:02:45 ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ดูแลคนไข้มากมายค่ะ
00:02:45 → 00:02:47 ไม่ว่าจะเป็นคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องการขับ
00:02:47 → 00:02:50 ถ่ายเรื่องฮอร์โมนนะคะเรื่องฟทีเหนื่อย
00:02:50 → 00:02:53 ล้านะคะเรื่องการเพิ่มกล้ามเนื้อลดน้ำ
00:02:53 → 00:02:56 หนักและอีกมากมายเลยค่ะขอเรียนเชิญหมอ
00:02:56 → 00:03:00 จิมมี่ค่ะสวัสดีค่ะวันนี้เป็นยังไงบ้างคะ
00:03:00 → 00:03:02 มาเป็นแขกรับเชิญดีใจจมากไม่เหนื่อยเลย
00:03:02 → 00:03:04 ไม่เหนื่อยเลยเดี๋ยวๆไม่เริ่มอาจจะ
00:03:05 → 00:03:08 เหนื่อยก็ได้อ่ะโอเคโอเวันนี้ปกติจะในดอก
00:03:08 → 00:03:09 Talk เนี่ยหมอก็จะคุยกับหมอๆกันเองเนาะ
00:03:09 → 00:03:12 ใช่ความรู้มันจะเยอะมากแน่นมากแน่นอย่าง
00:03:12 → 00:03:14 เงี้ดีกว่าแต่วันนี้คือคุยกับชาวบ้านเอ
00:03:14 → 00:03:17 ชาวบ้านเหมือนที่เราทำทุกวันอยู่แล้วอ๋อ
00:03:17 → 00:03:19 โอเคค่ะอ่ะเดี๋ยวขอให้แนะนำตัวนิดนึงได้
00:03:19 → 00:03:22 มั้ยคะหมจิได้ครับสวัสดีครับหมอจิมมี่นะ
00:03:22 → 00:03:25 ครับนายแพทย์สุทธิพจน์พัทรมลการผู้เชี่ยว
00:03:25 → 00:03:27 ชาญทางด้านวิทยาศาสตร์ป้องกันปัจจุบันหมอ
00:03:27 → 00:03:30 ทำงานอยู่ที่คลินิกณเวลาครับหมอก็ชำนาญ
00:03:30 → 00:03:32 ทางด้านการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การดูแล
00:03:32 → 00:03:34 เรื่องของการลดน้ำหนักเพิ่มกล้ามเนื้อ
00:03:34 → 00:03:37 เรื่องระบบการขับถ่ายและด้านฮอร์โมนครับ
00:03:37 → 00:03:39 เรื่องแรกนะคะเกี่ยวกับอาการปวดท้องที่
00:03:39 → 00:03:43 เจ็บเขาใช้คำว่าเจ็บเหมือนถูกแทงอือแล้ว
00:03:43 → 00:03:45 ก็หาสาเหตุไม่เจอตอนแรกคิดว่าเป็นโรค
00:03:45 → 00:03:47 กระเพาะแต่ก็ไม่ใช่นะคะก็เลยส่งคำถามมา
00:03:47 → 00:03:51 ถามคุณหมอค่ะเรื่องนี้นะคะเป็นเรื่องของ
00:03:51 → 00:03:54 สถาปนิกคนนึงนามสมมุติว่าคุณแมนอายุ 35
00:03:54 → 00:03:58 ปีทำงานหนักมากนะคะนอนดึกเป็นประจำโดย
00:03:58 → 00:04:01 ปกติเนี่ยจะเข้านอนประมาณ 2:00 นเกือบทุก
00:04:01 → 00:04:03 คืนเลยนอกจากจะทำงานหนักแล้วเนี่ยยังชอบ
00:04:03 → 00:04:06 เล่นเกมก็คือบางทีเนี่ยเสร็จงานแล้วก็อาจ
00:04:06 → 00:04:11 จะประมาณ 43 นก็ยังเอ้อยังไม่ง่วงอยากรีก
00:04:11 → 00:04:14 พักผ่อนสักหน่อยด้วยการเล่นเกมแล้วสุด
00:04:14 → 00:04:17 ท้ายก็จบที่ 2:00 นอยู่บ่อยๆแล้วคุณแมน
00:04:17 → 00:04:21 เนี่ยก็เป็นคนที่ดูดพอตบ่อยมากๆติดเลยก็
00:04:21 → 00:04:24 ว่าได้นะคะจะต้องดูดอย่างน้อยวันละ 1-2
00:04:24 → 00:04:27 หัวทุกวันเนี่ยทำอย่างเงี้ยมาประมาณ 3 ปี
00:04:27 → 00:04:30 และเมื่อต้นปีที่ผ่านมารู้สึกปวดท้อง
00:04:30 → 00:04:33 เหมือนถูกแทงสังเกตว่าหัวใจเริ่มเต้นเร็ว
00:04:33 → 00:04:36 กว่าปกติและเริ่มมีผืนขึ้นที่แขนช่วง
00:04:36 → 00:04:38 เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก็เลยไปหาคุณหมอ
00:04:38 → 00:04:40 เพราะปวดท้องแบบไม่ไหวแล้วคุณหมอบอกว่า
00:04:40 → 00:04:43 เป็นโรคกระเพาะเพราะว่ากินอาหารไม่เป็น
00:04:43 → 00:04:46 เวลาก็เลยรับยาแล้วก็ดีขึ้นอาการปวดท้อง
00:04:46 → 00:04:49 ลดลงแล้วก็เริ่มรู้สึกว่าหัวใจเริ่มกลับ
00:04:49 → 00:04:52 มาเต้นเป็นปกติแต่พอผ่านไปไม่นานประมาณ 2
00:04:52 → 00:04:54 เดือนอาการทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือน
00:04:54 → 00:04:57 เดิมเลยทั้งที่ปรับเปลี่ยนวิธีการกินแล้ว
00:04:57 → 00:04:59 เลยคิดว่าน่าจะเป็นเพราะการดูดพอตหรือ
00:04:59 → 00:05:02 เปล่าทีนี้ก็เลยกลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อ
00:05:02 → 00:05:06 ไปเซเรย์ก็ไม่เจออะไรเลยค่ะทุกอย่างปกติ
00:05:06 → 00:05:09 ดีตอนนี้ผมเลยสงสัยว่าอาการปวดท้องมากๆ
00:05:09 → 00:05:11 ที่ผมเป็นอยู่เนี่ยเป็นเพราะอะไรกันแน่
00:05:11 → 00:05:14 โรคกระเพาะก็ไม่ใช่เลยคิดว่าน่าจะเป็นพอต
00:05:14 → 00:05:17 แต่การดูดพอตน่าจะส่งผลต่อปอดหรือเปล่า
00:05:17 → 00:05:19 ไม่น่าเกี่ยวกับกระเพาะมยหมอช่วยแนะนำได้
00:05:20 → 00:05:22 ไมครับว่าอาการเนี้ยเกิดขึ้นจากอะไรกัน
00:05:22 → 00:05:24 แน่แล้วควรรักษายังไงครับตอนแรกเนี่ยเรา
00:05:24 → 00:05:26 ต้องมาดูก่อนๆเรื่องของพฤติกรรมของคนไข้
00:05:26 → 00:05:30 คนนี้เ้าเป็นผู้ชายอายุ 32 ปีอ 35 อ่ะ 35
00:05:30 → 00:05:33 ปีแล้วก็ทำอาชีพเป็นนักสถาปนิกสถาปนิกนะ
00:05:33 → 00:05:36 ครับ 1 ก็คืออ่ะผู้ชายอายุ 35 ปีทำงานอาจ
00:05:36 → 00:05:39 จะนั่งโต๊ะตลอดเวลาถูกมั้ยอยู่หน้าคอม
00:05:39 → 00:05:41 ตลอดเวลาไม่ค่อยขยับเขยื้อนเท่าไหร่เพราะ
00:05:41 → 00:05:43 ฉะนั้นไม่รู้ว่าออกกำลังกายหรือเปล่าอัน
00:05:43 → 00:05:47 ที่ 3 นอนดึก 2 3 ถึงแม้ว่าคนไข้เนี่ยมี
00:05:47 → 00:05:50 การพักผ่อนเล่นเกมเนาะแต่เคติดนิสัย
00:05:50 → 00:05:52 เรื่องของการนอนดึกไม่รู้ว่าตื่นกี่โมง
00:05:52 → 00:05:54 พักผ่อนเพียงพอหรือเปล่านะครับเคยโดน
00:05:54 → 00:05:57 วินิจฉัยว่าเป็นโรคกระเพาะแล้วได้ยามากิน
00:05:57 → 00:05:59 และได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเรื่องของ
00:05:59 → 00:06:02 การกินแต่ก็ยังมีอาการปวดท้องอยู่คราวนี้
00:06:02 → 00:06:04 อันสุดท้ายเนี่ยสำคัญมากก็คือเรื่องการ
00:06:04 → 00:06:07 supp หรือ eet คือบุหรี่ไฟฟ้านั่นเอง
00:06:07 → 00:06:09 คราวนี้เราต้องมาเข้าใจก่อนว่าบุหรี่ไฟ
00:06:09 → 00:06:12 ฟ้าคืออะไรหลายคนอาจจะบอกว่าเฮ้ยสูบ
00:06:12 → 00:06:15 บุหรี่ไฟฟ้าดีกว่าสูบบุหรี่ปกติทั่วไปมัน
00:06:15 → 00:06:18 น่าจะซเออเพราะว่าเพราะว่าบุหรี่ทั่วไป
00:06:18 → 00:06:20 มันมีมานานแล้วมันมีมาหลาย10บปีแล้วแล้ว
00:06:20 → 00:06:23 มันเพิ่งมีบุหรี่ไฟฟ้ามันไม่ันนหลายคนอาจ
00:06:23 → 00:06:26 จะคิดว่าเฮ้ยเลิกสู่บุหรี่มาสู่บุหรี่ไฟ
00:06:26 → 00:06:29 ฟ้าดีกว่าให้มันปลอดภัยกว่าแต่จริงๆแล้ว
00:06:29 → 00:06:31 ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่แบบไหนก็แล้วแต่จะไฟ
00:06:31 → 00:06:34 ฟ้าหรือแบบทั่วๆไปก็มีอันตรายในร่างกาย
00:06:34 → 00:06:38 เหมือนกันอืออย่างแรกเลยทำไมเขาบอกว่า
00:06:38 → 00:06:40 บุหรี่ถึงติดเพราะมันมีสารอะไรครับ
00:06:40 → 00:06:42 นิโคตินถูกต้องนิโคตินมันอยู่ในนั้น
00:06:43 → 00:06:44 นิโคตินมันทำให้เกิดอะไรขึ้นเวลาเราสูบ
00:06:45 → 00:06:47 มันทำให้ติดแล้วรู้สึกสูบแล้วยิ่งทำอยาก
00:06:47 → 00:06:49 สูบอีกอ่าเวลาที่เราสูบนิโคตินเข้าไปใน
00:06:49 → 00:06:52 ร่างกายถูกมั้ยครับสารนิโคตินเนี่ยมันจะ
00:06:52 → 00:06:55 ทำให้เลือดสูบฉีดไปที่สมองทำให้เรามีการ
00:06:55 → 00:06:58 ตื่นตัวรู้สึกเฟรชรู้สึกเฮ้ยรู้สึกสดชื่น
00:06:58 → 00:07:01 มากขึ้นแล้วในสมองของเราก็จะมีสารอีกตัว
00:07:01 → 00:07:03 นึงในประสาทของเราอ่ะครับเรียกว่าโดปามีน
00:07:03 → 00:07:07 ทำให้รู้สึกฟินรู้สึกแฮปปี้รู้สึกใจดีใจ
00:07:07 → 00:07:10 มากขึ้นแล้วเราก็หยุดสูบแต่เนี่ยบุหรี่ 1
00:07:10 → 00:07:14 มวลมีสารนิโคติน 1 มิลลิกรัมอืเนาะแล้ว 1
00:07:14 → 00:07:18 แพ็คมีกี่มวล 20 มวลแปลว่าถ้าคุณสูบ 20
00:07:18 → 00:07:21 เอ้ยไม่สิ้าคุณสูบสูบ 1 แพกเท่ากับ 20
00:07:21 → 00:07:24 มวลถูกมั้ยครับเรามาดูเรื่องของพอตดีกว่า
00:07:24 → 00:07:27 สูบ 1 พอหรือ 1 หัวเนี่ยเท่ากับคุณสูบ
00:07:27 → 00:07:32 บุหรี่ทั่วไป 50 มมวนะ 50 50 มวลแปลว่า 1
00:07:32 → 00:07:35 1 1 หัวนะ 1 หัวเนี่ยมี 5 เท่ากับคุณสู
00:07:35 → 00:07:38 บุหรี่ทั่วไป 50 มวลเท่ากับ 50 มิลกรัม
00:07:38 → 00:07:42 ของนิโคตินแล้วยิ่งพอร์ตสมัยใหม่มันยิ่ง
00:07:42 → 00:07:44 มากกว่านั้นนะคือหมอก็ไม่รู้ว่าพอร์ตที่
00:07:44 → 00:07:46 เขาสูบเป็นรุ่นไหนเนาะมันเดี๋ยวนี้มันมี
00:07:46 → 00:07:48 พัฒนาการเยอะมากแล้วอย่างงี้มันจะไม่ติด
00:07:48 → 00:07:50 ได้ยังไงเนเออมันไม่ติดได้ไงเพราะว่าคุณ
00:07:50 → 00:07:53 สูบ 1 หัวเท่ากับคุณสูบ 50 มิลลิกรัมอ่ะ
00:07:53 → 00:07:56 มันยิ่งแบบเลือดสูบฉีดปุ้มป้ามขึ้นมาตัว
00:07:56 → 00:07:58 มีนยิ่งแล้วคราเนี้ยเวลาที่เราหยุดสูบอ่ะ
00:07:59 → 00:08:03 ครับสารนิโคตินเริ่มดรอปโดพามีนิ่งดรอปก็
00:08:03 → 00:08:07 เริ่มเหี่ยวไม่มีแรงก็ต้องหยิบขึ้นมาสูบ
00:08:07 → 00:08:10 อีกอย่างคนไข้คนนี้ของเราก็สูบมา 3 ปี
00:08:10 → 00:08:12 แล้วเพราะอันเนี้ยถือว่าเป็น addiction
00:08:12 → 00:08:15 และภาษาอังกฤษก็คือการติดใช่ติดและในสาร
00:08:15 → 00:08:18 เสพติดทั้งหมดที่มีในบนโลกเนี้ยรู้มั้ว่า
00:08:18 → 00:08:21 สารเสพติดอะไรที่ติดคนติดเยอะที่สุด
00:08:21 → 00:08:23 บุหรี่หรือเปล่าก็ถูกต้องนิโคตินคือ
00:08:23 → 00:08:25 อันดับ 1 เลยมากกว่าแอลกอฮอล์มากกว่า
00:08:25 → 00:08:28 โคเคนทุกอย่างเลยนะครับเนาะแล้วคราวนี้
00:08:28 → 00:08:31 เรามาดูกันว่าพอเคสูบเยอะขนาดนี้เนี่ยมัน
00:08:31 → 00:08:34 ส่งผลอะไรต่อร่างกายเราบ้าง 1 ระบบหลอด
00:08:34 → 00:08:36 เลือดและหัวใจอยู่แล้วอันนี้ทุกคนรู้เนาะ
00:08:36 → 00:08:38 ทำให้มันเกิดหลอดเลือดอุดตันทำให้หลอด
00:08:38 → 00:08:41 เลือดตีบมากยิ่งขึ้นอันที่ 2 เรื่องของ
00:08:41 → 00:08:44 ปอดเนาะอ่ามะเร็งปอดเรารณณรงค์มากมาย
00:08:44 → 00:08:47 พอร์ดก็เหมือนกันนะครับการสูดพอร์ตก็ทำ
00:08:47 → 00:08:49 ให้คุณมีเสี่ยงเป็นโรคปเค้าเรียกว่าปอด
00:08:50 → 00:08:54 อักเสบนะครับเนาะหรือภาษาใหม่เรียกว่า evy
00:08:54 → 00:08:58 อ evi EV AI คือโรคปอดอักเสบแบบรุนแรง
00:08:58 → 00:09:00 แบบรุนแรงแบบรุนแรงอันเนี้ยเจอในเฉพาะคน
00:09:00 → 00:09:03 ที่สูบพอตด้วยออเหรอคะอันนี้คือเป็นโรค
00:09:03 → 00:09:05 สำหรับสำหรับโรกพอเลยใช่เป็นรุนแรงแล้วใน
00:09:05 → 00:09:08 เมืองไทยก็เจอแล้วด้วยอืต่อมาก็คือเรื่อง
00:09:08 → 00:09:11 ของสติปัญญาหรือ mental Health นั่นเอง
00:09:11 → 00:09:15 ทำให้ถ้าคุณสูบพอตมากๆเหมือนคุณสืบสืบเสพ
00:09:15 → 00:09:17 สารนเสพติดคุณก็อาจจะมีความเสี่ยงที่เป็น
00:09:17 → 00:09:20 โรคซึมเศร้าโรควิตกกังวลได้ได้ยังไงอ่ะคะ
00:09:20 → 00:09:22 หมอคุณเสพตลอดเวลาแล้วเมื่อไหร่ถ้าคุณไม่
00:09:22 → 00:09:27 เสพหรือทิ้งมันไว้สารในสารสื่อประสาทใน
00:09:27 → 00:09:30 สมองมันเริ่มน้อยลงคุณก็เริ่มมีวิตกกังวล
00:09:30 → 00:09:32 อยากจะเอามาสูบอีกครั้งมันเกี่ยวกับสาร
00:09:32 → 00:09:35 โดปามีนหรือว่าโดพามีนก็คือสารแห่งความ
00:09:35 → 00:09:38 สุขใช่่มั้ยคสุให้เราฟินเหมือนแทุกครั้ง
00:09:38 → 00:09:40 ที่เราสูบเนี่ยมันก็จะเกิดสารนี้ขึ้นมา
00:09:40 → 00:09:42 แล้วเราก็จะแฮปปี้แล้วพอเราวางมันลงสารก็
00:09:42 → 00:09:44 จะลดลงมาแต่ต้องเข้าใจก่อนว่าการที่เรา
00:09:44 → 00:09:47 สูบเนี่ยมันเร่งสารโดพามีนเยอะมากกว่า
00:09:47 → 00:09:50 ปกติที่ร่างกายควรผลิตสมมุติร่างกายแค่
00:09:50 → 00:09:52 ออกกำลังกายมันก็มีผลิตแต่มันผลิตตาม
00:09:52 → 00:09:55 ระดับของร่างกายที่สามารถผลิตได้แต่คุณไป
00:09:55 → 00:09:59 สูบนิโคตินเข้าไปมันเร่งอ่ะเร่งบิดบึม
00:09:59 → 00:10:01 สตาร์ทเรื่อยๆสตารเรยๆเรๆแล้วต้องเข้าใจ
00:10:02 → 00:10:04 ก่อนว่าร่างกายไม่สามารถผลิตโดปามีนได้
00:10:04 → 00:10:07 เยอะเท่าเดิมเพราะฉะนั้นคุณก็ต้องสูบมาก
00:10:07 → 00:10:10 ขึ้นเพื่อให้ได้โดพามีนเท่าเดิมเข้าใจมั้
00:10:10 → 00:10:12 ครับมันก็เลยก็ต้องติดตลอดเวลาแล้วสูบมาก
00:10:12 → 00:10:15 กว่าเดิมสด้วยซ้ำและอันสุดท้ายมาพูดถึงคน
00:10:15 → 00:10:18 ไข้คนนี้เอ๊ะแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่อง
00:10:18 → 00:10:20 ของปวดท้องใช่ๆจริงๆมันต้องเกี่ยวกับปอด
00:10:20 → 00:10:23 หรือเปล่าอ่าการสูบพอดพวกเยครับสูบเข้าไป
00:10:23 → 00:10:27 ปุ๊บมันทำให้เขาเรียกว่าหูรูดของหลอดลม
00:10:27 → 00:10:29 อาหารและกระเพาะกระเพาะอาหารของเราอ่ะ
00:10:29 → 00:10:32 ครับมันเค้าเรียกว่าอะไรผ่อนคลายมันไม่
00:10:32 → 00:10:35 รัดมันไม่ตึงอืพอคราวนี้มันคลายแล้วเนี่ย
00:10:35 → 00:10:38 กรดที่อยู่ในกระเพาะอาหารก็สามารถย้อน
00:10:38 → 00:10:40 ขึ้นมาได้แล้วเกิดอาการแสกคือเหมือนเวลา
00:10:40 → 00:10:42 เรากินข้าวอะไรเข้าไปเนี่ยหรือหายใจเข้า
00:10:42 → 00:10:45 ไปเนี่ยมันก็คือจะรัดรัดตัวแล้วก็บีบตัว
00:10:45 → 00:10:47 อย่างงี้ใช่ใช่ให้เราย่อยอาหารได้นะครับ
00:10:47 → 00:10:50 แต่ว่าพอเราสูบพวกพอตขนเข้าไปไอ้ตรงที่รน
00:10:50 → 00:10:54 รัเนี่ยมันเลยคลายอืแล้วกดในกระเพาะอาหาร
00:10:54 → 00:10:56 ของเราก็สามารถย้อนกลับมาทำให้เป็นเกิด
00:10:56 → 00:10:58 กรดไหลย้อนกรดไหลย้อนได้แล้วนอกจากนั้น
00:10:58 → 00:11:02 เนี่ยมันไปทำลายเเรียกว่าผนังบนกระเพาะ
00:11:02 → 00:11:06 อาหารของเราทำให้เรามีการระคายเคลืองของ
00:11:06 → 00:11:08 กระเพาะอาหารได้นะครับเนาะสิ่งสำคัญคือ
00:11:08 → 00:11:13 มันไปลดการไหลเวียนของเลือดสู่อวัยวะอื่น
00:11:13 → 00:11:15 ในกระเพาะอาหารของเราทางเดินอาหารทั้งหมด
00:11:15 → 00:11:18 ของเรานะครับเนาะทำให้ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
00:11:18 → 00:11:21 ของจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารก็
00:11:21 → 00:11:25 เปลี่ยนไปลดไ้ลงระบบการย่อยก็แย่มากขึ้น
00:11:25 → 00:11:27 มันก็เลยส่งผลทำให้ว่าผู้ชายคนเนี้ยมัน
00:11:27 → 00:11:30 อาจจะเป็นแฟกเตอร์หนึ่งง่ายๆดีกว่าที่ทำ
00:11:30 → 00:11:32 ให้เขายังไม่หายจากการเป็นโรคปวดท้องถ้า
00:11:32 → 00:11:36 ปวดจนเหมือนถูกแทงนี่มันมันปวดมากๆเลยนะบ
00:11:36 → 00:11:38 มันปวดมากมันปวดมากๆนะครับเพราะว่า 1
00:11:38 → 00:11:40 เวลาทุกๆครั้งที่คุณสูบมันเข้าไปอ่ะไม่
00:11:40 → 00:11:42 ใช่แค่โดปามีนหลังมากขึ้นนะกดในกระเพาะ
00:11:42 → 00:11:45 อาหารก็หลังมากขึ้นอหลออมันอาจจะแบบว่า
00:11:45 → 00:11:48 กรดกหลั่งเยอะแล้วก็หูรูดด้วยแต่คราว
00:11:48 → 00:11:51 เนี้ยเวลาที่คุณสูบอ่ะมันฟินอยู่ไงอืคุณ
00:11:51 → 00:11:53 ไม่มาสนใจเรื่องของกระเพาะอาหารหรอกว่า
00:11:53 → 00:11:56 มันก็หลั่งตามแต่คุณจะมารู้สึกเรื่องของ
00:11:56 → 00:11:58 การอาหารน่ะหลังจากที่คุณแบบไปทำงานไปทำ
00:11:58 → 00:12:00 อย่างอื่นแล้วมันก็เลยแสดงอาการออกมาที
00:12:00 → 00:12:03 หลังนั่นเองก็แปลว่าการดูดพอเนี่ยก็ส่งผล
00:12:04 → 00:12:07 ต่อการปวดท้องได้มากๆเลยนะเช่นเดียวกัน
00:12:07 → 00:12:10 ครับอืทีเนี้ยหมอก็บอกว่าอาจจะเป็นที่การ
00:12:10 → 00:12:14 ดูดพอร์ตงั้นวิธีการแก้ก็คือต้องลดละเลิก
00:12:14 → 00:12:17 หรึเปล่าคะหรือว่าลดลเลคราวนี้การดูดพอต
00:12:17 → 00:12:19 ด้วยความมันเป็นสารเสพติดชนิดนึงเพราะ
00:12:19 → 00:12:21 ฉะนั้นการเลิกมันก็ยากสำหรับใครบางคน
00:12:21 → 00:12:23 เพราะฉะนั้นหมอก็แนะนำว่าเออลองไปเจอ
00:12:23 → 00:12:27 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูว่าวิธีการเลิกบุหรี่
00:12:27 → 00:12:29 เนี่ยมันมีเยอะแยะมากมายในปัจจุบันมันมี
00:12:29 → 00:12:31 ยาทดแทนด้วยนะยารดบุหรี่ถูกมยครับหรือว่า
00:12:31 → 00:12:33 เป็นนิโคติน pch ถ้าใครเคยเห็นที่ต่าง
00:12:33 → 00:12:36 ประเทศเป็นนิโคตินแล้วมาแปะหรือว่าหมาก
00:12:36 → 00:12:38 ฝรั่งนะครับเนาะของแบบทางการแพทย์ก็
00:12:38 → 00:12:42 สามารถช่วยรถได้แต่อันที่สำคัญคือ 4 รอ 4
00:12:42 → 00:12:45 รลอลิงรลิงนะ 4 รอลิงนะครับ 1 เขาเรียก
00:12:45 → 00:12:50 ว่าลงมือทำลงมือทำฉันตั้งใจว่าฉันจะลงมือ
00:12:50 → 00:12:54 ทำนะฉันจะเลิกสู่บุหรี่หรือสูพออันที่ 2
00:12:54 → 00:12:57 ลั่นวาจาต้องพูดให้โลกรู้ต้องพูดให้คนใน
00:12:57 → 00:13:01 ครอบครัวรู้ต้องมีใเลกฉันจะเลิกแล้วนะอื 3
00:13:01 → 00:13:06 ลาอุปกรณ์ทิ้งไปเลยต้องทิ้งต้องละต้อง
00:13:06 → 00:13:08 เลิกมันจะหักดิบไปไม่หมต้องต้องต้องอย่าง
00:13:08 → 00:13:10 งี้เลยการที่เราจะเลิกอะไรสักอย่างพวกสาร
00:13:10 → 00:13:13 เสพติดมันต้องหักดิบอ้าเหรอเค้าค่อยๆลด
00:13:14 → 00:13:16 ได้มยอย่างเช่นแบบปกติแต่ถ้าค่อยๆลดก็คือ
00:13:16 → 00:13:18 เราเปลี่ยนวิธีกลายเป็นไปสูบเอ่อไปไม่ใช่
00:13:18 → 00:13:21 สูบเคี้ยวหมัดฝรั่งหรือสารนิโคตินแทนแต่
00:13:21 → 00:13:23 การสูบเนี่ยหยิบขึ้นมาเนี่ยต้องละเลิกเลย
00:13:23 → 00:13:28 และอันสุดท้ายลิงสุดท้ายก็คือลงมือทำสรอ
00:13:28 → 00:13:30 นะครับเนาะฟังดูเหมือนจะง่ายแต่คนสำหรับ
00:13:30 → 00:13:32 คนที่ติดอ่ะมันยากมากนะเอาอย่างี้ดีกว่า
00:13:32 → 00:13:35 ในประสบการณ์แล้วะกันนะครับเนาะสมมุติคน
00:13:35 → 00:13:38 ติดนิโคติน 100 คนถ่ายิว่ากี่คนที่สามารถ
00:13:38 → 00:13:41 ละเลิกได้จริงใน 100 คนนะสมมุติ 100 คน
00:13:41 → 00:13:44 ันทแบบฉันจะทำฉันจะทำให้ได้กี่คนจริงๆดี
00:13:45 → 00:13:48 กว่าที่สามารถทำได้จริง 5 คนครับ 5 คน 5
00:13:48 → 00:13:50 คนจาก 100 คนที่สามารถทำได้จริงก็คืออีก
00:13:50 → 00:13:53 95 คนคือแค่พยายามแล้วเแค่พยายามหรืออาจ
00:13:53 → 00:13:55 จะลองแล้วแล้วก็กลับไปสูบใหม่หรือทำไม่
00:13:55 → 00:13:58 ได้สุดท้ายมันมีปัจจัยในชีวิตในครอบครัว
00:13:58 → 00:14:01 ความเครียดหรือปัญหาต่างๆมากมายที่ทำให้
00:14:01 → 00:14:04 เขากลับไปสูบไอีกครั้งนึงถ้าเมื่อกี้ที่
00:14:04 → 00:14:09 หมอบอกว่าการสูบบุหรีไฟฟ้า 1 หัวเนี่ย
00:14:09 → 00:14:13 เท่ากับ 50 50 มวลของบุรีุ่รีงั้นถ้าเรา
00:14:13 → 00:14:17 เปลี่ยนจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นบุหรี่ธรรมดา
00:14:17 → 00:14:20 ก่อนได้มั้ยคะแล้วก็ค่อยๆลดได้มั้ยอ่ะคือ
00:14:20 → 00:14:22 ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่บุหรี่ชนิดไหนก็ไม่ควร
00:14:22 → 00:14:25 สูบครับอืเพราะมันก็ส่งผลต่อสุขภาพอย่าง
00:14:25 → 00:14:28 ดีนะครับเนาะดีที่สุดคุณจะเลือกสิ่งที่
00:14:28 → 00:14:32 ทำลายร่างกายตัวคุณทำไมอืถูกมั้ยครับอก็
00:14:32 → 00:14:36 มันติดไงคะหมอก็มันติดเออเออแล้วอาการที่
00:14:36 → 00:14:38 หัวใจเต้นเร็วแล้วเป็นผืนอันนี้เกี่ยวกับ
00:14:38 → 00:14:41 นิโคตินมั้ยคะก็นิโคตินเนี่ยมีส่วนที่ทำ
00:14:41 → 00:14:44 ให้หัวใจเต้นเร็วโดยควในการที่เราสูบพอต
00:14:44 → 00:14:46 เข้าไปเนี่ยครับมันทำให้เลือดมันสูบฉีด
00:14:46 → 00:14:48 เร็วมากขึ้นเราก็เลยมีอาการใจสั่นได้แต่
00:14:48 → 00:14:50 เรื่องของผืดเนี่ยคราวนี้ก็ต้องไปดูว่า
00:14:50 → 00:14:53 เอ๊ะการสูบนิโคตินมากๆอ่ะครับการสูบพอร์ต
00:14:53 → 00:14:56 พูดง่ายๆนะครับมันก็ไปลดระบบภูมิคุ้มกัน
00:14:56 → 00:15:00 ในร่างกายของเราแลเาเป็นคนนอนดึกระบบ
00:15:00 → 00:15:05 ออกำลังด้วนนอนผืมันก็อาจจะเกิดขึ้นเพราะ
00:15:05 → 00:15:07 ระบบคุมคุ้มกันเเจงนั่นเองครับภูมิตกเน
00:15:07 → 00:15:09 เพราะนอนนอนดึกก็ภูมิตกอยู่แล้วแล้วก็
00:15:09 → 00:15:12 ยิ่งพอสูบเข้าไปมันเกิดการอักเสบในร่าง
00:15:12 → 00:15:14 กายทำให้ภูมิตกเข้าไปอีกก็เลยอาจจะทำให้
00:15:14 → 00:15:17 เป็นผืนได้ใช่ไหมคะฉะนั้นกลับมาที่คำถาม
00:15:17 → 00:15:21 ก็คือถามว่าการดูดพอตเนี่ยส่งผลทำให้ปวด
00:15:21 → 00:15:24 ท้องเหมือนถูกแทงได้ไหมได้นะคะแล้วถ้า
00:15:24 → 00:15:27 สมมุติว่าเดี๋ยวกินยาแก้ปวดเอาก็ได้ไม่
00:15:27 → 00:15:29 อยากเลิกพอตเลยอ่ะอ่ะแล้วถ้าเป็นอย่างนี้
00:15:29 → 00:15:31 ไปเรื่อยๆอ่ะค่ะจะเกิดอะไรขึ้นคะคุณหมอ
00:15:31 → 00:15:33 คราวนี้ถ้าอย่างอย่างคนเนี้ยเขเริ่มมี
00:15:33 → 00:15:35 อาการปวดท้องถูกมั้ยครับถ้าเขายังใช้
00:15:35 → 00:15:39 พฤติกรรมแบบนี้ต่อไปแรงสูบต่อไปแล้วรวมปั
00:15:39 → 00:15:42 ปัจจัยอื่นๆในไลฟ์สไตล์ของเขาในอนาคตอาจ
00:15:42 → 00:15:46 จะเป็นแผลในกระเพาะอาหารเลือดออกจนถึง
00:15:46 → 00:15:48 เจ็บกว่าเดิมแล้วจนไปถึงอาจจะเป็นมะเร็ง
00:15:48 → 00:15:51 เลยก็ได้เ็ดกระเพาะอาหารเหมือนการที่ปวด
00:15:51 → 00:15:53 ท้องเหมือนถูกแทงมันเป็นเหมือนสัญญาณที่
00:15:53 → 00:15:56 ร่างกายบอกว่าเลิกเถอะนะเลิกเถอะพักเถอะ
00:15:56 → 00:15:58 นะร่างกายมันไม่ไหวแล้วไม่ไหวแล้วอใช่
00:15:58 → 00:16:00 แล้วคราวนี้แยกไปกว่านั้นเนี่ยพอปัจจุบัน
00:16:00 → 00:16:03 มีคนขายมากขึ้นทั้งๆที่มันผิดกฎหมายเนี่ย
00:16:03 → 00:16:07 ใช่ๆคิดดูว่าเด็กไทยผู้ชายและผู้หญิงอายุ
00:16:07 → 00:16:11 13-15 ปีสูบมากขึ้นภายในเวล 8 ปีอ่ะจาก
00:16:11 → 00:16:17 13% กลายมาเป็น 25% หู 25% ในประชากใน
00:16:17 → 00:16:19 ประชากรเด็กที่อายุ 13-15 ปีนี่เด็กขนาด
00:16:19 → 00:16:22 เนี้ยเพราะอะไรรู้มั้ยเพราะ 1 เรื่องของ
00:16:22 → 00:16:26 อาจจะเป็นเรื่องของสังคมเนาะสูบฉันเท่ฉัน
00:16:26 → 00:16:31 สูคล้ายๆก็สูบการรสชาตสูมีกี่รสชาติครับ
00:16:31 → 00:16:34 กี่พูพอร์ตเนี่ยมันมีรถรถแตงโม
00:16:34 → 00:16:37 รถรี่มีทั้งหมดกี่พอร์ตอ่ะทั้งหมดอ่ะใน
00:16:37 → 00:16:41 ตลาดทั่วเมืองไทยเลย 100 นเลย 15,000 รส
00:16:41 → 00:16:44 ชาติหมื่รสชาติ 10 หมืรสชาติเยอะกว่า
00:16:44 → 00:16:46 อาหารที่เราสั่งอีกนะอหารแล้วมีรูปแบบ
00:16:46 → 00:16:50 โดราเลมอนรูปของตุ๊กตุ่นตุ๊กตามันก็ยิ่ง
00:16:50 → 00:16:53 ทำให้เด็กรุ่นใหม่อยากสูบเข้าไปอีกฉะนั้น
00:16:53 → 00:16:55 จริงๆก็อยากให้คลิปนี้เหมือนเป็นอุทาหรด
00:16:55 → 00:16:58 เนาะว่าจริงๆแล้วอ่ะค่ะว่ามันอันตรายมากๆ
00:16:58 → 00:17:01 นะคะก็ให้ให้ระมัดระวังเพราะว่าอย่าคิด
00:17:01 → 00:17:04 ว่าอุ๊ยเป็นบุหรี่ไฟฟ้าหอมดีอร่อยด้วยแต่
00:17:04 → 00:17:08 จริงๆแล้วมันร้ายมากมันร้ายจริงๆถ้าใคร
00:17:08 → 00:17:10 กำลังชมคลิปนี้อยู่แล้วมีคำถามในใจนะคะ
00:17:10 → 00:17:13 สามารถส่งคำถามทางด้านสุขภาพมาได้ใน
00:17:13 → 00:17:16 แคปชั่นด้านล่างนี้นะคะเราจะมีลิงก์อยู่
00:17:16 → 00:17:19 นะคะสามารถกดได้เลยหรือจะสแกน QR โคดตรง
00:17:19 → 00:17:21 นี้แล้วก็กรอกรายละเอียดเข้ามาได้เลยนะคะ
00:17:21 → 00:17:25 คุณหมอและทีมงานจะคัดเลือกคำถามมาตอบใน EP
00:17:25 → 00:17:27 ต่อๆไปค่ะโดยแต่ละ EP เราจะกรุ๊ปเป็นคำ
00:17:27 → 00:17:29 ถามนะคะอย่างวันนี้ก็เป็นคำถามเกี่ยวกับ
00:17:29 → 00:17:32 ปัญหาชีวิตคนปัญหาสุขภาพคนเมือง EP หน้าๆ
00:17:32 → 00:17:35 ก็จะเป็นปัญหาทางด้านอื่นๆนะคะยังไงก็ขอ
00:17:35 → 00:17:38 ให้เขียนรายละเอียดมาแบบจัดเต็มจัดแน่น
00:17:38 → 00:17:40 เลยนะคะคุณหมอจะได้เข้าใจถึงวิธีการใช้
00:17:41 → 00:17:45 ชีวิตนะคะวิธีการกินการนอนรักษามาแล้วยัง
00:17:45 → 00:17:47 ไงบ้างตอนนี้กำลังรับประทานยาอยู่หรือไม่
00:17:47 → 00:17:49 แล้วก็มีอาการอะไรบ้างคุณหมอจะได้เข้าใจ
00:17:49 → 00:17:52 ตัวคนไข้แล้วก็ตอบคำถามได้อย่างแม่นยำที่
00:17:52 → 00:17:54 สุดค่ะเรื่องต่อมานะคะเกี่ยวกับชีวิตคู่
00:17:54 → 00:17:57 รักคู่นึงนะคะที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันใน
00:17:57 → 00:17:59 คอนโดแล้วก็ work from home ทั้งคู่จน
00:17:59 → 00:18:02 น้ำหนักขึ้น 10 กลแล้วก็ไม่มีอารมณ์ทาง
00:18:02 → 00:18:05 เพศนะคะอันนี้เป็นคำถามมาจากคุณผู้หญิงนะ
00:18:05 → 00:18:09 คะนามสมมุติว่าคุณวันนะคะคุณวันอายุ 20
00:18:09 → 00:18:12 ต้นๆเองพักอาศัยอยู่กับแฟนที่มีอายุไล่
00:18:12 → 00:18:15 เลี่ยกันนะคะหนูทำงานแบบ work from home
00:18:15 → 00:18:18 ค่ะตื่นเที่ยนทำงานบ่ายบางวันก็ทำงานจน
00:18:18 → 00:18:21 ถึง 3:00 น 4:00 นพักเล่นเกมบ้างเล่นกับ
00:18:21 → 00:18:24 แมวบ้างไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรที่เคลื่อน
00:18:24 → 00:18:27 ไหวตัวเยอะนอกจากการออกไปกินข้าวนอกบ้าน
00:18:27 → 00:18:31 บ้างบางครั้งบางคราวหนูไม่ได้ออกกำลังกาย
00:18:31 → 00:18:34 เลยค่ะจนน้ำหนักตัวตอนนี้ขึ้นเป็น 10 กล
00:18:34 → 00:18:37 เลยแต่แฟนก็ออกกำลังกายตามปกตินะคะหนูรู้
00:18:37 → 00:18:40 สึกไม่ค่อยมีอารมณ์ทางเพศเลยค่ะและห่าง
00:18:40 → 00:18:43 เหินจากการมีอะไรกับแฟนมานานมากแล้วตอน
00:18:43 → 00:18:46 นี้จนทุกวันนี้อาจจะมีรายการทุก 3-4
00:18:46 → 00:18:49 เดือนครั้งไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเหตุการณ์
00:18:49 → 00:18:52 เมื่อหลายปีก่อนหรือเปล่าเพราะแฟนหนูเคย
00:18:52 → 00:18:55 บังคับแต่อันนี้เป็นแฟนเก่านะคะเคยบังคับ
00:18:55 → 00:18:58 ให้หนูมีอะไรด้วยโดยที่หนูไม่ได้สมยอมเลย
00:18:58 → 00:19:01 ททำให้ฝังใจและมีความกลัวค่ะซึ่งเรื่อง
00:19:01 → 00:19:04 นี้ก็เคยเล่าให้แฟนปัจจุบันฟังนะคะแล้ว
00:19:04 → 00:19:08 แฟนก็เข้าใจมากๆความสัมพันธ์ของเราดีค่ะ
00:19:08 → 00:19:11 แล้วก็มีความสุขหนูก็เลยอยากจะแก้ไข
00:19:11 → 00:19:13 เรื่องนี้และอยากมีอารมณ์ทางเพศได้เหมือน
00:19:13 → 00:19:17 คนอื่นๆควรแก้ไขยังไงดีคะคุณหมอผู้ชายยัง
00:19:17 → 00:19:20 มีไวอาก้าให้กินแล้วผู้หญิงสามารถกินอะไร
00:19:20 → 00:19:23 ได้บ้างคะพอรอเมื่อเดือนตุลาคปีที่แล้ว
00:19:23 → 00:19:25 เพิ่งไปฝังยาคุมมาค่ะจริงๆตอนแรกที่อ่าน
00:19:25 → 00:19:27 เรื่องเยค่ะก็คิดว่าเอ๊ะเพราะว่า work
00:19:27 → 00:19:29 from home อยู่ด้วยด้วยกันตลอดเวลา
00:19:29 → 00:19:31 เบื่อหรือเปล่าแต่ว่าพอมาฟังจริงๆเนี่ย
00:19:31 → 00:19:33 คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นประเด็นเรื่อง
00:19:33 → 00:19:35 ความกลัวมากกว่าแล้วจริงๆแล้วผู้หญิง
00:19:35 → 00:19:38 เนี่ยมีเรื่องความกลัวกับเพศสัมพันธ์ค่อน
00:19:38 → 00:19:40 ข้างมากนะคะแล้วก็เป็นประเด็นที่รู้สึก
00:19:40 → 00:19:42 ว่าคนไม่ค่อยคุยกันมากเท่าไหร่อย่าง
00:19:42 → 00:19:44 ประเด็นนี้เนี่ยก็คือกลัวจากประสบการณ์
00:19:44 → 00:19:47 ที่มีไม่ดีในอดีตเนาะหรือบางคนอาจจะกลัว
00:19:47 → 00:19:50 ท้องเนาะหรือว่าบางคนเนี่ยกลัวที่จะ
00:19:50 → 00:19:53 ปฏิเสธแฟนกลัวเจ็บอะไรอย่างเงี้ยทีนี้ใน
00:19:53 → 00:19:55 ประเด็นเนี้ยค่ะที่โอเคมันเป็นเรื่องใน
00:19:55 → 00:19:58 อดีตกับแฟนเก่าแต่แฟนปัจจุบันเนี่ยเป็นคน
00:19:58 → 00:20:00 ดีมากเข้าใจมากแล้วเราก็รู้สึกว่าเราอยาก
00:20:00 → 00:20:03 จะเปิดใจนะคะแล้วก็กลับมามีอะไรได้อย่าง
00:20:03 → 00:20:06 ได้อย่างแฮปปี้อืทีเนี้ยค่ะควรจะเริ่มต้น
00:20:06 → 00:20:09 ยังไงดีคะหมอคราวนี้เนี่ยเราก็มาดูของเคส
00:20:09 → 00:20:11 นี้ก่อนแล้วกันเนาะเป็นผู้หญิงอายุ 20
00:20:11 → 00:20:14 ต้นๆเนาะคราวนี้ปัญหาคือ 1 น้ำหนักตัว
00:20:14 → 00:20:16 เพิ่มมากยิ่งขึ้นถึงแม้คุณผู้ชายยังออก
00:20:17 → 00:20:19 กำลังกายแต่ตัวคุณผู้หญิงเองน้ำหนักตัว
00:20:19 → 00:20:22 มากขึ้นเขาอาจจะมีความไม่มั่นใจในตัวเอง
00:20:22 → 00:20:24 ในรูปร่างตัวเองหรือเปล่าอย่างแรกเลย 10
00:20:24 → 00:20:26 กถูว่าเยอะนะอออย่างที่ 3 ก็คือเรื่องของ
00:20:26 → 00:20:30 พฤติกรรมอ่าเ่อทำงานตอนตอนบ่ายนอนดึกด้วย
00:20:30 → 00:20:32 อาหารการกินอาจจะไม่ดีหรือเปล่าน้ำหนัก
00:20:32 → 00:20:35 ตัวเลยเพิ่มมากยิ่งขึ้นคราวนี้อ่ะเรามาดู
00:20:35 → 00:20:37 ดูเรื่องของเรื่องของเพศสัมพันธ์นะครับ
00:20:37 → 00:20:42 เนาะเามีอดีตที่เคยโดนแฟนเก่าแล้วกันที่
00:20:42 → 00:20:44 เมื่อกี้บอกมาถูกมครับที่เขาไม่อยากมีเพศ
00:20:44 → 00:20:47 สัมพันธ์ด้วยเขาก็เลยมีความกลัวตรงนั้น
00:20:47 → 00:20:49 คราวนี้มันอาจจะทำให้ความต้องการทางเพศ
00:20:49 → 00:20:52 ของเขาลดน้อยลงเขาก็เลยอยากมีเหมือนคน
00:20:52 → 00:20:54 อื่นเหมือนคู่อื่นคราวนี้เรามาเข้าใจตรง
00:20:54 → 00:20:57 ความต้องการทางเพศก่อนหรือว่าภาวะบกพร่อง
00:20:57 → 00:21:00 ความต้องการทางทั้งเพศในผู้หญิงรู้มยว่า
00:21:00 → 00:21:03 คนไทยเนี่ยในผู้หญิงเนาะภาวะเนี้ยเจอได้
00:21:03 → 00:21:05 กี่เปอร์เซ็นต์ในคนไทยผู้หญิงทั้งหมดเลย
00:21:05 → 00:21:07 อันนี้คือทุกวัยเลยใช่ปคทุกวัยเลยครับโห
00:21:07 → 00:21:10 ดาวไม่ถูกเลยอ่ะ 40% ครับอุเกือบเกือบ
00:21:10 → 00:21:12 ครึ่งเลยเหรอคะเกือบครึ่งของประเทศ 4 คือ
00:21:12 → 00:21:15 ผู้หญิง 40% คือบก[\h__\h]เรื่องของความ
00:21:15 → 00:21:18 ต้องการทางเพศหรืออาจจะเค้าเรียกว่าไม่
00:21:18 → 00:21:21 ถึงจุดสุดยอดจุดสุดยอดไม่ถึงเนี่ยประมาณ
00:21:21 → 00:21:24 25% ของคนไทยอ๋อก็แปลว่าหลายครั้งคือถ้า
00:21:24 → 00:21:26 มีก็ก็มีแค่อาจจะเป็นกลับมาที่เรื่องความ
00:21:26 → 00:21:29 กลัวนะกลัวที่จะปฏิเสธแฟนไม่อาจจะแค่
00:21:29 → 00:21:31 เรื่องของความกลัวคราวนี้เรามาดูสาเหตุ
00:21:31 → 00:21:33 ก่อนที่ทำให้ผู้หญิงมีภาวะพวกนี้เยอะแบ่ง
00:21:33 → 00:21:36 ออกมาทั้งหมด 4 สาเหตุด้วยกัน 1 ปัจจัย
00:21:36 → 00:21:38 ทางกายปทัยทางกายหมายถึงว่าอ่ะโรคประจำ
00:21:38 → 00:21:41 ตัวนะครับมีทานยาอะไรหรือเปล่าอ่ะผู้หญิง
00:21:41 → 00:21:44 คนนี้มีกินยาคุมนะเดี๋ยวเรามาคุยกันเรามา
00:21:44 → 00:21:47 คุยกันแล้วก็เอ่อภาวะอื่นๆเช่นอาจเ่อ
00:21:47 → 00:21:49 เรื่องของผู้หญิงอย่างเช่นเรื่องของการ
00:21:49 → 00:21:51 ตั้งครรภ์หรือเปล่าหรือว่าเ่อปัสสาวะแสบ
00:21:51 → 00:21:54 ขัดอะไรพวกเนี้ยมันก็ทำให้เป็นส่วนหนึ่ง
00:21:54 → 00:21:57 ที่ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์นะครับอันนี้คือ
00:21:57 → 00:22:00 ภาวะทางกายอันที่ 2 คนนี้แน่ๆภาวะทางจิต
00:22:00 → 00:22:03 ใจถูกมยเราก็เรียกว่าหรือเขาโดนแฟนเก่า
00:22:03 → 00:22:06 เรื่องของ abuse โดนแบบบังคับ
00:22:06 → 00:22:09 เนาครับนะครับเนาะแล้วก็เรื่องถ้าไม่ใช่
00:22:09 → 00:22:10 เรื่องของการบังคับก็เป็นเรื่องของทาง
00:22:10 → 00:22:13 ด้านจิตใจโรคซึมเศร้าวิตกกังวลต่างๆมาก
00:22:13 → 00:22:16 มายอันที่ 3 เรื่องของ relationship หรือ
00:22:16 → 00:22:19 ความสัมพันธ์เออคนนี้ก็ดูไม่แย่นะกับแฟน
00:22:19 → 00:22:21 ใหม่ถูกไหมมครับบอกว่ารักกันดีดูกันดีอัน
00:22:21 → 00:22:23 สุดท้ายคือเรื่องของสังคมสังคมไทยเป็นยัง
00:22:24 → 00:22:27 ไงเรื่องพอพูดถึงเรื่องเพศอายอืไม่กล้า
00:22:28 → 00:22:32 เจอแพทแคุไม่กล้าถามจะไปคุยกับใครหลายคน
00:22:32 → 00:22:35 บอกเอ้ยมันเป็นเรื่องปกติอืเนี่ยแล้วคุย
00:22:35 → 00:22:38 แต่เพื่อนๆแต่จริงๆปัจจุบันเนี่ยมันมีนัก
00:22:38 → 00:22:41 เพศวิทยาและหมอทางด้านวิทยาศาสตร์ทางเพศ
00:22:41 → 00:22:44 ช่วยด้วยซ้ำที่สามารถคุณสามารถปรึกษาได้
00:22:44 → 00:22:46 ทางด้านนี้นะครับถ้าเรามาดูทั้งหมดทั้ง
00:22:46 → 00:22:48 หลายปัจจัยผู้หญิงคนนี้อาจจะมีปัจจัย
00:22:48 → 00:22:50 เรื่องจิตใจมานำนะครับเนาะแล้วก็เรื่อง
00:22:50 → 00:22:53 ของยาคุมนะครับเนาะคราวนี้เรามาดูเรื่อง
00:22:53 → 00:22:56 ของเราจะทำยังไงให้ความสัมพันธ์ของเขาดี
00:22:56 → 00:22:58 ขึ้นขอกลับไปที่เรื่องยาคุมนิดนึงใชครับ
00:22:58 → 00:23:01 เพราะว่าเบอกว่าเดือนตุลาที่ผ่านมาใช่มคะ
00:23:02 → 00:23:05 เไปฝั่งยาคุมมาแล้วฝั่งยาคุมเนี่ยมัน
00:23:05 → 00:23:08 เกี่ยวข้องกับอารมณ์ทางเพศเดือนเมื่อไหร่
00:23:08 → 00:23:10 นะครับเมื่อไหร่นะตุลาคตุลาตุลาก็คือ
00:23:10 → 00:23:12 เกือบเกือบปีนึงแล้วอืเกือบปีนึงครับการ
00:23:12 → 00:23:15 ที่คุณไปกินยาคุมฝังยาคุมต่างๆนานาคือคุณ
00:23:15 → 00:23:18 ป้องกันเพื่อไม่ให้ท้องอือันนั้นคือเหตุ
00:23:18 → 00:23:21 ผลเดียวเลยถูกมครับถ้ามีเหตุผลอื่นด้วย
00:23:21 → 00:23:24 หมอก็ไม่แนะนำว่าอย่าใช้ยาคุมะกันนะครับ
00:23:24 → 00:23:28 เนาะแต่การที่คุณใช้ยาคุมเนี่ยมันจะไปลบ
00:23:28 → 00:23:31 เขาเรียกว่าลดฮอร์โมนเพศชายหรือและ
00:23:31 → 00:23:34 ฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายของคุณก็คือว่า
00:23:34 → 00:23:37 ผู้หญิงเนี่ยก็จะมีทั้งฮอร์โมนเพศหญิง
00:23:37 → 00:23:40 แล้วฮอร์โมนเพศชายใช่มั้ยคะแล้วก็ผู้หญิง
00:23:40 → 00:23:42 ก็จะมีฮอร์โมนเพศหญิงเยอะหน่อยฮอร์โมนเพศ
00:23:42 → 00:23:45 ชายน้น้อยหน่อยแล้วก็การที่เราฝังยาคุม
00:23:45 → 00:23:47 หรือว่ากินยาคุมมันจะทำให้ฮอร์โมนเพศชาย
00:23:47 → 00:23:50 อ๋อโมนทั้งหมดลดหมดเลยลดหมดเลยอ่ะคือฝั่ง
00:23:50 → 00:23:53 ยาคุม 1 ทำให้ไข่คุณไม่ตกอ่ะคุณไม่ท้องไง
00:23:53 → 00:23:55 ถูกมั้ยครับเนาะฮอร์โมนเพศอ่าคราวนี้เรา
00:23:55 → 00:23:57 เมื่อกี้บอกว่ามีทั้งฮอร์โมนเพศหญิง
00:23:57 → 00:23:59 เอสโตรเจนและฮอร์โมนเพเพศชายแอนโดรเจน
00:23:59 → 00:24:02 หรือเทสเตอโรนนะครับฮอร์โมนเพศหญิงก็มี
00:24:02 → 00:24:04 ความสำคัญต่อเรื่องเพศสัมพันธ์เหมือนกัน
00:24:04 → 00:24:08 มันทำให้มีการหล่อลื่นข้างล่างได้ดีถูก
00:24:08 → 00:24:11 มั้ยครับเนาะมีความต้องการมีเ้าเรียกว่า
00:24:11 → 00:24:15 ร้อนๆรุ่มๆเวลาที่คุณอยากมีเพศสำคัญ
00:24:15 → 00:24:17 เหมือนเหมือนเวลาที่คุณไข่ตกก่อนมีประจำ
00:24:17 → 00:24:19 เดือนเห็นมั้ยอุณหภูมิร่างกายจะเพิ่มมาก
00:24:19 → 00:24:22 ขึ้นอันนี้เป็นเพราะเอสโตรเจนนะครับคราว
00:24:22 → 00:24:25 นี้เทสสคราวนี้เทสโทสเตอโรนสำคัญมากในผู้
00:24:25 → 00:24:28 หญิงเหมือนกันคือฮอร์โมนเพศชายบางคนบอก
00:24:28 → 00:24:30 อุ้ยผู้หญิงไม่มีฮอร์โมนเพชรชายเป็นไปไม่
00:24:30 → 00:24:32 ได้มันคือความแข็งแรงของร่างกายคุณความ
00:24:32 → 00:24:36 แข็งแรงของกล้ามเนื้อของกระดูกนะครับอ่ะ
00:24:36 → 00:24:39 ขนผมต่างๆนะครับรวมไปถึงเรื่องของสมองและ
00:24:39 → 00:24:42 ความต้องการทางเพศอืเพราะฉะนั้นยาคุมก็จะ
00:24:42 → 00:24:45 ไปกดฮอร์โมนเพศชายของคุณลดน้อยลงทำให้
00:24:45 → 00:24:48 ความต้องการก็ลดลงไปด้วยลดไปด้วยนิ่งเลย
00:24:48 → 00:24:52 คราวนี้ถือศีลเลยอืเราทำยังไงอย่าเงี้ค่ะ
00:24:52 → 00:24:55 หมอก็ไม่อยากท้องแล้วก็ก็ที่ฝังเนี่ยก็
00:24:55 → 00:24:57 เพราะไม่อยากท้องไงคราวนี้ต้องเข้าใจก่อน
00:24:57 → 00:25:00 ว่าเราก็มีมีวิธีการป้องกันเรื่องของคุม
00:25:00 → 00:25:03 กำเนิดหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการใส่ถุง
00:25:03 → 00:25:07 ยางนะครับเนาะคือถึงแม้ว่าคุณจะฝังยาคุม
00:25:07 → 00:25:09 แต่คุณก็ยังต้องใส่ถุงยางอนามัยนะเพื่อ
00:25:09 → 00:25:12 ป้องกันโรคทางเพศต่างๆถูกมครับเาไม่ใช่
00:25:12 → 00:25:15 ว่าออฝังแล้วปล่อยเลยอย่างเงี้ยก็ไม่ใช่
00:25:15 → 00:25:17 เพราะคุณก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคอื่น
00:25:17 → 00:25:20 ๆงั้นอย่างในเคสนี้เนี่ยเาถ้าสมมุติว่า
00:25:20 → 00:25:22 อย่าอยากแก้ทางด้านจิตใจอ่ะค่ะจะต้อง
00:25:22 → 00:25:25 เริ่มต้นยังไงอ่ะคะคราวนี้ทางด้านจิตใจ
00:25:25 → 00:25:26 เนี่ยสิ่งที่สำคัญคือมันเป็นเรื่องของ
00:25:26 → 00:25:29 เพชรสัมพันธ์เพราะฉะนั้นมันมันก็ต้องคุย
00:25:29 → 00:25:32 ทั้งผู้ชายและผู้หญิงถูกมยครับเอ่ออาจจะ
00:25:32 → 00:25:35 คุยกับผู้ผู้หญิงก่อนแล้วก็เอาผู้ชายมา
00:25:35 → 00:25:37 ให้คุยกับแพทย์หรือนักคุยนที่นี้นี่คือ
00:25:37 → 00:25:39 สามารถไปคุยกับจิตแพทย์ทั่วไปได้เลยมั้คะ
00:25:39 → 00:25:41 หรือว่าต้องเป็นมีนักเพศวิทยาโดยตรงครับ
00:25:41 → 00:25:43 เป็น clinical sexologist โดยตรงอันนี้
00:25:43 → 00:25:45 สามารถไปหาได้ที่ไหนอ่ะคะที่จริงก็ไม่ว่า
00:25:45 → 00:25:48 จะเป็นเอิทางโรงพยาบาลนะครับหรือโรงเรียน
00:25:48 → 00:25:51 แพทย์ก็จะมีสมัยปัจจุบันเนี่ยมีเพิ่มขึ้น
00:25:51 → 00:25:53 และแต่ว่าถ้าเข้าถึงได้ง่ายสุดน่าจะเป็น
00:25:53 → 00:25:56 พวกจิตจนักจิตแพทย์ทั่วไปอันนี้ก็สามารถ
00:25:56 → 00:26:00 ปรึกษาได้ใช่ปาคราวนี้ 1 เนี่ยเก็จะแนะนำ
00:26:00 → 00:26:02 อย่างแรกที่เขอยากให้ฝึกทั้งคู่นะครับคือ
00:26:02 → 00:26:06 เข้าใจร่างกายอวัยวะของทั้งคู่ให้ดีก่อน
00:26:06 → 00:26:08 เข้าใจหมายถึงภาษาทางการแพทย์เรียกว่า
00:26:08 → 00:26:11 sensate Focus sensate Focus คือมัน
00:26:11 → 00:26:14 จะมีทั้งหมด 3 สตปด้วยกันสตปแรกเรียกว่า
00:26:14 → 00:26:17 non genital sensate Focus คืออันนี้
00:26:17 → 00:26:18 ให้ไปฝึกที่บ้านนะไม่ใช่ฝึกต่อหน้าหมอ
00:26:18 → 00:26:21 ครับนะก็คือทั้งคู่อ่ะมาดูร่างกายซึ่งกัน
00:26:22 → 00:26:25 และกันดูว่าแกผ้าหมดเลยนะแล้วก็มองมองกัน
00:26:25 → 00:26:30 ว่าแต่ห้ามสัมผัสหรือแต่เอ่ออวัยวะเพศและ
00:26:30 → 00:26:34 เต้านมคือสัมผัสว่าเอ๊ะตัวเา้าอ่ะตรงไหน
00:26:34 → 00:26:38 คือจุดอ่อนตัวไหนที่สัมผัสแล้วทำให้เขามี
00:26:38 → 00:26:43 อารมณ์แขนหูขาดูว่าร่างกายเขาเป็นไงชอบ
00:26:43 → 00:26:45 อะไรบอกเขาไม่ชอบอะไรบอกเขาเรียนรู้ร่าง
00:26:45 → 00:26:47 กายซึ่งกันกันก็คือเหมือนแบบว่าผู้หญิง
00:26:47 → 00:26:49 กับผู้ชายยืนคู่กันอย่างงี้ใช่มใช่ครับ
00:26:49 → 00:26:52 แล้วเราลองลองสัมผัสกันแต่ห้ามแตไวเเพศ
00:26:52 → 00:26:55 กับใช่ก็อาจจะแตะไลายแตะหน้าอะไรอย่า
00:26:55 → 00:26:59 เงี้ยแว่าเอฉันไม่ชอบที่สะโพกเธอขนาดนี้
00:26:59 → 00:27:01 ขนาดนี้อะไรอย่างเงี้ยบอกกันซึ่งกันและ
00:27:01 → 00:27:03 กันเราจะได้เข้าใจกันบอกอย่างงั้นเลยเหรอ
00:27:03 → 00:27:06 เศร้านะฉันไม่ชอบพุงน้อยของเธออะไรอย่าง
00:27:06 → 00:27:08 เงี้ยให้คุณไปออกกำลังกายเออก็อาจจะแบบ
00:27:08 → 00:27:11 ว่าเอ้ยเอ้ยฉันชอบให้เธอตัดแต่อะไรอย่าง
00:27:11 → 00:27:13 งี้อะไรเงี้ก็เหมือนเป็นการพูดคุยเปิดใจ
00:27:13 → 00:27:16 กันต้องึึสเต็ปแรกต้องฝึกนะครับต้องฝึก
00:27:16 → 00:27:19 อ่าแบบ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์และใช้เวลานิด
00:27:19 → 00:27:23 นึงสเต็ป 2 ก็เรียกว่า genital sensate
00:27:23 → 00:27:26 Focus อ่ะเริ่มและเริ่มสัมผัสอวัยประเภท
00:27:26 → 00:27:29 หรือเต้านมซึ่งกันและกันดูว่าเมีจุดอ่อน
00:27:29 → 00:27:32 ตรงไหนบ้างนะครับชอบให้โดนสัมผัสตรงไหน
00:27:32 → 00:27:34 บ้างนะครับที่มันเป็นตัวกระตุ้นในร่างกาย
00:27:34 → 00:27:37 ของเขานะครับและสจสุดท้ายก็แน่นอนเรื่อง
00:27:38 → 00:27:40 ของการมีเพศสัมพันธ์กันครับ 3 สเตปด้วย
00:27:40 → 00:27:42 กันก็คือแต่ละสเตปเนี่ยต้องใช้เวลานาน
00:27:42 → 00:27:44 เท่าไหร่คะอย่างสเต็ปแรกเนี่ยประมาณ 2
00:27:44 → 00:27:47 อาทิต์คราวนี้มันแล้วแต่คู่เนาะว่ามันยาก
00:27:47 → 00:27:49 ขนาดไหนแล้วอันนี้นี่สามารถคนที่ดูอยู่
00:27:49 → 00:27:52 แล้วอุ๊ยเจอปัญหาแบบเยสามารถนำไปใช้ได้
00:27:52 → 00:27:54 เลยยคะหรือว่าควรปรึกษาที่จริมันดีเทลมัน
00:27:54 → 00:27:57 เยอะกว่านี้นะมันมันสยๆให้ฟังเลยอันนี้ก็
00:27:57 → 00:27:59 แนะนำว่าให้ไปเจอผู้เชี่ยวชาญดีกว่านะ
00:27:59 → 00:28:01 ครับเนาค่ะแต่ว่าจริงๆมันก็เป็นอะไรที่
00:28:01 → 00:28:03 น่าสนใจเหมือนกันนะคะเพราะมันไม่ได้เป็น
00:28:03 → 00:28:05 เรื่องยากเนาะมันก็แค่เหมือนแบบเหมือนจับ
00:28:05 → 00:28:08 มือผ่านมันไปด้วยกันโดยสเต็ปง่ายๆทำกัน
00:28:08 → 00:28:10 เองก่อนแล้วถ้าไม่ดีจริงๆก็อาจจะไปหา
00:28:10 → 00:28:14 แพทย์อ่ะทีนี้ลองลองทำอันนี้ก็แล้วอะไร
00:28:14 → 00:28:16 อย่างเงี้ยค่ะแล้วก็เรื่องเรื่องยาคุมก็
00:28:16 → 00:28:18 คุณหมอแนะนำว่ายังไงดีคะอันนี้ก็อย่างที่
00:28:18 → 00:28:21 บอกไปว่าถ้าเราอยากคุมจริงๆก็ลองไปถาม
00:28:21 → 00:28:23 แพทย์ผู้ช่ยวชานะครับสูตินารีแพทย์ว่า
00:28:23 → 00:28:26 เฮ้ยมันมีอชยาคุมอะไรบ้างที่สามารถช่วย
00:28:26 → 00:28:29 เรื่องคุมกำหนดกำเนิดและยังสามารถทำให้
00:28:29 → 00:28:31 คุณอยากมีอารมณ์ทางเพศอยู่อันเนี้ยมัน
00:28:31 → 00:28:34 สามารถไปปรึกษาทางแพทย์สูตินารีได้ครับ
00:28:34 → 00:28:37 แล้วการที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นนะคะมันส่ง
00:28:37 → 00:28:40 ผลต่อโอเคความมั่นใจอาจจะไม่มีเนาะแต่ทาง
00:28:40 → 00:28:43 ระบบร่างกายล่ะคะมันส่งผลอะไรต่ออารมณ์
00:28:43 → 00:28:45 ทางเพศมั้ยคะอ่าแน่นอนครับคราวนี้เราต้อง
00:28:45 → 00:28:47 มาดูปัจจัยของเขาก่อนว่าเอ๊ะน้ำหนักขึ้น
00:28:47 → 00:28:50 ตั้ง 10 กลสาเหตุเกิดจากอะไรคนเราอยู่ดี
00:28:50 → 00:28:51 น้ำหนักขึ้น 10 กลไม่ได้มันต้องมีปัจจัย
00:28:51 → 00:28:54 สาเหอันนี้น่าจะเ
00:28:54 → 00:28:58 โไม่ออกกำลังกายกินอาหารไม่ดีความเครียด
00:28:58 → 00:29:01 ก็อาจจะมีเพราะอยากมีเพศสัมพันธ์กับแฟนยา
00:29:01 → 00:29:03 คุมก็ทำให้น้ำหนักตัวขึ้นได้นะครับเนาะ
00:29:03 → 00:29:06 เพราะยาคุมไปลดระบบการเผาผลาในร่างกายไป
00:29:06 → 00:29:09 ลดการดูดซึมของวิตามินและแลธาตุหลายๆตัว
00:29:09 → 00:29:13 ที่สำใช้สำหรับการระบบเผาผลาญนะครับเนาะ
00:29:13 → 00:29:17 คราวนี้ก็ก็ต้องแนะนำเขาว่าเออเวลาที่คุณ
00:29:17 → 00:29:19 น้ำหนักตัวมากขึ้นน่ะไขมันเยอะมากขึ้น
00:29:19 → 00:29:22 เนี่ยมันก็ไปกดฮอร์โมนเพศชายได้เหมือนกัน
00:29:22 → 00:29:24 ฮอร์โมนเพศหญิกคือไขมันมันมากับฮอร์โมน
00:29:24 → 00:29:26 เพชรหญิงันนี้ต้องบอกก่อนนะครับเนาะแฟต
00:29:26 → 00:29:28 ที่มันอยู่ในร่างกายไขมันเนี่ยมันมันก็ทำ
00:29:28 → 00:29:30 ให้คุณมีฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มมากขึ้นไป
00:29:30 → 00:29:33 ด้วยนะครับเนาะการที่คุณมีฮอร์โมนเพศหญิง
00:29:33 → 00:29:36 ที่เยอะสูงจนเกินไปเนี่ยมันก็ไปกดเรื่อง
00:29:36 → 00:29:39 ของฮอร์โมนเพศชายได้ครับอืบางทีก็อาจจะ
00:29:39 → 00:29:42 เป็นเพราะฮอร์โมนเนาะก็แปลว่าสรุปง่ายๆก็
00:29:42 → 00:29:47 คือว่า 1 อาจจะต้องลองไปหาเอ่อแพทย์อาจจะ
00:29:47 → 00:29:49 ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยปรับเปลี่ยน
00:29:49 → 00:29:51 พฤติกรรมนะคะอาจจะเริ่มออกกำลังกายเนาะ
00:29:51 → 00:29:54 อย่างหน่อยถ้าไขมันลดลงแล้วก็ระดับของ
00:29:54 → 00:29:56 ฮอร์โมนบาลานซ์ดีขึ้นอาจจะทำให้อารมณ์ทาง
00:29:56 → 00:29:59 เพศดีขึ้นด้วยด้วยนะคะแล้วก็อาจจะหาผู้
00:29:59 → 00:30:01 เชี่ยวชาญเนาะไปพูดคุยแล้วก็ลองทำ
00:30:01 → 00:30:03 Exercise ง่ายๆที่บ้านก่อนอ่ามี Exercise
00:30:03 → 00:30:06 นึงแนะนำได้เลยคือ kle Exercise คืออะไร
00:30:06 → 00:30:09 คะคือการขมิบก้นครับขมิบก้นขมิบก้นเพื่อ
00:30:09 → 00:30:14 เป็นการเกร็งเอ่อกล้ามเนื้อภายในร่างกาย
00:30:14 → 00:30:16 ของเราอวัยวะข้างล่างให้มันแข็งแรงมาก
00:30:16 → 00:30:19 ยิ่งขึ้นให้มันให้มันอะไรอ่ะกระชับให้มัน
00:30:19 → 00:30:21 แล้วขมิบแล้วยังไงต่อคราวนี้เราสามารถฝึก
00:30:21 → 00:30:24 เองที่บ้านได้นะคือถ้าเราไปยิมหรือฟิตเนส
00:30:24 → 00:30:26 เนี่ยก็คือมันจะมีท่าแบบถ้าใครเคยดูใน
00:30:26 → 00:30:28 YouTube หรืออะไรอ่ะครับก็คือแบบนอนแล้ว
00:30:28 → 00:30:31 เกงก้นขึ้นมาแล้วก็ลงไปด้านล่างแล้วอนี้
00:30:31 → 00:30:33 มันจะเกี่ยวอะไรกอารมณ์ทางเพศคะอ้าคราว
00:30:33 → 00:30:35 นี้มันก็กระตุ้นทำให้กล้ามเนื้อข้างล่าง
00:30:35 → 00:30:39 ออมันได้ใช้งานใชงนก็คือนั่งๆอยู่ก็ปึ๊บอ
00:30:39 → 00:30:41 แต่ว่ามันไม่ใช่ปึ๊บๆอย่างงี้นะเราต้อง
00:30:41 → 00:30:43 ค่อยๆเป็นสเต็ปยังไงหมอเราเวลาเราจะเก็ง
00:30:43 → 00:30:47 ใช่มั้ครับหายใจเข้า 1 2 3 เก่งแล้วก็
00:30:47 → 00:30:52 หยุดไว้ 1 2 3 แล้วคายออก 1 2 3 ทำ
00:30:52 → 00:30:56 อย่างงี้ 10 ครั้งตอนแรกๆแล้วเพิ่มเป็น 20
00:30:56 → 00:30:58 ครั้งต่อวันแล้วเพิ่มเป็น 30 10 ครั้ง
00:30:58 → 00:31:00 ต่อวันเรื่อยๆอ่ะคุณวันฟังนะคะเอาเอาไป
00:31:00 → 00:31:03 ซ้อมได้คะมันจะได้ได้ใช้งานเนมันได้ใช้
00:31:03 → 00:31:04 งานผู้ชายก็เหมือนกันนะครับผู้ชายก็
00:31:04 → 00:31:07 เหมือนกันก็ช่ยเรื่องเรื่องของความแข็ง
00:31:07 → 00:31:11 แรงข้างล่างทำให้แข็งแน่นมากขึ้นโอ้โหไม่
00:31:11 → 00:31:13 เคยได้ยินเทคนิคนี้มาก่อนเลยค่ะหมอขอบคุณ
00:31:13 → 00:31:17 นะคะเดี๋ยวจ๊ะนำไปใช้นำไปใช้โอเคสุดท้าย
00:31:17 → 00:31:21 ค่ะหมอที่ถามมาว่าผู้ชายเนี่ยยังมีวาก้า
00:31:21 → 00:31:23 เลยแล้วผู้หญิงเนี่ยมีอะไรช่วยกระตุ้นได้
00:31:23 → 00:31:26 บ้างคะอันนี้ก็ของผู้หญิงก็มีเหมือนกันนะ
00:31:26 → 00:31:28 ครับแน่ๆเนี่ยของของผู้หญิงก็จะแบ่งเป็น 3
00:31:28 → 00:31:32 ประเภทด้วยกันนะครับเนาะ 1 ก็คือยาที่ไป
00:31:32 → 00:31:35 เพิ่มการไหลเวียนของเลือดสู่อวัยวะเพศ
00:31:35 → 00:31:38 ด้านล่างนะครับก็คล้ายๆเป็นยาเฉพาะจจก็
00:31:38 → 00:31:40 คือมันคล้ายๆยาของผู้ชายเหมือนกันเมื่อ
00:31:40 → 00:31:43 กี้เหมือน PD 5 inhibitor ที่ยาที่คุณ
00:31:43 → 00:31:46 เจนพูดมาครับเนาะก็มันก็มีงานวิจัยบางงาน
00:31:46 → 00:31:49 วิจัยที่บอกมันช่วยนะแต่เผอิญมันใช้ดีใน
00:31:49 → 00:31:52 ผู้ชายมากกว่าในผู้หญิงอ๋อนะครับเนาะอัน
00:31:52 → 00:31:53 เอ่อยาตัวที่ 2 ที่ไปเพิ่มก็คือเพิ่ม
00:31:53 → 00:31:56 ไนตริกออกไซดไนตริกออกไซดอย่างเช่นก็จะ
00:31:56 → 00:31:59 เป็นมนพวก lr ที่ีนะครับแอลจีเนี่ยมันจะ
00:31:59 → 00:32:02 ไปเพิ่มไนตริกออกไซด์ในร่างกายของเราแป๊บ
00:32:02 → 00:32:04 นึงนะคะหมอไนตริกออกไซด์คืออะไรคะไนตริก
00:32:04 → 00:32:07 ออกไซด์คือมันเป็นเอนไซมมันเป็นเอมไซม์
00:32:07 → 00:32:10 ชนิดหนึ่งที่เพิ่มที่ไปทำให้หลอดเลือด
00:32:10 → 00:32:13 ข้างล่างของเรามันขยายมากยิ่งขึ้นทำให้มี
00:32:13 → 00:32:17 การกระตุ้นให้มีการแข็งตัวอือแล้วก็รู้
00:32:17 → 00:32:19 สึกอ่อนไหวข้างล่างมากยิ่งขึ้นครับโอเคก็
00:32:20 → 00:32:23 คือเหมือนเป็นอาหารเสริมที่ช่วยให้ให้ตรง
00:32:23 → 00:32:26 เนี้ยมันขยายขายใช่ครับแล้วรู้สึกมากขึ้น
00:32:26 → 00:32:29 sensitive มากขึ้นโอเคก็คือรู้สึกแบบมาก
00:32:29 → 00:32:32 กว่าปกติมีมีซนอะไรบ้างนะคะปกติอ่ะอย่าง
00:32:32 → 00:32:38 จนนเนี่ยเป็นเ่อแจนครับแจนอ่านี้เบสิคเลย
00:32:38 → 00:32:41 อนะครับเนาะมันทำมาจากอะไรคะแจมันเป็นกด
00:32:41 → 00:32:43 อะมิโนครับกดอมิโนชนิดหนึโเอันนี้สามารถ
00:32:43 → 00:32:46 หาซื้อได้ทั่วไปแล้วก็มีอะไรอีกคเอ่ออีก
00:32:46 → 00:32:49 อันนึงที่เขาค้นพบมาก็จะเป็นพวกโสมเหมือน
00:32:49 → 00:32:51 กันครับอ่าโสมแดงพวกเงี้ยแต่ว่าบางคนก็
00:32:51 → 00:32:53 บอกว่าใช้ได้บางคนก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน
00:32:53 → 00:32:56 ครับเอ่อผู้หญิงจะค่อนข้าง complicate
00:32:56 → 00:32:58 มากกว่าผู้ชายนะนะครับเวิร์คสำหรับบางคน
00:32:59 → 00:33:00 ก็อาจจะไม่เวิร์คสำหรับบางคนถูกต้องครับ
00:33:00 → 00:33:02 อันที่ 2 ก็จะเป็นเรื่องของโฮร์โมนเมื่อ
00:33:02 → 00:33:04 กี้เราพูดมาหมดแล้วก็สำหรับบางคนอ่ะ
00:33:04 → 00:33:07 สมมุติเด็กคนนี้เขายังเด็กเนาะแต่ถ้าแบบ
00:33:07 → 00:33:09 ใครเข้าไวัทองแล้วอย่างเงี้ยไม่มีฮอร์โมน
00:33:09 → 00:33:12 เพศหญิงไม่มีฮอร์โมนเพศชายการเสริม
00:33:12 → 00:33:14 ฮอร์โมนเข้าไปก็เป็นการเพิ่มความต้องการ
00:33:14 → 00:33:16 ทางเพศของเขามากยิ่งขึ้นซึ่งการเสริม
00:33:16 → 00:33:18 ฮอร์โมนก็คืออาจจะเป็นผ่านตัวเม็ดยาหรือ
00:33:18 → 00:33:21 ว่าคนี้ก็อาจจะเป็นทาครีมอะไรอย่าเงี้ยนะ
00:33:21 → 00:33:23 ครับเนาะอันที่ 3 ก็จะเป็นเรื่องของ
00:33:23 → 00:33:26 โฮร์โมนของในปราสาทนะครับเนาะก็อย่างทุกๆ
00:33:26 → 00:33:28 ครั้งเวลาที่เรามีมีอารมณ์ทางเพศหรือความ
00:33:28 → 00:33:30 ต้องการทางเพศมันก็จะมีฮอร์โมนโดปามีน
00:33:30 → 00:33:33 ฮอร์โมนแห่งความสุขใช่ไหมมครับก็มันจะมี
00:33:33 → 00:33:35 ยาที่ไปกระตุ้นโดปามีนมากยิ่งขึ้นนะครับ
00:33:35 → 00:33:37 อันแรกเลยอันที่ 2 มันจะเป็นยาที่ไป
00:33:37 → 00:33:40 กระตุ้นเรียกว่า mhh นะครับเนาะยาอันนี้
00:33:40 → 00:33:44 มันก็ไปเพิ่มความต้องการ mh mhh คือตัว
00:33:44 → 00:33:47 ยาตัวเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งในสมองของเรา
00:33:47 → 00:33:51 อ่ะครับที่มันไปเพิ่มความอยากอืความ
00:33:51 → 00:33:53 ต้องการมากขึ้นครับอ่าอันนี้ก็จะเป็นยา
00:33:53 → 00:33:55 ฉีดนะครับอันนี้ต้องไปึกปรึกษาแพทย์ก่อน
00:33:55 → 00:33:58 แล้วกันเรื่องต่อมาค่ะหมอเป็นเรื่อง
00:33:58 → 00:34:01 เกี่ยวกับความเครียดของคนที่ทำงานหนักแบบ
00:34:02 → 00:34:06 เวิร์ค overload สุดๆจนสุขภาพเริ่มแย่
00:34:06 → 00:34:08 ชีวิตไม่มีความสุขและกลัวว่าจะเป็นโรค
00:34:08 → 00:34:11 ร้ายในอนาคตเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณ
00:34:11 → 00:34:12 ทรายเขียนเรื่องนี้เข้ามาเพราะว่าเป็น
00:34:12 → 00:34:17 ห่วงแฟนมากๆแฟนคุณทรายอายุ 47 ปีนอน
00:34:17 → 00:34:19 เที่ยงคืตื่น 5:00 นทุกวันเพื่อไปทำงาน
00:34:19 → 00:34:22 แฟนเป็นคนทำงานหนักตั้งแต่ไหนตั้งแต่ไร
00:34:22 → 00:34:25 แต่ล่าสุดเพิ่งย้ายไปที่ทำงานใหม่เลยทำ
00:34:26 → 00:34:28 งานหนักกว่าเดิมอีกเพื่อแลกแแลกกับเงิน
00:34:28 → 00:34:32 เดือนที่สูงขึ้นนอกจากงานออฟฟิศแล้วเรามี
00:34:32 → 00:34:34 เปิดร้านเล็กๆด้วยกันค่ะทุกวันเสาร์
00:34:34 → 00:34:37 อาทิตย์เราก็จะเข้าร้านพูดง่ายๆว่าทำงาน
00:34:37 → 00:34:40 ทุกวันแบบไม่มีวันหยุดเลยค่ะช่วงหลังมา
00:34:40 → 00:34:42 รู้สึกว่าแฟนหงุดหงิดง่ายมากเครียดตลอด
00:34:42 → 00:34:45 เวลาอาจจะด้วยปัญหาการเงินที่เรามีอยู่
00:34:45 → 00:34:48 ตอนนี้ที่ค่อนข้างหนักทะเลาะกันแทบทุกวัน
00:34:48 → 00:34:51 เลยค่ะแฟนจักเป็นคนที่ชอบปลูกต้นไม้ชอบทำ
00:34:51 → 00:34:54 อาหารทุกวันนี้ไม่สนใจจอะไรเลยค่ะแล้วก็
00:34:54 → 00:34:58 ชอบบนว่าปวดหัวอยู่บ่อยๆบางทีก็เห็นเส้น
00:34:58 → 00:35:00 เลือดปูดออกมาจากากหัวเลยค่ะแล้ววิธีแก้
00:35:00 → 00:35:04 ก็คือกินยาแก้ปวดแล้วก็กลับไปทำงานต่อแฟน
00:35:04 → 00:35:06 ไม่มีโรคประจำตัวอะไรเลยค่ะก็จะมีเป็น
00:35:06 → 00:35:09 ภูมิแพ้บ้างแต่ช่วงช่วงหลังมาเนี่ยรู้สึก
00:35:09 → 00:35:12 ว่าจะเป็นภูมิแพ้หนักขึ้นกว่าปกติตอนนี้
00:35:12 → 00:35:15 สิ่งที่กลัวคือที่แฟนเครียดแล้วบ่นว่าปวด
00:35:15 → 00:35:18 หัวอยู่ตลอดเนี่ยมันจะทำให้มีโอกาสเป็น
00:35:18 → 00:35:21 เส้นเลือดสมองแตกตายมั้ยคะหรือว่าถ้า
00:35:21 → 00:35:24 ปล่อยไว้แบบเนี้ยจะอันตรายยคะเคยเห็นข่าว
00:35:24 → 00:35:28 ว่ามีคนทำงานจนตายเพราะทำงานหนักเกินไป
00:35:28 → 00:35:30 มันเกิดขึ้นได้จริงๆใช่มมคะหมอเราจะรู้
00:35:30 → 00:35:34 ได้ยังไงว่าเราเครียดเข้าสู่ขั้นวิกฤต
00:35:34 → 00:35:38 แล้วมันมีวิธีการตรวจมคะหรือว่ามีวิตามิน
00:35:38 → 00:35:40 อาหารเสริมตัวไหนมที่ช่วยคลายความเครียด
00:35:40 → 00:35:42 อย่างแรกต้องบอกก่อนมันมีวิธีการตรวจนะ
00:35:43 → 00:35:44 ครับเนาะแต่ก่อนที่เราจะไปถึงวิธีการตรวจ
00:35:44 → 00:35:47 เรามาดูไลฟ์สไตล์ของคนนี้ก่อนน้อง 1 เป็น
00:35:47 → 00:35:49 คนที่ทำงานหนักมากเนาะเพราะอาจจะเป็น
00:35:49 → 00:35:52 เรื่องของครอบครัวการเงินที่อยากให้มันดี
00:35:52 → 00:35:55 ขึ้นอันที่ 2 ก็อ่ะทำงานดักแปลว่าพักผ่อน
00:35:55 → 00:35:58 ไม่เพียงพอไม่คงไม่มีเววลาออกกำลังกายกิน
00:35:58 → 00:36:00 อาหารไม่ดีอยู่แล้วนะครับเนาะความ
00:36:00 → 00:36:02 สัมพันธ์กับภรรยาก็อาจจะแย่มากขึ้นเพราะ
00:36:02 → 00:36:04 เริ่มมีการทะเลาะแล้วเริ่มทะเลาะแล้วก็
00:36:04 → 00:36:07 ปวดทีไรก็กินยาแก้ปวดแปลว่าต้องติดยาแก้
00:36:07 → 00:36:10 ปวดแล้วว่าปวดทีไรคราวนี้เนี่ยเคยได้ยิน
00:36:10 → 00:36:13 โรคคาโรชิรมมคาโรชิฟังดูเป็นโรคจากประเทศ
00:36:13 → 00:36:15 ญิปุ่นหรือเปล่าถูกต้องครับคืออะไรคะปี
00:36:15 → 00:36:19 นึงเนี่ยจะมีคนตายจากการทำงานมากจนเกินไป
00:36:19 → 00:36:22 หรือเสียชีวิตจากการทำงานมากเกินเกินไปปี
00:36:22 → 00:36:25 ละ 700,000 คนหูคือคือแค่ทำงานเยอะเกินไป
00:36:25 → 00:36:27 มากๆเกินไปคราวนี้มันมี criteria ครับ
00:36:27 → 00:36:31 หมายความว่าคุณต้องทำงานเกิน 55 ชมงต่อ
00:36:31 → 00:36:35 สัปดาห์มันอาจจะทำให้คุณตายได้นะครับจาก
00:36:35 → 00:36:37 การทำ 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์คนไทยเฉลี่ย
00:36:37 → 00:36:40 สถิติเท่าไหร่ครับต่อสัปดาห์ไม่รู้อ่ะ
00:36:40 → 00:36:43 เท่าไหร่อ่ะมากสุด 49 ชมงเ้ยก็เกือบนะน
00:36:43 → 00:36:46 เกือบแล้วนะ 49 อีกอีกแป๊บเชื่อว่าหลายๆ
00:36:46 → 00:36:49 คนก็น่าจะเกิน 55 มั้ยเนี่ย 55 ช่วโมงคือ
00:36:49 → 00:36:51 คุณก็ทำงานอย่างเดียวไม่มีเวลาพักผ่อน
00:36:51 → 00:36:54 แล้วสุดท้ายเนี่ยการที่มีความเครียดสะสม
00:36:54 → 00:36:58 มากๆจากหลายปัจจัยเก็พบว่ามีความเสี่ยง
00:36:58 → 00:37:01 ที่จะเป็นโรคหลอดหัวใจก่อน 42% และโรคของ
00:37:02 → 00:37:04 สมองเหมือนคนเนี้ยที่เคสเนี่ยประมาณ 17%
00:37:04 → 00:37:07 ครับโรคสมองหมายความว่าเส้นเลือกสมองแต
00:37:07 → 00:37:10 สมองสมองแตกตีบเนี่ยได้ทั้ึง 17% ก็แปล
00:37:10 → 00:37:13 ว่าเราสามารถเครียดมากๆจนเส้นเลือดสมอง
00:37:13 → 00:37:15 แตกเป็นความจริงเกิดขึ้นได้เกิดขึ้นได้
00:37:15 → 00:37:17 คราวนี้เรามาดูเรื่องของเส้นสมองก่อนเส้น
00:37:17 → 00:37:20 สมองหรือว่าสกนะครับภาษาอังกฤษเนี่ยแบ่ง
00:37:20 → 00:37:22 ออกไปเป็นทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน 1 ก็คือ
00:37:22 → 00:37:25 ตีบตัน ischemic Stroke นะครับตีบตันตีบ
00:37:25 → 00:37:29 ตันมันตีบตันไงแล้วพอตีบตุ๊ตันแล้วก็ไม่
00:37:29 → 00:37:31 มีเลือดไปเลี้ยงเอ่อสมองต่างๆนะครับอัน
00:37:31 → 00:37:34 นี้คืออันแรกอันที่ 2 ก็คือ hemic Stroke
00:37:34 → 00:37:37 หรือว่าแตกเลยก็คืออยู่ดีๆปึปอ่าเพวก
00:37:37 → 00:37:39 เนี้ยก็คือจะไม่มีสัญญาณมาก่อนอยู่ดีๆมัน
00:37:39 → 00:37:42 ก็ปึ๊บจะเป็นขึ้นมาก็เลยก็ได้ทุกครั้งที่
00:37:42 → 00:37:44 คุณมีความเครียดไม่ว่าเอันนี้คือความ
00:37:44 → 00:37:47 เครียด 2 จากการทำงานไม่ได้พักผ่อนถูกมั้
00:37:47 → 00:37:49 ครับมันก็ทำให้ทุกครั้งที่มีความเครียด
00:37:49 → 00:37:52 น่ะโฮร์โมนเรียกว่าโฮร์โมนคอร์ติซอลหลั
00:37:52 → 00:37:54 ออกมาฮอร์โมนความเครียดหลั่งออกมามากยิ่ง
00:37:54 → 00:37:57 ขึ้นและฮอร์โมนอีกตัวนึงเรียกว่าอนี้
00:37:58 → 00:38:00 นะครับเนาะอีนเป็นฮอร์โมนเหมือนสู้ชีวิต
00:38:00 → 00:38:02 อ่ะฉันต้องเอาตัวรอดฉันต้องสู้ฉันต้องทำพ
00:38:02 → 00:38:04 ฉฮอรโมนสู้ชีวิตฮอร์โมนเครียดสู้ชีวิต
00:38:04 → 00:38:08 เครียดสู้ชีวิตมาเรื่อยๆ 55 ชัมถูกมยไม่
00:38:08 → 00:38:10 รู้ว่าเด็กคนนี้ทำกี่ชั่วโมงหลั่งมาเยอะๆ
00:38:10 → 00:38:13 ขนาดนั้นน่ะทุกครั้งที่มันมีการหลั่งอ่ะ
00:38:13 → 00:38:16 เลือดคุณสูบฉีดปัมัแรงรต้องแรงขึ้นอีกนะ
00:38:16 → 00:38:19 ขึ้นสมองขึ้นสมองขึ้นสมองมากยิ่งขึ้นคราว
00:38:19 → 00:38:21 นี้การที่มันมีการสูบฉีดอ่ะความดันสูง
00:38:21 → 00:38:26 ขึ้นไขมันตามมาเส้นเลือดเนี่ยมันเริ่มปิ
00:38:26 → 00:38:28 นะเพราะคุณน่ะมันแงมากยิ่งขึ้นนะคุณต้อง
00:38:28 → 00:38:32 สูบฉีดสูบฉีดตลอดเวลามันเริ่มปิปริมากๆปิ
00:38:32 → 00:38:35 บ่อยๆมันก็ตีบมันก็ตันมันก็แตกคืออันที่
00:38:35 → 00:38:37 แตกเนี่ยมันไม่มีสัญญาณแต่อันที่ตีบแล้ว
00:38:37 → 00:38:39 ตันมันมีสัญญาณั้ยคะมันก็ไม่มีสัญญาณ
00:38:39 → 00:38:42 เหมือนกันอยู่ดีมันก็ปึ๊บๆปิดเลยแล้วเรา
00:38:42 → 00:38:44 จะรู้ได้ยังไงอ่ะคะว่าเราเข้าสู่ขั้น
00:38:44 → 00:38:46 วิกฤตที่เราเอ้ยเราเสี่ยงที่จะเป็นเส้น
00:38:46 → 00:38:48 เลือดในสมองแตกนคราวเนี้ยมันก็มีการ
00:38:48 → 00:38:50 วินิจฉัยแต่อันนี้ต้องไปทำที่โรงพยาบาลนะ
00:38:50 → 00:38:52 ครับไปสแกนสมองอ่ะครับแล้วมันก็จะมีวิธี
00:38:53 → 00:38:56 การว่าเออคุณคุณเริ่มมีการตีบตันของเอ่อ
00:38:56 → 00:38:58 สมองหรือเปล่าแต่แต่คราวนี้สิ่งที่น่า
00:38:58 → 00:39:01 กลัวว่ามันจะมีภาวะนึงเรียกว่า Ti tia
00:39:01 → 00:39:04 อ่า transit esic attack หรือภาวะสมอง
00:39:04 → 00:39:08 ขาดเลือดชั่วคราวออันเนี้ยเป็นได้ทุกวัย
00:39:08 → 00:39:11 ทุกเพศคือเหมือนเหมือเมื่อกี้สมองแตกแต่
00:39:11 → 00:39:14 อันเนี้ยไม่แตกแต่ว่าขาดเลือดชั่วคราวมัน
00:39:14 → 00:39:16 เกิดขึ้นได้ไงคะแป๊บเดียวก็คือความเครียด
00:39:16 → 00:39:19 ที่มันสะสมเครียดๆๆจนเลือดหยุดนิดเดียว
00:39:19 → 00:39:22 แค่แป๊บเดียวแล้วมันน้อยกว่า 5 นาทีเพราะ
00:39:22 → 00:39:24 ฉะนั้น 5 หมายถึง 5 วินา 5 นาทีครับ 5
00:39:24 → 00:39:28 นาทีนนานอนาทีแแบบแต่มากที่สุด 5 นาทีแต่
00:39:28 → 00:39:31 อาจจะเกิดสั้นกว่านั้นก็ได้ 10 วนาทีวก็
00:39:31 → 00:39:34 ได้แล้วคราวนี้เป็นภาวะที่บางคนไม่รู้สึก
00:39:34 → 00:39:37 ตัวเลยอยู่ดีๆนั่งๆๆปุ๊บเหมือนเหล้าหลับ
00:39:37 → 00:39:40 อยู่ปึ๊บแล้วก็ตื่นมาเออก็ฉันก็ทำงานได้
00:39:40 → 00:39:43 เหมือนปกติแต่เขาบอกว่าถ้าใครมีภาวะนี้
00:39:43 → 00:39:46 แล้วอ่ะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมองแตก
00:39:46 → 00:39:49 เนี่ยตีบแตกทั้งหลายเแล้วคนเป็นไอ้ tia
00:39:49 → 00:39:50 นี่เยอะมั้ยคะก็เยอะเหมือนกันเพราะจากคว
00:39:51 → 00:39:53 ภาวะความเครียดคุณก็มีความเสี่ยงที่จะ
00:39:53 → 00:39:55 เป็นสมองเอ่อโรคสมองตีบแตกเนี่ยครับเนาะ
00:39:55 → 00:39:58 ประมาณ 10-15 ภายใน 3 เดือนนะมันจะเกิด
00:39:58 → 00:40:01 ขึ้นได้โหน่ากลัวจังเลยอ่ะอืเพราะฉะนั้น
00:40:01 → 00:40:03 น่ะถ้าคุณมีอาการขึ้นมาแบบอยู่ดีๆเฮ้ยมัน
00:40:03 → 00:40:06 ปวดหัวกันทันหันควรรีบไปโรงบานไม่ใช่ว่า
00:40:06 → 00:40:08 เอ้ยปวดหัวกันทันหันแล้วเฮ้ยมันก็หายนี่
00:40:08 → 00:40:11 เออไม่ต้องไปหาหมอดีกว่าเพราะว่าจริงๆอัน
00:40:11 → 00:40:12 นี้มันเป็นสิ่งที่มันพูดยากเหมือนกันนะคะ
00:40:12 → 00:40:15 บางคนก็สมมุตินะโอ๊ยก็แค่ปวดหัวเองคือควร
00:40:15 → 00:40:17 จะคิดแค่นี้แต่จริงๆแล้วการปวดหัวมันอาจ
00:40:17 → 00:40:19 จะเป็นสไตล์อะไรบางอย่างว่าเฮ้ยเส้นเลือด
00:40:19 → 00:40:22 กำลังจะตีบจะแตกหรือเปล่าแล้วมันจะมีจุด
00:40:22 → 00:40:25 คัพอย์หรือว่าสัญญาณอะไรให้เรารู้ว่าแบบ
00:40:25 → 00:40:27 เฮ้ยมันอย่างเช่นคุณหมอบอกว่าเราลอง
00:40:27 → 00:40:30 สังเกตถ้า 55 ชมถ้าเราทำงาน 55 ชมขึ้นไป
00:40:30 → 00:40:33 ใน 1 อาทิตย์อ่ะเข้าเข้าขั้นและแล้วมันจะ
00:40:33 → 00:40:36 มีของภาวะโลกนี้ถูกมคชิถูกมั้ยครับมันก็
00:40:36 → 00:40:38 จะมีคุณ้าเข้ามันจะมีไครทีเรียครับเนาะ
00:40:38 → 00:40:40 อย่างเช่นยกตัวอย่างแล้วะกันคิดงานตลอด
00:40:40 → 00:40:44 เวลาแม้กระทั่งนอนก็คิดอืไปทำงานไวแต่
00:40:44 → 00:40:48 กลับบ้านช้าไม่มีจิตใจทำงานอิเลกอื่นๆที่
00:40:48 → 00:40:52 เราชอบมีความกดดันเยอะมากจากเ่อจากจากหัว
00:40:52 → 00:40:54 หน้าทำงานหรืออะไรต่างๆก็แล้วแต่นะครับ
00:40:54 → 00:40:57 เนาะแล้วก็ไม่รู้สึกแบบรู้สึกเคลียรอ่อน
00:40:57 → 00:41:00 ล้าตลอดเวลาไม่รู้สึกสดชื่นเลยแล้วถ้า
00:41:00 → 00:41:03 อย่างเงี้ควรจะไปพบแพทย์อืมถ้าคุณมีอาการ
00:41:03 → 00:41:05 พวกเก็ควรไปพบแพทย์อย่างเมื่อกี้ที่เรา
00:41:05 → 00:41:08 เกิดมาตั้งแต่แรกมันมีวิธีการตรวจว่าคุณ
00:41:08 → 00:41:11 มีอาการเหนื่อยเพลียอ่อนล้าพวกนี้ก็คือ
00:41:11 → 00:41:12 ตรวจฮอร์โมนความเครียดใช่่มั้ยคะฮอรโมน
00:41:12 → 00:41:14 ความเครียดก็คือเหมือนเมื่อกี้คิซอ่ะครับ
00:41:14 → 00:41:16 เนาะพวกเนี้มันสามารถตรวจจากเลือดได้นะ
00:41:16 → 00:41:18 ครับเนาะคือมันสามารถบอกระยะได้เลยว่าคุณ
00:41:19 → 00:41:22 เนี่ยอยู่ในระยะไหน 1 2 หรือ 3 หรือเรา
00:41:22 → 00:41:25 เรียกว่าภาวะหมดไฟนั่นเองต่อหมวกไตที่มัน
00:41:25 → 00:41:28 ล้ามมากจากการภาวะสะสมความเครียดนะครับ
00:41:28 → 00:41:30 เนาะพอตรวจเลือดออกมาเนี่ยที่จริงหมอก็
00:41:30 → 00:41:32 สามารถดูได้เลยเออมันเครียดจริงๆนะร่าง
00:41:32 → 00:41:35 กายคุณน่ะมันเริ่มจะไม่ไหวแล้วนะแล้วคุณ
00:41:35 → 00:41:38 ก็ควรเรียบรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดความ
00:41:38 → 00:41:41 เครียดนั้นครับก็แปลว่าในเคสนี้เนี่ยสิ่ง
00:41:41 → 00:41:44 ที่คุณทรายกังวลเนี่ยไม่ได้กังวลเกินจริง
00:41:44 → 00:41:47 ก็คือสามารถเส้นเลือดตีบแตกได้เลยแล้วก็
00:41:47 → 00:41:49 ไม่ควรปล่อยไว้ควรรีบไปพบแพทย์นะคะแล้วก็
00:41:49 → 00:41:51 วินิจฉัยว่าเอ้ยเป็นอะไรกันแน่ฮอร์โมน
00:41:51 → 00:41:54 ปกติหรือเปล่าฮอร์โมนความเครียดมากไปไหม
00:41:54 → 00:41:58 แล้วก็โรคที่ทำงานจนตายเนี่ยค่ะก็คือว่า
00:41:58 → 00:42:00 เป็นไปได้เหมือนกันเหมือกันแต่อยากรู้
00:42:00 → 00:42:02 อยากเข้าใจจังเลยเวลาบอกว่าทำงานจนตาย
00:42:02 → 00:42:06 เนี่ยมันคือมันคือช็อกหรือว่ามันคืออยู่
00:42:06 → 00:42:07 ดีๆหัว
00:42:07 → 00:42:10 ใจคืออย่างที่เมื่อกี้บอกไปคชิมากที่สุด
00:42:10 → 00:42:12 คือเรื่องของโรคหัวใจแล้วต่อมาคือโรคสมอง
00:42:12 → 00:42:14 เพราะฉะนั้นเนี่ยบางคนก็หัวใจจหยุดเต้น
00:42:14 → 00:42:17 เลยเพราะมัน 42% น่ะที่คนที่เจอในคนที่
00:42:17 → 00:42:19 วัยทำงานทำงานมากเกินไปอ๋ว่าคำว่าทำงานจน
00:42:19 → 00:42:22 ตายหมายความว่าอยู่ๆหัวใจหยุดเต้นหรือ
00:42:22 → 00:42:25 อยู่ๆสมองหยุดทำงานไปเลยห้มันไม่ไหวแล้ว
00:42:25 → 00:42:28 แล้วทีนี้วิธีการตรวจนอกจากตรวจฮอร์โมน
00:42:28 → 00:42:30 คอร์ติซอลมีสามารถตรวจอะไรได้อีกมมคะที่
00:42:30 → 00:42:33 เกี่ยวกับความเครียดภายในร่างกายที่จริง
00:42:33 → 00:42:34 พูดถึงเรื่องของความเครียดในร่างกาย
00:42:34 → 00:42:36 เรื่องอ่ะอย่างหนึ่งคือเรื่องของฮอร์โมน
00:42:36 → 00:42:38 เนาะฮอร์โมนคอร์ติซอลเมื่อกี้นะครับเนาะ
00:42:38 → 00:42:40 อีกอันนึงที่เราสามารถดูได้ก็คือเรื่อง
00:42:40 → 00:42:43 ของสารสืบประสาทในสมองนะครับเนาะว่าสารสิ
00:42:43 → 00:42:45 ประสาทในสมองเนี่ยเรื่องโดพามีนเซโรโทนิน
00:42:46 → 00:42:50 พวกอ่าเมื่อกี้เอ่อแนีนะครับเนาะมันคือ
00:42:50 → 00:42:53 ว่าจริงๆแล้วมันจะมีสารสารสืบประสาทอยู่ 3
00:42:53 → 00:42:56 ตัวใช่มั้ยคะที่มันจะที่ตรวจได้มันเกี่ยว
00:42:56 → 00:42:58 กับความสุขเก
00:42:58 → 00:43:00 ความเครียดการเอาตัวรอดนะครับเนาะแล้วก็
00:43:00 → 00:43:02 เรื่องของการนอนครับเซโรโทนินครับสารแห่ง
00:43:02 → 00:43:04 การนอนพวกเมันสามารถตรวจได้เหมือนกัน
00:43:04 → 00:43:06 สามารถดูว่าเลเวลเราปกติไมนะคะถ้าไม่ปกติ
00:43:06 → 00:43:08 ก็จะได้ปรับเปลี่ยนได้ตามนั้นแต่สิ่ง
00:43:08 → 00:43:10 สำคัญที่สุดคือเรื่องของความเครียดคือคุณ
00:43:10 → 00:43:13 ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอืหมออจะให้ยาไป
00:43:14 → 00:43:17 ขนาดไหนจะจะทรีทเมนจะรักษายังไงก็แล้วแต่
00:43:17 → 00:43:19 ถ้าคุณไม่ยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็ไม่หาย
00:43:19 → 00:43:21 ก็ไม่หายอยู่ดีครับอันดับ 1 ต้องคือการ
00:43:21 → 00:43:24 นอนมยคะหมออัน 1 คือลดการงานครับลดงาน
00:43:24 → 00:43:27 ก่อนลดงานคือคุณก็จัดการเวลาให้มันดีมาก
00:43:27 → 00:43:29 ยิ่งขึ้นและคุณต้องมีเวลาให้กับตัวเองทุก
00:43:29 → 00:43:32 วันหมายความว่าวันเนี้ยบางคนคิดเ้ยไม่
00:43:32 → 00:43:35 เป็นไรทำงาน 5 วันลวดเลยไปพักผ่อนเสาร์
00:43:35 → 00:43:36 อาทิตย์
00:43:36 → 00:43:40 เนี่ยเนี่ยๆก็คือทำงานเราพักพักแค่วัน
00:43:40 → 00:43:44 อาทิตย์ค่ะวันอาทิตย์ที่เมื่อวานก็ไม่ได้
00:43:44 → 00:43:47 พก็คือต้องต้องมีงน้อยจะมีเวลาให้กับตัว
00:43:47 → 00:43:50 เองนะครับให้กับตัวเองให้กับครอบครัวให้
00:43:50 → 00:43:53 กับคนรักของคุณนะครับเนาะคือสมมุติอ่ะคุณ
00:43:53 → 00:43:55 ทำงานมาทั้งวันแล้วพอกลับไปถึงบ้านปึ๊บ
00:43:55 → 00:43:58 คุณก็ต้องรู้จักคำว่าปล่อยวางแล้วก็ให้
00:43:58 → 00:44:00 เวลากับตัวเองให้เวลาบอันนี้หมอสอนอยู่
00:44:00 → 00:44:03 เลยให้เวลากับตัวเองเช่นนั่งสมาธิออก
00:44:03 → 00:44:07 กำลังกายทำที่ทำงานอดิเรกที่คุณชอบสัก 1
00:44:07 → 00:44:09 ชั่วโมงสัก 1 ชั่วโมงอย่างเงี้ยแล้วก็
00:44:09 → 00:44:12 ต้องพักผ่อนให้เพียงพอสิ่งที่สำคัญนะครับ
00:44:12 → 00:44:15 อันนี้เขาก็ถามมานะคะคุณรายว่าอาหารเสริม
00:44:15 → 00:44:18 หรือว่าวิตามินอะไรตัวไหนที่สามารถช่วย
00:44:18 → 00:44:20 คลายความเครียดได้มั้คะคือปัจจุบันมันก็
00:44:20 → 00:44:23 มีทั้ง้าพูดถึงเรื่องของความเครียดอ่ะ
00:44:23 → 00:44:25 ครับมันก็จะมีเรื่องของวิตามินและ่ธาตุ
00:44:25 → 00:44:27 ที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อผ่อนคลายความ
00:44:27 → 00:44:29 เครียดและอีกอันนึงก็คือเรื่องของสมุนไพร
00:44:29 → 00:44:31 ละกันนะครับเนาะเรื่องของวิตามินนะครับ
00:44:31 → 00:44:33 เนาะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทาน
00:44:33 → 00:44:36 แมกนีเซียมนะครับเนาะที่ไปช่วยผ่อนคลาย
00:44:36 → 00:44:38 กล้ามเนื้อผ่อนคลายสมองเวลาที่เรานอนดี
00:44:38 → 00:44:41 มากยิ่งขึ้นนะครับเนาะอ่าตัวต่อมาคือ
00:44:41 → 00:44:44 เรียกว่ากรดอะมิโนไลซีนนะครับเนาะไลซีนก็
00:44:44 → 00:44:47 เป็นตัวที่ไปช่วยสารสื่อประสาทในสมองผลิต
00:44:47 → 00:44:51 กาบ้ามากขึ้นทำให้เราผ่อนคลายนอนหลผลกาบบ
00:44:51 → 00:44:54 ไม่บ้าครับกาบ้าคือเป็นสารสึสาที่อยู่ใน
00:44:54 → 00:44:56 สมองของเราทำให้เรานอนหลับฝันดีมากยิ่ง
00:44:56 → 00:44:58 ขึ้นก็คือกาบ้าเป็นสิ่งที่ดีเป็นสิ่งที่
00:44:58 → 00:45:00 ดีนะครับเนาะอีกอันนึงก็อย่างเช่นการทาน
00:45:00 → 00:45:03 เิ่เมลาโทนินนะครับเนาะเมลาโทนินก็เป็น
00:45:03 → 00:45:05 ฮอร์โมนที่ลดความเครียดตอนที่เรานอนนะ
00:45:06 → 00:45:08 ครับปรับเรื่องของความสมดุลการนอนให้ดี
00:45:08 → 00:45:10 มากขึ้นเพิ่มระบบพุมคุ้มกันในร่างกายอ่ะ
00:45:10 → 00:45:13 เมื่อกี้เคสมาบอกว่าเริ่มแบบเริ่มระบบ
00:45:13 → 00:45:16 ภูมิคุ้มกันไม่ดีเริ่มเป็นสุขภาพภูมิแพ้
00:45:16 → 00:45:18 มากขึ้นอ่ะเพราะคุณไม่ได้นอนภูมิแพ้คุณก็
00:45:18 → 00:45:20 สูงมากยิ่งขึ้นเพราะระบบภูมิคุ้มกันคุณ
00:45:20 → 00:45:22 เจ๋งนั่นเองนะครับเนาะคราวนี้เรามาดูด้าน
00:45:22 → 00:45:25 ของสมุนไพรบ้างดีกว่านะครับสมุนไพรที่
00:45:25 → 00:45:27 ช่วยเรื่องของลดความเครียดในในร่างกายและ
00:45:27 → 00:45:30 สมองก็อย่างเช่นโสมไทยนะครับเนาะโสม
00:45:30 → 00:45:32 เกาหลีโสมอินเดียนะครับเนาะและอีกตัวนึง
00:45:32 → 00:45:35 อ่าโสมอินเดียคือเรียกว่าชวาดนะครับเนาะ
00:45:35 → 00:45:37 พวกโสมพวกเยก็สามารถช่วยลดเรื่องของความ
00:45:37 → 00:45:40 เครียดในร่างกายได้แต่สุดท้ายการกิน
00:45:40 → 00:45:43 สมุนไพรนะครับเนาะก็ต้องระมัดระวังหนงนึง
00:45:43 → 00:45:45 เพราะว่ามันทำให้อาจจะเกิดปฏิกิริยาหรืออ
00:45:45 → 00:45:47 การแพ้ก็ได้นะครับก็ควรไปปรึกษาแพทย์ครับ
00:45:47 → 00:45:50 พวกโสมเนี่ยสามารถหาซื้อเองได้ใช่มั้ยคะ
00:45:50 → 00:45:52 ได้ครับแต่ว่าพวกอาหารเสริมที่หมอแนะนำมา
00:45:52 → 00:45:55 ทั้ง 3 ตัวนี้อ่าเมลานีนไลซีนพวกนี้ก็ที่
00:45:55 → 00:45:57 จริงสามารถหาได้เหมือนกันนะครับซื้อได้
00:45:57 → 00:45:59 เหมือนกันใช่ครับแต่แต่ละคนไม่เหมือนกัน
00:45:59 → 00:46:02 นะครับต้องบอกไว้ก่อนเลเวลที่ต้องกินหรือ
00:46:02 → 00:46:05 ว่าตัวนี้เหมาะกับคุณหรือเปล่าอันนี้ก็
00:46:05 → 00:46:07 ต้องไปปรึกษาแพทย์นะครับอืเพราะว่าบางคน
00:46:07 → 00:46:10 อาจจะต้องกินกี่มีลกรรมบางคนอาจจะต้อง
00:46:10 → 00:46:13 พิจารณาถึงน้ำหนักตัวหรือว่าโรคประจำตัว
00:46:13 → 00:46:15 ด้วยใช่มั้ยคะแต่การก่อนที่จะคุณจะไปกิน
00:46:15 → 00:46:17 พวกอย่างวิตามินพวกเยครับสิ่งสำคัญคือไม่
00:46:17 → 00:46:20 ใช่กินแต่วิตามินแต่คุณอาหารยังกินแย่ๆ
00:46:20 → 00:46:22 มันก็ไม่มีประโยชน์สำคที่สุดคืออาหาร
00:46:22 → 00:46:24 อาหารก่อนปรับเปลี่ยนอาหารให้ดีขึ้นก่อน
00:46:24 → 00:46:27 นะครับเนาะเพราะเพราะว่าวิตามินกับแลธาตุ
00:46:27 → 00:46:29 พวกเยจริงๆเราสามารถเจออยู่ในอาหารอยู่
00:46:29 → 00:46:32 แล้วแค่คุณไปปรับเปลี่ยนอาหารให้มันดีมาก
00:46:32 → 00:46:35 ยิ่งขึ้นอย่างเช่นเมื่อกี้บอกว่าเรื่อง
00:46:35 → 00:46:38 ของการนอนะกันอยากไปเสริมเรื่องของกาบ้า
00:46:38 → 00:46:40 เรื่องเมลาโทนินให้ดีขึ้นกิน dar
00:46:40 → 00:46:45 ช็อกโกแลตอือืเนาะกินกล้วยผลไม้กีวี่นะ
00:46:45 → 00:46:48 ครับเนาะพวกเนี้ยมันก็มีสารที่ไปส่งเสริม
00:46:48 → 00:46:50 เซโรโทนินในร่างกายทำให้เรานอนหลับดีมาก
00:46:51 → 00:46:54 ขึ้นครับหรือว่านม 1 กล่องนมแอลมอนพวก
00:46:54 → 00:46:57 เนี้ยนะครับก็ช่วยเหมือนกันครับก็แปลว่า
00:46:57 → 00:47:00 ว่าเคสคุณทรายเนี่ยไม่ได้วิตกกังวลมาก
00:47:00 → 00:47:04 เกินไปเคสนี้ค่อนข้างหนักจริงๆควรรีบไปพบ
00:47:04 → 00:47:06 แพทย์เพื่อให้ดูว่าระบบระดับของความ
00:47:06 → 00:47:08 เครียดของเราอ่ะมันเกินไปมากหรือเปล่า
00:47:08 → 00:47:10 แล้วมันเสี่ยงต่อการที่เราจะมีโรคเส้น
00:47:10 → 00:47:12 เลือกสมองต่างๆหรือเปล่าเนาะแล้วก็พยายาม
00:47:12 → 00:47:15 ปรับเปลี่ยนคือ work Life Balance ให้
00:47:15 → 00:47:17 ได้มากกว่านี้นอนหลับให้ได้มากกว่านี้หา
00:47:17 → 00:47:20 กิจกรรมให้ทำเนาะอาจจะกิจกรรมทำร่วมกัน
00:47:20 → 00:47:24 ด้วยเนาะจะได้ลดลดการปะทะกันนะคะแล้วก็
00:47:24 → 00:47:27 กินอาหารให้ดีขึ้นเนาะแต่ว่าก็ต้องรีบจัด
00:47:27 → 00:47:29 การเนาะไม่งั้นมันก็อาจจะมันเกิดได้ทุก
00:47:29 → 00:47:30 เวลาใช่เพราะบางทีถ้าไปแล้วมันไปแล้วมัน
00:47:31 → 00:47:33 ไม่มีไซนเหมือนที่หมอบอกอยู่ดีๆปึ๊บใช่
00:47:33 → 00:47:37 ปึ๊บไปเลยอย่างงี้แล้วก็แก้ไม่ทันวันนี้
00:47:37 → 00:47:41 สนุกมากค่ะหมอสนุกมยสนุกคุยเคสสนุกกว่า
00:47:41 → 00:47:44 ให้ความรู้อีกจริงเหรออ่ะวันนี้ก็รู้สึก
00:47:44 → 00:47:46 เป็นประโยชน์มากนะคะแล้วก็ขอบคุณมากๆเลย
00:47:46 → 00:47:49 นะคะที่มาให้ความรู้แล้วก็ละเอียดมากๆ
00:47:49 → 00:47:52 จริงๆเมื่อกี้จดแทบไม่ทันเลยนะคะแล้วก็
00:47:52 → 00:47:54 เดี๋ยวไว้โอกาสหน้าจะเชิญมาตอบคำถามใหม่
00:47:54 → 00:47:56 นะคะได้เลยเอาเคสสนุกๆนะครับได้เลยค่ะค่ะ
00:47:56 → 00:47:59 เดี๋ยวจัดมาให้นะคะทุกคนก็สามารถเขียนเคส
00:47:59 → 00:48:02 เข้ามาได้เลยนะคะในลิงก์ทางด้านล่างใน
00:48:02 → 00:48:04 แคปชั่นนะคะจะมีลิงก์อยู่สามารถกดเข้ามา
00:48:04 → 00:48:06 หรือจะสแกน QR Code นะคะแล้วก็เขียน
00:48:07 → 00:48:09 เรื่องราวมาด้วยก็ได้นะคะที่สำคัญขอให้
00:48:09 → 00:48:11 เพิ่มรายละเอียดมากที่สุดนะคะอย่างเมื่อ
00:48:11 → 00:48:14 กี้เนาะคุณหมอก็จะมีบางประเด็นที่ยังตอบ
00:48:14 → 00:48:16 ไม่ได้อย่างเช่นเอ๊เคออกกำลังกายยังไงออก
00:48:16 → 00:48:18 กำลังกายหรหรือเปล่าวิธีการกินยังไงถ้า
00:48:18 → 00:48:21 เรารู้รายละเอียดของคนไข้มากที่สุดก็จะทำ
00:48:21 → 00:48:23 ให้เราวินิจฉัยหรือว่าตอบคำถามได้อย่าง
00:48:23 → 00:48:26 แม่นยำที่สุดนะคะแล้วก็อย่าลืมกดไลค์กด
00:48:27 → 00:48:29 แชร์กด Subscribe แล้วก็คอมเมนต์กันเข้า
00:48:29 → 00:48:31 มาได้เยอะๆเลยนะคะเพื่อเป็นกำลังใจกับเจน
00:48:31 → 00:48:34 แล้วก็แพทย์ทุกๆคนที่จะเข้ามาตอบคำถามใน
00:48:34 → 00:48:37 EP ต่อๆไปนะคะแล้วพบกันใหม่ใน EP หน้า
00:48:37 → 00:48:41 สวัสดีค่ะสวัสดีครับ
00:00:00 → 00:00:01 เจ็บเหมือนถูก
00:00:01 → 00:00:04 แทงอาการปวดท้องมากๆที่ผมเป็นอยู่เนี่ย
00:00:04 → 00:00:07 เป็นเพราะอะไรกันแน่โรคกระเพาะก็ไม่ใช่
00:00:07 → 00:00:10 สูบ 1 พอตหรือ 1 หัวเนี่ยเท่ากับคุณสู่
00:00:10 → 00:00:14 บุหรี่ทั่วไป 50 มวลนะ 50 50 มวลโรคปอด
00:00:14 → 00:00:17 อักเสบแบบรุนแรงเจอในเฉพาะคนที่สูบพอต
00:00:17 → 00:00:21 ด้วยปีนึงเนี่ยจะมีคนตายจากการทำงานมากจน
00:00:21 → 00:00:25 เกินไปปีละ 700,000 คนอทำงานอย่างเดียว
00:00:25 → 00:00:28 ไม่มีเวลาพักผ่อนการที่มีความเครียดสะสม
00:00:28 → 00:00:30 มากๆมีความเสียงที่จะเป็นโรคหหัวใจและโรค
00:00:30 → 00:00:34 ของสมองก็แปลว่าเราสามารถเครียดมากๆจน
00:00:34 → 00:00:36 เส้นเลือดสมองแตกเป็นความจริงเกิดขึ้นได้
00:00:36 → 00:00:39 เกิดขึ้นได้แล้วเราจะรู้ได้ยังไงอ่ะคะว่า
00:00:39 → 00:00:41 เราเข้าสู่ขั้นวิกฤตพวกเนี้ยก็คือจะไม่มี
00:00:41 → 00:00:45 สัญญาณมาก่อนก็คืออยู่ดีๆปึบหนูทำงานแบบ
00:00:45 → 00:00:47 work from home ค่ะทำงานจนถึง 3:00 น
00:00:47 → 00:00:49 4:00 นหนูไม่ได้ออกกำลังกายเลยค่ะจนน้ำ
00:00:50 → 00:00:52 หนักตัวตอนนี้ขึ้นเป็น 10 โหนูรู้สึกไม่
00:00:52 → 00:00:54 ค่อยมีอารมณ์ทางเพศเลยค่ะหนูก็เลยอยากจะ
00:00:54 → 00:00:57 แก้ไขเรื่องนี้และอยากมีอารมณ์ทางเพศได้
00:00:57 → 00:01:01 เหมือนคนอื่นๆควรแก้ไขยังไงดีคะคุณภาวะบก
00:01:01 → 00:01:03 พร่องความต้องการทางเพศในผู้หญิงรู้มว่า
00:01:03 → 00:01:06 คนไทยเนี่ยในผู้หญิงเนาะภาวะเนี้เจอได้
00:01:06 → 00:01:09 กี่เปอร์เซ็นต์โหดาไม่ถูกเลยอ่ะ 40% ครับ
00:01:09 → 00:01:11 อุเกือบเกือบครึ่งเลยหรอคะเกือบครึ่งของ
00:01:11 → 00:01:14 ประเทศนิ่งเลยถือศีเลยผู้ชายเนี่ยยังมี
00:01:14 → 00:01:17 วาก้าเลยแล้วผู้หญิงเนี่ยมีอะไรช่วย
00:01:17 → 00:01:20 กระตุ้นได้บ้างคะอันนี้ก็ของผู้หญิงก็มี
00:01:20 → 00:01:21 เหมือนกันนะครับ 1 ก็
00:01:22 → 00:01:25 คือสวัสดีค่ะยินดีต้อนรับเข้าสู่ AR
00:01:25 → 00:01:27 Doctor podcast ที่จะพาคุณไปพบแพทย์
00:01:27 → 00:01:30 เพื่อถามคำถามสุขภาพอยู่กับรติพันธ์พัน
00:01:30 → 00:01:33 พินิจเจนค่ะใครหลายๆคนที่เข้ามาเจอคลิป
00:01:33 → 00:01:37 นี้นะคะน่าจะคุ้นเคยกับ Doctor Talk
00:01:37 → 00:01:39 podcast นะคะดำเนินโดยคุณหมอจิมมี่และ
00:01:39 → 00:01:42 คุณหมอเอมมี่นะคะที่จะผลัดกันพูดคุยกับ
00:01:42 → 00:01:45 แพทย์และผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพนะคะจะ
00:01:45 → 00:01:47 พูดประเด็นไม่ว่าจะเป็นเรื่องมะเร็งนะคะ
00:01:47 → 00:01:50 วิตามินอาหารเสริมวิธีการลดน้ำหนักวิธี
00:01:50 → 00:01:53 ปัญหาการนอนนะคะแล้วก็ในทุกๆคลิปเนี่ยจะ
00:01:53 → 00:01:56 มีคำถามเข้ามามากมายทีนี้เราก็เลยตั้งใจ
00:01:57 → 00:01:59 ทำ podcast ask Doctor อันนี้ขึ้นมานะ
00:01:59 → 00:02:01 คะเพื่อเพื่อตอบคำถามเหล่านั้นโดยเฉพาะ
00:02:01 → 00:02:04 เลยค่ะในทุกวันนี้นะคะมีข้อมูลมากมายอาจ
00:02:04 → 00:02:07 จะมีข้อมูลที่เชื่อถือได้บ้างไม่ได้บ้าง
00:02:07 → 00:02:09 นะคะแล้วก็การเข้าถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
00:02:10 → 00:02:12 อาจจะเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลายๆคนเจ
00:02:12 → 00:02:15 เลยก็จะเป็นตัวแทนสำหรับทุกคนนะคะเพื่อ
00:02:15 → 00:02:17 ที่จะถามคำถามให้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
00:02:17 → 00:02:20 เฉพาะทางจะได้รับคำตอบที่ถูกต้องแม่นยำ
00:02:20 → 00:02:23 แล้วก็ปลอดภัยสำหรับผู้ถามแล้วก็คนอื่นๆ
00:02:23 → 00:02:26 ที่กำลังชมคลิปแล้วก็มีปัญหาที่คล้ายคลึง
00:02:26 → 00:02:29 กันค่ะและใน EP นี้เราได้รวบรวมปัญหา
00:02:29 → 00:02:32 สุขภาพของคนเมืองในแง่มุมต่างๆมาถามคุณ
00:02:32 → 00:02:35 หมอค่ะเพื่อประเดิม EP แรกต้องเป็นหมอคน
00:02:35 → 00:02:37 นี้เท่านั้นค่ะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทาง
00:02:37 → 00:02:39 ด้านเวชศาสตร์ป้องกันนะคะมีความถนัดในการ
00:02:39 → 00:02:42 ดูแลคนไข้ผ่านไสล์ Medicine หรือว่าการ
00:02:42 → 00:02:45 ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ดูแลคนไข้มากมายค่ะ
00:02:45 → 00:02:47 ไม่ว่าจะเป็นคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องการขับ
00:02:47 → 00:02:50 ถ่ายเรื่องฮอร์โมนนะคะเรื่องฟทีเหนื่อย
00:02:50 → 00:02:53 ล้านะคะเรื่องการเพิ่มกล้ามเนื้อลดน้ำ
00:02:53 → 00:02:56 หนักและอีกมากมายเลยค่ะขอเรียนเชิญหมอ
00:02:56 → 00:03:00 จิมมี่ค่ะสวัสดีค่ะวันนี้เป็นยังไงบ้างคะ
00:03:00 → 00:03:02 มาเป็นแขกรับเชิญดีใจจมากไม่เหนื่อยเลย
00:03:02 → 00:03:04 ไม่เหนื่อยเลยเดี๋ยวๆไม่เริ่มอาจจะ
00:03:05 → 00:03:08 เหนื่อยก็ได้อ่ะโอเคโอเวันนี้ปกติจะในดอก
00:03:08 → 00:03:09 Talk เนี่ยหมอก็จะคุยกับหมอๆกันเองเนาะ
00:03:09 → 00:03:12 ใช่ความรู้มันจะเยอะมากแน่นมากแน่นอย่าง
00:03:12 → 00:03:14 เงี้ดีกว่าแต่วันนี้คือคุยกับชาวบ้านเอ
00:03:14 → 00:03:17 ชาวบ้านเหมือนที่เราทำทุกวันอยู่แล้วอ๋อ
00:03:17 → 00:03:19 โอเคค่ะอ่ะเดี๋ยวขอให้แนะนำตัวนิดนึงได้
00:03:19 → 00:03:22 มั้ยคะหมจิได้ครับสวัสดีครับหมอจิมมี่นะ
00:03:22 → 00:03:25 ครับนายแพทย์สุทธิพจน์พัทรมลการผู้เชี่ยว
00:03:25 → 00:03:27 ชาญทางด้านวิทยาศาสตร์ป้องกันปัจจุบันหมอ
00:03:27 → 00:03:30 ทำงานอยู่ที่คลินิกณเวลาครับหมอก็ชำนาญ
00:03:30 → 00:03:32 ทางด้านการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การดูแล
00:03:32 → 00:03:34 เรื่องของการลดน้ำหนักเพิ่มกล้ามเนื้อ
00:03:34 → 00:03:37 เรื่องระบบการขับถ่ายและด้านฮอร์โมนครับ
00:03:37 → 00:03:39 เรื่องแรกนะคะเกี่ยวกับอาการปวดท้องที่
00:03:39 → 00:03:43 เจ็บเขาใช้คำว่าเจ็บเหมือนถูกแทงอือแล้ว
00:03:43 → 00:03:45 ก็หาสาเหตุไม่เจอตอนแรกคิดว่าเป็นโรค
00:03:45 → 00:03:47 กระเพาะแต่ก็ไม่ใช่นะคะก็เลยส่งคำถามมา
00:03:47 → 00:03:51 ถามคุณหมอค่ะเรื่องนี้นะคะเป็นเรื่องของ
00:03:51 → 00:03:54 สถาปนิกคนนึงนามสมมุติว่าคุณแมนอายุ 35
00:03:54 → 00:03:58 ปีทำงานหนักมากนะคะนอนดึกเป็นประจำโดย
00:03:58 → 00:04:01 ปกติเนี่ยจะเข้านอนประมาณ 2:00 นเกือบทุก
00:04:01 → 00:04:03 คืนเลยนอกจากจะทำงานหนักแล้วเนี่ยยังชอบ
00:04:03 → 00:04:06 เล่นเกมก็คือบางทีเนี่ยเสร็จงานแล้วก็อาจ
00:04:06 → 00:04:11 จะประมาณ 43 นก็ยังเอ้อยังไม่ง่วงอยากรีก
00:04:11 → 00:04:14 พักผ่อนสักหน่อยด้วยการเล่นเกมแล้วสุด
00:04:14 → 00:04:17 ท้ายก็จบที่ 2:00 นอยู่บ่อยๆแล้วคุณแมน
00:04:17 → 00:04:21 เนี่ยก็เป็นคนที่ดูดพอตบ่อยมากๆติดเลยก็
00:04:21 → 00:04:24 ว่าได้นะคะจะต้องดูดอย่างน้อยวันละ 1-2
00:04:24 → 00:04:27 หัวทุกวันเนี่ยทำอย่างเงี้ยมาประมาณ 3 ปี
00:04:27 → 00:04:30 และเมื่อต้นปีที่ผ่านมารู้สึกปวดท้อง
00:04:30 → 00:04:33 เหมือนถูกแทงสังเกตว่าหัวใจเริ่มเต้นเร็ว
00:04:33 → 00:04:36 กว่าปกติและเริ่มมีผืนขึ้นที่แขนช่วง
00:04:36 → 00:04:38 เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก็เลยไปหาคุณหมอ
00:04:38 → 00:04:40 เพราะปวดท้องแบบไม่ไหวแล้วคุณหมอบอกว่า
00:04:40 → 00:04:43 เป็นโรคกระเพาะเพราะว่ากินอาหารไม่เป็น
00:04:43 → 00:04:46 เวลาก็เลยรับยาแล้วก็ดีขึ้นอาการปวดท้อง
00:04:46 → 00:04:49 ลดลงแล้วก็เริ่มรู้สึกว่าหัวใจเริ่มกลับ
00:04:49 → 00:04:52 มาเต้นเป็นปกติแต่พอผ่านไปไม่นานประมาณ 2
00:04:52 → 00:04:54 เดือนอาการทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือน
00:04:54 → 00:04:57 เดิมเลยทั้งที่ปรับเปลี่ยนวิธีการกินแล้ว
00:04:57 → 00:04:59 เลยคิดว่าน่าจะเป็นเพราะการดูดพอตหรือ
00:04:59 → 00:05:02 เปล่าทีนี้ก็เลยกลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อ
00:05:02 → 00:05:06 ไปเซเรย์ก็ไม่เจออะไรเลยค่ะทุกอย่างปกติ
00:05:06 → 00:05:09 ดีตอนนี้ผมเลยสงสัยว่าอาการปวดท้องมากๆ
00:05:09 → 00:05:11 ที่ผมเป็นอยู่เนี่ยเป็นเพราะอะไรกันแน่
00:05:11 → 00:05:14 โรคกระเพาะก็ไม่ใช่เลยคิดว่าน่าจะเป็นพอต
00:05:14 → 00:05:17 แต่การดูดพอตน่าจะส่งผลต่อปอดหรือเปล่า
00:05:17 → 00:05:19 ไม่น่าเกี่ยวกับกระเพาะมยหมอช่วยแนะนำได้
00:05:20 → 00:05:22 ไมครับว่าอาการเนี้ยเกิดขึ้นจากอะไรกัน
00:05:22 → 00:05:24 แน่แล้วควรรักษายังไงครับตอนแรกเนี่ยเรา
00:05:24 → 00:05:26 ต้องมาดูก่อนๆเรื่องของพฤติกรรมของคนไข้
00:05:26 → 00:05:30 คนนี้เ้าเป็นผู้ชายอายุ 32 ปีอ 35 อ่ะ 35
00:05:30 → 00:05:33 ปีแล้วก็ทำอาชีพเป็นนักสถาปนิกสถาปนิกนะ
00:05:33 → 00:05:36 ครับ 1 ก็คืออ่ะผู้ชายอายุ 35 ปีทำงานอาจ
00:05:36 → 00:05:39 จะนั่งโต๊ะตลอดเวลาถูกมั้ยอยู่หน้าคอม
00:05:39 → 00:05:41 ตลอดเวลาไม่ค่อยขยับเขยื้อนเท่าไหร่เพราะ
00:05:41 → 00:05:43 ฉะนั้นไม่รู้ว่าออกกำลังกายหรือเปล่าอัน
00:05:43 → 00:05:47 ที่ 3 นอนดึก 2 3 ถึงแม้ว่าคนไข้เนี่ยมี
00:05:47 → 00:05:50 การพักผ่อนเล่นเกมเนาะแต่เคติดนิสัย
00:05:50 → 00:05:52 เรื่องของการนอนดึกไม่รู้ว่าตื่นกี่โมง
00:05:52 → 00:05:54 พักผ่อนเพียงพอหรือเปล่านะครับเคยโดน
00:05:54 → 00:05:57 วินิจฉัยว่าเป็นโรคกระเพาะแล้วได้ยามากิน
00:05:57 → 00:05:59 และได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเรื่องของ
00:05:59 → 00:06:02 การกินแต่ก็ยังมีอาการปวดท้องอยู่คราวนี้
00:06:02 → 00:06:04 อันสุดท้ายเนี่ยสำคัญมากก็คือเรื่องการ
00:06:04 → 00:06:07 supp หรือ eet คือบุหรี่ไฟฟ้านั่นเอง
00:06:07 → 00:06:09 คราวนี้เราต้องมาเข้าใจก่อนว่าบุหรี่ไฟ
00:06:09 → 00:06:12 ฟ้าคืออะไรหลายคนอาจจะบอกว่าเฮ้ยสูบ
00:06:12 → 00:06:15 บุหรี่ไฟฟ้าดีกว่าสูบบุหรี่ปกติทั่วไปมัน
00:06:15 → 00:06:18 น่าจะซเออเพราะว่าเพราะว่าบุหรี่ทั่วไป
00:06:18 → 00:06:20 มันมีมานานแล้วมันมีมาหลาย10บปีแล้วแล้ว
00:06:20 → 00:06:23 มันเพิ่งมีบุหรี่ไฟฟ้ามันไม่ันนหลายคนอาจ
00:06:23 → 00:06:26 จะคิดว่าเฮ้ยเลิกสู่บุหรี่มาสู่บุหรี่ไฟ
00:06:26 → 00:06:29 ฟ้าดีกว่าให้มันปลอดภัยกว่าแต่จริงๆแล้ว
00:06:29 → 00:06:31 ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่แบบไหนก็แล้วแต่จะไฟ
00:06:31 → 00:06:34 ฟ้าหรือแบบทั่วๆไปก็มีอันตรายในร่างกาย
00:06:34 → 00:06:38 เหมือนกันอืออย่างแรกเลยทำไมเขาบอกว่า
00:06:38 → 00:06:40 บุหรี่ถึงติดเพราะมันมีสารอะไรครับ
00:06:40 → 00:06:42 นิโคตินถูกต้องนิโคตินมันอยู่ในนั้น
00:06:43 → 00:06:44 นิโคตินมันทำให้เกิดอะไรขึ้นเวลาเราสูบ
00:06:45 → 00:06:47 มันทำให้ติดแล้วรู้สึกสูบแล้วยิ่งทำอยาก
00:06:47 → 00:06:49 สูบอีกอ่าเวลาที่เราสูบนิโคตินเข้าไปใน
00:06:49 → 00:06:52 ร่างกายถูกมั้ยครับสารนิโคตินเนี่ยมันจะ
00:06:52 → 00:06:55 ทำให้เลือดสูบฉีดไปที่สมองทำให้เรามีการ
00:06:55 → 00:06:58 ตื่นตัวรู้สึกเฟรชรู้สึกเฮ้ยรู้สึกสดชื่น
00:06:58 → 00:07:01 มากขึ้นแล้วในสมองของเราก็จะมีสารอีกตัว
00:07:01 → 00:07:03 นึงในประสาทของเราอ่ะครับเรียกว่าโดปามีน
00:07:03 → 00:07:07 ทำให้รู้สึกฟินรู้สึกแฮปปี้รู้สึกใจดีใจ
00:07:07 → 00:07:10 มากขึ้นแล้วเราก็หยุดสูบแต่เนี่ยบุหรี่ 1
00:07:10 → 00:07:14 มวลมีสารนิโคติน 1 มิลลิกรัมอืเนาะแล้ว 1
00:07:14 → 00:07:18 แพ็คมีกี่มวล 20 มวลแปลว่าถ้าคุณสูบ 20
00:07:18 → 00:07:21 เอ้ยไม่สิ้าคุณสูบสูบ 1 แพกเท่ากับ 20
00:07:21 → 00:07:24 มวลถูกมั้ยครับเรามาดูเรื่องของพอตดีกว่า
00:07:24 → 00:07:27 สูบ 1 พอหรือ 1 หัวเนี่ยเท่ากับคุณสูบ
00:07:27 → 00:07:32 บุหรี่ทั่วไป 50 มมวนะ 50 50 มวลแปลว่า 1
00:07:32 → 00:07:35 1 1 หัวนะ 1 หัวเนี่ยมี 5 เท่ากับคุณสู
00:07:35 → 00:07:38 บุหรี่ทั่วไป 50 มวลเท่ากับ 50 มิลกรัม
00:07:38 → 00:07:42 ของนิโคตินแล้วยิ่งพอร์ตสมัยใหม่มันยิ่ง
00:07:42 → 00:07:44 มากกว่านั้นนะคือหมอก็ไม่รู้ว่าพอร์ตที่
00:07:44 → 00:07:46 เขาสูบเป็นรุ่นไหนเนาะมันเดี๋ยวนี้มันมี
00:07:46 → 00:07:48 พัฒนาการเยอะมากแล้วอย่างงี้มันจะไม่ติด
00:07:48 → 00:07:50 ได้ยังไงเนเออมันไม่ติดได้ไงเพราะว่าคุณ
00:07:50 → 00:07:53 สูบ 1 หัวเท่ากับคุณสูบ 50 มิลลิกรัมอ่ะ
00:07:53 → 00:07:56 มันยิ่งแบบเลือดสูบฉีดปุ้มป้ามขึ้นมาตัว
00:07:56 → 00:07:58 มีนยิ่งแล้วคราเนี้ยเวลาที่เราหยุดสูบอ่ะ
00:07:59 → 00:08:03 ครับสารนิโคตินเริ่มดรอปโดพามีนิ่งดรอปก็
00:08:03 → 00:08:07 เริ่มเหี่ยวไม่มีแรงก็ต้องหยิบขึ้นมาสูบ
00:08:07 → 00:08:10 อีกอย่างคนไข้คนนี้ของเราก็สูบมา 3 ปี
00:08:10 → 00:08:12 แล้วเพราะอันเนี้ยถือว่าเป็น addiction
00:08:12 → 00:08:15 และภาษาอังกฤษก็คือการติดใช่ติดและในสาร
00:08:15 → 00:08:18 เสพติดทั้งหมดที่มีในบนโลกเนี้ยรู้มั้ว่า
00:08:18 → 00:08:21 สารเสพติดอะไรที่ติดคนติดเยอะที่สุด
00:08:21 → 00:08:23 บุหรี่หรือเปล่าก็ถูกต้องนิโคตินคือ
00:08:23 → 00:08:25 อันดับ 1 เลยมากกว่าแอลกอฮอล์มากกว่า
00:08:25 → 00:08:28 โคเคนทุกอย่างเลยนะครับเนาะแล้วคราวนี้
00:08:28 → 00:08:31 เรามาดูกันว่าพอเคสูบเยอะขนาดนี้เนี่ยมัน
00:08:31 → 00:08:34 ส่งผลอะไรต่อร่างกายเราบ้าง 1 ระบบหลอด
00:08:34 → 00:08:36 เลือดและหัวใจอยู่แล้วอันนี้ทุกคนรู้เนาะ
00:08:36 → 00:08:38 ทำให้มันเกิดหลอดเลือดอุดตันทำให้หลอด
00:08:38 → 00:08:41 เลือดตีบมากยิ่งขึ้นอันที่ 2 เรื่องของ
00:08:41 → 00:08:44 ปอดเนาะอ่ามะเร็งปอดเรารณณรงค์มากมาย
00:08:44 → 00:08:47 พอร์ดก็เหมือนกันนะครับการสูดพอร์ตก็ทำ
00:08:47 → 00:08:49 ให้คุณมีเสี่ยงเป็นโรคปเค้าเรียกว่าปอด
00:08:50 → 00:08:54 อักเสบนะครับเนาะหรือภาษาใหม่เรียกว่า evy
00:08:54 → 00:08:58 อ evi EV AI คือโรคปอดอักเสบแบบรุนแรง
00:08:58 → 00:09:00 แบบรุนแรงแบบรุนแรงอันเนี้ยเจอในเฉพาะคน
00:09:00 → 00:09:03 ที่สูบพอตด้วยออเหรอคะอันนี้คือเป็นโรค
00:09:03 → 00:09:05 สำหรับสำหรับโรกพอเลยใช่เป็นรุนแรงแล้วใน
00:09:05 → 00:09:08 เมืองไทยก็เจอแล้วด้วยอืต่อมาก็คือเรื่อง
00:09:08 → 00:09:11 ของสติปัญญาหรือ mental Health นั่นเอง
00:09:11 → 00:09:15 ทำให้ถ้าคุณสูบพอตมากๆเหมือนคุณสืบสืบเสพ
00:09:15 → 00:09:17 สารนเสพติดคุณก็อาจจะมีความเสี่ยงที่เป็น
00:09:17 → 00:09:20 โรคซึมเศร้าโรควิตกกังวลได้ได้ยังไงอ่ะคะ
00:09:20 → 00:09:22 หมอคุณเสพตลอดเวลาแล้วเมื่อไหร่ถ้าคุณไม่
00:09:22 → 00:09:27 เสพหรือทิ้งมันไว้สารในสารสื่อประสาทใน
00:09:27 → 00:09:30 สมองมันเริ่มน้อยลงคุณก็เริ่มมีวิตกกังวล
00:09:30 → 00:09:32 อยากจะเอามาสูบอีกครั้งมันเกี่ยวกับสาร
00:09:32 → 00:09:35 โดปามีนหรือว่าโดพามีนก็คือสารแห่งความ
00:09:35 → 00:09:38 สุขใช่่มั้ยคสุให้เราฟินเหมือนแทุกครั้ง
00:09:38 → 00:09:40 ที่เราสูบเนี่ยมันก็จะเกิดสารนี้ขึ้นมา
00:09:40 → 00:09:42 แล้วเราก็จะแฮปปี้แล้วพอเราวางมันลงสารก็
00:09:42 → 00:09:44 จะลดลงมาแต่ต้องเข้าใจก่อนว่าการที่เรา
00:09:44 → 00:09:47 สูบเนี่ยมันเร่งสารโดพามีนเยอะมากกว่า
00:09:47 → 00:09:50 ปกติที่ร่างกายควรผลิตสมมุติร่างกายแค่
00:09:50 → 00:09:52 ออกกำลังกายมันก็มีผลิตแต่มันผลิตตาม
00:09:52 → 00:09:55 ระดับของร่างกายที่สามารถผลิตได้แต่คุณไป
00:09:55 → 00:09:59 สูบนิโคตินเข้าไปมันเร่งอ่ะเร่งบิดบึม
00:09:59 → 00:10:01 สตาร์ทเรื่อยๆสตารเรยๆเรๆแล้วต้องเข้าใจ
00:10:02 → 00:10:04 ก่อนว่าร่างกายไม่สามารถผลิตโดปามีนได้
00:10:04 → 00:10:07 เยอะเท่าเดิมเพราะฉะนั้นคุณก็ต้องสูบมาก
00:10:07 → 00:10:10 ขึ้นเพื่อให้ได้โดพามีนเท่าเดิมเข้าใจมั้
00:10:10 → 00:10:12 ครับมันก็เลยก็ต้องติดตลอดเวลาแล้วสูบมาก
00:10:12 → 00:10:15 กว่าเดิมสด้วยซ้ำและอันสุดท้ายมาพูดถึงคน
00:10:15 → 00:10:18 ไข้คนนี้เอ๊ะแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่อง
00:10:18 → 00:10:20 ของปวดท้องใช่ๆจริงๆมันต้องเกี่ยวกับปอด
00:10:20 → 00:10:23 หรือเปล่าอ่าการสูบพอดพวกเยครับสูบเข้าไป
00:10:23 → 00:10:27 ปุ๊บมันทำให้เขาเรียกว่าหูรูดของหลอดลม
00:10:27 → 00:10:29 อาหารและกระเพาะกระเพาะอาหารของเราอ่ะ
00:10:29 → 00:10:32 ครับมันเค้าเรียกว่าอะไรผ่อนคลายมันไม่
00:10:32 → 00:10:35 รัดมันไม่ตึงอืพอคราวนี้มันคลายแล้วเนี่ย
00:10:35 → 00:10:38 กรดที่อยู่ในกระเพาะอาหารก็สามารถย้อน
00:10:38 → 00:10:40 ขึ้นมาได้แล้วเกิดอาการแสกคือเหมือนเวลา
00:10:40 → 00:10:42 เรากินข้าวอะไรเข้าไปเนี่ยหรือหายใจเข้า
00:10:42 → 00:10:45 ไปเนี่ยมันก็คือจะรัดรัดตัวแล้วก็บีบตัว
00:10:45 → 00:10:47 อย่างงี้ใช่ใช่ให้เราย่อยอาหารได้นะครับ
00:10:47 → 00:10:50 แต่ว่าพอเราสูบพวกพอตขนเข้าไปไอ้ตรงที่รน
00:10:50 → 00:10:54 รัเนี่ยมันเลยคลายอืแล้วกดในกระเพาะอาหาร
00:10:54 → 00:10:56 ของเราก็สามารถย้อนกลับมาทำให้เป็นเกิด
00:10:56 → 00:10:58 กรดไหลย้อนกรดไหลย้อนได้แล้วนอกจากนั้น
00:10:58 → 00:11:02 เนี่ยมันไปทำลายเเรียกว่าผนังบนกระเพาะ
00:11:02 → 00:11:06 อาหารของเราทำให้เรามีการระคายเคลืองของ
00:11:06 → 00:11:08 กระเพาะอาหารได้นะครับเนาะสิ่งสำคัญคือ
00:11:08 → 00:11:13 มันไปลดการไหลเวียนของเลือดสู่อวัยวะอื่น
00:11:13 → 00:11:15 ในกระเพาะอาหารของเราทางเดินอาหารทั้งหมด
00:11:15 → 00:11:18 ของเรานะครับเนาะทำให้ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
00:11:18 → 00:11:21 ของจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารก็
00:11:21 → 00:11:25 เปลี่ยนไปลดไ้ลงระบบการย่อยก็แย่มากขึ้น
00:11:25 → 00:11:27 มันก็เลยส่งผลทำให้ว่าผู้ชายคนเนี้ยมัน
00:11:27 → 00:11:30 อาจจะเป็นแฟกเตอร์หนึ่งง่ายๆดีกว่าที่ทำ
00:11:30 → 00:11:32 ให้เขายังไม่หายจากการเป็นโรคปวดท้องถ้า
00:11:32 → 00:11:36 ปวดจนเหมือนถูกแทงนี่มันมันปวดมากๆเลยนะบ
00:11:36 → 00:11:38 มันปวดมากมันปวดมากๆนะครับเพราะว่า 1
00:11:38 → 00:11:40 เวลาทุกๆครั้งที่คุณสูบมันเข้าไปอ่ะไม่
00:11:40 → 00:11:42 ใช่แค่โดปามีนหลังมากขึ้นนะกดในกระเพาะ
00:11:42 → 00:11:45 อาหารก็หลังมากขึ้นอหลออมันอาจจะแบบว่า
00:11:45 → 00:11:48 กรดกหลั่งเยอะแล้วก็หูรูดด้วยแต่คราว
00:11:48 → 00:11:51 เนี้ยเวลาที่คุณสูบอ่ะมันฟินอยู่ไงอืคุณ
00:11:51 → 00:11:53 ไม่มาสนใจเรื่องของกระเพาะอาหารหรอกว่า
00:11:53 → 00:11:56 มันก็หลั่งตามแต่คุณจะมารู้สึกเรื่องของ
00:11:56 → 00:11:58 การอาหารน่ะหลังจากที่คุณแบบไปทำงานไปทำ
00:11:58 → 00:12:00 อย่างอื่นแล้วมันก็เลยแสดงอาการออกมาที
00:12:00 → 00:12:03 หลังนั่นเองก็แปลว่าการดูดพอเนี่ยก็ส่งผล
00:12:04 → 00:12:07 ต่อการปวดท้องได้มากๆเลยนะเช่นเดียวกัน
00:12:07 → 00:12:10 ครับอืทีเนี้ยหมอก็บอกว่าอาจจะเป็นที่การ
00:12:10 → 00:12:14 ดูดพอร์ตงั้นวิธีการแก้ก็คือต้องลดละเลิก
00:12:14 → 00:12:17 หรึเปล่าคะหรือว่าลดลเลคราวนี้การดูดพอต
00:12:17 → 00:12:19 ด้วยความมันเป็นสารเสพติดชนิดนึงเพราะ
00:12:19 → 00:12:21 ฉะนั้นการเลิกมันก็ยากสำหรับใครบางคน
00:12:21 → 00:12:23 เพราะฉะนั้นหมอก็แนะนำว่าเออลองไปเจอ
00:12:23 → 00:12:27 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูว่าวิธีการเลิกบุหรี่
00:12:27 → 00:12:29 เนี่ยมันมีเยอะแยะมากมายในปัจจุบันมันมี
00:12:29 → 00:12:31 ยาทดแทนด้วยนะยารดบุหรี่ถูกมยครับหรือว่า
00:12:31 → 00:12:33 เป็นนิโคติน pch ถ้าใครเคยเห็นที่ต่าง
00:12:33 → 00:12:36 ประเทศเป็นนิโคตินแล้วมาแปะหรือว่าหมาก
00:12:36 → 00:12:38 ฝรั่งนะครับเนาะของแบบทางการแพทย์ก็
00:12:38 → 00:12:42 สามารถช่วยรถได้แต่อันที่สำคัญคือ 4 รอ 4
00:12:42 → 00:12:45 รลอลิงรลิงนะ 4 รอลิงนะครับ 1 เขาเรียก
00:12:45 → 00:12:50 ว่าลงมือทำลงมือทำฉันตั้งใจว่าฉันจะลงมือ
00:12:50 → 00:12:54 ทำนะฉันจะเลิกสู่บุหรี่หรือสูพออันที่ 2
00:12:54 → 00:12:57 ลั่นวาจาต้องพูดให้โลกรู้ต้องพูดให้คนใน
00:12:57 → 00:13:01 ครอบครัวรู้ต้องมีใเลกฉันจะเลิกแล้วนะอื 3
00:13:01 → 00:13:06 ลาอุปกรณ์ทิ้งไปเลยต้องทิ้งต้องละต้อง
00:13:06 → 00:13:08 เลิกมันจะหักดิบไปไม่หมต้องต้องต้องอย่าง
00:13:08 → 00:13:10 งี้เลยการที่เราจะเลิกอะไรสักอย่างพวกสาร
00:13:10 → 00:13:13 เสพติดมันต้องหักดิบอ้าเหรอเค้าค่อยๆลด
00:13:14 → 00:13:16 ได้มยอย่างเช่นแบบปกติแต่ถ้าค่อยๆลดก็คือ
00:13:16 → 00:13:18 เราเปลี่ยนวิธีกลายเป็นไปสูบเอ่อไปไม่ใช่
00:13:18 → 00:13:21 สูบเคี้ยวหมัดฝรั่งหรือสารนิโคตินแทนแต่
00:13:21 → 00:13:23 การสูบเนี่ยหยิบขึ้นมาเนี่ยต้องละเลิกเลย
00:13:23 → 00:13:28 และอันสุดท้ายลิงสุดท้ายก็คือลงมือทำสรอ
00:13:28 → 00:13:30 นะครับเนาะฟังดูเหมือนจะง่ายแต่คนสำหรับ
00:13:30 → 00:13:32 คนที่ติดอ่ะมันยากมากนะเอาอย่างี้ดีกว่า
00:13:32 → 00:13:35 ในประสบการณ์แล้วะกันนะครับเนาะสมมุติคน
00:13:35 → 00:13:38 ติดนิโคติน 100 คนถ่ายิว่ากี่คนที่สามารถ
00:13:38 → 00:13:41 ละเลิกได้จริงใน 100 คนนะสมมุติ 100 คน
00:13:41 → 00:13:44 ันทแบบฉันจะทำฉันจะทำให้ได้กี่คนจริงๆดี
00:13:45 → 00:13:48 กว่าที่สามารถทำได้จริง 5 คนครับ 5 คน 5
00:13:48 → 00:13:50 คนจาก 100 คนที่สามารถทำได้จริงก็คืออีก
00:13:50 → 00:13:53 95 คนคือแค่พยายามแล้วเแค่พยายามหรืออาจ
00:13:53 → 00:13:55 จะลองแล้วแล้วก็กลับไปสูบใหม่หรือทำไม่
00:13:55 → 00:13:58 ได้สุดท้ายมันมีปัจจัยในชีวิตในครอบครัว
00:13:58 → 00:14:01 ความเครียดหรือปัญหาต่างๆมากมายที่ทำให้
00:14:01 → 00:14:04 เขากลับไปสูบไอีกครั้งนึงถ้าเมื่อกี้ที่
00:14:04 → 00:14:09 หมอบอกว่าการสูบบุหรีไฟฟ้า 1 หัวเนี่ย
00:14:09 → 00:14:13 เท่ากับ 50 50 มวลของบุรีุ่รีงั้นถ้าเรา
00:14:13 → 00:14:17 เปลี่ยนจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นบุหรี่ธรรมดา
00:14:17 → 00:14:20 ก่อนได้มั้ยคะแล้วก็ค่อยๆลดได้มั้ยอ่ะคือ
00:14:20 → 00:14:22 ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่บุหรี่ชนิดไหนก็ไม่ควร
00:14:22 → 00:14:25 สูบครับอืเพราะมันก็ส่งผลต่อสุขภาพอย่าง
00:14:25 → 00:14:28 ดีนะครับเนาะดีที่สุดคุณจะเลือกสิ่งที่
00:14:28 → 00:14:32 ทำลายร่างกายตัวคุณทำไมอืถูกมั้ยครับอก็
00:14:32 → 00:14:36 มันติดไงคะหมอก็มันติดเออเออแล้วอาการที่
00:14:36 → 00:14:38 หัวใจเต้นเร็วแล้วเป็นผืนอันนี้เกี่ยวกับ
00:14:38 → 00:14:41 นิโคตินมั้ยคะก็นิโคตินเนี่ยมีส่วนที่ทำ
00:14:41 → 00:14:44 ให้หัวใจเต้นเร็วโดยควในการที่เราสูบพอต
00:14:44 → 00:14:46 เข้าไปเนี่ยครับมันทำให้เลือดมันสูบฉีด
00:14:46 → 00:14:48 เร็วมากขึ้นเราก็เลยมีอาการใจสั่นได้แต่
00:14:48 → 00:14:50 เรื่องของผืดเนี่ยคราวนี้ก็ต้องไปดูว่า
00:14:50 → 00:14:53 เอ๊ะการสูบนิโคตินมากๆอ่ะครับการสูบพอร์ต
00:14:53 → 00:14:56 พูดง่ายๆนะครับมันก็ไปลดระบบภูมิคุ้มกัน
00:14:56 → 00:15:00 ในร่างกายของเราแลเาเป็นคนนอนดึกระบบ
00:15:00 → 00:15:05 ออกำลังด้วนนอนผืมันก็อาจจะเกิดขึ้นเพราะ
00:15:05 → 00:15:07 ระบบคุมคุ้มกันเเจงนั่นเองครับภูมิตกเน
00:15:07 → 00:15:09 เพราะนอนนอนดึกก็ภูมิตกอยู่แล้วแล้วก็
00:15:09 → 00:15:12 ยิ่งพอสูบเข้าไปมันเกิดการอักเสบในร่าง
00:15:12 → 00:15:14 กายทำให้ภูมิตกเข้าไปอีกก็เลยอาจจะทำให้
00:15:14 → 00:15:17 เป็นผืนได้ใช่ไหมคะฉะนั้นกลับมาที่คำถาม
00:15:17 → 00:15:21 ก็คือถามว่าการดูดพอตเนี่ยส่งผลทำให้ปวด
00:15:21 → 00:15:24 ท้องเหมือนถูกแทงได้ไหมได้นะคะแล้วถ้า
00:15:24 → 00:15:27 สมมุติว่าเดี๋ยวกินยาแก้ปวดเอาก็ได้ไม่
00:15:27 → 00:15:29 อยากเลิกพอตเลยอ่ะอ่ะแล้วถ้าเป็นอย่างนี้
00:15:29 → 00:15:31 ไปเรื่อยๆอ่ะค่ะจะเกิดอะไรขึ้นคะคุณหมอ
00:15:31 → 00:15:33 คราวนี้ถ้าอย่างอย่างคนเนี้ยเขเริ่มมี
00:15:33 → 00:15:35 อาการปวดท้องถูกมั้ยครับถ้าเขายังใช้
00:15:35 → 00:15:39 พฤติกรรมแบบนี้ต่อไปแรงสูบต่อไปแล้วรวมปั
00:15:39 → 00:15:42 ปัจจัยอื่นๆในไลฟ์สไตล์ของเขาในอนาคตอาจ
00:15:42 → 00:15:46 จะเป็นแผลในกระเพาะอาหารเลือดออกจนถึง
00:15:46 → 00:15:48 เจ็บกว่าเดิมแล้วจนไปถึงอาจจะเป็นมะเร็ง
00:15:48 → 00:15:51 เลยก็ได้เ็ดกระเพาะอาหารเหมือนการที่ปวด
00:15:51 → 00:15:53 ท้องเหมือนถูกแทงมันเป็นเหมือนสัญญาณที่
00:15:53 → 00:15:56 ร่างกายบอกว่าเลิกเถอะนะเลิกเถอะพักเถอะ
00:15:56 → 00:15:58 นะร่างกายมันไม่ไหวแล้วไม่ไหวแล้วอใช่
00:15:58 → 00:16:00 แล้วคราวนี้แยกไปกว่านั้นเนี่ยพอปัจจุบัน
00:16:00 → 00:16:03 มีคนขายมากขึ้นทั้งๆที่มันผิดกฎหมายเนี่ย
00:16:03 → 00:16:07 ใช่ๆคิดดูว่าเด็กไทยผู้ชายและผู้หญิงอายุ
00:16:07 → 00:16:11 13-15 ปีสูบมากขึ้นภายในเวล 8 ปีอ่ะจาก
00:16:11 → 00:16:17 13% กลายมาเป็น 25% หู 25% ในประชากใน
00:16:17 → 00:16:19 ประชากรเด็กที่อายุ 13-15 ปีนี่เด็กขนาด
00:16:19 → 00:16:22 เนี้ยเพราะอะไรรู้มั้ยเพราะ 1 เรื่องของ
00:16:22 → 00:16:26 อาจจะเป็นเรื่องของสังคมเนาะสูบฉันเท่ฉัน
00:16:26 → 00:16:31 สูคล้ายๆก็สูบการรสชาตสูมีกี่รสชาติครับ
00:16:31 → 00:16:34 กี่พูพอร์ตเนี่ยมันมีรถรถแตงโม
00:16:34 → 00:16:37 รถรี่มีทั้งหมดกี่พอร์ตอ่ะทั้งหมดอ่ะใน
00:16:37 → 00:16:41 ตลาดทั่วเมืองไทยเลย 100 นเลย 15,000 รส
00:16:41 → 00:16:44 ชาติหมื่รสชาติ 10 หมืรสชาติเยอะกว่า
00:16:44 → 00:16:46 อาหารที่เราสั่งอีกนะอหารแล้วมีรูปแบบ
00:16:46 → 00:16:50 โดราเลมอนรูปของตุ๊กตุ่นตุ๊กตามันก็ยิ่ง
00:16:50 → 00:16:53 ทำให้เด็กรุ่นใหม่อยากสูบเข้าไปอีกฉะนั้น
00:16:53 → 00:16:55 จริงๆก็อยากให้คลิปนี้เหมือนเป็นอุทาหรด
00:16:55 → 00:16:58 เนาะว่าจริงๆแล้วอ่ะค่ะว่ามันอันตรายมากๆ
00:16:58 → 00:17:01 นะคะก็ให้ให้ระมัดระวังเพราะว่าอย่าคิด
00:17:01 → 00:17:04 ว่าอุ๊ยเป็นบุหรี่ไฟฟ้าหอมดีอร่อยด้วยแต่
00:17:04 → 00:17:08 จริงๆแล้วมันร้ายมากมันร้ายจริงๆถ้าใคร
00:17:08 → 00:17:10 กำลังชมคลิปนี้อยู่แล้วมีคำถามในใจนะคะ
00:17:10 → 00:17:13 สามารถส่งคำถามทางด้านสุขภาพมาได้ใน
00:17:13 → 00:17:16 แคปชั่นด้านล่างนี้นะคะเราจะมีลิงก์อยู่
00:17:16 → 00:17:19 นะคะสามารถกดได้เลยหรือจะสแกน QR โคดตรง
00:17:19 → 00:17:21 นี้แล้วก็กรอกรายละเอียดเข้ามาได้เลยนะคะ
00:17:21 → 00:17:25 คุณหมอและทีมงานจะคัดเลือกคำถามมาตอบใน EP
00:17:25 → 00:17:27 ต่อๆไปค่ะโดยแต่ละ EP เราจะกรุ๊ปเป็นคำ
00:17:27 → 00:17:29 ถามนะคะอย่างวันนี้ก็เป็นคำถามเกี่ยวกับ
00:17:29 → 00:17:32 ปัญหาชีวิตคนปัญหาสุขภาพคนเมือง EP หน้าๆ
00:17:32 → 00:17:35 ก็จะเป็นปัญหาทางด้านอื่นๆนะคะยังไงก็ขอ
00:17:35 → 00:17:38 ให้เขียนรายละเอียดมาแบบจัดเต็มจัดแน่น
00:17:38 → 00:17:40 เลยนะคะคุณหมอจะได้เข้าใจถึงวิธีการใช้
00:17:41 → 00:17:45 ชีวิตนะคะวิธีการกินการนอนรักษามาแล้วยัง
00:17:45 → 00:17:47 ไงบ้างตอนนี้กำลังรับประทานยาอยู่หรือไม่
00:17:47 → 00:17:49 แล้วก็มีอาการอะไรบ้างคุณหมอจะได้เข้าใจ
00:17:49 → 00:17:52 ตัวคนไข้แล้วก็ตอบคำถามได้อย่างแม่นยำที่
00:17:52 → 00:17:54 สุดค่ะเรื่องต่อมานะคะเกี่ยวกับชีวิตคู่
00:17:54 → 00:17:57 รักคู่นึงนะคะที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันใน
00:17:57 → 00:17:59 คอนโดแล้วก็ work from home ทั้งคู่จน
00:17:59 → 00:18:02 น้ำหนักขึ้น 10 กลแล้วก็ไม่มีอารมณ์ทาง
00:18:02 → 00:18:05 เพศนะคะอันนี้เป็นคำถามมาจากคุณผู้หญิงนะ
00:18:05 → 00:18:09 คะนามสมมุติว่าคุณวันนะคะคุณวันอายุ 20
00:18:09 → 00:18:12 ต้นๆเองพักอาศัยอยู่กับแฟนที่มีอายุไล่
00:18:12 → 00:18:15 เลี่ยกันนะคะหนูทำงานแบบ work from home
00:18:15 → 00:18:18 ค่ะตื่นเที่ยนทำงานบ่ายบางวันก็ทำงานจน
00:18:18 → 00:18:21 ถึง 3:00 น 4:00 นพักเล่นเกมบ้างเล่นกับ
00:18:21 → 00:18:24 แมวบ้างไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรที่เคลื่อน
00:18:24 → 00:18:27 ไหวตัวเยอะนอกจากการออกไปกินข้าวนอกบ้าน
00:18:27 → 00:18:31 บ้างบางครั้งบางคราวหนูไม่ได้ออกกำลังกาย
00:18:31 → 00:18:34 เลยค่ะจนน้ำหนักตัวตอนนี้ขึ้นเป็น 10 กล
00:18:34 → 00:18:37 เลยแต่แฟนก็ออกกำลังกายตามปกตินะคะหนูรู้
00:18:37 → 00:18:40 สึกไม่ค่อยมีอารมณ์ทางเพศเลยค่ะและห่าง
00:18:40 → 00:18:43 เหินจากการมีอะไรกับแฟนมานานมากแล้วตอน
00:18:43 → 00:18:46 นี้จนทุกวันนี้อาจจะมีรายการทุก 3-4
00:18:46 → 00:18:49 เดือนครั้งไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเหตุการณ์
00:18:49 → 00:18:52 เมื่อหลายปีก่อนหรือเปล่าเพราะแฟนหนูเคย
00:18:52 → 00:18:55 บังคับแต่อันนี้เป็นแฟนเก่านะคะเคยบังคับ
00:18:55 → 00:18:58 ให้หนูมีอะไรด้วยโดยที่หนูไม่ได้สมยอมเลย
00:18:58 → 00:19:01 ททำให้ฝังใจและมีความกลัวค่ะซึ่งเรื่อง
00:19:01 → 00:19:04 นี้ก็เคยเล่าให้แฟนปัจจุบันฟังนะคะแล้ว
00:19:04 → 00:19:08 แฟนก็เข้าใจมากๆความสัมพันธ์ของเราดีค่ะ
00:19:08 → 00:19:11 แล้วก็มีความสุขหนูก็เลยอยากจะแก้ไข
00:19:11 → 00:19:13 เรื่องนี้และอยากมีอารมณ์ทางเพศได้เหมือน
00:19:13 → 00:19:17 คนอื่นๆควรแก้ไขยังไงดีคะคุณหมอผู้ชายยัง
00:19:17 → 00:19:20 มีไวอาก้าให้กินแล้วผู้หญิงสามารถกินอะไร
00:19:20 → 00:19:23 ได้บ้างคะพอรอเมื่อเดือนตุลาคปีที่แล้ว
00:19:23 → 00:19:25 เพิ่งไปฝังยาคุมมาค่ะจริงๆตอนแรกที่อ่าน
00:19:25 → 00:19:27 เรื่องเยค่ะก็คิดว่าเอ๊ะเพราะว่า work
00:19:27 → 00:19:29 from home อยู่ด้วยด้วยกันตลอดเวลา
00:19:29 → 00:19:31 เบื่อหรือเปล่าแต่ว่าพอมาฟังจริงๆเนี่ย
00:19:31 → 00:19:33 คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นประเด็นเรื่อง
00:19:33 → 00:19:35 ความกลัวมากกว่าแล้วจริงๆแล้วผู้หญิง
00:19:35 → 00:19:38 เนี่ยมีเรื่องความกลัวกับเพศสัมพันธ์ค่อน
00:19:38 → 00:19:40 ข้างมากนะคะแล้วก็เป็นประเด็นที่รู้สึก
00:19:40 → 00:19:42 ว่าคนไม่ค่อยคุยกันมากเท่าไหร่อย่าง
00:19:42 → 00:19:44 ประเด็นนี้เนี่ยก็คือกลัวจากประสบการณ์
00:19:44 → 00:19:47 ที่มีไม่ดีในอดีตเนาะหรือบางคนอาจจะกลัว
00:19:47 → 00:19:50 ท้องเนาะหรือว่าบางคนเนี่ยกลัวที่จะ
00:19:50 → 00:19:53 ปฏิเสธแฟนกลัวเจ็บอะไรอย่างเงี้ยทีนี้ใน
00:19:53 → 00:19:55 ประเด็นเนี้ยค่ะที่โอเคมันเป็นเรื่องใน
00:19:55 → 00:19:58 อดีตกับแฟนเก่าแต่แฟนปัจจุบันเนี่ยเป็นคน
00:19:58 → 00:20:00 ดีมากเข้าใจมากแล้วเราก็รู้สึกว่าเราอยาก
00:20:00 → 00:20:03 จะเปิดใจนะคะแล้วก็กลับมามีอะไรได้อย่าง
00:20:03 → 00:20:06 ได้อย่างแฮปปี้อืทีเนี้ยค่ะควรจะเริ่มต้น
00:20:06 → 00:20:09 ยังไงดีคะหมอคราวนี้เนี่ยเราก็มาดูของเคส
00:20:09 → 00:20:11 นี้ก่อนแล้วกันเนาะเป็นผู้หญิงอายุ 20
00:20:11 → 00:20:14 ต้นๆเนาะคราวนี้ปัญหาคือ 1 น้ำหนักตัว
00:20:14 → 00:20:16 เพิ่มมากยิ่งขึ้นถึงแม้คุณผู้ชายยังออก
00:20:17 → 00:20:19 กำลังกายแต่ตัวคุณผู้หญิงเองน้ำหนักตัว
00:20:19 → 00:20:22 มากขึ้นเขาอาจจะมีความไม่มั่นใจในตัวเอง
00:20:22 → 00:20:24 ในรูปร่างตัวเองหรือเปล่าอย่างแรกเลย 10
00:20:24 → 00:20:26 กถูว่าเยอะนะอออย่างที่ 3 ก็คือเรื่องของ
00:20:26 → 00:20:30 พฤติกรรมอ่าเ่อทำงานตอนตอนบ่ายนอนดึกด้วย
00:20:30 → 00:20:32 อาหารการกินอาจจะไม่ดีหรือเปล่าน้ำหนัก
00:20:32 → 00:20:35 ตัวเลยเพิ่มมากยิ่งขึ้นคราวนี้อ่ะเรามาดู
00:20:35 → 00:20:37 ดูเรื่องของเรื่องของเพศสัมพันธ์นะครับ
00:20:37 → 00:20:42 เนาะเามีอดีตที่เคยโดนแฟนเก่าแล้วกันที่
00:20:42 → 00:20:44 เมื่อกี้บอกมาถูกมครับที่เขาไม่อยากมีเพศ
00:20:44 → 00:20:47 สัมพันธ์ด้วยเขาก็เลยมีความกลัวตรงนั้น
00:20:47 → 00:20:49 คราวนี้มันอาจจะทำให้ความต้องการทางเพศ
00:20:49 → 00:20:52 ของเขาลดน้อยลงเขาก็เลยอยากมีเหมือนคน
00:20:52 → 00:20:54 อื่นเหมือนคู่อื่นคราวนี้เรามาเข้าใจตรง
00:20:54 → 00:20:57 ความต้องการทางเพศก่อนหรือว่าภาวะบกพร่อง
00:20:57 → 00:21:00 ความต้องการทางทั้งเพศในผู้หญิงรู้มยว่า
00:21:00 → 00:21:03 คนไทยเนี่ยในผู้หญิงเนาะภาวะเนี้ยเจอได้
00:21:03 → 00:21:05 กี่เปอร์เซ็นต์ในคนไทยผู้หญิงทั้งหมดเลย
00:21:05 → 00:21:07 อันนี้คือทุกวัยเลยใช่ปคทุกวัยเลยครับโห
00:21:07 → 00:21:10 ดาวไม่ถูกเลยอ่ะ 40% ครับอุเกือบเกือบ
00:21:10 → 00:21:12 ครึ่งเลยเหรอคะเกือบครึ่งของประเทศ 4 คือ
00:21:12 → 00:21:15 ผู้หญิง 40% คือบก[\h__\h]เรื่องของความ
00:21:15 → 00:21:18 ต้องการทางเพศหรืออาจจะเค้าเรียกว่าไม่
00:21:18 → 00:21:21 ถึงจุดสุดยอดจุดสุดยอดไม่ถึงเนี่ยประมาณ
00:21:21 → 00:21:24 25% ของคนไทยอ๋อก็แปลว่าหลายครั้งคือถ้า
00:21:24 → 00:21:26 มีก็ก็มีแค่อาจจะเป็นกลับมาที่เรื่องความ
00:21:26 → 00:21:29 กลัวนะกลัวที่จะปฏิเสธแฟนไม่อาจจะแค่
00:21:29 → 00:21:31 เรื่องของความกลัวคราวนี้เรามาดูสาเหตุ
00:21:31 → 00:21:33 ก่อนที่ทำให้ผู้หญิงมีภาวะพวกนี้เยอะแบ่ง
00:21:33 → 00:21:36 ออกมาทั้งหมด 4 สาเหตุด้วยกัน 1 ปัจจัย
00:21:36 → 00:21:38 ทางกายปทัยทางกายหมายถึงว่าอ่ะโรคประจำ
00:21:38 → 00:21:41 ตัวนะครับมีทานยาอะไรหรือเปล่าอ่ะผู้หญิง
00:21:41 → 00:21:44 คนนี้มีกินยาคุมนะเดี๋ยวเรามาคุยกันเรามา
00:21:44 → 00:21:47 คุยกันแล้วก็เอ่อภาวะอื่นๆเช่นอาจเ่อ
00:21:47 → 00:21:49 เรื่องของผู้หญิงอย่างเช่นเรื่องของการ
00:21:49 → 00:21:51 ตั้งครรภ์หรือเปล่าหรือว่าเ่อปัสสาวะแสบ
00:21:51 → 00:21:54 ขัดอะไรพวกเนี้ยมันก็ทำให้เป็นส่วนหนึ่ง
00:21:54 → 00:21:57 ที่ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์นะครับอันนี้คือ
00:21:57 → 00:22:00 ภาวะทางกายอันที่ 2 คนนี้แน่ๆภาวะทางจิต
00:22:00 → 00:22:03 ใจถูกมยเราก็เรียกว่าหรือเขาโดนแฟนเก่า
00:22:03 → 00:22:06 เรื่องของ abuse โดนแบบบังคับ
00:22:06 → 00:22:09 เนาครับนะครับเนาะแล้วก็เรื่องถ้าไม่ใช่
00:22:09 → 00:22:10 เรื่องของการบังคับก็เป็นเรื่องของทาง
00:22:10 → 00:22:13 ด้านจิตใจโรคซึมเศร้าวิตกกังวลต่างๆมาก
00:22:13 → 00:22:16 มายอันที่ 3 เรื่องของ relationship หรือ
00:22:16 → 00:22:19 ความสัมพันธ์เออคนนี้ก็ดูไม่แย่นะกับแฟน
00:22:19 → 00:22:21 ใหม่ถูกไหมมครับบอกว่ารักกันดีดูกันดีอัน
00:22:21 → 00:22:23 สุดท้ายคือเรื่องของสังคมสังคมไทยเป็นยัง
00:22:24 → 00:22:27 ไงเรื่องพอพูดถึงเรื่องเพศอายอืไม่กล้า
00:22:28 → 00:22:32 เจอแพทแคุไม่กล้าถามจะไปคุยกับใครหลายคน
00:22:32 → 00:22:35 บอกเอ้ยมันเป็นเรื่องปกติอืเนี่ยแล้วคุย
00:22:35 → 00:22:38 แต่เพื่อนๆแต่จริงๆปัจจุบันเนี่ยมันมีนัก
00:22:38 → 00:22:41 เพศวิทยาและหมอทางด้านวิทยาศาสตร์ทางเพศ
00:22:41 → 00:22:44 ช่วยด้วยซ้ำที่สามารถคุณสามารถปรึกษาได้
00:22:44 → 00:22:46 ทางด้านนี้นะครับถ้าเรามาดูทั้งหมดทั้ง
00:22:46 → 00:22:48 หลายปัจจัยผู้หญิงคนนี้อาจจะมีปัจจัย
00:22:48 → 00:22:50 เรื่องจิตใจมานำนะครับเนาะแล้วก็เรื่อง
00:22:50 → 00:22:53 ของยาคุมนะครับเนาะคราวนี้เรามาดูเรื่อง
00:22:53 → 00:22:56 ของเราจะทำยังไงให้ความสัมพันธ์ของเขาดี
00:22:56 → 00:22:58 ขึ้นขอกลับไปที่เรื่องยาคุมนิดนึงใชครับ
00:22:58 → 00:23:01 เพราะว่าเบอกว่าเดือนตุลาที่ผ่านมาใช่มคะ
00:23:02 → 00:23:05 เไปฝั่งยาคุมมาแล้วฝั่งยาคุมเนี่ยมัน
00:23:05 → 00:23:08 เกี่ยวข้องกับอารมณ์ทางเพศเดือนเมื่อไหร่
00:23:08 → 00:23:10 นะครับเมื่อไหร่นะตุลาคตุลาตุลาก็คือ
00:23:10 → 00:23:12 เกือบเกือบปีนึงแล้วอืเกือบปีนึงครับการ
00:23:12 → 00:23:15 ที่คุณไปกินยาคุมฝังยาคุมต่างๆนานาคือคุณ
00:23:15 → 00:23:18 ป้องกันเพื่อไม่ให้ท้องอือันนั้นคือเหตุ
00:23:18 → 00:23:21 ผลเดียวเลยถูกมครับถ้ามีเหตุผลอื่นด้วย
00:23:21 → 00:23:24 หมอก็ไม่แนะนำว่าอย่าใช้ยาคุมะกันนะครับ
00:23:24 → 00:23:28 เนาะแต่การที่คุณใช้ยาคุมเนี่ยมันจะไปลบ
00:23:28 → 00:23:31 เขาเรียกว่าลดฮอร์โมนเพศชายหรือและ
00:23:31 → 00:23:34 ฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายของคุณก็คือว่า
00:23:34 → 00:23:37 ผู้หญิงเนี่ยก็จะมีทั้งฮอร์โมนเพศหญิง
00:23:37 → 00:23:40 แล้วฮอร์โมนเพศชายใช่มั้ยคะแล้วก็ผู้หญิง
00:23:40 → 00:23:42 ก็จะมีฮอร์โมนเพศหญิงเยอะหน่อยฮอร์โมนเพศ
00:23:42 → 00:23:45 ชายน้น้อยหน่อยแล้วก็การที่เราฝังยาคุม
00:23:45 → 00:23:47 หรือว่ากินยาคุมมันจะทำให้ฮอร์โมนเพศชาย
00:23:47 → 00:23:50 อ๋อโมนทั้งหมดลดหมดเลยลดหมดเลยอ่ะคือฝั่ง
00:23:50 → 00:23:53 ยาคุม 1 ทำให้ไข่คุณไม่ตกอ่ะคุณไม่ท้องไง
00:23:53 → 00:23:55 ถูกมั้ยครับเนาะฮอร์โมนเพศอ่าคราวนี้เรา
00:23:55 → 00:23:57 เมื่อกี้บอกว่ามีทั้งฮอร์โมนเพศหญิง
00:23:57 → 00:23:59 เอสโตรเจนและฮอร์โมนเพเพศชายแอนโดรเจน
00:23:59 → 00:24:02 หรือเทสเตอโรนนะครับฮอร์โมนเพศหญิงก็มี
00:24:02 → 00:24:04 ความสำคัญต่อเรื่องเพศสัมพันธ์เหมือนกัน
00:24:04 → 00:24:08 มันทำให้มีการหล่อลื่นข้างล่างได้ดีถูก
00:24:08 → 00:24:11 มั้ยครับเนาะมีความต้องการมีเ้าเรียกว่า
00:24:11 → 00:24:15 ร้อนๆรุ่มๆเวลาที่คุณอยากมีเพศสำคัญ
00:24:15 → 00:24:17 เหมือนเหมือนเวลาที่คุณไข่ตกก่อนมีประจำ
00:24:17 → 00:24:19 เดือนเห็นมั้ยอุณหภูมิร่างกายจะเพิ่มมาก
00:24:19 → 00:24:22 ขึ้นอันนี้เป็นเพราะเอสโตรเจนนะครับคราว
00:24:22 → 00:24:25 นี้เทสสคราวนี้เทสโทสเตอโรนสำคัญมากในผู้
00:24:25 → 00:24:28 หญิงเหมือนกันคือฮอร์โมนเพศชายบางคนบอก
00:24:28 → 00:24:30 อุ้ยผู้หญิงไม่มีฮอร์โมนเพชรชายเป็นไปไม่
00:24:30 → 00:24:32 ได้มันคือความแข็งแรงของร่างกายคุณความ
00:24:32 → 00:24:36 แข็งแรงของกล้ามเนื้อของกระดูกนะครับอ่ะ
00:24:36 → 00:24:39 ขนผมต่างๆนะครับรวมไปถึงเรื่องของสมองและ
00:24:39 → 00:24:42 ความต้องการทางเพศอืเพราะฉะนั้นยาคุมก็จะ
00:24:42 → 00:24:45 ไปกดฮอร์โมนเพศชายของคุณลดน้อยลงทำให้
00:24:45 → 00:24:48 ความต้องการก็ลดลงไปด้วยลดไปด้วยนิ่งเลย
00:24:48 → 00:24:52 คราวนี้ถือศีลเลยอืเราทำยังไงอย่าเงี้ค่ะ
00:24:52 → 00:24:55 หมอก็ไม่อยากท้องแล้วก็ก็ที่ฝังเนี่ยก็
00:24:55 → 00:24:57 เพราะไม่อยากท้องไงคราวนี้ต้องเข้าใจก่อน
00:24:57 → 00:25:00 ว่าเราก็มีมีวิธีการป้องกันเรื่องของคุม
00:25:00 → 00:25:03 กำเนิดหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการใส่ถุง
00:25:03 → 00:25:07 ยางนะครับเนาะคือถึงแม้ว่าคุณจะฝังยาคุม
00:25:07 → 00:25:09 แต่คุณก็ยังต้องใส่ถุงยางอนามัยนะเพื่อ
00:25:09 → 00:25:12 ป้องกันโรคทางเพศต่างๆถูกมครับเาไม่ใช่
00:25:12 → 00:25:15 ว่าออฝังแล้วปล่อยเลยอย่างเงี้ยก็ไม่ใช่
00:25:15 → 00:25:17 เพราะคุณก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคอื่น
00:25:17 → 00:25:20 ๆงั้นอย่างในเคสนี้เนี่ยเาถ้าสมมุติว่า
00:25:20 → 00:25:22 อย่าอยากแก้ทางด้านจิตใจอ่ะค่ะจะต้อง
00:25:22 → 00:25:25 เริ่มต้นยังไงอ่ะคะคราวนี้ทางด้านจิตใจ
00:25:25 → 00:25:26 เนี่ยสิ่งที่สำคัญคือมันเป็นเรื่องของ
00:25:26 → 00:25:29 เพชรสัมพันธ์เพราะฉะนั้นมันมันก็ต้องคุย
00:25:29 → 00:25:32 ทั้งผู้ชายและผู้หญิงถูกมยครับเอ่ออาจจะ
00:25:32 → 00:25:35 คุยกับผู้ผู้หญิงก่อนแล้วก็เอาผู้ชายมา
00:25:35 → 00:25:37 ให้คุยกับแพทย์หรือนักคุยนที่นี้นี่คือ
00:25:37 → 00:25:39 สามารถไปคุยกับจิตแพทย์ทั่วไปได้เลยมั้คะ
00:25:39 → 00:25:41 หรือว่าต้องเป็นมีนักเพศวิทยาโดยตรงครับ
00:25:41 → 00:25:43 เป็น clinical sexologist โดยตรงอันนี้
00:25:43 → 00:25:45 สามารถไปหาได้ที่ไหนอ่ะคะที่จริงก็ไม่ว่า
00:25:45 → 00:25:48 จะเป็นเอิทางโรงพยาบาลนะครับหรือโรงเรียน
00:25:48 → 00:25:51 แพทย์ก็จะมีสมัยปัจจุบันเนี่ยมีเพิ่มขึ้น
00:25:51 → 00:25:53 และแต่ว่าถ้าเข้าถึงได้ง่ายสุดน่าจะเป็น
00:25:53 → 00:25:56 พวกจิตจนักจิตแพทย์ทั่วไปอันนี้ก็สามารถ
00:25:56 → 00:26:00 ปรึกษาได้ใช่ปาคราวนี้ 1 เนี่ยเก็จะแนะนำ
00:26:00 → 00:26:02 อย่างแรกที่เขอยากให้ฝึกทั้งคู่นะครับคือ
00:26:02 → 00:26:06 เข้าใจร่างกายอวัยวะของทั้งคู่ให้ดีก่อน
00:26:06 → 00:26:08 เข้าใจหมายถึงภาษาทางการแพทย์เรียกว่า
00:26:08 → 00:26:11 sensate Focus sensate Focus คือมัน
00:26:11 → 00:26:14 จะมีทั้งหมด 3 สตปด้วยกันสตปแรกเรียกว่า
00:26:14 → 00:26:17 non genital sensate Focus คืออันนี้
00:26:17 → 00:26:18 ให้ไปฝึกที่บ้านนะไม่ใช่ฝึกต่อหน้าหมอ
00:26:18 → 00:26:21 ครับนะก็คือทั้งคู่อ่ะมาดูร่างกายซึ่งกัน
00:26:22 → 00:26:25 และกันดูว่าแกผ้าหมดเลยนะแล้วก็มองมองกัน
00:26:25 → 00:26:30 ว่าแต่ห้ามสัมผัสหรือแต่เอ่ออวัยวะเพศและ
00:26:30 → 00:26:34 เต้านมคือสัมผัสว่าเอ๊ะตัวเา้าอ่ะตรงไหน
00:26:34 → 00:26:38 คือจุดอ่อนตัวไหนที่สัมผัสแล้วทำให้เขามี
00:26:38 → 00:26:43 อารมณ์แขนหูขาดูว่าร่างกายเขาเป็นไงชอบ
00:26:43 → 00:26:45 อะไรบอกเขาไม่ชอบอะไรบอกเขาเรียนรู้ร่าง
00:26:45 → 00:26:47 กายซึ่งกันกันก็คือเหมือนแบบว่าผู้หญิง
00:26:47 → 00:26:49 กับผู้ชายยืนคู่กันอย่างงี้ใช่มใช่ครับ
00:26:49 → 00:26:52 แล้วเราลองลองสัมผัสกันแต่ห้ามแตไวเเพศ
00:26:52 → 00:26:55 กับใช่ก็อาจจะแตะไลายแตะหน้าอะไรอย่า
00:26:55 → 00:26:59 เงี้ยแว่าเอฉันไม่ชอบที่สะโพกเธอขนาดนี้
00:26:59 → 00:27:01 ขนาดนี้อะไรอย่างเงี้ยบอกกันซึ่งกันและ
00:27:01 → 00:27:03 กันเราจะได้เข้าใจกันบอกอย่างงั้นเลยเหรอ
00:27:03 → 00:27:06 เศร้านะฉันไม่ชอบพุงน้อยของเธออะไรอย่าง
00:27:06 → 00:27:08 เงี้ยให้คุณไปออกกำลังกายเออก็อาจจะแบบ
00:27:08 → 00:27:11 ว่าเอ้ยเอ้ยฉันชอบให้เธอตัดแต่อะไรอย่าง
00:27:11 → 00:27:13 งี้อะไรเงี้ก็เหมือนเป็นการพูดคุยเปิดใจ
00:27:13 → 00:27:16 กันต้องึึสเต็ปแรกต้องฝึกนะครับต้องฝึก
00:27:16 → 00:27:19 อ่าแบบ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์และใช้เวลานิด
00:27:19 → 00:27:23 นึงสเต็ป 2 ก็เรียกว่า genital sensate
00:27:23 → 00:27:26 Focus อ่ะเริ่มและเริ่มสัมผัสอวัยประเภท
00:27:26 → 00:27:29 หรือเต้านมซึ่งกันและกันดูว่าเมีจุดอ่อน
00:27:29 → 00:27:32 ตรงไหนบ้างนะครับชอบให้โดนสัมผัสตรงไหน
00:27:32 → 00:27:34 บ้างนะครับที่มันเป็นตัวกระตุ้นในร่างกาย
00:27:34 → 00:27:37 ของเขานะครับและสจสุดท้ายก็แน่นอนเรื่อง
00:27:38 → 00:27:40 ของการมีเพศสัมพันธ์กันครับ 3 สเตปด้วย
00:27:40 → 00:27:42 กันก็คือแต่ละสเตปเนี่ยต้องใช้เวลานาน
00:27:42 → 00:27:44 เท่าไหร่คะอย่างสเต็ปแรกเนี่ยประมาณ 2
00:27:44 → 00:27:47 อาทิต์คราวนี้มันแล้วแต่คู่เนาะว่ามันยาก
00:27:47 → 00:27:49 ขนาดไหนแล้วอันนี้นี่สามารถคนที่ดูอยู่
00:27:49 → 00:27:52 แล้วอุ๊ยเจอปัญหาแบบเยสามารถนำไปใช้ได้
00:27:52 → 00:27:54 เลยยคะหรือว่าควรปรึกษาที่จริมันดีเทลมัน
00:27:54 → 00:27:57 เยอะกว่านี้นะมันมันสยๆให้ฟังเลยอันนี้ก็
00:27:57 → 00:27:59 แนะนำว่าให้ไปเจอผู้เชี่ยวชาญดีกว่านะ
00:27:59 → 00:28:01 ครับเนาค่ะแต่ว่าจริงๆมันก็เป็นอะไรที่
00:28:01 → 00:28:03 น่าสนใจเหมือนกันนะคะเพราะมันไม่ได้เป็น
00:28:03 → 00:28:05 เรื่องยากเนาะมันก็แค่เหมือนแบบเหมือนจับ
00:28:05 → 00:28:08 มือผ่านมันไปด้วยกันโดยสเต็ปง่ายๆทำกัน
00:28:08 → 00:28:10 เองก่อนแล้วถ้าไม่ดีจริงๆก็อาจจะไปหา
00:28:10 → 00:28:14 แพทย์อ่ะทีนี้ลองลองทำอันนี้ก็แล้วอะไร
00:28:14 → 00:28:16 อย่างเงี้ยค่ะแล้วก็เรื่องเรื่องยาคุมก็
00:28:16 → 00:28:18 คุณหมอแนะนำว่ายังไงดีคะอันนี้ก็อย่างที่
00:28:18 → 00:28:21 บอกไปว่าถ้าเราอยากคุมจริงๆก็ลองไปถาม
00:28:21 → 00:28:23 แพทย์ผู้ช่ยวชานะครับสูตินารีแพทย์ว่า
00:28:23 → 00:28:26 เฮ้ยมันมีอชยาคุมอะไรบ้างที่สามารถช่วย
00:28:26 → 00:28:29 เรื่องคุมกำหนดกำเนิดและยังสามารถทำให้
00:28:29 → 00:28:31 คุณอยากมีอารมณ์ทางเพศอยู่อันเนี้ยมัน
00:28:31 → 00:28:34 สามารถไปปรึกษาทางแพทย์สูตินารีได้ครับ
00:28:34 → 00:28:37 แล้วการที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นนะคะมันส่ง
00:28:37 → 00:28:40 ผลต่อโอเคความมั่นใจอาจจะไม่มีเนาะแต่ทาง
00:28:40 → 00:28:43 ระบบร่างกายล่ะคะมันส่งผลอะไรต่ออารมณ์
00:28:43 → 00:28:45 ทางเพศมั้ยคะอ่าแน่นอนครับคราวนี้เราต้อง
00:28:45 → 00:28:47 มาดูปัจจัยของเขาก่อนว่าเอ๊ะน้ำหนักขึ้น
00:28:47 → 00:28:50 ตั้ง 10 กลสาเหตุเกิดจากอะไรคนเราอยู่ดี
00:28:50 → 00:28:51 น้ำหนักขึ้น 10 กลไม่ได้มันต้องมีปัจจัย
00:28:51 → 00:28:54 สาเหอันนี้น่าจะเ
00:28:54 → 00:28:58 โไม่ออกกำลังกายกินอาหารไม่ดีความเครียด
00:28:58 → 00:29:01 ก็อาจจะมีเพราะอยากมีเพศสัมพันธ์กับแฟนยา
00:29:01 → 00:29:03 คุมก็ทำให้น้ำหนักตัวขึ้นได้นะครับเนาะ
00:29:03 → 00:29:06 เพราะยาคุมไปลดระบบการเผาผลาในร่างกายไป
00:29:06 → 00:29:09 ลดการดูดซึมของวิตามินและแลธาตุหลายๆตัว
00:29:09 → 00:29:13 ที่สำใช้สำหรับการระบบเผาผลาญนะครับเนาะ
00:29:13 → 00:29:17 คราวนี้ก็ก็ต้องแนะนำเขาว่าเออเวลาที่คุณ
00:29:17 → 00:29:19 น้ำหนักตัวมากขึ้นน่ะไขมันเยอะมากขึ้น
00:29:19 → 00:29:22 เนี่ยมันก็ไปกดฮอร์โมนเพศชายได้เหมือนกัน
00:29:22 → 00:29:24 ฮอร์โมนเพศหญิกคือไขมันมันมากับฮอร์โมน
00:29:24 → 00:29:26 เพชรหญิงันนี้ต้องบอกก่อนนะครับเนาะแฟต
00:29:26 → 00:29:28 ที่มันอยู่ในร่างกายไขมันเนี่ยมันมันก็ทำ
00:29:28 → 00:29:30 ให้คุณมีฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มมากขึ้นไป
00:29:30 → 00:29:33 ด้วยนะครับเนาะการที่คุณมีฮอร์โมนเพศหญิง
00:29:33 → 00:29:36 ที่เยอะสูงจนเกินไปเนี่ยมันก็ไปกดเรื่อง
00:29:36 → 00:29:39 ของฮอร์โมนเพศชายได้ครับอืบางทีก็อาจจะ
00:29:39 → 00:29:42 เป็นเพราะฮอร์โมนเนาะก็แปลว่าสรุปง่ายๆก็
00:29:42 → 00:29:47 คือว่า 1 อาจจะต้องลองไปหาเอ่อแพทย์อาจจะ
00:29:47 → 00:29:49 ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยปรับเปลี่ยน
00:29:49 → 00:29:51 พฤติกรรมนะคะอาจจะเริ่มออกกำลังกายเนาะ
00:29:51 → 00:29:54 อย่างหน่อยถ้าไขมันลดลงแล้วก็ระดับของ
00:29:54 → 00:29:56 ฮอร์โมนบาลานซ์ดีขึ้นอาจจะทำให้อารมณ์ทาง
00:29:56 → 00:29:59 เพศดีขึ้นด้วยด้วยนะคะแล้วก็อาจจะหาผู้
00:29:59 → 00:30:01 เชี่ยวชาญเนาะไปพูดคุยแล้วก็ลองทำ
00:30:01 → 00:30:03 Exercise ง่ายๆที่บ้านก่อนอ่ามี Exercise
00:30:03 → 00:30:06 นึงแนะนำได้เลยคือ kle Exercise คืออะไร
00:30:06 → 00:30:09 คะคือการขมิบก้นครับขมิบก้นขมิบก้นเพื่อ
00:30:09 → 00:30:14 เป็นการเกร็งเอ่อกล้ามเนื้อภายในร่างกาย
00:30:14 → 00:30:16 ของเราอวัยวะข้างล่างให้มันแข็งแรงมาก
00:30:16 → 00:30:19 ยิ่งขึ้นให้มันให้มันอะไรอ่ะกระชับให้มัน
00:30:19 → 00:30:21 แล้วขมิบแล้วยังไงต่อคราวนี้เราสามารถฝึก
00:30:21 → 00:30:24 เองที่บ้านได้นะคือถ้าเราไปยิมหรือฟิตเนส
00:30:24 → 00:30:26 เนี่ยก็คือมันจะมีท่าแบบถ้าใครเคยดูใน
00:30:26 → 00:30:28 YouTube หรืออะไรอ่ะครับก็คือแบบนอนแล้ว
00:30:28 → 00:30:31 เกงก้นขึ้นมาแล้วก็ลงไปด้านล่างแล้วอนี้
00:30:31 → 00:30:33 มันจะเกี่ยวอะไรกอารมณ์ทางเพศคะอ้าคราว
00:30:33 → 00:30:35 นี้มันก็กระตุ้นทำให้กล้ามเนื้อข้างล่าง
00:30:35 → 00:30:39 ออมันได้ใช้งานใชงนก็คือนั่งๆอยู่ก็ปึ๊บอ
00:30:39 → 00:30:41 แต่ว่ามันไม่ใช่ปึ๊บๆอย่างงี้นะเราต้อง
00:30:41 → 00:30:43 ค่อยๆเป็นสเต็ปยังไงหมอเราเวลาเราจะเก็ง
00:30:43 → 00:30:47 ใช่มั้ครับหายใจเข้า 1 2 3 เก่งแล้วก็
00:30:47 → 00:30:52 หยุดไว้ 1 2 3 แล้วคายออก 1 2 3 ทำ
00:30:52 → 00:30:56 อย่างงี้ 10 ครั้งตอนแรกๆแล้วเพิ่มเป็น 20
00:30:56 → 00:30:58 ครั้งต่อวันแล้วเพิ่มเป็น 30 10 ครั้ง
00:30:58 → 00:31:00 ต่อวันเรื่อยๆอ่ะคุณวันฟังนะคะเอาเอาไป
00:31:00 → 00:31:03 ซ้อมได้คะมันจะได้ได้ใช้งานเนมันได้ใช้
00:31:03 → 00:31:04 งานผู้ชายก็เหมือนกันนะครับผู้ชายก็
00:31:04 → 00:31:07 เหมือนกันก็ช่ยเรื่องเรื่องของความแข็ง
00:31:07 → 00:31:11 แรงข้างล่างทำให้แข็งแน่นมากขึ้นโอ้โหไม่
00:31:11 → 00:31:13 เคยได้ยินเทคนิคนี้มาก่อนเลยค่ะหมอขอบคุณ
00:31:13 → 00:31:17 นะคะเดี๋ยวจ๊ะนำไปใช้นำไปใช้โอเคสุดท้าย
00:31:17 → 00:31:21 ค่ะหมอที่ถามมาว่าผู้ชายเนี่ยยังมีวาก้า
00:31:21 → 00:31:23 เลยแล้วผู้หญิงเนี่ยมีอะไรช่วยกระตุ้นได้
00:31:23 → 00:31:26 บ้างคะอันนี้ก็ของผู้หญิงก็มีเหมือนกันนะ
00:31:26 → 00:31:28 ครับแน่ๆเนี่ยของของผู้หญิงก็จะแบ่งเป็น 3
00:31:28 → 00:31:32 ประเภทด้วยกันนะครับเนาะ 1 ก็คือยาที่ไป
00:31:32 → 00:31:35 เพิ่มการไหลเวียนของเลือดสู่อวัยวะเพศ
00:31:35 → 00:31:38 ด้านล่างนะครับก็คล้ายๆเป็นยาเฉพาะจจก็
00:31:38 → 00:31:40 คือมันคล้ายๆยาของผู้ชายเหมือนกันเมื่อ
00:31:40 → 00:31:43 กี้เหมือน PD 5 inhibitor ที่ยาที่คุณ
00:31:43 → 00:31:46 เจนพูดมาครับเนาะก็มันก็มีงานวิจัยบางงาน
00:31:46 → 00:31:49 วิจัยที่บอกมันช่วยนะแต่เผอิญมันใช้ดีใน
00:31:49 → 00:31:52 ผู้ชายมากกว่าในผู้หญิงอ๋อนะครับเนาะอัน
00:31:52 → 00:31:53 เอ่อยาตัวที่ 2 ที่ไปเพิ่มก็คือเพิ่ม
00:31:53 → 00:31:56 ไนตริกออกไซดไนตริกออกไซดอย่างเช่นก็จะ
00:31:56 → 00:31:59 เป็นมนพวก lr ที่ีนะครับแอลจีเนี่ยมันจะ
00:31:59 → 00:32:02 ไปเพิ่มไนตริกออกไซด์ในร่างกายของเราแป๊บ
00:32:02 → 00:32:04 นึงนะคะหมอไนตริกออกไซด์คืออะไรคะไนตริก
00:32:04 → 00:32:07 ออกไซด์คือมันเป็นเอนไซมมันเป็นเอมไซม์
00:32:07 → 00:32:10 ชนิดหนึ่งที่เพิ่มที่ไปทำให้หลอดเลือด
00:32:10 → 00:32:13 ข้างล่างของเรามันขยายมากยิ่งขึ้นทำให้มี
00:32:13 → 00:32:17 การกระตุ้นให้มีการแข็งตัวอือแล้วก็รู้
00:32:17 → 00:32:19 สึกอ่อนไหวข้างล่างมากยิ่งขึ้นครับโอเคก็
00:32:20 → 00:32:23 คือเหมือนเป็นอาหารเสริมที่ช่วยให้ให้ตรง
00:32:23 → 00:32:26 เนี้ยมันขยายขายใช่ครับแล้วรู้สึกมากขึ้น
00:32:26 → 00:32:29 sensitive มากขึ้นโอเคก็คือรู้สึกแบบมาก
00:32:29 → 00:32:32 กว่าปกติมีมีซนอะไรบ้างนะคะปกติอ่ะอย่าง
00:32:32 → 00:32:38 จนนเนี่ยเป็นเ่อแจนครับแจนอ่านี้เบสิคเลย
00:32:38 → 00:32:41 อนะครับเนาะมันทำมาจากอะไรคะแจมันเป็นกด
00:32:41 → 00:32:43 อะมิโนครับกดอมิโนชนิดหนึโเอันนี้สามารถ
00:32:43 → 00:32:46 หาซื้อได้ทั่วไปแล้วก็มีอะไรอีกคเอ่ออีก
00:32:46 → 00:32:49 อันนึงที่เขาค้นพบมาก็จะเป็นพวกโสมเหมือน
00:32:49 → 00:32:51 กันครับอ่าโสมแดงพวกเงี้ยแต่ว่าบางคนก็
00:32:51 → 00:32:53 บอกว่าใช้ได้บางคนก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน
00:32:53 → 00:32:56 ครับเอ่อผู้หญิงจะค่อนข้าง complicate
00:32:56 → 00:32:58 มากกว่าผู้ชายนะนะครับเวิร์คสำหรับบางคน
00:32:59 → 00:33:00 ก็อาจจะไม่เวิร์คสำหรับบางคนถูกต้องครับ
00:33:00 → 00:33:02 อันที่ 2 ก็จะเป็นเรื่องของโฮร์โมนเมื่อ
00:33:02 → 00:33:04 กี้เราพูดมาหมดแล้วก็สำหรับบางคนอ่ะ
00:33:04 → 00:33:07 สมมุติเด็กคนนี้เขายังเด็กเนาะแต่ถ้าแบบ
00:33:07 → 00:33:09 ใครเข้าไวัทองแล้วอย่างเงี้ยไม่มีฮอร์โมน
00:33:09 → 00:33:12 เพศหญิงไม่มีฮอร์โมนเพศชายการเสริม
00:33:12 → 00:33:14 ฮอร์โมนเข้าไปก็เป็นการเพิ่มความต้องการ
00:33:14 → 00:33:16 ทางเพศของเขามากยิ่งขึ้นซึ่งการเสริม
00:33:16 → 00:33:18 ฮอร์โมนก็คืออาจจะเป็นผ่านตัวเม็ดยาหรือ
00:33:18 → 00:33:21 ว่าคนี้ก็อาจจะเป็นทาครีมอะไรอย่าเงี้ยนะ
00:33:21 → 00:33:23 ครับเนาะอันที่ 3 ก็จะเป็นเรื่องของ
00:33:23 → 00:33:26 โฮร์โมนของในปราสาทนะครับเนาะก็อย่างทุกๆ
00:33:26 → 00:33:28 ครั้งเวลาที่เรามีมีอารมณ์ทางเพศหรือความ
00:33:28 → 00:33:30 ต้องการทางเพศมันก็จะมีฮอร์โมนโดปามีน
00:33:30 → 00:33:33 ฮอร์โมนแห่งความสุขใช่ไหมมครับก็มันจะมี
00:33:33 → 00:33:35 ยาที่ไปกระตุ้นโดปามีนมากยิ่งขึ้นนะครับ
00:33:35 → 00:33:37 อันแรกเลยอันที่ 2 มันจะเป็นยาที่ไป
00:33:37 → 00:33:40 กระตุ้นเรียกว่า mhh นะครับเนาะยาอันนี้
00:33:40 → 00:33:44 มันก็ไปเพิ่มความต้องการ mh mhh คือตัว
00:33:44 → 00:33:47 ยาตัวเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งในสมองของเรา
00:33:47 → 00:33:51 อ่ะครับที่มันไปเพิ่มความอยากอืความ
00:33:51 → 00:33:53 ต้องการมากขึ้นครับอ่าอันนี้ก็จะเป็นยา
00:33:53 → 00:33:55 ฉีดนะครับอันนี้ต้องไปึกปรึกษาแพทย์ก่อน
00:33:55 → 00:33:58 แล้วกันเรื่องต่อมาค่ะหมอเป็นเรื่อง
00:33:58 → 00:34:01 เกี่ยวกับความเครียดของคนที่ทำงานหนักแบบ
00:34:02 → 00:34:06 เวิร์ค overload สุดๆจนสุขภาพเริ่มแย่
00:34:06 → 00:34:08 ชีวิตไม่มีความสุขและกลัวว่าจะเป็นโรค
00:34:08 → 00:34:11 ร้ายในอนาคตเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณ
00:34:11 → 00:34:12 ทรายเขียนเรื่องนี้เข้ามาเพราะว่าเป็น
00:34:12 → 00:34:17 ห่วงแฟนมากๆแฟนคุณทรายอายุ 47 ปีนอน
00:34:17 → 00:34:19 เที่ยงคืตื่น 5:00 นทุกวันเพื่อไปทำงาน
00:34:19 → 00:34:22 แฟนเป็นคนทำงานหนักตั้งแต่ไหนตั้งแต่ไร
00:34:22 → 00:34:25 แต่ล่าสุดเพิ่งย้ายไปที่ทำงานใหม่เลยทำ
00:34:26 → 00:34:28 งานหนักกว่าเดิมอีกเพื่อแลกแแลกกับเงิน
00:34:28 → 00:34:32 เดือนที่สูงขึ้นนอกจากงานออฟฟิศแล้วเรามี
00:34:32 → 00:34:34 เปิดร้านเล็กๆด้วยกันค่ะทุกวันเสาร์
00:34:34 → 00:34:37 อาทิตย์เราก็จะเข้าร้านพูดง่ายๆว่าทำงาน
00:34:37 → 00:34:40 ทุกวันแบบไม่มีวันหยุดเลยค่ะช่วงหลังมา
00:34:40 → 00:34:42 รู้สึกว่าแฟนหงุดหงิดง่ายมากเครียดตลอด
00:34:42 → 00:34:45 เวลาอาจจะด้วยปัญหาการเงินที่เรามีอยู่
00:34:45 → 00:34:48 ตอนนี้ที่ค่อนข้างหนักทะเลาะกันแทบทุกวัน
00:34:48 → 00:34:51 เลยค่ะแฟนจักเป็นคนที่ชอบปลูกต้นไม้ชอบทำ
00:34:51 → 00:34:54 อาหารทุกวันนี้ไม่สนใจจอะไรเลยค่ะแล้วก็
00:34:54 → 00:34:58 ชอบบนว่าปวดหัวอยู่บ่อยๆบางทีก็เห็นเส้น
00:34:58 → 00:35:00 เลือดปูดออกมาจากากหัวเลยค่ะแล้ววิธีแก้
00:35:00 → 00:35:04 ก็คือกินยาแก้ปวดแล้วก็กลับไปทำงานต่อแฟน
00:35:04 → 00:35:06 ไม่มีโรคประจำตัวอะไรเลยค่ะก็จะมีเป็น
00:35:06 → 00:35:09 ภูมิแพ้บ้างแต่ช่วงช่วงหลังมาเนี่ยรู้สึก
00:35:09 → 00:35:12 ว่าจะเป็นภูมิแพ้หนักขึ้นกว่าปกติตอนนี้
00:35:12 → 00:35:15 สิ่งที่กลัวคือที่แฟนเครียดแล้วบ่นว่าปวด
00:35:15 → 00:35:18 หัวอยู่ตลอดเนี่ยมันจะทำให้มีโอกาสเป็น
00:35:18 → 00:35:21 เส้นเลือดสมองแตกตายมั้ยคะหรือว่าถ้า
00:35:21 → 00:35:24 ปล่อยไว้แบบเนี้ยจะอันตรายยคะเคยเห็นข่าว
00:35:24 → 00:35:28 ว่ามีคนทำงานจนตายเพราะทำงานหนักเกินไป
00:35:28 → 00:35:30 มันเกิดขึ้นได้จริงๆใช่มมคะหมอเราจะรู้
00:35:30 → 00:35:34 ได้ยังไงว่าเราเครียดเข้าสู่ขั้นวิกฤต
00:35:34 → 00:35:38 แล้วมันมีวิธีการตรวจมคะหรือว่ามีวิตามิน
00:35:38 → 00:35:40 อาหารเสริมตัวไหนมที่ช่วยคลายความเครียด
00:35:40 → 00:35:42 อย่างแรกต้องบอกก่อนมันมีวิธีการตรวจนะ
00:35:43 → 00:35:44 ครับเนาะแต่ก่อนที่เราจะไปถึงวิธีการตรวจ
00:35:44 → 00:35:47 เรามาดูไลฟ์สไตล์ของคนนี้ก่อนน้อง 1 เป็น
00:35:47 → 00:35:49 คนที่ทำงานหนักมากเนาะเพราะอาจจะเป็น
00:35:49 → 00:35:52 เรื่องของครอบครัวการเงินที่อยากให้มันดี
00:35:52 → 00:35:55 ขึ้นอันที่ 2 ก็อ่ะทำงานดักแปลว่าพักผ่อน
00:35:55 → 00:35:58 ไม่เพียงพอไม่คงไม่มีเววลาออกกำลังกายกิน
00:35:58 → 00:36:00 อาหารไม่ดีอยู่แล้วนะครับเนาะความ
00:36:00 → 00:36:02 สัมพันธ์กับภรรยาก็อาจจะแย่มากขึ้นเพราะ
00:36:02 → 00:36:04 เริ่มมีการทะเลาะแล้วเริ่มทะเลาะแล้วก็
00:36:04 → 00:36:07 ปวดทีไรก็กินยาแก้ปวดแปลว่าต้องติดยาแก้
00:36:07 → 00:36:10 ปวดแล้วว่าปวดทีไรคราวนี้เนี่ยเคยได้ยิน
00:36:10 → 00:36:13 โรคคาโรชิรมมคาโรชิฟังดูเป็นโรคจากประเทศ
00:36:13 → 00:36:15 ญิปุ่นหรือเปล่าถูกต้องครับคืออะไรคะปี
00:36:15 → 00:36:19 นึงเนี่ยจะมีคนตายจากการทำงานมากจนเกินไป
00:36:19 → 00:36:22 หรือเสียชีวิตจากการทำงานมากเกินเกินไปปี
00:36:22 → 00:36:25 ละ 700,000 คนหูคือคือแค่ทำงานเยอะเกินไป
00:36:25 → 00:36:27 มากๆเกินไปคราวนี้มันมี criteria ครับ
00:36:27 → 00:36:31 หมายความว่าคุณต้องทำงานเกิน 55 ชมงต่อ
00:36:31 → 00:36:35 สัปดาห์มันอาจจะทำให้คุณตายได้นะครับจาก
00:36:35 → 00:36:37 การทำ 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์คนไทยเฉลี่ย
00:36:37 → 00:36:40 สถิติเท่าไหร่ครับต่อสัปดาห์ไม่รู้อ่ะ
00:36:40 → 00:36:43 เท่าไหร่อ่ะมากสุด 49 ชมงเ้ยก็เกือบนะน
00:36:43 → 00:36:46 เกือบแล้วนะ 49 อีกอีกแป๊บเชื่อว่าหลายๆ
00:36:46 → 00:36:49 คนก็น่าจะเกิน 55 มั้ยเนี่ย 55 ช่วโมงคือ
00:36:49 → 00:36:51 คุณก็ทำงานอย่างเดียวไม่มีเวลาพักผ่อน
00:36:51 → 00:36:54 แล้วสุดท้ายเนี่ยการที่มีความเครียดสะสม
00:36:54 → 00:36:58 มากๆจากหลายปัจจัยเก็พบว่ามีความเสี่ยง
00:36:58 → 00:37:01 ที่จะเป็นโรคหลอดหัวใจก่อน 42% และโรคของ
00:37:02 → 00:37:04 สมองเหมือนคนเนี้ยที่เคสเนี่ยประมาณ 17%
00:37:04 → 00:37:07 ครับโรคสมองหมายความว่าเส้นเลือกสมองแต
00:37:07 → 00:37:10 สมองสมองแตกตีบเนี่ยได้ทั้ึง 17% ก็แปล
00:37:10 → 00:37:13 ว่าเราสามารถเครียดมากๆจนเส้นเลือดสมอง
00:37:13 → 00:37:15 แตกเป็นความจริงเกิดขึ้นได้เกิดขึ้นได้
00:37:15 → 00:37:17 คราวนี้เรามาดูเรื่องของเส้นสมองก่อนเส้น
00:37:17 → 00:37:20 สมองหรือว่าสกนะครับภาษาอังกฤษเนี่ยแบ่ง
00:37:20 → 00:37:22 ออกไปเป็นทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน 1 ก็คือ
00:37:22 → 00:37:25 ตีบตัน ischemic Stroke นะครับตีบตันตีบ
00:37:25 → 00:37:29 ตันมันตีบตันไงแล้วพอตีบตุ๊ตันแล้วก็ไม่
00:37:29 → 00:37:31 มีเลือดไปเลี้ยงเอ่อสมองต่างๆนะครับอัน
00:37:31 → 00:37:34 นี้คืออันแรกอันที่ 2 ก็คือ hemic Stroke
00:37:34 → 00:37:37 หรือว่าแตกเลยก็คืออยู่ดีๆปึปอ่าเพวก
00:37:37 → 00:37:39 เนี้ยก็คือจะไม่มีสัญญาณมาก่อนอยู่ดีๆมัน
00:37:39 → 00:37:42 ก็ปึ๊บจะเป็นขึ้นมาก็เลยก็ได้ทุกครั้งที่
00:37:42 → 00:37:44 คุณมีความเครียดไม่ว่าเอันนี้คือความ
00:37:44 → 00:37:47 เครียด 2 จากการทำงานไม่ได้พักผ่อนถูกมั้
00:37:47 → 00:37:49 ครับมันก็ทำให้ทุกครั้งที่มีความเครียด
00:37:49 → 00:37:52 น่ะโฮร์โมนเรียกว่าโฮร์โมนคอร์ติซอลหลั
00:37:52 → 00:37:54 ออกมาฮอร์โมนความเครียดหลั่งออกมามากยิ่ง
00:37:54 → 00:37:57 ขึ้นและฮอร์โมนอีกตัวนึงเรียกว่าอนี้
00:37:58 → 00:38:00 นะครับเนาะอีนเป็นฮอร์โมนเหมือนสู้ชีวิต
00:38:00 → 00:38:02 อ่ะฉันต้องเอาตัวรอดฉันต้องสู้ฉันต้องทำพ
00:38:02 → 00:38:04 ฉฮอรโมนสู้ชีวิตฮอร์โมนเครียดสู้ชีวิต
00:38:04 → 00:38:08 เครียดสู้ชีวิตมาเรื่อยๆ 55 ชัมถูกมยไม่
00:38:08 → 00:38:10 รู้ว่าเด็กคนนี้ทำกี่ชั่วโมงหลั่งมาเยอะๆ
00:38:10 → 00:38:13 ขนาดนั้นน่ะทุกครั้งที่มันมีการหลั่งอ่ะ
00:38:13 → 00:38:16 เลือดคุณสูบฉีดปัมัแรงรต้องแรงขึ้นอีกนะ
00:38:16 → 00:38:19 ขึ้นสมองขึ้นสมองขึ้นสมองมากยิ่งขึ้นคราว
00:38:19 → 00:38:21 นี้การที่มันมีการสูบฉีดอ่ะความดันสูง
00:38:21 → 00:38:26 ขึ้นไขมันตามมาเส้นเลือดเนี่ยมันเริ่มปิ
00:38:26 → 00:38:28 นะเพราะคุณน่ะมันแงมากยิ่งขึ้นนะคุณต้อง
00:38:28 → 00:38:32 สูบฉีดสูบฉีดตลอดเวลามันเริ่มปิปริมากๆปิ
00:38:32 → 00:38:35 บ่อยๆมันก็ตีบมันก็ตันมันก็แตกคืออันที่
00:38:35 → 00:38:37 แตกเนี่ยมันไม่มีสัญญาณแต่อันที่ตีบแล้ว
00:38:37 → 00:38:39 ตันมันมีสัญญาณั้ยคะมันก็ไม่มีสัญญาณ
00:38:39 → 00:38:42 เหมือนกันอยู่ดีมันก็ปึ๊บๆปิดเลยแล้วเรา
00:38:42 → 00:38:44 จะรู้ได้ยังไงอ่ะคะว่าเราเข้าสู่ขั้น
00:38:44 → 00:38:46 วิกฤตที่เราเอ้ยเราเสี่ยงที่จะเป็นเส้น
00:38:46 → 00:38:48 เลือดในสมองแตกนคราวเนี้ยมันก็มีการ
00:38:48 → 00:38:50 วินิจฉัยแต่อันนี้ต้องไปทำที่โรงพยาบาลนะ
00:38:50 → 00:38:52 ครับไปสแกนสมองอ่ะครับแล้วมันก็จะมีวิธี
00:38:53 → 00:38:56 การว่าเออคุณคุณเริ่มมีการตีบตันของเอ่อ
00:38:56 → 00:38:58 สมองหรือเปล่าแต่แต่คราวนี้สิ่งที่น่า
00:38:58 → 00:39:01 กลัวว่ามันจะมีภาวะนึงเรียกว่า Ti tia
00:39:01 → 00:39:04 อ่า transit esic attack หรือภาวะสมอง
00:39:04 → 00:39:08 ขาดเลือดชั่วคราวออันเนี้ยเป็นได้ทุกวัย
00:39:08 → 00:39:11 ทุกเพศคือเหมือนเหมือเมื่อกี้สมองแตกแต่
00:39:11 → 00:39:14 อันเนี้ยไม่แตกแต่ว่าขาดเลือดชั่วคราวมัน
00:39:14 → 00:39:16 เกิดขึ้นได้ไงคะแป๊บเดียวก็คือความเครียด
00:39:16 → 00:39:19 ที่มันสะสมเครียดๆๆจนเลือดหยุดนิดเดียว
00:39:19 → 00:39:22 แค่แป๊บเดียวแล้วมันน้อยกว่า 5 นาทีเพราะ
00:39:22 → 00:39:24 ฉะนั้น 5 หมายถึง 5 วินา 5 นาทีครับ 5
00:39:24 → 00:39:28 นาทีนนานอนาทีแแบบแต่มากที่สุด 5 นาทีแต่
00:39:28 → 00:39:31 อาจจะเกิดสั้นกว่านั้นก็ได้ 10 วนาทีวก็
00:39:31 → 00:39:34 ได้แล้วคราวนี้เป็นภาวะที่บางคนไม่รู้สึก
00:39:34 → 00:39:37 ตัวเลยอยู่ดีๆนั่งๆๆปุ๊บเหมือนเหล้าหลับ
00:39:37 → 00:39:40 อยู่ปึ๊บแล้วก็ตื่นมาเออก็ฉันก็ทำงานได้
00:39:40 → 00:39:43 เหมือนปกติแต่เขาบอกว่าถ้าใครมีภาวะนี้
00:39:43 → 00:39:46 แล้วอ่ะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมองแตก
00:39:46 → 00:39:49 เนี่ยตีบแตกทั้งหลายเแล้วคนเป็นไอ้ tia
00:39:49 → 00:39:50 นี่เยอะมั้ยคะก็เยอะเหมือนกันเพราะจากคว
00:39:51 → 00:39:53 ภาวะความเครียดคุณก็มีความเสี่ยงที่จะ
00:39:53 → 00:39:55 เป็นสมองเอ่อโรคสมองตีบแตกเนี่ยครับเนาะ
00:39:55 → 00:39:58 ประมาณ 10-15 ภายใน 3 เดือนนะมันจะเกิด
00:39:58 → 00:40:01 ขึ้นได้โหน่ากลัวจังเลยอ่ะอืเพราะฉะนั้น
00:40:01 → 00:40:03 น่ะถ้าคุณมีอาการขึ้นมาแบบอยู่ดีๆเฮ้ยมัน
00:40:03 → 00:40:06 ปวดหัวกันทันหันควรรีบไปโรงบานไม่ใช่ว่า
00:40:06 → 00:40:08 เอ้ยปวดหัวกันทันหันแล้วเฮ้ยมันก็หายนี่
00:40:08 → 00:40:11 เออไม่ต้องไปหาหมอดีกว่าเพราะว่าจริงๆอัน
00:40:11 → 00:40:12 นี้มันเป็นสิ่งที่มันพูดยากเหมือนกันนะคะ
00:40:12 → 00:40:15 บางคนก็สมมุตินะโอ๊ยก็แค่ปวดหัวเองคือควร
00:40:15 → 00:40:17 จะคิดแค่นี้แต่จริงๆแล้วการปวดหัวมันอาจ
00:40:17 → 00:40:19 จะเป็นสไตล์อะไรบางอย่างว่าเฮ้ยเส้นเลือด
00:40:19 → 00:40:22 กำลังจะตีบจะแตกหรือเปล่าแล้วมันจะมีจุด
00:40:22 → 00:40:25 คัพอย์หรือว่าสัญญาณอะไรให้เรารู้ว่าแบบ
00:40:25 → 00:40:27 เฮ้ยมันอย่างเช่นคุณหมอบอกว่าเราลอง
00:40:27 → 00:40:30 สังเกตถ้า 55 ชมถ้าเราทำงาน 55 ชมขึ้นไป
00:40:30 → 00:40:33 ใน 1 อาทิตย์อ่ะเข้าเข้าขั้นและแล้วมันจะ
00:40:33 → 00:40:36 มีของภาวะโลกนี้ถูกมคชิถูกมั้ยครับมันก็
00:40:36 → 00:40:38 จะมีคุณ้าเข้ามันจะมีไครทีเรียครับเนาะ
00:40:38 → 00:40:40 อย่างเช่นยกตัวอย่างแล้วะกันคิดงานตลอด
00:40:40 → 00:40:44 เวลาแม้กระทั่งนอนก็คิดอืไปทำงานไวแต่
00:40:44 → 00:40:48 กลับบ้านช้าไม่มีจิตใจทำงานอิเลกอื่นๆที่
00:40:48 → 00:40:52 เราชอบมีความกดดันเยอะมากจากเ่อจากจากหัว
00:40:52 → 00:40:54 หน้าทำงานหรืออะไรต่างๆก็แล้วแต่นะครับ
00:40:54 → 00:40:57 เนาะแล้วก็ไม่รู้สึกแบบรู้สึกเคลียรอ่อน
00:40:57 → 00:41:00 ล้าตลอดเวลาไม่รู้สึกสดชื่นเลยแล้วถ้า
00:41:00 → 00:41:03 อย่างเงี้ควรจะไปพบแพทย์อืมถ้าคุณมีอาการ
00:41:03 → 00:41:05 พวกเก็ควรไปพบแพทย์อย่างเมื่อกี้ที่เรา
00:41:05 → 00:41:08 เกิดมาตั้งแต่แรกมันมีวิธีการตรวจว่าคุณ
00:41:08 → 00:41:11 มีอาการเหนื่อยเพลียอ่อนล้าพวกนี้ก็คือ
00:41:11 → 00:41:12 ตรวจฮอร์โมนความเครียดใช่่มั้ยคะฮอรโมน
00:41:12 → 00:41:14 ความเครียดก็คือเหมือนเมื่อกี้คิซอ่ะครับ
00:41:14 → 00:41:16 เนาะพวกเนี้มันสามารถตรวจจากเลือดได้นะ
00:41:16 → 00:41:18 ครับเนาะคือมันสามารถบอกระยะได้เลยว่าคุณ
00:41:19 → 00:41:22 เนี่ยอยู่ในระยะไหน 1 2 หรือ 3 หรือเรา
00:41:22 → 00:41:25 เรียกว่าภาวะหมดไฟนั่นเองต่อหมวกไตที่มัน
00:41:25 → 00:41:28 ล้ามมากจากการภาวะสะสมความเครียดนะครับ
00:41:28 → 00:41:30 เนาะพอตรวจเลือดออกมาเนี่ยที่จริงหมอก็
00:41:30 → 00:41:32 สามารถดูได้เลยเออมันเครียดจริงๆนะร่าง
00:41:32 → 00:41:35 กายคุณน่ะมันเริ่มจะไม่ไหวแล้วนะแล้วคุณ
00:41:35 → 00:41:38 ก็ควรเรียบรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดความ
00:41:38 → 00:41:41 เครียดนั้นครับก็แปลว่าในเคสนี้เนี่ยสิ่ง
00:41:41 → 00:41:44 ที่คุณทรายกังวลเนี่ยไม่ได้กังวลเกินจริง
00:41:44 → 00:41:47 ก็คือสามารถเส้นเลือดตีบแตกได้เลยแล้วก็
00:41:47 → 00:41:49 ไม่ควรปล่อยไว้ควรรีบไปพบแพทย์นะคะแล้วก็
00:41:49 → 00:41:51 วินิจฉัยว่าเอ้ยเป็นอะไรกันแน่ฮอร์โมน
00:41:51 → 00:41:54 ปกติหรือเปล่าฮอร์โมนความเครียดมากไปไหม
00:41:54 → 00:41:58 แล้วก็โรคที่ทำงานจนตายเนี่ยค่ะก็คือว่า
00:41:58 → 00:42:00 เป็นไปได้เหมือนกันเหมือกันแต่อยากรู้
00:42:00 → 00:42:02 อยากเข้าใจจังเลยเวลาบอกว่าทำงานจนตาย
00:42:02 → 00:42:06 เนี่ยมันคือมันคือช็อกหรือว่ามันคืออยู่
00:42:06 → 00:42:07 ดีๆหัว
00:42:07 → 00:42:10 ใจคืออย่างที่เมื่อกี้บอกไปคชิมากที่สุด
00:42:10 → 00:42:12 คือเรื่องของโรคหัวใจแล้วต่อมาคือโรคสมอง
00:42:12 → 00:42:14 เพราะฉะนั้นเนี่ยบางคนก็หัวใจจหยุดเต้น
00:42:14 → 00:42:17 เลยเพราะมัน 42% น่ะที่คนที่เจอในคนที่
00:42:17 → 00:42:19 วัยทำงานทำงานมากเกินไปอ๋ว่าคำว่าทำงานจน
00:42:19 → 00:42:22 ตายหมายความว่าอยู่ๆหัวใจหยุดเต้นหรือ
00:42:22 → 00:42:25 อยู่ๆสมองหยุดทำงานไปเลยห้มันไม่ไหวแล้ว
00:42:25 → 00:42:28 แล้วทีนี้วิธีการตรวจนอกจากตรวจฮอร์โมน
00:42:28 → 00:42:30 คอร์ติซอลมีสามารถตรวจอะไรได้อีกมมคะที่
00:42:30 → 00:42:33 เกี่ยวกับความเครียดภายในร่างกายที่จริง
00:42:33 → 00:42:34 พูดถึงเรื่องของความเครียดในร่างกาย
00:42:34 → 00:42:36 เรื่องอ่ะอย่างหนึ่งคือเรื่องของฮอร์โมน
00:42:36 → 00:42:38 เนาะฮอร์โมนคอร์ติซอลเมื่อกี้นะครับเนาะ
00:42:38 → 00:42:40 อีกอันนึงที่เราสามารถดูได้ก็คือเรื่อง
00:42:40 → 00:42:43 ของสารสืบประสาทในสมองนะครับเนาะว่าสารสิ
00:42:43 → 00:42:45 ประสาทในสมองเนี่ยเรื่องโดพามีนเซโรโทนิน
00:42:46 → 00:42:50 พวกอ่าเมื่อกี้เอ่อแนีนะครับเนาะมันคือ
00:42:50 → 00:42:53 ว่าจริงๆแล้วมันจะมีสารสารสืบประสาทอยู่ 3
00:42:53 → 00:42:56 ตัวใช่มั้ยคะที่มันจะที่ตรวจได้มันเกี่ยว
00:42:56 → 00:42:58 กับความสุขเก
00:42:58 → 00:43:00 ความเครียดการเอาตัวรอดนะครับเนาะแล้วก็
00:43:00 → 00:43:02 เรื่องของการนอนครับเซโรโทนินครับสารแห่ง
00:43:02 → 00:43:04 การนอนพวกเมันสามารถตรวจได้เหมือนกัน
00:43:04 → 00:43:06 สามารถดูว่าเลเวลเราปกติไมนะคะถ้าไม่ปกติ
00:43:06 → 00:43:08 ก็จะได้ปรับเปลี่ยนได้ตามนั้นแต่สิ่ง
00:43:08 → 00:43:10 สำคัญที่สุดคือเรื่องของความเครียดคือคุณ
00:43:10 → 00:43:13 ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอืหมออจะให้ยาไป
00:43:14 → 00:43:17 ขนาดไหนจะจะทรีทเมนจะรักษายังไงก็แล้วแต่
00:43:17 → 00:43:19 ถ้าคุณไม่ยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็ไม่หาย
00:43:19 → 00:43:21 ก็ไม่หายอยู่ดีครับอันดับ 1 ต้องคือการ
00:43:21 → 00:43:24 นอนมยคะหมออัน 1 คือลดการงานครับลดงาน
00:43:24 → 00:43:27 ก่อนลดงานคือคุณก็จัดการเวลาให้มันดีมาก
00:43:27 → 00:43:29 ยิ่งขึ้นและคุณต้องมีเวลาให้กับตัวเองทุก
00:43:29 → 00:43:32 วันหมายความว่าวันเนี้ยบางคนคิดเ้ยไม่
00:43:32 → 00:43:35 เป็นไรทำงาน 5 วันลวดเลยไปพักผ่อนเสาร์
00:43:35 → 00:43:36 อาทิตย์
00:43:36 → 00:43:40 เนี่ยเนี่ยๆก็คือทำงานเราพักพักแค่วัน
00:43:40 → 00:43:44 อาทิตย์ค่ะวันอาทิตย์ที่เมื่อวานก็ไม่ได้
00:43:44 → 00:43:47 พก็คือต้องต้องมีงน้อยจะมีเวลาให้กับตัว
00:43:47 → 00:43:50 เองนะครับให้กับตัวเองให้กับครอบครัวให้
00:43:50 → 00:43:53 กับคนรักของคุณนะครับเนาะคือสมมุติอ่ะคุณ
00:43:53 → 00:43:55 ทำงานมาทั้งวันแล้วพอกลับไปถึงบ้านปึ๊บ
00:43:55 → 00:43:58 คุณก็ต้องรู้จักคำว่าปล่อยวางแล้วก็ให้
00:43:58 → 00:44:00 เวลากับตัวเองให้เวลาบอันนี้หมอสอนอยู่
00:44:00 → 00:44:03 เลยให้เวลากับตัวเองเช่นนั่งสมาธิออก
00:44:03 → 00:44:07 กำลังกายทำที่ทำงานอดิเรกที่คุณชอบสัก 1
00:44:07 → 00:44:09 ชั่วโมงสัก 1 ชั่วโมงอย่างเงี้ยแล้วก็
00:44:09 → 00:44:12 ต้องพักผ่อนให้เพียงพอสิ่งที่สำคัญนะครับ
00:44:12 → 00:44:15 อันนี้เขาก็ถามมานะคะคุณรายว่าอาหารเสริม
00:44:15 → 00:44:18 หรือว่าวิตามินอะไรตัวไหนที่สามารถช่วย
00:44:18 → 00:44:20 คลายความเครียดได้มั้คะคือปัจจุบันมันก็
00:44:20 → 00:44:23 มีทั้ง้าพูดถึงเรื่องของความเครียดอ่ะ
00:44:23 → 00:44:25 ครับมันก็จะมีเรื่องของวิตามินและ่ธาตุ
00:44:25 → 00:44:27 ที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อผ่อนคลายความ
00:44:27 → 00:44:29 เครียดและอีกอันนึงก็คือเรื่องของสมุนไพร
00:44:29 → 00:44:31 ละกันนะครับเนาะเรื่องของวิตามินนะครับ
00:44:31 → 00:44:33 เนาะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทาน
00:44:33 → 00:44:36 แมกนีเซียมนะครับเนาะที่ไปช่วยผ่อนคลาย
00:44:36 → 00:44:38 กล้ามเนื้อผ่อนคลายสมองเวลาที่เรานอนดี
00:44:38 → 00:44:41 มากยิ่งขึ้นนะครับเนาะอ่าตัวต่อมาคือ
00:44:41 → 00:44:44 เรียกว่ากรดอะมิโนไลซีนนะครับเนาะไลซีนก็
00:44:44 → 00:44:47 เป็นตัวที่ไปช่วยสารสื่อประสาทในสมองผลิต
00:44:47 → 00:44:51 กาบ้ามากขึ้นทำให้เราผ่อนคลายนอนหลผลกาบบ
00:44:51 → 00:44:54 ไม่บ้าครับกาบ้าคือเป็นสารสึสาที่อยู่ใน
00:44:54 → 00:44:56 สมองของเราทำให้เรานอนหลับฝันดีมากยิ่ง
00:44:56 → 00:44:58 ขึ้นก็คือกาบ้าเป็นสิ่งที่ดีเป็นสิ่งที่
00:44:58 → 00:45:00 ดีนะครับเนาะอีกอันนึงก็อย่างเช่นการทาน
00:45:00 → 00:45:03 เิ่เมลาโทนินนะครับเนาะเมลาโทนินก็เป็น
00:45:03 → 00:45:05 ฮอร์โมนที่ลดความเครียดตอนที่เรานอนนะ
00:45:06 → 00:45:08 ครับปรับเรื่องของความสมดุลการนอนให้ดี
00:45:08 → 00:45:10 มากขึ้นเพิ่มระบบพุมคุ้มกันในร่างกายอ่ะ
00:45:10 → 00:45:13 เมื่อกี้เคสมาบอกว่าเริ่มแบบเริ่มระบบ
00:45:13 → 00:45:16 ภูมิคุ้มกันไม่ดีเริ่มเป็นสุขภาพภูมิแพ้
00:45:16 → 00:45:18 มากขึ้นอ่ะเพราะคุณไม่ได้นอนภูมิแพ้คุณก็
00:45:18 → 00:45:20 สูงมากยิ่งขึ้นเพราะระบบภูมิคุ้มกันคุณ
00:45:20 → 00:45:22 เจ๋งนั่นเองนะครับเนาะคราวนี้เรามาดูด้าน
00:45:22 → 00:45:25 ของสมุนไพรบ้างดีกว่านะครับสมุนไพรที่
00:45:25 → 00:45:27 ช่วยเรื่องของลดความเครียดในในร่างกายและ
00:45:27 → 00:45:30 สมองก็อย่างเช่นโสมไทยนะครับเนาะโสม
00:45:30 → 00:45:32 เกาหลีโสมอินเดียนะครับเนาะและอีกตัวนึง
00:45:32 → 00:45:35 อ่าโสมอินเดียคือเรียกว่าชวาดนะครับเนาะ
00:45:35 → 00:45:37 พวกโสมพวกเยก็สามารถช่วยลดเรื่องของความ
00:45:37 → 00:45:40 เครียดในร่างกายได้แต่สุดท้ายการกิน
00:45:40 → 00:45:43 สมุนไพรนะครับเนาะก็ต้องระมัดระวังหนงนึง
00:45:43 → 00:45:45 เพราะว่ามันทำให้อาจจะเกิดปฏิกิริยาหรืออ
00:45:45 → 00:45:47 การแพ้ก็ได้นะครับก็ควรไปปรึกษาแพทย์ครับ
00:45:47 → 00:45:50 พวกโสมเนี่ยสามารถหาซื้อเองได้ใช่มั้ยคะ
00:45:50 → 00:45:52 ได้ครับแต่ว่าพวกอาหารเสริมที่หมอแนะนำมา
00:45:52 → 00:45:55 ทั้ง 3 ตัวนี้อ่าเมลานีนไลซีนพวกนี้ก็ที่
00:45:55 → 00:45:57 จริงสามารถหาได้เหมือนกันนะครับซื้อได้
00:45:57 → 00:45:59 เหมือนกันใช่ครับแต่แต่ละคนไม่เหมือนกัน
00:45:59 → 00:46:02 นะครับต้องบอกไว้ก่อนเลเวลที่ต้องกินหรือ
00:46:02 → 00:46:05 ว่าตัวนี้เหมาะกับคุณหรือเปล่าอันนี้ก็
00:46:05 → 00:46:07 ต้องไปปรึกษาแพทย์นะครับอืเพราะว่าบางคน
00:46:07 → 00:46:10 อาจจะต้องกินกี่มีลกรรมบางคนอาจจะต้อง
00:46:10 → 00:46:13 พิจารณาถึงน้ำหนักตัวหรือว่าโรคประจำตัว
00:46:13 → 00:46:15 ด้วยใช่มั้ยคะแต่การก่อนที่จะคุณจะไปกิน
00:46:15 → 00:46:17 พวกอย่างวิตามินพวกเยครับสิ่งสำคัญคือไม่
00:46:17 → 00:46:20 ใช่กินแต่วิตามินแต่คุณอาหารยังกินแย่ๆ
00:46:20 → 00:46:22 มันก็ไม่มีประโยชน์สำคที่สุดคืออาหาร
00:46:22 → 00:46:24 อาหารก่อนปรับเปลี่ยนอาหารให้ดีขึ้นก่อน
00:46:24 → 00:46:27 นะครับเนาะเพราะเพราะว่าวิตามินกับแลธาตุ
00:46:27 → 00:46:29 พวกเยจริงๆเราสามารถเจออยู่ในอาหารอยู่
00:46:29 → 00:46:32 แล้วแค่คุณไปปรับเปลี่ยนอาหารให้มันดีมาก
00:46:32 → 00:46:35 ยิ่งขึ้นอย่างเช่นเมื่อกี้บอกว่าเรื่อง
00:46:35 → 00:46:38 ของการนอนะกันอยากไปเสริมเรื่องของกาบ้า
00:46:38 → 00:46:40 เรื่องเมลาโทนินให้ดีขึ้นกิน dar
00:46:40 → 00:46:45 ช็อกโกแลตอือืเนาะกินกล้วยผลไม้กีวี่นะ
00:46:45 → 00:46:48 ครับเนาะพวกเนี้ยมันก็มีสารที่ไปส่งเสริม
00:46:48 → 00:46:50 เซโรโทนินในร่างกายทำให้เรานอนหลับดีมาก
00:46:51 → 00:46:54 ขึ้นครับหรือว่านม 1 กล่องนมแอลมอนพวก
00:46:54 → 00:46:57 เนี้ยนะครับก็ช่วยเหมือนกันครับก็แปลว่า
00:46:57 → 00:47:00 ว่าเคสคุณทรายเนี่ยไม่ได้วิตกกังวลมาก
00:47:00 → 00:47:04 เกินไปเคสนี้ค่อนข้างหนักจริงๆควรรีบไปพบ
00:47:04 → 00:47:06 แพทย์เพื่อให้ดูว่าระบบระดับของความ
00:47:06 → 00:47:08 เครียดของเราอ่ะมันเกินไปมากหรือเปล่า
00:47:08 → 00:47:10 แล้วมันเสี่ยงต่อการที่เราจะมีโรคเส้น
00:47:10 → 00:47:12 เลือกสมองต่างๆหรือเปล่าเนาะแล้วก็พยายาม
00:47:12 → 00:47:15 ปรับเปลี่ยนคือ work Life Balance ให้
00:47:15 → 00:47:17 ได้มากกว่านี้นอนหลับให้ได้มากกว่านี้หา
00:47:17 → 00:47:20 กิจกรรมให้ทำเนาะอาจจะกิจกรรมทำร่วมกัน
00:47:20 → 00:47:24 ด้วยเนาะจะได้ลดลดการปะทะกันนะคะแล้วก็
00:47:24 → 00:47:27 กินอาหารให้ดีขึ้นเนาะแต่ว่าก็ต้องรีบจัด
00:47:27 → 00:47:29 การเนาะไม่งั้นมันก็อาจจะมันเกิดได้ทุก
00:47:29 → 00:47:30 เวลาใช่เพราะบางทีถ้าไปแล้วมันไปแล้วมัน
00:47:31 → 00:47:33 ไม่มีไซนเหมือนที่หมอบอกอยู่ดีๆปึ๊บใช่
00:47:33 → 00:47:37 ปึ๊บไปเลยอย่างงี้แล้วก็แก้ไม่ทันวันนี้
00:47:37 → 00:47:41 สนุกมากค่ะหมอสนุกมยสนุกคุยเคสสนุกกว่า
00:47:41 → 00:47:44 ให้ความรู้อีกจริงเหรออ่ะวันนี้ก็รู้สึก
00:47:44 → 00:47:46 เป็นประโยชน์มากนะคะแล้วก็ขอบคุณมากๆเลย
00:47:46 → 00:47:49 นะคะที่มาให้ความรู้แล้วก็ละเอียดมากๆ
00:47:49 → 00:47:52 จริงๆเมื่อกี้จดแทบไม่ทันเลยนะคะแล้วก็
00:47:52 → 00:47:54 เดี๋ยวไว้โอกาสหน้าจะเชิญมาตอบคำถามใหม่
00:47:54 → 00:47:56 นะคะได้เลยเอาเคสสนุกๆนะครับได้เลยค่ะค่ะ
00:47:56 → 00:47:59 เดี๋ยวจัดมาให้นะคะทุกคนก็สามารถเขียนเคส
00:47:59 → 00:48:02 เข้ามาได้เลยนะคะในลิงก์ทางด้านล่างใน
00:48:02 → 00:48:04 แคปชั่นนะคะจะมีลิงก์อยู่สามารถกดเข้ามา
00:48:04 → 00:48:06 หรือจะสแกน QR Code นะคะแล้วก็เขียน
00:48:07 → 00:48:09 เรื่องราวมาด้วยก็ได้นะคะที่สำคัญขอให้
00:48:09 → 00:48:11 เพิ่มรายละเอียดมากที่สุดนะคะอย่างเมื่อ
00:48:11 → 00:48:14 กี้เนาะคุณหมอก็จะมีบางประเด็นที่ยังตอบ
00:48:14 → 00:48:16 ไม่ได้อย่างเช่นเอ๊เคออกกำลังกายยังไงออก
00:48:16 → 00:48:18 กำลังกายหรหรือเปล่าวิธีการกินยังไงถ้า
00:48:18 → 00:48:21 เรารู้รายละเอียดของคนไข้มากที่สุดก็จะทำ
00:48:21 → 00:48:23 ให้เราวินิจฉัยหรือว่าตอบคำถามได้อย่าง
00:48:23 → 00:48:26 แม่นยำที่สุดนะคะแล้วก็อย่าลืมกดไลค์กด
00:48:27 → 00:48:29 แชร์กด Subscribe แล้วก็คอมเมนต์กันเข้า
00:48:29 → 00:48:31 มาได้เยอะๆเลยนะคะเพื่อเป็นกำลังใจกับเจน
00:48:31 → 00:48:34 แล้วก็แพทย์ทุกๆคนที่จะเข้ามาตอบคำถามใน
00:48:34 → 00:48:37 EP ต่อๆไปนะคะแล้วพบกันใหม่ใน EP หน้า
00:48:37 → 00:48:41 สวัสดีค่ะสวัสดีครับ
00:00:00 → 00:00:01 เจ็บเหมือนถูก
00:00:01 → 00:00:04 แทงอาการปวดท้องมากๆที่ผมเป็นอยู่เนี่ย
00:00:04 → 00:00:07 เป็นเพราะอะไรกันแน่โรคกระเพาะก็ไม่ใช่
00:00:07 → 00:00:10 สูบ 1 พอตหรือ 1 หัวเนี่ยเท่ากับคุณสู่
00:00:10 → 00:00:14 บุหรี่ทั่วไป 50 มวลนะ 50 50 มวลโรคปอด
00:00:14 → 00:00:17 อักเสบแบบรุนแรงเจอในเฉพาะคนที่สูบพอต
00:00:17 → 00:00:21 ด้วยปีนึงเนี่ยจะมีคนตายจากการทำงานมากจน
00:00:21 → 00:00:25 เกินไปปีละ 700,000 คนอทำงานอย่างเดียว
00:00:25 → 00:00:28 ไม่มีเวลาพักผ่อนการที่มีความเครียดสะสม
00:00:28 → 00:00:30 มากๆมีความเสียงที่จะเป็นโรคหหัวใจและโรค
00:00:30 → 00:00:34 ของสมองก็แปลว่าเราสามารถเครียดมากๆจน
00:00:34 → 00:00:36 เส้นเลือดสมองแตกเป็นความจริงเกิดขึ้นได้
00:00:36 → 00:00:39 เกิดขึ้นได้แล้วเราจะรู้ได้ยังไงอ่ะคะว่า
00:00:39 → 00:00:41 เราเข้าสู่ขั้นวิกฤตพวกเนี้ยก็คือจะไม่มี
00:00:41 → 00:00:45 สัญญาณมาก่อนก็คืออยู่ดีๆปึบหนูทำงานแบบ
00:00:45 → 00:00:47 work from home ค่ะทำงานจนถึง 3:00 น
00:00:47 → 00:00:49 4:00 นหนูไม่ได้ออกกำลังกายเลยค่ะจนน้ำ
00:00:50 → 00:00:52 หนักตัวตอนนี้ขึ้นเป็น 10 โหนูรู้สึกไม่
00:00:52 → 00:00:54 ค่อยมีอารมณ์ทางเพศเลยค่ะหนูก็เลยอยากจะ
00:00:54 → 00:00:57 แก้ไขเรื่องนี้และอยากมีอารมณ์ทางเพศได้
00:00:57 → 00:01:01 เหมือนคนอื่นๆควรแก้ไขยังไงดีคะคุณภาวะบก
00:01:01 → 00:01:03 พร่องความต้องการทางเพศในผู้หญิงรู้มว่า
00:01:03 → 00:01:06 คนไทยเนี่ยในผู้หญิงเนาะภาวะเนี้เจอได้
00:01:06 → 00:01:09 กี่เปอร์เซ็นต์โหดาไม่ถูกเลยอ่ะ 40% ครับ
00:01:09 → 00:01:11 อุเกือบเกือบครึ่งเลยหรอคะเกือบครึ่งของ
00:01:11 → 00:01:14 ประเทศนิ่งเลยถือศีเลยผู้ชายเนี่ยยังมี
00:01:14 → 00:01:17 วาก้าเลยแล้วผู้หญิงเนี่ยมีอะไรช่วย
00:01:17 → 00:01:20 กระตุ้นได้บ้างคะอันนี้ก็ของผู้หญิงก็มี
00:01:20 → 00:01:21 เหมือนกันนะครับ 1 ก็
00:01:22 → 00:01:25 คือสวัสดีค่ะยินดีต้อนรับเข้าสู่ AR
00:01:25 → 00:01:27 Doctor podcast ที่จะพาคุณไปพบแพทย์
00:01:27 → 00:01:30 เพื่อถามคำถามสุขภาพอยู่กับรติพันธ์พัน
00:01:30 → 00:01:33 พินิจเจนค่ะใครหลายๆคนที่เข้ามาเจอคลิป
00:01:33 → 00:01:37 นี้นะคะน่าจะคุ้นเคยกับ Doctor Talk
00:01:37 → 00:01:39 podcast นะคะดำเนินโดยคุณหมอจิมมี่และ
00:01:39 → 00:01:42 คุณหมอเอมมี่นะคะที่จะผลัดกันพูดคุยกับ
00:01:42 → 00:01:45 แพทย์และผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพนะคะจะ
00:01:45 → 00:01:47 พูดประเด็นไม่ว่าจะเป็นเรื่องมะเร็งนะคะ
00:01:47 → 00:01:50 วิตามินอาหารเสริมวิธีการลดน้ำหนักวิธี
00:01:50 → 00:01:53 ปัญหาการนอนนะคะแล้วก็ในทุกๆคลิปเนี่ยจะ
00:01:53 → 00:01:56 มีคำถามเข้ามามากมายทีนี้เราก็เลยตั้งใจ
00:01:57 → 00:01:59 ทำ podcast ask Doctor อันนี้ขึ้นมานะ
00:01:59 → 00:02:01 คะเพื่อเพื่อตอบคำถามเหล่านั้นโดยเฉพาะ
00:02:01 → 00:02:04 เลยค่ะในทุกวันนี้นะคะมีข้อมูลมากมายอาจ
00:02:04 → 00:02:07 จะมีข้อมูลที่เชื่อถือได้บ้างไม่ได้บ้าง
00:02:07 → 00:02:09 นะคะแล้วก็การเข้าถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
00:02:10 → 00:02:12 อาจจะเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลายๆคนเจ
00:02:12 → 00:02:15 เลยก็จะเป็นตัวแทนสำหรับทุกคนนะคะเพื่อ
00:02:15 → 00:02:17 ที่จะถามคำถามให้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
00:02:17 → 00:02:20 เฉพาะทางจะได้รับคำตอบที่ถูกต้องแม่นยำ
00:02:20 → 00:02:23 แล้วก็ปลอดภัยสำหรับผู้ถามแล้วก็คนอื่นๆ
00:02:23 → 00:02:26 ที่กำลังชมคลิปแล้วก็มีปัญหาที่คล้ายคลึง
00:02:26 → 00:02:29 กันค่ะและใน EP นี้เราได้รวบรวมปัญหา
00:02:29 → 00:02:32 สุขภาพของคนเมืองในแง่มุมต่างๆมาถามคุณ
00:02:32 → 00:02:35 หมอค่ะเพื่อประเดิม EP แรกต้องเป็นหมอคน
00:02:35 → 00:02:37 นี้เท่านั้นค่ะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทาง
00:02:37 → 00:02:39 ด้านเวชศาสตร์ป้องกันนะคะมีความถนัดในการ
00:02:39 → 00:02:42 ดูแลคนไข้ผ่านไสล์ Medicine หรือว่าการ
00:02:42 → 00:02:45 ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ดูแลคนไข้มากมายค่ะ
00:02:45 → 00:02:47 ไม่ว่าจะเป็นคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องการขับ
00:02:47 → 00:02:50 ถ่ายเรื่องฮอร์โมนนะคะเรื่องฟทีเหนื่อย
00:02:50 → 00:02:53 ล้านะคะเรื่องการเพิ่มกล้ามเนื้อลดน้ำ
00:02:53 → 00:02:56 หนักและอีกมากมายเลยค่ะขอเรียนเชิญหมอ
00:02:56 → 00:03:00 จิมมี่ค่ะสวัสดีค่ะวันนี้เป็นยังไงบ้างคะ
00:03:00 → 00:03:02 มาเป็นแขกรับเชิญดีใจจมากไม่เหนื่อยเลย
00:03:02 → 00:03:04 ไม่เหนื่อยเลยเดี๋ยวๆไม่เริ่มอาจจะ
00:03:05 → 00:03:08 เหนื่อยก็ได้อ่ะโอเคโอเวันนี้ปกติจะในดอก
00:03:08 → 00:03:09 Talk เนี่ยหมอก็จะคุยกับหมอๆกันเองเนาะ
00:03:09 → 00:03:12 ใช่ความรู้มันจะเยอะมากแน่นมากแน่นอย่าง
00:03:12 → 00:03:14 เงี้ดีกว่าแต่วันนี้คือคุยกับชาวบ้านเอ
00:03:14 → 00:03:17 ชาวบ้านเหมือนที่เราทำทุกวันอยู่แล้วอ๋อ
00:03:17 → 00:03:19 โอเคค่ะอ่ะเดี๋ยวขอให้แนะนำตัวนิดนึงได้
00:03:19 → 00:03:22 มั้ยคะหมจิได้ครับสวัสดีครับหมอจิมมี่นะ
00:03:22 → 00:03:25 ครับนายแพทย์สุทธิพจน์พัทรมลการผู้เชี่ยว
00:03:25 → 00:03:27 ชาญทางด้านวิทยาศาสตร์ป้องกันปัจจุบันหมอ
00:03:27 → 00:03:30 ทำงานอยู่ที่คลินิกณเวลาครับหมอก็ชำนาญ
00:03:30 → 00:03:32 ทางด้านการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การดูแล
00:03:32 → 00:03:34 เรื่องของการลดน้ำหนักเพิ่มกล้ามเนื้อ
00:03:34 → 00:03:37 เรื่องระบบการขับถ่ายและด้านฮอร์โมนครับ
00:03:37 → 00:03:39 เรื่องแรกนะคะเกี่ยวกับอาการปวดท้องที่
00:03:39 → 00:03:43 เจ็บเขาใช้คำว่าเจ็บเหมือนถูกแทงอือแล้ว
00:03:43 → 00:03:45 ก็หาสาเหตุไม่เจอตอนแรกคิดว่าเป็นโรค
00:03:45 → 00:03:47 กระเพาะแต่ก็ไม่ใช่นะคะก็เลยส่งคำถามมา
00:03:47 → 00:03:51 ถามคุณหมอค่ะเรื่องนี้นะคะเป็นเรื่องของ
00:03:51 → 00:03:54 สถาปนิกคนนึงนามสมมุติว่าคุณแมนอายุ 35
00:03:54 → 00:03:58 ปีทำงานหนักมากนะคะนอนดึกเป็นประจำโดย
00:03:58 → 00:04:01 ปกติเนี่ยจะเข้านอนประมาณ 2:00 นเกือบทุก
00:04:01 → 00:04:03 คืนเลยนอกจากจะทำงานหนักแล้วเนี่ยยังชอบ
00:04:03 → 00:04:06 เล่นเกมก็คือบางทีเนี่ยเสร็จงานแล้วก็อาจ
00:04:06 → 00:04:11 จะประมาณ 43 นก็ยังเอ้อยังไม่ง่วงอยากรีก
00:04:11 → 00:04:14 พักผ่อนสักหน่อยด้วยการเล่นเกมแล้วสุด
00:04:14 → 00:04:17 ท้ายก็จบที่ 2:00 นอยู่บ่อยๆแล้วคุณแมน
00:04:17 → 00:04:21 เนี่ยก็เป็นคนที่ดูดพอตบ่อยมากๆติดเลยก็
00:04:21 → 00:04:24 ว่าได้นะคะจะต้องดูดอย่างน้อยวันละ 1-2
00:04:24 → 00:04:27 หัวทุกวันเนี่ยทำอย่างเงี้ยมาประมาณ 3 ปี
00:04:27 → 00:04:30 และเมื่อต้นปีที่ผ่านมารู้สึกปวดท้อง
00:04:30 → 00:04:33 เหมือนถูกแทงสังเกตว่าหัวใจเริ่มเต้นเร็ว
00:04:33 → 00:04:36 กว่าปกติและเริ่มมีผืนขึ้นที่แขนช่วง
00:04:36 → 00:04:38 เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก็เลยไปหาคุณหมอ
00:04:38 → 00:04:40 เพราะปวดท้องแบบไม่ไหวแล้วคุณหมอบอกว่า
00:04:40 → 00:04:43 เป็นโรคกระเพาะเพราะว่ากินอาหารไม่เป็น
00:04:43 → 00:04:46 เวลาก็เลยรับยาแล้วก็ดีขึ้นอาการปวดท้อง
00:04:46 → 00:04:49 ลดลงแล้วก็เริ่มรู้สึกว่าหัวใจเริ่มกลับ
00:04:49 → 00:04:52 มาเต้นเป็นปกติแต่พอผ่านไปไม่นานประมาณ 2
00:04:52 → 00:04:54 เดือนอาการทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือน
00:04:54 → 00:04:57 เดิมเลยทั้งที่ปรับเปลี่ยนวิธีการกินแล้ว
00:04:57 → 00:04:59 เลยคิดว่าน่าจะเป็นเพราะการดูดพอตหรือ
00:04:59 → 00:05:02 เปล่าทีนี้ก็เลยกลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อ
00:05:02 → 00:05:06 ไปเซเรย์ก็ไม่เจออะไรเลยค่ะทุกอย่างปกติ
00:05:06 → 00:05:09 ดีตอนนี้ผมเลยสงสัยว่าอาการปวดท้องมากๆ
00:05:09 → 00:05:11 ที่ผมเป็นอยู่เนี่ยเป็นเพราะอะไรกันแน่
00:05:11 → 00:05:14 โรคกระเพาะก็ไม่ใช่เลยคิดว่าน่าจะเป็นพอต
00:05:14 → 00:05:17 แต่การดูดพอตน่าจะส่งผลต่อปอดหรือเปล่า
00:05:17 → 00:05:19 ไม่น่าเกี่ยวกับกระเพาะมยหมอช่วยแนะนำได้
00:05:20 → 00:05:22 ไมครับว่าอาการเนี้ยเกิดขึ้นจากอะไรกัน
00:05:22 → 00:05:24 แน่แล้วควรรักษายังไงครับตอนแรกเนี่ยเรา
00:05:24 → 00:05:26 ต้องมาดูก่อนๆเรื่องของพฤติกรรมของคนไข้
00:05:26 → 00:05:30 คนนี้เ้าเป็นผู้ชายอายุ 32 ปีอ 35 อ่ะ 35
00:05:30 → 00:05:33 ปีแล้วก็ทำอาชีพเป็นนักสถาปนิกสถาปนิกนะ
00:05:33 → 00:05:36 ครับ 1 ก็คืออ่ะผู้ชายอายุ 35 ปีทำงานอาจ
00:05:36 → 00:05:39 จะนั่งโต๊ะตลอดเวลาถูกมั้ยอยู่หน้าคอม
00:05:39 → 00:05:41 ตลอดเวลาไม่ค่อยขยับเขยื้อนเท่าไหร่เพราะ
00:05:41 → 00:05:43 ฉะนั้นไม่รู้ว่าออกกำลังกายหรือเปล่าอัน
00:05:43 → 00:05:47 ที่ 3 นอนดึก 2 3 ถึงแม้ว่าคนไข้เนี่ยมี
00:05:47 → 00:05:50 การพักผ่อนเล่นเกมเนาะแต่เคติดนิสัย
00:05:50 → 00:05:52 เรื่องของการนอนดึกไม่รู้ว่าตื่นกี่โมง
00:05:52 → 00:05:54 พักผ่อนเพียงพอหรือเปล่านะครับเคยโดน
00:05:54 → 00:05:57 วินิจฉัยว่าเป็นโรคกระเพาะแล้วได้ยามากิน
00:05:57 → 00:05:59 และได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเรื่องของ
00:05:59 → 00:06:02 การกินแต่ก็ยังมีอาการปวดท้องอยู่คราวนี้
00:06:02 → 00:06:04 อันสุดท้ายเนี่ยสำคัญมากก็คือเรื่องการ
00:06:04 → 00:06:07 supp หรือ eet คือบุหรี่ไฟฟ้านั่นเอง
00:06:07 → 00:06:09 คราวนี้เราต้องมาเข้าใจก่อนว่าบุหรี่ไฟ
00:06:09 → 00:06:12 ฟ้าคืออะไรหลายคนอาจจะบอกว่าเฮ้ยสูบ
00:06:12 → 00:06:15 บุหรี่ไฟฟ้าดีกว่าสูบบุหรี่ปกติทั่วไปมัน
00:06:15 → 00:06:18 น่าจะซเออเพราะว่าเพราะว่าบุหรี่ทั่วไป
00:06:18 → 00:06:20 มันมีมานานแล้วมันมีมาหลาย10บปีแล้วแล้ว
00:06:20 → 00:06:23 มันเพิ่งมีบุหรี่ไฟฟ้ามันไม่ันนหลายคนอาจ
00:06:23 → 00:06:26 จะคิดว่าเฮ้ยเลิกสู่บุหรี่มาสู่บุหรี่ไฟ
00:06:26 → 00:06:29 ฟ้าดีกว่าให้มันปลอดภัยกว่าแต่จริงๆแล้ว
00:06:29 → 00:06:31 ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่แบบไหนก็แล้วแต่จะไฟ
00:06:31 → 00:06:34 ฟ้าหรือแบบทั่วๆไปก็มีอันตรายในร่างกาย
00:06:34 → 00:06:38 เหมือนกันอืออย่างแรกเลยทำไมเขาบอกว่า
00:06:38 → 00:06:40 บุหรี่ถึงติดเพราะมันมีสารอะไรครับ
00:06:40 → 00:06:42 นิโคตินถูกต้องนิโคตินมันอยู่ในนั้น
00:06:43 → 00:06:44 นิโคตินมันทำให้เกิดอะไรขึ้นเวลาเราสูบ
00:06:45 → 00:06:47 มันทำให้ติดแล้วรู้สึกสูบแล้วยิ่งทำอยาก
00:06:47 → 00:06:49 สูบอีกอ่าเวลาที่เราสูบนิโคตินเข้าไปใน
00:06:49 → 00:06:52 ร่างกายถูกมั้ยครับสารนิโคตินเนี่ยมันจะ
00:06:52 → 00:06:55 ทำให้เลือดสูบฉีดไปที่สมองทำให้เรามีการ
00:06:55 → 00:06:58 ตื่นตัวรู้สึกเฟรชรู้สึกเฮ้ยรู้สึกสดชื่น
00:06:58 → 00:07:01 มากขึ้นแล้วในสมองของเราก็จะมีสารอีกตัว
00:07:01 → 00:07:03 นึงในประสาทของเราอ่ะครับเรียกว่าโดปามีน
00:07:03 → 00:07:07 ทำให้รู้สึกฟินรู้สึกแฮปปี้รู้สึกใจดีใจ
00:07:07 → 00:07:10 มากขึ้นแล้วเราก็หยุดสูบแต่เนี่ยบุหรี่ 1
00:07:10 → 00:07:14 มวลมีสารนิโคติน 1 มิลลิกรัมอืเนาะแล้ว 1
00:07:14 → 00:07:18 แพ็คมีกี่มวล 20 มวลแปลว่าถ้าคุณสูบ 20
00:07:18 → 00:07:21 เอ้ยไม่สิ้าคุณสูบสูบ 1 แพกเท่ากับ 20
00:07:21 → 00:07:24 มวลถูกมั้ยครับเรามาดูเรื่องของพอตดีกว่า
00:07:24 → 00:07:27 สูบ 1 พอหรือ 1 หัวเนี่ยเท่ากับคุณสูบ
00:07:27 → 00:07:32 บุหรี่ทั่วไป 50 มมวนะ 50 50 มวลแปลว่า 1
00:07:32 → 00:07:35 1 1 หัวนะ 1 หัวเนี่ยมี 5 เท่ากับคุณสู
00:07:35 → 00:07:38 บุหรี่ทั่วไป 50 มวลเท่ากับ 50 มิลกรัม
00:07:38 → 00:07:42 ของนิโคตินแล้วยิ่งพอร์ตสมัยใหม่มันยิ่ง
00:07:42 → 00:07:44 มากกว่านั้นนะคือหมอก็ไม่รู้ว่าพอร์ตที่
00:07:44 → 00:07:46 เขาสูบเป็นรุ่นไหนเนาะมันเดี๋ยวนี้มันมี
00:07:46 → 00:07:48 พัฒนาการเยอะมากแล้วอย่างงี้มันจะไม่ติด
00:07:48 → 00:07:50 ได้ยังไงเนเออมันไม่ติดได้ไงเพราะว่าคุณ
00:07:50 → 00:07:53 สูบ 1 หัวเท่ากับคุณสูบ 50 มิลลิกรัมอ่ะ
00:07:53 → 00:07:56 มันยิ่งแบบเลือดสูบฉีดปุ้มป้ามขึ้นมาตัว
00:07:56 → 00:07:58 มีนยิ่งแล้วคราเนี้ยเวลาที่เราหยุดสูบอ่ะ
00:07:59 → 00:08:03 ครับสารนิโคตินเริ่มดรอปโดพามีนิ่งดรอปก็
00:08:03 → 00:08:07 เริ่มเหี่ยวไม่มีแรงก็ต้องหยิบขึ้นมาสูบ
00:08:07 → 00:08:10 อีกอย่างคนไข้คนนี้ของเราก็สูบมา 3 ปี
00:08:10 → 00:08:12 แล้วเพราะอันเนี้ยถือว่าเป็น addiction
00:08:12 → 00:08:15 และภาษาอังกฤษก็คือการติดใช่ติดและในสาร
00:08:15 → 00:08:18 เสพติดทั้งหมดที่มีในบนโลกเนี้ยรู้มั้ว่า
00:08:18 → 00:08:21 สารเสพติดอะไรที่ติดคนติดเยอะที่สุด
00:08:21 → 00:08:23 บุหรี่หรือเปล่าก็ถูกต้องนิโคตินคือ
00:08:23 → 00:08:25 อันดับ 1 เลยมากกว่าแอลกอฮอล์มากกว่า
00:08:25 → 00:08:28 โคเคนทุกอย่างเลยนะครับเนาะแล้วคราวนี้
00:08:28 → 00:08:31 เรามาดูกันว่าพอเคสูบเยอะขนาดนี้เนี่ยมัน
00:08:31 → 00:08:34 ส่งผลอะไรต่อร่างกายเราบ้าง 1 ระบบหลอด
00:08:34 → 00:08:36 เลือดและหัวใจอยู่แล้วอันนี้ทุกคนรู้เนาะ
00:08:36 → 00:08:38 ทำให้มันเกิดหลอดเลือดอุดตันทำให้หลอด
00:08:38 → 00:08:41 เลือดตีบมากยิ่งขึ้นอันที่ 2 เรื่องของ
00:08:41 → 00:08:44 ปอดเนาะอ่ามะเร็งปอดเรารณณรงค์มากมาย
00:08:44 → 00:08:47 พอร์ดก็เหมือนกันนะครับการสูดพอร์ตก็ทำ
00:08:47 → 00:08:49 ให้คุณมีเสี่ยงเป็นโรคปเค้าเรียกว่าปอด
00:08:50 → 00:08:54 อักเสบนะครับเนาะหรือภาษาใหม่เรียกว่า evy
00:08:54 → 00:08:58 อ evi EV AI คือโรคปอดอักเสบแบบรุนแรง
00:08:58 → 00:09:00 แบบรุนแรงแบบรุนแรงอันเนี้ยเจอในเฉพาะคน
00:09:00 → 00:09:03 ที่สูบพอตด้วยออเหรอคะอันนี้คือเป็นโรค
00:09:03 → 00:09:05 สำหรับสำหรับโรกพอเลยใช่เป็นรุนแรงแล้วใน
00:09:05 → 00:09:08 เมืองไทยก็เจอแล้วด้วยอืต่อมาก็คือเรื่อง
00:09:08 → 00:09:11 ของสติปัญญาหรือ mental Health นั่นเอง
00:09:11 → 00:09:15 ทำให้ถ้าคุณสูบพอตมากๆเหมือนคุณสืบสืบเสพ
00:09:15 → 00:09:17 สารนเสพติดคุณก็อาจจะมีความเสี่ยงที่เป็น
00:09:17 → 00:09:20 โรคซึมเศร้าโรควิตกกังวลได้ได้ยังไงอ่ะคะ
00:09:20 → 00:09:22 หมอคุณเสพตลอดเวลาแล้วเมื่อไหร่ถ้าคุณไม่
00:09:22 → 00:09:27 เสพหรือทิ้งมันไว้สารในสารสื่อประสาทใน
00:09:27 → 00:09:30 สมองมันเริ่มน้อยลงคุณก็เริ่มมีวิตกกังวล
00:09:30 → 00:09:32 อยากจะเอามาสูบอีกครั้งมันเกี่ยวกับสาร
00:09:32 → 00:09:35 โดปามีนหรือว่าโดพามีนก็คือสารแห่งความ
00:09:35 → 00:09:38 สุขใช่่มั้ยคสุให้เราฟินเหมือนแทุกครั้ง
00:09:38 → 00:09:40 ที่เราสูบเนี่ยมันก็จะเกิดสารนี้ขึ้นมา
00:09:40 → 00:09:42 แล้วเราก็จะแฮปปี้แล้วพอเราวางมันลงสารก็
00:09:42 → 00:09:44 จะลดลงมาแต่ต้องเข้าใจก่อนว่าการที่เรา
00:09:44 → 00:09:47 สูบเนี่ยมันเร่งสารโดพามีนเยอะมากกว่า
00:09:47 → 00:09:50 ปกติที่ร่างกายควรผลิตสมมุติร่างกายแค่
00:09:50 → 00:09:52 ออกกำลังกายมันก็มีผลิตแต่มันผลิตตาม
00:09:52 → 00:09:55 ระดับของร่างกายที่สามารถผลิตได้แต่คุณไป
00:09:55 → 00:09:59 สูบนิโคตินเข้าไปมันเร่งอ่ะเร่งบิดบึม
00:09:59 → 00:10:01 สตาร์ทเรื่อยๆสตารเรยๆเรๆแล้วต้องเข้าใจ
00:10:02 → 00:10:04 ก่อนว่าร่างกายไม่สามารถผลิตโดปามีนได้
00:10:04 → 00:10:07 เยอะเท่าเดิมเพราะฉะนั้นคุณก็ต้องสูบมาก
00:10:07 → 00:10:10 ขึ้นเพื่อให้ได้โดพามีนเท่าเดิมเข้าใจมั้
00:10:10 → 00:10:12 ครับมันก็เลยก็ต้องติดตลอดเวลาแล้วสูบมาก
00:10:12 → 00:10:15 กว่าเดิมสด้วยซ้ำและอันสุดท้ายมาพูดถึงคน
00:10:15 → 00:10:18 ไข้คนนี้เอ๊ะแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่อง
00:10:18 → 00:10:20 ของปวดท้องใช่ๆจริงๆมันต้องเกี่ยวกับปอด
00:10:20 → 00:10:23 หรือเปล่าอ่าการสูบพอดพวกเยครับสูบเข้าไป
00:10:23 → 00:10:27 ปุ๊บมันทำให้เขาเรียกว่าหูรูดของหลอดลม
00:10:27 → 00:10:29 อาหารและกระเพาะกระเพาะอาหารของเราอ่ะ
00:10:29 → 00:10:32 ครับมันเค้าเรียกว่าอะไรผ่อนคลายมันไม่
00:10:32 → 00:10:35 รัดมันไม่ตึงอืพอคราวนี้มันคลายแล้วเนี่ย
00:10:35 → 00:10:38 กรดที่อยู่ในกระเพาะอาหารก็สามารถย้อน
00:10:38 → 00:10:40 ขึ้นมาได้แล้วเกิดอาการแสกคือเหมือนเวลา
00:10:40 → 00:10:42 เรากินข้าวอะไรเข้าไปเนี่ยหรือหายใจเข้า
00:10:42 → 00:10:45 ไปเนี่ยมันก็คือจะรัดรัดตัวแล้วก็บีบตัว
00:10:45 → 00:10:47 อย่างงี้ใช่ใช่ให้เราย่อยอาหารได้นะครับ
00:10:47 → 00:10:50 แต่ว่าพอเราสูบพวกพอตขนเข้าไปไอ้ตรงที่รน
00:10:50 → 00:10:54 รัเนี่ยมันเลยคลายอืแล้วกดในกระเพาะอาหาร
00:10:54 → 00:10:56 ของเราก็สามารถย้อนกลับมาทำให้เป็นเกิด
00:10:56 → 00:10:58 กรดไหลย้อนกรดไหลย้อนได้แล้วนอกจากนั้น
00:10:58 → 00:11:02 เนี่ยมันไปทำลายเเรียกว่าผนังบนกระเพาะ
00:11:02 → 00:11:06 อาหารของเราทำให้เรามีการระคายเคลืองของ
00:11:06 → 00:11:08 กระเพาะอาหารได้นะครับเนาะสิ่งสำคัญคือ
00:11:08 → 00:11:13 มันไปลดการไหลเวียนของเลือดสู่อวัยวะอื่น
00:11:13 → 00:11:15 ในกระเพาะอาหารของเราทางเดินอาหารทั้งหมด
00:11:15 → 00:11:18 ของเรานะครับเนาะทำให้ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
00:11:18 → 00:11:21 ของจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารก็
00:11:21 → 00:11:25 เปลี่ยนไปลดไ้ลงระบบการย่อยก็แย่มากขึ้น
00:11:25 → 00:11:27 มันก็เลยส่งผลทำให้ว่าผู้ชายคนเนี้ยมัน
00:11:27 → 00:11:30 อาจจะเป็นแฟกเตอร์หนึ่งง่ายๆดีกว่าที่ทำ
00:11:30 → 00:11:32 ให้เขายังไม่หายจากการเป็นโรคปวดท้องถ้า
00:11:32 → 00:11:36 ปวดจนเหมือนถูกแทงนี่มันมันปวดมากๆเลยนะบ
00:11:36 → 00:11:38 มันปวดมากมันปวดมากๆนะครับเพราะว่า 1
00:11:38 → 00:11:40 เวลาทุกๆครั้งที่คุณสูบมันเข้าไปอ่ะไม่
00:11:40 → 00:11:42 ใช่แค่โดปามีนหลังมากขึ้นนะกดในกระเพาะ
00:11:42 → 00:11:45 อาหารก็หลังมากขึ้นอหลออมันอาจจะแบบว่า
00:11:45 → 00:11:48 กรดกหลั่งเยอะแล้วก็หูรูดด้วยแต่คราว
00:11:48 → 00:11:51 เนี้ยเวลาที่คุณสูบอ่ะมันฟินอยู่ไงอืคุณ
00:11:51 → 00:11:53 ไม่มาสนใจเรื่องของกระเพาะอาหารหรอกว่า
00:11:53 → 00:11:56 มันก็หลั่งตามแต่คุณจะมารู้สึกเรื่องของ
00:11:56 → 00:11:58 การอาหารน่ะหลังจากที่คุณแบบไปทำงานไปทำ
00:11:58 → 00:12:00 อย่างอื่นแล้วมันก็เลยแสดงอาการออกมาที
00:12:00 → 00:12:03 หลังนั่นเองก็แปลว่าการดูดพอเนี่ยก็ส่งผล
00:12:04 → 00:12:07 ต่อการปวดท้องได้มากๆเลยนะเช่นเดียวกัน
00:12:07 → 00:12:10 ครับอืทีเนี้ยหมอก็บอกว่าอาจจะเป็นที่การ
00:12:10 → 00:12:14 ดูดพอร์ตงั้นวิธีการแก้ก็คือต้องลดละเลิก
00:12:14 → 00:12:17 หรึเปล่าคะหรือว่าลดลเลคราวนี้การดูดพอต
00:12:17 → 00:12:19 ด้วยความมันเป็นสารเสพติดชนิดนึงเพราะ
00:12:19 → 00:12:21 ฉะนั้นการเลิกมันก็ยากสำหรับใครบางคน
00:12:21 → 00:12:23 เพราะฉะนั้นหมอก็แนะนำว่าเออลองไปเจอ
00:12:23 → 00:12:27 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูว่าวิธีการเลิกบุหรี่
00:12:27 → 00:12:29 เนี่ยมันมีเยอะแยะมากมายในปัจจุบันมันมี
00:12:29 → 00:12:31 ยาทดแทนด้วยนะยารดบุหรี่ถูกมยครับหรือว่า
00:12:31 → 00:12:33 เป็นนิโคติน pch ถ้าใครเคยเห็นที่ต่าง
00:12:33 → 00:12:36 ประเทศเป็นนิโคตินแล้วมาแปะหรือว่าหมาก
00:12:36 → 00:12:38 ฝรั่งนะครับเนาะของแบบทางการแพทย์ก็
00:12:38 → 00:12:42 สามารถช่วยรถได้แต่อันที่สำคัญคือ 4 รอ 4
00:12:42 → 00:12:45 รลอลิงรลิงนะ 4 รอลิงนะครับ 1 เขาเรียก
00:12:45 → 00:12:50 ว่าลงมือทำลงมือทำฉันตั้งใจว่าฉันจะลงมือ
00:12:50 → 00:12:54 ทำนะฉันจะเลิกสู่บุหรี่หรือสูพออันที่ 2
00:12:54 → 00:12:57 ลั่นวาจาต้องพูดให้โลกรู้ต้องพูดให้คนใน
00:12:57 → 00:13:01 ครอบครัวรู้ต้องมีใเลกฉันจะเลิกแล้วนะอื 3
00:13:01 → 00:13:06 ลาอุปกรณ์ทิ้งไปเลยต้องทิ้งต้องละต้อง
00:13:06 → 00:13:08 เลิกมันจะหักดิบไปไม่หมต้องต้องต้องอย่าง
00:13:08 → 00:13:10 งี้เลยการที่เราจะเลิกอะไรสักอย่างพวกสาร
00:13:10 → 00:13:13 เสพติดมันต้องหักดิบอ้าเหรอเค้าค่อยๆลด
00:13:14 → 00:13:16 ได้มยอย่างเช่นแบบปกติแต่ถ้าค่อยๆลดก็คือ
00:13:16 → 00:13:18 เราเปลี่ยนวิธีกลายเป็นไปสูบเอ่อไปไม่ใช่
00:13:18 → 00:13:21 สูบเคี้ยวหมัดฝรั่งหรือสารนิโคตินแทนแต่
00:13:21 → 00:13:23 การสูบเนี่ยหยิบขึ้นมาเนี่ยต้องละเลิกเลย
00:13:23 → 00:13:28 และอันสุดท้ายลิงสุดท้ายก็คือลงมือทำสรอ
00:13:28 → 00:13:30 นะครับเนาะฟังดูเหมือนจะง่ายแต่คนสำหรับ
00:13:30 → 00:13:32 คนที่ติดอ่ะมันยากมากนะเอาอย่างี้ดีกว่า
00:13:32 → 00:13:35 ในประสบการณ์แล้วะกันนะครับเนาะสมมุติคน
00:13:35 → 00:13:38 ติดนิโคติน 100 คนถ่ายิว่ากี่คนที่สามารถ
00:13:38 → 00:13:41 ละเลิกได้จริงใน 100 คนนะสมมุติ 100 คน
00:13:41 → 00:13:44 ันทแบบฉันจะทำฉันจะทำให้ได้กี่คนจริงๆดี
00:13:45 → 00:13:48 กว่าที่สามารถทำได้จริง 5 คนครับ 5 คน 5
00:13:48 → 00:13:50 คนจาก 100 คนที่สามารถทำได้จริงก็คืออีก
00:13:50 → 00:13:53 95 คนคือแค่พยายามแล้วเแค่พยายามหรืออาจ
00:13:53 → 00:13:55 จะลองแล้วแล้วก็กลับไปสูบใหม่หรือทำไม่
00:13:55 → 00:13:58 ได้สุดท้ายมันมีปัจจัยในชีวิตในครอบครัว
00:13:58 → 00:14:01 ความเครียดหรือปัญหาต่างๆมากมายที่ทำให้
00:14:01 → 00:14:04 เขากลับไปสูบไอีกครั้งนึงถ้าเมื่อกี้ที่
00:14:04 → 00:14:09 หมอบอกว่าการสูบบุหรีไฟฟ้า 1 หัวเนี่ย
00:14:09 → 00:14:13 เท่ากับ 50 50 มวลของบุรีุ่รีงั้นถ้าเรา
00:14:13 → 00:14:17 เปลี่ยนจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นบุหรี่ธรรมดา
00:14:17 → 00:14:20 ก่อนได้มั้ยคะแล้วก็ค่อยๆลดได้มั้ยอ่ะคือ
00:14:20 → 00:14:22 ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่บุหรี่ชนิดไหนก็ไม่ควร
00:14:22 → 00:14:25 สูบครับอืเพราะมันก็ส่งผลต่อสุขภาพอย่าง
00:14:25 → 00:14:28 ดีนะครับเนาะดีที่สุดคุณจะเลือกสิ่งที่
00:14:28 → 00:14:32 ทำลายร่างกายตัวคุณทำไมอืถูกมั้ยครับอก็
00:14:32 → 00:14:36 มันติดไงคะหมอก็มันติดเออเออแล้วอาการที่
00:14:36 → 00:14:38 หัวใจเต้นเร็วแล้วเป็นผืนอันนี้เกี่ยวกับ
00:14:38 → 00:14:41 นิโคตินมั้ยคะก็นิโคตินเนี่ยมีส่วนที่ทำ
00:14:41 → 00:14:44 ให้หัวใจเต้นเร็วโดยควในการที่เราสูบพอต
00:14:44 → 00:14:46 เข้าไปเนี่ยครับมันทำให้เลือดมันสูบฉีด
00:14:46 → 00:14:48 เร็วมากขึ้นเราก็เลยมีอาการใจสั่นได้แต่
00:14:48 → 00:14:50 เรื่องของผืดเนี่ยคราวนี้ก็ต้องไปดูว่า
00:14:50 → 00:14:53 เอ๊ะการสูบนิโคตินมากๆอ่ะครับการสูบพอร์ต
00:14:53 → 00:14:56 พูดง่ายๆนะครับมันก็ไปลดระบบภูมิคุ้มกัน
00:14:56 → 00:15:00 ในร่างกายของเราแลเาเป็นคนนอนดึกระบบ
00:15:00 → 00:15:05 ออกำลังด้วนนอนผืมันก็อาจจะเกิดขึ้นเพราะ
00:15:05 → 00:15:07 ระบบคุมคุ้มกันเเจงนั่นเองครับภูมิตกเน
00:15:07 → 00:15:09 เพราะนอนนอนดึกก็ภูมิตกอยู่แล้วแล้วก็
00:15:09 → 00:15:12 ยิ่งพอสูบเข้าไปมันเกิดการอักเสบในร่าง
00:15:12 → 00:15:14 กายทำให้ภูมิตกเข้าไปอีกก็เลยอาจจะทำให้
00:15:14 → 00:15:17 เป็นผืนได้ใช่ไหมคะฉะนั้นกลับมาที่คำถาม
00:15:17 → 00:15:21 ก็คือถามว่าการดูดพอตเนี่ยส่งผลทำให้ปวด
00:15:21 → 00:15:24 ท้องเหมือนถูกแทงได้ไหมได้นะคะแล้วถ้า
00:15:24 → 00:15:27 สมมุติว่าเดี๋ยวกินยาแก้ปวดเอาก็ได้ไม่
00:15:27 → 00:15:29 อยากเลิกพอตเลยอ่ะอ่ะแล้วถ้าเป็นอย่างนี้
00:15:29 → 00:15:31 ไปเรื่อยๆอ่ะค่ะจะเกิดอะไรขึ้นคะคุณหมอ
00:15:31 → 00:15:33 คราวนี้ถ้าอย่างอย่างคนเนี้ยเขเริ่มมี
00:15:33 → 00:15:35 อาการปวดท้องถูกมั้ยครับถ้าเขายังใช้
00:15:35 → 00:15:39 พฤติกรรมแบบนี้ต่อไปแรงสูบต่อไปแล้วรวมปั
00:15:39 → 00:15:42 ปัจจัยอื่นๆในไลฟ์สไตล์ของเขาในอนาคตอาจ
00:15:42 → 00:15:46 จะเป็นแผลในกระเพาะอาหารเลือดออกจนถึง
00:15:46 → 00:15:48 เจ็บกว่าเดิมแล้วจนไปถึงอาจจะเป็นมะเร็ง
00:15:48 → 00:15:51 เลยก็ได้เ็ดกระเพาะอาหารเหมือนการที่ปวด
00:15:51 → 00:15:53 ท้องเหมือนถูกแทงมันเป็นเหมือนสัญญาณที่
00:15:53 → 00:15:56 ร่างกายบอกว่าเลิกเถอะนะเลิกเถอะพักเถอะ
00:15:56 → 00:15:58 นะร่างกายมันไม่ไหวแล้วไม่ไหวแล้วอใช่
00:15:58 → 00:16:00 แล้วคราวนี้แยกไปกว่านั้นเนี่ยพอปัจจุบัน
00:16:00 → 00:16:03 มีคนขายมากขึ้นทั้งๆที่มันผิดกฎหมายเนี่ย
00:16:03 → 00:16:07 ใช่ๆคิดดูว่าเด็กไทยผู้ชายและผู้หญิงอายุ
00:16:07 → 00:16:11 13-15 ปีสูบมากขึ้นภายในเวล 8 ปีอ่ะจาก
00:16:11 → 00:16:17 13% กลายมาเป็น 25% หู 25% ในประชากใน
00:16:17 → 00:16:19 ประชากรเด็กที่อายุ 13-15 ปีนี่เด็กขนาด
00:16:19 → 00:16:22 เนี้ยเพราะอะไรรู้มั้ยเพราะ 1 เรื่องของ
00:16:22 → 00:16:26 อาจจะเป็นเรื่องของสังคมเนาะสูบฉันเท่ฉัน
00:16:26 → 00:16:31 สูคล้ายๆก็สูบการรสชาตสูมีกี่รสชาติครับ
00:16:31 → 00:16:34 กี่พูพอร์ตเนี่ยมันมีรถรถแตงโม
00:16:34 → 00:16:37 รถรี่มีทั้งหมดกี่พอร์ตอ่ะทั้งหมดอ่ะใน
00:16:37 → 00:16:41 ตลาดทั่วเมืองไทยเลย 100 นเลย 15,000 รส
00:16:41 → 00:16:44 ชาติหมื่รสชาติ 10 หมืรสชาติเยอะกว่า
00:16:44 → 00:16:46 อาหารที่เราสั่งอีกนะอหารแล้วมีรูปแบบ
00:16:46 → 00:16:50 โดราเลมอนรูปของตุ๊กตุ่นตุ๊กตามันก็ยิ่ง
00:16:50 → 00:16:53 ทำให้เด็กรุ่นใหม่อยากสูบเข้าไปอีกฉะนั้น
00:16:53 → 00:16:55 จริงๆก็อยากให้คลิปนี้เหมือนเป็นอุทาหรด
00:16:55 → 00:16:58 เนาะว่าจริงๆแล้วอ่ะค่ะว่ามันอันตรายมากๆ
00:16:58 → 00:17:01 นะคะก็ให้ให้ระมัดระวังเพราะว่าอย่าคิด
00:17:01 → 00:17:04 ว่าอุ๊ยเป็นบุหรี่ไฟฟ้าหอมดีอร่อยด้วยแต่
00:17:04 → 00:17:08 จริงๆแล้วมันร้ายมากมันร้ายจริงๆถ้าใคร
00:17:08 → 00:17:10 กำลังชมคลิปนี้อยู่แล้วมีคำถามในใจนะคะ
00:17:10 → 00:17:13 สามารถส่งคำถามทางด้านสุขภาพมาได้ใน
00:17:13 → 00:17:16 แคปชั่นด้านล่างนี้นะคะเราจะมีลิงก์อยู่
00:17:16 → 00:17:19 นะคะสามารถกดได้เลยหรือจะสแกน QR โคดตรง
00:17:19 → 00:17:21 นี้แล้วก็กรอกรายละเอียดเข้ามาได้เลยนะคะ
00:17:21 → 00:17:25 คุณหมอและทีมงานจะคัดเลือกคำถามมาตอบใน EP
00:17:25 → 00:17:27 ต่อๆไปค่ะโดยแต่ละ EP เราจะกรุ๊ปเป็นคำ
00:17:27 → 00:17:29 ถามนะคะอย่างวันนี้ก็เป็นคำถามเกี่ยวกับ
00:17:29 → 00:17:32 ปัญหาชีวิตคนปัญหาสุขภาพคนเมือง EP หน้าๆ
00:17:32 → 00:17:35 ก็จะเป็นปัญหาทางด้านอื่นๆนะคะยังไงก็ขอ
00:17:35 → 00:17:38 ให้เขียนรายละเอียดมาแบบจัดเต็มจัดแน่น
00:17:38 → 00:17:40 เลยนะคะคุณหมอจะได้เข้าใจถึงวิธีการใช้
00:17:41 → 00:17:45 ชีวิตนะคะวิธีการกินการนอนรักษามาแล้วยัง
00:17:45 → 00:17:47 ไงบ้างตอนนี้กำลังรับประทานยาอยู่หรือไม่
00:17:47 → 00:17:49 แล้วก็มีอาการอะไรบ้างคุณหมอจะได้เข้าใจ
00:17:49 → 00:17:52 ตัวคนไข้แล้วก็ตอบคำถามได้อย่างแม่นยำที่
00:17:52 → 00:17:54 สุดค่ะเรื่องต่อมานะคะเกี่ยวกับชีวิตคู่
00:17:54 → 00:17:57 รักคู่นึงนะคะที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันใน
00:17:57 → 00:17:59 คอนโดแล้วก็ work from home ทั้งคู่จน
00:17:59 → 00:18:02 น้ำหนักขึ้น 10 กลแล้วก็ไม่มีอารมณ์ทาง
00:18:02 → 00:18:05 เพศนะคะอันนี้เป็นคำถามมาจากคุณผู้หญิงนะ
00:18:05 → 00:18:09 คะนามสมมุติว่าคุณวันนะคะคุณวันอายุ 20
00:18:09 → 00:18:12 ต้นๆเองพักอาศัยอยู่กับแฟนที่มีอายุไล่
00:18:12 → 00:18:15 เลี่ยกันนะคะหนูทำงานแบบ work from home
00:18:15 → 00:18:18 ค่ะตื่นเที่ยนทำงานบ่ายบางวันก็ทำงานจน
00:18:18 → 00:18:21 ถึง 3:00 น 4:00 นพักเล่นเกมบ้างเล่นกับ
00:18:21 → 00:18:24 แมวบ้างไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรที่เคลื่อน
00:18:24 → 00:18:27 ไหวตัวเยอะนอกจากการออกไปกินข้าวนอกบ้าน
00:18:27 → 00:18:31 บ้างบางครั้งบางคราวหนูไม่ได้ออกกำลังกาย
00:18:31 → 00:18:34 เลยค่ะจนน้ำหนักตัวตอนนี้ขึ้นเป็น 10 กล
00:18:34 → 00:18:37 เลยแต่แฟนก็ออกกำลังกายตามปกตินะคะหนูรู้
00:18:37 → 00:18:40 สึกไม่ค่อยมีอารมณ์ทางเพศเลยค่ะและห่าง
00:18:40 → 00:18:43 เหินจากการมีอะไรกับแฟนมานานมากแล้วตอน
00:18:43 → 00:18:46 นี้จนทุกวันนี้อาจจะมีรายการทุก 3-4
00:18:46 → 00:18:49 เดือนครั้งไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเหตุการณ์
00:18:49 → 00:18:52 เมื่อหลายปีก่อนหรือเปล่าเพราะแฟนหนูเคย
00:18:52 → 00:18:55 บังคับแต่อันนี้เป็นแฟนเก่านะคะเคยบังคับ
00:18:55 → 00:18:58 ให้หนูมีอะไรด้วยโดยที่หนูไม่ได้สมยอมเลย
00:18:58 → 00:19:01 ททำให้ฝังใจและมีความกลัวค่ะซึ่งเรื่อง
00:19:01 → 00:19:04 นี้ก็เคยเล่าให้แฟนปัจจุบันฟังนะคะแล้ว
00:19:04 → 00:19:08 แฟนก็เข้าใจมากๆความสัมพันธ์ของเราดีค่ะ
00:19:08 → 00:19:11 แล้วก็มีความสุขหนูก็เลยอยากจะแก้ไข
00:19:11 → 00:19:13 เรื่องนี้และอยากมีอารมณ์ทางเพศได้เหมือน
00:19:13 → 00:19:17 คนอื่นๆควรแก้ไขยังไงดีคะคุณหมอผู้ชายยัง
00:19:17 → 00:19:20 มีไวอาก้าให้กินแล้วผู้หญิงสามารถกินอะไร
00:19:20 → 00:19:23 ได้บ้างคะพอรอเมื่อเดือนตุลาคปีที่แล้ว
00:19:23 → 00:19:25 เพิ่งไปฝังยาคุมมาค่ะจริงๆตอนแรกที่อ่าน
00:19:25 → 00:19:27 เรื่องเยค่ะก็คิดว่าเอ๊ะเพราะว่า work
00:19:27 → 00:19:29 from home อยู่ด้วยด้วยกันตลอดเวลา
00:19:29 → 00:19:31 เบื่อหรือเปล่าแต่ว่าพอมาฟังจริงๆเนี่ย
00:19:31 → 00:19:33 คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นประเด็นเรื่อง
00:19:33 → 00:19:35 ความกลัวมากกว่าแล้วจริงๆแล้วผู้หญิง
00:19:35 → 00:19:38 เนี่ยมีเรื่องความกลัวกับเพศสัมพันธ์ค่อน
00:19:38 → 00:19:40 ข้างมากนะคะแล้วก็เป็นประเด็นที่รู้สึก
00:19:40 → 00:19:42 ว่าคนไม่ค่อยคุยกันมากเท่าไหร่อย่าง
00:19:42 → 00:19:44 ประเด็นนี้เนี่ยก็คือกลัวจากประสบการณ์
00:19:44 → 00:19:47 ที่มีไม่ดีในอดีตเนาะหรือบางคนอาจจะกลัว
00:19:47 → 00:19:50 ท้องเนาะหรือว่าบางคนเนี่ยกลัวที่จะ
00:19:50 → 00:19:53 ปฏิเสธแฟนกลัวเจ็บอะไรอย่างเงี้ยทีนี้ใน
00:19:53 → 00:19:55 ประเด็นเนี้ยค่ะที่โอเคมันเป็นเรื่องใน
00:19:55 → 00:19:58 อดีตกับแฟนเก่าแต่แฟนปัจจุบันเนี่ยเป็นคน
00:19:58 → 00:20:00 ดีมากเข้าใจมากแล้วเราก็รู้สึกว่าเราอยาก
00:20:00 → 00:20:03 จะเปิดใจนะคะแล้วก็กลับมามีอะไรได้อย่าง
00:20:03 → 00:20:06 ได้อย่างแฮปปี้อืทีเนี้ยค่ะควรจะเริ่มต้น
00:20:06 → 00:20:09 ยังไงดีคะหมอคราวนี้เนี่ยเราก็มาดูของเคส
00:20:09 → 00:20:11 นี้ก่อนแล้วกันเนาะเป็นผู้หญิงอายุ 20
00:20:11 → 00:20:14 ต้นๆเนาะคราวนี้ปัญหาคือ 1 น้ำหนักตัว
00:20:14 → 00:20:16 เพิ่มมากยิ่งขึ้นถึงแม้คุณผู้ชายยังออก
00:20:17 → 00:20:19 กำลังกายแต่ตัวคุณผู้หญิงเองน้ำหนักตัว
00:20:19 → 00:20:22 มากขึ้นเขาอาจจะมีความไม่มั่นใจในตัวเอง
00:20:22 → 00:20:24 ในรูปร่างตัวเองหรือเปล่าอย่างแรกเลย 10
00:20:24 → 00:20:26 กถูว่าเยอะนะอออย่างที่ 3 ก็คือเรื่องของ
00:20:26 → 00:20:30 พฤติกรรมอ่าเ่อทำงานตอนตอนบ่ายนอนดึกด้วย
00:20:30 → 00:20:32 อาหารการกินอาจจะไม่ดีหรือเปล่าน้ำหนัก
00:20:32 → 00:20:35 ตัวเลยเพิ่มมากยิ่งขึ้นคราวนี้อ่ะเรามาดู
00:20:35 → 00:20:37 ดูเรื่องของเรื่องของเพศสัมพันธ์นะครับ
00:20:37 → 00:20:42 เนาะเามีอดีตที่เคยโดนแฟนเก่าแล้วกันที่
00:20:42 → 00:20:44 เมื่อกี้บอกมาถูกมครับที่เขาไม่อยากมีเพศ
00:20:44 → 00:20:47 สัมพันธ์ด้วยเขาก็เลยมีความกลัวตรงนั้น
00:20:47 → 00:20:49 คราวนี้มันอาจจะทำให้ความต้องการทางเพศ
00:20:49 → 00:20:52 ของเขาลดน้อยลงเขาก็เลยอยากมีเหมือนคน
00:20:52 → 00:20:54 อื่นเหมือนคู่อื่นคราวนี้เรามาเข้าใจตรง
00:20:54 → 00:20:57 ความต้องการทางเพศก่อนหรือว่าภาวะบกพร่อง
00:20:57 → 00:21:00 ความต้องการทางทั้งเพศในผู้หญิงรู้มยว่า
00:21:00 → 00:21:03 คนไทยเนี่ยในผู้หญิงเนาะภาวะเนี้ยเจอได้
00:21:03 → 00:21:05 กี่เปอร์เซ็นต์ในคนไทยผู้หญิงทั้งหมดเลย
00:21:05 → 00:21:07 อันนี้คือทุกวัยเลยใช่ปคทุกวัยเลยครับโห
00:21:07 → 00:21:10 ดาวไม่ถูกเลยอ่ะ 40% ครับอุเกือบเกือบ
00:21:10 → 00:21:12 ครึ่งเลยเหรอคะเกือบครึ่งของประเทศ 4 คือ
00:21:12 → 00:21:15 ผู้หญิง 40% คือบก[\h__\h]เรื่องของความ
00:21:15 → 00:21:18 ต้องการทางเพศหรืออาจจะเค้าเรียกว่าไม่
00:21:18 → 00:21:21 ถึงจุดสุดยอดจุดสุดยอดไม่ถึงเนี่ยประมาณ
00:21:21 → 00:21:24 25% ของคนไทยอ๋อก็แปลว่าหลายครั้งคือถ้า
00:21:24 → 00:21:26 มีก็ก็มีแค่อาจจะเป็นกลับมาที่เรื่องความ
00:21:26 → 00:21:29 กลัวนะกลัวที่จะปฏิเสธแฟนไม่อาจจะแค่
00:21:29 → 00:21:31 เรื่องของความกลัวคราวนี้เรามาดูสาเหตุ
00:21:31 → 00:21:33 ก่อนที่ทำให้ผู้หญิงมีภาวะพวกนี้เยอะแบ่ง
00:21:33 → 00:21:36 ออกมาทั้งหมด 4 สาเหตุด้วยกัน 1 ปัจจัย
00:21:36 → 00:21:38 ทางกายปทัยทางกายหมายถึงว่าอ่ะโรคประจำ
00:21:38 → 00:21:41 ตัวนะครับมีทานยาอะไรหรือเปล่าอ่ะผู้หญิง
00:21:41 → 00:21:44 คนนี้มีกินยาคุมนะเดี๋ยวเรามาคุยกันเรามา
00:21:44 → 00:21:47 คุยกันแล้วก็เอ่อภาวะอื่นๆเช่นอาจเ่อ
00:21:47 → 00:21:49 เรื่องของผู้หญิงอย่างเช่นเรื่องของการ
00:21:49 → 00:21:51 ตั้งครรภ์หรือเปล่าหรือว่าเ่อปัสสาวะแสบ
00:21:51 → 00:21:54 ขัดอะไรพวกเนี้ยมันก็ทำให้เป็นส่วนหนึ่ง
00:21:54 → 00:21:57 ที่ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์นะครับอันนี้คือ
00:21:57 → 00:22:00 ภาวะทางกายอันที่ 2 คนนี้แน่ๆภาวะทางจิต
00:22:00 → 00:22:03 ใจถูกมยเราก็เรียกว่าหรือเขาโดนแฟนเก่า
00:22:03 → 00:22:06 เรื่องของ abuse โดนแบบบังคับ
00:22:06 → 00:22:09 เนาครับนะครับเนาะแล้วก็เรื่องถ้าไม่ใช่
00:22:09 → 00:22:10 เรื่องของการบังคับก็เป็นเรื่องของทาง
00:22:10 → 00:22:13 ด้านจิตใจโรคซึมเศร้าวิตกกังวลต่างๆมาก
00:22:13 → 00:22:16 มายอันที่ 3 เรื่องของ relationship หรือ
00:22:16 → 00:22:19 ความสัมพันธ์เออคนนี้ก็ดูไม่แย่นะกับแฟน
00:22:19 → 00:22:21 ใหม่ถูกไหมมครับบอกว่ารักกันดีดูกันดีอัน
00:22:21 → 00:22:23 สุดท้ายคือเรื่องของสังคมสังคมไทยเป็นยัง
00:22:24 → 00:22:27 ไงเรื่องพอพูดถึงเรื่องเพศอายอืไม่กล้า
00:22:28 → 00:22:32 เจอแพทแคุไม่กล้าถามจะไปคุยกับใครหลายคน
00:22:32 → 00:22:35 บอกเอ้ยมันเป็นเรื่องปกติอืเนี่ยแล้วคุย
00:22:35 → 00:22:38 แต่เพื่อนๆแต่จริงๆปัจจุบันเนี่ยมันมีนัก
00:22:38 → 00:22:41 เพศวิทยาและหมอทางด้านวิทยาศาสตร์ทางเพศ
00:22:41 → 00:22:44 ช่วยด้วยซ้ำที่สามารถคุณสามารถปรึกษาได้
00:22:44 → 00:22:46 ทางด้านนี้นะครับถ้าเรามาดูทั้งหมดทั้ง
00:22:46 → 00:22:48 หลายปัจจัยผู้หญิงคนนี้อาจจะมีปัจจัย
00:22:48 → 00:22:50 เรื่องจิตใจมานำนะครับเนาะแล้วก็เรื่อง
00:22:50 → 00:22:53 ของยาคุมนะครับเนาะคราวนี้เรามาดูเรื่อง
00:22:53 → 00:22:56 ของเราจะทำยังไงให้ความสัมพันธ์ของเขาดี
00:22:56 → 00:22:58 ขึ้นขอกลับไปที่เรื่องยาคุมนิดนึงใชครับ
00:22:58 → 00:23:01 เพราะว่าเบอกว่าเดือนตุลาที่ผ่านมาใช่มคะ
00:23:02 → 00:23:05 เไปฝั่งยาคุมมาแล้วฝั่งยาคุมเนี่ยมัน
00:23:05 → 00:23:08 เกี่ยวข้องกับอารมณ์ทางเพศเดือนเมื่อไหร่
00:23:08 → 00:23:10 นะครับเมื่อไหร่นะตุลาคตุลาตุลาก็คือ
00:23:10 → 00:23:12 เกือบเกือบปีนึงแล้วอืเกือบปีนึงครับการ
00:23:12 → 00:23:15 ที่คุณไปกินยาคุมฝังยาคุมต่างๆนานาคือคุณ
00:23:15 → 00:23:18 ป้องกันเพื่อไม่ให้ท้องอือันนั้นคือเหตุ
00:23:18 → 00:23:21 ผลเดียวเลยถูกมครับถ้ามีเหตุผลอื่นด้วย
00:23:21 → 00:23:24 หมอก็ไม่แนะนำว่าอย่าใช้ยาคุมะกันนะครับ
00:23:24 → 00:23:28 เนาะแต่การที่คุณใช้ยาคุมเนี่ยมันจะไปลบ
00:23:28 → 00:23:31 เขาเรียกว่าลดฮอร์โมนเพศชายหรือและ
00:23:31 → 00:23:34 ฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายของคุณก็คือว่า
00:23:34 → 00:23:37 ผู้หญิงเนี่ยก็จะมีทั้งฮอร์โมนเพศหญิง
00:23:37 → 00:23:40 แล้วฮอร์โมนเพศชายใช่มั้ยคะแล้วก็ผู้หญิง
00:23:40 → 00:23:42 ก็จะมีฮอร์โมนเพศหญิงเยอะหน่อยฮอร์โมนเพศ
00:23:42 → 00:23:45 ชายน้น้อยหน่อยแล้วก็การที่เราฝังยาคุม
00:23:45 → 00:23:47 หรือว่ากินยาคุมมันจะทำให้ฮอร์โมนเพศชาย
00:23:47 → 00:23:50 อ๋อโมนทั้งหมดลดหมดเลยลดหมดเลยอ่ะคือฝั่ง
00:23:50 → 00:23:53 ยาคุม 1 ทำให้ไข่คุณไม่ตกอ่ะคุณไม่ท้องไง
00:23:53 → 00:23:55 ถูกมั้ยครับเนาะฮอร์โมนเพศอ่าคราวนี้เรา
00:23:55 → 00:23:57 เมื่อกี้บอกว่ามีทั้งฮอร์โมนเพศหญิง
00:23:57 → 00:23:59 เอสโตรเจนและฮอร์โมนเพเพศชายแอนโดรเจน
00:23:59 → 00:24:02 หรือเทสเตอโรนนะครับฮอร์โมนเพศหญิงก็มี
00:24:02 → 00:24:04 ความสำคัญต่อเรื่องเพศสัมพันธ์เหมือนกัน
00:24:04 → 00:24:08 มันทำให้มีการหล่อลื่นข้างล่างได้ดีถูก
00:24:08 → 00:24:11 มั้ยครับเนาะมีความต้องการมีเ้าเรียกว่า
00:24:11 → 00:24:15 ร้อนๆรุ่มๆเวลาที่คุณอยากมีเพศสำคัญ
00:24:15 → 00:24:17 เหมือนเหมือนเวลาที่คุณไข่ตกก่อนมีประจำ
00:24:17 → 00:24:19 เดือนเห็นมั้ยอุณหภูมิร่างกายจะเพิ่มมาก
00:24:19 → 00:24:22 ขึ้นอันนี้เป็นเพราะเอสโตรเจนนะครับคราว
00:24:22 → 00:24:25 นี้เทสสคราวนี้เทสโทสเตอโรนสำคัญมากในผู้
00:24:25 → 00:24:28 หญิงเหมือนกันคือฮอร์โมนเพศชายบางคนบอก
00:24:28 → 00:24:30 อุ้ยผู้หญิงไม่มีฮอร์โมนเพชรชายเป็นไปไม่
00:24:30 → 00:24:32 ได้มันคือความแข็งแรงของร่างกายคุณความ
00:24:32 → 00:24:36 แข็งแรงของกล้ามเนื้อของกระดูกนะครับอ่ะ
00:24:36 → 00:24:39 ขนผมต่างๆนะครับรวมไปถึงเรื่องของสมองและ
00:24:39 → 00:24:42 ความต้องการทางเพศอืเพราะฉะนั้นยาคุมก็จะ
00:24:42 → 00:24:45 ไปกดฮอร์โมนเพศชายของคุณลดน้อยลงทำให้
00:24:45 → 00:24:48 ความต้องการก็ลดลงไปด้วยลดไปด้วยนิ่งเลย
00:24:48 → 00:24:52 คราวนี้ถือศีลเลยอืเราทำยังไงอย่าเงี้ค่ะ
00:24:52 → 00:24:55 หมอก็ไม่อยากท้องแล้วก็ก็ที่ฝังเนี่ยก็
00:24:55 → 00:24:57 เพราะไม่อยากท้องไงคราวนี้ต้องเข้าใจก่อน
00:24:57 → 00:25:00 ว่าเราก็มีมีวิธีการป้องกันเรื่องของคุม
00:25:00 → 00:25:03 กำเนิดหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการใส่ถุง
00:25:03 → 00:25:07 ยางนะครับเนาะคือถึงแม้ว่าคุณจะฝังยาคุม
00:25:07 → 00:25:09 แต่คุณก็ยังต้องใส่ถุงยางอนามัยนะเพื่อ
00:25:09 → 00:25:12 ป้องกันโรคทางเพศต่างๆถูกมครับเาไม่ใช่
00:25:12 → 00:25:15 ว่าออฝังแล้วปล่อยเลยอย่างเงี้ยก็ไม่ใช่
00:25:15 → 00:25:17 เพราะคุณก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคอื่น
00:25:17 → 00:25:20 ๆงั้นอย่างในเคสนี้เนี่ยเาถ้าสมมุติว่า
00:25:20 → 00:25:22 อย่าอยากแก้ทางด้านจิตใจอ่ะค่ะจะต้อง
00:25:22 → 00:25:25 เริ่มต้นยังไงอ่ะคะคราวนี้ทางด้านจิตใจ
00:25:25 → 00:25:26 เนี่ยสิ่งที่สำคัญคือมันเป็นเรื่องของ
00:25:26 → 00:25:29 เพชรสัมพันธ์เพราะฉะนั้นมันมันก็ต้องคุย
00:25:29 → 00:25:32 ทั้งผู้ชายและผู้หญิงถูกมยครับเอ่ออาจจะ
00:25:32 → 00:25:35 คุยกับผู้ผู้หญิงก่อนแล้วก็เอาผู้ชายมา
00:25:35 → 00:25:37 ให้คุยกับแพทย์หรือนักคุยนที่นี้นี่คือ
00:25:37 → 00:25:39 สามารถไปคุยกับจิตแพทย์ทั่วไปได้เลยมั้คะ
00:25:39 → 00:25:41 หรือว่าต้องเป็นมีนักเพศวิทยาโดยตรงครับ
00:25:41 → 00:25:43 เป็น clinical sexologist โดยตรงอันนี้
00:25:43 → 00:25:45 สามารถไปหาได้ที่ไหนอ่ะคะที่จริงก็ไม่ว่า
00:25:45 → 00:25:48 จะเป็นเอิทางโรงพยาบาลนะครับหรือโรงเรียน
00:25:48 → 00:25:51 แพทย์ก็จะมีสมัยปัจจุบันเนี่ยมีเพิ่มขึ้น
00:25:51 → 00:25:53 และแต่ว่าถ้าเข้าถึงได้ง่ายสุดน่าจะเป็น
00:25:53 → 00:25:56 พวกจิตจนักจิตแพทย์ทั่วไปอันนี้ก็สามารถ
00:25:56 → 00:26:00 ปรึกษาได้ใช่ปาคราวนี้ 1 เนี่ยเก็จะแนะนำ
00:26:00 → 00:26:02 อย่างแรกที่เขอยากให้ฝึกทั้งคู่นะครับคือ
00:26:02 → 00:26:06 เข้าใจร่างกายอวัยวะของทั้งคู่ให้ดีก่อน
00:26:06 → 00:26:08 เข้าใจหมายถึงภาษาทางการแพทย์เรียกว่า
00:26:08 → 00:26:11 sensate Focus sensate Focus คือมัน
00:26:11 → 00:26:14 จะมีทั้งหมด 3 สตปด้วยกันสตปแรกเรียกว่า
00:26:14 → 00:26:17 non genital sensate Focus คืออันนี้
00:26:17 → 00:26:18 ให้ไปฝึกที่บ้านนะไม่ใช่ฝึกต่อหน้าหมอ
00:26:18 → 00:26:21 ครับนะก็คือทั้งคู่อ่ะมาดูร่างกายซึ่งกัน
00:26:22 → 00:26:25 และกันดูว่าแกผ้าหมดเลยนะแล้วก็มองมองกัน
00:26:25 → 00:26:30 ว่าแต่ห้ามสัมผัสหรือแต่เอ่ออวัยวะเพศและ
00:26:30 → 00:26:34 เต้านมคือสัมผัสว่าเอ๊ะตัวเา้าอ่ะตรงไหน
00:26:34 → 00:26:38 คือจุดอ่อนตัวไหนที่สัมผัสแล้วทำให้เขามี
00:26:38 → 00:26:43 อารมณ์แขนหูขาดูว่าร่างกายเขาเป็นไงชอบ
00:26:43 → 00:26:45 อะไรบอกเขาไม่ชอบอะไรบอกเขาเรียนรู้ร่าง
00:26:45 → 00:26:47 กายซึ่งกันกันก็คือเหมือนแบบว่าผู้หญิง
00:26:47 → 00:26:49 กับผู้ชายยืนคู่กันอย่างงี้ใช่มใช่ครับ
00:26:49 → 00:26:52 แล้วเราลองลองสัมผัสกันแต่ห้ามแตไวเเพศ
00:26:52 → 00:26:55 กับใช่ก็อาจจะแตะไลายแตะหน้าอะไรอย่า
00:26:55 → 00:26:59 เงี้ยแว่าเอฉันไม่ชอบที่สะโพกเธอขนาดนี้
00:26:59 → 00:27:01 ขนาดนี้อะไรอย่างเงี้ยบอกกันซึ่งกันและ
00:27:01 → 00:27:03 กันเราจะได้เข้าใจกันบอกอย่างงั้นเลยเหรอ
00:27:03 → 00:27:06 เศร้านะฉันไม่ชอบพุงน้อยของเธออะไรอย่าง
00:27:06 → 00:27:08 เงี้ยให้คุณไปออกกำลังกายเออก็อาจจะแบบ
00:27:08 → 00:27:11 ว่าเอ้ยเอ้ยฉันชอบให้เธอตัดแต่อะไรอย่าง
00:27:11 → 00:27:13 งี้อะไรเงี้ก็เหมือนเป็นการพูดคุยเปิดใจ
00:27:13 → 00:27:16 กันต้องึึสเต็ปแรกต้องฝึกนะครับต้องฝึก
00:27:16 → 00:27:19 อ่าแบบ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์และใช้เวลานิด
00:27:19 → 00:27:23 นึงสเต็ป 2 ก็เรียกว่า genital sensate
00:27:23 → 00:27:26 Focus อ่ะเริ่มและเริ่มสัมผัสอวัยประเภท
00:27:26 → 00:27:29 หรือเต้านมซึ่งกันและกันดูว่าเมีจุดอ่อน
00:27:29 → 00:27:32 ตรงไหนบ้างนะครับชอบให้โดนสัมผัสตรงไหน
00:27:32 → 00:27:34 บ้างนะครับที่มันเป็นตัวกระตุ้นในร่างกาย
00:27:34 → 00:27:37 ของเขานะครับและสจสุดท้ายก็แน่นอนเรื่อง
00:27:38 → 00:27:40 ของการมีเพศสัมพันธ์กันครับ 3 สเตปด้วย
00:27:40 → 00:27:42 กันก็คือแต่ละสเตปเนี่ยต้องใช้เวลานาน
00:27:42 → 00:27:44 เท่าไหร่คะอย่างสเต็ปแรกเนี่ยประมาณ 2
00:27:44 → 00:27:47 อาทิต์คราวนี้มันแล้วแต่คู่เนาะว่ามันยาก
00:27:47 → 00:27:49 ขนาดไหนแล้วอันนี้นี่สามารถคนที่ดูอยู่
00:27:49 → 00:27:52 แล้วอุ๊ยเจอปัญหาแบบเยสามารถนำไปใช้ได้
00:27:52 → 00:27:54 เลยยคะหรือว่าควรปรึกษาที่จริมันดีเทลมัน
00:27:54 → 00:27:57 เยอะกว่านี้นะมันมันสยๆให้ฟังเลยอันนี้ก็
00:27:57 → 00:27:59 แนะนำว่าให้ไปเจอผู้เชี่ยวชาญดีกว่านะ
00:27:59 → 00:28:01 ครับเนาค่ะแต่ว่าจริงๆมันก็เป็นอะไรที่
00:28:01 → 00:28:03 น่าสนใจเหมือนกันนะคะเพราะมันไม่ได้เป็น
00:28:03 → 00:28:05 เรื่องยากเนาะมันก็แค่เหมือนแบบเหมือนจับ
00:28:05 → 00:28:08 มือผ่านมันไปด้วยกันโดยสเต็ปง่ายๆทำกัน
00:28:08 → 00:28:10 เองก่อนแล้วถ้าไม่ดีจริงๆก็อาจจะไปหา
00:28:10 → 00:28:14 แพทย์อ่ะทีนี้ลองลองทำอันนี้ก็แล้วอะไร
00:28:14 → 00:28:16 อย่างเงี้ยค่ะแล้วก็เรื่องเรื่องยาคุมก็
00:28:16 → 00:28:18 คุณหมอแนะนำว่ายังไงดีคะอันนี้ก็อย่างที่
00:28:18 → 00:28:21 บอกไปว่าถ้าเราอยากคุมจริงๆก็ลองไปถาม
00:28:21 → 00:28:23 แพทย์ผู้ช่ยวชานะครับสูตินารีแพทย์ว่า
00:28:23 → 00:28:26 เฮ้ยมันมีอชยาคุมอะไรบ้างที่สามารถช่วย
00:28:26 → 00:28:29 เรื่องคุมกำหนดกำเนิดและยังสามารถทำให้
00:28:29 → 00:28:31 คุณอยากมีอารมณ์ทางเพศอยู่อันเนี้ยมัน
00:28:31 → 00:28:34 สามารถไปปรึกษาทางแพทย์สูตินารีได้ครับ
00:28:34 → 00:28:37 แล้วการที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นนะคะมันส่ง
00:28:37 → 00:28:40 ผลต่อโอเคความมั่นใจอาจจะไม่มีเนาะแต่ทาง
00:28:40 → 00:28:43 ระบบร่างกายล่ะคะมันส่งผลอะไรต่ออารมณ์
00:28:43 → 00:28:45 ทางเพศมั้ยคะอ่าแน่นอนครับคราวนี้เราต้อง
00:28:45 → 00:28:47 มาดูปัจจัยของเขาก่อนว่าเอ๊ะน้ำหนักขึ้น
00:28:47 → 00:28:50 ตั้ง 10 กลสาเหตุเกิดจากอะไรคนเราอยู่ดี
00:28:50 → 00:28:51 น้ำหนักขึ้น 10 กลไม่ได้มันต้องมีปัจจัย
00:28:51 → 00:28:54 สาเหอันนี้น่าจะเ
00:28:54 → 00:28:58 โไม่ออกกำลังกายกินอาหารไม่ดีความเครียด
00:28:58 → 00:29:01 ก็อาจจะมีเพราะอยากมีเพศสัมพันธ์กับแฟนยา
00:29:01 → 00:29:03 คุมก็ทำให้น้ำหนักตัวขึ้นได้นะครับเนาะ
00:29:03 → 00:29:06 เพราะยาคุมไปลดระบบการเผาผลาในร่างกายไป
00:29:06 → 00:29:09 ลดการดูดซึมของวิตามินและแลธาตุหลายๆตัว
00:29:09 → 00:29:13 ที่สำใช้สำหรับการระบบเผาผลาญนะครับเนาะ
00:29:13 → 00:29:17 คราวนี้ก็ก็ต้องแนะนำเขาว่าเออเวลาที่คุณ
00:29:17 → 00:29:19 น้ำหนักตัวมากขึ้นน่ะไขมันเยอะมากขึ้น
00:29:19 → 00:29:22 เนี่ยมันก็ไปกดฮอร์โมนเพศชายได้เหมือนกัน
00:29:22 → 00:29:24 ฮอร์โมนเพศหญิกคือไขมันมันมากับฮอร์โมน
00:29:24 → 00:29:26 เพชรหญิงันนี้ต้องบอกก่อนนะครับเนาะแฟต
00:29:26 → 00:29:28 ที่มันอยู่ในร่างกายไขมันเนี่ยมันมันก็ทำ
00:29:28 → 00:29:30 ให้คุณมีฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มมากขึ้นไป
00:29:30 → 00:29:33 ด้วยนะครับเนาะการที่คุณมีฮอร์โมนเพศหญิง
00:29:33 → 00:29:36 ที่เยอะสูงจนเกินไปเนี่ยมันก็ไปกดเรื่อง
00:29:36 → 00:29:39 ของฮอร์โมนเพศชายได้ครับอืบางทีก็อาจจะ
00:29:39 → 00:29:42 เป็นเพราะฮอร์โมนเนาะก็แปลว่าสรุปง่ายๆก็
00:29:42 → 00:29:47 คือว่า 1 อาจจะต้องลองไปหาเอ่อแพทย์อาจจะ
00:29:47 → 00:29:49 ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยปรับเปลี่ยน
00:29:49 → 00:29:51 พฤติกรรมนะคะอาจจะเริ่มออกกำลังกายเนาะ
00:29:51 → 00:29:54 อย่างหน่อยถ้าไขมันลดลงแล้วก็ระดับของ
00:29:54 → 00:29:56 ฮอร์โมนบาลานซ์ดีขึ้นอาจจะทำให้อารมณ์ทาง
00:29:56 → 00:29:59 เพศดีขึ้นด้วยด้วยนะคะแล้วก็อาจจะหาผู้
00:29:59 → 00:30:01 เชี่ยวชาญเนาะไปพูดคุยแล้วก็ลองทำ
00:30:01 → 00:30:03 Exercise ง่ายๆที่บ้านก่อนอ่ามี Exercise
00:30:03 → 00:30:06 นึงแนะนำได้เลยคือ kle Exercise คืออะไร
00:30:06 → 00:30:09 คะคือการขมิบก้นครับขมิบก้นขมิบก้นเพื่อ
00:30:09 → 00:30:14 เป็นการเกร็งเอ่อกล้ามเนื้อภายในร่างกาย
00:30:14 → 00:30:16 ของเราอวัยวะข้างล่างให้มันแข็งแรงมาก
00:30:16 → 00:30:19 ยิ่งขึ้นให้มันให้มันอะไรอ่ะกระชับให้มัน
00:30:19 → 00:30:21 แล้วขมิบแล้วยังไงต่อคราวนี้เราสามารถฝึก
00:30:21 → 00:30:24 เองที่บ้านได้นะคือถ้าเราไปยิมหรือฟิตเนส
00:30:24 → 00:30:26 เนี่ยก็คือมันจะมีท่าแบบถ้าใครเคยดูใน
00:30:26 → 00:30:28 YouTube หรืออะไรอ่ะครับก็คือแบบนอนแล้ว
00:30:28 → 00:30:31 เกงก้นขึ้นมาแล้วก็ลงไปด้านล่างแล้วอนี้
00:30:31 → 00:30:33 มันจะเกี่ยวอะไรกอารมณ์ทางเพศคะอ้าคราว
00:30:33 → 00:30:35 นี้มันก็กระตุ้นทำให้กล้ามเนื้อข้างล่าง
00:30:35 → 00:30:39 ออมันได้ใช้งานใชงนก็คือนั่งๆอยู่ก็ปึ๊บอ
00:30:39 → 00:30:41 แต่ว่ามันไม่ใช่ปึ๊บๆอย่างงี้นะเราต้อง
00:30:41 → 00:30:43 ค่อยๆเป็นสเต็ปยังไงหมอเราเวลาเราจะเก็ง
00:30:43 → 00:30:47 ใช่มั้ครับหายใจเข้า 1 2 3 เก่งแล้วก็
00:30:47 → 00:30:52 หยุดไว้ 1 2 3 แล้วคายออก 1 2 3 ทำ
00:30:52 → 00:30:56 อย่างงี้ 10 ครั้งตอนแรกๆแล้วเพิ่มเป็น 20
00:30:56 → 00:30:58 ครั้งต่อวันแล้วเพิ่มเป็น 30 10 ครั้ง
00:30:58 → 00:31:00 ต่อวันเรื่อยๆอ่ะคุณวันฟังนะคะเอาเอาไป
00:31:00 → 00:31:03 ซ้อมได้คะมันจะได้ได้ใช้งานเนมันได้ใช้
00:31:03 → 00:31:04 งานผู้ชายก็เหมือนกันนะครับผู้ชายก็
00:31:04 → 00:31:07 เหมือนกันก็ช่ยเรื่องเรื่องของความแข็ง
00:31:07 → 00:31:11 แรงข้างล่างทำให้แข็งแน่นมากขึ้นโอ้โหไม่
00:31:11 → 00:31:13 เคยได้ยินเทคนิคนี้มาก่อนเลยค่ะหมอขอบคุณ
00:31:13 → 00:31:17 นะคะเดี๋ยวจ๊ะนำไปใช้นำไปใช้โอเคสุดท้าย
00:31:17 → 00:31:21 ค่ะหมอที่ถามมาว่าผู้ชายเนี่ยยังมีวาก้า
00:31:21 → 00:31:23 เลยแล้วผู้หญิงเนี่ยมีอะไรช่วยกระตุ้นได้
00:31:23 → 00:31:26 บ้างคะอันนี้ก็ของผู้หญิงก็มีเหมือนกันนะ
00:31:26 → 00:31:28 ครับแน่ๆเนี่ยของของผู้หญิงก็จะแบ่งเป็น 3
00:31:28 → 00:31:32 ประเภทด้วยกันนะครับเนาะ 1 ก็คือยาที่ไป
00:31:32 → 00:31:35 เพิ่มการไหลเวียนของเลือดสู่อวัยวะเพศ
00:31:35 → 00:31:38 ด้านล่างนะครับก็คล้ายๆเป็นยาเฉพาะจจก็
00:31:38 → 00:31:40 คือมันคล้ายๆยาของผู้ชายเหมือนกันเมื่อ
00:31:40 → 00:31:43 กี้เหมือน PD 5 inhibitor ที่ยาที่คุณ
00:31:43 → 00:31:46 เจนพูดมาครับเนาะก็มันก็มีงานวิจัยบางงาน
00:31:46 → 00:31:49 วิจัยที่บอกมันช่วยนะแต่เผอิญมันใช้ดีใน
00:31:49 → 00:31:52 ผู้ชายมากกว่าในผู้หญิงอ๋อนะครับเนาะอัน
00:31:52 → 00:31:53 เอ่อยาตัวที่ 2 ที่ไปเพิ่มก็คือเพิ่ม
00:31:53 → 00:31:56 ไนตริกออกไซดไนตริกออกไซดอย่างเช่นก็จะ
00:31:56 → 00:31:59 เป็นมนพวก lr ที่ีนะครับแอลจีเนี่ยมันจะ
00:31:59 → 00:32:02 ไปเพิ่มไนตริกออกไซด์ในร่างกายของเราแป๊บ
00:32:02 → 00:32:04 นึงนะคะหมอไนตริกออกไซด์คืออะไรคะไนตริก
00:32:04 → 00:32:07 ออกไซด์คือมันเป็นเอนไซมมันเป็นเอมไซม์
00:32:07 → 00:32:10 ชนิดหนึ่งที่เพิ่มที่ไปทำให้หลอดเลือด
00:32:10 → 00:32:13 ข้างล่างของเรามันขยายมากยิ่งขึ้นทำให้มี
00:32:13 → 00:32:17 การกระตุ้นให้มีการแข็งตัวอือแล้วก็รู้
00:32:17 → 00:32:19 สึกอ่อนไหวข้างล่างมากยิ่งขึ้นครับโอเคก็
00:32:20 → 00:32:23 คือเหมือนเป็นอาหารเสริมที่ช่วยให้ให้ตรง
00:32:23 → 00:32:26 เนี้ยมันขยายขายใช่ครับแล้วรู้สึกมากขึ้น
00:32:26 → 00:32:29 sensitive มากขึ้นโอเคก็คือรู้สึกแบบมาก
00:32:29 → 00:32:32 กว่าปกติมีมีซนอะไรบ้างนะคะปกติอ่ะอย่าง
00:32:32 → 00:32:38 จนนเนี่ยเป็นเ่อแจนครับแจนอ่านี้เบสิคเลย
00:32:38 → 00:32:41 อนะครับเนาะมันทำมาจากอะไรคะแจมันเป็นกด
00:32:41 → 00:32:43 อะมิโนครับกดอมิโนชนิดหนึโเอันนี้สามารถ
00:32:43 → 00:32:46 หาซื้อได้ทั่วไปแล้วก็มีอะไรอีกคเอ่ออีก
00:32:46 → 00:32:49 อันนึงที่เขาค้นพบมาก็จะเป็นพวกโสมเหมือน
00:32:49 → 00:32:51 กันครับอ่าโสมแดงพวกเงี้ยแต่ว่าบางคนก็
00:32:51 → 00:32:53 บอกว่าใช้ได้บางคนก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน
00:32:53 → 00:32:56 ครับเอ่อผู้หญิงจะค่อนข้าง complicate
00:32:56 → 00:32:58 มากกว่าผู้ชายนะนะครับเวิร์คสำหรับบางคน
00:32:59 → 00:33:00 ก็อาจจะไม่เวิร์คสำหรับบางคนถูกต้องครับ
00:33:00 → 00:33:02 อันที่ 2 ก็จะเป็นเรื่องของโฮร์โมนเมื่อ
00:33:02 → 00:33:04 กี้เราพูดมาหมดแล้วก็สำหรับบางคนอ่ะ
00:33:04 → 00:33:07 สมมุติเด็กคนนี้เขายังเด็กเนาะแต่ถ้าแบบ
00:33:07 → 00:33:09 ใครเข้าไวัทองแล้วอย่างเงี้ยไม่มีฮอร์โมน
00:33:09 → 00:33:12 เพศหญิงไม่มีฮอร์โมนเพศชายการเสริม
00:33:12 → 00:33:14 ฮอร์โมนเข้าไปก็เป็นการเพิ่มความต้องการ
00:33:14 → 00:33:16 ทางเพศของเขามากยิ่งขึ้นซึ่งการเสริม
00:33:16 → 00:33:18 ฮอร์โมนก็คืออาจจะเป็นผ่านตัวเม็ดยาหรือ
00:33:18 → 00:33:21 ว่าคนี้ก็อาจจะเป็นทาครีมอะไรอย่าเงี้ยนะ
00:33:21 → 00:33:23 ครับเนาะอันที่ 3 ก็จะเป็นเรื่องของ
00:33:23 → 00:33:26 โฮร์โมนของในปราสาทนะครับเนาะก็อย่างทุกๆ
00:33:26 → 00:33:28 ครั้งเวลาที่เรามีมีอารมณ์ทางเพศหรือความ
00:33:28 → 00:33:30 ต้องการทางเพศมันก็จะมีฮอร์โมนโดปามีน
00:33:30 → 00:33:33 ฮอร์โมนแห่งความสุขใช่ไหมมครับก็มันจะมี
00:33:33 → 00:33:35 ยาที่ไปกระตุ้นโดปามีนมากยิ่งขึ้นนะครับ
00:33:35 → 00:33:37 อันแรกเลยอันที่ 2 มันจะเป็นยาที่ไป
00:33:37 → 00:33:40 กระตุ้นเรียกว่า mhh นะครับเนาะยาอันนี้
00:33:40 → 00:33:44 มันก็ไปเพิ่มความต้องการ mh mhh คือตัว
00:33:44 → 00:33:47 ยาตัวเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งในสมองของเรา
00:33:47 → 00:33:51 อ่ะครับที่มันไปเพิ่มความอยากอืความ
00:33:51 → 00:33:53 ต้องการมากขึ้นครับอ่าอันนี้ก็จะเป็นยา
00:33:53 → 00:33:55 ฉีดนะครับอันนี้ต้องไปึกปรึกษาแพทย์ก่อน
00:33:55 → 00:33:58 แล้วกันเรื่องต่อมาค่ะหมอเป็นเรื่อง
00:33:58 → 00:34:01 เกี่ยวกับความเครียดของคนที่ทำงานหนักแบบ
00:34:02 → 00:34:06 เวิร์ค overload สุดๆจนสุขภาพเริ่มแย่
00:34:06 → 00:34:08 ชีวิตไม่มีความสุขและกลัวว่าจะเป็นโรค
00:34:08 → 00:34:11 ร้ายในอนาคตเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณ
00:34:11 → 00:34:12 ทรายเขียนเรื่องนี้เข้ามาเพราะว่าเป็น
00:34:12 → 00:34:17 ห่วงแฟนมากๆแฟนคุณทรายอายุ 47 ปีนอน
00:34:17 → 00:34:19 เที่ยงคืตื่น 5:00 นทุกวันเพื่อไปทำงาน
00:34:19 → 00:34:22 แฟนเป็นคนทำงานหนักตั้งแต่ไหนตั้งแต่ไร
00:34:22 → 00:34:25 แต่ล่าสุดเพิ่งย้ายไปที่ทำงานใหม่เลยทำ
00:34:26 → 00:34:28 งานหนักกว่าเดิมอีกเพื่อแลกแแลกกับเงิน
00:34:28 → 00:34:32 เดือนที่สูงขึ้นนอกจากงานออฟฟิศแล้วเรามี
00:34:32 → 00:34:34 เปิดร้านเล็กๆด้วยกันค่ะทุกวันเสาร์
00:34:34 → 00:34:37 อาทิตย์เราก็จะเข้าร้านพูดง่ายๆว่าทำงาน
00:34:37 → 00:34:40 ทุกวันแบบไม่มีวันหยุดเลยค่ะช่วงหลังมา
00:34:40 → 00:34:42 รู้สึกว่าแฟนหงุดหงิดง่ายมากเครียดตลอด
00:34:42 → 00:34:45 เวลาอาจจะด้วยปัญหาการเงินที่เรามีอยู่
00:34:45 → 00:34:48 ตอนนี้ที่ค่อนข้างหนักทะเลาะกันแทบทุกวัน
00:34:48 → 00:34:51 เลยค่ะแฟนจักเป็นคนที่ชอบปลูกต้นไม้ชอบทำ
00:34:51 → 00:34:54 อาหารทุกวันนี้ไม่สนใจจอะไรเลยค่ะแล้วก็
00:34:54 → 00:34:58 ชอบบนว่าปวดหัวอยู่บ่อยๆบางทีก็เห็นเส้น
00:34:58 → 00:35:00 เลือดปูดออกมาจากากหัวเลยค่ะแล้ววิธีแก้
00:35:00 → 00:35:04 ก็คือกินยาแก้ปวดแล้วก็กลับไปทำงานต่อแฟน
00:35:04 → 00:35:06 ไม่มีโรคประจำตัวอะไรเลยค่ะก็จะมีเป็น
00:35:06 → 00:35:09 ภูมิแพ้บ้างแต่ช่วงช่วงหลังมาเนี่ยรู้สึก
00:35:09 → 00:35:12 ว่าจะเป็นภูมิแพ้หนักขึ้นกว่าปกติตอนนี้
00:35:12 → 00:35:15 สิ่งที่กลัวคือที่แฟนเครียดแล้วบ่นว่าปวด
00:35:15 → 00:35:18 หัวอยู่ตลอดเนี่ยมันจะทำให้มีโอกาสเป็น
00:35:18 → 00:35:21 เส้นเลือดสมองแตกตายมั้ยคะหรือว่าถ้า
00:35:21 → 00:35:24 ปล่อยไว้แบบเนี้ยจะอันตรายยคะเคยเห็นข่าว
00:35:24 → 00:35:28 ว่ามีคนทำงานจนตายเพราะทำงานหนักเกินไป
00:35:28 → 00:35:30 มันเกิดขึ้นได้จริงๆใช่มมคะหมอเราจะรู้
00:35:30 → 00:35:34 ได้ยังไงว่าเราเครียดเข้าสู่ขั้นวิกฤต
00:35:34 → 00:35:38 แล้วมันมีวิธีการตรวจมคะหรือว่ามีวิตามิน
00:35:38 → 00:35:40 อาหารเสริมตัวไหนมที่ช่วยคลายความเครียด
00:35:40 → 00:35:42 อย่างแรกต้องบอกก่อนมันมีวิธีการตรวจนะ
00:35:43 → 00:35:44 ครับเนาะแต่ก่อนที่เราจะไปถึงวิธีการตรวจ
00:35:44 → 00:35:47 เรามาดูไลฟ์สไตล์ของคนนี้ก่อนน้อง 1 เป็น
00:35:47 → 00:35:49 คนที่ทำงานหนักมากเนาะเพราะอาจจะเป็น
00:35:49 → 00:35:52 เรื่องของครอบครัวการเงินที่อยากให้มันดี
00:35:52 → 00:35:55 ขึ้นอันที่ 2 ก็อ่ะทำงานดักแปลว่าพักผ่อน
00:35:55 → 00:35:58 ไม่เพียงพอไม่คงไม่มีเววลาออกกำลังกายกิน
00:35:58 → 00:36:00 อาหารไม่ดีอยู่แล้วนะครับเนาะความ
00:36:00 → 00:36:02 สัมพันธ์กับภรรยาก็อาจจะแย่มากขึ้นเพราะ
00:36:02 → 00:36:04 เริ่มมีการทะเลาะแล้วเริ่มทะเลาะแล้วก็
00:36:04 → 00:36:07 ปวดทีไรก็กินยาแก้ปวดแปลว่าต้องติดยาแก้
00:36:07 → 00:36:10 ปวดแล้วว่าปวดทีไรคราวนี้เนี่ยเคยได้ยิน
00:36:10 → 00:36:13 โรคคาโรชิรมมคาโรชิฟังดูเป็นโรคจากประเทศ
00:36:13 → 00:36:15 ญิปุ่นหรือเปล่าถูกต้องครับคืออะไรคะปี
00:36:15 → 00:36:19 นึงเนี่ยจะมีคนตายจากการทำงานมากจนเกินไป
00:36:19 → 00:36:22 หรือเสียชีวิตจากการทำงานมากเกินเกินไปปี
00:36:22 → 00:36:25 ละ 700,000 คนหูคือคือแค่ทำงานเยอะเกินไป
00:36:25 → 00:36:27 มากๆเกินไปคราวนี้มันมี criteria ครับ
00:36:27 → 00:36:31 หมายความว่าคุณต้องทำงานเกิน 55 ชมงต่อ
00:36:31 → 00:36:35 สัปดาห์มันอาจจะทำให้คุณตายได้นะครับจาก
00:36:35 → 00:36:37 การทำ 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์คนไทยเฉลี่ย
00:36:37 → 00:36:40 สถิติเท่าไหร่ครับต่อสัปดาห์ไม่รู้อ่ะ
00:36:40 → 00:36:43 เท่าไหร่อ่ะมากสุด 49 ชมงเ้ยก็เกือบนะน
00:36:43 → 00:36:46 เกือบแล้วนะ 49 อีกอีกแป๊บเชื่อว่าหลายๆ
00:36:46 → 00:36:49 คนก็น่าจะเกิน 55 มั้ยเนี่ย 55 ช่วโมงคือ
00:36:49 → 00:36:51 คุณก็ทำงานอย่างเดียวไม่มีเวลาพักผ่อน
00:36:51 → 00:36:54 แล้วสุดท้ายเนี่ยการที่มีความเครียดสะสม
00:36:54 → 00:36:58 มากๆจากหลายปัจจัยเก็พบว่ามีความเสี่ยง
00:36:58 → 00:37:01 ที่จะเป็นโรคหลอดหัวใจก่อน 42% และโรคของ
00:37:02 → 00:37:04 สมองเหมือนคนเนี้ยที่เคสเนี่ยประมาณ 17%
00:37:04 → 00:37:07 ครับโรคสมองหมายความว่าเส้นเลือกสมองแต
00:37:07 → 00:37:10 สมองสมองแตกตีบเนี่ยได้ทั้ึง 17% ก็แปล
00:37:10 → 00:37:13 ว่าเราสามารถเครียดมากๆจนเส้นเลือดสมอง
00:37:13 → 00:37:15 แตกเป็นความจริงเกิดขึ้นได้เกิดขึ้นได้
00:37:15 → 00:37:17 คราวนี้เรามาดูเรื่องของเส้นสมองก่อนเส้น
00:37:17 → 00:37:20 สมองหรือว่าสกนะครับภาษาอังกฤษเนี่ยแบ่ง
00:37:20 → 00:37:22 ออกไปเป็นทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน 1 ก็คือ
00:37:22 → 00:37:25 ตีบตัน ischemic Stroke นะครับตีบตันตีบ
00:37:25 → 00:37:29 ตันมันตีบตันไงแล้วพอตีบตุ๊ตันแล้วก็ไม่
00:37:29 → 00:37:31 มีเลือดไปเลี้ยงเอ่อสมองต่างๆนะครับอัน
00:37:31 → 00:37:34 นี้คืออันแรกอันที่ 2 ก็คือ hemic Stroke
00:37:34 → 00:37:37 หรือว่าแตกเลยก็คืออยู่ดีๆปึปอ่าเพวก
00:37:37 → 00:37:39 เนี้ยก็คือจะไม่มีสัญญาณมาก่อนอยู่ดีๆมัน
00:37:39 → 00:37:42 ก็ปึ๊บจะเป็นขึ้นมาก็เลยก็ได้ทุกครั้งที่
00:37:42 → 00:37:44 คุณมีความเครียดไม่ว่าเอันนี้คือความ
00:37:44 → 00:37:47 เครียด 2 จากการทำงานไม่ได้พักผ่อนถูกมั้
00:37:47 → 00:37:49 ครับมันก็ทำให้ทุกครั้งที่มีความเครียด
00:37:49 → 00:37:52 น่ะโฮร์โมนเรียกว่าโฮร์โมนคอร์ติซอลหลั
00:37:52 → 00:37:54 ออกมาฮอร์โมนความเครียดหลั่งออกมามากยิ่ง
00:37:54 → 00:37:57 ขึ้นและฮอร์โมนอีกตัวนึงเรียกว่าอนี้
00:37:58 → 00:38:00 นะครับเนาะอีนเป็นฮอร์โมนเหมือนสู้ชีวิต
00:38:00 → 00:38:02 อ่ะฉันต้องเอาตัวรอดฉันต้องสู้ฉันต้องทำพ
00:38:02 → 00:38:04 ฉฮอรโมนสู้ชีวิตฮอร์โมนเครียดสู้ชีวิต
00:38:04 → 00:38:08 เครียดสู้ชีวิตมาเรื่อยๆ 55 ชัมถูกมยไม่
00:38:08 → 00:38:10 รู้ว่าเด็กคนนี้ทำกี่ชั่วโมงหลั่งมาเยอะๆ
00:38:10 → 00:38:13 ขนาดนั้นน่ะทุกครั้งที่มันมีการหลั่งอ่ะ
00:38:13 → 00:38:16 เลือดคุณสูบฉีดปัมัแรงรต้องแรงขึ้นอีกนะ
00:38:16 → 00:38:19 ขึ้นสมองขึ้นสมองขึ้นสมองมากยิ่งขึ้นคราว
00:38:19 → 00:38:21 นี้การที่มันมีการสูบฉีดอ่ะความดันสูง
00:38:21 → 00:38:26 ขึ้นไขมันตามมาเส้นเลือดเนี่ยมันเริ่มปิ
00:38:26 → 00:38:28 นะเพราะคุณน่ะมันแงมากยิ่งขึ้นนะคุณต้อง
00:38:28 → 00:38:32 สูบฉีดสูบฉีดตลอดเวลามันเริ่มปิปริมากๆปิ
00:38:32 → 00:38:35 บ่อยๆมันก็ตีบมันก็ตันมันก็แตกคืออันที่
00:38:35 → 00:38:37 แตกเนี่ยมันไม่มีสัญญาณแต่อันที่ตีบแล้ว
00:38:37 → 00:38:39 ตันมันมีสัญญาณั้ยคะมันก็ไม่มีสัญญาณ
00:38:39 → 00:38:42 เหมือนกันอยู่ดีมันก็ปึ๊บๆปิดเลยแล้วเรา
00:38:42 → 00:38:44 จะรู้ได้ยังไงอ่ะคะว่าเราเข้าสู่ขั้น
00:38:44 → 00:38:46 วิกฤตที่เราเอ้ยเราเสี่ยงที่จะเป็นเส้น
00:38:46 → 00:38:48 เลือดในสมองแตกนคราวเนี้ยมันก็มีการ
00:38:48 → 00:38:50 วินิจฉัยแต่อันนี้ต้องไปทำที่โรงพยาบาลนะ
00:38:50 → 00:38:52 ครับไปสแกนสมองอ่ะครับแล้วมันก็จะมีวิธี
00:38:53 → 00:38:56 การว่าเออคุณคุณเริ่มมีการตีบตันของเอ่อ
00:38:56 → 00:38:58 สมองหรือเปล่าแต่แต่คราวนี้สิ่งที่น่า
00:38:58 → 00:39:01 กลัวว่ามันจะมีภาวะนึงเรียกว่า Ti tia
00:39:01 → 00:39:04 อ่า transit esic attack หรือภาวะสมอง
00:39:04 → 00:39:08 ขาดเลือดชั่วคราวออันเนี้ยเป็นได้ทุกวัย
00:39:08 → 00:39:11 ทุกเพศคือเหมือนเหมือเมื่อกี้สมองแตกแต่
00:39:11 → 00:39:14 อันเนี้ยไม่แตกแต่ว่าขาดเลือดชั่วคราวมัน
00:39:14 → 00:39:16 เกิดขึ้นได้ไงคะแป๊บเดียวก็คือความเครียด
00:39:16 → 00:39:19 ที่มันสะสมเครียดๆๆจนเลือดหยุดนิดเดียว
00:39:19 → 00:39:22 แค่แป๊บเดียวแล้วมันน้อยกว่า 5 นาทีเพราะ
00:39:22 → 00:39:24 ฉะนั้น 5 หมายถึง 5 วินา 5 นาทีครับ 5
00:39:24 → 00:39:28 นาทีนนานอนาทีแแบบแต่มากที่สุด 5 นาทีแต่
00:39:28 → 00:39:31 อาจจะเกิดสั้นกว่านั้นก็ได้ 10 วนาทีวก็
00:39:31 → 00:39:34 ได้แล้วคราวนี้เป็นภาวะที่บางคนไม่รู้สึก
00:39:34 → 00:39:37 ตัวเลยอยู่ดีๆนั่งๆๆปุ๊บเหมือนเหล้าหลับ
00:39:37 → 00:39:40 อยู่ปึ๊บแล้วก็ตื่นมาเออก็ฉันก็ทำงานได้
00:39:40 → 00:39:43 เหมือนปกติแต่เขาบอกว่าถ้าใครมีภาวะนี้
00:39:43 → 00:39:46 แล้วอ่ะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมองแตก
00:39:46 → 00:39:49 เนี่ยตีบแตกทั้งหลายเแล้วคนเป็นไอ้ tia
00:39:49 → 00:39:50 นี่เยอะมั้ยคะก็เยอะเหมือนกันเพราะจากคว
00:39:51 → 00:39:53 ภาวะความเครียดคุณก็มีความเสี่ยงที่จะ
00:39:53 → 00:39:55 เป็นสมองเอ่อโรคสมองตีบแตกเนี่ยครับเนาะ
00:39:55 → 00:39:58 ประมาณ 10-15 ภายใน 3 เดือนนะมันจะเกิด
00:39:58 → 00:40:01 ขึ้นได้โหน่ากลัวจังเลยอ่ะอืเพราะฉะนั้น
00:40:01 → 00:40:03 น่ะถ้าคุณมีอาการขึ้นมาแบบอยู่ดีๆเฮ้ยมัน
00:40:03 → 00:40:06 ปวดหัวกันทันหันควรรีบไปโรงบานไม่ใช่ว่า
00:40:06 → 00:40:08 เอ้ยปวดหัวกันทันหันแล้วเฮ้ยมันก็หายนี่
00:40:08 → 00:40:11 เออไม่ต้องไปหาหมอดีกว่าเพราะว่าจริงๆอัน
00:40:11 → 00:40:12 นี้มันเป็นสิ่งที่มันพูดยากเหมือนกันนะคะ
00:40:12 → 00:40:15 บางคนก็สมมุตินะโอ๊ยก็แค่ปวดหัวเองคือควร
00:40:15 → 00:40:17 จะคิดแค่นี้แต่จริงๆแล้วการปวดหัวมันอาจ
00:40:17 → 00:40:19 จะเป็นสไตล์อะไรบางอย่างว่าเฮ้ยเส้นเลือด
00:40:19 → 00:40:22 กำลังจะตีบจะแตกหรือเปล่าแล้วมันจะมีจุด
00:40:22 → 00:40:25 คัพอย์หรือว่าสัญญาณอะไรให้เรารู้ว่าแบบ
00:40:25 → 00:40:27 เฮ้ยมันอย่างเช่นคุณหมอบอกว่าเราลอง
00:40:27 → 00:40:30 สังเกตถ้า 55 ชมถ้าเราทำงาน 55 ชมขึ้นไป
00:40:30 → 00:40:33 ใน 1 อาทิตย์อ่ะเข้าเข้าขั้นและแล้วมันจะ
00:40:33 → 00:40:36 มีของภาวะโลกนี้ถูกมคชิถูกมั้ยครับมันก็
00:40:36 → 00:40:38 จะมีคุณ้าเข้ามันจะมีไครทีเรียครับเนาะ
00:40:38 → 00:40:40 อย่างเช่นยกตัวอย่างแล้วะกันคิดงานตลอด
00:40:40 → 00:40:44 เวลาแม้กระทั่งนอนก็คิดอืไปทำงานไวแต่
00:40:44 → 00:40:48 กลับบ้านช้าไม่มีจิตใจทำงานอิเลกอื่นๆที่
00:40:48 → 00:40:52 เราชอบมีความกดดันเยอะมากจากเ่อจากจากหัว
00:40:52 → 00:40:54 หน้าทำงานหรืออะไรต่างๆก็แล้วแต่นะครับ
00:40:54 → 00:40:57 เนาะแล้วก็ไม่รู้สึกแบบรู้สึกเคลียรอ่อน
00:40:57 → 00:41:00 ล้าตลอดเวลาไม่รู้สึกสดชื่นเลยแล้วถ้า
00:41:00 → 00:41:03 อย่างเงี้ควรจะไปพบแพทย์อืมถ้าคุณมีอาการ
00:41:03 → 00:41:05 พวกเก็ควรไปพบแพทย์อย่างเมื่อกี้ที่เรา
00:41:05 → 00:41:08 เกิดมาตั้งแต่แรกมันมีวิธีการตรวจว่าคุณ
00:41:08 → 00:41:11 มีอาการเหนื่อยเพลียอ่อนล้าพวกนี้ก็คือ
00:41:11 → 00:41:12 ตรวจฮอร์โมนความเครียดใช่่มั้ยคะฮอรโมน
00:41:12 → 00:41:14 ความเครียดก็คือเหมือนเมื่อกี้คิซอ่ะครับ
00:41:14 → 00:41:16 เนาะพวกเนี้มันสามารถตรวจจากเลือดได้นะ
00:41:16 → 00:41:18 ครับเนาะคือมันสามารถบอกระยะได้เลยว่าคุณ
00:41:19 → 00:41:22 เนี่ยอยู่ในระยะไหน 1 2 หรือ 3 หรือเรา
00:41:22 → 00:41:25 เรียกว่าภาวะหมดไฟนั่นเองต่อหมวกไตที่มัน
00:41:25 → 00:41:28 ล้ามมากจากการภาวะสะสมความเครียดนะครับ
00:41:28 → 00:41:30 เนาะพอตรวจเลือดออกมาเนี่ยที่จริงหมอก็
00:41:30 → 00:41:32 สามารถดูได้เลยเออมันเครียดจริงๆนะร่าง
00:41:32 → 00:41:35 กายคุณน่ะมันเริ่มจะไม่ไหวแล้วนะแล้วคุณ
00:41:35 → 00:41:38 ก็ควรเรียบรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดความ
00:41:38 → 00:41:41 เครียดนั้นครับก็แปลว่าในเคสนี้เนี่ยสิ่ง
00:41:41 → 00:41:44 ที่คุณทรายกังวลเนี่ยไม่ได้กังวลเกินจริง
00:41:44 → 00:41:47 ก็คือสามารถเส้นเลือดตีบแตกได้เลยแล้วก็
00:41:47 → 00:41:49 ไม่ควรปล่อยไว้ควรรีบไปพบแพทย์นะคะแล้วก็
00:41:49 → 00:41:51 วินิจฉัยว่าเอ้ยเป็นอะไรกันแน่ฮอร์โมน
00:41:51 → 00:41:54 ปกติหรือเปล่าฮอร์โมนความเครียดมากไปไหม
00:41:54 → 00:41:58 แล้วก็โรคที่ทำงานจนตายเนี่ยค่ะก็คือว่า
00:41:58 → 00:42:00 เป็นไปได้เหมือนกันเหมือกันแต่อยากรู้
00:42:00 → 00:42:02 อยากเข้าใจจังเลยเวลาบอกว่าทำงานจนตาย
00:42:02 → 00:42:06 เนี่ยมันคือมันคือช็อกหรือว่ามันคืออยู่
00:42:06 → 00:42:07 ดีๆหัว
00:42:07 → 00:42:10 ใจคืออย่างที่เมื่อกี้บอกไปคชิมากที่สุด
00:42:10 → 00:42:12 คือเรื่องของโรคหัวใจแล้วต่อมาคือโรคสมอง
00:42:12 → 00:42:14 เพราะฉะนั้นเนี่ยบางคนก็หัวใจจหยุดเต้น
00:42:14 → 00:42:17 เลยเพราะมัน 42% น่ะที่คนที่เจอในคนที่
00:42:17 → 00:42:19 วัยทำงานทำงานมากเกินไปอ๋ว่าคำว่าทำงานจน
00:42:19 → 00:42:22 ตายหมายความว่าอยู่ๆหัวใจหยุดเต้นหรือ
00:42:22 → 00:42:25 อยู่ๆสมองหยุดทำงานไปเลยห้มันไม่ไหวแล้ว
00:42:25 → 00:42:28 แล้วทีนี้วิธีการตรวจนอกจากตรวจฮอร์โมน
00:42:28 → 00:42:30 คอร์ติซอลมีสามารถตรวจอะไรได้อีกมมคะที่
00:42:30 → 00:42:33 เกี่ยวกับความเครียดภายในร่างกายที่จริง
00:42:33 → 00:42:34 พูดถึงเรื่องของความเครียดในร่างกาย
00:42:34 → 00:42:36 เรื่องอ่ะอย่างหนึ่งคือเรื่องของฮอร์โมน
00:42:36 → 00:42:38 เนาะฮอร์โมนคอร์ติซอลเมื่อกี้นะครับเนาะ
00:42:38 → 00:42:40 อีกอันนึงที่เราสามารถดูได้ก็คือเรื่อง
00:42:40 → 00:42:43 ของสารสืบประสาทในสมองนะครับเนาะว่าสารสิ
00:42:43 → 00:42:45 ประสาทในสมองเนี่ยเรื่องโดพามีนเซโรโทนิน
00:42:46 → 00:42:50 พวกอ่าเมื่อกี้เอ่อแนีนะครับเนาะมันคือ
00:42:50 → 00:42:53 ว่าจริงๆแล้วมันจะมีสารสารสืบประสาทอยู่ 3
00:42:53 → 00:42:56 ตัวใช่มั้ยคะที่มันจะที่ตรวจได้มันเกี่ยว
00:42:56 → 00:42:58 กับความสุขเก
00:42:58 → 00:43:00 ความเครียดการเอาตัวรอดนะครับเนาะแล้วก็
00:43:00 → 00:43:02 เรื่องของการนอนครับเซโรโทนินครับสารแห่ง
00:43:02 → 00:43:04 การนอนพวกเมันสามารถตรวจได้เหมือนกัน
00:43:04 → 00:43:06 สามารถดูว่าเลเวลเราปกติไมนะคะถ้าไม่ปกติ
00:43:06 → 00:43:08 ก็จะได้ปรับเปลี่ยนได้ตามนั้นแต่สิ่ง
00:43:08 → 00:43:10 สำคัญที่สุดคือเรื่องของความเครียดคือคุณ
00:43:10 → 00:43:13 ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอืหมออจะให้ยาไป
00:43:14 → 00:43:17 ขนาดไหนจะจะทรีทเมนจะรักษายังไงก็แล้วแต่
00:43:17 → 00:43:19 ถ้าคุณไม่ยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็ไม่หาย
00:43:19 → 00:43:21 ก็ไม่หายอยู่ดีครับอันดับ 1 ต้องคือการ
00:43:21 → 00:43:24 นอนมยคะหมออัน 1 คือลดการงานครับลดงาน
00:43:24 → 00:43:27 ก่อนลดงานคือคุณก็จัดการเวลาให้มันดีมาก
00:43:27 → 00:43:29 ยิ่งขึ้นและคุณต้องมีเวลาให้กับตัวเองทุก
00:43:29 → 00:43:32 วันหมายความว่าวันเนี้ยบางคนคิดเ้ยไม่
00:43:32 → 00:43:35 เป็นไรทำงาน 5 วันลวดเลยไปพักผ่อนเสาร์
00:43:35 → 00:43:36 อาทิตย์
00:43:36 → 00:43:40 เนี่ยเนี่ยๆก็คือทำงานเราพักพักแค่วัน
00:43:40 → 00:43:44 อาทิตย์ค่ะวันอาทิตย์ที่เมื่อวานก็ไม่ได้
00:43:44 → 00:43:47 พก็คือต้องต้องมีงน้อยจะมีเวลาให้กับตัว
00:43:47 → 00:43:50 เองนะครับให้กับตัวเองให้กับครอบครัวให้
00:43:50 → 00:43:53 กับคนรักของคุณนะครับเนาะคือสมมุติอ่ะคุณ
00:43:53 → 00:43:55 ทำงานมาทั้งวันแล้วพอกลับไปถึงบ้านปึ๊บ
00:43:55 → 00:43:58 คุณก็ต้องรู้จักคำว่าปล่อยวางแล้วก็ให้
00:43:58 → 00:44:00 เวลากับตัวเองให้เวลาบอันนี้หมอสอนอยู่
00:44:00 → 00:44:03 เลยให้เวลากับตัวเองเช่นนั่งสมาธิออก
00:44:03 → 00:44:07 กำลังกายทำที่ทำงานอดิเรกที่คุณชอบสัก 1
00:44:07 → 00:44:09 ชั่วโมงสัก 1 ชั่วโมงอย่างเงี้ยแล้วก็
00:44:09 → 00:44:12 ต้องพักผ่อนให้เพียงพอสิ่งที่สำคัญนะครับ
00:44:12 → 00:44:15 อันนี้เขาก็ถามมานะคะคุณรายว่าอาหารเสริม
00:44:15 → 00:44:18 หรือว่าวิตามินอะไรตัวไหนที่สามารถช่วย
00:44:18 → 00:44:20 คลายความเครียดได้มั้คะคือปัจจุบันมันก็
00:44:20 → 00:44:23 มีทั้ง้าพูดถึงเรื่องของความเครียดอ่ะ
00:44:23 → 00:44:25 ครับมันก็จะมีเรื่องของวิตามินและ่ธาตุ
00:44:25 → 00:44:27 ที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อผ่อนคลายความ
00:44:27 → 00:44:29 เครียดและอีกอันนึงก็คือเรื่องของสมุนไพร
00:44:29 → 00:44:31 ละกันนะครับเนาะเรื่องของวิตามินนะครับ
00:44:31 → 00:44:33 เนาะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทาน
00:44:33 → 00:44:36 แมกนีเซียมนะครับเนาะที่ไปช่วยผ่อนคลาย
00:44:36 → 00:44:38 กล้ามเนื้อผ่อนคลายสมองเวลาที่เรานอนดี
00:44:38 → 00:44:41 มากยิ่งขึ้นนะครับเนาะอ่าตัวต่อมาคือ
00:44:41 → 00:44:44 เรียกว่ากรดอะมิโนไลซีนนะครับเนาะไลซีนก็
00:44:44 → 00:44:47 เป็นตัวที่ไปช่วยสารสื่อประสาทในสมองผลิต
00:44:47 → 00:44:51 กาบ้ามากขึ้นทำให้เราผ่อนคลายนอนหลผลกาบบ
00:44:51 → 00:44:54 ไม่บ้าครับกาบ้าคือเป็นสารสึสาที่อยู่ใน
00:44:54 → 00:44:56 สมองของเราทำให้เรานอนหลับฝันดีมากยิ่ง
00:44:56 → 00:44:58 ขึ้นก็คือกาบ้าเป็นสิ่งที่ดีเป็นสิ่งที่
00:44:58 → 00:45:00 ดีนะครับเนาะอีกอันนึงก็อย่างเช่นการทาน
00:45:00 → 00:45:03 เิ่เมลาโทนินนะครับเนาะเมลาโทนินก็เป็น
00:45:03 → 00:45:05 ฮอร์โมนที่ลดความเครียดตอนที่เรานอนนะ
00:45:06 → 00:45:08 ครับปรับเรื่องของความสมดุลการนอนให้ดี
00:45:08 → 00:45:10 มากขึ้นเพิ่มระบบพุมคุ้มกันในร่างกายอ่ะ
00:45:10 → 00:45:13 เมื่อกี้เคสมาบอกว่าเริ่มแบบเริ่มระบบ
00:45:13 → 00:45:16 ภูมิคุ้มกันไม่ดีเริ่มเป็นสุขภาพภูมิแพ้
00:45:16 → 00:45:18 มากขึ้นอ่ะเพราะคุณไม่ได้นอนภูมิแพ้คุณก็
00:45:18 → 00:45:20 สูงมากยิ่งขึ้นเพราะระบบภูมิคุ้มกันคุณ
00:45:20 → 00:45:22 เจ๋งนั่นเองนะครับเนาะคราวนี้เรามาดูด้าน
00:45:22 → 00:45:25 ของสมุนไพรบ้างดีกว่านะครับสมุนไพรที่
00:45:25 → 00:45:27 ช่วยเรื่องของลดความเครียดในในร่างกายและ
00:45:27 → 00:45:30 สมองก็อย่างเช่นโสมไทยนะครับเนาะโสม
00:45:30 → 00:45:32 เกาหลีโสมอินเดียนะครับเนาะและอีกตัวนึง
00:45:32 → 00:45:35 อ่าโสมอินเดียคือเรียกว่าชวาดนะครับเนาะ
00:45:35 → 00:45:37 พวกโสมพวกเยก็สามารถช่วยลดเรื่องของความ
00:45:37 → 00:45:40 เครียดในร่างกายได้แต่สุดท้ายการกิน
00:45:40 → 00:45:43 สมุนไพรนะครับเนาะก็ต้องระมัดระวังหนงนึง
00:45:43 → 00:45:45 เพราะว่ามันทำให้อาจจะเกิดปฏิกิริยาหรืออ
00:45:45 → 00:45:47 การแพ้ก็ได้นะครับก็ควรไปปรึกษาแพทย์ครับ
00:45:47 → 00:45:50 พวกโสมเนี่ยสามารถหาซื้อเองได้ใช่มั้ยคะ
00:45:50 → 00:45:52 ได้ครับแต่ว่าพวกอาหารเสริมที่หมอแนะนำมา
00:45:52 → 00:45:55 ทั้ง 3 ตัวนี้อ่าเมลานีนไลซีนพวกนี้ก็ที่
00:45:55 → 00:45:57 จริงสามารถหาได้เหมือนกันนะครับซื้อได้
00:45:57 → 00:45:59 เหมือนกันใช่ครับแต่แต่ละคนไม่เหมือนกัน
00:45:59 → 00:46:02 นะครับต้องบอกไว้ก่อนเลเวลที่ต้องกินหรือ
00:46:02 → 00:46:05 ว่าตัวนี้เหมาะกับคุณหรือเปล่าอันนี้ก็
00:46:05 → 00:46:07 ต้องไปปรึกษาแพทย์นะครับอืเพราะว่าบางคน
00:46:07 → 00:46:10 อาจจะต้องกินกี่มีลกรรมบางคนอาจจะต้อง
00:46:10 → 00:46:13 พิจารณาถึงน้ำหนักตัวหรือว่าโรคประจำตัว
00:46:13 → 00:46:15 ด้วยใช่มั้ยคะแต่การก่อนที่จะคุณจะไปกิน
00:46:15 → 00:46:17 พวกอย่างวิตามินพวกเยครับสิ่งสำคัญคือไม่
00:46:17 → 00:46:20 ใช่กินแต่วิตามินแต่คุณอาหารยังกินแย่ๆ
00:46:20 → 00:46:22 มันก็ไม่มีประโยชน์สำคที่สุดคืออาหาร
00:46:22 → 00:46:24 อาหารก่อนปรับเปลี่ยนอาหารให้ดีขึ้นก่อน
00:46:24 → 00:46:27 นะครับเนาะเพราะเพราะว่าวิตามินกับแลธาตุ
00:46:27 → 00:46:29 พวกเยจริงๆเราสามารถเจออยู่ในอาหารอยู่
00:46:29 → 00:46:32 แล้วแค่คุณไปปรับเปลี่ยนอาหารให้มันดีมาก
00:46:32 → 00:46:35 ยิ่งขึ้นอย่างเช่นเมื่อกี้บอกว่าเรื่อง
00:46:35 → 00:46:38 ของการนอนะกันอยากไปเสริมเรื่องของกาบ้า
00:46:38 → 00:46:40 เรื่องเมลาโทนินให้ดีขึ้นกิน dar
00:46:40 → 00:46:45 ช็อกโกแลตอือืเนาะกินกล้วยผลไม้กีวี่นะ
00:46:45 → 00:46:48 ครับเนาะพวกเนี้ยมันก็มีสารที่ไปส่งเสริม
00:46:48 → 00:46:50 เซโรโทนินในร่างกายทำให้เรานอนหลับดีมาก
00:46:51 → 00:46:54 ขึ้นครับหรือว่านม 1 กล่องนมแอลมอนพวก
00:46:54 → 00:46:57 เนี้ยนะครับก็ช่วยเหมือนกันครับก็แปลว่า
00:46:57 → 00:47:00 ว่าเคสคุณทรายเนี่ยไม่ได้วิตกกังวลมาก
00:47:00 → 00:47:04 เกินไปเคสนี้ค่อนข้างหนักจริงๆควรรีบไปพบ
00:47:04 → 00:47:06 แพทย์เพื่อให้ดูว่าระบบระดับของความ
00:47:06 → 00:47:08 เครียดของเราอ่ะมันเกินไปมากหรือเปล่า
00:47:08 → 00:47:10 แล้วมันเสี่ยงต่อการที่เราจะมีโรคเส้น
00:47:10 → 00:47:12 เลือกสมองต่างๆหรือเปล่าเนาะแล้วก็พยายาม
00:47:12 → 00:47:15 ปรับเปลี่ยนคือ work Life Balance ให้
00:47:15 → 00:47:17 ได้มากกว่านี้นอนหลับให้ได้มากกว่านี้หา
00:47:17 → 00:47:20 กิจกรรมให้ทำเนาะอาจจะกิจกรรมทำร่วมกัน
00:47:20 → 00:47:24 ด้วยเนาะจะได้ลดลดการปะทะกันนะคะแล้วก็
00:47:24 → 00:47:27 กินอาหารให้ดีขึ้นเนาะแต่ว่าก็ต้องรีบจัด
00:47:27 → 00:47:29 การเนาะไม่งั้นมันก็อาจจะมันเกิดได้ทุก
00:47:29 → 00:47:30 เวลาใช่เพราะบางทีถ้าไปแล้วมันไปแล้วมัน
00:47:31 → 00:47:33 ไม่มีไซนเหมือนที่หมอบอกอยู่ดีๆปึ๊บใช่
00:47:33 → 00:47:37 ปึ๊บไปเลยอย่างงี้แล้วก็แก้ไม่ทันวันนี้
00:47:37 → 00:47:41 สนุกมากค่ะหมอสนุกมยสนุกคุยเคสสนุกกว่า
00:47:41 → 00:47:44 ให้ความรู้อีกจริงเหรออ่ะวันนี้ก็รู้สึก
00:47:44 → 00:47:46 เป็นประโยชน์มากนะคะแล้วก็ขอบคุณมากๆเลย
00:47:46 → 00:47:49 นะคะที่มาให้ความรู้แล้วก็ละเอียดมากๆ
00:47:49 → 00:47:52 จริงๆเมื่อกี้จดแทบไม่ทันเลยนะคะแล้วก็
00:47:52 → 00:47:54 เดี๋ยวไว้โอกาสหน้าจะเชิญมาตอบคำถามใหม่
00:47:54 → 00:47:56 นะคะได้เลยเอาเคสสนุกๆนะครับได้เลยค่ะค่ะ
00:47:56 → 00:47:59 เดี๋ยวจัดมาให้นะคะทุกคนก็สามารถเขียนเคส
00:47:59 → 00:48:02 เข้ามาได้เลยนะคะในลิงก์ทางด้านล่างใน
00:48:02 → 00:48:04 แคปชั่นนะคะจะมีลิงก์อยู่สามารถกดเข้ามา
00:48:04 → 00:48:06 หรือจะสแกน QR Code นะคะแล้วก็เขียน
00:48:07 → 00:48:09 เรื่องราวมาด้วยก็ได้นะคะที่สำคัญขอให้
00:48:09 → 00:48:11 เพิ่มรายละเอียดมากที่สุดนะคะอย่างเมื่อ
00:48:11 → 00:48:14 กี้เนาะคุณหมอก็จะมีบางประเด็นที่ยังตอบ
00:48:14 → 00:48:16 ไม่ได้อย่างเช่นเอ๊เคออกกำลังกายยังไงออก
00:48:16 → 00:48:18 กำลังกายหรหรือเปล่าวิธีการกินยังไงถ้า
00:48:18 → 00:48:21 เรารู้รายละเอียดของคนไข้มากที่สุดก็จะทำ
00:48:21 → 00:48:23 ให้เราวินิจฉัยหรือว่าตอบคำถามได้อย่าง
00:48:23 → 00:48:26 แม่นยำที่สุดนะคะแล้วก็อย่าลืมกดไลค์กด
00:48:27 → 00:48:29 แชร์กด Subscribe แล้วก็คอมเมนต์กันเข้า
00:48:29 → 00:48:31 มาได้เยอะๆเลยนะคะเพื่อเป็นกำลังใจกับเจน
00:48:31 → 00:48:34 แล้วก็แพทย์ทุกๆคนที่จะเข้ามาตอบคำถามใน
00:48:34 → 00:48:37 EP ต่อๆไปนะคะแล้วพบกันใหม่ใน EP หน้า
00:48:37 → 00:48:41 สวัสดีค่ะสวัสดีครับ